Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการดำเนินงานตามข้อกำหนดการจัดการความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง (Safety Management Specification Of Working At Height Manual)

คู่มือการดำเนินงานตามข้อกำหนดการจัดการความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง (Safety Management Specification Of Working At Height Manual)

Published by e-Book สสปท., 2020-07-09 05:41:04

Description: เกี่ยวข้องกับด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน Occupational Safety Health

Keywords: ปลอดภัย,safety,Occupational,Health

Search

Read the Text Version

หน้า 1 สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 2 ชือ่ หนงั สอื : คูม่ อื การดาเนนิ งานตามข้อกาหนดการจดั การความปลอดภยั ในการทางานบนทีส่ ูง Safety Management Specification of Working at Height Manual ชอ่ื ผแู้ ตง่ : คณะทางานจดั ทาคมู่ ือการดาเนนิ งานตามข้อกาหนดการจัดการความปลอดภยั ในการทางานบนท่ีสงู ปที ่พี ิมพ์ : พ.ศ. 2562 ครง้ั ทพี่ ิมพ์ : จดั พิมพ์คร้งั ท่ี 1 โรงพมิ พ์ : บรษิ ัท ชยากร พริ้นติ้ง จากดั 27 ถนนเพชรเกษม 81 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร 10160 โทรศพั ท์ 02-8120770 ISBN : 978-616-8026-15-1 สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า ก คณะอนุกรรมการวชิ าการ 1. นางสาวสดุ ธิดา กรุงไกรวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการ อนุกรรมการ 2. นายวเิ ลศิ เจติยานุวตั ร อนุกรรมการ อนกุ รรมการ 3. นายเกียรติศักด์ิ บญุ สนอง อนุกรรมการ อนกุ รรมการ 4. นางลัดดา ต้ังจนิ ตนา อนกุ รรมการ อนุกรรมการ 5. นายสบื ศกั ดิ์ นันทวานชิ อนุกรรมการและเลขานกุ าร 6. นายประมุข โอศิริ 7. ผอู้ านวยการสานกั วจิ ยั และพัฒนา 8. ผู้อานวยการสานกั บริการวิชาการ 9. นายธนกฤต ธนวงศโ์ ภคนิ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า ข คณะทางาน จัดทาค่มู อื การดาเนนิ งานตามขอ้ กาหนดการจดั การความปลอดภยั ในการทางานบนท่ีสงู นายวเิ ลศิ เจติยานวุ ัตร ประธานคณะทางาน นายเกยี รตศิ ักด์ิ บุญสนอง คณะทางาน นายอัครพงษ์ นวลออ่ น คณะทางาน นายธวัชชัย ชินวเิ ศษวงศ์ คณะทางาน นายอภชิ า ครุธาโรจน์ คณะทางาน นายสรุ ชยั สงั ขะพงศ์ คณะทางาน นายคณาธิศ เกดิ คล้าย คณะทางาน นางสาวณัฐจติ อ้นเมฆ คณะทางาน นายพฤทธิพงศ์ สามสงั ข์ คณะทางาน สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า ค คานา สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานภายใต้การกากับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีวัตถุประสงค์ในการดาเนินกิจการเพื่อ ส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน โดยอานาจหน้าท่ีหนึ่งของสถาบันฯ คือ การพัฒนาและสนับสนุนการจัดทามาตรฐาน และคู่มือเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ ม ในการทางาน กระทรวงแรงงานได้ออกกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้าน ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางานเกี่ยวกับงานท่วั ไป และงานก่อสรา้ ง พ.ศ. 2551 โดยมีสาระสาคัญที่เก่ียวข้องกับการทางานบนท่ีสูงในหมวดต่าง ๆ ที่ว่าด้วยเรื่อง บททั่วไป เขตก่อสร้าง งาน เจาะและงานขุด งานก่อสร้างท่ีมีเสาเข็มและกาแพงพืด ค้ายัน เคร่ืองจักรและปั้นจ่ัน ลิฟต์ขนส่งวัสดุช่ัวคราว และลิฟต์โดยสารช่วั คราว เชือก ลวด สลิง และรอก ทางเดินชั่วคราวยกระดับสงู และการทางานในสถานทีท่ ม่ี ี อันตรายจากการตกจากทส่ี งู การพังทลาย และการกระเด็นหรอื ตกหลน่ ของวสั ดุ ฯลฯ สถาบันฯ ได้จัดทาและประกาศใช้มาตรฐานการจัดการความปลอดภัยในการทางานบนที่สูง (มปอ.101 : 2561) เพื่อเป็นกรอบในการบริหารจัดการความปลอดภัย และเพื่อให้สถานประกอบกิจการมี แนวทางในการดาเนินการที่ชัดเจน นาไปสู่การปฏิบัติท่ีมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับมาตรฐานฯ และเพ่ือ ส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทางานได้อย่างปลอดภัยจากอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยและโรคจากการทางานบนที่สูงได้ อย่างเป็นรูปธรรม สถาบันฯ จึงได้จัดทาคู่มือการดาเนินงานตามข้อกาหนดการจัดการความปลอดภัยในการ ทางานบนทส่ี ูงข้ึน คู่มือฉบับน้ีได้จัดทาตามกระบวนการจัดทาคู่มือของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน) ดาเนินการร่างโดยคณะทางานผู้เชี่ยวชาญ ผ่านการระดมความ คิดเห็นจากผเู้ ชย่ี วชาญ ผ้มู ีประสบการณ์ ผมู้ ีส่วนไดเ้ สยี และผ่านการกลนั่ กรองโดยคณะอนุกรรมการวิชาการ รวมถึง ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการบรหิ ารสถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภัย ฯ เรียบร้อยแลว้ สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

สารบญั หน้า ก เร่อื ง ข คณะอนกุ รรมการวิชาการ ค คณะทางานคมู่ อื การดาเนินงานตามข้อกาหนดการจัดการความปลอดภยั ในการทางานบนทสี่ งู 1 คานา 2 บทท่ี 1 บทนา 2 บทท่ี 2 ความหมาย กฎหมาย และมาตรฐานท่ีเก่ยี วข้อง 4 4 2.1 ความหมาย และคานยิ าม 5 2.2 กฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับการทางานบนทส่ี ูง 5 2.3 มาตรฐานสากลทีเ่ ก่ียวข้องกับการปอ้ งกันและยบั ย้ังการตกจากทส่ี ูง 5 บทท่ี 3 สาเหตุและปจั จัยที่กอ่ ใหเ้ กิดความเสี่ยงจากการทางานบนท่สี งู 7 3.1 สาเหตุท่ีทาให้เกดิ การตกจากทสี่ ูง 7 3.2 ปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กิดความเสี่ยงตอ่ การตกจากทสี่ ูง 7 บทที่ 4 หนา้ ที่และความรับผดิ ชอบ 7 4.1 ผ้อู นญุ าต 7 4.2 ผคู้ วบคมุ งาน 8 4.3 ผปู้ ฏิบตั งิ าน 8 4.4 ผชู้ ่วยเหลอื 9 บทที่ 5 มาตรการความปลอดภยั ในการทางานบนท่ีสงู 12 5.1 แนวคดิ การปอ้ งกันและยับย้ังการตกจากท่ีสงู 13 5.2 ระเบียบปฏิบัติเพื่อควบคุมอนั ตราย 14 5.3 การป้องกนั และยับย้งั การตกจากทส่ี งู 28 29 5.3.1 การปฏบิ ตั ิงานบนท่ีสูงนอ้ ยกวา่ 2 เมตร 30 5.3.2 การปฏิบัติงานบนท่สี งู ต้ังแต่ 2 เมตรขึน้ ไป 34 5.3.3 การตรวจสอบระบบป้องกันและยับยัง้ การตกจากท่สี ูง 42 5.3.4 การบารุงรกั ษาระบบปอ้ งกันและยับยัง้ การตกจากท่สี ูง 45 บทที่ 6 การช่วยเหลอื ในกรณฉี ุกเฉนิ ภาคผนวก 1 กฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การทางานบนทส่ี ูง ภาคผนวก 2 ตัวอย่างมาตรฐานท่ีเกี่ยวข้องกับการปอ้ งกันและยบั ย้ังการตกจากทีส่ งู บรรณานุกรม สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 1 บทที่ 1 บทนา คู่มือการดาเนินงานตามข้อกาหนดการจัดการความปลอดภัยในการทางานบนท่ีสูง ฉบับนี้ มเี นื้อหาให้ดาเนนิ การเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยในการทางานบนที่สูง (มปอ.101 : 2561) โดยจัดให้มีบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการทางานบนท่ีสูงอย่างน้อยประกอบด้วย ผู้อนุญาต ผู้ควบคุมงาน ผปู้ ฏิบัตงิ าน ผ้ชู ว่ ยเหลือ และเพิม่ เติมแนวทางการปฏบิ ัติ และรายละเอยี ดอืน่ ๆ ท่ีเกีย่ วข้องกบั การทางานบนท่ี สงู เพ่อื ให้มคี วามปลอดภัย และลดความเสย่ี งตอ่ การเกิดอบุ ตั ิเหตจุ ากการตกจากท่ีสงู อย่างมีประสทิ ธภิ าพ คู่มือฯ เล่มนี้มีสาระสาคัญท่ีกล่าวถึง ความหมายและคานิยาม กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานใน การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน ในหมวดท่ีเก่ียวข้องกับ การทางานบนที่สูง มาตรฐานสากลท่ีเป็นที่ยอมรับในการทางานบนที่สูง สาเหตุและปัจจัยที่ก่อให้เกิดความ เส่ียงจากการทางานบนท่ีสูง หน้าที่และผู้รับผิดชอบต่อการปฏิบัติงานบนที่สูง ได้แก่ ผู้อนุญาต ผู้ควบคุมงาน ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ช่วยเหลือ มาตรการความปลอดภัยในการทางานบนที่สูง โดยใช้แนวคิดการป้องกัน และยบั ยั้งการตกจากทส่ี ูงตามลาดับชน้ั การควบคุม (Hierarchy of Control) ในการกาหนดระเบียบปฏบิ ัติงาน เพ่ือควบคุมอันตรายท้ังการประเมินความเส่ียง และการจัดการความเสี่ยง รวมไปถึงการพิจารณาเลือกใช้ ระบบป้องกันและยับยั้งการตกจากที่สูง การติดตั้ง การตรวจสอบ การบารุงรักษา และการช่วยเหลือในกรณี ฉุกเฉนิ ทีเ่ ปน็ ไปได้ของผปู้ ระสบเหตตุ กจากท่ีสูง คณะผู้จัดทา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือการดาเนินงานตามข้อกาหนดการจัดการความปลอดภัยใน การทางานบนท่ีสูง จะเป็นประโยชน์แก่สถานประกอบกิจการและผู้เก่ียวข้อง ให้สามารถสร้างกระบวนการ จัดการความปลอดภัยท่ีมรี ะเบยี บแบบแผนอย่างเป็นระบบ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 2 บทที่ 2 ความหมาย กฎหมาย และมาตรฐานทีเ่ กีย่ วขอ้ ง 2.1 ความหมาย และคานิยาม ความหมายของคาที่ใช้ในคู่มือการดาเนินงานตามข้อกาหนดการจัดการความปลอดภัยในการ ทางานบนทสี่ งู มีดังต่อไปน้ี 1) การทางานบนท่ีสูง หมายถึง การปฏิบัติงานใด ๆ ก็ตามในบริเวณท่ีมีความต่างระดับของ พ้ืนท่ีทางานที่มีความสูง และมีโอกาสตกจากที่สูงของบุคคลหรือวัสดุจากระดับหน่ึงสู่ระดับท่ีต่ากว่า เช่น บริเวณที่มที างข้นึ -ลงหรอื บันได และบริเวณทลี่ ืน่ ลาดชนั หรือมีพ้ืนผวิ ท่ไี มแ่ ขง็ แรงมั่นคง เปน็ ต้น 2) การตกจากท่ีสูง หมายถึง การตกของบุคคล หรือการตกของวัสดุจากระดับหนึ่งสู่ระดับที่ ตา่ กวา่ 3) จุดยึดเก่ียว (Anchorage Point) หมายถึง จุดยึดที่มั่นคงสาหรับเชือกนิรภัย (Lanyard) สายช่วยชีวิต (Lifeline) หรืออุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ ของระบบจากัดระยะเคล่ือนท่ี (Travel Restraint System) หรือระบบการยับย้ังการตก (Fall Arrest System) โดยจุดยึดเก่ียวต้องสามารถรับแรงยับย้ังการตก ได้ตามจดุ ประสงค์ในการใช้งาน 4) เชือกนิรภยั หรือสายช่วยชีวิต (Lanyard หรือ Lifeline) หมายถึง สลงิ เชอื ก หรอื วัสดอุ ื่น ท่ีมีความแข็งแรงใกล้เคียงกัน ยึดกับจุดยึดเกี่ยวในแนวนอนหรือแนวดิ่ง ใช้สาหรับยึดเก่ียวหรือคล้องกับเชือก นิรภยั หรอื สายช่วยชวี ิต เพ่อื ยบั ยง้ั การตก 5) นายจ้าง หมายถึง นายจ้างตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทางาน พ.ศ. 2554 6) ลูกจ้าง หมายถึง ลูกจ้างตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทางาน พ.ศ. 2554 7) แพลตฟอร์มยกระดับ (Elevating Work Platform) หมายถึง ยกพื้นหรือน่ังร้านสาหรับ รองรบั ลกู จา้ ง วสั ดุหรอื อุปกรณ์อน่ื ๆ เพือ่ ใหป้ ฏบิ ตั ิงานบนท่สี ูง เชน่ รถกระเช้า ลิฟต์กระเช้า นง่ั รา้ น เป็นตน้ 8) ระยะตก (Total Fall Distance) หมายถึง ระยะทั้งหมดท่ีประกอบด้วยระยะตกอิสระ ระยะยบั ย้งั ของอปุ กรณย์ ับยงั้ การตก และระยะการยืดตัวของอปุ กรณท์ ี่ใช้รับแรงจากการตก สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 3 9) ระบบจากัดระยะเคลื่อนท่ี (Travel Restraint System) หมายถึง ระบบที่กาหนดระยะ ปลอดภยั สาหรับลูกจา้ งขณะทางานบนทส่ี ูง โดยจากัดระยะเคลอ่ื นทีข่ องลูกจา้ งขณะทางาน 10) ระบบยบั ย้ังการตก (Fall Arrest System) หมายถึง ระบบที่ออกแบบเพ่ือควบคุมยับย้ัง ไม่ให้ตกถึงพื้น อย่างน้อยต้องประกอบด้วยจุดยึดเกี่ยว (Anchorage) สายรัดนิรภัย (Harness) สายช่วยชีวิต (Lifeline) และเชือกนิรภัย (Lanyard) 11) ระบบการทางานด้วยเชือก (Rope Access System) หมายถึง ระบบกาหนดตาแหน่ง การทางานทใ่ี ชเ้ พือ่ การเข้าถงึ และปฏิบัตงิ านท่หี นา้ งาน โดยทั่วไปหมายถึงเชอื กพรอ้ มอุปกรณ์โรยตวั ในแนวด่งิ 12) อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภยั ในการทางานบนทส่ี ูง (Fall Protection Equipment; FPE) หมายถึง อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล รวมถึงอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพ่ือใช้สาหรับการ ป้องกนั และยับย้ังการตกจากทีส่ ูงโดยเฉพาะ เชน่ สายรัดนริ ภัยเตม็ ตวั เชอื กนริ ภัย สายช่วยชวี ิต เป็นต้น 13) สายรัดตัวนิรภัยเต็มตัว (Full Body Harness) หมายถึง สายรัดนิรภัยที่ประกอบด้วย สายรดั ลาตวั ไหล่ และต้นขา ทีม่ ีหรือไม่มเี ขม็ ขดั รดั เอว โดยออกแบบใหก้ ระจายแรงยับย้ังการตกเพื่อลดโอกาส การบาดเจ็บ และป้องกันผู้สวมใส่หลุดออกจากเข็มขัดนิรภัย เข็มขัดนิรภัยชนิดเต็มตัวสามารถใช้ร่วมกับ อุปกรณ์ประกอบทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง เช่น เชอื กนิรภยั และอุปกรณ์ดูดซบั แรงยบั ย้ังการตก เปน็ ตน้ 14) อุปกรณ์ดดู ซบั แรง (Shock Absorber) หมายถงึ อุปกรณ์ท่ีประกอบกบั เชือกนิรภยั เพื่อดูดซับ แรงกระชากจากการหยุดกะทันหนั เม่อื ตกจากท่สี ูง เพ่อื ลดการบาดเจ็บของผู้ปฏบิ ตั งิ าน 15) ระบบยึดรั้งตาแหน่งการปฏิบัติงาน (Work Positioning System) หมายถึง ระบบ กาหนดตาแหน่งการทางานที่ใช้อุปกรณ์ช่วยยึดร้ังลูกจ้างให้อยู่ในตาแหน่งงาน และปฏิบัติงานในตาแหน่งท่ี กาหนดได้อย่างปลอดภัย 16) ผู้มีความรู้ความสามารถ หมายถึง บุคคลผู้มีความรู้และทักษะ หรือผ่านการฝึกอบรม และมี ประสบการณ์ในการทางานบนท่ีสูง มีความสามารถช้ีบ่งอันตราย ประเมินความเสี่ยง กาหนดมาตรการควบคุมและ แกไ้ ขปัญหาเก่ียวกับการทางานบนทีส่ งู 17) ผปู้ ฏบิ ัติงาน หมายถึง ลกู จา้ งทม่ี หี น้าที่ตอ้ งปฏบิ ัตงิ านบนทสี่ ูง หรอื พนื้ ท่ีตา่ งระดบั 18) ผู้ควบคุมงาน หมายถึง ลูกจ้างท่ีมีความรู้ความสามารถ ได้รับการมอบหมายจากนายจ้างให้มี หน้าทค่ี วบคุม ดูแลการทางานบนที่สูงตามขอ้ กาหนด ตรวจสอบการทางานบนที่สงู และอุปกรณค์ วามปลอดภยั 19) ผูช้ ่วยเหลือ หมายถงึ ลกู จา้ งทไ่ี ด้รับการมอบหมายจากนายจ้าง ใหเ้ ป็นผู้ชว่ ยเหลอื ในกรณี เกิดเหตุฉุกเฉินในการทางานบนท่ีสูง เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ความชานาญเก่ียวกับการช่วยเหลือและ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 4 อุปกรณ์อย่างดี โดยผ่านการฝึกอบรมการช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในการทางานบนที่สูง ผู้ช่วยเหลืออาจ เป็นบคุ คลหรือกลุ่มบคุ คลภายในหรือภายนอกองค์กรกไ็ ด้ 20) ผู้อนญุ าต หมายถึง นายจา้ ง หรือผ้ทู นี่ ายจ้างมอบหมายให้เป็นผู้อนุญาตในการทางานบนที่สูง โดยเป็นผมู้ คี วามรูใ้ นการทางานบนทีส่ ูง หรอื ผ่านการฝกึ อบรมเกีย่ วกับการทางานบนท่สี งู 2.2 กฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ งกับการทางานบนทส่ี งู 1. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และ สภาพแวดล้อมในการทางานเก่ยี วกบั งานก่อสร้าง พ.ศ. 2551 2. ประกาศกรมสวัสดิการและค้มุ ครองแรงงาน เร่ือง หลักเกณฑ์และวธิ ีการ การใชเ้ ชอื ก ลวดสลิง และรอก พ.ศ.2553 2.3 มาตรฐานสากลทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การปอ้ งกนั และยับยัง้ การตกจากที่สูง 1) มาตรฐานองคก์ ารมาตรฐานสากล (International Standardization and Organization : ISO) 2) มาตรฐานสหภาพยุโรป (European Standards : EN) 3) มาตรฐานออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด์ (AS/NZS) 4. มาตรฐานสถาบันมาตรฐานแห่งชาติสหรัฐอเมรกิ า (American National Standards Institute : ANSI) 5. มาตรฐานอตุ สาหกรรมญี่ปุ่น (Japanese Industrial Standards : JIS) 6. มาตรฐานของสถาบนั ความปลอดภัยและอนามัยในการทางานแห่งชาตสิ หรฐั อเมริกา (The National Institute for Occupational Safety and Health : NIOSH) 7. มาตรฐานของสานักงานบริหารความปลอดภยั และอาชวี อนามยั แหง่ ชาติ สหรัฐอเมริกา (Occupational Safety and Health Administration : OSHA) 8. มาตรฐาน Workplace Safety and Health (WSH Council) ประเทศสิงคโปร์ 9. มาตรฐานอ่ืน ทีเ่ ปน็ ทีย่ อมรับ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 5 บทที่ 3 สาเหตแุ ละปจั จัยทีก่ ่อให้เกิดความเสีย่ งจากการทางานบนท่ีสงู 3.1 สาเหตุท่ที าใหเ้ กดิ การตกจากทส่ี งู 1) การจัดการความเสี่ยงท่ีไมม่ ีประสทิ ธิภาพ 2) มาตรการควบคุม ปอ้ งกันอนั ตรายจากการทางานบนท่ีสูงทไี่ ม่เพียงพอ และไมเ่ หมาะสม 3) ข้อกาหนด และข้อบังคับในการทางานบนที่สูงไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม รวมทั้งขาดการ ควบคุม ดแู ลใหป้ ฏบิ ัตติ ามอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4) การเลือกใช้เครื่องมอื วสั ดุและอุปกรณ์ในการทางานบนที่สงู ทไี่ ม่เหมาะสม และไม่ได้มาตรฐาน 3.2 ปจั จยั ท่ีกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสีย่ งตอ่ การตกจากท่สี ูง 1) สภาพแวดล้อมในการทางาน - การปฏิบตั งิ านขณะฝนตก ลมแรง แสงแดดและอณุ หภูมริ อ้ นจัด - สภาพแวดล้อมในการทางานไม่เหมาะสม เช่น พ้ืนที่ที่มีไอระเหยของสารเคมีฟุ้งกระจาย น้า นา้ มัน ฝนุ่ ผง หรือดินโคลน - การปฏิบัติงานบนท่ีลาดชัน บนขอบอาคารหรือหลังคา บริเวณที่คับแคบ พื้นที่จากัด หรือ มีสิง่ กีดขวาง - สภาพพน้ื ท่ีทม่ี ีอันตราย เชน่ ใกลส้ ายไฟฟ้าแรงสงู เป็นต้น - การปฏบิ ัตงิ านบนโครงสร้างท่ีไม่ม่นั คงแข็งแรง - สภาพพ้ืนทีท่ ่ีไม่มีท่ยี ดึ คลอ้ ง เกาะเก่ยี ว - การปฏิบัติงานในสภาพการทางานที่มีการเปล่ียนแปลง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเส่ียงของ อันตรายใหม่ 2) ผู้ปฏบิ ัติงานบนที่สูง - ไมม่ คี วามรู้ ขาดการฝกึ อบรมและประสบการณ์ในการทางานบนทส่ี ูง - มีปญั หาเกีย่ วกับสุขภาพหรอื สภาพร่างกายไม่พรอ้ มในการทางานบนท่ีสงู - ไมป่ ฏิบตั ิตามกฎระเบียบด้านความปลอดภยั ในการทางานบนท่สี งู - ไมม่ ผี ูค้ วบคุม ตรวจสอบ และกากับดูแลดา้ นความปลอดภยั - ไม่สวมใส่อปุ กรณ์คมุ้ ครองความปลอดภัยจากการตกจากท่สี ูง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 6 3) วัสดุและอุปกรณ์ค้มุ ครองความปลอดภยั จากการตกจากทสี่ งู - ไมม่ ีเอกสารรับรองดา้ นความปลอดภยั จากผผู้ ลิต - มีการออกแบบและติดตั้งระบบป้องกันการตกจากที่สูงที่ไม่เหมาะสมกับพื้นท่ีทางาน และ การใช้งาน - ใช้วสั ดุและอปุ กรณท์ ี่ชารดุ หรือเสอ่ื มสภาพ - ไมม่ รี ะบบการตรวจสอบและบารงุ รกั ษา สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 7 บทที่ 4 หน้าทีแ่ ละความรบั ผิดชอบในการทางานบนทีส่ ูง การปฏิบัติงานบนท่ีสูงต้องกาหนดหน้าท่ีและความรับผิดชอบของผู้อนุญาต ผู้ควบคุมงาน ผปู้ ฏบิ ตั ิงาน และผู้ช่วยเหลอื ดังนี้ 4.1 ผอู้ นญุ าต ผอู้ นญุ าต มหี นา้ ท่ใี นการออกและยกเลกิ ใบอนุญาตทางานบนท่ีสงู 4.2 ผ้คู วบคุมงาน ผู้ควบคุมงาน มีหน้าท่ีจัดการ กาหนดมาตรการควบคุม ป้องกันอันตรายจากการทางานบนที่สูง เสนอต่อผู้อนุญาตเพื่อพิจารณาอนุญาต และควบคุมดูแลผู้ปฏิบัติงานให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ ความปลอดภัยท่กี าหนด รวมทงั้ จดั ทารายงานผลการปฏบิ ตั ิงานเสนอต่อผอู้ นญุ าต 4.3 ผูป้ ฏบิ ตั งิ าน ผู้ปฏิบัติงาน มีหน้าท่ีปฏิบัติตามข้ันตอนและวิธีปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยท่ีกาหนด ต้องผ่านการ ฝกึ อบรมการทางานบนที่สงู มีใบรับรองแพทยต์ ามปจั จัยเสีย่ งที่ตรวจโดยแพทย์อาชวี เวชศาสตร์ 4.4 ผ้ชู ว่ ยเหลือ ผู้ช่วยเหลือ มีหน้าที่ช่วยเหลือในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในการทางานบนท่ีสูง เช่น หมดสติ พลัดตก หรอื ได้รบั บาดเจบ็ จากการทางานบนทีส่ งู เปน็ ตน้ ดงั นน้ั ผ้ชู ่วยเหลือจาเปน็ ต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยเหลือที่มี ประสิทธิภาพ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 8 บทที่ 5 มาตรการความปลอดภัยในการทางานบนท่ีสงู 5.1 แนวคดิ การป้องกนั และยับยง้ั การตกจากทีส่ งู แนวคิดการป้องกันและยับยั้งการตกจากท่ีสูง สามารถดาเนินการตามลาดับช้ันการควบคุม (Hierarchy of control) ได้ดงั นี้ 1. การขจัดอันตราย (Eliminate) 2. การทดแทน (Substitution) 3. การควบคุมทางวศิ วกรรม (Engineering Controls) 4. การควบคุมเชงิ บริหารจดั การ (Administrative Controls) 5. การใชอ้ ปุ กรณ์คมุ้ ครองความปลอดภยั จากการตกจากท่สี ูง (Fall Protection Equipment; FPE) ลาดับช้ันของการป้องกนั และยบั ย้ังการตกจากที่สงู FPE ภาพท่ี 5-1 ลาดับชั้นของการปอ้ งกนั และยบั ย้งั การตกจากท่ีสูง สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 9 5.2 ระเบียบปฏบิ ัติงานเพอื่ ควบคุมอันตราย 5.2.1 การกาหนดระเบยี บปฏบิ ัติงานในการทางานบนท่สี งู นายจ้าง ผู้ควบคุมงาน ผู้ปฏิบัติงาน ผู้อนุญาต ผู้ช่วยเหลือ และบุคคลที่เก่ียวข้องในงาน การทางานบนท่ีสูง ควรมีการปรึกษาหารือเพ่ือกาหนดระเบียบปฏิบัติงานในการทางานบนท่ีสูงในประเด็น ดังตอ่ ไปนี้ ก. กฎหมายที่เกี่ยวขอ้ งกบั การทางานบนท่สี ูง ข. การออกแบบและวางแผนดา้ นความปลอดภัยสาหรบั การทางานบนท่ีสูง ค. การประเมินความเสยี่ งและควบคมุ ความเสยี่ งในการทางานบนทส่ี ูง ง. การกาหนดวิธกี ารทางานอยา่ งปลอดภยั และให้มกี ารปฏบิ ัตติ ามขัน้ ตอนในการทางานท่เี หมาะสม จ. มาตรการปอ้ งกันการตกจากท่สี ูง ฉ. การตรวจติดตามผลการดาเนนิ งาน ตามมาตรการปอ้ งกนั การตกจากทส่ี ูง ช. การจัดเตรียมข้อมูล คาแนะนา และการฝกึ อบรมเก่ียวกบั ความปลอดภยั ในการทางานบนท่สี ูง ซ. มีแผนและขั้นตอนการปฏิบตั ิ เพอื่ ตอบโตเ้ หตุฉกุ เฉินของการทางานบนที่สูง 5.2.2 การตรวจสุขภาพสาหรับผู้ปฏิบัติงานบนทส่ี ูง ผู้ปฏิบัติงานบนท่ีสูงเป็นประจาควรมีการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงของงานก่อนเร่ิม ทางาน โดยแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ซ่ึงครอบคลุมถึงการตรวจสุขภาพทั่วไป การมองเห็น การได้ยิน ความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเน้ือ ดัชนีมวลกาย การทรงตัว และความ ยืดหยุ่นของร่างกาย ความผิดปกติทางระบบประสาทรวมไปถึงโรคลมชัก โรคประจาตัว รวมไปถึงภาวะต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานบนที่สูง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ความผิดปกติของการนอนหลับ โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด ความทนทานของระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหติ การหายใจ และการ ใช้ยา เป็นต้น 5.2.3 การออกแบบเพ่อื ปอ้ งกนั และยบั ยง้ั การตกจากทส่ี ูง การขจัดหรือลดความเสี่ยงของอันตรายจากการตกจากที่สูง ควรเริ่มต้นตั้งแต่ข้ันตอนการ ออกแบบ และต้องมนั่ ใจวา่ มีการชี้บ่งอนั ตรายจากการออกแบบ ซง่ึ ผอู้ อกแบบควรมีการเสนอแนะมาตรการ ป้องกันประกอบแบบแปลนแกไ้ ขเพ่ือขจดั อนั ตรายเหลา่ นั้นหรอื ลดความเส่ียงท่ีเกิดขนึ้ กรณีท่ีมีการออกแบบ ผู้ออกแบบควรกาหนดมาตรการป้องกันเป็นลายลกั ษณ์อักษรเสนอ ต่อนายจ้าง มาตรการดังกล่าวควรประกอบด้วย รายละเอียดของอันตราย ลักษณะโครงสร้างหรือวัสดุท่ี อันตราย ระเบียบหรอื ขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน หากความเสี่ยงของการตกจากที่สูงยังคงมีอยู่ควรกาหนดให้มี การแกไ้ ขแบบและกาหนดมาตรการป้องกันเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภยั สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 10 นอกจากนี้ การซ่อมแซม แก้ไขเพ่ิมเติม การปรับปรุง หรือการบารุงรักษา ท้ังที่มีการ ออกแบบและไมม่ ีการออกแบบ ควรพิจารณาประเด็นตา่ งๆ ดงั นี้ ก. ประเมนิ ความเสยี่ ง และจัดการควบคุมความเสี่ยง ข. กาหนดมาตรการ และวธิ ีการทางาน ค. ตรวจสอบและควบคมุ การดาเนินการตามมาตรการและวธิ กี ารทางานทก่ี าหนด 5.2.4 การวางแผนเพ่อื ปอ้ งกนั และยบั ยง้ั การตกจากที่สูง การวางแผน ผคู้ วบคมุ งานต้องดาเนนิ การดังต่อไปน้ี ก. กาหนดแผนดาเนนิ งานบนที่สงู โดยใหค้ รอบคลมุ ถึงผรู้ บั เหมาชว่ ง หรือผ้เู ก่ยี วขอ้ ง ข. จัดให้มีการประชุมความปลอดภยั ในการทางานบนท่ีสงู ในทกุ ฝ่ายท่เี กี่ยวข้อง ค. นาข้อมูลการประเมินความเส่ียงมากาหนดมาตรการควบคุมป้องกันการตก จากทสี่ งู รวมถงึ จดั เตรียมวธิ กี ารทางานอย่างปลอดภยั ง. กาหนดขั้นตอนและวธิ กี ารทางานสาหรบั ผูร้ ับเหมาช่วง และผู้ท่ีเกยี่ วขอ้ ง จ. จัดการฝึกอบรมเก่ียวกับการปฏิบัติงานบนท่ีสูงให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคน อยา่ งเหมาะสม ฉ. จัดให้มีการตรวจสอบและทบทวนมาตรการป้องกันการตกจากท่ีสูงเป็น ประจาก่อนเร่ิมงาน 5.2.5 การจัดการความเสี่ยงอันตรายจากการตกจากท่สี งู 1) การชบี้ ง่ อันตรายจากการตกจากที่สูง ก. แหล่งกาเนิดของอันตราย เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ เคร่ืองจักร ไฟฟ้า วัตถุดิบ วสั ดุ สถานทท่ี างาน เปน็ ตน้ ข. บุคคลและอวัยวะส่วนที่ได้รับอันตราย รวมถึงสิ่งของหรือทรัพย์สินท่ี ได้รับความเสียหาย ค. ลกั ษณะของอนั ตราย เชน่ การตกจากทสี่ ูง การล่นื หกล้ม เป็นต้น ง. การชี้บ่งอันตรายมีหลายวิธีอาจใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่ง หรือหลายวิธีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมตามลักษณะการทางานบนที่สูง หรือลักษณะความเสี่ยง ของอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น วิธี Job Safety Analysis: JSA วิธี Checklist วิธี What If เปน็ ต้น การช้ีบ่งอันตรายของพ้ืนที่ทางานและกระบวนการทางานท่ีมีความเสีย่ งต่อการตกจากที่สงู ตลอดจน เส้นทางสญั จรต่าง ๆ เพ่อื พิจารณามาตรการควบคมุ ความเสย่ี งโดยเฉพาะงานหรือพน้ื ที่ทีจ่ ะตอ้ งดแู ลเป็นพิเศษ ไดแ้ ก่ สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 11 - ส่งิ ก่อสรา้ งหรอื โครงสร้างท่กี าลงั ก่อสร้าง ติดต้งั รื้อถอน ซ่อมแซม ทาความ สะอาด ตรวจสอบ ทดสอบ หรือบารงุ รักษา - พ้ืนท่ีที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เช่น หลังคากระเบื้อง หลังคาแผ่นโลหะ หลังคา ไฟเบอร์กลาส และหลงั คาโปร่งแสง เปน็ ตน้ - พน้ื ผวิ ท่ไี ม่ม่นั คง เชน่ พน้ื ทท่ี ีด่ นิ อาจทรุดตัว เปน็ ตน้ รวมถึงพืน้ ดนิ ที่ถมหรือ บดอัดไมแ่ น่น - ใชอ้ ปุ กรณ์ เชน่ นั่งร้าน รถกระเช้า หรือบนั ไดพาดในการปฏิบตั ิงานบนท่สี ูง เป็นตน้ - การทางานบนพน้ื ผวิ ทล่ี าดเอียงหรือลน่ื เช่น บนกระเบอ้ื งเคลือบ เปน็ ต้น - การทางานใกล้ขอบท่ีไม่มีการป้องกันการตก เช่น ไม่มีราวกันตก หรือไม่มี สายชว่ ยชีวติ เปน็ ตน้ - การทางานใกล้หลุม ช่องเปิด หรือปล่องที่ผู้ปฏิบัติงานอาจพลัดตก เช่น รอ่ งลกึ รเู สาเขม็ ช่องเปิดเพอ่ื การซ่อมบารงุ รกั ษา เป็นต้น 2) การประเมนิ ความเส่ียงจากการตกจากท่สี ูง ในการประเมนิ ความเสีย่ ง ควรใชห้ ลักเกณฑ์การพิจารณาต่อไปนี้ ก) พิจารณาถึงโอกาสของการเกดิ อันตราย ข) พิจารณาถึงความรนุ แรงของอนั ตราย ระดับความเสี่ยงควรพิจารณาระดับโอกาสและระดับความรุนแรงที่อาจเกิดข้ึน ตามมาตรฐานการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทางาน มปอ.402 : 2561 3) การควบคุมความเส่ียงจากการตกจากทส่ี งู ห ลั ก ก า ร ค ว บ คุ ม ค ว า ม เ สี่ ย ง จ ะ น า มาตรการควบคุ มตามล าดับชั้ นของการควบคุม (Hierarchy of control) มาใชป้ ฏบิ ัตเิ พ่อื ควบคุมความเสยี่ งจากท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพมากที่สุดไปยงั น้อยที่สุด ลาดบั ที่ 1 การขจดั อนั ตราย การขจัดความอันตรายของการตกจากท่ีสูง โดยการดาเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าการตกจากท่ีสูง ไม่สามารถเกิดข้ึน รวมถึงการออกแบบให้ปราศจากความเส่ียง หรือการทางานบนพ้ืนดินหรือโครงสร้างที่ แขง็ แรง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 12 ลาดบั ที่ 2 การทดแทน การลดความเส่ียงของการตกจากที่สูง โดยการใช้อุปกรณ์ป้องกันการตกหรือพ้ืนทางานที่ม่ันคง และปลอดภยั เชน่ แผ่นพนื้ ถาวร รถกระเชา้ นง่ั รา้ น เปน็ ต้น ลาดบั ท่ี 3 การควบคมุ ทางวศิ วกรรม การป้องกันการตกจากที่สูงเชิงวิศวกรรม โดยใช้ระบบกาหนดตาแหน่งการทางานบนที่สูง (Work Positioning System) ประกอบดว้ ย ก. ระบบจากดั ระยะเคลอื่ นที่ (Travel Restraint System) ข. ระบบการทางานดว้ ยเชือก (Rope Access System) ค. ระบบการลดความรุนแรงจากการตกจากทสี่ ูง ประกอบด้วย - แพลตฟอรม์ รองรบั คนตกจากทีส่ งู (Catch Platform) - ระบบยบั ยั้งการตก (Fall Arrest System) ลาดับท่ี 4 การควบคุมเชงิ บริหารจัดการ การควบคุมการตกจากท่ีสูงเชิงการบริหารจัดการ โดยการควบคุมระยะเวลาทางาน การควบคุม จานวนผปู้ ฏบิ ตั งิ าน และวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ าน ตลอดจนสถานทปี่ ฏบิ ตั งิ าน เปน็ ตน้ เชน่ การกาหนดโครงสร้างเชงิ บรหิ ารจัดการ กฎระเบียบ การฝึกอบรม ระบบใบอนุญาตทางาน เปน็ ตน้ ลาดับที่ 5 การใชอ้ ุปกรณ์คมุ้ ครองความปลอดภัยจากการตกจากท่ีสูง โดยปกตินอกจากต้องจัดอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตามลักษณะของงานแล้ว ต้องจดั อุปกรณ์ท่ีออกแบบมาเพื่อใช้สาหรับการป้องกันและยบั ยงั้ การตกจากทส่ี ูงโดยเฉพาะ เช่น สายรดั นิรภัย ชนิดเต็มตวั เชอื กนิรภยั สายช่วยชีวิต เป็นตน้ 5.3 การปอ้ งกันและยับย้งั การตกจากที่สูง การพจิ ารณาเลือกใชร้ ะบบปอ้ งกนั และยับยง้ั การตกจากท่ีสูง การเลือกใชร้ ะบบป้องกันและยับย้ังการตกจากทส่ี งู แบง่ ออกเปน็ 1) การปฏิบตั ิงานบนพื้นทท่ี สี่ งู น้อยกว่า 2 เมตร 2) การปฏิบตั งิ านบนพื้นที่ท่สี ูงตัง้ แต่ 2 เมตรขึน้ ไป สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 13 จะต้องนาการจัดการความเส่ียงที่ประกอบด้วย การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเส่ียง และการควบคุมความเสี่ยงจากการตกจากท่ีสูงให้เป็นไปตามลาดับช้ันของการควบคุม (Hierarchy of Control) โดยมี ขน้ั ตอนดังต่อไปนี้ ก. ค้นหาอันตราย ข. พจิ ารณาผ้ทู อี่ าจได้รบั อันตรายและวิธกี ารไดร้ ับอันตราย ค. หากมคี วามเสยี่ งอย่ใู หพ้ ิจารณาวิธีการปฏิบตั ิงานใหป้ ลอดภัยมากขน้ึ ง. ดาเนนิ การเพ่ือขจดั ความเส่ยี งหากไมส่ ามารถดาเนินการไดใ้ หใ้ ชว้ ธิ ลี ดความเสย่ี ง 5.3.1 การปฏบิ ัตงิ านบนที่สงู น้อยกว่า 2 เมตร การปฏิบัติงานบนทีส่ ูงน้อยกว่า 2 เมตรมหี ลากหลายวธิ ีที่ใช้ในการทางาน เชน่ การใช้ บันไดพาด บันไดทรงเอ (A-Frame ladders) เปน็ ตน้ 1. บนั ไดพาด ขอ้ ควรพิจารณาในการใช้งานจากข้อกาหนดการใช้บนั ไดพาดในการ ปฏบิ ตั งิ านบนที่สงู ตั้งแต่ 2 เมตรข้ึนไป (ดูรายละเอยี ดในหวั ข้อ 5.3.2 หน้า 17) 2. บันไดทรงเอ (A–Frame Ladders) ข้อควรพจิ ารณาในการใชง้ าน มีดงั นี้ - บันไดทรงเอต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานที่ยอมรับ และตรวจสอบ กอ่ นการใชง้ าน - ขาบันไดต้องแข็งแรง และทามมุ เท่ากันท้ังสองขา อยู่ในสภาพท่ีพร้อมใชง้ าน - ห้ามใช้บนั ไดโลหะในการปฏบิ ัติงานเกยี่ วกับไฟฟา้ - ห้ามใช้บันไดในบริเวณท่ีเป็นทางผ่าน หรือประตูทางเข้า-ออก หรือทาง สญั จร หากจาเปน็ ให้ตง้ั ท่ขี วางกั้นหรอื ปิดล็อคประตูพรอ้ มติดตง้ั ปา้ ยเตอื น - ห้ามใช้บันไดใกล้ขอบพื้นท่ีที่ไม่มีการป้องกัน ใกล้ช่องเปิด หรือตั้งบันไดบน นั่งร้านเพ่ือเพิ่มความสงู - ห้ามเอ้ียวหรือเอียงลาตัวออกนอกบันได (หัวเข็มขัดของผู้ปฏบิ ัติงานควรอยู่ ภายในบนั ไดตลอดเวลาที่ปฏบิ ัตงิ าน) - หา้ มผปู้ ฏบิ ัติงานยนื บนสามข้นั สดุ ทา้ ยของบนั ไดทรงเอ (พิจารณาชนิดของบันได ทรงเอ) - ห้ามใช้เครื่องมือท่ีต้องใช้แรงในการงัดสูง เช่น ชะแลง อาจทาให้ ผูป้ ฏบิ ตั ิงานเสียการทรงตวั ตกจากบนั ไดได้ - การทางานบนบันไดให้ทางานไดค้ รั้งละ 1 คน - ใช้บันไดปฏบิ ตั ิงานตั้งแต่ขนั้ ท่ี 5 ต้องจัดใหม้ ีคนชว่ ยจับบันได - การทางานบนบนั ไดทรงเอไม่ควรเกิน 15 นาทตี ่อครงั้ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 14 รปู ที่ 5-2 การยืนบนขน้ั สุดท้ายของบนั ไดทรงเอเป็นวธิ ีการปฏิบัตงิ านท่ีไม่ถูกต้อง 5.3.2 การปฏบิ ัติงานบนท่ีสงู ต้งั แต่ 2 เมตรขนึ้ ไป ในคู่มือ ฯ ฉบับนี้จะกล่าวถึงวิธีการควบคุมความเสย่ี งจากการปฏิบัตงิ านบนที่สูงตงั้ แต่ 2 เมตรขนึ้ ไป ตามระดบั ของการควบคุม ดังน้ี การควบคุมลาดับท่ี 1 การขจดั อนั ตราย เปน็ การเลือกวิธกี ารหรือข้ันตอนการทางานเพื่อลดและหลกี เลีย่ งการทางานบนท่สี งู ได้แก่ 1. การทางานบนพ้ืน เป็นการย้ายขั้นตอนการทางานบางข้ันตอนมาทางานบนพ้ืน ซ่ึงเป็นวิธีการขจัดอันตรายจากการ ทางานบนที่สูงท่ีมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันอันตรายของผู้ปฏิบัติงานโดยหลีกเลี่ยงการทางานบนที่ สงู มาเป็นการทางานบนพน้ื 2. การทางานบนโครงสรา้ งท่ีแขง็ แรง หากหลีกเลี่ยงที่จะทางานบนท่ีสูงไม่ได้ จาเป็นต้องทางานบนท่ีสูงให้ทางานบนพื้นผิวที่แข็งแรง สามารถรองรบั นา้ หนกั ของท้ังผู้ปฏบิ ัตงิ านและวสั ดอุ ปุ กรณ์ได้ พนื้ การทางานตอ้ งเรียบ ไม่ลาดเอียง มีมาตรการ ในการปอ้ งกันการตกจากท่สี งู ของช่องเปดิ และริมขอบตา่ ง ๆ และต้องมที างเข้า-ออกท่ีมีการป้องกันทป่ี ลอดภยั 3. การทางานบนพืน้ ทล่ี าดชนั หากทางานบนพน้ื ราบบนท่สี งู ไม่ไดจ้ าเปน็ ตอ้ งทางานบนที่สงู และบนพื้นท่ลี าดชัน ให้ปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1) พ้ืนทีท่ างานต้องไม่ล่ืนและไม่มีช่องเปดิ 2) พื้นทท่ี างานทม่ี คี วามลาดชันไม่เกนิ 7 องศา หรอื อตั ราส่วนของแนวต้งั ต่อแนวนอน 1 : 8 3) พ้ืนท่ีทางานที่มีความลาดชัน 7 องศาข้ึนไปหรืออัตราสว่ น 1 : 4 ต้องมีการป้องกันการลื่น และ มีการป้องกันท่ีขอบของพ้ืนท่ีปฏิบตั ิงาน 4) พน้ื ทท่ี างานทมี่ ีความลาดชันเกนิ 20 องศา ใหใ้ ช้เชือกนริ ภัยชนิดดงึ กลบั อัตโนมัติ (Retractable Lanyard) หรอื ระบบจากดั ระยะเคลอื่ นท่ี (Travel Restraint System) ควบค่กู ันไป สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 15 พ้ืนทีท่ างานลาดชนั > 20 องศา พื้นทท่ี างานลาดชัน 7-20 องศา พื้นท่ีทางานลาดชนั 0-7 องศา รปู ท่ี 5-3 การทางานบนพน้ื ท่ีลาดชันในระดบั ตา่ ง ๆ 4. การปอ้ งกนั ทข่ี อบ การทางานบนท่ีสูงต้องมีมาตรการป้องกันการตกจากขอบทุกจุดในพื้นที่ปฏิบัติงาน ริมขอบ ของอาคารหรือส่ิงก่อสร้างอื่น ๆ ขอบหลังคาท่ีแตกหักง่าย เช่น กระจก กระเบื้อง หรือวัสดุมุงหลังคาอ่ืนท่ี แตกหกั ง่าย เปน็ ตน้ และขอบชอ่ งเปดิ ท่พี ้ืน 5. การปอ้ งกนั การตกอนื่ ๆ ผู้ปฏิบัติงานที่ปฏิบัติงานบนพื้นยกหรือบันไดอาจตกลงมาจากราวกันตกได้ เพื่อให้ม่ันใจ จึง ควรมีคาเตือนที่บันไดและช่องเปิดต่าง ๆ การปิดช่องเปิดต่าง ๆ ควรมีความม่ันคงและแน่นหนา เพื่อป้องกัน การถกู ถอดออกและสามารถรับน้าหนักได้ในขณะทางานหรือในกรณีท่มี ีการพลดั ตก 6. ทางข้นึ – ลงของการทางานบนที่สงู พืน้ ทท่ี างานบนทีส่ งู ทุกแหง่ ตอ้ งจัดทางขึ้น-ลงทีป่ ลอดภยั และเหมาะสม หากมบี ันไดต้องมีชานพัก บันได และราวกนั ตกตามมาตรฐาน ไม่ควรใช้บนั ไดพับและบนั ไดพาดเป็นบันไดถาวรสาหรบั การขึ้น-ลงบนทสี่ งู การควบคุมลาดบั ท่ี 2 การทดแทน เปน็ การปรับปรงุ วิธีการทางานเพอื่ ลดความเสย่ี งหรือความรนุ แรงของอนั ตรายจากการทางานบนทส่ี ูง โดยใช้ อปุ กรณ์ปอ้ งกนั การตก (Passive Fall Prevention Devices) เช่น 1. แพลตฟอรม์ ช่ัวคราว (Temporary Platform) เป็นพื้นที่สาหรับการทางานบนที่สูงเป็นเวลานาน และออกแบบมาเพ่ือป้องกันการตกจากท่ีสูง เป็นการชวั่ คราว สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 16 2. นงั่ รา้ น เป็นพื้นที่ปฏิบัติงานชั่วคราวท่ีปลอดภัยสาหรับการทางานบนที่สูง สาหรับการสร้าง ดัดแปลง และร้ือถอน ต้องดาเนินการโดยผู้มีความรู้ความสามารถ และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยวิศวกร โดยมีการ ออกแบบ สาหรบั งานเบา งานปานกลาง งานหนัก และงานพเิ ศษทตี่ ้องใชน้ ง่ั รา้ นมาตรฐานและมีวิศวกรรับรอง 3. รถกระเชา้ รถกระเช้าได้รับการออกแบบให้ใช้งานบนท่ีสูง เนื่องจากมีความคล่องตัวในการยกและ เคล่ือนย้ายข้ึนไปทางานบนท่ีสูง สามารถยกได้ทั้งคนและอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกันกับอุปกรณ์ท่ีใช้ ในการทางานอื่น ๆ ถ้าใช้งานโดยขาดความรู้ในวิธีใช้ท่ีถูกต้องและขาดความระมัดระวังก็จะทาให้เกิดอันตรายได้ การใช้รถกระเช้ามขี น้ั ตอนการปฏบิ ัตดิ งั น้ี 1) ใหป้ ฏิบัติตามคมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านกบั รถกระเชา้ 2) รถกระเช้าตอ้ งได้รบั การตรวจสอบและทดสอบอุปกรณ์อย่างนอ้ ยปลี ะ 1 ครง้ั และมีการ ตรวจความปลอดภยั ก่อนการใชง้ าน 3) ขณะปฏิบัติงานตัวรถต้องอยู่บนพ้ืนที่มั่นคงแข็งแรงและอยู่ในแนวระนาบท่ีไม่มีหลุม หรือสิ่งกีดขวางทอ่ี าจเป็นสาเหตใุ ห้รถเสียสมดุล ทาใหร้ ถกระเชา้ พลกิ คว่าได้ 4) รถกระเช้าที่ออกแบบสาหรับพ้ืนขรุขระ ให้ปฏิบัติตามคาแนะนาของผู้ผลิต บริเวณพื้น ควรได้รับการตรวจสอบ 5) ระบขุ ีดจากัดน้าหนักบรรทุกการทางานอย่างปลอดภัย และระบุจานวนผปู้ ฏบิ ตั ิงานบน รถกระเชา้ ไวอ้ ย่างชัดเจน หา้ มใช้เกนิ ขดี ความสามารถของรถกระเชา้ 6) ผู้ควบคุมรถกระเช้าต้องได้รับการฝึกอบรมเรื่องการควบคุมรถกระเช้าอย่างปลอดภัย จากผผู้ ลิต ผ้แู ทนจาหนา่ ย หรือหน่วยงานที่ไดร้ ับการรับรอง 7) ต้องสวมใส่สายรัดนิรภัยเต็มตัวและมีการคล้องเกี่ยวตลอดเวลาปฏิบัติงานบนรถ กระเชา้ 8) ตอ้ งล้อมบรเิ วณขณะจอดปฏิบัติงาน 9) ต้องมีผู้ทาหนา้ ทเี่ ฝา้ ระวงั และใหส้ ญั ญาณตลอดระยะเวลาที่มีการปฏบิ ตั งิ าน รปู ที่ 5-4 การทางานบนรถกระเช้า สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 17 4. ราวกนั ตก การติดตั้งและใช้งาน ต้องดาเนินการ ภายใต้การควบคุมดูแลของวิศวกร สาหรับการทางานใน พืน้ ที่ ต่อไปนี้ 1) ขอบอาคาร ขอบหลังคา หรอื หลังคา 2) บนพน้ื น่งั ร้าน 3) ทางสญั จรบนยกพน้ื ตา่ งระดบั บนั ได ทางลาด และชานพกั 4) ช่องเปิดทีพ่ ื้นและโครงหลังคา 5) ช่องเปดิ ของท่อ หลมุ และการขุดอน่ื ๆ 5. ทข่ี วางก้นั การเข้า-ออก การทาที่ขวางก้ัน เพ่ือปิดล้อมพ้ืนที่ที่มีการทางานบนท่ีสูง รวมถึงการทางานบนหลังคาและ ระเบียง เพอ่ื ป้องกนั ไม่ให้บุคคลท่ีไม่ไดร้ ับอนุญาตเขา้ และตดิ ตง้ั ป้ายเตือน โดยท่ขี วางกัน้ ควรห่างจากขอบหรือ ช่องเปิดที่ไม่มีการป้องกันใด ๆ อย่างน้อย 2 เมตร และควรมีความสูงเพียงพอที่จะมองเห็นได้ ทั้งน้ี ที่ขวางก้ัน ต้องติดตง้ั อย่างมน่ั คงเพ่ือป้องกันการเคล่อื นย้าย 6. ตาข่ายนิรภยั ตาข่ายนิรภัยออกแบบเพื่อรองรับการตกจากท่ีสูง ต้องติดต้ังอย่างมั่นคงเพ่ือป้องกันการตก จากที่สูงแนวดิ่งและแนวนอน ตาข่ายนิรภัยควรติดตั้งตามคาแนะนาของผู้ผลิต และมีการตรวจสอบอย่าง สมา่ เสมอ 7. บันไดพาด การเลือกบันไดต้องเลอื กให้เหมาะสมกับงานท่ีต้องดาเนนิ การ เช่น ห้ามใช้บันไดโลหะสาหรบั การปฏิบัติงานเก่ียวกับไฟฟ้า บันไดที่ใช้สาหรับงานการก่อสร้างมักใช้งานซ้าหลายคร้ัง และมีการเคล่ือนย้าย บ่อย จึงต้องมีการออกแบบและสร้างอย่างแข็งแรง บันไดพาดท่ีใช้ในสถานประกอบกิจการต้องตั้งบนพ้ืนท่ี แข็งแรงและมั่นคง การตดิ ตัง้ ต้องมีการป้องกันการล่ืนไถลโดย 1) บนั ไดพาดตอ้ งมีคุณสมบัติเปน็ ไปตามมาตรฐานทยี่ อมรบั ได้ 2) ผู้ปฏบิ ัตงิ านต้องหันหน้าเข้าหาบนั ไดพาดขณะทางานหรือขึ้น-ลง 3) การใชบ้ ันไดพาดใหป้ ลายบนั ไดต้องเลยจดุ พาดของบนั ไดไมน่ อ้ ยกว่า 90 เซนติเมตร 4) ต้องวางบนั ไดบนพ้นื ที่มนั่ คง แขง็ แรง มีการยึดตรึงและมีการป้องกนั ไม่ให้บนั ไดล่ืนไถล 5) การใช้บันไดพาดระยะห่างระหว่างตีนบันไดกับผนังพาดต้อง ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 หรือ 75 องศา ของความยาวบนั ได 6) หา้ มใชบ้ ันไดโลหะกบั งานไฟฟา้ 7) มอื และเทา้ ต้องสมั ผสั บันไดอย่างนอ้ ย 3 จดุ ขณะปีนป่ายตลอดเวลา สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 18 8) หา้ มถอื วัสดุ อปุ กรณใ์ ด ๆ ขณะขึน้ -ลงบันได 9) การทางานบนบนั ไดไมค่ วรเกนิ 15 นาทีต่อครง้ั 10) ผูกยึดบันไดพาดใหแ้ น่นทงั้ ส่วนบนและส่วนล่าง (ดงั รูปที่ 5-5) 11) ห้ามใช้บันไดกีดขวางทางผ่าน หรือประตูทางเข้า-ออก หรือทางสัญจร หากจาเป็น ให้ตั้ง ทข่ี วางกัน้ หรอื ปดิ ล็อคประตูพรอ้ มตดิ ตั้งปา้ ยเตือน 12) การใชบ้ ันไดพาดควรใชค้ รง้ั ละ 1 คน รูปที่ 5-5 แสดงตัวอยา่ งวธิ ีการมัดบนั ไดพาดให้แนน่ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รูปที่ 5-6 อตั ราส่วนการพาดบันไดทีเ่ หมาะสม (4 : 1) รปู ท่ี 5-7 ตวั อยา่ งการสมั ผัสกับบนั ไดอยา่ งน้อย 3 จดุ (3 Points of Contact) สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 19 การควบคุมลาดับที่ 3 การควบคุมทางวิศวกรรม เป็นการควบคุมป้องกันโดยการใช้หลักการทางวิศวกรรมเพ่ือลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงของ อันตรายจากการทางานบนที่สูงซ่ึงเป็นการควบคุม ป้องกันการตกจากท่ีสูงโดยใช้อุปกรณ์ท่ีช่วยยึดร้ัง ผู้ปฏบิ ตั งิ านให้อยู่ในตาแหน่งท่ีกาหนดได้อย่างปลอดภัย ซ่ึงเรยี กว่า ระบบยดึ รั้งตาแหน่งการปฏบิ ัติงาน (Work Positioning System) รปู ที่ 5-8 ตัวอยา่ งการใชร้ ะบบยึดร้ังตาแหนง่ การปฏบิ ัตงิ าน (Work Positioning System) 1. ระบบจากดั ระยะเคล่ือนท่ี (Travel Restraint System) ระบบจากัดระยะเคลื่อนที่ เป็นการป้องกันผู้ปฏิบัติงานไม่ให้หลุดตกจากขอบหรือริมอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างท่ีไม่มีการป้องกันการตก โดยทั่วไป ระบบนี้ประกอบด้วยสายรัดนิรภัยเต็มตัว (Full Body Harness) ท่ีเช่ือมกับเชือกนิรภัยกับจุดยึดเกี่ยวที่เหมาะสม ระบบน้ีเป็นระบบที่ป้องกันมิให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าถึง ขอบทีม่ คี วามเสยี่ งในการตก สายรดั นริ ภยั เต็มตัว รูปที่ 5-9 แสดงระบบจากัดระยะทางานทป่ี ลอดภยั สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 20 การใช้ระบบการป้องกันผู้ปฏิบัติงานตกกระแทกพื้นแทนระบบจากัดระยะทางานท่ีปลอดภัยทา ไดใ้ นกรณตี า่ ง ๆ ดังนี้ ก. ผู้ปฏบิ ัตงิ านเข้าถึงตาแหนง่ ท่ีอาจตกจากท่สี งู ได้ ข. ผ้ปู ฏิบตั งิ านใช้สายชว่ ยชีวิต ซงึ่ มีความยาวทเี่ หมาะสมมิให้พลดั ตกกระแทกพ้นื ค. ผู้ปฏิบตั งิ านอาจตกจากท่สี ูงซ่งึ เปน็ พ้ืนท่ีไม่มัน่ คง แข็งแรงหรอื ช่องเปิด 2. ระบบการทางานดว้ ยเชือก (Rope Access System) เป็นการปฏิบัติงานที่มีข้อจากัดในการเข้าถึงพื้นที่เพ่ือสามารถปฏิบัติงานได้ในแนวด่ิงหรือแนว ลาดชนั ได้อย่างปลอดภยั เช่น งานทาสีอาคารสงู งานทาความสะอาดกระจก เปน็ ตน้ อุปกรณท์ ีใ่ ช้ปฏิบตั ิงานใน ระบบการทางานดว้ ยเชอื กในแนวด่ิงต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐานที่ยอมรบั ได้ 3. ระบบการลดการบาดเจ็บจากการตกจากทีส่ ูง (Fall Injury Minimization Systems) เป็นการใช้อุปกรณ์ลดความรุนแรงหรือการบาดเจ็บของผู้ปฏิบัติงานท่ีตกจากท่ีสูง เช่น ตาข่าย นิรภัย แพลตฟอร์มรองรับการตกจากท่ีสูง อุปกรณ์ดูดซับแรง และสายรัดตัวนิรภัยชนิดเต็มตัว เป็นต้น ที่ นอกเหนอื จากระบบจากดั ระยะเคล่ือนท่ี 1) แพลตฟอร์มรองรบั คนตกจากทสี่ ูง (Catch ญlatform) แพลตฟอร์มรองรับคนตกจากที่สูงเป็นแพลตฟอร์มชั่วคราวที่ติดต้ังใต้พื้นท่ีปฏิบัติงานท่ี ออกแบบมาเพื่อรองรับคนท่ีตกจากท่ีสูง ซึ่งแพลตฟอร์มน้ีควรเป็นโครงสร้างท่ีมั่นคงแข็งแรงและออกแบบเพื่อ รองรับแรงกระแทกสูงสุดที่อาจเกิดขึ้น แพลตฟอร์มรองรับคนตกจากท่ีสูงอาจเป็นชนิดติดอยู่กับท่ีหรือเคล่ือนท่ีได้ ซ่ึงแพลตฟอร์มรองรับคนตกจากทีส่ ูงควรตดิ ตัง้ ใกลก้ บั พื้นท่ีปฏบิ ัติงานด้านลา่ งมากท่สี ดุ ซง่ึ ไมค่ วรเกนิ 1 เมตร 2) ระบบยับยงั้ การตก (Fall Arrest Systems) ระบบการยับย้ังการตก ใช้เมื่อมาตรการป้องกันการตกจากที่สูงท่ีกล่าวข้างต้นมีข้อจากัด ใชไ้ มไ่ ด้ หรอื ใชไ้ ดไ้ มเ่ ตม็ ประสทิ ธภิ าพ ดงั นนั้ ระบบการปอ้ งกนั นีจ้ ะยบั ยง้ั ผ้ปู ฏบิ ัตงิ านตกไม่ถึงพ้ืน การควบคุมลาดบั ท่ี 4 การควบคุมเชงิ บรหิ ารจัดการ การควบคุมเชิงบริหารจัดการอาจใช้ร่วมกับมาตรการควบคุมอื่นท่ีทาอยู่ เช่น ใช้ร่วมกับ แพลตฟอร์มชว่ั คราว เพือ่ ลดความเสี่ยงจากการตกจากท่ีสูง การควบคุมเชงิ การบรหิ ารจัดการอาจจาเปน็ ต้องใช้ เพ่ือจากัดเวลาของผู้ปฏิบัติงานที่ต้องทางานบนที่สูงหรือจากัดจานวนผู้ปฏิบัติงานที่เก่ียวข้อง ซึ่งครอบคลุมถึง พื้นท่ีควบคุม ระบบขออนุญาตปฏิบัติงาน การจัดระบบและลาดับของงาน และขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ ปลอดภยั สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 21 1. พืน้ ท่ีควบคุม การกาหนดพื้นที่ควบคุม เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมไม่ให้ผ้ไู ม่เก่ียวข้องเขา้ ไปในพ้นื ทที่ ม่ี อี ันตรายจากการตกจากทสี่ งู ตอ้ งมปี ้ายอย่างเพยี งพอเพ่ือเตือนก่อนเข้าในบริเวณที่มีอนั ตรายจาก การตกจากที่สูง ผู้ควบคุมงานต้องให้ข้อมูลและคาแนะนาแก่ผู้ปฏิบัติงานเก่ียวกับเร่ืองพื้นท่ีควบคุมและมีการ ดแู ลอย่างเพยี งพอ มิใหผ้ ้ทู ่ีไม่ได้รับอนุญาตเข้าในพน้ื ทคี่ วบคุม รปู ที่ 5-10 ตวั อยา่ งป้ายสาหรับพื้นที่ควบคุม 2. ระบบการขออนุญาตทางาน (The Permit to Work System) ระบบการขออนุญาตทางานบนท่ีสูง (Work at height permit) เป็นมาตรการท่ีจาเป็นใน พ้ืนที่ที่มีอันตรายจากการตกจากท่ีสูง โดยอนุญาตให้เฉพาะผู้มีความรู้ความสามารถท่ีผ่านการอบรมเข้า ปฏิบัตงิ านเทา่ น้ัน มวี ัตถุประสงคด์ งั ต่อไปนี้ ก. เพ่ือจัดให้มีการควบคุมการปฏิบัติงานและกิจกรรมท่ีมีความเสี่ยงสูงต่อความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางานตามที่กฎหมายกาหนดไว้ ข. เพ่ืออนุญาตให้ผู้ที่มีหน้าที่ดาเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอ้ มในการทางานเฝ้าระวังกิจกรรมทมี่ คี วามเสี่ยงสงู ในสถานท่ีทางานนั้น ๆ ค. สรา้ งมาตรฐานการทางานบนทีส่ ูงอยา่ งปลอดภัย ง. ควบคุมการทางานให้เปน็ ไปอยา่ งปลอดภัยในการปฏบิ ตั ิแตล่ ะวัน สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 22 จ. แสดงใบอนุญาตทางานบนท่ีสูงให้เห็นอย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการ ทางานในสถานที่ และกิจกรรมที่มคี วามเส่ยี ง นายจ้างตอ้ งจดั ทาใบอนุญาตการทางานบนทีส่ ูง โดยต้องประกอบดว้ ยหวั ข้อ ดงั น้ี - วนั เดือน ปี ช่วงเวลา และสถานทใี่ นการดาเนินงาน - ลกั ษณะการทางาน - รายชือ่ ผู้ขออนุญาต ผ้ปู ฏบิ ตั ิงาน ผู้ชว่ ยเหลือ ผู้ควบคุมงาน และผูอ้ นุญาต - มาตรการความปลอดภยั - อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการปฏิบัตงิ าน - มาตรการในการชว่ ยเหลือ กรณีมผี ู้ตกจากท่ีสูง และอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการชว่ ยเหลือ - หนว่ ยงานท่ีตอ้ งตดิ ตอ่ สือ่ สารภายในและภายนอก กรณีฉุกเฉิน 3. การจัดระบบและลาดับของงาน ตรวจสอบให้ม่ันใจว่า งานได้มีการจัดระบบเพ่ือไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเส่ียงต่อการตกจาก ท่สี ูงสาหรบั ตัวเองหรอื ผู้อื่น 4. ข้นั ตอนและวิธีปฏบิ ตั งิ านอย่างปลอดภัย การควบคุมเชิงบริหารจัดการ อาจทาได้ง่ายโดยใช้ขั้นตอนปฏิบัติงานที่ความปลอดภัย ทอี่ ธบิ ายข้ันตอนต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกับการทางานอย่างปลอดภัย 5. การบันทึก และควบคุมเอกสาร ควรจัดทาบันทึกให้ชัดเจนว่างานใดที่ใช้การควบคุมในพ้ืนท่ีใด ข้ันตอนการปฏิบัติงาน และให้มีการทบทวนอย่างสม่าเสมอเพ่ือประเมินประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน ดงั กล่าว การควบคมุ ลาดับท่ี 5 การใชอ้ ปุ กรณค์ ุ้มครองความปลอดภยั จากการตกจากที่สูง เป็นการควบคุมหรือลดอันตรายจากการทางานบนท่ีสูง เมื่อไม่สามารถควบคุมให้มีมาตรการ ป้องกันการตกจากท่ีสูงแล้ว เรียกมาตรการควบคุมนี้ว่าระบบยับยั้งการตก ดังนั้นระบบยับย้ังการตกจึงมี วัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับอันตรายเม่ือตกจากระยะทางท่ีควบคุมไม่ได้และหยุดอย่าง กะทันหัน และช่วยลดการกระแทกที่จะเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติงาน ระบบน้ีใช้ต่อเมื่อลาดับการควบคุมที่ 1-4 เป็นไปไม่ได้ ในทางปฏิบัติหรือลาดับการควบคุมที่สูงกว่าอาจป้องกันการตกที่สูงได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ อุปกรณ์ท่ีใช้ ทั้งหมดสาหรับระบบยับยั้งการตกต้องได้รับการออกแบบ ผลิต เลือกใช้ และใช้งานตามมาตรฐานที่ยอมรับได้ ข้อควรพิจารณาเรื่องความปลอดภยั ท่ีสาคัญในการใชร้ ะบบยับย้งั การตกมดี ังนี้ 1. การเลือกใช้ การตดิ ต้งั และการใช้อุปกรณ์อย่างถกู ต้อง 2. อปุ กรณ์และจดุ ยึดเกยี่ วได้รับการออกแบบ ผลติ และติดต้ังเพ่อื ใหส้ ามารถทนต่อแรง ที่เกดิ จากการตกจากท่ีสูงของคน สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 23 3. ระบบท่ีได้รับการออกแบบและติดตั้ง เพื่อให้ระยะห่างระหว่างผู้ปฏิบัติงานและจุด ยึดเกีย่ วสนั้ ท่ีสดุ เทา่ ทจ่ี ะเปน็ ไปได้ 4. ระยะก่อนหยุดการตก 5. ผู้ปฏิบัติงานท่ีใช้ระบบยับยั้งการตก ต้องสวมใส่อุปกรณ์ปกป้องศีรษะเพ่ือป้องกัน ตนเองขณะตกจากทสี่ ูง 6. หากอุปกรณ์ในระบบยับย้ังการตกผ่านการตกจากที่สูงแล้ว ห้ามนามาใช้อีก จนกว่า จะไดร้ บั การตรวจสอบและรบั รองความปลอดภัยในการใช้งานจากผู้มีความรู้ความสามารถ ระบบยบั ยัง้ การตกส่วนบุคคล โดยปกตนิ อกจากต้องจัดอปุ กรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบุคคลตามลักษณะงานแลว้ ตอ้ งจัด อุปกรณ์ท่ีออกแบบมาเพ่ือใช้สาหรับการป้องกันและยับยั้งการตกจากท่ีสูงโดยเฉพาะ เช่น สายรัดนิรภัย เชือกนิรภยั สายช่วยชวี ิต เปน็ ตน้ อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยในการทางานบนท่ีสูง และระบบยับย้ังการตกต้องได้รับการ รับรองประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่ยอมรับได้ ได้รับการติดตั้งและตรวจสอบตามข้อกาหนดของผู้ผลิต ผู้ปฏิบัติงานท่ีใช้ระบบน้ีต้องผ่านการฝึกอบรมการใช้งานอุปกรณ์และระบบดังกล่าวอย่างปลอดภัย กาหนดให้ ทาเครื่องหมายหรือติดฉลากอย่างถาวรเพื่อบอกวตั ถุประสงค์การใช้อย่างถูกวธิ ี ขอ้ จากัด และขอ้ มูลทีเ่ ก่ียวข้อง อืน่ ๆ เพือ่ ลดการใช้อปุ กรณใ์ นทางที่ผิด ระบบยบั ยง้ั การตกส่วนบคุ คล ประกอบดว้ ยอปุ กรณ์ ดงั นี้ 1. จดุ ยดึ เกี่ยว จุดยึดเกี่ยว คือจุดที่เอาไว้สาหรับยึดตัวกับฐานหรือโครงสร้างต่าง ๆ โดยตามมาตรฐาน ANSI หรือมาตรฐาน EN การใชง้ านควรอยู่ในตาแหน่งเหนือศีรษะในแนวเดียวกบั ผ้ปู ฏิบตั งิ าน ท้งั นี้ เพ่ือลดการเหว่ียง เปน็ การปอ้ งกนั อนั ตรายจากการกระแทกกบั โครงสร้าง จดุ ยึดเกยี่ วทุกตัวต้องได้รบั การทดสอบตามมาตรฐานที่ ยอมรับได้ หรือรับรองโดยผู้มีความรู้ความสามารถก่อนใช้งาน โดยจุดยึดเกี่ยวต้องสามารถติดตั้งอย่างชั่วคราว หรือถาวรในตาแหน่งที่สามารถคล้องเกี่ยวเชือกนิรภัยได้ก่อนท่ีผู้ปฏิบัติงานจะเคล่ือนที่ไปในตาแหน่งที่อาจ พลัดตกจากท่ีสงู ได้ หากเปน็ เชือกนริ ภัยชนดิ เส้นคู่ (Double Lanyard) จะตอ้ งมจี ดุ ยดึ เก่ยี วอย่างนอ้ ย 2 จดุ รูปที่ 5-12 จุดยดึ เกยี่ ว สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 24 2. สายช่วยชวี ิต/เชอื กนริ ภยั สายช่วยชีวติ /เชือกนิรภัย (Lifeline/Lanyard) เป็นสายยึดโยงกับจุดยึดเก่ียวอย่างนอ้ ยหนง่ึ ดา้ น เพอื่ เช่ือมโยงระหวา่ งจดุ ยดึ เก่ียวกบั ระบบปอ้ งกันการตกของผ้ใู ขง้ าน 2.1 สายชว่ ยชีวติ แนวดงิ่ (Vertical Lifeline) สายช่วยชีวิตแนวดิ่ง ใช้เป็นจุดยึดเก่ียวแบบช่ัวคราวหรือถาวรของระบบยับย้ังการตก มัก ติดตั้งไว้กับบันไดหรือหอปีนป่าย (Climbing Tower) เพ่ือป้องกันการตกจากที่สูง และยังใช้ได้กับเคร่ืองจักร ขนาดใหญ่ เช่น ปนั้ จ่นั หอสงู อาคารหรือโครงสรา้ ง เปน็ ต้น ขอ้ ควรพจิ ารณาเพอ่ื ความปลอดภยั มดี งั น้ี 1) อุปกรณ์ยึดเกาะสายหรือรางต้องมีกลไกยับยั้งการตก การใช้งานอุปกรณ์ยึดเกาะสาย จะใช้เกี่ยวคล้องกับจุดยดึ เก่ยี วดา้ นหน้าของสายรัดนิรภยั และเชอื กนิรภัยมคี วามยาวสูงสุดไม่เกิน 300 มลิ ลิเมตร 2) ตาแหน่งของจุดเช่ือมต่อบนบันไดกับผู้ปีนควรอยู่ใกล้ฐานของบันได เพ่ือให้ผู้ปีนเกี่ยว คล้องกบั จดุ ยดึ เกาะกอ่ นการปีนข้ึน และให้มีการเชอ่ื มต่อตลอดเวลาจนถึงจดุ ที่ปลดอุปกรณ์ออก 3) การตกอย่างอิสระถูกจากัดสูงสดุ ไม่เกนิ 600 มลิ ลิเมตร 4) สายสลิงหรือรางชว่ ยชีวิตท่เี ป็นระบบถาวรตอ้ งติดตง้ั ตามขอ้ แนะนาของผผู้ ลิต รปู ที่ 5-13 การใชร้ ะบบสลงิ หรือราวจดุ ยึดเก่ยี ว ผู้ปฏบิ ัตงิ านที่ปนี ป่ายมรี ะบบป้องกันการตกจากที่สูง ตลอดเวลาโดยติดสลงิ จุดยึดเกยี่ วกับสายรดั ตัว 2.2 สายชว่ ยชวี ติ แนวราบ (Horizontal Lifeline) สายชว่ ยชวี ติ แนวราบใช้เป็นจดุ ยึดเกย่ี วแบบชั่วคราวหรือถาวรของระบบยับย้ังการตก การ ติดต้ัง การถอด และการตรวจสอบกระทาโดยผู้มีความรู้ความสามารถหรือผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมและผ่านการ ทดสอบตามมาตรฐานของผู้ผลิต ในกรณีที่วัสดุอุปกรณ์ท่ีนามาใช้ไม่มีมาตรฐานสากลรับรองจะต้องได้รับการ รับรองจากวศิ วกร สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 25 2.3 เชือกนิรภยั (Lanyard) เชือกนิรภัยเป็นอุปกรณ์เช่ือมต่อระหว่างจุดยึดเก่ียวและสายรัดตัวนิรภัยของระบบยับย้ังการตก จากท่ีสูง ทาจากแถบเสน้ ใย (Webbing) เชอื ก (Rope) หรือเคเบิล (Cable) แบง่ ออกเป็นชนิดเสน้ เดยี่ วและเส้นคู่ โดยชนิด เส้นเด่ียวใช้สาหรับการทางานอยู่กับท่ี ผู้ปฏิบัติงานไม่ต้องเคล่ือนที่จากจุดหนื่งไปอีกจุดหนื่ง ขณะที่ชนิดเส้นคู่ใช้เม่ือมี การเคล่ือนที่ของผ้ปู ฏิบัติงาน ความยาวของเชือกนิรภยั โดยท่ัวไปอยรู่ ะหว่าง 1.8 – 2 เมตร และควรมีอุปกรณ์ดูดซับแรง ประกอบเป็นส่วนหน่งึ ของเชอื กนิรภยั ด้วย เชือกนิรภัยต้องมีลักษณะทางกายภาพ และมีประสิทธิภาพที่ผ่านการรับรอง ตามขอ้ กาหนดของมาตรฐานทย่ี อมรับได้ การใชง้ านเชอื กนริ ภยั แบ่งได้เป็น 3 ลกั ษณะ ข้นึ อยกู่ บั การใช้งาน ได้แก่ 1) เชือกนิรภยั ชนดิ เส้นคู่ (Double Lanyard) เชือกนิรภัยชนิดเส้นคู่ใช้เมื่อมีการเคลื่อนที่ของผู้ปฏิบัติงาน การใช้เชือกนิรภัยไม่ควรเกี่ยว ตะขอกับเชือกนิรภัยของตัวเอง ต้องไม่พันรอบร่างกายหรือบริเวณขา จุดเช่ือมต่อบริเวณหน้าอกของผู้ปีนไม่สูงกว่าจุด เชือ่ มต่อสูงสุดของบันได และไม่เหมาะสาหรับงานท่ีต้องปีนบ่อย ๆ เพราะอาจใชผ้ ดิ หรือเกดิ อาการบาดเจ็บของกล้ามเน้ือ รวมถงึ จดุ เช่ือมต่อของบันไดและโครงสร้างต้องสามารถรบั แรงกระแทกทีเ่ กดิ จากการตกกับเชือกนริ ภัยชนิดเส้นคไู่ ด้ ควร จัดให้มกี ารฝกึ อบรมที่เพียงพอเกีย่ วกับการใชง้ าน รูปที่ 5-14 ตวั อย่างเชือกนริ ภัยชนิดเสน้ คู่ (Double Lanyard) ซงึ่ มีตัวเช่อื มตอ่ ชนิดการกระทาสองครง้ั (Double Action Connector) 2) เชือกนริ ภยั ชนิดเส้นเด่ยี ว (Single Lanyard) เชอื กนริ ภยั ชนดิ เส้นเดีย่ วใช้สาหรับการทางานอยกู่ บั ท่ี ผูป้ ฏบิ ัติงานไม่ต้องเคลอ่ื นทจ่ี ากที่หนึ่ง ไปอกี ท่หี นงึ่ 3) เชอื กนิรภยั ชนดิ ดงึ กลับอตั โนมัติ (Self-Retractable Lanyard or Fall Arrest Block) เชือกนิรภัยชนิดดึงกลับอัตโนมัติ เป็นเชือกนิรภัยชนิดหน่ืง ท่ีเชือก หรือวัสดุอ่ืน ๆ ม้วนอยู่ ภายในกล่องเก็บ (Housing) เมื่อใช้งาน ความยาวเชือกจะถูกปรับให้เหมาะสมกับการเคลื่อนท่ีของผู้ปฏิบัติงานด้วยกลไก ภายใน และเมื่อเกิดการพลัดตก จะมีแรงกระชากถึงจุดท่ีกาหนดไว้ กลไกภายในจะล็อกเชือกไว้ทันที เป็นการช่วยลดระยะ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 26 ตกอิสระให้น้อยลง เชือกนิรภัยชนิดดึงกลับอัตโนมัติมักใช้ในพื้นที่การทางานท่ีมีความสูงจากพ้ืนดินน้อยกว่า ระยะตกอิสระเมอื่ ใชเ้ ชือกนริ ภัยสองชนดิ ข้างตน้ รูปท รูปท่ี 5-15 เชือกนิรภยั ชนิดดึงกลับอตั โนมตั ิ (Retractable Lanyard) 2.4 การจากัดระยะการตกอิสระและเชอื กนิรภัย ระบบยับยง้ั การตกซึ่งใชง้ านรว่ มกับเชือกนริ ภัย ควรตดิ ตัง้ เพือ่ ให้ระยะทีบ่ ุคคลจะตกอยา่ งอิสระ สูงสุดก่อนท่ีระบบยับยั้งการตกจะทางาน โดยควรมีระยะห่างระหว่างพ้ืนผิวการทางานและพื้นด้านล่างอย่าง เพียงพอ เพื่อให้ระบบดังกล่าวรวมท้ังตัวดูดซับแรงกระแทกสามารถทางานได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้การทางาน ทงั้ สองมรี ะยะหา่ งเพียงพอจงึ ควรคานงึ ถงึ ก) ความสูงของผปู้ ฏิบัตงิ าน ข) ความสงู และตาแหนง่ ของจุดยดึ เก่ยี ว ค) ความยาวของเชอื กนริ ภัย ง) การหย่อนตวั ของสายช่วยชวี ิตแนวนอน จ) การยืดตัวของเชือกนริ ภัยหรือสายชว่ ยชวี ติ แนวนอนเนอื่ งจากการตก ช) ความยาวของตัวดูดซบั แรงกระแทกเมือ่ ยืดออกเนื่องจากการตก 2.5 การคานวณระยะตก การตกจะต้องมีระยะระหว่างพื้นท่ีปฏิบัติงานกับพื้นด้านล่างอย่างเพียงพอ ดังน้ัน ในการ คานวณหาระยะการตกของลูกจ้างในกรณีใช้เชือกนิรภัยและอุปกรณ์ดูดซับแรง ตัวแปรที่ใช้ในการคานวณ ประกอบด้วย ความยาวของเชือกนิรภยั การยืดตัวสูงสุดของอุปกรณ์ดูดซบั แรง ความสูงของลูกจ้าง และระยะ ปลอดภัย ซ่ึงสามารถคานวณไดด้ ังต่อไปนี้ ระยะการตก = ความยาวของเชอื กนริ ภยั + การยดื ตวั สงู สุดของอุปกรณด์ ูดซับแรง + ความสงู ของลกู จ้าง + ระยะปลอดภยั สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 27 จากตัวอยา่ งในภาพท่ี 5-16 สามารถคานวณระยะการตกไดด้ งั น้ี ระยะการตก = 2.0 + 1.7 + 1.8 + 1.0 = 6.5 เมตร ความยาวเดมิ ของเชอื ก นิรภยั = 2.0 เมตร การยดื สงู สุดของตวั ดดู ซบั แรงกระแทก = 1.7 เมตร ความสงู ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน = 1.8 เมตร ระยะปลอดภยั = 1 เมตร (สาหรบั ยดื เคล่อื นไหวรา่ งกาย) รูปท่ี 21 ระยะการตกทัง้ หมดก่อนท่ีองคป์ ระกอบตา่ งๆนีจ้ ะมปี ระสิทธิภาพหยุดการตกคอื รูปท่ี 5-16 ตวั อย่างการคานวณระยะการตกกรณใี ช้เชอื กนิรภยั ยาว 2 เมตร 3. สายรัดนริ ภัยเตม็ ตัว (Full Body Harness) เป็นอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยในการทางานบนท่ีสูงของระบบยับย้ังการตกจากที่สูง โดย จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะการทางานและจะต้องมีจุดเช่อื มต่อ อย่างน้อย 1 จุดทางด้านหลงั ทาจาก วัสดุสังเคราะห์ เช่น โพลีเอไมด์ หรือโพลีเอสเตอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่อ่อนนุ่มแต่มีความเหนียว การทางานบนท่ีสูง เกือบทุกกรณีควรสวมใส่สายรัดเต็มตัว สายรัดต้องสวมใส่อย่างพอดี ผู้ปฏิบัติงานควรเกี่ยวเชือกนิรภัยหรือ อุปกรณเ์ ชอ่ื มต่ออื่นกบั หว่ งดา้ นหลังหรอื ห่วงท่ีหนา้ อกของสายรัดลาตวั ซึ่งจะให้การป้องกนั ทีด่ ที ่ีสุดเมอื่ เกิดการ ตกขึ้น สิ่งอ่ืนที่ควรพิจารณาไปพร้อมกันคือ ระยะตกท่ีอาจเกิดขึ้น โอกาสท่ีผู้ปฏิบัติงานจะกระแทกกับ โครงสร้างใกล้เคยี ง ตาแหน่งร่างกายหลังการตก และความจาเป็นในการทางานรว่ มกับอุปกรณ์อื่นเชน่ อุปกรณ์ ยึดเกาะเชอื ก โดยสายรัดลาตวั ท่ีเหมาะสมควรมสี ว่ นประกอบดังรปู ที่ 5-17 รูปที่ 5-17 ส่วนประกอบของสายรัดนิรภยั เต็มตวั (Full Body Harness) สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 28 5.3.3 การตรวจสอบระบบปอ้ งกันและยับยงั้ การตกจากท่สี งู 1. การตรวจสอบ การวางแผน และการควบคุมป้องกนั อนั ตรายจากการทางานบนทสี่ ูง ดงั นี้ - ตรวจสอบรายละเอียดของงานท่ีทาและทราบอันตรายทเี่ ก่ียวข้องกับกิจกรรมในการ ทางานบนทสี่ ูง - ตรวจสอบการกาหนดวธิ ีข้ันตอนวธิ กี ารทางานอยา่ งปลอดภยั - ตรวจสอบการจัดเตรียมและติดตั้งอุปกรณ์ก่อนทางานบนที่สูงอย่างเหมาะสมกับ ลักษณะของความสูงของงาน เช่น นั่งร้าน บันได รถกระเช้า หรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาสาหรับ ทางานเป็นพเิ ศษ - ตรวจสอบการจัดเตรียมและตรวจสอบอุปกรณ์การทางานบนท่ีสูงก่อนทางานให้ เหมาะสมกบั ชนิด และประเภทต่างๆของงาน - ตรวจสอบมาตรการในการสอ่ื สารและตดิ ตอ่ ในระหวา่ งที่ปฏบิ ัตงิ านบนทส่ี ูง - ตรวจสอบมาตรการตอบโตใ้ นกรณเี กดิ เหตุฉกุ เฉินและการชว่ ยเหลือชว่ ยเหลอื - ตรวจสอบการปิดกั้นพื้นที่ทางานและป้ายเตือน บริเวณที่มีการทางานบนที่สูงและ การปอ้ งกันวสั ดตุ กร่วง 2. การตรวจสอบสภาพแวดล้อมบริเวณพ้นื ท่ีปฏิบัติงาน ประกอบด้วยการตรวจสอบดังต่อไปนี้ - ตรวจสอบสภาพแวดล้อม เชน่ แสงสว่าง เป็นตน้ - ตรวจสอบจดุ คา้ ยนั ยดึ โยงและราวกันตก - ตรวจสอบส่งิ กีดขวางบริเวณพนื้ ที่ปฏบิ ตั ิงาน - ตรวจสอบบริเวณทางขนึ้ -ลง เข้า-ออก อยา่ งปลอดภัย - ตรวจสอบสภาพของคานรบั นา้ หนกั - ตรวจสอบสภาพแผน่ ป้องกันวัสดุตก - ตรวจสอบสภาพฐานรากของนงั่ ร้าน - ตรวจสอบการสญั จรของยานพาหนะหรือผปู้ ฏบิ ัติงานที่อย่ขู า้ งเคยี ง - ตรวจสอบระยะหา่ งจากอันตรายตา่ ง ๆ ให้อยู่ในสภาพท่ีปลอดภยั 3. การตรวจสอบนง่ั ร้านและอุปกรณ์ มมี าตรการดงั น้ี การจัดทา ปรับเปล่ียน และร้ือถอนน่ังร้านควรจัดทาโดยผู้ท่ีมีความรู้ความสามารถใน การตั้งนั่งร้านอย่างปลอดภัย และต้องได้รับการตรวจสอบจากวิศวกรกรณีที่มีการตั้งนั่งร้านสูง ตั้งแต่ 4 เมตรขึ้นไป สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 29 5.3.4 การบารุงรักษาระบบป้องกันและยับย้ังการตกจากที่สงู การบารุงรักษาระบบป้องกันและยับย้ังการตกจากที่สูง ควรตรวจสอบโดยผู้เช่ียวชาญที่มี ทักษะหรือความรู้ด้านการตรวจสอบสภาพความผิดปกติของอุปกรณ์และเครื่องมือสาหรับการป้องกันและ ยับย้ังการตกจากท่ีสูง หรือผู้ควบคุมงานก่อนและหลังการใช้งานเพ่ือลดความเสี่ยงของการตกจากที่สูงที่มี สาเหตุมาจากอุปกรณ์ชารุด หรือไม่พร้อมใช้งาน โดยคานึงถึงระยะเวลาการใช้งานของอุปกรณ์ ลักษณะวัสดุ ภายนอก รวมไปถึงวัสดุประกอบภายในให้อยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การ ตรวจสอบและบารุงรักษาควรดาเนินการทุกวันก่อนและหลังปฏิบัติงาน การตรวจสอบประจาเดือน และการตรวจสอบประจาปี โดยผู้เชย่ี วชาญหรือผูค้ วบคมุ งาน ผู้ตรวจสอบ และมกี ารบันทกึ การตรวจสอบและบารุงรักษาอุปกรณ์ป้องกันและยับย้ังการตกจากท่ีสูง จาเป็นต้องบันทึกเป็น ลายลักษณ์อักษร โดยเอกสารการตรวจสอบและบารุงรักษานี้ ต้องสามารถเข้าถึงได้ทั้งผู้ควบคุมงาน ผู้ปฏิบัติงาน ผู้อนุญาต และผู้ช่วยเหลือสาหรับอุปกรณ์ป้องกันและยับย้ังการตกจากท่ีสูงแต่ละชิ้นโดยมี รายละเอยี ด ดังน้ี 1. ช่ือผผู้ ลติ ช่อื ผตู้ ิดตั้ง และที่อยู่ 2. วนั ที่ผลิต 3. วนั ทซ่ี อ้ื 4. วนั ท่ีตดิ ตง้ั ครั้งแรก 5. วันท่แี ละรายละเอียดเก่ียวกับการตรวจและบารุงรักษา 6. รายละเอียดเกี่ยวกับข้อแนะนาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระหว่างสายรัดลาตัว (Body Harness) กับเชอื กนิรภัย (Lanyard) และสายช่วยชวี ติ (Lifeline) 7. ชนดิ ของจดุ ยึดเก่ียว 8. ความเหมาะสม และขอ้ จากัดของอุปกรณ์ ท้งั นี้ ในการตรวจสอบอย่างน้อยเป็นไปตามมาตรฐาน หรอื ข้อกาหนดของบรษิ ัทผู้ผลติ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 30 บทท่ี 6 การชว่ ยเหลอื ในกรณฉี กุ เฉิน การช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินมีความสาคัญและจาเป็นอย่างยิ่ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ อย่างทันท่วงที ทาให้สามารถลดการบาดเจ็บและอันตรายจากการตกจากที่สูงได้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ ประสบเหตุท่ียังติดอยู่บนท่ีสูง การช่วยเหลือจะมีลักษณะท่ีมีความจาเพาะแตกต่างจากการช่วยเหลือในกรณี อื่น ๆ ซึ่งแผนฉุกเฉนิ ท่ีวางไว้อาจไม่ครบถว้ นเม่ือเกิดเหตุการณ์ขึ้น นายจ้างจึงต้องมีการพจิ ารณา กรณีวางแผน ฉุกเฉิน ในประเด็นต่อไปนี้ เช่น การขาดความตระหนกั ของการระงับเหตเุ มื่อเกดิ กรณีฉกุ เฉิน การจดั การในการ เข้าถึงการสถานที่เกิดเหตุและเวลาที่ใช้ในการช่วยเหลือและการจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เพียงพอหรือ เหมาะสม เป็นตน้ ดังนัน้ องคป์ ระกอบของการช่วยเหลือในกรณฉี กุ เฉิน จึงควรประกอบดว้ ย 6.1 ผชู้ ว่ ยเหลอื ผู้ชว่ ยเหลือเป็นผู้ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีในการช่วยเหลือ จะต้องเป็นผมู้ ีความรู้ และไดร้ ับการฝึกฝนมาเปน็ อย่าง ดใี นการช่วยเหลอื บนทสี่ งู ซงึ่ ผู้ที่จะมาทาหนา้ ท่เี ปน็ ผ้ชู ว่ ยเหลือ ต้องมีคณุ สมบัติเฉพาะด้าน ดังนี้ 1) ตอ้ งมคี วามรู้และทักษะเกี่ยวกับการปฏบิ ัตงิ านด้านการชว่ ยเหลือบนทสี่ งู และสามารถ แกไ้ ขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ 2) ตอ้ งมีความเขา้ ใจถึงบทบาทและหน้าที่ในการชว่ ยเหลือ 3) ต้องมีใจรกั และมคี วามม่งุ มั่นทีจ่ ะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผ้อู ื่น 6.2 แผนช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉนิ การวางแผนสาหรับสถานการณ์ฉกุ เฉิน เป็นหน้าทขี่ องผูค้ วบคมุ งาน ดังนนั้ ผ้คู วบคุมจาเปน็ ต้องมี การกาหนด จัดให้มีระเบียบปฏิบัติ และส่ิงอานวยความสะดวก รวมถึงการปฐมพยาบาลสาหรับสถานการณ์ ฉุกเฉิน การจัดทาระเบียบปฏิบัติสาหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน จะต้องพิจารณาถึงชนิดของสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ และแผนการช่วยเหลือที่แตกต่างกัน และควรคานึงถึงข้อจากัดของเครือข่ายการสื่อสารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วย นอกจากน้ี ควรจะต้องมีการกาหนดแผนฉุกเฉิน พร้อมท้ังระบุเส้นทางและทางออกฉุกเฉิน โดยจะต้องมี การฝกึ ซอ้ มอพยพตามแผนเปน็ ประจาอยา่ งสม่าเสมอ หากพบปญั หาอปุ สรรคต้องมกี ารปรบั ปรุงแก้ไข ทีมผู้ชว่ ยเหลอื มีบทบาทและหน้าที่ในการปฏิบัติเก่ยี วกับการชว่ ยเหลือผู้ท่ีประสบเหตุในสภาวะท่ี ไม่สามารถชว่ ยเหลือตนเองไดใ้ นขณะนัน้ โดยมขี ั้นตอนในการเข้าทาการช่วยเหลือ ดังต่อไปน้ี สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 31 6.2.1 การเตรียมการ (Preparation) 1) เตรียมความพร้อมของทีมช่วยเหลือ ต้องปฏิบัติดังน้ี ประเมินความพร้อมของทีม ช่วยเหลือที่จะเข้าช่วยผู้ประสบเหตุ ทีมช่วยเหลือต้องประเมินความสามารถของทีมช่วยเหลือท่ีจะเข้าไป ช่วยเหลือ มีความพร้อมท่ีจะทาการช่วยเหลือมากน้อยเพียงใด มีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรที่จะเข้าไปช่วย ผู้ประสบภัย รู้สภาพอันตรายในพ้ืนท่ีปฏิบัติงาน มีอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยจากการตกจากที่สูงและ อุปกรณช์ ว่ ยเหลือที่จาเป็นอยา่ งเพยี งพอ และต้องรู้การใช้อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ 2) ส่วนการปฏิบัติการช่วยเหลือ รับผิดชอบในการอานวยการ และประสานการ ดาเนินการปฏิบัติทางยุทธวิธี ภายใต้การกากับดูแลของหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ และสามารถจัดระบบการ ดาเนินงานไดห้ ลายรูปแบบข้นึ อยู่กบั ชนดิ ของอุปกรณ์ หนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง และเปา้ หมาย ยทุ ธศาสตร์ 3) ส่วนสนับสนุน มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการจัดหาบริการและการสนับสนุนเคร่ืองมือ สิ่งอานวยความสะดวกต่าง ๆ ตามความต้องการของเหตุการณ์ภายใต้การกากับดูแลของหัวหน้าส่วน ส่งกาลัง บารงุ ทอ่ี าจมผี ชู้ ว่ ยตามความเหมาะสม ซึ่งอาจแบง่ ยอ่ ยตามหน้าท่ตี า่ ง ๆ การเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้นนั้นสามารถประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับ สถานการณท์ ี่แตกต่างกนั ไป ซ่งึ ตอ้ งพจิ ารณาในส่วนของทรัพยากรบคุ คล อุปกรณ์ และขนาดของอบุ ตั ิเหตุนัน้ ๆ ด้วย เป็นส่วนที่ต้องมีความพร้อมก่อนท่ีจะเกิดเหตุ รวมถึงการฝึกฝน การอบรม การทบทวนบทบาทหน้าท่ีของทีม ช่วยเหลอื อยตู่ ลอดเวลา 6.2.2 การประเมินสถานการณ์ (Assessment) การประเมินสถานการณ์น้ันต้องทาเป็นอันดับแรกในการช่วยเหลือ เพื่อให้การปฏิบัติ หน้าท่ีของทีมช่วยเหลือเป็นไปอย่างถูกต้อง ปลอดภัย มีความรวดเร็วและสามารถลดความสูญเสียอันอาจจะ เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที การประเมินสถานการณ์จะทาได้ดีหรือไม่นั้นข้ึนอยู่กับข้อมูล ความสามารถ ความรู้ และประสบการณ์ของผู้ประเมิน หากผู้ประเมินมีความรู้และประสบการณ์ ก็สามารถประเมินเหตุการณ์น้ันได้ อยา่ งถูกตอ้ ง เมอ่ื ไดข้ ้อมลู รายละเอียดเก่ียวกับเหตุการณ์หรือประเมนิ สถานการณเ์ สร็จส้นิ แล้ว จะตอ้ งมี การจดั ตั้งศูนยบ์ ญั ชาการช่วยเหลือควบคู่กนั ไป ตามขน้ั ตอนที่กลา่ วแล้วขา้ งต้น เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ การช่วยเหลือ เป็นไปตามข้ันตอน ซึ่งต้องมีการประสานงานการช่วยเหลือต่าง ๆ จากบุคคลหลายหน่วยงาน การประเมิน สถานการณจ์ ะตอ้ งมีการปฏิบัติ ดงั น้ี สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 32 1) การประเมินการสถานการณ์เบื้องต้น เม่ือได้รับแจ้งเหตุ ทีมช่วยเหลือ ต้องประเมิน เบื้องต้นก่อนถึงพ้ืนท่ีเกิดเหตุ โดยอาจใช้ข้อมูลเบื้องต้นจากการสอบถาม เช่น มีผู้ประสบภัยท่ีติดอยู่ก่ีคน ผู้ประสบภยั ได้รับอนั ตรายลักษณะใด พนื้ ท่ีประสบภัยเปน็ อยา่ งไร เปน็ ตน้ 2) การประเมินทรัพยากรท่ีจะนามาทาการช่วยเหลือ ต้องมีการจัดเตรียม หรือจัดต้ัง อปุ กรณใ์ นการทางานต่าง ๆ ซึ่งหมายถึงการรวบรวม และวิเคราะห์ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ ก่อนเขา้ ทาการช่วยเหลอื 6.2.3 การเตรยี มการก่อนการเข้าปฏิบตั งิ าน (Pre-entry Operation) หัวหน้าทีมช่วยเหลือ (Rescue Group Supervisor) จัดเตรียมบุคคลากร และอุปกรณ์ให้ เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ คัดเลือกทีมงานให้เหมาะสมกับประเภทของงาน โดยพิจารณาจากขนาด ของพ้ืนที่และความยากงา่ ยของงานช่วยเหลือ 6.2.4 การปฏบิ ัตงิ านและการชว่ ยเหลอื (Entry and Rescue Operations) ขั้นตอนการปฏิบัติงานน้ีรวมถึงการผลัดเปล่ียนทีมท่ีจะมาทางาน เช่น การตรวจสอบ สภาพภายในท่ัวไป การเคล่ือนย้ายตาแหน่งและการค้นหาวัตถุ รวมถึงวิธีการพาทีมงานออกมายังปลอดภัย ก่อนการเข้าทางานทุกคร้ังต้องมีการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์และทาความเข้าใจรูปแบบการ ปฏิบัติงานท้งั หมด ทงั้ น้ี เพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภัยกบั ผู้ชว่ ยเหลือและผูป้ ระสบเหตุ 6.2.5 สิ้นสุดการปฏิบัติการช่วยเหลือ (Termination) เมื่อทีมงานและผู้ประสบเหตุออกจากพ้ืนที่แล้ว ให้บันทึกเวลาและนับจานวนคนให้ ครบถว้ น ทาการบนั ทึกลงในแบบฟอร์มการเข้าช่วยเหลือ ส่วนทีมช่วยเหลอื ที่เข้าไปภายในพ้ืนท่ีท้ังหมดจะต้อง รายงานส่งิ ท่ีพบเห็น เช่น จดุ ท่พี บผปู้ ระสบเหตุ สภาพของผู้ประสบเหตุที่ถูกพบคร้ังแรก เป็นต้น ซึ่งอาจใช้เป็น ประโยชน์ในการช่วยเหลือและสอบสวนหาสาเหตุต่อไป ทีมช่วยเหลือต้องมีการรายงานปัญหาอุปสรรค ขอ้ เสนอแนะ 6.3 การสื่อสารแผนฉุกเฉิน สถานประกอบกิจการต้องจัดทาข้ันตอนการดาเนินงานในการสื่อสารในกรณีฉกุ เฉิน และตอบโต้ ภาวะฉุกเฉินทั้งภายในและภายนอกสถานประกอบกิจการ รวมถึงบุคคลากรที่เก่ียวข้อง เช่น ผู้รับเหมา ผู้เข้า เยี่ยมชม ผู้ช่วยเหลือจากภายนอก เป็นต้น สถานประกอบกิจการต้องจัดทาแผนการสื่อสารและเก็บบันทึกที่ เก่ียวกับการส่ือสารในกรณฉี ุกเฉิน สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 33 6.4 การปฐมพยาบาล การปฐมพยาบาล หมายถงึ การให้ความชว่ ยเหลือแก่ผบู้ าดเจ็บหรือผปู้ ่วย ณ สถานท่ีเกดิ เหตุโดย ใช้อุปกรณ์เท่าท่ีหาได้ในขณะน้ันก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะได้รับการดูแลรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์หรือส่ง ต่อไปยังโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยชีวิตหรือลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือ เจบ็ ปว่ ย บรรเทาอาการเจ็บปวดทรมาน รวมทั้งปอ้ งกนั ความพกิ ารทีอ่ าจเกดิ ขนึ้ ในภายหลงั การปฐมพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการทางานบนท่ีสูง ควรเร่ิมจากการประเมินเบ้ืองต้นซ่ึง เปน็ การรวบรวมข้อมลู เพือ่ เปน็ แนวทางในการวางแผนให้การชว่ ยเหลือเบ้ืองตน้ โดยมี 2 ประเภท คอื 1. การประเมินสถานการณ์ เปน็ การรวบรวมข้อมลู ข่าวสารเก่ยี วกบั สถานการณ์ สภาพแวดล้อม ภาวะอันตราย ความรุนแรง และความปลอดภัยต่าง ๆ เพ่ือเป็นแนวทางในการพิจารณาวางแผนให้การ ชว่ ยเหลืออยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม 2. การประเมินสภาพผู้ป่วยเป็น การรวบรวมข้อมูลความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยเพื่อเป็น แนวทางในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ว่ ยตามความรนุ แรงและลาดับกอ่ นหลัง สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 34 ภาคผนวก 1 กฎหมายทีเ่ กยี่ วข้องกับการทางานบนทีส่ ูง 1. กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางานเกยี่ วกบั งานก่อสร้าง พ.ศ. 2551 โดยมีสาระสาคญั ดงั ต่อไปน้ี หมวด 1 บททั่วไป 1. กาหนดให้นายจ้างจัดทาแผนงานด้านความปลอดภัยในการทางานสาหรับงานก่อสร้าง ดังตอ่ ไปน้ี (1) งานอาคารซึ่งมีพื้นที่รวมกันในหลงั เดียวกนั เกิน 2,000 ตารางเมตร หรอื อาคารที่มีความสูง ตงั้ แต่ 15 เมตรขึ้นไป และมพี น้ื ที่รวมกันในหลังเดียวกันเกนิ 1,000 ตารางเมตร 2. ให้นายจ้างจัดให้มีผู้ควบคุมงาน ทาหน้าที่ตรวจความปลอดภัยในการทางานก่อนการทางาน และขณะทางานทุกข้นั ตอนเพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั 3. ใหน้ ายจา้ งจดั ใหม้ ีการฝึกอบรมลกู จ้างเกีย่ วกบั การทางานเป็นระยะๆ เช่น การใชเ้ คร่ืองจักร รหสั สญั ญาณตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง หมวด 2 เขตก่อสรา้ ง 1. ใหน้ ายจ้างกาหนดบรเิ วณเขตก่อสร้าง โดยทาร้วั ท่ีมน่ั คงแข็งแรง สูงไมน่ ้อยกว่า 2 เมตร ไว้ตลอด แนวเขตก่อสร้าง และจดั ทาป้าย “เขตก่อสรา้ ง” แสดงใหเ้ ห็นไดช้ ัดเจน หมวด 4 งานเจาะและงานขุด 1. การเจาะหรือขุดรู หลุม บ่อ คู และงานอ่ืนในลักษณะเดียวกัน ให้นายจ้างจัดให้มีราวก้ันหรือ รั้วกันตก แสงสว่าง และป้ายเตือนอันตราย ตามลักษณะของงานก่อสร้างเพ่ือให้เกิดความปลอดภัยไว้ ตลอดเวลาทางาน และในเวลากลางคนื ต้องจัดให้มีสัญญาณไฟสีส้มหรือปา้ ยสีสะท้อนแสงเตือนอันตรายให้เห็น ได้ชัดเจน 2. และงานอื่นในลักษณะการเจาะหรือขุดรู หลุม บ่อ คูเดียวกันที่อาจเกิดอันตรายจากการพลัด ตก ให้นายจา้ งจดั ให้มีแผ่นโลหะหรือวัสดุอืน่ ที่มีความแขง็ แรงเพียงพอปดิ คลุมบนบริเวณดังกล่าวและทาร้ัวล้อม กน้ั ด้วยไม้หรอื โลหะ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 35 3. ในกรณีท่ีนายจ้างให้ลูกจ้างลงไปทางานในรูเจาะ รูขุด หลุม บ่อ คู หรือพ้ืนท่ีอื่นท่ีมีลักษณะ เดยี วกนั ซง่ึ มีความลกึ ตง้ั แต่ 2 เมตรขน้ึ ไป นายจ้างตอ้ งจดั ให้มี (1) ทางขึ้นลงท่ีสะดวกและปลอดภัย (2) เครื่องสูบน้าทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ (3) ระบบการถ่ายเทอากาศและแสงสว่างท่ีเพียงพอและเหมาะสม (4) ผู้ควบคุมงานที่มีประสบการณ์ด้านงานดิน และผ่านการอบรมการช่วยเหลือและการปฐม พยาบาลเบื้องต้น ประจาบริเวณปากรูเจาะ รูขุด หลุม บ่อ คู หรือพ้ืนท่ีอื่นท่ีมีลักษณะเดียวกัน เพ่ือคอยให้ ความชว่ ยเหลอื ตลอดเวลาทางาน (5) อุปกรณ์เพื่อการสื่อสารหรือรับส่งสัญญาณซ่ึงเป็นท่ีเข้าใจระหว่างลูกจ้างท่ีต้องลงไป ทางานในรเู จาะ รูขุด หลุม บอ่ คู หรอื พนื้ ท่อี ่นื ที่มีลักษณะเดยี วกันกบั ผชู้ ว่ ยเหลอื ตาม (๔) กรณฉี กุ เฉนิ (6) สายหรือเชือกช่วยชีวิต และเข็มขัดนิรภัยพร้อมอุปกรณ์ที่สามารถเกาะเก่ียวได้ เพ่ือ ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉนิ 4. ในกรณีที่ใช้ป้ันจั่นหรือเคร่ืองจักรหนักปฏิบัติงาน หรือมีกองวัสดุหรืออุปกรณ์หนักอยู่บริเวณ ใกล้ปากรูเจาะ รูขุด หลุม บ่อ คูหรือพ้ืนท่ีอื่นท่ีมีลักษณะเดียวกัน นายจ้างต้องจัดให้มีการป้องกันดินพังทลาย โดยติดตง้ั เสาเข็มพืด (Sheet pile) หรอื โดยวธิ อี ่นื 5. ห้ามนายจ้างใหล้ กู จา้ งลงไปทางานในรูเจาะหรือรูขดุ ทท่ี งิ้ ไว้เกิน 12 ชั่วโมงนับจากเรม่ิ การเจาะ หรอื ขุด หรือเกนิ 3 ชวั่ โมงหลังจากท่ีเจาะหรือขดุ เสร็จ เว้นแตจ่ ะมรี ะบบหรืออปุ กรณ์ป้องกันอันตรายทีเ่ กิดจาก ดินพังทลาย 6. ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างลงไปทางานในรูเจาะ รูขุด หลุม บ่อ คูหรือพื้นที่อื่นท่ีมีลักษณะเดียวกัน ทีม่ ีขนาดกวา้ งนอ้ ยกว่า 75 เซนติเมตร และมคี วามลกึ ตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป หมวด 5 งานกอ่ สรา้ งท่ีมเี สาเข็มและกาแพงพืด 1. กอ่ นการใช้งานตอ้ งมวี ิศวกรตรวจสอบ บันทึกผล และรับรองผลการตรวจสอบ 2. ผูบ้ ังคบั เครอ่ื งตอกเสาเขม็ ตอ้ งผ่านการฝึกอบรมตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขทอ่ี ธิบดีกาหนด 3. ตอ้ งมคี ู่มือการใช้เคร่อื งตอกเสาเขม็ และคู่มือการใชส้ ญั ญาณ 4. จดั ใหม้ ีปา้ ยพกิ ดั น้าหนกั ยกและปา้ ยแนะนาการใช้เครื่องตอกเสาเข็ม 5. นายจา้ งต้องมีการควบคุมการตอกเสาเขม็ ให้ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย 6. การก่อสร้างกาแพงพืด นายจ้างต้องจัดให้มวี ิศวกร ซ่ึงมีความรคู้ วามชานาญและมีประสบการณ์ ควบคมุ การทางานใหเ้ กิดความปลอดภัยตอ่ ลูกจา้ งตลอดเวลา สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 36 หมวด 6 ค้ายัน 1. การใช้คา้ ยัน ให้นายจ้างจดั ให้มกี ารคานวณ ออกแบบ และควบคมุ การใช้โดยมีวิศวกรรับรอง 2. ในกรณีท่ีมีการเทคอนกรีตเหนือค้ายัน ให้นายจ้างควบคุมการเทคอนกรีตให้เป็นไปตาม มาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์ หมวด 7 เครือ่ งจักรและป้นั จ่ัน 1. ตอ้ งจัดใหว้ ิศวกรควบคุมตลอดเวลาขณะตดิ ตง้ั หรือทดสอบการใชง้ านของเครือ่ งจกั รและอุปกรณ์ 2. ลกู จา้ งทที่ างานเกี่ยวกับเคร่อื งจกั ร ต้องมีความชานาญ และผ่านการอบรม 3. จดั ให้มกี ารตรวจรบั รองสภาพของเครอื่ งจกั รและอุปกรณป์ ระจาปีตามชนิดและประเภท 4. เม่ือต้องการใช้เครื่องจักรที่มีการเคล่ือนที่ ต้องติดต้ังอุปกรณ์เตือน เช่น สัญญาณเสียงและแสง และตดิ ป้ายเตอื น 5. ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้บงั คับป้ันจ่ัน ผู้ให้สัญญาณแก่ผบู้ ังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการ ใช้ปั้นจั่น ผ่านการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าท่ี และต้องจัดให้มีการอบรมหรือทบทวนการทางานเก่ียวกับ ป้นั จน่ั 6. ในการประกอบ การทดสอบ การใช้ และการซ่อมบารุง ให้นายจ้างปฏิบัติตามรายละเอียด คณุ ลกั ษณะของป้ันจน่ั และคู่มอื การใช้งานท่ีผูผ้ ลติ ป้ันจัน่ กาหนดไว้ หมวด 8 ลฟิ ต์ขนส่งวัสดชุ ั่วคราวและลิฟตโ์ ดยสารชวั่ คราว 1. จัดให้มีการตรวจสอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ของลิฟต์ทุกเดือน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ อธบิ ดปี ระกาศกาหนด โดยวิศวกรเปน็ ผูค้ วบคุม 2. ให้มีการควบคุมดูแลมิให้บุคคลใดโดยสารลิฟต์ขนส่งวัสดุช่ัวคราว และให้ติดป้ายห้ามโดยสารให้เห็นได้ ชัดเจน 3. ให้มีลูกจ้างซึ่งอายุไม่ต่ากว่า 18 ปี และได้รับการฝึกอบรมการใช้ลิฟต์มาแล้วทาหน้าที่บังคับลิฟต์ ประจาตลอดเวลาท่ใี ช้ลฟิ ต์ หมวด 9 เชือก ลวดสลิง และรอก 1. ควบคุมดูแลให้มีการใช้เชือกหรือลวดสลิงท่ีมีขนาดเหมาะสมกับร่องรอก และเชือกหรือ ลวดสลงิ ดังกลา่ วต้องไมผ่ ุเปื่อยหรือชารุดจนทาให้ขาดความแข็งแรงทนทาน 2. การใชเ้ ชอื ก ลวดสลิง และรอก ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่อี ธบิ ดีประกาศกาหนด สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 37 หมวด 10 ทางเดนิ ช่ัวคราวยกระดบั สูง 1. ทางเดินช่ัวคราวยกระดับสูงตั้งแต่ 150 เซนติเมตรข้ึนไป ต้องจัดสร้างทางเดินนั้นด้วยวัสดุทมี่ ี ความแข็งแรง สามารถรับน้าหนักบรรทุกจรได้ตามสภาพการใช้งานจริง แต่ไม่น้อยกว่า 250 กิโลกรัมต่อตาราง เมตร มคี วามกว้างไมน่ ้อยกว่า 45 เซนตเิ มตร และต้องมรี าวกน้ั หรอื รั้วกันตก 2. ทางเดินช่ัวคราวที่มีลักษณะเป็นทางลาดชัน ให้จัดให้มีวัสดุป้องกันการล่นื และต้องดูแลให้เกดิ ความปลอดภยั หมวด 11 การทางานในสถานท่ที ่ีมีอันตรายจากการตกจากท่ีสูง การพังทลาย และการกระเด็นหรอื ตกหล่นของวัสดุ 1. ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทางานในที่สูงจากพื้นดินหรือพื้นอาคารตั้งแต่ ๒ เมตรข้ึนไป ให้ นายจ้างจัดให้มีนง่ั ร้าน บันได ขาหยั่ง หรอื ม้ายนื ทีป่ ลอดภัยตามสภาพของงานสาหรบั ลกู จ้างในการทางานนน้ั 2. ในกรณีท่ีนายจ้างให้ลูกจ้างทางานบนท่ีลาดชันที่ทามุมเกินสามสิบองศาจากแนวราบและสูง ตั้งแต่ ๒ เมตร ขึ้นไป นายจ้างต้องจัดให้มีนั่งร้านท่ีเหมาะสมกับสภาพของงานสายหรือเชือกช่วยชีวิต และ เข็มขัดนิรภัยพร้อมอุปกรณ์ หรือเครื่องป้องกันอ่ืนใดท่ีมีลักษณะเดียวกันให้ลูกจ้างใช้ในการทางานเพื่อให้เกิด ความปลอดภัย 3. ในกรณีท่ีนายจ้างให้ลูกจ้างทางานในสถานที่ที่ลูกจ้างอาจได้รับอันตรายจากการพลัดตกหรือ ถกู วสั ดุพงั ทับ เช่น การทางานบนหรอื ในเสา ตอม่อ เสาไฟฟ้า ปล่อง หรอื คานทม่ี คี วามสูงต้ังแต่ ๔ เมตร ขึน้ ไป หรือทางานบนหรือในถัง บ่อ กรวยสาหรับเทวัสดุ หรือส่ิงอ่ืนใดท่ีมีลักษณะเดียวกัน นายจ้างต้องจัดทาราวก้ัน หรือร้ัวกันตก ตาข่าย ส่ิงปิดก้ัน หรืออุปกรณ์ป้องกันอ่ืนใดที่มีลักษณะเดียวกัน เพ่ือป้องกันการพลัดตกของ ลกู จ้างหรอื สงิ่ ของ และจดั ให้มีการใช้สายหรือเชือกช่วยชวี ิตและเข็มขัดนิรภยั พร้อมอุปกรณ์ หรือเครือ่ งป้องกัน อน่ื ใดทม่ี ีลักษณะเดยี วกัน ให้ลูกจา้ งใชใ้ นการทางานเพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภยั 4. งานก่อสร้างที่มีปล่องหรือช่องเปิดซึ่งอาจทาให้ลูกจ้างหรือสิ่งของพลัดตก นายจ้างต้องจัดทา ฝาปิดที่แข็งแรง ราวก้ันหรือร้ัวกันตกที่มีความสูงไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร และแผงทึบหรือขอบกันของตกมี ความสงู ไมน่ ้อยกวา่ ๗ เซนตเิ มตร พรอ้ มท้ังตดิ ปา้ ยเตอื นอนั ตราย 5. ในกรณีท่ีนายจ้างให้ลูกจ้างทางานในชั้นของอาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่เปิดโล่งและอาจพลัดตก ลงมาได้ นายจ้างต้องจัดทาราวก้ันหรือร้ัวกันตกตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถัมภ์ หรืออปุ กรณป์ ้องกนั อ่ืนใดทมี่ ลี กั ษณะเดยี วกัน 6. การใชน้ ั่งรา้ น นายจ้างตอ้ งกากับดแู ลมใิ ห้ลกู จ้าง (1) ทางานบนน่ังรา้ นเมือ่ พน้ื น่งั ร้านลื่น (2) ทางานบนน่ังร้านทมี่ สี ่วนใดชารุดอันอาจเป็นอันตราย สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 38 (3) ทางานบนนั่งร้านแขวนหรือนั่งร้านแบบกระเช้าขณะฝนตกหรือลมแรงอันอาจเป็น อันตราย และในกรณีที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวให้รบี นานั่งร้านดังกล่าวลงสพู่ ้ืนดินในกรณีที่มีการทางานบนน่ังร้าน หลายชน้ั พร้อมกัน ให้นายจา้ งจัดใหม้ สี ิ่งปอ้ งกันมใิ หเ้ กิดอันตรายต่อผู้ที่ทางานอยู่ชั้นล่าง 7. ใหน้ ายจ้างสร้าง ประกอบ ตดิ ต้งั และตรวจสอบนั่งร้าน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ อธิบดีประกาศกาหนด 8. ในกรณที ีล่ กู จา้ งต้องใชบ้ นั ไดไตใ่ นงานก่อสรา้ ง นายจ้างต้องจัดหาบันไดทีม่ ีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทานและมีความปลอดภัยในการใช้งานตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระ บรมราชปู ถัมภ์ 9. ในกรณีที่ลูกจ้างต้องใช้ขาหยั่งหรือม้ายืนในการทางาน นายจ้างต้องจัดให้มีการดูแลขาหย่ัง หรือมา้ ยนื นั้นใหม้ ีโครงสรา้ งท่ีแข็งแรงปลอดภยั และมีพ้ืนทส่ี าหรับยนื ทางานอย่างเพยี งพอ 10. ให้นายจ้างป้องกันการกระเด็นหรือตกหล่นของวัสดุโดยใช้ผ้าใบ ตาข่าย หรือวัสดุอ่ืนใดที่มี ลกั ษณะเดียวกันปิดกนั้ หรือรองรับในกรณีที่มีการลาเลยี งวสั ดุข้ึนหรือลงจากท่สี งู หรอื จากท่ีหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ให้นายจ้างจัดทาราง ปล่อง หรือใช้เครื่องมือและวิธีการลาเลียงท่ีเหมาะสมและปลอดภัยในกรณีที่ต้องใช้ สายพาน เชือก หรือลวดสลิงในการลาเลียงวัสดุ ให้นายจ้างจัดทาโครงสร้างและที่สาหรับเกาะเกี่ยวให้มั่นคง แขง็ แรงและปลอดภัย หมวด 12 งานอโุ มงค์ 1. จัดให้มีการอบรมวิธีทางานในอุโมงค์และวิธีป้องกันอันตรายแก่ลูกจ้างก่อนเข้าทางานในอุโมงค์ และต้องอบรมทบทวนหรือเพม่ิ เตมิ เป็นประจาไม่นอ้ ยกว่าเดอื นละ 1 ครงั้ 2. ในการขุดเจาะอุโมงค์ ให้นายจ้างจัดให้มีวิศวกรซ่ึงมีประสบการณ์ด้านอุโมงค์และด้านปฐพีวิศวกรรม เปน็ ผู้ออกแบบและกาหนดวธิ ปี ฏิบตั งิ าน และตอ้ งมีวิศวกรซ่ึงมปี ระสบการณด์ า้ นงานขดุ เจาะอุโมงคเ์ ป็นผคู้ วบคมุ งาน ตลอดเวลา หมวด 13 งานกอ่ สรา้ งในน้า 1. ก่อนใหล้ กู จา้ งทางานกอ่ สร้างในนา้ ใหน้ ายจา้ งดาเนินการดังต่อไปน้ี (1) จดั ทาแผนการปฏบิ ัติงานและป้องกันอนั ตรายท่ีอาจเกิดขึน้ จากการทางาน และตดิ ประกาศ หรอื แจง้ ใหล้ กู จา้ งทราบเปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร (2) จัดทาแผนฉุกเฉินกรณีเกิดภัยจากธรรมชาติ และจัดให้มีการอบรมและฝึกซ้อมตามแผน ฉุกเฉินน้นั (3) จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตตามข้อกาหนดของกรมการขนส่งทางน้าและพาณิชยนาวีหรือ หน่วยงานอืน่ ๆ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 39 (4) จัดใหม้ กี ารตรวจสอบการขึ้นลงของระดับน้าอย่างสม่าเสมอ เวน้ แตส่ ภาพของพน้ื ที่ไม่มีการ ขน้ึ ลงของระดบั นา้ 2. การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในงานก่อสร้างในน้า ต้องจัดหาและดูแลให้อุปกรณ์ไฟฟ้านั้นเป็นชนิดที่ สามารถป้องกันน้า ความช้ืน หรือไอระเหยของสารท่ีมีความไวไฟ ซ่ึงอาจทาให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร การลุกไหม้ หรอื การระเบิดได้ 3. ในการทางานบนแคร่ลอยหรอื นงั่ ร้านเหนอื พ้นื นา้ ใหน้ ายจา้ งจัดให้มี (1) การยึดโยงหรือติดตรึงโครงสร้างรองรับและโครงเคร่ืองจักร รวมทั้งอุปกรณ์ท่ีติดต้ังบนแคร่ ลอยหรือน่ังร้านใหม้ น่ั คงปลอดภยั (2) จัดสะพานทางเดินและบันไดเชื่อมต่อระหว่างแคร่ลอยกับฝั่งหรือแคร่ลอยท่ีอยู่ใกล้เคียงให้ มนั่ คงปลอดภยั ตามความจาเป็น (3) การดูแลให้เกิดความปลอดภัยและรักษาความสะอาดพื้นแคร่ลอยหรือน่ังร้านตลอดเวลา การทางาน (4) การสวมใส่ชูชีพตลอดเวลาทางาน และถ้ามีการทางานในเวลากลางคืน ชูชีพต้องติดพราย น้าหรอื วัสดุเรืองแสงด้วย หมวด 14 การร้ือถอนทาลาย 1. การร้ือถอนทาลายสิ่งก่อสร้างท่ีต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ให้นายจ้าง จัดให้มีวิศวกรกาหนดขั้นตอน วิธีการ และควบคุมดูแลการทางานของลูกจ้างให้มีความปลอดภัย และจัดการ อบรมหรอื ช้แี จงลกู จ้างเกีย่ วกบั ขน้ั ตอนและวธิ ีการร้ือถอนทาลายสิ่งกอ่ สร้างก่อนทจ่ี ะเริ่มปฏบิ ตั งิ าน 2. การรอ้ื ถอนทาลายสง่ิ กอ่ สรา้ ง ใหน้ ายจา้ งดาเนนิ การเพ่อื ความปลอดภยั ดังต่อไปนี้ (1) ตดั ไฟฟ้า กา๊ ซ ประปา ไอนา้ หรือพลงั งานอย่างอ่ืนทีใ่ ช้อยูใ่ นสิ่งก่อสร้างที่จะรอื้ ถอนทาลาย (2) ขจัดหรือเคลื่อนย้ายสารเคมี ถังก๊าซ วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายอื่นๆ ท่ี คล้ายคลงึ กันให้ออกจากบรเิ วณท่ีทาการรื้อถอนทาลายส่งิ ก่อสรา้ งให้ถูกวิธีและปลอดภยั (3) เอาของแหลมคม กระจก หรือวัสดุอื่นท่ีหลุดร่วงหรือแตกได้ง่ายออกให้หมด ก่อนการรื้อ ถอนทาลาย (4) จัดให้มีแผงรับวัสดุท่ีอาจร่วงหล่นจากการรื้อถอนทาลายส่ิงก่อสร้างนั้น และแผงรับวัสดุ ดงั กล่าวตอ้ งมีความมั่นคงแขง็ แรง และขนาดใหญ่เพียงพอท่ีจะสามารถรองรับวัสดุทร่ี ว่ งหลน่ ได้อย่างปลอดภยั (5) จัดให้มีการฉีดนา้ หรือใชว้ ธิ อี ่นื ท่เี หมาะสมเพอ่ื ป้องกันหรอื ขจัดฝุ่นตลอดเวลาการทางาน สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 40 หมวด 15 การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบคุ คล นายจา้ งตอ้ งจดั และควบคุมดูแลให้มีการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตลอดเวลา ท่ีทางานให้เหมาะสมกับสภาพงานตามที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ต้องเหมาะสมกับลักษณะ งานและเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรมหรือมาตรฐานอ่ืนที่อธิบดีประกาศกาหนด และต้องมีการ ตรวจสอบและอบรมการใช้อุปกรณ์กอ่ นการใชง้ าน 2. ประกาศกรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงาน เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์และวิธกี าร การใชเ้ ชือก ลวดสลิง และรอก พ.ศ.2553 โดยมสี าระสาคญั ดงั ตอ่ ไปน้ี หมวด 1 หมวดทว่ั ไป 1. ให้นายจ้างใช้เชอื ก ลวดสลิง และรอกเป็นไปตามคุณลักษณะและข้อกาหนดของการใชง้ านท่ี ผู้ผลติ หรือวิศวกรกาหนด 2. ให้นายจ้างตรวจสอบเชือก ลวดสลิง รอก และอุปกรณ์ประกอบเบื้องต้นให้อยู่ในสภาพ ปลอดภยั พร้อมใช้งาน และตรวจตามรายการตามระยะเวลาทผ่ี ู้ผลิตหรอื วิศวกรกาหนด 3. การใช้งานเชือก หรือลวดสลิงในการยก ดึง ลาก ส่ิงของ นายจ้างต้องจัดให้มีการถักหรือทา เป็นบ่วงที่ปลายเชือกหรือลวดสลิงโดยการผูก มัด หรือยึดโยง ให้มั่นคงแข็งแรงและทดลองยก ดึง ลาก เพ่ือ ตรวจสอบสภาพสมดลุ ยก์ ่อนการปฏบิ ัติงานจริง 4. ใหนายจ้างจัดให้มีมาตรการด้านความปลอดภัยในรัศมีการทางานที่อาจได้รับอันตราย และ จดั ให้มีป้ายเตือนอนั ตรายดงั กล่าว ติดไวใ้ หเ้ ห็นชัดเจน ณ บริเวณนน้ั 5. ให้นายจ้างจัดให้มีการเก็บและบารุงรักษาเชือก ลวดสลิง รอก ตามข้อกาหนด ชนิด ประเภท วตั ถปุ ระสงค์ รายละเอียด และระยะเวลาทผ่ี ผู้ ลติ หรอื วิศวกรกาหนด หมวด 2 เชือก 1. ให้นายจา้ งใชเ้ ชือกทม่ี คี ่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า 5 ขณะใชง้ าน และต้องควบคุมตรวจสอบ มิให้นาเชอื กผุเป่ือย ยุ่ย ชารุด สกปรก หรอื พอง อนั อาจกอ่ ใหเ้ กิดความไมป่ ลอดภัยมาใช้งาน สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 41 หมวด 3 ลวดสลิง 1. ลวดสลงิ ที่นายจา้ งนามาใชส้ าหรบั การผูก มัด หรอื ยดึ โยงวัสดุ ส่ิงอื่นใดต้องมีค่าความ ปลอดภัยไมน่ ้อยกว่า 5 2. กรณใี ชล้ วดสลงิ สาหรับเปน็ ลวดสลงิ วงิ่ ตอ้ งมคี ่าความปลอดภัยไมน่ อ้ ยกวา่ 6 3. กรณนี ายจา้ งใช้ลวดสลิงสาหรบั การผกู มัด หรือยึดโยงวสั ดุ และมีการใชค้ ลปิ ตัวยูเปน็ ตวั ยึด ต้องจัดให้มคี ลปิ อย่างน้อยสามอนั 4. ใหน้ ายจ้างจัดใหม้ ีการควบคุมดแู ลให้มลี วดสลงิ เหลืออยูใ่ นม้วนลวดสลิงไมน่ ้อยกวา่ สองรอบ ในขณะทางาน หมวด 4 รอก 1. หา้ มมใิ หน้ ารอก มาใชง้ านผดิ ประเภท 2. นายจา้ งตอ้ งใชร้ อกทผี่ ลิตดว้ ยวัสดทุ ีแ่ ขง็ แรงทนทาน ไมแ่ ตกบิน่ สกึ หรอ หรือชารดุ 3. จัดใหม้ อี ุปกรณป์ ้องกัน เช่น ครอบรอก รอกช่วย เพ่ือมใิ หเ้ ชือก ลวดสลิง หลุดจากรอ่ งรอก 4. กาหนดมาตรการสาหรับผมู้ หี นา้ ทเี่ กี่ยวข้องในเขตทมี่ ีการใช้รอกเหนือระดับพนื้ ทางเดนิ และ ห้ามมิให้ผู้ที่ไมม่ หี น้าทเ่ี ก่ยี วข้องเขาไปในบริเวณดงั กล่าว 5. ให้นายจา้ งควบคมุ ตรวจสอบการใชช้ ดุ รอกทใี่ ช้แขวนกระเช้าน่ังร้าน (Suspended Scaffold) ให้ เป็นไปตามคุณลักษณะของชุดรอก หรือตามคู่มอื หรือคาแนะนาการใชง้ านของผู้ผลิตและตอ้ งมคี วามแข็งแรง สมบรู ณ์สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 42 ภาคผนวก 2 ตวั อยา่ งมาตรฐานสากลทเ่ี กีย่ วข้องกบั การป้องกนั และยับยัง้ การตกจากทีส่ ูง ช่ือมาตรฐาน รหัส เรอื่ ง European Standard EN 341:2011 Personal fall protection equipment. (EN) Descender devices for rescue EN 353-1:2002 Personal protective equipment against falls from a height. Guided type fall EN 353-2:2002 arresters including a rigid anchor line Personal protective equipment against EN 354:2010 falls from a height. Guided type fall EN 355:2002 arresters including a flexible anchor line EN 358:1999 Personal fall protection equipment. Lanyards EN 360:2002 Personal protective equipment against falls from a height. Energy absorbers EN 361:2002 Personal protective equipment for work EN 362:2004 positioning and prevention of falls from EN 363:2008 a height. Belts for work positioning and restraint and work positioning lanyards Personal protective equipment against falls from a height. Retractable type fall arresters Personal protective equipment against falls from a height. Full body harnesses Personal protective equipment against falls from a height. Connectors Personal fall protection equipment. Personal fall protection systems สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

ชอ่ื มาตรฐาน รหัส หนา้ 43 International ISO 22846-2:2012 Standardization and เร่ือง Organization : ISO) European Standard Personal Equipment for Protection (EN) Against Falls Ministry of Business, EN 364:1993 Personal Protective Equipment Against Innovation and EN 365:2004 Falls from a Height. Test Methods Employment (MBIE) Personal Protective Equipment Against EN 795:2012 Falls from a Height. General EN 813:2008 Requirements for Instructions for Use, EN 1891:1998 Maintenance, Periodic examination, Repair, Marking and Packaging EN 1496:2006 Personal Fall Protection Equipment. EN 1497:2007 Anchor Devices EN 1498:2006 Personal Fall Protection Equipment. Sit EN 397:2012+A1:2012 Harnesses Personal Protective Equipment for The Prevention of Falls from a Height. Low Stretch Kern Mantel Ropes Personal Fall Protection Equipment. Rescue Lifting Devices Personal Fall Protection Equipment. Rescue Harnesses Personal Fall Protection Equipment. Rescue Loops Industrial Safety Helmets Best Practice Guidelines for Working at Height in New Zealand สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 44 ชอื่ มาตรฐาน รหัส เรื่อง Australian Safety and National Code of Practice for The ompensation Council Prevention of Falls in General Construction The American National ANSI/ASSE Z359.1 National Code of Practice for The Prevention of Falls in Housing Standards ANSI/ASSE Z359.3 -2017 Construction Personal Fall Arrest Systems Institute/American ANSI/ASSE Z359.4-2013 Lanyards and Positioning Lanyards Rescue and Self-Rescue Systems, Society of Safety Subsystems and Components Design Requirements for Active Fall Engineers ANSI/ASSE Z359.6-2016 Protection Systems Testing of Fall Protection Products ANSI/ASSE Z359.7-2011 Full Body Harnesses ANSI/ASSE Z359.11-2014 Anchorage Connectors for Active Fall ANSI/ASSE Z359.18-2017 Protection Systems Fall Protection in Construction. Occupational Safety OSHA Publication 3146, Fall Protection in Residential and Health (2015). Construction. Fall Protection in General Industry. Administration (OSHA) OSHA, (2011). Fall Prevention/Protection. OSHA QuickCard™ (Publication 3257), Code of Practice for Working Safely at (2010). Heights OSHA Publications. Code of Practice for Working Safely at Contains fall prevention Heights Workplace Safety and Health (WSH council) สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)