การลาดตระเวนต�ำบลท่ีวางสนามทุ่นระเบิด (MINEFIELD SITE เหล่าทหารช่าง 91 RECONNAISSANCE) การท�ำแผนการใช้สนามทุ่นระเบิด ต้องท�ำข้อพิจารณาโดยอาศัยแผนท่ีและ การตีความจากภาพถ่ายและภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งจะสามารถก�ำหนดความกว้าง ด้านหน้า และความลกึ ของสนามทุ่นระเบดิ เพ่ือเหตุผลท่ีจะใช้ในการประมาณการจำ� นวน ทุ่นระเบิด วัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ เพ่ือประกอบการทำ� แผนยุทธการและแผนการส่งกำ� ลังบ�ำรุง อย่างไรก็ตาม ในการท�ำแผนการใช้สนามทุ่นระเบิดให้สมบูรณ์ที่สุดน้ัน จะต้องกระท�ำทั้ง 2 อยา่ ง ประกอบกนั คอื จากแผนทแี่ ละจากการลาดตระเวนทางพน้ื ดนิ หวั ขอ้ ในการรายงาน การลาดตระเวนทางพ้นื ดนิ ควรประกอบด้วยเรื่องดงั ต่อไปน้ี 1. ต�ำบลทีว่ างสนามทุ่นระเบดิ ท่ีแท้จริง 2. ทางเข้าสู่ต�ำบลท่ีวางสนามทุ่นระเบดิ โดยทางถนนและทางอากาศ ตำ� บล ทก่ี ลับรถ และตำ� บลทกี่ องทุ่นระเบดิ และสมั ภาระ 3. สถานการณ์ของข้าศึกจะมีผลต่อการวางทุ่นระเบิดและเส้นทางท่ีคาดว่า ข้าศกึ จะเคลอ่ื นทเ่ี ข้ามา 4. ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ สภาพดิน และธญั พชื ต่าง ๆ 5. บรเิ วณถนน รอยทางเกา่ และลกั ษณะของเครอ่ื งกดี ขวางธรรมชาตทิ ส่ี �ำคญั และเคร่อื งกดี ขวางที่สร้างข้นึ 6. บรเิ วณชายหาดและทล่ี ุยข้าม ความลกึ ของลำ� น�้ำ ความเรว็ ของกระแสน�้ำ สภาพพืน้ ท้องน้ำ� และจดุ ท่นี �้ำข้นึ สูงสุด การประสานแผนการปฏิบัตติ ่าง ๆ (CO-ORDINATION OF PLAN) 1. แผนการถอนกำ� ลงั (PLAN OF WITHDRAWAL) ในการยทุ ธแบบตง้ั รบั และการร่นถอยตามปกติ หน่วยระวังป้องกันจะวางกำ� ลังอยู่ในพ้ืนที่ข้างหน้าของขอบหน้า ที่มั่นใหญ่ (FEBA.) แผนการถอนก�ำลังทั้งหลายจะต้องมีการประสานกันอย่างใกล้ชิดกับ การท�ำแผนการใช้สนามทุ่นระเบิด แผนการก�ำหนดช่องทางผ่านและช่องว่างของสนาม ทุ่นระเบิด และการก�ำหนดการปิดช่องทางผ่าน แผนการใช้สนามทุ่นระเบิดรบกวนและ ทุ่นระเบดิ ดักยานพาหนะตามเส้นทาง (OFF-ROUTE MINES)
92 เหลา่ ทหารชา่ ง 2. แผนการลาดตระเวน (PARTROL PLAN) การประสานงานมคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ เพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หห้ นว่ ยลาดตระเวนฝา่ ยเดยี วกนั ไดร้ บั อนั ตราย เนอ่ื งจากไมท่ ราบวา่ เป็นสนามทุ่นระเบิด ข้อก�ำหนดในการประสานดังกล่าวกระท�ำโดยการท�ำเครื่องหมาย ท่ีไม่เด่นชัดนัก ส�ำหรับเป็นช่องทางผ่าน การลาดตระเวนในพื้นท่ีข้างหน้าสนามทุ่นระเบิด การเปลี่ยนที่ตั้งของทางผ่านสนามทุ่นระเบิดตามระยะเวลา เพื่อป้องกันการซุ่มโจมตีของ หน่วยลาดตระเวนของข้าศกึ 3. แผนการยงิ (FIRE PLAN) แผนการยิงปืนใหญ่ และแผนการยิงกระสนุ วิถีโค้งป้องกันข้ันสุดท้าย และแผนการยิงอาวุธอัตโนมัติป้องกันข้ันสุดท้าย ควรได้รับการ พิจารณาประกอบแผนการเลือกต�ำบลที่วางทุ่นระเบิด ซึ่งจะต้องด�ำเนินการประสานงาน เท่าท่ีจ�ำเป็น 4. แผนการส่งก�ำลังบ�ำรุง (LOGISTICAL PLAN) ขีดความสามารถและ อ�ำนาจของผู้บังคับบัญชาในการสั่งใช้ทุ่นระเบิดในทันที แผนการขยายสนามทุ่นระเบิด ในอนาคต และเวลาที่ต้องใช้ในการวางสนามทุ่นระเบิดให้สมบูรณ์ มีผลขึ้นอยู่กับ การสนับสนุนทางการส่งก�ำลังบ�ำรุงท่ีมีอยู่ ความต่อเน่ืองในการปฏิบัติ จ�ำนวนและต�ำบล ทเี่ กบ็ สง่ิ อปุ กรณ์ การขนสง่ ทมี่ อี ยู่ ลำ� ดบั ความเรง่ ดว่ นในการขนสง่ สป.5 ตามความตอ้ งการ ทางยุทธวิธีและวัสดุป้อมสนาม ต้องน�ำมาเป็นข้อพิจารณาด้วย เหตุนี้แผนการใช้สนาม ทุ่นระเบดิ ต้องประสานกันอย่างรอบคอบกับแผนการส่งก�ำลงั บำ� รงุ 5. แผนการตีโต้ตอบ (COUNTERATTACK PLAN) แผนการใช้สนาม ทนุ่ ระเบดิ ตอ้ งไดป้ ระสานแลว้ กบั แผนการตโี ตต้ อบ แผนการปฏบิ ตั กิ ารตา่ ง ๆ ผบู้ งั คบั บญั ชา ชน้ั เหนอื ยอ่ มทราบดแี ละสามารถจะพจิ ารณาไดว้ า่ จะใชท้ นุ่ ระเบดิ ใหเ้ กดิ ผลดแี ละสนบั สนนุ การด�ำเนินกลยุทธ์เป็นไปตามเป้าหมายอย่างไร ความกว้างของช่องว่างสนามทุ่นระเบิด ที่เพียงพอส�ำหรับหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์เข้าตีโต้ตอบต้องก�ำหนดไว้ในแผนการใช้สนาม ทุ่นระเบดิ รวมท้งั แผนการปิดช่องว่างหรอื กดี ขวางการใช้ช่องว่างสนามทุ่นระเบิด ในกรณี ทีข่ ้าศกึ ท�ำการตีเจาะ 6. แผนของหน่วยขา้ งเคยี ง (PLANS OF ADJACENT UNITS) การประสานกับหน่วยข้างเคียงเกี่ยวกับการวางแผนการใช้สนามทุ่นระเบิด เป็นความจ�ำเป็นอย่างยง่ิ เพอื่
6.1 ทราบตำ� บลรอยตอ่ (TIE-IN) และแนวสนามทนุ่ ระเบดิ ทข่ี งึ พาดผา่ นทางปกี เหล่าทหารช่าง 93 และตามจดุ จ�ำกัดต่าง ๆ 6.2 การยิงคุ้มครองและการลาดตระเวนตามเขตแนวของหน่วย 6.3 การปฏิบัติการยุทธตามแผนของหน่วย รวมท้ังการลาดตระเวน ทางพ้นื ดนิ ทางอากาศ การปฏบิ ัติการโต้ตอบ หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอ�ำนวยการ (RESPONSIBILITIES AND FUNCTIONS OF COMMAND AND STAFF) 1. นายทหารฝ่ายยุทธการ เป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงานและ การท�ำแผนการใช้สนามทุ่นระเบิด ตามแนวนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยการวางแผน และประสานงานร่วมกับนายทหารฝ่ายส่งก�ำลังบ�ำรุง นายทหารฝ่ายการข่าว นายทหาร ฝ่ายกิจการพลเรอื น นายทหารประสานการยงิ สนับสนนุ นายทหารเคมี และนายทหารช่าง ฝ่ายอำ� นวยการ (ผู้บงั คบั ทหารช่าง) 2. การควบคมุ การปฏบิ ตั กิ าร ควรกระทำ� ในลกั ษณะรวมการทต่ี อนยทุ ธการ ผู้บังคับทหารช่างจะต้องปฏิบัติงานท่ีศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี (TOC) เพ่ือด�ำเนินการ ในเร่ืองเอกสารสนามทุ่นระเบิดทั้งทางฝ่ายเดียวกันและฝ่ายข้าศึก ความถูกต้องแน่นอน การปรับปรุงให้ทันสมัย รวมทั้งข่าวสารเก่ียวกับพื้นที่ที่ใช้สนามทุ่นระเบิด การเจาะช่อง หรือการกวาดล้าง ศูนย์ปฏบิ ตั ิการบนั ทึกเรื่องราวเกีย่ วกบั สนามทุ่นระเบิด จะต้องม่นั ใจว่า หน่วยท่เี กี่ยวข้องทกุ หน่วยได้ทราบพน้ื ท่ที ่ีมีการวางสนามทุ่นระเบดิ โดยทั่วถงึ แล้ว 3. การปฏิบตั ิ 3.1 ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ให้แนวทาง และแนวความคิดในการปฏิบัติ แก่ฝ่ายอ�ำนวยการตามภารกิจที่ได้รับมอบจากหน่วยเหนือในเรื่องการใช้สนามทุ่นระเบิด การวางแผนเพอ่ื ใหฝ้ า่ ยอำ� นวยการไดเ้ ตรยี มการประสานงานและทำ� แผนแตเ่ นนิ่ มกั ปรากฏ อยเู่ สมอทฝี่ า่ ยอำ� นวยการจะทำ� ประมาณการความตอ้ งการทนุ่ ระเบดิ ชนดิ ตา่ ง ๆ อยา่ งกวา้ ง ๆ เพื่อเป็นข้อมลู เบอ้ื งต้นในการเสนอความต้องการเครดติ ทุ่นระเบิด 3.2 การขยายสนามทนุ่ ระเบดิ เพอื่ การปฏบิ ตั กิ ารในอนาคต จะตอ้ งพจิ ารณา ไปพร้อมกับการทำ� แผนการใช้สนามทุ่นระเบิดในปัจจบุ ันด้วย
94 เหลา่ ทหารชา่ ง 3.3 เวลาท่ีต้องใช้เก่ียวกับการเบิกรับทุ่นระเบิด การวางสนามทุ่นระเบิด การเสนอความต้องการ สป.5 และวสั ดปุ ้อมสนาม ต้องเสนอเป็นความต้องการทางยทุ ธวธิ ี ล�ำดบั ความเร่งด่วนสงู การสร้างสนามทุ่นระเบดิ เป็นฉากขัดขวางภายในหรือข้างหลังพนื้ ที่ ปฏิบัติการต้ังรับ จะต้องประสานรายละเอียดเกี่ยวกับต�ำบลท่ีต้ังปืนใหญ่ ที่ม่ันส�ำรอง ทเ่ี ตรยี มไว้ พ้นื ทีร่ วมพล และแผนการตโี ต้ตอบ 4. การสง่ ก�ำลังบำ� รงุ 4.1 จะต้องทราบจ�ำนวนและชนิดของทุ่นระเบิดที่มีอยู่ในคลังหรือ หน่วยต่าง ๆ ครอบครองอยู่เพื่อท่ีจะได้ใช้เป็นข้อมูลให้กับผู้บังคับบัญชา ในการประเมิน ขดี ความสามารถ และทำ� ข้อตกลงใจในการใช้สนามทุ่นระเบิด 4.2 การปฏบิ ตั กิ ารสงครามทนุ่ ระเบดิ ทตี่ อ้ งใชท้ นุ่ ระเบดิ และคลงั สง่ิ อปุ กรณ์ ปอ้ มสนามจำ� นวนมาก ๆ จำ� เปน็ จะตอ้ งพจิ ารณาถงึ แหลง่ สง่ ก�ำลงั บำ� รงุ เพอื่ ใหก้ ารสนบั สนนุ และจำ� นวนทมี่ เี กบ็ อยใู่ นคลงั การกำ� หนดเครดติ ทนุ่ ระเบดิ ทงั้ นเ้ี พอ่ื ใหท้ ราบขดี ความสามารถ ในการวางสนามทุ่นระเบิดของหน่วยได้โดยแน่นอน ตลอดท้ังเครื่องมือในการยกขน และ ยานพาหนะในการลำ� เลียงขนส่งท่ตี ้องการและทมี่ อี ยู่ 5. การขา่ วกรอง 5.1 ข่าวกรองขั้นต้น ช่วยในการประเมินขีดความสามารถของฝ่ายข้าศึก และทราบหนทางปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ ไปได้ และใชเ้ ปน็ เครอื่ งพจิ ารณาลำ� ดบั ความเรง่ ดว่ นของพน้ื ที่ ทีจ่ ะวางทุ่นระเบดิ การก�ำหนดความแน่นและชนดิ ของทุ่นระเบิดท่จี ะใช้ 5.2 ข่าวกรองทางเทคนิค ที่สามารถประเมินค่าและทราบข้อมูลเกี่ยวกับ เครอื่ งมอื และวสั ดอุ ปุ กรณท์ างฝา่ ยขา้ ศกึ ขดี ความสามารถในการใชง้ านและประสทิ ธภิ าพ ในการตอ่ ตา้ นขา่ วกรองทางเทคนคิ ดงั กลา่ วนี้ ตอ้ งการความรวดเรว็ ในการกระจายขา่ วกรอง ตลอดจนข่าวการบงั ดับบัญชา 5.3 ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือ และเทคนิคในการเจาะช่องสนามทุ่นระเบิด ของขา้ ศกึ ผบู้ งั คบั บญั ชาและฝา่ ยอำ� นวยการตอ้ งใหค้ วามสนใจเปน็ พเิ ศษ ซง่ึ เปรยี บเสมอื น เป็นยทุ ธวธิ ีของข้าศึก 6. การยิงสนับสนุน สนามทุ่นระเบิดป้องกันตน สนามทุ่นระเบิดยุทธวิธี สนามทุ่นระเบดิ เฉพาะต�ำบล และสนามทุ่นระเบิดลวงบางแบบ ตามปกติจะมกี ารคุ้มครอง ด้วยการยงิ สนับสนนุ “การยิงสนบั สนุน และความต้องการสร้างสนามทุ่นระเบิด ใช้เชือ่ ม
ต่อกับแนวเครื่องกีดขวางธรรมชาติ” ท้ัง 2 ประการนี้ เป็นปัจจัยที่จ�ำเป็นอย่างย่ิงในการ เหล่าทหารช่าง 95 ทีจ่ ะนำ� มาพิจารณาเลอื กและก�ำหนดตำ� บลทว่ี างสนามทุ่นระเบดิ ผู้บงั คับทหารชา่ ง (THE STAFF ENGINEER) ผู้บังคับทหารช่าง เป็นหัวหน้าที่ปรึกษาทางเทคนิคของผู้บังคับบัญชาในเรื่อง การปฏิบตั ิการสงครามทุ่นระเบดิ โดยมีหน้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบ ดังน้ี 1. การก�ำหนดความต้องการ (REQUIREMENT) ผู้บงั คับทหารช่าง ต้อง จดั เตรยี มการ และจดั ทำ� ขอ้ มลู เกย่ี วกบั วสั ดอุ ปุ กรณท์ ต่ี อ้ งการ เวลาทจี่ ะตอ้ งใชว้ างภายหลงั จากทวี่ สั ดอุ ปุ กรณท์ ตี่ อ้ งการมอี ยคู่ รบแลว้ ขดี ความสามารถของหนว่ ยทหารชา่ งทจี่ ะใชว้ าง สนามทนุ่ ระเบดิ ผบู้ งั คบั ทหารชา่ ง เปน็ ผจู้ ดั ท�ำตารางขอ้ มลู ความกา้ วหนา้ ในการปฏบิ ตั งิ าน และความต้องการวัสดุอุปกรณ์ให้กับหน่วยต่าง ๆ โดยอาศัยหลักฐานจาก TM.5-301, TM.5-303 2. การทำ� ขอ้ พจิ ารณาภมู ปิ ระเทศ (TERRAIN STUDIES) ผบู้ งั คบั ทหารชา่ ง เป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดท�ำข้อพิจารณาภูมิประเทศร่วมกับนายทหารฝ่ายข่าวกรอง ทางการช่าง การวิเคราะห์ภูมิประเทศเพื่อการปฏิบัติการทางทหารโดยเฉพาะ การเตรียม ข้อเสนอแนะต�ำบลที่วางสนามทุ่นระเบิดชั่วคราว โดยอาศัยหลักการข้ันพื้นฐานจาก แผนการปฏบิ ตั ิของส่วนรวม 3. แผนการใช้สนามทุ่นระเบิด (MINEFIELD PLANS) เมื่อแผนสนาม ทุ่นระเบิดช่ัวคราวได้ประสานกับฝ่ายต่าง ๆ และอนุมัติแผนน้ันแล้ว ผู้บังคับทหารช่าง เป็นผู้จดั ท�ำรายละเอยี ดของแผนเพ่มิ เติม แผนดงั กล่าวนร้ี วมถงึ การเสนอและการพิจารณา ใช้หน่วยทหารช่างท�ำการวาง กว้างด้านหน้าและแนวสนามทุ่นระเบิด ลวดลายสนาม ทุ่นระเบดิ ทจี่ ะใช้วาง คำ� แนะน�ำในการวาง ชนดิ ของทุ่นระเบิดและชนวนของทุ่นระเบิดท่ีใช้ การใช้สนามทุ่นระเบดิ ลวง ตำ� บลทีก่ ำ� หนดเป็นช่องทางผ่านและช่องแคบ การจดั ตั้งตำ� บล ส่งก�ำลังโดยพจิ ารณาร่วมกบั นายทหารฝ่ายส่งก�ำลังบำ� รงุ 4. การก�ำกับดูแลทางเทคนิค (TECHNICAL SUPERVISION) ผู้บังคับ ทหารชา่ งจะทำ� หนา้ ทกี่ ำ� กบั ดแู ลทางเทคนคิ ผบู้ งั คบั ทหารชา่ งหรอื ผแู้ ทนทำ� การตรวจสนาม ทุ่นระเบิดทุกชนิดที่ใช้อยู่ ตลอดท้ังวิธีการทางเทคนิคให้เหมาะสมตรงตามนโยบายของ ผู้บงั คับบัญชาทว่ี างไว้
96 เหลา่ ทหารชา่ ง 5. การรายงานและการบันทึก (REPORTS AND RECORDS) แผนก ทหารช่างของหน่วยบัญชาการ อาจกำ� หนดให้เป็นหน่วยเก็บบันทึกสนามทุ่นระเบิด และ รายงานสนามทุ่นระเบิด งานดังกล่าวน้ีมิใช่เป็นการปลดเปลื้องความรับผิดชอบของ นายทหารฝา่ ยยทุ ธการ ซง่ึ ทำ� การควบคมุ เปน็ สว่ นรวม ในเรอื่ งเกยี่ วกบั การวางและการรอื้ ถอน เจา้ หนา้ ท่ี แผนกทหารชา่ งควรจดั ทำ� แผน่ บรวิ ารหรอื แผน่ สำ� เนา (OVER-PRINT) ของกจิ กรรม สงครามทุ่นระเบิด เพ่ือแจกจ่ายให้กับหน่วยต่าง ๆ ที่จะได้รับผลกระทบกระเทือนหรือ ผู้บงั คับบญั ชาท่สี นใจ ตลอดทง้ั หน่วยรอง หน่วยข้างเคยี งและหน่วยเหนอื 6. การตดิ ตอ่ และประสานงานกับหนว่ ยอืน่ ๆ (LIAISON AND CO-ORDI- NA¬TION) ผู้บังคับทหารช่าง สถาปนาการติดต่อและประสานงานกับหน่วยหรือสายงาน อื่น ๆ ดังน้ี 6.1 ฝา่ ยกจิ การพลเรอื น โดยแจง้ ใหท้ ราบถงึ แผน และการใชส้ นามทนุ่ ระเบดิ ให้ได้รับการพิจารณาร่วม ซ่ึงการปฏิบัติการทางกิจการพลเรือนอาจเป็นปัจจัยจำ� กัดท่ีอาจ เกดิ ขน้ึ ได้ 6.2 ฝ่ายกิจการส่งกำ� ลังบ�ำรุง โดยการประสานในเร่อื ง 6.2.1 สป.5 (ทุ่นระเบิดชนิดต่าง ๆ) ระดับคงคลัง (STOCK LEVELS) การจัดหา และความต้องการในอนาคต จะต้องประสานกับนายทหารฝ่ายกระสุน ฝ่ายข่าวกรองทางเทคนคิ เกี่ยวกบั การน�ำวัสดุอปุ กรณ์ทยี่ ึดได้จากข้าศึกมาใช้ใหม่ 6.2.2 การเสนอความตอ้ งการชดุ เสอื้ ผา้ สำ� หรบั สวมใสใ่ นการปฏบิ ตั กิ าร เจาะช่องสนามทุ่นระเบดิ เคมี 6.2.3 นายทหารยุทธการและนายทหารเคมี ในเร่ืองการจัดเตรียม ท�ำแผนการใช้ทุ่นระเบดิ เคมี ความรบั ผดิ ชอบของผบู้ งั คบั หนว่ ยทหารขนาดเลก็ (RESPONSIBILITIES OF THE SMALL UNIT COMMANDER) 1. ผู้บังคับหน่วย ควรจะต้องทราบว่าตนมีอ�ำนาจและหน้าท่ีในการสั่ง วางสนามทุ่นระเบิดได้เพียงใด และมีความรับผิดชอบอย่างไร เม่ือได้ท�ำการสร้างเสร็จ สมบรู ณ์แล้ว
2. ผบู้ งั คบั หนว่ ย จะตอ้ งดำ� รงสถานภาพทนุ่ ระเบดิ ในอตั ราขนั้ มลู ฐานของตนไว้ เหล่าทหารช่าง 97 ตลอดเวลา ถ้าอัตราข้ันมูลฐานไม่ได้อนุมัติให้มีไว้ จะต้องทราบว่าจะเบิกรับทุ่นระเบิด ทตี่ ้องการได้ทไ่ี หน และอย่างไร 3. ผู้บงั คบั หน่วย จะต้องมน่ั ใจว่าก�ำลังพลของตนมีความรู้ มีความสามารถ ในการใชท้ นุ่ ระเบดิ มาตรฐานทกุ แบบ ชนวนทนุ่ ระเบดิ และพลสุ อ่ งแสงชนดิ ตา่ ง ๆ เปน็ อยา่ งดี แล้ว โดยท�ำการตรวจและทำ� การฝึกการวางสนามทุ่นระเบิดอยู่เนอื ง ๆ 4. ผู้บังคับหน่วย ต้องให้ข่าวสาร ให้ความรู้เกี่ยวกับทุ่นระเบิดชนิดต่าง ๆ ของข้าศึกให้ทราบถึงวิธีต่าง ๆ จะต้องทราบว่าจะหาข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องทุ่นระเบิดตาม สายการข่าวกรองได้อย่างไร 5. ผบู้ งั คบั หนว่ ย ตอ้ งสง่ เสรมิ ใหม้ วี นิ ยั เกย่ี วกบั การใชท้ นุ่ ระเบดิ อยา่ งเขม้ งวด และกวดขนั เพื่อให้การจบั ถอื การวาง (ฝัง) การรื้อถอน และการบันทึก เป็นไปด้วยความ ถกู ต้อง เรยี บร้อย 6. ผู้บังคับหน่วย ต้องม่ันใจว่ากำ� ลังพลของตนได้รับการฝึก การปฏิบัติการ ดา้ นเคมี ตลอดทง้ั มาตรการในการปอ้ งกนั รวมถงึ การตรวจคน้ และการพสิ จู นท์ ราบสารเคมี ชนดิ ต่าง ๆ มาอย่างดแี ล้ว 7. ผู้บังคับหน่วย ต้องมั่นใจว่าก�ำลังพลของตนได้เรียนรู้ ได้ทราบถึงวิธีการ พิสูจน์ทราบทุ่นระเบิดเคมชี นิดต่าง ๆ ไว้ดีแล้ว การวางสนามทนุ่ ระเบิดมาตรฐาน กล่าวทั่วไป วิธีการวางสนามทุ่นระเบิดแบบมาตรฐานเป็นผลที่ได้จากบทเรียนในระหว่าง สงครามเกาหลี คอื ในระหวา่ งการท�ำสงครามมปี รากฏอยบู่ อ่ ย ๆ ทท่ี หารฝา่ ยสหประชาชาติ ได้ท�ำการวางสนามทุ่นระเบดิ โดยไม่ค�ำนงึ ถงึ แบบมาตรฐานในการวาง นอกจากนย้ี งั ไม่มี การรายงาน ไม่มกี ารบันทกึ และไม่มกี ารทำ� เครื่องหมายในพ้ืนท่ที ่วี างแต่อย่างใด ผลลพั ธ์ท่ี ตามมากค็ อื ทงั้ กำ� ลงั พลและยทุ โธปกรณไ์ ดร้ บั การสญู เสยี อนั เนอื่ งมาจากถกู ทนุ่ ระเบดิ ของ ฝ่ายเดียวกันมีอัตราสูงมาก ด้วยเหตุนี้เองจึงได้มีการถกแถลงเพ่ือก�ำหนดบทบาท และ สถาปนาหลกั นยิ มในการวางสนามทุ่นระเบดิ ข้ึนมาเมอ่ื พ.ศ. 2495 ที่ฟอร์ทเบลวัวร์ (FORT BELVOIR) และใช้เป็นแนวทางศกึ ษากนั มาจนถงึ ปัจจบุ นั น้ี
98 เหลา่ ทหารชา่ ง ประโยชน์ท่ีไดจ้ ากการวางสนามทนุ่ ระเบดิ แบบมาตรฐาน 1. มีประสทิ ธิภาพสงู มาก 2. ท�ำให้หน่วยท่ีท�ำการวาง สามารถประมาณการและเสนอความต้องการ ทางดา้ นการสง่ กำ� ลงั บำ� รงุ และจำ� นวนกำ� ลงั พลทจ่ี ะตอ้ งใชว้ างได้ กอ่ นทจี่ ะเรม่ิ ลงมอื ทำ� งาน ต่าง ๆ ได้ 3. ท�ำให้การควบคมุ และก�ำกับดูแลสนามทุ่นระเบดิ กระท�ำได้ดที ส่ี ุด 4. การรอ้ื ถอนมอี นั ตรายมาก ถ้าสนามทุ่นระเบดิ ได้ท�ำการวางไว้อย่างถูกต้อง 5. สนามทุ่นระเบิดมาตรฐานสามารถท�ำการปรับปรุงให้เป็นเครื่องกีดขวาง ขนาดใหญ่ได้ 6. ไม่ต้องให้เคร่ืองมือพิเศษใด ๆ ท�ำการวาง ถ้าหน่วยที่จะทำ� การวางมีเพียง เข็มทศิ พลว่ั สนาม และกำ� ลงั พลทม่ี คี วามรู้ความสามารถในการวาง กส็ ามารถทำ� การวาง สนามทุ่นระเบดิ ได้ 7. สามารถบนั ทึกรายละเอยี ดของทุ่นระเบิดได้ ข้อจำ� กัดของการวางสนามทนุ่ ระเบดิ แบบมาตรฐาน 1. ข้อจ�ำกัดประการส�ำคัญ ก็คือ ต้องใช้เวลามากและใช้ก�ำลังพลในการวาง เป็นจ�ำนวนมาก 2. ทำ� ให้การพรางตามธรรมชาตมิ ีจุดเสีย 3. หลักเกณฑ์ในการวางมีความยุ่งยากอยู่บ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการฝึก และมีความช�ำนาญในการวางอย่างเพยี งพอ คำ� จ�ำกดั ความคุณลกั ษณะและกฎเกณฑข์ องสนามทุ่นระเบดิ แบบมาตรฐาน สนามท่นุ ระเบดิ แบบมาตรฐาน กค็ อื สนามท่นุ ระเบดิ ทกี่ ำ� หนดให้ส่วนประกอบ ของสนามทนุ่ ระเบดิ ตอ้ งมแี ถบนอกไมม่ รี ะเบยี บ (IRREGULAR OUTER EDGE-IOE) 1 แถบ และ แถบมีระเบยี บ (REGULAR LETTERED STRIPS) อย่างน้อย 3 แถบ 1. กว้างดา้ นหน้าสนามทุ่นระเบิด หมายถงึ ความยาวด้านหน้าของสนาม ทุ่นระเบิด โดยนับจากจุดทางขวาสุดของแนวสนามทุ่นระเบิด มายังจุดซ้ายสุดของแนว สนามทนุ่ ระเบดิ ตามปกตคิ วามกวา้ งดา้ นหนา้ ของสนามทนุ่ ระเบดิ จะกำ� หนดเปน็ เมตรเสมอ
2. แถบนอกไมม่ รี ะเบยี บ (IRREGULAR OUTER EDGE) เหล่าทหารช่าง 99 แถบนอกไมม่ รี ะเบยี บ (IOE.) ในบางครง้ั กเ็ รยี กแถบไมม่ รี ะเบยี บ (IRREGULAR STRIP) วางไว้ เพอ่ื ทำ� ใหฝ้ า่ ยขา้ ศกึ เกดิ ความยงุ่ ยากสบั สนในเรอื่ งแบบและลวดลายในการวาง และแถบมรี ะเบยี บก็วางถดั ต่อมา การใช้แถบไม่มีระเบียบ (IOE.) จำ� นวนมาก ๆ ย่อมข้ึนอยู่ กบั จำ� นวนเวลาและภมู ปิ ระเทศทที่ ำ� การวาง แถบไม่มรี ะเบยี บ (IOE.) ประกอบด้วยเส้นฐาน (BASE LINE) และเส้นแยก (แถบส้ัน ๆ) (SHORT STRIPS) อีกหลายเส้น ซ่ึงต่อออกจาก เส้นฐานท�ำให้เกิดมมุ (TURN POINT) แถบไม่มีระเบียบ จะเรมิ่ จากจุด IOE.1 ไปสดุ ทจ่ี ุด IOE.2 ทิศทางในการวางจะเรม่ิ จาก IOE.1 ไปท่ีจดุ ต่อของเส้นแยก กำ� หนดเป็นเครื่องหมาย เรยี งลำ� ดบั โดยเรมิ่ ตงั้ แต่ I1, I2 ไปตามลำ� ดบั จดุ จบของเสน้ แยก กำ� หนดตวั อกั ษรตามอกั ษร จากจุดแรก เช่น I1 I1E, I2-I2E เป็นต้น จ�ำนวนกลุ่มทุ่นระเบิดที่จะวางในแต่ละแถบน้ี อาจไม่แน่นอน กลุ่มทุ่นระเบดิ เหล่านบี้ างกลุ่มอาจจะละเว้นไปบ้างก็ได้ กลุ่มทุ่นระเบดิ ของ แต่ละแถบให้ก�ำหนดหมายเลขกลุ่มเรียงล�ำดับโดยให้กลุ่มที่อยู่ทางด้านข้าศึกเป็นเลขค่ี (ODD NUMBERS) ด้านมุมป้านและเลขคู่ (EVEN NUMBERS) ด้านมมุ แหลม ทางฝ่ายเรา กฎทว่ั ไปในการใช้จ�ำนวนกลุ่มทุ่นระเบิดของแถบไม่มีระเบยี บ (IOE., ถมร.) คือ 1 ใน 3 ของ จำ� นวนกลุ่มทุ่นระเบดิ ทง้ั หมดที่ใช้ในแถบมรี ะเบียบ 1 แถบ 3. แถบมีระเบียบ (REGULAR LETTERED STRIPS) สนามทุ่นระเบิดแบบมาตรฐานจะมีแถบมีระเบียบอย่างน้อยท่ีสุด 3 แถบ โดยใหแ้ ถบ A เปน็ แถบนำ� ทอ่ี ยใู่ กลท้ างดา้ นขา้ ศกึ การวางกลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ ในแถบเหลา่ นี้ ปกติ จะวางจากดา้ นขวามายงั ดา้ นซา้ ย หรอื จะวางจากดา้ นซา้ ยมาทางดา้ นขวากไ็ ดแ้ ลว้ แตห่ นว่ ย ทที่ ำ� การวาง เพอื่ กำ� หนดแนวในการวางจดุ บรรจบ (END POINT) ของเสน้ แนวแถบมรี ะเบยี บ กำ� หนดด้วยอกั ษร A1 และ A2 หรอ B1 และ B2 การวางจะเรม่ิ ต้นท่จี ุด A1 เสมอ (หรอื B1, C1) และมาสดุ ท่จี ดุ A2 (หรือ B2, C2) ทกุ ๆ แถบมรี ะเบียบจะมีแถว (ROWS) ทุ่นระเบดิ อยู่ 2 แถว แถวหน้า (แถวหมายเลข 1 หรอื แถวทางข้าศกึ ) เป็นแถวทอ่ี ยู่ใกล้ข้าศึกและขนานไป ตามแนวกง่ึ กลางของเส้นแถบ แถวหลัง (แถวหมายเลข 2 หรอื ด้านฝ่ายเดยี วกัน) ขนานไป ตามแนวกง่ึ กลางของเส้นแถบ จุดเริ่มต้น จดุ เล้ยี ว และจดุ สุดท้ายจะต้องทำ� เครอ่ื งหมายไว้ โดยใชเ้ สาไม้ หลกั สมอบก หรอื เสาเหลก็ หากใชพ้ วกทเ่ี ปน็ ไม้ ควรใชต้ ะปตู อกไวบ้ นหวั เสาดว้ ย เพ่อื สะดวกในการใช้เครอ่ื งตรวจค้นทุ่นระเบิดค้นหาในภายหลงั
100 เหลา่ ทหารชา่ ง ลักษณะรูปแบบของสนามทุน่ ระเบดิ แบบมาตรฐาน 4. ระยะหา่ งของแถบมรี ะเบยี บอยา่ งนอ้ ยทส่ี ดุ (MINIMUM DISTANCE) ระยะห่างของแถบมีระเบียบนับจากเส้นแนวก่ึงกลางอย่างน้อย 15 เมตร แถบมรี ะเบยี บแตล่ ะแถบไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งขนานกนั และอาจมจี ดุ เลย้ี ว (เปลยี่ นทศิ ทาง) หลายจดุ ก็ได้ แล้วแต่หน่วยท่วี างต้องการ ทัง้ น้ี เพ่ือสร้างความสบั สนให้กับฝ่ายข้าศึกเท่ียวกบั ตำ� บล ทวี่ างทนุ่ ระเบดิ และอกี อยา่ งหนง่ึ แถบสน้ั (IOE SHORT STRIPS) ซง่ึ เปน็ เส้นรศั มอี อกไปจาก เส้นหลักของ IOE จะไม่มจี ดุ เลี้ยวก็ได้ ระยะหา่ งของรว้ั เพอ่ื แสดงพนื้ ทส่ี นามทนุ่ ระเบดิ ระหวา่ งทนุ่ ระเบดิ ทนุ่ แรกในกลมุ่ ทุ่นระเบดิ ใด ๆ กับแนวร้ัวอย่างน้อยทีส่ ดุ จะต้องให้ห่าง 15 เมตรเสมอ
การกำ� หนดแถบของสนามท่นุ ระเบดิ แบบมาตรฐาน เหล่าทหารช่าง 101 5. หมดุ หลักฐาน สนามทนุ่ ระเบดิ มาตรฐาน จะตอ้ งมจี ดุ อา้ งหรอื ทเ่ี รยี กวา่ “หมดุ หลกั ฐานหลกั ” อย่างน้อย 2 แห่ง หมุดหลักฐานดังกล่าวจะต้องวางในภูมิประเทศที่สามารถมองเห็นได้ บนพื้นดิน จะต้องบันทึกระยะทางและมุมอาซิมุทจากหมุดหลักฐานไปยังที่หมายในแถบ สดุ ทา้ ยของสนามทนุ่ ระเบดิ สงิ่ ทใี่ ชเ้ ปน็ หมดุ หลกั ฐานหลกั อาจจะเปน็ วตั ถตุ ามธรรมชาตหิ รอื วัตถทุ ่สี ร้างขน้ึ แต่ต้องมลี กั ษณะถาวร เช่น ทางแยกของถนน ต้นไม้ใหญ่ มุมอาคาร ฯลฯ ซงึ่ สามารถทจ่ี ะคน้ หาไดโ้ ดยอาศยั พกิ ดั ของแผนทท่ี อ่ี า้ งถงึ นอกจากหมดุ หลกั ฐานหลกั แล้ว ในบางครง้ั จะตอ้ งใชห้ มดุ หลกั ฐานรายทางดว้ ย หลกั เกณฑท์ จี่ ะตอ้ งใชห้ มดุ หลกั ฐานรายทาง มดี งั นี้ 5.1 ระยะทางจากหมุดหลักฐานหลักไปยังท่ีหมายในแถบสุดท้ายของ สนามทุ่นระเบดิ ยาวเกนิ กว่า 200 เมตร 5.2 ระหว่างหมุดหลักฐานหลักกับที่หมายในแถบสุดท้ายของสนาม ทุ่นระเบดิ มเี ครอื่ งกดี ขวางบงั อยู่จนไม่สามารถมองเห็นได้
102 เหลา่ ทหารชา่ ง 6. กลมุ่ ทุน่ ระเบดิ (CLUSTERS) กลุ่มทุ่นระเบดิ เป็นหน่วยหลกั ของสนามทุ่นระเบิด คำ� ว่า “กลุ่มทุ่นระเบิด” (CLSUTERS) มคี วามหมายถงึ การวางทนุ่ ระเบดิ หลาย ๆ ทนุ่ รวมกนั เปน็ กลมุ่ หรอื ในบางกรณี กลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ นอี้ าจจะวางทนุ่ ระเบดิ เพยี งทนุ่ เดยี วกไ็ ด้ ทนุ่ ระเบดิ ทกุ ๆ ทนุ่ ในกลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ จะตอ้ งวางใหอ้ ยภู่ ายในพนื้ ทคี่ รง่ึ วงกลม รศั มี 2 เมตร แตล่ ะกลมุ่ จะมที นุ่ ระเบดิ ดกั รถถงั ไดเ้ พยี ง 1 ทุ่น เท่านน้ั ซง่ึ เรยี กว่าเป็นทุ่นระเบดิ หลกั จำ� นวนของทุ่นระเบดิ เมอ่ื รวมกบั ทุ่นระเบดิ หลกั แล้ว จะต้องไม่เกนิ จ�ำนวน 5 ทุ่นต่อหนง่ึ กลุ่มทุ่นระเบิด ในกรณีท่ไี ม่ได้ใช้ทุ่นระเบิดดกั รถถัง วางไวใ้ นกลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ ใหใ้ ชท้ นุ่ ระเบดิ สงั หารบคุ คล (ชนดิ โลหะ) วางเปน็ ทนุ่ ระเบดิ หลกั แทน ทนุ่ ระเบดิ ดกั รถถงั กไ็ ด้ วธิ กี ารวางทนุ่ ระเบดิ หลกั ใหว้ างขนานกบั เสน้ กงึ่ กลางแถบทนุ่ ระเบดิ โดยห่าง 3 เมตร แถวหลงั (แถวที่ 2) ก็วางขนานกับเส้นกง่ึ กลางแถบทุ่นระเบิด โดยห่าง 3 เมตร มาทางฝ่ายเดยี วกนั การวางกลุ่มทุ่นระเบดิ สรุปเป็นกฎเกณฑ์ได้ดงั นี้ คอื 6.1 ภายในพนื้ ทคี่ รงึ่ วงกลม ซงึ่ มรี ศั มี 2 เมตร จะวางทนุ่ ระเบดิ ไดอ้ ยา่ งมาก ไม่เกนิ 5 ทุ่น กลมุ่ ทนุ่ ระเบิด สห. 5 ทนุ่ 6.2 ภายในกลุ่มทุ่นระเบิดแต่ละกลุ่ม จะวางทุ่นระเบิดดักรถถังได้ไม่เกิน 1 ทุ่น และต�ำแหน่งท่ีวางทุ่นระเบิดดักรถถังถือว่าเป็นต�ำบลวางทุ่นระเบิดหลักของกลุ่ม ทุ่นระเบดิ จะต้องวางตรงจดุ ก่ึงกลางของวงกลม
กลมุ่ ทนุ่ ระเบิด ตถ. 1 ทุน่ สห. 4 ทนุ่ เหล่าทหารช่าง 103 6.3 กลุ่มทุ่นระเบิดกลุ่มแรกของแถบท่ีท�ำการวาง จะต้องวางอยู่ทางด้าน ขา้ ศกึ เสมอ ดงั นน้ั หมายเลขกลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ ทเ่ี ปน็ เลขคจ่ี งึ อยทู่ างดา้ นขา้ ศกึ และกลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ ทเี่ ป็นเลขคู่อยู่ด้านฝ่ายเดยี วกัน แถบสนามทนุ่ ระเบดิ ประกอบกลุ่มทุ่นระเบิด
104 เหลา่ ทหารชา่ ง 7. ระยะของกลุ่มทนุ่ ระเบดิ และจุดเลี้ยว 7.1 กลุ่มทุ่นระเบิดกลุ่มแรกและกลุ่ม สุดท้ายของแต่ละแถบจะต้องมีระยะ ห่าง 6 เมตร จากหมุดหลักแถบและ จะตอ้ งใหม้ รี ะยะปลอดภยั ระหวา่ งขอบ ของกล่มุ ท่นุ ระเบดิ กบั เขตช่องทางผ่าน อย่างน้อย 2 เมตร 7.2 เม่ือท�ำการวางสนามทุ่นระเบิดแบบ มาตรฐาน ต้องให้แน่ใจว่าระยะความ ยาวของเส้นมุมเล้ียว 3 เมตร เสมอ ถ้าระยะไม่พอจะต้องปรับให้เป็น 3 เมตร 7.3 ทก่ี ลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ สดุ ทา้ ยกอ่ นถงึ จดุ เลยี้ ว และกลุ่มแรก เม่ือเลี้ยวแล้วให้วาง เฉพาะทุ่นระเบิดหลักเพียงกลุ่มละทุ่น เท่านน้ั 7.4 มมุ เลยี้ ว ณ จดุ เล้ียวใด ๆ กต็ าม จะต้องท�ำมมุ ไม่เกนิ 45 องศา ระยะกลุ่มทุน่ ระเบิดและจดุ เล้ยี ว
8. กลุ่มทุ่นระเบดิ ทีเ่ ว้นไม่ตอ้ งวางทนุ่ ระเบดิ (OMITED CLUSTER) เหล่าทหารช่าง 105 คอื กลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ ตามทไี่ ดก้ ำ� หนดการวางทนุ่ ระเบดิ และกำ� หนดหมายเลข กลุ่มไว้แล้วตามปกติ แต่มไิ ด้ท�ำการวางทุ่นระเบิด ชึ่งมีอยู่ 2 กรณี ด้วยกนั คือ 8.1 เมอ่ื ตรงจดุ ทวี่ างกลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ นน้ั มเี ครอ่ื งกดี ขวางธรรมชาติ เชน่ ตน้ ไม้ หรือเครื่องกีดขวางที่สร้างข้ึนทำ� หน้าที่กีดขวางให้อยู่แล้ว กลุ่มทุ่นระเบิดน้ันจึงไม่ต้องวาง เพยี งแต่กำ� หนดหมายเลขไว้ด้วย 8.2 ถ้ากลุ่มทุ่นระเบิดใดวางอยู่ใกล้ช่องทางผ่าน หรือช่องว่างน้อยกว่า 2 เมตร กลุ่มทุ่นระเบิดน้ัน จะไม่วางแต่ก�ำหนดหมายเลขกลุ่มไว้ด้วย กลุ่มทุ่นระเบิดทเี่ วน้ ไมต่ อ้ งวางทุน่ ระเบิด 9. ลวดสะดดุ (TRIPWIRES) การวางสนามทุ่นระเบิดมาตรฐาน ควรมีการขึงลวดสะดุดประกอบ ช่ึงมี กฎเกณฑ์ในการใช้ลวดสะดดุ ดงั นี้ 9.1 ไม่ใช้ลวดสะดดุ ในแถบนอกไม่มรี ะเบยี บ (IOE.) 9.2 ให้มีแนวปลอดภัยกว้าง 2 เมตร นับจากแถบนอกไม่มีระเบียบลงมา และจากก่งึ กลางแถบมรี ะเบยี บลงมา 8 เมตร มีแนวเส้นปลอดภัยกว้าง 2 เมตร 9.3 ลวดสะดดุ ทว่ี างอย่างมากไม่เกิน 2 เส้น ต่อหนงึ่ กลุ่มทุ่นระเบดิ ท�ำมุม รปู ตวั V ไปทางดา้ นขา้ ศกึ และความยาวของแตล่ ะเสน้ ยาวไมเ่ กนิ รศั มอี นั ตรายของทนุ่ ระเบดิ
106 เหลา่ ทหารชา่ ง 9.4 ไม่วางลวดสะดดุ ให้ใกล้กบั สง่ิ ต่อไปน้ีกว่า 2 เมตร คือ แนวปลอดภัย ลวดสะดดุ เส้นอน่ื ๆ กลุ่มทุ่นระเบดิ หรอื ขอบเขตสนามทุ่นระเบดิ 9.5 ในกลุ่มทุ่นระเบิดหนึ่ง ๆ จะติดตั้งลวดสะดุดได้อย่างมากกับทุ่น ระเบดิ เพยี ง ทุ่นเดียวเท่าน้นั 9.6 จะวางลวดสะดดุ ในกลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ ใหใ้ กลก้ นั นอ้ ยกวา่ 3 กลมุ่ ทนุ่ ระเบดิ ไม่ได้ (NO CLOSER THAN ONE IN EVERY THIRD CLUSTER) ดังภาพด้านล่าง 9.7 ลวดสะดุดให้วางเฉพาะแถวทุ่นระเบิดแถวแรก ซ่ึงอยู่ทางด้านข้าศึก เท่านนั้ 9.8 เมือ่ ติดต้ังลวดสะดดุ แล้ว ไม่ต้องติดตงั้ ชนวนกนั เขยอ้ื นในกลุ่มน้ัน การวางลวดสะดุดในกลุม่ ทนุ่ ระเบิด การจัดกำ� ลงั ในการวางสนามทุ่นระเบิด 1. หน่วยขนาดหมวด 2. ความอ่อนตวั 3. ลำ� เลียงด้วยมอื หรอื รถบรรทกุ หนา้ ท่ขี องแตล่ ะบคุ คลในการวางสนามทุ่นระเบดิ 1. นายทหารอำ� นวยการ 1.1 เครือ่ งมือ แผนท่ี เขม็ ทิศ สมดุ พก 1.2 หน้าท่ี
1.2.1 รับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิการทงั้ หมด เหล่าทหารช่าง 107 1.2.2 รายงาน (การขออนุมัติ วางเสร็จสมบูรณ์ ความก้าวหน้าและ การเปลย่ี นแปลง) 1.2.3 รบั ผิดชอบในการออกแบบร่วมกับ ผบ.ร้อย 1.2.3.1 ต�ำบลท่ตี ั้งและขอบเขตของสนามทุ่นระเบดิ 1.2.3.2 เร่ิมงาน 1.2.3.3 กำ� หนดจำ� นวนและชนิดทุ่นระเบิดและช่องทาง 1.2.3.4 ประมาณเวลาทจี่ ะวางเสรจ็ 1.2.3.5 วางให้เสรจ็ 1.2.4 กำ� หนดแถบ และกำ� หนดรว้ั เครื่องหมายให้กับนายสิบ 1.2.5 หมดุ หลักฐานหลกั และหมดุ หลักฐานรายทาง 1.2.6 ช่องทางปลอดภยั และพื้นท่กี องทุ่นระเบดิ 1.2.6.1 แนวช่องทางที่แตกต่างกนั 1.2.6.2 กลุ่มทุ่นระเบดิ ทอ่ี อกแบบแตกต่างกันเพือ่ ปิดช่องทาง 1.2.7 ตรวจสอบและส่งบนั ทึก 1.2.8 ก�ำหนดส่วนประกอบของกลุ่มทุ่นระเบิด และลวดสะดุดให้แก่ นายสิบ 2. รอง ผบ.หมวด 2.1 เคร่อื งมอื แผนท่ี เข็มทศิ สมุดพก 2.2 หน้าท่ี 2.2.1 ช่วยการบงั คบั บญั ชา 2.2.2 ก�ำกบั ตรวจตราการปฏิบตั ทิ ง้ั หมด 2.2.3 แจ้งให้นายสิบทราบจ�ำนวนและต�ำบลท่ีวางทุ่นระเบิดกับระเบิด ถ้ามี 2.2.4 รกั ษาจำ� นวนทนุ่ ระเบดิ ในกองหรอื ทอี่ ยบู่ นรถ ถา้ ทำ� การวางจากรถ 2.2.5 รวบรวมสลกั นริ ภยั 2.2.6 ปรบั การคัดกำ� ลงั ให้เหมาะสมกบั เหตุการณ์ 2.2.7 กำ� กบั ตรวจตราทำ� ความสะอาดและพรางสนามทุ่นระเบิด
108 เหลา่ ทหารชา่ ง 3. พวกก�ำหนดท่ีตง้ั (นายสิบ 1, พลฯ 3) 3.1 เครื่องมอื หลกั แถบ ผ้ากรยุ แนว ตะปู 3.2 หน้าท่ี 3.2.1 ปักหลักเริม่ ต้นแต่ละแถบ 3.2.2 วางผ้ากรุยแนวตรงศูนย์กลางของแถบแต่ละแถบ (ตอกให้ติด กบั พ้นื ) 3.2.3 ปักหลักตรงจดุ เล้ยี วและทางปลายสุดของแถบ 3.2.4 วางผ้ากรุยแนวระหว่างหลักสุดท้ายของแต่ละแถบไปยังต�ำบล ปลอดภยั ข้างหลงั ของสนามทุ่นระเบดิ 3.2.5 วางผ้ากรยุ แนวเพ่ือก�ำหนดช่องทาง 3.2.6 เมือ่ วางเสรจ็ แล้ว ท�ำงานอย่างอื่นตามทไี่ ด้รับคำ� ส่งั 4. พวกทำ� เคร่อื งหมาย (นายสิบ 1, พลฯ 2) 4.1 เคร่ืองมือ วัสดุท�ำร้ัว เครื่องหมาย กรรไกรตัดลาด ถุงมือ เสา ค้อนพะเนนิ 4.2 หน้าท่ี 4.2.1 ปักเสาร้ัวเครื่องหมาย (ชั่วคราวก็ต้องท�ำด้วย) ให้ลวดเส้นบน สงู แค่เอว และลวดเส้นล่างต่ำ� แค่ข้อเท้า 4.2.2 ผูกเครอ่ื งหมายทกุ ๆ 15 เมตร บนลวดเส้นบน 4.2.3 ทำ� เครอ่ื งหมายช่องทางปลอดภัย 5. พวกทำ� บนทกึ (นายสิบ 1, พลฯ 2) 5.1 เครอ่ื งมือ ชดุ เขียนภาพ เขม็ ทศิ แบบบันทึก สมดุ พก 5.2 หน้าท่ี 5.2.1 กรอกข้อความในแบบบนั ทึก 5.2.2 วางหมดุ หลกั ฐานรายทาง 6. พวกทำ� การวาง (1 พวกใหญ่แบ่งเปน็ 3 พวกย่อย) พวกท่ี 1 นายสบิ 1 พลฯ 6 - 8) 6.1 เครอื่ งมอื สมดุ พก ทนุ่ ระเบดิ ขวาน พลว่ั กระสอบทราย ลวดเปลย่ี นสลกั ตลบั เมตร
6.2 หน้าท่ี เหล่าทหารช่าง 109 6.2.1 นายสิบ 6.2.1.1 กำ� กบั ตรวจตรา 6.2.1.2 ให้ทหารทุกคนถือทุ่นระเบิดท่ีใช้เป็นทุ่นระเบิดหลัก ของกลุ่มทุ่นระเบิด 6.2.1.3 แบง่ พวกวางออกเปน็ 2 แถว อยขู่ า้ งหลงั ใหอ้ ยคู่ นละขา้ ง ของแถบผ้ากรยุ ศูนย์กลางข้างละ 3 เมตร 6.2.1.4 ก้าวออกไป 6 เมตร บนแนวศูนย์กลางและช้ีทางด้าน ข้าศึกก่อน เพื่อให้พลวางทุ่นระเบดิ และต่อไปเดนิ ไป 3 เมตร ช้ที างด้านฝ่ายเราและเดนิ ไป 3 เมตร ชที้ างด้านข้าศกึ สลบั กนั ไป 6.2.1.5 เมอื่ วางทุ่นระเบดิ ดักรถถงั แล้ว พวกวางบางคนขดุ หลมุ (แตอ่ ยา่ ใสห่ รอื ฝงั ทนุ่ ระเบดิ ดกั รถถงั ) ในขณะทพ่ี วกวางบางคนไปน�ำทนุ่ ระเบดิ สงั หาร สำ� หรบั กลุ่มทุ่นระเบดิ แต่ละกลุ่ม และวางทุ่นระเบิดสังหารใกล้กับทุ่นระเบดิ ดักรถถัง 6.2.1.6 ถ้าเป็นสนามทุ่นระเบิดสังหารโดยเฉพาะ ก็ปฏิบัติตาม วธิ เี ดยี วกนั แต่เปลยี่ นใชท้ ่นุ ระเบดิ สงั หารแทนท่นุ ระเบดิ ดกั รถถงั ในกล่มุ ทนุ่ ระเบดิ พวกวาง ไม่ต้องขดุ หลมุ ส�ำหรับทุ่นระเบดิ สงั หาร 6.2.1.7 เมื่อพวกวางเดินเข้าไปใกล้ปลายสุดของแถบแล้ว พวกวางทก่ี �ำหนดตวั ไว้แล้ว ก็จะกลบั ไปยังกองทุ่นระเบดิ เพ่อื ไปเอาทุ่นระเบดิ สังหาร 6.2.1.8 ก�ำหนดให้พวกวางทราบถึงจ�ำนวน และชนิดของ ทุ่นระเบดิ ท่จี ะใช้ในกลุ่มทุ่นระเบิดหนง่ึ ๆ 6.2.1.9 เม่อื พวกวางได้ทำ� งานเสรจ็ แล้ว มอบงานอืน่ ให้ท�ำ 6.2.1.10 ก�ำหนดทุ่นระเบิดท่ีจะท�ำเป็นทุ่นระเบิดกับระเบิดและ ก�ำหนดสายลวดสะดดุ 6.2.1.11 ก�ำกับตรวจตราพวกประกอบชนวน 6.2.1.12 เมื่อพวกขุดหลุมไปถึงระยะปลอดภัย แล้วก�ำหนด ให้ทำ� พร้อมระเบดิ 6.2.1.13 รวบรวมและตรวจนบั สลกั นิรภัย 6.2.1.14 รายงาน ผบ.หมวด
110 เหลา่ ทหารชา่ ง 6.2.1.15 ท�ำงานอน่ื ๆ 6.2.1.16 ขนและจ่ายชนวนทุ่นระเบดิ 6.2.2 พวกวาง (พลฯ 4 - 6) พวกขดุ 6.2.2.1 ขนทุ่นระเบดิ 6.2.2.2 วางทุ่นระเบดิ ตามที่ได้รับค�ำส่ัง 6.2.2.3 ขดุ หลุมเมื่อวางทุ่นระเบดิ หมดแล้ว 6.2.2.4 ท�ำงานอน่ื ๆ เม่ือได้รับค�ำสั่ง 6.2.3 พวกประกอบชนวน (พลฯ 2 - 4) 6.2.3.1 ขนชนวนสำ� หรับทุ่นระเบิดหลักของกลุ่มทุ่นระเบิด 6.2.3.2 ตรวจชนวน ถอดสลกั และสอดชนวน 6.2.3.3 สอดชนวน แต่ไม่ถอดสลกั 6.2.3.4 นำ� ชนวนตดิ เข้ากับทุ่นระเบิดสงั หารกระโดดระเบิด 6.2.3.5 ตรวจเคร่ืองนริ ภยั 6.2.4 พวกทำ� ให้พร้อมระเบดิ (จากพวกอื่น) 6.2.4.1 ท�ำทุ่นระเบดิ กลุ่มคลัสเตอร์ให้พร้อมระเบดิ 6.2.4.2 กฎแห่งความปลอดภยั - 1 คน ต่อ 1 ทุ่นระเบิด - ห่างกนั อย่างน้อย 25 เมตร - จากข้าศกึ มาทางฝ่ายเรา (แถบ) - เดินตามเน้นศูนย์กลางตลอดเวลา - ท�ำทุ่นระเบิดกับระเบิดให้พร้อมระเบิดทีหลังกลุ่ม ทุ่นระเบดิ อ่นื ๆ และห่างภายในระยะ 50 เมตร เม่อื ท�ำให้พร้อมระเบิด - กลบหลมุ และทำ� การพรางให้เรียบร้อย 7. พวกวางพวกที่ 2 และพวกท่ี 3 เช่นเดียวกับพวกที่ 1
บทท่ี เหล่าทหารช่าง 111 การตรวจค้นและรือ้ ถอน การตรวจค้น (MINES DETECTION) คือการค้นหาทุ่นระเบิดและกับระเบิดท่ีวางไว้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ในขั้นแรก เจา้ หนา้ ทผ่ี ทู้ ำ� การตรวจคน้ จะตอ้ งพบตำ� บลทวี่ างทนุ่ ระเบดิ หรอื กบั ระเบดิ อยา่ งกวา้ ง ๆ กอ่ น โดยพิจารณาจากข้อมูลต่าง ๆ ดังต่อไปน้ี วธิ ีการที่จะทราบต�ำบลท่วี างทุ่นระเบดิ หรอื กับระเบดิ 1. วิธีการที่จะพิจารณาว่ามีทุ่นระเบิดที่วางไว้ เพื่อผลในทางยุทธวิธ ี ณ ตำ� บลใดตำ� บลหนึ่ง หรอื พืน้ ทใี่ ดพ้ืนทหี่ นึ่งน้นั อาจจะใช้วธิ พี ิจารณาได้จาก 1.1 การถกู ทุ่นระเบิดโดยตรง 1.2 การลาดตระเวนทางพน้ื ดนิ 1.3 การลาดตระเวนทางพน้ื อากาศ 1.4 การลาดตระเวนด้วยการยงิ 1.5 การตคี วามจากภาพถ่ายทางอากาศ 1.6 การซกั ถามเชลยศกึ และบุคคลอ่นื ๆ 1.7 การประเมนิ ค่าจากรายงานข่าวกรอง จากแผนที่และเอกสารท่ยี ดึ ได้ 2. ส่ิงที่ชี้บอกเหตุประการแรกของพ้ืนท่ีมีทุ่นระเบิดน้ัน อาจจะทราบได ้ โดยท่ีทหารหรือยานพาหนะถูกทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดเข้า ซ่ึงจะเป็นส่ิงบอกให้ทราบ
112 เหลา่ ทหารชา่ ง ว่าในพ้ืนท่ีน้ันมีการวางทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดได้ ประการหนึ่งนอกจากนี้ ยังจะมีวิธี การพจิ ารณาโดยวธิ อี ่นื ๆ อกี 3. การพิจารณาพื้นที่ท่ีมีทุ่นระเบิดน้ัน อาจจะกระท�ำได้โดยการลาดตระเวน ด้วยการยงิ การลาดตระเวนด้วยสายตา การตีความจากภาพถ่ายทางอากาศ การซักถาม บุคคล และการประเมินค่าจากแผนที่และจากเอกสารท่ียึดได้ แต่อย่างไรก็ตามข้อมูล เกย่ี วกบั ทตี่ ง้ั สนามทนุ่ ระเบดิ ทไี่ ดจ้ ากแหลง่ การพจิ ารณาเหลา่ นี้ จะตอ้ งมกี ารตรวจสอบดว้ ย การลาดตระเวนทางพน้ื ดนิ การตรวจคน้ ทนุ่ ระเบดิ แตล่ ะทนุ่ ดว้ ยการลาดตระเวนทางพน้ื ดนิ รว่ มกบั การตรวจคน้ ดว้ ยสายตา การตรวจคน้ ดว้ ยของแหลม และการตรวจคน้ ดว้ ยวธิ อี นื่ ๆ นน้ั อาจจะเป็นวิธีการพิจารณาท่ีชักช้า แตกเป็นวิธีการท่ีใช้ได้ส�ำหรับการตรวจค้นหาพื้นที่ท ่ี มที นุ่ ระเบดิ วางอยู่ สามารถจะกระทำ� ในสภาพดนิ ฟา้ อากาศทกุ ชนดิ และทกุ สภาพทศั นวสิ ยั 4. การลาดตระเวนด้วยการยงิ วิธีการอ่ืน ๆ ที่จะใช้ในการตรวจค้นพ้ืนท่ีที่มีทุ่นระเบิดน้ัน ก็คือ วิธีการ ลาดตระเวนดว้ ยการยงิ ของปนื ใหญ่ เครอื่ งยงิ ลกู ระเบดิ หรอื การยงิ ดว้ ยจรวดและการทงิ้ ระเบดิ การระเบิดของกระสุนหรือลูกระเบิดหนึ่งลูกบนพ้ืนดินหรือใกล้พื้นดิน จะท�ำให้ทุ่นระเบิด ส่วนมาก ซ่งึ อยู่ภายในรศั มีจำ� กดั ระเบดิ ขน้ึ ด้วยส่งิ บอกยงิ ของอาวธุ แต่อย่างไรกต็ าม ควร ระลึกไว้ว่าการยิงดังกล่าวนี้อาจจะกระทำ� ให้การรื้อถอนทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดเกิดความ ยากล�ำบากและมอี นั ตรายมากข้นึ ภายหลงั วิธีการตรวจค้น (DETECTION METHODS) การตรวจค้นทุ่นระเบดิ และกบั ระเบิดกระท�ำได้ 4 วธิ ีคือ 1. การตรวจค้นด้วยสายตา 2. การตรวจค้นด้วยของแหลม 3. การตรวจค้นด้วยเครอ่ื งตรวจค้นทุ่นระเบดิ 4. การตรวจค้นด้วยสนุ ขั ท่ฝี ึกแล้ว การตรวจค้นดว้ ยสายตา (DETECTION BY VISUAL MEANS) หน่วยทหารทุกเหล่าจะต้องสามารถตรวจค้นทุ่นระเบิดและกับระเบิดของ ขา้ ศกึ ไดค้ วามสะเพรา่ หรอื ความเรง่ รบี ในการวางของขา้ ศกึ อาจจะทำ� ใหม้ สี ง่ิ บอกเหตตุ า่ ง ๆ
เหลอื ทิง้ อยู่ เช่น ดินที่ถูกรบกวน กองหนิ กากหบี ห่อทุ่นระเบดิ หรอื สลักนิรภยั ของชนวน เหล่าทหารช่าง 113 เครอื่ งหมายสนามทนุ่ ระเบดิ ของขา้ ศกึ การตรวจคน้ ดว้ ยสายตาเปน็ วธิ กี ารทตี่ รวจคน้ ต�ำบล ทว่ี างทุ่นระเบิดหรือกบั ระเบดิ วิธีหนงึ่ ความรู้เกยี่ วกบั คุณลักษณะและการใช้ทุ่นระเบิดของ ขา้ ศกึ จะเปน็ แนวทางในการตรวจคน้ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ในการตรวจคน้ นนั้ ควรเรม่ิ ตน้ จากตำ� บล ทนี่ ่าจะวางทุ่นระเบดิ หรือกับระเบิด ดงั น้ี 1. หลมุ , รอยแตกหรอื ต�ำบลทข่ี ดุ ง่ายบนถนน 2. ข้างใต้ตรงรมิ ของผวิ ถนนตรงจดุ รวมของผิวถนนกบั ไหล่ถนน 3. บนไหล่ถนนเม่ือวางทุ่นระเบิด และพรางทุ่นระเบิดได้โดยง่าย ทุ่นระเบิด ฝังลกึ ๆ บนไหล่ถนนนน้ั ตรวจค้นได้ยาก 4. ทางเบย่ี งและรอบ ๆ สะพาน ทถ่ี กู ท�ำลายหรอื ถนนทมี่ ีหลุมระเบิด 5. รอบ ๆ ปากหลมุ ระเบดิ และปลายสะพานที่ถูกท�ำลายท้ังสองข้างหรือปลาย ท่อลอดถูกท�ำลายทั้งสองข้าง บางคร้ังในหลุมระเบิดอาจมีทุ่นระเบิดสังหารวางเอาไว ้ ถ้าหากหลุมระเบิดนั้นสามารถใช้เป็นท่ีหลบภัยจากการยิงด้วยปืนใหญ่ของข้าศึก หรือ การทง้ิ ระเบดิ จากเครอ่ื งบิน 6. ในเครอื่ งกดี ขวางลวดหนาม, รวั้ ลวด และเครอ่ื งกดี ขวางคลา้ ย ๆ กนั นี้ ตลอดจน เครอ่ื งกดี ขวางอน่ื ๆ เชน่ ในยานพาหนะทป่ี ลอ่ ยทง้ิ ไว้ ต้นไมท้ ล่ี ม้ ขวางถนนตลอดทง้ั กงิ่ กา้ น ของต้นไม้ ซง่ึ ขวางทางเดนิ ในภมู ปิ ระเทศ 7. ใกลก้ บั วตั ถทุ ผี่ ดิ ธรรมชาติ ซง่ึ ขา้ ศกึ วางไวส้ ำ� หรบั ใชเ้ อง เชน่ ปา้ ยเครอ่ื งหมาย สนามทุ่นระเบดิ 8. ในตำ� บลทม่ี กี ารขบั ยานพาหนะเขา้ ไปตามปกติ เชน่ ทกี่ ลบั รถ ทจ่ี อดรถ ทางเขา้ อาคาร ช่องแคบ และทางว่งิ ของสนามบนิ 9. ใกลซ้ ากศพหรอื ของทร่ี ะลกึ เชน่ ปนื พก กลอ้ งสอ่ งทางไกล และขวดเหลา้ ฯลฯ 10. ตำ� บลทน่ี า่ จะใชเ้ ปน็ ทพี่ กั แรมหรอื ทร่ี วมพล และในอาคารทเ่ี หมาะจะใชเ้ ปน็ ท่บี ังคบั การหรอื ทีต่ รวจการณ์ การตรวจค้นด้วยของแหลม (DETECTION BY PROBING) 1. การตรวจคน้ ดว้ ยของแหลม เปน็ วธิ กี ารตรวจคน้ ทนุ่ ระเบดิ ทตี่ อ้ งใชแ้ ทงลงไป ในดินด้วยเครื่องมือแหลม ๆ โดยใช้วัสดุที่ไม่เป็นส่ือไฟฟ้าเพื่อป้องกันชนวนทุ่นระเบิด
114 เหลา่ ทหารชา่ ง แมเ่ หลก็ และกบั ระเบดิ พวกเชอ้ื ปะทไุ ฟฟา้ การตรวจคน้ ดว้ ยของแหลมเปน็ วธิ ที ด่ี ที สี่ ดุ สำ� หรบั ตรวจค้นทุ่นระเบิดชนิดอโลหะ เช่น ทุ่นระเบิดสังหารแบบ M14 แต่เป็นงานที่ชักช้าและ เปน็ งานทน่ี า่ เบอื่ หนา่ ย โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในพนื้ ทท่ี เี่ ปน็ นำ�้ แขง็ และเปน็ ดนิ แขง็ เมอ่ื ปรากฏ ว่ามีทุ่นระเบิดของชนวน หรือสงสัยว่าเป็นชนวนแม่เหล็กแล้วจะต้องใช้ของแหลมที่ไม่เป็น สอื่ แม่เหล็กทำ� การตรวจค้น 2. ขณะตรวจคน้ ดว้ ยของแหลม ทหารเคลอ่ื นทใ่ี นลกั ษณะนงั่ ยอง ๆ หรอื คลาน เข้าไปข้างหน้าเพื่อตรวจหาลวดสะดุดและแผ่นรับแรงกดให้ม้วนแขนเสื้อทั้งสองขึ้น เพื่อ เพมิ่ ความไวเมอื่ สมั ผสั กบั ลวดสะดดุ หลงั จากพจิ ารณาแลว้ ผตู้ รวจคน้ ใชข้ องแหลมแทงลงไป ในพน้ื ดนิ ทกุ ๆ ระยะ 2 นวิ้ (5 ซม.) กว้างด้านหน้าประมาณ 1 เมตร แทงของแหลมลงในดนิ เบา ๆ ใหเ้ ปน็ มมุ กบั เสน้ ระดบั ประมาณ 45 องศา หากแทงลงไปตรง ๆ แลว้ ปลายของแหลม ตรวจค้นอาจจะไปกระท�ำชนวนกดของทุ่นระเบิดท�ำให้เกิดระเบิดข้ึนได้ เมื่อของแหลม ตรวจค้นสัมผัสกับวัตถุแข็งแล้ว ให้หยุดแทงและให้ร้ือดินออกด้วยความระมัดระวัง เพ่ือ พิจารณาว่าตรวจพบสิ่งใดถ้าหากตรวจค้นพบทุ่นระเบิดเข้าแล้วให้รื้อดินออกให้มาก พอสมควรท่จี ะพจิ ารณาชนดิ ทุ่นระเบิดและต�ำบลที่วางทุ่นระเบิดโดยแน่นอนได้ การตรวจค้นด้วยเคร่ืองตรวจค้นทุ่นระเบิด (DETECTION BY MINE DETECTOR) 1. เคร่ืองตรวจค้นทุ่นระเบิด เป็นเครื่องตรวจค้นที่ห้ิวได้ มีความสามารถ ในการตรวจค้นทุ่นระเบิดได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างย่ิงทุ่นระเบิดชนิดโลหะ เครื่องตรวจค้นทุ่นระเบิดมีขีดจ�ำกัดโดยแน่นอน แต่เม่ือใช้ร่วมกับการตรวจคุ้นด้วยสายตา และการตรวจค้นด้วยของแหลมแล้ว จะช่วยให้การตรวจค้นทุ่นระเบิดได้ผลย่ิงข้ึน เคร่ือง ตรวจค้นให้สัญญาณแสดงต�ำบลท่ีวางทุ่นระเบิด โดยการเปล่ียนแปลงให้พลประจ�ำ เคร่ืองได้ยนิ จากชุดหูฟัง การใช้เคร่อื งตรวจค้นทุ่นระเบิดน้ีอาจใช้ได้ในท่ายืน คกุ เข่า หรือ ท่านอนราบ 2. เครอื่ งตรวจค้นทุ่นระเบิดทกุ ชนิดให้สญั ญาณไม่ถูกต้องบ้างเหมือนกัน เมอื่ เครื่องตรวจค้นผ่านทุ่นระเบดิ ขนาดเล็ก เช่น M14 พลประจ�ำต้องพิจารณาให้ดีจะสามารถ ตรวจได้เสมอ นอกจากน้ีสามารถตรวจค้นโลหะอ่ืน ๆ ท่ีฝังลึกกว่าทุ่นระเบิดได้อีกด้วย ความช�ำนาญในการปฏิบัติต่อเครื่องตรวจค้นแต่ละชนิดจะช่วยพิจารณาได้ว่าอะไรท�ำให้
เคร่ืองตรวจค้นส่งสัญญาณ แต่โดยมากมักจะต้องใช้การตรวจค้นด้วยของแหลมร่วมกับ เหล่าทหารช่าง 115 เครื่องตรวจค้นทุ่นระเบดิ ในทำ� นองเดียวกนั เครอื่ งตรวจค้นทุ่นระเบดิ แบบตรวจได้ทั้งโลหะ และอโลหะอาจจะส่งสัญญาณไม่ถูกต้อง เมื่อเคร่ืองตรวจค้นส่ายเหนือรากไม้หรือ หลมุ อากาศ ลกั ษณะของดนิ ทมี่ แี มเ่ หลก็ อาจเพมิ่ ความยงุ่ ยากใหก้ บั การตรวจคน้ ได้ แตไ่ มม่ ี ผลกระทบกระเทอื นต่อเครือ่ งตรวจค้นแบบตรวจได้ทัง้ โลหะและอโลหะ 3. ผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ใช้เครื่องตรวจค้น จะต้องมีความรู้ในขีดความ สามารถของเคร่ืองตรวจค้นที่ใช้โดยละเอียด พลประจ�ำเครื่องตรวจค้นจะต้องตรวจค้นหา ทุ่นระเบิด หรือกับระเบิดและลวดสะดุดตลอดเวลา การปฏิบัติงานน้ันพลประจ�ำควรจะ ใชเ้ ครอ่ื งตรวจคน้ ตามระยะเวลาทกี่ �ำหนด เพอ่ื สบั เปลยี่ นกนั ใหผ้ ทู้ ป่ี ฏบิ ตั แิ ลว้ ทำ� การหยดุ พกั โดยถอื เกณฑ์ดงั นี้ 3.1 เครอ่ื งตรวจค้นทุ่นระเบดิ แบบตรวจได้เฉพาะโลหะปฏบิ ตั ิงาน 20 นาที พัก 30 นาที 3.2 เครื่องตรวจค้นทุ่นระเบิดแบบตรวจได้ท้ังโลหะและอโลหะปฏิบัติงาน 15 นาที พกั 30 นาท ี 4. เครอ่ื งตรวจค้นทุ่นระเบดิ ท่ีมใี ช้ในปัจจบุ นั นี้ ได้แก่ 4.1 แบบตรวจได้เฉพาะโลหะ ได้แก่ POLAN MODEL P-153, P-158, P-190, 4D22, ML1612, EB 521 และ AN/PSS-12 4.2 แบบตรวจได้ท้งั โลหะและอโลหะ AN/PRS-7 และ 4D6 การตรวจคน้ ดว้ ยสุนัข (DETECTION BY TRAINED DOG) สุนัขท่ีใช้ตรวจทุ่นระเบิด จะได้รับการฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี สุนัขแต่ละตัว จะมีผู้ควบคุมซึ่งเรียกว่าผู้บังคับสุนัข ซ่ึงสุนัขจะฟังค�ำส่ังเฉพาะผู้บังคับสุนัขของตนเท่านั้น การตรวจค้นทุ่นระเบิดของสุนัข ผู้บังคับสุนัขเป็นผู้ออกค�ำส่ัง และปฏิบัติการของสุนัขจะ ได้ผลมากในขณะมีลมพัดเมื่อสุนัขพบทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดจะให้สัญญาณเตือนภัย ซ่ึงการเตือนของสุนัขแต่ละตัวไม่เหมือนกัน แต่ผู้บังคับสุนัขแต่ละคนจะทราบได้ ดังนั้น ในการตรวจค้นจะต้องประสานอาณัติสัญญาณระหว่างผู้บังคับสุนัขกับเจ้าหน้าท่ีร้ือถอน ซึ่งจะเข้าไปตรวจสอบจุดวางท่ีแน่นอนของทุ่นระเบิดหรือกับระเบิด การตรวจค้นของสุนัข จะไดผ้ ลดถี า้ ใหส้ นุ ขั แตล่ ะตวั ปฏบิ ตั งิ านไมเ่ กนิ 3 ชม. แตถ่ า้ ใหท้ ำ� งานระยะสนั้ ๆ และใหเ้ ปน็ ระยะ ๆ แล้ว เวลาปฏบิ ัติงานอาจขยายออกไปได้ 6 - 8 ชม.
116 เหลา่ ทหารชา่ ง การรอ้ื ถอน (MINES REMOVAL) คือ การกระท�ำท่ีท�ำให้ทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดออกไปจากต�ำบลท่ีวางไว้ ซ่ึง อาจจะท�ำการร้ือถอนภายหลังจากท�ำการตรวจค้นทุ่นระเบิดแต่ละทุ่นให้พบ หรือท�ำการ รื้อถอนโดยไม่ต้องทำ� การตรวจค้นทุ่นระเบิดแต่ละทุ่นให้พบก็ได้ การรอ้ื ถอนภายหลงั ทำ� การตรวจคน้ ทนุ่ ระเบดิ แตล่ ะทนุ่ ใหพ้ บ กระทำ� ได้ 3 วธิ คี อื 1. การยกทุ่นระเบิดด้วยมือ การท�ำให้ทุ่นระเบิดอยู่ในลักษณะปลอดภัย นั้นกระท�ำได้โดยการตัดสายการจุดระเบิดของทุ่นระเบิดทุก ๆ สายให้ขาดจากกันหาก สภาพการณ์ต่าง ๆ อ�ำนวยให้แล้ว การใช้น�้ำมันเช้ือเพลิงท่ีไวไฟราดสนามทุ่นระเบิดท่ีมี หญา้ ขนึ้ สงู และจดุ ไฟขน้ึ กจ็ ะทำ� ใหก้ ารรอื้ ถอนทนุ่ ระเบดิ งา่ ยขนึ้ จะตอ้ งตรวจสอบลวดสะดดุ และใช้ของแหลมตรวจค้นในพ้นื ทด่ี ้วยความระมัดระวงั การรื้อถอนทุ่นระเบิดด้วยมือน้ัน ใช้เฉพาะเมื่อผู้บังคับบัญชาได้พิจารณา เห็นว่าต้องการมิให้บังเกิดเสียงดังเก่ียวกับผลทางยุทธวิธี หรือทุ่นระเบิดวางอยู่ในท่ีซ่ึง เม่ือระเบิดข้ึนแล้วจะท�ำความเสียหายให้แก่สิ่งอ�ำนวยความสะดวกท่ีส�ำคัญ ทุ่นระเบิด บางแห่งจะตดิ ตง้ั ชนวนกนั เขยอื้ นไว้เพอื่ ป้องกนั การรอ้ื ถอน จะต้องระมดั ระวงั ในการปฏบิ ตั ิ ให้มาก การยกทุ่นระเบิดด้วยมือใช้ได้เฉพาะเม่ือได้พิจารณาจากการลาดตระเวนแล้วว่า ชนดิ ของทนุ่ ระเบดิ ในสนามสามารถทำ� ใหไ้ มพ่ รอ้ มระเบดิ ไดด้ ว้ ยการรอื้ ถอนดว้ ยมอื ไดเ้ ทา่ นน้ั วธิ ีน้เี ปลอื งเวลามากจะต้องใช้ผู้ซ่งึ ได้รับการฝึกมาอย่างดปี ฏิบัติ 1.1 วธิ กี ารปฏบิ ตั ิโดยทว่ั ๆ ไป 1.1.1 ใช้ของแหลมตรวจค้นหาตำ� บลท่วี างทุ่นระเบิดและชนวน 1.1.2 ร้ือส่ิงปกคลมุ ออก ค่อย ๆ คุ้ยดนิ รอบ ๆ ทุ่นระเบิดออก โดยคุ้ย ลงไปถงึ ขอบลา่ งของทนุ่ ระเบดิ หากพบเครอื่ งจดุ ระเบดิ (ชนวน) ทอ่ี ยดู่ า้ นขา้ ง ใหท้ ำ� ไมพ่ รอ้ ม ระเบิดตามแบบของเครอ่ื งจดุ ระเบดิ (ชนวน) ที่ใช้ 1.1.3 แบ่งพ้ืนท่ีรอบทุ่นระเบิดออกเป็น 3 ส่วน ขุดทีละส่วนจาก ข้างนอกห่างจากทุ่นระเบดิ ประมาณ 1 ฟตุ ลึกกว่าขอบล่างของทุ่นระเบิด 6 น้วิ ใช้ลวดเลก็ สอดเข้าไปใต้ทุ่นระเบิดเพ่ือหาเคร่ืองจุดระเบิดหากไม่พบให้กลบส่วนนั้นแล้วขุดส่วนท่ี 2 และ 3 ต่อไป หากพบเครื่องจุดระเบิด (ชนวน) ให้ท�ำให้ไม่พร้อมระเบิดตามแบบของ เครื่องจุดระเบดิ (ชนวน) ท่ใี ช้ แล้วจงึ ท�ำให้ชนวนหลกั ของทุ่นระเบดิ ไม่พร้อมระเบิด
1.1.4 ยกทุ่นระเบิดด้วยความระมัดระวังแล้วนำ� ไปยังต�ำบลปลอดภัย เหล่าทหารช่าง 117 เพอ่ื จดั การทำ� ลาย 1.1.5 อย่าพยายามยกทุ่นระเบิดด้วยมือ ถ้าชนวนทุ่นระเบิดอยู่ใน สภาพช�ำรุดเสยี หาย 2. การรอื้ ถอนดว้ ยเชอื ก เมอ่ื ไดต้ รวจสอบทนุ่ ระเบดิ ในพนื้ ทแ่ี ลว้ ใหใ้ ชว้ ธิ รี อื้ ถอน ทุ่นระเบิดด้วยเชือกวิธีน้ีจะช่วยลดอันตรายท่ีเกิดจากทุ่นระเบิดติดตั้งชนวนกันเขยื้อน ไดม้ าก ซง่ึ อาจจะมอี ยขู่ า้ งใตห้ รอื ดา้ นขา้ งของทนุ่ ระเบดิ ใหใ้ ชเ้ ชอื กขนาด ∅ 1/4 นว้ิ มคี วามยาว อย่างน้อย 50 เมตร โดยใช้ปลายข้างหนงึ่ ผกู กบั โยทะกาเพอื่ เกีย่ วด้านบนทุ่นระเบดิ หรือ อาจจะใช้ปลายเชือกผูกตัวทุ่นระเบิดโดยตรงก็ได้ แล้วดึงในระยะปลอดภัย ตัวผู้ดึงอยู่ใน ท่ีก�ำบัง รัศมีอันตรายของทุ่นระเบิดในปัจจุบันน้ีจะมากกว่า 50 เมตร ถ้าผู้ดึงทุ่นระเบิด อยู่ในท่ีก�ำบังจะลดอันตรายได้ แต่ไม่ควรใช้โครงโลหะในการดึงทุ่นระเบิดเพราะว่าเม่ือ ทุ่นระเบดิ เกดิ ระเบดิ ขนึ้ จะท�ำให้โครงโลหะขาดเป็นสะเก็ดกระเด็นหาผู้ดงึ ได้ 2.1 วิธปี ฏิบตั โิ ดยทว่ั ๆ ไป 2.1.1 ร้ือส่ิงปกคลุมทุ่นระเบิดออก เพ่ือให้เห็นบางส่วนของทุ่นระเบิด ทเ่ี หมาะส�ำหรบั จะใช้เชอื กผกู โดยไม่ท�ำให้ทุ่นระเบิดขยบั เขยอื้ น 2.1.2 ใชป้ ลายขา้ งหนงึ่ ของเชอื กผกู เขา้ กบั โยทะกา เพอ่ื ใชเ้ กย่ี วสว่ นบน ของตวั ทุ่นระเบิดหรือใช้ปลายข้างหนงึ่ ของเชือกผกู โดยตรงกไ็ ด้ หากจำ� เป็นต้องออกแรงดึงมาก ให้ใช้โครงไม้ขาหยง่ั เข้าช่วย 2.1.3 ต้องแน่ใจว่าทกุ ๆ คนท่อี ยู่ในบรเิ วณนนั้ ได้เข้าทก่ี �ำบังแล้ว 2.1.4 ผู้ดึงทุ่นระเบิดจะต้องอยู่ในที่ก�ำบัง ซ่ึงอยู่ห่างจากทุ่นระเบิด อย่างน้อย 50 เมตร 2.1.5 รอคอย 30 วินาที จึงออกจากท่ีก�ำบังและเข้าไปยังทุ่นระเบิด ท่ดี งึ 2.1.6 ตรวจสอบหลมุ อีกครัง้ หนึ่ง เพ่ือค้นหาทุ่นระเบิดเพ่ิมเติม 2.1.7 ถอดชนวนออกจากทุ่นระเบิด หรือตัดสายการจุดระเบิดของ ทุ่นระเบดิ (ทไ่ี ม่ระเบดิ ) 2.1.8 ขนทุ่นระเบิดไปยังท่ีกองทุ่นระเบิดเพื่อจัดท�ำการท�ำลายหรือ น�ำไปใช้ใหม่
118 เหลา่ ทหารชา่ ง 3. การท�ำลาย ณ ท่ีวาง การใช้วัตถุระเบิดในการท�ำลายทุ่นระเบิด หรือ กบั ระเบิด หลังจากการตรวจพบทว่ี างแล้วเป็นวิธีการทีป่ ลอดภัยทส่ี ุด (แต่จะต้องพจิ ารณา ว่า ถ้าหากทุ่นระเบิดเคมีมีพิษทุ่นหน่ึงหรือหลายทุ่นระเบิดข้ึนจะเกิดการเป็นพิษและจะได้ รบั อนั ตราย เม่ือลมพดั มาทางฝ่ายเรา) การปฏิบติ จิ ะใช้ดนิ ระเบิด 1 ปอนด์ ทำ� ดนิ ระเบิด น�ำวางบนส่วนของตวั ทุ่นระเบดิ แล้วท�ำการจุดระเบิดขึ้น ทุ่นระเบดิ กจ็ ะระเบิดตาม อาจจะ ใช้ระบบฝักแคระเบดิ เพ่อื จะท�ำลายทุ่นระเบิดหลาย ๆ ทุ่น ในบางสถานการณ์ การท�ำลาย ด้วยวัตถุระเบิดอาจจะใช้ไม่ได้เม่ือคำ� นึงถึงความเสียหายอาจจะเกิดข้ึนต่อสิ่งอำ� นวยความ สะดวก เช่น สะพาน อาคาร ถนน เป็นต้น การรื้อถอนโดยไม่ต้องตรวจค้นทุ่นระเบิดแต่ละทุ่นให้พบ ซ่ึงส่วนใหญ ่ จะใช้กับพื้นที่ท่ีข้าศึกวางทุ่นระเบิดไว้อย่างกว้างขวาง (อาจจะวางแบบกระจัดกระจาย ด้วยมือหรือการวางโดยวิธีโปรยหว่าน) และฝ่ายเราจะต้องใช้พื้นที่นั้นอย่างเร่งด่วน หาก จะใช้วิธีการรื้อถอนที่จะต้องท�ำการตรวจค้นทุ่นระเบิดแต่ละทุ่นให้พบแล้วจะไม่ทัน ต่อความต้องการในพ้นื ท่ที างยทุ ธวธิ ี วธิ กี ารรอื้ ถอนโดยไม่ต้องตรวจค้นทุ่นระเบิดแต่ละทุ่น ให้พบ มี 3 วิธคี อื 1. การร้ือถอนด้วยเครื่องมือกล เครื่องมือกลที่ใช้ในการรื้อถอนทุ่นระเบิดท่ีม ี ใช้กันในปัจจบุ ัน 1.1 ระบบลูกกลิ้งบดทับ เป็นชุดลูกกลิ้งติดต้ังข้างหน้ารถถังอาจจะเป็น ลูกกลง้ิ เดย่ี วเตม็ กว้างด้านหน้า หรอื ทำ� เป็น 2 ชุด ตดิ ตง้ั ตรงกบั สายพาน ระหว่างลกู กลิง้ จะมีโซ่แขวนไว้เร่ียพื้นเพ่ือป้องกันชนวนเอียงและชนวนแม่เหล็ก ลูกกลิ้งหนัก ต้ังแต่ 5,000 ปอนด์ขึ้นไป ใช้ท�ำลายทุ่นระเบิดได้ทั้งทุ่นระเบิดดักรถถังและทุ่นระเบิดสังหาร จดุ ออ่ นของระบบลกู กลง้ิ ชนดิ ทำ� เปน็ 2 ชดุ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ชอ่ งวา่ งระหวา่ งสายพานทงั้ 2 ขา้ ง ของรถ ทำ� ให้ทุ่นระเบดิ ที่มไิ ด้ใช้ชนวนชนดิ แกนเอียงไม่เกิดการระเบิดขึ้น 1.2 ระบบโซต่ ี เปน็ ชดุ โซจ่ ำ� นวนหลายเสน้ ตดิ กบั แกนหมนุ ได้ ตดิ ตง้ั กบั รถถงั รถถากถาง รถสายพานลำ� เลยี งพลหรอื รถกงึ่ สายพาน แกนตดิ ตง้ั โซจ่ ะหมนุ ดว้ ยความเรว็ สงู ปลายโซ่แต่ละเส้นจะตลี งบนพน้ื ดนิ หา่ งกนั ไม่เกนิ 3 นวิ้ ใช้ทำ� ลายทนุ่ ระเบดิ ไดท้ งั้ ท่นุ ระเบดิ ดักรถถังและทุ่นระเบิดสงั หาร จดุ อ่อนของระบบนีไ้ ม่สามารถใช้ในพน้ื ทีม่ ตี ้นไม้ทีม่ เี ส้นผ่าน ศนู ย์กลางเกนิ กว่า 3 นว้ิ ได้
ภาพระบบลกู กลง้ิ บดทบั เหล่าทหารช่าง 119 ภาพระบบโซ่ตี 1.3 ระบบผานไถ เปน็ ระบบใบมดี ประกอบฟนั คราด ใชต้ ดิ ตงั้ ดา้ นหนา้ ของ รถถากถาง รถสายพานลำ� เลยี ง และรถถัง ใบมดี อาจจะเต็มกว้างด้านหน้ารถหรอื อาจแบ่ง เปน็ 2 สว่ น ตดิ ตง้ั ตรงกบั สายพานของรถ การทำ� งานของเครอ่ื งมอื ชนดิ นสี้ ามารถกดผานไถ ใหล้ กึ ไดต้ ามตอ้ งการ ทนุ่ ระเบดิ จะถกู งดั ออกโดยฟนั คราดและผลกั ออกไปขา้ งรถ เปน็ ระบบ ที่เช่ือถือได้มากกว่าระบบลูกกล้ิงและระบบโซ่ตี ในปัจจุบันกรมการทหารช่างกำ� ลังพัฒนา ระบบน้ขี ึ้นใหม่
120 เหลา่ ทหารชา่ ง ภาพระบบผานไถ 2. การร้ือถอนด้วยวตั ถุระเบิด มใี ช้หลายแบบ เช่น 2.1 บังกาโลตอร์ปิโด เป็นวัตถุระเบิดท่ีบรรจุอยู่ในท่อโลหะแข็ง ส่วนมาก จะมขี นาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางของทอ่ 2 - 2 1/8 นว้ิ ความยาวแตกตา่ งกนั แลว้ แตป่ ระเทศผผู้ ลติ ใชส้ อดเขา้ ไปในพน้ื ทม่ี ที นุ่ ระเบดิ แลว้ จดุ ระเบดิ ขน้ึ จะไดช้ อ่ งทางปลอดภยั ประมาณ 1 เมตร ใช้ในพ้ืนท่ีราบที่มีต้นไม้ข้ึนไม่หนาแน่นมากนัก ไม่สามารถจะใช้ในพ้ืนที่ไม่เรียบหรือพ้ืนท่ี ทม่ี คี วามลาดชนั มาก ภาพบงั กาโลตอรป์ โิ ด
2.2 ระเบิดสาย เป็นวัตถุระเบิดบรรจุในท่ออ่อนใช้จรวดลากสายระเบิดไป เหล่าทหารช่าง 121 ในอากาศให้ตกลงผ่านพ้ืนที่ที่มีทุ่นระเบิดแล้วท�ำการจุดระเบิดขึ้น มีหลายขนาดต้ังแต่ เปิดช่องทางได้ 50 ซม. ยาว 20 เมตร ไปจนถงึ เปิดพื้นท่ไี ด้กว้าง 8 เมตร ยาว 200 เมตร ระเบิดสายจะใช้ในพ้ืนที่ท่ีมีต้นไม้ไม่สูงมากนักตามขนาดของระเบิดสาย เพราะถ้าระเบิด สายพาดอยู่บนต้นไม้ที่สูงเกินก�ำหนดไว้ แรงระเบิดจะไม่สามารถท�ำลายทุ่นระเบิดท่ีฝังอยู่ ในพ้นื ดินได้ ภาพระเบดิ สาย 2.3 จรวดท�ำลายทุ่นระเบิดเป็นจรวดหลายล�ำกล้องใช้ยิงเข้าไปในพ้ืนที่ที่ มีทุ่นระเบิด ลูกจรวดจะระเบิดเหนือพ้ืนดินในระยะท่ีก�ำหนดไว้ ท�ำให้เกิดแรงอัดอากาศ กระแทกต่อพื้นดิน ท�ำให้ทุ่นระเบิดเกิดระเบิดตาม สามารถใช้ได้ในพ้ืนที่ท่ีเป็นป่า พื้นท่ีที่ ไม่ราบเรยี บ และพนื้ ที่ทล่ี าดชนั มาก ๆ ได้ อาจใช้ปืนใหญ่ทำ� การยงิ ท�ำลายทุ่นระเบดิ แทน จรวดทำ� ลาย ทุ่นระเบดิ ได้ ภาพจรวดทำ� ลายทุ่นระเบิด
122 เหลา่ ทหารชา่ ง 3. การรื้อถอนโดยใช้ฝงู สตั ว์ เป็นวิธีการท่ีใช้ฝงู สตั ว์ เช่น ววั ควาย ต้อนผ่าน เข้าไปในพ้นื ทีท่ มี่ ที ุ่นระเบดิ ซึ่งวธิ นี ีจ้ ะใช้ต่อเมือ่ มีความจ�ำเป็นเท่านั้น ข้อระมัดระวังความปลอดภัย ท่ีจะต้องปฏิบัติในระหว่างการปฏิบัติหรือ เคล่อื นทผ่ี ่านพน้ื ที่ทมี่ ที ุ่นระเบิดและกับระเบดิ ให้ปฏบิ ตั ิดงั นี้ 1. ก�ำลังพลจะต้องกระจายกนั อยู่ (ไม่รวมกลุ่ม) 2. ก�ำลงั พลทก่ี ำ� ลงั ปฏบิ ตั ิงานอยู่หากเคล่อื นท่ตี ้องระมัดระวงั ห้ามวงิ่ 3. กำ� ลงั พลจะต้องเคลอ่ื นทใี่ นช่องท่ไี ด้กวาดล้างแล้วเท่านน้ั 4. ก�ำลังพลที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ท่ีบาดเจ็บได้ ต่อเมื่อนายทหารหรือนายสิบ ของชดุ เป็นผู้บอกให้ท�ำเท่าน้นั 5. พ้ืนท่ีหรือส่ิงอ�ำนวยความสะดวกท้ังหมดท่ีสงสัยจะต้องตรวจสอบอย่าง ระมัดระวงั 6. พ้นื ที่ท่กี วาดล้างแล้วจะต้องทำ� เครือ่ งหมายไว้อย่างทว่ั ถึง 7. ทุ่นระเบิดทุกทุ่นต้องระลึกว่าได้ท�ำกับระเบิดไว้จนกว่าพิสูจน์ได้ว่าเป็น อย่างอน่ื 8. การรอ้ื ถอนทุ่นระเบดิ ด้วยมอื จะกระท�ำเมื่อไม่มีวธิ ีอนื่ ท่ีจะท�ำได้เท่าน้นั 9. ข้อระมัดระวงั ความปลอดภยั ทงั้ หมดในการจับถือวตั ถรุ ะเบิด จะต้องนำ� มา ปฏบิ ตั ิตามเม่อื จบั ถือทุ่นระเบิด ชนวน และเครือ่ งจดุ ระเบดิ 10. ทุ่นระเบิดที่ร้ือถอนแล้วจะต้องถอดแยกชนวนและเครื่องจุดระเบิดออก จดั เตรยี มพน้ื ทเี่ กบ็ ไวต้ า่ งหากโดยทำ� เครอื่ งหมายและลอ้ มรว้ั ไวเ้ พอ่ื สามารถเลอื กน�ำไปใชไ้ ด้ 11. การตดิ ตอ่ สอ่ื สารจะตอ้ งดำ� รงไวเ้ พอ่ื ประกนั วา่ สามารถควบคมุ ไดท้ ว่ั ถงึ และ ส่งกลบั ผู้ทไ่ี ด้รับบาดเจ็บได้ทนั ที วางแผนการใช้เฮลิคอปเตอร์ส่งกลับผู้บาดเจบ็ ไว้ด้วย
บทที่ เหล่าทหารช่าง 123 การผ่านสนามทุ่นระเบิด หนทางปฏบิ ตั ิ ในการผ่านสนามทุ่นระเบดิ ของข้าศกึ มวี ธิ กี าร 3 วธิ คี อื 1. การอ้อมผ่าน 2. การเจาะช่องอย่างเร่งด่วน 3. การเจาะช่องอย่างประณตี การอ้อมผา่ น การอ้อมผ่านสนามทุ่นระเบิดเป็นหนทางปฏิบัติที่ดีที่สุด การอ้อมผ่านอาจ กระท�ำทางพื้นดินหรือทางอากาศ แต่อย่างไรก็ตาม การอ้อมผ่านสนามทุ่นระเบิดของ ข้าศึกทางพ้นื ดนิ อาจจะท�ำให้ต้องเข้าไปสู่พืน้ ท่ีสังหารของข้าศกึ ดงั นน้ั การอ้อมผ่าน ควรกระทำ� ทางอากาศ โดยใชเ้ ครอ่ื งบนิ หรอื เฮลคิ อปเตอรข์ นสง่ หนว่ ยทหาร ยทุ โธปกรณ์ และยานพาหนะขนาดเบาข้ามสนามทุ่นระเบิดเข้าไปท�ำลายข้าศึกหรือจ�ำกัด การเคล่ือนที่ของข้าศึก ถ้าหากไม่สามารถอ้อมผ่านทางอากาศได้ หนทางปฏิบัติ ที่จะนำ� มาใช้ต่อไปคอื การเจาะช่องอย่างเร่งด่วน
124 เหลา่ ทหารชา่ ง การเจาะช่องอย่างเรง่ ดว่ น เป็นการกระท�ำเพ่ือให้ได้ช่องทางผ่านสนามทุ่นระเบิดของข้าศึก ภายใต้การ ยิงคุ้มครองและการตรวจการณ์ของข้าศึก ความมุ่งหมายเพื่อรักษาแรงดันในการเข้าตี ปัจจัยสำ� คญั ของการเจาะช่องอย่างเร่งด่วนคอื ความรวดเรว็ หากชกั ช้าจะเกดิ การสูญเสีย จากการยิงของข้าศึกมากกว่าจากทุ่นระเบิด หน่วยดำ� เนินกลยุทธ์จะต้องท�ำการเจาะช่อง อย่างเร่งด่วนเอง เพอ่ื ให้สามารถเคล่ือนท่ผี ่านไปได้ (ระเบียบกองทพั บกว่าด้วยการปฏิบัติ การสงครามทุ่นระเบิด ส�ำหรบั การรบตามแบบ พ.ศ. 2529) 1. การวางแผนข้นั ตน้ การเจาะช่องสนามท่นุ ระเบดิ อย่างเร่งด่วนมวี ธิ ปี ฏบิ ตั ิ 3 วิธี คือ การเจาะช่องด้วยเครื่องมือกล (เคร่ืองคุ้ย) รถลูกกล้ิงและยานพาหนะที่ใช้การ ไม่ได้แล้ว การเจาะช่องด้วยวตั ถุระเบิด (บงั กาโลตอร์ปิโด) สายระเบิดขนาดใหญ่ LINEAR CHARGES M157, M173) และการเจาะชอ่ งดว้ ยมอื (เครอ่ื งตรวจคน้ สนุ ขั ตรวจคน้ ของแหลม และการรอ้ื ถอน และทำ� ลาย) ส่วนจะใช้วิธใี ดขนึ้ อยู่กับ 1.1 ขา่ วสารเกย่ี วกบั ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ประเภทของทนุ่ ระเบดิ ความแนน่ ความลกึ และรูปร่างของสนามทุ่นระเบิด 1.2 กำ� ลงั และเวลาทม่ี อี ยู่ 1.3 ความต้องการในการลวงและการจู่โจม 1.4 สภาพอากาศและแสงสว่าง 1.5 ควนั ท่มี ใี ช้ 1.6 เครือ่ งมอื กลและวตั ถุระเบิดที่ใช้เจาะช่องท่มี ี 1.7 การป้องกนั ของข้าศกึ 1.8 ทุ่นระเบดิ เคมที ่ีข้าศกึ ใช้ 1.9 การสนับสนนุ ทางอากาศทจ่ี ะได้รับ อันตรายส�ำหรับทหารฝ่ายเราจะมีน้อยท่ีสุด ถ้าเจาะช่องด้วยการได้รถถัง ดันลูกกลงิ้ หรอื เคร่อื งคุ้ย หรือใช้ระเบดิ สาย การยงิ ด้วยปืนใหญ่และการโจมตที างอากาศ กอ็ าจใชเ้ จาะชอ่ งสนามทนุ่ ระเบดิ ได้ แตจ่ ะเปน็ ชอ่ งทางผา่ นทไี่ มส่ มบรู ณเ์ นอ่ื งจากทนุ่ ระเบดิ อาจจะไม่ระเบดิ และจะไวต่อการระเบิดมากขึ้นอีกด้วย เมื่อไม่สามารถเจาะช่องด้วยเคร่ืองมือกลและวัตถุระเบิดแล้ว จะต้องเจาะช่อง ด้วยมอื ซง่ึ ความเรว็ ในการเจาะช่องไม่เกนิ 500 เมตรต่อชว่ั โมง ในสภาพการณ์ปกติ
2. การวางแผนขน้ั สดุ ทา้ ย แผนขนั้ สดุ ทา้ ยส�ำหรบั การเจาะชอ่ งอยา่ งเรง่ ดว่ น เหล่าทหารช่าง 125 ประกอบด้วย 2.1 แผนรายละเอียดเก่ียวกับการขจัดการยิง การตรวจการณ์ และการ ต่อต้านการเฝ้าตรวจทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (เรดาร์ เครื่องตรวจจบั ความเคล่ือนไหวและกล้อง ส่องเวลากลางคนื ) ของข้าศกึ 2.2 การฝึกซ้อมการผ่านช่องทาง 2.3 แผนการใช้กองหนนุ 2.4 จ�ำนวน และเครื่องหมายช่องทางท่ีจะใช้ ตลอดจนเส้นทางเข้าสู่ และออกจากช่องทาง 2.5 การควบคมุ การจราจร 2.6 เตรียมการส่อื สารส�ำรอง 2.7 แผนรับเหตกุ ารณ์สำ� หรับทุ่นระเบิดเคมที อ่ี าจจะเกดิ ระเบิดขึน้ 3. การปฏิบัตกิ ารเจาะช่องอยา่ งเร่งด่วน 3.1 ความมุ่งหมายขน้ั ต้นของการเจาะช่องสนามทุ่นระเบดิ คือ ทำ� เส้นทาง ปลอดภัยผ่านสนามทุ่นระเบิดไปยังด้านไกล ซ่ึงเป็นช่องทางเดินเท้าและช่องทางส�ำหรับ ยานพาหนะ 3.2 จ�ำนวนและชนดิ ของช่องทางท่จี ะเจาะข้ึนอยู่กบั 3.2.1 ขนาดของกำ� ลงั ที่ใช้เจาะช่อง 3.2.2 ความลึกและความแน่นของสนามทุ่นระเบดิ 3.2.3 เคร่อื งมือท่มี ี 3.3 กองร้อยทเี่ ข้าตผี า่ นสนามทนุ่ ระเบดิ ตอ้ งการเส้นทางเดนิ เทา้ อยา่ งน้อย 1 เส้นทาง (กว้าง 2 เมตร) ทำ� เครือ่ งหมายด้วยผ้าแถบหมายแนวตรงกึง่ กลางของเส้นทาง 3.4 การเจาะช่องกระท�ำในเวลากลางคืน ใช้ควันก�ำบัง เจาะช่องด้วย เคร่ืองมือกล หรือวัตถุระเบิดและกระท�ำภายใต้การยิงคุ้มครองล้างทุ่นระเบิดให้เรียบร้อย รถถังดันลกู กลง้ิ รถคุ้ยทุ่นระเบดิ และวตั ถุระเบิดท่ใี ช้เจาะช่องอาจใช้กวาดล้างเพ่ือเป็นช่อง ทางของยานพาหนะ ระหวา่ งการเจาะชอ่ งทางขน้ั แรกแลว้ อาจขยายความกวา้ งเปน็ 16 เมตร ส�ำหรับทางสองแนวของยานพาหนะ ตามปกติกรมทหารราบ หรือกองพันรถถังต้องการ ช่องทางยานพาหนะ 2 ช่องทาง
126 เหลา่ ทหารชา่ ง 3.5 ระยะห่างระหว่างช่องทางในภูมิประเทศโล่งแจ้ง ระยะห่างระหว่าง ช่องทางควรอยู่ในระยะ 250 - 300 เมตร เพอื่ ป้องกนั มใิ ห้ข้าศกึ ใช้ปืนใหญ่เพยี งกระบอก เดยี ว ยิงปิดก้นั ช่องทางได้ ระยะห่างของช่องทางอาจมากกว่า 300 เมตร ได้ แต่อย่าให้ ห่างมากจนการควบคมุ บังคบั บญั ชากระท�ำได้ยาก 3.6 เครอื่ งหมายชอ่ งทาง ชอ่ งทางเดนิ เทา้ ใชผ้ า้ แถบหมายแนวหรอื สง่ิ อน่ื ๆ ท่ีสามารถเห็นได้ง่าย วางตรงแนวก่ึงกลางช่องทางยึดติดให้แน่น ถ้าขยายช่องทางกว้าง ข้ึน กว่าเดิม ใช้ผ้าแถบหรอื สงิ่ อื่น ๆ วางทงั้ 2 ข้างของขอบช่องทาง ช่องทางยานพาหนะใช้ เครอ่ื งหมายมาตรฐานและรว้ั ลวดหนามทง้ั 2 ขา้ งของชอ่ งทาง ถา้ เครอ่ื งหมายมาตรฐาน ไมม่ ี ใช้ ให้ใช้ผ้าแถบหมายแนววางตดิ ส่วนบนของรั้วลวดหนาม หรอื ใช้วสั ดอุ น่ื ๆ ทเี่ ห็นได้ง่าย ท�ำเคร่ืองหมาย ถ้าขยายช่องทางออกไปอีกจะต้องท�ำรั้วและเคร่ืองหมายตามแนวใหม่ จะต้องบ�ำรุงรักษาเคร่ืองหมายให้มั่นคง เสาปักเคร่ืองหมายท่ีใช้ต้องแข็งแรงไม่เอนล้ม จากการสั่นสะเทือนของการจราจร ถนนที่จะเข้าสู่ช่องทางและออกจากช่องทางจะต้อง มเี คร่อื งหมายแสดงไว้ให้เหน็ ได้ง่ายด้วย 4. วตั ถุระเบดิ ท่ีใช้เจาะช่อง 4.1 บงั กาโลตอรป์ โิ ด รปู รา่ งเปน็ ทอ่ โลหะเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 5 ซม. (2 1/8 นว้ิ ) ยาวท่อนละ 1.5 เมตร (5 ฟุต) ภายในบรรจดุ นิ ระเบดิ มีข้อต่อสามารถต่อได้ตามความยาว ทตี่ อ้ งการใน 1 ลงั (10 ทอ่ น) จะตอ่ ไดย้ าวประมาณ 15 เมตร การใชจ้ ะใชส้ อดเขา้ ไปในสนาม ทุ่นระเบิดด้วยมือ สามารถใช้ท�ำช่องทางเดินเท้าผ่านสนามทุ่นระเบิดและเครื่องกีดขวาง ลวดหนาม ถา้ ไม่มบี งั กาโลตอร์ปิโดมาตรฐานตามทก่ี ลา่ วแล้วอาจใช้ท่ออน่ื ๆ เชน่ ท่อเหลก็ ท่อ พี.วี.ซ.ี หรือไม้ไผ่บรรจดุ นิ ระเบดิ เป็นบงั กาโลตอร์ปิโดแสวงเครอื่ งได้ 4.2 ระเบดิ สาย มแี บบมาตรฐาน 2 แบบ ยาวประมาณ 121 เมตร บรรจุ ดนิ ระเบดิ ประมาณ 90 เมตร ออกแบบใหเ้ ปิดช่องทางในสนามท่นุ ระเบดิ ได้กว้างถงึ 6 เมตร สำ� หรบั ช่องทางจราจรทางเดยี ว 4.2.1 M157 บรรจดุ นิ ระเบดิ ไวเ้ ปน็ 2 แถว ขนานกนั สามารถทำ� ใหเ้ กดิ ชอ่ งทางกวา้ ง 4 - 6 เมตร 1 ชดุ สามารถประกอบไดใ้ นเวลา 8 คน/ชม. โดยใชก้ ำ� ลงั พล 4 - 8 คน การใช้จะใช้รถถงั ดนั เข้าไปในสนามทุ่นระเบิด รายละเอยี ดดูจาก TM.9-1375-204-10 4.2.2 M173 (ยิงด้วยจรวด) ออกแบบให้ใช้เจาะช่องสนามทุ่นระเบิด ดักรถถัง ซ่ึงอาจจะใช้ยานพาหนะหรือเฮลิคอปเตอร์ลากผ่านสนามทุ่นระเบิด ระเบิดสาย
แบบน้ีใช้ท�ำช่องทางผ่านสนามทุ่นระเบิดท่ีใช้ชนวนแบบกด เมื่อใช้จรวดยิงสามารถลาก เหล่าทหารช่าง 127 ดนิ ระเบดิ ได้ยาวประมาณ 70 เมตร เมือ่ เกดิ ระเบิดจะท�ำให้เกิดช่องทางกว้าง 4 - 6 เมตร ดรู ายละเอยี ดจาก TM.9-1375-202-10 ระเบิดสาย ภาพระเบิดสาย M157, M173 5. การปฏบิ ัตกิ ารเจาะช่องเมอ่ื คาดว่าจะมีท่นุ ระเบิดเคมี ถา้ หากมกี ารใชส้ ารพษิ หรอื แหลง่ ขา่ วระบวุ า่ มกี ารใชส้ ารพษิ ทางเคมใี นพน้ื ที่ ใกลเ้ คยี งสนามทนุ่ ระเบดิ ใหต้ งั้ ขอ้ สงสยั ไวก้ อ่ นวา่ ในสนามทนุ่ ระเบดิ มที นุ่ ระเบดิ เคมอี ยดู่ ว้ ย
128 เหลา่ ทหารชา่ ง 5.1 การป้องกัน ถ้าต้องการเจาะช่องอย่างเร่งด่วนอาจต้องใช้วัตถุระเบิด ทำ� การเจาะชอ่ ง แตท่ หารทที่ ำ� การเจาะชอ่ งจะตอ้ งสวมชดุ ปอ้ งกนั สารพษิ กอ่ นทำ� การเจาะชอ่ ง ครั้งแรก หน่วยทหารท่ีอยู่ใต้ลมจะต้องมีมาตรการป้องกันสารเคมีอย่างสมบูรณ์ ถ้าหน่วย ทหารจะต้องผ่านพ้ืนที่เป็นพิษจากการเจาะช่องด้วยการระเบิด จะต้องสวมชุดป้องกัน สารพิษและให้อยู่บนยานพาหนะถ้าสามารถท�ำได้ หน่วยทหารที่อยู่ใกล้การเจาะช่องจะ ได้รับการเตือนให้ท�ำการป้องกันอันตรายจากสารเคมี ลักษณะและค�ำเตือนการป้องกัน สารเคมี ดู FM.21- 40 5.2 การเจาะช่องด้วยมือในสถานการณ์ทางยุทธวิธีหรือในที่ชุมนุมชน ซ่ึงสภาพการณ์ไม่อ�ำนวยให้ท�ำการเจาะช่องด้วยวัตถุระเบิด เน่ืองจากพ้ืนที่จะเป็นพิษจาก การระเบิดของทุ่นระเบิดเคมจี ะต้องท�ำการเจาะช่องด้วยมอื การเจาะชอ่ งอยา่ งประณีต เป็นการเจาะช่องสนามทุ่นระเบิด เมือไม่สามารถท�ำการเจาะช่องอย่าง เรง่ ดว่ นไดก้ ารเจาะชอ่ งอยา่ งประณตี ทเ่ี ปน็ การเจาะชอ่ งดว้ ยมอื การปฏบิ ตั จิ ะตอ้ งกระทำ� เปน็ 2 ข้นั คอื 1. การลาดตระเวนสนามทุ่นระเบิดทางพ้นื ดิน 2. การปฏบิ ตั กิ ารเจาะช่อง การลาดตระเวนสนามทนุ่ ระเบดิ 1. ความมุ่งหมาย เพ่อื ต้องการทราบขอบเขตของสนามทุ่นระเบดิ พน้ื ทีท่ เี่ ป็น ตำ� บลอ่อนแอ ชนิดของการคุ้มครองสนามทุ่นระเบดิ แบบการวาง และทุ่นระเบดิ ท่ีใช้การ ลาดตระเวนส่วนมากจะกระทำ� ในเวลากลางคืนโดยใช้ทหารช่างร่วมกับทหารราบ การลาด ตระเวนจะเรม่ิ จากขอบสนามทางดา้ นฝา่ ยเราเขา้ ไปจนตลอดสนามทนุ่ ระเบดิ หรอื จนกระทงั่ ต้องหยุดการลาดตระเวนจากการกระท�ำของข้าศึก การบันทึกข่าวสารเกี่ยวกับทุ่นระเบิด ที่ใช้กระทำ� โดยใช้ผ้าแถบหมายแนววางตรงกึ่งกลางของช่องที่ทำ� การลาดตระเวน ผ้าแถบ หมายแนวจะขมวดเป็นปมตรงจุดท่ีพบทุ่นระเบิด หรือลวดสะดุดของทุ่นระเบิดแต่ละทุ่น ปมทใ่ี ช้ก�ำหนดให้ดงั นี้
1.1 1 ปม หมายถงึ ทุ่นระเบดิ สังหารบุคคล 1.2 2 ปม หมายถงึ ทุ่นระเบิดดกั รถถงั 1.3 3 ปม หมายถงึ ลวดสะดุด 1.4 4 ปม หมายถงึ ทุ่นระเบิดแบบใหม่ 1.5 5 ปม หมายถงึ ทุ่นระเบิดเคมี 2. การจัดก�ำลัง ชุดลาดตระเวนแต่ละชุดจะมีก�ำลัง 7 นาย ประกอบด้วย นายทหารหรอื นายสบิ 1 นาย พลทหาร 6 นาย ตามภาพ ภาพการลาดตระเวนสนามทุ่นระเบิด เหล่าทหารช่าง 129 การทำ� เครอื่ งหมายทุ่นระเบดิ ที่ผา้ แถบหมายแนว ทุ่นระเบดิ สังหารบคุ คล 1 ปม ทุ่นระเบดิ ดักรถถงั 2 ปม ลวดสะดดุ 3 ปม ทุ่นระเบดิ แบบใหม่ 4 ปม ทุ่นระเบดิ เคมี 5 ปม
3. หน้าทแ่ี ละส่งิ อุปกรณ์ของแต่ละบุคคลในชดุ ลาดตระเวน หมายเลข หน้าที่ ส่ิงอปุ กรณ์ 1 ใช้เคร่ืองตรวจค้นหรือของแหลมท�ำการ - เครื่องตรวจค้น พลใช้เครือ่ งตรวจค้น ตรวจค้น ทุ่นระเบิด โดยเดินน�ำเข้าไปใน ทุ่นระเบดิ สนามทนุ่ ระเบดิ ถา้ ใชเ้ ครอื่ งตรวจคน้ ใหส้ า่ ย - ของแหลมตรวจคน้ เคร่อื งตรวจค้นในช่องทางกว้าง 1.20 เมตร เมื่อพบทุ่นระเบิดและลวดสะดุดชี้ให้ หมายเลข 2 ปฏบิ ตั ิ 2 เดินตามพลหมายเลข 1 อย่างใกล้ชดิ วางผ้า - ครอบทุ่นระเบดิ พลทำ� เครือ่ งหมาย แ ถ บ ห ม า ย แ น ว ใ ห ้ แ น บ กั บ พ้ื น ดิ น ต ร ง - ผา้ แถบหมายแนว กึ่งกลางช่องทาง เม่ือหมายเลข 1 พบทุ่น - ลวดใช้แทนสลกั 130 เหลา่ ทหารชา่ ง ระเบิดให้ท�ำให้ไม่พร้อมระเบิด (ถ้าท�ำได้) นริ ภยั ใช้ครอบทุ่นระเบิดครอบไว้ ถ้าเป็นลวด - คีมบบี เชอ้ื ปะทุ สะดุดให้พิจารณาว่าสามารถตัดได้หรือไม่ หรอื คมี ปากขนาน ถ้าตัดได้ให้ตัด แล้วเอาออกให้พ้นช่องทาง - ของแหลมตรวจคน้ ถ้าไม่สามารถท�ำทุ่นระเบิดให้ไม่พร้อม ระเบิดและตัดลวดสะดุดไม่ได้ แจ้งให้ หมายเลข 3 ซ่งึ เป็นนายทหารหรอื นายสิบ อำ� นวยการทราบ เมอื่ พน้ สนามทนุ่ ระเบดิ ให้ ตัดผ้าแถบหมายแนว 3 น�ำชุดลาดตระเวนไปยังสนามทุ่นระเบิด - แผนท่ี นายทหารหรอื และก�ำหนดจุดเร่ิมต้น ต่อจากนั้นเดินตาม - เขม็ ทิศ หมายเลข 2 และปฏิบัติการเก่ียวกับทุ่น - ลูกระเบิดขว้าง นายสบิ ระเบิดที่หมายเลข 2 ไม่สามารถท�ำทุ่น - ลวดแทนสลกั อำ� นวยการ ระเบิดให้ไม่พร้อมระเบิดหรือตัดลวดสะดุด นิรภัย ไม่ได้ ให้พจิ ารณาทำ� ทุ่นระเบดิ ให้ไม่พร้อม ระเบิดและตัดลวดสะดุด ทุ่นระเบิดแบบ ใหม่ท่ีพบอาจน�ำกลับมาเม่ือสถานการณ์ อ�ำนวยให้
หมายเลข หน้าที่ สง่ิ อุปกรณ์ 4 - 5 เดนิ ตามหลงั หมายเลข 3 ในระยะ 30 เมตร - อาวุธอตั โนมตั ิ พรอ้ มทจ่ี ะท�ำการยงิ ข้าศกึ ทท่ี �ำการขดั ขวาง - ลกู ระเบิดขว้าง การลาดตระเวน เมอ่ื หมายเลข 3 สั่ง หรือ ในสถานการณจ์ ำ� เปน็ อยา่ งยงิ่ ถา้ สนามทนุ่ ระเบิดไม่รกมาก อาจจะอยู่นอกสนามทุ่น ระเบิดทางด้านฝ่ายเดยี วกนั 6 เดินตามหมายเลข 5 คอยผลัดเปล่ียน - เช่นเดยี วกบั พลใช้เครอื่ ง หมายเลข 1 ทกุ ระยะ 15 หรอื 20 นาที หมายเลข 1 ตรวจค้น (อะไหล่) 7 รอคอยอยู่ตรงจุดเริ่มต้นปฏิบัติงานตาม - อาวุธอัตโนมตั ิ พลส�ำรองและ หมายเลข 3 สั่ง และเกบ็ ผ้าแถบหมายแนว - ลกู ระเบดิ ขว้าง น�ำกลับไป เมื่อชุดลาดตระเวนถูกข้าศึก น�ำสาร ท�ำลาย 4. การรายงานผลการลาดตระเวน จะต้องมีข่าวสารเพียงพอท่ีจะให้ เหล่าทหารช่าง 131 ผู้บังคบั บัญชาตกลงใจเลอื กต�ำบลทีจ่ ะเจาะช่องได้ ซ่งึ ประกอบไปด้วย 4.1 ระวางแผนทท่ี ่ีใช้ลาดตระเวน 4.2 หมู่วนั เวลาท่รี ายงานข่าว 4.3 ชนดิ ของสนามทุ่นระเบิด (ถ้าทราบ) 4.4 แบบของสนามทุ่นระเบิด (ดถ. หรอื สห.) 4.5 สิ่งที่เช่อื มต่อกบั สนามทุ่นระเบิดทง้ั 2 ข้าง 4.6 จ�ำนวนของแถบในสนามทุ่นระเบดิ 4.7 ถนนเช่ือมต่อกบั ช่องทางเข้าและช่องทางออกของสนามทุ่นระเบดิ 4.8 ความกว้างของช่องทางผ่านสนามทุ่นระเบดิ
การปฏบิ ตั ิการเจาะช่องอย่างประณตี 1. การจดั กำ� ลงั จะจดั กำ� ลงั เปน็ หนว่ ยขนาดหมวด ตามตารางขา้ งลา่ งน้ี ทำ� การ เจาะช่องอย่างประณตี ก�ำลงั พล นายทหาร นายสบิ พลฯ เคร่ืองมอื และสง่ิ อุปกรณ์ นายทหาร - - - แผนท่ี เขม็ ทิศ อาวุธประจ�ำกาย และวทิ ยุ อ�ำนวยการ 1 - - เหมอื นนายทหารอำ� นวยการ เว้น วทิ ยุ (ผบ.มว.) 1 7 - เครื่องตรวจค้น 2 เคร่อื ง ของแหลม 2 อนั รองผู้บังคบั หมวด พวกเจาะช่องท่ี 1 ครอบทุ่นระเบดิ ผ้าแถบหมายแนว หรือม้วน เชอื กสีขาว ลวดแทนสลกั นริ ภัย คลิปนิรภัย 132 เหลา่ ทหารชา่ ง ลวดเกล้ยี ง TNT. 1 ปอนด์ เช้อื ปะทชุ นวน ฝักแคระเบิด ชนวนฝักแคเวลา เครือ่ งจดุ ชนวน คมี บบี เช้อื ปะทุ และวิทยุ - เช่นเดียวกบั พวกเจาะช่องท่ี 1 - เช่นเดยี วกบั พวกเจาะช่องท่ี 1 - เช่นเดียวกบั พวกเจาะช่องท่ี 1 พวกเจาะช่องท่ี 1 1 7 เพิ่มเตมิ ด้วยค้อน 8 ปอนด์ หรอื ตะลุมพกุ พวกเจาะช่องท่ี 2 1 7 ค้อน คีมปากขนาน กรรไกรตดั ลวดหนาม พวกสนับสนนุ 1 10 หลกั ไม้ 5 X 10 ซม. ยาวอย่างน้อย 1.80 เมตร เคร่อื งหมายช่องทาง ถงุ มอื จบั ลวดหนาม สมอบก เสาร้วั และเปลพยาบาล รวม 1 5 31 หมายเหตุ พวกสนับสนุนจะต้องใช้นายสิบแทนพลทหารถ้าใช้หมวดทหารช่างเป็นหมวด เจาะช่อง 2. หน้าทข่ี องแต่ละบุคคลในการเจาะช่องอย่างประณตี 2.1 นายทหารอ�ำนวยการบังคับบัญชาและก�ำกับดูแลหน่วยเจาะช่อง ก�ำหนดจุดเร่ิมต้นและให้พวกเจาะช่องแต่ละพวกเข้าปฏิบัติ ควบคุมพวกเจาะช่องโดยใช้ วิทยุ พลน�ำสาร และด้วยตนเอง ด�ำรงการติดต่อสื่อสารกับส่วนก�ำบัง และมอบภารกิจ
ให้กับพวกสนับสนุน เม่ือพวกเจาะช่องไปถึงขอบสนามทุ่นระเบิดด้านข้าศึก นายทหาร เหล่าทหารช่าง 133 อ�ำนวยการจะสั่งถอนตัวและส่ังจุดระเบิดเม่ือส่วนก�ำบังผ่านช่องทางไปแล้ว นายทหาร อ�ำนวยการตรวจสอบ และก�ำกับดูแลเครื่องหมายช่องทางเดินเท้าหรือช่องทางเดินเท้าท่ี ขยายเป็นช่องทางยานพาหนะ 2.2 รองผบู้ งั คบั หมวด เปน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาคนท่ี 2 ชว่ ยนายทหารอ�ำนวยการ บังคับบญั ชาและก�ำกับดูแลพวกเจาะช่อง 2.3 พวกเจาะช่องท่ี 1 2.3.1 นายสิบอ�ำนวยการ น�ำพวกเจาะช่องของตนไปยังจุดเริ่มต้น และให้หมายเลข 1 เร่ิมให้เครอ่ื งตรวจค้นหรือของแหลมค้นหาทุ่นระเบิด หมายเลข 2 ทำ� เครือ่ งหมายขอบเขตของช่องทางท่หี มายเลข 1 ได้ตรวจค้นแล้ว โดยคลีผ่ ้าแถบหมายแนว ออกจากม้วนทอดไปข้างหน้า นายสิบอ�ำนวยการ (หมายเลข 3) ท�ำการตรวจสอบ ทุ่นระเบดิ และลวดสะดดุ ทีห่ มายเลข 2 ทำ� เครือ่ งหมายไว้และทำ� ให้ไม่พร้อมระเบิดถ้าท�ำได้ ถา้ พบทนุ่ ระเบดิ โลหะขนาดเลก็ ใหห้ มายเลข 1 ใหข้ องแหลมตรวจคน้ แทนเครอื่ งตรวจคน้ สง่ั เปลย่ี นหมายเลข 1 ตามระยะเวลา และกำ� กบั ดแู ลการถอนตวั ถา้ เกดิ อบุ ตั เิ หตุ เมอ่ื เจาะชอ่ ง ไปถงึ ขอบทนุ่ ระเบดิ ดา้ นขา้ ศกึ รายงานใหน้ ายทหารอ�ำนวยการทราบ และถอนตวั ตามค�ำสงั่ เมื่อวางดนิ ระเบิดเข้าท่ีเรยี บร้อยแล้ว 2.3.2 หมายเลข 1 เคลือ่ นทเ่ี ข้าสนามทุ่นระเบดิ ตามคำ� สงั่ ของนายสิบ อ�ำนวยการ ใช้เครื่องตรวจค้นหรือของแหลมตรวจในช่องทางกว้างอย่างน้อย 1 เมตร ถ้าพบทุ่นระเบิด หรอื ลวดสะดดุ ชบี้ อกหมายเลข 2 แล้วเคล่ือนทตี่ ่อไป 2.3.3 หมายเลข 2 มีครอบทุ่นระเบิดและของแหลมตรวจค้น ตาม หมายเลข 1 วางผ้าแถบหมายแนวของ 2 ข้างช่องทางท่ตี รวจแล้วกว้างอย่างน้อย 1 เมตร ถ้าจ�ำเป็น ให้ยึดผ้าแถบหมายแนวติดกับพ้ืนดินช่วยหมายเลข 1 ในการหาจุดที่ตั้งของ ทุ่นระเบิดที่แน่นอน ท�ำเครื่องหมายทุ่นระเบิดโดยให้ครอบทุ่นระเบิด และตัดลวดสะดุด ท่หี ย่อน ถ่ายทอดข่าวสารให้กบั นายสบิ อ�ำนวยการและขอให้ช่วยเหลอื เมื่อจำ� เป็น 2.3.4 หมายเลข 3 นายสบิ อ�ำนวยการ (ดูข้อ 2.3.1) 2.3.5 หมายเลข 4 และหมายเลข 5 ตามนายสบิ อำ� นวยการ วางดนิ ระเบดิ บนครอบทุ่นระเบิด คล่ีชนวนฝักแคระเบิดเป็นสายหลักและต่อดินระเบิดสายหลัก (ด้วยคลิป) หรอื ผกู ด้วยเง่ือนยดึ ชนวนฝักแคระเบดิ สายหลักติดกับพืน้ ดนิ ด้วยลวดงอรปู ตัว “U”
134 เหลา่ ทหารชา่ ง 2.3.6 หมายเลข 6 ตามหมายเลข 4 และหมายเลข 5 ถือเคร่ือง ตรวจค้น (ไม่เปิดสวิตช์เคร่ืองตรวจค้น) และถือของแหลมตรวจค้นอะไหล่ หมายเลข 6 สับเปลย่ี นหน้าทก่ี บั หมายเลข 1 และปฏิบตั งิ านอน่ื ตามค�ำสง่ั ทไ่ี ด้รบั 2.3.7 หมายเลข 7 ถือวิทยุตามหมายเลข 6 ท�ำการติดต่อส่ือสาร กับนายทหารอำ� นวยการและแจ้งให้นายสบิ อ�ำนวยการทราบ 2.3.8 หมายเลข 8 เป็นพลอะไหล่ ทำ� หน้าที่เดินข่าวและหน้าท่อี น่ื ๆ ตามทไี่ ด้รบั มอบ 2.4 พวกเจาะช่องท่ี 2 และพวกเจาะช่องท่ี 3 ท�ำหน้าทเ่ี จาะช่องเช่นเดยี ว กับพวกเจาะช่องท่ี 1 โดยเริ่มต้นเจาะช่อง ณ ต�ำบลท่ีนายทหารอ�ำนวยการก�ำหนดให้ ระยะห่างในการเจาะช่องของแต่ละพวกอย่างน้อย 100 เมตร 2.5 พวกสนับสนนุ 2.5.1 นายสิบมีหน้าที่ท�ำหน้าท่ีแทนนายสิบอ�ำนวยการของพวก เจาะช่องท่ีได้รับบาดเจ็บ และเปล่ียนเครื่องมือและส่ิงอุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหาย ด�ำรงการติดต่อกับนายทหารอ�ำนวยการ ช่วยเหลือหรือแนะน�ำการขนย้ายผู้บาดเจ็บและ เตรียมการ และจดุ ระเบิดชนวนฝักแคระเบดิ สายหลกั ที่พวกเจาะช่องได้วางไว้ 2.5.2 หมายเลข 1 - 7 อาจผลัดเปลี่ยนพลประจ�ำเครื่องตรวจค้นหรือ บคุ คลอน่ื ๆ ในพวกเจาะชอ่ ง ท�ำดนิ ระเบดิ นำ� หามเปลพยาบาลและขนยา้ ยผไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ 2.5.3 หมายเลข 8 - 9 ท�ำหน้าท่ีพลน�ำสาร ซึ่งติดต่อกับนายทหาร อำ� นายการ รองผู้บงั คบั หมวด และพวกเจาะช่อง 2.5.4 หมายเลข 10 อยกู่ บั นายทหารอำ� นวยการ หรอื รองผบู้ งั คบั หมวด และใช้วทิ ยุในข่ายของกองร้อย ภาพแสดงการเจาะช่องอย่างประณตี
การผ่านชอ่ งทางสนามทนุ่ ระเบิดและเคร่อื งกีดขวางอืน่ ๆ เหล่าทหารช่าง 135 1. กล่าวทั่วไป สนามทนุ่ ระเบดิ และเครอ่ื งกดี ขวางอน่ื ๆ ของขา้ ศกึ ทไ่ี ดเ้ จาะชอ่ งทางผา่ นแลว้ ในการผา่ นชอ่ งทางนน้ั กำ� ลงั ฝา่ ยเราจำ� เปน็ ทตี่ อ้ งรวมกำ� ลงั เขา้ มา ดงั นน้ั จะตอ้ งมกี ารควบคมุ การจราจร เพ่อื ให้ก�ำลังฝ่ายเราเคล่อื นทีผ่ ่านสนามทุ่นระเบดิ ของข้าศึก 2 สนาม 2. การควบคมุ การจราจร จะตอ้ งจดั ระเบยี บการจราจรอยา่ งละเอยี ด ทง้ั น้ี เพอ่ื ใหม้ นั่ ใจวา่ ชอ่ งทางนนั้ ได้ใช้ประโยชน์ ทง้ั การเข้าตี การสนบั สนุน และการส่งก�ำลัง ยานพาหนะทเี่ คล่อื นทีม่ าจาก พ้ืนที่ท่ีรวมพลต้านหลังเข้าสู่ช่องทางที่ติดตั้งเครื่องหมายจราจรไว้โดยเฉพาะ และออกไป เข้าพ้ืนที่รวมพลด้านหน้า ในพื้นที่รวมพลด้านหน้าจะมีผู้น�ำทางคอยน�ำหน่วยไปเข้าที่ต้ัง ของแต่ละหน่วยท่กี �ำหนดไว้ 3. เครื่องหมายจราจร เส้นทางจราจรและช่องทางผ่านสนามทุ่นระเบิด จะมีเครื่องหมายจราจร ท่ีทุกหน่วยเข้าใจความหมายแสดงไว้เป็นตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ เคร่ืองหมายเลขเหล่านี้ จะใช้เสาสูงอย่างน้อย 1.50 เมตร มกั จะอยู่ทข่ี อบด้านในของช่องทางหรอื เส้นทาง ในเวลา กลางคนื เครอ่ื งหมายเหล่าน้จี ะติดไฟส่องสว่างเพื่อให้เหน็ ได้ชดั เจน 4. เส้นทางทางขวาง เส้นทางทางขวางจะสร้างข้ึนระหว่างเส้นทางจราจรที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพื่อ ใช้เป็นทางเบ่ยี งจากเส้นทางหนง่ึ ไปยงั อีกเส้นทางหน่งึ ในกรณที ชี่ ่องทางผ่านทเ่ี ส้นทางนั้น จะเข้าไปถูกปิดก้ัน ผู้น�ำทางประจ�ำท่ีจะเป็นผู้แจ้งให้หน่วยท่ีจะผ่านช่องทางเปล่ียนไปใช้ เส้นทางทางขวางเป็นเส้นทางจราจร 5. ลำ� ดับความเรง่ ด่วนของการจราจร ลำ� ดบั ความเรง่ ดว่ นของการจราจรผา่ นชอ่ งทางสนามทนุ่ ระเบดิ จะกำ� หนดไว้ อย่างเหมาะสมในแผนปฏิบัติการ แต่ถึงแม้ว่าล�ำดับความเร่งด่วนของการจราจรจะ ประกาศให้ทราบล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่แผนที่วางไว้จะต้องให้มีความอ่อนตัวเพื่อปรับ ให้เข้ากับสถานการณ์ทางยุทธวิธี และเตรียมการไว้สำ� หรับการเคล่ือนย้ายผู้บาดเจ็บและ การเคล่ือนย้ายของยานพาหนะทใ่ี ช้ส่งก�ำลงั มาข้างหลงั
136 เหลา่ ทหารชา่ ง 6. ทต่ี ้ังต�ำบลควบคุมการจราจร ที่ตั้งต�ำบลควบคุมการจราจรจะอยู่ข้างหน้าของพ้ืนท่ีรวมยานพาหนะ ข้างหน้าช่องทางเข้า และถ้าจ�ำเป็นก็จดั ไว้ตามทางแยกของเน้นทางจราจรด้วย 7. หนา้ ทขี่ องทหารช่าง 7.1 กวาดล้าง บ�ำรุงรักษาและท�ำเครื่องหมายช่องทางผ่านและเน้นทาง ทางขวาง 7.2 ท�ำเครื่องหมายขอบเขตสนามทุ่นระเบิดท้ังด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อป้องกันบคุ คลและยานพาหนะหลงเข้าไปในพน้ื ทีท่ ีม่ ที ุ่นระเบดิ 7.3 ทำ� การเคลอ่ื นยา้ ยยานพาหนะทเ่ี สยี หายออกจากชอ่ งทางผา่ น ในการนี้ ควรเตรียมรถกู้และยานพาหนะอน่ื ๆ ที่จ�ำเป็นต้องใช้ไว้ใกล้กบั ช่องทาง 7.4 จดั ตงั้ ศนู ยข์ า่ วชอ่ งทาง (LANE REPORT CENTER) ศนู ยน์ อี้ ยใู่ กลก้ บั ทาง เข้าช่องทางด้านฝ่ายเราของแต่ละช่องทาง ถ้าปรับแถบทุ่นระเบิดของสนามทุ่นระเบิดนั้น อยหู่ า่ งกนั มาก อาจจดั ตง้ั ศนู ยย์ อ่ ยไวท้ แี่ ถบทนุ่ ระเบดิ แตล่ ะแถบ ศนู ยย์ อ่ ยเหลา่ นส้ี ง่ ขา่ วสาร ให้กับศูนย์ช่องทางได้โดยโทรศัพท์หรือพลน�ำสาร ศูนย์ข่าวช่องทางรายงานความก้าวหน้า ในการเจาะช่องด้วยวทิ ยุหรือโทรศพั ท์ 7.5 เมื่อจ�ำเป็นก็ใช้สารวัตรทหารที่ต�ำบลควบคุมการจราจร จุดควบคุม การจราจร และการให้คำ� แนะนำ� เก่ียวกบั การจราจร 8. การตดิ ตอ่ ส่ือสาร การควบคุมการจราจรในการผ่านช่องทางสนามทุ่นระเบิดจะได้ผลดีเพียง ใดข้ึนอยู่กับการจัดการจราจรอย่างเหมาะสม และประสิทธิภาพของเคร่ืองมือสื่อสาร ถ้า ระยะต่าง ๆ ห่างกนั มากให้ใช้ระบบการสอื่ สารด้วยวทิ ยุเป็นหลกั เพิ่มเติมด้วยโทรศัพท์และ พลน�ำสาร
ภาคผนวก
เพลงชาติไทย ประเทศไทยรวมเลอื ดเนื้อชาตเิ ชือ้ ไทย เป็นประชารฐั ไผทของไทยทกุ ส่วน อยู่ดำ� รงคงไว้ได้ทง้ั มวล ด้วยไทยล้วนหมายรกั สามคั คี ไทยนร้ี ักสงบแต่ถงึ รบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มข่ี สละเลอื ดทกุ หยาดเป็นชาตพิ ลี เถลงิ ประเทศชาตไิ ทยทวมี ชี ยั ชโย เพลงสดุดจี อมราชา ถวายบงั คมจอมราชา พระบุญญาเกรกิ ฟ้าไกล ธ ทรงเป็นร่มโพธร์ิ ่มไทร ศูนย์รวมใจชาวไทยสมคั รสมาน ถวายพระพรองค์ราชนิ ี คู่บารมีองค์ราชนั ขอพระองค์ทรงเกษมส�ำราญ งามตระการเคยี งขัตติยะไทย อุ่นไอจากฟ้าเรอื งรอง แสงทองส่องมา ไพร่ฟ้าต่างสดใส มหาราชา ราชนิ ี ม่ิงขวญั ปวงชนชาวไทย เทดิ ไท้พระภวู ไนย ถวายใจสดดุ ี
เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ข้าวรพทุ ธเจ้า เอามโนและศริ ะกราน นบพระภมู บิ าล บญุ ดิเรก เอกบรมจักรนิ พระสยามินทร์ พระยศยงิ่ ยง เย็นศิระเพราะพระบรบิ าล ผลพระคณุ ธ รกั ษา ปวงประชาเป็นสขุ ศานต์ ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิด์ งั หวังวรหฤทยั ดจุ ถวายชยั ชโย เพลงสยามานสุ ติ หากสยามยงั อยู่ยัง้ ยนื ยง เราก็เหมอื นอยู่คง ชพี ด้วย หากสยามพนิ าศลง ไทยอยู่ได้ เราก็เหมอื นมอดม้วย หมดส้นิ สกุลไทย ใครรานใครรกุ ด้าวแดนไทย ไทยรบจนสดุ ใจขาดดิ้น เสียเนื้อเลือดหลง่ั ไหลยอมสละ ส้นิ แล เสยี ชีพไป่เสยี สิ้น ช่อื ก้องเกยี รติงาม
เพลงรกั ชาติยิง่ ชพี เกิดเป็นไทยเป็นไทยดงั นาม เพยี บด้วยความรกั ชาตยิ ิง่ ทั้งใจทงั้ กายทกุ สิ่ง อกี วาจาจรงิ ทกุ สง่ิ ไป ชาตทิ ่ีรกั ของไทย เราควรเทดิ ไว้บชู า มีคุณล้นเหลอื ล้นค่า สดุ จะพรรณนานับได้ เราเป็นไทย ต้องใจมคี วามภกั ดชิ์ าติ เราต้องพลชี ีวาตม์ สละให้ชาตดิ ้วยความหวงั ดี มาเถดิ พงษ์วงศ์วานของไทย เรารวมใจดำ� รงคงชาตดิ ้วยดี รักชาติเราน้ยี งิ่ ชพี เพลงมารช์ นศท. เราเหล่านกั ศึกษาวชิ าทหาร กรมการรกั ษาดนิ แดน ฝึกฝนทกุ คนรู้จกั ให้รักแผ่นดนิ ถนิ่ แคว้นเป็นปึกแผ่นแดนไทย ยามศึกเราร่วมรบพร้อมพลชี วี ัน เคียงกนั ทุกคนร่วมใจ ต้องเตรียมพร้อมความเกรยี งไกร เลอื ดไทยยอมพลีทุกคน เราพร้อมผจญผู้รกุ ราน ไทยมชี าตศิ าสนามหากษัตริย์ เกยี รติประวตั เิ ลอื ดไทยห้าวหาญ ชอ่ื ไทยอยู่คู่ฟ้าท่วั กาล เรานกั ศึกษาวชิ าทหารจะรกั ษาสถาบนั เราเหล่านกั ศึกษาวิชาทหาร รวมใจสามคั คกี นั เลือดไทยมใิ ห้ไหวหว่นั รวมกันรกั ษาดนิ แดน เราหวงแหนแผ่นดนิ ไทย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155