ปี ๒๕๑๒ เพื่อกระชับพระราชไมตรีระหว่างประเทศไทยกับคริสตจักรณ กรุงวาติกนั รวมทั้งได้พระราชทานพระบรมราชานญุ าตให้คณะพราหมณ์เข้าเฝ้าฯ เพ่อื ถวายพระพรชยั มงคล ตลอดจนเปน็ ผ้นู ำสำคญั ในการประกอบพิธีสำคญั ตามโบราณราชพธิ ี (๓) พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงให้การอุปถัมภค์ ณะสงฆ์ ดว้ ยการสถาปนาสมเดจ็ พระสงั ฆราช สมเดจ็ พระราชาคณะ รวมถงึ การพระราชทานสมณศักดิ์และพัดยศเป็นประจำทุกปี และทรงส่งเสริมและอุปถัมภ์การศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม การต้ังเปรียญ โดยทรงอปุ ถัมภ์มหาวิทยาลยั สงฆ์ คือสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การเผยแผ่พระธรรมคำสง่ั สอนของพระพุทธเจ้าขจรขยายไปสู่ทุกดนิ แดน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสถาบันแม่ชีไทยไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทรงรับมูลนิธิส่งเสริมพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ย ์ ของสภาการศกึ ษามหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ไวใ้ นพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์เพื่อส่งเสรมิ การสอนศีลธรรมแก่เยาวชน ตลอดจนทรงอุปถัมภก์ ารสงั คายนาพระไตรปิฎก ด้วยเป็นส่ิงที่ประกาศถึงความเป็นศูนย์กลางของความม่ันคงทางพทุ ธศาสนา พระม่งิ ขวัญของชาวไทย ผู้ทรงเป็นพลังพฒั นาประเทศ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการให้มีการสังคายนาตรวจชำระพระไตรปิฎกข้ึน เม่ือปี ๒๕๒๘ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร และเสร็จสิ้นในปี ๒๕๓๐ และจัดให้มีการพิมพ์เผยแพร่เป็นฉบับภาษาบาลีและฉบับแปลเปน็ ภาษาไทย และเพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั ววิ ฒั นาการในยคุ โลกาภวิ ตั น์ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ บรจิ าคพระราชทรพั ย์สว่ นพระองค์สนบั สนนุ ให้มหาวิทยาลยัมหิดลจัดทำโครงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพ่ือการศึกษาพระไตรปิฎก นอกจากนี้ ทรงสนับสนุนให้จัดต้ัง “มูลนิธิภูมิพโลภิกขุ” ข้ึนเม่ือปี ๒๕๑๐ เพ่ือสนับสนุนการจัดสร้างพระคัมภีร์อัฏฐสาลินีภาคภาษาไทยรวมท้ังการปริวรรตอักษรโบราณท้องถิ่น ชำระและแปลพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเป็นภาษาไทย และพิมพ์เผยแพร่ รวมถึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชบัณฑิตยสถานจัดพิมพ์หนังสือสอนพระพุทธศาสนาสำหรับเดก็ ด้วย (๔) พระมหากรุณาธิคุณอีกประการหนึ่งในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาคอื การก่อสรา้ ง “พุทธมณฑล” เพื่อเปน็ ศูนย์กลางการศึกษาศาสนาพุทธ โดยเสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีก่อฤกษ์ ณ ตำแหน่งฐานพระพุทธรูปพระประธานพุทธมณฑล เม่ือวันท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๙๘ ในโอกาสท่ีพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาจนครบ ๒,๕๐๐ ปี และจากการประชุมพระมงิ่ ขวัญของชาวไทย ผู้ทรงเป็นพลงั พฒั นาประเทศ
ชาวพุทธนานาชาติ เมื่อวันท่ี ๒๐พฤษภาคม ๒๕๔๘ ท่ีประชุมได้มีมติให้พุทธมณฑลเปน็ ศูนยก์ ลางแหง่ พุทธศาสนาโลก รวมทงั้ ทรงทำนบุ ำรงุ และปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ พระอารามหลวง และวัด ด้วยการพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ถวายวัดต่างๆ รวมถึงการพระราชทานวิสุงคามสีมา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวงจำนวน ๗๙ แห่ง และในปี ๒๕๓๘ ทรงมีพระราชดำริให้สร้างวัดข้ึนท่ีชุมชนรอบบึงพระราม ๙ ตามพระราชประสงค์ที่ทรงให้มีวัดขนาดเล็กมีลักษณะเรียบง่าย และประหยัด เพ่ือเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจและศรัทธาและเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้และศาสนาแก่ชุมชน โดยพระราชทานนามว่า“วดั พระราม ๙ กาญจนาภเิ ษก” พระมิ่งขวญั ของชาวไทย ผูท้ รงเป็นพลงั พัฒนาประเทศ
๙. ด้านการพฒั นาเพ่ือความม่ันคง (๑) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมีพระราชดำริว่า ปัญหาความ มั่นคงของชาติจะแก้ไขให้ลุล่วงได้ ก็ต่อเมื่อปัญหาของคนยากจนและ ดอ้ ยโอกาสในชนบทและถน่ิ ทรุ กนั ดารไดร้ ับการแกไ้ ข โดยการพฒั นาสภาพชวี ติ ความเปน็ อยใู่ หด้ ีข้นึ ดังนัน้ จงึ ทรงสนพระราชหฤทัยในกิจกรรมและความเป็นอยู่ของตำรวจทหารทที่ ำหนา้ ท่ีปอ้ งกนั ประเทศ โดยเสดจ็ ฯ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถทรงเย่ียมเจ้าหน้าท่ีดังกล่าว ณ ยุทธภูมิอันทุรกันดาร เพ่ือเป็นขวัญและกำลังใจ ตลอดจนพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บและเสยี ชวี ติ รวมถงึ จัดการฝกึ อาชีพแก่ผู้พิการ และจดั ต้ังมลู นิธขิ ้นึเพ่ือช่วยเหลือครอบครัวของผู้ท่ีอุทิศชีวิตปกป้องประเทศชาติ พระองค์ทรงเร่งรัดพัฒนาชนบทและพ้ืนที่ชายแดน เพื่อช่วยเหลือราษฎรชาวไทยภูเขาด้วยการพัฒนาระบบโครงสร้างพ้ืนฐาน ท่ีอยู่อาศัย ท่ีทำกิน แหล่งน้ำ และพระม่งิ ขวญั ของชาวไทย ผู้ทรงเปน็ พลงั พฒั นาประเทศ
ส่งเสริมอาชีพต่างๆ รวมท้ังจัดตั้งหมู่บ้านราษฎรอาสาสมัครป้องกันตนเองชายแดนอาทิ โครงการพัฒนาเพ่ือความม่ันคงพื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริจ.น่าน (๒) ขณะโดยเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปเย่ียมเยียนราษฎรในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถจะทรงมพี ระราชดำรโิ ครงการพฒั นาต่างๆ เพื่อชว่ ยเหลือให้ราษฎรไดม้ ีความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึน สามารถดูแลและพึ่งตนเองได้ และร่วมเป็นกำลังสำคัญในการปกปักรักษาผืนแผ่นดินไทย อาทิ โครงการหมู่บ้านอาสาพัฒนาและปอ้ งกนั ตนเองตามพระราชดำริ เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาความมน่ั คงตามแนวชายแดนมกี ารปรบั ปรงุ เสน้ ทางคมนาคม พฒั นาแหลง่ นำ้ ฝกึ อบรมการทำอตุ สาหกรรมในครัวเรือน พัฒนาการศึกษา การสาธารณสุข ตลอดจนเน้นให้ราษฎรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่า โดยให้ความรู้พัฒนาจิตใจส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ราษฎรชาวไทยภูเขามีความสำนึกในความเป็น พระมิ่งขวัญของชาวไทย ผทู้ รงเป็นพลงั พฒั นาประเทศ
คนไทย และร่วมเป็นกำลังสำคัญ ในการร่วมกันป้องกันประเทศ อาทิ โครงการเพอื่ ความมน่ั คงพนื้ ทด่ี อยยาวดอยผาหมน่ ดอยผาจิ บา้ นรม่ ฟา้ ทอง จ.เชยี งราย โครงการพฒั นาเพอ่ื ความมนั่ คงภขู ดั ภเู มยี่ ง ภสู อยดาว จ.พษิ ณโุ ลก (๓) สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯใหก้ องทพั ภาคท่ี ๓ จดั ตงั้ หมู่บ้านยามชายแดนขึ้นตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทไี่ ดพ้ ระราชทานแนวทางการสรา้ งความมน่ั คงพนื้ ทชี่ ายแดนในพื้นที่เพ่งเล็ง ต้ังแต่ช่องทางก่ิวผาวอก จ.เชียงใหม่ ไปถึง อ.ปางมะผ้าจ.แมฮ่ อ่ งสอน กองทพั ภาคที่ ๓ ไดด้ ำเนนิ โครงการจดั ต้งั หมบู่ ้านยามชายแดนสนองพระราชดำริในพื้นท่ีต่างๆ อาทิ บ้านมะโอะโคะ จ.ตาก บ้านรวมไทยบ้านห้วยมะเขือ บ้านนาป่าแปก จ.แม่ฮ่องสอน โดยให้ทหารช่วยเหลือราษฎรในการต้ังบ้านเรือน สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง เพ่ือผนึกกำลังประชาชนต่อส้กู ับปัญหาภยั คุกคามต่างๆ โดยเฉพาะปญั หาหายาเสพติด นอกจากน้ี ทรงมพี ระราชดำรใิ หด้ ำเนนิ โครงการสถานพี ฒั นาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ โดยทรงให้ราษฎรท่ีเข้าร่วมโครงการทำหน้าที่ยามชายแดนไปพร้อมกับการฟ้ืนฟูสภาพป่า มีการฝึกอบรมด้านการเกษตรการวางแผนการตลาด ส่งเสริมให้เลี้ยงปลาเล้ียงกบเพ่ือให้มีอาหารโปรตีนรับประทาน อาทิ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริภพู ยัคฆ์ อ.เฉลมิ พระเกียรติ จ.น่าน โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรทสี่ งูบา้ นหว้ ยหยวกปา่ โซ อ.แมฟ่ า้ หลวง จ.เชียงราย เป็นต้น พระมิง่ ขวัญของชาวไทย ผู้ทรงเปน็ พลังพฒั นาประเทศ
๑๐. ด้านคมนาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้ก่อสร้างและปรับปรุงถนนหลายสายทั่วทุกภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นเส้นทางหลักหรือเส้นทางเขา้ หมบู่ า้ น เพอ่ื ใหร้ าษฎรไดม้ เี สน้ ทางสัญจรและขนส่งพืชผลโดยสะดวกรวมท้ังทรงเลง็ เหน็ ผลกระทบท่ีเกิดจากปญั หาการจราจรในกรงุ เทพฯ วา่ เป็นปัญหาใหญ่ทตี่ อ้ งเรง่ แกไ้ ข จงึ ทรงมพี ระราชดำรเิ กยี่ วกบั การจราจรในกรงุ เทพฯมากมาย อาทิ๑๐.๑ การขยายผวิ การจราจรและเพมิ่ เส้นทางคมนาคม (๑) พระองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าการแก้ไขปัญหาจราจรนั้น จะต้องดำเนินการทั้งแบบเร่งด่วนในจุดวิกฤตและแบบระบบโครงข่ายจราจร อาทิการแกป้ ญั หาจราจรเฉพาะหนา้ อยา่ งเรง่ ดว่ น ทรงมพี ระราชดำรใิ หข้ ยายแนวถนนเลยี บทางรถไฟสายธนบรุ ี จากชว่ งปลายถนนอสิ รภาพถงึ ถนนจรญั สนทิ วงศ์ พระมิ่งขวญั ของชาวไทย ผ้ทู รงเปน็ พลงั พัฒนาประเทศ
และได้พระราชทานนามว่า “ถนนสุทธาวาส” การขยายพ้ืนผิวจราจร อาทิโครงการถนน หยดน้ำ และการปรับปรุงขยายผิวจราจรโดย รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย การขยายช่อง ทางโดยไม่ทำลายภูมิทัศน์เดิม อาทิ โครงการ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และโครงการก่อสร้าง สะพานคขู่ นานสะพานมฆั วานรงั สรรค์ การสร้าง เสน้ ทางใหม่ อาทิ โครงการทางค่ขู นานลอยฟา้ถนนบรมราชชนนี โครงการสะพานพระราม ๘ และการสร้างเส้นทางลัดในโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดำรบิ ริเวณถนนพระราม ๙ (๒) การแก้ปัญหาการจราจรอย่างเป็นระบบโครงข่าย อาทิ เม่ือปี๒๕๑๔ ทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างถนนเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรพระราชทานเป็นของขวัญแก่ประชาชน คือ โครงการถนนวงแหวนรัชดาภิเษก (ถนนวงแหวนชั้นใน) แทนการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระมงิ่ ขวัญของชาวไทย ผทู้ รงเปน็ พลงั พัฒนาประเทศ
ท่ี ท า ง ร า ช ก า ร จ ะ จั ด ส ร้ า ง แ ล ะน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธรี ชั ดาภเิ ษก ปี ๒๕๓๘ ไดพ้ ระราชทานพระราชดำริให้ก่อสร้าง โครงข่ายจตุรทิศตะวันตก-ตะวันออก และเหนือ-ใต้ เพ่ือเช่ือมเส้นทางจราจรด้วยถนน สะพาน และปรับปรุงเส้นทางเดิมและเส้นทางใหมใ่ หเ้ ชอ่ื มกันอยา่ งสมบรู ณ์ รวมถงึ โครงการถนนวงแหวนอตุ สาหกรรม เพอ่ื รองรบั การขนถ่ายสนิ คา้ จากทา่ เรอื กรงุ เทพตอ่ เนอื่ งไปจนถงึ พน้ื ทอ่ี ตุ สาหกรรมใน จ.สมทุ รปราการและภูมิภาคอ่ืน เพ่ือไม่ให้รถบรรทุกว่ิงเข้าตัวเมืองหรือทิศทางอ่ืน อันเป็นสาเหตขุ องการจราจรตดิ ขดั โดยรอบ และทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานชอื่ สะพานขา้ มแมน่ ำ้ เจา้ พระยาทเ่ี ชอื่ มถนนวงแหวนอตุ สาหกรรมวา่ “สะพานภูมิพล ๑” และ “สะพานภูมิพล ๒” โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมง่ิ ขวญั ของชาวไทย ผู้ทรงเปน็ พลังพัฒนาประเทศ
ทรงมีพระเมตตาเสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดสะพานดังกล่าว และประตรู ะบายน้ำคลองลัดโพธ์ิ เมือ่ วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ๑๐.๒ หนว่ ยเคลือ่ นที่เรว็ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำรกิ ารแก้ปัญหาจราจรดว้ ยหนว่ ยเคลอื่ นทเ่ี รว็ โดยพระราชทานพระราชทรพั ยส์ ่วนพระองคเ์ ป็นทนุเร่ิมต้นในโครงการจัดหารถจักรยานยนต์ ใหแ้ ก่กองบญั ชาการตำรวจนครบาลให้จัดหารถนำขบวนให้แก่ประชาชน เพื่อแก้ปัญหาจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนต่อมาพัฒนาเป็น จราจรโครงการพระราชดำริ ซ่ึงตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริน้ี ต้องผ่านการอบรมการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นและการทำคลอดด้วย เพราะนอกจากการอำนวยความสะดวกแก่การจราจรแล้วยังพบปัญหาผู้เจ็บป่วยและผู้ใกล้คลอดระหว่างการเดินทางอยู่เสมอเจ้าหน้าท่ีจราจรโครงการพระราชดำรินี้ จึงเป็นที่พ่ึงยามคับขันของประชาชนอย่างดีย่ิง โครงการดังกล่าวดำเนินการมาต้ังแต่ปี ๒๕๓๖โดยมหี น่วยปฏิบัติภารกิจ ๓ ชุด คือ ชดุ เคล่อื นทเี่ รว็ ชุดอำนวยความสะดวกการจราจร และชุดตำรวจชา่ งพระมง่ิ ขวญั ของชาวไทย ผ้ทู รงเป็นพลังพัฒนาประเทศ
พระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชนิ ี ผู้ทรงเปน็ “พลังแห่งแผ่นดิน” เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการ ขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน โดยการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม พสกนิกรทุกหย่อมหญ้า และทรงริเร่ิมโครงการพัฒนาในทุกภูมิภาค ดุจดัง ประทีปส่องทางการพัฒนาให้แก่หน่วยงานต่างๆ ตลอดช่วงเวลากว่า ๖๐ ปี ท่ีผ่านมา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไม่เคยทรงหยุดพักการช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ ทรงเป็นพลงั สำคัญย่งิ ในการพัฒนาประเทศ พระมงิ่ ขวัญของชาวไทย ผูท้ รงเปน็ พลงั พัฒนาประเทศ
ผลสำเร็จของโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดำริ ล้วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต แ ล ะ ส ร้ า ง ค ว า ม ผ า สุ ก ใ ห้ แ ก่ ป ร ะ ช า ช น ท่ีสำคัญทรง “พฒั นาคน” อนั เปน็ ปจั จยั สำคญั ที่สุด ในการพัฒนาประเทศให้ก้าวทันต่อการ เปล่ียนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ ควบคู่กับการอนุรักษ์และฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติ และลดการพ่ึงพาจากภายนอกอันจะนำพาสู่การพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างม่ันคงและยั่งยนื จึงมิได้มีแต่เพียงชาวไทยเท่าน้ันที่ซาบซ้ึงในพระมหากรุณาธิคุณอนั หาท่ีเปรยี บมิได้ แต่ยังเปน็ ที่ประจกั ษแ์ กน่ านาประเทศทว่ั โลก ต่างยกย่องสรรเสริญพระเกียรติคุณ และได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายรางวลั เกยี รตคิ ณุ แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วัมากมาย อาทิ เมื่อวันท่ี ๒ ธันวาคม ๒๕๓๔ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์พระมิ่งขวัญของชาวไทย ผ้ทู รงเป็นพลังพฒั นาประเทศ
และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (UNESCO) ทลู เกลา้ ฯ ถวาย “เหรยี ญฟแี ล”(Philae Medal) เพ่ือเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในการพัฒนาชนบทในถิ่นทุรกันดาร เพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิตของปวงชนชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ท่ีดีขึ้น ต่อมาเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๔๒ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO) ทูลเกล้าฯ ถวาย “เหรียญเทเลฟู้ด” (Telefood Medal) ซ่ึงเป็นเหรียญเทเลฟู้ดเหรียญแรกของโลก ในฐานะที่ทรงอุทิศพระองค์เพ่ือความผาสุกของอาณาราษฎรในถ่ินชนบทไทย ให้สามารถเพิ่มพูนผลผลิตทางการเกษตรและพงึ่ พาตนเองได้ พระม่ิงขวัญของชาวไทย ผู้ทรงเป็นพลังพัฒนาประเทศ
วนั ท่ี ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙ สำนกั งานโครงการพฒั นาแหง่ สหประชาชาติทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” หรือHuman Development Lifetime Achievement Award ซ่งึ จดั ทำขน้ึ เป็นพิเศษ เพ่ือยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นประโยชน์ต่อทุกประเทศในการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิเวิร์ลฟู้ด (World Food PrizeFoundation) ทลู เกลา้ ฯ ถวายรางวลั เกยี รตยิ ศ ดร.นอรแ์ มน อี บอรล์ อ็ ค ประจำปี๒๕๔๙ ในฐานะ “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ผู้ทรงต้ังพระทัยอย่างแน่วแน่และอุทิศพระองค์ดำเนินโครงการพัฒนาท่ัวประเทศ ทั้งการส่งเสริมเกษตรกรรม แนะนำเทคโนโลยีใหม่สำหรับใช้ในการเกษตร การพัฒนาแหล่งน้ำ รวมถึงการสง่ เสริมสุขภาพของเดก็ และการศกึ ษา เปน็ ตน้ พระมิ่งขวญั ของชาวไทย ผทู้ รงเปน็ พลังพัฒนาประเทศ
ในขณะเดียวกัน องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ได้ขอพระราชทานพ ร ะ บ ร ม ร า ช า นุ ญ า ต ทู ล เ ก ล้ า ฯถ ว า ย ร า ง วั ล เ กี ย ร ติ คุ ณ แ ด่ ส ม เ ด็ จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมากมาย อาทิ วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๒๒ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ทูลเกล้าฯ ถวาย “เหรียญเซเรส” (Ceres)แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมแผ่นเงินสลักคำจารึกประกาศพระเกียรติคุณ ในฐานะที่ทรงอุทิศพระองค์เพ่ือพัฒนาสตรีและประชาชนในชนบท เพ่ือให้มีความเป็นอยู่ท่ีดีขึ้น รวมทั้งทรงส่งเสริมและฟ้ืนฟูศิลปวัฒนธรรมด้ังเดิมของชาติ โดยมีอักษรจารึกว่า “To givewithout discrimination” และวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๓๕ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ทูลเกล้าฯถวาย “เหรียญทองโบโรพทุ โธ” หรือ UNESCO Borobudur Gold Medalในฐานะที่ทรงอนุรักษ์และพัฒนางานศิลปหัตถกรรม รวมท้ังยกระดับความเป็นอยขู่ องประชาชนใหม้ ีอาชีพและความเป็นอยทู่ ่ดี ขี ึ้น พระมิ่งขวญั ของชาวไทย ผทู้ รงเป็นพลังพฒั นาประเทศ
ต่อมา วันท่ี ๒ สิงหาคม๒๕๓๕ องคก์ ารกองทนุ เพอ่ื เดก็ แหง่สหประชาชาติ (UNICEF) ทลู เกลา้ ฯถวาย “เหรยี ญ UNICEF SpecialRecognition Award” แด่สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถเป็นพระองคแ์ รก ในฐานะทที่ รงเสยี สละและมงุ่ มนั่ ในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของแมแ่ ละเดก็ ไทย นอกจากน้ีเม่ือวันท่ี ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา“พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในการอนุรักษ์ คุ้มครองและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ให้เป็นฐานการดำรงชีวติ ของพสกนิกร เป็นตน้ ในโอกาสอันเป็นมหามงคลย่ิงน้ี จึงขอเชิญชวนประชาชนท่ัวประเทศสนองพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ด้วยการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท น้อมนำแนวพระราชดำริของทั้งสองพระองค์มาศึกษาและยึดถอื เปน็ แนวปฏิบตั ิให้บงั เกิดผลสืบไป พระม่งิ ขวัญของชาวไทย ผู้ทรงเป็นพลังพัฒนาประเทศ
คณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาตินายพนัส สิมะเสถียร ประธานกรรมการนายโฆสติ ปัน้ เป่ียมรัษฎ์ กรรมการนายพารณ อิศรเสนา ณ อยธุ ยา กรรมการนายณรงค์ชยั อัครเศรณี กรรมการนายอาชว์ เตาลานนท์ กรรมการคณุ พรทพิ ย ์ จาละ กรรมการนางจรุ ี วิจิตรวาทการ กรรมการนายศักรินทร์ ภูมิรัตน กรรมการนายสนทิ อักษรแกว้ กรรมการนายประยงค์ รณรงค์ กรรมการผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กรรมการ เลขาธกิ ารคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน กรรมการผ้อู ำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการผอู้ ำนวยการสำนักงานเศรษฐกจิ การคลงั กรรมการเลขาธกิ ารคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาต ิ กรรมการและเลขานกุ ารคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาตินายอาคม เตมิ พิทยาไพสิฐ เลขาธิการฯนางเพ็ญจา ออ่ นชติ รองเลขาธกิ ารฯนางสุวรรณี คำม่นั รองเลขาธิการฯนายปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาธกิ ารฯนายชาญวิทย์ อมตะมาทชุ าต ิ รองเลขาธกิ ารฯนายธานนิ ทร์ ผะเอม รองเลขาธกิ ารฯนางสาวลดาวลั ย์ คำภา รองเลขาธกิ ารฯนางนิตยา กมลวทั นนศิ า ท่ีปรึกษาด้านนโยบายและแผนงานนางชุตนิ าฏ วงศ์สุบรรณ ท่ปี รึกษาด้านนโยบายและแผนงานนายสมชาย ศกั ดาเวคีอศิ ร ทปี่ รึกษาดา้ นนโยบายและแผนงานนายภมู ใิ จ อตั ตะนนั ทน์ ทปี่ รกึ ษาด้านนโยบายและแผนงานนางวนิดา มหากิจ ทีป่ รึกษาด้านนโยบายและแผนงานนางสาวสมุ าลี เดชานรุ กั ษ์นกุ ลู รักษาการที่ปรกึ ษาดา้ นนโยบายฯ นายไพโรจน์ โพธิวงศ์ รกั ษาการที่ปรึกษาดา้ นนโยบายฯ
หมายเลขโทรศัพท์ สศช. โทรศัพท์ ๐-๒๒๘๐-๔๐๘๕ (๔๐ คูส่ าย) โทรสาร ๐-๒๒๘๑-๓๙๓๘ หนว่ ยงาน โทรศพั ท์สำนักงานเลขาธกิ าร ๐-๒๖๒๘-๒๘๕๙สำนกั บญั ชปี ระชาชาติ ๐-๒๒๘๑-๖๖๓๒สำนกั ประเมนิ ผลและเผยแพร่การพฒั นา ๐-๒๖๒๘-๒๘๕๑สำนักพัฒนาขดี ความสามารถในการแขง่ ขันทางเศรษฐกิจ ๐-๒๒๘๒-๐๘๑๑สำนักพฒั นาฐานขอ้ มูลและตวั ชีว้ ัดภาวะสงั คม ๐-๒๒๘๑-๘๘๓๑สำนักพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมภาคกลาง ๐-๒๕๒๖-๗๐๗๔-๕สำนกั พัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ๐-๔๓๒๓-๖๗๘๔สำนักพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้ ๐-๗๔๓๑-๒๗๐๒สำนกั พฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมภาคเหนือ ๐-๕๓๑๑-๒๖๘๙-๙๒สำนกั ยุทธศาสตรด์ า้ นนโยบายสาธารณะ ๐-๒๖๒๘-๒๘๔๙สำนกั ยทุ ธศาสตร์และการวางแผนพัฒนาทางสังคม ๐-๒๒๘๑-๒๐๐๖สำนกั ยุทธศาสตรแ์ ละการวางแผนพฒั นาพน้ื ที ่ ๐-๒๒๘๐-๐๒๕๒สำนักยุทธศาสตรแ์ ละการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค ๐-๒๖๒๘-๒๘๓๗สำนกั วางแผนการเกษตร ทรพั ยากรธรรมชาต ิ ๐-๒๒๘๒-๙๘๖๙และส่ิงแวดลอ้ ม สำนักวิเคราะห์โครงการลงทุนภาครัฐ ๐-๒๒๘๑-๐๙๙๒กล่มุ พัฒนาระบบบริหาร ๐-๒๒๘๐-๔๐๙๖กลุม่ ตรวจสอบภายใน ๐-๒๒๘๒-๙๖๕๕มลู นธิ ิสถาบันวิจยั และพฒั นาประเทศ ๐-๒๖๒๘-๒๘๗๔ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มลู นิธิพฒั นาไท ๐-๒๒๘๐-๔๐๘๕ ตอ่ ๕๑๐๓พพิ ิธภัณฑส์ รุ ยิ านุวัตรเพอื่ การพฒั นาประเทศ ๐-๒๖๒๘-๒๘๔๗หอ้ งสมุดสุริยานุวตั ร ๐-๒๒๘๒-๐๘๓๘
ท่ีปรึกษานายสเุ มธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชยั พฒั นานายพนสั สิมะเสถยี ร ประธานกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาตินายอาคม เตมิ พิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจ และสังคมแหง่ ชาติคณะทำงานประธาน : นางเพ็ญจา ออ่ นชิตรองประธาน : นายสุทนิ ลป้ี ยิ ะชาติ นางสาวกัญญารกั ษ์ ศรที องรุ่งคณะทำงาน : นางจนั ทร์ทิพย์ ปาละนันทน์ นางสาวชอ่ ผกา แก้วใหญ่ นางสาวจีรวัจน์ วงศาโรจน์ นายนพดล ธญั ญาดี นางสาวรวีวรรณ เลยี ดทอง นางวรารัตน์ ดุลยพทิ ักษ์ นางสาวรัตนวรรณ สวุ รรณสิงห์ นางสาวพนิดา วงษ์ภกั ดี สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ วสิ ัยทัศน์เป็นหนว่ ยงานหลักในการวางแผนและจัดทำยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาประเทศ สูค่ วามสมดุลและยง่ั ยืน ที่ยึดประโยชนส์ ว่ นรวม ทนั ตอ่ การเปลยี่ นแปลง และมปี ระสิทธิภาพสงู ค่านิยม มุง่ มั่น ทุม่ เท พฒั นาประเทศ เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแก่สังคม ดว้ ยคณุ ธรรม ตามหลักวิชาการอยา่ งมอื อาชีพ วฒั นธรรมองคก์ ร เป็นองคก์ รทีม่ งุ่ สูค่ วามเป็นเลิศทางดา้ นวิชาการ มีความรบั ผดิ ชอบต่อสาธารณะและสงั คม มรี ะบบธรรมาภิบาล บุคลากรของสำนกั งานฯ เป็นทรัพยากรอันมคี า่ ที่สุดขององค์กร
บนั ทกึ
บนั ทกึ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125