Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 002 ระเบียบแถว 4

002 ระเบียบแถว 4

Published by j.pranomsri, 2022-06-15 07:50:12

Description: 002 ระเบียบแถว 4

Search

Read the Text Version

ฉ. หมวกทรงหม้อตาล ใช้มือขวาจับที่กะบังหน้าหมวกแล้วถอดหมวกพร้อมกับยกมือซ้ายข้ึนมา ประกบกบั มอื ขวาในท่าพนมมอื ให้ด้านในของหมวกหันไปทางซ้าย หนา้ หมวกอยู่ข้างบน ใหก้ ะบงั หนา้ หมวกอยู่ระหว่างฝา่ มือทัง้ สอง และหนีบหมวกไว้ เวลาสงบน่ิง ให้ปฏบิ ตั ิเช่นเดียวกบั หมวกกลาสี ๑๖. ทา่ หมอบ ๑) หมอบ คาบอก “หมอบ” การปฏบิ ตั ิ ก. ก้าวเทา้ ซา้ ยไปขา้ งหนา้ ประมาณ ๑ ก้าว น้าหนักตัวให้อยู่บนเท้าท้ังสอง แขนทง้ั สอง ในขณะน้ยี ังคงอยู่ท่ีเดิม ข. ทรดุ ตัวคกุ เขา่ ขวา และเข่าซ้ายตามลาดับลงจดพ้ืน พร้อมกับตัวลงไป ข้างหน้าและเหยียดแขนทั้งสอง ใช้มือยันพื้น เพื่อรับน้าหนักตัว แล้วเหยียดขาขวาตึง เงยหนา้ ตามองตรงไปขา้ งหนา้ ค. เหยียดเท้าซ้ายให้ส้นเท้าชิดกันและแบะปลายเท้าทั้งสองข้างออกไป ทางซา้ ยและทางขวาให้เต็มที่ลดตัวลงนอนราบกับพื้น งอแขน แล้วใช้น้ิวมือขวามาทับ นิ้วมือซา้ ย (ถงึ แคโ่ คนน้ิว) ฝ่ามือท้ังสองคว่าลงกับพื้น แนวก่ึงกลางระหว่างมือท้ังสอง อยู่ประมาณหน้าผาก (เวลาก้มหน้า) กางศอกท้ังสองออกเต็มท่ี ทาศีรษะให้ต่าและ เงยหน้า ๒) ลุก คาบอก “ลกุ ” การปฏบิ ตั ิ ก. ชดั มือทัง้ สองเขา้ หาตวั พรอ้ มกับยนั พน้ื ยกตวั ข้ึน แล้วชกั เทา้ คุกเขา่ ข. คกุ เขา่ ซา้ ย แลว้ ยกตวั ขนึ้ ยืนโดยเรว็ และนามอื ทั้งสองมาไว้ขา้ งขา ค. ชกั เทา้ ขวามาชิดเทา้ ซา้ ยต่อไปอยูใ่ นลักษณะท่าตรง ถ้าเป็นการเคล่ือนที่ ในภมู ิประเทศ หรอื จะต้องเดนิ ตอ่ ไปไม่ตอ้ งชักเท้าขวาชิด คอื เม่ือยืนข้ึนแล้วก็ออกเดิน ได้เลยทีเดียว ๕๑ เอกสารประกอบการผู้บังคับบัญชาลูกเสอื เพ่ือพฒั นาทักษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสอื

หมายเหตุ ก) ท่าหมอบมอื เปลา่ ใช้ในโอกาสเมอื่ ลูกเสอื จะปฏิบัติ โดยมิได้ถือไม้พลอง หรือไมง้ ่ามกาหนดไว้ เพ่อื ให้เป็นแนวปฏิบตั ิอนั เดยี วกัน ข) การหัดในขนั้ แรก ควรกระทาเปน็ ตอน ๆ เมือ่ ลกู เสอื มคี วามเขา้ ใจดีแล้ว จงึ หัดโดยเปดิ ตอน และให้ปฏบิ ตั ิดว้ ยความรวดเรว็ ต่อไป ๕๒ เอกสารประกอบการผบู้ ังคบั บญั ชาลกู เสอื เพ่อื พฒั นาทักษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสอื

บทท่ี ๓ การฝึ กเป็ นบุคคลท่าถือไมพ้ ลองหรือไมง้ ่าม ๑. ท่าตรง และท่าพักตามระเบียบ ท่าตรงและท่าพักในเวลาถือไม้พลองหรือ ไมง้ ่าม เหมือนกับท่ามอื เปลา่ ท่าตรง (มีอาวุธ) ไม้พลองหรือไม้งา่ มในท่าเรยี บอาวุธ คือลูกเสืออยู่ในท่าตรง ถือไม้พลอง หรือไม้งา่ มดว้ ยมอื ขวา โคนไมพ้ ลองหรือไม้งา่ มอยปู่ ระมาณโคนนว้ิ ก้อย เทา้ ขวาและชดิ กับเท้าขวา ไม้พลองหรือไม้ง่ามอยู่ในระหว่างน้ิวหัวแม่มือกับน้ิวช้ี นิ้วหัวแม่มือจับไม้ พลองหรือไม้ง่ามชิดขา น้ิวอ่ืนอีก ๔ นิ้ว จับไม้พลองหรือไม้ง่ามเฉียงลงไปเบ้ืองล่าง นิ้วเรียงชิดกัน ปลายไม้พลองหรือไม้ง่ามอยู่ในร่องไหล่ขวา ลาไม้พลองหรือไม้ง่ามตั้ง ตรงแนบตวั สาหรับ ท่าพักตามระเบียบ เหมือนกับท่ามือเปล่า มือขวาท่ีถือไม้พลอง หรอื ไม้งา่ ม ใหเ้ ลือ่ นข้ึนมาเสมอเอว แลว้ ย่ืนไมพ้ ลองหรือไม้ง่ามไปขา้ งหน้า เฉียงไปข้าง ขวาประมาณ ๔๕ องศา มือซ้ายไพล่หลัง ให้หลังมือติดตรงก่ึงกลางลาตัวประมาณใต้ แนวเขม็ ขดั โดยมือแบตามธรรมชาตนิ ้ิวเรียงชิดตดิ กนั ๕๓ เอกสารประกอบการผบู้ งั คบั บัญชาลกู เสือเพือ่ พฒั นาทกั ษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

๒. ท่าวันทยาวุธ – เรียบอาวุธ ท่าวันทยาวุธเป็นท่าแสดงความเคารพ ใช้คา บอกวา่ “วนั ทยา - วุธ” ให้ลกู เสือทาจังหวะเดียวโดยยกแขนซ้ายข้ึนมาเสมอแนวไหล่ ศอกงอไปข้างหน้าให้ต้ังฉากกับลาตัว ฝ่ามือแบคว่า รวบน้ิวหัวแม่มือกับน้ิวก้อยจดกัน คงเหลือนว้ิ ชี้ น้วิ กลาง และน้วิ นางเหยียดตรงและชดิ กัน ใหข้ า้ งปลายนิ้วช้ีแตะไม้พลอง หรือไมง้ า่ มในรอ่ งไหลข่ วา เมอื่ เลกิ ทาความเคารพใช้คาบอก “เรียบ - อาวุธ” ให้ลูกเสือลดแขนซ้าย ลงมาอยู่ทเ่ี ดิมโดยเรว็ ถ้าผู้รับการเคารพมาทางขวา (ซ้าย) หรือตรงหน้าจะบอกโดยกล่าว ทิศทางท่ีมาเสียก่อนก็ได้ว่า “ทางขวา (ทางซ้ายหรือตรงหน้า) ระวัง,วันทยา-วุธ” ให้ ลูกเสือทาวันทยาวุธพร้อมกับหันหน้าไปยังผู้รับการเคารพผ่านหน้าตนไปแล้ว ๒ ก้าว จึงหันกลับมาอยู่ในท่าตรง เม่ือผู้รับการเคารพผ่านพ้นแถว ให้ผู้ควบคุมแถวบอกเลิก ทาความเคารพ ทา่ พกั (มีอาวธุ ) ๓. ท่าแบกอาวุธ – เรียบอาวุธ ท่าแบกอาวุธใช้คาบอกว่า “แบก - อาวุธ” ให้ ลกู เสือทาเป็น ๒ จังหวะ จังหวะ ๑ ยกไม้พลองหรือไม้ง่ามด้วยมือขวาผ่านหน้าเฉียดลาตัวไปข้าง ซ้าย ให้โคนไม้พลองหรือไม้ง่ามอยู่ในอุ้งมือซ้ายลาไม้พลองตั้งอยู่ตรงร่องไหล่ซ้าย ๕๔ เอกสารประกอบการผ้บู ังคับบญั ชาลูกเสือเพือ่ พัฒนาทกั ษะด้านระเบยี บแถวลกู เสือ

มือขวาคงจับไม้พลองหรือไม้ง่ามอยู่ที่เดิม ศอกงอไปข้างหน้าแนวเดียวกับไหล่ และ ด้ามพลองหรอื ไม้งา่ มแนบข้างขาซ้าย จังหวะ ๒ มือขวาผลกั ไมพ้ ลองหรอื ไม้งา่ มชิดบา่ พรอ้ มกบั ส่งไม้พลองหรือ ไมง้ ่ามขึ้นบ่าดว้ ยมือซ้ายพร้อมกบั ลดมือขวาลงกลับมาอยู่ในท่าตรง ศอกซ้ายงอ มือต่า กวา่ ศอกเลก็ น้อย ปลายศอกเสมอแนวหลัง ข้อควรระวงั ขณะทล่ี กู เสือทาทา่ แบกอาวธุ จังหวะ ๒ ระวังอยา่ ใหศ้ ีรษะ เคล่ือนหลบ ไม้พลองหรือไม้ง่าม ทรงศีรษะให้คงท่ีเหมือนอยู่ในท่าตรงเสมอ ให้แขน ซ้ายอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องและไม่เคลื่อนไหวปลายไม้พลองหรือไม้ง่ามจึงจะได้ระดับ และไมเ่ ฉไปมา เรียบอาวุธ ใชค้ าบอก “เรียบ - อาวุธ” ให้ลูกเสือทาเป็น ๓ จังหวะ ๆ ๑ ยกมือขวาข้ึน จับไม้พลองหรือไม้ง่าม ศอกขวางอไปข้างหน้าในแนวเดียวกับไหล่ พร้อมกับเหยียดแขนซ้าย โดยลดไม้พลองลงชิดกับลาตัว จังหวะ ๒ นาพลองไม้หรือ ไม้งา่ มด้วยมือขวา มาไว้ข้างลาตัวในร่องไหล่ขวา (แขนขวาเหยียดเกือบสุดระยะท่ีมือ ขวา จับไมพ้ ลองในทา่ เรียบอาวธุ ) ขณะเดยี วกนั ยกมือซา้ ยขนึ้ กันไม้พลองหรือไม้ง่ามท่ี ร่องไหล่ขวา ศอกซ้ายงอไปข้างหน้าในแนวเดียวกับไหล่ จังหวะ ๓ ลดแขนซ้ายอยู่ใน ท่าเรียบอาวุธตามเดิม (ในจังหวะน้ี เหยียดแขนขวาลงสุดระยะท่ีมือขวา จับไม้พลอง อยใู่ นท่าเรยี บอาวธุ โคนไม้พลองหรือไมง้ ่ามจดพ้นื ) ข้อสังเกต ตอนเหยียดแขนขวาจากจังหวะ ๒ ลงสุดระยะท่ีมือขวา จับ ไม้พลองในทา่ เรียบอาวธุ ในจังหวะ ๓ จะรูส้ กึ วา่ โคนไม้พลองหรอื ไม้ง่ามจดพื้น ๔. ท่าถอดหมวก – สวมหมวก ท่าถอดหมวกใช้คาบอก “ถอดหมวก” ทาเป็น จังหวะเดียว ให้ลูกเสือนาไม้พลองหรือไม้ง่ามในมือขวามาไว้ตรงหน้า ให้โคนไม้พลอง หรอื ไม้ง่ามอย่กู ึ่งกลางระหว่างเท้าทั้งสอง ไมพ้ ลองหรือไม้ง่ามส่วนบนพิงแขนซ้ายด้าน ในซ่ึงงอตรงศอก แขนซ้ายท่อนบนชิดลาตัว หน้าแขนตั้งได้ฉากฝ่ามือแบหงาย ขณะเดยี วกันใชม้ ือขวาถอดหมวก (หมวกเบเร่ต์ หมวกทรงหม้อตาล หรือหมวกทรงปีก กวา้ งท่ไี ม่ไดใ้ สส่ ายรดั คาง ถ้าใส่ปลดสายรัดคางออกเสียก่อน) จากศีรษะเอามาวางไว้ บนฝ่ามอื ซ้าย เฉพาะหมวกเบเร่ต์ ใหห้ นา้ หมวกอย่ทู างขวาและหลังหมวกอยู่ทางซ้าย หมวกทรงหมอ้ ตาล ให้ขอบซ้ายอยู่ทางหน้า หน้าหมวกอยู่ทางขวาขอบหมวกด้านขวา ๕๕ เอกสารประกอบการผบู้ งั คบั บัญชาลกู เสอื เพอ่ื พัฒนาทกั ษะด้านระเบียบแถวลูกเสอื

เข้าหาตัว หมวกทรงปีกกว้างให้น้ิวหัวแม่มือซ้ายชูข้ึนชิดขอบในหมวก น้ิวทั้งส่ีติดขอบ หมวกดา้ นนอก หนา้ หมวกหันไปขา้ งขวา แล้วลดแขนขวาใหอ้ ยูใ่ นทา่ ตรงตามเดมิ สวมหมวก ใช้คาบอก “สวมหมวก” ให้ลูกเสือใช้มือขวานาหมวกในมือ ซ้ายข้ึนสวม โดยใช้มือซ้ายช่วยด้วยสาหรับหมวกทรงปีกกว้างใส่สายรัดท้ายทอยให้ เรียบรอ้ ย (ถา้ ก่อนถอดใส่สายรัดทา้ ยทอยไว)้ แล้วใช้มอื ขวาจับไมพ้ ลองหรือไมง้ ่ามทพี่ งิ ไว้กับแขนซา้ ยมาถือไว้ในท่าเรยี บอาวุธตามเดิม ข้อควรจา ท่าถอดหมวก – สวมหมวก ลูกเสือต้องทาด้วยความฉับไว เรียบร้อย ผลที่จะได้จากทา่ นี้ อยู่ทีก่ ารฝกึ บ่อย ๆ ๕. ท่าหนั และการเคลอ่ื นทใี่ นเวลาถอื ไมพ้ ลอง ท่าหันในเวลาถือไม้พลอง หรือ ไม้งา่ ม ใช้คาบอกและวธิ ีปฏิบัติเหมือนท่าอยู่กับที่มือเปล่า ถ้าหันขณะท่ีไม้พลองอยู่ใน ทา่ เรียบอาวุธ เพื่อให้การหันสะดวกขณะหันยกหรือไม้พลองไม้ง่ามในมือขวาให้พ้นพื้น เลก็ น้อย เมอ่ื หันเสรจ็ แลว้ ลดมือขวาลงใหไ้ ม้พลองหรือไม้งา่ มจดพ้นื การเคล่ือนท่ีในเวลาถือไม้พลองหรือไม้ง่าม เหมือนกับการเคล่ือนที่มือ เปล่า ท้ังในการใช้คาบอกและวิธีปฏิบัติ ตามปกติเม่ือจะให้เคล่ือนท่ีผู้ควบคุมแถวต้อง บอกให้แบกอาวุธเสียก่อน แล้วจึงสั่งให้เดินในท่าเดินแบกอาวุธอยู่ในแถวควบคุม เม่ือ จะทาความเคารพผู้ควบคุมแถวบอก “แลขวา (ซา้ ย) - ทา” ให้ลูกเสือหันหน้าไปยังผู้รับ การเคารพ แขนแกว่งตามปกติ และรักษาท่าแบกอาวุธไว้คงเดิม เมื่อพ้นผู้รับการ เคารพแลว้ หันหนา้ แลตรงเอง ถา้ ลกู เสืออยู่ในท่าแบกอาวุธเคลื่อนที่ไปตามลาพัง เม่ือจะทาความเคารพ ให้ลดไม้พลองหรอื ไมง้ า่ มลงจากทา่ แบกอาวุธมาเป็นท่าเรียบอาวุธ จังหวะ ๑ เพียงมือ ขวาท่ยี กขนึ้ มาจับไมพ้ ลองในรอ่ งไหล่ซา้ ยน้ัน ให้จดั นิ้วเหมือนท่ารหสั ของลูกเสือ ฝ่ามือ แบควา่ ใหข้ า้ งปลายนว้ิ ช้ีแตะไมพ้ ลองหรือไมง้ ่าม ศอกงอไปข้างหน้าในแนวเดียวกับไหล่ หันหน้าไปยังผู้รับการเคารพที่ยืนหรือเดินอยู่ (สวนมาหรือเดินไป) เม่ือผ่านผู้รับการ เคารพไปแล้วเลิกทาความเคารพ โดยใช้มือซ้ายดันไม้พลองข้ึนไปยู่ในท่าแบกอาวุธ ดงั เดิม พร้อมกบั หันหน้าแลตรง ลดแขนขวาลง แขนแกวง่ ต่อไปในทา่ เดินตามปกติ ๕๖ เอกสารประกอบการผบู้ งั คับบญั ชาลูกเสอื เพือ่ พฒั นาทักษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสือ

ในการเคล่ือนทดี่ ว้ ยท่าแบกอาวธุ เมือ่ ผคู้ วบคมุ แถวบอก “เดินตามสบาย” ลกู เสอื จะเปล่ียนทา่ แบกอาวุธจากบ่าซ้ายมาบ่าขวาก็ได้ แต่เม่ือบอกให้เดินเข้าระเบียบ แลว้ ต้องจดั ไมพ้ ลองหรือไมง้ ่ามไปไว้ในบา่ ซ้ายตามเดิม เมื่อผู้ควบคุมแถวบอกให้แถวหยุด ลูกเสือหยุดอยู่ในท่าแบกอาวุธ จนกวา่ ผคู้ วบคุมแถว จะสั่งให้เรียบอาวุธหรือสั่งเป็นอย่างอื่นต่อไป ถ้าเคลื่อนที่ไปโดย ไม่บอกให้แบกอาวุธ หรือไปในระยะใกล้ ๆ เพ่ือจัดแนวหรือระยะต่อระยะเคียงของ ขบวนหรือเคล่ือนท่ีไปในท่าคอนไม้พลองหรือไม้ง่าม โดยยกไม้พลองหรือไม้ง่าม ให้ ปลายไม้พลองหรือไม้ง่ามเอนไปข้างหน้าโคนไม้พลองหรือไม้ง่ามคล้อยไปข้างหลัง พ้น พ้ืนแนวไม้พลองหรือไม้ง่ามเฉยี งกับลาตวั พอประมาณ เม่ือคอนไม้พลองหรือไม้ง่ามอยู่ในแถวควบคุม และผ่านผู้รับการเคารพ ผู้ควบคุมแถว ไม่ต้องบอกแถวทาความเคารพ ผู้ควบคุมแถวคงทาความเคารพตาม ลาพงั แต่เพยี งผู้เดียว ถ้าลูกเสือคอนไมพ้ ลองหรอื ไมง้ ่ามไปโดยลาพงั แต่ผเู้ ดียวเมื่อผ่านผู้รับการ เคารพให้ลูกเสือทาความเคารพด้วยท่าแลขวา (ซ้าย) โดยแนบไม้พลองหรือไม้ง่ามชิด ลาตัว แขนไม่แกว่ง เมื่อผ่านพ้นผู้รับการเคารพไปแล้วหันหน้าแลตรง แขนแกว่งตาม สบาย ๖. ท่าหมอบ – ลุก ท่าหมอบในขณะถือไม้พลอง ใช้คาบอก “หมอบ” ให้ลูกเสือ ปฏบิ ตั ดิ ังนี้ ก. กา้ วเท้าซ้ายไปขา้ งหนา้ ๑ ก้าว พรอ้ มกับส่งไม้พลองหรือไม้ง่ามให้มือ ซ้ายถอื ในท่ที ถ่ี นัด ข. ทรุดตวั ลงคกุ เข่าขวา ใชม้ อื ขวายนั พ้ืน ศอกซ้ายวางพาดขาซ้ายท่อนบน ค. ปล่อยตัวนอนคว่าลงไปโดยเร็ว ให้ไม้พลองหรือไม้ง่ามอยู่ข้างตัว ทางขวา มือขวาช่วยรองรับไม้พลองหรือไม้ง่ามกระชับไว้ข้างตัว แขนซ้ายท่อนล่าง ทอดไปขา้ งหน้ามาก ๆ และวางไว้ใหข้ วางกบั ความยาวของลาตวั เม่อื บอกว่า “ลุก” ให้ลูกเสือทากลบั กัน คอื ก. ผลักตัวลุกข้ึนน่ัง คุกเข่าขวา หยิบไม้พลองหรือไม้ง่ามใส่ในมือซ้าย ให้ศอกซา้ ยพาดขาซ้ายท่อนบน มือขวายันพนื้ ๕๗ เอกสารประกอบการผู้บงั คับบัญชาลกู เสอื เพ่ือพัฒนาทักษะด้านระเบยี บแถวลูกเสอื

ข. ทรงตัวยืนขึ้น เท้าซ้ายอยู่ในลักษณะเดิม คืออยู่ข้างหน้า ๑ ก้าว ไมพ้ ลองหรอื ไม้งา่ มยงั อยูใ่ นมือซ้าย ค. ชกั เทา้ ซ้ายชิดพร้อมกับสง่ ไมพ้ ลองหรือไม้ง่ามให้มือขวา และอยู่ในท่า เรียบอาวุธ ข้อแนะนา ในการหัดครั้งแรก ควรให้ทาปิดจังหวะไปทีละตอน เม่ือเห็น ว่าคล่องดีแลว้ จึงให้ทารวดเดียว หมายเหตุ ท่าหมอบ – ลกุ ในขณะทม่ี ไี ม้พลองหรือไมง้ ่าม ๕๘ เอกสารประกอบการผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสือเพอื่ พัฒนาทักษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

บทที่ ๔ การฝึ กใชไ้ มพ้ ลองหรอื ไมง้ ่ามป้ องกนั ตวั ๑. ความประสงคใ์ นการฝกึ ๑.๑ ธรรมดาผู้ซ่ึงถือสิ่งใดเป็นอาวุธประจาตัว ผู้นั้นควรจะได้รู้จักวิธีใช้ อาวธุ นัน้ ๆ ให้เปน็ ประโยชน์เฉพาะลกู เสือซึ่งมีไม้พลองหรือไม้ง่ามเป็นอาวุธประจาตัว จึงตอ้ งมีความรูใ้ นการใชไ้ ม้พลอง หรอื ไม้ง่ามปอ้ งกนั ตวั เม่ือมเี หตุจาเป็นเกดิ ขึ้น ๑.๒ ลกู เสือจะมคี วามรคู้ วามสามารถใช้ไม้พลองหรือไม้งา่ มป้องกนั ตัวได้ นั้น ต้องได้ฝึกจนมีความชานาญและม่ันใจในการใช้ไม้พลองหรือไม้ง่ามของตน นอกจากนี้ตอ้ งคลอ่ งแคล่วและมไี หวพริบทจ่ี ะชงิ ทาอนั ตรายคตู่ อ่ สู้ได้ก่อน และมคี วามรู้ ที่จะปัดปอ้ งตนใหพ้ น้ อันตรายได้ ไมว่ า่ จะมคี ตู่ ่อสู้มากน้อยเพียงใด ๑.๓ ลูกเสือทุกคนควรคิดอยู่เสมอว่า เมื่อมีความจาเป็นต้องป้องกันตน แล้ว ต้องพยายามทาลายคู่ต่อสู้เสียโดยเร็ว เพื่อให้รอดพ้นอันตราย และน่ันคือมี ความรู้ในการใช้ไม้พลองหรอื ไม้ง่ามปอ้ งกันตนได้ ๒. ท่าแทงและทา่ ปดั ท่าแทงทาจากท่าเตรียมแทงโดยใช้คาบอกว่า “เตรียมแทง” ให้ก้าวเท้า ซ้ายไปข้างหน้า ๑ ก้าว (ส้ันยาวตามถนัด) พร้อมกันน้ันพุ่งไม้พลองหรือไม้ง่ามไป ข้างหน้า มือซ้ายยกมือขึ้นรับไม้พลองหรือไม้ง่าม มือขวาจับไม้พลองหรือไม้ง่าม ใต้ มอื ซ้ายและแนบตดิ กับเขม็ ขัด มือซ้ายกาไมพ้ ลองหรอื ไมง้ า่ มแน่น ขอ้ ศอกขวากระชับ ไม้พลองหรือไม้ง่ามให้แน่นติดกับตัว ปลายไม้พลองหรือไม้ง่ามสูงเสมอตาอยู่ในแนว ตาซ้าย เข่าซ้ายงอเล็กน้อย ขาหลังซ่ึงเป็นหลักตึง ยืนเต็มฝ่าเท้าท้ังสองข้าง นา้ หนกั ตวั อยู่กึ่งกลางระหว่างเท้าท้ังสองหลังและศีรษะเป็นแนวเดียวกัน พยายามทา ใหต้ ัวเปน็ ท่หี มายเลก็ ถา้ จะทาให้เทา้ ขวาอย่ขู า้ งหน้า ก็ทาได้โดยบอกว่า “เท้าขวาอยู่ หนา้ - เตรียมแทง” ส่วนสัดคงเช่นเดยี วกบั เท้าซา้ ยอย่หู น้าแตธ่ รรมดาแล้วเม่ือบอกว่า เตรียมแทงเท้าซ้ายอยู่หนา้ เสมอ ๕๙ เอกสารประกอบการผูบ้ งั คับบัญชาลูกเสอื เพอ่ื พฒั นาทักษะดา้ นระเบยี บแถวลูกเสือ

เมอ่ื จะใหเ้ ลิกจากทา่ เตรียมแทง ให้บอกว่า “เรียบ - อาวุธ” ให้ลูกเสือ ปลอ่ ยมือขวาไปจับไม้พลองหรือไมง้ า่ มชดิ มือซา้ ยประมาณทจ่ี บั ในท่าเรียบอาวุธ ลดไม้ พลองหรือไม้ง่ามเขา้ ไปอยูใ่ นทา่ ตรงพรอ้ มกบั ปล่อยมือซ้าย ขณะอยใู่ นทา่ เตรยี มแทงนน้ั เมอื่ จะให้พักให้ใช้คาบอกว่า “พัก” ให้เอามือ ขวาจับชิดมือซ้ายดังกล่าวในวรรคก่อนลดไม้พลองหรือไม้ง่ามลงมา วางไม้พลองหรือ ไม้ง่ามอยู่ในระหว่างเท้าซ้ายและเท้าขวา เท้าซ้ายและเท้าขวาคงแยกอยู่ตามเดิม เข่า ซา้ ยยืดตรง เมื่อจะใหท้ าท่าเตรียมแทงต่อไปให้บอกว่า “เตรียมแทง” ลูกเสือคงพุ่งไม้ พลองหรอื ไมง้ า่ มไปอยใู่ นท่าเตรยี มแทงตามเดิม ทา่ แทงแบง่ ออกเป็น ๓ ทา่ คอื ก. แทงไกล ข. แทงใกล้ ค. แทงเสย ก. แทงไกล ใช้แทงเม่ือมีหมายอยู่ห่างจากผู้แทงประมาณ ๓ ก้าว คาบอกเมื่อจะให้แทงไกลให้ใช้คาบอกว่า “แทงไกล - แทง” ให้ลูกเสือซัดไม้พลองหรือ ไมง้ ่ามอยใู่ นระหว่างช่องรักแร้ บีบแขนขวาท่อนบนให้แน่น โน้มตัวไปข้างหน้าให้มาก จนขาซึ่งอยู่ข้างหลังตึงลาตัวท้ังท่อนบนและท่อนล่างเป็นแนวเดียวกัน เท้าซ่ึงอยู่ ข้างหน้ายันอยู่กับพื้นดินเต็มฝ่าเท้าและงอเข่าให้มาก (ระวังอย่าให้เท้าหลังเปิด) ตา มองดูที่หมาย เมื่อแทงแล้วปล่อยมือซ้ายเอื้อมไปข้างหน้า แล้วจับใกล้ปลายไม้พลอง หรือไม้ง่ามมากที่สุด ดึงไม้พลองหรือไม้ง่ามกลับมาอยู่ในท่าบังตัวโดยเร็ว แล้วส่งไม้ พลองหรือไมง้ ่ามไปอยใู่ นทา่ เตรียมแทง ในการฝึกขั้นต้นเพื่อให้ลูกเสือมีความชานาญและถูกต้อง ให้ฝึกปิด จังหวะเสียก่อน การฝกึ ปดิ จังหวะให้ฝึกดังนี้ ท่าแทงไกล ให้ใช้คาบอกว่า “แทงไกล อย่าเพ่ิงชักอาวุธกลับ - แทง” ลูกเสือคงกระทาดังความในข้อ ก. แต่ยังไม่ชักไม้พลองหรือไม้ง่ามกลับ คร้ันแล้วให้ บอกว่า “บังตัว” ให้ลูกเสือชักไม้พลองหรือไม้ง่ามเข้ามาจนมือซ้ายชิดกับเข็มขัด ไม้พลองหรือไม้ง่าม ตรงขนานกับพื้นดิน ขาหน้าตึง ขาหลังงอ คร้ันแล้วบอกว่า “ต่อไป” ใหล้ กู เสอื สง่ ไม้พลองหรือไมง้ า่ มไปอยู่ในท่าเตรยี มแทงตามเดมิ ๖๐ เอกสารประกอบการผู้บังคับบัญชาลกู เสอื เพื่อพฒั นาทกั ษะดา้ นระเบียบแถวลูกเสือ

ข. แทงใกล้ ใช้แทงเม่ือท่ีหมายอยู่ห่างจากผู้แทงประมาณ ๒ ก้าว ใช้ คาบอกวา่ “แทงใกล้ - แทง” ให้เลื่อนมือซ้ายไปจับไม้พลองหรือไม้ง่ามเหนือตาบลที่จับ ไว้เดิม แล้วดึงไม้พลองหรือไม้ง่าม ถอยมาข้างหลังด้วยกาลังมือซ้ายจนแขนซ้ายท่อน บนชิดกับตัว แล้วซัดไม้พลองหรือไม้ง่ามไปยังท่ีหมายจนแขนซ้ายตึง พร้อมกับโน้ม นา้ หนกั ตวั ไปขา้ งหน้าให้มาก ทา้ ยไม้พลองหรอื ไมง้ ่ามเขา้ ไปอยูใ่ นรกั แร้ เมอื่ แทงแลว้ เล่อื นมือขวาไปจบั ไมพ้ ลองหรือไมง้ ่ามให้ชดิ กบั มือซ้าย ดึงไม้ พลองหรือไมง้ ่ามออกจากท่ีหมายมาอยู่ในท่าบังตัว แล้วส่งไม้พลองหรือไม้ง่ามกลับไป อย่ใู นทา่ เตรยี มแทงโดยเร็ว สาหรบั การปิดจังหวะท่าแทงใกล้นี้ ใหใ้ ช้คาบอกว่า “แทงใกล้อย่าเพ่ิงชัก อาวุธกลับ - แทง” ให้ลูกเสือกระทาดังความในข้อ ข. คือเลื่อนมือซ้ายไปจับไม้พลอง หรือไม้ง่ามเหนือตาบลที่จับเดิมไว้แล้ว ชักไม้พลองหรือไม้ง่ามมาข้างหลังขนซ้ายท่อน ล่างตดิ กบั ตวั แล้วซดั ไม้พลองหรือไม้ง่ามตรงไปยังท่หี มายโดยแรงจนสุดแขนซ้าย โน้ม ตวั ไปข้างหน้าใหม้ ากทีส่ ุด เมอื่ บอกว่าบังตัว ให้ใช้มือขวาไปจับใต้มือซ้ายดังท่ีกล่าวแล้ว ข้างต้น ดึงไม้พลองกลับจนชิดตัวโดยแรง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ เมื่อบอกว่า “ต่อไป” ใหส้ ง่ ไมพ้ ลองหรือไมง้ า่ มไปอยู่ในท่าเตรียมแทงตามเดิม ค. แทงเสย ใช้แทงในระยะประชิดคือตั้งแต่ระยะต่ากว่า ๑ ก้าว เช่น ในขณะท่ีต่อส้กู นั ในคูหรือทแี่ คบ ๆ ซึง่ ไมม่ รี ะยะพอท่ีจะใชท้ า่ แทงอย่างอ่ืนได้ถนัด ที่ หมายแทงมักใชท้ ี่ใต้คาง หรือท่ีลาคอ คาบอกให้ใช้ว่า “แทงเสย - แทง” ให้ลูกเสือดึง ไม้พลองหรอื ไม้งา่ มดว้ ยมือท้งั สอง ตง้ั ปลายไมพ้ ลอง หรือไมง้ า่ มขน้ึ ให้ไมพ้ ลองหรือไม้ ง่ามใกล้กับตัว มือซ้ายอยู่ข้างบนมือขวาจับอยู่ใต้มือซ้ายเล็กน้อย มือท้ังสองกาไม้ พลองหรือไม้ง่ามแน่น ไม่ให้ไม้พลองหรือไม้ง่ามแกว่ง งอเข่าทั้งสองลงให้มากแล้ว แทงเสยดว้ ยกาลงั มือทงั้ สองข้าง พรอ้ มอาการยดื ตัวข้ึนเขา่ ตึง แล้วชักไมพ้ ลองหรือไม้ ง่ามกลบั ไปอย่ใู นเตรยี มแทงโดยเร็ว สาหรบั การปิดจังหวะในท่าแทงเสยนี้ ให้ใช้คาบอกว่า “เตรียมแทงเสย” ให้ลูกเสือกระทาดังข้อ ค. เพียงตอนงอเข่าท้ังสองข้างลงและพร้อมท่ีจะแทงเสยเมื่อ บอกวา่ “ต่อไป” ใหแ้ ทงเสยโดยอาการยดื ตัวขน้ึ พร้อมกับพับศอกท่ีงอชิดลาตัวเม่ือบอก ว่า “บงั ตวั ” ชกั ไม้พลองหรือไม้ง่ามลงมาโดยเร็ว พร้อมกับย่อเข่าลงทั้งสองข้างเม่ือ บอกวา่ “ตอ่ ไป” ใหพ้ งุ่ ไม้พลองหรือไม้ง่ามไปอยู่ในท่าเตรยี มแทงตามเดมิ ๖๑ เอกสารประกอบการผู้บงั คบั บญั ชาลูกเสอื เพ่ือพฒั นาทกั ษะดา้ นระเบยี บแถวลกู เสือ

ในการแทงทุกๆ ท่าท่ีกล่าวมาแล้ว ให้แทงโดยใช้กาลังมือท้ังสองข้าง ซัด ไมพ้ ลองหรือไม้ง่ามไปโดยแรงพร้อมกับกระแทกน้าหนักตัว (ถ้าจะต้องซัดเท้าเมื่อแทง ด้วยกต็ อ้ งซัดเทา้ และแทงในขณะเดียวกัน) ตาต้องจับที่หมายอยู่เสมอ กับต้องแทงได้ ไม่เลือกว่าเท้าใดอยู่หน้าหรือหลัง เม่ือได้แทงไปแล้วให้บังตัว แล้วซัดไม้พลองหรือไม้ ง่ามไปอยู่ในทา่ เตรียมแทง ถ้ามีความประสงค์จะแทงไกล ใกล้ หรือแทงเสย ก็ให้เอา ไมพ้ ลองหรอื ไม้งา่ มกลบั มาใหมใ่ นทา่ แทงนัน้ ทันที ไม่ตอ้ งไปทาทา่ เตรียมแทงเสียกอ่ น การซัดเท้าหลังนั้นให้ซัดพร้อมกับแทง การซัดเท้าคือการก้าวเท้าไป ข้างหน้า จะเป็นก่กี า้ วก็ตามสุดแต่ระยะ ซ่ึงที่หมายต้ังอยู่ แต่ตามธรรมดาในการหัดให้ ซดั เท้าไปเพียง ๑ ก้าวเท่านั้น เม่ือแทงไปแล้วก้าวไปข้างหน้า ๓ ก้าว แล้วกลับหลังหัน โดยทาท่าเฉียงอาวุธ แลว้ หยดุ อยใู่ นท่าเตรยี มแทง สาหรับท่าซัดเท้าหลังนี้ เม่ือต้องการจะให้ลูกเสือทาให้ใช้คาว่า “ซัดเท้า หลังแทงไกล - แทง” (หรือแทงใกล้หรือแทงเสย) ให้ทาตามที่กล่าวไว้ เมื่อจะให้ปิด จังหวะให้บอกเป็นคาส่ังว่า เมื่อแทงและซัดเท้าไปแล้วอย่าเพ่ิงเคล่ือนท่ีไปข้างหน้า เมอื่ ตรวจเห็นลูกเสือกระทาถกู ต้องแลว้ บอกวา่ “ต่อไป” ให้ลูกเสือเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และกลบั หลังหนั โดยทาท่าเฉียงอาวุธแล้วหยดุ อยู่ในท่าเตรยี มแทง ท่าปดั มปี ระโยชน์สาหรับปัดอาวุธคู่ต่อสู้ ซึ่งแทงมายังเราน้ันให้พลาดไป ท่าปดั น้มี อี ยู่ ๒ ทา่ คอื ท่าปัดขวาและทา่ ปดั ซ้าย คาบอกในทา่ ปัดน้ี คือ “ปดั ขวา - ปัด” ให้เหยียดแขนซา้ ยเบนไม้พลองหรอื ไม้ง่ามไปทางขวาโดย แรงอย่าพลิกข้อมือและอย่าให้ตัวเคล่ือนที่ตามไม้พลองหรือไม้ง่ามไป แล้วนาไม้พลอง หรอื ไมง้ ่ามกลบั ไปอยูใ่ นทา่ เตรียมแทง “ปดั ซา้ ย - ปดั ” ทาเหมือนปดั ขวา แตเ่ บนไมพ้ ลองหรอื ไมง้ ่ามไปทางซ้าย การปัดน้ี จะปัดสูงต่าเพียงไรย่อมแล้วแต่อาวุธของคู่ต่อสู้ที่แทง ฟัน หรือตีมา ๓. ทา่ แทงในทิศทางต่างๆ เม่อื ทาการต่อสู้ต้องพยายามทาลายคู่ต่อสู้ให้เร็วที่สุดท่ีจะเร็วได้ และทั้ง ต้องเคลือ่ นท่ี เปลย่ี นทิศทางไปมาและหันไปทาลายคตู่ อ่ สู้ไดท้ ุกทาง ๖๒ เอกสารประกอบการผู้บงั คับบัญชาลกู เสอื เพื่อพัฒนาทกั ษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสอื

การหนั ไปแทงคู่ต่อสู้น้ัน กระทาได้ทั้งการแทงอยู่กับที่และแทงในทิศทาง ต่าง ๆ และการซัดเท้า แต่มีหลักว่าการหันกึ่งขวาและซ้ายน้ัน เท้าหลังต้องเป็นหลัก อยู่กบั ที่เสมอ คงเปล่ียนแต่เท้าหน้าไปตามทิศทาง ซึ่งผู้ฝึกบอกหรือส่ัง หรือในทิศทาง ซ่ึงต้องการทาลายคู่ต่อสู้ ส่วนการกลับหลังหันแทงน้ันให้ใช้เท้าหน้าเป็นหลัก หันไม้ พลองหรือไม้ง่ามอยู่ในท่าเฉียงอาวุธ หมุนตัวไปข้างขวาจนอยู่ในท่ากลับหลังหันที่ ถูกตอ้ งแลว้ ฟาดไมพ้ ลองหรือไม้ง่ามลงพร้อมกับแทง การแทงตามคาบอกเหล่าน้ี เม่ือ แทงไปแล้วใหบ้ งั ตัว และหันกลับมาในทศิ ทางเดิมพรอ้ มกบั ส่งไมพ้ ลองหรือไม้ง่ามไปอยู่ ในทา่ เตรยี มแทงทกุ ครัง้ ตอ่ ไป การหมุนตัว หันกลับมาทางทิศทางเดมิ ก่อน ส่งไม้พลองหรือไม้ง่ามไปอยู่ ในทา่ เตรียมแทงน้นั ตอ้ งทาจากทา่ เฉยี งอาวธุ ท่าเฉียงอาวุธ กระทาดังน้ี มือขวายกไม้พลองหรือไม้ง่ามผ่านหน้าลาตัว เฉยี งไปทางซา้ ย มือซ้ายจับไม้พลองหรือไม้ง่ามเสมอกับไหล่ซ้าย แขนท่อนล่างขวาอยู่ ประมาณแนวเขม็ ขดั ท่าเฉียงอาวุธน้ีใชใ้ นการก่อนวิง่ เขา้ แทงท่ีหมาย การใช้ท่าแทงและปัดในขณะท่ีทาการต่อสู้ ลูกเสือต้องมีไหวพริบเลือกใช้ ท่าแทงให้เหมาะกับเหตุการณ์และโอกาสในขณะต่อสู้ นอกจากน้ันต้องระลึกถึงการ ช่วยเหลือเพอ่ื นลูกเสือขา้ งเคียงของตน อยู่เสมอ ส่วนสาคัญของร่างกายซ่ึงควรจะเลือกเป็นท่ีหมายแทงน้ัน จาเป็นต้อง แทงให้ถูกเพียงคร้ังเดียว แล้วให้คู่ต่อสู้หมดความรู้สึกทันทีไม่สามารถจะต่อสู้เราได้ ตาแหน่งที่สาคัญเหล่านี้คือ ก. ทีล่ าคอ เปน็ ท่ีสว่ นสาคญั ทส่ี ดุ ข. ที่หน้าอก หน้า ใต้ช่องท้อง ตะโพก บริเวณท้องน้อยและข้างหลัง บริเวณไต ส่วนของร่างกายเหล่านี้เป็นตาแหน่งท่ีสาคัญเช่นเดียวกัน ฉะนั้นจึง จาเปน็ ต้องพยายามปกปดิ ร่างกาย อยา่ ให้คู่ต่อสู้แทงถูกบริเวณตามท่ีกล่าวแล้วนี้ และ ในทางตรงกันข้ามต้องพยายามแทงคู่ต่อสู้ให้ถูกตามบริเวณที่สาคัญดังกล่าวมาแล้ว ด้วย นอกจาก การต่อสู้ด้วยการใช้แทงแล้ว ต้องรู้จักต่อสู้ด้วยวิธีอื่น เช่นการ ใช้ไมพ้ ลองหรอื ไม้ง่ามตี ๖๓ เอกสารประกอบการผบู้ ังคบั บัญชาลูกเสือเพอ่ื พัฒนาทกั ษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสือ

การใช้ไม้พลองหรือไม้ง่ามตีนั้นให้กระทาดังต่อไปน้ีให้ตีทางโคนไม้พลอง หรือไม้งา่ ม โดยงอแขนซา้ ยดงึ ไม้พลองหรือไม้ง่ามเข้ามาให้ใกล้ตัว พร้อมกับเหว่ียงมือ ขวาซึ่งกาไม้พลองหรือไม้ง่ามอยู่น้ัน กระแทกไม้พลองหรือไม้ง่ามออกไปเป็นวง (คล้ายเหวยี่ งโดยแรง) ให้ไมพ้ ลองหรอื ไมง้ า่ มซึง่ ตีไปนั้นถูกตรงส่วนสาคัญแห่งร่างกาย คู่ต่อสู้โดยแรงคือตที ี่คาง บริเวณหนา้ ท่สี าคญั และขมับ เม่ือทาท่าตีตามที่กล่าวมาแล้ว ให้ฟาดไม้พลองหรือไม้ง่ามลงบนศีรษะคู่ ต่อสู้โดยแรง ในเมอ่ื จะนาไมพ้ ลองหรอื ไมง้ า่ มกลับมาในท่าเตรยี มแทงอีก การทาทา่ ตตี ามท่ีกล่าวมาแล้วนี้ ให้คงดาเนินการหัดเช่นเดียวกับท่าแทง ทุกประการ กล่าวคือให้ทาท่าตีได้ท้ังเท้าซ้ายและเท้าขวาอยู่หน้า และให้มีความรู้ ความสามารถที่จะตีพร้อมกับซัดเท้าหรือหันไปตีทางข้างได้เช่นเดียวกับท่าแทง เหมือนกัน คาบอกสาหรบั การบอกหัดท่าตีนี้ ให้บอกวา่ “ตี - ทา” คงทาตามที่กล่าว มาแลว้ ถ้าจะให้ปิดจังหวะใช้คาส่ัง ให้ทาเป็นตอน ๆ ตอนท่ี ๑ ให้อยู่ในท่ากาลังตี เม่ือ บอกว่า “ต่อไป” ให้อยู่ในท่าฟาดไม้พลองหรือไม้ง่ามลงบนศีรษะคู่ต่อสู้ แล้วอยู่ในท่า เตรยี มแทง ถ้าไม้พลองหรือไม้ง่ามหลุดมือไม่มีอาวุธจะต่อสู้และไม่สามารถจะหยิบ อาวุธขน้ึ มาได้กต็ อ้ งพยายามหาโอกาสเข้าแยง่ อาวุธคู่ต่อส้แู ละทาลายคู่ต่อสู้ทันที จะใช้ วิธีใด ๆ ก็ได้ท้ังสิ้น ตัวอย่างเช่น เม่ือคู่ต่อสู้ซัดอาวุธมาให้เบ่ียงตัวหลบไปทางใดทาง หน่ึงตามถนัด จับอาวุธคู่ต่อสู้ให้แน่น กระชากให้ตัวคู่ต่อสู้ตามเข้ามา ใช้เท้าขวาหรือ ซา้ ยซดั ขาคู่ต่อสู้ (ทุ่มตะโพก) หกั ไม้พลองหรือไม้ง่ามเอนพบั ลงไปขา้ งตัวคู่ต่อสู้โดยแรง จนปลายไม้พลองหรือไม้ง่ามต่ามากท่ีสุดท่ีจะต่าได้ คู่ต่อสู้จะเสียหลักและอาวุธของคู่ ตอ่ สจู้ ะตกอยู่ในกามอื เรา ต่อนน้ั ไปก็กลับใช้อาวุธน้นั ทาลายค่ตู ่อสตู้ ่อไป ๖๔ เอกสารประกอบการผบู้ ังคับบญั ชาลูกเสือเพอ่ื พฒั นาทกั ษะดา้ นระเบียบแถวลูกเสือ

ตอนท่ี ๕ การฝึกเป็นหมู่ และกอง บทที่ ๑ ความมุ่งหมายในการฝึ กเป็ นหมู่ และกอง หมเู่ ปน็ หนว่ ยลูกเสือท่ีเล็กท่ีสุด ซ่ึงเป็นส่วนหนึ่งของกองและกลุ่มลูกเสือ ตามกาลังทกี่ ลา่ วแลว้ ขา้ งตน้ ฉน้ันหมูจ่ ึงเปน็ รากฐานของกองและกล่มุ ตามลาดับ การฝึกหมู่ และกอง มุ่งหมายที่จะฝึกให้ลูกเสือรู้จักปฏิบัติหน้าที่ของตน และหน้าที่ท่ีจะต้องปฏิบัติร่วมกันในเม่ือเข้ามาอยู่รวมกันเป็นหมู่และกอง กับท้ัง สามารถทาการแทนกันไดไ้ มว่ า่ ในหน้าท่ใี ด การฝึกเป็นบุคคลเป็นการฝึกข้ันต้นของการฝึกหมู่ และดาเนินไปใน ระหวา่ งฝกึ หมดู่ ้วยเพราะหม่มู ีกาลงั ไม่มากนักพอท่ผี ้ฝู กึ จะตรวจตราแกไ้ ขขอ้ บกพร่องใน การปฏิบัติ และให้คาอธิบายแกล่ กู เสือเปน็ บคุ คลไดท้ ั่วถงึ เช่นเดยี วกันการฝึกกองก็เป็นการฝึกให้ลูกเสือ และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ประจาหนว่ ยตา่ ง ๆ ใหป้ ฏิบัติการร่วมกันตามลักษณะของการฝึกเปน็ กองไดถ้ ูกตอ้ ง ๖๕ เอกสารประกอบการผบู้ ังคับบัญชาลูกเสอื เพือ่ พัฒนาทักษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

บทที่ ๒ การฝึ กระเบียบแถวของหมู่ การฝึกระเบียบแถวของหมูม่ ีความม่งุ หมาย คือ (๑) ให้ลกู เสือรจู้ ักทาการเคารพและเคลื่อนไหวเป็นหมู่อย่างเป็นระเบียบ เรยี บรอ้ ย (๒) อบรมวินัยของลูกเสือและความพร้อมเพรียงในการปฏิบัติท่าต่าง ๆ ทตี่ อ้ งทาด้วยกนั ให้ถูกต้องและแขง็ แรง เหตนุ กี้ ารฝกึ แถวชิดจึงต้องกระทาอย่เู สมอ การฝกึ แถวชดิ รปู ขบวน รปู ขบวนของหมู่ มีแถวตอนและแถวหน้ากระดาน แถวตอนของหมู่มีแถวตอนเรียง ๑ แถวหน้ากระดานของหมู่ มีแถวหน้า กระดานแถวเดีย่ ว แถวตอนเรียง ๑ รองนายหมู่ลูกเสือเป็นหลักอยู่หน้านายหมู่ลูกเสือ ๖ กา้ ว ลูกเสอื อื่นเข้าแถวซ้อนกนั ไปข้างหลังในแนวลึกยืนตรงคอคนหน้าระยะต่อ ๑ ก้าว (ประมาณ ๑ ช่วงแขน) แถวหน้ากระดาน รองนายหมู่ลูกเสือเป็นหลัก อยู่หน้านายหมู่ลูกเสือ ๖ ก้าว ลูกเสืออ่ืน ๆ เข้าประจาที่ทางซ้ายของหลัก เรียงตามลาดับตาแหน่งจากขวามา ซ้ายระยะเคียง ๑ ก้าว (ช่วงแขน) หรือนัยหน่ึงรูปแถวกระดานแถวเดียวของหมู่ จัด รูปขบวนอย่างแถวตอนเรียง ๑ เม่ือทาซา้ ยหนั และมี ระยะเคียง ๑ ก้าว ในการตรวจพลสวนสนามแถวหน้ากระดานของหมู่ปิดระยะเคียงระหว่าง บุคคล อาศัยระยะงอศอกซ้ายของลูกเสือทางขวามือเท้าตะโพก ปลายน้ิวช้ีลงพ้ืน เรียกวา่ แถวหน้ากระดานปิดระยะ ๖๖ เอกสารประกอบการผ้บู ังคบั บญั ชาลกู เสอื เพ่อื พัฒนาทกั ษะดา้ นระเบียบแถวลูกเสือ

ทอ่ี ยู่ของนายหมู่ลูกเสอื และการกาหนดคนหลัก เมอื่ นายหมู่ลูกเสือเปน็ ผูเ้ รียกแถวของหมู่ รองนายหมู่ลูกเสือเป็นคนหลัก ในการเข้าแถว เว้นแต่นายหมู่ลูกเสือจะไมอ่ ย่หู รือปฏิบตั ิหน้าที่ไม่ได้ รองนายหมู่ลูกเสือ จึงเรียกแถวแทนคนหลักกจ็ ะไดแ้ ก่ลูกเสือที่กาหนดให้ เมื่อนายหมู่ลูกเสือเรียกแถว คน หลักตอ้ งอยู่ตรงหน้าผู้เรยี ก ๖ กา้ ว การเข้าแถวและจดั แถว หมู่เข้าแถวตามคาบอกของนายหมู่ลูกเสือ ในเวลาอยู่กับท่ีใช้คาบอกว่า “แถวหน้ากระดาน, ตามข้าพเจ้า” ในเวลาอยู่กับท่ี ลูกเสือถือไม้พลองหรือไม้ง่ามมา เข้าแถวท่าเรียบอาวุธ ถ้าเดนิ ให้ถอื ไมพ้ ลองหรือไมง้ ่ามในทา่ คอนอาวุธ เม่ือจะให้เข้าแถวตอนเรียง ๑ นายหมู่ลูกเสือใช้คาบอกว่า “ตอนเรียง ๑, มาหาข้าพเจ้า” หรือ “ตามข้าพเจา้ ” ลกู เสอื วง่ิ ไปหาผเู้ รยี กโดยเรว็ รองนายหมู่เป็นหลักอยู่หน้าผู้เรียก ๖ ก้าว ลูกเสืออื่น ๆ เข้าแถวต่อคนหลักไปข้างหลังเป็นแถวเดียวและตรงคอกัน ระยะต่อ ๑ กา้ ว หยุดอยกู่ ับทีห่ รอื เดินตามผเู้ รียก ถา้ เปน็ การเข้าแถวอยูก่ บั ท่ี เม่อื นายหมลู่ ูกเสอื ตรวจการ จัดแถวลกู เสือไม่ เคล่อื นไหวคอยฟงั คาส่ังตอ่ ไป เม่ือจะให้เข้าแถวหน้ากระดานซ่ึงมีเฉพาะหน้ากระดานแถวเดียวอยู่กับท่ี ใชค้ าบอกวา่ “แถวหน้ากระดาน, มาหาข้าพเจ้า” ลูกเสือเข้าแถวหน้าผู้เรียกโดยเร็ว รองนายหมู่ลูกเสือเป็นหลักอยู่หน้า ผู้เรียก ๖ ก้าว ลูกเสืออื่น ๆ เข้าแถวตาม ตาแหน่งถัดจากคนหลักไปทางซ้ายระยะ เคยี ง ๑ กา้ ว (สดุ แขนซ้ายของลกู เสอื ท่ีอยู่ทางขวา) และจัดแถวทางขวาโดยสะบัดหน้า แลขวาทุกคน เวน้ แต่คนอย่ขู วาสดุ ของแถวแลตรงเปน็ หลัก ถา้ จะให้หมู่จัดแถวหน้ากระดานปิดระยะ ใช้คาบอกว่า แถวหน้ากระดาน ปิดระยะ, มาหาขา้ พเจ้า” ลูกเสือเข้าแถวหน้ากระดานดังกล่าวมาแล้ว แต่ปิดระยะเคียงแค่ศอก ซ้ายงอฝ่ามือเท้าตะโพกของลกู เสือทอ่ี ยทู่ างขวา ๖๗ เอกสารประกอบการผบู้ ังคบั บญั ชาลกู เสอื เพอ่ื พฒั นาทักษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

เมื่อนายหมู่ลูกเสือตรวจการจัดเสร็จแล้วส่ัง “น่ิง” ลูกเสืออยู่ในท่าตรง (สะบัดหน้าแลตรง) ไม่เคล่ือนไหวตอ่ ไป เม่ือจะเลิกแถวใช้คาบอกว่า “เลิกแถว” ลูกเสือทาวันทยหัตถ์หรือ วันทยาวุธแล้วขวาหนั เลกิ แถวไป การเคลอื่ นทแี่ ละการเปลย่ี นรูปแถวและการเปลยี่ นทศิ หน้าแถว หมู่ยอ่ มเคลอ่ื นทเ่ี ป็นแถวตอนเรยี ง ๑ การเคลื่อนท่ีด้วยแถวหน้ากระดาน นั้น ใชเ้ ปน็ บางโอกาสและเป็นการช่ัวคราวสาหรับแถวหน้ากระดานปิดระยะใช้ในคราว ที่มกี ารเดนิ สวนสนาม การเปล่ียนรูปแถวของหมู่น้ันโดยปรกติใช้วิธีเรียกแถวใหม่ ซ่ึงเป็นวิธีที่ สะดวกและรวดเร็ว เช่น หมู่อยู่ในแถวหน้ากระดาน ประสงค์จะให้เป็นแถวตอนเรียง ๑ อยู่กับท่ี นายหมู่ลูกเสอื เรยี ก “ตอนเรียง ๑ , มาหาข้าพเจ้า” ลูกเสือก็เข้าแถวใหม่ดัง ได้กลา่ วมาแล้ว เม่ือจะให้เคลื่อนท่ีส่ัง “ตอนเรียง ๑ , ตามข้าพเจ้า” นายหมู่ลูกเสือ เคลือ่ นที่นาแถวลูกเสอื ซงึ่ จดั แถวใหม่ออกเคล่ือนท่ตี ามไปทนั ที การเปลี่ยนทิศหน้าแถวของหมู่จากทิศทางหนึ่งไปสู่ทิศทางใหม่ทั้งแถว ตอนและแถวหนา้ กระดาน ด้วยคาบอกต่อไปนี้ (๑) บอกเลยี้ วขวา (ซา้ ย) หรอื เลีย้ วขวา (ซา้ ย) , กลับหลัง (๒) ช้ที ศิ ทางให้แลว้ ใชค้ าบอก “หน้า (ก่งึ ขวา - ก่ึงซา้ ย) ทีห่ มาย...........” (๑) บอกเล้ียวขวา (ซ้าย) ในเวลาอยู่กับท่ีบอก “เล้ียวขวา (ซ้าย) – หน้า เดิน (วง่ิ )” ให้ลูกเสอื ออกเดิน (วง่ิ ) เลย้ี วไป ปีกท่ีเป็นหลักในการเล้ียว (เลี้ยวขวาได้แก่ปีก ขวา , เลีย้ วซา้ ยไดแ้ ก่ปีกซ้าย) ซอยเทา้ ปกี ตรงกนั ข้าม เดนิ (วิ่ง) เต็มก้าว ลูกเสอื อื่นๆ ระหว่างนั้นเดิน (ว่ิง) ก้าวสั้นลงตามระยะใกล้ชิดกับคนหลัก ขณะเล้ียวรักษาระยะ เคียงให้ถูกต้องโดยถือแนวหน้าแถวของคนหลักเป็นสาคัญเมื่อเล้ียวไปทางขวา (ซ้าย) เป็นมมุ ๙๐ องศาแล้ว ลกู เสือตบั หนา้ เดิน (วิง่ ) ตรงออกไป ในเวลาเคลื่อนท่ีบอก “เล้ยี วขวา (ซา้ ย) - ทา” ปีกขวา (ซ้าย) เป็นหลักใน การเล้ียวเหมือน ในเวลาอยู่กับท่ีและเม่ือตับหน้าเลี้ยวไปทางขวา (ซ้าย) เป็นมุม ๙๐ องศาแล้ว ลกู เสือตบั หนา้ เดนิ (วงิ่ ) ตรงออกไป ๖๘ เอกสารประกอบการผ้บู ังคับบญั ชาลูกเสอื เพอ่ื พัฒนาทกั ษะด้านระเบยี บแถวลกู เสอื

เลย้ี วขวา (ซา้ ย) , กลบั หลัง ถ้าแถวอยู่กับที่ให้บอกแถวเคลื่อนที่เสียก่อน โดยบอก “หน้า – เดิน (วิ่ง)” แล้วจึงสั่ง “เลี้ยวขวา (ซ้าย) , กลับหลัง” ลูกเสือ ปฏิบัติการเล้ียวตามท่ีได้กล่าวมาแล้ว เมื่อหน้าแถวเล้ียวไปสู่ทิศตรงข้ามแล้ว ลูกเสือ เดิน (ว่งิ ) ตอ่ ไปเอง หมายเหตุ ถ้าจะให้แถวหยุดขณะเล้ียว ใช้คาบอกรวดว่า “หยุด” ถ้า เลี้ยวและได้เดิน (วิ่ง) ตรงออกไปแล้วก็ส่ังให้แถวหยุด ตามลักษณะของการเคลื่อนที่ ซง่ึ สุดแต่วา่ จะเปน็ เดนิ หรอื วิ่ง (๒) ชีท้ ิศทางให้แลว้ ใช้คาบอก “หนา้ (กงึ่ ขวา - ก่งึ ซา้ ย) ท่หี มาย.................” นายหมู่ลูกเสือจะให้เปลี่ยนหน้าแถวขณะเคลื่อนท่ีๆไปในทิศทางใด แทนที่จะส่ังเล้ียวขวา (ซ้าย) อย่างข้อ (๑) จะกาหนดท่ีหมายให้โดยช้ีทิศทางแล้วบอก ถงึ ตาแหน่งที่หมายกไ็ ด้ เชน่ เมอ่ื ชี้แล้วบอกว่า “หนา้ - ท่หี มายต้นโพธ์ิ” คนหลกั เล้ียวไป ตามทศิ ทางท่ีนายหมลู่ ูกเสอื ชแ้ี ล้วลกู เสอื อน่ื กเ็ คลื่อนตามไปยงั ทีห่ มายข้างหน้า ถ้าตอ้ งการให้ลูกเสือเปล่ียนทิศทางโดยรวดเร็วก็เติมคาว่า “วิ่ง” ต่อท้าย คาบอก เช่น “กง่ึ ขวาทีห่ มายเนินดิน - ว่ิง” ลูกเสือเคลื่อนที่ให้หน้าแถวตรงท่ีหมายทาง กงึ่ ขวาโดยเร็ว แลว้ เดินตอ่ ไป นอกจากนนั้ นายหม่ลู กู เสอื จะสั่งให้หมู่เปล่ียนทิศหน้าแถวไปตามเส้นทาง ที่กาหนดใหก้ ไ็ ด้ เช่น สั่งว่า “เคลื่อนที่ตามแนวถนนทางขวา” หมู่ลูกเสือก็เคลื่อนที่ไป ตามแนวถนนทางขวา เปน็ ตน้ ๖๙ เอกสารประกอบการผ้บู ังคบั บญั ชาลูกเสอื เพ่ือพฒั นาทกั ษะด้านระเบยี บแถวลกู เสือ

บทที่ ๓ การฝึ กระเบียบแถวของกอง การฝึกระเบียบแถวของกองมีความมุ่งหมายที่จะให้ลู กเสือและ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ในกาลังของกองอยู่ในบังคับบัญชาของผู้กากับลูกเสือ โดย แนน่ อน และเพอ่ื ให้หมตู่ ่าง ๆ ในสงั กดั กองไดป้ ฏบิ ัตหิ น้าท่ใี นกองกลมกลืนกนั ย่งิ ขน้ึ การฝึกแถวชดิ รูปขบวน กองจัดแถวเป็นแถวตอนเรียง ๓ และตอนเรยี ง ๒ หรือแถวหน้ากระดาน ๓ แถว และแถวหน้ากระดาน ๒ แถว บางกรณีกองลูกเสืออาจมีเพียง ๒ หมู่ เมื่อเป็นเช่นน้ีกองจะจัดแถวเป็น แถวตอนเรียง ๒ หรือแถวหน้ากระดาน ๒ แถวก็ได้ ส่วนแถวตอนเรียง ๑ หรือแถว หนา้ กระดานแถวเดี่ยว กค็ งจัดได้เชน่ กัน แถวตอนเรยี ง ๓ และแถวตอนเรียง ๒ แถวตอนเรียง ๓ ของกอง คือ ให้หมู่จัดแถวตอนเรียง ๑ เคียงกัน ๓ หมู่ ระยะเคยี งระหว่างหมู่แค่ศอกซ้ายงอของลูกเสือทางขวา หมู่ ๑ อยู่ขวาสุด ถัดไป หมู่ ๒ และหมู่ ๓ อย่ซู ้าย และซอ้ นกนั อีก ๓ หมู่ หมู่ ๔ ต่อทา้ ยหมู่ ๑ หมู่ ๕ ต่อท้ายหมู่ ๒ และหมู่ ๖ ต่อท้ายหมู่ ๓ ระยะต่อระหว่างบุคคล ๑ ก้าว และระยะต่อระหว่างหมู่ ๒ ก้าว เม่ือกองอยู่ตามลาพัง ผู้กากับลูกเสืออยู่ในระยะ ๖ ก้าวข้างหน้านายหมู่ ลกู เสือหลักท่ตี งั้ ขึ้นหรือแลว้ แต่ผู้กากับลูกเสือจะกาหนด นายหมู่ลูกเสืออยู่ข้างหน้าหมู่ ของตน ลูกเสือนอกนัน้ คงเขา้ แถวในรูปแถวตอนเรยี ง ๑ ในหมขู่ องตน กองท่ีมีลกู เสอื เพียง ๔ หมู่ ใหก้ องจัดแถวตอนเรียง ๒ โดยแต่ละหมู่จัด แถวตอนเรียง ๑ หมู่ ๑ อยู่ขวาและหมู่ ๒ อยูซ่ ้ายระยะเคียงแค่ศอกซา้ ยงอของลูกเสอื ทางขวา นายหมู่ ๑ เป็นหลักอยู่หน้าผู้เรียก ๖ ก้าว และนายหมู่ลูกเสืออยู่หน้าหมู่ของ ตนและซ้อนกับอีก ๒ หมู่ หมู่ ๓ ต่อท้ายหมู่ ๑ และหมู่ ๔ ต่อท้ายหมู่ ๒ ระยะต่อ ระหวา่ งหมู่ ๒ กา้ ว ๗๐ เอกสารประกอบการผ้บู ังคบั บญั ชาลูกเสือเพ่ือพฒั นาทกั ษะดา้ นระเบยี บแถวลูกเสือ

แถวตอนเรียง ๑ ของกอง คือท้ังกองจัดเป็นแถวตอนเรียง ๑ หมู่ ๑ อยู่ หนา้ หมู่ ๒ , หมู่ ๓ หมู่ ๔ ฯลฯ อยู่ต่อข้างหลังให้ตรงคอกับหมู่หน้า ระยะต่อระหว่าง หมู่ ๒ ก้าว ถา้ ไมไ่ ด้ส่ังเป็นอย่างอ่นื ใหน้ ายหมู่ ๑ เปน็ หลกั อยู่หน้าผเู้ รียก ๖ กา้ ว กองที่มีลูกเสือเพียง ๒ หมู่ ให้กองจัดแถวตอนเรียง ๒ โดยให้หมู่ ๑ อยขู่ วา และหมู่ ๒ อยูซ่ ้าย ระยะเคยี งแค่ศอกซา้ ยงอของลูกเสอื ทางขวา รูปแถวหน้ากระดานของกองคือกองแถวตอนเรียง ๒ หรือตอนเรียง ๑ เม่ือทงั้ กองทาซา้ ยหัน หรือขวาหัน ในหนา้ กระดาน ๓ แถวของกองท้ัง ๖ หมู่ ต่างจัดแถวหน้ากระดานเรียง ซ้อนกัน หมู่ ๑ หมู่ ๒ อยู่หน้า ถัดมาหมู่ ๓ หมู่ ๔ และหมู่ ๕ หมู่ ๖ อยู่หลังสุด ระยะ ต่อและระยะเคยี ง ๑ กา้ วเท่ากัน เวน้ แต่ถา้ เป็นแถวหน้ากระดานปิดระยะแล้ว ระยะ เคียงต้องชิดเข้ามาเหลือแค่ศอกซ้ายงอของผู้อยู่ทางขวา นายหมู่ ๑ เป็นหลักอยู่หน้า ผเู้ รยี ก ๖ กา้ ว แต่ละหมู่จัดแถวหน้ากระดาน นายหมู่ ๑ เป็นหลักอยู่หน้าผู้เรียก ๖ ก้าว หมู่ ๒ – ๓ อยู่แถวหน้า หมู่ ๔ – ๕ – ๖ อยู่แถวหลัง ระยะต่อระยะเคียง ๑ ก้าว เทา่ กนั เวน้ แตจ่ ะปิดระยะใหช้ ิดเข้ามาเป็นแคศ่ อกซา้ ยงอของผทู้ ่อี ยทู่ างขวา แถวหน้ากระดานของกองทม่ี ี ๒ หรอื ๔ หมู่ จดั เปน็ แถวหน้ากระดาน ๒ แถว แต่ละหมู่จัดแถวหน้ากระดานเรียงซ้อนกัน หมู่ ๑ อยู่หน้า หมู่ ๒ อยู่หลัง กรณี ๔ หมู่ หมู่ ๑ หมู่ ๒ อยู่หน้า หมู่ ๓ หมู่ ๔ อยู่หลัง ระยะต่อระยะเคียง ๑ ก้าวเท่ากัน นอกจากจะเปน็ แถวปิดระยะ ระยะเคียงแค่ศอกซ้ายงอของผู้ที่อยู่ทางขวา นายหมู่ ๑ เปน็ หลกั อยู่หนา้ ผูเ้ รียก ๖ กา้ ว ขบวนเดินทาง ตามปกติกองใช้แถวตอนเรยี ง ๓ หรือตอน ๒ มื่อเดินตามสบาย ให้รอง ผ้กู ากับลกู เสือ อยู่ขวาตับหลังของกองและออกจากท่ีประจาครั้งคราว เพ่ือตรวจตรา ลกู เสือ เม่ือกองเดนิ เข้าระเบยี บ รองผกู้ ากบั ลูกเสือกเ็ ขา้ ประจาทีห่ น้ากองของตน ๗๑ เอกสารประกอบการผบู้ งั คับบัญชาลกู เสอื เพอื่ พฒั นาทักษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสอื

การเขา้ แถวและจดั แถว กองเข้าแถวเป็นแถวตอนหรือแถวหน้ากระดาน ทั้งการจัดแถวและเลิก แถวอยา่ งเดียวกนั เมือ่ กองจดั แถวเปน็ แถวหน้ากระดาน ๓ แถว หมู่ ๑ หมู่ ๒ ต้ังแถวตามที่ กลา่ วไวแ้ ละนายหมู่ลูกเสือเข้าแระจาปีกขวา หมู่ ๓ หมู่ ๔ เข้าแถวข้างหลังหมู่ ๑ เป็น แถวที่ ๒ และหมู่ ๕ หมู่ ๖ เปน็ แถวท่ี ๓ ตามลาดับ นายหมู่ลูกเสือตรวจตราแก้ไขการ จัดแถวเมือ่ จาเป็นดว้ ยเสียงคอ่ ย ๆ จดั แถวเสร็จแล้ว รองผู้กากบั ลูกเสอื บอก “น่งิ ” การปฏบิ ัตขิ องกองแถวตอน กองแถวตอนทาทา่ หัน เคลื่อนท่ีและท่าไม้พลองหรือไม้ง่าม เช่นเดียวกับ การฝึกเปน็ บคุ คล เม่ือกองจะออกเดินก้าวพร้อมกันตามหลัก รองผู้กากับลูกเสือบอกให้ ลูกเสือแบกอาวุธเสียก่อน แล้วจึงบอก “หน้า - เดิน” ถ้าไม่ได้บอกให้แบกอาวุธ เม่ือ บอกหนา้ เดินแล้วให้ลกู เสอื เคล่อื นท่ีในท่าคอนอาวธุ ลกู เสอื ในกองออกเดินก้าวเท้าพร้อมกับลูกเสือท่ีอยู่ในหมู่นา รักษาระยะ ตอ่ ของตน ลกู เสอื ในหมู่อื่น ๆ รกั ษาแนวตามหมนู่ าและตรงคอกันภายในหมูด่ ว้ ย รองผูก้ ากบั ลกู เสอื เป็นผูร้ ักษาทศิ ทางเดิน คนนารักษาระยะต่อจากรองผู้ กากบั ลกู เสือ ๖ กา้ ว หรอื ตามระยะทร่ี องผู้กากบั ลูกเสือจะกาหนดให้ การเปลี่ยนทิศในเวลาเดิน รองผกู้ ากบั ลูกเสือใช้ท่าสัญญาณชี้ทิศทางใหม่ พร้อมกบั บอกทหี่ มายท่ีจะเปล่ยี นทศิ ทางใหม่น้ัน เช่น จอมปลวก หรือตามถนน ตบั ที่อยู่ต้นขบวนเปลี่ยนทิศตามคาสั่ง คนนาเดินตามเส้นทางเดินกับท่ีอยู่ หนา้ รักษาจงั หวะการเดนิ คงเดมิ มใิ ห้ลกู เสอื ท่อี ยทู่ างปกี นอกต้องก้าวยาวขน้ึ การเปลี่ยนทิศจะกระทาในขณะทีเ่ ร่ิมออกเดนิ ก็ได้ โดยรองผูก้ ากับลูกเสือ ชี้และบอกทิศทางทจ่ี ะให้เดนิ ไปเสียก่อนแล้วจงึ บอกใหเ้ ดนิ กองเปล่ียนจากเดินก้าวพร้อมกันเป็นว่ิงและเปลี่ยนจากว่ิงเป็นเดินก้าว พร้อมกนั โดยใช้ คาบอก “ว่ิง – หน้า – ว่ิง” หรือ “เดินทา” ลูกเสือเปล่ียนจากเดินเป็น วิง่ หรือจากว่งิ เป็นเดิน ตามท่กี ล่าวไว้ กองเดนิ ไมพ่ ร้อมกนั หรือตามสบาย ตามคาบอก ๗๒ เอกสารประกอบการผูบ้ งั คับบัญชาลกู เสอื เพอื่ พฒั นาทักษะด้านระเบียบแถวลูกเสือ

ถ้าหยุดอยู่ “เดิน” ถ้าเดินอยู่ “เดินตามสบาย” ขณะเดินตามสบายอยู่ ถ้าจะให้เดินพร้อมกันตามปรกติให้หยุดเสียก่อน แลว้ ออกเดนิ หรือไมห่ ยดุ จะบอก “เดินเขา้ ระเบยี บ” แล้วให้จงั หวะกไ็ ด้ รวมและขยายอาวธุ ในแถวหน้ากระดาน ลูกเสือรวมอาวุธเม่ืออยู่ในรูปแถวหน้ากระดาน โดยแต่ละหมู่ รวมอาวุธไว้ข้างหนา้ หม่ขู องตน เมื่อมีคาส่ังว่า “รวมอาวุธ” ให้ลูกเสือคนที่ ๒ กับคนที่ ๔ ก้าวออกมา ข้างหน้า ๑ ก้าวแล้วร้อยหูไม้พลองเข้าด้วยกันหน้าหมู่ของตนลูกเสือคนท่ี ๓ เอาไม้ พลองสอด ลูกเสืออน่ื ๆ ในหมพู่ งิ ไมพ้ ลองฝาก นายหมู่ลูกเสอื หรือรองนายหมลู่ ูกเสือท่ีปฏิบตั ิหนา้ ท่แี ทน พิงไม้พลองฝาก เปน็ คนสุดทา้ ยกับกระโจมของหมตู่ น ถา้ เป็นไม้งา่ ม ใหป้ ฏบิ ัติเช่นเดียวกับไม้พลอง เพยี งแตใ่ ชง้ า่ มยนั พิงกัน หมายเหตุ ในกรณที ีก่ องจัดแถวหน้ากระดานต้ังแต่ ๒ แถวขึ้นไป เมื่อจะ ส่ังใหร้ วมอาวุธขอให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา ถ้าเห็นว่าท่ีต้ังกระโจมอาวุธแคบ เกินไป อาจส่ังใหข้ ยายแถวที่ ๒ , ๓ ฯลฯ ไปทางหลงั เสียกอ่ นก็ได้ เมอ่ื ขยายอาวุธแลว้ ก็ เขา้ ประจาทเี่ ดมิ เมื่อมีคาบอก “ขยายอาวุธ” ลูกเสือแต่ละหมู่ต่างนาไม้พลองหรือไม้ง่าม ออกจากกระโจมมาประจาท่ี อยใู่ นทา่ เรยี บอาวุธต่อไป การปฏบิ ตั ขิ องกองแถวหนา้ กระดาน กองแถวหน้ากระดานทาท่าหันและทาท่าอาวุธเป็นแถวชิด เช่นเดียวกับ การฝกึ เปน็ บุคคล การเดินเป็นแถวหน้ากระดานตามหลักใช้เฉพาะแต่การเคล่ือนย้ายเป็น ระยะใกล้ ๆ ลกู เสือทกุ คนถอื อาวุธในทา่ เรยี บอาวุธ แตย่ กอาวธุ ใหพ้ ้นพืน้ เล็กน้อย ๗๓ เอกสารประกอบการผู้บงั คับบญั ชาลูกเสือเพื่อพฒั นาทักษะดา้ นระเบยี บแถวลกู เสอื

เมื่อมีคาบอก “หน้า – เดิน” กองออกเดินก้าวเท้าพร้อมกัน ถ้าไม่ได้ กาหนดคนหลักรักษาระยะเคยี งใหค้ งทีล่ ูกเสือในแถวที่ ๒ และแถวท่ี ๓ เดินตามลูกเสือ ท่อี ยตู่ บั หนา้ เมื่อมคี าบอก “กอง – หยดุ ” ลูกเสอื หยดุ ถา้ แบกอาวธุ ให้ส่งั เรียบอาวธุ การเปลยี่ นรปู แถวและการเปลย่ี นทิศหน้าแถว กองแถวตอนจัดเป็นแถวหน้ากระดาน โดยเปลี่ยนทิศหน้าแถว (ข้อ ๑ และ ขอ้ ๒) และไมเ่ ปล่ยี น (ข้อ ๓) ได้ดังนี้ (๑) กองตอนเรียง ๓ อยู่กับที่จัดเป็นแถวหน้ากระดานโดยบอกให้ “ซ้าย (ขวา) - หัน” ในเวลาเดินถ้าจะให้หยุดก็บอกหยุดเสียก่อนบอกหัน หรือจะบอกหัน เสยี กอ่ นแล้วบอกหยุดก็ได้ (๒) กองกาลงั เดินเป็นแถวตอนเรียง ๓ จดั เป็นแถวหน้ากระดานโดยบอก ให้ “ซ้าย (ขวา) - หัน” ในเวลาเดินถ้าจะให้หยุดก็บอกหยุดเสียก่อนบอกหัน หรือจะ บอกหันเสยี ก่อนแล้วบอกหยุดกไ็ ด้ (๓) กองเดนิ เปน็ แถวตอนเรียง ๓ หยุดเป็นแถวหน้ากระดานหันหน้าไปใน ทศิ ทางเดมิ โดยรองผูก้ ากับลูกเสือบอกเปล่ียนทิศให้เล้ียวไปทางขวาก่อน แล้วจึงบอก หยุดและหนั กองแถวหนา้ กระดานเปล่ยี นเป็นแถวตอนโดยเปลย่ี นทิศหน้าแถว (ข้อ ๑) และไม่เปลีย่ น (ข้อ ๒) (๑) กองแถวหน้ากระดาน ๓ แถว จัดเป็นแถวตอนเรียง ๓ ทางขวา (ทางซ้าย) โดยส่งั “ขวา (ซา้ ย) - หนั ” (๒) จัดแถวตอนเรียง ๓ ไปข้างหน้า โดยบอกให้หันไปทางขวาแล้วให้ ออกเดนิ แล้วเปล่ยี นทศิ เลย้ี วไปทางซ้าย การเปลี่ยนรูปแถวจากตอนเรียง ๒ เป็นแถวหน้ากระดาน ๒ แถวหรือ กลับกนั ปฏิบตั อิ ยา่ งเดยี วกบั ท่ีได้กลา่ วมาแล้ว ๗๔ เอกสารประกอบการผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเพอื่ พฒั นาทกั ษะดา้ นระเบยี บแถวลกู เสือ

ตอนท่ี ๖ การตรวจพลสวนสนาม บทที่ ๑ กล่าวทวั ่ ไป การตรวจพลสวนสนามกระทาใน ๒ โอกาส คอื (๑) เมื่อเสรจ็ จาการฝกึ ในสนาม (๒) เมื่อทาการตรวจพลสวนสนามในกรณพี ิเศษ การตรวจพลสวนสวนสนามเมื่อเสร็จจากการฝึกในสนามน้ันให้ใช้ เครือ่ งแบบ และของประจาตัวเท่าท่ีมอี ยใู่ นขณะน้ัน การตรวจพลสวนสนามในกรณีพิเศษ ให้เลขาธิการหรือผู้อานวยการ ลูกเสือจังหวัดหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี เป็นผู้ส่ัง ในคาส่ังนี้จะต้องแจ้ง เรอ่ื งการแตง่ กาย จานวนผบู้ งั คับบญั ชาลูกเสือและลูกเสือท่ีจะจัดเข้าแถวรับตรวจพล สวนสนามโดยตลอด ถ้ากองลูกเสือในเขต (กรุงเทพฯ) หรือกองลูกเสือในอาเภอเดียวกัน ต้งั แต่ ๒ กองข้ึนไป รับตรวจ ให้ผู้อานวยการลูกเสือเขต (กรุงเทพฯ) หรืออาเภอเป็น ผบู้ ังคับบัญชา ถ้ากองลูกเสอื เหล่านี้มาจากต่างเขตหรือต่างอาเภอกัน ให้ผู้อานวยการ ลกู เสือเขตหรืออาเภอซ่งึ มีอาวโุ สสงู เป็นผู้บงั คับบัญชา ถ้ากองลูกเสอื หลายจงั หวัดรวมกัน ให้บงั คบั บญั ชากนั โดยอนโุ ลมดังกล่าว แล้ว การชี้แจงทกั ทว้ งในเร่ืองการตรวจพลสวนสนาม ให้ผู้ตรวจพลสวนสนาม เปน็ ผ้กู ล่าวแตผ่ เู้ ดียว ๗๕ เอกสารประกอบการผบู้ งั คับบญั ชาลกู เสือเพื่อพัฒนาทกั ษะด้านระเบียบแถวลูกเสอื

บทที่ ๒ ระเบียบการ ผู้บังคับบัญชาแถวตรวจพลสวนสนามมีหน้าที่เตรียมการหมายแนวและ จดุ ต่างๆ ดงั ตอ่ ไปนใี้ หเ้ รยี บรอ้ ยก่อนเร่มิ ทาการตรวจพลสวนสนาม คอื ก. แนวและท่ีตั้งสาหรับหน่วยทั้งหลายท่ีจะรับตรวจพลอย่างน้อยควร หมายจุดที่ตั้งปีกขวาของแนวหน้าทุกๆ กอง ข. เขตแสดงความเคารพ คอื หมายแนวซึ่งหน่วยลกู เสือจะต้องเริ่มแสดง ความเคารพและเลิกแสดงความเคารพในการสวนสนาม แนวน้ีใช้ธงปักเป็นหลัก ๓ ธง ธงแรกหา่ ง ๒๐ กา้ วก่อนถงึ ผู้ตรวจสาหรับเตรียมตัวทาความเคารพ ธงท่ี ๒ อยู่ห่างอีก ๑๐ ก้าวจะถึงผู้ตรวจ ฯ สาหรับหมายแนวแสงความเคารพ และธงท่ี ๓ ระยะ ๑๐ ก้าวถัดจากผู้ตรวจ ฯ ไปเปน็ หมายแนวเลกิ ทาความเคารพ ค. จุดเร่ิมสวนสนามและปลายทางสวนสนาม เพื่อหมายจุดซ่ึงหน่วย จะต้องเรมิ่ ทาการสวนสนาม และเลย้ี วออกจากทางเดินสวนสนาม ใช้ธงปักเป็นท่ีหมาย แหง่ ละ ๑ ธง ให้ไดแ้ นวกับแนวแสดงความเคารพ จุดเรมิ่ สวนสนามและปลายทางสวน สนามนค้ี วรอยู่ห่างจากธงแสดงความเคารพ ๕๐ ถึง ๒๐๐ เมตร ทง้ั นี้ สุดแล้วแต่ขนาด พื้นที่ ขนาดหน่วยลูกเสือท่ีจะเข้าสวนสนามแล้วแต่จะสวนสนามก่ีคร้ังเมื่อสวนสนาม เสร็จแล้ว หน่วยลูกเสือจะต้องมาตั้งแถวอีกคร้ังหน่ึงหรือไม่ และแถวจะต้องอยู่ ตรงไหนแลว้ แต่จะนดั หมาย ง. จุดท่ีตั้งกองแตรวง ตรงหน้าผ้ตู รวจพลสวนสนาม กิจการทั้งหลายตามท่กี ล่าวแลว้ นี้ ถ้าเป็นการตรวจพลสวนสนามซ่ึงกอง ใหญห่ ลายกอง เข้าทาการแล้วควรเตรียมการทุกอย่างล่วงหน้าไว้ให้พร้อม เพ่ือความ เรยี บร้อยสง่างาม แตถ่ า้ เป็นหน่วยลูกเสือขนาดย่อมแล้ว จะหมายเพียงแนวเร่ิมแสดง ความเคารพ และเลกิ แสดงความเคารพเท่านั้นกไ็ ด้ ระเบียบการจัดแถวให้เรยี บรอ้ ย ไม่ว่าในเวลาต้ังแถวรับตรวจพลหรือใน เวลาสวนสนามให้ใช้ทางขวาเป็นหลักเสมอ ในเวลาตรวจพลผู้กากับลูกเสือและนาย หมู่ ฯ ทอี่ ยู่ทางปกี ขวาของตอนหนงึ่ ต้องยืนให้ตรงผกู้ ากับลูกเสือและนายหมู่ ฯ ที่อยู่ ๗๖ เอกสารประกอบการผ้บู งั คับบญั ชาลูกเสอื เพ่ือพัฒนาทักษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

ทางปีกขวาตรงหนา้ ตนเสมอ ในเวลาสวนสนามผทู้ อ่ี ยู่ปีกขวาของตอนหนึ่ง ๆ เป็นผู้นา และต้องเดินให้ตรงคอคนหน้าท้ังรักษาระยะต่อเสมอ ไม่ต้องแลขวาแสดงความ เคารพ ระเบียบการตรวจพลสวนสนามตามที่กาหนดไว้น้ีให้ถือว่าใช้ได้สาหรับ ตามปกติ แต่ถ้ามีเหตุผลอันสมควรท่ีจะเปล่ียนแปลงกาหนดการบางอย่าง เช่น รูป ขบวน ระยะตอ่ ระยะเคียงซ่ึงเนื่องด้วยลักษณะพื้นที่ก็ดี หรือจานวนหน่วยลูกเสือซ่ึง เข้าทาการตรวจพลสวนสนามก็ดี หรือเนื่องด้วยเหตุจาเป็นใดๆก็ดี ผู้ตรวจพลสวน สนามหรือผูบ้ ังคบั แถวตรวจพลสวนสนาม จะกาหนดระเบยี บขึ้นเฉพาะคร้งั คราวก็ได้ ๗๗ เอกสารประกอบการผบู้ งั คบั บัญชาลกู เสือเพอ่ื พฒั นาทกั ษะด้านระเบยี บแถวลกู เสือ

บทท่ี ๓ การตรวจพล การต้ังแถวตรวจพล สาหรับกองลูกเสือให้จัดแถวหน้ากระดาน ๒ แถว หรือหน้ากระดาน ๔ แถว กองลูกเสือหลายกองในสงั กัดเขต (กรุงเทพฯ) หรืออาเภอเดียวกัน ถ้าไม่ มีคาส่ังเป็นอย่างอ่ืน ให้กองลูกเสือต้ังเรียงเคียงเป็นแนวเดียวกัน ระยะเคียง ๕ ก้าว และภายในกองลูกเสือจัดแถวหน้ากระดาน ๔ แถวปิดระยะ ผู้กากับลูกเสือประจาปีก ขวากองของตน แตรเด่ียวของกองตา่ ง ๆ ไปรวมอยดู่ ว้ ยกนั ทางปีกขวา ลูกเสอื ต่างเขต (กรงุ เทพฯ) หรือต่างอาเภอซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ให้ ตั้งแถวเรียงเคียงกันเป็นเขตๆหรืออาเภอๆ มีระยะเคียง ๑๐ ก้าว หรือตั้งซ้อนกันมี ระยะต่อ ๑๐ ก้าว ถ้าพื้นที่แคบไม่พอเพียงจะไว้ระยะต่อให้เหลือระยะเคียงส้ันกว่า กาหนดนก้ี ไ็ ดแ้ ลว้ แตจ่ ะส่ัง ภายในเขตหรอื อาเภอจดั แถวตามที่กล่าวมาแลว้ ถา้ ลูกเสือรวมกนั มากกว่าน้แี ละมาจากหลายจงั หวดั ด้วยกนั ให้ส่งั การเรอื่ ง ต้ังแถวและการบังคับบัญชาเป็นพิเศษทุกคราวโดยตั้งผู้บังคับขบวนสวนสนามหรือผู้ บงั คับขบวนผสมขน้ึ มอี านาจบงั คับบัญชาและควบคุมขบวนลกู เสอื ทั้งหมด ผู้บังคับบัญชาลูกเสือของจังหวัด ให้เข้าประจาปีกขวาหรือซ้ายหน่วย ลูกเสือของตน แล้วแต่ผู้ตรวจพลสวนสนามจะมาทางใด ไว้ระยะเคียง ๓ ก้าว ยืน เรียงตามลาดับตาแหน่งหลังจากผู้บังคับขบวนสวนสนามหรือผู้บังคับขบวนผสม รายงานยอดจานวนทัง้ หมดแลว้ ให้สง่ั เรียบอาวุธ เม่อื ผตู้ รวจพลสวนสนามเคลื่อนท่ีไป ทางใดให้ผูบ้ งั คบั ขบวนสวนสนามเป็นผู้บังคับขบวนผสมติดตามไปด้วย ผู้บังคับแถวแต่ ละจังหวัดบอกทาวันทยาวุธ แล้วบอกเรียบอาวุธ เม่ือผู้ตรวจพลสวนสนามผ่านไป กระทาเชน่ น้ีแตล่ ะจงั หวัดจนครบขบวน และผตู้ รวจพลสวนสนามเข้าประจาที่ ผู้บังคับขบวนสนามหรือผู้บังคับขบวนผสม ส่ัง “ตามระเบียบ , พัก” จากนน้ั ให้ดาเนนิ การไปตามกาหนดการ ในกรณที ม่ี กี ารรวมลกู เสือของจงั หวดั กอปรดว้ ยลูกเสอื แตล่ ะอาเภอ ก็ ใหใ้ ชอ้ ย่างเดยี วกันโดยอนโุ ลม ๗๘ เอกสารประกอบการผบู้ ังคับบญั ชาลูกเสือเพอ่ื พัฒนาทกั ษะดา้ นระเบียบแถวลูกเสอื

บทท่ี ๔ การสวนสนาม กองลูกเสอื อาจจัดแถวสวนสนามได้ดงั น้ี คือ เปน็ แถวตอนเรยี ง ๔ หรอื เปน็ แถวหน้ากระดานตอนหมู่ ทง้ั น้ี แล้วแตค่ วามเหมาะสม ถ้าลูกเสือท้ังจังหวัดรวมกันสวนสนามให้จัดแถวเดินเป็นเขตพื้นท่ี ๆ ไป เว้นระยะตอ่ จากแถวสดุ ทา้ ยของเขตพื้นที่ ข้างหนา้ ถึงแถวของอาเภอข้างหลัง ๑๐ กา้ ว ผู้อานวยการลกู เสอื เขตพืน้ ท่ีหรือผู้แทนเป็นผู้บอกแถวสวนสนามของเขต พนื้ ท่ี และผู้อานวยการลกู เสือจังหวัดหรือผแู้ ทนเปน็ ผู้บอกแถวสวนสนามของจงั หวดั ในการสวนสนามให้ไวร้ ะยะต่อดงั น้ี ระหวา่ งกองลกู เสือ ๕ ก้าว ระหว่างลกู เสอื เขตพื้นที่ ๑๐ ก้าว ระหว่างลูกเสือจังหวัด ๑๕ ก้าว ท้ังนี้ แล้วแต่ความเหมาะสมของพื้นภูมิ ประเทศ เมื่อพร้อมแล้ว แตรเด่ียวเป่าให้สัญญาณ ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง “เตรียมสวนสนาม” แตรเดี่ยวเป่าให้สัญญาณ “หน้าเดิน” ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง “ขวา - หัน” “แบก - อาวุธ” และ “หน้า - เดิน” แตรวงบรรเลงแล้วเคล่ือนที่ออกเดิน ตามลาดบั คอื ลกู เสอื ถือป้ายยนื อยู่ตรงกึ่งกลางหนา้ ขบวน หลังลูกเสือถือป้าย ๕ ก้าว เป็นลกู เสอื ถือธง หลังลูกเสือถือธง ๕ ก้าวเป็นผู้กากับลูกเสือ หลังผู้กากับลูกเสือ ๕ ก้าวเป็นรองผ้กู ากบั ลกู เสือซ่ึงเป็นผู้บังคับแถว และหลังรองผู้กากับลูกเสือ ๓ ก้าวเป็น แถวลูกเสอื กรณที ม่ี กี ารเชิญธงคณะลูกเสอื แห่งชาติหรือธงลูกเสือประจาจังหวัดเข้า อยูใ่ นขบวนสวนสนามด้วย ใหจ้ ดั เจา้ หน้าท่ีประจาธงไว้หลงั ผู้ถอื ปา้ ย โดยเฉพาะอย่างย่ิง ตวั ขบวนให้จัดเป็นรูปดงั นี้ แตรเดี่ยวและแตรวง หลังแตรวงประมาณ ๒๐ ก้าว เป็นผู้บังคับขบวน สวนสนาม หลังผูบ้ ังคบั ขบวนสวนสนาม ๕ ก้าว เป็นผู้บังคับบัญชากองบังคับการผสม (ถา้ มี) หลังผูบ้ ังคบั บัญชากองบงั คับการผสม ๑๐ ก้าว เป็นกองลกู เสือ ๗๙ เอกสารประกอบการผู้บังคบั บญั ชาลกู เสอื เพ่ือพฒั นาทกั ษะด้านระเบียบแถวลูกเสอื

หมายเหตุ รปู ขบวนและระยะต่ออาจเปลีย่ นแปลงได้ตามความเหมาะสม การจดั สถานทใ่ี หใ้ ชธ้ งปักเปน็ เครอื่ งหมาย ๓ ธง ๆ แรกห่างจากผู้รับการ เคารพ ๒๐ ก้าว ธงท่ีสองหา่ งจากผรู้ บั การเคารพ ๑๐ ก้าว และธงท่ีสามอยถู่ ดั ผูร้ ับการ เคารพไปอีก ๑๐ ก้าว เมื่อแถวใกล้จะถึงธงแรก ให้ผู้บอกแถวหันไปดูลูกเสือทางขวา แล้วบอก “ระวัง” ใหแ้ ถวลูกเสือเดนิ เขา้ ระเบียบอยา่ งดที ่สี ุดและเมื่อใกลถ้ งึ ธงที่ ๒ ให้ผู้ บอกแถวบอก “แลขวา - ทา” ให้ลูกเสือหันหน้าไปทางขวา (ยกเว้นคนขวาสุดแลตรง) แถวลูกเสือสารองแขนทั้งสองข้างไม่แกว่ง แถวลูกเสือที่มีอาวุธเดินแกว่งแขนขวา ตลอด ขณะเดียวกันผู้บอกแถวทาวันทยหัตถ์พร้อมกับคาว่า “ทา” หันหน้าไปทางขวา พร้อมกับลูกเสือนัยน์ตาจับผู้รับการเคารพ เม่ือแถวผ่านพ้นผู้รับการเคารพไปก็ยังคง ทาวันทยหัตถ์ทางขวาอยู่เพียงนัยน์ตาไม่ต้องจับผู้รับการเคารพคงแลขวาเร่ือยไป จนกว่าจะถึงธงที่ ๓ เมอ่ื ผู้ใดหรือตับใดผ่านธงที่ ๓ กส็ ะบัดหนา้ แลตรงและเลิกทาความ เคารพเอง ในการเดินผ่าน ให้ผู้บังคับขบวนสวนสนามกระทาวันทยหัตถ์ เม่ือผ่าน ผู้รบั การเคารพไปแลว้ ให้ผ้บู ังคบั ขบวนสวนสนามแยกออกจากขบวนเลี้ยวขงวาไปหยุด อยู่ทางขวาของผรู้ ับการเคารพและทาวนั ทยหตั ถ์อยูจ่ นกว่าขบวนลกู เสือจะผ่านพน้ ไปจงึ กลับเขา้ ต่อท้ายขบวน บรรดาผู้บังคับบัญชาลูกเสือท่ีบังคับหน่วยต้ังแต่ผู้อานวยการลูกเสือ จงั หวดั ขึ้นไป เมอื่ ผา่ นผู้รับการเคารพไปแลว้ ให้แยกออกจากขบวนเล้ียวขวาไปหยุดอยู่ ทางขวาของผู้รับการเคารพเช่นเดียวกับ ผู้บังคับขบวนสวนสนาม และยืนอยู่จนกว่า หนว่ ยของตนจะผ่านพน้ แลว้ จงึ เข้าต่อทา้ ยหนว่ ยของตนออกไป เมื่อธงคณะลกู เสือแหง่ ชาตแิ ละธงลกู เสือประจาจังหวัดผ่านมากับขบวนลูกเสือ สวนสนาม ใหบ้ รรดาผู้บงั คับบญั ชาลูกเสอื และลกู เสอื ซง่ึ อยู่ณบริเวณท่ีสวนสนามแสดง ความเคารพ โดยทาวันทยหัตถ์ หมายเหตุ (ในการเดินสวนสนาม) ๑. ถา้ ผบู้ ังคับบัญชาลูกเสือมไี ม้ถือให้แสดงความเคารพดว้ ยท่าไม้ถอื ๒. ถ้าลกู เสอื มีอาวุธ เวลาแลขวาให้แกวง่ แขนตามปกติ ๓. เฉพาะลูกเสอื ท่ีอยู่ปกี ขวาสุด ไม่ต้องสะบัดหน้าแลขวา เพียงรักษาแนวและ ระดับให้เปน็ หลกั อยเู่ สมอเทา่ นั้น ๘๐ เอกสารประกอบการผู้บังคบั บัญชาลกู เสือเพื่อพฒั นาทกั ษะดา้ นระเบยี บแถวลูกเสือ

บทท่ี ๕ ขอ้ ปฏิบตั สิ าหรบั แตรเด่ยี ว แตรวง และเจา้ หนา้ ท่ีประจาธง ในการตรวจพลเมือ่ ได้ยินคาบอกหรือได้เห็นสัญญาณให้กระทาวันทยาวุธ ให้แตรวงบรรเลงเพลงคานับตามข้อระเบียบการเคารพ แตรเดี่ยวไม่ต้องเป่า เว้นแต่ เมื่อไมม่ แี ตรวง จงึ ใหแ้ ตรเดยี่ ว เปา่ เพลงคานบั เมือ่ แตรวงเปา่ เพลงคานบั จบแล้ว ใหบ้ รรเลงเพลงเดินของลูกเสือจนกว่า ผูต้ รวจพลสวนสนามจะผ่านพ้นแถวลูกเสอื ไป ในการตรวจพลซ่ึงมลี ูกเสอื หลายจังหวดั รวมกัน เม่ือแตรวงบรรเลงเพลง คานับจบแล้ว ให้กองแตรวงของลูกเสือท่ีอยู่ต้นทางผู้ตรวจพลสวนสนามเข้ามาน้ัน บรรเลงเพลงเดนิ ของลกู เสือทนั ที สว่ นแตรวงของกองลกู เสืออื่นๆ (ถ้าม)ี ให้สงบน่งิ อยู่ ก่อนต่อเม่อื ได้รับสัญญาณจงึ เร่มิ บรรเลงรบั ชว่ ง เป็นลาดับไป ในการสวนสนาม เม่อื มีคาบอกว่า “หน้า - เดิน” ให้แตรเด่ียวและแตรวง ออกเดิน แตรวงเริ่มบรรเลงเพลงเดินของลูกเสือ เม่ือแตรวงเดินไปถึงที่ซึ่งห่างจาก ลกู เสือธงที่ ๑ ระยะ ๒๐ ก้าว แล้วให้เลยี้ วซ้ายเดินไปจนท้ายขบวนพ้นแนวปีกซ้ายของ แถวสวนสนาม จงึ กลับหลังหนั เม่อื ไปถึงทตี่ รงหน้าผู้ตรวจพลสวนสนามให้ซอยเท้าแล้ว หยุด และบรรเลงเดนิ ต่อไป ถา้ หนว่ ยลกู เสือทจี่ ะเดินผ่านถดั ไปไม่มีแตรวง ให้แตรวงของหน่วงลูกเสือ แรกน้นั คงอยูบ่ รรเลงเพลงเดนิ ให้เดินต่อไปด้วย แตรวงของหน่วยลูกเสือถัดไป (ถ้ามี) ให้เร่ิมบรรเลงเพลงเดินทันที ใน เม่ือแตรวงของหนว่ ยลูกเสอื แรกหยุดลงนอกจากน้ีใหป้ ฏบิ ัติตามทกี่ ล่าวแล้ว ท้งั น้ี ให้ปฏิบัติตามสญั ญาณของผกู้ ากบั ฯ แตรวง ในการตรวจพลสวนสนามลูกเสือเป็นเขตพ้ืนที่ เป็นจังหวัดหรือหลาย จังหวัดรวมกันให้รวมแตรเด่ียวของลูกเสือเขตพื้นที่ หรือจังหวัดหน่ึง ๆ เข้าด้วยกัน จัดเปน็ หน่วยแตรเด่ยี วให้อยู่ในบังคับบญั ชาของลูกเสือแตรเด่ียวทีม่ ีอาวโุ สสูงสุด ๘๑ เอกสารประกอบการผบู้ ังคับบัญชาลูกเสอื เพอื่ พัฒนาทักษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสอื

ในการตรวจพลสวนสนาม ถ้าไม่มีแตรวงให้หน่วยแตรเด่ียวปฏิบัติ เชน่ เดียวกบั แตรวงตามทกี่ ลา่ วแลว้ ทุกประการ เวน้ แต่ในการตรวจพลไม่ต้องเป่าเพลง เดนิ หลังจากท่ีได้เป่าเพลงคานับแลว้ ในการสวนสนามถ้ามีแตรวง ให้หน่วยแตรเด่ียวเดินผ่านผู้ตรวจพลสวน สนามเช่นแถวลูกเสืออ่ืน ๆ และให้ผู้บังคับหน่วยแตรเด่ียวบอกแถวแสดงความเคารพ เม่ือเดินไปถึงธงท่ี ๑ ผู้บังคับหน่วยแตรเด่ียวเองแสดงความเคารพด้วยการแลขวาไม่ ทาวนั ทยหตั ถ์ เจ้าหน้าที่ประจาธงในเวลาสวนสนาม ให้ผู้รักษาธงผู้อาวุโสสูงเป็นผู้บอก แสดงความเคารพ ๘๒ เอกสารประกอบการผู้บังคบั บญั ชาลูกเสือเพอ่ื พฒั นาทกั ษะด้านระเบยี บแถวลูกเสอื

บทท่ี ๖ การเชิญธงและท่าเชิญธงลกู เสือประจาจงั หวดั (๑) การเชญิ ธงมาและเชิญกลับกับโอกาสทจ่ี ะคลธี่ ง เม่ือจะเชิญธงมาให้จดั ลกู เสือ ๑ กองพร้อมด้วยแตรเด่ียว ๑ คู่ ซึง่ มีอย่ใู น ทีน่ ั้นไปรับกับให้จัดรองผู้กากับลูกเสือท่ีอ่อนอาวุโสท่ีสุด ๒ นายเป็นผู้รักษาธง จัดนาย หมู่ลูกเสือที่เยี่ยม ๒ นาย ให้เป็นผู้เชิญธง ๑ นาย เป็นผู้ช่วยผู้เชิญธง ๑ นายรวมกัน เรียกวา่ เจา้ หน้าที่ประจาธง ให้จัดตั้งกองลูกเสือเป็นแถวหน้ากระดาน ถ้าไม่ติดขัดด้วย พ้นื ท่แี ล้วให้ปีกขวายืนหันหน้าตรงช่องทางเข้าสถานท่ีนน้ั ในระหว่างที่จัดแถวนี้ใหเ้ จา้ หนา้ ทปี่ ระจาธง คือผู้เขา้ รกั ษาธงทอ่ี อ่ นอาวุโส ทีส่ ุดคนหนึ่ง กับผู้เชญิ ธงและผชู้ ว่ ยผู้เชญิ ธงเขา้ ไปยงั ทีไ่ ว้ธง เมื่อกองลูกเสือจัดแถวเรียบร้อยแล้ว จึงให้ผู้เชิญธงออกมา โดยให้ ผ้รู กั ษาธงเดินนาหนา้ ผชู้ ่วยผเู้ ชิญธงเดนิ ตามหลัง เมื่อเจา้ หน้าท่ปี ระจาธงเชิญธงลงมา ใกล้พอสมควรแล้ว ให้ผู้กากับกองลูกเสือบอกแสดงความเคารพ แตรเดี่ยวเป่าเพลง คานับ ๓ จบ เจ้าหน้าทป่ี ระจาธงเชิญธงเขา้ ประจาทปี่ ีกขวา ผู้รักษาธงที่อ่อนอาวุโสเข้า ประจาทางซ้ายธง ผู้รักษาธงซึ่งมีอาวุโสสูงถัดขึ้นไปน้ันเข้าประจาทางขวาธง นายหมู่ ลกู เสอื ผู้ช่วยผเู้ ชญิ ธงเดินอ้อมปีกขวาไปขา้ งหลงั แถว ตอ่ ไปนี้ผูก้ ากบั ลกู เสือบอกเลิกแสดงความเคารพ และนาแถวออกเดินไป ให้เดินตามลาดับดังน้ี ผู้กากับลูกเสือ แตรเดี่ยว เจ้าหน้าท่ีประจาธง ถัดไปจึงถึงแถว ลกู เสอื กองลูกเสือเชิญธงแสดงความเคารพถวายแด่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวเท่านั้น (นอกจากนี้ให้ผู้กากับลูกเสือแสดงความเคารพตาม ลาพงั ) ถ้าเป็นการเชิญธงไปเข้าประจาแถวลูกเสืออีกต่อหน่ึง เมื่อกองลูกเสือ เชญิ ธงมาถึงระยะอนั จักต้องแสดงความเคารพให้ผู้กากับแถวลูกเสือ ซ่ึงตั้งแถวรออยู่ นั้น บอกแสดงความเคารพแตรเด่ียวเป่าเพลงคานับ ๓ จบ ถ้ามีแตรวงให้แตรวง บรรเลงเพลงมหาชัย แตรเด่ียวไม่ต้องเป่าคานับ เมื่อผู้กากับลูกเสือนากองลูกเสือที่ ๘๓ เอกสารประกอบการผ้บู ังคบั บญั ชาลูกเสอื เพอื่ พฒั นาทกั ษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

เชิญธงมาถึงที่แล้วให้บอกหยุด ครั้นแล้วให้บอก “ธงประจาที่” ตามคาบอกน้ีให้ผู้เชิญ ธงพร้อมด้วยผรู้ กั ษาธงเดินไปเข้าประจาที่ ตอนนแี้ ถวลูกเสือไมต่ อ้ งแสดงความเคารพ ถ้าแถวลูกเสือตั้งอยู่ข้างหน้าใกล้กับสถานท่ีไว้ธง ไม่ต้องจัดกองลูกเสือ เชิญธงเมื่อกาหนดเวลาใหเ้ จา้ หน้าท่เี ชญิ ธงออกจากสถานทไ่ี วธ้ งไปเข้าประจาที่ตามทาง อันสะดวกเร็ว แถวลูกเสอื แสดงความเคารพดังกลา่ วแลว้ ถา้ เป็นการเชญิ ธงไปประดิษฐานในที่แห่งอื่นชั่วครั้งคราวกองลูกเสือเชิญ ธงไปถึงที่แล้ว ให้หยุดและจัดแถวหน้ากระดานธงประจาปีกขวา ครั้นแล้วผู้กากับ ลกู เสอื เชิญธง บอกแสดงความเคารพเมือ่ ได้ยนิ คาบอกว่า “ระวัง” ใหผ้ ู้ชว่ ยผู้เชิญธงว่ิง ไปอยู่ข้างหลัง ผู้รักษาธงท่ีอ่อนอาวุโสไปอยู่ข้างหน้าธง ส่วนผู้รักษาธงท่ีมีอาวุโสสูงถัด ข้ึนไปนั้น ให้กลับไปประจาท่ีของตนในแถวกองลูกเสือ เม่ือสิ้นคาบอกว่า “วันทยา - วุธ” แล้วให้ผู้รักษาธงที่อ่อนอาวุโสนั้นบอกว่า “ธงหน้า - เดิน” แล้วนาธงเข้า ประดิษฐาน ตอ่ ไปนี้กองลูกเสือเชิญธงจะต้องประจารักษาธงอยู่ ณ ทนี่ ัน้ ต่อไป หรือจะ กลับได้ก็แลว้ แต่จะไดร้ บั คาสัง่ มาอย่างไร การเชิญธงกลับไปไว้ที่เดิม ถ้าเป็นการเชิญจากสถานท่ีแห่งหน่ึงไปสู่ท่ีอีก แห่งหนง่ึ ก็ปฏิบัติตามท่ีกล่าวมาแลว้ โดยตลอดถ้าเป็นกรเชิญธงกลบั จากแถวลกู เสือ ให้ ผู้บังคับแถวลูกเสือจัดลูกเสือ ๑ กอง ให้เชิญธงกลับ และเม่ือกองลูกเสือเชิญธงเริ่ม ออกเดิน ให้บอกแถวแสดงความเคารพสง่ ธง เมือ่ ผ้กู ากบั ลกู เสอื เชิญธงได้จัดการส่งธง เสร็จแลว้ ใหน้ ากองลูกเสอื กลับไปโดยไมต่ ้องรอคอยเจ้าหน้าที่ประจาธง ธงคณะลูกเสือแห่งชาติและธงลูกเสือประจาจังหวัดน้ัน ตามปกติย่อม มว้ นเกบ็ รกั ษาไวใ้ นถุงคลุมธงเสมอ โอกาสที่จะเปิดถุงและคลีธ่ งออกนั้นมีดังน้ี ก. เมอ่ื ธงประจาอยกู่ บั กองเกียรตยิ ศ ข. ในการตรวจพลสวนสนาม ค. ในงานพิธีของลูกเสอื ในการฝกึ ตามปกติไม่ต้องนาธงลกู เสอื ประจาจังหวัดไปด้วย เว้นแต่เม่ือมี คาส่ังเฉพาะจงึ ใหน้ าไปด้วย ๘๔ เอกสารประกอบการผบู้ ังคับบญั ชาลกู เสือเพอ่ื พัฒนาทกั ษะดา้ นระเบียบแถวลูกเสือ

(๒) ท่าเชญิ ธงคณะลูกเสอื แห่งชาติและธงลูกเสือประจาจังหวดั ในการทาท่าเชญิ ธง ให้กระทาตดิ ตอ่ กนั ไปโดยละม่อมไม่ต้องเรง่ รบี เมอ่ื อยูก่ บั ที่ ให้ผเู้ ชิญธงจับคันธงตอนกลางด้วยมือขวา คันธงอยู่ชิดข้าง ลาตัวด้านขวา ในท่าตรง (น้ิวชี้ นิ้วกลาง น้ิวนางอยู่ทางหน้าน้ิวก้อยอยู่ทางข้าง นวิ้ หวั แม่มืออยู่ทางหลงั ) คนั ธงอยู่ทางเท้าขวา โคนธงอย่ปู ระมาณโคนน้วิ กอ้ ยเทา้ ขวา เมือ่ ลูกเสือทาท่าแบกอาวุธ เพ่ือจะออกเดินไปให้ผู้เชิญธงข้ึนด้วยมือขวา และใช้มือซ้ายช่วยนาคันธงข้ึนพาดบนบ่าขวาเมื่อพาดแล้วลดมือซ้ายกลับมาอยู่ที่เดิม คันธงพาดอยู่บนบ่า โคนคันธงเฉลียงลงเบ้ืองล่าง ข้อศอกขวาทามุม ๙๐ องศา กับ ลาตวั ในการเคล่อื นท่ีใหเ้ ชญิ ธงแบกบ่าขวา ในการเดินผา่ นเฉพาะพระพักตร์ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ให้เชิญธง ในท่าเคารพ คือยกคันธงขึ้นด้วยมือขวา ให้ต้ังตรงแนบกับบ่าขวา มือซ้ายจับคันธง เสมอแนวบา่ มือขวาเหยียดจบั โคนคนั ธง ในการผ่านเฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ผู้รักษาธง กระทาวันทยหัตถ์ถวายความเคารพ ส่วนผู้ช่วยผู้เชิญธงให้ทาท่าแลขวา แขนไม่แกว่ง ถวายความเคารพ การลดธงจากทา่ เคารพไปอยทู่ า่ ตรงทาดงั นี้ คือ ปล่อยมอื ขวาจากโคนคัน ธง และยกข้ึนไปจับคันธงชิดกับมือซ้ายตรงที่เหมาะสาหรับถือท่าตรง แล้วมือทั้งสอง ช่วยกันหย่อนคันธงลงสู่พ้ืน ให้โคนคันธงอยู่ประมาณโคนน้ิวก้อยเท้าขวา และชิดกับ เทา้ ขวา ปล่อยมอื ซ้ายลงไปอยขู่ า้ งตวั ในทา่ ตรง การแสดงความเคารพในเวลาอยู่กบั ท่ี ทาเปน็ ๒ จงั หวะดังน้ี จังหวะท่ี ๑ เมื่อได้ยินคาสั่งว่า “ระวัง” ให้ผู้เชิญธงนมือซ้ายไปจับคันธง เหนอื มอื ขวาแล้วยกคันธงขึ้นตรง คันมือซ้ายอยู่เสมอแนวไหล่ขวา ส่วนมือขวาเหยียด ตรงจบั คันตรงไวแ้ ล้วทาก่งึ ขวาหนั จังหวะ ๒ เมอื่ ไดย้ นิ คาส่งั “วันทยาวุธ” และบรรเลงเพลงสรรเสริญพระ บารมี ใหผ้ ู้เชิญธงโรยธงเม่ือจบเพลง ได้ยินคาสั่งว่า “เรียบ” ให้ผู้เชิญธงทาก่ึงซ้ายหัน และเมอื่ ได้ยนิ คาสง่ั “อาวธุ ” กใ็ หล้ ดคนั ธงลงอยใู่ นทา่ ตรง ๘๕ เอกสารประกอบการผู้บงั คับบญั ชาลกู เสือเพ่ือพัฒนาทกั ษะดา้ นระเบยี บแถวลกู เสอื

หมายเหตุ ธงคณะลกู เสอื แหง่ ชาติและธงลกู เสือประจาจังหวัด จะถวาย ความเคารพด้วยท่าธงแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั พระองค์เดียวเท่านัน้ เมื่อมคี าบอกวา่ “แสดงรหัส” ให้ผเู้ ชิญธงทาดงั นี้ ยกคันธงมาทางหน้า แล้ววางโคนคันธงลงระหว่างเท้าท้ัง ๒ ให้โคนคันธง ชิดด้านในเท้าขวา เอนคันธงไปพิงกับแขนซ้ายตรงข้อศอกซึ่งงออยู่นั้น แล้วยกมือ แสดงรหัส ๘๖ เอกสารประกอบการผูบ้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื เพือ่ พฒั นาทักษะด้านระเบียบแถวลกู เสอื

ตอนที่ ๗ ภาคผนวก บทท่ี ๑ กล่าวทวั ่ ไป การฝึกระเบียบแถวของลูกเสือ ปกติมักนิยมปฏิบัติกัน ณ บริเวณที่ตั้ง กองลูกเสือในตารางฝึกประจาวัน ซึ่งแต่ละกองได้กาหนดข้ึน ท้ังน้ีเพ่ือมุ่งหมายให้ ลูกเสือได้รู้วิธีปฏิบัติในการอยู่รวมกันเป็นหมู่และเป็นกอง รวมทั้งการเคลื่อนท่ีจากที่ หนึ่งไปสู่ที่หน่ึงด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย รู้จักฟังคาบอก คาสั่งของ ผ้บู งั คบั บญั ชา ตลอดจนสัญญาณต่างๆ ที่ใช้ในหารเรียกแถวและบังคับแถว โดยเหตุท่ี ในกิจการลูกเสือนั้นมีพิธีการอยู่ไม่น้อยตล อดปี จึงจาเป็นอย่างยิ่งที่ลูกเสือ ผบู้ ังคบั บญั ชาลูกเสอื และเจ้าหนา้ ทีล่ ูกเสือจักไดร้ ู้วธิ ปี ฏบิ ตั ิอันถกู ต้อง อนึ่ง การฝึกระเบียบแถวลูกเสือ ได้อาศัยหลักการและวีการคล้ายคลึง กับการฝึกวิชาทหารรักษาดินแดน อันมีการฝึกท่ามือเปล่าและการฝึกแถวชิด ตลอดจนการใช้อาวุธบางท่า ซึ่งทาให้เกิดความสะดวกแก่ลูกเสือเมื่อเติบใหญ่ข้ึน และ ก้าวไปสู่การฝึกวิชาทหาร หรือการท่ีจะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจาการ อย่างไรก็ดี การฝึกระเบียบแถวได้ผนวกเอาวิธีการท่ีคณะกรรมการบริหารลูกเสือ แห่งชาติ ได้กาหนดเป็นระเบียบขึ้นไว้โดยเฉพาะ เช่น ระเบียบว่าด้วยการจัดกอง ลูกเสือเกียดรติยศ อันเป็นเร่ืองท่ีแต่ละกองลูกเสือควรรู้และปฏิบัติให้เป็นแบบฉบับ อย่างเดียวกนั อกี อย่างหน่งึ เพ่ือใหเ้ กดิ ความสะดวกแก่คณะลูกเสือไทยในโอกาส ท่ีจะ ไปเข้าร่วมกับคณะลูกเสือต่างประเทศ หรือคณะลูกเสือนานาชาติ เม่ือมีการชุมนุม ลูกเสือหรือเข้ารับการอบรมวิชาผู้กากับลูกเสือขั้นต่างๆ ในต่างประเทศ ลูกเสือและ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ลูกเสือเห็นสมควรจะได้เรียนรู้เรื่องรูปแถว ต่าง ๆ ท่ีใช้กับลูกเสือสากลการใช้สัญญาณมือในการเรียกแถว และบังคับแถว และ วธิ ีการเขา้ แถวตามรูปแถวน้ัน ๆ พอเป็นสังเขป ๘๗ เอกสารประกอบการผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเพอื่ พฒั นาทกั ษะดา้ นระเบยี บแถวลกู เสือ

บทท่ี ๒ ระเบียบว่าดว้ ยการจดั กองลกู เสอื เกียรตยิ ศ โดยท่ีคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ เห็นสมควรที่จะได้วาง ระเบยี บวา่ ดว้ ยการจดั กองลูกเสอื เกยี รตยิ ศ จึงไดว้ างระเบียบปฏบิ ตั ไิ ว้ดงั นี้ ข้อ ๑ ระเบียบนเ้ี รียกวา่ “ระเบยี บสานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง่ ชาติ วา่ ด้วยการจัดกองลกู เสอื เกยี รตยิ ศ พ.ศ. ๒๕๑๙” ข้อ ๒ กองลูกเสือเกียรติยศประกอบด้วยลูกเสืออย่างน้อย ๒ หมู่ พรอ้ มด้วยผู้บงั คับบัญชาควบคุมอยา่ งนอ้ ย ๒ คน และใหม้ แี ตรเด่ยี วด้วย ข้อ ๓ กองลูกเสือเกียรตยิ ศจดั สาหรับ ๓.๑ พระประมุขของคณะลูกเสือแหง่ ชาติ ๓.๒ องค์อุปถัมภ์ของคณะลกู เสอื แหง่ ชาติ ๓.๓ รัชทายาท ๓.๔ ผสู้ าเรจ็ ราชการแทนพระองค์ ๓.๕ ผู้ปฏิบตั ิพระราชภารกิจแทนพระองค์ ๓.๖ สภานายก สภาลกู เสือแหง่ ชาติ ๓.๗ ประธานคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แห่งชาติ ๓.๘ ศพผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ต้ังแต่ผู้ตรวจการลูกเสือข้ึนไป กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาลูกเสือแห่งชาติ กรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ หรือ ผูบ้ งั คับบัญชาลกู เสืออื่นที่เห็นสมควร ๓.๙ ธงคณะลกู เสอื แหง่ ชาติ หรอื ธงลกู เสอื ประจาจงั หวดั ข้อ ๔ การจดั กองลกู เสอื เกยี รติยศ ให้จัดในโอกาสต่อไปนี้ ๔.๑ สาหรับพระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ องค์อุปถัมภ์ ของคณะลูกเสือแห่งชาติ และรัชทายาท ให้จัดเม่ือเสด็จในงานพระราชพิธี รัฐพิธี งานพธิ ีของลูกเสอื หรอื เสดจ็ ประพาสตา่ งท้องถ่ิน ๔.๒ สาหรับผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ให้จัดเช่นเดียวกับ หมายเลข ๔.๑ ๘๘ เอกสารประกอบการผบู้ ังคับบัญชาลูกเสอื เพ่อื พฒั นาทกั ษะดา้ นระเบยี บแถวลูกเสอื

๔.๓ สาหรับสภานายก สภาลูกเสือแห่งชาติและประธาน คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ให้จัดเมอื่ ไปในงานพิธขี องลกู เสอื ๔.๔ สาหรับศพผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ให้จัดเม่ือเวลาเผาหรือฝัง แตใ่ หง้ ดสาหรับศพผ้บู งั คับบญั ชาลกู เสอื ซึง่ เสียชีวติ เน่อื งจากกระทาผิดหรอื ประพฤตชิ ่ัว ๔.๕ สาหรบั ธงคณะลูกเสือแห่งชาติ หรือธงลูกเสือประจาจังหวัด ใหจ้ ดั ในเมอื่ เชญิ ธงไปในงานพิธีและเชญิ กลบั ขอ้ ๕ กองลูกเสือเกียรติยศสาหรับพระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ องค์อุปถัมภ์ของคณะลูกเสือแห่งชาติและรัชทายาท ให้มีธงคณะลูกเสือแห่งชาติหรือ ธงลกู เสือประจาจงั หวดั ด้วย ขอ้ ๖ กองลกู เสือเกียรตยิ ศให้แตง่ เคร่อื งแบบลกู เสือ ลูกเสือถือไม้พลอง หรือไมง้ า่ มทกุ คน ตามประเภทของตน ส่วนผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๒ คน ท่ีควบคุมให้มี ไมถ้ ือ ข้อ ๗ การจัดกองลูกเสือเกียรติยศสาหรับศพผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ให้ พยายามจัดลูกเสือจากหนว่ ยสังกัดเดียวกับผู้เสียชีวิต หรือจากหน่วยสังกัดที่ผู้เสียชีวิต เคยบงั คบั บญั ชาหรอื เคยประจามากอ่ น ขอ้ ๘ กองลกู เสือเกยี รติจดั สาหรบั ผู้ใด โดยปกติให้ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ กองเกยี รตยิ ศรายงานตวั ต่อผนู้ นั้ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือกองเกียรติยศไม่ต้องรายงานตัวเมื่อกองลูกเสือ เกียรติยศจัดสาหรับ พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ องค์อุปถัมภ์ของคณะ ลูกเสือแห่งชาติ รัชทายาทหรือผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ ในงานพระราชพิธี หรือ รัฐพธิ ีตา่ ง ๆ ซง่ึ มีหมายกาหนดการของสานกั พระราชวัง ข้อ ๙ การที่จะจัดกองลูกเสือเกียรติยศในส่วนกลางให้เลขาธิการ สานักงานลูกเสือแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณาอนุญาต ในส่วนภูมิภาคนั้น ให้ผู้อานวยการ ลกู เสือจังหวัดเป็นผ้พู จิ ารณาอนญุ าต ท้งั นต้ี ามความเหมาะสม ๘๙ เอกสารประกอบการผู้บงั คบั บญั ชาลกู เสอื เพ่ือพฒั นาทักษะด้านระเบียบแถวลูกเสือ

บทท่ี ๓ สญั ญาณมือในการเรยี กแถวของลกู เสือสากล การใช้สัญญาณมือเรียกแถวรูปต่าง ๆ ในการฝึกอบรมลูกเสือตามแบบ สากลของลูกเสือ ทุกประเภท ผู้บังคับบัญชาท่ีจะเรียกแถวน้ันจะต้องเลือกสถานที่ให้ เหมาะสมเสียก่อน และยืนตรงแล้วจึงเรียกและให้สัญญาณ (ลูกเสือสารองใช้คาว่า แพ็ค ลกู เสอื สามญั สามญั รนุ่ ใหญ่ และวิสามัญ ใชค้ าวา่ กอง) ๑. แถวหน้ากระดานแถวเดย่ี ว หนา้ กระดานแถวเด่ียว ผเู้ รยี กเหยยี ดแขนทง้ั สองข้างเสมอแนวไหล่ มอื แบหนั ฝา่ มือไปขา้ งหนา้ ให้ลูกเสือเข้าแถวหน้ากระดานแถวเด่ียว ข้างหน้าผู้เรียกให้แนวตรง กึง่ กลางของแถวอยูห่ ่างผ้เู รียกประมาณ ๖ ก้าว หนั หน้าเข้าหาผู้เรียก กรณหี มูเ่ ดียว ใหน้ ายหมยู่ ืนแลตรงเปน็ หลกั ทางขวา (ทางซ้ายมือผู้เรียก) ลูกแถวเข้าแถวตามลาดับทางซ้ายของนายหมู่ ยืนเรียงเคียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ไปจนถึงลูกแถวคนสุดท้าย และปิดหมู่ ด้วยรองนายหมู่ ซึ่งอยู่ซ้ายสุดทุกคน (ยกเว้น นายหม)ู่ จัดแถวทางขวา (แลขวา) การจดั ระยะเคยี ง ถ้าเป็น “ปิดระยะ” ระยะเคียงของลูกเสือในแถวหน้า กระดาน คือ ช่วงแขนซ้ายของลูกเสือที่อยู่ทางขวา ยกมือซ้ายข้ึนเท้าตะโพก ให้ฝ่ามือ ๙๐ เอกสารประกอบการผบู้ ังคบั บญั ชาลูกเสือเพื่อพัฒนาทักษะด้านระเบยี บแถวลูกเสือ

พักอยู่บนตะโพกนิ้วเหยียดชิดกันอยู่ประมาณแนวตะเข็บกางเกง ศอกอยู่เสมอแนว ลาตัว การจัดแถวใช้แขนขวาจดปลายศอกซา้ ย ผู้เรียกแถวจดั การตรวจแถว แล้วส่ังนิ่ง ลกู เสอื ทุกคนลดมอื ลงพรอ้ มกบั สะบัดหน้ามาอยใู่ นท่าตรงและน่งิ ถา้ เปน็ “เปดิ ระยะ” ระยะเคยี งของลูกเสือในแถวหนา้ กระดาน คือสดุ ช่วงแขนซ้ายของลกู เสอื ทอ่ี ย่ทู างขวา ใหป้ ลายนว้ิ กลางมือซา้ ยจดไหลข่ วา นบั จากนาย หมู่เป็นตน้ มาจนถึงแถวคนสดุ ท้ายก่อนถงึ รองนายหมู่ กรณีมีหลายหมู่ ให้แต่ละหมู่เข้าแถวหน้ากระดานแถวเดี่ยว เหมือนกับท่ี เป็นหมเู่ ดยี ว ให้แนวตรงก่งึ กลางของแถวอยู่หา่ งจากผเู้ รยี ก ๖ กา้ วโดยประมาณ และ ระยะเคียงระหว่างหมู่ (ระหว่างนายหมู่ถัดไปทางซ้ายกับรองนายหมู่ทางขวา) เป็นไป ตามปกติ และระยะเคยี ง ๑ ช่วงแขน กรณี “เปดิ ระยะ” เมือ่ เข้าแถวเรยี บรอ้ ยแล้ว ผเู้ รียกแถวตรวจการจดั แถวแล้วส่ังนง่ิ ๒. แถวตอนเรยี งหนง่ึ ตอนเรยี งหนงึ่ ผู้เรียกเหยียดแขนทั้งสองไปข้างหน้า เสมอแนวไหล่มือแบ หันฝ่ามือเข้า หากัน ให้ลูกเสือเข้าแถวตอนเรียงหน่ึงข้างหน้าผู้เรียก นายหมู่หลักซึ่งอยู่หน้า ผู้เรียกประมาณ ๖ กา้ ว กรณีหมู่เดียว ให้นายหมู่ว่ิงมามายืนในท่าตรงเป็นหลักข้างหน้าผู้เรียก ประมาณ ๖ ก้าว ลกู แถวเขา้ แถวหลงั นายหมู่หลัก ยืนให้ตรงคอนายหมู่ข้างหน้า ระยะ ๙๑ เอกสารประกอบการผบู้ ังคบั บญั ชาลูกเสอื เพอื่ พฒั นาทักษะด้านระเบยี บแถวลกู เสือ

ตอ่ สุดช่วงแขนของลูกเสือเมื่อย่ืนไปจดหลังท่อนบนของผู้อยู่ข้างหน้า ลูกแถวคนอ่ืน ๆ ก็เข้าแถวซ้อนไปข้างหลังของลูกแถวข้างหน้าตามลาดับ ระยะต่อสุดช่วงแขนดังเดิม และเข้าแถวตอ่ ซอ้ นกันไปจนถงึ คนสดุ ทา้ ย และปดิ ท้ายด้วยรองนายหมู่ ในระยะต่อสุด ช่วงแขนเช่นกัน เมอื่ ผเู้ รียกแถวตรวจการจัดแถวแลว้ สั่งนิ่ง ทุกคนลดแขนลงอยู่ในท่าตรง เพอ่ื ฟังคาสงั่ ต่อไป กรณีมีหลายหมู่ ให้เรียกว่า “แถวตอนหมู่” ให้หมู่หลักเข้าแถวตอน ตรงหน้าผู้เรียก ห่างจากผู้เรียก ๖ ก้าวโดยประมาณ โดยมีหมู่อื่นๆเข้าแถวตอนเป็น แนวเดยี วกันไปทางซา้ ยและทางขวาของหมหู่ ลกั ระยะเคยี งระหว่างหมูป่ ระมาณ ๑ ชว่ งศอก ส่วนระยะต่อ ๑ ชว่ งแขน โดยประมาณ (ไมต่ อ้ งยกแขน) ๓. แถวหนา้ กระดานหมู่ปดิ ระยะ ผเู้ รยี กกามอื ทง้ั ๒ ข้าง เหยียดตรงไปข้างหนา้ ขนานกบั พ้ืน งอข้อศอกขึ้น เป็นมมุ ฉาก หนั หนา้ มอื เขา้ หากัน หน้ากระดานหมปู่ ิดระยะ ให้ลูกเสือหมู่ที่ ๑ มาเข้าแถวหน้าผู้เรียก นายหมู่อยู่ขวามือ ลูกหมู่อยู่ ซ้ายมือเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน โดยให้ตรงก่ึงกลางของหมู่อยู่ตรงหน้าผู้เรียก ๙๒ เอกสารประกอบการผูบ้ งั คบั บญั ชาลกู เสือเพอ่ื พัฒนาทกั ษะด้านระเบยี บแถวลกู เสือ

ห่างจากผู้เรียกประมาณ ๖ ก้าว หมู่ต่อ ๆ ไป เข้าแถวหน้ากระดานเช่นเดียวกันข้าง หลงั หมู่แรกตามลาดบั ระยะหมู่ต่อหมปู่ ระมาณ ๑ ช่วงแขน การเข้าแถว ลูกเสือทุกคน (เว้นคนอยู่ทางซ้ายสุด) ยกมือซ้ายขึ้นเท้า ตะโพก (เหมือนดังท่ีกล่าวไว้ในหมู่แถวหน้ากระดาน) ระยะต่อระหว่างหมู่ต่อหมู่ ประมาณ ๑ ช่วงแขน (ไม่ตอ้ งยกแขน) สะบัดหนา้ ไปทางขวา เมื่อผู้เรียกแถวตรวจการ จดั แถวแลว้ สง่ั น่งิ ลกู เสอื ทุกคนลดแขนลงพรอ้ มสะบดั หนา้ มาอยู่ในท่าตรง ๔. แถวหน้ากระดานหมเู่ ปิดระยะ ผเู้ รียกกามือทั้ง ๒ ข้าง งอข้อศอกเป็นมุมฉาก แขนท่อนบนแบะออกจน เปน็ แนวเดียว กบั ไหล่ หนั หนา้ มอื ไปข้างหน้า ให้ลูกเสอื ทกุ คนเข้าแถวเหมอื นแถวหน้ากระดานหมู่ปิดระยะ แต่ระยะต่อ ระหว่างหมู่ของทุกหมขู่ ยายออกไปทางด้านหลงั ห่างกันหมลู่ ะประมาณ ๓ ชว่ งแขน หน้ากระดานหมเู่ ปดิ ระยะ การเข้าแถว ใหล้ กู เสือทกุ คน (เวน้ คนอยซู่ ้ายสดุ ) ยกมอื ซ้ายขน้ึ เทา้ ตะโพก สะบดั หน้าไปทางขวา ระยะตอ่ ระหวา่ งหมตู่ ่อหม่ปู ระมาณ ๓ ช่วงแขน เมื่อ ผู้เรียกแถวตรวจการจัดแถวแล้วส่ังน่งิ ลูกเสือทกุ คนสะบดั หนา้ และอยูใ่ นทา่ ตรง ๕. แถวรปู ครงึ่ วงกลม ผู้เรียกแถว มือแบท้ัง ๒ ขา้ ง เหยียดตรงลงขา้ งล่างควา่ ฝ่ามือเข้าหาตวั โบกผ่านลาตวั ประสานกันด้านหนา้ ชา้ ๆ เป็นรปู คร่งึ วงกลม ๙๓ เอกสารประกอบการผ้บู ังคบั บญั ชาลกู เสือเพอื่ พฒั นาทกั ษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

แถวรปู คร่งึ วงกลม ให้ลูกเสือหมู่แรกยืนด้านซ้ายมือของผู้เรียก โดยนายหมู่หมู่แรกยืนอยู่ เป็นแนวเดียวกับผู้เรียก หมู่ท่ี ๒ และหมู่ต่อ ๆ ไปอยู่ทางด้านซ้ายของหมู่แรก ตามลาดบั จนคนสุดท้ายของหมู่สุดท้ายอยู่เป็นเส้นตรงแนวเดียว กับผู้เรียกและนาย หม่หู มูแ่ รกโดยมือถือวา่ ผเู้ รียกเปน็ จุดศูนยก์ ลาง การเข้าแถว ให้ลูกเสือทุกคน (เว้นคนซ้ายสุด) ยกมือซ้ายขึ้นเท้าตะโพก สะบัดหน้าไปทางขวา (ยกเว้นนายหมู่หมู่แรก) เม่ือผู้เรียกแถวตรวจการจัดแถวแล้ว สั่งน่ิง ลูกเสือทกุ คนลดแขนลงพร้อมสะบดั หน้ามาอยใู่ นท่าตรง ๖. แถวรปู วงกลม ก. แบบผ้เู รยี กแถวยืนทจี่ ดุ ศนู ยก์ ลาง ผูเ้ รยี กแถวมือแบทงั้ สองข้าง เหยยี ดตรงลงข้างล่าง คว่าฝ่ามือเข้าหาตัว โบกผา่ นลาตัว ประสานกันดา้ นหนา้ จดดา้ นหลังเปน็ รูปวงกลม ให้ลูกเสอื หมู่แรกยืนด้านซ้ายมือของผู้เรยี ก โดยนายหมู่หมู่แรกยืนอยู่แนว เดียวกับผเู้ รยี ก หมู่ท่ี ๒ และหม่ตู ่อ ๆ ไปอยทู่ างด้านซ้ายของหมู่แรกตามลาดบั จนคน สดุ ทา้ ยของหมู่สุดท้ายไปจดกับ นายหมู่ของหมูแ่ รก ถือผเู้ รยี กเปน็ จุดศูนยก์ ลาง การเข้าแถว ให้ลูกเสือทุกคนยกมือซ้ายขึ้นเท้าตะโพกสะบัดหน้าไป ทางขวา (ยกเวน้ นายหมู่หมู่แรก) เม่อื ผเู้ รยี กแถวตรวจการจัดแถวเรียบร้อยแล้วส่ังนิ่ง ๙๔ เอกสารประกอบการผบู้ งั คับบญั ชาลกู เสือเพอื่ พฒั นาทักษะดา้ นระเบียบแถวลูกเสอื

ลูกเสือทุกคนลดแขนลงและสะบัดหน้ามาอยู่ในท่าตรง (การเข้าแถวและการจัดแถว อนุโลมตามแบบ ก) แถวรูปวงกลม (ผเู้ รยี กแถวยนื อยกู่ ่ึงกลางของวงกลม) ข. แบบผูเ้ รยี กยนื อยทู่ ี่เสน้ รอบวง ผู้เรยี กแถวมอื ขวากาเหยยี ดแขนยกไปขา้ งหนา้ ขึน้ ข้างบน และเลยไปหลงั ให้ลูกเสือหมู่แรกยืนด้านซ้ายมือของผู้เรียก โดยนายหมู่แรกยืนชิดกับ ผู้เรยี กหมู่ท่ี ๒ และหมู่ตอ่ ๆ ไป อยู่ด้านซ้ายมอื ของผูเ้ รียกตาลาดับ จนคนสุดท้าย ไป จดกบั ผู้เรียกดา้ นขวามือ ถือผ้เู รียกเปน็ เส้นรอบวงด้วย แถวรูปวงกลม (ผู้เรยี กแถวยนื อยู่ที่เสน้ รอบวง) ๗. แถวส่ีเหลย่ี มเปิดดา้ นหนึ่ง ผู้เรียกแถวยืนอยู่ด้านหน่ึง (ซ่ึงเป็นด้านเปิด) ศอกงอยกแขนท้ังสองข้ึน ข้างหน้า ให้หน้าแขนท้ังสองไขว้กันตรงฝ่ามือ ฝ่ามือทั้งสองแบเหยียดหันไปข้างหน้า ฝา่ มือขวาทับหลังมอื ซ้าย ประมาณแนวลูกคาง เป็นสญั ญาณ ถา้ มีลุกเสอื ๓ หมู่ ให้เข้า ๙๕ เอกสารประกอบการผู้บังคบั บญั ชาลกู เสอื เพอ่ื พฒั นาทกั ษะด้านระเบียบแถวลกู เสอื

แถวในอีก ๒ ดา้ นท่ีเหลือ โดยมีนายหมู่ ๑ เข้าแถวหน้ากระดานแถวเดี่ยวทางด้านซ้าย ของผู้เรียก หนั หนา้ เข้าในรปู เหลีย่ ม หมู่ ๒ เข้าแถวหนา้ กระดานแถวเดียวด้านตรงข้าม กบั ผเู้ รยี ก หนั หนา้ เข้าหาผู้เรียก และหมู่ ๓ เข้าแถวหน้ากระดานแถวเดี่ยวตรงข้ามกับ หมู่ ๑ ทางดา้ นขวาของผูเ้ รยี ก การเข้าแถวให้ลูกเสือทุกคนปฏิบัติเหมือนกับการเข้าแถวหน้ากระดาน เวน้ ระยะตรงมุมของแตล่ ะด้านให้เท่ากนั พอควรไมซ่ อ้ นหรอื ตรงกัน แถวส่ีเหลีย่ มเปดิ ดา้ นหนง่ึ ถ้ามีลูกเสอื มากกว่า ๓ หมู่ ให้อยู่ในดุลพนิ จิ ของผู้เรียกแถว แต่ควรให้ ด้านซา้ ยมือกับดา้ นขวามือมจี านวนเทา่ กัน เมอื่ มีผ้เู รยี กแถวตรวจแถวเรยี บร้อยแลว้ สงั่ นง่ิ ลกู เสือทกุ คนลดแขนลง พรอ้ มสะบดั หน้าอยใู่ นท่าตรง ๘. แถวรัศมหี รอื ลอ้ เกวยี น (CART WHEEL) ผู้เรียกแถวยืนอยู่ในท่าตรง มือขวาแบคว่ากางนิ้วออกทุกนิ้ว ชูแขนไป ขา้ งหน้าทามมุ ประมาณ ๔๕ องศา ใหม้ องเหน็ ได้ แลว้ เรียก “แพค็ ” หรือ “กอง” ให้ลกู เสือทุกหมู่มาเข้าแถวเปน็ รูปหมูแ่ ถวตอนหน้าผู้เรียก ห่างจากผู้เรียก ประมาณ ๖ ก้าว เป็นรูปรัศมีโดยให้หมู่แรกอยู่ด้านหน้าทางซ้ายมือผู้เรียกประมาณ ๔๕ องศา หมูท่ ี่ ๒ และหมู่ต่อ ๆ ไปอยู่ด้านซ้ายของหมู่แรกตามลาดับ ถือผู้เรียกเป็น จุดศูนย์กลาง ระยะต่อของแต่ละหมู่ระหว่างบุคคลประมาณ ๑ ช่วงแขน ระยะเคียง ๙๖ เอกสารประกอบการผบู้ ังคบั บญั ชาลกู เสอื เพอ่ื พฒั นาทักษะดา้ นระเบียบแถวลกู เสอื

ระหวา่ งนายหมูต่ อ่ นายหม่พู อสมควร และนายหมู่ หม่สู ดุ ทา้ ยจะอยู่ดา้ นหนา้ ทางขวามือ ของผู้เรยี กประมาณ ๔๕ องศา การเข้าแถว ให้ลูกเสือทุกคน (เว้นคนอยู่หัวแถวของแต่ละหมู่) เหยียด แขนซ้ายไปขา้ งหน้า สงู เสมอแนวไหล่คว่าฝ่ามือให้ปลายนิ้วมือจดหลังของคนหน้าพอดี ผเู้ รียกแถวจดั แถวแลว้ ส่ัง “นงิ่ ” ลูกเสือทกุ คนลดแขนลงพร้อมกันและนงิ่ แถวรัศมี ๙. การใช้สญั ญาณมอื เปน็ คาสัง่ ใหแ้ ถว “พักตามระเบยี บ” และ “ตรง” คาส่ัง \"ตรง\" \"ตามระเบยี บพกั \" ในการเข้าแถวของหมู่ลูกเสือ จะเป็นแถวหน้ากระดานก็ดี แถวตอนก็ดี หรือแถวหน้ากระดานตอนหมู่ รูปครึ่งวงกลม หรือวงกลม ตลอดจนแถวรูปส่ีเหล่ียม ๙๗ เอกสารประกอบการผู้บังคับบญั ชาลูกเสอื เพ่อื พฒั นาทักษะดา้ นระเบียบแถวลูกเสอื

เปิดด้านหนึ่งก็ดี ผู้เรียกแถวอาจใช้สัญญาณมือเป็นคาส่ังให้แถว “พัก” จากท่าตรง และเป็นคาสั่งใหแ้ ถว “ตรง” จากท่าพักกไ็ ด้ โดยผู้เรียกแถวทา ๒ จังหวะ ดงั น้ี จังหวะ ๑ กามือขวา งอแขนตรงศอกให้มือที่กาอยู่ประมาณตรงหัวเข็ม ขดั หนั ฝ่ามอื ท่กี าเข้าหาหัวเข็มขดั จังหวะ ๒ สลัดมือท่ีกาและหน้าแขนไปทางขวาเป็นมุม ๑๘๐ องศา ประมาณแนวเดียวกับแนวเข็มขัด เป็นสัญญาณให้ “พักตามระเบียบ” (ลูกเสือทุกคน ปฏิบัติเชน่ เดียวกบั ท่าพักตามระเบยี บ) กรณีท่ีจะให้สัญญาณมือเป็นคาสั่งให้ตรง “ตรง” ผู้เรียกแถวทา ๒ จังหวะ ดงั นี้ จังหวะ ๑ กามือในลักษณะเหมือนกับเมื่อตอนสลัดแขน สั่ง “พัก” จังหวะ ๒ จังหวะ ๒ กระตุกหน้าแขนให้กามือกลับมาอยู่ตรงหัวเข็มขัด (จังหวะ ๑ ของสัญญาณสง่ั “พัก”) ลกู เสอื ทุกคนชิดเท้าซ้าย ลดแขนทีไ่ ขว้หลังลงและอย่ใู นทา่ ตรง ๙๘ เอกสารประกอบการผูบ้ ังคับบญั ชาลูกเสือเพอ่ื พฒั นาทกั ษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ

บทที่ ๔ การใชไ้ มถ้ อื ของผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื ตัวไม้มีลักษณะกลม เส้นผ่าศูนย์กลางหัวไม้ ๑.๘ เซ็นติเมตร กลางไม้ ๑.๕ เซน็ ติเมตร ปลายไม้ ๑.๒ เซน็ ตเิ มตร ยาว ๗๕ เซน็ ติเมตร ที่หัวไม้และปลายไม้ให้ มีปลอกทองเหลืองหุ้ม ทางด้านหัวไม้ยาว ๖ เซ็นติเมตร ด้านปลายไม้ยาว ๔ เซน็ ตเิ มตร จากหัวไมล้ งมา ๑๒ เซ็นติเมตร ให้มีพู่ ๒ พู่ ผูกติดอยู่กับไม้ และจากหัวไม้ ลงมา ๑๖ เซ็นติเมตร ใหม้ ปี ลอกทองเหลืองเป็นตราคณะลูกเสือแหง่ ชาตหิ ุ้มอยู่ ไมถ้ ือให้เปน็ สนี า้ ตาลแก่ ลักษณะพูข่ องไมถ้ อื เป็นดา้ ยหรอื ไหมพรม สีตามประเภทของลกู เสือหรือตาแหน่งของลูกเสือ ถกั เป็นเชือก ผูกไม้ถือ ปลายเชือกยาวข้างละ ๖ เซ็นติเมตร ต่อจากปลายเชือกแต่ละ ขา้ งทาเป็นพู่ยาวข้างละ ๗ เซ็นติเมตร ขนาดโตพอสมควร ผู้บังคบั บัญชาลกู เสอื สามัญ เชือกและพเู่ ป็นสเี ขยี ว ผูบ้ ังคบั บัญชาลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ เชอื กและพ่เู ปน็ สเี ลอื ดหมู ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื สามัญวิสามัญ เชอื กและพู่เป็นสีแดง ผู้บังคับบญั ชาลกู เสือชั้นผ้ตู รวจการลูกเสือ เชือกและพเู่ ปน็ สีม่วง สังกดั สานกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ ผู้บงั คับบัญชาลกู เสอื ชนั้ ผู้ตรวจการลูกเสอื สังกดั สานกั งานลูกเสอื จังหวัด เชอื กสมี ่วง พขู่ ้างหนง่ึ สีมว่ ง อกี ข้างสเี หลอื ง ผบู้ ังคับบัญชาลูกเสอื ชั้นผตู้ รวจการลูกเสือ สงั กัดสานักงานลกู เสือเขตพ้ืนท่ี เชอื กสมี ว่ ง พขู่ า้ งหนึ่งสีม่วง อีกข้างหนง่ึ สีแดง (ลกู เสอื สารองไมม่ อี าวธุ ผู้บังคบั บัญชาลูกเสือสารองไมม่ ีไมถ้ อื ) ๙๙ เอกสารประกอบการผู้บงั คับบญั ชาลกู เสอื เพื่อพัฒนาทักษะด้านระเบยี บแถวลกู เสอื

วิธีใชไ้ มถ้ อื ของผู้บังคบั บัญชาลูกเสอื การใช้ไม้ถือของผบู้ งั คับบัญชาลูกเสือ จะใชใ้ นโอกาสทจ่ี ัดแถวลูกเสอื ใน พธิ ีใด ๆ ที่ลกู เสือถอื ไม้พลองหรอื ไมง้ า่ ม ผูบ้ งั คับบัญชาลูกเสือก็ตอ้ งถือไมถ้ ือ ซึง่ มี วิธีใช้ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. วิธีถอื ไมใ้ นทา่ ปกติ โดยปกติไม้ถอื จะหนบี อยูใ่ นด้านในซอกซา้ ยกับ ข้างลาตัวซา้ ย แขนซา้ ย ท่อนบนแนบขนานกบั ลาตวั หนีบไม้ไว้ แขนซา้ ยทอ่ นล่างเหยยี ด ตรงไปข้างหน้า มอื ซา้ ยกาไมใ้ หฝ้ ่ามือหงายขึน้ ห่างจากโคนไม้ประมาณ ๑ ฝา่ มือให้ไม้ ขนานกับพนื้ ๒. ท่าบ่าอาวุธ ใช้มอื ขวาจับโคนไมถ้ อื ใหฝ้ ่ามอื ควา่ ลงแล้วนาไมม้ าแนบ ขา้ งตวั ทางขาในทา่ ตรง ให้นิว้ ท้ังสี่เรยี งกนั อยดู่ า้ นนอก หวั แมม่ ืออย่ดู า้ นใน ให้โคนไม้อยู่ ระหวา่ งนว้ิ ชีก้ ับนวิ้ หัวแม่มอื ปลายไมอ้ ยูแ่ นบรอ่ งไหล่ขวาพร้อมกับปลอ่ ยมือซา้ ยลงข้าง ตวั ๓. ท่าทาการเคารพอยู่กับท่ี เมื่อบอกแถวทาความเคารพ “ขวา (ซ้าย ,ตรงหนา้ ) ระวัง , วันทยา - วุธ” โดยแบ่งออกเป็น จงั หวะดงั นี้ ๑. เม่ือได้ยินคาบอก “ระวัง” ให้ใช้มือขวายกไม้ถือข้ึนมาเสมอปาก แล้ว ลดไมถ้ อื มาแนบข้างลาตัวดา้ นขวา (ท่าบา่ อาวุธ) ๒. เมื่อได้ยินคาว่า “วันทยา - วุธ” ให้ยกไม้ถือข้ึนมาให้ปลายไม้ต้ังตรง นว้ิ หวั แม่มอื หันเขา้ หาตัว ตัง้ ตรงข้ึนตามไม้ ปลายนิ้วหัวแมม่ อื เสมอปาก หา่ งจากปาก ๑ ฝา่ มือ แล้วฟาดปลายไม้ และแขนขวาลงอยู่ในท่าตรง มือขวากาโคนไม้ ให้น้ิวหัวแม่มือ อยู่ข้างบน และช้ีปลายนิ้วไปทางปลายไม้ ให้ปลายไม้ช้ีตรงไปข้างหน้า และเฉียงลง ห่างจากพื้นประมาณ ๑ คืบ ทา่ เรยี บอาวุธ เมอ่ื บอก “เรียบ” ใหย้ กไมถ้ ือข้ึนมาเสมอปาก แล้วนาลงมา ในท่า บ่าอาวุธ และเมื่อบอก “อาวุธ” จึงยกไม้ถือชูแขนขวาขึ้นเหนือศีรษะ เฉียงไป ขา้ งหนา้ ทางกึ่งขวา พรอ้ มกบั เอนปลายไม้ลงมาเหนบ็ ที่ซอกรักแร้ มือซ้ายยกขน้ึ กาโคน ไมไ้ ว้ แลว้ ปลอ่ ยมอื ขวาลงในทา่ ตรงตามเดมิ ๔. เดินตามผู้รับการเคารพที่เดินตรวจแถว เมื่อได้บอกแถวทาความ เคารพด้วยท่าวันทยาวุธแล้ว ถ้าผู้รับการเคารพเดินตรวจแถว ผู้ควบคุมแถว ซึ่งได้ ๑๐๐ เอกสารประกอบการผูบ้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเพ่ือพัฒนาทักษะด้านระเบียบแถวลกู เสือ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook