Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ

Published by dreammypiggy, 2019-01-31 11:09:45

Description: ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3

Keywords: ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ

Search

Read the Text Version

ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยอี วกาศ ที่ใชส้ ารวจอวกาศ

คานา

คำนำ สารบญั สำรบญั ยคุ ของเทคโนโลยีอวกำศ หน้า อปุ กรณ์ท่ีใช้ในกำรสำรวจอวกำศ ก ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจำกดำวเทียม ข ผ้จู ดั ทำ 1 2 15 ค

Page 1 ความก้าวหน้าของเทคโนโลยอี วกาศท่ีใช้สารวจอวกาศมี 2 ยคุ 1. ก่อนยคุ อวกาศ 2. ยคุ อวกาศ ความกา้ วหนา้ ของวิชาดาราศาสตร์เร่ิมเม่ือกาลิเลโอ เริ่มเม่ือ 4 ตลุ ำคม พ.ศ 2500 เมือ่ รัสเซียได้สง่ ( Galileo ) นกั ดาราศาสตร์ชาวอิตาลีไดป้ ระดิษฐก์ ลอ้ ง ดำวเทียมดวงแรกของโลกชื่อสปตุ นิก1 ขนึ ้ ไปโคจรรอบ โทรทรรศนอ์ นั แรกข้ึนเม่ือ พ.ศ 2152 ไดส้ ่องดูดวง โลกได้สำเร็จ ต่อมำทงั ้ รัสเซียและสหรัฐอเมริกำได้สง่ จนั ทร์และเห็นหลุมบนพ้ืนผวิ ดวงจนั ทร์เป็นคร้ังแรก การ ดำวเทียมและยำนอวกำศขนึ ้ ไปโคจรรอบโลกได้มำกมำย ดูดาวจากพ้ืนโลกผา่ นกลอ้ งโทรทรรศน์แต่มีอปุ สรรคคือ รวมทงั ้ สง่ ยำนไปสำรวจพืน้ ผวิ ดวงจนั ทร์ จนกระทงั่ เมอ่ื การเปล่ียนแปลงของบรรยากาศของโลก เช่น อุณหภูมิ วนั ท่ี 20 กรกฏำคม 2512 สหรัฐอเมริกำสมำรถ ความช้ืน และความหนาแน่นของช้นั บรรยากาศ สง่ มนษุ ย์คนแรกไปสำรวจพืน้ ผิวดวงจนั ทร์ นบั เป็น รวมท้งั แสงสวา่ งและฝ่ นุ ละออง นอกจากน้ี เขม่าควนั จาก ควำมสำเร็จครัง้ ยิง่ ใหญ่ของ โรงงานอุตสาหกรรมยงั มีผลทาใหก้ ารมองเห็นดวงดาว ผดิ จากความเป็นจริง เพม่ิ เติม ต่อมาเม่ือ พ.ศ 2474 ไดม้ ีการใชค้ ลื่นวทิ ยใุ นการสารวจดวงดาวที่เรียกวา่ วทิ ยดุ าราศาสตร์ ในระยะเวลาต่อมาจึงมีการสร้างกลอ้ ง โทรทรรศนว์ ทิ ยทุ ี่มีประสิทธิภาพข้ึนในการสารวจวตั ถุทอ้ งฟ้าในอดีตทาไดเ้ พยี ง 2 วธิ ีคือ ใชก้ ลอ้ งโทรทรรศนแ์ ละโทรทรรศนว์ ทิ ยเุ ท่าน้นั

Page 2 อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการสารวจอวกาศ

อุปกรณ์ทใี่ ช้ในการสารวจอวกาศ Page อวกาศ หมำยถงึ ชนั้ ที่อยเู่ หนือชนั้ บรรยำกำศที่หอ่ ห้มุ โลกขนึ ้ ไป มีอำณำเขตไม่สนิ ้ สดุ สว่ น 3 ใหญ่วำ่ งเปลำ่ ไมม่ ีอำกำศ ไมม่ ีแรงโน้มถว่ งหรือแรงดงึ ดดู ของโลก ทกุ สิง่ ทกุ อยำ่ งในอวกำศ จะอยใู่ นสภำพ ไร้นำ้ หนกั มีควำมร้อนน้อยมำก Sputnik 1 การกา้ วไปสู่ยคุ อวกาศ เร่ิมตน้ จากประเทศรัสเซีย ( สหภาพ โซเวยี ตในสมยั น้นั ) ไดส้ ่งดาวเทียมดวงแรก https://fineartamerica.com/featured/3-sputnik- ช่ือ สปุนิต 1 ( Sputnik 1 ) ข้ึนไปสารวจอวกาศเม่ือวนั ท่ี 1-satellite-detlev-van- 4 ตุลาคม พ.ศ 2500 ต่อจากน้นั ท้งั ประเทศรัสเซียและ ravenswaay.html?product=art-print สหรัฐอเมริกาต่างกศ็ ึกษาคน้ ควา้ ทางดา้ นอวกาศ ทาใหเ้ กิด ความกา้ วหนา้ อยา่ งรวดเร็วมีการส่งยานอวกาศไปโคจร รอบโลก และส่งไปยงั ดวงจนั ทร์และดาวองั คาร เพ่ือ สารวจขอ้ มูลเก่ียวกบั อวกาศและดวงดาวต่าง ๆ

การส่งยานอวกาศจากพ้ืนโลกไปสู่อวกาศน้นั จะตอ้ งทาใหย้ านอวกาศเคลื่อนท่ีดว้ ยความเร็วสูง ถึงระดบั หน่ึง คือ มคี วามเร็วมากกว่าความเร็วหลุดพ้น จึงทาใหย้ ากอวกาศเคลื่อนที่ไปพน้ จากอิทธิพลแรงโนม้ ถ่วงของโลกได้ การส่งดาวเทียมหรือยานอวกาศใหพ้ น้ จากพ้ืนโลก ตอ้ งอาศยั แรงขบั ดนั จากจรวด การ เคล่ือนท่ีของจรวดน้นั อาศยั กฎการเคล่ือนท่ีของนิวตนั ขอ้ ท่ี 3 วา่ “แรงกริ ิยาทุกแรงจะมแี รงปฏิกริ ิยาซ่ึงมขี นาดเท่ากนั มากระทาในทศิ ตรงข้ามกนั เสมอ” การส่งดาวเทยี มหรือยานอวกาศขนึ้ ไปโคจรรอบ ตารางแสดงความเร็วโคจรรอบโลกที่ระยะความสูงต่าง ๆ จากพืน้ โลก โลก นอกจากต้องอาศัยแรงขบั ดนั จากจรวดแล้ว ยงั จะต้องส่งจรวดให้เคล่ือนที่ขนี้ ไปในแนวดงิ่ ควำมสงู จำกพนื ้ โลก อตั รำเร็วโคจรรอบโลก Page จนถงึ ระยะสูงทตี่ ้องการแล้วจงึ เบนหัวจรวด ( km ) (km/h ) 4 ขนานกบั พืน้ โลกเพ่ือเข้าสู่วงโคจรรอบโลกด้วย ความเร็วโคจรรอบโลก ( 0rbital Velocity ) 160 28,102 ซึ่งเป็ นความเร็วทม่ี ีขนาดพอดที ่จี ะทาให้ 800 26,819 ดาวเทยี มหรือยานอวกาศไม่ตกลงสู่พืน้ โลกหรือ 1,000 26,452 หลุดออกจากวงโคจร 42,016 10,324 จากขอ้ มูลในตาราง จะเห็นวา่ ยงิ่ สูงข้ึนไปจากพ้นื โลก ความเร็วโคจรรอบโลกจะยงิ่ ลดลง เน่ืองจากยง่ิ สูงข้ึนไปจากพ้นื โลกมากเท่าไร แรงโนม้ ถ่วงของโลกจะยงิ่ ลดลงเทา่ น้นั

ขณะทมี่ นุษย์อวกาศอยู่ในยานอวกาศซ่ึงกาลงั โคจรอยู่รอบโลก จะต้องเผชิญกบั สภาพต่าง ๆ https://www.dek- 1. สภาพไร้นา้ หนัก เป็นสภาพที่เสมือนกบั วา่ ไม่มีแรงดึงดูดของโลกกระทา d.com/studyabroad/41273/ ต่อวตั ถุและตวั มนุษยอ์ วกาศ ดงั น้นั วตั ถุต่าง ๆ และนกั บินอวกาศจึงเสมือนกบั ไม่ Page มีน้าหนกั สาเหตุเนื่องจากขณะที่ยานอวกาศโคจรรอบโลก โดยไม่ตกมายงั 5 พ้ืนผวิ โลกน้นั แรงโนม้ ถ่วงที่ดึงดูดยานอวกาศจะสมดุลกบั แรงหนีศูนยก์ ลางที่ ยานอวกาศจะหนีออกจากโลก การอยใู่ นสภาพไร้น้าหนกั นาน ๆ จะทาใหก้ ลา้ มเน้ือของคนเราออกแรงนอ้ ย กวา่ ปกติจึงเกิดอาการกลา้ มเน้ือลีบ นอกจากน้ีของเหลวในร่างกายจะเคล่ือนตวั จากส่วนล่างมายงั ร่ายกายส่วนบนอีกดว้ ย ดงั น้นั นกั บินอวกาศจึงตอ้ งออกกาลงั กายเสมอ เพื่อช่วยใหก้ ลา้ มเน้ือแขง็ แรงและการทางานของระบบสูบฉีดโลหิต เป็ นปกติ 2. สภาพความดนั และอุณหภูมิ ท่ีระดบั ความสูงจากพ้ืนโลกมาก ๆ เช่น ตอ้ งสวมชุดอวกาศซ่ึงสร้างและออกแบบใหป้ รับความที่ระดบั ความสูง ประมาณ 800 กิโลเมตร ความหนาแน่นและความดนั บรรยากาศภายนอก ทาใหห้ ลอดเลือดแตก ถึงแก่ความตายได้ ดงั น้นั มนุษยอ์ วกาศจึงตอ้ งสวมชุด อวกาศซ่ึงสร้างและออกแบบใหป้ รับความดนั ได้ http://uatscimath.ipst.ac.th/article- physics/item/7417-2017-08-08-07-35-22

Page 6 3. ภาวะแวดล้อมทวั่ ไป ปัญหาจากภาวะแวดลอ้ มทว่ั ไปที่นกั บินอวกาศจะตอ้ งประสบคือ - การปฏิบตั ิงาน ส่ิงของเคร่ืองใชต้ ่าง ๆ ในยานอวกาศจะล่องลอยไปมา จึงจาเป็นตอ้ งมี ส่ิงจบั ยดึ หรือ เขม็ ขดั รัดไว้ - การด่ืมน้าหรือรับประทานอาหารตอ้ งบรรจุน้าท่ีจะด่ืมในหลอดและฉีดเขา้ ปาก ส่วนอาหารเป็นอาหาร สาเร็จรูปซ่ึงมีน้าหนกั นอ้ ยมาก แต่มีแร่ธาตุและอาหารมาก บรรจุอยใู่ นหลอดคลา้ ยหลอดยาสีฟัน ปัจจุบนั พฒั นามาบรรจุในถุงพลาสติกใสดว้ ยระบบสุญญากาศ ขณะรับประทานตอ้ งบงั คบั อาหารใหอ้ ยู่ ในภาชนะ และตอ้ งวางถาดอาหารบนแถบแม่เหลก็ เสมอ - การขบั ถ่าย ในสว้ มจะมีที่ใหม้ ือเกาะและมีเขม็ ขดั ไวร้ ัดผใู้ ชใ้ หต้ ิดกบั ท่ีนง่ั สว้ ม สิ่งที่ขบั ถ่ายออกมาจะมี เคร่ืองดูดเกบ็ ไว้ - การอาบน้าในอวกาศ ผอู้ าบจะฉีดน้าใส่ทว่ั ตวั แลว้ ใหเ้ พ่ือนอีกคนหน่ึงถือเครื่องดูดน้าอยู่ ขา้ ง ๆ เพ่ือ คอยดูดน้าที่ล่องลอยออกมา - การนอน ตอ้ งเขา้ ไปนอนในถุงนอนท่ีหอ้ ยติดอยกู่ บั ที่ แลว้ รูดซิปปิ ดต้งั แตเ่ ทา้ จนถึงหนา้ อกและเอา แขนสอดไวใ้ นสายรัดที่พนั รอบเอว เพื่อไม่ใหแ้ ขนแก่วงไปมาขณะนอนหลบั

อุปกรณ์ทมี่ นุษย์พฒั นาขึน้ เพ่ือสารวจอวกาศทค่ี วรทราบ Page 1. ดาวเทยี ม (Satellite ) การส่งดาวเทียมตอ้ งใชจ้ รวด ยานขนส่งอวกาศพาข้ึนไป 7 ในอวกาศ เพื่อใหเ้ ขา้ สู่วงโคจร ( Orbit ) รอบโลก วงโคจรของดาวเทียมแบ่งตามระดบั ความสูงจากพ้ืนโลกไดเ้ ป็น 3 ระดบั คือ 1. วงโคจรระดบั ตา่ อยสู่ ูงจากพ้ืนโลกประมาณ 800-1500 กิโลเมตร 2. วงโคจรระดบั กลาง อยสู่ ูงจากผวิ โลกประมาณ 9,900 - 19,800 กิโลเมตร 3. วงโคจรค้างฟ้า อยสู่ ูงจากผวิ โลกประมาณ 35,000 กิโลเมตร ซ่ึงท่ีระดบั น้ี ดาวเทียม จะโคจรรอบโลกไปทางเดียวและมีความเร็วเท่ากบั อตั ราการหมุนรอบตวั เองของโลก https://www.shutterstock.com/t h/image-vector/layers- atmosphere-infographic-science- kids-cartoon-747940687

Page 8 ประเภทของดาวเทยี ม 1.1 ดาวเทียมสารวจอวกาศ ใชป้ ระโยชนใ์ นการสารวจอวกาศ ดาวเทียมประเภทน้ีจะถูกนาข้ึนสู่วงโคจรท่ีสูง กวา่ ดาวเทียมประเภทอ่ืนๆ ดาวเทียมประเภทน้ีบางดวงจะมีอุปกรณ์ตรวจจบั แม่เหลก็ ไฟฟ้า บางดวงจาทา หนา้ ท่ีตรวจจบั และบนั ทึกรังสีอลั ตราไวโอเลต 1.2 ดาวเทยี มนาร่อง ใชป้ ระโยชนใ์ นการหาตาแหน่งและทิศทางของการเดินเรือ และการคมนาคมทาง อากาศในกรณีที่ภาวะทศั นวสิ ยั ไม่ดี เช่น หมอกลงจดั 1.3 ดาวเทยี มจารกรรม ใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นการจารกรรมหรือสงคราม ดาวเทียมประเภทน้ีจะมีอุปกรณ์ ตรวจจบั คลื่นวตั ถุดว้ ยเรดาห์และแสงอินฟราเรด ซ่ึงสามารถจบั ไดท้ ้งั ในทีมืดและท่ีที่ถูกพรางตาไว้ 1.4 ดาวเทียมสื่อสาร ใชป้ ระโยชน์ในการติดต่อส่ือสารและโทรคมนาคมท้งั ภายในประเทศและระหวา่ ง ประเทศ ซ่ึงส่วนใหญ่จะใชใ้ นกิจการโทรศพั ท์ โทรเลข โทรพิมพ์ และโทรสาร รวมท้งั การถ่ายทอด สญั ญาณวิทยแุ ละสญั ญาณโทรทศั น์

Page 9 ประเภทของดาวเทียม 1.5 ดาวเทยี มอุตุนิยมวทิ ยา ดาวเทียมประเภทน้ีจะถ่ายภาพและส่งสญั ญาณสู่ภาคพ้ืนดินเป็นระยะ ทา ใหส้ ามารถติดตามดูลกั ษณะของเมฆที่ปกคลุมโลกได้ การก่อตวั และการเคลื่อนที่ของพายุ ตรวจวดั ระดบั ของเมฆ ตรวจการแผร่ ังสีของดวงอาทิตย์ วดั อุณหภูมิบนโลกหรือช้นั บรรยากาศ ซ่ึงนกั พยากรณ์อากาศจะ นาขอ้ มูลเหล่าน้ีมาวิเคราะห์ เพื่อรายงานสภาพอากาศและพยากรณ์อากาศใหป้ ระชาชนไดท้ ราบ 1.6 ดาวเทยี มสารวจทรัพยากรธรรมชาติ เป็นดาวเทียมที่ใชส้ ารวจดูพ้ืนผวิ โลกและการเปล่ียนแปลง ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนบนพ้ืนผวิ โลก ซ่ึงขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีไดม้ าจะถูกนาไปใชป้ ระโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ เช่น ดา้ นป่ าไม้ ดา้ นการใชท้ ี่ดิน ดา้ นการเกษตร ดา้ นอุทกวิทยา ดา้ นธรณีวทิ ยา ดา้ นสมุทรศาสตร์และการประมง ดา้ น ส่ิงแวดลอ้ ม และดา้ นการทาแผนท่ี

อปุ กรณ์ทม่ี นุษย์พฒั นาขึน้ เพื่อสารวจอวกาศทค่ี วรทราบ Page 10 2. สถานีอวกาศ ( Space Station ) มีลกั ษณะเป็นหอ้ งทดลองขนาดใหญ่ท่ีอยใู่ นอวกาศตลอดชีวติ การ ทางานของมนั และมีกลุ่มลกู เรืออวกาศไปเยยี่ มสลบั เปลี่ยนกนั เป็นชุด ๆ สถานีอวกาศช่วยใหน้ กั บินอวกาศไดส้ ารวจ ภาวะแวดลอ้ มของโลกและช่วยใหน้ กั วิทยาศาสตร์ไดว้ จิ ยั และปฏิบตั ิการทดลองบางอยา่ งท่ีไม่สามารถทาไดบ้ นโลก หรือทาไดย้ ากและสิ้นเปลืองคา่ ใชจ้ ่ายมากมาย เช่น การผลิตสารบริสุทธ์ิเพ่ือใชผ้ ลิตยา การผสมสารท่ีมีสมบตั ิ พิเศษและความหนาแน่นต่างกนั นอกจากน้ียงั เป็ฯท่ีใหน้ กั วทิ ยาศาสตร์ไดศ้ ึกษาทดลองคน้ ควา้ เกี่ยวกบั พืชและสตั ว์ ศึกษาโลกและอวกาศ ในอนาคตอาจใชเ้ ป็นสถานีที่พกั ของมนุษยอ์ วกาศและยานอวกาศเพื่อเตรียมตวั สาหรับ เดินทางไปดวงจนั ทร์หรือดาวนพเคราะห์อื่น ๆ เช่น สถานีอวกาศ ISS ( The International Space Station ) สถำนีอวกำศมีร์ สถานีอวกาศนานาชาติ https://th.wikipedia.org/wiki/ http://www.lesa.biz/space- technology/spacecraft/iss

อปุ กรณ์ทมี่ นุษย์พฒั นาขึน้ เพื่อสารวจอวกาศทคี่ วรทราบ Page 11 3. จรวด ( Rocket) เป็นพาหนะท่ีพาดาวเทียมหรือยานอวกาศข้ึนไปสู่อวกาศ 3.1 การสร้างเคร่ืองยนต์เพื่อขบั ดนั จรวดให้เคลื่อนที่น้ัน จรวดจะถูกสร้างไวห้ ลายท่อนต่อกนั ดาวเทียม หรือยานอวกาศจะต่อติดกบั จรวดท่อนสุดทา้ ย 3.2 การทีจ่ รวดต้องสร้างเป็ นท่อน ๆ ตดิ ต่อกนั เพื่อใหส้ ามารถบรรทุกเช้ือเพลิงไดใ้ นปริมาณมาก และ เม่ือจรวดท่อนต่าง ๆ ถูกสลดั ทิ้งไปตามลาดบั ทาใหส้ ามารถลดมวลของจรวดใหน้ อ้ ยลงเร่ือย ๆ เป็นการ ลดอุปสรรคในการเคลื่อนท่ีหนีแรงโนม้ ถ่วงของโลก 3.3 การท่ีต้องส่งจรวดขนึ้ ในแนวดงิ่ เพื่อใหด้ าวเทียมหรือยานอวกาศที่ติดไปกบั จรวดใชเ้ วลาเดินทางใน บรรยากาศโลกส้นั ที่สุด

3.4 การส่งดาวเทยี มหรือยานอวกาศโดยใช้จรวด มี Page หลกั การตามลาดบั ข้นั ตอนดงั น้ี 12 จรวดท่อนแรกเผาไหม้เชื้อเพลงิ ส่งจรวดข้ึนจากฐานในแนวดิ่ง เผาไหมห้ มดแลว้ สลดั ทิ้งไป จรวดท่อนต่อไปเริ่มเผาไหม้เชื้อเพลงิ เผาไหมเ้ ช้ือเพลิงหมดแลว้ สลดั ทิ้งไป จรวดท่อนสุดท้ายและดาวเทียมหรือยานอวกาศ อาจโคจรรอบ โลกหรือโคจรออกสู่อวกาศ ซ่ึงกแ็ ลว้ แต่จุดประสงคใ์ นการ กาหนดความเร็วสุดทา้ ย เม่ือจรวดท่อนสุดทา้ ยมีความเร็วและ ทิศทางตามที่กาหนดแลว้ จรวดท่อนสุดทา้ ยจะหยดุ ทางาน ซ่ึง ขณะน้ีจรวดและดาวเทียมหรือยานอวกาศจะเคล่ือนท่ีไปตาม เสน้ ทางท่ีกาหนดโดยไม่ตอ้ งใชแ้ รงขบั ดนั ดาวเทียมหรือยาน อวกาศจะแยกตวั ออกจากจรวดท่อนสุดทา้ ย แลว้ โคจรต่อไป https://attaponaerospace.wordpress.c om/2014/05/04

อปุ กรณ์ทม่ี นุษย์พฒั นาขึน้ เพ่ือสารวจอวกาศทค่ี วรทราบ 4. ยานขนส่งอวกาศหรือกระสวยอวกาศ ( Space Shuttle ) ยานขนส่งอวกาศไดร้ ับการพฒั นาข้ึนมาแทนจรวด Page ซ่ึงสามารถนายานอวกาศ ดาวเทียม สถานีอวกาศ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ข้ึนไปปฏิบตั ิงานและเกบ็ ดาวเทียมที่ 13 หมดอายแุ ลว้ มาแกไ้ ขซ่อมแซมหรือนากลบั สู่โลกมาปรับปรุงเพ่ือนาไปใชใ้ หม่ ดงั น้นั ยานขนส่งอวกาศจึงช่วย ใหป้ ระหยดั ค่าใชจ้ ่ายมากกวา่ จรวดซ่ึงตอ้ งทิ้งไปทุกคร้ังที่ใชง้ านแลว้ 1. ตัวยานโคจร ( ยานขนส่งอวกาศ ) มีลกั ษณะรูปร่างเหมือน https://sites.google.com/site/warisara44 573/swn-prakxb-hlak-khxng-yan-xwkas- เคร่ืองบิน มีเครื่องยนตจ์ รวด 3 เคร่ืองติดอยสู่ ่วนทา้ ยและมีจรวดขนาด space-shuttle เลก็ ๆ ซ่ึงมีเช้ือเพลิงอยภู่ ายในติดอยรู่ อบ ๆ ตวั ยานอีก 44 เครื่อง สาหรับ ทาหนา้ ท่ีปรับทิศทางโคจรและการบินของยาน ตวั ยานโคจรแบ่งออกเป็น 3 ตอนดงั น้ี - ห้องนักบนิ เป็นหอ้ งทางานของนกั บินอวกาศจานวน 2 คน - ห้องค้นคว้าวจิ ยั ทางวทิ ยาศาสตร์ เป็นหอ้ งทดลองคน้ ควา้ ส่ิงต่าง ๆ - ห้องบรรทุกสัมภาระ ใชบ้ รรจุดาวเทียมและสมั ภาระต่าง ๆ และมีแขน กลไวค้ อยเกบ็ หรือปล่อยดาวเทียม 2. ถงั เชื้อเพลงิ ภายนอก คือส่วนที่ยานขนส่งอวกาศเกาะอยู่ ซ่ึงจะมีท่ออะลูมิเนียมและเหลก็ ลา้ สาหรับ ป้อนเช้ือเพลิงเขา้ ไปในเครื่องยนตห์ ลกั 3 เครื่องของยานโคจร 3. จรวดขับดนั เชื้อเพลงิ แข็ง คือส่วนท่ีติดขนาบกบั ถงั เช้ือเพลิงภายนอกมี 2 ลา โดยจรวดส่วนน้ี สามารถนากลบั มาใชง้ านไดอ้ ีก

อุปกรณ์ทม่ี นุษย์พฒั นาขนึ้ เพ่ือสารวจอวกาศทค่ี วรทราบ Page 14 5. กล้องโทรทรรศน์อวกาศ คือ อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการสงั เกตการณ์ทางดา้ นดาราศาสตร์ โดยในปี พ.ศ 2533 องคก์ ารนาซา ( NASA) ไดส้ ่งกลอ้ งโทรทรรศนอ์ วกาศฮบั เบิล ( Hubble Space Telescope) ข้ึนไปประจาวง โคจรรอบโลกที่ความสูง 600 กิโลเมตรเหนือผวิ โลก ซ่ึงเป็นช้นั บรรยากาศที่บางเบาเทียบไดก้ บั สภาวะ สุญญากาศ จึงไม่มีผลกระทบจากบรรยากาศ กลอ้ งโทรทรรศน์อวกาศฮบั เบิลเป็นกลอ้ งชนิดสะทอ้ นแสง มี อุปกรณ์ที่สาคญั ท่ีติดไปกบั กลอ้ ง ไดแ้ ก่ ระบบคอมพิวเตอร์ กลอ้ งถ่ายภาพมุมกวา้ ง เคร่ืองตรวจวดั สเปกตรัม และเครื่องปรับทิศทางของกลอ้ ง ภาพถ่ายที่ไดจ้ ากกลอ้ งจะไดร้ ับการวิเคราะห์โดยสถาบนั วิทยาศาสตร์เพ่ือใชเ้ ป็น ขอ้ มูลทางดาราศาสตร์ 6. ยานอวกาศ คือ ยานพาหนะที่มีเคร่ืองยนตห์ รือส่ิงอ่ืน ท่ีใชบ้ งั คบั ยานอวกาศใหเ้ คล่ือนที่ไปหรือกลบั สู่พ้ืนโลก หรือจอดบนพ้ืนผวิ ดาวเคราะห์ท่ีตอ้ งการสารวจ ซ่ึงใน ยานอวกาศจะบรรทุกเคร่ืองมือและอุปกรณ์วดั ขอ้ มูลต่าง ๆ ทางวทิ ยาศาสตร์ข้ึนไปสารวจนอกโลกดว้ ย https://th.pngtree.com/freepng/spa cecraft_3234065.html เพมิ่ เตมิ กลอ้ งโทรทรรศนอ์ วกาศฮบั เบิลมีอายกุ ารใชง้ านถึง 20 ปี และองคก์ ารนาซาวางแผนจะสร้างและส่งกลอ้ งโทรทรรศนอ์ วกาศตวั ใหม่ช่ือวา่ กลอ้ ง โทรทรรศนอ์ วกาศ เจมส์เวบ๊ บ์ (James Webb Space Telescope ) เพ่ือใชแ้ ทนกลอ้ งฮบั เบิล ซ่ึงมีขนาดใหญ่กวา่ กลอ้ งฮบั เบิลประมาณ 2 -3 เท่า

Page 15 ประโยชน์ทปี่ ระเทศไทยจะได้รับจากดาวเทียม

ประเทศไทยใชป้ ระโยชน์โดยตรงจากดาวเทียมเพียง 3 ประเภทเท่าน้นั Page 16 1. ดาวเทียมส่ือสาร ดาวเทียมสื่อสารที่ประเทศไทยไดใ้ ชบ้ ริการ คือ ดาวเทียมอินเทลแสต ( INTELSAT ) ขององคก์ ารอินเทลแสต ดาวเทียมปาลาปา ( PALAPA ) ของประเทศอินโดนีเซีย และดาวเทียมไทยคม 3 ของบริษทั ซินแซทเทลไลท์ จากดั ( มหาชน ) http://prayut-prawit.blogspot.com/2017/11/2.html https://woranuch1234.weebly.com/ ดาวเทียมอินเทลแสต ดาวเทียมไทยคม 3 ประโยชน์ของดาวเทยี มส่ือสาร - การใชด้ าวเทียมเพื่อการประชุมทางไกลดว้ ยดว้ ยภาพผา่ นดาวเทียม ซ่ึงสามารถช่วยใหห้ น่วยงานต่าง ๆ สามารถประชุมกนั ไดจ้ ากสถานท่ีต่างๆพร้อมกนั ในเวลาเดียวกนั เป็นการประหยดั เวลาและคา่ ใชจ้ ่าย - ระบบเกบ็ ข่าวผา่ นดาวเทียม เป็นการทาขา่ วสดหรือถ่ายทอดเหตุการณ์สาคญั ผา่ นดาวเทียม เช่น การทา ข่าว ณ จุดเกิดเหตุและส่งสญั ญาณภาพเพอ่ื แพร่ภาพ เช่น การถ่ายทอดสดกีฬา การรายงาน แหตุการณ์ ต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ น้าท่วม จลาจล เป็นตน้

2. ดาวเทียมอุตนุ ิยมวทิ ยา ท่ีประเทศไทยรับสญั ญาณ คือ ดาวเทียม GMS -5 ของประเทศญ่ีป่ ุน ดาวเทียม NOAA-12 และ NOAA-14 ของประเทศสหรัฐอเมริกา Page 17 http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.p https://gi4u.wordpress.com/2014/08/04/ hp?book=2&chap=4&page=t2-4-infodetail09.html ดาวเทียม NOAA-14 ภาพถ่ายจากดาวเทียม ประโยชน์ทีไ่ ด้รับจากดาวเทียมอุตุนิยมวทิ ยา - ทาใหส้ ามารถติดตามดูลกั ษณะอากาศปรวนแปรได้ เช่น การก่อตวั และการเคลื่อนตวั ของพายุ เพื่อเตือนภยั ล่วงหนา้ เกี่ยวกบั พายตุ ่าง ๆ - ใหห้ าอุณหภูมิบนโลกหรือช้นั บรรยากาศ และคานวณความเร็วของลมช้นั บน - ใชส้ ารวจขอ้ มูลในบริเวณที่ไม่มีสถานีตรวจอากาศ เช่น ในถิ่นทุรกนั ดาร ทะเล หรือ มหาสมุทร - ใชป้ ระโยชน์ในการพฒั นางานดา้ นการเกษตร การประมง การคมนาคม อุตสาหกรรม และ ช่วยป้องกนั ภยั ล่วงหนา้ อนั จะก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่งาน

3. ดาวเทยี มสารวจทรัพยากรธรรมชาติ การใชป้ ระโยชนจ์ ากดาวเทียมสารวจทรัพยากรธรรมชาติประเทศไทยไดเ้ ขา้ ร่วมโครงการสารวจทรัพยากรธรรมชาติดว้ ยดาวเทียมขององคก์ ารนาซา เม่ือปี พ.ศ 2514 โดยมีกองสารวจ Page ทรัพยากรธรรมชาติดว้ ยดาวเทียม สานกั งานคณะกรรมการวิจยั แห่งชาติเป็นผดู้ าเนินงานและประสานงาน และเมื่อ 18 พ.ศ 2524 ไดม้ ีการจดั ต้งั สถานีรับสญั ญาณขอ้ มูลภาคพ้ืนดินที่เขตลาดกระบงั ซ่ึงจดั เป็นสถานีรับสญั ญาณแห่งแรก ของโลก ที่สามารถรับสญั ญาณจากดาวเทียมสารวจทรัพยากรธรรมชาติ เกือบทุกดวงที่โคจรอยใู่ นขณะน้ีไดแ้ ก่ 1. ดาวเทียมแลนด์แซท ( Landsat ) บริษทั EOSAT ประเทศสหรัฐอเมริกา ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากดาวเทียมดวงน้ีไดแ้ ก่ - ความดนั ลึกของน้าและการกระจายของกตะกอน - ลกั ษณะภูมิประเทศของน้า ถนน แหล่งชุมชน - การใชด้ ินและการเปลี่ยนแปลงขแงพนั ธุ์พืช ป่ าไม้ พ้ืนที่เพาะปลูก https://www.gistda.or.th/main/th/node/91 http://tntofstars.blogspot.com/ ภาพถ่ายจากดาวเทียม ดาวเทียมแลนดแ์ ซท 5

2. ดาวเทยี มสปอต ( SPOT ) ของสถาบนั อวกาศแห่งชาติฝรั่งเศสร่วมกบั ประเทศในกลมุ่ ยโุ รปขอ้ มูลจากดาวเทียม ดวงน้ีนาไปใชป้ ระโยชนด์ งั น้ี - การสารวจพ้ืนที่และแยกชนิดของป่ า รวมท้งั ไฟป่ า - แหล่งน้า สมุทรศาสตร์ และชายฝ่ัง การพงั ทลายและการตกตะกอน Page - ติดตามการประเมินผลส่ิงแวดลอ้ มและมลภาวะ 19 ดาวเทียมสปอต ดาวเทียมมอส - 1 http://www.trueplookpanya.com/blog/content/58426/ http://www.trueplookpanya.com/blog/content/58426/ 3. ดาวเทยี มมอส - 1 ( MOS - 1 ) ขององคก์ ารพฒั นาอวกาศแห่งชาติญี่ป่ ุน ขอ้ มูลที่ ไดร้ ับจากดาวเทียมดวงน้ีเช่นเดียวกบั ขอ้ มูลที่ไดร้ ับจากดาวเทียมแลนดแ์ ซท นอกจากน้ี ยงั ใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั - อุณหภูมิต่าง ๆ ในทะเล ซ่ึงเป็นประโยชนต์ ่อการประมง - การปกคลุมของเมฆและไอน้า ซ่ึงเป็นประโยชนต์ ่อการพยากรณ์อากาศ - ปริมาณไอน้า ลมในทะเล การแผป่ กคลุมของหิมะ และน้าแขง็ ในทะเล

จัดทาโดย ด.ญ.ฐิตาพร เถาจนั ทรต์ ะ๊ เลขที่ 16 นางสาวเธียราณฐั ปิ ติจะ เลขที่ 20 ชนั้ ม.3/15


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook