Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการสอบสวนวิเคราะห์อุบัติเหตุและโรคจากการทำงานสำหรับพนักงานตรวจความปลอดภัยของศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต

คู่มือการสอบสวนวิเคราะห์อุบัติเหตุและโรคจากการทำงานสำหรับพนักงานตรวจความปลอดภัยของศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต

Description: คู่มือการสอบสวนวิเคราะห์อุบัติเหตุและโรคจากการทำงานสำหรับพนักงานตรวจความปลอดภัยของศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต

Search

Read the Text Version

คูมอื การสอบสวน วเิ คราะหอุบัติเหตุ และโรคจากการทํางาน สาํ หรับพนกั งานตรวจความปลอดภยั ของศูนยความปลอดภยั ในการทํางานเขต จดั ทําโดย กองความปลอดภยั แรงงาน http://osh.labour.go.th ความปลอดภัยและอาชวี อนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand)

ก คํานาํ การเกิดอุบัติเหตุจากการทํางานแตละครั้งสงผลกระทบตอการประกอบกิจการของสถานประกอบ กิจการ นายจาง ลูกจาง และผูที่เกี่ยวของ บางกรณีรุนแรงถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เสียชีวิต หรือสงผลกระทบ ตอสาธารณะ กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุมครองแรงงาน ในฐานะหนวยงานหลักที่มีบทบาท ในการคุมครองดูแลใหลูกจางมีความปลอดภัยในการทาํ งาน ดวยการกาํ กบั ดูแล นายจา ง หรือลูกจา ง ใหปฏิบัติ ตามกฎหมายวาดวยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน ภายใตพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ซ่งึ ถือเปนเครื่องมือในการบริหาร จดั การและดําเนินงานตามอาํ นาจหนาท่ีใหเกดิ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธิผล การปองกันมิใหเกิดอบุ ัติเหตุจากการทํางานดว ยวิธีการตาง ๆ จึงเปน การบริหารจัดการเพ่ือลดจํานวน ความถ่ี หรือความเส่ียง รวมถึงความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุจากการทํางาน แนวทางหน่ึงของการปองกัน อุบัติเหตุจากการทํางาน คือ การคนหาสาเหตุท่ีแทจริงของการเกิดอุบัติเหตุแตละกรณี ดวยวิธีการสอบสวน วิเคราะหอุบัติเหตุและโรคจากการทํางาน ซึ่งถือเปนแนวปฏิบัติในการตรวจความปลอดภัยในการทาํ งาน เชิงเทคนิควชิ าการ สําหรับพนกั งานตรวจความปลอดภยั ของศูนยค วามปลอดภัยในการทํางานเขต กองความปลอดภัยแรงงาน จึงจดั ทาํ คูมือการสอบสวน วเิ คราะหอบุ ัติเหตแุ ละโรคจากการทํางาน สําหรับพนักงานตรวจความปลอดภัยของศูนยความปลอดภัยในการทํางานเขตข้ึน โดยมุงหวังใหเปนแนวทาง การปฏิบัติงานสําหรับพนักงานตรวจความปลอดภัย สามารถวิเคราะห และคนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ และโรคจากการทํางานในพ้ืนทร่ี ับผิดชอบ และนําผลการสอบสวน วิเคราะหอุบัติเหตุและโรคจากการทํางานทไ่ี ด มากําหนดเปนมาตรการในการปรับปรุงแกไข มิใหเกิดอุบัติเหตุจากการทํางานในลักษณะเดียวกันซ้ําอีก อีกท้ัง สรา งการรับรูใหกบั สถานประกอบกจิ การอืน่ ท่ีมีความเสยี่ งในลักษณะเดียวกัน กองความปลอดภัยแรงงาน พฤษภาคม ๒๕๖๔

ข สารบัญ คาํ นาํ แนวคิดและทฤษฏี หนา สารบัญ ๑.๑ ความเปนมา ก บทท่ี ๑ ๑.๒ แนวคดิ พื้นฐานเกีย่ วกบั การเกดิ อุบัตเิ หตแุ ละการปองกัน ข ๑.๓ นยิ ามศัพทท่ีเกี่ยวของ ๑ บทท่ี ๒ ๑.๔ การดําเนนิ การกรณเี กิดอบุ ตั ภิ ัยรายแรงหรอื การประสบอนั ตรายจากการทํางาน ๒ ๑.๕ 5W 1H หลักการพนื้ ฐานของการสอบสวนอบุ ัติเหตุ ๒ บทท่ี ๓ ๑.๖ มาตรการปองกนั ควบคุมอันตรายและอุบัติเหตจุ ากการทาํ งาน ๖ ๗ การสอบสวน วิเคราะหอุบัติเหตแุ ละโรคจากการทาํ งาน ๘ สําหรับพนกั งานตรวจความปลอดภยั ๑๑ ๒.๑ หลักหลกั การทัว่ ไปในการสอบสวนและวเิ คราะหอุบตั เิ หตุ ๑๒ ๒.๒ หลกั การสมั ภาษณ ๒.๓ ขัน้ ตอนของการสอบสวน วิเคราะหอบุ ตั เิ หตแุ ละโรคจากการทาํ งาน ๑๓ ๒.๔ แนวคําถามทใ่ี ชใ นการคน หาสาเหตขุ องการเกดิ อุบตั ิเหตุ ๑๓ ๑๔ กรณศี ึกษาการสอบสวน วิเคราะหอบุ ัติเหตุและโรคจากการทํางาน ๑๘ ๓.๑ กรณีลกู จางถกู เครื่องจกั รดึงไดร ับบาดเจ็บ ๒๐ ๓.๒ กรณีรถปนจนั่ ตนี ตะขาบตกพรอ มกบั แผนพนื้ ชวั่ คราวลงไปในบอฐานราก ๒๑ ๓.๓ กรณีดินพังทลายทบั ลูกจา งเสยี ชีวิต ๓๐ ๓.๔ กรณีลกู จา งตกลงไปเคร่ืองลางเกล็ดพลาสติกและถูกสกรลู ําเลียงมว นดึงจนเสียชีวิต ๓๕ ๓.๕ กรณีลกู จางตกจากกระเชา ตดิ ปลายเครน (รถปนจนั่ ) ๔๖ ๕๘ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ๗๖ ๗๗

บทท่ี ๑ แนวคิดและทฤษฎี

๒ บทที่ ๑ แนวคดิ และทฤษฎี ๑.๑ ความเปน มา การเกิดอบุ ัติเหตุจากการทํางานในสถานประกอบกิจการในแตละคร้ังสงผลกระทบตอ การประกอบ กิจการของสถานประกอบกิจการ นายจาง ลูกจาง และผูที่เก่ียวของ บางกรณีรุนแรงถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เสียชีวิต หรือสงผลกระทบตอสาธารณะ กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุมครองแรงงาน ในฐานะ หนวยงานหลักที่มีบทบาทในการคุมครองดูแลใหลูกจางมีความปลอดภัยในการทํางาน โดยมีพนักงานตรวจ ความปลอดภยั เปน ผูป ฏบิ ตั หิ นาท่ตี ามท่ีกําหนดไวใ นพระราชบัญญัตคิ วามปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอม ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ไดตระหนักถึงความสําคัญในการปองกันการเกิดอุบัติเหตุและโรคจากการทํางาน เพื่อมใิ หเกดิ ความสญู เสยี ดงั กลาวขน้ึ แนวทางหน่งึ ในการปองกันและลดการเกิดอุบัติเหตุจากการทาํ งาน คือ การสอบสวนและวิเคราะห อุบัติเหตุท่ีเกิดขึ้น เพื่อคนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณน้ัน และนาํ มากาํ หนดเปนมาตรการ ในการปรับปรุงแกไข เพอื่ ปองกนั มิใหเกิดอบุ ัติเหตุจากการทาํ งานในลักษณะเดียวกันซา้ํ อีก อกี ทง้ั สรา งการรับรู ใหกับสถานประกอบกจิ การอนื่ ท่ีมีความเสี่ยงในลกั ษณะเดียวกนั ซ่ึงการสอบสวนและวิเคราะหอุบตั ิเหตุดังกลาว ถือเปนแนวปฏิบัติในการตรวจความปลอดภัยในการทํางานเชิงเทคนิควิชาการ สําหรับพนักงานตรวจความปลอดภัย ของศูนยความปลอดภัยในการทํางานเขต กองความปลอดภัยแรงงาน จึงไดจัดทําคูมือการสอบสวน วิเคราะห อบุ ัติเหตุและโรคจากการทํางาน สําหรับพนกั งานตรวจความปลอดภัยของศูนยค วามปลอดภัยในการทํางานเขตขึ้น เพอ่ื ใชเ ปนแนวทางสอบสวน คนหาสาเหตุ วเิ คราะหอ ุบัตเิ หตุและโรคจากการทํางาน ไดอยางมปี ระสิทธภิ าพ ๑.๒ แนวคิดพ้นื ฐานเกี่ยวกบั การเกดิ อบุ ัตเิ หตแุ ละการปองกนั แนวคดิ หรอื ทฤษฎีพน้ื ฐานการเกดิ อุบตั ิเหตุมีการเขยี นไวห ลายรปู แบบ ในท่ีน้จี ะขอเสนอเฉพาะ ทฤษฎีทส่ี ําคัญ ๕ ทฤษฎี ดังน้ี ๑.๒.๑ ทฤษฎโี ดมิโนของไฮนริช (Heinrich’s Domino Theory) H.W. Heinrich เปนผูเสนอทฤษฎีโดมิโนของการเกิดอุบัติเหตุ โดยทฤษฎีดังกลาวไดอธิบาย ถึงสาเหตขุ องการเกิดอุบัติเหตุเรยี งตามลําดับเหตุการณเปนขน้ั ตอน โดยหากเหตกุ ารณเกิดขึ้นในขั้นตอนที่หนึ่ง กจ็ ะสงผลกระทบไปยงั เหตุการณในขั้นตอนตอๆ ไป จนถึงเกิดเหตกุ ารณท ่ีขัน้ ตอนสุดทายคือ การบาดเจ็บหรือความ สูญเสยี แนวคิดการเกิดอุบัติเหตุดังกลาวเปรียบเสมือนกับการเรียงโดมิโนเปนแถว หากโดมิโน ตัวแรกลม ก็จะทําใหโดมิโนตัวถัดไปลมตอเน่ืองกันไปเร่ือยๆ โดยโดมิโนแตละตัวคือ ตัวแทนของปจจัย ทีส่ ามารถกอ ใหเกิดอบุ ัตเิ หตไุ ดท ง้ั ๕ ปจจยั ดงั แสดงในรูปที่ ๑ ดังนี้ ปจจัยลําดับท่ี ๑ ภูมิหลังของบุคคลและสภาพแวดลอมทางสังคม (Background and Social Environment) เปนปจจัยสําคัญอันดับแรกท่ีเปนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เชน สภาพครอบครัว สภาพและฐานะความเปนอยู ระดบั การศกึ ษา ภมู หิ ลงั ของบุคคล การเลยี้ งดู เปน ตน

๓ ปจจัยลําดับที่ ๒ ความผิดปกติของบุคคล (Fault of Person) เปนปจจัยที่เกิดจาก ความไมปกติของบุคคลอันมีผลมาจากภาวะสุขภาพจิตและส่ิงแวดลอมทางสังคม เชน การทํางานท่ีขาด ความรอบคอบ ขาดความยับยั้งทางอารมณ มีทัศนคติตอความปลอดภัยไมถูกตอง ไมสนใจตอหลักปฏิบัติ เพ่ือความปลอดภัย ซ่ึงสงผลใหเกิดการกระทําท่ีไมปลอดภัย (Unsafe Act) หรือมีสวนรวมในการสราง สภาพการณท ไี่ มปลอดภัย (Unsafe Condition) ปจจัยลําดับที่ ๓ การกระทําท่ีไมปลอดภัย (Unsafe Act) และ/หรือสภาพการณ ที่ไมปลอดภัย (Unsafe Condition) เปนปจจัยลําดับท่ีสามท่ีเปนปจจัยกอใหเกิดอุบัติเหตุในทฤษฎีโดมิโน ลักษณะการกระทําท่ีไมปลอดภัย (Unsafe Act) ไดแก การมีทัศนคติเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทํางาน ไมถูกตอง การมองวาอุบัติเหตุเปนเรื่องของเคราะหกรรม การทํางานท่ีมีความรูเทาไมถึงการณ ประมาท หรือ หยอกลอกันเลนระหวางการทํางาน สวนลักษณะสภาพการณท่ีไมปลอดภัย (Unsafe Condition) ไดแก เคร่ืองจักร เครื่องมือ อุปกรณชํารุดหรือขาดการซอมแซมบํารุงรักษา การวางผังโรงงานท่ีไมถูกตอง ความไมเปนระเบียบเรียบรอยและสกปรกในการจัดเก็บวัสดุ ส่ิงแวดลอมในการทํางานไมดี เชน แสงสวาง ไมเ พยี งพอ ระบบไฟฟา หรอื อปุ กรณไฟฟา ชํารุดบกพรอง เปนตน ปจจัยลําดับท่ี ๔ การเกิดอุบัติเหตุ (Accident) เปนสาเหตุมาจากปจจัยทั้ง ๓ ลําดับ ที่กลาวมาขางตน จึงสงผลใหเกิดอุบัติเหตุจากการทํางานขึ้น เชน การลื่นหกลม วัสดุกระเด็น ถูกหนีบ ถูกกระแทกจากเครือ่ งจกั ร เปนตน ปจจัยลําดับท่ี ๕ การบาดเจ็บ (Injury) การบาดเจ็บหรือความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุ เชน เคลด็ ขัดยอก กระดกู หัก แผลไฟไหม แผลนํ้ารอนลวก แผลฉกี ขาด เปนตน รปู ท่ี ๑ ลักษณะการเกิดอุบตั เิ หตตุ ามหลัก Heinrich’s Domino Theory แหลงทม่ี า : Heinrich, 1931 ๑.๒.๒ ทฤษฎโี ดมโิ นของเบริ ดและลอฟทัส (Bird and Loftus’s Domino Theory) Bird และ Loftus (1976) ไดคิดคนและพัฒนารูปแบบเกี่ยวกับการคนหาสาเหตุท่ีทําใหเกิด อุบัติเหตุและความสูญเสียข้ึน (Loss Causation Model) ซึ่งมีลักษณะคลายกับรูปแบบทฤษฎี Heinrich’s Domino แตรูปแบบทฤษฎี Bird and Loftus’s Domino ชี้ใหเห็นวาปญหาการเกิดอุบัติเหตุและ ความสูญเสียน้ันมาจากหลายสาเหตุ (Multiple Causes) มิไดเกิดจากสาเหตุเดียว อธิบายผลในทางปฏิบัติได

๔ โดยใชคําวา การกระทําท่ีต่ํากวามาตรฐาน (Substandard Act) แทนคําวา การกระทําท่ีไมปลอดภัย (Unsafe Act) และใชคําวา สภาพการณท่ีต่ํากวามาตรฐาน (Substandard Condition) แทนคาํ วา สภาพการณท่ีไมป ลอดภัย (Unsafe Condition) โดย Loss Causation Model อธิบายถึงผลหรือความสูญเสียที่เกิดข้ึนกับคน ทรัพยสิน ผลิตภัณฑ การบริการ กระบวนการผลิต และสิ่งแวดลอม เปนผลมาจากอุบัติการณหรืออุบัติเหตุท่ีเกิดขึ้นจาก สาเหตุเบือ้ งตน อันไดแก การกระทําท่ีตํ่ากวามาตรฐาน เชน การปฏิบัติงานลัดข้ันตอน การปฏิบัติงานโดยไมมี หนาที่เกี่ยวของ เปนตน และสภาพการณที่ต่ํากวามาตรฐาน เชน เคร่ืองจักรไมมีอุปกรณครอบสวนท่ีเปน อันตราย ไมมีระบบเตือนภัย ซ่ึงสาเหตุเหลาน้ีเปนเพียงอาการของปญหาท่ีปรากฏเทาน้ัน แตเหตุที่แทจริงนั้น เกดิ จากสาเหตพุ น้ื ฐาน (Basic Causes) หรืออาจเรียกวา สาเหตุรากเหงา ซ่งึ กค็ ือ ปจจยั บคุ คล เชน ผูปฏบิ ัติงาน ไมม ีความรู ขาดความชาํ นาญ และปจจยั ในงาน เชน ไมมีมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน ไมม ีการบํารุงรกั ษาเครื่องมือ หรืออปุ กรณไ มมกี ารตรวจสอบดแู ลการทํางาน สาเหตุพ้นื ฐานเหลาน้เี ม่ือขาดการควบคมุ ทดี่ ี (Lack of Control) หรือ ไมมีโปรแกรมในการปองกันหรือกําจัดสาเหตุจะมีผลกับการเกิดอุบัติเหตุตัวสุดทาย คือ ความสูญเสีย ดังแสดง ในรปู ที่ ๒ ดังนั้น ในการปองกนั การเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสยี จึงจําเปน ตองมรี ะบบการบริหารจัดการดานความ ปลอดภัยทีด่ ี รูปที่ ๒ ลกั ษณะการเกดิ อุบตั ิเหตตุ ามหลัก Bird and Loftus’s Domino Theory แหลงทีม่ า : Bird and Loftus, 1976 ๑.๒.๓ ทฤษฎสี วสิ ชีสโมเดล (Swiss Cheese Model) Swiss Cheese Model เปนทฤษฎีที่อธิบายวา การเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากความผิดพลาด หลายอยางรวมกันโดยเปรียบเทียบกับกอนชีสแตละแผนเสมือนกับมาตรการในการปองกันหรือเครื่องปองกัน อุบัติเหตุ เชน กฎ ระเบียบ และขอบังคับความปลอดภัยในการทํางาน อุปกรณค ุมครองปลอดภัย รูบนกอนชีส แตละแผนเปรียบเสมือนความลมเหลวหรือความผิดพลาดตาง ๆ ของแตละมาตรการ สวนลูกศรสีแดง คือ อันตรายที่เกิดข้ึน ซึ่งโดยปกติรูของแผนชีสท้ังหาเม่ือนํามาซอนกันมักจะไมตรงกัน หมายถึง ความลมเหลว ของมาตรการปองกันตาง ๆ มักจะไมเกิดข้ึนพรอมกัน แตหากเมื่อใดทุกมาตรการเกิดความบกพรองขึ้น พรอมกันอุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้นได หรืออีกนัยหนึ่งจะเปรียบมนุษยแตละคนเสมือนกับแผนชีสแตละแผน รูพรุน บนแผนชีสก็คือ จุดออนหรือความผิดพลาดสวนบุคคล ซึ่งแตละการกระทําของมนุษยแตละคนเปรียบเสมือน

๕ กับการเลื่อนซาย ขวา บน และลางของแผนชสี และหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นกจ็ ะทะลุผานแผนชีสกอนหนึ่ง ไปยังอกี กอ นหนึ่งได ซึง่ กจ็ ะกอใหเกดิ ความเสียหาย (Loss) ขนึ้ ไดใ นทายที่สุด รูปที่ ๓ ทฤษฎีสวิสชสี โมเดล (Swiss Chess Model) แหลง ท่ีมา : Reason, J., 1990 ๑.๒.๔ ทฤษฎรี ูปแบบระบบความปลอดภัยของ บอ บ พีเรนซ (Firenze System Model) Bob Firenze อธิบายแนวคิดรูปแบบระบบความปลอดภัยวา “การศึกษาเร่ืองสาเหตุ ของอุบัติเหตุจะตองศึกษาองคประกอบท้ังระบบซ่ึงมีปฏิกิริยาสัมพันธเกี่ยวของกัน” องคประกอบดังกลาว ประกอบดว ย คน (Man) เครอื่ งจักร (Machine) และสง่ิ แวดลอม (Environment) ความสําคัญขององคประกอบท่ีเปนสาเหตุของอุบัติเหตุแตละองคประกอบมีความสําคัญ ตอการตดั สินใจในการผลิตงาน (Task) และการเกิดอบุ ตั ิเหตุ (Accident) ดังตอ ไปนี้ ๑) คนหรือผูปฏิบัติงาน (Man) ในการผลิตหรือทํางานแตละช้ิน ผูปฏิบัติงานจําเปนตอง ตดั สินใจ (Decision) เลอื กวิธีปฏิบัติอยางใดอยางหนึ่งเพ่อื ใหบรรลุเปาหมาย แตการตัดสินใจในการดําเนนิ งาน ใหบรรลุเปาหมายในแตละคร้ังยอมมีความเสี่ยง (Risk) แอบแฝงอยูเสมอ ดังนั้นในการตัดสินใจแตละครั้ง ผูปฏิบัติงานจะตองมีขอมูลขาวสาร (Information) ที่เพียงพอ ถาหากขอมูลขาวสารดีถูกตองก็จะทําให การตดั สินใจถกู ตอ ง แตถ า ขอมลู ไมถ ูกตองก็จะทาํ ใหการตัดสินใจนนั้ ผิดพลาด หรือมคี วามเส่ยี งสงู ๒) อุปกรณเคร่ืองจักร (Machine) ท่ีใชในการผลิตตองมีความพรอม ปราศจากขอผิดพลาด ถาอุปกรณเครื่องจักรออกแบบไมถูกหลักวิชาการ หรือขาดการบํารุงรักษาที่ดี ยอมทําใหกลไกของเครื่องจักร ปฏิบตั ิงานผิดพลาดซงึ่ จะนําไปสกู ารเกิดอุบตั ิเหตุได ๓) ส่ิงแวดลอม (Environment) สภาพการทํางานและส่ิงแวดลอมในการทํางานมีบทบาท สําคัญตอการผลิต ความผิดพลาดท่ีเกิดข้ึนกับส่ิงแวดลอม ยอมกอใหเกิดปญหาตอผูปฏิบัติงาน เชน ทํางาน อยภู ายใตสง่ิ แวดลอมทเี่ ปน พษิ สารเคมฟี งุ กระจาย แสงจา เปนตน ถึงแมวาผูปฏิบัติงานจะมีความรูแตความผิดพลาดในการตัดสินใจก็อาจเกิดข้ึนได เน่ืองจาก ตัวแปรท่ีสําคัญมีการมองขามไป ตัวแปรนี้คือ ความเครียด (Stresses) เมื่อความเครียดเกิดขึ้นจะทําให ความสามารถในการตดั สนิ ใจของผูป ฏิบตั ิงานชะงักหรอื ชาลง ซ่งึ มผี ลตอการทาํ งาน

๖ ๑.๒.๕ ทฤษฎรี ูปแบบการเกิดอุบตั เิ หตุ (กองทพั บกสหรฐั อเมริกา) กองทัพบกสหรัฐอเมริกาไดศึกษาเทคโนโลยีทางดานความปลอดภัยควบคูไปกับเทคโนโลยี ในการผลิตและการใชดวย รูปแบบการเกิดอุบัติเหตุนี้ แสดงถึงการเกิดอุบัติเหตุซึ่งพอสรุปเปนสาเหตุการเกิด อบุ ตั เิ หตุไดเ ปน ๓ ประการ คอื ๑) ความผิดพลาดของผูปฏิบัติงาน (Human Error) เกิดจากการที่ผูปฏิบัติงานมีพฤติกรรม การกระทําท่ีไมปลอดภัย (Unsafe Act) สภาพการทํางานที่ไมปลอดภัย (Unsafe Condition) ตางๆ ท่ีมีอยู หรือเกิดข้ึนก็เกิดจากวิธีการทํางานที่ไมปลอดภัยของผูปฏิบัติงาน เชนกัน ความผิดพลาดตางๆ นั้นอาจเกิดข้ึน จากความผิดปกติทางรา งกาย ขาดการฝกอบรมอยางเพยี งพอ หรอื ขาดการกระตุนหรอื แรงจูงใจในการทาํ งาน ๒) ความผิดพลาดในระบบ (System Error) อาจเกิดจากการออกแบบไมเหมาะสม ซึ่งเนื่องมาจากนโยบายที่ไมเหมาะสมของหนวยงาน เชน การประหยัด การเลือกใชเทคโนโลยี การบํารุงรักษา หรอื เกิดความลม เหลวในการออกแบบที่ไมถูกตองตามหลกั วชิ าการ เปนตน ๓) ความผิดพลาดในการบริหารจัดการ (Management Error) สาเหตุหลักอาจเกิดจาก ความลมเหลว (Failure) จากการบริหารจัดการ ขอมูลขาวสาร การใชเทคโนโลยี และระบบการทํางาน ที่ไมเหมาะสม ซึ่งความลมเหลวนี้อาจเกิดจากการถายทอดขอมูลขาวสารที่ไมถูกตอง การฝกอบรม อาจไมเ พียงพอขาดการกระตุน จงู ใจในการปฏบิ ัตงิ าน ๑.๓ นิยามศัพทท่ีเกี่ยวของ ๑.๓.๑ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน ตามพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หมายความวา การกระทํา หรือสภาพการทํางานซึ่งปลอดจากเหตุอันจะทําใหเกิดการประสบอันตรายตอชีวติ รางกาย จิตใจ หรือสุขภาพ อนามยั อนั เนอื่ งจากการทาํ งานหรอื เกี่ยวกับการทํางาน ๑.๓.๒ สถานประกอบกิจการ ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หมายความวา หนวยงานแตละแหงของนายจางท่ีมีลูกจางทํางาน อยูใ นหนว ยงาน ๑.๓.๓ นายจาง ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอม ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หมายความวา นายจา งตามกฎหมายวา ดวยการคุมครองแรงงานและใหหมายความ รวมถึงผูประกอบกิจการซ่ึงยอมใหบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาทํางานหรือทําผลประโยชนใหแกหรือใน สถานประกอบกิจการ ไมวาการทํางานหรือการทําผลประโยชนน้ันจะเปนสวนหนึ่งสวนใดหรือทั้งหมด ในกระบวนการผลิตหรอื ธุรกิจในความรบั ผดิ ชอบของผูป ระกอบกิจการน้นั หรือไมก ต็ าม ๑.๓.๔ ลูกจาง ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอม ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หมายความวาลูกจางตามกฎหมายวาดวยการคุมครองแรงงานและใหหมายความ รวมถึงผูซ่ึงไดรับความยินยอมใหทํางานหรือทําผลประโยชนใหแกหรือในสถานประกอบกิจการของนายจาง ไมวา จะเรียกชื่ออยา งไรก็ตาม

๗ ๑.๓.๕ พนักงานตรวจความปลอดภัย ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หมายความวา ผูซ่ึงรัฐมนตรีแตงตั้งใหปฏิบัติการ ตามพระราชบญั ญัตินี้ ๑.๓.๖ อันตราย (Danger) หมายถึง สงิ่ หรอื เหตุการณท ่ีอาจกอ ใหเกิดการบาดเจบ็ ความเจบ็ ปวย จากการทํางาน ความเสียหายตอทรัพยสิน สภาพแวดลอม และสาธารณชน เหลาน้ีรวมกัน ซ่ึงเปนอันตราย ทเี่ กดิ ข้นึ หรืออาจเกดิ ข้นึ จากกระบวนการผลิตและกิจกรรมตา ง ๆ ของสถานประกอบกจิ การ ๑.๓.๗ “ความเส่ียง” หมายถึง โอกาสในการเกิดอันตราย ซ่ึงระดับของความเส่ียงขึ้นอยูกับระดับ ความรุนแรงของอนั ตราย และมาตรการในการควบคุม ๑.๓.๘ อบุ ตั เิ หตุ (Accident) หมายถึง เหตุการณทเ่ี กดิ ขึ้นโดยไมม ีใครคาดคิด ไมไดต ้ังใจใหเ กิดขึ้น ไมมกี ารวางแผนลว งหนา ไมส ามารถควบคมุ ได และไมส ามารถหลีกเลี่ยงได ๑.๓.๙ การสอบสวนอุบัติเหตุ (Accident Investigation) กระบวนการในการคนหาความจริง และลกั ษณะของการเกิดอุบัตเิ หตุ โดยทําการคนหาขอมูล หลกั ฐาน ตรวจสอบสถานท่เี กิดเหตุ และพยานบุคคล หรือวตั ถพุ ยานทีเ่ กีย่ วขอ ง เพื่อนาํ ไปวเิ คราะหอบุ ตั ิเหตุ ๑.๓.๑๐ การวิเคราะหอุบัติเหตุ (Accident Analysis) หมายถึง การนําขอมูลการสอบสวน อุบัติเหตุมาประเมินเพ่ือหาสาเหตุที่แทจริง (The Root Cause) ตลอดจนวิเคราะหหาความสัมพันธ ของอบุ ัตเิ หตใุ นแตล ะรายเพ่อื ใชในการมองภาพแนวโนม ของการเกิดอุบัติเหตุท่ีอาจเกิดขึน้ ๑.๔ การดําเนนิ การกรณเี กิดอบุ ัติภยั รายแรงหรอื การประสบอันตรายจากการทํางาน หนา ท่นี ายจาง ตามมาตรา ๓๔ แหงพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอม ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ กําหนดวาในกรณีท่ีสถานประกอบกิจการใดเกิดอุบัติภัยรายแรง หรือลูกจาง ประสบอันตรายจากการทํางาน ใหน ายจา งดาํ เนนิ การดงั ตอ ไปน้ี ๑) กรณีที่ลูกจางเสียชีวิต ใหนายจางแจงตอพนักงานตรวจความปลอดภัยในทันทีที่ทราบ โดยโทรศัพท โทรสาร หรือวิธีอ่ืนใดที่มีรายละเอียดพอสมควร และใหแจงรายละเอียดและสาเหตุเปนหนังสือ ภายใน ๗ วนั นับแตว ันทล่ี กู จา งเสียชีวิต ๒) กรณีท่ีสถานประกอบกิจการไดรับความเสียหายหรือตองหยุดการผลิต หรือมีบุคคล ในสถานประกอบกิจการประสบอันตรายหรือไดรับความเสียหาย อนั เนื่องมาจากเพลิงไหม การระเบิดสารเคมี รั่วไหล หรืออุบัติภัยรายแรงอ่ืน ใหนายจางแจงตอพนักงานตรวจความปลอดภัยในทันทีที่ทราบ โดยโทรศัพท โทรสาร หรือวิธีอื่นใด และใหแจงเปนหนังสือโดยระบุสาเหตุอันตรายที่เกิดขึ้นความเสียหาย การแกไข และวธิ กี ารปอ งกนั การเกดิ ซ้าํ อกี ภายใน ๗ วันนบั แตว ันเกดิ เหตุ ๓) กรณีท่ีมีลูกจางประสบอันตราย หรือเจ็บปวยตามกฎหมายวาดวยเงินทดแทน เม่ือนายจาง แจงการประสบอนั ตรายหรอื เจ็บปวยตอสํานักงานประกันสังคมตามกฎหมายดังกลาวแลว ใหนายจางสงสําเนา หนงั สอื แจง น้ันตอพนกั งานตรวจความปลอดภัยภายในเจด็ วนั ดวย

๘ หนาทพ่ี นกั งานตรวจความปลอดภยั ตามมาตรา ๓๔ วรรคสอง ไดกําหนดวา เมื่อพนักงานตรวจความปลอดภัยไดรับแจงการเกิด อุบัติภัยรายแรง หรือลูกจางประสบอันตรายจากการทํางานแลว ใหดําเนินการตรวจสอบและหามาตรการ ปองกันอันตรายโดยเร็ว และอํานาจหนาที่ของพนักงานตรวจความปลอดภัยตามมาตรา ๓๕ กําหนดไว ในพระราชบัญญตั ิความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ไดแ ก ๑) เขา ไปในสถานประกอบกจิ การหรือสาํ นักงานของนายจางในเวลาทําการหรือเม่ือเกิดอบุ ัติภยั ๒) ตรวจสอบหรือบันทึกภาพและเสียงเก่ียวกับสภาพแวดลอมในการทํางานท่ีเกี่ยวกับ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ มในการทาํ งาน ๓) ใชเ คร่อื งมือในการตรวจวัดหรอื ตรวจสอบเครือ่ งจักร หรอื อุปกรณใ นสถานประกอบกจิ การ ๔) เก็บตัวอยางของวัสดุหรือผลิตภัณฑใด ๆ มาเพื่อการวิเคราะหเ ก่ียวกบั ความปลอดภยั ๕) สอบถามขอเท็จจริง หรือสอบสวนเรื่องใด ๆ ภายในขอบเขตอํานาจและเรียกบุคคล ที่เก่ียวของมาชี้แจง รวมท้ังตรวจสอบหรือใหสงเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวของและเสนอแนะมาตรการปองกัน อนั ตรายตอ อธบิ ดโี ดยเร็ว จากอํานาจหนาท่ีขางตน ในกรณีเกิดอุบัติภัยรายแรงหรือการประสบอันตรายจากการทํางาน พนักงานตรวจความปลอดภัยเขาดําเนินการสอบสวนและวิเคราะหอุบัติเหตุจากการทํางาน เพ่ือนําผลที่ไดมา ดําเนนิ การใน ๒ ดานหลัก คือ ๑) การบังคับใชก ฎหมาย ตามระเบียบกรมสวัสดิการและคมุ ครองแรงงาน วา ดวยการดําเนนิ คดอี าญา และการเปรียบเทียบผูกระทําความผิดตามกฎหมายวาดวยการคุมครองแรงงานและความปลอดภัยในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๘ และฉบับแกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๙ และฉบับท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๑) และระเบียบกรมสวัสดิการและ คุมครองแรงงาน วาดวยการตรวจสถานประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๒) การปองกัน โดยนําผลการสอบสวนและวิเคราะหอุบัติเหตุมากําหนดเปนมาตรการในการ ปองกันท่ีเหมาะสม เพ่ือไมใหเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ําขึ้นอีก และยังสามารถนําผลจากการดําเนินการไป เปนกรณศี ึกษาสรา งการรับรูใหก ับสถานประกอบกิจการอ่นื ๆ ทม่ี คี วามเสี่ยงในลักษณะเดียวกัน ๑.๕ 5W 1H หลกั การพื้นฐานของการสอบสวนอบุ ัติเหตุ เพื่อใหไดขอมูลที่ครบถวนในการสอบสวนและวิเคราะหอุบัติเหตุ ใหใชหลักการพ้ืนฐาน 5W 1H ประกอบดว ย ๑) Who ใคร : สอบสวนวา ใครคือผูที่ไดรับบาดเจ็บ (กรณีไมเสียชีวิต) หรือเสียชีวิต ใครมีสวน เกี่ยวของกับการเกิดอุบัติเหตุคร้ังน้ีบาง เชน ผูรวมทํางาน หัวหนางานหรือผูมอบหมายงาน ผูเห็นเหตุการณ เปนตน ซ่งึ มีรายการขอ มลู ทต่ี องคนหาและรวบรวมเกีย่ วกบั การเกิดอบุ ตั เิ หตุ ไดแก - ใครไดร ับบาดเจ็บ - ใครเห็นเหตุการณ - ใครทํางานกับลูกจาง

๙ - ใครเปน คนมอบหมายงานใหล กู จา ง - มคี นอ่นื หรือไมท ี่เกยี่ วของกบั การเกิดเหตกุ ารณ - ใครสามารถชว ยปอ งกนั ไมใหเ กิดเหตุการณซํา้ ไดอกี ๒) What อะไร : สอบสวนวา อะไรคือเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณที่ลูกจางใชขณะเกิดเหตุ อะไรทําใหลูกจางตองเขาไปอยูในที่เกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุลูกจางไดรับมอบหมายใหทําอะไร ฯลฯ ซึ่งมีรายการ ขอ มลู ทีต่ อ งคน หาและรวบรวมเกี่ยวกบั การเกดิ อบุ ัตเิ หตุ ไดแ ก - เกิดอุบัติเหตุอะไร - เกิดการบาดเจ็บอะไร - ขณะเกิดเหตุ ลกู จางกาํ ลงั ทําอะไรอยู - ลูกจางไดรับมอบหมายใหท าํ อะไร - มีวสั ดุอปุ กรณอ ะไรท่ลี กู จา งใช ขณะเกิดเหตุ - มเี คร่ืองจกั รอะไรทเี่ กี่ยวขอ งกับการเกิดเหตุ - ลกู จางกาํ ลังปฏิบัตหิ นาท่ีอะไร ขณะเกดิ เหตุ - ลกู จางไดร ับคําสั่งอะไรในการปฏบิ ัตหิ นาท่ี - ในการปฏิบตั ิงานมขี อควรระวังเฉพาะอะไรที่จําเปน - ลกู จา งไดร ับการอบรม/แจง ใหระวงั อะไรเปนการเฉพาะในการปฏิบตั ิงาน - อปุ กรณคมุ ครองความปลอดภัยอะไรบางทจี่ าํ เปนตองใช ขณะลูกจางปฏิบัตงิ าน - อุปกรณคมุ ครองความปลอดภยั อะไรบางที่ลูกจางใช ขณะเกิดเหตุ - อะไรบา งทบ่ี ุคคลอน่ื กระทาํ และมผี ลกระทบตอการเกิดอบุ ัตเิ หตุ - ปญ หาอะไรบางท่ีลูกจางตองเจอ ขณะเกดิ เหตุ - ลกู จางหรือผูเหน็ เหตุการณปฏิบตั อิ ะไร ขณะเกดิ เหตุ - สถานการณอะไรเกิดข้ึนขณะเกดิ เหตุ แลวทาํ ใหอุบตั ิเหตมุ ีความรุนแรงลดลง - อะไรที่ลกู จางหรือผเู ห็นเหตกุ ารณเห็น - อะไรที่ควรดาํ เนินการเพื่อปอ งกนั ไมใหอบุ ัตเิ หตเุ กดิ ซ้ํา - ขอปฏบิ ตั ิ/ขอ กาํ หนด/หรอื กฎท่ีเกี่ยวของกับความปลอดภัยอะไรท่ไี มมกี ารปฏบิ ตั ิตาม - ขอปฏบิ ตั ิ/ขอกําหนด/หรือกฎท่เี กี่ยวขอ งกบั ความปลอดภยั อะไรท่ีตองมีการจัดทําขึ้นใหม ๓) Where ท่ีไหน : สอบสวนวา อุบัติเหตุเกิดข้ึนท่ีไหน ลูกจางอยูที่ไหนขณะเกิดเหตุ ผูมีสวน เก่ียวของอยูที่ไหนขณะเกิดเหตุ เชน หัวหนางาน ผูรวมทํางาน เปนตน ซ่ึงมีรายการขอมูลที่ตองคนหาและ รวบรวมเก่ียวกับการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ ไดแ ก - อบุ ัติเหตุเกดิ ขึน้ ทีไ่ หน - ลกู จางอยทู ี่ไหน ขณะเกิดเหตุ - หัวหนางานอยูท่ไี หน ขณะเกิดเหตุ - เพือ่ นรวมงานคนอื่นอยูทีไ่ หน ขณะเกิดเหตุ - บคุ คลอนื่ ๆ ทีเ่ ก่ยี วของกบั การเกดิ เหตุอยทู ี่ไหน ขณะเกิดเหตุ - พยานอยูทีไ่ หน ขณะเกิดเหตุ

๑๐ ๔) When เม่ือไร : สอบสวนวา อุบัติเหตุเกิดข้ึนเม่ือไร ลูกจางเร่ิมปฏิบัติงานเมื่อไร หัวหนางาน เขา มาตรวจสอบการทํางานของลูกจางเมอื่ ไร หัวหนา งานไดรับแจงอุบัตเิ หตุเม่ือไร เปนตน ซ่ึงมีรายการขอมูลท่ี ตองคน หาและรวบรวมเกย่ี วกบั การเกิดอุบตั เิ หตุ ไดแ ก - อุบตั ิเหตุเกิดขึ้นเมอื่ ไร - ลูกจา งเรมิ่ ปฏบิ ัตงิ านเม่อื ไร - ลกู จา งไดรับการมอบหมายใหปฏิบตั งิ านเมื่อไร - เมอื่ ไรทลี่ กู จางไดร ับการแจง เกีย่ วกบั อนั ตรายท่ีอาจเกิดขน้ึ จากการปฏิบตั งิ าน - เมื่อไรท่ีหัวหนางานเขามาตรวจสอบการทํางานของลกู จา งคร้ังลาสดุ - เมอ่ื ไรทีล่ กู จางเริม่ รูสึกวามีความผิดปกตเิ กดิ ข้ึน ๕) Why ทําไม : สอบสวนวา ทําไมลูกจางถึงไดรับบาดเจ็บ ทําไมลูกจางถึงมีพฤติกรรมท่ีทําให เกิดอุบัติเหตุ ทําไมลูกจางถึงไมใชอุปกรณคุมครองความปลอดภัยสวนบุคคล ฯลฯ ซ่ึงมีรายการขอมูลที่ตอง คนหาและรวบรวมเกยี่ วกับการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ ไดแก - ทําไมลูกจางถงึ ไดร บั บาดเจบ็ - ทาํ ไมลกู จางถงึ มีพฤตกิ รรมทเ่ี ก่ียวของกับการเกิดอุบัติเหตุ - ทําไมบคุ คลทเ่ี กย่ี วของถึงมพี ฤติกรรมทเี่ กยี่ วของกบั การเกดิ อบุ ัตเิ หตุ - ทาํ ไมลกู จางไมใ ชอุปกรณค ุม ครองความปลอดภัยสว นบคุ คล - ทําไมลูกจางไมไดรับแจงหรือไดรับคูมือปฏิบัติงานท่ีเหมาะสมกับลักษณะงานที่ไดรับ มอบหมาย - ทําไมลูกจางอยใู นตาํ แหนงทเ่ี กิดเหตุ - ทําไมลูกจางมีการใชว ัสดอุ ุปกรณ หรอื เคร่อื งจกั ร ที่เกย่ี วขอ งกบั การเกดิ เหตุ - ทําไมลูกจางไมมีการทวนสอบกับหัวหนางาน เม่ือลูกจางไดแจงกับหัวหนางานเก่ียวกับการ ปฏบิ ตั งิ านท่ีไมเหมาะสม หรือสิง่ ท่ไี มควรปฏิบตั ิ - ทาํ ไมลกู จา งที่ยังคงปฏบิ ตั ิงานทไ่ี มเ หมาะสม หรือยงั ทําสิง่ ทไี่ มควรปฏบิ ัติ - ทาํ ไมหวั หนางานจึงไมอยูในทเ่ี กดิ เหตุ ขณะเกดิ เหตุ ๖) How อยางไร : สอบสวนวา ลูกจางไดรับบาดเจ็บไดอยางไร ซ่ึงมีรายการขอมูลที่ตองคนหา และรวบรวมเกยี่ วกบั การเกดิ อบุ ตั ิเหตุ ไดแก - ลกู จางไดร บั บาดเจบ็ ไดอยา งไร - ลกู จา งสามารถหลกี เลยี่ งการประสบอันตรายไดอ ยางไร - เพื่อนรวมงานสามารถหลีกเลี่ยงการประสบอนั ตรายไดอ ยางไร - หัวหนา งานสามารถปอ งกนั การเกิดอบุ ตั ิเหตุไดอ ยา งไร อุบัติเหตุสามารถปอ งกันไดห รือไม

๑๑ ๑.๖ มาตรการปองกัน ควบคมุ อนั ตรายและอุบัติเหตุจากการทาํ งาน มาตรการปองกัน ควบคุมอันตรายและอุบัติเหตุจากการทํางานสามารถดําเนินการโดยหลักการ ๔ ดา น ไดแก ๑) การควบคุมดานวิศวกรรม (Engineering Controls) เปนการออกแบบพื้นท่ี การควบคุม ปองกนั ที่เครื่องจักร เครอ่ื งมอื อุปกรณ รวมถงึ พ้ืนทีใ่ นการปฏิบัตงิ าน การควบคุมทางวิศวกรรม เปนยุทธวิธีแรกและดีที่สุดในการควบคุมอันตรายที่ตนกําเนิด ซึ่งจะแตกตางกับการควบคุมประเภทอ่ืน ๆ ท่ีโดยท่ัวไปแลว จะมุงเนนไปท่ีตัวผูปฏิบัติงานที่สัมผัสอันตราย แนวความคิดพื้นฐานของการควบคุมทางวิศวกรรมก็คือ เคร่ืองจักร เครื่องมือ อุปกรณ พ้ืนท่ีในการปฏิบัติงาน รวมทั้งสภาพแวดลอ มในการทํางานควรทจ่ี ะไดรับการออกแบบมาเพื่อขจัดหรือลดการสัมผัสกับอนั ตราย โดยในบางกรณีนั้น การควบคุมทางวิศวกรรมสามารถดําเนินการอยางงาย ๆ ได แตก็ขึ้นอยู กับหลักการดังนี้ คือ (ก) ถาเปนไปได ใหออกแบบระบบสาธารณูปโภค อุปกรณ หรือกระบวนการ เพื่อเคล่ือนยาย อันตราย และ/หรือ ทดแทนดวยสิ่งที่ไมเปนอันตรายหรือมีอันตรายนอยกวา (ข) ถาไมสามารถเคลื่อนยาย อันตรายได ก็ทําการปดคลุมอันตรายเพื่อปองกันการสัมผัสในชวงเวลาทํางาน (ค) ถาปดคลุมอันตรายไมได ก็ตอ งตดิ ตั้งเครอ่ื งกั้นหรอื การระบายอากาศเฉพาะแหง เพอื่ ลดการสมั ผสั อันตรายในชวงเวลาทํางาน ๒) การควบคุมดานการบริหารจัดการ (Administrative Controls) เปนการควบคุมปองกัน ดานการบริหารจัดการ เชน การวางระบบการตรวจสอบ การประเมินผล การกําหนดวิธีปฏิบัติงานท่ีปลอดภัย (Safe Work Practices) ซ่ึงประกอบดวยกฎระเบียบ ขอบังคับท่ัวไปและขอบังคับเฉพาะของบริษัท เปนตน ซึ่งอาจดาํ เนินการควบคูกับการควบคุมดานวิศวกรรม เพราะแมวาอันตรายจะถูกปดคลุมแลวก็ตาม การสัมผัส ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นไดในตอนซอมบํารุง ดังน้ันถามีการกําหนดวิธีปฏิบัติงานท่ีปลอดภัยก็จะชวยลดการสัมผัส อันตรายของผปู ฏบิ ัตงิ านได ๓) อุปกรณปองกันอันตรายสวนบุคคล (Personal Protective Equipment) เมื่อการควบคุม ทางวิศวกรรมไมสามารถควบคุมการสัมผัสอันตรายจากงานปกติหรือการบํารุงรักษาไดอยางสมบูรณ หรือวิธี ปฏิบัติงานท่ีปลอดภัยรวมถึงการควบคุมทางการบริหารจัดการในรูปแบบอื่น ๆ ก็ยังไมสามารถใหการปองกัน ที่เพียงพอได ก็ตองใชอุปกรณปองกันอันตรายสวนบุคคลเพ่ิมเติม และยังสามารถใชในระหวางท่ีการควบคุม ทางวิศวกรรมและวิธีปฏิบัติงานที่ปลอดภัยยังทํางานไมสมบูรณ หรือยังติดต้ังไมเสร็จดวย ตัวอยางอุปกรณ ปองกันอันตรายสวนบคุ คล เชน กระบังหนา รองเทา นิรภัย หมวกนริ ภัย อุปกรณปอ งกันระบบหายใจ อุปกรณ ปองกันเสียง ถุงมือและแวนตานิรภัย เปนตนทั้งน้ี ผูปฏิบัติงานตองรับทราบถึงขอจํากัดของอุปกรณปองกันฯ รวมถงึ การใชง านและการบาํ รุงรกั ษาท่ีถกู ตอง ๔) การควบคุมโดยการอบรม (Training Controls) เปนการควบคุมปองกันโดยการใหความรู ที่ถูกตองเก่ียวกับการปฏิบัติงานอยางปลอดภัย โดยการประเมินและกําหนดหัวขอความรูที่จําเปนในการปฏิบัติงาน และกาํ หนดชวงเวลาในการฝก อบรมที่เหมาะสมและสอดคลองกบั ขอกําหนดของกฎหมาย

บทท่ี ๒ การสอบสวน วิเคราะหอ บุ ตั ิเหตุและโรคจากการทาํ งาน สําหรบั พนักงานตรวจความปลอดภัย

๑๓ บทที่ ๒ การสอบสวน วิเคราะหอ ุบตั เิ หตแุ ละโรคจากการทํางาน สําหรับพนกั งานตรวจความปลอดภัย ๒.๑ หลกั การท่วั ไปในการสอบสวนและวิเคราะหอุบตั เิ หตุ ในการสอบสวนอบุ ัตเิ หตุ ผสู อบสวนอบุ ตั เิ หตุจะตองสืบคน ใหท ราบขอ เท็จจรงิ ตางๆ ของการเกิด อุบัติเหตุ โดยการรวบรวมหลักฐานจากแหลงขอมูลตาง ๆ ระหวางการสอบสวนอุบัติเหตุ เพื่อเปนขอมูล ในการวเิ คราะหสาเหตุการเกิดอุบัตเิ หตุ ดังนี้ ๑) สืบหาขอมูลจากพยาน และเอกสารตาง ๆ โดยการสังเกต สัมภาษณพยานภายหลังการเกิด อบุ ตั เิ หตุ ทัง้ น้ีตองดําเนินการโดยเรว็ ทสี่ ุดทสี่ ามารถทาํ ได ๒) ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุโดยทันที่กอนท่ีจะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพท่ีเกิดเหตุหรือการเคล่ือนยาย วตั ถุพยาน พรอมท้งั ถายรปู และสเก็ตซภาพสภาพทเี่ กิดเหตุ และบันทึกรายละเอียดตา ง ๆ บนภาพสเกต็ ซ ๓) รวบรวมรายละเอยี ดเกยี่ วกบั ข้ันตอนการปฏิบัติงาน แผนผงั กระบวนการผลติ การบาํ รุงรกั ษา เครือ่ งจกั ร อปุ กรณตาง ๆ หรือรายงานสง่ิ ผิดปกตติ าง ๆ ทีเ่ กิดข้ึน รวมทงั้ รายละเอยี ดอ่นื ๆ ท่จี ําเปน ตอ งใชเปนขอ มูล ในการวิเคราะหหาสาเหตุการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ รวมท้ังเอกสารประกอบ ๔) บันทึกรายละเอียดการเกิดอุบัติเหตุอยางถูกตองสมบูรณเก่ียวกับสถานการณกอนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และภายหลังการเกิดเหตุ รวมทั้งตําแหนงท่ีผูประสบอันตรายอยู พยานท่ีเห็นเหตุการณ เคร่ืองจักร แหลงพลงั งาน และวตั ถอุ ันตรายที่ตง้ั อยู ๕) ลักษณะและคุณสมบัติทางกายภาพ และทางเคมีของวัตถุอันตราย หรือสารเคมีอันตราย ซ่ึงอาจเช่ือมโยงไปสกู ารวเิ คราะหส าเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ๒.๒ หลกั การสมั ภาษณ โดยทั่วไปผูนําสัมภาษณค วรเปนผูมีประสบการณในการสอบสวนอุบัติเหตุ หากเปนไปไดท ีมสัมภาษณ ควรมีผทู ี่มคี วามรพู ้นื ฐานดานกฎหมายอยดู วย ในการสมั ภาษณควรดําเนนิ การดงั นี้ ๑) กําหนดผูนาํ สัมภาษณ ๒) สัมภาษณเพื่อใหไดขอมูลจากพยานทุกคนอยางรวดเร็วท่ีสุดเทาท่ีจะทําได ทั้งนี้เพ่ือใหได ขอเท็จจริงจากพยาน กอนที่พยานจะไดรับฟงความคิดเห็น หรือคําสั่งจากผูบังคับบัญชาทําใหบิดเบือนขอมูล จากความเปน จริง ๓) บันทึกตําแหนงที่อยูของพยานทุกคนท่ีอยูในเหตุการณ รวมทั้งทิศทางในการมองภาพ เหตุการณของพยาน ลงบนแผนผงั ที่เกิดเหตุ ๔) สถานทที่ ีใ่ ชสําหรับสัมภาษณพยานตองสะดวกและเหมาะสม ๕) อธิบายวัตถุประสงคของการสอบสวนอุบัติเหตุ ใหพยานทราบเพื่อใหเกิดความเขาใจ และ ทัศนคติท่ดี ี

๑๔ ๖) รับฟงสิ่งท่ีพยานพูด ใหพยานมีอิสระในการพูด พูดคุยอยางสุภาพมีอัธยาศัยดี และพิจารณา รายละเอยี ดขอมูลท่ีไดร ับฟง จากพยานอยา งรอบคอบ ๗) จดบันทึกคาํ ใหสัมภาษณของพยานโดยไมพูดสิ่งใดที่ทาํ ใหพยานไขวเขว ใชเทปบันทึกเสียง คาํ ใหสัมภาษณเ ฉพาะกรณที ่พี ยานยนิ ยอม ๘) ใหพยานช้ีแจงเหตุการณที่เกิดขึ้นประกอบกับการใชภาพสเก็ตซ และแผนผังสถานที่เกิดเหตุ ที่เตรียมไว เพ่อื ใหค วามสะดวกแกพยานและทําใหม องเหน็ ภาพเหตกุ ารณไดช ัดเจนย่งิ ขึน้ ๙) สัมภาษณพยานโดยเนนความสําคัญของลําดับเหตุการณที่เกิดอุบัติเหตุ บันทึกรายละเอียด ท่ีสําคญั ลงในภาพสเกต็ ซ หรอื แผนผังบริเวณท่ีเกิดเหตุตามท่พี ยานใหรายละเอยี ดไว ๑๐) ผูสมั ภาษณตองมคี วามจรงิ ใจ และเปน กันเองกับพยาน ไมโ ตแ ยงพยาน ๑๑) บนั ทึกคาํ ใหก ารของพยาน และอยาเพ่ิมเติมขอ ความอ่นื ใดที่พยานไมไดพ ูด ๑๒) ตัง้ คาํ ถามอยา งระมดั ระวัง และตอ งแนใ จวา พยานเขาใจคําถาม ๑๓) บันทึกรายละเอียดสวนตัวของพยานแตละคน เชน ชื่อ ท่ีอยู อายุ อาชีพ ตําแหนง คุณวุฒิ การศึกษา และ ระยะเวลาในการทํางาน เปน ตน ๑๔) ควรใหพ ยานลงช่ือรับรองในบนั ทึกคําใหการ และเก็บบันทึกคาํ ใหการของพยานทกุ คน ภายหลังการสัมภาษณพยานทุกคนแลว ทีมสัมภาษณควรนําคําใหการของพยานแตละคน มาทําการวเิ คราะห อาจมบี างคนทจ่ี าํ เปน ตอ งสัมภาษณเพ่มิ เตมิ ใหมเพ่ือความแนใจ และความชัดเจนของขอมูล ท่ีเปนประเด็นสําคัญ คําใหสัมภาษณของพยานแตละคนอาจไมสอดคลองกัน ผูสอบสวนอุบัติเหตุควรจะตอง รวบรวมหลกั ฐานในที่เกดิ เหตุ และนํามาวเิ คราะหรว มกบั ขอมูลจากพยานทกุ คนดว ย การบอกเลาเหตุการณของพยานท่ีอยูใกลท่ีเกิดเหตุอาจไมตรงกับพยานที่อยูหางไกลออกไป พยานท่ีพูดคุยวิเคราะหเหตุการณที่เกิดขึ้นกับผูอื่นกอนใหสัมภาษณ อาจเปลี่ยนแปลงความคิด ทําใหบอกเลา เหตกุ ารณผดิ ไปจากความคิดเห็นเดิมของตน ซึ่งสาเหตุเหลา นี้อาจจะตอ งนํามาวิเคราะหดวย พยานบางคนอาจ ละเลยลําดับเหตุการณบางเหตุการณไปเน่ืองจากไมไดส ังเกต หรือไมใหความสาํ คญั กับเหตกุ ารณน ้ัน ดังนั้นการวิเคราะห ขอมูลจากคําบอกเลาของพยาน ควรจะตองนาํ ขอมูลจากพยานทุกคนมาวิเคราะหเพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอง ซ่ึงเปนสง่ิ สาํ คญั ทจ่ี ะนาํ ไปสกู ารวเิ คราะหหาสาเหตกุ ารเกดิ อุบตั ิเหตทุ ่ีถกู ตองตอไป ๒.๓ ข้ันตอนของการสอบสวนและวเิ คราะหอ บุ ตั ิเหตุของพนกั งานตรวจความปลอดภัย พนักงานตรวจความปลอดภัยตองทราบขอมูลเบ้ืองตนกอนเขาดําเนินการสอบสวนและวิเคราะห อบุ ัติเหตุ เชน ขอมูลสถานประกอบกิจการ ขอมูลกระบวนการผลิต ขอมูลเบ้ืองตนของเหตุการณท่ีเกิด เปนตน นอกจากนอ้ี าจตองประสานหนว ยงานทเ่ี กยี่ วของ และเตรยี มเคร่อื งมือ/อุปกรณท ่จี าํ เปน ทงั้ นี้ ข้ึนอยูกับลกั ษณะ ความรุนแรง และสภาพการเกิดอุบัติเหตุ การสอบสวนและวิเคราะหอุบัติเหตุของพนักงานตรวจความปลอดภัย มขี ั้นตอน ดังนี้

๑๕ ๒.๓.๑ เตรียมขอมูลพนื้ ฐานทจี่ ําเปนในการสอบสวนและวิเคราะหอุบัติเหตุ ๑) ขอมูลเบ้ืองตนของสถานประกอบกิจการ ไดแก ช่ือ ที่ตั้ง ประเภทกิจการ เจาของสถาน ประกอบกิจการ ผูมีอํานาจลงนามของบริษัท จํานวนลูกจาง ผูรับเหมา ผูรับผิดชอบดานความปลอดภัยในการ ทาํ งานสภาพการจางงาน ฯลฯ ๒) แผนผังอาคาร ขั้นตอนและรายละเอียดกระบวนการผลิต สภาพการทํางานสภาพแวดลอม ในการทาํ งาน และลักษณะการทาํ งานของแผนกหรือบรเิ วณทีเ่ กิดเหตุ ๓) มาตรการและการดาํ เนนิ งานดานความปลอดภยั ฯ ที่มีอยูเ ดิม ๔) อ่ืน ๆ เชน ขอกฎหมายท่ีเก่ียวขอ ง ขอมูลความปลอดภยั ของสารเคมี ขอมูลเครื่องจักร เปน ตน ๒.๓.๒ เตรยี มเครื่องมือ/อุปกรณท่ใี ชในการสอบสวนอบุ ตั ิเหตุ ไดแก ๑) เครอ่ื งแตง กายหรอื ชุดในการปฏิบตั หิ นาท่ี พรอ มบัตรประจาํ ตวั พนกั งานตรวจความปลอดภัย ๒) อุปกรณปองกันอันตรายสวนบุคคล ไดแก หมวกนิรภัย รองเทานิรภัย แวนตานิรภัย หนา กากปอ งกันฝุน หรือสารเคมี เปน ตน ๓) แบบฟอรมการสอบสวนอบุ ตั เิ หตุ ๔) สมุด ปากกา แผน รองเขียนสําหรบั บันทกึ ขอมลู และสเก็ตชภ าพเหตุการณ ๕) กลอ งถายรูป ตลับเมตร ๖) อื่น ๆ เชน แบบบันทึกคาํ ใหก าร หนังสอื เชญิ พบ แบบตรวจความปลอดภัย เปนตน ๒.๓.๓ การรวบรวมพยานหลักฐานการเกดิ อบุ ัติเหตุ ไดแก การตรวจสอบบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ การบันทึกภาพเปนหลักฐาน การสัมภาษณพยานบุคคล การตรวจสอบเอกสาร กฎ ระเบียบที่เกี่ยวของของสถาน ประกอบกิจการ โดยดําเนินการดังน้ี ๑) ตรวจสอบบริเวณท่เี กดิ เหตุเพ่ือรวบรวมรายละเอียดท่ีสาํ คัญและจาํ เปน ในการวเิ คราะห หาสาเหตุการเกดิ อบุ ัติเหตุ - จัดทําแผนที่เกิดเหตุ สเก็ตซภาพและถายภาพในสวนท่ีจําเปนพรอมทั้งระบุลักษณะ ระยะหาง ทศิ ทาง ของพยานวัตถแุ ละรายละเอียดตา งๆ ในภาพอยางถกู ตอง ชดั เจน ตามตวั อยางในรปู ที่ ๔ - บันทึกภาพท่ีเกี่ยวของกับเหตุการณ เชน ปายสัญลักษณเตือนอันตรายและเคร่ืองหมาย เก่ียวกับความปลอดภัยฯ ปายแสดงวธิ ีการทํางานกับเครื่องจกั รท่ีอาจกอใหเกิดอันตราย ปายบอกพิกัดน้ําหนัก ยกของรถยก ชดุ ลอ็ กปองกนั ลวดสลิงหลุดจากตะขอของปน จน่ั เปนตน ๒) รวบรวมพยานหลักฐานการดําเนินการที่เก่ียวของกับเหตุการณของสถานประกอบ กิจการ เชน อุปกรณคุมครองความปลอดภัยสวนบุคคลที่นายจางจัดให หลักฐานการฝกอบรมลูกจาง แบบบันทึกผลตรวจสอบเคร่ืองจักร เครื่องมือ อุปกรณ แบบบันทึกผลการตรวจสอบและรับรองระบบไฟฟา และบริภัณฑไฟฟา ขอมูลรายการทดสอบสวนประกอบและอุปกรณสําหรับปนจั่น ผลการตรวจสอบรถยก กอ นการใชงาน แผนงานดานความปลอดภัยในการทาํ งานสําหรบั งานกอสราง ขอ บังคับและคูมือวา ดวยความปลอดภัย ในการทาํ งาน เปน ตน

๑๖ ๓) สัมภาษณผูประสบเหตุและพยาน รวมทั้งผูที่อยูในเหตุการณกอนเกิดอุบัติเหตุ และผูเกี่ยวของที่มาถึงสถานที่เกิดเหตุกอนหนาทีมงานจะไปถึง บันทึกขอมูลการสัมภาษณอยางถูกตอง อาจใชการบันทึกเทปดวยหากสามารถทาํ ได รูปท่ี ๔ แสดงตัวอยา งภาพสเกต็ ซแ ละการจัดทําแผนผงั ท่ีเกิดเหตุ ๒.๓.๔ นําขอมูลพื้นฐานมาวิเคราะหคนหาสาเหตุที่แทจริงของการเกิดอุบัติเหตุ โดยใชหลัก 5W1H เพื่อนํามาใชในการวางมาตรการปอ งกันอุบัติเหตุและประกอบการดําเนินการตามกฎหมาย หากมีขอสงสัย ใหร วบรวมขอมูลและพยานหลกั ฐานท่ีเกีย่ วขอ งเพ่ิมเติม ๒.๓.๕ การวเิ คราะหหาสาเหตขุ องการเกดิ อบุ ตั ิเหตุ เพือ่ นํามาใชในการปองกันอบุ ัตเิ หตุและประกอบ การดาํ เนนิ การตามกฎหมาย ๒.๓.๖ การสรุปและจัดทํารายงานผลการสอบสวนและวิเคราะหอุบัติเหตุ พรอมขอเสนอแนะ ในการปองกนั ขั้นตอนที่กลาวขางตน สรุปไดตามผังกระบวนงาน (Work Flow) การสอบสวนและวิเคราะหอบุ ตั เิ หตุ จากการทํางานสาํ หรับพนักงานตรวจความปลอดภัย ดังนี้

๑๗ ผังกระบวนงาน (Work Flow) การสอบสวนและวิเคราะหอบุ ตั เิ หตุจากการทํางาน สําหรับพนกั งานตรวจความปลอดภัย สถานประกอบกจิ การ เกดิ อุบัติภยั รายแรง หรอื การประสบอันตรายจากการทํางาน ใชห ลกั การพ้ืนฐาน 5W1H พนกั งานตรวจความปลอดภยั Who / What / Where / เตรยี มความพรอ มกอนการเขาดําเนินการ เชน ประสานหนวยงานทเ่ี ก่ียวขอ ง / เตรียม When / Why / How เครือ่ งมือ อุปกรณทจ่ี ําเปน พนักงานตรวจความปลอดภยั เขาดําเนินการสอบสวนอบุ ัติเหตุ จากการทํางาน วเิ คราะหอุบัตเิ หตุจากการทาํ งาน ทราบสาเหตุทีแ่ ทจรงิ สรุปผลการวิเคราะห ของการเกิดอุบตั เิ หตุ สรุปและจัดทํารายงาน เสนอความเหน็ ตอผูบังคบั บัญชาตามลําดับช้ัน หมายเหตุ กองความปลอดภัยแรงงานเปน ท่ีปรึกษาและสนบั สนนุ เทคนิควชิ าการในเชิงลึก

๑๘ ๒.๔ แนวคําถามท่ใี ชในการคนหาสาเหตขุ องการเกิดอุบัตเิ หตุ (๑) มีคูมือการปฏิบัติงานหรือไม ถามีคูมือฯ ไดถูกจัดทําขึ้นถูกตองตามหลักวิชาการและเหมาะสม กับลกั ษณะงานหรอื ไม (๒) ขั้นตอนการทํางานหรือมาตรฐานการทํางานที่นายจางไดจัดทําขึ้น มีการบงช้ีอันตรายท่ีอาจเกิดขึ้น จากการปฏบิ ตั ิงานของลกู จา งไดอยางครบถวนและเหมาะสมกบั ลักษณะงานหรือไม (๓) มีสภาพแวดลอมโดยรอบที่นอกเหนือจากจุดที่ลูกจางทํางาน ที่เปนอันตรายและอาจจะมีสวนทําให เกดิ อบุ ตั ิเหตหุ รือไม (๔) ลูกจางหรือหัวหนางานตระหนักรูหรือไมวามีสภาพแวดลอมในการทาํ งานที่เปนอันตรายในบริเวณ ที่ลูกจางทํางานอยู (๕) มีมาตรการหรือการดําเนินการที่ลูกจางหรือหัวหนางานกําจัดหรือควบคุมสภาพแวดลอมในการทํางาน ทเ่ี ปนอนั ตรายหรือไม (๖) นายจางมีการฝกอบรมใหลูกจางสามารถจัดการกับสภาพแวดลอมในการทํางานที่เปนอันตราย ซ่ึงสามารถเกิดขึ้นในบริเวณทล่ี กู จา งปฏบิ ัติงานหรอื ไม (๗) ลกู จา งมีพนื้ ที่ทาํ งานทเ่ี พยี งพอตอการปฏิบัตงิ านไดสะดวกและปลอดภยั หรอื ไม (๘) บริเวณท่ลี ูกจา งทํางานมีแสงสวางเพียงพอตอการปฏิบัติงานที่ลกู จา งไดรับมอบหมายหรอื ไม (๙) ลกู จา งมคี วามเขา ใจและคนุ เคยกับขั้นตอนการทาํ งานท่ีไดร บั มอบหมายหรือไม (๑๐) มีสถานการณ/บุคคล/อุปกรณ/หรือสิ่งอ่ืน ๆ ที่แตกตางไปจากขอกําหนดในคูมือการปฏิบัติงาน หรือขั้นตอนการทาํ งานปกตหิ รอื ไม (๑๑) มีการใชอุปกรณและเคร่ืองมือท่ีไดมาตรฐาน และเหมาะสมกับลักษณะงานหรือความเสี่ยงท่ีอาจเกิดข้ึน จากการปฏบิ ตั งิ านของลกู จา งหรอื ไม ถา มลี ูกจางมกี ารใชข ณะปฏบิ ตั งิ านหรอื ไม (๑๒) ลูกจางมีสภาพรางกายหรือจิตใจท่ีมีผลกระทบตอการปฏิบัติหนาที่ไดอยางถูกตองและเหมาะสม หรอื ไม (๑๓) มีงานหรือลักษณะงานที่มีความยาก ตองใชสมาธิ ใชระยะเวลาทํางาน หรือตองใชความแข็งแรง ของรา งกายทมี่ ากเกนิ กวา ท่ีลกู จางปฏบิ ตั งิ านตามปกติ (๑๔) มีอะไรที่แตกตางหรือไมเหมือนกับการปฏิบัติงานตามปกติ เชน อะไหล สารเคมี อุปกรณ เครือ่ งจักร การซอ มบํารุง ฯลฯ หรือไม (๑๕) นายจางมีการจัดเตรียมอุปกรณคุมครองความปลอดภัยสวนบุคคลที่ไดมาตรฐานและเหมาะสม กับอนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขึน้ จากการปฏิบตั ิงานใหก บั ลูกจางอยา งเพยี งพอหรือไม (๑๖) นายจางมีการอบรมใหลกู จางสามารถใชอุปกรณคุมครองความปลอดภัยสว นบุคคลไดอยางถูกตอง และเหมาะสมกบั อนั ตรายท่ีอาจเกิดขน้ึ ในการปฏบิ ตั ิงานของลูกจางหรอื ไม (๑๗) ลูกจางมกี ารใชอปุ กรณค มุ ครองความปลอดภยั สว นบคุ คลท่แี พทยส ่ังใหใชหรือไม (๑๘) อุปกรณคุมครองความปลอดภัยสวนบุคคลท่ีลูกจางใช อยูในสภาพที่ไมพรอมใชงาน/เสีย/ชํารุด หรือไม

๑๙ (๑๙) นายจางมีการจดั ใหลูกจา งอบรมและฝกซอมการตอบโตเ หตุฉกุ เฉินที่ถูกตอ งและเหมาะสมตามหลัก วิชาการ รวมท้ังการใชอุปกรณใ นการตอบโตเ หตุฉุกเฉินหรอื ไม และครอบคลุมเหตุฉุกเฉนิ ที่อาจเกดิ ขนึ้ ไดหรือไม (๒๐) มีขอบงช้ีหรือหลักฐานที่บงบอกวามีการใชวัสดุอุปกรณในการปฏิบัติงานไมถูกตอง/ไมเหมาะสม กบั ลกั ษณะงาน หรอื ไมควรใชใ นการปฏบิ ตั ิงาน ณ บริเวณท่ีเกดิ เหตุ (๒๑) ที่ผานมาเม่ือมีการหยุดการทํางานหรือหยุดกระบวนการผลิตกรณีมีเหตุฉุกเฉิน หรือวัสดุ/อุปกรณ/ เคร่ืองจักรชํารุด มีการแจงเตือนเหตุหรือไม และมาตรการปองกันเหตุกรณีฉุกเฉินดังกลาวสามารถทํางานได อยา งเหมาะสมทกุ ครัง้ หรือไม (๒๒) ลูกจางทุกคนไดรับการอบรมใหสามารถปฏิบัติหนาท่ีไดอยางปลอดภัยตามกฎหมายและมาตรฐาน หรือไม และลูกจา งมีการทบทวนความรูท่ีเกย่ี วของหรือไม ถามี มกี ารเก็บบันทึกประวตั ิการอบรมท่ีเปน ปจ จุบัน หรือไม (๒๓) ในวนั เกดิ เหตุ มลี ูกจางมาทาํ งานไมเ พยี งพอกับภาระงานท่ีตองรับผิดชอบหรือไม (๒๔) หัวหนางานมีการบงช้ี คนหา คาดการณ หรือรายงานสภาพการทํางานท่ีเปนอันตราย หรือพฤติกรรม ท่ไี มปลอดภัยของลกู จา งหรือไม (๒๕) หัวหนางานรูหรือไมวามีสภาพ/เหตุการณ/วัสดุอุปกรณ/หรือสิ่งอื่นใด ที่ไมเปนไปตามข้ันตอน การปฏบิ ัติงานปกติ (๒๖) หัวหนางานหรือลูกจางเขารับการทบทวนขั้นตอน/ขอกําหนดในการปฏิบัติงานที่ตองรับผิดชอบ เปนประจาํ หรือไม (๒๗) หัวหนางานมีความตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนท่ีมีตอความปลอดภัยของลูกจางและพื้นที่ ปฏบิ ตั ิงานทีอ่ ยูในความรบั ผดิ ชอบของตนหรอื ไม (๒๘) หวั หนางานไดรับการอบรมที่ถูกตองและเหมาะสมตามกฎหมายและหลกั วิชาการเกี่ยวกบั หลักการ ปองกนั การเกดิ อบุ ตั เิ หตุหรือไม (๒๙) ลกู จา งมปี ญหาสวนตัวหรือไม และเคยมีเหตุการณความขดั แยง ระหวางลูกจางดวยกนั กบั หัวหนางาน หรอื กับนายจา งหรอื ไม (๓๐) หวั หนางานมีการพูดคุยหรอื ประชุมหารอื เกยี่ วกับความปลอดภัยฯ กบั ลูกจางหรอื ไม (๓๑) ระหวางการประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยฯ ของสถานประกอบกิจการ หรือการประชุม พูดคุยเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน มีการหารือเกี่ยวกับอันตราย/ ความเสยี่ ง/หรือปญหาทีอ่ าจทําใหล ูกจา งไมป ลอดภยั หรือไม ถามี มกี ารบนั ทกึ ในรายงานการประชุมหรือไม (๓๒) นายจางจัดใหมีทรัพยากร (วัสดุ อุปกรณ งบประมาณ บุคลากร ฯลฯ) ที่เพียงพอและเหมาะสม กับการปฏิบัติหนาที่ของลูกจางไดอยางปลอดภัย และลูกจางทํางานภายใตสภาพแวดลอมในการทํางาน ที่ปลอดภยั (๓๓) หัวหนางานมีการจัดใหลูกจางไดรับการอบรมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ จนลูกจางมีความม่ันใจ วาสามารถปฏบิ ัตงิ านที่ไดรบั มอบหมายไดอยา งปลอดภัย

บทที่ ๓ กรณศี กึ ษาการสอบสวน วเิ คราะหอ บุ ตั ิเหตแุ ละโรคจากการทํางาน กรณีท่ี ๑ : ลูกจางถูกเคร่ืองจกั รดงึ ไดร ับบาดเจบ็ กรณที ่ี ๒ : รถปน จั่นตีนตะขาบตกพรอ มกับแผนพ้ืนช่ัวคราว ลงไปในบอฐานราก กรณีท่ี ๓ : ดนิ พังทลายทับลูกจา งเสยี ชีวติ กรณีท่ี ๔ : ลูกจางตกลงไปเครอ่ื งลางเกลด็ พลาสติก และถูกสกรลู ําเลยี ง มวนดงึ จนเสยี ชวี ิต กรณีท่ี ๕ : ลกู จางตกจากกระเชาตดิ ปลายเครน (รถปน จั่น)

๒๑ กรณีศึกษาท่ี ๑ การสอบสวน วเิ คราะหอุบตั ิเหตุและโรคเนอื่ งจากการทํางาน กรณี : ลูกจา งถกู เครอ่ื งจกั รดึงไดร ับบาดเจบ็ ๑. ขอ มลู สถานประกอบกิจการ/นายจา ง ชอ่ื สถานประกอบกิจการเกิดอบุ ตั เิ หตุ :................................................ ประกอบกิจการ : การผลิตเหล็กสําหรับใชในงานกอสราง (การผลิตผลิตภัณฑโลหะโดยวิธีการตี การอดั และการรีด) ท่ตี ั้ง: .......................................................... เลขทะเบยี นนิตบิ คุ คล : …………………………… ผูมอี าํ นาจลงลายมอื ช่ือผกู พนั บริษัทฯ: ................................................ มีจาํ นวนลูกจางรวม52 คน ชาย 35 คน หญงิ 17 คน ลกู จา งตางชาติ  มี  ไมมี (กรณีมีลูกจางตา งชาติ) สญั ชาติ พมา จาํ นวนรวม ๖ คนชาย ๖ คนหญงิ จํานวน - คน ๒. ขอมลู ทวั่ ไป/รายละเอยี ดและลาํ ดบั เหตุการณก ารเกดิ อบุ ตั เิ หตุ ๒.๑ ขอมูลท่ัวไปและสภาพแวดลอมของสถานที่เกิดอุบัติเหตุจากการทํางาน (เชน สภาพอาคารหรือ ส่งิ แวดลอ ม/เครอื่ งจักร/ระบบ/การจดั การ/กระบวนการผลิต/ชนิดวสั ดหุ รือวัตถุดิบ/หรืออื่นๆ) สถานท่ีเกิดอุบัติเหตุ บริเวณเคร่ืองรีดยืดเหล็กท่ีนําเหล็กเสนรีไซเคิลมารีดเพื่อลดขนาดกอนจะเขาสู กระบวนการรีดรอนใหเปนเสนลวด เหตุเกิดในขณะที่ลูกจางกําลังกดปุมเปดเคร่ืองรีดยืดเหล็กซ่ึงกระบวนการรีดยืด เหลก็ และกระบวนการรดี เสนลวด มรี ายละเอยี ดดังนี้ กระบวนการรีดยืดเหลก็ เสน รีไซเคลิ กระบวนการรีดเสน ลวด วตั ถดุ ิบ (เหล็กเสนรไี ซเคิล) วตั ถดุ บิ (เหล็กเสนรีไซเคิลท่ผี า นการรดี ยดื ตามขนาด) รดี ยืดเหล็กดวยเคร่อื งรดี ยดื ฯ เพือ่ ลดขนาด เขา ตบอบอณุ หภูมสิ ูง จดั เกบ็ รีดเพอื่ ลดขนาดตามตองการ (รอเขา สกู ระบวนการรีดรอนเปน เสน ลวด) ลดอุณหภมู ิ ตรวจสอบคณุ ภาพ จดั เกบ็ จดั สง รปู ภาพแสดงแผนผงั กระบวนการรีดยืดเหล็กและกระบวนการรดี เสน ลวด

๒๒ ๒.2 รายละเอียด/ลาํ ดับเหตุการณก ารเกิดอบุ ัตเิ หตุ เมื่อวันท่ี..................เวลา ............................ น. ไดเกิดเหตุลูกจางของ..................................................... ตําแหนง พนักงานรีดยืดเหล็ก ทําหนาที่นําเหล็กทเ่ี ตรียมไวใสเขา เคร่ือง ตรวจสอบความเรียบรอ ยของช้นิ งาน เปดปด และควบคุมการทํางานของเครื่องรีดยืดเหล็ก ไดล่ืนลมสวนขาตกลงไปในเครื่องรีดยืดเหล็ก เหตุเกิดขณะที่ลูกจาง ไดทําการแกไขเครื่องรีดยืดเหล็กดังกลาวซ่ึงขัดของโดยมีชิ้นงานเหล็กติดคางภายในเครื่อง โดยไดปนขึ้นไปทํางาน อยูสว นบนของเครอื่ งและไดทําการปด สวิตซของเครื่องจักรเอาไว เมือ่ แกไขเสร็จแลว ลกู จา งไมไดลงจากเครื่องจักร เพื่อไปเปดสวิซต แตไดกาวขาเพ่ือเอ้ือมมือไปเปดสวิซตแทนเม่ือเคร่ืองจักรทํางานลูกจาง ไดกาวพลาดสวนขาตก ลงไปในเคร่ืองรีดยืดเหล็กดังกลาว ซ่ึงมีสวนท่ีหมุนไดคือเฟองขับและสายพาน ทําใหดึงหมุนสวนขาขางขวาแตก ละเอียด เพื่อนพนักงานท่ีอยูใกลเคียงไดเห็นเหตุการณจึงเขามาชวยปดสวิตซการทํางานของเคร่ืองจักรเอาไวไดทัน หลังจากนั้นนายจางไดส งตวั ลกู จางเขารบั การรกั ษาทีโ่ รงพยาบาล รูปแสดงการเกดิ อุบัติเหตุและการแกไ ข รูปภาพแสดงเครื่องยืดเหลก็ ตวั ท่ีเกิดเหตุ รปู ภาพแสดงวิธกี ารทาํ งานรีดยืดเหล็กดวยเครื่องยดื เหล็กตัว

๒๓ รูปภาพแสดงวิธีการทํางานเปด ปด เครื่องจักรของลูกจา งผทู ่ีไดรบั บาดเจ็บ รูปภาพแสดงเครื่องรีดยืดเหล็กไมมปี ุมหยุดเคร่ืองจักรในกรณีเกดิ เหตุฉกุ เฉิน รปู ภาพแสดงจุดหมนุ ของเคร่อื งยืดเหล็กที่ลกู จางกา วพลาดตกลงไปไดรบั บาดเจบ็

๒๔ ๓. รายละเอียดการประสบอันตราย/ความสูญเสยี /หยุดการผลิตจากการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ 3.1 จํานวนผูเสยี ชวี ติ - คน 3.2 จํานวนผูบาดเจบ็ - คน 3.3 จาํ นวนผทู ุพพลภาพ 1 คนคือ ……………………………… 3.4 คารกั ษาพยาบาล- 3.5 การสูญเสียทรพั ยส ินหรืออาคารสถานที่/เครื่องจักร - 3.6 อ่ืนๆ – 4. การวิเคราะหปจจัย/สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ (ที่สงผลใหเกิดอุบัติเหตุ เชน อธิบายลักษณะการกระทํา ท่ีไมป ลอดภัยสภาพการณท่ไี มปลอดภยั หรือสาเหตอุ ่ืนๆ) 4.1 สภาพการทาํ งานทไ่ี มป ลอดภัย 4.1.๑ เครื่องรีดยืดเหล็กมีสวนที่หมุนไดคือเฟองขับและสายพานแตไมมีท่ีปดคลุมสวนที่หมุน ไดและสวนสงถายกําลังใหมิดชิด รวมทั้งไมมีเครื่องปองกันอันตรายอื่นที่เหมาะสมที่สามารถปองกันอันตราย แกบุคคลที่ควบคุมบุคคลท่ีเกี่ยวของ หรืออยูในบริเวณใกลเคียงหรือเคร่ืองจักรสามารถหยุดการทํางานไดทันที ในกรณีเกดิ เหตุฉกุ เฉนิ เชน ปมุ หยดุ เครอื่ งจกั รฉุกเฉนิ แบบอัตโนมตั ิหรอื หยดุ ดวยมอื 4.1.2 ไมจัดใหมีคูมือและขอบังคับวาดวยความปลอดภัยในการทํางานกับเคร่ืองรีดยืดเหล็ก ใหครบถวนทุกข้ันตอน โดยอยางนอยตองกําหนดขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยเพื่อควบคุมมิให มีการกระทําทอ่ี าจกอ ใหเ กดิ ความไมปลอดภัยในการทํางาน 4.1.3 ไมมีการวิเคราะหและประเมินความเส่ียงจากอันตรายท่ีอาจเกิดจากการทํางาน ใหค รอบคลมุ และครบถว น 4.1.4 หัวหนางาน ผูควบคุมงานหรือเจาหนาที่ความปลอดภัยในการทํางาน ไมทําหนาที่ ตรวจความปลอดภัยในการทาํ งานกอนการทํางานและขณะทํางานทุกขั้นตอนเพ่ือใหเกิดความปลอดภยั ๔.2 การวเิ คราะหก ลไกของการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ จากการรวบรวมขอมลู และการสอบสวนขอเท็จจรงิ พบวา กระบวนการทํางานกับเครือ่ งรีด ยดื เหลก็ ทม่ี ีสว นทีห่ มนุ ไดคือเฟอ งขับและสายพาน แตไมม ที ี่ปดคลุมสว นท่ีหมุนไดและสว นสงถายกําลังใหมิดชิด รวมท้งั ไมม ีเคร่ืองปองกนั อันตรายอ่นื ทเ่ี หมาะสมที่สามารถปองกันอันตรายแกบุคคลท่คี วบคุม บุคคลท่ีเก่ยี วของ หรืออยูในบริเวณใกลเคียงหรือทําใหเครื่องจักรสามารถหยุดการทํางานไดทันทีในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เชน ปุมหยุด เครื่องจักรฉุกเฉินแบบอัตโนมัติหรือหยุดดวยมือ อีกท้ังในการแกไขซอมแซมเครื่องจักรโดยไมมีหนาที่รับผิดชอบ โดยตรงรวมท้ังหัวหนางาน ผูควบคุมงาน หรือเจาหนาท่ีความปลอดภัยในการทํางาน ไมทําหนาที่ตรวจสอบ ความปลอดภัยในการทํางานกอนการทํางานและขณะทํางานทุกขั้นตอนอยางเขมงวด เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ทําใหสภาพการทาํ งานไมม ีความปลอดภัยจงึ สง ผลใหเ กิดอบุ ัตเิ หตุดังกลาวขนึ้ ได ๔.3 การวเิ คราะหป จ จัยทคี่ าดวา จะเปน สาเหตุ ปจจัย ดังนี้ จากการสอบสวนอุบัติเหตุ และไดทําการวิเคราะห พบวา สาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจากหลาย ๑) ปจจัยดา นคน - ลกู จา งไมมีความตระหนกั ถึงอนั ตรายท่ีจะเกิดข้นึ

๒๕ - ลกู จางไมไดร ับการอบรมดานความปลอดภัยฯ และอนั ตรายอาจจะเกดิ ข้ึน - การซอมเครอ่ื งจักรโดยไมมีหนาที่ 2) ปจ จัยดา นเครอื่ งมือ อุปกรณและการตรวจสอบ - เครื่องรีดยืดเหล็กมีสว นท่ีหมุนไดคือเฟองขับและสายพาน แตไมมีที่ปดคลุมสว นท่ีหมุนได และสว นสง ถายกาํ ลังใหมดิ ชิด - ไมมีเคร่ืองปองกันอันตรายอ่ืนท่ีเหมาะสมทีส่ ามารถปอ งกันอนั ตรายแกบุคคลทค่ี วบคุม บุคคลที่เก่ียวของ หรืออยูในบริเวณใกลเคียงหรือทําใหเคร่ืองจักรสามารถหยุดการทํางานไดทันทีในกรณีเกิดเหตุ ฉกุ เฉนิ เชน ปมุ หยุดเคร่ืองจกั รฉุกเฉินแบบอตั โนมัตหิ รือหยุดดวยมือ - ขาดการตรวจสอบสภาพเคร่ืองจักรใหมีความปลอดภัยกอนการทํางานและตามระยะเวลา ท่ีเหมาะสม - เคร่ืองจักรไมไดถูกออกแบบตามหลักวิศวกรรม และมีการรับรองโดยวิศวกรหรือผูที่มี ความรูความชํานาญ 3) ปจ จัยดา นการบรหิ ารจดั การ - ขาดคมู ือขั้นตอนการปฏิบัติงานทปี่ ลอดภยั - ขาดการอบรมใหกับลูกจางทที่ ํางานจนเขาใจกอนทํางาน - ขาดการตรวจสอบความปลอดภัยในการทํางานโดยหัวหนางาน ผูควบคมุ งาน หรือเจาหนาท่ี ความปลอดภัยในการทํางาน กอนการทํางานและขณะทํางานทุกขัน้ ตอนอยางเขมงวด 5. ขอเสนอแนะหรอื มาตรการสาํ หรบั การแกไ ขปอ งกัน จากสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในคร้ังน้ี ในเบื้องตนสามารถกําหนดมาตรการ แนวทางในการ ปองกัน และควบคมุ อันตรายได ดังตอไปน้ี ๕.๑ มาตรการปองกนั และแกไขดา นวศิ วกรรม 1) จัดทําตะแกรงหรือที่ครอบปดคลุมสวนที่หมุนไดและสวนสงถายกําลังคือเฟองขับ และสายพานของเครอื่ งรีดยดื เหล็กใหมดิ ชิด รูปภาพแสดงการท่ีครอบปดคลุมจุดหมนุ บริเวณเฟองขับของเคร่อื งยืดเหล็ก

๒๖ รปู ภาพแสดงการที่ครอบปดคลมุ จดุ หมนุ บริเวณสายพานของเครื่องยืดเหล็ก 2) จัดใหมีเครื่องปองกนั อันตรายอ่นื ท่ีเหมาะสมท่ีสามารถปองกันอันตรายแกบุคคลท่ีควบคุม ซอมแซอม หรืออยูในบริเวณใกลเคียงหรือทําใหเคร่ืองจักรสามารถหยุดการทํางานไดทันทีในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เชน ปุมหยุดเครอื่ งจักรฉุกเฉินแบบอัตโนมตั หิ รอื หยุดดว ยมือ เคร่อื งจกั ร 3) ปรับปรุงตําแหนงของสวทิ ชใ หอยใู นจุดทีเ่ หมาะสมและมีความปลอดภยั ในการใชง าน 4) จัดใหม วี ศิ วกรเปนผูรับรอง การออกแบบ การประกอบ การติดต้งั การซอมแซม และการใชงาน ๕.๒ มาตรการปองกันและแกไ ขดา นการบริหารจดั การ ๑) จัดใหมีการวิเคราะหและประเมินความเส่ียงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทํางาน ทุกขั้นตอน โดยจะตองมีการศึกษา วิเคราะห และทบทวนการดําเนินงานเพื่อช้ีบงอันตราย ประเมินความเส่ียง และจัดทาํ แผนงานการจดั การความเสยี่ ง มีการตรวจสอบและทบทวนการดาํ เนินงานอยา งสมํ่าเสมอ 2) จัดใหมีคูมือและขอบังคับวาดวยความปลอดภัยในการทํางานกับเครื่องรีดยืดเหล็ก โดยอยางนอยตองกําหนดข้ันตอนและวิธีการปฏิบัติงานท่ีปลอดภัยเพื่อควบคุมมิใหมีการกระทําที่อาจกอใหเกิด ความไมปลอดภัยในการทํางาน ติดไวบริเวณท่ีลูกจางทํางานและแจกคูมือดังกลาวใหลูกจางไดศึกษาและปฏิบัติ เพอ่ื ความปลอดภยั ในการทํางาน 3) จัดใหมีข้ันตอนและวิธีการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยในการทํางานกับเครื่องรีดยืดเหล็กแยก ระหวางการควบคุมเคร่ืองจักร กับการซอ มเครื่องจักร 4) กําหนดวิธีการทํางานและมาตรการควบคุมดูแล ในการทํางานแกไขหรือซอมแซม เคร่ืองจกั รโดยใหผูท ่ีมีหนาท่ีรบั ผดิ ชอบและมีความชาํ นาญเทาน้ัน 5) ผูควบคุมงาน หัวหนางาน หรือเจาหนาที่ความปลอดภัยในการทํางาน จะตองทําหนาที่ อยางเขมงวดในการควบคุม กํากับ ดูแล ตรวจความปลอดภัยในการทํางานกอนการทํางานและขณะทํางาน ทุกขนั้ ตอนเพ่ือใหเ กิดความปลอดภัย

๒๗ ๕.๓ มาตรการปองกันและแกไ ขดา นการอบรม ๑) ฝก อบรมดานความปลอดภยั ฯใหก ับลูกจา งจนเขาใจกอนการปฏบิ ัตงิ าน ๒) จัดใหมีการอบรมตามคูมือและวิธีปฏิบัติงานอยางปลอดภัยและมีการทบทวน อยางสมาํ่ เสมอ 6. กฎหมายท่เี กย่ี วขอ งกบั อบุ ตั ิเหตุ (ระบุ พ.ร.บ. พรอ มมาตราทเ่ี ก่ียวขอ ง/กฎกระทรวงพรอ มขอทีเ่ ก่ียวขอ ง) 6.๑ พระราชบัญญัตคิ วามปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ มในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ฯลฯ มาตรา ๑๔ ในกรณีท่ีนายจางใหลูกจางทํางานในสภาพการทํางานหรือสภาพแวดลอม ในการทํางานที่อาจทําใหลูกจางไดรับอันตรายตอชีวิต รางกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ใหนายจางแจง ใหลูกจางทราบถึงอันตรายท่ีอาจจะเกิดข้ึนจากการทํางานและแจกคูมือปฏิบัติงานใหลูกจางทุกคนกอนที่ลูกจาง จะเขา ทาํ งาน เปลี่ยนงาน หรอื เปลี่ยนสถานท่ีทํางาน ฯลฯ มาตรา ๑๖ใหนายจางจัดใหผูบริหารหัวหนางานและลูกจางทุกคนไดรับการฝกอบรม ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดลอมในการทํางานเพ่ือใหบริหารจัดการและดําเนินการดาน ความปลอดภัยอาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ มในการทํางานไดอ ยางปลอดภัย ในกรณีท่ีนายจางรับลูกจางเขาทํางาน เปล่ียนงาน เปล่ียนสถานท่ีทํางาน หรือเปล่ียนแปลง เคร่ืองจักรหรืออุปกรณ ซึ่งอาจทําใหลูกจางไดรับอันตรายตอชีวิต รางกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ใหนายจางจัดใหม กี ารฝก อบรมลกู จางทกุ คนกอนการเริ่มทาํ งาน มาตรา ๑๗ ใหนายจางติดประกาศสัญลักษณเตือนอันตรายและเคร่ืองหมายเกี่ยวกับความ ปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน รวมท้ังขอความแสดงสิทธิและหนาที่ของนายจาง และลกู จา งตามท่อี ธิบดีประกาศกาํ หนดในท่ีทเี่ หน็ ไดงา ย ณ สถานประกอบกจิ การ ฯลฯ มาตรา ๓๒ เพื่อประโยชนในการควบคุม กํากับ ดูแลการดําเนินการดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทาํ งาน ใหนายจา งดําเนนิ การดงั ตอ ไปนี้ (๑) จัดใหมีการประเมินอนั ตราย (๒) ศกึ ษาผลกระทบของสภาพแวดลอมในการทาํ งานที่มผี ลตอลูกจา ง (๓) จัดทําแผนการดําเนินงานดานความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดลอมในการทํางาน และจัดทําแผนการควบคมุ ดแู ลลูกจางและสถานประกอบกจิ การ (๔) สงผลการประเมินอันตรายการศึกษาผลกระทบแผนการดําเนินงานและแผนการควบคุมตาม (๑) (๒) และ (๓) ใหอ ธิบดีหรือผซู งึ่ อธบิ ดมี อบหมาย 6.๒ กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการดานความปลอดภัยอาชีวอนามัยและ สภาพแวดลอมในการทํางานพ.ศ. ๒๕๔๙ ฯลฯ ขอ ๓ นายจางจัดใหมีขอบังคับและคูมือวาดวยความปลอดภัยในการทํางานไวในสถาน ประกอบกิจการ

๒๘ ขอบังคับวาดวยความปลอดภัยในการทํางานตามวรรคหนึ่ง อยางนอยตองกําหนดขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยเพื่อควบคุมมิใหมีการกระทําที่อาจกอใหเกิดความไมปลอดภัยในการทํางานทั้งนี้ นายจา งตองจัดใหมกี ารอบรมและฝกปฏบิ ัติจนกวาลกู จา งจะสามารถทํางานไดอยางถูกตอ งปลอดภัยรวมท้ังจัดวาง ระบบควบคุม กํากบั ดแู ล โดยกําหนดใหเปนหนาท่ีรบั ผดิ ชอบของเจา หนา ทค่ี วามปลอดภยั ในการทํางานทุกระดบั ฯลฯ ขอ ๙ ใหเ จาหนา ที่ความปลอดภยั ในการทํางานระดับหัวหนางานมีหนาท่ี ดังตอไปนี้ (๑) กํากบั ดแู ล ใหล ูกจา งในหนวยงานท่รี ับผิดชอบปฏบิ ตั ิตามขอบังคับและคูม ือตามขอ ๓ ฯลฯ (๔) ตรวจสอบสภาพการทํางาน เคร่ืองจักร เครื่องมือ และอุปกรณใหอยูในสภาพท่ีปลอดภัย กอ นลงมือปฏบิ ตั ิงานประจําวัน ฯลฯ ขอ ๑๒ ใหเจา หนาที่ความปลอดภยั ในการทํางานระดับเทคนิคมีหนา ทีด่ ังตอไปน้ี ฯลฯ (๒) วิเคราะหงานเพื่อช้ีบงอันตราย รวมทั้งกําหนดมาตรการปองกันและข้ันตอนการทํางานอยาง ปลอดภัยเสนอตอนายจาง (๓) แนะนาํ ใหลกู จางปฏิบตั ติ ามขอบังคับและคูมือตามขอ ๓ ฯลฯ ขอ ๑๕ ใหเจาหนา ทีค่ วามปลอดภยั ในการทํางานระดับเทคนิคข้ันสูงมหี นาที่ดังตอไปน้ี ฯลฯ (๒) วิเคราะหงานเพื่อชี้บงอันตราย รวมทั้งกําหนดมาตรการปองกันและข้ันตอนการทํางานอยาง ปลอดภัยเสนอตอนายจาง ฯลฯ (๔) ตรวจประเมินการปฏิบัติงานของสถานประกอบกิจการใหเปนไปตามแผนงานโครงการหรือ มาตรการความปลอดภัยในการทํางาน (๕) แนะนําใหล ูกจา งปฏบิ ัติตามขอบังคับและคูมือตามขอ ๓ (๖) แนะนํา ฝกสอน อบรมลูกจาง เพื่อใหการปฏิบัติงานปลอดจากเหตุอันจะทําใหเกิดความ ไมปลอดภัยในการทาํ งาน 6.3 กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ มในการทํางานเกี่ยวกับเครอ่ื งจักร ปน จ่ัน และหมอน้าํ พ.ศ. ๒๕52 ขอ ๔ ในบริเวณท่ีมีการติดตั้ง การซอมแซม หรือการตรวจสอบเครื่องจักรหรอื เครื่องปองกัน อนั ตรายจากเคร่อื งจักร นายจา งตองติดปา ยแสดงการดาํ เนินการดังกลาว โดยใชเ คร่ืองหมายหรือขอความท่ีเขาใจ งายและเห็นไดชัดเจน รวมทั้งจัดใหมีระบบ วิธีการ หรืออุปกรณปองกันมิใหเครื่องจักรนั้นทํางาน และใหแขวนปาย แสดงเคร่อื งหมายหรอื สัญลกั ษณหามเปด สวิตชไวที่สวิตชของเครอ่ื งจกั รดวย ฯลฯ ขอ ๕ การประกอบ การติดต้ัง การซอมแซม และการใชงานเคร่ืองจักร นายจางตองจัดใหมี วิศวกรเปนผูรับรองตามหลักเกณฑและวธิ ีการที่อธิบดีประกาศกําหนด และเกบ็ หลกั ฐานใหพ นักงานตรวจแรงงาน ตรวจสอบได ฯลฯ ขอ ๘ เครื่องปมโลหะ เคร่ืองเจีย เคร่ืองตัด เครื่องไส หรือเครื่องจักรที่อาจกอใหเกิดอันตรายได โดยสภาพ นายจางตองประกาศกําหนดวธิ ีการทํางานของลกู จาง ติดไวบ รเิ วณทีล่ ูกจางทํางาน ฯลฯ

๒๙ ขอ ๑๑ นายจางตอ งจดั ใหมวี ิธกี ารดําเนินการเพ่ือปองกนั มิใหลกู จา งไดรบั อนั ตรายจากการทํางาน เกยี่ วกบั เคร่อื งจักร ดงั ตอไปนี้ ฯลฯ (๔) เคร่ืองจักรที่มีการถายทอดพลังงานโดยใชเพลา สายพาน รอก เคร่ืองอุปกรณ ลอตุนกําลัง ตองมีตะแกรงหรือที่ครอบปดคลุมสวนท่ีหมุนไดและสวนสงถายกําลังใหมิดชิด ถาสวนที่หมุนไดหรือสวนสงถายกําลัง สูงกวาสองเมตร ตอ งมรี ้วั หรอื ตะแกรงสูงไมนอยกวาสองเมตรกัน้ ลอมมิใหบ ุคคลเขาไปไดในขณะเคร่ืองจักรกาํ ลังทํางาน ฯลฯ ขอ ๑๒ นายจางตองบํารุงรักษาและดูแลเคร่ืองปองกันอันตรายจากเคร่ืองจักรใหอยูในสภาพท่ี สามารถปอ งกันอันตรายได 7. ผสู อบสวนและรายงานอบุ ตั ิเหตุ (ระบผุ ูดําเนินการและหนว ยงานท่รี ายงานอุบัตเิ หตุ) นายโกวิทย แกวกาญจนน ักวิชาการแรงงานชํานาญการ ศนู ยค วามปลอดภัยในการทาํ งานเขต 1

๓๐ กรณศี ึกษาท่ี ๒ การสอบสวน วิเคราะหอุบัตเิ หตุและโรคเนือ่ งจากการทาํ งาน กรณี : รถปนจ่นั ตีนตะขาบตกพรอมกบั แผน พื้นชว่ั คราวลงไปในบอ ฐานราก ๑. ขอมูลสถานประกอบกิจการ/นายจา ง ชอื่ สถานประกอบกจิ การ ....................................... ประกอบกิจการ รบั เหมากอสรา งอาคาร ทีต่ ง้ั หนว ยงานกอสรางโครงการกอสรา งอาคาร....................................... เลขทะเบียนนิติบคุ คล ................................................. ผูมีอํานาจลงลายมือชื่อผกู พนั บริษทั ฯ .................................................... มีจาํ นวนลูกจางรวม ๑๘๐ คน ลกู จางตา งชาติ ไมมี ๒. ขอ มูลท่ัวไป/รายละเอียดและลาํ ดบั เหตุการณก ารเกดิ อบุ ัติเหตุ ๒.๑ ขอ มูลท่ัวไปและสภาพแวดลอมของสถานที่เกดิ อุบตั ิเหตจุ ากการทํางาน ผูวาจาง (Owner) ไดวาจางบริษัทผูรับเหมากอสราง ใหดําเนินการกอสรางอาคารสํานักงานความสูง ๒๒ ชั้น และช้ันใตดิน ๒ ช้ัน จํานวน ๑ อาคาร และอาคารอเนกประสงคความสูง ๒ ช้ัน จํานวน ๑ อาคารซึ่งปจจุบันอยู ระหวางติดตั้งระบบปองกันดินพังและงานฐานราก ในพื้นที่การทํางานมีการใชงานรถปนจ่ันตีนตะขาบท่ีมีขนาด พิกัดยกอยา งปลอดภัย ๕๕ ตนั น้ําหนกั รถประมาณ ๓๕ ตัน ความกวางฐานตีนตะขาบประมาณ ๕ เมตร โดยมีการ เคล่ือนตัวเพ่ือทํางานและจอดจะอยูบนแผนพ้ืนช่ัวคราวที่มีขนาดความกวางของทางเดินรถปนจ่ัน ๖ เมตร ซึ่งแผน พ้ืนช่ัวคราวติดต้ังบนโครงสรางของระบบปองกันดินพัง ลักษณะการทํางานรถปนจั่นเปนการยกส่ิงของและอุปกรณ ตางๆ เชน ตูเช่ือม ถังลม ถังกาซ ชิ้นสวนของน่ังราน ลงไปในบอฐานรากขางลาง รวมทั้งยกเศษวัสดุ เศษขยะ และ เศษคอนกรตี ข้นึ มาจากดานลางเพื่อมาทิ้งดานบน ทัง้ น้ี บอฐานรากท่มี ีความลกึ จากระดับผิวดินประมาณ ๘ เมตร ๒.๒ รายละเอียด/ลําดับเหตุการณ วนั ที่ ...................................... เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. รถปนจั่นตีนตะขาบไดทํางานแลวเสร็จเตรียมจะเลิกงาน จึงขับมาจอด ที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งลูกจางผูบังคับปนจั่นไดหมุนตัวปนจั่นเพื่อเก็บแขนปนจั่นแลว จากนั้นรถปนจั่นไดจอดหยุดนิ่ง อยูก บั ที่แตยังไมไดดบั เคร่ืองยนต อยรู ะหวางรอคําสั่งจากผูใ หส ญั ญาณแกผูบงั คบั ปน จ่นั เวลาประมาณ ๑๙.๐๗ น. ไดเกิดเหตุรถปนจั่นตีนตะขาบตกพรอมกับแผนพ้ืนชั่วคราวลงไปในบอฐานราก ทําใหลูกจางผูบังคับปนจั่นพลัดตกออกมาจากหองโดยสาร นอนอยูขางรถปนจั่นโดยยังมีสติอยู จากนั้นลูกจาง ท่ีทํางานอยูบริเวณใกลเคียงจึงแจงผูที่เก่ียวของและโทรศัพทประสาน ๑๖๖๙ ใหเขาชวยเหลือลูกจางผูบังคับ ปน จั่นทไ่ี ดรับบาดเจ็บ เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. สามารถชวยเหลือลูกจางผูบังคับปนจ่ันไดสําเร็จและนาํ สงโรงพยาบาล เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. ไดรบั การแจงจากโรงพยาบาลวา ลูกจา งผูบังคับปน จ่นั เสยี ชวี ิต

๓๑ รูปแสดงการเกิดอบุ ตั ิเหตุ จุดที่รถปน จน่ั จอด แลวตกลงไป ในบอ ฐานราก เสา Kingpost รปู ภาพระบบปองกันดินพงั ซึ่งรถปนจ่นั ตีนตะขาบไดจ อดหยดุ น่งิ อยบู นแผนพน้ื ชวั่ คราว แลวตกลงไปในบอฐานราก เปนเหตุใหลกู จา งเสียชวี ิต รูปภาพรถปนจนั่ ตนี ตะขาบตกลงไปในบอฐานราก

๓๒ ๓. รายละเอียดการประสบอันตรายหรือความสูญเสียหรือหยดุ การผลิตจากอุบัติเหตุ ๓.๑ ผเู สยี ชวี ติ จํานวน ๑ คน ๓.๒ การสญู เสียทรพั ยสินหรืออาคารสถานท/่ี เครื่องจักรอปุ กรณ รถปนจ่ันตีนตะขาบขนาดพิกัดยกอยางปลอดภัย ๕๕ ตัน จํานวน ๑ คัน และโครงสรางเหล็กคํ้ายัน ระบบปองกนั ดินพังและโครงสรางสะพานชว่ั คราว เสยี หายบางสวน ๔. การวเิ คราะหปจจัย/สาเหตกุ ารเกดิ อุบตั ิเหตุ จากการสอบสวนและวิเคราะหสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุรวมกันระหวางศูนยความปลอดภัยในการทํางานเขต ๑๑ และบริษทั ผูรับเหมาติดต้ังระบบปองกันดินพัง สันนิษฐานวา อาจเกิดจากเสารับสะพาน (เสา King Post) ในขณะ ตอกอาจจะเบียดกับเสาเข็มของโครงสรางฐานรากของอาคารเดิมซึ่งถูกรื้อถอนไปสําหรับการกอสรางอาคาร ใหม ประกอบกับการใชงานท่ีรับนาํ้ หนักรถปนจั่นตีนตะขาบซ้ําๆ กันจนเสา King Post คอยๆ บิดตัวเสียรูปทรง ซึ่งสงผลตอการรับนํ้าหนักจากแรงกด จนเกิดการวิบัติทําใหโครงสรางระบบปองกันดินพังและโครงสราง สะพานชั่วคราวท่ีใชรบั น้ําหนักรถปนจ่ันตีนตะขาบเสียสมดุลและทรดุ ตัว เปนเหตุใหรถปนจั่นตีนตะขาบตกพรอม กับแผน พื้นชั่วคราวลงไปในบอฐานราก เสา Kingpost รปู ลกั ษณะของเสา Kingpost ท่เี สยี รูป (รูปตัวอยางจากหนวยงานกอสรา งอ่นื )

๓๓ ๕. ขอเสนอแนะหรือมาตรการสําหรบั การแกไขปองกนั ๕.๑ เสริมเสาคํา้ ยันเพ่ือเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงของโครงสรางระบบปองกันดินพัง ทดแทนเสาค้าํ ยันเดิม ท่ีไดร ับความเสยี หาย ๕.๒ เสรมิ คานสะพานเพอื่ เพิ่มความมนั่ คงแข็งแรงของโครงสรา งสะพานช่ัวคราว ๕.๓ ตรวจสอบสภาพรอยตอและรอยเชื่อมของโครงสรางสะพานช่ัวคราว (เสา คาน แผนพื้น) ดวยสายตา (Visual Inspection) โดยวศิ วกร ๕.๔ ตรวจสอบระดับของโครงสรา งสะพานช่วั คราวดวยกลอ งสํารวจอยา งสม่ําเสมอ ๕.๕ ควบคุมการตดิ ตัง้ และตรวจสอบเสา King post ใหเ ปนไปตามหลกั วิชาการทางดา นวศิ วกรรม ๕.๖ ตรวจสอบพื้นทก่ี ารทํางานโดยรอบกอนเริม่ ทาํ งานทกุ วัน ๕.๗ เพ่ิมการตรวจเช็คเคร่ืองจักรประจําวัน โดยผูควบคุมเครื่องจักร หัวหนา และเจาหนาท่ีความปลอดภัย ในการทาํ งานระดบั วิชาชีพ ๕.๘ ประชุมผูค วบคุมเคร่อื งจกั รหนกั ทกุ สปั ดาห เพื่อช้แี จงปญ หาและอุปสรรคทเี่ กดิ ขน้ึ จากการทาํ งาน ๕.๙ จัดใหม ี Safety talk ผูค วบคมุ เครื่องจักรหนัก ทั้งนี้ หลังเกิดอุบัติเหตุ บริษัทผูรับเหมาติดตั้งระบบปองกันดินพัง ไดดําเนินการซอมแซมแกไขโครงสราง ของระบบปองกันดนิ พงั ในทันทีและดําเนนิ การกซู ากรถปน จนั่ ตนี ตะขาบ ๖. กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ งกับอบุ ัติเหตุ ๖.๑ พระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ มในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ฯลฯ มาตรา ๒๓ ใหผูรับเหมาช้ันตนและผูรับเหมาชวงตามกฎหมายวาดวยการคุมครองแรงงาน มีหนาที่ ดําเนนิ การดา นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอมในการทํางานของลูกจางเชน เดยี วกับนายจา ง ในกรณีท่ีนายจางเปนผูรับเหมาชวงและมีผูรับเหมาชวงถัดข้ึนไป ใหผูรับเหมาชวงถัดข้ึนไปตลอดสายจนถึง ผูรับเหมาชั้นตนท่ีมีลูกจางทํางานในสถานประกอบกิจการเดียวกัน มีหนาที่รวมกันในการจัดสถานที่ทํางาน ใหมีสภาพการทํางานท่ีปลอดภัยและมีสภาพแวดลอมในการทํางานที่ถูกสุขลักษณะเพื่อใหเกิดความปลอดภัย แกลูกจา งทกุ คน ฯลฯ มาตรา ๓๔ ในกรณีที่สถานประกอบกิจการใดเกิดอุบัติภัยรายแรงหรือลูกจางประสบอันตรายจาก การทํางานใหน ายจางดาํ เนนิ การ ดังตอ ไปนี้ (๑) กรณที ่ลี กู จางเสยี ชวี ิตใหน ายจา งแจงตอพนักงานตรวจความปลอดภยั ในทันทีท่ีทราบโดยโทรศพั ทโ ทรสาร ห ร ือ ว ิธ ีอื ่น ใ ด ที ่ม ีร า ย ล ะ เอ ีย ด พ อ ส ม ค ว ร แ ล ะ ใ ห แ จ ง ร า ย ล ะ เ อ ีย ด แ ล ะ ส า เ ห ต ุเ ป น ห น ัง ส ือ ภ า ย ใ น เ จ ็ด ว ัน นบั แตวนั ท่ลี กู จา งเสียชีวิต ฯลฯ การแจงเปนหนังสือตามวรรคหน่ึงใหเปนไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนด และเม่ือพนักงานตรวจ ความปลอดภยั ไดรับแจง แลว ใหด ําเนนิ การตรวจสอบและหามาตรการปอ งกนั อันตรายโดยเร็ว ฯลฯ ๖.๒ ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคุมครองแรงงาน เร่ือง กาํ หนดแบบแจง การเกิดอบุ ตั ภิ ยั รายแรงหรอื การประสบ อันตรายจากการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ฯลฯ ขอ ๓ การแจงเปน หนังสือในกรณีทีส่ ถานประกอบกิจการเกดิ อุบัตภิ ัยรายแรงหรอื ลูกจา งประสบอันตรายจาก การทํางานตามมาตรา ๓๔ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดลอมในการ ทํางานพ.ศ. ๒๕๕๔ ใหเปนไปตามแบบสปร. ๕ ทา ยประกาศนี้

๓๔ ๖.๓ กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางานเกย่ี วกบั งานกอ สราง พ.ศ. ๒๕๕๑ ฯลฯ ขอ ๔ ใหนายจางจัดทําพ้ืนท่ีทํางานกอสรางใหมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรองรับนํ้าหนักเครื่องจักร และอุปกรณไดอ ยา งปลอดภยั ขอ ๕ ใหนายจางจัดใหมีผูควบคุมงานทําหนาที่ตรวจความปลอดภัยในการทํางานกอนการทํางาน และขณะทาํ งานทกุ ข้นั ตอนเพือ่ ใหเกดิ ความปลอดภยั ฯลฯ ๗. ผูส อบสวนและรายงานอบุ ัติเหตุ นายอรรณพ เหลียงพานิช ตาํ แหนงนักวิชาการแรงงานชํานาญการ ศูนยความปลอดภยั ในการทํางานเขต ๑๑

๓๕ กรณศี กึ ษาท่ี ๓ การสอบสวน วิเคราะหอบุ ัตเิ หตแุ ละโรคเนื่องจากการทาํ งาน กรณี : ดนิ พังทลายทบั ลูกจา งเสียชวี ติ ๑. ขอ มูลสถานประกอบกจิ การ/นายจา ง 1.1 สถานประกอบกจิ การ/นายจาง/เจาของกิจการที่เกิดอบุ ัติเหตุ ช่ือสถานประกอบกิจการ: .................................... ประเภทกจิ การ : รับเหมากอ สราง รับเหมาถมดิน และวางทอ ระบายน้าํ เลขทะเบยี นเปน นิติบคุ คล : ...................................... ที่ต้ัง : สํานกั งานแหงใหญตั้งอยูเลขท.่ี .................................... ผูมีอํานาจลงลายมือช่ือผกู พันหา งหนุ สวนฯ: ............................... มีจํานวนลูกจา งรวม 4 คน ชาย 4 คน หญงิ – คน เปน ลกู จา งสัญชาติไทยทัง้ หมด 1.2 สถานประกอบกิจการ/นายจา ง/เจา ของกจิ การเจาของพ้ืนท่เี กิดเหตุ ชอ่ื สถานประกอบกจิ การ: ......................................... ประเภทกิจการ : ผลิตเฟอรน ิเจอรจากอลูมเิ นยี ม เลขทะเบยี นเปนนติ ิบคุ คล : ........................................... ทตี่ ง้ั : ........................................... ผูม ีอาํ นาจลงลายมอื ช่ือผูกพนั บรษิ ัทฯ: ................................... มจี ํานวนลกู จา งรวม 212 คน ชาย 99 คน หญงิ 113 คน ๒.ขอมูลทว่ั ไป/รายละเอียดและลาํ ดบั เหตุการณการเกิดอุบตั ิเหตุ ๒.๑ ขอมูลท่ัวไปและสภาพแวดลอมของสถานท่ีเกิดอุบัติเหตุจากการทํางาน (เชนสภาพอาคาร หรือสง่ิ แวดลอ ม/เคร่ืองจกั ร/ระบบ/การจดั การ/กระบวนการผลติ /ชนดิ วัสดหุ รอื วัตถุดิบ/หรอื อื่นๆ) พ้ืนท่ีทํางานเปนบริเวณบอท่ีขุดลึกประมาณ 2 เมตร กวาง 2 เมตรยาวประมาณ 15 เมตร เพ่ิงขุดไปประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งเปนพื้นที่วางระหวางอาคารกอสรางคลังสินคาหลังใหมและหองน้ําเดิมติดกับ บริเวณปอมเจาหนาที่รักษาความปลอดภัย โดยสภาพพื้นดินมีลักษณะออนตัวและอุมน้ํา เนื่องจากกอนวัน ที่จะมีปฏิบัติงานในพื้นท่ีไดมีฝนตกลงมา ซ่ึงการขุดบอบริเวณขอบไมทํามุมลาดเอียงหรือวิธีการอ่ืนท่ีปองกัน การพงั ทลาย และไมไ ดทําผนงั กนั้ ค้ํายนั หรือใชว ิธกี ารอื่นใดท่ีสามารถปองกันอนั ตรายจากดนิ พังทลาย รปู ที่ ๑ แสดงอุบัติเหตุดินพังทลายทบั รางลกู จาง

๓๖ ๒.๒ ขอมลู กระบวนการทํางานวางทอ ๒.๒.๑ ใชรถแบค็ โฮขุดเปนบอมีความลึกประมาณ 2 เมตร และตรวจสอบระดบั รูปที่ 2 แสดงการขุดบอโดยใชรถแบค็ โฮ (ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=fTKaDp1_36Y) ๒.๒.2 วางเหลก็ ไวเมทเพอื่ เสริมความแข็งแรงบริเวณกนบอ รูปท่ี 3 แสดงการวางเหล็กไวเมทบรเิ วณกนบอ (ทม่ี า : https://pantip.com/topic/35295133)

๓๗ ๒.๒.3 เทคอนกรีตผสมเสร็จและเกลย่ี ตามความหนาท่ีกาํ หนด รปู ที่ 4 แสดงการเทและเกลี่ยคอนกรีตผสมเสรจ็ เพ่ือใชท าํ พื้นวางทอ ๒.๒.4 วางทอ ตอกนั ทีละทอนโดยใชรถแบค็ โฮชว ยยกโดยใชคนประคอง รปู ที่ 5 แสดงทอตอกันโดยใชรถแบ็คโฮชว ยยก (ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=MM6ERD8wOOk) ๒.๒.5 ประสานเชอ่ื มทอเขาดวยกนั โดยใชคอนกรตี โบกทบั รูปท่ี 6 แสดงการประสานเช่ือมทอโดยใชค อนกรีต (ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=b5htIwanykY&t=25s /http://rcppro.blogspot.com/)

๓๘ ๒.๒.6 กลบดนิ ใหไ ดระดบั พ้ืนดินเดมิ โดยใชรถแบ็คโฮ รูปท่ี 7 แสดงการกลบดนิ โดยใชรถแบ็คโฮ (ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=7X1BJ8EG06E) ๒.๓ รายละเอยี ด/ลําดบั เหตกุ ารณ (เรยี งลําดับเหตุการณ) ห า ง ห ุน ส ว น จ ํา ก ัด ………………………….รับจางวางทอระบายน้ําในบริเวณพื้นที่กอสรางอาคาร คลังสินคาหลังใหมจากบริษัท.............................จํากัด ตั้งอยูเลขที่................................. ซ่ึงมีความยาวท้ังหมด ประมาณ 270 เมตร โดยหางหุนสวนฯ เริ่มเขามาทํางานต้ังแตชวงตนเดือนมิถุนายน 2561 เปนตนมา และ หางหุนสวนฯ ไดวาจางนาย.............................และนาย............................ มาทํางานวางทอระบายน้ํา โดยจาย คาจางใหทอละ 200 บาท ซึ่งวัสดุ อุปกรณ เคร่ืองมือ เคร่ืองจักร จะเปนของหางหุนสวนฯ ทั้งหมดซึ่งไดมา ทํางานวางทอระบายน้ําใหกับหางหุนสวนฯ ณ โครงการกอสรางอาคารคลังสินคาของบริษัท.............................จํากัด มาตั้งแตชวงปลายเดือนมิถุนายน 2561 เปนตนมา ซึ่งไมไดมาทํางานตอเนื่องติดตอกันทุกวัน ขึ้นอยูกับความ พรอมของวสั ดุ อปุ กรณ และสภาพอากาศ เม ่ือ ว ัน ท ่ี 1 1 ก ร ก ฎ า ค ม 2 5 6 1 น า ย ....................................แ ล ะ น า ย ............................................. ได ม าท ํางาน ว างท อ ระ บ าย น ้ําในบริเวณพ้ืนที่กอสรางอาคารคลังสินคาหลังใหมจากบริษัทฯเปนวันแรกหลังจากท่ี หยุดไปประมาณ ๓ วัน แ ล ะ ใน เว ล าเว ล าป ร ะ ม าณ 1 6 .3 0 น . ได เก ิด เห ต ุด ิน พ ังท ล าย ท ับ ร างน าย .............. เส ีย ช ีว ิต เห ต ุเก ิด ข ณ ะ ท ี่ผ ูเส ีย ช ีว ิต แ ล ะ เพื่อนรว มงานกําลังทํางานเกล่ียคอนกรีตเพื่อใชท ําเปนฐานรากสําหรับวางทอ ระบายน้ํา ในบริเวณกนบอที่ขุดลึกประมาณ 2 เมตร จากระดับพ้ืนดินซ่ึงการขุดบอดังกลาวไมไดทําเปนมุมลาดเอียง และไมได ทาํ พนังหรือวัสดใุ ดๆ กันดินพังทลายประกอบกบั เม่ือคนื วันท่ี 10 กรกฎาคม 2561 กอ นวนั เกิดเหตุไดม ีฝนตกลงมา ทําใหดินอุมนา้ํ ขณะที่ท้ังสองกาํ ลังทํางานใกลจะเสร็จ เพ่ือนรวมงานไดนําเครื่องมืออุปกรณไปเก็บยังดานบน ซึ่งขณะนน้ั เหลือผ ูเส ีย ช ีว ิต ยังคงทํางานอยเู พียงคนเดียวและดินไดเกดิ พังทลายลงมาทับรางผ ูเส ีย ช วี ิต ซึ่งเพ่ือนรวมงาน มาเหน็ เหตุการณจึงไดเ รียกบุคคลอน่ื มาชวยเหลือ แตไดเ สยี ชีวิตในเวลาตอมา

๓๙ รูปท่ี 8 แสดงการทํางานของลูกจา งกอนเกดิ เหตุ รปู ที่ ๙ ภาพดินไดพังทลายทับรา งลกู จางจากดานหลงั เสียชีวติ

๔๐ ๓. รายละเอยี ดการประสบอันตราย/ความสญู เสีย/หยุดการผลิตจากการเกิดอุบัตเิ หตุ 3.1 จาํ นวนผเู สียชีวติ 1 คน(ลกู จา งผรู ับเหมาคาแรง) 3.2 จาํ นวนผบู าดเจบ็ คน - 3.3 จาํ นวนผูทพุ พลภาพ - คน 3.4 คา รักษาพยาบาล- 3.5 การสญู เสยี ทรัพยสินหรอื อาคารสถานท-่ี เครือ่ งจักร/ 3.6 อื่นๆ – ๔. การวิเคราะหปจจัย/สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ (ที่สงผลใหเกิดอุบัติเหตุเชนอธิบายลักษณะการกระทํา ทีไ่ มปลอดภัยสภาพการณท ไี่ มปลอดภัยหรอื สาเหตอุ ่ืนๆ) ๔.๑ การวิเคราะหก ลไกของการเกดิ อบุ ตั ิเหตุ จากการรวบรวมขอ มูล และการสอบสวนขอเท็จจริง พบวา กระบวนการทํางานวางทอคร้ังน้ี จะตองขุดเปนบอลึกประมาณ 2 เมตร จากระดับพื้นดินซึ่งบริเวณที่ขุดน้ันมีพื้นที่จํากัด เนื่องจากบริเวณดานขาง จะเปนอาคารหองนํ้า และอีกดานจะเปนพ้ืนที่สําหรับกอสรางอาคารคลังสินคาหลังใหม ทําใหการขุดบอ ดังกลาวไมสามารถทําเปนมุมลาดเอียงได และในการทํางานหรือการแกไขปญหาดังกลาวก็ไมไ ดทําพนังหรอื วัสดุ ใดๆ กันดินพังทลายแทน ประกอบกับวันกอนเกิดเหตุไดมีฝนตกลงมาทําใหดินอุมนํ้า สงผลใหดินมีสภาพออนตัว จึงเกิดพงั ทลายลงมาทับรางลกู จางฯ เสยี ชีวติ ดงั กลาว ๔.๒ การวเิ คราะหปจ จัยทีค่ าดวาจะเปนสาเหตุ หลายปจ จัย ดังน้ี จากการสอบสวนอุบัติเหตุ และไดทําการวิเคราะห พบวา สาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจาก ๑) ปจ จยั ดานคน -ลกู จา งไมมีความตระหนักถึงอนั ตรายทจ่ี ะเกดิ ขึ้น - ลูกจา งไมไดร ับการอบรมดา นความปลอดภยั ฯ และอนั ตรายอาจจะเกิดข้นึ - ปฏบิ ัตงิ านตามความเคยชินและอาศัยความชํานาญสว นบคุ คล 2) ปจจัยดา นเครอ่ื งมือ อปุ กรณและการตรวจสอบ - ขุดบอโดยไมม มี ุมลาดเอยี งหรือวธิ ีการอ่นื ที่ปองกนั การพงั ทลาย - ขุดบอโดยไมจัดทําผนังก้ัน ค้ํายันหรือใชวิธีการอ่ืนใดที่สามารถปองกันอันตราย จากดนิ พังทลาย 3) ปจจยั ดา นการบรหิ ารจัดการ การทาํ งาน - ขาดการตรวจสอบสภาพพื้นท่ีการทํางานใหมีความปลอดภัยกอนและระหวาง - ขาดคูมือข้นั ตอนการปฏิบัติงานท่ปี ลอดภัย - ขาดการคาํ นวณ ออกแบบ และกําหนดขั้นตอนการดาํ เนินการโดยวศิ วกร - ขาดการเตรยี มพน้ื ท่ีการทาํ งานทีม่ ีมัน่ คงแข็งแรงปองกันการพงั ทลายของดิน - ขาดการอบรมใหกับลกู จา งท่ีทาํ งานจนเขา ใจกอนทาํ งาน 4) ปจจยั ดานสภาพแวดลอม เนือ่ งจากกอนวันเกิดอุบัตเิ หตุ ๑วันมฝี นตกหนกั จึงอาจเป็นสาเหตทุ ี่ทําใหพ้ืนดิน

๔๑ บรเิ วณทล่ี กู จางปฏิบัติงานเกิดการออ นตัวทรุดตัวไมม ีความมน่ั คงแข็งแรงและทาํ ใหดินเกดิ การพงั ทลายไดง าย ๕. ขอ เสนอแนะหรอื มาตรการสําหรบั การแกไ ขปองกัน ขอเสนอแนะและมาตรการปองกันและแกไขสําหรับกรณีการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะดังกลาว สามารถดาํ เนินการได ดังน้ี ๕.๑ มาตรการปอ งกนั และแกไขดา นวิศวกรรม ๑) คาํ นวณ ออกแบบ และกําหนดข้ันตอนการดําเนนิ การโดยวิศวกร ๒) ขุดดนิ เปนบอใหมีมุมลาดเอียงหรือวธิ ีการอืน่ ท่ปี องกันการพงั ทลาย รูปที่ ๑๐ แสดงการขุดดนิ ใหมมี มุ ลาดเอยี ง (ทมี่ า : https://www.youtube.com/watch?v=no_z31aZMq8) ๓) จดั ทาํ ผนงั กัน้ ค้ํายนั หรือใช วธิ กี ารอ่ืนใดท่ที ่ีสามารถปองกนั อนั ตรายจากดนิ พงั ทลาย รปู ที่ 1๑ แสดงการปองกนั ดินพงั ทลายโดยใชไม (ทม่ี า : http://yourhouse-myjob.blogspot.com/2015/08/strength-450.html /http://yourhouse-myjob.blogspot.com/2015/08/blog-post_16.html)

๔๒ รูปที่ 1๒ แสดงการปองกนั ดินพงั ทลายโดยใชแผนเหล็กกด (ที่มา : https://korn5151000378.wordpress.com/assignment/29-2/) รูปที่ 1๓ แสดงการปอ งกนั ดินพังทลายโดยใชก ําแพงพดื พรอมค้าํ ยัน (Sheet pie) (ทีม่ า : http://www.oshthai.org/index.php?option=com_k2&view=item&id=333) 4) ตรวจสอบความแข็งแรงและการเคล่ือนตัวของดนิ ๕.๒ มาตรการปอ งกนั และแกไ ขดา นการบริหารจดั การ ๑) จ ัด ใ ห ม ีบ ุค ล า ก ร ท ่ีม ีค ว า ม ร ูต ร ว จ ส อ บ ส ภ า พ พ ื้น ท ี่ก า ร ท ํา ง า น ใ ห ม ีค ว า ม ป ล อ ด ภ ัย ก อ น แ ล ะ ร ะ ห ว า งก า ร ท ํา ง า น ท ุก ข ั้น ต อ น ๒) ทาํ คูม ือข้นั ตอนการปฏิบตั งิ านที่ปลอดภัยฯครอบคลุมทุกขั้นตอนการทํางาน ๓) จัดใหมีการประเมินอันตราย และจัดทําเอกสารสําหรับแจงและอบรมใหลูกจางทราบ และเขาใจกอ นการทาํ งาน ๕.๓ มาตรการปองกนั และแกไขดา นการอบรม ๑) ฝก อบรมดานความปลอดภยั ฯใหก ับลูกจางจนเขา ใจกอนการปฏบิ ัตงิ าน ๒) จัดใหมีการอบรมตามคูมือและวิธีปฏิบัติงานอยางปลอดภัยและมีการทบทวน อยางสมาํ่ เสมอ

๔๓ ๖. กฎหมายทีเ่ กี่ยวของกับอุบัติเหตุ (ระบุ พ.ร.บ. พรอมมาตราทเ่ี กี่ยวของ / กฎกระทรวงพรอมขอท่ีเกี่ยวของ) ๖.๑ พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน้ี ฯลฯ “นายจาง” หมายความวานายจางตามกฎหมายวาดวยการคุมครองแรงงานและให หมายความรวมถึงผูประกอบกิจการซึ่งยอมใหบุคคลหน่ึงบุคคลใดมาทํางานหรือทําผลประโยชนใหแกหรือใน สถานประกอบกิจการไมวาการทํางานหรือการทําผลประโยชนน้ันจะเปนสวนหนึ่งสวนใดหรือทั้งหมด ในกระบวนการผลิตหรอื ธุรกิจในความรับผิดชอบของผูป ระกอบกจิ การนั้นหรือไมก ็ตาม “ลู ก จ า ง ”ห ม า ย ค ว า ม ว า ลู ก จ า ง ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว า ด ว ย ก า ร คุ ม ค ร อ ง แ ร ง ง า น แ ล ะ ใ ห หมายความรวมถึงผูซ่ึงไดรับความยินยอมใหทํางานหรือทําผลประโยชนใหแกหรือในสถานประกอบกิจการ ของนายจา งไมว า จะเรยี กชอื่ อยา งไรก็ตาม ฯลฯ มาตรา ๖ ใหนายจางมีหนาท่ีจัดและดูแลสถานประกอบกิจการและลูกจางใหมีสภาพ การทํางานและสภาพแวดลอมในการทํางานท่ีปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมท้ังสงเสริมสนับสนุน การปฏบิ ตั ิงานของลกู จางมใิ หล กู จา งไดร ับอนั ตรายตอชีวิต รางกาย จิตใจ และสขุ ภาพอนามัย ใหลูกจางมีหนาที่ใหความรว มมือกับนายจางในการดําเนินการและสงเสริมดานความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ มในการทาํ งาน เพ่อื ใหเกิดความปลอดภัยแกล กู จา งและสถานประกอบกิจการ ฯลฯ มาตรา ๘ ใหนายจางบริหารจัดการ และดําเนินการดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอมในการทาํ งาน ใหเ ปน ไปตามมาตรฐานท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง ฯลฯ มาตรา ๑๔ ในกรณีที่นายจางใหลูกจางทํางานในสภาพการทํางานหรือสภาพแวดลอม ในการ ทํางานท่ีอาจทําใหลูกจางไดรับอันตรายตอชีวิต รางกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ใหนายจางแจง ใหลูกจางทราบถึงอันตรายท่ีอาจจะเกิดขึ้นจากการททํางานและแจกคูมือปฏิบัติงานใหลูกจางทุกคน กอ นท่ลี กู จา งจะเขาทาํ งาน เปล่ยี นงาน หรือเปลย่ี นสถานทที่ ํางาน ฯลฯ มาตรา ๑๖ ใหนายจางจัดใหผูบริหารหัวหนางานและลูกจางทุกคนไดรับการฝกอบรม ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดลอมในการทํางานเพ่ือใหบริหารจัดการ และดําเนินการดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทาํ งานไดอยางปลอดภัย ในกรณีที่นายจางรับลูกจางเขาทํางานเปล่ียนงานเปลี่ยนสถานท่ีทํางานหรือเปลี่ยนแปลง เคร่อื งจักรหรอื อุปกรณซ่ึงอาจทําใหลูกจา งไดรบั อันตรายตอชีวติ รางกายจิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ใหนายจาง จดั ใหมกี ารฝก อบรมลกู จางทุกคนกอนการเรม่ิ ทาํ งาน การฝกอบรมตามวรรคหนึ่งและวรรคสองใหเปนไปตามประกาศกรมสวัสดิการ และคุมครองแรงงาน เร่ืองหลักเกณฑวิธีการและเงื่อนไขการฝกอบรมผูบริหารหัวหนางานและลูกจาง ดานความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอมในการทํางานประกาศ ณ วนั ท่ี ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ฯลฯ

๔๔ มาตรา ๒๓ ใหผรู ับเหมาชั้นตน และผรู ับเหมาชวงตามกฎหมายวาดวยการคมุ ครองแรงงาน มีหนาที่ดําเนินการดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางานของลูกจางเชนเดียว กบั นายจา ง ในกรณีท่ีนายจางเปนผูรับเหมาชวง และมีผูรับเหมาชวงถัดขึ้นไป ใหผูรับเหมาชวงถัดขึ้น ไปตลอดสายจนถึงผรู ับเหมาช้ันตนท่ีมีลูกจา งทํางานในสถานประกอบกิจการเดยี วกัน มีหนา ที่รว มกนั ในการจัด สถานท่ีทํางานใหมีสภาพการทํางานที่ปลอดภัย และมีสภาพแวดลอมในการทํางานที่ถูกสุขลักษณะเพื่อใหเกิด ความปลอดภยั แกล กู จางทุกคน ฯลฯ มาตรา ๓๒ เพื่อประโยชนในการควบคุม กํากับ ดูแลการดําเนินการดานความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอมในการทาํ งาน ใหน ายจางดาํ เนนิ การดังตอ ไปน้ี (๑) จดั ใหม ีการประเมนิ อนั ตราย (๒) ศกึ ษาผลกระทบของสภาพแวดลอมในการทํางานที่มผี ลตอลูกจาง (๓) จัดทําแผนการดําเนินงานดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอม ในการทาํ งานและจัดทําแผนการควบคมุ ดแู ลลกู จา งและสถานประกอบกิจการ (๔) สงผลการประเมินอันตราย การศึกษาผลกระทบ แผนการดําเนินงานและแผน การควบคมุ ตาม (๑) (๒) และ (๓) ใหอ ธิบดหี รือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย หลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไขในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ประเภทกิจการ ขนาด ของกิจการที่ตองดําเนินการ และระยะเวลาที่ตองดําเนินการ ใหเปนไปตามที่รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศ ในราชกจิ จานเุ บกษา ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง นายจางจะตองปฏิบัติตามคําแนะนําและไดรับการ รบั รองผล จากผูชาํ นาญการดานความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอมในการทาํ งาน ฯลฯ มาตรา ๕๓ นายจางผูใดฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามมาตรฐานท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ทอี่ อกตามมาตรา ๘ ตองระวางโทษจําคุกไมเกนิ หนง่ึ ป หรอื ปรบั ไมเกินส่แี สนบาท หรือทงั้ จําท้ังปรบั ฯลฯ มาตรา ๕๖ นายจางผูใดไมปฏบิ ัติตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๓๒ ตองระวาง โทษจาํ คุกไมเกินหกเดือน หรอื ปรับไมเ กนิ สองแสนบาท หรอื ทง้ั จาํ ทั้งปรบั ฯลฯ มาตรา ๗๔ ในระหวางที่ยังมิไดออกกฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบเพ่ือปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้ ใหนํากฎกระทรวงท่ีออกตามความในหมวด ๘ แหงพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาใชบ งั คับโดยอนุโลม ๖.2 กฎกระทรวงกาํ หนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการดานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอมในการทํางานเกี่ยวกับงานกอสราง พ.ศ. ๒๕๕๑ ฯลฯ ขอ ๓๒ การเจาะหรือขุดรู หลุม บอ คู และงานอ่ืนในลักษณะเดียวกันที่ลึกต้ังแต ๒ เมตร ข้ึนไป ใหนายจางจัดใหมีการคํานวณ ออกแบบ และกําหนดขั้นตอนการดําเนินการโดยวิศวกรกอนลงมือ ปฏบิ ัติงาน และนายจางตอ งปฏบิ ัติตามแบบและข้ันตอนดงั กลา ว รวมทั้ง ตอ งตดิ ต้ังส่งิ ปองกันดนิ พังทลายไวดวย ฯลฯ

๔๕ ขอ ๙๘ ในกรณีท่ีลูกจางทํางานในบริเวณที่อาจมีการพังทลาย หรือการกระเด็นหรือตกหลน ของหิน ดิน ทราย หรือวัสดุตาง ๆ นายจางตองจัดทําไหลหิน ดิน ทราย หรือวัสดุนั้นใหลาดเอียงเปนมุมหรือวิธีการอ่ืน ทปี่ อ งกนั การพงั ทลาย ขอ ๙๙ ในกรณีท่ีใหลูกจางทํางานในทอ ชอง โพรง อุโมงค หรือบอที่อาจมีการพังทลาย นายจา งตองจัดทําผนังกน้ั ค้ํายัน หรือใชวธิ ีการอนื่ ใดท่ีสามารถปองกนั อันตรายนั้นได ๗. ผูสอบสวนและรายงานอุบัตเิ หตุ (ระบผุ ดู ําเนนิ การและหนวยงานที่รายงานอุบตั เิ หต)ุ นายโกวิทย แกวกาญจน นักวชิ าการแรงงานชํานาญการ ศนู ยความปลอดภยั ในการทํางานเขต ๑

๔๖ กรณศี กึ ษาที่ ๔ การสอบสวน วิเคราะหอบุ ัติเหตแุ ละโรคเน่ืองจากการทํางาน กรณี : ลูกจางตกลงไปเครื่องลางเกลด็ พลาสติก (Floating washing tank) และ ถูกสกรูลาํ เลียง (Screw Conveyor) มว นดึงจนเสยี ชวี ิต ๑. ขอมูลสถานประกอบกิจการ/นายจาง ๑.๑ ชื่อสถานประกอบกจิ การ : ........................................ ท่ตี ัง้ : .......................................... ประกอบกจิ การ : รับซื้อและจาํ หนายของเกาทุกชนิด เชน กระดาษ เศษเหล็กเศษอลูมเิ นียม ฯลฯ และรไี ซเคลิ ขวดพลาสติก PET จาํ นวนลกู จา ง : ๒๘ คน เปนชาย ๑๗ คน เปน หญิง ๑๑ คน กาํ หนดเวลาทํางาน : ๐๘.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. หุนสว นผจู ัดการ : ............................. ๒. ขอ มูลทวั่ ไป/รายละเอียดและลาํ ดับเหตกุ ารณการเกดิ อบุ ตั ิเหตุ ๒.๑ ขอมูลท่ัวไปและสภาพแวดลอมของสถานทเ่ี กดิ อบุ ตั ิเหตจุ ากการทาํ งาน ๒.๒.๑ การรีไซเคิลขวดพลาสตกิ PET ( Polyethylene terephthalate) ขวดน้ําด่ืม ขวดน้ําอัดลมท่ีอยูในชีวิตประจําวันน้ัน ลวนทาํ จากพลาสติกแบบใส ที่เรียกวา “PET” ( Polyethylene terephthalate) ซึ่งพลาสติกชนิดน้ีสามารถนํากลับมาสูกระบวนการ “รีไซเคิล”ไดแบบ ๑๐๐ % สามารถนํากลับมาสูกระบวนการรีไซเคิลไดงายท่ีสุด และสามารถรีไซเคิลก่ีครั้งก็ไดไมจํากัด ทําให “ขวดพลาสติก PET” ไดรับความนิยมในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ สําหรับผลิตสิ่งของท่ีเกี่ยวกับ ชีวิตประจําวันได ๓ กลุมใหญๆ กลุมแรก ไดแก สารพัดขวดพลาสติก PET ท่ีใชท้ังสําหรับบรรจุเครื่องด่ืม และบรรจุของเหลวท่ีเกี่ยวกับเคร่ืองใชในครัวเรือน กลุมที่สอง ไดแก ฟลม PET สําหรับทําบรรจุภัณฑอาหาร และทา ยสุด คือเสน ใยผลติ สงิ่ ทอเครอ่ื งนงุ หม

๔๗ เครอื่ งจักรท่ใี ชในกระบวนการรไี ซเคิล ขวดพลาสติก PET