๑-๑ ภาคท่ี ๑ ตอนท่ี ๑ หลกั นยิ ม ภารกจิ การจดั กล่าวท่วั ไป ในอดีตน้ันทหารม้าได้ทาการรบอย่างห้าวหาญบนหลังม้าในสมรภูมิต่างๆ มาช้านาน จวบจน สงครามโลกคร้ังท่ี ๑ ในช่วงปี ค.ศ. ๑๙๑๖ ณ แนวรบด้านตะวันตกในสมรภูมิยุโรป ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง ครัง้ ย่งิ ใหญ่ของพาหนะในการรบของเหลา่ ทหารม้าเกดิ ขึน้ โดยมีการปรากฏตัวครงั้ แรกของยานรบที่ขับเคลอ่ื น ด้วยเครือ่ งยนต,์ ห้มุ ดว้ ยเกราะ และติดตั้งอาวุธ เข้าทาการบุกทะลุทะลวงแนวสนามเพลาะของข้าศึก ซ่ึงยานรบ ห้มุ เกราะนน้ั ถูกเรยี กขานกนั โดยทว่ั ไปว่า “รถถงั ” จนกองทพั ของประเทศตา่ งๆ ได้ประจักษ์ถึงขดี ความสามารถ ของหน่วยยานเกราะ ต่างก็ได้วิจัยพัฒนายานเกราะแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จนยานเกราะได้กลายเป็น เครอ่ื งมอื ในการรบอนั ทรงอานุภาพของกองกาลังทางบกตราบเทา่ ทุกวนั น้ี นับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกคร้ังที่ ๒ เป็นต้นมา หลักนิยม, การจัดหน่วย และวิธีการรบของเหล่า ทหารมา้ โดยท่ัวไปของกองทัพในทุกชาติแทบจะไมค่ ่อยแตกต่างกันเทา่ ใดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาลเวลาท่ีผ่านมา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหลักนิยมพื้นฐานของทหารม้าแต่อย่างใด แต่ได้มีการพัฒนาให้ก้าวหน้าไปตามเทคนิค ของอาวุธสมัยใหม่เพ่ือให้มีประสิทธิภาพท่ีเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม ด้วยคุณลักษณะของความคล่องแคล่ว ในการเคลื่อนที่ทุกสภาพภูมิประเทศ, อานาจการยิงที่รุนแรง, อานาจแรงกระแทกหรือกาลังชน รวมกาลัง เข้าประชิดข้าศึกได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ก่อให้เกิดอานาจการทาลายและข่มขวัญสูง ทาให้เหล่าทหารม้า มหี ลกั นิยมและวธิ ีรบเปน็ เอกลักษณ์ของตนเอง เหล่าทหารม้าได้มีการพัฒนาการจัดและหลักนิยมการใช้โดยแน่ชัด โดยถือว่าเป็นส่วนกาลังรบหลัก เป็นหน่วยกาลังทางบกท่ีทรงประสิทธิภาพในการทาลายกาลังข้าศึก เป็นเคร่ืองมือหลักอันสาคัญยิ่ง ของผู้บังคับบญั ชาในการใช้ตัดสนิ การยุทธ์ท่ใี หผ้ ลการรบแตกหัก ณ ยุทธบริเวณ ทหารม้าเปน็ หน่วยทใ่ี ชส้ าหรับ การดาเนินกลยุทธ์ทาการรุกเข้าทาลายล้างอานาจกาลังรบของข้าศึก โดยจะไม่ยึดพื้นท่ีเหนียวแน่น แต่จะยึด พน้ื ท่ีกเ็ พ่อื ปรบั กาลังใหม่แล้วเขา้ ทาการรบตอ่ ไป ทหารม้าเป็นแนวความคิดในการใช้คุณลักษณะของความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ อานาจการยิง และอานาจการทาลายข่มขวัญ เขา้ ทาการรบด้วยยานเกราะที่มีอานาจสงู สุด ทาให้กาลังรบของข้าศึกต้องพ่ายแพ้ไป หน่วยทหารม้าจะประกอบด้วย หน่วยทหารม้ารถถัง, หน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะ, หน่วยทหารม้า ลาดตระเวน และหน่วยอ่ืนๆ ท่ีแบ่งมอบให้กับหน่วยทหารม้า (หน่วยในกองพลทหารม้า) ไดแ้ ก่ หน่วยทหารปืนใหญ่ หน่วยทหารช่าง หน่วยป้องกันภัยทางอากาศ หน่วยทหารสื่อสาร หน่วยบินทหารบก สนับสนุนด้วยข่าย การติดต่อสอ่ื สารที่รวดเร็วคล่องตัว และระบบการส่งกาลังบารงุ แบบเคล่ือนท่ี ยานรบหุ้มเกราะต่างๆ ของทหารม้า สามารถป้องกันกระสุน, สะเก็ดระเบิดจากกระสุนปืนใหญ่และ เครื่องยิงลูกระเบิดของข้าศึก รวมท้ังสามารถป้องกันผลจากการใช้อาวุธ คชรน. ได้ จากคุณลักษณะดังกล่าว ทาให้ผบู้ ังคับบญั ชาสามารถใช้ทหารมา้ เข้าดาเนินกลยทุ ธภ์ ายใตก้ ารยงิ ของข้าศกึ และสามารถขยายผลได้สูงสุด จากการยงิ ของอาวุธยงิ ของผ่ายเรา คณุ ลกั ษณะของยานรบหลักเหลา่ ทหารม้า สรปุ ได้พอสังเขป คอื รถถัง มีอานาจการยิงรุนแรง, มเี กราะปอ้ งกันตวั หนา, มีความคลอ่ งแคล่ว แตก่ ารตรวจการณ์กระทาได้ อย่างจากัด และมนี ้าหนักมาก โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ รถถังหลัก (Main Battle Tank : MBT) คือ รถถังที่ใช้เป็นหัวหอกในการรบ มีขีดความสามารถ ที่สาคัญคือ อานาจการยิงท่ีมีความแม่นยารุนแรงมาก, มีความคล่องตัว และมีเกราะป้องกันตนเอง ท่ีมีประสิทธิภาพสูง สามารถทาลายยานเกราะหนักของข้าศึกและเป้าหมายต่างๆ ได้ในระยะไกล รถถังหลัก มขี ีดความสามารถท่ีพึงประสงค์ คอื มอี านาจการยิงทาลายสูง, ต่อสู้และทาลายรถถังและยานเกราะข้าศึกได้
๑-๒ ในระยะไกล, สามารถทาการยิงได้ในขณะเคลื่อนท่ี, มีเกราะป้องกันตนเองจากอาวุธขนาดหนักของข้าศึกได้ ในระยะประชิด, มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง, มีรัศมีปฏิบัติการไกล, มีระยะการส่ือสารท่ีกว้างไกล และเช่ือถือได้, สามารถปฏิบตั ิภารกจิ ได้ท้ังกลางวันและกลางคืน, สามารถปฏิบัติการในสงครามเคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ (คชรน.) ได้ และ มีระบบการปอ้ งกันตนเองที่ดี รถถังเบา (Light Tank) คือ รถถังท่ีถูกออกแบบให้มีขนาดและน้าหนักที่น้อยกว่ารถถังหลัก จึงทาให้ เคล่ือนท่ีได้คล่องแคล่วมากกว่า, มีอานาจการยิงท่ีแม่นยารุนแรง และมีเกราะป้องกันตนเองท่ีดีในระดับหน่ึง ดังน้ันจึงมักจะใช้รถถังเบาในภารกิจการลาดตระเวน หรือ การสนับสนุนให้แกส่ ่วนดาเนนิ กลยุทธ์อน่ื ๆ ในพื้นที่ ซึ่งรถถังหลักไม่สามารถเข้าถึงได้ รถถังเบาควรมีขดี ความสามารถท่ีสาคัญ คือ มีอานาจการยิงสูง สามารถทาลาย รถถังในขนาดเดียวกันได้, สามารถทาการยิงขณะเคลื่อนที่ได้, มีเกราะป้องกันตนเองจากอาวุธกลขนาดหนัก ของข้าศึกได้, มีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีสูง, มีรัศมีในการปฏิบัติการปานกลาง, มีระบบการติดต่อสื่อสาร ที่กว้างไกลและเชือ่ ถอื ได้, สามารถปฏิบตั ิการไดท้ ั้งกลางวันและกลางคืน, สามารถปฏิบตั ิการในสงคราม คชรน.ได้ และมรี ะบบการป้องกนั ตนเองที่ดี ยานเกราะลาเลียงพล (Armored Personnel Carrier : APC) มีทั้งยานเกราะลาเลียงพลแบบสายพาน และแบบล้อยาง เป็นยานรบหุ้มเกราะขนาดเบา, มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง, มีขีดความสามารถ ในการบรรทุกกาลังพลเพื่อเข้าดาเนินกลยุทธ์เคียงบ่าเคียงไหล่กับหน่วยรถถัง และยานเกราะลาเลียงพล ส่วนใหญ่ยังมีขีดความสามารถในการลอยน้าและขับเคลื่อนในน้าได้ นอกจากนี้ยังมียานเกราะลาเลียงพล ที่ใช้ในวัตถุประสงค์อ่ืนๆ เช่น รถบังคับการ, รถกู้ซ่อม, ติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิด, ติดตั้งจรวดนาวิถีต่อสู้รถถัง, ตดิ ตง้ั จรวดหลายลากล้อง, รถพยาบาล ฯลฯ ยานยนต์ลาดตระเวน (Patrol Vehicle) เป็นยานยนต์ล้อขนาดเบา, มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง, อาจมีเกราะบางท่ีป้องกันจากกระสุนขนาดเล็ก และสะเก็ดระเบิดได้ในระดับหน่ึง สามารถติดต้ังอาวุธ ได้หลากหลาย ต้ังแต่ปืนกลเบา, เครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ, ปืนกลหนัก จนถึงเคร่ืองยิงจรวจต่อสู้รถถัง โดยยานรบประเภทน้ีมักจะใช้ในภารกจิ การลาดตระเวน ในอดีตนนั้ รถถังถือวา่ เปน็ ยานรบท่ีมีขดี ความสามารถอันพึงประสงค์ของทหารมา้ ส่วนรถสายพาน ลาเลียงพลและรถเกราะยังมีขีดความสามารถที่จากัดอยู่หลายประการ โดยเฉพาะอย่างย่ิงขีดความสามารถ ในการต่อสู้รถถังและอานาจการยิง แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนารถสายพานลาเลียงพล และรถเกราะให้ มีขีดความสามารถสูงขึ้น โดยมีการติดตั้งปืนใหญ่, ปืนใหญ่อัตโนมัติ หรือ อาวุธจรวดนาวิถีต่อสู้รถถัง ทาให้ เพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้และทาลายรถถังข้าศึกได้ในระยะไกล ทั้งยังทาการยิงสนับสนุนให้ กบั ส่วนทีท่ าการลงรบเดินได้อกี ด้วย เรียกยานรบน้ีว่า ยานรบทหารมา้ (Cavalry Fighting Vehicle : CFV) คุณลักษณะของทหารมา้ ความสาเร็จในการปฏิบัติการของทหารม้า ข้ึนอยู่กับการผสมผสานคุณลักษณะอย่างเหมาะสม ของ อานาจการยิงภายใต้เกราะป้องกันตัว, ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ี, อานาจการทาลายข่มขวัญ, การตดิ ต่อส่ือสารท่กี วา้ งไกลและอ่อนตวั และการตอบสนองต่อคาสั่งได้อย่างรวดเรว็ ๑. อานาจการยิงภายใต้เกราะกาบัง ยานรบของหน่วยทหารม้าประกอบด้วยระบบอาวุธเคล่ือนท่ี ท่ีมีเกราะป้องกัน ได้แก่ ปืนกล, เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่รถถัง การใช้ทหารม้าจึงอยู่บนพ้ืนฐาน ของการรวมระบบอาวุธ ซึ่งประกอบด้วยอาวุธของทหารม้ารถถัง ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ทหารม้าลาดตระเวน ท้งั ทางพื้นดินและทางอากาศ ปนื ใหญ่วถิ ีโค้ง และอาวุธสนับสนนุ อน่ื ๆ ๒. ความคลอ่ งแคล่วในการเคล่อื นท่ี เป็นหน่วยท่ีมคี วามคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีได้ ๑๐๐% โดยกาลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมด สามารถเคลอื่ นยา้ ยด้วยยานยนต์ในอัตราของหน่วยตนเอง มขี ีดความคล่องแคล่ว ในการเคล่ือนที่ท้ังบนถนนและในภูมิประเทศสูง จากคุณลักษณะดังกล่าวจึงอานวยให้ผู้บังคับบัญชาสามารถ
๑-๓ โยกย้ายอานาจการยิง และเปลีย่ นแปลงการปฏิบตั ไิ ดอ้ ย่างรวดเรว็ สามารถเคล่ือนที่ เข้าเพิ่มพนู ความแขง็ แกร่ง ในการสู้รบของฝ่ายเราให้มีความเหนือกว่าข้าศึก ณ พื้นที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หน่วยบินทหารบก ทมี่ าสนับสนุนให้กับหนว่ ยทหารม้าจะเพ่ิมพูนความคลอ่ งแคลว่ ในการเคลื่อนที่ของหน่วยทหารม้าให้มากยิ่งขึ้น โดยการปฏิบัติการเฝ้าตรวจ, การลาดตระเวน, การส่งกาลัง, การส่งกลับสายแพทย์อย่างจากัด และ การเคลอื่ นยา้ ยหนว่ ย ๓. อานาจการทาลายข่มขวัญ เปน็ การผสมผสานอานาจการทาลายทางกายภาพกับผลทางจิตวิทยา ต่อข้าศึก ซึ่งเกิดจากการเข้าปะทะอย่างรุนแรงด้วยอานาจการยิงภายใต้เกราะกาบังของรถถัง และ จากการสนับสนุนของหน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะ การรวมอานาจการยิงอย่างมหาศาลผสมผสาน กับการเคลื่อนท่ีของหน่วยทหารม้าด้วยยานรบอย่างรวดเร็ว ทาให้เกิดอานาจการทาลายข่มขวัญอย่างรุนแรง ต่อข้าศึก อานาจการทาลายข่มขวัญของทหารม้าจะยิ่งสูงขึ้นถ้าเพ่ิมเติมจานวนรถถัง และใช้รถถังอย่าง เป็นปึกแผ่นเป็นกลุ่มก้อน ผลของอานาจการทาลายข่มขวัญในการใช้ทหารม้าเข้าโจมตีอย่างรุนแรงนั้น นอกจากจะสามารถใหผ้ ลในการทาลายขวญั ข้าศึกแล้ว ก็ยงั เปน็ การบารุงขวญั ทหารใหฝ้ า่ ยเราอกี ด้วย ๔. การติดต่อสื่อสารท่ีกว้างไกลและอ่อนตัว วิทยุเป็นเครื่องมือส่ือสารหลักของหน่วยทหารม้า ทาให้ หน่วยทหารม้ามีระบบการติดตอ่ สือ่ สารท่ีจะนามาใช้ใดใ้ นทันที, มีระยะติดต่อสือ่ สารท่ีไกล และมีความอ่อนตวั สูง ในการส่ือสารกับหน่วยเหนือ, หน่วยรอง, หน่วยข้างเคียง และหน่วยสนับสนุนต่างๆ ส่วนการติดต่อสื่อสาร ดว้ ยวธิ กี ารอืน่ น้นั จะกาหนดเพ่มิ เตมิ ข้ึนตามสถานการณ์ทางยทุ ธวธิ ี ๕. ความอ่อนตัว ทหารม้าเป็นหน่วยที่มีความอ่อนตัวสูง สามารถรวมกาลังหรือแยกหน่วยได้ อยา่ งรวดเร็วตามความตอ้ งการเม่ือเข้าเผชิญกบั สถานการณ์ทีเ่ ปลี่ยนแปลงไป ความคลอ่ งแคล่วในการเคล่ือนที่ ในสนามรบของหน่วยทหารม้าทาให้สามารถเปลี่ยนแปลงการจัดเฉพาะกิจ และรูปแบบการดาเนินกลยุทธ์ ได้อย่างรวดเร็วแม้ในขณะท่ีหน่วยกาลังปะทะกับข้าศึกในสภาพภูมิประเทศทุกรปู แบบ มีปจั จัยหลายประการ ที่ทาให้หน่วยทหารม้ามีความอ่อนตัว ได้แก่ การจัดหน่วยแยกเป็นส่วนๆ, มีระบบการติดต่อสื่อสาร ที่มีความออ่ นตัวสงู , มีหน่วยสนบั สนนุ การรบและสนับสนนุ การช่วยรบที่สามารถเคล่ือนท่ีให้การสนับสนนุ ได้รวดเรว็ ๖. การตอบสนองต่อคาสั่ง เนื่องจากหน่วยทหารม้ามีความคล่องแคล่วในการเคลอ่ื นที่สูง มีความอ่อนตัวสูง รวมท้ังมีการติดต่อสื่อสารที่กว้างไกล จึงทาให้หน่วยทหารม้าสามารถตอบสนองคาส่ังของผู้บังคับบัญชาได้ เป็นอย่างดี หน่วยทหารม้าสามารถตอบสนองต่อคาสั่งได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายต่อคาส่ังแบบมอบภารกิจ ความง่ายในการติดต่อส่ือสารของทหารม้าทาให้การส่งคาส่ังในการปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ความอ่อนตัวและความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีจะเปิดโอก าสให้สามารถตอบสนองต่อคาส่ัง ในการเปล่ียนแปลงภารกิจ, เปลี่ยนการจัดเฉพาะกิจของหน่วยทางยุทธวิธี, เปล่ียนทิศทางการเคล่ือนที่ และ สามารถเคล่อื นทอ่ี ย่างรวดเรว็ ไปยังพื้นท่ีท่สี าคัญ หรอื พื้นที่ท่ใี ห้ผลการรบแตกหกั ขดี ความสามารถของทหารม้า จากคุณลักษณะของทหารม้า การใช้หน่วยทหารม้าในการสนองตอบต่อภารกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรปฏบิ ัติด้วยความหา้ วหาญตามขดี ความสามารถท่ีสาคัญ ดงั ต่อไปน้ี ๑. ดาเนนิ กลยุทธ์ภายใตก้ ารยิงทีม่ เี กราะป้องกันในสนามรบ ๒. เคลอ่ื นท่อี ย่างรวดเรว็ เข้าปะทะกับขา้ ศกึ เพอื่ ตดั สนิ การรบ ณ ตาบลแตกหกั ๓. กระจายกาลัง และ รวมกาลังอย่างรวดเรว็ ๔. เข้าปฏิบตั กิ ารในสนามรบดว้ ยระบบป้องกนั ที่มีประสิทธภิ าพสูง ๕. เข้าปะทะและผละจากการสู้รบกบั ข้าศึกได้อยา่ งรวดเรว็ โดยสญู เสยี น้อยที่สดุ ๖. เขา้ โจมตอี ย่างหนกั หน่วงต่อทม่ี นั่ ข้าศกึ ๗. ดาเนนิ กลยทุ ธเ์ ข้าสทู่ างปีกหรอื ด้านหลังของขา้ ศกึ ไดอ้ ย่างรวดเรว็
๑-๔ ขดี จากดั ของทหารม้า ๑. ยานรบส่วนมากมีนา้ หนักมาก จึงมีปญั หาในการขนสง่ , การเคลอื่ นย้าย และการปฏิบัตกิ ารในที่ลมุ่ ท่พี ืน้ ดินมีความออ่ นน่มุ และในพ้ืนท่ปี ่าภูเขา ๒. มีความส้ินเปลอื ง สป.สงู โดยเฉพาะ สป.๓ และ สป.๕ จงึ ต้องมีการส่งกาลังท่ีดี ๓. มคี วามต้องการในการซ่อมบารงุ สงู หลกั นิยมในการรบของทหารมา้ จากคณุ ลักษณะและขดี ความสามารถของทหารม้า ทาให้มีหลกั นิยมในการรบโดยสามารถสรุปได้ดังนี้ ๑. ทาการรบบนยานรบเคลือ่ นท่เี รว็ และปฏบิ ตั ิการรบดว้ ยวิธรี กุ เป็นหลัก โดยปฏิบัติการ ดว้ ยความรวดเรว็ รนุ แรง เด็ดขาด ๒. ปฏบิ ตั กิ ารเป็นอิสระ โดยใชค้ วามคลอ่ งแคลว่ ในการเคล่ือนที่ และอานาจการยิง ๓. ทาการรบอยา่ งแตกหกั หวงั ผลตัดสินการรบ ๔. ไมร่ บยืดเยอ้ื เป็นเวลานาน ๕. ทาการรบแบบผสมเหลา่ ทีม่ คี วามสมบรู ณ์ในตวั เอง ๖. ทาการรบแบบเป็นปกึ แผน่ ใช้ความคลอ่ งแคลว่ และอานาจการยงิ ใหเ้ กิดผลสูงสุด บทบาทของทหารม้า บทบาทการรบของหน่วยทหารม้า จะเป็นการปฏบิ ัติที่ต้องการความเด็ดขาดในการยทุ ธ์โดยใช้ยานรบ ทีเ่ คลอ่ื นที่ได้รวดเร็วทางพื้นดิน โดยปกตทิ หารม้าจะมีคุณลักษณะที่เหมาะในการเข้าทาการรบดว้ ยวิธีรุกเป็นหลัก และดารงคุณลักษณะได้ด้วยการใช้ยานรบเข้าดาเนินกลยุทธ์ โดยบทบาทที่เหมาะสมสาหรับหน่วยทหารม้า สามารถกาหนดให้เห็นเดน่ ชัด ๒ แบบ คือ ๑. ทาการรบอย่างเป็นปึกแผ่น และปฏิบัติการเป็นอิสระโดยใช้ความเร็ว อานาจการยิง ตลอดจน อานาจการทาลายข่มขวัญ และรัศมีปฏิบตั ิการไกล ทาการรบตามหลักนิยมของทหารมา้ โดยเป็นหน่วยในอดุ มคติ สาหรับการรบด้วยวิธีรุก หรือใช้ในการตีโต้ตอบ เป็นเคร่ืองมือที่ผู้บังคับบัญชาสามารถใช้สาหรับการรบ ท่ีให้ผลแตกหกั ตามปกตแิ ล้วบทบาทนี้จะปฏบิ ตั โิ ดยกองพลทหารม้า และกรมทหารม้า ๒. ทาการร่วมรบกับทหารเหล่าอนื่ เปน็ บทบาทที่หน่วยทหารมา้ สนับสนุนภารกิจของทหารราบเป็นหลัก โดยทาการรบอย่างเป็นปึกแผ่นในระดับกองพันรถถัง หรือจัดเป็นชุดรบร่วมกับทหารราบ และกองพัน หรอื กองร้อยทหารม้าลาดตระเวน เพื่อให้การลาดตระเวนและระวงั ป้องกนั ให้แก่ทหารราบ ตามปกตบิ ทบาทนี้ จะปฏิบตั ิโดยหนว่ ยทหารม้าทแี่ บ่งมอบให้กับหน่วยทหารราบ ภารกิจของทหารม้า ทหารม้าเป็นหน่วยกาลังรบในลักษณะผสมกาลังด้วยหน่วยยานรบทางพื้นดินและการสนับสนุน ทางอากาศ เพ่ือใหม้ รี ะดบั ความสามารถสูงสุดในเรอื่ งความคลอ่ งแคล่วในการเคล่ือนท,่ี อานาจการยงิ ท่ีรนุ แรง, การติดต่อส่ือสารท่ีรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทหารม้าสามารถทาการรบได้ทุกข้ันตอนของสงคราม ทุกแบบ ของการรบ ในสภาพลมฟ้าอากาศที่เลวร้าย และทุกภูมิประเทศ โดยการจัดกาลังผสมให้เหมาะสม กับสถานการณ์ขา้ ศึกและสภาพภมู ิประเทศ แม้ในสงครามท่มี ีการใช้อาวุธ คชรน. ทหารม้าก็เป็นหน่วยทเ่ี หมาะสม ทจ่ี ะใช้ในการรบ เน่ืองจากมีเกราะปอ้ งกันความร้อนและแรงกดดนั อยา่ งรนุ แรง รวมท้งั รังสที ่เี กดิ จากการระเบิด ของอาวธุ นิวเคลยี ร์ ตลอดจนสารเคมีและสารชีวภาพต่างๆ โดยเกราะของยานรบสามารถป้องกันพลประจารถ ให้ปลอดภัยได้ในระดับหน่ึง ทาให้ทหารม้าสามารถดาเนินกลยุทธ์ในพ้ืนท่ีดังกล่าวได้ ในขณะที่หน่วยทหารเหล่าอ่ืน ต้องหลกี เล่ียงจากพื้นทเ่ี ปือ้ นพิษหรอื รงั สี
๑-๕ ภารกิจ นับว่าเป็นปัจจัยสาคัญประการหนึ่งท่ีกาหนดการจัดกาลังของหน่วยต่างๆ ดังน้ันในการจัด หน่วยทหารม้าเขา้ ปฏิบัตกิ ารจึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับภารกิจ คือ ๑. ภารกิจในบทบาทการลาดตระเวน ระวังป้องกัน และออมกาลัง เป็นภารกิจซ่ึงต้องการหน่วย ที่สามารถปฏิบัติการเป็นอิสระได้อย่างอ่อนตัวตามสถานการณ์เฉพาะท่ีเกิดขึ้น และมีความคล่องแคล่ว ในการเคล่ือนท่ีสูงกว่าความคล่องแคล่วของกาลังรบฝ่ายเดียวกันและกาลังรบฝ่ายข้าศึก สามารถทาการสู้รบ ด้วยยานรบทั้งทางพ้ืนดิน, อากาศหรอื ลงรบเดนิ ดิน ซึ่งหน่วยทหารม้าลาดตระเวนจะมีโครงสร้างการจัดเป็นชุดรบ ผสมผสานอานาจกาลังรบท่ีเหมาะสมกับสถานการณ์ทุกชนิด คือ มีส่วนลาดตระเวน ส่วนดาเนินกลยุทธ์ ทางพื้นดิน ส่วนรถถัง และส่วนยิงสนับสนุนในตัวเอง ในตั้งแต่ระดับหมวดขึ้นไปจนถึงระดังกองพัน จึงทาให้ สามารถปฏิบัติภารกิจมูลฐานบรรลุผลสาเร็จได้เปน็ อยา่ งดี โดยอาจพิจารณาใช้เป็นหน่วยลาดตระเวน หน่วยกาบัง หน่วยคุ้มกัน หรือทาฉากกาบังใหก้ ับกาลังหน่วยใหญ่ ทาการเกาะข้าศกึ หรือเป็นหนว่ ยติดต่อระหว่างกาลังฝา่ ยเรา ทาการตั้งรับ รั้งหนว่ ง เข้าตีโฉบฉวยในพื้นที่ส่วนหลังของข้าศึก รบกวน หรือเข้าตีลวง ฯลฯ รวมท้ังเป็นหน่วย ในการออมกาลังให้กบั หนว่ ยเหนือ เพอื่ ที่จะอานายให้สามารถใชก้ าลังรบส่วนใหญ่เข้าดาเนินกลยุทธ์ในพน้ื ทอ่ี ื่น ซงึ่ หวังผลการรบแตกหักได้ หน่วยลาดตระเวนทางอากาศหรือหน่วยทหารม้าอากาศ ทาให้ขีดความสามารถในการลาดตระเวน ระวังป้องกัน และการเฝ้าตรวจ ขยายขอบเขตกว้างขวางและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยคานึงถึงข้อจากัด ของลักษณะภูมิประเทศเพียงเล็กน้อยเท่าน้ัน จะต้องปฏิบัติการร่วมกับทหารม้าลาดตระเวนภาคพ้ืนดิน จึงจะเกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด ๒. ภารกิจในบทบาทการเป็นส่วนดาเนินกลยุทธ์หลัก ภารกิจนี้จะเป็นการประกอบกาลังร่วมกัน ระหวา่ งหน่วยทหารม้ารถถัง และหน่วยทหารมา้ บรรทุกยานเกราะ ๒.๑ หน่วยทหารม้ารถถัง มีภารกิจมูลฐาน คือ เข้าประชิดและทาลายกาลังข้าศึกด้วยการยิง การดาเนินกลยุทธ์ และอานาจการทาลายข่มขวัญ โดยประสานกับกาลังรบหน่วยอื่นๆ หน่วยทหารม้ารถถัง สามารถปฏิบัติได้ทุกรูปแบบและทุกประเภทของการยุทธ์ เพราะวา่ หน่วยทหารม้ารถถังมีอานาจในการยิงอยู่ในตัว มีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ี, มีเกราะกาบัง และมีอานาจการทาลายข่มขวญั ดังน้ันจึงสามารถพิจารณา ใช้หน่วยทหารมา้ รถถังใหเ้ หมาะสมกับลักษณะของหน่วยได้คือ ดาเนินกลยุทธ์ภายใต้การยงิ ทาลายยานเกราะข้าศึก ขยายผลด้วยการทะลุทะลวง และขยายผลจากการใช้อาวุธทาลายภายใต้การสนับสนุนด้วยการยิงของอาวุธ ในอัตรา และใช้รถถงั ในภารกิจการสนบั สนนุ หน่วยทหารราบ ๒.๒ หน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะ มีภารกิจมูลฐานคือเข้าประชิดข้าศึกด้วยการยิงและ การดาเนินกลยุทธ์ เพื่อทาลายหรือจับเป็นเชลย หรอื เพื่อผลักดันการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชิด และการตีโต้ตอบ หน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะเหมาะสาหรับการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกเป็นอย่างย่ิง โดยจะไมย่ ดึ พื้นท่ีเหนียวแน่น แต่จะยดึ เพอ่ื ปรบั กาลงั ใหม่และเข้าดาเนนิ กลยุทธ์ตอ่ ไป และเป็นหน่วยท่ีสามารถ ปฏิบตั ิภารกจิ ร่วมกับหน่วยทหารมา้ รถถงั ได้อยา่ งดีย่ิง เพื่อเป็นการชดเชยจุดอ่อนซ่ึงกันและกัน ภารกจิ ทคี่ วรมอบใหท้ หารม้า จากการท่ีหน่วยทหารม้าเป็นหน่วยกาลังรบที่มีขีดความสามารถในการเคล่ือนท่ีสูงกว่ากาลังรบอื่นๆ มีอานาจการยิงอย่างรุนแรงในตัวเอง มีเกราะกาบัง มีอานาจการทาลายข่มขวัญ รวมท้ังมีความอ่อนตัว ในการจัดด้วยการผสมกาลังได้อย่างเหมาะสม และมีระบบการติดต่อส่ือสารท่ีรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อสนองตอบคาสั่งที่ต้องการอานาจกาลังรบสูงสุดในทุกสถานการณ์ ทหารม้าจึงเหมาะสมท่ีจะใช้สาหรับ การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกเปน็ อย่างย่ิง เพื่อประชิดและเข้าทาลายกาลังข้าศึก ใช้ขยายผลแห่งความมีชัย และ ใชข้ ยายผลจากการใชอ้ าวุธ คชรน. ดงั นั้นภารกจิ ท่คี วรมอบให้ทหารมา้ คอื
๑-๖ ๑. การเจาะลึกและการโอบปีกกว้าง หน่วยทหารม้าขนาดใหญ่ในรูปขบวนรบท่ีมีความคล่องแคล่ว ในสนามรบ และมีขีดความสามารถในการดาเนินกลยุทธอยา่ งเป็นปกึ แผ่นด้วยกาลงั เป็นกลมุ่ กอ้ นท้ังหมด หรือ เพียงบางส่วน เพื่อก่อให้เกิดความกดดันอย่างมหาศาลจากการยิงสนับสนุน ก่อให้เกิดกาลังรบที่ทรงอานาจ และพลงั โถมกระแทก ในการเจาะลกึ และโอบปีกกว้าง ในพนื้ ทีส่ ว่ นหลงั ของข้าศกึ หน่วยทหารม้าสว่ นน้จี ะมีเสรี ในการปฏิบัติอย่างย่ิงเม่ือใช้ดาเนินกลยุทธเพ่ือยึดท่ีหมายแตกหัก ทาลายการติดต่อสื่อสาร ท่ีบังคับการ ท่ตี ั้งจรวด ที่ตงั้ ปนื ใหญ่ ทีต่ ้ังกองหนนุ หรือทต่ี ้งั ทางการสง่ กาลงั ๒. การขยายผลและไล่ติดตาม หน่วยทหารม้ามีอานาจกาลังรบเพียงพอที่จะฉกฉวยโอกาส ในการขยายผล หรอื ทาการไล่ติดตามไดเ้ อง ทง้ั ยังเป็นหน่วยกาลังรบแตกหกั ให้ผู้บังคับบัญชาใช้ในการขยายผล หรอื ไลต่ ิดตาม ต่อจากความสาเรจ็ ของหนว่ ยอนื่ ๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ อีกด้วย ๓. การตั้งรับแบบคล่องตัว หน่วยทหารม้าเป็นหน่วยในอุดมคติท่ีมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติการต้ังรับแบบคล่องตัวในพื้นท่ีที่มีกว้างด้านหน้ามาก อย่างไรก็ตามเน่ืองจากหน่วยทหารม้า มีพ้ืนฐานการจัดเพื่อปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก การใช้หน่วยทหารม้าได้ดีท่ีสุดในการรบด้วยวิธีรับแบบยึดพ้ืนท่ี ก็คือ ใช้เป็นกองหนุนของหน่วยเหนือท่ีมีความเข็มแข็ง และมีความคล่องแคล่ว สาหรับใช้ในการตีโต้ตอบ เพ่ือทาลายการเข้าตขี องฝา่ ยข้าศกึ ๔. การทาลายยานเกราะข้าศึก ในการทาลายหน่วยยานเกราะข้าศึกน้ัน เป็นส่ิงจาเป็นอย่างยิ่ง ต่อผลสาเร็จในการรบทางภาคพื้นดิน และต้องกระทาอย่างต่อเนื่องท้ังในการรบด้วยวิธีรุก รับ และร่นถอย โดยรถถงั จะเป็นอาวุธหลกั ในการทาลายหนว่ ยยานเกราะขา้ ศกึ ๕. การลาดตระเวนและการระวังป้องกัน เน่ืองจากอาวุธสมัยใหม่มีระยะยิงไกลขึ้นและมีอานาจ การทาลายมากขึ้น หน่วยต้องกระจายกาลังกันออกไปเพ่ือลดอันตรายที่จะเกิดร่วมกันทาให้ความจาเป็น และความต้องการในการลาดตระเวนและระวังป้องกันเพิม่ ข้ึนอย่างเห็นได้ชัด ภารกิจลาดตระเวนและระวงั ป้องกัน ตอ้ งการหน่วยที่มคี วามสามารถในการรบทางพ้ืนดินที่มีคล่องแคล่วในการเคล่ือนทีส่ ูงเพือ่ แจ้งเตอื นเกี่ยวกบั ขา้ ศึก ซ่ึงในบางสถานการณ์หน่วยอาจต้องทาการรบในขีดความสามารถของตนเอง เพื่อคล่ีคลายสถานการณ์ หน่วยทหารม้าลาดตระเวนสามารถทาการลาดตระเวน ทั้งทางพ้ืนดินและทางอากาศ เป็นกาลังที่เหมาะสม สาหรับใช้ในการลาดตระเวน การกาบัง การคุ้มกัน การทาฉากกาบัง การระวังป้องกันพ้ืนท่ีส่วนหลัง หรือใช้ สนับสนุนการปฏิบัติการยุทธเคล่ือนทที่ างอากาศ และยงั เปน็ หน่วยทีเ่ หมาะสมอยา่ งย่ิงท่จี ะใช้ในการตอ่ ตา้ นการ ปฏบิ ัติการยทุ ธเคล่อื นทท่ี างอากาศ การปฏิบตั ิการยุทธสง่ ทางอากาศ และการรบแบบกองโจรของฝ่ายขา้ ศกึ ๖. การออมกาลัง ทหารม้าลาดตระเวน มีการจัดและการประกอบกาลังตามอุดมคติเพื่อปฏิบัติ ภารกิจในการออมกาลัง อานวยให้ผู้บงั คบั บัญชาสามารถใชก้ าลงั รบส่วนใหญ่เพ่ือเข้าดาเนินกลยุทธ์ในพืน้ ท่ีอ่ืน ทหี่ วังผลการรบแตกหกั ได้ ๗. การสนับสนุนทหารราบอย่างใกล้ชิด ภารกิจนี้ส่วนใหญ่ปฏิบัติโดยกองพันรถถังของกองพล ทหารราบ ไม่ว่าจะใช้เป็นหน่วยกองพันรถถังอย่างเป็นปึกแผ่น หรือแยกหน่วยรถถังสมทบกรมทหารราบ กองพันรถถังจะเพิ่มอานาจการยิงให้กับทหารราบในภารกิจการเข้าตีและต้ังรับ และเพิ่มขีดความสามารถใน การทาลายยานเกราะใหส้ ูงขึน้ ๘. การปฏิบัติการในพ้ืนท่ีส่วนหลัง หน่วยยานเกราะเป็นหน่วยท่ีสามารถใช้ในการปฏิบัติการ ต่อต้านกาลังรบฝ่ายข้าศึกที่ปฏิบัติการอยู่ในพ้ืนที่ส่วนหลังของฝ่ายเรา หน่วยกาลังรบข้าศึกที่ปฏิบัติการใน พื้นท่ีส่วนหลงั นนั้ อาจมีความแตกต่างกันไป ต้ังแต่หน่วยกาลังรบนอกแบบ เช่น หน่วยกองโจร, หน่วยรบพิเศษ ไปจนถึงกาลังรบตามแบบทป่ี ฏบิ ัตกิ ารยุทธ์สง่ ทางอากาศหรอื การยุทธเ์ คลอื่ นที่ทางอากาศก็ได้ ๙. การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ และการป้องกันภายใน คุณลักษณะของหน่วยยานเกราะ เหมาะสมอย่างย่ิงในการใชป้ ฏิบตั ิการเพ่ือเสถียรภาพ เช่น การแสดงแสนยานุภาพใหฝ้ ่ายตรงข้ามเกิดความหวาดกลัว ในการปฏิบัติการป้องกันภายในน้ัน หน่วยยานเกราะสามารถปฏิบัติการอย่างได้ผลต่อหน่วยกาลังทางยุทธวิธี
๑-๗ ของผู้ก่อการร้าย หน่วยทหารม้าอากาศก็เป็นหน่วยท่ีเหมาะสมอย่างย่ิงในการปฏิบัติการป้องกันภายใน ณ ภูมิประเทศซ่ึงไม่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติของหน่วยยานเกราะภาคพ้ืนดิน เราอาจใช้หน่วยยานเกราะในฐานะ เป็นส่วนหน่ึงในการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ, เพ่ือสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายใน, ปฏิบัติการ หรือ ให้การสนับสนุนในการพิทักษ์และช่วยเหลือประชาชน, การเข้าไปมีส่วนร่วมในปฏิบัติการจิตวิทยา และ งานด้านข่าวกรอง หรือเป็นท่ีปรึกษาแก่หน่วยทหารของประเทศเจ้าบ้านที่เราเข้าไปปฏิบัติการเพอื่ เสถียรภาพ และปอ้ งกนั ภายในให้
๑-๘ ตอนท่ี ๒ การจัด และภารกจิ หน่วยทหารมา้ ของกองทัพบกไทย กล่าวท่ัวไป เม่ือพม่าได้ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งขณะน้ันยังทรงพระยศ เป็นพระยาวชิระปราการ พระองค์ตัดสินพระทัยรวบรวมไพร่พลจานวนหน่ึงตีฝ่าวงล้อมของข้าศึกออกมา จากกรุงศรีอยุธยา คร้ันเมื่อตรงกับวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๓๐๙ บริเวณบ้านพรานนก (ปัจจุบันอยู่ในเขต อาเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ก็ได้มีข้าศึกยกกาลังไล่ติดตามมาทัน พระองค์จึงเสด็จข้ึนทรงม้า พร้อมทหารคู่พระทัยออกสู้รบกับข้าศึกทันที และทรงได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการรบจนในท่ีสุดก็ทรงกอบกู้ เอกราชของชาติไทยกลับคืนมาได้ภายในระยะเวลาเพียง ๗ เดือน ด้วยพระปรีชาสามารถและพระวีรกรรม ของพระองค์ในการรบท่ีบ้านพรานนกในครง้ั นั้น เหล่าบรรดาทหารม้าแห่งกองทัพบกไทยต่างกเ็ ทิดทูนพระองค์ เยี่ยงพระบูรพาจารย์แห่งการสู้บนหลังม้า และได้ยึดถือเอาวันท่ี ๔ มกราคมของทุกปีเป็น “วันทหารม้า” มาจวบจนทกุ วันนี้ การพัฒนากิจการเหลา่ ทหารม้าของกองทัพบกไทยท่ีสาคัญ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคของทหารม้ายานเกราะน้ัน เกิดข้ึนในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๖ โดยได้มีการจัดต้ัง “กองรถยนต์ เกราะกองเสนาหลวงรักษาพระองค์” ขึ้น และพระองค์ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้าง รถเกราะต้นแบบขึ้นเม่ือวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๒ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถเกราะคันแรกของไทย และต้ังแต่ ปี พ.ศ.๒๔๗๓ ในรชั สมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ ๗ เป็นต้นมา ก็ได้เริ่มมีการจดั ซื้อ ยานเกราะประเภทต่างๆ ทั้งรถเกราะ, รถถัง และรถสายพาน จากต่างประเทศเข้ามาประจาการ รวมทั้ง ยังได้รับความช่วยเหลือทางด้านการทหารจากมิตรประเทศ ทาให้กิจการของหน่วยทหารม้าของไทย ได้มกี ารพฒั นามาโดยลาดบั จนถงึ ปัจจุบนั เหล่าทหารม้าของไทยได้นาหลักนิยม, การจดั หน่วย และวิธีรบ ของหน่วยยานเกราะจากมติ รประเทศ มาประยกุ ต์ใชใ้ หเ้ หมาะสมกับสภาพแวดลอ้ มทางการยุทธ์ของประเทศไทย รวมทั้งบทเรียนจากการรบท่ีผ่านมา ของทั้งกองทัพบกไทยและต่างประเทศ ทาให้สามารถนามาพัฒนาเป็นหลักนิยมและวิธีรบของทหารม้า ของกองทัพบกไทย เพ่ือใช้เป็นหลักพื้นฐานอันเป็นแนวทางยึดถือในการปฏิบัติของหน่วยทหารม้าทุกระดับ โดยในปัจจบุ ันเหล่าทหารม้าของไทยได้แบง่ ทหารมา้ ออกเป็น ๓ ประเภทหลกั ๆ คอื ทหารม้ารถถัง เป็นหน่วยทหารม้าท่ีดาเนินกลยุทธโ์ ดยใช้รถถังเป็นยานรบ รถถังถือว่าเป็นอาวุธหลัก ของทหารม้า เป็นระบบอาวุธท่ีสมบูรณในตัวเองท่ีออกแบบให้เข้าต่อสู้กับเป้าหมายได้ทุกชนิด ปืนใหญ่รถถัง เป็นอาวุธยิงเล็งตรงท่ีมีอานาจการยิงรุนแรง ใช้เป็นอาวุธหลักในการต่อสู้กับรถถัง, ยานเกราะ และเป้าหมาย ท่ีมีความแข็งแรงอ่ืนๆ และยังสามารถใช้เป็นอาวุธกึ่งเล็งจาลอง (สาหรับรถถังบางชนิด) ในการยิงสนับสนุน แบบก่ึงวิถีโค้งให้แก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์อ่ืนๆ นอกจากนั้นรถถังยังติดตั้งปืนกลร่วมแกนเพ่ือใช้ยิงตัดรอน, ยงิ ทาลายกาลงั ทหาร หรือเป้าหมายที่บอบบาง และยงั มีปืนกลบนปอ้ มท่ใี ชย้ งิ ตอ่ สู้อากาศยานได้ ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ เป็นหน่วยทหารม้าท่ีดาเนินกลยุทธ์โดยใช้ยานรบหุ้มเกราะลาเลียงพล เป็นยานรบหลัก (รถสายพานลาเลียงพล, รถเกราะล้อยาง) สามารถเคลื่อนที่เข้าทาการรบบนยานรบร่วม กบั ทหารมา้ รถถังอยา่ งใกล้ชิด เพื่อเปน็ การชดเชยจดุ ออ่ นของทหารมา้ รถถัง และสามารถทาการลงรบเดินดินได้ เมื่อมีความจาเป็นที่จะต้องดาเนินกลยุทธ์ทางพ้ืนดิน โดยใช้อาวุธขนาดเล็กของหน่วยเข้าทาลายข้าศกึ ในระยะ ประชดิ
๑-๙ ทหารม้าลาดตระเวน เป็นหนว่ ยทหารมา้ ท่ีมีภารกิจในการลาดตระเวนและระวังป้องกันให้กับหน่วย ดาเนินกลยุทธอ์ ่ืนๆ โดยใช้ยานเกราะขนาดเบาที่มคี วามคลอ่ งแคลว่ ในการเคล่ือนทม่ี ีการผสมผสานระบบอาวุธ ท่ีมีความสมบูรณ์ในตวั เอง ท้ังอานาจการยงิ เล็งตรงของรถถังเบาและอาวธุ กล, การยิงเล็งจาลองจากเคร่ืองยิง ลกู ระเบิด, การลาดตระเวน และการดาเนินกลยุทธ์เพือ่ กาหนดทต่ี ั้งข้าศกึ , ปืนใหญ่ และอาวุธยิงสนับสนุนอื่นๆ สามารถเพ่ิมเติมการยิงเพื่อช่วยเหลือหน่วยทหารม้ารถถังและหน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะในการเข้า ประชดิ และทาลายกาลงั ข้าศกึ การจัดหน่วยทหารม้าของกองทัพบกไทย จากบทบาทของทหารม้าซึ่งมีท้ัง ทาการรบเป็นปึกแผ่น, ปฏิบัติการเป็นอิสระ และทาการร่วมรบ กับทหารเหล่าอ่ืน ทาให้เหล่าทหารม้าของไทยได้มีการแบ่งทหารม้าออกเป็น “ทหารม้าในกองพล” และ “ทหารมา้ นอกกองพล” ทหารม้าในกองพล คือ หน่วยทหารม้าซ่ึงเป็นหน่วยในอัตราของกองพลทหารม้า ซ่ึงในปัจจุบันมีอยู่ จานวน ๓ กองพลทหารมา้ ทหารมา้ นอกกองพล คอื หน่วยทหารม้าท่ไี ม่ไดเ้ ป็นหน่วยในอตั ราของกองพลทหารม้า แต่อาจจะเป็น หน่วยทหารม้าที่เป็นหน่วยขนึ้ ตรงของกองพลทหารราบ หรือหนว่ ยทหารมา้ ที่เป็นหนว่ ยขึ้นตรงต่อกองทพั ภาค ตัวอยา่ งการจัดทหารม้านอกกองพล เช่น ๑. กองพลทหารราบเบา มกี ารจัด ๑ กองพันทหารมา้ ลาดตระเวน เป็นหนว่ ยขึน้ ตรง ๒. กองพลทหารราบมาตรฐาน มีการจดั ๑ กองพนั ทหารม้ารถถงั และ ๑ กองร้อยทหารม้าลาดตระเวน เปน็ หนว่ ยขึน้ ตรง ๓. กองพลทหารราบยานเกราะ มีการจัด ๑ กองพนั ทหารมา้ รถถัง และ ๑ กองพนั ทหารม้าลาดตระเวน เป็นหน่วยขนึ้ ตรง จะเห็นได้ว่าทหารม้านอกกองพลนั้น ประกอบดว้ ยทหารมา้ รถถัง และทหารม้าลาดตระเวน แตจ่ ะไม่มี การบรรจุหน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะอยู่เลย ในส่วนของทหารม้าในกองพลจะมีการจัดครบทั้ง ทหารม้ารถถัง, ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ และ ทหารม้าลาดตระเวน บทบาทของทหารม้าในกองพลและนอกกองพลจะแตกตา่ งกัน คือ ทหารม้าในกองพลทหารม้า จะมีบทบาท ท่ีปฏิบัติการเป็นอสิ ระ, ใช้หลกั นิยม และวิธีรบของทหารม้าโดยสมบูรณ์ ส่วนทหารม้านอกกองพลทหารม้าน้ัน จะใชใ้ นการสนับสนนุ ภารกจิ ของทหารราบเปน็ หลัก กองพลทหารม้ามาตรฐาน การจัดที่แตกต่างกันของแต่ละกองพลทหารม้า จึงเป็นเร่ืองยากในการจัดการฝึก การศึกษา และ การใชป้ ฏบิ ัติภารกิจ แม้แต่หนว่ ยรองหลักทเี่ ป็นส่วนดาเนนิ กลยทุ ธ์ของกองพลทหารม้า คอื กรมทหารม้า กย็ งั มี การจัดหน่วยที่แตกต่างกันอีก เพ่ือขจัดความยุ่งยากดังกล่าว เหล่าทหารม้าจึงมีแนวความคิดในอุดมคติ ในการจัดหนว่ ยทหารม้ามาตรฐาน คือ หนว่ ยรองหลกั ของกองพล คือ กรมทหารมา้ จะมีการจดั เหมือนกนั และ กองพันต่างๆ ภายในกรม ก็จะมีการจัดเหมือนกันทุกกรม ซ่ึงจะเป็นมาตรฐานเพ่ือให้ง่ายในการจัด การฝึก การศึกษา และการจัดหายุทโธปกรณ์ที่จะบรรจุให้ กองพลทหารม้ามาตรฐานมีโครงสร้างการจัดที่ค่อนข้างตายตัว ซึ่งอาจแบ่งออกเป็น ส่วนฐานกองพล และส่วนดาเนินกลยุทธ์ ในการจัดหน่วยทหารม้าในกองพลทหารม้า มาตรฐานแบ่งทหารม้าประกอบด้วยทหารม้าท้ัง ๓ ประเภท คือ ทหารม้าลาดตระเวน, ทหารม้ารถถัง และ ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ดังนั้นในการจัดกาลังเพ่ือการแบ่งมอบทหารม้าประเภทต่างๆ ในกองพลทหารม้า จึงจัดให้มี ๑ พัน.ม.(ลว.), ๓ พัน.ม.(ถ.) และ ๖ พัน.ม.(ก.) โดยหน่วยทหารม้าในกองพลทหารม้าได้รับแบ่งมอบ
๑ - ๑๐ ภารกิจท่ีสาคัญดังน้ี คือ การลาดตระเวนและระวังป้องกัน การออมกาลัง และการดาเนินกลยุทธ์หลัก โดยที่ทหารม้าลาดตระเวนเหมาะสมในภารกิจการลาดตระเวน ระวังป้องกันและเป็นหน่วยออมกาลัง ส่วนทหารมา้ รถถงั และทหารมา้ บรรทุกยานเกราะ เหมาะในภารกิจดาเนนิ กลยุทธ์หลัก กองพลทหารม้ามาตรฐาน เป็นแนวความคิดการจัดหน่วยทหารม้าในอุดมคติสาหรับปฏิบัติการรบ แบบเคลื่อนท่ีทางภาคพ้ืนดินของหน่วยยานเกราะ เป็นการจัดกาลังรบผสมเหล่าที่มีอัตราการจัดยุทโธปกรณ์ ทีส่ มบูรณ์ในตัวเอง ได้แก่ ส่วนบังคับบัญชา ส่วนดาเนินกลยุทธ์ ส่วนสนับสนุนการรบ และส่วนสนับสนนุ การช่วยรบ และมกี ารจัดหน่วยภายในของสว่ นดาเนินกลยุทธ์หลักเหมอื นกนั ทงั้ ๓ กรมทหารม้า โดยมีมาตรฐานการฝกึ และ หลักนิยมในการปฏิบัตกิ ารรบเหมือนกัน โดยการจัดในกองพลทหารมา้ มาตรฐานนัน้ จะประกอบด้วย ๒ ส่วนหลกั ดงั นี้ ส่วนฐานกองพล จะรวมถงึ ส่วนบังคบั บัญชา ส่วนลาดตระเวนและระวังป้องกัน สว่ นสนับสนนุ การรบ และส่วนสนับสนบั สนุนการช่วยรบ อาจประกอบด้วย ๑. กองบญั ชาการกองพล และกองรอ้ ยกองบัญชาการ ๒. กองพนั ทหารม้าลาดตระเวน ๓. กองร้อยสารวัตรทหาร ๔. กองร้อยบนิ กองพล หรอื กองร้อยทหารมา้ อากาศ ๕. กองพนั ทหารส่อื สาร ๖. กองพันทหารช่าง ๗. กรมทหารปนื ใหญ่ (ใช้ ป.ขนาด ๑๕๕ มม. อตั ราจรท้งั หมด) ๘. กรมสนบั สนุน ส่วนดาเนินกลยุทธ์ กองพลทหารม้ามาตรฐานจะได้รับการบรรจุมอบหน่วยดาเนินกลยุทธ์หลัก จานวน ๓ กรมทหารม้ามาตรฐาน โดยในแต่ละกรมทหารม้าจะมีการจัดเหมือนกันทุกกรม เป็นการรวม คุณลักษณะ, ขีดความสามารถของทหารม้ารถถัง และทหารม้าบรรทุกยานเกราะเข้าด้วยกัน และยังมีอานาจ การยงิ จากอาวธุ ยิงสนับสนุนในอัตรา กรมทหารม้ามาตรฐาน กรมทหารม้าจะมีความสมบูรณ์ในตวั เองทั้งด้านยุทธการ และธุรการ มีภารกิจเข้าประชิดและทาลาย ล้างกาลงั ขา้ ศึกดว้ ยการยิงดาเนินกลยุทธ์และการข่มขวัญ โดยการจดั กรมทหารม้ามาตรฐาน ประกอบดว้ ย ๑. กองบงั คับการกรม และกองรอ้ ยกองบังคบั การ ๒. กองรอ้ ยเครื่องยงิ หนัก จานวน ๑ กองรอ้ ย ๓. กองพนั ทหารมา้ รถถัง จานวน ๑ กองพนั ๔. กองพนั ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ จานวน ๒ กองพัน ขดี ความสามารถของกรมทหารม้า คือ ๑. จัดเป็นฐานยิงและส่วนดาเนนิ กลยุทธ์ได้ ๒. แยง่ ยดึ พน้ื ท่ี ๓. ปฏบิ ัติการเป็นอิสระไดใ้ นขดี จากดั ๔. ป้องกันตอ่ สู้รถถังได้ในขีดจากดั ๕. ยิงสนับสนุนด้วยอาวุธวิถโี ค้งให้กับหนว่ ยในอตั ราและหนว่ ยทม่ี าข้ึนสมทบ ๖. ปฏิบัติการลาดตระเวนระยะไกลได้ เมอ่ื เพิ่มเตมิ ยุทโธปกรณ์ใหต้ ามความเหมาะสม ๗. ร่วมในการยุทธ์เคลื่อนท่ีทางอากาศได้ เมอื่ มอี ากาศยานขนสง่ ให้ ๘. มีความคล่องแคลว่ ในการเคลอ่ื นทีส่ งู ๙. ชดเชยจุดอ่อนซึง่ กนั และกันได้ เมือ่ ปฏบิ ตั ิการรว่ มเป็นชดุ รบกบั หน่วยรถถงั
๑ - ๑๑ กองพันรถถัง (พนั .ถ.) กองพันรถถังของกองทัพบกไทย มีการจัดหน่วยทั้งในกองพลทหารม้า และนอกกองพลทหารม้า (ในกองพลทหารราบ) โดยทาการรบเป็นปึกแผ่นในระดับกองพันตามหลักนิยมของทหารม้า หรือสนับสนุน ภารกิจของทหารราบโดยใช้ดาเนินกลยทุ ธ์เป็นชุดรบร่วมกับทหารราบอย่างใกล้ชิด โดยการจัดกองพันทหารม้า รถถังในกองพลทหารราบก็มีการจัดหน่วยเช่นเดียวกับกองพันทหารม้ารถถังของกรมทหารม้าในกองพลทหารม้า ทกุ ประการ ภารกจิ ของกองพันรถถงั ได้แก่ ๑. เคลอ่ื นท่ีเข้าประชิด และทาลายกาลังข้าศกึ โดยใชอ้ านาจการยงิ การดาเนนิ กลยทุ ธ์ และ อานาจทาลายและขม่ ขวัญ ๒. ปฏบิ ัติการรบรว่ มกับทหารเหล่าอน่ื ขีดความสามารถของกองพันรถถัง มีดังน้ี ๑. การปฏิบัตกิ ารรบที่ต้องใช้อานาจการยิง, ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่ี, มเี กราะปอ้ งกัน และอานาจทาลายข่มขวัญสูง ๒. เขา้ ตี หรือตโี ตต้ อบภายใต้อานาจการยิงของขา้ ศกึ ๓. ทาลายยานเกราะของขา้ ศกึ ด้วยการยงิ ๔. สนับสนนุ หนว่ ยทหารราบและทหารมา้ ดว้ ยการยิง การดาเนนิ กลยุทธ์ และอานาจทาลายขม่ ขวัญ ๕. ขยายผลแห่งความมชี ัยหลงั การเจาะแนวของข้าศกึ โดยใช้ความคลอ่ งแคล่วในการเคล่ือนที่ ในภมู ิประเทศได้อยา่ งสูง ๖. ทาการยงิ สนับสนุนด้วยอาวธุ ในอตั ราของหน่วย ๗. จัดการดา้ นธุรการ, สง่ กาลัง, การส่ือสาร และการซ่อมบารงุ ไดส้ มบรู ณ์ในตนเอง ๘. เคล่ือนท่ไี ด้ ๑๐๐% การจดั กองพนั รถถัง (พัน.ม.(ถ.)) อจย.๑๗ - ๑๕ (๑๐ ก.ค.๕๘) มกี ารจดั หน่วย ประกอบด้วย ๑. กองบงั คับการกองพัน และกองร้อยกองบงั คบั การ ๒. กองร้อยรถถัง จานวน ๓ กองรอ้ ย เปน็ ส่วนดาเนินกลยุทธ์ของกองพัน โดยในแต่ละกองรอ้ ย จะประกอบดว้ ย กองบังคบั การกองร้อย และ ๓ หมวดรถถงั กองพนั ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ (พนั .ม.(ก)) กองพันทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ของกองทัพบกไทย มีการจัดอยู่เฉพาะในกองพลทหารม้าเท่าน้ัน เป็นหน่วยทหารม้าที่ดาเนินกลยุทธ์โดยใช้ยานรบหุ้มเกราะลาเลียงพลเป็นยานรบหลัก สามารถเคลื่อนที่ เข้าทาการรบบนยานรบร่วมกับทหารม้ารถถังอย่างใกล้ชิด เพอ่ื เป็นการชดเชยจุดออ่ นของทหารม้ารถถัง และ สามารถทาการลงรบเดินดินได้เม่ือมีความจาเป็นที่จะต้องดาเนินกลยุทธ์ทางพื้นดิน โดยใช้อาวุธขนาดเล็ก ของหน่วยเขา้ ทาลายขา้ ศึกในระยะประชิด ภารกิจของทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ได้แก่ ๑. เขา้ ประชดิ ข้าศึกดว้ ยการยงิ และดาเนนิ กลยทุ ธเ์ พื่อทาลาย หรือจับเปน็ เชลย ๒. ทาลายการเขา้ ตีของขา้ ศึกโดยการยิง การรบประชดิ และการตีโต้ตอบ
๑ - ๑๒ การจัดกองพันทหารม้าบรรทุกยานเกราะ (พัน.ม.(ก.)) อจย.๑๗ - ๒๕ มีการจัดท่ีสามารถปฏิบัติ ภารกิจทก่ี าหนดใหไ้ ด้เป็นอย่างดี โดยการจดั ทมี่ ีความสมบรู ณใ์ นตัวเอง ประกอบดว้ ย ๑. กองบงั คับการกองพัน และกองรอ้ ยสนับสนนุ การรบ (บก.พัน และร้อย.สสก.) ๒. กองร้อยสนบั สนนุ ทางการช่วยรบ (รอ้ ย.สสช.) ๓. กองร้อยทหารม้าบรรทุกยานเกราะจานวย ๓ กองร้อย โดยในแต่ละกองร้อยมีการจัด ประกอบด้วย กองบังคับการกองรอ้ ย และ ๓ หมวดทหารม้า กองพันทหารม้าลาดตระเวน (พัน.ม.(ลว.)) มีภารกิจทาการลาดตระเวนและระวังป้องกันหน่วยเหนือหรือหน่วยท่ีไปขึ้นสมทบ ทหารม้า ลาดตระเวนมีการจดั ทอ่ี ่อนตวั เพื่อช่วยเหลือผูบ้ งั คบั บัญชาให้สามารถเหน็ สภาพสนามรบ ทาใหไ้ ด้มาซง่ึ ข่าวสาร การรบทถ่ี กู ตอ้ งและทันเวลา สามารถขยายผลจากจดุ อ่อนไดอ้ ย่างรวดเรว็ , ลวงขา้ ศึก, ทาการระวังป้องกนั และ โจมตขี า้ ศึกทางลกึ ภารกิจหลักประการหนึ่งตามหลักนิยม, การจัด และวิธีรบของเหล่าทหารม้านนั้ ทหารม้าลาดตระเวน เป็นทหารม้าประเภทหนึ่งทจ่ี ัดขึ้นเพื่อปฏบิ ัติภารกิจ ลาดตระเวน, ระวังป้องกัน และออมกาลัง โดยการที่ทหารม้า ลาดตระเวนเป็นกาลังผสม ทาการรบบนยานรบทางพ้ืนดินและอากาศยาน และมีการจัดขึ้นเป็นพิเศษ เพอ่ื ช่วยเหลือผ้บู งั คับบัญชาให้สามารถมองเห็นสภาพสนามรบ, ขยายผลอย่างรวดเรว็ เม่ือพบจุดอ่อนของข้าศึก, ลวงขา้ ศึก, ทาการระวังป้องกัน และโจมตีข้าศึกในทางลึก ในการน้ีบทบาทของทหารม้าลาดตระเวนในการรบ ท่ีพึงประสงค์ จะได้รับมอบภารกิจเฉพาะ คือ การลาดตระเวน, การระวังป้องกัน และเป็นหน่วยออมกาลัง ใหก้ บั หนว่ ยเหนือ และเข้าปะทะข้าศกึ ในการรบดว้ ยวิธรี กุ , รับ และรบหนว่ งเวลา ขดี ความสามารถกองพันทหารมา้ ลาดตระเวน คอื ๑. ลาดตระเวน, ระวงั ปอ้ งกัน และออมกาลงั ใหก้ บั หนว่ ยเหนือหรอื หน่วยท่ไี ปสมทบ ๒. ปฏิบัตกิ ารเป็นอสิ ระโดยไมม่ ีการเพ่ิมเติมกาลงั ๓. ทาการรบไดใ้ นขอบเขตจากัดอนั เหมาะสมแกห่ นว่ ยยานเกราะขนาดเบา ๔. แตล่ ะบคุ คลในหน่วยทาการรบได้อยา่ งทหารราบ ๕. สามารถปอ้ งกนั ตนเองและทตี่ ้ังไดจ้ ากการโจมตที างพ้ืนดินของขา้ ศึก ในปัจจุบันกองพันทหารม้าลาดตระเวนของ ทบ.ไทย มีการจัดหน่วยโดยใช้อัตราการจัดยุทโธปกรณ์ เป็น ๒ แบบ คือ อจย.หมายเลข ๑๗ - ๒๕ พ. (ใช้รถสายพานเป็นหลัก) และ อจย.หมายเลข ๑๗ - ๒๕ ก. (ใช้รถเกราะล้อยางเป็นหลัก) เป็นหนว่ ยท่ีมีบรรจุอยู่ท้ังในกองพลทหารม้า(ทหารม้าในกองพล) และในกองพล ทหารราบ(ทหารม้านอกกองพล) จะมีการจัดหน่วยเหมือนกัน แตกต่างกันที่การบรรจุมอบและยุทโธปกรณ์ ท่ีได้รับการแจกจ่าย โดยมีภารกิจในการทาการระวังป้องกัน และลาดตระเวนให้กับหน่วยเหนือ หรือหน่วย ท่ีไปขึน้ สมทบ การจัดกองพันทหารม้าลาดตระเวน จะมกี ารจดั ท่ีสมบรู ณใ์ นตวั เอง ประกอบด้วย กองบังคบั การกองพัน กองร้อยกองบังคับการ และกองร้อยทหารม้าลาดตระเวน ๓ กองร้อย โดยในแต่ละกองร้อยจะมีการผสมผสาน อานาจกาลังรบจาก ส่วนลาดตระเวน, รถถังเบา, ส่วนปืนเล็กบรรทุกบนรถเกราะลาเลียงพล และ ส่วนของ เคร่ืองยิงลูกระเบิด ทาให้กองร้อยทหารม้าลาดตระเวนมีความสมบูรณ์ในตัวเองมากท่ีสุด มีความอ่อนตัว ในการจดั กาลังตามภารกิจทีไ่ ด้รบั มอบ โดยสามารถทาการจดั กาลังที่แตกต่างกันได้ถึง ๕ รูปแบบ
๑ - ๑๓ กรมทหารม้าลาดตระเวน (กรม ม.ลว.) นอกจากน้ันยังมีโครงสรา้ งการจดั กรมทหารม้าลาดตระเวน (กรม ม.ลว.) ของกองทัพภาค (ปัจจุบัน ทบ.ไทย ไม่มีการจัด กรม ม.ลว. ของ ทภ. แต่สามารถทาการจัดเฉพาะกิจขึ้นมาได้ตามความต้องการทางยุทธวิธี) โดย กรม ม.ลว. น้ันจะมีภารกิจในการลาดตระเวน, ระวังป้องกัน, เฝ้าตรวจ และเป็นหน่วยออมกาลัง ใหก้ บั กองทพั ภาค โดยการรบดว้ ยวธิ ีรกุ , รับ และ รบหนว่ งเวลา ขีดความสามารถของกรมทหารมา้ ลาดตระเวน คือ ๑. ทาการลาดตระเวนและระวงั ปอ้ งกนั ไดท้ ั้งระยะไกลและใกล้ ๒. กาบงั หรือค้มุ กันใหห้ น่วยทหารขนาดใหญ่ ๓. เกาะขา้ ศกึ หรือเป็นหน่วยติดต่อระหวา่ งกาลงั ฝา่ ยเรา ๔. ปฏิบัติการรบดว้ ยวธิ รี กุ , รับ และรบหน่วงเวลา เมอื่ ได้รับการเพ่มิ เตมิ กาลังอยา่ งเหมาะสม ๕. มคี วามคล่องแคลว่ ในการเคลือ่ นที่ ๑๐๐% ๖. มีขีดความสามารถในการปราบจลาจลไดเ้ ปน็ อย่างดี การจัดกรมทหารม้าลาดตระเวน จะมีการจัด โดยประกอบด้วย ๑. กองบังคับการกรม และกองร้อยกองบังคับการ ๒. ๑ กองรอ้ ยทหารมา้ อากาศ ๓. ๑ กองพนั ปนื ใหญ่(อตั ราจร) ๔. ๓ กองพันทหารม้าลาดตระเวน (อจย.๑๗ - ๕๕ ก. หรือ พ.) ทหารมา้ อากาศ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่ีของหน่วยทหารม้าอากาศ ทาให้สามารถขยายขอบเขต และ ขีดความสามารถในการลาดตระเวน ระวังป้องกัน และการเฝ้าตรวจได้กว้างขวางย่ิงขึ้น กับท้ังยังอานวยให้ สามารถทาการขนส่งส่วนกาลังรบติดอาวุธขนาดเล็กได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องคานึงถึงข้อจากัดเก่ียวกับ ภูมิประเทศมากนัก ทหารม้าอากาศเข้าปฏิบัติการร่วมกับหน่วยทหารม้าลาดตระเวนทางภาคพ้ืนดิน กอ่ ให้เกดิ ขีดความสามารถสูงสุด โดยเฉพาะอย่างย่ิงในการใช้เป็นเครื่องมือการรวบรวมขา่ วสารทส่ี าคัญยิ่ง (ปัจจุบัน ทบ.ไทย ได้ทาการยุบหน่วยทหารม้าอากาศแล้ว แต่หากเมื่อมีความต้องการในทางยุทธวิธี ศูนย์การบินทหารบก สามารถจดั ชดุ บินเฉพาะกิจท่ีสามารถปฏิบัตภิ ารกิจได้เช่นเดียวกับกองรอ้ ยทหารม้าอากาศ เพอ่ื ให้การสนบั สนุนได้) ห น่ ว ย ท ห าร ม้ า ล าด ต ร ะ เว น ท า ง พื้ น ดิ น แ ล ะ ห น่ ว ย ท ห าร ม้ า อ า ก าศ ใน ก าร ป ฏิ บั ติ ก าร เฝ้ า ต ร ว จ เมื่อเปรียบเทียบกันจะมีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบกันตามนี้ คือ หน่วยทหารม้าลาดตระเวนทางพ้ืนดิน ปฏิบัติได้ช้ากว่าหน่วยทหารม้าอากาศ แต่หน่วยทหารม้าลาดตระเวนทางพื้นดินจะปฏิบัติการลาดตระเวน ไดล้ ะเอยี ดทัว่ ถงึ ดกี ว่าหน่วยทหารมา้ อากาศ
๑ - ๑๔ หนว่ ยทหารม้าอ่ืนๆ ตามท่ี กห. กาหนด ๑. กองพันทหารม้าท่ี ๒๙ รักษาพระองค์ เป็นหน่วยทหารมา้ ข่ีม้า มีภารกจิ ในการจัดขบวนม้าเข้าร่วม ในงานพระราชพิธี และรัฐพิธีที่สาคัญ รวมท้ังการแห่นาตามเสด็จ และถวายการอารักขา นอกจากนั้น ยังมีขีดความสามารถในการปราบปรามจลาจล และการรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน และทาการรบได้ แบบทหารมา้ (จดั เป็นหนว่ ยทหารม้าลาดตระเวนประเภทหนง่ึ ) ๒. กองพันทหารม้าที่ ๒๒ เป็นหน่วยทหารม้าท่ีมีภารกิจให้การสนับสนุนศูนย์การทหารม้า ในด้านการฝึก ศึกษาของกาลงั พลในเหล่าทหารม้า ทาการวิจัย พัฒนา ทดสอบ หลักนิยมการรบของทหารม้า ทาการทดสอบ สมรรถนะของอาวุธต่างๆ ของเหลา่ ทหารม้า และเปน็ กาลังรบของเหลา่ ทหารม้าไดเ้ มือ่ ไดร้ ับคาส่ัง ***********************************************************************
๒-๑ ภาคที่ ๒ ตอนที่ ๑ ทหารมา้ ในการปฏิบตั ิการรบด้วยวธิ ีรกุ จากคณุ ลักษณะ และขีดความสามารถ จงึ ทาใหห้ นว่ ยทหารมา้ เป็นหน่วยดาเนินกลยุทธ์หลักของกาลังรบ ในปัจจุบัน ซ่งึ มขี ีดความสามารถในการปฏิบตั ิการรบดว้ ยวิธรี ุก, รบั และร่นถอย ครบท้ัง ๓ แบบได้เป็นอย่างดี แต่แบบการดาเนินกลยุทธ์ท่ีมีความสาคัญ และเหมาะกับคุณลักษณะของหน่วยทหารม้ามากที่สุด ก็คือ “การรบด้วยวิธีรุก” ซ่ึงมีความมุ่งหมายในการที่จะขัดขวางมิให้ข้าศึกใช้แหล่งทรัพยากร และเพ่ือลด ขีดความสามารถของขา้ ศกึ ท่จี ะอาศยั แหลง่ ทรัพยากรต่างๆ รวมทั้งหนั เหหรอื ดึงความสนใจของข้าศึกจากพ้ืนท่ี แตกหักท่ีข้าศึกทราบล่วงหน้าด้วยการปฏิบัติการเข้าตีลวงในพื้นที่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้าหากการปฏิบัตินี้ เป็นผลสาเร็จ ก็จะเป็นการลดขีดความสามารถในการตอบโต้ของข้าศึกจากพ้ืนที่การรบแตกหักที่ฝ่ายเรา ได้กาหนดข้ึน นอกจากน้ีความมุ่งหมายของการรบด้วยวิธีรกุ จะรวมถึงการทาลายข้าศึก เพ่ือให้บรรลุความมุ่งหมาย ในการรบด้วยวิธีรุก จึงต้องรักษาความริเริ่มไว้ เพราะความริเริ่มในการปฏิบัติ จะมีอิทธิพลและความสาคัญ เป็นอย่างย่ิง จะทาให้ฝ่ายข้าศึกหมดโอกาสท่ีจะตอบโต้กาลังของฝ่ายเรา, ทาให้ฝ่ายเรามีเสรีในการปฏิบัติ ซงึ่ ความสาเรจ็ ในการปฏิบัตนิ ีอ้ าจทาไดด้ ว้ ยการจโู่ จม หรอื ขยายผลจากข้อผดิ พลาดหรอื จากจดุ อ่อนของข้าศึก หน่วยทหารม้าจะใชอ้ านาจการยิงและการดาเนินกลยุทธ์เพื่อทาการข่ม, ตัดรอน, ทาลาย, เข้าควบคุม ภมู ิประเทศ หรือเขา้ รบกวนต่อพ้นื ท่ีสว่ นหลงั ของฝ่ายขา้ ศึก หนว่ ยทหารม้าต้องมีปฏิบัติที่หา้ วหาญ ทาการเขา้ ตี อยา่ งรุกรบและรุนแรง เพื่อก่อให้เกิดอานาจการทาลายและการข่มขวญั สูงสุดในการทาลายกาลงั ตลอดจนอาวุธ ยทุ โธปกรณ์ และความตั้งใจในการรบของข้าศึกทาใหข้ า้ ศึกต้องอ่อนกาลงั ลงอยา่ งชัดเจนจนไม่สามารถต้านทาน การเขา้ ตีได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ สนามรบในปัจจุบันมีรูปแบบสนามรบทั้ง ๓ มิติ ในสงครามสมัยใหม่ต้องถือว่าห้วงอากาศเป็นอีกมิติ ในสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการ ผบ.หน่วยทหารม้าจะต้องผสมผสานหน่วยบินทหารบก, ทหารม้าอากาศ, อากาศยานทางยุทธวิธีของกองทัพอากาศ และหน่วยปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ไม่เพียงเพื่อขยายขอบเขต ของอานาจกาลงั รบของตน แตเ่ พอื่ ใหพ้ น้ จากผลกระทบที่มาจากการโจมตที างอากาศของฝา่ ยข้าศึกอกี ดว้ ย หน่วยทหารม้าที่เป็นหน่วยดาเนินกลยุทธ์หลักในการรบด้วยวิธีรุกด้วยการยงิ และการดาเนินกลยทุ ธ์ โดยการเข้าตจี ะสาเรจ็ ได้โดย ๑. จัดให้มีส่วนฐานยิง เพ่ือตรึงข้าศึกให้อยู่กับที่ และตัดรอนกาลังยิงของอาวุธยิงข้าศึก จะอานวยให้ ส่วนดาเนินกลยุทธ์มีเสรีในการปฏิบัติ โดยตามปกติแล้วส่วนท่ีเป็นฐานยิงไม่จาเป็นต้องเข้าประชิดท่ีหมาย แต่จะอยู่ในระยะของอาวุธยิงท่ีให้ผลในการยิงต่อที่หมายสูงสุด ฐานยิงอาจประกอบด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด, อาวุธต่อสู้รถถัง, ปืนใหญ่, กาลังทางอากาศยุทธวิธี และการยิงสนับสนุนจากปืนใหญ่เรือ โดยตามปกติแล้ว จะไม่รวมรถถังและทหารม้าอากาศเอาไว้ในส่วนฐานยิง เพราะจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดท่ีมา จากคุณลักษณะของหน่วยท้ังสอง แต่อย่างไรก็ตามหากมีความความจาเป็นอาจให้รถถังและทหารม้าอากาศ สนับสนนุ ดว้ ยการยงิ ใหแ้ กก่ าลังส่วนดาเนินกลยทุ ธเ์ ป็นการช่วั คราวได้ ๒. ส่วนดาเนินกลยุทธ์ จะทาการเข้าประชิดและทาลายข้าศึก ควรจะมีการประกอบกาลังโดยบรรจุ มอบให้แก่ส่วนดาเนินกลยุทธ์มากทีส่ ุดเท่าท่ีเป็นไปได้ และควรเป็นหน่วยรบผสมเหล่าระหว่าง รถถัง ทหารม้า บรรทกุ ยานเกราะ ทหารราบยานเกราะหรอื ยานยนต์ ส่วนดาเนินกลยุทธจ์ ะเข้าประชิดข้าศึกอย่างรวดเรว็ ที่สุด
๒-๒ เท่าที่สามารถกระทาได้เพ่ือเป็นการขยายผลจากส่วนฐานยิง ตามปกติส่วนดาเนินกลยุทธ์จะเข้าปฏิบัติการ ในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน และมีความลึก หากสามารถกระทาได้จะทาการเข้าตีต่อปีกใดปีกหนึ่งหรอื ท้ังสองปีก ของขา้ ศกึ ทาการรกุ คืบหนา้ ไปอย่างรวดเร็วและรนุ แรงเขา้ สู่ที่หมายพร้อมๆ กนั ในแต่ละสว่ น เพอื่ ที่หน่วยรถถัง และทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ ทหารราบยานเกราะหรือทหารราบยานยนต์ จะได้สามารถให้การสนับสนุนซ่ึง กันและกันได้ กองหนุนในการรบด้วยวิธีรุก คือ กาลังที่สงวนไว้ ยังไม่ได้เข้าปฏิบัติการในข้ันเร่ิมแรกของการปะทะ แต่จะเก็บรักษาเพ่ือไว้ใช้เมื่อต้องการหวังผลแตกหัก ในการยุทธ์ยานเกราะของทหารม้าจะเก็บกองหนุนไว้ ค่อนไปข้างหน้าของรูปขบวนอันท่ีจะให้ผู้บังคับหน่วยสามารถใช้กองหนุนได้โดยฉับพลันเพ่ือทาการขยายผล แหง่ ความมชี ัย ดารงไวซ้ ่ึงความรุนแรงในการปะทะระหว่างเข้าตี และให้การระวังป้องกนั แก่ปีกทัง้ สองข้างและ ดา้ นหลังของหน่วย หนว่ ยทหารม้ารถถังเปน็ หน่วยสาหรับเขา้ ประจัญบาน โดยตามธรรมดาแล้วจะไม่ใชร้ ถถังเป็นกองหนุน หรือเข้าไปอยรู่ ่วมเป็นส่วนหน่ึงของกองหนนุ หน่วยรถถังต้องใช้ความพยายามทกุ วิถที างเพื่อทาลายกาลงั ข้าศึก โดยการใชอ้ านาจกาลังรบทง้ั ปวงทม่ี อี ยู่ การพิจารณาขนาดของกองหนุนนั้นย่อมข้ึนอยู่กับการพิจารณาปัจจัย METT-TC ซึ่งคานึงถึงความลึก ของที่หมาย และสถานการณ์ฝ่ายขา้ ศึก โดยหากไม่อาจทราบหรือคาดคะเนให้เห็นภาพข้าศกึ หรือสถานการณ์ข้าศึก หรือผลลัพธ์สุดท้ายในการเข้าตีท่ีอาจจะเกิดข้ึน จะทาให้จาเป็ นต้องเก็บกองหนุนขนาดใหญ่ไว้ เมื่อมีสถานการณ์ท่ีไม่กระจ่างชัดดังกล่าว และเม่ือผู้บังคับหน่วยได้ส่งกองหนุนออกปฏิบัติแล้ว ก็ควรท่ีจะได้ มีการสถาปนากองหนนุ ของตนข้ึนมาใหม่โดยเร็วท่ีสุด โดยสามารถจัดกองหนุนข้ึนมาจากส่วนอ่ืนๆ จากหน่วยรอง ของตน, จัดจากหน่วยรองของตนที่ถอนตัวจากการปะทะออกมาแล้ว หรือเมื่อเกิดความจาเป็นเร่งด่วน จะพิจารณาว่าหน่วยใดเหมาะสมที่จะให้ถอนตัวออกจากการปะทะเพ่ือจัดต้ังกองหนุน และสุดท้ายก็คือ การร้องขอกองหนุนเพ่ิมเตมิ จากหนว่ ยเหนือ การวางแผนในการเขา้ ตีของทหารมา้ ต้องมีความละเอียดและรอบคอบ โดยใชค้ ุณลักษณะต่างๆ ทมี่ ีอยู่ ในหน่วยกาลังรบผสมเหล่าของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเป็นหลักประกันได้ว่าจะสามารถรวมอานาจกาลังรบ ท้ังมวลท่ีเหนือกว่าฝ่ายข้าศึก ณ เวลาและตาบลท่ีเหมาะสม การวางแผนควรพิจารณาความได้เปรียบ ทางภูมิประเทศ และควรให้มีความอ่อนตัวมากพอที่จะเก้ือกูลให้สามารถขยายผลต่อจุดอ่อนต่างๆ ของข้าศึก ได้อยา่ งรวดเร็วโดยปัจจยั METT-T ต้องถูกนามาพิจารณาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยไม่คานึงถึงสถานการณ์ หรอื ระดับของหน่วย ทงั้ นเี้ พื่อประกันให้มกี ารใช้อานาจกาลงั รบทง้ั มวลทีม่ ีอยู่ให้เกดิ ประโยชน์สงู สุด ในการรกุ ผูบ้ ังคับหน่วยเข้าตีจะต้องรักษาแรงหนุนเนื่องในการเข้าตีอยู่ตลอดเวลา โดยการใช้กองหนุน เข้าตีในทิศทางอ่ืนที่จะให้ผลสาเร็จดีกว่า พยายามรุกคืบหน้าเข้าสู่ท่ีหมายให้ได้โดยเร็วท่ีสุด และด้วยการย้าย การยิงของส่วนยิงสนับสนุนที่ต่อเนื่องไม่ขาดตอน การเข้าตีจะประสบความสาเร็จ หากผู้บังคับหน่วยเข้าตี มีความรู้เกี่ยวกับข้าศึกเป็นอย่างดีในเร่ืองการวางกาลัง, การประกอบกาลัง, ขีดความสามารถและจุดอ่อน ของข้าศึก, ขีดความสามารถของอาวุธยุทโธปกรณ์ข้าศึก, ท่ีมั่นในทางลึก, พ้ืนที่สังหารที่กาหนด และ การใชก้ องหนนุ ของข้าศกึ นอกจากนน้ั ตอ้ งทราบเคร่อื งกีดขวางท่ีมีอยู่ และทีส่ ร้างข้ึนดว้ ย แบบของการรบด้วยวิธีรุกก็เช่นเดยี วกับหน่วยดาเนินกลยุทธ์อื่น คอื การเคลื่อนที่เข้าปะทะ, การเข้าตี เร่งด่วน, การเข้าตีประณีต, การขยายผล และการไลต่ ิดตาม
๒-๓ การเคลื่อนท่ีเข้าปะทะ จะกระทาในขณะทัศนวิสัยจากัดหรือเวลากลางคืน เพื่อป้องกันการโจมตี ทางอากาศของข้าศึก โดยประกอบกาลังเป็น ๓ ส่วน คือ ส่วนกาบัง, กองระวังหน้า และกาลังส่วนใหญ่ โดยมีความมุ่งหมายที่จะเข้าปะทะข้าศึกหรือกลับเข้าปะทะให ม่, เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ แต่เน่ิน และเพือ่ ให้ได้เปรียบก่อนมีการรบแตกหัก การเข้าตีเร่งด่วน มักจะปฏิบัติภายหลังการเคลื่อนท่ีเข้าปะทะ หรือเมื่อเกิดการปะทะกับข้าศึก โดยไม่คาดคดิ การเข้าตเี รง่ ด่วนจะมีอยูด่ ว้ ยกนั ๓ ข้นั ตอน คือ ขัน้ การรกุ ของสว่ นลาดตระเวนและระวงั ปอ้ งกัน, ขัน้ การปรบั รูปขบวนและการเขา้ ตขี องส่วนลาดตระเวนและระวังปอ้ งกัน และขนั้ การโจมตีของกาลังส่วนใหญ่ การเขา้ ตีประณีต มีความมุ่งหมายที่จะทาลายกาลังข้าศึกในพ้ืนที่ต้งั รับโดยใช้การยิง และการดาเนิน- กลยุทธ เพื่อเข้าประชิดและทาลายหรือจับข้าศึกเป็นเชลย โดยประกอบกาลังเป็นชุดรบผสมเหล่า มีรถถัง และทหารมา้ บรรทุกยานเกราะเป็นหลัก แบ่งกาลงั เปน็ ส่วนเข้าตีหลัก, สว่ นเข้าตสี นับสนนุ และกองหนุน การขยายผล กระทาเพ่ือทาลายขีดความสามารถของข้าศึกในการจัดการต้ังรับอยา่ งมีระเบียบขึ้นใหม่ และบังคับไม่ให้ข้าศึกถอนตัวอย่างมีระเบียบ หน่วยรถถังและทหารม้าบรรทุกยานเกราะ จัดว่าเป็นหน่วย ที่ทาการขยายผลไดด้ ี เนอื่ งจากความคลอ่ งแคลว่ ในการเคล่ือนท่ีและอานาจการยงิ สูง การไล่ติดตาม กระทาเพ่ือทาลายกาลงั ขา้ ศึกขณะผละจากการรบ โดยประกอบกาลังเปน็ หน่วยกดดัน โดยตรงและหน่วยโอบล้อม การปฏิบตั ิการรบดว้ ยวธิ ีรกุ แบบอื่น ๆ การลาดตระเวนดว้ ยกาลัง เป็นการปฏิบัติการตอ่ ที่หมายจากัดในห้วงระยะเวลาสนั้ ๆ มีความมุง่ หมาย ท่ีจะให้ได้มาซ่ึงข่าวสาร ทดสอบการวางกาลังและกาลัง และคลี่คลายสถานการณ์เวลาที่จะใช้กองหนุน ในการตีโต้ตอบ และแผนการยิงสนับสนุนของขา้ ศึก โดยจัดกาลงั เฉพาะกิจมีกาลังมากเพยี งพอ มรี ถถงั เป็นหลัก ผสมด้วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะตามความเหมาะสมทาการเข้าตีต่อท่ีหมายจากัด ใช้กลยุทธการยิง และ การดาเนินกลยุทธ, ตีกวาดด้วยรถถังและกลยุทธเคล่ือนที่ทางอากาศ การลาดตระเวนด้วยกาลังสามารถใช้ได้ ท้งั การรบด้วยวธิ ีรุกและรับ การเข้าตีโฉบฉวย เป็นการปฏิบัติการรุกทางยุทธวิธีขนาดย่อม โดยจะมีพื้นฐานจากการข่าวกรอง ทีล่ ะเอียด, ใช้การเคลื่อนทกี่ วาดเข้าไปในเขตทหารข้าศึกที่อนั ตราย, และจบลงด้วยการถอนตัวตามท่ีได้วางแผนไว้ ภารกิจในการเขา้ ตีโฉบฉวยโดยทว่ั ไปกเ็ พือ่ ๑. จับกมุ ขา้ ศกึ ,ทาลายทต่ี ้ัง และวัสดุอุปกรณ์ของข้าศึก ๒. ทาลายวสั ดอุ ปุ กรณ์หรือท่ีต้ังของขา้ ศึก ๓. หาข่าวสารเฉพาะของหน่วยขา้ ศึกที่อันตราย เช่นที่ต้ัง, การวางกาลงั , การประกอบกาลงั หรือ แผนการปฏิบตั ิ ๔. ลวงหรอื รบกวนข้าศึก ๕. ช่วยเหลอื จนท. ฝา่ ยเราท่ถี กู จบั ไป การเข้าตีลวง เปน็ การเข้าตีต่อที่หมายจากัด เป็นการแสดงกาลังซึง่ มุ่งหวังที่จะลวงข้าศึก หันเหความสนใจ และถ้าเป็นไปได้ จะดึงอานาจกาลังรบข้าศึกออกไปจากการเข้าตีหลัก การเข้าตีลวงต้องมีกาลังและจัดกาลัง พอเพยี งทจ่ี ะทาให้ข้าศึกตอบโต้ตามที่ตอ้ งการ การเขา้ ตลี วงจะดสู มจริงจงึ จาเป็นที่จะต้องมกี ารปะทะกบั ขา้ ศึกบา้ ง
๒-๔ การแสดงลวง เป็นการเข้าตี หรือการแสดงกาลังในพ้ืนท่ีหน่ึงซ่ึงไม่ต้องการผลการรบที่แตกหัก การแสดงลวงเปน็ การปฏิบัตโิ ดยมีจุดมุ่งหมายในการลวงข้าศึก แตจ่ ะไม่มีการปะทะกบั กาลงั ขา้ ศึก หน่วยทีแ่ สดงลวง จะใช้การยิง, การเคลื่อนย้ายของกาลังดาเนินกลยุทธต่างๆ, ควัน, สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือ ติดต่อส่ือสารเพื่อสนับสนุนแผนการลวง รวมถึงการยิงเตรียม และการยิงของ ป.ซึ่งเหมือนกับการยิงทาลาย ล่วงหน้าในการเขา้ ตีประณีต การเข้าตีของหน่วยทหารม้า มีท้ังการเข้าตีเจาะ, การเข้าตีโอบ และการเข้าตีตรงหน้า การตีเจาะ จะกระทาเมื่อข้าศึกวางกาลังบนกว้างด้านหน้ามาก และฝ่ายเราค้นหาจุดอ่อนในท่ีมั่นต้ังรับข้าศึกได้ โดยกาลังเข้าตี จะเขา้ ตผี ่านไปในทีม่ ั่นต้ังรับข้าศึก มีการปฏิบัตเิ ป็น ๓ ขน้ั คือ แยกท่ีมน่ั ต้ังรบั ของข้าศึกออกจากกัน, ขยายชอ่ งเจาะ และเขา้ ทาลายหรอื ยึดทห่ี มายทางลกึ เพื่อทาลายความตอ่ เนื่องในการต้ังรบั ของขา้ ศกึ การเข้าตีโอบ และการตีตลบ(โอบลึก) จะจัดกาลังเป็นส่วนเข้าตีหลักและส่วนเข้าตีสนับสนุน แตใ่ นการตีตลบ ส่วนเข้าตีหลกั และส่วนเข้าตีสนับสนุนจะอยูห่ ่างกันมากจนไมส่ ามารถสนับสนุนซ่งึ กันและกันได้ ผลสาเร็จของการโอบ ขึ้นอยู่กับการจู่โจม, ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่, ความสามารถของส่วนเข้าตีสนับสนุน และการลวงเพอ่ื ตรึงข้าศึกไว้ ณ ทมี่ ่ัน การเข้าตีตรงหน้าจะปฏิบัตเิ มื่อภารกิจต้องการตรึงกาลังข้าศึกไว้ ณ ท่ีม่นั ลวงหรือช่วยเหลือการเข้าตหี ลัก หนว่ ยทเี่ หมาะกับการตีตรงหน้าควรจะเป็นหนว่ ยระดบั กองทพั น้อยข้ึนไป หน่วยทหารมา้ ระดับกรมและกองพล เหมาะแกก่ ารดาเนนิ กลยุทธด้วยการตเี จาะหรือโอบ โดยทห่ี นว่ ยเข้าตรี ะดับกรมและกองพนั จะมีรปู ขบวนแถวตอน และรปู ขบวนหนา้ กระดานเป็นรปู ขบวนมาตรฐาน ซึ่งพิจารณาใช้จากปัจจยั METT-TC ในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก จะจัดส่วนกาลังรบเป็นส่วนระวังป้องกัน, ส่วนเข้าตี, กองหนุน, ส่วนบังคับบัญชา และส่วนสนับสนุน วางกระจายในทางลึกของสนามรบ และควรใช้กองหนุน เมื่อต้องการ ผลแตกหัก ณ เวลาและสถานท่ีที่จะทาให้สาเรจ็ ภารกิจท่ีได้รับมอบ, ใช้ขยายผลแห่งความมีชัยและป้องกันปีก หรือด้านหลังของกาลังส่วนใหญ่ ท้ังน้ีกองหนุนควรจะอยู่ ณ ที่ซึ่งสามารถเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ไปยังตาบล ท่ีต้องการได้สะดวก, สามารถสนับสนุนส่วนเข้าตีหลัก, ให้การระวังป้องกันทางปีกและทางด้านหลัง รวมท้ัง สามารถป้องกันจากการตรวจการณ์และการยิงมากทส่ี ดุ และเม่อื ไดใ้ ชก้ องหนุนไปแลว้ จะต้องรีบจดั ต้ังกองหนุน ขึ้นใหม่โดยเร็ว โดยอาจจะจัดจากส่วนสนับสนุนการรบและส่วนช่วยรบชั่วคราว, ใช้หน่วยที่สามารถผละ จากการรบได้สะดวกท่ีสดุ หรือขอกาลังเพิ่มเตมิ จากหนว่ ยเหนอื การจดั กาลังเข้าทาการรบมีส่วนท่ีสาคัญ คือ ส่วนดาเนินกลยุทธ์และฐานยิง หากข้าศกึ มีอาวธุ อัตโนมัติ จานวนมาก หรือมีการยิงด้วยวธิ ีเล็งจาลองอย่างหนาแน่นควรจัดกาลังให้มีรถถังเป็นหลัก แต่หากสถานการณ์ข้าศึก ไม่กระจ่างชดั อาจจดั กาลังโดยรถถังเป็นหลัก หรือจัดแบบสมดุล ส่วนฐานยิงควรประกอบด้วยอาวุธต่อสู้รถถัง ในอัตรา, เครือ่ งยิงลูกระเบดิ ชนิดตา่ งๆ, ปนื ใหญ่สนามหรอื ปืนเรือ รวมทั้งจรวดนาวถิ ี และหนว่ ยบินทางยุทธวิธี ปกติมักจะไม่ใช้รถถังและทหารม้าอากาศอยู่ในฐานยิง แต่จะประกอบอยู่ในส่วนดาเนินกลยุทธ์ผสมผสานกัน ระหว่างหน่วยรถถังและทหารมา้ บรรทุกยานเกราะซงึ่ มีภารกจิ เคลือ่ นทเ่ี ข้าประชดิ และทาลายกาลงั ข้าศกึ ในแผนการเข้าตีจะต้องกล่าวถึงแผนดาเนินกลยุทธ และแผนการยิงสนับสนุน โดยกาหนดมาตรการ ควบคุมการเข้าตีเทา่ ทจ่ี าเปน็ จะต้องใช้ในการประสานการดาเนินกลยทุ ธและการยงิ เท่านั้น เพ่ือให้ผ้บู ังคบั หน่วยรอง มีเสรใี นการปฏิบัตมิ ากทส่ี ุด
๒-๕ แบบของการดาเนนิ กลยทุ ธพืน้ ฐานในการรบด้วยวธิ ีรุก การเข้าตโี อบ เป็นแบบการดาเนินกลยทุ ธพ้ืนฐาน ซึ่งมุ่งท่ีจะใช้กาลังท่ีแข็งแกร่งต่อจุดอ่อนของข้าศึก หลีกเล่ียงด้านหน้าของข้าศึกซ่ึงข้าศึกจะมีการป้องกัน ให้ความสนใจมากที่สุด และสามารถที่จะรวมการยิงได้ง่าย ส่วนความพยายามสนับสนุนจะเข้าตเี พื่อตรึงฝา่ ยตง้ั รับให้อยู่ภายในที่มั่น ส่วนความพยายามหลกั จะดาเนินกลยุทธ์ โอบเลยการตงั้ รบั ของขา้ ศกึ ไป เพอ่ื โจมตตี อ่ ดา้ นหลงั หรือทางปีกของข้าศกึ การเข้าตีโอบจะประสบความสาเร็จได้ก็ด้วยการที่ขา้ ศึกมีปีกท่ีเปิด ส่วนโอบซ่ึงเป็นส่วนความพยายามหลัก จะต้องใช้อานาจกาลังรบที่เหนือกว่าเข้าตีตอ่ ปีก และส่วนตรึงซ่ึงเปน็ ส่วนความพยายามสนับสนุนจะตรงึ ข้าศึก ไว้ในที่ม่ันด้วยการยิง หรือการเข้าตีตรึง ถึงแม้ว่าหน่วยทหารม้ายานเกราะจะเป็นหน่วยท่ีพึงประสงค์ ในการเข้าตีโอบก็ตาม แต่ก็สามารถใช้หน่วยทหารม้ายานเกราะเขาตีในฐานะของส่วนตีตรึงหรือ ส่วนความพยายามสนับสนุนก็ได้ ความสาเร็จของการเข้าตีโอบขึ้นอยู่กับการจู่โจม และความคล่องแคล่ว ในการเคลื่อนที่ของส่วนโอบ เพ่ือป้องกันไม่ให้ข้าศึกเคล่ือนย้ายกองหนุนเข้าโต้ตอบฝ่ายเรา ตลอดจน ประสิทธิภาพของการยิงสนับสนนุ และการเข้าตีของสว่ นตรงึ การเข้าตีตลบ การเข้าตีตลบเป็นรปู แบบการปฏิบตั ิที่คล้ายกับการตโี อบ แตกต่างท่ีหน่วยที่ทาการตีตลบ จะเป็นหน่วยท่ีมีความเข้มแข็ง คล่องแคล่ว และสมบูรณ์ในตัวเอง เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเล่ียง แนวการวางกาลังของข้าศึกอย่างสิ้นเชิง แล้วเข้ายึดควบคุมท่ีหมายท่ีอยู่ลึกเข้าไปในส่วนหลังของข้าศึก ตามเส้นทางคมนาคมท่ีสาคญั เพื่อบงั คบั ให้ข้าศึกต้องสละท่มี ่ันหรือหันเหกาลังส่วนใหญ่ของตนเพื่อเข้าปฏิบัติ ต่อกาลังส่วนที่ตีตลบ หลังจากนั้นข้าศึกจะถูกทาลาย ณ พ้ืนที่ท่ีฝ่ายตีตลบได้เลือกเอาไว้ ตามปกติแล้ว หน่วยกองพลน้อยยานเกราะ และระดบั ต่ากว่ากองพลน้อยลงมาจะเข้าร่วมในการตีตลบในฐานะเป็นส่วนหนึ่ง ของกาลงั ส่วนใหญ่ จะเห็นได้ว่าการตีตลบนั้น ที่หมายของการตีตลบก็คือการเข้ายึดภูมิประเทศสาคัญของข้าศึก ทางด้านหลัง โดยส่วนตลบจะหลีกเล่ียงการปะทะกับแนวต้ังรับของข้าศึกโดยสิ้นเชิง แต่ในการตีโอบท่ีหมาย ของการโอบจะมุ่งที่การเข้าปะทะกับแนวตั้งรับของข้าศึกทางด้านปีกหรือด้านหลัง นอกจากนั้นการเข้าตีโอบ และการตีตลบมขี ้อแตกต่างกันทสี่ าคัญอยู่อกี ประเดน็ กค็ ือ ในการเข้าตีโอบ ส่วนโอบ(ความพยายามหลกั ) และ สว่ นตรึง (ความพยายามสนับสนุน) จะยังอยู่ในระยะที่สามารถให้การสนับสนุนกันและกันได้ แตใ่ นการเขา้ ตีตลบน้ัน ส่วนตลบ (ความพยายามหลัก) และส่วนตรึง (ความพยายามสนับสนุน) จะอยู่ห่างไกลกันมากจนอยู่พ้นระยะ การสนบั สนนุ ซงึ่ กนั และกนั การแทรกซึม เป็นการเทคนิคหน่ึงในการเคลื่อนท่ี ซง่ึ นามาใชร้ ่วมกับการปฏบิ ัติการรกุ ได้หลายๆ แบบ ใน ก าร เข้ าตี น้ั น ก าร แ ท ร ก ซึ ม ก ร ะ ท า ด้ ว ย ค ว า ม มุ่ ง ห ม าย ที่ จ ะ ส่ ง ห น่ ว ย ก าลัง ร บ เข้ าสู่ ส่ว น ห ลั ง ข อ ง ข้ า ศึ ก การเคลอื่ นที่และการรวมพลของหนว่ ยที่ทาการแทรกซึมเข้าไปในพื้นท่ีของข้าศึกน้ันเปน็ การปฏบิ ัติที่ล่าชา้ มาก แม้หน่วยทหารม้าที่ทาการลงรบเดินดินจะเป็นหน่วยที่เหมาะสมในการปฏิบัติการแทรกซึมก็ตาม แต่หน่วยรถถัง ก็สามารถที่จะทาการแทรกซึมได้เชน่ กัน โดยการฉวยโอกาสในความได้เปรียบจากการวางกาลังท่ีไม่เหมาะสม ของข้าศึก, ช่องว่างท่ีเกิดข้ึนในเคร่ืองกีดขวางท่ีข้าศึกไม่รู้ หรือด้วยการใช้หน่วยดาเนินกลยุทธ์อื่นทาการเข้าตี หรือทาการยงิ เพื่อหันเหความสนใจออกจากหนว่ ยรถถงั ท่ีทาการแทรกซึม การวางแผนในการแทรกซึมต้องมีรายละเอียด และการประสานงานอย่างใกล้ชดิ เข้ากบั แผนในการเขา้ ตี เพราะในทันทีท่ีเริ่มมีการเคล่ือนย้ายหน่วย หากเกิดส่ิงท่ีผดิ พลาดออกไปจากแผนก็ยากที่จะทาให้แผนกลับมา มคี วามประสานสอดคลอ้ งกนั ได้ใหม่ และจะต้องมีการเตรียมแผนการการยทุ ธบรรจบ หรอื แผนในการให้หนว่ ย ทาการแทรกซึมออกมาด้วย
๒-๖ การเข้าตีเจาะ หน่วยเข้าตีจะเคลื่อนที่ผ่านท่ีม่ันต้ังรับของข้าศึกเข้าไป เจาะแนวที่ม่ันตั้งรับน้ันแล้ว ตดั รอนกาลังหรือทาลายความเหนียวแน่นในการตั้งรับ ประกอบด้วย ๓ ขั้นตอนที่สาคัญคือ การเจาะแนวท่ีมั่น ตั้งรับข้าศึก, การยึดรักษาและขยายช่องท่ีเจาะเอาไว้ และการส่งกาลังเข้าไปบดขยี้หรือควบคุมที่หมาย การเข้าตีเจาะจะเป็นการทาลายความต่อเน่ืองในการตั้งรับของข้าศึก และเปิดโอกาสในการขยายผล แห่งความสาเร็จในการตีเจาะ ถ้าการเขา้ ตเี จาะไม่เฉียบคมและรนุ แรงจนไมส่ ามารถยึดที่หมายไว้ไดอ้ ย่างรวดเร็ว การเข้าตีเจาะนั้นก็จะเปรียบเสมอื นกันเขา้ ตีตรงหนา้ จนทาให้ฝา่ ยเราเกดิ ความสูญเสียอย่างมาก การใชห้ นว่ ยทหารม้า ในการเขา้ ร่วมเขา้ ตเี จาะอาจจะเขา้ ร่วมในภารกิจใดภารกจิ หน่ึงใน ๓ ข้นั ตอน หรอื มากกวา่ ดงั น้ี ๑. การเจาะแนวที่มั่นต้ังรับข้าศึก หน่วยทหารม้าซึ่งมีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนที่ ในสนามรบสูงกว่า จะเข้าตีด้วยความรุนแรงต่อกว้างด้านหน้าท่ีแคบเพ่ือทาลายความต่อเน่ืองในการต้ังรับ ของข้าศึก กาลังที่เข้าตีต้องมีความเข็มแข็งมากพอที่จะเอาชนะการต้ังรับได้ และจะต้องเปิดช่องอย่างรวดเร็วท่ีสุด เท่าที่จะสามารถกระทาได้ เพื่อตัดโอกาสไม่ให้กองหนุนของข้าศึกเพ่ิมเติมกาลัง หรือเข้าตีโต้ตอบฝ่ายเรา หรือเพอ่ื ปอ้ งกันไม่ให้ข้าศึกทถ่ี ูกฝ่ายเราเขา้ ตเี จาะนาวธิ ีการรบดว้ ยการรบหนว่ งเวลามาใช้ ๒. การยึดและขยายช่องว่างที่เจาะได้ อาจกระทาด้วยการดาเนินกลยุทธ์, ด้วยการยิง หรือ ทงั้ สองประการ โดยตอ้ งเพง่ เล็งในการป้องกนั ไมใ่ ห้มีการเคล่อื นยา้ ยกาลงั รบของข้าศึกเขา้ มายงั พื้นทีท่ ี่ทาการเจาะ และทาการเข้าปะทะอย่างรวดเร็วต่อการตีโต้ตอบโดยกองหนุนของข้าศึก แล้วต้องขยายช่องที่เจาะได้ให้กว้างข้ึน อานวยให้หน่วยทมี่ ีความคล่องแคล่วสูงผา่ นเขา้ ไปได้อยา่ งรวดเรว็ แล้วทาการขยายผลต่อส่วนหลังขา้ ศึก ๓. การขยายผลต่อทีห่ มายในทางลึก โดยหน่วยทร่ี ับมอบภารกจิ ให้เข้าขยายผลในการเข้าตเี จาะ จะยงั ไมถ่ ูกสง่ เขา้ ปฏิบัตกิ ารจนกว่าการเจาะแนวจะสาเรจ็ เรยี บร้อยแล้ว แต่ก็อาจถูกส่งเข้าปฏิบตั ิการเพื่อเรง่ รัด การเจาะแนวให้รวดเร็วย่ิงขน้ึ หน่วยขยายผลต้องทาการประสานการผ่านแนวกับหน่วยที่ทาหน้าท่ีเจาะ แล้ว ทาการเข้าตอี ย่างต่อเนอื่ งและรนุ แรงตอ่ ไป การเข้าตีตรงหน้า เป็นแบบการดาเนินกลยุทธที่เหมาะสมน้อยท่ีสุด การเข้าตีตรงหน้าจะใช้เพ่ือโจมตี ต่อข้าข้าศึกบนกว้างด้านหน้ามากๆ ตามแนวทางเคลื่อนท่ที ่ีตรงที่สุดจุดประสงค์เพื่อเข้าบดขยแ้ี ละทาลายหรือ จับกมุ ข้าศกึ ทีอ่ อ่ นแอในทมี่ ั่นหรอื เพ่อื ตรึงกาลังข้าศึกใหอ้ ย่ใู นท่ีมัน่ เพ่อื สนบั สนนุ การเข้าตีของฝ่ายเราในพื้นท่ีอ่นื ๆ
๒-๗ ตอนท่ี ๒ ทหารม้าในการปฏบิ ัติการรบด้วยวธิ รี บั การรบด้วยวิธรี ับ หนว่ ยทหารม้าจะใช้ทรัพยากรทุกอยา่ งท่มี ีเพ่ือทาการป้องกัน, ต้านทาน, ขับไล่ หรือ ทาลายการเข้าตีของข้าศกึ และโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เพอื่ ทาลายกาลังรบของข้าศึกทั้งนี้ ฝ่ายต้ังรับต้องฉวยโอกาส ทกุ ทางท่ีจะเป็นฝา่ ยริเริ่ม และทาลายข้าศึก โดยการเลือกท่ีม่ันต้ังรบั , บังคับให้ข้าศกึ ปฏิบัตติ ามแผนการตั้งรับ, ขยายผลจากจุดอ่อนและข้อผิดพลาดของข้าศึกโดยการรบด้วยวิธีรุก, ตีโต้ตอบต่อผลสาเร็จของข้าศึก ความมุ่งหมายของการตั้งรับก็คือเพ่ือท่ีจะให้ได้เวลาจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่เก้ือกูล เพ่ือรอสภาพอนั ได้เปรียบและกลับเป็นฝ่ายรกุ อีกคร้ัง การตั้งรบั เป็นการออมกาลงั ในพ้ืนทีแ่ ห่งหน่ึงเพ่ือรวมกาลัง เข้าปฏิบัติการแตกหักในอีกพื้นที่หน่ึง, ดักให้ข้าศึกติดกับหรือทาลายข้าศึก, ขัดขวางมิให้ข้าศึกเข้ามาในพ้ืนท่ี และลดขดี ความสามารถของขา้ ศกึ ท่ีจะทาการรบดว้ ยวธิ ีรกุ หลักนิยมในการต้ังรับจะใช้ส่วนระวังป้องกันในการแจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อค้นหา, รั้งหน่วง, ลวง และ ทาลายการเข้าตีของข้าศึก การใช้กาลังต้ังรับในส่วนหน้าให้จัดระเบียบการต้ังรับเพื่อผลักดันฝ่ายเข้าตี และ ทาการคลี่คลายสถานการณ์ หรือการใช้กาลังเข้าโจมตีด้วยการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกเพื่อทาลายการเข้าตีของ ข้าศึก นอกจากนั้นยังใช้ความคลอ่ งแคล่วในการเคล่ือนที่, อานาจการยิงและการปฏิบัตเิ ชงิ รุก ไม่ให้ฝ่ายตง้ั รับถูก ตรึง อยู่กับทแี่ ละถูกทาลาย เพื่อก่อให้เกิดการตั้งรับที่ชงิ เป็นฝ่ายริเร่มิ เพ่ือขัดขวางฝ่ายเขา้ ตีไม่ให้เขา้ ถึงทห่ี มาย แตกหักที่ต้องการ ในกรณีท่ีฝ่ายข้าศึกท่ีเข้าตีมีหน่วยกาลังเป็นยานรบท่ีมีความทันสมัย กาลังท่ีแนวต้ังรับหน้า จะต้องประกอบดว้ ยรถถัง และอาวุธตอ่ สรู้ ถถังทเ่ี พียงพอ ซ่ึงจะทาให้กาลังตง้ั รับเหล่านัน้ สามารถผลักดันฝา่ ยเข้าตี หรือเพ่ือให้สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ในลักษณะของการรบด้วยวิธีรับน้ีจาเป็นต้องให้มีพ้ืนท่ีท่ีเพียงพอ ในการดาเนินกลยทุ ธ์ และหนว่ ยทีป่ ฏิบตั ิจะต้องมคี วามคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่สี งู ขอ้ พจิ ารณาพ้ืนฐานในการตงั้ รับ ๑. การใช้ภูมิประเทศอย่างเหมาะสม ฝ่ายตั้งรับต้องเข้าควบคุมภูมิประเทศสาคัญขัดขวางไม่ให้ข้าศึก ใช้ภูมิประเทศท่ีอันอาจเป็นอันตรายต่อความสาเร็จของการตั้งรับ ใช้ความได้เปรียบจากเครื่องกีดขวางต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของท่ีมั่น หรือหันเหข้าศึกเข้ามาในพื้นท่ีที่เหมาะแก่การโจมตี หรือตีโต้ตอบ ดังนั้น เครื่องกีดขวางต่างๆ จึงมีบทบาทสาคัญต่อแผนต้ังรับนอกจากนั้นควรพิจารณาลักษณะของการตรวจการณ์ และพื้นยิง การกาลังและซ่อนพราง เคร่ืองกีดขวาง ภูมิประเทศสาคัญ และเส้นทางการเคล่ือนท่ีของข้าศึก ทีจ่ ะเคลื่อนทเ่ี ข้ามา ๒. การระวงั ป้องกัน เน่ืองจากฝ่ายเขา้ ตีจะดารงการเป็นฝ่ายริเรมิ่ เก่ยี วกบั เวลา สถานท่ี ทิศทาง และ กาลงั ในการเข้าตี หน่วยท่ีต้ังรับจะต้องจดั ให้มีการระวังป้องกันข้ึนเพ่ือใหแ้ น่ใจได้ว่าจะมีการแจ้งเตือนลว่ งหน้า และมกี ารใหข้ ่าวสารที่เช่อื ถอื ได้เกีย่ วกบั ข้าศกึ ทเี่ คลอื่ นทีเ่ ข้ามา ๓. การตงั้ รับรอบตวั ถงึ แม้การต้งั รับจะมุ่งทีจ่ ะทาการส้รู บกับข้าศึกตามแนวทางการเคล่ือนที่ที่คาดว่า เป็นไปได้มากท่ีสุดของขา้ ศึกก็ตาม แต่ข้าศึกอาจเข้าตีจากทิศทางอื่นนอกเหนอื จากท่ไี ดค้ าดเอาไว้ ข้าศึกอาจเข้าตี ต่อส่วนปีกหรือหลังด้วยการตีโอบ หรือมีปฏิบัติแบบกองโจรในพื้นที่ส่วนหลัง ดังนั้นหน่วยที่ปฏิบัติการต้ังรับ ต้องมีความสามารถทีจ่ ะเผชญิ ต่อการเข้าตจี ากทศิ ทางใดๆ กต็ าม ๔. การต้ังรับทางลึก การต้ังรับต้องให้มีความลึกอย่างพอเพียงในการปฏิบัติ เพ่ือดึงให้ข้าศึกเข้ามา ยังพื้นที่ท่ีฝ่ายต้ังรับกาหนด หลีกเลี่ยงต่อการปฏิบัติเข้าตีโต้ตอบจากพื้นที่ตั้งรับท่ีมีความลึกน้อย เนื่องจากถ้า
๒-๘ ความลึกในการต้ังรับมีน้อยฝ่ายต้ังรับจะไม่สามามารถทาการตอบโต้ข้าศึกสามารถทาการเจาะแนวเข้ามาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ความลึกในการตั้งรับจะเกิดข้ึนได้ก็ด้วยกรใช้กาลังรบอย่างเหมาะสม, การเลือกและ การจัดเตรียมที่มั่นในทางลึก, การดาเนินกลยุทธ์ของส่วนต่างๆ ในแนวหน้ามาสู่ที่มั่นสกัดก้ันในทางลึกต่างๆ ตามความจาเป็น ตลอดจนการใชก้ องหนุนเคลือ่ นทเ่ี ร็วในพ้ืนท่ตี ั้งรับ ๕. การตอบสนองและการบังคับบัญชา ความสาเร็จในการต้ังรบั ย่อมข้ึนอยกู่ ับการใช้อานาจกาลงั รบ ท่ีเหนือกว่า ณ เวลาและตาบลท่ีให้ผลแตกหัก ท้ังส่วนดาเนินกลยุทธ์และส่วนยิงสนับสนุน จะต้องสามารถ ตอบสนองความต้องการของผู้บังคับบญั ชาได้ ๖. การกระจายกาลงั ๗. การรบด้วยวิธีรุกให้เกิดประโยชน์มากท่ีสุด ในการตั้งรับน้ัน จะต้องฉกฉวยโอกาสเพื่อเข้าช่วงชิง ความริเริ่มให้จงได้ ฝ่ายต้ังรับองเตรียมการให้สามารถเข้าปฏิบัติการด้วยวิธีรุกได้ในทันทีที่โอกาสอานวย การเข้าตโี ต้ตอบนน้ั เปน็ กญุ แจสาคัญทีจ่ ะนาไปสูค่ วามสาเร็จในการตัง้ รับ ๘. การสนธิและประสานมาตรการตั้งรับต่างๆ เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั โดยตอ้ งสนใจเป็นพเิ ศษตอ่ การต่อสู้รถถัง หรือมกี าลังยานรบท่มี ีความทันสมัย ต้องมีการวางแผนการยิงและประสานการยิงในทุกระดับหน่วย จะต้องจัด ให้มีการสนบั สนุนซ่ึงกนั และกันด้วยการยิงหรือการเคล่ือนทีด่ าเนินกลยุทธ์หรือทั้งสองประการ มีการสนับสนุน ด้วยการยิงอย่างต่อเน่ืองให้แก่หน่วยกาลังรบต่างๆ รวมทั้งในพื้นที่ระวังป้องกัน และต้องวางแผนการยิง ให้ครอบคลุมชอ่ งวา่ งต่างๆ รวมทงั้ แผนฉากขัดขวางท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยมแี ผนการยงิ คุม้ ครองฉากขดั ขวางดว้ ย รปู แบบพ้ืนฐานของการตง้ั รบั รูปแบบพื้นฐานของการต้ังรับมี ๒ แบบคือ การต้ังรับแบบคล่องตัว และการตั้งรับแบบยึดพ้ืนที่ โดยการจะเลือกแบบของการต้ังรับที่จะนามาใช้ย่อมข้ึนอยู่กับภารกิจ, ภูมิประเทศ, ความคล่องแคล่ว ในการเคลื่อนที่เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั ขา้ ศึก, กาลังทางอากาศยุทธวิธ,ี เวลา และขดี ความสามารถต่างๆ ของข้าศึก การตั้งรับแบบคล่องตัว การต้ังรับแบบคล่องตัวเป็นการต้ังรับท่ีเหมาะสมกับหน่วยทหารม้า หรือ หน่วยยานเกราะ โดยใช้การสนธิการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก, รับ และร่นถอย เข้าด้วยกัน โดยความสาเร็จ ขึน้ อย่กู ับการส่วนทปี่ ฏิบัติการรบด้วยวิธรี ุก วัตถุประสงค์หลักของการตั้งรับแบบคล่องตวั ก็คือการทาลายกาลังรบ ข้าศึกท่ีทาการเข้าตี ในการต้ังรับแบบคล่องตัวจะใช้กาลังส่วนน้อยเป็นส่วนตรึงข้าศึกไว้ในพ้ืนท่ีตั้งรับหน้า เพ่ือทาการค้นหา, ทาลายการจัด, รบหน่วงเวลา เพ่ือดึงข้าศึกเข้ามาในพื้นที่ที่ฝ่ายตั้งรับได้เตรียมการเอาไว้ ให้ได้เวลาและพ้ืนที่ดาเนินกลยุทธ์แก่การปฏิบัติการของส่วนกาลังโจมตี โดยอานาจกาลังรบส่วนใหญ่น้ัน ใช้เป็นกาลังโจมตี ซึ่งจะทาการรบด้วยวิธีรุกเข้าทาลายล้างข้าศึกท่ีถูกดึงเข้ามา ณ ตาบลและเวลาที่เหมาะสม มากทสี่ ุด โดยการตง้ั รับแบบคล่องตวั จะมีความเหมาะสมเม่ือ ๑. ภารกิจที่ได้รับเกื้อกูลต่อการจัดกาลังในการต้ังรับแบบคล่องตัว และพ้ืนท่ีท่ีได้รับมอบ ความผิดชอบมคี วามลึกเพยี งพอ ๒. ภูมิประเทศอานวยให้ฝา่ ยตัง้ รบั เคล่ือนทีไ่ ด้อยา่ งเสรีได้ในภมู ิประเทศ ๓. ความคล่องแคลว่ ของหน่วยทตี่ ั้งรบั ต้องทัดเทียมหรอื มากกวา่ ฝ่ายเข้าตี ๔. สถานการณ์อากาศยานข้าศึกเก้อื กูลใหฝ้ า่ ยตงั้ รับเคลอื่ นที่ได้อยา่ งเสรี ๕. มเี วลานอ้ ยในการเตรียมการในการจัดพืน้ ท่ีและทม่ี ั่นในการตั้งรบั ปกติแล้วกองพลจะเป็นหน่วยระดับท่ีเล็กที่สุดท่ีสามารถทาการต้ังรับแบบคล่องตัวได้ โดยหน่วยทหารม้า และหนว่ ยยานเกราะตามปกติจะเข้าร่วมในการตัง้ รบั แบบคล่องตัวในฐานะของส่วนระวังป้องกนั , กาลังสว่ นตรึง หรือกาลงั โจมตี
๒-๙ การตั้งรับแบบยึดพ้ืนท่ี สาหรับหน่วยทหารม้า หรือหน่วยยานเกราะแล้ว การต้ังรับแบบยึดพ้ืนที่ ไม่ค่อยเป็นการปฏบิ ตั ิที่พึงประสงค์นกั เพราะไม่อาจใช้ความคลอ่ งแคลว่ ในการเคลือ่ นที่ของรถถัง และรถเกราะ ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด โดยการตั้งรับแบบยึดพ้ืนท่ีจะเน้นที่การยึดรักษาภูมิประเทศโดยหยุดข้าศึกเอาไว้ ด้านหนา้ ของพ้ืนท่ีตงั้ รบั หนา้ หรอื เพ่อื ผลักดันขา้ ศกึ ออกไปเม่ือข้าศกึ สามารถเจาะแนวเข้ามาได้ อานาจกาลงั รบ ส่วนใหญ่ของการตั้งรับจะถูกส่งออกไปปฏิบัติการเพ่ือป้องกันพ้ืนท่ีตั้งรับหน้า ส่วนกองหนุนจะใช้เพ่ือสกัดกั้น หรือทาลายการเจาะแนวตั้งรับจากฝ่ายเข้าตีโดยใช้การตีโต้ตอบ แล้วสถาปนาที่มั่นต้ังรับขึ้นมาใหม่ หรือ เพือ่ เพิ่มเตมิ กาลังให้แก่หนว่ ยกาลังรบในพื้นท่ตี ง้ั รับหนา้ โดยการตัง้ รบั แบบยึดพนื้ ทีจ่ ะมีความเหมาะสมเมื่อ ๑. พื้นทต่ี ั้งรับขาดความลกึ ๒. มคี วามจาเป็นทีต่ ้องยดึ รกั ษาภมู ิประเทศ ๓. ภมู ปิ ระเทศจากัดการเคลื่อนที่ของหนว่ ยตงั้ รบั ๔. ฝ่ายเข้าตีมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนทเี่ หนอื กว่าฝา่ ยต้งั รบั ๕. ฝ่ายเข้าตีสามารถครองการเปน็ เจ้าอากาศ ๖. มีเวลามากพอในการเตรยี มพ้ืนที่ สรา้ งท่ีม่ัน ตลอดจนฉากขัดขวางต่าง ๆ ๗. กวา้ งดา้ นหน้าแคบ
๒ - ๑๐ ตอนท่ี ๓ ทหารม้าในการรบดว้ ยวธิ รี ่นถอย การร่นถอย คือ การเคลื่อนที่อย่างมีระเบียบไปขา้ งหลังหรือห่างออกไปจากข้าศึก การร่นถอยแบ่งออกเป็น ๓ แบบ คอื การรบหน่วงเวลา, การถอนตัว และการถอย การรบด้วยวธิ รี ่นถอยน้ีอาจกระทาดว้ ยความสมัครใจ หรืออาจถกู ข้าศกึ บีบบงั คับก็ได้ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพ่อื ๑. เพอ่ื รบกวน, ทาใหข้ า้ ศึกออ่ นกาลัง, ทาการหน่วงเหนยี่ ว และสรา้ งความเสยี หายให้ข้าศึก ๒. เพ่อื ดึงข้าศกึ ใหเ้ ข้ามาในสถานการณ์ที่ไมเ่ กือ้ กลู ต่อข้าศึก ๓. เพื่ออานวยใหส้ ามารถใชก้ าลังสว่ นต่างๆ ณ ท่ีแหง่ อื่น ๔. เพื่อหลกี เลี่ยงการสรู้ บภายใต้สภาพการณต์ ่างๆ ที่ไม่เกอ้ื กูลตอ่ ฝ่ายเรา ๕. เพอื่ ให้ได้เวลา และหลีกเล่ียงในการรบติดพันแตกหกั ๖. เผอื่ ทาการผละออกจากการรบ ๗. เพื่อวางกาลังตา่ งๆ ใหส้ อดคล้องกับกาลงั สว่ นอื่นๆ ของฝา่ ยเดียวกนั ๘. เพื่อร่นระยะทางคมนาคม เช่นเดียวกับการรบแบบอ่ืนๆ สภาพของภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศเป็นข้อพิจารณาที่มีผลกระทบ ตอ่ การใชห้ น่วยทหารมา้ ในการรบด้วยวิธีร่นถอย หน่วยทหารม้าจะเลือกภูมิประเทศให้มีการตรวจการณ์ และ พ้นื ยิงในระยะไกล มีการซอ่ นพรางจากการตรวจการณ์ และให้การระวังป้องกัน ใช้เคร่ืองกีดขวางเพือ่ ขัดขวาง หน่วงเหนี่ยวการรุกคืบหน้าของข้าศึก, เพื่อป้องกันปีกที่เปิด, บังคับให้ข้าศึกเคล่ือนท่ีช้าลง และเพื่อบังคับ ใหข้ ้าศึกตอ้ งรวมกาลังกนั เป็นกลมุ่ เปน็ ก้อน โดยหน่วยทหารมา้ ลาดตระเวนเปน็ ทหารมา้ ประเภทเดยี วท่ีกาหนด เสน้ แบ่งเขตทางข้างลงถงึ ระดับหมวด เพอื่ ใช้ในการควบคุม การรบหน่วงเวลา การรบหน่วงเวลาเป็นการรบที่มุ่งที่จะหน่วงเหนี่ยวและสร้างความเสียหาย ให้แก่ข้าศึกที่รุกเข้ามาให้มากที่สุด โดยการรบหน่วงเวลาต้องหลีกเล่ียงการรบติดพันแตกหัก ต้องระมัดระวัง ไม่ให้หน่วยถูกข้าศึกโอบปีก จะมุ่งที่ยอมจะเสียพื้นที่ให้น้อยที่สุดเพ่ือแลกกับเวลาให้มากที่สุด โดยหน่วย จะ ดาเนิ น ก ลยุทธ์ ด้วยก ารถอยตัว จาก ที่ม่ั น รบ หน่ว งเว ลาแห่ง หน่ึง มายังอีก แห่ งหน่ึ งโดยต้องไ ด้ รับอนุมั ติ จากหนว่ ยเหนือก่อนเท่านน้ั โดยมีแบบของการรบหน่วงเวลาคือ การรบหน่วงเวลา ณ ท่ีมั่นตามลาดับขนั้ และ การรบหน่วงเวลา ณ ทม่ี ่ันสลับขน้ั โดยอาจใชท้ ง้ั สองแบบสลับกนั กไ็ ด้ตามแตส่ ถานการณข์ า้ ศกึ และภมู ิประเทศ ๑. การรบหน่วงเวลา ณ ที่ม่ันตามลาดับขั้น ในการรบหน่วงเวลาตามลาดับขั้นน้ี หน่วยจะต้องจัด และเข้ายึดครองท่ีมั่นรบหน่วงเวลาในข้ันต้น เมื่อจะถอนตัวหน่วยก็เคลื่อนท่ีเข้าที่ม่ันรบหน่วงเวลาขั้นต่อไป ซ่ึงอยู่ดา้ นหลงั โดยท้ิงกาลังบางส่วนไวป้ ะทะกบั ขา้ ศกึ เพื่อกาบังใหห้ นว่ ยที่ถอนตวั โดยจะกระทาเช่นน้กี ับท่ีม่ัน รบหน่วงเวลาตามลาดับขั้นทุกท่ีมั่น และเน่ืองจากการรบหน่วงเวลา ณ ที่ม่ันตามลาดับข้ันนี้มักจะได้รับมอบ พน้ื ทีก่ วา้ งด้านหนา้ ทมี่ าก จงึ เหมาะสมที่จะใชห้ น่วยทหารมา้ หรือหนว่ ยยานเกราะเป็นหน่วยปฏบิ ัติ ๒. การรบหน่วงเวลา ณ ที่มั่นสลับขั้น ในการรบหน่วงเวลา ณ ที่ม่ันสลับข้ันนี้ จะแบ่งกาลังออก เปน็ ๒ ส่วน ส่วนแรกจะเข้ายดึ ทมี่ ่ันรบหน่วงเวลาในขนั้ แรก ในขณะเดยี วกนั นน้ั ส่วนที่สองกจ็ ะเข้ายึดครองและ ปรับปรุงท่ีม่ันรบหน่วงเวลาท่ีข้างข้างหลัง เมื่อส่วนแรกต้องทาการถอนตัว กาลังส่วนแรกจะถอนตัวผ่านหรือ อ้อมผ่านกาลังส่วนที่สอง แล้วเข้ายึดครองและปรับปรุงที่มั่นรบหน่วงเวลาท่ีอยู่ข้างหลังถัดไปจากส่วนที่สอง แตก่ อ่ นที่จะทาการถอนตวั กาลังสว่ นแรกจะจัดกาลงั สว่ นหนง่ึ ทงิ้ ไวป้ ะทะกบั ข้าศกึ เพ่อื ช่วยกาบังในการถอนตัว
๒ - ๑๑ เม่ือข้าศึกทาการรุกเข้ามาน้ัน กาลังส่วนท่ีสองก็จะทาการปะทะกับข้าศึกไว้ และเม่ือต้องทาการถอนตัว ก็จะกระทาเช่นเดียวกับส่วนแรก กาลังท้ังสองส่วนจะทาเช่นนี้สลับกันไป และเน่ืองจากการรบหน่วงเวลา ณ ท่ีม่ันตามสลับข้ันน้ี มักจะได้รับมอบพ้ืนท่ีกว้างด้านหน้าแคบแต่มีความลึก โดยปกติแล้วจะไม่บ่อยนักที่หน่วย ทหารม้าหรือหน่วยยานเกราะ จะเข้าปฏิบัติการในพื้นที่กว้างด้านหน้าแคบ และมีพื้นท่ีไม่เพียงพอที่จะอานวย ให้สามารถปฏบิ ตั กิ ารได้ ข้อพจิ ารณามลู ฐานในการรบหนว่ งเวลา คือ การควบคุมแบบรวมการปฏบิ ตั แิ บบแยกการ, ใช้ภูมิประเทศให้เกิดผลดีสูงสุด, ใช้เครื่องกีดขวางให้เกิดประโยชน์สูงสุด, บังคับให้ข้าศึกต้องปรับรูปขบวน และดาเนนิ กลยุทธ์, การดารงการเกาะขา้ ศึกไว้ และหลีกเลีย่ งการรบติดพันแตกหกั แนวท่ีมั่นร้ังหน่วงท่ีพึงประสงค์ ควรท่ีมีลักษณะเป็นกลุ่มแนวสันเขาที่ขนานกันและตั้งได้ฉาก กับแนวทางรุกของข้าศึก หากบางภูมิประเทศไม่สามารถกาหนดแนวท่ีมั่นร้ังหน่วงได้ ก็จะกาหนดเส้นข้ันเป็น มาตรการควบคมุ ในการวางกาลังรบหน่วงเวลาจะแบ่งกาลงั ออกเปน็ ๓ สว่ น คอื ส่วนระวงั ปอ้ งกัน, สว่ นรั้งหนว่ ง (ส่วนรบหน่วงเวลา) และกองหนนุ โดยท่ีกาลงั ส่วนใหญจ่ ะอยู่ท่สี ว่ นรั้งหนว่ ง แบบพื้นฐานการถอนตวั คือ การถอนตัวภายใต้การกดดันของขา้ ศกึ และการถอนตัวนอกความกดดัน ของข้าศึก ปกติมักนิยมใช้การถอนตัวนอกความกดดันมากกว่า เพราะหากทาการถอนตัวภายใต้ความกดดัน กจ็ ะตกอยู่ภายใต้การตรวจการณ์และการยิงของข้าศึก ซ่ึงจะต้องชดเชยด้วยความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และอานาจการยิงระยะไกลของหน่วย การถอนตัวนอกความกดดนั ของขา้ ศกึ จะต้องจัดหน่วยแยกทิ้งไวป้ ะทะ โดยมีภารกจิ ท่ีจะให้การระวังปอ้ งกันในการถอนตัวของหน่วย และลวงขา้ ศึก โดยปกติรองผ้บู ังคบั หน่วยจะเป็น ผู้บังคับหน่วยแยกท้ิงไวป้ ะทะ ส่วนการถอนตัวเม่ือข้าศึกกดดัน จะแบ่งกาลังเป็น ๒ ส่วน ได้แก่ ส่วนใหญ่ และ สว่ นป้องกัน และต้องกาหนด มาตรการควบคุมในการถอนตัวผา่ นทีม่ ั่นขา้ งหลัง เช่น กาหนดจุดพบ, ตาบลผ่านแนว , เส้นทางถอนตัว, เวลาผ่านแนว และสัญญาณบอกฝ่าย
๒ - ๑๒ ตอนท่ี ๔ ทหารมา้ ในการปฏบิ ตั ิการยุทธ์แบบอนื่ ๆ การปฏิบตั ิการรบในปา่ ทึบ ป่าทึบเป็นพื้นท่ีบริเวณเขตร้อนมีพันธ์ุไม้ข้ึนรกทึบเป็นส่วนใหญ่ อาจมีหุบเขาที่มีความสลับซับซ้อน มีสันเขาสูงชัน ตลอดจนที่ลุ่มน้าขังอยู่ด้วย ความรู้เก่ียวกับภูมิประเทศจึงนับว่าเป็นสิ่งสาคัญอย่างยิ่ง ผ้บู งั คบั บัญชาหน่วยยานเกราะต้องพยายามหาข่าวสารที่มคี วามสัมพันธ์กบั ภมู ปิ ระเทศใหไ้ ดก้ อ่ นท่ีจะเริ่มทาการ ออกลาดตระเวน ขา่ วสารต่างๆ เก่ียวกบั การเปลย่ี นแปลงของสภาพอากาศประจาถ่ินต้องทันสมัยและสมบูรณ์ ปญั หาต่างๆ ในการปฏิบัติการในป่ารกทึบจะลดลงได้ด้วยการทาให้เคยชินกบั สภาพอากาศประจาถ่ิน, การฝึก และการวางแผนอย่างละเอียดถ่ีถ้วน ป่ารกทึบจะส่งผลกระทบต่อพนื้ การยิง, การเคลื่อนท่ี และการติดต่อส่ือสาร กบั ยังให้การกาบงั ซอ่ นพราง จากการตรวจการณ์ทั้งทางพื้นดินและทางอากาศทาให้การควบคมุ กระทาได้ยาก การปฏิบัติการของหนว่ ยยานเกราะ ในพื้นท่ีน้ีจึงต้องมีกว้างด้านหน้าทแ่ี คบกว่าปกติ และจะตอ้ งลดระยะระหว่างยานรบ หรือทหารเป็นรายบุคคล ให้น้อยลงด้วย ส่วนการใช้การยิงสนับสนุนน้ันก็กระทาได้อย่างจากัด ในพื้นที่ป่ารกทึบมักไม่ค่อยมีถนน หรอื ขา่ ยเส้นทางทด่ี ี การเคลอื่ นท่ีของหน่วยยานเกราะจะถูกจากดั ด้วยปา่ หญ้าสงู หรือปา่ ที่มีพนั ธ์ไุ มข้ น้ึ ปกคลมุ อย่างไรก็ตามยานเกราะก็สามารถที่จะเคล่ือนท่ีผ่านภูมิประเทศที่ยากลาบากได้ เม่ือประสบปัญหา เกีย่ วกบั พชื พนั ธ์ไุ ม้ในปา่ ควบคกู่ ับความลาดชนั ของพืน้ ท่ี หรอื พนื้ ท่ีลุม่ นา้ ขงั กจ็ าเปน็ ท่จี ะต้องใหท้ หารลงทาการรบ เดินดิน หรือการเลือกใชเ้ ส้นทางท่ีเหมาะสมซึง่ จะมาได้จากการลาดตระเวนอย่างละเอียดรอบคอบ หน่วยยานเกราะ จะตอ้ งใช้ถนนและทางเดนิ ต่างๆ ท่ีมอี ยู่ และอาจตอ้ งใช้การเคล่อื นท่แี บบสลับขน้ั เพื่อไมใ่ ห้ถูกซมุ่ โจมตี ซ่ึงข้าศึก อาจใช้ยานเกราะเข้าจู่โจมในทิศทางเข้าตีท่ีไม่คาดคิด มากกว่าการใช้ความเร็วในการเคล่ือนท่ีเข้าตี ดังน้ัน การปฏบิ ัตติ ่างๆ ทีไ่ ดก้ ล่าวมาจะสิ้นเปลอื งเวลามาก และจะตอ้ งวางแผนใหส้ อดคล้องกบั เวลาท่ีต้องสญู เสียไป ระยะการติดต่อส่ือสารด้วยวิทยุจะลดลงเป็นอย่างมาก ประสิทธิภาพของวิทยุจะขึ้นอยู่กับท่ีตั้ง ของสถานีวิทยุและสภาพภูมิอากาศ การใช้อากาศยานช่วยในการส่งต่อทางวิทยุจะได้ผลมาก และการใช้ การติดต่อสอื่ สารทางสายจะได้ผลมากที่สุด ชดุ ทางสายต้องเคลื่อนท่ีไปกับส่วนโจมตีเพื่อวางการติดต่อสื่อสาร มายังข้างหลัง กับต้องเพ่ิมเติมด้วยการติดต่อด้วยพลนาสารเดินเท้า และทัศนสัญญาณที่มีการนัดหมายกันไว้ ล่วงหน้าใหม้ ากขึน้ ในการรบในป่ารกทึบจะกระทาด้วยหน่วยทหารราบหรือทหารม้าบรรทุกยานเกราะที่ทาการรบเดนิ ดิน สมทบด้วยหน่วยรถถังเพื่อช่วยลดอานาจการยิงจากอาวุธอัตโนมัติข้าศึก หมู่ตรวจต่างๆ ท่ีทาการรบเดินดิน ซ่ึงต้องทาการลาดตระเวนเส้นหลักการรุก, อาวุธต่อสู้รถถัง และเครื่องกีดขวางป้องกันรถถัง โดยรถถังทุกคัน ต้องได้รับการคุ้มกันอย่างใกล้ชิดจากหน่วยที่ลงรบเดินดินท้ังทางปีกและด้านหลัง หน่วยท่ีทาการรบเดินดิน เมื่อเข้าปะทะกับข้าศึกจะใช้รถถังเป็นโล่กาบังตน ทาการตรวจการณ์หาท่ีตั้งยิงของอาวุธข้าศึก หรอื ท่ีต้ังข้าศึกได้ แล้วใช้ชุดรบที่มีรถถังเข้าทาลายข้าศึก ในบางครั้งผู้บังคับรถถังจาเป็นต้องโผล่ออกมาจากป้อมปืน เพ่ือทาการค้นหาเป้าหมาย และดารงการส่ือสารกับรถถังคันข้างเคียงด้วย แต่ถ้าภูมิประเทศไม่อานวย ให้ใช้รถถังเข้าตะลุมบอนได้ รถถังก็อาจให้การยิงสนับสนุนด้วยการยิงข้ามศีรษะ หรือการยิงทางปีก ของทหารฝ่ายเดียวกัน โดยอาจส่งผู้ตรวจการณ์หน้าของหน่วยรถถังร่วมไปกับหน่วยรบเดินดินเพ่ือส่งคาขอ การยิงสนับสนุน การต้ังรับในป่ารกทึบจะต้องวางหน่วยทหารบริเวณขอบหน้าที่มั่นรบให้มีระยะเคียงของหน่วย และระหว่างหลุมบุคคลน้อยทสี่ ุด สว่ นระวังป้องกนั จะประกอบด้วยกาลงั ขนาดยอ่ มๆ ฝังตัวอยูอ่ อกไปขา้ งหน้า
๒ - ๑๓ ในระยะท่ีสามารถตรวจการณ์ข้าศึกท่ีเข้ามาได้ก่อนที่ข้าศึกจะเข้ามาสู่ระยะยิงหวังผลของอาวุธต่อสู้รถถัง ขนาดเบา บ่อยคร้ังท่ีหน่วยต่างๆ ต้องปฏิบัติการโดดเดี่ยวอยู่ในภูมิประเทศป่ารกทึบ จึงจาเป็นต้องจัด ใหม้ ีการระวังปอ้ งกันรอบตวั และทาการวางกาลังตง้ั รับแบบวงรอบให้เรว็ ท่ีสุด ในการปฏิบัตกิ ารรบในพ้ืนท่ีป่ารกทบึ น้ี หน่วยยานเกราะจะสามารถใช้มาตรการป้องกันภยั ทางอากาศ เชิงรับอย่างได้ผลสูงสดุ ดงั น้นั จงึ สามารถลดจานวนหนว่ ยป้องกันภยั ทางอากาศตา่ งๆ ทีม่ าสนบั สนนุ ลงได้ การปฏิบตั กิ ารรบในพน้ื ทปี่ า่ ภเู ขา พนื้ ท่ีเปน็ ภเู ขาเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีความสูงมักมีการเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศอย่างรุนแรง มีเสน้ ทางน้อย และส่วนมากจะเป็นเส้นทางแคบและคดเค้ียว ภูมิประเทศเป็นเนินสูงและลาดชันเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศ ทาให้ใช้ยานเกราะได้อย่างจากัด การสนับสนุนการส่งกาลังกระทาได้ยาก การติดต่อส่ือสารเกิดปัญหายุ่งยาก ลักษณะภูมิประเทศจะทาให้การติดต่อสื่อสารกระทาได้เพียงระยะใกล้ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดวิทยุประเภท ปรุงคล่ืนความถี่ (Frequency Modulation) อาจได้รับความกระทบกระเทือนจากที่สูงซึ่งขวางก้ัน อยรู่ ะหว่างคู่สถานี ดังนั้นการรบในพ้นื ที่ภูเขาของหน่วยยานเกราะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ หาข่าวสาร จากประชาชนในท้องถิน่ เกี่ยวกับเสน้ ทางและเคร่อื งกีดขวางทีไ่ มป่ รากฎในแผนทใ่ี หม้ ากทส่ี ดุ การเข้าตขี องหน่วยยานเกราะในพนื้ ที่ภูเขาจะต้องมีการวางแผนในรายละเอยี ด หนว่ ยตา่ งๆ ต้องไดร้ ับ การบรรยายสรุปอย่างถ่ีถ้วน ภูมิประเทศอาจอานวยให้รถถังสนับสนุนหน่วยรบเดินดินด้วยการยิงเล็งตรง จากระยะไกล ซ่งึ ต้องวางการตดิ ต่อสื่อสารและประสานอย่างดีย่ิง ส่วนเข้าตีจะใช้เส้นทางตามแนวสันเขาหรือ แนวภูมิประเทศอ่ืนๆ ท่ีมีความสูง ซ่ึงจะก่อให้เกิดการจู่โจมจากกาลังส่วนเข้าตี ด้วยเหตุที่การเข้าตี ตามแนวพ้ืนท่ีต่าข้ึนไปหาพื้นท่ีสูงเป็นการปฏิบัติที่มีความเสี่ยงสูงที่หน่วยเข้าตีจะได้รับการสูญเสียมาก เพราะฝ่ายตั้งรับมีการตรวจการณ์ดีเย่ียมอยู่บนท่ีสูง และสามารถใช้อาวุธและสามารถใช้อาวุธยิงขัดขวางได้ การปฏิบัติในพ้ืนท่ีภูเขาต้องการการปฏิบัติงานของทหารช่างมาก เพ่ือที่จะนารถถังเคลื่อนที่เข้ายึดที่สูง ซึ่ง สามารถให้การสนับสนนุ ใกลช้ ิดแก่การเขา้ ตีได้ และอาจจาเป็นต้องสรา้ งทางเดินเข้าจากพ้นื ท่ีต่าไปยังฐานออกตี แต่จะต้องไม่นายานเกราะขึ้นไปยังส่วนหน้าจนเกินความจาเป็นเท่าที่จะใช้เพื่อการปฏิบัติโดยฉับพลัน เพราะ การนายานเกราะขึน้ ไปมากโดยไม่ได้ใช้เข้าทาการรบจะก่อให้เกิดความเสยี หายแกถ่ นนโดยไม่จาเป็น และอาจ กีดขวางการจราจรของรถที่ใช้ในการส่งกาลังได้ ถ้าสามารถใช้ยานเกราะเข้าปฏิบัติการอย่างแตกหักได้ ก็จะต้องใชย้ านเกราะปฏบิ ัตกิ ารเป็นกลมุ่ ก้อนภายใต้การสนับสนุนของปืนใหญ่สนาม และทหารช่างโดยใกลช้ ิด โดยปกติที่หมายของยานเกราะจะเป็นตาบลวิกฤติตามเส้นทางส่งกาลังและเส้นทางถอนตัวของข้าศึก การเขา้ ยึดท่หี มายดงั กล่าวก็เพอื่ โดดเดย่ี วขา้ ศึกท่ีตงั้ รับอยดู่ า้ นหน้า การตั้งรับและการร่นถอยของหน่วยยานเกราะในพ้ืนท่ีภูเขาจะเป็นไปในลักษณะจากัด แต่ก็สามารถ ประยุกต์ใช้ในการรบบนภูเขาได้ แต่อย่างไรก็ตามในพ้ืนที่ที่สามารถกระทาได้ก็ต้องใช้รถถังให้เกิดประโยชน์ มากทส่ี ุดในบทบาทของอาวุธต่อสู้รถถัง และการปฏบิ ัติการเชงิ รกุ ในการต้ังรับ
๒ - ๑๔ การยทุ ธ์เคลอ่ื นท่ีทางอากาศ, ส่งทางอากาศ การยุทธ์เคลื่อนท่ีทางอากาศเป็นการยุทธ์ที่กระทาควบคู่ไปกับการปฏิบัติการยุทธ์ที่เป็นหลัก เช่น การเขา้ ตีเพอ่ื เข้ายดึ ทา่ ข้ามตามแนวลาน้า หรือเพอ่ื ชว่ ยเหลือในการเขา้ แยง่ ยดึ ทห่ี มาย ดังนั้นการยุทธ์เคล่ือนที่ ทางอากาศจึงจัดอยู่ในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรกต็ ามการยุทธ์แบบนเ้ี ป็นแบบหนึ่ง ในการปฏิบัติการยทุ ธ์ตามการแบ่งมอบภารกิจ ซึ่งเปน็ ลกั ษณะการปฏิบตั ิร่วมไปกบั การยทุ ธหลัก เช่น การเขา้ ตี, การตั้งรับ และการร่นถอย สาหรับกองพลทหารม้าก็สามารถปฏิบัติการยุทธเคลื่อนท่ีทางอากาศได้เมื่อได้รับ การสนับสนุนหน่วยบินเพอื่ เพ่ิมขีดความสามารถในการเคลื่อนที่ และสร้างความอ่อนตัวในการปฏิบัติการยุทธ์ เคล่อื นท่ีทางอากาศมิได้จากัดแกห่ น่วยรบแบบใดโดยเฉพาะ หน่วยทหารม้าของกองพลทหารม้าก็มักจะมีสว่ นรว่ ม ในการยทุ ธเคลือ่ นที่ทางอากาศ เพียงแตต่ ้องมีการจดั ยุทโธปกรณ์ให้เหมาะสมกบั ภารกิจ ถึงแม้ในกองพลส่งทางอากาศจะไม่กองพันรถถังในอัตรา แต่การปฏิบัติการยุทธ์ส่งทางอากาศ ก็อาจจาเป็นต้องได้รับการสมทบด้วยยานเกราะให้ ยานรบท่ีจัดข้ึนไปสมทบอาจเป็นรถหุ้มเกราะ, ยานเกราะ ขนาดเบาที่ติดอาวธุ หนกั หรือรถลาดตระเวนโจมตีทางอากาศ กอ็ าจใช้ปฏบิ ัตกิ ารยิงเพือ่ ชว่ ยสนับสนุนหน่วยส่ง ทางอากาศที่ลงรบเดินดิน ส่วนกองพันรถถังท่ีใช้รถถังหลักซึ่งมีน้าหนักมากอาจจัดให้ขึ้นสมทบกองพลส่ง ทางอากาศเพ่อื เขา้ ปฏบิ ัติการจากทางภาคพ้นื ดนิ ซ่ึงการปฏิบัติดงั กลา่ วน้นั ไมจ่ าเปน็ ต้องมกี ารขนย้ายทางอากาศ การยทุ ธ์บรรจบ การยุทธ์บรรจบมักเกิดข้ึนในการยุทธ์ส่งทางอากาศ, การยุทธ์สะเทินน้าสะเทินบก, การยุทธ์จากฝั่งสู่ฝั่ง, การยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ, การปฏิบัติการแทรกซึมเพื่อทาการเข้าปลดปล่อยหน่วยท่ีถูกตัดขาด, การหกั ฝ่าวงล้อม ของหน่วยท่ีถกู ข้าศึกโอบลอ้ ม หรอื การเขา้ ตเี พ่ือสนธิกาลังกับหน่วยปฏิบัติการรบแบบกองโจรของฝ่ายเดียวกัน การวางแผนเพอ่ื เข้าบรรจบต้องกระทาล่วงหน้าและต้องทันต่อเวลา สิ่งท่ีมีความสาคัญยิ่งยวด คือ หน่วยตา่ งๆ ที่เก่ียวข้องต้องได้มีการแลกเปล่ียนข่าวสารกันแต่เนิ่น และต้องดารงการแลกเปล่ียนข่าวสารกันไว้ตลอดเวลา ต้องใชก้ ารประสานการควบคุมมากกว่าการรบด้วยวิธีรุกแบบอ่ืนๆ และออกข้อจากดั การปฏิบตั ิต่างๆ ระหว่างหน่วย ท่เี กยี่ วข้องอยา่ งแน่ชัด ในการบรรจบหน่วยเคล่ือนทกี่ ับหน่วยอยู่กบั ท่ีจะต้องประสานเร่อื งจุดบรรจบบนพื้นดิน เพ่ือเป็นหลักประกันให้ได้ว่าหน่วยที่มาบรรจบจะไม่ปะทะกันเอง และควรมีจุดบรรจบสารองไว้ด้วย รวมท้ัง กาหนดแนวประสานการยิงเพ่ือป้องกันการสูญเสียจากการยิงกันเอง ในการยุทธ์บรรจบน้ันหน่วยเคลื่อนที่ ต้องกาหนดเขตปฏิบัติการ, แนวประสานการยงิ และจุดนัดพบ ปอ้ งกนั การผิดพลาดทัง้ มวล การตโี ฉบฉวย การเข้าตีโฉบฉวยเป็นการเข้าตีเพ่ือให้บรรลุความมุ่งหมายที่กาหนดไว้โดยเฉพาะในดินแดนของข้าศึก โดยที่ไม่มงุ่ หมายท่ีจะยึดรักษาภมู ิประเทศ ตากปกติวัตถุประสงค์ของการตีโฉบฉวย คือ เพ่ือจบั เชลย, เพ่ือแย่งยึด หรือทาลายยุทธภัณฑ์ของข้าศึก, เพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวสารเกี่ยวกับข้าศึก, เพื่อขัดขวางแผนการปฏิบัติต่างๆ ของข้าศึก, เพ่ือการลวงทางยทุ ธวิธี, เพ่ือป้องกนั ข่าวสารของฝ่ายเรา, เพ่ือสนับสนุนหรอื ประสานงานกับหน่วย กาลังรบนอกแบบต่างๆ หน่วยปฏบิ ัติการตโี ฉบฉวยจะปฏิบัตกิ ารในลักษณะแยกการ โดยจะทาการถอนตัวภายหลงั จากที่บรรลุ ภารกิจแล้ว โดยขั้นตอนการถอนตัวน้ีเป็นขั้นตอนท่ียากที่สุดในการปฏิบัติเว้นแต่ว่าจะมีการวางแผนและ การปฏิบตั อิ ยา่ งรอบคอบ การระวังป้องกนั ถือว่าเปน็ ส่งิ สาคญั ยง่ิ เนอ่ื งจากหนว่ ยตโี ฉบฉวยจะปฏบิ ตั กิ ารในพื้นที่ ของข้าศึก จึงเป็นจุดอ่อนต่อการท่ีจะถูกเข้าตีจากทุกทิศทุกทาง การวางแผนในการตีโฉบฉวยจะคล้ายคลึง กบั การเข้าตใี นรปู แบบอน่ื ๆ แต่จะเนน้ ความสาคัญที่เร่อื งของการจโู่ จม และความเร็วในการปฏิบัติมากกวา่
๒ - ๑๕ การตีโฉบฉวยกระทาได้ทั้งการลงรบเดินดิน, การบรรทุกด้วยยานพาหนะ, การรบจากยานรบ, การส่งทางอากาศหรือทางน้า หน่วยที่เหมาะสมในการปฏิบัติภารกิจตีโฉบฉวยควรเป็นหน่วยท่ีมีความคล่องแคล่ว ในการเคลื่อนที่ การใช้หน่วยรถถังเป็นหลักในการประกอบกาลังถือว่าเป็นการจัดหน่วยตีโฉบฉวยในอุดมคติ โดยการปฏิบตั กิ ารกวาดล้างด้วยรถถังนนั้ ถือเปน็ การปฏบิ ตั กิ ารท่เี หมาะสมตามอุดมคติดว้ ย หน่วยเหนืออาจเป็นผู้กาหนดให้หรืออาจมอบหมายให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับหน่วยตีโฉบฉวย เป็นผู้กาหนดที่หมายเอง โดยพิจารณาถึงลักษณะที่หมายที่สามารถยึดได้ชั่วคราว และการต้ังรับของข้าศึก เป็นไปอย่างเบาบาง ห้วงเวลาการปฏิบัติการตีโฉบฉวยท่ีเหมาะสมคือหน่วยจะสามารถเข้าถึงที่หมายได้ ในช่วงแสงทอง หรือในช่วงสิ้นแสง หรือในสภาพการณ์อ่ืนๆ ท่ีทัศนวิสัยไม่ดี เพื่อจากัดการตรวจการณ์ ของขา้ ศกึ แตก่ ย็ งั มแี สงสว่างเพยี งพอสาหรบั การรบในระยะประชดิ การกวาดล้างด้วยรถถัง การกวาดล้างด้วยรถถังกระทาเพ่ือโจมตีอยา่ งรวดเรว็ และรนุ แรงต่อกาลังรบของข้าศึก เพื่อก่อให้เกิด การสูญเสียอย่างมากท่ีสุดต่อฝ่ายข้าศึก ทหารม้าบรรทุกยานเกราะที่มาสมทบจะใช้สาหรบั ควบคุมและส่งกลับ เชลยศึก หรือเพ่ือทาลายยุทธภัณฑ์ในระหว่างการกวาดล้าง การกวาดล้างด้วยรถถัง ใช้การวางแผนโจมตี จากยานพาหนะเพ่ือทะลุทะลวงต่อดินแดนภายใต้การควบคุมของข้าศึก ขอ้ แตกต่างจากการเขา้ ตีรูปแบบอ่ืนๆ คือ การกวาดล้างด้วยรถถังจะไม่เข้ายึดครองที่หมาย จะกวาดล้างผ่านข้าศึกไปแล้วกลับเข้ามายังที่มั่น ของฝ่ายเดียวกันด้วยการเคลื่อนท่ีเท่ียวเดียว โดยต้องหาข่าวสารของข้าศึกในพ้ืนท่ีอันตรายให้น้อยท่ีสุด การกลับเข้าสู่ท่ีม่ันของฝ่ายเดียวกันเป็นงานที่ยากลาบากของการกวาดล้างด้วยรถถัง จะต้องมีการควบคุม และประสานกันอย่างใกลช้ ิด เพ่อื พิสูจนฝ์ ่าย และป้องกันอันตรายจากการยิงต่อหน่วยทหารฝ่ายเดียวกัน การกวาดล้างด้วยรถถังจะใช้รูปขบวนที่อานวยให้สามารถให้อานาจการยิงท่ีหนาแน่นไปในทิศทาง การกวาดล้างได้อย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนรูปขบวนใดๆ ท่ีจะทาให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของหน่วย ต้องหยุดชะงักการเคลื่อนที่ โดยการปฏิบัติต้องก่อให้เกิดการสูญเสียแก่หน่วยทหารและท่ีต้ังทางการทหาร ของข้าศึกให้มากที่สุด หน่วยตา่ งๆ จะต้องพยายามเคลื่อนที่และทาการยิงตลอดเวลาไปยังที่หมาย ต้องทาการยิง ตอ่ รถถังหรือยานเกราะข้าศึกดว้ ยกระสุนชนิดที่ทาลายเกราะอย่างเหมาะสม เชน่ รถยนต์บรรทุกเบา, ท่ีบังคบั การ และส่ิงอุปกรณ์ต่างๆ จะต้องทาลายด้วยปืนกลหรือยิงด้วยกระสุนระเบิดแรงสูง ส่วนหน่วยทหารราบหรือ พลประจาอาวุธที่เปิดเผยตัวนอกท่ีกาบังจะต้องทาการยิงด้วยปืนกลและเข้าบดขยี้โดยส้ินเชิง การสนธิการยิง อย่างหนาแน่นเขา้ กับการดาเนินกลยทุ ธ์อย่างรวดเร็วดังกล่าวจะกอ่ ให้เกิดอานาจการทาลายและขม่ ขวญั การกวาดล้างด้วยรถถังจะต้องจัดให้มีการสนับสนุนการรบ ณ ที่ท่ีมีความจาเป็น การยิงสนับสนุน ในการกวาดล้างด้ว ยรถถังต้องวางแผนการยิงเล็งจาลองไปยังพื้นที่หรือตามแนวทางปีกท้ังสองข้างของพ้ื นท่ี ที่จะเขา้ กวาดล้าง ถ้าสภาพอากาศเปิดกอ็ าจวางแผนใช้ควันเพื่อสร้างความสับสนให้แกข่ ้าศกึ และเพ่ือช่วยซ่อนพราง กาลังของหน่วยท่ีเข้ากวาดล้าง ส่วนทหารช่างที่ไปขึ้นสมทบจะทาลายเครื่องปิดก้ันถนน หรือการเจาะช่อง ในสนามทุ่นระเบิดอย่างรวดเร็ว การวางแผนการสนับสนุนต่างๆ ต้องกระทาอย่างรอบคอบ และจะต้อง มีการประสานอยา่ งใกล้ชดิ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การกวาดลา้ งต้องลา่ ชา้ ลง การกลับเข้าที่มั่นของฝ่ายเดียวกันหลังจากเสร็จส้ินการปฏิบัติการกวาดล้างด้วยรถถังเป็นขั้นตอน ท่วี ิกฤตย่ิงอีกขั้นตอนหน่ึง ในขณะท่ีหน่วยปฏิบัตกิ ารกวางล้างเคลอื่ นที่เข้าประชิดกับทีม่ ่ันของฝ่ายเดยี วกันนั้น จาเป็นต้องมีการควบคุมและการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อทาการพิสูจน์ฝ่ายของหน่วยนั้นๆ เพื่อหลกี เลี่ยงการกดี ขวาง และเพ่ือป้องกันการยงิ ฝา่ ยเดียงกนั เอง
๒ - ๑๖ การยทุ ธ์ ณ ชอ่ งทางผา่ นบังคบั เม่ือต้องปฏิบัติการผ่านช่องทางบังคับ ผบ.หน่วย และฝ่ายอานวยการจะต้องระมัดระวัง มิให้หน่วยทหาร เกิดการคับค่ัง ณ ช่องทางผ่านบังคับ ต้องมีการควบคุมการจราจรอย่างเหนียวแน่น ต้องเลือกพ้ืนท่ีกระจายกาลัง ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และกาลังพล ต้องวางแผนให้สามารถผ่าน ช่องทางบังคับโดยใช้เวลาน้อยท่ีสุด โดยมีการระวังป้องกันทั้งสองปีกของช่องทางบังคับ ใช้หน่วยป้องกันภัยทางอากาศเพื่อป้องกันการโจมตี ทางอากาศข้าศึกบริเวณช่องทางบังคับ หน่วยทหารม้าอากาศและอากาศยานในอัตราหรือมาข้ึนสมทบ จะทาการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพ้ืนท่ีวิกฤต และขนส่งส่วนปฏิบัติการขนาดเบาเพ่ือแย่งยึดพื้นท่ีดังกล่าว จากทางอากาศ มาตรการควบคุมท่ีจาเป็นสาหรับนาหน่วยผ่านช่องทางบังคับ คือ การกาหนดขอบเขต ของพื้นท่ีเป้าหมาย, กาหนด จนท.ประสานงาน ณ เขตพื้นที่เป้าหมายในช่องทางบังคับ, กาหนดเส้นทาง และเส้นทางสารอง, กาหนดจุดควบคุมการจราจร, เลือกและจัดพื้นที่รอคอยที่มีการกระจายกาลังเป็นอยา่ งดี, เลอื กและจดั ตั้งท่ีพักรวมยุทโธปกรณ์ขนาดเล็กท่มี ีการพรางอย่างดี ในการรบด้วยวิธีรุกท่ีต้องผ่านช่องทางบังคับ จะใช้หน่วยทหารม้าลาดตระเวนและหน่วยทหารม้าอากาศ เคล่ือนที่นากาลังส่วนใหญ่ ทาการลาดตระเวนสารวจพ้ืนท่ีโดยรอบให้ละเอียดจนประกันได้ว่าพื้นท่ีท่ีอยู่ถัดไป จากช่องทางบังคับปลอดภัย แล้วหน่วยทหารม้าลาดตระเวนจะทาการส่งรถถังและยานเกราะเคลื่อนที่ ผ่านชอ่ งทางดังกล่าว แล้วจดั การระวังปอ้ งกันพื้นท่ีดาเนินกลยทุ ธ์เพื่ออานวยให้กาลังส่วนใหญ่สามารถเคลือ่ นท่ี ผ่านช่องทางบังคับน้ันได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ถูกขัดขวาง แต่ถ้าพ้ืนที่น้ันมีการต้ังรับจากข้าศึกอยู่ก็จาเป็น ทต่ี อ้ งเขา้ แย่งยึดพนื้ ท่ีนั้นเสียกอ่ น การยุทธ์ในที่มัน่ ดดั แปลงแข็งแรง การเข้าตีที่ม่ันดัดแปลงแข็งแรงหรือพ้ืนท่ีท่ีเป็นป้อมค่ายน้ี กระทาโดยจัดกาลังรบผสมเหล่า ซึง่ ประกอบด้วย รถถัง, ทหารราบหรือทหารม้าบรรทุกยานเกราะ, ปืนใหญ่สนาม, ทหารชา่ ง, ทหารม้าอากาศ และกาลังทางอากาศยุทธวิธี ในการนี้อาจต้องใช้ยุทโธปกรณ์ตลอดจนกระสุนแบบพิเศษในการเข้าตี ต่อท่มี ่ันดัดแปลงแข็งแรงก่อนที่จะใช้กาลังส่วนใหญ่เขา้ ปฏิบตั ิในท่มี ่ันดัดแปลงแข็งแรงต้องใช้หนว่ ยลาดตระเวน หาข่าวสารเกี่ยวกับท่ีต้ังเคร่ืองกีดขวางต่างๆ เช่น สนามทุ่นระเบิด, ลวดหนาม, คูสนาม, รายละเอียดเกี่ยวกับ ป้อมสนาม, ความหนาแน่นของคอนกรีต, ตาแหน่งและชนิดอาวุธ, เส้นทางท่ีปกปิดกาบังที่จะเข้าประชิด ที่หมาย, ท่ตี ง้ั ยิงตา่ งๆ ซ่ึงสามารถใหท้ าการยงิ เลง็ ตรงเพ่อื สนับสนุนหน่วยบกุ โจมตี โดยปกติจะประกอบกาลังหน่วยขนาดหมวดทหารม้ายานเกราะหรือทหารราบเป็นหลัก โดยมีรถถัง ให้การสนับสนนุ เข้าปฏบิ ตั ิการโดยรถถงั จะสนับสนนุ ดว้ ยการยิงเล็งตรงให้กบั ชุดปฏิบัตกิ ารโดยทาการยิงเข้าไป ยังที่หมายท่ีเปิดอยู่แล้วพยายามทาลายป้อมสนามนั้น โดยปกติรถถังจะเคลื่อนท่ีตามชุดปฏิบัติการเข้าไป อย่างกระช้ันชิดพอท่ีจะให้การสนับสนุนโดยตรงได้ตลอดเวลา ส่วนรถถังท่ีไม่ได้เข้าสมทบกับชุดปฏิบัติการ อาจให้การยิงสนับสนุนด้วยการยงิ เพ่ิมเตมิ ได้จาดที่ต้ังยิงที่มีการกาบังตัวรถ อาจใช้ควนั เพื่อกาบังการเคลื่อนท่ี ของหนว่ ยการโจมตตี อ่ ป้อมสนาม การดาเนินการเขา้ ตปี ้อมสนามจะเริ่มข้ึนดว้ ยการยิงปืนใหญ่อยา่ งหนาแน่นรนุ แรง และด้วยการวางฉากควัน การระดมยิงทางอากาศและการระดมท้ิงระเบิดต่อป้อมสนามก็นับว่าเป็นสิ่งที่พึงประสงค์ ในระหว่างการยิงปืนใหญ่ ทาการกวาดทุ่นระเบิดสังหารตามเส้นทางต่างๆ และอาจใช้ระเบิดงูเพ่ือกวาดล้างทุ่นระเบิดดักรถถัง หรือเปิดช่องทาง เม่ือเส้นทางปลอดภัยแล้วชุดปฏิบัติการบุกโจมตีจะเคล่ือนที่ข้ึนไปอย่างรวดเร็วท่ีสุด เท่าที่จะกระทาได้ ในระหว่างการกวาดล้างข้าศึก รถถังต้องเตรียมการที่จะทาการยิงไปยังเส้นทางที่ข้าศึก น่าจะใช้เข้าตีโต้ตอบ เม่ือรถถังให้การสนับสนุนด้วยการยิงเรียบร้อยแล้วจะต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
๒ - ๑๗ เพ่ือให้การช่วยเหลือชุดปฏิบัติการท่ียังสดช่ืนทาการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วเพ่ือปฏิบัติการเข้าตี ต่อไปโดยไมช่ ักช้า และอาจตอ้ งทาการเจาะช่องที่เปิดไดใ้ หล้ กึ เขา้ ไปและกว้างขน้ึ ตอ่ ไป ในการการป้องกันที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง ตามปกติแล้วจะจัดรถถังเป็นส่วนหนึ่งของกองหนุน เพื่อใช้ในการตีโต้ตอบ อย่างไรก็ตามเม่ือปรากฏว่ามียานเกราะข้าศึกเข้าประชิดที่ม่ันเป็นจานวนมากก็อาจใช้รถถัง ข้นึ สมทบกับหน่วยท่ตี ้ังรับในท่มี ั่นในแนวหนา้ เพอ่ื ให้กาบังเส้นทางเคลอ่ื นท่เี ขา้ ประชดิ ท่ีมนั่ จากฝา่ ยขา้ ศึก การยทุ ธ์ในพนื้ ทสี่ ่งิ กอ่ สรา้ งถาวร การยุทธ์ในพ้ืนที่ที่มีสิ่งก่อสร้าง มีลักษณะเป็นการสู้รบจากอาคารสู่อาคาร โดยปกติหน่วยยานเกราะ จะพยายามออ้ มผ่านบริเวณที่มีส่ิงก่อสรา้ ง เน่ืองจากทัศนวิสัยจากดั , พ้นื ทยี่ งิ จากัด, มีพื้นท่ีดาเนินกลยุทธจากัด และการควบคุมและประสานงานทาได้ยาก จึงไม่เหมาะแก่การใช้ยานเกราะเข้าปฏิบัติการในพ้ืนท่ีดังกล่าว หากมีความจาเป็นต้องปฏิบัติการในบริเวณส่ิงก่อสร้างจะต้องพิจารณาถึงลักษณะที่เป็นอยู่ของสิ่งแวดล้อม ที่ผลกระทบต่อการปฏบิ ตั ิการ การต้ังรบั ในพ้ืนที่ส่ิงก่อสร้างนั้นสามารถท่ีจะยับยั้งฝ่ายเข้าตที ี่มีกาลังเหนือกว่าเอาไว้ได้เป็นเวลานาน ตัวเมืองที่มีการก่อสร้างแข็งแรงย่อมอานวยให้ฝ่ายต้ังรับได้เปรียบฝ่ายเข้าตี ฝ่ายตั้งรับสามารถเลือกพื้นท่ี ท่ีใหก้ ารตรวจการณ์และการยิงทดี่ ี อาคารและสิ่งก่อสร้างชว่ ยในการกาบังและซอ่ นพรางของฝา่ ยต้ังรับ ฝ่ายเข้าตี จะถูกจากัดในเร่ืองการใช้อาวุธยิงเล็งจาลองเนื่องจากจากัดต่อการตรวจการณ์และมีหน่วยของตนเองอยู่ใกล้ กบั เป้าหมาย ส่วนการยงิ เลง็ ตรงฝ่ายเข้าตีกจ็ ะถกู จากัดดว้ ยพ้ืนการยิง อาคารแต่ละหลังหรือกลมุ่ อาคารแตล่ ะกลุ่ม จะเป็นจุดต้านทานอันทรงประสิทธิภาพ และด้วยการก่อสร้างเพ่ิมเติมด้วยการใช้เคร่ืองปิดกันถนน, วางกับระเบิดในพื้นที่ต่างๆ ในอาคาร และด้วยวิธีการอ่ืนๆ ที่ฝ่ายต้ังรับมีอยู่ก็จะทาให้อาคารท่ีเลือกไว้แล้ว กลายเป็นป้อมปราการอนั ทรงอานภุ าพ การเข้าตีท่ีหมายในพ้ืนที่สิ่งก่อสร้าง ฝ่ายเข้าตีจะได้เปรียบในการดาเนินกลยุทธด้วยการตัดตัวเมือง ให้อยุ่โดดเด่ียว สามารถทาการกดดันการเข้าตีหรือจะปิดล้อมบีบบังคับฝ่ายตั้งรับให้ต้องยอมจานนก็ได้ ทันทีที่ตัวเมืองถูกตัดขาดเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายเข้าตีอาจกระทาจากทิศทางใดทิศทางหน่ึงหรือจากหลายทิศทางก็ได้ ฝ่ายเขา้ ตียอ่ มจะสามารถเลอื กที่จะออ้ มผา่ นอาคารทม่ี กี ารตัง้ รบั อย่างหนาแน่นได้ การจัดกาลังในการเข้าตียึดเมืองอาจประกอบด้วย กาลังส่วนบุกเข้าโจมตีโดยตรง ซึ่งประกอบด้วย ทหารม้าบรรทุกยานเกราะหรือทหารราบเป็นหลกั กบั กาลังส่วนโอบล้อมท่ีประกอบด้วยรถถงั เป็นหลัก ภารกิจ ท่ีควรมอบแก่รถถังคอื การใช้อาวุธถังยิงตัดรอนทมี่ ั่นข้าศึก, ทาลายล้างจดุ ต้านทานข้าศึกด้วยอาวุธและกระสุน ท่ีเหมาะสม, ทาลายเคร่ืองปิดกั้นถนน, เปิดทางเข้าไปในอาคาร และทาลายเป้าหมายตามที่ร้องขอ โดยกาลัง ทั้งสองส่วนนจี้ ะได้รับการยงิ สนบั สนุนทมี่ ีการประสานงานกนั กาลังส่วนโอบล้อมจะทาหนา้ ทป่ี ้องกันมิใหข้ ้าศึก หลบหนี, ป้องกันการเข้าเพมิ่ เตมิ กาลังในตัวเมือง, ให้การสนับสนุนการยงิ เลง็ ตรงแตส่ ่วนกาลังบุกโจมตีโดยตรง และปอ้ งกนั ส่วนกาลงั บกุ โจมตีโดยตรงถูกตโี ต้ตอบ โดยมกี ารดาเนนิ การเขา้ ตีดงั น้ี ขั้นท่ี ๑ ตัดเมืองใหญ่ให้โดดเดี่ยว แล้วเข้ายึดภูมิประเทศที่สามารถข่มเส้นทางต่างๆ ท่ีเข้าสู่ตัวเมืองได้ ฝา่ ยเข้าตีจะจัดการระวงั ป้องกันที่มั่นตา่ งๆ ทอี่ ยู่ด้านนอกของพ้ืนที่ส่งิ ก่อสร้างท่ีใช้ในการสนับสนนุ การเข้าสตู่ ัวเมือง ของฝา่ ยตน สาหรบั ขัน้ ตอนน้ีไมแ่ ตกต่างจากเทคนคิ ท่ีใช้ในการเข้าตีตอ่ ท่ีม่นั ทม่ี กี ารจัดเตรียมเป็นอย่างดีของข้าศึก ขั้นท่ี ๒ การรุกคืบหน้าสู่ชานเมือง และการแย่งยึดฐานปฏิบัติการ โดยฐานปฏิบัติการนี้ควรจากัด การตรวจการณ์ทางพ้ืนดินและการยิงเล็งตรงจากฝ่ายต้ังรับ ฝ่ายเข้าตีจะใช้ฐานปฏิบัติการดังกล่าวในการจัด ระเบียบใหม่, แยกการควบคุมออกเป็นแบบแยกการ, จัดวางอาวุธยิงสนับสนุนไว้ตามท่ีตั้งยิงต่างๆ การเข้าตี เจาะในขั้นแรกจะกระทาด้วยกว้างด้านหน้าแคบๆ โดยมีรถถังเคล่ือนท่ีนา กับจะต้องมีการรวมอานาจการยิง สนับสนุนทั้งปวงท่ีมีอยู่เข้าสู่ตาบลท่ีมุ่งเข้าสู่ตัวเมือง โอกาสท่ีจะประสบความสาเร็จจะมากขึ้นถ้าการบุกโจมตี กระทาจากทิศทางท่ีข้าศึกไม่ได้คาดคิด เวลาในการเร่ิมรุกคืบที่เหมาะสมได้แก่ช่วงเช้ามืดก่อนเริ่มแสง หรือ ในหว้ งเวลาอืน่ ๆ ทท่ี ัศนวิสัยจากัด หรือภายใต้การกาบงั ของควนั ควรยงิ กระสุนชนวนแตกอากาศไปเหนอื ตาบล
๒ - ๑๘ ทเ่ี ลือกเป็นเส้นทางเข้าสู่เมืองเพ่ือปอ้ งกันไมใ่ หข้ ้าศึกจัดวางอาวุธต่อสู้รถถงั ได้ โดยในการเคล่ือนทเ่ี ข้าส่เู มืองน้ัน ทหารยังคงอยู่บนยานยนต์และให้เคล่ือนที่เข้าใกล้ที่หมายให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถกระทาได้ แต่การเข้าตี ที่มีการต้ังรับเหนียวแน่นทหารจะต้องทาการลงรบเดินดินเพ่ือช่วยในการเข้าป ระชิดการต้ังรับ และใหก้ ารคุ้มครองอยา่ งใกลช้ ดิ แก่รถถัง รถถงั ก็จะให้การสนับสนุนด้วยการยิงโดยเคล่ือนทไ่ี ปข้างหน้าโดยเร็ว ส า ห รั บ ร ถ ส า ย พ า น ล า เลี ย ง หุ้ ม เก ร า ะ จ ะ ต้ อ ง เค ลื่ อ น ท่ี ติ ด ต า ม ไ ป ใน ร ะ ย ะ ก ร ะ ช้ั น ชิ ด โด ย อ ยู่ ห ลั ง ร ถ ถั ง และชุดรบเดินดิน เพ่ือช่วยเพิ่มการยิงโดยใชอ่ านาจการยิงจากปืนกลบนรถสายพาน หรือช่วยกาบังพ้ืนที่วิกฤติ ทางปีกทง้ั สองข้างของกาลังบกุ โจมตี ข้ันที่ ๓ ทาการกวาดล้างพื้นท่ีวิกฤติและอาคารต่างๆ โดยถ้าพื้นที่สิ่งก่อสร้างมีขนาดใหญ่และ มีการดดั แปลงที่ม่นั อย่างแข็งแรง หรือเม่อื ได้รับคาสัง่ ใหก้ วาดล้างขา้ ศึกออกไปอย่างสน้ิ เชงิ จะทาการกวาดลา้ ง จากบ้านหลังหน่ึงไปสู่อีกหลังหนึ่ง และจากตึกหน่ึงไปยังอีกตึกหน่ึงอย่างระเอียดโดยไม่ปล่อยให้ข้าศึกตกค้าง อยู่ด้านหลัง แต่เมื่อพื้นท่ีสิ่งกอ่ สร้างมีขนาดเล็กและมีการต้านทานเบาบาง หน่วยโจมตจี ะเคลื่อนที่ผ่านเข้าสตู่ ัวเมือง โดยเร็วที่สุดโดยมีรถถังเป็นส่วนเคล่ือนที่นา อาวุธอัตโนมัติของรถถังและบนรถสายพานลาเลียงพลจะต้อง รวมอานาจการยิงเข้าสู่หน้าต่างอาคารและยอดหลังคาของอาคารต่างๆ ทหารจะอยู่บนรถสายพานลาเลียงพล หรือยานพาหนะจนกว่าจะถูกบีบบังคับให้ทาการลงรบเดินดินเพื่อทาการคุ้มกันรถถังจากอาวุธต่อสู้รถถัง และอาวุธประจากายข้าศึก, ช่วยร้ือถอนเครื่องกีดขวางหรือเครื่องปิดก้ันถนนที่ทาให้การรุกคืบหน้าของรถถัง ต้องหยุดชะงกั สาหรับการยิงสนับสนุนจะมปี ระสทิ ธภิ าพลดลง เนอ่ื งจากในการตรวจการณ์กระทาได้อยา่ งจากัด และ การอยใู่ กล้เคียงกันของหน่วยทหารฝ่ายเดียวกนั กบั ฝ่ายข้าศกึ ในการปฏิบัตนิ ี้ทั้งปนื ใหญ่และเครอื่ งยิงลูกระเบิด ควรทาการยิงด้วยมุมยิงสูงเพื่อให้สามารถยิงข้ามอาคารสูง ชนวนระเบิดจะมีประสิทธิภาพต่อข้าศึก ท่ีอยู่บนหลังคาอาคารหรืออยู่หลังเครื่องกีดขวางบนถนน, ยิงทาฉากควันเพ่ือกาบังการรุกคืบหน้าของ กาลังบุกโจมตีในที่โล่ง ส่วนการยิงด้วยชนวนเวลาจะอานวยให้สามารถเจาะเข้าไปทาลายข้าศึกซ่ึงอยู่ภายใน ตัวอาคารได้ และอาจใช้ปืนใหญ่อัตราจรทาการยิงด้วยการยิงเล็งตรงเพื่อสนับสนุนการเข้าตี แต่ก็ล่อแหลม ต่ออันตรายท่ีเกิดจากอาวุธต่อสู้รถถงั ขา้ ศกึ การยุทธ์สะเทนิ นา้ สะเทนิ บก หน่วยยานเกราะในการยุทธ์สะเทินน้าสะเทินบกนั้น เนื่องจากกองพลทหารม้ามียานพานหนะและ ยุทโธปกรณ์ท่ีมีน้าหนักมาก ส่วนมากจะไม่ใช้ในข้ันการโจมตีสะเทินน้า สะเทินบก แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ท่ีแนช่ ัดบางสถานการณ์ การยกพลข้ึนบกแต่เน่ินของหน่วยยานเกราะ (กองพลน้อย กรม หรือ หน่วยท่ีเล็กกว่ากรมลงมา) ก็อาจเป็นส่ิงพึงประสงค์ เพ่ือให้ทาการยุทธ์บรรจบกับหน่วยส่งทางอากาศหรือ หน่วยปฏิบตั ิการยุทธเคล่ือนท่ีทางอากาศ หรอื เพื่อให้เขา้ แย่งยึดภูมิประเทศสาคัญที่สามารถขม่ บริเวณยกพล ข้ึนบกในทันทีท่ีสามารถข้ึนสู่ฝ่ังได้ การใช้หน่วยยานเกราะทางยุทธวิธีก็คงเช่นเดียวกับการสงครามทางบก ในการยทุ ธสะเทนิ น้าสะเทินบกขนาดใหญ่ หัวหาดอาจได้รบั การระวงั ปอ้ งกันโดยทหารราบจากน้ันก็อาจส่งกองพล ยานเกราะให้ยกพลขึ้นบกเพ่ือเพ่ิมพูนอานาจการยิง, ความคล่องแคล่วในการเคลือ่ นที่ และอานาจการทาลาย และข่มขวัญให้แก่หัวหาดในการปฏิบัติการยทุ ธขนั้ ต่อไป ในขัน้ การนายานเกราะเข้าสู่ฝ่ังภายใต้สภาพการณ์ต่างๆ ในการยกพลข้ึนบก อาจบังคับใหต้ ้องขา้ มแนวหินโสโครก, ที่ราบนา้ ท่วม หรือพน้ื ท่ีอ่ืนๆ ซึ่งอาจทาให้ยานเกราะ เกยติดค้ายอยู่ หรอื ทาใหเ้ ครื่องยนตด์ ับเพราะจมน้า ในการนี้หนว่ ยยานเกราะจาเป็นต้องได้รับการนาทางอ้อม ผ่านพ้ืนที่เหล่านน้ั หรอื หลงั จากท่ีลงจากเรอื แล้วก็อาจใช้รถสะเทินน้าสะเทนิ บกนาทางขึน้ สู่ฝงั่ , ใช้พลประจารถ เดินนาทาง หรือให้เจ้าหน้าท่ีลาดตระเวนทาสัญลักษณ์เคร่ืองหมายต่างๆ ตามช่องทางเข้าสู่ฝ่ัง หน่วยทหารม้า ลาดตระเวนและหน่วยทหารม้าอากาศอาจใช้ในภารกิจลาดตระเวนและระวงั ป้องกัน ทั้งก่อนหนา้ , ในระหวา่ ง หรอื ภายหลงั จากการโจมตียกพลขึน้ บก
๒ - ๑๙ การยทุ ธ์ขา้ มลานา้ การยุทธ์ข้ามลาน้ามีข้อแตกต่างจากการดาเนินกลยุทธ์ภาคพ้ืนดินในรูปแบบอื่นๆ อยู่หลายประการ เช่น ต้องการยุทโธปกรณ์แบบพิเศษและเจ้าหน้าท่ีท่ีต้องฝึกฝนพิเศษมากกว่า, การบังคับบัญชาและควบคุมหน่วย กระทาได้ยาก, ความสามารถในการดาเนินกลยุทธและยิงสนับสนุนถูกจากัด, เม่อื บุกขา้ มแล้วจะทาการถอนตัว หรือปฏิบัตินอกแผนท่ีวางไว้กระทาได้ยาก และเป็นการปฏิบัติที่ล่อแหลมต่อการโจมตีทางอากาศมากกว่า การดาเนนิ กลยุทธในรปู แบบอน่ื การข้ามลาน้าจะต้องใช้เคร่ืองมือข้ามทั้งมวลท่ีมีอยู่เพ่ือส่งข้ามกาลังทหาร, ยุทโธปกรณ์ และยานรบต่างๆ ไปให้ได้มากท่ีสดุ ในเวลาที่น้อยท่ีสุด เครื่องมือข้ามทอ่ี ยู่ในอตั ราของหน่วยยานเกราะได้แก่ รถสายพานลาเลียงพล, รถเกราะ, รถลาดตระเวน หรือยานพาหนะอื่นๆ ท่ีมีขีดความสามารถในการลอยตัวและขับเคลื่อนในน้า รวมท้ังรถถังหลักที่ติดต้ังอุปกรณ์เพ่ิมเติมขีดความสามารถในการลุยน้าลึก ทั้งน้ีทหารช่างท่ีมาให้การสนับสนุน ก็สามารถเพ่ิมเติมเครื่องมือในการข้ามลาน้าได้อีกด้วย เช่น แพส่งข้าม สะพาน หรือเรือในการส่งข้าม ตลอดจน ยานสะเทินนา้ สะเทนิ บก และอากาศยานลาเลียงก็อาจใชเ้ พิ่มขดี ความสามารถในการส่งข้ามใหส้ งู ย่ิงขึน้ การข้ามลาน้าเร่งด่วน เป็นการข้ามลาน้าโดยการใช้เครื่องมือข้ามลาน้าท่ีมีอยู่ หรือแสวงหาได้ทันที โดยไม่เสียเวลาหยุด ณ แนวลาน้า ถึงแม้จะใช้คาว่าการข้ามลาน้าเร่งด่วน แต่ก็เป็นการปฏิบัติท่ีได้ มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อดารงความต่อเน่ืองในการเข้าตี การข้ามลาน้าประเภทนี้เป็นการข้าม ที่พึงประสงค์อย่างยิ่งของหน่วยยานเกราะ โดยสามารถกระทาได้ในสถานการณ์ท่ีมีข้าศึกต้านทานเบาบาง หรือไม่มีการวางกาลังตั้งรบไว้ และลาน้าท่ีจะข้ามไม่เป็นอุปสรรคที่สาคัญ หน่วยยานเกราะต้องทาการรุก อย่างรวดเร็วเข้าสู่แนวลาน้า แล้วทาการข้ามลาน้าอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้สูญเสียแรงปะทะ ณ แนวลาน้า, มีความเร็วและความคล่องตัว, มีการจู่โจม, มีการรวมกาลังหน่วยเป็นกลุ่มก้อนให้น้อยท่ีสุด, ใช้การควบคุม การปฏิบตั หิ นว่ ยย่อยตา่ งๆ แบบแยกการ การข้ามลาน้าประณีต เป็นการข้ามลาน้าท่ีจาเป็นต้องมีการวางแผน , การเตรียมการและ การประสานงานอยา่ งละเอียดตอ้ งมกี ารลาดตระเวนและประเมินคา่ ขา่ วสารอย่างถ่ีถว้ นมกี ารซกั ซอ้ มการปฏบิ ัติ จาต้องใช้กาลังพล ยุทโธปกรณ์ และเวลาอย่างมาก การข้าลาน้าประณีตจะกระทาเม่ือหน่วยไม่สามารถ ทาการข้ามแบบเร่งด่วนได้, เมื่อทาการข้ามแบบเร่งด่วนล้มเหลว หรือมีการต้านทานจากข้าศึกท่ีเข้มแข็ง การข้ามลาน้าประณีตจะใช้การควบคมุ การปฏิบัติหน่วยย่อยต่างๆ แบบรวมการ โดยข้ันตอนการข้าม ประกอบด้วย ๑. การรุกเข้าสู่ลาน้า เพ่ือยึดท่ีหมายและระวังป้องกันพื้นท่ีฝั่งใกล้ของแนวลาน้า หน่วยลาดตระเวนและทหารช่างจะทาการสารวจท่าข้าม และลาดตระเวนพื้นที่ฝ่ังใกล้ ปืนใหญ่ และ เครอ่ื งบินโจมตจี ะเตรียมการยงิ ท่หี มายในทางลกึ บนฝงั่ ไกล ๒. การบุกข้ามลาน้า โดยหน่วยบุกข้ามจะทาการบุกข้ามลาน้าไปยังฝ่ังไกลโดยเร็วท่ีสุด ด้วยตนเองหรือด้วยเคร่ืองมือข้ามลาน้าของทหารชา่ ง เช่น เรือบุกข้ามหรอื เรือส่งข้ามแล้วจัดวางการระวังป้องกัน บริเวณฝั่งไกล ป้องกันการยิงเล็งตรงท่ีจะเป็ นภัยคุกคามต่อท่าข้าม หน่วยบุกข้ามอาจต้องเผชิญ กับการต้านทานอย่างหนักของขา้ ศกึ เชน่ เครอ่ื งกีดขวาง, สนามทุน่ ระเบิด หรือ จุดต้านทานแขง็ แรง ๓. การรุกคืบหน้าบนฝ่ังไกล เป็นการเข้าตีต่อไปเพื่อทาให้ฝั่งไกลปลอดภัย และท่าข้าม ปลอดภัยจากอาวธุ ยิงเล็งตรงและเล็งจาลอง เมื่อพ้ืนที่ฝงั่ ไกลมีความปลอดภัยพอสมควรจะทาการส่งกาลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานรบด้วยแพสง่ ขา้ มชนดิ ต่างๆ ในอัตรา เพ่ือสนบั สนุนการเข้าตแี ละยดึ ที่หมายตอ่ ไป ๔. การป้องกันหัวสะพาน หน่วยดาเนินกลยุทธ์จะทาการเข้ายึดรักษาที่หมายหัวสะพาน เพื่อป้องกันการตีโต้ตอบจากข้าศึก เพื่อให้ฝ่ายเรามีเวลาและพื้นท่ีในการเพิ่มพูนกาลังรบสาหรับการรุก ออกจากหัวสะพานต่อไป ในข้ันที่จะทาการส่งข้ามขบวนสัมภาระต่างๆ และส่วนสนับสนุนการช่วยรบด้วย สะพานเครื่องหนุนมน่ั , สะพานเครื่องหนุนลอย และแพส่งขา้ มต่างๆ ในอัตรา
๒ - ๒๐ การปฏบิ ัตกิ ารปอ้ งกนั ภายใน การปฏิบัติการป้องกันภายใน เป็นการปฏิบัติโดยประเทศเจ้าบ้านหรือประเทศพันธมิตร ต่อผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ, หน่วยปฏิบัติการใต้ดิน, ป้องกันและขจัดระบบการสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้ายที่ลี้ภัย อยู่ภายนอกประเทศ หรือกาลังที่ให้การสนับสนุนอยู่ภายนอกประเทศของผู้ก่อการร้ายน้ันๆ วัตถุประสงค์ ที่สาคัญย่ิงก็คือ การขจัดชนวนเหตุต่างๆ ที่อยู่เบ้ืองหลังการก่อการร้าย และป้องกันมิให้เกิดชนวนเหตุน้ันอีก การใช้หน่วยยานเกราะต่อหน่วยกาลังรบของผู้ก่อการร้ายนั้นอาจกระทาในพื้นที่กว้างขวาง สิ่งที่สาคัญอย่างยิ่งยวด ก็คือ การใช้ยานเกราะเข้าไปแทรกอยู่ในการปฏิบัติการเป็นส่วนรวมในพื้นท่ีเฉพาะเจาะจงหนึ่งๆ เช่น เขตการปกครอง, จังหวัด และอาเภอ เป็นต้น อาจเป็นการช่วยเหลือหน่วยกาลังรบของประเทศเพื่อนบ้าน ในการเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน การเข้าสนับสนุนเจ้าหน้าท่ีบ้านเมือง หรือเจ้าหน้าท่ีตารวจ ในการปฏิบัติการรักษาความม่ันคงภายใน โดยการปฏิบัติดังกล่าวนี้อาจนามาซึ่งเง่ือนไขในการปฏิบัติการ ของหนว่ ยยทุ ธวิธี หรอื ของประเทศเจ้าบ้านได้ โดยหลักการแล้วสามารถประยุกต์ใช้หน่วยยานเกราะกับการปฏิบัติการป้องกันภายในได้โดยปรับ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการเฉพาะใจแต่ละภารกิจไป การจัดและคุณลักษณะของการรบ ในการก่อการร้ายน้ีมไิ ด้มคี วามคลา้ ยคลึงกับสถานการณก์ ารรบในสงครามทว่ั ไป ผ้กู ่อการร้ายและการสนับสนุน ต่างๆ จะมขี นาดเล็กและอยู่กระจัดกระจาย จึงทาให้ยากต่อการค้นหาและทาลาย ตลอดจนประชาชนในพ้ืนท่ี อาจให้การสนบั สนุนหรือถกู ขม่ ขู่ การปฏิบัติของผู้ก่อการร้ายอาจทาให้จาเป็นต้องนามาตรการรักษาความปลอดภัยมาใชอ้ ย่างเข้มงวด เช่น ต้องจัดการระวังป้องกันให้แก่สถานท่ีสาคัญต่างๆ อย่างเช่น สนามบิน, แหล่งทรัพยากรสาคัญ, ท่ีตั้งของ หน่วยงานรัฐที่สาคัญ โดยต้องทาการจัดจุดตรวจประจาท่ีและเคลื่อนที่ เพื่อทาการควบคุมประชาชน, ยุทธภัณฑ์ และสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ตามเส้นทาง โดยเจ้าหน้าท่ีต้องได้รับการฝึกเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติ ในการตรวจค้น การใช้หน่วยตรวจยานเกราะของทหารม้าระหว่างตาบลหรือหมู่บ้านเพ่ือแสดงกาลังและ ให้ผล ทางจิตวิทยาในการป้องปรามการติดต่อระหว่างประชาชนและหน่วยกาลังก่อการร้าย การใช้หน่วยทหารม้า ลาดตระเวนตามแนวชายแดนเพื่อเฝ้าตรวจและป้องกันการสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้ายจากภายนอกประเทศ และการใช้ดินแดนประเทศขา้ งเคยี งเป็นฐานสนบั สนนุ การกอ่ การรา้ ย รวมท้ังเปน็ ที่ล้ภี ยั ในการปรบั ปรุงสภาพแวดล้อมและชว่ ยเหลือประชาชนนัน้ หนว่ ยทหารมา้ ยานเกราะจะมียทุ โธปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ชานาญการพิเศษซ่ึงอาจใช้เพื่อปรับปรุงส่ิงแวดล้อมของประชาชนได้ เช่น การใช้ยานเกราะ เข้าโค่นล้มต้นไม้หรือปรับปรุงพ้ืนที่ในโครงการก่อสร้างในท้องถ่ิน, สนับสนุนการติดต่อสื่อสารเพิ่มเติม หรือ จดั ให้มรี ะบบติดต่อส่อื สารยามฉกุ เฉินใชใ้ นกิจการพลเรอื นในพื้นทห่ี า่ งไกล เปน็ ต้น ทหารม้าจะใช้ยานเกราะของหน่วยทหารม้าจัดหมู่ตรวจระหว่างตาบลและหมู่บ้านโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแสดงกาลังหน่วยปฏิบัติการป้องกันภัยภายในให้ประจักษ์ เพื่อก่อให้เกิดผลทางบวกในด้านจิตวิทยา แก่ประชาชน และเพื่อป้องปรามการติดต่อระหว่างชาวบ้านกับหน่วยกาลังทางยุทธวิธีของผู้ก่อการร้าย หน่วยทหารม้าจะใช้ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนที่และการติดต่อสื่อสารให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ ในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน เมื่อภูมิประเทศอานวยความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่และ การตดิ ต่อสื่อสารที่ดีของหน่วยทหารมา้ ย่อมยังประโยชน์สงู สุดในการสกัดก้ัน, ขัดขวางหรือดารงการเฝ้าตรวจ ประเทศข้างเคียงในการให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย และเพื่อป้องกันการใช้ประโยชน์พ้ืนที่ข้างเคียง เปน็ ดินแดนลีภ้ ยั ของผู้กอ่ การร้าย
๒ - ๒๑ ตอนที่ ๕ หลักการลาดตระเวน และการระวงั ป้องกัน จากคุณลักษณะของเหล่าทหารม้า คือ ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนที่, การท่ีมีเกราะป้องกัน, มอี านาจการยงิ ที่รุนแรง, มีเคร่ืองมอื ส่ือสารระยะปานกลางถึงระยะไกล ทาให้เกื้อกูลต่อการใช้หน่วยทหารม้า ในการลาดตระเวน, การระวังปอ้ งกัน, การเฝ้าตรวจ และการปอ้ งกันภยั ทางอากาศไดใ้ นระดบั หนง่ึ การลาดตระเวนและการระวงั ปอ้ งกันเปน็ สงิ่ ทเ่ี กือ้ กูลกนั และกัน และไม่สามารถจะแบ่งแยกออกจากกนั ได้ การลาดตระเว น ทางพ้ื น ดิ น แ ละ ทางอ าก าศที่ มี ปร ะสิ ทธิภ าพ จะ ก่อ ให้ เกิดก ารระ วังป้อ ง กัน ท่ี เช่ือ มั่ น ได้ และหนว่ ยระวงั ป้องกนั กจ็ ะชว่ ยใหไ้ ดม้ าซึ่งข่าวสารเก่ียวกบั ขา้ ศกึ และพนื้ ทป่ี ฏิบัตกิ ารดว้ ย การลาดตระเวน การลาดตระเวนมีความมุ่งหมายเพ่ือรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับข้าศึกและพื้นที่ปฏิบัติการเพ่ือท่ีจะให้ได้ ข่าวสารเก่ียวกับข้าศึก และพ้ืนท่ีปฏิบัติการเพ่ือผลิตข่าวกรองการรบที่เป็นประโยชน์สาหรับให้หน่วยเหนือ ใช้วางแผนปฏิบัติในการรบ ข่าวสารต่างๆ ที่ได้มาจากการลาดตระเวนจะนามาผลิตเป็นข่าวกรองทางการรบ จะช่วยลดปัญหาตา่ งๆ ที่ยงั ไม่ทราบเก่ยี วกบั ขา้ ศกึ และพ้นื ที่ปฏิบตั ิการ และมสี ว่ นเพ่ิมพนู ความถูกต้องเที่ยงตรง ให้กับการประเมินค่าความเส่ียงต่างๆ ดังนั้นภารกิจในการลาดตระเวนถือได้ว่าเป็นความรับผิดชอบอันไม่มี ท่สี น้ิ สุดตั้งแตผ่ ้บู ังคบั หนว่ ยจนถึงทหารแตล่ ะนาย เจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวนทางพื้นดินน้ัน หมายถึงบุคคลหรือหน่วยที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อ ปฏิบัติการลาดตระเวนโดยเฉพาะ มีการประกอบยุทโธปกรณ์ให้มีขีดความสามารถปฏิบัติการลาดตระเวนได้ ทั้งทางพื้นดิน รวมทั้งทางอากาศ เช่น ร้อย.ม.(ลว.) ของ พล.ร., พัน.ม.(ลว.) ของ พล.ม./พล.ร., กรม ม.(ลว.) ของ ทภ. เป็นต้น ส่วนหน่วยท่ีมีขีดความสามารถในการลาดตระเวนทางอากาศ คือ หน่วยบินทหารบก และกาลังทางอากาศ ยุทธวิธีของทหารอากาศ ซ่ึงจะเพ่ิมขีดความสามารถในการลาดตระเวนตรวจการณ์ทางอากาศ, ภาพถ่ายทางอากาศ และการเผา้ ตรวจดว้ ยเครอ่ื งมือทางไฟฟ้า การลาดตระเวนแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท คือ การลาดตระเวนตรวจการรบ, การลาดตระเวนระยะใกล้ และการลาดตระเวนระยะไกล โดยท่ีการลาดตระเวนระยะใกล้จะเป็นการรวบรวมข่าวสารในพ้ืนท่ี ซึ่งมีการปฏิบัติทางยุทธวิธี เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาได้มาซึ่งข่าวสารสาหรับใช้ประกอบการตกลงใจทางยุทธวิธี โดยทหารม้าลาดตระเวนเป็นหน่วยทีเ่ หมาะสมท่ีจะใช้ปฏบิ ัติภารกจิ หลกั มลู ฐานของการลาดตระเวน การลาดตระเวนต่างๆ น้ันย่อมแปรผันไปตามสถานการณ์ และสภาพของพื้นที่ปฏิบัติการ รวมท้ัง ภารกิจที่ได้รับมอบ ขนาด/ชนิด/การประกอบกาลัง ของหน่วยลาดตระเวนน้ันๆ โดยหลักมูลฐานในการ ลาดตระเวนทางพ้ืนดินมี ๕ ขอ้ คือ ๑. ลาดตระเวนให้สมั พนั ธ์กับที่หมายทอ่ี ยู่กับท่ี หรือเคลือ่ นที่ ๒. รายงานข่าวสารท้ังปวงอย่างละเอียดและทนั เวลา ๓. หลีกเลีย่ งการรบตดิ พันแตกหกั ๔. ดารงการเกาะข้าศกึ อย่างต่อเนื่อง ๕. คล่ีคลายสถานการณ์
๒ - ๒๒ แบบของการลาดตระเวน แบ่งออกเปน็ ๓ แบบหลกั ๆ คือ ๑. การลาดตระเวนเส้นทาง เป็นการลาดตระเวนเพื่อให้ทราบข่าวสารเกี่ยวกับเสน้ ทาง, เคร่ืองกีดขวาง และข้าศึกตามเส้นทางน้ันๆ รวมท้ังภูมิประเทศที่อยู่ข้างเคียงเส้นทาง ซ่ึงถ้าข้าศึกสามารถยึดครองไว้ได้แล้ว จะมผี ลกระทบตอ่ การปฏบิ ัติของฝ่ายเราตามเสน้ ทางนน้ั ๒. การลาดตระเวนเขต เป็นการลาดตระเวนเพื่อใหท้ ราบข่าวสารเก่ยี วกบั เส้นทางทั้งปวง, ภูมปิ ระเทศ และขา้ ศึกในเขตหน่งึ ๆ ท่กี าหนดด้วยเส้นแบง่ เขต เปน็ การลาดตระเวนท่ีมีความละเอยี ด และส้นิ เปลอื งเวลา ๓. การลาดตระเวนพื้นท่ี เป็นการลาดตระเวนเพื่อให้ทราบข่าวสารเก่ียวกับเส้นทางท้ังปวง, ภมู ิประเทศ และข้าศึกในพื้นท่ีหนง่ึ ๆ ที่กาหนดโดยชัดแจ้ง เช่น การลาดตระเวนหมบู่ ้าน, หย่อมป่า, ท่าข้ามต่างๆ ตามลาน้า โดยการปฏบิ ตั ิการจะใช้เทคนคิ เชน่ เดียวกบั ลาดตระเวนเขต การลาดตระเวนแบบอืน่ ๆ ๑. การลาดตระเวนด้วยการยิง เป็นการลาดตระเวนโดยการใช้การยิงเข้าสู่พ้ืนท่ีที่คาดว่าจะเป็นท่ีม่ัน ของข้าศึก โดยมุ่งจะยั่วยุให้ขา้ ศึกตอบโต้ฝ่ายเราเป็นเหตุให้เปิดเผยตนเองออกมา การลาดตระเวนด้วยการยิง จะใช้ในสถานการณ์ท่ีวิกฤติ เสีย่ งต่อการสูญเสียการจู่โจม แต่สามารถช่วยลดโอกาสที่หน่วยจะเคลื่อนท่ีเข้าไป ยังท่ีม่ันซึ่งมีการซ่อนพรางอย่างดีของข้าศึก การลาดตระเวนด้วยการยิงจะไร้ผลหากข้าศึกมีความเจนจัด และมีวินยั การยิงที่ดี ๒. การลาดตระเวนหมบู่ า้ น, เมือง, เครอื่ งกดี ขวาง หรือท่มี ่ันข้าศกึ ๓. การลาดตระเวนสะพาน หรือช่องทางบังคับ กอ่ นทกี่ าลงั สว่ นใหญ่จะเคลือ่ นที่ผ่านช่องสะพานหรือ ช่องทางบังคับน้ัน จะต้องมีการลาดตระเวนเพื่อค้นหาท่ีม่ันข้าศึก ซึ่งข่มสะพานหรือช่องทางบังคับน้ันอยู่ รวมถงึ หรอื การตรวจสอบเพือ่ หาทนุ่ ระเบดิ , กบั ระเบิด หรอื สิง่ ก่อสรา้ งท่ีถกู ลดความแข็งแรงลง สงิ่ ต่างๆ เหล่าน้ี ต้องถกู ร้ือถอนออก, ทาเคร่ืองหมายระบชุ ้ันของสะพานไว้ให้หนว่ ยทต่ี ามมาได้ทราบ ๔. การลาดตระเวนในเวลากลางคืน เป็นการลาดตระเวนที่กระทาได้ล่าช้าและให้ผลน้อย การลาดตระเวนในเวลากลางคืนจะจากัดให้ต้องกระทาให้ต้องลงรบเดินดิน ตลอดจนการใช้ที่ฟังการณ์ และอุปกรณ์เรดาร์ทางพ้ืนดินประสานกับท่ีตรวจการณ์และท่ีฟังการต่างๆ การใช้ยานยนต์ลาดตระเวนน้ัน จะกระทาได้ก็ต่อเม่ือมีการต้านทานจากข้าศึกที่เบาบาง และมีภูมิประเทศตลอดจนเสน้ ทางที่เก้ือกูล เนื่องจาก เสียงเคร่ืองยนต์ และการเคล่ือนท่ีของยานยนต์ลาดตระเวนจะสามารถได้ยินไปในระยะไกลมาก ซ่ึงจะทาให้ เสยี่ งต่อการถูกตรวจพบจากข้าศกึ ๕. การลาดตระเวนด้วยกาลัง จะเป็นการรุกเข้าสู่ท่ีหมายจากัด โดยหน่วยท่ีมีกาลังค่อนข้างเข็มแข็ง เพ่ือทาการค้นหา, ทดสอบกาลังและการวางกาลังของข้าศึก, เข้าคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้มาซึ่งข่าวสาร, คน้ หาจดุ อ่อนในการวางกาลังของข้าศกึ และสามารถขยายผลต่อจุดอ่อนของข้าศึกได้หากอยู่ในขีดความสามารถ ความกว้างด้านหน้าของการลาดตระเวน ไม่มีขนาดท่ีตายตัวสาหรับหน่วยหน่ึงๆ แต่จะกาหนด ด้วยภารกิจการลาดตระเวนที่ได้รับ, ทัศนวิสัย, สภาพภูมิประเทศ, ข่ายเส้นทาง, สถานการณ์ฝ่ายข้าศึก, ลักษณะของขา่ วสารท่ีตอ้ งการ และเวลาทม่ี ีอยู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยท่ีมอี ิทธิพลต่อความกว้างด้านหน้าของ การลาดตระเวนท่ีจะมอบกิจให้แก่หน่วยหน่ึงๆ ถ้าต้องการข่าวสารอย่างละเอียด การลาดตระเวนจะต้อง เสียเวลามาก ดงั นน้ั กว้างด้านหน้ากค็ วรท่ีกาหนดไวใ้ หแ้ คบกวา่ การลาดตระเวนหาข่าวสารทัว่ ๆ ไป แตก่ ็อาจจะ กาหนดกว้างด้านหน้าไดม้ ากข้นึ เม่ือมกี ารสนับสนนุ จากอากาศยาน หรอื หนว่ ยทหารมา้ อากาศ
๒ - ๒๓ กองพันทหารม้าลาดตระเวนเม่ือได้รับมอบการปฏิบัติภารกิจระวังป้องกันท่ีมีเขตรับผิดชอบท่ีมีระยะ กว้างด้านหน้ามาก ผู้บังคับกองพันทหารม้าลาดตระเวนจะเตรียมแก้ปัญหาในสถานการณ์ ดังกล่าว โดยใช้ความคล่องแคล่วรวดเร็วในการเคล่ือนที่, การติดต่อสื่อสารที่สามารถกระทาได้อย่างกว้างขวาง และ การจัดทอี่ ่อนตวั การระวงั ป้องกัน การระวงั ป้องกัน คือ วธิ ีการต่างๆ ที่กาหนดขึ้นเพื่อใช้ป้องกันตนเองหรอื หน่วย ให้พ้นจากการตรวจการณ์, การยิง และการจู่โจมของข้าศึก โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะรักษาความลับ ให้เกิดข้อได้เปรียบและดารงไว้ซ่ึงเสรี ในการปฏิบัติของหน่วย ซ่ึงการปฏิบัติภาคพ้ืนดินของข้าศึก มักจะหมายรวมถึง การลาดตระเวน, การยิง, การโจมตที างพนื้ ดิน, การแทรกซึม, กองโจร, หน่วยเคลื่อนท่ีทางอากาศ หน่วยระวังป้องกนั ต้องใช้ภมู ิประเทศ และเคร่อื งกีดขวางต่างๆ เพ่อื เพิม่ พนู ผลการปฏบิ ตั ิในการระวงั ป้องกัน การระวังป้องกันจะประสบความสาเร็จก็ด้วยการจัดให้มีการค้นหาภัยคุกคามอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดให้มเี วลาและมีพื้นที่ดาเนินกลยุทธ์อย่างเพียงพอท่ีจะโต้ตอบภัยคุกคามนั้น โดยท่ีสามารถจะหลีกเลี่ยง, ตัดรอน หรือทาลายการคุกคามน้ันได้ การระวังป้องกันจะได้ผลดียิ่งข้ึนด้วยการข่าวกรองที่ทันต่อเวลา และมีความแม่นยาถูกต้อง รวมท้ังการเคล่ือนที่ดาเนินกลยุทธ์ที่รวดเร็วและรุนแรง หน่วยต่างๆ จะต้อง รบั ผิดชอบในการจัดการระวังป้องกันตนเอง โดยไม่คานึงถึงว่าจะมีหน่วยอ่ืนมาจัดการระวังป้องกันให้หรือไม่ หน่วยระวังป้องกันของกองทหารขนาดใหญ่จะต้องเป็นหน่วยที่มีความเข็มแข็งเพียงพอ และต้องวางกาลัง ให้เหมาะสม เพ่ือให้หน่วยที่ตนให้การระวังป้องกันได้มีเวลาอย่างเพียงพอในการโต้ตอบข้าศึก หน่วยระวังป้องกัน จะเข้ารบปะทะติดพันข้าศึกไว้เฉพาะในขีดความสามารถของตนเท่าท่ีจาเป็นเพ่ือบรรลุภารกิจ อย่างไรก็ตาม มาตรการในการระวังป้องกันต่างๆ จะต้องไม่ทาให้การใช้กาลังหรือเจตนารมณ์ท่ีจะบรรลุผลตามภารกิจ ของหน่วยทตี่ นให้การระวังปอ้ งกันตอ้ งไขว้เขวไปโดยไมจ่ าเปน็ หลกั มูลฐานของการระวงั ปอ้ งกนั ความสาคญั อยทู่ ี่การแจ้งเตือนท่ีทนั เวลาและมีความถกู ต้อง กบั การใหม้ พี ื้นทดี่ าเนินกลยุทธ์อยา่ งเพยี งพอ การปฏบิ ัติต่างๆ ของหน่วยระวังป้องกันควรทจ่ี ะเป็นไปตามแนวทางท่ีถูกต้องด้วยการนาหลกั มูลฐาน ๕ ข้อไป ประยุกต์ใช้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ประกอบด้วย ๑. ใหม้ คี วามสัมพันธก์ ับหนว่ ยใหญท่ อี่ ยู่กบั ที่หรอื เคลอื่ นที่ ๒. ปฏบิ ตั กิ ารลาดตระเวนโดยต่อเนื่อง ๓. ใหข้ ่าวสารท่แี น่นอนและทันเวลา ๔. ดารงการเกาะขา้ ศกึ ๕. ให้มีพ้ืนท่ีในการดาเนนิ กลยทุ ธ์ ท้งั นภี้ ารกิจเฉพาะในการระวังป้องกันต่อการปฏิบัตกิ ารทางพื้นดิน กระทาไดโ้ ดยการลาดตระเวนทาง อากาศและทางพ้ืนดนิ , การจัดหน่วยกาบัง, การจัดกองกระหนาบ กองระวังหน้า กองระวังหลงั , การจัดหน่วย ทาฉากกาบัง และการจัดหน่วยระวังป้องกันประจาถิ่น การปฏบิ ัตกิ ารระวังป้องกันอาจให้ปฏบิ ตั กิ ารไปข้างหน้า, ทางปีก หรือด้านหลัง ของฝ่ายเดียวกัน ขนาดและการประกอบกาลังของหน่วยระวังป้องกันย่อมขึ้นอยู่ กบั ปัจจัย METT-TC ในการระวังป้องกันข้าศึกที่มีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีสงู และมีการกาลังยานเกราะ
๒ - ๒๔ เป็นส่วนใหญ่ หน่วยระวังป้องกันจะต้องมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่ีทัดเทียมหรือมากกว่าข้าศึก กบั ท้งั ตอ้ งมีขีดความสามารถในการตอ่ สู้รถถังอยา่ งพอเพียง หลักมูลฐานของการลาดตระเวน และการระวังป้องกันมีส่ิงที่เหมือนกันอยู่ข้อหนึ่งได้แก่ เรื่อง “ดารงการเกาะข้าศึก” ซึ่งกระทาได้ทั้งการเกาะข้าศึกด้วยการตรวจการณ์ด้วยสายตา และการดารงการเกาะข้าศึก ด้วยการยิง การเกาะข้าศึกจะดารงการปฏิบัติการลาดตระเวนโดยต่อเน่ืองกระทาเพ่ือให้ผู้บังคับหน่วย ระวังป้องกันได้ทราบข่าวสารเก่ียวกับข้าศึกภายในพ้ืนท่ีรับผิดชอบ และทาให้สามารถวางกาลังหน่วยระหว่าง หน่วยใหญ่และข้าศึกท่ีคุกคามได้อย่างเหมาะสม การดารงการเกาะข้าศึกน้ัน จะสามารถทาการผละออก จากการเกาะข้าศึกไดก้ ็ต่อเมื่อได้รบั คาสง่ั จากหนว่ ยเหนือ ระดบั ของการระวังปอ้ งกนั ๑. การกาบัง เป็นการปฏิบัติการในฐานะเป็นหน่วยหน่ึงท่ีแยกต่างหากออกจากส่วนใหญ่ และ ปฏิบัติการในทิศทางที่สอดคล้องกับทิศทางของข้าศึก เพื่อมุ่งท่ีจะสกัดก้ัน, ร้ังหน่วง, ทาลาย และลวงข้าศึก ก่อนที่ข้าศึกจะสามารถเข้าปฏิบัติต่อกาลงั ส่วนใหญ่ที่ทาการกาบังให้ ส่วนกาบังมักจะต้องปฏิบัติการพ้นระยะ การสนับสนุนจากหน่วยใหญ่ ดังนั้นกาลังส่วนนี้ต้องได้รับการเพ่ิมเติมกาลังเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง และ มีความสมบูรณ์ในตัวเอง โดยมีระบบปฏิบัติการในสนามรบครบทั้ง ๗ ประการ สามารถทาการรบเป็นอิสระ จากหนว่ ยใหญ่ได้ในหว้ งระยะเวลาหนงึ่ ๒. การคุ้มกัน เป็นการปฏิบัติการทางปีก, ด้านหน้า หรือข้างหลังของกาลังส่วนใหญ่ที่เคล่ือนท่ีหรือ หยุดอยู่กับท่ี ในลักษณะที่จะสามารถขัดขวางการตรวจการณ์ทางพ้ืนดิน,การยิงเล็งตรง และการปฏิบัติการ อย่างจู่โจมจากฝ่ายข้าศึก การปฏิบัติการดังกล่าวกระทาได้โดยการเอาชนะ, ทาลาย หรือร้ังหน่วงข้าศึกไว้ ในขดี ความสามารถแต่มักจะปฏบิ ตั กิ ารคุม้ กนั โดยยังอย่ใู นระยะการสนับสนนุ จากหนว่ ยใหญ่ แต่ต้องมีระยะห่าง เพยี งพอเพอื่ ทจี่ ะใหม้ ีเวลาและพ้นื ที่ดาเนินกลยุทธ์ ๓. การทาฉากกาบัง เป็นการเฝ้าตรวจไปด้านหน้า, ด้านข้าง หรือด้านหลัง ของหน่วยใหญ่ท่ีเคล่ือนท่ี หรือหยุดอยู่กับท่ี เพ่ือทาการแจง้ เตอื นการเข้ามาของข้าศึกด้วยการตรวจการณ์, การรายงาน และดารงการเกาะ ข้าศึก หน่วยท่ีทาฉากกาบังจะเข้าทาการขดั ขวางหรอื รบกวนข้าศกึ ภายในขีดความสามารถของตนด้วยอาวุธยิง ในอตั ราหรอื ทม่ี าสนับสนุน และทาลายหรือผลักดันหมู่ตรวจของฝ่ายข้าศึก หน่วยทาการระวังป้องกัน อาจจะเป็นส่วนกาบัง, กองกระหนาบ, กองระวังหน้า หรือ กองระวังหลัง หรือเป็นหน่วยระวังป้องกันในพืน้ ท่ีสว่ นหลังก็ได้ ทั้งน้ียอ่ มขน้ึ อยู่กับระดับของการระวังป้องกันที่ตอ้ งการ และ ตาแหน่งท่ีตั้งตอ้ งสัมพันธ์กับหน่วยรับการระวังป้องกัน โดยหน่วยที่ทาการระวังป้องกันจะเข้าติดพันในการรบ ดว้ ยวธิ รี กุ รบั หรอื รน่ ถอย ไดต้ ามความจาเปน็ เพอื่ ให้บรรลุภารกิจ ส่วนกาบัง เป็นหน่วยระวังป้องกันท่ีมีความเข้มแข็งและสมบูรณ์ในตัวเอง ปฏิบัติการในระยะห่าง ออกไปขา้ งหนา้ , ทางข้าง หรือข้างหลัง ของหน่วยทีร่ ับการกาบัง ท้ังในภารกิจปฏิบตั ิการรบด้วยวิธรี ุก รับ และ ร่นถอย ของกาลังส่วนใหญ่ ภารกิจของส่วนกาบังก็คือการเข้าคล่ีคลายสถานการณ์แต่เนิ่น เข้าเอาชนะกาลัง ขา้ ศึกถา้ สามารถกระทาได้ และทาการลวง, ร้ังหน่วง และทาลายการจัดของหนว่ ยขา้ ศกึ จนกวา่ กาลังสว่ นใหญ่ จะสามารถเขา้ รับโอนการรบได้ ตามปกติแลว้ จะไมม่ อบภารกิจการกาบังให้กับหนว่ ยท่ีเลก็ กวา่ กองพนั ทหารม้า เฉพาะกิจ หรือกองพันทหารม้าเพิ่มเติมกาลัง เป็นหน่วยท่ีต้องมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่อย่างเต็มท่ี, มีการจัดรถถังเป็นหลักและเพ่ิมเติมด้วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะ, ทหารราบ, ทหารปืนใหญ่, ทหารช่าง, หน่วยป้องกันภัยทางอากาศ และทหารมา้ อากาศตามความจาเปน็ โดยส่วนกาบังจะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา
๒ - ๒๕ ของผูบ้ ังคับบญั ชาเพยี งคนเดียว และผบู้ งั คบั บัญชาผนู้ จี้ ะปฏบิ ัตอิ ยูภ่ ายใต้การควบคุมโดยตรงจากผู้บังคับบญั ชา หน่วยใหญท่ ่ีรบั การกาบัง กองระวังหนา้ เป็นหนว่ ยปฏิบัติการอย่หู นา้ กาลังส่วนใหญ่ มีภารกิจท่ีจะคลค่ี ลายสถานการณ์ต้ังแตเ่ ร่มิ ตน้ , ป้องกันมิให้หน่วยใหญ่ถูกจู่โจม ให้การคุ้มกันต่อการจัดรูปขบวนของหน่วยใหญ่ และอานวยความสะดวก ในการเคล่อื นที่ให้กับหน่วยใหญ่ ทาการรื้อถอนเครื่องกดี ขวาง ซ่อมแซมถนนสะพานตา่ งๆ หรือกาหนดเส้นทาง อ้อมผ่าน กองระวังหน้าจะเคล่ือนท่ีไปข้างหน้าเร็วที่สุดเท่าท่ีกระทาได้ แต่ยังคงอยู่ภายในระยะที่สามารถ รับการสนับสนุนจากหน่วยที่ทาการคุ้มกันให้ กองระวังหน้าจะทาการลาดตระเวนอย่างต่อเน่ืองไปข้างหน้า ทาการผลักดันหรือทาลายข้าศึกกลุ่มย่อยๆ ก่อนท่ีข้าศึกเหลา่ น้ันจะขัดขวางการรุกคืบ เม่ือต้องเผชิญกับหน่วย ขา้ ศึกขนาดใหญ่ หรอื พ้ืนท่ีท่ขี ้าศึกต้งั รบั หนาแน่น กองระวังหน้านะเข้าปฏิบตั ิการอย่างรุนแรงและฉบั พลันเพื่อ คลี่คลายสถานการณ์ ทาการรุกเข้าเอาชนะข้าศึกในขีดความสามารถของตน และทาการค้นหาเพ่ือระบุท่ีต้ัง, กาลงั , การวางกาลัง และการประกอบกาลังของขา้ ศึกให้ได้ กองกระหนาบ เปน็ หนว่ ยระวงั ป้องกนั ท่ีปฏบิ ัติการอยู่ทางปีกของหน่วยใหญ่ ป้องกันการตรวจการณ์ ทางพื้นดิน, การยิงเล็งตรง และการเข้าโจมตีอย่างจู่โจมจากข้าศึก ในการรบด้วยวิธีรุก หรือร่นถอย กองกระหนาบจะเปน็ หน่วยเคล่ือนทเี่ ร็วทางดา้ นปีก ทาการเข้ายึดท่ีมั่นทางปีกด้วยเทคนิคการเคล่อื นท่สี ลับขั้น, ตามลาดับข้ัน หรือการเคล่ือนท่ีด้วยรูปขบวนต่อเนื่อง ในขณะท่ีในการรบด้วยวิธีรับน้ัน ตามปกติแล้ว กองกระหนาบจะปฏิบัติจะเข้ายึดท่ีมั่นสกัดก้ันต่างๆ ทางปีกอยู่กับที่ แต่ต้องพร้อมที่จะปฏิบัติการ เป็นกองกระหนาบเคล่ือนที่เร็วได้ทันทีเม่ือมีความจาเป็น ความรับผิดชอบของกองกระหนาบน้ันจะเริ่มต้ังแต่ ท้ายขบวนของกองพันท่ีเป็นหน่วยนา และไปส้ินสุดที่ส่วนสุดท้ายของส่วนดาเนินกลยุทธ์หลัก (ไม่รวมถึงกอง ระวังหลัง) กองระวังหลัง คือ หน่วยระวังป้องกันที่ปฏิบัติการทางส่วนหลังของหน่วยท่ีกาลังปฏิบัติการรุก ไปข้างหน้า หรือหน่วยท่ีกาลังปฏิบัติการถอนตัว เพื่อป้องกันหน่วยใหญ่ให้พ้นจากการเข้าตีอย่างจู่โจม หรือ รบกวนจากข้าศึก ด้วยการเข้าเอาชนะ, ทาลาย หรือร้ังหน่วงข้าศึกไว้ในขีดความสามารถ ถ้ากองระวังหลัง ถูกเข้าตีด้วยกาลังข้าศึกท่ีเหนือกว่า จะทาการรบหน่วงเวลาโดยไม่ยอมให้ข้าศึกอ้อมผ่าน หรือถูกกดดัน ให้ร่นถอยเข้าหาหน่วยรับการคุม้ กนั จนกว่าหนว่ ยรบั การคุ้มกนั จะพรอ้ มทจ่ี ะสามารถตอบโตภ้ ยั คกุ คามได้ ฉากกาบัง คือ หน่วยท่ีจะให้การแจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศึกแต่เน่ินด้วยการเฝ้าตรวจในพ้ืนที่ ที่มีความกว้างด้านหน้ามาก โดยสามารถเฝ้าตรวจไปข้างหน้า, ทางปีก หรือทางด้านหลัง ของหน่วยเหนือท่ี กาลงั เคล่อื นที่ หรือหยุดอยู่กับท่ีทาการให้การแจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศกึ แต่เนิ่น, เข้าทาการเกาะข้าศึกและ ทาการรายงานการเคลือ่ นไหวของข้าศึกตลอดเวลา, ทาลายหรอื ผลกั ดันหมตู่ รวจของข้าศึก และทาการขัดขวาง การรกุ เข้ามาของขา้ ศึกดว้ ยการยิงระยะไกลดว้ ยอาวุธในอตั ราและทม่ี าใหก้ ารสนบั สนนุ ภารกิจการทาฉากกาบังน้ีจะมอบให้หน่วยปฏิบัติก็เม่ือจาเป็นต้องมีการปฏิบัติเป็นหน่วยออมกาลัง เพื่อทาการเฝ้าตรวจในบริเวณพื้นที่ท่ีมีขนาดกว้างใหญ่ แต่มีหน่วยสาหรับปฏิบัติภารกิจในการเฝ้าตรวจน้อย ภารกิจจะประสบความสาเร็จก็โดยการจัดกาลังเข้าประจาที่ตรวจการณ์ต่างๆ ซึ่งครอบคลุมเส้นทางหรือพื้นท่ี ทค่ี าดว่าขา้ ศกึ น่าจะเคล่ือนที่เข้ามา อาจตอ้ งมกี ารลาดตระเวนในบางพ้ืนที่ซ่ึงไมอ่ าจตรวจการณ์เหน็ ดว้ ยสายตาได้ ท่ีตรวจการณข์ องหน่วยทาฉากกาบงั ตอ้ งอยู่ ณ จดุ ท่ีสามารถทาการการตรวจการณ์ และการซอ่ นพราง ได้ดีที่สดุ โดยการใชห้ ม่ตู รวจบนยานพาหนะ หรือหม่ตู รวจลงรบเดนิ ดนิ อาจเสรมิ ดว้ ยอุปกรณ์เรดารภ์ าคพ้ืนดิน เพื่อให้สามารถครอบคลุมเส้นทางที่ข้าศึกน่าจะเคลื่อนที่เข้ามา ท่ีตรวจการณ์ต่างๆ ต้องดารงการเกาะข้าศึก
๒ - ๒๖ ท่ีตรวจพบ แล้วทาการรายงานอย่างถูกต้องและทันเวลา รวมทั้งสมารถอานวยการยิงให้แก่ส่วนยิงสนับสนุน ทัง้ จากอาวุธยิงสนับสนนุ ในอัตราหรือจากหน่วยท่ีมาให้การสนับสนุน เพ่ือทาการรบกวนรูปขบวนการรุกเข้ามา ของข้าศึก ถ้าได้รับคาส่ังอนุมัติให้ทาการถอนตัวได้ หน่วยฉากกาบังก็จะเคล่อื นที่ถอนตวั เป็นห้วงๆ โดยที่ยงั คง ดารงการเกาะข้าศึกเอาไว้อย่างต่อเน่ืองพร้อมกับยังคงปรับการยิงสนับสนุนต่อไป และอาจใช้อากาศยาน จากหนว่ ยบินทหารบกหรือหน่วยทหารมา้ อากาศ เพอื่ ขยายขอบเขตของการตรวจการณใ์ หก้ ว้างขวางมากย่งิ ขน้ึ หน่วยระวังป้องกันพื้นที่ส่วนหลัง จะให้การคุ้มกันแก่ที่ตั้งขอหน่วยต่างๆ ท่ีอยู่ในพื้นท่ีส่วนหลัง, เส้นทางคมนาคม (ท่ีใช้ในการส่งกาลัง ยุทโธปกรณ์ เส้นทางเพ่ิมเติมกาลัง) ให้พ้นจากการโจมตีจากหน่วยส่ง ทางอากาศ, หน่วยเคล่ือนท่ีทางอากาศ, กองโจร หรือหน่วยแทรกซึมต่างๆ จากฝ่ายข้าศึก โดยหน่วยที่ระวังป้องกัน ในพน้ื ท่สี ่วนหลังน้ันตอ้ งทาการประสานการปฏบิ ตั ิกับหน่วยรบ และหน่วยแบบอ่ืนๆ ในพ้ืนท่สี ว่ นหลงั ด้วย ทหารม้าลาดตระเวน (ม.ลว.) เป็นหน่วยที่เหมาะสาหรับระวังป้องกันให้กับหน่วยใหญ่ เม่ือได้รับมอบ กว้างด้านหน้ามาก โดยใช้คุณลักษณะและขีดความสามารถของหน่วยประกอบกับการจัดท่ีอ่อนตัวเข้าปฏิบัติ อย่างเหมาะสม ในการรบด้วยวิธีรุก ม.ลว. จะคล่ีคลายสถานการณ์ และทาลายกาลังข้าศึกในขีดความสามารถ ในการต้ังรับก็จะแจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศึก, ทาลายระเบียบในการเคล่ือนท่ี และรั้งหน่วงข้าศึก หากมีภารกิจให้ต่อตา้ นหน่วยเคลอ่ื นท่ีทางอากาศหรือกองโจรข้าศึกในพื้นท่ีส่วนหลัง พัน.ม.ลว. ก็จะวางกาลัง กระจายออกไป และทาการลาดตระเวน เม่ือพบเป้าหมายก็จะปฏิบัติการโจมตีต่อข้าศึก อย่างรวดเร็ว หน่วย พัน.ม.ลว. เหมาะที่จะใช้ในภารกิจเฝ้าตรวจ ทั้งการเฝ้าตรวจทางทัศนะ, การเฝ้าตรวจทางไฟฟ้า และ การเฝ้าตรวจทางการ ถ่ายภาพ และใช้ขีดความสามารถในการติดต่อส่ือสาร รายงานข่าวได้อย่างทันเวลา โดย พัน.ม.ลว. จะจัดกาลงั ส่วนใหญ่ออกตรวจการณ์ และมีกองหนุนเทา่ ที่จาเป็นสาหรบั แกป้ ัญหา ทหารม้ามีคุณลักษณะ คือ มีอานาจการยิงและเกราะป้องกัน, มีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนที่สูง, มีอานาจการทาลายและข่มขวัญ, มีการติดต่อส่ือสารได้หลายวิธี และมีการจัดท่ีอ่อนตัว ดังน้ันหลักการ ใชห้ น่วยทหารม้าลาดตระเวน จึงมีดงั นี้ ๑. ดารงความเปน็ หนว่ ย ใหม้ ีเอกภาพในการบงั คับบญั ชา และเอกภาพในการจดั กาลังทางยทุ ธวธิ ี ๒. ความกว้างด้านหน้าข้ึนอยู่กับภารกิจ, ข่ายเส้นทาง, ภูมิประเทศ, การปฏิบัติของข้าศึก, แผนปฏิบัติการ, ความใกล้ – ไกล จากฝ่ายเดียวกัน และรศั มีของเครื่องมือสื่อสาร ๓. ระยะห่างจากหน่วยท่ไี ปสนบั สนุนข้ึนอยู่กับภารกจิ , ภูมิประเทศ, การปฏบิ ตั ิของขา้ ศกึ , ยุทโธปกรณ์ ทมี่ อี ยู่ และรศั มีของเครื่องมือสื่อสาร ๔. สามารถปฏิบตั ิการเปน็ อสิ ระได้เม่ือได้รบั การเพิ่มเติมกาลังท่เี หมาะสม การป้องกนั ภัยทางอากาศ หน่วยยานเกราะต่างๆ นั้นบอบบางต่อการถูกโจมตีทางอากาศในระหว่างการปฏิบัติในทุกขั้นตอน ระบบการแจ้งเตือนภัยทางอากาศน้ัน อาจใช้การแจ้งเตือนด้วยทัศนะสัญญาณ, วิทยุ, แตรของยานพาหนะ, นกหวีด ท้ังนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ จะต้องมีการจัดยามอากาศให้ปฏิบัติอยู่ บนยานพาหนะทุกคัน และต้องจัดที่ตรวจการณ์เพ่ือระวังป้องกันภัยทางอากาศในที่รวมพล หน่วยยานเกราะ ทีเ่ ขา้ ปฏิบัตงิ านตามลาพังต้องมีการตรวจการณ์ในทุกทิศทาง ทหารตอ้ งได้รบั การฝกึ เกี่ยวกับการจดจาลักษณะ เพอื่ ท่จี ะสามารถระบอุ ากาศยานทง้ั ของฝ่ายเราและฝ่ายข้าศึกเปน็ อยา่ งดี
๒ - ๒๗ การป้องกันภัยทางอากาศ คอื การกาหนดมาตรการทั้งปวงท่ีใช้ลดประสทิ ธิภาพการโจมตที างอากาศ ของข้าศึก โดยการป้องกันภัยทางอากาศมี ๒ ประเภท คือ การป้องกันภัยทางอากาศเชิงรุก, การป้องกันภัย ทางอากาศเชิงรับ ระบบการแจ้งเตือนภัยทางอากาศบนยานพาหนะขณะกาลังเคลื่อนย้ายหรือเข้าท่ีรวมพล จะต้องจัด ทตี่ รวจการณ์ หรือจดั ยามอากาศ เพื่อแจ้งเตอื นและระวงั ปอ้ งกนั ภยั ทางอากาศ มาตรการป้องกันเชิงรกุ เครอื่ งมอื ป้องกันภัยทางอากาศท่ีมอี ยู่น้ัน หมายรวมถึงอากาศยานทางยทุ ธวิธี ของ ทอ., อาวุธตอ่ สอู้ ากาศยานของ ทบ. ตลอดจนอาวธุ ต่างๆ ในอัตราของหน่วย มาตรการป้องกันเชิงรับ โดยนาหลักการพรางมาประยุกต์ใช้เกี่ยวกับยานพาหนะโดย ถ้ายานพาหนะ ไม่ได้พ่นสีหรือทาสีพรางใหพ้ รางด้วยโคลน หรือพรางด้วยพืชพันธ์ุไม้ หรอื ใช้ตาข่ายพราง การป้องกันภัยทางอากาศ เชิงรับในเร่ืองการกระจายกาลัง มีการปฏิบัติเก่ียวกับการกระจายยานพาหนะโดยให้เพ่ิมระยะต่อและระยะ เคยี งระหวา่ งยานพาหนะแต่ละคันออกไป ***********************************************************************
๓-๑ ภาคที่ ๓ ตอนที่ ๑ ทหารมา้ ลาดตระเวน หน่วยทหารม้าลาดตระเวน (ม.ลว.) เป็นหน่วยทหารม้าท่ีทาหน้าลาดตระเวน, ระวังป้องกัน และ เป็นหน่วยออมกาลังให้กับหน่วยเหนือหรือหน่วยท่ีไปข้ึนสมทบ ดังนั้นจึงมีการจัดหน่วยทหารม้าลาดตระเวน อยู่ในทุกกองพลดาเนนิ กลยุทธ์ (ทงั้ กองพลทหารราบ และกองพลทหารมา้ ) หนว่ ยทหารมา้ ลาดตระเวนสามารถ ปฏิบัตกิ ารเป็นอิสระได้ สามารถจัดกาลังเข้าทาการรบได้หลายรูปแบบด้วยการสนธิกาลังแตล่ ะชนิดเข้าด้วยกัน ได้หลากหลายรูปแบบตามแต่วัตถุประสงค์ในการใช้หน่วย โดยส่วนดาเนินกลยุทธ์ของทหารม้าลาดตระเวน จะประกอบด้วย รถถัง (หรือรถเกราะติดต้ังปืนใหญ่) และหน่วยปืนเล็กท่ีบรรทุกบนรถสายพานลาเลียงพล (หรือรถเกราะลาเลียงพลล้อยาง), ส่วนยิงสนับสนุนก็จะประกอบด้วย ค. ๑๒๐ มม. ติดต้ังบนรถสายพาน (หรือ ค.๘๑ มม. ติดตั้งบนรถเกราะ) และส่วนลาดตระเวนทใี่ ช้ยานยนต์ขนาดเบาตดิ ตัง้ อาวุธกล ทาให้ทหารม้า ลาดตระเวนเป็นหนว่ ยขนาดเล็กทส่ี ดุ ท่ีมกี ารผสมผสานกาลังรบไดส้ มบูรณ์ในตัวเอง ร้อย.ม.(ลว.) เป็นหน่วยที่มีการจัดที่ผสมผสานกาลังรบได้สมบูรณ์ในตวั เอง มีความอ่อนตัวที่สามารถ จดั กาลงั เพ่อื ทาการรบได้ถงึ ๕ รูปแบบ มีดงั น้ี แบบท่ี ๑ จัดเป็น ๓ มว.ลว.ตาม (ใน ๑ มว.ลว. ประกอบด้วย ตอนคอยเหตุ, ตอนรถถัง, หมู่ปืนเล็ก และ หมู่ ค.) โดยทงั้ หมดจะอยู่ในความควบคมุ ของ ผบ.รอ้ ย. แบบท่ี ๒ จัดเป็น ๓ มว.ลว. คล้ายแบบท่ี ๑ แต่หย่อนกาลัง หมู่ ค. ในแต่ละ มว.ลว. มารวมกันเป็น มว.ค. ใหอ้ ยใู่ นความควบคมุ ของ รอง ผบ.รอ้ ย. ส่วน ๓ มว.ลว.(-) จะอย่ใู นความควบคุมของ ผบ.ร้อย. แบบที่ ๓ จัดเป็น ๓ มว.ลว. คล้ายแบบท่ี ๑ แต่รวม หมู่ ค. ไว้ที่ มว.ลว. ใด มว. หน่ึง (๒ มว.ลว.(-) และ ๑ มว.ลว.(+)) โดยทัง้ หมดจะอยใู่ นความควบคุมของ ผบ.รอ้ ย. แบบที่ ๔ จัดยานรบประเภทเดียวกันอยู่ด้วยกัน โดยจัดเป็น ๑ มว.คอยเหตุ, ๑ มว.ถ., ๑ มว.ปืนเล็ก และ ๑ มว.ค. โดยให้ รอง ผบ.ร้อย. เปน็ ผบ.มว.ค. แบบท่ี ๕ จดั ยานรบประเภทเดียวกนั อย่ดู ้วยกัน จัดแยกเป็นส่วนดาเนินกลยุทธ์ ประกอบด้วย มว.คอยเหตุ กบั มว.ปืนเลก็ และส่วนฐานยงิ ประกอบด้วย มว.ถ. กับ มว.ค. ในการลาดตระเวนเขต มักมีความมุ่งหมายหรือจุดประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวสารเก่ียวกับข้าศึก หรือลักษณะภูมิประเทศในพ้ืนที่ปฏิบัติการที่กาหนดให้ ถนนและลักษณะภูมิประเทศต่างๆ ภายในเขต จะต้องได้รับการตรวจตราอย่างท่ัวถึงในสถานการณ์ไม่กระจ่างชัด ทั้งน้ีความเร็วในการเคลื่อนท่ีขึ้นอยู่กับภารกิจ, การปฏิบัติของข้าศึก, ภูมิประเทศ และข่ายเส้นทางในพื้นที่ เพ่ือให้มีขีดความสามารถในการลาดตระเวน กาลังพลใน ร้อย.ม.(ลว.) จึงถูกฝึกให้มีขีดความสามารถงานช่างโยธาในด้านการลาดตระเวนทางการช่าง เช่น การตรวจค้น และทาลายสนามทุ่นระเบิด โดยไม่ใช้เครื่องมือทหารช่าง, การลาดตระเวนสารวจเส้นทางและ สะพาน, การคานวณดนิ ระเบิดและรื้อถอนวตั ถุระเบดิ เปน็ ตน้ ผู้บังคับบัญชาได้รับประโยชน์จากทหารม้าลาดตระเวนในเรื่องของการได้รับข่าวสารเก่ียวกับข้าศึก สภาพภูมิประเทศ ลมฟา้ อากาศ ทาให้สามารถองเห็นภาพสนามรบ สามารถขยายผลได้อย่างรวดเร็ว เม่ือพบจุดอ่อน ของข้าศึก ทาการลวงข้าศึก ทาการระวังป้องกัน และโจมตีข้าศึกในทางลึกได้ เมื่อหน่วยใหญ่รุกเข้าหาข้าศึก กองพันทหารม้าลาดตระเวนเป็นส่วนกาบัง จะมีภารกิจคลี่คลายสถานการณ์และทาลายกาลังข้าศึก ภายในขีดความสามารถ
๓-๒ ในการปฏิบตั ิการเฝา้ ตรวจ แบ่งการปฏิบัติออกเป็น ๓ ชนิด คือ การเฝ้าตรวจทางทัศนะ, การเฝ้าตรวจ ทางไฟฟ้า และการเฝ้าตรวจทางการถ่ายภาพ การปฏิบัติการเฝ้าตรวจของหน่วยทหารม้าลาดตระเวน ใช้เทคนิคเพ่ือให้ได้มาซึ่งข่าวสารโดยการจัดส่งกาลังส่วนใหญ่ออกตรวจการณ์ ดันกาลังส่วนใหญ่ออกไป ปฏิบัตงิ าน แตก่ ็สามารถเกบ็ กาลังกองหนุนขนาดย่อมๆ เอาไวแ้ ก้ปญั หา การดารงการเกาะข้าศึกของหน่วยลาดตระเวน คือ เม่ือตรวจพบและติดตามการปฏบิ ัติของข้าศึกได้แล้ว ต้องเกาะข้าศึกไว้จนกว่าข้าศึกจะหยุดคุกคามต่อหน่วยใหญ่ หรือได้เคลื่อนท่ีออกไปนอกเขตรับผิดชอบแล้ว โดยจะทาการผละจากการเกาะข้าศึกเองไม่ได้นอกจากได้รับคาสั่งจากหน่วยเหนือ เมื่อข้าศึกออกไปนอกพื้นที่ รับผิดชอบแล้วต้องแจ้งให้หน่วยข้างเคียงทราบ และช่วยเหลือหน่วยนั้นเข้าเกาะข้าศึกต่อไป การให้ข่าวสาร ท่ีแน่นอนและทันเวลาของ ร้อย.ม.(ลว.) ก็เพ่ือที่จะแจ้งเตือนให้ผู้บังคับบัญชาทราบที่ต้ังและการคุกคาม ของขา้ ศึกตง้ั แตเ่ ร่ิมตน้ เพอ่ื ใหผ้ บู้ งั คับบัญชาพฒั นาหนทางปฏิบัติท่ีให้เกิดผลจู่โจม และไดเ้ ปรียบขา้ ศกึ โดยปกติเม่ือกองพลปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก มักมอบภารกิจให้ พัน.ม.(ลว.) ในการระวังป้องกัน โดยความกวา้ งของพ้นื ทีร่ บั ผดิ ชอบจะกาหนดโดยใช้ปจั จัย METT-TC, ทศั นวิสัย, ภูมิประเทศและลมฟา้ อากาศ, ข่ายถนน, การปะทะกับข้าศึกท่ีคาดหมายไว้ และลักษณะข่าวสารท่ีพึงประสงค์มาพิจารณา หาก พัน.ม.(ลว.) ตอ้ งปฏิบัติการเข้าตีข้าศึกเพ่ือคล่ีคลายสถานการณ์ การแบ่งกาลังเข้าตีโดยส่วนดาเนินกลยุทธ์ของ พัน.ม.(ลว.) ประกอบด้วย รถถัง (รถเกราะ) และหน่วยปืนเล็ก ในส่วนฐานยิงของ พัน.ม.(ลว.) ประกอบด้วย ค.๑๒๐ มม., ค.๘๑ มม., ป.ชต., หน่วยบินทางยทุ ธวิธี โดยในการปฏิบัติการเข้าตี ผบ.พัน.ม.(ลว.) จะบังคับบัญชาอยู่ ณ ที่ ทค่ี วบคมุ หน่วยไดด้ ีท่ีสุด ปกตจิ ะอยู่กับส่วนดาเนินกลยุทธ์ และในการปฏิบัติ ณ ที่หมาย เมือ่ สว่ นดาเนินกลยุทธ์ ยดึ ไว้ไดแ้ ลว้ ผบ.พนั .ม.(ลว.) ปฏบิ ตั ภิ ารกิจสาคญั คือ การเสรมิ ความม่นั คง และการจดั ระเบียบใหม่ ในการตั้งรบั ตามแบบมาตรฐาน พัน.ม.(ลว.) สามารถนากาลังไปวางในพ้ืนท่ตี ้ังรบั ได้ ๓ พ้ืนที่ คือ พ้ืนที่ ระวังป้องกัน, พืน้ ทตี่ ั้งรับหน้า และพ้ืนท่ีกองหนุนหรือพ้ืนท่ีส่วนหลัง เม่ือกองพนั ทหารม้าลาดตระเวนเป็นส่วนกาบัง จะมีภารกิจแจ้งเตือนการรุกเคลื่อนท่ีเข้ามาของข้าศึก, ทาลายระเบียบในการเคลื่อนที่ของข้าศึก และ หน่วงเหนี่ยวข้าศึก แต่ภารกิจที่เหมาะสมทค่ี วรมอบแก่ พนั .ม.(ลว.) ในการรบด้วยวธิ รี ับ คอื ภารกจิ ลาดตระเวน และระวังป้องกัน หากทาหน้าท่ีเป็นส่วนลาดตระเวนก็จะทาการลาดตระเวนในพ้ืนท่ีระวงั ป้องกัน หรอื ทาการวาง ฉากกาบังเพ่ือแจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศึกแต่เนิ่น หากทาหน้าท่ีเป็นส่วนระวังป้องกัน เมื่อปะทะกับข้าศึก ก็จะทาการรบหน่วงเวลาเข้าหากาลังส่วนใหญ่ เพื่อให้กาลังส่วนใหญ่ท่ี พัน.ม.(ลว.) ทาการระวังป้องกันให้ มพี ื้นทแี่ ละเวลาเพียงพอในการตอบโต้ข้าศกึ ในบางสถานการณ์ พัน.ม.(ลว.) อาจต้องทาการต้ังรบั แบบวงรอบ เมอ่ื จาเปน็ , มีเวลานอ้ ยหรือปฏิบตั ิการหา่ งไกลจากหนว่ ยอื่นๆ ของกองพล การระวงั ปอ้ งกนั ในพื้นทส่ี ่วนหลงั ใหก้ ับกาลังสว่ นใหญ่ พนั .ม.(ลว.) จะปฏิบตั ติ อ่ หนว่ ยกาลงั รบสง่ ทางอากาศ, หน่วยเคลื่อนที่ทางอากาศ และหน่วยรบแบบกองโจรของฝ่ายข้าศึก จะให้สาเร็จภารกิจได้โดยการปฏิบัติ การกระจายกาลงั กนั ออกเพ่อื ทาการเขา้ ตอี ยา่ งเร่งด่วน และปฏบิ ัติการตอบโต้ต่อการเข้าตีข้าศกึ โดยฉับพลัน การลาดตระเวนอย่างต่อเนอ่ื ง, การเฝา้ ตรวจอยา่ งเหมาะสม จะเป็นการป้องกันมิให้ข้าศึกโจมตที างปีก ของกองพัน หากกองพันจะร้ังหน่วงข้าศึก ณ ที่มัน่ ตามลาดับข้ัน ก็จะให้ รอ้ ย.ม.(ลว.) ทาการรบอย่างต่อเนื่อง ตามท่ีม่ันรั้งหน่วงท่ีได้เตรียมการไว้ในแต่ละขั้นตามลาดับ ส่วนการรั้งหน่วง ณ ที่มั่นสลับขั้น จะเอ้ือให้มีเวลา ดัดแปลงท่ีมั่นรั้งหน่วง, มีเวลาในการซ่อมบารุงยุทโธปกรณ์, กาลังพลผลัดเปลี่ยนกันเข้าทาการรบ แต่หากว่า มีกว้างด้านหน้าแคบ จะเกิดอันตรายร่วมกนั
๓-๓ การระวังป้องกันในการรบหน่วงเวลาของ พัน.ม.(ลว.) ผู้บังคับกองพันจะทาการลาดตระเวนโดย ต่อเนือ่ งและการระวังป้องกันพร้อมกับมกี ารเฝา้ ตรวจนับว่าเปน็ วธิ กี ารป้องกนั ทีด่ ที ส่ี ุด ทจ่ี ะไม่ให้ขา้ ศกึ ตตี ลบปีก หรือจู่โจมที่ม่ันของกองพัน หน่วยท่ีวางกาลังในที่มั่นรั้งหน่วงจะต้องจัดวางการระวังป้องกันปีกของตนข้ึน โดยการจดั ตั้งท่ีตรวจการณ์โดยรอบตัว, จดั หนว่ ยลาดตระเวน และติดต่อกับหน่วยขา้ งเคยี งตลอดเวลา จะต้อง ทาการเกาะข้าศึกไว้เพื่อให้สามารถระวังป้องกัน, ลวง และเพ่ือมิให้ข้าศึกเคล่ือนท่ีรุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว กองพันจะใช้การถอนตัวแบบภายใต้ความกดดัน หรือทาการถอนนอกความกดดันจากข้าศึก เพ่ือให้สามารถ ดารงการเกาะข้าศึกไว้ไดต้ ลอดเวลา การท่ี พัน.ม.(ลว.) ใช้ ร้อย.ม.(ลว.) ทุกกองร้อยเข้าปฏิบัติการ ณ ที่มั่นร้ังหน่วงของกองพันแต่ละข้ัน และจะให้ ร้อย.ม.(ลว.) ทาการรบอย่างต่อเน่ืองตามท่ีมั่นร้ังหน่วงที่ได้เตรียมการไว้ในแต่ละข้ันตามลาดับ จะเป็นแบบการรบหน่วงเวลาแบบรั้งหน่วง ณ ท่ีมั่นตามลาดับข้ัน ส่วนการปฏิบัติท่ีสลับกันร้ังหน่วงข้าศึก โดยจะมีกาลังส่วนหนึ่งท่ีผละจากการปะทะ แล้วเคล่ือนไปข้างหลังเข้ายึดครองที่มั่นรั้งหน่วงในข้ันต่อไป จะเป็นแบบการรบหน่วงเวลาแบบการรั้งหน่วง ณ ท่ีมั่นสลับข้ัน ซึ่งการรั้งหน่วง ณ ท่ีมั่นสลับขั้น มีข้อดีและ ขอ้ เสยี ดังนี้ คอื ข้อดี ๑. มีเวลาทาการดดั แปลงที่มน่ั ร้ังหน่วง ๒. มีเวลาในการซ่อมบารงุ ยทุ โธปกรณ์ ๓. หน่วยทหารมเี วลาผลดั เปลี่ยนกันทาการรบ ข้อเสีย ข้อเสียท่ีสาคัญย่ิง เน่ืองจากมักจะมีกว้างด้านหน้าของพื้นที่แคบ ทาให้กาลังต้องอยู่รวมกัน จะได้รบั อนั ตรายจากการโจมตีดว้ ยอาวธุ นิวเคลียร์ร่วมกนั ได้ กรม ม.(ลว.) ในภารกิจกาบังจะสาเร็จได้ก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนและการควบคุมโดยพิจารณาภูมิประเทศ, ข่ายถนน, เส้นทางที่จะกาบัง, มอบเขตรับผิดชอบให้กับหน่วยรอง และมีกองหนุนพอสมควร (ถ้าทาได้ ควรเปน็ ๑ กองพนั ) การวางแผนและการควบคุมของ กรม ม.(ลว.) จะรวมถึง ๑. การลาดตระเวนเพอ่ื ศกึ ษาภูมิประเทศ ๒. ดารงการเกาะข้าศึก ๓. จัดใหม้ ีการแจง้ เตอื นการเข้ามาของข้าศกึ แต่เน่นิ ๔. คลค่ี ลายสถานการณข์ ณะขา้ ศึกเคล่ือนท่ีเข้ามาในพ้ืนทร่ี ะวงั ป้องกนั ๕. จดั ใหม้ กี ารลาดตระเวนทางอากาศให้มากทส่ี ุด ๖. ดารงการสื่อสารกับหนว่ ยในพน้ื ทตี่ ง้ั รับอย่างต่อเนื่อง ๗. ทาลายข้าศกึ ในขีดความสามารถ ๘. หากข้าศกึ มกี ารเพมิ่ เตมิ กาลงั ตอ้ งทาการรบหน่วงเวลา การวางแผนและประสานการเข้าตีของ กรม ม.(ลว.) จะบรรลุผลสาเร็จ ข้ึนอยู่กับภารกิจ และเวลา ทอี่ านวย โดยส่วนดาเนินกลยุทธ์ของ กรม ม.(ลว.) จะมีกาลัง ๑ กองพัน หรือมากกว่า อาจสมทบด้วย ร้อย.ถ. หรือ ร้อย.ม.(ก.) จากกองพันหนุน อาจมีการใช้ฉากควันกาบังในการดาเนินกลยุทธ์ ในการรบหน่วงเวลา จะจัดส่วนระวงั ปอ้ งกันอยา่ งน้อย ๑ ร้อย.ม.(ลว.) อาจเพ่ิมเติมด้วยรถถงั ปัจจัยสาคัญในการเลือกท่ีม่ันรั้งหน่วง คอื การตรวจการณ์และการยิง มีการซอ่ นพรางและการลวงในการเคลื่อนย้าย หากถกู ข้าศึกกดดันเร็วเกินกว่า ท่ีวางแผนไว้ต้องรายงานให้หน่วยเหนือทราบโดยเร็ว และต้องมแี ผนการตีโต้ตอบทุกสถานการณ์ หากเป็นไปได้ การตโี ตต้ อบควรเป็นการปฏิบตั ิในลักษณะของการซุม่ โจมตี
๓-๔ การเคล่ือนท่ีของ กรม ม.(ลว.) ซึ่งกาบังทางปีกอยู่นั้น เมื่อพบกาลังส่วนน้อยของข้าศึกจะอ้อมผ่านไป โดยรายงานที่ต้ัง, กาลัง, การประกอบกาลัง และการวางกาลังของข้าศึกท่ีอ้อมผ่านไปให้ส่วนใหญ่ทราบ และถ้ากาลงั ขา้ ศกึ มีขนาดใหญ่ จะต้องทาลายหรอื ตรึงข้าศกึ ไว้ ผบ.กรม ม.(ลว.) จะวางแผนเมื่อเป็นส่วนกาบังด้านหลัง โดยพิจารณาภูมิประเทศ, ข่ายถนน, เส้นทาง ทจ่ี ะกาบงั , มอบเขตรบั ผิดชอบ ให้หนว่ ยรอง และเกบ็ กองพนั ไว้เป็นกองหนนุ หนึง่ กองพนั ถา้ สามารถกระทาได้ กรม ม(ลว.) ปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก การวางแผนและการประสานในการเข้าตีจะบรรลุผลสาเร็จ แค่ไหนข้ึนอยูก่ บั ภารกจิ และเวลาอานวยให้ กรม ม.(ลว.) ในการรบด้วยวิธีรุกมีการจัดแบง่ กาลังเข้าตีโดยแบง่ กาลัง เป็น ๓ สว่ น คอื ส่วนดาเนินกลยุทธ, ฐานยงิ และกองหนุนสว่ นดาเนินกลยทุ ธ์ของ กรม ม.(ลว.) มีกาลังหนง่ึ กองพัน หรือมากกว่า อาจสมทบด้วย ร้อย.ถ., ร้อย.ม.(ลว.) จากกองพันหนุน ในการดาเนินกลยุทธ์เข้าตีของ กรม ม.(ลว.) การใช้ควนั ปกติเราใช้ให้พดั ไปหาขา้ ศกึ เพ่ือ เปน็ ฉากกาบังในการดาเนินกลยทุ ธ การต้ังรับแบบคล่องตัวของ กรม ม.(ลว.) จะสาเร็จได้ผลข้ึนอยู่กับการปฏิบัติของการปฏิบัติการรบ ด้วยวิธีรุกของกาลังโจมตที ี่มคี วามคลอ่ งแคล่วและมีความรุนแรงในการโจมตี การต้ังรับแบบยึดพ้ืนท่ี กรม ม.(ลว.) จะมีการจัดกาลังของส่วนระวังป้องกันในการตง้ั รับแบบยึดพื้นที่ โดยใช้ ร้อย.ม.(ลว.) หรือมากกว่า หรือเพิ่มเติมด้วยรถถัง การจัดกองหนุนจะจัดหน่วยระดับกองพันไว้ หรือ จะจดั เป็นกองพนั รบเฉพาะกจิ ไว้เป็นกองหนนุ กไ็ ด้ เมอื่ กรม ม.(ลว.) ไดร้ ับคาส่ังให้ทาการรบหน่วงเวลา ตามปกตผิ ู้บงั คับหน่วยเหนอื จะกาหนดแนวข้ึน แนวหนึ่งที่ไมย่ อมให้ข้าศกึ ผ่านเข้าได้ก่อนถึง เวลาท่ีกาหนดไว้แนวนี้คือ แนวที่มั่นร้ังหน่วงขั้นแรก โดยจะดาเนินการ ต้านทานอย่างสูงสุด ณ ที่มั่นรั้งหน่วงขั้นแรก การปฏิบัติแบบนี้เป็นการร้ังหน่วงแบบการร้ังหน่วง ณ ท่ีม่ัน ตามลาดับข้นั ในระหว่างการรบหน่วงเวลา ผบ.กรม ม.(ลว.) จะต้องตระหนักไว้ทันทีว่า เม่ือข้าศึกทราบว่าฝ่ายเรา จะทาการรบหน่วงเวลา ข้าศึกจะเข้าตีทางปีก ในสถานการณ์นี้ กรม ม.(ลว.) จะต้องเตรียมแก้ปัญหา โดยการเตรียมใช้กองหนุนทาการเข้าตี และเตรียมทาการรั้งหน่วงข้าศึกทางปีกไว้ การปฏิบัติการรบหน่วงเวลา ของกรมทหารม้าลาดตระเวนจากท่ีม่ันแห่งหนึ่งไปยังท่ีมั่นขั้นต่อไป จะต้องควบคุมและประสานการปฏิบัติ โดยใกล้ชิด นอกจากนั้นจะต้องพยายามลวงข้าศึกทุกวิถีทาง จะทาการลวงข้าศึกในเรื่องการซ่อนพรางและ การเตรียมการเคล่ือนย้าย ปัจจัยที่สาคัญในการเลือกท่ีม่ันร้ังหน่วงของ กรม ม.(ลว.) คือ การตรวจการณ์และ การยิงระยะไกล ถ้าข้าศึกไม่กดดันให้ กรม ม.(ลว.) ตอ้ งเคล่อื นย้ายออกจากที่มน่ั ร้ังหน่วง หรอื ข้าศึกกดดันใหต้ ้องถอนตัว เร็วเกินไปกว่าท่ีวางแผนไว้ ผบ.กรม ม.(ลว.) จะต้องรายงานให้ผู้บังคับหน่วยเหนือทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะต้องรายงานให้ทราบถึงสถานการณ์โดยละเอียด ผบ.กรม ม.(ลว.) จะเป็นผู้กาหนดสถานการณ์ท่ีแน่นอน ที่จะปฏิบัติการตีโต้ตอบโดยแน่ชัด กรม ม.(ลว.) จะต้องทาแผนเพื่อปฏิบัติการตีโต้ตอบในทุกๆ สถานการณ์ ทง้ั น้ีจะตอ้ งพยายามทุกวถิ ที างทจ่ี ะให้เกดิ ผลดใี นการจูโ่ จม ถา้ กระทาไดค้ วรจะให้การตีโต้ตอบเป็นไปในลักษณะ การซุ่มโจมตี
๓-๕ ตอนท่ี ๒ ทหารม้ารถถัง หน่วยรถถังมีคุณลักษณะที่สาคัญ คือ มีอานาจการยิงท่ีรุนแรง, ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนที่, มเี กราะกาบัง, มีอานาจทาลายและข่มขวญั เขา้ ทาการรบด้วยรถถังท่ีมีอานาจสูงสุดทาใหก้ าลังรบขา้ ศึกพ่ายแพ้ไป บทบาทขอ งหน่วยทหารม้ารถถังเป็น การปฏิบัติที่ ต้องการความเด็ดขาดใน การยุทธ์เคลื่อนที่เร็วทางพื้นดิ น โดยใช้รถถังเป็นยานรบ โดยปกติทหารม้ารถถังจะมีลักษณะที่เข้าทาการรบด้วยวิธีรุกเป็นหลัก และดารง คณุ ลกั ษณะได้ดว้ ยการใชร้ ถถังอย่างชานาญ ซึ่งความสาเรจ็ ในการปฏิบัตกิ ารของทหารม้ารถถัง ขึ้นอย่กู บั การใช้ คุณลักษณะอย่างเหมาะสมของเกราะป้องกันตัว อานาจการยิง ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่ี อานาจการทาลาย และขม่ ขวญั และมีระบบการตดิ ต่อส่ือสารทกี่ วา้ งไกลและออ่ นตวั ทหารม้ารถถังในการรบด้วยวิธีรุก จะใช้อานาจการยิงและดาเนินกลยุทธ์ในการเข้าตี เพ่ือเข้าข่มขวัญ ตดั รอนกาลัง หรือเพ่ือทาลายล้างข้าศึก เพ่ือเข้าควบคมุ ภูมิประเทศสาคัญหรือเพ่ือเข้ารบกวนต่อพ้ืนที่สว่ นหลัง ของขา้ ศึก ทหารม้ารถถังตอ้ งวางแผนปฏบิ ตั ิการอยา่ งห้าวหาญและถี่ถว้ น แลว้ เขา้ ตอี ย่างรกุ รบและรุนแรง ท้ังนี้ เพื่อให้เกิดการทาลายและข่มขวัญสูงสุดในการเข้าทาลายล้างข้าศึกตลอดไปจนถึงยุทธภัณฑ์รบของข้าศึกด้วย ความรุนแรงดังกล่าวน้ีก่อให้เกิดความสาเร็จได้ โดยทาให้ข้าศึกต้องอ่อนกาลังลงจนถึง ณ จุดๆ หนึ่งซ่ึงข้าศึก ไมอ่ าจตา้ นทานการเข้าตตี ่อไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพได้ สรปุ หลักการสาคัญของการใชห้ น่วยรถถังปฏิบัติการรบ ด้วยวิธีรุกก็เพ่ือทาลายข้าศึก คล่ีคลายสถานการณ์ ยึดภูมิประเทศ รวมทั้งเบนความสนใจของข้าศึก หรือ เพ่ือให้บรรลุผลหลายๆ อย่าง ทาให้ผู้บังคับบัญชาเกิดข้อได้เปรียบในเรื่องความริเร่ิมในการปฏิบัติและโอกาส ที่จะเป็นฝ่ายสร้างสถานการณห์ รือขยายสถานการณ์อยา่ งไดผ้ ล ในการเข้าตีรถถังจะเคลื่อนท่ีบนเส้นหลักเดียวกันกับหน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะเม่ือเข้าตี ในภูมิประเทศโล่งแจ้ง, มีเส้นทางการเคล่ือนที่เพียงเส้นทางเดียว หรือไม่สามารถโอบปีกต่อท่ีหมายได้ แต่ถ้าหาก มเี ครือ่ งกีดขวางหรอื เป็นพ้ืนท่ซี ่ึงรถถังไมส่ ามารถผ่านได้ หรือภูมิประเทศนน้ั ต้องข้ามลาน้าที่ไม่สามารถลยุ ขา้ มได้ ก็จะใช้รถถังในบทบาทเป็นฐานยิง โอกาสที่ควรใช้รถถังและหน่วยบรรทุกยานเกราะเข้าตีคนละเส้นทาง สอบเข้าหากัน เมื่อมีเส้นทางเคลื่อนท่ีเข้าหาท่ีหมายมากกว่าหนึ่งเส้นทาง, มีเส้นทางที่ให้การซ่อนพราง อย่างน้อยหนง่ึ เส้นทาง และเม่ือสามารถโอบปกี ของทหี่ มายได้ หากไมม่ ีเวลาเพียงพอในการเตรยี มการและการลาดตระเวนอย่างละเอียดและวางแผนอย่างประณีตแล้ว หน่วยรถถังจะเข้าตีจากขบวนเดินโดยใชค้ วามรวดเร็วและใช้กาลังเป็นกลุม่ ก้อนเพื่อให้เกิดอานาจทาลาย และ ข่มขวัญอย่างเต็มท่ี การตีจากขบวนเดินนี้ต้องอาศัยความรเิ ร่ิมและการปฏิบัติอย่างห้าวหาญ หากหน่วยรถถัง ได้รับภารกิจเป็นกองหนุนก็จะจัดทาแผนของตนข้ึนเพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยเหนือตามแผน ก่อนการปฏิบัติ ควรจะได้ทาการลาดตระเวนบนพื้นที่ในภูมิประเทศ เพื่อพิจารณาเส้นทางต่างๆ, ฐานออกตี, แนวออกตี, ท่ีมน่ั สกดั กั้น และท่หี มายในการตโี ต้ตอบ แลว้ กาหนดมาตรการควบคุมตา่ งๆ ท่ีจาเปน็ ทหารม้ารถถังในการต้งั รับแบบคล่องตัวหากหน่วยรถถังต้องเป็นส่วนตรึงก็จะแบ่งมอบที่มั่น และเขตการยิง ให้กับหน่วยต่างๆ โดยดูจากกาลังท่ีมีอยู่และเส้นทางท่ีข้าศึกจะใช้เคลื่อนท่ีเข้ามาในเขตเป็นเครื่องพิจารณา หน่วยสื่อสารจะดาเนินการวางการติดต่อสื่อสารทางสายในที่บังคับการ, ในท่ีรวมพล ใช้ข่ายการติดต่อ ส่ือสารทางสายในระหว่างการห้ามส่งวิทยุในการรบด้วยวิธีรับ หรือการปฏิบัติการอยู่กับท่ี และในท่ีรวมพล การใช้ พัน.ม.(ถ.) จะต้องพิจารณาขีดความสามารถข้าศึกในเร่ืองอานาจการยิงการพิจารณาใช้ พัน.ม.(ถ.) จะเกี่ยวข้องกับที่ตั้งและการวางกาลังอาวุธ, คุณลักษณะอาวุธของข้าศึก, จุดอ่อนของอาวุธข้าศึกต่ออานาจ กาลังรบที่มีอยู่ของผู้บังคับหน่วยฝ่ายเรา, จานวนและชนิดอาวุธท่ีข้าศึกมีอยู่ในครอบครองและอาจหามาได้ ปัจจัยสาหรับการพิจารณาภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศก็เช่นเดียวกับการวางแผนโดยทั่วไปซ่ึงจะต้องวิเคราะห์ ภูมิประเทศอยา่ งถถ่ี ้วนในเรอ่ื งเกี่ยวกบั
๓-๖ ๑. การตรวจการณ์และพนื้ ยิง ๒. เครือ่ งกีดขวาง ๓. การซอ่ นพรางและการกาบัง ๔. ภูมปิ ระเทศสาคัญ ๕. เส้นทางเคลือ่ นทเ่ี ข้าประชดิ ตามปกติ พัน.ม.(ถ.) เป็นหน่วยข้ึนตรงของ พล.ม., พล.ร. และ กรม.ม. เพ่ือปฏิบัติทางยทุ ธวธิ ี แต่กองพล สามารถจัด พัน.ม.(ถ.) ขึ้นเป็น พัน.ม.(ถ.) เฉพาะกิจ ที่ได้รับการเพ่ิมเติมกาลังข้ึนได้ และใช้ภายใต้การควบคุม โดยตรงของกองพลเมอื่ ใช้เป็นหนว่ ยกาบังให้กับกองพลหรือกรม การใช้ พัน.ม.(ถ.) เพิ่มเติมกาลัง ปฏิบัติภารกิจเป็นหน่วยกาบงั ใหก้ ับกองพลโดยการจัดกาลังรบเฉพาะกิจ ของ พัน.ถ.จะไม่ตายตัว การประกอบกาลังของ พัน.ม.(ถ.) ฉก. ข้ึนอยู่กับปัจจัย METT-TC สามารถ เปล่ยี นแปลงได้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางยุทธวิธที ี่เปล่ียนแปลงไป ในขณะปฏิบัติการรบกองบงั คับการ และกองร้อยกองบังคับการก็จะปฏิบัติเป็น ๒ ส่วน คือ ที่บังคับการกองพัน และขบวนสัมภาระของกองพัน ส่วนประกอบของท่ีบังคับการกองพัน และขบวนสัมภาระของกองพันอาจแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ โดยจัดพวกบังคับบัญชาปฏิบัติงานใน ทก.ยว.แยกออกไปจาก ทก.หลัก ควบคุมบังคับบัญชาหน่วยรอง ไกลออกไปจาก ทก.หลัก เพื่อจะได้ทราบสถานการณ์การรบด้วยตนเอง ใช้ประมุขศิลป์ และควบคุมหน่วยได้ ใกล้ชิดขึ้นในช่วยเวลาวิกฤติ พวกบังคับบัญชาจะประกอบด้วยผู้บังคับบัญชา และฝ่ายอานวยการที่จาเป็น พร้อมดว้ ยเครอื่ งมือสอื่ สารและหนว่ ยแยกระวังปอ้ งกัน ในสถานการณ์ท่ีมีการจัดขบวนสัมภาระของกองพันออกเป็น ๒ ส่วนอันประกอบด้วย ขบวนสัมภาระรบ และสัมภาระพัก ขบวนสัมภาระรบจะเคลือ่ นที่ไปกับกองพัน สว่ นขบวนสมั ภาระพักจะอยู่ทพี่ ้ืนที่ขบวนสัมภาระ ของกรมหรือพนื้ ทส่ี นับสนุนของกองพล วิธีรบของ พัน.ม.(ถ.) มีการยิงและการดาเนินกลยุทธ์ กับการยิงและการเคล่ือนที่มีลกั ษณะที่แตกต่างกัน คือ สาหรับการยิงและการดาเนินกลยุทธเป็นการปฏิบัติโดยใช้กาลังแยกเป็นสองส่วน คือ ส่วนดาเนินกลยุทธ์ เคลอ่ื นท่ีเข้าสู่ที่หมาย และอีกส่วนเป็นฐานยิง สว่ นการยิงและการเคล่ือนท่ีจะเป็นการปฏิบัติของส่วนดาเนินกลยุทธ์ ที่แบ่งกาลังออกเป็น ๒ ส่วน ให้ส่วนหนึ่งเคล่ือนที่รุกเข้าสู่ที่หมาย อีกส่วนหนึ่งหยุดทาการยิงคุ้มครอง เมอ่ื ส่วนดาเนินกลยุทธเคลือ่ นท่เี ป็นกลุม่ กอ้ นไม่ได้ และจะกระทาสลบั กนั เทา่ ท่ีจาเป็นจนกว่าส่วนดาเนนิ กลยุทธ์ ทง้ั หมดสามารถเข้าตีเปน็ กลุ่มเปน็ ก้อนได้
๓-๗ ตอนที่ ๓ ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ทหารม้าบรรทุกยากเกราะ มภี ารกิจ คือ เขา้ ประชดิ ข้าศกึ ด้วยการยิงและการดาเนนิ กลยทุ ธ์ เพ่ือทาลายหรือ จบั เป็นเชลย ทาลายการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชดิ และการตโี ต้ตอบ โดยมขี ดี ความสามารถ ดังนี้ ๑. เข้าประชดิ ข้าศกึ ดว้ ยการยงิ และดาเนินกลยุทธ์เพื่อทาลาย หรอื จับเป็นเชลย ๒. ทาลายการเขา้ ตขี องข้าศึกโดยการยงิ การรบประชิด และการตโี ตต้ อบ ๓. แยง่ ยึดภมู ปิ ระเทศ ๔. ดาเนินกลยุทธ์ได้ในภูมิประเทศทุกประเภท และทุกสภาพอากาศ ๕. มคี วามคล่องแคล่วในการเคล่อื นท่ีสงู ๖. ตอ่ สรู้ ถถงั ได้ในขีดจากัด โดยปกติทหารม้าบรรทุกยากเกราะจะทาการรบบนยานรบเป็นหลัก แต่เมือ่ สถานการณ์บีบบังคับหรือ มปี ัญหาจากเคร่ืองกีดขวาง ทหารม้าบรรทุกยานเกราะกจ็ ะทาการลงรบเดนิ ดิน และเมือ่ ยึดที่หมายได้แล้วก็จะรีบ เสริมความม่ันคงและจัดระเบียบใหม่ สถานการณ์ท่ีนามาพิจารณาในการใช้หน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะ หรอื ใชเ้ ปน็ ส่วนปฏิบตั ิหลัก โดยไมต่ ้องมีหน่วยใดมาสมทบ มดี งั น้ี ๑. เมอื่ ทัศนวิสัยจากดั ๒. เมอ่ื มอี าคารบ้านเรอื น หรอื เคร่ืองกดี ขวางธรรมชาติอยา่ งหนาแนน่ ๓. เมือ่ ข้าศกึ มกี ารปอ้ งกันตอ่ สรู้ ถถงั แข็งแรง ๔. ต้องการกวาดลา้ งขา้ ศึกในเขตปฏิบัติการ ๕. ต้องการกวาดล้างข้าศึกในพนื้ ทท่ี ีม่ ีอาคารบา้ นเรือนหนาแน่น เทคนิคการดาเนินกลยุทธ์ของทหารม้าบรรทุกยานเกราะในการรบบนยานรบน้ันคงเป็น เช่นเดียว กับทหารม้ารถถัง คือมีส่วนหนึ่งยิงคุ้มครองการเคลื่อนท่ี ขณะท่ีอีกส่วนหน่ึงทาการเคลื่อนที่เข้าประชิดข้าศึก แต่เมื่อทหารม้าบรรทุกยานเกราะทาการลงรบเดินดนิ ก็จะใช้เทคนิคการดาเนินกลยุทธ์ เช่นเดยี วกับทหารราบ ส่วนรถสายพานลาเลียงพลหรือรถเกราะ ก็จะทาหน้าที่เป็นฐานยิงเพื่อให้การยิงสนับสนุนทหารม้าที่ทาการลงรบ เดินดินด้วยอาวุธท่ีติดตั้งอยู่บนยานรบน้ันๆ เพิ่มเติมด้วยการยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิด, อาวุธต่อสู้รถถัง และ จากปืนใหญ่ที่มาให้การสนับสนุน ในบางกรณีท่ีรถสายพานลาเลียงพลหรือรถเกราะไม่สามารถติดตามเข้าไป ในพื้นท่ีได้เลย ทหารม้าบรรทุกยานเกราะก็จะทาการลงรบเดินดินแล้วดาเนินกลยุทธ์โดยปราศจาก การสนบั สนุนจากยานรบ กองพันทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะ (พัน.ม.(ก.) จะปฏิบัตกิ ารรบตามลาพงั ได้ เมื่อฝ่ายขา้ ศึกเป็นทหารราบ เดนิ เทา้ และเมื่อหนว่ ยไดร้ บั ภารกิจในการเข้าตี, ขยายผลไลต่ ดิ ตาม, เป็นกองหนนุ และเม่ือควบคุมเชลยศึก ในการรบด้วยวิธีรุก พัน.ม.(ก.) สามารถปฏิบัติการตามลาพังได้ แต่ต้องคานึงถึงลักษณะภูมิประเทศ หากเป็นภูมิประเทศที่มีเส้นทางมาก มว.ลว. ของ พัน.ม.(ก.) จะได้รับมอบภารกิจในการทาฉากกาบัง และ มว.ตถ. ทาการสร้างฉากขัดขวางให้กับกองพัน โดยที่ยุทธวิธีของ พัน.ม.(ก.) ข้ึนอยู่กับการยิง และการดาเนินกลยุทธ์ ดังน้ันมาตรการในการควบคุมของ พัน.ม.(ก.) ในการเข้าตี จึงคลา้ ยกับหน่วยดาเนินกลยุทธ์อื่นๆ คือ ท่ีรวมพล, ฐานออกตี, แนวออกตี, ท่ีหมาย, เส้นหลักการรุก, ทิศทางเข้าตี, เส้นข้ัน, จุดตรวจสอบ และจุดพบ ดงั นั้นบทบาทของ พนั .ม.(ก.) ในการเขา้ ตีมักจะไดร้ บั ภารกจิ ดังนี้ ๑. เจาะชอ่ งหรอื รื้อถอนเครอ่ื งกีดขวาง ๒. ช่วยเหลือ ตดั รอน หรือทาลายอาวธุ ตอ่ ส้รู ถถังของขา้ ศึก ๓. กาหนดและระบเุ ปา้ หมายให้กับรถถังทาการยงิ ๔. ปอ้ งกนั รถถังจากมาตรการในการตอ่ สรู้ ถถังเป็นบคุ คล ๕. ทาการเข้าตีดว้ ยการลงรบเดินดนิ เมอื่ จาเป็น
Search