Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น ป.4

แผนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น ป.4

Published by rsimmakom79, 2021-05-28 10:54:25

Description: เวลา

Search

Read the Text Version

1 แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 เรอ่ื ง เวลา นางรชั นยี ์ สิมมาคำ ตำแหนง่ ครู โรงเรยี นเทศบาล ๒ ศรบี ุญเรอื ง กองการศกึ ษา เทศบาลเมืองเลย จงั หวดั เลย กรมสง่ เสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

2 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และการ นำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และ นำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วยแก้ปัญหาท่ี กำหนดให้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัดและ นำไปใช้ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง รปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ สาระที่ 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามร้ทู างสถิตใิ นการแก้ปญั หา มาตรฐาน ค 3.2 เขา้ ใจหลกั การนบั เบ้ืองตน้ ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้

3 ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และการ นำไปใช้ ช้ัน ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป. 4 จำนวนนบั ทมี่ ากกวา่ 100,000 และ 0 1. อา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ - การอ่าน การเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจำนวน ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจำนวน นบั มากกวา่ 100,000 - หลกั ค่าประจำหลกั และค่าของเลขโดด 2. เปรยี บเทยี บและเรียงลำดับจำนวนนับ ในแต่ละหลกั และการเขยี นตัวเลข ท่ีมากกว่า 100,000 จากสถานการณ์ แสดงจำนวนในรูปกระจาย ตา่ งๆ - การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับจำนวน - คา่ ประมาณของจำนวนนับและการใช้ เคร่อื งหมาย ≈ เศษสว่ น 3. บอก อา่ น และเขยี นเศษส่วน จำนวน - เศษสว่ นแท้ เศษเกิน คละแสดงปริมาณส่งิ ตา่ งๆ และแสดง - จำนวนคละ สง่ิ ตา่ งๆ ตามเศษสว่ น จำนวนคละท่ี - ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งจำนวนคละและ กำหนด เศษเกนิ 4. เปรียบเทยี บ เรยี งลำดับเศษสว่ น และ - เศษส่วนทเี่ ท่ากนั เศษส่วนอย่างต่ำและ จำนวนคละทต่ี ัวส่วนตวั หนงึ่ เปน็ พหคุ ูณ เศษสว่ นทเ่ี ท่ากับจำนวนนบั ของอกี ตัวหนึง่ - การเปรยี บเทียบ เรยี งลำดับเศษสว่ น และจำนวนคละ ชน้ั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป. 4 ทศนิยม 5. อ่านและเขียนทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 - การอ่านและการเขยี นทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำแหนง่ แสดงปริมาณของสิง่ ตา่ งๆ ตำแหน่ง ตามปรมิ าณที่กำหนด

4 และแสดงสิง่ ต่างๆ ตามทศนยิ มท่ี - หลัก คา่ ประจำหลัก คา่ ของเลขโดดใน กำหนด แต่ละหลักของทศนยิ ม และการเขยี น 6. เปรียบเทียบและเรยี งลำดบั ทศนยิ มไม่ ตัวเลขแสดงทศนิยมในรปู กระจาย เกนิ 3 ตำแหน่งจากสถานการณ์ต่างๆ - ทศนยิ มที่เท่ากนั - การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดับทศนิยม การบวก การลบ การคูณณ การหาร จำนวนนับทม่ี ากกวา่ 100,000 และ 0 7. ปริมาณผลลพั ธ์ของการบวก การลบ - การประมาณผลลพั ธข์ องการบวก การ การคูณ การหาร จากสถานการณต์ า่ งๆ ลบ การคูณ การหาร อยา่ งสมเหตสุ มผล - การบวกและการลบ 8. หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค - การคณู และการหาร สัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค - การบวก ลบ คูณ หารระคน สัญลกั ษณ์แสดงการลบของจำนวนนับ - การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทย์ ที่มากกว่า 100,000 และ 0 ปัญหา พร้อมท้ังหาคำตอบ 9. หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สัญลกั ษณ์แสดงการคูณของจำนวน หลายหลกั 2 จำนวน ที่มีผลคณู ไม่เกนิ 6 หลัก และประโยคสญั ลักษณ์แสดง การหารทีต่ ัวตง้ั ไม่เกิน 6 หลัก ตวั หาร ไม่เกนิ 2 หลกั

5 สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสมั พันธ์ ฟงั ก์ชนั ลำดับและอนุกรม และ นำไปใช้ ชนั้ ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป. 4 แบบรูป (มกี ารจัดการเรียนการสอน เพื่อเปน็ - แบบรูปของจำนวนท่ีเกดิ จากการคณู พ้ืนฐาน แต่ไมว่ ัดผล) การหารด้วยจำนวนเดยี วกัน สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นพิ จน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสมั พนั ธ์หรอื ชว่ ยแกป้ ญั หาท่ี กำหนดให้ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป. 4 - - สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพืน้ ฐานเก่ียวกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของส่ิงทีต่ ้องการวดั และ นำไปใช้ ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป. 4 เวลา 1. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา - การบอกเวลาเป็น วินาที นาที ชัว่ โมง เกย่ี วกบั เวลา วัน สัปดาห์ เดือน ปี - การเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใช้ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งหนว่ ยเวลา - การอ่านตารางเวลา - การแกโ้ จทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป. 4 การวดั และสรา้ งมุม 2. วดั และสร้างมมุ โดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ - การวดั ขนาดของมุมโดยใชโ้ พร แทรกเตอร์ - การสร้างมมุ เมอ่ื กำหนดขนาดของมมุ

6 รปู สเ่ี หลยี่ มมุมฉาก 3. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา - ความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หลี่ยมมมุ เก่ยี วกบั ความยาวรอบรูปและพื้นทข่ี อง ฉาก รูปส่เี หลย่ี มมุมฉาก - พ้นื ท่ขี องรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉาก - การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกบั ความยาว รอบรปู และพ้ืนท่ีของรปู สี่เหล่ียมมุม ฉาก สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบัตขิ องรปู เรขาคณติ ความสมั พันธ์ระหวา่ ง รูปเรขาคณิต และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนำไปใช้ ชั้น ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง รูปเรขาคณิต ป. 4 - ระนาบ จุด เสน้ ตรง รังสี ส่วนของ 1. จำแนกชนดิ ของมุม บอกช่ือมุม สว่ นประกอบของมุมและเขียน เสน้ ตรง และสญั ลกั ษณแ์ สดงเสน้ ตรง สญั ลักษณ์แสดงมมุ รังสี ส่วนของเสน้ ตรง 2. สร้างรูปสี่เหลยี่ มมุมฉากเม่ือกำหนด - มุม ความยาวของด้าน • ส่วนประกอบของมุม • การเรยี กชอ่ื มุม • สัญลักษณ์แสดงมุม • ชนดิ ของมุม - ชนดิ และสมบตั ิของรปู ส่เี หลีย่ มมุมฉาก - การสร้างรปู ส่เี หลย่ี มมมุ ฉาก สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถติ ิในการแก้ปัญหา ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและการนำเสนอ 1. ใช้ขอ้ มลู จากแผนภูมแิ ท่ง ตารางสอง ขอ้ มูล ทางในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา - การอา่ นและการเขยี นแผนภูมิแทง่ (ไม่ รวมการยน่ ระยะ) - การอ่านตารางสองทาง (two – way table)

7 สาระท่ี 3 สถติ ิและความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลกั การนบั เบื้องตน้ ความน่าจะเป็น และนำไปใช้ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 4 - -

8 คำอธิบายรายวิชา รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 160 ช่ัวโมง/ปี ศึกษาจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนที่ มากกว่า 100,000 การหาค่าประมาณของจำนวนนับ การบวกจำนวนสองจำนวน การลบจำนวนสอง จำนวน การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาการบวก และการลบ การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ การคูณจำนวนที่มีหนึ่งหลักกับจำนวนท่ี มากกว่าสี่หลัก การคูณจำนวนที่มีสองหลักกับจำนวนที่มีสามหลัก การคูณจำนวนที่มีสามหลักกับ จำนวนทม่ี สี ามหลกั และการคณู จำนวนที่มหี ลายหลัก การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดง การคูณ การแก้โจทย์ปัญหาการคูณ การสร้างโจทย์ปัญหาการคูณ การหารที่ตัวหารมีหนึ่งหลัก การ หารที่ตัวหารมีสองหลัก การหารที่ตวั หารมีสามหลกั การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดง การหาร การแก้โจทย์ปัญหาการหาร การสร้างโจทย์ปญั หาการหาร แบบรูปของจำนวนที่เกิดจากการ คูณจำนวนเดียวกัน แบบรูปของจำนวนที่เกิดจากการหารจำนวนเดียวกัน ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี สว่ นของเสน้ ตรง และสญั ลกั ษณ์ การเรียกชอื่ มมุ การวดั และการสรา้ งมุม สมบตั ขิ องรปู ส่ีเหลี่ยมจัตุรัส และรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า การสร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวรอบรูปของรูป สี่เหลยี่ มมุมฉาก พนื้ ทข่ี องรูปสี่เหล่ียมมุมฉาก โจทยป์ ัญหา รปู ประกอบ และการแกโ้ จทย์ปญั หา โดยการจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ท่ใี กล้ตวั ผเู้ รียนได้ศึกษา ค้นควา้ ฝกึ ทักษะ โดย การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การ แก้ปัญหา การให้เหตุผล การเชื่อมโยง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้าน ความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวัน อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มี ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีความเชื่อมั่น ในตนเอง ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9, ป.4/10, ป.4/11, ป.4/12, ป.4/13, ป.4/14, ป.4/14, ป.4/15, ป.4/16 ค 1.2 (มกี ารจัดการเรยี นการสอนเพ่อื เป็นพนื้ ฐานแตไ่ มว่ ัดผล) ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2 ค 3.1 ป.4/1 รวม 23 ตวั ชวี้ ัด

9 โครงสร้างเวลาเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 บทท/ี่ เร่อื ง เวลา (ช่ัวโมง) ภาคเรียนท่ี 1 บทที่ 1 จำนวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000 15 บทที่ 2 การบวกและการลบจำนวนนับทม่ี ากกวา่ 100,000 13 บทท่ี 3 การคูณ การหาร 31 บทท่ี 4 การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนับ 13 บทที่ 5 เวลา 10 รวมภาคเรียนท่ี 1 82

10 โครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา เวลา เรยี นรู้/ตวั ชี้วัด (ชม.) ค 2.1 การบอกระยะเวลา ต้องใช้ความสัมพันธ์ของ 10 ป.4/1 หน่วยเวลาและการดำเนินการของจำนวน ตารางเวลา จะช่วยให้อ่านข้อมูลได้สะดวกและ ชัดเจนขึน้ และนำไปแก้ปัญหาเกีย่ วกับเวลา

11 กำหนดแผนการจัดการเรียนรู้ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เวลา แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี เร่อื ง จำนวน (ชว่ั โมง) 1 การบอกระยะเวลาเป็นนาที วินาที 2 การบอกระยะเวลาเป็นนาที ช่วั โมง วัน 1 3 การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ช่ัวโมง วัน สัปดาห์ 1 1 เดอื น ปี 4 การเปรียบเทยี บระยะเวลา 1 5 การอ่านตารางเวลา 1 6 การวิเคราะห์และหาคำตอบจากโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั วัน 1 เดือน ปี เวลา 1 7 โจทย์ปญั หาการบวกเกย่ี วกบั เวลา 1 8 โจทย์ปญั หาการลบเก่ยี วกบั เวลา 1 9 โจทย์ปญั หาการคูณเก่ยี วกับเวลา 1 10 โจทย์ปัญหาการหารเกี่ยวกับเวลา 10 รวม

12 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เวลา เวลาเรียน 10 ช่วั โมง เรอื่ ง การบอกระยะเวลาเปน็ นาที วินาที เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี .........ปกี ารศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนำไปใช้ ตวั ช้ีวัด ค 1.1 ป.4/1 : แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั เวลา สาระสำคญั การบอกระยะเวลาเป็น วินาที นาที เป็นการบอกชว่ งเวลาในการทำกิจกรรมซ่ึงใช้ความรู้เรื่อง ความสมั พันธเ์ วลาคิดคำนวณระยะเวลาทีต่ อ้ งการ โดย 60 วินาที เทา่ กบั 1 นาที จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลกั การบอกระยะเวลาเป็นนาที วนิ าทีได้ (K) 2. เขียนแสดงหลกั การของระยะเวลาเปน็ นาที วนิ าทีได้ (P) 3. นำความรเู้ กีย่ วกบั การบอกระยะเวลาไปใช้แกป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกระยะเวลาเปน็ นาที วนิ าที ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล 4. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

13 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครสู นทนาเกี่ยวกบั เวลาในชวี ิตประจำวนั เชน่ ตืน่ นอนเวลาใด เขา้ เรยี นชว่ั โมงที่หนึ่ง เวลาใดเข้านอนเวลาใด เลิกเรียนเวลาใด แล้วสุ่มนักเรียนออกมาหมุนเข็มนาฬิกาจากนาฬิกาจำลอง และเขียนบอกเวลาโดยใช้จดุ บนกระดานดำ ข้ันสอน 2. ครูยกตวั อย่างเหตุการณใ์ นชวี ิตจริงท่เี ก่ียวกับระยะเวลา เช่น ระยะเวลาในการเรียน วิชาคณิตศาสตร์โดยอธิบายการอ่านเวลาพร้อมทั้งหมุนเข็มนาฬิกาจากนาฬิกาจำลอง และใช้การถาม ตอบ ดังน้ี จากเวลาบนหนา้ ปดั นาฬิกาเปน็ เวลาทเี่ ริ่มเรยี นวชิ าคณิตศาสตร์ - เราเร่มิ เรียนวิชาคณติ ศาสตร์เวลาใด (9 นาฬิกา30 นาทีหรอื 9.30 น.) - เขม็ สั้นชร้ี ะหวา่ งตวั เลขใด (9 กบั 10) - เข็มยาวช้ีตัวเลขใด (6) - เขม็ วนิ าทีช้ตี ัวเลขใด (12) 3. ครูหมุนเข็มวินาทีมาที่เลข 6 ครูอธิบายแนะนำและใช้การถามตอบจนนักเรียนตอบ ได้ว่า เมอ่ื ระยะเวลาผ่านไป 30 วินาที จะเปน็ เวลา 9 นาฬกิ า 30 นาที 30 วินาที 4. ครหู มนุ เขม็ วินาทมี าทีเ่ ลข 12 ครอู ธิบายแนะนำและใช้การถามตอบจนนักเรียนตอบ ได้ว่า เมื่อระยะเวลาผ่านไป 60 วินาที เข็มวินาที จะเดินครบ 1 รอบ และเข็มยาวจะเดินไป 1 นาที เป็นเวลา 9 นาฬกิ า 31 นาที

14 ในทำนองเดียวกัน ครูให้นักเรียนสังเกตจากการหมุนเข็มวินาที ครบหนึ่งรอบ สอง รอบ สามรอบ สี่รอบ และห้ารอบ เข็มยาวจะเดินอย่างไร แล้วใช้การถามตอบจนนักเรียนร่วมกันสรปุ ได้ว่า เขม็ วนิ าทีเดนิ ไป 5 รอบ เขม็ ยาวเดนิ ไป 5 ช่องเล็ก เปน็ ระยะเวลา 5 นาที เข็มวินาทีเดินไป 4 รอบ เข็มยาวเดนิ ไป 4 ช่องเลก็ เป็นระยะเวลา 4 นาที เข็มวนิ าทเี ดินไป 3 รอบ เขม็ ยาวเดินไป 3 ชอ่ งเลก็ เป็นระยะเวลา 3 นาที เขม็ วนิ าทีเดินไป 2 รอบ เข็มยาวเดนิ ไป 2 ชอ่ งเลก็ เป็นระยะเวลา 2 นาที เข็มวินาทีเดินไป 1 รอบ เขม็ ยาวเดินไป 1 ช่องเลก็ เป็นระยะเวลา 1 นาที แสดงว่า เขม็ วนิ าทีเดินครบ 1 รอบ เป็นระยะเวลา 60 วินาที เข็มยาวเดนิ ไป 1 นาที ดงั นน้ั 60 วินาที เทา่ กับ 1 นาที 5. ครตู ิดแถบกระดาษอธิบายแนะนำ ระยะเวลา หมายถึง ชว่ งเวลาทต่ี ่อเน่ืองจากเวลาหนงึ่ ถึงอกี เวลาหน่ึง 6. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์นักเรียนไปหำหมอเพื่อทำการตรวจรักษาโรคในเวลาเช้า แล้วใชก้ ารถามตอบ เชน่ - นกั เรียนไปถงึ คลินกิ และรับบตั รคิวเวลาใด (9 นาฬกิ า 20 นาที) ครูหมุนเขม็ นาฬกิ ามาท่เี ลข 5 และหมุนเข็มวินาทีมาที่เลข 3

15 - พยาบาลเรียกให้นักเรียนไปพอหมอเพื่อทำการตรวจรักษาเวลาใด (9 นาฬิกา 25 นาที 15 วินาที) 7. ครูอาจจัดกิจกรรมในทำนองเดียวกันอีกหลาย ๆ ครั้ง จนสังเกตว่า นักเรียนเขียน บอกระยะเวลาได้ถกู ตอ้ ง 8. ครูยกตัวอย่างระยะเวลาเป็นนาที วินาที แล้วใช้การถามตอบให้นักเรียนอธิบายวิธี คิด ดังน้ี นวิ ขจ่ี กั รยานจากบา้ นไปตลาดใช้เวลา 3 นาที คิดเป็นกี่วนิ าที - 1 นาที คิดเปน็ กว่ี นิ าที (60 วนิ าที) - 3 นาที จะมากกว่าหรือน้อยกว่า 60 วินาที เพราะเหตุใด (มากกว่า 60 วินาที เวลา 3 นาที มากกว่าเวลา 1 นาท)ี - จะทำระยะเวลา 3 นาที ให้เป็นวินาทีได้อย่างไร (เขียนแผนภาพแสดงวิธีคิด ดังน)้ี 1 นาที 1 นาที 1 นาที 60 วินาที 60 วินาที 60 วินาที - เขยี นแสดงวิธหี าคำตอบได้อย่างไร เนอ่ื งจาก 1 นาที คดิ เปน็ 60 วนิ าที จะได้ 3 นาที คดิ เป็น 60 + 60 + 60 = 180 วนิ าที หรือ 3 นาที คดิ เป็น 3 × 60 = 180 วินาที ดังนนั้ 3 นาที คิดเปน็ 180 วนิ าที ตอบ นวิ ข่จี กั รยานจากบ้านไปตลาดใชเ้ วลา ๑๘๐ วินาที 9. ครูใช้การถามตอบให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายวิธีคิดและครูเขียนอธิบายแนะนำตาม ตัวอยา่ งดังน้ี ตัวอย่าง 1 กลอยแข่งขันว่ายน้ำ 200 เมตร ใชเ้ วลา4 นาที 20 วินาที คดิ เปน็ กวี่ นิ าที วิธีคิด 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที 60 วินาที 60 วินาที 60 วนิ าที 60 วนิ าที เนื่องจาก 1 นาที คิดเปน็ 60 วินาที

16 จะได้ 4 นาที คดิ เปน็ 60 + 60 + 60 + 60 = 240 วินาที หรือ 4 นาที คดิ เป็น 4 × 60 = 240 วินาที ดังนน้ั 4 นาที 20 วนิ าที คิดเป็น 240 + 20 = 260 วินาที ตอบ กลอยแข่งขันว่ายน้ำ ๒๐๐ เมตร ใช้เวลา ๒๖๐ วินาที ตวั อยา่ ง 2 พราวแข่งขนั ว่งิ ระยะทาง 400 เมตร ใชเ้ วลา 225 วินาที พราวใช้เวลาวงิ่ กนี่ าที กว่ี ินาที วธิ คี ดิ 1 225 วนิ าที 60 วนิ าที 60 วนิ าที 60 วนิ าที 45 วินาที เนอื่ งจาก 60 วินาที คิดเปน็ 1 นาที ซึ่ง 225 = 60 + 60 + 60 +45 จะได้วา่ 225 วินาที คดิ เป็น 3 นาที 45 วนิ าที ดังนน้ั พราวใชเ้ วลาวงิ่ 3 นาที 45 วนิ าที วธิ ีคดิ 2 เนื่องจาก 60 วนิ าที คิดเป็น 1 นาที เปล่ียน 225 วนิ าที เปน็ นาที โดยการแบ่งครงั้ ละ 60 วนิ าที ซ่งึ 225 ÷ 60 ได้ 3 เศษ 45 จะได้วา่ 225 วนิ าที คิดเปน็ 3 นาที 45 วินาที ดงั น้ัน พราวใช้เวลาว่ิง 3 นาที 45 วนิ าที ตอบ ๓ นาที ๔๕ วินาที 10. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 1 การบอกระยะเวลาเป็นนาที วินาที เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 1 ข้นั สรุป 11. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปสงิ่ ทไี่ ด้เรยี นรู้รว่ มกัน ดังนี้ - เราบอกเวลาเป็นนาฬิกา และนาที - ระยะเวลา หมายถึง ชว่ งเวลาท่ตี อ่ เนอ่ื งจากเวลาหนึง่ ถงึ อกี เวลาหนง่ึ - เครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้บอกระยะเวลา คือ ทวิภาค ( : ) ใช้คั่นระหว่างนาที กบั วินาที - 60 วนิ าที เทา่ กบั 1 นาที สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬิกาจำลอง หรือนาฬกิ าจรงิ (ควรมที งั้ เขม็ สนั้ เขม็ ยาว และเข็มวนิ าท)ี 2. แถบกระดาษความหมายระยะเวลา 3. ใบงานที่ 1 การบอกระยะเวลาเป็นนาที วนิ าที

17 การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทีต่ ้องการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 1 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานท่ี 1 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทุก ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์

18 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน (นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

19 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เวลา เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมง เรอ่ื ง การบอกระยะเวลาเป็นนาที ชั่วโมง วัน เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง สอนวันท.่ี ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่ .........ปีการศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนำไปใช้ ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ป.4/1 : แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั เวลา สาระสำคญั การบอกระยะเวลาเปน็ นาที ชว่ั โมง วัน เปน็ การบอกช่วงเวลาในการทำกิจกรรมซึ่งใช้ความรู้ เรอ่ื ง ความสัมพนั ธเ์ วลาคดิ คำนวณระยะเวลาทตี่ อ้ งการ โดย 60 นาที เทา่ กับ 1 ชวั่ โมง 24 ช่วั โมง เท่ากบั 1 วัน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายหลักการบอกระยะเวลาเป็นนาที ช่วั โมง วนั ได้ (K) 2. เขยี นแสดงหลกั การของระยะเวลาเป็นนาที ชั่วโมง วนั ได้ (P) 3. นำความรูเ้ ก่ียวกบั การบอกระยะเวลาไปใชแ้ กป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การบอกระยะเวลาเป็นนาที ชวั่ โมง วัน

20 ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล 4. ความสามารถในการเช่ือมโยง คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนเรื่อง การบอกระยะเวลาเป็นนาที วินาที และการเขียนเป็นทวิภาค โดย ใชก้ ารถามตอบให้นกั เรยี นออกมาเขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบบนกระดาน เช่น - 125 วนิ าที คิดเป็นกน่ี าที กวี่ ินาที และเขยี นเปน็ ทวิภาค เนอื่ งจาก 60 วินาที เป็น 1 นาที จะได้ 125 วนิ าที คิดเปน็ 125 ÷ 60 ได้ 2 เศษ 5 ดงั น้ัน 125 วินาที คดิ เป็น 2 นาที 5 วินาที เขยี นเป็นทวิภาค 2 : 5 - 7 นาที 15 วินาที คดิ เป็นก่วี ินาที เน่ืองจาก 1 นาที คิดเป็น 60 วนิ าที จะได้ 7 นาที 15 วนิ าที คดิ เปน็ (7 × 60) + 15 = 435 วนิ าที ดังนน้ั 7 นาที 15 วนิ าที คดิ เป็น 435 วินาที ขั้นสอน 2. ครูยกตัวอย่างเหตุการณ์ในชีวิตจริงที่เกี่ยวกับระยะเวลา โดยอธิบายการอ่านเวลา พร้อมท้งั หมุนเข็ม นาฬกิ าจากนาฬกิ าจำลอง และใชก้ ารถามตอบ เช่น 1) จากเวลาบนหนา้ ปัดนาฬกิ าเป็นเวลาที่พอ่ จะออกจากบ้านไปทำงาน - พ่อออกจากบ้านไปทำงานเวลาใด (6 นาฬิกา หรอื 6.00 น.)

21 - เขม็ สัน้ ชี้ตัวเลขใด (6) - เข็มยาวช้ตี วั เลขใด (12) - เขม็ วินาทีช้ตี ัวเลขใด (12) 2) ขณะนพ้ี ่อเดินออกจากบา้ นถึงหนา้ ปากซอยเพื่อขน้ึ รถรบั จา้ ง - พ่อเดนิ ถงึ ปากซอยเวลาใด (6 นาฬิกา 20 นาที หรือ 6.20 น.) - พอ่ ใชเ้ วลาเดินจากบา้ นถึงปากซอยก่นี าที กี่วนิ าที (20 นาที 15 วนิ าที) - 20 นาที 15 วินาที เขียนแสดงโดยใชท้ วิภาคไดอ้ ย่างไร (20 : 15) 3) ขณะนพี้ อ่ มาถงึ สถานท่ที ำงาน - พอ่ เดินทางถงึ สถานทท่ี ำงานเวลาใด (7 นาฬกิ า หรอื 7.00 น.) - พ่อใชเ้ วลาเดนิ ทางจากหน้าปากซอยถงึ สถานทท่ี ำงานกี่นาที (40 นาที) - พอ่ ใช้เวลาเดนิ ทางจากบา้ นถึงสถานท่ที ำงานกี่นาที (60 นาที ) - พ่อใช้เวลาเดินทางจากบ้านถงึ สถานที่ทำงานกช่ี ่วั โมง (1 ช่ัวโมง) ครูใช้การถามตอบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนาทีกับชั่วโมง จนนักเรียนสรุปได้ ว่า 60 นาที คดิ เปน็ 1 ชั่วโมง 4) พอถึงสถานที่ทำงานพ่อรับประทานอาหารเช้า และใช้เวลา พักผ่อนอ่าน หนงั สอื พิมพ์ จนถึงเวลานี้เป็นเวลาท่พี ่อเร่ิมทำงาน - พ่อใช้เวลารับประทานอาหารเช้าและพักผ่อนอ่านหนังสือพิมพ์กี่ชั่วโมง กี่ นาที กวี่ นิ าที (1 ช่ัวโมง 25 นาที 40 วินาที )

22 ครูอธิบายแนะนำการเขียนระยะเวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที 40 วินาที โดยใช้ ทวิภาคและ การอ่านดงั นี้ 1 : 25 : 40 อา่ นว่า 1 ชว่ั โมง 25 นาที 40 วนิ าที 3. ครูให้นักเรียนสังเกตการหมุนเข็มยาวและการเคลื่อนที่ของเข็มสั้น โดยใช้การถาม ตอบ จนนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายได้วา่ เขม็ ยาวเดินครบ 1 รอบ เป็นระยะเวลา 60 นาที เขม็ สน้ั เดนิ ไป 1 ช่องใหญ่ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง และเข็มสั้นเดินไป 24 ชั่วโมง จะเป็นเวลา 1 วัน ครูให้นักเรียนสรุป ความสัมพันธข์ องเวลาดงั นี้ 60 นาที คดิ เป็น 1 ชัว่ โมง 24 ชว่ั โมง คิดเปน็ 1 วัน 4. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ระยะเวลาเป็นนาที ชั่วโมง วัน แล้วใช้การถามตอบให้ นกั เรยี นอธิบายวธิ ีคิด ดงั นี้ นกั เรยี นออกเดินทางจากโรงเรยี นเพือ่ ไปเข้าคา่ ยลกู เสือ – เนตรนารี ณ จังหวัดราชบุรี โดยออก เดินทางจากโรงเรียน วนั ที่ 15 ตุลาคม 2560 เวลา 8.00 น. และเดินทางกลับ ถงึ โรงเรยี น วันที่ 17 ตุลาคม 2560 เวลา 15.00 น. ในการเขา้ ค่ายลกู เสือ – เนตรนารี ตง้ั แตเ่ ดินทางออกจากโรงเรียนจน กลับถงึ โรงเรียนใช้เวลากี่ชัว่ โมง - จะหาระยะเวลาตั้งแต่เดินทางออกจากโรงเรียนจนกลับถึงโรงเรียนเปน็ กี่ชั่วโมง จะตอ้ งหาอะไรก่อน (จำนวนวนั ในการเข้าค่ายลูกเสอื เนตรนารี) - ในการเขา้ ค่ายลูกเสือเนตรนารี ใช้เวลากี่วนั คดิ ได้อย่างไร อาจใช้เส้นแสดงเวลา ดังน้ี 1 วนั 1 วนั 7 ชั่วโมง 15 ต.ค. 60 16 ต.ค. 60 17 ต.ค. 60 17 ต.ค. 60 8.00 น. 8.00 น. 8.00 น. 15.00 น. ใชเ้ วลา 2 วนั 7 ช่ัวโมง - 1 วนั คิดเป็นก่ชี ั่วโมง (24 ชว่ั โมง) - ในการเข้าค่ายลูกเสือเนตรนารีครั้งนี้ ใช้เวลามากกว่าหรือน้อยกว่า 24 ชั่วโมง เพราะเหตุใด (มากกว่า 24 ชั่วโมง เพราะเขา้ ค่ายลกู เสือเนตรนารี มากกวา่ 1 วนั ) - จะหา 2 วัน 7 ชัว่ โมง เปน็ ชว่ั โมงได้อย่างไร เนือ่ งจาก 1 วนั คดิ เป็น 24 ชว่ั โมง จะได้ 2 วนั 7 ช่วั โมง คิดเป็น (2 × 24) + 7 = 55 ช่วั โมง ดงั นน้ั 2 วัน 7 ชว่ั โมง คิดเปน็ 55 ช่ัวโมง

23 ในการเข้าค่ายลูกเสือ – เนตรนารี ตั้งแต่เดินทางออกจากโรงเรียนจนกลับถึง โรงเรยี นใช้เวลา 55 ชัว่ โมง ในทำนองเดียวกันครูใช้การถามตอบให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายวิธีคิด จาก ตวั อย่างบนกระดาน ดังนี้ ช่างทาสีใช้เวลาทาสบี ้าน 56 ช่ัวโมง คิดเป็นกว่ี ัน กี่ชวั่ โมง วธิ ีคดิ 1 56 ช่ัวโมง 24 ชวั่ โมง 24 ชว่ั โมง 8 (1 วัน) (1 วัน) เนอ่ื งจาก 24 ชัว่ โมง คิดเป็น 1 วนั และ 56 = 24 + 24 + 8 ดังน้นั 56 ชัว่ โมง คิดเป็น 2 วนั 8 ช่ัวโมง ตอบ ช่างทาสใี ช้เวลาทาสีบ้าน ๒ วัน ๘ ช่ัวโมง วิธคี ดิ 2 เน่ืองจาก 24 ช่วั โมง คิดเป็น 1 วัน และ 56 ÷ 24 ได้ 2 เศษ 8 ดงั นน้ั 56 ชวั่ โมง คดิ เปน็ 2 วนั 8 ชัว่ โมง ตอบ ชา่ งทาสใี ช้เวลาทาสีบา้ น ๒ วนั ๘ ชวั่ โมง พ่อเดนิ ทางออกจากท่ที างานเวลา 17.35 น. ถึงบ้านเวลา 19.17 น. พอ่ ใช้เวลา เดนิ ทางนาน เทา่ ใด วธิ ีคดิ 1 ชวั่ โมง 25 นาที 17 นาที 17.35 น. 18.00 น. 19.00 น. 19.17 น. ตอบ พ่อใชเ้ วลาเดินทาง ๑ ชว่ั โมง ๔๒ นาที 10. ครูให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2 การบอกระยะเวลาเปน็ นาที ชว่ั โมง วนั เม่ือเสรจ็ แล้วให้ นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 2 ขั้นสรุป 11. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่งิ ท่ีได้เรียนรรู้ ่วมกัน ดังน้ี - ระยะเวลา หมายถึง ช่วงเวลาที่ตอ่ เน่อื งจากเวลาหนึ่งถงึ อกี เวลาหนง่ึ

24 - เครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้บอกระยะเวลา คือ ทวิภาค ( : ) ใช้คั่นระหว่างนาที กบั วนิ าที และช่ัวโมงกับนาทีกับวนิ าที - 60 วนิ าที เทา่ กบั 1 นาที - 24 ชั่วโมง คิดเป็น 1 วนั สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬกิ าจำลอง หรอื นาฬิกาจรงิ (ควรมีทั้งเขม็ สน้ั เขม็ ยาว และเข็มวนิ าที) 2. ใบงานที่ 2 การบอกระยะเวลาเป็นนาที ชั่วโมง วัน การวดั ผลและประเมนิ ผล ส่ิงที่ต้องการวดั วิธีวัด เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 2 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้ึนไป 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น ใบงานท่ี 2 ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใชข้ ้นึ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสังเกต 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมดา้ น ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ทุก ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ทกั ษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผ่าน เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมด้าน คณุ ลกั ษณะ ทีพ่ ึงประสงค์

25 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน (นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

26 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เวลา เวลาเรยี น 10 ช่ัวโมง เร่อื ง การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวนั ที่....... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นท่ี .........ปกี ารศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนำไปใช้ ตวั ชี้วัด ค 1.1 ป.4/1 : แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั เวลา สาระสำคญั การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปีเป็นการบอกช่วงเวลาในการ ทำกิจกรรมซงึ่ ใชค้ วามรูเ้ รื่อง ความสัมพนั ธ์เวลาคดิ คำนวณระยะเวลาทต่ี อ้ งการ โดย 1 นาที เทา่ กบั 60 วินาที 1 ชั่วโมเง เทา่ กบั 60 นาที 1 วัน เทา่ กบั 24 ชั่วโมง 1 สปั ดาห์ เท่ากบั 7 วนั 1 เดือน เท่ากบั 30 วัน หรอื 31 วัน 1 ปี เท่ากบั 12 เดอื น 1 ปี เทา่ กบั 365 วนั หรอื 366 วัน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายหลักการบอกระยะเวลาเปน็ วนิ าที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปีได้ (K) 2. เขยี นแสดงหลักการของระยะเวลาเป็นวนิ าที นาที ช่ัวโมง วนั สปั ดาห์ เดอื น ปีได้ (P) 3. นำความรูเ้ กี่ยวกบั การบอกระยะเวลาไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกระยะเวลาเปน็ วินาที นาที ชวั่ โมง วนั สัปดาห์ เดอื น ปี ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล 4. ความสามารถในการเช่อื มโยง

27 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูใชก้ ารถามตอบทบทวนเร่ืองความสัมพนั ธ์ของหนว่ ยเวลาจนนกั เรียนบอกได้วา่ 1 นาที มี 60 วนิ าที 1 ช่ัวโมง มี 60 นาที 1 วัน มี 24 ช่ัวโมง 1 สัปดาห์ มี 7 วัน 1 เดอื น มี 30 วัน หรอื 31 วัน 1 ปี มี 12 เดอื น 1 ปี มี 365 วัน หรือ 366 วนั 1 ปี มี 52 สัปดาห์ 2. ครอู ธบิ ายแนะนำนักเรียนวา่ จำนวนวันใน 1 เดอื น ถำ้ ไมไ่ ด้ระบวุ ่าเปน็ เดือนใดให้ถือ ว่า 1 เดือน มี 30 วัน และ 1 ปี มี 365 วัน หรือ 366 วัน ขึ้นอยู่กับว่าเดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน หรือ 29 วนั โดยทัว่ ไปถา้ ไมร่ ะบุเป็นปีใดให้ถือวา่ ปีนัน้ มี 365 วนั และ 1 ปี มี 52 สปั ดาห์ ขน้ั สอน 3. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ต่อไปนี้ ใช้การถามตอบให้นักเรียนร่วมกันแสดงวิธีหา คำตอบดงั นี้ อดลุ ยผ์ อ่ นสง่ รถยนต์จนครบสัญญาเป็นเวลา 3 ปี 8 เดือน คิดเปน็ ก่ีเดือน - ระยะเวลา 1 ปี คดิ เป็นก่เี ดือน (12 เดอื น) - ระยะเวลา 3 ปี จะมากกว่าหรือน้อยกว่า 12 เดือน เพราะเหตุใด (มากกว่า 12 เดอื น เพราะระยะเวลา 3 ปี มากกวา่ 1 ป)ี - จะหาระยะเวลา 3 ปี 8 เดอื น ให้เปน็ เดอื นได้อยา่ งไร อาจใช้เสน้ แสดงเวลาดงั น้ี 3 ปี 8 เดือน 1 ปี 1 ปี 1 ปี (8 เดือน) (12 เดอื น) (12 เดือน) (12 เดอื น)

28 จะได้ 3 ปี 8 เดอื น คดิ เปน็ 12 + 12 + 12 + 8 = 44 เดือน หรือ 3 ปี 8 เดือน คดิ เปน็ (3 × 12) + 8 = 44 เดือน ดังนน้ั อดลุ ย์ผอ่ นสง่ รถยนตจ์ นครบสัญญาเปน็ เวลา 44 เดือน เกษตรกรใช้เวลาเลย้ี งปลา 200 วนั จงึ จะจบั ขายได้ เกษตรกรใชเ้ วลาเลย้ี ง ปลากเ่ี ดอื น ก่ีวัน - ระยะเวลา 30 วัน คิดเป็นกเี่ ดือน (1 เดอื น) - ระยะเวลา 200 วัน จะมากกว่าหรอื น้อยกวา่ 1 เดอื น (มากกวา่ 1 เดือน) - จะหาระยะเวลา 200 วนั ให้เปน็ เดอื นไดอ้ ย่างไร (นำ 30 ไปหาร 200) - จะแสดงวธิ ีหาคำตอบได้อย่างไร จะไดร้ ะยะเวลา 200 วนั คดิ เปน็ 200 ÷ 30 ได้ 6 เศษ 20 แสดงว่า ระยะเวลา 200 วัน คิดเป็น 6 เดอื น 20 วัน ดังน้ัน เกษตรกรใช้เวลาเล้ียงปลา 6 เดือน 20 วัน 4. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กลมุ่ ๆ ละ 3 – 4 คน ครนู ำบัตรโจทยเ์ วลาจำนวน 4 ข้อ 1. ผรู้ บั เหมาสร้างถนนสายหนึง่ เสรจ็ ในเวลา 420 วัน ผู้รับเหมาสรา้ งถนน เสร็จก่ปี ี ก่ีเดอื น กี่วนั 2. เครอื่ งปนั่ ไฟฟ้าทางานต่อเน่ืองเป็นเวลา 3 วนั 17 ชั่วโมง คดิ เป็นก่ชี ว่ั โมง 3. นิววง่ิ การกศุ ลระยะทาง 30 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาทัง้ หมด 2 ชั่วโมง 45 นาที คิดเป็นก่ีนาที 4. ภมี ไปฝกึ งานทตี่ า่ งประเทศเปน็ เวลา 112 สัปดาห์ คิดเป็นกปี่ ี กีว่ ัน มาวางคว่าบนโต๊ะครูแล้วให้นักเรียนตัวแทนกลุ่มออกมาหยิบบัตรโจทย์ปัญหากลุ่ม ละ 1 ข้อ ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั คิดวิธีหาคาตอบ โดยเขียนแสดงวิธีคิดในกระดาษ หลังจากนั้น ครูสุ่มให้นักเรียนตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอ ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ครูอาจ อธิบายแนะนำเพิ่มเตมิ ให้นักเรยี นเข้าใจชดั เจนย่ิงขึ้น ซงึ่ คำตอบของแต่ละข้อเป็นดังน้ี ขอ้ 1 (1 ปี 1 เดอื น 25 วัน) ขอ้ 2 (89 ชั่วโมง) ข้อ 3 (165 นาที) ข้อ 4 (2 ปี 56 วัน)

29 5. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 3 การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี เมื่อเสร็จแล้วให้นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย กจิ กรรมในใบงานที่ 3 ข้ันสรุป 6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ สิง่ ท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ ระยะเวลา หมายถงึ ช่วงเวลา ที่ต่อเน่อื งจากเวลาหน่งึ ถงึ อกี เวลาหนึ่ง สอ่ื การเรยี นรู้ 1. บตั รโจทยเ์ วลา 2. ใบงานที่ 3 การบอกระยะเวลาเปน็ วนิ าที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดอื น ปี

30 การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทีต่ ้องการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 3 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานท่ี 3 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทุก ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์

31 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน (นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

32 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 เวลา เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมง เรือ่ ง การเปรยี บเทยี บระยะเวลา เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี .........ปกี ารศกึ ษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วดั และนำไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.4/1 : แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลา สาระสำคัญ การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปีเป็นการบอกช่วงเวลาในการ ทำกจิ กรรมซงึ่ ใชค้ วามรู้เรื่อง ความสมั พนั ธ์เวลาคิดคำนวณระยะเวลาทต่ี ้องการ โดย 1 นาที เทา่ กับ 60 วนิ าที 1 ชั่วโมเง เทา่ กับ 60 นาที 1 วนั เท่ากบั 24 ชวั่ โมง 1 สปั ดาห์ เท่ากบั 7 วัน 1 เดือน เทา่ กับ 30 วนั หรือ 31 วัน 1 ปี เท่ากับ 12 เดอื น 1 ปี เทา่ กับ 365 วัน หรือ 366 วัน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. พจิ ารณาและอธิบายหลักการเปรียบเทยี บระยะเวลาได้ (K) 2. สามารถเขียนและตรวจสอบได้ว่าระยะเวลาที่โจทย์กำหนด มากกว่า น้อยกว่า หรือ เทา่ กนั ได้ (P) 3. นำความรเู้ ก่ียวกับการเปรียบเทียบระยะเวลาไปใช้แกป้ ญั หาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทียบระยะเวลา ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์

33 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล 4. ความสามารถในการเชื่อมโยง คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูยกตวั อยา่ งความสัมพันธ์ของหน่วยเวลาบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนออกมาเขียน คำตอบบนกระดาน เชน่ 1 นาที มี .......................................... วินาที 1 ชัว่ โมง มี .......................................... นาที 1 วนั มี .......................................... ช่วั โมง 1 สัปดาห์ มี .......................................... วนั 1 เดอื น มี .......................................... วัน 1 ปี มี .......................................... เดือน ข้นั สอน 2. ครูติดแผนภูมิสถานการณ์ในชีวิตจริงที่มีระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วใช้การถาม ตอบเพอ่ื ให้นักเรยี นช่วยกนั เปรยี บเทยี บ เชน่ ในการแข่งขนั วงิ่ 100 เมตร กฬี าภายในของโรงเรียนแห่งหนง่ึ มผี ู้เขา้ แขง่ ขันวิ่งเข้าเสน้ ชยั 5 คน ดังนี้ แดงใช้เวลา 14 วินาที เขยี นใช้เวลา 12 วินาที เหลอื งใชเ้ วลา 17 วินาที สม้ ใช้เวลา 20 วินาที ดำใช้เวลา 15 วนิ าที - ใครเปน็ ผชู้ นะเลศิ เพราะเหตุใด (เขียว เพราะใช้เวลาว่ิงนอ้ ยทส่ี ดุ ) - ใครวิง่ เข้าเส้นชัยเป็นคนท่ี 5 เพราะเหตุใด (สม้ เพราะใชเ้ วลาวงิ่ มากทสี่ ดุ ) - เรยี งลำดับผใู้ ช้เวลาว่งิ จากน้อยไปมาก (เขยี ว แดง ดำ เหลือง ส้ม)

34 - เพราะเหตุใดนักเรียนจึงเปรียบเทียบระยะเวลาได้ (โจทย์บอกเวลาที่มีหน่วย เดยี วกนั ) 3. ครยู กตัวอย่างสถานการณต์ อ่ ไปนีบ้ นกระดาน ในการเดนิ ทางไกล ระยะทาง 5 กโิ ลเมตร ของลูกเสือโรงเรยี นแหง่ หนงึ่ พบวา่ ลกู เสือ หมู่ 1 ใช้เวลา 145 นาที ลกู เสอื หมู่ 2 ใชเ้ วลา 2 ชั่วโมง 50 นาที แล้วใช้การถามตอบ เพอื่ ให้นกั เรยี นเปรยี บเทยี บ เชน่ - ลกู เสือหมใู่ ดใชเ้ วลาเดินทางไกลน้อยกว่ากนั จะเปรียบเทยี บกันได้อยา่ งไร (ต้อง เปลย่ี นหน่วยเวลาใหเ้ ปน็ หน่วยเดยี วกนั ) ครูอธบิ ายและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายจน สรปุ ไดว้ ่า การเปรียบเทียบระยะเวลาท่ีมี หน่วยต่างกัน ต้องเปลี่ยนให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อน แล้วจึงเปรียบเทียบ หลังจากนั้นใช้การถามตอบ ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงวิธคี ิดเปลย่ี นหนว่ ยเวลาอาจทำได้ดงั น้ี วิธีคิด 1 เปลี่ยนหน่วย 2 ชวั่ โมง 50 นาที เปน็ นาที - 1 ช่วั โมงคิดเปน็ ก่นี าที - จะเปลี่ยนหนว่ ยช่ัวโมงเป็นนาที เขยี นแสดงเปน็ แผนภาพได้อย่างไร 1 ชวั่ โมง 1 ช่ัวโมง 50 นาที 60 นาที 60 นาที - นักเรียนจะเขียนแสดงวธิ หี าคำตอบไดอ้ ย่างไร เนือ่ งจาก 1 ช่ัวโมง มี 60 นาที จะได้ 2 ช่วั โมง คิดเปน็ 2 × 60 = 120 นาที แสดงวา่ 2 ชว่ั โมง 50 นาที คิดเป็น 120 + 50 = 170 นาที ซงึ่ 170 นาที มากกวา่ 145 นาที ดงั น้ัน ลูกเสอื หมู่ 1 ใชเ้ วลาเดนิ ทางไกลนอ้ ยกวา่ ลกู เสือหมู่ 2 วิธีคดิ 2 เปน็ หนว่ ย 145 นาที เป็นช่วั โมง - 1 ชวั่ โมงคดิ เปน็ ก่ีนาที - จะเปลยี่ นหน่วยนาทเี ปน็ ชว่ั โมง เขยี นแสดงเป็นแผนภาพไดอ้ ย่างไร 145 นาที 60 นาที 60 นาที 25 นาที (1 ช่วั โมง) (1 ช่ัวโมง)

35 - นกั เรยี นจะเขยี นแสดงวธิ หี าคำตอบไดอ้ ย่างไร เนอ่ื งจาก 60 นาที คดิ เปน็ 1 ชัว่ โมง จะได้ 145 ÷ 60 ได้ 2 เศษ 25 แสดงวา่ 145 นาที คดิ เปน็ 2 ช่ัวโมง 25 นาที ซง่ึ 2 ชว่ั โมง 25 นาที น้อยกว่า 2 ช่วั โมง 50 นาที ดังน้ัน ลกู เสือหมู่ 1 ใช้เวลาเดินทางไกลนอ้ ยกว่าลกู เสอื หมู่ 2 4. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ ๆ ละ 3 คน แจกบตั รโจทย์เวลาชดุ เดยี วกนั จานวน 3 ขอ้ ให้ นกั เรยี นทกุ กล่มุ ช่วยกนั แสดงวิธีคดิ ในการเปรียบเทยี บระยะเวลา เช่น เติมคำว่า “มากกวา่ ” หรือ “น้อยกวา่ ” หรอื “เท่ากับ) 1. ป้าใช้เวลาปลูกผักชี 38 วัน และเฝา้ ดแู ลมะนาวออกดอกจนเกบ็ ลูกได้ใช้เวลา 5 สปั ดาห์ 3 วัน ดังนน้ั ปลูกผกั ชีใชร้ ะยะเวลา ........................... ระยะเวลาของมะนาวออกดอกจนเก็บ ลกู ได้ 2. พีท่ ำสญั ญาเช่าเรือเปน็ เวลา 30 ดือน ลุงทำสัญญาเชา่ ซ้ือรถยนต์เปน็ เวลา 2 ปี 5 เดือน ดังน้ัน ระยะเวลาเช่าเรอื ของพี่ .......................... ระยะเวลาเชา่ ซอื้ รถยนต์ของลุง 3. ชา่ งกอ่ สรา้ งใช้เวลาทาร้วั บ้าน 4 วัน 7 ชั่วโมง ชา่ งซอ่ มรถยนต์ใชเ้ วลาซอ่ มรถท่เี ข้าอู่ 107 ช่วั โมง ดังนัน้ ชา่ งกอ่ สร้างใช้เวลาทารว้ั บา้ น ............................... ชา่ งซ่อมรถยนตเ์ ข้าอู่ซ่อม 5. ครูใหน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 4 การเปรยี บเทียบระยะเวลา เม่ือเสรจ็ แล้วใหน้ กั เรียน 6. ช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ ข้นั สรุป 6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ การเปรยี บเทียบระยะเวลาท่ีมี หนว่ ยต่างกนั ตอ้ งเปล่ยี นให้เป็นหน่วยเดยี วกันกอ่ นแล้วจึงเปรยี บเทียบ สอ่ื การเรียนรู้ 1. แผนภมู ิสถานการณ์ 2. ใบงานที่ 4 การเปรียบเทยี บระยะเวลา

36 การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทีต่ ้องการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 4 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานท่ี 4 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทุก ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์

37 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน (นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

38 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เวลา เวลาเรยี น 10 ชั่วโมง เร่อื ง การอา่ นตารางเวลา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวนั ท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นท่ี .........ปกี ารศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนำไปใช้ ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ป.4/1 : แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั เวลา สาระสำคัญ การอ่านตารางเวลาให้อ่านตัวเลขตรงจุดตัดในแนวตั้งและแนวนอนของหัวข้อที่กำหนดตาม ตาราง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถบอกหลกั การหรอื วิธีการอา่ นตารางได้ถูกต้อง (K) 2. สามารถตรวจสอบและแก้ไขความถูกต้องตามขั้นตอนในอ่านตารางเวลาที่กำหนดให้ได้ (P) 3. นำความร้เู ก่ยี วกบั การเปรียบเทียบระยะเวลาไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ การอ่านตารางเวลา ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตุผล 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

39 กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครนู ำสนทนา เชน่ - ในหนึ่งสัปดาห์นกั เรยี นเรียนวิชาคณิตศาสตรว์ นั ใดบา้ ง (...........................) - ในหน่งึ สัปดาห์นักเรียนเรียนวิชาคณติ ศาสตร์ทง้ั หมดกชี่ ่ัวโมง (..........................) - นกั เรียนทราบไดอ้ ย่างไร (ดูจากตารางสอน) 2. ครูติดตารางสอนและอธิบายแนะนำ ตารางสอนเป็นตัวอย่างหนึ่งของตารางเวลาท่ี แสดงรายละเอียดในแต่ละระยะเวลาของแต่ละวัน เรียนวิชาใดบ้างเพื่อให้นักเรียนได้เตรียมเอกสาร และทบทวนบทเรียนล่วงหนา้ ขั้นสอน 3. ครูนำสนทนาโดยให้นักเรียนดูรายละเอียดจากตารางเรียนของนักเรียนชั้น ป.4 บน กระดาน แลว้ ใช้การถามตอบ เชน่ ตารางเรยี นของนกั เรียนชั้น ป.4 เวลา 8.30-9.30 9.30-10.30 10.30- 11.30- 12.30- 13.30- 14.30- วนั 11.30 12.30 13.30 14.30 15.30 จนั ทร์ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาไทย สงั คมศึกษา ดนตรี ภาษาองั กฤษ องั คาร ภาษาไทย คอมพิวเตอร์ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาจีน ชุมนมุ พุธ คณิตศาสตร์ การงานอาชพี พัก ลูกเสอื กลางวนั สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ ยวุ กาชาด หน้าที่ พฤหสั บดี คณิตศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ พลเมือง ศกุ ร์ สุขศึกษา วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ศลิ ปะ ภาษาไทย พลศกึ ษา - ในวนั จันทรต์ ัง้ แตช่ ว่ั โมงที่ 1 ถึงช่ัวโมงที่ 5 เรยี นวชิ าใดบ้าง นักเรียนดูได้อย่างไร (ดูตารางตรงวันจันทร์แล้วดูรายละเอียดตามแนวนอนต้ังแตช่ ่วั โมงท่ี 1 ถึงช่วั โมงที่ 5 ทำให้ทราบว่าใน วันจันทร์ ชั่วโมงที่ 1 เรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั่วโมงที่ 2 เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ชั่วโมงที่ 3 เรียนวิชา ภาษาไทย ชวั่ โมงท่ี 4 เรียนวิชาสังคมศกึ ษา และชวั่ โมงที่ 5 เรียนวิชาดนตรี) - ในชั่วโมงที่ 3 ของแต่ละวันเรียนวิชาใดบ้าง นักเรียนดูได้อย่างไร (ดูตารางตรง ชั่วโมงที่ 3 แล้วดูรายละเอียดตามแนวต้ังอนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ทำให้ทราบว่า ในวันจันทร์ ชั่วโมงที่ 3 เรียนวิชาภาษาไทย วันอังคาร ชั่วโมงที่ 3 เรียนวิชาคณิตศาสตร์ วันพุธ ชั่วโมงที่ 3 เรียน วิชาการงานอาชีพ วันพฤหัสบดี ชั่วโมงที่ 3 เรียนวิชาภาษาไทย วันศุกร์ ชั่วโมงที่ 3 เรียนวิชา คณติ ศาสตร์)

40 - ในวันพุธ ชั่วโมงที่ 5 เรียนวิชาใด นักเรียนดูได้อย่างไร (ดูวันพุธตามแนวนอน และดชู ่ัวโมงท่ี 5 ตามแนวตั้ง มาตรงกันท่ีวิชาภาษาองั กฤษ) หลังจากครใู ชก้ ารถามตอบ จนนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายได้ดังนี้ - การดวู า่ วนั ใดเรยี นวชิ าอะไรบ้าง ให้ดูท่ีชอ่ื วันนน้ั ไปตามแนวนอน - การดวู ่าเวลาใดเรยี นวชิ าอะไรบ้าง ใหด้ ทู ร่ี ะยะเวลานน้ั ไปตามแนวตงั้ - การดูว่าวันใด ระยะเวลาใด เรียนวิชาอะไร ให้ดูที่จุดตัดระหว่างวันและ ระยะเวลาน้ัน หลังจากน้นั ครูอาจใชก้ ารถามตอบ เช่น - วนั จันทร์ ในแต่ละคาบเรียนวชิ าใดบา้ ง (คาบท่ี 1 เรียนวชิ าคณิตศาสตร์ คาบที่ 2 เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ คาบที่ 3 เรียนวิชาภาษาไทย คาบที่ 4 เรียนวิชาสังคมศึกษา คาบที่ 5 เรียน วชิ าดนตรี และคาบที่ 6 เรยี นวชิ าภาษาอังกฤษ) - ในคาบที่ 4 ของแต่ละวันเรียนวิชาใดบ้าง (วันจันทร์เรียนวิชาสังคมศึกษา วัน อังคารเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ วนั พธุ เรียนวชิ าสงั คมศึกษา วันพฤหัสบดีเรียนวชิ าภาษาอังกฤษ วันศุกร์ เรยี นวิชาศิลปะ) - วนั พฤหัสบดี คาบที่ 5 เรยี นวิชาใด (เรยี นวชิ าวิทยาศาสตร์) - วิชาคณิตศาสตร์ เรียนในวันใด และคาบใดบ้าง (วันจันทร์คาบที่ 1 วันอังคาร คาบที่ 3 วันพุธคาบท่ี 1 วันพฤหสั บดีคาบท่ี 1 และวันศุกรค์ าบที่ 3) 4. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการเดินทาง พาหนะที่ใช้ในการเดินทาง ซึ่งมีหลาย อย่าง เช่น เครื่องบิน รถโดยสาร รถไฟ การใช้บริการด้วยพาหนะเหล่านี้ผู้โดยสารจะต้องทราบ กำหนดเวลาเข้าออก จากนั้นครูนำตัวอย่างตารางการเดินรถไฟสถานีอุตรดิตถ์มาอธิบายและใช้การ ถามตอบ ดังน้ี เลขขบวน ประเภทรถ ตารางการเดินรถไฟสถานีอุตรดิตถ์ 13 ด่วนพิเศษ กำหนดเวลาขบวนรถข้ึน 107 105 เร็ว ต้นทางออก เดนิ ระหว่างทาง ถึง หยดุ ออก ปลายทางถึง 51 เรว็ 19.35 กรงุ เทพฯ-เชยี งใหม่ 03.05 3 03.08 08.40 403 ด่วน 20.10 กรุงเทพฯ-เดน่ ชยั 04.02 3 04.05 05.15 407 ธรรมดา 21.00 กรุงเทพฯ-ศลิ าอาสน์ 04.34 2 04.36 04.40 7 ธรรมดา 22.00 กรงุ เทพฯ-เชียงใหม่ 06.03 3 06.06 12.10 111 สปรนิ เตอร์ 05.55 พษิ ณุโลก-ศลิ าอาสน์ 07.34 3 07.37 07.40 3 เรว็ 05.00 นครสวรรค์-เชยี งใหม่ 09.04 3 09.07 14.35 109 สปรนิ เตอร์ 08.30 กรงุ เทพฯ-เชียงใหม่ 14.22 5 14.27 19.30 เรว็ 07.00 กรงุ เทพฯ-เดน่ ชยั 15.21 3 15.24 16.30 10.50 กรุงเทพ-สวรรคโลก-ศลิ าอาสน์ 19.07 5 19.12 19.15 13.45 กรงุ เทพฯ-เชยี งใหม่ 22.20 3 22.23 04.05 ข้อมูล ณ วนั ที่ 2 ธันวาคม 2560

41 - ลำดับที่ 1 เลขขบวนรถคือหมายเลขใด เป็นรถประเภทใด ออกจากกรุงเทพฯ เวลา ใดถงึ อุตรดิตถเ์ วลาใด (เลขขบวนรถ 13 เปน็ ประเภทรถด่วนพเิ ศษ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 19.35 น. ถึงสถานีอุตรดิตถ์ เวลา 3.05 น.) - ลำดับที่ 3 เลขขบวนรถคือหมายเลขใด เป็นรถประเภทใด ออกจากกรุงเทพฯ เวลา ใดถึงศิลาอาสน์เวลาใด (เลขขบวนรถ 105 เป็นรถด่วนเร็ว ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 21.00 น. ถึงศิลา อาสน์ เวลา 04.34 น.) - ถ้านักเรียนต้องการเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ โดยให้ถึงเชียงใหม่ เวลา 14.22 น. นกั เรียนต้องขึน้ รถขบวนใด เปน็ รถประเภทใดและออกจากกรงุ เทพฯ เวลาใด (ตอ้ งขึ้น รถขบวนที่ 7 เป็นประเภทรถสปรินเตอร์ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 08.30 น.) - ถ้านกั เรยี นต้องการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงเชยี งใหม่กอ่ นเวลา 6.30 น. นักเรียน ต้องขึ้นรถขบวนใด เป็นรถประเภทใดและออกจากกรุงเทพฯ เวลาใด (ต้องขึ้นรถขบวนที่ 51 เป็น ประเภทรถดว่ น ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.00 น.) ครูแนะนำวิธีการอ่านตารางเวลา โดยดูว่าสถานีใด รถขบวนใดผ่านเมื่อเวลาใด หรือมีรถ ขบวนใดผา่ นสถานีใด เมื่อเวลาใด ให้ดเู วลาท่ีเปน็ จดุ ตดั ระหวา่ งสถานีและขบวนน้ัน 5. ครูอธิบายแนะนำการค้นหาตารางการเดินทางของรถไฟ รถโดยสารประจำทาง หรือ เครอ่ื งบนิ ไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ ่างๆ เช่น - เว็บไซต์ของการรถไฟแหง่ ประเทศไทย http://www.railway.co.th - เว็บไซต์ของบรษิ ทั ขนส่งจำกัด http://transport.co.th - เว็บไซต์ของสายการบินต่างๆ http//www.thaiairways.com (สายการบิน ไทย) http://www.nokair.com (สายการบินนกแอร)์ 6. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 5 การอ่านตารางเวลา เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 5 ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกนั ดังนี้ - ตารางเวลาเกย่ี วข้องกบั เวลาและระยะเวลา - การอ่านตารางเวลาให้พิจารณาความเกี่ยวข้องของเวลาและรายละเอียดของส่งิ ที่อยู่ในตาราง สอ่ื การเรียนรู้ 1. ตารางเรยี นของนกั เรยี นช้นั ป.4 2. ตารางการเดนิ รถไฟสถานีอุตรดิตถ์ 3. ใบงานท่ี 5 การอา่ นตารางเวลา

42 การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทีต่ ้องการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 5 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานท่ี 5 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทุก ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์

43 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน (นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

44 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เวลา เวลาเรียน 10 ชั่วโมง เรอื่ ง การวิเคราะหแ์ ละหาคำตอบจากโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วนั เดอื น ปี เวลา สอนวันที.่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ .........ปีการศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนำไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ป.4/1 : แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั เวลา สาระสำคัญ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกการลบตอั งอ่านทำความเขา้ ใจ วิเคราะห์โจทย์ปัญหาและแสดงวิธี ทำในการคิดวิเคราะหแ์ ละแสดงวธิ ที ำอาจมีวธิ คี ดิ ทีแ่ ตกต่างกนั ได้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. วิเคราะห์โจทย์ วางแผนแกป้ ัญหาโจทยป์ ญั หาการบวก การลบเกี่ยวกบั เวลาได้ (K) 2. เขียนแสดงวิธีทำตามขั้นตอนและหาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับ เวลาได้ (P) 3. นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับเวลาไปใช้แก้ปัญหาทาง คณติ ศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การวเิ คราะหแ์ ละหาคำตอบจากโจทย์ปญั หาเกย่ี วกับวัน เดอื น ปี เวลา ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล 4. ความสามารถในการเช่ือมโยง

45 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. นักเรียนทบทวนเกี่ยวกับเวลา โดยนักเรียนนั่งล้อมกันเป็นวงกลมแล้วร่วมกันร้อง เพลงและปรบมอื ประกอบจงั หวะพร้อมท้ังสง่ ลูกบอลให้เพื่อนไปเรื่อยๆ เมื่อได้ยินสัญญาณวา่ “หยุด” นกั เรยี นทถี่ ือลกู บอลอยู่จะตอบคำถามคนละ 1 คำถาม ดงั น้ี 1 นาที มีก่ีวนิ าที (60 วนิ าที) 1 ช่ัวโมง มกี ีน่ าที (60 นาที) 1 วัน มกี ่ีชั่วโมง (24 ชวั่ โมง) 1 สปั ดาห์ มีก่วี นั (7 วัน) 1 เดือน มีกีว่ ัน (30 วัน) 1 ปี มกี เ่ี ดอื น (12 เดอื น) 1 ปี มีกวี่ นั (365 วัน) ขัน้ สอน 2. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาบนกระดานใช้การถามตอบ จน นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายหาคำตอบได้ เชน่ นุชเร่ิมทำขอ้ สอบเวลา 13.50 น. และใชเ้ วลาทำ 45 นาที นชุ ทำข้อสอบเสรจ็ เวลาใด - 1 ชั่วโมงมกี ่ีนาที (60 นาที) - นุชทำขอ้ สอบเสรจ็ ก่อนหรือหลังเวลา 13.50 น. (หลงั เวลา 13.50 น.) - นุชทำข้อสอบเสร็จก่อนหรอื หลังเวลา 14.50 น. เพราะเหตุใด (อาจมีคำตอบได้ หลากหลาย เช่น ก่อนเวลา 14.50 น. เพราะระยะเวลา 13.50 น. ถึง 14.50 น. เป็นระยะเวลา 1 ช่วั โมง แต่นขุ ใชเ้ วลา 45 นาที ซึง่ 45 นาที นอ้ ยกวา่ 1 ชั่วโมง) - จะหาคำตอบได้อยา่ งไร (อาจใช้เส้นแสดงเวลาในการหาคำตอบ ดังน้ี) วิธีคิด 35 นาที 10 นาที 13.50 น. 14.00 น. 14.35 น. ตอบ นุชทำข้อสอบเสรจ็ เวลา ๑๔.๓๕ น.

46 ปจั จบุ ันแม่มีอายุ 35 ปี 2 เดือน และลกู มีอายุ 11 ปี 10 เดือน แม่คลอดลกู เมื่อแมม่ ี อายุเท่าใด วิธคี ดิ 11 ปี 8 เดอื น 2 เดือน แมค่ ลอดลูก 24 ปี 35 ปี ปจั จุบนั แม่มี เมือ่ แมม่ ีอายุ อายุ 35 ปี 2 เดือน 23 ปี 4 เดือน ตอบ แม่คลอดลูกเมอื่ แมม่ อี ายุ ๒๓ ปี ๔ เดอื น ระยะทางจากบ้านถงึ ตลาด 3 กโิ ลเมตร เต้ใชเ้ วลาเดนิ 36 นาที เฉลย่ี แล้วระยะทาง 1 กโิ ลเมตร เต้ใช้เวลาเดินกี่นาที วิธีคดิ 36 นาที 12 นาที 12 นาที 12 นาที 1 กโิ ลเมตร 1 กโิ ลเมตร 1 กโิ ลเมตร ตอบ เฉลยี่ แลว้ ระยะทาง ๑ กโิ ลเมตร เตใ้ ช้เวลาเดิน ๑๒ นาที 3. ครใู หน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 6 การวิเคราะหแ์ ละหาคำตอบจากโจทย์ปัญหาเก่ียวกับวัน เดือน ปี เวลา เมื่อเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 6 ขน้ั สรุป 4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสิ่งทีไ่ ด้เรยี นรูร้ ่วมกนั ดงั น้ี - ระยะเวลา หมายถึง ช่วงเวลาทต่ี ่อเนือ่ งจากเวลาหนึ่งถึงอีกเวลาหนง่ึ - การแก้โจทย์ปัญหา ควรอ่านทำความเข้าใจวิเคราะห์ปัญหาและหาคำตอบใน การคดิ วเิ คราะห์และหาคำตอบอาจมวี ิธคี ิดท่ีแตกตา่ งกนั ได้

47 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ตารางเรียน 2. ใบงานที่ 6 การวเิ คราะหแ์ ละหาคำตอบจากโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับวัน เดอื น ปี เวลา การวดั ผลและประเมนิ ผล สิ่งท่ตี ้องการวัด วิธีวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานท่ี 6 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น ใบงานท่ี 6 ผา่ นเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ทุก ทพี่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ทกั ษะกระบวนการ รายการขึน้ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสงั เกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ทีพ่ ึงประสงค์

48 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน (นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

49 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 7 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เวลา เวลาเรยี น 10 ชว่ั โมง เร่อื ง โจทยป์ ญั หาการบวกเก่ียวกับเวลา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวนั ท.่ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี .........ปกี ารศกึ ษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วดั และนำไปใช้ ตัวช้ีวดั ค 1.1 ป.4/1 : แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั เวลา สาระสำคญั การแก้โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาตัองอ่านทำความเข้าใจ วิเคราะห์โจทย์ปัญหาและ แสดงวิธที ำในการคดิ วิเคราะหแ์ ละแสดงวธิ ีทำอาจมวี ธิ คี ดิ ท่แี ตกต่างกันได้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. วิเคราะหโ์ จทย์ วางแผนแก้ปญั หาโจทย์ปัญหาการบวกเก่ียวกบั เวลาได้ (K) 2. เขยี นแสดงวธิ ที ำตามขั้นตอนและหาคำตอบจากโจทย์ปญั หาการบวกเกี่ยวกบั เวลาได้ (P) 3. นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทยป์ ญั หาการบวกเกยี่ วกับเวลา ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล 4. ความสามารถในการเช่อื มโยง คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

50 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน 1. ครทู บทวนความสัมพนั ธ์ของหน่วยเวลาและการเปล่ียนหนว่ ยเวลาจากหน่วยใหญ่ไป เปน็ หน่วยยอ่ ย และเปล่ยี นหนว่ ยเวลาจากหนว่ ยยอ่ ยไปเป็นหนว่ ยใหญ่ เช่น - 8 สปั ดาห์ คิดเปน็ กว่ี นั วธิ ีทำ เน่ืองจาก 1 สปั ดาห์ มี 7 วนั ดังนัน้ 8 สปั ดาห์ คดิ เป็น 8 × 7 = 56 วนั - 15 เดือน คิดเปน็ ก่ีปีกเ่ี ดือน วิธที ำ เนอ่ื งจาก 12 เดอื น คดิ เปน็ 1 ปี และเนือ่ งจาก 15 ÷ 12 ได้ 1 เศษ 3 ดงั นั้น 15 เดือน คดิ เป็น 15 ÷ 12 ได้ 1 ปี 3 เดือน ขัน้ สอน 2. ครูยกตัวอย่างบัตรโจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาบนกระดาน ใช้การถามตอบ เพ่ือใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภิปรายและวิธที ำ เชน่ ช่างช่อมรถยนต์คันที่หนึ่งใช้เวลา 1 เดือน 18 วัน และซ่อมรถยนต์คันที่สองใช้ เวลา 1 เดือน 27 วัน ซอ่ มรถยนต์ 2 คนั ใชเ้ วลากเี่ ดือนกี่วนั ครูใชค้ ำถามกระตนุ้ นกั เรยี น เชน่ - ซ่อมรถยนต์ 2 คัน ใช้เวลามากกว่าหรือน้อยกว่า 2 เดือน เพราะเหตุใด (มากกวา่ 2 เดือน เพราะซ่อมรถยนตแ์ ตล่ ะคันใชเ้ วลามากกวา่ 1 เดือน) - จะเขียนแสดงวิธีคิดในการหาระยะเวลาซ่อมรถยนต์ 2 คันได้อย่างไร (อาจใช้ แผนภาพแสดงวิธคี ดิ ได้ดงั นี้) วิธีคิด ซอ่ มรถยนต์คนั ทห่ี น่ึง ซ่อมรถยนตค์ นั ท่สี อง 1 เดอื น 18 วัน 1 เดอื น 27 วัน - ในการหาระยะเวลาของการซ่อมรถยนต์ 2 คันนี้ จะหาได้อย่างไร และเขียน แสดงวิธีทำได้อย่างไร (นำระยะเวลาของการซ่อมรถยนต์แต่ละคันมาบวกกัน และอาจเขียนแสดงวิธี ทำไดด้ งั นี้) วิธที ำ เดือน วัน ซอ่ มรถยนตค์ นั ท่ีหน่ึง 1 18 + ซอ่ มรถยนต์คนั ท่สี อง 1 27 (45 วนั คิดเปน็ 1 เดือน 15 วัน) ซ่อมรถยนตส์ องคันใช้เวลา 2 45 หรือ 3 15 ดังน้ัน ซ่อมรถยนตส์ องคนั ใช้เวลา 3 เดอื น 15 วนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook