Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช

ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช

Published by นายกฤษฎากร อัยยะ, 2021-11-05 07:46:29

Description: ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรียนรู้วิชาเลือกเสรี วิชาเพลงโคราช อช03309 หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ชุดการเรียนรู้ เรอื่ ง เพลงโคราช Korat folk song performance ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอเมืองนครราชสีมา สำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวัดนครราชสีมา ชุดการเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 1 Korat folk song performance

เอกสารประกอบการเรียนรู้วิชาเลือกเสรี วิชาเพลงโคราช อช03309 หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ชุดการเรียนรู้ เรอื่ ง เพลงโคราช Korat folk song performance ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอเมืองนครราชสีมา สำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวัดนครราชสีมา ชุดการเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 2 Korat folk song performance

เร่ือง กำหนดการรบั และส่งงาน เร่ือง เพลงโคราช เรอ่ื งท่ี 1 . ภาษาโคราช รับงานวนั ท่ี ลายมอื ชือ่ ส่งงานวันท่ี ลายมือชื่อ หมายเหตุ เรอ่ื งท่ี 2 เพลงโคราช เร่อื งท่ี 3 ทกั ษะการร้องเพลงโคราช ตรงตอ่ เวลาดว้ ยนะครบั ชดุ การเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 3 Korat folk song performance

คำนำ ชุดการเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช สำหรับนกั ศกึ ษา กศน. คณะผจู้ ัดทำได้ศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหาปจั จบุ ัน จากการสำรวจความต้องการของนักศึกษาหลักสตู รการศึกษานอกระบบและการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 โดยออกแบบการเรยี นรู้ให้มคี วามหลากหลาย เหมาะสมกบั นกั ศกึ ษาและกรอบการจดั กจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน มกี ระบวนการจดั การเรียนรู้ ONIE MODEI การวดั และประเมนิ ผลเป็นไปตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ซ่ึงชดุ การเรยี นรู้ น้ีมีจำนวน 3 เรอ่ื ง ประกอบด้วยเรอื่ งที่ 1 ภาษาโคราช เร่อื งที่ 2 เพลงโคราช เรอื่ งที่ 3 ทักษะการร้องเพลงโคราช ชุดการเรยี นรู้ชดุ นปี้ ระกอบด้วย คำช้แี จงสำหรบั นักศึกษา กศน. คำช้ีแจงสำหรบั ครู บทบาทของครูผสู้ อน บทบาท ของนักศึกษา ผังความคิด การใชข้ ุดการเรยี นรู้ ใบความรู้ ใบงาน และแบบทดสอบ เพื่อให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจที่ สามารถตรวจความถูกต้องดว้ ยตนเองได้ ซึ่งครู กศน.สามารถนำไปใช้ในการจดั การเรยี นการสอนทัง้ ในการปกติ หรือ จัดกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น คณะผ้จู ัดทำหวงั เปน็ อย่างยิ่งว่าชดุ การเรยี นรู้เล่มน้ี จะมีคณุ ค่าในการพฒั นาการเรียนรูข้ องนักศึกษา กศน. ใหเ้ ปน็ ไปตามจดุ มงุ่ หมายของกรอบการจัดกิจกรรมการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ตลอดจนมีประโยชน์สำหรบั ครผู ู้สอน และผู้สนใจ เพ่ือนำไปพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน ให้มีคณุ ภาพการศึกษาสูงยง่ิ ขึ้นไป ประสิทธิ์ ตง้ั ประเสรฐิ ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 4 Korat folk song performance

สารบัญ หนา้ คำนำ สารบญั คำชแ้ี จงสำหรับนกั ศึกษา กศน. คำชีแ้ จงสำหรับครู บทบาทของครผู ูส้ อน บทบาทของนักศึกษา ผงั ความคดิ การใช้ขดุ การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ที่ 1. ภาษาโคราช…………………………………….. -บนั ทกึ สรปุ การเรียนรู้ -ใบงานที่ 1. ใบความรทู้ ่ี 2 เพลงโคราช…………………………………………………………………………. -บันทกึ สรุปการเรียนรู้ -ใบงานที่ 2 ใบความรู้ที่ 3 ทักษะการร้องเพลงโคราช…………………………………………………… -บนั ทึกสรุปการเรียนรู้ -ใบงานท่ี 3 แบบทดสอบหลงั เรียน บรรณานกุ รม คณะทำงาน ชดุ การเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 5 Korat folk song performance

คำชีแ้ จงสำหรบั นักศึกษา กศน. ชดุ การเรียนรู้เรอื่ ง เพลงโคราช สำหรบั นกั ศึกษา กศน.หลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษา ข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 วชิ าเลอื กเสรีวชิ า เพลงโคราช อช03309 ประกอบด้วย เนอ้ื หาทั้งหมด 3 เรอ่ื ง ดงั น้ี เรอื่ งที่ 1 ภาษาโคราช เรื่องท่ี 2 เพลงโคราช เรอื่ งที่ 3 ทักษะการรอ้ งเพลงโคราช ชุดการเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช 6 Korat folk song performance

คำชี้แจงสำหรับครู ขอ้ ปฏบิ ตั ิในการใชช้ ดุ การเรียนรู้ ชุดการเรยี นรู้เรอื่ ง เพลงโคราช สำหรบั นักศกึ ษา กศน.หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษา ขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 วชิ าเลอื กเสรีวิชา เพลงโคราช อช03309 มีจดุ มงุ่ หมายเพ่ือช่วยใหก้ ารดำเนนิ กจิ กรรม การจัดการเรยี นการสอน ให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้และมปี ระสทิ ธิภาพ ครผู สู้ อน ควรดำเนินการดังนี้ 1. ข้นั เตรยี มการสอน 1.1 ศึกษาคำชี้แจงในการใชช้ ดุ กจิ กรรมใหเ้ ข้าใจกอ่ นอย่างละเอยี ดรอบคอบ 1.2 ศกึ ษาสาระสำคัญและจุดประสงคก์ ารเรยี นรทู้ จี่ ะดำเนินการจดั กจิ กรรม ให้เข้าใจชัดเจนเสียกอ่ น 2. ขั้นสอน/จัดกระบวนการ 2.1 ดำเนินการจัดกจิ กรรมการเรียนร้ตู ามกระบวนการเรียนการสอนแบบ ONIE MODEL 4 ขนั้ คอื ขั้นท่ี 1 กำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation) เป็นการเรยี นรูจ้ ากสภาพ ปัญหา หรอื ความต้องการของผู้เรียน และชุมชน สังคม โดยใหเ้ ชอ่ื มโยงกบั ประสบการณเ์ ดิม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร้ขู อง หลกั สตู ร ขัน้ ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ (N: New ways of learning) การแสวงหาข้อมลู และจดั การเรียนรู้ โดยศกึ ษา คน้ คว้าหาความรู้ และรวบรวม ข้อมลู ของตนเอง ขอ้ มูลของชมุ ชน สงั คม และข้อมูลทางวชิ าการ จากส่ือและแหลง่ เรียนรทู้ ่ีหลากหลายมีการระดมความคิดเหน็ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมลู และสรปุ เป็นความรู้ ข้นั ท่ี 3 ปฏิบัติและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ (I: Implementation) นำความรู้ทไี่ ด้ไปปฏบิ ตั ิ และประยกุ ตใ์ ช้ใหส้ อดคล้องกับสถานการณ์ เหมาะสมกับ วฒั นธรรมและสังคม ขนั้ ที่ 4 ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation) ประเมิน ทบทวน แกไ้ ขข้อบกพร่อง ผลจากการนำความรู้ไปประยกุ ต์ใชแ้ ล้วสรปุ เป็นความรู้ใหม่ พรอ้ มกบั เผยแพรผ่ ลงาน 2.2 ขณะที่นักศกึ ษาทำกจิ กรรม ครคู อยให้ความชว่ ยเหลอื แนะนำกระตุ้นใหน้ ักศึกษาทำกจิ กรรม อย่างกระตือรือรน้ และตอบข้อสงสัยตา่ ง ๆ ระหวา่ งเรยี นพร้อมทั้งสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงาน ของนักศึกษา 2.3 ประเมินผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น โดยใชแ้ บบทดสอบย่อย ชดุ การเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 7 Korat folk song performance

บทบาทของครผู ู้สอน 1. ศกึ ษาชดุ การเรยี นรู้เรื่อง เพลงโคราช ใหเ้ ขา้ ใจก่อนท่จี ะนาไปใช้ 2. ครูอธบิ าย ชแ้ี จงเกีย่ วกบั การศึกษาและปฏิบตั ิตามชดุ การเรยี นร้เู รื่อง เพลงโคราช และแจ้งจุดประสงค์ การเรยี นรูใ้ ห้นักศึกษาเข้าใจ 3. ครดู ำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการเรียนการสอนท่ีกำหนดไว้ 4. ครกู บั ตดิ ตามการทำใบงาน และให้คำปรึกษา แนะนำนักศกึ ษา 5. ครูทดสอบนกั ศึกษาโดยใช้แบบทดสอบ หลงั จาก เรยี นเนอ้ื หาจบ เพ่ือวัดความรู้ความเข้าใจของนกั ศึกษา ชดุ การเรียนรู้เร่อื งเพลงโคราช 8 Korat folk song performance

บทบาทนกั ศกึ ษา 1. รบั ทราบจุดประสงค์การเรียนรจู้ ากครผู ูส้ อน เพอ่ื ให้ทราบว่าเมื่อจบกิจกรรมการเรยี นรู้แล้ว นักศึกษา สามารถเรียนรูอ้ ะไรได้บา้ ง 2. ต้ังใจศกึ ษาใบความรู้ และปฏิบัตกิ จิ กรรมตามขั้นตอนหรือคำชีแ้ จงของแตล่ ะเนื้อหา อย่างจริงจงั ตรงต่อ เวลา และมคี วามซ่ือสตั ย์ รบั ผดิ ชอบ ในการทำกจิ กรรมแบบทดสอบ และส่งงานครู 3. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เพอื่ วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ ให้ผ่านเกณทร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป หากทำได้ไมถ่ ึงเกณท์ ให้นกั ศึกษากลบั ไปทบทวนเนื้อหา และใบงาน อีกคร้ัง 4. ชุดการเรยี นร้เู ร่ือง เพลงโคราช นำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น หรือ หากไม่มีเวลา มาพบกลุ่มทำกิจกรรมสามารถนำไปเรียนรู้ได้ผา่ นดิจทิ ลั โดย e-book น้ี ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 9 Korat folk song performance

ขนั้ ตอนในการเรยี นด้วยชดุ การเรียนรู้ ศกึ ษารายละเอียดของชดุ การเรียนรู้แต่ละเรอ่ื ง ศกึ ษาผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดำเนินการใช้ชดุ การเรยี นรู้ ๑. ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น - แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - บอกสิ่งท่นี ักศึกษาต้องปฏิบตั ิ - ทดสอบก่อนเรยี น ๒. ขน้ั เรียนรู้ นักศกึ ษาปฏิบตั ิกิจกรรมตามท่ีระบุไว้ในใบงาน ๓. ขัน้ สรปุ สรปุ อภปิ ราย แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ทดสอบหลังเรียน ไม่ผ่าน ผ่าน ทำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่าน หมายถึง ผู้เรยี นทำใบงานครบ ทำแบบทดสอบไดร้ อ้ ยละ 70 และแบบฝกึ หดั ครบ ชดุ การเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 10 Korat folk song performance

แบบทดสอบก่อนเรยี น คำชี้แจง ให้ผูเ้ รียนอ่านคำถามให้เขา้ ใจ และเลอื กตอบเพียง 1 ขอ้ โดย ขอ้ ที่ถกู ทสี่ ดุ 1.เชอ่ื กนั ว่าบรรพบรุ ษุ ของขาวไทโคราชอพยพมาจากท่ีใด ก.อยธุ ยา ข.นครศรีธรรมราช ค.นครสวรรค์ ง.สุโขทัย 2.ภาษาไทยกลุม่ หนง่ึ ท่ใี ช้พดู กันในจงั หวัดนครราชสมี าเรียกว่า ก.ภาษาเขมร ข.ภาษาลาว ค.ภาษาอสี าน ง.ภาษาโคราช 3.ขอ้ ใดหมายถึงชื่อเดมิ ของเมืองโคราช ก.โคปตุ ะระ ข.โคตรฆะปรุ ะ ค.โคมาฆะปรุ ะ ง.ถกู ทุกข้อ 4.ปราณีเป็นผู้กะตมุ้ หมุ้ ห่อต่อญาติพี่น้อง คำขีดเสน้ ใตห้ มายถึงข้อใด ก.ขอรบั ความช่วยเหลือจากญาติพ่ีน้อง ข.ชว่ ยเหลอื ญาตพิ ่ีนอ้ งเปน็ อย่างดี ค.ไมช่ อบช่วยเหลอื ญาติ ง.ช่วยเหลอื ตนเอง 5.ข้อใดหมายถึงการมวี าสนาท่ีจะเปน็ คู่ครองกัน ก.บุญกงึ ถึงกัน ข.ถามข่าวเอาเหย่ือ ค.คดิ ออกซอกเหน็ ง.บญุ หลายสายยาว 6.งูเงยี วเข่ยี วตะขาบ หมายถึงข้อใด ก.งแู ละตะขาบ ข.อสรพิษท้งั หลาย ค.งู ง.ตะขาบ 7.จ่น แปลวา่ ก.ยงุ่ มาก ข.งานมาก ค.ไมม่ เี วลา ง.ไม่ว่างเลย 8.สมใจแตง่ ตัวโกรกกรากจะไปฟงั เพลงโคราช ข้อความขา้ งต้นหมายถงึ ขอ้ ใด ก.สมใจรีบแต่งตัวเพอื่ ไปฟังเพลงโคราช ข.สมใจบรรจงแตง่ ตวั เพอื่ ไปฟังเพลงโคราช ค.สมใจค่อย ๆ แตง่ ตัวเพื่อไปฟงั เพลงโคราช ง.สมใจแต่งตัวจะไปฟังเพลงโคราช 9.เงียบ ๆ อยา่ แซวหลาย ก.อยา่ หยุดแซว ข.อยา่ ใชเ้ สยี ว ค.อยา่ งเสยี งดัง ง.อย่าเอ็ดอึง 10.ไทยเบิ้ง หรือ ไทโคราช เป็นกลุ่มชาติพันธของจังหวัดใด ก.นครสวรรค์ ข.นครราชสมี า ค.นครศรอี ยธุ ยา ง.นครศรีธรรมราช ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 11 Korat folk song performance

11.ประวตั เิ พลงโคราชเกดิ ขึน้ ในสมยั ใด ก.พ่อขนุ รามคำแหงมหาราช ข.สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ค.พระเจ้าตากสินมหาราช ง.พระเจ้าอ่ทู อง 12.เพลงโคราชนยิ มเล่นในงานใด ก.ปใี หม่ ข.เรยี กขวัญ ค.แก้บน ง.ผูกดวง 13.การแสดงพืน้ บา้ นของชาวจังหวดั นครราชสมี าเรียกว่า ก.เพลงฉ่อย ข.เพลงหมอลำ ค.เพลงโคราช ง.เพลงลำตดั 14.ทา่ นทา้ วสุรนารเี ดมิ ชอ่ื ก.แดง ข.โม ค.จิต ง.โม๋ 15.ผทู้ ่ีรวมตวั กันเปน็ คณะเพลงโคราชเจ้าแรกคือ ก.ทา้ วสรุ นารี ข.พระยาปลดั เมืองโคราช ค.นางสองเมือง อนิ ทรคำแหง ง.กำปัน บา้ นแทน่ 16.เพลงโคราช หมายถึง ก.เป็นเพลงพ้ืนบา้ นทางภาคเหนือ ข.เปน็ เพลงพ้นื บ้านทางภาคกลาง ค.เป็นเพลงพนื้ บ้านโคราช มีลกั ษณะทร่ี ้องเป็นเพลงฉ่อย ง.เปน็ เพลงพนื้ บ้านโคราช มลี กั ษณะท่ีร้องเป็นเพลงก้อม 17.หมอเพลงโคราช หมายถึง ก.ผ้ชู ำนาญการรอ้ งโตต้ อบ ข.ผูม้ ีประสบการณร์ ้องเพลง ค.ผูม้ ที กั ษะการร้องเพลง ง.ผู้มปี ฏภิ าณไหวพรบิ 18.ก้อม เปน็ ภาษาโคราชและภาษาอีกสานแปลวา่ ก.ยาว ข.ปานกลาง ค.สน้ั ง.พอดี 19.รปู แบบการแสดงคลา้ ยกับการแสดงของวงดนตรเี พลงลูกทุ่ง หมอลำ ปจั จบุ นั เรียกวา่ ก.โคราชซ่ิง ข.โคราชลำตดั ค.โคราชลกู ทงุ่ ง.โคราชหมอลำ 20.ผู้ประกอบอาชีพเพลงโคราชนี้เรยี กวา่ ก.หมอลำ ข.หมอแคน ค.หมอดู ง.หมอเพลง ชดุ การเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 12 Korat folk song performance

21.ภาษาถน่ิ ทเ่ี ปน็ เอกลักษณ์ของวถิ ชี ีวิตคนโคราช คือ ก.ภาษาอสี าน ข.ภาษาพิมาย ค.ภาษาโคราช ง.ภาษาพื้นบ้าน 22.เวทเี พลงโคราชหมายถึง ก.เวทีการละคร ข.เวทกี ารแสดง ค.เวทีแสดงหมอลำ ง.เวทีแสดงลำตดั 23.ผูม้ ใี จรกั ในการท่จี ะเป็นหมอเพลงแลว้ มกั ไปฝากตัวเป็นศษิ ย์กับครูเพลงโดยตรง แลว้ จึงยกครู เป็นการแสดงถึง เร่อื งใด ก.ความอดทน ข.ความซื่อสตั ย์ ค.ความเพยี ร ง.ความกตัญญู 24.การไหว้ครูบาอาจารย์กอ่ นขน้ึ ทำการแสดงทุกครัง้ เรยี กว่า ก.การไหว้ครู ข.การยกครู ค.การไหว้พ่อแก่ ง.การเคารพครู 25.เปน็ ทา่ ทีป่ ระกอบการแสดงตามบทกลอนที่ร้องนัน้ ๆ เรียกวา่ ก.ทา่ รำวง ข.ทา่ รำโทน ค.ท่ารำเตย้ ง.ทา่ รำ 26.การแตง่ กายหมอเพลงโคราช แตง่ ลกั ษณะใด ก.นุ่งผ้าโจงกระเบน เปน็ ผา้ พ้ืนทอมือสเี ขม้ ข.นุ่งผา้ ซ่ิน เปน็ ผา้ พื้นทอมือสีเข้ม ค.น่งุ ผา้ โจงกระเบน เปน็ ผา้ พ้ืนทอมือสอี ่อนหวาน ง.นุ่งผา้ ซน่ิ เปน็ ผ้าพื้นทอมอื สอี ่อนหวาน 27.คนโคราชสวมเส้ือตัดเยบ็ จากผา้ ฝ้ายทอมอื เสื้อทน่ี ิยมใชเ้ รยี กวา่ ก.เส้อื “คอกระพุ่ม” และเสือ้ “อีแปะ” ข.เส้อื “คอกระโจม” และเสื้อ “อีแปะ” ค.เสือ้ “คอกระโจม” และเส้ือ “อีแมะ” ง.เส้อื “คอกระดุม” และเสือ้ “คอจนี ” 28.ผ้าขาวมา้ คาดเอว ภาษาโคราชเรยี กวา่ ก.ใชผ้ า้ ขาวมา้ “คาดพงุ ” ข.ใช้ผ้าขาวมา้ “เคยี นเอว” ค.ใชผ้ ้าขาวม้า “เคยี นพงุ ” ง.ใช้ผา้ ขาวมา้ “คาดเอว” 29.ข้อใดคือการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน ก.ฝกึ ร้องเพลงโคราช ข.พดู ภาษาโคราช ค.ฝกึ ท่ารำโคราช ง.ถูกทุกข้อ 30.ข้อใดคือการแสดงออกถงึ ภาษามรดกทางวฒั นธรรมประจำชาติ ก.พูดภาษาโคราช ข.พูดภาษาองั กฤษ ค.พูดภาษาไทยปนองั กฤษ ง.พูดภาษาพื้นบา้ น @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 13 Korat folk song performance

เรอ่ื งที่ 1 ภาษาโคราช ชดุ การเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 14 Korat folk song performance

เรอ่ื งท่ี 1 ภาษาโคราช จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายภูมหิ ลงั ประวตั ิความเป็นมาของภาษาถนิ่ โคราชจังหวัดนครราชสมี า 2. อธิบายพรอ้ มยกตวั อยา่ งความสำคญั ของภูมหิ ลังประวตั ิความเป็นมาของภาษาถน่ิ โคราชจังหวดั นครราชสีมา ภาษาโคราช ความเปน็ มา จังหวดั นครราชสมี าเป็นจงั หวัดท่มี ีกลมุ่ ชาติพนั ธุ์หลากหลายแตไ่ ทยโคราชเป็นกล่มุ ชาติพันธก์ุ ลุ่มใหญท่ ่ีมี วัฒนธรรมโคราชได้แก่ มีเพลงพ้นื บ้านท่เี รียกวา่ \"เพลงโคราช\" ใชด้ นตรพี นื้ บ้าน คือ มโหรีโคราชและที่เป็นเอกลักษณ์ สำคญั คือใช้ภาษาโคราชในชีวิตประจำวนั ไม่มหี ลักฐานบง่ บอกว่ากลมุ่ ชาติพันธุ์โคราชมาจากทีใ่ ดแต่มีหลักฐานทาง โบราณคดเี ก่ียวกับชุมชนโบราณบริเวณจงั หวัดนครราชสีมาจำนวนมากซง่ึ กลุ่มชาติ-พันธ์ุนนี้ อกจากจะอยู่ทจี่ งั หวดั นครราชสีมาแลว้ ยงั มอี ยู่ในจังหวัดบรุ รี ัมย์ชัยภูมิ และบางสว่ นของจังหวัดลพบุรีบางครง้ั อาจเรยี กกลุ่มชาติพนั ธน์ุ วี้ า่ ไทยเบง้ิ หรือ ไทโคราช ไทโคราช ชาวโคราชจดั อยใู่ นกลุม่ ชาติพันธุก์ ลมุ่ ตระกลู ภาษาไต-กะได สาขาไตพบว่ามีการต้ังถน่ิ ฐานในเขต จงั หวดั นครราชสมี าตัง้ แต่สมยั กอ่ นประวตั ิศาสตร์ สมยั ทวารวดีจนถึงสมัยอยธุ ยาและรัตนโกสนิ ทรก์ ไ็ ดร้ บั อทิ ธิพลวัฒนธรรม ไทยภาคกลางเปน็ สำคัญและยงั ไดร้ ับวัฒนธรรมเขมรและวัฒนธรรมไทยลาวเข้ามาผสมผสานอีกดว้ ยทำให้กลุม่ ชาติ พนั ธ์ุ ไทโคราชมีเอกลกั ษณเ์ ฉพาะ ท้ังภาษาพดู อาหาร รวมทงั้ การละเลน่ โดยเฉพาะเพลงโคราช ชาวไทโคราชตง้ั ถิ่น ฐานกระจายอยู่ตามจังหวัดตา่ ง ๆ เช่น อำเภอปักธงชยั อำเภอหว้ ยแถลง อำเภอครบุรี อำเภอหนองบุนนาก อำเภอ ชดุ การเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช 15 Korat folk song performance

ด่านขนุ ทด ในจงั หวัดบุรรี ัมย์ เชน่ ทอ่ี ำเภอนางรอง อำเภอละหานทราย อำเภอหนองกี่ อำเภอเมอื ง อำเภอ ลำปลายมาศ และจงั หวัดชัยภูมิ ในเขตอำเภอจัตรุ ัส อำเภอบำเหนจ็ ณรงค์ ตน้ กำเนิด เชื่อกันวา่ บรรพบรุ ุษของชาวไทโคราชอพยพมาจากอยธุ ยา และแถบจังหวัดชายทะเลตะวันออก ไดแ้ ก่ จันทบรุ ีระยองนครนายก เปน็ ตน้ เขา้ มาในบรเิ วณจังหวดั นครราชสมี าและพ้ืนทใ่ี กล้เคยี ง และไดผ้ สมกลมกลนื กับกลมุ่ คนพืน้ เมืองเดิม ซึ่งสนั นษิ ฐานวา่ นา่ จะเปน็ ไท-เสยี ม หรือไทสยามล่มุ น้ำมูล เกิดเปน็ วฒั นธรรมไทโคราช เรียกตนเอง วา่ ไทโคราช ไทเบิ้ง หรือ ไทเด้งิ ตอ่ มาไดม้ ีการติดต่อค้าขายกับชาวลาว ชาวไทยอีสานและชาวเขมร และมีการอพยพย้ายถ่ินฐานของชาวลาว ชาวไทยอีสานและชาวเขมรเข้ามาทหี ลัง ทำใหเ้ กดิ การววิ ัฒนาการของภาษา โดนมีการยืมคำไทยอสี าน และคำเขมร ปะปนเข้ามาใช้ เกิดเปน็ คำไทโคราช ซ่งึ แตกตา่ งจากภาษาไทยถิ่นอิสานโดยท่ัวไป เพราะยังคงรักษารากศพั ทเ์ ดิมไว้คือ ภาษาไทยถ่ินกลางนั่นเอง ภาษาไทยสำเนยี งโคราช เปน็ ภาษาไทยกลุ่มหน่ึงท่ีใชพ้ ดู กันในจังหวัดนครราชสมี า และจงั หวัดใกลเ้ คยี ง เป็น ภาษาที่ใกล้เคยี งกับภาษาไทยกลาง ทอี่ อกสำเนียงเหนอ่ และมีคำศพั ท์รว่ มกบั ภาษาไทยกลาง และรับคำมาใช้จาก ภาษาไทยถิน่ อสี าน ภาษาลาว และภาษาเขมร ลกั ษณะทางสัทศาสตร์ ภาษาไทยสำเนยี งโคราช เปน็ ภาษาไทยถนิ่ กลาง คำศัพท์ทั่วไปตรงกับภาษาไทยถ่นิ กลาง มสี ำเนียงคอ่ นข้าง เหนอ่ และห้วนสัน้ แบบภาคกลาง แตม่ ีการผนั คำต่ำ-สงู ที่เป็นเอกลกั ษณ์ของตนเองทแ่ี ตกต่างจากภาษาไทยถิ่นกลาง บา้ ง โดยมักใชเ้ สยี งวรรณยุกต์เอก (เสยี งต่ำ) แทนเสียงวรรณยกุ ต์โท (เสียงสงู ) เช่น \"โม\"่ แทน \"โม้\" หรอื \"เส่ือ\" แทน \"เสื้อ\" เป็นต้น นอกจากนี้ยังยืมคำในภาษาไทยถ่นิ อีสานมาใช้ปะปนกันดว้ ยเล็กน้อย และเมือ่ พดู จบประโยคจะลงทา้ ย ด้วยคำวา่ \"เบิ้ง, เหว๋ย, ดอ๊ ก\" วถิ ีชีวติ และภาษา กลุ่มชาตพิ นั ธุ์โคราชมวี ิถชี ีวิตแบบเรยี บงา่ ยเหมือนชาวชนบททว่ั ไปคืออย่บู า้ นใต้ถุนสงู แบบบา้ นโคราชซง่ึ เปน็ เรอื นสามระดบั ใกล้ ๆบ้านปลกู พชื ผักสวนครวั ซงึ่ อาจมีทงั้ อาหารและยาใชผ้ ้านุง่ โจงกระเบนซงึ่ เป็นผ้าไหมเรยี กวา่ ไหม หางกระรอกซ่ึงเป็นผา้ ทอที่เส้นพุ่งเป็นไหมควบสองเส้นทำให้ทอแล้วเกดิ เป็นลูกลายเหมือนหางกระรอกและวัฒนธรรม ที่สำคัญคือภาษาโคราช ซ่ึงมวี งศพั ท์ เสียงและสำนวนของตัวเอง เช่น จน่ แปลวา่ ไมว่ า่ งเลย เชน่ วนั นจ้ี น่ มาก จน้ื แปลว่าจืดชดื หรอื เซง็ เช่น สม้ ตำน้จี ืน้ แล้ว เซาะเยาะแปลว่า ผอมโซไม่มีเรี่ยวแรง นอกจากน้อี าจเพี้ยนเสยี งวรรณยุกต์คำในภาษาไทยกลางได้แก่ เพี้ยนเสียงเอกเปน็ เสยี งตรี เช่น กัด เปน็ ก๊ดั ดดั เปน็ ดด๊ั เพย้ี นเสียงสามัญเปน็ เสยี งจัตวาเชน่ ปลา เป็น ปลา๋ กา เปน็ ก๋า ชุดการเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 16 Korat folk song performance

เกี่ยวกับสำนวนภาษาโคราชมีสำนวนมากมายที่ใชใ้ นชวี ิตประจำวันเช่น คำเรยี กขวัญดังตัวอย่างเล็กน้อยดงั นี้ \"ขวญั อนี างเอยมา......ก๊.ู ..ขอให่มาเข่าโครงอย่าได้หลาบขอใหม่ าเขา่ คราบอย่าไดถ้ อยสิบปีอย่าไปอืน่ หมนื่ ปี อย่าไปไกลขอให่มาอยู่ซมุ พ่อซุมแม่ ซมุ พซ่ี ุมน่องใหม่ าอยเู่ รอื นใหญ่หกกะไดสูง...\" หมายความวา่ ขวญั ลูกเอยจงมาเถิดขอให้มาอย่กู ับรา่ งกายสิบปีหมื่นปอี ยา่ ได้ไปไหนขอให้อยกู่ ับพ่อแม่พี่น้อง บนเรือนหลังใหญบ่ ันไดสูง การกระจายตัว เปน็ ภาษาทใ่ี ช้มากในจังหวัดนครราชสมี าเกือบทุกอำเภอ ยกเว้นบางอำเภอท่ีมีชาวไทยอสี านอยูเ่ ปน็ จำนวนมากกวา่ เชน่ อำเภอบัวใหญ่อำเภอสงู เนินอำเภอปักธงชัย เป็นตนั นอกจากนพี้ บวา่ มีการใชภ้ าษาไทยสำเนียงโคราชในประชากร บางสว่ นของจงั หวัดสระบรุ ีจังหวดั ลพบุรีจงั หวัดเพชรบรู ณ์จังหวัดชัยภูมิจังหวดั บุรีรมั ย์จงั หวดั สระแก้วอีกดว้ ย การปรบั ปรนในสงั คมปัจจุบัน ปัจจบุ ันกลมุ่ ชาติพันธุ์โคราชมีความภาคภูมใิ จในความเปน็ คนโคราชร่วมกนั สรา้ งสรรคส์ งั คม รักษา และสืบทอดวฒั นธรรมโคราช ภาษาโคราช ภาษาโคราช เป็นวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นสาขาหนึ่งของชาวโคราช ซง่ึ มลี กั ษณะประสมประสานระหว่างภาษาอีสานและ ภาษาไทยกลาง แต่อยา่ งไรกต็ ามภาษาโคราชก็มลี ักษณะเฉพาะตัว เกย่ี วกบั ศัพท์ สำเนียง และสำนวนดังจะกลา่ วถึง ต่อไปนี้ ๑ คำศพั ท์ คำศัพทภ์ าษาโคราชท่ีไมซ่ ำ้ กับภาษาไทยกลางเมื่อเรยี งจากอกั ษร ก. ถงึ ฮ. แล้วพบวา่ มจี ำนวนมากมาย ถาวร สบุ งกช ไดร้ วบรวมไวม้ ถี ึง ๑,๐๖๕ คำ สว่ นใหญเ่ ปน็ คำศัพทท์ ใี่ ชท้ ำหน้าท่เี ปน็ คำนาม คำกริยา และคำ วิเศษณ์ ยกตวั อย่างโดยสังเขปดงั นี้ คำนาม เช่น กำดน้ แปลวา่ ทา้ ยทอย คำกรยิ า เช่น กำเปือก แปลว่า ฟองของนำ้ โสโครก กะดึ๊บ แปลว่า ผลไมห้ รือผกั ทย่ี งั เป็นลกู ออ่ น ๆ อยู่ ขี่สกี แปลวา่ นำ้ ครำ เขา่ เปียก แปลว่า ขา้ วต้ม นา่ มตบ๊ั แปลวา่ ไส้กรอก ชกั่ ชา แปลว่า ชกั คะเย่อ จน่ แปลว่า ยุ่งมาก, ประดงั เข้ามา แกง้ กน้ แปลว่า เชด็ ก้น, ไมแ่ ก้งกน้ คือ ไม้เช็ดก้น ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 17 Korat folk song performance

ขะโมม่ แปลว่า กินคำใหญ่ ๆ อยา่ งรวดเรว็ กะจ้อบ แปลวา่ น่งั หรือยืนเปน็ วงชิดๆ กนั ศีรษะโนม้ เข้าหากนั พดู เดม๋ิ แปลวา่ นนิ ทา โหงย่ แปลวา่ ค่อย ๆ ลม้ ลง คำวเิ ศษณ์ เชน่ กกื แปลว่า เป็นใบ้ เชน่ คนกกื เรยี กการเล่นตช่ี นิดหน่ึงที่ไม่ออก เสียงวา่ ตี่กืก กะจ้อน แปลว่า เล็ก แคระเชน่ ม้ากะจ้อนคือม้าแคระ กะต๊ะกะเต้ิง แปลวา่ เป็นนิดหนอ่ ย กะร่ะกะราย แปลว่า มไี ม่มากนัก มกั ใช้กบั พืชผกั ผลไม้ เชน่ \"หวา่ ต้นนีซ่ กุ พอ กะร่ะกะราย\" แปลวา่ หว้าต้นนี้สกุ เพียงนดิ หน่อย รรุ ะ แปลว่า สิง่ กอ่ สรา้ งท่ีดูเก่าโทรม จวนพัง รรุ่ ่ะ แปลว่า ฝนเม็ดใหญ่ตกห่าง ๆ และรวดเรว็ แลว้ หายไป คำวเิ ศษณ์ภาษาโคราช จะมใี ช้เปน็ จำนวนมาก ทั้งขยายนามและขยายกริยา แตส่ ่วนใหญม่ กั ขยายกริยา เช่น แผลเจอ้ ะเว่อะ แปลวา่ เป็นบาดแผลทใ่ี หญ่มาก ปากกะโผ่ง แปลว่า เป็นคนทีร่ กั ษาความลบั ไม่ได้ หน่าระซอ่ ง แปลว่า มากมาย หนา้ สลอน ฝนละลึม แปลว่า ฝนตกปรอย ๆ งอโลง่ โงง่ งอลอ่ งงอ่ ง แปลว่า ของทยี่ าวแล้วโคง้ งอถ้าเป็นของใหญใ่ ช้ โลง่ โง่ง ถา้ เป็นของเล็กใชล้ ่องง่อง สว่ นลา่ งง่าง มักใชก้ บั ผหู้ ญิง เชน่ เพลงโคราชบทหนึง่ ว่า \"ทำหนุ หันๆวิ่งข้นึ บนหอ ฉวยไดไ้ มส่ มอหมายจิโมน สมอง เห็นเมยี เปิดอ๊กลา่ งง่าง เลยรีบ วางตะบอ๋ ง\" คำศัพทภ์ าษาโคราชมี ๒ ลักษณะคือ คำศัพทท์ ่ีใชร้ ว่ มกบั ภาษาไทยกลาง กบั คำศัพท์เฉพาะของภาษาโคราช คำศัพทท์ ใ่ี ช้ร่วมกบั ภาษาไทยกลาง มักเพี้ยนเสียงวรรณยกุ ตแ์ บบภาษาโคราช เช่น คำอกั ษรตำ่ เสยี งตรี จะเพีย้ นเปน็ เสียงโท เชน่ ม้า เป็น มา่ ชา้ เป็น ชา่ เช้า เป็น เชา่ คำอกั ษรสูง อักษรกลาง คำตายเสียงส้ันเอกจะเพ้ียนเปน็ เสยี งตรี เชน่ สด เปน็ ซด ขด เปน็ คด จด เปน็ จ๊ด ฯลฯ นอกจากนค้ี ำอักษรกลางคำเปน็ เสียงยาว เสียงสามัญ ภาษาโคราชยงั เพีย้ นเป็นจตั วา เชน่ บาน เปน็ บ๋าน ชดุ การเรียนรู้เรื่องเพลงโคราช 18 Korat folk song performance

ดำ เปน็ ด๋ำ ดาว เปน็ ดา๋ ว ปลา เป็น ปลา๋ กิน เป็น กิ๋น ฯลฯ ในสว่ นของคำศัพทเ์ ฉพาะของภาษาโคราชนั้นมีมากมาย ต่อไปน้ีเปน็ ตัวอยา่ งคำศัพทด์ งั กล่าวเพยี งบางสว่ น คำ ความหมาย ตวั อยา่ งการใช้ กะจ้อน แคระ, เล็ก ผูใ้ หญล่ ขี มี่ ้ากะจ้อน กะเจบิ้ เหยยี บ, ย่ำ ฝนตกนำ้ ขงั อย่ากะเจิบ้ น้ำคนั จะกินตีน กระดึบ๊ ผลไมอ้ ่อน ฟังทองกำลังเป็นกระดบึ๊ กะดืบ้ คบื , คลาน เด็กน้อยกะด้ืบเปน็ แล้ว กะต้อนม่อนแม่น ขาดเป็นชิน้ เลก็ ช้ินนอ้ ย ตดั กระดาษจนกะต้อนม่อนแมน่ ท่องโร ท่องโป่ง ทอ้ งป่อง ท้องโต เด็กอดนมมนั ท่องโร นกบา้ น ไปถา่ ยอุจจาระ ไปนกบา้ นดอกวา โนน ทส่ี งู ขนาดใหญ่กว่าตะโมน ใช้ทำไรไ่ ด้ หน่วยแหน่ นอ้ ยหน่า ในสวนมีท้ังหนว่ ยแหน่หน่วยโหนง่ นี หรือ ไมไ่ ปนี นัว ขนุ่ อร่อย น้ำยาขนมจีนน้ีนวั ดี บห่อน ไม่เคย อยกู่ นั ใกล้ ๆ แค่น้ีบห่อนจะคุยกนั บแพ่ เชน่ กัน, เช่นนนั้ ดีช่วั กส็ อนมันบแพ่แต่มันไม่เอาคำ บางทีใช้ในความหายวา่ \"เมนิ เสียเถอะ\" เชน่ คนหนงึ่ พูดว่า วันนี้ฝนคอื จะตก อีกคนก็พูดว่า บแพ่แหละ บ๊ก พร่องไป กนิ ข้าวไม่บ๊กชาม บ้านเอง บ้านเรา โคราชบ้านเอง ปรา้ ปล้ารา้ กนิ ข้าวกะปรา้ สะเอ๊อะ เป็นไข่ ป่วย เปน็ ไข้ อนี างมันเป็นไข่ โปะ้ ทบั ถม รวม เอาดินมาโป้ะไว้ตรงนี้ ปะขาง ผาลไถนา คือเหลก็ ท่ีใสห่ วั หมู ลกู เขยไปซือ้ ปะขางไถนา แป้ว กิว่ คอด แตงลูกนม้ี นั แปว้ เม่ยี น เก็บงำไว้ หาเงินได้กร็ ้จู ักเก็บ รจู้ ักเม่ยี นบา้ ง แหมน่ สอย เอาไมแ้ ขนบมาแหน่มฝร่งั ที หมูสม่ หมแู หนม ทำหมสู ่มขาย มก หมก หนา้ หนาวผงิ ไฟแล้วมกมันกินกนั ชดุ การเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 19 Korat folk song performance

ย่อน เหตุว่า, เพราะวา่ เพลงโคราชกลอนหนึง่ ว่า \"นกจะตายยอ่ น ตัว โคคน่ื ย่อนตา่ ง สาวจะงามยอ่ นแต่ง แหวนจะซุกย่อนก้อย กินเข่าจะอร่อย(เอ๋ย) ย่อนแกง\" ยงดนิ พรวนดนิ เอาฝ่นุ ใส่พริกแลว้ ก็ต้องยงดนิ อย่างเดน อยา่ งเก่า, อย่างเดิม พดู แต่ไอ้อย่างเดนนั่นแหละ อยา่ งสวย สวยมาก ลกู สาวฉันไอ้อยา่ งสวยเลย โหยน่ ชิงชา้ ไกวชงิ ช้า เดก็ นอ้ ยไปเลน่ โหย่นชิงช้ากนั ยิบ่ ผ่า เยบ็ ผา้ , ตดั เสื้อผ้า อีนางมนั ไปเรยี นยิบ่ ผ่า เหยิม่ เขยา่ , สั่น พทุ รากำลงั สุกเทครวั ข้นึ เหยม่ิ ก็ร่วงรุ ๆ แย่ แย้ ยามอดอยากกห็ ากินแยก่ ินบง้ึ ไป อตุ๊ ุ๊ อนุ่ สบาย ยามหนาวไดห้ ่มนวมกห็ ลับอุต๊ ุ๊ไปเลย อูด้ ลดู มอมแมม, เลอะเทอะ ดูเนื้อตัวตดิ โคลนอูด้ ลูด เอ้อเห่อ อทุ านอยา่ งประหลาดใจ เออ้ เห่อคนมาแตเ่ มอื งงามแท้ ๆ น้อ ออดหลอด สะอาด, บรสิ ุทธิ์, หมดจด ลกู สาวใครหนองามออดหลอด อว๊ั ะ อวบ, อัน๋ (ใชก้ บั คน) น่ากนิ (ใชก้ ับพืช) ตำลึงไดฝ้ น ยอดช่าง อ๊ัวะจริง ๆ เอชา, เอยา อุทานอยา่ งดีใจระคนแปลกหน้า เอยา!ใช่อนี างไหมนี่ สำเนียง ภาษาโคราชจะมคี ำศัพท์สว่ นหน่ึงทใี่ ชค้ ำศัพท์ร่วมภาษาไทยกลาง โดยเฉพาะอย่างย่งิ ปัจจบุ ันนีก้ ารส่อื สาร คมนาคมสะดวกรวดเร็ว ส่ือมวลชนชนิดต่าง ๆ แพร่เข้าไปสู่ชนบทไดท้ ุกรูปแบบ การศกึ ษาเจรญิ ขนึ้ ทำใหภ้ าษาไทย กลางเข้ามาปะปนกบั ภาษาโคราชมากข้ึน คำศพั ทภ์ าษาโคราชแท้ ๆ ถูกลมื ไป คนโคราชสมัยใหม่จงึ ใชภ้ าษาโคราชโดย ใชศ้ ัพท์ภาษาไทยกลางเพยี งแตอ่ อกเสียง เป็นสำเนียงโคราช คือเปล่ยี นระดบั วรรณยกุ ต์เทา่ นน้ั เช่น ท้ายทอย ออกเสยี งเป็น ท่ายทอย สระผม ออกเสียงเป็น ซะผม กิน ออกเสียงเปน็ กน๋ิ , กนิ ขา้ ว ออกเสียงเปน็ เข่า ไป ออกเสยี งเปน็ ไป๋, ไป เดนิ ออกเสยี งเปน็ เดิ๋น, เดิน มด ออกเสยี งเป็น ม่ด น้ำ ออกเสยี งเป็น น่าม ขา้ วตม้ ออกเสียงเปน็ เขา่ ต้ม ไข้หวัด ออกเสียงเปน็ ไขว่ ดั เป็นไข้ ออกเสยี งเปน็ เป็นไข่ แจกการด์ ออกเสยี งเป็น แจกกา้ ด ชดุ การเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 20 Korat folk song performance

มีนักภาษาศาสตรไ์ ด้ศึกษาเสียงวรรณยุกต์ภาษาโคราชปจั จบุ นั เชน่ _ชลดิ า รินทร์พรหม_ ศกึ ษาเสียง วรรณยกุ ตภ์ าษาโคราช (ในเมือง) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ พบว่า มีเสียงวรรณยุกต์ ๔ หนว่ ยเสยี ง คือ ๑. หน่วยเสียงตำ่ - ขนึ้ เชน่ คำว่า เฉย สวน เหลอื ง เห็น หนอง ขา ฝา หนู หมี ฯลฯ ๒. หนว่ ยเสียงต่ำ - ตก เชน่ คำว่า ดอก หึ อม่ิ เหล่น เดน่ิ เส่น ผึ่ง สน่ เถา่ หมอบ ฯลฯ ๓. หนว่ ยเสียงกลาง - ระดบั มี ๒ เสยี ง คือ เสยี งกลางระดับ เช่น ชิม รมิ เย็น เต็ม ปงึ เงิน ไอ ดำ เดยี ว มี ที เก ฯลฯ และหน่วยเสยี งกลาง - ข้นึ เช่นปิ๊ด(ปิด) ดบ๊ิ (ดบิ ) แตะ๊ (แตะ) ฟกึ (ฝกึ ) เบ๊าะ(เบาะ) ก๊ัก (กกั ) ฯลฯ ๔. หนว่ ยเสียงสงู - ตำ่ มี ๒ หนว่ ยเสียง คือ เสยี งสงู - ตก เช่น ดน้ิ จ้ิม เต้น บ้งึ ใช่ คำ่ ใกล้ ปา้ ย ปา้ โง่ ฯลฯ และเสยี งสงู - ระดบั เชน่ ซับ (สับ) ซดั (สัตว์) มด (หมด) ฯลฯ สว่ น วิจนิ ตน์ ภาณุพงศ์ ได้ศึกษาเสยี งวรรณยุกต์ภาษาถิน่ โคราชเช่นเดยี วกันโดยศึกษากระจาย ๑๖ อำเภอ เม่อื พ.ศ. ๒๕๒๒ ด้วยการใชร้ ายการคำสำหรบั ทดสอบเสียงวรรณยุกตข์ องวิลเล่ยี ม เจ เก็ดนี เป็นเครอื่ งมือ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบวา่ สามารถแบ่งภาษาโคราชด้วยเสียงวรรณยุกต์เป็น ๒ กลุ่มใหญ่ ๆ คอื กลมุ่ ตะวันออก และกลมุ่ ตะวนั ตก โดยกลุม่ ตะวันออกได้แก่ อำเภอชุมพวง อำเภอบัวใหญ่ อำเภอหว้ ยแถลง อำเภอคง อำเภอพิ มาย อำเภอโนนสงู อำเภอจักราช จะมีเสียงวรรณยุกต์เหมือนกัน ส่วนกลมุ่ อำเภอตะวันตกได้แก่ อำเภอโนนไทย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากชอ่ ง อำเภอปักธงชัย อำเภอโชคชัย อำเภอครบุรี และอำเภอเสงิ สาง มเี สียง วรรณยุกตค์ ลา้ ยคลงึ กัน รายการคำทน่ี ำไปทดสอบเสียงวรรณยุกต์มดี ังนี้ A BC DL DS ขา หู หัว ขา่ เข่า ไข่ ผ้า เสอ้ื ฆา่ ขาด หาบ สาก ๑. ขัด สตั ว์ หวดั ตา ปลา กา ป่า ไก่ เต่า กลา้ ป้า ก้าง ปาก ตาก กาด ๒. กดั ปดั ตกั บาน ดำ ดาว บ่า อ่า ด่าง อา้ ดา้ ย บา้ บาด ดาบ อาบ ๓. คัด ดับ ดกั คาง มอื นา พ่อ ล่าง คา่ มา้ นา้ คา้ นาก ลาบ คราด ๔. วัด นบั คัด คำทแ่ี ยกภาษาโคราชด้วยเสียงวรรณยุกตอ์ อกเปน็ ๒ กล่มุ อยา่ งชัดเจน คือ รายการคำในแถง A โดย กลุม่ ตะวันออก จะออกเสียงแถวท่ี ๑, ๒ และ ๓ เหมอื นกัน เป็น หู หวั ขาตา๋ ปลา๋ ก๋า บา๋ นดำ๋ ดา๋ ว สว่ นกลุ่มตะวนั ตกจะออกเสียงแถวที่ ๒, ๓ และเหมือนกัน เปน็ ตา ปลา กาบาน ดำ ดาว คา มอื นา สำนวนภาษาโคราช สำนวนภาษาเป็นคำพดู ทก่ี ลน่ั กรองขน้ึ มาเพอื่ ความสละลวยของภาษา มคี วามคมคายและซบั ซ้อนกว่า คำพูดธรรมดา สำนวนภาษาโคราชมลี กั ษณะเฉพาะตัวคือ ส่วนใหญ่มีเสยี งสัมผสั คล้องจองกนั อนั แสดงเพลง โคราช เป็นต้น สำนวนภาษาโคราชมคี วามผูกพนั กับวิถีชวี ิต ตลอดจนสะท้อนใหเ้ หน็ ค่านยิ ม จริยธรรมความ เชือ่ ประเพณี และทัศนคติของคนโคราชอยา่ งชัดเจน มีคุณค่าทางวฒั นธรรมทงั้ ด้านรูปธรรม คอื แสดงภาพ ชุดการเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 21 Korat folk song performance

การดำเนนิ ชวี ติ ต้ังแต่เกิดจนตาย และดา้ นนามธรรมคือการอบรมสง่ั สอน ต่อไปนจ้ี ะยกตัวอยา่ งสำนวนภาษา โคราชโดยสังเขป ๑ กลมุ่ คำสำนวนภาษาท่มี ีเสยี งสัมผัส เช่น กะตุม้ หุ่มหอ่ หมายถึง การได้รับความชว่ ยเหลอื อยา่ งอบอนุ่ มาจาก \"ตมุ้ \" ซ่งึ เป็นอาการของ แมไ่ ก่ ที่ปกป้องลูก ไวใ้ ตป้ กี ท้ังสองขา้ ง กะท่อมห่อมสะหนำ หมายถึง กระท่อมท่ีพกั อาศัย เชน่ ไดก้ นั แลว้ ก็พากนั ไปย่กกะท่อมหอ่ มสะหนำ อยูไ่ ป กะหม่าบา้ บิ๋น หมายถงึ ตกใจมาก เชน่ เหน็ ไฟไหม่เลยกะหม่าบ้าบ๋นิ เม้ิด กวดกว๋ ยสวยเสีย หมายถึง ตายอย่างทนั ทที ันใด กน๋ิ นา่ มรอ่ นนอนไฟ หมายถึง การอยูไ่ ฟของหญิงแม่ลูกอ่อน แก๊ะหวั เลาเกาหวั หญ่า หมายถึง หมดหนทางท่ีจะด้ินรนตอ่ ไป คนด๋ีตา่ ยหนา่ ลายยัง หมายถงึ คนชว่ั ยงั ลอยนวล เช่น นีแ่ หละเขาว่าคนด๋ตี าย หน่าลายยัง งเู งยี่ วเขี่ยวตะขาบ หมายถงึ อสรพษิ ท้ังหลาย เชน่ เขา่ คำ่ กลางคืนใหเ่ ดนิ ระวังงเู ง่ยี วเข่ยี วตะขาบเดิ้ง อลี กั อหี ลูด หมายถึง ความลำบาก ทุลักทุเล เชน่ กวั่ จะได้ทำงานอีลัก อหี ลดู เจนว่า หาอยหู่ ากิน หมายถงึ การประกอบอาชีพ เช่น เปน็ ยังไงหาอยูห่ ากินยังไง หวั หายตะพายขาด หมายถึง การไปไหนๆ โดยไมบ่ อกกล่าวใหผ้ ใู้ ดทราบมักใช้กับ คนชอบเทีย่ ว เชน่ ไปหวั หายตะพายขาด สำนวน นมี้ าจากการเลี้ยงม้า, ววั ทตี่ ะพายขาดแลว้ จับมา ผูกคืนไดย้ าก ๒ กลุม่ คำสำนวนท่ีไมม่ ีเสียงสัมผสั เช่น กั๊ดฟนั ขยุม้ ตูด หมายถงึ การทำสงิ่ ใดสง่ิ หน่ึงสุดกำลัง เช่น ป๊า...กัด๊ ฟนั ขยุ้มตดู ปานนี่ มนั ยังถอน ไม่ขึ้นนอ กำขี่ไม่ทนั ควย หมายถงึ จับตัวคนทำผดิ ไม่ไดท้ ันทว่ งที เชน่ มวั แต่เซ่ออยู่ ก๋ำขไ่ี มท่ ันควยน่ัน ก๋ินเผ่ือหมา หมายถงึ กนิ อย่างไม่ประมาณตน เชน่ รากแตกรากแต๋นยังง่ีกย็ อ่ นมันก๋ินเผื่อหมา ขซี่ บร่อง หมายถึง ทำอะไรได้จังหวะพอดี เชน่ มันชนะเขากย็ ่อน ขี่ซบร่องดอกนา ข่ืนกก๊ ไม่ช่วยแรงกะถา หมายถึง การหาหนทางช่วยใหผ้ ูน้ นั้ พ้นทกุ ขพ์ น้ ภัยเชน่ ใควา่ อะไรด๋ี กท็ ำนนั่ แหล่วขึ่นกก๊ ไม่ชว่ ยแรงกะถาเอาละเด่ ๓ กลุม่ คำสำนวนทีเ่ ป็นความเปรียบ เสนิ ข่นื ยังกะเข่าค่างบี๋ หมายถึง คนท่ชี อบยอ ระซ่องยังก๊ะหนา่ งวั เกย๋ี น หมายถึง หน้าสลอนเหมือนหน้าววั เทียมเกวยี น มักใชเ้ ปรยี บเด็ก ๆ เหนยี วยงั กะ๊ หนงั หวั เกย๋ี น หมายถงึ ความตระหนถี่ ่เี หนียวนน้ั เหมือนหนังท่ใี ชผ้ กู อยทู่ ห่ี ัวเกวยี น ใช้เปรียบกบั คนท่ตี ระหนี่มาก ๆ สนุ๊กพอปานเตะ๊ เฮด็ หมายถึง ทำส่งิ ต่าง ๆ ได้งา่ ยดายเหมือนการเตะเห็ดไม่ต้อง ใชค้ วามพยายามมาก ชุดการเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 22 Korat folk song performance

คล่องพอปานใส่ไข หมายถงึ มีความคล่องตัวมาก สำนวนน้เี ปรยี บกบั ล้อเกวียน ถา้ เอาไขใส่ (น้ำมันหล่อล่นื ) จะทำให้หมนุ คลอ่ ง ไมห่ นกั แรงวัวควาย ใหก่ น๋ิ ไมร่ ่บู ๊กใหจ่ ๊กไมร่ เู้ ม้ดิ หมายถงึ หมายถึง ให้ม่ังมศี รีสุข ๔ กลุม่ คำให้พร เปน็ กล่มุ คำท่กี ล่าวออกมาจากความรสู้ กึ ทจี่ ริงใจทำใหผ้ ู้รับพรมคี วามสขุ อิ่มเอิบใจ เชน่ - ขอให่อยูเ่ ยน็ เป็นซกุ สะนกุ สบา๋ ยควมเจบ็ อย่าไดค้ วมไข่อยา่ มี ของช่ัวอยา่ ให่เห็นของเหม็นอย่าให่พบ ให่ อยูด่ ๋ีกน๋ิ ดนี๋ ึกอย่างไหนของใหไ่ ด้ อยา่ งปรารถนาเดอ - คำแปล ขอให้อยู่เย็นเป็นสุขสนุกสบาย ความเจบ็ อยา่ ได้ ความไข้อยา่ งของชั่วอย่าใหเ้ หน็ ของเหม็นอยา่ ได้ พบ ใหอ้ ยดู่ ีกินดี นกึ อยา่ งไหน ขอให้ได้อยา่ งปรารถนา นะ - ขอใหไ่ ดเ้ ปน็ เจา้ คนนายคน ไปทางไหนขอใหม่ ีคนเดินหน่าใหม่ ีข่ีข่า เด๋นิ ต๋าม ไป๋ทางไหนใหม่ ีแต่คนรัก ไมม่ ี คนชัง ให่อายุหม่นั ขว็ นย๋นื ใหไ่ ดผ้ วั คนรู้ ให่ไดช้ คู่ นงาม เดอลกู เดอ - คำแปล ขอให้ไดเ้ ป็นเจา้ คนนายคน ไปทางไหนขอใหม้ ีคนเดนิ หน้า ให้มีข้ีขา้ เดินตาม ไปทางไหนขอให้มีแต่ คนรกั ไม่มีคนชัง ให้อายมุ ่นั ขวัญยนื ให้ได้ผัวคนรู้ ใหไ้ ดช้ ้คู นงามนะลูกนะ ๕ กลุ่มคำเรียกขวญั เปน็ กลุม่ คำสำนวนท่ีคนเฒา่ คนแกใ่ ช้เรยี กขวัญใหล้ กู หลานทป่ี ว่ ยไข้หรือคนทีจ่ ากบ้านไปนาน แล้วกลับมา อย่างปลอดภัย เพอ่ื เป็นกำลังใจแกบ่ ุคคลน้นั เชน่ -ข็วนอีนาง (ไอน้ าย) เอย มากู๊.............. ให่มาเขา่ โครงอย่าได้หลาบ ใหม่ าเข่าคราบอย่าได้ถอย ซิบปอ๋ี ย่าไป่อนื่ หมื่นปอ๋ี ยา่ ไป๋ไกล๋ ใหม่ าอยู่เรือนพ่อเรือนแม่ ให่มาอยซู่ ุมพี่ซมุ น่อง ข็วนพจ่ี ิไป๋ให่หน่องช่กั ไวข่ ว็ นนอ่ ง จไิ ปใ๋ หพ่ ีช่ ั่กไว่ ใหผ่ ูกกั๋นอย่างเครือมนั ใหพ่ ันก๋นั คอื เครอื ถว่ั ให่มานอนฟกู ถ่วมหน่า ใหม่ านอนผา่ ถ่วมตวั๋ อย่าไปกนิ เขา่ เด๋นผีราก อย่าไปกนิ๋ หมากเดน๋ ผีคาย อย่าไปเอ๋ารากไม่ต่างหมอน อยา่ ไปเอ๋าขอนต่างบ้าน อยา่ ไปนอนข่วมกน๋ิ นา่ มลาย อยา่ ไปนอนหงายกิน๋ น่ามคา่ ง อย่ามวั ไปหลงในนา่ มเปน็ เพ่อื นปล๋า อย่ามัวไปหลงในนาเปน็ เพอ่ื นเขา่ ให่มาอยู่เรือนใหญ่ฮกกะไดส๋ ูง มาเดอข็วนเอย...มากู๊ มาอย่ซู ุมพ่อซมุ แม่ซุมพซ่ี ุมนอ่ ง เดอขว็ นเอย...มากู๊ คำแปล - ขวัญเอยมาเถิด ขอให้มาเข้าร่างอย่าได้เขด็ หลาบหวาดกลวั เลย สบิ ปีอย่าไปอืน่ หมนื่ ปีอย่าไปไกล ให้มาอย่เู รือนพ่อเรือนแม่ทม่ี ีญาตพิ ่ีน้องแวดลอ้ ม ถ้าขวัญพจ่ี ะไปใหน้ ้องชกั ชวนไว้ ขวัญน้องจะไปกใ็ หพ้ ่ชี ักชวนไว้ ให้ผกู พันกันเหมอื นเครือถวั่ เครอื มัน ให้มานอน ทน่ี อนซึง่ หนานมุ่ และผา้ หม่ ผนื หนาอย่าไปกนิ ขา้ วทีผ่ อี าเจียนออกมา อยา่ ไปกินหมากเดนผคี าย อยา่ ไปเอารากไม้ตา่ งหมอน อย่าไปเอาขอนไม้ตา่ งบ้าน อย่าไปนอนควำ่ กนิ น้ำลายอย่าไป ชุดการเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 23 Korat folk song performance

นอนหงายกินน้ำคา้ ง อย่ามวั ไปหลงในนำ้ เปน็ เพ่ือนปลา อยา่ มวั ไปหลงในนาเปน็ เพ่ือนข้าว ใหม้ าอยเู่ รอื นใหญ่ บนั ไดสูง มาเถดิ ขวัญเอย...มาอย่กู ับพอ่ แม่พ่ีน้อง มาเถิดขวญั เอย... ๖ กล่มุ คำอธษิ ฐาน ใช้อธษิ ฐานในโอกาสทำบุญ ตักบาตร เชน่ - เขา่ ข้าพ่ะเจา้ ขาวเหมือนดอกบัว๋ ย่กขื่นเหนอื หัวถวายพร่ะพุ่ทธ ตงั้ ใจใ๋ ห่บรซิ ุดถวายพร่ะธรรม ขอให่ใจข้าพะ่ เจา้ จงนำถวายพร่ะสงฆ์ จิด๊ ใจ๋จำนงหมายทางซ่ายขัวกรง๋ ต่อพร่ะนิพพาน ขอใหไ่ ด้พบ่ ดว๋ งแก้ว ขอให่แคล่วบ่วงมาร ขอให่ทนั พระศรีอาริย์ปะตโิ ย โหตุ๊... คำแปล - ขา้ วของข้าพเจา้ ขาวเหมือนดอกบวั ยกข้นึ เหนือหวั ถวายพระพุทธ ต้งั ใจให้บรสิ ุทธิถ์ วายพระธรรม ขอให้ใจข้าพเจ้าจงนำถวายพระสงฆ์ จติ ใจจำนงหมายทางซ้ายขวา ตรงต่อพระนิพพาน ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้ แคล้วบว่ งมาร ขอให้ทันพระศรีอาริยป์ ะตโิ ยโหตุ... คำลงทา้ ย ภาษาโคราช มีคำลงทา้ ยเฉพาะตวั ทง้ั ในประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถาม และประโยคบอกเล่า เชน่ มาไอ๋เยอ หมายถงึ มาทำไม่หรือ ไม่ไป๋ดอกนี หมายถงึ ไม่ไปหรือ ไมเ่ ป็นดอกวา หมายถึง ไมเ่ ปน็ กระมัง ไมใ่ ชด่ อกแฮะ หมายถงึ ไมใ่ ชห่ รอก ไปแ๋ หละเดอ หมายถึง ไปละนะ ทำแล่วเด หมายถึง ทำแล้วนะ คำปฏิเสธ จก๊ั หมายถึง ปฏิเสธแบง่ รบั แบง่ รู้ จั๊กเด่ หมายถงึ ปฏเิ สธเดด็ ขาด จั๊กแหล่ว หมายถึง ปฏเิ สธเชิงไม่พอใจ จั๊กแหละ หมายถึง ปฏิเสธแบบให้พน้ ตวั นอกจากคำปฏเิ สธแล้ว ภาษาโคราชยงั มีลกั ษณะเฉพาะอนื่ ๆ เชน่ คำลกั ษณะนาม คำทกั ทาย คำสบถ สาบาน และการพูดประโยคท่ีชวนฉงนสำหรับผใู้ ชภ้ าษากลาง เชน่ ประโยค ความหมาย เป็นไข่ ไม่สบาย เป็นไข้ จะไปงา่ ยไหม จะกลับเรว็ ไหม จะยากไปไหม จะกลับชา้ ไหม ถนนน่ีจะไปไหน ถนนสายนไี้ ปถึงไหน, ผา่ นอะไรบา้ ง ชุดการเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 24 Korat folk song performance

ไม่อยากพูดหา ไม่อยากพูดดว้ ย ประโยค ความหมาย กินใหญก่ ินน้อย กินมาก ไอ้แนวนน่ั สง่ิ นั้น วันนนี้ ้ำลึกปานใด น้ำขึ้นถงึ ไหนแลว้ ฝนกะ๊ บ้าน ฝนตกทบี่ า้ น เชิง ๆ จะเก่ง ดูเหมือนจะเก่ง ซง ๆ จะเปน็ ไข่ ดูเหมือนจะเป็นไข้ ไปเลน่ บา้ น ไปเทยี่ วบ้าน พูดดัดล่าง พดู แบบชาวล่าง (ชาวกรุงเทพฯ) ของอยา่ งกันนัน่ ของอย่างนัน้ เอาเมยี หรือยงั แตง่ งานหรือยัง ”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” ชุดการเรยี นรู้เร่อื งเพลงโคราช 25 Korat folk song performance

บันทึกสรุปการเรียนรู้ สรุปเน้ือหา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ประโยชนท์ ่ไี ด้รับ .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ............ ..................................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. การนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ชดุ การเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 26 Korat folk song performance

ใบงาน ให้นกั ศกึ ษาตอบคำถามดังน้ี 1. ให้ผูเ้ รียนสรุปภมู ิหลงั ประวัติความเปน็ มาของภาษาถนิ่ โคราช .................................................................................................................................................... ..................................... ................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ........................................................................................... .............................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ....... ........................................................................................................................... .............................................................. ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................... .......................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... 2. ให้ผ้เู รียนหาคำศัพท์ตา่ งๆ(เช่นคำนาม กรยิ า คำวเิ ศษณ์)ของภาษาถน่ิ โคราชท่ีใช้ในชวี ิตประจำวัน .................................................................... ..................................................................................... ................................ .......................................................................................................................................... ............................................... ...................................................................................... ................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ........................ ......................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................. ........................... ................................................................................................................... ...................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................. ...................................................... ชดุ การเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 27 Korat folk song performance

3. ให้ผู้เรียนยกตวั อย่างสำนวนภาษาโคราช ............................................................................................................................. ............................................................ .......................................................................................................................................... ............................................... ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................. ......................................................... ................................... ......................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................. ....................................................... ........................................................................................................................................ ................................................. ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................. ....................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...... ......................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................... ................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................ . ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................ ......................................................... ............................................................................................................................... .......................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................ .................................................................... ชดุ การเรยี นรู้เรอื่ งเพลงโคราช 28 Korat folk song performance

เรื่องที่ 2 เพลงโคราช ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 29 Korat folk song performance

เรอื่ งท่ี 2 เพลงโคราช จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของเพลงโคราชได้และหมอเพลงโคราชได้ 2. บอกประวัติความเปน็ มาของเพลงโคราชได้ 3. อธบิ ายและตระหนักเหน็ คุณค่าความสำคัญของเพลงโคราช 4. ระบแุ หลง่ เรยี นรูภ้ มู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่ และเพลงโคราชได้ 5. วเิ คราะหค์ วามเปน็ ไปไดใ้ นการเขา้ สู่อาชพี เพลงโคราชได้ 6. บอกชอ่ งทางการประกอบอาชพี เพลงโคราชได้ เพลงโคราช 1. ความหมายของเพลงโคราชและหมอเพลงโคราช 1.1 จากการศึกษาเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง ชื่อผ้แู ต่ง ฯพณฯ สวุ จั น์ ลปิ ตพลั ลภ (2542 : 140) ได้ใหค้ วามหมายของเพลงโคราช ไว้ว่า ตำนานของเพลงโคราชนนั้ ผรู้ ู้และหมอเพลงเลา่ ใหฟ้ ังวา่ มนี ายพรานคนหนง่ึ ชื่อ เพชรน้อย ออกไปล่า สัตว์ในปา่ เขตหนองบญุ นาก อำเภอโชคชยั จังหวดั นครราชสีมา คืนหนึ่งแกไปพบลูกสาวพญานาคขึ้นมาจากหนอง นำ้ มานั่งร้องเพลงคนเดยี ว พรานเพชรน้อย ได้ยินเสยี งจึงแอบเขา้ ไปฟงั ใกล้ ๆ แกประทบั ใจในความไพเราะและ เนอื้ หาของเพลง จึงจำเนื้อและทำนองมาร้องให้คนอืน่ ฟัง ลกั ษณะเพลงที่ร้องเปน็ เพลงกอ้ ม หรอื เพลงคสู่ อง อกี ตำนานหน่ึงเลา่ ว่า ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอนิ เดียโดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผนู้ ำมา พรอ้ ม ๆ กับ ลิเก และลำตดั โดยใหล้ ิเกอยู่กรุงเทพฯลำตัดอย่ภู าคกลาง และเพลงโคราชอยู่ทีน่ ครราชสมี า เพลงโคราชระยะแรก ๆ เปน็ แบบเพลงก้อมคนทเ่ี รยี นรู้เพลงโคราช จากพระยาเข็มเพชร ช่ือตาจัน บ้านสก อยู่ \"ซมุ บา้ นสก\" ตดิ กับสถานี รถไฟชุมทางถนนจริ ะตำนานท้งั สองถงึ แมจ้ ะตา่ งกนั ในดา้ นกำเนิดแตต่ รงกันอยา่ งหนึ่งท่ีกล่าววา่ เพลงโคราชระยะแรก เล่นแบบเพลงก้อม ก้อมเป็นภาษาโคราชและภาษาอสี าน แปลวา่ สัน้ เพลงก้อมหมายถงึ เพลงส้ัน ๆวา่ โตต้ อบกลา่ ว ลอย ๆ ท้งั ทีม่ ีความหมายลกึ ซึ้งหรอื ไม่มีความหมายเลยก็ได้วัฒนธรรมไทยในปัจจุบันถูกแทนทด่ี ้วยเพลงสมัยใหม่ เด็กและ เยาวชนหันไปสนใจเพลงสากลมากขึน้ ทำใหศ้ ิลปะของไทยอนั งดงามเรม่ิ จางหายไป แตห่ ากท่านใดที่มีโอกาสได้มายงั เมอื งนครราชสีมาหรือเรยี กกันติดปากว่า เมืองโคราช ท่านคงจะประจักษต์ อ่ สายตาแล้วว่าความคดิ ทก่ี ล่าวในเบื้องต้น ไมถ่ ูกตอ้ งเสมอไป การร่ายร่ำของชาวชายหญิงเหล่านนี้ อกจากจะได้ยนิ เสยี งหัวเราะและความเพลิดเพลินของผ้คู นที่สญั จรผา่ น ไปมาจะสามารถสัมผัสได้แลว้ เนือ้ เพลงยังแฝงไปดว้ ยคตธิ รรมในการดำเนนิ ชวี ิตทด่ี ีงามแม้วา่ เนือ้ เพลงบางวรรค ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 30 Korat folk song performance

บางตอน จะขดั หูเพราะมีคำหยาบรวนไปบา้ ง แต่น้นั กเ็ ปน็ การบอกถงึ การแสดงน้ี นั้นก็คือเพลงโคราช เดก็ และเยาวชน ในปจั จบุ นั ไดห้ นั ไปสนใจกับสิ่งท่ีเปน็ สากลมากขนึ้ จนลืมไปว่าไปว่าศลิ ปะและวัฒนธรรมในท้องถ่ินตนเองทรงคุณค่า และงดงามเพยี งใด ชอ่ื ผแู้ ตง่ มนตรี ตราโมท (2497 : 45) ได้ให้ความหมายของเพลงโคราช ไว้วา่ มลี ักษณะเช่นเดยี วกับ เพลงพ้นื เมอื งของท้องถนิ่ อื่น ๆ คือประกอบดว้ ยลำนำ อนั หมายถงึ ความสั้นยาวของเสยี ง ทำนองหมายถงึ เสยี งสูง ๆ ต่ำ ๆ สลับกนั ไป และจังหวะคือส่วนแบ่งย่อยทเี่ ป็นระยะสมำ่ เสมอ ซงึ่ ไดแ้ ก่มาตรา ซง่ึ ส่วนประกอบท้ังสามนีเ้ ปน็ สว่ นประกอบสำคัญของเพลงพ้ืนเมืองถา้ ขาดสวนใดสว่ นหนึ่งไปจะเรยี กว่าเพลงไม่ได้ ชือ่ ผู้แต่ง วเิ ชียร โตรำพิมาย (2521 : 140) ไดใ้ ห้ความหมายของเพลงโคราช ไวว้ า่ รูปแบบของเพลง โคราชนั้นมีลกั ษณะแปลกไหจากเพลงพื้นเมืองประเภทอื่น ๆ ตรงที่บงั คับทง้ั สมั ผสั อักษรและสมั ผัสสระ คณะของ เพลงโคราชไมจ่ ำกดั แนน่ อน แต่มีการยดื หยุน่ ได้ตามความเหมาะสมเพลงร่นุ เก่า ชอ่ื ผแู้ ต่ง พระครูโสภิตธรรมประยตุ ( อุดมอตุ ฺตมปญฺโญ / สงสรุ ะ)ได้ให้ความหมายของเพลงโคราช ไว้ว่า เพลงโคราช(PhlengKorat or Korat Folksongs) หมายถงึ เพลงโคราชทขี่ บั เปน็ ทำนองท้องถน่ิ เฉพาะทเี่ ปน็ บทเพลง กลอนซ่งึ ประกอบด้วยเพลงก้อมเพลงคู่ 2 เพลงคู่ 4เพลงคู่ 6 เพลงคู่ 8 และเพลงคู่ 12 ท้ังเพลงรุ่นเกา่ และเพลง สมยั ใหม่.(2555).ความหมายเพลงโคราช//www.koratinfo.com/samapi/koratsong/index.htmได้ให้ความหมาย ของเพลงโคราช ไว้วา่ เพลงพ้ืนบา้ นของชาวนครราชสมี ามหี ลายอย่างเชน่ เพลงกล่อมลกู เพลงกลองยาว(เถิดเทงิ ) เพลงเซ้ิงบ้งั ไฟเพลงแหน่ างแมวเพลงปแี่ กว้ เพลงหม่งเหม่ง เพลงลากไม้เพลงเชดิ เพลงช้าเจา้ หงส์ดงลำไยแต่เพลงที่เล่น กนั แพรห่ ลายและมีอายยุ ืนยาวมาจนถึงปัจจบุ ันน้ีคือเพลงโคราช จะเหน็ ไดว้ า่ จากข้อมลู ความหมายเพลงโคราชของเอกสารที่เกย่ี วขอ้ งท้งั 5 เลม่ ดังกลา่ ว ท่ีกล่าวไว้ สามารถสรปุ ได้ว่าเพลงโคราช เป็นการร้องระหว่างชายหญิง คลา้ ยกนั ตรมึ และหมอลำ แตไ่ ม่มดี นตรีประกอบ ใชว้ าทศลิ ป์เพยี งอยา่ งเดียว และปรบมือเพื่อกำกับจังหวะ1.1.2 จากการสมั ภาษณ์ภมู ิปญั ญา จำนวน 5 คน ไดใ้ ห้ ขอ้ มลู ความหมายของเพลงโคราชไว้ดงั น้ี กำป่ัน บ้านแท่น (2555) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลความหมายของเพลงโคราชไว้ขณะทส่ี มั ภาษณ์ภูมปิ ัญญาเรอ่ื ง ความหมายของ เพลงโคราช ในวันที่ 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บ้านเลขท่ี 334 ถนนจริ ะ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง นครราชสีมา จังหวัดนครราชสมี า เวลา 13.00 น. ไวว้ ่า “เพลงพน้ื บา้ นโคราชมีลกั ษณะเพลงทร่ี อ้ งเปน็ เพลงก้อม หรอื เพลงคสู่ อง ของชาวนครราชสีมา มหี ลายอยา่ ง เช่นเพลงกล่อมลกู เพลงกลองยาว (เถิดเทงิ ) เพลงเซิง้ บั้งไฟ และเพลงแห่นางแมว ” กาเหว่า โชคชยั (2555) ได้ใหข้ ้อมลู ความหมายของเพลงโคราชไวข้ ณะท่ีสมั ภาษณ์ภูมิ ปัญญาเร่อื ง ความหมายของเพลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขท่ี 334 ถนนจิระ ตำบลใน เมอื ง อำเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสีมา เวลา 13.00 น. ไวว้ ่า “ เป็นเพลงของชาวบา้ นทรี่ ้องเลน่ กนั ในยามวา่ งงานเพื่อความสนกุ สนาน เช่นในงานลงแขกเกีย่ วข้าว หรือพบปะพูดคยุ กันในวงสรุ า ชาวบา้ นทว่ี ่าเพลงได้ จะวา่ เพลงเพื่อความสนกุ สนานไมม่ ีพธิ ีรีตรอง ” เลาะ บ้านแท่น (2555) ได้ให้ข้อมูลความหมายของเพลงโคราชไว้ขณะทส่ี มั ภาษณภ์ มู ิปัญญาเร่ือง ความหมายของเพลงโคราช ในวันที่ 27 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรยี ท์ ้าวสุรนารีถนนราช ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 31 Korat folk song performance

ดำเนนิ ตำบลในเมอื ง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสมี า เวลา 16.00น. ไวว้ ่า “เปน็ เพลงของชาวบ้าน ท่รี อ้ งเล่นกันในยามว่างงานเพื่อความสนุกสนาน เช่นในงานลงแขกเกยี่ วข้าว หรอื พบปะพูดคยุ กนั ในวงสุรา ชาวบ้าน ท่ีวา่ เพลงไดจ้ ะวา่ เพลงเพ่ือความสนุกสนานไม่มีพิธรี ีตรอง” ลำไย หนองม่วง (2555) ไดใ้ หข้ อ้ มูลความหมายของเพลงโคราชไวข้ ณะท่สี ัมภาษณภ์ ูมิปัญญาเรื่อง ความหมายของ เพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรีย์ทา้ วสุรนารีถนนราชดำเนิน ตำบลใน เมือง อำเภอเมืองนครราชสมี า จังหวดั นครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไวว้ ่า “เปน็ เพลงพ้ืนบา้ น เพลงก้อมหรือเพลงคู่ สอง ของชาวโคราช นยิ มเล่นกันแพรห่ ลายและมีอายยุ นื ยาวมาจนถงึ ปจั จุบนั ” สว่าง บา้ นดอนผวา (2555) ไดใ้ ห้ข้อมลู ความหมายของเพลงโคราชไวข้ ณะที่สัมภาษณ์ภูมปิ ัญญาเรือ่ ง ความหมาย ของเพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารถี นนราชดำเนนิ ตำบลใน เมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไว“้ เป็นเพลงกอ้ ม มหี ลากหลายรส ทั้งคำสัง่ สอน คำดา่ กระทบกระเทียบเปรยี บเปรย และกล่าวเป็นนัยถึงเรื่องเพศ บางคนฟงั ไม่ได้เพราะเหน็ ว่าหยาบโลน เกินไป” จะเห็นไดว้ ่าจากข้อมลู ความหมายเพลงโคราชของภมู ปิ ญั ญาทั้ง 5 คน ดังกลา่ ว ทกี่ ล่าวไว้ สามารถสรปุ ได้ วา่ เพลงโคราช หมายถึงเพลงรอ้ งโตต้ อบชายหญิง เป็นเพลงพื้นบา้ นชนิดหน่ึงชองชาวไทยโคราช มรี ปู แบบ เนือ้ หา และการเล่นเพลงเปน็ เอกลกั ษณ์ อันสะท้อนใหเ้ หน็ โลกทัศน์ ค่านิยม และวัฒนธรรมบางประการของชาวไทย โคราช 1.2. ความหมายของ หมอเพลงโคราช 1.2.1 จากการศึกษาเอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ชอ่ื ผู้แต่ง พระครโู สภติ ธรรมประยุต ( อุดมอุตฺตมปญฺโญ / สงสรุ ะ)ได้ให้ความหมายขอ หมอเพลงโคราชไว้ว่า หมอเพลงโคราช(The Singers) หมายถึงผูร้ ้องเพลงโคราชซ่ึงประกอบด้วยฝา่ ยชายและฝา่ ยหญงิ เพื่อขับร้องเพลงโคราชและบทกลอนอนั เก่ยี วกบั เพลงโคราช ช่ือผแู้ ตง่ ถาวร สุบงกช ได้ใหค้ วามหมายของหมอเพลง ไวว้ า่ หมอเพลงหมายถึง ผทู้ ี่มี ลกั ษณะรปู รา่ งสง่างาม มสี ติปัญญา และเปน็ ผทู้ ีร่ า่ เรงิ ชังพดู กลา้ แสดงออก มีความสามารถเฉพาะตัวในดา้ นการจดั เพลง .(2555).ความหมายหมอเพลงโคราช www.stjohn.ac.th/Department/internet_rally/rally5_47/IT_cul/ ..ไดใ้ หค้ วามหมายของหมอเพลงโคราชว่า ชายหญิง ปะทะคารมกนั ในด้านสำนวนโวหารสิ่งสำคญั ของการร้องคอื การดน้ กลอนสด ร้องแกก้ ันดว้ ยปฏิภาณไหว พริบทำใหเ้ กิดความสนกุ สนานท้งั สองฝ่า เป็นเนื้อความของเพลงพน้ื เมืองท่ีนิยมร้องกนั .(2555).ความหมายหมอเพลงโคราช .www.koratinfo.com/samapi/koratsong/koratsng1.htm ได้ให้ความหมายของหมอเพลงโคราชว่า ผูป้ ระกอบอาชีพเพลงโคราชท่ีเล่นเปน็ อาชีพได้รบั การว่าจ้างเป็นเงนิ ตาม ราคาท่ีกำหนดเพลงจะเลน่ ในงานฉลองหรือสมโภชตา่ งๆ เช่น งานศพ งานบวชนาคทอดกฐนิ งานประจำปหี รือเลน่ แกบ้ น ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 32 Korat folk song performance

.(2555).ความหมายหมอเพลงโคราช.www.koratinfo.com/samapi/koratsong/index.htmได้ให้ ความหมายของหมอเพลงโคราชวา่ เพลงโคราชทีเ่ ล่นเป็นอาชพี มีการวา่ จ้างเปน็ เงินตามราคาทกี่ ำหนด เพลงประเภท นีจ้ ะเลน่ ในงานฉลองหรอื สมโภชต่างๆ เช่น งานศพ งานบวชนาค ทอดกฐนิ งานประจำปี หรอื เลน่ แกบ้ น ผู้ ประกอบอาชีพเพลงโคราชนเี้ รียกวา่ \" หมอเพลง\" การเลน่ จะเลน่ เปน็ พธิ กี าร มเี วที การแต่งกายตามแบบของหมอ เพลงและมีการยกครู จะเห็นได้วา่ จากข้อมลู ความหมายหมอเพลงโคราชของเอกสารที่เก่ียวข้องท้ัง 5 เล่ม ดังกลา่ ว ท่กี ล่าวไว้ สามารถสรุปไดว้ า่ หมอเพลง หมายถึงนกั ร้องเพลงโคราช ในอดตี หมอเพลงรุน่ ใหญห่ รอื หมอเพลงอาวุโส คือ หมอ เพลงอายุ 50 ปีขนึ้ ไปจะต้องเปน็ ผ้รู ู้และมีความสามารถในการเล่นเพลงอย่างมาก แตป่ ัจจุบันนยิ มใช้เรยี กผู้ที่ ประกอบอาชีพหมอเพลงรุน่ เล็กคือหมอเพลงท่ีอายุ 50 ปีลงมาเปน็ นกั ร้องเพลงโคราชซง่ึ แบ่งตามอายแุ ละ ประสบการณ์ 1.3. ความหมายของหมอเพลงโคราช จากการสมั ภาษณ์ กำป่ัน บา้ นแทน่ (2555) ได้ให้ขอ้ มูลความหมายของหมอเพลงโคราชไว้ขณะท่สี มั ภาษณ์ภมู ปิ ัญญาเร่ือง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ บ้านเลขท่ี 334 ถนน จริ ะ ตำบล ในเมอื ง อำเภอเมอื งนครราชสมี า จังหวดั นครราชสมี า เวลา 13.00 น. ไว้วา่ “ผชู้ ายหรือผหู้ ญงิ ท่มี ีการฝึกฝนหัด ร้องกลอน เพลงดน่ มีปฏภิ าณไหวพริบในการต่อกลอนได้ และสามารถแต่งสดๆต่อเหตุการณท์ ่ีเกิดข้นึ ” กาเหวา่ โชคชยั (2555) ได้ใหข้ อ้ มูลความหมายของเพลงโคราชไว้ขณะทีส่ มั ภาษณ์ภูมิ ปญั ญาเร่ือง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 334 ถนนจริ ะ ตำบลในเมือง อำเภอเมอื งนครราชสมี า จังหวัดนครราชสมี า เวลา 13.00 น. ไว้ว่า “ เป็นผทู้ ี่มใี จรัก มีความอดทน ขยนั ในการฝกึ ร้อง และสามารถโต้ตอบกบั คู่ในการร้องเพลงโคราช” เลาะ บา้ นแทน่ (2555) ไดใ้ หข้ ้อมลู ความหมายของหมอเพลงโคราชไว้ขณะที่สมั ภาษณ์ภมู ปิ ญั ญาเรอื่ ง ความหมาย ของหมอเพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนสุ าวรีย์ทา้ วสรุ นารีถนนราชดำเนิน ตำบลในเมอื ง อำเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา เวลา 16.00น. ไว้วา่ “เป็นชาวบ้านท่ีมใี จรกั ท่ีร้องเล่น กนั ในยามวา่ งงานเพื่อความสนุกสนาน เช่นในงานลงแขกเก่ียวข้าว หรอื พบปะพดู คยุ กนั ในวงสรุ า ชาวบา้ นท่ีว่าเพลง ไดจ้ ะว่าเพลงเพื่อความสนุกสนานไมม่ ีพธิ รี ตี รอง ” ลำไย หนองม่วง (2555) ได้ให้ขอ้ มลู ความหมายของหมอเพลงโคราชไวข้ ณะทีส่ ัมภาษณ์ภูมิปญั ญาเรื่อง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวนั ที่ 27 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรียท์ า้ วสุรนารีถนนราช ดำเนิน ตำบลในเมอื ง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไว้วา่ “ ผ้ทู ีร่ กั ในการร้องเพลง โคราชร้องกลอน โตต้ อบได้ อดทน ขยันร้องกลอน ” สวา่ ง บ้านดอนผวา (2555) ไดใ้ ห้ข้อมูลความหมายของหมอเพลงโคราชไว้ขณะท่ีสมั ภาษณภ์ ูมิปญั ญาเรื่อง ความหมายของหมอเพลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนสุ าวรยี ท์ า้ วสรุ นารีถนนราช ดำเนิน ตำบลในเมอื ง อำเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไว้หมอเพลงโคราช หมายถึงผู้ ร้องเพลงโคราชซึ่งประกอบด้วยฝ่ายชายและฝา่ ยหญงิ เพื่อขบั ร้องเพลงโคราชและบทกลอนอนั เกี่ยวกับเพลงโคราช ชดุ การเรียนรู้เร่อื งเพลงโคราช 33 Korat folk song performance

จะเหน็ ได้วา่ จากข้อมูลความหมายหมอเพลงโคราชของภูมิปัญญาทัง้ 5 คน ดงั กล่าว ท่ีกลา่ วไว้ สามารถ สรปุ ไดว้ า่ คนท่ีรู้เพลงโคราช ผู้ทีม่ ีความรเู้ รื่องเพลงโคราชหากใครได้มาศกึ ษาเพลงโคราช จะรกั อยา่ งจบั จิตจับใจผ้มู ี ความรู้ เชน่ หมอมวย หมอผี คนไหนอยากรเู้ ร่ืองเพลงโคราช ต้องไปชว่ ยครูเลี้ยงหมู ช่วยทำนา 2-3 ปี 2 ประวตั คิ วามเป็นมาของเพลงโคราช 2.1 จากการศึกษาเอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ตำนานของเพลงโคราชนัน้ ผู้รแู้ ละหมอเพลงเลา่ ให้ฟังวา่ มีนายพรานคนหนึ่งชอ่ื เพชรน้อย ออกไปล่าสตั ว์ ในปา่ เขตหนองบุญนาก อำเภอโชคชยั จงั หวดั นครราชสมี า คืนหน่งึ แกไปพบลกู สาวพญานาคขน้ึ มาจากหนองนำ้ มาน่ังรอ้ งเพลงคนเดียว พรานเพชรน้อย ไดย้ นิ เสยี งจงึ แอบเขา้ ไปฟงั ใกล้ ๆ แกประทบั ใจในความไพเราะและเน้ือหา ของเพลง จงึ จำเนือ้ และทำนองมาร้องให้คนอ่ืนฟงั ลกั ษณะเพลงที่ร้องเปน็ เพลงก้อม หรือเพลงคู่สอง (สวุ ัจน์ ลิปต พลั ลภ. 2542 : 140) อกี ตำนานหนึ่งเล่าว่า ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอินเดียโดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผู้ นำมา พรอ้ ม ๆ กบั ลิเก และลำตดั โดยให้ลิเกอยู่กรุงเทพฯลำตัดอยู่ภาคกลาง และเพลงโคราชอยู่ที่นครราชสมี า เพลง โคราชระยะแรก ๆ เปน็ แบบเพลงก้อมคนทเ่ี รยี นรู้เพลงโคราช จากพระยาเข็มเพชร ช่อื ตาจัน บ้านสก อยู่ \"ซมุ บา้ นสก\" ตดิ กับสถานรี ถไฟชมุ ทางถนนจิระตำนานทั้งสองถึงแมจ้ ะต่างกนั ในดา้ นกำเนดิ แต่ตรงกันอยา่ งหนงึ่ ท่ีกลา่ วว่า เพลงโคราชระยะแรกเล่นแบบเพลงก้อม(สวุ จั น์ ลปิ ตพัลลภ. 2542 : 140) .(2555).ความหมายประวตั เิ พลงโคราช http://www.geocities.com/koracha130/pako.htm ได้ใหค้ วามหมายของประวัตเิ พลงโคราชว่า ประวตั ิของเพลงโคราชนนั้ มีการเล่าขานกนั มาว่า มนี ายพรานคนหนงึ่ ชื่อ เพชรนอ้ ย ออกไปลา่ สัตว์ ในเขตหนองบนุ นากบ้านหนองบุนนากอำเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสมี า คืนหน่ึงแกไปพบ ลูกสาวพญานาคขนึ้ มาจากหนองนำ้ มานั่งร้องเพลงคนเดียว พรานเพชรนอ้ ยได้ยินเสยี งจึงแอบเข้าไปฟังใกล้ ๆ แก ประทับใจ ในความไพเราะ และเนือ้ หาของเพลงจึงจำเนื้อและทำนองมาร้องให้คนอน่ื ฟัง ลักษณะเพลงทร่ี ้องเปน็ เพลง กอ้ มหรือเพลงคู่สอง อีกตำนานหน่ึงเล่าวา่ ชาวโคราชได้เพลงโคราชมาจากอนิ เดียโดยพระยาเข็มเพชรเปน็ ผู้นำมาพร้อมๆ กบั ลเิ ก และลำตัดโดยใหล้ เิ กอยู่กรุงเทพฯ ลำตดั อยภู่ าคกลาง และเพลงโคราชอย่ทู ่ีนครราชสีมาเพลงโคราชระยะแรกๆ เปน็ แบบเพลงก้อม คนทีเ่ รียนร้เู พลงโคราชจากพระยาเขม็ เพชร ชื่อตาจัน บ้านสก อยู่ \"ซมุ บ้านสก\" ติดกับ สถานีรถไฟชุม ทางถนนจิระ ตำนานทั้งสองถึงแม้จะต่างกันในดา้ นกำเนิดแตต่ รงกันอยา่ งหนง่ึ ทก่ี ล่าวว่าเพลงโคราชระยะแรกเลน่ แบบเพลง ก้อม ก้อมเป็นภาษาโคราชและภาษาอีสาน แปลวา่ สัน้ เพลงก้อมหมายถึง เพลงสน้ั ๆวา่ โตต้ อบกล่าวลอย ๆ ทง้ั ท่ี มคี วามหมายลึกซง้ึ หรือไม่มีความหมายเลยกไ็ ด้ เพลงโคราชจะเริ่มเลน่ ตั้งแต่เม่อื ใด ไมป่ รากฏหลักฐานทแี่ น่ชดั หลกั ฐานจากคำบอกเล่าต่อ ๆ กนั มา มีเพยี งว่า สมัยท้าวสรุ นารี ( คณุ ย่าโม )ยังมีชวี ิตอยู่ ( พ.ศ. 2313 ถึง 2395 ) ทา่ นชอบเพลงโคราชมากเร่ืองราวของเพลงโคราช ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 34 Korat folk song performance

ได้ปรากฏหลดั ฐานชดั เจน คือในปี พ.ศ. 2456 ทสี่ มเดจ็ พระศรพี ัชรินทราบรมราชนิ นี าถ พระราชชนนพี นั ปีหลวงเสดจ็ มานครราชสมี าทรงเปิดถนนจอมสุรางคย์ าตร์และเสดจ็ ไปพิมายในโอกาสรบั เสดจ็ ครง้ั น้ัน หมอเพลงชายรุ่นเกา่ ชือ่ เสียง โด่งดังมากชอื่ นายหร่บี ้านสวนขา่ ได้มโี อกาสเลน่ เพลงโคราชถวาย เพลงทเี่ ลน่ ใชเ้ พลงหลกั เช่นกลอนเพลงทวี่ า่ \" ขา้ พเจ้านายหร่ีอยู่บรุ โี คราชเป็นนักเลงเพลงหดั บา่ วพระยากำแหง ฯ เจา้ คุณเทศาทา่ นตั้งให้เป็นขุนนาง ...ตำแหน่ง \" ความอกี ตอนเอ่ยถึงการรบั เสด็จวา่ \" ไดส้ ดบั ว่าจะรบั เสด็จเพื่อเฉลิมพระเดชพระจอมแผน่ ดิน โหส่ ามลาฮาสามหลน่ั เสยี งสนั่น....ธานนิ ทร์ \" ( สมเด็จพระพนั ปหี ลวงทรงเปน็ ผู้บงั คบั การพเิ ศษประจำกรมทหารมา้ นครราชสมี า จนถึง พ.ศ. 2462 เม่ือเสดจ็ นครราชสีมา นายหร่ี สวนข่า ก็มโี อกาสเล่นเพลงถวาย ) เพลงโคราชมีโอกาสเล่นถวายหนา้ พระทีน่ ั่งในงานชมุ นุม ลูกเสอื ครั้งท่ี 1 ในนามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสมี า เก่ยี วกบั กำเนิดของเพลงโคราชมที ง้ั ที่เป็นคำเลา่ และ ตำนานหลักฐานจากคำบอกเลา่ ของหมอเพลงอีกจำนวนหนง่ึ เล่าตอ่ ๆกันมาว่า ในสมยั รัตนโกสนิ ทรม์ ีสงครามระหว่าง ไทยกับเขมรเม่ือไทยชนะสงครามเขมรคร้ังไร ชาวบา้ นจะมีการเฉลิมฉลองชัยชนะดว้ ยการขบั รอ้ งและรา่ ยรำกนั ในหมู่ สกท่เี ขาเรียกว่า \"ซุมบ้านสก \" ใกล้ ๆกับชมุ ทางรถไฟ ถนนจิระและเร่ิมเลน่ เพลงโคราชกันทห่ี มู่บ้านน้ี ท่าทางการรำรุก รำถอยและการป้องหู มผี ้สู ันนิษฐานวา่ ประยุกต์มาจากการเลน่ เจรียงทเ่ี ปน็ เพลงพื้นบา้ นของชาวสรุ ินทร์ผสมผสาน กับ เพลงทรงเครือ่ งของภาคกลาง ช่อื ผแู้ ตง่ ถาวร สุบงกช ได้ใหค้ วามหมายของประวตั ิเพลงโคราชไว้ว่า ประวตั ิของเพลงโคราชน้นั มกี ารเลา่ ขานกนั มาวา่ มีนายพรานคนหนึ่งช่อื เพชรน้อย ออกไปลา่ สัตว์ ในเขตหนองบุนนาก บ้านหนองบุนนากอำเภอโชคชยั จงั หวดั นครราชสมี า คืนหนง่ึ แกไปพบลกู สาวพญานาค ข้นึ มาจากหนองน้ำมานัง่ ร้องเพลงคนเดียว พรานเพชรน้อยได้ ยนิ เสยี ง จงึ แอบเข้าไปฟงั ใกล้ ๆแกประทบั ใจในความไพเราะ และเนื้อหาของเพลงจึงจำเนื้อและทำนองมาร้องให้คน อ่ืนฟังลักษณะเพลงทร่ี ้องเปน็ เพลงก้อมหรอื เพลงคูส่ อง อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า ชาวโคราชได้เพลงโคราชมาจากอนิ เดียโดยพระยาเข็มเพชรเป็นผู้นำมาพร้อมๆ กับลิเก และลำตดั โดยให้ลเิ กอยูก่ รุงเทพฯลำตัดอยู่ภาคกลาง และเพลงโคราชอยูท่ ีน่ ครราชสมี าเพลงโคราชระยะแรกๆ เปน็ แบบเพลงกอ้ มคนท่เี รียนรู้เพลงโคราชจากพระยาเข็มเพชร ชอ่ื ตาจนั บ้านสก อยู่ \"ซุมบา้ นสก\" ตดิ กบั สถานีรถไฟชมุ ทางถนนจริ ะ ตำนานทั้งสองถงึ แมจ้ ะต่างกนั ในด้านกำเนดิ แตต่ รงกนั อย่างหน่งึ ท่ีกลา่ วว่าเพลงโคราชระยะแรกเลน่ แบบเพลงก้อม กอ้ ม เป็นภาษาโคราชและภาษาอสี าน แปลว่า สน้ั เพลงก้อมหมายถึงเพลงส้นั ๆวา่ โตต้ อบกลา่ วลอย ๆ ทั้งท่ี มคี วามหมายลึกซ้งึ หรอื ไม่มคี วามหมายเลยกไ็ ดเ้ พลงโคราชจะเร่มิ เล่นต้งั แต่เม่ือใด ไม่ปรากฏหลักฐานทีแ่ นช่ ัดหลกั ฐาน จากคำบอกเลา่ ต่อ ๆ กนั มา มีเพียงว่า สมยั ท้าวสุรนารี ( คุณยา่ โม )ยงั มชี วี ติ อยู่ ( พ.ศ. 2313 ถงึ 2395 ) ท่านชอบ เพลงโคราชมากเรื่องราวของเพลงโคราชไดป้ รากฏหลัดฐานชัดเจน คือในปี พ.ศ. 2456 ที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรม ราชินนี าถ พระราชชนนพี ันปีหลวงเสด็จมานครราชสีมาทรงเปิดถนนจอมสุรางค์ยาตร์ และเสด็จไปพมิ ายในโอกาสรับ เสดจ็ ครั้งนน้ั หมอเพลงชายรนุ่ เก่าชื่อเสียงโด่งดงั มากช่ือนายหรบี่ า้ นสวนข่าไดม้ ีโอกาสเลน่ เพลงโคราชถวาย เพลงท่ีเลน่ ใช้เพลงหลกั เชน่ กลอนเพลงทีว่ ่า \" ขา้ พเจ้านายหร่ีอยบู่ รุ โี คราชเป็นนักเลงเพลงหดั บา่ วพระยากำแหง ฯ เจา้ คณุ เทศา ท่านตัง้ ให้เป็นขนุ นาง .....ตำแหน่ง \"ความอกี ตอนเอ่ยถงึ การรับเสด็จวา่ \" ไดส้ ดบั วา่ จะรับเสด็จเพือ่ เฉลิมพระเดชพระ จอมแผน่ ดิน โหส่ ามลาฮาสามหลั่นเสียงสนนั่ ....ธานนิ ทร์ \" ( สมเด็จพระพันปีหลวงทรงเป็นผู้บงั คบั การพิเศษประจำ ชุดการเรียนรู้เรอื่ งเพลงโคราช 35 Korat folk song performance

กรมทหารม้านครราชสีมา จนถงึ พ.ศ. 2462 เมื่อเสดจ็ นครราชสีมา นายหรี่ สวนขา่ กม็ โี อกาสเล่นเพลง ถวาย )เพลง โคราชมีโอกาสเลน่ ถวายหน้าพระทีน่ ่ังในงานชุมนุมลกู เสือคร้งั ท่ี 1 ในนามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสีมา เก่ียวกับกำเนิดของเพลงโคราชมที ั้งที่เปน็ คำเล่าและตำนานหลกั ฐานจากคำบอกเล่าของหมอเพลงอีกจำนวนหนึ่งเลา่ ต่อ ๆกนั มาวา่ ในสมยั รตั นโกสินทรม์ ีสงครามระหวา่ งไทยกับเขมรเมื่อไทยชนะสงครามเขมรคร้ังไร ชาวบา้ นจะมกี าร เฉลมิ ฉลองชัยชนะดว้ ยการขับร้องและร่ายรำกนั ในหมสู่ กทีเ่ ขาเรียกว่า \" ซมุ บา้ นสก \" ใกล้ ๆกบั ชุมทางรถไฟ ถนนจริ ะ และเรมิ่ เลน่ เพลงโคราชกนั ที่หมู่บ้านนท้ี า่ ทางการรำรุกรำถอยและการปอ้ งหมู ีผู้สันนษิ ฐานว่าประยุกต์มาจากการเล่น เจรียงท่เี ปน็ เพลงพน้ื บา้ นของชาวสุรินทรผ์ สมผสาน กับเพลงทรงเคร่ืองของภาคกลาง ช่ือผแู้ ต่ง พระครโู สภิตธรรมประยุต ( อดุ มอุตฺตมปญโฺ ญ / สงสรุ ะ)ได้ใหค้ วามหมายของประวตั ิเพลงโคราชไว้ วา่ ตำนานเพลงโคราชสมยั ก่อนน้ันเพลงโคราชเป็นทนี่ ิยมมากเพราะการแสดงมหรสพท่ีเป็นหวั ใจของงานฉลอง สมโภชใดๆกต็ ามจะมีเพลงโคราชเพยี งอย่างเดียวคนฟังเพลงก็มีเวลามากฟังกันตัง้ แต่หัวค่ำจนรุง่ เชา้ เมื่อหมอเพลงเลน่ เพลงลาคือลาผ้ฟู ังลาเจา้ ภาพและเพ่ือนหมอเพลงดว้ ยกันจะมปี ่ีพาทยฆ์ ้องกลองบรรเลงรับหมอเพลงจะรำตามกนั ไปยงั บ้านเจา้ ภาพเจ้าภาพก็นำเงินค่าหมอเพลงมาใหพ้ ร้อมทั้งเล้ียงขา้ วปลาอาหารและห่อข้าวของกินตา่ งๆให้เปน็ เสบียงใน การเดินทางกลับคนฟังจะอยูร่ ่วมฟงั งานจนเสรจ็ สิ้นกระบวนการจงึ ทยอยกลับเช่นกันเพลงโคราชสมัยกอ่ นไดไ้ ปเลน่ หลายจงั หวัดเช่นบรุ รี ัมยเ์ พชรบรู ณพ์ ิษณุโลกสรุ ินทรต์ ลอดจนถงึ ประเทศกัมพชู าสำหรบั จังหวัดตา่ งๆในภาคกลางก็ไป เล่นเป็นคร้งั คราวปัจจุบันค่านิยมของผูฟ้ งั เปลย่ี นแปลงไปมากแมแ้ ตผ่ ู้ฟังในจังหวัดนครราชสีมาเองกเ็ ส่ือมความนยิ มลง มากบ้างกเ็ ห็นว่าเพลงโคราชเป็นเพลงหยาบคายและไมน่ ่าสนใจแม้ทางราชการสง่ เสริมใหน้ ำออกแสดงทาง วิทยุกระจายเสยี งแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสมี าก็ต้องผา่ นการตรวจอย่างรดั กุมจะใชภ้ าษาตรงๆเหมือน สมยั กอ่ นไม่ไดถ้ ือวา่ ไม่เหมาะสมในการจดั งานฉลองสมโภชใดๆมักจะมีมหรสพอนื่ ๆเป็นคู่แขง่ มากมายเชน่ ภาพยนตร์ มวยเพลงลกู ทงุ่ ลเิ กและรำวงเพลงโคราชจึง เป็นทสี่ นใจสำหรับผูฟ้ ังร่นุ เกา่ ท่ีมีอายคุ ่อนข้างสูงแทบทัง้ น้นั หมอเพลง โคราชไดร้ วมตัวกันเปน็ คณะเพลงโคราชหลายคณะและเขา้ มาต้ังสำนกั งานคณะอยู่ในอำเภอเมอื งเปน็ ส่วนใหญเ่ พ่ือ ความสะดวกสำหรบั มาตดิ ต่อหาเพลงไปเลน่ หมอเพลงโคราชตอ้ งเล่นเพลงประยกุ ต์ตามใจผู้ฟังเช่นเล่นเพลงหมอลำ เล่นเพลงลำตดั และเพลงลูกทุ่งพูดถึงทา่ รำแตกต่างกนั ไปมเี พลงโคราชของคณะทองสขุ กำปงั ทปี่ ระยุกตเ์ ล่นแบบลำ เพลินคือนำเอาดนตรสี ากลเข้ามาประกอบแตย่ งั ไม่เปน็ ท่ีแพรห่ ลายนักการรวมตวั กนั เป็นคณะเพลงโคราชปจั จุบนั นน้ั นางสองเมืองอินทรกำแหงเป็นผูร้ เิ ริม่ ตั้งขน้ึ เปน็ คนแรกเมื่อปพี .ศ. ๒๔๙๙ตั้งอย่ทู ถ่ี นนสุรนารายณ์และต่อมาก็มีคณะ ตา่ งๆตงั้ ขึน้ อกี หลายคณะข้อดีคือทำให้สะดวกในการติดต่อจ้างไปเลน่ ข้อไมด่ คี ือเม่ือหมอเพลงอยู่คณะเดยี วกันก็รชู้ นั้ เชิงและฝปี ากกันทำให้ฟงั ไม่สนุกสนานมีผูพ้ ยายามจะรวมคณะเพลงโคราชตา่ งๆก่อต้ังเป็นสมาคมเพลงโคราชแตย่ งั ไม่ไดร้ บั ความร่วมมือจากหมอเพลงเท่าท่ีควรจากความเช่ือที่วา่ ท่านทา้ วสุรนารี ( คุณหญิงโมหรือยา่ โมท่ชี าวบา้ นเรียก ท่าน ) ชอบเพลงโคราชในสมัยทท่ี ่านมีชีวติ อยจู่ งึ มผี ูห้ าเพลงโคราชไปเลน่ ให้ท่านฟังเป็นการแกบ้ นณ บรเิ วณใกลๆ้ กับ อนุสาวรียใ์ นตอนกลางคนื เป็นประจำอาจเปน็ ปัจจัยหนึ่งทที่ ำให้คนรุ่นใหม่ได้รจู้ ักเพลงโคราชและหมอเพลงมรี ายได้ ประจำแต่กม็ ผี ู้สนใจไปฟังไม่มากนกั พูดถึงการดำเนนิ ชีวิตของหมอเพลงรุน่ ปจั จบุ นั สว่ นใหญ่อาชพี ทำนาและเลน่ เพลง เป็นอาชพี รองแตห่ มอเพลงที่มชี ื่อเสียงเช่นลอยชายแพรกระโทก, ลำดวนจกั ราช, ทองสขุ กำปงั , นกนอ้ ย วังมว่ ง, รำไพ หวั รถไฟต่างกลา่ วเปน็ เสียงเดียวกันว่าการประกอบอาชีพของหมอเพลงโคราชยังทำรายได้ดยี งั เป็นอาชีพทมี่ ่นั คงอยู่ ชุดการเรียนรู้เรือ่ งเพลงโคราช 36 Korat folk song performance

หมอเพลงดังกลา่ วนีแ้ มจ้ ะประกอบอาชีพอนื่ เช่นทำนาทำไร่เป็นนักธรุ กจิ แต่อาชพี หลักคอื เล่นเพลงโคราช ชอ่ื ผแู้ ตง่ วกิ พิ เี ดยี สารานุกรมเสรี ไดใ้ ห้ความหมายของประวตั ิเพลงโคราชไวว้ า่ เพลงโคราชจะเรม่ิ เลน่ ต้งั แตเ่ ม่ือใด ไมป่ รากฏหลกั ฐานทีแ่ น่ชัดหลักฐานจากคำบอกเลา่ ตอ่ ๆ กนั มา มเี พียงวา่ สมยั ทา้ ว สรุ นารี ( คณุ ยา่ โม )ยังมีชวี ิตอยู่ ( พ.ศ. 2313 ถงึ 2395 ) ท่านชอบเพลงโคราชมากเรื่องราวของเพลงโคราชไดป้ รากฏหลัดฐานชัดเจน คือ ในปี พ.ศ. 2456 ท่สี มเดจ็ พระศรพี ัชรนิ ทราบรมราชินีนาถ พระราชชนนพี นั ปหี ลวงเสด็จมานครราชสีมาทรงเปิดถนน จอมสรุ างคย์ าตร์ และเสดจ็ ไปพิมายในโอกาสรบั เสด็จครั้งนั้นหมอเพลงชายร่นุ เก่าช่ือเสียงโดง่ ดังมากช่ือนายหร่ี บา้ น สวนข่าไดม้ ีโอกาสเลน่ เพลงโคราชถวาย เพลงท่เี ล่นใชเ้ พลงหลกั เช่น กลอนเพลงท่ีว่า \"ข้าพเจา้ นายหร่อี ยบู่ ุรีโคราชเป็น นกั เลงเพลงหดั บา่ วพระยากำแหง ฯเจ้าคุณเทศา ท่านตั้งให้เป็นขนุ นาง .....ตำแหน่ง \"ความอีกตอนเอ่ยถงึ การรบั เสด็จ วา่ \"ได้สดับว่าจะรบั เสดจ็ เพื่อเฉลมิ พระเดชพระจอมแผน่ ดนิ โห่สามลาฮาสามหล่นั เสียงสน่นั ....ธานนิ ทร์ \" ( สมเดจ็ พระพันปหี ลวงทรงเป้นผู้บังคับการพเิ ศษประจำกรมทหารม้านครราชสีมา จนถงึ พ.ศ. 2462 เมื่อเสดจ็ นครราชสีมา นายหร่ี สวนข่า กม็ ีโอกาสเล่นเพลงถวาย )เพลงโคราชมโี อกาสเล่นถวายหน้าพระท่ีน่ังในงานชุมนุมลกู เสอื ครัง้ ที่ 1 ใน นามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสีมา เกี่ยวกับกำเนิดของเพลงโคราชมที ้ังทเ่ี ป็นคำเลา่ และตำนานหลกั ฐาน จากคำบอกเลา่ ของหมอเพลงอกี จำนวนหนงึ่ เลา่ ต่อ ๆ กนั มาว่า ในสมัยรัตนโกสนิ ทรม์ ีสงครามระหว่างไทยกับเขมรเมอื่ ไทยชนะสงครามเขมรครัง้ ไร ชาวบ้านจะมีการเฉลิมฉลองชัยชนะด้วยการขบั ร้องและร่ายรำกันในหมู่สกทเ่ี ขาเรยี กวา่ \" ซุมบ้านสก \" ใกล้ ๆกับชมุ ทางรถไฟ ถนนจิระและเริ่มเลน่ เพลงโคราชกนั ท่ีหมูบ่ า้ นนี้ท่าทางการรำรุกรำถอย และการ ปอ้ งหูมีผู้สันนิษฐานว่าประยุกต์มาจากการเลน่ เจรียงทเ่ี ป็นเพลงพืน้ บ้านของชาวสรุ ินทรผ์ สมผสาน กบั เพลงทรงเครอ่ื ง ของภาคกลาง จะเหน็ ไดว้ า่ จากข้อมูลประวัติเพลงโคราชของเอกสารท่ีเก่ยี วข้องทง้ั 5 เล่ม ดังกล่าว ท่ีกล่าวไว้ สามารถ สรปุ ไดว้ ่าจากตำนานของผู้รแู้ ละหมอเพลงเลา่ วา่ มีนายพรานคนหน่งึ ชือ่ เพชรน้อย ออกไปลา่ สตั ว์ในเขตหนองบุ นนาก บ้านหนองบนุ นาก อำเภอโชคชัย จงั หวัดนครราชสมี า คืนหนึง่ แกไปพบลูกสาวพญานาค ขึ้นมาจากหนองนำ้ มาน่ังรอ้ งเพลงคนเดยี ว พรานเพชรนอ้ ยได้ยนิ เสยี ง จึงแอบเข้าไปฟงั ใกล้ๆแกประทบั ใจ ในความไพเราะและเน้ือหา ของเพลง จึงจำเนื้อและทำนองมาร้องใหค้ นอ่ืนฟงั ลักษณะเพลงทรี่ ้องเปน็ เพลงก้อม หรือเพลงคู่สอง อีกตำนานหนึ่ง เลา่ ว่า ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอินเดยี โดยพระยาเข็มเพชรเป็นผู้นำมาพรอ้ มๆกับลิเล และลำตดั โดยใหล้ ิเลอยู่ กรุงเทพฯลำตดั อยภู่ าคกลาง และเพลงโคราชอยู่ทีน่ ครราชสีมา เพลงโคราชระยะแรกๆเปน็ แบบเพลงกอ้ ม คนที่ เรยี นรู้เพลงโคราช จากพระยาเข็มเพชรชื่อ ตาจัน บ้านสก อยูซ่ มุ บา้ นสก ตดิ กบั สถานีรถไฟ ชมุ ทางถนนจิระ 2.2 จากการสมั ภาษณ์ ภมู ิปัญญาหมอเพลงโคราช กำป่ัน บา้ นแท่น (2555) ได้ใหข้ ้อมลู ความหมายของประวัตเิ พลงโคราชไวข้ ณะที่สัมภาษณ์ ภูมิปัญญาเร่ือง ความหมายของประวตั เิ พลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 336 ถนนจิระ ตำบลในเมอื ง เวลา 13.00 น. ไวว้ ่า “เกิดข้นึ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชช่วงปลายกรุงศรีอยุธยานัน้ ไม่มศี กึ สงครามประเทศใดเมืองใดไม่มีศกึ สงคามศิลปวฒั นธรรมพุ่งข้นึ สมัยพระนารายณ์จะได้เห็นนกั กวีศรีปราชญ์เป็นเจ้า บทเจา้ กลอน สมเดจ็ พระนารายณ์มหารทรงรับสงั่ ใหพ้ ระยายมราชมาสร้างเมืองโคราช คนโคราชกเ็ ลยตอ้ งเปน็ เจา้ ชดุ การเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 37 Korat folk song performance

บทเจา้ กลอน เหมือนสมยั กรุงศรอี ยุธยา ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเดจ็ พระยมราชทรงสง่ั ให้มาสร้างเมอื ง ในการนนั้ มา ทำไมถงึ เกิดเพลงโคราชข้ึน ตามการอ้างอิงเอาไวใ้ นสมยั พ.ศ.2456 สมเด็จพันตรหี ลวงในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองคเ์ สดจ็ มาทรงเปดิ ถนนจอมสรุ างค์ยาตรแ์ ลว้ ก็เสด็จไปเมืองพิมายทรงรบั สัง่ ถามเจ้าเมอื งสมัยน้ันวา่ คนโคราช เวลาเสร็จส้นิ ภาระกิจการทำไร,ทำนา ยามว่างงานมีการละเลน่ บนั เทิงใจผ่อนคลายยามว่าง เจา้ เมอื งพิมายตรัสทูลว่า มีเพลงโคราชก้อมพะย่ะค่ะ เพลงโคราชกอ้ มน่มี นั กอ้ มมอย่างไร (ทรงตรสั ถามเจ้าเมอื ง) ทรงสง่ั ใหห้ าหมอเพลง โคราชกอ้ มมาแสดงต่อหน้าพระที่น่งั ผทู้ ่ีได้รับเกรียติสงู สดุ ในชวี ิตชื่อนายหร่ี บ้านสวนขา่ ไดถ้ ูกแต่งต้งั จากเจ้าคณุ เท สา (เท่ากับเป็นนายกเทศมนตรสี มัยน)ี้ ใหเ้ ปน็ ขนุ นางตำแหนง่ ไพรี ที่นายหรี่ร้องไปนั้นเป็นการร้องแนะนำตนเองต่อ หน้าพระท่ีนั่ง นายหรไ่ี ด้ถูกบันทกึ ใหเ้ ป็นหมอเพลงโคราชในพ.ศ.2456(ในสมยั รชั กาลท่ี5) แตผ่ มเชอื่ วา่ เพลงโคราช เกิดข้นึ ในสมัยสมเด็จพระนาราย์มหาราชเพราะมีนักกวศี รีปราชญเ์ กดิ ข้นึ มากมายในสมยั นัน้ และสมัยมกั จะใชภ้ าษา ภาที เปน็ กลอนถามไถ่กันเวลาท่ีเจอกนั หรือทักกนั ถามสารทกุ ข์สุขดิษกันเชน่ แหวนน้ีทา่ นไดแ้ ต่ใดไรมา ท่นี ค้ี น โคราชกเ็ ป็นเจ้าบทเจา้ กลอนคอื กัน ยังเช่นยายคนหน่งึ มหี ลานถามยาย(ยายคนนี้ชอ่ื ยายยมคนอายุมากสมยั ก่อนมกั ไม่ ใสเ่ สอื้ )หลานร้องเปน็ เพลงภาษาโคราชว่ายายยมนมย่านกล้าได้หวา่ นหรือยงั แลว้ ยายยมก็แก้หลานสาวว่ายายหวา่ นไว้ ข้างบอ่ กำลงั รัดหน่อเท่าหน่ออีนาง สมยั ต่อมาก็มกี ารละเล่นกนั ในบ้านต่างๆ ในยามเทศกาลเข้าพรรษา-ออกพรรษา หลังจากถวายพระตาหารพระสงฆ์ กม็ ีการโต้วาทีกนั ในเร่ืองเพลงโคราชจากบ้านนึงทมี่ สี ตปิ ญั ญาในเรื่องเพลงโคราช ใหม้ าโชว์กันและโต้วาทกี นั ของแต่ละบ้านโคราชมักจะพดู เป็นคำคดู่ ังเช่น กรุงทง-กรงุ เทพ ,ไปนงไปนา-กนิ๋ ขง่ กนิ เข่า ,อยู่บ่งอยูบ่ ้าน,ไดผ้ งไดผ้ ัว,ได้มง-ได้เมยี คำเหล่านัน้ แหละเค้าเอามาประดิษฐเ์ ป็นเพลงโคราชซงึ้ สกั ษณะการสมั ผสั มัน แยบยลลึกซ้งึ กวา่ ลำตดั เพลงอแี ซวลำตดั มนั แค่เปน็ การละเล่น และมหี ลกั ฐานอ้างอิงไวแ้ ต่ก็มีคนโบราณเลา่ ว่าเพลง โคราชเกิดขึน้ ในสมยั นงึ มพี รานคนนงึ ชื่อพญาเพชรนอ้ ย ได้เข้าปา่ ล่าสัตว์ หลงทางไปถงึ แม่น้ำแห่งหน่งี ไปเจอลกู สาว พญานาคกำลังนัง่ ร้องเพลงกล่อมลูกทชี่ ายฝัง่ (หนอง)พรานพญาเพชรน้อยน่ันสำหรดี แอบฟงั เพลงของหญงิ สาวน้นั มคี ำ พรำ่ พรรณาต่อวา่ สามีซงึ่ ไดเ้ สยี กนั จนมลี ูกคนหน่ึงก็หนหี ายไป บา้ งกลอนก็พรรณนาถึงความหวานชื่น บ้างกลอนก็ พรรณนาถึงการพลัดพรากจากกัน บางกลอนกส็ าปแชง่ หักกระดูกกนั พรานพญาเพชรน้อยก็พยายามจำไวท้ กุ บท กลอน แล้วก็กลบั มาเมืองโคราชและเล่าให้ชาวเมอื งโคราชฟัง และร้องใหช้ าวโคราชฟงั ก็เลยได้ใชแ้ สดงเพลงโคราช ต้ังแต่นน้ั เปน็ ต้นมา หนองใหญท่ ี่พรานพญาเพชรน้อยไปพบมานั้น(เปน็ อำเภอหนองบุญมากในปัจจุบัน) อีกตำนาน หนึง่ พระพญาเข็มเพชรเปน็ คนนำศลิ ปะเหลา่ นีม้ าจากประเทศอินเดยี ทเี่ ผยแพรจ่ ากรงั กาทวีปแลว้ นำศลิ ปะสำเนยี งจาก รงั กาทวีปมาเผยแพร่ในประเทศไทย เช่น ลิเก เอาไวภ้ าคกลาง นน้ั และจงึ เปน็ ทีม่ าของการออกแขกทกุ คร้ังที่มีการ เลน่ ลิเก เพลงลำตัด เพลงอีแซว ก็เอาไปจากเพลงโคราช เพราะเพลงโคราชเปน็ แมแ่ บบแต่การสมั ผัสของเพลงอีแซว ,ลำตดั ได้ลึกซ่ึงเทา่ เพลงโคราชเพราะเป็นการสมั ผสั ท่งี า่ ยเกนิ ไป(แลว้ กำปั่นกร็ ้องเพลงโคราชให้ฟงั กำป่ันเล่าว่า “เพลงโคราชสมยั นเ้ี กือบจะสูญสิ้นไปเม่ือปพี .ศ.2539แล้ว ผมจงึ ลุกข้ึนไปต่อต้านอีกคร้ัง เพราะคนรุ่นใหม่สว่ นมากจะ หนั ไปฟงั เพลงสตริง-ลูกทงุ่ ผมเลยเกดิ ความคิดโดยการใหม้ ีจังหวะให้มนั สนกุ ขึ้นโดยการมีอีเลคโทน มอี ยวู่ นั หนึ่งผม นอนไม่หลบั กเ็ ลยแต่งเพลงคนโคราชตกกระทอ่ ม เพลงโคราชจึงเป็นท่รี ู้จักคนทวั่ ไปอีกครั้งหนง่ึ สว่ นลกู ศษิ ย์ลกู หาของ ผมก็มสี นุ ารี,ตก้ั แตน,คำมอสก็นำไปประยุกต์ใช้กนั ลกู ศิษย์มหี ลายประเภทบางคนก็นำไปใช้เปน็ เพลงลูกทุ่ง ลูกศิษย์ เพลงโคราชกแ็ ยกไปต้ังคณะเอง ผมเองเกือบล้มเพราะเพลงโคราชเริม่ เสือ่ มคนรุน่ ใหม่มักไม่ชอบฟงั ต้ังแตน่ ้ันมาเพลง โคราชกก็ ลายเป็นเชิงธุรกจิ ไปโดยปริยาย” ชุดการเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 38 Korat folk song performance

กาเหวา่ โชคชยั (2555) ได้ให้ข้อมลู ความหมายของประวัตเิ พลงโคราชไว้ขณะที่สมั ภาษณ์ ภมู ปิ ัญญาเรอ่ื ง ประวตั ิของเพลงโคราช ในวันท่ี 27 เดอื นสงิ หาคม พ.ศ.2555 ณ บา้ นเลขที่ 336 ถนนจิระ ตำบลในเมือง เวลา 13.00 น. ไวว้ ่า ”เกดิ ขึน้ ในสมัยสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราชช่วงปลายกรุงศรีอยุธยานนั้ ไม่มีศึกสงคราม ประเทศใดเมืองใดไม่มศี ึกสงคามศิลปวัฒนธรรมพุ่งขึน้ สมัยพระนารายณจ์ ะได้เหน็ นกั กวศี รปี ราชญเ์ ปน็ เจ้าบทเจ้า กลอน สมเดจ็ พระนารายณ์มหารทรงรบั สง่ั ให้พระยายมราชมาสรา้ งเมอื งโคราช คนโคราชก็เลยตอ้ งเปน็ เจา้ บทเจ้า กลอน เหมอื นสมัยกรุงศรอี ยุธยา ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระยมราชทรงสงั่ ใหม้ าสรา้ งเมอื งในการ น้ันมา ทำไมถงึ เกิดเพลงโคราชข้นึ ตามการอ้างอิงเอาไว้ในสมัยพ.ศ.2456 สมเดจ็ พนั ตรีหลวงในสมยั รชั กาลท่ี 5 พระองคเ์ สดจ็ มาทรงเปิดถนนจอมสุรางค์ยาตร์ แลว้ กเ็ สด็จไปเมืองพิมายทรงรบั สั่งถามเจ้าเมอื งสมยั นนั้ ว่าคนโคราช เวลาเสรจ็ สิ้นภาระกจิ การทำไร,ทำนา ยามวา่ งงานมีการละเลน่ บันเทงิ ใจผอ่ นคลายยามว่าง เจ้าเมืองพิมายตรัสทลู ว่า มเี พลงโคราชก้อมพะย่ะค่ะ เพลงโคราชก้อมนี่มันกอ้ มมอย่างไร (ทรงตรัสถามเจา้ เมือง) ทรงสง่ั ใหห้ าหมอเพลง โคราชกอ้ มมาแสดงต่อหน้าพระที่นง่ั ผ้ทู ่ีไดร้ บั เกรียตสิ งู สดุ ในชวี ิตชอ่ื นายหร่ี บ้านสวนขา่ ได้ถูกแต่งต้งั จากเจ้าคณุ เทสา (เทา่ กับเปน็ นายกเทศมนตรีสมัยนี้)ใหเ้ ป็นขนุ นางตำแหนง่ ไพรี ที่นายหรี่รอ้ งไปน้นั เปน็ การร้องแนะนำตนเองต่อหน้า พระที่น่ัง นายหรีไ่ ด้ถูกบนั ทึกใหเ้ ปน็ หมอเพลงโคราชในพ.ศ.2456(ในสมัยรชั กาลที่5) แต่ผมเชอื่ วา่ เพลงโคราชเกิดข้ึน ในสมัยสมเด็จพระนาราย์มหาราชเพราะมีนักกวศี รปี ราชญเ์ กดิ ขนึ้ มากมายในสมยั นัน้ และสมัยมักจะใชภ้ าษาภาที เปน็ กลอนถามไถก่ ันเวลาท่เี จอกนั หรอื ทักกัน ถามสารทุกขส์ ขุ ดิบกนั เชน่ แหวนนที้ ่านไดแ้ ต่ใดไรมา ทนี่ ค้ี นโคราชกเ็ ป็น เจา้ บทเจา้ กลอนคือกัน ยงั เช่นยายคนหน่ึงมหี ลานถามยาย(ยายคนนช้ี อื่ ยายยมคนอายุมากสมัยก่อนมักไม่ใส่เส้อื ) หลานร้องเปน็ เพลงภาษาโคราชว่ายายยมนมยา่ นกล้าไดห้ วา่ นหรือยังแล้วยายยมก็แก้หลานสาววา่ ยายหว่านไว้ขา้ งบอ่ กำลังรดั หนอ่ เท่าหนอ่ อนี าง สมยั ต่อมากม็ ีการละเล่นกนั ในบา้ นตา่ งๆ ในยามเทศกาลเข้าพรรษา-ออกพรรษาหลังจาก ถวายพระตาหารพระสงฆ์ ก็มกี ารโตว้ าทีกนั ในเรือ่ งเพลงโคราช จากหมูบ่ ้านที่มีสติปัญญาในเรือ่ งเพลงโคราชให้มาโชว์ กัน และโตว้ าทีกนั ของแต่ละบ้าน” เลาะ บา้ นแท่น (2555) ได้ให้ข้อมูลความหมายของประวัติเพลงโคราชไว้ขณะทส่ี มั ภาษณภ์ มู ปิ ัญญาเรื่อง ประวตั ิเพลงโคราช ในวันท่ี 27 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรยี ์ท้าวสรุ นารีถนนราชดำเนิน ตำบล ในเมอื ง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสมี า เวลา 16.00น. ไวว้ า่ ”เพลงโคราชสมยั กอ่ นเป็นกลอนถามไถ่ กันเวลาทเ่ี จอกนั หรือทักกัน ถามสารทุกขส์ ขุ ดบิ กนั เชน่ แหวนน้ที ่านได้แต่ใดไรมา ทน่ี ้ีคนโคราชก็เป็นเจ้าบทเจา้ กลอนคือกนั ยังเช่นยายคนหน่ึงมีหลานถามยาย(ยายคนน้ีชื่อยายยมคนอายมุ ากสมัยก่อนมกั ไม่ใส่เสือ้ )หลานร้องเป็น เพลงภาษาโคราชวา่ ยายยมนมย่านกล้าได้หว่านหรือยงั แล้วยายยมกแ็ ก้หลานสาววา่ ยายหว่านไวข้ า้ งบอ่ กำลังรัดหน่อ เท่าหน่ออนี าง สมยั ต่อมาก็มีการละเล่นกันในบา้ นตา่ งๆ ในยามเทศกาลเขา้ พรรษา-ออกพรรษาหลังจากถวายพระตา หารพระสงฆ์ กม็ ีการโต้วาทกี ันในเรือ่ งเพลงโคราช จากหมู่บา้ นที่มีสติปัญญาในเร่อื งเพลงโคราชให้มาโชวก์ ัน และ โต้วาทีกันของแตล่ ะบ้าน” ชุดการเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 39 Korat folk song performance

ลำไย หนองม่วง (2555) ไดใ้ ห้ขอ้ มลู ความหมายของประวตั ิเพลงโคราชไว้ขณะที่สมั ภาษณภ์ มู ิปัญญาเรือ่ ง ความหมายของประวัตเิ พลงโคราช ในวนั ท่ี 27 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรยี ์ทา้ วสุรนารีถนน ราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมอื งนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสมี า เวลา 16.00 น.ไว้ว่า “หลงั จากเสรจ็ ส้นิ สงคราม จะใช้เวลาว่างมาฝึกเพลงโคราชเนอื้ กลอนที่ร้องจะดจู ากธรรมชาติของสตั ยเ์ ช่นปลาไหนท่ีเขาหามาก็จะนำ ปลาไหลท่ีได้มารอ้ ยเป็นพวง ปลาไหลก็จะพันกันไปมาตรงนี้จะเรียกกลอนเพลงโคราชวา่ ปลาไหลพันพวงเกดิ จาก การถามไถ่ทกุ ขส์ ุขกนั มักจะเป็นกลอนเพราะคนไหนจะเปน็ คนเจา้ บทเจ้ากลอน เชน่ การถามขา่ ว การทำนา จะร้องว่า ยายยม นมยาน หวา่ นเขา่ หรือยงั เกิดจากการโตว้ าทีก่ ันของเพลงโคราชในแตล่ ะหมู่บา้ นจะโต้กนั คำที่โตน้ ั้นมกั จะเปน็ คำคู่เชน่ ได้ผงไดผ้ วั ไดม้ งไดเ้ มยี มหี ลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์อา้ งอิงได้มาจกอินเดยี พระพุทธศาสนาจากรังกาทวีป ลเิ ก- ภาคกลางออกแขกสำเนียงอนิ เดยี เพลงโคราชเปน็ แม่แบบสัมผัสคำ เชน่ กลอนลงรี ต้องหาคำที่มสี ระอีไว้ เพลง โดราชลงึ ซ้ึงเป็นแม่แบบ มีสัมผสั บังคับเกาะกนั เปน็ ลูกโซ่ เชน่ มณฑา มณฑล มลทิน พ่อแม่พี่เป็นเพลงโคราชฟงั ทกุ วัน ก็ซึมซับต้องมีใจรกั ใจชอบผูท้ ่ีรกั ในการร้องเพลงโคราชร้องกลอน โตต้ อบได้ อดทน ขยันรอ้ งกลอน ” สวา่ ง บา้ นดอนผวา (2555) ได้ใหข้ ้อมลู ความหมายประวัติเพลงโคราชไวข้ ณะที่สัมภาษณ์ภูมปิ ญั ญาเรื่อง ความหมายประวตั ิเพลงโคราช ในวันท่ี 27 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานอนุสาวรยี ท์ า้ วสรุ นารีถนนราช ดำเนนิ ตำบลในเมอื ง อำเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา เวลา 16.00 น.ไว“้ ปี พ.ศ. 2456 ทีส่ มเดจ็ พระศรพี ัชรนิ ทราบรมราชนิ นี าถ พระราชชนนพี นั ปีหลวงเสด็จมานครราชสีมาทรงเปิดถนนจอมสุรางค์ยาตร์ และเสดจ็ ไปพิมายในโอกาสรับเสดจ็ คร้ังนั้น หมอเพลงชายรุน่ เก่าชอ่ื เสียงโด่งดงั มากชื่อนายหรบ่ี ้านสวนข่า ไดม้ โี อกาสเลน่ เพลง โคราชถวาย เพลงท่ีเลน่ ใชเ้ พลงหลกั สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเปน้ ผ้บู งั คับการพิเศษประจำกรมทหารมา้ นครราชสมี า จนถงึ พ.ศ. 2462 เมอ่ื เสด็จนครราชสมี า นายหรี่ สวนข่า ก็มีโอกาสเลน่ เพลงถวาย เพลงโคราชมี โอกาสเลน่ ถวายหนา้ พระท่ีนง่ั ในงาน” จะเหน็ ไดว้ า่ จากข้อมูลความหมายหมอเพลงโคราชของภมู ปิ ัญญาทั้ง 5 คน ดงั กล่าว ท่ีกลา่ วไว้ สามารถ สรปุ ไดว้ า่ ประวัตขิ องเพลงโคราชนัน้ มกี ารเลา่ ขานกนั มาวา่ มีนายพรานคนหนึ่งช่อื เพชรน้อย ออกไปล่าสตั ว์ ในเขต หนองบนุ นากบ้านหนองบนุ นากอำเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสมี า คืนหนึง่ แกไปพบลูกสาวพญานาค ขนึ้ มาจากหนอง นำ้ มานัง่ ร้องเพลงคนเดยี ว พรานเพชรนอ้ ยได้ยินเสยี ง จึงแอบเข้าไปฟงั ใกล้ ๆ แกประทบั ใจในความไพเราะ และ เนอ้ื หาของเพลง จงึ จำเนือ้ และทำนองมาร้องให้คนอื่นฟังลักษณะเพลงท่รี ้องเป็นเพลงก้อม หรอื เพลงคสู่ องอีกตำนาน หนึ่งเล่าวา่ ชาวโคราชไดเ้ พลงโคราชมาจากอินเดยี โดยพระยาเขม็ เพชรเป็นผู้นำมาพร้อมๆ กบั ลิเกและลำตดั โดยให้ ลเิ กอยู่กรุงเทพฯ ลำตดั อยูภ่ าคกลาง และเพลงโคราชอยู่ท่ีนครราชสมี าเพลงโคราชระยะแรกๆ เปน็ แบบเพลงก้อม คน ท่ีเรียนรู้เพลงโคราช จากพระยาเขม็ เพชรชือ่ ตาจัน บ้านสก อยู่ \"ซุมบา้ นสก\" ตดิ กับสถานีรถไฟชมุ ทางถนนจิระ เพลงโคราชจะเริม่ เลน่ ตั้งแตเ่ ม่ือใดไมป่ รากฏหลกั ฐานทแี่ น่ชดั หลักฐานจากคำบอกเลา่ ต่อ ๆกนั มา มีเพียงวา่ สมัยท้าวสรุ นารี ( คุณยา่ โม ) ยังมชี วี ติ อยู่ ( พ.ศ. 2313 ถงึ 2395 ) ท่านชอบเพลงโคราชมากเร่ืองราวของเพลงโคราช ชดุ การเรียนรู้เร่อื งเพลงโคราช 40 Korat folk song performance

ได้ปรากฏหลัดฐานชดั เจนคือในปี พ.ศ. 2456 ท่ีสมเดจ็ พระศรีพัชรนิ ทราบรมราชนิ นี าถพระราชชนนีพันปหี ลวงเสดจ็ มานครราชสมี าทรงเปิดถนนจอมสรุ างคย์ าตร์และเสด็จไปพิมายในโอกาสรับเสด็จครั้งน้ันหมอเพลงชายรุน่ เกา่ ชอื่ เสยี ง โด่งดงั มากช่ือนายหร่ีบ้านสวนขา่ ได้มีโอกาสเล่นเพลงโคราชถวาย เพลงทเี่ ล่นใช้เพลงหลกั เชน่ กลอนเพลงทีว่ า่ \" ขา้ พเจา้ นายหรี่อยู่บุรีโคราชเปน็ นักเลงเพลงหัดบ่าวพระยากำแหง ฯ เจ้าคุณเทศาท่านตง้ั ใหเ้ ปน็ ขุนนาง .....ตำแหน่ง \"ความอกี ตอนเอ่ยถงึ การรับเสด็จว่า\" ไดส้ ดับว่าจะรบั เสดจ็ เพอ่ื เฉลมิ พระเดชพระจอมแผ่นดนิ โหส่ ามลาฮาสามหลนั่ เสียงสนน่ั ....ธานนิ ทร์ \"( สมเดจ็ พระพันปีหลวงทรงเปน็ ผู้บงั คับการพเิ ศษประจำกรมทหารม้านครราชสีมา จนถึง พ.ศ. 2462 เม่ือเสด็จนครราชสมี า นายหรี่สวนขา่ กม็ ีโอกาสเลน่ เพลงถวาย ) เพลงโคราชมีโอกาสเลน่ ถวายหน้าพระท่นี งั่ ใน งานชมุ นุมลกู เสอื ครงั้ ที่ 1 ในนามการแสดงมหรสพของมณฑลนครราชสีมาเกีย่ วกบั กำเนิดของเพลงโคราชมที ั้งท่ีเปน็ คำเลา่ และตำนานหลกั ฐานจากคำบอกเลา่ ของหมอเพลงอกี จำนวนหนึ่งเล่าตอ่ ๆกนั มาวา่ ในสมยั รัตนโกสนิ ทร์มสี งคราม ระหว่างไทยกับเขมรเม่ือไทยชนะสงครามเขมรครั้งไรชาวบ้านจะมกี ารเฉลิมฉลองชยั ชนะด้วยการขับรอ้ งและร่ายรำกัน ในหมสู่ กทีเ่ ขาเรียกวา่ \" ซมุ บ้านสก \" ใกล้ ๆกบั ชมุ ทางรถไฟถนนจิระและเร่ิมเลน่ เพลงโคราชกนั ที่หมู่บา้ นนี้ ทา่ ทาง การรำรุกรำถอยและการป้องหมู ผี ู้สันนษิ ฐานวา่ ประยุกต์มาจากการเลน่ เจรยี งท่ีเปน็ เพลงพ้นื บ้านของชาวสรุ นิ ทร์ ผสมผสานกับเพลงทรงเคร่ืองของภาคกลาง 3 ความสำคญั ของเพลงโคราช 3.1 จากการศึกษาเอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง .(2555).ความหมายความสำคญั ของเพลงโคราช www.koratinfo.com/samapi/koratsong/koratsng1.htm ไดใ้ หค้ วามหมายของความสำคญั เพลงโคราชวา่ สมัยก่อนนั้น เพลงโคราชเปน็ ทีน่ ิยมมากเพราะการแสดงมหรสพ ที่ เปน็ หวั ใจของงานฉลองสมโภชใด ๆ ก็ตามมเี พลงโคราชเพียงอย่างเดยี ว คนฟังเพลงก็มเี วลามาก ฟังกนั ตั้งแต่หัวค่ำจน รุ่งเชา้ เมื่อหมอเพลงเลน่ เพลงลา คอื ลาผ้ฟู งั ลาเจ้าภาพ และเพอื่ นหมอเพลงด้วยกนั จะมีป่ีพาทยฆ์ ้อง กลอง บรรเลงรบั หมอเพลงจะรำตามกัน ไปยังบา้ นเจ้าภาพเจ้าภาพก็นำเงินค่าหมอเพลงมาให้ พร้อมท้ังเล้ยี งข้าวปลา อาหาร และห่อ ข้าวของกนิ ต่าง ๆ ให้เปน็ เสบียง ในการเดนิ ทางกลบั คนฟงั จะอยู่รว่ มฟงั งานจนเสรจ็ สน้ิ กระบวนการ จงึ ทยอยกลับ เชน่ กันเพลงโคราชสมัยก่อนไดไ้ ปเล่นหลายจงั หวัด เชน่ บรุ รี ัมย์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุรนิ ทรต์ ลอดจนถึงประเทศ กมั พูชา สำหรบั จังหวดั ตา่ ง ๆ ในภาคกลาง ก็ไปเล่นเปน็ คร้ังคราวปจั จบุ ันค่านิยมของผู้ฟัง เปลี่ยนแปลงไปมาก แมแ้ ต่ ผฟู้ งั ในจังหวดั นครราชสมี าเองกเ็ สอื่ มความนิยมลงมาก บ้างก็เห็นวา่ เพลงโคราช เป็นเพลงหยาบคาย และไม่นา่ สนใจ แม้ทางราชการสง่ เสริม ใหน้ ำออกแสดง ทางวิทยุกระจายเสยี งแหง่ ประเทศไทยจังหวัดนครราชสมี า กต็ ้องผ่านการ ตรวจ อย่างรดั กมุ จะใชภ้ าษาตรง ๆเหมอื นสมยั กอ่ นไม่ไดถ้ ือว่าไม่เหมาะสมในการจัดงานฉลองสมโภชใดๆมักจะมี มหรสพอ่ืนๆ เปน็ คแู่ ข่งมากมาย เชน่ ภาพยนตร์ มวย เพลงลูกทงุ่ ลิเก และรำวงเพลงโคราชจึงเปน็ ทสี่ นใจ สำหรบั ผฟู้ งั รนุ่ เกา่ ที่มีอายคุ ่อนข้างสงู แทบทง้ั น้ันหมอเพลงโคราช ไดร้ วมตวั กนั เป็นคณะเพลงโคราช หลายคณะ และเขา้ มา ต้ังสำนักงานคณะอยใู่ นอำเภอเมอื งเป็นสว่ นใหญ่ เพือ่ ความสะดวก สำหรับมาติดต่อ หาเพลงไปเล่นหมอเพลงโคราช ต้องเลน่ เพลงประยุกต์ ตามใจผฟู้ งั เช่น เลน่ เพลงหมอลำ เล่นเพลงลำตัดและเพลงลูกทงุ่ พูดถงึ ท่ารำแตกตา่ งกันไป มีเพลงโคราชของคณะทองสุข กำปงั ท่ปี ระยุกตเ์ ล่นแบบลำเพลนิ คอื นำเอาดนตรสี ากล เข้ามาประกอบ แตย่ งั ไม่เป็น ชุดการเรยี นรู้เร่ืองเพลงโคราช 41 Korat folk song performance

ที่แพรห่ ลายนักการรวมตวั กันเปน็ คณะเพลงโคราชปจั จุบนั นนั้ นางสองเมือง อนิ ทรกำแหงเป็นผู้ริเรม่ิ ตงั้ ข้ึนเปน็ คนแรก เมื่อปี พ.ศ. 2499 ตงั้ อยูท่ ี่ ถนนสุรนารายณแ์ ละต่อมากม็ คี ณะต่าง ๆ ต้ังขน้ึ อกี หลายคณะ ข้อดีคือ ทำให้สะดวกใน การตดิ ต่อจา้ งไปเลน่ ข้อไม่ดีคือ เมื่อหมอเพลงอยู่คณะเดยี วกันก็รู้ชัน้ เชิงและฝปี ากกนั ทำให้ฟัง ไมส่ นกุ สนาน มผี ู้ พยายามจะรวมคณะเพลงโคราชต่าง ๆกอ่ ตั้งเป็นสมาคมเพลงโคราช แตย่ งั ไม่ไดร้ ับความร่วมมอื จากหมอเพลง เท่าทคี่ วร จากความเชือ่ ทีว่ ่า ท่านท้าวสุรนารี ( คุณหญิงโม หรือย่าโมทช่ี าวบา้ นเรยี กท่าน ) ชอบเพลงโคราช ในสมยั ที่ทา่ นมชี วี ติ อยู่จงึ มีผหู้ าเพลงโคราชไปเล่นใหท้ า่ นฟงั เปน็ การแก้บน ณ บรเิ วณใกล้ ๆ กับอนสุ าวรีย์ในตอนกลางคืน เปน็ ประจำ อาจเป็นปจั จัยหนงึ่ ที่ทำใหค้ นรุ่นใหม่ ไดร้ ูจ้ ักเพลงโคราชและหมอเพลงมรี ายไดป้ ระจำ แตก่ ็มีผสู้ นใจไปฟัง ไมม่ ากนกั การประกอบอาชีพ ของหมอเพลงโคราชยังทำรายไดด้ ี ยังเป็นอาชีพที่มั่นคงอยู่หมอเพลงดังกลา่ วนี้ แม้จะ ประกอบอาชีพอ่ืน เชน่ ทำนา ทำไร่ เป็นนกั ธรุ กจิ แตอ่ าชีพหลกั คือเลน่ เพลงโคราชส่วนใหญห่ มอเพลงจะมีความเช่ือใน เรอื่ งโชคลางพอสมควร เช่นในการกา้ วขนึ้ โรงเพลง จะมีการดูทศิ ตามฤกษ์รบั ก้าวแรกที่ขนึ้ จะต้องเลือกดตู ามทศิ ทาง โดยการหายใจ ถ้าขา้ งซ้ายคล่อง ก็กา้ วขาซ้ายขนึ้ ทำนองเดียวกัน ถา้ ขา้ งขวาหายใจสะดวก ก็ก้าวข้างขวาขน้ึ เปน็ ต้น เม่อื ข้ึนเวทีไปแล้ว กม็ ีการเป่าคาถามหานิยม เพื่อให้ผู้ฟังชืน่ ชอบตนก็มี หมอเพลงบางคนเช่ือวา่ หลงั คาโรงเพลงนน้ั ถา้ หากมีการมดั ดว้ ยตอก หรอื สิง่ อ่นื ใดจะทำให้คาถาอาคม สติปัญญาในการว่าเพลงเสือ่ มลงไปดว้ ย กข็ อรอ้ งให้แก้มดั ตอกออกก็มี .(2555).ความหมายความสำคัญเพลงโคราช.www.koratinfo.com/samapi/koratsong/index.htmไดใ้ ห้ ความหมายของความสำคัญเพลงโคราชวา่ ความสำคัญเพลงโคราชนัน้ ส่วนใหญผ่ ้มู ใี จรักในการท่จี ะเป็นหมอเพลง แลว้ มักไปฝากตัวเปน็ ศิษย์ กับครเู พลงโดยตรง มบี างรายทบ่ี ิดามารดาหรือผปู้ กครองต้องการให้ลกู เปน็ หมอเพลงก็ นำไปฝากกบั ครเู พลง และบางรายทีค่ รเู พลงเหน็ วา่ มแี ววจะเปน็ หมอเพลงทดี่ ี ก็มักจะขอตวั ไปอยดู่ ้วยครจู ะดหู น่วย กา้ นของผ้ทู จ่ี ะเปน็ ศิษย์ ดูกริ ยิ าท่าทาง เสียงและปฏิภาณการทดสอบเพอ่ื รับเปน็ ลูกศิษย์ อาจทำได้โดย ให้ร้องวา่ เพลง ก้อมใหฟ้ งั ถ้าเห็นวา่ มีแวว พอจะเปน็ หมอเพลงได้ กร็ ับไว้ ก่อนจะหดั ต้องมีการยกครูก่อน .(2555).ความหมายความสำคัญเพลงโคราช.http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=2543 ได้ให้ความหมายของความสำคัญเพลงโคราชว่าด้านคณุ ค่า 1.เนื้อหาของเพลงจะแสดงวิถีชีวติ ของบุคคลในสงั คมในแงม่ ุมตา่ ง ๆรวมทั้งแทรกความสนุกสนานในรูปความ บันเทงิ อย่างดีย่งิ หมอเพลงโคราชในอดีตไดท้ ำหนา้ ที่เป็นผู้แพร่ข่าวสารจากทห่ี นึ่งไปยังอีกที่หน่งึ เป็นผู้มปี ระสบการณ์ กว้างไกล เพราะพบเห็นเหตุการณ์และผคู้ นหลากหลายหมอเพลงโคราชและคนฟังเพลงโคราชในอดีตจงึ มคี วามเปน็ อันหนึง่ อนั เดียวกนั เพราะเป็นคนในสังคมเดียวกัน จึงเขา้ ใจปญั หาของกนั และกนั ต่างกเ็ ป็นปราชญท์ างภาษา เช่นเดียวกันจงึ สือ่ ความคิดผา่ นเพลงโคราชออกมาสกู่ ันได้ 2. เพลงพน้ื บา้ นเป็นคติชนวทิ ยา ซ่งึ เปน็ ที่รวมความรเู้ กี่ยวกับชาตพิ ันธ์โุ คราช ทัง้ ภาษา ความรู้ ความคิด วฒั นธรรม ประเพณี ตลอดจนปรัชญาของชีวิต .(2555).ความหมายความสำคัญเพลงโคราช.www.baanmaha.com/community/thread24103.htmlได้ ใหค้ วามหมายของความสำคัญเพลงโคราชวา่ เพลงโคราช เป็นศิลปะ วัฒนธรรมพนื้ บ้านของจงั หวดั นครราชสมี าหรือ โคราชซ่งึ ได้สบื ทอดกันมาเปน็ เวลายาวนานโดยเพลงโคราชนนั้ มเี อกลักษณก์ ารร้องรำเป็นภาษาโคราช ซึง่ มคี วาม ไพเราะทำให้เกดิ ความเพลดิ เพลนิ และสนกุ สนานแต่ปจั จุบันเพลงโคราชค่อยๆ ได้รับความนยิ มและความสนใจน้อยลง ชดุ การเรยี นรู้เรื่องเพลงโคราช 42 Korat folk song performance

พวกเราจึงควรท่ีจะช่วยกนั อนุรกั ษ์ และสบื สานศลิ ปะวัฒนธรรมอนั ดีงามน้ไี วเ้ พ่อื ให้ลูกหลานของเราไดส้ มั ผสั ได้รับชม และรบั ความสนุกสนานเพลิดเพลนิ ดีกว่าการเลา่ ขานเปน็ ตำนาน จากการสมั ภาษณ์ ภูมิปญั ญาหมอเพลงโคราช ไดใ้ หข้ ้อมูลความสำคญั ของเพลงโคราช ดา้ นเศรษฐกิจและ ด้านวัฒนธรรมและวถิ ีชีวิต กำปั่น บ้านแท่น (2555) ได้ให้ขอ้ มลู ความสำคัญของเพลงโคราช ดา้ นเศรษฐกจิ และดา้ นวัฒนธรรม และ วถิ ชี วี ิต ไว้ขณะสัมภาษณภ์ ูมิปัญญา เรื่อง เพลงโคราช ในวนั ที่ 17 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 336 ถนนจิระ ตำบลในเมอื ง เวลา 13.00 น.ไวว้ า่ “ดา้ นเศรษฐกจิ แลว้ แตผ่ ้วู ่าจา้ ง” และ “ดา้ นวัฒนธรรมและ วิถชี วี ติ ชุมชน คนโคราชมีความเช่อื และศรัทธายา่ โม เวลาไปขอพรหรือแก้บนมักจะใช้เพลงโคราชในการขอยา่ โม” กาเหวา่ บา้ นแทน่ (2555) ไดใ้ หข้ ้อมูลความสำคญั ของเพลงโคราช ด้านเศรษฐกิจและดา้ นวัฒนธรรมและ วิถชี ีวิต ไว้ขณะสมั ภาษณภ์ ูมิปญั ญา เรอื่ ง เพลงโคราช ในวนั ที่ 17 เดอื นสิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ บา้ นเลขที่ 336 ถนนจิระ ตำบลในเมือง เวลา 14.00 น. ไว้ว่า “ด้านเศรษฐกจิ แล้วแตผ่ วู้ ่าจา้ ง” และ “ดา้ น วฒั นธรรมและวิถชี ีวิตชมุ ชน สว่ นใหญเ่ ป็นเร่ืองแกบ้ น และ เวลาไปขอพรยา่ โมใหไ้ ด้ต้งั สมปรารถนา มักจะใชเ้ พลง โคราชใหย้ า่ โมฟัง ซึ่งเกิดจากความเชอ่ื และศรทั ธา” บุญสม สงขส์ ขุ (2555) ได้ให้ข้อมลู ความสำคัญของเพลงโคราช ดา้ นเศรษฐกจิ และดา้ นวฒั นธรรมและวถิ ี ชวี ิต ไว้ขณะสมั ภาษณภ์ มู ิปญั ญา เรื่อง เพลงโคราช ในวันท่ี 24 เดือนสงิ หาคม พ.ศ.2555 ณ สมาคมเพลงโคราช เวลา 14.00 น. ไวว้ ่า “ดา้ นเศรษฐกิจและดา้ นวัฒนธรรมและวถิ ชี ีวิตชุมชน สว่ นใหญเ่ ปน็ เรื่องแกบ้ น และ เวลาไป ขอพรย่าโมใหไ้ ด้ตั้งสมปรารถนา มักจะใช้เพลงโคราชใหย้ ่าโมฟัง ซง่ึ เกิดจากความเชอื่ และศรทั ธารักคุณยา่ โม ซึ่งเป็น เรอ่ื งของจติ ใจ ความภาคภูมิใจต่อวรี กรรมของยา่ โม ” จากการสมั ภาษณ์ ภมู ิปัญญาหมอเพลงโคราช ไดใ้ ห้ข้อมลู ความสำคัญของเพลงโคราช ดา้ นเศรษฐกจิ และ ด้านวัฒนธรรมและวถิ ชี วี ิต เพลงโคราช เป็นการรอ้ งเพลงโตต้ อบที่พฒั นาไป เปน็ การแสดงพืน้ บ้านของชาวจงั หวดั นครราชสีมาหรือ โคราช ซง่ึ ได้สืบทอดกนั มาเป็นเวลายาวนาน มีเอกลักษณ์ อยทู่ ี่การรอ้ งรำเป็นภาษาโคราช ปรากฏ หลักฐานชัดเจน ในปี พ.ศ. ๒๔๕๖ เมื่อสมเดจ็ พระศรีพัชรนิ ทราบรมราชนิ ีนาถ พระราชชนนีพนั ปหี ลวง เสดจ็ พระราช ดำเนนิ ไปจงั หวดั นครราชสีมาเพ่ือทรงเปิดถนนจอมสุรางค์ยาตร์ และเสดจ็ ฯ พิมาย ในโอกาสรับเสด็จคร้งั น้นั หมอ เพลงชายรุ่นเก่า ชื่อเสียงโด่งดังมากชื่อ นายหรี่ บ้านสวนขา่ ไดม้ โี อกาส เลน่ เพลงโคราชถวาย ในสมัยก่อนเพลงโคราชเปน็ ที่นยิ มมาก เพราะการ แสดงมหรสพต่างๆ มีเพลงโคราชเพยี งอยา่ งเดยี ว คนฟัง เพลงก็มีเวลามาก ฟังกันตั้งแต่หวั ค่ำจนร่งุ เชา้ เม่ือหมอเพลง เลน่ เพลงลา คอื ลาผู้ฟัง ลาเจ้าภาพ และเพอื่ นหมอเพลง ด้วยกนั จะมีป่ีพาทย์ ฆ้อง กลอง บรรเลงรับ หมอเพลง จะรำตามกันไปยงั บา้ นเจ้าภาพ เจ้าภาพก็จะนำเงนิ ค่า หมอ เพลงมาให้ พรอ้ มท้งั เล้ียงข้าวปลา อาหาร และห่อขา้ ว ของกนิ ต่างๆ ใหเ้ ป็นเสบียงในการเดนิ ทางกลบั คนฟงั จะอยู่ ร่วมฟงั งานจนเสร็จส้ินกระบวนการจึงทยอยกลับ ปัจจบุ นั ค่านยิ มของผู้ฟังเพลงโคราชเปลยี่ นแปลง ไปมากท้ังดา้ นเน้ือหา รูปแบบการแสดง และความนยิ มของ คนโคราชเอง เน้อื หาของเพลงโคราชข้ึนอยู่กบั โอกาสที่จะเลน่ หมอเพลงโคราชรนุ่ เกา่ เน้นการใชป้ ฏภิ าณไหวพรบิ เล่าเรื่อง นิทานชาดก และเครง่ ครัดมากในเรอื่ งสอนศลี ธรรม หมอเพลงโคราชในอดตี ทำหนา้ ที่เป็นผแู้ พร่ขา่ วสาร เพราะ เป็นผู้ ชดุ การเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 43 Korat folk song performance

มปี ระสบการณ์กว้างไกล พบเหน็ เหตกุ ารณแ์ ละผคู้ นหลากหลาย หมอเพลงโคราชและคนฟงั เพลงโคราชในอดีต จึงมี ความเป็นอนั หนง่ึ อนั เดยี วกนั เพราะเป็นคนในสงั คม เดียวกัน จงึ เขา้ ใจปัญหาของกันและกนั แต่หมอเพลงโคราช รุ่น ใหม่ มกั เล่นตามคำเรยี กรอ้ งของผู้ฟงั เพ่ือความเพลดิ เพลิน และสนกุ สนาน ดว้ ยเหตุนี้ เพลงโคราชจึงคอ่ ยๆ เส่อื มความนิยมลง แต่เนื่องจากในยคุ ปจั จบุ นั มีความเชอ่ื ว่าทา้ วสุรนารใี นสมยั ท่ยี งั มชี ีวติ อยู่ (พ.ศ. ๒๓๑๓-๒๓๙๕) ท่านชอบเพลง โคราชมาก จึงมผี ู้หาเพลงโคราชไปเล่นแกบ้ น ณ บรเิ วณ ใกลๆ้ กบั อนุสาวรยี ์ท้าวสุรนารใี นตอนกลางคนื เป็นประจำ จงึ เป็นปัจจัยหน่ึงท่ที ำใหห้ มอเพลงโคราช ซ่ึงสว่ นใหญอ่ ยู่ที่ อำเภอเมือง จงั หวดั นครราชสีมา ยงั คงสามารถประกอบอาชีพ อยไู่ ด้ ตัวอย่างคณะเพลงโคราชที่โดดเด่นอยู่ท่ีอำเภอ เมือง จังหวดั นครราชสมี า 4. แหล่งเรยี นรใู้ นชมุ ชน แหล่งเรียนรู้เพลงโคราช อยูใ่ นตำบลในเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวัดนครราชสมี า ประกอบดว้ ย 5 ชมุ ชน ตามลำดบั ดงั น้ี 4.1 นายบญุ สม สงั ขส์ ุข นายกสมาคมหมอเพลงโคราช 386/145 ม. 6 ต.บ้านเกาะ อ. เมือง จ. นครราชสีมา 30000 มอื ถอื 089 5792686 โทรสาร 044 276794 ดงั ภาพประกอบ ภาพประกอบ 1 4.2 เพลงโคราชกำปัน่ บา้ นแทน่ 344 จิระ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จงั หวดั นครราชสีมา ดังภาพประกอบ ภาพประกอบ 2 ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 44 Korat folk song performance

4.3 ชมุ ชนวดั ทุง่ สว่าง-ศาลาลอย บา้ นเลขท่ี 1235 ตำบล ในเมอื ง อำเภอ เมอื ง จังหวัด นครราชสมี า โทร 081 – 5473 – 409 ดงั ภาพประกอบ ภาพประกอบ 3 ภาพประกอบ 3 4.4 ชมุ ชนหน้ายา่ โม บา้ นเลขท่ี 1234 ตำบล ในเมือง อำเภอ เมือง จังหวดั นครราชสมี า โทร 081 – 5473 – 409 ดงั ภาพประกอบ ภาพประกอบ 4 4.5 หมอเพลงโคราช นายด้นิ โคพนั ดุง อายุ 66 ปี บา้ นเลขที่ 7/1 หมู่ท่ี 3บ้านคลองแคใตต้ ำบล โนนเมืองพัฒนา อำเภอด่านขุนทด จังหวดั นครราชสมี า ดังภาพประกอบ ภาพประกอบ 5 ชุดการเรียนรู้เร่อื งเพลงโคราช 45 Korat folk song performance

5. ความเปน็ ไปได้ในการเขา้ สู่อาชพี เพลงโคราช 5.1 จากการศึกษาจากเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง จากการศึกษารูปแบบการแสดงเพลงโคราชจากอดตี จนถงึ ปัจจบุ ัน แบ่งไดด้ งั น้ี เพลงโคราชแบบดั้งเดิม เพลง โคราชแกบ้ น และเพลงโคราชประยกุ ต์หรือเพลงโคราชซิ่ง 1). เพลงโคราชแบบดง้ั เดิม เป็นเพลงที่สืบทอดกันมาต้งั แตค่ รงั้ เป็นเพลงโตต้ อบ ลักษณะเป็นการ แสดงแบบพ้ืนบ้านดง้ั เดิมท้ังรูปแบบ เน้อื หาและวธิ ีการเลน่ ผู้ชมส่วนใหญ่มักเปน็ ผูส้ งู อายเุ พราะมเี น้อื หาคอ่ นข้างฟัง ยาก ตอ้ งตีความโดยมเี นื้อหาจะแสดงถึงวถิ ชี ีวิตของคนในสังคมแง่มมุ ต่างๆ หลกั ธรรมคำสอนทางศาสนา มีการเลน่ เปน็ เรือ่ งราวและเป็นขน้ั ตอน รวมทัง้ แทรกความสนกุ สนานไวใ้ นรปู ความบันเทงิ ข้ึนอยปู่ ฏภิ าณไหวพรบิ ของหมอเพลง 2). เพลงโคราชแก้บน เริม่ เป็นทน่ี ิยมภายหลังการสร้างอนุสาวรยี ์ท้าวสรุ นารี เมื่อปี พ.ศ.2477 จากความเชอ่ื ทว่ี ่าท้าวสุรนารชี อบฟงั เพลงโคราช และถา้ บนท่านด้วยเพลงโคราชก็จะไดร้ ับความส าเร็จตามท่ีบนไว้ รปู แบบการ แสดงเพลงโคราชแก้บนเหมือนเพลงโคราชแบบดงั้ เดิม แต่มีข้อจากดั คือ เวลาทีใ่ ช้ในการแสดงมีจำกดั เช่น ครึ่งช่ัวโมง ถึงหน่งึ ชวั่ โมง 3). โคราชประยกุ ตห์ รอื เพลงโคราชซิ่ง มีรปู แบบการแสดงคล้ายกับการแสดงของวงดนตรีเพลง ลกู ทุ่ง หมอลำ แต่เป็นการผสมผสานการเล่นเพลงโคราชแบบดั้งเดมิ เข้าด้วย ลกั ษณะคือจัดเวทคี ล้ายเวทีแสดงคณะ เพลงลูกทงุ่ มีการจัดและตกแต่งเวทีใหส้ วยงาม มกี ารจดั ระบบแสง สี เสยี ง ใหเ้ ปน็ ท่สี นใจของชม (ขนาดของเวทีและ อุปกรณ์ประกอบอืน่ ๆ ขึน้ อยู่กบั ข้อตกลงกบั ผ้วู า่ จ้าง) ใช้เคร่ืองดนตรีสากลมาประกอบการแสดง จัดให้มีหางเคร่ือง หรือนกั เตน้ ประกอบการแสดงดา้ นหน้าเวที มีการน าเพลงลกู ทุ่งหรือกลอนหมอลำมาใชใ้ นการแสดง หรือประยุกตใ์ ช้ ภาษาโคราชในการร้องสภาพการเปลย่ี นแปลงรูปแบบการแสดงเพลงโคราชจากอดตี จนถึงปัจจุบันสภาพการ เปล่ยี นแปลงรปู แบบการแสดงเพลงโคราชนัน้ ในท่ีนีผ้ ศู้ ึกษาแบง่ ออกเปน็ 2 ชว่ ง กล่าวคือ ชว่ งที่ 1หมายถงึ ช่วงปีพ.ศ.2456-พ.ศ.2520 และช่วงที่2 หมายถึง ชว่ งตง้ั แต่ปีพ.ศ.2521 จนถงึ ปจั จบุ ัน ตลอดระยะเวลาของการดำรงอยู่ของเพลงโคราช นบั ต้งั แตส่ มัยท้าวสุรนารจี วบจนถึงปจั จุบัน เพลง โคราชผ่านการท้าทายจากบริบททางสังคมมาอยา่ งต่อเนื่อง จากปัจจยั ตา่ งๆ ทำให้เพลงโคราชมพี ลวตั รท้ังสว่ นท่ีสญู หายไป สว่ นท่ยี ังดำรงอยแู่ ละส่วนทมี่ คี วามเปลย่ี นแปลงไป (หนง่ึ ฤทัย ขอผลกลาง, 2554) 6. การตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพเพลงโคราช 6.1 ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างอนสุ าวรยี ์ทา้ วสรุ นารเี มื่อปี พ.ศ.2477 ถือเปน็ จดุ เปลย่ี นสำคญั ทที่ ำใหเ้ พลงโคราชได้รับความนิยม และพัฒนาสู่การเป็นธุรกจิ บันเทิงและสรา้ งศลิ ปนิ เพลงโคราชมาจนกระทั่งปัจจุบนั กลา่ วคอื เพลงโคราชแก้บนเร่มิ เปน็ ท่ี นิยมภายหลังการสร้างอนุสาวรยี ท์ า้ วสรุ นารี เมื่อปี พ.ศ.2477 จากความเชอ่ื ท่วี า่ ทา้ วสุรนารชี อบฟังเพลงโคราช และถ้าบนท่านดว้ ยเพลงโคราชกจ็ ะได้รับความสำเรจ็ ตามท่ีบนไว้ รูปแบบการแสดงเพลงโคราชแก้บนเหมือนเพลง โคราชแบบดั้งเดมิ แต่มีข้อจำกัดคอื เวลาที่ใชใ้ นการแสดงมจี ำกดั เชน่ ครง่ึ ชวั่ โมงถงึ หนึ่งชั่วโมง การรวมตัวกนั โดยการจัดตง้ั เปน็ คณะเพลงโคราช เพลงโคราชไดเ้ ข้าสกู่ ระบวนการทางธรุ กิจเพื่อสรา้ งความ เข้มแข็งและพลงั ต่อรอง มสี ำนักงานสำหรับรบั งานแสดงในสมโภชหรอื งาน แก้บน มีหวั หน้าคณะซง่ึ มักเปน็ หมอเพลง ที่มีชื่อเสยี ง มบี ทบาทในการประสานหมอเพลงโคราชและ ผูม้ าตดิ ตอ่ วา่ จ้าง โดยการรวมตวั เป็นคณะเพลงโคราชน้ีนาง ชุดการเรียนรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 46 Korat folk song performance

สองเมือง อินทรกำแหง เปน็ ผู้ริเรม่ิ ต้งั ขน้ึ เปน็ คนแรก เมื่อปีพ.ศ. 2499 ต้ังอยทู่ ่ีถนนสุรนารายณ์และต่อมากม็ ีคณะ ต่างๆ ตงั้ ขึน้ อกี หลายคณะ ขอ้ ดีคอื ทำให้สะดวกในการตดิ ต่อจ้างไปเล่น ขอ้ ไม่ดีคอื เม่ือหมอเพลงอยคู่ ณะเดยี วกันกร็ ู้ ชนั้ เชงิ และฝปี ากกันทำให้ฟงั ไมส่ นกุ สนาน 6.2 ศกั ยภาพของพื้นท่ีตามสภาพภูมอิ ากาศ การเปลยี่ นแปลงรูปแบบการแสดงเปน็ เพลงโคราชประยกุ ตห์ รือเพลง โคราชซ่งิ มีรปู แบบการแสดงคลา้ ยกบั การแสดงของวงดนตรีเพลงลกู ทุ่ง หมอลำแต่เป็นการผสมผสานการเลน่ เพลง โคราชแบบดง้ั เดิมเข้าดว้ ย ลักษณะคือจดั เวทคี ลา้ ยเวทีแสดงคณะเพลงลูกท่งุ มีการจดั และตกแตง่ เวทใี ห้สวยงาม มี การจดั ระบบแสง สี เสยี ง ใหเ้ ป็นทสี่ นใจของชม (ขนาดของเวทแี ละอปุ กรณป์ ระกอบอน่ื ๆ ขึน้ อยู่กบั ขอ้ ตกลงกับ ผูว้ ่า จา้ ง) ใช้เครื่องดนตรีสากลมาประกอบการแสดง จัดใหม้ หี างเครอื่ งหรือนกั เต้นประกอบการแสดงด้านหน้าเวที มีการน าเพลงลูกทุ่งหรอื กลอนหมอลามาใชใ้ นการ แสดง หรือประยุกต์ใช้ภาษาโคราชในการรอ้ งอย่างไรก็ตามปจั จบุ นั เพลงโคราชแบบดั้งเดิมได้รับความสนใจโดยเฉพาะ เพลงโคราชแก้บนท้าวสุรนารีอนั เป็นความเช่ือท่ีถือปฏบิ ตั สิ ืบต่อกนั มา การแสดงในงานต่างๆ ผู้วา่ จ้างส่วนใหญส่ นใจ จ้างคณะเพลงโคราชซ่ิง และมีบางงานให้แสดงเพลงโคราชแบบดั้งเดมิ ก่อนการแสดงเพลงโคราชซ่งิ ในเวทเี ดียวกนั ปจั จัยสำคัญทสี่ ง่ ผลทำใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลงของเพลงโคราช คือ สภาพเศรษฐกิจและอิทธิพลของสือ่ ตา่ งๆ ท่สี ง่ ผลต่อรสนยิ มของกลุ่มผฟู้ ังรนุ่ ใหม่ ประกอบกบั กระแสการเปล่ียนแปลงตามยุคสมัยโลกาภิวตั น์ปัจจุบนั เพลง โคราชยงั ไดร้ ับความนิยมจากผฟู้ งั ทส่ี งู อายอุ ยู่มากโดยเฉพาะในชนบท หมอเพลงโคราชยังคงมรี ายไดจ้ ากการไปเล่น เพลงในงานกฐิน ผ้าปา่ บวชนาค และงานอ่นื ๆ อยู่เสมอๆ และมีหมอเพลงบางสว่ นมรี ายไดจ้ ากการเลน่ เพลงแกบ้ นที่ อนสุ าวรยี ์ท้าวสุรนารีและท่ีวัดศาลาลอย 6.3 ศกั ยภาพของภูมิประเทศและทำเลทีต่ ้ัง การรวมตวั กันก่อตั้งเป็นสมาคมเพลงโคราช เพอื่ อนรุ ักษแ์ ละสบื สานศิลปะการแสดงเพลงโคราช โดยเฉพาะการถา่ ยทอดให้กับคนรนุ่ หลงั ได้แก่การสอนเพลงโคราชในสถานศึกษา ตา่ งๆ ตามหลักสูตรท้องถิ่น มีการปลูกจิตสำนึกลูกหลานชาวโคราชใหห้ นั มาภาคภมู ใิ จในวฒั นธรรมแขนงนี้มากข้ึน และในปัจจุบันเทศบาลนครนครราชสมี าไดใ้ ห้การสนับสนนุ เช่น ได้จัดสถานทสี่ ำหรบั เล่นเพลงโคราชไวบ้ ริเวณ อนุสาวรยี ท์ า้ วสุรนารีซงึ่ ในสมัยก่อนเพลงโคราชจัดแสดงบริเวณลานโลง่ ด้านในศาลเจา้ ตรงข้ามอนสุ าวรีย์ท้าวสรุ นารีซง่ึ มพี ืน้ ที่คอ่ นขา้ งจำกัด และชาวโคราชจำนวนไม่น้อยเห็นวา่ สถานทไี่ มเ่ หมาะสมต่อการจดั แสดงเพลงท่เี ป็นท่ีโปรด ปรานของท้าวสรุ นารแี ต่เมื่อมีการบูรณะพนื้ ท่ีบรเิ วณสานอนุสาวรยี แ์ ลว้ หมอเพลงโคราชจึงไดอ้ อกมาแสดงบริเวณเวที ดา้ นขา้ งอนสุ าวรยี ท์ ้าวสุรนารีให้ดสู มเกยี รตแิ กก่ ารแสดงเพ่ือแก้บนทา้ วสุรนารี 6.4 ศกั ยภาพของศลิ ปะ วัฒนธรรมประเพณแี ละวถิ ีชีวิต เผยแพร่เพลงโคราชให้ดังไปไกลให้ มากท่สี ดุ เท่าทีจ่ ะเป็นไปได้ เพลงชาวบา้ น สำหรับเลน่ ในยามว่างงานหรอื เพื่อความสนุกสนานเช่นการลงแขกในการ ทำนา ลกั ษณะคอื ไม่ต้องมีพธิ ี ไม่ตอ้ งสร้างเวที หรอื “โรงเพลง” และไมม่ ีการแต่งกายแบบหมอเพลงอาชีพ และเพลง อาชีพ เปน็ การแสดงในงานฉลองหรอื สมโภชตา่ งๆ เชน่ งานบวชนาคทอดกฐนิ งานประจำปหี รอื เล่นแกบ้ นโดยผู้ ประกอบอาชีพเพลงโคราชน้เี รียกว่า “หมอเพลง” ซ่งึ การแสดงจะเป็นแบบพธิ ีการ มเี วทีการแต่งกายตามแบบของ หมอเพลงและมกี ารไหว้ครเู ป็นต้น รปู แบบในลกั ษณะนหี้ มอเพลงจะได้รบั ค่าตอบแทนและมีการว่าจา้ งให้แสดง ชุดการเรยี นรู้เรอ่ื งเพลงโคราช 47 Korat folk song performance

6.5 ศกั ยภาพของทรัพยากรมนษุ ย์ ถ่ายทอดให้คนร่นุ ใหม่ เพอื่ ให้เขาได้เป็นศลิ ปนิ เพลงโคราชใหม้ ากท่สี ดุ แสวงหาและปลกู ฝงั ให้คนหนั กลบั มาชอบเพลงโคราชใหม้ ากท่ีสุดการดำรงอยู่ของเพลงโคราช ตลอดระยะเวลาท่ผี ่าน มานบั ตง้ั แต่สมัยทา้ วสุรนารจี วบจนถงึ ปจั จุบัน เพลงโคราชผ่านการทา้ ทายจากบรบิ ททางสังคมมาอย่างตอ่ เน่ือง จาก ปัจจยั ตา่ งๆ ทำให้เพลงโคราชมีการเปล่ียนแปลง โดยมีทั้งสว่ นท่ีสญู หายไป ส่วนทย่ี ังดำรงอยู่และส่วนทีม่ ีการ เปลยี่ นแปลงไป ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ หนึ่งฤทัย ขอผลกลาง (2554) ทีศ่ กึ ษาวิถเี พลงโคราช : มิติและพลวตั ร ของความเปล่ยี นแปลง พบวา่ มติ ิทีย่ ังดำรงอยู่อย่างต่อเนอ่ื ง มติ ทิ ่เี กดิ ความเปล่ียนแปลงคือ ขนบของการแสดง ภาษาที่ ใชร้ วมทงั้ สถานภาพของหมอเพลงโคราช มติ ิท่ยี ังดำรงอยู่คือ สนุ ทรียะของบทเพลง การไหว้ครูและการแตง่ กาย ขนบของการแสดงไมม่ ีมิติใดท่ีสูญหายไป เพียงแต่มีการปรับเปลย่ี นรูปแบบไปบา้ งเพื่อความอยู่รอดของเพลงโคราช สะทอ้ นให้เห็นความสามารถในการปรับตัวของเพลงโคราชเพอ่ื ใหเ้ ข้ากับสถานการณท์ างสังคมท่ีเปลยี่ นไป เพ่ือการ ดำรงอยู่ และการสบื ทอดของศลิ ปวัฒนธรรมเกา่ แก่ของจังหวัดนครราชสีมา หรอื เมืองโคราชสบื ไป ชดุ การเรียนรู้เรือ่ งเพลงโคราช 48 Korat folk song performance

ใบงาน ใหน้ ักศึกษาตอบคำถามดังน้ี 1. บอกความหมายของเพลงโคราชไดแ้ ละหมอเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. บอกประวตั ิความเปน็ มาของเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 3. นักศึกษาอธิบายและตระหนักเห็นคณุ คา่ ความสำคัญของเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ชุดการเรียนรู้เร่ืองเพลงโคราช 49 Korat folk song performance

4. ระบแุ หล่งเรียนรู้ภูมิปญั ญาท้องถิน่ และเพลงโคราช .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 5. ถา้ นกั ศึกษาจะเลอื กประกอบอาชีพหมอเพลงโคราชจะมีอย่างไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 6. นักศึกษามวี ธิ กี ารตดั สินใจประกอบอาชีพเพลงโคราชอย่างไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ชดุ การเรยี นรู้เรือ่ งเพลงโคราช 50 Korat folk song performance


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook