42 การงานอาชีพฯ จดั ป้ายนิเทศ/ทาสมุดคาศพั ท์ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนดั แนะกบั นกั เรียนอาสาสมคั ร 2 คู่ ให้ออกมาแสดงสถานการณ์สมมุติคู่ละ 1 สถานการณ์ ดงั น้ี สถานการณ์ท่ี 1 เอก : หลวงป่ ทู ่ีไม่สบายอยโู่ รงพยาบาล ท่านกลบั มาวดั แลว้ เราไปเยยี่ มกนั ไหม แสน : ก็ดีเหมือนกนั จะซ้ืออะไรไปเยย่ี มดีละ เอก : นมและผลไมน้ ่าจะดี เราลองไปดูท่ีตลาดกนั ไหม แสน : ไป เราไปตลาดกนั สถานการณ์ที่ 2 ครูใหญ่ : สุพร หนูไปตามครูประจาช้นั หนูมาพบครูหน่อยนะ สุพร : ค่ะ (เดินไปท่ีหอ้ งพกั ครู) อาจารยจ์ าเนียรคะ ครูใหญบ่ อกใหอ้ าจารยไ์ ปพบคะ่ ครูจาเนียร : ใหไ้ ปพบท่ีไหนคะหนู สุพร : ห้องทางานครูใหญค่ ่ะ ครูจาเนียร : ขอบใจมากนะหนู 2. นักเรียนร่วมกันเปรียบเทียบว่าสถานการณ์ใดใช้คาได้ถูกตอ้ งและเหมาะสมกับกาลเทศะ สถานการณ์ใดใชค้ าไม่ถกู ตอ้ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ เพราะอะไร และจะแกไ้ ขอยา่ งไร ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่มละ 5 คน ให้แต่ละกลุ่มอ่านเรื่อง การเลือกใช้คาให้เหมาะสมกับ กาลเทศะและบคุ คล ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 คนละ 1 หวั ขอ้ ดงั น้ี คนที่ 1 ศึกษาเรื่อง ใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ หมาะสมกบั ฐานะของบคุ คล คนท่ี 2 ศึกษาเร่ือง ใชถ้ อ้ ยคาใหถ้ ูกกาลเทศะและโอกาส คนที่ 3 ศึกษาเรื่อง ใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ หมาะสมกบั ระดบั ภาษา คนท่ี 4 ศึกษาเร่ือง ใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ หมาะสมกบั สมยั คนท่ี 5 ศึกษาเรื่อง ใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ หมาะสมกบั ความยากง่าย 2. นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่องท่ีตนเองไดร้ ับมอบหมาย อาจจะคน้ ขอ้ มูลเพ่ิมเติมทางเวบ็ ไซต์ หรือแหลง่ ขอ้ มลู อื่น ๆ แลว้ ใหค้ นท่ีศึกษาเร่ืองเดียวกนั มาอภิปรายร่วมกนั และสรุปเป็นความรู้
43 3. นักเรียนกลบั ไปยงั กลุ่มเดิม อธิบายส่ิงท่ีรู้ให้เพ่ือนในกลุ่มฟังจนเขา้ ใจครบทุกคน แลว้ ครูสุ่ม เรียกใหน้ กั เรียนสรุปใหเ้ พือ่ นในช้นั เรียนฟัง 4. ครูอธิบายและยกตวั อยา่ งใหน้ กั เรียนเห็นชดั เจนในแต่ละหัวขอ้ แลว้ ยกตวั อย่างคาให้นกั เรียน แต่งประโยค ให้เห็นความแตกต่างของการใชค้ าให้เหมาะสมกบั ฐานะ กาลเทศะ โอกาสของ บุคคลและระดบั ของภาษา ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผ้เู รียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เก่ียวกบั การใชค้ าให้เหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล แลว้ ช่วยกนั เฉลย คาตอบ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มรวบรวมคาที่มีความหมายใกล้เคียงกันแต่ใช้ต่างระดับบุคคลกัน เช่น อาเจียน อว้ ก สารอก แหวะ แต่ละคาใชก้ บั บุคคลระดบั ใด ทาเป็นสมุดคาศพั ทส์ ่งครู 3. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาถึงภาษาองั กฤษว่ามีการใชค้ าตามฐานะของบุคคลเหมือนในภาษาไทย หรือไม่ อยา่ งไร แลว้ ร่วมกนั สรุป ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ นักเรียนใชภ้ าษาในการส่ือสารในชีวิตประจาวนั ได้ถูกตอ้ งตามฐานะของบุคคล กาลเทศะ และ สถานการณ์ ข้นั ท่ี 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปการเลือกใชค้ าให้เหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคลเป็นแผนภาพความคิดแลว้ บนั ทึกลงในสมุด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาเร่ือง การเลือกใชค้ าใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล นาขอ้ มูลมาจดั ป้ายนิเทศ 2. นักเรียนศึกษาเรื่อง การใช้คาให้เหมาะสมกับสมยั แลว้ ร่วมกนั วิพากษ์วิจารณ์การใช้ถอ้ ยคา ของวยั รุ่นในปัจจุบันว่าเหมาะสมกับสมัยหรือไม่ มีส่วนทาให้ภาษาเกิดการเปลี่ยนแปลง อยา่ งไร 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งสถานการณ์ 2. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้
44 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 ระดบั ของภาษา ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ช่ัวโมง รหสั วชิ า ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร เรื่อง ระดบั ของภาษา 1. สาระสาคัญ การใช้ภาษาในการส่ือสารจะตอ้ งใช้ให้ถูกต้องตามความหมาย เหมาะสมกับกาลเทศะและ บุคคลระดบั ภาษาแบ่งออกเป็ น 3 ระดบั คือ ระดบั ภาษาไม่เป็ นทางการ ระดบั ภาษาก่ึงทางการ ระดบั ภาษาทางการ ภาษาแตล่ ะระดบั ภาษาจะใชแ้ ตกต่างกนั ตามฐานะและระดบั ของบุคคล 2. ตัวชี้วัดช้ันปี วิเคราะห์ระดบั ภาษา ท 4.1 (ม.3 /3) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะของภาษาระดบั ต่าง ๆ ได้ (K) 2. เลือกใชร้ ะดบั ภาษาในการสื่อสารไดถ้ กู ตอ้ งตามระดบั ภาษา (K , P) 3. ตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการเลือกใชค้ าในการส่ือสารไดถ้ กู ตอ้ ง (A) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1. ประเมินทกั ษะการเขียน การแสดงความคิดเห็น รายบุคคลในดา้ นความสนใจและต้งั ใจ 2. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม เรี ยน ความ รับ ผิด ชอ บ ใน การท า 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด กิจกรรม ความมีระเบียบวินัยในการ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ทางาน ฯลฯ 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่า ของภมู ิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ ระดบั ของภาษา 6. แนวทางบูรณาการ เขยี นแผนภาพความคิดสรุปลกั ษณะของระดบั ภาษา คณิตศาสตร์ ศึกษาเรื่องระดบั ของภาษาในภาษาต่างประเทศอ่ืน ๆ ภาษาตา่ งประเทศ จดั ป้ายนิเทศ การงานอาชีพฯ
45 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คนออกมาพูดบทสนทนาจากขอ้ ความที่กาหนดให้ หมอ : คุณยายเป็นอะไรมาคะ ยาย : เวียนหวั คลื่นไส้ พะอืดพะอมเหมือนจะอว้ ก หมอ : เป็นมานานหรือยงั คะ ยาย : เป็นต้งั แตเ่ ม่ือเยน็ วาน วนั น้ียงั ไมด่ ีข้ึน เลยตอ้ งมาหาหมอ หมอ : ปวดหวั อยา่ งไรคะ เหมือนบา้ นจะหมนุ หรือปวดหวั ตบุ๊ ๆ ยาย : ปวดหวั ตุ๊บ ๆ ค่ะ หมอ : อาการแบบน้ีน่าจะเป็นโรคไมเกรน หมอจะสง่ั ยาให้ ยายเอายาไปรับประทาน และพกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ อาการก็จะดีข้นึ 2. ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั บทสนทนาท่ีฟัง และช่วยกนั วิเคราะห์ภาษาท่ีตวั ละครใชพ้ ูดกนั วา่ ใชภ้ าษาระดบั ใด แลว้ ครูโยงเขา้ เรื่อง ระดบั ของภาษา ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรียนอ่านเร่ือง ระดบั ของภาษา ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 แลว้ สรุปลงสมุด 2. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม โดยการจับสลากหมายเลข แล้วให้แต่ละคนศึกษาหัวข้อตาม หมายเลขที่จบั สลากได้ ดงั น้ี หมายเลข 1 ศึกษาเรื่อง ภาษาทางการ หมายเลข 2 ศึกษาเรื่อง ภาษาก่ึงทางการ หมายเลข 3 ศึกษาเรื่อง ภาษาไมเ่ ป็นทางการ 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ แลว้ นาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ครูอธิบายเพ่ิมเติมเม่ือจบการรายงานของแตล่ ะกลุ่ม 4. ครูยกตวั อยา่ งขอ้ ความใหน้ กั เรียนอา่ นทีละขอ้ ความ ใหช้ ่วยกนั บอกวา่ ใชภ้ าษาระดบั ใด ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเก่ียวกบั ระดบั ของภาษา แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นกั เรียนทาตารางเปรียบเทียบระดบั ของภาษา โดยหาคาให้ไดม้ ากท่ีสุดแลว้ เขียนลงในตาราง ทาเป็ นรายงานส่งครู 3. นักเรียนฝึ กเขียนบทสนทนา โดยใช้ภาษาระดับทางการ ระดับก่ึงทางการ และระดับไม่เป็ น ทางการแลว้ นามาแลกเปลี่ยนกนั อ่านกบั เพ่ือนในช้นั เรียน ขดั เกลาและแกไ้ ขใหเ้ รียบร้อย ส่งครู 4. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ภาษาอ่ืนวา่ มีระดบั ของภาษาหรือไม่ แลว้ ช่วยกนั สรุป
46 ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนใชภ้ าษาในการสื่อสารไดถ้ ูกตอ้ งตามระดบั ของภาษาและฐานะของบุคคล 2. นกั เรียนใชภ้ าษาในการพูดและการเขยี นไดเ้ หมาะสมท้งั ในการเรียนและชีวติ ประจาวนั ข้นั ท่ี 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะของระดบั ภาษาเป็นแผนภาพความคิด แลว้ บนั ทึกลงในสมดุ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนรวบรวมระดบั ภาษาทางการ ภาษาก่ึงทางการ และภาษาไม่เป็ นทางการจากบทความ ข่าวเรื่องส้ัน หรือข้อความอื่น ๆ จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ทาเป็ นสมุด รวบรวมระดบั ภาษา หรือนาขอ้ มูลมาจดั ป้ายนิเทศ 2. นักเรียนศึกษาเรื่องการใช้คาสุภาพประกอบการเรียนเรื่องระดบั ของภาษา เพื่อเปรียบเทียบ ระดบั ของภาษา 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. สลาก 2. หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 10. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
47 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 การใช้ภาษากบั กล่มุ อาชีพหรือวงการต่าง ๆ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง รหัสวิชา ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร เร่ือง การใช้ภาษากบั กล่มุ อาชีพหรือวงการต่าง ๆ 1. สาระสาคญั ปัจจุบนั มีคาศพั ทว์ งการหรือกลุ่มสังคมต่าง ๆ เกิดข้ึนมากมาย เพ่ือใชใ้ นการส่ือความให้เขา้ ใจ ตรงกนั ภายในกลุ่ม แต่สมาชิกในกลุ่มอื่นอาจจะไม่เขา้ ใจความหมาย การมีความรู้เรื่องภาษาท่ีใช้ใน กลมุ่ สงั คมหรือวงการต่าง ๆ จะทาใหเ้ ขา้ ใจสงั คมกลมุ่ น้นั มากข้ึน 2. ตวั ชี้วัดช้ันปี อธิบายความหมายคาศพั ทท์ างวิชาการและวิชาชีพ ท 4.1 (ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะของภาษาท่ีใชใ้ นกลุม่ สงั คมหรือวงการต่าง ๆ ได้ (K) 2. เลือกใชภ้ าษาในกลุม่ สังคมหรือวงการตา่ ง ๆ ได้ (K , P) 3. เห็นความสาคญั ของการเลือกใชภ้ าษาในการสื่อสารไดถ้ ูกตอ้ ง (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมิน พฤติกรรมใน การทางาน เป็ น 1. ประเมินทกั ษะการพูดนาเสนอ การแสดงความคดิ เห็น รายบุคคลในดา้ นความสนใจและต้งั ใจเรียน ผลงาน 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม ความมี 2. ประเมินทกั ษะการเขยี นรายงาน ระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าของ 4. ประเมินทักษะกระบวนการ ภูมิปัญญาทางภาษา กลมุ่ 5. สาระการเรียนรู้ ภาษาท่ีใชใ้ นกล่มุ สงั คมหรือวงการตา่ ง ๆ 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาภาษาในวงการธุรกิจ กฎหมาย สื่อมวลชน และหนงั สือพิมพ์ สงั คมศึกษา ศึกษาคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีใชใ้ นกลมุ่ อาชีพหรือวงการตา่ ง ๆ ภาษาตา่ งประเทศ ศึกษาภาษาในวงการบนั เทิง ศิลปะ ศึกษาภาษาในวงการกีฬา สุขศึกษา จดั ป้ายนิเทศ การงานอาชีพฯ
48 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูติดขอ้ ความบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นและช่วยกนั บอกวา่ เป็นการใชภ้ าษาลกั ษณะใด ศึกฟตุ ซอลชิงแชมป์ โลกที่ประเทศไทยจะเป็นเจา้ ภาพในวนั ที่ 1 – 19 พ.ย. น้ี ไม่เพียงแต่การประชาสัมพนั ธ์จะเงียบฉี่เท่าน้นั แมก้ ระทงั่ สนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีนา จะเสร็จทนั กาหนดส่งมอบในวนั ที่ 20 ต.ค. น้ีหรือไม่ยงั ตอ้ งลุน้ กนั ระทึก ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวฒุ ิสภาถึงกบั เปรยวา่ อาจถึงข้นั ตอ้ งอาศยั กฎหมาย ถามหาความรับผดิ ชอบ 2. ครูพยายามกระตุน้ ให้นกั เรียนตอบคาถามวา่ เป็ นลกั ษณะของภาษาที่ใช้ในหนังสือพมพ์ แลว้ ครูนาสนทนาโยงเขา้ เรื่อง ภาษาที่ใชใ้ นกลมุ่ สังคมหรือวงการต่าง ๆ ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูอธิบายเร่ือง การใชภ้ าษากบั กลุ่มอาชีพหรือวงการต่าง ๆ ว่าแบ่งออกเป็นภาษาที่ใชใ้ นกลุ่ม สังคมหรือวงการต่าง ๆ และภาษาท่ีใชใ้ นกลมุ่ วชิ าการหรือวิชาต่าง ๆ 2. ครูซักถามนักเรียนเก่ียวกับการใช้ภาษาในกลุ่มวงการต่าง ๆ ว่า มีวงการใดบา้ ง จากน้ันให้ นกั เรียนศึกษาเรื่อง ภาษาท่ีใชใ้ นกลุ่มสังคมหรือวงการต่าง ๆ ในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 แลว้ ร่วมแสดงความคิดเห็นและสรุปเกี่ยวกบั ภาษา ท่ีใชใ้ นกลุ่มสังคมหรือวงการตา่ ง ๆ 3. นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มจบั สลากศึกษาคาศพั ท์ที่ใชใ้ นกลุ่มอาชีพหรือวงการ ต่าง ๆ กลุม่ ละ 1 หวั ขอ้ ดงั น้ี 1) ภาษาของกลุม่ วยั รุ่น 5) ภาษาในวงการบนั เทิง (นกั ร้อง – นกั แสดง) 2) ภาษาในวงการกีฬา 6) ภาษาในวงการหนงั สือพมิ พแ์ ละส่ือมวลชน 3) ภาษาในวงการธุรกิจ 7) ภาษาในวงการขา้ ราชการ ทหาร ตารวจ 4) ภาษาในวงการกฎหมาย 8) ภาษาในวงการการศึกษา (ครู นกั เรียน นกั วิชาการ) 4. ครูใหน้ กั เรียนเขา้ หอ้ งสมุดหรือเขา้ หอ้ งคอมพิวเตอร์ คน้ หาขอ้ มูลเร่ืองท่ีกลุ่มรับผิดชอบ ใหไ้ ด้ รายละเอียดมากท่ีสุด สรุปแลว้ นาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ครูซกั ถามและอธิบายเพ่ิมเติมหลงั จบการรายงานของแต่ละกลุ่ม ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นักเรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกับภาษาที่ใช้ในกลุ่มสังคมหรือวงการต่าง ๆ แลว้ ช่วยกันเฉลย คาตอบ 2. นกั เรียนกลุ่มเดิมตดั ขอ้ ความ ข่าว บทความ จากหนงั สือพิมพ์เร่ืองท่ีรับผิดชอบ แลว้ หาคาศพั ท์ ท่ีเก่ียวกบั วงการที่รับผิดชอบ ทาเป็นรายงาน ส่งครู
49 3. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับท่ีมาของคาศพั ท์ในวงการต่าง ๆ เช่น ก๊วน ติดตลาด ซัลโว แบน ข่าวกรอง และคาภาษาองั กฤษที่ใชค้ าศพั ทน์ ้นั ๆ แลว้ ช่วยกนั สรุป ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนนาความรู้เก่ียวกบั ภาษาท่ีใช้ในกลมุ่ สังคมหรือวงการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการเรียนและใน ชีวิตประจาวนั 2. นกั เรียนเขา้ ใจความหมายเมื่อฟังหรืออา่ นขอ้ ความท่ีใชภ้ าษาในวงการต่าง ๆ ได้ ข้นั ท่ี 5 สรุป นกั เรียนช่วยกนั สรุปเกี่ยวกบั ภาษาท่ีใชใ้ นกลุ่มสงั คมหรือวงการตา่ ง ๆ บนั ทึกลงสมดุ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นักเรียนรวบรวมคาศพั ท์ที่ใช้ในกลุ่มสังคมหรือวงการต่าง ๆ พร้อมอธิบายความหมายและ เขยี นคาศพั ทเ์ ป็นภาษาองั กฤษ ทาเป็นสมดุ คาศพั ทใ์ นกลุ่มสังคม หรือวงการตา่ ง ๆ 2. นกั เรียนศึกษาที่มาของภาษาในกลุ่มสังคมหรือวงการต่าง ๆ แลว้ ร่วมกนั อภิปรายแสดงความ คิดเห็นวา่ ภาษามีการเปล่ียนแปลงอยตู่ ลอดเวลาหรือไม่ อยา่ งไร 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งขอ้ ความ 2. สลาก 3. หอ้ งสมุดหรือหอ้ งคอมพวิ เตอร์ 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
50 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13 ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 ภาษาทใ่ี ช้ในกลุ่มวิชาการหรือวิชาต่าง ๆ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง รหสั วิชา ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร เร่ือง ภาษาทีใ่ ช้ในกลุ่มวิชาการหรือวชิ าต่าง ๆ 1. สาระสาคญั ในแต่ละสาขาวิชาจะมีคาศพั ทเ์ ฉพาะหรือศพั ท์เทคนิคของสาขาวิชาน้ัน ๆ ซ่ึงกลุ่มคนท่ีเรียน สาขาวิชาน้ัน ๆ จะมีความรู้ความเขา้ ใจตรงกนั การมีความรู้เรื่องคาศพั ท์ในสาขาวิชาต่าง ๆ จะทาให้ เขา้ ใจเรื่องน้นั ๆ ไดด้ ีข้ึน 2. ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี อธิบายความหมายคาศพั ทท์ างวิชาการและวชิ าชีพ ท 4.1 (ม.3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะภาษาท่ีใชใ้ นกลมุ่ วชิ าการหรือวิชาตา่ ง ๆ ได้ (K) 2. เลือกใชภ้ าษาในกลุม่ วิชาต่าง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ งตามความหมาย (K , P) 3. เห็นความสาคญั ของการเลือกใชภ้ าษาในการส่ือสารไดถ้ ูกตอ้ ง (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางาน 1. ประเมินทกั ษะการพดู นาเสนอผลงาน 2. ประเมินทกั ษะการเขียนรายงาน การแสดงความคดิ เห็น เป็ นรายบุคคลในด้านความสนใจ 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม 2. ตรวจผลการทากิจกรรม และต้งั ใจเรียน ความรับผิดชอบใน 3. ตรวจแบบทดสอบหลัง การทากิจกรรม ความมีระเบียบวินยั เรียน ในการทางาน ฯลฯ 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็น คุณคา่ ของภูมิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ ภาษาที่ใชใ้ นกลุม่ วชิ าการหรือวชิ าตา่ ง ๆ 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาคาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นวชิ าวทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ศึกษาคาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นวชิ าคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์
51 สังคมศึกษา ศึกษาคาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นวชิ าสงั คมศึกษา ภาษาตา่ งประเทศ ศึกษาคาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นวชิ าภาษาองั กฤษ ศิลปะ ศึกษาคาศพั ทท์ ี่ใชใ้ นวชิ าศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ สุขศึกษา ศึกษาคาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นวชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพฯ ศึกษาคาศพั ทท์ ี่ใชใ้ นวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูติดบตั รคาบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนช่วยกนั บอกว่านักเรียนเคยเห็นคาศพั ท์เหล่าน้ีจาก การเรียนวิชาใดบา้ ง อตั ราส่วน จุดโทษ ออกฤทธ์ิ สระเด่ียว ประชาคม ตลาด ไฟล์ ปี่ พาทย์ ซีดีรอม สเกตช์ 2. ครูเฉลยให้นักเรียนเขา้ ใจแต่ละคาว่าเป็ นคาศพั ท์ที่ใช้ในกลุ่มวิชาใด แลว้ นาสนทนาโยงเขา้ เร่ือง ภาษาท่ีใชใ้ นกลุ่มวชิ าการหรือวิชาตา่ ง ๆ ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มเรียกนักเรียนทีละคนให้บอกคาศพั ท์ท่ีเรียนในวิชาใดวิชาหน่ึงคนละ 1 คา บอกดว้ ยว่า เป็ นคาศพั ท์วิชาใด เขียนบนกระดาน เม่ือครบทุกวิชาแลว้ ครูกบั นักเรียนร่วมกนั แสดงความ คิดเห็น และครูสรุปใหเ้ ขา้ ใจวา่ แต่ละวิชาจะมีคาศพั ทเ์ ฉพาะวชิ าใช้ 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็น 8 กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มจบั สลากเลือกศึกษาเรื่อง ภาษาที่ใชใ้ นกลุ่มวิชาการ หรือวิชาต่าง ๆ กลมุ่ ละ 1 สาขาวชิ า ดงั น้ี กลมุ่ ที่ 1 ศึกษาวชิ าวิทยาศาสตร์ กลุ่มที่ 2 ศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มท่ี 3 ศึกษาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มท่ี 4 ศึกษาวชิ าภาษาไทย กลุ่มที่ 5 ศึกษาวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลุ่มท่ี 6 ศึกษาวชิ าการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลมุ่ ที่ 7 ศึกษาวชิ าศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ กลมุ่ ท่ี 8 ศึกษาวิชาภาษาองั กฤษ 3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เขา้ ห้องสมุดรวบรวมคาศพั ทก์ ลุ่มวชิ าท่ีรับผดิ ชอบพร้อมอธิบายความหมาย แลว้ นาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ครูและเพอ่ื นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น จากน้นั นาขอ้ มลู ไป รวบรวมเป็นเลม่ ทาเป็นสมุดรวบรวมคาศพั ทเ์ ฉพาะกลมุ่ อาชีพหรือวงการต่าง ๆ
52 ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นักเรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกับภาษาที่ใช้ในกลุ่มวิชาการหรือวิชาต่าง ๆ แล้วช่วยกันเฉลย คาตอบ 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรวบรวมคาศพั ทเ์ ฉพาะวิชาที่เรียนในช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 ทุกวิชา อธิบาย ความหมายทกุ คา (ดูจากคาสาคญั ในแต่ละวชิ า) ทาเป็นรายงาน ส่งครู 3. นักเรียนศึกษาเพ่ิมเติมเกี่ยวกับคาศัพท์วิชาต่าง ๆ ได้จากเว็บไซต์ราชบัณฑิตยสถานหรือ คาศพั ทแ์ ตล่ ะวิชาของราชบณั ฑิตยสถาน เปรียบเทียบวา่ มีคาใดใชร้ ่วมกนั หลายวชิ าบา้ ง 4. นกั เรียนทาใบงาน เรื่อง คาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นวิชาต่าง ๆ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนเขา้ ใจความหมายคาศพั ทเ์ มื่อไดฟ้ ังหรือไดอ้ า่ นเรื่องตา่ ง ๆ 2. นักเรียนนาความรู้เร่ือง ภาษาที่ใช้ในกลุ่มวิชาการหรือวิชาต่าง ๆ ไปใช้ในการเรียนและใน ชีวิตประจาวนั ข้นั ที่ 5 สรุป 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะของภาษาที่ใชใ้ นกลุ่มวิชาการหรือวชิ าตา่ ง ๆ บนั ทึกลงสมดุ 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนจดั ป้ายนิเทศศพั ท์เฉพาะวิชาวนั ละคา โดยบอกช่ือวิชา คาศพั ท์ ความหมาย คาศพั ท์ ภาษาองั กฤษที่ตรงกบั คาศพั ทน์ ้นั ผลดั เปลี่ยนทุกวนั 2. นักเรียนรวบรวมคาศัพท์ในแต่ละสาขาวิชาที่เรียนในช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 – 3 จดั ทาเป็ น รูปเลม่ นามาวางไวท้ ่ีมมุ หนงั สือในช้นั เรียน เพ่อื ใชศ้ ึกษาคน้ ควา้ 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. สลาก 3. หอ้ งสมุดหรือหอ้ งคอมพวิ เตอร์ 4. ใบงาน เร่ือง คาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นวิชาต่าง ๆ 5. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
53 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 นทิ านคากลอนเรื่อง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนนี างผเี สื้อ เวลา 8 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 การอ่านนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี เวลา 2 ชวั่ โมง ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 กลอนนิทาน เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 การอ่านตีความ เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 17 การพิจารณาคณุ ค่ากลอนนิทาน เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18 การพิจารณาคุณค่ากลอนนิทานและการแตง่ นิทาน เวลา 1 ชวั่ โมง
54 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 การอ่านนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเสื้อ รหสั วชิ า ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 นิทานคากลอนเรื่อง พระอภัยมณี ฯ ภาคเรียนที่ 1 เร่ือง การอ่านนิทานคากลอนเร่ือง พระอภัยมณี ฯ เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระสาคญั พระอภยั มณี เป็ นนิทานคากลอนท่ีสุนทรภู่แต่งข้ึนเพื่อขายเล้ียงปากเล้ียงทอ้ งขณะถูกจองจา เน้ือ เรื่องมีจินตนาการแปลกใหม่ มีความไพเราะ และใหค้ ติท้งั ทางโลกและทางธรรมที่สามารถนาไปปรับใชใ้ น การดาเนินชีวิตได้ นิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ของสุนทรภู่ไดร้ ับยกย่องจากสมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์ เธอ กรมพระยาเดชานุภาพวา่ เป็นหนงั สือเร่ืองยาวแต่งดีท้งั กลอนท้งั ความคดิ ท่ีผูกเร่ือง ดว้ ยเหตุน้ี นิทานคา กลอนเร่ือง พระอภยั มณี จึงเป็นท่ีรู้จกั กนั อยา่ งแพร่หลาย 2. ตวั ชีว้ ัดช้ันปี 1. วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเร่ืองท่ีอ่านโดยใชก้ ลวิธีการเปรียบเทียบ เพื่อให้ผอู้ ่านเขา้ ใจไดด้ ีข้ึน ท 1.1 (ม.3/5) 2. สรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่ินในระดบั ท่ียากยงิ่ ข้นึ ท 5.1 (ม.3/1) 3. สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านเพื่อนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ท 5.1 (ม. 3/3) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สรุปใจความสาคญั วเิ คราะห์ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ีอา่ นได้ (K , P) 2. อภิปรายแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่อา่ นไดอ้ ย่างมีเหตผุ ล (K , P) 3. บอกคุณค่าและขอ้ คดิ จากเร่ืองที่อ่านและแนวทางการนาไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ได้ (K , P) 4. เห็นคุณค่าและซาบซ้ึงในการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมไทย (A) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถาม และ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางาน เป็ น 1. ประเมินทกั ษะอา่ นสรุปความ การแสดงความคิดเห็น รายบุคคลในดา้ นความสนใจและต้งั ใจ 2. ประเมินทกั ษะการเขียนแผนภาพ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม โครงเรื่อง 3. ตรวจแบบทดสอบก่อน ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ เรียน 2. ประเมินมารยาทในการอ่านและนิสัยรัก 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกล่มุ การอา่ น
55 5. สาระการเรียนรู้ 1. นาเร่ือง 2. เรื่องยอ่ 3. นิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ 6. แนวทางบูรณาการ เขียนแผนภาพโครงเรื่อง นิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระ คณิตศาสตร์ อภยั มณีหนีนางผีเส้ือ สังคมศึกษาฯ ศึกษาลกั ษณะนิสยั ของตวั ละคร ท้งั ที่ควรนาไปใชเ้ ป็นแบบอยา่ งและไม่ ควรนาไปใชเ้ ป็นแบบอยา่ ง ศิลปะ แสดงบทบาทสมมตุ ิ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูนาภาพนางผเี ส้ือสมุทรมาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกว่าเป็นตวั ละครช่ืออะไร และอยใู่ นวรรณคดีเร่ืองใด ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรียนอ่านนาเรื่อง นิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ แลว้ ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ความน่าสนใจของนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี 2. ครูเล่าเร่ืองย่อเร่ือง พระอภยั มณี ใหน้ กั เรียนฟังก่อนถึงตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ โดยทา แผนผงั ตวั ละครประกอบการเล่าเร่ือง เพ่ือเป็ นพ้ืนฐานในการศึกษานิทานคากลอนเรื่อง พระ อภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ 3. แบ่งนกั เรียนอกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มอ่านนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 แลว้ สนทนา ซกั ถามเก่ียวกบั เน้ือเรื่องจนเขา้ ใจ ช่ัวโมงที่ 2 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิม) เล่านิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณี หนีนางผเี ส้ือ ทีละกลมุ่ ต่อ ๆ กนั จนจบเรื่อง เพ่อื เป็นการทบทวน 2. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั เน้ือเร่ือง แลว้ ตอบคาถามตามแนวคาถามตอ่ ไปน้ี 1) เหตุใดพระอภยั มณีจึงตอ้ งหนีนางผีเส้ือสมุทร 2) พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือสมทุ รไดอ้ ยา่ งไร และหนีไปที่ไหน
56 3) เม่ือสินสมุทรรู้วา่ แมข่ องตนเป็นยกั ษ์ สินสมทุ รรู้สึกอยา่ งไร 4) นางผเี ส้ือสมทุ รตามหาพระอภยั มณีและสินสมทุ รดว้ ยวธิ ีใด 5) พระฤๅษีแห่งเกาะแกว้ พิสดาร มีบทบาทอยา่ งไรในตอนน้ี 6) ขอ้ คิดของนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ คืออะไร และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มสรุปเน้ือเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ โดยเขียนเป็ น แผนภาพโครงเรื่อง ส่งครู 4. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็นในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) ถา้ นกั เรียนเป็นสินสมุทรและรู้วา่ แม่เป็นผเี ส้ือสมทุ ร นกั เรียนจะรู้สึกอยา่ งไร 2) ถา้ นกั เรียนเป็ นสินสมุทร นักเรียนจะเลือกอยู่กบั นางผีเส้ือสมุทรผูเ้ ป็ นแม่หรือจะหนี ไปกบั พระอภยั มณีผเู้ ป็นพอ่ 3) ถา้ นักเรียนเป็ นเงือก นักเรียนจะช่วยเหลือพระอภยั มณีกบั สินสมุทรหรือไม่ ถา้ การ ช่วยเหลือทาใหต้ นตอ้ งตาย 4) ถา้ นักเรียนประสบปัญหาเดียวกบั นางผีเส้ือสมุทร (ถูกคนรักปฏิเสธรัก) นักเรียนจะ แกไ้ ขปัญหาที่เกิดข้นึ น้ีอยา่ งไร ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั เน้ือเรื่อง นิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณี หนีนางผเี ส้ือ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์บุคลิกลกั ษณะของตวั ละครจากนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ ท้งั ในดา้ นที่ควรนาไปใชเ้ ป็ นแบบอย่าง และไม่ควรนาไปใช้ เป็นแบบอยา่ ง นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน แลว้ ช่วยกนั สรุป 3. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็นวา่ นิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ ตวั ละครตวั ใดน่าสงสารมากท่ีสุด เพราะเหตใุ ด แลว้ ช่วยกนั สรุป 4. นกั เรียนอ่านนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ ต้งั แต่ ฝ่ ายนาง ผีเสื้อสมุทรท่ีสุดโง่ จนถึง มาในวนวังบ้างหรืออย่างไร แล้วให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ ความรู้สึกของนางผีเส้ือสมุทรและสนทนาแสดงความคิดเห็นวา่ นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อนาง ผเี ส้ือสมทุ ร ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ นกั เรียนนาความรู้และขอ้ คิดจากนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนาง ผเี ส้ือ ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ข้นั ที่ 5 สรุป
57 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปคุณค่าและขอ้ คดิ จากนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณี หนีนางผเี ส้ือ แลว้ บนั ทึกลงสมดุ 2. ครูใหน้ กั เรียนทบทวนความรู้เร่ือง กลอนแปด แลว้ สรุปเป็นความรู้ เป็นการบา้ นเพือ่ เตรียม จดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. จดั ทศั นศึกษาไปสถานท่ีท่ีสมั พนั ธ์กบั เร่ือง พระอภยั มณี เช่น อนุสาวรียส์ ุนทรภู่ หาดปึ กเตียน หาดทรายแกว้ 2. นกั เรียนแสดงบทบาทสมมุตินิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. ภาพนางผเี ส้ือสมทุ ร 3. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 4. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 5. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้
58 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 กลอนนิทาน ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง รหสั วชิ า ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 นิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ฯ เร่ือง กลอนนิทาน 1. สาระสาคญั กลอนนิทาน เป็ นนิทานท่ีแต่งดว้ ยกลอนแปดหรือกลอนสุภาพ โดยแต่งให้เป็ นเรื่องยาวในลกั ษณะ นิยายหรือเทพนิยาย มกั แต่งใหม้ ีความอศั จรรย์ เน้ือเรื่องอาจนามาจากชาดก นิทานพ้ืนบา้ น หรือจินตนาการข้ึน เองก็ได้ แต่มุ่งให้ความบันเทิง และแทรกข้อคิดคติเตือนใจ ส่วนใหญ่จะเป็ นเรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ การอ่าน วรรณคดี จะตอ้ งเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ เพื่อให้เกิดความเขา้ ใจท่ีลึกซ้ึงและง่ายแก่การจบั ใจความสาคญั นาไปสู่การพจิ ารณาคุณค่าของเรื่องท่ีอา่ นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและมีประสิทธิภาพ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเรื่องท่ีอ่าน ท 1.1 (ม.3/1) 2. ระบุความแตกต่างของคาที่มีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนยั ท 1.1 (ม.3/2) 3. ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ และนาไปใชอ้ า้ งอิง ท 5.1 (ม.3/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะและรูปแบบของกลอนนิทานได้ (K) 2. อา่ นทานองเสนาะโดยใชน้ ้าเสียงแสดงอารมณ์และความรู้สึกไดเ้ หมาะสมกบั เน้ือความ (K , P) 3. ท่องจาบทร้อยกรองที่ไพเราะและมีคุณคา่ ไดถ้ ูกตอ้ ง ครบถว้ น (K , P) 4. อธิบายความหมายของคาหรือขอ้ ความท่ีอา่ นไดถ้ กู ตอ้ งตามความหมาย (K , P) 5. เห็นคุณค่าและซาบซ้ึงในการอา่ นและการแตง่ บทร้อยกรอง (A) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็นราย 1. ประเมินทกั ษะการอ่านออกเสียงร้อยกรอง การแสดงความคิดเห็น บุคคลในดา้ นความสนใจและต้งั ใจเรียน ความ 2. ประเมินทกั ษะการทอ่ งจาบทร้อยกรอง 2. ตรวจผลการทากิจกรรม รับผิดชอบในการทากิจกรรม ความมีระเบียบ 3. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้
59 วินยั ในการทางาน ฯลฯ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนคดิ 2. ประเมินมารยาทในการอา่ นและนิสัยรัก 5. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม การอ่าน 3. ประเมินความภาคภมู ิใจและเห็นคุณค่าของ ภมู ิปัญญาทางภาษาและวรรณคดีไทย 5. สาระการเรียนรู้ 1. กลอนนิทาน 2. ศพั ทน์ ่ารู้ 6. แนวทางบูรณาการ เขยี นแผนผงั บงั คบั ของกลอนแปด คณิตศาสตร์ ศึกษาคุณธรรม จริยธรรม แลว้ นามาใชแ้ ต่งนิทานคากลอน สงั คมศึกษาฯ วาดภาพระบายสีประกอบนิทานคากลอน ศิลปะ ทาหนงั สือนิทานคากลอนประกอบภาพ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงที่ 1 ครูติดแผนผงั บังคับกลอนแปดบนกระดาน แลว้ ให้นักเรี ยนช่วยกันอธิบายลักษณะบังคับของ กลอนแปดตามท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปศึกษามา ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูติดตวั อย่างบทร้อยกรองจากนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนาง ผีเส้ือ บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนเปรียบเทียบกบั แผนผงั บงั คบั ของกลอนแปดวา่ เหมือนหรือ ต่างกนั อยา่ งไร 2. ครูสรุปใหน้ กั เรียนรู้วา่ กลอนนิทานกบั กลอนแปดมีฉันทลกั ษณ์เหมือนกนั เพราะกลอนนิทาน นิยมแต่งดว้ ยกลอนแปด 3. ครูติดตวั อย่างกลอนนิทานให้นักเรียนอ่าน นักเรียนอาสาสมคั รออกมาโยงเส้นสัมผสั และ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 4. ครูอ่านหรือเปิ ดแถบบนั ทึกเสียงการอา่ นออกเสียงนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระ อภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ ตอนท่ีเป็นบทอาขยานเป็นทานองเสนาะ นกั เรียนฝึกอ่านตาม 5. นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อน ฝึ กอ่านออกเสียงนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณี หนีนางผีเส้ือ ตอนท่ีเป็ นบทอาขยานเป็นทานองเสนาะ จนคล่อง และฝึ กท่องจา เพ่ือเตรียมมา ท่องจากบั ครูในการจดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป
60 ช่ัวโมงท่ี 2 1. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนให้ออกมาเขียนแผนผงั บงั คบั ของกลอนนิทานบนกระดาน พร้อมโยงเส้น สัมผสั เพื่อเป็นการทบทวน 2. ครูซักถามถึงงานที่มอบหมาย แลว้ ให้แต่ละคู่ออกมาท่องจาบทอาขยานจากนิทานคากลอน เร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ ทีละคู่ เพ่ือใหค้ รูประเมินการท่องจาบทร้อย กรอง แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกขอ้ คดิ ของบทอาขยานที่ท่องจา 3. ครูให้นักเรียนทบทวนนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ แลว้ ศึกษาศพั ทน์ ่ารู้ และใหค้ รูอธิบายเพิม่ เติม 4. ครูใหค้ วามรู้เสริมเก่ียวกบั คาศพั ทใ์ นบทเรียน โดยเช่ือมโยงสู่อาเซียน ดงั น้ี 1) เกาะแกว้ พิสดาร เป็นเกาะเลก็ ๆ อยกู่ ลางมหาสมุทร สาหรับประเทศสมาชิกอาเซียน หลายประเทศมีภมู ิประเทศเป็นเกาะ เช่น – ประเทศอินโดนีเซีย มีเกาะสาคญั เช่น เกาะสุมาตรา เกาะชวา เกาะบาหลี เกาะ บอร์เนียว (เกาะกาลีมนั ตนั ) – ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ มีเกาะสาคญั เช่น เกาะลูซอน เกาะมินดาเนา หม่เู กาะวซี ายสั – ประเทศสิงคโปร์ (เป็นหม่เู กาะขนาดเลก็ ) มีเกาะสาคญั เช่น เกาะสิงคโปร์ (เป็น เกาะท่ีใหญท่ ี่สุด) เกาะจู่รง เกาะพูเลาเตกง เกาะพลูเลาอบู ิน เกาะเซนโตซ่า 2) บทร้อยกรองในนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ มี หลายตอนที่กล่าวถึงประเทศสมาชิกอาเซียน โดยบทร้อยกรองน้ีกล่าวถึงประเทศสมาชิก อาเซียน ดงั น้ี จาม หมายความถึง ประเทศเวยี ดนาม ชวา หมายความถึง ประเทศอินโดนีเซีย 5. นักเรียนช่วยกันบอกศัพท์ยากหรือคาศัพท์ท่ีไม่เข้าใจความหมาย แล้วช่วยกันอธิบาย ความหมายหรือเปิ ดหาความหมายจากพจนานุกรม ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผ้เู รียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เก่ียวกบั กลอนนิทาน แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 2. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มช่วยกนั คิดโครงเร่ืองนิทานส้ัน ๆ ท่ีมีขอ้ คิด สอน คณุ ธรรม จริยธรรม ส่งครูตรวจสอบและเสนอแนะเพมิ่ เติม 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มแต่งนิทานคากลอนจากโครงเร่ืองท่ีวางไว้ แลว้ นาเสนอให้เพื่อนฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยวาดภาพระบายสีประกอบ 4. นกั เรียนช่วยกนั บอกขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากนิทานเม่ือจบการนาเสนอในแตล่ ะกลุ่ม ข้นั ที่ 4 นาไปใช้
61 นกั เรียนนาความรู้เก่ียวกบั กลอนนิทานไปใชอ้ า่ นนิทานคากลอนเรื่องอ่ืน ๆ ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะของกลอนนิทาน หลกั การอ่านและการท่องจา แลว้ บนั ทึกลงสมุด 2. ครูให้นกั เรียนทบทวนความรู้เรื่อง การอ่านตีความ แลว้ สรุปหลกั การอ่านตีความ เป็นการบา้ น เพอื่ เตรียมจดั การเรียนรู้คร้ังตอ่ ไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. จดั ประกวดการอ่านทานองเสนาะนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนาง ผีเส้ือ 2. นกั เรียนทาหนงั สือนิทานคากลอนประกอบภาพบริจาคใหโ้ รงเรียน 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แผนผงั บงั คบั กลอนแปด 2. ตวั อยา่ งบทร้อยกรองนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ 3. ตวั อยา่ งกลอนนิทาน 4. แถบบนั ทึกเสียง 5. แบบประเมินการท่องจาบทร้อยกรอง 6. พจนานุกรม 7. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 8. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 9. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
62 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 การอ่านตีความ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง รหสั วชิ า ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 นทิ านคากลอนเร่ือง พระอภัยมณี ฯ เรื่อง การอ่านตีความ 1. สาระสาคญั การอ่านตีความ เป็ นการอ่านเพ่ือให้เขา้ ใจเจตนาและความมุ่งหมายของผูเ้ ขียนที่ตอ้ งการส่ือมายงั ผอู้ ่าน โดยใชส้ ติปัญญาทาความเขา้ ใจเน้ือเร่ือง แนวคิดของเรื่อง อารมณ์ความรู้สึก ตลอดจนทรรศนะของ ผเู้ ขียน ซ่ึงจะทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือเร่ืองไดด้ ียงิ่ ข้ึน นิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี เป็ นผลงานของสุนทรภู่ (พระสุนทรโวหาร) กวีเอกแห่งกรุง รัตนโกสินทร์ สุนทรภู่เป็ นผูเ้ ช่ียวชาญการแต่งกลอนเป็ นพิเศษ ท้งั สักวาและเพลงยาว จนไดร้ ับยกย่องว่า เป็ นเลิศในการแต่งกลอนแปด การศึกษาฉากหรือสถานที่ต่าง ๆ ที่ผแู้ ต่งกล่าวถึงในเรื่องที่อ่าน นอกจากจะช่วยใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจเน้ือ เรื่องไดช้ ดั เจนแลว้ ยงั เป็นการเสริมสร้างจินตนาการใหแ้ ก่ผอู้ า่ นอีกดว้ ย 2. ตัวชี้วัดช้ันปี 1. ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพ่ือนาไปใช้แกป้ ัญหา ในชีวติ ท 1.1 (ม.3/9) 2. สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นเพอ่ื นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง ท 5.1 (ม.3/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหลกั การอา่ นตีความและตีความเร่ืองท่ีกาหนดได้ (K) 2. อธิบายความหมายของคาหรือขอ้ ความท่ีอา่ นไดถ้ กู ตอ้ งตามความหมาย (K , P) 3. สรุปใจความสาคญั วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ีอ่านได้ (K , P) 4. ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดของเรื่องที่อา่ น และนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ (K , P) 5. มีมารยาทในการอ่านและมีนิสัยรักการอา่ น (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถาม 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1. ประเมินทกั ษะการอ่านจบั ใจความ และการแสดงความคิดเห็น รายบุคคลในด้านความสนใจและต้งั ใจ 2. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด
63 2. ตรวจผลการทากิจกรรม เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการกล่มุ ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 2. ประเมินมารยาทในการอ่านและนิสัยรัก การอา่ น 5. สาระการเรียนรู้ 1. การอ่านตีความ 2. ประวตั ิผแู้ ต่ง 3. สาระน่ารู้เร่ือง ฉากของเร่ือง พระอภยั มณี 6. แนวทางบูรณาการ เขยี นแผนภาพความคิดสรุปหลกั การอา่ นตีความ คณิตศาสตร์ ตีความบทร้อยกรองภาษาองั กฤษ ภาษาต่างประเทศ วาดภาพ/จดั นิทรรศการ ศิลปะ เล่นเกมตีความหมาย สุขศึกษาฯ ประดิษฐบ์ ตั รคาและแถบประโยค/ศึกษาคน้ ควา้ เรื่อง การอ่านตีความ การงานอาชีพฯ จากอินเทอร์เน็ต/ทาสมุดภาพขยายความ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครูนานกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การอ่านตีความวา่ มีลกั ษณะอยา่ งไร และมีจุดมุง่ หมายใด 2. ครูติดบทร้อยกรองบนกระดานใหน้ กั เรียนอ่าน แลว้ ช่วยกนั ตีความวา่ หมายถึงอะไร และมี แนวคิดอยา่ งไร กระแสชลวนเชี่ยวเรือเล้ียวลด ดูคอ้ มคดขอบคุง้ คงคาไหล แต่สาชลเจียวยงั วนเป็นวงไป นี่หรือใจที่จะตรงอยา่ สงกา (นิราศเมอื งแกลง ของ สุนทรภู่) 3. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจวา่ บทร้อยกรองน้ี กล่าวถึงกระแสน้าที่ไหลคดเค้ียว เปรียบกบั จิตใจ ของคนเราท่ีไม่ซื่อตรงเหมือนดงั กระแสน้า ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหบ้ อกหลกั การอา่ นตีความ ตามที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปศึกษามา 2. ครูแจกใบความรู้เรื่อง การอ่านตีความ ให้นักเรียนศึกษา แลว้ ครูอธิบายเพ่ิมเติมและสุ่มถาม นกั เรียนเพ่ือตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจ
64 3. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ครูแบ่งเน้ือเร่ืองนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ ออกเป็ นตอน ๆ ตามจานวนกลุ่ม แลว้ ให้แต่ละกลุ่มจบั สลากเลือกเน้ือเร่ือง ตอนท่ีครูแบง่ ไวม้ าอา่ นตีความ 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยให้ครู อธิบายประกอบการซักถามเพ่ิมเติมเม่ือจบการรายงานของแต่ละกลุ่ม และบันทึกลงสมุด นักเรียนแต่ละกลุ่มรวบรวมเน้ือเรื่องในนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณี หนีนางผเี ส้ือ ตอนท่ีเป็นขอ้ คิดคาสอนท่ีเพื่อนตีความไวบ้ นั ทึกลงสมดุ 5. ครูเล่าประวตั ิผแู้ ต่งใหน้ กั เรียนฟังประกอบการซกั ถามเพิม่ เติม 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาสาระน่ารู้เร่ือง ฉากของเรื่อง พระอภยั มณี ในหนังสือเรียนรายวิชา พ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 และศึกษาการสันนิษฐานสถานที่ในนิทานคากลอน เร่ือง พระอภยั มณี เพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้อ่ืน ๆ แลว้ นามาแลกเปล่ียนความรู้กบั เพ่ือนใน ช้นั เรียน ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั การอา่ นตีความ แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 2. นกั เรียนเล่นเกมตีความหมาย โดยให้นักเรียนจบั คู่กบั เพื่อนประดิษฐ์บตั รคาและแถบประโยค ครูสุ่มเรียกคู่ใดให้คู่น้ันยกบตั รคาและแถบประโยคที่ประดิษฐ์ให้เพ่ือนดู ให้แต่ละคู่ตีความ แลว้ ให้เจา้ ของบตั รคาและแถบประโยคเฉลยคาตอบ คู่ใดตีความถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน เล่น จนบตั รคาและแถบประโยคหมด คใู่ ดไดค้ ะแนนมากที่สุดเป็นผชู้ นะ 3. นกั เรียนอาสาสมคั ร 1 คน วาดภาพบนกระดานให้เพื่อนดู แลว้ ช่วยกนั ตีความว่า เพื่อนตอ้ งการ สื่ออะไร แลว้ ใหค้ นวาดเฉลยคาตอบ 4. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เร่ือง การอ่านตีความ เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต และหาบทความหรือบท ร้อยกรองมาอา่ น เขียนบอกท่ีมา สรุปความ และตีความ ส่งครู 5. นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง การอา่ นตีความ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนนาความรู้เรื่อง การอ่านตีความ ไปใชอ้ า่ นงานเขียนประเภทตา่ ง ๆ 2. นกั เรียนนาหลกั การอ่านตีความไปใชอ้ ่านประกอบการศึกษาคน้ ควา้ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ อ่ืน 3. นกั เรียนเล่าประวตั ิผแู้ ต่งและความเป็นมาของฉากเรื่อง พระอภยั มณี ให้ผทู้ ่ีสนใจหรือสมาชิก ในครอบครัวฟัง ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปหลกั การอ่านตีความ โดยเขียนเป็นแผนภาพความคดิ 2. นกั เรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั ฉากของเรื่อง พระอภยั มณี แลว้ บนั ทึกลงสมุด
65 3. ครูให้นักเรียนรวบรวมช่ือวรรณคดีท่ีเป็ นกลอนนิทานเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากนิทานคา กลอนเร่ือง พระอภยั มณี เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนฝึกอ่านตีความจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีสนใจ แลว้ จดบนั ทึกขอ้ ความมาให้ เพื่อนอ่าน 2. นกั เรียนรวบรวมบทร้อยกรองภาษาองั กฤษส้นั ๆ มาไวฝ้ ึกอ่านตีความ 3. นกั เรียนเลือกภาพการ์ตนู จากหนงั สือพิมพร์ ายวนั แลว้ นามาฝึกตีความจากภาพ โดยตดั แปะ ภาพ จากหนงั สือพิมพบ์ นกระดาษ ทาเป็นสมุดภาพขยายความ แลว้ นามาแลกเปล่ียนกนั ดูกบั เพอ่ื น 4. นกั เรียนจดั นิทรรศการประวตั ิและผลงานของสุนทรภู่ในวนั สุนทรภู่ 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งบทร้อยกรอง 2. ใบความรู้ เรื่อง การอา่ นตีความ 3. สลาก 4. บตั รคา 5. แถบประโยค 6. อินเทอร์เน็ต 7. ใบงาน เรื่อง การอา่ นตีความ 8. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 9. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 10. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
66 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 การพจิ ารณาคุณค่ากลอนนิทาน ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ช่ัวโมง รหัสวิชา ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 นทิ านคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ฯ เร่ือง การพจิ ารณาคณุ ค่ากลอนนิทาน 1. สาระสาคัญ การพิจารณาคุณค่ากลอนนิทาน เป็ นการพินิจพิจารณาส่ิงท่ีผูแ้ ต่งมุ่งนาเสนอแก่ผูอ้ ่าน โดยแยก พิจารณาในด้านเน้ือหา วรรณศิลป์ สังคม และการนาไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดาเนิน ชีวิตประจาวนั ได้ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. วเิ คราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องท่ีอ่านโดยใชก้ ลวิธีการเปรียบเทียบ เพ่ือใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจไดด้ ี ข้ึน ท 1.1 (ม.3/5) 2. ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคดิ ที่ไดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาใน ชีวิต ท 1.1 (ม.3/9) 3. สรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถิ่นในระดบั ที่ยากยงิ่ ข้นึ ท 5.1 (ม.3/1) 4. สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นเพอื่ นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ท 5.1 (ม.3/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สรุปใจความสาคญั วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีอา่ นได้ (K , P) 2. วเิ คราะห์ วิจารณ์ และประเมินคา่ เรื่องที่อ่านได้ โดยใชก้ ลวิธีเปรียบเทียบได้ (K , P) 3. ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดจากเรื่องท่ีอ่าน และนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ (K , P) 4. เห็นคุณค่าและซาบซ้ึงในการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมไทย (A) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ นรายบุคคล 1. ประเมินทกั ษะการอา่ นสรุปความ การแสดงความคิดเห็น ใน ด้าน ความสน ใจและต้ังใจเรี ยน ความ 2. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม รับผิดชอบในการทากิจกรรม ความมีระเบียบ 3. ประเมินทกั ษะกระบวนคิด วนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลมุ่ 2. ประเมินมารยาทในการอ่านและนิสยั รักการอา่ น
67 5. สาระการเรียนรู้ แนวทางในการพิจารณาวรรณกรรม 6. แนวทางบูรณาการ เขยี นแผนภาพความคดิ เรื่อง การพจิ ารณาคุณค่ากลอนนิทาน คณิตศาสตร์ ศึกษาประวตั ิและผลงานของสุนทรภู่ สงั คมศึกษาฯ จดั ป้ายนิเทศ ศิลปะ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูทบทวนเร่ือง ลักษณะและรูปแบบของกลอนนิทาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกชื่อ วรรณคดีท่ีเป็นกลอนนิทานเรื่องอ่ืน ๆ นอกจากนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตามท่ีไดร้ ับ มอบหมาย ใหไ้ ปศึกษามา 2. นกั เรียนช่วยกนั บอกหลกั เกณฑใ์ นการพิจารณากลอนนิทานวา่ จะพจิ ารณาเก่ียวกบั เรื่องใดบา้ ง แลว้ ครูนาสนทนาโยงเขา้ เรื่อง การพจิ ารณาคุณคา่ กลอนนิทาน ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั หลกั เกณฑใ์ นการพิจารณาคุณค่าบทร้อยกรองทว่ั ไปวา่ ตอ้ งพิจารณาคุณค่าในดา้ นเน้ือหา วรรณศิลป์ (ศิลปะการประพนั ธ์) สังคม (ขอ้ คิด คติคาสอน และความจรรโลงใจ) และการนาไปใช้ 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเขา้ หอ้ งสมุดศึกษาคน้ ควา้ หลกั เกณฑก์ ารพิจารณาบท ร้อยกรอง ดงั น้ี กลมุ่ ท่ี 1 ศึกษาหลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาคุณค่าในดา้ นเน้ือหา กลุ่มท่ี 2 ศึกษาหลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาคณุ ค่าในดา้ นวรรณศิลป์ กลมุ่ ที่ 3 ศึกษาหลกั เกณฑก์ ารพิจารณาคุณคา่ ในดา้ นสงั คม กลุ่มที่ 4 ศึกษาหลกั เกณฑก์ ารพิจารณาคณุ ค่าในดา้ นการนาไปใช้ 3. นักเรียนแต่ละกลุ่ม นับ 1 – 3 แลว้ จบั กลุ่มใหม่ โดยให้คนที่นับหมายเลขเดียวกนั มาอยู่กลุ่ม เดียวกนั และสลบั กนั อธิบายความรู้ที่ไดศ้ ึกษามาให้เพื่อนในกลุ่มฟังจนครบทุกหวั ขอ้ ครูสรุป ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ ชั่วโมงที่ 2 1. ครูให้นักเรียนช่วยกนั สรุปหลกั เกณฑ์การพิจารณาบทร้อยกรองในด้านเน้ือหา วรรณศิลป์ สังคม และการนาไปใช้ เพอ่ื เป็นการทบทวน
68 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มทบทวนนิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ แลว้ ระดมสมองพิจารณานิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ ใน ดา้ นเน้ือหา วรรณศิลป์ สงั คม และการนาไปใช้ 3. นกั เรียนศึกษาแนวทางในการพิจารณาวรรณกรรม ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 แลว้ ตรวจสอบกบั การพจิ ารณาของนกั เรียนแต่ละกลุ่มในขอ้ 2 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรับปรุงแก้ไขการพิจารณานิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระ อภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ ใหถ้ ูกตอ้ งสมบูรณ์ แลว้ บนั ทึกลงสมดุ 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็นในประเด็นท่ีกาหนดให้ แลว้ ร่วมกนั สรุป ดงั น้ี 1) นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอะไรบา้ งจากการอ่านนิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ 2) นกั เรียนนาขอ้ คิดท่ีไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 3) นกั เรียนคดิ วา่ สินสมุทรทาถูกตอ้ งหรือไม่ อยา่ งไร ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เก่ียวกบั การพิจารณาคณุ ค่ากลอนนิทาน แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูก ตอ้ ง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกกลอนนิทานเรื่องที่ชอบ ๑ ตอน มาฝึ กพิจารณาตามแนวทางการ พิจารณาคุณค่าของกลอนนิทาน ท้ังด้านเน้ือหา วรรณศิลป์ สังคม และการนาไปใช้ แล้ว นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 3. นกั เรียนศึกษาประวตั ิและผลงานของสุนทรภู่จากส่ือการเรียนรู้อ่ืน แลว้ ร่วมกันแสดงความ คิดเห็นตามแนวคาถามต่อไปน้ี 1) สุนทรภู่เป็นบุคคลสาคญั ของโลกในดา้ นใด 2) นิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี มีลกั ษณะดีเด่นดา้ นใด 3) นิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือ ตอ้ งการให้ เห็นสจั ธรรมในเรื่องใดบา้ ง ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นักเรียนนาความรู้และข้อคิดท่ีได้จากการพิจารณาคุณค่ากลอนนิทานไปปรับใช้ในชีวิต ประจาวนั 2. นกั เรียนนาหลกั การพิจารณาคุณค่ากลอนนิทานท่ีศึกษาไปพิจารณาคุณค่าของกลอนนิทาน เรื่องอื่น ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปหลกั เกณฑก์ ารพิจารณาคุณคา่ กลอนนิทาน แลว้ บนั ทึกลงสมุด
69 2. ครูให้นักเรียนเลือกดูหรืออ่านนิทาน 1 เร่ือง แลว้ สังเกตลกั ษณะและรูปแบบของนิทาน เป็ น การบา้ นเพอื่ เตรียมจดั การเรียนรู้คร้ังตอ่ ไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนเขียนแผนภาพความคิดเรื่อง การพิจารณาคุณค่ากลอนนิทาน แลว้ นาไปจดั ป้ายนิเทศ หนา้ ช้นั เรียน 2. นกั เรียนศึกษางานวิจารณ์ท่ีเกี่ยวกบั นิทานคากลอนเร่ือง พระอภยั มณี แลว้ นามาจดั ป้ายนิเทศ เป็ นความรู้เสริ ม 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หอ้ งสมุด 2. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 3. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 4. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้
70 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18 ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 การพจิ ารณาคณุ ค่ากลอนนิทาน และการแต่งนิทาน ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง รหัสวชิ า ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 นิทานคากลอนเรื่อง พระอภัยมณี ฯ เรื่อง การพจิ ารณาคุณค่ากลอนนิทาน และการแต่งนิทาน 1. สาระสาคัญ นิทาน เป็นวรรณกรรมที่เสริมสร้างจินตนาการของเดก็ การแต่งนิทานผแู้ ต่งจะตอ้ งมีจินตนาการและ ศิลปะในการแต่งให้เน้ือเร่ืองมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน มีขอ้ คิด คุณธรรม ซ่ึงเป็ นคติสอนใจเด็กให้ สามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั 2. ตัวชี้วัดช้ันปี 1. วเิ คราะห์ วิจารณ์ และประเมินเร่ืองที่อ่านโดยใชก้ ลวิธีการเปรียบเทียบ เพื่อใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจไดด้ ี ข้นึ ท 1.1 (ม.3/5) 2. สรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่ินในระดบั ท่ียากยง่ิ ข้นึ ท 5.1 (ม.3/1) 3. สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่านเพือ่ นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง ท 5.1 (ม.3/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกองคป์ ระกอบ รูปแบบ และวิธีเขียนนิทานได้ (K) 2. วางโครงเรื่องและสอดแทรกขอ้ คิดคาสอนในนิทานท่ีแตง่ ได้ (K , P) 3. แต่งนิทานไดอ้ ยา่ งสละสลวยและสร้างสรรค์ (P) 4. พูดเล่าเร่ืองจากเร่ืองท่ีกาหนดใหไ้ ดน้ ่าฟังและถูกตอ้ งตามลกั ษณะการพูด (K , P) 5. นาสารประโยชนท์ ี่ไดร้ ับไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั (P) 6. มีมารยาทในการเขยี นและนิสยั รักการเขียน (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็นรายบุคคลใน 1.ประเมินทกั ษะการเขยี น การแสดงความคดิ เห็น ดา้ นความสนใจและต้งั ใจเรียน ความรับผิดชอบ 2.ประเมินทกั ษะการพูดเลา่ นิทาน 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ในการทากิจกรรม ความมีระเบียบวินัยในการ 3.ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ 3. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน ทางาน ฯลฯ 4.ประเมินทกั ษะกระบวนการกลมุ่ 2. ประเมินมารยาทในการเขียนและนิสยั รักการเขียน 3. ประเมินมารยาทในการพดู
71 5. สาระการเรียนรู้ การแตง่ นิทาน 6. แนวทางบูรณาการ เขยี นแผนภาพโครงเรื่องนิทาน คณิตศาสตร์ ทาหนงั สือนิทานประกอบภาพเป็นภาษาองั กฤษ ภาษาตา่ งประเทศ วาดภาพระบายสีประกอบนิทาน/แสดงบทบาทสมมตุ ิ ศิลปะ ทาหนงั สือนิทานประกอบภาพ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 1 1. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหอ้ อกมาเลา่ นิทานใหเ้ พ่ือนฟัง 1 เรื่องตามท่ีไดไ้ ปอ่านมา 2. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั นิทานที่ไดฟ้ ัง แลว้ ช่วยกนั บอกลกั ษณะและรูปแบบของนิทาน ตามความรู้เดิมท่ีเคยศึกษามา ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ครูแจกหนังสือนิทานให้นักเรียนกลุ่มละ 1 เรื่อง ให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มอา่ น แลว้ บอกองคป์ ระกอบของนิทานวา่ มีส่วนใดบา้ ง นาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน 2. ครูแจกใบความรู้เรื่อง องค์ประกอบของนิทาน ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเปรียบเทียบกับ องคป์ ระกอบของนิทานที่นกั เรียนทาไวว้ า่ เหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร 3. ครูสรุปเร่ือง องคป์ ระกอบของนิทาน ใหน้ กั เรียนฟังประกอบการซกั ถามเพิ่มเติม 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาขอ้ คิดจากนิทานคากลอนเร่ือง พระอภัยมณี ตอน พระอภยั มณีหนีนาง ผเี ส้ือ มาแตง่ เป็นนิทาน แลว้ เล่าใหเ้ พ่อื นฟังหนา้ ช้นั เรียน ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั การแต่งนิทาน แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มคิดแนวคิดและวางโครงเรื่องของนิทานตามลาดับเหตุการณ์ เขียนเป็ น แผนภาพโครงเรื่อง ส่งครู 3. ครูให้ขอ้ เสนอแนะ แลว้ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแต่งนิทานตามโครงเรื่องที่วางไว้ โดยวาดภาพ ระบายสีประกอบใหส้ วยงาม 4. นกั เรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอผลงาน โดยการเลา่ นิทานประกอบภาพ แลว้ ใหค้ รูประเมินการพูดเล่า นิทาน 5. เมื่อจบการนาเสนอผลงานของแตล่ ะกลุ่ม ให้นกั เรียนบอกขอ้ คิดของนิทานท่ีเพ่ือนนาเสนอ แลว้ ช่วยกนั วเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบของนิทาน 6. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนข์ องนิทาน แลว้ สรุปบนั ทึกลงสมุด
72 ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนนาความรู้ เร่ือง องคป์ ระกอบของนิทาน ไปวิเคราะห์นิทานตา่ ง ๆ เพื่อนามาเป็นแนวทาง ในการแต่งนิทาน 2. นกั เรียนแตง่ นิทาน แลว้ แสดงบทบาทสมมุติหรือเล่านิทานใหผ้ อู้ ่ืนฟัง ข้นั ที่ 5 สรุป 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปเรื่อง การแต่งนิทาน แลว้ บนั ทึกลงสมุดตามข้นั ตอนในการแตง่ นิทาน 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 3. ครูให้นกั เรียนตอบคาถามในประเด็นท่ีวา่ นกั เรียนคิดวา่ การท่ีพ่อผกู พนั รักและหวงั ดีต่อลูก พ่อ สามารถแสดงออกดว้ ยวิธีใดที่จะสามารถสร้างให้ลกู ดาเนินชีวติ ในสังคมไดอ้ ยา่ งภาคภูมิใจ แลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใน หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 เป็ นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การ เรียนรู้คร้ังตอ่ ไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. จดั ประกวดการแตง่ นิทานในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 2. นกั เรียนทาหนงั สือนิทานประกอบภาพเป็นภาษาองั กฤษ 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน 2. หนงั สือนิทาน 3. ใบความรู้ เร่ือง องคป์ ระกอบของนิทาน 4. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 6. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
73 แผนการจัดการเรียนรู้ เวลำ 1 ชว่ั โมง เวลำ 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย เวลำ 1 ชวั่ โมง เวลา 8 ชั่วโมง เวลำ 1 ชว่ั โมง เวลำ 1 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 19 ลกั ษณะของคำภำษำตำ่ งประเทศที่ยมื มำใชใ้ นภำษำไทย เวลำ 2 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20 ภำษำเขมร เวลำ 1 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 ภำษำบำลีสนั สกฤต แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 22 ภำษำองั กฤษและภำษำจีน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23 ภำษำชวำ – มลำยแู ละภำษำอ่ืน ๆ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 24 คำทบั ศพั ท์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 25 ศพั ทบ์ ญั ญตั ิ
74 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 ลกั ษณะของคาภาษาต่างประเทศท่ียืมมาใช้ในภาษาไทย รหสั วิชา ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 เร่ือง ลกั ษณะของคาภาษาต่างประเทศทีย่ ืมมาใช้ในภาษาไทย เวลา 1 ช่ัวโมง 1. สาระสาคัญ ภาษาไทยท่ีเราใชก้ นั อยู่ในปัจจุบนั มีคาภาษาอ่ืนปะปนอย่เู ป็นจานวนมาก การท่ีเราทราบสาเหตุที่ ทาใหเ้ กิดการยมื อิทธิพลของภาษาต่างประเทศที่มีผลต่อภาษาไทย และวิธีการนาคาภาษาต่างประเทศมาใช้ ในภาษาไทย จะทาใหเ้ ขา้ ใจคายมื มากข้ึน และใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ไม่เกิดผลกระทบต่อภาษาไทย 2. ตวั ชี้วัดช้ันปี จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย ท ๔.๑ (ม. ๓ /๑) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกสาเหตุที่ทาใหเ้ กิดการยมื ภาษาและอิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศที่มีผลตอ่ ภาษาไทยได้ (K) 2. บอกวธิ ีการนาคาภาษาต่างประเทศมาใชใ้ นภาษาไทยได้ (K) 3. จาแนกภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทยจากสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ได้ (K , P) 4. ตระหนกั ในคณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทยไดถ้ กู ตอ้ ง (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1. ประเมินทกั ษะการอ่านสรุปความ การแสดงความคิดเห็น รายบุคคลในด้านความสนใจและต้ังใจ 2. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด 3. แบบทดสอบก่อนเรียน ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุม่ 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่า ของภมู ิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ ลกั ษณะของคาภาษาตา่ งประเทศที่ยมื มาใชใ้ นภาษาไทย 6. แนวทางบูรณาการ เขียนแผนภาพความคดิ สรุปลกั ษณะของคาภาษา คณิตศาสตร์ ตา่ งประเทศท่ียมื มาใชใ้ นภาษาไทย
75 ภาษาต่างประเทศ ศึกษาเรื่อง คาภาษาตา่ งประเทศที่ยมื มาใชใ้ นภาษาไทย สุขศึกษาฯ เลน่ เกมตอบคาถาม การงานอาชีพฯ จดั ป้ายนิเทศ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั การยมื คาภาษาต่างประเทศมาใชใ้ นภาษาไทยวา่ มีภาษาใดบา้ ง เพราะเหตใุ ดเราจึงตอ้ งยมื คาภาษาตา่ งประเทศมาใชใ้ นภาษาไทย ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่มละ 3 คน ให้แต่ละกลุ่มจับสลากศึกษาเรื่อง ลักษณะของคา ภาษาต่างประเทศที่ยืมมาใช้ในภาษาไทย ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลักการใช้ ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 คนละ 1 หวั ขอ้ ดงั น้ี กลมุ่ ท่ี 1 ศึกษาเร่ือง สาเหตุท่ีทาใหเ้ กิดการยมื ภาษา กลุม่ ท่ี 2 ศึกษาเร่ือง อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศท่ีมีผลต่อภาษาไทย กลุ่มท่ี 3 ศึกษาเรื่อง วธิ ีการนาคาภาษาต่างประเทศมาใชใ้ นภาษาไทย 2. นักเรียนท่ีจบั สลากได้เร่ืองเดียวกนั มารวมกลุ่มศึกษาด้วยกนั โดยการอภิปรายแสดงความ คดิ เห็น หรือสืบคน้ ขอ้ มลู เพิม่ เติม แลว้ สรุปเป็นความรู้ 3. นกั เรียนแต่ละคนกลบั ไปยงั กลุ่มเดิมของตน อธิบายส่ิงที่ไดร้ ่วมกนั สรุปให้เพื่อนฟังจนเขา้ ใจ ครบทุกคน ครูตรวจสอบความเขา้ ใจโดยต้งั คาถามใหน้ กั เรียนตอบ 4. ครูให้นักเรียนเล่นเกมตอบคาถาม โดยครูต้งั คาถาม ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มยกมือตอบว่าเป็ น ลกั ษณะของคาภาษาต่างประเทศที่ยืมมาใชใ้ นภาษาไทย เพราะเหตุใด เช่น ครูพูดว่า มีการรับ พระพุทธศาสนาเขา้ มาในประเทศไทย ทาให้มีการรับภาษาบาลีมาใช้ดว้ ย นักเรียนตอบว่า สาเหตุท่ีทาให้เกิดการยืมภาษา กลุ่มท่ีตอบถูกจะได้ 1 คะแนน ครูถามคาถามจนนกั เรียนเขา้ ใจ เร่ืองมากข้ึนจึงนบั คะแนน กลุ่มที่ไดค้ ะแนนมากที่สุดเป็ นผูช้ นะ กลุ่มที่ไดค้ ะแนนน้อยท่ีสุด ตอ้ งออกมาหนา้ ช้นั เรียนทาตามท่ีเพอ่ื นตอ้ งการ ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผ้เู รียน 1. นักเรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั ลกั ษณะของคาภาษาต่างประเทศท่ียืมมาใชใ้ นภาษาไทย แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นกั เรียนยกตวั อย่างคาภาษาต่างประเทศท่ียมื มาใชใ้ นภาษาไทย โดยยืมคามาใชโ้ ดยตรง นามา ปรับใช้ให้เหมาะกบั การออกเสียง การเขียนและลกั ษณะของภาษาไทย หรือบญั ญตั ิศพั ท์ข้ึน ใหมใ่ หไ้ ดม้ ากที่สุด แลว้ นามาอภิปรายร่วมกนั ในกล่มุ
76 3. ครูเขียนประเด็น “ การยมื ภาษาตา่ งประเทศมาใชใ้ นภาษาไทยมาก ๆ มีผลกระทบต่อภาษาไทย อยา่ งไร ” บนกระดาน ใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมระดมสมองและสรุปผล นาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นักเรียนเขา้ ใจสาเหตุของการยืมคาภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทย สามารถอธิบายให้ ผอู้ ่ืนเขา้ ใจได้ 2. นักเรียนนาความรู้เกี่ยวกับลกั ษณะของคาภาษาต่างประเทศท่ียืมมาใช้ในภาษาไทยไปใช้ใน การเรียนและในชีวติ ประจาวนั ข้นั ที่ 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะของคาภาษาต่างประเทศที่ยมื มาใชใ้ นภาษาไทยเป็นแผนภาพความคิด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติมเกี่ยวกบั อิทธิพลของภาษาต่างประเทศที่มีต่อภาษาไทย แลว้ นาขอ้ มลู มาจดั ป้ายนิเทศใหค้ วามรู้กบั เพอ่ื นในช้นั เรียน 2. นกั เรียนยกตวั อยา่ งการใชส้ านวนภาษาตา่ งประเทศ แลว้ นามาอภิปรายกนั ในช้นั เรียนวา่ มีผลต่อ ภาษาไทยอยา่ งไรบา้ ง และช่วยกนั หาแนวทางป้องกนั ใหใ้ ชภ้ าษาไทยใหถ้ ูกตอ้ ง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. สลาก 3. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 10. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
77 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20 ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 ภาษาเขมร ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง รหสั วชิ า ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย เร่ือง ภาษาเขมร 1. สาระสาคญั ภาษาเขมรปะปนอยใู่ นภาษาไทยต้งั แต่สมยั โบราณ โดยเฉพาะในสมยั กรุงศรีอยุธยา พระเจา้ อู่ทอง รับรูปแบบการปกครอง ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ เขา้ มา ก็รับคาภาษาเขมรเขา้ มาดว้ ย ภาษาเขมรท่ี ไทยนามาใชจ้ ะนามาใชเ้ ป็นคาราชาศพั ท์ คาศพั ทใ์ นวรรณคดี และคาศพั ทท์ ว่ั ไป ซ่ึงถา้ เรามีความรู้เกี่ยวกบั ภาษาเขมร จะทาให้ส่ือสารเขา้ ใจตรงกนั มากข้ึน และในการอ่านวรรณคดีก็จะทาให้เขา้ ใจวรรณคดีมากข้ึน ดว้ ยเช่นกนั 2. ตัวชีว้ ดั ช้ันปี จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย ท 4.1 (ม.3/1) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกท่ีมาและลกั ษณะของคายมื ภาษาเขมรท่ีนามาใชใ้ นภาษาไทยได้ (K) 2. วเิ คราะหว์ ธิ ีการนาภาษาเขมรมาใชแ้ ละการใชค้ ายมื ภาษาเขมรในภาษาไทยได้ (K , P) 3. เลือกใชค้ าภาษาเขมรในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (K , P) 4. ตระหนกั ในคุณค่าของการใชภ้ าษาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง (A) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็น 1. ประเมินทกั ษะการอ่านสรุปความ การแสดงความคดิ เห็น รายบุคคลในด้านความสนใจและ 2. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ต้งั ใจเรียน ความรับผิดชอบในการทา 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด กิจกรรม ความมีระเบียบวินัยในการ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุม่ ทางาน ฯลฯ 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็น คุณค่าของภมู ิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ ภาษาเขมร
78 6. แนวทางบูรณาการ เขยี นแผนภาพความคิดสรุปลกั ษณะของภาษาเขมร คณิตศาสตร์ ศึกษาเรื่อง อาเซียนศึกษาประเทศกมั พูชา สังคมศึกษาฯ ศึกษาเร่ือง ภาษาเขมร ภาษาต่างประเทศ จดั ป้ายนิเทศ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูติดแถบขอ้ ความภาษาเขมรบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอ่านและช่วยกนั ทายวา่ น่าจะเป็นภาษาใด ซวั ซไดย ซกสะบำยดี จะ๊ (บำด) ซกสะบำยดี ออกุนเจริญ 2. ครูถามนกั เรียนว่าแต่ละขอ้ ความมีความหมายว่าอะไร ครูเฉลย ซัวซไดย หมายถึง สวสั ดีซก สะบายดี หมายถึง สบายดีไหม จ๊ะ(บาด)ซกสะบายดี หมายถึง สบายดี ออกุนเจริญ หมายถึง ขอบคณุ จากน้นั ครูโยงเขา้ เร่ือง คาภาษาเขมร ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั ท่ีมาของคาภาษาเขมรและสาเหตทุ ่ีไทยนาคาภาษาเขมรมาใชใ้ น ภาษาไทย แลว้ ร่วมกนั สรุป นกั เรียนบนั ทึกลงสมดุ 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกล่มุ ละ 3 คน ใหแ้ ตล่ ะคนเลือกศึกษาเรื่องตอ่ ไปน้ีคนละ 1 หวั ขอ้ คนท่ี 1 ศึกษาเรื่อง ลกั ษณะคาเขมรที่นามาใชใ้ นภาษาไทย คนท่ี 2 ศึกษาเรื่อง วธิ ีนาคาเขมรมาใชใ้ นภาษาไทย คนท่ี 3 ศึกษาเรื่อง การใชค้ ายมื ภาษาเขมรในภาษาไทย 3. นกั เรียนที่ศึกษาเรื่องเดียวกนั ให้มาศึกษาดว้ ยกนั โดยการคน้ ควา้ ขอ้ มูลเพ่ิมเติม อภิปราย สรุป และต้งั คาถามถามเพื่อนในกลุ่ม เสร็จแลว้ นากลบั ไปยงั กลุ่มเดิมของตน อธิบายให้เพ่ือนใน กลมุ่ ฟังจนเขา้ ใจครบทกุ คน 4. ครูสุ่มถามให้นกั เรียนสรุป ในแตล่ ะหัวขอ้ ครูอธิบายเพิ่มเติมหลงั การสรุปของแต่ละหัวขอ้ อีก คร้ังหน่ึง 5. นกั เรียนทาใบงาน เรื่อง คาภาษาเขมร แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั ภาษาเขมร แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเก่ียวกบั หลกั การนาภาษาเขมรมาใช้ในภาษาไทย นาขอ้ มูลมาจดั ป้าย นิเทศหนา้ ช้นั เรียน 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มรวบรวมคาภาษาเขมรที่นามาใช้ในภาษาไทยให้ได้มากท่ีสุด ทาเป็ น พจนานุกรมคาศพั ทภ์ าษาเขมร
79 4. ครูแจกวรรณคดีเร่ืองท่ีเก่ียวกบั ภาษาเขมรเช่น ลิลิตโองการแช่งน้า ใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาวา่ มี คาใดเป็นคาที่ยมื มาจากภาษาเขมรบา้ ง น่าจะมีความหมายวา่ อะไร ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนนาความรู้เก่ียวกบั ภาษาเขมรไปใชใ้ นการเรียนและในชีวิตประจาวนั 2. นกั เรียนอ่านขอ้ ความที่มีภาษาเขมรปะปนอยดู่ ว้ ยอยา่ งเขา้ ใจความหมาย และบอกไดว้ า่ มาจาก ภาษาเขมร ข้นั ที่ 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะของภาษาเขมร เขียนเป็นแผนภาพความคิด แลว้ บนั ทึกลงในสมุด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนรวบรวมภาษาเขมรที่พบในวรรณคดีเร่ืองท่ีใหเ้ รียนในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 เขียน คาศพั ท์ อธิบายความหมาย และรวบรวมขอ้ มลู นามาจดั ป้ายนิเทศหนา้ ช้นั เรียน 2. นกั เรียนศึกษาภาษาเขมรเพิ่มเติมไดจ้ ากศนู ยอ์ าเซียนของโรงเรียนหรือเวบ็ ไซตท์ ่ีเกี่ยวกบั ภาษา เขมร 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แถบขอ้ ความ 2. วรรณคดีเร่ืองที่เก่ียวกบั ภาษาเขมร 3. ใบงาน เร่ือง คาภาษาเขมร 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 10. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
80 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 21 ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ภาษาบาลแี ละภาษาสันสกฤต ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง รหสั วชิ า ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย เรื่อง ภาษาบาลแี ละภาษาสันสกฤต 1. สาระสาคัญ ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตท่ีนามาใช้ในภาษาไทย ส่วนมากจะนามาใช้ในทางศาสนา วฒั นธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี วรรณคดี และใชเ้ ป็ นคาสุภาพและคาศพั ท์ทวั่ ไป การรู้ลกั ษณะของ ภาษ าบ าลี แล ะภาษ าสัน ส ก ฤ ตจะ มี ป ระโยช น์ ในเร่ื องก ารส ะก ดค าแล ะก ารใช้ค าให้ถูก ต้องตรงตาม ความหมาย 2. ตัวชีว้ ัดช้ันปี จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย ท 4.1 (ม.3 /1) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกที่มาและลกั ษณะของคาภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตได้ (K) 2. วิเคราะห์วิธีการนาคาภาษาบาลีสนั สกฤตมาใชใ้ นภาษาไทยได้ (K , P) 3. จาแนกภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตออกจากกนั ได้ (K , P) 4. เลือกใชค้ าบาลีสนั สกฤตในการสื่อสารไดถ้ กู ตอ้ ง (K , P) 5. ตระหนกั ในคุณค่าของการใชภ้ าษาไทยที่ถกู ตอ้ ง (A) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1.ประเมินทกั ษะการอา่ นสรุปความ การแสดงความคิดเห็น รายบุคคลในด้านความสนใจและต้งั ใจ 2.ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม 3.ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 4.ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุม่ 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่า ของภมู ิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ ภาษาบาลีและภาษาสนั สกฤต
81 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาลกั ษณะของภาษาบาลีและภาษาสนั สกฤต ภาษาตา่ งประเทศ เลน่ เกมจาแนกคาศพั ท์ สุขศึกษาฯ จดั ป้ายนิเทศ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูติดบตั รคาบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เลือกวา่ คาใดบา้ งเป็นคาภาษาเขมร สณั ห์ พนม กลั ยา วิศวะ สลา พกั ตร์ กาพย์ ถนน ภิญโญ สาเร็จ 2. ครูถามนกั เรียนว่า คาที่เหลือน่าจะเป็นคาที่นามาจากภาษาใด แลว้ ครูโยงนาเขา้ เรื่องภาษาบาลี และภาษาสนั สกฤต ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ท่ีมาของภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต แลว้ ช่วยกนั สรุป 2. นกั เรียนอา่ นเรื่อง ลกั ษณะของภาษาบาลีสนั สกฤต หลกั เกณฑก์ ารใชต้ วั สะกดสาหรับคาบาลี หลกั เกณฑก์ ารใชต้ วั สะกดสาหรับคาสันสกฤตในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลกั การใช้ ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 3. ครูติดแผนภมู ิพยญั ชนะบาลีและสนั สกฤตบนกระดาน ครูอธิบายเร่ือง ลกั ษณะและหลกั เกณฑ์ การใชต้ วั สะกดสาหรับคาบาลีและคาสันสกฤตประกอบการซกั ถามนกั เรียนจนเขา้ ใจ 4. ครูให้นักเรียนเล่นเกมจาแนกคาศพั ท์ โดยครูแจกชุดคาศพั ท์กลุ่มละ 1 ชุด ในแต่ละชุดจะมี คาศพั ท์ภาษาบาลีและสันสกฤตท่ีเป็ นลกั ษณะเฉพาะ ไม่เลือกที่ใช้ร่วมกนั ได้ ให้แต่ละกลุ่ม เลือก วา่ คาใดเป็น ภาษาบาลี คาใดเป็นภาษาสันสกฤต ภายในเวลาท่ีกาหนด กลุ่มใดเสร็จให้ ยกมือ เม่ือเสร็จครบทุกกลุ่มแลว้ ครูเฉลยทีละคา พร้อมบอกเหตุผล เสร็จแลว้ นบั คะแนน กลุ่ม ท่ีไดค้ ะแนนมากท่ีสุดเป็นผชู้ นะ ไดร้ ับรางวลั จากครู ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเก่ียวกบั ภาษาบาลีและภาษาสนั สกฤต แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ศึกษาเพมิ่ เติมเก่ียวกบั การนาภาษาบาลีสนั สกฤตมาใชใ้ นภาษาไทย จาก แหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ แลว้ สรุปส่งครู 3. นกั เรียนรวบรวมคาภาษาบาลีภาษาสันสกฤตจากแหล่งต่าง ๆ ทาเป็นพจนานุกรมเลม่ เล็กส่งครู 4. ครูต้งั ประเด็น ภาษาบาลีและภาษาสนั สกฤตมีอิทธิพลต่อภาษาไทยอยา่ งไร มีส่วนทาให้ ภาษาไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไรบา้ ง นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นอยา่ งอิสระ และ สรุปเป็ นความคิดเห็นของกลุ่ม ข้นั ที่ 4 นาไปใช้
82 1. นกั เรียนนาความรู้ภาษาบาลีสันสกฤตไปใชใ้ นการเรียนหรือในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ กู ตอ้ ง 2. เมื่ออ่านวรรณคดี ข่าว บทความ ท่ีมีภาษาบาลีสันสกฤตปะปนอยู่ด้วยสามารถเข้าใจ ความหมายได้ ข้นั ท่ี 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะ หลกั เกณฑก์ ารใชต้ วั สะกด และวิธีการนาคาภาษาบาลีสันสกฤตมาใช้ ในภาษาไทย แลว้ บนั ทึกลงสมุด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนทาตารางรวบรวมคาภาษาบาลีภาษาสนั สกฤต และคาท่ีใชร้ ่วมกนั ระหวา่ งภาษาบาลีและ ภาษาสนั สกฤต นาขอ้ มูลมาจดั ป้ายนิเทศหนา้ ช้นั เรียน 2. นกั เรียนศึกษาลกั ษณะของภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตจากพระภิกษุสงฆ์ หรือเชิญพระภิกษุ สงฆม์ าเป็นวทิ ยากรใหค้ วามรู้เรื่องภาษาบาลีและภาษาสนั สกฤต 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. แผนภมู ิพยญั ชนะบาลีและสนั สกฤต 3. ชุดคา 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
83 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 22 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 ภาษาองั กฤษ – ภาษาจีน ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง รหสั วิชา ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย เร่ือง ภาษาองั กฤษ – ภาษาจีน 1. สาระสาคญั ภาษาองั กฤษ เป็ นภาษาหน่ึงที่เรายืมมาใชใ้ นภาษาไทยเป็ นจานวนมาก เรายืมท้งั คา สานวนภาษา และโครงสร้างประโยคมาใช้ จนทาให้เกิดความสับสนข้ึนในภาษาไทยและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ ภาษาไทยเป็ นอย่างมาก จึงควรใช้คาที่จาเป็ นเพ่ือรักษาเอกลกั ษณ์ของภาษาไทยเอาไว้ ส่วนภาษาจีนเป็ น ภาษาหน่ึงที่ไทยรับมาใช้จานวนมากเช่นกนั ท้งั น้ีเพราะคนจีนเขา้ มาทามาหากินในประเทศไทย จึงมีการ แลกเปล่ียนภาษากนั คาภาษาจีนส่วนมากไทยนามาดดั แปลงเพื่อใหเ้ หมาะสมกบั การออกเสียงในภาษาไทย ก่อนท่ีจะนามาใช้ 2. ตัวชี้วัดช้ันปี จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย ท 4.1 (ม.3/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกท่ีมาและลกั ษณะของคายมื ภาษาองั กฤษและภาษาจีนได้ (K) 2. ยกตวั อยา่ งคายมื ภาษาองั กฤษและภาษาจีนได้ (K , P) 3. เลือกใชค้ าภาษาองั กฤษและภาษาจีนในการส่ือสารได้ (K , P) 4. ตระหนกั ในคุณคา่ ของการใชภ้ าษาไทยที่ถกู ตอ้ ง (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถาม 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1. ประเมินทกั ษะการอ่านสรุปความ แ ล ะก ารแ ส ด งค วาม รายบุคคลในดา้ นความสนใจและต้งั ใจ 2. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ คดิ เห็น เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกล่มุ 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่า ของภมู ิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ 1. ภาษาองั กฤษ
84 2. ภาษาจีน ศึกษาเรื่อง คายมื ภาษาองั กฤษและภาษาจีน เลน่ เกมต่อคา 6. แนวทางบูรณาการ จดั ป้ายนิเทศ ภาษาตา่ งประเทศ สุขศึกษาฯ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากบั นักเรียนว่า นอกจากภาษาเขมร ภาษาบาลี และภาษาสันสกฤตแลว้ เรายงั ยืมคา ภาษาใดเขา้ มาใชอ้ ีกบา้ ง 2. ครูติดบตั รคาบนกระดาน นกั เรียนช่วยกนั บอกวา่ เป็นคาที่มาจากภาษาใด เซ็นต์ โจ๊ก ซุป กก๊ ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนอ่านเร่ือง ภาษาองั กฤษและภาษาจีน ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลกั การใช้ ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 แลว้ ครูซกั ถามเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ 2. ครูแจกใบความรู้ เรื่อง ท่ีมาของคายืมภาษาองั กฤษและภาษาจีน ให้นกั เรียนอ่านและร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เน้ือความ 3. แบ่งนักเรียนออกเป็ น 2 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มศึกษาเพ่ิมเติมเร่ือง คายืมภาษาองั กฤษและคายืม ภาษาจีนกลุ่มละ 1 เร่ือง โดยเขา้ ห้องสมุดหรือสืบคน้ จากเว็บไซต์ นาขอ้ มูลมาอภิปรายและ สรุปเป็ นความคิดของกลุ่ม แลว้ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน ครูและเพื่อน ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ติชม 4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มยกตวั อย่างคายมื ท่ีกลุ่มรับผิดชอบให้ไดม้ ากท่ีสุดภายในเวลา 5 นาที เสร็จแล้วครูให้นักเรียนเล่นเกมต่อคา โดยครูเป็ นผูเ้ ริ่มยกตวั อย่างคา 1 คา เช่น ครูยกคาว่า การ์ด นักเรียนกลุ่มท่ี 1 (รับผิดชอบภาษาจีน) ยกคาว่า เข่ง (ครูและเพื่อนตรวจสอบความ ถูกตอ้ ง) นกั เรียนกลุ่มท่ี 2 ยกฟิ ลม์ สลบั กนั ไปเรื่อย ๆ กลุ่มใดตอบชา้ เลยเวลาท่ีครูกาหนดให้ ปรับแพ้ เม่ือเลน่ เสร็จใหน้ บั คะแนนกลมุ่ ที่ไดค้ ะแนนมากที่สุดเป็นผชู้ นะ 5. ครูเขียนคาทุกคาที่นักเรียนยกตัวอย่างจากการเล่นเกม ให้ทุกคนคัดลอก แล้วอธิบาย ความหมาย และแต่งประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง ส่งครู ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเก่ียวกบั ภาษาองั กฤษและภาษาจีน แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 2. นักเรียนแต่ละคนรวบรวมคาศพั ท์ภาษาองั กฤษและภาษาจีน โดยแยกเป็ นหมวดหมู่ เช่น ผกั ผลไม้ เคร่ืองใช้ ช่ืออาหาร อธิบายความหมายคาศพั ทแ์ ต่ละคา ทาเป็นสมดุ คาศพั ท์
85 3. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการใช้ภาษาอังกฤษในภาษาไทยปัจจุบันมีส่วนทาให้ ภาษาไทยวิบตั ิจริงหรือไม่ แลว้ ร่วมกนั สรุป ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนใชภ้ าษาองั กฤษและภาษาจีนไดถ้ กู ตอ้ งตามความหมายและใชเ้ ท่าท่ีจาเป็น 2. นกั เรียนนาความรู้เก่ียวกบั ภาษาองั กฤษและภาษาจีนไปใชใ้ นการเรียนชีวติ และในประจาวนั ข้นั ที่ 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะของภาษาองั กฤษและภาษาจีน แลว้ บนั ทึกลงในสมุด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนศึกษาภาษาจีนจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ แลว้ ช่วยกนั สรุปนาขอ้ มลู มาจดั ป้ายนิเทศ 2. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในภาษาไทยของวยั รุ่นในปัจจุบนั พร้อมหา แนวทางในการแกไ้ ข และอนุรักษภ์ าษาไทย 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ เรื่อง ท่ีมาของคาภาษาองั กฤษและภาษาจีน 2. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
86 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 ภาษาชวา – มลายู และภาษาอื่น ๆ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง รหสั วชิ า ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย เรื่อง ภาษาชวา – มลายู และภาษาอ่ืน ๆ 1. สาระสาคญั ภาษาชวา – มลายู เขา้ มาปะปนในภาษาไทยต้งั แต่สมยั อยุธยา ปัจจุบนั คาภาษามลายยู งั มีใชอ้ ยู่ ใน 3 จงั หวดั ชายแดนภาคใตข้ องไทย ไทยเรารับคาภาษาอ่ืน ๆ มาใชใ้ นภาษาไทยเป็นจานวนมาก เช่น ภาษาญ่ีป่ ุน เกาหลี ฝรั่งเศส โดยรับผ่านวฒั นธรรมหรือ เทคโนโลยตี ่าง ๆ ที่รับเขา้ มา มีผลทาใหม้ ีคาใช้ ในภาษาไทยมากข้ึน 2. ตัวชี้วัดช้ันปี จาแนกและใชค้ าภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย ท 4.1 (ม.3/1) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกที่มาและลกั ษณะของคายมื ภาษาชวา – มลายไู ด้ (K) 2. ยกตวั อยา่ งคายมื ภาษาชวา – มลายแู ละภาษาอ่ืน ๆ ได้ (K , P) 3. เลือกใชค้ าภาษาชวา – มลายแู ละภาษาอ่ืน ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง (K , P) 4. ตระหนกั ในคุณคา่ ของการใชภ้ าษาไทยท่ีถกู ตอ้ ง (A) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1.ประเมินทกั ษะการอา่ นสรุปความ การแสดงความคิดเห็น รายบุคคลในดา้ นความสนใจและต้งั ใจ 2.ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม 3.ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด ความมีระเบียบวินยั ในการทางาน ฯลฯ 4.ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่า ของภูมิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ ภาษาชวา – มลายู และภาษาอ่ืน ๆ 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาเร่ือง อาเซียนศึกษาในดา้ นภาษาและวรรณกรรมของ สงั คมศึกษาฯ
87 ภาษาตา่ งประเทศ ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเมียนมา ศึกษาเรื่อง ภาษาชวา–มลายแู ละภาษาอ่ืน ๆ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูติดบทร้อยกรองบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นและบอกว่ามีคาภาษาใดบา้ ง พิกุลจะกรองอบุ ะหอ้ ย ลาดวนจะร้อยเป็นสร้อยใส่ จะทาบุหงาราไป วางไวข้ า้ งท่ีไสยา 2. ครูเฉลยคาศพั ทจ์ ากบทร้อยกรอง แลว้ พดู โยงเขา้ เรื่องคาภาษาชวา – มลายู ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนศึกษาเร่ือง ภาษาชวา – มลายูและภาษาอื่น ๆ ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 แลว้ ครูซกั ถามเกี่ยวกบั เร่ืองที่อ่านตามแนวคาถาม ดงั น้ี 1) ไทยรับภาษาชวา – มลายมู าใชใ้ นภาษาไทยไดอ้ ยา่ งไร 2) วรรณคดีเร่ืองใดท่ีเก่ียวกบั ภาษาชวา – มลายู 3) ปัจจุบนั เรารับคาภาษาใดมาใชใ้ นภาษาไทยอีกบา้ ง รับมาเพราะสาเหตุใด 4) การเจริญกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยมี ีส่วนทาใหเ้ รารับภาษาต่างประเทศเขา้ มา ในภาษาไทย นกั เรียนเห็นดว้ ยหรือไม่ เพราะอะไร 2. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มจดั หมวดหมู่ของคาที่ครูแจกให้ถูกตอ้ ง โดยจดั เป็ น หมวดคาภาษาชวา – มลายู หมวดคาพม่า หมวดคาเปอร์เซีย หมวดคาภาษาญี่ป่ ุน หมวดคา ภาษาโปรตเุ กส หมวดคาภาษาฝรั่งเศส ตวั อย่างคา กะกงั โชเฟอร์ เพกา สุกียาก้ี กาละแม กะปิ ควิ ป่ิ นโต ปาร์เกต์ เลหลงั คาราเต้ กายาน กาหลา กุหนุง กาหยู กิโมโน บาทหลวง ยะลา กหุ ลาบ บุฟเฟต์ กะปิ ตนั คูหา กงสุล ฮาราคิรี ลิตร ส่วย ยโู ด บหุ ลนั ซูโม่ หลา เหรียญ แอหนงั ป้ันเหน่ง จวน คกุ ก้ี 3. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ จากน้ันนกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั หาความหมายของแต่ ละคาเขียนอธิบายความหมายและแต่งประโยคประกอบ ส่งครู ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั ภาษาชวา – มลายแู ละภาษาอื่น ๆ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ
88 2. ครูเลือกบทละครเรื่อง อิเหนาตอนใดตอนหน่ึงหรือท้งั เร่ือง ให้นกั เรียนหาคาศพั ทภ์ าษาชวา – มลายจู าก เน้ือเรื่อง อธิบายความหมาย ทาเป็นสมดุ คาศพั ท์ ภาษาชวา – มลายู ส่งครู 3. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศที่เรารับเขา้ มาใช้ในภาษาไทย ปัจจุบนั เราควรจะรับเขา้ มาอยา่ งไรเพ่ือเป็นการอนุรักษภ์ าษาไทย 4. นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติมเก่ียวกบั ภาษาชวา – มลายูจากแหล่งเรียนรู้หรือเวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ นาความรู้ มาร่วมแสดงความคดิ เห็นในช้นั เรียน ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นักเรียนนาความรู้เก่ียวกบั ภาษาชวา – มลายูและภาษาอื่น ๆ ไปใช้ในการเรียนและในชีวิต ประจาวนั 2. นกั เรียนอา่ นขอ้ ความท่ีมีภาษาชวา – มลายปู ะปนอยดู่ ว้ ยอย่างเขา้ ใจความหมาย ข้นั ที่ 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปลกั ษณะของภาษาชวา – มลายู และภาษาอ่ืน ๆ แลว้ บนั ทึกลงในสมดุ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนศึกษาเรื่องอาเซียนศึกษาในดา้ นภาษาและวรรณกรรมประกอบการเรียนเร่ืองภาษาชวา มลายู และภาษาพม่า 2. นกั เรียนศึกษาหรือฟังแถบบนั ทึกเสียง ภาษาชวา – มลายู หรือภาษายาวีวา่ มีลกั ษณะเหมือนกนั หรือไม่อยา่ งไร 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. บทร้อยกรอง 2. ตวั อยา่ งคา 3. บทละครเร่ือง อิเหนา 4. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
89 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 คาทับศัพท์ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ช่ัวโมง รหสั วิชา ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย เร่ือง คาทับศัพท์ 1. สาระสาคัญ การทบั ศพั ท์ เป็ นการยืมคาจากภาษาหน่ึงมาใชใ้ นอีกภาษาหน่ึง โดยการถ่ายเสียงและถอดอกั ษร สาหรับในภาษาไทยน้นั จะถ่ายสียงคาศพั ทจ์ ากเจา้ ของภาษาเดิม แลว้ นามาปรับให้เขา้ กบั ลกั ษณะการออก เสียงของภาษาไทย 2. ตวั ชีว้ ัดช้ันปี ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ ท 4.1 (ม.3/4) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะของคาทบั ศพั ทแ์ ละหลกั เกณฑก์ ารทบั ศพั ทภ์ าษาองั กฤษได้ (K) 2. ยกตวั อยา่ งคาทบั ศพั ทภ์ าษาองั กฤษไดถ้ ูกตอ้ ง (K , P) 3. เลือกใชค้ าทบั ศพั ทใ์ นการส่ือสารไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั ภาษาไทย (K , P) 4. ตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการใชภ้ าษาไทยไดถ้ กู ตอ้ ง (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สงั เกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1. ประเมินทกั ษะการอ่านสรุปความ การแสดงความคดิ เห็น รายบุคคลในด้านความสนใจและต้งั ใจ 2. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม 2. ประเมินความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่า ของภูมิปัญญาทางภาษา 5. สาระการเรียนรู้ คาทบั ศพั ท์ ศึกษาคาศพั ทใ์ นกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ศึกษาคาศพั ทใ์ นกลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และ 6. แนวทางบูรณาการ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศึกษาฯ
ภาษาตา่ งประเทศ 90 ศิลปะ สุขศึกษาฯ วฒั นธรรม การงานอาชีพฯ ศึกษาหลกั เกณฑก์ ารทบั ศพั ทภ์ าษาองั กฤษและภาษาอ่ืน ๆ ศึกษาคาศพั ทใ์ นกลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ ศึกษาคาศพั ทใ์ นกลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ศึกษาคาศพั ทใ์ นกลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ เทคโนโลยี 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูติดบตั รคาภาษาองั กฤษบนกระดานดา ใหน้ กั เรียนอ่านและบอกคาศพั ทท์ ่ีเป็นภาษาไทย Broccoli Ice-cream shopping Corruption 2. คนรกั ูใเรหีย้นนักชเ่วรียยกนนัอeตาสรIวาcสจสมอคั บรคอวอากมมถาูกเขตียอ้ นงคาทบั ศพั ท์ ภาษาไทยคนละ 1 คา บนกระดาน ครูและ ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรียนอ่านหลกั เกณฑก์ ารทบั ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หลกั การใช้ ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 แล้วเปรียบเทียบกบั คาท่ีเพ่ือนเขียนบนกระดานว่าถูกตอ้ ง หรือไม่ 2. ครูให้นักเรียนเปิ ดเว็บไซต์ของราชบัณฑิตยสถาน ศึกษาเก่ียวกับหลักเกณฑ์การทับศัพท์ ภาษาองั กฤษอย่างละเอียด แลว้ ซักถามครูเก่ียวกับส่ิงที่สงสัยหรือไม่เข้าใจความหมาย ครู อธิบายเพิ่มเติมจนนกั เรียนเขา้ ใจ 3. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ครูแจกชุดคาให้นักเรียนกลุ่มละ 1 ชุด ซ่ึงประกอบด้วยคา ภาษาองั กฤษ ดงั น้ี sorry diet game gear shock bazaar zone view jacket tennis happy gown gas course form battery jeans microphone microwave palm 4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ เขียนคาทบั ศพั ทภ์ าษาไทยแต่ละคาให้เสร็จภายในเวลาท่ีครูกาหนด แลว้ ครู ใหน้ กั เรียนผลดั กนั เฉลยกลุ่มละ 1 คา ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 4 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั คาทบั ศพั ท์ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั หลกั เกณฑก์ ารทบั ศพั ทภ์ าษาองั กฤษวา่ มีความเป็น สากลมากนอ้ ยเพยี งใด
91 3. นกั เรียนรวบรวมคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีใช้ในภาษาไทยให้ไดม้ ากท่ีสุด นามาเขียนเป็ นคาทบั ศพั ทต์ ามหลกั เกณฑก์ ารทบั ศพั ท์ ส่งครู 4. นกั เรียนศึกษาคาศพั ท์ที่เรียนในช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่อไปน้ี แลว้ นามา เขยี นเป็นคาทบั ศพั ทใ์ หถ้ ูกตอ้ ง ทาเป็นรายงานส่งครู 1) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ 2) กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 3) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา 4) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 5) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนนาความรู้เก่ียวกบั คาทบั ศพั ทไ์ ปใชใ้ นการเรียนและในชีวิตประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 2. นกั เรียนออกเสียงพูดหรือเขยี นคาทบั ศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การ ข้นั ท่ี 5 สรุป นกั เรียนร่วมกนั สรุปหลกั เกณฑก์ ารทบั ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ แลว้ บนั ทึกลงในสมุด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนศึกษาหลกั เกณฑก์ ารทบั ศพั ทภ์ าษาอื่น ๆ เพม่ิ เติมไดจ้ ากเวบ็ ไซตข์ องราชบณั ฑิตยสถาน 2. นกั เรียนฝึกเขยี นคาทบั ศพั ทภ์ าษาองั กฤษใหถ้ กู ตอ้ งและแนะนาเพ่ือนให้เขียนใหถ้ กู ตอ้ งเพ่ือเป็น การอนุรักษภ์ าษาไทย 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. เวบ็ ไซตร์ าชบณั ฑิตยสถาน 3. ชุดคา 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน หลกั การใชภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 10. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138