Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสือสำรองช่อสะอาด

คู่มือการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสือสำรองช่อสะอาด

Published by ปริญญา, 2021-11-17 10:16:02

Description: คู่มือการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสือสำรองช่อสะอาด

Keywords: ลูกเสือ, ลูกเสือช่อสะอาด,ลูกเสือสำรอง

Search

Read the Text Version

๖. เม่ือปฏิบัติเรียบรอยตามเวลาที่กําหนดใหแลว ในขั้นตอนการนําเสนองานใหทุกหมูมารวมกัน ณ จุดศูนยกลาง วิทยากรพาลูกเสือทุกหมูไปยังจุดปฏิบัติงานเรียงตามลําดับตามใบงาน เมื่อถึงฐานปฏิบัติงาน ใหห มูท่ีไดร บั มอบหมายนําเสนองานในเวลาท่กี าํ หนดให จนครบทกุ หมู ๗. วิทยากรนาํ เสนอเพลงความซอื่ สตั ย ใหผูรบั การฝกอบรมฝกรอ ง ๘. วิทยากรและผูเขารับการฝกอบรมสรุปบทเรียนรวมกัน วิทยากรฝากขอคิดในเร่ือง คําปฏิญาณ กฎ คติพจน ความซอ่ื สัตย และความเอ้ือเฟอ เผ่ือแผ เพ่อื ใหผูร บั การฝก อบรมนําไปปฏิบัติในชีวิตประจาํ วัน ข้ันประเมินผล ๑. ประเมินผลงานจากใบงาน ๒. ทาํ แบบทดสอบหลังเรียน ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น ส่ือการสอน ๑. ใบความรูท ่ี ๑ คาํ ปฏญิ าณ กฎและคติพจนของลกู เสือสํารอง ๒. ใบความรทู ่ี ๒ ความซ่ือสตั ย ๓. ใบความรูที่ ๓ ความเอ้อื เฟอเผ่อื แผ ๔. ใบความรูที่ ๔ เพลงประกอบการสอน ๕. ภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู ัวภมู พิ ลอดุลยเดช ๖. ใบงานกจิ กรรมท่ี ๑ - ๘ การประเมนิ ผล ๑. วธิ ีการวัดผล : ประเมนิ การปฏิบัติกจิ กรรมกลุม ๒. เครอ่ื งมอื วัดผล : แบบประเมินการปฏิบตั ิกจิ กรรมกลุม ๒.๑ แบบประเมินแบบทดสอบกอน หลงั เรียน ๒.๒ แบบประเมนิ ใบงานกจิ กรรมที่ ๑ - ๘ ๒.๓ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานกลุม ๓. เกณฑก ารประเมิน : มีผลการประเมนิ ผานเกณฑทกี่ าํ หนด 38 40

ใบความรทู ี่ ๑ คําปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนของลูกเสือสาํ รอง เร่ืองที่ ๑ คําปฏญิ าณของลูกเสอื สาํ รอง คําปฏิญาณของลูกเสือ หมายถึง การใหคํามั่นสัญญาของตนเองวาจะประพฤติปฏิบัติตามคําพูดที่กลาว ไวทกุ ประการดว ยความสุจริตใจ คําปฏิญาณของลกู เสอื สาํ รองมี ๒ ขอ ดงั น้ี ขา สัญญาวา ขอ ๑ ขา จะจงรักภักดีตอชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย ขอ ๒ ขาจะยดึ ม่ันในกฎของลูกเสือสํารองและบําเพ็ญประโยชนตอ ผอู ่นื ทกุ วนั ภาพการแสดงรหสั ของลูกเสือสํารอง ทกุ คร้งั ท่กี ลา วคําปฏญิ าณลกู เสือสาํ รองตองแสดงรหสั ความหมายของคาํ ปฏญิ าณลูกเสือสํารอง ขอ ๑ ขาจะจงรักภกั ดีตอชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ  หมายถึง จะเคารพ ยึดมัน่ และเทิดทูนไวซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย โดยจะประพฤติตน ตามขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของไทย พรอมท่ีจะปกปองคุมครองสถาบันท้ัง ๓ นี้ โดยยอมเสียสละเลือดเน้อื และชีวิตตามโอกาสอันพงึ กระทําได ขอ ๒ ขา จะยึดมนั่ ในกฎของลูกเสือสาํ รองและบําเพ็ญประโยชนต อผูอื่นทุกวัน หมายถึง จะยึดม่ันในการปฏิบัติตามกฎของลูกเสือสํารอง และจะชวยเหลือผูอ่ืนตามโอกาส ทุกวนั โดยจะปฏิบัตติ ามแบบแผนและระเบียบของลกู เสือ เรอ่ื งที่ ๒ กฎของลกู เสือสํารอง กฎ หมายถงึ ขอ กาํ หนดทต่ี ัง้ ขนึ้ แลวนาํ ไปปฏิบัติ เพ่ือเปน การสรางวินยั ทดี่ ตี อตนเองและสว นรวม กฎของลกู เสือสํารอง มี ๒ ขอ ดงั น้ี ขอ ๑ ลกู เสือสํารองทาํ ตามลูกเสือรนุ พี่ ขอ ๒ ลกู เสือสาํ รองไมตามใจตนเอง 39 41

ความหมายของกฎลกู เสอื สํารอง ขอ ๑ ลูกเสือสาํ รองทําตามลกู เสือรนุ พ่ี หมายถึง ลูกเสือรุนพ่ีน้ันไดผานการฝกอบรมวิชาลูกเสือมากอน ยอมทราบถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี ระเบียบ การบําเพ็ญประโยชนและการปฏิบัติตาง ๆ ของลูกเสือเปนอยางดี ลูกเสือรุนนองจึงจําเปน อยางยง่ิ ทีจ่ ะตอ งดแู บบอยา งท่ดี ขี องรนุ พ่ี ขอ ๒ ลกู เสือสํารองไมต ามใจตนเอง หมายถึง ลกู เสอื สาํ รองจะตองสาํ นึกอยูเสมอวา เราเปนเพยี งลกู เสือสํารองเทาน้ัน ยังมีเร่ืองราว ตาง ๆ ท่ีลูกเสือสํารองยังไมรู การกระทําใด ๆ ในสิ่งท่ีตนเองไมรูจะกอใหเกิดผลเสียแกตัวเองและขบวนการ ลูกเสือ การปฏิบัติตนไมควรทําส่ิงหน่ึงสิ่งใดตามใจตนเอง เพราะจะกอใหเกิดความเส่ือมเสียแกหมูคณะและ กจิ การลูกเสือ คติพจนล ูกเสอื สํารอง ทําดีทีส่ ุด 40 42

ใบความรทู ่ี ๒ ความซ่ือสตั ย ความซื่อสัตย คือ การประพฤติปฏิบัติอยางเหมาะสม และตรงตอความเปนจริง ประพฤติปฏิบัติ อยางตรงไปตรงมา ท้ังกาย วาจา ใจ ตอตนเองและผูอื่น รวมตลอดท้ังตอหนาที่การงานและคําม่ันสัญญา ความประพฤตทิ ีต่ รงไปตรงมา และจริงใจในส่ิงท่ถี ูกทค่ี วร ถูกตอ งตามทํานองคลองธรรม รวมไปถึงการไมคิดคด ทรยศ ไมคดโกงและไมหลอกลวง นอกจากน้ีแลวความซื่อสัตยสุจริตยังรวมไปถึง การรักษาคําพูดหรือคํามั่น สัญญา และการปฏิบัติหนาท่ีการงานของตนเองดวยความรับผิดชอบและดวยความซ่ือสัตย ไมแสวงหา ผลประโยชนใหแกตนเองและพวกพองดวยการใชอํานาจหนาท่ีโดยมิชอบ ซึ่งความซื่อสัตยสุจริตน้ีจะดําเนินไป ดวยความต้ังใจจริง เพ่ือทําหนาที่ของตนเองใหสําเร็จลุลวงดวยความระมัดระวังและเกิดผลดีตอตนเองและ สังคม พฤติกรรมทแ่ี สดงวา มคี วามซื่อสัตย มดี งั น้ี ๑. ตรงตอ เวลานัดหมายแลวมาตามนดั และตรงเวลามาโรงเรียนตรงเวลาไมมาสาย ๒. ไมพ ูดปด พูดความจรงิ เสมอ ๓. ไมหนา ไหวห ลังหลอก ตอหนาทําอยางหนงึ่ และลับหลงั ทาํ อกี อยางหนงึ่ ๔. ยอมรับผดิ เมื่อทําผดิ ไมใสรา ยความผดิ ใหกับผูอ่ืน ๕. จายเงินทุกคร้ังเม่ือซ้ือส่ิงของ ข้ึนรถประจําทางหรือโดยสารยานพาหนะอ่ืน ๆ หรือใชบริการอ่ืน ๆ ท่ีตอ งเสียเงนิ คาบริการ ๖. ไมห ยบิ ฉวยสิ่งของของผอู นื่ มาเปนของตน จะใชส งิ่ ของผูอ่นื ตองขออนุญาตกอ น ๗. ไมลอกการบานเพือ่ น ไมแอบอา งผลงานเพ่อื นเปนผลงานตวั เอง ไมล อกคาํ ตอบเพ่ือน ใบความรูที่ ๓ ความเอื้อเฟอเผื่อแผ ความเอ้ือเฟอเผื่อแผท่ีสมบูรณแบบน้ัน คือ ความเต็มใจที่จะใหทั้งตัวตนของเราและทุกส่ิงท่ีเรามีไป โดยมิไดหวังในสิ่งตอบแทนกลับมา ในชีวิตของคนเราน้ันการแบงปน ความเอ้ือเฟอเผื่อแผ ยอมนําผลสู ความสาํ เร็จท้ังสน้ิ ความเอ้อื เฟอ เผ่อื แผ ย่งิ แบง ปน ไปมากเทาใด จะรูสึกถึงความอุดมที่มีมากขึ้นในชีวิต เม่ือใดท่ีเราสามารถ ใหอยางอิสระ ดวยการกระทําแหงรักท่ีไรขอแม ไมคาดหวังใด ๆ เม่ือน้ัน เราจะรูสึกไดถึงสัมผัสแหงอิสระและ ไดสละสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นที่คอยหลอกใหเราเชื่อในขอจํากัด นี่คือขีดความสามารถท่ีจะเปนผูใหโดยปราศจาก เงื่อนไข และยอมรับในสิ่งใดท่ีพบพานในชีวิตน้ันมาจากแหลงที่ไรขีดจํากัดและไมเคยเลยท่ีจะรูสึกถึง ความขาดแคลน เพราะเรารูว า ตวั เราเปน สวนหน่งึ ของกระแสสนับสนนุ ทไ่ี รจดุ สิ้นสุด โลกของเราทํางานอยูไดดวยหลักแหงการใหและรับ เราหายใจเขาเปนออกซิเจนและหายใจออกเปน คารบอนไดออกไซด และพืชใชคารบอนไดออกไซดที่ไดมาและปลอยออกซิเจนกลับคืนสูช้ันบรรยากาศ ในหวงโซอาหารท้ังหมดคือเร่ืองราวของการใหและเอาชีวิต และการใหคืนกลับอีกครั้งในวงจรท่ีรอยเรียง ไรจุดสิ้นสุด กระบวนการนี้เปนไปในระดับจิตวิญญาณดวยเชนกัน เราสงความรักและความกรุณาออกไป และ ไดร ับกลบั คืนมาเปนสบิ เทา น่ีละ คอื วิถที างแหงจกั รวาล 41 43

เรื่องราวสําคญั ก็คือ ถาเราไมเอ้ือเฟอ เผ่อื แผในยามยากแคน ยังไงก็ไมเอื้อเฟอเผื่อแผในยามม่ังมีเชนกัน หัวใจแหงการเผ่ือแผ คือหัวใจไมมีขีดจํากัดในการเผ่ือแผกับผูอ่ืน และไมหวังแมรางวัลหรือการยอมรับ คิดถึง ทุกสิ่งท่ีเราจะทําเพ่ือคนอื่นไดในแตละวัน เพ่ือฝกตนในเร่ืองความเอื้อเฟอเผื่อแผ เชน พูดคุยกับเพ่ือนบานที่ วา เหว ใหอาหารแมวท่ีหลงทางมา เปดประตูใหคนท่ีเดินตามเรามา จายคาทางดวนใหรถคันท่ีตามมา เติมน้ํามัน ใหรถของแฟน และอนื่ ๆ อีกมากมาย ดังนั้น ควรเก็บความเอื้อเฟอเผื่อแผของเราไวเปนสวนตัว โดยไมจําเปนตองคุยโวถึงจิตใจท่ีเผื่อแผของ เราลองพยายามใหผอู น่ื มากกวา ทเี่ ราคิดจะใหได และใชความพยายามมากขึ้นกวาปกติ หรือใชเวลาน่ังฟงลูก ๆ มากขน้ึ โอบกอดคูรักของเราอยางเตม็ เปย มไปดวยอารมณความรูสึกแทนที่จะแคสวมกอดเฉย ๆ ใหทิป ๕๐ บาท เพ่ิมแกแมบานที่ดูแลเราเปนอยางดีระหวางที่พักโรงแรม อะไรก็ตามที่ถือวาเปนขีดจํากัดของการใหของเรา ใหลองกาวไปไกลเกินกวานั้น ทราบดีวาการทําเชนน้ีจะตองไมทําใหเราตองลําบากมากมายอะไรในชีวิตจริง นอกจากน้ี เราจะสามารถฝกเรื่องน้ีดวยการเอ้ือเฟอเผ่ือแผแกตัวเองไดดวย เชน สั่งอาหารในเมนูท่ีมีราคา มากกวาเดมิ หรอื ยอมใหตนไดส มั ผัสความหรหู ราของการทําสปาเดือนละครงั้ เม่ือใดที่มองจุดมุงหมายในชีวิตของเราในแงของวัตถุ จะพบวาส่ิงที่ทําอยางเดียวในชีวิต คือการใหผูอ่ืน เราไมสามารถยึดติดไดกับทุกส่ิงในจักรวาลท่ีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไมสามารถอางสิทธิในสิ่งใด เพราะทุกส่ิง นั้นล่ืนไหลเปลี่ยนผานไปตลอดเวลา การเอ้ือเฟอและบริการผูอ่ืนดวยความรักที่ไรขอแม คือวิถีทางที่จะพัฒนา ไปสูส ่ิงท่ดี กี วาในขณะที่อยใู นรางมนุษย เปาหมายของการนําความสําเร็จมาสูชีวิตของเรา ก็คือการบริการผูอื่นใหเต็มที่ยิ่งกวาเดิมและสละท้ิง สิ่งท่ีเคยครอบงําและเห็นแกตัวเอาไวขางหลัง ความสมบูรณพูนสุขในชีวิต แทจริงแลวตางเชื่อมโยงเขากับชีวิต และความสมบูรณพูนสุขในชีวิตผูอื่น และแทที่สุดแลว ผลประโยชนของเราเองนั้นแยกไมออกเลยจาก ผลประโยชนของผูอื่น ดวยการเปล่ียนจุดมุงหมายในชีวิตของเราใหเปนการมอบตัวตนเพื่อผูอื่นและท้ิง ความคดิ เห็นแกตนเอาไวเ บอ้ื งหลงั เราจะคน พบกบั เรอ่ื งนา ขันของความสําเร็จในชีวิต นั่นคือย่ิงคุณเลือกที่จะให และบรกิ ารผูอื่นมากเพยี งใด ความสุขสมบูรณแ ละความสําเร็จจะกลับมาสชู วี ิตเรามากข้ึนเทาน้นั ปญ หาเดียวท่ีอาจเผชญิ ในการนาํ ความเอ้ือเฟอ เผอื่ แผมาใชในชวี ติ คอื ปญหาการใหโดยนําเงื่อนไขมาใช บังคับกับความเอ้ือเฟอเผ่ือแผ หรือรองขอส่ิงอื่นตอบแทน หรือแมแตคาดหวังถึงคําขอบคุณ หมายถึงตอนน้ัน กําลังใชมันแบบมีเงื่อนไข แทนท่ีจะเปนความรักที่ไรขอแม การใชเง่ือนไขพวกนี้ทําใหความเอื้อเฟอเผ่ือแผน้ัน ไรความหมาย การไมใ หเลยนั้นดีกวา การใหท ป่ี ราศจากรกั แบบจาํ ใจ 42 44

ใบความรูท ี่ ๔ เพลงประกอบการสอน เพลง ความซ่ือสตั ย คาํ รอง ศิริณี บุญปถัมภ ทํานอง หลงเสียงนาง (สรอ ย) หลา ลา ลา ลา ............................... ความซือ่ สตั ยป ฏบิ ตั ิอยางเทย่ี งตรง ลกู เสอื จงมีใจไมลําเอยี ง อคติ คดโกง จงหลกี เลีย่ ง ปฏบิ ัติเท่ียงธรรมตอ หนา ท่ี (สรอย) หลา ลา ลา ลา ............................... อีกอยา ใชเลหกลแบบคนพาล จงทํางานใหเ ตม็ ถูกตอ งดี ลูกเสือไทยรบั ผิดชอบในหนา ที่ เปนคนดี ตองมคี วามซ่ือสัตย (สรอย) หลา ลา ลา ลา ............................... เพลง ความซ่ือสตั ย เปน สมบัติของผดู ี ความซื่อสตั ย ชาตินีเ้ อาดีไมได หากวาใครไมมี เอาตัวไมรอดถมไป มีความรูทว มหัว จะรบั ไวใ หร ว มการงาน คดโกงแลวใคร เพลง กฎลกู เสือสาํ รอง คํารอง จิราภรณ ภูอดุ ม ลกู เสอื สํารองรว มใจ ทองกฎกันไวจําใหข ึ้นใจ (ซาํ้ ) สํารองทําตามรุนพ่ี (ซา้ํ ) สํารองคนดไี มตามใจตนเอง หลั้น หลา หล้ัน หลา หลัน้ หลา ลกู พระบดิ าไมตามใจตนเอง 43 45

แบบทดสอบกอ นเรยี น (Pre - test) คําชแ้ี จง จง  ลอ มรอบตวั อักษร ก. ข. หรอื ค. ท่ีเปนคาํ ตอบท่ถี ูกตอ ง ๑. คําปฏิญาณของลูกเสอื สาํ รอง หมายถงึ ขอ ใด ๖. จากภาพสิง่ ทีล่ กู เสือปฏบิ ตั สิ ่อื ถึงคุณธรรมขอ ใด ก. คาํ เตือนของผกู ํากบั ก. ความซือ่ สัตย ข. คาํ สงั่ ของผกู ํากับ ข. ความเออ้ื เฟอ เผือ่ แผ ค. การใหค ําสญั ญาวาจะทาํ ตามท่ีพดู ค. ความมีระเบยี บวนิ ยั ๒. หัวใจของลูกเสือ ที่ลูกเสือทุกคนตองจดจําและ ๗. ใครปฏิบตั ิตามกฎของลกู เสอื นาํ ไปปฏบิ ตั ิ คอื ขอใด ก. ตอ ยเดนิ ขามถนนโดยใชสะพานลอย ก. คําปฏญิ าณ ข. นดิ ออกไปเลนโดยไมท ําการบาน ข. กฎ ค. นอยออกไปอยูค า ยพักแรมกบั รุน พ่ี ค. กฎและคําปฏญิ าณ ๘. ความเอื้อเฟอ เผ่อื แผ ตรงกับคาํ ปฏิญาณหรือกฎ ๓. คาํ ปฏิญาณของลกู เสอื สํารองมกี ขี่ อ ของลูกเสอื สํารองขอ ใด ก. ๑ ขอ ก. คาํ ปฏญิ าณขอ ๑ ข. ๒ ขอ ข. คําปฏญิ าณขอ ๒ ค. ๓ ขอ ค. กฎขอ ๑ ๔. ภาพใดไมต รงกับความหมายของคําปฏิญาณขอที่ ๒ ๙. กฎของลกู เสือสาํ รอง มีไวเ พ่ืออะไร ขาจะยึดมั่นในกฎของลูกเสือสํารองและบําเพ็ญ ก.ปฏบิ ัติ ประโยชนต อผูอ่นื ทุกวนั ข. ทองจํา ค. เขยี นปดประกาศ ก. ข. ๑๐. ขอใดเปนการปฏิบัติตามคตพิ จนของลูกเสือ สํารองท่วี า “ทาํ ดที ส่ี ุด” ค. ก. แบง็ คนาํ ลกู นกทต่ี กจากรงั ไปปฐมพยาบาล แลวนาํ ไปไวท ี่รงั ตามเดมิ ๕. จากภาพส่ิงทลี่ กู เสอื ปฏบิ ตั ิส่ือถึงคุณธรรมขอ ใด ข. อมั้ เก็บเงนิ ได จึงนาํ ไปซ้อื ขนมรับประทาน ก. ความซือ่ สัตย เมื่อเงินเหลอื จึงนาํ ไปสง ครู ข. ความเอือ้ เฟอเผือ่ แผ ค. จบิ๊ จูงคุณยายขามถนน แลว ขอเงินไป ค. ความมีระเบียบวนิ ยั ซือ้ ขา วกลางวนั รับประทาน เฉลย ๑. ค ๒. ค ๓. ข ๔. ค ๕. ข ๖. ก ๗. ก ๘. ข ๙. ก ๑๐. ก 44 46

แบบทดสอบหลังเรยี น (Post - test) คําชแี้ จง จง  ลอ มรอบตวั อกั ษร ก, ข หรือ ค ทเี่ ปนคาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง ๑. คาํ ปฏิญาณของลกู เสอื สาํ รอง หมายถงึ ขอ ใด ๖. จากภาพส่งิ ที่ลกู เสือปฏิบตั สิ ่อื ถงึ คุณธรรมขอ ใด ก. การใหค าํ สญั ญาวาจะทําตามทีพ่ ูด ก. ความมีระเบียบวินยั ข. คําเตอื นของผกู ํากับ ข. ความซื่อสัตย ค. คําสง่ั ของผกู าํ กบั ค. ความเอื้อเฟอ เผ่อื แผ ๒. หัวใจของลูกเสือ ที่ลูกเสือทุกคนตองจดจําและ ๗. ใครปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ นําไปปฏิบัติ คอื ขอ ใด ก. นิดออกไปเลนโดยไมทําการบาน ก. กฎและคาํ ปฏญิ าณ ข. นอ ยออกไปอยูค ายพักแรมกบั รนุ พี่ ข. กฎ ค. ตอ ยเดนิ ขา มถนนโดยใชส ะพานลอย ค. คาํ ปฏญิ าณ ๘. ความเอ้อื เฟอเผอื่ แผ ตรงกับคําปฏิญาณหรือกฎ ๓. คําปฏญิ าณของลูกเสอื สํารองมีก่ขี อ ของลูกเสือสาํ รองขอใด ก. ๓ ขอ ก. กฎขอ ๑ ข. ๑ ขอ ข. คาํ ปฏญิ าณขอ ๑ ค. ๒ ขอ ค. คําปฏญิ าณขอ ๒ ๔. ภาพใดไมตรงกับความหมายของคําปฏิญาณขอ ๒ ๙. กฎของลูกเสอื สาํ รอง มไี วเพอื่ อะไร ขาจะยึดม่ันในกฎของลูกเสือสํารองและบําเพ็ญ ก. เขียนปด ประกาศ ประโยชนต อ ผอู นื่ ทกุ วนั ข. ปฏิบตั ิ ค. ทอ งจํา ๑๐. ขอ ใดเปน การปฏบิ ตั ิตามคตพิ จนข องลกู เสือ ก. ข. สาํ รองท่ีวา “ทําดที ่ีสดุ ” ก. จ๊บิ จูงคุณยายขามถนนแลวขอเงินไปซื้อขาว ค. กลางวันรบั ประทาน ข. แบง็ คนําลกู นกที่ตกจากรังไปปฐมพยาบาล แลวนําไปไวท ี่รังตามเดมิ ๕. จากภาพสิง่ ทีล่ ูกเสือปฏิบตั สิ อื่ ถงึ คุณธรรมขอใด ค. อม้ั เกบ็ เงินไดจึงนําไปซือ้ ขนมรับประทาน ก. ความมีระเบยี บวินัย เมอ่ื เงินเหลอื จงึ นําไปสงครู ข. ความซื่อสตั ย ค. ความเออื้ เฟอเผอื่ แผ เฉลย ๑. ก ๒. ก ๓. ค ๔. ก ๕. ค ๖. ข ๗. ค ๘. ค ๙. ข ๑๐. ข 45 47

ใบงานกิจกรรมที่ ๑ คําช้แี จง ตามคาํ ปฏิญาณของลกู เสือสาํ รอง ทงั้ ๒ ขอ ลูกเสือ เนตรนารี จะมีวิธปี ฏิบัติตนอยางไร ใหตรง กบั คําปฏญิ าณของลกู เสือสาํ รอง ปฏิบตั งิ านในเวลา ๑๐ นาที สง ตัวแทนนําเสนอผลงานหนา ชัน้ เรยี น คาํ ปฏญิ าณขอ ๑ ..................................................................................................... ………………………………………………………………………………….. วิธปี ฏิบัติตนตามคําปฏญิ าณขอที่ ๑ ๑............................................................................................................................... ๒............................................................................................................................... ๓............................................................................................................................... ๔............................................................................................................................... ๕............................................................................................................................... คาํ ปฏิญาณขอ ๒ ..................................................................................................... ………………………………………………………………………………….. วิธีปฏิบัตติ นตามคําปฏิญาณขอท่ี ๒ ๑............................................................................................................................... ๒............................................................................................................................... ๓............................................................................................................................... ๔............................................................................................................................... ๕............................................................................................................................... 46 48

ใบงานกิจกรรมท่ี ๒ คําช้แี จง ใหลูกเสือพิจารณาภาพและบทสนทนาดานลาง พรอมวางแผนปฏิบัติงาน ในเวลา ๑๐ นาที สงตัวแทนนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน นองตน ขาวจา เรารกั กัน พีเ่ คยผานการเปนลูกเสือสาํ รอง พก่ี ายจะทําดีทส่ี ุดเพื่อนอง เขาโรงแรมกันนะจะ นอง จากเหตุการณที่เกิดขึ้น ถาพ่ีกายจะทําดีที่สุดตามคติพจนเพื่อนองตนขาว ควรปฏิบัติตนกับ นองตนขา วอยางไร และควรพานอ งตน ขาวไปท่ใี ด โดยวาดภาพใหมพรอ มระบายสใี หส วยงาม 47 49

ใบงานกิจกรรมที่ ๓ คาํ ช้ีแจง ใหลูกเสอื พจิ ารณาบทกลอนดานลาง แลวตอบวาตรงกับคําปฏิญาณหรือกฎขอใด และตรงกับ ภาพภาพใด ปฏิบัติงานในเวลา ๑๐ นาที สงตวั แทนนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น ภาพที่ ๑ ภาพที่ ๒ ภาพที่ ๓ ภาพที่ ๔ กลอนบทที่ ๑ ลกู เสอื ตองยดึ มัน่ หม่ันฝกฝน ปฏบิ ัตติ นตามกฎจดจาํ ไว อทุ ศิ ตนเพือ่ ผอู ื่นอยางวอ งไว มีนาํ้ ใจประพฤติดีมสี ขุ จริง ตรงกับคําปฏิญาณ หรือ กฎ ขอ ที่ ............... และตรงกบั ภาพท่ี....... กลอนบทท่ี ๒ กฎลกู เสอื ขอหนง่ึ ตองยึดถอื ใหเลื่องชื่อลือระบลิ ถน่ิ ไหนไหน ไมทาํ ตามใจตนเองไมเ กรงใคร เชอื่ คําสอนมัน่ ไวจ ะไดดี ตรงกบั คําปฏิญาณ หรอื กฎ ขอ ที่ ............... และตรงกบั ภาพที่....... กลอนบทที่ ๓ ลูกเสือไทยจงรกั ภกั ดีชาติ เทิดพระศาสนเ กริกไกรในสยาม มหากษตั รยิ ชนศรัทธาสงา งาม บทนยิ ามไตรรงคธงของเรา ตรงกบั คาํ ปฏญิ าณ หรอื กฎ ขอที่ ............... และตรงกบั ภาพที่....... กลอนบทท่ี ๔ กฎลูกเสือขอ หนงึ่ ซึ่งบง ช้ี ทาํ ตามพีท่ ี่ไดใฝฝ ก ฝน รกั ระเบยี บจําวินยั ใสกมล ปฏิบัติตนตามพ่ีสง่ั อยา งตงั้ ใจ ตรงกบั คาํ ปฏิญาณ หรอื กฎ ขอที่ ............... และตรงกบั ภาพที่....... 48 50

ใบงานกิจกรรมท่ี ๔ คาํ ช้แี จง ใหลูกเสืออานบางสวนของนิทาน เรื่อง ความซื่อสัตย แลวชวยกันระดมสมองแตงนิทาน เร่ืองนี้ใหจบ พรอมบอกขอคิดที่ไดรับจากนิทานเร่ืองนี้ ปฏิบัติงานในเวลา ๑๐ นาที สงตัวแทนนําเสนอ ผลงานหนา ชน้ั เรยี น นทิ านเร่อื งความซ่ือสัตย เด็กชายขาวเหนียวกับเด็กชายขาวเจาเปนเพื่อนกัน วันหนึ่งท้ังสองชวนกันไปเที่ยวบานเพื่อนท่ีช่ือ ขาวปน ระหวางทางเด็กชายคนหนึ่งพบกระเปาเงินใบหนึ่งตกอยูขางทาง เขาจึงชวนเพ่ือนเดินเขาไปดู และเก็บมันขึ้นมา เมื่อเปดดูก็พบวาขางในมีเงินอยูจํานวนมาก ขาวเหนียวดีใจมาก เขารองดัง ๆ วา “เงนิ ๆ ๆ เรารวยแลว ” แตขา วเจาไดแ ตเพียงยืนดูเฉย ๆ แลวเขาก็พูดข้ึนวา “แตมันเปนเงินของคนอื่นนะ บางทีเจาของเขาอาจตามหามันอยูก็ได เราไปหาเจาของมันไมดีกวาหรือ” ขาวเหนียวรูสึกเสียดายเงิน เขาอยากเอามันไปซ้ือของตาง ๆ ท่ีอยากไดต้ังมากมาย จึงตอบเพ่ือนไปวา “ของท่ีหลนอยู ใครพบก็ตอง เปนของคน ๆ น้ันซิ เราพบก็ตองเปนของเราซิ” พูดจบขาวเหนียวก็เก็บกระเปาเงินไวในเปท่ีกลางหลัง ของเขา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… นิทานเรอ่ื งนี้สอนใหรูวา ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 49 51

ใบงานกิจกรรมที่ ๕ คําช้แี จง ใหลูกเสือศึกษานิทาน เรื่อง สวรรค นรก แลวชวยระดมสมองสรุปประเด็นตามหัวขอ ทก่ี าํ หนดให ปฏบิ ตั ิงานในเวลา ๑๐ นาที สง ตัวแทนนําเสนอผลงานหนา ชนั้ เรียน เร่ืองมอี ยูว า นางฟา ไดปรากฏตัวตอหนาเด็กวัย ๑๐ ขวบคนหน่ึง บอกวา \"หนูอยากไปเที่ยวสวรรค กับนรกไหม\" เด็กคนนั้นเคยไดยินแตเร่ืองสวรรคท่ีมีนางฟาเทวดาแตงตัวสวยงาม ที่วิมานทิพยใหอยู มีอาหารทิพยใหทาน สวนนรกก็มีแตสัตวประหลาดสองเทาถูกท่ิมแทงดวยของแหลมคม ไมก็อยูใน กระทะทองแดง โดนถูกลงโทษตามบาปท่ีกอไว ก็เลยอยากจะรูวาของจริงเปนอยางไร จึงตกลงมากับ นางฟา เม่อื มาถึงสถานทแ่ี หง หนง่ึ นางฟา บอกวา \"ถงึ นรกแลว\" เด็กนอยมองไปเจอคนผอม ๆ ตัวเหลืองซีด นั่งอยูหนาสํารับอาหารท่ีดูแลวนากินที่สุดในโลก ทุกคนกําลังพยายามเอาอาหารนั้นใสปากแตก็ทําไมได เพราะมีกติกา หามใชมือหยิบ ใหใชไดแตชอนที่มีดามยาวเปนเมตรเทาน้ัน พวกนั้นตางพยายามเอาชอน ตักอาหารเขาปากตัวเอง แตอาหารก็พาลจะหลนเสียกอนทุกคร้ัง ไมมีตนไหนไดกินอาหารอันแสนจะ โอชะน้ันเลย จนตองอยูในสภาพผอมโซ เห็นของดีอยูตรงหนาแตไมสามารถจะเอาเขาปากตัวเองได ทรมานเปนท่ีสุด จากน้ันนางฟาก็พาเด็กนอยไปยังอีกสถานท่ีหน่ึงท่ีสะอาดสะอาน เต็มไปดวยผูคนท่ีมี หนาตาผิวพรรณสวยงาม สมบูรณดี แลวนางฟาก็บอกวา \"น่ีไงสวรรค\" สถานที่ก็สวยเปนระเบียบ ผูคนก็ ยิม้ แยมตอกันดี มแี ตค วามสขุ ใหเ หน็ สวนอาหาร เดก็ นอยดแู ลว อยางไรก็เปนอาหารชนิดเดียวกับในนรก ไมมผี ิด แถมทุก ๆ คนในนัน้ ตา งก็ตกั อาหารอันนาโอชะดวยชอนที่มีดามยาวเปนเมตรเชนเดียวกับในนรก เหมือนกนั แตจ ะตา งกนั ก็ตรงทที่ ุก ๆ คนตักอาหารแลวเอาไปปอนใหคนท่ีน่ังอยูตรงขาม ทุก ๆ คนในที่นั้น จึงอมิ่ หนาํ สําราญโดยทัว่ กนั มแี ตค วามสุขท้ังกายและใจอยางท่เี หน็ เด็กนอ ยจงึ คิดวาการแบง ปน เอ้ือเฟอ เผอ่ื แผต อกนั คือการทําใหทีท่ ่ีเราอยูเปน สวรรคเหมอื นกัน 50 52

จากนิทานเรื่องน้ี ลูกเสือเคยประพฤติหรือปฏิบัติตนในเร่ืองการแบงปน เอ้ือเฟอเผ่ือแผกับคนใน ครอบครวั หรอื ใหก บั ผอู ืน่ อยา งไรบาง และเมือ่ ไดป ฏิบัตแิ ลว รสู ึกอยางไร สิ่งที่เคยปฏบิ ตั ิ ๑. ………………………………………………………………………………………… ๒. ………………………………………………………………………………………… ๓. ………………………………………………………………………………………… ๔. ………………………………………………………………………………………… ๕. ………………………………………………………………………………………… ๖. ………………………………………………………………………………………… ๗. ………………………………………………………………………………………… ๘. ………………………………………………………………………………………… ๙. ………………………………………………………………………………………… ๑๐. ………………………………………………………………………………………… และเมอื่ ปฏิบตั แิ ลว รูสกึ อยา งไร ๑. ………………………………………………………………………………………… ๒. ………………………………………………………………………………………… ๓. ………………………………………………………………………………………… ๔. ………………………………………………………………………………………… ๕. ………………………………………………………………………………………… ๖. ………………………………………………………………………………………… ๗. ………………………………………………………………………………………… ๘. ………………………………………………………………………………………… ๙. ………………………………………………………………………………………… ๑๐. ………………………………………………………………………………………… 51 53

ใบงานกจิ กรรมท่ี ๖ คําชีแ้ จง จากตัวละครในนิยายเมาคลีท่ีกําหนดให ใหลูกเสือชวยระดมสมอง สรุปลักษณะนิสัยของ ตัวละครที่กําหนดใหวา ตัวใดอยูในฝายธรรม ตัวใดอยูในฝายอธรรม และใชเหตุการณใดเปนเหตุผล ในการแบงฝาย ปฏบิ ตั ิงานในเวลา ๑๐ นาที สงตวั แทนนําเสนอผลงานหนา ช้ันเรยี น (ตัวละคร) อาเคลา เมาคลี บาลู บาเคียลา ตาบากิ อก๊ิ กี้ คา บันดาโลก แชรคาน พญาหัตถี มงั พรานบนั เดโอ หมาแดง จิล ระดมสมองสรปุ ลกั ษณะนสิ ยั ของตวั ละคร 52 54

ใบงานกจิ กรรมท่ี ๗ คาํ ช้ีแจง ใหสมาชิกศึกษานิทาน เร่ือง เมล็ดพันธแหงความซื่อสัตย ใหเขาใจ วางบทบาทตัวละคร ใหตรงกบั นทิ านทก่ี ําหนดให ดําเนนิ การฝกซอม ในเวลา ๑๐ นาที เพื่อนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรียน นิทานเรอื่ งเมลด็ พันธแ หง ความซ่อื สัตย มเี ศรษฐคี นหนง่ึ มีสุขภาพแขง็ แรงดี มกี ิจการที่เจริญกาวหนา เม่ือคิดจะหาลูกหลานไวสืบทอดกิจการ ของตน จึงมอบเมล็ดพันธุพืชแกลูกที่มีทั้งหมด ๗ คน คนละ ๑ เมล็ด โดยบอกใหแตละคนนําไปปลูกไว เมอ่ื ถึงวนั เกิดกใ็ หนําผลผลิตท่ีไดมามอบใหแกตน วันเวลาผานไป ดอกไมของลูก ๆ ตางพากันเติบโตออก ดอกสวยสะพร่ัง…คงเหลือแตเด็กชายสมบูรณเทานั้น ซึ่งไมมีส่ิงใดเติบโตออกจากกระถางเลย แมวาจะ หมนั่ รดน้าํ พรวนดินเพยี งใดกต็ าม เศรษฐเี ดนิ ตรวจตราพรอมรอยย้ิมอยางมีความสุข จนกระทั่ง…เด็กชาย สมบูรณถือกระถางเปลาพรอมกับน้ําตาที่ไหลพรากลงออกมาเปนทางดวยความเสียใจที่ไมสามารถนํา ดอกไมสดมาใหพอของเขาได แตเศรษฐีกลับแยมย้ิมอยางเปนสุขยิ่งกวา เศรษฐีกลาวอยางยินดีปรีดาวา ลูกเอย…สิ่งท่ีเจามอบใหพอน้ันมีคาย่ิงกวาดอกไมท้ังมวลนัก…เพราะส่ิงที่พอตองการ…คือความซื่อสัตย… และมอบทรัพยสมบัติใหแกสมบูรณ เพราะเมล็ดทุกเมล็ดท่ีเขาใหไปน้ัน เขาไดเอาไปค่ัวจนสุกแลว จงึ มอบใหแ กลูก ๆ ** น่คี ือเมล็ดพันธแ หงความซอ่ื สตั ย ** นิทานเรื่องน้ีสอนใหรูวา คนเราน้ันถาเราเปนคนท่ีมีความซ่ือสัตยอยูในตัวอยูแลว จึงไมตองกังวล ในเร่ืองใดท้ังส้ิน ความซ่ือสัตยเปนเคร่ืองหมายของคนดี เด็ก ๆ ทุกคนควรจะมีเมล็ดพันธุแหงความ ซ่ือสัตย…เติบโต…แผก่ิงกานสาขา…อยูในจิตใจของเขา มีความเกรงกลัวและละอายตอการกระทํา ความผิดท้ังปวงอยูในจิตใจ ในขณะเดียวกัน…เขาควรจะมีวินัย…และการแบงปนกับผูคนทุกคน…โดยจะ ยังรกั ษาความสุขของตนเองไวไ ด เขาควรจะยนื อยบู นโลกใบนีไ้ ดโ ดยความสงางาม อดทนตอความผิดหวัง ทงั้ มวล และแข็งแกรง …พอท่จี ะยืนหยดั ตอไปแมในวนั ที่จะตอ งตอ สูดว ยตวั ของเขาเอง 53 55

ใบงานกจิ กรรมท่ี ๘ คาํ ช้ีแจง ใหล ูกเสือจัดทาํ หนงั สอื พมิ พ ช่ือ “โปรง ใส” จากอุปกรณท่ีเตรียมไวให โดยคอลัมนที่จัดทํา จะเปนในรูปขาวบันเทิง กีฬา หรือใด ๆ ก็ได แตเนื้อหาในคอลัมนตองเปนเรื่องที่เกี่ยวของกับคําปฏิญาณ กฎของลูกเสือสํารอง ความซื่อสัตยและความเอ้ือเฟอเผื่อแผ ปฏิบัติงานในเวลา ๑๐ นาที เพื่อนําเสนอ ผลงานหนาชั้นเรยี น กิจกรรมแสดงถึงความโปรง ใสจากหนังสอื พิมพ กจิ กรรมแสดงการทาํ ความดี กจิ กรรมเอือ้ เฟอ เผื่อแผ และชว ยเหลอื กนั ทาํ งาน 56 54

แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรม ชื่อวิชา ลกู เสือชอสะอาดกับกับคําปฏิญาณและกฎของลูกเสือสาํ รอง หมู............................... รายการประเมิน ระดับคะแนน ๑. การแบง หนาทีร่ บั ผิดชอบในกลมุ ๔ ๓๒๑ ๒. การวางแผนการทํางานรวมกนั ๓. การใหค วามรว มมอื ของสมาชกิ ๔. การยอมรับฟงความคิดเห็นของผูอืน่ และการแสดงความคิดเหน็ ๕. การแกป ญหาภายในกลุม รวม (ผลรวมทุกชอง) รวมเฉลี่ย คา เฉล่ยี คะแนนการประเมินผลการบริหารโครงการ (คะแนนผลรวม ÷ ๕) = ........................ คะแนนเฉลย่ี ๓.๐๐ - ๔.๐๐ แสดงวาการดําเนินงานอยูใ นระดับ ดี คะแนนเฉลยี่ ๒.๐๐ - ๒.๙๙ แสดงวาการดําเนินงานอยใู นระดับ พอใช คะแนนเฉล่ีย ๑.๐๐ - ๑.๙๙ แสดงวาการดาํ เนินงานอยูใ นระดบั ปรบั ปรงุ สรุปผลการประเมินกจิ กรรม  ระดบั ดี  ระดับพอใช  ระดับปรบั ปรงุ ลงชื่อ..............................................ผูประเมิน 57 55

ชอ่ื วิชา ลูกเสอื สํารองชอ สะอาดกบั การบันเทงิ (เกมเงยี บ) บทเรยี นที่ ๕ เวลา ๑๒๐ นาที ขอบขา ยรายวิชา ๑. ความมงุ หมายการแสดงเงียบ ๒. สถานทที่ ใ่ี ชแสดง ๓. การเตรียมการกอนการเรมิ่ การแสดง ๔. การจบั ฉลากบทบาทตัวละคร ๕. การจดั ทีน่ ัง่ เกมเงียบเปนรูปครึ่งวงกลม ๖. เลือกประธานในการจบั ฉลากการแสดง ๗. แตงต้งั กรรมการอยา งนอ ย ๓ คน เพื่อใหค ะแนนการแสดงแตล ะกลมุ ๘. กําหนดการหรือการแสดงเงียบ ๙. การเปรยี บอิริยาบถของผูเขา รว มการแสดง ๑๐. พิธปี ด จดุ มุง หมาย เพอื่ ใหลกู เสอื สาํ รองสามารถเขา รวมและปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามข้นั ตอนเกมเงียบได วัตถปุ ระสงค เมอ่ื จบบทเรยี นนี้แลว ลูกเสอื สาํ รองสามารถ ๑. จัดหาหรือแตง กายตามบทบาทที่ไดรับไดอ ยา งเหมาะสม ๒. ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอนการแสดงเงียบได ๓. นาํ ความรเู ก่ียวกับคุณธรรมท่ไี ดรับจากการแสดงไปใชในชวี ติ ประจาํ วันได วธิ สี อน/กจิ กรรม กจิ กรรมยอยท่ี ๑ (๓๐ นาที) ๑. วทิ ยากรอธิบายความหมาย ประโยชน ขนั้ ตอนการแสดงเงยี บ ๒. วิทยากรแสดงบทบาทสมมติใหลูกเสือดู และทายวาวิทยากรแตละคนแสดงเปนอะไร และเม่ือดู ภาพรวมทงั้ หมดชอ่ื เรอ่ื งอะไร ๓. หากลูกเสือทายไมถ ูก วทิ ยากรแสดงใหดใู หมอีกคร้งั และถามคาํ ถาม ๔. วิทยากรใหลูกเสือทุกคนจับฉลากคนละ ๑ ใบ แลวกลับเขาที่เพื่อเตรียมตัวแสดง โดยหามสมาชิก บอกชือ่ ตวั ละครท่ีจับสลากไดซ ง่ึ กนั และกัน ๕. เตรยี มสลากสําหรับประธาน ๖. เตรียมบุคคลที่จะเปนประธานกรรมการใหคะแนนชุดท่ีแสดง โดยประกอบดวย ประธาน ๑ คน และกรรมการใหค ะแนนอกี ๓ คน ๗. เตรียมสถานทีน่ ่งั สาํ หรับประธานและกรรมการใหคะแนน ๘. นดั หมายเวลาในการเขารวมการแสดงเงียบ ๙. ใหลูกเสอื ท่ีจะแสดงจบั สลากแลว ใหจดั หาเครื่องแตงกาย และแตงกายตามตัวละครที่จับสลากเทาที่ สามารถจะทาํ ได (ตามกําหนดเวลาท่ีกาํ หนด) 56 58

กิจกรรมท่ี ๒ (๙๐ นาที) ๑.ลกู เสือทกุ คนมานงั่ ประจาํ ทีบ่ รเิ วณรอบทแ่ี สดง ๒.พิธีกรอาจนํากิจกรรมเพ่ือเตรียมความพรอม ซักซอมวิธีการแสดงอีกคร้ัง แนะนําประธานในพิธี รวมถงึ คณะกรรมการใหค ะแนนทง้ั ๓ ทาน ๓.พิธกี รเชิญประธานและใหป ระธานจับฉลากหมายเลขการแสดง ๔.พธิ ีกรดําเนนิ การตามข้ันตอนของการแสดงเงยี บ จนลูกเสือแสดงครบทุกคนหรือทุกหมู ๕.ประธานประกาศผลเกมเงยี บ ๖.ผชู นะการแสดงจะเปนรายบคุ คลหรอื กลมุ ใหแสดงใหมอีกคร้งั หนงึ่ ๗.พิธกี รเชิญประธานมอบรางวัลแกล กู เสือหรือหมูทีไ่ ดร บั คะแนนเปน อนั ดบั ๑, ๒, ๓ ๘. เมอ่ื เสรจ็ ส้ินการแสดงเงยี บ พธิ กี รเชญิ ประธานในพธิ ใี หโอวาทเพ่อื เปน สิริมงคล พรอ มท้ังปดการแสดง สือ่ การสอน ๑.อุปกรณการแตง กาย ๒.เคร่ืองเสยี ง ๓.ใบความรูท ่ี ๖ เรอื่ งเกมเงยี บ การประเมนิ ผล ๑. วธิ ีการวัดผล : ประเมินการปฏิบัติกจิ กรรมกลมุ ๒. เคร่ืองมือวัดผล : แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรมกลุม ๓. เกณฑการประเมนิ : มีผลการประเมิน ผานเกณฑท่กี าํ หนด เนอ้ื หาวชิ า เกมเงยี บ การแสดงเงยี บของผเู ขา รบั การฝก อบรม 57 59

ใบความรู เกมเงียบ ๑. ความหมาย เกมเงียบ หมายถึง การออกทาทางตามบทบาทท่ีไดรับมอบหมายโดยไมมีการพูดหรือเปลงเสียง แตส ามารถส่ือความหมายใหผ ูดูทราบ และทายถกู ตอง ๒. ประโยชนข องเกมเงียบ เกมเงียบน้ี เพ่ือใหผูนํานันทนาการที่ไดเขารับการฝกอบรมไดนําวิธีการไปฝกอบรมสมาชิกใหเกิด ประโยชนและคณุ คา ดงั ตอ ไปนี้ ๑. เพ่ือใหสมาชกิ เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลนิ ผอ นคลายความเครยี ด ๒. เพื่อเปนการทดสอบความทรงจําของสมาชกิ ท่ีเคยพบเห็นมา ๓. เพอื่ ปลกู ฝงในดา นการพจิ ารณา การสงั เกตและความจํา ๔. เพ่อื เปนการสง เสรมิ การแสดงออกเพ่ิมความกลาหาญ เปน การแกความอาย ๓. ข้นั ตอนเกมเงียบ เพ่ือใหการแสดงเงยี บดําเนนิ ไปดว ยความสนุกสนาน ควรจะดาํ เนนิ การ ดงั นี้ ๑. การเตรียมการ ๑.๑. ผูกํากบั จัดทาํ ฉลากขน้ึ มา และกําหนดการแสดงออกไวเทากับจํานวนของลูกเสือ หรืออาจ ใหล ูกเสือจบั กลมุ กนั ออกมาแสดงเงยี บ ตามเนอ้ื เร่อื งท่ีกาํ หนดไว เชน ลเิ ก ตาํ รวจจับผรู าย คนตาบอด เปนตน ๑.๒. ใหลูกเสือออกมาจับฉลากคนละ ๑ ใบ หรือกลุมละ ๑ ใบ แลวกลับเขาที่เพื่อเตรียมตัว แสดง โดยหามสมาชิกบอกชื่อตวั ละครที่จบั สลากไดซ ึง่ กันและกัน ๑.๓ การเตรียมสลากสําหรับประธานจับ โดยการเขียนสลากลําดับการแสดง เพื่อใหประธาน จับวาชุดใดจะแสดงกอน ๑.๔ เตรียมบคุ คลทจี่ ะเปนประธาน กรรมการใหคะแนนชุดที่แสดง โดยประกอบดวยประธาน ๑ คน และกรรมการใหคะแนนอีก ๓ คน ๑.๕ เตรียมสถานท่ีนงั่ สาํ หรบั ประธานและกรรมการใหค ะแนน ๑.๖ ใหส มาชกิ ท่ีจะแสดงจบั สลาก เมอ่ื จับสลากแลว ๑.๖.๑ ใหจัดหาเคร่ืองแตงกายและแตงกายตามตัวละครที่จับสลาก เทาที่สามารถ จะทาํ ได (ตามกําหนดเวลาที่กาํ หนด) ๑.๖.๒ เมอ่ื ถงึ กาํ หนดเวลาใหทุกคนมารวมกัน ณ ท่แี สดง ๒. เริม่ การแสดง ๒.๑ พิธีกรจะใหประธานจับสลากขึ้นมาวา หมายเลขใดท่ีตองแสดงกอน โดยเรียกหมายเลข จะไมเ รยี กช่ือตวั ละคร ๒.๒ หมายเลขตัวละครที่ถูกเรียกออกมาแสดง ใหยืนทําความเคารพประธาน โดยการคํานับ แลวเรม่ิ แสดงบทบาทตัวละครท่ีไดร บั มอบหมาย ๒.๓ เมอื่ มกี ารแสดงบทบาทของตัวละครไปพอควร พิธีกรจะสั่งหยุด (โดยใชสัญญาณนกหวีด) 58 60

๒.๔ สมาชิกที่แสดงบทบาทตัวละครอยูนั้น เมื่อไดยินสัญญาณนกหวีดหยุด จะตองทําทาทาง ทกี่ ําลังแสดงอยูคา งไว ๒.๕ สมาชิกผูชมผูใดตองการจะทายวา สมาชิกที่แสดงน้ันเขาแสดงอะไร ใหใชวิธีการยกมือ พธิ กี รกจ็ ะใหทาย ๒.๕.๑ เมอื่ สมาชิกผูชมทายแลววาแสดงอะไร พิธีกรจะถามผูแ สดงวา ถกู ไหม ๒.๕.๒ ถาทายถกู ตอ ง ใหผแู สดงพยกั หนาแลวทําความเคารพประธาน และกลับไปยัง ทีน่ ่งั สมาชกิ คนอื่น ๆ จะปรบมอื ให ๒.๕.๓ ถาทายผิด ผูแสดงก็จะใชวิธีการสายหนาแลวแสดงบทบาทตามตัวละคร เหมือนเดิมตอไป เพ่อื ใหสมาชกิ ผูชมทายใหม ๒.๖ สมาชกิ ท่ีออกมาแสดงแลว จะตองอยใู นชุดการแสดงนั้นตลอดไปจนกวาจะสน้ิ สุดรายการ ๓. คณะกรรมการใหค ะแนน ๓.๑ คณะกรรมการใหคะแนนจะพิจารณาวาสมาชิกผูแสดงคนใดแสดงไดดีท่ีสุด อาจจะให คะแนนเปนชดุ หรอื เปน บุคคล แลว แตบทบาททแ่ี สดง ๓.๒ เกณฑการใหค ะแนนของคณะกรรมการ แบงเปน ๓ สว น ดงั นี้ ๓.๒.๑ พิจารณาจากการแตงกายทีเ่ ขากบั บทบาท ๑๐ คะแนน ๓.๒.๒ พจิ ารณาจากการเตรยี มอปุ กรณป ระกอบการแสดง ๑๐ คะแนน ๓.๒.๓ พจิ ารณาจากการแสดงออกไดเหมอื นหรอื คลาย ๑๐ คะแนน ๔. สิน้ สดุ การแสดง ๔.๑ คณะกรรมการจะรวมคะแนนวาบคุ คลใดไดคะแนนเปน ที่ ๑, ๒, ๓ และมรี างวลั ให ๔.๒ ชุดแสดงหรือตวั ละครทไี่ ดค ะแนนเปน อันดับ ๑, ๒, ๓ กอนที่จะมารับรางวัลจากประธาน จะตองแสดงใหมอกี ครงั้ ๔.๓ กอนเสร็จส้ินการแสดงเงียบ ควรเชิญประธานในพิธีใหโอวาทเพ่ือเปนสิริมงคล พรอมท้ัง ปดการแสดง ๕. เรื่องท่ีควรนาํ มาแสดง ในการกําหนดตัวละคร เพื่อใหสมาชิกผูเขารับการฝกอบรมที่จับสลากไปแลวสามารถที่จะไป เตรยี มหรอื ทาํ สิง่ ตอ ไปนีไ้ ดส ะดวก ๕.๑. เคร่ืองแตงกาย ๕.๒. อุปกรณการแสดง ๕.๓. ลักษณะทา ทาง (บทบาท) ทีจ่ ะแสดงออกไดอยางถูกตอ งและเหมาะสม ๕.๔. เรือ่ งท่แี สดงหรอื ตัวละครที่แสดง ควรเปน เนอ้ื เรอ่ื ง หรอื ตัวละครที่สมาชิกเคยเรียนรูหรือ มีประสบการณจ ําไดจ ากเรอ่ื งตาง ๆ ๖. ตวั อยา งเร่อื งหรอื ตัวละครทีค่ วรแสดง • อาชีพตา ง ๆ เชน ตํารวจ หมอดู หมอนวด แพทย คนขายหนงั สอื พมิ พ หมอตาํ แย • นิทานอีสป เชน กระตายกบั เตา เทพารกั ษกบั คนตัดไม • โฆษณาทวี ี เชน ขายสบู แปง นม • เลยี นแบบ เชน สตั วต าง ๆ • ลิเก เชน จันทโครพ ฤๅษี โจรปา โมรา 59 61

• ดาราทช่ี อบ เชน นกั รอง นกั แสดง นกั เตน หางเคร่ือง • คนบา เชน บาสมบตั ิ บา แตงตวั บา หอบฟาง • นิยายองิ ประวตั ศิ าสตร เชน พันทายนรสิงห สงครามยุทธหัตถี ศึกบางระจัน ผูชนะสบิ ทิศ • ประเพณตี า ง ๆ เชน บวชนาค สงกรานต • ฟอ นรํา เชน ฟอ นเล็บ ราํ วง ระบาํ แขก มโนราห เซงิ้ ตาง ๆ • นักจิตรกร เชน เขยี นภาพ ปน สลัก • การแตง กายชาตติ าง ๆ เชน จีน ลาว ญป่ี ุน • นักกีฬา เชน ตะกรอ ฟตุ บอล วอลเลยบ อล • คนพกิ าร ขอทาน ตาบอด ขาเป • วรรณคดี เชน สงั ขทอง พระอภยั มณี อเิ หนา • อบายมุขตา ง ๆ คนด่มื สุรา คนตดิ ยาเสพตดิ • การแสดงตา ง ๆ เชน โขน ง้วิ ๗. การปฏบิ ัติตนในขณะชมการแสดงเงียบ ๗.๑ ปรบมือใหเ กยี รติผแู สดง ๗.๒ ต้ังใจชมการแสดง ๗.๓ ไมเลนหรอื ลกุ ขนึ้ เดนิ ไปมาในขณะชมการแสดง ๗.๔ ฝก สงั เกตและทายวาเพ่ือนแสดงเปนอะไรหรอื เร่อื งอะไร ๗.๕ สาํ รวจและนาํ ขอ บกพรองตา ง ๆ มาพฒั นาการแสดงของตน ตาราง แสดงการใหคะแนนเกมเงยี บ ชอื่ คณะกรรมการที่ใหค ะแนน............................... คะแนนทีใ่ ห การแตงกาย อุปกรณ บทบาท รวม ลาํ ดับท่ี หมายเลขแสดง/ชือ่ ชุด (๑๐) (๑๐) ที่แสดงออก (๓๐) (๑๐) ๑. ............................................... ๒. ............................................... ๓. ............................................... ๔. ............................................... ๕. ............................................... ๖. ............................................... ๗. ............................................... ลงชอ่ื ...................................กรรมการผตู ัดสิน 60 62

รูปภาพ แสดงตัวอยา งสลาก ๑ ๒ พระอภัยมณี ผีเส้ือสมุทร ภาพการแสดงเงยี บของผเู ขารับการฝก อบรมตามหัวขอ ที่ไดรบั มอบหมาย ประธานประกาศผล มอบรางวัล 61 63

แบบประเมินผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม ชอ่ื วิชา การแสดงเงียบ ขอ รายการประเมนิ ๔ ระดับคุณภาพ ๑ ๓๒ ๑ แสดงไดเหมาะสมกบั บทบาททไ่ี ดรบั ๒ อุปกรณประกอบการแสดงและเครื่องแตง กาย ๓ เน้ือหามคี วามเหมาะสม ๔ การมีสว นรว มของสมาชิก รวม ....................................................... (.........................................................) ผูกาํ กบั ลกู เสือ เกณฑการประเมินผล หัวขอที่ประเมิน ดมี าก (๔) ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน ปรับปรุง (๑) ดี (๓) พอใช (๒) แสดงไมสม ๑. แสดงได ทกุ คนแสดงไดส มบทบาท บทบาท ๓ คน เหมาะสมกับ แสดงไมสม แสดงไมสม ขึ้นไป บทบาทท่ีไดร ับ บทบาท ๑ คน บทบาท ๒ คน ปฏิบตั ิไมไ ดเลย ๒. อุปกรณ ๑. ประยุกตการแตงกาย ปฏบิ ัตไิ ด ๒ ขอ ปฏบิ ัตไิ ด ๑ ขอ ปฏบิ ตั ิได ๒ ขอ ประกอบ ๒. ประยุกตอ ุปกรณ การแสดงและ ๓. การแตงกายสอดคลอง ใน ๓ ขอ ใน ๓ ขอ สมาชิก ๓ คน เครื่องแตงกาย กบั เร่ืองท่แี สดง ขน้ึ ไป ไมใ ห ความรว มมอื ๓. เน้อื หามี ๑. คุณลกั ษณะอนั พงึ ปฏบิ ตั ิได ๔ ขอ ปฏิบตั ไิ ด ๓ ขอ ความเหมาะสม ประสงค ๘ ประการ ๒. จติ อาสา ๓. ความซ่อื สตั ย ๔. ความเออ้ื เฟอ เผ่ือแผ ๕. หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๔. การมีสว นรว ม ทุกคนมสี วนรว ม สมาชกิ ๑ คน สมาชิก ๒ คน ของสมาชิก ไมใ ห ไมใ ห ความรว มมอื ความรว มมือ 62 64

ช่ือวชิ า ลกู เสือสาํ รองชอ สะอาดกับการรจู กั เคารพกฎหมาย บทเรียนที่ ๖ เวลา ๙๐ นาที ขอบขา ยรายวิชา ๑. สทิ ธิ หนาทีต่ ามรฐั ธรรมนญู ๒. การศกึ ษาเพ่ือสรา งความเปน พลเมืองในประเทศไทย จุดมุงหมาย เพื่อใหลกู เสือสาํ รองมีความรู ความเขา ใจ และสามารถปฏบิ ัติตนเปน พลเมอื งที่ดขี องชาตไิ ด วัตถุประสงค เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว ลกู เสอื สํารองสามารถ ๑. บอกลกั ษณะของการเปน คนดี ๒. ระบสุ ิทธิ หนา ทีท่ ี่ถูกตอ งตามกฎหมายได ๓. นาํ ไปใชใ นชวี ิตประจาํ วนั ได วธิ สี อน/กิจกรรม ๑. นําเขาสูบทเรียน โดยการใหลูกเสืออานบทกลอนสุภาษิตที่เก่ียวกับการปลูกฝงใหเด็ก ๆ ศึกษา เลา เรยี น เชน เด็กเอย เด็กนอ ย ความรเู รายงั ดอ ยเรงศกึ ษา เมื่อเตบิ ใหญเราจะไดม ีวชิ า เปนเครอื่ งหาเลยี้ งชีพสาํ หรับตน ไดป ระโยชนหลายสถานเพราะการเรยี น จงพากเพียรไปเถดิ จะเกิดผล ถึงลําบากตรากตราํ กจ็ ําทน เกดิ เปนคนควรหมั่นขยันเอย ๒. ครใู หล กู เสอื แสดงความคิดเห็นวา บทกลอนดังกลาวมีจุดมุงหมายสําคัญอยางไร และขณะนี้ลูกเสือ ปฏิบตั ติ ามบทกลอนน้ีอยา งไรบา ง ๓. ครเู ชอื่ มโยงใหล ูกเสอื เขาใจวา การศึกษาเปน หวั ใจสําคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และประเทศชาติ แตต นเอง สงั คม และประเทศชาตจิ ะเจริญมไิ ด หากเยาวชนไมร จู กั สทิ ธิและหนา ท่ีของตนเอง ๔. กจิ กรรมฉีกกระดาษ ๕. ครูแบงลูกเสือออกเปนหมูละ ๘ คน หรืออาจใชหมูเดิมก็ได แลวใหลูกเสือแตละหมูชวยกันทํา ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง สิทธิ โดยปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอน ดังน้ี ๕.๑ ลูกเสือแตละหมูจับคูกันเปน ๒ คู แตละคูชวยกันคิดคําตอบในใบงานและตรวจสอบ ความถกู ตอง ๕.๒ ลูกเสือ ๒ คู มารวมกันเปนหมู ผลดั กนั ตรวจสอบความถกู ตอ งในใบงาน ๖. ลูกเสือชวยกันเฉลยคําตอบของเร่ือง สิทธิ ในใบงาน สมาชิกในหมูแตละหมูตรวจใบงานดวย ความซ่ือสตั ย 63 65

๗. แบงลูกเสือออกเปนหมู โดยใชหมูเดิมก็ได แลวใหลูกเสือแตละหมูชวยกันทําใบงานท่ี ๕.๒ เรื่อง หนา ท่ี โดยปฏิบัตติ ามขนั้ ตอน ดังน้ี ๗.๑ ลูกเสือแตละหมูจับคูกันเปน ๒ คู แตละคูชวยกันคิดคําตอบในใบงานและตรวจสอบ ความถูกตอง ๗.๒ ลกู เสือ ๒ คู มารวมกนั เปน หมู ผลัดกันตรวจสอบความถกู ตอ งในใบงาน ๘. ลกู เสอื ชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบของ เร่ือง หนาท่ี ในใบงาน สมาชิกในหมูแตละหมูตรวจใบงานดวยความ ซอื่ สัตย ๙. ชมเชย/ใหร างวัล หมทู ท่ี าํ ใบงานถกู ตองทุกขอ ๑๐. ผูสอนและลกู เสือชวยกันสรปุ ความสาํ คัญและประโยชนข องการปฏบิ ัติตนตามกฎหมายสทิ ธิ หนา ท่ี ส่ือการสอน ๑. ศกึ ษาใบความรูที่ ๑ เรอื่ ง สทิ ธแิ ละเสรีภาพ ๒. ศึกษาใบความรูท่ี ๒ เร่ือง หนาทีป่ วงชนชาวไทย ๓. ศกึ ษาใบความรทู ี่ ๓ เรือ่ ง กจิ กรรมฉกี กระดาษ ๔. ส่ือ Power Point เนื้อหาสาระ ๕. เพลง ๖. วดี ิทศั น การประเมินผล ๑. วิธีการวดั ผล : ประเมนิ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลมุ ๒. เคร่อื งมอื วดั ผล : แบบประเมินการปฏิบตั ิกจิ กรรมกลุม ๓. เกณฑการประเมนิ : มผี ลการประเมิน ผานเกณฑท ี่กําหนด เนื้อหาวิชา ๑. สทิ ธิ ๒. หนาที่ ๓. คุณลักษณะของพลเมืองท่ดี ี 64 66

ใบความรทู ี่ ๑ สิทธแิ ละเสรีภาพ สิทธิ คือ ส่ิงที่ไมมีรูปราง ซ่ึงมีอยูในตัวมนุษยมาต้ังแตเกิดหรือเกิดข้ึนโดยกฎหมาย เพื่อใหมนุษยไดรับ ประโยชน และมนุษยจะเปนผูเลือกใชส่ิงนั้นเอง โดยไมมีผูใดบังคับได เชน สิทธิในการกิน การนอน สิทธิใน ครอบครัว สิทธิความเปนอยูสวนตัว สิทธิในเกียรติยศ ช่ือเสียง สิทธิในการเลือกอาชีพ ถ่ินที่อยู การเดินทาง แตสิทธิบางอยางมนุษยไดรับโดยกฎหมายกําหนดใหมี เชน สิทธิในการมีการใชทรัพยสิน สิทธิในการรองทุกข เมือ่ ตนถูกกระทาํ ละเมิดกฎหมาย พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ อธิบายความหมาย “สิทธิ” ไววา“ความสําเร็จ หรือ อํานาจท่ีจะกระทําการใด ๆ ไดอยา งอสิ ระ โดยไดร ับการรบั รองจากกฎหมาย” เสรีภาพ เปนคําท่ีถูกใชเคียงคูกับคําวา “สิทธิ” เสมอ วา “สิทธิเสรีภาพ” จนเขาใจวามีความหมาย อยา งเดยี วกนั แทจ ริงแลว คาํ วา “เสรีภาพ” หมายถงึ อาํ นาจการตดั สนิ ใจดว ยตนเองของมนุษยที่จะเลือกดําเนิน พฤติกรรมของตนเอง โดยไมมีบุคคลอ่ืนใดอางหรือใชอํานาจแทรกแซงเกี่ยวของกับการตัดสินใจนั้น และเปน การตัดสินใจดวยตนเองที่จะกระทําหรือไมกระทําการส่ิงหนึ่งส่ิงใดอันไมเปนการฝาฝนตอกฎหมาย แตการที่ มนุษยดํารงชีวิตอยูในสังคม แลวแตละคนจะตัดสินใจกระทําการหรือไมกระทําการสิ่งใดนอกเหนือจากตอง ปฏิบัติตามกฎหมายแลว ยอมตองคํานึงถึงกฎเกณฑตาง ๆ ของสังคม ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม ดังเชน ศิลาจารึกหลักที่ ๑ สมัยพอขุนรามคําแหงมหาราช บงบอกถึงเรื่องเสรีภาพในการประกอบอาชีพไวอยาง นาสนใจวา “เจาเมอื งบเ อาจกอบในไพรลทู าง เพ่ือนจูงวัวไปคา ข่ีมาไปขาย ใครจักใครคาชาง คา ใครจักใครคา มา คา ใครจะใครคา เงอื นคา ทอง คา …” สิทธิและเสรีภาพ จึงเปนปจจัยสําคัญอยางหนึ่งในการบงชี้วาสังคมหรือบานเมืองใด มีความสงบสุข มสี ันติ มีความเปนประชาธปิ ไตย หรือไม สิทธิเด็ก เปนสิทธิสากล (Universal Rights) และเปนสิทธิเด็ดขาด (Absolute Rights) ท่ีตองไดรับ การรับรองและคุมครอง ซ่ึงเด็กในที่น้ีหมายถึงมนุษยทุกคนที่มีอายุต่ํากวา ๑๘ ป ยกเวนผูที่แตงงานท่ีถูกตอง ตามกฎหมายของประเทศ เดก็ ทกุ คนไมว า จะเปนเด็กท่ีดอยโอกาสในลักษณะใดก็ตาม เชน เด็กพิการ เด็กท่ีถูกทอดท้ิง เด็กเรรอน เด็กถกู ทารณุ กรรม เด็กที่ถูกใชแรงงานอยางผิดกฎหมาย และโสเภณีเด็ก จะตองไดรับสิทธิพื้นฐาน ๔ ประการ ดังน้ี ๑. สิทธิในการมีชีวิต เด็กทุกคนเม่ือเกิดมาแลว มีสิทธิที่จะมีชีวิตอยูไมวาจะเกิดมามีรางกาย ท่ีสมบูรณหรือไมก็ตาม โดยเด็กที่เกิดมาตองไดรับการจดทะเบียนการเกิด มีสิทธิท่ีจะไดรับการเล้ียงดูอยางดี ท่ีสุด ทั้งดานสุขภาพรางกาย จิตใจ ท่ีพักอาศัย โภชนาการและการบริการทางการแพทยเมื่อปวยไข โดยบิดา มารดา ญาตพิ ่ีนอ ง หรอื รฐั เพ่ือใหอ ยรู อดและเจรญิ เตบิ โต สทิ ธิในการมชี ีวิต เชน สิทธิรับวัคซีนปองกันโรคตาง ๆ สิทธิท่ีจะไดรับอาหารในปริมาณที่เพียงพอและสะอาด สิทธิท่ีจะไดรับปจจัยพ้ืนฐานที่จําเปนตอการดํารงชีวิต เชน อาหาร ทอ่ี ยอู าศัย เครือ่ งนุงหม ยารักษาโรค เปน ตน ๒. สทิ ธทิ ่จี ะไดร บั การคมุ ครองจากกฎหมาย เปน สิทธิที่เด็กไดรับปกปองคุมครองจากการทารุณกรรม ทกุ รปู แบบ เชน • การทารุณกรรมทางรางกาย เปนการกระทําตอรางกายเด็กที่เกิดจากการถูกทําโทษท่ี รุนแรงเกนิ ไป ทําใหเ ดก็ ไดรับความเจ็บปวด เกิดบาดแผลหรือรอยฟกซ้ํา เชน เฆี่ยนตี ตบ เตะ ตอย กระชาก กักขัง จบั มัด 65 67

• การทารุณกรรมทางดานจิตใจ เปนการกระทําที่แสดงดวยวาจาหรือทาทาง ทําใหเด็กรูสึก ขาดความรกั นอยใจ เสยี ใจ เกิดความหวาดระแวง เกดิ ความรสู กึ ไมดีตอตนเอง เชน การดุดา ตะคอก ประจาน ซึ่งการกระทําดังกลาวมคี วามรุนแรงมากกวาการวา กลา วตักเตือนหรอื ส่ังสอนโดยปกติ • การลวงเกินทางเพศ เปนการกระทําที่หาประโยชนทางเพศกับเด็ก โดยท่ีเด็กไมรูสึกวา เดือดรอนเพราะไมเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น แตจะทําใหเด็กเกิดการเรียนรูและพัฒนาการทางบุคลิกภาพท่ีผิดปกติ เชน การแอบดเู ด็กขณะท่ีอาบน้ํา การมเี พศสมั พนั ธก ับเดก็ • การใชแรงงานเด็ก เปนการแสวงหาผลประโยชนจากการทํางานของเด็ก ทําใหเด็กขาด การเรียนรู การศึกษา การพัฒนาทางดานรางกาย จิตใจ ศีลธรรมและสังคมของเด็ก ในปจจุบันกฎหมายแรงงาน ของไทยกําหนดตามพระราชบญั ญตั ิ ๓. สิทธิในดานพัฒนาการ เด็กทุกคนจะไดรับสิทธิใหมีสภาพความเปนอยูท่ีเหมาะสมกับพัฒนาการ ดานรางกาย จิตใจ สังคม รวมถึงความตองการ ความพึงพอใจ และความสุขของเด็ก ไดแก การมีสวนรวมใน กิจกรรมครอบครัว ของโรงเรียน และสังคมที่เด็กอยูไดอยางมีความสุข ไดมีโอกาสเลน พักผอน ไดรับขอมูล ขาวสาร มีอิสระในการคิดและการแสดงออก ไดรับการกลอมเกลาทางดานจิตใจ ความรู ความคิดท่ีเหมาะสม กับวัย ท่สี าํ คญั ท่ีสดุ เด็กทุกคนตอ งไดรับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ๑๒ ป ๔. สทิ ธิในการมีสว นรวม เปนสิทธทิ ใ่ี หค วามสําคัญกับการแสดงออกท้ังในดานความคิดและการกระทํา ของเด็ก ในการเปนสวนหนึ่งของสังคมที่อาศัยอยู รวมทั้งสิทธิในการปกปองเรียกรองผลกระทบที่เกิดกับชีวิต ความเปนอยูของเด็ก ดวยการอนุญาตใหเด็กไดมีสวนรวมในการตัดสินใจในเร่ืองตาง ๆ ที่เก่ียวของกับตนเอง และสามารถแสดงความคดิ เห็นโดยไมก ระทบสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอ่ืน 66 68

ใบความรทู ี่ ๒ หนา ทขี่ องปวงชนชาวไทย หนาท่ี หมายถึง การกระทําหรือการละเวน การกระทํา เพอ่ื ประโยชนโดยตรงของการมีสิทธิ หนาท่ีเปน ส่ิงที่บังคับใหมนุษยในสังคมตองปฏิบัติตามกฎเกณฑทางสังคมหรือกฎหมายบัญญัติไว จะไมปฏิบัติตามไมได สวนสิทธิและเสรภี าพเปนสิ่งที่มนุษยมอี ยแู ตจะใชห รือไมก็ได หนาที่ของประชาชนชาวไทย ๑. บคุ คลมหี นา ทร่ี กั ษาไวซ ่ึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ  และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ท รงเปน ประมขุ ๒. บคุ คลมหี นา ที่ปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย ๓. บุคคลมีหนาท่ีไปใชสิทธิเลือกต้ัง บุคคลซ่ึงไมไปเลือกต้ังโดยไมแจงเหตุผลอันสมควร ยอมเสียสิทธิ ตามท่ีกฎหมายบญั ญัติไว ๔. บคุ คลมีหนา ท่ปี องกนั ประเทศ รบั ราชการทหาร ๕. บคุ คลมีหนาท่ีเสียภาษีใหรัฐ ๖. บุคคลมีหนาท่ีชวยเหลือราชการ รับการศึกษาอบรม ปกปองและสืบสานวัฒนธรรมของชาติ ภูมปิ ญญาทองถิ่น รวมถึงการอนุรกั ษท รพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ ม ๗. บุคคลผูเปนขาราชการ พนักงาน หรือลูกจางหนวยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ราชการสวนทองถ่ิน มีหนาท่ีดําเนินการใหเปนไปตามกฎหมาย เพ่ือรักษาประโยชนสวนรวม อํานวยความสะดวกและใหบริการแก ประชาชน คุณลกั ษณะของพลเมืองท่ีดี ของประเทศชาตแิ ละสังคมโลก ๑. เคารพกฎหมายและปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บ ขอ บังคับของสังคม เมื่อพลเมอื งทกุ คนปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บ ขอบังคับของสงั คม และบทบัญญัติของกฎหมาย เชน ไมลวง ละเมิดสิทธิของผูอื่น หรือไมกระทําความผิดตามที่กฎหมายกําหนด ก็จะทําใหรัฐไมตองเสียงบประมาณใน การปองกันปราบปรามและจับกุมผูท่ีกระทําความผิดมาลงโทษ นอกจากน้ียังทําใหสังคมมีความเปนระเบียบ สงบสุขทกุ คน อยรู วมกันอยา งสมานฉนั ท ไมหวาดระแวง คดิ รา ยตอกนั ๒. เปนผูมีเหตุผลและรบั ฟงความคิดเหน็ ของผอู ื่น ทุกคนยอมมีอิสระ เสรีภาพในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหวางกัน ซ่ึงการรูจักการใชเหตุผลใน การดําเนินงาน จะทําใหช วยประสานความสมั พนั ธ ทําใหเกิดความเขา ใจอนั ดงี ามตอกัน ๓. ยอมรบั มตขิ องเสยี งสว นใหญ เมื่อมคี วามขดั แยง กนั ในการดาํ เนินกจิ กรรมอันเกิดจากความคิดเห็นที่แตกตางกัน และจําเปนตองตัดสิน ปญหาดวยการใชเสียงขางมากเขาชวย และมติสวนใหญตกลงวาอยางไร ถึงแมวาจะไมตรงกับความคิดของเรา เรากต็ อ งปฏบิ ัตติ าม เพราะเปน มติของเสียงสวนใหญน้ัน 67 69

๔. เปนผูนํามีนา้ํ ใจประชาธิปไตยและเหน็ แกประโยชนส วนรวม ผูที่มีความเปนประชาธิปไตยนั้น จะตองมีความเสียสละในเรื่องที่จําเปนเพ่ือผลประโยชนของสวนรวม และรักษาไวซึ่งสังคมประชาธิปไตย เปนการสงผลตอความมั่นคงและความกาวหนาขององคกร ซึ่งสุดทายแลว ผลประโยชนดังกลาวก็ยอนกลับมาสูสมาชิกของสังคม เชน การไปใชสิทธิ์เลือกต้ัง ถึงแมวาเราจะมีอาชีพ บางอยางท่ีมีรายไดตลอดเวลา เชน คาขาย แตก็ยอมเสียเวลาคาขายเพ่ือไปลงสิทธิเลือกตั้ง บางครั้งเราตองมี นํา้ ใจชวยเหลอื กจิ กรรมสวนรว ม เชน การสมัครเปนกรรมการเลือกต้งั หรือสมาคมบาํ เพ็ญประโยชนสวนรวม ๕. เคารพในสทิ ธเิ สรภี าพของผูอน่ื ควรรจู กั เคารพในสิทธิเสรีภาพของผอู ่ืน เชน บคุ คลมเี สรภี าพในการแสดงความคิดเห็น การพูด แตตอง ไมเ ปนการพูดแสดงความคิดเห็นทใ่ี สรา ยผูอน่ื ใหเ สยี หาย ๖. มีความรบั ผดิ ชอบตอ ตนเอง สังคม ชมุ ชน ประเทศชาติ ในการอยูรวมกันในสังคม ยอมตองมีการทํางานเปนหมูคณะ จึงตองมีการแบงหนาที่ความรับผิดชอบ ในงานนัน้ ๆ ใหส มาชิกแตละคนนาํ ไปปฏิบตั ิตามที่ไดร ับหมอบหมายไวอยางเต็มท่ี ๗. มีสว นรวมในกจิ กรรมการเมอื งการปกครอง ในสังคมประชาธปิ ไตยนัน้ สมาชกิ ทุกคนตอ งมสี วนรวมในกิจกรรมการเมอื งการปกครอง เชน การเลอื กตงั้ ๘. มสี ว นรวมในการปอ งกนั แกไขปญ หาเศรษฐกจิ สังคม และการเมืองการปกครอง ชวยสอดสองพฤติกรรมมั่วสุมของเยาวชนในสถานบันเทิงตาง ๆ ไมหลงเช่ือขาวลือคํากลาวรายโจมตี ไมม องผูท ่ไี มเ หน็ ดว ยกับเราเปนศัตรู รวมถึงสงเสริมสนบั สนนุ การแกไขปญหาความขดั แยง ตา ง ๆ ดวยสันติวิธี ๙. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรม ทกุ คนควรมีศีลธรรมไวเปน หลักในการควบคมุ พฤติกรรมของบุคลใหดําเนินไปอยางเหมาะสม ถึงแมจะ ไมม ีบทลงโทษใด ๆ ก็ตาม 68 70

ความรเู พ่มิ เติม หนา ทพ่ี ลเมือง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย คือ คนที่ยึดหลักประชาธิปไตยในการดํารงชีวิต ปฏิบัติตนอยูใน จริยธรรมที่ดีงาม ประพฤตติ นในกรอบของสิทธิ เสรีภาพและหนาที่ของการเปนพลเมือง รวมทั้งชวยสงเสริมให ผูอ่ืนปฏิบัติตนเปนพลเมืองดี การมองเห็นคุณคาของวิถีประชาธิปไตยจะชวยใหสังคมมีความมั่นคง ปลอดภัย และสงบสขุ มากขึน้ วถิ ปี ระชาธิปไตยของพลเมืองดี มลี กั ษณะทสี่ าํ คญั ดังนี้ ๑. การคํานึงถึงประโยชนสวนรวมมากกวาประโยชนสวนตัว ไดแก การลดความเห็นแกตัวและ เสียสละแรงกายและใจเพ่ือทําประโยชนใหแกสวนรวม ชวยกันดูแลรักษาทรัพยสินที่เปนสาธารณสมบัติ เชน ตูโทรศัพทสาธารณะ หองสมุดประจําหมูบาน ชวยกันอนุรักษส่ิงแวดลอม เชน ปาไม แมนํ้าลําธาร รวมท้ัง ชว ยกนั ตักเตือนหรือหามปรามบุคคลไมใ หทําลายสาธารณะสมบัติหรือสงิ่ แวดลอ ม ๒. วินัย ไดแก การฝกกาย วาจา และใจ ใหสามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองใหอยูในระเบียบ แบบแผนทีด่ งี าม เพอ่ื ใหการปฏบิ ัติงานและการอยูรว มกันของกลมุ ในสังคมนนั้ เปน ไปดวยความเรียบรอย ๓. ความรับผิดชอบตอหนาที่ ไดแก การเอาใจใส ต้ังใจ และมุงม่ันปฏิบัติหนาที่ตามบทบาทของตน อยา งเตม็ ความสามารถ ทง้ั นี้ เพื่อใหง านบรรลุผลตามเปา หมายตรงตามระยะเวลาท่กี ําหนด ๔. ความอดทน ไดแก การมีจิตใจหนักแนน เยือกเย็น ไมหุนหันพลันแลน สามารถควบคุมอารมณ และพฤตกิ รรมใหเปนปกติ เม่อื ตองเผชิญกบั ปญหาหรือสิ่งท่ไี มพงึ พอใจ ๕. การประหยัดและอดออม ไดแก การรูจักใชจายตามความจําเปนอยางคุมคาและเกิดประโยชน สงู สดุ ไมฟุงเฟอ ฟมุ เฟอ ย รูจักเกบ็ ออมเอาไวใ ชเมอื่ ยามจาํ เปน ใชชีวิตใหเ หมาะสมกบั ฐานะความเปน อยขู องตน ๖. การมีนํ้าใจเปนนักกีฬา ไดแก การมีจิตใจเปดเผย รูจักรูแพ รูชนะ และใหอภัยกันและกัน ทํางาน ในลักษณะชว ยเหลือเกือ้ กลู กัน ไมแขง ขันหรือแกงแยงชิงดกี นั ๗. ความซ่ือสัตยสุจรติ ไดแ ก มีความจริงใจ ไมมีอคติ ปฏิบัติตน ปฏิบัติงานตรงไปตรงมาตามระเบียบ ปฏิบัติ ไมใ ชเลหเ หลย่ี มหรอื กลโกง ไมทาํ แบบ “คดในขอ งอในกระดกู ” นอกจากนี้ การทํางานตองอยูบนพื้นฐาน ของความไววางใจและมีไมตรจี ิตตอ กนั ไมหวาดระแวงแครงใจกนั หรือไมเ ชอ่ื ถือผูอืน่ นอกจากตนเอง ๘. การอนุรักษความเปนไทย ไดแก มีจิตสํานึกในความเปนไทย เชน พูด เขียน และใชภาษาไทย ใหถูกตอง อนุรักษวัฒนธรรมและภูมิปญญาไทยและนําความเปนไทยมาใชใหเกิดประโยชน รวมทั้งคิดคน ปรับปรุงดัดแปลงความเปนไทยใหเขากับสภาพการณท่ีเปนอยูจริง ทั้งทางดานเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ตลอดจนถายทอดความเปนไทย สืบตอไปยังคนรนุ หลงั ไดอยา งถกู ตองเหมาะสม พลเมืองของแตละประเทศยอมมีสิทธิและหนาที่ตามกฎหมายของประเทศน้ัน บุคคลตางสัญชาติที่ เขาไปอยูอาศัยซ่ึงเรียกวาคนตางดาว ไมมีสิทธิเทาเทียมกับพลเมืองและมีหนาที่แตกตางออกไป เชน อาจมี หนา ทเี่ สยี ภาษี หรอื คาธรรมเนียมเพ่มิ ข้ึนตามท่กี ฎหมายของแตละประเทศบญั ญตั ิไว สิทธิและหนาท่ีเปนสิ่งคูกัน เม่ือมีสิทธิก็ตองมีหนาที่ พลเมืองของทุกประเทศมีท้ังสิทธิและหนาท่ี แตจะมีมากนอยเพียงใดข้ึนอยูกับกฎหมายของประเทศน้ัน ๆ และแนนอนวาประเทศที่ปกครองดวยระบอบ ประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิมากกวาการปกครองในระบอบอ่ืน เพราะมีสิทธิที่สําคัญท่ีสุด คือ สิทธิใน การปกครองตนเอง พลเมืองดี หมายถึง ผูทป่ี ฏิบตั หิ นาท่ีพลเมอื งไดค รบถวน ทั้งกจิ ทต่ี อ งทาํ และกจิ ที่ควรทํา 69 71

หนาท่ี หมายถึง กิจท่ีตองทําหรือควรทํา เปนสิ่งที่กําหนดใหทําหรือหามมิใหกระทํา ถาทําก็จะ กอใหเกิดผลดี เกิดประโยชนตอตนเอง ครอบครัว หรือสังคมสวนรวมแลวแตกรณี ถาไมทําหรือไมละเวน การกระทําตามท่ีกาํ หนด จะไดร ับผลเสียโดยตรง คือ ไดรับโทษหรือถูกบังคับ เชน ปรับ จําคุก หรือประหารชีวิต เปนตน โดยทว่ั ไปสิ่งทร่ี ะบกุ ิจท่ีตองทาํ ไดแก กฎหมาย กิจท่ีควรทํา คือ สิ่งที่คนสวนใหญเห็นวาเปนหนาท่ีที่จะตองทําหรือละเวนการกระทํา ถาไมทําหรือ ละเวนการกระทําจะไดรับผลเสียโดยทางออม เชน ไดรับการดูหม่ินเหยียดหยาม หรือไมคบคาสมาคมดวย ผูกระทํากิจท่ีควรทําจะไดรับนับการยกยองสรรเสริญจากคนในสังคม โดยทั่วไปส่ิงท่ีระบุกิจท่ีควรทํา ไดแก วฒั นธรรมประเพณี พลเมืองดีมหี นาที่ตองปฏิบัตติ ามกฎหมาย ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวฒั นธรรมของชาติ คําสั่งสอน ของพอแม ครู อาจารย มีความสามัคคี เอื้อเฟอเผ่ือแผซึ่งกันและกัน รูจักรับผิดชอบช่ัวดีตามหลักจริยธรรม และหลักธรรมของศาสนา มีความรอบรู มีสติปญญา ขยันขันแข็ง สรางความเจริญกาวหนาใหแกตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ ความสําคัญของการปฏบิ ตั ิตนเปนพลเมอื งดี การปฏบิ ัตติ นเปน พลเมืองดีของสังคม มคี วามสาํ คัญตอประเทศ เชน ๑. ทาํ ใหส ังคมและประเทศชาติมกี ารพฒั นาไปไดอยางม่นั คง ๒. ทําใหส งั คมมคี วามเปน ระเบียบเรยี บรอ ย ๓. ทําใหเกดิ ความรกั และความสามคั คใี นหมูค ณะ ๔. สมาชกิ ในสังคมอยูรว มกันอยา งมีความสขุ แนวทางการพัฒนาตนเองเพื่อเปนสมาชกิ ทีด่ ขี องครอบครัว โรงเรยี น และชุมชน แนวทางการพฒั นาตนเองเพื่อเปนสมาชิกท่ดี ี มีแนวทางปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี ๑. การเปน สมาชิกที่ดขี องครอบครัว ๒. การเปนสมาชกิ ท่ีดีของโรงเรียน ๓. การเปน สมาชิกท่ีดีของชุมชน คณุ ธรรมของการเปนพลเมอื งดี ๑. การเห็นแกประโยชนสวนรวม ๒. การมีระเบยี บวนิ ยั และรบั ผิดชอบตอ หนาท่ี ๓. รับฟงความคดิ เปนของกันและกันและเคารพในมติของเสยี งสวนมาก ๔. ความซอ่ื สตั ยส จุ รติ ๕. ความสามัคคี ๖. ความละอายและเกรงกลัวในการกระทาํ ชว่ั ๗. ความกลาหาญและเชอ่ื มน่ั ในตนเอง ๘. การสงเสริมใหค นดีปกครองบา นเมอื ง และควบคมุ คนไมด ีไมใหม อี าํ นาจ จรยิ ธรรมของการเปน พลเมืองดี คุณธรรม จริยธรรม หมายถึง ความดีที่ควรประพฤติ กิริยาที่ควรประพฤติ คุณธรรม จริยธรรมทส่ี ง เสริมความเปน พลเมืองดี ไดแก 70 72

๑. ความจงรักภักดีตอชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย หมายถึง การตระหนักในความสําคัญ ของความเปน ชาติไทย การยึดมนั่ ในหลักศลี ธรรมของศาสนา และการจงรกั ภกั ดตี อพระมหากษัตริย ๒. ความมีระเบียบวินัย หมายถึง การยึดม่ันในการอยูรวมกันโดยยึดระเบียบวินัย เพ่ือความ เปน ระเบียบเรียบรอ ยในสังคม ๓. ความกลา ทางจรยิ ธรรม หมายถงึ ความกลาหาญในทางที่ถกู ทีค่ วร ๔. ความรับผิดชอบ หมายถึง การยอมเสียผลประโยชนสวนตนเพ่ือผูอ่ืนหรือสังคมโดยรวม ไดร ับประโยชนจากการกระทําของตน ๕. การเสียสละ หมายถึง การยอมเสียผลประโยชนสวนตนเพ่ือผูอื่นหรือสังคมโดยรวมไดรับ ประโยชนจ ากการกระทําของตน ๖. การตรงตอเวลา หมายถึง การทาํ งานตรงตามเวลาทีไ่ ดรับมอบหมาย การสงเสรมิ ใหผ อู ืน่ ปฏบิ ตั ิตนเปนพลเมอื งดี การที่บุคคลปฏิบัติตนเปน พลเมืองดใี นวิถปี ระชาธิปไตยแลว ควรสนบั สนนุ สงเสริมใหบุคคลอื่น ปฏิบัติตนเปน พลเมอื งดีในวิถีประชาธิปไตยดว ย โดยมีแนวทางการปฏบิ ตั ิ ดังนี้ ๑. การปฏิบัติตนใหเปนพลเมืองดีในวิถีประชาธิปไตย โดยยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรมของ ศาสนาและหลักการของประชาธิปไตยมาใชใ นวิถีการดํารงชีวิตประจําวนั เพ่ือเปนแบบอยา งที่ดีแกค นรอบขาง ๒. เผยแพร อบรม หรือส่ังสอนบุคคลในครอบครัว เพ่ือนบาน คนในสังคม ใหใชหลักการทาง ประชาธิปไตย เปนพนื้ ฐานในการดํารงชวี ติ ประจาํ วัน ๓. สนับสนุนชุมชนในเร่ืองที่เก่ียวกับการปฏิบัติตนใหถูกตองตามกฎหมาย โดยการบอกเลา เขยี นบทความเผยแพรผ านสอ่ื มวลชน ๔. ชกั ชวนหรือสนบั สนุนคนดี มคี วามสามารถในการมีสวนรวมกับกิจกรรมทางการเมือง หรือ กิจกรรมสาธารณประโยชนของชุมชน ๕. เปน หเู ปน ตาใหก ับรัฐหรอื หนว ยงานของรัฐในการสนับสนุนคนดี และกําจัดคนที่เปนภัยกับ สังคม การสนับสนุนใหผูอ่ืนปฏิบัติตนเปนพลเมืองดีในวิถีประชาธิปไตยควรเปนจิตสํานึกท่ีบุคคลพึงปฏิบัติ เพ่ือใหเกิดประชาธิปไตยอยางแทจ รงิ วทิ ยากรบรรยายและชแี้ จงวัตถปุ ระสงค 71 73

ใบความรทู ี่ ๓ กจิ กรรมฉีกกระดาษ กิจกรรมฉกี กระดาษ ๑. ครูใหลูกเสือนัง่ เปน วงกลมตามหมูสี ๒. ครแู จกกระดาษ A4 กลมุ ละหนงึ่ แผน ๓. ครใู หลกู เสอื ฉีกกระดาษแบง กนั คนละหนงึ่ ช้ินจากกระดาษท่ีแจกให โดยบอกวาใหสมาชิกภายในหมู มีกระดาษคนละหน่ึงชนิ้ ๔. ครูใหล กู เสอื ชว ยกันนํากระดาษทตี่ นเองถอื ตอเปน รูป ดังน้ี • ตนไม • ปลา • บา น • ภูเขา • ภาพอิสระตามทส่ี มาชกิ ภายในหมคู ดิ ๕. ครใู หลูกเสอื แตละหมูชว ยกนั สรุปวา ไดขอ คดิ อะไรจากการทาํ ครั้งนี้ ๖. ครูชวยเสริมความรูโดยเปรียบเทียบกับสิทธิ หนาท่ี ความเปนพลเมืองตามกฎหมาย คุณธรรม จริยธรรม และการนําไปใชใ นชวี ิตประจาํ วัน ตามจุดมงุ หมายของลกู เสือชอ สะอาด กจิ กรรมฉกี กระดาษ 72 74

ใบงานกิจกรรมที่ ๑ ลกู เสอื สํารองชอสะอาดกับการรูจักเคารพกฎหมาย “สิทธิ” ชือ่ หมู/กลมุ ............................... คาํ ช้แี จง ใหสมาชิกภายในหมูจ บั คูก นั แลวดาํ เนินการ ดงั ตอไปน้ี ๑. ใหผเู ขา รับการฝกอบรมอภปิ ราย เรอ่ื ง สิทธิ ๒. ใหผเู ขารับการฝกอบรมบนั ทกึ ลงในใบงานตามหัวขอ ทกี่ ําหนดให ๑. สทิ ธิ คือ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ๒. สทิ ธพิ ื้นฐานสาํ หรบั เด็ก มีดงั น้ี ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 73 75

ใบงานกิจกรรมที่ ๒ ลกู เสอื สาํ รองชอสะอาดกบั การรูจ กั เคารพกฎหมาย “หนาท่ี” ชอื่ หมู/กลุม............................... คาํ ชแี้ จง ใหส มาชกิ ภายในหมูรว มกนั ดําเนินการ ดังตอ ไปน้ี ๑. ใหผูเขารับการฝก อบรมอภิปราย เรอ่ื ง หนา ท่ี ๒. ใหผเู ขารับการฝกอบรมบันทกึ ลงในใบงานตามหัวขอ ที่กําหนดให ๑. หนาท่ี คือ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ๒. หนาท่ีของปวงชนชาวไทย มีดงั นี้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ๓. คณุ ลักษณะพลเมืองที่ดขี องประเทศชาติและสงั คมโลก ประกอบไปดวย ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 74 76

แบบประเมนิ การปฏิบตั กิ จิ กรรม ช่อื วชิ า ลูกเสือสํารองชอ สะอาดกบั การรูจักเคารพกฎหมาย หมู............................... รายการประเมิน ระดบั คะแนน ๑. การแบงหนาทรี่ ับผิดชอบในกลมุ ๔ ๓๒๑ ๒. การวางแผนการทาํ งานรว มกัน ๓. การใหค วามรวมมือของสมาชกิ ๔. การยอมรบั ฟงความคดิ เห็นของผูอนื่ และการแสดงความคิดเห็น ๕. การแกปญ หาภายในกลุม รวม (ผลรวมทุกชอง) รวมเฉลยี่ คาเฉล่ยี คะแนนการประเมนิ ผลการบริหารโครงการ (คะแนนผลรวม ÷ ๕) = ........................ คะแนนเฉลยี่ ๓.๐๐ - ๔.๐๐ แสดงวา การดําเนินงานอยูในระดบั ดี คะแนนเฉลี่ย ๒.๐๐ - ๒.๙๙ แสดงวาการดําเนินงานอยใู นระดับ พอใช คะแนนเฉลยี่ ๑.๐๐ - ๑.๙๙ แสดงวาการดาํ เนนิ งานอยูใ นระดับ ปรับปรุง สรุปผลการประเมินกจิ กรรม  ระดับดี  ระดบั พอใช  ระดับปรบั ปรงุ ลงชอื่ ………………………………..ผปู ระเมิน 75 77

ชื่อวิชา ลูกเสอื สาํ รองชอสะอาดกับการสรา งจิตอาสา (กิจกรรมบําเพ็ญประโยชน) บทเรยี นที่ ๗ เวลา ๙๐ นาที ขอบขา ยรายวชิ า ๑. จติ อาสา ๒. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค ๘ ประการ จุดมุงหมาย เพื่อใหลูกเสือสํารองมีคุณลักษณะอันพึงประสงค ๘ ประการ จิตอาสาตามหลักสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ และยุทธศาสตรชาติวาดวยการปองกันและปราบปรามการทุจริต ระยะท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๖๐) วัตถปุ ระสงค เม่ือจบบทเรยี นน้ีแลว ลูกเสอื สํารองสามารถ ๑. บอกคณุ ลักษณะอันพึงประสงค ๘ ประการ ตามหลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ ได ๒. ระบุคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมของจิตอาสา ตามแผนยุทธศาสตรชาติวาดวยการปองกันและ ปราบปรามการทุจรติ ได ๓. ประพฤตปิ ฏิบัติตนใหเ ปน ประโยชนต อตนเอง ครอบครวั สงั คม และนําไปใชในชวี ติ ประจําวันได วธิ สี อน/กจิ กรรม ๑. นําเขาสูบทเรียนโดยการดูวีดิทัศน/เกม/รองเพลงเก่ียวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค ๘ ประการ เชน รักชาติ ความซื่อสัตย มีวินัย หนาท่ีเด็กไทย กฎลูกเสือ ๑๐ ขอ แลวแบงกลุมผูเขารับการฝกอบรมเปน ๘ กลุม (๓๐ นาที) ศึกษาใบความรูที่ ๑ ใหแตละหมูสงตัวแทนจับสลากวาจะไดปฏิบัติงานตามใบงานกิจกรรมท่ี ๑ หรอื ใบงานกจิ กรรมที่ ๒ ในเวลา ๑๐ นาที สงตัวแทนนําเสนอในเวลา ๓ นาที ๒. ใหแตละหมูปฏิบัติงานตามใบงานกิจกรรมท่ี ๓ คือ ชวยกันแตงนิทานเกี่ยวกับจิตอาสา (กิจกรรม บําเพ็ญประโยชน) โดยกําหนดเน้ือเรื่องใหมี ชายหนุม ๑ คน ชายแก ๑ คน หญิงแก ๒ คน เด็กชาย ๓ คน เดก็ หญงิ ๓ คน ลูกสนุ ัข ๓ ตวั (กลุมละ ๑๐ นาที) ตามใบงานกิจกรรมท่ี ๓ สื่อการสอน ๑. ใบความรูท ่ี ๑ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคตามหลกั สูตรการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒. ใบความรทู ่ี ๑ จิตสาธารณะ ๓. วดี ิทัศน เกม ๔. เพลงที่เกยี่ วกบั คุณลกั ษณะอันพึงประสงค ๘ ประการ ๕. ใบงานกิจกรรมที่ ๑ - ๓ การประเมินผล ๑. วธิ กี ารวดั ผล : ประเมนิ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลมุ ๒. เครอ่ื งมือวดั ผล : แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรมกลุม ๓. เกณฑก ารประเมิน : มผี ลการประเมนิ ผา นเกณฑท ก่ี ําหนด เน้ือหาวชิ า คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ๘ ประการ จติ อาสา (การบําเพ็ญประโยชน) 76 78

ใบความรทู ่ี ๑ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค ๘ ประการ คุณลักษณะอันพึงประสงค ๘ ประการ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ระบุ ดงั นี้ ๑. รกั ชาติ ศาสน กษตั ริย ๒. ซื่อสตั ยส ุจริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝเรียนรู ๕. อยอู ยา งพอเพยี ง ๖. มงุ มนั่ ในการทาํ งาน ๗. รกั ความเปน ไทย ๘. มีจิตสาธารณะ ๑. รักชาติ ศาสน กษตั รยิ  ๑.๑ รักชาติ คําวา ชาติ หมายถงึ ประเทศและแผนดินท่ีมีประชาชนยึดครอง มีเขตแดนหรืออาณาเขต ที่แนนอน มีการปกครองเปนสัดสวน มีผูนําเปนผูปกครองประเทศและประชาชนท้ังหมดดวยกฎหมายท่ี ประชาชนในชาติน้ัน ๆ กําหนดขึ้น เชน ประเทศไทย เปนประเทศท่ีมีอาณาเขต มีเน้ือที่ประมาณ ๕๑๓,๑๑๕ ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณกวา ๖๔ ลานคน (พ.ศ. ๒๕๕๗) มีการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุข มีศาสนาพุทธเปนศาสนาประจําชาติ มีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี มและจารีตประเพณีเปนเอกลักษณประจําชาติของตนเอง สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษเปนเวลา ยาวนาน ผูที่จะมีความรักชาติไดนั้น ตองมีคุณธรรมประจํากาย วาจา ใจ คือ ความกตัญู กตเวที หมายถึงผูที่ รูค ณุ ของแผนดินแลวตอบแทนคุณแผนดิน ดังน้ัน เราตองรักชาติ คําวา รักชาติ หมายถึงตองรักษาแผนดินไทย อันเปนแผนดินเกิด ที่บรรพบุรุษของไทยมีความทุกขยากลําบาก ตองเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพ่ือปกปอง รักษาไวใหลกู หลานไทยไดมีแผน ดนิ อยอู าศยั มาจนถึงปจจุบันน้ี เพราะฉะน้ัน ทุกคนตองรักชาติ ชวยกันปกปอง รักษาชาตไิ วไ มใ หอริราชศัตรูมารุกราน หรือมาทํารายทําลายดวยประการใด ๆ ก็ตาม ตองตอสูปองกันแผนดิน นี้ไวดวยเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อใหลูกหลานไดอยูอาศัยตอไป ตองทํานุบํารุงสรางชาติบานเมืองใหเจริญรุงเรือง ใหอ ยูรวมกันดว ยความสงบสุขสืบไป นี้คือ ผูท่รี ักชาติ ผทู ีไ่ มรกั ชาติ หมายถงึ ผทู ไ่ี มม ีคณุ ธรรม ความกตญั ู กตเวที ประจํากาย วาจา ใจ เนรคุณตอชาติ เชน ขายชาติ ทรยศตอชาติ เปนไสศึกใหอริราชศัตรูเขามาทํารายทําลายแลวยึดครองประเทศชาติ สราง ความแตกแยกใหคนในชาติ นําความเส่ือมเสยี มาใหประเทศชาติบา นเมือง นีค้ อื ผทู ่ีไมรกั ชาติ ๑.๒ รกั ศาสนา คําวา ศาสนา หมายถึง คําสอนขององคพระศาสดาแตละพระองค เชน • ศาสนาครสิ ต คือ คาํ สอนของพระเยซเู จา • ศาสนาอิสลาม คือ คําสอนของพระอัลลอฮ มีศาสดาชื่อมุฮัมมัด นับถือพระเจาองคเดียว คือ พระอลั ลอฮ • ศาสนาพทุ ธ คือ คําสอนขององคสมเด็จพระสมั มาสัมพทุ ธเจา 77 79

• ศาสนาอ่ืน ๆ ก็คือ คําสอนขององคศาสดาแตละพระองคตามศาสนาหรือลัทธิความเช่ือ ของศาสนานั้น ๆ ศาสนามีไวเ พ่อื อะไร • ศาสนาทกุ ศาสนามีไวเพื่อสอนใหม นษุ ยล ะชัว่ ประพฤติดี • ศาสนาพุทธ มีไวเพ่ือสอนใหมนุษยละชั่ว ทางกาย วาจา ใจ ใหประพฤติแตความดี ดวยกาย วาจา ใจ แลว ชาํ ระจติ ใจใหสะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสทั้งสามอยาง คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ทคี่ รอบงาํ จติ ใจใหห มดสิน้ ไป หลักของพระพุทธศาสนามีอะไรบาง หลักของพระพุทธศาสนา มีไวเพ่ือใหพุทธศาสนิกชนปฏิบัติตาม โดยแบงลาํ ดบั ขนั้ จากระดับตน ถงึ ระดับสูง คือ ทาน ศีล สมาธิ และปญ ญา ทาน คอื การให แบงได ๔ ประเภท ดงั น้ี ๑. อามิสทาน คือ การใหทรัพยสินเงินทองแกผูท่ีควรให เชน พระภิกษุ สามเณร พอแม ครู อาจารย ผยู ากจน และผดู อ ยโอกาส เปนตน (ใหดว ยความบรสิ ุทธใิ์ จ ไมห วังสง่ิ ตอบแทนใด ๆ) ๒. วิทยาทาน คือ การใหวิชาความรูตาง ๆ แกผูอ่ืนโดยไมหวังสิ่งตอบแทนใด เพื่อใหสามารถ นําไปประกอบอาชีพเลย้ี งตนเองและครอบครวั (ใหว ทิ ยาทานดวยความบริสทุ ธ์ใิ จ) ๓. อภัยทาน คือ การใหอภัยสําหรับผูท่ีมีความประพฤติผิดพลาดบางคร้ังบางโอกาส ดวยเหตุ ใด ๆ ก็ตาม เราควรใหอภัย ไมถือโทษโกรธเคือง ไมอาฆาตพยาบาทปองราย (ใหอภัยดวยความบริสุทธ์ิใจ เพือ่ ใหเขามโี อกาสกลับตัวกลับใจเปนคนดตี อ ไป) ๔. ธรรมทาน คือ การใหพระธรรมคําสอนขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาแกผูอ่ืน เพื่อให ละเวนจากการทําความช่ัว แลวทําความดีดวยกาย วาจา ใจ และชําระจิตใจใหสะอาดบริสุทธ์ิจากกิเลสทั้ง สามอยาง คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ใหหมดไปจากจิตใจ ใหธรรมะเปนทานเหนือการใหสิ่งใด ๆ (ใหธ รรมทาน ดว ยความบริสทุ ธ์ใิ จ ไมหวงั ส่งิ ตอบแทนใด ๆ) ศีล คือ ของดเวนจากการทําชั่วทางกาย วาจา (ไมคลุมถึงใจ ตองมีคุณธรรมประจําใจ) ผูใดงดเวนจาก การทําความช่ัวไดมาก กาย วาจา ก็จะสะอาดปราศจากความช่ัว สวนผูใดทําผิดศีลมาก กาย วาจา ก็จะมีมลทิน มัวหมอง ไมบ ริสทุ ธิ์ แลว แตผูใดจะนําศีล หมวดใดมารกั ษากาย วาจา ใหสมควรแกต น ดงั นี้ ศีล ๕ (สําหรับพทุ ธศาสนิกชนท่ัวไป) ศลี ๘ (สําหรับ อุบาสก อุบาสกิ า) ศีล ๑๐ (สําหรับสามเณร) ศีล ๒๒๗ (สําหรับพระภิกษุ) ในทน่ี จ้ี ะขออธิบายถึง ศีล ๕ และธรรม ๕ ประการเทา น้นั ซ่งึ มีรายละเอียด ดงั น้ี ศีลขอ ท่ี ๑ ปาณาตปิ าตา เวระมณสี ิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ หา มฆา สัตว หามทรมานสตั ว หามเบียดเบียนสัตว ธรรมประกอบศีลขอที่ ๑ มเี มตตา คอื ความรกั มกี รณุ า คือ ความสงสาร ศีลขอ ท่ี ๒ อะทนิ นาทานา เวระมณสี ิกขาปะทงั สะมาทิยามิ หามลักทรัพยข องผอู นื่ มาเปน ของตน ธรรมประกอบศลี ขอที่ ๒ มสี ัมมาอาชวี ะ ประกอบอาชพี สจุ รติ 78 80

ศลี ขอท่ี ๓ กาเมสมุ ิจฉาจารา เวระมณีสิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ หามประพฤติผดิ ในกาม หา มเปนชสู สู มกบั สามีหรือภรรยาผอู ื่น ธรรมประกอบศีลขอ ที่ ๓ มคี วามสาํ รวมในกาม พอใจในคคู รองของตน ศลี ขอที่ ๔ มุสาวาทา เวระมณสี ิกขาปะทงั สะมาทิยามิ หา มพดู เท็จ หลอกลวง หามพูดสอเสยี ด พดู เพอเจอ พูดคําหยาบ ธรรมประกอบศีลขอ ท่ี ๔ มีสจั จะ พดู แตค วามจรงิ พดู เรื่องทดี่ ีมปี ระโยชน ศีลขอ ท่ี ๕ สรุ าเมระยะมชั ชะ ปะมาทฎั ฐานา เวระมณีสิกขาปะทงั สะมาทยิ ามิ หา มด่มื สุรา เครอ่ื งดองของเมา หรอื เสพยาเสพตดิ ใหโทษตาง ๆ ธรรมประกอบศลี ขอ ที่ ๕ มสี ตอิ นั รอบคอบ ระลกึ รผู ิดชอบ ชั่วดี สมาธิ หมายถึง การทําจิตใหสงบ มั่นคง อยูที่ใดที่หน่ึง จิตเปนนามธรรมมีหนาท่ีคิด เหตุท่ีองคสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจาทรงสอนใหฝกสมาธิ เพราะพระองคทานรูวาตามธรรมชาติจิตใจของมนุษยมีกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง เปนเครื่องปรุงแตงจิตใหฟุงซานอยูตลอดเวลา พระองคทานจึงทรงหาอุบายให ใชสติควบคุมจิตใหสงบ โดยการฝกสมาธิ แลวนํามาพิจารณาไตรตรองคําสอน จนเกิดปญญา ปญญา คือ ความรู หรอื ความรอบรู ทีไ่ ดมาจากการศกึ ษามอี ยู ๒ อยางดว ยกัน คือ ปญ ญาทางโลก และปญญาทางธรรม ๑. ปญ ญาทางโลก คอื การศึกษาหาความรูจากโรงเรียน หรือสถานศึกษาตาง ๆ ท่ีเปนรูปธรรม ท่ีสัมผัสได เชน การเรียนรูเร่ืองตนไม พืชชนิดตาง ๆ การเรียนรู ดิน ฟา อากาศ หรือเชื้อโรค การเรียนรูเรื่อง ชางฝมือและศิลปะ เปนตน เพ่ือนํามาประกอบอาชีพเล้ียงตนเองและครอบครัว หรือสรางความเจริญรุงเรือง ใหกับประเทศชาติบานเมือง ถาทานไดศึกษาอยางละเอียดในเร่ืองใดเร่ืองหนึ่ง ทานก็จะเปนผูมีความรู ความชํานาญ ในเร่ืองน้ัน ๆ ท่ีทางโลกเรียกวาเปนผูเช่ียวชาญท่ีมีความชํานาญ ในแตละสาขาอาชีพ นี้คือ ปญ ญาทางโลก ๒. ปญญาทางธรรม คือ การเรียนรูจากคําสอนขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา ซึ่งพระองค ทรงสอนใหเ รารูจ กั ตวั เองวา อะไรเปนรูป อะไรเปนนาม เชน ตัวตนของเรา ประกอบไปดวย ธาตุ ๔ (ดิน นํ้า ลม ไฟ) ขนั ธ ๕ (รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณ) พระผมู ีพระภาคเจาตรัสรูแ จง เหน็ จริง ทั้งอดตี ปจ จุบัน และอนาคต จึงทรงวางหลักพระพุทธศาสนาไว ๔ ประการ คือ ทาน ศีล สมาธิ ปญญา เพื่อใหมนุษยไดประพฤติปฏิบัติตาม พระองคทานตรัสสอนใหมนุษย ใหทาน นําศีลมารักษา กาย วาจา เจริญสมาธิและวิปสสนาเพ่ือใหเกิดปญญา จะไดมีคุณสมบัติท้ัง ๔ ประการ ติดตวั ตามตนไปในชาติหนาหรอื ชาตติ อ ๆ ไป เมื่อไปเกิดเปน มนุษยอกี จะสง ผลใหม ีฐานะราํ่ รวย มีรูปรางหนาตา สวยงาม และมปี ญ ญาดี อันจะเก้ือหนุน เอื้ออํานวยใหสามารถปฏิบัติธรรมในขั้นสูงขึ้นไป จนรูแจงเห็นจริงตาม พระองคทาน เราตองรักและเคารพนับถือบูชาพุทธศาสนา เพราะพระพุทธเจาทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระบรสิ ุทธคิ ุณ พระปญญาธิคุณ หมายถึง พระพุทธองคทรงมีความสงสารสรรพสัตวท้ังโลกดวยความบริสุทธิ์ใจ และมีปญญาเปนเลิศ รูแจงเห็นจริงในสัจธรรม พระพุทธองคจึงมีคําสอนมากมายถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ เพ่ือเปนอุบายใหมนุษยนํามาประพฤติปฏิบัติตาม ใหทุกคนเปนคนดี มีความเปนอยูอยางสุขสบาย ถาผูใด ประพฤติปฏิบัติตามจนกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลงหมดไปจากจิตใจ เขาสูแดนวิมุตหลุดพน ไมตอง มาเวียนวา ย ตาย เกดิ อีกตอ ไป ผูที่รักศาสนา ตองมีคุณธรรมประจํากาย วาจา ใจ คือ มีความกตัญู กตเวที ตอพระองคทาน โดย การประพฤติปฏบิ ตั ิตามพระธรรมคําสอนดวยความบรสิ ทุ ธ์ใิ จ เพื่อใหรูแจงเห็นจริงในสัจธรรมตามพระองคทาน แลวนาํ คาํ สอนทีร่ ตู ามไปสอนใหผูอื่น ละชัว่ ประพฤติดี และชําระจิตใจใหสะอาดปราศจากเครื่องเศราหมอง คือ 79 81

ความโลภ ความโกรธ ความหลง เราจึงตองเคารพนับถือบูชาพระพุทธศาสนา และทํานุบํารุงใหเจริญรุงเรือง สบื ตอ ไป น้ีคอื ผูท ร่ี กั ศาสนา ผูที่ไมรักศาสนา หมายถึง ผูที่ไมรักเคารพนับถือบูชาพุทธศาสนาและพระพุทธเจา ไมประพฤติปฏิบัติ ตามพระธรรมคําสอนของพระองคทาน ไมละชั่วประพฤติดี ไมชําระจิตใจใหสะอาดปราศจากกิเลส ปลอยให ความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงําจิตใจ ไมมีการใหทาน ไมนําศีลและธรรมมารักษา กาย วาจา ใจ ใหสะอาด ไมเจริญสมาธิเพื่อใหจิตสงบ ไมวิปสสนา คือ ไมนําพระธรรมคําสอนมาพิจารณาเพ่ือใหเกิดปญญา ท่ีจะเอาชนะกิเลสท้ัง ๓ อยางได จึงเปนผูท่ีมีความโลภ คือ มีความอยากไดไมมีที่สิ้นสุด มีความโกรธ คือ ความไมพอใจ ความอาฆาต พยาบาท ปองราย มีความหลง คือ ความเขาใจผิด มีความรักใครพอใจในส่ิงตาง ๆ คิดวาจะเปนสุข แทที่จริงแลวความโลภ ความโกรธ ความหลง ลวนแลวแตเปนเหตุของการเกิดทุกขท้ังส้ิน ไมเคารพนับถือ เหยียบย่ําทําลายและอาศัยศาสนาหากินใหเกิดความเส่ือมเสีย ตอตานหรือบิดเบือนคําสอนของ พระพุทธองค ใหพุทธศาสนิกชนเกิดความเสื่อมศรัทธาตอพระพุทธศาสนาเปนอยางย่ิง น้ีคือ ผูที่เนรคุณ ไมรัก ไมน ับถือในพุทธศาสนา ๑.๓ รักพระมหากษัตริย คําวา พระมหากษัตริย หมายถึง พระเจาแผนดินผูเปนพระประมุข (ผูเปน ใหญ) ของประเทศ มีหนาท่ีปกครองประชาชนพลเมืองในประเทศน้ัน ๆ ใหอยูดีมีสุขตามกฎหมาย ตามทํานอง คลองธรรม จารีตประเพณีวัฒนธรรมของชาตินั้น ๆ เชน ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ เปนพระประมขุ ทรงปกครองแผนดินโดยธรรม เพือ่ ประโยชนส ุขแหง มหาชนชาวสยาม ตามทศพธิ ราชธรรม ทศพธิ ราชธรรม หมายถงึ จริยาวตั รทพ่ี ระเจาแผน ดินทรงประพฤติเปนหลักธรรมประจําพระองค หรือ คุณธรรมผปู กครองบา นเมืองทด่ี ี มี ๑๐ ประการ ดงั น้ี ๑. ทาน คอื การให ใหเปนประจําเปนปกติ เชน ใหอามิสทาน ใหวิทยาทาน ใหอภัยทานและ ใหธรรมทาน ๒. ศลี คอื การรักษา กาย วาจา ใหเ รยี บรอย หมายถึง การงดเวนจากการทําความช่ัวทางกาย ทางวาจา ๓. บริจาค คือ ความเสียสละ หมายถึง การสละทรัพยสินเงินทองเปนบางคร้ังบางคราว เม่ือมีความจําเปน เชน บริจาคเงนิ สรางสาธารณประโยชน หรือบรจิ าคเงินชว ยเหลือผูประสบภัย ๔. อาชชวะ คือ ความซื่อตรง หมายถึง ประพฤติตรงไมเอนเอียงไปฝายใดฝายหน่ึง เชน ซื่อตรงตอ หนา ท่ี ซอ่ื ตรงตอ ตนเอง ไมทจุ ริตคดโกง ๕. มัททวะ คอื ความออ นโยน หมายถึง มกี ิรยิ าวาจานมุ นวล ๖. ตบะ คือ การขมกิเลส หมายถึง ระงับยับยั้งกิเลสไว ไมยอมเปนทาสของความโลภ ความโกรธ ความหลง ๗. อักโกธะ คือ ความไมโกรธ หมายถึง การใหอภัย ไมถือโทษโกรธเคือง ไมอาฆาตพยาบาท ปองรา ย ๘. อวิหิงสา คือ ความไมเบียดเบียน หมายถึง การมีจิตใจโอบออมอารี ชวยเหลือเผื่อแผ ไมส รา งความทกุ ข ความเดือดรอนใหกับผใู ด ๙. ขันติ คือ ความอดทน หมายถึง อดทนตอความเหนื่อยยากลําบาก ทั้งกาย ท้ังใจ เพ่อื ประโยชนของสว นรวม และประเทศชาติบานเมอื ง ๑๐.อวิโรธนะ คือ ความไมคลาดเคลื่อนจากธรรม หมายถึง ความไมประมาท ประพฤติปฏิบัติ ถูกตอ งตามครรลองคลองธรรม 80 82

ในปจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเปนพระมหากษัตริย ผูประเสรฐิ ยง่ิ ซ่งึ พระองคทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงมีเมตตา กรุณา ตอพสกนิกรชาวไทยอยางหาท่ีสุดมิได ทรงปกครองแผนดินโดยธรรมเพื่อประโยชนสุขแหงมหาชนชาวสยาม ทรงยึดหลักทศพิธราชธรรม นําแนว พระราชดําริเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเปนแนวทางในการดําเนินชีวิตของปวงชนชาวไทย นําความเจริญรุงเรือง ความผาสุกมาสูพสกนิกรถวนหนา นอกจากนั้น พระองคทานทรงพระปรีชาสามารถจนเกียรติประวัติเล่ืองลือ ไกลหาท่ีสุดมิได เปนที่ประจักษแกนานาอารยประเทศท่ัวโลก นําช่ือเสียงเกียรติยศ มาสูประเทศไทยอยาง ยง่ิ ใหญ ผูท่ีจะรักพระมหากษัตริยได ตองมีคุณธรรมประจํากาย วาจา ใจ คือ ความกตัญู กตเวที รูคุณและ ตอบแทนบุญคณุ ของพระองคท าน ดวยชีวติ จติ ใจท่ีบริสทุ ธ์ิ เพราะฉะน้นั ตองรักพระมหากษัตริย นับวาชาวไทย ทกุ คนมีความภาคภูมิใจที่ไดเกิดมาใตรมพระโพธิสมภาร มีความเปนอยูอยางรมเย็นเปนสุข มีความรูรักสามัคคี กลมเกลียว รวมนํ้าใจไทยทั้งชาติใหเปนน้ําหน่ึงใจเดียว ประพฤติตนเปนคนดี เพ่ือถวายเปนพระราชกุศล และ ถวายความจงรักภักดี ปกปอ งพระบาทสมเด็จพระเจาอยหู วั ฯ และราชบัลลังก นีค้ อื ผทู ีร่ ักพระมหากษตั รยิ  ผูที่ไมรักพระมหากษัตริย หมายถึง ผูท่ีไมมีความจงรักภักดี ไมมีความเคารพนับถือตอสถาบัน พระมหากษัตริย คิดทํารายทําลาย จาบจวงลวงละเมิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และยุยงสงเสริมใหผูอื่น ทําตาม รวมไปถึงเจาหนาท่ีบานเมือง เจาหนาท่ีของรัฐ ขาราชการทหาร ตํารวจ บางคน ที่มีหนาที่รับผิดชอบ แตกลับปลอยปละละเลย ไมดําเนินการยับยั้งหรือปราบปรามจับกุมผูกระทําผิดดังกลาว และยังปลอยใหมี ขบวนการเพ่อื ลมลา งสถาบันพระมหากษตั ริยดําเนินการอยางตอเนื่อง โดยเพียงเพ่ือใหกลุมบุคคลบางกลุมหรือ กลุมของตนเอง ไดผลประโยชนและมอี าํ นาจโดยมชิ อบธรรม ไมปกปอ งสถาบันพระมหากษัตริยและราชบัลลังก ดังที่ไดกลา วถวายคําสัตยปฏิญาณไว เพราะขาดคุณธรรม คือ ไมมีสัจจะ ไมมีความกตัญูกตเวที ไมรูคุณ และ ยงั เนรคุณตอพระองคท าน น้คี อื ผูท ไ่ี มจ งรกั ภกั ดีตอ สถาบนั พระมหากษัตริย สถาบนั ทง้ั ๓ สถาบันนี้ มบี ุญคณุ อยางใหญหลวง เชน ชาติ คือ แผนดินท่ีอยูอาศัย ศาสนา คือ คําสอน ของพระพุทธเจา สอนใหเปนคนดี พระมหากษัตริย คือ ผูปกครองบานเมืองโดยธรรม เพ่ือความสงบสุขของ พสกนิกรชาวไทย ตองรกั ชาติ รกั ศาสนา รกั พระมหากษัตรยิ  ดว ยใจอนั บริสุทธ์ิ จะไดอยูรวมกันอยางรมเยน็ เปนสขุ ผูที่ไมรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ดูหม่ินเหยียดหยาม เหยียบยํ่าทําลาย ประณามใหเกิด ความเส่ือมเสียแกชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย เปนคนชวั่ จะอยอู ยา งทกุ ขท รมานตลอดไป ๒. ซ่อื สตั ยส จุ รติ ความซื่อสัตยสุจริต หมายถึง ผูท่ีมีความประพฤติตรงตอเวลา ตอหนาที่ และตอวิชาชีพ มีความจริงใจ ไมมีความลําเอียง ไมทุจริตคดโกง ท้ังทางตรงและทางออม รูหนาท่ีการงานของตนเอง ปฏิบัติเต็มกําลัง ความสามารถ ดวยความบริสทุ ธิ์ใจ ผูทจี่ ะมีความซ่ือสัตยส ุจรติ ได ตอ งมคี ณุ ธรรมประจาํ กาย วาจา ใจ คอื ๑. มีสัจจะ หมายถึง การคิด การพูด การทําแตความจริง ผูที่มีสัจจะ คือผูท่ีมีความจริงใจ ซื่อสัตยตอ ตนเองและผูอื่น เชน จะคิด จะพูด จะทํา ส่ิงใดก็ตองทําส่ิงน้ันใหสําเร็จลุลวงไปดวยดี ส่ิงนั้นตองเปนความจริง มีประโยชนกับตนเอง ผูอื่น และสวนรวม จะประกอบกิจการใด ๆ ก็มีความจริงจัง จริงใจตอเนื่อง มีความ ซ่อื ตรงตอ เวลาตอหนาท่ี มคี วามซอื่ สตั ยสุจริต ไมทจุ ริตคดโกงทั้งทางตรงและทางออม มีความประพฤติดี ท้ังกาย วาจา ใจ ไมส รางความเดอื ดรอ นใหกับตนเอง ผอู น่ื องคกร สังคม และประเทศชาติบา นเมือง ๒. มีความเปนธรรม หมายถึง มีใจเปนกลาง มีความเปนธรรม เปนผูท่ีรูเหตุ รูผล รูผิด รูถูก รูช่ัว รูดี เขาใจในธรรมชาติของมนุษย ยอมทําถูกบาง ผิดบาง เพราะมีสติปญญาแตกตางกัน ผูที่มีใจเปนกลาง ตองสงเสริม สนับสนุนผูที่ทําถูกทําดีแลวใหเจริญรุงเรืองตอไป และใหโอกาสผูที่ทําผิดทําช่ัว โดยชวยอบรมส่ังสอนให 81 83

ปรับปรุงแกไขตนเอง ใหละชั่วประพฤติดี ใครผิดก็วาไปตามผิด ใครถูกก็วาไปตามถูก น้ีคือ คุณสมบัติของผูท่ีมี คณุ ธรรมประจําใจ คือความเปนธรรม ๓. ไมมีอคติ หมายถึง ไมมีความลําเอียงเขาขางใดขางหนึ่ง มี ๔ ประการ คือ ไมลําเอียงเพราะรัก ไมล ําเอยี งเพราะเกลียด ไมลาํ เอยี งเพราะกลัว และไมล าํ เอียงเพราะโงเขลา • ไมลําเอียงเพราะรัก หมายถึง คนท่ีเรารักทําความผิด ก็ตองตัดสินวาผิด คนท่ีเรารัก ทาํ ถกู เรากต็ ัดสนิ วาถูก เพราะมคี วามซือ่ สตั ยต อ ตนเองและผูอ ื่น • ไมลําเอียงเพราะเกลียด คนท่ีเราเกลียดทําถูก เราตองตัดสินวาถูก คนท่ีเราเกลียดทําผิด เรากต็ อ งตัดสนิ วา ผดิ เพราะมีความซ่อื สัตยต อตนเองและผูอ่นื • ไมลาํ เอยี งเพราะกลัว ผูที่มีอํานาจทําผิด เราก็ตองตัดสินวาผิด ผูท่ีมีอํานาจ มีอิทธิพลทําถูก เรากต็ องตัดสินวา ถูก เพราะมคี วามซือ่ สัตยตอตนเองและผูอ่นื ไมเกรงกลัวอาํ นาจอทิ ธพิ ลใด ๆ • ไมลําเอียงเพราะโงเขลา ผูใดท่ีกระทําความผิด เราตองใชสติปญญาพิจารณาใหรอบคอบ ไมห เู บาเชือ่ คนงาย ไมต ดั สินคดีความดวยความโงเขลาเบาปญญา ตองมีความเปนธรรม เปนกลาง และซ่ือสัตย ตอ ตนเองและหนา ทีข่ องตน ผูที่มีคุณธรรมดังท่ีกลาวมาแลวน้ี คือ มีสัจจะ การคิด การพูด การทําแตความจริง มีความเปนธรรม คือ มีใจเปนกลาง ไมมีอคติ คือ ไมลําเอียงเขาขางใดขางหน่ึง ผูท่ีมีคุณธรรมท้ัง ๓ อยางนี้ จะเปนผูที่มี ความซ่ือสัตยตอ ตนเอง ตอ ผอู นื่ ตอหนา ทกี่ ารงาน ตอ องคก ร ตอสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ  ผทู ี่มีอคติ คือ มีความลําเอียงหรือเอนเอียงเขาขางใดขางหน่ึง ไมมีความเปนธรรม ไมมีความเปนกลาง มดี ังนี้ • ลําเอียงเพราะรกั คอื คนทตี่ นรักทาํ ผิด ก็ตดั สินวา ถกู • ลําเอยี งเพราะเกลียด คอื คนที่ตนเกลยี ดทาํ ถกู ก็ตัดสินวาผดิ • ลาํ เอยี งเพราะกลัว คือ ผทู ี่มอี ํานาจมีอิทธิพลทาํ ความผิด กต็ ัดสินวาถกู • ลําเอียงเพราะโงเขลา คือ จะตัดสินปญหาใด ๆ ก็ผิด เพราะเปนคนหูเบาเชื่อคนงาย ไมมี สตปิ ญ ญา ไมมคี ุณธรรม ตัดสินปญหาตาง ๆ ดวยอารมณ ไมมีเหตุผล ไมมีความซ่ือสัตยตออาชีพ หนาท่ีการงาน ไมมีความจริงใจตอตนเองและผูอ่ืน ทําใหสังคมเส่ือมโทรม ไมควรเคารพนับถือ ไมควรคบคาสมาคม น้ีคือ ผทู ่ีขาดคุณธรรมทัง้ ๓ อยา ง ๓. มีวนิ ยั มีวนิ ัย หมายถึงผูท ่ปี ฏบิ ัตติ นในขอบเขต กฎระเบียบทต่ี ง้ั ไวใ หปฏบิ ัติตาม เชน วินยั ของพระพุทธศาสนา ของสถาบัน องคกร สังคม และประเทศ โดยท่ีตนเองยินดีปฏิบัติตามอยางเต็มใจ และต้ังใจยึดม่ันในระเบียบ แบบแผนขอบังคับและขอปฏิบัติ รวมถึงการมีวินัยทั้งตอตนเองและสังคม วินัย คือ ขอบังคับใหปฏิบัติตาม ระเบยี บแบบแผน ทีส่ ถาบนั และองคก รตา ง ๆ ไดกําหนดไว ผทู จี่ ะมีวนิ ยั ไดน้นั ตองมคี ณุ ธรรมประจํา กาย วาจา ใจ ตองปฏิบัติตามคําสอนของพระผูมีพระภาคเจา คอื สุจริต ๓ ไดแก ๑. กายกรรม ๓ หมายถึง การประพฤตชิ อบทางกาย เรยี กวา “กายสจุ ริต” คอื • เวน จากการฆาสัตว • เวน จากการลักทรพั ย • เวน จากการประพฤตผิ ิดในกาม (เปนชูกับสามภี รรยาผอู ืน่ ) 82 84

๒. วจีกรรม ๔ หมายถงึ การประพฤตชิ อบทางวาจา เรียกวา “วจีสจุ รติ ” คือ • เวนจากการพูดเท็จ (โกหกหลอกลวง) • เวนจากการพดู สอ เสียด • เวน จากการพูดคําหยาบ • เวนจากการพดู เพอเจอ ๓. มโนกรรม ๓ หมายถึง การประพฤติชอบทางใจ เรียกวา “มโนสุจรติ ” คือ • ใจไมคิดโลภอยากไดข องผูอ ่ืน • ใจไมอ าฆาตพยาบาทปองรายผอู น่ื • ใจมีความเห็นชอบตามทาํ นองคลองธรรม ผูท่ีมีคุณธรรมทั้ง ๓ อยางนี้ เปนคุณธรรมที่สรางใหผูน้ันมีนิสัยท่ีดี มีระเบียบวินัยประจํากาย วาจา ใจ จะไมประพฤตผิ ิด ทางกาย ทางวาจา ทางใจ เรียกวาเปนผูที่มีกาย วาจา ใจ อันบริสุทธ์ิ เม่ือมีความบริสุทธ์ิแลว จะไปอยู ณ ท่ีใด สถานศึกษา สถาบัน องคกร สังคม และประเทศใด ๆ ในโลกนี้ สามารถปฏิบัติตามขอบเขต กฎระเบียบแบบแผน ขอบังคับอยางเต็มใจ และต้ังใจปฏิบัติอยางจริงใจ จริงจัง และตอเนื่องไดอยางสมบูรณ เพราะมีคุณธรรมประจําใจ ซ่ึงตางกบั ผทู ี่ขาดคุณธรรมทง้ั ๓ อยา ง คอื ๑. ประพฤติผิดทางกาย คือ ฆาสัตว ลักทรัพย หรือทุจริตคดโกง ประพฤติผิดในกาม (เปนชูกับสามี ภรรยาผอู ่นื ) ๒. ประพฤตผิ ดิ ทางวาจา คอื พูดเทจ็ โกหก หลอกลวง พดู สอ เสยี ด พูดคําหยาบ และพูดเพอ เจอ ๓. ประพฤติผดิ ทางใจ คอื ใจคิดโลภอยากไดข องผอู ื่น ใจคดิ อาฆาตพยาบาทปองรายผูอื่น ใจมีความคิด เหน็ ผดิ จากครรลองคลองธรรม ไมม คี ุณธรรมประจําใจ จึงเปนผทู ขี่ าดระเบียบวินยั ยอ มทําผิด คิดชั่วไดทุกอยาง บุคคลเหลาน้ีจะไปอยูในสถานศึกษา สถาบัน องคกร สังคม ประเทศใด ก็ไมสามารถประพฤติตนใหอยูใน ระเบียบวินัยของสถาบันนั้น ๆ ได ไมเต็มใจที่จะปฏิบัติตาม และไมตั้งใจที่จะยึดมั่นในระเบียบ แบบแผน ขอบังคับ มีการทําผิดระเบียบวินัยอยูเสมอ ดังที่ไดปรากฏแลวในสังคมปจจุบัน น้ีคือ ผูท่ีไมมีคุณธรรมทั้ง ๓ อยาง ประจําใจน่นั เอง ตัวอยางเชน ลูกเสือที่ไดรับการอบรมส่ังสอน และศึกษาพระธรรมคําสอนของพระผูมีพระภาคเจา แลว ปฏบิ ตั ติ าม จึงมีคุณธรรมประจาํ ใจ คอื ๑. มีความประพฤติดีทางกาย คือ ไมฆาสัตว นับตั้งแตมนุษยและสัตวทุกชนิด ไมลักขโมยทรัพยของ ผูอ ื่นมาเปนของตน ไมมเี พศสัมพนั ธก อ นวยั อนั ควรหรอื ขณะอยใู นวยั เรียน ๒. มีความประพฤติดที างวาจา คือ ไมพูดเท็จ ไมพูดสอเสียดใหผูอื่นเสียใจ ไมพูดคําหยาบ คําไมสุภาพ ไมพูดเพอเจอ เรื่องไรสาระ ๓. ไมประพฤติผิดทางใจ คือ ใจไมคิดโลภอยากไดของผูอ่ืนมาเปนของตน ใจไมคิดอิจฉาริษยา อาฆาต พยาบาท ปองรายผูอื่น ใจมีความคิดเห็นถูกตองตามทํานองคลองธรรม ถูกกฎหมาย ถูกจารีตประเพณี วัฒนธรรมไทย เพราะฉะน้ัน จะตองสรางวินัยใหเกิดข้ึนกับตนเองเสียกอน คือ หามทําผิดทางกาย วาจา ใจ โดยนํา คําสอนของพระผมู ีพระภาคเจา ทัง้ ๓ อยาง ดงั ที่ไดกลา วมาแลว มาปฏบิ ตั ิตามใหไดผล คือ สามารถควบคุมกาย วาจา ใจ ไมใ หคดิ ช่วั พูดชั่ว ทําชัว่ ใหเ ปน ผูท ีม่ ีความคิดดี พดู ดี ทําดี จึงเรียกไดว า เปนผูมรี ะเบยี บวินยั ดี 83 85

๔. ใฝเรียนรู ใฝเรียนรู หมายถึง ผูท่ีต้ังใจศึกษาหาความรู ผูที่จะศึกษาหาความรูไดสําเร็จดวยดีน้ัน ตองมีคุณธรรม ประจํากาย วาจา ใจ คือ อิทธิบาท ๔ หมายถึง คุณธรรมท่ีผูปฏิบัติตามยอมถึงความสําเร็จไดตามประสงค ประกอบดวย ฉันทะ วริ ยิ ะ จติ ตะ และวิมงั สา ๑. ฉนั ทะ คือ ความพอใจรักใครในส่งิ นนั้ ตวั อยา งเชน เด็กลูกเสือที่มีความพอใจรักในการศึกษาเรียนรู เขากจ็ ะเอาใจใสขยันในการเรียน มีสติ คือ การระลึกรูวาขณะน้ีกําลังเรียน มีสมาธิ คือ ตั้งใจม่ันอยูกับบทเรียน ในขณะท่ีครูกําลังสอน ต้ังใจฟงและจดจําในเรื่องตาง ๆ ที่ครูกําลังอธิบาย เอาใจจดจอ ไมคุย ไมเลน ไมหลับ ในหองเรียน มีความอดทน ขยันหม่ันเพียร ไมเกียจครานในการเรียน มีความรูสึกสุข สนุกสนานในการเรียน ไมเบอ่ื หนา ยในการสอนของครู ทําใหมีความรู เปนคนฉลาดรอบรูในวิชาตาง ๆ เพราะมีฉันทะ คือ ความพอใจ รักในการเรยี น จึงมคี วามจริงใจ จริงจัง และเรียนอยางตอเน่ือง จึงเปนเด็กดีของครูอาจารย ของโรงเรียน และ เปน ตัวอยางทดี่ ีของเพือ่ นลกู เสือดว ยกัน ๒. วิริยะ คือ ความเพียรพยายามประกอบส่ิงน้ัน ๆ เชน ลูกเสือที่มีความพอใจในการเรียนแลว มคี วามอดทนขยนั หมั่นเพยี รในการศึกษาหาความรู พยายามหมั่นทบทวนวิชาความรูตาง ๆ ท่ีครูสอนผานมาแลว ใหเขาใจอยางถองแท การบานหรือกิจกรรมตาง ๆ ท่ีครูมอบหมายใหทํา ตองมีความอดทน ขยันหมั่นเพียร พยายามทาํ งานนั้นใหสําเร็จและถกู ตอง สะอาด เปนระเบียบ เรียบรอย และสมบูรณ แมจะมีอุปสรรคใด ๆ ก็จะ ไมทอถอย ตองขยันหม่ันเพียร พยายามเอาใจใสในวิชาความรูที่ครูสอน ทั้งในเวลาเรียน และนอกเวลาเรียน ผูใดท่ีมีคุณธรรมในขอนี้ คือ วริ ยิ ะ หมายถึงความขยันหม่ันเพียร ก็จะมีความสําเร็จตามความประสงคในส่ิงนั้น ๆ อยางแนนอน ๓. จิตตะ คือ เอาใจฝก ใฝใ นสิ่งน้ันไมว างธรุ ะ (ไมวางธรุ ะ หมายถึง ไมทอดทิง้ งาน) ตัวอยางเชน เม่ือเรา มีความพอใจ มีความเพียรในการเรียนแลว เราตองตั้งใจใหม่ันคง เอาใจฝกใฝในการเรียน และวิชาการตาง ๆ ที่เรียนมาแลว และท่ียังไมไดเรียน ไมผัดวันประกันพรุงวาประเดี๋ยวคอยทํา หรือพรุงนี้คอยทําก็ได ไมทําทิ้ง ทาํ ขวา ง ทาํ บางไมท ําบา ง ใหเ กิดความเสอ่ื มเสยี ในงานน้ัน ๆ เราตอ งต้งั ใจใหม ่ันคง มีความอดทนขยันหมั่นเพียร วา จะตองทาํ งาน ชนิ้ นี้ ช้ินนั้นใหสําเร็จไปดวยดี ความสําเร็จเกิดข้ึนเพราะมีความพอใจ มีความเพียร มีใจฝกใฝ ในงาน และสิ่งน้ัน ๆ ผูใดมีคุณธรรมในขอน้ี คือจิตตะ หมายถึงมีใจฝกใฝ ไมวางธุระ ก็จะมีความสําเร็จตาม ความประสงคใ นสิ่งนั้น ๆ ๔. วิมังสา หมายถึง หม่ันตริตรองพิจารณาหาเหตุหาผลในสิ่งที่ทํา ตัวอยางเชน การที่จะศึกษาเรียนรู วิชาใด ๆ ลูกเสือตองใชสติปญญาพิจารณา ไตรตรองใหละเอียดถ่ีถวนดวยเหตุดวยผล วาวิชาท่ีกําลังจะเรียน มีประโยชนกับตนเอง สังคม ประเทศชาติบานเมืองอยางไร ตองรักและเอาใจใสในวิชาท่ีครูสอนทุกวิชา และ มีวริ ิยะ คอื ความขยนั หม่นั เพยี ร ท่จี ะเรียนรูวิชาน้ัน ๆ อยางไมยอทอตออุปสรรคใด ๆ มีความเพียรพยายามจะ แกไขปญหาท่ีเกิดข้ึนใหผานไปดวยดี และมีจิตตะ คือ ความต้ังใจม่ันเอาใจฝกใฝในวิชาน้ัน ๆ อยางไมวางธุระ ไมทิ้งกลางคัน และตองมีวิมังสา คือ หมั่นตริตรองพิจารณาหาเหตุผล วาถูกตอง เรียบรอย สมบูรณหรือไม ดว ยเหตดุ ว ยผลไมเ ขา ขา งตนเองวาถกู แลว ดแี ลว ลูกเสอื ท่ีประพฤติปฏิบัตติ ามคําสอนของพระผูมีพระภาคเจาได ดงั ทก่ี ลาวมาแลว น้ี ก็จะมีความสาํ เรจ็ ในการเรยี นตามความประสงคทุกคน อทิ ธบิ าท ๔ เปน ธรรมท่หี นนุ เน่อื งกนั จึงตอ งปฏบิ ัตใิ หครบทง้ั ๔ ประการ ก็จะสําเร็จประโยชนได ไมวา จะเปนงานในทางโลก หรือจะเปนการปฏิบัติธรรม ก็สามารถสําเร็จไดดวยคุณธรรมท้ัง ๔ ประการ น้ีคือ คณุ ธรรมของผูใ ฝเ รยี นรู 84 86

๕. อยูอยา งพอเพยี ง ความพอเพียง ตามแนวพระราชดําริในพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ คําวา “พอ” หมายถึง รับมา ตามท่ีตองการ คําวา “เพียง” หมายถึง รับมาเทาท่ีกําหนดไว ไมใหขาดไมใหเกิน ความพอเพียง หมายถึง รับไว เทาที่กําหนดไวไมขาดไมเกิน การที่จะมีความพอเพียงไดตองมีคุณธรรม ๒ ประการ คือ รูจักประมาณและมี ความสนั โดษ ๑. รจู กั ประมาณ หมายความวา รจู ักใชปจ จัย ๔ อยางมีขอบเขตไมเกินตัว ตัวอยางเชน รูจักประมาณ ในการรับประทานอาหาร รูจักประมาณในการใชเงิน รูจักประมาณในการแตงกาย รูจักประมาณในที่อยูอาศัย ไมทํากิจการใด ๆ ที่เกินตัว เชน รูจักประมาณในการรับประทานอาหาร หมายถึงรับประทานอาหารที่เปน ประโยชนต อรา งกาย และรบั ประทานแตพอดี ไมมากหรือไมนอยจนเกินไป ถามากหรือนอยเกินไปจะทําใหเกิด อาการทองเสียได รจู กั ประมาณในการใชเงนิ หมายถงึ การรูจกั ใช รจู ักจายในสงิ่ ทจี่ ําเปน ไมใชมากจนเกินฐานะ ของตน จะทําใหเกิดเปนหน้ี มีความเดือดรอน รูจักประมาณในการแตงกาย หมายถึง เสื้อผาเคร่ืองนุงหม แตงกายตามฐานะ ไมฟงุ เฟอเหอเหมิ ไมท ําตามสังคมนิยม รูจักประมาณในท่ีอยูอาศัยหมายถึง สรางท่ีอยูอาศัย ตามฐานะของตน ไมสรางบานใหญโตเกินฐานะเปนเหตุใหเดือดรอน ดังคําท่ีวา “นกนอยทํารังแตพอตัว” จะไมมี ความเดือดรอน รูจักประมาณในการทํามาหากิน หมายถึง ทํากิจการใด ๆ ไมใหเกินกําลังสติปญญา กําลังทรัพย และกาํ ลังกาย เพื่อไมใ หเ กิดความเดือดรอนภายหลงั น้ีคอื ผทู ี่รูจักประมาณ ๒. มีความสันโดษ หมายความวา มีความมักนอย พอใจในส่ิงมี ท่ีได ท่ีเปน พอใจในส่ิงท่ีมี เชน มีบาน เพียงหลังเดียวพออยูอาศัย มีที่ดินพอทํากิน มีรถพอที่จะอํานวยความสะดวกยามเจ็บไขไดปวย หรือมีไวใชใน ธุรกจิ บางอยาง การมีคูครองเพียงคนเดียวเทานี้ก็เพียงพอแลว ไมทะเยอทะยาน มักใหญใฝสูง อยากมีส่ิงตาง ๆ มากมายเกินกําลังทรัพย กําลังสติปญญา กําลังกาย มากจนทําใหเกิดทุกข หรือมียศถาบรรดาศักดิ์ มีตําแหนง หนาท่ีการงานหรือมีธุรกิจใด ๆ ก็จงพอใจในสิ่งที่มี และควรทําสิ่งท่ีมีอยูแลวนั้น ใหเจริญรุงเรืองยิ่ง ๆ ข้ึนไป โดยสุจริต ไมทุจริตตออาชีพ มีนอยก็ใชนอยอยาใหเกินรายไดท่ีมี มีมากก็ใชตามความจําเปน เหลือไวเพ่ือเปน ทุนตอไป ถึงแมใครจะมีมากกวาเรา ก็ไมคิดอิจฉาริษยา อนุโมทนาในบุญวาสนาในความเจริญรุงเรืองของทาน นีค้ อื ตัวอยางความพอเพยี งในสิ่งทีม่ ี ๓. พอใจในสิ่งที่ได หมายถึง การทํามาหากินท่ีมีรายไดประจําวัน ประจําเดือน ประจําป จะไดมาก หรือนอย ควรพอใจในส่ิงท่ีได รูจักประหยัดอดออม ใชจายแตส่ิงที่จําเปน ไมฟุงเฟอ เหอเหิม ทะเยอทะยาน มักใหญใฝสูง ใชจายเกินรายได รสนิยมสูงรายไดต่ํา มีรายไดนอยก็ใชจายนอย แตควรจะเหลือเก็บไวบาง เผ่ือวนั ขา งหนาจะไดมีใชจา ยเมือ่ ยามเจบ็ ไขไ ดปวย หรือถาหากมีมาก ก็ใชจายพอควร ตองมีสวนที่เหลือเก็บไวบาง ตองรูจักประมาณในการบริโภคทรัพย เม่ือทุกคนพอใจในสิ่งท่ีไดแลว ความโลภก็จะลดนอยลง การเบียดเบียน ปลน จี้ ลักทรัพย ทจุ รติ คดโกง ก็จะไมเกิดข้ึน ถาทุกคนพอใจในส่ิงที่ได ก็จะอยูรวมกันในสังคมอยางมีความสุข บานเมืองก็จะไมเดือดรอนวุนวาย นี้คือ ตัวอยางความพอเพียงในสิ่งที่ได ดังกลอนทานสุนทรภูกลาวไว (พอเพียง) ๔. พอใจในส่ิงท่ีเปน หมายถึง พอใจในอาชีพการงานของตน ตัวอยางเชน ขาราชการ หรือ นักการเมือง มียศระดับใดก็ตาม ก็พอใจในตําแหนงหนาที่นั้น ๆ ตั้งใจประพฤติปฏิบัติหนาที่ใหดีที่สุด มีความขยันหม่ันเพียร ซื่อสัตยสุจริตตอหนาที่ ไมทุจริต คดโกง ไมเบียดเบียนเวลาของราชการ เพ่ือหา ความสนุกสนานและหาประโยชนสวนตน เมื่อเราประกอบแตกรรมดี ความดีก็จะสงผลใหไดเลื่อน ยศถาบรรดาศักดิ์ตามลําดับ โดยไมตองว่ิงเตนเสียเงินเสียทอง ใหเกิดความเดือดรอนแกตนเองและผูอ่ืน ดังที่ ปรากฏแลวในปจ จบุ ัน 85 87

อกี ตวั อยา งหน่ึง เปนชาวไรชาวนา ก็พอใจในความเปนชาวไรชาวนา จะมีไรมีนามากหรือนอย ก็พอใจ ในส่ิงท่ีมี ทํามาหากินตามกําลังสติปญญา ตามกําลังทรัพย กําลังกาย มีความตั้งใจม่ัน มีความขยันหม่ันเพียร มีความอดทนตอความเหน่ือยยากลําบากกาย ไมมักใหญใฝสูง ไมเบียดเบียนกัน พอใจในส่ิงที่ได ที่มี ท่ีเปน ชาวไรชาวนากอ็ ยูรวมกันอยา งมคี วามสุข เปนพอคาแมคา ก็มีความพอใจในอาชีพคาขาย จะมีกิจการคาขายใหญนอยตางกันก็ตาม ตองมี ความซื่อสัตยตออาชีพการงานของตน ไมคากําไรเกินควร ไมเอาเปรียบผูบริโภค ไมโกงตาช่ัง ไมคาของเถื่อน ไมค า ยาเสพติด ไมข ายสงิ่ ผิดกฎหมาย ไมขายอาวุธ ถึงแมจะทําใหรํ่ารวยทรัพยสมบัติเงินทองมากเพียงใดก็ตาม กไ็ มยอมทุจรติ ตออาชีพของตน ถา ทาํ การคา ขายโดยสจุ ริต ไมผิดกฎหมาย แมไดกําไรมากหรือนอยก็พอใจ รูจัก กนิ รูจักใช รูจักประหยัดอดออมใหเหมาะสมกับรายได ก็จะมีความสุขกับการเปนพอคา ไมสรางความเดือดรอน ใหกับตนเองและผูอื่น รวมทงั้ สังคมประเทศชาติบานเมือง น้ีคือ ความพอเพียง เพราะมีคณุ ธรรม ๒ ประการ คอื ๑. รจู ักประมาณ ๒. มีความสันโดษ สว นผูใดจะมีคุณธรรมมากกวาน้ี ก็ขออนุโมทนา น้ีคือ ความพอใจในสิ่งที่มี ที่ได ท่ีเปน ผูใดมีคุณธรรม เหลานี้จะมีความเปนอยูอยางพอเพียง มีความสุขตามแนวพระราชดําริในพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ ประเทศชาตบิ านเมืองกจ็ ะรมเย็นเปน สขุ และมีความเจรญิ รุงเรือง ผูใดมีคุณธรรมท้ัง ๒ ประการน้ี คือ รูจักประมาณ มีความสันโดษ จะมีชีวิตอยูอยางพอเพียง มี ความสุขสบายตามอัตภาพ ไมเดือดรอน แตถาผูใดไมมีคุณธรรมทั้ง ๒ ประการน้ี ไมรูจักประมาณและไมมี ความสันโดษ จะมคี วามเปนอยูอยา งไมพอเพยี ง จะมีแตความทกุ ข ความเดือดรอนวุนวายตลอดเวลา ๖. มงุ มน่ั ในการทาํ งาน ความมุงมั่นในการทํางาน หมายถึง มีความต้ังใจมั่นในการทํางานใหสําเร็จลุลวงไปดวยดี ผูท่ีจะมี ความมุงม่ันในการทํางานไดน้ัน จะตองมีคุณธรรมประจํากาย วาจา ใจ คือ พละ ๕ หมายถึง กําลังธรรมทั้ง ๕ ท่ีช่ือวา พละ เพราะเม่ือใจมีคุณธรรมท้ัง ๕ น้ีเปนกําลังแลว ยอมเขมแข็งในการทํางาน และทําความดีตาง ๆ ตามทต่ี นปรารถนา ประกอบดว ย ศรทั ธา วริ ิยะ สติ สมาธิ และปญ ญา ๑. ศรัทธา คือ ความเชื่อ หมายถึง เชื่อในสิ่งท่ีควรเช่ือ เปนความเชื่อท่ีเกิดจากสติปญญา เพราะรูเหตุ รูผ ล วาเหตุใด คิด พดู ทํา แลว สงผลใหเกิดทุกข เหตุใด คิด พูด ทํา แลวสงผลใหเกิดสุข ไมเช่ือตามคําบอกเลา ของผูอื่น ไมเช่ืออะไรงาย ๆ โดยที่ยังไมไดพิจารณาใครครวญใหดีเสียกอน เชื่อเรื่องกฎแหงกรรม เชื่อวาทําดี ไดดี ทําช่ัวไดช่ัว เชื่อผลของกรรม เชื่อวาบุคคลท่ีไดรับความสุขหรือไดรับความทุกขก็เปนเพราะกรรมดี หรือ กรรมช่ัวของแตละบุคคล เช่ือวามนุษยและสัตวมีกรรมเปนของตน เช่ือพระปญญาตรัสรูของพระพุทธเจา วาประเสริฐสุดกวาส่งิ ใดในโลกน้ี นคี้ อื ศรัทธาความเชอ่ื ทถี่ ูกตอง เปน เหตใุ หเ กิดพลงั สติปญญา และเปนกําลังใจ ใหท ํางานสําเรจ็ ลุลว งไปดวยดี ผูท่ีไมมีศรัทธา หมายถึง ไมเชื่อในคําสอนของพระพุทธองค วาทําดี ไดดี ไมเชื่อวาชาติกอน ชาติน้ี ชาตหิ นา มจี ริง ไมเชือ่ เร่อื งกฎแหงกรรม ไมเ ช่ือวาเรามกี รรมเปนของตน มีกรรมเปนผูใหผล มีกรรมเปนแดนเกิด มีกรรมเปนผูติดตาม มีกรรมเปนท่ีพ่ึงอาศัย ผูที่ไมเช่ือในคําสอนของพระพุทธองค จะไมกลัวบาป กลัวโทษ สามารถทําชั่วไดทุกอยาง เชน ฆาสัตว ลักทรัพย ประพฤติผิดในกาม พูดปด หลอกลวง ด่ืมสุรา เสพยาเสพติด เลน การพนนั ทจุ ริตคดโกง ทาํ สิง่ ท่ผี ิดกฎหมาย ผดิ ครรลองคลองธรรม ผิดวัฒนธรรม จารีตประเพณี และอื่น ๆ ไดท ุกอยา ง นีค้ อื ผูทไ่ี มม ีศรทั ธา ไมเ ช่ือในคําสอนของพระพทุ ธเจา 86 88

๒. วิริยะ คือ ความเพียร หมายถึง ความเพียรพยายาม กลาที่จะลงมือทํางานตามท่ีตนเองชอบ ทําดวย ความมานะบากบั่น ไมยอทอตอปญหาอุปสรรคใด ๆ ที่เผชิญ ทําดวยใจท่ีรูสึกสนุกกับงาน แมจะมีอุปสรรค กพ็ ยายามแกไ ข โดยไมย อมแพ ทาํ เร่อื ยไปจนกวาจะพบกับความสําเร็จ ผูท่ีไมมีความเพียรพยายาม หมายถึง ผูที่ไมกลาจะลงมือทํางาน เพราะความเกียจคราน ไมมี ความอดทน ขยันหมั่นเพียร มีแตความทอถอยตอปญหาที่เกิดขึ้น ยอมพายแพตออุปสรรคตาง ๆ จึงไมมี ความสําเร็จในการทํางานใด ๆ ๓. สติ คือ ความระลึกได หมายถึง ระลึกรูอยูตลอดเวลาวา ขณะนี้กําลังคิดอะไร กําลังพูดอะไร กําลัง ทําอะไร เชน ครูท่ีกําลังสอนลูกเสือในวิชาใดวิชาหน่ึง ก็ตองใชสติระลึกรูอยูตลอดเวลา วาครูจะตองนําวิชา ความรูตาง ๆ มาสอนและถายทอดใหลูกเสือ ตองใชสติควบคุมจิตใหอยูกับเร่ืองราวที่กําลังสอน เพื่อใหลูกเสือ เขาใจและมีความรูตามในเร่ืองนั้น ๆ ครูทานใดที่มีสติควบคุมจิตในขณะที่ทําการสอน จะทําใหลูกเสือมีความรู ความฉลาดเพิม่ ขน้ึ เปนเหตุใหเ กิดพลงั และมีความมุง มัน่ ทําใหก ารสอนของครูน้นั สาํ เรจ็ ลลุ ว งไปดว ยดี สวนครูที่ขาดสติ เหมอลอย ระลึกไมได ขณะท่ีทําการสอนวิชาใดวิชาหนึ่ง ทําใหการสอนวิชาน้ัน คลาดเคลื่อนจากความเปนจริง เปนเหตุใหลูกเสือไมไดรับความรู ความฉลาดจากครู นี้คือ ครูที่ขาดสติ เด็กลูกเสือก็เชนกัน ตองมีสติระลึกรูวาครูกําลังสอนเร่ืองอะไร ก็จะจําไดและเขาใจเปนอยางดี ขณะที่เด็ก ขาดสติระลึกไมไ ดว ากําลงั เรียน แตก ลบั เลน ไมสนใจในวิชาท่ีครสู อน ทาํ ใหไ มมีความรูใ นวิชานั้น ๔. สมาธิ คือ ความตั้งใจมั่น หมายถึง ใชสติควบคุมจิตใหคิดอยางเดียว ต้ังใจม่ันจดจออยูกับงาน ท่ีกําลังทํา หรือทําดวยความต้ังใจ งานน้ันยอมสําเร็จไดโดยงาย แตถาขาดสมาธิ คือ ไมแนวแน ลังเล สองจิต สองใจ ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นไดโดยงาย สมาธิจึงเปนกําลังของใจใหมีความต้ังใจม่ันในการทํางานใหเปนไป โดยสมํา่ เสมอจนกวาจะสาํ เรจ็ เพราะใจมสี มาธติ ้ังม่ันในการทํางาน จิตไมฟ ุง ซา น ๕. ปญญา คอื ความรอบรู หมายถงึ ความรอบรทู ้ังทางโลกและทางธรรม ในส่ิงที่ควรรู เชน รูเหตุ รูผล รูวา เหตุใดทาํ แลว เกิดทกุ ข รูว าเหตใุ ดทําแลวเกดิ สุข ผูมีสติปญญากจ็ ะเลือกทาํ แตสิ่งที่เกิดสุข หลีกเล่ียงเหตุท่ีทํา ใหเกิดทุกข และยังไดศึกษาหาความรูเพิ่มเติมจากคําสอนของพระผูมีพระภาคเจา เพื่อใหเกิดปญญามากขึ้น เปนพลงั สง เสริมใหม คี วามมงุ มั่นในการทาํ งานใหส ําเรจ็ ลุลว งไปดว ยดี เพราะมีปญ ญา ผูท่ีไมมีปญญา หมายถึง ผูที่ไมรอบรูท้ังทางโลกและทางธรรม เปนเหตุใหทําในสิ่งท่ีผิดกฎหมาย ผิดครรลองคลองธรรม ผิดวัฒนธรรม และจารีตประเพณี สรางความเดือดรอนใหกับตนเองและผูอ่ืน เชน ฆาสัตว ลักทรัพย ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดสอเสียด พูดคําหยาบ พูดเพอเจอ ดื่มสุรา เสพยาเสพติด เปนตน เพราะขาดสติ สัมปชัญญะ ขาดหิริ โอตตัปปะ สามารถทําความช่ัวได ท้ังกาย วาจา ใจ เพราะไมมี ปญญาที่จะพิจารณาไดวาอะไรผิด อะไรถูก อะไรชั่ว อะไรดี เปนเหตุใหเกิดความผิดพลาดในการทํางาน นาํ ความเสือ่ มเสยี มาใหตนเองและผอู ่ืน รวมทัง้ สังคมประเทศชาตบิ า นเมอื ง ผูท่ีมคี ุณธรรมทงั้ ๕ ขอน้ี จะมีพลงั กาย พลังใจ สงเสริมใหทําการงานใด ๆ ก็สําเร็จตามความปรารถนา ทุกประการ และยังสงเสริมใหเปนผูท่ีมีความคิดดี พูดดี ทําดี เปนคนดีของสังคมและประเทศชาติบานเมือง ตอ ไป น้ีคอื คณุ ธรรมทเี่ ปน กําลงั สงเสรมิ ใหผูท ี่มคี วามมงุ มั่นในการทํางาน ใหส าํ เรจ็ ลุลว งไปดวยดี ๗. รกั ความเปนไทย รักความเปนไทย หมายถึง รักแผนดินไทย รักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริยทรงเปนประมุข รักพระพุทธศาสนาอันเปนศาสนาประจําชาติ รักพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ รักพระบรมราชินีนาถฯ และรักพระบรมวงศานุวงศทุกพระองค รักวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี ของไทย รักเผาพนั ธุความเปน ไทย 87 89


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook