ภาษาไทย

ภาษาไทย (วรรณคดแี ละวรรณกรรม) ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ๑บทที่

๑บทท่ี นิทานสานรัก เปา้ หมายการเรยี นรู้ประจาบทท่ี ๑ • อา่ นออกเสยี งคา ข้อความ และเรื่องสัน้ ๆ ได้ถกู ต้อง • อธบิ ายความหมายของคา และขอ้ ความที่อ่านได้ • ระบุขอ้ คิด และนาข้อคิดท่ีไดจ้ ากการอ่านหรือฟังวรรณกรรมไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้

แนะนาคาศพั ท์ บงึ เทวดา แมม่ ด แหลง่ น้าขนาดใหญ่ ชาวสวรรคท์ ีม่ ีกายทพิ ย์ ผู้มีอานาจเวทมนตร์ มีน้าขงั ตลอดปี ตาทิพย์ หูทิพย์ และอม่ิ ทิพย์ สามารถใช้เวทมนตร์ ทาส่งิ ทีผ่ ิดปรกติธรรมดาได้

แนะนาคาศัพท์ เต่า ลิง จระเข้ สัตว์ ๔ ขา ท่ีมีกระดองห้มุ สตั ว์ทม่ี ลี ักษณะคลา้ ยคน สตั วเ์ ล้ือยคลานขนาดใหญ่ มีทงั้ เตา่ บกและเตา่ ทะเล แขนขายาว ปากและหวั ยาว มักหากนิ ในนา้

แนะนาคาศพั ท์ ต่นุ ค้างคาว ตังเม สตั ว์ที่มรี ูปร่างคล้ายหนตู ะเภา สัตว์ทม่ี ีปกี เปน็ แผ่น ขนมชนิดหนึ่ง ทาจากน้าตาล ขุดรเู ปน็ ที่อยอู่ าศัย เวลาเกาะจะห้อยหัวลง หรอื น้าอ้อยทเี่ ค่ียวจนเหนียว หากินในเวลากลางคืน

แนะนาคาศัพท์ นทิ าน ฝนั เดอื นหงาย เรื่องที่เลา่ กันมา การเหน็ เปน็ เรอื่ งราว คนื ท่มี ีดวงจนั ทร์ เมอ่ื นอนหลบั ส่องแสงสว่าง

ใครเป็นคนเลา่ นิทาน เรือ่ งถงุ ฝนั ใหเ้ ด็กๆ ฟังคะ คณุ พอ่ คณุ ลุง คุณปู่

ถงุ ฝนั ถุงไหนใส่เมลด็ ฝันดี ให้เดก็ ดนี อนฝนั ดที ้ังคนื คะ ถุงสีชมพู ถงุ สีดา ถุงสีม่วง

เทวดาจ้อยควรโปรยเมล็ดฝนั ในถงุ สีชมพูใหบ้ ีมหรอื บอยคะ บมี แกล้งเจนจนร้องไห้ บอยแบ่งขนมใหจ้ นิ

ใครเสนอใหเ้ หล่าเพื่อนสตั ว์ ช่วยกันค้นหาถงุ ฝันคะ เจา้ จ๋อ จระเขใ้ หญ่ ลุงเต่า

ใครขโมยถงุ ฝนั ไปคะ แม่มด เจา้ จอ๋ กระรอกนอ้ ย

ใครพาเทวดาจ้อยไปส่ง ท่ีบา้ นแม่มดคะ จระเข้ใหญ่ ค้างคาวหน่มุ ลุงเตา่

แมม่ ดขโมยถงุ ฝันทง้ั หมด ก่คี รงั้ คะ ๑ ครง้ั ๒ คร้ัง ๓ ครั้ง

แม่มดขโมยถุงฝันถุงไหน ในครั้งท่ี ๒ คะ ถุงสีชมพู ถุงสดี า ถุงสีมว่ ง

ถา้ เทวดาจ้อยกินตังเม ของแมม่ ดจะเกดิ อะไรขนึ้ คะ ฟันแข็งแรง ปวดฟนั ฟนั หลอ

สุดท้ายแล้ว ใครมีถงุ ฝนั สีดา อยู่ใตเ้ ตียงคะ แม่มด เทวดาจ้อย ลุงเต่า

ถ้านกั เรียนเป็นแมม่ ด นกั เรยี นจะปฏบิ ตั ิอยา่ งไรคะ

ถ้านักเรียนเป็นเทวดาจ้อย นักเรียนจะป้องกนั ไม่ใหแ้ ม่มด ขโมยถงุ ฝนั ได้อยา่ งไรคะ

รหู้ รือไม่ นทิ านมหี ลายเรื่อง แต่ละเรอื่ งมกั แฝงข้อคดิ คตสิ อนใจไว้ดว้ ย เชน่ กระต่ายกับเตา่ สอนใหไ้ มป่ ระมาท ลกู หมูสามตวั สอนใหร้ จู้ กั และความพยายามจะนาไปสคู่ วามสาเรจ็ ขยันหมั่นเพียรไม่เกยี จครา้ น

รหู้ รือไม่ นิทานมหี ลายเร่อื ง แตล่ ะเร่อื งมักแฝงข้อคดิ คตสิ อนใจไวด้ ้วย เชน่ กบเลือกนาย สอนให้รู้จักพอ ไม่โลภมาก เด็กเล้ยี งแกะ สอนให้มคี วามซ่อื สัตย์ ไม่พดู โกหก

รว่ มกนั แตง่ นิทานโดยใช้ตวั ละครตอ่ ไปน้ี สงิ โต แกะ เสอื แมว

นกั เรยี นคนแรกแตง่ ประโยค อยา่ งนอ้ ย ๑ ประโยค โดยใช้ตัวละครที่กาหนด

นักเรียนคนตอ่ มา แตง่ ประโยค ตอ่ จากนกั เรียนคนก่อนหนา้

๒บทท่ี สามัคคคี อื พลัง เป้าหมายการเรียนรปู้ ระจาบทท่ี ๒ • อา่ นออกเสียงคา ข้อความ เร่อื งสน้ั ๆ และบทดอกสร้อยง่ายๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง • อธบิ ายความหมายของคา และข้อความท่อี า่ นได้ • ระบุขอ้ คิด และนาขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากการอ่านหรือฟังวรรณกรรมไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้

แนะนาคาศพั ท์ ช้างพลาย งวง มดแดง ชา้ งตวั ผู้ จมกู ของช้างที่ย่นื ยาวออกไป มดทม่ี สี ีสม้ หรอื น้าตาลปนแดง

แนะนาคาศพั ท์ รงั ฝาแฝด ไฝ ท่ีอยอู่ าศัยของสัตว์บางชนดิ คนที่มพี อ่ และแมค่ นเดียวกัน จุดหรือต่มุ นูนสดี าหรอื แดง เช่น รังมดแดง คลอดพร้อมๆ กนั ทอี่ ย่คู งท่บี ริเวณผวิ หนงั

แนะนาคาศัพท์ สงั เกต สามคั คี ปรบมือ ตงั้ ใจดู จับตาดู ความพร้อมเพรียงกนั เอาฝา่ มือตบกันหลายๆ ครัง้ ความปรองดองกัน ให้เกิดเสียง เพอื่ แสดงความยนิ ดี

การอา่ นออกเสยี งบทดอกสรอ้ ย มดแดง มดเอ๋ย มดแดง เลก็ เล็ก เร่ยี วแรง แข็งขยัน ใครกลา้ กราย ทาร้าย ถึงรังมัน ก็ว่ิงพรู กรกู ัน มาทันที สู้ได้ หรือมไิ ด้ ใจสาหัส ปากกัด ก้นต่อย ไมถ่ อยหนี ถ้ารงั เรา ใครกล้า มาราวี ต้องต่อตี ทรหด เหมือนมดเอย นายทัด เปรยี ญ

มาจบั ค่คู าศพั ท์ เข้าไปปะปน กบั ความหมายกนั คะ่ อดทน บึกบึน กรู พรอ้ มกันเข้าไป ราวี ทรหด รบกวนหรือระราน ใจสาหสั โดยใชก้ าลังรงั แก กลา้ กราย ใจสู้ ไมเ่ กรงกลัวผู้อน่ื

ถา้ มีคนไปทาลายรงั มด มดแดงจะทาอยา่ งไรคะ หนอี อกจากรัง รว่ มกันสู้

ใครปฏบิ ัตติ ามขอ้ คิดทไ่ี ด้จากบทดอกสร้อย มดแดง ๓ ๑๒ นนท์ทงิ้ ขยะ นุน่ กบั นัทช่วยกัน นา่ นช่วยคุณครู ลงในถังขยะ ทาการบ้าน แจกสมดุ ใหเ้ พื่อน

ร้หู รือไม่ เอย ดอกสร้อย เปน็ บทร้อยกรองชนิดหน่งึ มแี ผนผัง ดงั นี้ เอย๋ วรรคแรก คาที่ ๑ และ ๓ ตอ้ งเปน็ คาเดยี วกัน คาท่ี ๒ ตอ้ งเป็นคาว่า เอย๋ วรรคสุดท้ายลงท้ายด้วยคาวา่ เอย

เติมคาลงในช่องว่างให้เปน็ บทดอกสรอ้ ยท่ีสมบูรณ์ เหมียว นั่ง แมว_เอ_๋ย_แมว_เห_ม_ีย__ว กตัญญู รูปรา่ งประเปรยี วเปน็ นกั หนา เอย รอ้ งเรยี กเหมียวเหมยี วเดี๋ยวกม็ า เอย๋ ขา เคล้าแขง้ เคลา้ _ข_า_น่าเอ็นดู รูจ้ กั เอารกั เข้าต่อต้ัง ค่าค่าซ้า_น_่ัง_ระวงั หนู ควรนบั วา่ มนั _ก_ต_ญั _ญ__ู พอดูอยา่ งไว้ใสใ่ จ_เอ_ย_ นายทัด เปรยี ญ

มาอา่ นออกเสียง นทิ านเรอื่ ง ช้างเกเร กนั ค่ะ ชา้ งพลายตัวหน่ึงอวดดีวา่ รา่ งกายใหญโ่ ตไม่กลัวใคร ใครจะมากีดขวางไมไ่ ด้ มนั เทีย่ วอาละวาดอยใู่ นป่า ครน้ั เจอรงั มดแดงทตี่ ิดอยกู่ บั ก่ิงไมจ้ ึงร้องตวาดไปว่า “เจา้ มดตวั นิด เจา้ เกะกะขวางทางขา้ อยนู่ ะ” วา่ แล้วก็แกลง้ เอางวงฟาดไป หมายจะให้รังมดแดงหลดุ ลงมา มดแดงก็กรกู นั กัดช้างทวั่ ทั้งตวั จนช้างเจบ็ ปวด ทุกข์ทรมานมาก ร้องด้วยความเจ็บปวดและวงิ่ หนไี ป เรยี บเรียงโดย เฉลา อรณุ รตั น์

นกั เรียนอยากเป็นชา้ งหรอื มดแดง เพราะอะไรคะ

ถา้ มดแดงไมช่ ว่ ยกนั กัดชา้ ง จะเป็นอยา่ งไรคะ

ชว่ ยกันคดิ ทา่ ทางประกอบเพลง มดแดง กนั คะ่ มดแดง ไตแ่ ข้ง ไต่ขา ไต่เสือ้ ไตผ่ า้ ตุ๊งแฉง่ ตุ๊งแฉง่

๓บทท่ี รักแทข้ องแม่ เป้าหมายการเรียนรู้ประจาบทที่ ๓ • อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ และเรื่องส้นั ๆ ได้ถกู ตอ้ ง • อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ า่ นได้ • ระบุข้อคดิ และนาข้อคดิ ทีไ่ ด้จากการอ่านหรือฟงั วรรณกรรมไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้

แนะนาคาศัพท์ ไก่ ลกู เจยี๊ บ เหย่ียว ลกู ไกท่ ่ยี ังไมผ่ ลัดขน สัตว์ปีกที่หากินตามพืน้ ดนิ นกทีม่ ปี ากคม ปกี แข็งแรง บินไดร้ ะยะสัน้ ๆ มเี ลบ็ ยาวแหลม ลา่ สตั วเ์ ป็นอาหาร

แนะนาคาศัพท์ พระธุดงค์ กลด ฉนั พระท่ปี ฏิบัติกจิ อยา่ งเครง่ ครัด รม่ ในท่นี ี้หมายถึง ร่มขนาดใหญ่ กนิ ใชก้ ับภิกษุสามเณร มดี ้ามยาว สาหรับพระธดุ งค์โดยเฉพาะ

แนะนาคาศัพท์ กระทอ่ ม เสบยี ง ขา้ วสกุ เรือนเลก็ ๆ ทาพออย่ไู ด้ อาหารที่เก็บไว้กิน ข้าวท่ีหงุ สุกแลว้ บางคร้งั เรยี กวา่ ข้าวสวย

เตมิ เลข ๑ - ๕ เรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดข้ึนกนั ค่ะ แมไ่ กอ่ อกไข่และฟกั ลูกไก่ ๗ ตวั แม่ไก่ใชป้ ีกปกปอ้ งลูกไกไ่ ว้จากเหย่ยี ว เหยยี่ วตวั ใหญร่ ่อนมาโฉบตั้งใจจะกนิ ลูกไก่ ตากับยายได้ยินเสยี งลกู ไกร่ ้อง จึงช่วยกันไลเ่ หยี่ยวไป แม่ไกแ่ ละลูกไก่รกั ตากบั ยายมากขึน้ เพราะตายายช่วยไว้

เตมิ เลข ๖ - ๑๐ เรยี งลาดบั เหตุการณ์ทเี่ กิดข้ึนกันค่ะ พระธุดงค์มาปกั กลดอยู่เชิงเขา เทวดารับเอาลูกไกท่ ง้ั ๗ ไปเป็นดาวบนฟา้ แมไ่ ก่ไดย้ นิ ตากับยายจปึงรสึกลษะาชกีวันิตวจิ่งึ เสขลา้ ะกชอีวงิตไฟวิ่งเข้ากองไฟ ลูกไกท่ ้งั ๗ ตัว ว่งิ เข้ากองไฟดว้ ยความรกั แมไ่ ก่ ตากับยายคยุ กนั ว่า ต้องฆ่าไกท่ าอาหารถวายพระ

ขอ้ คิดของนิทานเร่อื ง ดาวลูกไก่ คืออะไรกนั นะ

ในการแสดงเร่อื ง ดาวลูกไก่ ต้องมีคนแสดงอย่างนอ้ ยก่คี น และแต่ละคนแสดงเป็นใครกนั บ้างคะ

พฤตกิ รรมใดของแมไ่ กแ่ ละลกู ไก่ท่ไี มค่ วรนามาเปน็ แบบอยา่ งคะ

๔บทท่ี สักวาพดู จาใหร้ ้คู ิด เป้าหมายการเรยี นร้ปู ระจาบทที่ ๔ • อ่านออกเสยี งคา ข้อความ เรือ่ งสั้นๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ได้ถูกตอ้ ง • อธบิ ายความหมายของคา และข้อความที่อ่านได้ • ระบุขอ้ คิด และนาข้อคิดทไี่ ดจ้ ากการอา่ นหรือฟังวรรณกรรมไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้

แนะนาคาศัพท์ บอระเพด็ พะยอม ชิงชา้ ไมเ้ ถาเล้อื ย เป็นสมนุ ไพร ตน้ ไมช้ นิดหนง่ึ มีดอกสขี าว มกี ล่นิ หอม ท่ีน่ังท่ผี กู ดว้ ยเชอื กหรือโซ่ และมีรสขม เปรียบได้กบั คาพูดท่ีอ่อนหวานนา่ ฟัง แขวนตามก่งิ ไม้หรอื ที่สงู สาหรบั ไกวไปมา

แนะนาคาศพั ท์ ผู้ดี ไพร่ พจมาน พลเมอื งทั่วไป คาพดู คนทเ่ี กิดในตระกลู ดี มมี ารยาทดีงาม

แนะนาคาศพั ท์ งานร่ืนเรงิ ระอา ประเทียบ เทยี บ เปรยี บ งานทส่ี ร้างความสนกุ สนาน เบื่อหน่าย หมดกาลงั ใจ เชน่ งานวัด งานเทศกาล เพราะถูกรบกวน