จากญี่ปุ่น ฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2561

ฉบบั ที่ 4/2561 อา่ นวารสารจากญป่ี ุ่นยอ้ นหลงั โดยผา่ น QR Code ท่านสามารถอ่านวารสารจากญี่ปุ่นในรูปแบบไฟล์ PDF โดยผ่าน QR Code เพียงแสกน QR Code ดว้ ยกล้องของโทรศัพท์มือถือ เพ่ือเช่ือมต่อไปยังเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตญ่ีปุ่น ท่านก็ สนุ ทรยี ภาพในความงามแบบญป่ี นุ่สามารถเพลิดเพลนิ กบั วารสารจากญ่ปี ุ่นฉบบั ใหม่ลา่สุดพรอ้ มทง้ั ฉบบั ยอ้ นหลังใน 1 ปี © phortona/a.collectionRF/amanaimages

01 สนุ ทรยี ภาพในความงดงามแบบญปี่ นุ่ “สุนทรียภาพ” คือ ความรู้สึกที่มีต่อความงดงาม ความรู้สึกต้องการ สนุ ทรยี ภาพในแบบญ่ปี นุ่ นน้ั ได้รบั อิทธพิ ลมาจากมุมมองในธรรมชาติ และ สัมผัสหรือสร้างสรรค์ความงดงาม “สุนทรียภาพในความงดงามแบบญี่ปุ่น” ศาสนา เป็นต้น วารสารจากญีป่ ุ่นฉบบั น้จี ึงขอแนะน�ำในเรอ่ื งสุนทรียภาพใน นั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบท่ีส�ำคัญมากมาย องค์ประกอบต่างๆไม่ ความงดงามแบบญีป่ ุ่น ได้แปลกแยกออกจากกันแต่กลับผสมผสานกลมกลืนกันอย่างสลับซับซ้อน มมุ มองในธรรมชาติ ประเทศญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลทั้งสี่ ฤดูกาลอย่างชัดเจน อันประกอบไปด้วย ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งเป็นพื้นฐานใน การด�ำเนินชีวิต ด้วยเหตุนี้ชาวญี่ปุ่นจึงมีความรู้สึกที่ ละเอยี ดออ่ นตอ่ การเปลยี่ นแปลงของฤดกู าลและความ สงบร่มเย็นของธรรมชาติจนกลายเป็นลักษณะประจ�ำ ชาตทิ ่โี ดดเด่น มนษุ ยไ์ ดร้ บั ประโยชนอ์ ยา่ งมหาศาลจากธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันในบางเวลาก็เป็นภัยต่อมนุษย์เช่น กัน ด้วยเหตุนี้ ชาวญ่ีปุ่นจึงมีความรัก ความเคารพ และความเกรงกลัวต่อธรรมชาติ ส�ำหรับชาวญ่ีปุ่น แล้วธรรมชาติกับมนุษย์น้ันต้องอาศัยอยู่ร่วมกันอย่าง กลมกลืน ความงดงามท่ี ไมเ่ ทย่ี งแท้ “ความไมเ่ ทยี่ งแท้” คือ ทุกสิง่ ใดๆในโลกลว้ นเป็น อนิจจัง แสดงให้เห็นว่าทุกส่ิงย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ไมม่ ีสงิ่ ใดยั่งยืนถาวร ความไมเ่ ทย่ี งแทเ้ ป็นรากฐานของ แนวความคิดในทางพุทธศาสนา แล้วเหตุใดชาวญี่ปุ่น จึงรับเอาแนวความคิดในเรื่องความไม่เท่ียงแท้ในทาง พุทธศาสนา นั่นเป็นเพราะ ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะ ภมู อิ ากาศท่ีเปล่ียนแปลงในสฤ่ี ดูกาล การเปลย่ี นแปลง ของฤดูกาลน้ันมีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งกับแนว ความคิดเรื่องความไม่เที่ยงแท้ในพุทธศาสนา แนว ความคดิ เช่น การผสมกลมกลนื กบั ธรรมชาติ การผุพัง เน่าเป่อื ยเป็นสิ่งสำ� คญั ในกระบวนการของการเกิดใหม่ ความรู้สึกยอมรับในความไมจ่ ีรงั ถอื เปน็ จดุ สำ� คัญของ สนุ ทรียภาพในความงดงามแบบญีป่ ุ่น 2

วะบิ ซะบิ ผคู้ น ในประเทศญปี่ นุ่ มแี นวความคดิ วา่ การรบั สง่ิ ใดๆเขา้ มาดว้ ยจติ ใจท่ี สงบนง่ิ ไมย่ นิ ดยี นิ รา้ ยถอื เปน็ สงิ่ ทส่ี ำ� คญั ซง่ึ สภาวะดงั กลา่ วเปน็ สภาวะที่ “วะบิ ซะบิ” เป็นหนงึ่ ในแนวความคดิ ในเรื่องสุนทรยี ศาสตรแ์ บบ จติ ใจทว่ี า่ งเปลา่ เปน็ อสิ ระจากทางโลก หรอื อาจจะกลา่ วไดว้ ่าการไรซ้ งึ่ ญี่ปุ่น มีต้นก�ำเนิดจากการได้รับอิทธิพลของนิกายเซน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ ตวั ตน การไม่ยดึ ถอื ตวั เราของเรา สำ� คญั ในการเขา้ ถึงการรู้แจง้ “วะบิ” น้ันมาจากคำ� วา่ “วะบชิ อิ ิ” แปล กล่าวสรุปง่ายๆ ว่า “วะบิ” คือ ความเรียบง่าย สมถะ และ ว่า ลำ� บาก ยากไร้ ซงึ่ ท�ำให้เข้าใจได้ถงึ สภาวะการดอ้ ยคา่ หรือมีความ “ซะบ”ิ คือ การแสดงความรู้สกึ ท่ีสงบน่งิ ไมอ่ ยากได้ใครด่ ี หมายในอีกทางหน่งึ วา่ “สภาวะทีเ่ รียบง่าย หรือ สมถะ” “ซะบ”ิ มคี วามหมายวา่ สภาวะทเี่ สอื่ มถอยไปตามกาลเวลาทผ่ี า่ น ไป หรือมคี วามหมายในอีกทางหนงึ่ วา่ ความเงยี บเหงาเปล่าเปลยี่ วไร้ ©JNTO ยเู กน็ มยิ ะบิ โดยทั่วไป “ยูเก็น” หมายถึง ความลุ่มลึกท่ีซับซ้อน ซึ่งหมายความว่า “มยิ ะบ”ิ แสดงให้เหน็ ถงึ ภาพลกั ษณข์ องวฒั นธรรม ความงดงามท่ีไม่สามารถมองเห็นด้วยตาได้อย่างชัดเจน แต่สามารถสัมผัส ชนช้ันสูงในอุดมคติ กล่าวคือ การก�ำจัดความหยาบ ได้ด้วยความรู้สึกภายในจิตใจของมนุษย์ ไม่เพียงแต่เพลินเพลินกับความ กระดา้ งและไรซ้ ง่ึ ประสบการณอ์ อกจาก มารยาท คำ� พดู งดงามในมมุ ทเี่ หน็ อยตู่ รงหนา้ ณ ขณะนเี้ ทา่ นน้ั แตย่ งั จนิ ตนาการไปถงึ ความ การแสดงออก บรรยากาศ และความรสู้ กึ ใหห้ มดไปเพอ่ื งดงามทซี่ อ่ นเรน้ อยู่ เปน็ สนุ ทรยี ภาพทสี่ ะทอ้ นถงึ ความซาบซง้ึ ภายในจติ ใจได้ ความประณีตงดงามในระดบั สูง อยา่ งลกึ ซึง้ ยกตัวอยา่ งเชน่ ดอกซากุระทีผ่ ลบิ านหรือใบไมเ้ ปลี่ยนสที ่งี ดงาม ถกู กอ้ นเมฆหรอื สายฝนบดบงั ความงดงามนไ้ี มส่ ามารถมองเหน็ โดยตรง แต่ เปน็ สนุ ทรียภาพที่สามารถสมั ผัสความงดงามดว้ ยจนิ ตนาการ ©JNTO 3

02 ความงดงามของวฒั นธรรมทสี่ บื ทอด มาแตโ่ บราณ อเิ คะบะนะ (ศลิ ปะการ ©Photo/AFLO จดั ดอกไมแ้ บบญป่ี นุ่ ) “อิเคะบะนะ” มีความหมายโดยท่ัวไปวา่ “ศลิ ปะการ จัดดอกไม้แบบญ่ีปุ่น” แต่ทว่าวัสดุที่น�ำมาใช้ในการจัด ดอกไมแ้ บบอเิ คะบะนะนนั้ ครอบคลมุ ในสว่ นตา่ งๆของพชื เชน่ กิ่ง กา้ น ใบ ดอก ไปจนถึง ต้นไมแ้ ห้ง เป็นตน้ การคัด เลือกวัสดุท่ีเหมาะสม รูปแบบการจัดดอกไม้ นอกจากนี้ ขนาด รปู รา่ ง วสั ดุ ผิวสมั ผัส สีของภาชนะทใ่ี ชใ้ นการจัด ดอกไม้ รวมไปถึงสถานท่ีและโอกาสในการจัดแสดง ถือ เป็นองค์ประกอบที่ส�ำคัญท่ีต้องค�ำนึงถึงท้ังหมด นอกจาก นี้ “อิเคะบะนะ” ยงั ถกู เรียกว่า “คะโด” มีความหมายวา่ “วิถีแห่งดอกไม้” ซ่ึงถือเป็นรูปแบบหนึ่งในการฝึกสมาธิ และไตรต่ รองถงึ การเปลยี่ นแปลงของฤดกู าลและกาลเวลา อนั มตี น้ กำ� เนดิ จากแนวความคดิ ดา้ นศาสนาในเรอื่ งวฎั จกั ร ทางธรรมชาติ ประกอบไปดว้ ย การเกดิ การเจรญิ เตบิ โต การดับสูญ และการกำ� เนิดใหม่ ซ่งึ สะท้อนถึงจติ วิญญาณ ของการจดั ดอกไมแ้ บบอิเคะบะนะได้อย่างลกึ ซึ้ง พิธชี งชา ©Photo/AFLO ©Photo/AFLO ©Photo/AFLO พธิ ีชงชา หรือเรยี กว่า “ซะโด (วถิ ีแห่งชา)” คอื พิธีการ เตรียมและเสิร์ฟชาท่ีชงเสร็จแล้วให้แขกตรงหน้า ล�ำดับ ข้ันตอนอย่างเป็นทางการของพิธีชงชาใช้เวลาประมาณ 4 ชว่ั โมง ประกอบไปดว้ ยการเสริ ฟ์ อาหาร (ฉะไคเซะก)ิ และ การเสริ ์ฟชาอกี 2 ครัง้ (โคอฉิ ะ และ อุซฉุ ะ) ในระหวา่ งพธิ ี ผู้ชงชาจะสร้างสรรค์โอกาสเพ่ือให้แขกที่เข้าร่วมในพิธีได้ สัมผัสกับความเพลิดเพลินในสุนทรียภาพทางปัญญาและ ทางรา่ งกาย รวมไปถึงจติ ใจทสี่ งบนิ่ง เพอื่ จะบรรลตุ ามเปา้ หมายดงั กลา่ ว ผชู้ งชาตอ้ งใชเ้ วลา ในการศกึ ษาหลายสบิ ปี ในศาสตรต์ า่ งๆไมเ่ พยี งแตว่ ธิ กี ารชง ชาเพอ่ื มอบใหแ้ กแ่ ขกตรงหนา้ เทา่ นนั้ แตย่ งั ตอ้ งเรยี นรทู้ จี่ ะ ซาบซ้ึงกับความงดงามของศลิ ปะ งานฝมี ือ บทกวี ศิลปะ การเขียนอกั ษร การจดั ดอกไม้ เป็นตน้ หอ้ งสำ� หรบั พธิ ชี งชา โดยทวั่ ไปจะมขี นาดประมาณ 4.5 เสือ่ ทะทะมิ (1 ทะทะมิ เท่ากบั 1.62 ตารางเมตร) ภายใน ตกแต่งด้วยของประดบั ทีเ่ รยี บง่าย สะทอ้ นถงึ สนุ ทรียภาพ ในแบบ “วะบิ” ประตูทางเข้าห้องเรียกว่า “นิจิริคุจิ” มี ขนาดเล็กมาก ดังน้ัน ผู้ท่เี ข้ารว่ มพิธีทุกคนต้องพยายามก้ม โคง้ และทำ� ตวั ใหเ้ ลก็ ทส่ี ดุ เพอื่ จะรอดผา่ นเขา้ มาในประตไู ด้ ซ่ึงสะท้อนถึงจติ ใจทีถ่ อ่ มตน 4

03 ©JNTO 5 ความงามของอาหารญป่ี นุ่ ในเดือนธนั วาคม พ.ศ. 2556 “วะโชคุ (อาหารญีป่ ่นุ ) วัฒนธรรมอาหาร ที่สืบทอดยาวนานของชาวญี่ปุ่น” ได้รับการข้ึนทะเบียนมรดกโลกทาง วัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ หนึ่งในเอกลักษณ์ของวะโชคุ คือ สะท้อนความ งดงามของธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลท้งั ส่ี เช่น ดอกไมห้ รือ ใบไมป้ ระจำ� ฤดูได้ถูกน�ำมาตกแต่งบนจานอาหาร การเลือกใชภ้ าชนะต่างๆที่ เข้ากบั ฤดูกาล ล้วนเป็นความรื่นรมย์ที่ไดส้ ัมผัสถงึ ฤดกู าล อาหารญีป่ ุ่น หรือ วะโชคุ นั้น ไมไ่ ด้มีรสชาตทิ เี่ อรด็ อร่อยเพยี งลิ้นสัมผัส เท่านั้น แต่ยังมีความงดงามให้ตาได้สัมผัสด้วยเช่นกัน อาหารประเภทไค เซะกิ (อาหารท่ีเสิร์ฟในพิธีชงชา) และไคเซะกิ (อาหารที่เสิร์ฟในงานเลี้ยง) (*ทงั้ สองประเภทมชี อื่ เรยี กเหมอื นกนั ตา่ งกนั ทตี่ วั อกั ษรเขยี น) เปน็ อาหารทมี่ ี ความงดงามอยา่ งย่ิงในประวตั ิศาสตร ์ องค์ประกอบท่ีสำ� คัญ คือ “ภาชนะ” อาหารของชาวตะวนั ตก นยิ มใช้ภาชนะจานชามท่มี ลี วดลายเหมอื นกนั เป็น ชดุ เดยี วกนั แตส่ ำ� หรบั ประเทศญป่ี นุ่ ใชภ้ าชนะทท่ี ำ� จากวสั ดทุ แี่ ตกตา่ งกนั เชน่ เครอื่ งปน้ั ดนิ เผา เครอื่ งเคลอื บ และเครอ่ื งเขนิ ในการเสริ ฟ์ อาหาร อาหารและ ภาชนะต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน พ่อครัวอาหารญ่ีปุ่น นอกจากจะก�ำหนด รายการอาหารแล้ว ในขณะเดียวกันต้องคิดถึงภาชนะท่ีจะใส่อาหารแต่ละ อย่างให้มีความเหมาะสมกัน นอกจากน้ี อาหารญี่ปุ่นนั้นให้ความส�ำคัญใน เรือ่ งการสัมผสั ถงึ ฤดกู าล จึงตอ้ งเลือกใชภ้ าชนะท่ีทำ� จากวสั ดุและมีลวดลาย ทเ่ี ขา้ กับฤดกู าลน้นั การจดั จานและการตกแตง่ กถ็ อื เปน็ สงิ่ ทส่ี ำ� คญั ยงิ่ เชน่ เดยี วกนั ตอ้ งคำ� นงึ ขนาดของจานวา่ ตอ้ งมคี วามสงู ประมาณเทา่ ไหร่ สามารถจดั วางไดใ้ นปรมิ าณ เทา่ ไหร่ ถงึ จะมองแลว้ ยง่ิ สวยงาม หากจดั วางอาหารในปรมิ าณมากจนเกนิ ไป หรอื นอ้ ยจนเกนิ ไปกจ็ ะไมส่ วยงาม ดงั นนั้ พน้ื ทวี่ า่ งระหวา่ งภาชนะและอาหาร จึงเป็นสง่ิ ส�ำคัญ ใบหรอื ดอกไม้ของพชื นอกจากจะชว่ ยใหก้ ลน่ิ ของอาหารนา่ รบั ประทานมากข้นึ แลว้ ยังมีบทบาทในการสร้างสสี ัน เชน่ เดยี วกับกระดาษ ท่วี างใตอ้ าหารช่วยประดบั ตกแต่งให้อาหารมคี วามงดงาม อคุ โิ ยะเอะ ค�ำว่า “อุคิโยะ” หมายถึง “โลกของมนุษย์ ปุถชุ น” ส่วนคำ� วา่ “เอะ” หมายถงึ “ภาพ” ดังน้ัน เมอื่ ภาพอคุ โิ ยะเอะไดป้ รากฎใหเ้ หน็ เปน็ ครงั้ แรก ใน ชว่ งปลายศตวรรษท่ี 16 ภาพมกั จะเขยี นเลา่ ถงึ ชวี ติ ประจำ� วนั ในเมอื งเกยี วโต จนกระทง่ั ในชว่ งศตวรรษ ที่ 18 (ในยคุ สมยั เอโดะ) เทคนคิ การทำ� แมพ่ มิ พไ์ มไ้ ด้ พัฒนาให้มีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ นอกจากนีเ้ นื้อหา ของภาพ เช่น ภาพนักแสดงละคร หรือ ภาพสาว งาม ล้วนเปน็ เนือ้ หาท่ใี กลต้ ัวผูค้ น จึงทำ� ใหภ้ าพอุคิ โยะเอะไดก้ ลายเปน็ วฒั นธรรมรว่ มสมยั และเรมิ่ แพร่ หลายอย่างมาก อีกทง้ั ในยุคสมัยนั้นหนงั สือกำ� ลงั เป็นท่ีนิยมส�ำหรับประชาชนทั่วไป เหล่าจิตรกรที่ วาดภาพในหนงั สอื เหลา่ นนั้ ไดก้ ลายเปน็ จติ รกรภาพ อุคโิ ยะเอะดว้ ยในเวลาต่อมา

04 งานหตั ถกรรมทสี่ บื ทอดมาอยา่ งยาวนาน สะทอ้ นความงดงามในแบบญปี่ นุ่ นับตั้งแต่ในสมัยโบราณ ในประเทศญ่ีปุ่นมีงานหัตถกรรมจ�ำนวนมากมาย โดยใช้เทคนิคท่ีสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานและเลือกใช้วัสดุท่ีโดดเด่นประจ�ำ ท้องถ่นิ ซึง่ เกิดขน้ึ ตามธรรมชาตเิ ฉพาะในท้องถิ่นนน้ั เครอื่ งโลหะนมั บุ (จงั หวดั อวิ าเตะ) ผา้ ไหมทอชนิ ชู (จงั หวดั นางาโนะ) “ยนื หยนุ่ และแขง็ แรงทนทาน” คอื ภาพลกั ษณข์ องเครอื่ งโลหะ ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมทอชินชูมีสีสันและลวดลายหลากหลาย นมั บุ ดว้ ยการออกแบบอยา่ งปรานตี และลวดลาย “ลกู เหบ็ ” ทเี่ รยี ง มากมาย ใชเ้ ปน็ ผา้ สำ� หรบั ตดั ชดุ กโิ มโนและโอะบิ (ผา้ คาดเอว) โดย ตวั อยา่ งสวยงามบนผวิ สมั ผัสของกาตม้ ชาและกาต้มนำ้� โลหะ ช่วย เฉพาะอยา่ งยิง่ ผา้ ไหมทอชินชทู �ำจากไหมตน้ โอค๊ ป่า 100% ซ่งึ พบ ให้สัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อนและความทุ่มเทของช่างฝืมือใน ได้เฉพาะในพ้นื ท่นี ี้เท่านั้น การสรา้ งสรรคผ์ ลงานแต่ละชน้ิ ©JNTO ตกุ๊ ตาอวิ ะทสกึ ิ (จงั หวดั ไซตามะ) แผน่ ทองคำ� คานาซาวะ (จงั หวดั อชิ กิ าวะ) ตกุ๊ ตาอวิ ะทสกึ ิ มลี กั ษณะทโ่ี ดดเดน่ คอื ตกุ๊ ตามลี ำ� ตวั ขนาดใหญ่ แผน่ ทองค�ำทีม่ ขี นาดบางมากเพยี งแค่ 1 ในหนง่ึ หมนื่ สว่ นของ เพอื่ จะสามารถใสส่ ว่ นหวั ของตกุ๊ ตาได้ สว่ นหวั มลี กั ษณะเปน็ รปู ทรง 1-2 มม. ดว้ ยเหตนุ ี้ ไมว่ า่ วสั ดรุ ปู แบบซบั ซอ้ นมากเพยี งใดกส็ ามารถ กลม มรี ายละเอยี ดบนใบหนา้ อยา่ งชดั เจน (เชน่ มดี วงตาขนาดใหญ่ ปดิ แผน่ ทองคำ� นล้ี งไปได้ เมอื่ วสั ดถุ กู ปดิ ดว้ ยทองคำ� แลว้ ไมเ่ พยี งแต่ และมสี สี นั ทีส่ ดใส เป็นต้น) แสงประกายจากทองคำ� เพยี งเทา่ นนั้ วสั ดยุ งั มคี วามสวยงามและสงา่ งามติดตรงึ ในใจของผู้ทีไ่ ดเ้ หน็ อยา่ งไมร่ ู้ลมื ©JNTO ©JNTO 6

เชอื กถกั คมุ ฮิ โิ มะของอกิ ะ (จงั หวดั มเิ อะ) เครอื่ งป้ นั ดนิ เผาบเิ ซน็ (จงั หวดั โอกายามะ) เส้นไหมท่ีย้อมสีสันสวยงามน�ำมาถักทอประสานกันจนกลาย เครื่องปั้นดินเผาบิเซ็นมีลักษณะเรียบง่ายและมีสีเข้ม มีผิว เปน็ เชือกถกั คมุ ิฮโิ มะทีม่ ผี วิ สมั ผัสเปน็ เอกลกั ษณ์โดดเดน่ เทคนิคน้ี สัมผัสท่ีเปร่งประกายดูอบอุ่น เหมาะส�ำหรับใช้ตกแต่งประดับ ไดส้ ืบทอดมาต้งั แตใ่ นสมัยโบราณ ในทุกๆ บรรยากาศ ใช้วิธีการเผาท่ีเรียกว่า “โยเฮน” ซึ่งเป็นวิธี การท่ีเป็นเอกลักษณ์โดยในขณะท่ีอยู่ในเตาเผา ผิวด้านนอกและ สีของเคร่ืองปั้นดินเผาจะเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ ท�ำให้ เครื่องปั้นดินเผาบิเซ็นในแต่ละชิ้นงานมีลักษณะท่ีโดดเด่นไม่ซ�้ำกัน ถอื เป็นผลงานศลิ ปะทร่ี งั สรรค์โดยธรรมชาติ ©JNTO ©JNTO เครอื่ งป้ นั ดนิ เผาโทเบะ (จงั หวดั เอฮเิ มะ) เครอื่ งป้ นั ดนิ เผาอมิ ะร-ิ อะรติ ะ (จงั หวดั ซางะ) จานกระเบอื้ งเคลอื บสขี าววาดลวดลายสนี ำ้� เงนิ ดว้ ยพกู่ นั ขนาด เครือ่ งปั้นดินเผาเซรามิกอมิ ะริ-อะรติ ะ มชี อ่ื เสยี งด้านผิวสัมผัส ใหญ่ ทำ� จากหนิ เซรามกิ ทพ่ี บในทอ้ งถน่ิ เชน่ เดยี วกบั แจกนั สงั ขโลก สี สีขาวสวยงาม เขียนประดับด้วยภาพและลวดลายท่ีมีเสน่ห์ดึงดูด เขยี วออ่ นหวานของแจกนั ไดจ้ ากสว่ นผสมของเถา้ ถา่ นตามธรรมชาติ อีกท้ังยังเป็นภาชนะในการรับประทานอาหารท่ีใช้งานได้ง่ายและ ซงึ่ ให้ความรสู้ กึ ทีอ่ บอุ่น และสามารถนำ� ไปใช้ไดใ้ นทุกโอกาส มีความทนทานอกี ดว้ ย ©JNTO ©JNTO 7

05 \"COSPLAY\" หนงึ่ ใน Pop Culture ยอดนยิ มจากญปี่ นุ่ “คอสเพลย์ (Cosplay)” มาจากการยอ่ ค�ำของค�ำวา่ “Costume Play” ในภาษาอังกฤษ คอื ไมเ่ พยี งแต่ความสนกุ สนานเพลิดเพลินจากการอา่ นหนงั สอื การต์ นู มงั งะ การชมภาพยนตรอ์ ะนเิ มชัน่ หรอื การเลน่ เกมสเ์ ทา่ น้ัน แตม่ คี วามรสู้ กึ ที่ตอ้ งการจะกลายเป็นตัวละครที่ปรากฎในสอื่ เหลา่ นัน้ และเราเรียกผทู้ แ่ี ต่ง ตวั “คอสเพลย์” เพือ่ เปน็ ตัวละครเหล่านีว้ ่า “คอสเพลย์เยอร์ (Cosplayer)” เมื่อเร็วๆน้ี นยิ ามของคำ� วา่ “คอสเพลย์” ยังรวมไปถงึ ผูท้ ีม่ ีความชน่ื ชอบชุดเครอื่ งแบบหรอื เส้ือผา้ เคร่อื งแตง่ กายของอาชพี ทม่ี ีชดุ เส้อื ผา้ เฉพาะทาง ทำ� การ คัดลอกและตดั เยบ็ ชดุ เครอ่ื งแบบเหล่านั้น หรืออาจจะน�ำชุดเครอื่ งแบบของจรงิ มาสวมใส่ ด้วยความตงั้ ใจวา่ ตวั เองเป็นตัวละครเหล่านัน้ ความนยิ มใน “คอสเพลย์” มอี ัตราเพิม่ สูงขนึ้ นบั ตัง้ แต่ ประเทศต่างๆในทวีปยโุ รป ประเทศและเขตปกครองต่างๆในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออก เช่น ประเทศ เกาหลใี ต้ จีน ไตห้ วนั ฮอ่ งกง และประเทศในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เปน็ ต้น World Cosplay Summit ในแต่ละปีเมืองนาโงยา ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศญ่ีปุ่น จัดงาน ©WCS “World Cosplay Summit” ขึน้ ณ เมืองนาโงยา ประเทศญป่ี ุ่น เหล่านัก คอสเพลย์เยอร์จากทั่วโลกจะมารวมตัวกันและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน การแสดงบนเวทีของตวั แทนจากประเทศไทย อย่างแนน่ แฟ้นตลอดระยะเวลาประมาณ 9 วันของการจดั งาน และจากการ สนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจ�ำประเทศไทย นับต้ังแต่ ค.ศ. ©WCS 2006 เปน็ ตน้ มา มนี ักคอสเพลย์เยอร์จากประเทศไทยเขา้ รว่ มงานน้ีทกุ ปี ในวันสุดท้ายของงาน จะมีการแข่งขันในรายการ “World Cosplay ตัวแทนจากประเทศไทยได้รับรางวัลจากการประกวดปนี ้ี Championship” เพอ่ื ประชันเครอ่ื งแต่งกายและการแสดงบนเวทีของเหลา่ นกั คอสเพลยเ์ ยอรท์ ช่ี นะเลศิ และไดร้ บั การคดั เลอื กใหเ้ ปน็ ตวั แทนของประเทศ และเขตการปกครองตา่ งๆจากท่วั โลก ในการแขง่ ขันประจำ� ปี ค.ศ. 2018 ที่ ผ่านมา มีตัวแทนจากประเทศและเขตการปกครองต่างๆเข้าร่วมท้ังสิ้น 36 ประเทศ โดยตัวแทนจากประเทศไทยคณุ Jasper Z และคณุ Katto ได้รบั รางวลั ในล�ำดับที่ 3 สำ� หรับงาน “World Cosplay Summit 2019” มีกำ� หนดการจดั งานใน ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงต้นเดอื นสิงหาคม เว็บไซตท์ างการของงาน World Cosplay Summit ภาษาญ่ปี ุน่ : http://www.worldcosplaysummit.jp/ ภาษาองั กฤษ : http://www.worldcosplaysummit.jp/en/ 8

“MORI Building DIGITAL ART MUSEUM : teamLab Borderless” พิพิธภณั ฑศ์ ลิ ปะดจิ ทิ ลั แบบทไี่ มเ่ คยมมี ากอ่ นบนโลกใบน้ี “MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: teamLab คนอนื่ และรสู้ ึกวา่ ตวั เองเป็นส่วนหนง่ึ ในผลงาน โซนท่ี 2 “teamLab Borderless” พพิ ธิ ภณั ฑ์ศิลปะดจิ ทิ ัลขนาดใหญ่บนพ้ืนท่กี ว่า 10,000 Athletics Forest” ภายใตแ้ นวความคดิ “เขา้ ใจโลกผา่ นร่างกายและ ตารางเมตรได้เรม่ิ เปดิ บริการให้เข้าชม เมื่อวันท่ี 21 มถิ ุนายนทีผ่ า่ นมา ความคดิ ดว้ ยการสมั ผสั ประสบการณแ์ บบสามมติ ”ิ โซนนี้ ผเู้ ขา้ ชมจะใช้ ซงึ่ หลงั จากเปดิ ใหบ้ รกิ ารผา่ นไปจนถงึ เดอื นกนั ยายน มจี ำ� นวนผเู้ ขา้ ชม ร่างกายปฏิสมั พนั ธ์กบั ผลงานศิลปะสามมิติทสี่ ลบั ซับซอ้ น ช่วยกระต้นุ ไปแล้วมากกว่า 5 แสนคน พพิ ิธภัณฑศ์ ลิ ปะดจิ ิทลั แหง่ น้ี ประกอบไป การเจรญิ เติบโตของสมองและร่างกายให้แขง็ แรง โซนที่ 3 “Future ด้วย 5 โซน ภายในจดั แสดงผลงานศิลปะประมาณ 50 ช้ินซงึ่ สว่ นใหญ่ Park” พ้ืนที่เพ่ือการศึกษาดว้ ยแนวความคิด “สร้างสรรคร์ ่วมกัน” ดงั เปน็ ผลงานทเ่ี พ่ิงเปดิ สู่สายตาสาธารณชนเปน็ ครง้ั แรกในโลก เช่นสวนสนุกที่สามารถเพลิดเพลินกับความคิดสร้างสรรค์ร่วมกับผู้เข้า ด้วยแนวความคิด “Borderless (ไร้ขอบเขต)” พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ชมคนอ่นื ๆได้อยา่ งอิสระ โซนที่ 4 “Forest of Lamp” เมอ่ื ผเู้ ข้าชมยืน ได้น�ำเสนอกรอบแนวความคิดใหม่ในเรื่องค่านิยมและสังคม โดยการ หยดุ ใกลๆ้ กบั โคมไฟท่ลี อยใกล้ๆอยเู่ หนอื ศรีษะ โคมไฟจะส่งแสงสวา่ ง ผสมผสาน “ผเู้ ข้าชมและผลงานศลิ ปะ” อกี ท้งั “ผลงานศิลปะกบั ผล ออกมา จากนัน้ โคมไฟท่อี ยู่ถดั ไปกจ็ ะคอ่ ยๆสง่ แสงสว่างออกไปเรือ่ ยๆ งานศิลปะ” และ “ตวั เรากบั ผเู้ ขา้ ชมคนอน่ื ” ให้รวมเป็นหน่ึงเดียวกัน โซนท่5ี “EN Tea House” ผ้เู ข้าชมในโซนน้ีจะสามารถเพลิดเพลินกับ อย่างไร้ขอบเขต การดมื่ ชาไปพรอ้ มกบั ภาพของดอกไมบ้ านทปี่ รากฎบนถว้ ยชาอยา่ งไมม่ ี “MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: teamLab ท่ีสนิ้ สดุ Borderless” ประกอบไปดว้ ย 5 โซน ได้แก่ โซนท่ี 1 “Borderless” ท่านสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซด์ : http:// ผลงานศลิ ปะแตล่ ะชน้ิ ไดถ้ กู จดั วางใหเ้ ชอื่ มโยงกนั อยา่ งไรข้ อบเขต ทำ� ให้ borderless.teamlab.art/jp ผเู้ ขา้ ชมสามารถเคลอื่ นไหวรา่ งกายไดอ้ ยา่ งอสิ ระ มปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผชู้ ม ©Biyoke Madavisid ©Biyoke Madavisid ©WCS ©Biyoke Madavisid ©Biyoke Madavisid 9

ฮโิ รชมิ า มนตรเ์ สนห่ ข์ องประเทศญปี่ นุ่ HIROSHIM A! 広จังหวดั ทต่ี อ้ งมาเยือนสกั คร้งั จังหวัดฮิโรชิมา จังหวัดที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่หลากหลายอันเนื่องมาจากมี 島 สภาพภูมิอากาศท่ียอดเยี่ยมตลอดทั้งส่ีฤดูกาล เร่ิมตั้งแต่ ศาลเจ้าชินโตอิทสุคุชิมะ และอาคารโดมปรมาณู ซึ่งท้ังสองแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อีกทั้งมี แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วทางธรรมชาตทิ ่อี ุดมสมบูรณ์ เชน่ ทะเลเซโตะอุจิ ทม่ี คี วามสวยงาม ในระดบั นานาชาติ และเทือกเขาชูโงขุ เปน็ ต้น 12 3 45 อาคารโดมปรมาณู (มรดกโลก) สัญลักษณ์ ทมี ฮโิ รชิมา ซานเฟรซเช่ ทมี ฟตุ บอลอาชพี ของประเทศญปี่ ุ่นทีธ่ ีรศิลป์ แดงดา ของจงั หวัดฮิโรชิมาสะทอ้ นให้เกิดสันติภาพแกโ่ ลกใบน้ี นกั กีฬาฟตุ บอลไทยสงั กัดอยู่ เคยชนะเลิศการแขง่ ขนั เจลีกถงึ 3 ครั้ง มีสนามเหย้า ฟาร์มเซระโคเก็น สวนดอกไม้ที่สวยงามและมี อยทู่ ี่เมอื งฮโิ รชมิ า จังหวดั ฮิโรชมิ า ขนาดใหญท่ ีส่ ุดในแถบตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ©2018 S.FC ศาลเจา้ ชินโตอทิ สุคุชมิ ะ (มรดกโลก) ชาว ต่างชาติจ�ำนวนมากเดินทางมาเยี่ยมชมความพิศวงของ ศาลเจา้ ชนิ โตทตี่ ัง้ อยู่บนเหนอื น�้ำ โอะโคะโนะมิยะกิ อาหารแห่งจิตวิญญาณของ ฮิโรชมิ าทที่ ุกๆ คนหลงรัก หอยนางรมฮิโรชิมา จังหวัดฮิโรชิมามีปริมาณ ประมงหอยนางรมมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น สามารถลิ้ม ลองรสชาตทิ อี่ ร่อยไดต้ ลอดท้ังปี ©2018 S.FC ธีรศิลป์ แดงดา ท�ำประตู เส้นทางป่ ันจักรยานชิมะนะมิไคโด ใ น ก า ร แ ข ่ ง ขั น นั ด เ ป ิ ด ฤดกู าลปี 2018 ซง่ึ ถือเป็น เส้นทางปั่นจักรยานที่ยอดเย่ียมท่ีสุดสายหน่ึงของโลกซึ่งได้รับการ ชาวไทยคนแรกทท่ี ำ� ประตู ยกยอ่ งอยา่ งสงู ในตา่ งประเทศ การไดช้ มววิ ทวิ ทศั นข์ องเกาะทอ่ี ยเู่ หนอื ไดใ้ นการแขง่ ขนั เจลกี ทะเลเซโตะอุจทิ สี่ วยงาม ในขณะทปี่ นั่ จกั รยานถอื เป็นจดุ ทไ่ี ดร้ ับความ กองเชียร์ของทีมฮิโรชิมา นิยมอย่างมากจากชาวตา่ งชาติ ซานเฟรซเชใ่ หก้ ารตอ้ นรบั ธรี ศลิ ป์ แดงดาอยา่ งอบอนุ่ เว็บไซดข์ ้อมลู เกี่ยวกับการท่องเทีย่ วจังหวดั ฮิโรชิมา 10 http://v isithiroshima.net/

แนะน�ำชาวญป่ี ุ่นผู้ไดร้ ับรางวัลโนเบล ประจ�ำปี ค.ศ. 2018 ทะสึกุ ฮอนโจ รองผู้อ�ำนวยการและศาสตราจารยพ์ ิศิษฐท์ ะสกึ ุ ฮอนโจ จาก Kyoto University Institute for Advanced Study (เกดิ ในปี ค.ศ. 1942) เหตุผลที่ได้รับรางวลั : การค้นพบวธิ บี �ำบัดมะเรง็ ด้วยการยับยั้ง การตอบสนองเชงิ ลบของระบบภมู ิคมุ้ กัน ในแตล่ ะปโี รคมะเรง็ ไดค้ รา่ ชวี ติ ของมนษุ ยจ์ ำ� นวนมาก หนงึ่ ในปญั หาใหญ่ ในช่วงเวลาใกลเ้ คยี งกันนนั้ ศาสตราจารย์พิศิษฐท์ ะสกึ ุ ฮอนโจได้คน้ พบ ทส่ี ดุ คอื การควบคมุ เซลลม์ ะเรง็ ในรา่ งกายของมนษุ ย ์ โดยปกตเิ ซลลม์ ะเรง็ จะ โปรตีน PD-1 ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ cell surface receptor ซ่งึ มคี วามเกย่ี วขอ้ งกับ เขา้ ไปยบั ยงั้ กลไกความสามารถในการตอ่ สกู้ บั มะเรง็ ในระบบภมู คิ มุ้ กนั ภายใน การตายของเซลล์ ผลจากการเฝา้ สังเกตแุ ละวเิ คราะห์การทำ� งานของโปรตนี รา่ งกายของมนษุ ย์ ผไู้ ดร้ บั รางวลั โนเบลสาขาการแพทยใ์ นปนี ้ี ไดส้ รา้ งทฤษฎี ดังกล่าวอยา่ งลึกซึ้ง พบวา่ โปรตีนนสี้ ่งผลตอ่ การยบั ยั้งภมู ิคุ้มกัน ซง่ึ ถกู ระบุ ทางการแพทยใ์ หมข่ นึ้ ซง่ึ ยงั ไมเ่ คยปรากฎมากอ่ นจนถงึ ปจั จบุ นั ดว้ ยการกำ� จดั วา่ มกี ลไกการทำ� งานดงั กลา่ วแตกตา่ งจากโปรตนี ทศี่ าสตราจารย์ ดร.อลั ลสิ นั การยบั ยั้งของเซลลม์ ะเร็งเพือ่ ใหร้ ะบบภมู คิ ุม้ กันทำ� ลายเซลล์มะเรง็ วจิ ยั อย่างชดั เจน แนวทางการรกั ษาที่ศาสตราจารย์พศิ ิษฐ์ฮอนโจค้นพบ ถูก ศาสตราจารย์ ดร.เจมส์ พี. อัลลสิ นั ผวู้ ิจยั โปรตนี CTLA4 ทีท่ ราบกันดี ระบวุ า่ มปี ระสิทธิภาพสูงอย่างมากในการต่อสู้กบั โรคมะเร็ง วา่ เปน็ ตวั ยบั ยง้ั การทำ� งานของระบบภมู คิ มุ้ กนั โดยศาสตราจารย์ ดร.อลั ลสิ นั ศาสตราจารย์ ดร.เจมส์ พ.ี อลั ลสิ นั และ ศาสตราจารยพ์ ศิ ษิ ฐท์ ะสกึ ุ ฮอน ระบวุ า่ จากการกำ� จดั การยบั ยง้ั การทำ� งานของภมู คิ มุ้ กนั ทำ� ใหเ้ ซลลใ์ นระบบ โจ ทั้งสองท่านต่างค้นพบการปลดปล่อยพลังของภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ภมู คิ มุ้ กนั มคี วามสามารถในการตอ่ สกู้ บั เซลลม์ ะเรง็ ดว้ ยแนวความคดิ ดงั กลา่ ว กลายเปน็ วธิ กี ารตอ่ สกู้ บั โรคมะเรง็ การคน้ พบของผทู้ ไี่ ดร้ บั รางวลั ทงั้ สองทา่ น ได้พัฒนาเป็นแนวทางใหมใ่ นการรกั ษาผูป้ ่วยโรคมะเร็ง เปน็ เหมือนศลิ าบนั ทกึ ในเรอ่ื งการต่อส้กู บั โรคมะเรง็ รา้ ยของมนุษยชาติ 11

การประชมุ กรอบความรว่ มมอื ล่มุ น�้ำโขงกับญป่ี นุ่ ครัง้ ที่ 10 เมอ่ื วนั ท่ี 9 ตลุ าคม ทผ่ี า่ นมา พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี ร่วมมือลุ่มน้�ำโขงกับญ่ีปุ่นในอนาคต นอกจากน้ียังมีการก�ำหนดทิศทางของ เข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือลุ่มน้�ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งท่ี 10 (การ กรอบความรว่ มมือลมุ่ นำ�้ โขงกบั ญ่ีป่นุ ในอนาคต เช่น “โครงการความรว่ มมือ ประชมุ ผนู้ ำ� ระหวา่ งประเทศลุ่มนำ�้ โขงกับญปี่ ุ่น) โดยนายชนิ โซ อาเบะ นายก ลุ่มน�้ำโขงกับญ่ีปุ่นเพื่อการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” “โครงการ รัฐมนตรีญ่ปี นุ่ เปน็ เจา้ ภาพในการจัดการประชุม ทีป่ ระชมุ ผนู้ ำ� ไดช้ น่ื ชมความ ความร่วมมือลุ่มน้�ำโขงกับญ่ีปุ่นเพ่ือยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกท่ีเสรีและเปิด รว่ มมือทไ่ี ดร้ ับจากรัฐบาลญีป่ ุน่ โดยตลอดระยะเวลา 3 ปี ท่ีผ่านมา ประเทศ กว้าง” และ “โครงการความร่วมมือท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั แผนแมบ่ ท ACMECS ท่มี ี ญี่ปุ่นได้ให้ความช่วยเหลือผ่านทางความช่วยเหลือเพ่ือการพัฒนาอย่างเป็น ความเปน็ ไปไดแ้ ละเป็นโครงการทปี่ ระเทศญปี่ ุ่นก�ำลงั ดำ� เนนิ การอยู่” ทางการ (ODA) ในภมู ภิ าคล่มุ น้ำ� โขงเป็นจ�ำนวนเงินมากกว่า 7 แสน 5 หม่ืน ลา้ นเยน โดยเฉพาะอย่างยง่ิ การเตรียมโครงสร้างพ้ืนฐานคุณภาพสูง และได้ รว่ มรบั รอง “ยทุ ธศาสตรก์ รงุ โตเกยี ว ค.ศ. 2018” ซงึ่ ไดก้ ำ� หนดแนวทางความ ปีการแลกเปล่ียนระหวา่ งญีป่ นุ่ -ประเทศลมุ่ น�้ำโขง 2019 ในปี ค.ศ. 2019 จะครบรอบ 10 ปี การสถาปนา “ปกี ารแลกเปลย่ี นระหวา่ งญปี่ นุ่ –ประเทศ ลมุ่ นำ�้ โขง” นบั ตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 2009 ซงึ่ เปน็ การแลกเปลยี่ นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศญปี่ นุ่ กับประเทศตา่ งๆในแถบล่มุ แมน่ ำ�้ โขง อันประกอบไปดว้ ย ราชอาณาจักรไทย ราชอาณาจักร กมั พชู า สาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนาม สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมา และ สาธารณรฐั ประ ชาธไิ ตยประชาชนลาว เพอื่ เปน็ การสง่ เสรมิ การแลกเปลย่ี นระหวา่ งประเทศญปี่ นุ่ กบั ประเทศ ล่มุ นำ�้ โขงให้มีความแนน่ แฟ้นยงิ่ ข้ึน จึงไดก้ ำ� หนด “ปกี ารแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น–ประเทศ ลุ่มน�้ำโขง 2019” เพื่อความส�ำเร็จของ “ปีการแลกเปลี่ยนระหว่างญ่ีปุ่น–ประเทศลุ่มน้�ำโขง 2019” จึงมี การก�ำหนดตราสัญลักษณ์ เพื่อผลักดันการด�ำเนินกิจกรรมแลกเปล่ียนภายใต้ความร่วมมือ ของหนว่ ยงานตา่ งๆทงั้ ในประเทศญปี่ นุ่ และประเทศในลมุ่ นำ้� โขง อยา่ งกวา้ งขวางทกุ ดา้ น เชน่ การเมือง เศรษฐกจิ และวฒั นธรรม เปน็ ต้น และเม่ือเดือนตุลาคม ที่ผา่ นมา ไดม้ กี ารกำ� หนด ตราสัญลักษณ์ประจ�ำปีการแลกเปล่ียนระหว่างญ่ีปุ่น–ประเทศลุ่มน�้ำโขง 2019 ผู้ออกแบบ ตราสัญลักษณ์ คือ โทรุ นะรุมิ (พ�ำนกั ณ ประเทศญปี่ นุ่ ) ตราสัญลกั ษณ์ประกอบไปดว้ ยดวง อาทิตย์ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของประเทศญ่ีปุ่น อยู่เหนือแม่น�้ำโขงท่ีกว้างใหญ่ แสดงให้เห็นถึง สายสมั พันธ์แหง่ มติ รภาพ และความรูส้ ึกเปน็ หนึ่งเดียวกันของประเทศญ่ีปุ่นและประเทศลมุ่ นำ้� โขง ตราสญั ลกั ษณน์ ส้ี ามารถนำ� ไปใชใ้ นกจิ กรรมทไี่ ดร้ บั อนมุ ตั ใิ หเ้ ปน็ กจิ กรรมเพอื่ การเฉลมิ ฉลอง “ปกี ารแลกเปลีย่ นระหว่างญป่ี นุ่ –ประเทศลุ่มนำ�้ โขง 2019” 12

ข่าวสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น งานเฉลมิ พระชนมพรรษาสมเดจ็ พระจกั รพรรดแิ หง่ ญปี่ นุ่ เมอื่ วนั ที่ 21 พฤศจกิ ายน ทผ่ี า่ นมา สถานเอกอคั รราชทตู ญป่ี นุ่ ประจำ� ประเทศไทย ได้จัดงานเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระจักรพรรดิแห่ง ญี่ปุน่ ประจำ� ปี พ.ศ . 2561 ณ โรงแรม The Athenee ในวันนั้น ผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางด้านการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจที่ สำ� คญั ชาวไทย ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั องคก์ รไทย-ญปี่ นุ่ ผสู้ อ่ื ขา่ ว นกั การทตู และ ชาวญป่ี นุ่ ที่พ�ำนักในประเทศไทย จำ� นวนกว่า 1,000 คน ได้เข้าร่วมถวาย พระพรสมเดจ็ พระจกั รพรรดแิ ห่งญปี่ นุ่ ในงานดงั กลา่ ว ภายในงานเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นใน คร้ังน้ี มีการออกบูทของหน่วยงานต่างๆ เช่น องค์กรส่วนปกครองท้อง ถ่ินของประเทศญี่ปุ่น องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) องค์การส่งเสริมการท่องเท่ียวแห่งประเทศญ่ีปุ่น (JNTO) เพ่ือ ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเท่ียวท่ีน่าประทับใจและอาหารญี่ปุ่นอันเลิศรส ของประเทศญ่ปี ่นุ นอกจากนี้ ยังมี “มวยไทชิ” มาสคอตทูตสันทวไมตรี ความสัมพันธ์ระหวา่ งประเทศไทยและประเทศญ่ีปุน่ มาชว่ ยสง่ เสริมการ แลกเปลีย่ นวัฒนธรรมกบั แขกผ้มู เี กยี รตทิ มี่ ารว่ มงานในวนั นั้น มสิ อนิ เตอรเ์ นชนั่ แนลไทยแลนด์ 2018 เขา้ เยย่ี มคารวะเอกอคั รราชทตู ญปี่ นุ่ วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา นางสาวกีรติกา จารรุ ัตน์จามร ผู้ชนะเลศิ เมอื่ วนั ท่ี 9 พฤศจกิ ายน มกี ารจดั ประกวดมสิ อนิ เตอรเ์ นชน่ั แนล ครงั้ ที่ มสิ อนิ เตอรเ์ นชน่ั แนลไทยแลนด์ 2018 ซง่ึ เปน็ ตวั แทนของประเทศไทยใน 58 ณ โตเกยี วโดมซติ ฮ้ี อลล์ มตี วั แทนสาวงาม 77 คนจากประเทศและเขต การประกวดมสิ อนิ เตอรเ์ นชนั่ แนล 2018 พรอ้ มทง้ั รองชนะเลศิ อนั ดบั ท่ี 1 การปกครองตา่ งๆเขา้ รว่ มการประกวดในวนั นน้ั โดยทำ� การตดั สนิ นางงาม และ 2 เขา้ เยี่ยมคารวะ นายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทตู ญี่ปุ่นประจำ� ในชดุ ประจำ� ชาติ ชดุ วา่ ยนำ�้ ชดุ ราตรเี พอ่ื คดั เลอื กผเู้ ขา้ รอบ 15 คนสดุ ทา้ ย ประเทศไทย ซึ่งสาวงามตวั แทนจากประเทศไทยไดผ้ ่านเขา้ รอบ 15 คนสุดท้าย 13

การจดั แสดงดอกไม้ ในโอกาสครบรอบ 45 ปี การกอ่ ตง้ั สมาคม Ikebana International สาขากรงุ เทพฯ 177 วนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน ทผี่ า่ นมา ได้มพี ธิ เี ปิด “การจดั แสดงดอกไม้ ใน ประเทศญป่ี ุน่ มาอยา่ งต่อเนื่อง โอกาสครบรอบ 45 ปี การกอ่ ต้ังสมาคม Ikebana International สาขา ในพธิ เี ปดิ งาน หลงั จากนายชโิ ร ซะโดะชมิ ะ เอกอคั รราชทตู ญป่ี นุ่ ประจำ� กรุงเทพฯ 177” ณ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ประเทศไทยไดก้ ลา่ วอำ� นวยพรแลว้ จากนน้ั มกี ารสาธติ การจดั ดอกไมอ้ เิ คะบะ ในปจั จบุ นั (พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2561) สมาคม Ikebana International นะ โดยอาจารยอ์ ะมิ คุโด จากส�ำนกั จดั ดอกไมอ้ เิ คะบะนะโอฮะระ มีสาขาอยู่ในประเทศและเขตการปกครองตา่ งๆท่วั โลก ทงั้ สิ้น 161 สาขา ผู้เข้ารว่ มงาน นอกจากจะไดร้ บั ความรู้เกี่ยวกับประวัติและวธิ ีการจดั สมาคมดังกล่าวได้ด�ำเนินกิจกรรมการเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยผ่าน ดอกไม้อิเคะบะนะแล้ว ยังถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้สัมผัสความงดงามของ การจัดดอกไม้อิเคะบะนะ วัฒนธรรมท่ีสืบทอดมาอย่างยาวนานของ ผลงานการจดั ดอกไม้อเิ คะบะนะได้อย่างลึกซงึ้ งานเทยี่ วญปี่ นุ่ ดว้ ยตวั เอง 2018 (Visit Japan FIT Fair 2018) องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญ่ีปุ่น (JNTO) จัด “งาน นั่งเรอื บนผวิ นำ�้ แขง็ เปน็ ตน้ ในพิธเี ปิดงานวนั แรก นายฮโิ ระชิ คะวะมรู ะ เท่ยี วญป่ี ุ่นด้วยตวั เอง 2018 (Visit Japan FIT Fair 2018)” ในระหว่าง รองหวั หนา้ คณะผแู้ ทนทางการทตู (อคั รราชทตู ) จากสถานเอกอคั รราชทตู วันที่ 2 - 4 พฤศจิกายน ทผี่ า่ นมา ณ ศนู ยก์ ารคา้ สยามพารากอน โดยมี ญ่ีปุ่นประจ�ำประเทศไทย ได้กล่าวทักทายแขกผู้มาร่วมงาน นอกจากนี้ วัตถุประสงค์เพ่อื สง่ เสรมิ การทอ่ งเท่ยี วประเทศญ่ีปุน่ ในช่วงฤดูหนาว โดย ยงั มีนกั แสดงชาวไทยท่มี ชี อื่ เสยี ง คุณซันนี่ สวุ รรณเมธานนท์ ซ่ึงเคยมผี ล เฉพาะอยา่ งยงิ่ ในครง้ั น้ี ไดม้ กี ารจดั งานภายใตห้ วั ขอ้ กจิ กรรมทท่ี า้ ทายและ งานการแสดงภาพยนตแ์ ละโทรทศั นโ์ ดยมฉี ากหลงั เปน็ สถานทใี่ นประเทศ สนกุ สนานในฤดหู นาวของประเทศญปี่ นุ่ ภายในงานมกี ารแนะนำ� กจิ กรรม ญ่ีปุ่น เข้าร่วมงานในวันดังกล่าวด้วย ตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน มีแขก กฬี าต่างๆ เชน่ สกี สโนวบ์ อร์ด นอกจากน้ี ยังมีการแนะนำ� กิจกรรมอ่นื ๆ ผู้ร่วมงานทั้งส้ิน 55,554 คน ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างสูงของ ท่ีนา่ สนใจ เช่น การเก็บลกู สตรอเบอร่ี ออนเซ็น (บ่อน้�ำพรุ ้อน) และ การ ประชาชนชาวไทยในการทอ่ งเที่ยวประเทศญ่ปี ุ่น 14

การสาธติ การจดั ดอกไมอ้ เิ คะบะนะ ในโอกาสครบรอบ 29 ปี สมาคมนกยงู อเิ คโนโบอเิ คะบะนะ สาขากรงุ เทพฯ เมอ่ื วนั ที่ 26 กนั ยายน มกี ารสาธติ การจดั ดอกไมอ้ เิ คะบะนะ ในโอกาส นกยงู อเิ คโนโบอเิ คะบะนะ เกยี วโต มาสาธติ การจดั ดอกไมใ้ นรปู แบบตา่ งๆ ให้ ครบรอบ 29 ปี สมาคมนกยงู อเิ คโนโบอเิ คะบะนะ สาขากรงุ เทพฯ ณ หอ้ ง กบั ผเู้ ขา้ รว่ มงานในวนั นน้ั ไดร้ บั ชม นบั ตง้ั แตร่ ปู แบบ “รกิ กะ” ทเ่ี กา่ แกท่ ส่ี ดุ เอนกประสงค์ สถานเอกอคั รราชทตู ญป่ี นุ่ ประจ�ำประเทศไทย สบื ทอดมาตงั้ แตย่ คุ สมยั มโุ ระมะจิ รปู แบบ “โชกะ” ทถ่ี กู คดิ คน้ ขนึ้ ในยคุ สมยั ในโอกาสน้ี คุณสาลินี ไพรสานฑ์กุล ประธานสมาคมนกยูงอิเคโน เอโดะ และรปู แบบ “จยิ กู ะ” ทเี่ กดิ ขน้ึ ในสมยั หลงั สนิ้ สดุ สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 โบอเิ คะบะนะ สาขากรุงเทพฯ รนุ่ ที่ 2 ไดด้ ำ� เนนิ หน้าทใ่ี นฐานะประธาน ในการสาธิตการจัดดอกไม้อิเคะบะนะโดย อ. คุนิโยะชิ ทสึจิยะ ได้ สมาคมเปน็ ครั้งแรกแทนคุณอดุ มศรี ไพรสานฑก์ ุล ประธานสมาคม สาขา อธิบายถึงประวัติศาสตร์ของการจัดดอกไม้อิเคะบะนะ รวมถึงการเล่า รุน่ แรก ที่ได้เสยี ชวี ติ เมอ่ื เดือนเมษายน ทผี่ า่ นมา ประสบการณ์ในการหาดอกไม้ ท่ีประเทศไทยเพ่ือน�ำมาสาธิตในวันนั้น ในครั้งน้ี ไดเ้ ชิญ อ. คุนิโยะชิ ทสจึ ยิ ะ จากส�ำนักงานใหญข่ องสมาคม อย่างสนกุ สนาน ซง่ึ ไดร้ บั ความสนใจจากผูเ้ ข้าชมอย่างล้นหลาม การแขง่ ขนั ภาษาญป่ี นุ่ เพชรยอดมงกฎุ ครงั้ ท่ี 13 วนั เสารท์ ่ี 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มลู นธิ ริ ่มฉัตรได้จัดการแขง่ ขนั ภาษาญปี่ นุ่ เพชรยอดมงกฎุ ครง้ั ที่ 13 ณ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล รัตนโกสินทร์ จงั หวดั นครปฐม โดยมีนกั เรียนกวา่ 1,000 คน จากทั่วทั้ง ประเทศไทย เขา้ ร่วมการประลองผลสำ� เรจ็ จากการศกึ ษาภาษาญ่ปี ุน่ มูลนิธิร่มฉัตรซ่ึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระราชวงศ์ไทยและ การสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสน้ี สถานเอกอัครราชทตู ญ่ีปุ่นพร้อมทั้งหน่วยงานทางด้านการศึกษาภาษาญ่ีปุ่นในประเทศไทย ให้ความร่วมมือในการจัดการแข่งขันภาษาญี่ปุ่นเพชรยอดมงกุฎตั้งแต่ ในระดับประถมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาจากสถาบันต่างๆท่ัวทั้ง ประเทศไทยเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี และยังเป็นท่ีทราบกันอย่างแพร่ หลายในฐานะการแขง่ ขนั ภาษาญปี่ นุ่ ทม่ี ขี นาดใหญท่ ส่ี ดุ ในประเทศไทย ซง่ึ ผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันในแต่ละระดับจะได้รับพระราชทานถ้วยรางวัล ชนะเลศิ ในพธิ เี ปดิ การแขง่ ขนั พระพรหมมงั คลาจารย์ (ดร.เจา้ คณุ ธงชยั ) ผชู้ ว่ ย เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ประธานมูลนิธิร่มฉัตร ผศ.ศิวะ วสุนธราภิวัฒก์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และนาย ชิเงกิ โคบายาชิ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักข่าวสารญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูต ญี่ปุ่นประจ�ำประเทศไทย ได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าว และเพ่ือเป็นการสัมผัส และสรา้ งความเขา้ ใจวฒั นธรรมญปี่ นุ่ ไดอ้ ยา่ งลกึ ซงึ้ มากขน้ึ ในโอกาสน้ี คณุ โนะรโิ กะ ทซโึ บะอิ และคุณยะโยะอิ นะงะโอะ นักดนตรโี กะโตะท่ีพ�ำนัก ในประเทศไทย ไดร้ ว่ มบรรเลงบทเพลง เชน่ “ฮะรโุ นะอมุ ”ิ “โอะโคะโตะ” และ “โทะนะรโิ นะโทะโทะโระ” เป็นตน้ ให้กบั นกั เรียน ผ้ปู กครอง และผู้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งทเี่ ขา้ รว่ มงานในวนั นนั้ ไดร้ บั ฟงั ซง่ึ ไดร้ บั ความชื่นชอบจากผฟู้ งั ทุกท่านอยา่ งมาก 15

ประลองฝม อื ทำอาหารญป่ี นุ \"โอเดง็ \" “โอเด็ง” หนึ่งในเมนูอาหาร ประเภทต้มของญ่ีปุ่นและยังจัด อยู่ในอาหารประเภทหม้อไฟด้วย เช่นกัน เป็นเมนูอาหารท่ีท�ำจากน้�ำ ซุปปรุงรสชาติด้วยเครือ่ งปรุงต่างๆ เชน่ โชยุ เป็นตน้ จากนนั้ ใสว่ ตั ถดุ บิ ต่างๆ เชน่ หวั ไชเทา้ จคิ วุ ะ บกุ กอ้ น และไขต่ ม้ เปน็ ตน้ ซง่ึ ในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ และครวั เรอื นใชว้ ตั ถดุ บิ ในการทำ� โอเดง็ ที่แตกต่างกนั ไป วธิ กี ารท�ำโอเดง็ วัตถดุ บิ (ส�ำหรบั 4 คน) วัตถุดบิ ในการทำ� น�้ำซุป หัวไชเท้า ครึ่งหวั น�ำ้ เปล่า 1400 ซีซี ไขต่ ม้ 4 ฟอง คทั สึโอะบุชิ (ปลาโอขูดฝอย) 30 กรมั บกุ กอ้ น 1 กอ้ น สาหร่ายคอมบุ (ขนาด 10 ซม.) 2 แผ่น เตา้ ห้กู ้อนทอด (อทั ซึอะเกะ) 2 ก้อน วัตถดุ ิบในการทำ� น�ำ้ ซปุ จคิ วุ ะย่าง (ลูกชิ้นปลาประเภทหน่งึ ) 2 แทง่ ฮัมเป็ง (เน้ือปลาบดประเภทหนง่ึ ) (ขนาดใหญ่) 1 แผ่น เหล้าสาเก 60 ซีซี โชยุสตู รอซุ คึ ุจิ 2 ชอ้ นโตะ๊ ซทั สึมะอะเงะ (ลกู ช้ินปลาประเภทหนงึ่ ) 4-5 แผ่น มริ ิน 2 ช้อนโต๊ะ (นอกจากน้ี ยงั สามารถใสล่ กู ชนิ้ ประเภทตา่ งๆของญป่ี นุ่ เอ็นววั หรือ หนวดปลาหมึกได้ในปรมิ าณทีช่ อบ) เกลอื 1 ช้อนชา ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา 1. นำ� นำ้� เปลา่ ปรมิ าณ 1,400 ซซี ี ใสค่ ทั สโึ อะบชุ ิ 30 กรมั และสาหรา่ ย 5. ปรุงรสน�้ำซปุ ท่ไี ด้จากข้อ 1 ดว้ ยโชยสุ ตู รอซุ คึ ุจิ มิรนิ เกลอื และ คอมบขุ นาดยาว 10 ซม. 2 แผน่ ลงไปจากนนั้ แชท่ งิ้ ไวใ้ นตเู้ ยน็ ขา้ มคนื ซอสหอยนางรม ตม้ จนเครอื่ งปรงุ รสเขา้ กนั ใสว่ ตั ถดุ บิ ทใ่ี ชเ้ วลาในการ จากน้ันกรองเอาแตน่ ้ำ� ใสล่ งในหม้อตม้ ดดู ซมึ รสชาติ เชน่ หัวไชเ้ ท้า บกุ ไขต่ ม้ (ถ้ามหี นวดปลาหมึกหรอื เอ็น 2. ปลอกเปลือกและหั่นหวั ไชเท้าเปน็ แว่นขนาดหนา 3 ซม. จากนน้ั วัว) ลงไปตม้ กอ่ นดว้ ยไฟเบาประมาณ 15 นาที ใชม้ ดี กรดี เปน็ รปู กากบาทลกึ ประมาณ 1 ซม.ลงบนดา้ นหนงึ่ ของหวั ไช้ 6. เมอื่ ตม้ หวั ไชเทา้ จนเปลย่ี นสี ใสเ่ ตา้ หกู้ อ้ นทอด จคิ วุ ะยา่ ง ซทั สมึ ะ เทา้ จากน้นั นำ� ไปต้มในน�้ำซาวขา้ ว ประมาณ 20 นาที อะเงะ (วัตถุดิบจ�ำพวกลกู ชิ้นญีป่ ุ่น) ลงไปตม้ ด้วยไฟเบาอกี ประมาณ 3. นำ� บกุ กอ้ นไปลวก จากนน้ั หนั่ เปน็ ทรงสามเหลยี่ มได้ 4 ชนิ้ แลว้ จงึ 15 นาที กรดี บุกกอ้ นทั้งสองดา้ นเป็นลายตาราง 7. ใส่ฮมั เปง็ ลงไปในหมอ้ จากน้ันปิดไฟรอประมาณ 5 นาที ถอื เป็น 4. หั่นจคิ ุวะยา่ งเปน็ 3 ช้ินจากน้นั นำ� ไปเสยี บไม้ อนั เสร็จสมบรู ณ ์