Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือฝึกอบรมการจัดการและการประเมินความเสี่ยงในที่ทำงาน สำหรับสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (ฉบับภาษาไทย)

คู่มือฝึกอบรมการจัดการและการประเมินความเสี่ยงในที่ทำงาน สำหรับสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (ฉบับภาษาไทย)

Published by e-Book สสปท., 2020-06-30 23:25:17

Description: เกี่ยวข้องกับด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน Occupational Safety Health

Keywords: ปลอดภัยม,safety,Occupational,Health

Search

Read the Text Version

ส่วนที่ 2 เคร่อื งมอื ของผู้ฝกึ สอน

1. การวางแผน การดาเนินงาน และการประเมินการฝกึ อบรม : รายการตรวจสอบ สาหรบั ผสู้ อน ชุดฝึกอบรมน้ีเน้นความสาคัญของวิธีการเรียนรู้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศได้ผลิตส่ือการสอน เร่ือง “Your health and safety at work” ประกอบด้วย คู่มือการสอน รายการตรวจสอบ ซึง่ จะช่วย ในการวางแผน การดาเนินงาน และการประเมินการฝึกอบรมเรือ่ งการประเมนิ ความเสี่ยง หลกั การสาคญั การฝึกอบรมการประเมนิ ความเสย่ี งไม่ใชก่ ารทาแบบฝกึ หดั หรือเรียนรู้จากการบรรยายแต่จาเป็นต้องฝึก ปฏิบัติจริงในเร่ืองการปรับปรุงแก้ไขด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ที่ต้องดาเนินการในสถานท่ี ทางาน ดังน้ัน ควรให้ผู้เก่ยี วขอ้ งทงั้ หมดเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการฝึกปฏบิ ัตจิ รงิ หลักการที่สาคัญ มีดงั น้ี รายการตรวจสอบ : หลักการของการฝึกอบรม ................................................................................................................................................................................ การเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง - ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถเรียนรู้ได้จากการ ปฏิบัติงานจริง ทาให้เกิดทักษะและมีความชานาญในการปฏิบัติงานมากข้ึนกว่าการฟัง บรรยาย การทากจิ กรรมรว่ มกัน –การเรียนรู้ที่ได้ผลดี คือ ใหท้ กุ คนทเ่ี กีย่ วขอ้ งเข้ามารว่ มระดมความรู้ ประสบการณ์ และทักษะของตนเอง การมีกิจกรรมในกลุ่มย่อย และมีการนาเสนอรายงาน จะช่วยให้ทุกคนมีส่วนร่วม ในการแลกเปล่ียนประสบการณ์และแนวคิดเพ่ือการปรับปรุงที่ หลากหลายและมีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ การลงไปปฏบิ ตั งิ านจริงในพนื้ ที่ ช่วยให้ผ้เู ขา้ รับการฝึกอบรมเกิดการเรยี นรจู้ ากสถานการณ์ ทีเ่ ป็นจรงิ หัวข้อการฝึกอบรม ควรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่จริง และปรับเนื้อหาให้ สามารถเขา้ ใจไดง้ า่ ย เอกสารประกอบคาบรรยาย ควรระบุประเด็นที่สาคัญเพื่อใช้ในการอ้างอิง หลังจากการ เรยี นรู้แตล่ ะหัวขอ้ การทบทวนหลักสูตร ควรมีการทบทวนส่ิงท่ีได้เรียนรู้หลังการฝึกอบรมเพ่ือใช้เป็นข้อมูลใน การปรับปรงุ หลักสตู รใหเ้ หมาะสมตามความเปน็ จรงิ เครอ่ื งมือของผูฝ้ กึ สอน 45

บทบาทของผสู้ อน รายการตรวจสอบ : บทบาทของผู้สอน ................................................................................................................................................................................ ผ้สู อนมีบทบาทดงั น้ี ตระหนักถึงความแตกต่างของผู้เข้ารับการฝึกอบรมแต่ละคนในกลุ่ม โดยเฉพาะเพศ พฤติกรรม ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเท่า เทยี มกัน ให้คาแนะนาแนวทางในการจัดและวิธีดาเนินกิจกรรมต่างๆ อธิบายให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าใจวตั ถปุ ระสงคข์ องการฝกึ อบรม ใหค้ วามสาคัญกับข้อคิดเหน็ ของผู้เข้ารบั การฝึกอบรมแต่ละคน จัดเตรียมข้อมูลพื้นฐาน เอกสารประกอบการบรรยาย สื่อสิ่งพิมพ์ และสิ่งอานวยความ สะดวกสาหรับการฝึกอบรม ปรับส่ือการสอนให้เหมาะสมกับผู้เข้ารับการฝึกอบรม ให้มีการอภิปราย และให้ข้อคิดเห็น เสนอแนะเพม่ิ เติม เปน็ ผนู้ าในการสรุปประเด็นทีส่ าคัญ จัดหาวิทยากรจากภายนอกตามความเหมาะสม กจิ กรรมกลุ่มย่อย สนบั สนนุ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมใหม้ กี ิจกรรมกลุ่มยอ่ ย ทาให้การฝกึ อบรมการประเมินความเส่ยี งมี ประสิทธิภาพ ซึง่ เป็นการเรียนรทู้ เ่ี หมาะสมสาหรบั ผใู้ หญ่: รายการตรวจสอบ : กิจกรรมกลุ่มย่อย ................................................................................................................................................................................ เป็นกจิ กรรมเชิงรุก สนับสนุนให้มีการทากจิ กรรมรว่ มกัน สนบั สนนุ ให้ผู้เขา้ รับการฝกึ อบรมมีความเชื่อมนั่ ที่จะเขา้ มามีส่วนร่วมในการอภิปราย ทาใหผ้ เู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมทากิจกรรมกลุ่มไดโ้ ดยอิสระ การประชุมกล่มุ ย่อยชว่ ยใหก้ ารอภิปรายมีประสิทธภิ าพ การประชมุ กลมุ่ ทาให้ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมได้มกี ารฝึกอภปิ รายและค้นหาขอ้ เทจ็ จรงิ ใน สถานการณ์ต่างๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง 46 เครอ่ื งมอื ของผู้ฝึกสอน

กจิ กรรมกลมุ่ ควรกาหนดให้มีผู้เขา้ ร่วม 3-4 คน เพื่อสนับสนนุ ให้เกิดการมสี ว่ นร่วมมากท่ีสดุ การเรยี นรแู้ บบมสี ่วนรว่ ม ในกระบวนการเรียนรู้ท่ีดีสาหรับผู้ใหญ่คอื การไดเ้ ข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังและได้รับการสนับสนนุ ให้ อภิปรายจากประสบการณ์ของตนเอง การเรียนรู้แบบน้ีเรียกว่า การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม หรือการ เรียนรทู้ ม่ี ผี เู้ รียนเปน็ ศนู ยก์ ลาง ขอ้ ดขี องการเรยี นรแู้ บบนีค้ อื กร ะบ ว น การ เ รี ย น รู้ ท่ีเ ริ่ มต้ น จ ากผู้ เ ข้ารั บ การ ฝึ กอบ ร มเ ป็ น ผู้ น าเ ส น อร าย ล ะเ อี ย ด ท่ีมาจ า ก ประสบการณข์ องตนเอง ผู้เข้ารบั การฝึกอบรม เรยี นรจู้ ากการแลกเปลี่ยนหรอื อภิปรายประสบการณ์ของแต่ละคนรว่ มกนั ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคน ได้มีโอกาสให้ข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ของตนเอง อันจะนาไป ส่กู ารพัฒนาทกั ษะในการปฏบิ ัตงิ าน การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมมีการกาหนดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแลกเปล่ียนข้อมูลซึ่งกันและกัน ทาให้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมไดเ้ รียนรจู้ ากประสบการณข์ องผู้อ่นื และนาไปปรบั ใช้เพื่อให้เกิดความเหมาะสมของ แตล่ ะสถานการณไ์ ดเ้ ปน็ อย่างดี รายการตรวจสอบ : การเรยี นรู้แบบมีส่วนรว่ ม ................................................................................................................................................................................ ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีโอกาสอภิปรายหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การชี้บ่งอันตราย ประเมนิ ความเส่ียง และเสนอมาตรการในการควบคุมและป้องกนั อันตรายที่อาจจะเกิดขึน้ ให้ความสาคญั กับข้อมูล ขอ้ คิดเหน็ จากประสบการณข์ องผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมทกุ คน มีการบรรยายเพียงเล็กน้อยเท่าท่ีเป็นไปได้ โดยแบ่งเนื้อหาการฝึกอบรมการประเมินความ เสี่ยงให้เป็นข้ันตอน จัดให้มีกิจกรรมในแต่ละข้ันตอนพร้อมท้ังกระตุ้นให้มีการอภิปรายของผู้ เขา้ รับการฝึกอบรมแต่ละคนเพ่อื ให้เกิดการเรยี นรู้ ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแต่ละคนมีส่วนร่วมในการเป็นผู้นาในการนาเสนอผลการอภิปราย กลุม่ ผสู้ อนควรชีแ้ นะผู้เข้ารับการฝกึ อบรมเก่ยี วกบั แนวคิด วตั ถปุ ระสงค์ และวธิ ดี าเนนิ การ สนับสนุนให้มีกิจกรรมนันทนาการ การแสดงบทบาทสมมุติตามข้อมูลและประสบการณ์ของ ผเู้ ขา้ รับการฝกึ อบรม ควรมีการฝกึ ปฏบิ ัตภิ าคสนาม ใหผ้ ู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมได้เรยี นรู้จากกิจกรรมทห่ี ลากหลาย ใหผ้ ู้เขา้ รบั การฝึกอบรมได้เรียนรซู้ งึ่ กนั และกนั ต้องมน่ั ใจว่าไมม่ ีใครถูกครอบงาจากบคุ คลใดบคุ คลหนง่ึ สนับสนนุ ส่งเสริมใหผ้ ู้เข้ารบั การฝึกอบรมทไ่ี ม่แสดงความคิดเห็นได้มีส่วนรว่ มอย่างสม่าเสมอ เครื่องมือของผูฝ้ กึ สอน 47

การวางแผนและการเตรยี มงาน สิ่งท่ีสาคัญ คือ ผู้ฝึกสอนต้องวางแผนงาน และเตรียมงานอย่างถ่ีถ้วน และต้องปรับการฝึกอบรมให้ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซ่ึงข้ึนอยู่กับประสบการณ์และความรู้พิ้นฐานของ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม แผนพ้ืนฐานท่ีต้องเตรียม ได้แก่กิจกรรมต่างๆ เอกสารประกอบการฝึกอบรม สื่อการสอนและวัสดอุ ุปกรณ์ประกอบการฝึกอบรม รวมทั้งหัวขอ้ และระยะเวลาการฝกึ อบรม รายการตรวจสอบ : การวางแผนและการเตรยี มงาน ................................................................................................................................................................................ จัดทาแผนการสอน (ดูตัวอย่างจากข้างล่างนี้) และแผนการฝึกอบรมก่อนท่ีจะทาการ ฝกึ อบรม แผนการสอนประกอบด้วย วัตถปุ ระสงค์ เน้อื หาหลัก ประเด็นทต่ี อ้ งจดจา กจิ กรรม ที่ตอ้ งปฏบิ ัติ และสรปุ ผลการฝึกอบรม สอื่ การสอนและกิจกรรมระหว่างการฝึกอบรมควรเป็นภาษาท้องถน่ิ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ประกอบการฝึกอบรม เช่น ภาพพลิก (Flip chart) รูปภาพ เครื่องเขียน กระดาษ อุปกรณส์ าหรับการนาเสนอ เปน็ ตน้ ควรทาสอ่ื การสอน และสาเนาไวล้ ่วงหน้า ควรให้ผู้เขา้ รับการฝกึ อบรมมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมต่างๆ ร่วมกบั ผฝู้ กึ อบรม มีการพัฒนาสอ่ื การสอน และเทคนิคการฝกึ อบรมใหม่ๆ 48 เครอ่ื งมอื ของผูฝ้ กึ สอน

ตัวอย่าง แผนการฝึกอบรม มีรายละเอยี ดดังนี้ ช่อื หัวข้อการฝึกอบรม เน้อื หา ระยะเวลา วธิ กี ารฝกึ อบรม อปุ กรณป์ ระกอบการฝกึ อบรม วัตถุประสงค์ของการฝกึ อบรม บทนา เนื้อหาหรอื ประเด็นหลัก ประเดน็ ทีต่ ้องจดจา กิจกรรมต่างๆ การอภปิ ราย สรปุ เทคนคิ การฝึกอบรม รายการตรวจสอบต่อไปนีเ้ ปน็ แนวทางท่ีใชใ้ นการฝึกอบรม รายการตรวจสอบ : เทคนิคการฝึกอบรม ................................................................................................................................................................................ ถามคาถาม : ใช้วิธีการถามนาเพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีการอภิปราย แต่ไม่ควรใช้ในลักษณะ บังคบั ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมใช้แบบรายการตรวจสอบ: แบบรายการตรวจสอบเปน็ ส่ือการสอน ชนิดหน่ึงเพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้และ พัฒนาด้วยตัวเอง ซ่ึงผู้ฝึกอบรม ควรจดั เตรียม เคร่อื งมือของผู้ฝกึ สอน 49

การระดมความคิดเห็นหรือการระดมสมอง : เป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อสนับสนุนให้ผู้เข้ารับการ ฝกึ อบรมเกิดแนวคิดอย่างกว้างขวางในหวั ข้อเร่ืองท่ีอภปิ รายกัน การวางแผนการปฏิบัติงาน : ควรจัดทาแผนปฏิบัติงานเป็นรายบุคคล หรือเป็นกลุ่ม ผู้เข้า รับการฝึกอบรมควรกาหนดกลยุทธห์ รอื วิธีการดาเนินการที่เหมาะสมเพ่ือปรับปรุงสภาพการ ทางาน การคานึงถึงสถานท่ีทางานและบริเวณชุมชนใกล้เคียง : เม่ือต้องดาเนินการในสถานที่ ทางาน มกี ารชีบ้ ง่ อนั ตรายในสถานทที่ างานต้องคานงึ ถึงชมุ ชนใกล้เคียงดว้ ย และในการแก้ไข ปัญหา ควรมีการนาแนวคิดที่ดีของสถานท่ีทางานอื่นหรือชุมชนใกล้เคียงมาใช้เป็นตัวอย่าง เพือ่ ปรับปรุงสถานทีท่ างาน หลักสูตรที่จัดให้มีการประชุม : ควรให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีส่วนร่วมในการกาหนดเน้ือหา และโครงสรา้ งหลักสตู ร กจิ กรรมกลุม่ ย่อย : เปน็ กจิ กรรมหลกั ของการฝกึ อบรมหลกั สตู รการประเมินความเส่ยี ง การประชุมกลุ่ม : ผู้ฝึกอบรมต้องให้การสนับสนุน และกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการ อภปิ ราย ซ่งึ เป็นสงิ่ สาคญั สาหรบั การเรียนรแู้ บบมีส่วนรว่ ม การใช้กรณีศกึ ษา : ผูฝ้ ึกอบรมควรใช้กรณศี กึ ษา เพือ่ ให้การเรียนรมู้ ีประสิทธภิ าพมากข้นึ บทบาทสมมุติ : บทบาทสมมุติที่กาหนดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้แสดงบทบาทใน สถานการณ์ต่างๆ เป็นวิธีการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมอย่างจริงจังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรม เช่น การสัมภาษณ์ การเจรจา การมีส่วนร่วมในการประชุม หรอื การมีสว่ นร่วมในการประเมินความเส่ียงด้านความปลอดภัยและอาชวี อนามยั การประเมินการฝึกอบรม เน่ืองจากการฝึกอบรมเก่ียวข้องกับการมีส่วนร่วมของทุกคนในการดาเนินการกิจกรรมกลุ่ม ดังนั้น การ ประเมนิ การฝึกอบรม ควรใหท้ กุ คนมีส่วนรว่ มในการประเมนิ แสดงขอ้ คิดเห็น และปัญหาอปุ สรรค เพ่ือ เปน็ การสะท้อนผลของหลักสูตรการฝึกอบรมทผ่ี ู้เขา้ รบั การฝึกอบรมมสี ่วนร่วมหรือเกยี่ วขอ้ ง 50 เครอื่ งมอื ของผู้ฝึกสอน

รายการตรวจสอบ : การประเมินการฝกึ อบรม ................................................................................................................................................................................ กาหนดวัตถุประสงค์ของการฝกึ อบรมตามความต้องการของผ้เู ข้ารับการฝึกอบรมก่อนที่จะมี การฝึกอบรม หลังการฝึกอบรมรุ่นแรกให้ประเมินหลักสูตรว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์และความต้องการ ของผเู้ ข้ารับการฝกึ อบรมหรอื ไม่ และควรมกี ารปรบั ปรงุ แก้ไขหลกั สูตรตามความเหมาะสม ควรมกี ารประเมนิ และทบทวนระหว่างการฝกึ อบรมเปน็ ระยะๆ ในการฝึกอบรมแต่ละหัวข้อหรอื กิจกรรม ให้ประเมินว่าผู้เข้ารับการฝกึ อบรมมีความเข้าใจใน วัตถปุ ระสงค์และบรรลตุ ามความคาดหวังของหลกั สูตร ประเมินการเรียนรขู้ องผู้เข้ารบั การฝกึ อบรม เป็นระยะๆ ดาเนินการประเมินผลสุดท้ายเมอื่ สนิ้ สุดการฝึกอบรม มีการติดตามผลผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลังจากจบการฝึกอบรมไปแล้ว เพื่อติดตามผลที่ได้รับ จากการฝกึ อบรม เครื่องมอื ของผูฝ้ กึ สอน 51

1. กิจกรรมการประเมินความเส่ยี ง วิธีการหนึ่งท่ีสาคัญ ที่จะให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความเข้าใจเรื่องการประเมินความเสี่ยง และสร้าง ความมัน่ ใจว่าสามารถปฏบิ ัติได้จริง โดยให้มีการฝกึ ปฏบิ ัติการประเมนิ ความเสย่ี งอย่างเปน็ ข้ันตอน ซง่ึ มี กิจกรรมท่ีต้องปฏิบัติ 4 กิจกรรม ดังนี้ กิจกรรมท่ี 1 ขั้นตอนที่ 1 การชี้บ่งอันตราย กิจกรรมท่ี 2 ขั้นตอนที่ 2 ใครมีความเส่ียง และเสี่ยงอย่างไร กิจกรรมท่ี 3 ขั้นตอนท่ี 3 การประเมิน ความเสี่ยง เป็นการพิจารณามาตรการควบคุมความเส่ียง โดยประเมินระดับความเส่ียงและจัดลาดับ ความเสี่ยงเพื่อพิจารณามาตรการการควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับท่ียอมรับได้ ประกอบด้วย ขั้นตอนท่ี 3 ก มาตรการท่ีมีอยู่แล้ว และขั้นตอนท่ี 3 ข มาตรการควบคุมท่ีต้องเพ่ิม กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนที่4 ผู้รับผิดชอบในการดาเนินการประเมินความเส่ียง มาตรการควบคุม และกรอบระยะเวลา ข้ันตอนท่ี 5 ทบทวนและตรวจวัดการประเมนิ ความเสีย่ ง กิจกรรมต่างๆ น้ี สามารถใช้ได้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มาจากสถานประกอบกิจการที่มีงานท่ี หลากหลายและมีความเส่ียงทแ่ี ตกต่างกนั โดยเฉพาะกลุ่มสถานประกอบกจิ การขนาดเล็ก กิจกรรมนี้ยัง สามารถนามาใช้ในการระบุประเด็นอันตราย ประเมินความเส่ียง และนาเสนอสาหรับการทางานอย่าง ใดอย่างหน่ึง รายการกจิ กรรม กจิ กรรม 1 ขั้นตอนที่ 1 : ระบอุ นั ตรายในสถานทที่ างาน กิจกรรมท่ี 2 ขน้ั ตอนที่ 2 : .ใครมีความเส่ยี งและมีความเสย่ี งอย่างไร กิจกรรมท่ี 3 ขั้นตอนที่ 3ก และ 3ข : การระบแุ ละตดั สินใจเก่ียวกบั มาตรการควบคุมความเสี่ยง กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนที่ 4 : การประเมินระดับความเส่ยี งและการจดั ระดบั ความสาคัญ 52 เครอื่ งมือของผฝู้ กึ สอน

กจิ กรรมท่ี 1 ขั้นตอนท่ี 1: ชีบ้ ง่ อนั ตรายในสถานทที่ างาน วัตถุประสงค์ ช้ีบ่งอันตรายด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยท่ีมีอยู่ในสถานท่ีทางานโดยระบุ โอกาสท่ีจะเกิดและความรนุ แรง บันทกึ ข้อมูลลงในแบบประเมินความเสยี่ ง ตามข้ันตอนที่ 1 : อนั ตรายมีอะไรบ้าง การกาหนดหน้าท่ีบุคคลเพื่อดาเนินกิจกรรมกลุ่ม: เลือกคนในกลุ่มมา 2 คน คนแรกทาหน้าที่ ประธานกลุม่ เพ่ือดาเนนิ กิจกรรมกลุ่มและเปน็ ผู้นาเสนอ ส่วนอีกคนหนงึ่ ทาหน้าท่ีเลขาฯ กลุม่ เพ่ือ บันทกึ ผลต่างๆ กจิ กรรมทตี่ อ้ งดาเนินการ : กิจกรรมในขนั้ ตอนนี้เป็นการระดมสมอง โดยแบ่งเปน็ กลุ่มยอ่ ย ให้มี การอภิปรายในแต่ละกลุ่มว่าลูกจ้างมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายอะไรบ้างในสถานที่ทางาน สมาชกิ ในกลุ่มสามารถพจิ ารณาได้จากเหตุการณ์ท่ีเกดิ ข้ึนในสถานทท่ี างานของตนเอง หรือสถาน ประกอบกิจการทีไ่ ดไ้ ปเย่ยี มชม บันทึกรายการอันตรายต่างๆ ท่ีพบทั้งหมดและที่คาดการณ์ว่าจะเกิด โดยอาจจัดแบ่งกลุ่ม อันตรายออกเป็น อันตรายจากอุบัติเหตุซ่ึงเป็นอันตรายที่เห็นได้ชัดเจน อันตรายที่มีผลต่อ สขุ ภาพซงึ่ สว่ นใหญ่เปน็ อนั ตรายทมี่ กั แอบแฝงอยู่ และอนั ตรายจากการจัดการองค์กร จดบันทกึ ขอ้ เสนอของทกุ คนในกลุม่ รวบรวมอันตรายทั้งหมด จากน้ันให้มีการอภิปรายและพิจารณาเลือกอันตรายท่ีคิดว่าเป็น ประเด็นสาคัญท่ีสุดมา 4 ประเด็น โดยประธานเป็นผู้นาในการดาเนินการและสรุปผลการอภิปรายเพื่อนาไปบันทึกลงในแบบการ ประเมนิ ความเสี่ยงในขั้นตอนท่ี 1 การค้นหาอนั ตราย: เพ่ือให้ผู้ดาเนินการชี้บ่งอันตรายมีความเข้าใจอย่างชัดเจนในนิยามของคาว่า อันตราย ซ่ึงหมายถึง ภัยอันตรายต่างๆ เช่น ชิ้นงาน สารอันตราย ของเสียจากกระบวนการผลิต อุปกรณ์ วิธีการทางานที่ ไมถ่ ูกตอ้ ง ซง่ึ มศี ักยภาพทาใหเ้ กิดอนั ตรายได้ ตวั อยา่ งอันตรายดา้ นตา่ งๆ ได้แก่ อันตรายจากอุบัตเิ หตุซงึ่ เปน็ อนั ตรายท่ีเห็นได้ชดั เช่น สว่ นของเครื่องจักรท่มี ีการเคลอ่ื นไหวท่ไี ม่มีการปอ้ งกัน อปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการตดั การยกเคล่ือนย้ายของทหนักไม่วา่ ด้วยแรงกายหรือเครื่องทุ่นแรง เครื่องมือของผู้ฝึกสอน 53

อนั ตรายจากไฟฟ้า ทางเดินหรือบันไดท่ีมีลกั ษณะอนั ตราย อนั ตรายจากวตั ถุตกหลน่ แสงสว่างทไี่ ม่เหมาะสม ส่งิ กดี ขวาง ทางเดินหรือบริเวณทีท่ างานรวมถึงการจดั เก็บทไี่ ม่เปน็ ระเบยี บ ของเหลวไวไฟ อนั ตรายจากสตั ว์ อันตรายท่ีมีผลตอ่ สขุ ภาพ ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นอนั ตรายท่ีมักแอบแฝงอยู่ เชน่ การทางานซ้าซาก เสยี งดงั สารกาจัดศตั รูพืช และสารเคมอี ันตรายหรือเปน็ พิษ ฝนุ่ เช้อื จุลนิ ทรีย์ ความสน่ั สะเทือน ยืนหรือนั่งทางานเปน็ เวลานาน การทางานกบั คอมพิวเตอร์ อณุ หภูมทิ ร่ี ้อนหรอื เยน็ จดั เกินไป อันตรายจากการจดั การองค์กร มีประเดน็ สาคัญทถ่ี ูกพจิ ารณาว่าไม่มีความเก่ยี วเนอื่ งกับความปลอดภยั และสขุ ภาพ เช่น การจดั ระบบงานที่เหมาะสมและมขี ้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ านทชี่ ัดเจน รวมท้ังมีข้อมลู ทีเ่ พียงพอใน การทางาน ขาดความเปน็ ระเบียบเรยี บร้อยในท่ีทางาน งานซ้าซากจาเจ หรอื การออกแบบลกั ษณะงานไมด่ ี ชั่วโมงการทางานทย่ี าวนาน เวลาพกั ไม่เพียงพอ การทางานทตี่ ่อเน่ืองกัน การทางานกะ การล่วงละเมิดทางเพศ ความรนุ แรงและความก้าวร้าว ตาแหน่งงาน การทางานคนเดยี ว 54 เคร่ืองมือของผฝู้ ึกสอน

กจิ กรรมท่ี 2 ขนั้ ตอนที่ 2 : ระบวุ า่ ใครเป็นผทู้ ี่มคี วามเสี่ยง และเสี่ยงอยา่ งไร วัตถปุ ระสงค์ : ระบุวา่ ใครเป็นผูท้ สี่ มั ผสั กับอันตรายตา่ งๆ ตามที่ไดช้ บ้ี ง่ มา และเส่ียงอยา่ งไร ให้พิจารณาถงึ ผทู้ ี่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงแตย่ งั คงมีความเสย่ี งอยู่ เชน่ ผูร้ ับเหมา ช่างซ่อม บารงุ พนักงานส่งของ พนักงานทาความสะอาด เปน็ ตน้ ให้พจิ ารณาว่าผู้ปฏบิ ัติงานมคี วามเสย่ี งอยา่ งไร บันทึกข้อมูลลงในช่องท่ี 2 ของแบบการประเมนิ ความเส่ียง เพือ่ ระบุวา่ ใครเป็นผู้ที่มคี วาม เส่ียง และเสีย่ งอยา่ งไร การกาหนดหนา้ ท่บี ุคคลเพื่อดาเนินกิจกรรมกลมุ่ : เลือกคนในกลุ่มมา 2 คน คนแรกทาหนา้ ที่ ประธานกลมุ่ เพ่ือดาเนนิ กจิ กรรมกล่มุ และเปน็ ผู้นาเสนอ ส่วนอีกคนหนึ่งทาหน้าทเ่ี ลขาฯ กล่มุ เพ่ือ บันทกึ ผลต่างๆ กิจกรรมท่ีต้องดาเนินการ : ในกลุ่มย่อย ให้พิจารณาว่าใครมีความเสี่ยงต่ออันตรายมากน้อย เพียงใดลงในตารางตอ่ ไปน้ี อนั ตราย ใครท่ีมีความ มีผ้ใู ดท่ีมีทความ ผ้ใู ดทตี่ ้องดแู ลเปน็ ผลกระทบท่ีตามมา เส่ียงมากท่ีสดุ เสยี่ งอกี พเิ ศษ (ผูท้ สี่ ัมผัสมคี วาม 1. เสี่ยงที่จะได้รบั 2. อนั ตรายอยา่ งไร) 3. 4. จากตารางในช่องแรก ให้เขียนอันตรายท่ีชี้บ่งไว้ 4 ประเด็นตามขนั้ ตอนท่ี 1 อนั ตรายในแตล่ ะประเด็นให้บนั ทึกลงในช่องที่ 2 วา่ ใครทมี่ ีความเส่ยี งมากท่ีสุดซึง่ ไดแ้ ก่ กลุ่มคนที่ ต้องสัมผัสกบั อันตรายโดยตรง ช่องท่ี 3 ให้บันทึกว่า มีผู้ใดท่ีมีความเสี่ยงอีกซ่ึงไดแ้ ก่กลุ่มคนที่ไม่สัมผัสหรือเก่ียวข้องกับอันตราย โดยตรง ช่องท่ี 4 ให้พิจารณาว่ามีผู้ใดที่มีความอ่อนแอ/เปราะบาง ต่อการได้รับอันตรายที่ จาเป็นตอ้ งดูแลเป็นพิเศษ เช่น หญิงมีครรภ์ เดก็ เปน็ ต้น ช่องท่ี 5 ให้บนั ทึกผลกระทบที่ตามมาจากการสัมผัสกบั อนั ตรายน้นั เครอ่ื งมอื ของผูฝ้ กึ สอน 55

ให้บนั ทกึ ข้อเสนอของสมาชิกทุกคนในกล่มุ แตล่ ะกลมุ่ จะสรปุ ผลการประชุมกลุ่มและให้ประธาน นาเสนอในที่ประชุมใหญ่ และใหบ้ นั ทึกลงในแบบการประเมินความเส่ียง ช่องที่ 2 สิ่งทต่ี ้องคานงึ ถึงในกจิ กรรมนี้ ไดแ้ ก่ : ................................................................................................................................................................................ ลกู จา้ งทีม่ คี วามเส่ียงในสถานประกอบกิจการ : ลูกจ้างท้งั หมดมีความเส่ยี งต่ออันตราย หรอื มเี ฉพาะ บางคนเทา่ นน้ั ท่ีเสยี่ งต่ออันตราย เชน่ ลกู จ้างท่ีทางานกับเครื่องตัดไม้ หรอื เครอื่ งตัดโลหะ ต้องสัมผัส กบั อนั ตราย จะมีผลกระทบด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยทตี่ ามมาอยา่ งไร ผู้ปฏิบัติงานที่ไม่สัมผัสโดยตรง : เช่น ช่างซ่อมบารุง พนักงานส่งของ พนักงานทาความสะอาด เป็นต้น พนักงานดังกล่าวอาจถูกรถยกในสถานประกอบกิจการชนขณะปฏิบัติงาน จะมีผลกระทบ ด้านความปลอดภยั และอาชีวอนามัยที่ตามมาอยา่ งไร ลูกจ้างที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ: อาจมีกลุ่มลูกจ้างในสถานประกอบกิจการท่ีเป็นกลุ่มเปราะบาง เช่น ลูกจา้ งพิการ หญิงมคี รรภ์ แรงงานเดก็ เปน็ ตน้ จะมีผลกระทบด้านความปลอดภัยและอาชวี อนามัยท่ี ตามมาอยา่ งไร อื่นๆ : มีใครอ่ืนอีกบ้างท่ียังคงมีความเสี่ยง เช่น ผู้สัญจรทีผ่านบริเวณเขตก่อสร้าง หรือมีการใช้ ทางเดนิ ช่วั คราวที่อยูใ่ ต้นงั่ รา้ น จะมีผลกระทบด้านความปลอดภัยและอาชวี อนามยั ทต่ี ามมาอย่างไร 56 เครอ่ื งมือของผ้ฝู กึ สอน

กจิ กรรมที่ 3 ขั้นตอนที่ 3ก และ 3ข : ชี้บ่งและพิจารณามาตรการควบคมุ ความเส่ยี ง วตั ถปุ ระสงค์ พจิ ารณาวา่ มาตรการควบคุมความเสีย่ งที่มีอยู่เหมาะสมหรือเพยี งพอหรือไม่ พจิ ารณาขัน้ ตอนการควบคุมอนั ตรายด้านความปลอดภยั และอาชวี อนามยั ตามลาดับช้ัน เลือกมาตรการที่มีประสทิ ธิภาพสงู สดุ บันทกึ ขอ้ มูลลงในชอ่ ง 3 และ 4 ของแบบการประเมนิ ความเสีย่ ง ข้ันตอนท่ี 3ก และ 3ข การกาหนดหน้าท่ีบุคคลเพื่อดาเนินกิจกรรมกลุ่ม : เลือกคนในกลุ่มมา 2 คน คนแรกทาหน้าท่ี ประธานกล่มุ เพื่อดาเนินกิจกรรมกลมุ่ และเปน็ ผนู้ าเสนอ สว่ นอกี คนหนึ่งทาหนา้ ทเ่ี ลขาฯ กลมุ่ เพื่อ บนั ทกึ ผลต่างๆ กิจกรรมทตี่ อ้ งดาเนนิ การ : ในกลุ่มยอ่ ย ให้พจิ ารณาสรา้ งตารางตามตัวอย่างดังน้ี อันตราย มาตรการควบคมุ ความเสยี่ งทีเ่ สนอ ทาได้ ทา ทาไมไ่ ด้ ทาไมไ่ ด้ อยา่ งไร เพราะอะไร มาตรการลาดับที่ 1: การขจัดอนั ตราย หรือการทดแทน ด้วยส่ิงที่มอี นั ตรายนอ้ ยกว่า มาตรการลาดับที่ 2: การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เทคโนโลยี หรอื ระบบควบคุมทางวศิ วกรรม มาตรการลาดับท่ี 3: การกาหนดวิธีการปฏิบัติงานที่ ปลอดภัย การจัดรูปแบบการทางาน การให้ข้อมูล ความร้แู ละการฝกึ อบรม มาตรการลาดับท่ี 4: สุขอนามัยส่วนบุคคลและ สวัสดิการ มาตรการลาดับท่ี 5: อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัย ส่วนบคุ คล มาตรการลาดับท่ี 6: การเฝา้ ระวังดา้ นอาชวี อนามัย เครอื่ งมือของผู้ฝกึ สอน 57

จากการช้ีบ่งอันตราย จากกิจกรรมท่ี 1 จะทราบอันตรายต่างๆ ให้นามากรอกลงในตารางช่องท่ี 1 หลังจากนน้ั ให้กรอกอีกใน 4 ช่องที่เหลอื โดยพจิ ารณาวา่ ถ้าใช้มาตรการลาดับที่ 1 สามารถขจดั อนั ตรายให้หมดไป หรือใชส้ าร หรอื เครื่องจกั รทม่ี ีอันตราย นอ้ ยกวา่ แทน ไดห้ รือไม่ ถ้าสามารถทาได้ ใหอ้ ธิบายในช่องถดั ไปวา่ จะขจัดอนั ตรายใหห้ มดไปหรือใช้สารทมี่ ีอันตรายน้อย กวา่ ไดด้ ้วยวธิ ีใด ถา้ ทาไมไ่ ด้ ให้อธิบายในช่องถัดไปวา่ จะขจัดอันตรายใหห้ มดไปหรอื ใชส้ ารที่มีอันตรายน้อยกว่า ไมไ่ ด้เพราะอะไร จากนั้นพจิ ารณามาตรการควบคมุ ความเสย่ี งลาดับท่ี 2, 3, 4, 5 หรอื 6 ตามลาดับ พิจารณาอันตรายท่ีชีบ้ ง่ มาทุกอนั ตราย โดยดาเนินการตามลาดับข้างต้นจนครบทกุ อนั ตราย 58 เครอ่ื งมอื ของผู้ฝกึ สอน

กจิ กรรมท่ี 4 ขัน้ ตอนที่ 4 : ประเมินระดบั ความเสยี่ งและจดั ลาดบั ความเสี่ยง วัตถุประสงค์ ประเมินความเสี่ยงโดยพิจารณาจากความเป็นไปได้ของการเกิดอันตราย และความรุนแรง ของอนั ตรายที่จะทาให้เกิดการบาดเจบ็ หรือเจ็บปว่ ย จัดลาดับความเสีย่ งท่จี ะต้องดาเนนิ มาตรการควบคมุ การกาหนดหน้าท่ีบุคคลเพื่อดาเนินกิจกรรมกลุ่ม : เลือกคนในกลุ่มมา 2 คน คนแรกทาหน้าที่ ประธานกลมุ่ เพื่อดาเนินกจิ กรรมกลุ่มและเป็นผนู้ าเสนอ สว่ นอีกคนหนง่ึ ทาหนา้ ท่เี ลขาฯ กลุ่มเพ่ือ บันทกึ ผลต่างๆ กจิ กรรมที่ต้องดาเนนิ การ : สรา้ งตารางตามตวั อย่างดังนี้ ความรุนแรงของอนั ตราย รุนแรงเล็กน้อย (1) รนุ แรงปานกลาง (2) รุนแรงมาก (3) โอกาส ่ทีจะเ ิกดอันตราย โอกาสนอ้ ย (1) ความเสย่ี งเล็กนอ้ ย ความเสี่ยงเล็กนอ้ ย ความเสี่ยงปานกลาง (1x1=1) (1x2=2) (1x3=3) โอกาสปาน ความเสยี่ งเล็กน้อย ความเส่ียงปานกลาง ความเสีย่ งสงู กลาง (2) (2x3=6) (2x1=2) (2x2=4) โอกาสสูงหรือ ความเส่ียงปานกลาง ความเสี่ยงสูง ความเสยี่ งสงู (3x2=6) (3x3=9) บอ่ ย (3) (3x1=3) การพิจารณาความรุนแรง ให้พิจารณาระดับความรุนแรงของอันตรายจากผลท่ีเกิดขึ้นจากการสมั ผสั กับ อนั ตรายนน้ั วา่ รนุ แรงเลก็ นอ้ ย รุนแรงปานกลาง หรอื รนุ แรงมาก เช่น เครอื่ งจักรชารดุ เสียหาย การขาด งานเนื่องจากความเครยี ด เป็นโรคปอดก่อให้เกิดมะเรง็ แขนขาด เป็นต้น การพจิ ารณาโอกาสท่จี ะเกดิ อันตรายวา่ มโี อกาสนอ้ ย โอกาสปานกลาง โอกาสสงู หรอื บอ่ ย เม่ือเลือกระดับความรุนแรง และโอกาสของการเกิดอันตรายได้แล้ว ทาให้ทราบระดับความเส่ียง ซ่ึง แบ่งเป็นความเส่ียงเล็กน้อย ความเส่ียงปานกลาง และความเส่ียงสูง จากระดับความเส่ียงที่ได้ สามารถ นามาจัดลาดับความสาคญั ของปญั หาทจ่ี ะนามาสกู่ ารดาเนินการมาตรการควบคุมความเส่ยี ง เครอ่ื งมือของผ้ฝู กึ สอน 59

สว่ นท่ี 3 ตัวอย่างของการประเมนิ ความเส่ยี ง

ตวั อยา่ งการประเมนิ ความเสีย่ งในสถานท่ีทางาน ตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างของการประเมินความเสี่ยงในสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กท่ี สามารถนามาใชเ้ ปน็ แนวทางดาเนินการค้นหาอันตราย ซง่ึ อาจไม่ใช่อันตรายทั้งหมดในสถานประกอบกิจการ หรือมาตรการทง้ั หมดท่นี ามาใชค้ วบคมุ ความเสีย่ ง สถานประกอบกิจการแต่ละแห่งมีสภาพการทางานและสภาพแวดล้อมท่ีแตกต่างกัน จีงต้องค้นหาอันตราย และพจิ ารณามาตรการควบคุมความเส่ยี งที่ตอ้ งดาเนินการในสถานท่ีทางาน ซ่งึ อาจพบวา่ แม้ว่าอันตรายท่ีพบ จะเหมือนกัน แต่มาตรการควบคุมความเสย่ี งท่ีใชอ้ าจแตกตา่ งกัน วิธกี ารประเมินความเสยี่ ง 1. ผู้รับผดิ ชอบในการประเมินความเสี่ยง ต้องศึกษาข้อมูลเก่ียวกับอันตรายท่ีอาจเกิดข้ึนและมาตรการควบคุมความเส่ียงที่ใช้ในสถาน ประกอบกิจการประเภทเดียวกนั เดินสารวจสถานท่ที างานท้งั ภายในและภายนอกอาคาร เพื่อบนั ทึกอนั ตรายตา่ งๆ ทีพ่ บ สอบถามลูกจ้างเก่ียวกับวิธีการปฏิบัติงาน ปัญหา และความคิดเห็นด้านความปลอดภัยและอาชี วอนามัย ตรวจสอบคูม่ อื การใช้เคร่อื งจกั ร เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ในการทางาน ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของสารเคมีต่างๆ ท่ีมีและผลิตตามรายละเอียดของสารเคมี อนั ตรายที่มอี ยู่ในสถานประกอบกจิ การ และขอ้ มลู ของผู้ผลิตหรือผจู้ าหนา่ ย พจิ ารณาข้อมลู การประสบอนั ตรายเนอื่ งจากการทางาน เพ่ือชบี้ ่งสาเหตุของการประสบอนั ตราย พิจารณาขอ้ มูลการตรวจสถานทที่ างาน 2. ผ้รู ับผดิ ชอบในการประเมนิ ความเสีย่ งจดบนั ทกึ ไวว้ า่ ผใู้ ดอาจไดร้ บั อนั ตราย และได้รับอันตรายอยา่ งไร 3. อันตรายแต่ละเร่อื งให้ระบุด้วยว่ามีมาตรการควบคุมป้องกันหรอื ไม่ มีอะไรบ้างเพยี งพอหรือเหมาะสม ที่จะทาให้ความเส่ียงลดลงหรือไม่ หากไม่เพียงพอจาเป็นท่ีจะต้องเพ่ิมมาตรการควบคุมป้องกัน อะไรบา้ ง 4. การนาการประเมินความเสี่ยงสู่การปฏิบัติ ผู้รับผิดชอบในการประเมินความเสี่ยงเป็นผู้พิจารณา มอบหมายผู้รับผิดชอบการดาเนินงาน และจัดลาดับความสาคัญเร่ืองท่ีต้องดาเนินการก่อนหลัง กาหนดเวลาท่ีจะดาเนนิ การแลว้ เสรจ็ โดยมีการส่ือสารและแลกเปล่ียนความคิดเห็นกับทีมงานถึงสงิ่ ท่ี พบจากการประเมนิ ความเสี่ยง 5. ต้องมีการทบทวนผลการประเมินความเสี่ยงเป็นประจาทุกปีและทุกคร้ังที่มีการเปล่ียนแปลง เช่น มี การนาเครอื่ งจักรใหม่มาใช้ เปล่ียนสถานทท่ี างาน หรอื เปลย่ี นระบบงาน เปน็ ต้น ตัวอยา่ งของการประเมนิ ความเส่ยี ง 63

ตัวอยา่ งงานอตุ สาหกรรมทีเ่ ก่ียวข้อง ดังน้ี 1. งานก่ออฐิ ฉาบปนู 2. ศนู ย์รบั แจ้งทางโทรศัพท์ 3. งานซ่อมบารงุ ยานพาหนะ 4. งานซอ่ มยานยนต์ 5. งานทาความสะอาดสานักงาน 64 ตัวอยา่ งของการประเมนิ ความเสย่ี ง

ตวั อยา่ งของการประเมนิ ความเส่ยี ง 65

66 ตวั อย่างของการประเมนิ ความเส่ยี ง

ตวั อยา่ งของการประเมนิ ความเส่ยี ง 67

68 ตวั อย่างของการประเมนิ ความเส่ยี ง

ตวั อยา่ งของการประเมนิ ความเส่ยี ง 69

70 ตวั อย่างของการประเมนิ ความเส่ยี ง

ตวั อยา่ งของการประเมนิ ความเส่ยี ง 71

72 ตวั อย่างของการประเมนิ ความเส่ยี ง

ภาคผนวก : ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ แหลง่ ข้อมูลท่สี ามารถเขา้ ถึงได้มอี ยู่ตามข้างลา่ งน้ี องคก์ ารระหว่างประเทศและระดับภมู ิภาค 1. International Labour Organization (ILO) Guidelines on occupational safety and health management systems: Geneva, ILO Safework, 2001. http: / / www. ilo. org/ wcmsp5/ groups/ public/ @dgreports@decomm /@publ/documents/publication/wcms_publ_9221116344_en.pdf Work improvement in small enterprises ( WISE) . Geneva, ILO Conditions of Work and Employment Programme ( TRAVAIL) . http: / / www. ilo. org/ wcmsp5/ groups/ public/- - - - ed_protect/---protrav/---travail/documents/instructionalmaterial/wcms_152469.pdf The WISE package for Trainers. Geneva, ILO Conditions of Work and Employment Programme ( TRAVAIL) . http: / / www. ilo. org/ wcmsp5/ groups/ public/ - - - - ed_protect/- - - protrav/--- safework/documents/ instructionalmaterial/wcms_110322.pdf 2. European Union Agency for Safety and Health at Work (EU OSHA) The key role played by risk assessment is set out in the EU Framework Directive on safety and health: Council Directive 89/391/EEC of 12 June 1989 on the introduction of measures to encourage improvements in the safety and health of workers at work. http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ.do?uri=CONSLEG:1989L0391:20081211:EN:PDF EU OSHA has developed a risk assessment tools database with tools from all over Europe. These tools are free and available online. The database is updated regularly with new tools. http://osha.europa.eu/en/practical-solutions/risk-assessment-tools Guidance on risk assessment at work: Health and safety. European Commission, Directorate General V (Public health and safety at work directorate), 1996, ISBN 92-827- 4278-4http://osha.europa.eu/en/topics/riskassessment/guidance.pdf Risk assessment essentials. This is a basic guide to risk assessment, including checklists for different hazards and sectors or work and examples of preventive measures, which can be used to reduce risk. http: / / osha. europa. eu/ campaigns /hwi/about/material/rat2007 ภาคผนวก 73

องค์กรระดับชาติ Canada: The Canadian Centre for Occupational Health and Safety ( CCOHS) . http://www.ccoha.ca/ccohs.html Finland: The Finnish Institute of Occupational Health. http://www.ttl.fi/en/safety/risk_as- sessment/pages/default.aspx France: Evaluation des risques professionnels, Institut national de recherche et de sécurité pour la prévention d’ accidents du travail et des maladies professionnels ( INRS) , 2009.http://www.inrs.fr/htm/evaluation_des_risques_professionnels.html Ireland: Guidelines on risk assessment and safety statements, Irish Health and Safety Authority,2006.http://www.hsa.ie/eng/Publications_and_Forms/Publcations/Safety_and_He alth_Ma-nagement/Guidelines_on_Risk_Assessment_and _Safety_Statements.pdf Norway: The Norwegian Labour Inspection Authority. http: / / www. arbeidstilsynet. no /artikkel.html?tid=79289 Spain: The National Occupational Safety and Health Institute (INSHT) has published a series of seventeen Technical Guides on Risk Assessment. http: / / www. insht. es/ portal/ site/ Insht/menuitem.1f1a3bc79ab34c578c2e8884060961ca/?egnextoid=d8388dd6caa2110VgnVCM1 00000dc0ca8c0RCRD&VGNextchannel=75164a7f8a651110VgnVCM100000dc0ca8c0RCRD Sweden: Investigation and risk assessment in systematic work environment management – a guide, The Swedish Work Environment Authority (Arbetsmiljöverket) 2003. Second ed., 2004, ISBN 91-7464-449-1. http://www.av.se/dokument/inenglish/books/h375eng.pdf UK: The Health and Safety Executive’ s website on risk assessment includes many worked examples for different sectors and health and safety topics. http://www.hse. gov.uk/risk/ ภาคผนวก 74

โครงการความปลอดภัยและอาชวี อนามัยในการทางานและสิง่ แวดลอ้ ม (งานความปลอดภัย) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ โRCโอwททเีoHwมรรu-wลส1t+์า.e2i:4รl1o1sd1+a.eo2f4Gser21gewM/72nos9oโอโโCR2earทคท9rงokHfvi7รe6รรค@lua-lง9ส7w์ก1ot+กi92า1elา2on4าoร625ร1rรs1d.8แk1o+ค7e4ร2r4วG8งsg21างeMมา72nนป9o2eรล9rvะi7อ6laหl9ด7oว921ภn่า625ยั sง8แป74ลร8ะะอเทาศชีวอนามยั ในการทางานและสงิ่ แวดลอ้ ม (งานความปลอดภยั ) อีเมล์ : [email protected]