Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Occupational Safety And Health Risk Management Manual)

คู่มือการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Occupational Safety And Health Risk Management Manual)

Published by e-Book สสปท., 2020-07-09 05:39:18

Description: เกี่ยวข้องกับด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน Occupational Safety Health

Keywords: ปลอดภัย,safety,Occupational,Health

Search

Read the Text Version

หน้า ก สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

ชื่อหนังสอื : คู่มอื การจดั การความเสี่ยงด้านความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน Occupational Safety and Health Risk Management Manual (สสปท. 2-4-02-01-2562) ชื่อผู้แต่ง : คณะทางานจัดทาคู่มือการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทางาน ปีที่พิมพ์ : ปี พ.ศ. 2562 คร้ังทพี่ ิมพ์ : จดั พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1 โรงพิมพ์ : บริษัท ชยากร พร้ินต้งิ จากัด 27 ถนนเพชรเกษม 81 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร 10160 โทรศัพท์ 02 8120770 ISBN : 978-616-8026-12-0 สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ ก คณะอนุกรรมการวิชาการ 1. นางสาวสดุ ธดิ า กรุงไกรวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการ 2. นายวิเลิศ เจติยานุวตั ร อนุกรรมการ 3. นายเกยี รตศิ ักด์ิ บุญสนอง อนุกรรมการ 4. นางลัดดา ตั้งจนิ ตนา อนุกรรมการ 5. นายสืบศักดิ์ นนั ทวานชิ อนุกรรมการ 6. นายประมุข โอศริ ิ อนกุ รรมการ 7. ผู้อานวยการสานกั วิจัยและพัฒนา อนุกรรมการ 8. ผอู้ านวยการสานกั บริการวชิ าการ อนกุ รรมการ 9. นายธนกฤต ธนวงศ์โภคิน อนกุ รรมการและเลขานกุ าร สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ ข คณะทางานจัดทาคู่มอื การจดั การความเส่ยี งด้านความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน 1. นางสาวสุดธดิ า กรุงไกรวงศ์ ประธานคณะทางาน 2. นายวิเลศิ เจติยานุวัตร คณะทางาน 3. นางลดั ดา ต้ังจินตนา คณะทางาน 4. นายโสภณ พงษโ์ สภณ คณะทางาน 5. นางพรทพิ ย์ ทองเอยี่ ม คณะทางาน 6. นายวชิ ติ เออื้ สมานจิต คณะทางาน 7. นายเสรมิ ศักด์ิ อยู่เป็นสขุ คณะทางาน 8. นายธนกฤต ธนวงศโ์ ภคนิ คณะทางาน 9. นางสาวจริ นันทน์ อนิ ทร์มณี คณะทางาน 10. นายพฤทธพิ งศ์ สามสงั ข์ คณะทางาน 11. นางสาวสุภารตั น์ คะตา คณะทางาน 12. นางสาวปานฤทยั ไชยสทิ ธ์ิ คณะทางาน 13. นางสาวณฐั จิต อน้ เมฆ คณะทางาน 14. นางสาวอังคณา ใหม่จีน คณะทางาน 15. นางสาวอภสิ รา พระสมิง คณะทางาน 16. นางสาวพชั พร ศรสี งวน คณะทางาน 17. นางสาวนันทชิ า อรชร คณะทางาน 18. นางสาวมาลินี มุสกิ ะ คณะทางาน สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า ค คำนำ สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน) ภายใต้ การกากับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีวัตถุประสงค์เพ่ือส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน โดยกาหนดอานาจหน้าท่หี นึ่งของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน) คอื การพัฒนาและสนับสนนุ การจดั ทามาตรฐานเพื่อสง่ เสริม ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน) จึงได้จัดทาคู่มือการจัดการความเส่ียงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานข้ึน เพื่อเป็นแนวทางให้สถานประกอบกิจการสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานการจัดการความเส่ียงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน และเป็นแนวทางให้บุคลากรด้านความปลอดภัยในการทางาน ใชเ้ ปน็ คมู่ ือในการดาเนินการช้บี ่งอันตรายและประเมนิ ความเสี่ยง เพ่อื นาไปสู่การจัดการเพ่ือการป้องกนั ควบคุม และแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานที่มีประสิทธิภาพ อีกท้ัง สถานประกอบกิจการ หน่วยงานหรือองค์กรทุกประเภทสามารถนาคู่มือฉบับนี้ไปดาเนินการในการจัดการความ เสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานขององค์กรให้เป็นระบบอย่าง มีประสิทธิภาพ เพ่ือความปลอดภัยของคนทางานทุกคนและสามารถพัฒนาศักยภาพองค์กรสู่มาตรฐานสากล ได้ตอ่ ไป สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

สารบัญ เรอื่ ง หน้า คณะอนุกรรมการวิชาการ ก คณะทางานจัดทาคู่มือการจัดการความเส่ียงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมใน ข การทางาน คานา ค บทท่ี 1 บทนา 1 บทที่ 2 การจัดการความเส่ยี งดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน 2 2.1 ขอ้ กาหนด 2 2.2 แนวทางการปฏบิ ัติ 4 บทท่ี 3 การชี้บ่งอนั ตรายด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน 5 3.1 ขอ้ กาหนด 5 3.2 แนวทางการปฏบิ ตั ิ 6 3.2.1 Checklist 8 3.2.2 Job Safety Analysis (JSA) 13 3.2.3 Failure Mode and Effect Analysis (FMEA) 17 3.2.4 Fault Tree Analysis (FTA) 19 3.2.5 Event Tree Analysis (ETA) 25 3.2.6 Hazard and Operability Studies (HAZOP) 29 3.2.7 What-if 33 บทที่ 4 การประเมนิ ความเส่ียงดา้ นความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 36 4.1 ข้อกาหนด 36 4.2 การดาเนินการประเมนิ ความเสย่ี ง 37 4.3 ตัวอยา่ งการประเมินความเส่ยี ง 39 บทท่ี 5 แผนจดั การความเส่ียง 44 5.1 ข้อกาหนด 44 5.2 แผนงานลดความเส่ยี ง 45 5.3 แผนงานควบคมุ ความเส่ยี ง 46 5.4 ตัวอย่างตารางสรุปการช้บี ่งอนั ตรายและประเมนิ ความเสยี่ ง 47 บรรณานกุ รม 48 สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 1 บทที่ 1 บทนา คู่มือการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน จัดทาขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้สถานประกอบกิจการสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน ซ่ึงการจัดการความเส่ียงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทางาน เป็นข้อกาหนดข้อหนึ่งของมาตรฐานการจัดการความเส่ียงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน คู่มือการจัดการความเส่ียงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน จะมีเนื้อหา ประกอบดว้ ย 1.1 การจดั การความเสี่ยง จะกลา่ วถึง 1.1.1 ขอ้ กาหนด 1.1.2 แนวทางการปฏบิ ัติ 1.2 การชี้บ่งอันตราย จะกล่าวถึง หลักการ วิธีการชี้บ่งอันตรายและตัวอย่างของแต่ละวิธีช้ีบ่งอันตราย วิธกี ารชี้บ่งอันตราย ได้แก่ 1.2.1 Checklist 1.2.2 Job Safety Analysis (JSA) 1.2.3 Failure Mode and Effect Analysis (FMEA) 1.2.4 Fault Tree Analysis (FTA) 1.2.5 Event Tree Analysis (ETA) 1.2.6 Hazard and Operability Studies (HAZOP) 1.2.7 What-if 1.3 การประเมินความเสี่ยง จะกล่าวถึง 1.3.1 องคป์ ระกอบของแตล่ ะอนั ตราย 1.3.2 คา่ โอกาสทีจ่ ะเกิดความสูญเสียของอนั ตรายเชิงมาตรการ และเชงิ สถิติ 1.3.3 คา่ ความรนุ แรงทีจ่ ะเกิดความสญู เสียของอันตราย 1.3.4 คา่ ความเสีย่ ง 1.3.5 ค่าระดับความเสย่ี ง 1.4 แผนจดั การความเส่ยี ง จะกลา่ วถึง 1.4.1 การจดั ทาแผนลดความเสยี่ ง 1.4.2 การจดั ทาแผนควบคมุ ความเสยี่ ง 1.5 การทบทวนการจัดการความเสีย่ ง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 2 บทที่ 2 การจดั การความเสย่ี งด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพอวดลอ้ มในการทางาน 2.1 ขอ้ กาหนด ท้ังนใี้ หด้ าเนินการตามมาตรฐานระบบการจัดการความเส่ยี งฯ (สสปท. 1-4-02-00-2562) ข้อ 4.2 4.2 การดาเนนิ การจดั การความเสี่ยง 4.2.1 นายจ้างต้องจัดตั้งคณะทางานจัดการความเส่ียง ควรประกอบด้วยผู้บริหาร หัวหน้างาน ช่างเทคนิค วศิ วกร เจ้าหนา้ ทค่ี วามปลอดภัยในการทางาน เปน็ ตน้ 4.2.2 นายจา้ งตอ้ งจดั ทาระเบียบปฏิบัตกิ ารช้บี ่งอันตรายประเมนิ ความเสี่ยงและจดั ทาแผนจัดการความเสย่ี ง 4.2.3 นายจ้างต้องช้ีบ่งอันตรายและประเมินความเส่ียง ด้วยวิธีที่เหมาะสมให้ครอบคลุมทุกกระบวนการของ สถานประกอบกจิ การ 4.2.4 นายจ้างตอ้ งกาหนดหนา้ ท่ีและความรบั ผิดชอบของผทู้ ี่ตอ้ งทาการช้บี ่งอนั ตราย ประเมินความเสีย่ ง และ ควบคมุ ความเสยี่ ง รวมทง้ั สื่อสารให้ทุกคนในสถานประกอบกิจการทราบ 4.2.5 ในการชี้บ่งอนั ตรายและการประเมินความเสยี่ ง นายจา้ งตอ้ งดาเนินการดงั นี้ 1) นายจา้ งต้องจดั ทาขนั้ ตอนและวธิ ีปฏบิ ตั ชิ บี้ ง่ อันตรายและการประเมินระดับความเสย่ี ง 2) นายจา้ งตอ้ งชบี้ ง่ อันตรายและประเมินระดบั ความเส่ียง ซึ่งครอบคลมุ ถึง ก. กจิ กรรมทีท่ าเป็นประจาและไมเ่ ปน็ ประจา ข. พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยของลูกจ้าง ขีดความสามารถของร่างกาย และท่าทางในการทางานที่ไม่ เหมาะสม ค. การออกแบบพ้ืนทที่ างาน สถานงี าน การตดิ ตัง้ เคร่ืองจักรอปุ กรณ์ และกระบวนการในการทางาน รวมถึงการออกแบบดา้ นการยศาสตร์ ง. กิจกรรมและสภาพแวดล้อมในการทางานของผู้รบั เหมา ผ้เู ยยี่ มชม และบุคคลภายนอก จ. การเปล่ียนแปลงหรือข้อเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุอุปกรณ์ กระบวนการ วิธีปฏิบัติงาน หรือ กิจกรรมต่าง ๆ ในสถานประกอบกิจการ ฉ. การปรบั ปรุงระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน รวมถงึ การเปลีย่ นแปลงชัว่ คราวและมีผลต่อการปฏบิ ตั ิงาน กระบวนการและกจิ กรรมตา่ ง ๆ ช. เมื่อเกดิ อบุ ตั เิ หตหุ รอื เหตกุ ารณ์เกือบเปน็ อุบัติเหตุ และมีการสอบสวนแลว้ 4.2.6 นายจา้ งต้องทบทวนการช้ีบง่ อันตราย การประเมนิ ความเสี่ยง และแผนจดั การความเส่ยี งตามช่วงเวลาท่ี กาหนด 4.2.7 นายจ้างต้องให้ผู้รับเหมา มีส่วนร่วมในการช้ีบ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง และแผนจัดการความ เส่ยี ง พร้อมทง้ั มกี ารสอ่ื สารความเสยี่ งไปยังลกู จา้ ง ผู้ทเี่ กย่ี วข้อง และผูม้ ีสว่ นได้เสยี นายจ้างต้องจดั ทาและเกบ็ บันทึกการช้บี ง่ อนั ตราย การประเมนิ ความเสีย่ ง และแผนจดั การความเสี่ยง สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 3 2.2 แนวทางการปฏิบัติ เรม่ิ /จบกระบวนการ กจิ กรรม เงื่อนไข / การตดั สินใจ ความสมั พันธแ์ ละทศิ ทางของกระบวนการ ลาดบั การปฏิบตั ิ ผูร้ ับผดิ ชอบ เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง 1 1) รวบรวม - จป.หลัก - ฝ่ายบคุ คล - กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ ง (กรณไี มม่ ี จป.หลัก) - งานและกจิ กรรม - กระบวนการที่อาจเกดิ เหตุการณ์ร้ายแรง - กระบวนการที่มีการควบคุมสง่ั การเกี่ยวเนอ่ื ง - กระบวนการทม่ี กี ารกาหนดค่าควบคุมตน้ แบบ - สิ่ง/อปุ กรณ์ท่ตี อ้ งวิเคราะห์ความล้มเหลว - ฯลฯ 2 คณะทางาน ประกอบด้วย แบบฟอรม์ ชี้บง่ อันตราย - จป.หลกั แตล่ ะวิธี ชี้บ่งอนั ตรายดว้ ยวิธที ่ีเหมาะสม - หวั หน้างาน - ช่าง/วิศวกร 3 - ผปู้ ฏิบตั งิ าน คณะทางานประเมนิ ความเสยี่ ง ทาการประเมินความเสี่ยงโดยพจิ ารณาโอกาส และความรุนแรง 4 จัดทาแผนจดั การความเสี่ยง จป.บรหิ าร เจ้าของพน้ื ที่ 5 จป.บริหาร เจา้ ของพน้ื ท่ี ดาเนินการตามแผนจัดการความเส่ียง 6 จป.หลัก ประเมนิ ผลแผนจดั การความเสี่ยง 7 ทาการทบทวนความเส่ยี งตามช่วงเวลาที่กาหนดไว้ คณะทางานประเมินความเสยี่ ง หมายเหตุ จป.หลัก หมายถงึ เจา้ หนา้ ท่คี วามปลอดภยั ในการทางานระดับเทคนิค เทคนิคข้นั สงู หรอื วิชาชีพ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 4 บทที่ 3 การชี้บ่งอนั ตรายดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน 3.1 ข้อกาหนด ท้งั น้ใี หด้ าเนินการตามมาตรฐานระบบการจัดการความเสี่ยงฯ (สสปท. 1-4-02-00-2562) ข้อ 4.3 4.3 การชบี้ ่งอันตราย 4.3.1 นายจ้างต้องกาหนดหน้าท่ีและความรับผิดชอบของผู้ที่ต้องทาการช้ีบ่งอันตรายแต่ละวิธีให้ ครอบคลมุ ทัง้ สถานประกอบกิจการ 4.3.2 นายจ้างต้องจัดทาข้ันตอนการดาเนินงานในการชี้บ่ง และติดตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน ท่ีเก่ียวข้องกับสถานประกอบกิจการให้เป็น ปจั จุบันอยเู่ สมอ 4.3.3 คณะทางานจัดการความเสี่ยง อาจเลือกใช้วิธีการช้ีบ่งอันตรายวิธีใดวิธีหน่ึง หรือหลายวิธีก็ได้ ข้ึนอยู่กับความเหมาะสมตามลักษณะการประกอบกิจการ หรือลักษณะความเสี่ยงจาก อันตรายท่ีอาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการ ได้แก่ วิธี Job Safety Analysis (JSA) วิธี Checklist วิธี What If วธิ ี Hazard and Operability Studies (HAZOP) วธิ ี Failure Mode and Effect Analysis ( FMEA) วิ ธี Fault Tree Analysis ( FTA) ห รื อ วิ ธี Event Tree Analysis (ETA) 4.3.4 นายจา้ งควรพจิ ารณาการจดั การความเสี่ยงด้านอนื่ ๆ ดว้ ย ไดแ้ ก่ - การประเมินความเส่ียงด้านการยศาสตร์ (Ergonomics Risk Assessment) อาจใช้วิธี Rapid Upper Limb Assessment (RULA) เพื่อประเมินท่าทางการทางานของร่างกายส่วนบน วิธี Rapid Entire Body Assessment (REBA) เพ่ือประเมินท่าทางการทางานของร่างกาย ท้ัง ลาตวั วิธี RULA for Computer Users เพ่ือประเมนิ ท่าทางของร่างกายสาหรับ การปฏบิ ตั งิ าน คอมพวิ เตอร์ - การประเมนิ อันตรายต่อสุขภาพ (Health Hazard Assessment) สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 5 3.2 แนวทางการปฏิบตั ิ การช้ีบ่งอนั ตรายดา้ นความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานพ้ืนฐานมี 7 วธิ ี ได้แก่ 3.2.1 Checklist 3.2.2 Job Safety Analysis (JSA) 3.2.3 Failure Mode and Effect Analysis (FMEA) 3.2.4 Fault Tree Analysis (FTA) 3.2.5 Event Tree Analysis (ETA) 3.2.6 Hazard and Operability Studies (HAZOP) 3.2.7 What If ในการชี้บ่งอันตราย ให้ดาเนินการโดยคณะทางานประเมินความเสี่ยง ประกอบด้วย จป.หลัก หัวหน้างาน ผูค้ วบคมุ งาน ช่างซ่อมบารุง วศิ วกร และผูท้ ่เี ก่ียวข้อง สถานประกอบกิจการต้องเลือกใช้วิธีช้ีบ่งอันตรายที่เหมาะสมกับแต่ละลักษณะอันตราย ให้ครอบคลุม ทุกงาน ทุกกิจกรรม ทุกกระบวนการ ทกุ วสั ดุอปุ กรณ์ และทกุ สภาพพ้ืนท่ี เพ่อื ใหเ้ กิดความปลอดภยั และอาชีวอนา มยั ต่อลกู จา้ ง ผูร้ ับเหมา ผ้เู ย่ยี มชม และบคุ คลภายนอก อันตรายทีไ่ ดส้ ังเคราะห์เปน็ มาตรการแลว้ ได้แก่ กฎหมายและมาตรฐาน ให้ใช้วิธีช้ีบ่งอันตราย Checklist อันตรายท่ีสถานประกอบกิจการต้องค้นหาเพ่ิมเติมตามลักษณะการทางาน หรือสภาพการทางาน หรือ สภาพพ้ืนที่ ต้องเลือกใช้วิธีช้ีบ่งอันตรายที่เหมาะสมอื่นอีก 6 วิธี จึงจะมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องวิเคราะห์ครบ 3 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ 1 สาเหตุทเ่ี ปน็ ไปได้ 2 ลกั ษณะอันตรายหรอื ผลท่ีจะเกิดข้นึ 3 ผลแสดงความรุนแรง สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 6 วธิ ีทีเ่ หมาะสม ขอบเขต/เงื่อนไข Checklist JSA มีประสิทธิภาพสาหรบั ใชใ้ นการชบี้ ่งว่าได้บริหาร จดั การ และดาเนินการเปน็ ไปตาม กฏหมายและมาตรฐานอยา่ งถูกต้องครบถว้ น หรอื ไม่ FMEA FTA มีประสิทธภิ าพสาหรับใชใ้ นการชี้บง่ ดว้ ยการวิเคราะห์ว่าในแต่ละจงั หวะของการทางาน ETA คนทางานจะสัมผัสกบั อะไรจนทาให้บาดเจ็บ หรือเสียชีวติ หรือทรัพยส์ นิ เสียหาย HAZOP หรอื ไม่ มปี ระสทิ ธภิ าพสาหรบั ใชใ้ นการชบ้ี ่งดว้ ยการวเิ คราะหว์ า่ แต่ละอุปกรณ์ แต่ละสิ่ง แต่ละ เร่อื ง จะมลี ักษณะของความล้มเหลวอยา่ งไรบา้ ง ผลของความลม้ เหลว และสาเหตทุ ่ีทา ใหล้ ้มเหลว มปี ระสทิ ธภิ าพสาหรบั ใช้ในการชบ้ี ่งด้วยการวิเคราะหว์ ่าเหตุการณร์ ้ายแรงจะเกิดได้ ด้วยสาเหตใุ ด มีประสิทธภิ าพสาหรบั ใชใ้ นการชบี้ ่งด้วยการวิเคราะห์ว่ากระบวนการท่ีออกแบบใวใ้ ห้มี หนา้ ทีค่ วบคุมส่ังการเก่ียวเนื่อง ว่าจะมสี าเหตใุ ดท่ีทาให้ความเกี่ยวเนอื่ งข้ันตอนใด ทางานไม่สาเรจ็ มีประสทิ ธิภาพสาหรับใชใ้ นการชี้บ่งด้วยการศกึ ษาวา่ ถ้าเกิดการเบีย่ งเบนไปจากค่า ควบคุมต้นแบบจะเกดิ อะไรขึ้น และเกดิ จากสาเหตุอะไร What If ใชใ้ นการจัดทาทะเบียนคาถามเพ่ือส่งตอ่ ใหว้ ธิ ชี ีบ้ ง่ อันตรายอืน่ ทเี่ หมาะสมต่อไป สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 7 3.2.1 Checklist การชี้บ่งอันตรายด้วยวิธี Checklist เป็นวิธีชี้บ่งอันตรายท่ีได้สังเคราะห์เป็นมาตรการแล้ว คือ กฎหมาย และมาตรฐาน โดยนาข้อกาหนดในแต่ละข้อของกฎหมายและมาตรฐานมาใส่ในตาราง Checklist เรียกว่า แบบชี้ บง่ อันตราย สาหรับขอ้ กาหนดท่มี ีข้อย่อย ให้นาแตล่ ะขอ้ ยอ่ ยมาใส่ในตาราง Check Sheet เรียกวา่ แบบตรวจสอบ 1. วธิ กี ารช้ีบ่งอนั ตรายดว้ ยวิธี Checklist จป. หลกั มหี น้าท่ี ดงั นี้ 1) ตรวจสอบกฎหมายและมาตรฐานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับสถานประกอบกิจการ 2) นาข้อกาหนดแต่ละข้อของกฎหมายและมาตรฐานท่ีเกี่ยวข้องทั้งหมดมาใส่ในตาราง Checklist พร้อมระบุแหลง่ ทม่ี า 3) พิจารณาจากตาราง Checklist ก. ขอ้ ใดไม่เกย่ี วขอ้ ง ให้ทาเครือ่ งหมาย  ในชอ่ ง “ไมเ่ ก่ยี วข้อง” ข. ขอ้ ใดดาเนินการแล้วและถกู ตอ้ งและครบถ้วน ให้ทาเครือ่ งหมาย  ในชอ่ ง “ใช่” ค. ข้อใดยงั ไม่ไดด้ าเนนิ การ หรอื ไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไมค่ รบถว้ น ให้ทาเครื่องหมาย  ใน ช่อง “ไม่ใช่” ง. ข้อใดไม่แน่ใจ ให้ทาเคร่ืองหมาย  ในช่อง “ไม่ใช่” แล้วมอบบุคคลท่ีเหมาะสมตรวจสอบ เพอื่ ดาเนินการ จ. ข้อใดยังไม่มีรายละเอียดในการดาเนินการในขณะนี้ให้ทาเคร่ืองหมาย – ในช่อง “ไม่ใช่” พร้อมระบุเหตุผล 4) ข้อใดทาเครื่องหมาย  ในช่อง “ไม่ใช่” ให้ระบุว่าจะมอบให้ใครดาเนินการ โดยพิจารณาจาก บคุ คลดังต่อไปนี้ ก. จป.หลกั ข. ผ้ชู านาญการ ค. ผ้เู ช่ยี วชาญเฉพาะสาขา ง. ผู้ปฏบิ ตั ิหนา้ งานและหัวหน้างาน ให้ระบุช่ือ หรือตาแหน่ง หรือหน่วยงาน ซึ่งอาจเป็นบุคคลหรือหน่วยงานภายในหรือภายนอก สถานประกอบกิจการก็ได้ โดยนาไปกรอกในช่อง “บันทึกผลท่ีสาคัญ” พร้อมทั้งระบุระยะเวลา ดาเนินการแล้วเสร็จ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 8 5) เม่ือดาเนินการตามที่ระบุไว้ใน “บันทึกผลที่สาคัญ” แล้วเสร็จ ให้ลบเครื่องหมาย  ใน ช่อง “ไมใ่ ช่” แลว้ ทาเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ ง “ใช่” แทน 6) นาแบบ Checklist เข้าท่ีประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทางาน เพื่อลงมตแิ ล้วนาเสนอนายจา้ ง 7) วดั ผลและประเมนิ ผลด้วยคา่ รอ้ ยละ สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 9 2. ตัวอยา่ ง Checklist ในท่ีน้ีจะขอยกตัวอย่างกฎกระทรวงฯ บางฉบับที่ออกตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน พ.ศ.2554 และตามมาตรา 74 ที่นากฎกระทรวงฯ ท่ีออกตาม หมวด 8 แหง่ พระราชบญั ญัตคิ ุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาใช้บงั คบั โดยอนุโลม ตัวอยา่ งวิธีใชแ้ บบช้ีบ่งอนั ตรายกฎกระทรวงฯ เกีย่ วกับเคร่ืองจักร ป้ันจ่ัน และหม้อนา้ พ.ศ.2552 ข้อ รายการ ใช่ ไมใ่ ช่ ไม่ บนั ทกึ ผลท่ีสาคญั เก่ียวข้อง กฎกระทรวงฯ เกย่ี วกับเคร่อื งจักร ปนั้ จั่น และหม้อ  - จป.หลกั ประสานวิศวกร ผูต้ รวจ น้า พ.ศ.2552  ทดสอบปน้ั จัน่ ใหต้ รวจสอบว่ามี หมวด 2 ปัน้ จ่ัน สว่ นที่ 1 บททั่วไป คมู่ อื ทีถ่ ูกตอ้ งหรือไม่ 48 ในการประกอบ การทดสอบ การใช้ การซ่อมบารุง - วิศวกร จดั ทาค่มู อื การใช้งาน และการตรวจสอบป้ันจน่ั หรืออุปกรณ์อ่นื ทนี่ ามาใช้ กับป้นั จ่ัน นายจา้ งต้องปฏิบตั ิตามรายละเอียด จป.หลักประสานวิศวกร คณุ ลักษณะหรือคู่มอื การใช้งาน ท่ผี ้ผู ลติ กาหนดไว้ ดาเนินการ หากไม่มีรายละเอยี ดคุณลกั ษณะ หรอื คมู่ ือการใชง้ าน ดังกล่าว นายจ้างตอ้ งปฏบิ ัติตามรายละเอียด คณุ ลกั ษณะ หรือคู่มอื การใชง้ านที่วศิ วกรได้กาหนด ขึน้ เป็นหนงั สอื 49 นายจ้างต้องจดั ให้มกี ารทดสอบและการตรวจสอบ การตดิ ตัง้ ป้นั จั่นตามรายละเอียด คณุ ลักษณะ และ คมู่ ือการใช้งานของผ้ผู ลิตโดยวศิ วกรกอ่ นการใชง้ าน และจดั ทารายงานการตรวจสอบ และการทดสอบ ซงึ่ มลี ายมือชือ่ วศิ วกรรับรอง เก็บไว้ให้พนักงาน ตรวจแรงงานตรวจสอบได้ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 10 ข้อ รายการ ใช่ ไม่ใช่ ไม่ บันทกึ ผลที่สาคัญ เกีย่ วข้อง 50 นายจา้ งตอ้ งจัดให้มีการทดสอบส่วนประกอบและ อุปกรณ์ของปน้ั จน่ั ปลี ะไม่น้อย กวา่ หนึ่งครงั้ ตาม  จป.หลกั ประสานวศิ วกร ประเภท และลกั ษณะของงานตามหลกั เกณฑ์และ ดาเนินการ วิธีการที่อธิบดปี ระกาศกาหนด 51 ในกรณีท่นี ายจ้างใหล้ กู จา้ งทางานเกย่ี วกบั ป้นั จั่น  จป.หลกั จัดทา Check Sheet นายจ้างต้องดาเนนิ การดังท่ีกาหนดไว้ในข้อ 51 ตวั อย่างแบบตรวจสอบ (Check Sheet) ตามกฎกระทรวงเกีย่ วกับเครอื่ งจักร ปั้นจั่น และหมอ้ นา้ พ.ศ.2552 ข้อ รายการ ใช่ ไมใ่ ช่ ไม่ หมายเหตุ เกยี่ วข้อง หมวด 2 ปั้นจ่ัน ส่วนที่ 1 บททั่วไป ข้อ 51  จป.หลักประสานผคู้ วบคมุ ปนั้ จ่นั (1) ควบคุมใหม้ ลี วดสลิงเหลอื อยใู่ นม้วนลวดสลงิ ไม่น้อยกว่า จดั ทาข้อบังคับในการควบคุม สองรอบ ตลอดเวลาที่ป้นั จัน่ ทางาน (2) จดั ใหม้ ชี ดุ ลอ็ กป้องกันลวดสลิงหลุดจากตะขอของ  ชดุ ล็อคมีอยูแ่ ลว้ จป.หลกั ปัน้ จั่น และทาการตรวจสอบให้อยู่ในสภาพทใ่ี ช้งาน ประสานผู้ควบคมุ จดั ทาข้อบงั คับ ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั ในการตรวจสอบ (3) จดั ให้มีที่ครอบปิดหรือก้ันส่วนทหี่ มนุ รอบตัวเอง ส่วน  ที่เคลือ่ นไหวได้ หรอื สว่ นที่อาจเปน็ อนั ตรายของ ปนั้ จ่นั และให้ส่วนท่ีเคลื่อนที่ของปน้ั จ่นั หรือส่วนที่ หมนุ ไดข้ องป้นั จัน่ อยู่ใหห้ า่ งจากสิ่งก่อสรา้ งหรอื วัตถุ อน่ื ในระยะทปี่ ลอดภัย สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

ขอ้ รายการ ใช่ ไมใ่ ช่ ไม่ หนา้ 11 เกี่ยวข้อง (4) จัดให้มบี นั ไดพรอ้ มราวจับและโครงโลหะกนั ตก หมายเหตุ สาหรบั ปนั้ จั่นทมี่ คี วามสงู เกินสามเมตร  (5) จดั ใหม้ ีพื้นชนดิ กันลนื่ ราวกันตก และแผงกันตก  ระดับพนื้ สาหรับปัน้ จั่นชนิดที่ต้องมกี ารจัดทาพนื้ และทางเดนิ (6) จัดใหม้ ีเครื่องดับเพลิงท่ีเหมาะสมกับชนิดของปนั้ จ่ัน  และใชก้ ารได้ทห่ี ้องบังคับปั้นจนั่ (7) ตดิ ตงั้ ปนั้ จนั่ บนฐานทม่ี ่นั คงโดยมีวิศวกรเปน็ ผู้รบั รอง  สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 12 3.2.2 Job Safety Analysis (JSA) การชี้บ่งอันตรายด้วยวิธี Job Safety Analysis (JSA) เป็นวิธีช้ีบ่งอันตรายในแต่ละข้ันตอนของแต่ละงาน หรือกิจกรรมโดยหัวหนา้ งานเลอื กจงั หวะการทางาน (Job Step) ในแต่ละขั้นตอน แล้ววิเคราะห์วา่ ผู้ปฏิบัติงานจะ สัมผัสกับสิ่งอันตรายในลักษณะอันตรายใดจนทาให้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย ซ่ึง มาตรการที่ได้จากการวิเคราะหน์ าไปใชเ้ ป็นส่วนหนึ่งในการจัดทาข้อบงั คับว่าด้วยความปลอดภยั ในการทางานตาม กฎหมาย 1. วธิ กี ารช้ีบ่งอนั ตรายด้วยวธิ ี Job Safety Analysis (JSA) 1) ทกุ งานและทกุ กิจกรรมต้องชบ้ี ่งอันตรายดว้ ยวธิ ี JSA โดยจดั ลาดบั อนั ตราย 2) แบง่ งานออกเป็นข้ันตอน และเลอื กข้ันตอนทีจ่ ะวิเคราะห์ 3) รวบรวมมาตรการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน ที่เป็นข้อบังคับ ความปลอดภัยในการทางาน และมาตรการควบคุมทางวิศวกรรมท่ีมีอย่แู ล้วท้ังหมดในข้ันตอนท่ีจะ วเิ คราะห์ 4) ระบชุ ่ืองาน/กจิ กรรม วนั ท่วี เิ คราะห์ ผวู้ เิ คราะห์ ลงในชอ่ งดา้ นบนตาราง 5) ระบุชื่อขั้นตอนในชอ่ งที่ 1 “ขั้นตอน” วิเคราะห์ว่าขั้นตอนนี้มีอันตรายใดๆ ที่ตรงกับกฎหมาย หรือ มาตรฐาน หรือต้องใช้วิธีช้ีบ่งอันตรายวิธีอื่นท่ีเหมาะสม ให้ระบุแต่ละอันตรายนั้นลงในช่องที่ 2 “อันตราย” แล้วให้ระบุว่าต้องใช้กฎหมายใด มาตรฐานใด วิธีช้ีบ่งอันตรายใด ลงในช่องท่ี 3 “มาตรการ” โดยมาตรการตามกฎหมาย และมาตรฐาน ให้ไปใช้วิธีชบ้ี ่งอันตราย Checklist ส่วนท่ี เหลือให้ใช้วธิ ีช้ีบ่งอันตรายอ่ืนๆ ทเ่ี หมาะสม 6) สงั เกตจงั หวะการทางานในข้ันตอน แล้วพิจารณาว่ามลี ักษณะอนั ตรายใดทตี่ รงกบั ลักษณะอันตราย ใน 12 รูปแบบ ท่ีอาจจะเกิดพร้อมท้ังคาดคะเนความรุนแรง แล้วเลือกลักษณะอันตรายที่มีความ รนุ แรงสูงมาวเิ คราะหก์ อ่ นตามลาดบั ตารางลกั ษณะอนั ตรายท่เี หมาะสมกบั วิธี JSA รูปแบบ ลักษณะอนั ตรายที่เหมาะสมกบั วธิ ี JSA 1 กระแทก ชน ตอก ตี ฟาด ครูด ถาก เสยี ดสี 2 หนบี บีบ รดั อดั ทบั 3 บาด ตัด เฉือน ฟัน ฉกี 4 ท่มิ แทง เจาะ ข่วน เกย่ี ว เสียบ 5 กัดกร่อน ระคายเคือง สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 13 รูปแบบ ลักษณะอนั ตรายท่เี หมาะสมกับวิธี JSA 6 ลวก ไหม้ นาบ 7 ไฟฟ้าช็อค ไฟฟา้ ดูด 8 หลน่ ใส่ หล่นทบั ล้มทบั ลม้ ใส่ 9 กระเดน็ ใส่ ปลวิ ใส่ ดีดใส่ สะบดั ใส่ ฟาดใส่ กระดอนใส่ พ่งุ ชน เลอ่ื นชน เลอ่ื นทบั 10 (คน) ตกกระแทก ตกใส่ ตกลงใน 11 (คน) ล้มกระแทก ล้มใส่ ล้มลงใน 12 สัตว์กดั ต่อย ทาร้าย ตารางคา่ ความรนุ แรงท่คี าดว่าจะเกิดตามวิธี JSA ค่าความรุนแรงต่อคน ค่าความรนุ แรงตอ่ ทรพั ย์สนิ 4 มากกว่า...............................บาท 4 เสยี ชีวิต 3 ตั้งแต่..........................บาท ถงึ ...........................บาท 3 สูญเสียอวยั วะ 2 ตัง้ แต.่ ......................บาท ถงึ ...............................บาท (ไมส่ ามารถรักษากลับคนื เหมือนเดิมได)้ 2 ไปโรงพยาบาล (ตอ้ งการการรกั ษาทางการแพทย)์ 1 ปฐมพยาบาล (ใส่ยา) 1 น้อยกว่า.............................บาท 7) นาจังหวะการทางานท่มี ีลกั ษณะอันตรายตามข้อ 6. ในแตล่ ะขัน้ ตอนทกี่ าหนด มาใส่ในชอ่ งท่ี 1 “ขนั้ ตอน” แล้วในชอ่ งท่ี 2 “อันตราย” ให้ระบุ 8) พไแทมิจกา่ใาง้ทห321ารี่222/122222221221/22/22122/ล้เนณกักดิาษสเคสสณลาง่ิาวือเอะเาหหกมอนั ตตมัรนตุเุทนุารปตตีเ่แา็นรปยรราล็นกงยาลไาไดปกัรมับไษท่ไดแดณา้ รง้ใะกหวอิศ้ไถันปว้าตกลแรรดการคท้ยมวส่ี หแาารลมเือหะรวอุตนิธวุไแมีปัยร่ไวฏงดะิบ้ ทถใัต้าหี่ไิงดล้ไา้รปดนับแคทอกว่ีสนั้ทาามตี่ลมรรักาาุนษรยแณถรคะงวอไบมัน่คไตดุมร้ าใปยห้อเ้เปงป็นกลัลนี่ยานรดจะับังงตหับ่อวไยะปับกยาถั้รา้ง 22 2 สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 14 2. ตัวอย่าง JSA แผนก ผลติ ชน้ิ สว่ น งานขึน้ รูป วนั ท่ี...................................ช่ือ................................................................ ขน้ั ตอนของงาน อนั ตราย มาตรการ ข้ันตอน เจียเหลก็ หลอ่ - แสงสว่างไมเ่ พียงพอ - ใช้กฎหมายเร่ืองแสงสวา่ ง - เสยี งดัง - ใช้กฎหมายเรือ่ งเสยี ง - สะเกด็ วสั ดกุ ระเด็นเขา้ ตา - ใชก้ ฎหมายเรอื่ งเครอื่ งจกั ร - การบาดเจบ็ กลา้ มเนื้อจากการเอ้ือม - ใชม้ าตรฐานการยศาสตร์ - เม่ือยลา้ ปวดเมอื่ ยนิ้วมือและกลา้ มเนอื้ - ใชม้ าตรฐานการยศาสตร์ - หายใจเอาฝนุ่ เข้าสู่ปอด - ใชก้ ฎหมายเรื่องสารเคมอี นั ตราย - ส่วนที่มีการหมุนของอุปกรณ์ดึง - ใช้กฎหมายเรื่องเครื่องจักร อวัยวะส่วนต่าง ๆของร่างกายเข้า - ใช้กฎหมายเรื่องเคร่อื งจกั ร เครื่องเจียได้ - ใช้ แผนงาน PM และ วิธี FMEA - ไฟฟา้ ดดู /ชอ็ ค - ใช้กฎหมายเรื่องการป้องกันและ - ล้อหินเจียหลดุ หรือแตก ระงบั อคั คีภยั และใชว้ ธิ ี FTA - เพลิงไหมบ้ ริเวณท่ีมีการเจีย จงั หวะการทางาน - ให้สวมถุงมอื หนงั - จดั ทา WI 1. เอือ้ มมือขวาไปจับแท่งเหลก็ หล่อ - เหล็กหลอ่ บาดมือ จากกล่องขวามือแล้วดึงขึ้นมา - แทง่ เหล็กกระแทกมือ 2. ใช้มือจับแท่งเหล็กหล่อกดลงบน - เหลก็ หลอ่ หลน่ ใสเ่ ท้า - จดั ทาแผ่นโลหะก้ันระดับเหนือเข่า ลอ้ หินขัดกดขัดจนแท่งเหล็กเรียบมน สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 15 รปู แบบการวเิ คราะห์สาเหตุ 1. สาเหตทุ ปี่ รากฏขึ้นแลว้ ในขณะวิเคราะห์ (อาจมีหรือไมม่ ีกไ็ ด้) สาเหตุเพราะ ขณะ (ต้องตรงกบั จงั หวะการทางาน) อวยั วะหรอื คน (ตามทร่ี ะบุในลักษณะอนั ตราย) อยู่หรือเคลอื่ นไหวอยา่ งไร จงึ อาจทาให้เกิดลักษณะอนั ตรายน้นั ตัวอยา่ งเช่น ขณะยกแผน่ เหล็ก มอื สอดอยู่ระหวา่ งแผ่นเหลก็ ขณะยนื รอถงั กาว คนยนื อยตู่ ิดชอ่ งทางทมี่ รี ถยกว่ิง ขณะปิดสวทิ ซ์ เออ้ื มแขนข้ามใบมดี 2. สาเหตุที่คาดว่าจะเกิด (ยงั ไม่เกิดขึ้นขณะวิเคราะห์) เปน็ เหตกุ ารณ์ทมี่ แี นวโนม้ จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต โดยมผี ลมาจากสาเหตใุ นขณะนั้น ตวั อยา่ งเชน่ ถา้ .............. เสยี หลัก ถ้า.............. หลดุ กรณไี มส่ ามารถระบไุ ด้ ใหใ้ ช้ ถ้า.............. พลาด สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 16 3.2.3 Failure Mode and Effect Analysis (FMEA) วิธี FMEA เป็นวิธีการชีบ้ ่งอันตรายท่ีต้องทาการวิเคราะหโ์ ดยผูช้ านาญงานนนั้ ๆ ซ่ึงเป็นการวิเคราะห์หา ความล้มเหลวของอุปกรณ์ หรือสิ่งใด ๆ แล้ววิเคราะห์หาสาเหตุและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากความล้มเหลวน้ัน ความลม้ เหลวหมายถงึ การชารดุ เสยี หาย หรอื เบีย่ งเบนไปจากปกติหรือมาตรฐานที่กาหนด แล้วพิจารณามาตรการ ควบคุมป้องกันท่ีมีอยูแ่ ล้ว และมาตรการที่ควรเพมิ่ เติม 1. เงอื่ นไขทท่ี าให้ต้องใช้วธิ ชี ้ีบ่งอนั ตราย FMEA 1) อุปกรณ์ใดมีคู่มือการติดตั้ง หรือการใช้ หรือการตรวจสอบ ทดสอบ บารุงรักษา ต้องใช้ FMEA วเิ คราะห์เพ่มิ เติม (กรณีไมม่ อี นั ตรายเพิม่ เติม แสดงวา่ คู่มือทมี่ ีอย่สู มบรู ณแ์ ลว้ ) 2) อุปกรณ์ใดไม่มีคู่มือการติดตั้ง หรือการใช้ หรือการตรวจสอบ ทดสอบ บารุงรักษา ทะเบียน คาถามอาจนามา What If ส่งมาให้ FMEA วิเคราะห์ 3) วิธีชี้บ่งอนั ตรายอื่นๆ สง่ มาให้ FMEA วเิ คราะห์ 2. วธิ กี ารชบี้ ่งอันตรายด้วยวิธี FMEA 1) ใชแ้ บบตาราง FMEA ทกี่ าหนด 2) เลอื กอปุ กรณ์ หรือส่งิ ที่จะทาการวิเคราะห์ระบลุ งในชอ่ งท่ี 1 “อุปกรณ/์ สงิ่ ” 3) วิเคราะห์ตามสภาพการใช้งานว่าอาจจะมีความล้มเหลว (ชารุด เสียหาย หรือเบี่ยงเบน) โดยต้อง ระบุลักษณะความล้มเหลวให้ชดั เจน ซึ่งหนึ่งอุปกรณ์/สิ่ง อาจมีลักษณะความล้มเหลวมากกว่าหนงึ่ ลักษณะระบลุ งในชอ่ งท่ี 2 “ความล้มเหลว” 4) วิเคราะห์ผลที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องจากลักษณะความล้มเหลวที่ระบุในช่องที่ 2 “ความล้มเหลว”โดย ใช้ลูกศร “ถ้า (เหตุ) จะเกิด (ผล) ” ต่อเน่ืองจนถึงข้อความท่ีแสดงความรุนแรง แล้วระบุ ลงในชอ่ งที่ 4 “ผลทีจ่ ะเกิด” 5) เลือกความล้มเหลวท่ีมีผลที่จะเกิดขึ้นตามลาดับความรุนแรง แล้ววิเคราะห์ตามสภาพการใช้งานวา่ มีสาเหตุใดบ้างท่ีจะทาให้เกิดความล้มเหลวตามลักษณะความล้มเหลวที่ระบุในช่องท่ี 2 “ความ ล้มเหลว” ซง่ึ หน่ึงความล้มเหลวอาจมีสาเหตุมากกว่าหนึ่งสาเหตุ แล้วระบุลงในชอ่ งท่ี 3 “สาเหตุ” 6) พิจารณามาตรการท่ีมีอยู่แล้วที่สามารถควบคุมป้องกันแต่ละสาเหตุได้ ระบุลงในช่อง “มาตรการที่ มอี ยู่ ในช่องที่ 5” “มาตรการทีม่ ีอยู่” 7) กรณีมาตรการที่มีอยู่แล้วไม่พอเพียง (ความเสี่ยงยอมรับไม่ได้) ต้องพิจารณามาตรการท่ีควรทา เพิม่ เตมิ ทสี่ ามารถควบคุมป้องกันแตล่ ะสาเหตุได้ ระบุลงในช่อง “มาตรการทต่ี ้องทาเพิ่ม” ในชอ่ งที่ 6 “มาตรการท่ตี ้องทาเพิม่ ” 8) ทาการประเมนิ ความเสีย่ ง และจดั ทาแผนจัดการความเสีย่ ง หมายเหตุ: กรณีความล้มเหลวของอุปกรณ์ท่ีเลือกมีสาเหตุมาจากความล้มเหลวของอุปกรณ์ย่อย ควรใช้แบบตาราง FMEA วเิ คราะห์ความลม้ เหลวขงอุปกรณย์ ่อยดว้ ยจะมปี ระสิทธิภาพย่ิงข้ึน สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

3. ตวั อย่างการชีบ้ ง่ อนั ตรายดว้ ยวธิ ี FMEA พ้นื ที่/เคร่อื งจักร/กระบวนการ/ข้นั ตอนงาน/กิจกรรม สว่ นงาน วนั ท่ีวเิ คราะห์ อุปกรณ์/สง่ิ ความล้มเหลว สาเหตคุ วาม ผลท่จี ะเกิดข ลม้ เหลว สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และ

หนา้ 17 ตามแบบเอกสารหมายเลข ผ้วู ิเคราะห์ มาตรการควบคุม มาตรการที่ การประเมนิ ความเสี่ยง ปอ้ งกันทม่ี ีอยู่ ควรทาเพมิ่ ขน้ึ โอกาส ความ ผลลพั ธ์ ความ รุนแรง เส่ียง ะสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

ตัวอยา่ ง FMEA พื้นท/่ี เครอื่ งจักร/กระบวนการ/ขัน้ ตอนงาน/กจิ กรรม เครอื่ งเจีย ตามแบบเอกสารหมายเลข วนั ที่วเิ คราะห์ อปุ กรณ์/ ความ สาเหตุความล้มเหลว ผลที่จะเกดิ ขึน้ สง่ิ ลม้ เหลว Lock - Lock Nut - ขาดการตรวจสอบก่อนใช้ ลอ้ กระเด็นใสผ่ ้ปู ฏบิ ัต Nut ของ หลุด งาน ทาให้บาดเจ็บ ล้อหนิ เจีย - Lock Nut หลุดเพราะ พนกั งานเปลย่ี นล้อหนิ เจีย - แตก ประกอบไม่แน่น - Lock Nut เสอ่ื มสภาพ ลอ้ กระเด็นใส่ผ้ปู ฏบิ ัต ทาให้บาดเจบ็ สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และ

หน้า 18 ยเหลก็ สว่ นงาน ขน้ึ รปู 8 ส.ค. 62 ผวู้ เิ คราะห์ ช่างชูชีพ มาตรการควบคมุ มาตรการท่ี การประเมินความเส่ียง ป้องกันที่มีอยู่ น ควรทาเพ่มิ โอกาส ความ ผลลพั ธ์ ความ รนุ แรง เสย่ี ง ติงาน ตงิ าน ะสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 19 3.2.4 Fault Tree Analysis (FTA) เป็นวิธีการช้ีบ่งอันตราย โดยตั้งต้นจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหรือท่ีเกิดขึ้นแล้วก็ได้ โดย กาหนดเหตุการณ์ท่ีเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงน้ันให้เป็น Top Event แล้วนาไปวิเคราะห์หา เหตกุ ารณ์ย่อยที่เป็นสาเหตุ โดยใช้เทคนิคการคดิ ย้อนกลบั ท่ีอาศัยหลักการทางตรรกวิทยาในการวิเคราะห์เหตุจาก ผล เพื่อแจกแจงเหตุการณ์ตั้งต้นว่าสาเหตุมาจากเหตุการณ์ย่อยอะไรได้บ้าง ซึ่งเหตุการณ์ ๆ หน่ึงอาจมีสาเหตุจาก เหตกุ ารณ์ย่อยหลายเหตุการณ์รว่ มกนั ให้ใช้สัญลักษณ์ And Gate หรอื อาจมสี าเหตจุ ากเหตกุ ารณย์ ่อยใดเหตุการณ์ หน่ึงให้ใช้สัญลักษณ์ Or Gate ถ้ามีสาเหตุจากเหตุการณ์ย่อยต่อไปอีกระดับหนึ่งก็วิเคราะห์หาเหตุการณ์ท่ีเป็น สาเหตตุ อ่ ไป จนกวา่ จะพบวา่ สาเหตุเกิดจากเหตุการณท์ ี่เปน็ อุปกรณ์ใดล้มเหลวหรอื การปฏิบัตงิ านของใครบกพร่อง และสามารถแก้ไขได้ให้เรียกว่า Basic Event จึงส้ินสุด แล้วพิจารณามาตรการควบคุมป้องกันท่ีมีอยู่แล้ว และท่ี ต้องทาเพมิ่ เตมิ วธิ กี ารช้ีบ่งอนั ตรายดว้ ยวิธี Fault Tree Analysis 1) พิจารณาเลือกเหตุการณร์ ้ายแรงท่ีคาดว่าจะเกิดหรือเกิดขนึ้ แล้ว โดยตอ้ งระบุเง่ือนไขเฉพาะของการเกิด เชน่ สถานท่ี ขั้นตอน ช่วงเวลา เปน็ ต้น 2) กาหนดเหตุการณ์หลัก (Top Event) โดยพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิด เหตุการณ์ร้ายแรง ซึ่งสาเหตุหลักดังกล่าวควรมีสาเหตุเป็นเหตุการณ์ย่อยมากกว่าหน่ึงระดับช้ันขึ้น ไป (ถ้ามสี าเหตุเป็นเหตกุ ารณ์ย่อยชน้ั เดียว ใชว้ ธิ ี FMEA จะเหมาะสมกวา่ ) 3) ทาการวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์นั้นว่าเกิดจากเหตุการณ์ย่อยอะไรบ้าง โดยแสดงการ วเิ คราะห์ในรปู แบบสัญลักษณ์ตามที่กาหนด ได้แก่ Gate Symbol และ Event Symbol ลงในแผนภูมิ แผนภมู ิ FTA สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 20 Gate Symbols สัญลักษณ์ ชอื่ ความหมาย AND Gate เหตุการณ์จะเกิดขึ้นได้เม่ือมีสาเหตุจากหลายเหตุการณ์ สาเหตหุ ลายสาเหตุร่วมกัน ยอ่ ยรว่ มกนั OR Gate เหตุการณ์จะเกิดข้ึนได้เม่ือมีสาเหตุจากเหตุการณ์ย่อย สาเหตใุ ดสาเหตหุ นึ่ง ใดเหตุการณย์ อ่ ยหนงึ่ Inhibit Gate เหตกุ ารณจ์ ะเกดิ ขึ้นไดเ้ ม่ือเหตกุ ารณย์ ่อยมีเงอื่ นไข สาเหตุทมี่ เี งือ่ นไข Event Symbols สญั ลกั ษณ์ ช่ือ ความหมาย Basic Event เหตุการณ์ย่อยพื้นฐานที่อาจเกิดข้ึนได้ ซึ่งทราบถึง เหตุการณ์พ้ืนฐานท่ีเกดิ ขนึ้ ได้ ส า เ ห ตุ ไ ด้ ชั ด เ จ น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ไ ด้ โ ด ย ไ ม่ ต้ อ ง ท า ก า ร วิเคราะห์หาสาเหตุต่อไป ถือเป็นสาเหตุแรกของการ เกิด Top Event Fault Event เหตุการณ์ที่ต้องทาการวิเคราะห์หาเหตุการณ์ย่อยที่ เหตกุ ารณ์ทต่ี อ้ งวเิ คราะห์ตอ่ เป็นสาเหตุต่อไป Undeveloped Event เหตุการณ์ย่อยท่ีทาการวิเคราะห์หาสาเหตุต่อไปยัง เหตุการณ์ท่ียังวิเคราะห์ต่อ ไม่ได้จนกว่าจะมขี ้อมูลสนับสนนุ ไมไ่ ด้ External Event เหตุการณ์ธรรมชาติหรือปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็นสาเหตุ เหตกุ ารณท์ ่เี ป็นปจั จยั ภายนอก ที่ไม่สามารถควบคุมหรือแกไ้ ขได้ Condition Event เหตุการณ์จะเกิดขึ้นได้เม่ือเหตุการณ์ย่อยมีเง่ือนไข เหตกุ ารณท์ ่มี เี งือ่ นไขเฉพาะ เพ่ิมเตมิ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 21 4) วเิ คราะหห์ าสาเหตขุ องเหตุการณย์ ่อยเหลา่ นนั้ ต่อไปอีก ซง่ึ จะสิ้นสดุ ก็ตอ่ เมื่อพบว่าสาเหตุต่าง ๆ ของ เหตกุ ารณย์ อ่ ย ๆ ทีเ่ กดิ ขนึ้ เป็นผลมาจากความล้มเหลวของเครื่องจักรอปุ กรณ์ เครื่องมอื ระบบความ ปลอดภัย หรือความบกพร่อง/ผิดพลาดของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งถือว่าเหตุการณ์ย่อยดังกล่าวเป็น เหตุการณ์พน้ื ฐาน (Basic Event) ท่เี กดิ ขึน้ ได้และสามารถแกไ้ ขได้ 5) วิเคราะหโ์ ดยใช้แผนภมู ิ แลว้ นาผลทไี่ ด้ ซงึ่ ก็คือเหตุการณ์ท่เี ป็นสาเหตไุ ปวิเคราะห์ในแบบตาราง FTA แบบตารางวิธี FTA พน้ื ท่ี/เคร่อื งจกั ร/อปุ กรณ์/กระบวนการผลติ /ขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน..................................................................... เหตกุ ารณ์หลกั (Top Event)......................................เอกสารหมายเลข................วนั ท.ี่ ................ ....................... ชอ่ื คณะทางานช้บี ่ง………………………………………………………………………………………………………………………………… อันตรายหรอื มาตรการ มาตรการ การประเมนิ ความเสี่ยง สาเหตุ ควบคมุ ป้องกันที่ ทต่ี อ้ งทาเพมิ่ โอกาส ความ ผลลพั ธ์ ความ ผลท่เี กิดขน้ึ ตามมา มีอยู่ รนุ แรง เสย่ี ง สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 22 ตวั อย่างเหตุการณ์ Reactor A ระเบิด Reactor A ระเบิด …………………………………. …………………………………. สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 23 คาอธิบายแผนภูมิ 1. เหตกุ ารณร์ า้ ยแรง คือ Reactor A ระเบดิ ขณะทางานปกติ 2. สาเหตุหลัก (Top Event) คือ Reactor A อุณหภูมิสูงเกินไป ซ่ึงนามาวิเคราะห์แผนภูมิ FTA (สาเหตุ หลกั (Top Event) อาจมมี ากกว่าหนง่ึ สาเหตุ) 3. Reactor A อณุ หภูมสิ ูงเกนิ ไป มีสาเหตุจากเหตุการณ์ย่อย 3 สาเหตุร่วมกนั (AND Gate) คือ อุณหภูมิ สงู ใน Reactor A และไม่มนี ้าออกมาจาก Deluge System และInlet Valve ของ Reactor เปิดคา้ งอยู่ 4. กรอกขอ้ ความ “อุณหภมู สิ ูงใน Reactor A” ลงในชอ่ งสัญลกั ษณ์ External Event (เปน็ สถานะปกติไม่ สามารถแกไ้ ขไดซ้ ่งึ ไม่ต้องวิเคราะหต์ ่อ) 5. กรอกข้อความ “ไม่มีน้าออกมาจาก Deluge System” ลงในช่องสัญลักษณ์ Fault Event (ต้อง วเิ คราะหห์ าเหตุการณย์ อ่ ยต่อไป) 6. กรอกข้อความ “Inlet Valve ของ Reactor เปิดค้างอยู่” ลงในช่องสัญลักษณ์ Fault Event (ต้อง วิเคราะห์หาเหตุการณย์ อ่ ยต่อไป) 7. เหตุการณ์ไม่มีน้าออกมาจาก Deluge System มีสาเหตุจากเหตุการณย์ ่อย 2 เหตุการณ์ เหตุการณ์ใด เหตกุ ารณห์ น่ึง (OR Gate) คือ แหลง่ น้าภายนอกไมจ่ า่ ยน้า หรือ Deluge System ไมเ่ ปิด Valve 8. กรอกข้อความ “แหล่งนา้ ภายนอกไมจ่ า่ ยน้า” ลงในชอ่ งสญั ลักษณ์ External Event (เป็นสถานะท่ีเรา ควบคุมไม่ได้ ซง่ึ ไม่ต้องวเิ คราะห์ตอ่ ) 9. กรอกข้อความ “Deluge Systemไม่เปิด Valve” ลงในช่องสัญลักษณ์ Fault Event (ต้องวิเคราะห์ หาเหตกุ ารณ์ย่อยต่อไป) 10. เหตุการณ์ Inlet Valve ของ Reactor เปิดค้างอยู่ มีสาเหตุจากเหตุการณ์ย่อย 2 เหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ใดเหตกุ ารณห์ นงึ่ (OR Gate) คอื Operator ไม่ปิด Valve หรือ Inlet Valve เสียปดิ ไมไ่ ด้ 11. กรอกข้อความ “Operator ไม่ปิด Valve” ลงในช่องสัญลักษณ์ Fault Event (ต้องวิเคราะห์หา เหตกุ ารณ์ยอ่ ยต่อไป) 12. กรอกข้อความ “Inlet Valve เสยี ปดิ ไม่ได้” ลงในชอ่ งสญั ลักษณ์ Basic Event (สามารถแก้ไขได้แล้ว ไม่ต้องวเิ คราะหห์ าเหตกุ ารณย์ อ่ ยตอ่ ไป) 13. สาหรับเหตุการณ์ “Operator ไม่ตอบสนอง Alarm” คณะทางานพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถ วิเคราะห์ต่อได้ในขณะนี้ ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม ให้กรอกข้อความ “Operator ไม่ตอบสนอง Alarm” ลงในช่อง สญั ลักษณ์ Undeveloped Event (ต้องหาขอ้ มูลเพมิ่ เติมแลว้ นามาวเิ คราะห์ตอ่ ไปใหแ้ ลว้ เสรจ็ ) ให้ดาเนินการวิเคราะห์ต่อไปจนในท่ีสุด ปลายสุดของเส้นสัญลักษณ์ (Tree) ต้องเป็น External Event หรอื Basic Event เท่าน้ัน เชน่ Sensor เสีย ไมว่ ัดอุณหภมู ิ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 24 ตัวอยา่ ง FTA พื้นท/่ี เคร่อื งจักร/อุปกรณ/์ กระบวนการผลิต/ขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน......................................................................... เหตกุ ารณห์ ลกั (Top Event)......................................เอกสารหมายเลข................วนั ท.่ี ............................................ ชอ่ื คณะทางานชีบ้ ่ง…………………………………………………………………………………………………………………........………… อันตรายหรอื มาตรการ มาตรการ การประเมินความเสี่ยง ควบคุมป้องกนั สาเหตุ ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ ตามมา ที่มีอยู่ ทต่ี อ้ งทาเพมิ่ ความ ความ โอกาส รุนแรง ผลลพั ธ์ เสยี่ ง - Sensor เสีย Deluge System ไมว่ ัดอุณหภมู ิ ไม่เปิด Valve และ Inlet Valve ไมป่ ิด ทาให้ อณุ หภูมิขึ้นสงู จนกระท่งั เกิดการ ระเบิด สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 25 3.2.5 EVENT TREE ANALYSIS (ETA) เป็นวิธีการช้ีบ่งอันตรายของเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดซ่ึงมีผลมาจากการทางานไม่สาเร็จของมาตรการ ควบคุมส่ังการเก่ยี วเนือ่ งแบบทดแทนทีไ่ ด้ออกแบบใว้ และจะมีผลต่อเนือ่ งทาให้เกดิ อุบตั ิเหตรุ ้ายแรงขนึ้ ได้ เปน็ การ วิเคราะห์ผลจากเหตุว่ามีสาเหตุใดท่ีจะทาให้มาตรการควบคุมส่ังการเกี่ยวเน่ืองแบบทดแทนนั้นไม่สาเร็จ แล้วพจิ ารณามาตรการควบคมุ ปอ้ งกนั ทีม่ ีอยู่แล้ว และทต่ี ้องทาเพมิ่ เตมิ ขั้นตอนการชี้บง่ อนั ตรายดว้ ยวิธี Event Tree Analysis 1) เลือกเหตกุ ารณต์ ั้งตน้ ทสี่ นใจ ซ่งึ เรยี กว่า Initiating Event 2) ระบุมาตรการควบคมุ สง่ั การเพ่อื ปอ้ งกันมิใหเ้ กิดเหตุการณ์ที่คาดวา่ จะเกิดนั้น 3) เขียนแผนภูมิ Event Tree 4) อธบิ ายผลจากเหตุ 5) นาสาเหตทุ ไี่ ด้ไปวเิ คราะห์ในตาราง ETA 6) พิจารณามาตรการควบคุมปอ้ งกนั ที่มีอยู่ และทต่ี อ้ งทาเพ่มิ ตัวอย่าง การบรรจุ Gas LPG ลงถัง จะควบคุมให้ได้น้าหนักบรรจุตามท่ีกาหนด คือ 48 กิโลกรัม 15 กิโลกรัม และ 4 กิโลกรัม การบรรจุเร่ิมจากนาถังท่ีผ่านการตรวจสภาพแล้ววางใว้บนเคร่ืองอ่านน้าหนัก (Weighting Element) และต่อสายเข้ากับหัวจ่าย Gas หลังจากต่อเสร็จพนักงานจะปรับต้ังน้าหนักบรรจุท่ีต้อง การและกดสวติ ช์เพอื่ เปดิ วาล์วส่ง Gas เขา้ ถังบรรจุ เมอ่ื ไดน้ ้าหนักท่ีต้องการ เครอื่ งอ่านนา้ หนกั จะส่งสัญญานไปยัง อุปกรณว์ าล์วควบคุม (Control Valve) เพอื่ สงั่ ปดิ การจ่าย Gas โดยอตั โนมัติ กรณที ว่ี าลว์ ควบคมุ ไมป่ ดิ เครือ่ งอ่าน น้าหนกั จะส่งสัญญานต่อไปทอ่ี ุปกรณ์เตือน (Alarm)เพอ่ื ทางานทดแทน ซึ่งจะมีเสียงเตือนให้พนักงานปิดวาล์วท่ีหัว จ่ายแบบ Manual Mode หลังจากบรรจุ Gas เสร็จแล้ว พนักงานจะถอดสายบรรจุ แล้วนาถังไปทดสอบการ ร่ัวไหลดว้ ยน้าสบู่ เมอ่ื ผ่านแล้วจะผนึกซีล และสง่ ไปยงั พ้ืนทีจ่ ดั เก็บตอ่ ไป ขั้นตอนการชี้บ่งอนั ตรายด้วยวธิ ี Event Tree Analysis 1) เลือกเหตุการณ์ท่ีคาดว่าจะเกิดซง่ึ มีผลมาจากการทางานไม่สาเร็จของมาตรการควบคุมสั่งการเกี่ยวเน่ือง แบบทดแทนที่ได้ออกแบบใว้ คือ “นา้ หนักถังบรรจุ Gas เกินกาหนด” เรียกวา่ Initiating Event 2) ผลต่อเนื่องคือปริมาณ Gas ในถังมากเกินไป ทาให้มีแรงดันมาก อุปกรณ์ทนไม่ได้ Gas รั่วไหล ติดไฟ และระเบิดได้ 3) ระบุมาตรการควบคุมสั่งการเก่ียวเน่ืองแบบทดแทน คือ Weighting Element Control Valve Alarm และOperator 4) เขียนแผนภูมิ ETA 5) อธิบายผลจากเหตุ สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 26 ผลทเี่ กิดข้นึ สง่ั ปดิ ปกติ ทางาน ปิดวาล์ว ปกติ เตอื น (2) (1) ไมส่ งั่ ปดิ (2) (2) ไม่ปิดวาลว์ Gas รั่ว ปดิ วาลว์ ปกติ ไมท่ างาน ไมเ่ ตอื น น้าหนกั ถงั เกินกาหนด (Initiaปtดิ inวgาลE์วvent) (2) ไม่ปิดวาล์ว ไมป่ ิดวาล์ว Gas รั่ว (2) ปดิ วาลว์ ปกติ ปิดวาลว์ ไม่ปดิ วาลว์ Gas ร่ัว อธบิ ายการเขยี นแผนภูมิ 1) เขียนเหตุการณ์ท่ีจะเกิดข้ึนเมื่อมาตรการควบคุมส่ังการเก่ียวเน่ืองแบบทดแทนทางานไม่สาเร็จ คือ “น้าหนักถงั เกนิ กาหนด” (Initiating Event) ลงในชอ่ งส่เี หลีย่ มผืนผา้ ซ้ายมือ 2) เขียน มาตรการควบคุมสั่งการเก่ียวเนื่องแบบทดแทน คือ Weighting Element Control Valve Alarm และ Operator ลงดา้ นบนเรียงตามลาดบั การทางาน ลาดับสุดทา้ ยให้เขียนคาวา่ “ผลท่ีเกดิ ขึ้น” 3) เริ่มต้นลากเส้นTreeออกจากInitiating Event ให้ตรงอุปกรณ์ตัวแรก คือ Weighting Element แล้ว ดาเนนิ การดงั ต่อไปน้ี - ลากเส้นTree แบบข้นั บันไดข้นึ ดา้ นบนแสดงว่า “ทางานตามปกต”ิ เขียนระบุการทางานใว้ - ลากเสน้ Treeแบบข้นั บันไดลงด้านล่างแสดงวา่ “ไมท่ างานตามปกต”ิ เขยี นระบกุ ารไม่ทางานใว้ 4) ดาเนินการตามข้อ3.กบั ทกุ ๆอปุ กรณ์ หรือการทางานของ Operator สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 27 5) ระบุผลท่ีเกิดข้ึน ได้แก่ “ปกติ” หรือ “Gas ร่ัว (ไม่ปกติซ่ึงจะนาไปสู่เหตุการณร้ายแรง)” เป็นลาดับ สุดท้ายของแผนภูมิ 6) พิจารณาปลายเส้น Tree ตรงผลที่เกดิ ข้นึ เฉพาะ “Gas รั่ว” ซึง่ ตามตวั อยา่ งมี 3 เสน้ Tree 7) พิจารณาย้อนกลับตามเส้นTree ผ่านจุดใดท่ีระบุว่าไม่ทางานตามปกติอย่างไรให้รวบรวมใว้ ตลอดเส้น Tree จนถึง Initiating Event 8) นาการทางานไม่ปกติท่ีรวบรวมใว้มาเขียนเรียงลาดับจาก Initiating Event (น้าหนักถังเกินกาหนด) จนถงึ ผลท่ีเกิดข้ีน (Gasรวั่ ) แล้วเช่อื มด้วยคาว่า “และ” 9) สุดท้ายจะได้ชุดของสาเหตุที่ทางานไม่สาเร็จแล้วทาให้เกิด Initiating Event (น้าหนักถังเกินกาหนด) ซง่ึ จะทาให้ Gas รวั่ ตดิ ไฟ และระเบดิ ในที่สดุ 10) ให้เรียงลาดับชุดสาเหตุที่ต้องพิจารณามาตรการตามลาดับความสาคัญ โดยจานวนสาเหตุน้อยมีโอกาส เกิดได้ง่ายกว่าจานวนสาเหตุมาก ความผิดพลาดของคนมีโอกาสเกิดได้ง่ายกว่าความผิดพลาดของ อปุ กรณ์ จากแผนภมู ิ ETA สรุปได้วา่ มสี าเหตุ 3 ชดุ ทจ่ี ะทาให้มาตรการควบคุมสัง่ การทางานล้มเหลวจนเกิด เหตุการณน์ ้าหนกั ถงั เกินกาหนด จนทาให้ Gas รว่ั ตามลาดบั ความสาคัญ คือ (1) Weighting Element ไม่ทางาน และพนักงานไมต่ รวจสอบจึงไม่ไดป้ ดิ วาล์ว (2) Control Valve ไม่สั่งปิด และAlarmไมส่ ่งสัญญานเตือน และพนักงานไม่ตรวจสอบจึงไม่ได้ปิดวาล์ว (3) Control Valve ไมส่ งั่ ปิด และพนักงานละเลยไมป่ ดิ วาลว์ ถึงแมจ้ ะมสี ญั ญานเตือน 11) นาสาเหตุทไี่ ด้ไปวเิ คราะหใ์ นตาราง ETA สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 28 ตวั อย่างการใช้ตาราง ETA พื้นท่ี/เคร่ืองจกั ร/อุปกรณ์/กระบวนการผลิต/ขนั้ ตอนการปฏิบัติงาน....การบรรจุ Gas LPG ใส่ถงั .......................... เอกสารหมายเลข........................................................................วันท.่ี ................................. ................................... สถานการณจ์ าลอง (Initiating Event)................น้าหนักถังบรรจุGas เกนิ กาหนด................................................ ผู้ทาการชบี้ ่งอนั ตราย............................................................................................ .................................................. ผลที่เกิดขึน้ มาตรการ มาตรการที่ตอ้ ง การประเมินความเส่ยี ง ตามมา ควบคุมป้องกัน ทาเพิม่ สาเหตุ โอกาส ความ ผลลัพธ์ ความ ทม่ี ีอยู่ รนุ แรง เสยี่ ง 1. Weighting Element ไม่ Gas มีแรงดันมาก ทางาน และพนักงานไม่ เกินไปจนอุปกรณ์ ตรวจสอบจงึ ไม่ได้ปดิ วาลว์ ทนไม่ได้ทาให้Gas 2. Control Valve ไ ม่ สั่ ง ปิ ด รั่วไหล ติดไฟ และ และAlarmไม่ส่งสัญญาน ระเบิด เตือน และพนักงานไม่ ตรวจสอบจงึ ไม่ไดป้ ิดวาลว์ 3. Control Valve ไ ม่ สั่ ง ปิ ด และพนักงานไม่ปิดวาล์ว ถงึ แม้จะมีสญั ญานเตือน สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 29 3.2.6 HAZOP (Hazard and Operability Study) เป็นวิธีการช้ีบ่งอันตรายสาหรับกระบวนการใดท่ีมีการออกแบบกาหนดค่าควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ไว้ แล้วชี้ บ่งว่าถา้ เบ่ียงเบนไปจากค่าควบคมุ จะมผี ลเกิดขึ้นอยา่ งไร และสาเหตทุ ี่ทาให้เกิดการเบยี่ งเบนคืออะไร วธิ ี HAZOP นี้มีประสิทธิภาพมากสาหรับกระบวนการท่ีมีค่าควบคุมปัจจัยหลายปัจจัยในส่ิงเดียวกัน เช่น ของไหล (Fluid) ใน ระบบ ถัง ท่อ เป็นต้น เป็นวิธีท่ีพัฒนามาจากการชี้บ่งอันตรายในอุตสาหกรรมเคมี วิธีนี้เริ่มต้นด้วยการนา Guide Words (คาช้ีนา) เช่น More (มากกว่า) Less (น้อยกว่า) None (ไม่มี) Reverse (ย้อนกลับ) เป็นต้น มาประกอบ กับปัจจัยกาหนดในกระบวนการ (Process Parameter) เช่น Flow (อัตราการใหล) Pressure (ความดัน) Temperature (อุณหภูมิ) เป็นต้น ดังตาราง Deviation List ได้เป็นความเบี่ยงเบนหรือความบกพร่อง (Deviation) เช่น “High Flow” “Low Pressure” “No Agitation” เป็นต้น ค่าควบคุมปัจจัยกาหนดมีทั้งเป็นตัวเลขและไม่เป็นตัวเลขก็ ได้ แล้วทาการช้ีบ่งว่าถ้าเกิดความเบี่ยงเบนหรือความบกพร่อง (Deviation) ข้ึน ผลท่ีเกิดข้ึนตามมาเป็นอย่างไร และมสี าเหตุอะไรบ้างท่ีจะทาใหเ้ กดิ ความเบ่ียงเบนหรือความบกพร่อง (Deviation) น้ัน แลว้ พจิ ารณามาตรการที่มี อยู่และทต่ี อ้ งทาเพ่ิม ถงั เก็บและจ่ายกา๊ ซ เครื่องปม้ั ความดันสูง N od e 5 สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 30 ตาราง Deviation List Parameter Guide Deviation Parameter Guide Deviation Word Word More High Flow Rate LEVEL More High Level Low Level Less Low Flow Rate Less None No Flow More High Reaction Rate FLOW Reverse Reverse Flow REACTION High Reaction Extent Loss of Containment Less Low Reaction Rate Other Than Flow to Wrong Low Reaction Extent Location Loss of Instrument air TEMPERATURE More High Temperature SERVICE/ Loss of Nitrogen NO Loss of Eletricity Less Low Temperature UTILITIES Loss of Cooling Water PRESSURE More High Pressure Loss of Vacuum Less Low Pressure Loss of DCS/PLC COMPOSITION More High Concentration PURGING/ NO No Purging / Inserting Less Low Concentration INSERTING PHASE More Additional Phase More High Agitation CONTAMINATION More Contamination AGITATION Less Low Agitation No Agitation CORROSION/ More Corrosion / Erosion NO EROSION สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 31 ขน้ั ตอนการช้บี ่งอนั ตรายดว้ ยวธิ ี HAZOP 1) ดาเนนิ การโดยทมี ชบี้ ง่ อันตราย HAZOP 2) เลือกกระบวนการทมี่ กี ารออกแบบกาหนดค่าควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ไว้ 3) จดั เตรยี ม P & IDs (Process and Instrument Diagrams) ถ้าไมม่ ีใหว้ ิศวกรหรือผูค้ วบคุมเขยี นข้นึ 4) ใช้ P & IDs กาหนดขอบเขตย่อย (Node) 5) พิจารณาปัจจัยกาหนด (Parameter) ใน Node วา่ มอี ะไรบ้าง เชน่ ความดนั อุณหภมู ิ อัตราการไหล ระดบั ปฏิกริ ิยา เป็นตน้ 6) พจิ ารณาความบกพร่อง (Operating Deviation) ของ Node เชน่ High Flow, Low Pressure เปน็ ตน้ 7) นาแต่ละความบกพร่อง (Operating Deviation) กรอกลงในช่องที่ 1 “ข้อบกพร่อง” ของตาราง HAZOP 8) พิจารณาหาสาเหตุทที่ าใหเ้ กิด “ข้อบกพร่อง” ตามช่องที่ 1 เช่น สาเหตุการเกิด High Flow สาเหตกุ าร เกดิ Low Pressure เป็นต้น นาสาเหตุกรอกใส่ในชอ่ งท่ี 2 “สถานการณ์จาลอง” 9) พจิ ารณาถึงผลทเี่ กิดขนึ้ เม่ือเกิด ”“ข้อบกพร่อง” ตามชอ่ งท่ี 1 เช่น ผลทีเ่ กิดขึ้นจากการเกดิ High Flow ผลท่เี กดิ ขึ้นจากการเกิด Low Pressure เป็นตน้ แลว้ นาผลทไี่ ดก้ รอกลงในชอ่ งที่ 3 “ผลท่ีเกิดขน้ึ ” 10) พิจารณามาตรการทม่ี ีอยู่แลว้ และทตี่ ้องทาเพม่ิ เติม สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 32 ตวั อยา่ งการใช้ตาราง HAZOP หน่วย การบรรจกุ า๊ ซ Node 5 รายละเอียด การอดั บรรจกุ ๊าซ ปัจจยั กาหนด....อตั ราการไหล.......... ค่าควบคมุ ....ตา่ สุด 0.25 ตัน/ชัวโมง สงู สุด 1 ตัน/ชัวโมง.........แบบแปลนหมายเลข...... P&IDs -01............ ความ มาตรการ มาตรการ การประเมินความเสี่ยง บกพร่อง สถานการณ์ ที่มีอยู่ ทต่ี ้องทาเพม่ิ ผลทเ่ี กิดขนึ้ ความ ความ จาลอง รุนแรง เสี่ยง โอกาส ผลลพั ธ์ High Flow เกิดท่อหลุด ปั๊มหมนุ ด้วยความเร็วสูง ท่ีหัวจ่าย ซีลชารดุ ก๊าซรว่ั ไหล Low Flow เกิดการตัน ตดิ ไฟ ระเบดิ ของตัวกรอง ปัม๊ เกิด ความรอ้ นสงู No Flow วาล์วดูดด้าน ป๊มั เสยี หายประมาณ วาล์วระบาย .............บาท ถู ก ปิ ด ข ณ ะ เดนิ ปั๊ม ความดนั Discharge Line สงู ท่อแตก กา๊ ซร่ัวไหล ติดไฟ ระเบดิ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หน้า 33 3.2.7 What - if เป็นวิธีการช้ีบ่งอันตรายท่ีดาเนินการโดยกลุ่มคนที่มีประสบการณ์ในเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง มาระดมสมอง ร่วมกันจัดทาทะเบียนรายการคาถามท่ีเกี่ยวข้องกับอันตรายที่เฉพาะเจาะจงที่อาจเกิดขึ้นในเรื่องน้ัน แล้วส่งผล กระทบให้เกิดเหตกุ ารณท์ ไ่ี ม่พึงประสงค์ข้ึน โดยใชค้ าถาม “จะเกดิ อะไรขนึ้ ........................ถ้า......................? ใช้สาหรับการทางานเป็นทีมเพ่ือให้มีการเสริมสร้างความคิดในการตั้งคาถาม และบันทึกลงในบัญชี รายการคาถาม โดยทั่วไปมักจะอยู่ในขอบเขตของคน อุปกรณ์ วัสดุ วัตถุดิบ และสภาพแวดล้อม แต่ละกลุ่มของ คาถามตอ้ งมเี จา้ ของพนื้ ท่รี ่วมต้ังคาถาม คาถาม-คาตอบ เกิดจากประสบการณ์ของบุคลากรในทีม คาถามอาจจะเป็นประเภทท่ัวไปหรือ เฉพาะเจาะจงก็ได้ โดยท่ัวไปไม่มีรูปแบบของลาดับของคาถามตายตัว ซึ่งอาจจะเรียงลาดับตามขั้นตอนของ กระบวนการกไ็ ด้ เพือ่ ให้ทมี งานเกดิ การระดมสมองได้อย่างต่อเน่ือง ทะเบียนคาถาม What - if น้ี มีประสิทธิภาพมากสาหรับใช้เป็นตัวเร่ิมต้นท่ีจะส่งไปให้วิธีท่ีเหมาะสม วิเคราะห์ต่อไป เน่ืองจากแบบตาราง What - if ไม่มชี ่องวเิ คราะหส์ าเหตุ ใช้วิธีพิจารณารว่ มกับมาตรการเลย ทาให้ การใช้เหตุผลไม่ละเอียดพอ ดังนั้น จึงไม่ควรใช้ตาราง What - if วิเคราะห์คาถาม-คาตอบจากทะเบียนคาถาม โดยตรง ยกเว้นไม่มีวิธีช้ีบ่งอันตรายใดเหมาะสมให้ใช้ตาราง What - if และไม่ควรไปตั้งคาถาม What - if เฉพาะหน้า กรณีคาถาม-คาตอบใดใช้ตาราง What - if ให้พจิ ารณามาตรการที่มอี ยู่ และมาตรการทตี่ ้องทาเพม่ิ ตอ่ ไป วธิ ี What - if มีขน้ั ตอนการดาเนินการดังน้ี 1) กาหนดขอบเขตของระบบหรือกิจกรรมท่จี ะทาการช้บี ง่ อันตราย 2) จัดทารายการองค์ประกอบตา่ ง ๆ ที่อยู่ในขอบเขต 3) ระดมสมองผู้มีประสบการณ์ตั้งคาถาม What - If เพื่อจัดทาทะเบียนรายการคาถาม โดยนา องค์ประกอบต่าง ๆ มาสมมุติเหตุการณ์ที่จะ มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ หรือ ไม่ทางานตาม หนา้ ที่ที่กาหนด ดว้ ยการใช้คาถามนา “จะเกดิ อะไรขึ้น - ถ้า.....................” สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 34 ตวั อย่างทะเบยี นรายการคาถาม กระบวนการ จะเกิดอะไรข้ึน ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ การดาเนินการ งาน/กิจกรรม ถา้ ........................ การบรรจุกา๊ ซลงถงั เปิดป๊ัมจ่ายก๊าซแต่ไม่ได้ ทาให้ท่อก๊าซแตก หรือ ตรวจสอบว่าเป็น WI อยู่แล้ว “ต้องเปิด เปิดวาลว์ ด้านออก ร่ัว ก๊าซรั่วไหล ติดไฟ วาล์วดา้ นออกเม่ือเปดิ ป๊ัมจ่ายก๊าซ” ต้อง ระเบิด จัดทาเป็นข้อบังคับตามกฎหมาย แล้ว ค ว บ คุ ม ก า ร ป ฏิ บั ติ ก ฎ ห ม า ย ต้ อ ง ดาเนนิ การกอ่ น การขนถา่ ยโซดาไฟ ว าล์ว รั่ว ขณะขนถ่าย ทาให้เกิดการรั่ว ของ นา “วาล์วรั่วขณะขนถ่ายโซดาไฟ” ไปช้ี โซดาไฟ โซดาไฟสู่บรรยากาศมี บ่งอันตรายด้วยวิธี FMEA ส่วน PM ทา ผลกระทบต่อสุขภาพ เปน็ ปกตอิ ยแู่ ล้ว และให้ใชต้ าราง What- และส่งิ แวดล้อม if ชบี้ ง่ ต่อได้เลย อบแผ่นยาง เตาอบแผ่นยางอุณหภูมิ ความดันสูง อุปกรณ์ทน เปน็ เหตกุ ารณ์รา้ ยแรงท่ีอาจมสี าเหตุเป็น สงู เกนิ ไป ไม่ได้ เกิดระเบิด เหตุการณ์ย่อยหลายช้ันให้นา”เตาอบ แ ผ่ น ย า ง อุ ณ ห ภู มิ สู ง เ กิ น ไ ป ” ไ ป ช้ี บ่ ง อนั ตรายด้วยวิธี FTA งานซ่อมบารุงย่อย ฝนตกหนักมากและน้า น้าเอ่อล้นขอบ Bun เข้า ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใชว้ ิธชี ้บี ่งอนั ตรายอนื่ ใหใ้ ช้ ท้ายShop ด้านหลัง ทะเลหนุนสงู ท่วมพื้นที่งาน ไฟฟ้าช๊อต ตาราง What-if ชบ้ี ง่ ตอ่ ได้เลย รมิ คลอง คนเสียชีวติ จากทะเบยี นคาถามพจิ ารณา คาถาม “จะเกิดอะไรขึน้ .............ถา้ ..........” แล้วระบุการดาเนินการ ดังนี้ 1) ถ้าเป็นความบกพร่องของคนปฏิบัติ ไปจัดทาข้อบังคับ/กฎระเบียบความปลอดภัย ควบคุม การปฏิบตั ิ 2) ถ้าจาเป็นต้องวิเคราะห์หาสาเหตุเพ่ิมเพ่ิมเติม ให้พิจารณานาไปช้ีบ่งอันตรายด้วยวิธีอ่ืนท่ี เหมาะสมตอ่ ไป จะมปี ระสทิ ธภิ าพกว่า 3) ถ้าไม่จาเป็นต้องวิเคราะห์หาสาเหตตุ ่อไป เพราะแก้ไขสาเหตุไม่ได้ หรือนอกเหนือการควบคมุ ให้ใช้ตาราง What-if ช้บี ง่ ต่อได้เลย สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 35 ตัวอยา่ งการใชต้ าราง What If พ้ืนที่/เครื่องจกั ร/อปุ กรณ์/กระบวนการผลติ /ขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ าน.........งานขนถา่ ยโซดาไฟ...................... หนว่ ยงาน....................................ตามแบบเอกสารหมายเลข........................วันที่.................................. คาถาม What If ผลท่เี กิดข้ึน มาตรการทีม่ ีอยู่ มาตรการท่ี การประเมินความเส่ียง ต้องทาเพ่ิม โอกาส ความ ผลลัพธ์ ความ รุนแรง เสยี่ ง ถ้าวาลว์ ร่ัว ขณะขน ทาให้เกิดการร่ัว ของ ถา่ ยโซดาไฟ โซดาไฟสู่บรรยากาศมี ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ สุ ข ภ า พ และสง่ิ แวดลอ้ ม สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หนา้ 36 บทที่ 4 การประเมนิ ความเสย่ี งดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 4.1 ขอ้ กาหนด ทั้งนี้ให้ดาเนินการตามมาตรฐานระบบการจัดการความเสีย่ งฯ (สสปท. 1-4-02-00-2562) ข้อ 4.4 4.4 การประเมินความเสย่ี ง 4.4.1 ในการประเมินความเส่ียง ให้ใช้หลักเกณฑก์ ารพิจารณาตอ่ ไปนี้ 1) พิจารณาถึงโอกาสทีจ่ ะเกดิ ความสญู เสยี ของอันตราย 2) พจิ ารณาถงึ ความรนุ แรงจากความสูญเสยี ของอันตราย 4.4.2 การดาเนินการประเมินความเสี่ยงพิจารณาค่าโอกาสที่จะเกิดความสูญเสียของอันตรายและ ค่าความรุนแรงจากความสูญเสียของอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ให้ระบุลงในตารางการประเมิน ค่าความเส่ยี งซง่ึ แบ่งค่าโอกาสจะเกิดความสญู เสียของอันตรายและคา่ ความรนุ แรงจากความ สญู เสียของอนั ตราย จะได้ระดับความเส่ียงดังนี้ 1) ความเส่ียงยอมรับไม่ได้ แบ่งระดับความเสี่ยงได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับความเสี่ยงสูง มาก และระดบั ความเส่ียงสงู 2) ความเส่ียงยอมรับได้ แบ่งระดับความเสี่ยงได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับความเสี่ยงปาน กลาง และระดับความเสีย่ งเลก็ น้อย สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 37 4.2 การดาเนินการประเมินความเสยี่ ง 1. นาตารางท่ผี ่านการชี้บง่ อันตรายในวธิ ตี า่ งๆ มาประเมนิ ความเสีย่ ง 2. ประเมินความเสยี่ งทีละอันตราย โดยพิจารณาเลือกตวั เลขสองตัวแรก คือ ค่าโอกาสและค่าความรุนแรงที่ จะเกิด 3. ค่าความรุนแรงพจิ ารณาเลือกจากตารางค่าความรุนแรง 4. ค่าโอกาสท่ีจะเกิดพิจารณาเลือกจากตารางค่าโอกาสท่ีจะเกิดเชิงมาตรการ หรือตารางค่าโอกาสท่ีจะเกิด เชิงสถติ ิ 5. หนึ่งอนั ตรายมีค่าโอกาสท่จี ะเกิดเพียงหน่ึงค่า และค่าความรนุ แรงเพยี งหน่ึงค่า กรณเี กิดความสูญเสยี ท้ังต่อ คนและทรพั ย์สินให้ใชค้ ่าความรุนแรงสูงท่สี ดุ หนึ่งค่า 6. นาค่าโอกาสคณู กบั ค่าความรนุ แรง ผลลพั ธ์ทีไ่ ดใ้ หน้ าไปเทยี บค่าความเส่ยี งในตาราง Matrix 7. จะได้ค่าตัวเลขท่ีแสดงความเสี่ยงว่า “ยอมรับได้” หรือ “ยอมรับไม่ได้” รวมท้ังยังได้ระดับความเสี่ยงว่าสูงมาก สูง ปานกลาง เลก็ น้อย 8. ระดบั ความเส่ยี งทีไ่ ด้ นาไปจดั ทาแผนจัดการความเสี่ยง การพจิ ารณาโอกาสทจ่ี ะเกดิ จากมาตรการท่ีมีอยู่ ระดบั พิจารณาจากขอ้ มลู ในปจั จุบนั 1 มีโอกาสในการเกิดยาก เพราะมมี าตรการทีเ่ ป็น W/I (ประกอบด้วยการออกแบบ ติดตงั้ ตรวจสอบ ซ่อมแซม บารงุ รักษา) มกี ารเตือน และมีแผนลด/แผนควบคมุ (4-1-1-1 =1) 2 มีโอกาสในการเกิดน้อย เพราะมมี าตรการทเ่ี ป็น W/I มกี ารเตอื น หรือมีแผนลด/แผนควบคมุ (4-1-1 = 2) 3 มโี อกาสในการเกิดปานกลาง เพราะมมี าตรการทเ่ี ป็น W/I ไมม่ กี ารเตอื น และไม่มีแผนลด/แผนควบคมุ (4-1 = 3) 4 มีโอกาสในการเกิดสูง เพราะไมม่ มี าตรการ (4-0 = 4) คาอธิบายค่าระดบั โอกาส 1) หมายถงึ ตอ้ งเปน็ กระบวนการดาเนินงานโดยชา่ งทส่ี ามารถควบคุมป้องกัน หรือระงับยบั ยั้งไม่ให้เกดิ สาเหตุ หรอื ผลทจี่ ะเกดิ ตามท่ีระบุไว้ในช่องตารางได้ และตอ้ งแสดงแผนลดและแผนควบคุมความเส่ียงได้ด้วย จึงจะ ลดค่าความเสยี่ งลงได้ 3 คือ 4-1-1-1 เหลอื 1 สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

หน้า 38 2) หมายถึง ต้องเป็นการกาหนดวิธีปฏิบัติให้ผู้ปฏิบัติงาน ในรูปของข้อบังคับว่าด้วยความปลอดภัยในการ ทางาน(กรณตี รงกบั ขั้นตอนงาน) หรือกฎระเบยี บวา่ ด้วยความปลอดภัยในการทางาน(กรณีไมต่ รงกับข้ันตอน งาน) ตามกฎหมาย และมีการเตือนบริเวณที่อันตรายนั้นในรูปของ ป้ายข้อความเตือน สัญญานเตือนพร้อม ข้อความ และต้องแสดงแผนลดและแผนควบคุมความเส่ียงได้ด้วย จึงจะลดคา่ ความเส่ยี งลงได้ โดยวธิ ปี ฏิบตั ิ ลดได้ 1 และการเตอื นลดได้ 1 คือ 4-1-1 เหลอื 2 3) หมายถึง เหมือนขอ้ 2 แตไ่ ม่มีการเตือน จะลดคา่ ความเส่ียงลงได้ 1 คือ 4-1 เหลอื 3 4) หมายถึง ไม่มีมาตรการใด ๆที่สามารถควบคุมป้องกัน หรือระงับยับยั้งไม่ให้เกิดสาเหตุ หรือผลที่จะเกิด ตามที่ระบไุ วใ้ นชอ่ งตารางได้ จึงไมส่ ามารถลดคา่ ความเสย่ี งลงได้เลย คือ 4-0 เหลือ 4 5) การพิจารณาโอกาสท่ีจะเกดิ เชงิ มาตรการ นบั เป็นวิธที ี่มปี ระสิทธภิ าพความปลอดภยั สงู ทสี่ ดุ ค่าระดับความรนุ แรงท่ีคาดวา่ จะเกดิ ขึ้น แนวทางในการประเมนิ ระดบั ความรุนแรงที่คาดว่าจะเกิดข้ึน ให้พจิ ารณาจากผลของความรุนแรงต่อสุขภาพ และ /หรือทรัพย์สินเสยี หาย ผลของความรนุ แรงต่อสุขภาพ ทรัพยส์ ินเสยี หาย ระดบั 1 ปฐมพยาบาล ตง้ั แต.่ ....................ถึง.............................. ระดบั 2 บาดเจ็บและไดร้ ับการรักษาจากสถานพยาบาล ตง้ั แต.่ ....................ถงึ .............................. ระดบั 3 สญู เสยี อวัยวะ (ไมส่ ามารถรกั ษาให้กลบั คนื เปน็ ปกติได้) ต้งั แต่.....................ถงึ .............................. ระดับ 4 ทพุ พลภาพ เสยี ชีวิต เกนิ ........................บาท หรอื ไฟไหม้ ระเบดิ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)

4.3 ตัวอย่างการประเมนิ ความเสย่ี ง พนื้ ท/่ี เครอื่ งจกั ร/กระบวนการ/ขั้นตอนงาน/กจิ กรรม เครือ่ งเจียเหล็ก ตามแบบเอกสารหมายเลข วนั ทว่ี เิ คราะห์ 8 ส.ค. 6 อุปกรณ์/สง่ิ ความ สาเหตคุ วามล้มเหลว ผลท่จี ะเกิดขึ้น ลม้ เหลว Lock Nut - Lock Nut - ขาดการตรวจสอบ ลอ้ กระเดน็ ใสผ่ ู้ปฏบิ ตั งิ ของล้อหนิ หลดุ กอ่ นใชง้ าน ทาให้บาดเจบ็ เจีย - Lock Nut หลดุ เพราะ พนักงานเปล่ียนล้อ หินเจียประกอบไมแ่ นน่ - แตก - Lock Nut ลอ้ กระเด็นใสผ่ ปู้ ฏิบัตงิ เสอ่ื มสภาพ ทาให้บาดเจ็บ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และ

หนา้ 39 ส่วนงาน ข้นึ รูป 62 ผู้วเิ คราะห์ ช่างชชู ีพ มาตรการควบคุม มาตรการที่ การประเมนิ ความเส่ียง ป้องกันทมี่ ีอยู่ ควรทาเพิม่ โอกาส ความ ผลลพั ธ์ ความ งาน รนุ แรง เสี่ยง 42 83 งาน - มแี ผน PM ไมใ่ ห้ 12 21 Lock Nut เสอ่ื มสภาพโดยช่าง ะสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)

หนา้ 40 คาอธบิ ายตวั อย่างการประเมินความเสยี่ ง การประเมนิ ความเสี่ยงของอนั ตราย “ลอ้ หินเจยี หลดุ ” จากสาเหตทุ ่หี นึง่ 1) พิจารณาชอ่ ง “มาตรการที่มีอยู่” พบวา่ “ไม่ม”ี ดงั นัน้ คา่ โอกาสจึงเป็นสูงสุด คือ “4” ระบลุ งในช่อง “โอกาส”ข้างหนา้ 2) พจิ ารณาชอ่ ง “ผลท่ีจะเกดิ ” สุดทา้ ย “ไปโรงพยาบาล” ดงั นั้นคา่ ความรุนแรงจงึ เป็น “2” ระบลุ งใน ชอ่ ง “ความรุนแรง”ขา้ งหนา้ 3) นาคา่ โอกาส “4” คณู คา่ ความรุนแรง “2” เท่ากับ 8 ระบลุ งในชอ่ ง “ผลลพั ธ์” ขา้ งหนา้ 4) นาไปเทียบค่าระดับความเส่ยี งไดจ้ ากตารางMatrix ได้ “3” ระบลุ งในชอ่ ง “ความเสีย่ ง” ข้างหนา้ 5) แปลผลได้ว่าความเสย่ี ง “ยอมรบั ไม่ได”้ ระดับความเสี่ยง “สูง” ประเมินความเสี่ยงของอันตราย “ล้อหนิ เจยี แตก” จากสาเหตทุ ห่ี น่งึ 1) พจิ ารณาชอ่ ง “มาตรการทีม่ ีอยู่” พบวา่ “มี PM โดยชา่ ง” ดงั น้นั ค่าโอกาสจงึ เป็น 4-3 คอื “1” ระบุ ลงในชอ่ ง “โอกาส” ขา้ งหน้า 2) พจิ ารณาช่อง “ผลทจี่ ะเกดิ ” สดุ ทา้ ย “ไปโรงพยาบาล” ดงั น้ันค่าความรุนแรงจึงเป็น “2” ระบลุ งใน ชอ่ ง “ความรนุ แรง” ข้างหนา้ 3) นาคา่ โอกาส “1” คณู ค่าความรุนแรง “2” เทา่ กบั 2 ระบลุ งในช่อง “ผลลพั ธ์” ขา้ งหนา้ 4) นาไปเทยี บคา่ ระดบั ความเสย่ี งไดจ้ ากตาราง Matrix ได้ “1” ระบุลงในช่อง “ความเสยี่ ง” ข้างหนา้ 5) แปลผลได้วา่ ความเสย่ี ง “ยอมรับได”้ ระดับความเสีย่ ง “เลก็ นอ้ ย” สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)

ตวั อยา่ งการประเมินความเสยี่ ง พนื้ ท่ี/เคร่อื งจกั ร/กระบวนการ/ขนั้ ตอนงาน/กจิ กรรม เครื่องเจียเหลก็ ตามแบบเอกสารหมายเลข วนั ท่วี ิเคราะห์ 8 ส.ค. 6 อปุ กรณ์/ ความ สาเหตุความล้มเหลว ผลท่ีจะเกดิ ขึ้น สง่ิ ลม้ เหลว Lock Nut - Lock - ขาดการตรวจสอบ ล้อกระเด็นใส่ ของล้อหิน Nut ก่อนใช้งาน ผ้ปู ฏบิ ัติงาน เจยี หลดุ - Lock Nut หลุด ทาให้บาดเจ็บ เพราะพนักงานเปลีย่ น - แตก ลอ้ หนิ เจียประกอบไม่ ล้อกระเดน็ ใส่ แนน่ ผ้ปู ฏิบตั งิ าน ทาให้บาดเจบ็ - Lock Nut เสื่อมสภาพ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และ