Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book (1)

E-book (1)

Published by Tippharat Sombutwong, 2021-08-08 10:39:48

Description: E-book (1)

Search

Read the Text Version

คำนำ รายงานเล่มน้ีจดั ทาข้ึนเพ่ือใชป้ ระกอบการเรียนวิชา หนา้ ท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และ ดาเนินชีวิตในสงั คม ซ่ึงไดร้ วบรวมเน้ือหาเกี่ยวกบั กฎหมายที่เก่ียวขอ้ งกบั ตนเอง ครอบครวั ชุมชน ประเทศชาติและสงั คม เพื่อใหผ้ อู้ ่านมีความรู้ความเขา้ ใจ และสามารถนาหลกั กฎหมาย ไปปรับใชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง คณะผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานเลม่ น้ีจะเป็นประโยชนต์ อ่ ผอู้ า่ น หากมีขอ้ แนะนาหรือ ขอ้ ผดิ พลาดประการใด คณะผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ท่ีน้ีดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา 31/07/64

สำรบญั หนา้ 1 เร่อื ง 4 ความรูพ้ นื้ ฐานเก่ยี วกบั กฎหมาย 9 กฎหมายแพ่งท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ตนเองและครอบครวั 13 กฎหมายแพ่งท่เี ก่ยี วกบั นิตกิ รรมสญั ญา 17 กฎหมายอาญา 27 กฎหมายอ่นื สาคญั ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ เอกสารอา้ งอิง

หน่วยที่ 3 กฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน ประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก “กฎหมาย” เป็ นระบบของกฎและแบบแผนแนวทางปฏบิ ตั ซิ งึ่ บงั คบั ใชผ้ ่านสถาบนั ทางสงั คมเพอื่ ควบคมุ พฤตกิ รรม ในทกุ ทที่ เี่ ป็ นไปได ้ กฎหมายกอ่ รา่ งการเมอื ง เศรษฐศาสตรแ์ ละสงั คมในหลายวถิ ที าง และใชเ้ป็ นสอื่ กลางความสมั พนั ธร์ ะหว่างบคุ คลในทางสงั คม ความรู้พนื้ ฐานเก่ียวกับกฎหมาย กฎหมายเกดิ จากการรวมตวั เป็ นสงั คมของมนุษย ์ เพอื่ สรา้ งบรรทดั ฐานควบคมุ พฤตกิ รรม ซงึ่ กฎหมายต่างจากจารตี วถิ ปี ระชา คอื กฎหมายใชบ้ งั คบั กบั บคุ คล ในประเทศ ใชไ้ ดท้ กุ เวลา ทุกสถานที่ ส่วนจารตี วถิ ปี ระชาจะตรงขา้ มกบั กฎหมาย 1. ความหมาย : กฎหมายเป็ นขอ้ บงั คบั ของรฐั ทตี่ ราขนึ้ เพอื่ กาหนดความประพฤติ ระเบยี บเเบบเผน ของพลเมอื งในสงั คม 2. ความสาคญั : - สรา้ งความเรยี บรอ้ ยในสงั คม - ควบคมุ พฤตกิ รรมของบคุ คลในสงั คม ใหอ้ ยใู่ นระเบยี บเเบบเเผน 3. ปกป้ อง รกั ษาชวี ติ เเละทรพั ยส์ นิ ประชาชน : - คาสง่ั ขอ้ บงั คบั ใหป้ ฏบิ ตั หิ รอื เวน้ การปฏบิ ตั ิ - คาสง่ั ขอ้ บงั คบั ตราขนึ้ โดยรบั - มสี ภาพบงั คบั - มผี ลใชบ้ งั คบั ตราโดยรฐั - มคี วามเสมอภาค ยุตธิ รรม 1

4. ประเภท แบง่ ออกเป็ น 3 ประเภท - กฎหมายเอกชน : กฎหมายทบี่ ญั ญตั ถิ งึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างเอกชนกบั เอกชน หรอื เอกชนกบั รฐั รฐั มสี ถานะเทา่ เอกชน กฎหมายทสี่ าคญั คอื ประมวลกฎหมายเเพง่ พาณิชย ์ - กฎหมายมหาชน : กฎหมายบญั ญตั ถิ งึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างรฐั กบั ประชาชน รฐั มอี านาจ เหนือกว่าประชาชน เชน่ กฎหมายอาญา เป็ นตน้ - กฎหมายระหว่างประเทศ : กฎหมายบญั ญตั ถิ งึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างรฐั กบั รฐั ฐานะเทา่ กนั เชน่ พธิ สี าร เป็ นตน้ 5. เเบง่ ตามลาดบั ศกั ดขิ์ องกฎหมาย - พระราชบญั ญตั ิ ตราขนึ้ โดยฝ่ ายนิตบิ ญั ญตั ิ ผูม้ สี ทิ ธเิ ลอื กบญั ญตั ไิ วใ้ นรฐั ธรรมนูญเป็ นผูเ้ สนอ - พระราชกาหนด ตราขนึ้ โดยฝ่ ายบรหิ าร ฐานะเทา่ พระราชบญั ญตั ิ ทาไดเ้ ฉพาะคณะรฐั มนตรี เห็นว่าเป็ นกรณีฉุกเฉิน ไดเ้ เก่ การกระทาเพอื่ ประโยชนข์ องประเทศ - พระราชกฤษฎกี า กฎหมายทกี่ ษตั รยิ ต์ ราขนึ้ โดยอานาจรฐั ธรรมนูญ ใชใ้ นการบรหิ ารเเผ่นดนิ มศี กั ดติ์ า่ กว่ารฐั ธรรมนูญ พระราชบญั ญตั ิ ประมวลกฎหมาย เเละพระราชกาหนด - กฎกระทรวง ตราขนึ้ โดยรฐั มนตรี โดยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี เพอื่ กาหนดรายละเอยี ด สาหรบั นาไปปฏิบตั ิ - กฎอนื่ ๆ เชน่ ประกาศ 6. เเบง่ ตามลกั ษณะของการนาไปใช ้ - กฎหมายสารบญั ญตั ิ ว่าดว้ ยสทิ ธิ หนา้ ที่ ความรบั ผดิ ชอบ กาหนดการกระทา ทเี่ ป็ นองคป์ ระกอบเเหง่ ความผดิ อนั กอ่ ให ้ เกดิ สภาพบงั คบั - กฎหมายวธิ สี บญั ญตั ิ วา่ ดว้ ยการวางวธิ ี การปฏบิ ตั ิ ทเี่ รยี กรอ้ งความคมุ้ ครองของกฎหมาย เมอื่ มขี อ้ โตเ้ เยง้ เกยี่ วกบั สทิ ธิ หนา้ ที่ 2

กฎหมายเเพ่งที่เกยี่ วข้องกบั ตนเองเเละครอบครัว 1. กฎหมายเเพ่งเเละพาณชิ ย์ : รวมบทบญั ญตั เิ กยี่ วกบั เรอื่ งทางเเพ่ง ทางพาณิชยไ์ วด้ ว้ ยกนั เรมิ่ สมยั รชั กาลที่ 5 มหี มวดหมู่ดงั นี้ • บคุ คลธรรมดา : มนุษยม์ สี ภาพบคุ คล จะสนิ้ สุดเมอื่ ตาย เเละตอ้ งประกอบความเป็ นบคุ คลใหช้ ดั เจน ตามความประสงคก์ ฎหมาย เรยี ก \"สงิ่ จาเเนกบคุ คล\" ทาใหบ้ คุ คลตา่ งจากบคุ คลอนื่ • นิตบิ คุ คล : บคุ คลหลายคนรว่ มกนั ตงั้ กล่มุ โดยอาศยั อานาจทางกฎหมายกระทาอยา่ งใดอย่างหนึ่ง ซงึ่ กฎหมายยนิ ยอมใหท้ าได ้ เเละตอ้ งมผี ูเ้ เทนนิตบิ คุ คลเเสดงเจตนา ความสามารถของบคุ คลเเบง่ ได ้ 2 ประเภท คอื - ความสามารถของบคุ คลทว่ั ไป : มสี ทิ ธติ ามกฎหมายเท่าเทยี มกนั เเตต่ ่างกนั ตรงความสามารถในการ ใชส้ ทิ ธิ ซงึ่ ถูกจากดั ในการใชค้ วามสามารถ เพราะกฎหมายจากดั ไว ้ - ความสามารถของบคุ คลไรค้ วามสามารถ : บคุ คลใดไมม่ คี วามสามารถ หรอื ความสามารถถกู จากดั คอื บคุ คลไรค้ วามสามารถ ไดเ้ เก่ ผูเ้ ยาว ์ คนไรค้ วามสามารถ คนเสมอื นไรค้ วามสามารถ คนวกิ ลจรติ 2. กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั ตนเอง • กฎหมายเกยี่ วกบั ชอื่ บคุ คล - ชอื่ บคุ คล : ถอ้ ยคาทตี่ ง้ั เพอื่ ใชเ้รยี กบคุ คล - ชอื่ ตวั : ชอื่ ประจาตวั บคุ คล - ชอื่ สกุล : ชอื่ ประจาวงศส์ กุล - ชอื่ รอง : ชอื่ ประกอบถดั จากชอื่ ตวั 3

• กฎหมายเกยี่ วกบั บตั รประจาตวั ประชาชน -บตั รประจาตวั ประชาชน : เป็ นเอกสารทสี่ าคญั ซงึ่ จะเเสดงภมู ลิ าเนา ทอี่ ยู่เพอื่ ความสะดวกใน การตดิ ตอ่ ตดิ ตาม เเละการชว่ ยเหลอื -การขอทาบตั รประชาชนใหม่ : กรณีบตั รหมดอายุหรอื เกดิ การสญู หาย ชารดุ สามารถขอทา บตั รใหมต่ อ่ นายทะเบยี นทอ้ งที่ ทมี่ ชี อื่ ตนอย่ใู นทะเบยี นบา้ น ภายใน 60 วนั นบั ตง้ั เเตว่ นั บตั รหมดอายุ หรอื บตั รหาย • กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั ครอบครวั - การหมน้ั : ชายหญงิ หมนั้ กนั ไดเ้ มอื่ อายุ 17 ปี ตอ้ งมขี องหมน้ั ใหเ้ เกฝ่ ่ ายหญงิ เเละบดิ ามารดาตอ้ งยนิ ยอม - การสมรส : การทาสญั ญาเป็ นสามภี รรยา ทาไดต้ อ่ เมอื่ ชาย เเละหญงิ อายุ 17 ปี - ทรพั ยส์ นิ ระหว่างสามเี เละภรรยา เเบง่ เป็ น 2 ประเภท ไดเ้ เก่ = สนิ สว่ นตวั : ทรพั ยส์ นิ ทฝี่ ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งมกี อ่ นสมรสจะตกเป็ นสนิ ส่วนตวั ของฝ่ ายหญงิ เมอื่ สมรสเเลว้ = สนิ สมรส : ทรพั ยส์ นิ ทคี่ สู่ มรสไดม้ าระหวา่ งสมรส โดยเป็ นหนังสอื ยกให ้ ระบวุ า่ เป็ นสนิ สมรส - ความสมั พนั ธใ์ นครอบครวั = สามภี รรยาชว่ ยเหลอื กนั = บตุ รมสี ทิ ธใิ ชน้ ามสกุลบดิ า เเละรบั มรดกของบดิ า = บดิ ามารดาตอ้ งอปุ การะบตุ รจนบตุ รบรรลนุ ิตภิ าวะ = บตุ รไม่สามารถฟ้ องรอ้ งบพุ การไี ด ้ = บคุ คลทสี่ ามารถรบั ผอู ้ นื่ เป็ นบตุ รบญุ ธรรมตอ้ งมอี ายมุ ากกวา่ 25 ปี ตอ้ งเเกก่ ว่าผูเ้ ป็ นบตุ รบญุ ธรรม 15 ปี = บตุ รบญุ ธรรมมฐี านะ เเละสทิ ธเิ ชน่ เดยี วกบั บตุ ร 4

- การหย่า : ทาไดโ้ ดยความยนิ ยอมทง้ั สองฝ่ าย หรอื คาพพิ ากษาของศาล - มรดก : ทรพั ยส์ นิ ทุกชนิดของผูต้ าย ทงั้ สทิ ธิ หนา้ ที่ เเละความรบั ผดิ ชอบ เวน้ เเต่กฎหมาย หรอื สภาพเฉพาะตวั ผตู ้ ายโดยเเท ้ การไดร้ บั มรดกมสี าเหตุดงั นี้ = เจา้ มรดกเสยี ชวี ติ : เสยี ชวี ติ โดยธรรมชาติ เเละเสยี ชวี ิตเพราะเหตใุ ดๆ = เจา้ มรดกถูกศาลสง่ั ใหเ้ ป็ นบคุ คลสาบสญู : ศาลสง่ั ใหผ้ ใู้ ดเป็ นคนสาบสญู ได ้ ต่อเมอื่ มี คารอ้ งขอต่อศาล มเี หตุจากบคุ คลนัน้ หายจากถนิ่ ทอี่ ยู่ ไม่มใี ครทราบว่ามชี วี ติ อยไู่ หม เป็ นเวลา 5 ปี ในเหตพุ เิ ศษ คอื บคุ คลไปรบ หรอื เดนิ ทางโดยพาหนะ เเลว้ ยานพาหนะ อบั ปาง ไมม่ ใี ครทราบเเน่นอนว่ามชี วี ติ อยไู่ หม เป็ นเวลา 2 ปี - ทายาท : บคุ คลทมี่ สี ทิ ธริ บั มรดกของผตู้ าย เเบง่ เป็ น 2 ประเภท คอื = ทายาทโดยธรรม : มสี ทิ ธริ บั มรดก โดยกฎหมาย ไดเ้ เกญ่ าตเิ จา้ ของมรดก เรยี งลาดบั สทิ ธกิ อ่ น-หลงั ดงั นี้ ผูส้ บื สนั ดาน บดิ ามารดา พนี่ อ้ งรว่ มบดิ ามารดา พนี่ อ้ งรว่ มบดิ า พี่ นอ้ งรว่ มมารดา นอกจากนี้ กอ่ นมกี ารเเบง่ มรดก ถา้ คูส่ มรสมสี นิ สอด ตอ้ งเเบ่งทรพั ยส์ นิ เป็ นสนิ สมรสใหค้ ูส่ มรสครงึ่ หนึ่ง อกี ครงึ่ ตกเป็ นกองมรดก เเบ่งใหท้ ายาทโดยธรรมตาม สดั ส่วน = ทายาทโดยพนิ ยั กรรม : ผูม้ สี ทิ ธริ บั มรดกตามพนิ ยั กรรม ระบไุ วต้ อนเจา้ มรดกมชี วี ติ ซงึ่ บคุ คลทไี่ ดท้ รพั ยส์ นิ ตามพนิ ยั กรรมอาจเป็ นบคุ คลอนื่ ของเจา้ มรดกได ้ 5

• กฎหมายเเพง่ เกยี่ วกบั ความสามารถของผเู้ ยาว ์ สถานะ : ผเู้ ยาวจ์ ะสนิ้ สุดเมอื่ อายคุ รบ 20 ปี การสมรสตามกฎหมายเมอื่ ผเู้ ยาวอ์ ายุ 17 ปี โดย ความยนิ ยอมผเู้ เทนโดยชอบธรรม ตามกฎหมาย : ผูเ้ ยาวอ์ อ่ นทง้ั ดา้ นรา่ งกาย สตปิ ัญญา ความคดิ ความอา่ น ความรคู ้ วามชานาญ ปฏภิ าณไหวพรบิ เป็ นผูไ้ มส่ มบรู ณ์ อาจถูกเอารดั เอาเปรยี บ กฎหมายจงึ ป้ องกนั โดยบญั ญตั วิ า่ ผูเ้ ยาวจ์ ะ ใชส้ ทิ ธทิ ากจิ การโดยลาพงั ไม่ได ้ ตอ้ งใหผ้ ูเ้ เทนโดยชอบธรรมกระทาเเทน หรอื ตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมจากผู ้ เเทนโดยชอบธรรม มฉิ ะนั้นกจิ การถอื เป็ นโมฆยี ะ *ผูเ้ เทนโดยชอบธรรม ไดเ้ เก่ + ผูใ้ ชอ้ านาจปกครอง + ผูป้ กครอง : บคุ คลอนื่ ถกู เเต่งตงั้ เพอื่ ปกครองผเู้ ยาว ์ - ผเู ้ เทนโดนชอบธรรมมีหนา้ ทปี่ กครองผูเ้ ยาว ์ ในส่วนตวั ผูเ้ ยาว ์ เเละสว่ นทรพั ยส์ นิ ของผูเ้ ยาว ์ - การทานิตกิ รรมของผูเ้ ยาว ์ หากปราศจากการยนิ ยอมของผูเ้ เทนโดนชอบธรรมจะเป็ นโมฆยี ะ เเตม่ ขี อ้ ยกเวน้ ไดเ้ เก่ = การทานิตกิ รรมทเี่ ป็ นประโยชนเ์ เกผ่ ูเ้ ยาวฝ์ ่ ายเดยี ว = การทานิตกิ รรมทผี่ เู้ ยาวต์ อ้ งทาเองเฉพาะตวั : กจิ การการสว่ นตวั ไม่สามารถใหผ้ ูอ้ นื่ ทา เเทนได(้ การทาพนิ ัยกรรม ผูเ้ ยาวต์ อ้ งทาเอง เเตพ่ นิ ัยกรรมจะเป็ นโมฆะ หากผูเ้ ยาวอ์ ายไุ ม่ ครบ 15 ปี) 6

การทานิตกิ รรมเพอื่ ดารงชพี ของผูเ้ ยาว ์ มเี งอื่ นไข 2 ประการ = ตอ้ งเป็ นนิตกิ รรมทจี่ าเป็ นในการดารงชวี ติ ของผูเ้ ยาวต์ ามปกติ = ตอ้ งเป็ นนิตกิ รรมทเี่ หมาะสมกบั ความเป็ นอยู่ เเละฐานะทางการเงนิ ของผูเ้ ยาว ์ กรณีทตี่ อ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมจากผูเ้ เทนโดยชอบธรรม : เป็ นไปตามหลกั \"ผูเ้ ยาวจ์ ะทานิตกิ รรมใดๆ ตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมจากผูเ้ เทนโดยชอบธรรม หรอื ผูเ้ เทนทานิตกิ รรมเเทนผูเ้ ยาว ์ นิตกิ รรมจงึ สมบรู ณ์ หากผูเ้ ยาวท์ านิตกิ รรมโดยไม่ไดร้ บั ความยนิ ยอม นิติ กรรมนั้นเป็ นโมฆยี ะ\" ประเด็นทคี่ วรพจิ ารณา + การกระทาของผเู ้ ยาว ์ : เฉพาะการทา \"นิตกิ รรม\" มใิ ชก่ ารกระทามง้ั หมด + ผูเ้ เทนโดยชอบธรรม : ผูม้ อี านาจทานิตกิ รรมเเทนผูเ้ ยาว ์ หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ูเ้ ยาวท์ านิตกิ รรม โดยเป็ นผูป้ กครอง กรณียกเวน้ ทผี่ เู้ ยาวส์ ามารถกระทาไดเ้ องเฉกเชน่ ผูบ้ รรลนุ ิตภิ าวะแลว้ 1.นิตกิ รรมทใี่ หป้ ระโยชนเ์ เกผ่ เู้ ยาวฝ์ ่ ายเดยี ว 2.นิตกิ รรมทผี่ ูเ้ ยาวต์ อ้ งทาเองเฉพาะ ใหผ้ อู้ นื่ ทาเเทนไมไ่ ด ้ 3.นิตกิ รรมทจี่ าเป็ นเเละเหมาะสมเเกก่ ารดารงชพี เรยี กวา่ สมควรเเก\"่ ฐานานุรปู \" พจิ ารณาจากฐานะความเป็ นอยู่ของผูเ้ ยาว ์ 4.การทาพนิ ัยกรรม ทาไดเ้ มอื่ ผเู้ ยาวอ์ ายุครบ 15 ปี หากอายไุ มถ่ งึ พนิ ยั กรรมเป็ นโมฆะ 7

• กฎหมายเเพ่งเกยี่ วกบั คนเสมอื นไรค้ วามสามารถ - คนเสมอื นไรค้ วามสามารถ : บคุ คลทมี่ เี หตบุ กพรอ่ ง ไม่สามารถจดั การงานของตนเองได ้ อาจ เสยี เปรยี บ หรอื เสยี ผลประโยชน์ กฎหมายจงึ ใหค้ วามคมุ้ ครอง โดยถอื ว่าเป็ นคนเสมอื นไร ้ ความสามารถ กาหนดใหม้ ผี ูพ้ ทิ กั ษม์ าดูเเล - ประมวลกฎหมายเเพ่ง เเละพาณิชยก์ าหนดวา่ บคุ คลเสมอื นไรค้ วามสามารถ ตอ้ งประกอบดว้ ย หลกั เกณฑ ์ 3 ประการ ดงั นี้ 1.มเี หตุบกพรอ่ งบางอย่างทกี่ ฎหมายกาหนด 2.ไมส่ ามารถจดั ทาการงานของตนเองได ้ 3.ศาบสง่ั ใหเ้ ป็ นคนเสมอื นไรค้ วามสามารถเมอื่ มคี นรอ้ งขอต่อศาล - ผลของการเป็ นคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ + ตกอยใู่ นคงามพทิ กั ษ ์ เมอื่ ศาลสง่ั ใหบ้ คุ คลใดเป็ นคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ + ถูกจากดั ความสามารถบางชนิด เป็ นคนเสมอื นไรค้ วามสามารถมผี ลทางกฎหมาย คอื ไม่สามารถทานิตกิ รรมทกี่ ฎหมายหรอื ศาลกาหนดไว ้ - การสนิ้ สุดเเหง่ ความเป็ นคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ : เมอื่ คนเสมอื นไรค้ วามสามารถถงึ เเกค่ วาม ตาย หรอื ศาลสง่ั ใหเ้ ป็ นคนไรค้ วามสามารถในกรณีทคี่ นเสมอื นไรค้ วามสามารถมอี าการวกิ ลจรติ อาจถูกบคุ คลผมู้ สี ทิ ธริ อ้ งขอศาลใหส้ ง่ั ใหเ้ ป็ นคนไรค้ วามสามารถ หรอื ศาลสง่ั ถอนคาสง่ั ใหเ้ ป็ นคน เสมอื นไรค้ วามสามารถ • กฎหมายเเพง่ เกยี่ วกบั คนวกิ บจรติ บคุ คลวกิ ลจรติ : บคุ คลทมี่ อี าการวกิ ลจรติ ศาลยงั ไม่ไดส้ ง่ั ใหเ้ ป็ นคนไรค้ วามสามารถ ย่อมอยู่ใน ฐานะผทู ้ ที่ คี วามสามารกฝ่ ายถ เเต่หากบคุ คลวกิ ลจรติ ทา การใดลงไปในขณะทวี่ กิ ลจรติ เเละคกู่ รณีอรี ู ้ ว่าผกู ้ ระทาเป็ นคนวกิ ลจรติ การน้นั จะตกเป็ นโมฆยี ะ 8

กฎหมายแพ่งท่ีเกี่ยวกบั นิตกิ รรมสัญญา นิตกิ รรม คอื การกระทาของบคุ คลโดยชอบดว้ ยกฎหมายและความสมคั รใจ มงุ่ ต่อผลในกฎหมาย ทกี่ อ่ ขนึ้ เพอื่ เปลยี่ นแปลงสทิ ธิ โอนสทิ ธิ สงวนสทิ ธแิ ละระงบั การกระทาทเี่ ป็ นนิตกิ รรมทมี่ ผี ลสมบรู ณต์ อ้ งมปี ระกอบดว้ ยสาระสาคญั ต่างไดแ้ ก่ 1)ตอ้ งมกี ารแสดงเจตนาโดยชดั แจง้ 2)ตอ้ งกระทาดว้ ยความสมคั รใจ 3)ตอ้ งเป็ นการกระทาทชี่ อบดว้ ยกฏ หรอื ตอ้ งไม่ขดั ตอ่ กฎหมายโดยชดั แจง้ หรอื ขดั ศลี ธรรม 4)ตอ้ งกอ่ ใหเ้ กดิ ผลผกู พนั ธท์ างกฎหมาย การกระทาทไี่ มจ่ รงิ จงั หรอื ลอ้ เลน่ ยอ่ มไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ผล ผกู พนั ธท์ างกฎหมาย 5)ตอ้ งกอ่ ใหเ้ กดิ การเคลอื่ นไหวของสทิ ธิ มี5ประการคอื 5.1)กอ่ สทิ ธิ์ : การทาใหส้ ทิ ธเิ กดิ ขนึ้ 5.2)เปลยี่ นแปลงสทิ ธิ : การทาใหส้ ทิ ธทิ มี่ อี ยแู่ ลว้ เปลยี่ นแปลงไป 5.3)โอนสทิ ธิ : การมอบสทิ ธขิ องตนทมี่ อี ยู่ใหผ้ อู้ นื่ 5.4)สงวนสทิ ธิ : การทาใหส้ ทิ ธทิ มี่ อี ยู่แลว้ มน่ั คงมากขนึ้ ไม่เสยี ไป 5.5)ระงบั สทิ ธิ : การทาใหส้ ทิ ธขิ องตนทมี่ อี ยแู่ ลว้ สนิ้ สุดลง 9

1. หนี้ : ความผกู พนั ทางกฎหมายระหว่างบคุ คล2ฝ่ าย ซงึ่ เรยี กไดว้ า่ เจา้ หนี้ และลูกหนี้ 2. ทรพั ยแ์ ละทรพั ยส์ นิ - ทรพั ย ์ : วตั ถทุ มี่ รี ปู รา่ ง - ทรพั ยส์ นิ : ทรพั ย(์ วตั ถุมรี ปู รา่ ง) และวตั ถไุ มม่ รี ปู รา่ ง อาจมรี าคาและถอื เอาได ้ - อสงั หารมิ ทรพั ย ์ : ทดี่ นิ และทรพั ยอ์ นั ตดิ กบั ทดี่ นิ ในลกั ษณะถาวร - สงั หารมิ ทรพั ย ์ : ทรพั ยส์ นิ อนื่ ทมี่ ใิ ชอ่ สงั หารมิ ทรพั ยเ์ ลน่ รถยนต,์ เครอื่ งประดบั 3. สญั ญา : นิตกิ รรมสองฝ่ ายทเี่ กดิ จากเจตนาทสี่ อดคลอ้ งกนั ของบคุ คลตง้ั แต่2ฝ่ ายขนึ้ ไป โดยมฝี ่ ายนึง เป็ นผูเ้ สนอ และอกี ฝ่ ายสนองรบั เมอื่ คาเสนอ คาสนองถดู ตอ้ งตรงกนั จะเกดิ สญั ญาและผลผูกพนั ค่สู ญั ญา *นิตกิ รรมสญั ญาทคี่ วรรู ้ เชน่ สญั ญาซอื้ ขาย สญั ญาขายฝาก การเชา่ ทรพั ย ์ การเชา่ ซอื้ การ กูย้ มื การคา้ ประกนั การจานา และการจานอง* 3.1 สญั ญาซอื้ ขาย : สญั ญาทผี่ ขู้ าย โอนกรรมสทิ ธใิ ์ นทรพั ยส์ นิ ใหผ้ ูซ้ อื้ โดยผูซ้ อื้ ตกลงจะใช ้ ราคาทรพั ยส์ นิ นน้ั - การโอนกรรมสทิ ธิ ์ คอื การโอนความเป็ นเจา้ ของทรพั ยส์ นิ ใหแ้ กผ่ ซู้ อื้ เมอื่ ผูซ้ อื้ ไดเ้ ป็ น เจา้ ของสามารถทจี่ ะนาไปทาสงิ่ ใดตอ่ กไ็ ด ้ ในดา้ นการชาระ เป็ นสงิ่ ทที่ ง้ั สองฝ่ ายตอ้ งตกลงกนั เป็ นได2้ รปู แบบคอื การซอื้ ขายเงนิ สด และการผอ่ นชาระเป็ นงวด การซอื้ ขายทรพั ยส์ นิ บางประเภท กฎหมาย กาหนดใหส้ ญั ญาซอื้ ขายบางกรณีตอ้ งทาเป็ นหนงั สอื และจดทะเบยี นตอ่ พนกั งาน ไดแ้ ก่ - อสงั หารมิ ทรพั ย ์ - สงั หารมิ ทรพั ยพ์ เิ ศษ 3.2 สญั ญาขายฝาก : สญั ญาซอื้ ขายซงึ่ กรรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ ตกไปยงั ผูซ้ อื้ โดยมขี อ้ ตกลงวา่ ผูข้ ายอาจะไถ่ทรพั ยส์ นิ คนื ในระยะเวลาทกี่ าหนดได ้ หากพน้ จากระยะทกี่ าหนด จะไม่สามารถไถท่ รพั ยไ์ ด ้ อกี โดยสญั ญาขายฝากตอ้ งทาหนงั สอื จดทะเบยี น - กาหนดเวลาในการไถท่ รพั ยส์ นิ คนื + การขายฝากอสงั หารมิ ทรพั ย ์ กาหนดเวลาในการใชส้ ทิ ธไิ ถค่ นื ไม่เกนิ 10 ปี นบั ตง้ั แต่ทมี่ วี นั ซอื้ ขายกนั + ถา้ เป็ นสงั หารมิ ทรพั ยช์ นิดพเิ ศษและธรรมดา ตอ้ งกาหนดเวลาไถค่ นื ไม่เกนิ 3 ปี นับตง้ั แตท่ มี่ วี นั ซอื้ ขายกนั *กฎหมายกาหนดไวว้ า่ \"หา้ มมใิ หม้ กี ารขยายเวลาไถ่ถอนออกไป\" ถา้ คกู่ รณีตกลงใหม้ กี ารขยายเวลา กฎหมายใหถ้ อื วา่ ขอ้ ตกลงนีไ้ ม่มผี ลทางกฎหมาย* 10

3.3 การเชา่ ทรพั ย ์ : เป็ นสญั ญาทผี่ ใู ้ หเ้ ชา่ ตกลงใหผ้ เู้ ชา่ ไดใ้ ชห้ รอื รบั ประโยชนจ์ ากทรพั ยส์ นิ ที่ ใหเ้ ชา่ ในระยะเวลาทกี่ าหนด โดยผูเ้ ชต่่ กลงจะใหค้ ่าเชา่ ในการใชท้ รพั ยส์ นิ นั้น การเชา่ สงั หารมิ ทรพั ย ์ แมจ้ ะตกลงกนั ดว้ ยวาจาก็สามารถฟ้ องรอ้ งบงั คบั กนั ได ้ แตก่ ารเชา่ อสงั หารมิ ทรพั ย ์ ตอ้ งมกี ารทาหลกั ฐาน เป็ นหนงั สอื ลงลายมอื ชอื่ ฝ่ ายทตี่ อ้ งรบั ผดิ จงึ จะฟ้ องรอ้ งได ้ ถา้ มกี ารเชา่ อสงั หารมิ ทรพั ยเ์ กนิ 3ปี หรอื เชา่ ตลอดอายุของผูเ้ ชา่ หรอื ผูใ้ หเ้ ชา่ ตอ้ งทาสญั ญาเป็ นหนังสอื และนาไปจดทะเบยี น 3.4 การกยู ้ มื : เป็ นสญั ญาอยา่ งหนึ่งทผี่ ูก้ ู ้ ไปขอกูย้ มื เงนิ ตากผูใ้ หก้ ู ้ โดยผกู้ จู ้ ะใชเ้งนิ คนื ในเวลาที่ ตกลงกนั ไว ้ หากกยู ้ มื จานวนเกนิ กว่า2000บาท ตอ้ งทาหลกั ฐานกูย้ มื เป็ นหนังสอื ลงลายมอื ชอื่ ผูก้ ู ้ หาก มกี ารคดิ ดอกเบยี้ กฎหมายกาหนดดอกเบยี้ ขนั้ สงู สดุ ไวไ้ มใ่ หเ้ กนิ รอ้ ยละ15ต่อปีหรอื รอ้ ยละ1.25ต่อเดอื น หากเรยี กเกนิ กว่านี้ จะถอื เป็ นโมฆะ ผูใ้ หก้ อู ้ าจมคี วามผดิ ทางอาญา 11

3.5 คา้ ประกนั : การทผี่ คู ้ า้ ประกนั ทาสญั ญากบั เจา้ หนีว้ ่า ถา้ ลูกหนีไ้ มช่ าระหนี้ ผูค้ า้ ประกนั จะตอ้ ง รบั ผดิ ชอบ เจา้ หนีม้ สี ทิ ธฟิ ้ องผูค้ าประกนั ได ้ แต่ตอ้ งมหี ลกั ฐานลงลายมอื ชอื่ ผูค้ าประกนั เป็ นสาคญั - ขอบเขตความรบั ผดิ ชอบของผูค้ า้ ประกนั : ผูค้ า้ จะจากดั ความรบั ผดิ ชอบของตนลงใน สญั ญาหรอื ไม่กไ็ ด ้ โดยตอ้ งระบเุ รอื่ งทจี่ ะรบั ผดิ ใหช้ ดั เจน และเมอื่ รบั ผดิ ก็จะรบั ผดิ แคเ่ ทา่ ทจี่ ากดั ไวเ้ ท่านั้น 3.6 การจานา : การทผี่ ูจ้ านาส่งมอบสงั หารมิ ทรพั ยใ์ หแ้ ก่ ผูร้ บั จานาเพอื่ ประกนั การชาระหนี้ ทรพั ยส์ นิ ทจี่ านาไดค้ อื ทรพั ยส์ นิ ทสี่ ามารถเคลอื่ นทไี่ ดเ้ ชน่ วทิ ยุ โทรทศั น์ ชา้ ง มา้ โค กระบอื และเครอื่ ง ทอง รปู พรรณ สรอ้ ย แหวน เพชร เป็ นตน้ *ผจู้ านาตอ้ งเป็ นเจา้ ของทรพั ย ์ คอื มกี รรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ ที่ จานา ไม่สามารถนาทรพั ยส์ นิ ของผอู้ นื่ มาจานาได*้ 3.7 การจานอง : การทผี่ กู ้ ารทผี่ ูจ้ านอง นาทรพั ยส์ นิ ไปตราไวแ้ กผ่ ูร้ บั จานอง เป็ นการประกนั การ ชาระหนีโ้ ดยไม่ตอ้ งสง่ มอบทรพั ยส์ นิ นั้นแกผ่ ูจ้ านอง แบบสญั ญาของการจานองตอ้ งทาหนังสอื และจด ทะเบยี นต่อเจา้ พนกั งาน หากไม่ทาตามนี้ สญั ญานนั้ จะถอื เป็ นโมฆะ *โดยผูท้ นี่ าทรพั ยส์ นิ ไปจานองไดต้ อ้ ง เป็ นเจา้ ของทรพั ยส์ นิ นั้นเท่านน้ั * 12

กฎหมายอาญา คอื กฎหมายทกี่ าหนดลกั ษณะความผดิ ตา่ งๆ และกาหนดบทลงโทษซงึ่ บญั ญตั ขิ นึ้ มจี ดุ ประสงคเ์ พอื่ รกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยในสงั คม การกระทาทสี่ ง่ ผลต่อสว่ นรวมถอื เป็ นความผดิ ทางอาญา •เจตนา: สงิ่ ทผี่ ูก้ ระทารตู ้ วั วา่ ทาผดิ แตย่ งั ทาลงไปทง้ั ทรี่ สู ้ านึกในการกระทา •ประมาท : การกระทาทมี่ ไิ ดต้ ง้ั ใจใหเ้ กดิ แต่เนื่องจากการไมร่ ะมดั ระวงั ทาใหเ้ กดิ ผลรา้ ยแกผ่ ูอ้ นื่ •ไมเ่ จตนา : การกระทาทผี่ ูก้ ระทามไิ ดต้ งั้ ใจทาเพอื่ ใหเ้ กดิ ผลอย่างหนึ่ง 1. ความผดิ เกยี่ วกบั ทรพั ย ์ 1)ความผดิ ฐานการลกั ทรพั ย ์ : เป็ นความผดิ ทเี่ อาทรพั ยข์ องผูอ้ นื่ ไปโดยทุจรติ 2)ความผดิ ฐานวงิ่ ราวทรพั ย ์ : เป็ นความผดิ ในการลกั ทรพั ยผ์ อู้ นื่ โดยฉกเฉยอย่างซงึ่ หนา้ 3)ความผดิ ฐานชงิ ทรพั ย ์ : เป็ นความผดิ ในการลกั ทรพั ยผ์ ูอ้ นื่ โดนใชก้ าลงั ประทุษรา้ ย ขเู่ ขญ็ 4)ความผดิ ฐานปลน้ ทรพั ย ์ : เป็ นความผดิ ในการชงิ ทรพั ยท์ รี่ ว่ มกนั กระทาตง้ั แต่3คนขนึ้ ไป 5)ความผดิ ฐานกรรโชก : เป็ นความผดิ ในการขม่ ขนื ใจใหย้ อม หรอื ยอมใหต้ นหรอื ผูอ้ นื่ ได ้ ประโยชนใ์ นทรพั ยส์ นิ โดยใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยและขเู่ ข็ญว่าจะทาอนั ตรายต่อชวี ติ รา่ งกาย ชอื่ เสยี ง เสรภี าพ หรอื ทรพั ยส์ นิ 6)ความผดิ ฐานรดี เอาทรพั ย ์ : เป็ นความผดิ ในการขม่ ขนื ใจใหผ้ ูอ้ นื่ ยอมให ้ หรอื ยอมใหท้ รพั ยส์ นิ อด่ ตนหรอื อกี บคุ คลหนึ่ง โดยข่เู ข็ญวา่ จะเปิดเผยความลบั 13

7)ความผดิ ฐานฉอ้ โกง : เป็ นความผดิ โดยใชก้ ลอบุ ายเพอื่ เอาทรพั ยส์ นิ ผูอ้ นื่ ดว้ ยการหลอกลวงโดย ทจุ รติ ทาใหไ้ ดท้ รพั ยส์ นิ ไปจากผูถ้ กู หลอก 8)ความผดิ ฐานยกั ยอก : เป็ นความผดิ ทนี่ าทรพั ยข์ องผอู้ นื่ มาครองครองแลว้ เบยี ดบงั เอาทรพั ย ์ น้ันเป็ นของตนโดยทุจรติ 9)ความผดิ ฐานโกงเจา้ หนี้ : เป็ นความผดิ ทผี่ ูก้ ระทาผดิ เอาไปทาใหเ้ สยี หาย เสอื่ มคา่ หรอื ไร ้ ประโยชน์ ซงึ่ ทรพั ยอ์ นั ตนจานาไวแ้ กผ่ ูอ้ นื่ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกผ่ รู้ บั จานา หรอื ผกู้ ระทาผดิ แกลง้ ใหต้ นเป็ นหนีอ้ นั ไมเ่ ป็ นความจรงิ เพือ่ ใหใ้ หเ้ จา้ ของหนีข้ องตนหรอื ของผูอ้ นื่ ไดร้ บั ชาระหนี้ 10)ความผดิ ฐานรบั ของโจร : เป็ นความผดิ ทผี่ กู้ ระทาผดิ รบั เอาทรพั ยท์ รี่ วู ้ า่ ไดม้ าจากการลกั ทรพั ย ์ วงิ่ ราวทรพั ย ์ กรรโชก รดี เอาทรพั ย ์ ชงิ ทรพั ย ์ ฉอ้ โกง ยกั ยอก 11)ความผดิ ฐานทาใหเ้ สยี ทรพั ย ์ : เป็ นความผดิ ทาใหท้ รพั ยข์ องผอู้ นื่ หรอื ผทู้ เี่ ป็ นเจา้ ของรวมอยู่ ดว้ ยเสยี หาย 12)ความผดิ ฐานบกุ รกุ : เป็ นความผดิ ทผี่ กู้ ระทาผดิ เขา้ ไปในบา้ นทอี่ ยอู่ าศยั ของคนอนื่ โดยไมไ่ ด ้ รบั อนุญาต 14

2. ความผดิ เกย่ี วกบั ชวี ติ และรา่ งกาย 1)ความผดิ เกยี่ วกบั ชวี ติ : ความผดิ ทที่ าใหผ้ อู้ นื่ ถงึ แกค่ วามตายไม่ว่าจะกระทาโดยเจตนาหรอื ไม่ เจตนามคี วามผดิ ทสี่ าคญั ไดแ้ ก่ - ความผดิ ฐานฆา่ ผอู้ นื่ การทาใหต้ ายดว้ ยไมว่ า่ วธิ ใี ดมเี จตนาหรอื ไมแ่ มจ้ ะกระทาโดย ประมาทย่อมเป็ นความผดิ ทงั้ สนิ้ 2)ความผดิ เกยี่ วกบั รา่ งกาย : ทารา้ ยผูอ้ นื่ เป็ นเหตใุ หเ้ กดิ อนั ตรายแกก่ ายและจติ ใจม4ี ลกั ษณะ - ทารา้ ยรา่ งกายแตไ่ มถ่ งึ กบั เป็ นอนั ตราย - ทารา้ ยรา่ งกายเป็ นเหตใุ หไ้ ดร้ บั อนั ตราย - ทารา้ ยรา่ งกายเป็ นเหตใุ หไ้ ดร้ บั อนั ตรายสาหสั - ทารา้ ยรา่ งกายจนถงึ แกช่ วี ติ 3)ความผดิ ทกี่ ระทาโดยประมาทต่อชวี ติ และรา่ งกาย - ความผดิ ทกี่ ระทาโดยประมาทเป็ นเหตใุ หผ้ ูอ้ นื่ ถงึ แกค่ วามตาย - การกระทาโดยประมาทเป็ นเหตใุ หผ้ ูอ้ นื่ ไดร้ บั อนั ตรายสาหสั - การกระทาโดยประมาทเป็ นเหตใุ หผ้ ูอ้ นื่ รบั อนั ตรายแกก่ ายหรอื จติ ใจ 15

3. โทษทางอาญา • ลกั ษณะสาคญั ของกฎหมายอาญา - กฎหมายอาญาตอ้ งชดั เจนแน่นอน -หา้ มใชก้ ฎหมายจารตี ประเพณีลงโทษทางอาญาแกบ่ คุ คล - หา้ มใชก้ ฎหมายทใี่ กลเ้ คยี งลงโทษอาญาแกบ่ คุ คล -กฎหมายอาญาไมม่ ผี ลยอ้ นหลงั •โทษทางอาญา -ประหารชวี ติ -จาคุก -กกั ขงั -ปรบั -รบิ ทรพั ยส์ นิ 16

กฎหมายอ่ืนทส่ี าคญั 1. กฎหมายภาษีอากร - กฎหมายเกยี่ วกบั การจดั การหารายไดใ้ หก้ บั รฐั โดยใชภ้ าษเี ป็ นเครอื่ งมอื จดั เก็บ ภาษีอากรเป็ นสงิ่ ทรี่ ฐั บงั คบั เกบ็ จากประชาชนมาใชเ้ พอื่ ประโยชนส์ ่วนรวม - ภาษที จี่ ดั เก็บโดยส่วนกลาง (1)ภาษีโดยกระทรวงการคลงั เป็ นหน่วยงานหลกั ในการเก็บภาษขี องประเทศ เชน่ • กรมสรรพากร –เกบ็ ภาษอี ากรตามประมวลรษั ฎากร • กรมสรรพสามติ - เชน่ ภาษีสรุ า ภาษียาสบู ภาษีนา้ มนั ภาษีเครอื่ งดมื่ เป็ นตน้ • กรมศลุ กากร - อากรขาย อากรเขา้ และคา่ ธรรมเนียมต่างๆ (2)ภาษีทเี่ ก็บโดยกระทรวงอนื่ • มหาดไทย – ภาษตี ามประมวลกฎหมาย • คมนาคม – ภาษีรถยนต ์ • อตุ สาหกรรม – คา่ ภาคหลวงแร่ • เกษตรและสหกรณ์ – อากรประมง มหาดไทย 17

(3)ภาษีทเี่ ก็บโดยองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ - หนา้ ทใี่ นดา้ นการเป็ นผูจ้ ดั เก็บภาษีขององคก์ ร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ไดแ้ ก่ ภาษบี ารงุ ทอ้ งถนิ่ ภาษีโรงเรอื น ภาษปี ้ าย และคา่ ธรรมเนียมตา่ งๆ + ภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คล คอื ภาษที จี่ ดั เกบ็ ไดจ้ ากบคุ คลทว่ั ไปทมี่ เี งนิ ตง้ั แต่ 150,001 บาทขนึ้ ไป เกดิ ขนึ้ ระหว่าง วนั ที่ 1 ม.ค ถงึ 31 ธ.ค ของปีทผี่ ่านมา โดยบคุ คลตอ้ งมสี ถานภาพอยา่ งใดอยา่ ง หนึ่ง -บคุ คลธรรมดา -หา้ งหนุ้ ส่วนสามญั -ผูถ้ งึ แกค่ วามตายระหวา่ งปีภาษี -กองมรดกยืี่ งั ไมไ่ ด ้ แบง่ เมอื่ มีเงนิ เกดิ ขนึ้ และอยู่ในเกณฑท์ ตี่ อ้ งเสยี ภาษี ตอ้ งทาดงั นี้ (1) ขอมเี ลขบตั รประจาตวั ผเู ้ สยี ภาษีภายใน 60 วนั นบั ตงั้ แตท่ มี่ เี งนิ เกดิ ขนึ้ (2) ยนื่ แบบเสยี ภาษปี กตปิ ีละ 1ครงั้ ยกเวน้ แต่เงนิ ทไี่ ดจ้ ากการประกอบอาชพี บางประเภท -ใหเ้ ชา่ ทรพั ทส์ นิ วชิ าชพี อสิ ระ (แพทย ์ สถาปนิก)ไดเ้ งนิ จาการ รบั เหมา, พาณิชย ์ ตอ้ งเสยี ภาษี 2ครงั้ + ภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ภาษีอากรทจี่ ดั จากเงนิ บรษิ ทั หหรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ คุ คลตอ่ ไปนี้ (1) บรษิ ทั หรอื หนุ ้ ส่วนทตี่ ง้ั ขนึ้ ตามกฎหมายไทย (2) บรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ ส่วนนิตบิ คุ คลทตี่ ง้ั ขนึ้ ตามกฎหมายต่างประเทศ (3) กจิ การซงึ่ เป็ นการคา้ หรอื การหากาไรในประเทศไทย (4) กจิ การทรี่ ว่ มทุนกนั คา้ หรอื หากาไรระหว่างนิตบิ คุ คล (5) มลู นิธหิ รอื สมาคมทปี่ ระกอบกจิ การซงึ่ มรี ายได ้ + ภาษีมลู คา่ เพมิ่ เป็ นภาษที จี่ ดั เกบ็ จากผปู ้ ระกอบการทขี่ ายสนิ คา้ วชิ าชพี บรกิ าร ใน รปู แบบของคนธรรมดา โดยผูป้ ระกอบการมรี ายรบั จากการรขาย,บรกิ ารมากกว่า 1.8 ลา้ นบาท/ปีรวมถงึ ผูน้ าเขา้ -ผปู ้ ระกอบการ มหี นา้ ทอี่ อกใบกากบั ภาษใี หผ้ ูซ้ อื้ เพือ่ เป็ นหลกั ฐานการเกบ็ ภาษมี ูลคา่ เพมิ่ และจดั ทารายงานทกี่ ฎหมายกาหนด แตก่ ม้ กี จิ การบางประเภทไม่ตอ้ งเสยี ภาษีมลู ค่าเพมิ่ เชน่ การขายหนังสอื พมิ พมิ พ ์ นิตยสารเป็ นตน้ -ผปู ้ ระกอบการตอ้ งยนื่ แบบเสยี ภาษรี ายเดอื น 18

+ ภาษีป้ าย - ป้ ายคอื ยหี่ อ้ ,เครอื่ งหมายทใี่ ชท้ างการคา้ เพอื่ โฆษณาจะตอ้ งเสยี ภาษีดว้ ย (1)ป้ ายทตี่ อ้ งเสยี ภาษี : ป้ ายทแี่ สดงยหี่ อ้ เครอื่ งหมายทใี่ ชใ้ นการคา้ เพอื่ หารายได ้ (2)การยนื่ แสดงรายการภาษีป้ าย เจา้ ของป้ ายตอ้ งยนื่ แบบรายการภาษปี ้ ายตอ่ สานกั งานเขตทกุ มนี าคมของทกุ ปี (3)การชาระภาษีป้ าย เมอื่ ไดย้ นื่ ราการภาษปี ้ ายใหไ้ ปยนื่ การชาระค่าภาษภี ายใน 15 วนั นบั แต่วนั ทไี่ ดร้ บั แจง้ การประเมนิ จากเจา้ พนังงาน + ภาษีโรงเรอื นและทดี่ นิ - โรงเรอื นคอื ทอี่ ยู่อาศยั หรอื สิง่ ปลูกสรา้ งอนื่ ๆกบั ทดี่ นิ (อาศยั เอง ใหเ้ ชา่ หรอื ประกอบธุรกจิ ) (1)ทรพั ทส์ นิ ทตี่ อ้ งเสยี ภาษีโรงเรอื นและทดี่ นิ (2)โรงเรอื นหรอื สงิ่ ปลกู สรา้ งทตี่ อ้ งแจง้ รายการตง้ั อย่ทู อ้ งทใี่ ด (3)การยนื่ เสยี ภาษโี รงเรอื นใหย้ นื่ ภายในกาหนดทเี่ จา้ พนงั งานประกาศใหท้ ราบ (4)สถานทขี่ อรบั แบบพมิ พแ์ สดงรายการแหง่ ทรพั ทส์ นิ โดยใหไ้ ปขอรบั ยนื่ ตาม สถานทที่ พั ทส์ นิ ตงั้ อยใู่ นสานกั งานเขตหรอื เทศบาล (5)การชาระเงนิ ค่าภาษีโรงเรอื นใหน้ าเงนิ ไปชาระต่อพนกั งานใน30วนั ตงั้ แตว่ นั ที่ ไดแ้ บบแจง้ ประเมนิ (6)การประเมนิ คา่ รายปีเพอื่ เกบ็ ภาษีโรงเรอื นพจิ ารณาจากทรพั ทส์ นิ (7)อตั ราการเสยี ภาษีโรงเรอื นรอ้ ยละ12หนึ่งสว่ นสอง ของรายได/้ ปี *ขอ้ ยกเวน้ ไมต่ อ้ งเสยี ภาษีโรงเรอื นและทดี่ นิ * (1)โรงเรอื นหรอื สิง่ ปลูกสรา้ ง ทมี่ คี น อยู่และไมไ่ ดป้ ระกอบอตุ สาหกรรม (2)โรงเรอื นหรอื สงิ่ ปลกู สรา้ ง ซงึ่ เปิด ไวต้ ลอกปี มแี ตค่ นทเี่ ฝ้ าเรอื น 19

+ ภาษีบารงุ ทอ้ งที่ – ภาษที จี่ ดั เก็บจากเจา้ ของทดี่ นิ ตามราคาปานกลางทดี่ นิ และราม บญั ชอี ตั ราภาษีบารงุ ทอ้ งที่ •ทดี่ นิ ทเี่ จา้ ของทดี่ นิ ไมต่ อ้ งเสยี ภาษีบารงุ ทอ้ งที่ (1) ทดี่ นิ ทเี่ ป็ นทตี่ ง้ั พระราชวงั อนั เป็ นทสี่ าธารณะสมบตั ขิ องแผ่นดนิ (2) ทดี่ นิ ทเี่ ป็ นสาธารณะสมบตั ขิ องแผน่ ดนิ โดยมไิ ดห้ าผลประโยชน์ (3) ทดี่ นิ ของราชการทอ้ งถนิ่ ใชใ้ นกจิ ของราชการ (4) ทดี่ นิ ทใี่ ชใ้ นเฉพาะสาธารณะสขุ การศกึ ษา หรอื สาธารณกงสลุ (5) ทดี่ นิ ใชเ้ฉพาะศาสนกจิ ศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยมไิ ดห้ าผลประโยชน์ (6) ทดี่ นิ ใชเ้ป็ นสสุ าน โดยมไิ ดห้ าผลประโยชนต์ อบบแทน (7) ทดี่ นิ ทใี่ ชใ้ นการรถไฟ การประปา การไฟฟ้ า ท่าเรอื สนามบนิ ของรฐั (8) ทดี่ นิ ทใี่ ชต้ อ่ เนื่องกบั โรงเรอื น (9) ทดี่ นิ ของเอกชนเฉพาะส่วนทเี่ จา้ ของทดี่ นิ ยนิ ยอมใหท้ างราชการใชเ้พอื่ สาธารณะประโยชน์ (10) ทดี่ นิ เป็ นทตี่ งั้ องคก์ ารสหประชาชาติ (11) ทดี่ นิ เป็ นทตี่ งั้ ของสถานทตู หรอื สถานกงสุล (12) ทดี่ นิ ตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง 20

2. กฎหมายเกย่ี วกับการรับราชการทหาร - รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ไดก้ าหนดใหบ้ คุ คลมหี นา้ ทใี่ นการป้ องกนั ประเทศและรบั ราชการ ทหาร - การรบั ราชการทหารเป็ นหนา้ ทตี่ ามกฎหมายของชายทมี่ สี ญั ชาตไิ ทยโดยกาหนดไวว้ ่าตอ้ งมหี นา้ ที่ รบั ราชการทหารดว้ ยตนเองทุกคน การรบั ทหารมี 4 ประเภทดงั นี้ 1) ทหารกองเกนิ : ชายไทยทมี่ อี ายตุ ง้ั แต1่ 8ปี และยงั ไม่ถงึ 30ปี ซงึ่ ไดล้ งบญั ชที หารกองเกนิ ตาม อาเภอทตี่ นมภี ูมลิ าเนาอยเู่ มอื่ ลงบญั ชแี ลว้ นายอาเภอจะออกใบสาคญั ทหารกองเกนิ ใหแ้ ละถอื วา่ เป็ นทหารกองเกนิ ใน1 ม.ค ของปีถดั ไป *บคุ คลทไี่ ดร้ บั การยกเวน้ ไดแ้ ก่ พระสงฆ ์ สามเณรทเี่ ป็ นเปรยี ญ* *ผทู ้ อี่ ยรู่ ะหว่างคมุ ขงั โดยเจา้ พนงั งาน ผูใ้ ดหลกี เลยี่ งไมไ่ ปลงบญั ชที หารกองเกนิ ระวางโทษ* 2) ทหารกองประจาการ : ผทู ้ ไี่ ดร้ บั การตรวจเลอื กเขา้ รบั ราการทหารตามกรมกองใดๆ โดย เมอื่ อายุ21 ปี ตอ้ งไปแสดงตนเพอื่ รบั หมายเรยี กทภี่ มู ลิ าเนาทหารของตนภายในเดอื น ธนั วาคมปีนัน้ หากไปรบั ไม่ไดใ้ หบ้ คุ คลอนื่ ทบี่ รรลนุ ิตภิ าวะไปแทน ผใู้ ดฝ่ าฝื นระวางโทษ - ในเดอื นตุลาคมทกุ ปี นายอาเภอตอ้ งประกาศใหท้ หารกองเกนิ อาย2ุ 1ปี ไปแสดงตน เพอื่ รบั หมายเรยี กทอี่ าเภอ เมอื่ ไดห้ มายเรยี กแลว้ ตอ้ งมาทาการตรวจเลอื ก นา ใบสาคญั ทหารกองเกนิ และบตั รประชาชนดว้ ย • บคุ คลทไี่ ดร้ บั การยกเวน้ (1) พระสงฆ ์ สามเณร นกั บวชในพระพทธศาสนาซงึ่ สอบนักธรรมตามกฎกระทรวง (2) นกั บวชในศาสนาอนื่ ตามกฎกระทรวง (3) บคุ คลอยใู่ นระหวา่ งฝึ กวชิ าทหารทกี่ ระทรวงกลาโหมกาหนด (4) นักเรยี นโรงเรยี นเตรยี มทหาร (5) ครปู ระจาการสอนหนังสือในการควบคมุ (6) นักศกึ ษาของศูนยก์ ลางอบรมการศกึ ษาผูใ้ หญ่ (7) นักศกึ ษาของศูนยฝ์ ึ กบนิ พลเรอื น (8) บคุ คลซงึ่ ไดร้ บั สญั ชาตไิ ทยโดยการแปลงสญั ชาติ (9) บคุ คลทไี่ ดร้ บั โทษจาคกุ โดยคาพพิ ากษาสูงสุด 21

3) ทหารกองหนุน - ทหารทปี่ ลดจากการกองประจาการตามกาหนดเวลารบั ราชการ โดย ทหารกองหนุนหรอื ทหารกองประจาการจะเป็ นทหารกองหนุนไปถงึ อายุ 46 ปีในระหว่างน้นั ตอ้ ง เขา้ รบั การระดมพลหรอื ฝึ กวชิ าทหาร ทหารกองหนุนผูใ้ ดหลกี เลยี่ งตอ้ งระวางโทษ 4)ทหารประจาการ คอื ทหารซงึ่ รบั ราชการตามทกี่ ระทรวงกลาโหมกาหนด ซงึ่ อาจเรยี ก งา่ ยๆว่า ทหารอาชพี 3. กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ปัจจบุ นั มกี ารนาเสนอสนิ คา้ และบรกิ ารตา่ งๆใหก้ บั ประชาชนมากขนึ้ ผูป้ ระกอบการไดใ้ ชก้ ลยุทธ ์ ทางการตลาดในการขายสนิ คา้ และบรกิ าร ผูบ้ รโิ ภคอาจเสยี เปรยี บจงึ มกี ารคมุ้ ครองว่า สทิ ธขิ องผูบ้ รโิ ภค ยอ่ มไดร้ บั ความคมุ ้ ครองในการรบั ขอ้ มูลทเี่ ป็ นความจรงิ มสี ทิ ธเิ รยี กรอ้ งเพือ่ รบั การเยยี วยาความเสยี หาย • พระราบญั ญตั คิ มุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค พ.ศ.2522 ไดบ้ ญั ญตั สิ ทิ ธคิ มุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค5ประการ (1)สทิ ธทิ ไี่ ดร้ บั ขา่ วสาร (2)สทิ ธทิ มี่ จี ะมอี สิ ระในการเลอื กสนิ คา้ หรอื บรกิ าร (3)สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ความปลอดภยั จากการใชส้ นิ คา้ หรอื บรกิ าร (4)สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ความเป็ นธรรมในการทาสญั ญา (5)สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั การพจิ ารณาและชดเชยความเสยี หาย 22

1 การคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภคในดา้ นการโฆษณา การดาเนินงานในการคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภคในดา้ การโฆษณาตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผบู โิ ภค โดยมอี านาจหนา้ ทดี่ งั นี้ (1) มหี นา้ ทใี่ นการควบคุมดแู ลการโฆษณาสนิ คา้ หรอื บรกิ ารทยี่ งั มไิ ดถ้ กู ควบคุม การโฆษณาโดย กฎหมายอนื่ โดยการโฆษณาจะตอ้ งไมใชข้ อ้ ความทเี่ ป็ นการไมเ่ ป็ นธรรมต่อผบู้ รโิ ภค หรอื ใช ้ ขอ้ ความทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่ สงั คมเป็ นสว่ นรวม 2 การคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภคในดา้ นฉลากสนิ คา้ เป็ นเรอื่ งทรี่ ฐั ออกกฎหมายเพือ่ ใหค้ วาม คมุ้ ครองสทิ ธขิ องผูบ้ รโิ ภคดา้ นฉลากสนิ คา้ โดยบทบญั ญตั แิ หง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค พ.ศ. 2522ซงึ่ ไดใ้ หอ้ านาจดงั นี้ (1) กาหนดสนิ คา้ ดงั ตอ่ ไปนีเ้ ป็ นสนิ คา้ ทคี่ วบคุมฉลาก สนิ คา้ ทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายแกส่ ุขภาพ รา่ งกาย หรอื จติ ใจและสนิ คา้ ทปี่ ระชาชนทว่ั ไปใชเ้ ป็ นประจา โดยผูบ้ รโิ ภคทจี่ ะไดร้ บั ทราบขอ้ เท็จจรงิ ในสาระสาคญั เกยี่ วกบั สนิ คา้ น้ัน (2) กาหนดหลกั เกณฑ ์ เงอื่ นไข การจดั ทาฉลากสนิ คา้ ทคี่ วบคุมฉลาก โดยตอ้ งใช ้ ขอ้ ความทตี่ รงต่อ ความเป็ นจรงิ และไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ ในสาระสาคญั เกยี่ วกบั สนิ คา้ (3) คณะกรรมการว่าดว้ ยฉลากมอี านาจทจี่ ะสง่ั ใหผ้ ูป้ ระกอบธรุ กจิ แกไ้ ขฉลากที่ ไม่ถกู ตอ้ งหรอื เลกิ ใช ้ ฉลากทไี่ มเ่ ป็ นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขทกี่ าหนดนน้ั ได ้ (4) นอกจากอานาจหนา้ ทตี่ ามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผูบ้ รโิ ภคแลว้ คณะกรรมการ วยฉลากยงั มี อานาจออกคาสง่ั เกยี่ วกบั การคุม้ ครองผูบ้ รโิ ภคเชน่ กฎหมายวา่ ดว้ ยยา,เครอื่ งสาอาง อานาจหนา้ ที่ ของคณะ จงึ เป็ นการอดุ ชอ่ งวา่ งกฎหมายตา่ ง ๆ เหล่านี้ 23

• ขอ้ แนะนาสาหรบั ผูบ้ รโิ ภคในการเลอื กซอื้ สนิ คา้ ทคี่ วบคมุ ฉลาก (1) ผูบ้ รโิ ภคควรตรวจสอบรายละเอยี ดฉลากของสนิ คา้ เพอื่ เป็ นขอ้ มูลในการเปรยี บเทยี บกอ่ น ตดั สนิ ใจเลอื กซอื้ สนิ คา้ หนึ่งสนิ คา้ ใด (2) ตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ เกยี่ วกบั แหล่งกาเนิด สภาพ และคุณภาพของสนิ คา้ จากผูข้ าย ผูผ้ ลติ ผสู้ ง่ หรอื ผนู ้ าเขา้ ทจี่ าหน่ายสนิ คา้ นน้ั (3) ศกึ ษาเกยี่ วกบั เงอื่ นไขหรอื ขอ้ จากดั ของสนิ คา้ (4) ตรวจดสู ภาพ คุณภาพ และปรมิ าณของสนิ คา้ ว่าเป็ นจรงิ ตรงตามทรี่ ะบไุ วใ้ นฉลากของสนิ คา้ 3. การคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภคในดา้ นสญั ญา ในสภาพความเป็ นจรงิ ในปัจจุบนั ผูบ้ รโิ ภคย่อมไม่มอี านาจตอ่ รองกบั ผูป้ ระกอบธรุ กจิ จงึ กาหนด สทิ ธขิ องผูบ้ รโิ ภคเพมิ่ ขนึ้ คอื \"สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ความเป็ นธรรมในการทาสญั ญา\" และการกาหนด มาตรการ คุม้ ครองผบู ้ รโิ ภคในดา้ นสญั ญาขนึ้ ดงั นี้ (1) การประกอบธรุ กจิ ขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารใด ถา้ สญั ญาซอื้ ขายหรอื ใหบ้ รกิ ารน้ัน มกี ฎหมาย กาหนดใหต้ อ้ งทาเป็ นหนังสอื โดยสญั ญาทผี่ ปู้ ระกอบธุรกจิ ทากบั ผูบ้ รโิ ภคจะตอ้ งมลี กั ษณะ ดงั นี้ - ใชช้ อ้ สญั ญาทจี่ าเป็ น หากไมไ่ ดใ้ ชข้ อ้ สญั ญา จะทาใหผ้ ูบ้ รโิ ภคเสยี เปรยี บ - หา้ มใชข้ อ้ สญั ญาทไี่ มเ่ ป็ นธรรมต่อผูบ้ รโิ ภค (2) เมอื่ คณะกรรมการวา่ ดว้ ยสญั ญากาหนดใหส้ ญั ญาของการประกอบธรุ กจิ ทคี่ วบคุม สญั ญาตอ้ งใชข้ อ้ สญั ญาใด แต่ไม่เป็ นไปตามเงอื่ นไข ใหถ้ อื วา่ สญั ญาน้นั ใชส้ ญั ญา ดงั กล่าวหรอื ใชข้ อ้ สญั ญาดงั กล่าวตามเงอื่ นไขน้นั แลว้ แตก่ รณี 24

(3) เมอื่ คณะกรรมการว่าดว้ ยสญั ญากาหนดใหส้ ญั ญาของการประกอบธรุ กจิ ทคี่ วบคุม สญั ญา ตอ้ งไม่ใชข้ อ้ สญั ญาใด ถา้ สญั ญาน้ันใชข้ อ้ สญั ญาดงั กลา่ ว ใหถ้ อื วา่ สญั ญานน้ั ไมม่ ขี อ้ สญั ญานน้ั (4) คณะกรรมการวา่ ดว้ ยสญั ญามอี านาจกาหนดใหก้ ารประกอบธรุ กจิ เป็ นธุรกจิ ทคี่ วบคมุ รายการในหลกั ฐานการรบั เงนิ ได ้ หลกั ฐานการรบั เงนิ จะตอ้ งมลี กั ษณะต่อไปนี้ - มรี ายการขอ้ ความและใชข้ อ้ ความทจี่ าเป็ น - หา้ มใชข้ อ้ ความทไี่ ม่เป็ นธรรมตอ่ ผูบ้ รโิ ภค (5) ในกรณีผูป้ ระกอบธรุ กจิ ใหค้ ามน่ั ว่าจะทาสญั ญาประกนั ใหแ้ กผ่ บู ้ รโิ ภค ตอ้ งทาเป็ นหนงั สอื ลงลายมอื ชอื่ ของผปู้ ระกอบธรุ กจิ หรอื ผแู้ ทน และตอ้ งสง่ สญั ญานน้ั แกผ่ บู้ รโิ ภคพรอ้ มกบั การสง่ มอบแกผ่ ูบ้ รโิ ภค - ถา้ ผูป้ ระกอบธรุ กจิ ฝ่ าฝื นหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ าม ตอ้ งระวางโทษ (6)ผปู้ ระกอบธรุ กจิ มหี นา้ ทสี่ ่งมอบสญั ญาทมี่ ขี อ้ สญั ญา หรอื ส่งมอบหลกั ฐนการรบั เงนิ ทมี่ ี รายการและขอ้ ความถกู ตอ้ งใหแ้ กผ่ ูบ้ รโิ ภคภายในระยะ เวลาธรุ กจิ ประเภทน้ัน ๆ หรอื ในระยะเวลาที่ คณะกรรมการว่าดว้ ยสญั ญากาหนด (7) ผูป้ ระกอบธรุ กจิ ผูใ้ ดสงสยั วา่ แบบสญั ญาหรอื แบบหลกั ฐานการรบั เงนิ ของตน ไม่เป็ นไปตาม พระราชบญั ญตั นิ ี้ อาจขอใหค้ ณะกรรมการวา่ ดว้ ยสญั ญาใหค้ วามเหน็ 25

4. การคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภคดา้ นการขายและตลาดแบบตรง การซอื้ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารในธรุ กจิ ขายตรง เป็ นวธิ กี ารจาหน่ายสนิ คา้ หรอื บรกิ ารทมี่ ลี กั ษณะเขา้ ถงึ ตวั ผบู ้ รโิ ภค โดยมผี ูช้ ายทเี่ รยี กชอื่ ตามหมายว่า ผจู้ าหน่ายอสิ ระหรอื ตวั แทนขายตรง ตามสถานทอี่ นื่ ทไี่ มใช่ สถานทคี่ า้ ขายตามปกติ ส่วนการทาธรุ กจิ ตลาดแบบตรงน้นั จะไมม่ พี นักงานขาย เพราะเป็ นการขาย สนิ คา้ หรอื บรกิ ารในลกั ษณะของการสอื่ สารขอ้ มลู ผา่ นสอื่ ตา่ ง ๆ ผูบ้ รโิ ภคจงึ ไม่สามารถจบั ตอ้ งสนิ คา้ ได ้ ปัญหาทเี่ กดิ ขนึ้ แกผ่ บู้ รโิ ภคในขณะนีส้ ่วนใหญพ่ บวา่ สนิ คา้ ทผี่ บู้ รโิ ภคสง่ั ซอื้ มกั ไม่ตรงกบั กล่าวไวแ้ ละเมอื่ ผบู ้ รโิ ภคใชส้ ทิ ธคิ นื สนิ คา้ ตามทผี่ ูป้ ระกอบธรุ กจิ ใหค้ าสญั ญา รบั ประกนั ความพอใจก็ไมไ่ ดร้ บั เงนิ คนื หรอื ไดร้ บั เงนิ คนื ล่าชา้ เกนิ ควร พระราชบญั ญตั ขิ ายตรงและตลาดแบบตรง ไดบ้ ญั ญตั ใิ หค้ วามคมุ้ ครอง ผูบ้ รโิ ภคในประเด็นตา่ ง ๆ ดงั นี้ (1) ในการซอื้ สนิ คา้ หรอื บรกิ าร ผปู้ ระกอบธรุ กจิ ขายตรงและผูป้ ระกอบธรุ กจิ ตลาด แบบตรงตอ้ ง สง่ มอบเอกสารการซอื้ ขายใหแ้ กผ่ ูบ้ รโิ ภค ตอ้ งเป็ นภาษาไทย ระบชุ อื่ ผซู้ อื้ ผูข้ าย วนั ทซี่ อื้ ขาย วนั ทสี่ ่งมอบ และสทิ ธขิ องผบู้ รโิ ภคในการเลกิ สญั ญา (2) การซอื้ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารในธรุ กจิ ขายตรงหรอื ตลาดแบบตรงนั้น กฎหมายกาหนด ใหผ้ ู้ บรโิ ภดมสี ทิ ธเิ ลกิ สญั ญาได ้ โดยการส่งหนังสอื แสดงเจตนาไปยงั ผูป้ ระกอบธุรกจิ ใน7วนั (3) เมอื่ ผบู ้ รโิ ภคใชส้ ทิ ธเิ ลกิ สญั ญาแลว้ กฎหมายกาหนดหนา้ ทขี่ องผบู้ รโิ ภคตอ้ งเลอื ก ปฏบิ ตั ิ อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง ดงั นี้ - สง่ คนื สนิ คา้ ไปยงั ผูจ้ าหน่ายอสิ ระ ตวั แทนขายตรง - เกบ็ รกั ษาสนิ คา้ ภายในระยะเวลา 21 วนั นับแต่วนั ทใี่ ชส้ ทิ ธเิ ลกิ สญั ญา เมอื่ พน้ กาหนด แลว้ จะเก็บรกั ษาสนิ คา้ นนั้ ไวห้ รอื ไมก่ ็ได ้ และตอ้ งส่งคนื เมอื่ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ มาขอรบั คนื (4) ถา้ เป็ นความผดิ ของผบู้ รโิ ภคทาใหส้ นิ คา้ นัน้ สญู หาย หรอื บบุ สลายหรอื ไม่สามารถ คนื สนิ คา้ แกผ่ ูป้ ระกอบธรุ กจิ ได ้ ผูบ้ รโิ ภดตอ้ งชดใชค้ ่าเสยี หาย เวน้ แต่เป็ นความเสยี หายทเี่ กดิ ขนึ้ ตามปกติ จากการเปิด ประกอบหรอื ผสมเพือ่ ใชส้ นิ คา้ นั้น (5)เมอื่ ผูบ้ รโิ ภคไดใ้ ชส้ ทิ ธเิ ลกิ สญั ญาตามกฎหมายแลว้ ผจู ้ าหน่ายอสิ ระ ตวั แทนขายตรง ฯลฯ ตอ้ งคนื เงนิ เต็มจานวนทผี่ ูบ้ รโิ ภคจา่ ยไปภายในกาหนดเวลา 15 วนั นบั ตง้ั แต่วนั ทไี่ ดร้ บั หนังสอื แสดงเจตนาเลกิ สญั ญา (6) คารบั ประกนั สนิ คา้ ตอ้ งทาเป็ นภาษาไทยและระบถุ งึ สทิ ธขิ องผูบ้ รโิ ภคในการ เรยี กรอ้ งสทิ ธิ ตามคารบั ประกนั ใหช้ ดั เจน 26

ข้อตกลงระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหวา่ งประเทศ เป็ นขอ้ ตกลงระหว่างประเทศทคี่ มุ้ ครองประชาชนจากภยั สงคราม หรอื ภยั จากความขดั แยง้ ทางกาลงั ทหารทงั้ ภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยวางกฎเกณฑส์ าหรบั ปฏบิ ตั กิ ารทางทหารในยามสงคราม ซงึ่ ทมี่ าของกฎหมายฉบบั นีม้ าจากขอ้ ตกลงอนุสญั ญาเจนีวา โดยมี4 ฉบบั ดงั นี้ - ฉบบั ท1ี่ วา่ ดว้ ยการปรบั ปรงุ สภาพความเป็ นอยูข่ องผูบ้ าด ผูป้ ่ วยในกองทพั ทอี่ ยใู่ นสนามรบให ้ มสี ถาพดขี นึ้ - ฉบบั ท2ี่ ว่าดว้ ยการปรบั ปรงุ ความป้ ็ นอยู่ของผูบ้ าดเจบ็ ผปู้ ่ วย และลกู เรอื ทอี่ บั ปาลของกอง กาลงั รบในทะเลใหด้ ขี นึ้ - ฉบบั ท3ี่ ว่าดว้ ยการปฏบิ ตั ติ ่อเชลยศกึ - ฉบบั ท4ี่ วา่ ดว้ ยการปกป้ องคมุ้ ครองบคุ คลและพลเรอื นในระหว่างสงคราม หรอื ความขดั เเยง้ ทาง กาลงั ทหาร 27

เอกสารอา้ งองิ - อา้ งองิ เน้ือหา + หนงั สอื ประกอบการเรยี น - อา้ งองิ รูปภาพประกอบ + กลู เกล + Pinterest 28

คณะผูจ้ ดั ทาและหนา้ ท่ี 1) น.ส.ณัฏนรนิ ทร ์ จรสั สกลุ ม.4/2 เลขที่ 25 - พมิ พส์ รปุ เนือ้ หากฎหมายเเพ่งทเี่ กย่ี วกบั นิตกิ รรมสญั ญา เเละกฎหมายอาญา - หารปู ภาพประกอบเนือ้ หากฎหมายเเพ่งทเี่ กย่ี วกบั นิตกิ รรมสญั ญา เเละกฎหมาย อาญา 2) น.ส.ทพิ รตั น์ สมบตั วิ งค ์ ม.4/2 เลขท่ี 26 - พมิ พส์ รปุ เนือ้ หาความรพู ้ นื้ ฐาน เเละกฎหมายเเพ่งทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ตนเองเเละ ครอบครวั - หารปู ภาพประกอบเนือ้ หาความรพู ้ นื้ ฐาน เเละกฎหมายเเพ่งทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ตนเอง เเละครอบครวั 3) ด.ญ.ธนสร เพมิ่ พลู ทรพั ย ์ ม.4/2 เลขที่ 27 - จดั ทารปู เลม่ ทงั้ หมดของ E-book ใหเ้ ป็ นระเบยี บเรยี บรอ้ ยสวยงาม และตรวจทาน เนือ้ หาทพี่ มิ พผ์ ดิ เเละเเกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง - นารปู ภาพประกอบ เเละเนือ้ หาทเ่ี พอ่ื นทง้ั สามหาเเละพมิ พส์ รปุ ใหม้ า ทาเป็ น E-book 4) น.ส.มารสิ า ถะเกงิ ผล ม.4/2 เลขที่ 29 - พมิ พส์ รปุ เนือ้ หากฎหมายอน่ื ทสี่ าคญั เเละขอ้ ตกลงระหว่างประเทศ - หารปู ภาพประกอบเนือ้ หากฎหมายอน่ื ทสี่ าคญั เเละขอ้ ตกลงระหว่างประเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook