Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการติดตั้งระบบไฟฟ้า

คู่มือการติดตั้งระบบไฟฟ้า

Published by สมภพ จุลพันธ์, 2022-03-12 03:26:55

Description: คู่มือการติดตั้งระบบไฟฟ้า

Keywords: EC01

Search

Read the Text Version

ช่างเดินสายไฟฟ้าในอาคาร สาระสาคัญ วงจรไฟฟ้าคอื เสน้ ทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้าทไ่ี หลผา่ นตวั นา ผา่ นโหลด กลบั มาโดยมี สวติ ช์ เปน็ อปุ กรณค์ วบคมุ การไหลของกระแสไฟฟ้า โหลดจะเปลย่ี นพลงั งานไฟฟ้าเปน็ พลงั งาน รปู อนื่ ๆ เช่น ความรอ้ น สนามแมเ่ หลก็ แสงสวา่ ง พลงั งานกล มนุษยเ์ ราจงึ นาพลงั งานดงั กลา่ วไป ใช้ในรปู ของเครือ่ งมอื เคร่ืองใช้ในงานช่าง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ผเู้ รยี นสามารถบอกการปฏิบตั ติ นให้ปลอดภัยจากการใช้ไฟฟ้าได้ 2. ผเู้ รยี นสามารถอา่ นสญั ลกั ษณ์และแบบ งานไฟฟ้าได้ 3. ผเู้ รยี นสามารถเดนิ สายไฟฟ้าดว้ ยเขม็ ขดั รดั สายได้ 4. ผเู้ รยี นสามารถอธิบายการทางานตรวจเช็คเคร่อื งใช้ไฟฟ้าเบอ้ื งตน้ ได้ คาชแี้ จง 1. ให้ผเู้ รยี นแบง่ กลมุ่ ศกึ ษาสาระการเรยี นรู้ตามหัวขอ้ ทเี่ หมาะสมของงานไฟฟ้า แลว้ รว่ มกนั สรปุ นาเสนอหน้าห้องเรยี น ให้เพ่ือน ๆ ทราบ ซกั ถาม และผสู้ อน รว่ มสรปุ สาระการเรยี นรู้ 2. ให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบทา้ ยหน่วยเรยี น จานวน 15 ขอ้ หรอื มอบหมายงานเพิ่มเตมิ นอกเวลาตามความเหมาะสมนอกเวลา 3. ควรใช้เวลาในการเรยี นรไู้ มเ่ กนิ 1 ชั่วโมงเรยี น แลว้ มอบหมายให้ผเู้ รยี นศกึ ษา เพ่ือ เตรยี มปฏิบตั งิ าน 4. แบง่ กลมุ่ นักเรยี นปฏิบตั งิ าน เช่น การตอ่ วงจรไฟฟ้า การเดิ นสายไฟฟ้า การตรวจเช็ค เครอื่ งใช้ไฟฟ้าเบอ้ื งตน้ 5. การปฏิบตั งิ าน ทงั้ 3 ปะเภท ใช้เวลาไมเ่ กนิ 3 ช่ัวโมง หรอื ตามความเหมาะสม ข้อมูลค้นคว้าเพม่ิ เติม งานซอ่ มเครอื่ งใช้ไฟฟ้าภายในบา้ น ณรงค์ ชอนตะวนั ไฟฟ้าเบอื้ งตน้ และไฟฟ้าทว่ั ไป , ไฟฟ้าเทคโนโลยี ณรงค์ ชอนตะวนั คมู่ อื ช่างในบา้ นช่างไฟฟ้าในบา้ น สานักพิมพ์บา้ นและสวน การตดิ ตงั้ ไฟฟ้าในและนอกอาคาร ไวพจน์ ศรธี ญั , คม แรงสงู เนิน . การซอ่ มเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ไชยเชษฐ เพชรไชยและคณะ

2  ความปลอดภยั เกี่ยวกับไฟฟา้ วตั ถตุ า่ ง ๆ ในโลกนั้นแลว้ ประกอบไปดว้ ยอะตอ ม (ATOM) ของธาตตุ า่ ง ๆ หลาย ๆ อะตอมรวมกนั อยู่ ไมว่ า่ จะเปน็ โลหะตา่ ง ๆ เช่น เหลก็ (Fe), ทองแดง (Cu) หรอื อลมู เิ นียม (Al) ทเ่ี รา รจู้ กั กนั วา่ เปน็ ตวั นาไฟฟ้า (เนื่องจากไฟฟ้าสามารถเคลอื่ นทผ่ี า่ นสงิ่ เหลา่ น้ีได้ ) หรอื วตั ถพุ วก พลาสตกิ , ยาง และไม้ ซง่ึ ไฟฟ้าไมส่ ามารถเคลอื่ นทผ่ี า่ นได้ เหตทุ ไ่ี ฟฟ้าไหลผา่ นวตั ถทุ เี่ ปน็ โลหะได้ กเ็ พราะ อะตอมของโลหะเหลา่ นั้นมอี เิ ลก็ ตรอน (electron) ทเี่ คลอ่ื นทไี่ ดง้ ่าย (เพราะมแี รงยดึ เหน่ียว กบั แกนกลางของอะตอมน้อย) เน่ืองจากการเคลอ่ื นทข่ี องอเิ ล็กตรอนในวตั ถตุ วั นา (conductor) กค็ อื การไหลของกระแสไฟฟ้ า (electrical current) นั่นเอง สาหรบั วตั ถจุ าพวกพลาสตกิ หรอื ไมน้ ้ัน แกนกลางของอะตอมมแี รงยดึ เหน่ียวอเิ ล็กตรอนมาก จงึ ไมส่ ามารถหลดุ ออกมาเคลอ่ื นทไี่ ดง้ ่าย ๆ ดงั นั้นกระแสไฟฟ้าจงึ ไหลผา่ นวตั ถเุ หลา่ น้ีไดย้ าก วตั ถเุ หลา่ น้ีจงึ มชี ื่อเรยี กวา่ ฉนวน (insulator) กระแสไฟฟ้ าจะเคลอ่ื นทไ่ี ดก้ ต็ อ่ เมอ่ื มแี รงดนั ไฟฟ้า (electrical voltage) มาผลกั ดนั ให้ เคลอ่ื นท่ี ดงั น้ันจงึ ตอ้ งมแี หลง่ จา่ ยแรงดนั ไฟฟ้า (voltage source) เช่น เครือ่ งกาเนิดไฟฟ้า (generator) หรอื แบตเตอร่ี (battery) ผลกั ดนั ให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นตวั นาไฟฟ้าได้ เช่น เมอื่ กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นหลอดไฟ กจ็ ะให้แสงสวา่ งแกเ่ รา ประโยชน์ของไฟฟ้าน้ันยงั กอ่ ให้เกดิ พลงั งานในรปู อนื่ ๆ ทง้ั ในวงการอตุ สาหกรรมและในชีวติ ประจาวนั อกี มากมาย เมอ่ื ใด กระแสไฟฟ้าผา่ นรา่ งกายมนุษยแ์ มจ้ านวนเพียงเลก็ น้อยในเวลาไมน่ านนัก กอ็ าจทาให้คนเราพิการ หรอื เสยี ชีวติ ไดท้ นั ที อันตรายของกระแสไฟฟา้ ต่อรา่ งกายมนุษย์ ไฟฟ้านั้นมคี ณุ อนันต์ แตถ่ า้ ผใู้ ช้รูเ้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์หรอื ประมาทเลนิ เลอ่ แลว้ กใ็ ห้โทษ อยา่ งมหันต์ เช่นกนั ดงั น้ันจงึ ควรระมดั ระวงั ไมใ่ ห้รา่ งกายไปสมั ผสั ถกู ตวั นาไฟฟ้า ไมว่ า่ จะเปน็ เสน้ เดยี วหรอื หลาย ๆ เสน้ (ขณะทม่ี กี ระแสไหล ผา่ น )โดยทส่ี ว่ นหนึ่งสว่ นใดของรา่ งกายสมั ผสั กบั พื้นดนิ หรอื สมั ผสั กบั โลหะใด ๆ หรอื ตวั นาไฟฟ้าอนื่ ใดทต่ี ดิ ตงั้ อยู่บนพ้ืนดนิ เพราะจะทาให้มี กระแสไหลผา่ นรา่ งกายลงพ้ืนดนิ ไดง้ ่าย เมอื่ กระแสไหลผา่ นทใี่ ดไดง้ ่ายกจ็ ะมจี านวนมากทาให้เกดิ การเกรง็ ของกลา้ มเนื้อไมส่ ามารถสะบดั ให้หลดุ จากจดุ ทไี่ ฟฟ้าดดู ไดผ้ ลคอื กระแสไฟฟ้าจานวนมาก จะไหลผา่ นรา่ งกายนานขนึ้ กย็ ่งิ กอ่ ให้เกดิ อนั ตรายอยา่ งยงิ่ จากคมู่ อื การใช้ไฟฟ้า ของการไฟฟ้านครหลวง ปี พ.ศ. 2528 นั้น ระบถุ งึ จานวนของ กระแสไฟฟ้า และระยะเวลาทก่ี ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นรา่ งกายมนุษย์ อนั เปน็ ผลให้เกดิ อันตรายเอาไว้ ดงั น้ี

3 แสดงความสัมพนั ธข์ องกระแสไฟฟา้ กบั เวลาและปฏกิ ริ ยิ าของมนุษย์ ปรมิ าณกระแส (มลิ ิแอมแปร์) เวลา (วินาท)ี ปฏกิ ริ ยิ าทเี่ กิดขึ้น 100 นานกวา่ 3 เสยี ชีวติ 500 นานกวา่ 0.11 เสยี ชีวติ 1000 นานกวา่ 0.03 เสยี ชีวติ แสดงความสัมพนั ธข์ องกระแสไฟฟา้ กบั ปฏกิ ิรยิ าของมนุษย์ ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ทไี่ หลผ่านรา่ งกาย ปฏกิ ิรยิ าทเ่ี กดิ ข้ึน มนุษย์เปน็ มลิ ิแอมแปร์ (mA) นอ้ ยกว่า 0.5 ไมร่ ู้สกึ อะไรเลย 0.5 – 2 รู้สกึ กระตกุ เล็กนอ้ ย 2 – 10 กล้ามเนอื้ หดตัว กระตกุ ปานกลางถึงรุนแรง 5 – 25 เจ็บปวดกล้ามเนอื้ , เกร็งไมส่ ามารถปล่อยใหห้ ลุด ออกมาได้ มากกวา่ 25 กล้ามเนอ้ื เกร็งกระตุกรุนแรง 50 – 100 หวั ใจเตน้ ผิดปกติ (เตน้ อ่อนหรือเตน้ ระรัว)….เสยี ชวี ติ มากกว่า 100 หวั ใจหยุดเต้น เนอื้ หนงั ไหม้ การปฏบิ ตั ิเพอ่ื ให้เกิดความปลอดภัยทางไฟฟา้ กฎแห่งความปลอดภัยทางไฟฟ้า เราอาจแบง่ ขอบเขตไดต้ ามป ระเภทของการปฏิบตั งิ าน ทางไฟฟ้า ซง่ึ ทางคณะกรรมการปอ้ งกนั อบุ ตั ภิ ัยแห่งชาติ สานักนายกรฐั มนตรี (national safety council of Thailand) ไดแ้ บง่ การปฏิบตั เิ พื่อความปลอดภัยทางไฟฟ้า หรอื การปอ้ งกนั อบุ ตั ภิ ัยทาง ไฟฟ้าเอาไว้ 3 ขนั้ ตอนคอื 1. ขนั้ ตอนการตดิ ตง้ั (installation) 2.ขน้ั ตอนปฏิบตั งิ าน (operation) 3. ขน้ั ตอนการบารงุ รกั ษา (maintenance)

4 1. การปอ้ งกนั อบุ ตั ิภัยทางด้านการติดตง้ั ไฟฟา้ การตดิ ตงั้ ไฟฟ้าไมว่ า่ จะเปน็ ภายใน หรอื นอกอาคาร ระบบแสงสวา่ งหรอื ระบบกาลงั หลกั สาคญั คอื ตอ้ งปฏิบตั ติ ามกฎของการเดนิ สายและตดิ ตงั้ ไ ฟฟ้าทอี่ อกโดย การไฟฟ้านครหลวง หรอื การไฟฟ้าสว่ นภูมภิ าคและอปุ กรณ์ไฟฟ้าทใ่ี ช้ตอ้ งเปน็ อปุ กรณ์ทม่ี มี าตรฐานรบั รองเช่ือถอื ได้ ตวั อยา่ งของการปฏิบตั เิ พ่ือความปลอดภัยในการตดิ ตง้ั ไฟฟ้าดงั นี้ 1. อปุ กรณ์ไฟฟ้าทกุ ชนิด ควรมกี ารรบั รองมาตรฐานอตุ สาหกรรมจากกระทรวง อตุ สาหกรรมโดยสงั เกตไดจ้ ากเคร่ืองหมายมาตรฐานอตุ สาหกรรม 2. เวลาตดิ ตงั้ ไฟฟ้าจะตอ้ งมปี า้ ยแจง้ อนั ตรายในเขตทมี่ สี ว่ นสายไฟฟ้าทเี่ ปดิ เปลอื ยอยู่ เช่น ตามตคู้ วบคมุ ไฟฟ้า (control board) ปา้ ยดงั กลา่ วตอ้ งมขี นาดใหญ่พอให้ผปู้ ฏิบตั งิ านสงั เกตเห็น 3. การเดนิ สายไฟ เช่น ในโรงงาน ควรเดนิ ตามรหัสสี (code) ทกี่ าหนดไวเ้ ปน็ มาตรฐาน และชนิดของสายไฟกใ็ ช้ให้เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มของโรงงาน 4. ถา้ หากการเดนิ สายจะตอ้ งเปดิ เปลอื ยสายไว้ จะตอ้ งยกให้สงู เหนือศรี ษะไมน่ ้อยกวา่ 8 ฟุต และตอ้ งหาการด์ (grard) หรอื ร้ัวกน้ั ไมใ่ ห้ผใู้ ดแตะตอ้ งได้ เช่น สายไฟของ overhead-crane 5. ไมค่ วรใช้สวิตช์ใบมดี ทเี่ ปดิ เปลอื ย สวทิ ช์จะตอ้ งมวี สั ดทุ เ่ี ปน็ ฉนวนห่อหุม้ มดิ ชิด และ จะตอ้ งมี ดา้ มชักปลดสวทิ ช์เปน็ ฉนวนอยู่ดา้ นนอก 6. ดา้ นหน้าและดา้ นหลงั ตสู้ วิตช์บอรด์ ควรมไี ฟสอ่ งสวา่ ง 7. สวติ ช์ ฟิวส์ และอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทปี่ ระกอบในตสู้ วิตช์บอรด์ ตอ้ งมปี ระตเู ปดิ ปดิ ได้ ตลอดเวลาและควรทาสใี ห้เตะตา เช่น สแี ดง สสี ม้ และมขี อ้ ความเตอื นอนั ตราย 8. เตา้ เสยี บตา่ ง ๆ ทใ่ี ช้ในโรงงานหรอื ในบา้ นควรใช้แบบ 3 ขว้ั โดยขว้ั หนึ่งเปน็ ขวั้ ดนิ สาหรบั ตอ่ กบั เปลอื กนอกของอปุ กรณไ์ ฟฟ้า 9. สายไฟเขา้ เครื่องมอื ชนิดหิว้ เคลอื่ นทไ่ี ด้ ควรเปน็ ประเภททาดว้ ย P.V.C เพื่อปอ้ งกนั การเสอ่ื มของฉนวนเมอ่ื ถกู น้ามนั 10. สายไฟเขา้ ลวดความรอ้ น (heater) หรอื เตารดี ควรเปน็ แบบมฉี นวนกนั ความรอ้ นหมุ้ ดว้ ย เช่น ฉนวนแรใ่ ยหิน (asbestos) 11. แผงสวิตช์ยอ่ ย ทแ่ี ยกออกมาจากสวทิ ช์บอรด์ ควรยกให้สงู เหนือพ้ืนและควรเขยี น ศกั ดาไฟฟ้าทใี่ ช้ (เช่น 220 หรอื 380 โวลท์) ตามสวิตช์ตา่ ง ๆ แผงสวทิ ช์กลางแจง้ ตอ้ งมหี ลงั คาคลมุ

5 12. อปุ กรณไ์ ฟฟ้าทตี่ ากแดดตากฝนอยู่เสมอ เช่น สวติ ช์กระดงิ่ ไฟฟ้า หลอดไฟแสงสวา่ ง บรเิ วณบา้ น จะตอ้ งใช้แบบทก่ี นั น้าได้ 13. ควรตอ่ สายดนิ ทคี่ รอ บโลหะของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทกุ ชนิด เพื่อปอ้ งกนั ไฟรั่ว 14. อยา่ เดนิ สายไฟฟ้าทตี่ อ้ งใช้เปน็ การชั่วคราวอยา่ งลวกๆอาจมใี ครถกู ไฟฟ้าทจี่ ดุ บกพรอ่ ง บางแห่งไดร้ บั อนั ตราย 15. อยา่ เดนิ สายไฟฟ้าตดิ รั้วสงั กะสหี รอื โครงเหลก็ โดยไมใ่ ช้วธิ ีรอ้ ยสายในทอ่ หรอื ไมก่ ็ ใช้สายทม่ี ฉี นวนหุ้ ม 2 ช้ัน 16. ตดิ ตง้ั เสาอากาศ ที .ว.ี ห่างจากสายไฟไมน่ ้อยกวา่ 8 ฟุตหรอื ระยะเสาลม้ แลว้ ไมถ่ กู 17. การกอ่ สรา้ งถา้ จาเปน็ ตอ้ งตงั้ ปนั้ จนั่ ใกลส้ ายแรงสงู ควรแจง้ การไฟฟ้าเสยี กอ่ น 2. การปอ้ งกนั อบุ ตั ิภัยทางด้านการปฏบิ ตั ิงานไฟฟา้ การปฏิบตั งิ านไฟฟ้า หมายถงึ การปฏิบตั อิ ยา่ งไรจงึ จะมคี วามปลอดภัยในระหวา่ งการ ปฏิบตั งิ านเกยี่ วกบั ไฟฟ้า กอ่ นเริม่ ตน้ ทางานจะตอ้ งตรวจสอบแผงวงจรและปา้ ยแขวนให้แน่ใจวา่ อปุ กรณ์ทจ่ี ะทาการซอ่ มบารงุ รกั ษาไดป้ ลดไฟออกแลว้ และขณะปฏิบตั กิ ารตอ้ งมผี คู้ วบคุ มเพื่อ ไมใ่ ห้ผหู้ น่ึงผใู้ ดสบั สวติ ช์จา่ ยไพ่เขา้ อปุ กรณอ์ กี แมว้ า่ จะโดยบงั เอญิ กต็ ามบรเิ วณทปี่ ฏิบตั งิ าน ควร มผี า้ คลมุ ยางและพรมยางเพ่ือปอ้ งกนั ไฟฟ้าดดู เพ่ือความปลอดภัยในระหวา่ งปฏิบตั งิ านจะตอ้ งมี ผปู้ ฏิบตั งิ านอยา่ งน้อย 2 คน ถงึ แมว้ า่ งานนั้นใช้เพียงคนเดยี ว เพ่ือช่วยเหลอื ในกรณีฉุกเฉนิ และ ผปู้ ฏิบตั งิ านไมค่ วรสวมใสว่ ตั ถทุ เ่ี ปน็ สอื่ ไฟฟ้าทกุ ชนิด เช่น แหวน สรอ้ ย หัวเขม็ ขดั โลหะ ฯลฯ ซงึ่ จะเปน็ ทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้าไดด้ ี และอาจเกดิ อนั ตรายกบั ผปู้ ฏิบตั งิ านได้ หลักโดยทว่ั ไปเมอ่ื ปฏบิ ตั ิงานเก่ยี วกบั ไฟฟา้ 1. อยา่ ใช้เคร่อื งมอื ไฟฟ้าหรอื อปุ กรณ์ไฟฟ้า ขณะทม่ี อื เปยี ก หรอื ยนื อยู่บนพ้ืนทเี่ ปยี ก 2. เมอ่ื เห็นสะพานไฟ (CUT OUT) ขาด แสดงวา่ ไฟฟ้ากาลงั ไหลมากกวา่ ปกติ จะตอ้ ง รายงานครผู คู้ วบคมุ เพ่ือทาการตรวจสอบโดยดว่ น 3. หากเห็นประกายไฟ หรอื มคี วนั ให้ปดิ สะพานไฟทนั ที และรบี รายงานผคู้ วบคมุ 4. ปลกั๊ หัวเสยี บ รอยเช่ือมตอ่ หรอื ขอ้ ตอ่ ของสายไฟฟ้ า มกั จะเปน็ สาเหตหุ นึ่งท่ี กอ่ ให้เกดิ วงจรลดั ได้ จะตอ้ งแน่ใจวา่ อย่ใู นสภาพเรยี บรอ้ ยกอ่ นนาไปใช้งานเสมอ 5. กอ่ นทางานกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้า จะตอ้ งถอื วา่ อปุ กรณท์ กุ ช้ินมไี ฟอยู่จนกวา่ จะได้ ดาเนินการทดสอบแลว้ วา่ อปุ กรณเ์ หลา่ นั้นไมม่ ไี ฟ

6 6. ถา้ จาเปน็ ตอ้ งปฏิบตั งิ านในท่ี ๆ ไมอ่ าจตดั ไฟออกไดโ้ ดยสนิ้ เชิง จะตอ้ งกน้ั เขตหรอื วธิ กี ารใด ๆ ทจี่ ะปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ผอู้ น่ื เขา้ ใกลไ้ ด้ ขอบเขตปฏิบตั งิ านตอ้ งกะให้เพียงพอทผ่ี ปู้ ฏิบตั งิ าน หนีภัยออกไดง้ ่าย 7. สว่ นทม่ี ไี ฟถา้ จะปลอดภัยย่งิ ขน้ึ ควรคลมุ ดว้ ยผา้ ห่มฉนวนไฟฟ้า (ผา้ ยาง หรอื เสอื ยาง ) หรอื ปลอกฉนวนหุ้มสาย 8. ถา้ ผปู้ ฏิบตั งิ านและงานอยู่ช่วงหน่ึง เช่น พักเทย่ี ง เมอ่ื กลบั มาทาตอ่ ตอ้ งตรวจสอบ สวติ ช์ตดั ตอน หรอื เซอรก์ ติ เบรคเกอร์ (Circuit Breaker) หรอื เครอ่ื งหมายตา่ ง ๆ ทที่ าไวก้ อ่ นจะ ปฏิบตั งิ านตอ่ ไป 9. การปฏิบตั งิ านเกย่ี วกบั ไฟฟ้า จะตอ้ งมผี ปู้ ฏิบตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งน้อย 2 คน 10. ถา้ จะตอ้ งใช้ถงุ มอื ยางกนั ไฟฟ้า ตอ้ งตรวจสอบกอ่ นทกุ ครั้งวา่ มรี รู ว่ั หรอื ไม่ และถา้ จะตอ้ งปฏิบตั งิ านกบั สว่ นทแี่ หลมคมของสายไฟ กต็ อ้ งสวมถงุ มอื หนังสอื ทบั 11. สายไฟฟ้าช่ัวคราวตอ้ งพาดเหนือศรี ษะอยา่ วางไปตามพื้น ทางทด่ี คี วรมสี ายดนิ เดนิ คู่ ไปดว้ ย 12. การกอ่ สรา้ งใกลส้ ายไฟแรงสงู จะตอ้ งให้การไฟฟ้าฯ มาสวมปลอกฉนวนเสยี กอ่ น 13. สายปลก๊ั ของอปุ กรณ์ไฟฟ้าตอ้ งดวู า่ มหี ัวเสยี บเรยี บรอ้ ยอยา่ ใช้สายลว้ น ๆ แหยเ่ ขา้ ไป ในรเู ตา้ รบั 14. อยา่ ใช้อปุ กรณไ์ ฟฟ้าเกนิ กาลงั ของเตา้ เสยี บ 15. อยา่ ใช้ไฟฟ้าจบั ปลา จะถกู กระแสไฟฟ้าถงึ เสยี ชีวติ 16. อยา่ ใช้สวติ ช์ปดิ เปดิ บนเตยี งนอน อาจพลกิ นอนทบั แตก จะถกู ไฟฟ้าดดู 17. อยา่ ใช้ขว้ั ตอ่ แยกเสยี บปลกั๊ หลายทางเปน็ การใช้กระแสไฟฟ้าเกนิ กาลงั จะทาให้สาย ทเี่ ตา้ เสยี บรอ้ นชารดุ หรอื เกดิ เพลงิ ไหมไ้ ด้ 18. อยา่ ปลอ่ ยให้สายเคร่ืองใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลม ลอดใตเ้ สอ่ื หรอื พรม หรอื ปลอ่ ยให้ของ หนักผา่ นทบั สายฉนวนจะฉีกขาดอาจเกดิ ลดั วงจร 3. การปอ้ งกนั อบุ ตั ิภัยทางด้านการซ่อมบารงุ รกั ษาไฟฟา้ ผทู้ จ่ี ะทาหน้าทซ่ี อ่ มบารงุ ไฟฟ้า จะตอ้ งมคี วามรเู้ กยี่ วกบั ไฟฟ้า ช่างสงั เกต และรอบคอบ ในระบบไฟฟ้าทมี่ กี ารใช้งานอยา่ งสมา่ เสมอ เช่น ในโรงงานอตุ สาหกรรม หรอื ในบา้ นพักอาศยั ควรมกี ารตรวจอปุ กรณไ์ ฟฟ้าตา่ ง ๆ เปน็ ประจา มตี ารางการซอ่ มบารงุ ไฟฟ้าทก่ี าหนดระยะเวลา

7 แน่นอน มกี ารตรวจและเปลยี่ นอปุ กรณท์ ชี่ ารดุ เสยี หาย โดยการบารงุ รกั ษาทกุ ครั้งผปู้ ฏิบตั กิ าร จะตอ้ งเตรยี มพรอ้ ม ใช้เคร่ืองมอื ทกุ ชนิ ดให้ถกู ตอ้ งกบั ประเภทของงาน ดา้ มจบั เครอ่ื งมอื ทกุ ชิ้น จะตอ้ งมฉี นวนหมุ้ มดิ ชิด ขณะปฏิบตั กิ ารซอ่ มบารงุ ไฟฟ้าตอ้ งแจง้ ให้ผรู้ ว่ มงานคนอน่ื ๆ รทู้ ว่ั กนั โดยอาจตดิ ปา้ ยซอ่ มบารงุ ให้เดน่ ชัด และกาหนดระยะเวลาทแี่ น่นอน ถา้ มกี ารเปลย่ี นแปลง ใด ๆ ใน งานทไ่ี ดก้ าหนดไวแ้ ลว้ ให้แจง้ ผรู้ ว่ มงานใหมท่ กุ ครั้งและทส่ี าคญั คอื อย่าปฏบิ ตั ิงานคนเดียว ข้อแนะนาในการบารงุ รกั ษาไฟฟา้ 1. ผปู้ ฏิบตั งิ านจะตอ้ งเปน็ ช่างชานาญงาน เขา้ ใจดา้ นไฟฟ้าดพี อ 2. ใช้อะไหลท่ เ่ี ช่ือถอื ได้ 3. ทดสอบอปุ กรณ์ไฟฟ้าดว้ ยเครื่องมอื อยา่ ใช้มอื แตะ 4. ผปู้ ฏิบตั งิ านตอ้ งเข้าใจวงจรฟไ ฟ้าและเครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ซอ่ มจะตอ้ งมดี า้ มจบั เปน็ ฉนวน 5. หัวหน้างานตอ้งคอยควบคมุ ให้ผู้ปฏิบตั งิ านทาตาแมผนงานทกี่ าหนดไว้ และตอ้ งบงั คบั ให้ผปู้ ฏิบตั งิ านใช้อปุ กรณ์ปอ้ งกนั อนั ตราย เช่น ถงุ มอื ยาง , ปลอกฉนวนสาย , เสอื่ ฉนวน , หมวก นิรภัย, แวน่ ตากนั กระแทก, เขม็ ขดั นิรภัย ฯลฯ 6. กอ่ นเขา้ ปฏิบตั งิ านจะตอ้ งปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ อปุ กรณ์ทจ่ี ะซอ่ มมไี ฟโดยปลอดสวิ ตช์ ฟิวส์ (Fuse) หรอื ยกคทั เอาทอ์ อกจากวงจรจา่ ยไฟ และมปี า้ ยห้ามแขวนไว้ กอ่ นปฏิบตั งิ านผคู้ วบคมุ ควรตรวจอกี ครั้งหนึ่ง 7. เมอ่ื มกี ารเปลยี่ นฟิวส์ อยา่ ใช้ฟิวสใ์ หญ่เกนิ กาลงั สาย อยา่ ใช้ลวดทองแดงแทนฟิวส์ 8. สายไฟในบา้ นเมอ่ื ใช้นาน ๆ ปี ควรมกี ารทดสอบความตา้ นทานฉนวนของสายไฟ 9. อปุ กรณ์ไฟฟ้ารวมทง้ั สายปลกั๊ จะตอ้ งตรวจดวู า่ มไี ฟร่ัวหรอื ไม่ สายชารดุ หรอื ไม่ 10. หัวเสยี บ และเตา้ เสยี บไฟฟ้า ถา้ ชารดุ ตอ้ งเปลย่ี น ทนั ที 11. การตอ่ หรอื ซอ่ มสาย การเปลย่ี นฟิวส์ จะตอ้ งปลดสวทิ ช์ตดั ตอนออกกอ่ น 12. ถา้ ฉนวนครอบสวทิ ช์หรอื อปุ กรณ์ไฟฟ้า ๆ แตกชารดุ ควรซอ่ มแซมให้เรยี บรอ้ ย 13. อยา่ แกไ้ ขไฟฟ้าเองโดยไมม่ คี วามรเู้ รือ่ งไฟฟ้า 14. อยา่ ปลอ่ ยให้เครือ่ งใช้ไฟฟ้าเปยี กน้า เพราะน้าเปน็ สอื่ นากระแสไฟฟ้ามาสผู่ ใู้ ช้ได้  วงจรไฟฟา้ กระแสไฟฟ้าทไี่ หลเขา้ บา้ นเรอื นทวั่ ไปเรม่ิ จากเครื่องกาเนิดไฟฟ้า สง่ กระแสไฟฟ้า แรงดนั สงู มาตามสายไฟ ถงึ สถานีไฟฟ้ายอ่ ย มหี มอ้ แปลงแรงดนั ไฟฟ้าให้สงู ขน้ึ หรอื ต่าลงไดต้ าม

8 ความตอ้ งการ ทงั้ น้ี การสง่ กระแสไฟฟ้าตามสายไฟในระยะทางไกล จะทาให้มกี ารสญู เสยี แรงดนั สว่ นหนึ่ง เมอ่ื สง่ ไฟฟ้ามาถงึ พ้ืนทท่ี ต่ี อ้ งการใช้ไฟกจ็ ะตอ้ งลดแรงดนั ลงระดบั หน่ึง เมอ่ื แปลง แรงดนั ให้พอเหมาะแลว้ กจ็ ะสง่ ตามสายมายงั หมอ้ แปลงทต่ี ดิ อยตู่ ามเสาไฟฟ้าในแหลง่ ชุมชนนั้น ๆ เพ่ือแปลงแรงดนั อีกครั้งกอ่ นสง่ เขา้ สอู่ าคารบา้ นเรอื น เมอ่ื มกี ารใช้ไฟฟ้าในบา้ นเรอื นกจ็ ะไหล กลบั ไปตามสายอกี เสน้ หน่ึงไปสแู่ หลง่ กาเนิดอกี ครง้ั ซงึ่ เทา่ กบั วา่ เปน็ การครบวงจร เสน้ ทางไฟฟ้าจากแหลง่ จ่ายไปยังผใู้ ช้ www.school.net.th/.../10000-6555/pic1.jpeg ในการตอ่ วงจรไฟฟ้าสง่ิ ทค่ี วรรจู้ กั โดยเฉพาะความหมายของคาศพั ทต์ า่ ง ๆ เช่น โวลท์ (Volt) หมายถงึ แรงเคลอื่ นหรอื แรงดนั ไฟฟ้า มหี น่วยเปน็ โวลท์ หรอื V แอมป์ (Ampere) เปน็ หน่วยวดั ปรมิ าณกระแสไฟฟ้าทไี่ หล มหี น่วยเปน็ แอมป์ หรอื A โอห์ม (Ohms) เปน็ หน่วยวดั ความตา้ นทาน ตวั นาหรอื อปุ กรณไ์ ฟฟ้า มหี น่วยเปน็ โอห์ม วัตต์ (Watt) เปน็ หน่วยวั ดปรมิ าณการใช้กระแสใน 1 หน่วย เวลา P = EI (เฉพาะ ไฟ DC)

9 วงจรไฟฟ้า(Circuit) เปน็ เสน้ ทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ า องคป์ ระกอบของวงจรไฟฟ้า ไดแ้ ก่ แหลง่ กาเนิด สายตวั นา โหลด (Load =อปุ กรณ์ไฟฟ้า ) 3 สว่ นประกอบ สามารถเปลยี่ น พลงั งานได้ หากใสส่ วิ ตช์ ก็สามารถควบคุ มการไหลของกระแสไดต้ ามตอ้ งการ ลกั ษณะการ ทางานของวงจร มี 3 อยา่ งคอื ก. วงจรเปดิ คอื วงจรทไี่ มย่ อมให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น อปุ กรณ์ไฟฟ้าไมท่ างาน ข. วงจรปดิ คอื วงจรทย่ี อมให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น อปุ กรณ์ไฟฟ้าทางาน ค. วงจรลดั เปน็ วงจรทมี่ กี ระแสไฟฟ้าไหล มากเกินปกติ เกดิ ไดจ้ ากตวั นา 2 เสน้ มา แตะกนั กระแสจานวนมากไมไ่ หลผา่ นโหลด ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ คอื ฟิวสข์ าด สายละลาย เราอาจปอ้ งกนั ไดโ้ ดยการใสฟ่ ิวส(์ Fuse) ซง่ึ เปน็ ตวั นาไฟฟ้าทมี่ จี ดุ หลอมละลายตา่ ตอ่ อนุกรมกบั วงจร ซงึ่ ตอ้ งใช้ ให้เหมาะกบั วงจรไฟฟ้านั้น ๆ การต่อวงจรไฟฟา้ จาแนกตามการใช้งานได้ 2 แบบ คอื แบบอนุกรม และ แบบขนาน วงจรอนุกรม(Series Circuit) คอื วงจรทปี่ ระกอบดว้ ยโหลด ตงั้ แต่ 2 ตวั ขนึ้ ไปตอ่ เรยี ง กนั โดยมที างเดนิ ของกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นทางเดยี วไมไ่ ดแ้ ยกไหลไปสว่ นอนื่ ทาไดโ้ ดยนาขวั้ ตอ่ สายขา้ งหนึ่งของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าตวั ที่ 1 ไปตอ่ เขา้ กบั ขว้ั ตอ่ ของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าตวั ท่ี 2 และขว้ั ตอ่ ของ ตวั ที่ 2 ไปตอ่ เขา้ กบั ขว้ั ตอ่ สายตวั ที่ 3 ตอ่ อยา่ งนี้ไปเร่อื ย ๆ จนกวา่ จะครบ เสรจ็ แลว้ นาขวั้ ตอ่ สายท่ี เหลอื ของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าตวั มาตอ่ เขา้ กบั แหลง่ กาเนิด เครอื่ งใช้ไฟฟ้าทต่ี อ่ อนุกรม เม่ือไสห้ ลอดใด หลอดหน่ึงดบั อปุ กรณจ์ ะไมท่ างาน รปู การตอ่ หลอดไฟแบบอนุกรม วงจรขนาน (Parallel Circuit) เปน็ วงจรไฟฟ้าทต่ี อ่ ความตา้ นทานหรอื อปุ กรณไ์ ฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าตา่ ง ๆ แตล่ ะตวั ครอ่ มกบั แหลง่ กาเนิดของวงจร ทาให้เกดิ การไหลของกระแสไฟฟ้า ไดห้ ลายทาง ผลรวมของกระแสทจ่ี า่ ยออกไปจะเทา่ กบั ผลรวมของกระแสทไ่ี หลในแตล่ ะสว่ นของ

10 วงจรรวมกนั และแรงดนั ทตี่ กครอ่ มอปุ กรณ์ไฟฟ้าทกุ ตวั จะเทา่ กนั แมว้ า่ อปุ กรณเ์ ครอ่ื งใช้ไฟฟ้ า นั้น ๆ จะมขี นาดกาลงั ไฟฟ้าไมเ่ ทา่ กนั รปู การตอ่ วงจรแบบขนาน การจ่ายกระแสไฟฟา้ จากสถานีไฟฟา้ ระบบไฟฟ้าทกี่ ารไฟฟ้าฯ สง่ จา่ ยไปยงั บา้ นเรอื น ทวั่ ไปนั้นเราเรยี กวา่ ระบบแรงดนั ต่า ซง่ึ จา่ ยมาให้ผใู้ ช้ เปน็ 3 ระบบดว้ ยกนั ในการใช้งานนั้น การไฟฟ้าฯ จะพิจารณาให้เหมาะสมตามความตอ้ งการของ ผใู้ ช้ไฟฟ้าวา่ จะใช้เปน็ ระบบ 1 เฟส 2 เฟส หรอื 3 เฟส โดยพิจารณาปจั จยั 2 ประการ คอื ปรมิ าณการใช้ไฟฟ้า ประเภทและจานวน เคร่อื งใช้ไฟฟ้าทใี่ ช้ภายในบา้ น ระบบไฟฟา้ 1 เฟส คอื ระบบไฟฟ้าทม่ี สี าย 2 เสน้ คอื สายเสน้ ทม่ี ไี ฟหน่ึงเสน้ เรยี กวา่ สายเสน้ เฟสหรอื เสน้ ไฟ เขยี นแทนตวั อกั ษรยอ่ วา่ L หรอื P และอกี เสน้ ทเ่ี หลอื ไมม่ ไี ฟเรยี กวา่ สายนิวทรลั (Neutral) หรอื สายศนู ยเ์ ขยี นแทนดว้ ยอกั ษรยอ่ วา่ N ทดสอบไดโ้ ดยใช้ไขควงวดั ไฟ เมอ่ื ใช้ไขควงวดั ไฟแตะสายเสน้ เฟสหรอื เสน้ ไฟ หลอดไฟเรอื งแสงทภ่ี ายในไขควงจะตดิ สาหรบั สายนิวทรลั จะไมต่ ดิ ไฟฟ้าทจ่ี า่ ยให้บา้ นอยอู่ าศยั ทว่ั ไปเปน็ แบบ 1 เฟส แรงดนั 220 โวลต์ ท่ีมี การใช้ไฟฟ้าไมม่ ากนัก เช่น มเี ครื่องทาน้าอนุ่ และ เครือ่ งปรบั อากาศ 2 – 3 เครื่อง ระบบไฟฟา้ 2 เฟส คอื ระบบไฟฟ้าทมี่ สี าย 3 เสน้ จะคลา้ ยกบั แบบ 1 เฟส เพียงแต่ สายเสน้ ทมี่ ไี ฟจะมี 2 เสน้ เขยี นแทนตวั อกั ษรยอ่ วา่ L1 , L2 และอกี เสน้ ทเี่ หลอื ไมม่ ไี ฟเรยี กวา่ สายนิวทรลั (Neutral) หรอื สายศนู ย์ การทดสอบสายไฟฟ้าสามารถทาเช่นเดยี วกบั เมอื่ จะจา่ ย แรงดนั เข้าบา้ นพกั อา ศัย จะใชส้ ายนิวทรลั เปน็ หลัก คู่ สาย มีไฟ 1 เส้น แรงดันทไี่ ด้เทา่ กับ 220 โวลต์ หากจบั คสู่ าย มไี ฟ 2 เสน้ จะได้ 440โวลต์ (ระบบน้ี ใช้ ในพ้ืนที่ ๆ มกี ารใช้ไฟไมม่ าก เวลาจา่ ยไฟเขา้ บา้ นจะใช้เพียง 1 เฟส เทา่ นั้น) ระบบไฟฟา้ 3 เฟส เปน็ ระบบทม่ี สี ายเสน้ ไฟจานวน 3 เสน้ และมสี ายนิวทรลั อกี หน่ึง เสน้ จงึ มสี ายรวม 4 เสน้ ระบบ 3 เฟส สามารถตอ่ ใช้งานเปน็ ระบบ 1 เฟสได้ โดยการตอ่ จาก

11 เฟสใดเฟสหน่ึงและสายนิวทรลั อกี หนึ่งเสน้ (จะเปน็ การตอ่ ขดลวดหมอ้ แปลงไฟฟ้าดา้ นไฟ ออกแบบสตาร์ Star) แรงดนั ไฟฟ้าระหวา่ งสายเฟสเสน้ ใดเสน้ หนึ่งกบั สายนิวทรลั มคี า่ 220 โวลต์ และแรงดนั ระหวา่ งสายเสน้ เฟสดว้ ยกนั มคี า่ 380 โวลต์ ระบบน้ีจงึ เรยี กวา่ ระบบ 3 เฟส 4 สาย 220/380 โวลต์ ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ระบบน้ีมขี อ้ ดคี อื สามารถจา่ ยกาลงั ไฟฟ้าไดม้ ากกวา่ ระบบ 1 เฟสถงึ 3 เทา่ จงึ เหมาะ กบั สถานทท่ี ตี่ อ้ งการใช้ไฟมาก ๆ เช่น อาคารพาณิชย์ โรงงานอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ เปน็ ตน้ สถานทท่ี ม่ี คี วามตอ้ งการใช้ไฟฟ้าสงู ขนึ้ ไปอกี กจ็ ะตอ้ งใช้ไฟฟ้าเปน็ ระบบแรงสงู ซงึ่ ผใู้ ช้ไฟฟ้าตอ้ ง ตดิ ตง้ั หมอ้ แปลงเองเพื่อปรบั แรงดนั ให้ไดต้ ามทตี่ อ้ งการใช้งาน (แตห่ ากชุมชนบา้ นเรอื นพ้ืนทน่ี ้ัน ๆ มกี ารใช้ไฟฟ้ามาก กจ็ ะจา่ ยเปน็ ระบบ 3 เฟส เช่นกนั เพียงแตด่ งึ เขา้ บา้ น เพียง 1 เฟส ) ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย

12 ข้อควรทราบ ในระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ทจี่ า่ ยเขา้ สกู่ ลมุ่ บา้ นเรอื นทวั่ ๆ ไป สายแรง ต่าเขา้ บา้ นจะดงึ ไป 2 เสน้ จะไดไ้ ฟ 220 โวลต์ หากการจา่ ยระบบไฟฟ้ า เขา้ กลมุ่ บา้ นดงั กลา่ ว สาย นิวทรลั ขาดต้นสายจากแหล่งจา่ ย จะทาให้แรงดันไฟฟา้ ในบา้ น เพม่ิ ขึ้นเปน็ 440 โวลต์ ทนั ที ผู้ใช้ ต้องระมดั ระวังการใชบ้ า้ ง โดยใชเ้ ครอ่ื งวัดแรงดันไฟฟา้ ตรวจสอบ เมอ่ื มกี ารย่ืนคาขอการใช้ไฟฟ้ากบั การไฟฟ้าฯ แลว้ ผใู้ ช้บรกิ ารจะตอ้ งเดนิ สายไฟฟ้า ภายในบา้ นให้เสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามมาตรฐานทกี่ ารไฟฟ้าฯ กาหนดจากน้ันการไฟฟ้าฯ จะเขา้ มา ตรวจสอบการเดนิ สายภายในวา่ ถกู ตอ้ งหรอื ไมก่ อ่ นดาเนินการตดิ ตงั้ เครื่องวดั หน่วยไฟฟ้าเมอ่ื ใช้ วดั ปรมิ าณการใช้ไฟฟ้าของบา้ นเพื่อนา ไปคานวณเปน็ คา่ ไฟฟ้าทตี่ อ้ งชาร ะ โดยปรมิ าณการใช้ ไฟฟ้า 1 ยนู ิตหรอื 1 หน่วย คอื การใช้ไฟฟ้าคดิ เปน็ 1 กโิ ลวตั ตต์ อ่ ช่ัวโมง หรอื เขยี นไดอ้ กี แบบ หน่ึงคอื 1 หน่วยเทา่ กบั 1 กโิ ลวตั ตต์ อ่ ช่ัวโมง เครอื่ งวดั หน่วยไฟฟ้ามที ง้ั ชนิด 1 เฟสและชนิด 3 เฟส ตามระบบไฟฟ้าทใ่ี ช้งาน โดย ทเี่ ครอ่ื งวดั หน่วยไฟฟ้าจะมหี น้าปดั แสดงตวั เลขหรอื หน่วยการใช้ไฟฟ้า ลกั ษณะการแสดงหน่วย การใช้ไฟฟ้า ลกั ษณะการแสดงหน่วยจะเหมอื นกบั เลขแสดงจานวนกโิ ลเมตรของรถยนต์ แสดง จานวนหน่วยเปน็ 2 แบบ คอื แบบทมี่ หี ลกั หน่วยเปน็ จดุ ทศนิยมและแบบทไี่ มม่ หี ลกั หน่วยซงึ่ จะ ตา่ งกนั ตรงทเี่ ลขหลกั สดุ ทา้ ยของแบบทม่ี หี ลกั หน่วยเปน็ จดุ ทศนิยมจะมสี ที แ่ี ตกตา่ งออกไป ในการอา่ นของการไฟฟ้าฯ จะอา่ นตวั เลขจากซา้ ยไปขวา อา่ นเฉพาะจานวนเตม็ ไม่ อา่ นเลขเทศนิยม เมอื่ อา่ นแลว้ จะนาตวั เลขจากการอา่ นคร้ังใหมต่ งั้ แลว้ ลบดว้ ยตวั เลขทอี่ า่ นไวค้ ร้งั กอ่ นโดยระยะเวลาห่างของการอา่ นครงั้ กอ่ นกบั ครง้ั ใหมจ่ ะกนิ เวลาประมาณ 30 วนั เมอื่ การไฟฟ้าฯ ตดิ ตงั้ เครอื่ งวดั เรยี บรอ้ ยแลว้ จะเดนิ ไฟฟ้าไปตอ่ กับสายของผใู้ ช้ทเี่ ตรยี มไวแ้ ลว้ (อาจเตรี ยมดงึ ไวท้ ี่ หัวเสาหรอื ขดทงิ้ ไว)้ สายทโี่ ยงเขา้ สบู่ า้ นน้ีเราเรยี กวา่ “สายเมน” โดยขนาดของสายกต็ อ้ งเปน็ ไป ตามมาตรฐานทก่ี ารไฟฟ้าฯ กาหนด สว่ นขนาดการรบั ไฟเขา้ นั้นจะระบเุ ปน็ กระแส จานวนเฟส และแรงดนั โดยกระแสหรอื อตั ราและแรงดนั การไหลของไฟฟ้ าผา่ นตวั นานั้นจะมขี น าดตงั้ แต่ 5 แอมแปร์ ซงึ่ ใช้ในอาคารขนาดตงั้ แต่ 5 แอมแปร์ ซงึ่ ใช้ใ นอาคารบา้ นเรอื นทว่ั ไป กบั ขนาด 15 แอมแปร์ หรอื ใหญ่กวา่ สาหรบั บา้ นขนาดใหญ่สว่ นแรงดนั จะมหี น่วยเปน็ โวลต์ ซงึ่ โดยปกตเิ รา จะไมก่ ลา่ วถงึ แรงดนั เนื่องจากแรงดนั น้ันเปน็ ขนาดมาตรฐานเดยี วกนั ทงั้ ประเทศ คอื 220 โวลต์ ในการดงึ โยงสายไฟเขา้ บา้ นทนี่ ิยมปฏิบตั กิ นั กม็ ี 2 แบบ คอื 1. เดนิ สายไฟลอยในอากาศ ซงึ่ เปน็ วธิ ีทนี่ ิยมมากในแถบเอเชีย การตดิ ตงั้ แบบน้ีจะมี มเิ ตอรต์ ดิ อยูท่ เี่ สาไฟฟ้า และตวั รบั ไฟเขา้ บา้ นยดึ ตดิ อยทู่ างดา้ นนอกของอาคารสว่ นแผงควบคมุ ไฟ เรยี กวา่ เมนสวติ ซ์ จะอยภู่ ายในอาคารใกลก้ บั จดุ รบั ไฟมากทส่ี ดุ สว่ น สายเมนทเ่ี ขา้ สตู่ วั บา้ นจะมา ตอ่ เขา้ ทเี่ มนสวติ ซห์ รอื แผงรบั ไฟเขา้ หน้าทข่ี องเมนสวติ ช์ คอื ปลด – สลบั (ตดั – ตอ่ ) ไฟฟ้า

13 ภายในอาคารทง้ั หมด และยงั ทาหน้าทเ่ี ปน็ อปุ กรณป์ อ้ งกนั วงจรไฟฟ้าเมอ่ื เกดิ กระแสไฟฟ้าลดั วงจร หรอื เมอื่ ใช้ไฟฟ้าเกนิ ขนาด อปุ กรณท์ ใ่ี ช้เปน็ เมนสวติ ช์มอี ยหู่ ลายชนิดดว้ ยกนั โดยทน่ี ิยมใช้ไดแ้ ก่ คัทเอ๊าทพ์ รอ้ มฟวิ ส์ ทง้ั 2 อยา่ ง เปน็ อปุ กรณค์ นละตวั กนั และ ทาหน้าทตี่ า่ ง ๆ กนั แต่ ใช้งานรว่ มกนั กลา่ วคอื คทั เอา๊ ทเ์ ปน็ อปุ กรณส์ บั หรอื ปลดวงจรไฟฟ้า สว่ นฟิวสก์ ม็ หี น้าทป่ี อ้ งกนั การใช้ไฟเกนิ กาหนดเหมาะสาหรบั บา้ นอยอู่ าศยั ขนาดเลก็ ทใ่ี ช้เครื่องวดั ขนาดไมเ่ กนิ 15 แอมแปร์ 1 เฟส มรี าคาถกู กวา่ ชนิดอน่ื ๆ แตม่ กั มปี ญั หาในการใช้งาน เช่น จดุ ตอ่ สายหลวมทาให้เกดิ ความ รอ้ น เมอ่ื ฟิวสข์ าดตอ้ งซอ้ื ฟิวสม์ าเปลยี่ นใหม่ ทาให้ย่งุ ยากในการใช้งาน คัทเอา๊ ท์ จะมชี นิดทมี่ ี ใบมดี 2 ใบ และ 3 ใบ โดยชนิด 2 ใบใช้ในวงจร 1 เฟส และชนิด 3 ใบใช้ในวงจร 3 เฟส เมอื่ เปดิ ฝาสว่ นลา่ งของคทั เอา๊ ทอ์ อกจะมขี วั้ ตอ่ สายและสกรไู วส้ าหรบั ใสฟ่ ิวสช์ นิดเสน้ หรอื ชนิด กา้ มปู คทั เอา๊ ทท์ มี่ ขี ายอย่ใู นทอ้ งตลาดเรยี กตามความสามารถในการรบั กระแสเปน็ แอมแปร์ เช่น ขนาน 30 แอมแปร์ และ 60 แอมแปร์ เปน็ ตน้ ปจั จบุ นั แบบน้ีเรมิ่ ไมน่ ิยมใช้แลว้ เนื่อง จากคทั เอา๊ ทท์ ผ่ี ลติ จาหน่ายกนั อยู่ในปจั จบุ นั มกั ไมค่ อ่ ยมมี าตรฐาน คทั เอาท์ www.b loggang.com/v iewdiary.php?id=p iwat&month= 10-2007 &date=05&group=3&gblog= 4 ปล๊ักฟวิ ส์ 1 เปน็ ฟิวสท์ บ่ี รรจอุ ยู่ในกระปกุ กระเบอ้ื ง ภายในบรรจทุ รายในกรณีทฟี่ ิวส์ ขาด ปมุ่ ทอี่ ยู่ตรงปลายสดุ ของกระบอกฟิวสด์ า้ นใหญ่จะหลดุ ออกมา จะตอ้ งเปลย่ี นฟิวสใ์ หมจ่ งึ จะ ใช้งานตอ่ ไปได้ เพื่อความปลอดภัยควรเปลยี่ นทงั้ กระปกุ ห้ามเปลยี่ นเฉพาะไสฟ้ ิวส์ ปลกั๊ ฟิวส์

14 ในการใช้งาน ตวั ฟิวสห์ รอื เรยี กวา่ กระบอกฟิวส์ จะใสเ่ ขา้ กบั ขวั้ หรอื ฐานฟิวส์ ขนาด ของฐานฟิวสป์ กตจิ ะใช้อยู่ 2 ขนาด คอื ขนาด 25 แอมแปร์ และ 63 แอมแปร์ แตฟ่ ิวสท์ ใ่ี ช้จะมี หลายขนาดตามโหลดและขนาดเครอื่ งวดั ซง่ึ ไดแ้ ก่ 6, 10, 16, 20, 25, 35, 50 และ 60 แอมแปร์ ฐานฟิวสข์ นาด 25 แอมแปรจ์ ะใสก่ ระบอกฟิวสท์ ม่ี ขี นาดเดยี วกบั ฟิวสห์ รอื เลก็ กวา่ ได้ แตจ่ ะใสฟ่ ิวสท์ มี่ ขี นาดใหญ่กวา่ ไมไ่ ด้ และฐานฟิวสท์ มี่ ขี นาด 63 แอมแปร์ กจ็ ะใสฟ่ ิวสท์ มี่ ขี นาด ไมเ่ กนิ 63 แอมแปร์ การใช้งานควรตอ่ สายไฟทง้ั สองเสน้ ผา่ นคทั เอา๊ ทก์ อ่ น จากน้ันจงึ ตอ่ สายเสน้ ทม่ี ไี ฟ (หรอื สายเฟส) ผา่ นฟิวสโ์ ดยตอ่ เขา้ กบั ฐานฟิวส์ สว่ นสายนิวทรลั ซง่ึ เปน็ สายทไ่ี มม่ ไี ฟ ไมต่ อ้ งผา่ น ปลกั๊ ฟิวส์ การตอ่ นี้ตอ้ งใช้ความระมดั ระวงั เช่นเดยี วกบั การตอ่ หลอดไฟชนิดเกลยี วคอื ตอ้ งต่ อขวั้ ของ ฐานฟิวสส์ ว่ นทตี่ อ่ กบั เกลยี วไวท้ างดา้ นออก เพื่อไมใ่ ห้เกลยี วมไี ฟขณะทถ่ี อดฟิวส์ เซฟตสี้ วิตช์ ใช้สาหรบั สบั หรอืปลดวงจรไฟฟ้าแะลปอ้ งกนั กระแสเกนิ เช่นเดยี วกบั คทั เอา๊ ท์ และปลกั๊ ฟิวส์ เซฟตส้ี วติ ช์จะใช้คารท์ ทรคิ ฟิวสป์ ระกอบรวมมาในกลอ่ งเดยี วกนั กลอ่ งน้ีจะเปดิ ได้ เมอื่ ใบมดี อยใู่ นตาแหน่งปลดวงจรเทา่ นั้น ใช้ตง้ั แตก่ ระแสต่า ๆ จนถงึ หลายรอ้ ยแอมแปร์ ขนาด ของฟิวสท์ ใ่ี ช้จะตา่ งกนั ออกไป โดยเซฟตสี้ วติ ช์สามารถใสฟ่ ิวสท์ มี่ ขี นาดเลก็ กวา่ ไดห้ ลายขนาด แตจ่ ะใสฟ่ ิวสข์ นาดใหญ่กวา่ ไมไ่ ด้ โดยเซฟตสี้ วติ ช์ชนิดใช้กบั ไฟ 1 เฟส จะมขี ว้ั ให้ใสฟ่ ิวสไ์ ด้ 2 ตวั ซงึ่ ออกแบบไวใ้ ห้ใช้ไฟในประเทศสหรฐั อเมรกิ า การนามาใช้ในประเทศไทยเสน้ ทต่ี อ่ สาย นิวทรลั จงึ ตอ้ งตอ่ ตรงดว้ ยสายทองแดง และใสฟ่ ิวสท์ เี่ สน้ ไฟเพียงตวั เดยี ว เมอื่ เกดิ กระแสเกนิ คารท์ ทรคิ ฟิวสข์ าดจาเปน็ ตอ้ งเปลย่ี นใหม่ แตก่ ารจะทราบวา่ ฟิวสข์ าดหรอื ไมต่ อ้ งใช้เคร่ืองมอื วดั เชฟตสี้ วติ ช์

15 หรอื อาจทดสอบง่าย ๆ ดว้ ยการใช้ไขควงวดั ไฟและให้คานึงอยูเ่ สมอวา่ สายนิวทรลั ห้าม ตอ่ ผา่ นฟิวส์ เซฟตี้สวิตช์ ราคาแพงกวา่ และมคี วามปลอดภัยในการใช้งานสงู กวา่ คทั เอา๊ ทพ์ รอ้ ม ฟิวส์ แตร่ าคาถกู วา่ คอนซมู เมอรย์ นู ิต มคี วามย่งุ ยากในการเปลยี่ นฟิวสเ์ ช่นเดยี วกนั กบั คั ทเอา๊ ท์ พรอ้ มฟิวส์ จงึ ไมค่ อ่ ยเปน็ ทนี่ ิยมใช้นัก คอนซูมเมอรย์ ูนิต เปน็ แผงไฟสาเรจ็ รปู ทปี่ ระกอบดว้ ยเซอรก์ ติ เบรกเกอรท์ เ่ี ปน็ ตวั เมน หนึ่งตวั จะสงั เกตวา่ มขี นาดใหญ่กวา่ ตวั อนื่ และตวั ยอ่ ยทใ่ี ช้เปน็ วงจรยอ่ ยอกี หลายตวั ตามตอ้ งการ โดยจะมบี สั บารต์ อ่ จากตวั เมนไปยงั ตวั ยอ่ ยไวเ้ รยี บรอ้ ยแลว้ เมอื่ ตอ้ งการใช้งานกเ็ พียงแตป่ ระกอบ ตวั ยอ่ ยลงไปและทาการตอ่ สายดา้ นทอี่ อกไปตอ่ กบั โหลดเทา่ นั้น ในการซอื้ มาใช้งานจะตอ้ ง กาหนดดว้ ยวา่ ตอ้ งการคอนซมู เมอร์ ยนู ิตทมี่ ตี วั ยอ่ ยจานวนเทา่ ไร เช่น 2, 4 หรอื 6 เปน็ ตน้ อยา่ งไรกต็ าม เซอรก์ ติ เบรกเกอรท์ เ่ี ป็นตวั ยอ่ ยอาจใสไ่ มค่ รบตามช่อง ในกลอ่ งกไ็ ด้ โดยช่องทว่ี า่ ง อยจู่ ะมฝี าครอบปดิ ไวใ้ ห้ โหลดเซน็ เตอร์ คอนซมู เมอร์ http://images.google.co.th/imgres?imgurl http://www.pantipmarket.com/decor/picture/DE5638652.jpg ในกลอ่ งคอนซมู เมอรย์ นู ิตจะมขี ว้ั ตอ่ สาย (terminal) ไวส้ าหรบั ตอ่ สายนิวทรลั และอาจ ยงั ไมไ่ ดต้ อ่ สายเตรยี มไวใ้ ห้ เราตอ้ งเตรยี มตอ่ สายน้ีเอง คอนซมู เมอรย์ นู ิตบางรุ่นจะมขี วั้ สาหรบั ตอ่ สายดนิ แยกออกมาตา่ งหาก ถา้ เราจะตอ้ งการการตอ่ สายระหวา่ งขว้ั ต่ อสายนิวทรลั เขา้ กบั ขวั้ ตอ่ สาย ดนิ บางรุน่ จะมขี วั้ ตอ่ สายมาให้ชุดเดยี ว ซง่ึ จะใช้เปน็ ทงั้ ขวั้ ตอ่ สายนิวทรลั และขว้ั ตอ่ สายดนิ ปกติ เมอื่ ซอื้ คอนซมู เมอรย์ นู ิตจะมไี ดอะแกรมการตอ่ สายให้มาดว้ ย คอนซมู เมอรย์ นู ิต เปน็ เมนสวติ ช์ที่ สมบรู ณแ์ บบทส่ี ดุ สะดวกในการใช้งาน ไมต่ อ้ งมกี ารตอ่ สายมาก ทาให้หมดปญั หาเร่อื งจดุ ตอ่ สาย รอ้ น แตร่ าคาแพงกวา่ ชนิดอน่ื ๆ เมอ่ื ตอ่ สายไฟจากภายนอกเขา้ กบั เมนสวติ ช์แลว้ จงึ ตอ่ สายไฟไปใช้งานตามจดุ ตา่ ง ๆ ที่ ตอ้ งการไดท้ นั ทใี นกรณีนี้จะใช้กบั อาคารขนาดเลก็ ๆ ทม่ี กี ารใช้ไฟฟ้าไมม่ ากนัก สายไฟฟ้าที่ ใช้ ควรมขี นาดเลก็ กวา่ 2.5 S.Q.MM (ปกตจิ ะใช้ขนาด 2.5 S.Q.MM หรอื 4 S.Q.MM)

16 เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ เปน็ อปุ กรณท์ เ่ี ปน็ ทง้ั เคร่ืองปลดวงจรและอปุ กรณป์ อ้ งกนั กระแส เกนิ ในตวั เดยี วกนั ซงึ่ ทาให้สะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน มที งั้ ชนิดทตี่ ดั สาย เสน้ เดยี ว (เรยี กวา่ ชนิดขว้ั เดยี ว) ตดั สายสองเสน้ และสามเสน้ ตามความตอ้ งการใช้งาน โดยในวงจร 1 เฟส 2 สาย สามารถเลอื กใช้เปน็ ชนิดหนึ่งขว้ั หรอื สองขว้ั กไ็ ด้ ถา้ หนึ่งขว้ั กจ็ ะตดั วงจรเฉพาะสายทมี่ ไี ฟ เซอรก์ ติ เบรกเกอร์ www.mea.or.th/apd/image/break-2.gif ขนาดของเซอรก์ ติ เบรกเกอรเ์ รยี กตามพิกดั กระแสเซอรก์ ติ เบรกเกอรเ์ ปน็ แอมแปร์ ขนาด ทม่ี ใี ช้ เช่น 5, 10, 15, 20, 25, 30, 32 และ 50 แอมแปร์ โดยจะระบุ เปน็ ตวั เลขที่ กา้ นเซอรก์ ติ เบรกเกอร์ การซอ้ื ตอ้ งทราบพิกดั กระแสและแรงดนั เช่นเดยี วกบั ฟิวส์ การใช้งานนิยมซอื้ ชนิด ที่ ประกอบมากบั กลอ่ งเรยี บรอ้ ยแลว้ เรยี กวา่ โหลดเซ็ นเตอร์ (load center) หรอื คอนซมู เมอรย์ นู ิต ทงั้ สองชนิดนี้ใช้งานเหมอื นกนั ตา่ งกนั ทค่ี อนซมู เมอร์ยนู ิตออกแบบสาหรบั ใช้ในบา้ น จงึ สวยกวา่ และใช้งานสะดวกกวา่ ในกรณีทเี่ ซอรก์ ติ เบรกเกอรป์ ลดวงจร เนื่องจากใช้ไฟเกนิ หรือการลดั วงจร การสบั เขา้ ใหมต่ อ้ งรเี ซตเสยี กอ่ น โดยโยกกไปในตาแหน่งปลด (off) แลว้ จงึ สบั เขา้ ไปใหมไ่ ด้  สัญลักษณอ์ ุปกรณไ์ ฟฟา้ และแบบไฟฟา้ การเขยี นแบบไฟฟ้านั้น เราเขยี นสญั ลกั ษณท์ างไฟฟ้าแทนอปุ กรณไ์ ฟฟ้าตา่ ง ๆ เช่น เขยี น กากบาทแทนสญั ลกั ษณข์ องหลอดไฟฟ้า และเขยี นเสน้ ตรงยาว 1 เสน้ สนั้ 1 เสน้ แทนแบตเตอรี่ สาหรบั เซลลไ์ ฟฟ้า เช่น ถา่ นไฟฉาย 1 กอ้ น การเขยี นแบบวงจรไฟฟ้าน้ันจะถอดแบบออกมาจาก งานจรงิ และแปลงเปน็ แบบไฟฟ้าไดห้ ลายแบบตามแตว่ ตั ถปุ ระสงคข์ องผเู้ ขยี นวา่ จะใช้แบบไฟฟ้า เพื่องานใด เช่น แบบงานสาเรจ็ (Current Flow, diagram) แบบงานควบคมุ (Control diagram) แบบ งานตดิ ตง้ั (Installation diagram) และแบบวงจร (Wiring diagram) ตวั อยา่ งทจ่ี ะเปรยี บเทยี บให้ เห็น เดน่ ชัด คอื แบบวงจรไฟฟ้าการใช้สวทิ ช์ 1 ตวั ควบคมุ หลอดมไี ส้(Incandescent Lamp) 1 ดวง

17 สัญลักษณอ์ ุปกรณไ์ ฟฟา้ ชอ่ื อปุ กรณ์ แบบงาน แบบงาน แบบงาน สาเรจ็ ควบคมุ ตดิ ตง้ั แหลง่ กาเนดิ แรงดนั ไฟฟ้ า เซลไฟฟา้ กลอ่ งโลหะ กล่องตอ่ สาย แยก การเชอ่ื มตอ่ ทางกล สวติ ชก์ ดตดิ ปลอ่ ย ดบั สวติ ช์ กดตดิ -กด ดบั สวติ ช์ ตอ่ อนกุ รม สวติ ช์ 2 (3) ทาง สวติ ช์ 2 ทาง 2 ตวั สวติ ช์ กากบาท เตา้ รบั แบบมีสาย ดนิ

18 สัญลักษณอ์ ปุ กรณไ์ ฟฟา้ ชอื่ อุปกรณ์ แบบงานสาเรจ็ แบบงานควบคมุ แบบงานติดตงั้ สายไฟฟ้า,ตวั นา สายสัญญาณ สายต่อกัน(บัดกร)ี สายต่อกนั ผ่าน กล่องพักสาย

19 แบบไฟฟา้ ในอาคาร

20  สายไฟฟา้ และสายเคเบลิ (Conductor & cable) ไฟฟ้าเปน็ ตวั นาทนี่ ามาใช้เดนิ สายภายในอาคารบา้ นเรอื นจาเปน็ ตอ้ งห้มุ ฉนวนเพื่อ ปอ้ งกนั อนั ตราย ไมใ่ ห้กระแสไฟฟ้ารั่วมาถงึ ผใู้ ช้ได้ ภายในสายจะมคี วามตา้ นทานในตวั เมอ่ื มี กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นจะทาให้สายเกดิ ความรอ้ นขนึ้ ซงึ่ ความรอ้ นทเี่ กดิ ขนึ้ จะแปรคา่ ตามกาลงั 2 ของกระแสทไี่ หลผา่ น (W= I 2R) เมอื่ สายเกดิ ความรอ้ น ชั้นฉนวนทเี่ ปน็ ยางกจ็ ะละลาย ดงั นั้น ฉนวนทมี่ าทาจะตอ้ งมมี าตรฐาน การวดั ขนาดของสาย เวลาเราวดั เจาะวดั เฉพาะเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางของลวดตวั นา จะไมร่ วม ฉนวนทห่ี ้มุ สายอยู่ การวดั เราอาจวดั เปน็ น้ิวหรอื มลิ กไ็ ด้ สว่ นมากจะนิยมวดั เปน็ มลิ ลเิ มตร หรอื มลิ ซง่ึ 1 มลิ มคี า่ = 1/1000 หรอื 0.001 นิ้ว การวดั พื้นทหี่ น้าตดั ของสายวดั เปน็ ตารางมลิ ลเิ มตร (mm2) ซง่ึ เรยี กวา่ เปน็ หน่วยเมตรกิ ระบบองั กฤษนิยมวดั เปน็ เซอรค์ วิ ลามลิ (Circulamil) เสน้ ลวดตวั นามเี สน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 1 มลิ (0.001 นิ้ว) จะมพี ้ืนทห่ี น้าตดั เทา่ กบั 1 เซอรค์ วิ ลามลิ เนื่องจากพื้นทขี่ องวงกลม เราหาไดจ้ าก A= 3.1416 d 2 4 เมอ่ื A = พ้ืนท่ี d = เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ดงั น้ัน A = 0.7854d2 (1 น้ิว = 1000 มลิ ) ระบบของสาย ทเี่ รากนั จะมรี ะบบดงั นี้ A.W.G American Wire Gauge S.W.G. Standard Wire Gauge B.W.G. Birmingham lron Wire Gauge B & S. Brow & Sharp Gauge MM.G Millimeter Gauge โดยปกตสิ ายไฟฟ้าทเ่ี ราใช้ในปจั จบุ นั จะมีวธิ กี ารเรยี กอยู่ 2 แบบคอื 1. แบบหุม้ ฉนวน P.V.C. เรยี กตามขนาดของสาย วา่ เปน็ เซอรค์ วิ ลามลิ หรอื S.Q.MM 2. แบบหุ้มฉนวนอนี าเมล เรยี กเปน็ เบอร์ ๆ ตวั เลขน้อยเสน้ จะโต ตวั เลขมากเสน้ จะเลก็ วิธกี ารวัดขนาดของสาย เราใช้วธิ กี ารวดั ดว้ ยเคร่อื งมอื 2 ประเภทคอื 1. ใช้ไมโครมเิ ตอร์ (Micrometer) มกั ใช้กบั สายทม่ี ขี นาดเลก็ มาก ๆวดั ให้ได้ เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางกอ่ น

21 2. ใช้เกจวดั (Wire Gauge) มเี คร่อื งวดั อยู่ 2 ระบบคอื A.W.G กบั S.W.G. เครอื่ งวดั แบบนี้จะนาสายใสร่ ขู องเคร่อื งวดั ไดเ้ ลยซงึ่ เครอื่ งวดั จะมขี นาดและเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางพรอ้ มในรู เดยี วกนั การเลือกใชข้ นาดของสาย ต้องคานึงสิง่ ต่อไปนี้ 1. จานวนกระแสทส่ี ายทนได้ นาโหลดรวมกนั แลว้ หารดว้ ย แรงดนั 2. กาลงั ไฟฟ้าสญู เสยี ในสาย เราคดิ เปน็ % แลว้ จงึ จะไดเ้ ปน็ ประสทิ ธภิ าพของการสง่ กาลงั ออกมา ประสทิ ธิภาพของการสง่ กาลงั ไฟฟ้า = กาลงั ไฟฟ้าท่ีโหลด x100 กาลงั ไฟฟา้ ที่เคร่ืองกาเนิด 3. คา่ แรงดนั ไฟฟ้าเปลย่ี นแปลง สายไฟฟ้าทยี่ าวมาก ยอ่ ม มคี วามตา้ นทานมาก จะ ทาให้การสญู เสยี ในสายมากตามมผี ลทาให้ความตา่ งศกั ยล์ ดลงอาจจะทาให้เครอ่ื งใช้ทางานไมป่ กติ สีของสายไฟฟา้ สายสขี าวทาเปน็ สายดนิ หรอื สายนิว ทรลั (Grounded neutral) สายเคเบลิ หรอื สายคอรด์ จะ มโี คด๊ สดี งั นี้ สาย 2 ตวั นา ขาว ดา สาย 3 ตวั นา ขาว ดา แดง สาย 4 ตวั นา ขาว ดา แดง น้าเงิน สาย 5 ตวั นา ขาว ดา แดง น้าเงิน เหลอื ง สายดินจะนิยมทาด้วยสีเขียว หรอื เขียว แถบเหลือง ชนิดของสาย จะมี 2 แบบใหญ่ คอื 1. สายตนั (Solid Conductor) อาจจะเปน็ อลมู เิ นียม หรอื ทองแดงกไ็ ด้ เพียงเสน้ เดยี ว 2. สายเกลยี ว (Stranded Conductor) ประกอบดว้ ยสายหลายเสน้ รวมกนั ตเี ปน็ เกลยี ว ฉนวนทใี่ ชห้ ุ้มสาย 1. ยาง (Rubber) สายประเภทนี้จะนิยมใช้ในบา้ น ทาดว้ ย ฉนวน P.V.C บางคร้ังตวั สายโลหะอาจเคลอื บดบี กุ ไวเ้ พ่ือปอ้ งกนั ฉนวนเยิ้มตดิ ตวั นา 2. วานิชเคมบรคิ (Vanish Cambric) จะทนแรงดนั ไดส้ งู ไมท่ าปฏิกริ ยิ ากบั น้ามนั 3. แอสเบสทอส (Asbestos) เปน็ ฉนวนดเี ยี่ยม ทนไฟ แตไ่ มท่ นความชื้น

22 4. กระดาษ (Paper) ถา้ นาไปอาบน้ามนั แรเ่ กรดสงู ๆ สามารถนาไปทาฉนวนทที่ น แรงดนั สงู ๆ ได้ 5. ไหม และฝา้ ย (silk and cotton) นิยมใช้กบั สายเคเบลิ ทใ่ี ช้งานโทรคมนาคม 6. อนี าเมล (Enamel) นิยมใช้กบั สายทใ่ี ช้ทาตวั สรา้ งสนามแมเ่ หลก็ ตารางแสดงชนิดของสายไฟฟา้ โครงสรา้ ง และการนาไปใชง้ าน ** ชนิด โครงสรา้ ง การนาไปใชง้ าน VAF - เสน้ ลวดทองแดงอบแลว้ - ใช้เดนิ สายสาหรบั งานตดิ ตงั้ ไฟฟ้าทวั่ ไปใน - ฉนวนหมุ้ พี.วี.ซี. อาคาร แรงดนั ไมเ่ กนิ 600 โวลต์ มสี ายทเี่ ป็น -มเี ปลอื กพี .ว.ี ซ.ี หมุ้ ขา้ งนอกอกี 1 ชั้น สายดนิ อยู่ภายในซงึ่ ทาขนึ้ ตามมาตรฐานของ อเมรกิ นั ชนิด NYY NYY -เสน้ ลวดทองแดงอบแลว้ - ใช้ฝงั ดนิ ไดโ้ ดยตรง สาหรบั การใช้งานทมี่ ี -ฉนวนหุม้ พี.ว.ี ซี แรงดนั ไมเ่ กนิ 600 โวลตโ์ ดยไมต่ อ้ งใสใ่ นทอ่ -มเี ปลอื กพี .ว.ี ซ.ี หุ้มขา้ งนอกอกี 1 ช้ัน เหลก็ ในบางกรณีจะมแี ผน่ เหลก็ หุ้มอยภู่ ายใน เปน็ เกราะอกี ชั้นหน่ึงสาหรบั กรณพี ิเศษ THW -เสน้ ลวดทองแดงอบแลว้ - ใช้เดนิ สายสาหรบั งานตดิ ตงั้ ไฟฟ้าทว่ั ไปใน -ฉนวนหมุ้ พี.ว.ี ซ.ี อาคาร แรงดนั ไมเ่ กนิ 600 โวลต์ ใช้ไดส้ าหรบั สถานทม่ี อี ณุ หภูมสิ งู ถงึ 75 เซลเซยี ส

23 ชนิด โครงสรา้ ง การนาไปใชง้ าน NYCY - เสน้ ลวดทองแดงอบแลว้ - ลกั ษณะการนาไปใช้งาน เช่นเดยี วกบั - ฉนวนหมุ้ พ.ี ว.ี ซ.ี ชนิด NYY - มเี ปลอื กพี .ว.ี ซ.ี หมุ้ ขา้ งนอกอกี 1 ช้ัน - มสี ายดนิ (Neutral Concentric) อยู่ รอบนอกใตเ้ ปลอื ก CVV - เสน้ ลวดทองแดงอบแลว้ - สาหรบั สายคอนโทรลแรงดนั ไมเ่ กนิ 600 V CVVS - ฉนวนห้มุ พ.ี ว.ี ซ.ี - มเี ปลอื ก พี.วี.ซี. หุม้ อกี 1 ช้ัน - ระหวา่ งสายแตล่ ะเสน้ จะมเี ชือก กระสอบ (Jute) ใสอ่ ยูด่ ว้ ย VCT -เสน้ ลวดทองแดงฝอยอบแลว้ - เปน็ สายออ่ น (Flexible) ใช้สาหรบั เครอ่ื งใช้ -ฉนวนหุม้ พี.ว.ี ซ.ี ไฟฟ้าทวั่ ไป เช่น พัดลมไฟฟ้า หรอื เคร่อื งใช้ ไฟฟ้าทมี่ กั จะนาเคลอื่ นทไ่ี ปมาไดส้ ะดวก แรงดนั ไมเ่ กนิ 600 โวลต์

24 ชนิด โครงสรา้ ง การนาไปใชง้ าน VSF - เสน้ ลวดทองแดงฝอยอบแลว้ - ใช้สาหรบั เดนิ สายเครอื่ งอปุ กรณ์ไฟฟ้าทว่ั ๆ VFF - ฉนวนหุ้ม พ.ี ว.ี ซ.ี ไปทแี่ รงดนั ไมเ่ กนิ 600 โวลต์ VTF TWA - เสน้ ลวดอลมู เิ นียม - ใชส้ าหรบั การเดนิ สายทวั่ ๆ ไปหรอื ใชเ้ ดนิ THWA - ฉนวนหุ้ม พ.ี วี.ซ.ี สายภายในอาคารทม่ี แี รงดนั ไม่เกนิ 600โวลต์ NAY อณุ หภูมิสงู ไดถ้ งึ 75 เซลเซยี ส **ข้อมลู ภาพ จาก เอกสาร บรษิ ทั นครธน อนิ เตอรก์ รปุ๊ จากดั ลักษณะของสายทใ่ี ชง้ านทว่ั ๆ ไป 1. สายไฟสาหรบั เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ประเภทให้กาลังงาน เปน็ สายออ่ นท่ี เรา นามาตอ่ ใช้ กบั มอเตอรข์ นาดใหญ่ ซง่ึ ใช้งานหนักรบั กระแสมาก ตอ้ งเปน็ สายเสน้ โต เพ่ือปอ้ งกนั มใิ ห้เกดิ ความ รอ้ นในสาย 2. สายไฟสาหรบั เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ประเภทความร้ อน เครอื่ งใช้ไฟฟ้าทใี่ ห้ความรอ้ น เช่น เตารดี เคร่อื งปงิ้ ขนมปงั เตาเผา มกั จะมแี อสเบสทอสหมุ้ รอบ ๆ ภายนอกของสายจะมดี า้ ยถกั หุม้ ไวอ้ กี ชั้นหน่ึง 3. สายดวงโคม เปน็ สายยอ่ ย ๆ หลายเสน้ เพื่อให้ยดื หยุน่ ออ่ นตวั ง่ายใช้ฉนวนพวก เทอรโ์ มพลาสตกิ หมุ้

25 หมายเหตุ การเลอื ก สายชนิดใด ประเภทใด ตอ้ งพิจารณาให้เหมาะสมกบั สภาพ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าน้ันดว้ ยสง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งคานึงเกยี่ วกบั สายคอื แรงดันไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ อุณหภูมิ สภาพอากาศเปน็ อย่างไร WIRE หมายถงึ เสน้ ลวดทใี่ ช้เปน็ สายไฟฟ้า CORD หมายถงึ สายขนาดเลก็ ๆ มเี คร่อื งห่อหุ้ม บดิ ตวั หรอื ออ่ นตวั ได้ (Flexible) CABLE หมายถงึ สายไฟทม่ี ขี นาดใหญ่ ซง่ึ มเี คร่ืองห่อหมุ้ ปอ้ งกนั ไฟฟ้าอยา่ งมน่ั คง เปน็ พิเศษ แตท่ เ่ี ขา้ ใจมกั จะใช้เรยี กสายทใี่ ช้ฝงั ดนิ หรอื ทอดขา้ มฝง่ั แมน่ ้า เปน็ ตน้ การต่อสายเข้าขั้วต่อสาย อปุ กรณ์และเคร่อื งใช้ไฟฟ้าบางเครื่องจะมรี ไู วส้ าหรบั ตอ่ สายไฟฟ้า ในการใช้งานก็ เพียงแตเ่ อาสายใสเ่ ขา้ ในรู แลว้ ขนั สกรใู ห้แน่น การตอ่ สายเขา้ สกรสู ามารถทาได้ 2 แบบ คอื การ พันสายรอบสกรโู ดยตรงและการใช้หางปลา การพนั สายรอบสกรู เหมาะสาหรบั สายขนาดเ ลก็ ๆ การพันสายตอ้ งพันให้ถกู ตอ้ ง มฉิ ะนั้นสายอาจหลดุ ขณะใช้งานได้ (บางแบบจะมแี หวนรองปะกบไวส้ ามารถใช้สายสอดไวใ้ ต้ แลว้ ขนั สกรกู ดให้แน่น) ผดิ ผดิ ปอกสายยาว ถกู การเข้าสายไฟฟ้ากบั สกรู การใชห้ างปลา หางปลาจะทาหน้าทต่ี อ่ ระหวา่ งสายไฟฟ้ ากบั อปุ กรณ์ไฟฟ้าเปน็ อปุ กรณท์ ี่ ช่วยให้การตอ่ สายแน่นหนาสะดวกในการถอดและใสบ่ อ่ ย ๆ หางปลามที ง้ั ทใ่ี ช้กบั สายขนาดเลก็ และขนาดใหญ่การตอ่ สายเขา้ หางปลาตอ้ งมเี ครอื่ งมอื ประกอบ คอื คมี ยา้ หางปลา การเลอื กใช้ หางปลาตอ้ งให้เหมาะสมกบั ขนาดสายไฟฟ้าทจ่ี ะตอ่ ขนาดคมี ย้าหางปลาจะตอ้ งเหมาะสมกบั ขนาด หางปลาดว้ ย

26 การตอ่ สายเข้าหางปลา วิธีต่อสายเข้าหางปลา 1. ปอกสายยาวประมาณ 0.5 เซนตเิ มตร นาหางปลาสวมทบั กบั ปลายสายโดย ดนั เขา้ ไปจนสดุ ตาแหน่งทจี่ ะบบี 2. ใช้คมี บบี ทห่ี างปลาจนแน่น 3. ในกรณีทห่ี างปลามสี กรู ให้คลายสกรทู จ่ี ะตอ่ กบั หางปลาออก แลว้ เสยี บหางปลา เขา้ ไปจนสดุ แลว้ ขนั สกรใู ห้แน่น แตถ่ า้ หางปลาปลายเจาะรู (ไมใ่ ช่ชนิดเปดิ ) จะตอ้ งคลายสกรู ออกมาทง้ั ตวั กอ่ นจงึ จะใสส่ ายได้ การปอกสายไฟฟา้ การปอกสายด้วยมดี เปน็ การใช้เครื่องมอื พ้ื นฐานทมี่ ใี ช้ทวั่ ไป เช่น มดี บาง ๆ คทั เตอร์ หรอื มดี ปอกสายโดยเฉพาะ วธิ นี ้ีตอ้ งมคี วามชานาญพอสมควร เน่ืองจากมดี อาจไปตดั บางสว่ น ของทองแดงทาให้เปน็ รอยและอาจหักขาดไดข้ ณะทาการตอ่ สายการปอกสายจะทาในลกั ษณะของ การเหลาดนิ สอ และตอ้ งทาดว้ ยความระมดั ระวงั ไมใ่ ห้มดี เฉือนถกู เสน้ ทองแดงชารดุ การปอกด้วยเครอ่ื งมอื การปอกอาจใช้คมี สาหรบั ปอกสายหรอื คมี ตดั สายทม่ี รี ปู สาหรบั ใช้ปอกสาย แตใ่ ช้กบั สายขนาดไมใ่ หญ่นักและตอ้ งเลอื กขนาดหรอื รใู ห้เหมาะสมกบั ขนาดเสน้ ทองแดงดว้ ย การต่อสาย เราจะตอ่ สายเพื่อจดุ ประสงค์ เ พิ่มความยาวของสาย แยกสายเพิ่มวงจร หรอื การรวมสายเขา้ ดว้ ยกนั เพื่อเขา้ อปุ กรณ์ ตาแหน่งเดยี่ วกนั มวี ธิ ีการตอ่ หลายชนิดดงั นี้ 1. การตอ่ สายแบบรบั แรงดงึ ทาดงั น้ีคอื ปลอกสายทห่ี ุ้มฉนวนออกเสน้ ละประมาณ 3 น้ิว ขดู ทาความสะอาด เอาปลายทง้ั สองบดิ เขา้ หากนั เปน็ เกลยี ว ใช้คมี บบี ให้แน่น

27 แสดงการตอ่ สายไฟเดยี่ ว 2. การตอ่ สายแ บบไมร่ บั แรงดงึ 3 นิ้ว ขดุ ทาความ การตอ่ แบบหางเปยี ทาดงั น้ีคอื ปอกฉนวนปลายสายขา้ งละประมาณ สะอาดสาย เอาปลายทงั้ สองขา้ งมาชิดกนั แลว้ บดิ เปน็ เกลยี วให้แน่น การตอ่ สายแบบหางเปยี 3. การตอ่ สายแบบแยก คอื การตอ่ แยกสายออกเปน็ 3 ทางหรอื 4 ทาง แลว้ แตง่ านซง่ึ แยก ออกตามประเภทของงานคอื แยกแบบเสน้ เดยี ว และ แยกแบบหลายเสน้ ปอกสายไฟเสน้ ทต่ี อ้ งการแยกประมาณ 1 น้ิว ปอกสายทจี่ ะแยกออกประมาณ 3 น้ิว วางปลายสายทจี่ ะแยกลงบนเสน้ ทไ่ี มแ่ ยกตรงปอกแลว้ ใช้คมี ดงึ และบดิ เปน็ เกลยี วให้แน่น การตอ่ แยกแบบเสน้ เดยี ว การตอ่ แยกแบบหลายเสน้ แยกได้ เปน็ 2 วงจร แยกไดเ้ ปน็ 3 วงจร การตอ่ แยกแบบหลายเสน้

28 4. การตอ่ สายแขง็ กบั สายออ่ น คอื มสี ายอยสู่ องชนิด ชนิดแขง็ กบั ชนิดออ่ นนามาตอ่ กนั วธิ ตี อ่ ปอกฉนวนปลายสายทง้ั 2 เสน้ ออกขา้ งละประมาณ 3 น้ิว แลว้ ใช้สายออ่ นพันรอบ ๆ สาย แขง็ ให้เปน็ เกลยี วเสรจ็ แลว้ พับหรอื งอปลายสายแขง็ ให้เปน็ ขอเพื่อปอ้ งกนั มใิ ห้สายหลดุ ไดง้ ่าย การตอ่ สายแข็งกบั สายออ่ น 5. การตอ่ สายแบบคู่ การตอ่ สายคู่ วธิ ีทาคอื ปอกฉนวนทส่ี ายออก การปอกฉนวนสาย ทง้ั คเู่ วลาตอ่ ไฟให้เยื้องกนั เลก็ น้อย ทาความสะอาดสายแลว้ ตอ่ แบบสายเดยี่ วทลี ะเสน้ การตอ่ สายแบบคู่ 6. การตอ่ สายเดย่ี วทม่ี หี ลายเสน้ สว่ นมากเปน็ สายเมนใหญ่ตอ้ งรบั แรงดงึ มาก วธิ ที าดงั น้ี ปอกปลายสายทง้ั สองเสน้ ขา้ งละประมาณ 5 นิ้ว ทาความสะอาดสาย คล่ีปลายสายทป่ี อกดงึ ให้ตรง และจดั ระยะห่างให้เทา่ ๆ กนั ทง้ั 2 เสน้ เอาปลายสายทค่ี ลแี ลว้ ประสานกนั เสน้ ตอ่ เสน้ ใช้สายแต่ ละเสน้ พันกนั เปน็ เกลยี วให้มรี ะยะห่างเทา่ ๆ กนั ใช้คมี บบี ตบแตง่ ให้เรยี บรอ้ ย การตอ่ สายเดย่ี วข้างในมีหลายเสน้ ภาพการตอ่ สาย จาก http://www.supradit.com/learning/electric/electric19.htm

29 การหุ้มฉนวนสาย เมอื่ ตอ่ สายแลว้ ตอ้ งหุ้มจดุ ตอ่ สายดว้ ยฉนวนเพื่อปอ้ งกนั ไฟร่วั หรอื ไฟดดู นิยมใช้เทปพีวซี ี การพันเทปพีวซี ี ควรดงึ เทปให้ตงึ พอสมควร แตอ่ ยา่ ดงึ จนเทปยดึ ออกมาก ควรพันให้เสน้ เทปซอ้ นกนั ประมาณ 1 ใน 4 ของความกวา้ งแผน่ เทปและควรพันทบั ประม าณ 2 – 3 ช้ันเพื่อความมน่ั ใจ ในการหุม้ ฉนวนสายตอ้ งพันให้เลยทองแดงล้าขน้ึ ไปบนฉนวนประมาณ 0.5 – 1 เซนตเิ มตร การพันเทป การต่อสายโดยใชไ้ วรน์ ัท1 (WIRENUT) เปน็ การตอ่ สายทไี่ มต่ อ้ งรบั แรงดงึ ปกตจิ ะใช้ตอ่ ในกลอ่ งตอ่ สาย การใช้ไวรน์ ัทมขี อ้ ดตี รงทส่ี ะดวกและไมต่ อ้ งพันฉนวนทบั อกี ครง้ั หนึ่ง ในการตอ่ สายตอ้ งระวงั อยา่ ปอกสายให้ยาวเกนิ ไปวดั ความยาวสายทป่ี อกประมาณสน้ั กวา่ ไวรน์ ัทเลก็ น้อย การใชไ้ วรน์ ัท www.allproducts.com/.../uta/15-wire_nut-s.jpg

30 ไวรน์ ัทมหี ลายขนาดตอ้ งเลอื กให้เหมาะสมกบั สายทจ่ี ะใช้ตอ่ ดว้ ย ในการตอ่ สายจะจบั ปลายสาย สว่ นทป่ี อกแลว้ ขนานกนั แลว้ เอาไวรน์ ัทสวมลงแลว้ ขนั ในทศิ ทางเดยี วกบั การขนั สกรจู นแน่น ไม่ ควรตอ่ สายเกนิ 3 เสน้ สายไฟควรมขี นาดเทา่ กนั หรอื ใกลเ้ คยี งกนั และห้ามตอ่ สายชนิดฝอย การต่อสายด้วยสปลิตโบลต์ (SPLTI BOLT) มลี กั ษณะเปน็ โบลตท์ ผี่ า่ รอ่ งตามความ ยาวไวเ้ พ่ือใสส่ ายลงไป และจะมนี อตขนั เกลยี วลงไปให้แน่น เหมาะสาหรบั ตอ่ สายทม่ี ขี นาดใหญ่ ขน้ึ การตอ่ สายจะเอาสว่ นทป่ี อกแลว้ วางลงในรอ่ งแลว้ ขนั ให้แน่น การต่อสายด้วยลูกเต๋า ปกตลิ กู เตา๋ สาหรบั ตอ่ สายจะทาเปน็ หลายตวั ยาวตดิ กนั เปน็ แผง การใช้งานจะตดั ออกให้เหลอื ตามจานวนทต่ี อ้ งการการใช้จรงิ ๆ ลกู เตา๋ เหมาะสาหรบั การตอ่ สาย จานวนสองเสน้ เพื่อเพิ่มความยาว หรอื ใช้กบั การตอ่ สายขนาดเลก็ สายจะยดึ ตดิ กบั ลกู เตา๋ ดว้ ยสกรู ขนาดเลก็ ทต่ี ดิ มากบั ลกู เตา๋ ถงึ แมล้ กู เตา๋ จะทาเปน็ แผงยาวตดิ ตอ่ กนั แตว่ า่ ลกู เตา๋ แตล่ ะลกู จะไมต่ อ่ ถงึ กนั ในทางไฟฟ้า  การเดินสายไฟฟา้ ภายในบา้ น สายไฟฟ้าทใ่ี ช้กนั อยู่ภายในบา้ นนั้นเปน็ สายไ ฟฟ้าสา หรบั ใช้กบั ไฟแรงต่า หรอื 220 โวลต์ มลี กั ษณะเปน็ สายไฟแกนคหู่ มุ้ ฉนวน มลี กั ษณะแบน ภายในมสี ายทองแดงหมุ้ ดว้ ย ฉนวนพีวซี ใี นแตล่ ะเสน้ แลว้ นามาตดิ รวมกนั ดว้ ยฉนวนภายนอกอกี ครงั้ หน่ึง สายประเภทนี้จะ ผลติ มาเปน็ ขด ขดละ 100 เมตร โดยขนาดทใ่ี ช้กนั ท่ั วไปกม็ หี น้าตดั ตงั้ แต่ 0.5 – 35 ตาราง มลิ ลเิ มตร การเลอื กใช้ขน้ึ อยกู่ บั ระดบั ของกระแสไฟฟ้าทไ่ี หลผา่ นโหลดน้ัน ๆ อาทิ วงจรแสง สวา่ งจะใช้สายคขู่ นาด 2x1.0 SQ.MM. วงจรเตา้ รบั และอุปกรณไ์ ฟฟ้าจะใช้ขนาด 2 x 2.5 SQ.MM. แตล่ ะวงจรมกั มชี ุดฟิวสป์ อ้ งกนั กระแสเกนิ เปน็ ฟิวสห์ รอื เซอรก์ ติ เบรกเกอรท์ ่ี แทนสวติ ช์ กรณีเดนิ รอ้ ยทอ่ จะใช้เปน็ สายเดย่ี ว การดสู ายไฟวา่ มขี นาดถกู ตอ้ งหรอื ไมน่ ้ันกใ็ ห้ดทู เ่ี ปลอื กของสายไฟ ปกตจิ ะระบุ มาตรฐานการผลติ ขนาดสายอณุ หภูมิ การใช้งาน และแรงดนั ไฟฟ้าสาหรบั ชนิดของสายอาจระบุ เปน็ ช่ือเรยี ก เช่น VAF หรอื ระบเุ ปน็ ตารางของมาตรฐานผลติ ภัณฑ์อตุ สาหกรรม เช่น TIS 11-2531 Table 2 ซง่ึ จะหมายถงึ สาย VAF หรอื สายพีวซี คี ชู่ นิดแบบนั้นเอง และสายพีวซี คี นู่ ี้จะมี สายอยสู่ องสดี ว้ ยกนั คอื สีดา ใชเ้ ดินเปน็ สายเส้นไฟ และสีเทา(ออกขาว) ใชเ้ ปน็ สายนิวทรลั ปจั จบุ นั ทางการไฟฟ้าฯ ไดก้ าหนดให้บางวงจร โดยเฉพาะวงจรเตา้ รบั ในอาคาร บา้ นเรอื นใช้สายไฟแบบ 3 แกนซงึ่ เปน็ สายทองแดงหุ้มฉนวนมสี ายสเี ขยี วเพิ่มมาอกี 1 เสน้ รวม เปน็ 3 เสน้ ประกบกนั อยู่ในสายเดยี ว สายสเี ขยี วจะใช้เปน็ สายดนิ เพ่ือปอ้ งกนั ไฟดดู เมอ่ื มไี ฟรวั่ ที่ เครอื่ งใช้ไฟฟ้า

31 การแบง่ และกาหนดขนาดวงจร ไฟฟ้าจากเครื่องวดั หน่วยไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ มายงั เมนสวติ ช์จะถกู แบง่ ออกเปน็ วงจรยอ่ ย ๆ หลายวงจรเพื่อความสะดวกในการใช้งาน และเพ่ือไมใ่ ห้ โหลดในแตล่ ะวงจรมากเกนิ ไป การแบง่ เปน็ สว่ นวงจรยอ่ ยตา่ ง ๆ สามารถแบง่ ไดห้ ลายแบบตาม ความตอ้ งการ อาทิ 1. แบง่ ตามลกั ษณะโหลด เช่น แสงสวา่ ง เตา้ รบั เคร่ืองทาน้าอนุ่ เคร่อื งปรบั อากาศ 2. แบง่ ตามพื้นที่ วธิ ีนี้จะแบง่ โหลดทต่ี ดิ ตง้ั อยใู่ นพื้นทเ่ี ดยี วกนั เปน็ วงจรเดยี วกนั เช่น ช้ันบน ช้ันลา่ ง ห้องครวั ห้องนอน ห้องรบั แขก และไฟสนาม เปน็ ตน้ 3. แบบผสม เปน็ การนาสองแบบขา้ งตน้ มาผสมกนั โดยทวั่ ไปจ ะแยกตามพ้ืนทก่ี อ่ น เช่น ช้ั นบนกบั ช้ันลา่ งจะแยกวงจรกนั แตร่ ว่ มเตา้ รบั กบั แสงสวา่ งไวด้ ว้ ยกนั และแยกวงจร เครือ่ งใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรอื ทม่ี กี ารใช้งานพิเศษออกตา่ งหาก เช่น เคร่ืองปรบั อากาศ เครอ่ื งทา น้าอนุ่ และเครื่องสบู น้า เปน็ ตน้ วิธกี ารเดินสายภายในแบบต่าง ๆ เมอื่ จดั แบง่ วงจรแลว้ ในขน้ั ตอนการเดนิ สายไปยงั อปุ กรณ์ไฟฟ้าทอ่ี ยใู่ นบรเิ วณตา่ ง ๆ ภายในบา้ นน้ันจะตอ้ งมกี ารจดั วางผงั เสยี กอ่ น ทงั้ นี้เพ่ือให้เกดิ ความสวยงามและสอดคลอ้ งกบั แผนผงั การกอ่ สรา้ ง กลา่ วคอื ตอ้ งเดนิ สายให้มรี ะยะทางสน้ั ทส่ี ดุ เพื่อประหยดั คา่ ใช้จา่ ยใน การตดิ ตง้ั และช่วยลดโหลดการเดนิ ทางของกระแสไฟฟ้าอกี ดว้ ย การเดนิ สายไฟฟ้าเพ่ือสง่ กระแสไฟฟ้าไปยงั พื้นทใี่ ช้สอยทตี่ อ้ งการนั้นจะมวี ธิ กี ารปฏิบตั ิ ไดห้ ลายวธิ ี โดยในอาคารหลงั หน่ึง ๆ อาจใช้หลายวธิ ีรวมกนั ไปตามความเ หมาะสม โดยเฉพาะ ดา้ นความสวยงาม เช่น ใช้ทอ่ เดนิ บนฝา้ เพดานและเดนิ เกาะผนังขา้ งเตา้ รบั หรอื สวติ ช์ดว้ ยการรดั คลปิ หรอื ใช้ช่องเดนิ สาย เปน็ ตน้ หลักในการเดินสาย การเดนิ สายไฟฟ้าในอาคารตอ้ งให้ถกู ตอ้ งสวยงาม ไดม้ าตรฐานการ ไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าภูมภิ าคตามทก่ี าหนด เพ่ือความปลอดภัยในการเดนิ สายและตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ไฟฟ้า ควรยดึ หลกั ดงั นี้ - ความปลอดภัย ตอ้ งใช้ขนาดของ สายทถ่ี กู ตอ้ งตามมาตรฐานของการไฟฟ้าฯ รวมทงั้ อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการเดนิ สาย การใช้ฟิวส์ และสวติ ซต์ ดั ตอนให้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม - การประหยดั ตอ้ งกาหนดระยะการเดนิ สายและตาแหน่งอปุ กรณ์ของวงจรได้ ถกู ตอ้ ง ไมเ่ ดนิ สายออ้ มไปมา ซงึ่ ทาให้เปลอื งสาย สามารถทางานไดร้ วดเรว็ - ความสวยงาม ตอ้ งวางตาแหน่งของสายไดเ้ รยี บรอ้ ยไมเ่ กะกะหรอื รงุ รงั ตลอดจนถงึ การวางตาแหน่งเพ่ือตดิ ตงั้ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

32 - ความเหมาะสมกบั ตาแหน่งของอปุ กรณท์ จี่ ะตดิ ตงั้ เปน็ ไปตามความประสงคข์ อง เจา้ ของงานและเปน็ ไปตามกฎของการไฟฟ้าฯ - รู้จกั วางแผนการใช้อปุ กรณไ์ ฟฟ้าในอนาคต ซง่ึ อาจจะมกี ารตดิ ตงั้ อปุ กรณ์เพิ่มเตมิ จงึ ตอ้ งคานวณกระแสไฟฟ้าของสายเมนให้มขี นาดใหญ่กวา่ ทค่ี านวณได้ - สารวจให้ละเอยี ดตงั้ แตจ่ ดุ ทต่ี อ่ ไฟเขา้ อาคาร ซง่ึ เริม่ จากจดุ ทตี่ อ่ จากสายไ ฟฟ้านคร หลวง หรอื การไฟฟ้าสว่ นภูมภิ าคเขา้ อาคารน้ัน ๆ - สารวจเคร่ืองใช้อปุ กรณ์ ตามจานวนห้องหรอื ตาแหน่งทต่ี อ้ งเดนิ สายเขา้ ไปและ ตลอดการวางตาแหน่งเคร่อื งใช้ไฟฟ้าทม่ี อี ยภู่ ายในบา้ น เช่น ตเู้ ยน็ เตารดี วทิ ยุ โทรทศั น์ ฯลฯ - เขยี นแผนผงั การเดนิ สาย อยา่ งละเอยี ดเพื่อประกอบการเดนิ สาย คานวณขนาด สายไฟฟ้า ระยะความยาวของสายทใี่ ช้เดนิ สายจดุ ตา่ ง ๆ จานวนสายไฟฟ้า และประมาณราคา สง่ิ ของทกุ อยา่ งทตี่ ดิ ตงั้ ลักษณะการเดินสายไฟฟา้ แบง่ ได้ 2 วธิ ีคอื การเดนิ สายแบบเปดิ การเดนิ สายแบบปดิ 1. การเดินสายแบบเปดิ หมายถงึ การเดนิ สายไฟโดยใช้ตมุ้ พุกประกบั เขม็ ขดั รดั สาย ไปยงั อปุ กรณต์ า่ ง ๆ โดยทวั่ ไปจะยดึ สายไฟฟ้าเขา้ กบั ฝาหรอื ผนังของอาคารดว้ ยเขม็ ขดั รดั สายทกุ ระยะ 10 – 12 ซม. สายทใ่ี ช้เปน็ สายหมุ้ ยางหรอื ห้มุ โพลไี วนีลคลอไรด์ (PVC) มที งั้ สายคู่ และสาย เดยี่ ว การเดนิ สายดว้ ยเขม็ ขดั รดั สายใช้เฉพาะการเดนิ ภายในอาคาร สว่ นภายนอกอาคารจะถกู แดด และฝนไมค่ วรใช้ การเดนิ สายวธิ ีน้ีนิยมใช้มาก เพราะทาง่ายและราคาถกู ขนาดของสายและชนิด ของสายทใ่ี ช้ เปน็ ไปตามขอ้ บงั คบั ของการไฟฟ้าภูมภิ าคหรอื การไฟฟ้านครหลวง ฉะน้ัน อาคา ร บา้ นเรอื นสว่ นมากจะใช้การเดนิ สายแบบเปดิ ดว้ ยเขม็ ขดั รดั สาย การตีเส้นบนผนังเพอ่ื เดินสาย การเดนิ สายควรตเี สน้ เสยี กอ่ นเพื่อให้เดนิ สายไดต้ รง เชือกตเี สน้ มขี ายตามรา้ นขายอปุ กรณไ์ ฟฟ้าทว่ั ไป ทอ้ งตลาดเรยี กวา่ “บกั เตา้ ” เชือกตเี สน้ จะมว้ น อยใู่ นลกู รอก เมอื่ ดงึ ออกมาจะมฝี นุ่ สแี ดงตดิ มาดว้ ย การตเี สน้ ให้ยดึ ปลายสายเขา้ กบั ตะปู ดงึ เชือก ให้ตงึ แลว้ ใช้มอื ดงึ เชือกไปกระทบกบั ผนังอาคาร กล่องติดสวิตชห์ รอื เต้ารบั ซงึ่ สามารถใช้เปน็ กลอ่ งตอ่ สายกไ็ ด้ การติดตัง้ สวิตชห์ รอื เต้ารบั จะติดตง้ั บนกลอ่ งพลาสตกิ ซงึ่ เปน็ แบบเดยี วกนั สามารถ ตดิ ตงั้ ไดท้ ง้ั สวติ ช์และเตา้ รั บ สายไฟฟา้ ทใี่ ชใ้ นการเดินสาย สายไฟทใ่ี ช้เปน็ ชนิด VAF พีวซี ี คู่ เสน้ ลวดตวั นาทาดว้ ยทองแดง มฉี นวนหุ้ม พีวซี ี 2 ชั้น เดนิ เกาะไปตามผนัง มี อายกุ ารใช้งานประมาณ 10 – 15 ปี ทง้ั น้ีขนึ้ อยู่กบั สภาพแวดลอ้ ม

33 รอบ ๆ สายไฟดว้ ย ใช้เดนิ สายสาหรบั งานตดิ ตงั้ ไดท้ ง้ั พื้นทแ่ี ห้งและเปยี ก ทนอณุ หภูมิ 70°C ใช้กบั แรงดนั 300 โวลต์ สาย VAF เข็มขัดรดั สาย เขม็ ขดั รดั สายไฟ ทาดว้ ย แผน่ อลมู เิ นียมบาง ๆ มขี นาดตง้ั แตเ่ บอร์ ¾ - 6 ซงึ่ เปน็ เบอรท์ ่ี ใช้กนั ทวั่ ไป เขม็ ขดั รดั สายไฟมอี ยู่ 2 ดา้ น ดา้ นทหี่ นึ่งมนั เรยี บ สว่ นอกี ดา้ นหนึ่งมรี อยคมเลก็ น้อยไว้ จบั สายไฟไมใ่ ห้เลอ่ื นไปมา ในการรดั สายไฟ เขม็ ขดั 1 ตวั ควรรดั สายไมเ่ กนิ 3 เสน้ ถา้ มากกวา่ น้ีจะ เดนิ ยากและสายจะคดไมส่ วย ในกรณีเลอื กเขม็ ขดั รดั สายไฟตอ้ งมขี นาดเหมาะกบั ความโตของสาย ปกตเิ ขม็ ขดั รดั สายไฟแลว้ ตอ้ งเหลอื ปลายไวส้ าหรบั พับยาวพอสมควร และจะตอ้ งยาว พอทจ่ี ะรดั สายไฟในขณะเลยี้ วโคง้ ได้ เพราะเมอ่ื เลยี้ วโคง้ ขนาดของสายไฟจะใหญ่ขน้ึ เลก็ น้อยถา้ เลอื กเขม็ ขดั สนั้ เกนิ ไปจะทาให้รดั สายยาก ดงั น้ัน ขนาดความยาวของเขม็ ขดั รดั สายไฟควรยาวกวา่ ความโตของสายไฟประมาณ ½ เซนตเิ มตร และรอยพับควรจะอย่ตู รงกลางของสายไฟดว้ ย รปู แสดงขนาดของเข็มขัดรดั สาย การเดินสายไฟด้วยเข็มขัดรดั สาย 1 ปกตแิ ลว้ การเดนิ สายไฟฟ้าดว้ ยเขม็ ขดั รดั สายเรยี กไดว้ า่ เปน็ การเดนิ สายบนผวิ อาคาร ซง่ึ ใช้ กบั สายทงั้ ชนิดแกนเดยี ว และสายแบน (สาย VAF) ทง้ั แบบ 2 แกนและ 3 แกน ใช้เดนิ ภายในอาคาร ทว่ั ไป แต่ ถา้ ตอ้ งการเดนิ นอกอาคารจะยอมให้เฉพาะบรเิ วณ ใตช้ ายคาหรอื กนั สาด 1 http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http:// 203.172.182.81/ep/electrical/tool/hammer1.gif&imgrefurl=http://

34 เครอื่ งมือ – อปุ กรณท์ ตี่ ้องใช้ คอ้ นเดนิ สาย ใช้สาหรบั ตอกตะปู หัวคอ้ นทาดว้ ยเหลก็ ชุบแขง็ หนักประมาณ 100 - 250 กรมั หน้าคอ้ นเปน็ รปู สเ่ี หลย่ี มจตรุ สั ดา้ ม คอ้ นทาดว้ ยไม้ การจบั คอ้ นควรจบั บรเิ วณปลายดา้ มคอ้ น เพ่ือช่วย ให้มแี รงตอกมากขน้ึ นอกจากน้ียงั ใช้กะระยะห่างของเขม็ ขดั รดั สาย โดยใช้ระยะ 1 หัวคอ้ น หรอื บวกเพิ่มอกี เลก็ น้อยประมาณ 1 - 4 เซนตเิ มตรตามตอ้ งการ ตลบั เมตร ใช้วดั ระยะในการตดิ ตง้ั อปุ กรณไ์ ฟฟ้า มคี วามยาว หลาย ขนาดให้เลอื กใช้ แตโ่ ดยทวั่ ไปจะใช้ขนาดยาว 2 เมตร เมอ่ื ดงึ แถบเทปออกมา จะมปี มุ่ สาหรบั ลอ็ คเทปไว้ เมอ่ื คลายปมุ่ ลอ็ ค เทป จะมว้ นกลบั โดยอตั โนมตั ิ การใช้งานห้ามดงึ เทปออกมายาวเกนิ กวา่ ขดี กาหนด มฉิ ะน้ันเทปอาจหลดุ ออก จากตลบั หรอื มว้ นกลบั ไมไ่ ด้ สวา่ นไฟฟ้า ควรเปน็ แบบกระแทกทเ่ี ลอื กปรบั ไดท้ งั้ ใช้เจาะรู วสั ดทุ วั่ ไป (เช่น โลหะ, ไม้, พลาสตกิ ) และเจาะคอนกรตี สวา่ นบาง ชนิดยงั สามารถปรบั ความเรว็ ไดด้ ว้ ย บดิ หลา่ ใช้เจาะรไู มก้ อ่ นทจี่ ะขนั สกรเู กลยี วปลอ่ ยเพ่ือยดึ อปุ กรณไ์ ฟฟ้า ควรใช้บดิ หลา่ เจาะรนู า ให้มขี นาดเลก็ กวา่ ขนาดสกรู ไขควง ทใ่ี ช้ในงานไฟฟ้าดา้ มจบั ตอ้ งหุ้มดว้ ยฉนวนมดิ ชิด มี ทงั้ ไขควงปากแบน และไขควงปากแฉก ควรมไี ขควงวดั ไฟ เพ่ือใช้ ตรวจสอบสายไฟวา่ มไี ฟหรอื ไมแ่ ละยงั ใช้ตรวจไฟรว่ั ของอปุ กรณ์ ไฟฟ้าไดด้ ว้ ย การใช้ไขควงวดั ไฟ ห้ามใช้กบั แร งดนั ทสี่ งู กวา่ คา่ ท่ี ระบบุ นดา้ มไขควง มดี ใช้สาหรบั ปอกฉนวนของสายไฟ การปอกสายไฟดว้ ยมดี ควรปอกเฉียง ๆ คลา้ ยการเหลาดนิ สอทามมุ ไมเ่ กนิ 60 องศา เพ่ือ ไมใ่ ห้คมมดี บาดตวั นาจนขาด คมี รวมหรอื คมี ผสม ใช้ในงานตดั สายไฟ ตดั ลวดเหลก็ ตดั ปลายตะปู จบั ชิ้นงาน

35 คมี ปากจง้ิ จก หรอื คมี ปากยาว ใช้งานหยบิ จบั สงิ่ ของขนาดเลก็ คมี ตดั ใช้ตดั สายไฟทมี่ แี ละไมม่ ฉี นวนหุ้ม คมี ตดั บางชนิดมรี ู เลก็ ๆ สาหรบั ปอก ฉนวนของสายไฟไดด้ ว้ ย เหลก็ สง่ ทาดว้ ยเหลก็ สกดั ปากตดั หรอื เหลก็ เสน้ แบนยาว ประมาณ 7-10 ซม. ใช้ตอกเขม็ ขดั รดั สายกรณเี ดนิ สายชิดมมุ ผนัง เหลก็ นาศนู ย์ ใช้ในการเดนิ สายบนคอนกรตี โดยใช้เหลก็ นา ศนู ยต์ อกคอนกรตี ให้เปน็ หลมุ เลก็ ๆ กอ่ นแลว้ จงึ ตอกตะปยู ดึ เขม็ ขดั รดั สายลงไปจะช่วยให้การตอก ตะปทู าไดง้ ่ายขน้ึ อาจใช้ตะปู ตอกคอนกรตี เจยี ปลายให้เลก็ และแหลมแทนการใช้เหลก็ นาศนู ยไ์ ด้ สกดั ใช้เมอื่ ตอ้ งการสกดั ผนังคอนกรตี เพื่อฝงั กลอ่ งส วติ ซห์ รอื ปลก๊ั เลอ่ื ย อาจจาเปน็ ตอ้ งใช้ในการตดั วสั ดมุ ี 2 แบบคอื เลอื่ ยลนั ดา สาหรบั ตดั ไม้ และเลอื่ ยตดั เหลก็ มลั ตมิ เิ ตอร์ ใช้ในการตรวจวดั แรงดนั ไฟฟ้า ตรวจสอบวงจร และตรวจสภาพ ของอปุ กรณ์ไฟฟ้า ปกั เตา้ ใช้ตแี นวเสน้ กอ่ นตอกตะปยู ดึ เขม็ ขดั รดั สาย ช่วยให้ได้ แนวสาย ทต่ี รงสวยงาม ภายใน ประกอบดว้ ยเสน้ ดา้ ยและสฝี นุ่ เมอ่ื ดงึ เสน้ ดา้ ย ออกมาทาบกบั ผนังหรอื เพดาน ดงึ ดา้ ย แลว้ ดดี กลบั ไป ยงั ผนังกจ็ ะเห็นแนวเสน้ เขม็ ขดั รดั สาย ทาดว้ ยอลมู เิ นียมบาง ๆ มรี ตู รงกลางสาหรบั ตอก ตะปยู ดึ กบั ผนัง ตามมาตรฐานจะระบเุ ปน็ เบอรค์ อื เบอร์ 0, 1, 2, 3, 4, 5 และ 6 เขม็ ขดั รดั สายเบอร์ 0 จะมขี นาดเลก็ ทส่ี ดุ และเบอร์ 6 มขี นาดโตสดุ โดยเบอร์ 3 ขน้ึ ไปจะมรี สู าหรบั ตอกตะปู 2 รู ในการ ยดึ เขม็ ขดั รดั สาย จะใช้ตะปขู นาดเลก็ ยาว 3/8 นิ้ว ตอกยดึ กบั ผนัง

36 การเลือกขนาดสาย1 ให้พจิ ารณาจากกระแสของอปุ กรณน์ ั้น ๆ อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ต่อ 1 หน่วย พนื้ ทห่ี น้าตัดของสายตัวนาทองแดง (ตร.มม) 1. หลอดฟลอู อเรสเซนตห์ รอื หลอดไส้ 1.0 2. สายไฟเขา้ ปลก๊ั 2.5 3. สายไฟเขา้ มอเตอร์ ไมต่ า่ กวา่ 2.5 4. สายไฟเขา้ เคร่อื งปรบั อากาศ ไมต่ ่ากวา่ 4.0 5. สายเมนยอ่ ย ไมต่ ่ากวา่ 2.5 6. สายเมนใหญ่ ไมต่ า่ กวา่ 4.0 การเลือกขนาดเข็มขัดรดั สายให้เหมาะกบั สายไฟฟา้ 1 เบอร์ พนื้ ทห่ี น้าตัดสาย VAF (ตร.มม) จานวนสาย 0 1.0 1 เสน้ 1 1.5 หรอื 2.5 1 เสน้ 2 1.0 หรอื (1.0 และ 1.5) 2 เสน้ ( อยา่ งละ 1เสน้ ) 3 2.5 2 เสน้ 4 2.5 หรอื (1.5 และ 2.5) 3เสน้ (อยา่ งละ1 เสน้ ) 5,6 รดั สายหลายเสน้ ทเ่ี ดนิ เรยี งกนั ตามความเหมาะสม - ข้อควรรใู้ นการเดินสาย 1. สายไฟฟ้าทใ่ี ช้เปน็ สาย VAF 2 แกนและ 3 แกน (สาหรบั ระบบทต่ี ดิ ตงั้ สายดนิ ) 2. ระยะห่างระหวา่ งเขม็ ขดั รดั สาย ถา้ เดนิ บนพื้นไม้ 10 - 12 เซนตเิ มตร บนพ้ืนปนู 8 – 10 เซนตเิ มตร 3. ระยะห่างจากเขม็ ขดั รดั สายกอ่ นถงึ อปุ กรณ์ประมาณ 2.5 - 3 เซนตเิ มตร 4. ระยะของเขม็ ขดั รดั สายช่วงหักฉากวดั จากมมุ ฉากถงึ เขม็ ขดั รดั สาย 2.5 - 3 เซนตเิ มตร 1 http://www.sukhothaitc.ac.th/pakee/images/PAKEE. A2.htm

37 5. การงอสายตอ้ งมรี ศั มคี วามโคง้ ไมน่ ้อยกวา่ 5 เทา่ ของเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางของเปลอื กนอก เพื่อปอ้ งกนั เปลอื กนอกของสายชารดุ 6. เมอื่ รดั สายแลว้ หัวเขม็ ขดั รดั สายควรอยูก่ ง่ึ กลางสายเพื่อความสวยงาม การรดั เข็มขัดรดั สายกบั สายไฟฟ้า 7. กอ่ นตอกตะปู ควรหันหัวเขม็ ขดั รดั สายออกจากผนัง 8. การตอกตะปยู ดึ เขม็ ขดั รั ดสายทช่ี ิดมมุ ควรใช้เหลก็ สง่ ช่วย 9. สายทเ่ี ดนิ เขา้ อปุ กรณห์ รอื กลอ่ งตอ่ สายควรเผอื่ ปลายไวป้ ระมาณ 10 - 15 เซนตเิ มตร และให้ฉนวนชั้นนอกเลยเขา้ ไปในกลอ่ ง ประมาณ 1 เซนตเิ มตร 10. สายสดี าใช้เปน็ สายมไี ฟ (Line) สายสเี ทาเปน็ สายนิวทรลั 11. การคลส่ี ายให้หมนุ ทลี ะรอบ ไมค่ วรดงึ ออกจากขดเพราะสายจะบดิ งอ ยากในการรดี สายให้ตรง 12. ควรตอกตะปยู ดึ เขม็ ขดั รดั สายให้เสรจ็ กอ่ น แลว้ จงึ เดนิ สายไฟทหี ลงั 13. การใสต่ ะปลู งเขม็ ขดั รดั สายให้หงายเขม็ ขดั ดา้ นหยาบขน้ึ แลว้ สอดตะปลู งไปแลว้ พับ หัวลงมา การใสต่ ะปกู บั เข็มขัดรดั สายแลว้ พับหัวเข้ามา หมายเหตุ ผนังคอนกรตี มกั มปี ญั หาเร่ืองการตอกตะปยู ดึ คลปิ รดั สาย แกไ้ ขไดด้ ว้ ยการ ตอกนาดว้ ยตะปคู อนกรตี กอ่ น เขม็ ขดั รดั สายไฟจะมรี ะยะห่างประมาณ 8 – 12 เซนตเิ มตร หรอื ห่างน้อยอาจจะดู หนาแน่นเกนิ หากห่างมากสายจะไมแ่ น่นแนบกบั ผนัง และ ถา้ เลอื กเขม็ ขดั สน้ั เกนิ ไปจะทาให้รดั สายยาก ดงั น้ัน ขนาดความยาวของเขม็ ขดั รดั สายไฟควรยาวกวา่ ความโตของเสน้ รอบวงสายไฟ

38 ประมาณ 0.5 เซนตเิ มตร และรอยพับควรจะอยู่ตรงกลางของสายไฟดว้ ย ระยะเขม็ ขดั ในบา้ นหลงั เดยี วกนั ควรมรี ะยะ เขม็ ขดั รดั สายทเี่ ทา่ กนั ซงึ่ ระยะทสี่ วยทสี่ ดุ คอื 10 เซนตเิ มตร ขั้นตอนการเดินสาย 1. กาหนดตาแหน่งของอปุ กรณ์ตามแบบแปลนเช่น สวติ ซ์ , ปลก๊ั , ดวงโคมและแผง จา่ ยไฟ 2. ความสงู ของสวติ ซจ์ ากพ้ืนถงึ กง่ึ กลางแปน้ รองสวติ ซ์ 1.20 เมตร 3. ความสงู ของปลก๊ั จากพื้นถงึ กงึ่ กลางแปน้ รองปลกั๊ 30 เซนตเิ มตร (หรอื ตาแหน่งท่ี น้าทว่ มไมถ่ งึ ) หรอื อย่รู ะดบั เดยี วกบั สวติ ซ์ 4. ความสงู ของแผงจา่ ยไฟจากพื้นถงึ กงึ่ กลางแผงจา่ ย 1.80 เมตร 5. ตแี นวเสน้ โดยใช้ปกั เตา้ 6. ตอกตะปยู ดึ เขม็ ขดั รดั สายไปตามแนวเสน้ 7. เดนิ สายไฟ 8. ตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ 9. ตอ่ วงจร 10. ทดสอบวงจร รปู แสดงการเดนิ สายดว้ ยเข็มขัดรดั สาย

39 การเดินสายหักมมุ 1 การเดนิ สายไฟจาเปน็ ตอ้ งหักมมุ ตามมมุ ของบา้ น ลกั ษณะของ การหักมมุ ของสายไฟเรยี กวา่ โคง้ มมุ ฉาก คอื เราไมส่ ามารถหักมมุ สายไฟเปน็ มมุ ฉาก 90 องศา ได้ เพราะจะทาให้ลวดทองแดงของสายไฟน้ันหักได้ ฉะนั้น ตอ้ งโคง้ สายประมาณ 2.5 เซนตเิ มตร หรอื เขม็ ขดั ห่างมมุ ออกมาประมาณ 2.5 เซนตเิ มตร ถา้ สายหลายเสน้ ควรมเี ขม็ ขดั เสรมิ กลางโคง้ อกี 1 ตวั รปู แสดงการเดนิ สายหักมมุ การรดี สายไฟ การคลส่ี ายไฟออกจากขดควรใช้การหมนุ ออกตามขดของสาย ซง่ึ สายงอเพียงเลก็ น้อยถา้ เราเดนิ สายไฟเพียงระยะ 2 – 3 เมตร กไ็ มต่ อ้ งรดี มากแตโ่ ดยทวั่ ไปการเดนิ สายไฟ 1 จดุ จะใช้สายไฟ ประมาณ 6 เมตร จนถงึ 10 เมตร บางคร้ังจะตอ้ งรอ้ ยสายขา้ มไปตอ่ วงจรทอี่ นื่ ทาให้สายไฟบดิ งอ เรา จงึ ตอ้ งรดี สายให้ตรงกอ่ นใสเ่ ขม็ ขดั รดั สาย วธิ รี ดี ใช้ผา้ พื้นขนาดพอเหมาะชุบน้าให้หมาด รดี สาย ให้ตรงเปน็ ช่วง ๆ เมอื่ สายตรงแลว้ ทาบสายบน เขม็ ขดั รดั สายตวั แรกและรดั สายมาประมาณ 2 – 3 ตวั กอ่ น จากน้ัน ใช้มอื ขา้ งหนึ่งกดพับหัวเขม็ ทร่ี ดั สายตัวแรกให้แน่นหรอื ใช้คอ้ นตใี ห้แน่นแลว้ ใช้ มอื อกี ดา้ นหน่ึงรดี สายไฟไปจนสดุ มอื แล้ วลอ็ คพับเขม็ ขดั ตวั ตอ่ ไปจนสดุ มอื และรดี ตอ่ ไปเปน็ ช่วง ๆ ทาอยา่ งนี้จนสายไฟหมด หากเดนิ ครั้งละหลาย ๆ เสน้ ตอ้ งรดี สายทลี ะเสน้ กอ่ น แลว้ รวมจั บ รดี พรอ้ มกนั สายจะชิดกนั มากขนึ้ ถา้ เรม่ิ รดี สายไฟหลายเสน้ พรอ้ มกนั สายไฟจะไมเ่ รยี บ 1 http://ww2.se-ed.net/ep-poly/p lan1 .htm

40 ภาคผนวก. 1 3. มาตรฐานการตดิ ตง้ั และการเดนิ สายไฟฟ้าในอาคารแบบเปดิ การเดนิ สายไฟฟ้าแบบเปดิ จะตอ้ งเดนิ เขม็ ขดั รดั สายให้ต รง ถกู ตอ้ งสวยงามและได้ มาตรฐานตามทก่ี าหนด เพ่ือความปลอดภัยให้ใช้มาตรฐานของสายไฟฟ้าเดนิ ในอาคาร ดงั น้ี 3.1 สายขนาด 2 x 1.5 ตร.มม. ใช้เดนิ สายอปุ กรณไ์ ฟฟ้า 3.2 สายขนาด 2 x 2.5 ตร.มม. ใช้เดนิ สายเตา้ รบั และใช้เปน็ สายเมนภายในอาคาร 3.3 สาย ขนาด 2 x 2.5 ตร.มม. และ 2 x 6 ตร.มม ใช้เปน็ สายเมนภายในจากแผง ควบคมุ เขา้ ไปยงั จดุ รบั ไฟเขา้ และใช้เปน็ สายเมนจากแผงควบคมุ ไปยงั จดุ ตอ่ สายจดุ แรง ซง่ึ ขนาด กระแสทใ่ี ช้งานจะตอ้ งไมเ่ กนิ กวา่ ทข่ี นาดพิกดั กระแสของสายไฟจะทนได้ 3.4 ระยะห่างเขม็ ขดั รดั สาย ในการเดนิ สายใช้ระยะห่างเขม็ ขดั รดั สายระ หวา่ ง 10–12ซม. 3.5 สขี องสาย 2 แกน สดี าเปน็ สายเฟส (L) สเี ทาหรอื สขี าวเปน็ สายศนู ยห์ รอื นิวทรลั (N) 3.6 การตดิ ตงั้ หลอดไฟการตดิ ตง้ัหลอดไฟฟ้าในห้องนอน ห้องน่ังเลน่ ห้องครวั ห้องน้า ตดิ ตง้ั ไดบ้ นเพดานและผนังบรเิ วณทฝ่ี นสาดไมถ่ งึ 3.7 การตดิ ตงั้ หลอดไฟนอกอาคารจะตอ้ งเปน็ หลอดไฟชนิดกนั น้าได้ 3.8 การตดิ ตงั้ เตา้ รบั ตดิ ระยะทางตรง 12 ฟุต/จดุ และมมุ ห้องระยะ 6 ฟุต/จดุ ไมค่ วร ตดิ ตงั้ เตา้ รบั ใน ห้องน้า 3.9 อปุ กรณไ์ ฟฟ้าทใี่ ช้เช่นดวงโคม บลั ลาสต์ สตารท์ เตอร์ สวติ ช์เตา้ รบั และสายไฟฟ้า ชนิดตวั นาทองแดงหุ้มฉนวนโพลไี วนี ลครอไรด์ หรอื พีวซี ี ให้ใช้ผลติ ภัณฑ์ซง่ึ กระทรวง อตุ สาหกรรมรบั รองคณุ ภาพ 3.10 เตา้ รบั สวติ ช์และแผงสวติ ช์ให้ตดิ ตง้ั ในตาแหน่งทป่ี ลอดภัย เช่น สงู พ้นมอื เดก็ หรอื ห่างจากสถานทท่ี อี่ าจเกดิ อนั ตรายหรอื น้าทว่ มถงึ ได้ 3.11 สายเมนตน้ ทางตอ้ งมขี นาดไมเ่ ลก็ กวา่ 4 ตารางมลิ ลเิ มตร เมอ่ื อปุ กรณ์ไฟฟ้าท่ี ตดิ ตงั้ ไวร้ วมกนั แลว้ ไมเ่ กนิ 14 แอมป์ หากเกนิ กวา่ 14 แอมป์ สายไฟฟ้าทใี่ ช้ตอ้ งมขี นาดใหญ่ขนึ้ โดยสอบถามไดจ้ ากการไฟฟ้าฯ ในทอ้ งถน่ิ 3.12 สายไฟฟ้าทเ่ี ดนิ ไปยงั เตา้ รบั ทใ่ี ช้กระแสไฟฟ้าไมเ่ กนิ 8 แอมป์ ตอ้ งมขี นาดไม่ เลก็ กวา่ 1.5 ตารางมลิ ลเิ มตร หากเตา้ รบั ใช้กระแสไฟฟ้าเกนิ กวา่ 8 แอมป์ สายทจ่ี ะใช้จะตอ้ งมขี นาด ใหญ่ขนึ้ 1 http://www.geo cit ies.com/phaitoon 2501/lesson 5/line .htm

41 3.13 สายไฟฟ้าทใ่ี ช้เดนิ ไปยงั ดวงโคม สวติ ซ์ ตอ้ งมี ขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 0.5 ตาราง มลิ ลเิ มตร (สายไฟฟ้าขนาด 0.5 ตารางมลิ ลเิ มตร ใช้เดนิ เขา้ ดวงโคมไดเ้ พียง 1 จดุ ทมี หี ลอดไฟไม่ เกนิ 1 หลอด) 3.14 การตดิ ตงั้ ดวงโคมหรอื เตา้ รบั หากรวมกนั แลว้ ไมเ่ กนิ 10 จดุ โดยทแี่ ตล่ ะจดุ ใช้ กระแสไฟฟ้าไมเ่ กนิ 8 แอมป์ ตอ้ งแบง่ วงจรตดิ ตงั้ ออกเปน็ วงจรยอ่ ยสว่ นวงจรทใี่ ช้เตา้ รบั ซงึ่ ใช้ กระแสไฟฟ้าเกนิ กวา่ 8 แอมป์ ตอ้ งแยกเปน็ วงจรยอ่ ยออกตา่ งหากจากวงจรแสงสวา่ งดว้ ย และตอ้ ง ไมเ่ กนิ 10 จดุ ตอ่ วงจรเช่นเดยี วกนั 3.15 สายเมนของทกุ วงจรยอ่ ยตอ้ งเดนิ มารวมกนั ทแี่ ผงสวติ ซแ์ ตล่ ะแผง ซงึ่ ตดิ ตง้ั ไว้ บรเิ วณทสี่ ะดวก ในการปฏิบตั งิ าน 3.16 วงจรยอ่ ยทกุ วงจรตอ้ งมเี ครอื่ งตดั กระแสไฟฟ้าเพื่อปอ้ งกนั อนั ตราย ซง่ึ อาจเกดิ จากกระแสไฟฟ้าลดั วงจรหรอื ใช้ไฟฟ้าเกนิ ขนาด เช่น สวติ ช์ตดั ตอนพรอ้ มฟิวสห์ รอื สวติ ช์ตดั ตอน อตั โนมตั ทิ เ่ี หมาะสม 3.17 ฟิวส์ หรอื สวติ ซต์ ดั ตอนอตั โนมตั ทิ ใี่ ช้ปอ้ งกนั วงจรใดวงจรหน่ึง ตอ้ งมขี นาดไม่ เกนิ กระแสไฟฟ้าสงู สดุ ทย่ี อมให้ใช้สาหรบั สายขนาดเลก็ ทส่ี ดุ ทตี่ อ่ จากอปุ กรณ์ปอ้ งกนั ของวงจรน้ัน 1 http://www.geocities.com/phaitoon2501/lesson5/line.htm การเดินสายแบบปดิ คอื การเดนิ สายทซ่ี อ่ นสายมดิ ชิดไมเ่ ห็นสาย ใช้สาหรบั เดนิ บน เพดานสาหรบั อาคารไมห้ รอื ตกึ และเดนิ ในทอ่ โลหะสาหรบั โรงงานอตุ สาหกรรม การเดนิ สายไฟ โดยใช้วธิ ีรอ้ ยสายไฟใสใ่ นทอ่ ฝงั ในอาคารเพื่อความสะดวกและความสวยงามของสถานท่ี ทอ่ ที่ นามาใช้มี หลายชนิด ไดแ้ ก่ ทอ่ โลหะหนา (rigid steel conduit) ทอ่ โลหะบาง (electrical metallic tube) และทอ่ โลหะออ่ น (flexible metal conduit) การเดนิ สายไฟฟ้าในทอ่ โลหะทกุ หัวตอ่ ตอ้ งใช้กลอ่ งตอ่ สาย สวติ ซห์ รอื เตา้ เสยี บตอ้ งใช้แบบมฝี าปดิ อยา่ งดที ส่ี ดุ เพ่ือปอ้ งกนั ประกายไฟฟ้า การเดินสายด้วยทอ่ พวี ิซี เปน็ วธิ กี ารเดนิ สายทสี่ ะดวกรวดเรว็ และเปน็ วธิ ที ดี่ วี ธิ หี น่ึง ทอ่ พีวซี สี าหรบั เดนิ สายไฟจะ เปน็ สเี หลอื ง สาหรบั อปุ กรณ์ประกอบ เช่น อปุ กรณ์ตอ่ ทอ่ วธิ ีการตอ่ จะเหมอื นกบั ทอ่ น้า ในการ เดนิ เขา้ มมุ จะใช้ทอ่ โคง้ เพื่อให้รอ้ ยสายไดง้ ่ายขน้ึ ห้ามใช้ขอ้ งอพีวซี ที ใ่ี ช้สาหรบั ทอ่ น้า สายทใี่ ช้ควร เปน็ สายเดยี่ วชนิด IV หรอื THW การเดนิ สายดว้ ยทอ่ พีวซี นี ิยมเดนิ บนฝา้ เพดานหรอื ฝงั ในผนัง ขนาดทอ่ ทใ่ี ช้คอื ½ และ ¾ นิ้ว ระหวา่ งกลอ่ งตอ่ สายห้ามเลยี้ วฉากเกนิ 360 องศา เพราะจะทาให้ลากสายไมไ่ ด้

42 เทคนิคการเดินสายด้วยทอ่ ทอ่ พวี ีซี การเดินสายด้วยทอ่ ระหว่างกล่องต่อสาย (ห้ามโคง้ เกนิ 4 โคง้ ) การต่อแยกสาย กลอ่ งตอ่ สายน้ีใช้สาหรบั ตอ่ สายหรอื เปน็ จดุ ดงึ สายกไ็ ด้ (การเดนิ เลย้ี ว ฉากดว้ ยกลอ่ งตอ่ สายน้ีไมน่ ับเปน็ 1 โคง้ ) เมอ่ื เดนิ สายเสรจ็ แลว้ ตอ้ งปดิ ฝากลอ่ งสายให้เรยี บรอ้ ย การเดินสายเข้าสู่อปุ กรณไ์ ฟฟา้ เมอื่ เดนิ สายเขา้ ดวงโคมหรอื อปุ กรณไ์ ฟฟ้า จะเดนิ ทอ่ พีวซี พี ักไวท้ กี่ ลอ่ งตอ่ สาย แลว้ จงึ ใช้ทอ่ โลหะออ่ นตอ่ เขา้ อปุ กรณ์ (หรอื ใ ช้สาย NYY ตอ่ โดยไม่ ใช้ทอ่ โลหะออ่ นกไ็ ด)้ การเดินทอ่ โลหะอ่อนเข้ากล่องต่อสาย จะใช้คอนเน็ คเ ตอรท์ ใ่ี ช้กบั ทอ่ โลหะออ่ น โดยเฉพาะ ซง่ึ ขนั ให้แน่นดว้ ยสกรู การเดินสายด้วยชอ่ งเดินสายบนพนื้ ผิว หรอื อาจเรยี กอกี อยา่ งหนึ่งวา่ เดนิ สายในราง เหลก็ หรอื พลาสตกิ ตวั รางมฝี าปดิ ขนาดกวา้ งประมาณ 1.5 เซนตเิ มตรขน้ึ ไป ปจั จบุ นั มชี นิดสเี ทา และสขี าว การตดิ ตงั้ ทาไดง้ ่ายและสะดวก เมอ่ื มกี ารตดิ ตง้ั เพิ่มเตมิ เลก็ ๆ น้อย ๆ ซงึ่ สามารถทาได้ เอง สายไฟฟ้าจะใช้ THW (สายเดยี ว) ซง่ึ ทางานไดส้ ะดวก และมรี าคาถกู กวา่ สาย VAF (ถา้ ไมม่ จี ะ ใช้สาย VAF แทนกไ็ ด)้ การตดิ ตงั้ สามารถทาไดด้ ว้ ยการตดั ช่องเดนิ สายให้ไดค้ วามยาวพอดแี ล้ วเปดิ ฝาครอบออก โดยดงึ ดว้ ยมอื หรอื งัดดว้ ยไขควงปากแบน จะสงั เกตเห็นทตี่ วั รางจะมรี ปู เจาะไว้ แลว้ ใช้สาหรบั ยดึ ดว้ ยสกรู กรณที เี่ ปน็ ผนังคอนกรตี จะต้องเจาะผนังแลว้ ฝงั พุกพลาสตกิ เสยี กอ่ นแลว้ จงึ ยดึ สกรไู ด้ สามารถทาไดโ้ ดยทาเครื่องหมายบนผนังคอนกรตี ให้ตรงกบั รขู องช่องเดนิ สายแลว้ ใช้สวา่ น คอนกรตี เจาะ เมอื่ ตดิ ตงั้ ช่องเดนิ สายแลว้ จงึ ใสส่ ายลงไปแลว้ ปดิ ฝาโดยใช้มอื กดลงไปแรง ๆ โดย ไมต่ อ้ งมอี ปุ กรณ์อนื่ ช่วย ซงึ่ ทาให้สะดวก รวดเรว็ และดสู วยงามกวา่ รดั ดว้ ยคลปิ สาหรบั การตอ่ แยกหรอื การเลยี้ วมมุ จะมอี ปุ กรณ์โดยเฉพาะ แตอ่ าจหาซอื้ ยาก ในทางปฏิบตั จิ งึ อาจทาโดยการตดั รางเปน็ มมุ 45 องศา แลว้ ตอ่ แยกโดยการชนเขา้ ดว้ ยกนั การเดินสายเพมิ่ เติม เมอ่ื ตอ้ งการเดนิ สายเพ่ิมเตมิ เพื่ อตดิ ตง้ั หลอดไฟฟ้าหรอื เตา้ รบั เรา มกั ตอ้ งเดนิ สายเพ่ิมจากระบบสายไฟทมี่ อี ยูเ่ ดมิ เพราะสว่ นทเี่ พ่ิมเตมิ มกั จะใช้ไฟไมม่ ากนัก สายไฟฟ้าและเครอ่ื งปอ้ งกนั กระแสเกนิ ทม่ี อี ยู่เดมิ จะยงั คงใช้ได้ สาหรบั เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทใ่ี ช้กระแสไฟฟ้ามาก เช่น เครือ่ งปรบั อากาศหรอื เครื่องทาน้าอนุ่ ไมเ่ หมาะทจี่ ะตอ่ ไฟจากสายวงจรไฟฟ้าเดมิ เพราะใช้ไฟมากสายไฟฟ้าและเซอรก์ ติ เบรกเกอรอ์ าจ เลก็ เกนิ ไป จงึ ควรเดนิ สายไฟใหม่ โดยเดนิ จากแผงเมน และควรตดิ ตงั้ เซอรก์ ติ เบรกเกอรต์ วั ใหม่ ดว้ ย อยา่ งไรกต็ าม ในการตดิ ตง้ั ครั้งแรกควรเลอื กใช้ค อนซมู เมอรย์ นู ิตทมี่ ชี ่องวา่ งเหลอื สาหรบั การเพ่ิมเตมิ ในอนาคต

43 อุปกรณไ์ ฟฟา้ ภายในบา้ น เมอ่ื เดนิ สายไฟฟ้าจากเมนสวติ ช์บอรด์ ไปยงั พื้นทใ่ี ช้สอย ตา่ ง ๆ ภายในบา้ น โดยการกาหนดจดุ การใช้งานในแตล่ ะพ้ืนทน่ี ั้นกข็ นึ้ อยกู่ บั ความตอ้ งการใช้สอย ซง่ึ กอ่ นตดิ ตงั้ อาจตอ้ งมกี ารสารวจในเบอ้ื งตน้ แตโ่ ดยทวั่ ไปจะกาหนดให้แตล่ ะพื้นทใี่ ช้สอย ประกอบไปดว้ ยอปุ กรณ์ อนั ไดแ้ ก่ สวติ ช์ เตา้ รบั ดวงโคม เปน็ ตน้ เพื่อให้สามารถใช้งานไดต้ าม วตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี งั้ ไว้ สวิตชไ์ ฟฟา้ เปน็ อปุ กรณต์ ดั ตอ่ วงจรไฟฟ้าสาหรบั โหลดขนาดเลก็ เช่น วงจรเครื่องใช้ไฟฟ้า หรอื หลอดแสงสวา่ ง โดยทวั่ ไปนิยมใช้กบั หลอดแสงสวา่ ง ในการใช้งานสายเสน้ ไฟจะตอ่ ผา่ น สวติ ช์ เพื่อควบคมุ การไหลของกระแสไฟฟ้า สวิตช์ 3 ทาง ใช้ทางานควบคมุ ดวงไฟหรอื เคร่อื งใช้ไฟฟ้าจากทค่ี วบคมุ 2 แห่ง สวติ ช์ ทวั่ ไปจะมจี ดุ ตอ่ สายเพียง 2 จดุ ในขณะทสี่ วติ ช์ 3 ทางจะมจี ดุ ตอ่ สาย 3 จดุ โดยมจี ดุ รว่ มอยตู่ รง กลาง เรยี กวา่ “ จดุ ตอ่ รว่ ม ” สว่ นขวั้ ทเ่ี หลอื ใช้ตอ่ สายไฟอกี 2 เสน้ หรอื สายไฟเดนิ โยงระหวา่ ง สวติ ช์ หรอื แสดงดว้ ยตวั เลขสวติ ช์บางรุน่ จะสงั เกตไดง้ ่ายจงึ ไมม่ เี คร่ื องหมายแสดงไว้ ในการใช้ งานกจ็ ะใช้สวติ ช์ 2 ตวั เต้ารบั และเต้าเสียบ เปน็ อปุ กรณ์ทใี่ ช้ตอ่ ไฟฟ้าไปใช้งาน เตา้ รบั จะใช้งานรว่ มกบั เตา้ เสยี บ เตา้ รบั บางครั้งเรยี กวา่ ปลก๊ั ตวั เมยี มรี ปู รา่ งหลายแบบหลายขนาด (แอมแปร์ ) ขนาด ตา่ สดุ ในทอ้ งตลาดคอื 10 แอมแปร์ ใช้กบั เครื่องใช้ไฟฟ้าทว่ั ไปได้ และมที ง้ั ชนิดทมี่ สี ายดนิ และ ไมม่ สี ายดนิ เตา้ รบั ชนิดมสี ายดนิ กจ็ ะตอ้ งเดนิ สายดนิ เขา้ มาตอ่ ดว้ ยเพ่ือให้ไดป้ ระโยชน์อยา่ งแทจ้ รงิ เตา้ รบั ชนิดมสี ายดนิ น้ีอาจเปน็ ชนิดทม่ี ี 2 รหู รอื 3 รกู ไ็ ด้ สว่ นใหญ่ช นิดทม่ี ี 2 รจู ะมรี ปู รา่ งเปน็ หลมุ กลมและมขี วั้ สายดนิ อย่ตู รงขา้ งหลมุ เตา้ เสยี บปกตจิ ะประกอบสาเรจ็ มากบั อปุ กรณ์หรอื เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ซง่ึ จะตอ้ งเลอื กแบบ ให้เหมาะสมกบั เตา้ รบั ดว้ ย มฉิ ะนั้นจะเสยี บไมไ่ ด้ ปลก๊ั หรอื เตา้ รบั

44 หมายเหตุ เตา้ รบั ทวั่ ไปชนิดมสี ายดนิ สามารถใช้กบั เตา้ เสยี บทงั้ ชนิดขากลมและขาแบน แตถ่ า้ นาเตา้ รบั ชนิดขากลมแบบมสี ายดนิ มาเสยี บระบบสายดนิ จะไมต่ อ่ ถงึ กนั แตอ่ ปุ กรณ์ไฟฟ้ายงั สามารถใช้งานได้ หลอดไฟฟา้ ทาหน้าทใี่ ห้แสงสวา่ งมหี ลายชนิดตามความเหมาะสมและความตอ้ งการใช้ งาน หลอดไฟฟ้าทนี่ ิยมใช้งานทวั่ ไปมไี มก่ ชี่ นิด ดงั น้ี หลอดไส้ (INCANDESCENT LAMP) เปน็ หลอดทมี่ กี ารใช้งานมานาน ปจั จบุ นั ยงั นิยมใช้งานอยู่ เนื่องจากมขี อ้ ดที ใี่ ห้แสงมสี เี ปน็ ธรรมชาตริ าคาถกู เปดิ ปบุ๊ ตดิ ปบ๊ั นิยมใช้งานในท่ี ซงึ่ มกี ารเปดิ – ปดิ บอ่ ย ๆ ให้ความรอ้ นสงู ถา้ ตดิ ตงั้ ในห้องปรบั อากาศความรอ้ นจะทาให้เคร่อื ง ทางานมากขน้ึ และสน้ิ เปลอื งคา่ ไฟฟ้า ขนาด ไสข้ องหลอดกาหนดเปน็ วตั ต์ มหี ลายขนาด เช่น5, 10, 25, 40, 60 และ 100 วตั ต์ ขวั้ หลอดไสจ้ ะมขี ว้ั 2 แบบ คอื แบบเขยี้ วและแบบเกลยี ว มคี ณุ สมบตั อิ นื่ ๆ เหมอื นกนั แตไ่ ม่ สามารถสบั เปลย่ี นกนั ไดเ้ นื่องจากขว้ั จะใสก่ นั ไมไ่ ด้ วงจรการใช้งาน ทขี่ ว้ั หลอดไส้จะมจี ดุ ให้ตอ่ ใช้งานอยสู่ องจดุ ในการใช้งานจะตอ่ สาย เสน้ ไฟเขา้ หนึ่งเสน้ และสายนิวทรลั อกี หน่ึงเสน้ แตก่ ารตอ่ ใช้งาน หลอดไสแ้ บบขวั้ เกลยี ว ควรใช้ สายเสน้ ไฟซง่ึ ตอ่ ผา่ นสวติ ช์ตอ่ กบั ขว้ั ทอ่ี ยู่กน้ หลอด สว่ นทเี่ ปน็ เกลยี วของขวั้ หลอดตอ่ กบั สาย นิวทรลั ทงั้ นี้เพื่อลดอนั ตรายในการใช้งาน เช่นเมอื่ ตอ้ งการเปลยี่ นหลอด หลอดฟลูออเรสเซนต์ (RLUORESCENT) คนทว่ั ไปเรยี กวา่ “หลอดนีออน ” แตค่ วาม จรงิ แลว้ เปน็ คนประเภทกบั หลอดนีออน เพราะความหมายของหลอดนีออน คอื หลอดทตี่ ดิ ตาม ปา้ ยโฆษณาตา่ ง ๆ ตวั หลอดแกว้ ดดั เปน็ ตวั หนังสอื หรอื รปู ตา่ ง ๆ หลอดฟลอู อเรสเซนตท์ มี่ ขี นาดเทา่ กบั หลอดไส้ ให้ความสวา่ งมากกวา่ หลอดไส้ ประมาณ 4 – 5 เทา่ หลอดแตล่ ะยห่ี ้อจะกนิ ไฟไมเ่ ทา่ กนั เนื่องจากคา่ กาลงั ไฟฟ้าสญู เสยี ในการบลั ลาสตแ์ ตกตา่ งกนั ตาม คณุ ภาพของแตล่ ะผผู้ ลติ หลอดฟลอู อเรสเซนตท์ วั่ ไปตอ้ งมบี ลั ลาสต์ (BALAST) และสตารท์ เตอร์ (STARTER) ใช้งานรว่ มกนั บลั ลาสต์ ทาหน้าทเี่ พ่ิมแรงดนั เพื่อทาให้สามารถจดุ ตดิ ไดแ้ ละยงั ทาหน้าทจี่ ากดั การไหล ของกระแสไฟผา่ นตวั หลอดอกี ดว้ ย บลั ลาสตท์ ใ่ี ช้ในปจั จบุ นั มี 2 ชนิด คอื ชนิดแกนเหลก็ และ ชนิดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทงั้ สองชนิดใช้งานเหมอื นกนั แตช่ นิดอเิ ลก็ ทรอนิกสจ์ ะมขี อ้ ดกี วา่ ตรงทมี่ ี กาลงั ไฟฟ้าสญู เสยี ตา่ กว่ าชนิ ดแกนเหลก็ และแสงไฟไมก่ ะพรบิ แตป่ จั จบุ นั ราคาสงู กวา่ ชนิด แกนเหลก็

45 สตารท์ เตอร์ ช่วยในการจดุ ตดิ ของหลอดไฟ เมอ่ื เปดิ สวติ ช์ กระแสไฟจะไหลผา่ นไส้ หลอดและไหลผา่ นสตารท์ เตอร์ เมอื่ หลอดตดิ แลว้ กระแสไฟฟ้าจะไมไ่ หลผา่ นสตารท์ เตอร์ จงึ สามารถถอดสตารท์ เตอรอ์ อกไดโ้ ดยหลอดไมด่ บั แตถ่ า้ ปดิ สวติ ช์แลว้ จะเปดิ อกี ไมไ่ ด้ วงจรใช้งาน การตอ่ ใช้งานทถ่ี กู จะตอ้ งตอ่ สายเสน้ ไฟผา่ นสวติ ช์ ผา่ นไปยงั บลั ลาสต์ และตอ่ ไปยงั ไสห้ ลอด เหตผุ ลเพ่ือความสะดวกและความปลอดภัยในการซอ่ มแซมขอ้ ควรสงั เกตคอื ถา้ ตอ่ สวติ ช์ในสายนิวทรลั แทนทจี่ ะเปน็ สายเสน้ ไฟ บางครง้ั จะพบวา่ เมอื่ ปดิ สวติ ช์แลว้ หลอดอาจ เรอื งแสงได้ ซงึ่ จะเห็นไดช้ ัดในเวลากลางคนื ทม่ี อื สนิท แสงสขี องหลอด สมี อี ทิ ธิพลตอ่ ความรู้สกึ และอารมณ์ของมนุษย์ แสงทสี่ อ่ งกระทบวตั ถุ สามารถทาให้สขี องวตั ถเุ ปลย่ี นได้ ถา้ เลอื กสไี ดถ้ กู ตอ้ งจะทาให้มองสขี องวตั ถไุ มผ่ ดิ เพ้ียน และยงั ช่วยเพ่ิมบรรยากาศในการทางานไดด้ ว้ ย หลอดฟลอู อเรสเซนตจ์ งึ มแี สงสตี า่ ง ๆ หลายสเี พื่อให้ เลอื กใช้ตรงกบั ตอ้ งการของงาน แสงทเี่ รยี กวา่ เดยไ์ ลท์ (DAY LIGHT) เปน็ แสงทม่ี สี ใี กลเ้ คยี งกั บสขี องแสงแดด ทาให้ การมองเห็นวตั ถทุ ส่ี อ่ งดว้ ยแสงเดยไ์ ลทเ์ หมอื นกบั ทมี่ องตอนกลางวนั ในบางประเทศทไี่ มค่ อ่ ยมี แสงแดดจะนิยมใช้หลอดชนิดน้ีเพ่ือให้ความรู้สกึ วา่ มแี สงแดด หลอดวอรม์ ไวท์ (WARM WHITE) สขี องแสงจะออกไปทางแดงปนเหลอื งให้ความรสู้ กึ อบอนุ่ ในประเทศหนาวนิยมใช้สนี ี้ใน บางสถานท่ี เช่น ห้องน่ังเลน่ เพื่อให้ความร้สู กึ อบอนุ่ ช่วยให้ลดความรู้สกึ หนาวไดบ้ า้ ง วตั ถทุ ส่ี อ่ งดว้ ยแสงสนี ี้จะมสี เี พ้ียนไปบา้ ง หลอดคลู ไวท์ (COOL WHITE) สขี องแสงอย่รู ะหวา่ งหลอดเดยไ์ ลทก์ บั หลอดวอรม์ ไวท์ ให้สที ค่ี อ่ นขา้ งเปน็ ธรรมชาติ นิยมใช้งานทว่ั ไป เหมาะทจ่ี ะใช้ในสถานทท่ี างานตา่ ง ๆ และ ในห้างสรรพสนิ คา้ หลอดแบลค๊ ไลท์ (BLACK LIGHT) เปน็ หลอดทม่ี หี ลอดเปน็ แกว้ สดี า ให้แสงทตี่ า มองไมเ่ ห็น แตเ่ มอื่ ไปกระทบกบั วตั ถสุ ขี าวจะสะทอ้ นแสงนวลสวย งามนิยมใช้ตามรา้ นอาหาร ภัตตาคาร และสถานทท่ี ม่ี กี ารแสดงในเวลากลางคนื หลอดชนิดน้ีจะแผร่ งั สไี วโอเลตในปรมิ าณสงู ซง่ึ เปน็ อนั ตรายตอ่ สายตาและผวิ หนัง จงึ ไมค่ วรใช้เปน็ เวลานาน ๆ หลอดคอมแพค็ ทฟ์ ลูออเรสเซนต์ เปน็ หลอดฟูลออเรสเซนตช์ นิดทไี่ ดพ้ ัฒนาดา้ น ประสทิ ธภิ าพและรปู รา่ งไปจากหลอดฟูลออเรสเซนตท์ วั่ ไป ปจั จบุ นั มรี ปู ทรงหลายแบบ (เราจะ เรยี กตดิ ปากกนั วา่ หลอดตะเกยี บ) หลอดคอมแพ็คท์ สว่ นใหญ่มขี วั้ เปน็ แบบเกลยี ว สามารถใช้กบั ขว้ั เกลยี วของหลอดไสไ้ ด้ จงึ สะดวกในการใช้งาน

46 หลอดคอมแพ็คทฟ์ ลอู อเรสเซนต์ หรอื หลอดตะเกยี บ http//variety.teenee.com/science/img1/21652.jpg : www.selectcon.com/images/vc_55.jpg การแก้ไขข้อขัดข้องเบอื้ งต้นของไฟฟา้ เมอ่ื มเี หตกุ ารณ์ทเ่ี กย่ี วกบั การขดั ขอ้ งของกระแสไฟฟ้าเกดิ ขน้ึ ไมว่ า่ จะดว้ ยเหตขุ ดั ขอ้ ง อนั ใดกต็ าม สงิ่ สาคญั อนั ดบั แรก คอื การมสี ติ ไมต่ น่ื เตน้ ตกใจจนเกนิ ไป เพราะอาจทาให้บคุ คล ทอี่ ย่รู อบขา้ งเกดิ การแตกตนื่ และพาให้สถานการณ์ตา่ ง ๆ ดสู บั สนวนุ่ วาย จดั เตรยี มไฟฉายหรอื เทยี นไขไวใ้ นทท่ี จี่ ะสามารถหยบิ ใช้ไดส้ ะดวก เผอ่ื ไวใ้ นกรณีทไ่ี ฟดบั ตอนกลางคนื เมอื่ เกดิ เหตคุ วรปลดวงจรทเ่ี มนสวติ ช์บอรด์ กอ่ นเปน็ อนั ดบั แรก จากน้ันให้ตรวจดู สาเหตุ สถานทเ่ี กดิ ความรนุ แรง หากมปี ระกายไฟทจี่ ะกอ่ ให้เกดิ อคั คภี ัย ให้เตรยี มอปุ กรณด์ บั เพลงิ ให้พรอ้ ม การดับเพลิงทเ่ี กดิ จากไฟฟา้ ต้องถังดับเพลิงทใี่ ชด้ ับไฟทเี่ กดิ จากไฟฟา้ โดยเฉพาะ อย่าใช้ น้าเปน็ อนั ขาด เพราะน้าเปน็ สอื่ ไฟฟ้า ยกเวน้ ในกรณที ปี่ ลดวงจรไฟฟ้าแลว้ สามารถใช้น้าดบั ได้ ถงั ดบั เพลงิ จะมรี ปู รา่ งเหมอื นถงั ดบั เพลงิ ทวั่ ไป แตจ่ ะมเี ครื่องหมายระบวุ า่ ใช้ดบั ไฟจาก ไฟฟ้าได้ โดยทข่ี า้ งถงั จะระบเุ ปน็ ตวั อกั ษร “C” (ชนิด A ใช้กบั เช้ือเพลงิ ทว่ั ไป ชนิด B ใช้กบั ไฟ ทเี่ กดิ จากของเหลว เช่น น้ามนั ) ถงั ดบั เพลงิ บางรนุ่ สามารถดบั ไฟทเ่ี กดิ จากเช้ือเพลงิ ไดท้ ง้ั ชนิด A , B และ C ซง่ึ จะระบไุ วบ้ นถงั ดบั เพลงิ เช่นกนั ในกรณีทไี่ มห่ นักหนาอะไรนัก เช่น เมอ่ื เปดิ สวติ ช์แลว้ ไฟไมต่ ดิ หรอื เสยี บปลก๊ั ไฟ (เตา้ เสยี บ) แลว้ เครอื่ งใช้ไฟฟ้าใช้งานไมไ่ ด้ เปน็ ตน้ กใ็ ห้เปดิ ตรวจสอบในเบอื้ งตน้ และถา้ พบวา่ ไมเ่ สยี หายมากนัก สามารถซอ่ มไดเ้ อง (ถา้ มคี วามร)ู้ กค็ วรทา เพราะจะประหยดั ทงั้ เงินและเวลา

47 เครอื่ งมอื ชา่ งไฟฟา้ ทคี่ วรมไี ว้ในบา้ น 1 1. ค้อนชา่ งไฟฟา้ ตอกตะปสู าหรบั การเดนิ สายแบบรดั คลปิ หรอื ตดิ ตง้ั กลอ่ งตอ่ สาย คอ้ นเดนิ สายไฟ 2. ไขควงปากแบน (Standard tip Screwdriver) เปน็ ไขควงทใี่ ช้กบั สกรทู มี่ หี ัวเปน็ รอ่ ง ผา่ การใช้ไขควงประเภทนี้จาเปน็ ตอ้ งให้ปากของไขควงกบั รองของสกรเู หมาะสมกนั โดยปากของ ไขควงจะตอ้ งไมใ่ หญ่หรอื เลก็ จนเกนิ ไป 3. ไขควงปากแฉก (Phillips type Screwdriver) ไขควงประเภทนี้จะใช้กบั หัวสกรทู เ่ี ปน็ รอ่ งจบี สแี่ ฉก การใช้ไขควงประเภทนี้จะมลี กั ษณะการใช้เหมอื นกบั ไขควงปากแบน และทส่ี าคญั ก็ คอื จะตอ้ งปลายของไขควงเหมาะสมกบั หัวของสกรมู ากทสี่ ดุ ไขควงปากแบน ปากแฉก 4. คีมชา่ งไฟฟา้ (Lineman’s Pliers) คมี ช่างไฟฟ้าเปน็ คมี ทใี่ ช้ในงาน ตดั สายไฟ ตอ่ สายไฟ ตดิ ตงั้ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าตลอดจนงานซอ่ มและบารงุ รกั ษาอปุ กรณ์ทางไฟฟ้าประเภทตา่ ง ๆ คมี ชา่ งไฟฟ้า 1 www.tarad.com/.../spd_20070919191125_b.jpg

48 5. คีมตัดสายไฟฟา้ (Diagonal – Cutting Pliers) ปกตคิ มี ประเภทตา่ ง ๆ ทใ่ี ช้ในงาน ไฟฟ้าน้ัน มกั ออกแบบมาเพ่ือให้สามารถตดั สายไฟไดด้ ว้ ย แตจ่ ะเปน็ ในลกั ษณะการตดั สายดา้ นขา้ ง ของคมี (Side Cutting) ซงึ่ อาจจะทาให้การตดั สายเปน็ ไปอยา่ งไมส่ ะดวกใ นทที่ คี่ บั แคบ ดงั นั้น เพ่ือให้งานทเ่ี กย่ี วกบั การตดั สายไฟสะดวกและง่ายขนึ้ จงึ ควรจะใช้คมี ประเภทนี้ตดั สายไฟในกรณี ดงั กลา่ ว และคมี ประเภท นี้สว่ นใหญ่จะออกแบบมาเพ่ือให้สามารถปอกสายไฟไดด้ ว้ ย โดยจะทา เปน็ รใู หญ่เลก็ ตามขนาดของสายไฟ โดยรสู าหรบั ปอกสายไฟน้ีจะอยู่ระหวา่ งปากของคมี คมี ตดั สายไฟฟ้า 6. คีมปากยาว (Long – nose Pliers) คมี ประเภทนี้มกั ใช้กบั งานตอ่ สายไฟหรอื ใช้คกู่ บั คมี ปอกสาย และคมี ปากยาวมกั จะถกู ออกแบบเพ่ือให้สามารถตดั สายไฟไดด้ ว้ ย คมี ปากยาว 7. คีมล็อค (Lever – wrench Pliers) คมี ประเภทนี้เหมาะกบั การถอดประกอบ โดยมาก มกั จะใช้กบั งานทมี่ ปี ญั หาในการถอด เช่น การถอดสกรทู ห่ี ัวสกรเู สยี รปู แลว้ เปน็ ตน้ คมี ลอ็ ค 1 www.tarad.com/.../spd_20070919191125_b.jpg

49 8. คีมเล่ือน (Slip joint Pliers) คมี เลอื่ นเปน็ คมี ทใ่ี ช้สาหรบั จบั ช้ินสว่ นหรอื อปุ กรณ์ ตา่ ง ๆ ทต่ี อ้ งการถอดประกอบ ขอ้ ดขี องคมี ประเภทน้ีคอื คมี เลอื่ นจะสามาร ถปรบั ปากของคมี ให้มี ความพอเหมาะพอดกี บั ช้ินสว่ นน้ัน ๆ ได้ คมี เลอ่ื น 9. คีมถอดแหวนล็อ ก (Retaining Ring Pliers) ใช้มากกบั งานทเ่ี กยี่ วกบั การถอด ประกอบเครือ่ งใช้ไฟฟ้าทม่ี มี อเตอรเ์ ปน็ อปุ กรณ์ประกอบ เพราะเคร่ืองใช้ดงั กลา่ วจะมชี ิ้นสว่ นทตี่ อ้ ง เคลอ่ื นที่ ดงั น้ันเพ่ือให้การเคลอ่ื นทเ่ี ปน็ ไปไดด้ ว้ ยดี โดยไมเ่ ลอ่ื นหรอื หลดุ ออก ซงึ่ กจ็ าเปน็ ตอ้ งมี แหวนลอ็ ค และเพื่อให้การถอดใสส่ ะดวกและรวดเรว็ จงึ ตอ้ งใช้คมี ดงั กลา่ วช่วยถอดและใส่ d คมี ถอดแหวนลอ็ ก 10. ประแจปากตาย (Open – end Wrenches) เปน็ ประแจทอ่ี อกแบบขึ้ นมาเพ่ือถอดและ ใสห่ ัวสกรทู ม่ี ลี กั ษณะเปน็ เหลย่ี มโดยประแจจะมขี นาดตา่ ง ๆ กนั เพ่ือให้เหมาะสมกบั หัวสกรู ประแจปากตาย

50 11. ประแจแหวน (Ring Wrenches) ประแจแหวนเป็นประแจทอี่ อกแบบสาหรบั ถอด และใสน่ อตและสกรทู มี่ ลี กั ษณะเปน็ เหลยี่ มเช่นเดยี วกบั ประแจปากตาย แตป่ ระแจประเภทนี้มขี อ้ ดี กวา่ ประแจปากตายตรงทใี่ นขณะทใี่ ช้ประแจประเภทนี้จบั สกรจู ะเห็นไดว้ า่ ประแจจะมจี ดุ ทส่ี มั ผสั กบั เหลย่ี มของหัวสกรมู ากกวา่ ประแจปากตาย ประแจแหวน 12. ประแจเล่ือน (Adjustable wrenches) ประแจเลอ่ื นเปน็ ประแจทม่ี ลี กั ษณะการใช้เช่น เดยี วกบั ประแจปาก ตาย ตา่ งกนั แตว่ า่ ประแจ เลอ่ื นสามารถ ปรบั ขนาดของปากให้พอดี กบั Nut หัวสกรตู ามความตอ้ งการได้ ประแจเลอื่ น 13. ประแจจบั ทอ่ (Pipe Wrenches) ประแจจบั ทอ่ หรอื ประแจคอม้ า เปน็ ช่ือทเี่ รี ยก ประแจทใ่ี ช้ในงานถอดประกอบทอ่ ประปา สว่ นในงานซอ่ มเคร่อื งใช้ไฟฟ้าบางครง้ั กม็ คี วามจาเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งใช้ เพราะมเี ครอ่ื งใช้ไฟฟ้าบางประเภททจี่ ะตอ้ งประกอบกบั ทอ่ ประปา เช่น เครอื่ งทาน้า รอ้ น และเคร่ืองซกั ผา้ เปน็ ตน้ ประแจจับทอ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook