ชวั่ โมงท่ี 3 - 4 - ครูอธิบายวธิ กี ารเขียนสตู รไอออนิกท่ถี ูกต้อง แสดงตัวอยา่ งระหวา่ งโลหะกบั อโลหะ - นกั เรยี นฝกึ การเขยี นสตู รไอออนกิ ตามแบบฝึกหัดที่กาหนดให้ - เฉลยและปรับปรงุ ข้อผิดพลาดของนกั เรยี น ในการของสตู รเคมี - ศกึ ษาข้อแตกต่างของธาตแุ ละไอออนของธาตุ ชนดิ ของธาตุของอย่าในสารอาหาร - ครูยกตัวอย่างสารอาหารที่เป็นประเภทสารประกอบไอออนกิ 9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรยี นรู้ จานวน สภาพการใชส้ ือ่ รายการส่ือ 1 ชุด ขั้นเตรียมความพร้อม 1. Powerpoint 2. แบบฝึกหดั เร่ือง สตู รไอออนิก 1 ชุด ขั้นสรปุ 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรียนรู้ วธิ ีวดั เคร่อื งมอื วดั ฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน เกณฑก์ ารให้ การเขียนสูตร แบบฝกึ หัดทบทวน ตวรจแบบฝกึ หดั แบบตวรจแบบฝึกหัด คะแนน ความถกู ตอ้ งร้อยละ สารประกอบไอออนกิ ทบทวน ทบทวน 80 ขนึ้ ไป ลงชอื่ ..................................................ผูส้ อน (............................................)
แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง พนั ธะเคมี แผนจดั การเรยี นรูท้ ่ี 6 เร่ือง รูปร่างสารประกอบโคเวเลนต์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์กายภาพ รหสั วิชา ว 32101 ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนกั เวลาเรยี น 1 (นน./นก.) เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั พันธะโคเวเลนต์เป็นพันธะเดี่ยวพันธะคู่ หรือพันธะสาม และ ระบุจานวนคู่อิเล็กตรอน ระหว่างอะตอมคู่ ร่วมพันธะ 2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชวี้ ดั ชน้ั ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ อง สสาร กบั โครงสร้างและแรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลยี่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ว 2.1 ม.5/8 , ระบวุ า่ พนั ธะโคเวเลนตเ์ ป็นพันธะเดย่ี วพันธะคู่ หรอื พันธะสาม และระบุจานวนคอู่ ิเล็กตรอน ระหวา่ งอะตอมคูร่ ่วมพันธะจากสูตรโครงสร้าง 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลกั : Knowledge การเขยี นสตู รโครงสร้างของสารเคมพี นั ธะโคเวเลนต์ และรูปร่าง ของโมเลกลุ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process เกดิ กระบวนการสงั เกตจากส่ิงที่ท่มี ีในชวี ติ ประจาวนั 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude นกั เรยี นเกดิ ความสนใจในการศกึ ษาคน้ ควา้ กลา้ แสดงออก ความคิดเห็นจากขอ้ มูลที่ศกึ ษาได้ ในกลุม่ เพือ่ น 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่
6. คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 2. ซอื่ สตั ยส์ ุจริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - แบบฝกึ หดั สารประกอบโคเวเลนต์ - โมเดลรปู รา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ คือเสน้ ตรง มมุ งอ สามเหล่ียมแบนราบ พีระมิดฐานสามเหลยี่ ม พีระมิดคฐู่ านสามเหลย่ี ม พรี ะมิดคู่ฐานสี่เหลย่ี ม จากวสั ดุธรรมชาติ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ (กระบวนเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรแู้ สดงตามขั้นตอน : เวลาที่ใช้ 4 ช่ัวโมง) - ขั้นสรา้ งความสนใจ ใชภ้ าพการจดั วางโมเลกุลของสารประกอบแต่ละประเภท คอื ไอออนิกและโคเวเลนต์ สงั เกตและ ต้ังคาถาม - ขน้ั สารวจและคน้ พบ นกั เรยี นศึกษาด้วยตนเอง ตามกล่มุ ถึงความหมายของสารประกอบประเภทโคเวเลนต์ และ ชว่ ยกนั ยกตวั อย่างสารประกอบโคเวเลนต์ ศกึ ษาวิธีการเขียนสูตรโมเลกลุ โคเวเลนต์ - ข้ันอธิบายและลงข้อสรปุ นกั เรยี นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ จากการศกึ ษาค้นคว้า ความหมาย ข้อแตกตา่ งของสารประกอบ โคเวเลนตแ์ ละสารประกอบไอออนคิ จากนัน้ แลกปลยี่ นความคิดเหน็ ในการชัน้ เรียนชว่ ยการตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง - ขน้ั ขยายความรแู้ ละนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ เช่อื มโยงความรูส้ ูตรโมเลกลุ โคเวเลนต์ ของการเขยี นสูตรโครงสรา้ งของสารประกอบ ทง้ั แบบจดุ แบบเส้น ลกั ษณะของการเขียนพนั ธะตา่ งๆ - ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล ครสู รุปและใหข้ อ้ เสนอแนะเพิ่มเติม จากนั้นใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หัดเพ่ือเสรมิ ความเขา้ ใจ และ เฉลยภายในหอ้ งเรียน จัดโมเดลรปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ คอื เสน้ ตรง มมุ งอ สามเหลีย่ มแบนราบ พรี ะมดิ ฐาน สามเหล่ียม พรี ะมดิ คฐู่ านสามเหลย่ี ม พีระมิดคู่ฐานสเ่ี หลย่ี ม จากวัสดธุ รรมชาติ รายกลุ่ม ช่วั โมงท่ี 1 - 2 - แจกต้ังคาถามจากภาพ การจัดเรยี งโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนต์ และสารประกอบไอออนิกนน้ั แตกตา่ งกนั อย่างไร เพ่ือกระตนุ้ นความสนใจ
- เฉลยคาถาม ชใ้ี ห้นกั เรียนเหน็ ถงึ จุดสงั เกตข้อแตกตา่ งของสารประกอบแต่ละประเภท - แนะนาแนวทางถึงลักษณะพเิ ศษของสารประกอบโคเวเลนต์ - ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาการเขยี น สูตรโครงสรา้ งของสารประกอบโคเวเลนต์ ภายในกล่มุ และทดลองทา แบบฝึกหัดการเขียนสตู รโครงสร้าง - เฉลยวิธกี ารเขียนสูตรโครงสรา้ งทถ่ี กู ต้อง และอธิบายหลักการเขยี นสูตรโครงสรา้ งทีด่ ี ชวั่ โมงท่ี 3 - 4 - ขยายความรู้ โดยการศึกษารปู ร่างของโมเลกลุ ของสารโคเวเลนตแ์ บบต่างๆ - จดั ทาตารางสรุปรปู ร่างของโมเลกลุ แตล่ ะประเภท โดยทาเปน็ กลุ่ม - ทาการมอบหมายงานการทาโมเดลรปู รา่ งโมเลกุลแต่ละแบบ โดยออกแบบประยกุ ต์ใชว้ ัสดุ ใกลต้ วั ใน การทาโมเดล เชน่ เศษขยะ เศษเหลก็ เมลด็ พชื ดินเป็นตน้ - จะทาขอ้ มลู อธบิ ายเก่ียวกบั รปู รา่ งที่กลุ่มตนเองได้รับหมายและออกมานาเสนอแนวคดิ ในออกแบบ โมเลเดล ทม่ี าหลักการและเหตุผล 9. ส่อื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ื่อ 1 ชดุ ขั้นเตรียมความพรอ้ ม รายการสอื่ 1 ชุด ขั้นสรุป 1. powerpoint 1 ชดุ ขั้นประเมนิ ผล 2. แบบฝกึ หัดเรือ่ ง การเขียนสตู รโครงสรา้ งของสารโมเลกุล 3. ตวั อย่างการจดั ทาโมเดล รปู ร่างโมเลกลุ 10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรยี นรู้ วธิ ีวัด เคร่ืองมอื วัดฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ พนั ธะโคเวเลนต์เป็น แบบฝึกหัดการเขยี น ตวรจแบบฝึกหัด แบบตวรจแบบฝกึ หดั คะแนน พนั ธะเดีย่ วพันธะคู่ สตู รโคเวเลนต์ ทบทวน ทบทวน ความถูกต้องร้อยละ หรอื พันธะสาม และ โมเดลรปู ร่างโมเลกุล ตวรจโมเดล แบบตวรจโมเดล ระบุจานวนคู่ 80 ขน้ึ ไป อเิ ล็กตรอน ระหว่าง - -- ความถกู ตอ้ งรอ้ ย อะตอมคูร่ ่วมพนั ธะ ละ 80 ขึ้นไป -
11. การบรู ณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น กิจกรรมที่สอดคลอ้ งหลกั บทบาทของครู บทบาทของผู้เรยี น ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ ออกแบบการเรียนรู้ ในการใชว้ สั ดุรอบข้าง การใช้วสั ดุรอบข้างให้เกิดประโยชน์ ใหเ้ กิดประโยชน์ 2. ความมเี หตุผล ใชเ้ หตผุ ลในการเลอื กเมล็ดพนั ธ์พืช หรอื วัสดุ ใช้เหตุผลในการเลอื กเมลด็ พนั ธ์พืช หรอื วัสดุ เหลอื ใช้ ในการทางาน เหลอื ใช้ ในการทางาน 3. มีภูมคิ ุมกนั ในตัวทด่ี ี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมัดระวัง สรา้ งสรรค์ 4. เงอ่ื นไขความรู้ ความรอบรู้ เร่อื ง โมเดลรปู ร่างโมเลกลุ ความรอบรู้ เรอ่ื ง โมเดลรปู รา่ งโมเลกลุ 5. เง่อื นไขคุณธรรม มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มคี วาม มีความตระหนักใน คณุ ธรรม มคี วาม ซื่อสตั ย์สุจรติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ซื่อสตั ย์สจุ ริตและมคี วามอดทน มีความเพียร ใช้สติปญั ญาในการดาเนนิ ชีวติ ใช้สตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชวี ิต กจิ กรรมท่สี อดคล้องสวน ครู ผเู้ รียน พฤกษศาสตร์โรงเรียน การใช้เมล็กพนั ธ์พืชในการจัดการเรียนรู้ ฝกึ การคัดเลือกเมลด็ พันธ์ุ ในการแทน องคป์ ระกอบท่ี 2 การนาพันธพ์ ชื มา ใชป้ ระโยชน์ โดยให้นักเรยี นพิจารณาเมลด็ ทม่ี ใี ห้ สญั ลกั ษณ์แต่ละประเภทในการทาโมเดล โรงเรยี นและเลอื กดว้ ยตนเอง ของรปู ร่างโคเวเลนต์ กิจกรรมทีส่ อดคลอ้ ง ครู ผ้เู รยี น ส่ิงแวดลอ้ ม ออกแบบใหก้ ารสรา้ งจิตสานกึ ในการใชว้ ัสดุ พัฒนาจติ สานกึ และแนวทางในการหาวสั ดุ การใชเ้ ศษวสั ดธุ รรมชาตใิ ห้เกิด ธรรมชาติ ทดแทนวัสดุสังเคราะห์ ยอ่ ยสลาย ทดแทนวัสดุสงั เคราะห์ ยอ่ ยสลายยาก ประโยชน์ในการเรียน เพอ่ื ลด ยาก ปญั หาพลาสตกิ - ลงช่ือ..................................................ผสู้ อน (............................................)
แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง พนั ธะเคมี แผนจัดการเรียนร้ทู ่ี 7 เรือ่ ง สภาพขว้ั และแรงระหวา่ ง โมเลกุล รายวชิ า วิทยาศาสตร์กายภาพ รหัสวิชา ว 32101 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนกั เวลาเรยี น 1 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ เวลาทใี่ ช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั โครงสร้างความสัมพันธ์ระหวา่ งจุดเดือดของสาร โคเวเลนต์กบั แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลตามสภาพขั้วหรือ การเกิดพนั ธะไฮโดรเจน 2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วัดช้ันป/ี ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสมบัตขิ อง สสาร กับโครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ว 2.1 ม.5/9 , ระบสุ ภาพข้วั ของสารทโ่ี มเลกลุ ประกอบด้วย 2 อะตอม ว 2.1 ม.5/10 , ระบสุ ารที่เกดิ พนั ธะไฮโดรเจนไดจ้ ากสตู ร โครงสร้าง ว 2.1 ม.5/11 , อธิบายความสมั พันธ์ระหว่างจดุ เดอื ดของสาร โคเวเลนต์กับแรงดงึ ดูดระหวา่ งโมเลกุลตามสภาพข้ัว หรอื การเกดิ พนั ธะไฮโดรเจน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge โครงสร้างความสมั พนั ธ์ระหว่างจุดเดือดของสาร โคเวเลนตก์ ับ แรงดึงดดู ระหว่างโมเลกลุ ตามสภาพข้ัวหรือการเกดิ พนั ธะไฮโดรเจน 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process เกดิ กระบวนการสังเกต ศกึ ษาความเปน็ เหตุเปน็ ผลของสสาร 3.3 คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude นกั เรยี นเกดิ ความสนใจในการศกึ ษาคน้ ควา้ กลา้ แสดงออก ความคดิ เหน็ จากขอ้ มลู ท่ีศกึ ษาได้ ในกลุ่มเพือ่ น 4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5. คุณลกั ษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม 6. คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ 2. ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี นิ ยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - แบบฝกึ หัด ข้ัวของโมเลกุล และแรงระหว่างโมเลกุล - การทดลองความหนาแน่นของสาร 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ (กระบวนเรยี นร้แู บบสบื เสาะหาความรแู้ สดงตามขน้ั ตอน : เวลาท่ใี ช้ 4 ชั่วโมง) - ขัน้ สร้างความสนใจ ใชก้ ารทดลองเร่ือง ความหนาแน่นของของเหลว - ขน้ั สารวจและค้นพบ นกั เรยี นวิเคราะห์และสงั เกต ระดมความคดิ หาเหตผุ ลของการผลการทดลองที่เกิดขึน้ - ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรปุ นกั เรยี นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ จากการศกึ ษาคน้ คว้า และเสนอความคิดท่กี ลมุ่ ของตนคดิ - ขัน้ ขยายความรแู้ ละนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ ครอู ธบิ ายถึงสาเหตุหลักการที่แท้จรงิ และนาเสนอเหตุผลจากสภาพขั้วของสารแตล่ ะประเภท - ขั้นสรปุ และประเมนิ ผล ครูสรุปและใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ จากนั้นให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดเพือ่ เสริมความเขา้ ใจ และ เฉลยภายในหอ้ งเรยี น ชัว่ โมงที่ 1 - 2 - อธบิ ายวิธกี ารทดลองในการทดลอง เรือ่ ง ความหนาแน่นของของเหลว - ทาการทดลอง โดยให้นกั เรียนแต่ละคนจดบนั ทกึ ผลการทดลอง โดยการวาดรปู - นกั เรยี นวเิ คราะหแ์ ละสงั เกต ระดมความคดิ หาเหตผุ ลของการผลการทดลองทเ่ี กดิ ข้ึน - ลงขอ้ สรปุ และหาเหตุผลรองรับผลการทดลอง ท่เี กิดขึ้น - จากนน้ั ครูเกรนิ นาเหตผุ ล สาเหตเุ นอื่ จากความหนาแน่นซง่ึ เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุล
- อธิบายสภาพข้ัวของแตล่ ะโมเลกุล ซงึ่ ส่งผลต่อแรงดงึ ดูดระหวา่ งโมเลกุล ท้งั แรง แวนเดอร์วาล แรง ระหว่างข้ัว แรงพันธะไฮโดรเจน - ใชค้ ลปิ วดิ โี อการทดลองแรงดงึ ดดู ระหว่างโมเลกุล เพ่อื เพมิ่ ความเข้าให้กับนกั เรียน ชวั่ โมงที่ 3 - 4 - นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัด เร่อื ง ขว้ั ของโมเลกุล และแรงระหว่างโมเลกลุ - เฉลยแบบฝกึ หดั เพอ่ื หาจดุ ทนี่ ักเรยี นไมเ่ ขา้ ใจ (การวัดผล ณ ขณะทีส่ อน) - อธิบายเพิม่ เตมิ เพอื่ เติมจุดบกพรอ่ งของนกั เรยี น - เชอ่ื มโยงความรู้ ในการอธิบายจดุ เดือด จดุ หลอมเหลวของสาร ซ่ึงเกิดจากปัจจยั คือ พันธะเคมี แรง ดึงดดู ระหว่างโมเลกลุ - ฝกึ เปรียบเทยี บ จุดเดอื ด จดุ หลอมเหลวของสาร ในแบบฝึกหดั 9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการสือ่ จานวน สภาพการใชส้ ื่อ 1. powerpoint 1 ชุด ขั้นเตรยี มความพร้อม 2. แบบฝึกหดั เร่อื ง ขัว้ ของโมเลกลุ และแรงระหว่างโมเลกุล 1 ชดุ ขั้นสรุป 3. การทดลองความหนาแน่นของของเหลว 1 ชดุ ขั้นเตรียมความพร้อม 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรียนรู้ วิธีวดั เครือ่ งมือวดั ฯ ประเดน็ / การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ โครงสร้างความสมั พนั ธ์ แบบฝึกหดั เรอ่ื ง แรง ตวรจแบบฝกึ หดั แบบตวรจแบบฝกึ หดั คะแนน ระหวา่ งจุดเดอื ดของ ทบทวน ความถูกตอ้ งรอ้ ยละ สาร โคเวเลนต์กับแรง หวา่ งโมเลกลุ ทบทวน แบบตวรจใบงาน ดึงดูดระหว่างโมเลกลุ 80 ข้ึนไป ตามสภาพข้วั หรอื การ ใบงาน บนั ทกึ การ ตวรจใบงาน - ความถกู ตอ้ งร้อย เกิดพันธะไฮโดรเจน ละ 80 ขึน้ ไป ทดลอง - -- ลงชอ่ื ..................................................ผสู้ อน (............................................)
แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอื่ ง พันธะเคมี แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรื่อง สมบัตขิ องสารประกอบ รายวชิ า วิทยาศาสตร์กายภาพ รหสั วิชา ว 32101 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 น้าหนกั เวลาเรียน 1 (นน./นก.) เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ เวลาท่ีใช้ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 4 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั สารเกดิ การละลายแบบแตกตัวหรือไม่แตกตัว พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลและระบุว่าสารละลายท่ีไดเ้ ป็นสารละลายอิ เลก็ โทรไลต์หรอื นอนอเิ ลก็ โทรไลต์สมบตั ิการละลายในตัวทาละลายชนิดต่าง ๆของสาร 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัดช้ันป/ี ผลการเรียนร้/ู เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหว่างสมบัตขิ อง สสาร กับโครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ ว 2.1 ม.5/13 , ระบุวา่ สารเกดิ การละลายแบบแตกตวั หรอื ไม่แตกตวั พร้อมใหเ้ หตผุ ลและระบวุ า่ สารละลายท่ีได้ เป็นสารละลายอิเลก็ โทรไลตห์ รอื นอนอิเลก็ โทรไลต์ ว 2.1 ม.5/17 , อธบิ ายสมบัตกิ ารละลายในตวั ทาละลายชนิดตา่ ง ๆของสาร 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge สารเกดิ การละลายแบบแตกตัวหรอื ไมแ่ ตกตวั พรอ้ มใหเ้ หตผุ ล และระบวุ า่ สารละลายที่ได้เปน็ สารละลายอิเลก็ โทรไลต์หรอื นอนอเิ ลก็ โทรไลต์สมบัตกิ ารละลายในตวั ทาละลาย ชนิดต่าง ๆของสาร 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เกดิ กระบวนการสงั เกตจากสงิ่ ท่ีท่ีมีในชวี ติ ประจาวัน 3.3 คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude นกั เรยี นเกดิ ความสนใจในการศกึ ษาคน้ ควา้ กลา้ แสดงออก ความคดิ เหน็ จากขอ้ มลู ทศ่ี กึ ษาได้ ในกลมุ่ เพื่อน 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5. คุณลักษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม 6. คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ 2. ซื่อสัตยส์ จุ รติ 3. มวี นิ ยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 6. มุ่งมนั่ ในการทางาน 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : - แบบฝึกหดั สมบตั ขิ องสารประกอบ (การละลาย และนาไฟฟา้ ) - แบบฝึกหัดเรือ่ ง การละลายของสารโคเวเลนต์ (ตวั ทาละลาย) - การทดลองตอ่ เซลล์ไฟฟา้ ด้วยนา้ เกลือ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ (กระบวนเรยี นร้แู บบสืบเสาะหาความรแู้ สดงตามขนั้ ตอน : เวลาท่ใี ช้ 4 ชัว่ โมง) - ข้ันสร้างความสนใจ ใช้การทดลองตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าดว้ ยน้าเกลือ กระตนุ้ ความสงสยั - ข้นั สารวจและคน้ พบ นกั เรยี นสบื คน้ สมบตั ขิ องการละลายของสารทง้ั พนั ธะไอออนกิ และพนั ธะ การเกดิ สารละลายอิ เลก็ โทรไลต์ - ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป นกั เรยี นอภิปรายผลการทดลอง หาเหตผุ ลอ้างอิงจากหนังสอื เรียน อภิปรายและสรุปผล - ข้ันขยายความร้แู ละนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ เช่ือมโยงการละลายของสาร อธบิ ายการแตกตวั ของสารไอออนกิ สภาพการละลายของสารโคเว เลนต์ และประยกุ ต์ใชก้ ับการละลายของวติ ามินในนา้ นา้ มนั เปน็ การประยกุ ต์ใช้ความรู้ - ขน้ั สรปุ และประเมนิ ผล ครสู รปุ และใหข้ ้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ จากนั้นใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัดเพ่อื เสรมิ ความเขา้ ใจ และ เฉลยภายในหอ้ งเรยี น ช่วั โมงที่ 1 – 2 - อธบิ ายวิธีการทดลองในการทดลอง เรอ่ื ง ทดลองต่อเซลล์ไฟฟา้ ด้วยนา้ เกลือ กระตุน้ ความสงสัย - ทาการทดลองและบันทกึ การทดอง - จากน้ันหาเหตผุ ล ของผลการทดลอง โดยศกึ ษาจากแบบเรยี น - นกั เรยี นวเิ คราะหแ์ ละสงั เกต ระดมความคดิ หาเหตผุ ลของการผลการทดลองทเ่ี กดิ ข้ึน
- ลงข้อสรุปและหาเหตุผลรองรับผลการทดลอง ท่เี กิดข้นึ - จากนน้ั ครอู ธบิ ายการแตกตัวของสารไอออนกิ อธบิ ายวิธีการเขยี นการแตกตวั ของสารประกอบ - ทาแบบฝึกหัด เรื่อง สมบัตขิ องสารประกอบ (การละลาย และนาไฟฟา้ ) - เฉลยแบบฝึกหดั และเพม่ิ เตมิ จดุ บกพรอ่ งของนักเรยี น ชั่วโมงท่ี 3 - 4 - ครูอธิบายความหมายของตวั ทาละลาย และหลกั การของการละลายของสาร โดยยกตวั อย่างการ ละลายของเกลือกบั นา้ และน้ามนั กับน้า - ระดมความคดิ ตัวทาละลายในชวี ติ ประจาวนั โดยมุ่งเนน้ ให้นกั เรยี นถึงสง่ิ ของในสายวชิ าท่ีเลอื กเรียน - นาเสนอหนา้ ชนั้ ในแต่ละกลมุ่ ครชู ใี้ หเ้ หน็ ความเปน็ ไปได้ - ทาแบบฝึกหดั เรือ่ ง การละลายของสารโคเวเลนต์ (ตัวทาละลาย) - เฉลยแบบฝกึ หดั และเพม่ิ เตมิ จดุ บกพร่องของนกั เรียน 9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ รายการสอื่ จานวน สภาพการใชส้ ่ือ 1. powerpoint 1 ชดุ ขั้นเตรียมความพร้อม 2. แบบฝกึ หัดเร่ือง สูตรแตกตวั ของสารไอออนคิ 1 ชุด ขั้นสรุป 3. แบบฝกึ หัดเรือ่ ง การละลายของสารโคเวเลนต์ 1 ชุด ขั้นสรุป 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ ีวัด เคร่อื งมือวดั ฯ ประเดน็ / การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ แบบตวรจแบบฝึกหัดทบทวน สารเกิดการละลายแบบ แบบฝึกหดั เรือ่ ง สตู รแตกตัว ตวรจ คะแนน แตกตวั หรอื ไมแ่ ตกตัว ของสารไอออนคิ แบบฝึกหดั พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลและระบุ ทบทวน ความถูกต้องร้อยละ ว่าสารละลายทไี่ ดเ้ ปน็ แบบฝึกหดั เรื่อง การละลาย ตวรจ 80 ข้นึ ไป สารละลายอเิ ลก็ โทรไลต์ ของสารโคเวเลนต์ แบบฝกึ หดั หรอื นอนอิเลก็ โทรไลต์ ทบทวน แบบตวรจแบบฝกึ หดั ทบทวน ความถกู ต้องร้อยละ สมบัตกิ ารละลายในตวั ทา การทดลองตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า ตวรจใบงาน 80 ขึน้ ไป ละลายชนิดตา่ ง ๆของสาร ด้วยนา้ เกลอื แบบตวรจใบงาน ความถกู ต้องรอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป ลงชือ่ ..................................................ผสู้ อน (............................................)
ผงั มโนทัศน์ รายวิชาวิทยาศาสตรก์ ายภาพ รหสั วชิ า ว 32101 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษา 5 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรอื่ ง สารกมั มนั ตรงั สี จานวน 8 ชวั่ โมง : 15 คะแนน ชอื่ เรอ่ื ง ธาตุกมั มนั ตรังสี จานวน 4 ชัว่ โมง : 8 คะแนน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ เร่อื ง สารกมั มันตรงั สี จานวน 8 ชั่วโมง ชื่อเรอ่ื ง ประโยชน์และอนั ตรายของรงั สี จานวน 4 ช่วั โมง : 7 คะแนน
แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง แผนจดั การเรยี นร้ทู ่ี 9 เรือ่ ง ธาตุกมั มันตรงั สี วิทยาศาสตรก์ ายภาพ รหสั วิชา ว 32101 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนกั เวลาเรยี น 1 (นน./นก.) เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ เวลาทีใ่ ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ สมบตั ขิ องสารกัมมนั ตรังสีและคานวณครึ่งชวี ิตและปรมิ าณของสารกัมมันตรังสี 2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั ช้ันปี/ผลการเรียนร้/ู เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบัติของ สสาร กับโครงสรา้ งและแรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ ว 2.1 ม.5/24 , อธบิ ายสมบัติของสารกัมมนั ตรังสีและคานวณคร่งึ ชีวิตและปรมิ าณของสารกมั มนั ตรังสี 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอื้ หาสาระหลัก : Knowledge สมบตั ิของสารกัมมันตรังสแี ละคานวณครงึ่ ชวี ิตและปริมาณของ สารกัมมนั ตรังสี 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เกดิ กระบวนการงเกตหาความแตกตา่ ง สรปุ องค์ความรจู้ ากข้อมูล 3.3 คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ : Attitude นกั เรยี นเกดิ ความสนใจในการศกึ ษาค้นควา้ กลา้ แสดงออก ความคิดเหน็ จากขอ้ มูลทศี่ ึกษาได้ ในกลุ่มเพอ่ื น 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ
6. คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 2. ซื่อสตั ย์สจุ ริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 6. มงุ่ ม่ันในการทางาน 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : - แบบฝึกหดั การคานวนครง่ึ ชีวติ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (กระบวนเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้แสดงตามข้ันตอน : เวลาทใ่ี ช้ 4 ชวั่ โมง) - ขนั้ สรา้ งความสนใจ ใช้คลปิ วิดีโอการคน้ พบธาตุกมั มนั ตรงั สี ในรปู แบบสารคดี 10 นาที โดยเนือ้ หาแสดงถึงลักษณะ ของธาตุกมั มนั ตรงั สี - ขน้ั สารวจและคน้ พบ นักเรยี นศกึ ษาลกั ษณะพเิ ศษของธาตกุ มั มันตรงั สี ชนิดของรงั สีท่ธี าตุปลอ่ ยออกมา คอื แอลฟา บตี า้ แกมมา - ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป นกั เรียนอธิบายและลงข้อสรปุ จากการศกึ ษาค้นคว้า ในรปู แบบตาราง ซ่งึ แสดงความแตกต่าง ของรงั สีแตล่ ะประเภท - ขั้นขยายความรแู้ ละนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ เชอื่ มโยงความรู้ถึงวธิ ีการตรวจสอบ ธาตกุ ัมมันตรังสี ครูอธบิ ายการคานวณครงึ่ ชีวิต - ขั้นสรุปและประเมินผล ครูสรปุ และให้ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ จากน้ันใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หัดเพ่ือเสรมิ ความเข้าใจ และ เฉลยภายในหอ้ งเรียน ชัว่ โมงที่ 1 - 2 - เกรนิ นาถงึ ประเภทของธาตุตามตารางธาตุ ทบทวนความรู้ประเภทของธาตุ - จากน้ัน เสนอธาตกุ มั มนั ตรังสี เปน็ ธาตอุ กี ประเภทหนง่ึ ทมี่ ีการใช้ประโยชน์ในปัจจุบัน - ใหน้ กั เรยี นลงมอื ศึกษาตามกลุ่ม ถึงลกั ษณะเฉพาะของธาตุกัมมันตรังสี ประเภทรงั สีทีป่ ลอ่ ยออกมา จดบันทกึ และสรุปความรู้ - นาเสนอความคิด ถงึ ความพิเศษของกลุม่ ธาตุ - ครอู ธบิ ายความแตกต่างของประเภทรงั สีตา่ งๆ คือ แอลฟา บตี ้า และแกมมา เปรยี บเทยี บความยาว คลนื่ พลงั งานและพลังในการทะลุทลวง
ชวั่ โมงที่ 3 - 4 - ครูสอนวิธกี ารหาค่า ครง่ึ ชวี ติ การตรวจสอบธาตุกัมมันตรังสีที่ถกู ต้อง และแสดงตัวอยา่ ง - นักเรียนทาแบบฝึกหัดการหาคร่ึงชีวติ ของธาตุกมั มันตรังสี - เฉลยคาตอบ และนักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจคาตอบภายในห้องเรยี น - เพิ่มเตมิ และแกไ้ ขข้อสงสยั ในเรอ่ื งการหาครง่ึ ชีวติ ของธาตุกมั มนั ตรังสีของนกั เรยี น 9. สอื่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ่อื รายการสอ่ื 1 ชุด ข้ันเตรยี มความพรอ้ ม 1. คลลิปวิดีโอ เร่อื งธาตกุ ัมมนั ตรงั สี 2. แบบฝึกหัดเรอ่ื ง คร่งึ ชีวติ ของธาตุ 1 ชุด ขน้ั สรุป 10. การวดั ผลและประเมินผล เป้าหมาย หลักฐานการเรียนรู้ วธิ ีวดั เครือ่ งมอื วดั ฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑก์ ารให้ สมบตั ขิ องสาร แบบฝกึ หัดเรือ่ ง ครึง่ ตวรจแบบฝกึ หัด แบบตวรจแบบฝกึ หัด คะแนน กมั มนั ตรงั สแี ละ ชวี ิตของธาตุ ความถูกต้องร้อยละ คานวณครึ่งชวี ติ และ ปรมิ าณของสาร 80 ขึน้ ไป กัมมนั ตรงั สี ลงช่ือ..................................................ผสู้ อน (............................................)
แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่อง สารกัมมันตรังสี แผนจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง ประโยชนแ์ ละ อนั ตรายของรงั สี รายวชิ า วิทยาศาสตรก์ ายภาพ รหัสวชิ า ว 32101 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนักเวลาเรียน 1 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ ตวั อย่างประโยชน์ของสารกัมมันตรงั สแี ละการป้องกนั อนั ตรายท่ีเกิดจากกมั มนั ตภาพรังสี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั ชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบัตขิ อง สสาร กับโครงสรา้ งและแรงยึดเหนย่ี วระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ ว 2.1 ม.5/25 สืบคน้ ข้อมูลและนาเสนอตัวอยา่ งประโยชน์ของสารกัมมนั ตรังสีและการปอ้ งกนั อนั ตรายท่เี กิดจาก กมั มนั ตภาพรงั สี 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge ตวั อยา่ งประโยชนข์ องสารกมั มันตรงั สีและการปอ้ งกนั อนั ตรายท่ี เกิดจากกัมมนั ตภาพรังสี 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เกิดกระบวนคน้ หาขอ้ มูล คัดเลอื กและสรปุ ขอ้ มลู ทค่ี น้ หา 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude นกั เรยี นเกดิ ความสนใจในการศึกษาคน้ ควา้ กลา้ แสดงออก ความคดิ เห็นจากขอ้ มลู ทีศ่ กึ ษาได้ ในกลุ่มเพื่อน 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 5. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ 6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 2. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี ินัย
4. ใฝเ่ รียนรู้ 6. มุ่งมนั่ ในการทางาน 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - กิจกรรมการออกแบบกจิ กรรมในการชาตกุ ัมมนั ตรงั สี 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ (กระบวนเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้แสดงตามขั้นตอน : เวลาที่ใช้ 4 ชั่วโมง) - ข้นั สร้างความสนใจ เกรนิ นาโดยใชค้ าถาม ธาตกุ ัมมันตรังสีมีอนั ตรายอย่างไร และมนุษย์สามารถใช้ประโยชนจ์ ากธาตุ กัมมันตรังสีอยา่ งไร กระตุ้นนกั เรยี นในการคดิ หาคาตอบ - ขน้ั สารวจและคน้ พบ นักเรียนศึกษาหาคาตอบ ถงึ ประโยชน์ของธาตกุ ัมมันตรงั สี และโทษจากการใชข้ องมนษุ ย์ โดย ศกึ ษาจากอนิ เตอร์เนต็ และคน้ คว้าสถานการณใ์ นชีวิตท่ีเกี่ยวกับธาตุกมั มนั ตรงั สี - ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ นกั เรียนอธิบายและลงข้อสรปุ จากการศกึ ษาค้นควา้ ในรูปแบบของกลุม่ เตรียมการนาเสนอความ คิดเหน็ และองคค์ วามรู้ที่ได้ มงุ่ ศึกษาการวธิ ีการปอ้ งตนเองจากรงั สี - ขั้นขยายความรแู้ ละนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ นาความรู้ทศี่ กึ ษา พฒั นาแนวคดิ ในการทากจิ กรรม ในการพัฒนาดา้ นส่ิงแวดลอ้ มเร่ืองของการใช้ ธาตกุ ัมมันตรังสี ลงมอื คิดกิจกรรม และวางแผนการทางาน - ขนั้ สรปุ และประเมินผล นาเสนอผลงานของแต่ละกล่มุ ครูให้ขอ้ เสนอแนะในการวางแผนและการออกแผนกิจกรรมของ นักเรียน โดยคานึงถงึ ความสอดคลอ้ งของหลกั การและเหตุผล ชว่ั โมงที่ 1 - 2 - ธาตกุ มั มนั ตรงั สีมอี ันตรายอยา่ งไร และมนษุ ย์สามารถใชป้ ระโยชน์จากธาตุกัมมนั ตรังสีอย่างไร กระตุ้น นักเรียนในการคิดหาคาตอบ - ใหน้ กั เรยี นระดมความคดิ ในแต่ละกลุ่ม จากนั้นถามความคิดเห็นจากนักเรยี น เพ่ือศึกษามมุ มองของ นักเรยี น - มอบหมายงานในชน้ั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ให้ศึกษา ประโยชนข์ องธาตกุ มั มันตรังสี และโทษจากการใชข้ อง มนุษย์ โดยศึกษาจากอนิ เตอรเ์ นต็ และคน้ ควา้ สถานการณใ์ นชวี ิตที่เก่ยี วกบั ธาตกุ มั มนั ตรังสี - เตรียมการนาเสนอในชัน้ เรยี น โดยเพือ่ นร่วมชั้นรบั ฟงั และเสนอความเห็น
- ครอู ธิบายความรู้ ประโยชนข์ องธาตกุ ัมมนั ตรงั สี และโทษจากการใช้ของมนษุ ย์ โดยใช้คลิปสถารณ์ ตัวอยา่ งของการ ถนอมอาหารโดยรงั สี การศกึ ษาปฏิกิริยาเคมีโดยธาตุกัมมนั ตรังสี การตัดต่อ พนั ธุกรรมโดยธาตุกัมมันตรงั สี และโรคท่กี ารจากรังสี ช่ัวโมงที่ 3 - 4 - ทบทวนเน้อื ประโยชนข์ องธาตกุ ัมมนั ตรังสี และโทษจากการใชข้ องมนุษย์ - ครอู ธิบายวธิ ปี อ้ งกนั ตัวเอง จากธาตกุ ัมมนั ตรังสี และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - ช้ีแจงกจิ กรรมการออกแบบกิจกรรมในการพฒั นาดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มเรอ่ื งของการใช้ธาตกุ มั มันตรังสี โดย ใชเ้ วลา 30 นาที ในการออกแบบในแต่ละกลมุ่ - จากน้นั นาเสนอกจิ กรรม ทก่ี ลุ่มของตนออกแบบหน้าชั้นเรยี น พร้อมทั้งชแี้ จงจุดประสงค์ และ หลักการและเหตุผลของการทากิจกรรครงั้ น้ี - ขอตัวแทนนักเรียนจานวน 2 คน พดู สรปุ องค์ความรู้ในชั้นเรียน - ครูสรุปใจความสาคัญ และเน้ือหาท้ังท่ีเรยี นในภาคเรียนท่ี 1 9. สือ่ การเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จานวน สภาพการใช้ส่อื รายการสอ่ื 1 ชดุ ขนั้ ค้นควา้ 1. Powerpiont 2. การคดิ กิจกรรม ดา้ นสิ่งแวดล้อมเรื่องการใชธ้ าตกุ ัมมันตรงั สี 1 ชดุ ข้นั สรุปและประเมนิ ผล 10. การวัดผลและประเมินผล เป้าหมาย หลักฐานการเรียนรู้ วิธวี ดั เครอื่ งมอื วัดฯ ประเดน็ / การเรยี นรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน แบบตวรจกิจกรรม เกณฑ์การให้ ตัวอยา่ งประโยชน์ การออกแบบกจิ กรรม ตรวจกิจกรรม คะแนน ของสารกมั มนั ตรงั สี ด้านสิง่ แวดล้อมเรอ่ื ง ความถูกตอ้ งรอ้ ยละ และการปอ้ งกัน การใชธ้ าตกุ ัมมนั ตรงั สี อนั ตรายท่ีเกดิ จาก 80 ข้นึ ไป กัมมันตภาพรังสี ลงช่อื ..................................................ผ้สู อน (............................................)
Search