คุณค่าทางด้านวรรณศิลป์ ๔. การเปรียบเทียบ มีบางตอนท่ีเปรียบเทียบคมคาย ทาใหผ้ อู้ ่าน เขา้ ใจเรื่องไดด้ ียงิ่ ข้ึน เช่น ภินทพ์ ทั ธสามคั คิยพรรคพระราชา ชาวริจฉววี า รจะพอ้ งอนตั ถภ์ ยั ลกู ขา่ งประดาทา รกกาลขวา้ งไป หมุนเล่นสนุกไฉน ดุจกนั ฉะน้นั หนอ
๏ แมม้ ากผกิ ิ่งไม้ ผวิ ใครจะใคร่ลอง มดั กากระน้นั ปอง ต้งั ใจใช้กาลงั หัก พลหกั กเ็ ตม็ ทน ๏ เหล่าไหนผไิ มตรี สละล้ีณหมู่ตน กิจใดจะขวายขวน บมิพร้อมมิเพรียงกนั ๏ อยา่ ปรารถนาหวงั สุขท้งั เจริญอนั มวลมาอุบตั ิบรร ลุไฉนบไดม้ ี ๏ ปวงทุกขพ์ บิ ตั ิสรร ตพิปภรยะนั สตงรคากย์ กค็ ลงสี น.มสิ่งร้าย, โทษ แมป้ ราศนิยมปรี ๏ ควรชนประชุมเช่น คณะเป็นสมาคม สามคั คิปรารม ภนิพทั ธราพึง ว. เสมอ
๏ ไป่ มีกใ็ หม้ ี ผวิ มีกค็ านึง เน่ืองเพื่อภิยโยจึง จะประสบสุขาลยั ฯ ว. ยง่ิ , ยงิ่ ขนึ้ ไป
ครูกร
ภุชงคประยาต ฉันท์ฯ คะเนกลคะนึงการ ทชิ งค์ชาติฉลาดยล ระวงั เหือดระแวงหาย กษตั ริย์ลจิ ฉววี าร ปวตั น์วญั จโนบาย สมคั รสนธ์ิสโมสร เหมาะแก่การณ์จะเสกสรร มล้างเหตุพเิ ฉทสาย ถอดความได้ว่า พราหมณ์ผู้ฉลาดคาดคะเนว่ากษตั ริย์ลจิ ฉววี างใจคลายความ หวาดระแวง เป็ นโอกาสเหมาะทจี่ ะเริ่มดาเนินการตามกลอุบายทาลายความสามคั คี
ภุชงคประยาต ฉันท์ฯ ณวนั หนึ่งลุถงึ กา ลศึกษาพชิ ากร กมุ ารลจิ ฉววี ร เสดจ็ พร้อมประชุมกนั ตระบดั วสั สการมา สถานราชเรียนพลนั สนิทหน่ึงพระองค์ไป ธแกล้งเชิญกมุ ารฉัน กถ็ ามการณ์ ณ ทนั ใด ลุห้องหับรโหฐาน กถาเช่นธปุจฉา มลิ ลี้ บั อะไรใน ถอดความได้ว่า วนั หน่ึงเมอื่ ถึงโอกาสทจี่ ะสอนวชิ า กุมารลจิ ฉวกี เ็ สดจ็ มาโดยพร้อมเพรียงกนั ทนั ใดวสั สการพราหมณ์กม็ าถึงและแกล้งเชิญพระกุมารพระองค์ทส่ี นิทสนมเข้าไปพบใน ห้องส่วนตัว แล้วกท็ ูลถามเรื่องทไี่ ม่ใช่ความลบั แต่ประการใด
ภุชงคประยาต ฉันท์ฯ จะถูกผดิ กระไรอยู่ มนุษย์ผู้กระทานา และคู่โคกจ็ ูงมา ประเทยี บไถมใิ ช่หรือ กมุ ารลจิ ฉวขี ตั ติย์ กร็ ับอรรถออออื ประดุจคาพระอาจารย์ กสิกเขากระทาคอื นิวตั ในมชิ ้านาน กเ็ ท่าน้ันธเชิญให้ สมยั เลกิ ลุเวลา ประสิทธ์ิศิลป์ ประศาสน์สาร ถอดความได้ว่า ดงั เช่นถามว่า ชาวนาจูงโคมาคู่หน่ึงเพอ่ื เทยี มไถใช่หรือไม่ พระกุมารลจิ ฉวกี ็ รับสั่งเห็นด้วยว่าชาวนากค็ งจะกระทาดงั คาของพระอาจารย์ ถามเพยี งเท่าน้ันพราหมณ์ก็ เชิญให้เสดจ็ กลบั ออกไป
ภุชงคประยาต ฉันท์ฯ อุรสลจิ ฉวสี รร พชวนกนั เสดจ็ มา และต่างซักกุมารรา ชองค์น้ันจะเอาความ พระอาจารย์สิเรียกไป ณข้างในธไต่ถาม วจสี ัตย์กะส่าเรา อะไรเธอเสนอตาม รวากย์วาทตามเลา กมุ ารน้ันสนองสา วภาพโดยคดมี า เฉลยพจน์กะครูเสา ถอดความได้ว่า คร้ันถึงเวลาเลกิ เรียนเหล่าโอรสลจิ ฉวกี พ็ ากนั มาซักไซ้พระกมุ ารว่าพระอาจารย์ เรียกเข้าไปข้างใน ได้ไต่ถามอะไรบ้าง ขอให้บอกมาตามความจริง พระกมุ ารพระองค์น้ันก็ เล่าเรื่องราวทพ่ี ระอาจารย์เรียกไปถาม
ภุชงคประยาต ฉันท์ฯ มเิ ชื่อในพระวาจา และต่างองค์กพ็ าที กมุ ารอน่ื กส็ งสัย จะพดู เปล่าประโยชน์มี สหายราชธพรรณนา รผลเห็นบเป็ นไป ธ พูดแท้กท็ าไม ไฉนเลยพระครูเรา จะถามนอกบยากเยน็ เลอะเหลวนักละล้วนนี เถอะถงึ ถ้าจะจริงแม้ แนะชวนเข้าณข้างใน ถอดความได้ว่า แต่เหล่ากมุ ารสงสัยไม่เชื่อคาพดู ของพระสหาย ต่างองค์กว็ จิ ารณ์ว่าพระอาจารย์ จะพดู เร่ืองเหลวไหลไร้สาระเช่นนีเ้ ป็ นไปไม่ได้ และหากว่าจะพดู จริงเหตุใดจะต้องเรียกเข้า ไปถามข้างในห้อง ถามข้างนอกห้องกไ็ ด้
ภุชงคประยาต ฉันท์ฯ ธคดิ อ่านกะท่านเป็ น ชะรอยว่าทชิ าจารย์ ละแน่ชัดถนัดความ รหัสเหตุประเภทเห็น มกิ ล้าอาจจะบอกตา ไถลแสร้งแถลงสาร และท่านมามุสาวาท พจจี ริงพยายาม ถอดความได้ว่า สงสัยว่าท่านอาจารย์กบั พระกุมารต้องมคี วามลบั อย่างแน่นอน แล้วกม็ าพดู โกหก ไม่กล้าบอกตามความเป็ นจริง แกล้งพูดไปต่าง ๆ นานา
ภุชงคประยาต ฉันท์ฯ กส็ อดคล้องและแคลงดาล กุมารราชมติ รผอง อุบตั ิขนึ้ เพราะขุ่นเคอื ง พโิ รธกาจววิ าทการณ์ ประดามนี ิรันดร์เนือง มลายปลาตพนิ าศปลงฯ พพิ ธิ พนั ธไมตรี กะองค์น้ันกพ็ ลนั เปลอื ง ถอดความได้ว่า กมุ ารลจิ ฉวที ้งั หลายเห็นสอดคล้องกนั กเ็ กดิ ความโกรธเคอื ง การทะเลาะววิ าทก็ เกดิ ขนึ้ เพราะความขุ่นเคอื งใจ ความสัมพนั ธ์อนั ดที เี่ คยมมี าตลอดกถ็ ูกทาลายย่อยยบั ลง
มาณวกฉันท์ ล่วงลุประมาณ กาลอนุกรม หน่ึงณนิยม ท่านทวชิ งค์ เมอ่ื จะประสิทธ์ิ วทิ ยะยง เชิญวรองค์ เอกกมุ าร พราหมณไป เธอจรตาม ห้องรหุฐาน โดยเฉพาะใน ความพสิ ดา จง่ึ พฤฒถิ าม โทษะและไข ขอธประทาน ถอดความได้ว่า เวลาผ่านไปตามลาดบั เมอื่ ถงึ คราวทจี่ ะสอนวชิ ากจ็ ะเชิญพระกมุ ารพระองค์หนึ่ง พระกมุ ารกต็ ามพราหมณ์เข้าไปในห้องเฉพาะ พราหมณ์จงึ ถามเนือ้ ความแปลก ๆ ว่า ขออภยั ช่วยตอบด้วย
มาณวกฉันท์ อย่าตแิ ละหลู่ ครูจะเฉลย เธอน่ะเสวย ภตั กะอะไร ในทนิ น่ี ดฤี ไฉน พอหฤทยั ยง่ิ ละกระมงั เค้าณประโยค ราชธกเ็ ล่า แล้วขณะหลงั ตนบริโภค เร่ืองสิประทงั วาทะประเทอื ง สิกขสภา อาคมยงั ถอดความได้ว่า อย่าหาว่าตาหนิหรือลบหลู่ ครูขอถามว่าวนั นีพ้ ระกมุ ารเสวยพระกระยาหารอะไร รสชาตดิ หี รือไม่ พอพระทยั มากหรือไม่ พระกมุ ารกเ็ ล่าเร่ืองเกย่ี วกบั พระกระยาหารทเี่ สวย หลงั จากน้ันกส็ นทนาเรื่องทวั่ ไป แล้วกเ็ สดจ็ กลบั ออกมายงั ห้องเรียน
มาณวกฉันท์ เสร็จอนุศาสน์ ราชอุรส ลจิ ฉวหิ มด ต่างธกม็ า ถามนยมาน ท่านพฤฒิอา จารยปรา รภกระไร แจ้งระบุมวล เธอกแ็ ถลง จริงหฤทยั ความเฉพาะล้วน เมอ่ื ตริไฉน ต่างบมเิ ช่ือ เหตุบมสิ ม จง่ึ ผลใน ถอดความได้ว่า เมอ่ื เสร็จสิ้นการสอนราชกมุ ารลจิ ฉวที ้งั หมดกม็ าถามเร่ืองราวทม่ี มี าว่าท่านอาจารย์ได้พดู เร่ืองอะไรบ้าง พระกมุ ารกต็ อบตามความจริง แต่เหล่ากมุ ารต่างไม่เช่ือ เพราะคดิ แล้วไม่ สมเหตุสมผล
มาณวกฉันท์ ขุ่นมนเคอื ง เรื่องนฤสาร เช่นกะกมุ าร ก่อนกร็ ะ เลกิ สละแยก แตกคณะกล เกลยี วบนิยม คบดุจเดมิ ถอดความได้ว่า ต่างขุ่นเคอื งใจด้วยเร่ืองไร้สาระเช่นเดยี วกบั พระกุมารพระองค์ก่อน และเกดิ ความ แตกแยกไม่คบกนั อย่างกลมเกลยี วเหมอื นเดมิ
อุเปนทรวเิ ชียร ฉันท์ กลห์เหตุยุยงเสริม ทชิ งค์เจาะจงเจตน์ นฤพทั ธก่อการณ์ กระหน่าและซ้าเติม ทนิ วารนานนาน ธกเ็ ชิญเสดจ็ ไป ละคร้ังระหว่างครา รฤหาประโยชน์ไร เหมาะท่าทชิ าจารย์ เสาะแสดงธแสร้งถาม บห่อนจะมสี า กระน้ันเสมอนัย ถอดความได้ว่า พราหมณ์เจตนาหาเหตุยุแหย่ซ้าเติมอยู่เสมอ ๆ แต่ละคร้ัง แต่ละวนั นานนาน คร้ัง เห็นโอกาสเหมาะกจ็ ะเชิญพระกมุ ารเสดจ็ ไปโดยไม่มสี ารประโยชน์อนั ใด แล้วกแ็ กล้ง ทูลถาม
อเุ ปนทรวเิ ชียร ฉันท์ น่ะแน่ะข้าสดบั ตาม และบ้างกพ็ ดู ว่า พจแจ้งกระจายมา ยุบลระบลิ ความ กเ็ พราะท่านสิแสนสา วและสุดจะขดั สน ละเมดิ ติเตียนท่าน พเิ คราะห์เชื่อเพราะยากยล พดั ทลทิ ภา ธกค็ วรขยายความ จะแน่มแิ น่เหลอื ณทบี่ มีคน ถอดความได้ว่า บางคร้ังกพ็ ูดว่า นี่แน่ะข้าพระองค์ได้ยนิ ข่าวเล่าลอื กนั ทวั่ ไป เขานินทาพระ กุมารว่าพระองค์แสนจะยากจนและขดั สน จะเป็ นเช่นน้ันแน่หรือ พเิ คราะห์แล้วไม่น่าเช่ือ ณ ทนี่ ีไ้ ม่มผี ู้ใด ขอให้ทรงเล่ามาเถิด
อเุ ปนทรวเิ ชียร ฉันท์ น่ะแน่ะข้าจะขอถาม และบ้างกก็ ล่าวว่า วจลอื ระบอื มา เพราะทราบคดตี าม กเ็ พราะท่านสิแสนสา ยพลิ กึ ประหลาดเป็ น ติฉินเยาะหมน่ิ ท่าน มนเชื่อเพราะไป่ เห็น รพนั พกิ ลกา ธกค็ วรขยายความ จะจริงมจิ ริงเหลอื ผขิ ้อบลาเคญ็ ถอดความได้ว่า บางคร้ังกพ็ ดู ว่าข้าพระองค์ขอทูลถามพระกุมาร เพราะได้ยนิ เขาเล่าลอื กนั ทวั่ ไป เยาะเย้ยดูหมนิ่ ท่าน ว่าท่านนีม้ รี ่างกายผดิ ประหลาดต่าง ๆ นานาจะเป็ นจริงหรือไม่ ใจไม่ อยากเช่ือเลยเพราะไม่เห็น ถ้าหากมสี ่ิงใดทล่ี าบากยากแค้นกต็ รัสมาเถิด
อเุ ปนทรวเิ ชียร ฉันท์ วนเค้าคดตี าม กมุ ารองค์เสา นยสุดจะสงสัย กระทู้พระครูถาม คุรุท่านจะถามไย ระบุแจ้งกะอาจารย์ กค็ ามคิ วรการณ์ พระกมุ ารโน้นขาน ธซักเสาะสืบใคร เฉพาะอยู่กะกนั สอง ทวชิ แถลงว่า ยุบลกะตูกาล ถอดความได้ว่า พระกุมารได้ทรงฟังเรื่องทพี่ ระอาจารย์ถามกต็ รัสถามกลบั ว่า สงสัยเหลอื เกนิ เรื่องไม่สมควรเช่นนีท้ ่านอาจารย์จะถามทาไม แล้วกซ็ ักไซ้ว่าใครเป็ นผู้มาบอกกบั อาจารย์ พราหมณ์กต็ อบว่าพระกุมารพระองค์โน้นตรัสบอกเมอ่ื อยู่กนั เพยี งสองต่อสอง
อุเปนทรวเิ ชียร ฉันท์ ธมทิ นั จะไตร่ตรอง กมุ ารพระองค์น้ัน พฤฒคิ รูและวู่วาม กเ็ ชื่อณคาของ เหมาะเจาะจงพยายาม บมดิ ปี ระเดตน พโิ รธกมุ ารองค์ ทุรทฐิ ิมานจน ยุครูเพราะเอาความ ธิพพิ าทเสมอมา กพ็ ้อและต่อพษิ ลุโทสะสืบสน ถอดความได้ว่า กมุ ารพระองค์น้ันไม่ทนั ได้ไตร่ตรอง กท็ รงเชื่อในคาพดู ของอาจารย์ ด้วยความ วู่วามกก็ ริ้วพระกมุ ารทยี่ ุพระอาจารย์ใส่ความตน จึงตัดพ้อต่อว่ากนั ขนึ้ เกดิ ความโกรธ เคอื งทะเลาะววิ าทกนั อยู่เสมอ
อุเปนทรวเิ ชียร ฉันท์ ทชิ ครูมเิ รียกหา และฝ่ ายกมุ ารผู้ ชกมุ ารทชิ งค์เชิญ กแ็ หนงประดารา ฉวมิ ติ รจติ เมนิ คณะห่างกต็ ่างถือ พระราชบุตรลจิ พลล้นเถลงิ ลอื ณกนั และกนั เหิน มนฮึกบนึกขามฯ ทะนงชนกตน กห็ าญกระเหิมฮือ ถอดความได้ว่า ฝ่ ายพระกมุ ารทพ่ี ราหมณ์ไม่เคยเรียกเข้าไปหากไ็ ม่พอพระทยั พระกุมารท่ี พราหมณ์เชิญไปพบ พระกมุ ารลจิ ฉวหี มางใจและเหินห่างกนั ต่างองค์ทะนงว่าพระบดิ า ของตนมอี านาจล้นเหลอื จึงมใี จกาเริบไม่เกรงกลวั กนั
สัทธราฉันท์ ธ กย็ ุศิษยตาม ลาดบั น้ันวสั สการพราหมณ์ ฉงนงา แต่งอุบายงาม ริณวริ ุธกส็ า ธเสกสรร ปวงโอรสลจิ ฉวดี า มลิ ะปิ ยะสหฉันท์ คญั ประดุจคา กอ็ าดูร ไป่ เหลอื เลยสักพระองค์อนั ขาดสมคั รพนั ธ์ ถอดความได้ว่า ในขณะน้ันวสั สการพราหมณ์กค็ อยยุลูกศิษย์ แต่งกลอุบายให้เกดิ ความแคลงใจ พระโอรสกษตั ริย์ลจิ ฉวที ้งั หลายไตร่ตรองในอาการน่าสงสัยกเ็ ข้าใจว่าเป็ นจริงดงั ถ้อยคาทอ่ี าจารย์ป้ัน เรื่องขนึ้ ไม่มเี หลอื เลยสักพระองค์เดยี วทจ่ี ะมคี วามรักใคร่กลมเกลยี ว ต่างขาดความสัมพนั ธ์ เกดิ ความเดอื ดร้อนใจ
สัทธราฉันท์ พระชนกอดศิ ูร ต่างองค์นาความมงิ ามทูล ปวตั ต์ิความ แห่งธโดยมูล ลุวรบดิ รลาม ณเหตุผล แตกร้าวก้าวร้ายกป็ ้ ายปาม นฤวเิ คราะหเสาะสน ทลี ะน้อยตาม เพราะหมายใด ฟ่ันเฝื อเช่ือนัยดนัยตน สืบจะหมองมล ถอดความได้ว่า ในขณะน้ันวสั สการพราหมณ์กค็ อยยุลูกศิษย์ แต่งกลอุบายให้เกดิ ความแคลงใจ พระโอรสกษตั ริย์ลจิ ฉวที ้งั หลายไตร่ตรองในอาการน่าสงสัยกเ็ ข้าใจว่าเป็ นจริงดงั ถ้อยคาทอี่ าจารย์ป้ัน เรื่องขนึ้ ไม่มเี หลอื เลยสักพระองค์เดยี วทจี่ ะมคี วามรักใคร่กลมเกลยี ว ต่างขาดความสัมพนั ธ์ เกดิ ความเดอื ดร้อนใจ
สัทธราฉันท์ กษณะตริเหมาะไฉน แท้ท่านวสั สการใน สะดวกดาย เสริมเสมอไป พจนยุปริยาย บเว้นครา หลายอย่างต่างกลธขวนขวาย สหกรณประดา วญั จโนบาย ชท้งั หลาย คร้ันล่วงสามปี ประมาณมา ลจิ ฉวรี า ถอดความได้ว่า แต่ละองค์นาเร่ืองไม่ดที เ่ี กดิ ขนึ้ ไปทูลพระบดิ าของตน ความแตกแยกกค็ ่อย ๆ ลุกลามไปสู่พระบดิ า เน่ืองจากความหลงเชื่อโอรสของตน ปราศจากการใคร่ครวญเกดิ ความผดิ พ้อง หมองใจกนั ขนึ้ ฝ่ ายวสั สการพราหมณ์คร้ันเห็นโอกาสเหมาะสมกค็ อยยุแหย่อย่างง่ายดาย ทากลอุบาย ต่าง ๆ พูดยุยงตามกลอุบายตลอดเวลา เวลาผ่านไปประมาณ ๓ ปี ความร่วมมอื กนั ระหว่างกษตั ริย์ลจิ ฉวที ้งั หลายและความสามคั คถี ูกทาลายลงสิ้น
สัทธราฉันท์ มติ รภทิ นะกระจาย สามคั คธี รรมทาลาย กเ็ ป็ นไป สรรพเส่ือมหายน์ พระราชหฤทยวสิ ัย ระวงั กนั ฯ ต่างองค์ทรงแคลงระแวงใน ผู้พโิ รธใจ ถอดความได้ว่า ความร่วมมอื กนั ระหว่างกษตั ริย์ลจิ ฉวที ้งั หลายและความสามคั คถี ูกทาลายลงสิ้น ความเป็ นมติ รแตกแยก ความเสื่อม ความหายนะกบ็ งั เกดิ ขนึ้ กษตั ริย์ต่างองค์ระแวงแคลงใจ มคี วามขุ่น เคอื งใจซึ่งกนั และกนั
สาลนิ ีฉันท์ ตระหนักเหตุถนัดครัน พราหมณ์ครูรู้สังเกต พจักสู่พนิ าศสม ราชาวชั ชีสรร จะสัมฤทธ์ิมนารมณ์ และอุตสาหแห่งตน ยนิ ดบี ดั นีก้ จิ ประชุมขตั ตยิ ์มณฑล เริ่มมาด้วยปรากรม กษตั ริย์สู่สภาคาร ให้ลองตกี ลองนดั เชิญซึ่งส่าสากล ถอดความได้ว่า พราหมณ์ผู้เป็ นครูสังเกตเห็นดงั น้ัน กร็ ู้ว่าเหล่ากษตั ริย์ลจิ ฉวกี าลงั จะประสบ ความพนิ าศ จงึ ยนิ ดมี ากทภี่ ารกจิ ประสบผลสาเร็จสมดงั ใจ หลงั จากเริ่มต้นด้วยความบากบน่ั และ ความอดทนของตน จงึ ให้ลองตีกลองนัดประชุมกษตั ริย์ฉวี เชิญทุกพระองค์เสดจ็ มายงั ทปี่ ระชุม
สาลนิ ีฉันท์ สดบั กลองกระหึมขาน วชั ชีภูมผี อง ณกจิ เพอ่ื เสดจ็ ไป ทุกไท้ไป่ เอาภาร จะเรียกหาประชุมไย กข็ ลาดกลวั บกล้าหาญ ต่างทรงรับส่ังว่า และกล้าใครมเิ ปรียบปาน เราใช่เป็ นใหญ่ใจ ประชุมชอบกเ็ ชิญเขา ท่านใดทเี่ ป็ นใหญ่ พอใจใคร่ในการ ถอดความได้ว่า ฝ่ ายกษตั ริย์วชั ชีท้งั หลายทรงสดบั เสียงกลองดงั กกึ ก้อง ทุกพระองค์ไม่ทรงเป็ น ธุระในการเสดจ็ ไป ต่างองค์รับส่ังว่าจะเรียกประชุมด้วยเหตุใด เราไม่ได้เป็ นใหญ่ ใจกข็ ลาด ไม่กล้า หาญ ผู้ใดเป็ นใหญ่ มคี วามกล้าหาญไม่มผี ู้ใดเปรียบได้ พอใจจะเสดจ็ ไปร่วมประชุมกเ็ ชิญเขาเถิด
สาลนิ ีฉันท์ ไฉนน้ันกท็ าเนา ปรึกษาหารือกนั บแลเห็นประโยชน์เลย จกั เรียกประชุมเรา และทุกองค์ธเพกิ เฉย สมคั รเข้าสมาคมฯ รับสั่งผลกั ไสส่ง ไป่ ได้ไปดงั่ เคย ถอดความได้ว่า จะปรึกษาหารือกนั ประการใดกช็ ่างเถดิ จะเรียกเราไปประชุมมองไม่เห็น ประโยชน์ประการใดเลย รับสั่งให้พ้นตวั ไป และทุกพระองค์กท็ รงเพกิ เฉยไม่เสดจ็ ไปเข้าร่วมการ ประชุมเหมอื นเคย
อปุ ัฎฐิตาฉันท์ ชนะคล่องประสบสม เห็นเชิงพเิ คราะห์ช่อง ธกล็ อบแถลงการณ์ พราหมณ์เวทอุดม คมดลประเทศฐาน ภเิ ผ้ามคธไกร ให้วลั ลภชน สนว่ากษตั ริย์ใน กราบทูลนฤบาล วลหล้าตลอดกนั แจ้งลกั ษณสา วชั ชีบุรไกร ถอดความได้ว่า เมอ่ื พจิ ารณาเห็นช่องทางทจ่ี ะได้ชัยชนะอย่างง่ายดาย พราหมณ์ผู้รอบรู้พระเวทก็ ลอบส่งข่าว ให้คนสนิทเดนิ ทางกลบั ไปยงั บ้านเมอื ง กราบทูลกษตั ริย์แห่งแคว้นมคธอนั ยง่ิ ใหญ่ ในสาสน์แจ้งว่ากษตั ริย์วชั ชีทุกพระองค์
อปุ ัฎฐิตาฉันท์ คณะแผกและแยกพรรค์ บดั นีส้ ิกแ็ ตก ทเสมอื นเสมอมา ไป่ เป็ นสหฉัน ขณะไหนประหนึ่งครา กบ็ ได้สะดวกดี โอกาสเหมาะสมยั พยุห์ยาตรเสดจ็ กรี นีห้ ากผจิ ะหา ริยยุทธโดยไวฯ ขอเชิญวรบาท ธาทพั พลพี ถอดความได้ว่า ขณะนีเ้ กดิ ความแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่สามคั คกี นั เหมอื นแต่เดมิ จะหา โอกาสอนั เหมาะสมคร้ังใดเหมอื นดงั คร้ังนีค้ งจะไม่มอี กี แล้ว ขอทูลเชิญพระองค์ยกกองทพั อนั ยง่ิ ใหญ่มาทาสงครามโดยเร็วเถิด
วชิ ชุมมาลาฉันท์ ข่าวเศิกเอกิ องึ ทราบถงึ บดั ดล ในหมู่ผู้คน ชาวเวสาลี แทบทุกถิ่นหมด ชนบทบูรี อกสั่นขวญั หนี หวาดกลวั ทั่วไป หมดเลอื ดส่ันกาย ตืน่ ตาหน้าเผอื ด วุ่นหวนั่ พรั่นใจ หลบลหี้ นีตาย ซ่อนตัวแตกภัย ซุกครอกซอกครัว ทงิ้ ย่านบ้านตน เข้าดงพงไพร ถอดความได้ว่า ข่าวศึกแพร่ไปจนรู้ถึงชาวเมอื งเวสาลี แทบทุกคนในเมอื งต่างตกใจและหวาดกลวั กนั ไปทวั่ หน้าตาตน่ื หน้าซีดไม่มสี ีเลอื ด ตัวส่ัน พากนั หนีตายวุ่นวาย พากนั อพยพครอบครัวหนีภัย ทงิ้ บ้านเรือนไปซุ่มซ่อนตวั เสียในป่ า
วชิ ชุมมาลาฉันท์ เหลอื จักห้ามปราม ชาวคามล่าลาด พนั หัวหน้าราษฎร์ ขุนด่านตาบล หารือแก่กนั คดิ ผนั ผ่อนปรน จักไม่ให้พล มาคธข้ามมา ป่ าวร้องทนั ที จึ่งให้ตีกลอง รุกเบยี นบฑี า แจ้งข่าวไพรี วชั ชีอาณา เพอ่ื หมู่ภูมี ป้ องกนั ฉันใด ชุมนุมบญั ชา ถอดความได้ว่า ไม่สามารถห้ามปรามชาวบ้านได้ หัวหน้าราษฎรและนายด่านตาบลต่าง ๆ ปรึกษากนั คดิ จะยบั ย้งั ไม่ให้กองทพั มคธข้ามมาได้ จงึ ตกี ลองป่ าวร้องแจ้งข่าวข้าศึกเข้ารุกราน เพอื่ ให้เหล่า กษตั ริย์แห่งวชั ชีเสดจ็ มาประชุมหาหนทางป้ องกนั ประการใด
วชิ ชุมมาลาฉันท์ ราชาลจิ ฉวี ไป่ มสี ักองค์ อนั นึกจานง เพอ่ื จักเสดจ็ ไป ต่างองค์ดารัส เรียกนัดทาไม ใครเป็ นใหญ่ใคร กล้าหาญเห็นดี ขดั ข้องข้อไหน เชิญเทอญท่านต้อง ตามเร่ืองตามที ปรึกษาปราศรัย เป็ นใหญ่ยงั มี ส่ วนเราเล่าใช่ รุกปราศอาจหาญ ใจอย่างผู้ภี ถอดความได้ว่า ไม่มกี ษตั ริย์ลจิ ฉวแี ม้แต่พระองค์เดยี วคดิ จะเสดจ็ ไป แต่ละพระองค์ทรงดารัสว่าจะ เรียกประชุมด้วยเหตุใด ผู้ใดเป็ นใหญ่ ผู้ใดกล้าหาญ เห็นดปี ระการใดกเ็ ชิญเถดิ จะปรึกษาหารือ อย่างไรกต็ ามแต่ใจ ตวั ของเราน้ันไม่ได้มอี านาจยงิ่ ใหญ่ จติ ใจกข็ ขี้ ลาด ไม่องอาจกล้าหาญ
วชิ ชุมมาลาฉันท์ ต่างทรงสาแดง ความแขงอานาจ สามคั คขี าด แก่งแย่งโดยมาน ภูมศิ ลจิ ฉวี วชั ชีรัฐบาล บ่ชุมนุมสมาน แม้แต่สักองค์ฯ ถอดความได้ว่า แต่ละพระองค์ต่างแสดงอาการเพกิ เฉย ปราศจากความสามคั คปี รองดองในจติ ใจ กษตั ริย์ลจิ ฉวแี ห่งวชั ชีไม่เสดจ็ มาประชุมกนั แม้แต่พระองค์เดยี ว
อนิ ทรวเิ ชียร ฉันท์ ติยรัชธารง ปิ่ นเขตมคธขตั นคเรศวสิ าลี ย้งั ทพั ประทบั ตรง พเิ คราะห์เหตุณธานี ขณะเศิกประชิดแดน ภูธรธสังเกต และมนิ ึกจะเกรงแกลน แห่งราชวชั ชี รณทพั ระงบั ภัย เฉยดูบรู้สึก ฤๅคดิ จะตอบแทน ถอดความได้ว่า จอมกษตั ริย์แห่งแคว้นมคธหยุดทพั ตรงหน้าเมอื งเวสาลี พระองค์ทรงสังเกต วเิ คราะห์เหตุการณ์ทางเมอื งวชั ชีในขณะทข่ี ้าศึกมาประชิดเมอื ง ดูน่ิงเฉยไม่รู้สึกเกรงกลวั หรือ คดิ จะทาสิ่งใดโต้ตอบระงบั เหตุร้าย
อนิ ทรวเิ ชียร ฉันท์ บมทิ าประการใด นิ่งเงยี บสงบงา บุรว่างและร้างคน ปรากฏประหน่ึงใน สยคงกระทบกล ลุกระนีถ้ นัดตา แน่โดยมพิ กั สง คยิ พรรคพระราชา ท่านวสั สการจน รจะพ้องอนัตถ์ภัย ภนิ ท์พทั ธสามคั ชาวลจิ ฉววี า ถอดความได้ว่า กลบั อยู่อย่างสงบเงยี บไม่ทาการส่ิงใด มองดูราวกบั เป็ นเมอื งร้างปราศจากผู้คน แน่นอนไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงจะถูกกลอุบายของวสั สการพราหมณ์จนเป็ นเช่นนี้ ความสามคั คี ผูกพนั แห่งกษตั ริย์ลจิ ฉวถี ูกทาลายลงและจะประสบกบั ภัยพบิ ตั ิ
อนิ ทรวิเชียร ฉันท์ รกกาลขว้างไป ลูกข่างประดาทา ดุจกนั ฉะน้ันหนอ หมุนเล่นสนุกไฉน กลแหย่ยุดพี อ จะมริ ้าวมริ านกนั ครูวสั สการแส่ ธุระจบธจ่งึ บญั ป่ันป่ วนบเหลอื หลอ พทแกล้วทหารหาญ คร้ันทรงพระปรารภ ชานายนิกายสรร ถอดความได้ว่า ลูกข่างทเ่ี ดก็ ขว้างเล่นได้สนุกฉันใด วสั สการพราหมณ์กส็ ามารถยุแหย่ให้เหล่ากษตั ริย์ ลจิ ฉวแี ตกความสามคั คไี ด้ตามใจชอบและคดิ ทจี่ ะสนุกฉันน้ัน คร้ันทรงคดิ ได้ดงั น้ันจึงมพี ระราช บญั ชาแก่เหล่าทหารหาญ
อนิ ทรวเิ ชียร ฉันท์ เร่งทาอุฬุมป์ เว ฬุ คะเนกะเกณฑ์การ เพอ่ื ข้ามนทธี าร จรเข้านครบร เขารับพระบณั ฑูร อดศิ ูรบดศี ร ภาโรปกรณ์ตอน ทวิ รุ่งสฤษฎ์พลนั จอมนาถพระยาตรา พยุหาธิทพั ขนั ธ์ โดยแพและพ่วงปัน พลข้ามณคงคา จนหมดพหลเนื่อง พศิ เนืองขนัดคลา ขนึ้ ฝ่ังลุเวสา ลบิ ุเรศสะดวกดายฯ ถอดความได้ว่า ให้รีบสร้างแพไม้ไผ่เพอ่ื ข้ามแม่นา้ จะเข้าเมอื งของฝ่ ายศัตรู พวกทหารรับราชโองการ แล้วกป็ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ ทไ่ี ด้รับ ในตอนเช้างานน้ันกเ็ สร็จทันที จอมกษตั ริย์เคลอื่ นกองทพั อนั มกี าลงั พลมากมายลงในแพทตี่ ดิ กนั นากาลงั ข้ามแม่นา้ จนกองทพั หมดสิ้น มองดูแน่นขนัด ขนึ้ ฝ่ัง เมอื งเวสาลอี ย่างสะดวกสบาย
จิตรปทา ฉันท์ นิวสิ าลี นาครธา พลมากมาย เห็นริปุมี กล็ ุพ้นหมาย ข้ามตริ ชล พระนครตน มุ่งจะทลาย มนอกเต้น ตะละผู้คน ต่างกต็ ระหนก มจลาจล ตืน่ บมเิ ว้น อลเวงไป ทว่ั บุรคา เสียงอลวน ถอดความได้ว่า ฝ่ ายเมอื งเวสาลมี องเห็นข้าศึกจานวนมากข้ามแม่นา้ มาเพอื่ จะทาลายล้างบ้านเมอื ง ของตน ต่างกต็ ระหนกตกใจกนั ถ้วนหน้า ในเมอื งเกดิ จลาจลวุ่นวายไปทว่ั เมอื ง
จติ รปทา ฉันท์ สรรพสกล มุขมนตรี ตรอมมนภี รุกเภทภัย บางคณะอา ทรปราศรัย ยงั มกิ ระไร ขณะนีห้ นอ พระทวารมน่ั ควรบริบาล อริก่อนพอ ต้านปะทะกนั ชสภารอ ขตั ตยิ รา ดาริจะขอ วรโองการ ถอดความได้ว่า ข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ต่างหวาดกลวั ภยั บางพวกกพ็ ดู ว่าขณะนีย้ งั ไม่เป็ นไรหรอก ควร จะป้ องกนั ประตูเมอื งเอาไว้ให้มน่ั คง ต้านทานข้าศึกเอาไว้ก่อน รอให้ทปี่ ระชุมเหล่ากษตั ริย์มี ความเห็นว่าจะทรงทาประการใด
จติ รปทา ฉันท์ ทรงตริไฉน กจ็ ะได้ทา โดยนยดา รัสภูบาล เสวกผอง กเ็ คาะกลองขาน อาณตั ิปาน ดุจกลองพงั ประลุโสตท้าว ศัพทอุโฆษ ขณะทรงฟัง ลจิ ฉวดี ้าว และละเลยดงั ต่างธกเ็ ฉย ไท้มอิ นิ ัง ธุระกบั ใคร ถอดความได้ว่า กจ็ ะได้ดาเนินการตามพระบญั ชาของพระองค์ เหล่าข้าราชการท้งั หลายกต็ กี ลอง สัญญาณขนึ้ ราวกบั กลองจะพงั เสียงดงั กกึ ก้องไปถึงพระกรรณกษตั ริย์ลจิ ฉวี ต่างองค์ทรง เพกิ เฉยราวกบั ไม่เอาใจใส่ในเรื่องราวของผู้ใด
จิตรปทา ฉันท์ ณสภาคา ต่างกบ็ คลา บุรทว่ั ไป แม้พระทวาร และทวารใด รอบทศิ ด้าน สิจะปิ ดมฯี เห็นนรไหน ถอดความได้ว่า ต่างองค์ไม่เสดจ็ ไปทป่ี ระชุม แม้แต่ประตูเมอื งรอบทศิ ทุกบานกไ็ ม่มผี ู้ใดปิ ด
สัททุลวกิ กฬี ิต ฉันท์ จอมทพั มาคธราษฎร์ธยาตรพยุหกรี ธาสู่วสิ าลี นคร โดยทางอนั พระทวารเปิ ดนรนิกร ฤๅรอต่อรอน อะไร เบอื้ งน้ันท่านคุรุวสั สการทชิ กไ็ ป นาทพั ชเนนทร์ไท มคธ ถอดความได้ว่า จอมทพั แห่งแคว้นมคธกรีธาทพั เข้าเมอื งเวสาลที างประตูเมอื งทเี่ ปิ ดอยู่โดยไม่มผี ู้คน หรือทหารต่อสู้ประการใด ขณะน้ันวสั สการพราหมณ์ผู้เป็ นอาจารย์กไ็ ปนาทพั ของกษตั ริย์แห่ง มคธ
สัททุลวกิ กฬี ิต ฉันท์ เข้าปราบลจิ ฉวขิ ตั ตยิ ์รัฐชนบท สู่เงอื้ มพระหัตถ์หมด และโดย ไป่ พกั ต้องจะกะเกณฑ์นิกายพหลโรย แรงเปลอื งระดมโปรย ประยุทธ์ ราบคาบเสร็จธเสดจ็ ลุราชคฤหอุต คมเขตบุเรศดุจ ณ เดมิ ถอดความได้ว่า เข้ามาปราบกษตั ริย์ลจิ ฉวี อาณาจักรท้งั หมดกต็ กอยู่ในพระหัตถ์ โดยทก่ี องทพั ไม่ ต้องเปลอื งแรงในการต่อสู้ ปราบราบคาบแล้วเสดจ็ ยงั ราชคฤห์เมอื งยงิ่ ใหญ่ดงั เดมิ
สัททุลวกิ กฬี ิต ฉันท์ เร่ืองต้นยุกติกแ็ ต่จะต่อพจนเตมิ ภาษติ ลขิ ติ เสริม ประสงค์ ปรุงโสตเป็ นคติสุนทราภรณจง จับข้อประโยชน์ตรง ตริดู ถอดความได้ว่า เนือ้ เร่ืองแต่เดมิ จบลงเพยี งนี้ แต่ประสงค์จะแต่งสุภาษติ เพมิ่ เตมิ ให้ได้รับฟังเพอื่ เป็ น คติอนั ทรงคุณค่านาไปคดิ ไตร่ตรอง
อนิ ทรวเิ ชียร ฉันท์ อนั ภูบดรี า ชอชาตศัตรู ได้ลจิ ฉวภี ู วประเทศสะดวกดี แลสรรพบรรดา วรราชวชั ชี ฑอนัตถ์พนิ าศหนา ถงึ ซ่ึงพบิ ตั บิ ี คณะแตกและต่างมา เหีย้ มน้ันเพราะผนั แผก หสโทษพโิ รธจอง ถอื ทฐิ ิมานสา ถอดความได้ว่า พระเจ้าอชาตศัตรูได้แผ่นดนิ วชั ชีอย่างสะดวก และกษตั ริย์ลจิ ฉวที ้งั หลายกถ็ งึ ซ่ึง ความพนิ าศล่มจม เหตุเพราะความแตกแยกกนั ต่างกม็ คี วามยดึ มนั่ ในความคดิ ของตน ผูกโกรธ ซ่ึงกนั และกนั
อนิ ทรวิเชียร ฉันท์ อนั ภูบดรี า ชอชาตศัตรู ได้ลจิ ฉวภี ู วประเทศสะดวกดี แลสรรพบรรดา วรราชวชั ชี ฑอนัตถ์พนิ าศหนา ถงึ ซ่ึงพบิ ตั บิ ี คณะแตกและต่างมา เหีย้ มน้ันเพราะผนั แผก หสโทษพโิ รธจอง ถอื ทฐิ ิมานสา ถอดความได้ว่า พระเจ้าอชาตศัตรูได้แผ่นดนิ วชั ชีอย่างสะดวก และกษตั ริย์ลจิ ฉวที ้งั หลายกถ็ งึ ซ่ึง ความพนิ าศล่มจม เหตุเพราะความแตกแยกกนั ต่างกม็ คี วามยดึ มนั่ ในความคดิ ของตน ผูกโกรธ ซ่ึงกนั และกนั
อนิ ทรวิเชียร ฉันท์ ทนสิ้นบปรองดอง แยกพรรคสมรรคภิน ตริมลกั ประจักษ์เจอื ขาดญาณพจิ ารณ์ตรอง รสเล่ากง็ ่ายเหลอื คตโิ มหเป็ นมูล เช่ืออรรถยุบลเอา เหตุหากธมากเมอื ถอดความได้ว่า ต่างแยกพรรค แตกสามคั คกี นั ไม่ปรองดองกนั ขาดปัญญาทจี่ ะพจิ ารณาไตร่ตรอง เช่ือถ้อยความของบรรดาพระโอรสอย่างง่ายดาย เหตุทเ่ี ป็ นเช่นน้ันเพราะกษตั ริย์แต่ละพระองค์ ทรงมากไปด้วยความหลง
อนิ ทรวิเชียร ฉันท์ ยนภาวอาดูร จึง่ ดาลประการหา ยศศักดเิ สื่อมนาม เสียแดนไผทสูญ คุรุวสั สการพราหมณ์ กลงากระทามา ควรชมนิยมจัด เป็ นเอกอุบายงาม ถอดความได้ว่า จงึ ทาให้ถึงซ่ึงความฉิบหาย มภี าวะความเป็ นอยู่อนั ทุกข์ระทม เสียท้งั แผ่นดนิ เกยี รตยิ ศ และช่ือเสียงทเ่ี คยมอี ยู่ ส่วนวสั สการพราหมณ์น้ันน่าชื่นชมอย่างยง่ิ เพราะเป็ นเลศิ ใน การกระทากลอุบาย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117