แผนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นป.4

1 แผนการจัดการเรยี นร้รู ายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เรือ่ ง การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนบั นางรชั นีย์ สิมมาคำ ตำแหนง่ ครู โรงเรียนเทศบาล ๒ ศรบี ุญเรอื ง กองการศึกษา เทศบาลเมอื งเลย จงั หวัดเลย กรมส่งเสรมิ การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน กระทรวงมหาดไทย

2 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และการ นำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และ นำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วยแก้ปัญหาท่ี กำหนดให้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัดและ นำไปใช้ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง รปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ สาระที่ 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามร้ทู างสถิตใิ นการแก้ปญั หา มาตรฐาน ค 3.2 เขา้ ใจหลกั การนบั เบ้ืองตน้ ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้

3 ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และการ นำไปใช้ ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป. 4 จำนวนนับท่ีมากกว่า 100,000 และ 0 1. อ่านและเขียนตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก - การอ่าน การเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจำนวน ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวน นับมากกวา่ 100,000 - หลัก ค่าประจำหลักและคา่ ของเลขโดด 2. เปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับ ในแตล่ ะหลัก และการเขยี นตัวเลข ทมี่ ากกวา่ 100,000 จากสถานการณ์ แสดงจำนวนในรูปกระจาย ตา่ งๆ - การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดับจำนวน - ค่าประมาณของจำนวนนับและการใช้ เคร่ืองหมาย ≈ เศษสว่ น 3. บอก อ่าน และเขียนเศษส่วน จำนวน - เศษสว่ นแท้ เศษเกนิ คละแสดงปริมาณสิง่ ต่างๆ และแสดง - จำนวนคละ สิ่งต่างๆ ตามเศษสว่ น จำนวนคละที่ - ความสัมพันธร์ ะหว่างจำนวนคละและ กำหนด เศษเกนิ 4. เปรยี บเทียบ เรยี งลำดับเศษส่วน และ - เศษสว่ นทีเ่ ทา่ กัน เศษส่วนอย่างตำ่ และ จำนวนคละทต่ี ัวสว่ นตวั หนึ่งเป็นพหคุ ูณ เศษสว่ นท่เี ท่ากับจำนวนนับ ของอีกตัวหน่งึ - การเปรยี บเทียบ เรยี งลำดับเศษส่วน และจำนวนคละ

4 ชนั้ ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป. 4 ทศนยิ ม 5. อา่ นและเขยี นทศนิยมไม่เกนิ 3 - การอา่ นและการเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งแสดงปริมาณของส่ิงต่างๆ ตำแหน่ง ตามปรมิ าณท่ีกำหนด และแสดงส่งิ ตา่ งๆ ตามทศนยิ มท่ี - หลัก คา่ ประจำหลกั ค่าของเลขโดดใน กำหนด แต่ละหลกั ของทศนยิ ม และการเขียน 6. เปรยี บเทยี บและเรียงลำดับทศนยิ มไม่ ตวั เลขแสดงทศนยิ มในรูปกระจาย เกิน 3 ตำแหนง่ จากสถานการณต์ ่างๆ - ทศนิยมทเี่ ทา่ กัน - การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดับทศนิยม การบวก การลบ การคณู ณ การหาร จำนวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000 และ 0 7. ปริมาณผลลพั ธ์ของการบวก การลบ - การประมาณผลลพั ธ์ของการบวก การ การคณู การหาร จากสถานการณต์ า่ งๆ ลบ การคูณ การหาร อยา่ งสมเหตุสมผล - การบวกและการลบ 8. หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค - การคณู และการหาร สัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค - การบวก ลบ คูณ หารระคน สญั ลักษณแ์ สดงการลบของจำนวนนบั - การแกโ้ จทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ ทม่ี ากกว่า 100,000 และ 0 ปัญหา พรอ้ มทั้งหาคำตอบ 9. หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลักษณแ์ สดงการคูณของจำนวน หลายหลกั 2 จำนวน ที่มีผลคูณไมเ่ กิน 6 หลัก และประโยคสัญลักษณแ์ สดง การหารที่ตัวต้งั ไม่เกนิ 6 หลกั ตัวหาร ไม่เกนิ 2 หลัก

5 สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรปู ความสมั พนั ธ์ ฟังกช์ ัน ลำดับและอนุกรม และ นำไปใช้ ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป. 4 แบบรปู (มกี ารจดั การเรียนการสอน เพ่ือเปน็ - แบบรปู ของจำนวนท่เี กิดจากการคูณ พืน้ ฐาน แต่ไมว่ ดั ผล) การหารด้วยจำนวนเดยี วกนั สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค 1.3 ใชน้ ิพจน์ สมการ และอสมการ อธบิ ายความสัมพนั ธห์ รอื ชว่ ยแกป้ ัญหาที่ กำหนดให้ ชน้ั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป. 4 - - สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ท่ตี อ้ งการวัดและ นำไปใช้ ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป. 4 เวลา 1. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา - การบอกเวลาเปน็ วนิ าที นาที ชั่วโมง เกย่ี วกบั เวลา วัน สปั ดาห์ เดือน ปี - การเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใช้ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งหนว่ ยเวลา - การอ่านตารางเวลา - การแก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั เวลา

6 ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป. 4 การวัดและสรา้ งมุม 2. วดั และสรา้ งมุม โดยใช้โพรแทรกเตอร์ - การวัดขนาดของมุมโดยใชโ้ พร แทรกเตอร์ - การสรา้ งมมุ เมือ่ กำหนดขนาดของมมุ รูปส่เี หลีย่ มมุมฉาก 3. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา - ความยาวรอบรปู ของรปู สเี่ หลี่ยมมมุ เก่ียวกับความยาวรอบรูปและพนื้ ทข่ี อง ฉาก รปู สเ่ี หล่ยี มมุมฉาก - พ้นื ท่ีของรปู สเ่ี หลยี่ มมุมฉาก - การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกีย่ วกับความยาว รอบรูป และพน้ื ทข่ี องรปู สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณติ สมบตั ิของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธร์ ะหว่าง รปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้ ชัน้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง รปู เรขาคณิต ป. 4 - ระนาบ จดุ เส้นตรง รังสี ส่วนของ 1. จำแนกชนดิ ของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียน เสน้ ตรง และสัญลักษณ์แสดงเสน้ ตรง สญั ลกั ษณ์แสดงมุม รงั สี สว่ นของเสน้ ตรง 2. สร้างรปู ส่เี หลีย่ มมมุ ฉากเมื่อกำหนด - มมุ ความยาวของดา้ น • ส่วนประกอบของมุม • การเรยี กช่อื มุม • สญั ลักษณแ์ สดงมมุ • ชนิดของมุม - ชนิดและสมบตั ขิ องรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก - การสร้างรูปสีเ่ หลีย่ มมุมฉาก

7 สาระท่ี 3 สถติ ิและความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป. 4 การเก็บรวบรวมข้อมลู และการนำเสนอ 1. ใชข้ ้อมูลจากแผนภูมิแท่ง ตารางสอง ข้อมูล ทางในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา - การอา่ นและการเขยี นแผนภมู ิแทง่ (ไม่ รวมการยน่ ระยะ) - การอา่ นตารางสองทาง (two – way table) สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค 3.2 เขา้ ใจหลกั การนบั เบอื้ งต้น ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้ ชัน้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 4 - -

8 คำอธิบายรายวิชา รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 160 ช่ัวโมง/ปี ศึกษาจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนที่ มากกว่า 100,000 การหาค่าประมาณของจำนวนนับ การบวกจำนวนสองจำนวน การลบจำนวนสอง จำนวน การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาการบวก และการลบ การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ การคูณจำนวนที่มีหนึ่งหลักกับจำนวนท่ี มากกว่าสี่หลัก การคูณจำนวนที่มีสองหลักกับจำนวนที่มีสามหลัก การคูณจำนวนที่มีสามหลักกับ จำนวนทม่ี สี ามหลกั และการคณู จำนวนที่มหี ลายหลัก การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดง การคูณ การแก้โจทย์ปัญหาการคูณ การสร้างโจทย์ปัญหาการคูณ การหารที่ตัวหารมีหนึ่งหลัก การ หารที่ตัวหารมีสองหลัก การหารที่ตวั หารมีสามหลกั การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดง การหาร การแก้โจทย์ปัญหาการหาร การสร้างโจทย์ปญั หาการหาร แบบรูปของจำนวนที่เกิดจากการ คูณจำนวนเดียวกัน แบบรูปของจำนวนที่เกิดจากการหารจำนวนเดียวกัน ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี สว่ นของเสน้ ตรง และสญั ลกั ษณ์ การเรียกชอื่ มมุ การวดั และการสรา้ งมุม สมบตั ขิ องรปู ส่ีเหลี่ยมจัตุรัส และรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า การสร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวรอบรูปของรูป สี่เหลยี่ มมุมฉาก พนื้ ทข่ี องรูปสี่เหล่ียมมุมฉาก โจทยป์ ัญหา รปู ประกอบ และการแกโ้ จทย์ปญั หา โดยการจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ท่ใี กล้ตวั ผเู้ รียนได้ศึกษา ค้นควา้ ฝกึ ทักษะ โดย การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การ แก้ปัญหา การให้เหตุผล การเชื่อมโยง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้าน ความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวัน อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มี ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีความเชื่อมั่น ในตนเอง ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9, ป.4/10, ป.4/11, ป.4/12, ป.4/13, ป.4/14, ป.4/14, ป.4/15, ป.4/16 ค 1.2 (มกี ารจัดการเรยี นการสอนเพ่อื เป็นพนื้ ฐานแตไ่ มว่ ัดผล) ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2 ค 3.1 ป.4/1 รวม 23 ตวั ชวี้ ัด

9 โครงสร้างเวลาเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 บทท/ี่ เร่อื ง เวลา (ช่ัวโมง) ภาคเรียนท่ี 1 บทที่ 1 จำนวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000 15 บทที่ 2 การบวกและการลบจำนวนนับทม่ี ากกวา่ 100,000 13 บทท่ี 3 การคูณ การหาร 31 บทท่ี 4 การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนับ 13 บทที่ 5 เวลา 10 รวมภาคเรียนท่ี 1 82

10 โครงสรา้ งรายวชิ า หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา เรียนรู้/ตวั ชี้วดั (ชม.) การบวก ลบ คณู หารจำนวนนับ ค 1.1 การบวก ลบ คณู หารระคน เป็นการดำเนินการท่ี 13 ป.4/10 มากกว่าหนึ่งขั้นตอน และการแก้ปัญหาการบวก ป.4/11 ลบ คูณ หารระคน สามารถทำได้หลายวิธี ควร ป.4/12 เลอื กวิธแี กป้ ัญหาท่เี หมาะสม และดำเนนิ การตาม ขั้นตอนของการแก้ปัญหา รวมถึงการตรวจสอบ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ

11 กำหนดแผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนับ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ เรอื่ ง จำนวน (ชว่ั โมง) 1 การบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีมีวงเล็บ 2 การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มวี งเล็บ 1 3 การบวก ลบ คณู หารระคนท่ีไม่มีวงเล็บ 1 4 การบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีไม่มวี งเลบ็ 1 5 การบวก ลบ คูณ หารระคน 1 6 โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน 1 7 โจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน 1 8 โจทย์ปญั หาการบวก ลบ คูณ หารระคน 1 9 การสร้างโจทย์ปญั หาการบวก ลบ คูณ หารระคนจาก 1 ประโยคสญั ลกั ษณ์ 1 10 การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนจากภาพ 11 คา่ เฉล่ีย 1 12 ค่าเฉล่ีย 1 13 โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับค่าเฉลีย่ 1 1 รวม 13

12 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การบวก ลบ คณู หารจำนวนนับ เวลาเรยี น 13 ชวั่ โมง เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคนทม่ี ีวงเล็บ เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง สอนวนั ท่.ี ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี.........ปีการศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนินการ และการนำไปใช้ ตวั ชี้วัด ค 1.1 ป.4/10 : หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับ และ 0 สาระสำคญั การบวก ลบ คณู หารระคน แบบมีวงเลบ็ ต้องหาผลลัพธใ์ นวงเลบ็ กอ่ น จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลักการบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีมีวงเลบ็ ได้ (K) 2. หาผลลัพธข์ องโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บได้ (P) 3. นำความรู้เกี่ยวกับการบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบวก ลบ คณู หารระคนทมี่ วี งเล็บ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

13 กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูติดแถบบตั รโจทยป์ ัญหา ใหน้ ักเรียนช่วยกันคดิ แกป้ ัญหา พอ่ แบ่งเหรียญห้าบาท 9 เหรยี ญ ที่สะสมไว้ ให้ลกู 3 คน คนละเท่า ๆ กัน ถ้าลกู คน โตมเี หรยี ญห้าบาทอยู่แล้ว 5 เหรียญ ลกู คนโตจะมีเหรียญห้าบาททั้งหมดกีเ่ หรยี ญ ครูถามคำถามเพมิ่ เติม เชน่ - พ่อแบง่ เหรียญห้าบาทให้ลกู คนละกเ่ี หรียญ (3 เหรียญ) คิดได้อย่างไร (9 ÷ 3) - จากโจทย์ ลูกคนโตมเี หรยี ญห้าบาทอยู่แลว้ กีเ่ หรียญ (5 เหรียญ) - ดังน้นั ลูกคนโตมเี หรียญหา้ บาททงั้ หมดกี่เหรียญ คดิ ได้อย่างไร (3 + 5 = 8) ครูชวนนักเรียนคยุ เพ่ิมเติมวา่ ในการแกโ้ จทย์ปญั หานน้ั ขั้นที่ 1 นักเรียนต้องคำนวณหาอะไรก่อน (พ่อแบ่งเหรียญห้าบาทใหล้ ูกคนละก่ี เหรียญ) ขั้นที่ 2 หาวา่ ลกู คนโตมีเหรยี ญห้าบาททง้ั หมดก่เี หรยี ญ โดยนำผลลพั ธ์ของขั้นที่ 1 มาบวกกับจำนวนเหรียญห้าทลี่ กู คนโตมีอย่แู ล้ว ดงั นั้น เราสามารถเขยี นเป็นประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้ว่า (9 ÷ 3) + 5 =  เราใส่ วงเล็บเพื่อระบุวา่ ให้หาผลลัพธใ์ นวงเล็บกอ่ น ขั้นสอน 2. ครูตดิ แถบโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั หาผลลพั ธ์ เช่น 1. 1,254 - (450 + 226) =  (578) 2. (1,254 - 450) + 226 =  (1,030) ใหน้ กั เรียนพิจารณาแถบบตั รโจทย์ ข้อ 1. และ 2. และผลลัพธ์ท่ไี ด้ จะเหน็ วา่ โจทย์ ทั้งสองขอ้ เป็นจำนวนเดยี วกันท้งั สามจำนวน และหาผลลัพธ์โดยวิธีลบกบั วธิ บี วก แตใ่ ส่วงเล็บต่างกนั จะไดผ้ ลลัพธต์ า่ งกัน ครูตดิ แถบโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน เพ่ิมเติมแล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกันหา ผลลัพธ์ เชน่ 3. (800 ÷ 25) × 4 =  (124) 4. 800 ÷ (25 × 4) =  (8) เช่นเดยี วกับโจทย์ข้อ 3. และข้อ 4. การใส่วงเล็บที่ต่างกัน จะได้ผลลพั ธ์ตา่ งกัน

14 จากนัน้ ครสู รุปว่า การบวก ลบ คณู หารระคน ต้องการผลลพั ธใ์ นวงเล็บกอ่ นเสมอ ซ่ึงถือเปน็ ข้อตกลงร่วมกนั 3. ครแู จกกระดาษแผ่นใหญแ่ ละใหแ้ บ่งกลุ่มนักเรยี นให้ฝกึ ทำโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคน เช่น 1. (254 - 20) ÷ 2 =  (117) 2. (12 × 70) ÷ 10 =  (84) 3. 20,654 – ( 4,598 + 12,450) =  (3,606) 4. 3,500 ÷ (125 + 375 ) =  (7) 5. 95 × (250 - 175) =  (7,125) โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสมุ่ หยบิ โจทย์เพอื่ แสดงวธิ คี ิดและนำเสนอ จากน้ันครูและ นักเรียนทงั้ ห้องช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และใชค้ ำพดู เสริมแรงเมื่อนกั เรยี นทำถูกหรือทำผดิ และครูควรเนน้ ใหน้ ักเรยี นได้ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบ เช่น (254 - 20) ÷ 2 = 117 พิจารณา 254 – 20 มีค่าใกล้เคียง 250 – 20 = 230 ซง่ึ 230 ÷ 2 = 115 ดงั นัน้ (254 - 20) ÷ 2 ควรมีค่าใกล้เคยี ง 115 4. ครูติดแถบโจทย์ให้นักเรียนเติมเครื่องหมาย > หรือ < หรือ = เพื่อพฒั นาความรู้สึก เชิงจำนวน โดยไมต่ ้องคิดคำนวณ เช่น 1. (312 × 14) + 138  (312 × 15) + 38 ครอู าจใช้คำถามกระตุ้น เชน่ - จากแถบโจทย์บนกระดาน ผลลัพธ์ด้านซา้ ยหรอื ด้านขวามากกว่ากนั (ด้านขวา) - เพราะเหตุใดผลลพั ธ์ดำ้ นขวาจงึ มากกว่า (เพราะในวงเล็บทางด้านซา้ ย คูณด้วย 14 แตใ่ นวงเล็บทางด้านขวา คณู ด้วย 15 และถึงแมว้ ่าทางด้านซ้ายจะบวกด้วยจำนวนทีม่ ากกว่าทาง ด้านขวาอยู่ 100 แตผ่ ลลพั ธ์ในวงเลบ็ ของทางด้านขวามากกว่าอยู่ 3 รอ้ ยกว่า ดังนน้ั ผลลพั ธ์ด้านขวา จึงมากกวา่ ) หากนกั เรียนตอบไม่ได้ ครอู าจช่วยแนะนำ เชน่ - ลองพจิ ารณาผลลัพธใ์ นวงเลบ็ วา่ ทางดา้ นซ้ายหรือทางดา้ นขวามากกวา่ (ด้านขวา) - มากกว่ากันอยูเ่ ทา่ ไร (3 ร้อยกว่า ๆ) - จำนวนทนี่ ำมาบวกตา่ งกันอยู่เทา่ ไร (100 พอด)ี - เม่อื นำมาบวกกบั จำนวนท่ีอยู่ในวงเล็บแลว้ ด้านไหนมมี ากกวา่ กนั (ดา้ นขวา) 5. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 1 การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บ เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 1 ขัน้ สรุป

15 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคน แบบมวี งเลบ็ ตอ้ งหาผลลพั ธใ์ นวงเลบ็ ก่อน สอ่ื การเรยี นรู้ 1. แถบบตั รโจทย์ปัญหา 2. แถบโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคน 3. กระดาษแผ่นใหญ่ 4. แถบบตั รโจทยเ์ พอ่ื พัฒนาความรสู้ ึกเชงิ จำนวน 5. ใบงานท่ี 1 การบวก ลบ คณู หารระคนที่มวี งเลบ็ การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ที่ต้องการวัด วิธีวดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 1 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น ใบงานที่ 1 ผา่ นเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสังเกต 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ทกุ ที่พงึ ประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ แบบสงั เกต พฤติกรรมดา้ น คุณลักษณะ ทีพ่ ึงประสงค์

16 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

17 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การบวก ลบ คณู หารจำนวนนับ เวลาเรียน 13 ชว่ั โมง เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บ เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวนั ที.่ ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่.........ปีการศกึ ษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนนิ การ และการนำไปใช้ ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.4/10 : หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนบั และ 0 สาระสำคัญ การบวก ลบ คณู หารระคน แบบมวี งเล็บ ต้องหาผลลพั ธ์ในวงเล็บก่อน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลกั การบวก ลบ คณู หารระคนที่มีวงเล็บได้ (K) 2. หาผลลพั ธข์ องโจทยก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนทมี่ วี งเล็บได้ (P) 3. นำความรู้เกี่ยวกับการบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบวก ลบ คูณ หารระคนท่มี ีวงเลบ็ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

18 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูตดิ แถบบัตรโจทย์ปัญหา ให้นกั เรยี นช่วยกนั คิดแก้ปญั หา ครแู จกสมุดใหน้ กั เรยี น คนละ 6 เลม่ ให้นกั เรยี น 5 คน และแจกสมุดใหน้ กั เรยี น คนละ 4 เล่ม ใหน้ ักเรียน 7 คน ครูแจกสมดุ รวมก่เี ลม่ ครถู ามคำถามเพิม่ เติม เช่น - ครูแจกสมดุ ใหน้ กั เรียน คนละ 6 เล่ม ให้นกั เรียน 5 คน ครูต้องใช้สมดุ กี่เลม่ (5 × 6 = 30 เล่ม) - ครแู จกสมุดใหน้ ักเรยี น คนละ 4 เล่ม ให้นักเรยี น 7 คน ครูตอ้ งใชส้ มดุ ก่ีเล่ม (7 × 4 = 28 เลม่ ) - รวมแล้วครูแจกสมดุ ไปท้ังหมดกเี่ ล่ม (30 + 28 = 58) ครูชวนนักเรียนคยุ เพิ่มเติมวา่ ในการแกโ้ จทย์ปัญหานนั้ ขน้ั ที่ 1 นกั เรียนต้องคำนวณหาอะไรก่อน (ครูต้องใชส้ มดุ กเี่ ลม่ เพ่ือแจกให้ นักเรียน 5 คน คนละ 6 เลม่ ) ข้ันที่ 2 นกั เรียนคำนวณหาอะไรตอ่ (ครูตอ้ งใชส้ มุดกี่เล่มเพ่ือแจกใหน้ ักเรยี น 7 คน คนละ 4 เล่ม) ขนั้ ที่ 3 ตอ้ งทำอย่างไรจึงจะได้จำนวนสมุดทัง้ หมดท่ีครแู จกไป (นำจำนวนสมดุ ท่ี ไดจ้ ากขน้ั ที่ 1 และ ขนั้ ท่ี 2 มาบวกกนั ) ดงั น้นั นกั เรียนเขยี นประโยคสญั ลักษณน์ ้ีได้อย่างไร (5 × 6) + (7 × 4) =  ขั้นสอน 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า จากประโยคสัญลกั ษณน์ ี้ (5 × 6) + (7 × 4) =  นักเรยี นได้ เห็นแลว้ วา่ เราใสว่ งเลบ็ เพ่อื ระบุวา่ ให้หาผลลัพธใ์ นวงเลบ็ กอ่ น และโจทย์น้ีเปน็ การบวก ลบ คณู หาร ระคน ท่ีมี 2 วงเลบ็ และรว่ มกนั สรปุ กับนกั เรยี นวา่ ถา้ ตอ่ ไปเจอโจทยป์ ญั หาลกั ษณะนี้ จะตอ้ งหา คำตอบในวงเล็บก่อน 3. ครูตดิ แถบบัตรโจทยป์ ญั หา แลว้ ให้นักเรยี นชว่ ยกันคิดแก้ปัญหา บ้านของอารยาเป็นสวนผลไม้ วันนที้ ุกคนในครอบครัวชว่ ยกนั เกบ็ แตงโมและสม้ โอ ไปขาย มีแตงโม 250 ผล และส้มโอ 150 ผล แตงโมขายผลละ 25 บาท และส้มโอ ขายผลละ 40 บาท ถา้ ขายผลไม้หมด ครอบครวั ของอารยาจะได้เงนิ ก่ีบาท ครถู ามคำถามเพิ่มเตมิ เชน่ - ขายแตงโม 250 ผล ผลละ 25 บาท ไดเ้ งนิ กบ่ี าท (250 × 25 = 6,250 บาท) - ขายส้มโอ 150 ผล ผลละ 40 บาท ไดเ้ งินก่บี าท (150 × 40 = 6,000 บาท) - ขายผลไมท้ ้ังหมดไดเ้ งนิ เท่าไร (6,250 + 6,000 = 12,250 บาท)

19 - เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์นี้ไดอ้ ย่างไร (250 × 25) + (150 × 40) =  4. ใหน้ ักเรียนแบง่ เปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน แจกกระดาษแผน่ ใหญ่ให้นักเรียนสุม่ หยบิ โจทยก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ที่มี 2 วงเล็บ ดงั ต่อไปนี้ 1. (12,500 ÷ 25) + (3,500 – 1,440) =  (2,560) 2. (990 + 2,010) ÷ (150 × 4) =  (5) 3. (9,932 – 885) – (323 ÷ 19) =  (9,030) 4. (5,400 ÷ 15) + (22 × 14) =  (668) จากนน้ั ครใู ห้นักเรียนออกมานำเสนอ และร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 2 การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บ เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 2 ขั้นสรุป 6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปสง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นร้รู ว่ มกัน ดังน้ี การแก้โจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน ถ้าโจทย์ขอ้ ใดมวี งเล็บ ต้องหาผลลพั ธใ์ นวงเลบ็ สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบบตั รโจทยป์ ญั หา 2. กระดาษแผน่ ใหญ่ 3. แถบบัตรโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนแบบ 2 วงเล็บ 4. ใบงานที่ 2 การบวก ลบ คณู หารระคนทมี่ ีวงเล็บ การวดั ผลและประเมนิ ผล สิง่ ทต่ี ้องการวดั วิธวี ดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 2 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขน้ึ ไป 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น ใบงานท่ี 2 ผา่ นเกณฑ์ในระดับพอใช้ข้นึ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทกุ ทพี่ งึ ประสงค์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทกั ษะกระบวนการ รายการข้ึนไปถือว่าผ่าน เกณฑ์ แบบสงั เกต พฤติกรรมดา้ น คณุ ลกั ษณะ ท่ีพึงประสงค์

20 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

21 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนบั เวลาเรยี น 13 ช่วั โมง เร่ือง การบวก ลบ คูณ หารระคนทไ่ี ม่มีวงเล็บ เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่.........ปีการศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนินการ และการนำไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.4/10 : หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนของจำนวนนับ และ 0 สาระสำคัญ การหาผลลพั ธ์ของโจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน แบบไม่มีวงเลบ็ ถา้ เปน็ การบวกและการ ลบอย่ดู ้วยกัน หรอื ถา้ เปน็ การคูณและการหารอย่ดู ้วยกัน ตอ้ งทำตามลำดบั จากซา้ ยไปขวา ถา้ เปน็ การ บวก ลบ คณู และหารอยู่ด้วยกนั ตอ้ งทำตัวดำเนนิ การคูณและหารกอ่ นตวั ดำเนินการบวกและลบเสมอ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การบวก ลบ คูณ หารระคนท่ไี มม่ ีวงเลบ็ ได้ (K) 2. หาผลลพั ธข์ องโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคนทไ่ี มม่ วี งเล็บได้ (P) 3. นำความรู้เกี่ยวกับการบวก ลบ คูณ หารระคนที่ไม่มีวงเล็บไปใช้แก้ปัญหาทาง คณติ ศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรียนรู้ การบวก ลบ คณู หารระคนทไ่ี ม่มีวงเลบ็ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน

22 กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครูติดแถบโจทยบ์ วก ลบ คูณ หารระคน ใหน้ กั เรยี นหาคำตอบ ดังต่อไปน้ี 1. 8 – 4 + 4 =  2. 11 – 5 + 3 =  3. 12 ÷ 3 × 2 =  4. 20 ÷ 10 × 2 =  5. 3 × 4 ÷ 2 =  2. ครูสุม่ เลือกนักเรยี นให้บอกคำตอบ ซ่ึงบางกรณนี ักเรียนอาจได้คำตอบแตกต่างกนั เช่น 1. ตอบ 8 หรือ 0 2. ตอบ 9 หรอื 3 3. ตอบ 8 หรือ 2 4. ตอบ 4 หรือ 1 5. ตอบ 6 3. ครูชีใ้ หน้ ักเรียนสังเกตว่าเพราะเหตใุ ดแตล่ ะคนจึงได้คำตอบไม่เหมือนกัน แลว้ แบบน้ี จะทำอยา่ งไร ใครถูกใครผิด ข้ันสอน 4. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนที่ตอบแตกต่างกันในแต่ละข้อ อธิบายวธิ คี ิดและหารอยู่ดว้ ยกัน ต้องทำตัวดำเนินการคณู และหารกอ่ นตัวดำเนนิ การบวกและลบเสมอ 5. ครูต้งั คำถาม - ทีเ่ พ่ือนได้คำตอบแตกตา่ งกนั เป็นเพราะอะไร (ครูควรชแ้ี นะให้นักเรียนคิดวา่ เพราะหาผลลัพธโ์ ดยเรมิ่ จากตัวดำเนนิ การที่ต่างกนั ) - แล้วโจทย์แบบน้ี แตกต่างจากโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคนที่ผ่านมาอย่างไร (ทผ่ี ่านมาจะมวี งเลบ็ ให้ แต่โจทย์เหลา่ นี้ไมม่ ีวงเลบ็ ) - ถ้าโจทยท์ ่ีไมม่ วี งเล็บ เราจะรู้ไดอ้ ยา่ งไรวา่ ควรหาผลลัพธ์โดยเรม่ิ จากตัว ดำเนินการใดก่อน (นกั เรยี นอาจจะมีทงั้ ที่รแู้ ละไม่รู้ ครูควรอธิบายวา่ ถ้าเราไมม่ ีข้อตกลงร่วมกัน เราก็ จะได้คำตอบท่แี ตกตา่ งกนั ดงั น้ันเราควรจะมขี ้อตกลงร่วมกันทเี่ ปน็ ทย่ี อมรับกันท่วั โลก) 6. ครูชวนนกั เรียนสนทนาว่า สำหรับโจทยท์ ง้ั 5 ขอ้ นัน้ หากเราเร่มิ คำนวณจากซ้ายไป ขวาตามลำดับ เราจะไดผ้ ลลัพธท์ ี่เหมือนกันหรือไม่ แล้วใหน้ ักเรยี นคดิ หาคำตอบดว้ ยการทำจากซ้าย ไปขวา จะไดว้ ่า 1. 8 – 4 + 4 = 4 + 4 = 8 2. 11 – 5 + 3 = 6 + 3 = 9 3. 12 ÷ 3 × 2 = 4 × 2 = 8 4. 20 ÷ 10 × 2 = 2 × 2 = 4 5. 3 × 4 ÷ 2 = 12 ÷ 2 = 6

23 เปน็ คำตอบทีถ่ ูกตอ้ ง 7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับการแกโ้ จทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน ท่ไี ม่มี วงเลบ็ ว่า - ถ้าเป็นการบวกและการลบอยู่ดว้ ยกัน ตอ้ งทำตามลำดับจากซ้ายไปขวา - ถา้ เปน็ การคณู และการหารอยู่ด้วยกัน ตอ้ งทำตามลำดับจากซา้ ยไปขวา 8. ใหน้ ักเรียนแบง่ เปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แจกกระดาษแผ่นใหญ่ให้นักเรยี นสมุ่ หยบิ โจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน ท่ีไมม่ วี งเลบ็ ดงั ต่อไปนี้ 1. 24,987 – 3,525 + 45,900 =  (67,362) 2. 11,098 – 5,123 + 398 =  (6,373) 3. 3,185 ÷ 13 × 62 =  (15,190) 4. 20,120 ÷ 10 × 24 =  (48,288) 5. 136 × 42 ÷ 21 =  (272) จากน้นั ครูให้นักเรยี นออกมานำเสนอ และร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 9. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 3 การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บ เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปส่ิงทีไ่ ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกันเก่ียวกบั การแก้โจทย์การบวก ลบ คณู หารระคน ที่ไม่มีวงเล็บ ดังน้ี - ถา้ เป็นการบวกและการลบอยู่ดว้ ยกนั ต้องทำตามลำดบั จากซา้ ยไปขวา - ถ้าเปน็ การคูณและการหารอย่ดู ว้ ยกนั ตอ้ งทำตามลำดับจากซา้ ยไปขวา สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบบตั รโจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนแบบไม่มีวงเล็บ 2. ใบงานท่ี 3 การบวก ลบ คูณ หารระคนทม่ี ีวงเล็บ การวดั ผลและประเมนิ ผล สิ่งที่ต้องการวดั วิธวี ดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 3 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น ใบงานท่ี 3 ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ข้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสังเกต 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ทกุ ทพี่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ทกั ษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผ่าน เกณฑ์ แบบสงั เกต พฤติกรรมด้าน คุณลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์

24 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

25 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนบั เวลาเรยี น 13 ช่วั โมง เร่ือง การบวก ลบ คูณ หารระคนทไ่ี ม่มีวงเล็บ เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่.........ปีการศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนินการ และการนำไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.4/10 : หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนของจำนวนนับ และ 0 สาระสำคัญ การหาผลลพั ธ์ของโจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน แบบไม่มีวงเลบ็ ถา้ เปน็ การบวกและการ ลบอย่ดู ้วยกัน หรอื ถา้ เปน็ การคูณและการหารอย่ดู ้วยกัน ตอ้ งทำตามลำดบั จากซา้ ยไปขวา ถา้ เปน็ การ บวก ลบ คณู และหารอยู่ด้วยกนั ตอ้ งทำตัวดำเนนิ การคูณและหารกอ่ นตวั ดำเนินการบวกและลบเสมอ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การบวก ลบ คูณ หารระคนท่ไี มม่ ีวงเลบ็ ได้ (K) 2. หาผลลพั ธข์ องโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคนทไ่ี มม่ วี งเล็บได้ (P) 3. นำความรู้เกี่ยวกับการบวก ลบ คูณ หารระคนที่ไม่มีวงเล็บไปใช้แก้ปัญหาทาง คณติ ศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรียนรู้ การบวก ลบ คณู หารระคนทไ่ี ม่มีวงเลบ็ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน

26 กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูติดแถบโจทยบ์ วก ลบ คูณ หารระคน ให้นักเรียนหาคำตอบ ดงั ต่อไปนี้ 1. 7 + 5 × 3 = 2. 13 – 2 × 3 = 3. 45 - 12 ÷ 3 = 4. 20 + 10 ÷ 2 = 5. 18 ÷ 2 + 6 × 3= 2. ครสู มุ่ เลือกนักเรยี นให้บอกคำตอบ ซึง่ บางกรณนี ักเรียนอาจได้คำตอบแตกตา่ งกนั เช่น 1. ตอบ 36 หรอื 22 2. ตอบ 33 หรอื 7 3. ตอบ 11 หรือ 41 4. ตอบ 15 หรือ 25 5. ตอบ 45 หรือ 27 หรอื อื่น ๆ 3. ครชู ใี้ หน้ ักเรียนสงั เกตว่าเพราะเหตใุ ดแตล่ ะคนจึงได้คำตอบไมเ่ หมือนกัน แล้วแบบน้ี จะทำอยา่ งไร ใครถูกใครผิด ข้ันสอน 4. ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนทตี่ อบแตกต่างกันในแต่ละข้อ อธิบายวิธีคดิ 5. ครูตงั้ คำถาม - โจทยใ์ นครงั้ น้ี ตา่ งจากโจทยไ์ ม่มีวงเล็บที่เราเคยเจอมาครงั้ ท่แี ล้วอยา่ งไร (ครั้งท่ี แล้วมเี ฉพาะการบวกและการลบอยู่ดว้ ยกนั หรือ การคณู และการหารอยดู่ ้วยกัน แตค่ ร้ังนกี้ ารบวก ลบ คณู และหารอยู่ด้วยกนั ) - แลว้ ถ้าโจทยเ์ ปน็ การบวกและการลบอยดู่ ้วยกัน หรือ ถ้าเป็นการคูณและการ หารอยู่ด้วยกนั เราต้องคำนวณอย่างไร (ตอ้ งทำตามลำดับจากซา้ ยไปขวา) - แล้วคร้ังน้ี ทำไมยังมเี พ่ือนได้คำตอบแตกตำ่ งากนั เป็นเพราะอะไร (ครคู วร ชแ้ี นะใหน้ ักเรยี นคิดว่า เพราะบางคนทำตามข้อตกลงจากซ้ายไปขวา แตบ่ างคนทำการคูณและการ หารก่อน แล้วจึงทำตามลำดบั จากซ้ายไปขวา) - แล้วทีถ่ ูกควรทำอย่างไร ครูแนะนำนกั เรยี นว่าเราควรมขี ้อตกลงเพิ่มเติมวา่ การ แกโ้ จทยท์ ีม่ ีตัวดำเนนิ ทง้ั บวก ลบ คูณ และหาร อยู่ด้วยกัน กม็ ีข้อตกลงร่วมกันก็คอื ต้องทำตวั ดำเนนิ การคูณและหารกอ่ นตัวดำเนินการบวกและลบเสมอ 6. ครชู วนนักเรยี นสนทนาวา่ สำหรับโจทย์ท้งั 5 ขอ้ นนั้ หากเราทำตามข้อตกลง จะได้ ว่า 1. 7 + 5 × 3 = 7 + 15 = 22 2. 13 – 2 × 3 = 13 – 6 = 7 3. 45 – 12 ÷ 3 = 45 – 4 = 41

27 4. 20 + 10 ÷ 2 = 20 + 5 = 25 5. 18 ÷ 2 + 6 × 3 = 9 + 18 = 27 เปน็ คำตอบท่ถี ูกตอ้ ง 7. ใหน้ กั เรียนแบง่ เปน็ กลุม่ กลมุ่ ละ 3 – 4 คน แจกกระดาษแผ่นใหญ่ใหน้ ักเรยี นสุ่ม หยิบโจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีไม่มีวงเลบ็ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. 2,487 + 52 × 45 =  (4,827) 2. 13,011 – 2,325 × 3 =  (6,036) 3. 4,585 - 434 ÷ 62 =  (4,578) 4. 12,012 + 225 ÷ 25 =  (12,021) 5. 1365 ÷ 15 + 231 ÷ 21 =  (102) จากนน้ั ครูใหน้ ักเรยี นออกมานำเสนอ และรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง 8. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 4 การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บ เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 4 ข้ันสรุป 9. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกันเกยี่ วกบั การแกโ้ จทย์การบวก ลบ คณู หารระคน ทไ่ี ม่มวี งเลบ็ ดังน้ี - ถา้ เป็นการบวกและการลบอยู่ดว้ ยกัน ตอ้ งทำตามลำดบั จากซา้ ยไปขวา - ถ้าเป็นการคณู และการหารอย่ดู ้วยกนั ตอ้ งทำตามลำดับจากซ้ายไปขวา - ถ้าเป็นการบวก ลบ คูณและหารอยู่ด้วยกัน ต้องทำตัวดำเนินการคูณและหาร กอ่ นตวั ดำเนินการบวกและลบเสมอ สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบบตั รโจทยก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนแบบไม่มีวงเลบ็ 2. ใบงานที่ 4 การบวก ลบ คณู หารระคนที่มวี งเลบ็ การวดั ผลและประเมนิ ผล ส่ิงทต่ี ้องการวัด วิธีวัด เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 4 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้ึนไป 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานท่ี 4 ผา่ นเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ ไป แบบสังเกต 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น พฤติกรรมดา้ น ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ทุก ท่พี ึงประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการขึ้นไปถือวา่ ผ่าน เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมดา้ น คุณลกั ษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์

28 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

29 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 5 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนับ เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง เร่ือง การบวก ลบ คูณ หารระคน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี.........ปกี ารศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนินการ และการนำไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.4/10 : หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคนของจำนวนนับ และ 0 สาระสำคัญ 1. การหาผลลัพธ์ของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน แบบมีวงเล็บ ต้องหาผลลัพธ์ใน วงเลบ็ กอ่ น 2. การหาผลลัพธ์ของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน แบบไม่มีวงเล็บ ถ้าเป็นการบวก และการลบอยู่ด้วยกัน หรือถา้ เปน็ การคูณและการหารอยู่ดว้ ยกนั ต้องทำตามลำดบั จากซา้ ยไปขวา ถา้ เป็นการบวก ลบ คูณและหารอยดู่ ้วยกนั ต้องทำตวั ดำเนินการคูณและหารก่อนตัวดำเนินการบวกและ ลบเสมอ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายหลกั การบวก ลบ คณู หารระคนได้ (K) 2. หาผลลพั ธ์ของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนได้ (P) 3. นำความรูเ้ กีย่ วกับการบวก ลบ คณู หารระคนไปใช้แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบวก ลบ คูณ หารระคน ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

30 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทำงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูทบทวนการบวก ลบ คูณ หารระคน ท้งั แบบมีวงเลบ็ และไม่มวี งเล็บ โดยครตู ิด แถบบตั รโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน 7,980 – 4,911 + 515 ÷ 5  7,980 – 4,911 + (515 ÷ 5) แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันหาผลลพั ธพ์ รอ้ มเปรียบเทียบคำตอบ ขน้ั สอน 2. ให้นักเรียนบอกคำตอบพร้อมอธิบายวิธีคิด โดยครูร่วมตรวจสอบความถูกต้องและ ทบทวนหลักการของการแกโ้ จทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน 3. จากโจทยท์ างดา้ นซา้ ย คอื 7,980 – 4,911 + 515 ÷ 5 ครถู ามคำถาม - นักเรยี นจะเร่มิ ตน้ หาคำตอบอยา่ งไร (มกี ารลบ บวก และหารอยูด่ ว้ ยกัน ตอ้ งทำ ตัวดำเนนิ การหารกอ่ น จะไดว้ า่ 7,980 – 4,911 + 103) - เมื่อทำตัวดำเนินการหารแล้ว นักเรียนจะทำอย่างไรต่อไป (มีการบวกและการ ลบอยู่ด้วยกัน ต้องทำตามลำดับจากซ้ายไปขวา จะได้ว่า 7,980 – 4,911 + 103 = 3,069 + 103 = 3172) จากโจทย์ทางด้านขวา คือ 7,980 – 4,911 + (515 ÷ 5) มีทั้งทั้งแบบมีวงเลบ็ และ ไม่มีวงเลบ็ ครูถามคำถาม - นกั เรียนจะเรมิ่ ตน้ หาคำตอบอยา่ งไร (หาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อน) - นักเรียนเหลือจำนวนนอกวงเล็บ และการดำเนินการอะไรบ้าง (7,980 – 4,911 + 103) - นกั เรียนจะหาคำตอบต่อไปอยา่ งไร (หาผลบวกก่อนแล้วตามด้วยหาผลลบ) จากคำตอบท่นี กั เรยี นได้ ครถู ามคำถามตอ่ วา่ - จ า ก โ จ ท ย ์ 7,980 – 4,911 + 515 ÷ 5 แ ล ะ 7,980 – 4,911 + (515 ÷ 5) เท่ากนั หรอื ไม่ (เท่ากนั ) 4. ครยู กตัวอย่างเพมิ่ เติม ใหน้ ักเรยี นหาคำตอบ - 2,420 ÷ 11 + 9 × 120 - 95 =  แล้วครกู ำหนดวงเลบ็ ในรปู แบบท่หี ลากหลาย ให้นกั เรยี นหาคำตอบ ไดแ้ ก่ - (2,420 ÷ 11. + 9 × 120 - 95 =  - 2,420 ÷ (11 + 9) × 120 - 95 = 

31 - 2,420 ÷ 11 + (9 × 120) - 95 =  - 2,420 ÷ 11 + 9 × (120 – 95) =  5. ให้นักเรียนเปรียบเทียบคำตอบที่ได้ แล้วอธิบายประกอบกับหลักการของการแก้ โจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน ซึ่งยังต้องเนน้ ตามหลกั การแก้โจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนทั้ง แบบมีวงเลบ็ และไม่มวี งเลบ็ 6. ให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน แจกกระดาษแผ่นใหญ่ให้นักเรียนสุ่ม หยิบโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคน ดงั ต่อไปน้ี 1. (450 + 125) × 25 =  2. 12 × 70 ÷ 10 + 2,517 =  3. (728 ÷ 13) + 412 × 15 =  4. 12,350 – 75 × (15 + 66) =  จากนั้นครใู ห้นกั เรียนออกมานำเสนอ และร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 7. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 5 การบวก ลบ คูณ หารระคนที่มีวงเล็บ เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 5 ข้ันสรุป 8. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งทีไ่ ดเ้ รียนรู้รว่ มกนั เก่ยี วกับการแกโ้ จทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน ดังนี้ - การแก้โจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน แบบมีวงเล็บ ต้องหาผลลัพธ์ในวงเลบ็ ก่อน - การแก้โจทย์ การบวก ลบ คูณ หารระคน แบบไม่มีวงเล็บ ถ้าเป็นการบวกและ การลบอยู่ด้วยกัน หรือ ถ้าเป็นการคูณและการหารอยู่ด้วยกัน ต้องทำตามลำดับจากซ้ายไปขวา ถ้า เปน็ การบวก ลบ คูณและหารอย่ดู ว้ ยกนั ตอ้ งทำตัวดำเนนิ การคูณและหารก่อนตัวดำเนนิ การบวกและ ลบเสมอ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. แถบบัตรโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนแบบไมม่ ีวงเล็บ 2. ใบงานท่ี 5 การบวก ลบ คณู หารระคนท่มี วี งเล็บ

32 การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทีต่ ้องการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 5 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานท่ี 5 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทุก ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์

33 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

34 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 6 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การบวก ลบ คณู หารจำนวนนบั เวลาเรยี น 13 ชั่วโมง เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวันท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นท่ี.........ปีการศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนนิ การ และการนำไปใช้ ตวั ชว้ี ดั ค 1.1 ป.4/11 : แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 สาระสำคัญ การแกโ้ จทยป์ ัญหาเริ่มจากการทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา ดำเนนิ ตามแผน และ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำตอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถวเิ คราะห์เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนได้ (K) 2. เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบได้จากโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนได้ (P) 3. นำความรเู้ ก่ยี วกับโจทยป์ ัญหาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

35 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครูติดแถบบัตรโจทย์ปัญหาและให้นกั เรยี นอา่ นโจทยพ์ ร้อมกนั ฟ้า ฝน รงุ้ และหมอกไปรบั ประทานอาหารกลางวนั ทร่ี ้านอาหารแห่งหน่ึง ค่าอาหารรวม 180 บาท หากท้งั สจ่ี า่ ยเงนิ รวมกนั ด้วยธนบตั รฉบบั ละ 500 บาท จำนวน 1 ใบ จะไดร้ ับเงินทอนเทา่ ไร 2. ครูอาจเตรียมธนบตั รจำลองไวใ้ หน้ ักเรยี นใช้ในการแกป้ ัญหา และใช้การถามตอบ - ทั้ง 4 คน ตอ้ งจา่ ยค่าอาหารเทา่ ไร (ค่าอาหาร 180 บาท) - จา่ ยเงินไปกบ่ี าท (500 บาท) - จะหาจำนวนเงนิ ทอนได้อยา่ งไร (จำนวนเงินทจ่ี า่ ย ลบดว้ ย ค่าอาหาร ได้เท่ากับ เงนิ ทอนน่นั คือ 500 – 180 = ) - นกั เรียนเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ได้อยา่ งไร (500 – 180 = ) - ให้นักเรียนคำนวณหาจำนวนเงินทอนที่จะได้รับ และตรวจสอบความถูกต้อง ของคำตอบ (อาจนำค่าอาหารรวมกับเงนิ ทอน ว่าไดเ้ ท่ากับเงินท่ีจา่ ยไปหรอื ไม)่ ขั้นสอน 3. ครูตดิ แถบบตั รโจทยป์ ัญหาและให้นักเรยี นอ่านโจทยพ์ รอ้ มกนั ฟา้ ฝน รงุ้ และหมอกไปรบั ประทานอาหารกลางวันทร่ี ้านอาหารแห่งหน่ึง ทง้ั สีค่ น ส่งั ข้าวราดกะเพราไกเ่ หมอื นกัน ในเมนูเขยี นราคาไว้ จานละ 35 บาท หากทงั้ สี่ จ่ายเงนิ รวมดว้ ยธนบตั รฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ใบ จะได้รับเงินทอนเทา่ ไร ครูถามว่า - จากโจทยข์ อ้ น้ี โจทยถ์ ามอะไร (จะได้รบั เงินทอนเท่าไร) - นกั เรียนหาเงินทอนได้อยา่ งไร (เงนิ ทจ่ี า่ ยไป ลบดว้ ย ค่าอาหารรวม) - นกั เรียนยงั ไม่ทราบอะไร (ค่าอาหารรวม) - นักเรียนจะหาคา่ อาหารรวม ได้อย่างไร (คา่ อาหารของท้งั 4 คน มารวมกัน) - ค่าอาหารของแต่ละคนเปน็ เท่าไร (35 บาท) - ดังนน้ั ค่าอาหารรวมเป็น (4 × 35 หรือ 35 + 35 + 35 + 35)

36 35) = ) - นักเรียนเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ เพื่อหาเงินทอนได้อย่างไร (500 – (4 × - นักเรียนหาคำตอบได้ ดังนี้ ประโยคสัญลกั ษณ์ 500 – (4 × 35) =  500 – (4 × 35) = 500 – (140) = 360 ดงั น้ัน จะได้รบั เงนิ ทอน 360 บาท และตรวจสอบความถกู ต้องของคำตอบกบั โจทยป์ ัญหา ได้รบั เงินทอน 360 บาท คา่ อาหารของทง้ั 4 คน ราคาจานละ 35 บาท คิดเป็นคา่ อาหารรวม 4 × 35 = 140 บาท เงินทอน 360 บาท รวมกบั ค่าอาหารรวม 140 บาท ได้เปน็ เงินที่จ่ายไป 360 + 140 = 500 บาท ซึ่งตรงกับโจทย์ แสดงว่า 360 บาท เปน็ คำตอบท่ถี กู ต้อง 4. ครกู ำหนดโจทย์ปัญหาที่ 3 เพ่มิ เตมิ ให้นกั เรียนชว่ ยกนั หาคำตอบ ดังนี้ ฟ้า ฝน รุ้ง และหมอกไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งสี่คน สั่งขา้ วราดกะเพราไก่เหมือนกนั หากทง้ั สจี่ า่ ยเงนิ รวมด้วยธนบัตรฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ใบ และได้รับเงินทอน 300 บาท แต่ละคนตอ้ งจา่ ยคา่ อาหารคนละเทา่ ไร 5. ถ้านักเรียนไมส่ ามารถวิเคราะหโ์ จทย์ไดค้ รอู าจถามคำถามดังต่อไปน้ี - จากโจทย์ข้อนี้ โจทยถ์ ามอะไร (แตล่ ะคนตอ้ งจา่ ยค่าอาหารคนละเท่าไร) - นกั เรียนหาค่าอาหารรวมได้อย่างไร (เงินทจี่ า่ ยไป ลบด้วย เงินทอน น่ันคือ 500 – 300 =200 บาท) - นักเรียนจะหาค่าอาหารของแต่ละคนได้อย่างไร (ค่าอาหารรวม หารด้วย จำนวนคน นั้นคอื 200 ÷ 4 = 50 บาท) - นักเรียนเขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ เพื่อว่าแต่ละคนต้องจ่ายค่าอาหารของแต่ ละคน ได้อยา่ งไร (500 – 300) ÷ 4 = ) - นกั เรียนหาคำตอบได้ ดงั น้ี ประโยคสญั ลกั ษณ์ (500 – 300) ÷ 4 =  (500 – 300) ÷ 4 = 200 ÷ 4 = 50 ดังนัน้ จะตอ้ งจา่ ยคา่ อาหารคนละ 50 บาท และตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคำตอบกับโจทยป์ ัญหา จ่ายคา่ อาหารคนละ 50 บาท

37 คา่ อาหารของทง้ั 4 คน คนละ 50 บาท คดิ เป็นคา่ อาหารรวม 4 × 50 = 200 บาท เงนิ ทอน 300 บาท รวมกับค่าอาหารรวม 200 บาท ไดเ้ ป็นเงนิ ทจ่ี ่ายไป 300 + 200 = 500 บาท ซึ่งตรงกับโจทย์ แสดงว่า 50 บาท เป็นคำตอบที่ถูกต้อง 6. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 6 โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เมื่อเสร็จแล้ว ใหน้ ักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 6 ข้ันสรปุ 7. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปสง่ิ ที่ไดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกันเกยี่ วกบั การแกโ้ จทย์ปัญหา ดงั นี้ - เราควรอ่านโจทย์ปัญหาจนจบให้เข้าใจ หากคาไหนนักเรียนไม่เข้าใจ หรือไม่ ทราบความหมายให้สอบถามจากครู - เราตอ้ งวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาว่า “โจทยต์ อ้ งการให้หาอะไร” และให้บ้าง” - จากน้ันเราจงึ หาวิธีการแก้ปญั หา โดยอาจวเิ คราะห์จากคาหรือข้อความในโจทย์ ในการเลือกเครื่องหมาย และลำดบั ในการดาเนนิ การ และตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบกับโจทย์ ปัญหา สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบบตั รโจทย์ปญั หา 2. ใบงานท่ี 6 โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน การวัดผลและประเมินผล สงิ่ ท่ตี ้องการวดั วิธวี ัด เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 6 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึน้ ไป 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น ใบงานท่ี 6 ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ขน้ึ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสังเกต 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น พฤติกรรมดา้ น ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทุก ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการขนึ้ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสงั เกต พฤติกรรมด้าน คณุ ลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์

38 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

39 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 7 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การบวก ลบ คณู หารจำนวนนบั เวลาเรยี น 13 ชั่วโมง เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวันท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นท่ี.........ปีการศึกษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนนิ การ และการนำไปใช้ ตวั ชว้ี ดั ค 1.1 ป.4/11 : แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 สาระสำคัญ การแกโ้ จทยป์ ัญหาเริ่มจากการทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา ดำเนนิ ตามแผน และ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำตอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถวเิ คราะห์เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนได้ (K) 2. เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบได้จากโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนได้ (P) 3. นำความรเู้ ก่ยี วกับโจทยป์ ัญหาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

40 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูตดิ แถบบัตรโจทย์ปญั หา ดังน้ี โรงงานผลิตยาแห่งหนง่ึ ผลิตวิตามิน 3 ชนดิ คือ A B และ C ถ้าโรงงานแห่ง นีผ้ ลติ วติ ามิน C ไดว้ ันละ 287,000 เมด็ ผลติ วิตามิน B ได้ มากกว่าวิตามนิ C อยู่ 1,800 เม็ด ผลติ วิตามิน A ไดน้ อ้ ยกวา่ วิตามิน B อยู่ 2,900 เมด็ โรงงานน้ีผลิตวิตามิน A ได้วันละกี่เม็ด 2. ให้นักเรียนอ่านโจทยพ์ รอ้ มกนั และครสู นทนา ดงั ตอ่ ไปนี้ - โรงงานน้ผี ลิตวติ ามินก่ีชนดิ อะไรบ้าง (3 ชนดิ คอื A B และ C) - ผลิตวิตามิน C ได้วันละ (ผลิตได้วันละ 287,000 เมด็ ) - ผลิตวติ ามิน A ไดว้ นั ละ (โจทยใ์ ห้หา และทราบว่า ผลิตได้นอ้ ยกวา่ วติ ามนิ B อยู่ 2,900 เม็ด) - ผลิตวิตามิน B ไดว้ นั ละ (ผลติ ได้ มากกว่าวติ ามิน C อยู่ 1,800 เม็ด) ขน้ั สอน 3. จากโจทย์ปัญหาในขั้นนำ ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแก้โจทย์ปัญหา โดย ครูอาจใช้คำถามกระตุ้น ดังนี้ - จะหาได้อย่างไรว่าผลิตวิตามิน B ได้กี่เม็ด (จำนวนที่ผลิตวิตามิน C ได้ บวกกับ 1,800 เมด็ นั่นคือ 287,000 + 1,800 = ) - จะหาได้อย่างไรว่าผลิตวิตามิน A ได้กี่เม็ด (จำนวนที่ผลิตวิตามิน B ได้ หักออก 2,900 เมด็ น่นั คอื (287,000 + 1,800) – 2,900 = ) - นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร (287,000 + 1,800) – 2,900 = ) - ให้นกั เรยี นคำนวณหาจำนวนวติ ามนิ A ท่โี รงงานแหง่ นีผ้ ลิตไดใ้ น ละวนั ดงั นี้ ประโยคสัญลักษณ์ (287,000 + 1,800) – 2,900 =  (287,000 + 1,800) – 2,900 = 288,800 – 2,900 = 285,900 ดังนัน้ โรงงานแห่งนผี้ ลติ วิตามนิ A ไดว้ นั ละ 285,900 เม็ด และตรวจสอบความถกู ต้องของคำตอบกับโจทย์ปญั หา โรงงานแหง่ น้ผี ลิตวิตามนิ A ได้ 285,900 เม็ด

41 ผลติ วิตามนิ B ได้ มากกวา่ วิตามนิ A อยู่ 2,900 เมด็ ดังนนั้ ผลิตวติ ามนิ B ได้ 285,900 + 2,900 = 288,800 เมด็ ผลติ วิตามนิ B ได้ มากกวา่ วติ ามิน C อยู่ 1,800 เมด็ ดงั น้นั ผลติ วิตามนิ C ได้ 288,800 - 1,800 = 287,000 เมด็ ผลติ วติ ามนิ C ได้ 287,000 เมด็ ซง่ึ ตรงกับโจทย์ แสดงวา่ 287,000 เมด็ เปน็ คำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง 4. ครตู ดิ แถบบัตรโจทย์ปญั หา ดงั น้ี ลงุ ขาวมขี า้ วสารอยู่ 3,705 กิโลกรมั แบ่งใส่ถุง ถงุ ละ 15 กิโลกรมั แลว้ ขาย ถุงละ 520 บาท ลุงขาวจะขายขา้ วสารไดเ้ งินท้ังหมดกี่บาท 5. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแก้โจทย์ปัญหา โดยครูอาจใช้คำถามกระตุ้น ดังตอ่ ไปนี้ - ลงุ ขาวมขี ้าวสารอยูเ่ ท่าไร (3,705 กิโลกรัม) - แบ่งใส่ถุง ถงุ ละเท่าไร (15 กิโลกรมั ) - จะหาได้อย่างไรว่า ได้ข้าวสารทั้งหมดกี่ถุง (นำน้ำหนักข้าวสารที่มีอยู่ หารด้วย น้าหนกั ข้าวสารในแตล่ ะถงุ นน่ั คือ 3,705 ÷ 15 = ) - ขายถงุ ละ เทา่ ไร (520 บาท) - จะหาไดอ้ ยา่ งไรวา่ ลงุ ขาวจะขายขา้ วสารไดเ้ งินทั้งหมดก่ีบาท (นำจำนวนถุงของ ขา้ วสารมาคูณด้วยราคาขาย น่ันคอื (3,705 ÷ 15) × 520 = ) - นกั เรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณไ์ ดอ้ ย่างไร ((3,705 ÷ 15) × 520 = ) - ใหน้ ักเรยี นหาจำนวนเงนิ ท่ีลุงขาวจะไดจ้ ากการขายขา้ วสาร ดงั น้ี ประโยคสญั ลักษณ์ (3,705 ÷ 15) × 520 =  (3,705 ÷ 15) × 520 = 247 × 520 = 128,440 ดงั นนั้ ลงุ ขาวขายขา้ วไดเ้ งิน คอื 128,440 บาท และตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคำตอบกับโจทยป์ ญั หาโดยใช้เคร่ืองคิด ดังน้ี ลุงขาวขายข้าวสารได้เงิน 128,440 บาท ขายไปถุงละ 520 บาท ขายข้าวไป ทั้งหมดกีถ่ งุ ดงั นั้น ขายข้าวไปทงั้ หมด 128,440 ÷ 520 = 247 ถุง ขา้ วสาร 247 ถุง ถงุ ละ 15 กโิ ลกรมั คดิ เป็นขา้ วสารท้ังหมดก่ีกิโลกรัม 247 × 15 = 3,705 ขา้ วสารทั้งหมด 3,705 กโิ ลกรัม ซงึ่ ตรงกับโจทย์ แสดงว่า 3,705 บาท เปน็ คำตอบท่ถี ูกตอ้ ง 6. ให้นักเรียนแบง่ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แจกกระดาษแผ่นใหญใ่ ห้นกั เรียนสุ่มหยิบ โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน ดงั ต่อไปนี้ เพอ่ื แสดงวิธีคดิ และตรวจคำตอบ

42 พ่อค้าลงทุนซอื้ ผลไม้และขนมมาขายเป็นเงิน 2,250 บาท จากนน้ั ขายสนิ ค้า ท้งั สองชนดิ จนหมดไดเ้ งินจากการขายผลไม้ 1,735 บาท ได้เงนิ จากการขาย ขนม 1,590 บาท พ่อค้าได้กำไรจากการขายของครั้งนี้เท่าไร ((1,735 + 1,590) – 2,250 = ) (1,075) มผี ูบ้ รจิ าคเงนิ เป็นทุนการศึกษาใหโ้ รงเรียนทุนละ 450 บาท จำนวน 20 ทุน ถ้านำเงินจำนวนดงั กลา่ วไปจัดสรรเป็นทนุ การศึกษาใหน้ กั เรียน ทุนละ 225 บาท จะมนี ักเรียนกี่คนที่ได้รับทุนการศึกษา ((20 × 450) ÷ 225 = ) (40) การประชุมมีผู้เข้าร่วมประชุม 234 คน จ่ายค่าอาหารว่างคนละ 95 บาท ค่าอาหารกลางวันคนละ 240 บาท คิดเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดกี่บาท (234 × (95 + 240) = ) ซอื้ เสือ้ 15 ตวั เปน็ เงนิ 1,200 บาท ขายไปตัวละ 100 บาท ถ้าขายทั้งหมด จะไดก้ ำไรเท่าไร ((15 × 100) – 1,200 = ) 7. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 7 โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เมื่อเสร็จแล้ว ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 7 ขั้นสรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหา ดังน้ี การแก้โจทย์ปัญหาเริ่มจาก การทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา ดำเนินตามแผนและ ตรวจสอบความถกู ต้องของคำตอบกับโจทย์ปญั หา สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบบตั รโจทย์ปัญหา 2. ใบงานท่ี 7 โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน

43 การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทีต่ ้องการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 7 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานท่ี 7 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใชข้ ้ึน กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสงั เกต 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทุก ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ทักษะกระบวนการ รายการข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ แบบสังเกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์

44 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

45 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 8 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การบวก ลบ คณู หารจำนวนนับ เวลาเรยี น 13 ชวั่ โมง เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวันท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่.........ปีการศกึ ษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนนิ การ และการนำไปใช้ ตวั ชว้ี ดั ค 1.1 ป.4/11 : แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 สาระสำคัญ การแกโ้ จทยป์ ัญหาเริ่มจากการทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา ดำเนินตามแผน และ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำตอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถวเิ คราะห์เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบโจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คูณ หารระคนได้ (K) 2. เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละแสดงวิธีทำจากโจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารระคนได้ (P) 3. นำความรเู้ ก่ยี วกับโจทยป์ ัญหาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

46 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูติดแถบบัตรโจทย์ปญั หา ดังนี้ จติ รามีเงินอยู่ 21,760 บาท วันนข้ี ายทเุ รียนได้อีก 139 กโิ ลกรมั ราคา กิโลกรัมละ 47 บาทจิตรามีเงินทัง้ หมดเท่าไร 2. ให้นักเรียนร่วมกันอ่านโจทยแ์ ละวิเคราะห์ โดยครูอาจใช้คำถามกระตนุ้ ดงั น้ี - จิตรามเี งนิ อยแู่ ลว้ กบ่ี าท (21,760 บาท) - ขายผลไมอ้ ะไรได้เพ่ิมอกี (ทุเรียน) - ขายไปกก่ี โิ ลกรมั (139 กโิ ลกรัม) - กโิ ลกรัมละเทา่ ไร (47 บาท) ข้ันสอน 3. จากโจทย์ปัญหาในขั้นนำ ครใู หน้ ักเรียนจับคกู่ ันเพ่ือถามตอบเก่ยี วกับปัญหา เพื่อทำ ความเข้าใจปญั หา ดังนี้ - จะหาไดอ้ ยา่ งไรวา่ ขายทุเรยี นได้เงนิ เทา่ ไร (139 × 47 = 6,345 บาท) - จะหาไดอ้ ยา่ งไรว่า จิตรามีเงนิ ทั้งหมดเทา่ ไร (21,760 + 6,345 = 28,105 บาท) - โดยนกั เรยี นสามารถแสดงวธิ ที ำได้ ดงั น้ี วิธที ำ ขายทุเรียนไปกิโลกรัมละ 47 บาท ขายทุเรยี นไป 139 กโิ ลกรัม ขายทุเรียนไปเป็นเงิน 139 × 47 = 6,533 บาท จิตรามีเงนิ 21,760 บาท รวมจติ รามเี งินทง้ั หมด 21,760 + 6,533 = 28,293 บาท ตอบ ๒๘,๒๙๓ บาท และตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำตอบกบั โจทยป์ ญั หาโดยเครอื่ งคิดเลข ดงั นี้ จติ รามเี งนิ ทัง้ หมด 28,105 บาท หักออกจากที่มีอยู่เดิม 21,760 คิดเป็นเงินจากการ ขายผล ไร 28,293 - 21,760 = 6,533

47 น่นั คือ ขายทเุ รยี น คิดเป็นเงนิ 6,533 บาท กโิ ลกรมั ละ 47 บาท ขายไปกกี่ ิโลกรมั 6,533 ÷ 47 = 139 ขายไป 139 กิโลกรมั ซึง่ ตรงกับโจทย์ แสดงว่า 139 กิโลกรมั เปน็ คำตอบทถ่ี กู ต้อง 4. ให้นักเรียนแบง่ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แจกกระดาษแผ่นใหญใ่ ห้นักเรียนสุ่มหยิบ โจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ดังต่อไปนี้ เพื่อแสดงวิธคี ิดและตรวจคำตอบ พอ่ สำรวจราคาเคร่ืองใช้ไฟฟา้ แต่ลมื จำราคาทัง้ หมดไม่ได้ จำไดเ้ พยี งว่าโทรทัศน์ ราคา 12,500 บาท ตู้เย็นราคาถูกกว่าโทรทัศน์ 4,790 บาท คอมพิวเตอร์ราคา แพงกว่าตู้เย็น 21,700 บาท อยากทราบว่า คอมพิวเตอร์ราคากี่บาท ((12,500 – 4,790) + 21,700 = ) (29,410) ห้างสรรพสนิ คา้ แห่งหนงึ่ จัดสรรพืน้ ทวี่ า่ งสาหรบั แบง่ เชา่ เพื่อขายของ เดิมแบ่งได้ เป็น 30 หนว่ ยแตล่ ะหนว่ ยมเี นื้อที่ 75 ตารางเมตร ถา้ นาพื้นที่ทง้ั หมดมาจดั สรร ใหม่ เปน็ หนว่ ยละ 50 ตารางเมตร จะจดั สรรได้ก่ีหนว่ ย ((30 × 75. ÷ 50 = ) (45) รา้ นอาหารแหง่ หน่งึ ผู้จดั การร้านไดร้ ับเงินเดือนเปน็ 3 เท่าของพนกั งานรบั รายการอาหารพนกั งานรับรายการอาหารไดร้ ับเงินเดือนมากกวา่ พนักงานทำ ความสะอาด 9,750 บาท ถ้าพนักงานทำความสะอาดได้รับเงินเดือน 10,800 บาท ผจู้ ัดการรา้ นจะได้รับเงนิ เดอื นกี่บาท (3 × (10,800 + 9,750) = ) (61,650) พ่อแบ่งเหรียญห้าบาท 1,875 เหรียญ ที่สะสมไว้ ให้ลูก 5 คน คนละเท่า ๆ กัน ถ้าลูกคนโตมเี หรยี ญห้าบาทอย่แู ล้ว 271 เหรยี ญ เมอ่ื ไดร้ บั จากพอ่ มาเพิม่ ลูกคน โตจะมีเหรยี ญห้าบาทท้ังหมดก่ีเหรียญ (271 + (1,875 ÷ 5) = ) (646) สมพรขายเสื้อ 252 ตัว ราคาตัวละ 125 บาท นำเงินไปฝากธนาคาร 8,700 บาท สมพรเหลือเงินไว้ใช้จ่ายเทา่ ไร ((252 × 125. - 8,700 = ) (22,800) พิมพ์หนังสือ 15,000 เล่ม ขายไปแล้ว 12,000 เล่ม ที่เหลือนาไปฝากขายตาม ร้านหนังสือ ร้านละ 75 เล่ม จะต้องนำหนังสือไปฝากขายกี่ร้าน ((15,000 – 12,000) ÷ 75 = ) (40)

48 จากนนั้ ครูให้นกั เรยี นออกมานำเสนอ และรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 5. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 8 โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เมื่อเสร็จแล้ว ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 8 ข้ันสรปุ 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหาและ แสดงวิธีทำ ดังน้ี การแก้โจทย์ปญั หาเร่ิมจาก การทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา ดำเนินตาม แผน และตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำตอบกับโจทยป์ ัญหา สอ่ื การเรียนรู้ 1. บตั รโจทยป์ ญั หา 2. ใบงานท่ี 8 โจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน การวดั ผลและประเมินผล สง่ิ ท่ีต้องการวดั วธิ วี ัด เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 8 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ใบงานที่ 8 ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ข้นึ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ ไป แบบสังเกต 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน พฤติกรรมด้าน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทกุ ทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ทกั ษะกระบวนการ รายการขึน้ ไปถือว่าผ่าน เกณฑ์ แบบสงั เกต พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะ ที่พึงประสงค์

49 บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผู้สอน ( นางรัชนีย์ สมิ มาคำ) ..../................../........

50 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 9 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 การบวก ลบ คูณ หารจำนวนนับ เวลาเรยี น 13 ชว่ั โมง เรื่อง การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คูณ หารระคน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง จากประโยคสัญลกั ษณ์ สอนวนั ที.่ ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี.........ปีการศกึ ษา............. ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการ ดำเนนิ การ และการนำไปใช้ ตวั ช้ีวัด ค 1.1 ป.4/12 : สร้างโจทย์ปญั หา 2 ข้นั ตอน ของจำนวนนบั และ 0 พรอ้ มทง้ั หาคำตอบ สาระสำคัญ การสร้างโจทยป์ ญั หา ตอ้ งมที ้ังสว่ นท่ีโจทย์บอกและสว่ นทีโ่ จทยถ์ าม นอกจากนี้โจทย์ปัญหาที่ สรา้ งต้องมีความเป็นไปได้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนได้ (K) 2. เขียนแสดงการสร้างโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 3. เขยี นแสดงวธิ หี าคำตอบจากโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีสรา้ งขึ้นได้อย่าง ถกู ต้อง (P) 3. นำความรู้เกย่ี วกบั โจทยป์ ัญหาไปใช้แก้ปัญหาในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การสร้างโจทย์ปญั หาการบวก ลบ คณู หารระคนจากประโยคสัญลกั ษณ์ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล