Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือวัคซีนความรู้ กศน.สู้โควิด

คู่มือวัคซีนความรู้ กศน.สู้โควิด

Published by kitti.mulmang, 2021-06-14 08:44:50

Description: คู่มือวัคซีนความรู้ กศน.สู้โควิด

Search

Read the Text Version

1 ตอนท่ี 1 การป้องกันโรคโควิด 19 1.1 ทมี่ าและสาเหตุของโรคโควดิ 19 กกกกกกกโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการระบาดในวงกว้างในสาธารณรัฐ ประชาชนจีนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นมา โดยเริ่มจากเมืองอู่ฮ่ัน มณฑลหูเป่ย์ ตอ่ มาได้พบผปู้ ่วยยนื ยนั ในหลายประเทศท่วั โลก องค์การอนามัยโลก ประกาศต้ังช่ืออย่างเป็นทางการในปัจจุบัน คือ SARS - CoV - 2 ส่วนช่ือของโรคติดเชื้อชนิดนี้เรียกว่า COVID-19 ย่อมาจาก CO แ ท น corona, VI แ ท น virus, D แ ท น disease แ ล ะ 19 แ ท น 2019 สาหรบั คูม่ อื เลม่ นจ้ี ะใช้คาวา่ โรคโควดิ 19 1.1.1 ทีม่ าของโรคโควิด 19 “ เป็นโรคตดิ ต่อทางเดินหายใจสง่ ผลใหเ้ กิด “ ”โรคปอดอักเสบเกิดจากไวรัสโคโรนา Coronaviris ไวรัสโคโรนาเป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากท่ีใด ”แต่เป็นไวรสั ท่ีสามารถติดเชือ้ ไดท้ งั้ มนษุ ย์และสตั ว์

2 “พื้ น ท่ี ร ะ บ า ด ค รั้ ง แ ร ก คื อ “เมืองอู่ฮั่น” มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีนและแพร่ระบาด ไปท่ัวโลกมีการพัฒนาเป็น “ ”สายพันธุใ์ หม่ ไวรัสโคโรนา ค้นพบสายพันธ์ุแล้ว ทั้งหมด 7 สายพันธ์ุ ท่ีกาลังแพร่ ระบาดหนักท่ัวโลก ตอนนี้เป็นสาย พนั ธท์ุ ี่ 7 ซงึ่ คน้ พบเมอ่ื 2019 จงึ ตั้ง ”ช่อื ว่า โควิด 19 (COVID-19) “ เช้ือกลายพันธทุ์ ี่แพรร่ ะบาดมากทีส่ ุด และเป็น การระบาดโรคใหม่ (เมษายน พ.ศ. 2564) ในประเทศไทย คือ สายพันธ์ุอังกฤษเพราะติด เชอ้ื ง่ายระบาดเรว็ ขึ้นถึง 1.7 เทา่ ”

3 1.1.2 สาเหตขุ องโรคโควิด 19 โคโรนาไวรัสมีอยหู่ ลายสายพันธ์ุ แต่สว่ นใหญจ่ ะไมก่ ่อให้เกิดโรครุนแรง เป็นเพียงไข้หวดั ธรรมดา แต่ก็มีโคโรนาไวรัสบางสายพันธ์ุท่ีก่ออาการรนุ แรงจนถึง ข้ันปอดอกั เสบได้ โรคซาร์ส ที่มีสาเหตุมาจาก โคโรนาไวรัสสายพันธ์ุ SARS- CoV ข้ามสปีชีส์จากค้างคาวมาสู่ ตวั ชะมด และมาตดิ เชื้อในคน โรคเมอร์ส ที่มีสาเหตุมาจาก โคโรนาไวรัสสายพันธ์ุ MERS- CoV ขา้ มสปีชีส์จากค้างคาวสู่อูฐ และมาตดิ เชื้อในคน ล่าสุดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ ท่ีก่อโรคโควิด 19 ซ่ึงเป็นโคโรนา ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ อาจจะเกดิ จาก การผสมสายพันธุกรรมระหว่าง โ ค โ ร น า ไ ว รั ส ข อ ง ค้ า ง ค า ว กั บ โคโรนาไวรัสในงูเห่ากลายพันธุ์ เปน็ โคโรนาไวรัส สายพันธ์ุ SARS- CoV-2 ท่ีสามารถแพร่เช้ือจาก งเู ห่ามายังคนได้

4 1.2 อาการของโรคโควิด 19 เมื่อร่างกายได้รับเชื้อเราอาจติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อ ก็ได้ขึ้นกับหลายปัจจัย เชน่ ชนิดของเช้ือ สายพันธ์ุ ปริมาณเช้ือ และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เป็นต้น และเมื่อมีการติดเช้ือ เกิดข้ึน เราอาจติดเช้ือโดยไม่มีอาการ มีอาการน้อย หรือมี อาการรนุ แรงจนเสียชีวิตก็ได้ อาการเด่นชัดของโรคโควิด 19 คือ ไข้ ไอ จาม เจ็บคอ หรือคอแห้งและหายใจเหน่ือยหอบ แต่ส่วนใหญ่อาการ มักไม่แสดงทันทีหลังรับเช้ือ ดังน้ันควรสังเกตตนเองอย่าง สมา่ เสมอ โดยบางรายอาจมีอาการอ่ืน ๆ เพ่มิ เติม คอื 1. ล้นิ ไม่รับรส จมูกไมไ่ ดก้ ลน่ิ 2. เบือ่ อาหาร คล่ืนไสอ้ าเจยี น ปวดท้อง ท้องเสยี 3. ตาแดง ตาอกั เสบ น้าตาไหล เคืองตา 4. ปวดศรี ษะ เวียนหวั หากมอี าการรนุ แรง อาจมีอาการชา เดินเซ ออ่ นแรง และหมดสติ

5 1.3 การตดิ ตอ่ ของโรคโควดิ 19 กกกกกกกเกดิ จากการตดิ ต่อจากคนที่มีเชื้อไปสู่คนอ่ืน โดย 1.3.1 ทางตรง (direct) ละอองฝอย (droplet) จากทางเดินหายใจ การคลกุ คลีใกลช้ ิดกบั ผู้ติดเชื้อ ผ้ปู ว่ ย ในระยะน้อยกวา่ 1-2 เมตร 1.3.2 ทางอ้อม (indirect) การสัมผัส (contact) ทางละอองในอากาศ (aerosol) เป็นกรณีเฉพาะ (aerosol คอื ละอองฝอย ขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน ลอยในอากาศ)

6 1.4 ระดับความรา้ ยแรงของโรคโควดิ 19 ความร้ายแรงของโรค ขนึ้ อยกู่ ับ... 1.4.1 ปรมิ าณไวรสั ท่ีไดร้ ับเข้าทางเดินหายใจ 1.4.2 ปัจจัยทางผู้ติดเช้ือ เช่น สุขภาพ โรคประจาตัว ปฏกิ ิริยาอิมมูน การปฏบิ ัติตน เมื่อเริ่มปว่ ย เป็นต้น 1.4.3 การดูแลรักษาเม่ือติดเชื้อและป่วย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ มักมีอาการน้อย และส่วนน้อยมักไม่มีอาการป่วยเลย เด็กส่วนใหญ่มีอาการน้อย ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจาตัว มักจะมอี าการหนกั กวา่ ระดบั ความร้ายแรงของโรคโควดิ 19  รอ้ ยละ 80 มีอาการน้อย คลา้ ยไข้หวดั ธรรมดา หรือไขห้ วดั ใหญ่ ที่อาการน้อย หายได้เองหลังพักผ่อน และดูแลตามอาการ 1.4.4  รอ้ ยละ 14 มีอาการหนักจากปอดอกั เสบ หายใจผิดปกติ  ร้อยละ 5 มีอาการวกิ ฤต เช่น การหายใจล้มเหลว ช็อกจากการป่วยรุนแรง เปน็ ตน้  รอ้ ยละ 1-2 เสยี ชวี ิต หลังจากมีอาการหนัก มกั เกดิ กบั ผ้สู ูงอายุ ผมู้ ีโรคประจาตวั เชน่ โรคทางหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน ภูมิต้านทานตา่ หรือโรคประจาตัวอ่นื ๆ เป็นต้น

7 1.5 วัคซีนปอ้ งกนั โรคโควิด 19 1.5.1 ความหมายของวัคซีน วัคซีน คือสารชนิดหน่ึงที่ฉีดเข้า ไปในร่างกาย เพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันโรค ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ทามาจากเช้ือโรค แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทาจาก เชื้อโรคท่ีตายแล้ว มีสารของเช้ือโรค มาฉีดเข้าตัวเรา และทาจากเชื้อโรคท่ี อ่อนแอ ทาให้เชื้อโรคสลบ พิษจะได้ไม่ รุนแรงเมื่อฉีดเข้าไปในร่างกาย ร่างกาย เรากจ็ ะสรา้ งภูมิคุ้มกันกับโรคนน้ั ๆ 1.5.2 ความจาเป็นทตี่ ้องฉดี วัคซีน ความจาเป็นที่ประชาชนต้องฉีดวัคซีน เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ของร่างกายให้มีความพร้อม สามารถใช้ต่อสู้กับเชื้อโรคท่ีทาให้เกิด ความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย และลดการแพร่ระบาดในชุมชน สามารถ ป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิต และเป็นการหยุดการแพร่ระบาดของ โรคติดต่อที่จะเป็นอันตรายต่อประชาชนในวงกว้างได้ ซ่ึงอาจจะทาให้ สภาพเศรษฐกิจของประเทศเสียหายได้

8 1.5.3 ความจาเปน็ ที่ตอ้ งฉีดวคั ซนี โรคโควดิ 19 จานวน 2 ครง้ั ในช่วงปี พ.ศ.2564 เทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนท่ีมีประสิทธิภาพ จากผลการทดลองแล้ว จาเป็นตอ้ งฉีด จานวน 2 คร้งั โดยฉีดเขม็ ที่ 1 วคั ซนี จะเร่ิมได้ผลอย่างน้อย 2 สัปดาห์ จะได้ผลเพียงประมาณ 50% และ หลังจากฉีดวคั ซนี เข็มที่ 2 ต้องใชเ้ วลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จึงจะได้ผลตาม ผลการทดลองของวคั ซนี แต่ละบรษิ ัท 1.5.4 ผลข้างเคียงของวคั ซนี โดยหลักการ การใช้วัคซีน วัคซีนทาหน้าท่ี กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ข อ ง ร่ า ง ก า ย ใ ห้ รู้ จั ก กั บ เ ช้ื อ โ ร ค ล่วงหน้าก่อนท่ีร่างกายจะได้รับเชื้อ เพ่ือป้องกันการติดเช้ือ การเจ็บป่วย ลดการเจบ็ ป่วยรนุ แรง หรอื เสยี ชวี ิต การใช้วัคซีนอาจมีผลข้างเคียง ชนิดรุนแรงหรือไม่รุนแรง เช่น การแข็งตัว ของเลือดผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ขาดการควบคุมร่างกายชั่วขณะ มีไข้ ปวด หรือระคายเคืองบริเวณตาแหน่งที่ฉีด ปวดเม่ือยตามร่างกาย เป็นต้น หากเกิดผล ข้างเคียงต้ังแต่เข็มแรก ในเข็มที่ 2 ก็อาจ มีอาการขึ้นได้ ซ่ึงเป็นเรื่องปกติท่ีแสดงให้ เห็นว่าภูมิคุ้มกันกาลังถูกกระตุ้นจากวัคซีน และหากมีผลข้างเคียงรุนแรงจากการฉีด วัคซีนตอ้ งรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

9 โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควดิ 19 เปน็ โรคที่ทาให้เกิดผล ต่อระบบทางเดินหายใจคล้ายไข้หวัด และมีอาการรุนแรงกว่า แพร่เช้ือได้ทั้ง ทางตรง และทางอ้อมจากการสัมผัส ใกล้ชิดผู้ป่วยผ่านสารคัดหลั่งผู้ติดเช้ือ สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย และอาการ จะรุนแรงต่างกนั ขึ้นอยู่กบั สภาพร่างกาย และปัจจัยเส่ียงอื่น ๆ เช่น ผู้ท่ีเป็น โรคทางเดินหายใจ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด เป็นต้น จะมีความเสี่ยง สูงกว่าคนปกติทั่วไป จึงจาเป็นต้องฉีด วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 หากมี ผลข้างเคียงรุนแรงจากการฉีดวคั ซนี ตอ้ ง รบี ไปพบแพทย์โดยด่วน

1 ตอนที่ 2 การดแู ลตนเองและครอบครวั จากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซ่ึงเป็นไวรสั ท่ีทำให้ เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดนิ หายใจ และสามารถตดิ ตอ่ จากคนสคู่ น โดย จากการคลุกคลีใกล้ชิดกบั ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสน้ี ผา่ นละอองฝอยของนำ้ มูก นำ้ ลาย ของผปู้ ่วยติดเชอ้ื จากการ จาม ไอ หรอื การสัมผสั ดังนั้นการดูแลตนเองและ ครอบครวั มสี ่วนสำคญั อันดบั แรกทจี่ ะชว่ ยลดการแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 ซึง่ มีวธิ ีการดแู ลตนเองและครอบครวั เพ่ือปอ้ งกันเช้อื โรคโควดิ 19 ดังน้ี 2.1 การดูแลสขุ ภาพ อาหารและอนามยั การป้องกนั ตนเองให้ปลอดภยั จากโรคโควิด 19 ตอ้ งติดตามข้อมูล ขา่ วสารจากแหลง่ ข้อมลู ท่นี ่าเชือ่ ถือและดูแลสุขภาพ ปรงุ อาหารและบริโภค อาหาร เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รวมทั้งดูแลอนามัยของตนเองและ ครอบครวั ดังน้ี 2.1.1 การดูแลสุขภาพ กกกกกกกากรดแู ลสุขภาพ คือการทำให้ตนเองและครอบครัวมคี วา มสมบูร ณ์ แข็งแรง ปราศจากความเจบ็ ปว่ ยทง้ั ทางรา่ งกายและจิตใจ สามารถดำเนินชีวิต อยู่ในสังคมได้อย่างปกติสขุ กา รดูแลสุขภาพตนเองส่งผลให้ครอบครัว ปลอดภัยจากโรคโควิด 19 ด้วย วิธีการดูแลสุขภาพและป้องกันการแพร่ เช้ือโรคโควิด 19 มี ดังนี้

2 1) การลา้ งมือ การล้างมือด้วยสบู่ก้อนหรือสบู่เหลว โดยใช้เวลาในการฟอกมือ ประมาณ 15 - 20 วนิ าที (หรือ นับ 1 ถึง 30 โดยประมาณ) 12 3 ฝ่ามอื ถูกัน ฝา่ มือถหู ลงั มอื ใชฝ้ า่ มอื ถฝู า่ มือ และน้วิ ถูซอกนว้ิ มือ และนว้ิ ถูซอกนิ้ว 4 5 ใช้หลังมือถฝู า่ มอื ถนู ้วิ หวั แมม่ อื โดยรอบดว้ ยฝา่ มอื 67 8 ปลายน้ิวถขู วางฝ่ามอื ถรู อบข้อมอื ลา้ งสบู่ออกด้วยนำ้ เปลา่ ขอ้ แนะนำข้อ 1 – 7 โดยคำแนะนำจากสำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม. 2) การเว้นระยะหา่ ง ระยะห่างระหว่างบุคคล (Social Distancing) ที่ปลอดภัย คือ 2 เมตร เพราะละอองฝอยที่มาจากการไอหรือจาม สามารถกระจายได้ในระยะ 1 เมตร คำแนะนำจาก สสส.

3 3) การสวมหนา้ กากอนามัย การเลือกซื้อหน้ากากอนามัยจากผู้ผลิตท่ีเชื่อถอื ได้ และได้รับการรับรอง มาตรฐานสนิ ค้า สำหรับการสวมใสห่ นา้ กากอนามัยอยา่ งถูกวธิ ี มีดังนี้ ล้างมือใหส้ ะอาดกอ่ นใส่ หนั ด้านสเี ขม้ หรอื มันวาว คลีร่ อยจบี ออกคลมุ ทัง้ จมูก ออกดา้ นนอก ให้ขอบท่ีมี จนถงึ ปลายคาง คล้องสาย ลวดอยูด่ า้ นบนสนั จมูก กับใบหูหรอื ผกู ให้แนน่ กดตรงเสน้ ลวด ลา้ งมอื ใหส้ ะอาด เปลี่ยนหนา้ กากอนามยั ทุกวนั ให้พอดีกับสนั จมูก หลังจากถอดหนา้ กาก และไมใ่ ชอ้ นั เดมิ เปน็ เวลานาน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมเชือ้ โรค จนมิดชดิ 9. วิธีการทง้ิ หน้ากากอนามยั 7. 8. จบั ขอบหนา้ กากพบั ครึง่ ให้ด้านท่ี ใสใ่ นถงุ พลาสตกิ มัดปากถุง ล้างมอื ให้สะอาดดว้ ยนำ้ สบู่ หรือ สัมผสั ร่างกายอย่ดู า้ นใน พับครึง่ ให้แน่น เขียนกำกบั ท่ีถงุ วา่ เจลล้างมือท่ผี สมนำ้ ยาฆา่ เช้อื อกี ครั้ง แลว้ พับอกี ทบใหส้ ายคลอ้ ง หรอื แอลกอฮอล์ 70% ข้นึ ไป หูอยู่ฝง่ั เดยี วกนั ใชส้ ายคลอ้ งหู “ขยะตดิ เชอ้ื ” นำไปท้งิ ลงในถงั ขยะตดิ เช้ือ ม้วนรดั รอบหนา้ กากให้แนน่ หรอื ถังขยะที่มฝี าปิด คำแนะนำจากโรงพยาบาลศคิ รนิ ทร์และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ลเปน็ หลกั

4 4) การทำงานทบ่ี า้ น การทำงานที่บา้ น (Work From Home) เปน็ มาตรการเพ่อื ป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 ควรจดั เวลา พักเทีย่ งและเลกิ งานให้เหมอื นปกติ หาวธิ ีผ่อนคลายอารมณ์ช่วงพกั เที่ยง และขยบั ตวั หรอื กายบริหารงา่ ย ๆ ทกุ ชวั่ โมง 5) การหลีกเลย่ี งการจบั ดวงตา ปาก จมกู และสิง่ อนื่ ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าของตัวเอง เพราะบนใบหน้าของเรา สามารถรับเชอื้ โรคโควิด 19 ได้จากช่องทาง ดังตอ่ ไปนี้ (1) ดวงตา ไม่ขย้ตี าหรอื แคะข้ตี า เพราะดวงตา มเี นื้อเยอื่ ทอ่ ระบายน้ำตาทเ่ี ช้ือโรคสามารถผ่านเข้าไปได้ (2) จมกู ไมแ่ คะ หรือใชน้ วิ้ แหย่จมูก เพราะเชอ้ื โรคสามารถ เข้าทางโพรงจมูกสูท่ างเดินหายใจได้ (3) ปาก ไมจ่ ับปาก ลว้ งปาก ไมใ่ ช้มือแคะฟัน หรือแม้แต่ การใช้ชอ้ นร่วมกับผ้อู ่ืน เพราะปากเปน็ ชอ่ งทางที่เชื้อโรค สามารถเขา้ สู่ทางเดินหายใจได้ (4) รา่ งกาย ลดการสัมผสั ส่ิงของหรือสิ่งอื่น ๆ เช่น ประตู ราวบันได ลฟิ ต์ เป็นต้น คำแนะนำจากโรงพยาบาลเวชธานเี ป็นหลัก 6) การดูแลรา่ งกายใหแ้ ข็งแรง ออกกำลังกายอยา่ งสมำ่ เสมอ นอนหลับพกั ผอ่ นให้เพียงพอ รับประทาน อาหารที่มีประโยชน์ หากมอี าการปว่ ย ไข้ ไอ เจ็บคอ นำ้ มูกไหล หายใจเหนื่อย ใหไ้ ปพบแพทย์

5 2.1.2 การดูแลด้านอาหาร จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดเชื้อโรคโควิด 19 แมว้ า่ เชอื้ โรคโควิด 19 สามารถพบได้ในสัตว์หลายชนิด และสามารถติดต่อได้ในสัตว์ เช่น แมว คา้ งคาว เป็นตน้ สำหรบั สัตว์ท่ีใช้เนื้อเพ่ือการบริโภค เชน่ หมู ไก่ เป็ด อาหารทะเล เป็นต้น ยังสามารถรับประทานได้โดยต้องปรุงให้สุก บางครงั้ เช้อื โรคไม่ได้มาจากอาหารแตม่ าจากการสัมผสั มอื ที่ติดเชือ้ มา หรอื นำ้ ลายผูต้ ดิ เช้อื ปะปนกบั อาหารทำให้ตดิ เชือ้ ได้ทั้งอาหารสกุ และดิบ โดยมี วิธีการบริโภคอาหารและวิธีการเลือกอาหารมาบริโภคเพื่อป้องกนั โรคโควดิ 19 ดังนี้ วธิ ปี อ้ งกนั โรคโควิด 19 เมือ่ บรโิ ภคอาหารประเภทเน้ือสัตว์ (1) เลอื กซื้อจากผขู้ าย หรือผ้ปู ระกอบอาหารทีส่ วมหน้ากากอนามยั (2) ลา้ งมอื และเนอื้ สัตว์ให้สะอาดทกุ ครัง้ เวลาปรุงอาหาร (3) ปรงุ เนื้อสตั วใ์ หส้ กุ กอ่ นบริโภค คำแนะนำจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยเปน็ หลัก อาหารไทยกนิ สูโ้ รคโควิด 19 เช่น (1) เมีย่ งคำ มีส่วนประกอบของมะนาวพร้อมเปลือกท่ีมีสารเฮสเพอรดิ ินรูติน และวิตามนิ ซี ช่วยป้องกนั ไม่ใหไ้ วรัสเข้าเซลล์ ช่วยลดโอกาสติดเช้ือ (2) ต้มยำ มสี ว่ นประกอบของหอมใหญ่ หอมแดง เห็ดท่ีมสี ารเคอร์ซที นิ เบตา้ กลูแคน ชว่ ยกระตุ้นภมู คิ ุ้มกันของรา่ งกาย (3) ผัดกะเพรา มีสว่ นประกอบของใบกะเพรา มสี ารโอเรียนทนิ (Orientin) ช่วยปอ้ งกันไมใ่ ห้ไวรัสเข้าเซลล์ คำแนะนำจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทยท์ างเลอื กเปน็ หลัก

6 2.1.3 การดูแลสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว กกกกกกกการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง การอยรู่ วมกันเป็นครอบครัวที่สมาชิกในบา้ นมีประวัตเิ ดนิ ทางมาจากพ้ืน ที่เสี่ยง อาจทำให้บคุ คลในครอบครัวติดเชื้อได้ ดังนั้น บุคคลใน ครอบครัว ควรมีการ ปฏิบัติตนดแู ลสขุ อนามัยของตนเองและครอบครัว เพ่ือการปอ้ งกันโรคโควิด 19 ดงั น้ี 1) การปฏิบตั ติ นเมอื่ อยทู่ ่บี ้าน 1. สวมหนา้ กากอนามัยปิดจมูกและ 2. รกั ษาระยะหา่ ง 3. หลีกเล่ยี งสัมผัส ปากใหม้ ิดชดิ (เมื่ออยหู่ ลายคน) หนา้ ตา หู จมกู ปาก 2 เมตร 4. แยกหอ้ งสว่ นตัว 5. ทำความสะอาดบ้าน 6. เปดิ ประตหู นา้ ต่าง เปน็ ประจำ ให้อากาศถา่ ยเท 7. ลา้ งมอื ก่อนเขา้ บา้ นและ 8. แยกของใช้สว่ นตวั 9. เส้อื ผา้ ใชแ้ ลว้ ใสต่ ะกร้าผา้ ระหว่างอยใู่ นบ้าน เตรยี มซัก ไมใ่ ส่ซำ้ 10. แยกขยะใหถ้ ูกประเภท 11. ขยะตดิ เชือ้ ใส่ถุงแยกทง้ิ 12. อาหารท่ซี อ้ื หรือสงั่ มา โดยเฉพาะขยะติดเชอ้ื ลงถังขยะอันตราย รับประทาน เทใส่จานชาม ท่ีบา้ นเสมอ คำแนะนำจากกรมอนามัยและกรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ

7 2) การปฏบิ ัติตนเม่อื ออกนอกบา้ น 1. พกเจลลา้ งมือท่ีมี 2. หลกี เล่ยี งช่วงจราจร 3. ทำความสะอาด หนาแนน่ เวน้ ระยะหา่ ง โตะ๊ ทำงานและคยี บ์ อรด์ ดว้ ย แอลกอฮอล์เข้มข้น 70% แอลกอฮอลท์ กุ วัน ประชมุ ขึ้นไป และสวมหนา้ กาก 2 เมตร โดยใช้ VDO Call อนามัย 4. ไมน่ ่งั รับประทานอาหาร 5. หลีกเลี่ยงการนั่งรอในท่ี 6. หลีกเลีย่ งบริเวณทมี่ ีผู้คน ท่ีร้าน ซื้ออาหารกลบั ไป อากาศไมถ่ า่ ยเทและมีคน หนาแนน่ ระมดั ระวังการ บรโิ ภค แออัด สมั ผสั จดุ เสีย่ งต่าง ๆ คำแนะนำจากกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ และ สสส. 3) ข้อปฏบิ ตั ิเม่อื กลบั ถงึ บา้ น เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบกำจดั เชื้อโรคทีอ่ าจติดมากับร่างกายทันที ตามข้อแนะนำดงั นี้ 1. ถอดรองเทา้ ลา้ งมือก่อนสัมผสั ส่ิงของ 2. ถอดเสือ้ ผ้าแล้วแยกตะกร้าซักกบั คนอืน่ ในบา้ น 3. ชำระลา้ งรา่ งกายด้วยการอาบน้ำ 4. เช็ดทำความสะอาดอปุ กรณ์ใกลต้ ัวทมี่ กั ฟอกสบใู่ ห้สะอาด สัมผัสขณะอยูน่ อกบา้ น คำแนะนำจากกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ และ สสส.

8 2.2 การสรา้ งขวัญและกำลงั ใจ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งเป็น สิ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน ความไม่แนน่ อน เรอ่ื งงาน ครอบครัว และเศรษฐกิจ ยง่ิ ทำให้เกดิ ความเครียดสะสมมากขน้ึ จงึ ควรสรา้ งขวญั และกำลงั ใจ ให้กับ ตนเองและผูอ้ ื่น เพอ่ื ไม่ใหเ้ กดิ ภาวะท้อถอย หมดหวัง ซงึ่ จำเป็นต้องปรบั วธิ คี ดิ เพ่ือปรบั เปล่ยี นพฤติกรรม ควรปฏิบตั ิ ดงั นี้ 2.2.1 มองโลกในแง่ดแี ละมีสุขภาพจติ ดี 2.2.2 อยา่ คดิ ว่าไม่ใช่เรือ่ งของเรา ตระหนกั แตไ่ ม่ต่ืนตระหนก เราสามารถป้องกนั ตนเองและครอบครวั ได้ 2.2.3 รับมือกับสถานการณ์ โรคโควิด 19 อย่างเขา้ ใจ ดงั วิธีการต่อไปนี้ 1) อย่าทำให้สถานการณเ์ ลวรา้ ยลง 2) ตดิ ตามข่าวสาร เช่น ประกาศของ ระวังอยา่ ใหต้ ดิ เช้อื โรคโควิด 19 รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสขุ 3) ปฏิบัตติ ามคำแนะนำของกระทรวง 4) ตรวจสอบอาการทางร่างกาย จิตใจ สาธารณสขุ อย่หู ่างไว้ ใส่แมสก์ป้องกนั และอารมณ์สมำ่ เสมอ ลดสัมผัส หมั่นลา้ งมอื 5) ใชช้ ีวิตอย่างปกตแิ ละมคี ุณค่า ถ้าตอ้ งหยุดงานกักตัวอย่บู า้ น 14 วนั ก็สามารถจดั การกจิ วัตรแตล่ ะวนั ใหม้ สี ขุ ภาพดีได้ คำแนะนำจากโรงพยาบาลกรงุ เทพเปน็ หลกั

9 ดังนั้นทุกคนตอ้ งดแู ลตนเองและครอบครัวให้ดี โดยการดแู ล สุขภาพ ปรุงอาหารและบริโภคอาหารอย่างถูกวิธี ดแู ลสุขอนามัยของ ตนเองและครอบครัว ตลอดทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับตนเองและ ครอบครวั จะเป็นตัวช่วยที่ดีมากในการยับยง้ั การแพร่เชื้อโรคโควิด 19 ไปสคู่ นรอบข้าง ทำใหล้ ดการเกิดผู้ติดเชื้อในวงกว้างได้ และเราจะสามารถ กา้ วข้ามสถานการณ์น้ไี ด้อย่างดีและปลอดภัยกับทกุ คน

1 ตอนท่ี 3 แหลง่ ขอ้ มลู และความรสู้ ู้โรคโควดิ 19 แหล่งข้อมลู และความรูท้ เ่ี กย่ี วข้องกับโรคโควิค 19 ท่ีน่าเชอื่ ถือ มีหลายหน่วยงานจัดทาส่ือ แอปพลเิ คชนั ข้อมูลสารสนเทศ ท่ปี ระชาชนสามารถเขา้ ถงึ แหล่งข้อมูลและความรูไ้ ด้ง่าย สะดวก รวดเรว็ ประกอบดว้ ย 3.1 แอปพลเิ คชนั เก่ยี วกับโรคโควิด 19 หมอพรอ้ ม QR CODE หมอชนะ QR CODE เพอื่ ให้ประชาชนเขา้ ถึงข้อมลู บนั ทกึ ข้อมลู การเดินทาง สถานการณ์การระบาดของ ของผู้ใช้งานด้วยเทคโนโลยี โรคโควิด 19 ได้อย่างถกู ต้อง GPS และ Bluetooth ใกล้มอื หมอ QR CODE DDC-Care QR CODE เครอ่ื งมอื ท่สี ามารถวินิจฉยั โรค สาหรับติดตามและประเมินสุขภาพ เบื้องต้น โดยแสดงผลของโรค ผูท้ เ่ี ดนิ ทางมาจากประเทศ ทม่ี คี วามเส่ียงของโรคโควดิ 19 ที่เปน็ เขตติดต่ออันตราย

2 Sabaideebot QR CODE Away Covid-19 QR CODE LINE Official Account ทจ่ี ะช่วย LINE Official Account ทีใ่ ช้ ใหค้ ณุ เข้าถงึ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ซึ่งจาเป็น ประสานหาเตียง ใหผ้ ู้ป่วยโรคโควดิ 19 ตอ่ การรับมือกับโรคโควดิ 19 ได้อย่างถกู ตอ้ ง Kor-Ror-OK QR CODE ร้กู นั ทันโรค QR CODE Chat Bot ที่ใหบ้ ริการความรู้ LINE Official Account ทใี่ ช้ เกีย่ วกับโคโรนาไวรัส ซึง่ เปน็ ข้อมูล สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด 19 ท่ีกรมควบคุมโรครับรองแลว้ ของกรมควบคุมโรค ไทยรู้สู้โควิด QR CODE Tracker QR CODE LINE Official Account ท่ใี ช้ ตรวจสอบการระบาดในพื้นที่ ในการตดิ ตามสถานการณ์ ความรู้ พรอ้ มระบุพกิ ัดและรายละเอียด คาแนะนาทถ่ี ูกต้อง ผตู้ ดิ เช้อื ในประเทศไทย ศบค. ศูนย์บรหิ ารสถานการณ์แพร่ระบาด ของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 QR CODE กระทรวงมหาดไทย

3 3.2 หมายเลขสายดว่ นโรคโควดิ 19 ช่องทางการติดต่อที่สะดวกให้ไดร้ บั ข้อมลู ท่ีถูกต้อง เช่ือถือได้ จากสายด่วน ควรรู้ ชว่ งสถานการณ์ การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 ดังนี้ 1111 ศูนย์บริการขอ้ มูลภาครฐั เพื่อประชาชน รอ้ งเรยี น รอ้ งทกุ ขเ์ กีย่ วกบั โรคโควิด 19 ฟรี ตลอด 24 ช่ัวโมง 1323 กรมสขุ ภาพจติ ปรึกษาปญั หาสุขภาพจติ ไดท้ ุกวัน ตลอด 24 ชัว่ โมง 1330 สานักงานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ สอบถามสทิ ธิบตั รทอง และประสานหาเตียงผู้ตดิ เช้ือโรคโควิด 19 1422 กรมควบคุมโรค สอบถามขอ้ สงสัย ขอคาแนะนา ความช่วยเหลือเรอื่ งโรคโควิด 19 1506 สานกั งานประกันสังคม สอบถามสทิ ธปิ ระกันสงั คม การชดเชยกรณวี า่ งงาน ตกงาน หรอื สอบถามมาตรการเยียวยา 1646 ศูนย์บรกิ ารแพทย์ฉุกเฉิน (ศูนย์เอราวณั ) แจง้ เหตุฉุกเฉินทงั้ ผู้ปว่ ยและผู้บาดเจ็บจากอบุ ตั เิ หตุ ในเขตพ้นื ทก่ี รงุ เทพมหานคร

4 1668 กรมการแพทย์ 1669 สายดว่ นให้คาปรกึ ษาผู้ปว่ ยโรคโควิด 19 ปรึกษาเรื่องการปฏบิ ตั ิตวั ระหวา่ งรอเตียง สายดว่ น สายดว่ น สถาบนั การแพทยฉ์ ุกเฉนิ แห่งชาติ สายดว่ น แจ้งเหตฉุ กุ เฉนิ ท้งั ผปู้ ว่ ยและผู้บาดเจบ็ จากอบุ ตั เิ หตุ และเปน็ ศูนย์กลางในการรับข้อมลู จากโรงพยาบาล 0 2079 1000 สายด่วนศนู ย์แรกรับผู้ตดิ เชื้อโรคโควิด 19 อาคารนิมบิ ตุ ร สนามกีฬาแห่งชาติ 0 2193 7057 กรมสนบั สนุนบริการสขุ ภาพ แจง้ เร่อื งร้องเรียนโรงพยาบาลเอกชนเรยี กเกบ็ ค่ารกั ษาพยาบาลโรคตดิ เช้อื โรคโควดิ 19 0 2203 2396 สายดว่ นสานกั อนามัย กรุงเทพมหานคร สายดว่ น 0 2245 4964 , 0 2203 2393 สายด่วน สอบถามอาการป่วยโรคโควดิ 19 ตลอด 24 ช่ัวโมง 09 4386 0051 ศูนย์ปฏบิ ัติการตอบโตภ้ าวะฉุกเฉนิ แจง้ ข้อมูลผทู้ ค่ี าดวา่ ได้สมั ผัสกบั ผูป้ ว่ ย หรือผู้ท่ีมีความเสี่ยงติดเช้ือโรคโควิด 19

5 3.3 รายการโทรทัศน์และส่ือออนไลน์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 มรี ายการโทรทัศน์ และส่ือออนไลน์ทใ่ี หค้ วามรู้ และแนวทางในการป้องกนั โรคโควดิ 19 ทน่ี า่ ตดิ ตาม เช่น รบั ชมผ่านทางเวบ็ ไซต์ www.moicovid.com รับชมผ่านโทรทศั น์ ช่องไทยพบี ีเอส ออกอากาศทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 12.00 – 14.00 น.

6 เวบ็ ไซต์ข่าวสารเกย่ี วกบั โรคโควิด 19 ขา่ วสารเกยี่ วกับโรคโควดิ 19 ซึง่ มรี ายการทีน่ ่าสนใจ และมีหลายชอ่ งทางให้รบั ชม ดงั นี้ เว็บไซต์ ศบค. ศูนย์บริหารสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของ โรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (ศบค.) www.moicovid.com กรมควบคุมโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข www.ddc.moph.go.th โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภเู บศร www.cpa.go.th รพ.เจา้ พระยาอภยั ภเู บศร

7 3.4 แหลง่ ข้อมลู เกยี่ วกบั สมนุ ไพรเพอ่ื เสรมิ ภมู คิ ุม้ กัน จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 สมุนไพรเปน็ อกี ทางเลือกในการนามาใช้เพอ่ื ดูแลสขุ ภาพใหแ้ ข็งแรง บรรเทาและ รักษาโรค และเสรมิ ภูมคิ ุ้มกัน กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก (2563) แนะนาผักผลไมส้ มุนไพร 3 กลุ่ม เพอื่ เสรมิ ภูมิ ต้านทานของรา่ งกายช่วยป้องกนั การติดเช้อื โรคโควดิ 19 1) กลุม่ ทีม่ ีฤทธิก์ ระตุ้นภูมิคุม้ กัน ประกอบด้วย พลูคาวหรือผักคาวตอง เห็ดตา่ ง ๆ ซึ่งมสี ารสาคัญ คือ เบต้ากลแู คน เช่น เหด็ หอม เหด็ นางฟา้ เห็ดออรนิ จิ เห็ดหลนิ จือ และตรีผลา (สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม) เปน็ ต้น รบั ประทานในรปู ของนา้ ต้มด่มื

8 2) กลุม่ ทีม่ วี ติ ามนิ ซแี ละสารต้านอนมุ ลู อสิ ระสูง ประกอบดว้ ย ผักผลไมท้ ี่มีวิตามินซสี งู เชน่ ดอกขเ้ี หล็ก ยอดมะยม ใบเหลยี ง ยอดสะเดา มะระขน้ี ก ฟักข้าว ผกั เชียงดา คะนา้ มะรุม ผักแพว มะขามป้อม และ กลมุ่ แอนโทไซยานินซึง่ เป็นสารเฟลโวนอยด์ ท่มี ีฤทธิต์ ้านอนุมลู อสิ ระสงู ไดแ้ ก่ ลกู หม่อนและผักผลไม้หลากสี ยงั ชว่ ยเสริมการทางานของเซลลใ์ นระบบ ภูมิคมุ้ กนั ดว้ ย 3) กลุ่มที่มีงานวิจยั ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์วา่ มีสารสาคัญท่อี าจจะช่วยลด โอกาสตดิ เชือ้ โควดิ 19 ประกอบด้วย ผกั ผลไม้ท่ีมีสารเคอรซ์ ีติน (Quercetin) สูง เชน่ พลคู าวหรอื ผกั คาวตอง หอมแดง หอมหัวใหญ่ มะรมุ ใบหม่อน แอปเปลิ ผกั ผลไมท้ ีม่ ี สารเฮสเพอริดิน (Hesperidin) และรตู นิ (Rutin) สูง ได้แก่ ผวิ และเย่ือหุม้ ดา้ นในเปลอื กผลของพชื ตระกลู ส้ม มะนาว มะกรดู สม้ ซ่า และกะเพรา มีโอเรยี นทนิ (Orientin) เป็นสารสาคญั ท่ีมศี ักยภาพในการปอ้ งกันไม่ให้ ไวรัสเข้าเซลล์ นอกจากสมุนไพรที่กล่าวมาดังกล่าว ยงั มสี มุนไพรไทยอีกหลายชนิด ท่ีมีสรรพคุณในการเสริมสร้างภมู ิต้านทานและรักษาโรค การนามาใช้หรอื รับประทานต้องศึกษารายละเอียดให้ถูกต้องครบถ้วนถ้าใช้ในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ สาหรบั แหลง่ ขอ้ มลู และความรเู้ กยี่ วกบั สมนุ ไพรโดยตรง เชน่ หน่วยบริการ ข้อมูลสมุนไพร คลังความรู้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ฐานข้อมูลตารับยาสมุนไพรในบัญชียาหลักโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สถาบนั วจิ ัยสมนุ ไพร กรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ เปน็ ตน้

9 3.5 การพจิ ารณาความนา่ เชือ่ ถือของแหลง่ ข้อมลู ในการติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งการเรยี นรูต้ ่าง ๆ ผ้รู บั ข่าวสาร จาเปน็ ตอ้ งพิจารณาความน่าเชื่อถือของแหลง่ ข่าวโดยมีแนวทางการ พิจารณา ดงั น้ี

10 ศูนยต์ ่อต้านขา่ วปลอมแห่งประเทศไทย กระทรวงดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ไดร้ ับ มอบนโยบายจากรัฐบาลใหด้ ูแล กลั่นกรอง ตรวจสอบ หรอื กาจดั ขา่ วปลอม ซ่งึ เปน็ ขา่ วทก่ี ่อใหเ้ กดิ ผลกระทบ ต่อประชาชนในวงกวา้ งทถ่ี กู ต้องเพอื่ ใหป้ ระชาชนทกุ คน เขา้ ใจ มกี ารจดั ตัง้ ศนู ย์ต่อตา้ นข่าวปลอมแห่งประเทศไทย โดยมชี ่องทางการติดต่อ ดังน้ี ศนู ย์ต่อตา้ นขา่ วปลอม แห่งประเทศไทย Anti-Fake News Center Thailand ศนู ย์ตอ่ ตา้ นขา่ วปลอม ศูนยต์ อ่ ต้านขา่ วปลอม แห่งประเทศไทย แหล่งขอ้ มลู ความรู้ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควดิ 19 มีเปน็ จานวนมาก ในการเลือกใช้แหล่งข้อมูลใด ๆ ควรคานึงถึงความเหมาะสมในการใชง้ าน และพิจารณาวา่ ข้อมูลทีไ่ ด้รับมคี วามน่าเชอ่ื ถือมากน้อยเพยี งใด เพ่ือให้ สามารถดาเนนิ ชวี ติ ไดอ้ ย่างเหมาะสมหา่ งไกลโรคโควิด 19

1

2

3

4

5

6

7

8

9

1 ตอนที่ 5 การปฏิบตั ิตนเมื่อเริ่มเปน็ กล่มุ เสยี่ ง 5.1 ลกั ษณะของกลุ่มเส่ียง สาหรบั กระทรวงสาธารณสุข (2564) ได้เสนอลักษณะ ของกลมุ่ เสี่ยงไวว้ า่ มปี ระวตั เิ ดินทางไปในพน้ื ท่ี ท่มี ีการระบาด เคยตดิ ตอ่ สัมผัส กับผตู้ ดิ เช้อื และมอี าการป่วย มไี ขอ้ ุณหภูมิ ต้ังแต่ 37.5 องศาเซลเซียส ข้นึ ไป ไอ มีน้ามกู เจ็บคอ จมกู ไมไ่ ด้กลิ่น ล้นิ ไมร่ บั รส หายใจเร็ว หายใจเหน่อื ย หรือหายใจลาบาก

2 ประเภทของกลุ่มเสยี่ ง ซึง่ กระทรวงสาธารณสุข (2564) แบ่งออกเปน็ 3 กล่มุ คือ กกลลุ่มุม่ผผ้มู ู้มี ี กกลลุ่ม่มุผผมู้ มู้ี ี กกลลุ่มุม่ผผู้มมู้ี ี คคววาามมเสเส่ยี ยี่งสงสูงูง คคววาามมเสเสี่ย่ยีงตงตา่ า่ คคววาามมเสเสีย่ ย่ีงง ตตา่ า่มมาากก - ผูท้ ่ีสัมผัสผตู้ ิดเชื้อ - ผูท้ ี่สมั ผัส - ผทู้ ส่ี มั ผัส ในพ้ืนทอ่ี ากาศ หรือใกลช้ ดิ กบั หรอื ใกล้ชิดกับ ไม่ถา่ ยเท ผูท้ ม่ี คี วามเสยี่ งสงู ผู้ทม่ี ีความเสยี่ งตา่ - อยูห่ ่างผตู้ ดิ เช้ือ ไม่เกิน 1 เมตร นานกวา่ 15 นาที โดยไม่มกี ารปอ้ งกัน - พดู คุยกนั ในระยะ 1 เมตร นานกว่า 5 นาที - ผทู้ ไี่ อ จาม ใส่กัน โดยไมม่ ีการป้องกนั

3 5.2 การประเมินตนเองและการขอรับบรกิ ารการตรวจ 5.2.1 การประเมินตนเอง หากท่านได้เดินทางไปในท่เี สย่ี ง มคี วามวติ กกงั วลใจ ว่าจะติดโรคโควดิ 19 ท่านสามารถทาแบบทดสอบ เพ่อื การประเมินความเสย่ี งของตนเอง จากหนว่ ยงานภาครัฐ ดว้ ย QR Code ดงั ตอ่ ไปน้ี ชดุ ทดสอบความเสีย่ งด้วยตนเอง จดั ทาโดยกรมควบคุมโรค แบบคดั กรองความกงั วลต่อไวรสั แบบประเมนิ ความเส่ยี ง COVID-19 กรมสุขภาพจติ กอ่ นมาโรงพยาบาล ต่อการติดเชื้อโควิด 19 แบบคดั กรองตนเอง สาหรับผ้สู งสัย โรคไวรัสโคโรนา (COVID-19) จดั ทาโดยโรงพยาบาลราชวิถี (Self-Screening) และกรมการแพทย์ จดั ทาโดยคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบบ BKK COVID-19 จัดทาโดยกรงุ เทพมหานคร

4 5.2.2 การขอรบั บริการตรวจหาเช้อื โรคโควิด 19 ทา่ นสามารถเข้ารบั การตรวจคดั กรอง โรคโควิด 19 ได้ที่โรงพยาบาลทงั้ ของรฐั และเอกชน และขอรับการตรวจ จากรถตรวจโรคโควดิ 19 เคลือ่ นท่ี 1 นดั หมายผ้ใู หบ้ ริการตรวจเชอื้ ล่วงหน้า 2 ทาแบบสอบถามคัดกรอง 3 ทาการตรวจ Swab จมูก 4 แชก่ า้ น Swab ใหต้ วั อย่างซึมเข้ากา้ น 5 ผู้ให้บรกิ ารจดั เกบ็ ตัวอยา่ งเช้ือ 6 ผู้ให้บริการนาเชือ้ ไปตรวจ 7 รอรบั ผล

5 5.3 การเข้ารับการรกั ษาเม่อื ตดิ เชื้อโรคโควดิ 19 จำกสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ซึ่งพบยอดผูท้ ีต่ ิดเชอื้ เปน็ จำนวนมำก เมือ่ ผลตรวจออกมำเปน็ ผลบวกนนั้ หมำยถงึ ไดร้ ับเชือ้ โรคโควดิ 19 ผู้ปว่ ยต้องเขำ้ รบั กำรรกั ษำในโรงพยำบำลทนั ที ข้นั ตอนกำรเขำ้ รับกำรรักษำโรคโควดิ 19 เม่ือพบผู้ป่วยท่ีติดเช้ือ เจ้ำหน้ำท่ีจะนำรถพยำบำลมำ รับตัวเพื่ อนำผู้ป่วยไปรักษำ ณ โรงพยำบำลที่รองรับ ผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด 19 ซึ่งมีท้ังโรงพยำบำลของ รัฐและเอกชน วธิ ีกำรรกั ษำเม่อื ติดเชื้อโรคโควดิ 19 แพทย์จะส่งผู้ป่วยไปพักในหอ้ งแยกโรคเดย่ี ว หรอื หอ้ งเฉพำะ เพื่อประเมนิ อำกำรและรกั ษำตำมอำกำร และไดร้ ับยำตำ้ นไวรสั ในปรมิ ำณท่เี หมำะสม ถ้ำมอี ำกำรหนักข้นึ จะถกู ยำ้ ยไปยงั หอ้ งแยกผู้ปว่ ยแพรเ่ ชอ้ื ทำงอำกำศ (ALLR) และมีแพทยค์ อยดแู ลอยำ่ งใกลช้ ดิ และรกั ษำตำมอำกำร เมอ่ื ผปู้ ่วยอำกำรดีขน้ึ จะมีกำรตรวจหำเชอ้ื โรคโควิด 19 จำนวน 2 ครง้ั หำกผลตรวจออกมำเปน็ ลบ (ไม่พบเชื้อโรคโควิด 19) กส็ ำมำรถออกจำก โรงพยำบำลได้ กำรจำหนำ่ ยผปู้ ่วยออกจำกโรงพยำบำล เปน็ ผปู้ ่วยท่พี ้นระยะแพร่เชอ้ื แล้วไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งแยกตวั หรอื กักตัว แตใ่ หค้ งกำร ปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรป้องกัน กำรปฏบิ ัตติ นเมือ่ ออกจำกโรงพยำบำล ไม่จำเปน็ ต้องกกั ตัว แตต่ อ้ งปฏิบตั ิตำมมำตรกำรป้องกัน ไมใ่ ชอ้ ปุ กรณ์รบั ประทำนอำหำร และแก้วน้ำรว่ มกบั ผู้อน่ื ดื่มนำ้ สะอำดใหเ้ พียงพอ รับประทำนอำหำรที่สกุ สะอำด และมีประโยชน์ ครบถ้วนตำมหลักโภชนำกำร หำกมอี ำกำรปว่ ยเกดิ ข้นึ ใหม่ ให้ตดิ ต่อสถำนพยำบำลทนั ที หำกตอ้ งเดนิ ทำง มำสถำนพยำบำล แนะนำใหส้ วมหนำ้ กำกอนำมยั ระหว่ำงเดินทำงตลอดเวลำ

6 5.4 การเตรียมตวั เมื่อจะเขา้ รับการรกั ษา ในสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนาม ”วธิ เี ตรยี มตัว” กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข แนะนำวำ่ เม่อื ทรำบผลวำ่ ตดิ เชอ้ื โรคโควดิ 19 ควรตัง้ สตแิ ละปฏิบตั ิ ดังนี้ เตรียมเอกสำรสำคญั โทร 1330, 1668, 1669 เช่น บัตรประชำชน เพ่ือแจ้งเรือ่ ง เอกสำรยืนยนั ผลตรวจ เข้ำรับกำรรักษำ และเอกสำรสำคัญต่ำง ๆ และเบอร์โทรของตนเอง หำกมอี ำกำรไข้ งดออกจำกที่พั ก ให้รบั ประทำน หรือเดนิ ทำงข้ำมจงั หวดั ยำพำรำเซตำมอล ฝ่ำฝนื มโี ทษผิด พ.ร.บ. และเช็ดตวั เพ่ือลดไข้ โรคติดต่อ พ.ศ.2558 สวมใส่หน้ำกำกอนำมัยตลอดเวลำ เตรียมส่งิ ของ ท่จี ำเป็นใหพ้ รอ้ ม ก่อนไปโรงพยำบำลสนำม

7 คาแนะนา เม่อื เขา้ รับการรกั ษา ณ โรงพยาบาลสนาม เนื่องจากสถานการณ์ระบาดทาให้มผี ้ตู ิดเชอ้ื โรคโควดิ 19 จานวนมากสง่ ผลใหพ้ ้นื ที่รักษามจี ากัด เมอ่ื ได้รับการตดิ ตอ่ ให้เขา้ รบั การรักษาท่ีโรงพยาบาลสนาม ผู้ป่วยทีเ่ ดินทางไปเข้ารับการรักษา ไม่ควรนาสง่ิ ของติดตัวไปเกนิ จาเปน็ โดยส่ิงท่คี วรนาติดตวั ไป ได้แก่ เอกสำรสำคญั บตั รประชำชน หรือ ผลตรวจโรคโควดิ 19 บตั รประกันชีวติ บตั รท่ที ำงรำชกำรออกให้ ประกนั สุขภำพ (ถ้ำมี) ของใช้ทจ่ี ำเป็น โทรศพั ท์มอื ถอื เสื้อผ้ำ ของใช้สว่ นตวั เงนิ สดเท่ำทีจ่ ำเป็น ยำรกั ษำโรค (ถ้ำมี) หนำ้ กำกอนำมยั เจลล้ำงมือ ถุงผำ้ อเนกประสงค์ สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เตรียมบัตรนัดที่ระบุชื่อแพทย์ในโรงพยำบำล ที่รักษำเป็นประจำ เนื่องจำกหำกเกิดกรณีฉุกเฉิน เกิดภำวะแทรกซ้อนเมื่อเข้ำรับ กำรรกั ษำ แพทยเ์ จ้ำของไข้จะไดป้ รกึ ษำเพ่ือหำแนวทำงกำรรักษำที่เหมำะสมต่อไป

1 6.1 การปรบั เปล่ยี นวถิ ีการทำงาน สิ่งแรกที่ประชาชนต้องปรับเปล่ียนวิถีทำงานคือ เน้ น วิ นั ย ข อ ง ต น เอ ง ก่ อ น ท่ี ส ำ คั ญ คื อ ก า ร ป รั บ เป ล่ี ย น ทำงานท่ีบ้าน (Work from Home) และทักษะท่ีจำเป็น ในการปรับเปลี่ยนวถิ ีการทำงาน 6.1.1 วิธกี ารทำงานท่บี ้าน (Work from Home) มขี ้อเสนอจาก บริษทั ทโี อที จำกัด (17 เมษายน 2563) คือ 1) การสรา้ งบรรยากาศการทำงานใหส้ มจรงิ 2) การวางแผนสำคญั เสมอ 3) การตดิ ต่อส่อื สารจำเปน็ มาก 4) การพักผอ่ นช่วยไดเ้ สมอ 5) การหาความรเู้ พิ่มเตมิ ในเวลาวา่ ง

2 6.1.2 ทักษะทจี่ ำเปน็ ในการปรบั เปลี่ยนวถิ ี การทำงาน การปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานต้องมีทักษะ ที่ จ ำ เป็ น กั บ ก า ร ป รั บ ตั ว ท ำ ง า น ให้ ต่ อ สู้ แ ล ะ ป้ อ ง กั น โรคโควิด 19 รวมทั้งหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซ่ึงธนชาติ นุ่มนน ท์ ได้เสนอสาระทั กษ ะท่ี จำเป็ น ไว้ในบทความ“9 ทักษะท่ีจำเป็นในโลกหลังโควิด” ไว้ใน หนงั สือพิมพ์กรงุ เทพธรุ กจิ (22 สิงหาคม 2563) ความวา่ 1) ต้องปรับตวั ไดแ้ ละมคี วามยดื หยุ่น ท้ังน้ี รูป แบ บ การท ำงาน จะเป ลี่ ยน แป ลงจากเดิม การทำงานสายอาชีพตลอดชีวิตจะมีน้อยลง ดังน้ันคนทำงาน ตอ้ งพร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลา

3 2) ต้องเข้าใจเทคโนโลยี วิกฤตโรคโควิด 19 เป็นตัวเร่งทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ทำดิจิทัล (Digital) ทรานส์ฟอร์มเมชั่น (Transformation) และอาจตอ้ งนำเทคโนโลยี ดิจิทัลอย่าง เอไอ (AI) บิ๊กดาต้า (Big Data) หรืออินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (Internet of Things) มาใช้งาน ดังน้ันคนทำงานไมว่ ่าอยตู่ ำแหน่งใดจำเป็น จะต้องเข้าใจและทำงานโดยใช้เทคโนโลยใี หม่ ๆ อย่างคลอ่ งแคลว่ 3) ต้องมคี วามสร้างสรรคแ์ ละมนี วตั กรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะมีบทบาทในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างกว้างขวาง คนทำงานต้องมีความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันผลิตรูปแบบสินค้า หรือบริการใหม่ ๆ ท่ีตรงกับความต้องการในช่วงหลังการแพร่ระบาดของ โรคโควิด 19

4 4) ต้องมที กั ษะใช้ขอ้ มลู ยุคอุตสาหกรรม 4.0 องค์กรท่ีมีข้อมูลและสามารถนำข้อมูล มาใช้วิเคราะห์ หรือคาดการณ์เร่ืองต่าง ๆ เช่น ความต้องการลูกค้า ความต้องการของตลาด เป็นต้น จะทำให้สามารถแข่งขันได้ คนทำงาน จำเป็นตอ้ งรู้จกั วิธใี ช้ขอ้ มูลและเน้นสรา้ งวัฒนธรรมการใช้ข้อมลู ในองค์กร 5) ต้องคดิ เชงิ วิเคราะห์ได้ โลกดิจิทัล ทำให้มีข้อมูลไหลเข้ามากมาย รวมถึงข้อมูล จาก โซเชียลมีเดีย (Social Media) คนทำงานจำเป็นต้องมีความสามารถ วิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ ท่ีอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตได้ และเลือกขอ้ มลู ทม่ี ปี ระโยชน์มาใช้ในการทำงาน

5 6) ต้องมที ักษะเชิงดิจิทัลและการเขียนโปรแกรม การทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน่ ขององคก์ รจำเป็นต้องมีบุคลากรท่ี มีทักษะการใช้งานเทคโนโลยีท่ีดี ซึ่งอาจรวมไปถึงการเขียนโปรแกรม การทำเว็บไซต์ หรอื แม้แต่การทำงานการตลาดออนไลน์ 7) ต้องมคี วามเปน็ ผู้นำ องค์กรในยุคใหม่จะเป็นแนวราบมากขึ้น ไม่มีลำดับขั้นท่ีซับซ้อน แบบเดมิ บางครัง้ คนทำงานอาจต้องทำงานคนเดยี วที่บา้ น นอกสถานท่ี หรือ อาจทำงานเป็นทีมเล็ก ๆ ดังนั้นทุกคนต้องมคี วามรับผดิ ชอบและมีความเป็นผู้นำ ในการตดั สินใจรวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกบั ผอู้ ่ืนด้วย

6 8) ต้องฉลาดทางอารมณ์ ใน ส ถ า น ก า ร ณ์ ก า ร ท ำ งา น ท่ี ไม่ แ น่ น อ น ใน โล ก ท่ี เป ลี่ ย น ไป คนทำงานจะต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ ร่วมสร้างขวัญกำลังใจให้กับ เพอ่ื นรว่ มงานทุกคน 9) ต้องพร้อมเรียนรตู้ ลอดชีวติ การทำงานในยคุ ใหม่ตอ้ งการคนทำงานท่ีมที ักษะใหม่ ๆ ตลอดเวลา ซ่ึงต้องพร้อมเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ท่ีอาจจำเป็นต่อการทำงานในอนาคต ซ่ึ งก ารเรี ย น รู้ ใน ยุ ค ให ม่ น อ ก จ าก ก ารเรี ยน รู้ ใน ห้ อ งเรี ย น แ บ บ เดิ ม แ ล้ ว ต้องมีทักษะการเรียนออนไลน์ ทักษะที่จำเป็นดังกล่าววิถีชีวิตของประชาชน และการประกอบอาชีพต่าง ๆ สามารถนำเป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนวิถี การทำงานได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook