Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชื่องานวิจัย การใช้งานการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19(อรอุษา ศิริรัตน์-63)

ชื่องานวิจัย การใช้งานการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19(อรอุษา ศิริรัตน์-63)

Published by Mini Krupae, 2021-09-01 12:24:33

Description: ชื่องานวิจัย การใช้งานการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19(อรอุษา ศิริรัตน์-63)

Search

Read the Text Version

1

ก2 กิตติกรรมประกาศ การวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้ สำเร็จสมบูรณ์ด้วยความตั้งใจ และพากเพียร ด้วยความหวังว่าจะเป็น ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และท้งั หมดน้จี ะเกิดขนึ้ มไิ ดห้ ากปราศจากความอนเุ คราะหจ์ าก ทา่ นผู้อำนวยการประจักษ์ ประจิมทิศ และท่านผู้อำนวยการวิมลนาถ บัวแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ ให้ความรู้ ความคิด ให้คำแนะนำ คำปรึกษาต่างๆ เป็นอย่างดี จนการวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ ผ้วู ิจยั ขอขอบคณุ เปน็ อย่างสงู ไว้ ณ ที่นี้ อรอุษา ศิรริ ตั น์ ผู้วจิ ัย

ข3 ชื่องานวิจัย การใช้งานการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ ระบาดของไวรัส COVID-19 ชื่อผู้วจิ ยั นางสาวอรอุษา ศิริรัตน์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บทคัดย่อ การวิจัยในช้ันเรียนคร้ังนเ้ี ปน็ การวจิ ัยเร่อื ง การใชง้ านการเรียนการสอนในรปู แบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความ พึงพอใจในการ จัดการเรียนการสอนผ่าน Google Classroom ของผู้เรียน ผู้บริหาร ผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยประชากรแล กลุ่มตัวอย่างในการทำวิจัยคือ จำนวน 340 คน ซึ่งระยะเวลาในการทำวิจัย 1 ภาคเรียน คือ ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 เครอื่ งมือท่ีใชใ้ นการวจิ ยั ครัง้ น้ี เปน็ เครือ่ งมอื ทผี่ วู้ จิ ยั จดั ทำข้ึนไดแ้ ก่ แบบประเมินความพึงพอใจใน การใช้ งานการเรียนการสอน ในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เครื่องมือของแบบประเมินความพึงพอใจเป็นแบบมาตราการประเมิน (Rating Scale) 5 ระดับ ตามแนวคดิ ของลเิ คิรท์ ขอ้ คำถามจำนวน 10 ข้อ โดยใชเ้ กณฑน์ ้ำหนักคะแนนประเมินคา่ จัดอันดบั ความสำคัญและ สำหรบั การแปลความหมายใช้คา่ เฉลี่ยของคา่ วัดไดแ้ ละยึดแนวคิดของเบสท์ (Best, 1986 : 195) การวิเคราะห์ขอ้ มลู จะใชส้ ถติ ิทใี่ ช้วเิ คราะห์ข้อมูลด้านความพงึ พอใจใช้สถติ ิที่ใชว้ เิ คราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย (S.D.) และร้อยละ (%) ผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยด้วยวิธีทาง สถิติ ดังนี้ ส่งแบบสอบถามออนไลน์ ความพึงพอใจในการใช้งานการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรสั COVID-19 ตามจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 340 คน และ นำผลทีไ่ ด้มาหาค่าความพึงพอใจ ผลการวิจยั ปรากฏว่า จากการศึกษาและวิเคราะห์จากระดับความพึงพอใจในการใช้งานการเรยี นการสอน ในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 พบว่าระดับ ความพงึ พอใจ มาก เน่ืองจาก Google Classroom สามารถตอบสนองความต้องการในด้านการเตรยี มสื่อเอกสาร ประกอบกบั ความสามารถในการมอบหมายงานในระหว่างมีการจัดการเรียนการสอน ทำให้มีความต่อเนอ่ื ง ในส่วน ของผู้เรียนและผู้บริหาร ผู้สอน มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก เหมือนกัน แต่ยังคงมีจุดอ่อนในด้านการ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในบทเรียนมากขึ้น ด้านสามารถสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้น่าสนใจ และ ด้าน การกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนการสอน ซึ่งมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับ ปานกลาง อีก ท้ังยงั พบว่าค่าเฉลีย่ อยู่ในระดบั 3.59 การแปรผล เหน็ ดว้ ยอยู่ในระดับ มาก

สารบัญ 4ค กติ ตกิ รรมประกาศ หน้า บทคดั ย่อ ก สารบัญ ข สารบญั ภาพ ค สารบญั ตาราง ง บทที่ 1 บทนำ จ ความสำคญั และทมี่ า 7 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 8 ขอบเขตของงานวิจยั 8 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั 8 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ท่ีเกี่ยวข้อง พฤติกรรม (Behavior) 9 ทฤษฎกี ารเรียนรู้ (Learning Theory) 10 ประโยชนข์ องการบ้าน 10 อปุ สรรคของการทำงาน 11 ค่มู อื Google Classroom Manual For Teacher 13 งานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง 48 บทท่ี 3 วธิ กี ารดาเนินการวิจยั ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 50 ระยะทีใ่ ช้ในการวจิ ัย 50 เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการวจิ ยั 50 วธิ ดี ำเนินการวิจยั 52 การวิเคราะห์ข้อมลู 52 สถิติท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล 52 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู 54 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรปุ ผลการวิจัย 58 อภปิ รายผลการศึกษา 58 ขอ้ เสนอแนะ 58 ภาคผนวก 59 บรรณานกุ รม 64 66 ประวัติผู้วิจัย

สารบัญภาพ ง5 ภาพท่ี 1 หอ้ งบทเรียนออนไลนท์ ่ีสรา้ งขน้ึ โดยผู้สอน หน้า ภาพท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นการสอนภายใน Classroom 52 52

จ6 สารบัญตาราง หนา้ 53 ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของความพงึ พอใจในการใช้งานการเรียนการสอน ในรูปแบบออนไลน์ ผา่ น Google Classroom ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของไวรสั COVID-19 55 ตารางที่ 2 แสดงค่าเฉลยี่ ของความพงึ พอใจในการใช้งานการเรยี นการสอน ในรูปแบบออนไลน์ ผา่ น Google Classroom ภายใตส้ ถานการณแ์ พรร่ ะบาดของไวรัส COVID-19

7 บทที่ 1 บทนำ ความสำคญั และท่ีมา ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนสามารถ เข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้การศึกษาของประเทศไทยเกิดการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ก้าวทันต่อความต้องการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online Learning) จึงได้เข้ามามีบทบาทต่อการเรียนการสอนทุกระดับชั้น เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก และเป็นพลเมืองที่สร้างความยั่งยืนให้กับ ประเทศ สถานการณ์ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019-COVID-19) โดยองคก์ ารอนามัยโลกไดป้ ระกาศเปน็ ภาสะฉุกเฉนิ ทางด้านสาธารณสขุ ทำให้สถาบันการศึกษา ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ หนึ่งในมาตรการเพื่อการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ภายใต้สถานการณ์สภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขนั้น ได้แก่ วิธีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นการเว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างบุคคล ทำให้เกิดกระแสของการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตการ ทำงานและการศึกษาจำนวนมาก โดยในส่วนของการศกึ ษามีการปรับเปน็ รปู แบบการสอนออนไลน์ เพอ่ื ใหน้ ักเรียน ไดเ้ รยี นรู้ดว้ ยตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง (วารสารศนู ยอ์ นามัยท่ี 9 ปที ่ี 14 ฉบับที่ 34, พฤษภาคม-สงิ หาคม: 2563) สำหรับการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์นับเป็นระบบบริหารจัดการการเรียนการสอนที่มี ฟังก์ชันการทำงานที่สนับสนุนตอ่ การจัดการเรยี นการสอนอย่างการใช้ Google Education ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งที่ นิยมใช้ในการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ที่จะนำมาช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการการคิด การทำงาน การสืบค้นข้อมูล และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางโรงเรียนสตรีวัดระฆังได้นำ Google Classroom ซึ่งเป็นฟังก์ชันบริการอีกรูปแบบหนึ่งในแอปพลิเคชั่นของ Google Education ที่เป็นระบบการ จัดการเรยี นการสอนออนไลน์ ที่ใหบ้ รกิ ารบนเครือข่ายอนิ เตอร์เนต็ โดยผู้ใช้ไม่ต้องติดต้ังโปรแกรมเอง แต่ผุ้ใช้ต้องมี บัญชีผู้ใช้งานอีเมลของกูเกิ้ลเพื่อสำหรับการใช้งาน โดยที่ใช้ Google Education ก็จะมีความหลากหลายที่จะ นำมาใช้งาน เช่น Google Drive เพื่อเป็นพื้นที่จัดเก็บเอกสาร และ Google Classroom ที่สามารถนำมาจัดการ เรียนการสอนเพื่อจัดการผู้เรียนในการ อัพโหลดเอกสารประกอบการสอน การจัดทำการบ้าน ใบงาน รวมทั้งการ ทำแบบทดสอบออนไลน์ เพือ่ เพ่ิมความสะดวกและรวดเรว็ ในการสื่อสาร (รายงานสืบเน่ืองจากการประชุมวิชาการ ระดับชาติ ครง้ั ที่ 4, สถาบนั วิจยั มหาวิทยาลยั ราชภฎั กำแพงเพชร, 22 ธันวาคม: 2560) จากที่กล่าวมาข้างต้นพบว่าการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์มีความสำคัญอย่างมากในการเรียนการ สอนในยคุ และสถานการณ์ปัจจุบนั ดงั นน้ั ในงานวิจัยน้ีจงึ ศึกษาความพึงพอใจการเรยี นการสอนในรูปแบบออนไลน์ ภายใตส้ ถานการณแ์ พรร่ ะบาดของไวรสั COVID-19

8 วัตถปุ ระสงค์ของการวิจัย 1. เพอ่ื ศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรยี นการสอนผ่าน Google Classroom ของผู้เรียน 2. เพ่อื ศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรยี นการสอนผา่ น Google Classroom ของผู้บรหิ ารและ ผู้สอน 3. เพอ่ื ศึกษาความพงึ พอใจในการจัดการเรยี นการสอนผา่ น Google Classroom ของผู้ปกครองและผูท้ ี่ เกีย่ วขอ้ ง ขอบเขตของงานวจิ ัย 1. กลมุ่ ตวั อย่างในการทำวจิ ัย จำนวน 340 คน 2. ระยะเวลาคือ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั 1. ไดร้ ับขอ้ มูลสารสนเทศเกยี่ วกับความพงึ พอใจการใชง้ านการเรยี นการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียน การสอน 2. เปน็ แนวทางในการแก้ปัญหาการการใชง้ านการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผา่ น Google Classroom ภายใต้สถานการณแ์ พร่ระบาดของไวรสั COVID-19 ของผู้เรียนและผสู้ อนในทุกรายวิชา

9 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เอกสารทีเ่ กยี่ วข้อง แนวทางในการจัดทำวิจัยใน เร่อื ง การใชง้ านการเรยี นการสอนในรปู แบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ผู้วิจัยจึงศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเสนอตามลำดบั หวั ขอ้ ดงั น้ี 1. พฤติกรรม (Behavior) 2. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ (Learning Theory) 3. ประโยชน์ของการบ้าน 4. อปุ สรรคของการทำงาน 5. Google Classroom Manual For Teacher 6. งานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วข้อง 1. พฤตกิ รรม (Behavior) พฤติกรรม หมายความถึง การแสดงและกิริยาท่าทางซึ่งสิ่งมีชีวิต ระบบหรืออัตลักษณ์ประดิษฐ์ ที่เกิด ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมระบบอื่นหรือสิ่งมีชีวิตโดยรวมเช่นเดียวกับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ พฤติกรรมเป็น การตอบสนองของระบบหรือสิ่งมีชีวิตต่อสิ่งเร้าหรือการรับเข้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอก มีสติ หรือไม่มสี ติระลึก ชดั เจนหรอื แอบแฝง และโดยตั้งใจหรอื ไม่ได้ต้งั ใจ พฤตกิ รรมมนษุ ย์ และพฤตกิ รรมของสิ่งมีชีวิตอื่นและกลไก สามารถเปน็ ไดท้ ้งั ที่พบได้ท่ัวไป ผิดปกติ ยอมรับ ได้ หรือยอมรบั ไมไ่ ด้ มนษุ ยป์ ระเมินการยอมรบั ไดข้ องพฤตกิ รรมโดยใช้บรรทัดฐานทางสงั คมและควบคุมพฤติกรรม ด้วยวิธีการควบคุมทางสังคม ในทางสังคมวิทยา พฤติกรรมถูกมองว่าไม่มีความหมาย คือ การไม่ถูกชี้นำโดยบุคคล อื่นและดังนั้นจึงเป็นการแสดงออกที่พื้นฐานที่สุดของมนุษย์ แม้ว่าพฤติกรรมสามารถมีส่วนในการวินิจฉัยความ ผิดปกติ อาทิ กลุ่มอาการออทิซึม (autism spectrum disorders) พฤติกรรมสัตว์ได้รับการศึกษาในจิตวิทยา พฤตกิ รรมวทิ ยา นิเวศวิทยาพฤติกรรม และชีวสังคมวทิ ยาเปรยี บเทียบ ตามคา่ นิยมทางจริยธรรม พฤติกรรมมนุษย์ ยังอาจข้นึ อยูก่ บั พฤตกิ รรมทวั่ ไป ผดิ ปกติ ท่ยี อมรบั ได้หรือยอมรับไม่ไดข้ องผูอ้ ่นื พฤติกรรมกลายมาเป็นแนวคดิ ทสี่ ำคญั ในจิตวทิ ยาครสิ ต์ศตวรรษที่ 20 ด้วยการปรากฏขึ้นของกระบวนทัศน์ ที่ในภายหลังรู้จักกันในชื่อ “พฤติกรรมนิยม” (behaviorism) พฤติกรรมนิยมเป็นปฏิกิริยาต่อต้านจิตวิทยาที่ว่า ด้วยองค์ประกอบของจิต (faculty psychology) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อมองลึกเข้าไปในจิตใจหรือทำความเข้าใจ จติ ใจโดยปราศจากประโยชนข์ องการทดสอบทางวทิ ยาศาสตร์ พฤตกิ รรมนิยมตงั้ มัน่ ในการทำงานเฉพาะแต่กับสิ่งที่ มองเห็นหรือจับต้องได้ และในมุมมองแรกเริ่มของจอห์น บี. วัตสัน ผู้ก่อตั้งสาขาวิชาดังกล่าว ไม่มีสิ่งใดจะอนุมาน ได้ในเรื่องธรรมชาติของอัตลักษณ์ที่เป็นก่อให้เกิดพฤติกรรมนั้น การเปลี่ยนแปลงมุมมองของวัตสันต่อมาและ “การวางเงื่อนไขแบบดั้งเดิม” นำไปสู่การเป็นที่นิยมของการวางเงื่อนไขของผลของการกระทำ (operant

10 conditioning) หรอื “พฤติกรรมนยิ มสุดข้ัว” (radical behaviorism) (Journal of Interdisciplinary Research: 2019) 2. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ (Learning Theory) ทฤษฎีการเรียนรู้ (Learning Theory) การเรียนรู้คือกระบวนการที่ทำให้คนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด คนสามารถเรียนได้จากการได้ยินการสมั ผสั การอ่าน การใช้เทคโนโลยี การเรียนรู้ของเด็กและผู้ใหญ่ จะต่างกัน เด็กจะเรียนรู้ด้วยการเรียนในห้อง การซักถาม ผู้ใหญ่มักเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีอยู่ แต่การ เรียนรู้จะเกดิ ข้ึนจากประสบการณ์ทผี่ ูส้ อนนำเสนอ โดยการปฏสิ มั พันธ์ระหว่างผสู้ อนและผเู้ รียน ผูส้ อนจะเป็นผู้ ที่สร้างบรรยากาศทางจิตวิทยาที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ ที่จะให้เกิดขึ้นเป็นรูปแบบใดก็ได้เช่น ความเป็น กันเอง ความเขม้ งวดกวดขัน หรือความไม่มีระเบยี บวินัย สิ่งเหลา่ นผี้ ู้สอนจะเป็นผสู้ รา้ งเง่อื นไข และสถานการณ์ เรียนรู้ให้กับผู้เรียน ดังนั้น ผู้สอนจะต้องพิจารณาเลือกรูปแบบการสอน รวมทั้งการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน (จริ าภรณ์ ตั้งกิตตภิ าภรณ์: 2556) 3. ประโยชน์ของการบ้าน การบ้านมีประโยชนห์ ลายประการดงั น้ีคือ (กระทรวงศึกษาธกิ าร: 2539) 3.1 ต่อนักเรยี น 1) ได้พัฒนาแนวคิดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ 2) ไดศ้ ึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ซงึ่ เปน็ ปัจจัยสำคญั ท่ชี ่วยให้เด็กเช่อื มนั่ ในความสามารถของตนเอง ปลกู นสิ ัยให้รักเดก็ และพยายามคน้ คว้าหาความรู้และความกา้ วหน้ามาสูงตนเอง 3) ได้สำรวจและพฒั นาตนเองในด้านความรคู้ วามถนดั ความสามารถ และความสนใจ 4) ใชเ้ วลาใหเ้ กดิ ประโยชน์ ซง่ึ เปน็ การสรา้ งนสิ ัยท่ดี ีใหก้ บั นักศกึ ษา 5) ปลูกฝงั ความมีระเบียบ ความรบั ผดิ ชอบและความเสียสละ ร้จู ักแบ่งเวลาเพ่ือพัฒนาตนเอง รูว้ ่าเวลา ไหนควรทำอะไร ลำดับกิจกรรมกอ่ นหลัง วางแผนงานเป็นไปในแต่ละวัน 3.2 ต่อผูป้ กครอง 1) ลดความวิตกกังวลในเร่ืองความประพฤติของบุตรหลาน 2) ทราบพัฒนาการและข้อบกพร่องทางการเรียนของบตุ รหลาน 3) เกดิ ความสมั พันธท์ ี่ดรี ะหว่างผปู้ กครอง ครู และนักศึกษา 3.3 ตอ่ ครผู สู้ อน 1) ช่วยเสริมให้แผนการสอนของครเู ป็นระบบและครบถว้ น 2) เป็นเครื่องมือชว่ ยจำแนกความแตกตา่ งของนักศึกษาเพ่ือกำหนดวิธสี อนให้เหมาะสม กบั นกั ศึกษา 3) ทราบผลการเรยี นรูข้ องนักศกึ ษาได้อย่างต่อเนือ่ ง 3.4 ข้อควรคำนึงในการมอบหมายการบ้าน กระทรวงศึกษาธิการ (กระทรวงศึกษาธิการ: 2539) ไดก้ ล่าววา่ ในการมอบหมายการบ้าน อาจจะประสบ ปัญหาตา่ งๆ เช่น ขาดการประสานงานระหวา่ งครู การบา้ นยาก มากหรือน้อยเกนิ ไป นกั ศึกษาเกิดความวิตกกังวล เบ่อื หน่ายการเรยี นและหนเี รยี น ทำให้ผูป้ กครองเดอื ดรอ้ น และขาดแหล่งศึกษาคน้ ควา้ เปน็ ตน้

11 เพ่ือไม่ให้เกดิ ปัญหาดังกลา่ ว ในการมอบหมายการบา้ น โรงเรียนและครคู วรคำนึงถึงแนวปฏิบัติดังตอ่ ไปน้ี 1) ควรหลกี เลี่ยงการใชก้ ารบ้านเปน็ เคร่ืองมือแสวงหาผลประโยชนส์ ่วนตน 2) ควรกำหนดปรมิ าณ ความยากง่ายใหพ้ อเหมาะกบั สภาพและพืน้ ฐานของนกั ศกึ ษาโดยไม่ จำเป็นต้องใหท้ ำกันทกุ คนและต้องชดั เจน 3) ควรหลกี เล่ยี งการใชก้ ารบ้านเป็นเครือ่ งมอื ในการแก้ปัญหากาสอนไมจ่ บหลกั สูตร 4) ควรอำนวยความสะดวกและเตรียมการล่วงหน้าสำหรบั การบ้านท่ีตอ้ งใช้วัสดุอุปกรณ์ 5) ควรจูงใจให้นกั ศกึ ษาเห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าของการบ้าน 6) ควรสร้างเสริมการบา้ นใหม้ ีลกั ษณะย่วั ยุ และท้าทายความถนัดความสามารถและความ สนใจของนกั ศึกษา 7) ควรมอบหมายการบ้านหลายรปู แบบและไมซ่ ำ้ ซาก 8) ควรเปดิ โอกาสให้นักศึกษาไดม้ สี ่วนรว่ มในการทำการบ้าน 9) ควรหลกี เล่ียงการใชก้ ารบ้านเป็นเครอื่ งมือในการลงโทษนักศกึ ษา ทัศนีย์ ศุภเมธี (ทัศนยี ์ ศภุ เมธี: 2532) กลา่ วว่า การใหแ้ บบฝึกหัดของการให้ทำการบ้านเป็นกิจกรรมการ เรยี นรดู้ ้วยตนเองของนักศึกษา ผลงานจากาทำแบบฝึกหดั จะบอกให้ครูทราบว่านักศึกษาเข้าใจบทเรยี นที่ เรยี นไปหรือไม-ถ้านักศึกษาทำแบบฝึกหดั หรือการบา้ นไม่ค่อยได้ ก็แสดงให้เห็นวา่ ครตู ้องสอนซอ่ มเสริม หรืออาจจะตอ้ งทบทวนบทเรียนใหม่ 4. อุปสรรคของการทำงาน 4.1 ขาดความพร้อมในการทำงาน บางคนมาทำงาน แต่ยงั ทำตัวเปน็ เด็กๆ ทำงานแบบเดก็ ๆ ไมม่ คี วามรับผดิ ชอบมากพอ เมอ่ื คณุ ก้าวเข้าสู่ โลกของการทำงาน คุณควรบอกตัวเองวา่ ตอนนี้คณุ คือผู้ใหญ่แล้ว คุณไม่ใช่เด็กอีกต่อไป คุณจะต้องรับผิดชอบงาน ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ อย่าลืมว่าคุณจะต้องพิสูจน์ให้นายจ้างเห็นว่า คุณมีความสามารถและ สามารถผ่านการทดลองงานได้ 4.2 ไมช่ ำนาญในงานท่ีทำ เน่ืองจากคณุ พึ่งเรยี นจบ และงานท่ีคณุ ไดร้ ับมักเป็นสิง่ แปลกใหม่ ไมเ่ คยทำ ไม่เคยเรียนมากอ่ น เรื่อง ความชำนาญจงึ เปน็ อุปสรรคอย่างหนึ่ง คณุ อาจร้สู ึกวา่ งานยากเกินไปสำหรบั คณุ แตเ่ มือ่ คณุ เรยี นรู้มันสักระยะหนึ่ง คณุ จะรู้สึกชินกบั มนั และสามารถทำงานไดอ้ ย่างสบายใจข้ึน 4.3 ขาดกำลงั ใจ เวลาทีเ่ จอกบั งานยาก บางครง้ั คุณอาจรูส้ กึ ท้อแท้และหมดกำลงั ใจ จนคดิ ว่าคณุ ไม่มคี วามสามารถ คุณ ไมอ่ าจทำมันให้สำเร็จได้อย่างท่ีนายจา้ งต้องการ หากความรูส้ ึกนี้เกดิ ข้นึ คณุ ควรจะเติมความมน่ั ใจให้ตัวเองให้เต็ม และหมัน่ เติมอยู่เร่ือยๆ อย่าปลอ่ ยใหค้ วามรูส้ ึกขาดกำลังใจมาบ่นั ทอนคุณ ถา้ นายจ้างคณุ คิดว่า คณุ ทำไม่ได้ เขาคง ไมใ่ หค้ ณุ ทำงานนีห้ รอก ดงั นนั้ เมอื่ เขามั่นใจในตัวคณุ แลว้ ไยคุณถึงไมม่ ั่นใจในตัวเองล่ะ 4.4 ทมี เวริ ์ก การทำงานเปน็ ทมี คอื การรวมตัวของคนหลายคน จงึ ต้องมีการปรับตัวให้ทกุ ๆ คน สามารถทำงาน

12 ร่วมกันได้อย่างราบรื่น แต่อาจมีบ่อยครั้งที่คนในทีมทำงานคล่อมจังหวะกับบางคนช้าเกินไป บางคนเร็วเกินไป ควรจะต้องมกี ารตกลงทำความเข้าใจวา่ จะทำงานอย่างไร จึงจำทำให้ทมี ของคณุ ประสบความสำเร็จ 4.5 ขาดมนษุ ยสัมพนั ธท์ ่ีดี คนท่เี ป็นพนักงานใหม่ แน่นอนจะตอ้ งเปน็ ฝา่ ยทเ่ี ขา้ หาผูอ้ ืน่ เพอ่ื แนะนำตัวคุณใหผ้ ู้อนื่ ร้จู กั และขอ คำแนะนำจากพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งคุณก็จะมีเพื่อนมากมาย ที่เขาสามารถให้คำแนะนำและ ช่วยเหลือคุณในเรื่องต่างๆ ได้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ พนักงานใหม่บางคนขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ไม่ว่าจะ เป็นด้วยความขี้อาย พูดน้อย หรือมั่นใจในตัวเองมากเกินไปจนไม่สนใจคนอื่น คิดว่าตนเองสามารถอยู่คนเดียว ทำงานคนเดียวได้ จึงทำตัวไม่น่ารัก ไมน่ ่าเอ็นดู และในทีส่ ุดกจ็ ะถูกโดดเดย่ี วจากเพื่อรว่ มงาน ในทางกลับกัน คนที่ รู้จักเข้าหาผู้อืน่ มีนิสัยร่าเรงิ เข้ากับคนง่าย มักเป็นที่รักของคนในที่ทำงาน เมื่อต้องการความช่วยเหลือใดๆ ก็จะมี คนยินดใี หค้ วามชว่ ยเหลือ สรปุ ไดว้ ่าการอปุ สรรคในการทำงานมปี จั จยั ภายนอกในหลายดา้ นทำให้ผทู้ ำงานไมส่ ามารถ ทำงานให้บรรลุเป้าหมายของตนเองที่วางไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านความพร้อมในการทำงาน งานที่ทำนั้นไม่มีความ ชำนาญหรือความรู้เก่ียวกับงานที่ทำ ไม่มีกำลังใจต่องานที่ทำหรือเกิดจากการทำงานนั้นไม่ได้แล้วเกิดความท้อแท้ สิน้ หวงั ทีมหรอื กลุ่มทท่ี ำงานร่วมกนั ไม่มีความสามัคคีขาดการวางแผนและรว่ มมือ และขาดมนษุ ยสมั พันธ์ท่ีดีทำให้ ไมไ่ ดร้ บั การช่วยเหลือจากผอู้ น่ื และทำงานไดล้ ่าช้าลงในที่สดุ (ศุภศลิ ป์ กุลจติ ต์เจอื วงศ์: 2556)

13 5. คู่มือการใช้ Google Classroom Manual For Teacher (แหล่งสบื คน้ http://www.edu.tsu.ac.th สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 17 กุมภาพันธ์ 2563)

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

26

27

28

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

39

40

41

42

43

44

45

46

47

48 งานวจิ ัยทเ่ี กี่ยวข้อง วิทยา วาโย, อภิรดี เจริญนุกูล, ฉัตรสุดา กานกายันต์ และจรรยา คนใหญ่ (2563) จากบทความวิชาการ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 : แนวคิดและการประยุกต์ใช้ จัดการเรียนการสอน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID- 19) ทำให้เกิดการปรับตัวเป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) โดยเฉพาะสถาบันทางการศึกษาที่ไม่สามารถ จัดการเรียนการสอนแบบปกติได้ จึงจำเป็นต้องใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อให้การเรียนรู้เกิด ความต่อเนื่อง การเรียนการสอนแบบออนไลนม์ ีองค์ประกอบ ได้แก่ ผู้สอน ผู้เรียน เนื้อหา สื่อการเรียนและแหล่ง เรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ระบบการติดต่อสื่อสาร ระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ การวัดและการ ประเมินผล รูปแบบการเรียนการสอนมีหลากหลายวิธี ที่ทำให้ผู้สอนและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้ การ พิจารณาองค์ประกอบและรูปแบบที่สอดคล้อง เหมาะสมกับลักษณะวิชา และบริบทของผู้เรียนจะนำไปสู่การ ประยุกต์ใช้สำหรับการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดผลลัพธ์การ เรยี นรู้ตามวัตถปุ ระสงค์ จิรกิติ์ ทองปรีชา (2563) จากบทคัดย่อ การศึกษาวิจัยเรื่อง การบริหารจัดการเรียนการสอน ภายใต้ สถานการณ์ COVID-19 ระดับมัธยมศึกษา พื้นที่โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือศึกษานโยบายและแนวทางของรัฐในการบรหิ ารจดั การการเรียนการสอนภายใตส้ ถานการณ์แพร่ ระบาดของไวรสั โคโรนา 2019 แนวทางปฏิบัติของโรงเรยี นวชิรธรรมสาธติ และสภาพปัญหา อปุ สรรคการเรียนการ สอนภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ของโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต โดยผู้วิจัยใช้การวิจัยเชิง คุณภาพ จากข้อมูลเอกสาร (documentary data) และการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 10 คน ผล การศึกษาพบว่า การบรหิ ารจัดการการเรียนการสอนของโรงเรียนวชริ ธรรมสาธิต เปน็ ไปตามนโยบายและแนวทาง ของรัฐบาล ในการเตรียมความพรอ้ มในการจัดการเรียนการสอนในรปู แบบออนไลน์และมาตรการการป้องกันการ แพรร่ ะบาดในสถานศกึ ษาเพือ่ ความปลอดภยั สูงสดุ ของนักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา วิทัศน์ ฝักเจริญผล กนิษฐา เชาว์วัฒนกุล พินดา วราสุนันท์ กุลธิดา นุกูลธรรม สุมิตร สุวรรณ สินีนุช สุวรรณาภิชาติ กิติศาอร เหล่าเหมณี (2020) จากบทความวิชาการ เรื่อง ความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน อ อ น ไ ล น ์ ภ า ย ใ ต ้ ส ถ า น ก า ร ณ ์ ร ะ บ า ด ไ ว ร ั ส Covid-19|Readiness to Implement Online Learning Management under the Covid-19 Pandemics บทคัดย่อ ภายใต้สถานการณ์ระบาดไวรัส Covid-19 ทำให้ ทั่วโลกใช้มาตรการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งในประเทศไทยได้ใช้มาตรการปิดสถานที่ รวมตัวทางสังคม ซึ่งรวมถึงโรงเรียนทุกแห่งในประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์ระบาดยังคงอยู่ ทำให้ระบบ การศึกษาต้องปรับให้การเรียนรู้ของนักเรียนไม่ขาดช่วง (OECD, 2020) การเรียนการสอนออนไลน์จึงได้ถูกหยิบ ยกขึ้นมาเป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งดูเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนช่วยกันจำกัดพื้นที่อยู่ในที่พักอาศัย

49 และด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศร่วมกับเทคโนโลยีทางการศึกษาในปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าการจัด การเรียนการสอนออนไลน์สามารถทำได้ เพื่อตอบคำถามนี้ คณะผู้วิจัยจึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของครู ในประเทศไทย ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 700 คน จากการสุ่มตามสะดวก ด้วย Google Form ผ่าน เครือข่ายสังคมออนไลน์ ถึงความพร้อมในการจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ รวมถึงความต้องการส่ิงสนับสนุนจาก โรงเรียนและรัฐบาลเพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากผลการสำรวจพบวา่ ครบู างสว่ นไม่พร้อมในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ และ ประเมนิ ว่ามีนักเรียนจำนวนมากท่ีไม่สามารถเข้าถึง ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ได้ (หากใช้จริง) พร้อมเรียกร้องความช่วยเหลือจากโรงเรียน และรัฐบาล ในการ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ อย่างเร่งด่วน รวมถึงการจัดหาอินเทอร์เน็ตความเร็ว สูงและอุปกรณ์สื่อสารสำหรับนักเรียนทุกคน หากจำเป็นต้องจัดการเรียนการสอนออนไลน์เมื่อเปิดภาคเรียน ในวนั ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 นี้

50 บทท่ี 3 วิธกี ารดำเนนิ การวิจยั การศกึ ษา การใช้งานการเรียนการสอนในรปู แบบออนไลน์ ผ่าน Google Classroom ภายใต้สถานการณ์ แพร่ระบาดของไวรสั COVID-19 รายละเอยี ดเกย่ี วกบั วิธกี ารดำเนินการวิจัย โดยเสนอตามลำดับหัวข้อ ดังน้ี 1. ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง 2. ระยะที่ใช้ในการวจิ ยั 3. เครื่องมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ัย 4. วิธดี ำเนินการวจิ ัย 5. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 6. สถติ ิทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มูล 1. ประชากรและกล่มุ ตวั อย่าง กล่มุ ตวั อยา่ งในการทำวิจยั จำนวน 340 คน ประกอบด้วย ผู้เรียน จำนวน 292 คน ผบู้ ริหารและผูส้ อน จำนวน 14 คน ผ้ปู กครองและผู้ท่เี กีย่ วขอ้ ง จำนวน 34 คน 2. ระยะทใี่ ช้ในการวจิ ยั ระยะเวลาท่ีใช้ในการทำวิจัย ตลอดภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 3. เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการวจิ ยั - การจัดการเรียนการสอนผา่ น Google Classroom - แบบประเมนิ ความพงึ พอใจการใช้งานการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผา่ น Google Classroom ภายใต้สถานการณแ์ พร่ระบาดของไวรัส COVID-19