Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore OSHE Magazine ฉบับที่ 2

OSHE Magazine ฉบับที่ 2

Published by e-Book สสปท., 2020-07-01 00:43:02

Description: เกี่ยวข้องกับด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน Occupational Safety Health

Keywords: ปลอดภัย,safety,Occupational,Health

Search

Read the Text Version

ฉบบั ท่ี 2 S AFETY TOGETHER S AFETY THAILAN D สัมภาษณ์ คณุ อคั รา เทย่ี งวบิ ลู ย์ เรอ่ื งเดน่ ในฉบับ Occupational Health & Safety Manager – Building Materials  สรปุ ผลการดําเนนิ งานความปลอดภยั Sustainable Organization Development Office (SOD) – Operations และอาชีวอนามยั แห่งชาติ ครัง้ ที่ 31 SCG Cement-Building Materials Co.,Ltd. (SCG CBM) บริษทั เอสซจี ซี ิเมนต์ - ผลิตภัณฑ์กอ่ สรา้ ง จาํ กัด  จุดเรม่ิ ต้นของเสน้ ทางการจดั งาน สปั ดาห์ความปลอดภัยในการทํางานแห่งชาติ สัมภาษณ์ คุณผอ่ งพรรณี แสงนอ้ ย ครัง้ ที่ 1 พ.ศ. 2528 หวั หน้าหนว่ ยงานความปลอดภัยฯ  โครงการสง่ เสรมิ การจัดทําระบบมาตรฐานความปลอดภยั บรษิ ัท ซ.ี ไอ.กรุป๊ จํากัด (มหาชน) และอาชวี อนามยั สาํ หรับสถานประกอบการ SMEs สัมภาษณ์ คณุ ชนมน์ ภิ า กลุ ชาติสถาพร  ผลการดําเนินงานวจิ ยั สสปท.  นานาสาระจากต่างประเทศ (She Digest) นักปฎิบตั งิ านเทคนคิ (จป.วิชาชีพ)  ความปลอดภัยบนทอ้ งถนน (Road Safety) การไฟฟา้ สว่ นภูมภิ าคเมืองพัทยา  ภัยอันตรายในงานจ้างเหมา (ประเภทกจิ การอุตสาหกรรม)  แรงงานกบั โศกนาฏกรรม  ปัจจัยเสีย่ งจติ สงั คมในสถานทีท่ ํางาน



สารบัญ จดุ เริม่ ตน้ ของเส้นทางการจดั งานสปั ดาห์ 3 การจดั สัมมนาวชิ าการ ความปลอดภยั ในการทำ� งานแหง่ ชาติ 9 งานความปลอดภยั และอาชวี อนามัยแห่งชาติ ครงั้ ที่ 1 พ.ศ. 2528 ครั้งที่ 31 ผลการด�ำเนินงานวิจัย 12 15 โครงการส่งเสริมการจัดท�ำระบบมาตรฐาน โดย สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย ความปลอดภยั และอาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการท�ำงาน (องค์การมหาชน) 18 ส�ำหรับสถานประกอบการ SMEs 23 กฎหมายความปลอดภยั เรื่องเลา่ วันความปลอดภยั Safety Law 27 และอาชวี อนามัยสากล 33 นานาสาระจากต่างประเทศ จป. มอื โปร She Digest 38 สัมภาษณ์ คุณอัครา เที่ยงวบิ ลู ย์วงศ์ 42 บรษิ ัทเอสซีจซี ิเมนต์ - ผลติ ภณั ฑ์กอ่ สร้าง จำ� กดั ความปลอดภยั บนทอ้ งถนน Road Safety 45 การจัดการดา้ นความปลอดภัย และสขุ ภาพ 47 ในโครงการอตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศในประเทศไทย จิตส�ำนกึ คุณสรา้ งได้ 51 จป. เครือข่าย จป. วัยทนี 56 สัมภาษณ์ คณุ ผ่องพรรณี แสงนอ้ ย สัมภาษณ์ คณุ ชนมน์ ิภา กลุ ชาติสถาพร บริษัท ซ.ี ไอ.กร๊ปุ จำ� กดั (มหาชน) 61 การไฟฟา้ สว่ นภมู ิภาคเมืองพัทยา 65 ภยั อันตรายในงานจ้างเหมา แรงงานกับโศกนาฏกรรม ประเภทกจิ การอตุ สาหกรรม 69 วเิ คราะห์ช่วั โมงการท�ำงานของแรงงาน 78 อบุ ตั เิ หตุ กบั โศกนาฏกรรมสยองปีใหม่ คา่ ใช้จ่าย และการปฏบิ ัติ ตามกฎหมาย ขององค์กร ปัจจยั เส่ยี งจติ สังคมในสถานทีท่ ำ� งาน Psychosocial risk factors in the workplace ขา่ วกิจกรรม เครือข่ายความปลอดภัย THAI OSHNET ขา่ ว สสปท. TOSH NEWS

บทบรรณาธกิ าร นติ ยสารความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ� งาน หรอื OSHE Magazine เปน็ ฉบบั ท่ี 2 ท่ีได้จัดท�ำขึ้นจากฉบับปฐมฤกษ์ โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และสมาคมอาชีวอนามัย และความปลอดภยั ในการทำ� งาน (สอป.) สำ� หรบั นติ ยสารฉบบั นเี้ นน้ การนำ� เสนอผลสรปุ การดำ� เนนิ งานความปลอดภยั อาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งท่ี 31 ที่ได้รับการตอบรับอันดี โดยมีผู้เข้าเย่ียมชมงานประมาณ 52,000 คน รวมทั้ง มกี ารนำ� เสนอ บทความในหวั ขอ้ ตา่ งๆ ทางดา้ นวชิ าการทนี่ า่ สนใจ เชน่ เรอื่ งเลา่ วนั ความปลอดภยั แหง่ ชาต,ิ คา่ ใชจ้ า่ ย จากอุบัติเหตุ, กฎหมายด้านความปลอดภัย โดยผู้เขียนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ เรายังคงเน้นการสัมภาษณ์ และน�ำเสนอเน้ือหาสาระด้านความปลอดภัยจากเครือข่ายเจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในการท�ำงานทั่วประเทศ และกระผมหวังว่า นิตยสารฉบับน้ียังคงให้ความรู้ อีกทั้งยังเป็นการแลกเปล่ียนข่าวสารส�ำหรับนายจ้างลูกจ้าง ในสถานประกอบกิจการ และผ้ใู ชแ้ รงงานทั่วประเทศต่อไป ชัยธนา ไชยมงคล ท่ีปรึกษา สุธรรมาสา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สขุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช รองศาสตราจารยส์ ราวุธ พนั ธ์ประสิทธ์ ิ สมาคมอาชวี อนามัยและความปลอดภัยในการท�ำงาน (สอป.) รองศาสตราจารย์ ดร.วนั ทน ี บรรณาธกิ ารบรหิ าร ไชยมงคล ควบคมุ การผลติ และประสานงาน ชยั ธนา สธุ รรมาสา พนิ ิจ เช้ือวงษ์ รองศาสตราจารยส์ ราวุธ พนั ธ์ประสทิ ธิ์ รองศาสตราจารย์ ดร.วันทน ี เลศิ วสิ ทุ ธไิ พบลู ย์ ฝา่ ยการตลาดและสมาชิกสัมพันธ์ กองบรรณาธิการ ศรโี อภาส สคุ นธา ท้วมพงษ์ รองศาสตราจารยส์ ดุ าว ศรีสวสั ดิ์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.อภริ ด ี แทง่ ทอง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ ม ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พรสวัสด ์ิ บุณยโยธนิ ในการทำ� งาน (องค์การมหาชน) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไชยนันท ์ เสนานุรกั ษ์วรกุล เลขท่ี 18 ถนนบรมราชชนนี แขวงฉมิ พลี เขตตลิง่ ชนั กรงุ เทพมหานคร 10170 ดร.วรกมล นานคงแนบ โทรศพั ท์ 0 2448 9111, 0 2448 9098 ดร.เชาวลติ จริ ไชยภาส www.tosh.or.th ดร.นพนันท ์ กรุงไกรวงศ์ วรี ิศ ตงั้ จนิ ตนา สุดธิดา เจตยิ านุวัตร ลัดดา กานต์วโิ รจน์ วิเลิศ พันธุเจรญิ ศรี กาญจนา พรไพบลู ย์ สมพิศ จนั ทรส์ ี สถาพร พิษณุ 2 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

การจดั สัมมนาวชิ าการ งานความปลอดภยั และอาชีวอนามยั แหง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 31 SAFETY THAILAND SAFETY TOGETHER นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 3

SAFETY THAILAND SAFETY TOGETHER \"รว่ มแรงร่วมใจ ประเทศไทยปลอดภัย\" พลเอก ศริ ิชยั ดิษฐกุล งานความปลอดภัย อาชีวอนามัย แห่งชาติ ครั้งที่ 31 ในวันท่ี 29 มิถุนายน ถึง 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2560 จึงเป็นปแรกท่ี สสปท. ได้เริ่มด�าเนินการ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงแรงงาน จัดกิจกรรมน้อี ย่างเป็นทางการ ณ ศนู ยป์ ระชมุ แหง่ ชาตไิ บเทค บางนา โดยม ี เปน็ ประธานเปด งานความปลอดภัยอาชวี อนามยั แหง่ ชาติ ครงั้ ท่ี 31 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล เป็นประธานในพิธ ี ปาฐกถาพิเศษในหวั ขอ้ “รว่ มแรงร่วมใจ ประเทศไทยปลอดภัย” และใหป้ าฐกถาพเิ ศษ ภายใตแ้ นวความคดิ Safety Thailand Safety Together ร่วมแรงรว่ มใจ ประเทศไทยปลอดภยั สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม การจัดงานความปลอดภัย และอาชีวอนามัย คร้ังท่ี 31 ถือว่า ในการท�างาน (องค์การมหาชน) สสปท. ตระหนักว่า การสร้างวัฒนธรรม เป็นส่วนหนึ่งภายใต้การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการด�าเนินการโครงการ ความปลอดภัย ให้เกิดข้ึนนกลุ่มแรงงาน และประชาชนอย่างย่ังยืน จ�าเป็น ความปลอดภยั และอาชวี อนามยั รว่ มกบั 10 กระทรวงหลกั อนั ไดแ้ ก ่ กระทรวง อย่างยิ่งที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และพัฒนาพฤติกรรมความปลอดภัย เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน ครอบคลุมตลอดช่วงชีวิตคน นับต้ังแต่เยาวชน จวบจนถึงวัยสูงอายุ ท้ังนี้เพ่ือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์ ทุกคนเล็งเห็นความส�าคัญของความปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน และเทคโนโลยี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นภาระกิจหลักของสถาบันฯ ท่ีจะให้ความรู้ ด้วยการให้การฝกอบรม และกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม และมหี นว่ ยงานจดั งานรว่ ม การสร้างจิตส�านึกที่ดี ด้วยการจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างเสริมวัฒนธรรม ไดแ้ ก ่ สมาคมส่งเสรมิ ความปลอดภยั และอนามยั (ประเทศไทย) ความปลอดภยั และกจิ กรรมอน่ื ๆ จา� เปน็ อยา่ งยง่ิ ทตี่ อ้ งดา� เนนิ การอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ในการจัดงานครั้งประกอบด้วย กิจกรรมการจัดสัมมนาวิชาการ การ หนึ่งในการจัดกิจกรรมประจ�าป ตามภาระกิจที่ส�าคัญ ของ สสปท. จัดนิทรรศการและกิจกรรมเวทีกลาง การแสดงงานวิชาการ และผลิตภัณฑ์ คือการจัดงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย แห่งชาติ ซ่ึงหลังจากที่ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน โดยมี กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงานได้ตัดโอนภารกิจ ผ้เู ขา้ ร่วมงานสมั มนา และกิจกรรมอื่นๆ ซ่ึงสามารถสรุปไดด้ งั น้ี ในการจดั งานความปลอดภยั อาชวี อนามยั แหง่ ชาต ิ (ชอื่ เดมิ สปั ดาหค์ วามปลอดภยั อาชีวอนามัยในการท�างาน) มาให้ สสปท. ในป พ.ศ. 2559 ดังน้ัน การจัด การจดั สัมมนาวิชาการ 4 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน หัวข้อการสัมมนาวิชาการในงานความปลอดภัย และอาชีวอนามัย แห่งชาติ ครั้งที่ 31 ในวันท่ี 29 มิถุนายน ถึง 1 กรกฏาคม 2560 มีผู้เข้า สัมมนาท้ังส้ิน 1,923 คน ส�าหรับการจัดสัมมนาวิชาการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน มี 5 ห้องย่อย แบ่งออก เป็น 29 หัวข้อวิชา ซ่ีงเน้นการแลกเปลี่ยนความรู้ และการขับเคลื่อน

เซฟต้ีไทยแลนด์ใน 5 หัวข้อหลักได้แก่ ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ส.ท่ี 1 สนบั สนนุ นโยบาย Safety Thailand การวางแผนปองกันและระงับอัคคีภัย การท�างานกับสารเคมีอันตราย ส.ท่ ี 2 สอดคลอ้ งแผนแม่บทความปลอดภัยฯ ป  60-64 งานด้านอาชีวอนามัย งานความปลอดภัยบนท้องถนน ส�าหรับหัวข้อสัมมนา ระเบยี บวาระแหง่ ชาต ิ “แรงงานปลอดภยั และสขุ ภาพอนามยั ด”ี ท่ีได้รับความสนใจและมีผู้ฟงเข้าฟงจ�านวนมาก และมีผลการประเมินท่ีดีมาก ส.ท ี่ 3 สง่ เสริมวัฒนธรรมความปลอดภยั เชงิ ปองกัน 4 หัวข้อ ได้แก่การสาธิตตอบโต้ภาวะเหตุฉุกเฉินในสถานการณ์จ�าลอง” Preventive Safety Culture (คะแนนร้อยละ 4.13), หัวข้อเศรษฐศาสตร์ความปลอดภัย ภาระหรือ ส.ท ี่ 4 การมีส่วนร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบัน การลงทุน (คะแนนรอ้ ยละ 4.13) หัวขอ้ พฤตกิ รรมความปลอดภัยแรงงานไทย การศกึ ษา รวมถงึ กล่มุ นายจ้าง และลูกจ้าง ก็สร้างได้ (คะแนนร้อยละ 4.09) และการบริหารจัดการความปลอดภัยใน ในสถานประกอบกจิ การ งานก่อสร้าง (คะแนนรอ้ ยละ 4.00) ตามลา� ดบั ส.ที่ 5 สนองภารกจิ หนา้ ที่ สสปท. 5 ส. แนวความคิดการจดั หัวขอ้ สัมมนา ซึ่งจากการประเมินผลการจัดสัมมนา โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ การจัดงานครัง้ นีไ้ ดม้ กี ารกา� หนดแนวทางการจัดหวั ขอ้ สัมมนา และการ ดร.อิสรา เล็กสรรเสริญ พบว่าผเู้ ข้าร่วมสัมมนามคี วามพีงพอใจในระดับดมี าก ประเมินเพอื่ เป็นตัววัดผลสัมฤทธิ์ โดยใช้หลักแนวคิด 5 ส. ซึง่ ประกอบดว้ ย และผ่านเกณฑป์ ระเมนิ โดยมคี ะแนนเฉลีย่ เท่ากับ 3.83 (เตม็ 5.00) รอ้ ยละหมวดเนอ้ื หาการจัดสัมมนาวิชาการ งานความปลอดภยั และอาชวี อนามัยแห่งชาติ ครั้งท่ี 31 สรปุ สาระสา� คญั ทไ่ี ดจ้ ากหวั ขอ้ สมั มนา 5 หวั ขอ้ หลกั การขับเคลื่อนความปลอดภัยในการก่อสร้าง: การปรับปรุงมาตรฐาน ตามนโยบาย Safety Thailand ในการท�างานก่อสร้างให้ทันสมัยตามโครงการและเทคโนโลยีสมัยใหม ่ นโยบาย Safety Thailand ระยะเร่งด่วนประกอบด้วย 3 ด้าน มีความส�าคัญในการสร้างคู่มือและหลักสูตรด้านความปลอดภัยในการท�างาน ได้แก่ ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง การวางแผนและปองกันอัคคีภัย เพื่อสร้างองค์ความรู้และแนวทางปฏิบัติท่ีดีให้กับผู้เกี่ยวข้องในงานก่อสร้าง และการทา� งานเกยี่ วขอ้ งกบั สารเคม ี แตใ่ นการจดั งานสมั มนานไี้ ดใ้ หค้ วามสา� คญั ซง่ึ จา� นวนมากในปจ จบุ นั และสามารถลดการประสบอนั ตรายจากการกอ่ สรา้ งได้ ควบคไู่ ปกบั ความปลอดภยั ทางถนนเนอื่ งจากมสี ถติ กิ ารเสยี ชวี ติ จากการทา� งาน การขับเคล่ือนการวางแผนปองกันและระงับอัคคีภัย: ปญหาในเร่ือง สงู ทส่ี ดุ และดา้ นอาชวี อนามยั โดยเฉพาะเรอื่ งการยศาสตร ์ ซง่ึ เกยี่ วขอ้ งกบั โรค ของอคั คภี ยั ในสถานประกอบการนนั้ สว่ นใหญเ่ ปน็ การดา� เนนิ การตามกฎหมาย จากการประกอบอาชีพ เช่น ระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูกที่พบมาก หรือมาตรฐาน ซ่ึงข้อก�าหนดเหล่านี้เป็นข้ันต่�าในการด�าเนินการ ท่ีสุดในแรงงานไทย นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 5

ซึ่งสถานประกอบกิจการควรปฏิบัติให้สูงกว่าที่ระบุไว้ตามกฎหมาย อุบัติเหตุ จ�านวนการสูญเสียบุคคลากร และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ หรือมาตรฐานท่ีก�าหนดไว้ และแต่ละสถานประกอบกิจการควรมีทะเบียน จากการทา� งานทีต่ ้องใช้ยานพาหนะบนทอ้ งถนน ความเสยี่ งการตรวจสอบ มผี รู้ บั ผดิ ชอบเฉพาะสถานประกอบกจิ การของตนเอง การขับเคลื่อนด้านอาชีวอนามัย: การประสบอันตรายจากการท�างาน เพราะปญหาและแนวทางปองกันอัคคีภัยในแต่ละสถานประกอบกิจการ สามารถควบคุมได้จากตัวบุคคล เคร่ืองมือ/เคร่ืองจักร และสิ่งแวดล้อม มคี วามแตกต่างกัน ในการทา� งาน ผบู้ รหิ ารควรใหค้ วามสา� คญั ในการปอ งกนั และแกไ้ ขปญ หาทง้ั ดา้ น การขับเคล่ือนการทา� งานเกีย่ วข้องกบั สารเคม:ี อันตรายจากการท�างาน งบประมาณ และใหค้ วามรแู้ กผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ าน ซ งึ่ การแกป้ ญ หาประสบความสา� เรจ็ กับสารเคมีปองกันได้ โดยชี้บ่งอันตรายให้ครบในทุกขั้นตอนท่ีเก่ียวข้องกับ อย่างย่งั ยืนได้ ต้องไดค้ วามรว่ มมอื ท้ังจากฝายนายจ้างและลูกจ้าง สารเคมี และปฏิบัตติ ามข้อกา� หนดกฎหมายให้ครบถว้ น รวมถงึ การสนับสนุน อย่างจริงจงั จากผบู้ ริหารสถานประกอบกิจการ การขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน: การบริหารจัดการการขนส่ง ทางถนน ไม่วา่ จะเป็นการปฏิบตั ติ ามระบบ Q-Mark มาตรฐานคณุ ภาพบรกิ าร ขนส่งรถบรรทุก หรือปฏบิ ัตติ าม ISO 39001 (มอก.39001) และกฎกระทรวง ว่าด้วยระบบการจัดการความปลอดภัยในการท�างาน เป็นการลดจ�านวน ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากสัมมนาวิชาการ • ผเู้ ขา้ รว่ มการสมั มนาวชิ าการฯ ทราบปญ หา และสถานการณค์ วามปลอดภยั ในการท�างาน และได้รับความรู้ ความเข้าใจ สามารถน�าไปประยุกต์ ใช้ในสถานประกอบกิจการของตนได้ • เปน็ เวทแี ลกเปลยี่ นความร ู้ และประสบการณก์ ารทา� งานดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน • เสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน จากการบูรณาการการท�างานร่วมกัน จากภาครัฐภาคเอกชน และสถาบนั การศกึ ษา • สามารถน�าประเด็นส�าคัญใช้เป็นข้อเสนอแนะแก่หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ในการขับเคล่ือนนโยบาย Safety Thailand เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย ในการทา� งานต่อไป พิ ธีมอบรางวลั สถานประกอบกิจการท่ีผ่านเกณฑ์การประกาศเกียรติคุณกิจกรรม การรณรงคล์ ดสถติ ิอบุ ัตเิ หตจุ ากการท�างานให้เปน็ ศนู ย ์ ประจา� ป 2560 (Zero Accident Campaign 2017) จา� นวน 258 รางวลั ประกอบด้วย - ระดบั แพททนิ ั่ม จ�านวน 9 แห่ง - ระดับทอง จา� นวน 40 แหง่ - ระดับเงิน จ�านวน 90 แห่ง - ระดบั ทองแดง จา� นวน 119 แห่ง - พธิ มี อบโลป่ ระกาศเกยี รตคิ ณุ สถานประกอบกจิ การ SMEs ทผ่ี า่ นเกณฑ์ ตามโครงการน�าร่องระบบมาตรฐานความปลอดภัยฯ ใน SMEs จา� นวน 9 แห่ง - พธิ มี อบรางวลั ด้านการสง่ เสรมิ ความปลอดภัย การประกวดโปสเตอร์ Info Graphic จ�านวน 5 รางวัล - พิธมี อบโล่ประกาศเกยี รตคิ ุณแก่ผ้สู นับสนุน การจัดงานจากภาคเอกชน 4 ราย 6 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

การแสดงนิทรรศการ สสปท. ใช้พ้ืนท ี่ 9,600 ตารางเมตร โดยครง้ั น้ีมีผ้เู ขา้ ร่วมงานจ�านวนมาก ถึง 52.00 0 คน ซี่งมากกว่าปท่ีแล้วประมาณร้อยละ 5 โดยภายในพ้ืนท่ีมี การจดั คหู านทิ รรศการ มหี นว่ ยงานตา่ งๆ ทง้ั ภาครฐั ภาคการศกึ ษา ภาคประชาสงั คม และภาคเอก ชน ประม าณ 155 คูหา โดยได้แบ่งออกเป็น ส�าคัญ ได้แก่ โซน Safety Thailand โซนความปลอดภยั ในการใช้สารเคมี โดยการสนับสนุน จากบริษัท อนุสรณ ์ เบสเซฟ จ�ากัด โซนความปลอดภัยบนทอ้ งถนน สนับสนุน โดยการปโ ตรเล่ีย มแห่งประเทศไทย โซนความปลอดภัยในงานก่อสร้าง สนับสนุนโ ดยบริษั ท 3M ประเทศไทย จ�ากัด โซนการศึกษา ซึ่งได้รับ การสนบั สนนุ จาก 18 สถาบนั การศกึ ษาทม่ี กี ารเรยี นการสอนดา้ นความปลอดภยั และอาชีวอ นามัย ห น่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ส�านักงานประกันสังคม กรมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงานเป็นต้น ในการจัด กิจกรรม ท่ีได้รับการตอบรับท่ีดีโดยเฉพาะคูหาจากสถาบัน เอกชน และ สถาบันก ารศึกษา โดยมี จุดเด่น คือมีการจัดคูหาที่ใหญ ่ และทันสมั ย มีการ จัดกิจกรรมทางวิชาการ ซักถามและให้ข้อมูลทางวิชาการ ซ่ึงมผี ลการประเมินที่ดีมาก คดิ เป็นร้อยละ 84.21 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 7

การจัดเวทีกลาง ในปน ้ี สสปท. มงุ่ เนน้ การดงึ ผใู้ ชแ้ รงงานและประชาชนเขา้ รว่ มในพน้ื ท่ี แสดงนิทรรศการให้มากทสี่ ดุ จึงได้มีการจัด กิจกรรมในเวทีกลางตลอดทัง้ 3 วนั โดย มกี ารเชญิ นกั รอ้ ง ดารา การประกวดกจิ กรรม และนกั พูดจงู ใจ ต่างๆ เข้ าร่วมงาน ได้แก่ คุณฝนเด่น จรรยาธนากร มาพูดเรื่อง “กันภัย ดีกว่ากู้ ภัย เสียงจากใจคนกู้ชีพ” คุณฟลม์ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ และโฟล์ท รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ พูดเร่ือง “สร้างส�านึกความปลอดภัย จากใจนักแข่ง” และคุณเกสรา อนิ แกว้ นักพดู เพอ่ื สรา้ งแรงจงู ใจ จากศูนย์ฟน ฟูสมรรถภาพ คนงาน จังหวัดปทุมธานี สา� นักงานประกันสงั คม ไดแ้ ก่ พูดในหัวขอ้ “หัวใจ ท่ีมุ่งม่ันกับการสร้างฝนการท�างาน” นอจากน้ีมีการแสดงมินิคอนเสิร์ต จากคุณเอิ้นขวัญ วรัญญา และกิจกรรมอ่ืนๆ เช่น การประกวด Brand Ambassador “Safety Smart & Smile Contest 2017 ตลอด 3 วนั เตม็ 8 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

SAFETY จดุ เริ่มตน้ ของเส้นทางการจดั งาน สัปดาห์ความปลอดภัยในการทํางานแห่งชาติ คร้ังท่ี 1 พ.ศ. 2528 เดือนตุล าคม 2528 ได้มีการหารือระหว่าง ส่วนราชกา รของกรมแรงงานเกี่ยวกับการพัฒนางาน ความปลอดภยั ในการทา� งาน ซง่ึ ตา่ งเหน็ พอ้ งตอ้ งกนั วา่ นอกจากการ พัฒนาและบังคับใช้กฎหมาย การตรวจ แรงงาน การศกึ ษาวจิ ยั การตรวจทดสอบและวเิ คราะห์ ปัญหาสภาพแวดล้อมในการท�างาน และการเผยแพร่ ข้อมูลข่า วสารแล้ว สมควรจะมีกิจกรรมเสริม โดยการจดั งาน “สปั ดาหค์ วามปลอดภยั ในการทา� งาน” ข้นึ ในระดับประเทศเป็นประจ�าทุกปี เพ่ือเปน็ ศูนย์กลาง ของกลุ่มบุคคลและองค์กรที่เก่ียวข้อง ตั้งแต่นายจ้าง ลูกจ้าง ผบู้ รหิ าร นักวชิ าการ เจา้ หนา้ ที่ และประชาชน ท่ัวไป ให้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิชาการ แนวคิดวิธีการแก้ไขปัญหา รวมทั้งเป็นแหล่งแสดงผล งานทางวิช าการด้านความปลอดภัยท่ีประสบ ความส�าเร็ จในสถานประกอบกิจการ เพ่ือเป็นการ เผยแพร่ให้ ผู้ท่ีเก่ียวข้องได้ตระหนักถึงความส�าคัญ ของคนท�างาน ความเสียหายและความทุกข์ของ คนทไี่ ดร้ บั อนั ตรายจากการทา� งาน รวมถงึ ความเสยี หาย จากทุกคนท่ีมีส่วนได้รับน้ัน ซ่ึงความคิดริเริ่มดังกล่าว สอดคล้องกับ มติ ในท่ีประชุมของคณะอนุกรรมการ อุบตั ภิ ัยแห่งชาตฯิ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 9

คณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ส�ำนักนายกรัฐมนตรี ที่เห็น ในการท�ำงานแห่งชาติใหม่ เพ่ือให้สอดคล้องกับวันความปลอดภัย สมควรใหม้ ีการจดั งานสัปดาหค์ วามปลอดภัยในการท�ำงานขน้ึ เชน่ เดียวกัน ในการท�ำงานแห่งชาติ จากน้ันจึงได้เริ่มจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัย จงึ เป็นจุดเรมิ่ ตน้ ให้กลุ่มผ้สู นใจในเรอื่ งน้ี ในขณะนนั้ อนั ได้แก่ กรมอนามัย ในการท�ำงานแห่งชาติในช่วงเวลาคาบเกี่ยววันท่ี 10 พฤษภาคม โดยเร่ิม กระทรวงสาธารณสุข สภาองค์การนายจ้าง สมาคมอุตสาหกรรมไทย ตัง้ แต่การจัดงานครงั้ ที่ 12 ในปี 2541 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยสภาที่ปรึกษาเพ่ือพัฒนาแรงงานแห่งชาติ กิจกรรมหลักในการจัดงาน ได้แก่ การสัมมนาวิชาการ การจัด และกรมแรงงานได้หารือเป็นการภายใน และเห็นสมควรที่จะเสนอข้อคิด นิทรรศการ และจดั กิจกรรมสง่ เสริมความปลอดภยั ตา่ งๆ เชน่ การประกวด เห็นดังกล่าวไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้จัดต้ังคณะกรรมการระดับชาติ สถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ ให้เป็นผู้ด�ำเนินการในเรื่องนี้อันประกอบด้วย ผู้แทนส่วนราชการ องค์การ สภาพแวดล้อมในการท�ำงาน การประกวดเจ้าหน้าท่ีความปลอดภัย ของรัฐและของเอกชนทีเ่ กี่ยวและข้องเปน็ กรรมการรว่ มกัน ในการทำ� งานระดบั วชิ าชพี การประกวดสง่ิ ประดษิ ฐค์ ดิ คน้ ดา้ นความปลอดภัย วันท่ี 18 ธันวาคม 2528 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดต้ัง ในการท�ำงานซ่ึงเป็นตัวอย่างได้ การประกวดภาพถ่ายความไม่ปลอดภัย ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร จั ด ง า น สั ป ด า ห ์ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ใ น ก า ร ท� ำ ง า น เ ป ็ น ในการทำ� งาน การประกวดวาดภาพความปลอดภยั และการประกวดคำ� ขวญั คณะกรรมการระดับชาติ เพื่อจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงาน ความปลอดภัย เปน็ ตน้ อันประกอบด้วยผู้แทนจากส่วนราชการ องค์กรของรัฐและเอกชน ปี 2543 คณะกรรมการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงาน เป็นกรรมการร่วมกัน และมีรัฐมนตรีประจ�ำส�ำนักนายกรัฐมนตรี เห็นควรให้มีการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงานส่วนภูมิภาค (ร้อยต�ำรวจโท ชาญ มนูธรรม) ในขณะนั้นเป็นประธานกรรมการ 5 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอธิบดีกรมแรงงาน (ปัจจุบันคือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน) ภาคตะวนั ตก และภาคใต้ เพื่อใหม้ ีการขยายผลโดยน�ำความรูด้ ้านวิชาการ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พื่อใหก้ ารจัดงานเปน็ ศูนย์ และเทคโนโลยีความปลอดภัยและอาชีวอนามัยจากส่วนกลางไปสู่ภูมิภาค รวมของวชิ าการและการแลกเปลย่ี นความรปู้ ระสบการณด์ า้ นความปลอดภยั เพ่ือน�ำไปสู่การพัฒนาความปลอดภัยและอาชีวอนามัยครอบคลุมพ้ืนที่ อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�ำงาน และเป็นกิจกรรมรณรงค์ ทวั่ ประเทศ ซง่ึ ไดห้ มนุ เวยี นจดั ในจงั หวดั ตา่ ง ๆ ของทงั้ 5 ภมู ภิ าค เปน็ ประจำ� สง่ เสรมิ ประชาสมั พนั ธ์ กระตนุ้ จติ สำ� นกึ ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ในการทำ� งาน ทกุ ปี ตง้ั แต่ปี 2543 เปน็ ต้นมา ในประเทศไทย การจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงานแห่งชาติ คร้ังที่1 ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัย ได้จัดข้ึนในระหว่างวันที่1 – 3 มิถุนายน 2529 โดยมีการจัดสัมมนา ในการทำ� งานครง้ั ที่ 1/2548เมอ่ื วนั ท่ี 20 เมษายน 2548 ซงึ่ มรี องนายกรฐั มนตรี และประกวดสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านความปลอดภัยและสวัสดิการ (นายสุรเกียรต์ิ เสถียรไทย) เป็นประธานการประชุมได้มีมติให้แก้ไขชื่อ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้นคือระหว่างวันท่ี 1 – 7 มิถุนายน 2529 ถือว่า ของคณะกรรมการจดั งานสปั ดาหค์ วามปลอดภยั ในการท�ำงานเปน็ คณะกรรมการ เปน็ ชว่ งเวลาของการรณรงคส์ ปั ดาหค์ วามปลอดภยั ในการทำ� งานทวั่ ประเทศ ส่งเสริมความปลอดภัยในการท�ำงาน พร้อมทั้งปรับโครงสร้างและอ�ำนาจ มีการจัดงานในระดบั จงั หวดั ทกุ จังหวัด หน้าที่ให้ครอบคลุมการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยทุก ในวนั ที่ 14 ตลุ าคม 2529 คณะรฐั มนตรมี มี ตอิ นมุ ตั ปิ รบั ปรงุ องคป์ ระกอบ เร่ือง ไม่เพียงแต่การจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงานแห่งชาติ คณะกรรมการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงานตามท่ีกระทรวง เทา่ นนั้ ซึง่ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเม่ือวันท่ี 8 กันยายน 2548 การจัดงาน มหาดไทยเสนอ โดยใหร้ องนายกรัฐมนตรี เปน็ ประธานกรรมการ สัปดาห์ความปลอดภัยแห่งชาติจึงด�ำเนินการโดยคณะกรรมการส่งเสริม การจดั งานในชว่ งปแี รกๆ ไมม่ กี ารกำ� หนดวนั จดั งานทแ่ี นน่ อน จนเมอ่ื ความปลอดภยั ในการทำ� งาน และในปี 2552 กระทรวงแรงงานเหน็ ชอบใหก้ ำ� หนด วนั ที่ 20 มกราคม 2535 คณะรัฐมนตรมี ีมตกิ ำ� หนดให้วนั ที่ 1 – 5 กรกฎาคม จดั งานสปั ดาหค์ วามปลอดภยั ในการทำ� งานแหง่ ชาตใิ นเดอื นกรกฎาคม 2552 ของทุกปีเป็นสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงานแห่งชาติ และให้ และใหม้ กี จิ กรรมเพอื่ รำ� ลกึ ถงึ เหตกุ ารณเ์ พลงิ ไหม้ บรษิ ทั เคเดอร์ อนิ ดสั เตรยี ล จัดงานเป็นลักษณะกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยในการท�ำงาน (ไทยแลนด์) จ�ำกัด ในวันที่ 10 พฤษภาคม ซ่ึงเป็นวันความปลอดภัย ในช่วงเวลาเดยี วกัน ในการทำ� งานแหง่ ชาติ ในปี 2553 คณะรฐั มนตรไี ดม้ มี ตเิ มอ่ื วนั ที่ 16 กมุ ภาพนั ธ์ ในปี 2540 องคก์ รลกู จา้ งไดเ้ รยี กรอ้ งใหว้ นั ท่ี 10 พฤษภาคม ของทกุ ปี 2553 เห็นชอบการปรับเปล่ียนองค์ประกอบ และอ�ำนาจหน้าที่ของ เป็นวนั ความปลอดภัยในการท�ำงานแห่งชาติ เพื่อร�ำลึกถงึ เหตกุ ารณไ์ ฟไหม้ คณะกรรมการส่งเสริมความปลอดภัยในการท�ำงาน โดยให้มีอ�ำนาจ โรงงานผลิตตุ๊กตาของบริษัท เคเดอร์ อินดัสเตรียล(ไทยแลนด์) จ�ำกัด หน้าที่หลักในการก�ำกับนโยบายการขับเคล่ือนระเบียบวาระแห่งชาติ เมอื่ วนั ที่ 10 พฤษภาคม 2536 ทท่ี �ำใหม้ ผี เู้ สยี ชวี ติ 188 ราย ซง่ึ คณะรฐั มนตรี “แรงงานปลอดภยั และสขุ ภาพอนามยั ด”ี และยกเลกิ อำ� นาจหนา้ ทใี่ นการจดั งาน ไดม้ มี ตเิ มื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2540 เหน็ ชอบตามท่เี สนอ และให้ยกเลกิ มติ สปั ดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงานออกจากคณะกรรมการดังกลา่ ว คณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี 20 มกราคม 2535 โดยมอบให้กระทรวงแรงงาน การจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�ำงาน ถือเป็นภารกิจ และสวสั ดกิ ารสงั คม (ในขณะนนั้ ) ไปกำ� หนดการจดั งานสปั ดาหค์ วามปลอดภยั ทก่ี ระทรวงแรงงานโดยกรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงานรบั ผดิ ชอบดำ� เนนิ 10 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน การเป็นประจ�ำทุกปี ภายหลังจากท่ีคณะรัฐมนตรีมีมติให้ยกเลิกอ�ำนาจ หนา้ ทใี่ นการจดั งานสปั ดาหค์ วามปลอดภยั ฯออกจากคณะกรรมการสง่ เสรมิ

ความปลอดภัยในการทา� งานแลว้ กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงานจงึ ได้ เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานให้มอบอ�านาจหน้าที่ ในการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�างานแก่คณะกรรมการ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซ่ึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงานได้มีค�าสั่งท่ี 12/2553 ลงวันท่ี 2 เมษายน พ.ศ.2553 มอบหมาย อ�านาจหน้าท่ีให้คณะกรรมการความปลอดภัยฯ ด�าเนินการจัดงานสัปดาห์ ความปลอดภัยในการท�างานแห่งชาติ และแต่งต้ังคณะอนุกรรมการ หรือคณะท�างานเพ่ือปฏิบัติงานเฉพาะกิจได้ตามความจ�าเป็น ตั้งแต่น้ัน เป็นตน้ มา ต่อมาได้มีการประกาศพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทา� งาน พ.ศ.2554 ก�าหนดให้มกี ารจดั ตงั้ สถาบัน ส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน (องค์การมหาชน) ให้มีหน้าท่ีในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาความเกย่ี วกับ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทา� งาน ซงึ่ การจัด งานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�างานเป็นภารกิจหน่ึงท่ีสถาบันส่งเสริม ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน (องค์การ มหาชน) ตอ้ งด�าเนินการ พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน (องค์การมหาชน) ได้ประกาศในราชกิจ จานุเบกษา เม่ือวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 และมีผลบังคับใช้ในวันท่ี 22 พฤษภาคม 2558 เปน็ ตน้ มา ตอ่ มาคณะรฐั มนตรมี ีมติเม่อื วนที่ 13 กันยายน 2559 อนุมัติการโอนอ�านาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบ ประมาณของส�านักความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงานเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทา� งาน (องคก์ ารมหาชน) (สสปท.) ซงึ่ เปน็ หนว่ ย งานที่จัดต้ังขึ้นใหม่ ภายใต้การก�ากับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงาน ตามพระราชกฤษฎีกาจัดต้ัง สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทา� งาน (องคก์ ารมหาชน) พ.ศ. 2558 ส่งผลให้การจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�างานแห่งชาติซ่ึง เป็นภารกจิ ดา้ นการส่งเสริมความปลอดภัย ของกรมสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงาน ถูกส่งมอบให้สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน (องค์การมหาชน) ซ่ึงภารกิจดังกล่าว มกี ารสง่ มอบอยา่ งเปน็ ทางการเม่ือวันท่ี 2 กรกฎาคม 2559 คณะกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทา� งาน (องคก์ ารมหาชน) มมี ตใิ หเ้ ปลย่ี นชอ่ื งานจาก “งานสัปดาห์ความปลอดภัยในการท�างานแห่งชาติ” เป็น “งานความ ปลอดภยั และอาชวี อนามยั แหง่ ชาต”ิ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของสถาบนั ส่งเสริมความปลอดภัย ฯ ในการส่งเสริมพัฒนาท้ังเรื่องความปลอดภัย และสุขภาพอนามัยในการท�างาน เพื่อการป้องกันอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย และโรคจากการท�างาน และสถาบันได้ก�าหนดจะจัดงานความปลอดภัย และอาชวี อนามยั แห่งชาติ ประจ�าปี 2560 ขนึ้ ระหว่างวนั ท่ี 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยมกี จิ กรรมไดแ้ ก่ การสมั มนาทางวชิ าการ การแสดงนทิ รรศการ การสาธติ และการประกวดกิจกรรมเพื่อการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย ในการท�างาน โดยก�าหนดรูปแบบการท�างานแบบมีส่วนร่วมจาก 10 กระทรวงหลกั ซง่ึ ขบั เคล่ือนนโยบาย Safety Thailand นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 11

โครงการส่งเสริมการจัดทาํ SMEsระบบมาตรฐานความปลอดภยั และอาชีวอนามยั สําหรับสถานประกอบการ สถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (Small and ขณะนี้รัฐบาลมีนโนบายชัดเจนในการช่วยเหลือสถานประกอบการ Medium-Sized Enterprises; SMEs) มีความส�าคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ขนาดกลางและขนาดเล็กด้านการเงินรวมท้ังมาตรการในการผลักดันการ ของประเทศไทย โดย SMEs คิดเป็นร้อยละ 42.5 (1.61 ล้านล้านบาท) ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งจะช่วยให้สถานประกอบกิจการ SMEs ของ GDP ประเทศ และยังสง่ เสริมทงั้ ในด้านการสร้างงาน สร้างมูลคา่ เพ่มิ มคี วามเขม้ แขง็ ในดา้ นการผลติ มากขนึ้ อยา่ งไรกต็ ามหากการดา� เนนิ กจิ การ สร้างเงินตราต่างประเทศ ลดการน�าเข้าสินค้าต่างประเทศ เป็นจุดเร่ิมต้น ไมอ่ ยภู่ ายใตก้ ารบรหิ ารจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั ทมี่ มี าตรฐาน ในการประกอบการธรุ กจิ เชอื่ มโยงกบั กจิ กรรมขนาดใหญ่ และภาคการผลติ และเป็นระบบแล้ว สถานประกอบกิจการน้ันก็มีความเส่ียงต่อความสูญเสีย อ่ืนๆอย่างไรก็ตาม สถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กก็ยังมี โอกาสทางธุรกิจและความม่ันคงได้ดังข้อเท็จจริง จากข้อมูลของกองทุน ปัญหาหลายประการ เช่น ด้านการตลาด ขาดแหล่งเงินทุน ด้านแรงงาน เงนิ ทดแทน เทคโนโลยีการผลิต ขีดจ�ากัดด้านการบริหารและจัดการ ปัญหาด้าน การสง่ เสรมิ จากภาครฐั และเอกชน ปญั หาดา้ นการเขา้ ถงึ บรกิ ารของรฐั และการรบั ประเทศไทย คอื การประสบอนั ตรายหรอื เจบ็ ปว่ ยของแรงงานทที่ า� งาน รู้ข่าวสาร ดังน้ัน การให้ความส�าคัญกับสถานประกอบกิจการขนาดกลาง ใน SMEs มีจ�านวนมากกว่าคร่ึงหน่ึงของจ�านวนการประสบอันตรายของ และขนาดเลก็ จงึ มคี วามสา� คญั ยง่ิ ตอ่ เศรษฐกจิ ในปจั จบุ นั เพราะเปน็ ปญั หา แรงงานทั่วประเทศ พน้ื ฐานของภาคเศรษฐกจิ อตุ สาหกรรมทแี่ ทจ้ รงิ และเปน็ อตุ สาหกรรมสนบั สนนุ ดว้ ย หรอื อาจกลา่ วไดว้ า่ เมอื่ สถานประกอบกจิ การขนาดกลางและขนาดเลก็ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม อยู่รอดและเติบโตได้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตท่ีแท้จริง (Real Sector) ในการทา� งาน (องคก์ ารมหาชน) สสปท. ไดเ้ ลง็ เหน็ ความสา� คญั ของแรงงาน กจ็ ะอยรู่ อดไดเ้ ช่นกนั ในสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่จะต้องลดความสูญเสีย 12 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน จากการประสบอันตรายจากการท�างาน อันเป็นปัจจัยส�าคัญในการเสริม สร้างความเข้มแข็งของธุรกิจ นับตั้งแต่แต่ ปี พ.ศ. 2559 จึงได้ด�าเนิน โครงการพัฒนาระบบมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ แวดล้อมในการท�างาน ส�าหรับสถานประกอบกิจการขนาดกลางและ ขนาดเล็ก ซึ่งในโครงการได้จัดท�ากิจกรรมและข้อก�าหนดและคู่มือระบบ มาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน ส�าหรับสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กข้ึน ซึ่งคู่มือนี้ ไดจ้ ดั ทา� ขนึ้ โดยยดึ หลกั ความเหมาะสมสา� หรบั สถานประกอบกจิ การขนาดกลาง

และขนาดเลก็ เพอ่ื ใหอ้ งคก์ รดงั กลา่ วไดน้ า� ไปปฏบิ ตั แิ ละเกดิ ระบบมาตรฐาน 1) การฝกอบรม ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างานท่ีดี 2) การส�ารวจพนื้ ท่ีในสถานประกอบการเพอ่ื ค้นหาความเสย่ี ง และมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย 3) การตรวจตดิ ตาม เพอื่ ให้ค�าปรกึ ษาในการใช่มาตรการ จากการทา� งานได้ รวมทง้ั เพอ่ื เปน็ แนวทางในการควบคมุ การดา� เนนิ งานดา้ น 4) การตรวจประเมนิ ระบบบรหิ าร ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทา� งานขององคก์ ร 4 ระดบั มาตรฐานสาํ หรบั SMEs น�าไปสู่ความมั่นคง ปลอดภัย และส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร ซ่ึงจะ การจัดท�าระบบมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ ทา� ใหท้ งั้ พนกั งานและชมุ ชนโดยรอบ เกดิ ความมน่ั ใจในการประกอบกจิ การ แวดล้อมในการท�างานส�าหรับสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาด ขององคก์ รดว้ ย เล็กนั้น แบง่ การจัดท�าระบบมาตรฐานออกเป็น 4 ระดบั ดงั นี้ 1. ระดบั Basic มงุ่ เนน้ ทก่ี ารปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตแุ ละการเจบ็ ปว่ ยจากการ หน่ึงในบริษัทท่ีเข้าร่วมโครงการน�าร่องน�าระบบมาตรฐาน ความปลอดภัยฯ ไปใช้ในสถานประกอบกิจการในปี 2559 กล่าวว่า ท�างานเปน็ หลัก “ในการจัดท�าระบบนี้ส่วนส�าคัญที่สุดคือ ผู้บริหาร ซึ่งได้ให้ความส�าคัญ 2. ระดับ Silver มุ่งเน้นท่ีการป้องกันอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย ในการจัดท�าระบบมาตรฐานความปลอดภัยฯ ร่วมผลักดันโครงการ ท�าให้ พนักงานทุกคนให้ความร่วมมือ แม้ว่าในช่วงแรกๆ พนักงานยังไม่เข้าใจ และเรม่ิ มีการตรวจสอบ และทบทวนระบบการจดั การ ในระบบ ไมส่ นใจเรอื่ งความปลอดภยั ในการทา� งาน แตผ่ บู้ รหิ ารกม็ คี วามมงุ่ มนั่ 3. ระดบั Gold มีการด�าเนนิ การในเชงิ รุกมากขึน้ มีการชี้บ่งอันตราย ต้องการให้พนักงานมีส่วนร่วม จึงได้ลงพื้นท่ีและท�ากิจกรรมด้าน ความปลอดภัยร่วมกัน อีกท้ังสนับสนุนด้านงบประมาณและบุคคลากร มงุ่ เน้นการควบคุม ความเสี่ยงโดยใช้หลกั การบริหารจัดการ ท�าให้สามารถประสบความส�าเร็จในการจัดท�าระบบ และผ่านการประเมิน 4. ระดับ Platinum มีการจัดท�าระบบมาตรฐานฯ ในเชิงรุก ในระดับ แพลตติน่ัม” ซ่ึง สสปท. ได้น�าเอามาตรฐานนี้ไปใช้ทดลอง ในสถานประกอบกจิ การ จา� นวน 10 แหง่ ในปี 2559 ขยายผลตอ่ สา� หรับ และด�าเนนิ การตามข้อกา� หนดทกุ ข้อ อยา่ งครบถ้วน SMEs จา� นวน 51 แห่ง ในปี 2560 โดยมีประเภทกจิ กรรมทมี่ ีความเส่ยี งสงู ต่อการเกิดอุบัติเหตุไดแ้ ก่ ปี 2559 มี 10 แหง่ ปี 2560 มี 51 แหง่ (1) กิจการกอ่ สร้าง (2) กจิ การผลิตเคร่ืองดม่ื และอาหาร (3) กจิ การค้าเคร่อื งใช้ไฟฟ้าและยานพาหนะ (4) กิจการผลติ ผลิตภณั ฑพ์ ลาสตกิ (5) กิจการหลอ่ หลอม กลงึ โลหะ (6) กจิ การท่ีมกี ารใช้สารเคมอี นั ตราย ซ่ึงในการด�าเนินโครงการน้ีในปี 2560 ทางสถาบันส่งเสริมความ ปลอดภัยฯ ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือของโครงการส่งเสริมการจัดท�า ระบบมาตรฐานความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการ ทา� งาน ระหวา่ งสถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพ แวดล้อมในการท�างาน กับ สถานประกอบกิจการท่ีเข้าร่วมโครงการฯ เพอ่ื แสดงความมงุ่ มนั่ ของสถานประกอบกจิ การในการรว่ มมอื กนั จดั ทา� ระบบ มาตรฐานความปลอดภัย ให้ประสบความส�าเร็จ ในวันท่ี 30 มิถุนายน 2560 ท้ังนี้ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยได้เชิญสถานประกอบกิจการ ที่ประสบผลส�าเร็จในการยกมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทา� งาน ในปี พ.ศ.2559 มาแบง่ ปนั ประสบการณ์ ให้แก่ SMEs ท่ีมีความจ�านงค์เข้าร่วมโครงการใหม่ในปี พ.ศ. 2560 เพ่ือให้มีแรงกระตุ้นและแรงขับเคล่ือนการด�าเนินโครงการฯ ให้ประสบ ความสา� เรจ็ ตอ่ ไป รวมทงั้ มกี ารดา� เนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ ใน 51 สถานประกอบการ ประกอบดว้ ย นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 13

ข้นั ตอนในการจัดทําระบบมาตรฐานความปลอดภยั สําหรับ 51 สถานประกอบการทีเ่ ขา้ ร่วมโครงการในปี 2560 1 การฝึกอมรม 1 ครัง้ เพอื่ ใหค้ ณะท�างานของสถานประกอบกจิ การเข้าใจถึงขอ้ ก�าหนด ของระบบมาตรฐานความปลอดภัย 2 สํารวจ ส�ารวจพนื้ ท่ี สัมภาษณ์ผ้ปู ฏบิ ัตงิ าน เพอื่ ดวู า่ องค์กรขาดอะไรบ้าง พ้ื นที่ ตามข้อก�าหนด เพ่อื จะได้ด�าเนนิ การให้คา� ปรึกษาได้ถกู จดุ 1 ครั้ง 3 การตรวจ 4 ติดตาม เปน็ การเขา้ ใหค้ า� ปรกึ ษา และตรวจตดิ ตามวา่ สถานประกอบกจิ การ การตรวจ นา� ระบบมาตรฐานความปลอดภยั ไปดา� เนนิ การถงึ ขนั้ ใดแลว้ และให้ ประเมินระบบ 3 คร้ัง ค�าปรึกษาในจดุ ทย่ี งั ไม่เปน็ ไปตามขอ้ ก�าหนด 2 ครง้ั เพื่อตรวจประเมินการจัดท�าระบบมาตรฐานความปลอดภัยฯ ว่าอยู่ใน ระดับใด เพื่อให้สถานประกอบกิจการสามารถน�าไปพัฒนาและปรับปรุง ระบบใหต้ ่อเน่ือง 14 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

ผลการดาํ เนนิ งานวจิ ัย โดย สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน (องค์การมหาชน) ดร.จุฑาสริ ิ โรหติ รตั นะ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 15

โครงการส่งเสริมงานวิจัยด้านความปลอดภัย ดังน้ัน สสปท. จึงเล็งเห็นความส�าคัญของคุณภาพชีวิตของ อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการท�างาน แรงงานไทย ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ในยทุ ธศาสตรท์ ี่ 1 การเสริมสรา้ งและพัฒนาศกั ยภาพ ห นึ่ ง ใ น ภ า ร กิ จ ท่ี ส� า คั ญ ข อ ง ส ถ า บั น ส ่ ง เ ส ริ ม ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ทุนมนุษย์ ประเด็นยุทธศาสตร์ของกระทรวงแรงงาน ปีงบประมาณ 2559 อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน (องค์การมหาชน) คือ เร่ือง การเสริมสร้างความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีให้ก�าลังแรงงาน สง่ เสรมิ การศกึ ษาวจิ ยั เกย่ี วกบั ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ ม อนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 187 ว่าด้วยกรอบเชิง ในการท�างาน เพือ่ สง่ เสรมิ และพัฒนาองค์ความรแู้ ก่แรงงานใหท้ �างานอย่าง สง่ เสรมิ การด�าเนนิ งานความปลอดภยั และอาชวี อนามัย พ.ศ. 2559 สสปท. ปลอดภยั และมี สขุ ภาพอนามยั ทด่ี ี เมอ่ื พจิ ารณาผลงานวจิ ยั ในประเทศไทย ด�าเนินการวางกรอบวิจัยตามยุทธศาสตร์ที่เก่ียวข้องกับกระทรวงแรงงาน ท่ีเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยฯ จากอดีตถึงปัจจุบันพบว่า หลักฐาน และตอบโจทยค์ วามตอ้ งการของภาคแรงงาน โดยไดจ้ ดั ประชมุ วชิ าการดา้ น เชงิ ประจกั ษข์ องตวั ชบี้ ง่ อนั ตรายจากการทา� งานยงั ไมค่ รอบคลมุ สถานประกอบ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน ครั้งที่ 1 กิจการที่ส�าคัญต่อการพัฒนาประเทศ ขาดการน�าผลการศึกษาวิจัยไปใช้ เพอื่ ระดมความคดิ เหน็ รว่ มกบั สถาบนั การศกึ ษาและหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การ ในเชงิ นโยบายเพอื่ ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตแุ ละการเจบ็ ปว่ ยจากการทา� งานอยา่ งแทจ้ รงิ วิจัยด้านความปลอดภัยฯ เม่ือวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ก�าหนดทิศทาง และยังขาดความต่อเนื่องของการศึกษาวิจัยเพื่อระบุปัญหาและแนะน�า การวิจัยให้สามารถน�าไปใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาด้านความปลอดภัย แนวทางในการแกไ้ ขใหเ้ หมาะสมต่อสถานการณ์ปจั จุบนั อาชวี อนามยั และภาพแวดลอ้ มในการทา� งานในสถานการณป์ จั จบุ นั ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ผลงานการวจิ ัย สสปท. ซ่ึงข้อมูลจากการวิจัยด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ นอกจากน้ี มีการศึกษาวิจัยเรื่องเศรษฐศาสตร์ความปลอดภัย แวดล้อมในการท�างานน้ีสามารถบ่งบอกถึงสถานการณ์แนวโน้มและความ รนุ แรงของปัญหาในภาพรวม และเกดิ การปรบั ปรงุ จดั ท�าระบบปฏิบตั งิ าน เพื่อค�านวณมูลค่าสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์ในระดับสถานประกอบกิจการ ระบบการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของแรงงานไทย ในประเภทต่างๆ เพ่ือให้นายจ้างเห็นประโยชน์จากการลงทุนและป้องกัน ใหเ้ กดิ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ งและแพรห่ ลายในสถานประกอบกจิ การ นอกจากนยี้ งั ความสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์ที่อาจเกิดข้ึนหากสถานประกอบกิจการยัง มีวิธีอื่นๆ ท่ีได้เร่ิมด�าเนินงานอาทิ เช่น สถานะการณ์การเกิดอุบัติเหตุทาง ไม่ท�าการเปล่ียนแปลงปรับปรุงการกระบวนการผลิตให้ปลอดภัยเหมาะสม ถนนของลูกจ้างในสถาน อกี ทงั้ ยงั สามารถนา� ขอ้ มลู ทไี่ ด้มาจดั ล�าดบั ความส�าคัญในการคดั เลือกกลุ่ม ประเภทกลมุ่ งานของสถานประกอบกจิ การทม่ี กี ารสญู เสยี ทางเศรษฐศาสตร์ ประกอบกิจการ และการศึกษาด้านความปลอดภัยในการท�างาน มากทสี่ ดุ และควรไดร้ บั การแกไ้ ขอยา่ งเรง่ ดว่ นเปน็ อนั ดบั แรก กอ่ นจะทา� การ ก่อสร้างรถไฟฟา้ ซง่ึ ไดส้ รุปไวใ้ นตารางขา้ งลา่ งนี้ แกไ้ ขปรบั ปรงุ ในล�าดบั ถัดไป 16 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

ผลการดาํ เนนิ งานการวิจัยประจาํ ปี พ.ศ 2560 ล�าดบั ท่ี หัวข้อ แหลง่ ทุน ผลการด�าเนนิ การ 1. กรอบการวจิ ยั ของ สสปท. พ.ศ. ได้จดั ประชมุ รว่ มกบั สถาบนั การศึกษาและหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การวิจยั ดา้ น 2560-2564 ความปลอดภยั ฯ และมีรา่ งกรอบการวิจัยของ สสปท. พ.ศ.2560-2564 2. โดยได้รับข้อเสนอแนะจากคณะคลงั ปญ ญา และอยู่ระหว่างปรับกรอบวิจัยฯ 3. การวจิ ัยเกี่ยวกบั ตน้ ทนุ และ กองทนุ เงนิ ทดแทนป  2560 ให้เหมาะสมตอ่ ไป 4. ความคุ้มคา่ การลงทนุ ดา้ นความ วางแผนด�าเนนิ การ และอยรู่ ะหวา่ งการท�าสัญญาจ้าง อาจารยค์ ณะสาธารณสขุ ปลอดภยั (เศรษฐศาสตร์ความ ศนู ยว์ ชิ าการเพือ่ ความปลอดภัย ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร ์ ใหท้ า� การวจิ ัย ซง่ึ คาดวา่ ผลงานวจิ ัยจะแล้วเสรจ็ ภายใน ปลอดภยั ) ทางถนน (ศวปถ.) ป 2560 เดอื นกนั ยายน 2560 สถานการณ์อบุ ตั เิ หตทุ างถนน การศกึ ษาปญหาดา้ นความ ของแรงงานในสถานประกอบ ปลอดภยั ในการท�างานก่อสร้าง ด�าเนนิ การแล้วเสรจ็ และเผยแพร่เป็น factsheet ในงานความปลอดภยั และ กจิ การ ป  2559 รถไฟฟา อาชีวอนามยั แห่งชาต ิ ครง้ั ท่ ี 31 การศึกษาปญหาดา้ นความ ปลอดภัยในการท�างานก่อสร้าง โครงร่างวิจัย รว่ มกับกบั คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล และสา� นกั งานพฒั นา รถไฟฟา วทิ ยาศาสตร ์ และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) ซึง่ คาดวา่ ผลงานวิจยั จะแล้วเสร็จภายในเดอื นธนั วาคม 2560 ดา้ นนโยบาย จัดการประชมุ วิชาการดา้ นความปลอดภยั ดา้ นวศิ วกรรมความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน ครัง้ ท่ี 1 วนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2560 ณ โรงแรมเซน็ ทรา บาย เซ็นทารา ศนู ยร์ าชการ กรงุ เทพฯ ดร.ชยั ยทุ ธ ชวลิตนิธิกุล กรอบ คณุ วัฒนา สมานจติ ร งานวิจยั คณะสาธารณะสขุ ศาสตร์ สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. ด้านอาชีวอนามยั ดา้ นแรงงานนอกระบบ รศ.ดร.วนั ทนี พันธ์ุประสิทธ์ิ รศ.ดร.อนามัย เทศกะทึก คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลยั บูรพา กรอบวจิ ยั ด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการท�างาน 4 ดา้ น ได้แก่ กรอบงานวจิ ยั เชิงนโยบาย กรอบงานวิจัยด้านวิศวกรรม ความปลอดภยั กรอบงานวจิ ยั ดา้ นอาชวี อนามยั และกรอบวจิ ยั ดา้ นแรงงานนอกระบบซง่ึ ลดความซา�้ ซอ้ นของงานวจิ ยั และเตมิ เตม็ ชอ่ งวา่ งงานวจิ ยั สามารถ น�างานวจิ ยั ไปใชใ้ นสถานประกอบกิจการเพ่อื ป้องกัน และลดอบุ ตั เิ หตุและโรคจากการประกอบอาชีพได้ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 17

เร่อื งเลา่ วันความปลอดภัยและอาชวี อนามัยสากล โดย ... สุดธิดา กรุงไกรวงศ ผูท้ รงคุณวุฒิ คณะกรรมการบรหิ ารสถาบันส่งเสริมความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทา� งาน เรอ่ื งทจ่ี ะเล่าในนิตยสารฉบับที่ 2 น ้ี จะเลา่ เร่อื งเกย่ี วกับวันความปลอดภยั และอาชวี อนามัยสากล เนือ่ งจาก ในวันศุกร์ท ี่ 28 เมษายน 2560 กระทรวงแรงงาน โดยกองความปลอดภยั แรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รว่ มกบั สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทา� งาน จะจดั งานวนั ความปลอดภยั และ อาชวี อนามยั สากล ณ อาคารกรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน สว่ นแยกตลงิ่ ชนั ซงึ่ ประเทศไทยไดม้ กี ารจดั งานนอี้ ยา่ ง เป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 2559 โดยเป็นการจัดร่วมกันระหว่างส�านักความปลอดภัยแรงงาน (ปัจจุบัน คือ กองความปลอดภัยแรงงาน) สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน สมาคม ส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการท�างาน (ประเทศไทย) และมูลนิธิเพ่ือส่งเสริมความปลอดภัยในการท�างาน ข้อมูลทีเ่ ล่าน้ี ได้จาก Website ขององค์การแรงงานระหวา่ งประเทศ วันความปลอดภยั และอาชีวอนามยั สากล หากจะแปลตรงตวั นา่ จะเปน็ วนั ความปลอดภัยและสุขภาพอนามยั ในการทา� งานโลก ภาษาองั กฤษคือ World Day for Safety and Health at Work โดยองค์การแรงงานระหวา่ ง ประเทศ หรือ ILO (International Labour Organization) ได้ก�าหนดให้วันที่ 28 เมษายน ของทุกปี เป็นวัน ความปลอดภยั และอาชีวอนามัยสากล ตามคา� เรยี กร้องของสหภาพแรงงานตง้ั แตป่ ี 2539 ซ่ึงตอ้ งการให้มีวนั ระดับโลก คทวา่ีเมปปลน็ อดกภายั แรลระอา� าลชวี ึกอนถามงึ ัยคสานกลงตาานมคทาํ เรเี่ ยี สกรยี อ งชขอีวงิตสหแภาลพะแรบงงาานดตง้ั เแจตป็บ 2จ53า9กซก่งึ ตาองรกทาร�าใหงมาีวนันร ะดับ โอ2เ ลชง5กค4ทน่ก6ีา่เปรเ พนแหอื่กรใงานหงอราทรว่นงําุกรลยภคะกึาหงถค์กวงึสาาควางนนนปงรทรภาะีเ่แนกเาทที่ยรศ่ีวเคสขงียไอรดงชงเวีัฐารเิตมิ่ช แนกนสลาํ ะรหหหบนนะาวภดดยหวเงจนัาา็บวคพนจวภ่าาาแากมงคกรปรปาลัฐงรอทรสงดําหะางภภานัเยานทพแ แลอศระงองง าาคนไชี์กดวอองร้เนครนการิ่มมนาัยากสยยา�จาจกาหล้างขงแนึ้นล เดแะปเนลจวคาันะรห้ังเนคแจารวทา้ก่ีคเาหมวื่มอานมปปา้ ทลอ่ีคดวาภมัยปแลลอะดอภาัยชใีวนอกนาารมทัย�าสงาานก ลฯขล้ึนฯเ ปได็น้รค่วรม้ังกแันรจกัดเกมิจ่ือกปรี ร2ม5ร4ณ6ร งเพคส์่ือ่งใเหส้ทรมิุกใภหา้เคกสิด่ควนวาทมี่เตกร่ียะวหขน้อักง อปใาลนชอีวดเอรภนยัื่อาใมนงยักคาเพรวทื่อําปางอามงนกปนัฯกลลาฯรอไเกดดดิรวอภมุบกัตัยนัเิ หจแตัดแุลกลิจะะกโรรอรคมทาร่เี ณชกดิรีวขงค้ึนอสจงนาเกสากริมามรใหทัยเํากง ดิาคนเวพาทม้งั่ือตนรป้ี ะอหง้อคนกงกั าใกนรแเันรร่ืองกงงคาานวรารมะเปหกลวิดาองดอปภรุบัยะแเัตทลิเศะหตุและโรคท่ีเกิดขึ้นจากการท�างาน ท้ังนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้เชิญชวนประเทศ แไสดรเงมชงญิาานชชรวะนกิหปวรใาะหงเปท้มรศะสเกีมทาศาชิกรจใะจหกม ําดั ีกหางนรดาจหัดนัวงขาวนอ กวนั ัานรคครวณวารมางปคมสลงปอเสดลรภมิ ัยอทแตี่ ดลอะงภกอาายั รชใแีหวอม ลุนงเะานมนอัยในเาปแชตนลปวี ะรปอะ จนําทาุกมปัย ทเ้ังปน้ี ็นองปคกราะร จา� ทุกปี ทง้ั นี้ องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ จะกา� หนดหวั ขอ้ การรณรงค์ส่งเสริมทต่ี อ้ งการให้ มุง่ เนน้ ในแตล่ ะปี Safety and Health Culture in Globalization World (2546) ป ี 2546 (ค.ศ.2003) เปน็ ปแี รกทอ่ี งคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศไดก้ า� หนดใหม้ วี นั ความปลอดภยั และอาชวี อนามยั สากล โดยกา� หนดหวั ขอ้ ของการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ เรอื่ งวฒั นธรรมความปลอดภยั และอาชวี อนามยั ในโลกแหง่ โลกาภวิ ตั น์ ทั้งน้ี จากการประมาณการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ พบว่าในแต่ละปี มีแรงงานท้ังหญิงและชายจ�านวน 2 ล้านคนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุและโรคท่ีเกี่ยวเนื่องจากการท�างาน หรือเฉลี่ยประมาณ 5,000 คนต่อวัน ซ่ึงในโลก แหง่ โลกาภิวตั น ์ จะส่งผลตอ่ ความปลอดภัยและอาชีวอนามยั ในรปู แบบต่างๆ บางเร่อื งอาจสง่ ผลในทางบวก แต่บางเรอื่ ง อาจส่งผลในทางลบ ดังนนั้ วัฒนธรรมความปลอดภัยและอาชีวอนามยั ในสถานประกอบกิจการท่ีเขม้ แข็ง จะเป็นกญุ แจ สา� คัญทีจ่ ะน�าไปสู่การปอ้ งกันการเสยี ชีวติ และการเกิดโรคจากการทา� งาน Safety and Health Culture in Globalization World (2546) 18ป 2546 (ค.ศ.2003) เปน ปแรกท่อี งคการแรงงานระหวา งประเทศไดกําหนดใหม วี ันความปลอดภัยและอาชีวอนา มยั สากล โดยกาํ หนนดติ หวั ยขอสขอางรการครณวรางคมสปงเสลริมอใหดเ ปภน เยรั อ่ื งวอัฒานชธรวีรมอควนาามปมลยั อดภแัยลแะลสะอภาชาีวพอนแาวมดัยใลนโอ้ ลกมในการทำ�งาน แหง โลกาภิวัตน ทง้ั น้ี จากการประมาณการขององคก ารแรงงานระหวางประเทศ พบวาในแตละป มีแรงงานท้ัง หญงิ และชายจาํ นวน 2 ลานคนทีเ่ สยี ชวี ติ จากอบุ ัตเิ หตแุ ละโรคท่ีเก่ียวเนื่องจากการทํางาน หรือเฉล่ียประมาณ

Creating and Sustaining a Safety Culture (2547) ปี 2547 (ค.ศ.2004) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้ก�าหนดหัวข้อของการรณรงค์ส่งเสริมให้เป็นเรื่อง การเสรมิ สรา้ งและความยง่ั ยนื ของวฒั นธรรมความปลอดภยั และอาชวี อนามยั ซงึ่ เปน็ หวั ขอ้ เรอื่ งทม่ี งุ่ เนน้ เรอื่ งวฒั นธรรม ความปลอดภยั และอาชีวอนามัยตอ่ เนื่องจากป ี 2546 โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้างและความย่ังยืนของวฒั นธรรม ความปลอดภัยและอาชวี อนามัยในการท�างาน เพ่ือลดจ�านวนผู้ประสบอบุ ัตเิ หตุและการเกิดโรคเนอื่ งจากการทา� งาน Creating and Sustaining a Preventative Safety and Health Culture (2548) ป ี 2548 (ค.ศ.2005) องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ ไดก้ า� หนด หวั ขอ้ ของการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ เรอื่ งการเสรมิ สรา้ งและความยงั่ ยนื ของวัฒนธรรมในการป้องกันเพ่ือความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ซึง่ เปน็ หัวข้อท่มี งุ่ เน้นในเรอื่ งวฒั นธรรมความปลอดภัยและอาชีวอนามัย Creating and Sustaining a Safety Culture (2547) ในการทา� งานที่ต่อเนื่องตงั้ แต่ปี 2546 และปี2547 โดยมีเป้าหมายในการสง่ เสริมและเสริมสร้างเพ่อื สร้างความตระหนัก ในเรอ่ื งความปลอดภยั และอาชวี อนามยั โดยกระตนุ้ ผลกั ดนั ใหท้ ง้ั นายจา้ งและลกู จา้ งหนั มาใหค้ วามสา� คญั ของวฒั นธรรม ความปลอดภัย และช่วยกนั สรา้ งวฒั นธรรมความปลอดภัยนีใ้ ห้เกดิ เปน็ รปู ธรรมตอ่ ไป ในปี 2548 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้เรียนเชิญนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ซ่ึงขณะนั้นคือ นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร บันทึกเสียงอ่านสารที่จะออกอากาศเผยแพร่ให้สาธารณชนในประเทศไทยและทั่วโลกให้ได้ รบั ทราบโดยทวั่ กนั ซง่ึ จะเปน็ การสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ ความตระหนกั และเหน็ ความสา� คญั ของการทา� งานทป่ี ลอดภยั ตลอดจน ป 2547 (ค.ศ.2004) องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ ไดกาํ หนดหัวขอของการรณรงคสงเสริมใหเปนเรื่อ การนา� เรอ่ื งความปลอดภยั และอาชวี อนามยั มาเปน็ วาระแหง่ ชาต ิ ซงึ่ จะเปน็ กญุ แจสา� คญั ทนี่ า� ไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลงแนวคดิ เสริมสรางและความยั่งยืนของวัฒนธรรมความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ซ่ึงเปนหัวขอเรื่องที่มุงเนน และแนวปฏิบัติเพ่ือกอ่ ให้เกิดความปลอดภยั และอาชีวอนามัยตอ่ ไป ค�าแปลค�ากลา่ วปราศรยั ที่เป็นภาษาไทย มีดงั นี้ ปเCวขเสนrัฒอร2e่ืองิมน5aงวสธจ4tฒั รiรา8nนรากgมงธก(แคคราaรลว.รศnมาะท.มคคd2าํ ปวว0งาSาาล0มนมuอ5ปยดs)ลtงั่ภอaอยัยงiดนืnแคภขลiกnัยอะาgแองรลวาแaฒัชะรอวีงPนอางrธชานeรีวนาvรอมรeมนะยัnใาหตนtมอวaกัยเาtานใiงvรนอ่ืปปeกงรจอาะSารงเกททกaปนัfําศeงเ2พtาไyด5น่อื ก4คaาํ6เวnพหาdโื่อนมดลปดยHดลมหeจีเอัวaปํดาขlา tนภหอhัยวมขนแาCอลยผuงะใูปกlนอtรuากาะราชrสeรรีวบอณเส(อน2รรุบา5งิมัมต4คสัิย8เสรห)งาตซเงุึ่สแงแเลรลปิมะะนกใคหหาวรัเวาปเขมกน “ข้าพเจ้าขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงน�้าใจในวันความปลอดภัยในการท�างานและอาชีว ในเร่อื งวฒั นธรรมความปลอดภยั และอาชีวอนามัยในการทํางานท่ีตอเนื่องตั้งแตป 2546 และป25 เปา หมายในการสงเสริมและเสรมิ สรางเพ่อื สรางความตระหนักในเรอื่ งความปลอดภัยและอาชวี อนามัย โ อนามยั สากล วันนี้ ผลกั ดนั ใหท ัง้ นายจางและลูกจางหนั มาใหความสาํ คัญของวัฒนธรรมความปลอดภัย และชวยกันสรางว ความปลอดภัยน้ใี หเกดิ เปนรปู ธรรมตอ ไป ในวนั น ี้ ท้งั ภาครฐั นายจา้ งและลูกจ้างไดพ้ รอ้ มใจกันให้ความสนใจดแู ลสภาพการทา� งานรว่ มกนั เมื่อเราร่วมใจจบั มอื ในป 2548 องคการแรงงานระหวางประเทศ ไดเรียนเชิญนายกรฐั มนตรขี องประเทศไทย ซ่ึงขณะน้ันค กัน เราย่อมสามารถให้ความคุ้มครองแรงงานมิให้ต้องประสบอันตรายและเสียชีวิตจากการท�างาน เราสามารถช่วยแรงงาน ทักษิณ ชนิ วัตร บนั ทึกเสยี งอานสารที่จะออกอากาศเผยแพรใหสาธารณชนในประเทศไทยและท่ัวโล และสมาชิกในครอบครวั ของเขาใหม้ สี ขุ ภาพอนามัยท่ดี ี มีชีวิตความเปน็ อยทู่ ดี่ ี และเพ่อื ใหเ้ ปน็ เกราะปอ้ งกันรว่ มกนั ทราบโดยทวั่ กนั ซึง่ จะเปน การสนับสนนุ ใหเกิดความตระหนักและเห็นความสําคัญของการทํางานท ตลอดจนการนาํ เรื่องความปลอดภยั และอาชีวอนามัยมาเปนวาระแหงชาติ ซึ่งจะเปนกุญแจสําคัญท่ีน เปลย่ี นแปลงแนวคิดและแนวปฏิบตั ิเพอ่ื กอใหเกดิ ความปลอดภยั และอาชีวอนามัยตอไป คําแปลคํากลาว เปนภาษาไทย มดี งั น้ี “ขาพเจาขอขอบคุณทกุ ทานทีร่ ว มแสดงน้าํ ใจในวนั ความปลอดภยั ในการทาํ งานและอาชวี อนามยั สากล ในปีนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศได้เน้นในเรื่องการป้องกันอันตรายจากการท�างาน มีสุภาษิตกล่าวว่า “กนั ไวด้ กี วา่ แก”้ แตก่ ารปอ้ งกนั ทด่ี ี ยอ่ มตอ้ งมกี ารมองการณไ์ กล การใหค้ า� มนั่ และความตงั้ ใจจรงิ เปน็ องคป์ ระกอบ พวกทา่ น จา� ตอ้ งตระหนกั ถงึ ภยั อนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขนึ้ จากการทา� งาน ตอ้ งรจู้ กั ประเมนิ ความเสย่ี ง และตอ้ งดา� เนนิ การทา� อะไรบาง อยา่ งโดยไมต่ ้องรอใหม้ ีอุบตั ิเหตเุ กดิ ขน้ึ หรือมใี ครตอ้ งบาดเจบ็ ลม้ ปวยหรอื ตายลงไปเสียกอ่ น ประโยชน์ที่จะไดจ้ ากการกระทา� ดงั กล่าวยอ่ มประจักษช์ ดั แจง้ ในตวั อยแู่ ล้ว การป้องกันยงั คุณประโยชนม์ ากมาย ไมเ่ พยี งเฉพาะเรอื่ งของคน แตย่ งั ดตี อ่ ผลประกอบการ รวมทงั้ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศทแ่ี ขง็ แกรง่ อกี ดว้ ย การปอ้ งกนั จงึ เอ้อื ประโยชน์ตอ่ ทุกฝาย ท้ังลูกจ้าง นายจา้ งและภาครัฐ ในปีนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศให้ความส�าคัญเป็นพิเศษกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในงานก่อสร้าง ในประเทศไทยอุตสาหกรรมก่อสร้าง ช่วยให้เกิดการจ้างงานเป็นจ�านวนมาก อีกทั้งยังเป็นตัวช้ีวัดท่ีส�าคัญตัวหนึ่งท่ีสะท้อนความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศ เราต้องชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจ ต้องไม่แลกกับคุณค่าของความปลอดภัยในการท�างานและงานท่ีมีคุณค่า ข้าพเจ้ามีความยินดีท่ีกล่าวเน้นย้�าในโอกาสนี้อีกคร้ังหน่ึงในการให้ค�ามั่นว่าความเจริญทาง เศรษฐกิจที่ดีต้องไปควบคู่ไปกับความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยที่ดีของคนท�างานด้วยนอกจากน้ี รัฐบาลของข้าพเจ้ายังให้ความส�าคัญในเรื่องความปลอดภัยและ อาชีวอนามัยของท้ังแรงงานผู้เยาว์และแรงงานสูงอายุ ซ่ึงเป็นอีกหัวข้อหน่ึงที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศได้ให้ความส�าคัญเช่นกัน แรงงานสองกลุ่มนี้มีความ ตอ้ งการเฉพาะของตนเอง เราจงึ ควรเขา้ ใจและเคารพในความตอ้ งการของพวกเขาดว้ ย แรงงานผเู้ ยาวข์ องเราสมควรจะไดร้ บั การปฏบิ ตั ทิ ด่ี เี พอ่ื ทจี่ ะเปน็ แรงกระตนุ้ ให้ เขาไดแ้ สดงศกั ยภาพความรคู้ วามสามารถไดอ้ ยา่ งเตม็ กา� ลงั ทา� ประโยชนแ์ กส่ งั คมไดเ้ ตม็ ท ี่ และเมอื่ เตบิ โตเปน็ ผใู้ หญ ่ กจ็ ะเปน็ แรงงานทมี่ สี ขุ ภาพอนามยั สมบรู ณต์ อ่ ไป ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเป็นเร่ืองที่จ�าเป็นแก่เราทุกคน ไม่ว่าจะท�างานอยู่ ณ ที่ใด หรือท�างานอะไรก็ตาม เม่ือพวกเราร่วมมือช่วยกันท�าในเร่ืองน้ ี เราก็จะกลายเป็นส่วนหน่ึงของพลังขับเคลื่อนไปท่ัวโลก พวกเราจะร่วมกันเสริมสร้างวัฒนธรรมการป้องกันในการรักษาความปลอดภัยให้ตัวเราเอง ครอบครัวและ สังคมอันเป็นท่รี กั ของเรา เราจะชว่ ยกันสร้างหลกั ประกนั ใหท้ ุกคนประจักษว์ า่ งานมคี ณุ คา่ ต้องเป็นงานท่มี ีปลอดภัยดว้ ย” นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 19

Decent Work - Safe Work - HIV/AIDS (2549) ปี 2549 (ค.ศ.2006) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้ก�าหนดหัวข้อ ของการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ เรอ่ื งงานทม่ี คี ณุ คา่ งานทมี่ คี วามปลอดภยั และเอชไอว/ี เอดส์ ซึ่งในปี 2549 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ มุ่งเน้นให้มีการลดจ�านวน ผู้เสียชีวิตเนื่องจากการท�างาน ซึ่งรวมถึงผู้ท่ีติดเช้ือเอชไอวี/เอดส์ การท�าให้งาน เป็นงานท่มี คี ณุ ค่า และงานทีใ่ หแ้ รงงานปฏิบัตคิ วรเปน็ งานท่มี คี วามปลอดภัย Decent Work - Safe Work - HIV/AIDS (2549) ป 2549 (ค.ศ.2006) องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ ไดก ําหนดหวั ขอ ของการรณรงคส งเสริมใหเปนเร่ืองงานที่มี คณุ คา งานที่มีความปลอดภัย และเอชไอวี/เอดส ซึง่ ในป 2549 องคก ารแรงงานระหวางประเทศ มุงเนนใหมีการ ลดจํานวนผูเสียชวี ิตเนือ่ งจากการทาํ งาน ซ่ึงรวมถงึ ผูท่ตี ดิ เชื้อเอชไอวี/เอดส การทําใหงานเปนงานท่ีมีคุณคา และ งานท่ีใหแรงงานปฏบิ ตั ิควรเปนงานทีม่ คี วามปลอดภยั Safe and Healthy Workplaces - Making Decent Work a Reality (2550) ปี 2550 (ค.ศ.2007) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้ก�าหนดหัวข้อของการรณรงค์ส่งเสริมให้เป็นเร่ืองสถานท่ี ท�างานที่ปลอดภัยและผู้ปฏิบัติงานมีสุขภาพอนามัยดี ซ่ึงจะท�าให้เป็นงานที่มีคุณค่าได้อย่างแท้จริง โดยท่ีองค์การแรงงาน ระหวา่ งประเทศตอ้ งการใหเ้ กดิ งานทม่ี คี ณุ คา่ ไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ ดว้ ยการดา� เนนิ การใหส้ ถานทท่ี า� งานมคี วามปลอดภยั และผปู้ ฏบิ ตั ิ งานมสี ขุ ภาพอนามัยดี เพ่ือลดจ�านวนการประสบอุบัตเิ หตุ การบาดเจบ็ และการเกดิ โรคจากการท�างาน รวมถงึ การปรับปรงุ การผลติ Safe and Healthy Workplaces - Making Decent Work a Reality (2550) ป 2550 (ค.ศ.2007) องคการแรงงานระหวางประเทศ ไดก าํ หนดหวั ขอ ของการรณรงคส งเสรมิ ใหเปนเร่ืองสถา ทํางานท่ปี ลอดภัยและผูป ฏิบัตงิ านมสี ุขภาพอนามัยดี ซ่ึงจะทาํ ใหเปน งานทมี่ คี ณุ คาไดอยางแทจริง โดยที่องคก แรงงานระหวา งประเทศตองการใหเ กดิ งานที่มคี ณุ คา ไดอยางแทจ รงิ ดวยการดําเนินการใหสถานท่ีทํางานมีคว My Life, My Work, My Safe Work - Managing Risk in the Workปลอดภยั และผปู ฏบิ ัตงิ านมสี ุขภาพอนามยั ดี เพ่อื ลดจํานวนการประสบอุบตั ิเหตุ การบาดเจ็บและการเกิดโรคจ การทํางาน รวมถึงการปรบั ปรงุ การผลติ Environment (2551) ปี 2551 (ค.ศ.2008) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้ก�าหนดหัวข้อของการรณรงค์ส่งเสริมให้เป็นเรื่องชีวิต และงานของแรงงาน งานทแี่ รงงานทา� มคี วามปลอดภยั – การบรหิ ารความเสย่ี งในสงิ่ แวดลอ้ มการทา� งาน ผปู้ ฏบิ ตั งิ านสว่ นใหญ่ มักต้องท�างานท่ีมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย องค์การแรงงานระหว่างประเทศได้ประมาณการว่ามี แรงงานทั่วโลกท่ีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุหรือเจ็บปวยด้วยโรคจากการท�างาน จ�านวน 6,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้ม เพม่ิ มากขนึ้ โดยในแต่ละปมี ีผปู้ ระสบอนั ตรายจากการทา� งานท่ีไม่ถงึ ขน้ั เสียชีวิตแตต่ อ้ งหยุดงานอย่างนอ้ ย 3 วนั ประมาณ 270 ล้านราย ซง่ึ ความสญู เสียทเ่ี กิดขึ้นประมาณเทา่ กบั 4% ของ GDP (Gross Domestic Product) ดังนัน้ เร่อื งความ ปลอดภยั และอาชวี อนามยั จงึ เปน็ เรอ่ื งทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ทกุ ภาคสว่ น ไมว่ า่ จะเปน็ หนว่ ยราชการ นายจา้ ง ลกู จา้ ง และครอบครวั ของผปู้ ฏิบัติงาน My Life, My Work, My Safe Work - Managing Risk in the Work Environment (2551) ป 2551 (ค.ศ.2008) องคการแรงงานระหวางประเทศ ไดก ําหนดหวั ขอ ของการรณรงคส ง เสรมิ ใหเ ปน เร่ืองชีวิตและ งานของแรงงาน งานทแี่ รงงานทาํ มคี วามปลอดภยั – การบรหิ ารความเสี่ยงในสิ่งแวดลอ มการทํางาน ผูปฏิบัติงาน สว นใหญมกั ตอ งทาํ งานท่ีมีความเสี่ยงดา นความปลอดภัยและอาชีวอนามัย องคการแรงงานระหวางประเทศได ประมาณการวามแี รงงานทว่ั โลกทีเ่ สียชวี ิตเนื่องจากอบุ ัติเหตหุ รือเจบ็ ปวยดว ยโรคจากการทํางาน จํานวน 6,000 คนตอวัน และมแี นวโนม เพมิ่ มากข้นึ โดยในแตล ะปม ีผปู ระสบอนั ตรายจากการทํางานท่ีไมถึงขั้นเสียชีวิตแตตอง หยุดงานอยา งนอ ย 3 วัน ประมาณ 270 ลานราย ซ่ึงความสญู เสยี ที่เกิดข้ึนประมาณเทา กับ 4% ของ GDP (Gross Health and Life at Work: A Basic Human Right (2552)Domestic Product) ดังนนั้ เรื่องความปลอดภัยและอาชวี อนามัย จงึ เปนเรื่องที่เก่ียวของกับทุกภาคสวน ไมวา จ ะเปน หนวยราชปการี น2าย5จา5ง ล2กู จา ง(แคละค.รศอบ.ค2รวั ข0อง0ผูป9ฏิบ)ัติง าอน งค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้กา� หนดหัวข้อของการรณรงค์สง่ เสรมิ ให้เป็นเรอื่ งสุขภาพ อนามัยและชีวิตการท�างาน ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพ้ืนฐาน ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเป็นสิทธิมนุษยชนข้ันพื้น ฐานทแ่ี รงงานควรไดร้ บั และเป็นสว่ นหนง่ึ ของการพฒั นาทีม่ ปี ระชาชนเปน็ ศูนยก์ ลาง การทา� งานทไี่ มป่ ลอดภัย อาจนา� ไปสู่ ความวติ กกงั วลและความยากจนหากแรงงานตอ้ งเจ็บปว ยจากการทา� งาน เปน็ ผลให้ความสามารถในการปฏิบัติงานลดลง มคี า่ ใชจ้ า่ ยเพมิ่ มากขน้ึ จากคา่ รกั ษาพยาบาล ดงั นน้ั หากจดั สถานทที่ า� งานใหม้ คี วามปลอดภยั เพอื่ ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านมสี ขุ ภาพ อนามัยด ี จะส่งผลใหส้ ถานประกอบกิจการเพ่ิมผลผลติ ซ่ึงเป็นสว่ นหน่งึ ความส�าเรจ็ และกลยุทธการพฒั นาทีย่ ัง่ ยืน 20 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน Health and Life at Work: A Basic Human Right (2552) ป 2552 (ค.ศ.2009) องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ ไดกําหนดหัวขอของการรณรงคสง เสริมใหเปนเรื่องสุขภาพ อนามัยและชีวติ การทาํ งาน ซง่ึ เปนสิทธิมนุษยชนขัน้ พ้นื ฐาน ความปลอดภยั และอาชีวอนามัยเปน สิทธิมนุษยชนข้ัน พ้นื ฐานทแี่ รงงานควรไดรับและเปนสวนหน่งึ ของการพัฒนาทม่ี ปี ระชาชนเปนศนู ยกลาง การทํางานที่ไมปลอดภัย อาจนําไปสูค วามวติ กกงั วลและความยากจนหากแรงงานตองเจ็บปวยจากการทํางาน เปนผลใหความสามารถใน การปฏบิ ัตงิ านลดลง มคี าใชจายเพมิ่ มากขน้ึ จากคา รกั ษาพยาบาล ดงั นัน้ หากจัดสถานท่ที าํ งานใหม ีความปลอดภัย เพือ่ ใหผ ปู ฏบิ ตั ิงานมสี ขุ ภาพอนามัยดี จะสงผลใหสถานประกอบกิจการเพิ่มผลผลิต ซ่ึงเปนสวนหนึ่งความสําเร็จ

Emerging Risks and New Patterns of Prevention in a Changing World of Work (2553) ปี 2553 (ค.ศ.2010) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้ก�าหนดหัวข้อของการรณรงค์ส่งเสริมให้เป็นเร่ือง ความเสย่ี งทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหมๆ่ และแบบแผนใหมๆ่ ของการปอ้ งกนั ในโลกแหง่ การทา� งานทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลง Emerging Risks and New Patterns of Prevention in a Changing World of Work โดยองค์การแรงงานระหวา่ งประเทศ ตอ้ งการ ให้ทั่วโลกกันมาสนใจต่อการความท้าทายที่มีอยู่ในปัจจุบันและเนื้อหาใหม่ๆ ในเร่ืองการปฏิบัติด้านความปลอดภัย และอาชวี อนามยั โดยมงุ่ เนน้ ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลย ี ความเสยี่ งใหมๆ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในสถานทท่ี า� งาน รปู แบบการจา้ งงาน และก�าลงั แรงงานที่เปล่ียนแปลง จึงมคี วามจ�าเป็นตอ้ งมีวธิ กี ารป้องกันใหมๆ่ เพอ่ื เผชญิ กับความทา้ ทายใหม่ๆ Emerging Risks and New Patterns of Prevention in a Changing World of Work (2553) ป 2553 (ค.ศ.2010) องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ ไดกําหนดหวั ขอ ของการรณรงคสงเสริมใหเปนเร่ืองความ เสย่ี งที่เกดิ ข้ึนใหมๆ และแบบแผนใหมๆ ของการปองกันในโลกแหงการทํางานที่มีการเปล่ียนแปลง Emerging Risks and New Patterns of Prevention in a Changing World of Work โดยองคการแรงงานระหวาง ประเทศ ตอ งการใหท่ัวโลกกนั มาสนใจตอ การความทาทายท่มี อี ยใู นปจจุบันและเน้ือหาใหมๆ ในเรื่องการปฏิบัติ ดานความปลอดภัยและอาชีวอนามยั โดยมงุ เนนความกาวหนาของเทคโนโลยี ความเสี่ยงใหมๆ ที่เกิดขึ้นในสถานท่ี ทํางาน รูปแบบการจา งงานและกาํ ลงั แรงงานทีเ่ ปลยี่ นแปลง จงึ มีความจาํ เปน ตองมวี ธิ กี ารปอ งกันใหมๆ เพื่อเผชิญ กับความทาทายใหมๆ Occupational Safety and Health Management System: A Tool for Continual Improvement (2554) ปี 2554 (ค.ศ.2011) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้ก�าหนดหัวข้อของการรณรงค์ส่งเสริมให้เป็นเรื่องระบบ การจดั การดา้ นความปลอดภยั และอาชวี อนามยั ซง่ึ เปน็ เครอ่ื งมอื ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การปรบั ปรงุ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยทอี่ งคก์ ารแรงงาน ระหว่างประเทศมุ่งเน้นการด�าเนินงานเรื่องระบบการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ให้เป็นเคร่ืองมือท่ีส�าคัญ ท่จี ะก่อให้เกดิ การปรับปรุงสถานทีท่ �างานอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพ่อื ป้องกนั การประสบอนั ตรายจากการท�างาน Occupational Safety and Health Management System: A Tool for Continual Improve (2554) ป 2554 (ค.ศ.2011) องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ ไดก ําหนดหัวขอของการรณรงคสงเสริมใหเปนเร่ือง การจัดการดา นความปลอดภยั และอาชวี อนามัย ซ่งึ เปนเคร่ืองมือท่ีกอใหเกิดการปรับปรุงอยางตอเนื่อง องคก ารแรงงานระหวางประเทศมุง เนนการดําเนนิ งานเรื่องระบบการจดั การดา นความปลอดภัยและอาชีวอ ใหเปนเคร่อื งมือทสี่ าํ คญั ทจ่ี ะกอ ใหเกดิ การปรบั ปรงุ สถานทท่ี าํ งานอยางตอเน่ืองเพ่ือปองกันการประสบอัน Promoting Safety and Health in a Green Economyจากกา(รท2าํ งาน555) ป ี 2555 (ค.ศ.2012) องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ ไดก้ า� หนดหวั ขอ้ ของการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ เรอื่ งการสง่ เสรมิ ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว จ�าเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องผสมผสาน เรอ่ื งความปลอดภยั และอาชวี อนามยั รว่ มกบั นโยบายงานสเี ขยี ว (Green Jobs Policies) งานสเี ขยี วทแ่ี ทจ้ รงิ ตอ้ งผสมผสาน เรอื่ งความปลอดภยั และอาชวี อนามยั เชน่ การออกแบบ การดา� เนนิ การ การบา� รงุ รกั ษา นโยบายการจดั หาและการนา� กลบั มาใช ้ (Sourcing and Recycling Policy) ระบบการรบั รอง (Certification System) และมาตรฐานคณุ ภาพความปลอดภยั และอาชีวอนามัย โดยเฉพาะอย่างย่ิงในภาคส่วนของงานก่อสร้าง การน�าของเสียกลับมาใช้ (Waste Recycle) การผลิต พลังงานจากแสงอาทติ ย ์ และกระบวนการชวี มวล (Biomass Process) Promoting Safety and Health in a Green Economy (2555) ป 2555 (ค.ศ.2012) องคการแรงงานระหวา งประเทศ ไดกาํ หนดหัวขอของการรณรงคสงเสริมใหเปนเร่ืองการ สง เสรมิ ความปลอดภัยและอาชีวอนามยั ในเศรษฐกจิ สีเขียว ซ่ึงในการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว จําเปนอยางยิ่งท่ี จะตองผสมผสานเรอ่ื งความปลอดภัยและอาชีวอนามัยรวมกับนโยบายงานสีเขียว (Green Jobs Policies) งานสี เขียวทีแ่ ทจ รงิ ตอ งผสมผสานเรื่องความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เชน การออกแบบ การดําเนินการ การ บาํ รงุ รักษา นโยบายการจัดหาและการนํากลับมาใช (Sourcing and Recycling Policy) ระบบการรับรอง (Certification System) และมาตรฐานคณุ ภาพความปลอดภัยและอาชีวอนามัย โดยเฉพาะอยางย่ิงในภาคสวน The Prevention of Occupational Diseases (2556)ของงานกอสราง การนําของเสยี กลบั มาใช (Waste Recycle) การผลิตพลงั งานจากแสงอาทิตย และกระบวนการ ชวี มวล (BiomassปPro ีc2ess5) 56 (ค.ศ.2013) องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ ไดก้ า� หนดหวั ขอ้ ของการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ เรอ่ื งการปอ้ งกนั โรค จากการทา� งาน องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศไดป้ ระมาณการประสบอนั ตรายเนอื่ งจากการทา� งานถงึ ขน้ั เสยี ชวี ติ ในแตล่ ะปี มีจา� นวน 2.34 ล้านคน ซึง่ มีเพยี ง 321,000 คนเท่าน้นั ท่ีเสียชวี ิตจากอุบัตเิ หตุ จ�านวนที่เหลืออกี 2.02 ลา้ นคนที่เสยี ชวี ิตด้วย โรคท่ีเกี่ยวเนื่องจากการท�างาน ซึ่งเฉลี่ยวันละมากกว่า 5,500 คน การป้องกันโรคท่ีเกิดขึ้นจากการท�างานอย่างไม่เพียงพอ นอกจากจะเกิดผลกระทบต่อตัวแรงงานและครอบครัวแล้ว ยังส่งผลให้เป็นภาระต่อสังคม และสถานประกอบกิจการที่ต้อง สูญเสยี ผลผลติ ดังนั้น การปอ้ งกันมิให้ผู้ปฏบิ ัตงิ านเกิดโรคจากการทา� งาน จงึ เปน็ วธิ กี ารทม่ี ีประสทิ ธผิ ล ลดค่าใชจ้ า่ ยในการ ดแู ลรักษาพยาบาลและการฟนฟู The Prevention of Occupational Diseases (2556) ป 2556 (ค.ศ.2013) องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ ไดก ําหนดหัวขอของการรณรงคสงเสริมให 21นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งานปอ งกันโรคจาการทาํ งาน องคการแรงงานระหวางประเทศไดป ระมาณการประสบอนั ตรายเนอ่ื งจากก ข้นั เสียชีวติ ในแตล ะป มจี ํานวน 2.34 ลา นคน ซึ่งมเี พยี ง 321,000 คนเทาน้ันท่ีเสยี ชีวติ จากอุบตั ิเหตุ จ อกี 2.02 ลานคนทีเ่ สยี ชวี ติ ดว ยโรคทเี่ กีย่ วเนอื่ งจากการทาํ งาน ซึ่งเฉลย่ี วนั ละมากกวา 5,500 คน การ เกดิ ข้นึ จากการทาํ งานอยางไมเพียงพอ นอกจากจะเกิดผลกระทบตอ ตัวแรงงานและครอบครวั แลว ยัง

Safety and Health in the Use of Chemicals at Work (2557) ปี 2557 (ค.ศ.2014) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้ก�าหนดหัวข้อของการรณรงค์ส่งเสริมให้เป็นเรื่องความ ปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการใช้สารเคมีในการท�างาน สารเคมีเป็นสิ่งที่มีความจ�าเป็นซ่ึงมีการใช้ทั้งในกระบวนการ ผลติ ในภาคอุตสาหกรรม เปน็ สารกา� จดั ศตั รูพชื เป็นสว่ นผสมในยารกั ษาโรค ฯลฯ การไดร้ ับสารเคมี อาจสง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ (เชน่ มะเร็ง) และเป็นสาเหตุก่อให้เกดิ เหตเุ พลิงไหม้ได ้ ดังนัน้ จงึ ควรท่จี ะมมี าตรการในการปอ้ งกนั และควบคมุ ความเส่ียงที่อาจเกดิ ขนึ้ กับแรงงาน และจา� กัดปรมิ าณการปลอ่ ยออกส่สู งิ่ แวดล้อมในสถานทีท่ �างาน และชุมชน Safety and Health in the Use of Chemicals at Work (2557) ป 2557 (ค.ศ.2014) องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ ไดก าํ หนดหวั ขอของการรณรงคสงเส ปลอดภยั และอาชวี อนามัยในการใชสารเคมีในการทํางาน สารเคมีเปนส่ิงท่ีมีความจําเ กระบวนการผลติ ในภาคอตุ สาหกรรม เปน สารกําจดั ศัตรูพืช เปน สวนผสมในยารกั ษาโรค ฯลฯ อาจสงผลกระทบตอสุขภาพ (เชน มะเร็ง) และเปนสาเหตุกอใหเ กดิ เหตเุ พลิงไหมได ดังน้ัน จึง ในการปอ งกนั และควบคมุ ความเสีย่ งทอี่ าจเกดิ ข้ึนกับแรงงาน และจํากัดปริมาณการปลอยอ Join in Building a Culture of Prevention on OSH (2558)สถานที่ทํางาน และชมุ ชน ปี 2558 (ค.ศ.2015) องค์การแรงงานระหวา่ งประเทศ ไดก้ า� หนดหวั ขอ้ ของการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ให้เปน็ เร่ืองของการ เข้าร่วมในการสร้างวัฒนธรรมในการป้องกันเพื่อความปลอดภัยและอาชีวอนามัย แรงงานควรปฏิบัติงานในสิ่งแวดล้อม การทา� งานทปี่ ลอดภยั และผปู้ ฏบิ ตั งิ านมสี ขุ ภาพอนามยั ด ี ซง่ึ ทกุ ภาคสว่ นทเี่ กยี่ วขอ้ ง ไมว่ า่ จะเปน็ ภาครฐั นายจา้ ง และลกู จา้ ง ต้องมีส่วนร่วมช่วยกันด�าเนินการเพ่ือให้เกิดวัฒนธรรมในการป้องกันเพื่อความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ซึ่งจะส่งผล ให้การประสบอนั ตรายเนอื่ งจากการทา� งานลดลง Join in Building a Culture of Prevention on OSH (2558) ป 2558 (ค.ศ.2015) องคการแรงงานระหวา งประเทศ ไดก าํ หนดหัวขอของการรณรงคสงเสริมใหเ ปนเร่ืองของการ เขา รว มในการสรา งวฒั นธรรมในการปองกันเพื่อความปลอดภัยและอาชีวอนามัย แรงงานควรปฏิบัติงานใน ส่งิ แวดลอ มการทาํ งานท่ปี ลอดภยั และผปู ฏิบัติงานมีสุขภาพอนามัยดี ซึ่งทุกภาคสวนท่ีเก่ียวของ ไมวาจะเปน ภาครัฐ นายจา ง และลูกจาง ตอ งมีสวนรวมชวยกันดําเนินการเพ่ือใหเกิดวัฒนธรรมในการปองกันเพ่ือความ Workplace Stress: a Collective Challenge (2559)ปลอดภัยและอาชีวอนามัย ซึ่งจะสง ผลใหการประสบอันตรายเนอ่ื งจากการทาํ งานลดลง ป ี 2559 (ค.ศ.2016) องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ ไดก้ า� หนดหวั ขอ้ ของการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ เรอื่ งความเครยี ด ในสถานทท่ี �างาน เป็นความท้าทายร่วมกนั ทง้ั น้ ี ปจั จบุ นั มแี รงงานจา� นวนมากทตี่ ้องเผชิญหนา้ กับความกดดนั อย่างเป็นอย่าง มากต่อชวี ิตการท�างานสมัยใหม ่ ทา� ใหเ้ กดิ ความเครียดทางด้านจติ ใจ เช่น การแข่งขนั ที่เพ่ิมมากขึน้ ความคาดหวงั สงู ต่อการ ทา� งาน ช่วั โมงการท�างานทย่ี าวนาน เปน็ ตน้ ความเครยี ดเน่ืองจากการท�างาน จึงเป็นประเด็นท่ีประเทศตา่ งๆ ท่ัวโลกเรม่ิ ให้ ความสา� คญั เพอื่ ขจดั ตน้ เหตทุ ท่ี า� ใหเ้ กดิ ความเสย่ี งตอ่ ความเครยี ดทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ในสถานทที่ า� งาน ซงึ่ จะเปน็ การคมุ้ ครองสขุ ภาพ อนามัยและความเปน็ อยู่ของแรงงาน Workplace Stress: a Collective Challenge (2559) ป 2559 (ค.ศ.2016) องคการแรงงานระหวางประเทศ ไดกําหนดหัวขอของการรณ ความเครยี ดในสถานทที่ ํางาน เปนความทาทายรว มกนั ทั้งนี้ ปจจุบันมีแรงงานจํานวน ความกดดนั อยา งเปนอยา งมากตอชีวิตการทาํ งานสมยั ใหม ทําใหเ กิดความเครียดทางดาน Optimize (tคh.ศe.20C1o7)l lอeงcค์tกiาoรแnรงaงาnนรdะหUว่าsงeปรoะเfทศO ไSดH้ก�าหDนaดหtaัวข้อ(2ขอ5งอเจพางึ6กิม่เจปมเกนาา0ิดกปรขขร้นึ้ึนะรเใ)ดนคณน็ สวทาถม่ีปารคนราะทงดเที่ทหคําศวงตัง์าสสานงูง่ๆงตซอทึง่เกจัว่สาะโรลเปรทกนําเิมรงกาม่ิ านใใรหคหชคมุ ว่ัวคโา้เมรมปองสกงําสา็นครขุ ัญทภเําเาพรงพาื่ออ่ืนอขนทจางั่ยีดมาตัยวนแนลเาหะนคตวุเทปา่ีทมน ําเตปใน หนอคเกยวิดาขู มคอเงวคแ ปี 2560 การจัดเก็บและใช้ข้อมูลด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ท้ังน้ี ข้อมูลความปลอดภัย และอาชีวอนามัยท่ีจัดเก็บ ควรเป็นข้อมูลท่ีมีความน่าเชื่อถือได้ เพื่อให้สามารถน�ามาวิเคราะห์อันตรายและตรวจพบ ความเส่ียงต่ออันตรายใหม่ๆ การช้ีบ่งอันตรายในรูปแบบต่างๆ การพัฒนามาตรการเพ่ือการป้องกัน รวมถึงการก�าหนด นโยบายและโครงการตา่ งๆ เปน็ ขอ้ มลู พนื้ ฐานในการจดั ลา� ดบั เรอ่ื งทจ่ี ะตอ้ งดา� เนนิ การและวดั ความกา้ วหนา้ ของการดา� เนนิ การ ดังนัน้ องค์การแรงงานระหวา่ งประเทศจงึ มงุ่ เนน้ ให้ประเทศสมาชกิ ไดเ้ ห็นถงึ ความจา� เปน็ ในการปรบั ปรุงการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ความปลอดภัยและอาชวี อนามยั เพ่อื ใหส้ ามารถนา� ขอ้ มลู มาใช้เพ่ือให้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ Optimize the Collection and Use of OSH Data (2560) 22ปจัด 2เก5็บ6แ0ล(ะคใ.ชศข.2อ 0ม1ูล7ดน)าอนติงคควกยาามรสปแลราองงดราภนัยรคแะลหวะวอา าางชปมีวรอะปนเทาลศมัยไอเดพกื่อดําใหหภนเ กดยิดั หปัวรขะอโอยขาชอนชงส กวีงู าสรุดอรทณนงั้ รนางี้ คขมอสมงยั ูเลสครวแิมาใลมหปเะปลสนอดเภรภ่ือาัยงแพกลาะรแวดลอ้ มในการทำ�งาน อาชีวอนามัยทจี่ ดั เกบ็ ควรเปน ขอ มูลทมี่ คี วามนาเชอ่ื ถือได เพ่ือใหสามารถนํามาวิเคราะหอันตรายและตรวจพบ ความเส่ียงตออนั ตรายใหมๆ การช้ีบง อนั ตรายในรปู แบบตางๆ การพัฒนามาตรการเพื่อการปองกัน รวมถึงการ

SAFETY LAW สุนีย์ ตนั ติวุฒพิ งศ์ กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวสั ดกิ ารและคุมครองแรงงาน ก ฎ ห ม า ย ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ใ น ก า ร ท� า ง า น เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ฝึกอบรมการดับเพลิงข้ันต้น แ ล ะ ก า ร ฝึ ก ซ้ อ ม ดั บ เ พ ลิ ง แ ล ะ ฝึ ก ซ้ อ ม อ พ ย พ ห นี ไ ฟ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 23

ปา้ ยบอกทางหนีไฟ มาตรฐาน วสท อุบัติภัยร้ายแรงที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้ได้เกิดข้ึนหลายคร้ัง แต่ละครั้ง ประกอบกิจการทุกประเภทที่มีลูกจ้างตั้งแต่หนึ่งคนข้ึนไป แต่จะมีบางข้อ ก่อให้เกิดความสูญเสียท้ังชีวิตและทรัพย์สิน รวมท้ังเกิดผลกระทบทางจิตใจ กำ� หนดให้ด�ำเนินการโดยมเี งือ่ นไขเฉพาะ เช่น ท่ีประเมินค่ามิได้ เพลิงไหม้ได้เกิดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ท้ังในอาคารพักอาศัย - ในสถานประกอบกิจการท่ีมีลูกจ้างตั้งแต่สิบคนข้ึนไป ให้นายจ้างจัดให้มี ช่ัวคราว เช่น เหตุเพลิงไหม้โรงแรมรอยัล จอมเทียน รีสอร์ท เมื่อวันที่ 13 แผนปอ้ งกนั และระงบั อคั คภี ยั ประกอบดว้ ยการตรวจตราการอบรมการรณรงค์ สงิ หาคม 2536 มผี ูเ้ สยี ชีวติ 91 คน ได้รบั บาดเจบ็ 53 คน เกิดในสถานประกอบ ปอ้ งกนั อัคคีภัยการดับเพลิง การอพยพหนไี ฟ และการบรรเทาทกุ ข์ กจิ การ เช่น เหตเุ พลิงไมโ้ รงงานตุ๊กตาเคเดอร์ เมื่อวันท่ี 10 พฤษภาคม 2536 - สถานประกอบกิจการที่มีอาคารต้ังแต่สองช้ันข้ึนไป หรือมีพ้ืนท่ีประกอบ มีผู้เสียชีวิต 188 คน ได้รับบาดเจ็บ 485 คน และเกิดในสถานที่สันทนาการ กิจการตั้งแต่สามร้อยตารางเมตรขึ้นไป ให้นายจ้างจัดให้มีระบบสัญญาณ เช่น เหตุเพลงิ ไหม้ ซานติกา้ ผบั เมอื่ วนั ท่ี 1 มกราคม 2552 มผี ู้เสยี ชวี ติ 66 คน แจง้ เหตุเพลิงไหมใ้ นสถานประกอบกจิ การทกุ ชนั้ บาดเจบ็ 225 คน เหตกุ ารณ์ท่ีเกดิ ขนึ้ นเ้ี ปน็ บทเรยี นให้หน่วยงานของรฐั และผู้ - ในสถานที่ซ่ึงมีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยอย่างร้ายแรงหรืออย่าง ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพมิ่ ความเขม้ งวดในการกำ� กบั ดแู ล ใหม้ กี ารปฏบิ ตั ติ ามมาตรการใน ปานกลางนายจา้ ง ตอ้ งจดั ใหม้ รี ะบบนำ�้ ดบั เพลงิ และอปุ กรณป์ ระกอบเพอื่ ใชใ้ น การปอ้ งกนั และระงบั เหตทุ กี่ ำ� หนด มาตรการทางกฎหมายทก่ี ำ� หนดใหน้ ายจา้ ง การดบั เพลงิ และเครอ่ื งดับเพลิงแบบเคลือ่ นย้ายไดอ้ ย่างเดียวกไ็ ด้ ตอ้ งจดั ใหล้ กู จา้ งไดร้ บั การฝกึ อบรมการดบั เพลงิ ขนั้ ตน้ และการฝกึ ซอ้ มดบั เพลงิ ส�ำหรับการก�ำหนด ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างได้รับการฝึกอบรมน้ัน และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟซ่ึงเป็นมาตรการในการป้องกัน ประเภทหน่ึง โดยมี กฎกระทรวงได้ก�ำหนดหัวข้อท่ีลูกจ้างต้องได้รับการฝึกอบรมและฝึกซ้อม วัตถุประสงค์เพ่ือให้ลูกจ้างได้รู้จักวิธีการป้องกันและการเข้าระงับเหตุอัคคีภัย จ�ำนวน 2 หลกั สูตร ซ่ึงมีรายละเอียดในการดำ� เนินการ ดงั นี้ ได้อย่างถูกต้องถกู วิธี 1. หลกั สตู ร “การฝกึ อบรมการดบั เพลงิ ขนั้ ตน้ ” กฎกระทรวงฯ กำ� หนด ประเทศไทยมกี ฎหมายทบ่ี ญั ญตั ใิ หค้ วามคมุ้ ครองลกู จา้ งทท่ี ำ� งานเกยี่ วกบั ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าร้อยละสี่สิบของ จ�ำนวนลูกจ้างในแต่ละ การป้องกันและระงับอัคคีภัย ต้ังแต่ยคุ ทกี่ ระทรวงแรงงาน ยงั เปน็ กรมแรงงาน หนว่ ยงานของสถานประกอบกิจการรบั การฝกึ อบรมการดบั เพลิงขน้ั ตน้ โดยมี ภายใต้กระทรวงมหาดไทย เป็นประกาศกระทรวงฯ ออกโดยอาศัยอ�ำนาจ วัตถุประสงค์เพ่ือให้ลูกจ้างได้รู้จักวิธีการป้องกันและการเข้าระงับเหตุอัคคีภัย คณะปฏวิ ตั ิ 103 โดยในปี พ.ศ. 2520 มกี ารออกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง ได้อย่างถูกต้องถูกวิธี มีทักษะและความสามารถในการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเข้า การป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการเพ่ือความปลอดภัยในการ ท�ำการระงับเหตุเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพ่ือเป็นการลด ทำ� งานของลกู จา้ ง พ.ศ. 2534 เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ หล้ กู จา้ งไดร้ บั อนั ตรายจากอคั คภี ยั ความสญู เสียชวี ติ และทรัพย์สนิ ในสถานประกอบกิจการ ส�ำหรับผ้ดู �ำเนินการ ปอ้ งกนั ความสญู เสยี ทเี่ กดิ กบั ลกู จา้ งและสถานประกอบการ และปอ้ งกนั ตน้ เหตุ ฝกึ อบรม “การดบั เพลงิ ขนั้ ตน้ ” ตอ้ งเปน็ ผทู้ ไี่ ดร้ บั ใบอนญุ าตจากกรมสวสั ดกิ าร ของอัคคีภัยท่ีจะเกิดผลกระทบประชาชน มีรายละเอียดเก่ียวกับการก�ำหนด และคุ้มครองแรงงาน เป็นผู้ด�ำเนินการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ให้นายจ้างต้องจัดให้มีอุปกรณ์ดับเพลิง ระบบน�้ำดับเพลิงและอุปกรณ์ จัดน�้ำ ซง่ึ ปจั จบุ นั มนี ติ บิ คุ คล ทไี่ ดร้ บั ใบอนญุ าตจากกรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน ส�ำรองดับเพลิงตามปริมาณท่ีก�ำหนด จัดเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ ก�ำหนด เปน็ หนว่ ยงานฝกึ อบรม หลกั สตู รฝกึ อบรมการดบั เพลงิ ขนั้ ตน้ ทเี่ ปน็ สว่ นราชการ ให้มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย ก�ำหนดให้มีการอบรมการดับเพลิงขั้นต้น รวม 304 แห่ง ป็นส่วนเอกชน 50 แห่ง ส�ำหรับค่าบริการในการฝึกอบรม แก่พนักงาน ใหส้ ามารถดบั เพลิงไดไ้ มน่ ้อยกว่า 40% ของแต่ละพื้นท่ี และใหม้ ี หลักสูตร “การดับเพลิงขั้นต้น” หน่วยงานฝึกอบรมท่ีได้รับใบอนุญาตจาก การฝกึ ซ้อมการดับเพลงิ และหนีไฟ ไมน่ ้อยกว่าปีละ 1 คร้งั ประกาศฯ ฉบับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สามารถจัดเก็บได้ในอัตราไม่เกิน ดังกล่าว สิ้นผลใช้บังคับเม่ือมีการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติ 1,500 บาท ตอ่ คน โดยการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏบิ ตั ิ ภาคทฤษฎี ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำ� งาน พ.ศ. 2554 ต้องมีก�ำหนดระยะเวลาการฝึกอบรมไม่น้อยกว่าสามช่ัวโมงและอย่างน้อย ตอ้ งมเี น้อื หาดังนี้ ปัจจุบันกระทรวงแรงงาน ได้ประกาศบังคับใช้กฎกระทรวงก�ำหนด (1) ทฤษฎกี ารเกดิ เพลิงไหม้ มาตรฐานในการบริหารจัดการ และด�ำเนินการด้านความปลอดภัย (2) การแบ่งประเภทของเพลงิ และวิธีดับเพลงิ ประเภทตา่ งๆ อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการท�ำงานเกี่ยวกับอคั คีภัย พ.ศ. 2555 (3) จิตวิทยาเม่ือเกิดอคั คภี ัย ซึง่ ออกโดยอาศยั อ�ำนาจตามมาตรา 8 ของพระราชบญั ญัตคิ วามปลอดภัย (4) การปอ้ งกนั แหลง่ ก�ำเนิดของการตดิ ไฟ อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม มีขอบเขตบังคับใช้กับสถาน (5) เคร่อื งดบั เพลิงชนิดตา่ งๆ 24 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

(6) วิธกี ารใช้อปุ กรณค์ ้มุ ครองความปลอดภัยส่วนบคุ คลท่ีใช้ ฝกึ ซอ้ มฯ ไดห้ รอื ไม่ เมอื่ พจิ ารณาจาก กฎกระทรวงฯ ขอ้ 30 กำ� หนดใหน้ ายจา้ ง ในการดับเพลงิ จดั ใหล้ กู จา้ งทกุ คนฝกึ ซอ้ มดบั เพลงิ และฝกึ ซอ้ มอพยพหนไี ฟพรอ้ มกนั อยา่ งนอ้ ย (7) แผนป้องกันและระงับอัคคีภยั ปีละหนึ่งคร้ัง ดังนั้นการด�ำเนินการฝึกซ้อมจึงต้อง ฝึกซ้อมพร้อมกัน ท้ังน้ี (8) การจัดระบบปอ้ งกันและระงับอคั คีภัย การประยุกต์ใช้ระบบ อาคารทม่ี สี ถานประกอบกจิ การหลายแหง่ ตงั้ อยรู่ วมกนั กฎกระทรวงฯ กำ� หนด และอุปกรณ์ท่ีมอี ย่ใู นสถานประกอบกจิ การ ให้ลูกจ้างของนายจ้างทุกรายที่ท�ำงานอยู่ภายในอาคารเดียวกันและในวัน สว่ นการฝกึ อบรมภาคปฏบิ ตั ติ อ้ งมกี ำ� หนดระยะเวลาการฝกึ อบรมไมน่ อ้ ย และเวลาเดยี วกนั ทำ� การฝกึ ซอ้ มพรอ้ มกนั หรอื ในกรณที สี่ ถานประกอบกจิ การมกี าร กว่าสามชั่วโมง โดยผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนต้องได้รับการฝึกปฏิบัติเกี่ยว ก�ำหนดเวลาทำ� งานปกตแิ บ่งเป็น 2 กะ กะท่ีหนึง่ เวลาทำ� งาน 07.00-16.00 น. กับการใชอ้ ุปกรณ์ดับเพลิงและอยา่ งน้อยตอ้ งมีการฝกึ อบรมภาคปฏิบตั ิ ตามที่ กะท่ีสองเวลาท�ำงาน 19.00-04.00 น. มีการสลับช่วงเวลาท�ำงานสัปดาห์ละ กฎกระทรวงการเปน็ หนว่ ยงานฝึกอบรมการดบั เพลงิ ขน้ั ตน้ และการเปน็ หนว่ ย หน่ึงคร้ัง โดยลูกจ้างท่ีท�ำงานช่วงเวลากะที่หนึ่งจะสลับไปท�ำงานในช่วงเวลา งานฝกึ ซ้อมดบั เพลงิ และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ พ.ศ. 2556 ก�ำหนด ทัง้ นี้ การที่ ของกะที่สอง สถานประกอบกิจการ ไดด้ �ำเนนิ การจัดใหล้ กู จ้างทกุ คนฝึกซอ้ ม กฎหมายก�ำหนดต้องจัดให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าร้อยละส่ีสิบของจ�ำนวนลูกจ้าง ดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟเฉพาะในช่วงเวลาของกะที่หนึ่ง โดยจัดให้ ในแตล่ ะหนว่ ยงานของสถานประกอบกจิ การรบั การฝกึ อบรม มจี ดุ ประสงคใ์ หม้ ี ลูกจ้างท่ีท�ำงานในช่วงเวลาของกะท่ีสองและสลับช่วงเวลาท�ำงานมาท�ำงาน การกระจายของลกู จา้ งทผ่ี า่ นการฝกึ อบรมการดบั เพลงิ ขนั้ ตน้ ใหอ้ ยใู่ นทกุ หนว่ ย ในชว่ งเวลากะทหี่ นง่ึ ไดฝ้ กึ ซอ้ มฯ จะถอื วา่ เปน็ การดำ� เนนิ การจดั ใหล้ กู จา้ งไดร้ บั งานของนายจา้ ง เพอ่ื ความรวดเรว็ ในการระบับเหตุเพลิงไหม้เบื้องตน้ ในสถาน การฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟของสถานประกอบกิจการ ประกอบกิจการของทุกหน่วยงาน ระยะเวลาที่ต้องจัดให้มีการฝึกอบรม ตามที่กฎหมายก�ำหนดหรือไม่ และจ�ำเป็นต้องด�ำเนินการฝึกซ้อมดับเพลิง ให้พิจารณาจากจ�ำนวนลูกจ้างที่ผ่านการอบรม หากมีจ�ำนวนไม่น้อยกว่าร้อย และฝกึ ซอ้ มอพยพหนไี ฟในเวลากลางคนื เพมิ่ เตมิ หรอื ไม่ กรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครอง ละสี่สิบของจ�ำนวนลูกจ้างในแต่ละหน่วยงาน ก็ไม่ต้องจัดให้มีการฝึกอบรมอีก แรงงาน ได้มีแนวการด�ำเนินการในเร่ืองดังกล่าวว่า การฝึกซ้อมดับเพลิง เวน้ แตม่ ลี กู จา้ งเขา้ งานใหม่ อนั มผี ลทำ� ใหส้ ดั สว่ นจำ� นวนลกู จา้ งทผ่ี า่ นการอบรม และฝกึ ซอ้ มอพยพหนไี ฟ กฎกระทรวงกำ� หนดวา่ ตอ้ งจดั ใหม้ กี ารจำ� ลองเหตกุ ารณ ์ ไมเ่ ปน็ ไปตามทกี่ ฎหมายกำ� หนด สำ� หรบั หลกั สตู ร การดบั เพลงิ ขนั้ ตน้ เมอ่ื เสรจ็ และฝึกซ้อมเสมือนเหตุการณ์จริงในสถานที่ปฏิบัติงานของผู้รับการฝึกแต่มิได้ สน้ิ การฝึก อบรม นายจา้ งมิต้อง รายงานผลการฝึกอบรม แตใ่ หเ้ กบ็ หลักฐาน กำ� หนดวา่ ตอ้ งฝึกซอ้ มในวนั และเวลาท�ำงานปกติของผ้รู บั การฝึก ดงั น้นั การท่ี การฝึกอบรมไวใ้ นสถานประกอบกิจการ การด�ำเนินการจัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ 2. หลกั สตู ร “ฝกึ ซอ้ มดบั เพลงิ และฝกึ ซอ้ มอพยพหนไี ฟ” กฎกระทรวงฯ จึงเป็นไปตามท่ีกฎหมายก�ำหนด แต่ทั้งน้ีการจัดให้ลูกจ้างได้ฝึกซ้อมดับเพลิง ก�ำหนดให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพ และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟในเวลาท�ำงานปกติในช่วงเวลากลางคืน ก็เป็น หนไี ฟพรอ้ มกนั อยา่ งนอ้ ยปลี ะหนงึ่ ครงั้ ฯ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ รู้ บั ผดิ ชอบ ประโยชนใ์ นการเตรยี มความพรอ้ มและฝกึ ซอ้ มใหล้ กู จา้ งไดร้ จู้ กั วธิ กี ารปอ้ งกนั และพนักงานได้ทราบและเข้าใจบทบาท หน้าที่ เม่ือเกิดเหตุฉุกเฉนิ เพลงิ ไหม้ และการเขา้ ระงบั เหตอุ คั คภี ยั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งถกู วธิ สี ามารถเขา้ ทำ� การระงบั เหตุ สามารถที่จะอพยพพนักงานไปไว้ในท่ีท่ีปลอดภัยได้โดยไม่เกิดความเสียหาย เบอื้ งตน้ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ สำ� หรบั การดำ� เนนิ การ “ฝกึ ซอ้ มดบั ส�ำหรับสถานประกอบกิจการท่ีต้องด�ำเนินการจัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมนั้น เพลงิ และฝึกซอ้ มอพยพหนีไฟ” สามารถดำ� เนินการได้ 2 กรณี คือ กฎกระทรวงก�ำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการ และด�ำเนินการด้าน 2.1 กรณนี ายจา้ งดำ� เนนิ การฝกึ ซอ้ มฯ เอง ใหน้ ายจา้ งสง่ แผนการฝกึ ซอ้ ม ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ� งานเกยี่ วกบั การปอ้ งกนั ดบั เพลงิ และฝกึ ซอ้ มอพยพหนไี ฟ รวมทง้ั รายละเอยี ดเกย่ี วกบั การฝกึ และระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 ข้อ 4 ได้ก�ำหนดให้สถานประกอบกิจการท่ีมี ซ้อมต่ออธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมายเพ่ือให้ความเห็นชอบ ลูกจ้างต้ังแต่สิบคนขึ้นไป ให้นายจ้างจัดให้มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย กอ่ นการฝึกซ้อมไม่นอ้ ยกว่าสามสบิ วัน ส�ำหรับเอกสารรายละเอยี ด ปรกอบดว้ ยการตรวจตรา การอบรม การรณรงค์ ปอ้ งกนั อคั คภี ยั การดบั เพลงิ เก่ียวกับการฝึกซ้อมท่ีต้องแนบเร่ืองมาเพื่อขอความเห็นชอบนั้น การอพยพหนีไฟ และการบรรเทาทุกข์ และข้อ 30 ได้ก�ำหนดให้นายจ้าง กองความปลอดภัยแรงงานได้จัดท�ำแนวทางการพิจารณาให้ จัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ พร้อมกัน ความเหน็ ชอบแผน และรายละเอยี ดการฝกึ ซอ้ มดบั เพลงิ และฝกึ ซอ้ ม อยา่ งนอ้ ยปลี ะหนง่ึ ครง้ั ดงั นน้ั สถานประกอบกจิ การทมี่ ลี กู จา้ งตงั้ แต่10 คนขนึ้ ไป อพยพหนไี ฟ กรณีนายจา้ งจัดใหม้ ีการฝึกซอ้ มเอง เอกสารประกอบ ต้องด�ำเนินการจัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ดว้ ยหวั ขอ้ ดังตอ่ ไปนี้ ประจ�ำปี แต่ในกรณีอาคารที่มีสถานประกอบกิจการหลายแห่งต้ังอยู่รวมกัน 1) ขอ้ มูลทั่วไปเกี่ยวกบั สถานประกอบการ กฎกระทรวงฯ ก�ำหนดใหน้ ายจ้างทกุ รายของสถานประกอบกจิ การในอาคาร 2) กิจกรรมส�ำหรบั การฝึกซ้อมดบั เพลงิ และฝกึ ซ้อมอพยพหนีไฟ นั้นมีหน้าท่ีร่วมกันในการจัดให้มีระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมทั้งแผน 3) ข้อมลู เกยี่ วกับปจั จยั เสี่ยงทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ อัคคีภัยได้ ป้องกันและระงับอัคคีภัยด้วย ดังน้ันแม้จ�ำนวนลูกจ้างของสถานประกอบ 4) แผนผงั บรเิ วณรอบสถานประกอบการและแผนผงั แสดงเสน้ ทาง กจิ การแตล่ ะรายจะมีจำ� นวนไม่ถงึ 10 คน นายจ้างทกุ รายของสถานประกอบ หนไี ฟ กจิ การในอาคาร กต็ อ้ งจดั ใหล้ กู จา้ งทกุ คนฝกึ ซอ้ มดบั เลงิ และฝกึ ซอ้ มอพยพหน ี 5) แผนการดบั เพลงิ และแผนการอพยพหนไี ฟ ของสถานประกอบการ ไฟพร้อมกันอย่างน้อยปีละหนึ่งคร้ัง ตามแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยท่ี 6) เหตุการณจ์ �ำลอง ร่วมกันจัดท�ำ มีสถานประกอบกิจการหลายแห่งมีข้อสงสัยว่า กรณีนายจ้าง 7) ผูด้ ำ� เนินการฝกึ ซอ้ ม รายเดยี วมอี าคารหลายอาคารอยใู่ นสถานประกอบกจิ การเดยี วกนั จะแยกกนั 8) การประเมนิ ผลการฝึกซอ้ ม 9) อุปกรณแ์ ละระยะเวลาการฝึกซอ้ ม นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 25

2.2 กรณใี หผ้ ทู้ ไ่ี ดร้ บั ใบอนญุ าตจากกรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน ผู้ท่ีสนใจสามารถตรวจดูรายช่ือนิติบุคคลท่ีได้รับใบอนุญาตจาก เปน็ ผดู้ า� เนนิ การฝกึ ซอ้ ม นายจา้ งมติ อ้ งสง่ แผนการฝกึ ซอ้ มดบั เพลงิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ที่ www.oshthai.org และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ รวมท้ังรายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกซ้อม ส�าหรับค่าบริการในการฝึกซ้อม หลักสูตร “ฝึกซ้อม ดับเพลิง ต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเพื่อให้ความเห็นชอบ และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ” หน่วยงานฝึกซ้อม ที่ได้รับใบอนุญาต กอ่ นการฝกึ ซอ้ ม แตค่ วรมกี ารประสานผทู้ ไี่ ดร้ บั ใบอนญุ าตเพอ่ื กา� หนด จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สามารถจัดเก็บได้ วันที่จะด�าเนินการฝึกอบรมหรือการฝึกซ้อมไว้ล่วงหน้า เนื่องจาก ในอัตราดงั ต่อไปน้ี ผู้รับใบอนุญาตต้องแจ้งก�าหนดการฝึกอบรมหรือการฝึกซ้อม (1) ในการฝกึ ซ้อมตัง้ แต่ 10 ถงึ 99 คน ไม่เกนิ ครั้งละ 15,000 บาท รายชื่อวิทยากร และผ้ดู แู ลการฝึกอบรมหรือการฝกึ ซอ้ มตอ่ อธบิ ดี (2) ในการฝกึ ซอ้ มตง้ั แต ่ 100 ถงึ 499 คน ไมเ่ กนิ ครง้ั ละ 20,000 บาท หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันท�าการ (3) ในการฝกึ ซ้อมต้งั แต ่ 500 คนขนึ้ ไป ไม่เกนิ ครัง้ ละ 25,000 บาท ก่อนการฝึกอบรมหรือการฝึกซ้อม ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่ได้รับ ท้ังน้ีนายจ้างต้องจัดท�ารายงานผลการฝึกซ้อมดังกล่าวตามแบบ ใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นหน่วย ทอ่ี ธบิ ดกี า� หนด และยน่ื ตอ่ อธบิ ดหี รอื ผซู้ ง่ึ อธบิ ดมี อบหมายภายในสามสบิ วนั งานฝกึ ซ้อมหลักสตู ร “ฝึกซ้อมดับเพลงิ และฝกึ ซอ้ มอพยพหนีไฟ” นับแต่วันทเี่ สร็จสิน้ การฝกึ ซ้อม ท่ีเป็นส่วนราชการรวม 305 แห่ง เป็นส่วนเอกชน 54 แห่ง บทกําหนดโทษกรณีมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง กาํ หนดมาตรฐานในการบรหิ ารจดั การ และดาํ เนนิ การดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทํางานเก่ียวกับการป้องกัน และระงบั อคั คภี ยั พ.ศ. 2555 บญั ญตั ไิ วใ้ นพระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2554 มาตรา 53 กาํ หนดโทษกรณนี ายจา้ งผใู้ ดฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานทก่ี าํ หนด ในกฎกระทรวงทอ่ี อกตามมาตรา 8 ตอ้ งระวางโทษจําคกุ ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจําท้ังปรับ และสําหรับผู้ดําเนินการ จดั ฝกึ อบรม โดยมไิ ดร้ บั ใบอนญุ าตจากกรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน พระราชบัญญัติความปลอดภัยฯ มาตรา 55 กําหนดโทษกรณีผู้ใด ใหบ้ รกิ ารตรวจวดั ตรวจสอบ ทดสอบ รบั รองประเมนิ ความเสยี่ งจดั ฝกึ อบรม หรอื ใหค้ าํ ปรกึ ษาโดยไม่ไดข้ ้นึ ทะเบยี นตามมาตรา 9 หรอื ไม่ได้รบั อนุญาตตามมาตรา 11 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับ ไมเ่ กนิ สองแสนบาท หรอื ทง้ั จําทั้งปรบั 26 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

จป.มือโปร คุณอคั รา เทีย่ งวบิ ูลยว์ งศ์ บริษทั เอสซีจีซิเมนต์ - ผลติ ภณั ฑก์ อ่ สร้าง จำ� กดั ต�ำแหน่ง Occupational Health & Safety Manager – Building Materials Sustainable Organization Development Office (SOD) – Operations SCG Cement - Building Materials Co.,Ltd. (SCG CBM) ประวตั ิการศึกษา เรียนมาหลายศาสตร์แต่ทุกด้านก็ท�ำให้เรามีมุมมองที่กว้างข้ึน และน�ำมาใช้ในการท�ำงานได้ครับ สาขาที่จบมาคือ อาชีวอนามัย และความปลอดภัย มหาวิทยาลัยมหิดล, บริหารธุรกิจ สาขาการเงิน และการธนาคาร มหาวทิ ยาลยั รามคำ� แหง, นติ ศิ าสตรม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร,์ เนติบัณฑิตไทยจากส�ำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, ประกาศนียบัตรทนายความ จากส�ำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่ง สภาทนายความ, และบรหิ ารธุรกจิ มหาบัณฑิต มหาวทิ ยาลัยรงั สิต ประวตั กิ ารท�ำงาน ถ้านับก่อนใช้ปริญญาทางด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มาท�ำงานแล้วละก็จะท�ำงานมาหลายแห่ง คือ ชีวิตผมจะท�ำงานไปด้วย เรียนไปด้วยทุกๆ ปริญญาที่ได้มาโดยตลอด เรียกว่าแทบจะไม่ค่อย ไดเ้ ขา้ ชน้ั เรยี น แมแ้ ตต่ อนทเี่ รยี นทมี่ หดิ ล จำ� ไดว้ า่ อาจารยบ์ างทา่ นถงึ กบั ฝาก เพอื่ นๆ ใหม้ าบอกวา่ ถา้ ไมเ่ ขา้ เรยี น แลว้ จะหมดสทิ ธส์ิ อบ แตใ่ นความจรงิ แลว้ เราไมไ่ ดไ้ ปไหนหรอก คอื ไปทำ� งานนนั่ แหละ เชน่ ไปของานอาจารย์ มหาวิทยาลัยท่ีก�ำลังท�ำวิจัยอยู่ เราก็ไปสมัครเป็นคนไปเก็บข้อมูลให้ ทำ� แบบสอบถามกไ็ ดเ้ งนิ มาเกบ็ ไวเ้ ปน็ คา่ เทอม ถา้ วา่ งเวน้ จากการทำ� งาน หาเงิน ก็จะไปท�ำงานกิจกรรมที่ตึกกิจกรรม โดยมีทั้งทางด้านดนตร ี คือเลน่ วง “ประกายไฟ” ของมหาวทิ ยาลยั มหิดล ซ่งึ เป็นดนตรีเพือ่ ชวี ิต และวงดนตรขี องคณะสาธารณสขุ ศาสตร์ ทางดา้ นกฬี ากเ็ ลน่ บาสเกตบอล ใหก้ บั คณะฯ สว่ นทางกจิ กรรมอนื่ ๆกเ็ ปน็ ประธานชมรมชาวเหนอื และยงั มี กจิ กรรมทชี่ ว่ ยงานเพอ่ื นฝงู ทอ่ี ยชู่ มรมอน่ื ๆ เชน่ ชมรมอสี าน ชมรมทกั ษณิ ชมรมอาสาพัฒนา ฯลฯ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 27

น้องๆ ผู้ร่วมวิชาชีพน้ีและคนในองค์กรของเอสซีจีช่วยกันสร้างมาครับ เพราะความสา� เรจ็ เหลา่ นเี้ กดิ ขน้ึ ไดเ้ พราะเรามที มี ทด่ี สี ว่ นผมเองโชคดที ไ่ี ดเ้ ปน็ ส่วนหน่ึงของทุกๆ ทีมในการท�างานท้ังด้านความปลอดภัยฯ และทางด้าน สงิ่ แวดลอ้ ม ทม่ี ลี กั ษณะงานสว่ นใหญเ่ ปน็ งานยคุ บกุ เบกิ หรอื เปน็ สง่ิ ทต่ี อ้ งตอ่ ยอด พัฒนาสิ่งดีๆ ที่พวกพ่ีๆรุ่นก่อนหน้าผมท�ามา ท�าให้มีโอกาสท�างานท่ีท้าทาย ไดเ้ รยี นรู้สิง่ ใหม่ๆอยตู่ ลอดเวลาครบั แต่ถ้านับประวัติการท�างานเฉพาะด้านอาชีวอนามัยฯแล้วละก็ ก็ต้อง ด้วยเหตุที่เอสซีจีเองเป็นองค์กรที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ 4 อย่าง คือ บอกวา่ ชวี ติ ผกู พนั ธก์ บั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ม์ าโดยตลอด คอื จบมธั ยมศกึ ษา *ต้ังมั่นในความเป็นธรรม *มุ่งม่ันในความเป็นเลิศ *ยึดมั่นในคุณค่าของคน จากโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจ�าจังหวัด และ *ถือม่ันในความรับผิดชอบต่อสังคม ตัวอย่างที่อยากเล่าให้ฟังคือเรื่องท่ี ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท ี่ 6 เมอื่ ครงั้ ยงั ดา� รงพระอสิ รยิ ศ เอสซจี เี องเปน็ องคก์ รแรกๆ ของไทยทพ่ี ยายามลกุ ขนึ้ มาทา� เรอื่ งเหลา่ น ี้ ในชว่ งเวลา เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฏราชกุมาร ได้ทรงสมทบทุน ตอนนั้น แต่ในปัจจุบันน้ีอาจจะกลายเป็นเร่ืองมาตรฐานที่ธุรกิจส่วนใหญ่ต้อง ในการก่อสร้าง และทรงพระราชทานนามโรงเรียนซ่ึงแปลว่า “โรงเรียน ท�ากันแล้ว กข็ อเล่าเปน็ แตล่ ะชว่ งเวลานะครบั เช่น ก่อนหน้าปพี .ศ.2537 นัน้ ของสมเดจ็ พระยพุ ราช” เมอื่ พ.ศ.2448จบแลว้ กม็ าเรยี นกบั มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ในประเทศไทยเองยงั ไมค่ อ่ ยมตี วั วดั ผลมาตรฐานการจดั การดา้ นความปลอดภยั ฯ อีก หลังจากน้ันกไ็ ด้รบั โอกาสใหม้ าท�างานกับเอสซจี (ี SCG) ซง่ึ ตอนนนั้ เรียกว่า ทเี่ ปน็ รปู ธรรมใหเ้ รา Benchmark มากนกั เอสซจี เี องกเ็ ลยสง่ ผลงานไปประกวด เครือซิเมนต์ไทย ซึ่งเป็นบริษัทท่ีในหลวงรัชกาลท่ี 6 ทรงมีพระราชด�าริ ในระดับนานาชาติกับ National Safety Council ซึ่งเป็นองค์กรด้านความ ให้กอ่ ตั้งขน้ึ มาในป ี พ.ศ.2456 อกี ดว้ ย ปลอดภัยของอเมรกิ า มีสมาชกิ เปน็ ธรุ กจิ ในสาขาต่างๆจากทวั่ โลก ซึง่ สา� หรับ ประเทศไทยแลว้ เกต็ อ้ งถอื วา่ เปน็ หนงึ่ ในองคก์ รในระดบั ตน้ ๆทพี่ ยายามพฒั นา ผมไดร้ บั โอกาสจากเครอื ซเิ มนตไ์ ทยใหเ้ ขา้ มาฝกึ งานเมอื่ ตอนเรยี นมหดิ ล ตัวเองเร่ืองน้ี และผลงานก็คือบริษัทในกลุ่มของเอสซีจีก็ได้รับรางวัล ป ี 3 ระหวา่ งฝกึ งานกม็ กี ารสอบสมั ภาษณเ์ พอ่ื ทจ่ี ะเขา้ ทา� งาน ผมกไ็ ดร้ บั โอกาส Zero Accident มาหลายประเภท ท่ีคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ของเครือข่ายอีกคร้ัง คือ ถ้าหลังจากจบปี 4 ในช่วงปีพ.ศ.2537 นั้นเราเห็นแนวโน้มในการที่จะมีการประกาศใช้ แลว้ กใ็ หม้ ารายงานตวั เพอ่ื เขา้ ทา� งานไดเ้ ลย จากจดุ ตรงนน้ั เองทา� ใหผ้ มมคี วาม มาตรฐานดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ISO 14001และดา้ นอาชวี อนามยั ฯ OHSAS 18001 รกั ความผกู พนั ทที่ า� งานกบั เครอื ฯซเิ มนต ์ มาโดยตลอด โดยทา� งานในตา� แหนง่ เรากศ็ กึ ษากอ่ นเลย ตอนนนั้ ผมและทมี งานรบั ผดิ ชอบในสว่ นกลางของเครอื ขา่ ย แรกทบ่ี รษิ ทั ปนู ซเิ มนตไ์ ทย จา� กดั (มหาชน) เปน็ นกั วชิ าการความปลอดภยั และ คือพัฒนาและสนับสนุนในการบริหารงานความปลอดภัยและส่ิงแวดล้อมให้ ส่ิงแวดล้อม,ท่ีปรึกษา-ด้านความปลอดภัยและส่ิงแวดล้อม, ท่ีปรึกษาอาวุโส- กับบริษัทภายในเครือข่ายท้ังหมด ประเทศไทยก็เป็นยุคแรกของเรื่องการยก ด้านความปลอดภัยและส่ิงแวดล้อมตามล�าดับ จากนั้นก็มาท�างานที่บริษัท ระดบั มาตรฐานเหลา่ น ้ี เราจงึ ทดลองนา� แนวทางของตา่ งประเทศมาใชก้ บั บรษิ ทั ผลติ ภัณฑก์ ่อสรา้ ง ในตา� แหน่งผู้จัดการพัฒนาอย่างยัง่ ยนื และบริษัทเอสซจี ซี ิ ในเครือข่ายจนกระท่ังเมื่อมีการประกาศใช้ในประเทศไทยคือ มอก.14001 เมนต-์ ผลติ ภณั ฑก์ อ่ สรา้ ง ในตา� แหนง่ ผจู้ ดั การสง่ิ แวดลอ้ มและความรบั ผดิ ชอบ พ.ศ. 2540, มอก.18001 พ.ศ.2542 เครือฯก็ขอการรับรองและเป็น ต่อสังคม บรษิ ทั แรกๆ ของประเทศไทยทไ่ี ดร้ บั การรับรองมาตรฐานเหล่านี้ ในปีพ.ศ.2538 คณะกรรมการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและความปลอดภัย ปัจจุบันเป็นผู้จัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย บริษัทเอสซีจี เครือซิเมนต์ไทย (ช่ือในขณะน้ัน) มีพ่ีๆกรรมการผู้จัดการใหญ่ของแต่ละกลุ่ม ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งขอบเขตของงานจะคอยสนับสนุนงานด้าน ธุรกิจของเอสซีจีเป็นคณะกรรมการฯ และหน่ึงในภารกิจที่พี่ๆ เขาก�าหนด ความปลอดภยั ฯใหบ้ รษิ ทั ในกลมุ่ ธรุ กจิ ผลติ ภณั ฑก์ อ่ สรา้ ง (Building Materials), ทิศทางให้น้ันคือ เอสซีจีต้องการที่จะท�าให้ดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายก�าหนด ธรุ กจิ เซรามคิ และสขุ ภณั ฑ ์ (Ceramics & Ware) ,ธรุ กจิ การขนสง่ และกระจาย ทีมเราก็ท�าการศึกษามาตรฐานการควบคุมมลพิษของเราเปรียบเทียบกับ สนิ คา้ (Logistics) ทงั้ ในไทยและต่างประเทศ ของตา่ งประเทศทพ่ี ฒั นาแลว้ รวมถงึ ขอ้ บงั คบั ของกฎหมายไทยเราแลว้ นา� เสนอ ต่อคณะกรรมการฯ เพื่อท�าการก�าหนดมาตรฐานด้านส่ิงแวดล้อมของเอสซีจี อะไรคอื ความภมู ใิ จมากทส่ี ุดในการประกอบอาชพี ทก่ี า� หนดให้ท�าดีกวา่ มาตรฐานทัว่ ไปภายใตเ้ ทคโนโลยีทเ่ี รามีอยู ่ ซ่ึงกถ็ อื ในยคุ ด้านความปลอดภัย น้ันเป็นบริษัทแรกๆของประเทศอีกเช่นกันที่มุ่งม่ันในการที่ท�าเรื่องนี้และเรา การได้ร่วมงานกับเอสซีจีเองเป็นเร่ืองที่ผมภูมิใจมากที่สุด และดีใจ กไ็ ดถ้ อื เปน็ แนวปฏบิ ตั ิเร่อื งนตี้ ลอดมา ที่ได้เป็นส่วนหน่ึงของทีมในเหตุการณ์ส�าคัญๆ ของการพัฒนางานด้าน ในเรอื่ งการจดั ทา� ระบบการบรหิ ารงานดา้ นความปลอดภยั ฯ ของเอสซจี ี ความปลอดภยั และสง่ิ แวดลอ้ มของเอสซจี ตี งั้ แตป่ พี .ศ.2532 มาโดยตลอดความ เองมีมาอย่างยาวนานตามอุดมการณ์ 4 ทไ่ี ดก้ ล่าวมาน้ัน ตอ้ งขอบคุณร่นุ พๆ่ี ภูมิใจนี้ไม่ใช่ของผมคนเดียวหรอกครับ ผมต้องยกให้เป็นความภูมิใจของพี่ๆ ผู้บรหิ ารของเราทีใ่ หค้ วามส�าคัญเร่อื งคณุ ค่าของคน และถอื มัน่ ในความรับผดิ 28 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน ชอบต่อสังคม มีการดูแลเร่ืองคนท�างานและส่ิงแวดล้อมตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ

มาโดยตลอด ทีมพ่ีๆน้องๆ ผู้ร่วมวิชาชีพในรุ่นเราก็มีแนวคิดท่ีอยากจะช่วย ท่านมีแนวทางในการบริหารจัดการองค์กรด้าน ผบู้ รหิ ารของเอสซจี ที า� แนวทางการบรหิ ารเรอ่ื งนใี้ หเ้ ปน็ มาตรฐานและวฒั นธรรม ความปลอดภัยอย่างไรให้มีระบบที่ย่ังยืนเพื่ อทุก ความปลอดภัยฯของเอสซีจีเอง(SCG’s Way)ดังน้ันพวกเราเองก็มาร่วมกัน คนจะไดก้ ลับบ้านอย่างปลอดภัยในทกุ ๆวัน ศึกษาถึงการบริหารจัดการที่ดีๆ ของต่างประเทศ ซ่ึงตอนนั้นอยู่ในช่วงปี แนวทางในการท่จี ะบรหิ ารจัดการองคก์ รอย่างยงั่ ยืนนั้น ต้องมีการมอง พ.ศ.2546 แล้วเสนอคณะกรรมการฯ ในที่สุดก็มีกรอบในการบริหารจัดการ ให้ครอบคลุมและพยายามท�าให้เกิดความสมดุลในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเร่ือง ด้านความปลอดภัยฯท่ีเราเรียกวา่ SCG Safety Framework พร้อมกนั น้ันก็มี เศรษฐกิจ (Economics) สังคม (Social) ส่ิงแวดล้อม (Environment) รายละเอยี ดทใี่ ชใ้ นการประเมนิ ประสทิ ธผิ ลการดา� เนนิ งานดา้ นความปลอดภยั ฯ และทง้ั หมดนต้ี อ้ งทา� อยา่ งโปรง่ ใส สามารถตรวจสอบขอ้ มลู ได ้ (Governance) ของตนเอง ท่ีเรยี กวา่ SCG Safety Performance Assessment Program (SPAP) ซงึ่ จะจดั ระดับเปน็ 5 ระดบั คือ Beginning, Improving, Qualifying, ความปลอดภัยในการท�างานน้ันเป็นส่วนหน่ึงของด้านสังคม (Social) Succeeding และ Leading ซึ่งปัจจุบันน้ีเอสซีจีเองก็ใช้เป็นแนวทางในการ เราเองก็ต้องพยายามท�าความเข้าใจบริบทของแต่ละองค์กรในขณะนั้นว่า บริหารเรื่องความปลอดภัยฯ ของเอสซจี อี ย่างต่อเนือ่ ง สถานการณ์แต่ละด้านมีปัญหาอะไร ต้องท�าอะไรที่ส�าคัญก่อน-หลัง เพ่ือก่อ ประมาณพ.ศ.2547 คณะกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและ ให้เกิดความสมดุลในทุกๆด้าน แต่สิ่งส�าคัญมากในการท่ีเราจะท�าให้เกิด ความปลอดภยั กม็ ีนโยบายให้ทมี เราจัดท�าแนวปฏิบัตกิ ารอนุรักษ์สิง่ แวดลอ้ ม ความสมดุลในทกุ ด้านๆนนั้ ตอ้ งไม่ทง้ิ หลกั การพืน้ ฐานของเร่อื งนนั้ และความปลอดภยั เพอ่ื ใหท้ กุ ธรุ กจิ ในเอสซจี ี ซง่ึ ขณะนน้ั มกี ลมุ่ ธรุ กจิ ปโ ตรเคมี กระดาษและบรรจุภัณฑ์ซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจจัดจ�าหน่าย สา� หรบั ดา้ นความปลอดภยั ฯ นน้ั ผมเองจะยดึ หลกั การพน้ื ฐานทเ่ี ปน็ หลกั ตอ้ งดา� เนินการตามแนวทางนี้ ซ่งึ จะประกอบไปด้วยการรักษาสภาพแวดล้อม สากลไว้ก่อนมันจึงจะต่อยอดความคิดของเราให้น�าไปสู่การหาวิธีการหรือ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การดูแลสุขภาพและความปลอดภัย การวัด เครอื่ งมอื มาใชใ้ นการบรหิ ารจดั การของเรา หลกั การพนื้ ฐานทางดา้ นความปลอดภยั ฯ ประสิทธิผลในการด�าเนินงานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม รวมถึง (Safety Principle)น้ัน คือ การด�าเนนิ กิจกรรมใหก้ ารสนับสนุนต่อชุมชนและสังคม 1. Safety is our core value : เราต้องสร้างคา่ นยิ มให้มคี วามเช่อื พ.ศ.2550 เอสซีจีตั้งคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาแทน มั่นว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งที่เป็นคุณค่าที่ส�าคัญย่ิงของการท�างานการที่เรา คณะกรรมการอนรุ กั ษฯ์ และมแี นวคดิ เรอ่ื งความปลอดภยั วา่ อยากจะขยายผลให้ มีค่านิยมหรือความเชื่อเช่นนี้จะเป็นส่ิงท่ีสนับสนุนในการตัดสินใจและแสดง คธู่ รุ กจิ ของเราดแู ลดา้ นความปลอดภยั ฯ ใหก้ บั พนกั งานของเขารว่ มกนั กบั เอส พฤติกรรมของเราออกมา เพราะท้ังการด�าเนินชีวิตการท�างานและกิจกรรม ซจี ดี ว้ ย ทมี เราจงึ ไดจ้ ดั ทา� มาตรฐานระบบการใหก้ ารรบั รองความปลอดภยั ของ อนื่ ๆในชวี ติ ประจา� วนั นน้ั เราไมส่ ามารถใหค้ นอนื่ ๆมาตดั สนิ ใหไ้ ดต้ ลอดเวลาวา่ คู่ธุรกิจ(SCG Contractor Safety Certification System ; SCS) อนั เปน็ การ จะเอาเรอ่ื งอะไรกอ่ น-หลงั ระหวา่ งงานและความปลอดภยั ดงั นนั้ หากเราคดิ ได้ พัฒนาและยกระดับประสิทธิผลในการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ดว้ ยตวั เองวา่ เรอ่ื งความปลอดภยั เปน็ สงิ่ ทม่ี คี ณุ คา่ การกระทา� ของเราทกุ อยา่ ง ของคธู่ ุรกจิ ของเราได้อีกระดบั หนึ่ง กจ็ ะแสดงออกมาให้ได้ผลงานอยา่ งท่ีเราต้องการและมีความปลอดภยั ดว้ ย เอาเปน็ วา่ เรอ่ื งทผี่ มภมู ใิ จทไี่ ดร้ บั โอกาสจากพๆ่ี ในเอสซจี ใี หส้ รา้ งผลงาน 2. Uncompromising safety standards : มาตรฐานความปลอดภยั ร่วมกับทีมงานมีอีกมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในช่วงหลังๆ น้ ี ไม่มีการประนีประนอมเรื่องน้ีก็เป็นเรื่องพื้นฐานอีกข้อหน่ึงที่อุบัติเหตุหลายๆ ทางเอสซจี เี องโดยเฉพาะกลมุ่ ธรุ กจิ ซเิ มนต-์ ผลติ ภณั ฑก์ อ่ สรา้ ง ทผ่ี มทา� งานอยมู่ ี ครงั้ มกั จะเกดิ ขน้ึ จากการทเ่ี ราคดิ วา่ นดิ เดยี วนา่ หนอ่ ยเดยี วนา่ , ตอ้ งรบี ทา� งาน การขยายกิจการไปยังต่างประเทศในแถบ Cambodia, Laos, Myanmar, ส่งลกู คา้ , ท�ามาหลายครัง้ แล้วไมเ่ หน็ จะเกดิ อุบตั เิ หตเุ ลย ฯลฯ แลว้ ก็จะไมท่ �า Vietnam, Indonesia และ Philippines ผมกไ็ ดร้ บั มอบหมายใหน้ า� มาตรฐาน ตามมาตรฐานความปลอดภัยท่ีเราตกลงกันไว้ อุบัติเหตุก็เกิดข้ึน ดังน้ันเร่ือง และประสบการณ์ด้านความปลอดภัยฯ นี้ไปถ่ายทอดให้กับบริษัทของเรา มาตรฐานความปลอดภยั น้เี ราตอ้ งปฏบิ ัติตามตลอดเวลา ที่เกิดใหมเ่ หล่านีใ้ ห้มกี ารดา� เนนิ งานตามมาตรฐานของเอสซีจีดว้ ย 3. All occupational injuries & illnesses can be prevented : การบาดเจบ็ และการเจบ็ ปว ยจากการทา� งานทงั้ หมดสามารถปอ้ งกนั ได ้ บางคน มักจะคิดว่าการบาดเจ็บหรือเจ็บปวยจากการท�างานนั้นเป็นเร่ืองของ เคราะห์กรรม แต่แท้จรงิ แล้วมันเป็นสิ่งท่ีเราป้องกันได้ บทเรียนจากอุบัติเหตุ หลายๆ ครง้ั ทเ่ี กดิ มาในอดตี กเ็ ปน็ สง่ิ ทพี่ สิ จู นม์ าแลว้ ทง้ั นน้ั วา่ เราสามารถปอ้ งกนั ได ้ แล้วเราจะไมต่ ้องมาพูดว่า “รู้อย่างนีแ้ ลว้ .....” นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 29

4. Safety is a line responsibility & management is เขาจะตอ้ งเตรยี มอปุ กรณ ์ เตรยี มคนใหม้ คี วามร ู้ เตรยี มความพรอ้ มของรา่ งกาย responsible for preventing occupational injuries & illnesses. : รวมถงึ ตอ้ งรกู้ ฎความปลอดภยั ทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ิ และเมอ่ื ถงึ วนั ทที่ า� งานจรงิ กต็ อ้ งมี ความปลอดภัยเป็นหน้าท่ีรับผิดชอบโดยตรงตามสายการบริหารงาน และผู้ วิธีการทา� งานในแต่ละข้ันตอนอย่างไร ตงั้ แต่การคุยถึงความเสยี่ งท่มี ีในงานน้ี บริหารมีหน้าท่ีรับผิดชอบในการป้องกันการบาดเจ็บและการเจ็บปวยจาก การออกใบอนุญาตการท�างาน การตรวจสอบและสังเกตระหว่างปฏิบัติงาน การทา� งานหลกั การนกี้ เ็ ปน็ หลกั สากลทอ่ี งคก์ รชนั้ นา� ทว่ั โลกปฏบิ ตั กิ นั ผบู้ งั คบั และเมื่อเสร็จงานแล้วก็ต้องมีการตรวจสอบความเรียบร้อยของงานและ บญั ชาเองตอ้ งดแู ลทงั้ เรอื่ งการทา� งานและความปลอดภยั ของผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา ความปลอดภัยฯ อกี คร้งั ของตนเองด้วย 3) ด้าน Humanware คือ ตอ้ งเตรยี มคนใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ 5. Employee involvement is essential. : การมีส่วนรว่ มของ ในการท�างานไดอ้ ยา่ งปลอดภัย ตัวของพนกั งานหรือผู้ปฏิบตั ิงานเองก็ต้องเข้า พนกั งานเปน็ สง่ิ จา� เปน็ ยงิ่ สา� หรบั การดา� เนนิ งานเรอ่ื งความปลอดภยั เพราะตวั มามีส่วนร่วมในการหาทางป้องกัน และผู้บังคับบัญชาเองก็ต้องการป้องกัน พนักงานเองเป็นผู้ที่สัมผัสกับความเส่ียงท่ีมีอยู่ในงานที่ตนเองก�าลังปฏิบัติ อุบัติเหตุที่กล่าวมานี้เราจะต้องท�าท้ัง 3 ด้าน ไปพร้อมๆกันภายใต้เงื่อนไข ยอ่ มจะมแี นวคดิ แนวปฏบิ ตั ดิ ๆี และเหมาะสมกบั การทา� งานใหป้ ลอดภยั หากเราให้ ของทรัพยากรท่ีเรามีอย่างเหมาะสมแต่ต้องไม่ต่�ากว่ามาตรฐานข้ันต่�า เขามสี ว่ นรว่ มในการหาทางปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตกุ บั เราดว้ ยจะทา� ใหเ้ กดิ การยอมรบั ของความปลอดภัย ตามหลักการพื้นฐานSafety Principle ของเรา และเกดิ ผลให้ทางปฏิบัติได้อยา่ งเหมาะสม ท่านเห็นว่าวิธีการหรือแนวทางไหนท่ีน่าจะจัดการ ทา่ นมแี นวทางอยา่ งไรในการลดอบุ ตั เิ หตจุ ากการ กบั พฤตกิ รรมเพื่อใหห้ ยดุ อบุ ตั เิ หตจุ ากการทา� งาน ทา� งานใหไ้ ดผ้ ล ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมซึง่ รวมถงึ มผี ลลพั ธท์ ีน่ า่ จะออก เรื่องการลดอุบัติเหตุจากการท�างานที่จะให้ได้ผลนั้น เร่ืองที่ส�าคัญมาก มาดที ส่ี ุด ท่ีสุดก็คือผู้บริหารต้องมีความมุ่งมั่น (Commitment) และให้การสนับสนุน เรอื่ งนเ้ี ปน็ เรอื่ งทย่ี ากมากๆเรอื่ งหนง่ึ เพราะกรณที เ่ี รามคี วามจา� เปน็ ตอ้ ง (Support) ทมี ในการทจี่ ะทา� ใหเ้ รอื่ งนป้ี ระสบความสา� เรจ็ ไดส้ ว่ นทมี เราเองกต็ อ้ ง พึ่งคนในการท�างานแต่ก็มีพฤติกรรมของผู้ที่ปฏิบัติงานที่เสี่ยงอยู่ การจะปรับ ให้ข้อมูลผู้บริหารใช้ในการตัดสินใจท่ีดีและถูกต้องอย่ามองแค่ในระยะส้ัน เปลย่ี นพฤตกิ รรมเปน็ เรอื่ งทตี่ อ้ งใชเ้ วลา เราตอ้ งทา� ใหเ้ ขามสี ว่ นรว่ มตง้ั แตส่ รา้ ง หรอื ตอ้ งการผลเรว็ เพยี งอยา่ งเดยี ว หลายคนอยากจะใหเ้ กดิ ผลทนั ทกี จ็ ะใชว้ ธิ กี าร ให้เขามคี วามร้ ู มีทัศนคตทิ ี่ดีในเรือ่ งความปลอดภยั สร้างโปรแกรมทจ่ี ะท�าให้ บงั คบั ซง่ึ วธิ กี ารนไ้ี ดผ้ ลเรว็ ในตอนแรกแตจ่ ะไมย่ ง่ั ยนื เพราะเรอื่ งความปลอดภยั เขามสี ว่ นรว่ มในการปอ้ งกนั เชน่ เปน็ สว่ นหนง่ึ ในการวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งในการ ในการท�างานเป็นเรื่องเก่ียวกับคน ถ้าเขาไม่เต็มใจหรือไม่เห็นด้วย (buy-in) ทา� งานและรว่ มในการก�าหนดวธิ ีการปฏบิ ัตงิ านท่ีปลอดภยั แต่ท�าเพราะถูกบังคับ เขาก็จะท�าเฉพาะเม่ืออยู่ต่อหน้าผู้บังคับบัญชาแต่พอลับ หลังเขาก็พร้อมเสมอที่จะไม่ท�า ดังน้ันถ้าจะท�าเรื่องน้ีให้ได้ผลอย่างยั่งยืนน้ันผู้ เราตอ้ งสรา้ งสภาพแวดลอ้ มใหเ้ ออ้ื ตอ่ การแสดงพฤตกิ รรมความปลอดภยั บรหิ ารมสี ่วนทีส่ า� คญั มาก ความเขา้ ใจและใหก้ ารสนับสนุนจงึ ส�าคญั มาก ไปจนกระท่งั เป็นวัฒนธรรมขององคก์ รแนวทางที่ใชก้ ันคอื กระบวนการสังเกต การท�างาน หรือ Behavior-Based Safety (BBS) โดยทุกๆฝายต้องมี ส�าหรบั แนวทางในการปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตเุ ราจะตอ้ ง สว่ นรว่ มตงั้ แตก่ ารสงั เกตโดยหวั หนา้ งาน ผบู้ รหิ าร ไปจนถงึ เพอ่ื นพนกั งานทที่ า� งาน ท�าใหค้ รอบคลุมใน 3 ด้านนีค้ ือ ดว้ ยกัน 1) ด้าน Hardware คือ ต้องมีการป้องกันท่ีเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ท่ีใช้ในการท�างาน เช่น เคร่ืองจักรท่ีมีจุดหมุน จุดตัด ก็ต้องท�าการ์ด ซ่ึงในการสังเกตการท�างานน้ันต้องช้ีแจงให้พนักงานเข้าใจถึง ครอบป้องกันจุดเหล่านั้นซ่ึงอาจจะเป็นการ์ดครอบธรรมดาตามมาตรฐาน วัตถุประสงค์และเห็นประโยชนข์ องการสังเกตการท�างาน แตต่ ้องสร้างทกั ษะ ไปจนถงึ ระดบั Foolproof คอื ระบบทส่ี ามารถปอ้ งกนั ไดแ้ มจ้ ะเกดิ ความผดิ พลาด ในการให้ค�าแนะน�า (Coach) เพราะระหว่างการสังเกตหากเขาท�ายังไม่ถูก เกดิ ขน้ึ หรอื กรณที เี่ ปน็ เครอ่ื งมอื หรอื อปุ กรณท์ ใ่ี ชไ้ ฟฟา้ กต็ อ้ งมกี ารปอ้ งกนั การ ก็ต้องมีการให้ค�าแนะน�าท่ีถูกต้องและต้องท�าอย่างมีศิลปะในการท�าด้วย สมั ผสั กบั กระแสไฟฟา้ ตง้ั แตม่ ฉี นวนทดี่ ี ไปจนถงึ มรี ะบบปอ้ งกนั กระแสไฟฟา้ รว่ั ไม่เช่นน้ันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย กรณีที่เขาท�าถูกต้องแล้วก็ต้องมี เชน่ Earth Leak Circuit Breaker (ELCB)เป็นต้น การใหก้ ารชื่นชมหรอื มรี างวัล ดว้ ยเช่นกัน 2) ด้าน Software คือ ตอ้ งมกี ารควบคมุ การปฏิบตั ทิ ดี่ ี มกี ารก�าหนด วิธีการท�างานท่ีปลอดภัย การที่เราจะมีการควบคุมการปฏิบัติท่ีดีได้นั้น เราตอ้ งเองตอ้ งรจู้ กั ความเสย่ี งในงานทเี่ รารบั ผดิ ชอบใหไ้ ดว้ า่ อะไรเปน็ ความเสยี่ ง ที่ส�าคญั และเราจะกา� หนดวธิ กี ารปฏบิ ัติที่ปลอดภัยโดยไม่ขัดขวางหรอื ทา� ให้ ลดทอนความสามารถในการท�างานจนยอมรับไมไ่ ด ้ เชน่ การทา� งานบนทส่ี งู เราต้องพิจารณาให้มีการจัดการต้ังแต่การประเมินความเส่ียงในงานน้ัน แล้วกา� หนดมาตรฐานของอุปกรณ์ท่จี ะนา� มาใช้ เชน่ น่งั ร้าน,Lift, บันได, Life Line, Safety harness,ฯลฯ การก�าหนดคุณสมบัตขิ องคนทสี่ ามารถท�างาน น้ันได้ การคัดเลือกผู้มีความรู้ ความสามารถในการท�างานบนท่ีสูง กรณีที่ ต้องจ้างคู่ธุรกิจก็ต้องทีการท�าสัญญาหรือข้อตกลงเพ่ือให้เข้าใจตรงกันว่า 30 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

น้องๆจป.รุ่นใหม่ถ้าอยากจะเป็นจป.มือโปรหรือ การท่ีเราจะสามารถให้ค�าแนะน�าท่ีดีได้ (Coaching) เราต้องเป็นคน ประสบความส�าเร็จในวิชาชีพนี้ควรจะมีแนวทาง ท่ีใฝรู้ (Eager to learn) หม่ันศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้าน อย่างไรบ้าง? ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีท่ีเปลี่ยนแปลงไป ดังน้ันเราต้องเป็นคนที่รักการเรียนรู้ เมื่อก่อนตอนเรียนเราอาจจะคิดว่า ขอแนะนา� ในฐานะพค่ี นหนง่ึ จากประสบการณใ์ นการทา� งานของตวั เอง อยากเรียนให้จบเพ่ือจะได้ท�างาน แต่ในชีวิตการท�างานจริงๆน้ันเราเรียนได้ ละกันนะครับ แต่ไม่กล้าให้ค�าแนะน�าในฐานะที่เป็นคนท่ีประสบความส�าเร็จ ไม่มีวันจบหรอกครับ มันจะมีเรื่องใหม่ๆมาให้เราศึกษาอยู่เสมอ เราต้องต่ืน ในวิชาชีพน้ีแลว้ เพราะไม่ได้รสู้ กึ อยา่ งนน้ั ครบั ตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะธุรกิจต้องพัฒนาไปข้างหน้า เราต้องปรับตัวให้ทัน กับการเติบโตของธุรกิจ แต่เราต้องท�าอย่างสมดุลระหว่างท้ังทางเศรษฐกิจ ในการท�างานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมนั้น เราเป็นฝาย (Economics) สังคม (Social) และส่ิงแวดล้อม (Environment) ภายใต้ สนับสนุนฝายผลิตหรือฝายปฏิบัติการ การที่จะช่วยเขาท�างานให้บรรลุเป้า บริบทของแต่ละองค์กร แต่เราต้องไม่ทิ้งหลักการพ้ืนฐานของวิชาชีพ หมายไดน้ น้ั เราตอ้ งทา� ความเขา้ ใจ(Understanding) ปญั หาของเขาใหด้ ี เพอ่ื จะ (Safety Principle) แกป้ ญั หาไดถ้ กู จดุ วธิ กี ารทดี่ ที สี่ ดุ คอื เราตอ้ งเขา้ ไปสมั ผสั สถานทจ่ี รงิ (Genba) สัมผัสกับของจริง (Genbusu) และ สถานการณ์จริง (Genjitsu) เพื่อให้เรา มีข้อมูลอย่างเพียงพอ เราจึงจะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องหรือมีข้อผิด พลาดทนี่ อ้ ยทส่ี ดุ เพราะถา้ เรายดึ แตท่ ฤษฎ ี หรอื หลกั การทางวชิ าการโดยไมไ่ ด้ รับทราบถึงปัญหาที่แท้จริงของหน้างานจริง จะท�าให้ข้อก�าหนดทางด้าน ความปลอดภยั ฯของเราไมส่ อดคลอ้ งกบั ของจรงิ ทเี่ ปน็ อย ู่ มนั กจ็ ะไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ผลในทางปฏบิ ัติทีด่ ีนน่ั เอง ทุกอยา่ งท่ีกลา่ วมาน้นั เราทาํ งานเก่ยี วกบั คน ดังน้ันเราตอ้ งทาํ ดว้ ยความรู้สกึ หว่ งใย (Caring) ปรารถนาจะให้เขาไดร้ บั สิง่ ดๆี แลว้ เราจะพบทางออกที่ดีสาํ หรบั ทกุ ฝ่ายครับ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 31



She Digest ISIOSIOD4L5H001OHS นานาสาระ จากตา่ งประเทศ รองศาสตราจารยส์ ราวธุ สธุ รรมาสา สาขาวิชาวทิ ยาศาสตรส์ ุขภาพ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช คอลัมน์ นานาสาระจากต่างประเทศ เปน็ คอลมั นท์ ีม่ งุ่ นาํ เนือ้ หาสาระทีเ่ ปน็ วชิ าการ และขา่ วสารดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน จากต่าง ประเทศมานําเสนอ และอาจมีการกล่าวถึง เรอ่ื งนนั้ ๆ ทีน่ าํ เสนอในสว่ นทีเ่ ปน็ ขอ้ มลู ของ ประเทศไทยด้วย เพ่ือผู้อ่านจะได้รับข้อมูลท่ี รอบดา้ นมากยง่ิ ขน้ึ และชว่ ยใหเ้ กดิ แนวคดิ ใน การนําไปประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะงานท่รี ับ ผดิ ชอบอยู่ ISO 45001 OHS Management Systems คําถาม : คิดว่ามาตรฐานน้ีจะเป็นท่ีสนใจของผู้บริหาร จะไปไดดีไหม คนจะสนใจหรือไม และบริษทั ต่าง ๆ หรือไม่ หลังจากท�าให้แฟนๆ นักอาชีวอนามัยและความปลอดภัยชาวไทย และทั่วโลก (คิดว่าอย่างนั้นนะครับ) คอยเก้อ แบบว่าจะประกาศใช้ปลายปี ค�าตอบ : คุณAmy ตอบว่าใช้เวลานานมากกว่ามาตรฐานน้ีจะเป็นท่ียอมรับ ทแี่ ลว้ กเ็ ปน็ โรคเลอื่ นเหมอื นเมอ่ื หลายปกี อ่ นทตี่ กมา้ ตาย ไมผ่ า่ นความเหน็ ชอบ มกี ารอภิปรายกันมากจากบรษิ ทั ตา่ งๆ จนเปน็ ท่ีรบั รูข้ องผบู้ ริหาร และในท่สี ุด แต่ได้ข่าวมาว่าปลายปีนี้น่าจะมาแน่ คือประกาศใช้เป็นมาตรฐานสากล เธอก็พบว่ามาตรฐานน้ีเป็นท่ีต้องการของบริษัทต่าง ๆ และโดยเฉพาะคนท่ี (International Standard, IS) ใหผ้ สู้ นใจนา� ไปใชง้ านกนั ใน OSHE Magazine รับผดิ ชอบในงานอาชวี อนามยั และความปลอดภัย ฉบบั นี ้ จึงขอนา� ขา่ วสารเรอื่ งนม้ี าเลา่ สู่กนั ฟงั ครบั ในเวบ็ ไซตข์ อง The American Society of Safety Engineers (ASSE) ในหนา้ ของวารสาร Professional Safety คอลัมน์ Standard Insider นัน้ ได้มีการสัมภาษณ์ Amy Timmerman ผู้จัดการสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภยั ของบรษิ ทั Sage Products LLC และ Kenneth (Ken) A. Clayman จากบรษิ ทั ทป่ี รกึ ษาดา้ นการจดั การ Booz Allen Hamilton Inc. ซ่ึงท้ังคู่เป็นตัวแทนของ ANSI ท�าหน้าที่เป็นกรรมการฝายเทคนิค (วิชาการ) ในคณะกรรมการทก่ี า� หนดมาตรฐาน ISO 45001 OHS Management Systems น ี้ ผู้เขียนเห็นวา่ นา่ สนใจ จงึ ขอน�ามาเสนอเฉพาะประเดน็ ท่ีน่าสนใจ ดังน้ี นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 33

คาํ ถาม : พวกบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กละ นอกจากน ี้ คุณAmy เตอื นว่าส�าหรับคนที่ทา� ระบบการจัดการ OHSAS ไปไหวไหม 18001 มาก่อน อาจมีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องระวัง คือ การใช้ค�าท่ีไม่ เหมือนกนั อยา่ งเชน่ ใน OHSAS 18001 ใชค้ �าว่า “record” แตใ่ น ISO 45001 ค�าตอบ : คา� ถามนี้ปรากฏวา่ คนตอบ มองคนละมมุ คุณ Amy บอกวา่ นา่ จะ ใชค้ �าว่า “documented information” เปน็ ตน้ ล�าบากเหมือนกัน เพราะพอลงรายละเอียด พวกบริษัทเล็กๆ อาจท�าไม่ได ้ ดว้ ยอปุ สรรคตา่ งๆ แตส่ า� หรบั คณุ Ken กลบั เหน็ วา่ ไมน่ า่ จะมปี ญั หา เพราะรปู แบบ คาํ ถาม : ระหว่างท่ีรอการประกาศใช้มาตรฐาน ISO ของมาตรฐานการจัดการของ ISO นั้นค�านึงถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว และว่าไปแล้ว 45001 จะมคี ําแนะนําวา่ เรา (โรงงาน) ควรทาํ คณะกรรมการของฝงั อเมรกิ าเองกพ็ ดู คยุ ในเรอ่ื งนม้ี าในชว่ งการยกรา่ งมาตรฐานนี้ อะไรกอ่ นไหม แล้ว อย่าลืมว่า ISO เขาเคลมมาตลอดว่ามาตรฐานระบบการจัดการของเขา สามารถน�าไปประยุกต์ได้กับสถานประกอบกิจการทุกประเภทต้ังแต่โรงงาน คา� ตอบ : มาตรฐานน้จี ะประกาศใช้ในปลายปี 2560 น้ ี ระหว่างนี้คนที่รับผดิ ไม้จม้ิ ฟันยันเรือรบ อย่แู ล้ว (ประโยคหลงั น้ีผูเ้ ขียนเขียนเองครบั ) ชอบการพัฒนาระบบควรท�าหรือเตรียมการในเร่ืองเก่ียวกับผู้บริหารว่าจะท�า อย่างไรท่ีจะเป็นการให้ความรู้ การสื่อสาร และข้อมูลข่าวสาร กับผู้บริหาร คําถาม : พวกอาชีวอนามยั และความปลอดภยั ละ เขา เพอ่ื วา่ เมอ่ื มกี ารประกาศใชแ้ ลว้ องคก์ รเรากเ็ ดนิ หนา้ ไดท้ นั ท ี ดงั นน้ั การเตรยี ม สนใจและต้องเตรยี มอะไรบา้ ง เร่ืองการอบรมก็เป็นเรื่องท่ีหนีไม่พ้นเพราะเป็นรากฐานของการสร้างความ ตระหนักและความสามารถในการท�าระบบการจดั การนี้ ค�าตอบ : ท้ังสองคนบอกเหมือนกันว่า จากการได้มีโอกาสคุยกับ IDLH ดัชนีบงช้ีความเปนอันตรายของบรรยากาศ นกั อาชวี อนามยั และความปลอดภยั กเ็ ชอื่ วา่ คนในวงการนน้ี า่ จะสนใจแนน่ อน ว่าไปแล้วนี้ก็เป็นเร่ืองที่ต้องจดจ�าอีกเร่ืองหนึ่งของวงการอาชีวอนามัยและ ท่ที ำงาน ความปลอดภัยในรอบ 20 ปีเลยก็ว่าได้ ส�าหรับเรื่องการเตรียมตัวน้ันก็อยู่ที่ เร่ือง IDLHอาจเป็นเรื่องที่จป.วิชาชีพอาจไม่ได้ใช้งานเท่าใดในชีวิต วา่ นักอาชวี อนามยั และความปลอดภยั คนนน้ั ๆ คุ้นเคยกับระบบการจดั การ การทา� งานปกต ิ แตใ่ นงานทอี่ บั อากาศและงานเรอื่ งภาวะฉกุ เฉนิ กเ็ ปน็ เรอ่ื งทลี่ ะเลย ของ ISO ไหม ถา้ คนุ้ เคยก็สบายใจได้เลย เพราะแนวการท�าระบบการจัดการ ไม่ไดท้ ผี่ ู้รับผดิ ชอบตอ้ งเขา้ ใจความหมายและการใชง้ านกับค�า ๆ นี้ จะคล้ายกนั มากกับระบบ ISO9001 และ ISO 14001 ยิ่งมาในระยะหลังรูป แบบหรือโครงสร้างของข้อก�าหนดจะถอดแบบมาแบบเดียวกันเลย คือเป็น IDLH มาจากคา� เตม็ วา่ Immediately Dangerous to Life and Health แบบทเี่ รียกว่า High Level Structure (HLS) ซึ่งพดู ภาษาง่ายๆ คอื จะมีข้อ เจา้ ของเรอื่ งนค้ี อื US.NIOSH ทเี่ หน็ เหน็ ชอ่ งวา่ งของคา่ มาตรฐานการสมั ผสั สาร กา� หนดเหมอื นกนั ตา่ งตรงเนอื้ ในเทา่ นน้ั ลองดทู เ่ี ขยี นขอ้ กา� หนด ISO 45001 เคมใี นอากาศวา่ ลา� พงั การมเี พยี งคา่ มาตรฐานตลอด 8 ชว่ั โมงการทา� งาน (TWA) (ภาพในกรอบ) จะเห็นได้เลยว่ามันเหมือนกับที่เห็นในมาตรฐาน ISO 9000 คา่ การสมั ผสั ในระยะเวลาสนั้ ๆ (STEL) และคา่ เพดานทว่ี า่ ไมว่ า่ เวลาใดหา้ มเกนิ และ ISO 14001น้ีจึงเป็นข้อดีท่ีท�าให้คนพัฒนาระบบหรือรักษาระบบไม่ยุ่ง (Ceiling) นน้ั ไมเ่ พยี งพอตอ่ การใชง้ านคมุ้ ครองความปลอดภยั ใหก้ บั คนทา� งาน ยาก อกี ทงั้ การด�าเนนิ การของระบบและการ “บรู ณาการ” ระบบเข้าด้วยกนั โดยเฉพาะหากเม่อื ตอ้ งมีการสวมใส่อปุ กรณ์ respirator ดว้ ย จงึ ไดก้ �าหนดค่า จะทา� ไดส้ ะดวกและง่ายขน้ึ ดว้ ย IDLH นขี้ นึ้ มาโดยสรปุ คา่ นจี้ ะใชเ้ พอื่ การปอ้ งกนั สขุ ภาพคนทา� งานทต่ี อ้ งสมั ผสั กบั สารเคมีในความเข้มขน้ สงู ๆ ร่างขอ้ กาํ หนด ISO 45001 ทีเ่ ขียนในรปู แบบ HLS 4 บริบทขององคก์ ร 5 ภาวะผ้นู ํา 6 การวางแผน 7 การสนับสนุน 8 การดาํ เนินการ 9 การประเมินผลการดาํ เนนิ งาน 10 การปรับปรงุ 34 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

การกำ� หนดคา่ IDLHน้ี ทาง NIOSH ใชว้ ธิ กี ารตามแนวทางของ National คา่ IDLH มากกวา่ ที่ NIOSH คดิ ไวซ้ ะอกี (เดมิ คดิ ไวใ้ หใ้ ชก้ บั NIOSH Respirator Advisory Committee on Acute Exposure Guideline Levels (AEGLs) Selection Logic เทา่ นน้ั ) กลา่ วคือได้มกี ารนำ� ไปประยุกต์ในเร่ืองการจัดทำ� for Hazardous Substances—ที่มีสมาชิกจากหลาย ๆ หน่วยง่น อาทิ แผนการจดั การความเส่ียง (Risk Management Plans (RMPs) สำ� หรบั งาน the U.S. Environmental Protection Agency, U.S. Department of Defense, ไม่ประจ�ำที่ต้องสัมผัสบรรยากาศท่ีเป็นอันตรายสูงและ เร่ืองการเตรียมการ U.S. Department of Energy, U.S. Department of Transportation, ส�ำหรับภาวะฉุกเฉนิ (Emergency Preparedness Plans (EPPs)) และองคก์ รอ่นื ๆ ไมว่ ่าจะเปน็ หน่วยงานของรัฐบาลกลางและท้องถนิ่ วงการ อตุ สาหกรรมเคมี สถาบันการศกึ ษา องคก์ รแรงงาน เป็นต้น ความตัง้ ใจจรงิ ๆ วธิ ีการก�ำหนดคา่ IDLH มีดงั น้ี (ดูภาพแผนภูมิประกอบ) ของการกำ� หนดคา่ น้ี คอื เพอ่ื 1) ความมนั่ ใจวา่ เมอ่ื สมั ผสั สารเคมใี นความเขม้ ขน้ สูง ๆ และมีปัญหาว่า respirator ท�ำงานไม่ได้ตามท่ีหวังไว้แล้ว คนท�ำงาน 1. ทบทวนค่าความเปน็ พิษของสารเคมีทงั้ ในมนุษยแ์ ละสตั ว์ ในสภาวะนน้ั ๆ จะยงั คงความสามารถทจี่ ะ “หน”ี ออกมาไดโ้ ดยไมไ่ ดร้ บั อนั ตราย 2. พิจารณาเรื่อง Mode of Action (MOA)และเรื่องการท�ำอันตราย และ 2)ใหม้ คี า่ ท่จี ะใช้บง่ ชี้วา่ ถึงเวลานั้น สิง่ ท่ีจะตอ้ งใชเ้ พื่อความปลอดภยั หาก ของสารเคมี จะยงั คงตอ้ งทำ� งานในสถานทที่ มี่ สี ภาวะเชน่ นนั้ คอื การใชS้ CBA เทา่ นนั้ แตจ่ ะวา่ 3. พจิ ารณาเร่อื งระยะเวลาการสัมผัส ไปแลว้ บรรดานกั อาชวี อนามยั และความปลอดภยั ทงั้ หลายไดใ้ ชป้ ระโยชนจ์ าก 4. เลือกใชค้ า่ UF (Uncertainty Factors)for POD(Point of Departure) 5. ตัดสินใจก�ำหนดคา่ IDLH ตอ่ ไป Seiect candidate chemical substance Conduct and review literature search Array key data Sufficient data? No No IDLH value Yes Acute toxicity data Non-acute toxicity data Safety data Human Repeat inhatation Physical/chemical poperties NOAEL/LOAEU/BMD Struchure activity relationship Lower explosive limit Other data RLCD5500 Other routes Weight of evidence Time scaling Time scaling Analysis detemination Potential IDLH value Uncertaint factor application Uncertainty factor application Weight of evidence Weight of evidence Analysis determination Analysis determination Potential IDLH value Potential IDLH value Weight of evidence Selection of final IDLH value 35 ส�ำหรับท่านทีส่ นใจจะศึกษารายละเอยี ด ทราบท่มี าที่ไปและลงลกึ ในรายละเอยี ด ขอแนะนำ� ให้คน้ คว้าไดจ้ ากเอกสารน้ี : Current Intelligence Bulletin 66 : Derivation of Immediately Dangerous to Life or Health (IDLH) Values นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

มาตรฐาน ISO วา ดว ยเรอ่ื งการประเมนิ ระดบั ความรอ น (ยกเว้นใช้วิธีง่าย ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก คือการพิจารณาเชิง ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ดังน้ันปัญหาการสัมผัสระดับความร้อน เปรียบทียบกับลักษณะงานท่ีกฎหมายก�าหนดไว้ ว่าลักษณะงานนั้น ๆ จึงเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น กฎกระทรวงว่าด้วยเร่ืองการสัมผัสระดับความร้อน ใช้พลังงานไปเท่าใด ซึ่งน่าจะไม่ใช่วิธีทางที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการ แสงสว่าง และเสียง ปี 2559 ได้ก�าหนดให้มีค่าดัชนีวัดระดับความร้อนเป็น ทา� งาน ระดบั วชิ าชพี พงึ กระทา� เพราะมนั เปน็ วธิ ที หี่ ยาบเกนิ ไป) การคา� นวณ Wet Bulb Glove Temperature (WBGT) ซง่ึ เป็นดชั นีทีน่ ิยมใช้กนั ทวั่ โลก คา่ พลงั งานทใ่ี ช ้ อาจใชต้ ามทแ่ี นะนา� ไวใ้ นหนงั สอื TLV Booklet ของ ACGIH แมแ้ ต ่ ISO กก็ า� หนดมาตรฐานโดยใช้ดชั นีนี้เชน่ กนั คอื ISO 7243 หรือใช้วิธีการตามมาตรฐาน ISO 8996 Determination of Metabolic การประเมินระดับความร้อนเป็น WBGTยังมีความเกี่ยวพันไปถึง Rate แนะนา� ไวก้ ็ได ้ ซ่งึ ไม่ไดย้ งุ่ ยากมากนัก แต่ดูแลว้ หากดา� เนนิ การกจ็ ะสม วธิ กี ารท่ีจะต้องคา� นวณจา� นวนพลงั งานที่คนทา� งานต้องใช้ มาประกอบการ กับตา� แหนง่ ทเ่ี ป็นระดบั วิชาชีพ พจิ ารณาเลอื กคา่ ระดบั ความรอ้ นทเ่ี หมาะสมดว้ ย กลา่ วคอื ถา้ ไมท่ ราบวา่ งาน ส�าหรับในภาพรวมแล้ว ISO มีมาตรฐานท่ีเกี่ยวข้องกับการท�างาน ทที่ า� อยนู่ ตี้ อ้ งใชพ้ ลงั งานเทา่ ใด กจ็ ะไมส่ ามารถเลอื กคา่ WBGT ทเ่ี หมาะสมได้ ในสถานท่ีท่ีต้องสัมผัสกับความร้อน (Heat Stress) ที่อาจเกิดความเครียด (Heat Strain) ขนึ้ ดังสรุปในภาพท่เี ห็นนี้ ISO ISO ISO ISOISO Standards for the assessment of heat stress ISO ISIOS1O5265 ISO Risk assessment strategy ISO ISIOSO 16595 ISO ISO ISO 12894 Worker screening Working practices in ISO 13732-1 hot Environments Surface Temperatures ISISOO 7243 ISO ISO ISO ISO 7933 ISO 9886 Environmental monitoring Heat transfer analysis Personal monitoring Index WBGT ISOPredicted heat strain PHS ISOHR, mass loss, tsk, tcore ISO ISO 9920 ISO ISO ISOISO 8996 Metabolic rate ISOClothing insulation ISO 7726 Instruments ทม่ี า : Ken Parsons, Chair ISO TC159 SC5 ‘Ergonomics of the Physical Environment’ Emeritus Professor of Environmental Ergonomics, Loughborough University, UK ISO ISO ISO ISO ISO ISO ISO ISO ISO ISO ISO 36 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน



การจดั การ ก(Sาuรsพtaัฒinaนbาlอeตุ InสdาuหsกtrรiaรlมDทeย่ี vงั่eยloนื pment) ด้านความปลอดภยั ปัจจุบันการพัฒนาในทุกด้านมีเป้าหมายเพื่อการเจริญเติบโตอย่าง และสุขภาพ ย่ังยืนร่วมกันทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ส่ิงแวดล้อมและสังคม แนวคิดนิเวศ ในโครงการอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศในประเทศไทย อตุ สาหกรรมหรือ Industrial Ecology จงึ เปน็ แนวคิดใหม่ทีน่ า� มาประยกุ ตใ์ ช้ กับการพัฒนาอุตสาหกรรมแบบย่ังยืนท่ีมุ่งเน้นความเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ผูชว ยศาสตราจารย กุลธดิ า บรรจงศริ ิ โดยการพฒั นา ออกแบบระบบอตุ สาหกรรมใหมใ่ หค้ ลา้ ยคลงึ กบั ระบบนเิ วศนท์ าง ธรรมชาติ ทอ่ี ยบู่ นหลกั การพงึ่ พาอาศยั ซงึ่ กนั และกนั (Symbiosis) และดา� รงอยู่ โครงการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco - Industry) คือการพัฒนา ไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื เปน็ สา� คญั เพอื่ คงความอดุ มสมบรู ณข์ องทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ อุตสาหกรรมของพื้นท่ีให้เจริญเติบโตไปพร้อมกับความเจริญของชุมชน พลังงานใหช้ นร่นุ หลังสบื ต่อไปขอบเขต และนิยาม ที่เก่ียวขอ้ งกับ การพฒั นา และการรกั ษาสภาพแวดลอ้ มทดี่ อี ยา่ งสมดลุ เปน็ การพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื โดยความ อุตสาหกรรมทยี่ ัง่ ยืน ได้แก่ ร่วมมือกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ องค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ภาคประชาชนในพนื้ ทแ่ี ละนกั วชิ าการการพฒั นาโครงการ Industrial Ecology (อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ) เป็นแนวคิดทฤษฎี อตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศ (Eco – Industrial Development: EID)เปน็ ยทุ ธศาสตร์ ทเี่ กดิ ขนึ้ เพอื่ ประยกุ ตเ์ ขา้ กบั การพฒั นาเศรษฐกจิ แบบยง่ั ยนื โดยการเปน็ มติ ร หน่ึงของการน�าหลักการ Industrial Ecology มาปฏิบัติจริง ซ่ึงแนวคิด กับสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมเชิงนิเวศเริ่มเป็นที่รู้จักกันต้ังแต่ปี 1989 (พ.ศ. ของ EID นี้ เร่ิมเป็นที่รู้จักกนั แพรห่ ลายในอเมรกิ า ตง้ั แต่ปี 1993 (พ.ศ. 2536) 2532) เมอ่ื Frosch and Gallopoulosไดเ้ สนอหลกั การนใี้ นวารสาร Scientific จากการนา� เสนอของ Indigo Development Institute มายัง The United Americanอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเสนอการปิดวงจร (Closing the loop) States Environmental Protection Agency (EPA หรือ US.EPA.)ในรูปของ เพ่ือลดผลกระทบจากกิจกรรมของกระบวนการผลิตแบบ linear flow Eco - Industrial Park (EIP) และEco - Industrial Estate (EIE) ในยุคสงั คม ท่เี ป็นการแกป้ ญั หาที่ปลายเหตุ (end of pipe) Industrial ecology สามารถ สีเขียวการพัฒนาโครงการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศได้รับความสนใจอย่างกว้าง นา� มาประยกุ ตใ์ ช้ โดยการทโี่ รงงานหนง่ึ สามารถรบั วตั ถดุ บิ ซง่ึ เปน็ สง่ิ ทเ่ี หลอื ใช,้ ขวาง ท�าให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาให้ความส�าคัญกับการประกอบกิจการที่ ผลติ ภณั ฑพ์ ลอยไดห้ รอื ของเสยี จากอกี โรงงานหนง่ึ ซงึ่ เปน็ การลดการใชว้ ตั ถดุ บิ สอดคล้องหรือส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม สังคม น้อยที่สุดหรือไม่ส่งผล ท่ีต้นทางลงด้วย นอกจากนี้ของเสียอุตสาหกรรมที่เกิดจากกระบวนการผลิต กระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ มเลย กส็ ามารถไดร้ บั การบา� บดั อยา่ งถกู วธิ หี รอื นา� มาใชใ้ หม่ หมนุ เวยี นกลบั มาใชใ้ หม่ การพัฒนานคิ มอตุ สาหกรรม และสวนอุตสาหกรรมต่างๆ เข้าสกู่ ารเปน็ เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ของประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นรูป ธรรมท่ีชดั เจนและต่อเนือ่ ง ตง้ั แตป่ ี 2553 ซง่ึ ผลการด�าเนนิ งานในปี 2557 ไดม้ ี การยกระดบั นคิ มอตุ สาหกรรมนา� รอ่ ง 15 แหง่ และมเี ปา้ หมายในการยกระดบั ท้ังหมดภายในปี 2562 เพื่อเข้าสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของการ นคิ มอตุ สาหกรรมแห่งประเทศ รวมถึงการจัดท�าแผนแม่บทเมืองอตุ สาหกรรม เชิงนิเวศในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2557 - 2561) ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในพนื้ ที่ 11 จงั หวดั นา� รอ่ งของกรมโรงงานอตุ สาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรมและ กนอ. นอกจากนก้ี ารพฒั นาอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศยงั ไดข้ ยายวงไปสรู่ ะดบั โรงงาน อุตสาหกรรม โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้จัดท�าเกณฑ์มาตรฐาน โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเพ่ือส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่าง ยงั่ ยนื ในกลมุ่ สมาชกิ อตุ สาหกรรมประเภทตา่ งๆ และสอดคลอ้ งกบั นโยบายการ กา้ วสเู่ มืองอตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศในภาพรวม 38 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

การพฒั นาอตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศ ในประเทศไทย จา� แนกตามพื้นที่ สามารถแบ่งได้เปน 4 ระดับ คอื 1. ระดับโรงงาน (Eco - Factory หรือ Factory Level) 2. ระดบั กลมุ่ อุตสาหกรรม/นคิ มอตุ สาหกรรม (Eco - Industrial Group หรอื Eco - Industrial Level) 3. ระดับเมือง (Eco - Town Level) 4. ระดับเมืองใหญ่หรอื นคร (Eco - City) หรอื กลุ่มเครอื ข่ายเมอื งใหญ่ แนวคิดล�าดบั การพฒั นาโรงงานอตุ สาหกรรม เชงิ นิเวศ สู่เมอื งอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ แนวคดิ เมืองนเิ วศ องค์ประกอบ ท่ีมา: สถาบันสง่ิ แวดล้อมอตุ สาหกรรม Eco - Factory โรงงานมกี ารใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ เชน่ วตั ถดุ บิ นา�้ พลงั งาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, 2557 ท่ีมีประสิทธิภาพ, มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับ PEcaork-,Industrial สงิ่ แวดลอ้ ม, นา� ของเสยี กลบั ไปใชป้ ระโยชน,์ มกี ารผลติ สนิ คา้ เพ่ือให้ภาคอุตสาหกรรมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในการประชุม ZEcoone- ,Industrial และบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม, มีการเกื้อหนุนชุมชน คณะรฐั มนตรเี มอื่ วนั ที่ 25 สงิ หาคม 2552 ไดเ้ หน็ ชอบรว่ มกบั มตคิ ณะกรรมการ CEcoom-pIlnedxustrial ด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจจ้างงานคนในท้องถิ่น, มีการสร้าง ร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ให้ครอบคลุมมิติ ETocown- Industrial- เครอื ข่ายการเฝา้ ระวงั คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม เปน็ ต้น การพัฒนาอตุ สาหกรรม สิง่ แวดล้อม และชุมชน โดยประกอบด้วยหลายหน่วย มีโรงงานไดร้ ับการรับรอง Eco Factory,นิคมอุตสาหกรรม งานที่เกย่ี วข้อง ได้แก่ ส�านกั งานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวง TEocown- City/ Eco - หรอื เขตประกอบการฯ, ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย, มพี น้ื ทส่ี เี ขยี ว, อตุ สาหกรรม กรมโรงงานอตุ สาหกรรม การนคิ มอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทย มีการบริหารจัดการในพื้นท่ีเป็นไปอย่างมีระบบโดยการมี กรมอุตสาหกรรมพื้นท่ีและการเหมืองแร่ ส�านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย, มีการส่งเสริมการพ่ึงพาและ สา� นกั งานนวัตกรรมแหง่ ชาติ และสภาอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย เก้ือกลู ซง่ึ กนั และกันของอตุ สาหกรรม เปน็ ต้น โโดคยรงกกรามรโรองตุ งสาานหอกุตรสรามหเชกิงรนรเิมวศทด่ี �าเนนิ การ โรงงานดา� เนนิ งานตามหลกั การEco Factory, ชมุ ชนโรงเรยี น กรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักท่ีขับเคล่ือนการพัฒนา ปฏบิ ตั ิตามหลักการ 3Rs คือ Reduce (ลดการใช)้ , Reuse เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ด�าเนินการพัฒนา (การนา� มาใชป้ ระโยชนใ์ หม)่ และRecycle (การแปรรปู ของใช้ สวนอุตสาหกรรม/เขตประกอบการอุตสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม แลว้ กลบั มาใชใ้ หม)่ , ภาครฐั สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ กจิ กรรมให้ ให้เข้าสู่การพัฒนาในโครงการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศครอบคลุมพื้นท่ีเมืองหรือ โรงงานชมุ ชนโรงเรยี นเปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม, หนว่ ยงานการ อา� เภอทม่ี กี ารประกอบอตุ สาหกรรมหนาแนน่ ในพนื้ ทน่ี า� รอ่ ง ในปงี บประมาณ ศกึ ษาหรอื สถาบนั วจิ ยั ศกึ ษาวจิ ยั เทคโนโลยหี รอื นวตั กรรมท่ี 2557 ประกอบด้วย จังหวัดระยอง สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปราจีนบุรี ส่งเสริมใหโ้ รงงานเป็นมิตรกบั ส่งิ แวดล้อม และฉะเชงิ เทรา พรอ้ มทง้ั ไดด้ า� เนนิ โครงการตา่ งๆ เพอ่ื จดั ทา� กจิ กรรมและแผนงาน ด�าเนินการจากระดับชุมชนสู่การพัฒนาในทุกระดับและทุก สนับสนุนการด�าเนินงานและแก้ไขปัญหาเข้าสู่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และใน ภาคสว่ นไดแ้ กภ่ าคอุตสาหกรรมการท่องเทย่ี วการใช้บรกิ าร ปงี บประมาณ 2558 กรมโรงงานอตุ สาหกรรมไดข้ ยายพนื้ ทน่ี า� รอ่ งอกี 10 จงั หวดั และมกี ารดา� เนนิ การสว่ นอนื่ ๆ ทเี่ ปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ มและ ไดแ้ ก่ นครปฐม ชลบรุ ี พระนครศรีอยุธยา ปทมุ ธานี ขอนแก่น นครราชสีมา เก้ือหนนุ ระหวา่ งกนั สระบุรี ราชบุรี สรุ าษฎร์ธานี และสงขลา การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในประเทศไทย ได้รบั ความสนใจ อยา่ งกวา้ งขวาง โดยมบี ทเรยี นจากนคิ มอตุ สาหกรรมมาบตาพดุ จงั หวดั ระยอง ทา� ใหภ้ าคอตุ สาหกรรมหนั มาใหค้ วามสา� คญั กบั การประกอบกจิ การทส่ี อดคลอ้ ง หรอื สง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและสงั คมนอ้ ยทส่ี ดุ หรอื ไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มเลย รฐั บาลไดใ้ หค้ วามสา� คญั กบั การพฒั นาเมอื งอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 39

โครงการอตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศท่ดี ำ� เนินการ ตวั ชว้ี ัดการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนเิ วศในประเทศไทย โดยการนิคมอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้จัดท�ำข้อก�ำหนด เกณฑ์ในการพัฒนา การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นหน่วยงานแรกของ 5 มติ หิ ลกั ทคี่ รอบคลมุ การบรหิ ารจดั การของภาคอตุ สาหกรรม ทงั้ มติ กิ ายภาพ ประเทศที่ได้ท�ำแนวคิด การพัฒนาอุตสาหกรรมท่ียั่งยืนบนหลักการ “Eco” มิติเศรษฐกิจ มิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติการบริหารจัดการ เพื่อเป็น มาใช้ ด้วยการด�ำเนินโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศและ กรอบแนวทางใหก้ บั ผปู้ ระกอบการไดน้ �ำประยกุ ตใ์ ช้ และเพอื่ ใหม้ ขี อ้ บง่ ชไ้ี ดว้ า่ ผู้ เครือขา่ ย (Development of Eco Industrial Estate & Networks Project: ประกอบการไดม้ กี ารพฒั นาไปสกู่ ารเปน็ อตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศตามขอ้ กำ� หนดดงั DEE + Net Project) ซ่งึ เป็นความรว่ มมือระหวา่ ง กนอ. และ GTZ ประเทศ กลา่ ว ประกอบกับนโยบายของกระทรวงอตุ สาหกรรมทใี่ หค้ วามสำ� คัญกบั การ เยอรมนี เม่อื ปี พ.ศ. 2542-2547 โดยแบ่ง การด�ำเนนิ งานออกเปน็ 4 ด้าน คือ กำ� หนดนโยบายในการพฒั นาทม่ี กี ารดำ� เนนิ งานครบกระบวนการ จงึ ไดก้ ำ� หนด ดา้ น Policy Support และ Criteria Development/Capacity Building, ใหม้ กี ารจดั สมั มนาเพอ่ื กำ� หนดตวั ชว้ี ดั (Indicator) การพฒั นาอตุ สาหกรรมเชงิ New Eco Industrial Estate และด�ำเนินการในนิคมอุตสาหกรรม น�ำร่อง นเิ วศ (Eco - Industry) ทเ่ี หมาะสมกับประเทศไทย ขึน้ เมอ่ื วนั ที่ 27 มกราคม 5 แหง่ คือ นิคมฯ มาบตาพดุ นคิ มฯ บางปู นคิ มฯ ภาคเหนอื นคิ มฯ อีสเทิรน์ 2554 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ผลที่ได้จากการสัมมนา ซีบอร์ด (ระยอง) และนิคมฯ อมตะนคร กนอ.ได้จัดทําหลักเกณฑ์ของนิคม รา่ งตวั ชว้ี ดั การพฒั นาอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศ 5 มติ ิ 22 ดา้ น กระทรวงอตุ สาหกรรม อตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศ รวมถึงจดั ตั้งคณะทํางานขึน้ มา 3 คณะ คือ คณะทาํ งาน พัฒนาตัวชี้วัดการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และมอบหมายให้กรม จดั ทาํ นโยบายสาํ หรบั โครงการ, คณะทาํ งานพฒั นาศกั ยภาพพนกั งาน เผยแพร่ โรงงานอตุ สาหกรรม (กรอ.) และการนคิ มอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทย (กนอ.) อบรมแนวคดิ หลกั การในเรอื่ งการพฒั นาอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศ และคณะทาํ งาน เปน็ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบหลกั ซง่ึ ทง้ั สองหนว่ ยงานไดม้ กี ารพฒั นาตวั ชว้ี ดั เกณฑ์ โครงการนคิ มอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศ พรอ้ มทงั้ ดาํ เนนิ การสง่ เสรมิ และพฒั นานคิ ม การพัฒนาเมืองอตุ สาหกรรมขน้ึ โดยกรมโรงงานอตุ สาหกรรม มีเกณฑต์ ัวชวี้ ดั อตุ สาหกรรมทว่ั ประเทศใหเ้ ปน็ นคิ มอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศ ตอ่ มาในปี พ.ศ.2550 จ�ำนวน 20 ด้าน ในขณะทกี่ ารนิคมอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย มีเกณฑ์ตัว ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยได้เร่ิมงานวิจัยเพื่อพัฒนาท้ังพื้นที่ใน ช้วี ดั จำ� นวน 22 ดา้ น ซึ่งมรี ายละเอียดดังน้ี 25 จงั หวดั (Area-Based Collaborative Research หรอื ABC) ภายใตโ้ ครงการ แนวทางการพฒั นาจงั หวดั ระยองสเู่ มอื งนเิ วศเศรษฐกจิ (Eco - City) โดยมเี ปา้ ตัวชี้วดั การพฒั นาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของ กนอ. หมายในการสร้างข้อมูลความรู้ท่ีสะท้อนบริบทของพ้ืนท่ีทั้งด้านการพัฒนาคน และสังคมคู่กบั การพฒั นาเศรษฐกจิ กายภาพ 1.  พ้นื ทีน่ ิคม ตวั ช้ีวัดการพฒั นาอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศของ กรอ. 2.  ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ 3.  อาคารของโรงงานในนิคมฯ กายภาพ 1.  การวางผงั ที่ตง้ั และการจดั พื้นที ่   เศรษฐกิจ 2.  การออกแบบอาคารและบรเิ วณโดยรอบ 4.  เศรษฐกจิ ของภาคอตุ สาหกรรม 5.  เศรษฐกิจทอ้ งถน่ิ เศรษฐกิจ 6.  เศรษฐกจิ ชมุ ชน 3.  เศรษฐกจิ ของภาคอตุ สาหกรรม 4.  เศรษฐกิจของทอ้ งถิ่น ส่งิ แวดลอ้ ม 5.  การตลาด 7.  การบรหิ ารจดั การทรพั ยากร 8.  การบริหารจดั การพลังงาน ส่ิงแวดลอ้ ม 9.  ระบบการผลิตและผลิตภณั ฑ์ 6.  การขนส่ง 10.  มลภาวะทางน้�ำ 7.  การจดั การคุณภาพนำ�้ 11.  มลภาวะทางอากาศ 8.  การจดั การคุณภาพอากาศ 12.  กากของเสีย 9.  การจัดการกากของเสียและวัสดเุ หลอื ใช้ 13.  มลภาวะทางเสยี ง กลิน่ ฝุ่น ควนั เหตเุ ดือดรอ้ น ร�ำคาญ 10.  การจดั การพลงั งาน 14.  ความปลอดภัยและสุขภาพ 11.  การจดั การเสียง 15.  การพงึ่ พาเกือ้ กลู ซึง่ กนั และกันของอตุ สาหกรรม 12.  กระบวนการผลิต 13.  ประสทิ ธิภาพเชิงนเิ วศ (Eco Efficiency)  มติ ิสังคม 14.  การจดั การดา้ นความปลอดภยั และสุขภาพ 16.  คุณภาพชีวิตและสงั คมของพนักงาน 15.   การเฝ้าระวงั คุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม 17.  คณุ ภาพชวี ิตและสงั คมของชมุ ชนโดยรอบ มิติสังคม มิตกิ ารบริหารจัดการ 16.  คณุ ภาพชวี ติ และสงั คมของพนักงาน 18.  การบริหารจดั การพ้ืนท่อี ย่างมีสว่ นร่วม 17.  คุณภาพชีวติ และสังคมขอคนในท้องถ่นิ โดยรอบ 19.  การยกระดับการก�ำกับดแู ลโรงงาน 20.  สง่ เสริมให้โรงงานเขา้ สู่ระบบบริหารจัดการระดับสากลและระดับประเทศ มติ กิ ารบริหารจดั การ 21.  รกะาบรรบณบรรงิหคาส์ ร่งจเสัดรกิมาใรหใโ้ หรงมง่ๆานประยุกตใ์ ชน้ วตั กรรมเคร่ืองมอื การจดั การ 18.  การบรหิ ารจดั การพนื้ ทอ่ี ย่างมสี ่วนร่วม 22.  การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารและการจัดท�ำรายงาน 19.  การพฒั นาและรักษาระบบบริหารระดับสากล 20.  ข้อมลู ขา่ วสาร/การรายงาน 40 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

ตัวชว้ี ัดการพัฒนาอุตสาหกรรมเชงิ นเิ วศ ด้านความปลอดภัยและสุขภาพ ของ กนอ. และ กรอ. เกณฑ์ตัวชี้วัดการจัดการด้านความปลอดภัยและสุขภาพ (Safety&Health Management) ของการนคิ มอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทย (ทมี่ า: ข้อกำ� หนดคณุ ลกั ษณะและเกณฑ์ตวั ชวี้ ดั การเป็นเมืองอุตสาหกรรม เชงิ นเิ วศ,การนคิ มอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย, สงิ หาคม 2555) ตวั ชีว้ ัด ค่าเป้าหมาย (เกณฑ์) ทีม่ าของขอ้ มลู หรือเอกสารอา้ งองิ 14.1 มีการกำ�กับดูแลโรงงานในการดำ�เนินงาน 14.1.1 มีเอกสารหรือหลักฐานแสดงการปฏิบัติของ เอกสาร หลกั ฐาน หรอื รายงานการปฏิบัติของโรงงานตามกฏหมาย ดา้ นอาชวี อนามยั และความปลอดภยั เชงิ ปอ้ งกนั โรงงานตามกฏหมายและขอ้ กำ�หนดทเี่ กยี่ วขอ้ งดา้ นอาชวี และข้อกำ�หนดที่เกี่ยวข้องด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของ ตามกฏหมายท่ีเก่ยี วข้อง อนามยั และความปลอดภัยของโรงงาน (C) โรงงาน 14.2 นิคมฯ มีการจัดทำ�ฐานข้อมูลสารเคมี 14.1.2 มกี ารตรวจความปลอด ภยั (Safety Audit) รายงานผลการตรวจ ความปลอดภัย (Safety Audit) โรงงานทเี่ ชอื่ มโยงกบั ความปลอดภยั และสขุ ภาพ ในโรงงานตามกฏหมายทกี่ ำ�หนด (E) 14.2.1 มคี วามรว่ มมือและประสานกับหนว่ ยงานท่เี กย่ี ว ฐานข้อมูลสารเคมีโรงงานที่เช่ือมโยงกับความปลอดภัยและสุขภาพ 14.3 มีการเก็บข้อมูลด้านความปลอดภัย ขอ้ งในการจดั ทำ�ฐานขอ้ มลู สารเคมโี รงงานทเี่ ชอื่ มโยงกบั และเผย แพร่ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เทศบาล โรง (อุปกรณด์ บั เพลิง สถานดี ับเพลิง) ความปลอดภัยและสุขภาพ(C) พยาบาลสำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัด และภาคการศกึ ษาวจิ ัยตา่ งๆ 14.4 แผนตอบโต้ภาวะฉกุ เฉินและการซอ้ มแผน 14.2.2 มีการเผยแพร่ข้อมูลสารเคมีโรงงานที่เช่ือมโยง เอกสาร หลักฐาน หรือรายงานที่ยืนยันการเผยแพร่ข้อมูลสารเคมี ฉกุ เฉินของนคิ มฯ กับความปลอดภัยและสุขภาพแก่หน่วยงานที่เก่ียวข้อง โรงงานท่ีเช่ือมโยงกับความปลอดภัยและสุขภาพแก่หน่วยงานท่ี (C) เกย่ี วขอ้ ง 14.5 การรว่ มมอื กบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ในการเฝา้ 14.3.1 มีการจัดทำ�ทะเบียนบุคลากรและการเก็บข้อมูล ทะเบยี นบุคลากรและการเกบ็ ขอ้ มลู ด้านความปลอดภยั ระวงั สุขภาพชุมชน ด้านความปลอดภัย (อุปกรณ์ดับเพลิง สถานีดับเพลิง) 14.6 การเกิดอุบัติเหตุร้าย แรงและอัตราการ (C) แผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและเอกสาร หลักฐานหรือรายงานการซ้อม เจบ็ ปว่ ยทรี่ นุ แรงทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ชมุ ชนในรอบ 14.4.1 มีแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและซ้อมแผนฉุกเฉิน แผนฉุกเฉนิ ของนิคมฯ หนง่ึ ปเี ปน็ ศูนย์ ของนคิ มฯอย่างต่อเน่อื งและมกี ารทบทวนแผนทุกป(ี C) เอกสาร หลักฐาน หรอื รายงานทยี่ ืนยนั การมีเครอื ขา่ ยความร่วมมอื 14.4.2 มีเครอื ข่ายความรว่ มมือทีม่ ขี อ้ ตกลงรว่ มกันวา่ ด้วยการใหค้ วามชว่ ยเหลือ (E) แผนฉกุ เฉินชมุ ชน 14.4.3 มแี ผนฉุกเฉินชมุ ชน(W) เอกสาร หลักฐาน หรือรายงานที่ยืนยันการร่วมมือหรือประสาน 14.5.1 มีการร่วมมือหรือประสานข้อมูลกับหน่วยงาน ขอ้ มูลการเฝ้าระวังสขุ ภาพชมุ ชน ตา่ งๆ ในการเฝา้ ระวังสขุ ภาพชมุ ชน (C) เอกสาร หลักฐาน หรือรายงานท่ียืนยันการมีระบบการเฝ้าระวัง 14.5.2 มรี ะบบการเฝา้ ระวังสขุ ภาพชมุ ชน (E) สุขภาพชมุ ชน ของนคิ มฯ รายงานอบุ ัตเิ หตรุ า้ ยแรง/อตั ราการ 14.6.1 มีอัตราการเกดิ อุบัติเหตุ เจ็บป่วยท่รี นุ แรง ร้ายแรงและอัตราการเจ็บป่วยที่รุนแรงที่มีผลกระทบต่อ ชุมชนในรอบหนง่ึ ปเี ป็นศนู ย์ (C) [C] = Eco-Champion [E] = Eco-Excellency [W] = Eco-World Class เกณฑ์ตัวช้ีวัดการจัดการด้านความปลอดภยั และสขุ ภาพ (Safety&Health Management) ของกรมโรงงานอตุ สาหกรรม (ท่ีมา:http://www.iei.or.th/media/wwwคุณลกั ษณะเมืองอตุ สาหกรรมฯ กรอ.pdf) ด้าน วตั ถุประสงค์ เปา้ หมาย คุณลกั ษณะ 14.การจดั การดา้ นความ เพอื่ ให้อุตสาหกรรมมีความ 1.อุตสาหกรรมมีความปลอดภัยไมส่ ่งผลก 1. อตั ราการเจบ็ ปว่ ยและอบุ ัตเิ หตจุ ากการทำ�งาน ปลอดภยั และสุขภาพ ปลอดภัยตอ่ คนในพื้นท่ี ระทบตอ่ สขุ ภาพพนกั งานและชมุ ชน 2. อัตราการอบุ ัติของโรคในพ้นื ทีเ่ ปรยี บเทยี บกับคา่ เฉลีย่ ของประเทศ 2. อุบัตเิ หตุร้ายแรงเป็นศูนย์ อัตราการเกดิ อุบัตเิ หตุรา้ ยแรงท่ีมผี ลกระทบต่อชุมชน (Zero Accident) การน�ำตัวชวี้ ัดการจดั การด้านความปลอดภัยและสขุ ภาพ เปน็ ขอ้ ก�ำหนดหนง่ึ ในเกณฑต์ ัวช้ีวัดการเป็นเมอื งอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศ เป็นการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพ การใช้วัตถุดิบและพลังงานและควบคุมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยให้ความส�ำคัญกับการสนับสนุนให้พนักงานมีสุขภาพอนามัยท่ีดี มีความสุขในการท�ำงาน ซ่ึงจะส่งผลต่อประสิทธิภาพและผลผลิตในการท�ำงานส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร และการมีส่วนร่วมกับบริษัทและองค์กรอ่ืนๆ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการ พฒั นาที่ยง่ั ยนื นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 41

ROAD SAFETY บควนาทมป้อลงอถดนภนัย ....จติ ส�ำนกึ คุณสรา้ งได้ SAFETY SHE ตง้ั แต่อดีตจนถึงปัจจบุ นั มีผู้เสยี ชวี ติ และได้รบั บาดเจ็บบนทอ้ งถนนเป็นจำ� นวนหลายราย และมีทรพั ยส์ ินเสยี หายเป็นจ�ำนวน มากซ่ึงในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนทั่วโลกสูงถึง 1.25 ล้านคน จากรายงานสถานการณ์โลกด้านความปลอดภัย ทางถนน พ.ศ. 2558 (Global Status report on road safety 2015) ขององคก์ ารอนามยั โลก (World Health Organization; WHO) พบวา่ ประเทศไทยมอี ตั ราผเู้ สยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตบุ นทอ้ งถนนสงู ถงึ 36.2 คนตอ่ ประชากร 100,000 คน (หรอื เสยี ชวี ติ 66 คนตอ่ วนั ) ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากนามิเบียท่ีมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 73.4 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน เม่ือพิจารณาสัดส่วนการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนพบว่า 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย และ49 % ของการเสียชีวิตจาก อบุ ตั ิเหตทุ างถนนเกดิ กบั คนเดินเทา้ คนปนั่ จกั รยาน และคนขจ่ี กั รยานยนต์ (22%, 4% และ 23% ตามลำ� ดับ) เม่อื ทำ� การจำ� แนก การเสียชีวติ ตามประเภทผใู้ ชถ้ นนพบว่า ผ้ใู ช้ถนนที่มอี ัตราการตายสูงท่ีสุดคือ ผู้ขบั ขี่ยานยนต์ 2 หรอื 3 ลอ้ (73 %) ผู้ใชถ้ นนที่มี อตั ราการตายน้อยท่สี ดุ คอื คนขบั / ผโู้ ดยสาร / รถประจำ� ทาง (< 1%) (ดงั แสดงในรูปที่ 1) (องค์การอนามยั โลก, 2558 และ 2560; สำ� นักข่าวสรา้ งสขุ , 2559) 42 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

DEATHS BY ROAD USER CATEGORY 1. ผู้ขรี่ ถจกั รยาน (2%) อย่างไรก็ตาม มีบางรายงานสรุปวา่ สาเหตุที่ส�าคญั ของการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ บนถนนมี 3 ประการ คือ 2. อน่ื ๆ (2%) 3. ผขู้ บั ขีร่ ถยนตส วนบคุ คล 1) ผขู้ บั ข่ี 2) ยานพานะ และ 3) ถนนและสง่ิ แวดลอ้ ม (สา� นกั งานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร, 2558) 4 ล้อ (6%) 4. คนเดินเท้า (8%) จากสถิติของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ค่อนข้างสูง ประเทศไทย ได้เล็งเห็นความส�าคัญของปัญหานี้และมีความมุ่งม่ันที่จะลดจ�านวนผู้เสียชีวิต 5. ผู้ขบั ขี่/ผ้โู ดยสาร และผไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ จากอบุ ตั เิ หตกุ ารจราจรทางถนนลง โดยไดม้ คี วามพยายาม รถบรรทุก (2%) ทจ่ี ะหามาตรการหรอื แนวทางในการแกไ้ ขปญั หาดงั กลา่ วอยา่ งจรงิ จงั ดว้ ยเหตุ น้ปี ระเทศไทยจึงได้ประกาศเข้าร่วมปฏิบัตกิ ารขบั เคลือ่ น “ทศวรรษแหง่ ความ 6. ผู้ขบั ข/ี่ ผ้โู ดยสาร ปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563 (Decade of Action for Road Safety รถโดยสาร (1%) 2011-2020)” ร่วมกับสมาชิกองค์การสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก มาตั้งแต่ปี 2554 โดยยดึ หลกั การด�าเนนิ การตามแนวทาง 5 เสาหลัก (องค์การ 7. ผโู้ ดยสารรถยนต สว นบุคคล อนามัยโลก, 2559) คอื 4 ล้อ (7%) เสาหลักท่ี 1: การบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน (Road safety 8. ผขู้ ับขี่รถจกั รยานยนต management) ยงั ไมม่ ีองค์กรใดรบั ผิดชอบเสาหลักนี้ 2 ล้อ หรือ 3 ลอ้ (73%) เสาหลกั ที่ 2: ถนนและการเดินทางปลอดภัย (Safer roads and mobility) รปู ท่ี 1 แสดงสัดส่วนของการเสียชวี ติ จา� แนก องค์กรรัฐที่รับผิดชอบเสาหลักน้ีคือ กรมทางหลวง ตามประเภทผู้ใชถ้ นน (องคก์ ารอนามยั โลก, 2560) และกรมทางหลวงชนบท (สังกดั กระทรวงคมนาคม) เสาหลักที่ 3: ยานพาหนะปลอดภัย (Safer vehicle) องคก์ รรฐั ท่ีรับผดิ ชอบ นอกจากนย้ี งั พบวา่ ประเทศไทยมอี ตั ราการเสยี ชวี ติ จากรถจกั รยานยนต์ เสาหลกั นคี้ อื กรมการขนสง่ ทางบก (สังกดั กระทรวงคมนาคม) สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก (อยู่ที่ 26.3 คนต่อประชากรหน่ึงแสนคน) เสาหลกั ที่ 4: ผู้ใช้ถนนปลอดภยั (Safer road users) องคก์ รรัฐที่รบั ผิดชอบ (มตชิ นออนไลน,์ 2558) และมยี อดผเู้ สยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตบุ นทอ้ งถนนจา� นวนมาก เสาหลกั นีค้ ือ ส�านกั งานตา� รวจแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะในชว่ งเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ และกรมควบคมุ โรค (สังกดั กระทรวงสาธารณสุข) สาเหตุหลกั ของการเกดิ อบุ ตั ิเหตบุ นทอ้ งถนน เสาหลักท่ี 5: การตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุ (Post-crash response) (Major causes of road accidents) องค์กรรัฐท่ีรับผิดชอบเสาหลักนี้คือ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน แห่งชาติ และบรษิ ัท กลางคุ้มครองผปู้ ระสบภัยจากรถ จ�ากัด จากรายงานและข้อมูลสถิตขิ องการเกิดอบุ ัติเหตุบนถนน ท�าให้พอสรปุ แมว้ า่ จะมกี ารใชแ้ นวทางของ 5 เสาหลกั มกี ารศกึ ษาถงึ สาเหตหุ รอื ปจั จยั เส่ียงของการเกิด มีมาตรการและมกี ารรณรงคเ์ พื่อลดอุบัตเิ หตบุ นถนน ได้ว่าสา1เห.ตบุที่สคุ า� คคัญลขอผงกูใ้ ชาถ้รเนกนิดทอกุุบคัตนเิ หไตมุบ่วนา่ จถะนเนปม็นีค4นปเดรนิะกเทา้ารดคงั นนปี้ ั่นจักรยาน แต่กลับพบว่ายอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในปี 2559 ช่วง 7 วันอนั ตราย (วันท่ี 11 – 17 เม.ย. 2559) ของเทศกาลสงกรานต์ เพิ่มข้ึนจาก คนขจี่ กั รยานยนต์ คนขบั รถยนต์ คนขบั รถโดยสาร กส็ ามารถทา� ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตุ ปี 2558 ถึง 21.43% (จา� นวนผ้เู สยี ชีวติ ปี 2558 และ 2559 คอื 364 ราย และ บนถนนได้ทั้งสิ้น ตัวอย่างพฤติกรรมของผู้ใช้ถนนท�าให้เกิดอุบัติเหตุบนถนน 442 ราย ตามล�าดับ) มีจ�านวนผู้ถูกด�าเนินคดีฐานละเมิดกฎหมายจราจรถึง มีดังนี้ 730,271 ราย และในปี 2560 ในชว่ ง 7 วนั อันตราย (วันที่ 29 ธ.ค. 2559 - วนั ที่ 4 ม.ค. 2560) ของเทศกาลปใี หม่ เพมิ่ ขนึ้ จากปี 2559 ถงึ 25.79% (จา� นวน พฤติกรรมของผู้ขับข่ี เช่น ขับรถด้วยความเร็วเกินก�าหนด ขับรถไม่ ผเู้ สียชวี ิตปี 2559 และ 2560 คอื 380 ราย และ 478 ราย ตามลา� ดับ) ซ่ึงเป็น ชา� นาญ เมาสรุ า/ยาบา้ ใชโ้ ทรศพั ทข์ ณะขบั หลบั ใน ขบั รถยอ้ นศร ไมส่ วมหมวก สถิติสูงทสี่ ุดในรอบ 10 ปี (PR MATTER, 2559; กรงุ เทพธรุ กจิ ออนไลน,์ 2560) นิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ฝ่าฝนสัญญาณไฟจราจร ขับรถตัดหน้าในระยะ ประเด็นน้ีเองท�าให้หลายคนมีค�าถามต่างๆ นานาว่ามาตรการหรือ กระชัน้ ชดิ หรอื แซงในทค่ี ับขนั แนวทางในการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนท่ีมีอยู่แล้วเพียงพอแล้ว หรือยัง มีปัจจัยอ่ืนอีกไหมที่เป็นสาเหตุของเกิดอุบัติเหตุแต่ถูกมองข้าม พฤติกรรมของผู้เดินเท้า เช่น ไม่ข้ามถนนตรงบริเวณทางม้าลายหรือ นอกเหนอื จากเมาแลว้ ขบั หลบั ใน ขบั รถเรว็ ตดั หนา้ กระชน้ั ชดิ ฝา่ ฝน สญั ญาณไฟ สะพานลอย วิ่งตัดหน้ารถขณะไฟเขียว ไม่เคารพกฎจราจร คุยโทรศัพท์ขณะ จราจร แซงรถอย่างผิดกฎหมาย บรรทุกเกินอัตรา ไม่ให้สัญญาณจอด ขบั รถโดยประมาท หลายทา่ นไดใ้ หค้ วามคดิ เหน็ วา่ การทส่ี ถติ กิ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตุ เดินขา้ ม2ถ.นนถนนและสิ่งแวดล้อม เช่น สภาพถนนท่ีเป็นหลุมเป็น บนทอ้ งถนนยังคงสูงอยูน่ น้ั อาจเนื่องมาจาก บ่อ ถนนมืดไม่มีไฟฟ้า ถนนมีเครื่องกีดขวางมากๆ หรือถนนแคบ ขาดป้าย เตอื น ปา้ ยสญั ลกั ษณต์ ดิ ตง้ั ในตา� แหนง่ ทไ่ี มเ่ หมาะสมและไมช่ ดั เจน ฝนตก มพี ายุ หมอกล3ง. ยานพานะ เชน่ ไฟเลยี้ วชา� รดุ ยางระเบดิ หรอื ยางแตก ไมม่ ไี ฟ หนา้ -ห4ลงั .มกกี าฎรดหดั มแปาลยงสภเชาน่ พขรถาดเบครวกามแเตขกม้ ไงมวมด่ ใกี นากรตารดิ บตงัง้ั คเขบั ม็ ในชก้ริ ภฎยัหทมใ่ีาชยไ้ อดยจ้ า่รงงิ จรงิ จงั การเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธเ์ กยี่ วกบั กฎระเบยี บ ขอ้ บงั คบั และบทลงโทษ ในการฝา่ ฝน กฎตา่ งๆ ใหป้ ระชาชนทกุ คนทราบยงั ไมค่ รอบคลมุ หรอื ไมเ่ พยี งพอ นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 43

- ยงั ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบเสาหลักท่ี 1 แหล่งอ้างองิ - ไมม่ กี ารหาสาเหตุท่แี ท้จรงิ - เมาแล้วขบั 1. กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. ข่าวสร้างสุข. สรุป 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ - ขบั รถด้วยความเรว็ สงู ทุบสถิติ 10 ป.ี ออนไลน.์ แหลง่ ทีม่ า. http://www.thaihealth.or.th/ - ขาดการกา� กับดแู ลและการบังคับใช้กฎหมายยา่ งจริงจัง Content/34778-สรุป%207%20%วันอันตรายช่วงปีใหม่%20 - บทลงโทษส�ารบั ผู้กระท�าผดิ ยงั ไม่รุนแรงพอ ทุบสถิต%ิ 2010%20ป.ี html (เข้าถึงเม่ือวันที่ 12 เมษายน 2560) - การขับรถในเขตเมืองด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 2. องค์การอนามัยโลก. แผนกการจัดการด้านการป้องกันโรคไม่ติดต่อ ควรปรับความเร็วสูงสุดในเขตเมืองให้ต่�ากว่าหรือเท่ากับ ความพิการ ความรุนแรง และการบาดเจ็บ.รายงานสถานการณ์โลกด้าน 50 กโิ ลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดความเสีย่ งของการเสียชีวติ ความปลอดภยั ทางถนนพ.ศ. 2558: สรปุ .ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด.์ เรยี งพมิ พ์ - ผู้ขบั รถยนต์ยังเปน็ เยาวชน โดย บริษทั สแกนด์-มีเดีย คอรป์ อเรชนั่ จ�ากดั พิมพ์ในประเทศไทย. ---- - สภาพท้องถนน เชน่ ไมม่ ีการปรบั ปรงุ สภาพพนื้ ถนนท่เี ปน็ หลมุ 2558. p 1-12. ออนไลน์. แหล่งที่มา http://www.searo.who.int/ - จติ ส�านึกของผใู้ ชถ้ นน เชน่ การฝ่าฝนกฎจราจร thailand/areas/gsrs-thai.pdf?ua=1 (เขา้ ถงึ เมอ่ื วนั ท่ี 12 เมษายน 2560) ส�าหรับตัวผู้เขียนเองมีความเห็นว่า การแก้ไขปัญหาเพื่อลดจ�านวน การเกดิ อบุ ตั เิ หตบุ นทอ้ งถนนอยา่ งยงั่ ยนื นนั้ เปน็ เรอื่ งทย่ี าก ซบั ซอ้ น และใชร้ ะยะ 3. มติชนออนไลน์ (matichon Online). อนามัยโลกช้ีไทยตายบนถนนเป็น เวลา ต้องอาศยั ความรว่ มมอื จากหลายภาคส่วนทั้งภาครฐั เอกชน และประชา ที่ 2 ของโลก แนะบงั คบั ใช้ กม.จราจรใหเ้ ขม้ งวด.ออนไลน.์ แหลง่ ทมี่ าhttp:// สังคม เม่ือพิจารณาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนผู้เขียนมีความเห็นว่า www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446104998 (เขา้ สาเหตหุ ลกั กค็ อื “คน” เนอ่ื งจากอบุ ตั เิ หตทุ เี่ กดิ ขน้ึ สว่ นใหญม่ สี าเหตมุ าจากคน ถึงเม่อื วนั ที่ 13 เมษายน 2560) ซึ่งหากผู้ใช้รถใช้ถนนยังขาดจิตส�านึกเคารพกฎหมายและไม่เห็นความส�าคัญ ของความปลอดภยั บนทอ้ งถนน แมว้ า่ จะมสี ภาพถนนและสงิ่ แวดลอ้ มทป่ี ลอดภยั 4. ศูนย์กลางข้อมูล ความรู้ แนวคิดและประสบการณ์ด้านส่ือสารและ ยานพาหนะปลอดภัย มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและมีบทลงโทษ ประชาสัมพันธ์ (PR MATTER). อุบัติเหตุสูงสุดในรอบ 10 ปี แหกกฎ ที่รุนแรง ก็ไม่สามารถหยุดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ดังน้ัน การสร้าง จราจรทะลุ 7 แสนราย บก.จร. เตรียมจับจริง มูลนิธิฯ วอนขับอย่างมี จิตส�านึกความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ทุกคนได้ตระหนักและรับรู้ จิตส�านกึ . ออนไลน์. แหล่งทมี่ า. https://prmatter.com/2016/04/30ป-ี ถงึ ผลกระทบ จนนา� ไปสกู่ ารปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมของผใู้ ชร้ ถใชถ้ นนไดอ้ ยา่ งถาวร 2559-อบุ ตั เิ หตุในร/ (เข้าถึงเม่ือวันท่ี 12 เมษายน 2560) จงึ เปน็ สิง่ สา� คัญและสามารถแก้ไขปัญหาอุบตั ิเหตบุ นทอ้ งถนนได้อย่างย่งั ยืน 5. ส�านักข่าวสร้างสุข. เผยสถิติอุบัติเหตุทางถนน แนวโน้มดีข้ึน. ออนไลน์. แหล่งท่ีมา http://www.thaihealth.or.th/Content/32499- เผยสถิติอุบัติเหตุทางถนน%20 แนวโน้มดีข้ึน.html (เข้าถึงเม่ือวันท่ี 12 เมษายน 2560) 6. สา� นกั งานนโยบายและแผนการขนสง่ และจราจร สา� นกั แผนความปลอดภยั กลุ่มพฒั นาความปลอดภยั . รายงานการวเิ คราะห์สถานการณ์อบุ ตั ิเหตทุ าง ถนน พ.ศ.2557. 2558: หน้า 1-25. ออนไลน.์ แหลง่ ท่มี า http://www. otp.go.th/uploads/files/1471501633-dgyrs-3z11i.pdf (เข้าถึงเม่ือ วนั ที่ 12 เมษายน 2560) 7. องค์การอนามัยโลก. การประเมินความปลอดภัยทางถนนในเชิงกฎหมาย และเชิงสถาบันประเทศไทย. พิมพ์ในประเทศไทย. 2559: หน้า 1-88. http://www.searo.who.int/thailand/areas/rs-legal-thai.pdf?ua=1 8. World Health Organization (WHO). Global Plan for the Decade of Action for Road Safety 2011- 2020. ออนไลน.์ แหลง่ ทีม่ า http:// www.who.int/roadsafety/decade_of_action/plan/en/ (เขา้ ถงึ เมอื่ วันที่ 13 เมษายน 2560) 9. World Health Organization (WHO). Strengthening Road Safety in Thailand.ออนไลน์. แหล่งท่ีมา http://www.searo.who.int/ thailand/areas/roadsafety/en/ (เข้าถงึ เม่อื วนั ท่ี 2 เมษายน 2560) 44 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

แนะนาํ จป.เครือขา ย ประวัติ คณุ ผอ่ งพรรณี แสงนอ้ ย บรษิ ทั ำ ซ.ี ไอ.กรปุ จ�กดั (มหาชน) ตําแหนง ปจ จบุ นั หวั หน้าหน่วยงานความปลอดภัยฯ ประเภทกจิ การ - ผลิตช้ินสว่ นเคร่ืองปรบั อากาศ ประวัติการศึกษา (ประเภทคอยล์) รางวัลท่เี คยไดร้ บั - ปีการศึกษา 2544 จากมหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช ระดับการศึกษา - ด�าเนินงาน จนท�าให้บริษัท ซี.ไอ.กรุป จ�ากัด (มหาชน) ปริญญาตรี วุฒิการศึกษา ศิลปศาสตร์ ได้รบั รางวลั ใบประกาศเกยี รติคณุ ระดบั ทองแดง กจิ กรรมการรณรงค์ลด บัณฑิต(สารสนเทศศาสตร)์ สถติ ิอบุ ัตเิ หตุจากการทา� งานใหเ้ ป็นศนู ยป์ ระจา� ปี 2558 (Zero Accident - ปีการศึกษา 2550 จากมหาวิทยาลัย Campaign 2015) ปทมุ ธานี ระดับการศกึ ษา ปรญิ ญาโท วุฒิการศกึ ษา รัฐประศาสนศาสตร์ - ด�าเนินงานจนท�าให้บริษัท ซี.ไอ.กรุป จ�ากัด (มหาชน) มหาบณั ฑติ ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ “โครงการสถานประกอบการปลอดภัย - รางวัลผู้ท่ีมีผลงานในการส่งเสริม เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าสยามบรมราชกมุ าร”ี จงั หวดั และผลักดันการด�าเนินงานของสตรี ปทมุ ธานี ปี 2558 ประจา� ปี 2557 จังหวัดปทมุ ธานี - รางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้ให้การ - ด�าเนินงาน จนทา� ใหบ้ รษิ ทั ซี.ไอ.กรปุ จ�ากดั (มหาชน) ได้ สนับสนุนและความร่วมมือการจัดการ รับรางวลั สถานประกอบกจิ การตน้ แบบ ด้านความปลอดภยั อาชวี อนามยั ศึกษาระบบสหกิจศึกษา ประจ�าปีการ และสภาพแวดล้อมในการทา� งานประจา� ปี 2559 ระดบั จงั หวดั ศึกษา 2554 -2557 จากมหาวิทยาลัย นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 45 ราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ จงั หวัดปทมุ ธานี - ด�าเนินงาน จนท�าให้บริษัท ซี.ไอ.กรุป จ�ากัด (มหาชน) ได้รับรางวัลชมเชย ดา้ นการบรหิ ารและคมุ้ ครองความปลอดภยั อ า ชี ว อ น า มั ย แ ล ะ ส ภ า พ แ ว ด ล ้ อ ม ในการท�างานระดบั จงั หวดั ปี 2558

สมั ภาษณ คุณผ่องพรรณี แสงน้อย (จป.เครือข่าย) เหตุใดจึงเลือกเรียนในหลักสูตรอาชีวอนามัย มีการกา� กับดแู ลโดยหวั หนา้ งานให้พนกั งานปลอดภยั และพฒั นาตอ่ ไป จนถึง และความปลอดภัย ระดบั ทพ่ี นกั งานนา� ความรทู้ ถ่ี กู ตอ้ งไปปฏบิ ตั เิ องไดต้ ลอดระยะเวลาการทา� งาน นนั่ แหละการลดอบุ ัตเิ หตุจึงจะได้ผล จากประสบการณก์ ารทา� งานในโรงงานมานานหลายๆ ครงั้ ท่านเห็นว่าวิธีหรือแนวทางไหน ท่ีน่าจะจัดการกับ พต่ี อ้ งมาเจอพนกั งานประสบอนั ตรายและในทกุ ๆ ครงั้ ทพี่ นกั งาน พฤติกรรมเพื่อให้หยุดอุบัติเหตุจากการท�างานได้อย่าง เกิดเหตุ ผลกระทบที่เกิดมันไม่ได้จบแค่ตัวพนักงาน มันส่ง เหมาะสม ซง่ึ รวมถงึ ผลลัพธท ีน่ ่าจะออกมาดที ส่ี ดุ ผลกระทบถงึ ภรรยา ถงึ ลกู ถงึ ครอบครวั พนกั งานดว้ ย เดอื ดรอ้ น ไปตามๆ กนั เราเองกม็ าคดิ วา่ เราไมค่ วรอยเู่ ฉยอกี ตอ่ ไปพไี่ มไ่ ดจ้ บ อันนี้เป็นเร่ืองใหญ่และท�าได้ยาก ซ่ึงต้องรณรงค์ให้เกิดความร่วมมือ จป.มาโดยตรงแต่เมื่อบริษัทเปิดโอกาสให้มีการอบรมหลักสูตร จากพนักงานทุกๆ คน ใหพ้ นักงานช่วยกัน หากพบพฤติกรรมท่ไี มถ่ กู ตอ้ งไมด่ ี เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการท�างาน และหลักสูตร ตอ้ งมรี ะบบมาดแู ลไมใ่ หเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตขุ นึ้ และควบคมุ ใหพ้ ฤตกิ รรมลดลงเรอื่ ยๆ ความปลอดภัยต่างๆ พี่จงึ ไมล่ งั เลที่ขอเขา้ ร่วมด้วย เพ่ือจะไดน้ า� จนหมดไป สว่ นพฤตกิ รรมท่ีดีทีถ่ ูกต้อง ต้องได้รับการส่งเสรมิ ไดร้ ับรางวลั จาก ความรู้ท่ีได้มาดูแลช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานให้มีความปลอดภัย นายจ้าง หรอื การเชิดชูจากเพอ่ื นร่วมงาน เพ่ือเปน็ ตวั อยา่ งใหค้ นในองคก์ รเหน็ ซง่ึ มันคือความมุง่ มัน่ สูงสุดของพี่ และพฤติกรรมทดี่ ตี อ้ งมใี ห้มากๆ ส่งเสรมิ ใหม้ ใี นตวั พนกั งานทกุ ๆ คน คะ่ คนอ้วางมจสป�า.เรรุ่นจ็ ใในหวมชิ ่ าถช้าีพอยนาี้ คกวจระเจปะนมแี จนปว.ทมาอื งโอปยร่าหงรไรือบปา้ รงะสบ อะไรคอื ความภูมใิ จที่สดุ ในการประกอบอาชีพ ด้านความปลอดภยั เราตอ้ งยอมรับว่าปจั จบุ นั น้องๆ ทีจ่ บใหม่มาจากทกุ ๆ สถาบัน...เปน็ คน ทม่ี คี วามรใู้ นหลกั วชิ าการดกี วา่ ในสมยั กอ่ นคอ่ นขา้ งเยอะ เนอ่ื งจากมเี ทคโนโลยี จริงๆ พี่บอกไม่ได้หรอกว่าความภูมิใจที่สุดในการท�างานด้าน สมยั ใหมท่ ท่ี า� ใหเ้ ราเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ตา่ งๆ.....เขา้ ถงึ แหลง่ ความรใู้ หมๆ่ ไดม้ ากมาย..... ความปลอดภยั คอื อะไร แตท่ พี่ บี่ อกไดค้ อื หลงั จากทพ่ี ไี่ ดท้ มุ่ เทแรงกายแรงใจเตม็ ทง้ั น้ีไมไ่ ดอ้ ยากให้น้องๆ มุ่งม่นั ท่จี ะเป็น จป.มือโปร หรอื จป.ดเี ด่น แต่อยากให้ ก�าลังความสามารถเพ่ือดูแลงานด้านความปลอดภัยให้กับเพ่ือนร่วมงานด้วย นอ้ งๆ มงุ่ มน่ั ทมุ่ เทแรงกายแรงใจในการนา� ความรทู้ ม่ี ไี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสม ในทุกๆ เยน็ ทีเ่ ลกิ งาน พี่เห็นเพื่อนร่วมงานของพกี่ ลบั บา้ นด้วยอาการครบ 32 กบั องคก์ ารของตนเอง ไมม่ สี ตู รสา� เรจ็ ในการทา� งานมเี พยี งวา่ เรามงุ่ มน่ั และทมุ่ เท ไปหาครอบครวั ของพวกเขา พีก่ ็ยม้ิ ได้และมคี วามสุขท่สี ุดแล้ว ความรักให้เพ่ือนร่วมงานของเรามากแค่ไหน เพื่อให้เขาเหล่าน้ันปลอดภัย ท ่ า น มี แ น ว ท า ง ใ น ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร อ ง ค  ก ร ด ้ า น สง่ิ ไหนดๆี ทเี่ ราคดิ คน้ ขนึ้ มากแ็ บง่ ปนั เพอื่ นรว่ มวชิ าชพี ใหน้ า� ไปใช้......นา� ไปปฏบิ ตั ิ ความปลอดภัยอย่างไรให้มีระบบที่ยั่งยืน เพื่อทุกๆคน และสร้างเครือข่ายงานด้านความปลอดภัยให้เข้มแข็ง คอยช่วยเหลือซึ่งกัน จะได้กลับบ้านอยา่ งปลอดภยั ในทกุ ๆ วนั และกนั เมอื่ เราทา� สงิ่ เหลา่ นไี้ ด้ เพอ่ื นของเราและคนรอบขา้ งกจ็ ะบอกเองวา่ เรา เปน็ จป.มอื โปร หรอื จป.ดเี ดน่ อยา่ ทอ้ ในการทจ่ี ะทา� ความดนี ะคะ ขอบคณุ คะ่ การท่ีจะท�างานด้านความปลอดภัยแบบยั่งยืนได้ เราต้องมุ่งเน้นการให้ พนักงานเป็นศูนย์กลางอยากให้น้อง จป.ทุกคนเข้าใจว่า ....... ถ้าเราต้องบอก พนกั งานของเราวา่ อะไรคอื ความเสย่ี งและทา� อยา่ งไรจงึ จะปลอดภยั ....มนั เพยี ง แคจ่ ะทา� ใหก้ ารบรหิ ารจดั การดา้ นความปลอดภยั ของเราดแี ตไ่ มม่ ที างยงั่ ยนื ..... หากเราตอ้ งการใหง้ านดา้ นความปลอดภยั ของเรายง่ั ยนื ...เราตอ้ งทา� ใหพ้ นกั งาน ของเราคดิ เองได.้ ...ทา� เองไดใ้ นสงิ่ ทถี่ กู ตอ้ ง ในสง่ิ ทป่ี ลอดภยั มนั ไมม่ สี ตู รสา� เรจ็ นะ มนั ขนึ้ กบั บรบิ ทขององคก์ รแตล่ ะแหง่ แตแ่ นวทางคอื ตอ้ งมงุ่ เนน้ การใหพ้ นกั งาน เปน็ ศูนยก์ ลางคะ่ ท่านมีแนวทางอย่างไรในการลดอุบัติเหตุจากการท�างาน ให้ได้ผล ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยี มีเครื่องจักร เคร่ืองมือที่ทันสมัยมีระบบการ ปอ้ งกนั อนั ตรายทด่ี ี ทา� ใหส้ ดั สว่ นการประสบอนั ตรายจาก unsafe condition หรือสภาพการทา� งานท่ีไม่ปลอดภัยลดลง แตส่ าเหตจุ าก unsafe action หรอื พฤติกรรมยังสูงมากข้ึน ดังนั้น แนวทางในการลดอุบัติเหตุเราจึงต้องหันมามุ่ง เนน้ ที่การกระทา� ทไ่ี ม่ปลอดภัย เราตอ้ งให้ความรู้ทีถ่ กู ตอ้ ง หลงั จากนนั้ เราตอ้ ง 46 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน

จป.วยั ทนี คณุ ชนมนิภา กุลชาติสถาพร การไฟฟา สว นภมู ภิ าคเมืองพทั ยา ปปรระะววัตัติิกกาารรทศ�ากึ งษาาน • จบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะสาธารณสขุ ศาสตร ภาควิชาอาชวี อนามัยและความปลอดภัย รุนที่ 43 จากมหาวทิ ยาลัยมหิดล • กาํ ลังศกึ ษาตอในระดับปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร สาขาวศิ วกรรมความปลอดภยั ที่มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร บางเขน • ป 2555 ไดม้ ีโอกาสเข้าทาํ งานในตําแหนง จป.วิชาชีพ บรษิ ทั มติ ซูบิชิ มอเตอรส (ประเทศไทย) จาํ กดั โรงงานแหลมฉบัง ตัง้ แตป 2555-2558 • ป 2558-2559 ได้เข้าทาํ งานในตําแหนง จป.วิชาชพี บรษิ ทั เดน็ โซ (ประเทศไทย) จํากัด โรงงานบางปะกง • ป 2559-ปจจุบนั ทํางานในตาํ แหนง นักปฏิบตั ิงานเทคนิค (จป.วชิ าชพี ) ท่ีการไฟฟา สวนภมู ภิ าคเมืองพทั ยา นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน 47

ทา� ไมถึงเลือกเรียนอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มีการบรหิ ารจัดการองคกรอย่างไร เกดิ จากตอนทจ่ี ะตอ้ ง admission เข้ามหาวทิ ยาลยั ได้ปรกึ ษาพ่สี าว เพอื่ ใหเ้ กิดความปลอดภยั ตอนแรกจะเลือกเรียนด้านวิศวกรรม แตพี่ได้แนะนําวาปจจุบันมีคนเรียน ส่ิงที่ส�าคัญเป็นอย่างแรกคือ ผู้น�าขององค์กรจะต้องแสดงถึงวิสัยทัศน์ กันเยอะและเริ่มล้นตลาด พ่ีก็เลยแนะนําวาเห็นมีเพื่อนเรียนในสาขานี้และ ด้านความปลอดภัยและทุกคนในหน่วยงานต้องให้ความร่วมมือและสนับสนุน ได้ทํางานในหนวยงานช้ันนําของประเทศ โดยไมรู้รายละเอียดซักเทาไหร งานดา้ นความปลอดภัย ซง่ึ ผ้วู า่ การการไฟฟ้าส่วนภมู ิภาคนัน้ ได้มอบนโยบาย รแู้ ตว า เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทํางาน กบั คนในโรงงาน ใหป้ ี 2560 เปน็ ปแี หง่ การปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความปลอดภยั อยา่ งยงั่ ยนื และมงุ่ เนน้ ใหม้ ีการพัฒนาคนด้วยนวัตกรรม และพฒั นางานด้วยเทคโนโลยี โดยผจู้ ดั การ เราก็เลยลองคิดวานาสนใจ เลยเลือกไว้เปนอันดับหนึ่ง แล้วก็โชค ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยาก็ได้ให้ความส�าคัญและพูดกับพนักงาน ดีที่ได้ เมื่อเรียนไปจนถึงชั้นปที่ 3 เริ่มเรียนวิชาเฉพาะของภาควิชาน้ีก็เร่ิม อยู่เสมอว่าเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ส�าคัญ ซ่ึงก็ได้รับความร่วมมือ รู้สึกชอบ อาจารยจะพูดเสมอวางาน จป. ก็เปนงานท่ีได้ชวยเหลือคน จากทุกคนในหนว่ ยงานเปน็ อย่างดี หากคนไมเจ็บปวย ไมเกิดอุบัติเหตุก็เปนเหมือนการทําบุญอยางหน่ึง และพอไดม้ ีการฝกประสบการณก ารทํางานจริง ก็เร่ิมรูส้ กึ ชอบและสนกุ มงุ่ เนน้ ใหน้ กั วชิ าการรว่ มกบั พนกั งานผปู้ ฏบิ ตั งิ านจดั ทา� คมู่ อื หรอื วธิ กี าร ปฏิบัติงาน เพ่ือน�าไปใช้ในการปฏิบัติงานจริง โดยจะสามารถท�างานได้อย่าง ต้องบอกเลยวางานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไมเคยหยุด ถูกวิธี ปลอดภัย และเปน็ ไปตามที่กฎหมายก�าหนด นิง่ เลยจริงๆ ต้องมกี ารพฒั นาตนเอง ฝก ฝนและหาความร้อู ยางสมา่ํ เสมอ ตอ้ งมีการฝก อบรมใหค้ วามรู้ รวมไปถงึ การเสรมิ สร้างทักษะการปฏิบัติ 48 นติ ยสาร ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ�งาน งานจริงให้กับพนักงานอย่างสม�่าเสมอ ซ่ึงงานของ กฟภ.เป็นงานลักษณะ ท่ีมีความพิเศษ พนักงานที่ปฏิบัติงานบางส่วนจะสามารถท�างานได้โดยวิธีการ ปฏิบัติงานแบบไม่ดับไฟ โดยพนักงานกลุ่มนี้จะเป็นผู้ที่ได้รับการฝกฝนเฉพาะ ทางที่โรงเรียนช่างการไฟฟา้ ส่วนภมู ภิ าค


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook