Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Catalog FC04&SD HRD Online Training

Catalog FC04&SD HRD Online Training

Published by Panu Suttivareewattana, 2021-10-29 08:50:48

Description: Catalog FC04&SD HRD Online Training

Search

Read the Text Version

HRDOnline Trainingหลกั สตู รอบรมผ่านส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์งานสร้างเสริมศักยภาพและพัฒนาบุคลากร ระบบ SELECx สาหรบั ผู ้ปฏบิ ตั ิงาน 109 ตาแหนง่ เป้ าหมาย โดยงานสร้างเสริมศักยภาพและพัฒนาบุ คลากร ฝ่ ายทรัพยากรบุ คคล

CONTENT 04 Functional Competency หลกั การ และความสาคญั ของการพัฒนา สมรรถนะตามสายอาชีพ 05 กล่มุ หลกั สตู ร FC04 กล่มุ หลักสตู รทกั ษะดา้ นการทางานร่วมกบั ผู้อ่ืน 19 กลุม่ หลกั สูตร Self-Development กลุม่ หลกั สตู รพัฒนาตนเอง

24 ขนั้ ตอนการเข้าส่หู ลักสูตร ขน้ั ตอนการเข้าใช้งานระบบ SELECx การลงทะเบยี น เขา้ สูห่ ลักสูตรไดด้ ้วยตนเอง (Self Enrolment) 27 ตัวอยา่ งประกาศนียบัตร 28 Q&A คาถามท่ีพบบอ่ ย ตอบข้อสงสยั เบื้องตน้ 29 คาแนะนากอ่ นเข้าอบรม NEW TRAINING ANYWHERE ANYTIME

FUNสCมTรIรOถNนAะตLาCมOสMายPอEาTชEี พNCY Page 03

FC ย่อมาจากคาว่า Functional Competency เพ่ือสอดรบั กบั แผนยุทธศาสตร์ท่ี 4 พัฒนาความ เป็นมืออาชีพ 4.1 พัฒนาสมรรถนะเฉพาะด้านและทักษะ ถ้าหากแปลเป็นภาษาไทยจะได้คาว่า“สมรรถนะตามสาย เพ่ือการทางานในอนาคต ฝ่ ายทรัพยากรบุ คคลจึง อาชีพ” ซ่ึงตามประกาศคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับภาควิชา/หน่วยงานต่างๆในคณะฯ ในการจัดทา เร่ือง หลักเกณฑ์และการให้อัตราการให้ทุนบุคลากรสาย สมรรถนะตามสายอาชีพ (Functional Competency) สนับสนนุ เพ่อื เสรมิ สร้างการพฒั นาสมรรถนะตามสายอาชีพ ให้กับผู้ปฏิบัติงานในแต่ละตาแหน่ง เพ่ือเสริมสร้างความรู้ พ.ศ. 2563 ให้ความหมายไว้ว่า “สมรรถนะตามสายอาชีพ” (Knowledge) ทกั ษะ (Skills) และคุณลักษณะ (Attribute) คือ ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ ท่ีผู้ปฏิบัติงานจาเปน็ ต้อง อนั เปน็ ทางเดินส่คู วามเปน็ มอื อาชีพของบุคลากรในคณะฯ มี เพ่ือให้การปฏบิ ตั งิ านในตาแหน่ง/ภาระงานนั้น บรรลุตาม ผลลพั ธท์ ่หี น่วยงานไดก้ าหนดไว้ FC01 FC02 FC03 FC04 ความรู้ ทกั ษะ ทักษะ ทักษะ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ตาแหนง่ ท่จี าเปน็ เฉพาะตาแหนง่ การบรหิ ารจดั การงาน การทางานร่วมกนั Page 04

กลุ่มหลกั สตู ร FC04 ทักษะด้านการทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่นื Soft Skills

Cกาoรสm่อื สmารอuยn่างicมปี aระtสioิทธnภิ าsพkills Sกาeรrบvริกicารeท่ีเปE็นxเลcศิ ellence กเพา่ือรใสห่อื ้บสุคาลราภการยมในที อกั งษคะก์การไรดส้อ่ือยส่าางรมีปสารมะสาิทรธถภินาาไพปปรับใช้กบั เกพา่อืรใบหรบ้ ิกุคาลรากเพร่ือมกจี าติ รบสร่งกิ มาอรบ(คSณุ erคviา่cทe่ีเหmนiือnคd)วาแมลคะสารด้าหงวมังาใหต้กรฐับาน ผูใ้ ช้บริการ Collaboration skills Mindfulness-Based Stress การเสริมสรา้ งทกั ษะการทางานรว่ มกนั กMารaพnัฒaนgาทeกั ษmะกeารnรtบั มPอื rกoับgควrาaมmเครียด โดยการฝึ กสติ เแพล่อืะเใรหยี บ้ นุครลูเ้ กา่ียกวรกมาีทรศั ทตาคงตานทิ ่รีดว่ีตม่อกกบั าผรูท้อา่ืนงใหาน้มเปี ปรน็ ะทสีมิทธสภิ ราา้ พงสคูงวสาดุมเข้าใจ เทพา่อืงใาหนบ้ ุคแลลาะสก่งรเมสทีริมกั ใษหะ้บในุคกลาารกรรบั มมสี ือุขกภบัาพควจาิตมใจเคทร่ีดยี ีขดึ้นท่เี กดิ จากการ Conflict Management การบรหิ ารความขัดแยง้ (คเพMว่อื iาnใมหdเ้ผsขeาู้เ้ ขใt)จา้ ทรขับ่ไีอดกง้ราตับรนอเรอบวงรใมมนถสเรงึา่ือกมงลาขรยอุถทงปธกร์ตาับา่ รเงปทๆลาไ่ียปงนาปนรระบั บสใชบา้ใมคนาวกราาถมรนคทาิดาคงวาานมรู้ Page 06

04FC SทกัOษFะTด้าSนKกILาLรทางานร่วมกัน ในปั จจุ บันการจะประสบความสาเร็จในชีวิตการทางาน และชีวิตส่วนตัวนั้น จาเป็นต้องมีมากกว่าความรู้ การพัฒนาทักษะท่ีเก่ียวข้องกับการทางาน และการใช้ชีวิตในสังคม ท่ีเรียกกันว่า Soft skills ก็มีความสาคัญ อยา่ งมาก ฝ่ ายทรัพยากรบุคคลเลง็ เห็นความสาคัญดงั กล่าว เพ่ือเป็นการพฒั นาสมรรถนะใหแ้ ก่บุคลากร รวมถึงสร้าง ทัศนคติเชิงบวกให้แก่บุคลากรของคณะฯ ให้บุคลากรสามารถทางานได้อย่างมีความสุข จึงมีนโยบายให้บุคลากร ผู ้ปฏิบัติงานในตาแหน่งเป้ าหมายทั้ง 109 ตาแหน่ง เข้ารับการอบรมพัฒนาทักษะด้านการทางานร่วมกัน (Soft Skills) ทงั้ น้ีไดแ้ บง่ หลักสตู รเป็น 2 ส่วนคือ Page 07

หลักสตู รพ้นื ฐาน (บังคับ) หลกั สตู รพื้นฐาน (บงั คบั ) หมายถงึ หลักสูตรท่ีบุคลากรกล่มุ เป้าหมาย 109 ตาแหนง่ จะตอ้ งเขา้ รับการอบรมและ ตอ้ งผ่านเกณฑก์ ารอบรมให้ครบทกุ หลักสตู รภายในระยะเวลาท่ีกาหนดเปิดระบบใหเ้ ข้าอบรม ประกอบไปด้วย 3 หลักสตู ร ไดแ้ ก่ • หลักสูตรการส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Communication Skills) • หลักสตู รการบรกิ ารท่เี ป็นเลศิ (Service Excellence) • หลักสูตรการพฒั นาทักษะการรบั มอื กับความเครยี ดโดยการฝึกสติ (Mindfulness-based stress management) หลกั สตู รเสริม (ไม่บังคับ) หลักสูตรหลกั (ไมบ่ งั คับ) หมายถงึ หลักสตู รท่เี ปิดให้บุคลากรของคณะฯ สามารถเสรมิ สร้างทักษะด้านการทางาน ร่วมกบั ผู ้อ่ืนในหัวขอ้ ท่นี อกเหนือจากหลักสตู รหลกั ได้ตามความสนใจของตนเอง ประกอบไปด้วย 2 หลกั สตู ร ได้แก่ • หลักสตู รการเสริมสรา้ งทกั ษะการทางานร่วมกนั (Collaboration Skills) • หลักสูตรการบรกิ ารความขดั แขง้ (Conflict Management) Page 08

109กลผ่มุ ูป้เปฏ้ าบิ หตั มงิ าายน ตาแหน่ง ช่างเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ช่ างไฟฟ้ า ผู้ปฏบิ ตั งิ านรังสีเทคนิค พนกั งานธุรการ ช่างเคร่อื งมอื กล ช่ างไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ปฏบิ ตั งิ านวทิ ยาศาสตร์ พนักงานบรกิ ารส่ืออุปกรณ์การสอน ช่างเคร่อื งยนต์ ผู้ปฏบิ ตั ิงานวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ ช่างตดั เยบ็ ผา้ ช่างอิเล็กทรอนกิ ส์ ผู้ปฏบิ ตั ิงานโสตทศั นศกึ ษา พนักงานประกอบอาหาร ช่างทนั ตกรรม ผูช้ ่วยช่างท่วั ไป พนกั งานประจาพพิ ิธภณั ฑ์ ช่ างเทคนคิ ผูช้ ่วยนกั กายภาพบาบดั ผู้ปฏบิ ตั ิงานห้องสมุด พนกั งานประจาหอ้ งทดลอง ช่ างประปา ผูช้ ่วยพยาบาล ผูป้ ฏบิ ัติงานอาชีวบาบดั ช่ างปู น ผู้ช่วยเภสชั กร พนักงานประจาห้องยา ช่ างไม้ ผู ้ดูแลหมวดสถานท่ี พนกั งานผ่าและรกั ษาศพ ช่ างศิลป์ ผู ้ช่ วยวิจยั พนกั งานการแพทยแ์ ละรงั สเี ทคนิค ช่ างสี ผูป้ ฏบิ ตั งิ านทันตกรรม พนักงานพมิ พ์ ช่ างเหลก็ ผูป้ ฏบิ ตั งิ านบริหาร พนักงานขับรถยนต์ พนักงานรักษาความปลอดภยั ผู้ปฏบิ ตั ิงานเภสชั กรรม พนกั งานช่วยการพยาบาล ผู้ปฏิบตั งิ านโภชนาการ พนักงานรับโทรศพั ท์ พนักงานซักฟอก พนกั งานเลย้ี งสตั ว์ พนักงานท่ัวไป พนกั งานวิทยาศาสตร์ Page 09

พนักงานสถานท่ี นักวิชาการคอมพวิ เตอร์ นักบริหารความเส่ียง เจา้ หน้าท่ีระบบงานคอมพวิ เตอร์ พนกั งานโสตทัศนศึกษา นกั วิชาการวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ นักวิชาการพัฒนาคุณภาพ เจ้าหน้าท่ีวิจัย พนักงานห้องสมุด นกั วิทยาศาสตร์ พนักงานหอผูป้ ่ วย นักวทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า นกั วเิ คราะห์นโยบายและแผน วิศวกร พนกั งานอาชีวบาบัด นักตรวจการนอนหลบั นักกายภาพบาบัด นักคล่นื เสยี งสะทอ้ นหวั ใจ นักตรวจสอบภายใน วิศวกรไฟฟ้า นักกายอุ ปกรณ์ นักวชิ าการโภชนาการ นักกิจกรรมบาบัด นกั วชิ าการเงินและบญั ชี วิศวกรโยธา นกั แกไ้ ขความผิดปกติของการส่อื ความหมาย นกั วชิ าการเวชสถิติ นักวิชาการส่งิ แวดล้อม นักวชิ าการพสั ดุ สถาปนกิ นักจติ วิทยา นักวิชาการอาชีวบาบดั นักจิตวิทยาคลนิ กิ นักสุขศกึ ษา ครูปฐมวัย นักเทคนคิ การแพทย์ นกั อาชีวอนามยั นกั เทคโนโลยหี ัวใจและทรวงอก นักวชิ าการศึกษา นักทรพั ยากรบุคคล พ่เี ลี้ยง นักปฏบิ ตั กิ ารวิจัย นกั วิชาการศกึ ษาพิเศษ นักฟิสกิ ส์การแพทย์ นกั วชิ าการโสตทศั นศึกษา บุ คลากร แพทย์แผนไทยประยุกต์ นกั รงั สีการแพทย์ นักเอกสารสนเทศ นักวิชาการสถติ ิ ทันตแพทย์ บรรณารักษ์ นักวชิ าการสารสนเทศ สัตวแพทย์ นิติกร เภสชั กร นกั ประชาสัมพันธ์ พยาบาล นกั วเิ ทศสมั พนั ธ์ นกั สังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าท่บี ริหารงานท่ัวไป Page 10

หลกั สตู รพ้ืนฐาน (บังคับ) Page 11

Communicastkiilolns หลักสูตร การส่อื สารอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ “ การส่ือสารภายในองค์กรเปน็ ศูนยก์ ลางท่ีทาใหบ้ ุคลากรรบั รูเ้ ขา้ ใจในส่ิง โครงสร้างหลกั สตู ร เดียวกัน การส่อื สารในองคก์ รท่ดี ีจะสามารถสรา้ งความม่ันคง และเหนียว การส่ือสารท่ดี จี ะช่วย ”แนน่ เหมือนกาวท่ียึดตดิ องคก์ รให้คงอยู่ได้ บทเรียนท่ี 1 บทนาเร่อื งการส่ือสารระหว่างบุคคล สรา้ งความม่ันคง บทเรยี นท่ี 2 (15 นาที) วตั ถุประสงค์ ให้กับองคก์ ร บทเรยี นท่ี 3 ความแตกต่างระหว่างบุคคลในการ • เพ่อื สง่ เสริมทักษะในการส่อื สารใหบ้ ุคลากรไดท้ ราบถงึ วิธกี ารส่อื สาร ส่ือสารในประเดน็ ดา้ นการรู้คดิ ท่ีดี และมีประสทิ ธิภาพ บทเรยี นท่ี 4 (20 นาที) บทเรยี นท่ี 5 • เพ่ือใหบ้ ุคลากรได้เรียนรู้และเขา้ ใจเทคนคิ วธิ ีการส่อื สารอย่างถกู ตอ้ ง บทเรยี นท่ี 6 ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลในการ • เพ่ือใหบ้ ุคลากรสามารถนาวิธีและเทคนิคการส่ือสาร ไปประยุกต์ใช้งาน ส่อื สารในประเดน็ ด้านอารมณ์ ความรูส้ ึก (20 นาที) ในการปฏบิ ัติงานไดจ้ รงิ และมีประสิทธภิ าพ การส่อื สารแบบอวัจนภาษา หรือภาษา เกณฑ์การผา่ นหลักสูตร ท่ไี ม่ใช้ถอ้ ยคา (25 นาที) • เข้าอบรมครบทุกหนว่ ยการเรียนรู้ แนวทางการสง่ เสริมประสทิ ธิภาพของ • ทาแบบฝึกหัดครบทกุ บทเรียน การฟัง (25 นาที) วทิ ยากร การบรหิ ารจดั การความขัดแย้งผ่าน การส่อื สาร (20 นาที) อาจารย์ สรวศิ รัตนชาตชิ ูชัย (วทิ ยากรภายนอก) สอบถามข้อมูลเพ่มิ เติม นางสาวอภศิ รา หมายเลขโทรศพั ท์ 9-8607 Si vWORK: APISARA INTARAPROM ช่ัวโมงเรียนโดยประมาณ 3 ช่ัวโมง แบบทดสอบ ไมม่ ี ประกาศนยี บตั ร มี แบบฝึกหัด/กิจกรรม มี จานวนบทเรียน 6 บทเรยี น Page 12

ExcSelelrevinccee หลกั สตู ร การบรกิ ารท่ีเป็นเลศิ “ บุคลากรควรมจี ิตบริการ (Service mind) เปน็ หลักในการปฏิบัตงิ าน โครงสร้างหลกั สูตร การบริการท่ดี จี ะช่วยให้ผูร้ ับบริการเกดิ ความประทับใจ ดงั นน้ั บุคลากร พัฒนาทกั ษะ ทกุ คนจึงควรมี “จติ บริการ” น่ันคือความเตม็ ใจใหบ้ รกิ าร เปน็ มิตร เอาใจ บทเรียนท่ี 1 การเสริมสรา้ งจิตบรกิ ารเพ่ือพัฒนา เพ่ือส่งมอบบริการ ”ใส่ และท่ีสาคญั ต้องส่งมอบ “ คุณคา่ ” ให้กับผู้ใช้บริการไดเ้ ท่ากบั หรอื บทเรยี นท่ี 2 องคก์ รสมรรถนะสงู (30 นาที) ท่มี คี ุณค่าให้กบั เหนือกว่าท่ีผู ้รับบริการคาดหวัง บทเรยี นท่ี 3 ผู ้ใช้บริการของเรา การพฒั นาทกั ษะและพฤติกรรมการ วัตถุประสงค์ บทเรยี นท่ี 4 บริการท่ีนา่ ประทบั ใจ (30 นาที) • เพ่ือเสรมิ สรา้ งความรู้ ความเข้าใจ เก่ยี วกับหลักการบริการดว้ ยหวั ใจ การเสริมสรา้ งมาตรฐานการบริการ (Service mind) เพ่ือให้บรกิ ารแบบมอื อาชีพ (30 นาที) จิตบรกิ ารและมาตรฐานเพ่ือการส่ง • เพ่ือใหผ้ ูเ้ ขา้ อบรมสามารถประยุกต์ใช้ความรูค้ วามเขา้ ใจท่ไี ดร้ บั มอบบรกิ ารท่ีเหนือความคาดหวัง ไปตอ่ ยอดในการปฏบิ ัตงิ าน (30 นาที) • เพ่ือสร้างทศั นคตเิ ชิงบวกสาหรบั การปฏบิ ตั งิ านดา้ นงานบรกิ าร สอบถามขอ้ มูลเพ่ิมเติม เกณฑ์การผา่ นหลกั สตู ร นายภาณุ หมายเลขโทรศัพท์ 9-8607 Si vWORK: PANU SUTTIVAREEWATTANA • เข้าอบรมครบทุกบทเรียน • ทาแบบทดสอบหลังอบรม (Post-test) ไดค้ ะแนนไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 80 วิทยากร อาจารย์ นพิ ัทธ์ กานตอมั พร (วทิ ยากรภายนอก) ช่ัวโมงเรยี นโดยประมาณ 4 ช่ัวโมง แบบทดสอบ มี ประกาศนยี บตั ร มี แบบฝึกหดั /กจิ กรรม มี Page 13 จานวนบทเรียน 4 บทเรยี น

MindMfaulnnaegses-mBeanstePdroStgrreassm หลกั สูตร การพัฒนาทกั ษะการรับมอื กับความเครียดโดยการฝึ กสติ “ การพฒั นาทักษะการรับมอื กบั ความเครียดโดยการฝึกสติ เปน็ การเสรมิ โครงสร้างหลักสตู ร ทักษะการจดั การตนเองในการจดั การกบั ความเครยี ด เสรมิ สรา้ งความสุข ในการทางาน ทาให้เขา้ ใจถึงธรรมชาตขิ องชีวติ เพ่ือให้บุคลากรมีความสุข บทเรียนท่ี 1 การผ่อนคลายความเครียดดว้ ย ตนเอง (30 นาที) ”วัตถปุ ระสงค์ ในชีวติ และการทางานมากขนึ้ บทเรียนท่ี 2 การฝึกรู้ทนั ความคดิ และปลอ่ ยวาง • เพ่อื พฒั นาทักษะการจัดการตนเองของบุคลากรในการจดั การกบั บทเรียนท่ี 3 (30 นาที) ความเครียด บทเรยี นท่ี 4 การรบั มือกับความรูส้ ึกด้านลบ • เพ่อื ใหบ้ ุคลากรนาความรูท้ ่ีได้รบั ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ เม่อื ตอ้ ง บทเรียนท่ี 5 (25 นาที) เผชิญกับความเครยี ด บทเรียนท่ี 6 การเดนิ เพ่ือปลอ่ ยวาง (30 นาที) • เพ่อื เพ่มิ แรงจูงใจในการจดั การกบั ความเครยี ดไปประยุกตใ์ ช้ในการ ใช้ชีวติ ประจาวัน และการทางาน การฝึกอยูก่ บั ปัจจุ บนั ด้วยการแปรง ฟัน (30 นาที) เกณฑก์ ารผ่านหลักสูตร การทานอาหารอย่างมีสติ (30 นาที) • เข้าอบรมครบทุกบทเรยี น การฝึ กสติ วทิ ยากร สอบถามข้อมูลเพ่ิมเตมิ ช่วยใหก้ ารทางาน มีประสทิ ธิภาพมาก อาจารย์ นพ.นที วรี วรรณ (วทิ ยากรภายใน) นางสาวอภิศรา หมายเลขโทรศพั ท์ 9-8607 ข้ึน และใช้ชีวิตได้ดขี ึ้น อาจารย์ สรวิศ รัตนชาตชิ ูชัย (วิทยากรภายนอก) Si vWORK: APISARA INTARAPROM นางสาวฐิตา หมายเลขโทรศพั ท์ 4-1834 Si vWORK: THITA TONGSAHATAM ช่ัวโมงเรียนโดยประมาณ 5 ช่ัวโมง แบบทดสอบ ไม่มี ประกาศนียบัตร มี แบบฝึกหัด/กิจกรรม มี จานวนบทเรียน 6 บทเรยี น Page 14

หลกั สตู รเสริม (ไมบ่ งั คับ) Page 15

Collaborastkiilolns หลกั สตู ร การเสรมิ สรา้ งทักษะการทางานรว่ มกัน “ การเสริมสรา้ งทักษะการทางานร่วมกัน (Collaboration Skills) โครงสรา้ งหลกั สตู ร ทักษะความรว่ มมือ จะทาให้ผู้ปฏบิ ตั ิงานเกิดการเรยี นรูแ้ ละพฒั นาความสามารถในการ บทเรียนท่ี 1 การสรา้ งความสาเร็จให้องคก์ รดว้ ย ช่วยให้เป้าหมายของ ประสานงาน การแก้ไขปัญหา และการตดั สนิ ใจรว่ มกัน บทเรยี นท่ี 2 ทกั ษะความร่วมมือ (20 นาที) องคก์ รสาเรจ็ ไดอ้ ยา่ ง บทเรยี นท่ี 3 ”อันเปน็ หวั ใจสาคัญของการทางานเปน็ ทมี (Teamwork) บทเรยี นท่ี 4 สัมพันธภาพระหวา่ งบุคคลในการ มปี ระสิทธิภาพ บทเรยี นท่ี 5 ทางานร่วมกนั (20 นาที) วัตถปุ ระสงค์ การประสานความร่วมมืออยา่ งไรให้ • เพ่อื ใหบ้ ุคลากรเข้าใจแนวคิด ทัศนคติ และวิธีการทางานรว่ มกัน ได้ทง้ั ใจ ให้ไดท้ ง้ั งาน (20 นาที) อย่างมปี ระสิทธิภาพ การรบั มอื กบั อุปสรรคของการ • เพ่ือใหบ้ ุคลากรเข้าใจและยอมรับความแตกตา่ งระหว่างบุคคลในการ ทางานร่วมกัน (20 นาที) ทางานร่วมกนั อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การเรยี นรูจ้ ากปัญหาและเสนอไอเดีย • เพ่ือใหบ้ ุคลากรเรียนรู้วธิ ีการแก้ปัญหา และการนาเสนอความ อย่างสร้างสรรค์ (20 นาที) คดิ เห็นในการทางานร่วมกบั ผูอ้ ่ืน เกณฑก์ ารผา่ นหลักสูตร • เขา้ อบรมครบทกุ หน่วยการเรยี นรู้ • คะแนนการทดสอบหลังเรยี นไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 80 วทิ ยากร ดร.นษิ ฐา นมิ านรดกี ุล (วิทยากรภายนอก) สอบถามข้อมูลเพ่ิมเตมิ นางสาวฐิตา หมายเลขโทรศัพท์ 4-1834 Si vWORK: THITA TONGSAHATAM ช่ัวโมงการอบรมโดยประมาณ 2 ช่ัวโมง แบบทดสอบ มี ประกาศนียบตั ร มี จานวนบทเรยี น 5 หน่วยการเรยี นรู้ แบบฝึกหัด/กิจกรรม มี Page 16

ManagCeonmfleinctt หลักสตู ร การบรหิ ารความขดั แยง้ “ รู้เรารูเ้ ขา , รู้สถานการณร์ ูส้ ภาพแวดลอ้ ม , รบรอ้ ยคร้ังชนะรอ้ ยครง้ั โครงสรา้ งหลักสูตร ” วตั ถุประสงค์ เสรมิ ทักษะการการ • เพ่อื ใหผ้ ูเ้ ข้าอบรมมคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับความขัดแย้งในองคก์ ร • Communication for Conflict Resolution & ทางานรว่ มกนั เปน็ ทมี • เพ่อื ใหผ้ ูเ้ ข้ารบั การอบรมมีความรู้ ความเขา้ ใจหลักและกลยุทธใ์ นการ Tactics on Negotiation และบริหารความ บรหิ ารความขัดแย้ง • ความขัดแย้งกบั มุมมองทางพระครสิ ตศาสนา และ ขดั แยง้ ในหนว่ ยงาน • เพ่อื ให้ผู้เขา้ รับการอบรมสามารถปรับเปล่ยี นระบบความคดิ (Mindset) พระพุ ทธศาสนา ของตนเองในเร่ืองของการทางาน • The 5 Conflict Management Strategies (Collaborating, Compromising, Accommodating, เกณฑก์ ารผา่ นหลักสูตร Competing (Forcing), Avoiding) • เข้าอบรมครบทุกหน่วยการเรียนรู้ • Matching Strategy to Situations • คะแนนการทดสอบหลงั เรยี นไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 80 • How to Choose the Strategy • Case study วิทยากร ศ.ดร.นพ. ประสิทธ์ิ วฒั นาภา สอบถามขอ้ มูลเพ่ิมเติม นายนเรศ หมายเลขโทรศัพท์ 4-1836 Si vWORK: NARES LUEPUN นางสาวศุภสิ รา หมายเลขโทรศัพท์ 9-9059 Si vWORK: SUPHISARA CHUANPRAPHAN ช่ัวโมงการอบรมโดยประมาณ 3 ช่ัวโมง แบบทดสอบ มี ประกาศนียบตั ร มี Page 17 จานวนบทเรียน 10 บทเรยี น แบบฝึกหดั /กิจกรรม ไมม่ ี

กลุ่มหลักสตู ร ทกั ษะดา้ นการทางานร่วมกับผู อ้ ่นื Timeline FC04การเปิดระบบให้เขา้ อบรม Soft Skills ได้รับจดหมายเชิ ญชวน ฝ่ ายทรพั ยากรบุคคลสง่ หนังสือเชิญ ชวนให้บุ คลากรท่ีปฏิบัติงานใน ตาแหนง่ เป้าหมายเขา้ รบั การอบรม ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. 29 พศจกิ ายน 2564 5 กันยายน 2565 เปิ ดระบบใหเ้ ข้าอบรม ปิ ดระบบ บุคลากรท่ีปฏิบัติงานในตาแหน่งเป้ าหมายสามารถ บุคลากรท่ีปฏิบัตงิ านในตาแหนง่ เป้าหมาย ลงทะเบยี นเขา้ สู่หลกั สูตรได้ดว้ ยตนเอง (Self Enrolment) จะตอ้ งผา่ นเกณฑก์ ารอบรม หลกั สตู รพ้ืนฐาน (บังคับ) ทัง้ 3 หลกั สูตร ก่อนวนั ท่ี 5 กันยายน 2565 Page 18

กลุ่มหลกั สตู ร Self-Development หลกั สตู รพฒั นาตนเอง

Presentation Techniques เทคนิคการนาเสนอผลงาน แเพล่ือะเใสหรผ้ ิมู้เสขรา้ ้ารงับบกุคารลอกิ บภรามพไทด่ดีเ้ รใี ยี นนกราู้เทรนคานเคิสนตอ่างๆเก่ียวกบั การนาเสนอ Pกาrรoผfลeติ sสs่อื iอoยnา่ งaมอืl อPาrชeีพsentation เพ่อื ใหผ้ ูเ้ ข้ารับการอบรมได้เรยี นรู้หลกั การในการออกแบบส่อื ท่ี ถกู ตอ้ ง ง่ายตอ่ การทาความเข้าใจ และแสดงถึงความเป็นมอื อาชีพ หลกั สูตรพฒั นาตนเอง เป็นหลักสตู รท่ใี หบ้ ุคลากรของคณะฯ ได้มโี อกาสในการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจตามความสนใจ ของตนเอง เพ่ือพัฒนาประสทิ ธิภาพการทางาน เม่ือทา่ นเข้าอบรมในหลักสตู รใดหลักสตู รหน่งึ หรอื เข้าอบรมทกุ หลักสูตร ฝ่ ายทรัพยากรบุคคลจะดาเนินการรวบรวม สรุปผล และบนั ทกึ ผลการอบรม ในระบบบนั ทึกข้อมูลการอบรมของฝ่ ายทรพั ยากรบุคคล Page 20

PrTeescehnntiaqtiuoens หลักสตู ร เทคนคิ การนาเสนอผลงาน วัตถุประสงค์ “ การนาเสนอถอื เปน็ เคร่ืองมอื หน่ึงท่ีสาคัญในการส่ือสารใหผ้ ู้รับฟังเขา้ ใจ โดยเฉพาะในงานตา่ งๆ ท่สี าคญั การนาเสนอท่ดี จี ะช่วยใหผ้ ูร้ บั ฟัง ”สามารถเขา้ ใจถึงวัตถปุ ระสงคข์ องผู้นาเสนอได้ดยี ่งิ ขน้ึ • เพ่อื ใหผ้ ูเ้ ข้าอบรมได้เรยี นรู้เทคนคิ การนาเสนอ โครงสรา้ งหลกั สูตร • เพ่อื ให้ผู้เข้าอบรมเรยี นรูบ้ ุคลิกภาพท่ีดีของผู้นาเสนอ • เพ่อื ใหผ้ ูเ้ ข้าอบรมเรียนรู้ เทคนคิ การใช้ส่อื ในการนาเสนอ ความสามารถใน เกณฑ์การผา่ นหลักสตู ร บทเรยี นท่ี 1 หลักการนาเสนอขน้ั พ้ืนฐาน การนาเสนอถอื เปน็ • เขา้ อบรมครบทกุ บทเรยี น บทเรียนท่ี 2 รูปแบบการนาเสนอและการนาเสนอ ความคามารถ • ทาแบบทดสอบหลังอบรม (Post-test) ได้คะแนนไม่ต่ากวา่ อยา่ งเป็นระบบ เฉพาะตัวท่เี กดิ ข้นึ บทเรยี นท่ี 3 จาก “การฝึกฝน” รอ้ ยละ 80 บทเรียนท่ี 4 เทคนคิ การนาเสนอแบบมอื อาชีพ วทิ ยากร การนาเสนออย่างมปี ระสิทธิภาพ อาจารย์ นิพัทธ์ กานตอัมพร (วิทยากรภายนอก) สอบถามขอ้ มูลเพ่มิ เติม นางสาวศภุ ิสรา หมายเลขโทรศพั ท์ 9-9059 Si vWORK: SUPHISARA CHUANPRAPHAN ช่ัวโมงเรยี นโดยประมาณ 2 ช่ัวโมง แบบทดสอบ มี ประกาศนยี บัตร มี แบบฝึกหดั /กจิ กรรม มี Page 21 จานวนบทเรยี น 4 บทเรยี น

PPrreosfeesntsiaotinoaln หลกั สตู ร การผลิตส่ืออย่างมืออาชี พ “ การนาเสนอถอื เปน็ เคร่ืองมอื หน่งึ ท่สี าคญั ในการส่ือสารให้ผู้รบั ฟังเขา้ ใจ โดยเฉพาะในงานต่างๆ ท่สี าคัญ การนาเสนอท่ดี ีจะช่วยให้ผู้รบั ฟัง ”สามารถเขา้ ใจถึงวัตถปุ ระสงค์ของผู้นาเสนอไดด้ ีย่ิงขน้ึ วตั ถุประสงค์ • เพ่อื ใหผ้ ู้เขา้ อบรมได้รบั เรียนรู้ในหลกั การในการออกแบบส่ือ การเตรียมส่ือท่ีถกู ตอ้ ง • เพ่ือใหผ้ ูเ้ ขา้ อบรมได้ฝึกทกั ษะออกแบบส่อื ท่ีถูกตอ้ ง โครงสร้างหลกั สตู ร การผลติ ส่ือออกมา • เพ่อื ใหผ้ ู้เขา้ อบรมได้เรียนรูก้ ารผลติ ส่ืออยา่ งมืออาชีพ บทเรยี นท่ี 1 แนวคิดการออกแบบส่อื ถกู ต้องตามหลกั การ บทเรียนท่ี 2 องคป์ ระกอบสาคญั ของส่อื เกณฑ์การผ่านหลักสูตร และมีคุณภาพ ประชาสัมพนั ธใ์ ห้ • เขา้ อบรมครบทุกบทเรยี น เขา้ ใจไดง้ ่ายและ • ทาแบบทดสอบหลงั อบรม (Post-test) ได้คะแนนไม่ต่ากว่า บทเรียนท่ี 3 รูปแบบการออกแบบส่อื ถกู ตอ้ ง รอ้ ยละ 80 บทเรียนท่ี 4 เคร่ืองมอื ช่วยสร้างส่ือในยุคดิจิทัล วทิ ยากร บทเรียนท่ี 5 การตอ่ ยอดเป็นส่ือออนไลน์ อ. ดร. โสภิตา สุวุฒโฑ นายสทุ นิ โยกบัว บทเรียนท่ี 6 ขอ้ ควรระวงั สาหรบั ผูผ้ ลิตส่อื สอบถามข้อมูลเพ่มิ เติม นางสาวศุภสิ รา หมายเลขโทรศพั ท์ 9-9059 Si vWORK: SUPHISARA CHUANPRAPHAN ช่ัวโมงเรยี นโดยประมาณ 3 ช่ัวโมง แบบทดสอบ มี ประกาศนยี บตั ร มี แบบฝึกหัด/กจิ กรรม มี จานวนบทเรียน 6 บทเรียน Page 22

Timeline กลมุ่ หลกั สูตร การเปิ ดระบบให้เขา้ อบรม Self-Development หลักสูตรพฒั นาตนเอง ไดร้ ับจดหมายเชิ ญชวน ภายในเดือนธนั วาคม 2564 เปิ ดระบกบใาหร้เขผา้ ลอติ บสร่อืมอยา่ งมืออาชีพ ฝ่ ายทรัพยากรบุคคลส่งหนังสือเชิญ ชวนให้บุคลากรของคะะ เข้ารับ บุคลากรของคะะ สามารถลงทะเบียนเข้าสู่หลักสูตรได้ การอบรม ด้วยตนเอง (Self Enrolment) ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. 29 พศจิกายน 2564 5 กนั ยายน 2565 เปิ ดระบเบทใหค้เนขา้คิ อกบารรมนาเสนอผลงาน ปิ ดระบบ บุคลากรของคะะ สามารถลงทะเบียนเข้าสู่หลักสูตรได้ ด้วยตนเอง (Self Enrolment) ปิดระบบเพ่อื ทาการรวบรวม สรุปผล และบนั ทกึ ผลการอบรมประจาปี Page 23

ขนั้ ตอนการเขา้ สู่หลกั สูตร 1 23 45 เข้าสู่เวบ็ ไซต์ Log In Categories Categories เลือกหลกั สูตร SELECx ฝ่ ายทรพั ยากรบุคคล ท่ีตอ้ งการอบรม กลมุ่ หลักสตู ร ขัน้ ตอนท่ี 1 I เขา้ สูร่ ะบบSELECx เขา้ เบราว์เซอรท์ ่ีท่านต้องการ (แนะนาใหใ้ ช้ Google Chrome) หลงั จากนน้ั พิมพ์ในช่อง URL วา่ http://selecx.si.mahidol.ac.th/ จากนนั้ กด Enter เว็บไซต์ SELECx จะปรากฎข้นึ เวบ็ ไซต์ SELECx ใช้ไดท้ ั้งระบบภายในคณะและภายนอกคณะ (Internet และ Intranet) Page 24

1 23 45 Page 25 ขนั้ ตอนท่ี 2 I Log In ให้ทา่ นกดปุ่ม Log In ดา้ นมุมบนขวาของจอ หน้า Log In จะปรากฎขน้ึ User และ Password เดยี วกนั กับ ระบบ e-Doc หรอื Siv WORK คอื ช่ือ ภาษาองั กฤษตามดว้ ยจุ ดและนามสกุล 3 ตวั เช่น somchai.san ถา้ หากใส่รหสั ผ่าน ไมผ่ ่านหรือไมท่ ราบรหสั ของตนเอง ใหก้ ดท่ีปุ่ม ลมื ช่ือผู้ใช้งานหรือรหสั ผ่าน เพ่ือเขา้ ไปต้งั ค่ารหสั ใหม่ หากมีปัญหารบกวนแจ้ง HelpDesk 99228 ขัน้ ตอนท่ี 3 I Categories ฝ่ ายทรพั ยากรบุคคล เม่ือท่าน Log In แลว้ ให้ท่านกดปุ่ม ภาควิชา/หนว่ ยงาน บริเวณตรงกลาง บนของจอ แลว้ เลือก ฝ่ ายทรพั ยากรบุคคล

1 23 45 ขัน้ ตอนท่ี 4 I Categories กลุ่มหลักสตู ร ให้ท่านเลอื ก กลุม่ หลักสูตรท่ีท่านต้องการ หากทา่ นหาไมพ่ บใหท้ า่ นพิมพท์ ่ี ช่องคน้ หาแลว้ จงึ กดเข้าไปในหลกั สูตร ขัน้ ตอนท่ี 5 I เลอื กหลกั สูตรท่ีต้องการอบรม ให้ทา่ นเลือกหลักสูตรท่ีทา่ นต้องการอบรม โดยลงทะเบียนเขา้ ส่หู ลกั สตู ร (Enrolment) เพ่อื เข้าอบรม โดยหลังจากท่ีทา่ นเลือกหลกั สตู รแล้ว ให้ทา่ นกดปุ่ม Enrolment เพ่ือ ลงทะเบียนเขา้ สหู่ ลักสตู รได้ดว้ ยตนเอง (Self Enrolment) Page 26

ตวั อย่างใบประกาศนียบตั ร ชื่อ นามสกลุ QR Code Page 27

Q&Aคาถามท่พี บบอ่ ย คาถาม ทำไมต้องเข้ำอบรม และใครตอ้ งเข้ำอบรมบำ้ ง คาตอบ ฝ่ ำยทรัพยำกรบุคคลเล็งเห็นควำมสำคัญของกำรพัฒนำทักษะ คาถาม ระบบ SELECx เขำ้ ได้เฉพำะในคอมพิวเตอร์คณะฯหรือไม่ คาตอบ ระบบ SELECx เปน็ ระบบท่ผี ูใ้ ชง้ ำนสำมำรถเข้ำใชง้ ำนได้ทง้ั ใน กำรทำงำนร่วมกัน (Soft skils) เพ่อื ให้บุคลำกรนำควำมรู้ ควำมเข้ำใจท่ีได้รับ ไปปรับใช้ในกำรทำงำน ส่งเสริมให้บุคลำกรสำมำรถทำงำนร่วมกันได้อย่ำงมี คอมพิวเตอร์ และอุปกรณส์ ่อื สำรเคล่อื นท่ี(โทรศัพท์, แทบ็ เล็ต ฯลฯ สำมำรถ ควำมสุข จึงมีนโยบำยพัฒนำบุคลำกรทุกคนในคณะฯ เข้ำรับกำรอบรม เขำ้ อบรมได้ทุกท่ี ทกุ เวลำ (หน้ำ 24) ทงั้ หมด 109 ตำแหนง่ (หนำ้ ท่ี 09-10) คาถาม ต้องทำอยำ่ งไรจึงจะเกณฑผ์ ่ำนกำรอบรมของแต่ละหลักสตู ร คาถาม จำเปน็ ต้องเขำ้ อบรมทั้งหมดก่ีหลักสูตร และแต่ละหลกั สตู รกำหนด คาตอบ สำมำรถศกึ ษำไดจ้ ำกหน้ำรำยละเอียดของแต่ละหลักสูตร ระยะเวลำในกำรอบรมไหม คาถาม ถ้ำหำกกำลงั อบรมอยู่ แลว้ ต้องเข้ำประชุมดว่ นหรอื มีธุระอ่นื ท่ตี ้อง คาตอบ ทำ่ นจำเปน็ ต้องเข้ำรบั กำรอบรมในหลักสูตรพ้นื ฐำน (บังคบั ) ใน ไปทำ จะเกิดผลอะไรกบั กำรอบรมหรอื ไม่ กล่มุ หลกั สูตร FC04 ท้ังหมด 3 หลักสูตร และตอ้ งผ่ำนเกณฑ์กำรอบรมก่อน คาตอบ เน่อื งจำกกำรอบรมเปน็ กำรอบรมผำ่ นส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์รูปแบบ วันท่ี 5 กันยำยน 2565 (หน้ำ 08) VDO, เอกสำร, สไลด์นำเสนอ, รูปภำพและเสียง ในระบบ SELECx จงึ ไมก่ ำหนด คาถาม เข้ำไปในระบบ SELECx กอ่ นวนั ท่ี 29 พฤศจกิ ำยน 2564 ระยะเวลำในกำรศกึ ษำส่ือดังกล่ำว กำรหยุดศกึ ษำช่ัวครำวระหว่ำงกำรศกึ ษำส่ือ จะไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ กำรอบรม ยกเวน้ กำรทำแบบฝึกหดั , กิจกรรม หรอื แตท่ ำไมหำหลกั สตู ร FC04 ไมเ่ จอเลยสกั หลักสูตร แบบทดสอบท่มี ีกำรกำหนดระยะเวลำกำรทำแตล่ ะครัง้ หำกหมดเวลำระบบจะทำ กำรสรุปผลและบันทกึ คะแนนทนั ที คาตอบ กำรเปิดหลกั สูตรใหเ้ ข้ำอบรมจะเปิดวันท่ี 29 พฤศจิกำยน 2564 โดยท่ำนจะต้องเข้ำไปทำกำรลงทะเบยี นเข้ำสหู่ ลักสตู รดว้ ยตนเอง (Self Enrolment) จึงจะสำมำรถเข้ำอบรมได้ (หน้ำ 08) Page 28

คาแนะนาก่อนเขา้ อบรม • ควรจัดการงานท่กี าลงั ทาใหเ้ สร็จก่อนเข้าอบรม เพ่ือให้ทา่ นมสี มาธจิ ดจ่ออยูก่ บั การพฒั นาสมรรถนะของตนเอง • ควรดาวนโ์ หลด Application (แอพพลิเคช่ัน) Si vWORK ไวใ้ นโทรศัพทข์ องทา่ น เพ่ือได้รับการแจง้ ตือนและข่าวสาร • หากต้องการสอบถามข้อมูลเพ่ิมเติม แนะนาให้ใช้ระบบ Si vWORK ในการส่งข้อความสอบถาม หรือเสนอแนะมายงั เจ้าหน้าท่ผี ูร้ ับผดิ ชอบ ในแต่ละหลักสตู ร • หลายหลกั สตู รจะมกี ิจกรรม แบบฝึกหัดให้ท่านทบทวนหลังจากการศึกษาอบรม ทา่ นควรฝึกฝนและทบทวนอยา่ งสม่าเสมอเพ่ือให้เกิดการ พฒั นาสมรรถนะอย่างต่อเน่ือง • การแลกเปล่ยี นความรู้ ความเขา้ ใจร่วมกนั กับเพ่ือนร่วมงาน จะช่วยให้เกดิ การบูระาการความรูแ้ ละเสริมสร้างสัมพันธภาพท่ีดี • หลงั จากผา่ นเกะฑก์ ารอบรมในแตล่ ะหลักสูตร ท่านควรทาแบบประเมนิ หลกั สูตรและดาวน์โหลดประกาศนยี บตั รรูปแบบไฟล์ PDF Page 29



งานสร้างเสริมศักยภาพและพัฒนา บุ คลากร ฝ่ ายทรัพยากรบุคคล จดั ทาค่มู อื โดย นายภาะุ สทุ ธวิ ารวี ฒั นา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook