สารบัญ หนา้ ๑ เรอื่ ง ๑. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริการ จัดการ และดาเนนิ การดา้ นความปลอดภัย ๑๔ อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานเก่ียวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ๑๗ ๑๘ ๒. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จดั การ และดาเนนิ การดา้ นความปลอดภัย ๒๐ อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทางานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย ๓๑ (ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๖๑ ๗๔ ๘๑ ประกาศเรื่อง กาหนดมาตรฐานเคร่อื งดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ ประกาศเรอื่ ง กาหนดแบบรายงานผลการฝึกซอ้ มดบั เพลงิ และฝกึ ซ้อมอพยพหนไี ฟ ๘๔ ๙๒ ๓. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาเนินการดา้ นความปลอดภัย ๑๑๒ อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางานเกี่ยวกับสารเคมีอนั ตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑๑๘ ประกาศเรือ่ ง บญั ชีรายชือ่ สารเคมีอันตราย ๑๒๕ ประกาศเร่อื ง แบบบัญชีรายชือ่ สารเคมีอนั ตรายและรายละเอยี ดข้อมลู ความปลอดภัย ๑๒๗ ๑๒๘ ของสารเคมอี ันตราย ประกาศเร่ือง กาหนดแบบและวิธีการส่งผลรายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทางานและสถานท่ี เก็บรกั ษาสารเคมีอนั ตรายทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ประกาศเร่ือง กาหนดแบบและวิธีการแจ้งบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายและรายละเอียด ข้อมูลความปลอดภยั ของสารเคมอี ันตรายทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ประกาศเรื่อง ขีดจากดั ความเข้มขน้ ของสารเคมีอันตราย ประกาศเร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับ ความเข้มขน้ ของสารเคมีอันตราย ๔. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบรหิ าร จัดการ และดาเนนิ การดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานเกีย่ วกบั ไฟฟา้ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกาศเร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการฝึกอบรมความปลอดภัย ในการทางานเกี่ยวกบั ไฟฟ้าสาหรับลูกจา้ งซึง่ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ประกาศเร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการฝึกอบรมความปลอดภัย ในการทางานเกี่ยวกบั ไฟฟา้ สาหรับลูกจ้างซึง่ ปฏิบตั งิ านเกยี่ วกบั ไฟฟา้ (ฉบบั ท่ี ๒) ประกาศเร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการจัดทาบันทึกผลการตรวจสอบ และรับรองระบบไฟฟ้าและบรภิ ัณฑ์ไฟฟา้
สารบัญ (ตอ่ ) หน้า ๑๓๗ เรือ่ ง ๕. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จดั การ และดาเนนิ การด้านความปลอดภัย ๑๔๔ อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานเก่ียวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง ๑๕๑ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑๕๗ ประกาศเรื่อง กาหนดแบบรายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทางาน ๑๖๔ เกีย่ วกบั ความร้อน แสงสว่าง และเสยี งภายในสถานประกอบกจิ การ ๑๖๖ ๑๖๘ ประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และ การวิเคราะห์สภาวะการทางาน ๑๗๓ เก่ียวกับระดับความร้อน แสงสว่าง หรือเสียง รวมทั้งระยะเวลาและประเภทกิจการ ๑๘๐ ท่ีต้องดาเนนิ การ ๑๙๒ ประกาศเร่ือง มาตรฐานความเขม้ ของแสงสวา่ ง ๑๙๘ ประกาศเรื่อง การคานวณระดับเสียงท่ีสัมผัสในหูเมื่อสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครอง ๒๐๐ ๒๐๓ ความปลอดภยั สว่ นบุคคล ประกาศเร่ือง มาตรฐานระดับเสียงท่ียอมให้ลูกจ้างได้รับเฉลี่ยตลอดระยะเวลา ๒๐๕ ๒๐๗ การทางานในแต่ละวนั ๒๑๑ ประกาศเร่ือง หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการจัดทามาตรการอนรุ ักษ์การได้ยินในสถานประกอบกิจการ ๖. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาเนนิ การด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางานเก่ยี วกับท่ีอบั อากาศ พ.ศ.๒๕๖๒ ประกาศเร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการ และหลักสูตรการฝึกอบรมความปลอดภัย ในการทางานในท่ีอบั อากาศ ๗. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาเนินการดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางานประดานา พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกาศเรือ่ ง หลักสูตรการทดสอบลกู จา้ งท่ีทางานประดาน้า ประกาศเรอ่ื ง กาหนดแบบแจ้งสถานท่ีทางานหรือเปลย่ี นสถานท่กี ารทางานประดาน้า ของลูกจ้าง ประกาศเร่ือง หลักเกณฑ์การควบคุมให้ลูกจ้างซ่ึงทางานประดาน้าปฏิบัติตามตาราง มาตรฐานการดาน้าการลดความกดดัน และการพักเพื่อปรับสภาพร่างกายก่อนลงไป ทางานใตน้ ้าคร้งั ต่อไป ประกาศเร่ือง โรคท่หี ้ามทางานประดานา้ ประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์การกาหนดระยะเวลาการตรวจสุขภาพและการจัดทา บตั รตรวจสขุ ภาพของลกู จ้างท่ที างานประดาน้า ประกาศเร่ือง หลักเกณฑ์การจัดให้มีลูกจ้างซ่ึงทางานประดาน้า เจ้าหน้าที่เวชศาสตร์ใต้น้า แพทย์เวชศาสตร์ใตน้ ้าหรอื แพทยเ์ วชศาสตรท์ างทะเล และอุปกรณส์ าหรับงานประดาน้า
สารบญั (ต่อ) หน้า ๒๑๓ เร่ือง ๒๑๗ ๘. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานการตรวจสุขภาพลกู จ้างซ่งึ ทางานเก่ยี วกบั ปัจจัยเส่ียง พ.ศ. ๒๕๖๓ ๒๒๑ ๒๓๔ ประกาศเรื่อง กาหนดงานท่ีลกู จา้ งทาเก่ยี วกับสารเคมอี ันตรายท่นี ายจ้างต้องจดั ให้มีการ ตรวจสอบสขุ ภาพของลกู จา้ ง ๒๓๘ ๒๔๒ ประกาศเร่ือง กาหนดแบบสมดุ สุขภาพประจาตัวของลูกจ้างซ่ึงทาเกีย่ วกบั ปัจจยั เสย่ี ง ประกาศเรื่อง กาหนดแบบและวิธีการส่งผลการตรวจสอบสุขภาพของลูกจ้างท่ีผิดปกติ ๒๕๑ ๒๖๖ หรือท่ีมีอาการหรือเจ็บป่วยเน่ืองจากการทางาน การให้การรักษาพยาบาล ๒๗๐ และการป้องกนั แกไ้ ข ๒๗๖ ๙. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาเนินการด้านความปลอดภัย ๒๘๕ อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางานเก่ยี วกับนงั่ รา้ นและคายัน พ.ศ. ๒๕๖๔ ๒๙๘ ประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการคานวณออกแบบและควบคุม ๓๒๕ การใช้นงั่ ร้านโดยวศิ วกร ๓๔๙ ๓๕๗ ๑๐. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จดั การ และดาเนินการด้านความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางานเก่ยี วกบั งานก่อสรา้ ง พ.ศ.๒๕๖๔ ๓๖๒ ประกาศเรอ่ื ง กาหนดแบบแจง้ ขอ้ มูลก่อนเริม่ งานก่อสรา้ ง ๑๑. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จดั การ และดาเนนิ การดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน ในสถานท่ีท่ีมีอันตรายจากการตกจากท่ีสูง และท่ีลาดชันจากวัสดุกระเด็น ตกหล่น และพังทลาย และการตกลงไปในภาชนะเก็บ หรอื รองรบั วัสดุ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑๒. กฎกระทรวงการขึนทะเบียนและการขออนุญาตให้บริการเพื่อส่งเสริมความ ปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศเร่ือง แบบคาขอและรับคาขอใบสาคัญ หรือใบแทนใบสาคัญการข้ึนทะเบียน บุคคลแบบคาขอและรับคาขอใบอนุญาต แทนใบอนุญาต หรือการต่ออายุใบอนุญาต ของนิติบุคคล ใบสาคัญ ใบแทนใบสาคัญ ใบอนุญาต และใบแทนใบอนุญาต ๑๓. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จดั การ และดาเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางานเก่ยี วกับเครื่องจกั ร ป้ันจัน่ และหม้อนา พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศเรอื่ ง การทดสอบปน้ั จัน่ ๑๔. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานการทางานเกี่ยวกับรงั สี พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศเรื่อง แบบแจ้งประเภทกาเนิดตน้ กาเนดิ รังสี ปริมาณรงั สี สถานประกอบกจิ การ ซ่ึงต้นกาเนิดรังสีตั้งอยู่ข้อมูลเก่ียวกับการอนุญาตหรือการแจ้งการครอบครองหรือใช้ และกรณีท่ีมกี ารเปล่ยี นแปลงขอ้ มูล แบบจัดทาข้อมูลเก่ียวกับปรมิ าณรงั สสี ะสมและแบบแจ้งปริมาณรงั สีสะสมที่เกินกาหนด ของลูกจ้างซ่งึ ปฏิบัติงานเก่ียวกบั รังสี
สารบญั (ต่อ) หน้า ๓๖๘ เร่ือง ๓๗๕ ๑๕. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานเกี่ยวกับระบบการจดั การด้านความปลอดภยั พ.ศ. ๒๕๖๕ ๓๙๔ ๑๖. กฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในการทางาน บุคลากร หน่วยงาน ๓๙๗ หรอื คณะบุคคลเพ่ือดาเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ พ.ศ. ๒๕๖๕ ๔๐๒ ประกาศเร่ือง การฝึกอบรมหรือการพัฒนาความรู้ของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทางานระดับเทคนิค ระดับเทคนิคขั้นสูง และระดับวิชาชีพ เกี่ยวกับ ความปลอดภยั ในการทางาน ประกาศเร่ือง การแจ้งการขึ้นทะเบียน การพ้นจากตาแหน่งหรือพ้นจากหน้าที่ ของเจา้ หน้าทคี่ วามปลอดภยั ในการทางาน และผบู้ ริหารหนว่ ยงานความปลอดภัย ประกาศเร่ือง แบบรายงานผลการดาเนินงานของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทางานระดับเทคนคิ ระดับเทคนิคขั้นสูง และระดบั วชิ าชีพ
เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๒ ก หนา้ ๒๔ 1 ราชกิจจานเุ บกษา ๙ มกราคม ๒๕๕๖ กฎกระทรวง กาหนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ และดาเนินการด้านความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางานเกี่ยวกบั การปอ้ งกนั และระงบั อคั คีภยั พ.ศ. ๒๕๕๕ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๘ วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อันเป็นกฎหมายท่ีมี บทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ มาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหก้ ระทาได้ โดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ในกฎกระทรวงน้ี “อาคาร” หมายความว่า ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สานักงาน และสิ่งท่ี สร้างขึ้นอย่างอ่ืนทม่ี ลี ูกจ้างทางานอยู่ “สถานท่ีซึ่งมีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยอย่างเบา” หมายความว่า สถานท่ีท่ีมีวัตถุซึ่งไม่ติดไฟ เปน็ ส่วนใหญ่ หรอื มีวตั ถตุ ดิ ไฟไดใ้ นปริมาณน้อยหรอื มวี ัตถไุ วไฟในปรมิ าณน้อยท่เี กบ็ ไว้ในภาชนะปดิ สนิท อยา่ งปลอดภยั “สถานที่ซึ่งมีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยอย่างปานกลาง” หมายความว่า สถานท่ีท่ีมีวัตถุไวไฟ หรอื วัตถตุ ิดไฟได้ และมปี รมิ าณไม่มาก “สถานที่ซึ่งมีสภาพเสย่ี งตอ่ การเกดิ อัคคีภัยอย่างรา้ ยแรง” หมายความวา่ สถานทท่ี ม่ี วี ตั ถไุ วไฟ หรือวตั ถุติดไฟไดง้ ่าย และมีปรมิ าณมาก “เพลิงประเภท เอ” หมายความว่า เพลิงที่เกดิ จากเช้อื เพลิงธรรมดา เช่น ไม้ ผ้า กระดาษ ยาง พลาสตกิ รวมทง้ั สิ่งอืน่ ท่ีมีลักษณะเดยี วกนั “เพลิงประเภท บี” หมายความว่า เพลิงท่ีเกิดจากไขหรือของเหลวท่ีติดไฟได้ ก๊าซ และ นา้ มันประเภทตา่ ง ๆ “เพลงิ ประเภท ซี” หมายความวา่ เพลงิ ทีเ่ กดิ จากอปุ กรณ์หรอื วัตถุท่มี กี ระแสไฟฟา้
2 เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๒ ก หน้า ๒๕ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา “เพลิงประเภท ดี” หมายความว่า เพลิงทเ่ี กดิ จากโลหะต่าง ๆ ท่ีตดิ ไฟได้ เช่น แมกนีเซียม เซอรโ์ คเนยี ม ไทเทเนยี ม รวมทั้งโลหะอ่นื ทม่ี ลี กั ษณะเดยี วกัน “วัตถุระเบิด” หมายความว่า วัตถุระเบิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เคร่ืองกระสุนปืน วตั ถรุ ะเบิด ดอกไม้เพลงิ และสิ่งเทยี มอาวุธปืน หรือวัตถุทสี่ ามารถระเบดิ ได้เมื่อได้รบั ความรอ้ น ประกายไฟ เปลวไฟ หรอื เมือ่ ได้รับการกระทบกระเทือน การเสยี ดสี หรอื ถกู กระทาโดยตัวจุดระเบดิ “วัตถไุ วไฟ” หมายความว่า วตั ถทุ ม่ี คี ณุ สมบัติตดิ ไฟได้งา่ ยและสนั ดาปเรว็ “เครื่องดับเพลิงแบบเคล่ือนย้ายได้” หมายความว่า เครื่องดับเพลิงซ่ึงมีลักษณะเป็นอุปกรณ์ ท่ีเคลื่อนย้ายได้โดยสะดวก และใช้งานด้วยมือ ภายในบรรจุสารดับเพลิงซึ่งสามารถขับออกได้โดยใช้แรงดัน เชน่ เครอ่ื งดบั เพลิงแบบมือถอื แบบยกหวิ้ แบบลากเข็น หรือลักษณะอ่ืนใดทค่ี ลา้ ยกนั “ระยะเข้าถึง” หมายความว่า ระยะทางท่ผี ู้ปฏิบตั งิ านสามารถเขา้ ถึงเคร่อื งดับเพลงิ แบบเคลอ่ื นย้ายได้ เพ่ือดับเพลิง ณ จุดน้ัน ๆ หมวด ๑ บทท่วั ไป ข้อ ๒ ให้นายจ้างจัดให้มีระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ ตามกฎกระทรวงน้ี และต้องดูแลระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่าง มปี ระสิทธิภาพและปลอดภยั ข้อ ๓ ในสถานประกอบกิจการทุกแห่ง ให้นายจ้างจัดทาป้ายข้อปฏิบัติเก่ียวกับการดับเพลิง และการอพยพหนไี ฟ และปิดประกาศใหเ้ หน็ ได้อยา่ งชดั เจน ขอ้ ๔ ในสถานประกอบกิจการที่มลี ูกจ้างตั้งแตส่ บิ คนขึ้นไป นอกจากต้องปฏิบตั ติ ามข้อ ๓ แลว้ ให้นายจ้างจัดให้มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย ประกอบด้วยการตรวจตรา การอบรม การรณรงค์ ป้องกนั อัคคีภยั การดบั เพลงิ การอพยพหนไี ฟ และการบรรเทาทุกข์ ให้นายจ้างจัดเก็บแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย ณ สถานประกอบกิจการพร้อมที่จะให้ พนักงานตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบได้ ข้อ ๕ อาคารที่มีสถานประกอบกิจการหลายแห่งต้ังอยู่รวมกัน ให้นายจ้างทุกรายของ สถานประกอบกิจการในอาคารนั้นมีหน้าที่ร่วมกันในการจัดให้มีระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมทั้ง แผนปอ้ งกันและระงบั อัคคภี ยั ด้วย ขอ้ ๖ ในกรณีทน่ี ายจ้างส่ังให้ลูกจา้ งทางานทีม่ ีลักษณะงานหรือไปทางาน ณ สถานที่ท่ีเสี่ยง หรืออาจเส่ียงต่อการเกดิ อคั คภี ยั ใหน้ ายจ้างแจง้ ขอ้ ปฏบิ ตั เิ กยี่ วกับความปลอดภยั ในการทางานใหล้ กู จ้างทราบ ก่อนการปฏบิ ตั ิงาน
3 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๒ ก หน้า ๒๖ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา ขอ้ ๗ ใหน้ ายจา้ งจดั เกบ็ วตั ถตุ า่ ง ๆ ดังต่อไปน้ี (๑) วตั ถุซ่ึงเม่อื รวมกนั แล้วจะเกิดการลกุ ไหมห้ รอื อาจกอ่ ใหเ้ กิดการลกุ ไหม้ ใหแ้ ยกเก็บโดยมใิ ห้ ปะปนกัน (๒) วัตถุซ่ึงโดยสภาพสามารถอุ้มน้าหรือซับน้าได้มาก ให้จัดเก็บไว้บนพ้ืนของอาคารซ่ึง สามารถรองรบั นา้ หนกั ท่เี พมิ่ ขึ้นได้ หมวด ๒ ความปลอดภยั เก่ียวกบั อาคารและทางหนไี ฟ ข้อ ๘ ให้นายจ้างจดั ใหม้ ีเส้นทางหนไี ฟทกุ ช้นั ของอาคารอย่างน้อยชั้นละสองเส้นทางซ่ึงสามารถ อพยพลูกจา้ งทีท่ างานในเวลาเดียวกันท้ังหมดสจู่ ดุ ท่ปี ลอดภัยได้โดยปลอดภัยภายในเวลาไมเ่ กินหา้ นาที เสน้ ทางหนีไฟจากจดุ ที่ลูกจา้ งทางานไปสจู่ ดุ ทปี่ ลอดภัยตอ้ งปราศจากสิ่งกดี ขวาง ประตูท่ใี ช้ในเส้นทางหนีไฟต้องทาด้วยวัสดุทนไฟ ไม่มีธรณีประตูหรือขอบก้ัน และเป็นชนิดท่ี บานประตเู ปิดออกไปตามทศิ ทางของการหนไี ฟกับต้องติดอุปกรณ์ทบ่ี ังคบั ใหบ้ านประตปู ดิ ได้เอง ห้ามใช้ ประตูเลื่อน ประตูม้วน หรือประตูหมุน และห้ามปิดตาย ใส่กลอน กุญแจ ผูก ล่ามโซ่ หรือทาให้ เปิดออกไม่ได้ในขณะท่ีมลี ูกจา้ งทางาน ขอ้ ๙ สถานประกอบกจิ การท่ีมีอาคารต้ังแต่สองช้ันขึ้นไป หรือมีพ้ืนท่ีประกอบกิจการตั้งแต่ สามร้อยตารางเมตรข้นึ ไป ใหน้ ายจ้างจดั ให้มรี ะบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในสถานประกอบกิจการทุกช้ัน โดยใหป้ ฏบิ ัติ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ระบบสัญญาณแจง้ เหตุเพลิงไหมอ้ ยา่ งนอ้ ยต้องประกอบด้วย (ก) อุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ท้ังที่ใช้ระบบแจ้งเหตุอัตโนมัติและระบบแจ้งเหตุท่ีใช้มือ เพื่อใหอ้ ปุ กรณส์ ่งสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหมท้ างาน (ข) อุปกรณ์ส่งสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ต้องสามารถส่งเสียงหรือสัญญาณให้ทุกคน ภายในอาคารไดย้ นิ หรือทราบอย่างทั่วถึงเพอื่ การหนีไฟ (๒) อปุ กรณแ์ จ้งเหตุทใ่ี ชม้ ือต้องอยใู่ นทีเ่ ห็นไดอ้ ยา่ งชัดเจน เขา้ ถงึ ไดง้ า่ ย หรอื อยู่ในเส้นทางหนีไฟ โดยติดตัง้ ห่างจากจุดทีล่ กู จา้ งทางานไมเ่ กนิ สามสิบเมตร (๓) เสียงหรือสัญญาณท่ีใช้ในการแจ้งเหตุเพลิงไหม้ต้องมีเสียงหรือสัญญาณที่แตกต่างไปจากเสียง หรือสัญญาณทีใ่ ชใ้ นสถานประกอบกิจการ (๔) กิจการโรงพยาบาลหรือสถานที่ห้ามใช้เสียงหรือใช้เสียงไม่ได้ผล ต้องจัดให้มีอุปกรณ์ หรอื มาตรการอนื่ ใด เชน่ สญั ญาณไฟ หรือรหสั ทส่ี ามารถแจ้งเหตุเพลิงไหมไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (๕) การติดต้ังระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคม วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรอื มาตรฐานอ่นื ทอี่ ธิบดกี าหนด
4 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๒ ก หน้า ๒๗ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา ข้อ ๑๐ ให้นายจ้างจัดให้มีแสงสว่างอย่างเพียงพอสาหรับเส้นทางหนีไฟในการอพยพลูกจ้าง ออกจากอาคารเพ่ือการหนีไฟ รวมทั้งจัดให้มีแหล่งจ่ายไฟฟ้าสารองที่สามารถจ่ายไฟฟ้าเพื่อการหนีไฟ และสาหรบั ใช้กับอุปกรณ์ดับเพลงิ ขนั้ ตน้ หรืออปุ กรณอ์ ่นื ที่เกีย่ วข้องได้ในทันทีท่ไี ฟฟา้ ดับ ข้อ ๑๑ ให้นายจา้ งจัดให้มีปา้ ยบอกทางหนไี ฟท่ีมลี กั ษณะ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ขนาดของตวั หนังสอื ตอ้ งสงู ไมน่ ้อยกวา่ สิบหา้ เซนตเิ มตร และเหน็ ได้อยา่ งชดั เจน (๒) ป้ายบอกทางหนไี ฟต้องมีแสงสว่างในตวั เองหรอื ใช้ไฟส่องให้เห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา ท้งั นี้ ต้องไม่ใชส้ ีหรือรปู รา่ งท่ีกลมกลืนไปกบั การตกแต่งหรือป้ายอนื่ ๆ ท่ตี ดิ ไว้ใกล้เคียง หรือโดยประการใด ที่ทาใหเ้ หน็ ป้ายไมช่ ดั เจน นายจ้างอาจใช้รปู ภาพบอกทางหนไี ฟตามมาตรฐานของสมาคมวศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ได้ ทงั้ นี้ ตอ้ งให้เห็นไดอ้ ย่างชดั เจน หมวด ๓ การดบั เพลิง ข้อ ๑๒ ให้นายจ้างจัดให้มีระบบน้าดับเพลิงและอุปกรณ์ประกอบเพื่อใช้ในการดับเพลิง ทสี่ ามารถดบั เพลิงขั้นต้นไดอ้ ย่างเพียงพอในทุกส่วนของอาคาร อยา่ งนอ้ ยให้ประกอบดว้ ย (๑) ในกรณที ีไ่ ม่มีทอ่ น้าดับเพลงิ ของทางราชการในบริเวณที่สถานประกอบกิจการต้ังอยู่หรือมี แต่ปริมาณน้าไม่เพียงพอ ให้จัดเตรียมน้าสารองไว้ใช้ในการดับเพลิงโดยต้องมีอัตราส่วนปริมาณน้าท่ีสารอง ต่อพ้นื ท่อี าคารตามท่ีกาหนดไว้ในตารางที่ ๑ ท้ายกฎกระทรวงน้ี สาหรับกรณีที่นายจ้างมีอาคารหลายหลัง ต้ังอยใู่ นบรเิ วณเดียวกัน อาจจดั เตรยี มนา้ สารองไวใ้ นปรมิ าณทใี่ ชก้ ับอาคารท่มี ีพื้นทีม่ ากท่ีสดุ เพยี งหลงั เดียวกไ็ ด้ (๒) ระบบการส่งนา้ ทเี่ กบ็ กักน้า เคร่ืองสูบนา้ ดับเพลิง และการตดิ ต้ัง จะต้องได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากวศิ วกรตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวิศวกร และตอ้ งมีการป้องกนั ไมใ่ ห้เกิดความเสียหายจากเพลิงไหม้ ยานพาหนะ หรอื สง่ิ อน่ื (๓) ข้อต่อทอ่ รบั นา้ ดับเพลงิ เขา้ อาคารและขอ้ ต่อส่งน้าภายในอาคารจะต้องเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ ในหนว่ ยดับเพลิงของทางราชการในท้องถิ่น หรือต้องมีอุปกรณ์ทีจ่ ะชว่ ยสวมระหวา่ งขอ้ ตอ่ ทีใ่ ชก้ บั หน่วยดับเพลิง ของทางราชการในท้องถน่ิ น้ัน และตอ้ งอยู่ในสภาพที่ใช้งานไดด้ ี ทง้ั ในการติดตง้ั ตอ้ งมีสง่ิ ปอ้ งกนั ความเสียหาย ท่ีจะเกดิ ขึน้ จากยานพาหนะหรอื สิ่งอ่นื (๔) ข้อต่อสายสง่ นา้ ดับเพลงิ และหวั ฉดี ดบั เพลงิ จะต้องเปน็ ระบบเดียวกับท่ีใช้ในหน่วยดับเพลิง ของทางราชการในทอ้ งถิน่ นั้น ซ่ึงสามารถตอ่ เข้าด้วยกนั ได้หรือตอ้ งมีอปุ กรณท์ ีจ่ ะช่วยสวมระหว่างข้อต่อ หรือหวั ฉดี ดับเพลงิ ดงั กลา่ ว (๕) สายส่งน้าดับเพลิงต้องมีความยาวหรือต่อกันให้มีความยาวเพียงพอที่จะควบคุมบริเวณที่ เกิดเพลงิ ไหมไ้ ด้
5 เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๒ ก หน้า ๒๘ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ้ ๑๓ ให้นายจ้างจัดให้มีเคร่ืองดบั เพลงิ แบบเคล่ือนย้ายได้ โดยต้องปฏิบตั ิ ดังต่อไปนี้ (๑) จัดให้มีเคร่ืองดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ตามประเภทของเพลิง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน ที่สานักงานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อตุ สาหกรรมกาหนด หรือตามมาตรฐานที่อธิบดีกาหนด (๒) เคร่ืองดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ทุกเคร่ือง ต้องจัดให้มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ แสดงว่าเปน็ ชนดิ ใด ใช้ดบั เพลิงประเภทใด และเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์นั้นต้องมีขนาดที่มองเห็นได้ อย่างชดั เจนในระยะไมน่ ้อยกวา่ หนึง่ เมตรหา้ สิบเซนติเมตร (๓) ห้ามใช้เคร่ืองดับเพลิงแบบเคล่ือนย้ายได้ท่ีอาจเกิดไอระเหยของสารพิษ เช่น คารบ์ อนเตตราคลอไรด์ (๔) จัดให้มีเคร่ืองดับเพลิงแบบเคล่ือนย้ายได้ตามจานวน ความสามารถของเคร่ืองดับเพลิง และการตดิ ตงั้ ดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) เคร่ืองดับเพลิงแบบเคล่ือนย้ายได้ท่ีใช้ดับเพลิงประเภท เอ จานวน ความสามารถ ของเคร่ืองดับเพลิง และการติดตั้ง ให้คานวณตามพื้นที่ของสถานที่ซึ่งมีสภาพเส่ียงต่อการเกิดอัคคีภัย ตามทีก่ าหนดไวใ้ นตารางท่ี ๒ ท้ายกฎกระทรวงน้ี โดยตอ้ งมีระยะเข้าถึงไม่เกินย่ีสิบสองเมตรห้าสิบเซนติเมตร ในกรณที ี่ใชเ้ ครอ่ื งดับเพลงิ ที่มีความสามารถในการดับเพลิงต่ากว่าความสามารถในการดับเพลิงตามพื้นท่ี ที่กาหนดไว้ในตารางดังกล่าว ให้เพ่ิมจานวนเคร่ืองดับเพลิงน้ันให้ได้สัดส่วนกับพ้ืนที่ที่กาหนด ท้ังนี้ ในการคานวณเพื่อจัดให้มีเครื่องดับเพลิงของสถานที่ดังกล่าว ถ้ามีเศษของพื้นท่ีให้นับเป็นพ้ืนท่ีเต็มส่วน ท่ีตอ้ งเพิม่ จานวนเครอ่ื งดับเพลงิ ขน้ึ อกี หนึ่งเคร่อื ง และในกรณสี ถานที่นั้นมีพื้นท่ีเกินกว่าที่กาหนดไว้ในตาราง นายจา้ งจะตอ้ งเพม่ิ เคร่ืองดบั เพลงิ โดยคานวณตามสัดสว่ นของพนื้ ทต่ี ามที่กาหนดไวใ้ นตารางดงั กลา่ ว เครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ที่ใช้ดับเพลิงประเภท บี ความสามารถของเครื่องดับเพลิง ท่ตี ดิ ต้ังต้องมรี ะยะเขา้ ถงึ ตามทีก่ าหนดไวใ้ นตารางที่ ๓ ท้ายกฎกระทรวงนี้ เครื่องดับเพลิงแบบเคล่ือนย้ายได้ท่ีใช้ดับเพลิงประเภท ซี การติดต้ังให้พิจารณาจากวัตถุ ซึ่งเป็นเช้ือเพลิงท่ีอยู่ในบริเวณใกล้เคียงว่าจะทาให้เกิดเพลิงประเภท เอ หรือ บี และติดตั้งเครื่องดับเพลิง แบบเคลอ่ื นย้ายไดท้ ใี่ ช้ดับเพลงิ ประเภทนัน้ เครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ที่ใช้ดับเพลิงประเภท ดี ในการติดต้ังให้มีระยะเข้าถึง ไมเ่ กนิ ยสี่ บิ สามเมตร (ข) ใหต้ ิดตงั้ หรอื จัดวางเครอ่ื งดับเพลิงในสภาพทมี่ ่ันคง มองเห็นได้อย่างชัดเจน สามารถ นามาใช้ไดง้ า่ ยและรวดเร็ว (ค) ให้จัดทารายละเอียดเกี่ยวกับชนิดและวิธีใช้เป็นภาษาไทยท่ีเห็นได้อย่างชัดเจน ตดิ ไว้ที่ตัวถงั หรอื บริเวณท่ตี ดิ ต้งั (๕) จดั ใหม้ กี ารดแู ลรกั ษาและตรวจสอบเครอ่ื งดับเพลงิ ใหอ้ ย่ใู นสภาพทีใ่ ชง้ านไดด้ ี โดยการตรวจสอบ ตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ หกเดือนต่อหน่ึงคร้ัง พร้อมกับติดป้ายแสดงผลการตรวจสอบและวันที่ทาการตรวจสอบ ครั้งสุดทา้ ยไวท้ ี่อุปกรณ์ดงั กล่าว และเก็บผลการตรวจสอบไวใ้ หพ้ นักงานตรวจความปลอดภยั ตรวจไดต้ ลอดเวลา รวมท้ังตอ้ งมกี ารซอ่ มบารงุ และเปล่ียนถา่ ยสารดับเพลิงตามข้อกาหนดของผผู้ ลิตดว้ ย
6 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๒ ก หนา้ ๒๙ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา ขอ้ ๑๔ กรณที นี่ ายจา้ งจดั ใหม้ ีระบบดับเพลิงอตั โนมัติ ให้ปฏบิ ตั ิ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ระบบดับเพลงิ อัตโนมัติตอ้ งเปน็ ไปตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (๒) ต้องเปดิ วาล์วประธานทค่ี วบคมุ ระบบจ่ายนา้ เขา้ หรือสารดบั เพลิงอน่ื อย่ตู ลอดเวลา และจัดใหม้ ี ผ้คู วบคมุ ดแู ลใหใ้ ชง้ านไดต้ ลอดเวลา (๓) ต้องตดิ ต้ังสัญญาณเพอื่ เตอื นภัยในขณะทีร่ ะบบดบั เพลิงอัตโนมตั ิกาลังทางาน (๔) ต้องไม่มสี ่ิงกดี ขวางทางน้าหรือสารดบั เพลิงอน่ื จากหัวฉดี ดับเพลงิ โดยรอบ ขอ้ ๑๕ ในสถานท่ีซึ่งมีสภาพเส่ียงต่อการเกิดอัคคีภัยอย่างร้ายแรงหรืออย่างปานกลาง นายจ้างต้องจัดให้มีระบบน้าดับเพลิงและอุปกรณ์ประกอบเพ่ือใช้ในการดับเพลิงตามข้อ ๑๒ และ เครอ่ื งดบั เพลงิ แบบเคล่ือนยา้ ยได้ตามขอ้ ๑๓ สาหรับสถานท่ซี งึ่ มสี ภาพเสีย่ งตอ่ การเกิดอัคคภี ัยอย่างเบา นายจ้างอาจจัดให้มเี ครือ่ งดับเพลงิ แบบเคลือ่ นยา้ ยได้ตามขอ้ ๑๓ อยา่ งเดยี วกไ็ ด้ ขอ้ ๑๖ ใหน้ ายจา้ งปฏิบัติเกยี่ วกบั อปุ กรณด์ ับเพลิง ดังต่อไปน้ี (๑) ตดิ ต้ังป้ายแสดงจุดตดิ ต้ังอปุ กรณ์ดับเพลงิ ทีเ่ หน็ ไดอ้ ย่างชดั เจน (๒) ติดต้ังอุปกรณด์ ับเพลิงในที่เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่มีส่ิงกีดขวาง และสามารถนามาใช้งาน ได้โดยสะดวกตลอดเวลา (๓) จัดให้มีการดูแลรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี โดยใน การตรวจสอบน้ันต้องไม่น้อยกว่าเดือนละหนึ่งครั้งหรือตามระยะเวลาท่ีผู้ผลิตกาหนด พร้อมกับติดป้าย แสดงผลการตรวจสอบและวันท่ีทาการตรวจสอบคร้ังสุดท้ายไว้ที่อุปกรณ์ดังกล่าว และเก็บผลการตรวจสอบ ไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้ตลอดเวลา เว้นแต่เครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ ให้ตรวจสอบตามระยะเวลาท่กี าหนดไวใ้ นข้อ ๑๓ (๕) ขอ้ ๑๗ สถานที่ซึ่งมีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยอย่างร้ายแรงหรืออย่างปานกลาง ให้นายจ้าง จัดลูกจ้างเพื่อทาหน้าที่ดับเพลิงประจาอยู่ตลอดเวลาที่มีการทางาน และจัดหาอุปกรณ์คุ้มครอง ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ใช้ในการดับเพลิงและการฝึกซ้อมดับเพลิงซึ่งต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี เช่น เสื้อคลุมดับเพลิง รองเท้า ถุงมือ หมวก หน้ากากป้องกันความร้อนหรือควันพิษ อย่างน้อย ใหเ้ พียงพอกับจานวนผ้ทู าหนา้ ทีด่ บั เพลิงนนั้ หมวด ๔ การป้องกนั อคั คภี ัยจากแหลง่ ก่อเกดิ การกระจายตวั ของความร้อน ขอ้ ๑๘ ให้นายจ้างปอ้ งกันอคั คีภยั จากแหล่งก่อเกดิ การกระจายตัวของความรอ้ น ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) กระแสไฟฟ้าลัดวงจร ให้เป็นไปตามกฎหมายเก่ียวกับความปลอดภัยในการทางาน เกย่ี วกบั ไฟฟ้า (๒) เครือ่ งยนตห์ รอื ปล่องไฟ เพือ่ มใิ ห้เกดิ ลูกไฟหรอื เขมา่ ไฟกระเด็นถกู วัตถุทีต่ ิดไฟได้
7 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๒ ก หนา้ ๓๐ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา (๓) การแผ่รังสี การนาหรอื การพาความร้อนจากแหล่งกาเนิดความร้อนสูงไปสวู่ ตั ถุท่ีตดิ ไฟไดง้ ่าย (๔) การเสียดสีหรือเสียดทานของเครื่องจักรหรือเครื่องมือท่ีเกิดประกายไฟหรือความร้อนสูง ท่อี าจทาให้เกดิ การลกุ ไหมไ้ ด้ (๕) การสะสมของไฟฟ้าสถิต โดยต่อสายดินกับถังหรือท่อน้ามันเช้ือเพลิง สารเคมี หรือ ของเหลวไวไฟ ทง้ั นี้ ให้เปน็ ไปตามกฎหมายเก่ยี วกบั ความปลอดภยั ในการทางานเก่ยี วกับไฟฟา้ (๖) การเชอ่ื มหรือตัดโลหะ ซึง่ เปน็ แหล่งความร้อนสูงทอี่ าจทาใหเ้ กิดการลุกไหม้ได้ (๗) การสะสมความร้อนของปลอ่ งระบายควนั โดยปฏิบตั ิ ดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) ไมต่ ดิ ต้งั ปล่องระบายควันกบั ส่วนของอาคารทสี่ รา้ งดว้ ยวัสดุทีต่ ดิ ไฟได้ง่าย (ข) หุ้มปลอ่ งระบายควนั ดว้ ยฉนวนทที่ าจากวสั ดุท่ีไมต่ ดิ ไฟ และอุณหภูมิผวิ หน้าดา้ นนอก ของฉนวนตอ้ งไม่สูงเกินห้าสิบองศาเซลเซยี ส หมวด ๕ วัตถุไวไฟและวตั ถรุ ะเบดิ ข้อ ๑๙ ในกรณีที่นายจ้างมี เก็บ หรือขนถ่ายวัตถุไวไฟหรือวัตถุระเบิดจะต้องดาเนินการ อย่างปลอดภัยเพอ่ื ป้องกันการเกดิ อัคคีภยั ท้ังน้ี ให้เปน็ ไปตามกฎหมายเก่ียวกบั ความปลอดภัยในการทางาน เกยี่ วกับสารเคมีอันตราย วตั ถไุ วไฟ หรือวัตถรุ ะเบดิ ข้อ ๒๐ การเก็บถังกา๊ ซชนดิ เคล่อื นย้ายได้ชนดิ ของเหลว ใหน้ ายจา้ งปฏบิ ตั ิ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ในกรณีท่ีเก็บถังก๊าซไว้ภายนอกอาคาร ต้องเก็บไว้ในท่ีเปิดโล่งที่มีการป้องกันความร้อน มิใหม้ อี ณุ หภูมิสงู กว่าทีผ่ ู้ผลติ กาหนดไว้ และมสี ิ่งป้องกนั ความเสยี หายทจ่ี ะเกดิ ข้ึนจากยานพาหนะหรือสิง่ อื่น (๒) ในกรณีที่เก็บถังก๊าซไว้ภายในอาคาร ต้องแยกเก็บไว้ในห้องท่ีมีผนังทาด้วยวัสดุทนไฟ และมกี ารระบายหรอื ถ่ายเทอากาศไดด้ ี มรี ะบบตรวจจบั กา๊ ซอัตโนมัติ ปริมาณเก็บรวมกนั แหง่ ละไม่เกิน สองพันลิตร โดยแต่ละแห่งจะตอ้ งห่างกนั ไม่น้อยกวา่ ยสี่ บิ เมตร (๓) ห้ามเก็บถังก๊าซไว้ใกล้วัตถทุ ่ลี กุ ไหมไ้ ด้งา่ ย (๔) มโี ซห่ รือวัตถอุ น่ื ในลักษณะเดยี วกันรัดถังกนั ล้ม และติดตัง้ ฝาครอบหัวถัง เพื่อความปลอดภัย ในขณะท่เี คลอ่ื นย้ายหรือจดั เก็บ ข้อ ๒๑ การปอ้ งกนั อนั ตรายจากถา่ นหนิ เซลลลู อยด์ หรอื ของแขง็ ทตี่ ดิ ไฟได้ง่าย ให้นายจ้างปฏบิ ตั ิ ดังต่อไปนี้ (๑) การเก็บถ่านหินในที่โล่งแจ้ง ต้องพรมน้าให้เปียกช้ืนอยู่ตลอดเวลาและอัดทับให้แน่น เพ่ือปอ้ งกนั การลกุ ไหม้ท่ีเกิดไดเ้ อง และหา้ มกองไว้สูงเกินสามเมตร (๒) ถา่ นหนิ ทบี่ ดแลว้ หรือชนดิ ผงหากมีอุณหภูมิสูงกว่าหกสิบห้าองศาเซลเซียส ต้องทาให้เย็น ก่อนนาไปเก็บใสไ่ วใ้ นถงั หรอื ภาชนะทนไฟ
8 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๒ ก หน้า ๓๑ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา (๓) ถังหรือภาชนะที่ใช้เก็บถ่านหินหรือผงแร่ท่ีลุกไหม้ได้ง่าย ต้องสร้างด้วยวัสดุทนไฟท่ีมี ฝาปดิ มิดชิดและเกบ็ ไวห้ า่ งไกลจากแหลง่ ความร้อน (๔) การเก็บเซลลูลอยด์หรือของแข็งท่ีติดไฟได้ง่ายในไซโล ถัง หรือภาชนะ ต้องทาการป้องกัน การลกุ ไหม้จากแหล่งความรอ้ นหรือการผสมกบั อากาศที่จะก่อให้เกดิ การลุกไหมไ้ ด้ ขอ้ ๒๒ การเก็บวัตถุที่ติดไฟได้ง่ายประเภทไม้ กระดาษ ขนสัตว์ ฟาง โฟม ฟองน้าสังเคราะห์ หรือสิ่งอ่ืนใดท่ีมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน ให้นายจ้างแยกเก็บไว้ในอาคารต่างหากหรือเก็บในห้องทนไฟ ซง่ึ หลังคาหรือฝาห้องต้องไม่ทาด้วยแก้วหรือวัสดุโปร่งใสท่ีแสงแดดส่องตรงเข้าไปได้ ในกรณีท่ีมีจานวนน้อย อาจเกบ็ ไวใ้ นภาชนะทนไฟหรือถงั โลหะที่มฝี าปดิ หมวด ๖ การกาจดั ของเสยี ทต่ี ิดไฟไดง้ ่าย ขอ้ ๒๓ ให้นายจ้างปฏิบัตเิ กี่ยวกับของเสยี ทต่ี ดิ ไฟไดง้ ่าย ดังต่อไปนี้ (๑) จัดให้มีการทาความสะอาดเพื่อมิให้มีการสะสมหรือตกค้างของของเสียท่ีติดไฟได้ง่าย ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าวันละหน่ึงครั้ง ถ้าเป็นงานกะต้องไม่น้อยกว่ากะละหนึ่งครั้ง เว้นแต่วัตถุไวไฟหรือ วตั ถรุ ะเบดิ ที่ลุกไหม้ไดเ้ อง ตอ้ งจดั ใหม้ ีการทาความสะอาดทนั ที (๒) ต้องเก็บรวบรวมของเสียท่ีตดิ ไฟได้ง่ายไว้ในภาชนะปดิ ท่ีเป็นโลหะ (๓) ให้นาของเสียที่เก็บรวบรวมไว้ตาม (๒) ออกไปจากบริเวณท่ีลูกจ้างทางานไม่น้อยกว่า วันละหน่ึงคร้ัง ในกรณีท่ียังไม่ได้กาจัดโดยทันทีให้นาไปเก็บไว้ในห้องทนไฟหรืออาคารทนไฟ และต้อง นาไปกาจัดให้หมดอย่างน้อยเดือนละหนึ่งคร้ังโดยวิธีการท่ีปลอดภัย เช่น การเผา การฝัง การใช้สารเคมี เพ่ือใหข้ องเสยี นนั้ สลายตวั หรอื โดยวิธีอ่ืนท่ีมีประสทิ ธิภาพ แล้วแตก่ รณี ขอ้ ๒๔ การกาจดั ของเสยี ทต่ี ิดไฟไดง้ า่ ยโดยการเผา ให้นายจา้ งปฏบิ ตั ิ ดงั ต่อไปนี้ (๑) ให้เผาในเตาท่ีออกแบบสาหรับการเผาโดยเฉพาะ หรือเผาในท่ีโล่งแจ้งโดยให้ห่างจาก บรเิ วณท่ลี กู จ้างทางานในระยะทป่ี ลอดภัยและอยใู่ ตล้ ม (๒) จัดใหล้ ูกจา้ งที่ทาหนา้ ท่ีเผาสวมใส่อปุ กรณ์คมุ้ ครองความปลอดภยั สว่ นบคุ คล (๓) จดั เก็บเถา้ ถ่านทเ่ี หลือจากการเผาของเสียทต่ี ดิ ไฟได้ง่ายน้ันไว้ในภาชนะ หอ้ ง สถานท่ีท่ีปลอดภัย หรอื เกบ็ ไวใ้ นภาชนะท่ีปิดมดิ ชดิ เพ่ือปอ้ งกนั การรั่วไหล หรอื นาไปฝังในสถานทที่ ี่ปลอดภัย หมวด ๗ การป้องกนั อนั ตรายจากฟา้ ผา่ ขอ้ ๒๕ ให้นายจ้างจัดให้มีระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าสาหรับอาคารหรือส่ิงก่อสร้าง ดังตอ่ ไปนี้
9 เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๒ ก หนา้ ๓๒ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา (๑) อาคารที่มวี ตั ถไุ วไฟหรือวัตถรุ ะเบดิ (๒) ส่ิงก่อสร้างท่ีมีความสูง ประเภท ปล่องควัน หอคอย เสาธง ถังเก็บน้าหรือสารเคมี หรือสง่ิ กอ่ สรา้ งอ่ืนใดทม่ี คี วามสูงในทานองเดยี วกัน ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับอาคารและสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในรัศมีการป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ของอาคารอืน่ การติดต้ังระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าให้ปฏิบัติตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถาน แหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ข้อ ๒๖ ให้นายจา้ งจดั ให้มมี าตรการปอ้ งกนั ผลกระทบจากฟ้าผา่ เข้าสรู่ ะบบไฟฟ้าของอาคาร หมวด ๘ การดาเนนิ การเกยี่ วกบั ความปลอดภยั จากอคั คภี ัยและการรายงาน ขอ้ ๒๗ ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าร้อยละสี่สิบของจานวนลูกจ้างในแต่ละหน่วยงาน ของสถานประกอบกิจการรับการฝึกอบรมการดับเพลิงข้ันต้น โดยให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการ และคุม้ ครองแรงงานเป็นผู้ดาเนนิ การฝึกอบรม ข้อ ๒๘ ให้นายจา้ งจัดให้มีการดาเนนิ การเกยี่ วกบั ความปลอดภัยจากอคั คภี ยั ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) สถานประกอบกิจการท่ีมีความเส่ียงต่อการเกิดอัคคีภัยอย่างร้ายแรงหรืออย่างปานกลาง ตอ้ งจัดให้มกี ารบริหารงานโดยกลมุ่ ปฏิบตั ิงานเพื่อป้องกนั และระงบั อัคคภี ัย และมีผู้ทาหน้าท่ีอานวยการ ระงับอัคคีภัยทั้งระบบโดยเฉพาะเมื่อเกิดเพลิงไหม้ประจาสถานประกอบกิจการตลอดเวลาที่มี การประกอบกจิ การ (๒) ตอ้ งจดั ใหผ้ ทู้ ีม่ หี นา้ ท่ีเกย่ี วกับการป้องกันและระงบั อัคคภี ัยรบั การฝึกอบรมเกย่ี วกบั การป้องกนั และระงบั อัคคภี ัย การใช้อุปกรณต์ า่ ง ๆ ในการดบั เพลิง การปฐมพยาบาล และการชว่ ยเหลือในกรณฉี กุ เฉิน ขอ้ ๒๙ ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างฝึกซ้อมอพยพหนีไฟออกจากอาคารไปตามเส้นทางหนีไฟ ตามทกี่ าหนดไว้ในหมวด ๒ ข้อ ๓๐ ให้นายจา้ งจดั ใหล้ กู จา้ งทกุ คนฝึกซ้อมดับเพลงิ และฝึกซ้อมอพยพหนไี ฟพรอ้ มกันอย่างนอ้ ย ปีละหนง่ึ ครง้ั ทั้งน้ี ใหล้ ูกจา้ งของนายจา้ งทุกรายท่ีทางานอยู่ภายในอาคารเดียวกันและในวันและเวลาเดียวกัน ทาการฝกึ ซอ้ มพร้อมกัน และก่อนการฝึกซ้อมไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ให้นายจ้างส่งแผนการฝึกซ้อมดับเพลิง และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ รวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกซ้อมต่ออธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมาย เพือ่ ใหค้ วามเหน็ ชอบ ในกรณที ่ีนายจา้ งไมส่ ามารถดาเนนิ การฝกึ ซอ้ มดับเพลงิ และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟตามวรรคหนง่ึ ได้เอง จะตอ้ งให้ผู้ทไ่ี ด้รับใบอนญุ าตจากกรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานเปน็ ผดู้ าเนินการฝกึ ซ้อม ให้นายจ้างจัดทารายงานผลการฝึกซ้อมดังกล่าวตามแบบท่ีอธิบดีกาหนด และย่ืนต่ออธิบดี หรอื ผซู้ ่งึ อธิบดีมอบหมายภายในสามสบิ วนั นับแตว่ ันท่ีเสรจ็ สนิ้ การฝึกซ้อม
10 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๒ ก หนา้ ๓๓ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา บทเฉพาะกาล ขอ้ ๓๑ ให้หน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้นและหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและหนีไฟ ท่ไี ดร้ ับการข้นึ ทะเบยี นตามประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เรอ่ื ง หลักเกณฑ์และวิธีการข้ึน ทะเบียนเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงข้ันต้น หน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและหนีไฟ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ มสี ิทธดิ าเนินการตามขอ้ ๒๗ และขอ้ ๓๐ จนกวา่ การขึ้นทะเบียนนน้ั จะสน้ิ อายุ ขอ้ ๓๒ ให้หน่วยงานตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กาหนดหน่วยงาน ฝึกอบรมการดับเพลิงข้ันต้น หน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมหนีไฟ พ.ศ. ๒๕๕๐ มีสิทธิ ดาเนินการตามข้อ ๒๗ และข้อ ๓๐ ต่อไป โดยต้องขอรับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ภายในเกา้ สิบวันนับแต่วนั ที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคบั ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เผดมิ ชัย สะสมทรพั ย์ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงแรงงาน
11 ตารางทา้ ยกฎกระทรวงกาํ หนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ และดําเนนิ การด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางานเก่ียวกบั การปอ้ งกนั และระงบั อัคคภี ัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ตารางที่ ๑ การจัดเตรยี มปรมิ าณน้าํ สาํ รองตอ่ พน้ื ทขี่ องอาคารเพือ่ ใชใ้ นการดบั เพลงิ พื้นทขี่ องอาคาร ปรมิ าณนํ้าทส่ี ํารอง ไมเ่ กิน ๑,๒๕๐ ตารางเมตร ๐๙,๐๐๐ ลิตร เกินไม่ ๑,๒๕๐ ตารางเมตร แต่ไมเ่ กิน ๑,๕๐๐ ตารางเมตร ๑๕,๐๐๐ ลิตร เกินไม่ ๑,๕๐๐ ตารางเมตร แตไ่ ม่เกนิ ๑,๐๐๐ ตารางเมตร ๒๗,๐๐๐ ลิตร เกินไม่ ๑,๐๐๐ ตารางเมตร ๓๖,๐๐๐ ลิตร ตารางที่ ๒ การตดิ ตงั้ เคร่ืองดบั เพลิงเพอ่ื ใช้ดับเพลงิ ประเภท เอ โดยคาํ นวณตามพ้นื ท่ีของสถานทซ่ี ่งึ มีสภาพเสี่ยง ต่อการเกิดอัคคภี ยั ความสามารถของ พนื้ ท่ีของสถานที่ซ่งึ มีสภาพ พนื้ ท่ขี องสถานที่ซึ่งมสี ภาพ พ้ืนทขี่ องสถานทซี่ งึ่ มีสภาพ เครื่องดบั เพลงิ เสีย่ งตอ่ การเกิดอคั คภี ัย เส่ียงตอ่ การเกดิ อคั คภี ยั เส่ียงตอ่ การเกิดอัคคภี ยั เทียบเทา่ อย่างเบา อย่างปานกลาง อยา่ งร้ายแรง ต่อเครอื่ งดับเพลงิ ๑ เคร่ือง ตอ่ เครอื่ งดับเพลงิ ๑ เครื่อง ตอ่ เคร่ืองดบั เพลงิ ๑ เครื่อง ๐๑ - เอ ๑,๒๐๐ ตารางเมตร ไมอ่ นุญาตใหใ้ ช้ ไม่อนญุ าตใหใ้ ช้ ๐๒ - เอ ๑,๕๖๐ ตารางเมตร ๑,๒๐๐ ตารางเมตร ไม่อนุญาตให้ใช้ ๐๓ - เอ ๑,๘๔๐ ตารางเมตร ๑,๔๒๐ ตารางเมตร ๑,๒๐๐ ตารางเมตร ๐๔ - เอ ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๕๖๐ ตารางเมตร ๑,๓๗๐ ตารางเมตร ๐๕ - เอ ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๘๔๐ ตารางเมตร ๑,๕๖๐ ตารางเมตร ๑๐ - เอ ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๘๔๐ ตารางเมตร ๒๐ - เอ ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๘๔๐ ตารางเมตร ๔๐ - เอ ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๐๕๐ ตารางเมตร ๑,๐๕๐ ตารางเมตร
12 ๒ ตารางที่ ๓ การติดต้ังเครอ่ื งดบั เพลงิ เพื่อใชด้ ับเพลงิ ประเภท บี ของสถานทซี่ ่งึ มสี ภาพเสี่ยงตอ่ การเกิด อคั คีภัย สถานทซี่ ่ึงมสี ภาพเส่ียง ความสามารถของเครอื่ งดับเพลงิ ระยะเข้าถึง ตอ่ การเกิดอัคคีภัย เทยี บเท่า อยา่ งเบา ๐๙ เมตร ๐๕ - บี ๑๕ เมตร อยา่ งปานกลาง ๑๐ - บี ๐๙ เมตร ๑๐ - บี ๑๕ เมตร อยา่ งร้ายแรง ๒๐ - บี ๐๙ เมตร ๔๐ - บี ๑๕ เมตร ๘๐ - บี
13 เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๒ ก หนา้ ๓๔ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงานมีอานาจออกกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานให้นายจ้างบริหาร จัดการ และดาเนินการด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน ซ่ึงการป้องกันและระงับอัคคีภัยที่มีมาตรฐาน เป็นมาตรการสาคัญอย่างหนึ่งท่ีทาให้ลูกจ้างได้รับความปลอดภัยในการทางาน ดังน้ัน เพ่ือความปลอดภัย ในการทางานของลูกจ้าง จึงจาเป็นต้องออกกฎกระทรวงน้ี
เล่ม ๑๓๕ ตอนท่ี ๖๔ ก หน้า ๑ 14 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๖๑ กฎกระทรวง กำหนดมำตรฐำนในกำรบรหิ ำร จดั กำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชวี อนำมยั และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำนเกยี่ วกับกำรป้องกนั และระงบั อคั คภี ยั (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ วรรคหน่ึง และมำตรำ ๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติ ควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำน พ.ศ. ๒๕๕๔ รัฐมนตรีว่ำกำร กระทรวงแรงงำนจงึ ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ให้ยกเลกิ ควำมใน (๑) ของข้อ ๑๑ แห่งกฎกระทรวงกำหนดมำตรฐำนในกำรบริหำร จดั กำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนเกี่ยวกับกำรป้องกัน และระงับอคั คีภยั พ.ศ. ๒๕๕๕ และใหใ้ ชค้ วำมตอ่ ไปนี้แทน “(๑) ตัวอักษรต้องมขี นำดไม่เลก็ กว่ำสบิ เซนตเิ มตร และมองเหน็ ได้อยำ่ งชัดเจน” ข้อ ๒ ให้ยกเลิกควำมในข้อ ๒๑ แหง่ กฎกระทรวงกำหนดมำตรฐำนในกำรบรหิ ำร จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชวี อนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนเก่ียวกับกำรป้องกัน และระงับอคั คีภยั พ.ศ. ๒๕๕๕ และใหใ้ ชค้ วำมตอ่ ไปน้ีแทน “ขอ้ ๒๑ กำรป้องกันอันตรำยจำกถำ่ นหินทก่ี องเก็บในทีโ่ ล่งแจ้ง ให้นำยจำ้ งปฏบิ ัติ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ต้องพรมน้ำเพอื่ ลดกำรฟุ้งกระจำยของฝุน่ ถำ่ นหนิ (๒) ตอ้ งอดั ทับให้มีโพรงอำกำศในกองถำ่ นหินนอ้ ยที่สดุ เพื่อป้องกนั กำรลุกไหม้ท่ีเกดิ ได้เอง (๓) ในบริเวณที่มีฝุ่นถ่ำนหินฟุ้งกระจำยและมีควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดระเบิดฝุ่นต้องจัดให้มี มำตรกำรปอ้ งกันและลดควำมรุนแรงของผลกระทบจำกกำรเกดิ ระเบิดฝุ่น (๔) กำรกองเก็บถ่ำนหินสูงเกินสำมเมตร ต้องติดตำมตรวจวดั อณุ หภมู ขิ องกองถำ่ นหินอย่ำงน้อย สปั ดำห์ละหนึง่ ครงั้ และจดั เกบ็ รำยงำนผลกำรบันทกึ ไว้ท่ีสถำนประกอบกิจกำรอย่ำงนอ้ ยหน่งึ ปี (๕) ในกรณีที่มีกำรตรวจวัดอุณหภูมิของกองถ่ำนหินตำม (๔) หำกกองถ่ำนหินมีอุณหภูมิ ตัง้ แต่หกสบิ หำ้ องศำเซลเซียสขน้ึ ไป ตอ้ งคดั แยกถ่ำนหินออกจำกกองหรือใชม้ ำตรกำรอ่ืนเพ่ือปอ้ งกนั กำรลุกไหม้ ท่เี กิดได้เอง”
15 เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๖๔ ก หน้า ๒ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๑ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๓ ให้เพิ่มควำมต่อไปน้เี ปน็ ข้อ ๒๑/๑ แห่งกฎกระทรวงกำหนดมำตรฐำนในกำรบริหำร จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนเกี่ยวกับ กำรปอ้ งกนั และระงับอัคคีภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ “ข้อ ๒๑/๑ กำรป้องกันอันตรำยจำกกำรเก็บถ่ำนหิน ผงแร่ที่ลุกไหม้ได้ง่ำย เซลลูลอยด์ หรอื ของแขง็ ที่ติดไฟได้ง่ำยทเี่ กบ็ ในไซโล ถัง หรอื ภำชนะ ใหน้ ำยจำ้ งปฏบิ ตั ิ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) กำรเก็บถ่ำนหินหรือผงแร่ท่ีลุกไหม้ได้ง่ำย ไซโล ถัง หรือภำชนะท่ีเก็บน้ัน ต้องสร้ำง ด้วยวสั ดุทนไฟทมี่ ฝี ำปิดมิดชิด และเก็บไวใ้ หห้ ่ำงไกลจำกแหล่งควำมร้อน (๒) กำรเก็บเซลลูลอยด์หรอื ของแข็งทต่ี ิดไฟได้ง่ำย ต้องจัดให้มีมำตรกำรป้องกันกำรลุกไหม้ จำกแหล่งควำมร้อนหรือกำรผสมกบั อำกำศท่ีจะก่อใหเ้ กดิ กำรลุกไหม้ได้ ในกำรเก็บถ่ำนหิน ผงแร่ที่ลุกไหม้ได้ง่ำย เซลลูลอยด์ หรือของแข็งที่ติดไฟได้ง่ำยตำม (๑) และ (๒) หำกมีควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดระเบิดฝุ่น ต้องจัดให้มีมำตรกำรป้องกันและลดควำมรุนแรง ของผลกระทบจำกกำรเกดิ ระเบดิ ฝุ่นด้วย” ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๔ สงิ หำคม พ.ศ. ๒๕๖๑ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสงิ แกว้ รฐั มนตรีว่ำกำรกระทรวงแรงงำน
16 เล่ม ๑๓๕ ตอนท่ี ๖๔ ก หน้า ๓ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๑ ราชกจิ จานเุ บกษา หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจำกกฎกระทรวงกำหนดมำตรฐำน ในกำรบริหำร จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำน เก่ียวกับกำรป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ในส่วนท่ีเกี่ยวกับกำรกำหนดขนำดของตัวอักษรของ ป้ำยบอกทำงหนีไฟและมำตรกำรปอ้ งกันอันตรำยจำกถ่ำนหิน ผงแร่ที่ลุกไหม้ได้ง่ำย เซลลูลอยด์ หรือของแข็ง ที่ติดไฟได้ง่ำย ยังไมม่ คี วำมเหมำะสม สมควรแก้ไขปรับปรงุ หลกั เกณฑ์ในเร่ืองดังกล่ำว เพอื่ ใหน้ ำยจ้ำงสำมำรถ บริหำร จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนเก่ียวกับ กำรปอ้ งกันและระงบั อัคคีภยั ได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพยงิ่ ขึ้น จึงจำเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงนี้
17
18 เลม่ ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๓๒ ง หน้า ๑๒ ๑๑ มนี าคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน เร่อื ง กําหนดแบบรายงานผลการฝึกซ้อมดับเพลงิ และฝึกซอ้ มอพยพหนีไฟ โดยท่ีกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทาํ งานเก่ียวกบั การป้องกนั และระงบั อัคคภี ยั พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๓๐ กําหนดให้นายจ้างจดั ใหล้ กู จา้ งทุกคนฝกึ ซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนไี ฟพร้อมกันอยา่ งนอ้ ยปลี ะหนึ่งคร้ัง โดยใหน้ ายจา้ งจัดทาํ รายงานผลการฝกึ ซ้อมดับเพลงิ และฝึกซอ้ มอพยพหนไี ฟตามแบบทอ่ี ธบิ ดีกาํ หนด อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๓๐ วรรคสาม แห่งกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาํ เนนิ การด้านความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเก่ียวกับการป้องกัน และระงับอัคคีภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ อันเป็นกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิ และเสรภี าพของบคุ คล ซึง่ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัตใิ ห้กระทาํ ได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย อธิบดีกรมสวัสดิการ และคุม้ ครองแรงงานออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ประกาศน้ีให้ใช้บงั คบั ตงั้ แตว่ ันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป ขอ้ ๒ การรายงานผลการฝกึ ซ้อมดบั เพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟให้เป็นไปตามแบบรายงาน ผลการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝกึ ซอ้ มอพยพหนีไฟ ท้ายประกาศน้ี ประกาศ ณ วันท่ี ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ปกรณ์ อมรชีวนิ อธบิ ดีกรมสวัสดกิ ารและคุม้ ครองแรงงาน
19 แบบรายงานผลการฝกึ ซ้อมดบั เพลงิ และฝึกซอ้ มอพยพหนีไฟ ๑. ข้อมลู สถานประกอบกิจการ ๑.๑ ชอื่ สถานประกอบกิจการ..................................(สาขา)..................................................................... ประเภทกจิ การ.............................................................................................................................. ท่อี ยู่ เลขท.่ี ..................................หมทู่ ี่...................ซอย.......................ถนน.................................. แขวง/ตําบล...............................................................เขต/อําเภอ.................................................. จังหวดั ................................................รหัสไปรษณยี .์ .....................โทรศพั ท์.................................. ๑.๒ จํานวนลูกจา้ ง/พนกั งาน/ผู้ทเ่ี กีย่ วข้อง รวม....................คน ๑.๓ ลกั ษณะทีต่ ้งั ของสถานประกอบกจิ การ O เปน็ สถานทที่ มี่ หี ลายสถานประกอบกจิ การตงั้ อยรู่ วมกนั ระบชุ ือ่ อาคาร/สถานท.ี่ ................................................................................................ O เปน็ สถานประกอบกิจการเดี่ยว (ข้ามไปตอบขอ้ ๒) ๑.๔ กรณเี ป็นสถานทีท่ มี่ หี ลายสถานประกอบกจิ การต้ังอยรู่ วมกนั O ลูกจ้างทท่ี ํางานอยภู่ ายในอาคารเดียวกนั และในวันและเวลาเดยี วกันของนายจ้างทุกรายในสถานทน่ี น้ั ทาํ การฝึกซอ้ มพร้อมกัน O ลกู จา้ งที่ทาํ งาน ภายในอาคารเดียวกัน และในวันและเวลาเดียวกันของนายจ้างทุกรายในสถานท่ีนั้น ไมไ่ ด้ทําการฝกึ ซ้อมพรอ้ มกนั ๒. รายงานผลการดําเนนิ การ ๒.๑ วัน/เดือน/ปี ท่ีทาํ การฝกึ ซอ้ ม........................................................................................................ ๒.๒ มีการฝกึ ซอ้ มครงั้ ทผ่ี า่ นมา เม่ือ (วัน/เดอื น/ปี ) ............................................................................. ๒.๓ จาํ นวนผู้ทเี่ ข้ารว่ มในการฝกึ ซอ้ ม........................คน ๒.๔ ผลการดําเนนิ งานการฝกึ ซอ้ มดับเพลงิ และฝกึ ซ้อมอพยพหนไี ฟ O ไม่ดี O พอใช้ O ดี O ดมี าก ๓. ดําเนินการฝกึ ซ้อมโดย O ไดร้ บั ความเห็นชอบแผนและรายละเอียดการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟจากอธิบดี หรือผู้ซงึ่ อธบิ ดีมอบหมาย ตามหนงั สอื ..............................เลขท.ี่ ..................ลงวนั ที่......................................... โดยไดแ้ นบเอกสารใหค้ วามเห็นชอบมาด้วยแลว้ O ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานดําเนินการฝึกซ้อมให้ คือ ................................ เลขท่ใี บอนุญาต........................... โดยได้แนบสําเนาใบอนุญาตและหนังสือรับรอง แสดงการฝึกซ้อมฯ มาดว้ ยแลว้ ลงชือ่ ......................................................นายจา้ ง (......................................................) วนั ท่ี ..................................................................
เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หน้า ๙ 20 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ กฎกระทรวง กาํ หนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาํ เนินการดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกีย่ วกับสารเคมีอนั ตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๘ วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อันเป็นกฎหมายที่มี บทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัย อาํ นาจตามบทบัญญัตแิ ห่งกฎหมาย รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ในกฎกระทรวงนี้ “สารเคมีอันตราย” หมายความว่า ธาตุ สารประกอบ หรือสารผสม ตามบัญชีรายช่ือ ทอ่ี ธิบดีประกาศกําหนด ซ่ึงมีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเส้นใย ฝุ่น ละออง ไอ หรอื ฟูม ทม่ี ีคุณสมบัติอยา่ งหนึ่งอยา่ งใดหรอื หลายอย่างรวมกัน ดังตอ่ ไปนี้ (๑) มีพิษ กัดกร่อน ระคายเคือง ซึ่งอาจทําให้เกิดอาการแพ้ การก่อมะเร็ง การเปล่ียนแปลง ทางพันธกุ รรม เปน็ อันตรายตอ่ ทารกในครรภห์ รือสขุ ภาพอนามัย หรอื ทําใหถ้ ึงแกค่ วามตาย (๒) เป็นตัวทําปฏิกิริยาที่รุนแรง เป็นตัวเพิ่มออกซิเจนหรือไวไฟ ซ่ึงอาจทําให้เกิดการระเบิด หรือไฟไหม้ “ขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย” หมายความว่า ระดับความเข้มข้นของสารเคมี อันตรายที่กําหนดให้มีอยู่ได้ในบรรยากาศแวดล้อมในการทํางานท่ีลูกจ้างซึ่งมีสุขภาพปกติสามารถสัมผัส หรือไดร้ บั เขา้ สรู่ ่างกายไดท้ ุกวันตลอดเวลาท่ีทํางานโดยไม่เปน็ อนั ตรายตอ่ สุขภาพ “การทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย” หมายความว่า การกระทําใด ๆ ซ่ึงอาจทําให้ลูกจ้าง ได้รับสารเคมีอันตราย เช่น การผลิต การติดฉลาก การห่อหุ้ม การเคลื่อนย้าย การเก็บรักษา การถ่ายเท การขนถ่าย การขนสง่ การกําจัด การทําลาย การเก็บสารเคมีอันตรายท่ีไม่ใช้แล้ว รวมทั้ง
21 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หนา้ ๑๐ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา การบํารุงรักษา การซ่อมแซม และการทําความสะอาดเคร่ืองมือ เครื่องใช้ ตลอดจนภาชนะบรรจุ สารเคมอี นั ตราย “ผลติ ” หมายความวา่ ทํา ผสม ปรุง ปรงุ แต่ง เปล่ยี นรปู แปรสภาพ และหมายความรวมถึง การบรรจุ และแบง่ บรรจุ “ครอบครอง” หมายความว่า การมีไว้เพื่อตนเองหรือผู้อ่ืนไม่ว่าจะมีไว้เพื่อขาย ขนส่ง ใช้ หรอื เพอื่ ประการอนื่ ใด และรวมถงึ การท้ิงไว้ หรอื ปรากฏอยใู่ นบรเิ วณท่คี รอบครองด้วย “ก๊าซ” หมายความว่า ของไหลมีปริมาตรหรือรูปทรงไม่แน่นอนที่สามารถฟุ้งกระจายและ เปล่ยี นสภาพเป็นของเหลวหรอื ของแขง็ ได้ โดยการเพิ่มความดนั หรือลดอุณหภูมิ “เส้นใย” หมายความว่า สารที่มีลักษณะเรียวยาวคล้ายเส้นด้าย มีต้นกําเนิดจากแร่ พืช สัตว์ หรอื ใยสงั เคราะห์ “ฝุน่ ” หมายความว่า อนุภาคของของแขง็ ที่สามารถฟ้งุ กระจาย ปลวิ หรือลอยอย่ใู นอากาศได้ “ละออง” หมายความว่า อนุภาคของของเหลวที่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้ “ไอ” หมายความวา่ กา๊ ซทเี่ กดิ ขน้ึ จากของเหลวหรือของแขง็ ในสภาวะปกติ “ฟูม” หมายความว่า อนุภาคของของแข็งท่ีเกิดจากการรวมตัวของไอสามารถลอยตัวอยู่ใน อากาศได้ หมวด ๑ ข้อมูลความปลอดภยั ของสารเคมอี ันตราย ขอ้ ๒ ให้นายจ้างท่ีมีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครองจัดทําบัญชีรายช่ือสารเคมีอันตราย และรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตรายตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนด พร้อมทั้ง แจ้งต่ออธบิ ดหี รือผู้ซงึ่ อธิบดีมอบหมายภายในเจด็ วันนบั แต่วันทีม่ ีสารเคมอี นั ตรายอยใู่ นครอบครอง ภายในเดือนมกราคมของทุกปี ให้นายจ้างแจ้งบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย และรายละเอียด ขอ้ มลู ความปลอดภยั ของสารเคมอี ันตรายทต่ี นมีอยู่ในครอบครองต่ออธบิ ดี หรอื ผู้ซึ่งอธิบดมี อบหมายดว้ ย ขอ้ ๓ ให้นายจ้างแจ้งให้ลูกจ้างทราบและอธิบายให้ลูกจ้างเข้าใจข้อมูลความปลอดภัยของ สารเคมีอันตรายท่ีอยู่ในครอบครองของนายจ้าง ข้อความและเครื่องหมายต่าง ๆ ที่ปรากฏในเอกสาร คมู่ อื ฉลาก ป้าย หรอื ข่าวสารทเี่ กีย่ วข้อง รวมท้ังขอ้ มลู ต่าง ๆ ตามท่ีได้กําหนดไว้ในกฎกระทรวงน้ี ข้อ ๔ ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างท่ีทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายทราบและเข้าใจวิธีการใน การทํางานที่ถูกต้องและปลอดภัย รวมท้ังต้องจัดให้มีมาตรการควบคุมลูกจ้างให้ปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าว ในการนี้ให้นายจ้างจัดทําคู่มือเกี่ยวกับแนวปฏิบัติและข้ันตอนในการทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย คําแนะนําลูกจ้างเก่ียวกับการป้องกันอันตราย ความหมายของข้อมูลท่ีมีบนฉลากและเอกสารข้อมูล ความปลอดภัยของสารเคมอี ันตราย
22 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หน้า ๑๑ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๕ ลูกจ้างต้องปฏิบัติตามวิธีการทํางานท่ีถูกต้องและปลอดภัยตามคู่มือการปฏิบัติงาน ท่ีนายจ้างจัดทําข้ึนตามข้อ ๔ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย ลูกจ้างต้องบรรเทาเหตุ และแจง้ ใหห้ ัวหน้างานทราบทันที หมวด ๒ ฉลากและปา้ ย ข้อ ๖ ให้นายจ้างจัดให้มีการปิดฉลากที่เป็นภาษาไทยมีขนาดใหญ่พอสมควร อ่านง่าย คงทน ไว้ที่หีบห่อบรรจุภัณฑ์ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตราย และฉลากน้ันอย่างน้อย ตอ้ งมรี ายละเอียดเก่ียวกบั รายการ ดังต่อไปนี้ (๑) ชอื่ ผลิตภณั ฑ์ (product name) (๒) ชอื่ สารเคมีอนั ตราย (hazardous substances) (๓) รูปสัญลกั ษณ์ (pictograms) (๔) คําสัญญาณ (signal words) (๕) ขอ้ ความแสดงอนั ตราย (hazard statements) (๖) ข้อควรระวังหรือขอ้ ปฏบิ ัตเิ พื่อปอ้ งกนั อนั ตราย (precautionary statements) ในกรณที ไี่ ม่สามารถปดิ ฉลากตามวรรคหนึง่ ได้เนือ่ งจากขนาดหรือลักษณะของหีบห่อบรรจุภัณฑ์ ภาชนะบรรจุ หรือวสั ดหุ ่อหมุ้ สารเคมีอันตราย ให้นายจ้างกาํ หนดวธิ ีการท่มี ีประสิทธิภาพเพื่อแสดงให้ลูกจ้าง ได้รถู้ งึ รายละเอยี ดของสารเคมีอนั ตรายตามวรรคหน่ึง ณ บรเิ วณที่มกี ารทํางานเกย่ี วกบั สารเคมอี ันตรายนั้น ขอ้ ๗ ให้นายจ้างจัดให้มีป้ายห้าม ป้ายให้ปฏิบัติ หรือป้ายเตือน ในการทํางานเก่ียวกับ สารเคมอี นั ตรายไว้ในท่เี ปดิ เผยเหน็ ได้ชัดเจน ณ สถานท่ที ํางานของลกู จ้าง ขอ้ ๘ ในกรณีที่อธิบดีประกาศให้สารเคมีอันตรายใดต้องควบคุมเป็นพิเศษ ให้นายจ้าง ปิดประกาศหรือจัดทําป้ายแจ้งข้อความเก่ียวกับอันตรายและมาตรการป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดจาก สารเคมีอันตรายดงั กลา่ ว ข้อ ๙ ใหน้ ายจ้างปิดประกาศหรือจดั ทําปา้ ยแจง้ ข้อความ “ห้ามสูบบุหรี่ รับประทานอาหาร หรือเครื่องด่ืม ประกอบอาหาร หรือเก็บอาหาร” ด้วยตัวอักษรขนาดที่เห็นได้ชัดเจนไว้ ณ บริเวณ สถานที่ทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย สถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย หรือในยานพาหนะขนส่ง สารเคมีอนั ตราย และจะตอ้ งควบคุมดแู ลมใิ หม้ กี ารฝา่ ฝืนขอ้ หา้ มดงั กล่าว หมวด ๓ การคุ้มครองความปลอดภัย ขอ้ ๑๐ ในบริเวณท่ีลูกจ้างทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย ให้นายจ้างจัดให้มีสภาพและคุณลักษณะ ดังตอ่ ไปน้ี
23 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หนา้ ๑๒ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา (๑) ถูกสุขลักษณะ สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นที่ปฏิบัติงานต้องเรียบ สมํ่าเสมอ ไม่ล่ืน และไม่มีวสั ดเุ กะกะกีดขวางทางเดนิ (๒) มีระบบระบายอากาศแบบท่ัวไป หรือแบบท่ีทําให้สารเคมีอันตรายเจือจาง หรือแบบท่ีมี เครื่องดูดอากาศเฉพาะที่ ท่ีเหมาะสมกับประเภทของสารเคมีอันตราย โดยให้มีออกซิเจนในบรรยากาศ ไมต่ า่ํ กวา่ รอ้ ยละสบิ เกา้ จุดหา้ โดยปรมิ าตร (๓) มีระบบป้องกันและกําจัดอากาศเสียโดยใช้ระบบระบายอากาศเฉพาะท่ี ระบบเปียก การปิดคลุม หรือระบบอื่น เพ่ือมิให้มีสารเคมีอันตรายในบรรยากาศเกินปริมาณท่ีกําหนด และป้องกัน มิใหอ้ ากาศท่รี ะบายออกไปเป็นอนั ตรายตอ่ ผู้อื่น ขอ้ ๑๑ ในบริเวณท่ีลูกจ้างทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย ให้นายจ้างจัดให้มีสถานท่ีและอุปกรณ์ เพ่อื คุม้ ครองความปลอดภยั ตามรายการ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ที่ชําระล้างสารเคมีอันตรายที่ลูกจ้างสามารถใช้ได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน อย่างน้อยต้องมี ท่ลี ้างตาและฝกั บวั ชําระลา้ งร่างกายจากสารเคมอี ันตราย (๒) ท่ลี ้างมอื และล้างหน้า ไม่น้อยกว่าหนึ่งที่ต่อลูกจ้างสิบห้าคนและให้เพิ่มจํานวนข้ึนตามสัดส่วน ของลูกจา้ ง ส่วนทเี่ กนิ เจ็ดคนใหถ้ อื เป็นสิบหา้ คน (๓) หอ้ งอาบนํ้าเพ่อื ใช้ชาํ ระลา้ งร่างกายไม่น้อยกวา่ หนึ่งห้องตอ่ ลูกจา้ งสิบห้าคนและใหเ้ พมิ่ จาํ นวนข้ึน ตามสัดส่วนของลูกจ้าง ส่วนท่ีเกินเจ็ดคนให้ถือเป็นสิบห้าคน ท้ังนี้ จะต้องจัดของใช้ที่จําเป็นสําหรับ การชาํ ระล้างสารเคมอี ันตรายออกจากร่างกายให้เพยี งพอและใช้ไดต้ ลอดเวลา (๔) อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ท่ีจําเป็นสําหรับการปฐมพยาบาลลูกจ้างท่ีได้รับอันตรายจากสารเคมี อนั ตราย (๕) อุปกรณ์ดับเพลิงท่ีเหมาะสมกับสารเคมีอันตรายแต่ละชนิด และเพียงพอสําหรับการผจญเพลิง เบือ้ งตน้ (๖) ชุดทํางานเฉพาะสําหรับลูกจ้างซ่ึงทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย และท่ีเก็บชุดทํางาน ทใ่ี ชแ้ ลว้ ดังกลา่ วใหเ้ หมาะสมกับสารเคมีอันตรายประเภทน้นั ข้อ ๑๒ ให้นายจ้างจัดอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตามลักษณะอันตรายและ ความรุนแรงของสารเคมีอันตราย หรือลักษณะของงาน ให้ลูกจ้างใช้หรือสวมใส่เพ่ือป้องกันอันตราย ท่ีอาจจะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของลกู จ้าง ข้อ ๑๓ ใหล้ ูกจ้างซ่งึ ทํางานเกย่ี วกับสารเคมอี นั ตรายใชห้ รือสวมใสอ่ ปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัย ส่วนบุคคลตามข้อ ๑๒ ในกรณีที่ลูกจ้างไม่ใช้หรือไม่สวมใส่อุปกรณ์นั้น ให้นายจ้างส่ังลูกจ้าง หยดุ การทาํ งานทนั ที จนกวา่ ลูกจ้างจะได้ใชห้ รือสวมใส่อปุ กรณ์ดงั กล่าว ข้อ ๑๔ นายจ้างต้องดูแลสถานท่ีทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายและตรวจสอบอุปกรณ์ ค้มุ ครองความปลอดภยั ทจ่ี ดั ไว้ ให้สามารถใช้งานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและปลอดภยั ตลอดเวลา
24 เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หน้า ๑๓ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๑๕ ห้ามนายจ้างยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ลูกจ้างหรือบุคคลใดเข้าพักอาศัย หรือ พักผ่อนในสถานท่ีทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย สถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย หรือในยานพาหนะ ขนสง่ สารเคมีอนั ตราย ขอ้ ๑๖ ในกรณีท่ีมีการร้องเรียนหรือมีปัญหาด้านความไม่ปลอดภัยในการทํางานเกี่ยวกับ สารเคมีอันตราย ให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครองดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและ หากพบว่ามีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในการทํางานหรือสุขภาพอนามัย ให้ดําเนินการแก้ไขให้เกิด ความปลอดภัยโดยไม่ชกั ช้า หมวด ๔ การเกบ็ รักษา การบรรจุ และการถ่ายเทสารเคมอี ันตราย ข้อ ๑๗ ให้นายจ้างจัดสถานทีเ่ ก็บรกั ษาสารเคมอี ันตรายใหม้ ีสภาพและคณุ ลักษณะ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ต้องสามารถทนไฟได้ไม่น้อยกว่าหกสิบนาที เว้นแต่ในกรณีที่เป็นสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมี อันตรายท่ีมีคุณสมบัติเป็นตัวทําปฏิกิริยาที่รุนแรง เป็นตัวเพ่ิมออกซิเจน หรือไวไฟซ่ึงอาจทําให้เกิด การระเบิดหรือไฟไหม้ต้องสามารถทนไฟได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบนาที หรือไม่น้อยกว่าเก้าสิบนาที หากสถานท่ีดงั กลา่ วมีระบบนาํ้ ดับเพลิงอัตโนมตั ิ (๒) มีพื้นเรียบ ไม่ขรุขระ ไม่เปียก ไม่ลื่น สามารถรับน้ําหนักได้ และไม่ดูดซับสารเคมีอันตราย รวมทงั้ ตอ้ งดแู ลปรบั ปรุงสถานท่ีมิให้ชํารุด ผุ กร่อน และรักษาความสะอาดพ้ืนมิให้มีเศษขยะ เศษวัสดุ หรือสงิ่ ที่เป็นเชอ้ื เพลิง (๓) มรี ะยะห่างจากอาคารทล่ี กู จ้างทาํ งานในระยะทป่ี ลอดภยั ตามท่ีอธิบดปี ระกาศกําหนด (๔) มีทางเดินภายในและภายนอกกว้างเพียงพอท่ีจะนําเครื่องมือและอุปกรณ์ดับเพลิงมาใช้ได้ อย่างสะดวก ไม่มสี ่ิงกดี ขวาง และใหม้ ีมาตรการเพ่ือใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ตลอดทาง (๕) มีทางเข้าออกสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตรายไม่น้อยกว่าสองทาง ใช้ประตูทนไฟและ เปน็ ชนิดเปดิ ออกสภู่ ายนอก และปดิ กญุ แจหอ้ งทุกครัง้ เมอ่ื ไมม่ กี ารปฏบิ ัตงิ าน (๖) มีระบบระบายอากาศท่ีเหมาะสม และเกิดความปลอดภัยแก่ลูกจ้างที่ปฏิบัติงานและ จดั การป้องกนั มใิ ห้อากาศทีร่ ะบายออกเป็นอนั ตรายแก่ผู้อ่นื (๗) มีการป้องกันสาเหตุท่ีอาจทําให้เกิดอัคคีภัยในบริเวณสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย เชน่ ประกายไฟ เปลวไฟ อปุ กรณ์ไฟฟา้ การเสยี ดสี ทอ่ ร้อน การลุกไหม้ได้เอง เป็นต้น (๘) จัดทําเข่ือน กําแพง ทํานบ ผนัง หรือส่ิงอ่ืนใดท่ีมีลักษณะคล้ายกัน เพ่ือกักมิให้สารเคมี อันตรายที่เป็นของเหลว ไหลออกภายนอกบริเวณสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย และมีรางระบาย สารเคมีอันตรายท่ีร่ัวไหลไปยังท่ีท่ีสามารถรวบรวมเพื่อนําไปกําจัดอย่างปลอดภัย เพื่อไม่ให้มีการสะสมตกค้าง โดยรางระบายตอ้ งแยกจากระบบระบายน้ํา (๙) จดั ทําร้ัวล้อมรอบสถานทเ่ี กบ็ รกั ษาสารเคมอี ันตรายท่ีอยู่นอกอาคาร
25 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หน้า ๑๔ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา (๑๐) มีป้ายข้อความว่า “สถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ปดิ ประกาศไวท้ ท่ี างเข้าสถานที่นัน้ ใหเ้ ห็นได้ชัดเจนตลอดเวลา (๑๑) มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ท่ีแสดงถึงอันตรายของสารเคมีอันตรายให้เห็นได้ชัดเจน ตลอดเวลา (๑๒) มีแผนผังแสดงที่ตั้งของอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์ผจญเพลิง อุปกรณ์ท่ีใช้ในกรณีฉุกเฉิน ตดิ ไวบ้ ริเวณทางเข้าออกให้เหน็ ได้ชัดเจนตลอดเวลา ขอ้ ๑๘ ให้นายจ้างจัดให้มีมาตรการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากสารเคมีอันตรายในบริเวณ สถานทีเ่ กบ็ รักษาสารเคมีอนั ตราย รวมท้ังมาตรการเบอ้ื งต้นในการแก้ไขเยียวยาอนั ตรายทเี่ กิดขึน้ ข้อ ๑๙ การจดั เกบ็ สารเคมีอนั ตรายให้นายจา้ งปฏิบตั ิ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) เกบ็ รกั ษาสารเคมอี ันตรายตามมาตรฐานการเกบ็ รักษาทีอ่ ธิบดีประกาศกําหนด (๒) จัดทําบัญชรี ายชอ่ื ปริมาณสารเคมีอันตรายทุกชนิดท่ีจัดเก็บในสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย แต่ละแห่งอย่างนอ้ ยปีละหนึ่งครั้งตามปปี ฏทิ ิน (๓) ระมัดระวงั มิใหห้ ีบหอ่ ภาชนะบรรจุ หรือวสั ดุห่อห้มุ สารเคมอี นั ตรายชํารุดหรือพังทลาย (๔) มีมาตรการป้องกันความเสียหายหรืออันตรายที่เกิดจากการขุดเจาะ หรือมีเคร่ืองหมาย แสดงตาํ แหนง่ จัดเก็บให้เห็นชัดเจนในกรณที ี่เกบ็ สารเคมอี นั ตรายไวใ้ ตด้ ิน ข้อ ๒๐ ให้นายจ้างดําเนินการเกี่ยวกับหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตราย ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ใช้วัสดุท่ีแข็งแรง ไม่ชํารุด ผุ กร่อน และสามารถเคลื่อนย้ายหรือขนส่งได้ด้วยความปลอดภัย สามารถรองรับความดันของสารเคมีอันตรายได้ในสภาพการใช้งานปกติ มีอุปกรณ์นิรภัยเพ่ือระบายความดัน ให้อยใู่ นระดบั ที่ปลอดภยั ไดใ้ นกรณีเกดิ ความดันผิดปกติ (๒) ตรวจสอบ และบํารุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัยตลอดเวลา หากพบว่ามี สารเคมอี ันตรายร่ัวไหล หรือคาดว่าจะร่ัวไหลออกมา ต้องทําการแยกเก็บไว้ต่างหากในที่ท่ีปลอดภัยและ ทาํ ความสะอาดส่งิ รั่วไหลโดยเร็ว รวมท้ังทาํ การซ่อมแซมหรอื เปล่ยี นให้อย่ใู นสภาพทปี่ ลอดภยั (๓) บรรจสุ ารเคมอี นั ตรายไม่เกินพิกดั ที่กําหนดไว้สาํ หรับภาชนะน้ัน (๔) มีมาตรการป้องกันไม่ให้ยานพาหนะหรือส่ิงอื่นใดชน หรือกระแทกหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรอื วสั ดุหอ่ หุ้มท่มี ีสารเคมีอันตรายบรรจอุ ยู่ (๕) ควบคุมดูแลหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มที่มีสารเคมีอันตรายบรรจุมิให้เปิดทิ้งไว้ เว้นแตเ่ พือ่ การตรวจสอบหรอื ใช้ประโยชน์ ข้อ ๒๑ การบรรจสุ ารเคมีอนั ตรายทมี่ ีคุณสมบตั ไิ วไฟหรือระเบดิ ได้ ต้องห่างจากแหล่งความร้อน และแหล่งที่ก่อให้เกิดประกายไฟในระยะท่ีปลอดภัย หากสารเคมีอันตรายท่ีบรรจุอยู่ในภาชนะหรือวัสดุ ห่อหุ้มทําให้ผิวภายนอกของภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตรายน้ันมีความร้อนต้องมีฉนวน หมุ้ โดยรอบ ในกรณที ่ไี มส่ ามารถทําฉนวนหุ้มโดยรอบได้ ใหจ้ ัดทาํ ปา้ ยเตือน
26 เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หนา้ ๑๕ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา การต่อท่อหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับภาชนะบรรจุ หากมีลิ้นปิดเปิด ต้องจัดให้อยู่ในตําแหน่ง ที่ผู้ปฏบิ ัติงานสามารถปดิ เปดิ ไดอ้ ย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉนิ ขอ้ ๒๒ การถา่ ยเทสารเคมีอันตรายไปยังภาชนะหรอื เคร่ืองมืออนื่ นายจ้างตอ้ งติดชอ่ื สารเคมีอันตราย และสญั ลักษณเ์ กี่ยวกบั ความปลอดภยั บนภาชนะหรือเครื่องมือท่ีบรรจุใหม่ดว้ ย ข้อ ๒๓ นายจา้ งตอ้ งเก็บหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรอื วสั ดหุ อ่ หมุ้ สารเคมีอันตรายที่ใช้แล้วซ่ึงปนเป้ือน และยังมไิ ดก้ าํ จัด ให้อยู่ในที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับชนิดของสารเคมอี นั ตราย หมวด ๕ การขนถ่าย การเคล่อื นยา้ ย หรอื การขนส่ง ข้อ ๒๔ ให้นายจ้างปฏิบัติเกี่ยวกับการขนถ่าย เคล่ือนย้าย หรือขนส่งสารเคมีอันตราย ดงั ต่อไปนี้ (๑) มีมาตรการป้องกันการฟุ้งกระจายรวมท้ังการกระเด็น หก ล้น ร่ัว ไหล หรือตกหล่น ของสารเคมีอนั ตราย (๒) ตรวจสอบความพร้อมของลูกจ้างที่ขับยานพาหนะ และยานพาหนะท่ีใช้ในการขนถ่าย เคล่ือนย้าย หรือขนส่งสารเคมีอันตรายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่จะปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย และตอ้ งปฏิบตั ติ ามกฎหมายท่เี ก่ียวข้องด้วย (๓) จัดให้มีคู่มือหรือข้อปฏิบัติในการแก้ไขปัญหากรณีฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัยเป็นภาษาไทย เก็บไว้ในยานพาหนะ พร้อมที่จะนําไปใช้ได้ทันที และจัดให้มีการฝึกอบรมและฝึกซ้อมวิธีการแก้ไขปัญหา เม่ือเกิดเหตุฉุกเฉินแก่ลูกจ้างอย่างน้อยปีละหนึ่งคร้ัง และบันทึกไว้เป็นหนังสือ พร้อมที่จะให้พนักงาน ตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบได้ (๔) จัดให้มีเคร่ืองดับเพลิงชนิดเคลื่อนย้ายได้ที่มีคุณสมบัติสามารถดับเพลิงจากสารเคมีอันตราย ตามความเหมาะสม และจัดให้มีหน้ากากป้องกันสารเคมีอันตรายหรือเครื่องช่วยหายใจตามความจําเป็นของ ชนดิ สารเคมีอันตราย ติดไว้ในยานพาหนะทบ่ี รรทกุ สารเคมอี นั ตรายอย่างเพยี งพอพรอ้ มท่จี ะใช้ไดท้ ันที (๕) หบี หอ่ ภาชนะบรรจุ หรือวสั ดุห่อหุม้ สารเคมีอันตรายที่บรรทุกในยานพาหนะต้องยึดแน่นกับ ฐานรองรับและยานพาหนะเพ่ือมใิ หเ้ คลอื่ นท่หี รือลอยตัวได้ ฐานรองรบั และยานพาหนะต้องมีความมั่นคง แข็งแรงเพียงพอท่ีจะรับนํ้าหนักของหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มรวมกับน้ําหนักของสารเคมีอันตราย ในอัตราสูงสดุ ไม่เกนิ น้ําหนักที่จะบรรทกุ ได้ (๖) ห้ามบรรทุกสารเคมีอันตรายท่ีอาจเกิดปฏิกิริยาต่อกันไว้รวมกันในยานพาหนะ เว้นแต่ได้จัด ให้มมี าตรการขนส่งทีป่ ลอดภยั ตามกฎหมายอ่นื ท่เี กย่ี วข้อง หรือตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกําหนด ขอ้ ๒๕ ในการส่งสารเคมอี นั ตรายโดยใช้ทอ่ ใหน้ ายจ้างปฏิบตั ิ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ใชท้ ่อและข้อตอ่ ที่แขง็ แรง ไมช่ ํารดุ ผุ กร่อน หรือรั่ว
27 เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หน้า ๑๖ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา (๒) ตรวจสอบและบํารุงรักษาท่อและข้อต่อท่ีใช้ในการส่งสารเคมีอันตรายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมใชง้ านไดอ้ ยา่ งปลอดภัยตลอดเวลา (๓) ติดตั้งหรือวางท่อในลักษณะท่ีมีการป้องกันท่ีจะไม่ทําให้เกิดการชํารุดเสียหายอันเนื่องจาก การชน การทับ หรอื การกระแทก จากยานพาหนะหรือส่งิ อืน่ ใด (๔) การวางท่อใต้ดินหรือใต้นํ้า ต้องใช้ท่อหรือข้อต่อประเภทที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและ ตอ้ งมเี ครอื่ งหมายแสดงตาํ แหน่งของทอ่ เปน็ ระยะตลอดแนวให้เหน็ ไดโ้ ดยชดั เจน (๕) การส่งสารเคมีอันตรายต่างชนิดกัน ต้องใช้ท่อท่ีมีสีหรือทาสีต่างกัน และทําเครื่องหมาย แสดงความแตกตา่ งใหเ้ หน็ ได้ชัดเจน (๖) การส่งสารเคมีอันตรายที่มีความร้อนทําให้ผิวภายนอกท่อมีอุณหภูมิสูงข้ึน ต้องมีฉนวนกัน ความรอ้ นหมุ้ ท่อไวด้ ว้ ย (๗) การส่งสารเคมีอันตรายที่มีคุณสมบัติไวไฟหรือระเบิดได้ ต้องวางท่อส่งให้มีระยะห่าง ท่เี พียงพอและปลอดภยั จากแหลง่ ความรอ้ นหรอื แหลง่ ทีก่ อ่ ใหเ้ กิดประกายไฟ และใหต้ ่อสายดนิ ทีท่ อ่ นน้ั ดว้ ย หมวด ๖ การจัดการและการกําจัด ข้อ ๒๖ ให้นายจ้างทําความสะอาดหรือกําจัดสารเคมีอันตรายที่หก ร่ัวไหล หรือไม่ใช้แล้ว โดยวิธที ก่ี ําหนดในข้อมลู ความปลอดภยั ตามชนดิ ของสารเคมอี นั ตรายนน้ั การกําจัดกากสารเคมีอันตรายหรือสารเคมีอันตรายที่เสื่อมสภาพ อาจกําจัดโดยการเผา ฝัง หรือใช้สารเคมี ดว้ ยวิธีการท่ปี ลอดภัยตามหลักวิชาการ และเป็นไปตามกฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ข้อ ๒๗ ให้นายจ้างปฏิบตั ติ ่อหีบหอ่ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตรายท่ีปนเปื้อน และไม่ต้องการใชแ้ ล้ว ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ไมใ่ ชบ้ รรจุสงิ่ ของอนื่ และควบคุมดแู ลลูกจา้ งมิให้นาํ ไปใช้บรรจุสิ่งของอ่นื ด้วย (๒) เก็บรวบรวมไว้ในภาชนะหรือในทที่ ่ปี ลอดภยั นอกบริเวณท่ีลกู จา้ งทํางาน (๓) กําจัดโดยวิธีการที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับชนิดของสารเคมีอันตรายและเป็นไปตาม กฎหมายที่เกยี่ วข้อง หมวด ๗ การควบคุมระดบั ความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ขอ้ ๒๘ ใหน้ ายจ้างจัดให้มีระบบป้องกันและควบคุม เพ่ือมิให้มีระดับความเข้มข้นของสารเคมี อันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทํางานและสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตรายเกินขีดจํากัดความเข้มข้น ของสารเคมีอนั ตรายตามทอ่ี ธิบดีประกาศกําหนด
28 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หนา้ ๑๗ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๒๙ ให้นายจ้างจัดให้มีการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ในบรรยากาศของสถานท่ีทํางานและสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย และส่งรายงานผลการตรวจวัด ใหแ้ กอ่ ธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดมี อบหมายภายในสบิ ห้าวันนบั แต่วนั ท่ีทราบผลการตรวจวัด หลกั เกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ตามวรรคหนึง่ ให้เป็นไปตามที่อธบิ ดปี ระกาศกาํ หนด ในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถดําเนินการตามวรรคสองได้เอง จะต้องให้ผู้ขึ้นทะเบียนหรือได้รับ ใบอนญุ าตจากกรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน แลว้ แต่กรณี เป็นผ้ดู าํ เนนิ การให้ ข้อ ๓๐ ในกรณีที่ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานท่ีทํางานหรือ สถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตรายมีระดับเกินขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายตามท่ีอธิบดี ประกาศกําหนดตามข้อ ๒๘ ให้นายจ้างใช้มาตรการกําจัดหรือควบคุมสารเคมีอันตรายทางวิศวกรรม และการบริหารจัดการสภาพแวดล้อม เพื่อลดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายมิให้เกินขีดจํากัด ดงั กลา่ ว และตอ้ งมมี าตรการป้องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คลด้วยวธิ กี ารท่เี หมาะสม หมวด ๘ การดูแลสขุ ภาพอนามยั ขอ้ ๓๑ ให้นายจ้างจัดให้มีการประเมินความเส่ียงต่อสุขภาพของลูกจ้างในกรณีท่ีมีการใช้ สารเคมีอันตรายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีประกาศกําหนด และจัดทํารายงานการประเมินน้ัน สง่ ใหแ้ ก่อธบิ ดีหรือผู้ซึง่ อธิบดีมอบหมายภายในสิบห้าวนั นับแตว่ นั ทท่ี ราบผลการประเมนิ ในกรณีท่ีผลการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกจ้างอยู่ในระดับท่ีอาจก่อให้เกิดอันตราย ให้นายจ้างดําเนินการแก้ไขปรับปรุงให้อยู่ในระดับท่ีปลอดภัย และให้นายจ้างนําผลการประเมินไปใช้ ประกอบการวางแผนการตรวจสขุ ภาพของลกู จา้ งทีท่ ํางานเกย่ี วกับปัจจัยเส่ียงและการเฝ้าระวังสุขภาพอนามัย ของลูกจ้าง หมวด ๙ การควบคมุ และปฏบิ ตั ิการกรณีมเี หตุฉกุ เฉิน ข้อ ๓๒ ให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายไว้ในครอบครองตามรายชื่อและปริมาณท่ีอธิบดี ประกาศกําหนด จัดให้มีการประเมินความเส่ียงในการก่อให้เกิดอันตรายและจัดทํารายงานการประเมิน ความเสี่ยงนน้ั อย่างน้อยหา้ ปีต่อหนง่ึ ครง้ั ในกรณีที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างสําคัญเกี่ยวกับสถานท่ีครอบครอง รายชื่อ ปริมาณ หรือ กระบวนการผลิตสารเคมีอันตราย ให้นายจ้างจัดให้มีการประเมินความเส่ียงในการก่อให้เกิดอันตราย และจดั ทาํ รายงานการประเมินความเส่ยี งเพ่ิมเตมิ ดว้ ย
29 เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หน้า ๑๘ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา การประเมินความเส่ียงและการจัดทํารายงานการประเมินความเส่ียงตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีอธิบดีประกาศกําหนด ทั้งนี้ ให้ส่งรายงานดังกล่าวต่อ อธิบดีหรอื ผซู้ ง่ึ อธบิ ดมี อบหมายภายในสิบหา้ วันนับแตว่ ันที่ทราบผลการประเมิน นายจา้ งที่ต้องประเมินความเสี่ยงและจัดทํารายงานการประเมินความเสี่ยงในการก่อให้เกิดอันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ให้ถือว่าได้ประเมินความเส่ียงตามข้อนี้แล้ว ทั้งนี้ ให้แจ้งต่ออธิบดีหรือ ผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเพือ่ ทราบ ข้อ ๓๓ ให้นายจา้ งตามข้อ ๓๒ จดั ทาํ แผนปฏบิ ัตกิ ารกรณีมเี หตุฉกุ เฉินของสถานประกอบกิจการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีอธิบดีประกาศกําหนด และเก็บแผนดังกล่าวไว้ ณ สถานประกอบกิจการ พร้อมท่ีจะให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้ ตลอดจนปรับปรุงแผนให้ทันสมัยและฝึกซ้อม ตามแผนอยา่ งน้อยปีละหนึ่งครั้ง ข้อ ๓๔ ให้นายจ้างจัดให้มีการฝึกอบรมลูกจ้างที่มีหน้าที่ควบคุมและระงับเหตุอันตรายตาม หลกั สูตรทีอ่ ธิบดีประกาศกาํ หนด และทาํ การฝึกอบรมทบทวนอย่างน้อยปีละหนึ่งคร้ัง และเก็บหลักฐาน การฝกึ อบรมพร้อมที่จะให้พนกั งานตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบได้ ขอ้ ๓๕ ในกรณีทสี่ ารเคมีอันตรายรั่วไหล ฟุ้งกระจาย เกิดอัคคีภัย หรือเกิดการระเบิด นายจ้าง ต้องส่ังให้ลูกจ้างทุกคนท่ีทํางานในบริเวณนั้น หรือบริเวณใกล้เคียงหยุดทํางานทันที และออกไปให้พ้นรัศมี ท่ีอาจได้รบั อนั ตราย พร้อมทั้งให้นายจ้างดําเนินการใหผ้ ูท้ ่เี ก่ียวข้องตรวจสอบและระงบั เหตุทนั ที ในกรณีท่ีการเกิดเหตุตามวรรคหนึ่งอาจส่งผลกระทบถึงประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ให้นายจ้างดาํ เนนิ การใหม้ ีการเตือนอันตรายให้ประชาชนท่อี าจไดร้ ับผลกระทบทราบทนั ที หมวด ๑๐ บทเฉพาะกาล ข้อ ๓๖ ให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครองอยู่ในวันก่อนวันท่ีกฎกระทรวงนี้มี ผลใช้บังคับ จัดทําบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายและรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวงนี้ โดยแจ้งต่ออธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมายภายในเจ็ดวันนับแต่วันท่ี กฎกระทรวงนีม้ ผี ลใช้บังคบั ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ร้อยตาํ รวจเอก เฉลิม อยู่บาํ รุง รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงแรงงาน
30 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หนา้ ๑๙ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยที่ปัจจุบันสถานประกอบกิจการได้นํา สารเคมีอันตรายมาใช้ในวิธีการที่หลากหลาย แตกต่างกันไปตามชนิดและปริมาณของสารเคมีอันตราย ซ่ึงสารเคมีอันตรายแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและอันตรายแตกต่างกัน ประกอบกับมาตรา ๘ วรรคหน่ึง แหง่ พระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมีอํานาจออกกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานให้นายจ้างบริหาร จัดการ และ ดําเนนิ การด้านความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ดังนั้น เพ่ือให้ลูกจ้างท่ีทํางาน เก่ียวกับสารเคมอี นั ตรายได้รับความปลอดภยั ในการทาํ งาน จึงจําเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงนี้
31 เลม่ ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง หน้า ๔๑ ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและค้มุ ครองแรงงาน เรือ่ ง บญั ชีรายช่อื สารเคมีอันตราย อาศยั อํานาจตามความในขอ้ ๑ แห่งกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และ ดําเนินการดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ อธบิ ดกี รมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงานจึงออกประกาศไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ประกาศน้ีให้ใช้บงั คับต้งั แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป ขอ้ ๒ บญั ชรี ายช่อื สารเคมีอันตรายใหเ้ ปน็ ไปตามตารางท้ายประกาศนี้ รวมทั้งสารเคมีท่ีมีชื่ออ่ืน แตม่ สี ตู รโครงสรา้ งทางเคมีอยา่ งเดียวกัน (Synonym) ประกาศ ณ วันท่ี ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ พานชิ จิตร์แจง้ อธิบดีกรมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน
32 ตารางบัญชีรายช�ือสารเคมีอนั ตราย No. ชอ�ื สารเคมอี นั ตราย (ไทย) ชือ� สารเคมอี ันตราย (องั กฤษ) CAS number 1 อะเซทิลีน (เอททนี ) ACETYLENE (ETHYNE) 74-86-2 2 อะเซเฟท ACEPHATE 30560-19-1 3 อะเซตัล ACETAL 105-57-7 4 อะเซตัลดไี ฮด์ ACETALDEHYDE 75-07-0 5 กรดอะซติ ิค,กรดนํา� ส้ม ACETIC ACID 64-19-7 6 อะซิตคิ แอนไฮไดรด์ ACETIC ANHYDRIDE 108-24-7 7 อะซีโตน ACETONE 67-64-1 8 อะซีโตน ไซยาโนไฮดรนิ ACETONE CYANOHYDRIN 75-86-5 9 อะซีโตไนไตรล์ ACETONITRILE 75-05-8 10 อะซีตลิ อะซีโตน ACETYLACETONE 123-54-3 11 อะซตี ิล คลอไรด์ ACETYL CHLORIDE 75-36-5 12 กรดอะซตี ลิ ซาลิไซลิค ACETYLSALICYLIC ACID 50 - 78 - 2 13 อะโคนทิ ีน ACONITINE 302-27-2 14 เกลือของอะโคนทิ นี ACONITINE (SALTS) 15 อะโครลีน ACROLEIN 107-02-8 16 อะครลี าไมด์ ACRYLAMIDE 79-06-1 17 อะครเี ลทส์ ACRYLATES 18 กรดอะครีลิค ACRYLIC ACID 79-10-7 19 2,2-บิส(อะครีโลอิลออกซีเมทธลิ ) บิวทิล อะครเี ลท 2,2-BIS (ACRYLOYLOXYMETHYL) BUTYL ACRYLATE 15625-89-5 20 อะครีโลไนไตรล์ ACRYLONITRILE 107-13-1 21 กรดอะดพิ คิ ADIPIC ACID 124-04-9 22 อลั ลลั ลามนี ALLYLAMINE 107-11-9 23 อลั ดคิ าร์บ ALDICARB 116-06-3 24 อลั ดรนิ ALDRIN 309-00-2 25 อัลคาไล เอทธอกไซด์ ALKALI ETHOXIDE 16331-64-9 26 อลั คาไล ฟลอู อโรซลิ ิเคทส์ ALKALI FLUROSILICATES 27 อัลคาไล เมทธอกไซด์ ALKALI METHOXIDE 3315-60-4 28 เกลอื อลั คาไลของเพนตะคลอโรฟีนอล ALKALI SALTS OF PENTACHLOROPHENOL 29 อลั เลธริน ALLETHRIN 584-79-2 30 อัลลิโดคลอร์ ALLIDOCHLOR 93-71-0 31 อัลลลิ แอลกอฮอล์ ALLYL ALCOHOL 107-18-6 32 อลั ลลิ คลอไรด์ ALLYL CHLORIDE 107-05-1 33 อัลลิล 2,3-อีพอกซโี พรพิล อเี ธอร์ ALLYL 2,3-EPOXYPROPYL ETHER 106-92-3 34 อัลลลิ ไกลซดิล อเี ธอร์ ALLYL GLYCIDYL ETHER 106-92-3 35 อลั ลลิ ไอโอไดด์ ALLYL IODIDE 556-56-9 36 อลั ลลิ โพรพิล ไดซลั ไฟด์ ALLYL PROPYL DISULFIDE 2179-59-1 37 อะลมู ิเนยี ม อลั คลิ ALUMINIUM ALKYLS
33 No. ชือ� สารเคมีอนั ตราย (ไทย) ชอื� สารเคมอี นั ตราย (อังกฤษ) CAS number 38 สารประกอบอะลูมิเนยี มอัลคีลคิ ALUMINIUM ALKYLIS COMPOUNDS 39 อะลมู เิ นียม คลอไรด์ แอนไฮดรัส ALUMINIUM CHLORIDE ANHYDROUS 7446-70-0 40 อะลมู ิเนยี ม ลิเทียม ไฮไดรด์ ALUMINIUM LITHIUM HYDRIDE 16853-85-3 41 อะลมู เิ นียม ฟอสไฟด์ ALUMINIUM PHOSPHIDE 20859-73-8 42 อะลูมเิ นยี มในรูปของผง, ผงไพโร ALUMINIUM POWDER,PYROPHORIC 7429-90-5 43 ผงอะลมู เิ นียม(ลกั ษณะคงตัว) ALUMINIUM POWDER ,STABILIZED 44 ฟมู อะลูมเิ นยี ม ALUMINIUM FUMES, AS AL 7429-90-5 45 โลหะและออกไซด์ของอะลูมเิ นยี ม ALUMINIUM METAL & OXIDE, AS AL 1344-28-1 46 อะลมู เิ นียม ออกไซด์ ALUMINIUM OXIDE 47 อะลูมิเนียม, ในรปู ของสารละลายเกลือ ALUMINIUM, SOLUBLE SALTS, AS AL 555-31-7 48 อะลูมิเนยี ม-ไตร-ไอโซโพรพอกไซด์ ALUMINIUM-TRI-ISOPROPOXIDE 78-53-5 49 อะมทิ อน AMITON 7664-41-7 50 แอมโมเนีย AMMONIA 6484-52-2 51 (a) แอมโมเนียม ไนเตรท (b) แอมโมเนยี ม ไนเตรท ในรปู ของปุ๋ย (a) AMMONIUM NITRATES (b) AMMONIUM NITRATES IN THE FORM OF FERTILISERS 834-12-8 52 อะเมทรนี AMETRYN 919-76-6 53 อะมไิ ดไธออน AMIDITHION 121-47-1 54 กรด 3-อะมิโนเบนซีน ซัลโฟนคิ 3-AMINOBENZENE SULPHONIC ACID 121-57-3 55 กรด 4-อะมโิ นเบนซนี ซลั โฟนิค 4-AMINOBENZENE SULPHONIC ACID 56 2-อะมิโนเบนซีดีน 2-AMINOBENZIDINE 1031-47-6 57 เกลอื 4-อะมิโนไบฟนี ลิ 4-AMINOBIPHENYL (SALTS) 58 5-อะมโิ น-1-(บสิ ไดเมทธิล อะมิโนฟอสไฟนิค)-3-ฟีนลิ -1,2,4- 5-AMINO-1-(BISDIMETHYL AMINOPHOSPHINYL)-3-PHENYL- 13952-84-6 1,2,4-TRIAZOLE 2032-59-9 ไตรอะโซล 2-AMINOBUTANE 93-05-0 59 2-อะมิโนบวิ เทน AMINOCARB 96-91-3 60 อะมโิ นคาร์บ 4-AMINO-N,N-DIETHYLANILINE 141-43-5 61 4-อะมิโน-เอ็น,เอ็น-ไดเอทธลิ อะนลิ นี 2-AMINO-4,6-DINITROPHENOL 108-00-9 62 2-อะมิโน-4,6-ไดไนโตรฟนี อล 2-AMINOETHANOL 124-68-5 63 2-อะมโิ นเอทธานอล 2-AMINOETHYLDIMETHYLAMINE 2855-13-2 64 2-อะมโิ นเอทธลิ ไดเมทธลิ อะมีน 2-AMINO-2-METHYLPROPANOL 95-55-6 65 2-อะมิโน-2-เมทธลิ โพรพานอล 3-METHYL-3,5,5-TRIMETHYLCYCLOHEXYLAMINE 75-31-0 66 3-อะมิโนเมทธิล-3,5,5-ไตรเมทธลิ ไซโคลเฮกซลิ อะมนี 2-AMINOPHENOL 78-96-6 67 อะมโิ นฟีนอล 2-AMINOPROPANE 104-78-9 68 2-อะมโิ นโพรเพน 1-AMINOPROPAN-2-OL 109-55-7 69 1-อะมิโนโพรเพน-2-ออล 3-AMINOPROPYLDIETHYLAMINE 95-53--4 70 3-อะมโิ นโพรพิลไดเอทธิลอะมนี 3-AMINOPROPYLDIMETHYLAMINE 61-82-5 71 3-อะมิโนโพรพิลไดเมทธลิ อะมนี 2-AMINOPYRIDINE 7664-41-7 72 2-อะมิโนไพรดิ ีน AMITROLE 73 อะมโิ ทรล AMMONIA, ANHYDROUS 74 แอมโมเนยี ,แอนไฮดรสั
No. ชอ�ื สารเคมอี ันตราย (ไทย) ช�ือสารเคมีอนั ตราย (องั กฤษ) 34 75 แอมโมเนียม ไบฟลูออไรด์ AMMONIUM BIFLUORIDE CAS number 76 แอมโมเนียมคลอไรด์ AMMONIUM CHLORIDE 1341-49-7 77 แอมโมเนยี ม ไดโครเมท AMMONIUM DICHROMATE 12125-02-9 78 แอมโมเนยี ม ฟลูออไรด์ AMMONIUM FLUORIDE 7789-09-5 79 แอมโมเนยี ม ไฮโดรเจน ไดฟลอู อไรด์ AMMONIUM HYDROGEN DIFLUORIDE 12125-01-8 80 แอมโมเนียม เพอรค์ ลอเรท AMMONIUM PERCHLORATE 1341-49-7 81 แอมโมเนียม โพลีซัลไฟด์ AMMONIUM POLYSULPHIDES 7790-98-9 82 เกลอื แอมโมเนยี ม ดีเอ็นโอซี AMMONIUM SALT OF DNOC 9080-17-5 83 แอมโมเนียม ซลั ฟาเมท AMMONIUM SULFAMATE 84 แอมโมเนยี ม บิส(2,4,6-ไตรไนโตรฟีนิล)อะไมด์ AMMONIUM BIS(2,4,6-TRINITROPHENY)AMINE 7773-06-0 85 เอมลิ อะซเี ตท,ไอโซเมอร์ทุกตวั AMYL ACETATE, ALL ISOMERS 2844-92-0 86 เอมลิ แอลกอฮอล์, ยกเว้น เทรท์ - บิวทานอล AMYL ALCOHOL,except tert-PENTANOL 628-63-7 87 เอมิล ฟอร์เมท AMYL FORMATE 30899-19-5 88 เอมลิ โพรพโิ อเนท AMYL PROPIONATE 638-49-3 89 4-อะมโิ นไดฟีลนิล 4-AMINODIPHENYL 624-54-4 90 อะนลิ ีน ANILINE 92-67-1 91 เกลืออะนลิ นี ANILINE(SALTS) 101-05-3 92 ออโท-อะนซิ ดิ ีน o-ANISIDINE 93 พารา-อะนซิ ิดีน p-ANISIDINE 90-04-0 94 สารประกอบแอนตโิ มนี ANTIMONY COMPOUNDS, AS SB 104-94-9 95 แอนติโมนี เพนตะคลอไรด์ ANTIMONY PENTACHLORIDE 96 แอนติโมนี ไตรคลอไรด์ ANTIMONY TRICHLORIDE 7647-18-9 97 แอนติโมนี ไตรฟลูออไรด์ ANTIMONY TRIFLUORIDE 10025-91-9 98 เอเอน็ ทียู ANTU 7783-56-4 99 อะนาบาซนิ ANABASINE 86-88-4 100 แอนติโมนี ไฮไดรด์ (สตบิ ีน) ANTIMONY HYDRIDE (STIBINE) 494-52-0 101 อาร์เซนคิ ไฮไดรด์ ARSENIC HYDRIDE 7803-52-3 102 อารเ์ ซนิค เพนตอกไซด์ ARSENIC PENTOXIDE 7784-42-1 103 อาร์เซนคิ ไตรออกไซด์ ARSENIC TRIOXIDE 1303-28-2 104 สารหนู ARSENIC 1327-53-3 105 สารประกอบของสารหนู ARSENIC(COMPOUNDS) 7440-38-2 106 อาร์ซนี ARSINE 107 แอสเบสทอส ASBESTOS 7784-42-1 108 แอสพัลท์ ASPHALT 109 อะทราซนี ATRAZINE 8052-42-4 110 อะโทรพนี ATROPINE 1921-24--9 111 เกลืออะโทรพีน ATROPINE(SALTS) 51-55-8 112 อะซริ ิดีน AZIRIDINE 113 อะซนิ ฟอส-เอทธลิ AZINPHOS-ETHYL 151-56-4 2642-71-9
35 No. ชื�อสารเคมอี นั ตราย (ไทย) ชื�อสารเคมอี ันตราย (องั กฤษ) CAS number 114 อะซินฟอส เมทธลิ AZINPHOS-METHYL 115 อะโซเบนซีน AZOBENZENE 86-50-0 116 อะโซอิไมด์ AZOIMIDE 103-33-3 117 อะโซโธเอท AZOTHOATE 7782-79-8 118 อะโซซเี บนซีน AZOXYBENZENE 5834-96-8 119 บาร์บาน BARBAN 495-48-7 120 แบเรียม,สารประกอบทลี� ะลายได้ BARIUM,SOLUBLE COMPOUNDS,as Ba 101-27-9 121 แบเรยี ม คลอเรท BARIUM CHLORATE 7440-39-3 122 แบเรียม เพอรค์ ลอเรท BARIUM PERCHLORATE 13477-00-4 123 แบเรียม เพอรอ์ อกไซด์ BARIUM PEROXIDE 13465-95-7 124 แบเรียม โพลีซลั ไฟด์ BARIUM POLYSULPHIDES 1304-29-6 125 แบเรียม ซลั ไฟด์ BARIUM SULPHIDE 50864-67-0 126 แบเรียม อะไซด์ BARIUM AZIDE 21109-95-5 127 เบนโนมลิ BENOMYL 18810-58-7 128 เบนควินอกซ์ BENQUINOX 17804-35-2 129 เบนซัลไลด์ BENSULIDE 495-73-8 130 เบนทะโซน BENTAZONE 741-58-2 131 เบนซลั คลอไรด์ BENZAL CHLORIDE 25057-89-0 132 เบนซัลดไี ฮด์ BENZALDEHYDE 98-87-3 133 เบนซีน BENZENE 100-52-7 134 1,3-เบนซนี ไดออล 1,3-BENZENEDIOL 71-43-2 135 เบนซีน-1,2:3,4-เตตระคารบ์ อกซีลคิ ไดแอนไฮไดรด์ BENZENE-1,2:3,4-TETRACARBOXYLIC DIANHYDRIDE 108-46-3 136 เบนซีน-1,2,4-ไตรคารบ์ อกซีลคิ -1,2-แอนไฮไดรด์ BENZENE-1,2,4-TRICARBOXYLIC-1,2-ANHYDRIDE 89-32-7 137 เบนโซกัวนามนี BENZOGUANAMINE 552-30-7 138 เบนโซไนไตรล์ BENZONITRILE 91-76-9 139 เบนซดิ นี BENZIDINE 100-47-0 140 เกลอื ของเบนซดิ ีน BENZIDINE SALTS 92-87-5 141 เบอริลเลียม(ผง,สารประกอบ) BERYLLIUM(POWDERS, COMPOUNDS) 142 เบนโซฟโี นน-3,3',4,4'-เตตระคาร์บอกซีลิค ไดแอนไฮไดรด์ BENZOPHENONE-3,3',4,4'-TETRACARBOXYLIC DIANHYDRIDE 7440-41-7 2421-28-5 143 พารา-เบนโซควโิ นน p-BENZOQUINONE 144 1-(2-เบนโซไธอะโซลิล)-3-เมทธลิ ยเู รีย 1-(2-BENZOTHIAZOLYL)-3-METHYLUREA 106-51-4 145 เบนโซไตรคลอไรด์ BENZOTRICHLORIDE 1929-88-0 146 เบนโซไตรฟลูออไรด์ BENZOTRIFLUORIDE 98-07-7 147 เบนโซอิล คลอไรด์ BENZOYL CHLORIDE 98-08-8 148 4-เบนโซอลิ ไฮดราโซโน-1,4-เบนโซควิโนน ออกซมิ 4-BENZOYLHYDRAZONO-1,4-BENZOQUINONE OXIME 98-88-4 149 เบนโซอลิ เพอรอ์ อกไซด์ BENZOYL PEROXIDE 495-73-8 150 เบนซไธอะซรู อน BENZTHIAZURON 94-36-0 151 เบนซิลแอลกอฮอล์ BENZYL ALCOHOL 1929-88-0 152 เบนซิลอะมนี BENZYLAMINE 100-51-6 100-46-9
36 No. ชอ�ื สารเคมอี นั ตราย (ไทย) ช�อื สารเคมีอนั ตราย (องั กฤษ) CAS number 153 เบนซิลเบนโซเอท BENZYL BENZOATE 120-51-4 154 เบนซลิ โบรไมด์ BENZYL BROMIDE 100-39-0 155 เบนซลิ คลอรฟ์ อร์เมท BENZYL CHLORFORMATE 501-53-1 156 เบนซิล คลอไรด์ BENZYL CHLORIDE 100-44-7 157 เบนซิลไดเมทธลิ อะมนี BENZYLDIMETHYLAMINE 103-83--3 158 เบนซิลดิ นี คลอไรด์ BENZYLIDENE CHLORIDE 98-87-3 159 Y-บเี อชซี Y-BHC 58-89-9 160 ไบนาพาครลิ BINAPACRYL 485-31-4 161 ไบพนี ลิ BIPHENYL 92-52-4 162 ไบพีนิล-4-อิลอะมีน BIPHENYL-4-YLAMINE 92-67-1 163 เกลอื ของไบพนี ิล-4-อิลอะมนิ BIPHENYL-4-YLAMINE (SALTS) 164 ไบพนี ิล-4,4'-อลิ ลนี ไดอะมนี BIPHENYL-4,4'-YLENEDIAMINE 92-87-5 165 บสิ มัท เทลลูไรด์ BISMUTH TELLURIDE 1304-82-1 166 บสิ คลอโรเมทธลิ อเี ธอร์ BIS-(CHLOROMETHYL)-ETHER 542-88-1 167 บสิ ฟีนอล เอ-(อพี คิ ลอร์ไฮดรนิ ) อีพอกซีเรซิน BIS-PHENOL A-(EPICHLOR HYDRIN) EPOXY RESIN (REACTION 25068-38-6 PRODUCT) (รแี อคชนั โพรดัคท์) 80-05-7 168 บิสฟีนอล เอ BISPHENOL A 3006-86-8 169 1,1-บสิ (เทอรท์ -บิวทลิ เพอรอ์ อกซ)ี ไซโคลเฮกเซน 1,1-BIS (tert-BUTYLPEROXY) CYCLOHEXANE (CONCENTRATION>=80%) 542-88-1 (ความเขม้ ขน้ >=80%) 505-60-2 170 บสิ (คลอโรเมทธลิ )อเี ธอร์ BIS(CHLOROMETHYL) ETHER 131-73-7 171 บิส(2-คลอโรเอทธลิ )ซลั ไฟด์ BIS (2-CHLOROETHYL) SULPHIDE 1330-43-4 172 บสิ (2,4,6-ไตรโนโตรฟีนิล)เอมีน BIS (2,4,6-TRINOTROPHENYL) AMINE 1303-96-4 173 บอเรทส,์ เตตรา, เกลือโซเดยี ม, แอนไฮดรสั BORATES, TETRA, SODIUM SALTS, ANHYDROUS 12179-04-3 174 บอเรทส,์ เตตรา, เกลอื โซเดียม, เดคะไฮเดรท BORATES, TETRA, SODIUM SALTS, DECAHYDRATE 10294-33-4 175 บอเรทส,์ เตตรา, เกลอื โซเดียม, เพนตะไฮเดรท BORATES, TETRA, SODIUM SALTS, PENTAHYDRATE 10294-34-5 176 โบรอน ไตรโบรไมด์ BORON TRIBROMIDE 7637-07-2 177 โบรอน ไตรคลอไรด์ BORON TRICHLORIDE 314-40-9 178 โบรอน ไตรฟลูออไรด์ BORON TRIFLUORIDE 7789-30-2 179 โบรมาซลิ BROMACIL 79-08-3 180 โบรมีน เพนตะฟลูออไรด์ BROMINE PENTAFLUORIDE 108-86-1 181 กรดโบรโมอะซตี คิ BROMOACETIC ACID 4824-78-6 182 โบรโมเบนซีน BROMOBENZENE 183 ออโท-(4-โบรโม-2,5-ไดคลอโรพนี ิล) โอโอ-ไดเอทธิล o-(4-BROMO-2,5-DICHLOROPHENYL) O,O-DIETHYL 74-96-4 PHOSPHOROTHIOATE 13181-17-4 ฟอสฟอโรไธโอเอท 75-25-2 184 โบรโมอีเธน BROMOETHANE 4824-78-6 185 โบรโมฟนี อกซมิ BROMOFENOXIM 106-94-5 186 โบรโมฟอรม์ BROMOFORM 187 โบรโมฟอส-เอทธิล BROMOPHOS-ETHYL 188 1-โบรโมโพรเพน 1-BROMOPROPANE
37 No. ช�ือสารเคมอี ันตราย (ไทย) ชอ�ื สารเคมีอันตราย (องั กฤษ) CAS number 189 อัลฟา-โบรโมโทลอู ีน 100-39-0 190 โบรมอกซนี ลิ α-BROMOTOLUENE 1689-84-5 191 โบรมีน BROMOXYNIL 7726-95-6 192 บรซู ีน BROMINE 357-57-3 193 โบรโมมีเธน (เมทธิล โบรไมด์) BRUCINE 74-83-9 194 เทรท์ -บวิ ทิล เพอรอ์ อกซอี ะซเิ ตท (ความเข้มข้น>=70%) BROMOMETHANE (METHYL BROMIDE) 107-71-7 195 2,2-ได(เทอร์ท-บวิ ทลิ เพอรอ์ อกซ)ี บิวเทน (ความเขม้ ขน้ >=70%) tert-BUTYL PEROXYACETRATE (CONCENTRATION>=70%) 2167-23-9 196 ได-เซค-บิวทิล เพอร์ออกซไี ดคารบ์ อเนท (ความเข้มขน้ >=80%) 2,2-di(tert-BUTYLPEROXY) BUTANE (CONCENTRATION>=70%) 19910-65-7 197 เทอรท์ -บิวทิล เพอร์ออกซีมาลเี อท (ความเขม้ ขน้ >=80%) DI-sec-BUTYL PEROXYDICARBONATE 1931-62-0 198 เทอร์ท-บวิ ทลิ เพอร์ออกซไี อโซโพรพิล คารบ์ อเนท (CONCENTRATION>=80%) 2372-21-6 tert-BUTYL PEROXYMALEATE (CONCENTRATION>=80%) (ความเข้มขน้ >=80%) tert-BUTYL PEROXYISOPROPYL CARBONATE 927-07-1 199 เทอร์ท-บิวทลิ เพอรอ์ อกซีไพวาเลท (CONCENTRATION>=80%) 109-13-7 200 เทอรท์ -บิวทลิ เพอรอ์ อกซีไอโซบิวไทเรท tert-BUTYL PEROXYPIVALATE tert-BUTYL PEROXYISOBUTYRATE 106-99-0 (ความเข้มข้น>=80%) (CONCENTRATION>=80%) 1464-53-5 201 1,3-บิวตะไดอนี 1,3-BUTADIENE 106-97-8 202 บิวตะไดอนี ไดอพี อกไซด์ BUTADIENE DIEPOXIDE 2425-79-8 203 บิวเทน BUTANE 71-36-3 204 บวิ เทนไดออลไดไกลซดิ ิล อีเธอร์ BUTANEDIOLDIGLYCIDYL ETHER 78-93-3 205 บวิ ทานอล BUTANOL 96-29-7 206 2-บิวทาโนน 2-BUTANONE 123-73-9 207 2-บวิ ทาโนน ออกซิม 2-BUTANONE OXIME 208 2-บวิ ทีนอล 2-BUTENAL 111-76-2 209 บวิ ทีน (ไอโซเมอร์ทง�ั หมด) BUTENE, all isomers 112-07-2 210 2-บวิ ทอกซีเอทธานอล 2-BUTOXYETHANOL 5131-66-8 211 2-บิวทอกซีเอทธลิ อะซเี ตท 2-BUTOXYETHYL ACETATE 24083-03-2 212 3-บิวทอกซีโพรเพน-2-ออล 3-BUTOXYPROPAN-2-OL 540-88-5 213 1-(2-บวิ ทอกซโี พรพอกซ)ี โพรพาน-2-ออล 1-(2-BUTOXYPROPOXY) PROPAN-2-OL 141-32-2 214 เทอร์ท บิวทลิ - อะซเี ตท, tert - BUTYL ACETATE 71-36-3(n) 215 บวิ ทิล อะครเี ลท n-BUTYL ACRYLATE 109-73-9 216 บวิ ทลิ แอลกอฮอล์ ยกเว้น เทอร์ท-บิวทิล แอลกอฮอล์ BUTYL ALCOHOL, except tert-BUTYL ALCOHOL 3775-90-4 217 บวิ ทลิ อะมนี BUTYLAMINE 109-21-7 218 2-เทอรท์ -บิวทิลอะมโิ นเอทธิล เมทธาครีเลท 2-TERT-BUTYLAMINOETHYL METHACRYLATE 109-69-3 219 บิวทลิ บวิ ไทเรท BUTYL BUTYRATE 592-34-7 220 บิวทิล คลอไรด์ BUTYL CHLORIDE 299-86-5 221 บิวทิล คลอโรฟอร์เมท BUTYL CHLOROFORMATE 222 4-เทอร์ท-บิวทลิ -2-คลอโรพีนิล-เมทธิล-เมทธลิ ฟอสโฟโรอะมเิ ดท 4-TERT-BUTYL-2-CHLOROPHENYL-METHYL-METHYL 3775-90-4 PHOSPHOROAMIDATE 223 เทอรท์ -บวิ ทลิ อะมิโนเอทธลิ เมทธาครเี ลท tert-BUTYLAMINOETHYL METHACRYLATE
38 No. ชื�อสารเคมีอนั ตราย (ไทย) ชอื� สารเคมีอนั ตราย (อังกฤษ) CAS number 224 เทอร์ท-บวิ ทิล-แอลฟา, แอลฟา-ไดเมทธิลเบนซิล เพอรอ์ อกไซด์ tert-BUTYL ALPHA, ALPHA-DIMETHYLBENZYL PEROXIDE 3457-61-2 225 6-เซค-บิวทิล-2, 4-ไดไนโตรพีนอล 6-sec-BUTYL-2, 4-DINITROPHENOL 88-85-7 226 2-เซค-บวิ ทลิ -4, 6-ไดไนโตรพนี อล 2-tert-BUTYL-4, 6-DINITROPHENOL 1420-07-1 227 2-เซค-บวิ ทิล-4, 6-ไดไนโตรพนี ิล ไอโซโพรพิล คารบ์ อเนต 2-sec-BUTYL-4, 6-DINITROPHENYL ISOPROPYL CARBONATE 973-21-7 228 2-เซค-บิวทิล-4, 6-ไดไนโตรพีนิล-3-เมทธิลโครโทเนท 2-sec-BUTYL-4, 6-DINITROPHENYL-3-METHYLCROTONATE 485-31-4 229 บิวทิลนี BUTYLENE 106-98-9 230 1,3-บิวทลิ นี ไกลคอล ไดอะครเี ลท 1,3-BUTYLENEGLYCOL DIACRYLATE 19485-03-1 231 1,4-บิวทลิ ีนไกลคอล ไดอะครเี ลท 1,4-BUTYLENEGLYCOL DIACRYLATE 1070-70-8 232 บิวทิล 2,3-อพี อกซีโพรพลิ อีเธอร์ BUTYL 2,3-EPOXYPROPYL ETHER 2426-08-6 233 บวิ ทลิ เอทธลิ คโี ตน BUTYL ETHYL KETONE 106-35-4 234 บิวทิล ฟอร์เมท BUTYL FORMATE 592-84-7(n) 235 บวิ ทลิ ไกลซคิ ิล อเี ธอร์ BUTYL GLYCIDYL ETHER 2426-08-6 236 บิวทลิ ไกลคอล อะซีเตท BUTYLGLYCOL ACETATE 112-07-2 237 เอ็น-บิวทลิ แลคเตท n-BUTYL LACTATE 138-22-7 238 บิวทิล เมอแคพแทน BUTYL MERCAPTAN 109-79-5 239 เอ็น-บิวทิล เมทธาครเี ลท n-BUTYL METHACRYLATE 97-88-1 240 2-เซค-บิวทลิ พีนอล 2-sec-BUTYLPHENOL 89-72-5 241 พารา-เทอร์ท--บวิ ทิลพีนอล p-tert-BUTYLPHENOL 98-54-4 242 บิวทิล โพรพิโอเนท BUTYL PROPIONATE 590-01-2 243 พารา-เทอรท์ -บิวทิลโทลอู ีน p-tert-BUTYLTOLUENE 98-51-1 244 บิวท-์ 2-อนิ -1, 4-ไดออล BUT-2-YNE-1,4-DIOL 110-65-6 245 บิวไทรัลดีไฮด์ BUTYRALDEHYDE 123-72-8 246 บวิ ไทรัลดีไฮด์ ออกซมึ BUTYRALDEHYDE OXIME 110-69-0 247 กรดบวิ ไทริค BUTYRIC ACID 107-92-6 248 เอ็น-บิวไทโรไนไตรล์ n-BUTYRONITRILE 109-74-0 249 ฝุ่นแคดเม�ยี มและเกลอื ของแคดเมยี� ม CADMIUM, DUST & SALTS, as Cd 250 ออกไซดข์ องแคดเมยี� ม, ฟูมของแคดเมยี� ม CADMIUM OXIDE, FUME, as Cd 10108-64-2 251 แคดเมยี ม คลอไรด์ CADMIUM CHLORIDE 252 สารประกอบแคดเมยี ม CADMIUM COMPOUNDS 542-83-6 253 แคดเมียม ไซยาไนต์ CADMIUM CYANIDE 7790-79-6 254 แคดเมยี ม ฟลอู อไรด์ CADMIUM FLUORIDE 17010-21-8 255 แคดเมยี ม ฟลูออโรซิลเิ คท CADMIUM FLUOROSILICATE 4464-23-7 256 แคดเมียม ฟอร์เมท CADMIUM FORMATE 7790-80-9 257 แคดเมยี ม ไอโอไดด์ CADMIUM IODIDE 1306-19-0 258 แคดเมียม ออกไซด์ CADMIUM OXIDE 7440-70-2 259 แคลเซียม CALCIUM 75-20-7 260 แคลเซยี ม คาร์ไบด์ CALCIUM CARBIDE 10043-52-4 261 แคลเซยี ม คลอไรด์ CALCIUM CHLORIDE 13765-19-0 262 แคลเซียม โครเมท CALCIUM CHROMATE
No. ชอื� สารเคมอี ันตราย (ไทย) ช�อื สารเคมีอนั ตราย (อังกฤษ) 39 263 แคลเซยี ม ไซยานาไมด์ CALCIUM CYANAMIDE 264 แคลเซยี ม ไฮไดรด์ CALCIUM HYDRIDE CAS number 265 แคลเซียม ไฮดรอกไซด์ CALCIUM HYDROXIDE 266 แคลเซยี ม ไฮโปคลอไรท์ CALCIUM HYPOCHLORITE 156--62-7 267 แคลเซยี ม ไอโอดอกซเี บนโซเอท CALCIUM IODOXYBENZOATE 7789-78-8 268 แคลเซยี ม ออกไซด์ CALCIUM OXIDE 1305-62-0 269 แคลเซยี ม ฟอสไฟด์ CALCIUM PHOSPHIDE 7778-54-3 270 แคลเซียม โพลีซลั ไฟด์ CALCIUM POLYSULFIDE 1829-27-2 271 แคลเซียม ซลั ไฟด์ CALCIUM SULPHIDE 1305-78-8 272 คาโลเมล CALOMEL 1305-99-3 273 แคมฟีคลอร์ CAMPHECHLOR 1344-81-6 274 คาร์โบฟวิ แรน CARBOFURAN 20548-54-3 275 คาร์โบฟีโนไธออน CARBOPHENOTHION 10112-91-1 276 คารบ์ อน ไดซัลไฟด์ CARBON DISULPHIDE 8001-35-2 277 คารโ์ บนิล คลอไรด(์ ฟอสจนี ) CARBONYL CHLORIDE (PHOSGENE) 1563-66-2 278 คารบ์ ารลิ CARBARYL 786-19-6 279 คาร์บอนมอนอกไซด์ CARBON MONOXIDE 75-15-0 280 คาร์บอนเตตระคลอไรด์ CARBON TETRACHLORIDE 75-44-5 281 คารโ์ บนิล คลอไรด(์ ฟอสจนี ) CARBONYL CHLORIDE (PHOSGENE) 63-25-2 282 4,4'-คารบ์ อนลิ ได (พธาลคิ แอนไฮไดรค)์ 4,4'-CARBONYLDI (PHTHALIC ANHYDRIDE) 630-08-0 283 คอสติค โปแตช CAUSTIC POTASH 56-23-5 284 เซลลูโลส ไนเตรท CELLULOSE NITRATE 75-44-5 285 ซีเซียม ไฮดรอกไซด์ CESIUM HYDROXIDE 2421-28-5 286 คลอรัล ไฮเดรท CHLORAL HYDRATE 1310-58-3 287 คลอร์เฟนวิลฟอส CHLOFENVINPHOS 9004-70-0 288 คลอโรเมทธิล เมทธิล อเี ธอร์ CHLOROMETHYL METHYL ETHER 21351-79-1 289 คลอรีน CHLORINE 302-17-0 290 4-(คลอโรฟอร์มิล) มอโฟลีน 4-(CHLOROFORMYL) MOPHOLINE 470-90-6 291 คลอโรไตรไนโตรเบนซีน CHLOROTRINITROBENZENE 107-30-2 292 คลอรลั โลส CHLORALOSE 7782-50-5 293 คลอรามนี ที (เกลือโซเดยี ม) CHLORAMINE T (SODIUM SALT) 15159-40-7 294 คลอรเ์ ดน CHLORDANE 28260-61-9 295 คลอร์ดีโคน CHLORDECONE 15879-93-3 296 คลอร์ไดมฟี อรม์ CHLORDIMEFORM 127-65-1 297 คลอร์ไดมฟี อรม์ ไฮโดรคลอไรด์ CHLORDIMEFORM HYDROCHLORIDE 57-74-9 298 คลอเรนติค แอนไฮไดรด์ CHLORENDIC ANHYDRIDE 143-50-0 299 คลอร์พแี นค CHLORFENAC 6164-98-3 300 คลอรเ์ ฟนธอล CHLORFENETHOL 19750-95-9 301 คลอรเ์ ฟนพรอพ-เมทธลิ CHLORFENPROP-METHYL 115-27-5 85-34-7 80-06-8 14437-17-3
40 No. ชือ� สารเคมอี ันตราย (ไทย) ชอ�ื สารเคมีอนั ตราย (องั กฤษ) CAS number 302 คลอริเนเทค แคมพนี 303 คลอรม์ คี วอท คลอไรด์ CHLORINATED CAMPHENE 8001-35-2 304 กรดคลอโรอะซตี ิค 305 คลอโรอะซีโตไนไตรล์ CHLORMEQUAT CHLORIDE 999-81-5 306 คลอโรอะซีตลิ คลอไรด์ 307 เอส-2-คลอโรอัลลิล (ไดเอทธลิ ) ไดไธโอคารบ์ าเมท CHLOROACETIC ACID 79-11-8 308 คลอโรอะนิลีน (โมโน- ได- ไตร-) 309 2-คลอโรเบนซัลดีไฮด์ CHLOROACETONITRILE 107-14-2 310 ออโท-คลอโรเบนซัลดีไฮด์ 311 คลอโรเบนซนี CHLOROACETYL CHLORIDE 79-04-9 312 ออโท-คลอโรเบนซิลดิ นี มาโลไนไตรล์ 313 2-คลอโรเบนโซไนไตรล์ S-2-CHLOROALLYL (DIETHYL) DITHIOCARBAMATE 95-06-7 314 บิส (4-คลอโรเบนโซอิล) เพอรอ์ อกไซด์ 315 4-คลอโรเบนโซอลิ เพอร์ออกไซด์ CHLOROANILINE (mono-, di-, tri-) 27134-26-5 316 2-คลอโรบวิ ตะ-1, 3-ไดอนี 317 1-คลอโรบวิ เทน 2-CHLOROBENZALDEHYDE 89-98-5 318 4-คลอโรบิวท-์ 2-อนิ อลิ -3-คลอโรฟนี ลิ คารบ์ าเมท 319 4-คลอโร-เมตา-ครีซอล o-CHLOROBENZALDEHYDE 89-98-5 320 2-คลอโร-4-(1-ไซยาโน-1-เมทธิลเอทธิลอะมโิ น) CHLOROBENZENE 108-90-7 -6-เอทธลิ อะมิโน-1,3,5-ไตรอะซนี 321 2-คลอโร-1-(2,4-ไดคลอโรฟีนลิ ) ไวนิล ไดเอทธิล ฟอสเฟต o-CHLOROBENZILIDENE MALONITRILE 2698-41-1 322 2-คลอโร-2-ไดเอทธลิ คาร์บาโมอลิ -1- 2-CHLOROBENZONITRILE 873-32-5 เมทธิลไวนลิ ไดเมทธิล ฟอสเฟต BIS-(4-CHLOROBENZOYL) PEROXIDE 94-17-7 323 คลอโรไดฟลูออโรมีเทน 324 กา๊ ซทําความเย็น R22 4-CHLOROBENZOYL PEROXIDE 94-17-7 325 2-คลอโร-4-ไดเมทธลิ อะมโิ น-6-เมทธิลไพรมิ ิดีน 326 คลอโรไดเมทธลิ อเี ธอร์ 2-CHLOROBUTA-1, 3-DIENE 126-99-8 327 1-คลอโร-2,3-อีพอกซโี พรเพน 328 คลอโรอเี ธน 1-CHLOROBUTANE 109-69-3 329 2-คลอโรเอทธานอล 330 บสิ (2-คลอโรเอทธิล) อีเธอร์ 4-CHLOROBUT-2-YNYL-3-CHLOROPHENYLCARBAMATE 101-27-9 331 เกลือ 2-คลอโรเอทธลิ ไตรเมทธิล แอมโมเนยี ม คลอไรด์ 332 คลอโรฟอรม์ 4-CHLORO-m-CRESOL 59-50-7 333 คลอโรฟอร์มิค แอซิค บิวทิล เอสเทอร์ 334 คลอโรฟอร์มิค แอซคิ โพรพลิ เอสเทอร์ 2-CHLORO-4-(1-CYANO-1-METHYLETHYLAMINO)-6- 21725-46-2 335 2-คลอโร-เอ็น-ไอโซโพรพิลอะเซตานไิ ลด์ 336 คลอโรมเี ธน ETHYLAMINO-1,3,5-TRIAZINE 337 3-(3-คลอโร-4-เมทธอกซพี นี ลิ )-1,1-ไดเมทธลิ ยูเรยี 2-CHLORO-1-(2,4-DICHLOROPHENYL) VINYL DIETHYL PHOSPHATE 470-90-6 2-CHLORO-2-DIETHYLCARBAMOYL-1- 13171-21-6 METHYLVINYLDIMETHYL PHOSPHATE CHLORODIFLUOROMETHANE 75-45-6 REFRIGERANT GAS R 22 75-45-6 2-CHLORO-4-DIMETHYLAMINO-6-METHYLPYRIMIDINE 535-89-7 CHLORODIMETHYL ETHER 107-30-2 1-CHLORO-2,3-EPOXYPROPANE 106-89-8 CHLOROETHANE 75-00-3 2-CHLOROETHANOL 107-07-3 BIS (2-CHLOROETHYL) ETHER 111-44-4 2-CHLOROETHYLTRIMETHYL AMMONIUM CHORIDE 999-81-5 CHLOROFORM 67-66-3 CHLOROFORMIC ACID BUTYL ESTER 592-34-7 CHLOROFORMIC ACID PROPYL ESTER 109-61-5 2-CHLORO-N-ISOPROPYLACETANILIDE 1918-16-7 CHLOROMETHANE 74-87-3 3-(3-CHLORO-4-METHOXYPHENYL)-1,1-DIMETHYLUREA 19937-59-8
41 No. ช�ือสารเคมีอนั ตราย (ไทย) ชอ�ื สารเคมอี ันตราย (อังกฤษ) CAS number 338 ออโท-(3-คลอโร-4-เมทธลิ คมู าริน-7-อิล) โอ,โอ-ไดเอทธิล o-(3-CHLORO-4-METHYLCOUMARIN-7-YL) O,O-DIETHYL 56-72-4 PHOSPHOROTHIOATE ฟอสฟอโรไธโอเอท 59-50-7 339 4-คลอโร-3-เมทธิลฟนี อล 4-CHLORO-3-METHYLPHENOL 94-74-6 94-81-5 340 กรด 4-คลอโร-2-เมทธลิ ฟนี อกซีอะซีติค (เอ็มซีพีเอ) 4-CHLORO-2-METHYLPHENOXYACETIC ACID (MCPA) 7085-19-0 341 กรด 4-(4-คลอโร-2-เมทธิลฟีนอกซี) บวิ ไทรคิ (เอ็มซีพีบ)ี 4-(4-CHLORO-2-METHYLPHENOXY) BUTYRIC ACID (MCPB) 563-47-3 41587-36-4 342 กรด 2-(4-คลอโร-2-เมทธิลฟีนอกซี) โพรพาโนอิค 2-(4-CHLORO-2-METHYLPHENOXY) PROPANOIC ACID 635-22-3 (เอ็มซีพีพ)ี (MCPP) 100-00-5 3-CHLORO-2-METHYLPROPENE 100-00-5 343 3-คลอโร-2-เมทธลิ โพรพีน 500-28-7 CHLORONITROANILINE 344 คลอโรไนโตรอะนิลนี 5826-76-6 4-CHLORO-3-NITROANILINE 345 4-คลอโร-3-ไนโตรอะนิลีน 600-25-9 1-CHLORO-4-NITROBENZENE 625-29-6 346 1-คลอโร-4-ไนโตรเบนซนี 616-20-6 p - CHLORONITROBENZENE 76-15-3 347 พารา-คลอโรไนโตรเบนซนิ 3691-35-8 O-(3-CHLORO-4-NITROPHENYL) O,O- 25167-80-0 348 โอ-(3-คลอโร-4-ไนโตรพนี ิล) โอ,โอ- DIMETHYLPHOSPHOROTHIOATE 122-88-3 ไดเมทธิลฟอสฟอโรไธโอเอท 4104-14-7 O-4-CHLORO-3-NITROPHENYL O,O-DIMETHYL 349 โอ-4-คลอโร-3-ไนโตรพีนลิ โอ,โอ- PHOSPHOROTHIOATE 5834-96-8 ไดเมทธิล ฟอสฟอโรไธโอเอท 1-CHLORO-1-NITROPROPANE 2- CHLOROPENTANE 80-38-6 350 1-คลอโร-1-ไนโตรโพรเพน 3- CHLOROPENTANE 80-06-8 351 2- คลอโรเพนเทน CHLOROPENTAFLUOROETHANE (R115) 5707-69-7 352 3- คลอโรเพนเทน CHLOROPHACINONE 1746-81-2 353 คลอโรเพนตะฟลูออโรอเี ธน(R115) CHLOROPHENOL 3691-35-8 354 คลอโรฟาซโิ นน 4-CHLOROPHENOXYACETIC ACID 355 คลอโรฟนี อล O,O-BIS( 4-CHLOROPHENYL) N-ACETIMIDOYL 786-19-6 356 กรด 4-คลอโรฟีนอกซีอะซตี ิค PHOSPHOROAMIDOTHIOATE 357 โอโอ-บสิ (4-คลอโรฟีนลิ ) เอ็น อะเซติมโิ ดอลิ O-4-(4-CHLOROPHENYLAZO) PHENYL OO-DIMETHYL 10311-84-9 PHOSPHOROTHIOATE ฟอสฟอโรอะมโิ ดไธโอเอท 4-CHLOROPHENYL BENZENESULPHONATE 126-99-8 358 โอ-4-(4-คลอโรฟินลิ อะโซ) ฟนี ิล โอโอ-ไดเมทธิล 540-54-5 1,1-BIS (4-CHLOROPHENYL) ETHANOL 107-05-1 ฟอสฟอโรไธโอเอท 359 4-คลอโรฟนี ลิ เบนซนี ซลั โฟเนท 4-(2-CHLOROPHENYLHYDRAZONO)-3-METHYLISOXAZOL-5-ONE 360 1,1-บสิ (4-คลอโรฟีนลิ ) เอทธานอล 3-(4-CHLOROPHENYL)-1-METHOXY-1-METHYLUREA 361 4-(2-คลอโรฟนี ิลไฮดราโซโน)-3-เมทธิลไอซอกซาซอล-5-โอน 2-(2-(4-CHLOROPHENYL)-2-PHENYLACETY) INDAN-1,3-DIONE 362 3-(4-คลอโรฟีนิล)-1-เมทธอ็ กซี-1-เมทธลิ ยเู รีย S-(4-CHLOROPHENYLTHIOMETHYL) O,O-DIETHYL PHOSPHORODITHIOATE 363 2-(2-(4-คลอโรฟนี ลิ )-2-ฟีนิลอะซีติล) 2-CHLORO-1-PHTHALIMIDOETHYL O,O-DIETHYL อินเดน-1,3-ไดโอน PHOSPHORODITHIOATE CHLOROPRENE 364 เอส-(4-คลอโรฟนี ลิ ไธโอเมทธลิ ) โอ,โอ-ไดเอทธิล ฟอสฟอโรไดไธโอเอท 1- CHLOROPROPANE 365 2-คลอโร-1-พธาลมิ โิ ดเอทธลิ โอ,โอ-ไดเอทธิล 3-CHLOROPROPENE ฟอสฟอโรไดไธโอเอท 366 คลอโรพรนี 367 1- คลอโรโพรเพน 368 3-คลอโรโพรพนี
42 No. ช�ือสารเคมีอันตราย (ไทย) ชอื� สารเคมอี นั ตราย (อังกฤษ) CAS number 369 กรด 2-คลอโรโพรพิโอนิค 2-CHLOROPROPIONIC ACID 598-78-7 370 ออโท-คลอโรสไตรนี o-CHLOROSTYRENE 2039-87-4 371 กรดคลอโรซัลโพนิค CHLOROSULPHONIC ACID 7790-94-5 372 2-คลอโรโทลอู นี 2-CHLOROTOLUENE 95-49-8 373 เอ็น2-(4-คลอโร-ออโท-โทลิล)-เอน็ 1,เอน็ 1,ไดเมทธิลฟอร์มามดิ นี N2-(4-CHLORO-o-TOLYL)-N1, N1, DIMETHYLFORMAMIDINE 6164-98-3 374 เอ็น2-(4-คลอโร-ออโท-โทลิล)-เอน็ 1, เอน็ 1,ไดเมทธิลฟอร์มามิดีน N2-(4-CHLORO-o-TOLYL)-N1, N1, DIMETHYLFORMAMIDINE 19750-95-9 HYDROCHLORIDE ไฮโดรคลอไรด์ 115-78-6 375 คลอร์โฟเนียม คลอไรด์ CHLORPHONIUM CHLORIDE 2921-88-2 376 คลอรไ์ พริฟอส CHLORPYRIFOS 1918-13-4 377 คลอรไ์ ธอะมีด CHLORTHIAMID 500-28-7 378 คลอรไ์ ธออน CHLORTHION 101794-74-5 379 โคล ทาร์ COAL TAR 7440-48-4 380 โลหะโคบอลท์,โคบอลท์ออกไซด,์ โคบอลทค์ ารบ์ อเนท, COBALT METAL, OXIDES, CARBONATES, SULPHIDES, as powders โคบอลท์ซัลไฟด,์ ลักษณะผง COTTON DUST 535-89-7 381 ฝนุ่ ฝา้ ย CRIMIDINE 382 ครมิ ดิ นี CYANURIC CHLORIDE 108-77-0 383 ไซยานูรคิ คลอไรด์ CYCLOBUTANE-1, 3-DIONE 15506-53-3 384 ไซโคลบิวเทน-1, 3-ไดโอน CYCLOHEXANE 110-82-7 385 ไซโคลเฮกเซน CYCLOHEXANE-1, 2-DICARBOXYLIC ANHYDRIDE 85-42-7 386 ไซโคลเฮกเซน-1, 2-ไดคาร์บอกซลี ิค แอนไฮไดรด์ CYANAMIDE 420-04-2 387 ไซยานาไมด์ CYCLOHEXANOL 388 ไซโคลเฮกซานอล CYCLOHEXANONE 108-93-0 389 ไซโคลเฮกซาโนน CYCLOHEXANONE HYDROPEROXIDE 108-94-1 390 ไซโคลเฮกซาโนน ไฮโดรเพอร์ออกไซด์ CYCLOHEXANONE PEROXIDE 766-07-4 391 ไซโคลเฮกซาโนน เพอรอ์ อกไซด์ CYCLOHEX-4-ENE-1, 2-DICARBOXYLIC ANHYDRIDE 12262-58-7 392 ไซโคลเฮก-4-อนี -1, 2-ไดคารบ์ อกซลี คิ แอนไฮไดรด์ CYCLOHEXYL ACRYLATE 85-43-8 393 ไซโคลเฮกซิล อะครเี ลท CYCLOHEXYLAMINE 3066-71-5 394 ไซโคลเฮกซลิ อะมนี 2-CYCLOHEXYL-4, 6-DINITROPHENOL 108-91-8 395 2-ไซโคลเฮกซิล-4, 6-ไดไนโตรฟนี อล 3-CYCLO-OCTYL-1, 1-DIMETHYLUREA 131-89-5 396 3-ไซโคล-ออคทิล-1, 1-ไดเมทธลิ ยูเรีย CYCLOPENTANE 2163-69-1 397 ไซโคลเพนเทน CYCLOPENTATE-1,2,3,4-TETRACARBOXYLIC DIANHYDRIDE 287-92-3 398 ไซโคลเพนเทน-1,2,3,4-เตตระคาร์บอกซีลิค ไดแอนไฮไดรด์ CYCLOPENTANONE 6053-68-5 399 ไซโคลเพนทะโนน CYCLOPROPANE 120-92-3 400 ไซโคลโพรเพน CYCLURON 75-19-4 401 ไซคลูรอน CYHEXATIN 2163-69-1 402 ไซเฮกซะติน 2-CYANOPROPAN-2-OL (ACETONE CYANOHYDRIN) 13121-70-5 403 2-ไซยาโนโพรพาน-2-ออล (อะซีโตน ไซยาโนไฮดริน) CYANTHOATE 75-86-5 404 ไซยานโธเอท CYCLOHEXIMIDE 405 ไซโคลเฮกซไิ มด์ 3734-95-0 66-81-9
43 No. ชือ� สารเคมีอันตราย (ไทย) ชื�อสารเคมีอนั ตราย (อังกฤษ) CAS number 406 ไซโคลเตตระเมทธลิ นี เตตระไนตรามนี 407 ไซโคลไตรเมทธิลีน ไตรไนตระมนี CYCLOTETRAMETHYLENETETRANITRAMINE 2691-41-0 408 ดมิ ิทอน 409 3-(3,4-ไดคลอโรพนี ลิ )-1,1-ไดเมทธลิ ยเู รยี CYCLOTRIMETHYLENE TRINITRAMINE 121-82-4 410 3-(3,4-ไดคลอโรพีนลิ )-1-เมทธอกซี-1-เมทธลิ ยเู รยี 411 เอส-(2,5-ไดคลอโรฟีนิลไธโอเมทธลิ ) โอ,โอ-ไดเอทธลิ DEMETON 8065-48-3 ฟอสฟอโรไดไธโอเอท 3-(3,4-DICHLOROPHENYL)-1,1-DIMETHYLUREA 330-54-1 412 ไดคลอโรโพรพีน 413 1,1-ไดคลอโรโพรพีน 3-(3,4-DICHLOROPHENYL)-1-METHOXY-1-METHYLUREA 330-55-2 414 1,2-ไดคลอโรโพรพนี 415 1,3-ไดคลอโรโพรพีน S-(2,5-DICHLOROPHENYLTHIOMETHYL) O,O-DIETHYL 2275-14-1 416 2,3-ไดคลอโรโพรพนี 417 3,3-ไดคลอโรโพรพีน PHOSPHORODITHIOATE 418 3',4'-ไดคลอโรโพรพิโอนอะนไิ ลด์ 419 2,4-ไดคลอโร-แอลฟา (ไพริมดิ นิ -5-อลิ ) เบนซไฮ ดริล แอลกอฮอล์ DICHLOROPROPENE 26952-23-8 420 2,6-ไดคลอโรไธโอเบนซะไมด์ 421 แอลฟา, แอลฟา-ไดคลอโรโทลูอีน 1,1-DICHLOROPROPENE 563-58-6 422 ไดคลอโร-1,3,5-ไตรอะซีนไตรโอน 423 เกลอื โปแตสเซียมของไดคลอโร-1,3,5-ไตรอะซีนไตรโอน 1,2-DICHLOROPROPENE 563-54-2 424 2,2-ไดคลอโรไวนิล ไดเมทธิล ฟอสเฟต 425 2,2-ไดคลอโรไวนิล-2-เอทธิลซัลไฟนลิ เอทธิล 1,3-DICHLOROPROPENE 542-75-6 เมทธลิ ฟอสเฟต 2,3-DICHLOROPROPENE 78-88-6 426 ไดคลอรพ์ รอพ 427 ไดคลอร์พรอพ (เกลือ) 3,3-DICHLOROPROPENE 563-57-5 428 ได-แอลฟา-คมู ลิ เปอร์ออกไซด์ 429 2,3-ไดไซยาโน-1,4-ไดไธอะ-แอนธราควโิ นน 3',4'-DICHLOROPROPIONANILIDE 709-98-8 430 ไดไซโคลเฮกซลิ แอมโมเนียม ไนไตรท์ 431 ไดอะไลฟอส 2,4-DICHLORO-ALPHA (PYRIMIDIN-5-YL) BENZHYDRYL ALCOHOL 26766-27-8 432 ไดอะโซไดไนโตรฟนี อล 433 ไดเบนซิล เพอรอ์ อกซีไดคารบ์ อเนท (ความเขม้ ขน้ >=90%) 2,6-DICHLOROTHIOBENZAMIDE 1918-13-4 ALPHA, ALPHA-DICHLOROTOLUENE 98-87-3 DICHLORO-1,3,5-TRIAZINETRIONE 2782-57-2 DICHLORO-1,3,5-TRIAZINETRIONE, POTASSIUM SALT 2244-21-5 2,2-DICHLOROVINYLDIMETHYL PHOSPHATE 62-73-7 2,2-DICHLOROVINYL-2-ETHYLSULPHINYLETHYL 7076-53-1 METHYLPHOSPHATE DICHLORPROP 120-36-5 DICHLORPROP (SALTS) DI - alpha - CUMYL PEROXIDE 80-43-3 2,3-DICYANO-1,4-DITHIA-ANTHRAQUINONE 3347-22-6 DICYCLOHEXYLAMMONIUM NITRITE 3129-91-7 DIALIFOS 10311-84-9 DIAZODINITROPHENOL 87-31-0 DIBENZYL PEROXYDICARBONATE (CONCENTRATION>=90%) 2144-45-8 434 1,2-ไดโบรโมอเี ธน (เอทธิลลนี ไดโบรไมด)์ 1,2-DIBROMOETHANE ( ETHYLENE DIBROMIDE) 106-93-4 435 1-(3,4-ไดคลอโรฟนี ิลอิมิโน) ไธโอเซมิคารบ์ าไซด์ 1-(3,4-DICHLOROPHENYLIMINO)THAIOSEMICARBAZIDE 5836-73-7 436 2,4-ไดเมทธิล-1,3-ไดไธโอเลน-2-คาร์บอนซัลดไี ฮด์ -โอ- 2,4-DIMETHY-1,3-DITHIOLANE-2-CARBOXALDEHYDE - O- 26419-73-8 เมทธิลคาร์บาโมอลิ ออกซมิ METHYLCABAMOYLOXIME 437 ไดเอทธลิ ีน ไกลคอล ไดไนเตรท DIETHYLENE GLYCOL DINITRATE 693-21-0 438 ไดเอทธลิ เพอร์ออกซไี ดคารบ์ อเนท(ความเข้มข้น>=30%) DIETHYL PEROXYDICARBONATE (CONCENTRATION>=30%) 14666-78-5 439 โอโอ-ไดเอทธลิ -เอส-(โพรพิลไธโอเมทธิล) ฟอสฟอโรไดไธโอเอท O,O-DIETHYL-S-(PROPYLTHIOMETHYL) PHOSPHOROTHIOATE 3309-68-0
44 No. ชอื� สารเคมีอนั ตราย (ไทย) ชอ�ื สารเคมีอนั ตราย (อังกฤษ) CAS number 440 โอโอ-ไดเอทธิล เอส-เอทธลิ ไธโอ เมทธิล ฟอสฟอโรไธโอเอท O,O-DIETHYL S-ETHYTHIOMETHYL PHOSPHORODITHIOATE 2600-69-3 441 โอโอ-ไดเอทธิล เอส-เอทธิลซัลไฟนิลเมทธลิ ฟอสฟอโรไธโอเอท O,O-DIETHYL S-ETHYLSULPHINYLMETHYL PHOSPHOROTHIOATE 2497-07-6 442 โอโอ-ไดเอทธลิ เอส-ไอโซโพรพิลไธโอเมทธลิ O,O-DIETHYL S-ISOPROPYLTHIOMETHYL PHOSPHORODITHIOATE 78-52-4 ฟอสฟอโรไธโอเอท 2,2-DIHYDROPEROXYPROPANE (CONCENTRATION>=80%) 2614-76-8 443 2,2-ไดไฮโดรเพอร์ออกซโี พรเพน (ความเข้มขน้ >=80%) DIMEFOX 115-26-4 444 ไดมฟี อกซ์ DIMETHYLCARBAMOYL CHLORIDE 79-44-7 445 ไดเมทธิลคาร์บาโมอิล คลอไรด์ DIMETHYLNITROSAMINE 62-75-9 446 ไดเมนทิลไนโตรซามีน DIMETHYL PHOSPHORAMIDOCYANIDIC ACID 63917-41-9 447 กรดไดเมทธิล ฟอสฟอรามิโด ไซยานิดคิ 2, 4 - DINITROPHENOL 51 - 28 - 5 448 2,4-ไดไนโตรฟีนอล DINITROPHENOL, SALTS 449 เกลอื ของไดไนโตรฟีนอล DI-ISOBUTYRYL PEROXIDE (CONCENTRATION>=50%) 3437-84-1 450 ได-ไอโซบิวไทริล เพอรอ์ อกไซด(์ ความเขม้ ขน้ >=50%) DI-N-PROPYL PEROXYDICARBONATE 16066-38-9 451 ได-เอ็น-โพรพิล เพอร์ออกซีไดคารบ์ อนเนท (CONCENTRATION>=80%) DIPHACINONE 82-66-6 (ความเขม้ ขน้ >=80%) DISULFOTON 298-04-4 452 ไดฟาซิโนน 2, 4-DICHLOROPHENOXYACETIC ACID or 2,4-D 94-75-7 453 ไดซัลโฟทอน 2, 4-DICHLOROPHENOXYACETIC ACID (SALTS AND ESTERS) 454 กรด 2, 4-ไดคลอโรฟีนอกซอี ะซตี กิ หรอื 2,4-ดี DAZOMET 533-74-4 455 เกลอื และเอสเทอร์ของกรด 2, 4-ไดคลอโรฟีนอกซีอะซตี ิก 4-(2, 4-DICHLOROPHENOXY) BUTYRIC ACID 94-82-6 456 ดาโซเมท 4-(2, 4-DICHLOROPHENOXY) BUTYRIC ACID (SALTS) 457 กรด 4-(2, 4-DICHLOROPHENOXY) BUTYRIC DDT 50-29-3 458 เกลือของกรด 4-(2, 4-DICHLOROPHENOXY) BUTYRIC DECACHLOROPENTACYCLO [5.2.1.0(2,6).0(3,9).0(5),(8)] 143-50-0 459 ดดี ีที DECAN-4-ONE 460 เดคะคลอโรเพนตะไซโคล[5.2.1.0(2,6).0(3,9).0(5),(8)] 1563-67-3 DECARBOFURAN 298-03-3 ดแี คน-4-โอน DEMETON-O 126-75-0 461 ดีคาร์โบฟวิ แรน DEMETON-S 867-27-6 462 ดีมที อน-โอ DEMETON-O-METHYL 919-86-8 463 ดมี ที อน-เอส DEMETON-S-METHYL 17040-19-6 464 ดมี ีทอน-โอ-เมทธลิ DEMETON-S-METHYL SULPHONE 1014-69-3 465 ดมี ีทอน-เอส-เมทธลิ DESMETRYNE 123-42-2 466 ดีมีทอน-เอส-เมทธิล ซลั โฟน DIACETONE ALCOHOL 613-35-4 467 เดสเมทรนี N, N'-DIACETYLBENZIDINE 2303-16-4 468 ไดอะซีโตน แอลกอฮอล์ DI-ALLATE 93-71-0 469 เอน็ , เอ็น'-ไดอะซีติลเบนซดิ นี N, N-DIALLYLCHLOROACETAMIDE 131-17-9 470 ได-อลั เลท DIALLYL PHTHALATE 92-87-5 471 เอน็ , เอ็น-ไดอลั ลลิ คลอโรอะเซตาไมด์ 4, 4'-DIAMINOBIPHENYL 472 ไดอลั ลิล พธาเลท 473 4, 4'-ไดอะมิโนไบฟนี ิล
45 No. ช�อื สารเคมีอนั ตราย (ไทย) ชอื� สารเคมีอนั ตราย (อังกฤษ) CAS number 474 4, 4'-ไดอะมิโนไดฟีนิลมเี ธน 475 1,2-ไดอะมิโนอเี ธน 4, 4'-DIAMINODIPHENYLMETHANE 101-77-9 476 2,4-ไดอะมโิ นโทลอู นี ซัลเฟท 477 2,5-ไดอะมโิ นโทลอู ีน ซัลเฟท 1,2-DIAMINOETHANE 107-15-3 478 เอส (4,6-ไดอะมโิ น-1,3,5-ไตรอะซนิ -2-อลิ เมทธลิ )โอ,โอ- 2,4-DIAMINOTOLUENE SULPHATE ไดเมทธิลฟอสฟอโรไดไธโอเอท 479 ออโท-ไดอะนิซดิ นี 2,5-DIAMINOTOLUENE SULFATE 615-50-9 480 เกลอื ของ ออโท-ไดอะนิซดิ นี 481 ไดอารเ์ ซนิค ไตรออกไซด์ S-(4,6-DIAMINO-1,3,5-TRIAZIN-2-YLMETHYL) O,O-DIMETHYL 78-57-9 482 3,6-ไดอะซาออคเทนเอทธลิ นี ไดอะมนิ 483 ไดอะซีนอน PHOSPHORODITHIOATE 484 ไดเบนโซอิล เพอรอ์ อกไซด์ o-DIANISIDINE 119-90-4 485 1,2-ไดโบรโม-3-คลอโรโพรเพน 486 โอ-1,2-ไดโบรโม-2, 2-ไดคลอโรเอทธิล ไดเมทธิล ฟอสเฟท o-DIANISIDINE (SALTS) 487 3,5-ไดโบรโม-4-ไฮดรอกซีเบนซลั ดีไฮด์ โอ- DIARSENIC TRIOXIDE 1327-53-3 (2,4-ไดไนโตรฟีนิล) ออกซมี 3,6-DIAZAOCTANETHYLENEDIAMIN 112-24-3 488 3,5-ไดโบรโม-4-ไฮดรอกซี เบนโซไนไตรล์ 489 ไดโบรโมมเี ธน DIAZINON 333.-41-5 490 ได-เอน็ -บิวทลิ อะมีน DIBENZOYL PEROXIDE 94-63-0 491 ได-เซค-บวิ ทิลอะมีน 492 ไดบวิ ทลิ อีเธอร์ 1,2-DIBROMO-3-CHLOROPROPANE 96-12-8 493 ได-เอ็น-บวิ ทิล อเี ธอร์ O-1,2-DIBROMO-2, 2-DICHLOROETHYL DIMETHYL PHOSPHATE 300-76-5 494 ได-เทอรท์ -บวิ ทลิ เพอรอ์ อกไซด์ 3,5-DIBROMO-4-HYDROXYBENZALDEHYDE O-(2,4- 13181-17-4 495 ไดแคมบา 496 เกลอื ของไดแคมบา DINITROPHENYL) OXIME 497 ไดคลอเฟนไธออน 498 ไดคลอฟลูอะนดิ 3,5-DIBROMO-4-HYDROXY BENZONITRILE 1689-84-5 499 ไดโคลน DIBROMOMETHANE 74-95-3 500 กรดไดคลอโรอะซีติค 501 ไดคลอโรอะซีตลิ คลอไรด์ DI-n-BUTYLAMINE 111-92-2 502 เอส-2, 3-ไดคลอโรอัลลิล ไดไอโซโพรพลิ ไธโอคาร์บาเมท 503 1,2-ไดคลอโรเบนซนี DI-sec-BUTYLAMINE 626-23-3 504 ออโท-ไดคลอโรเบนซนี 505 1,4-ไดคลอโรเบนซนี DIBUTYL ETHER 142-92-1 506 พารา-ไดคลอโรเบนซนี DI-n-BUTYL ETHER 142-92-1 507 3,3'-ไดคลอโรเบนซิดีน 508 เกลอื ของ 3,3'-ไดคลอโรเบนซิดนี DI-tert-BUTYL PEROXIDE 110-05-4 509 3,3'-ไดคลอโรไบพนี ิล-4,4'-ไดอะมนี 510 เกลือของ 3,3'-ไดคลอโรไบพีนลิ -4,4'-อิลลนี ไดอะมนี DICAMBA 1918-00-9 511 1,1-ไดคลอโรอีเธน DICAMBA (SALTS) DICHLOFENTHION 97-17-6 DICHLOFLUANID 1085-98-9 DICHLONE 117-80-6 DICHLOROACETIC ACID 79-43-6 DICHLOROACETYL CHLORIDE 79-36-7 S-2, 3-DICHLOROALLYL DIISOPROPYLTHIOCARBAMATE 2303-16-4 1,2-DICHLOROBENZENE 95-50-1 o-DICHLOROBENZENE 95-50-1 1,4-DICHLOROBENZENE 106-46-7 p-DICHLOROBENZENE 106-46-7 3,3'-DICHLOROBENZIDINE 91-94-1 3,3'-DICHLOROBENZIDINE (SALTS) 3,3'-DICHLOROBIPHENYL-4,4'-DIAMINE 91-94-1 3,3'-DICHLOROBIPHENYL-4,4'-YLENEDIAMINE (SALTS) 1,1-DICHLOROETHANE 75-34-3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443