ริเริม่ สร้างสรรค์ หลักวิชาการและมี หลกั วชิ าการและมี หลักวชิ าการแตย่ งั ข้อบกพรอ่ งและ แนวคิดแปลกใหม่ แนวคดิ แปลกใหม่ ไม่มแี นวคิด ไม่มีแนวคิด และเป็นระบบ แตย่ ังไม่เป็นระบบ แปลกใหม่ แปลกใหม่ ๔.เนอ้ื หาสาระ เนอ้ื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ ของผลงานมี ผลงานครบถ้วน ผลงานครบถ้วน ความสมบูรณ์ ทกุ ประเดน็ เป็นส่วนใหญ่ ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่ ๕.วิธีการนําเสนอ มวี ธิ กี ารนําเสนอ มีวิธีการนําเสนอ มีวิธกี ารนาํ เสนอ มีวธิ ีการนาํ เสนอ ผลงานกลมุ่ ผลงานท่นี ่าสนใจ ผลงานท่นี ่าสนใจ ผลงานทน่ี ่าสนใจ ผลงานไม่น่าสนใจ พูดเสยี งดงั ออก พูดเสียงดังออก พูดเสยี งดังออก พดู เสียงเบาออก เสียงอกั ขระชดั เจน เสยี งอกั ขระชดั เจน เสียงอักขระ เสียงอักขระ คล่องแคลว่ แตไ่ มค่ ล่องแคลว่ ไม่ชัดเจนและ ไมช่ ดั เจนและ ไมค่ ลอ่ งแคล่ว ไม่คล่องแคล่ว ชอ่ื วิชา ลูกเสือกบั การมสี ว่ นร่วมในระบอบประชาธิปไตย (ภาคทฤษฎ)ี บทเรยี นที่ ๘ เวลา ๖๐ นาที ขอบขา่ ยรายวชิ า ความสาํ คัญของการมสี ่วนร่วม ประโยชน์ของการมีสว่ นรว่ ม และแนวทางการมีส่วนร่วม จุดหมาย เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีความรู้ ความเข้าใจในหลักการมีส่วนร่วม และสามารถนําไปใช้ใน การฝกึ อบรมลกู เสอื ประชาธปิ ไตยได้ วัตถปุ ระสงค์ เม่ือจบบทเรียนน้ีแล้วผู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมสามารถ ๑. บอกความหมายและหลกั การสําคัญของการมสี ว่ นร่วมได้ ๒. นําหลักการมสี ่วนร่วมไปใช้ในการฝึกอบรมลกู เสือประชาธิปไตยได้ ๗๗ คูม่ ือการฝึกอบรมหลักสตู รลกู เสือประชาธปิ ไตย
วิธสี อน/กิจกรรม ภาคทฤษฎี (๖๐ นาที) ๑. บรรยายนําความสําคัญของการมีส่วนร่วม ประโยชน์ และแนวทางการมีส่วนร่วมภาคประชาชนใน ระบอบประชาธิปไตย ๒. เกมหรอื เพลงท่เี ก่ียวกับการมสี ว่ นร่วม สื่อการสอน ๑. วดิ ที ศั น์ ๒. แผนภมู ิ ๓. เพลง เกม ๔. ใบความรทู้ ี่ ๘.๑ เรอ่ื ง การมสี ่วนร่วม ๕. ใบความร้ทู ่ี ๘.๒ เรอ่ื ง การมีส่วนร่วมของประชาชนในการเลอื กตั้ง (ผสู้ มคั ร ) ๖. ใบงานที่ ๘.๒ เรอ่ื ง การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการเลอื กต้งั (ผูส้ มคั ร ) ๗. ตารางใบงานท่ี ๘.๒ เร่อื ง การมีสว่ นร่วมของประชาชนในการเลือกตัง้ (ผสู้ มัคร ) การประเมนิ ผล ๑. วิธกี ารวดั ผล : สังเกตพฤติกรรม ประเมนิ ความรู้ ประเมินผลงาน ๒. เครอ่ื งมอื วดั ผล : แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ ความรู้ แบบประเมินผลงานกลุ่ม ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล : ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ เอกสารอา้ งองิ /แหลง่ ขอ้ มลู ๑. รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ ๒. เวบ็ ไซต์รัฐสภา 30www.parliament.go.th H ๓. เวบ็ ไซต์สาํ นกั งานคณะกรรมการการเลอื กตัง้ 31www.ect.go.th H ๔. เวบ็ ไซตส์ ํานักงานลกู เสือแหง่ ชาติ 32www.scoutthailand.org H ๕. เว็บไซต์สํานักการลูกเสอื ยุวกาชาด และกิจการนกั เรียน 33www.bureausrs.org H ๖. เวบ็ ไซต์สถาบนั พระปกเกลา้ www.kpi.ac.th เนือ้ หาวิชา ๑. การมีส่วนรว่ ม ๒. การมีสว่ นรว่ มของประชาชนในการเลอื กตง้ั (ผู้สมคั ร) ๗๘ คมู่ ือการฝึกอบรมหลักสูตรลกู เสือประชาธิปไตย
ใบความรู้ท่ี ๘.๑ เรือ่ ง การมสี ่วนรว่ ม ๑. ความสาํ คญั และประโยชนข์ องการมสี ่วนรว่ ม เจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนูญ ตอ้ งการปฏริ ปู การเมืองไปสู่สังคมประชาธปิ ไตยทแี่ ทจ้ รงิ ดังน้ัน สาระสาํ คัญของรฐั ธรรมนญู จงึ มีผลกระทบตอ่ วิถีชีวติ ของประชาชนทุกคน โดยสรปุ ดงั น้ี ๑. ส่งเสรมิ คุ้มครองสทิ ธิ เสรภี าพของประชาชน ๒. ใหป้ ระชาชนมสี ่วนร่วมทางการเมือง ๓. มีการตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐ ปรบั ปรงุ โครงสรา้ งทางการเมอื งให้มีเสถยี รภาพ และมี ประสิทธิภาพ ๗๙ คู่มือการฝกึ อบรมหลกั สตู รลกู เสือประชาธปิ ไตย
สิทธิ คือ ผลประโยชน์หรืออํานาจอันชอบธรรมท่ีกฎหมายรับรอง คุ้มครองให้มีท้ังสิทธิเอกชน (สว่ นบุคคล) และสิทธมิ หาชน (สาธารณะ) เสรีภาพ คือ สิทธิท่ีจะทําหรือไม่ทําอะไรก็ได้โดยไม่ละเมิดสิทธิผู้อ่ืน ดังน้ันเสรีภาพที่กฎหมายรับรอง จงึ เปน็ สทิ ธิ สิทธิชุมชน ท่ีประชาชนมีสิทธิตามกฎหมาย ได้แก่ การจัดการท้องถิ่น การจัดการสิ่งแวดล้อม การประชาพจิ ารณ์ เปน็ ตน้ สิทธิในการดํารงชีวิต ทุกคนมีสิทธิที่จะดํารงชีวิตได้โดยอิสระตามกฎหมายกําหนด สิทธิดังกล่าวน้ัน ประกอบดว้ ย สทิ ธทิ จี่ ะได้รบั การศกึ ษา การรบั ขอ้ มลู ขา่ วสาร และการฟอ้ งหน่วยราชการ ฯลฯ การมีส่วนร่วมของประชาชนคือ การให้โอกาสประชาชนเป็นฝ่ายตัดสินใจกําหนดปัญหา ความต้องการของตนเองอย่างแท้จริง เป็นการเสริมพลังอํานาจให้แก่ประชาชน/กลุ่มองค์กรชุมชนให้สามารถ ระดมขีดความสามารถในการจัดการทรัพยากร การตัดสินใจ และการควบคุมดูแลกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน มากกว่าท่ีจะเป็นฝ่ายต้ังรับ สามารถกําหนดการดํารงชีวิตได้ด้วยตนเอง ให้มีความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึน ตาม ความจําเป็นอย่างมีศักด์ิศรีและสามารถพัฒนาศักยภาพของประชาชน/ชุมชนในด้านภูมิปัญญา ทักษะ ความรู้ ความสามารถ การจัดการ และรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของโลกได้ และประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมใน กระบวนการอย่างมีอิสระ การทํางานต้องเน้นในรูปกลุ่มหรือองค์กรชุมชนที่มีวัตถุประสงค์ในการเข้าร่วมอย่าง ชดั เจน เน่อื งจากพลงั กลุม่ จะเปน็ ปัจจัยสําคญั ทที่ ําใหง้ านพฒั นาตา่ ง ๆ บรรลุสําเรจ็ ตามความม่งุ หมายได้ ๒. ประโยชนข์ องการมสี ่วนร่วม ๑. เพิม่ คุณภาพในการตดั สินใจ (ตรงตามความตอ้ งการ) ๒. สรา้ งฉนั ทามติ (ลดความขดั แยง้ ) ๓. เพ่มิ ความงา่ ยตอ่ การนําไปปฏิบตั ิ (ความเปน็ เจา้ ของร่วม) ๔. ดํารงไว้ซ่งึ ความนา่ เชื่อถือ/ชอบธรรม ทาํ ไมประชาชนตอ้ งเขา้ มามสี ว่ นร่วม ๑. ประชาชนมีความรู้ ความสามารถ ๒. เพื่อแกป้ ญั หาสังคม “ปญั หาของเรา” ๓. เพ่ือสรา้ งความสมั พนั ธ์ที่ดใี นชมุ ชน ๔. เพือ่ สร้างผนู้ ําในอนาคต ๕. สรา้ งแนวในการแกป้ ญั หาร่วมกนั การเมืองภาคพลเมือง การเมืองภาคพลเมอื ง หมายถงึ การมสี ่วนร่วมของประชาชนในฐานะทีเ่ ปน็ พลเมอื งในเร่ืองต่อไปนี้ ๑. การมีส่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายเพ่ือสร้างความยตุ ธิ รรมให้เกดิ ขนึ้ ในสงั คม ๒. การมีสว่ นร่วมในการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตผุ ลในเร่อื งเกยี่ วกับสาธารณชนและชมุ ชน ๓. การมสี ว่ นรว่ มในการดําเนินกจิ กรรมของกลมุ่ และของชุมชนในฐานะสมาชกิ หรือผู้นาํ ๔. การมีส่วนรว่ มในการแกไ้ ขปญั หาหรอื ความขัดแยง้ โดยสันตวิ ธิ ีและมคี วามรบั ผิดชอบ ๕. การปฏิบตั ติ นต่อผู้อน่ื ในสถานทที่ ํางานด้วยความยตุ ธิ รรมท้ังในฐานะนายจา้ ง ลกู จ้าง และเพอ่ื น ๘๐ ค่มู ือการฝกึ อบรมหลกั สตู รลกู เสอื ประชาธิปไตย
ร่วมงาน การที่จะทําให้การเมืองภาคพลเมืองเกิดผลสําเร็จน้ัน ข้ึนอยู่กับปัจจัยสําคัญ คือ การมีวิถีชีวิตแบบ ประชาธปิ ไตยของบุคคล ซง่ึ ประกอบดว้ ยพฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก ๓ ลกั ษณะ ดังน้ี ๑. คารวะธรรม - เคารพในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ - เคารพซงึ่ กนั และกนั ทางกาย - เคารพทางวาจา - เคารพในสทิ ธขิ องผูอ้ น่ื - เคารพในความคดิ เหน็ ของผู้อืน่ - เคารพในกฎ ระเบยี บของสงั คม - มเี สรภี าพและใชเ้ สรีภาพในขอบเขต ๒. สามคั คีธรรม - รจู้ กั ประสานประโยชนโ์ ดยถือประโยชนข์ องสว่ นรวมหรือของชาติเปน็ ที่ตัง้ - รว่ มมอื กนั ในการทํางาน - เหน็ แก่ประโยชนส์ ว่ นรวม - รบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ - มนี ํา้ หนง่ึ ใจเดียว รักหมูค่ ณะ ช่วยเหลอื เกื้อกลู กนั ๓. ปัญญาธรรม - การไมถ่ อื ตนเปน็ ใหญ่ - เนน้ การใช้ปัญญา ใชเ้ หตผุ ล และความถกู ตอ้ งในการตดั สินปญั หา - เมอ่ื มปี ญั หาโต้แย้ง ตอ้ งพยายามใช้เหตผุ ลใหเ้ หน็ คลอ้ ยตาม วธิ สี ดุ ท้ายคอื การออกเสียงหรอื ใชเ้ สยี งขา้ งมาก - เมอื่ ไดร้ บั ขา่ วสารขอ้ มูลแล้ว วิเคราะหป์ ระมวลเหตุการณต์ า่ ง ๆ ดว้ ยสตปิ ัญญา แนวทางการมสี ว่ นร่วม ๑. สนใจติดตามขอ้ มลู ขา่ วสารด้านการเมอื ง ๒. ตดิ ตาม ตรวจสอบการทาํ งานและพฤติกรรมของนักการเมือง ๓. สนับสนุนผสู้ มคั รและพรรคการเมอื งท่ดี ี ๔. ต่อต้านนักการเมืองท่ีไมด่ ี ๕. ให้ความรว่ มมอื กบั ทางราชการในการพัฒนาประเทศ เชน่ เสยี ภาษี ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏบิ ตั ิ ตนเปน็ พลเมอื งดี ๖. คัดค้านนโยบายท่ีก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่ส่วนรวม โดย - ศกึ ษาขอ้ เทจ็ จริงใหถ้ ่ีถ้วน - นาํ เสนอปญั หาให้หน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องทราบ - ชมุ นมุ คัดค้านโดยไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผู้อนื่ ๗. ร่วมกันปกปอ้ งสทิ ธขิ องตนไม่ใหถ้ กู ละเมิด ๘๑ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลักสูตรลูกเสือประชาธปิ ไตย
๘. เผยแพร่ความรู้ ความเขา้ ใจทถี่ ูกต้องทางการเมอื ง การเมอื งภาคตวั แทน การเมืองภาคตัวแทน หมายถึง การปกครองท่ีไม่ได้ให้ประชาชนกําหนดนโยบายของรัฐได้โดยตรง แต่ประชาชนจะมอบอาํ นาจดว้ ยการเลอื กตัวแทนไปใชอ้ าํ นาจแทน มีข้อเสียคือ เนื่องจากประชาชนไม่ได้กําหนดนโยบายของรัฐโดยตรง ดังน้ันตัวแทนอาจบิดเบือนไม่ได้ใช้ อํานาจตามเจตนารมณ์ของประชาชน แต่มีข้อดีตรงท่ีประชาชนไม่ต้องยุ่งยาก และข้อดีท่ีสําคัญที่สุดคือ หากให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจนโยบายของรัฐในบางเร่ืองท่ีประชาชนไม่มีความรู้ ความเข้าใจที่เพียงพอ อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากได้ ดังนั้น การให้ประชาชนพิจารณาเลือกคนดีท่ีมีความรู้ดีในเร่ือง น้นั ๆ ไปตดั สนิ ใจแทนน่าจะประสบผลดีกวา่ สําหรับการเมืองภาคตัวแทนในประเทศไทย ได้กําหนดให้ประชาชนเลือกฝ่ายนิติบัญญัติแล้วให้ ฝ่ายนิติบัญญัติเลือกฝ่ายบริหาร ดังน้ัน ระบบน้ีจะมีการคานอํานาจถ่วงดุลกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและ ฝ่ายบริหาร และท่ีเรียกว่าประชาธิปไตยทางอ้อมระบบรัฐสภาก็เพราะว่า กําหนดให้รัฐสภา (ฝ่ายนิติบัญญัติ) มีอํานาจมากกว่าฝ่ายบริหาร กล่าวคือ รัฐสภาเป็นผู้เลือกและตรวจสอบฝ่ายบริหาร รวมถึงสามารถปลด ฝ่ายบริหารออกได้ (ด้วยการเปิดอภิปรายท่ัวไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ) แต่ก็ให้ฝ่ายบริหารคานอํานาจ ฝ่ายนติ บิ ัญญตั ิได้ด้วยการยุบฝา่ ยนิตบิ ัญญตั ิ (ยุบสภาฯ) แต่มผี ลใหฝ้ ่ายบริหารต้องพน้ จากตําแหนง่ ไปดว้ ย การมสี ว่ นร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง การเลือกต้ัง ส.ส. และ ส.ว. รวมทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นสิทธิและหน้าท่ีของประชาชน การเลือกตั้ง จะบรรลเุ ปา้ หมายของการคัดเลือกตวั แทนของประชาชนเข้าไปออกกฎหมายและเข้าไปบริหารประเทศ รวมทั้ง การกล่ันกรองกฎหมายหรือข้อบัญญัติท้องถ่ินก็ต่อเมื่อประชาชนเข้าใจการเมือง และเข้าใจว่าการเลือกต้ังที่ ทุจริตคือบ่อเกิดของการฉ้อราษฎร์บังหลวง ดังน้ันประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในการเลือกต้ังและถือว่าเป็น หนา้ ทที่ ่ีจะตอ้ งชว่ ยกนั ทาํ ใหก้ ารเลือกตั้งสจุ ริตและเท่ียงธรรม เพื่อใหค้ นดี เขา้ ไปพัฒนาท้องถิน่ และประเทศ ประชาชนมีสว่ นร่วมไดด้ ังนี้ ๑. สมคั รเปน็ สมาชิกพรรคการเมอื ง ๒. สอดส่องดูแลการเลือกตั้ง คอยแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ เมื่อพบเบาะแสการทุจริต และการซ้ือสทิ ธขิ ายเสียง ๓. ไปใช้สทิ ธเิ ลือกต้ังโดยพร้อมเพรยี งกัน ๔. สําหรับผู้ท่ีต้องการตรวจสอบการเลือกตั้ง สามารถทําได้โดยเข้าไปเป็นสมาชิก หรืออาสาสมัคร ขององค์การเอกชนทีค่ ณะกรรมการการเลือกต้งั รบั รอง และสนับสนุนใหต้ รวจสอบการเลอื กตัง้ ๕. สําหรับผู้ที่ต้องการจัดการเลือกต้ัง อาจเข้ามามีส่วนร่วมโดยการเป็นกรรมการการเลือกต้ังประจํา จังหวัด กรรมการการเลือกต้ังประจําเขตเลือกต้ัง กรรมการการเลือกต้ังประจําองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กรรมการประจําหนว่ ยเลอื กตัง้ (กปน.) หรอื กรรมการนับคะแนนเลือกต้ัง (กนค.) ทั้งน้ี ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ท่ี คณะกรรมการการเลือกตง้ั กําหนด การมสี ่วนร่วมของประชาชนในการเลอื กตั้ง ก่อนการเลอื กต้งั ระหว่างการเลอื กตงั้ หลังการเลอื กตง้ั ๑. สนใจ แสวงหา ติดตามข่าว ๑. ตรวจสอบการหาเสยี งของ ๑. ตดิ ตามผลการเลือกตั้ง ๘๒ ค่มู ือการฝกึ อบรมหลกั สตู รลูกเสอื ประชาธิปไตย
การเลอื กต้งั ผสู้ มคั ร ๒. สนทนาแลกเปลยี่ นความรู้ ๒. ตดิ ตามการหาเสียงของ ๒. ตดิ ตามการจัดตัง้ คณะทาํ งาน ความเข้าใจประเด็นต่างๆ ใน ผูส้ มัคร เร่อื งการเลือกต้ัง ๓. รวมกลมุ่ ผู้สนใจมสี ว่ นร่วม ๓. ชักชวนให้ประชาชนไป ๓. อภปิ รายการทํางานของ การเลอื กตั้ง เลือกต้ัง คณะกรรมการตา่ งๆ ๔. รณรงค์เผยแพรใ่ ห้พอ่ แม่ ญาติ ๔. สังเกตการณ์ทจุ ริตการเลอื กต้ัง ๔. ติดตามตรวจสอบการทํางาน พ่ีนอ้ ง เพื่อนบา้ นใหม้ คี วามรู้ ของผู้แทน (ส.อบต./นายกฯ) และเห็นความสําคัญของ การเลือกต้ัง ๕. สมัครเป็นอาสาสมัคร หรอื ๕. ใชส้ ิทธิการลงคะแนน ๕. สนบั สนุนชว่ ยเหลอื ในการให้ สมาชิกพรรคการเมอื ง ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ปัญหา ความเดอื ดรอ้ นให้ผู้แทน (ส.อบต./นายกฯ) ๖. สมคั รเปน็ อาสาประชาธิปไตย ๖. รว่ มเปน็ กรรมการประจาํ หน่วย ๖. เข้ารว่ มเป็นกรรมการต่าง ๆ ตามทไ่ี ด้รับการรอ้ งขอ ๗. สมคั รเป็นอาสาสมคั ร ๗. สมคั รเป็นอาสาสมคั รของ ๗. แสดงพลังกลุ่มในการถอดถอน การเลอื กต้งั องคก์ ารเอกชนท่ตี รวจสอบ ผู้แทนทพ่ี บวา่ มีพฤตกิ รรมท่ี การเลือกต้งั กระทําผดิ ศีลธรรมและ กฎหมาย ๘. ตรวจรายช่ือของตนเองและ ๘. ติดตามการนับคะแนน ครอบครัว ๙. ไมท่ ําผดิ กฎหมายเลือกตงั้ เช่น ไมซ่ อื้ สทิ ธ-ิ ขายเสียง การมสี ่วนร่วมทางการเมอื งของประชาชน มีหลายระดบั ดงั น้ี ๑. ตดิ ตามขา่ วสารบา้ นเมอื ง ๒. ไปใช้สิทธเิ ลอื กตง้ั ๓. ริเร่มิ พดู คุยประเดน็ การเมอื ง ๔. ชักจงู รณรงคใ์ ห้ผอู้ น่ื สนับสนนุ บคุ คลและพรรคการเมืองท่ตี นสนบั สนุน ๕. เสนอแนวคิด นโยบายตอ่ นักการเมอื งและผู้นาํ ทางการเมอื ง ๖. บรจิ าคเงนิ สนับสนุนกจิ กรรมทางการเมือง ๗. ร่วมประชมุ รณรงคใ์ นการเคลื่อนไหวทางการเมอื ง ๘. เปน็ สมาชิกระดบั แกนนาํ พรรคการเมอื ง ๙. ร่วมระดมทนุ ๑๐. เสนอตัว เปน็ ผู้สมคั รรับเลือกตงั้ ๑๑. ดํารงตาํ แหนง่ ทางการเมอื ง ๘๓ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลกู เสอื ประชาธิปไตย
ใบความรูท้ ี่ ๘.๒ เรอ่ื ง การมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการเลอื กตง้ั (ผู้สมคั ร ) การเลอื กตั้งในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นระบอบการปกครองท่ีกล่าว กันว่า เป็นการปกครองท่ีมาจากประชาชน โดยประชาชน และเพ่ือประชาชน ซ่ึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อํานาจในการปกครองสูงสุดเป็นของประชาชน ดังนั้น ประชาชนทุกคนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครอง ตนเอง แต่ประชาชนจํานวนมากไม่อาจเป็นผู้ปกครองดังกล่าวได้ จึงกําหนดให้มีการเลือกตั้งตัวแทนของตน ซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์สําคัญของระบอบประชาธิปไตยไปแล้ว ทั้ง ๆ ท่ีโดยข้อเท็จจริงการเลือกต้ังเป็นเพียง ส่วนหนึง่ ของระบอบประชาธิปไตยเทา่ นัน้ และมอี งคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเปน็ ประมุขของประเทศ ความหมายของการเลือกตงั้ ในระบอบประชาธปิ ไตย การเลือกตั้ง คือ การท่ีราษฎรใช้สิทธิของตนเองลงคะแนนเสียงเลือกต้ังตัวแทน เพื่อทําหน้าที่แทนตนใน การปกครองแต่ระดับของประเทศ แม้มีการเลือกตั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่า มีการปกครองในระบอบ ๘๔ คมู่ ือการฝึกอบรมหลกั สูตรลกู เสอื ประชาธิปไตย
ประชาธิปไตย เพราะการเลือกต้ังในความหมายท่ีกล่าวมาข้างต้นนั้น ในประเทศท่ีมีการปกครองระบอบอ่ืนก็มี กจิ กรรมลักษณะดังกลา่ วเชน่ นี้ การเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยนั้น ต้องเป็นการเลือกต้ังโดยเสรี คือ ต้องเปิดกว้าง ให้อิสระใน การตัดสินใจท้ังในแง่ของผู้สมัครและผู้ออกเสียง ท้ังที่จะต้องเป็นไปโดยบริสุทธ์ิและยุติธรรม ไม่มีการช้ีนํา หรือ บังคับให้เลอื ก ความสาํ คญั ของการเลือกต้งั ประชาชนเป็นผู้มีอํานาจในการปกครองประเทศ แต่ในสภาพสังคมปัจจุบันย่อมเป็นไปไม่ได้ท่ีประชาชน ทุกคนจะทําหน้าที่ปกครองประเทศพร้อม ๆ กัน จึงมีความจําเป็นต้องเลือกผู้แทนของตนเข้าไปทําหน้าท่ีแทน ดงั นัน้ การเลอื กตง้ั จงึ เปน็ การแสดงเจตนารมณข์ องประชาชนในการเลือกตั้งตัวแทน เพื่อทําหน้าท่ีแทนตน และ ประชาชนสามารถเปล่ียนผู้แทนซ่ึงใช้อํานาจแทนตนได้ โดยเลือกผู้ท่ีตนเห็นว่าจะสามารถใช้อํานาจควบคุม กาํ หนดนโยบายและกฎหมายท่ีเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ตามแนวทางท่ีตนต้องการและไม่กระทบสิทธิพ้ืนฐาน ของประชาชนโดยรวม โดยใช้นโยบายของผู้สมัครหรือพรรคของผู้สมัครเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาบน บรรทดั ฐานทีจ่ ะต้องดํารงไว้ซงึ่ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ การเลือกตงั้ ในระดบั ตา่ งๆ การเลอื กตัง้ ในประเทศไทยมีหลายระดับ ตง้ั แต่ระดบั หมู่บ้าน/ชมุ ชน จนถงึ ระดบั ประเทศ ดังน้ี ๑. ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน เช่น ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการชุมชน ประธาน ชมุ ชน เป็นต้น ๒. ระดบั ตาํ บล เช่น กาํ นัน สมาชิกสภาทอ้ งถนิ่ /ผูบ้ รหิ ารองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ๓. ระดบั อําเภอ เชน่ ผบู้ รหิ ารเทศบาลเมอื งพทั ยา เทศบาลนคร/เมอื ง ๔. ระดับจังหวัด เช่น ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผูบ้ ริหารกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชกิ สภาเขต ๕. ระดบั ชาติ เชน่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒสิ ภา (ส.ว.) การเลือกคนดี การเลือกคนดีจะต้องเลือกคนที่มีคุณธรรม มีความรู้ ความสามารถ มีความเหมาะสมในการเลือกตั้ง ประชาชนต้องคอยติดตามประวัติและข่าวคราวเกี่ยวกับผู้สมัครอยู่เสมอ ข้อสําคัญต้องเลือกคนที่มีความจริงใจ และเสียสละเพ่ือส่วนรวม มีความรู้ ความสามารถ และมีอาชีพสุจริตเป็นหลักเป็นแหล่ง และไม่มีประวัติ เสื่อมเสีย รักเกียรติ รักศักดิ์ศรี มีความเช่ือมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่น และเป็นคนพูดจริงทําจริง มีจิตใจ กว้างขวาง พร้อมที่จะรับฟังความเห็นหรือคําวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น ไม่ควรเลือกผู้ท่ีมีเบ้ืองหน้าเบ้ืองหลังท่ี ไม่สุจริต และซื้อสิทธิขายเสียง เป็นผู้ให้อามิสสินจ้าง หรือรับปากว่าจะให้เพื่อจูงใจประชาชนลงคะแนนให้ตน มพี ฤตกิ รรมคดโกง ชอบเอารัดเอาเปรียบหรือมพี ฤติกรรมทีไ่ รม้ นุษยธรรม ลกั ษณะของผแู้ ทนท่ดี ี ๑. เป็นสมาชิกพรรคการเมืองท่ีมนี โยบายชดั แจ้ง มีความพร้อมและความสามารถที่จะดําเนินงานตาม นโยบายทีถ่ ูกตอ้ งบนพ้นื ฐานทางวัฒนธรรมทด่ี งี ามของคนไทย ๒. รู้ขอบเขตของอํานาจหน้าท่ีของตน ๘๕ คู่มือการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสือประชาธปิ ไตย
๓. มคี วามซอื่ สัตย์ สจุ ริต มีคุณธรรมนาํ ใจ มจี รยิ ธรรมสงู ๔. มีจิตใจหนกั แนน่ ไม่หลงใหลกบั ลาภ ยศ ชื่อเสียง และยดึ ถอื ความยตุ ธิ รรมเป็นหลัก ๕. มีความเสยี สละ คดิ ถงึ ประโยชนข์ องส่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ว่ นตน ๖. มีนาํ้ ใจนกั กีฬา รแู้ พ้ รู้ชนะ รู้จกั ใหอ้ ภัย และเคารพสิทธิผู้อื่น ๗. มีความรอบรู้ตัวดี ทันเหตุการณ์ และมีจิตใจกว้างขวาง พร้อมที่จะรับฟังความเห็นหรือ คําวิพากษว์ จิ ารณข์ องผู้อืน่ และมีความรู้เฉพาะดา้ นตามทตี่ นเองสมคั รไปทาํ หนา้ ที่ ๘. รักเกียรติ รักศักด์ิศรี และมีความเชื่อมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข ๙. มคี วามจงรกั ภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ๑๐. มีความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ มีเจตคติทด่ี ีตอ่ ผู้อนื่ และเป็นคนพูดจริงทาํ จริง ๑๑. ประกอบอาชพี โดยสุจริต และไม่มปี ระวตั ิเส่ือมเสยี ๑๒. มคี วามรูค้ วามสามารถและผลงานท่สี ามารถพสิ จู นย์ ืนยันได้ ๑๓. มีความรักใคร่ ห่วงใยประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมท่ีจะรับฟังปัญหาและความต้องการของ ประชาชน ลักษณะของผแู้ ทนไม่ดี ๑. มีพฤตกิ รรมเป็นนกั เลง หรอื ใช้อิทธิพลขม่ ขูช่ าวบา้ น ๒. เป็นผู้ไม่เคารพกฎหมาย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายกําหนด หรือกระทําการท่ีผิดกฎหมาย บ้านเมือง ๓. มปี ระวัติเสอื่ มเสยี ทงั้ ในเรอ่ื งส่วนตัวและหน้าที่การงาน หรือพยายามซอ่ นเร้นปิดบงั ประวตั ิส่วนตวั ๔. ไมม่ อี าชีพเปน็ หลกั เปน็ ฐาน ๕. มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าเป็นคนคดโกง ชอบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น แม้ในเรื่องเล็กน้อยก็ตาม หรือมพี ฤตกิ รรมทไี่ รศ้ ีลธรรม มนุษยธรรม ขาดคุณธรรมจรยิ ธรรม ๖. เป็นผู้ที่ใช้เงินซื้อเสียง หรือให้อามิสสินจ้าง หรือรับปากว่าจะให้ เพื่อจูงใจให้ประชาชนลงคะแนน ใหต้ น ๗. ไมม่ สี จั จะ ไมท่ ําตามทีพ่ ูด ๘. เป็นผทู้ ่ีเหน็ ประโยชน์สว่ นตนและพวกพ้องมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนรวม ๙. ไมม่ อี ดุ มการณ์ทแ่ี น่ชดั ไมม่ ีนโยบายท่ปี ฏบิ ตั ิได้จรงิ หรือมีผลประโยชน์แอบแฝงอ่ืน ๑๐.ไมส่ นใจท่จี ะรับฟังปัญหาของประชาชน เมอื่ ไดเ้ ลอื กตง้ั แลว้ ทาํ ตนเป็นผู้เข้าพบยาก ๑๑. มที ัศนคตทิ ีค่ บั แคบ ไม่มีนํ้าใจเปน็ นกั กฬี า ไม่รู้จกั ใหอ้ ภยั ๑๒. ขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เช่น ไม่เข้าร่วมประชุมโดยไม่มีเหตุผลอันควร ไม่กล้าแสดง ความคิดเห็นขัดแย้งคัดค้านในเร่ืองท่ีเป็นผลประโยชน์ของประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งหน้าที่ที่ตน รับผดิ ชอบชดั เจนสมบูรณ์เกิดเปน็ รปู ธรรม ๘๖ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลกั สตู รลกู เสือประชาธิปไตย
ใบความรูท้ ี่ ๘.๒ (ตอ่ ) เรือ่ ง การมสี ่วนร่วมของประชาชนในการเลอื กตง้ั (ผู้สมคั ร) หมวด ๕ ผูส้ มคั ร การสมคั รรับเลือกตง้ั และตัวแทนผูส้ มคั ร -------------------------------------- มาตรา ๔๔ บุคคลผู้มคี ุณสมบตั ิดงั ตอ่ ไปน้เี ป็นผู้มีสิทธิสมคั รรับเลอื กตง้ั (๑) มสี ญั ชาตไิ ทยโดยการเกดิ (๒) มอี ายุไม่ตํา่ กว่ายส่ี บิ หา้ ปบี รบิ ูรณใ์ นวนั เลอื กตัง้ (๓) มีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีสมัครรับเลือกต้ังเป็นเวลาติดต่อกัน ไม่น้อยกว่าหน่ึงปีนับถึงวันรับสมัครรับเลือกตั้ง หรือเสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและท่ีดิน หรือ กฎหมายว่าด้วยภาษีบํารุงท้องท่ีให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเป็นเวลาติดต่อกันสามปีนับถึงปีที่สมัคร รับเลือกต้งั ๘๗ คูม่ ือการฝกึ อบรมหลักสูตรลูกเสอื ประชาธิปไตย
(๔) คุณสมบตั อิ ่นื ท่ีกฎหมายว่าดว้ ยการจดั ตงั้ องคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ กาํ หนด มาตรา ๔๕ บคุ คลผมู้ ลี ักษณะดังตอ่ ไปนเี้ ปน็ บคุ คลตอ้ งห้ามมิใหใ้ ช้สทิ ธสิ มคั รรับเลือกตง้ั (๑) ตดิ ยาเสพตดิ (๒) เป็นบคุ คลล้มละลาย (๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกต้ังตามมาตรา ๓๔ (๑) (๒) หรือ (๔) คือ วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช และอยู่ในระหว่างถูก เพกิ ถอนสิทธิเลอื กตงั้ (๔) ตอ้ งคาํ พิพากษาใหจ้ าํ คกุ และถกู คุมขงั อยโู่ ดยหมายศาล (๕) ไดร้ ับโทษจาํ คุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกต้ังแต่สองปีข้ึนไป และได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีนับ ถงึ วันเลอื กตงั้ เวน้ แตใ่ นความผดิ อนั ได้กระทําโดยประมาท (๖) ต้องคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกว่ากระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยไม่พ้นโทษหรือต้องคําพิพากษามายังไมถ่ ึงห้าปนี บั ถึงวนั เลือกตง้ั แลว้ แต่กรณี (๗) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หนว่ ยงานของรัฐ หรอื รัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อ หนา้ ท่ีหรือถอื ว่ากระทําการทจุ รติ และประพฤตมิ ิชอบในวงราชการ (๘) เคยต้องคําพิพากษาหรือคําส่ังของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ํารวยผิดปกติหรือ มที รัพยส์ นิ เพม่ิ ข้นึ ผดิ ปกติ (๙) เคยถูกถอดถอนออกจากตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถ่ิน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลง คะแนนเสียง เพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถ่ินหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณีมายังไม่ถึงห้าปีนับถึง วนั เลอื กตงั้ (๑๐) อยู่ในระหว่างเสียสิทธิสมัครรับเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาท้องถ่ิน หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา ๓๗ หรอื ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญวา่ ด้วยการเลอื กต้งั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรและสมาชกิ วฒุ ิสภา (๑๑) เคยถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังมายังไม่ถึงหนึ่งปีนับแต่วันท่ี คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคําส่ังอันเนื่องมาจากการกระทําการโดยไม่สุจริตตามพระราชบัญญัติน้ี หรือ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ตนเองหรือผู้อ่ืนได้รับเลือกต้ัง หรือได้รบั เลือกต้ังมาโดยไม่สุจริต (๑๒) เป็นสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชกิ สภาท้องถ่ิน หรอื ผบู้ ริหารทอ้ งถน่ิ (๑๓) เป็นผู้สมัครรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกต้ัง สมาชิกสภาท้องถ่ิน หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเดียวกัน หรือองค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถิ่นอ่นื (๑๔) เป็นข้าราชการซ่งึ มตี ําแหนง่ หรอื เงินเดอื นประจาํ (๑๕) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถ่ิน หรือเป็น เจา้ หน้าทอ่ี ื่นของรัฐ (๑๖) เปน็ กรรมการการเลือกต้งั กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แหง่ ชาติ กรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนญู หรือผ้ตู รวจการแผ่นดนิ ของรฐั สภา (๑๗) ลกั ษณะอน่ื ท่กี ฎหมายวา่ ดว้ ยการจัดการองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ กาํ หนด ๘๘ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลกั สูตรลูกเสือประชาธิปไตย
ใบงานที่ ๘.๒ การมีสว่ นร่วมของประชาชนในการเลอื กตั้ง (ผสู้ มัคร ) คําชแ้ี จง ใหล้ กู เสีออา่ นกรณีศึกษาท้ังหมดแลว้ กรอกขอ้ เท็จจรงิ ลงในตารางทก่ี าํ หนดให้ องค์การบริหารส่วนตําบลสิชล (อบต. สิชล) ได้ประกาศให้มีการรับสมัครนายกและสมาชิก อบต.ซึ่ง เปน็ การเลอื กตั้งท่ีสมาชิก อบต. และนายกฯ ครบวาระการดํารงตําแหน่งในวันท่ี ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒ อบต. ได้มีประกาศให้มกี ารรับสมัครสมาชิก อบต. และนายกฯ ในวันท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๒ และ อบต. สิชล จะจัดให้มีการเลือกต้ังในวันอาทิตย์ท่ี ๖ กันยายน ๒๕๕๒ มีผู้สนใจที่จะสมัคร สมาชกิ อบต. ดังนี้ ๑. นายศรีราชา เมืองชล เกดิ วนั ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๒๗ สัญชาติไทย จบ ปวส. อาชพี รบั เหมา ก่อสร้างทั่วไป อยู่บ้านเลขท่ี ๔ หมู่ท่ี ๑ ถ. ยางมะตอย ซอยหยวก ต. สิชล อ. ศรีชล จ. ชลบุรี ซึ่ง นายศรีราชา อาศัยอยู่บ้านน้ีมาเป็นเวลา ๑ ปี ๓ เดือน นายศรีราชา มีนิสัยชอบเท่ียวเตร่ แต่เข้าวัดอยู่บ้าง นอกจากน้ี นายศรรี าชา เคยถกู จาํ คุก เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นเวลา ๒ ปี ในขอ้ หาทะเลาะววิ าท ทาํ ร้ายผอู้ นื่ ๘๙ คู่มือการฝึกอบรมหลักสตู รลกู เสือประชาธิปไตย
๒. นายสายชล บางแสน เกิดวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๒๗ เกิดเมืองไทย จบปริญญาตรี อาชีพ รับราชการครู อยู่บ้านเลขที่ ๑๙๑ หมู่ที่ ๒ ถ. คอนกรีต ซอยมะเขือ ต. สิชล อ. ศรีชล จ. ชลบุรี ซึ่ง นายสายชล อาศัยอยู่บ้านน้ีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นต้นมา นายสายชล มีนิสัยชอบทําบุญ รวมท้ัง เมอื่ มีเวลาวา่ งจะชว่ ยสอนงานศลิ ปะแกเ่ ดก็ ในหมู่บา้ นทกุ วันเสาร-์ อาทิตย์ ๓. นางสาวงามพริ้ง ดูสวยดี เกิดวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๔๘๙ สัญชาติไทย จบ ปริญญาตรี อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว อยู่บ้านเลขที่ ๑๙๐๐ หมู่ท่ี ๓ ถ. ดินแดง ซอยหนุ่มสาว ต. สิชล อ. ศรีชล จ.ชลบุรี นางสาวงามพริ้งอาศัยอยู่บ้านน้ีมาเป็นเวลา ๒๐ ปี นางสาวงามพริ้ง มีนิสัยร่าเริง สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ชอบคลุกคลีกับชาวบ้านไม่ถือเน้ือถือตัว เป็นคนติดดิน เป็นคนพูดจริงทําจริง เม่ือชาวบ้านมีปัญหามักขอ ความช่วยเหลือ ๔. นางดจี ริง ตอ้ งใจมาก เกดิ วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๐๖ จบปรญิ ญาโท อาชีพค้าขาย มีโรงงาน อยู่บ้านเลขท่ี ๑๒๓๔ หมู่ที่ ๕ ถ. เรียบเรียบ ซอยกว้างขวาง ต. สิชล อ. ศรีชล จ. ชลบุรี โรงงานน้ีต้ังมา เป็นเวลา ๕ ปี ซึ่งนางดีจริงได้อาศัยอยู่บ้านน้ีมาเป็นเวลา ๑๐ เดือน และทําเสื้อผ้าส่งออกไปยังต่างประเทศ นางดีจริง ชําระภาษีให้แก่ อบต.สชิ ล ปีละ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทุกปี โดยไม่เคยเว้นเลยแม้แต่ปีเดียว นางดีจริง ชอบช่วยเหลืองานศพท่ีวัดเป็นประจํา ชอบเล่นกีฬา นอกจากนี้ยังชอบคลุกคลีกับชาวบ้านไม่ถือเน้ือถือตัว เป็นคนใจกว้าง มคี วามรู้ดี ชอบช่วยเหลอื ชาวบ้านโดยปลอ่ ยเงินกู้ให้แก่ชาวบ้านทเ่ี ดือดรอ้ น หมายเหตุ อายุผสู้ มคั รฯ ใหน้ บั ถงึ วันเลือกตัง้ ตารางใบงานที่ ๘.๒ การมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการเลอื กตั้ง (ผู้สมัคร) ชือ่ กลุ่ม…………………………………………………. ************************************************************************************************************************* คาํ ชี้แจง ให้ลกู เสอี อา่ นกรณีศึกษาท้งั หมดแล้ว กรอกขอ้ เท็จจรงิ ลงในตารางทก่ี าํ หนดใหแ้ ล้วตอบคาํ ถามท่ีให้ มา พร้อมท้ังเหตผุ ลประกอบ ใชเ้ อกสารใบความรดู้ ปู ระกอบ คุณสมบัติ ชอื่ ผ้สู มคั ร อายุ สญั ชาติ การศกึ ษา อาชีพ จาํ นวน พฤตกิ รรม/นิสยั หมายเหตุ เดอื น/ปี ที่อาศยั อยู่ ๑. นายศรีราชา เมืองชล ๙๐ คมู่ ือการฝึกอบรมหลกั สตู รลกู เสอื ประชาธิปไตย
๒. นายสายชล บางแสน ผูท้ ่ีไม่สามารถลงสมคั รรบั เลอื กตั้งสมาชิก อบต. ไดค้ ือ ๓. น.ส.งามพริ้ง ดสู วยดี ๔. นางดจี รงิ ต้องใจมาก ๑) ชอ่ื ………………………………………………….. เหตผุ ล..……………………………………………. ผู้ทส่ี ามารถลงสมคั รรบั เลอื กตัง้ สมาชกิ อบต. ได้คือ ๒) ช่ือ…………………………………………………… ๑) ช่อื ………………………………………………….. เหตผุ ล..…………………………………………….. เหตผุ ล..……………………………………………. ๒) ชอื่ …………………………………………………… เหตผุ ล..…………………………………………….. ๓) ชื่อ…………………………………………………… เหตผุ ล..…………………………………………….. ๑. ลกู เสือคดิ วา่ ผูส้ มัครท่มี คี ณุ สมบัตคิ รบถ้วนคนใด ทเ่ี ราควรเลอื กเปน็ ผแู้ ทนเรามากทส่ี ดุ คอื ………………………………………………………………………………………………………………………………. เพราะ ………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ถ้าหากทุกคนสามารถลงสมัครรับเลือกต้ังได้ ลูกเสือคิดว่า ผู้สมัครคนใดที่ไม่ควรเลือกเป็นผู้แทนเรามากท่ีสุด คอื …………………………………………………………………………………………………...……………………………... เพราะ ………………………………………………………………………………………………… ตัวอย่างแบบประเมนิ แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทาํ งานของกลมุ่ กลุม่ ที่ ……………………………….. คาํ ชีแ้ จง ทาํ เครอื่ งหมายในช่องทตี่ รงกับความจริง ขอ้ รายการประเมิน ระดบั ความพงึ พอใจ ๑ มกี ารปรึกษาและวางแผนร่วมกันก่อนทาํ งาน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ๒ มีการแบง่ หน้าทอ่ี ย่างเหมาะสมและสมาชิกตามหนา้ ทท่ี กุ คน (๔) (๓) (๒) ปรงุ ๓ ปฏบิ ตั หิ น้าท่ตี ามขัน้ ตอน (๑) ๙๑ คู่มือการฝึกอบรมหลักสูตรลกู เสือประชาธิปไตย
๔ มีการใหค้ วามชว่ ยเหลือกนั ๕ ทาํ งานเปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ที่กําหนด ๖ ทาํ งานเสรจ็ ตามกําหนดเวลา ๗ แสดงออกถึงความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ๘ นาํ ความรทู้ ไ่ี ด้มาประยุกตใ์ ช้ ๙ สามารถให้คําแนะนาํ กลมุ่ อนื่ ได้ ๑๐ จดั วัสดุ อปุ กรณ์ เรยี บร้อย หลงั เลิกปฏิบัตงิ าน รวม รวมทั้งสน้ิ (ดมี าก + ดี + พอใช้ + ปรับปรงุ ) ผลการประเมนิ คณุ ภาพอยู่ในระดบั ......................... ลงช่อื ..............................................ผปู้ ระเมิน (...........................................) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ถอื วา่ ดมี าก ให้ ๔ คะแนน ถือว่า ดี ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและสมํา่ เสมอ ถือวา่ ปานกลาง ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครั้ง ถอื วา่ ปรับปรุง ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั บิ างครั้ง พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ินาน ๆ คร้งั เกณฑ์ตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ๒๔ - ๓๐ ดีมาก ๑๗ -๒๓ ดี ๑๐ - ๑๖ พอใช้ ตาํ่ กวา่ ๑๐ - ๑๖ ปรบั ปรุง ตัวอยา่ งแบบประเมนิ แบบประเมนิ ผลงานของกลมุ่ กลุ่มที่ ……………………………….. ข้อ รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ๔ ๓ ๒๑ ๙๒ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลกั สูตรลูกเสือประชาธปิ ไตย
๑ ผลงานเปน็ ไปตามจดุ ประสงค์ ๒ ผลงานเสรจ็ ทนั เวลา ๓ ผลงานมคี วามคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ ๔ เนื้อหาสาระของผลงานมีความสมบรู ณ์ ๕ วธิ ีการนําเสนอผลงาน รวม รวมทงั้ สนิ้ (ดีมาก + ดี + พอใช้ + ปรบั ปรงุ ) ผลการประเมนิ คุณภาพอย่ใู นระดับ......................... ลงชือ่ ..............................................ผูป้ ระเมนิ (...........................................) เกณฑต์ ัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๒๔ - ๓๐ ดีมาก ๑๗ -๒๓ ดี ๑๐ - ๑๖ พอใช้ ตา่ํ กวา่ ๑๐ - ๑๖ ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมินผลงานกลมุ่ หวั ขอ้ ที่ประเมนิ ดีมาก (๔) ระดบั คณุ ภาพ/คะแนน ปรับปรงุ (๑) ๑. ผลงานเป็นไป ผลงานสอดคลอ้ ง ดี (๓) พอใช้ (๒) ผลงานไม่สอดคล้อง ตามจุดประสงค์ กับจุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ ที่กําหนด ทุกข้อ/ทุกประเด็น ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง สมบูรณ์ กับจุดประสงค์เปน็ กบั จดุ ประสงค์บาง สว่ นใหญ่/เกอื บทกุ ข้อ/บางประเด็น ประเด็นสมบูรณ์ สมบูรณ์ ๒. ผลงานเสรจ็ ทนั เสร็จก่อนกําหนด เสร็จตามเวลาท่ี เสร็จช้ากวา่ เวลาที่ ไมเ่ สร็จ ตามกาํ หนดเวลา กาํ หนด กาํ หนด ๓.ผลงานมีความคดิ ผลงานถกู ตอ้ งตาม ผลงานถกู ตอ้ งตาม ผลงานถูกตอ้ งตาม ผลงานมี ริเรมิ่ สร้างสรรค์ หลกั วชิ าการและ หลกั วชิ าการและ หลกั วิชาการแต่ยัง ขอ้ บกพรอ่ งและ ๙๓ ค่มู ือการฝึกอบรมหลกั สูตรลูกเสือประชาธปิ ไตย
มีแนวคิดแปลกใหม่ มแี นวคดิ แปลกใหม่ ไมม่ แี นวคดิ ไม่มีแนวคดิ และเป็นระบบ แต่ยงั ไมเ่ ปน็ ระบบ แปลกใหม่ แปลกใหม่ ๔.เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ ูกต้อง ผลงานมีความ ผลงานครบถ้วนทุก ผลงานครบถ้วน เปน็ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ สมบรู ณ์ ประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ ๕.วธิ กี ารนาํ เสนอ มวี ิธีการนําเสนอ มวี ิธกี ารนาํ เสนอ มวี ิธกี ารนําเสนอ มวี ธิ ีการนาํ เสนอ ผลงานกลุ่ม ผลงานทน่ี า่ สนใจ ผลงานที่น่าสนใจ ผลงานท่ีนา่ สนใจ ผลงานไมน่ ่าสนใจ พดู เสยี งดงั ออก พูดเสียงดงั ออก พูดเสียงดงั ออก พดู เสียงเบาออก เสยี งอกั ขระชดั เจน เสยี งอักขระชดั เจน เสยี งอกั ขระ เสยี งอกั ขระ คล่องแคลว่ แตไ่ ม่คลอ่ งแคลว่ ไม่ชดั เจนและ ไม่ชดั เจนและ ไมค่ ล่องแคล่ว ไมค่ ล่องแคล่ว ชอ่ื วิชา ลูกเสือกบั การมสี ่วนรว่ มในระบอบประชาธปิ ไตย (ภาคปฏบิ ัติ) บทเรียนท่ี ๙ เวลา ๑๘๐ นาที แบบท่ี ๑. การศกึ ษาดงู านการมสี ่วนรว่ มภาคประชาชน ขอบข่ายรายวชิ า ศึกษาดูงานการมีสว่ นร่วมภาคประชาชนในพื้นท่ที ่ีเห็นสมควร จุดหมาย เพื่อใหผ้ ู้เข้ารบั การฝึกอบรมมคี วามรู้ มปี ระสบการณ์การมสี ว่ นร่วมภาคประชาชน และนําไปใชใ้ น การฝกึ อบรมลกู เสือประชาธิปไตยได้ วัตถปุ ระสงค์ เม่ือจบบทเรยี นน้ีแลว้ ผ้เู ข้ารบั การฝึกอบรมสามารถ ๑. บอกประโยชนข์ องการมสี ่วนรว่ มภาคประชาชนในพืน้ ทที่ ่ศี ึกษาดูงานได้ ๒. นําความรู้และประสบการณ์การมีส่วนร่วมภาคประชาชนจากการศึกษาดูงานไปใช้จัดทําโครงการ ส่งเสริมประชาธิปไตยได้ ๙๔ คู่มือการฝกึ อบรมหลกั สตู รลกู เสือประชาธปิ ไตย
วธิ สี อน/กิจกรรม ๑. แบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการฝึกอบรมไปศึกษาดูงานการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในชุมชน เช่น โครงการ กองทุนหมู่บ้าน โครงการสหกรณ์หมู่บ้าน การบริหารองค์กร อบต. อบจ. เทศบาล โครงการอนุรักษ์ธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม ฯลฯ ๒. บนั ทึกผลการศกึ ษาดูงาน ๓. รายงานผลการศกึ ษาดงู าน ส่ือการสอน ๑. ใบงานการศกึ ษาดูงาน ๒. แบบรายงานผลการศกึ ษาดงู าน การประเมนิ ผล ๑. วิธกี ารวดั ผล : สังเกตพฤตกิ รรม ประเมินความรู้ ประเมนิ ผลงาน ๒. เครื่องมือวดั ผล : แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินความรู้ แบบประเมินผลงานกลุ่ม ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล : ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ เอกสารอา้ งองิ /แหล่งขอ้ มลู ๑. รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ ๒. เวบ็ ไซต์รัฐสภา 34www.parliament.go.th H ๓. เว็บไซต์สาํ นักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง 35www.ect.go.th H ๔. เว็บไซต์สํานกั งานลกู เสอื แห่งชาติ 36www.scoutthailand.org H ๕. เว็บไซตส์ ํานักการลกู เสอื ยวุ กาชาด และกิจการนักเรียน 37www.bureausrs.org H ๖. เวบ็ ไซตส์ ถาบนั พระปกเกลา้ www.kpi.ac.th เนือ้ หาวิชา การเดนิ ทางไปศึกษาดูงานการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในชุมชนตามท่ีเหน็ สมควร แบบท่ี ๒. กระบวนการเลอื กตงั้ และการมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเลือกตัง้ ขอบขา่ ยรายวชิ า ความสําคัญของการเลือกต้ัง การเลือกต้ังทุกระดับ การมีส่วนร่วมในการเลือกต้ังทุกระดับของ ประชาชน ข้อห้ามและความผิดเกี่ยวกบั การเลือกตัง้ จดุ หมาย เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ มีประสบการณ์การมีส่วนร่วมภาคประชาชน และนําไปใช้ใน การฝกึ อบรมลูกเสอื ประชาธิปไตยได้ วัตถปุ ระสงค์ เมื่อจบบทเรยี นนี้แลว้ ผู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมสามารถ ๑. บอกขั้นตอนในกระบวนการเลือกตงั้ ได้ ๒. บอกขอ้ ห้ามในการกระทาํ ความผิดเกย่ี วกับการเลือกตั้ง ๓. บอกวิธีการทจ่ี ะเขา้ ไปมสี ว่ นร่วมในกระบวนการเลอื กต้ัง ๙๕ คมู่ ือการฝึกอบรมหลกั สตู รลกู เสอื ประชาธิปไตย
วธิ สี อน/กิจกรรม ๑. บรรยายเกริ่นนาํ เก่ียวกบั ความสําคญั ของการเลอื กต้ังทุกระดับ ๒. แบ่งกลมุ่ เขา้ ศกึ ษาฐานเรียนรู้ ๔ ฐาน - ฐานท่ี ๑. การลงคะแนนเลอื กตงั้ - ฐานที่ ๒. การนับคะแนนเลอื กตง้ั - ฐานที่ ๓. การมสี ่วนรว่ มในการเลือกตั้ง - ฐานที่ ๔. ข้อหา้ มและความผิดในการเลือกต้ัง ๓. สรปุ การเรยี นรู้ ส่ือการสอน ๑. อปุ กรณก์ ารเลือกตั้งและอุปกรณก์ ารนบั คะแนน เช่น หบี บตั ร บัตรตวั อย่าง คหู าลงคะแนน ปา้ ยกระดานสําหรบั นบั คะแนน กระดาษแผนภูมิ ปากกาเคมี ฯลฯ ๑. ตัวอย่างคาํ วนิ ิจฉัยการเลือกตงั้ ทีผ่ ู้สมัครรบั เลือกตงั้ ถูกลงโทษ ๒. ใบความรทู้ ี่ ๙.๑ เรื่อง การมีสว่ นรว่ มของประชาชนในกระบวนการเลือกต้งั ๓. ใบความรทู้ ี่ ๙.๒ เร่ือง การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการเลือกตั้ง (ผูม้ สี ทิ ธเิ ลือกตง้ั ) ๔. ใบงานท่ี ๙.๑ ๕. ใบงานที่ ๙.๒ การประเมนิ ผล ๑. วิธีการวดั ผล : สงั เกตพฤติกรรม ประเมินความรู้ ประเมินผลงาน ๒. เคร่ืองมอื วดั ผล : แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมินความรู้ แบบประเมนิ ผลงานกลมุ่ ๓. เกณฑ์การประเมินผล : ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ เอกสารอา้ งอิง/แหล่งขอ้ มลู ๑. รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ ๒. เวบ็ ไซตร์ ัฐสภา 38www.parliament.go.th H ๓. เวบ็ ไซต์สาํ นกั งานคณะกรรมการการเลอื กตั้ง 39www.ect.go.th H ๔. เวบ็ ไซตส์ ํานกั งานลูกเสือแหง่ ชาติ 40www.scoutthailand.org H ๕. เว็บไซตส์ ํานกั การลูกเสอื ยวุ กาชาด และกิจการนกั เรยี น 41www.bureausrs.org H ๖. เวบ็ ไซต์สถาบนั พระปกเกล้า www.kpi.ac.th เนอื้ หาวิชา ๑. การมสี ว่ นร่วมของประชาชนในกระบวนการเลอื กตั้ง ๒. การมีสว่ นร่วมของประชาชนในการเลอื กตั้ง (ผมู้ สี ิทธิเลือกต้งั ) ๙๖ ค่มู ือการฝกึ อบรมหลกั สตู รลกู เสือประชาธิปไตย
ใบความรู้ที่ ๙.๑ เรื่อง การมสี ่วนรว่ มของประชาชนในกระบวนการเลอื กตงั้ ก่อนการเลอื กตัง้ ๑. สนใจ แสวงหา ติดตามขา่ วการเลือกตง้ั ๒. สนทนาแลกเปล่ยี นความรู้ ความเขา้ ใจประเดน็ ตา่ ง ๆ ในเร่อื งการเลอื กต้ัง ๓. รวมกลมุ่ ผู้สนใจมสี ว่ นรว่ มการเลือกตงั้ ๔. รณรงคเ์ ผยแพรใ่ ห้พ่อแม่ ญาติ พ่นี อ้ ง เพ่ือนบ้านใหม้ ีความรู้ และเหน็ ความสําคญั ของการเลอื กตั้ง ๕. สมคั รเป็นอาสาสมัคร หรอื สมาชิกพรรคการเมอื ง ๖. สมคั รเปน็ อาสาประชาธปิ ไตย ๗. สมัครเปน็ อาสาสมคั รการเลอื กตงั้ ๘. ตรวจรายชื่อของตนเองและครอบครวั ระหวา่ งการเลอื กต้ัง ๙๗ คู่มือการฝกึ อบรมหลกั สูตรลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
๑. ตรวจการหาเสียงของผู้สมคั ร ๒. ตดิ ตามการหาเสยี งของผูส้ มัคร ๓. ชกั ชวนใหป้ ระชาชนไปเลือกตั้ง ๔. สงั เกตการณ์ทุจรติ การเลอื กต้งั ๕. ใช้สิทธิการลงคะแนน ๖. ร่วมเป็นกรรมการประจาํ หน่วย ๗. สมคั รเปน็ อาสาสมัครขององค์การเอกชนท่ตี รวจสอบการเลือกตงั้ ๘. ติดตามการนับคะแนน ๙. ไมท่ ําผิดกฎหมายเลือกตั้ง เชน่ ไม่ซอื้ สทิ ธ-ิ ขายเสียง หลังการเลอื กต้ัง ๑. ตดิ ตามผลการเลือกตง้ั ๒. ตดิ ตามการจัดตัง้ คณะทํางาน ๓. อภิปรายการทาํ งานของคณะกรรมการต่าง ๆ ๔. ตดิ ตามตรวจสอบการทํางานของผ้แู ทน (ส.อบต./นายกฯ) ๕. สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื ในการใหข้ ้อมูลเกีย่ วกับปัญหาความเดอื ดร้อนใหผ้ ูแ้ ทน (ส.อบต./นายกฯ) ๖. เขา้ รว่ มเปน็ กรรมการต่าง ๆ ตามที่ไดร้ ับการรอ้ งขอ ๗. แสดงพลังกลุ่มในการถอดถอนผู้แทนทพี่ บวา่ มพี ฤตกิ รรมทกี่ ระทําผดิ ศลี ธรรมและกฎหมาย ขน้ั ตอนการลงคะแนนเลือกตงั้ ๑. ตรวจลําดบั ที่ของตนบัญชีรายชือ่ ผู้มีสิทธิเลือกตง้ั ทปี่ ดิ ประกาศไว้ ๒. ย่ืนบัตรประจําตัวประชาชน (พาสปอร์ต/บัตรท่ีหน่วยราชการออกให้ซ่ึงมีรูปถ่ายและเลขประจําตัว ๑๓ หลกั ) และลงลายมือช่ือ (หรอื พมิ พ์ลายนว้ิ หัวแม่มือขวา) ในบญั ชีรายชื่อผู้มีสทิ ธิเลอื กตั้ง ๓. เขยี นช่ือและสกุล หรอื พิมพ์ลายนว้ิ หัวแมม่ อื ขวาต้นข้ัวบัตรเลอื กต้งั พรอ้ มรบั บตั รเลือกตง้ั ๔. เข้าคูหาเพ่ือทําเคร่ืองหมายกากบาท (x) ใน “ช่องทําเครื่องหมาย” (หากไม่ประสงค์จะเลือกใคร ให้ทําเคร่ืองหมายกากบาท (x) ใน “ชอ่ งไม่ลงคะแนน”) ใบความรทู้ ี่ ๙.๒ เรอื่ ง การมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการเลือกต้งั (ผูม้ ีสทิ ธิเลือกต้งั ) คณุ สมบัตผิ มู้ สี ิทธเิ ลือกตัง้ ส.ส. และ ส.ว. ตอ้ งมีคณุ สมบตั ิ ดังนี้ ๑. มีสญั ชาตไิ ทย ถา้ แปลงสัญชาตไิ ทยต้องได้สัญชาติไทยมาแลว้ ไม่น้อยกว่า ๕ ปี ๒. มีอายไุ ม่ต่ํากว่า ๑๘ ปบี รบิ รู ณ์ในวนั ท่ี ๑ มกราคม ของปีทีม่ ีการเลือกตงั้ ๓. มีช่อื ในทะเบยี นบา้ นในเขตเลอื กตง้ั มาแล้วไม่น้อยกวา่ ๙๐ วัน นบั ถงึ วนั เลือกตง้ั นอกจากนใ้ี นวันเลอื กต้งั ตอ้ งไมม่ ีลักษณะต้องห้าม ดังน้ี ๑. วิกลจรติ หรอื จติ ฟ่นั เฟือนไม่สมประกอบ ๒. เปน็ ภกิ ษุ สามเณร นักพรต หรอื นกั บวช ๓. ต้องคมุ ขงั โดยหมายศาลหรือโดยคําสัง่ ท่ีชอบด้วยกฎหมาย ๔. อยูร่ ะหวา่ งถกู เพิกถอนสิทธเิ ลอื กต้งั คุณสมบตั ผิ ูม้ สี ิทธเิ ลอื กต้ังสมาชิกสภาท้องถ่ินหรอื ผบู้ รหิ าร ๙๘ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลกั สูตรลูกเสือประชาธปิ ไตย
ต้องมคี ณุ สมบตั ิ ดงั นี้ ๑. มีสญั ชาติไทย ถา้ แปลงสัญชาติไทยตอ้ งไดส้ ัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกวา่ ๕ ปี ๒. มอี ายุไมต่ ่าํ กว่า ๑๘ ปีบรบิ ูรณใ์ นวันที่ ๑ มกราคม ของปที ีม่ กี ารเลอื กตง้ั ๓. มชี ื่อในทะเบียนบ้านในเขตเลอื กต้งั มาแลว้ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี นบั ถงึ วนั เลือกตงั้ (กรณผี ทู้ ีย่ า้ ยทะเบียนบ้านจากเขตเลือกตั้งไปยังเขตเลือกต้ังอีกหน่ึงภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เดียวกันไม่ถึง ๑ ปี นับถึงวันเลือกตั้ง สามารถไปลงคะแนนในเขตเลือกต้ังที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ครัง้ สุดท้ายเป็นเวลาตดิ ต่อกันไมน่ ้อยกวา่ ๑ ป)ี นอกจากนใ้ี นวนั เลอื กต้งั ต้องไม่มลี ักษณะตอ้ งหา้ ม ดงั น้ี ๑. วิกลจริต หรอื จติ ฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ๒. เปน็ ภิกษุ สามเณร นกั พรต หรอื นักบวช ๓. ตอ้ งคมุ ขัง โดยหมายศาลหรือโดยคาํ สงั่ ทชี่ อบด้วยกฎหมาย ๔. อยู่ระหว่างถกู เพิกถอนสิทธเิ ลอื กต้งั การเตรียมหลกั ฐาน (ก่อนไปลงคะแนน) ก่อนไปลงคะแนน ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องเตรียมหลักฐานอย่างใดอย่างหน่ึง เพื่อใช้ใน การลงคะแนนเลือกตง้ั เช่น ๑. บตั รประจาํ ตวั ประชาชน หรอื บตั รประจําตัวประชาชนหมดอายุ ๒. ใบรับคําขอมีบตั รหรอื เปลยี่ นบตั รใหมท่ ีต่ ดิ รปู ถา่ ยและประทับตราเจา้ หนา้ ที่ (ใบเหลือง) ๓. ใบแทนใบรบั คาํ ขอมีบตั รท่ตี ิดรปู ถ่าย และประทบั ตราเจา้ หนา้ ท่ี (ใบชมพู) ๔. บัตรประจําตวั เจ้าหนา้ ทีข่ องรฐั หรือบตั รประจําตวั เจ้าหน้าที่ของรัฐผรู้ บั บาํ เหนจ็ บํานาญ ๕. ใบอนุญาตขบั รถท่ีออกโดยกรมการขนสง่ ทางบก (ใบขับข)่ี ทม่ี ีหมายเลขประจาํ ตัวประชาชนและ รูปถา่ ย ๖. หนงั สอื เดินทาง (พาสปอร์ต) ท่อี อกโดยกระทรวงต่างประเทศ ทม่ี ีหมายเลขประจาํ ตัวประชาชน และรูปถ่าย ข้นั ตอนการลงคะแนน ๑. ตรวจลาํ ดับทีข่ องตนในบัญชีรายชอื่ ผมู้ สี ทิ ธเิ ลือกต้งั ทป่ี ิดประกาศไวห้ น้าหน่วยเลอื กตั้ง ๒. ยื่นบัตรประจําตัวประชาชน ลงลายมือช่ือในบัญชีรายช่ือ พร้อมท้ังพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือขวา ทต่ี น้ ขั้วบัตร ๓. รบั บตั รเลือกตัง้ จาก กปน. ๔. เข้าคูหาลงคะแนน ทําเครื่องหมายกากบาท (X) ท่ีช่องทําเครื่องหมาย ถ้าไม่ต้องการเลือกใคร ก็กากบาททีช่ ่องไม่ลงคะแนนในบตั รเลอื กตั้ง ๕. พับบตั รและหย่อนบัตรดว้ ยตนเองในหีบบัตร การเสียสทิ ธทิ างการเมอื งเมอ่ื ไมไ่ ปเลือกตง้ั ส.ส. และ ส.ว. รฐั ธรรมนญู กําหนดให้คนไทยทกุ คนทีม่ อี ายคุ รบ ๑๘ ปบี ริบูรณ์ในวนั ท่ี ๑ มกราคม ของปที มี่ ีการเลือกตงั้ ถอื เปน็ หน้าท่ตี ้องไปเลอื กตง้ั เมอื่ กฎหมายกาํ หนดให้เปน็ หน้าทแ่ี ล้ว ผใู้ ดไม่ไปเลือกตัง้ ตามหนา้ ที่และไมแ่ จง้ สาเหตทุ ่ไี มไ่ ปเลอื กตั้ง ส.ส. และ ส.ว. จะเสยี สทิ ธกิ ารเมอื ง ๓ ประการ ดังนี้ ๙๙ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลักสูตรลูกเสอื ประชาธิปไตย
๑. สทิ ธิยนื่ คาํ รอ้ งคดั ค้านการเลอื กต้งั ส.ส., ส.ว. ๒. สิทธสิ มคั รรบั เลอื กตงั้ และสทิ ธไิ ดร้ ับการเสนอชอ่ื เข้ารับการสรรหา เปน็ ส.ส., ส.ว., สมาชกิ สภา ท้องถ่นิ และผูบ้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ ๓. สิทธิสมัครรับเลือกตัง้ เปน็ กํานนั และผ้ใู หญบ่ า้ น การเสียสิทธิทางการเมืองเมอื่ ไม่ไปเลอื กตง้ั ผู้ทไ่ี มไ่ ปใช้สทิ ธิเลือกตัง้ ท้องถน่ิ และไม่ได้แจ้งเหตุอนั ควรทีท่ าํ ใหไ้ ม่อาจไปเลอื กตัง้ จะมผี ลใหเ้ สยี สิทธิ ทางการเมอื ง ๖ ประการ ดงั นี้ ๑. สิทธิยืน่ คาํ รอ้ งคดั ค้านการเลือกตงั้ สมาชกิ สภาทอ้ งถ่ินและผู้บริหารทอ้ งถิน่ ๒. สทิ ธิรอ้ งคัดค้านการเลอื กกํานนั และผใู้ หญบ่ ้านตามกฎหมายวา่ ดว้ ยลกั ษณะปกครองท้องที่ ๓. สทิ ธิสมคั รรบั เลือกตัง้ เป็นสมาชกิ สภาท้องถ่ินและผู้บรหิ ารท้องถ่ิน ๔. สทิ ธสิ มัครรบั เลอื กเป็นกาํ นนั และผใู้ หญ่บา้ นตามกฎหมายว่าด้วยลกั ษณะปกครองทอ้ งท่ี ๕. สิทธิเข้าชื่อรอ้ งขอใหส้ ภาท้องถนิ่ พจิ ารณาออกขอ้ บัญญัติทอ้ งถ่ิน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเข้าชอื่ เสนอข้อบญั ญตั ิทอ้ งถน่ิ ๖. สิทธิเข้าชอื่ รอ้ งขอให้ถอดถอนสมาชกิ สภาทอ้ งถิ่น หรอื ผ้บู รหิ ารทอ้ งถ่นิ ตามกฎหมายว่าดว้ ย การลงคะแนนเสยี งเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาทอ้ งถ่ินหรอื ผ้บู รหิ ารทอ้ งถ่นิ สิทธินีจ้ ะไดก้ ลับคนื มา ถ้าได้ไปใชส้ ทิ ธใิ นการเลอื กตัง้ ส.ส. ส.ว. หรอื การเลือกต้งั ระดบั ทอ้ งถิน่ ในคร้ังตอ่ ไป ๑. สิทธิย่นื คาํ รอ้ งคดั คา้ นการเลอื กต้ัง ส.อบจ., ส.ก., ส.ท., ส.อบต., และ ส. เมอื งพัทยา รวมทง้ั ผู้บริหารท้องถ่ิน เช่น นายก อบต., นายกเทศมนตรี, นายก อบจ., นายกเมืองพัทยา และผู้ว่าฯ กทม. ถา้ เหน็ วา่ มกี ารทจุ รติ เลอื กตงั้ ๒. สทิ ธริ ้องคดั ค้านการเลือกตั้งกํานนั ผ้ใู หญ่บา้ น ถ้าเห็นว่าการเลือกต้งั ไมส่ ุจรติ ๓. สิทธิสมัครรับเลือกต้ัง ส.อบจ., ส.ก., ส.ท., ส.อบต., และ ส. เมืองพัทยา รวมท้ังผู้บริหาร ท้องถ่นิ เช่น นายก อบต., นายกเทศมนตรี, นายก อบจ., นายกเมืองพัทยา และผู้ว่าฯ กทม. ๔. สิทธิสมคั รรบั เลือกตั้งเปน็ กํานนั และผู้ใหญบ่ า้ น ๕. สิทธิเขา้ ช่อื ขอใหส้ ภาท้องถิ่น เช่น สภา อบต., สภาเทศบาลพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่นที่มี พฤตกิ ารณส์ อ่ ไปในทางทจุ รติ ๖. สทิ ธเิ ข้าชอ่ื ขอให้ถอดถอน ส.อบจ., ส.ก., ส.ท., ส.อบต., และ ส. เมืองพทั ยา รวมทั้งผบู้ รหิ าร ท้องถ่ิน เชน่ นายก อบต., นายกเทศมนตรี, นายก อบจ., นายกเมอื งพัทยา และผ้วู ่าฯ กทม. ๑๐๐ คู่มือการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสอื ประชาธิปไตย
ใบงานท่ี ๙.๑ การสรา้ งสอ่ื รณรงคก์ ารเลอื กตงั้ คําชแ้ี จง : ให้ลูกเสือช่วยกันคิดและออกแบบป้ายเชญิ ชวนให้ประชาชนผู้มสี ทิ ธมิ าลงคะแนน หรอื การรณรงค์ ต่อต้านการซอ้ื สิทธิขายเสยี ง จํานวน ๑ ป้าย แลว้ สง่ ตวั แทนนาํ เสนอผลงาน ๑๐๑ คมู่ ือการฝึกอบรมหลักสตู รลกู เสอื ประชาธิปไตย
ใบงานท่ี ๙.๒ เกมการเลือกตัง้ คําชี้แจง ให้ลกู เสือแบง่ กลุม่ ออกเปน็ ๒ กล่มุ ๆ ละเท่า ๆ กัน ๑. ให้ผบู้ ังคบั บัญชาลกู เสือ แบ่งลกู เสือออกเป็น ๒ กลมุ่ ๆ ละเท่า ๆ กัน ๒. ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ ใหล้ ูกเสือแต่ละกลมุ่ ตงั้ ชอ่ื กลุ่ม ๓. ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสอื เขียนชอื่ กลมุ่ บนแผ่น Chart คะแนน แขวน Chart ให้ลกู เสือดคู ะแนน ๔. ผู้บังคบั บัญชาลูกเสือ แจกคําตอบให้ลกู เสอื ที่ใหแ้ ตล่ ะคนเทา่ ๆ กนั ๕. ผู้บังคบั บญั ชาลูกเสอื ช้แี จงกฎกติกาการเลน่ เกมส์ ดงั นี้ ๕.๑ เม่อื ผ้บู ังคบั บญั ชาลกู เสอื อา่ นคาํ ถาม ๑ คําถาม ใหล้ ูกเสือ แตล่ ะกลมุ่ แข่งกนั ตอบ โดย ลูกเสือตอ้ งยกมอื ขึน้ ก่อนตอบคาํ ถาม ใหต้ อบได้ภายใน ๓ วนิ าที ถ้าหากไม่สามารถตอบได้ ใหอ้ กี กลมุ่ หนึง่ มีสทิ ธเิ์ ปน็ ผตู้ อบ ๕.๒ ถา้ หากกล่มุ ใดตอบผิด ให้อีกกล่มุ หน่ึงมสี ิทธ์ิตอบได้ ถ้าตอบถูกให้ ๑ คะแนน ใหส้ ลับกนั ตอบ จนกวา่ จะตอบถูก ๕.๓ เมื่อจบเกมแล้ว ให้ผ้บู ังคับบัญชาลูกเสอื และลกู เสอื ชว่ ยกันสรุป คาํ ถามแต่ละประเดน็ ๖. ผบู้ ังคบั บญั ชาลูกเสือประกาศผู้ชนะ แลว้ ใหร้ างวัลผู้ชนะ ๗. ประกาศผ้ชู นะในหอ้ งประชุม ชมเชยและใหร้ างวลั ๑๐๒ คู่มือการฝึกอบรมหลกั สตู รลูกเสือประชาธิปไตย
ประเด็นคาํ ถาม เกมการเลือกตง้ั ทอ้ งถ่ิน คาํ ถาม คาํ ตอบ ๑. ทาํ ไมตอ้ งไปเลือกต้งั คาํ ตอบมี ๑ ขอ้ ๑. เลือกตัวแทนไป ทาํ หนา้ ท่ีแทนเรา ๒. องค์การบรกิ ารส่วนตําบล (อบต.) คอื อะไร ๒. องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ระดับตําบล คําตอบมี ๑ ข้อ ๓.๑ จดั ใหม้ นี า้ํ เพอ่ื ใช้และด่ืมกิน ใชใ้ นการเกษตร ๓. หนา้ ทข่ี อง อบต. มอี ะไรบ้าง ด้วย คาํ ตอบมี ๖ ขอ้ ๓.๒ จัดใหม้ แี ละบํารงุ รกั ษาทางนํ้าและทางบก ๓.๓ จดั ใหม้ ีทางระบายน้าํ และรกั ษาความสะอาด ๔. ถ้า อบต. มีหมบู่ ้าน มากกว่า ๒ หมบู่ ้าน ผมู้ ีสทิ ธ์ิ เลือกตั้งสามารถเลอื กสมาชกิ อบต.ไดห้ มบู่ า้ นละก่ีคน ของถนน ทางนาํ้ ทางเดิน และทสี่ าธารณะ ๓.๔ กําจดั ขยะมลู ฝอยและสงิ่ ปฏิกูล ๓.๕ สง่ เสรมิ อาชีพของราษฎร ๓.๖ การพัฒนาสตรี เดก็ เยาวชน ผสู้ ูงอายุ และ ผู้พิการ ๔. เลอื กสมาชกิ อบต. ได้ ๒ คน เลอื กนายกได้ ๑ คน ๑๐๓ คูม่ ือการฝึกอบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธิปไตย
และเลอื กนายกได้กค่ี น ๕.๑ ออกข้อบญั ญตั ิทอ้ งถิ่น คาํ ตอบมี ๑ ขอ้ ๕.๒ ตรวจสอบควบคุมการบริหาร อบต. ของ ๕. หน้าทข่ี องสมาชกิ อบต. มอี ะไรบ้าง ฝ่ายบรหิ าร คาํ ตอบมี ๔ ข้อ ๕.๓ ใหค้ วามเหน็ ชอบแผนพัฒนาตําบล ๕.๔ ใหค้ วามเหน็ ชอบงบประมาณรายจา่ ยประจําปี ประเดน็ คาํ ถาม เกมการเลอื กต้ังท้องถิ่น คาํ ถาม คาํ ตอบ ๖. หนา้ ทน่ี ายก อบต. มอี ะไรบ้าง ๖.๑ บริหารกจิ การของ อบต. ๖.๒ จดั ทําแผนพฒั นาตําบล และงบประมาณ รายจ่าย คําตอบมี ๕ ข้อ ประจําปี ๗. คุณสมบตั ขิ องผ้มู ีสิทธเิ ลอื กตัง้ มอี ะไรบ้าง ๖.๓ รายงานผลปฏิบัตงิ าน และการใชจ้ า่ ยเงนิ ต่อสภา คําตอบมี ๓ ขอ้ อบต. ๘. เมือ่ จะไปเลอื กตงั้ จะต้องเตรยี มหลักฐานอะไร ไปใช้ ๖.๔ เป็นหัวหน้าผู้บรหิ ารสงู สดุ ของพนักงาน อบต. ๖.๕ เป็นผ้รู ับผิดชอบตามกฎหมายถ่ายโอนอํานาจจาก รฐั บาลมาปฏบิ ตั ิ ๗.๑ มอี ายุ ๑๘ ปีบรบิ ูรณ์ในวนั ท่ี ๑ มกราคม ของปีที่มี การเลอื กตัง้ ๗.๒ มสี ญั ชาติไทย ๗.๓ มีชอื่ อย่ใู นทะเบยี นบ้านในเขตเลือกตั้งตดิ ตอ่ กนั ไม่ น้อยกว่า ๑ ปีนบั ถึงวนั เลอื กตงั้ ๘.๑ บัตรประจาํ ตัวประชาชน ท่หี มดอายุกใ็ ช้ได้ ๑๐๔ คู่มือการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
สิทธใิ นวันเลอื กตงั้ ๘.๒ บัตรประจาํ ตัวเจา้ หน้าที่ของรฐั คาํ ตอบมี ๔ ข้อ ๘.๓ ใบขบั ขี่ ทอี่ อกโดยกรมการขนส่งทางบก ทมี่ ี ๙. เม่ือแสดงตนแลว้ จะได้รับบัตรก่ีใบ หมายเลขประจําตวั ประชาชน ๑๓ หลกั คําตอบมี ๑ ข้อ ๘.๔ หนังสอื เดินทาง ๑๐. เมอ่ื เข้าคหู าแลว้ ต้องทําอะไรบ้าง ๙. จะไดร้ บั บตั ร ๒ ใบ ๑ บตั ร เลือกนายก อกี ๑ บัตร คําตอบมี ๓ ข้อ เลอื กสมาชกิ ๑๐.๑ กากบาทในช่องกากบาท ๑๐.๒ พบั บตั รเลือกตัง้ ๑๐.๓ นําบัตรเลอื กตัง้ ๆ ไปใส่หบี ดว้ ยตนเอง ตัวอย่างแบบประเมนิ แบบประเมินพฤตกิ รรมการทํางานของกลมุ่ กลุ่มท่ี ……………………………….. คาํ ชี้แจง ทาํ เครือ่ งหมายในช่องที่ตรงกับความจริง ขอ้ รายการประเมิน ระดับความพงึ พอใจ ๑ มีการปรึกษาและวางแผนรว่ มกนั กอ่ นทํางาน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ๒ มีการแบ่งหนา้ ทอ่ี ยา่ งเหมาะสมและสมาชกิ ตามหน้าทีท่ ุกคน (๔) (๓) (๒) ปรุง ๓ ปฏบิ ัติหนา้ ทตี่ ามขน้ั ตอน ๔ มีการใหค้ วามช่วยเหลอื กัน (๑) ๕ ทาํ งานเปน็ ไปตามวัตถุประสงคท์ ก่ี ําหนด ๖ ทํางานเสรจ็ ตามกาํ หนดเวลา ๗ แสดงออกถงึ ความคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ ๘ นาํ ความร้ทู ่ไี ด้มาประยุกตใ์ ช้ ๑๐๕ คมู่ ือการฝึกอบรมหลกั สตู รลูกเสือประชาธิปไตย
๙ สามารถให้คาํ แนะนาํ กลมุ่ อนื่ ได้ ๑๐ จัดวสั ดุ อปุ กรณ์ เรยี บร้อย หลังเลกิ ปฏบิ ตั งิ าน รวม รวมทัง้ สน้ิ (ดมี าก + ดี + พอใช้ + ปรบั ปรุง) ผลการประเมนิ คุณภาพอยู่ในระดับ......................... ลงชอื่ ..............................................ผ้ปู ระเมนิ (...........................................) เกณฑ์การใหค้ ะแนน ถอื วา่ ดมี าก ให้ ๔ คะแนน ถอื วา่ ดี ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนและสมาํ่ เสมอ ถือวา่ ปานกลาง ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ถือว่า ปรบั ปรุง ให้ ๑ คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัตบิ างครั้ง พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตินาน ๆ ครั้ง เกณฑ์ตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๒๔ - ๓๐ ดมี าก ๑๗ -๒๓ ดี ๑๐ - ๑๖ พอใช้ ตา่ํ กว่า ๑๐ - ๑๖ ปรับปรุง ตวั อยา่ งแบบประเมนิ แบบประเมนิ ผลงานของกล่มุ กลมุ่ ที่ ……………………………….. ข้อ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ๔ ๓ ๒๑ ๑ ผลงานเป็นไปตามจุดประสงค์ ๒ ผลงานเสรจ็ ทนั เวลา ๑๐๖ ๓ ผลงานมคี วามคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์ ค่มู ือการฝึกอบรมหลักสตู รลกู เสอื ประชาธปิ ไตย
๔ เนือ้ หาสาระของผลงานมีความสมบรู ณ์ ๕ วิธกี ารนาํ เสนอผลงาน รวม รวมทง้ั สน้ิ (ดมี าก + ดี + พอใช้ + ปรับปรงุ ) ผลการประเมนิ คุณภาพอยูใ่ นระดับ......................... ลงชื่อ..............................................ผู้ประเมนิ (...........................................) เกณฑ์ตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๒๔ - ๓๐ ดมี าก ๑๗ -๒๓ ดี ๑๐ - ๑๖ พอใช้ ตาํ่ กว่า ๑๐ - ๑๖ ปรับปรงุ เกณฑ์การประเมินผลงานกลมุ่ หวั ขอ้ ที่ประเมนิ ดมี าก (๔) ระดบั คณุ ภาพ/คะแนน ปรับปรุง (๑) ๑. ผลงานเป็นไป ผลงานสอดคลอ้ ง ดี (๓) พอใช้ (๒) ผลงานไมส่ อดคลอ้ ง ตามจดุ ประสงค์ที่ กับจุดประสงคท์ ุก กบั จดุ ประสงค์ กาํ หนด ขอ้ /ทุกประเด็น ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง สมบูรณ์ กบั จดุ ประสงค์เปน็ กับจุดประสงค์บาง ส่วนใหญ่/เกอื บทุก ขอ้ /บางประเด็น ประเด็นสมบูรณ์ สมบรู ณ์ ๒. ผลงานเสร็จทัน เสรจ็ กอ่ นกําหนด เสร็จตามเวลาที่ เสร็จชา้ กวา่ เวลา ไมเ่ สรจ็ ตามกําหนดเวลา กาํ หนด ท่กี ําหนด ๓.ผลงานมีความคิด ผลงานถกู ตอ้ งตาม ผลงานถกู ต้องตาม ผลงานถูกตอ้ งตาม ผลงานมี ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ หลกั วิชาการและมี หลักวชิ าการและ หลักวชิ าการแตย่ ัง ขอ้ บกพรอ่ งและ มีแนวคิดแปลกใหม่ ไมม่ แี นวคิด ไม่มีแนวคดิ แนวคดิ แปลกใหม่ แตย่ งั ไมเ่ ป็นระบบ แปลกใหม่ แปลกใหม่ และเป็นระบบ ๔.เน้ือหาสาระ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ ๑๐๗ ค่มู ือการฝึกอบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธิปไตย
ของผลงานมี ผลงานครบถ้วน ผลงานครบถ้วน ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไม่ถูกต้อง ความสมบรู ณ์ ทุกประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ ๕.วิธกี ารนาํ เสนอ มีวิธีการนําเสนอ มวี ธิ กี ารนําเสนอ มีวธิ ีการนาํ เสนอ มีวิธีการนาํ เสนอ ผลงานกลุ่ม ผลงานทีน่ า่ สนใจ ผลงานที่นา่ สนใจ ผลงานทน่ี ่าสนใจ ผลงานไม่น่าสนใจ พูดเสยี งดงั ออก พดู เสยี งดงั ออก พดู เสยี งดงั ออก พูดเสียงเบาออก เสียงอักขระชดั เจน เสียงอกั ขระชดั เจน เสยี งอกั ขระ เสียงอักขระ คลอ่ งแคลว่ แต่ไม่คล่องแคล่ว ไม่ชดั เจนและ ไม่ชัดเจนและ ไมค่ ล่องแคลว่ ไม่คล่องแคลว่ ชื่อวิชา ลกู เสือกบั การชมุ นมุ รอบกองไฟ บทเรียนที่ ๑๐ เวลา ๑๒๐ นาที ขอบข่ายรายวชิ า ๑. ความเป็นมา ๒. ความมุง่ หมายของการชมุ นุมรอบกองไฟ ๓. สถานทใี่ ชช้ มุ นุมรอบกองไฟ ๔. การเตรียมก่อนเรม่ิ การชุมนุมรอบกองไฟ ๕. การจัดกองไฟ ๖. การจดั ท่นี ง่ั รอบกองไฟให้จดั เป็นรูปวงกลมหรอื เกือกมา้ ๗. พธิ เี ปดิ การชุมนุมรอบกองไฟ ๘. กาํ หนดการชุมนมุ รอบกองไฟ ๙. การเปล่ียนอิรยิ าบถของผ้เู ข้าชุมนุม ๑๐. พิธปี ดิ การชุมนมุ รอบกองไฟ จดุ หมาย เพื่อใหผ้ ู้เขา้ รับการฝึกอบรมสามารถเข้ารว่ มและปฏิบตั ิกิจกรรมตามขัน้ ตอนการชุมนุมรอบกองไฟได้ วัตถุประสงค์ ๑๐๘ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
เมอ่ื จบบทเรียนนีแ้ ล้ว ผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมสามารถ ๑. บอกข้ันตอนการชุมนุมรอบกองไฟได้ ๒. ปฏบิ ัตติ ามข้ันตอนการชุมนุมรอบกองไฟได้ ๓. นาํ ความรู้เกยี่ วกบั ประชาธปิ ไตย จดั แสดงในการชมุ นุมรอบกองไฟได้ วธิ สี อน / กิจกรรม กจิ กรรมยอ่ ยที่ ๑ (๓๐ นาที) ๑. วิทยากรอธบิ ายประวตั ิความเป็นมา แนวทาง และขั้นตอนในการชมุ นมุ รอบกองไฟ ๒. วิทยากรร่วมกับลูกเสือ สาธิตการทําความเคารพ การกล่าวชมเชย และการตอบรับคําชมเชย ตามแบบลูกเสอื ๓. นดั หมายหมู่บรกิ ารรอบกองไฟ เพ่อื จดั เตรียมสถานท่ี พวงมาลยั พุ่มสลาก เปน็ ต้น ๔. นัดหมายกาํ หนดเวลาในการเขา้ ร่วมการชุมนุมรอบกองไฟ การส่งรายช่อื การแสดง กจิ กรรมย่อยที่ ๒ (๙๐ นาท)ี ๑. ผเู้ ข้ารว่ มชมุ นมุ น่งั ประจําที่บริเวณรอบกองไฟ ๒. พิธีกรนาํ กจิ กรรมเพ่อื เตรียมความพร้อม ซักซ้อมแนวปฏิบัติในการชุมนุมรอบกองไฟ แนะนํา ผเู้ ปน็ ประธานในพิธี ๓. พิธีกรเชิญประธานกระทําพิธีเปิดการชุมนุมรอบกองไฟ และจับสลากการแสดงให้ผู้เข้าร่วม ชุมนุมแสดงรอบกองไฟตามลาํ ดับ ๔. พธิ ีกรจัดกิจกรรมเพอ่ื เปลยี่ นอริ ยิ าบถของผ้เู ขา้ รว่ มชุมนมุ ตามความเหมาะสม ๕. เมื่อทุกกลมุ่ แสดงจบ พธิ ีกรเชญิ ประธานใหข้ อ้ คิดและกล่าวปิดการชุมนุมรอบกองไฟ สอ่ื การสอน ๑. เคร่อื งดนตรี เช่น กลอง ฉิ่ง ฉาบ กรบั ฯลฯ ๒. เครอื่ งประกอบการแตง่ กายในการแสดง ๓. เครือ่ งเสียง ๔. กองไฟ / กองไฟจําลอง การประเมินผล ๑. วธิ ีการวดั ผล : สงั เกตพฤติกรรมในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมชุมนมุ รอบกองไฟ ๒. เคร่ืองมอื วดั ผล : แบบสังเกตพฤตกิ รรมในกิจกรรมชุมนุมรอบกองไฟ ๓. เกณฑก์ ารประเมินผล : มีผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ที่กาํ หนด เอกสารอา้ งอิง / แหล่งข้อมลู คู่มือการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ขั้นผู้ช่วยผู้ให้การฝึกอบรมวิชาผู้กํากับลูกเสือ คณะกรรมการ ลูกเสอื ฝา่ ยพัฒนาบคุ ลากร สํานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เนื้อหาวชิ า ๑. การชมุ นมุ รอบกองไฟ ๑๐๙ คู่มือการฝึกอบรมหลกั สูตรลกู เสือประชาธิปไตย
๑๑๐ ค่มู ือการฝึกอบรมหลกั สูตรลกู เสอื ประชาธปิ ไตย
ใบความรทู้ ่ี ๑๐ เรื่อง การชมุ นมุ รอบกองไฟ ๑. ความเปน็ มา จากประสบการณ์ในชีวิตทหารของลอร์ด เบเดน-โพเอลล์ (บี - พี) ท่ีได้พบเห็นการพักแรมคืนของ พ่อค้า ซึ่งเดินทางรอนแรมไปต่างเมืองและวิธีการของชาวพื้นเมือง ซ่ึงมีการชุมนุมกันในยามคํ่าคืน เป็น การพักผ่อน สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรึกษาหารือกัน มีการร่วมสนุกสนานด้วยการร้องเพลงและ แสดงกิจกรรมต่าง ๆ เป็นการผ่อนคลายอารมณ์และบรรเทาความเหนื่อยล้ามาจากกลางวัน จึงได้นําวิธีการน้ี มาทดลองใช้ในการนําเด็กซึ่งอาจเรียกว่าเป็นลูกเสือรุ่นแรกของโลกไปอยู่ค่ายพักแรมท่ีเกาะบราวน์ซี ประเทศ อังกฤษ ในปี ค.ศ.๑๙๐๗ (พ.ศ. ๒๔๕๐) โดยให้ลูกเสอื มาชุมนุมพร้อมกันรอบกองไฟในตอนกลางคืน และใช้ เวลานั้นฝึกอบรมประกอบการเล่านิทาน และมีการร่วมแสดงให้เกิดความสนุกสนานได้ผลเป็นอย่างดี จึงได้ นํามาใช้เป็นวิธีการฝึกอบรมลูกเสืออย่างหนึ่งสืบต่อมาจนปัจจุบันนี้ การชุมนุมรอบกองไฟในภาษาอังกฤษ เรียกว่า “CAMP FIRE” เดิมมักเรียกกนั ในภาษาไทยว่า การเล่นหรือการแสดงรอบกองไฟ เป็นเพียงส่วน หน่งึ ของการชุมนมุ รอบกองไฟเทา่ นนั้ ๒. ความมงุ่ หมายของการชุมนุมรอบกองไฟ การชมุ นมุ รอบกองไฟมีความมุ่งหมายสาํ คญั อยู่ ๕ ประการ เพอื่ ๒.๑ เป็นการฝึกอบรมตอนกลางคืน ดังท่ี ลอร์ด เบเดน - โพเอลล์ (บี - พี) ใช้ในการฝึกอบรมเด็ก ท่ไี ปอยู่คา่ ยพักแรม ณ เกาะบราวน์ซี ๒.๒ ให้ลูกเสือได้ร้องเพลงร่วมกัน หรือแสดงกิริยาอาการอย่างเดียวกัน เป็นการปลุกใจ หรือ เปลย่ี นอารมณใ์ หเ้ กดิ ความสนกุ สนานเบกิ บานใจ ผ่อนคลายความเครง่ เครียดให้บรรเทาเบาบางลง ๒.๓ ให้ลูกเสือแต่ละคนมีโอกาสแสดงออกในที่ชุมนุม โดยไม่เก้อเขินกระดากอาย เป็นการส่งเสริม ความสามคั คีของหมู่ ให้ทกุ คนรู้จกั ทาํ งานร่วมกบั ผอู้ น่ื และทาํ ให้รู้ความสามารถของแตล่ ะคนได้ดี ๒.๔ ใช้เป็นโอกาสสําหรับประกอบพิธีสําคัญบางกรณี เช่น แนะนําบุคคลสําคัญในกิจการลูกเสือ เช่น แนะนําผู้มีเกียรติสําคัญท่ีมาเยี่ยม การมอบเคร่ืองหมายวูดแบดจ์ เคร่ืองหมายตอบแทน เข็มสมนาคุณ หรือประกาศนยี บัตรต่าง ๆ เป็นต้น ๒.๕ เชิญบุคคลสําคัญในท้องถ่ินตลอดจนประชาชนทั่วไป เป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริม กจิ การลูกเสอื ได้อีกทางหนงึ่ ๓. สถานท่ใี ช้ชุมนมุ รอบกองไฟ ค่ายลูกเสือทุกแห่งควรมีบริเวณสําหรับการชุมนุมรอบกองไฟไว้โดยเฉพาะอยู่ที่มุมหน่ึงของ ค่ายลูกเสือ และควรอยู่ห่างจากท่ีพักพอสมควร ไม่ไกลเกินไป เพ่ือมิต้องเสียเวลาและเกิดความยุ่งยากเมื่อ ลกู เสือตอ้ งเดนิ จากทีพ่ ักไปยังบรเิ วณการชมุ นุมรอบกองไฟ และตอ้ งเดินกลบั เม่อื การชุมนมุ เลิกแล้ว ส่วนบริเวณ การชุมนุมรอบกองไฟ ควรมีต้นไม้เป็นฉากหลังน้ัน จะทําให้บรรยากาศดีขึ้น และจะทําให้การร้องเพลงได้ผล ดีกวา่ ที่โลง่ แจ้ง อน่ึง ในการเลือกสถานท่ีสําหรับการชุมชนรอบกองไฟนี้ ถ้าสามารถหาที่เป็นแอ่งให้ลูกเสือน่ังอยู่ เหนือกองไฟเล็กน้อยจะดีมาก เช่น ในบริเวณที่มีเนิน อาจจัดทําบริเวณการแสดงและกองไฟอยู่ตอนล่าง ๑๑๑ ค่มู ือการฝึกอบรมหลกั สูตรลูกเสอื ประชาธิปไตย
ส่วนลูกเสือให้น่ังอยู่บนเนิน หรือจัดทําบริเวณการแสดงและกองไฟให้อยู่บนเกาะ มีคูน้ําล้อมรอบ ผู้ชมน่ังอยู่ รมิ คูนา้ํ อีกด้านหนึ่ง สะพานข้ามคูทําด้วยไม้แบบสะพานชั่วคราว ปรากฏว่าสถานท่ีการชุมนุมรอบกองไฟเช่นว่า นีใ้ ช้การไดด้ ีอย่างยิง่ การชุมนุมรอบกองไฟนี้ถ้าไม่สะดวก เช่น ฝนตกหรือมีเหตุอ่ืน จะจัดภายในอาคารและใช้กองไฟท่ีให้ แสงสว่างอย่างอืน่ แทนได้ ๔. การเตรียมกอ่ นเริ่มชุมนุมรอบกองไฟ ๔.๑ คณะผู้ให้การฝึกอบรมจะต้องปรึกษาหารือกัน เพ่ือกําหนดว่า ในการชุมนุมรอบกองไฟนั้นจะมี กิจกรรมอะไรบ้าง จะให้กลุ่มใดทําหน้าที่บริการ ให้ผู้ใดเป็นพิธีกรและจะเชิญผู้ใดเป็นประธานซึ่งควรเป็นผู้ที่มี ความรู้ ความเข้าใจ ข้ันตอนการชุมนุมรอบกองไฟดีพอสมควร หรอื พิธีกรจะต้องซักซ้อมการท่ีประธานจะต้อง ปฏบิ ตั ติ ามขั้นตอนต่าง ๆ เสียก่อน ถ้าเป็นการอยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือตามธรรมดา โดยปรกติผู้กํากับลูกเสือ ท่พี าลูกเสอื ไปอยู่คา่ ยพักแรมน่นั เองจะทําหนา้ ที่ประธาน และใหร้ องผู้กาํ กับลูกเสือ หรือลกู เสอื คนใดคนหนึ่งท่ีมี ความสามารถทาํ หน้าทพี่ ิธีกร ๔.๒ พธิ ีกร คือผูน้ ําในการชุมนมุ รอบกองไฟ มีหนา้ ท่ี ๑. นัดหมาย - ประธาน ขน้ั ตอนที่จะตอ้ งปฏิบตั ิ - ผู้ร่วมแสดง ขั้นตอนการปฏิบัติ การแต่งเพลงประจําหมู่/กลุ่ม การส่งเร่ืองท่ีจะแสดง เวลาที่มาพร้อม เวลาท่ีใช้ในการแสดง การแต่งกายตามเน้ือเร่ือง การรายงานเมื่อเริ่มแสดง การกล่าวชมเชย การตอบรบั คาํ ชมเชย การกลา่ วเม่ือมผี ้มู าเย่ียม ข้อห้ามในเน้ือเรอื่ งที่จะแสดง - กลุ่มบริการให้จัดสถานท่ี กองไฟ จัดทําพวงมาลัย ทําพุ่มสลาก และคนถือขบวนแห่ การชว่ ยเหลือพิธกี ร, การทาํ ความสะอาดสถานทเี่ มอ่ื เลิกการแสดง ๒. ชแ้ี จงลําดบั การชุมนุม ซักซอ้ ม ข้อปฏิบตั ิ ข้อหา้ ม ๓. ประกาศชื่อผู้ทจ่ี ะมาเปน็ ประธานและผูต้ ดิ ตาม ๔. เชญิ ประธานและผู้ติดตามเขา้ สู่ท่ปี ระชุม ๕. ควบคุมและดาํ เนนิ การใหถ้ กู ตอ้ งโดยให้ผู้เข้ารว่ มชมุ นุมไดร้ ับความสนกุ สนาน ๖. เลือกเพลงทจ่ี ะนาํ มาใช้ใหเ้ หมาะสมกับผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม ๗. รกั ษาเวลาโดยเคร่งครัด ๕. การจดั กองไฟ กองไฟอาจจะเป็นกองไฟท่ีก่อด้วยไม้จริง โดยก่อเป็นแบบผสม (คอกหมู+ปิรามิด) หรือจะใช้ไฟให้ แสงสว่างอย่างอื่นแทนก็ได้ ถ้าเป็นกองไฟจริงจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ซ่ึงโดยปรกติจะมอบให้กลุ่มบริการในวันนั้น ทําหน้าท่ีนี้ คือ มีหน้าที่ก่อไฟให้เรียบร้อยก่อนทําพิธีเปิด จุดแล้วให้ไฟติดและจะต้องคอยดูแลกองไฟให้ติดอยู่ ตลอดเวลา ในการน้ี จะต้องเตรียมฟืนอะไหล่และน้ําสํารองไว้ ถ้าไฟมอดลงจะต้องเติมฟืนลงไป และถ้าไฟ ลุกลามมากหรอื กระเด็นออกจากกองไฟ ก็ต้องพรมน้ําลงไป ในปัจจุบัน นโยบายของรัฐบาลให้อนุรักษ์ป่าไม้และส่ิงแวดล้อมจึงควรละเว้นการก่อไฟด้วยไม้จริง เมื่อเลิกการชุมนุมรอบกองไฟผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบจะต้องออกจากบริเวณไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับผู้เข้าร่วม ชุมนุมอ่ืน ภายหลังอีกสักครู่จะต้องหวนกลับมาท่ีบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟอีกครั้งหนึ่ง เก็บไม่ให้มีเศษไม้ หรอื เถ้าถ่านเหลืออยู่เลย ๑๑๒ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลักสูตรลูกเสือประชาธิปไตย
เร่ืองการทําความสะอาดบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟนี้ อย่าถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ต้องถือว่าเป็น บทเรยี นอันสาํ คญั ในการฝึกอบรมดว้ ย ๖. การจัดทีน่ ่ังรอบกองไฟใหจ้ ดั เปน็ รปู วงกลมหรอื เกือกมา้ การจัดที่นั่งรอบกองไฟให้จัดเป็นรูปวงกลมหรือเกือกม้า ให้กองไฟอยู่ตรงกลาง มีท่ีน่ังพิเศษสําหรับ ประธานและผู้รับเชิญ ต้ังอยู่ในทิศทางเหนือลม ที่นั่งของประธานเป็นที่น่ังเดี่ยวให้ตั้งล้ําหน้ากว่าแถวของ ผตู้ ิดตามและผูร้ ว่ มชมการแสดง ให้มโี ต๊ะวางพุ่มสลากไวต้ รงหนา้ สว่ นผ้เู ข้ารว่ มชุมนุมโดยปรกติให้น่ังตามกลุ่ม ณ สถานที่ทไี่ ด้กําหนดให้ไว้ ๗. พิธีเปิดการชุมนุมรอบกองไฟ มขี ้ันตอนการปฏบิ ัตดิ ังนี้ ๗.๑ เม่ือผู้ร่วมแสดงแต่งกายตามเนื้อเรื่องท่ีจะแสดงเข้าน่ังที่ เรียงตามลําดับกลุ่มจากซ้ายของ ประธานไปทางขวา ความพรอ้ มควรเปน็ เวลาก่อนเร่มิ ต้นแสดงท่กี าํ หนดไว้ประมาณ ๑๐ นาที ๗.๒ พิธีกร ชี้แจงซักซ้อมการปฏิบัติแล้วแจ้งชื่อ และตําแหน่งหน้าที่การงาน หรือตําแหน่งทาง ลกู เสือของผเู้ ปน็ ประธานในพธิ แี ละผ้ตู ิดตามใหท้ ราบท่ัวกัน ๗.๓ ผูม้ ีหน้าทข่ี องกล่มุ บรกิ ารจุดไฟ ๗.๔ พิธีกร ออกไปเชญิ ประธาน ซงึ่ มารอคอยอย่กู อ่ นแล้วใกล้ที่ชมุ นมุ ฯ ๗.๕ เม่อื ประธานเดินเข้ามาในพืน้ ท่กี ารแสดง พธิ ีกรส่ังตรง ทกุ คนลกุ ขนึ้ ยืนตรง ๗.๖ ประธานรับการเคารพแล้ว เดินตรงไปที่ต้ังกองไฟยืนอยู่ระยะห่างพอสมควรยกมือขวาแสดง รหสั ของลูกเสอื ชูสูงขึน้ ไปขา้ งหน้า ทาํ มมุ กับไหล่ประมาณ ๔๕ องศา ๗.๗ ผตู้ ิดตามประธานและผมู้ าร่วมชุมนมุ เดินตามประธานเขา้ มา ให้เดนิ ไปยืนอยู่ ณ บรเิ วณทจี่ ัดให้ ๗.๘ ประธานกล่าวเปิดด้วยข้อความท่ีเป็นมงคลและจบลงด้วยถ้อยคําว่า “ข้าพเจ้าขอเปิดการ ชมุ นุมรอบกองไฟ ณ บดั นี้” โดยใช้เวลาประมาณ ๓ นาที ประธานยงั คงยืนอยู่ ณ ทเี่ ดิม ๗.๙ ทุกคนเขา้ ร่วมในที่ชุมนุมกล่าวพร้อมกันว่า “ฟู่” ๓ ครัง้ ๗.๑๐ พิธีกร นําร้องเพลง ๑ หรอื ๒ เพลง เช่น เพลงสยามานสุ ติ สดดุ ีมหาราชา เพลงสถาบัน ของผู้เข้ารว่ มการฝกึ อบรม เปน็ ต้น ท้ังนี้โดยไม่มดี นตรปี ระกอบ และไมป่ รบมอื ๗.๑๑ จบเพลงแลว้ ประธานเดินกลับไปนงั่ ยังท่นี งั่ ซึง่ จัดไว้ ผูต้ ดิ ตามน่ังลงตามที่ของตน ๗.๑๒ พิธกี ร สัง่ ให้ผรู้ ่วมชมุ นมุ “นงั่ ” ๗.๑๓ พธิ ีกร สงั่ ให้ผถู้ ือพวงมาลยั และพ่มุ สลากมาตั้งขบวนอยดู่ ้านขวามือของประธาน ๗.๑๔ พิธีกรนําร้องเพลงเก่ียวกับแห่มาลัย – พุ่มสลาก ขบวนเริ่มออกเดินผ่านหน้าประธาน เวียนรอบกองไฟ เมื่อครบ ๓ รอบ ผู้ถือพวงมาลัยและพุ่มสลาก หยุดยืนตรงหน้าประธาน บุคคลอ่ืน ๆ ในขบวนแห่พวงมาลัยและพุ่มสลาก ให้กลับไปนั่งท่ีเดิม ผู้ถือพวงมาลัย ส่งมาลัยให้แก่ประธาน ผู้ถือพุ่มสลาก สง่ ใหป้ ระธาน ตามลาํ ดบั แลว้ กลับเข้าท่ีนง่ั ของตน ๘. การดาํ เนินการ ๘.๑ พิธีกรเป็นผู้นําการจัดกิจกรรม เพื่อเปล่ียนอิริยาบถ โดยการร้องเพลงประกอบท่าทาง หรือ การเลน่ เกมตามความเหมาะสม ๘.๒ พธิ ีกรเชญิ ใหป้ ระธานจบั สลาก รบั สลากจากประธานอา่ นใหท้ ราบวา่ กลมุ่ ใดจะตอ้ งแสดง ๑๑๓ คูม่ ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
๘.๓ ให้หัวหน้ากลุ่มสั่งสมาชิกในกลุ่มให้เคารพผู้เป็นประธาน “กลุ่ม……ตรง” หัวหน้ากลุ่มทํา ความเคารพ ๘.๔ ทกุ คนภายในกลมุ่ ร่วมกันรอ้ งเพลงประจาํ กล่มุ ๒ จบ จงึ เรม่ิ การแสดง ๘.๕ เริ่มการแสดงบริเวณหนา้ กลุม่ ของตน โดยหันหน้าไปทางประธาน ๘.๖ จบการแสดงทุกคนกลับไปยืน ณ ที่นั่งของตน หัวหน้ากลุ่มส่ัง “กลุ่ม….…ตรง” หัวหน้ากลุ่ม ทาํ ความเคารพ แล้วสงั่ สมาชิกภายในกลมุ่ ของตนนงั่ ลง ๘.๗ พิธีกร ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุม ซึ่งไม่ใช่กลุ่มที่แสดงคนหน่ึงเป็นผู้นํากล่าวชมเชยให้แก่กลุ่มที่แสดง ผู้นํากล่าวชมเชยแล้วเชิญชวนให้กลุ่มอ่นื ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วกล่าวคําชมเชยดังตัวอย่าง เช่น “พี่น้อง.........โปรด ยืนขึ้น แล้วกล่าวคําชมเชยให้แก่กลุ่ม…….…พร้อมกัน ๓ คร้ังว่า “ยอดเย่ียม” ผู้เข้าร่วมชุมนุมกล่าวคําชมเชย พร้อมกันและแสดงกิริยาประกอบ โดยกา้ วเท้าซ้ายออกไปข้างหน้าประมาณคร่ึงก้าว กํามือขวาไปไว้บริเวณ หวั ใจ แล้วผายมอื ขวาไปยังกลุ่มที่แสดงจบ พร้อมกลา่ วคําชมเชยตามที่นัดหมายไว้เสร็จแล้วนงั่ ลง ๘.๘ กลุ่มท่ีแสดงลุกขึ้นยืน ใช้แขนขวาทับแขนซ้าย ต้ังฉากเสมอไหล่ พร้อมกับคํากล่าวส้ัน ๆ เช่น “ขอบคุณ ครับ / ค่ะ” พร้อมกบั นอ้ มตัวลง ๑ คร้ัง ๘.๙ พิธีกรดําเนนิ การเชน่ เดยี วกนั น้ีไปจนครบทกุ กลุ่ม เม่อื จบการแสดงของแต่ละกลุ่ม ก่อนจะเริ่ม การแสดงของกลุ่มต่อไป อาจมีการแนะนําบทเรียนหรือประกอบพิธีหรือมีกิจกรรมอ่ืนหรือร้องเพลงเพ่ือเปล่ียน อริ ยิ าบถสลับเป็นครง้ั คราวตามเวลาท่ีเหมาะสม ๙. การเปลย่ี นอิรยิ าบถของผ้เู ข้าชมุ นุม ในการชุมนมรอบกองไฟ การเปลี่ยนอิริยาบถของผู้เข้าชุมนุมให้สนุกสนานร่าเริงเป็นเร่ืองสําคัญ ผูเ้ ข้าชมุ นมุ อาจจะรูส้ กึ เบ่ือและง่วงเหงาหาวนอน การเปล่ียนอิริยาบถของผู้เข้าชุมนุมนี้อาจทําได้หลายวิธี และ เป็นหน้าที่ของพิธีกรท่ีจะต้องเป็นผู้นํา หรือมอบหมายให้ผู้รู้คนใดคนหน่ึงเป็นผู้นํา เช่น นําให้ร้องเพลงรําวง นําให้แสดงกิริยาอาการต่าง ๆ ที่ขบขัน หรือปลุกให้เกิดความสนุกสนาน ตื่นตา ต่ืนใจ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหน็ ว่าเหมาะสมกับผู้เข้าร่วมชมุ นมุ และเหมาะสมกบั เวลา ๑๐. พธิ ีปดิ ๑๐.๑ เมอื่ จบการแสดงของทกุ กลุ่มแลว้ พิธีกรจะให้มีการร้องเพลงทํานองช้า อาจเป็นเพลงท่ีเป็นคติ หรือสร้างสรรคเ์ หมาะสมกบั ผูร้ ่วมชมุ นมุ ทงั้ นคี้ วรเปน็ เพลงทสี่ ว่ นใหญ่หรอื ท้ังหมดได้รว่ มรอ้ งดว้ ย ๑๐.๒ พิธีกรจะเชิญประธานกลา่ วปิด ๑๐.๓ ประธานไปยืนในที่เหมาะสม กล่าวเรื่องส้ันอันเป็นประโยชน์ในเรื่องใด ๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม และจบลงด้วยถ้อยคาํ วา่ “ข้าพเจ้าขอปดิ การชมุ นมุ รอบกองไฟ ณ บดั น้ี” ใชเ้ วลาประมาณ ๑๐ นาที ๑๐.๔ พธิ ีกร ให้ทกุ คนล้อมวง โดยให้แขนขวาซอ้ นบนแขนซา้ ยของตนเอง และใช้มือขวาซ้ายจับคน ข้างเคยี งร่วมกันรอ้ งเพลงสามัคคีชมุ นมุ พรอ้ มกับโยกตวั ไปทางขวา ซา้ ย ช้า ๆ จนจบเพลง ๑๐.๕ ผู้แทนกลุ่มบริการ นําสวดมนต์อย่างยาว จบแล้วให้ส่ังให้ทุกคนหันหน้าไปยังทิศที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ในขณะนั้น ถ้าหากพระองค์มิได้ประทับอยู่ในประเทศไทยให้หันหน้า ไปยังพระบรมมหาราชวงั กรุงเทพมหานคร สง่ั ทาํ ความเคารพแลว้ นํารอ้ งเพลงสรรเสริญพระบารมีจนจบ ๑๐.๖ พธิ ีกร นัดหมาย ๑๐.๗ ทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พักอย่างสงบ ส่วนกลุ่มท่ีทําหน้าท่ีเป็นกลุ่มบริการกลับมาทํา ความสะอาดใหเ้ รียบร้อย ๑๑๔ คูม่ ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
๑๑. หนา้ ทขี่ องพิธีกร ๑๑.๑ นัดหมายสมาชิก ๑. เร่ืองการแสดง ๒. เวลาสง่ เร่ือง ๓. เพลงประจําหมู่ ๔. การแต่งกาย ๕. ข้อหา้ ม ๖. ขอ้ ปฏิบัติ ๗. ขัน้ ตอน ๘. หน้าทีห่ มู่บริการ ๑๑.๒ นดั หมายประธานในพธิ ี ๑. เวลา ๒. ขน้ั ตอน ๓. การกล่าวเปิด ๔. การเลา่ เรื่องสัน้ ๑๑.๓ ก่อนการชมุ นุม ๑. ตรวจสถานที่ /อุปกรณ์/ กองไฟ ๒. รับเร่อื งท่จี ะแสดง (ไมค่ วรซ้ํากัน) ๓. จดั รายการใหเ้ หมาะสม ๑๒. ตัวอยา่ งคํากล่าวเปดิ การชมุ นมุ รอบกองไฟ ๑๒.๑ ด้วยจิตใจอันดีของ..........ท่ีมาชุมนุม ณ กองไฟน้ี จากทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทศิ ตะวันตก ขา้ พเจ้าขอเชิญส่ิงศักดิ์สิทธิ์ท้ังหลายจงมาเป็นสักขีพยานในการชุมนุมรอบกองไฟน้ี จงนําโชคดีมา สู่ทา่ น และขอให้กจิ การ.............จงเจริญร่งุ โรจนเ์ หมือนแสงไฟอันรุ่งโรจน์ ส่งิ ไม่ดไี มง่ ามทั้งหลายขอจงมอดไหม้ เปน็ เถา้ ถ่านในกองไฟน้ี พ่นี ้อง.............ท้ังหลาย บดั น้ีถึงเวลาแลว้ ข้าพเจ้าขอเปิดชมุ นมุ รอบกองไฟ ณ บัดน้ี ๑๒.๒ จากแสงไฟท่ีลุกโชติช่วงอยู่ ณ บัดนี้ เปรียบประดุจกิจการของ.........ท่ีรุ่งโรจน์ ส่วนเถ้าถ่านที่ มอดดับเหมือนกับส่ิงท่ีเราทําผิดพลาดไว้ขอให้สลายไป ถึงเวลาแล้วข้าพเจ้าขอเปิดการชุมนุมรอบกองไฟ ณ บัดนี้ ๑๒.๓ ขอเดชะสิง่ ศักดิ์สิทธ์ิในสากลโลก จงดลบนั ดาลให้กจิ การ……….เจรญิ รงุ่ เรืองยงิ่ ๆ ขึ้นไปทั้ง ๔ ทิศ ดุจเปลวเพลิง ที่ส่องแสงสว่างรุ่งโรจน์อยู่น้ี บัดน้ีเป็นได้เวลาอันสมควรแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดการชุมนุมรอบ กองไฟของ..........ณ บัดนี้ ๑๒.๔ ท่ามกลางกองไฟอันรุ่งโรจน์ท่ีอยู่ตรงหน้าเราน้ี เปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งวิญญาณและ ความรุ่งเรืองของกิจการ………. ส่วนความช่ัวร้ายอันจะพึงเกิดขึ้นกับกิจการ………… ขอให้สลายหมดส้ินไป เหมือนกับเถ้าถ่านของกองไฟ ท่ีกําลังจะมอดดับไป บัดน้ี ถึงเวลาแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดการชุมนุมรอบกองไฟ ณ บดั นี้ ๑๑๕ ค่มู ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลกู เสือประชาธปิ ไตย
หมายเหตุ • เพลงประจํากลุ่มทใ่ี ช้ร้องให้มีเน้อื ร้องระบุช่อื หมู่ มสี าระ ปลกุ ใจ เป็นคติ • เรื่องทจี่ ะแสดงควรเปน็ เรอ่ื งเปน็ คติเตอื นใจ ประวัตศิ าสตร์ปลกุ ใจให้รกั ชาติ สง่ เสรมิ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี สนกุ สนาน • ไม่ควรแสดงเรอ่ื งไร้สาระ เสยี ดสีบคุ คล เร่ืองการเมอื ง ผีสาง ลามก อนาจาร ลอ้ ผเู้ ข้าร่วมชุมนมุ เลียน ศาสนา • ห้ามใชอ้ าวธุ จริงหรือของมีคมมาประกอบการแสดง • หา้ มสบู บหุ ร่ใี นขณะน่งั อยู่ในบริเวณชุมนุม • ห้ามดื่มของมนึ เมา รวมท้ังนาํ มาใชป้ ระกอบการแสดง • ไมค่ วรแตะต้องหรือนําสงิ่ ของข้ามกองไฟหรือใช้กองไฟประกอบการแสดงในทางไมเ่ หมาะสม ๑๑๖ คู่มือการฝึกอบรมหลกั สูตรลกู เสอื ประชาธิปไตย
แบบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ช่ือวชิ า การชมุ นุมรอบกองไฟ ชอ่ื กลมุ่ .............................................................................................................................................. การแสดง เรอ่ื ง……………………………..………………..…………………...………………………. ขอ้ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ๔๓๒๑ ๑ เนอื้ หาของเรอ่ื งท่ีแสดงเหมาะสม ๒ อปุ กรณ์ประกอบการแสดงและเครือ่ งแตง่ กาย ๓ ตัวละครแสดงไดส้ มบทบาท ๔ การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ รวม ………………………………….. (…………………………………) ผกู้ ํากบั ลกู เสือ เกณฑ์การประเมินผลงานกลมุ่ รายการทีป่ ระเมิน ดีมาก (๔) ระดบั คุณภาพ / คะแนน ปรับปรุง (๑) ดี (๓) พอใช้ (๒) ๑. เนอ้ื หาของเร่ืองท่ี ๑. คุณธรรมพ้ืนฐาน ๘ ปฏิบตั ไิ ด้ ๑ ขอ้ แสดงเหมาะสม ประการ ปฏบิ ัตไิ ด้ ๓ ข้อ ปฏบิ ัตไิ ด้ ๒ ขอ้ ๒. ความกตัญญกู ตเวที ๒. อปุ กรณ์ ๓. จติ อาสา ปฏบิ ตั ิได้ ๒ ข้อใน ปฏบิ ัตไิ ด้ ๑ ขอ้ ใน ปฏิบัตไิ ม่ได้เลย ประกอบการ ๔. หลักเศรษฐกิจพอเพียง ๓ ขอ้ ๓ ขอ้ แสดงและ ๑. ประยุกต์การแตง่ กาย เคร่อื งแตง่ กาย ๒. ประยกุ ต์อุปกรณ์ แสดงไมส่ ม แสดงไม่สม แสดงไมส่ มบทบาท ๓. การแตง่ กายสอดคล้อง บทบาท ๑ คน บทบาท ๒ คน ๓ คนขึ้นไป ๓. ตัวละครแสดงได้ สมบทบาท กับเรอ่ื งทแ่ี สดง สมาชิก ๑ คน สมาชิก ๒ คน สมาชิก ๓ คนข้นึ ไป ทกุ คนแสดงได้สมบทบาท ไม่ไดม้ ีส่วนรว่ ม ไมไ่ ด้มีส่วนร่วม ไม่ไดม้ ีส่วนรว่ ม ๔. การมสี ่วนรว่ ม ของสมาชกิ ทุกคนมีส่วนรว่ ม ๑๑๗ คู่มือการฝกึ อบรมหลักสตู รลกู เสือประชาธปิ ไตย
ชอื่ วิชา ลกู เสอื กบั การจัดทาํ โครงการ/โครงงาน บทเรยี นท่ี ๑๑ เวลา ๑๒๐ นาที ขอบข่ายรายวชิ า ๑. ความหมาย และองค์ประกอบของโครงการ/โครงงาน ๒. การวางแผนจดั ทําโครงการ /โครงงาน ๓. ขัน้ ตอนการจดั ทําโครงการ/โครงงาน จุดหมาย เพ่อื ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมคี วามรู้ ความเข้าใจ และมที กั ษะในการจดั ทําโครงการ/โครงงาน วตั ถปุ ระสงค์ เมอื่ จบบทเรยี นน้แี ล้ว ผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมสามารถ ๑. เขียนโครงการ/โครงงานเกย่ี วกบั กิจกรรมส่งเสริมประชาธปิ ไตย ได้ ๒. นําโครงการ/โครงงานทจ่ี ัดทําไปใชใ้ นสถานศกึ ษาของตนเองได้ วิธีสอน / กจิ กรรม ๑. นาํ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยนาํ เสนอตัวอยา่ งกิจกรรมส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย ด้วยสื่อ เชน่ วิดีทัศน์ เกม เพลง แผ่นพบั ฯลฯ ๒. ใหค้ วามรูเ้ ร่ืองการวางแผนจัดทําโครงการ/โครงงาน และกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมประชาธิปไตย โดย ใช้ Power Point และใบความรทู้ ี่ ๑๑ เรื่อง การเขยี นโครงการ/โครงงาน ๓. มอบหมายใหว้ างแผนจัดทําโครงการ/โครงงานส่งเสรมิ ประชาธิปไตย ๑ โครงการ/โครงงาน ๔. ตัวแทนแตล่ ะกล่มุ นาํ เสนอโครงการ/โครงงาน ๕. สรุปและประเมนิ ผล สอ่ื การสอน ๑. วิดีทัศนต์ วั อยา่ งกจิ กรรมส่งเสริมประชาธปิ ไตย ๒. PowerPoint เรือ่ ง การวางแผนกจิ กรรมโครงการ/โครงงาน ๓. ใบความร้ทู ่ี ๑๑ เรอื่ ง การเขียนโครงการ/โครงงาน ๔. กระดาษ Flipchart ๕. ปากกาเคมี ๑๑๘ คูม่ ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลกู เสือประชาธิปไตย
การประเมนิ ผล ๑. วิธกี ารวดั ผล : ประเมินการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกลุม่ ๒. เคร่อื งมอื วัดผล : แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรมกลมุ่ ๓. เกณฑ์การประเมนิ ผล : มีผลการประเมินผ่านเกณฑท์ ่ีกําหนด เอกสารอา้ งอิง / แหล่งขอ้ มลู ๑. แหลง่ เรยี นรู้ในชุมชน ๒. ห้องสมุดในสถานศกึ ษา และนอกสถานศกึ ษา ๓. ขอ้ มูลทาง Internet ๔. ตวั อยา่ งการเขยี นโครงการ/โครงงาน ๕. แบบฟอรม์ การเขียนโครงการ/โครงงาน เน้ือหาวิชา ๑. การจัดทาํ โครงการ/โครงงาน ๑๑๙ ค่มู ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
ใบความรู้ท่ี ๑๑ เรอื่ ง การจดั ทําโครงการ/โครงงาน การจัดทําโครงการ/โครงงาน เพื่อดําเนินการตามแผนงานอย่างใดอย่างหน่ึงนั้น สามารถทําให้ ผู้ปฏิบัติงานทํางานได้อย่างมีข้ันตอน และมองเห็นปัญหาในการทํางานได้อย่างชัดเจนยิ่งข้ึน รวมท้ังมองเห็น แนวทาง ในการแก้ปัญหาอีกด้วย การเสนอแนะให้จัดทําโครงการ/โครงงานนั้น จําเป็นจะต้องระดม ความสามารถ งบประมาณและทรัพยากรอ่ืน ๆ อีกเป็นจํานวนมาก ซึ่งโครงการ/โครงงานบางโครงการ/ โครงงานอาจไม่จําเป็นต้องดําเนินการ ของบประมาณสนับสนุนเลยก็ได้ แต่การเขียนโครงการ/โครงงานจะต้อง ทาํ ใหถ้ กู ขน้ั ตอนโดยมแี นวทางในการเขียนโครงการ/โครงงาน ดงั ต่อไปน้ี ๑. โครงการ/โครงงาน คืองานหรือกิจกรรมท่ีระบุรายละเอียดต่าง ๆ เพ่ือที่จะนําไปปฏิบัติให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์ท่ีกําหนดไว้ในแผน บางคร้ังวัตถุประสงค์หนึ่ง ๆ อาจจําเป็นต้องมีหลายโครงการ/โครงงาน ก็ได้แต่โครงการ/โครงงานหนึ่ง ๆ นั้น จะต้องมีส่วนประกอบท่ีระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนและมีความแน่นอน ดังนี้ (๑) ชอื่ โครงการ/โครงงาน (๒) หลักการและเหตผุ ล (๓) วตั ถุประสงค์ (๔) เปา้ หมาย (๕) วธิ ดี ําเนนิ งาน (๖) ระยะเวลา (๗) สถานที่ (๘) งบประมาณ (๙) ผู้รับผิดชอบ (๑๐) หน่วยงานท่เี กยี่ วข้อง (๑๑) การประเมินผล (๑๒) ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั ๒. แนวทางในการเขียนโครงการ/โครงงาน (๑) ช่ือโครงการ/โครงงาน เป็นการกําหนดชื่อโครงการ/โครงงานให้เฉพาะเจาะจงในเร่ืองที่ จะทํา (๒) หลักการและเหตุผล ควรระบุหลักการอย่างกว้าง ๆ ว่ามีความจําเป็นและมีความเหมาะสม อยา่ งไร จะใหป้ ระโยชน์อย่างไร (๓) วัตถุประสงค์ คือส่ิงที่ผู้ทําโครงการ/โครงงานต้องการจะได้รับและผลต่อเน่ืองของ โครงการ/โครงงานนั้น (๔) เป้าหมาย คอื การระบชุ นิด คุณภาพ และขอบข่ายงานที่จะทํา (๕) วิธีดําเนินงาน เป็นการบอกรายละเอียดของการดําเนินงาน หรือวิธีดําเนินงานให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์ เร่ิมตั้งแต่การเตรียมงาน การศึกษาและสํารวจข้อเท็จจริงต่าง ๆ การเสนอขออนุมัติโครงการ/ โครงงาน การเรม่ิ งาน จนถึงการปฏิบัตงิ าน ๑๒๐ คู่มือการฝึกอบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธิปไตย
(๖) ระยะเวลา เป็นการกําหนดวันเร่ิมโครงการ/โครงงาน วันส้ินสุดโครงการ/โครงงาน หรือช่วงเวลาที่ดาํ เนินการ (๗) สถานที่ การระบสุ ถานที่ หรอื บริเวณทีจ่ ะทาํ โครงการ/โครงงาน (๘) งบประมาณ แยกงบประมาณรายรับรายจา่ ยทั้งหมดไวใ้ ห้ละเอยี ดทส่ี ดุ เท่าทีจ่ ะทําได้ (๙) ผู้รับผิดชอบ ให้ระบุช่ือผู้ทําให้ชัดเจนว่าใคร หรือหน่วยงานใดท่ีรับผิดชอบโครงการ/ โครงงาน นั้น ๆ (๑๐) หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวข้อง คอื หนว่ ยหลักท่ชี ว่ ยส่งเสริม สนับสนุนให้การดาํ เนนิ งานตามโครงการ/ โครงงานสําเร็จลลุ ว่ ง (๑๑) การประเมินผล การบอกแนวทางในการประเมินผลว่าจะทําอย่างไร และทําในช่วง เวลาใด (๑๒) ผลทีค่ าดว่าจะได้รบั การระบผุ ลของโครงการ/โครงงานท่คี าดวา่ เมือ่ เสรจ็ สิ้นโครงการ ๑๒๑ ค่มู ือการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
ตัวอย่างโครงการ/โครงงาน ๑. ช่ือโครงการ / โครงงาน โครงการ/โครงงานอนรุ ักษส์ งิ่ แวดล้อม (กจิ กรรมปลกู ต้นไมใ้ นท่สี าธารณะ) ๒. หลกั การและเหตุผล ด้วยสภาพในปัจจุบันมีจํานวนประชากรเพ่ิมมากข้ึนทําให้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่ถูกใช้ไปอย่าง ส้ินเปลืองจนน่าวิตก สภาพต้นไม้ถูกทําลายลง บ้านเมืองขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทําให้ประชาชนท่ี อาศัย อยู่ในชุมชนในเมืองขาดร่มเงาจากต้นไม้สําหรับพักผ่อนหย่อนใจ ดังนั้น จึงควรส่งเสริมให้มีการปลูกต้นไม้ เพ่ือให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นร่มเย็น เพ่ือช่วยรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติทางอ้อม รวมทั้งยังเป็น การฝึกให้ลกู เสือเกดิ ความรักและหวงแหนในต้นไม้ จึงเห็นสมควรใหม้ ีโครงการ/โครงงานนีข้ ึ้น ๓. วตั ถุประสงค์ ๓.๑ เพื่อให้มตี น้ ไม้เปน็ ร่มเงาสําหรบั พักผอ่ นหยอ่ นใจ ๓.๒ เพื่อให้ลกู เสอื ตระหนักถงึ ความสําคญั ของการปลูกตน้ ไม้ว่ามีประโยชนต์ ่อมนษุ ยแ์ ละสตั ว์ ๓.๓ ให้ลูกเสอื ได้มโี อกาสบาํ เพญ็ ประโยชน์ตอ่ ชมุ ชนและสังคม ๓.๔ ฝึกให้ลูกเสือมีทักษะในการปลกู ตน้ ไม้ยิ่งข้ึน ๔. เปา้ หมาย ๔.๑ เชงิ ปริมาณ ลูกเสือปลกู ต้นไมอ้ ยา่ งน้อยคนละ ๑ ต้น ๔.๒ เชงิ คณุ ภาพ ลูกเสือมสี ว่ นรว่ มในการปลกู ตน้ ไม้ ๕. วธิ ดี าํ เนนิ งาน ๕.๑ ประชุมวางแผนการปลูกตน้ ไม้ร่วมกับสมาชกิ กองลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่ และขอ ๕.๒ ติดตอ่ ขอพันธกุ์ ล้าไมจ้ ากศูนย์เพาะชํากลา้ ไม้ ๕.๓ จัดสภาพแวดล้อมบริเวณที่จะปลูกต้นไม้ ติดป้ายโฆษณาให้บุคคลทั่วไปทราบ ความร่วมมือในการบํารุงรักษาตน้ ไม้ ๕.๔ ใหล้ กู เสอื จัดเตรยี มเครื่องมือ และอาหารไปใหพ้ ร้อม ๕.๕ ลงมือปฏิบตั ิการ ๕.๖ สรปุ และประเมนิ ผล ๖. สถานท่ี สวนสาธารณะ วดั หรอื โรงเรยี น ๗. ระยะเวลา ระหว่างเดอื นพฤษภาคม ถึง มิถุนายน ๘. งบประมาณ ใชเ้ งินบริจาคจํานวน ๓,๐๐๐ บาท ๑๒๒ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลกั สตู รลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
๙. ผรู้ ับผิดชอบโครงการ/โครงงาน ผูเ้ สนอโครงการ/โครงงานร่วมกบั สมาชิกกองลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ ๑๐. หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง ศูนยเ์ พาะชาํ กลา้ ไม้ ๑๑. การตดิ ตาม ประเมนิ ผล สงั เกตพฤตกิ รรมของลกู เสือ ๑๒. ผลที่คาดว่าจะไดร้ บั จะมีตน้ ไม้เพ่ิมขึน้ จาํ นวนหน่งึ บรเิ วณดงั กล่าวจะมรี ่มเงาของตน้ ไมส้ าํ หรบั พกั ผ่อนหยอ่ นใจ ๑๒๓ คมู่ ือการฝกึ อบรมหลกั สูตรลูกเสอื ประชาธิปไตย
แบบฟอรม์ การเขียนโครงการ/โครงงาน ๑. ช่อื โครงการ / โครงงาน ............................................................................................................................................................................ ๒. หลักการและเหตผุ ล .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ๓. วตั ถุประสงค์ ๓.๑ ……………………………………………………………….………………………………………………………………….. ๓.๒ …………………………………………………………………………………………………………………………………... ๓.๓ …………………………………………………………………….……………………………………………………………. ๔. เปา้ หมาย ๔.๑ เชิงปริมาณ………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔.๒ เชงิ คณุ ภาพ…………………………………………………………………………..…………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………… ๕. วธิ ีดาํ เนนิ งาน ๕.๑…………………………………………………………………………………………………………………………………. ๕.๒………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕.๓………………………………………………………………………………………………………………………………… ๖. สถานที่ ……………………………………………………………………………………………………………..………………………………………. …………………………………………………..……………………………………….………………………………………………………… ๗. ระยะเวลา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๘. งบประมาณ …………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………. ๙. ผู้รับผิดชอบโครงการ/โครงงาน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………..………………………………………. ๑๐. หนว่ ยงานที่เกีย่ วขอ้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๑๑. การประเมนิ ผล ๑๑.๑ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๒ ………………………………………………………………………………………………................................... ๑๒๔ คูม่ ือการฝกึ อบรมหลักสตู รลูกเสอื ประชาธปิ ไตย
๑๒. ผลทค่ี าดว่าจะได้รบั ๑๒.๑ ………………………………………………………….………………………………………………………………… ๑๒.๒ …………………………………………………………………….…………………………................................ ๑๒.๓ ……………………………………………………………………………….………………………………………….. ลงชอ่ื …………………………………ผ้เู สนอโครงการ/โครงงาน (…………………………………) ลงชือ่ …………………………………ทป่ี รึกษาโครงการ/โครงงาน ( …………………………………) ลงช่อื …………………………………ผเู้ หน็ ชอบโครงการ/โครงงาน (…………………………………) ลงชอื่ …………………………………ผู้อนุมัตโิ ครงการ/โครงงาน (…………………………………) ๑๒๕ คูม่ ือการฝึกอบรมหลกั สตู รลูกเสอื ประชาธิปไตย
แบบประเมนิ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม เรือ่ ง การจัดทําโครงการ/โครงงาน ชอ่ื กลุ่ม……………………………………………………………….……………………………………….. ข้อ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ๑ ๔๓๒ ๑ การมสี ว่ นร่วมของสมาชิก ๒ ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ ๓ ความถกู ต้องของการจดั ทําโครงการ ๔ วิธกี ารนาํ เสนอ ๕ ความเปน็ ไปได้ของโครงการ รวม ……………………………………. (…………………………………) ผูก้ าํ กับลกู เสือ เกณฑ์การประเมินผล รายการทปี่ ระเมิน ระดับคุณภาพ / คะแนน ๑. การมีสว่ นร่วมของ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรบั ปรงุ (๑) สมาชิก ทกุ คนมสี ว่ นร่วม สมาชิก ๓ คนขึ้นไป ๒. ความคิดริเร่มิ สมาชิก ๑ คนไมไ่ ดม้ ี สมาชกิ ๒ คนไม่ได้มี ไม่ไดม้ สี ่วนร่วม ๑. ใหมไ่ มซ่ ้ําใคร ปฏิบตั ไิ มไ่ ด้เลย สรา้ งสรรค์ ๒. มปี ระโยชน์ สว่ นรว่ ม ส่วนร่วม ๓. ประยกุ ตเ์ ปน็ รูปแบบ ผดิ ๕ ขอ้ ขึน้ ไป ๓. ความถกู ตอ้ งของ ปฏิบัตไิ ด้ ๒ ขอ้ ใน ๓ ปฏิบตั ิได้ ๑ ข้อใน ๓ การ จดั ทาํ ใหม่ ปฏิบัติได้ ๑ ข้อ โครงการ/โครงงาน ถกู ต้องทกุ ข้ันตอนตาม ข้อ ขอ้ แนวทางการจดั ทาํ ปฏบิ ัติได้ ๑ ข้อ ๔. วธิ กี ารนําเสนอ โครงการ/โครงงาน ผดิ ๑- ๒ ขอ้ ผดิ ๒ – ๔ ข้อ ๑. นาํ เสนอน่าสนใจ ๑. ความเปน็ ไปไดข้ อง ๒. เสียงดังฟงั ชดั เจน ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๓ ขอ้ ปฏิบตั ไิ ด้ ๒ ขอ้ โครงการ/โครงงาน ๓. วาจาสุภาพ ๔. ตามกําหนดเวลา ปฏิบตั ไิ ด้ ๓ ข้อ ปฏบิ ตั ิได้ ๒ ขอ้ ๑. ปฏิบัติได้จรงิ ๒. มีประโยชน์ ๓. มคี วามคุ้มคา่ ๔. ยดึ หลกั เศรษฐกจิ พอเพียง ๑๒๖ คูม่ ือการฝกึ อบรมหลักสูตรลกู เสอื ประชาธิปไตย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164