Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชื่อโครงงานเทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง

ชื่อโครงงานเทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง

Published by priyaphatpatty, 2021-01-21 03:24:42

Description: ชื่อโครงงานเทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง

Search

Read the Text Version

1 1.ชือ่ โครงงาน เทียนหอมสมนุ ไพรไล่ยุง 2.ชอื่ ผูท้ าโครงงาน นักเรยี นระดับช้ันอนุบาล3 โรงเรยี นกมล-เรยี ม สโุ กศล(บ้านผาใต)้ 3.ครทู ป่ี รกึ ษา นางสาวปรยี าภัทร์ ชลสินธ์ุ 4.ระยะเวลาในการจดั ทาโครงงาน วนั ที่4 – 8 พฤศจกิ ายน 2562 5.ทม่ี าของโครงงาน จากการเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ “ป้องกันโรคไข้เลือดออก” ครูจึงสนทนากับเด็กเรื่อง “วิธีการป้องกันโรค ไข้เลือดออก” เราจะมีวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกได้อย่างไรบ้าง เด็กๆบอกว่าพ่อบอกว่าสมุนไพรกันยุงได้ ครูและ เด็กๆสนทนาร่วมกันว่าหากเราสามารถ หาวัตถุดิบจากในชุมชนมาทาเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่สามารถ ไล่ยุงได้ เราจะสามารถใช้อะไรได้บ้างครูจึงให้เด็ก ๆ ไปสอบถามผู้ปกครองแล้วนากลับมาสนทนาร่วมกับเพ่ือนๆ จากคาถามท่ีเด็กสงสัยจึงนามาสู่การทาโครงงานเทียนหอมสมุนไพรไล่ยุงเพื่อส่งเสริมกระบวนทางวิทยาศาสตร์ และส่งเสริมนิสัยช่างสงสัย ช่างสังเกตของเด็ก และการศึกษาเก่ียวกับคาถามท่ีตนเองสงสัย ซึ่งเด็กได้ทาการ ทดลอง สารวจ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ดี ครูจึงเห็นความสาคัญที่จะจัดให้เดก็ ได้เรียนรู้จากการลงมือ ทดลอง เกิดประสบการณ์ตรง ที่จะทาให้เด็กเกิดความรัก ความสนใจศึกษาเกี่ยวกับโครงงานเทียนหอมสมุนไพร ไลย่ งุ เรยี นรูข้ ยายไปสู่เร่อื งอน่ื ๆ ได้ จงึ จัดทาโครงงานน้ี ข้นั ท่ี 1 ตง้ั คาถามเกี่ยวกับปรากฏการณธ์ รรมชาติ (วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562) 1.ครูสนทนาและใช้คาถามกระตนุ้ ใหเ้ ด็กแสดงความคดิ เหน็ ดังน้ี ครู : เดก็ ๆคิดวา่ เราสามารถปอ้ งกนั โรคไข้เลอื ดออกไดอ้ ย่างไรบา้ งคะ ลินรดา : ทายากันยงุ คะ่ กฤตเมต : กางมุ้งครบั โสภา : จุดยากนั ยุงคะ่ ยุงจะเหม็น ฐติ นิ นั ท์ : พอ่ บอกวา่ สมุนไพรสามารถไลย่ งุ ไดค้ ่ะ อรพิมล : หนเู คยเหน็ พ่อเผาหญ้าแห้งไลย่ ุงใหค้ วายค่ะ ครู : ทาไมคณุ พ่อถงึ เผาหญ้าแหง้ ไล่ยงุ คะ อรพิมล : ยงุ จะเหม็นแลว้ กบ็ นิ หนไี ปคะ่

2 ครู : วนั นีค้ รจู ะใหก้ ารบา้ นให้เด็กๆไปสอบถามผปู้ กครองว่าในชมุ ชนของเรามีพชื สมุนไพรอะไรบา้ ง ท่ีสามารถไล่ยงุ ได้ ครู : เดก็ ๆ มีคาถามอะไรอกี ไหมท่อี ยากรู้ เด็กตอบไมม่ ี ครจู ึงสนทนาร่วมกับเด็ก และสรปุ คาถาม ทเ่ี ด็กอยากรูด้ งั น้ี สรุปคาถามทเ่ี ดก็ อยากรู้ดังน้ี คาถามที่ 1. ในชมุ ชนของเรามีพืชสมุนไพรชนดิ ใดบา้ งทสี่ ามารถไล่ยงุ ได้ คาถามที่ 2. พืชสมุนไพรสามารถนามาทาอะไรได้อกี บ้าง คาถามที่ 3. เราสามารถนาพืชสมนุ ไพรมาไล่ยงุ ไดโ้ ดยวธิ ใี ดบา้ ง คาถามที่ 4. นอกจากไล่ยงุ แล้วเราสามารถนาพืชเหล่านม้ี าทาอะไรไดบ้ า้ ง คาถามที่ 5. พืชสมนุ ไพรเหล่าน้มี อี นั ตรายหรือไม่ ครสู นทนากับเดก็ ๆ เพอ่ื เลือกคาถามเรื่องพืชสมุนไพรที่เดก็ อยากรแู้ ละอยากทดลอง จากคาถามทีเ่ ด็กอยากรู้ 3 คาถาม ครแู ละเด็กสนทนาร่วมกัน เพอื่ ใหเ้ ด็กเลือกคาถามท่ีจะนามาหาคาตอบที่ เด็กๆ อยากรู้ โดยเลอื กคาถามตามลาดับ ดังนี้ คาถามท่ี 1. ในชุมชนของเรามีพชื สมุนไพรชนิดใดบา้ งที่สามารถไล่ยงุ ได้ คาถามที่ 2. พืชสมุนไพรมสี แี ละลักษณะแตกตา่ งกันหรอื ไม่ คาถามที่ 3. เราสามารถนาพืชสมนุ ไพรมาไล่ยุงได้โดยวธิ ใี ดอกี บา้ ง

3 คาถามที่ 1. ในชุมชนของเรามพี ืชสมนุ ไพรชนดิ ใดทไ่ี ลย่ ุงได้บ้าง คาถามที่ 2 พืชสมนุ ไพรสามารถนามาทาอะไรได้บา้ ง ขั้นท่ี 2 รวบรวมความคดิ และขอ้ สันนิษฐาน (วันท่ี 5 พฤศจิกายน 2562) 1.ครูนาพืชสมุนไพรท่ีเด็กๆแต่ละคนนามาจากที่บ้านที่สามารถไล่ยุงในแต่ละชนิดมาให้เด็กสังเกตและ เปรียบเทียบลักษณะของพืชแต่ละชนิดว่ามีความเหมือน ความแตกต่างกันอย่างไร จากน้ันสนทนาแลกเปล่ียน ความคดิ เหน็ และประสบการณเ์ ดมิ ของ ครู : เดก็ ๆช่วยกนั ดสู ิคะว่าพชื สมนุ ไพรทั้ง4ชนดิ น้เี หมอื นหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้างคะ อรพิมล : ไม่เหมือนกันค่ะ ครู : ไม่เหมอื นกันอยา่ งไรคะ สทุ ธชิ ยั : กลิน่ ไมเ่ หมือนกันครับ ครู : แล้วเดก็ ๆรจู้ กั พืชสมุนไพรท้ัง4 ชนดิ นี้ไหมคะมอี ะไรบ้างคะ นักเรยี น : ตะไคร้ มะกรูด โหระพา สาระแหน่ ครู : แลว้ พืชสมนุ ไพรชนดิ ไหนที่เด็กๆเหน็ บอ่ ยและมีเยอะท่ีสุดคะ นักเรยี น : ตะไคร้ ,กรดู อภวิ ิชญ์ : พ่อบอกว่าตะไคร้ไล่ยุงไดค้ รบั ครู : ตะไครส้ ามารถไล่ยงุ ไดอ้ ยา่ งไรคะ อภวิ ชิ ญ์ : เอาไปตากแห้งแล้วกเ็ ผาครับ

4 ครู : เด็กๆคดิ วา่ เรามีวธิ อี ่ืนอีกไหมคะที่สามารถนาเอาตะไคร้มาไล่ยุงได้ ครูจึงพาเด็ก ๆ สืบคน้ จาก Internet You tube และใหเ้ ดก็ ออกมาเลา่ ประสบการณ์ทีไ่ ด้จากการสบื คน้ ใหเ้ พ่ือนฟัง โสภา : เราสามารถนาสมนุ ไพรมาทาเทียนหอมกไ็ ด้ หนอู ยากทาเทยี นหอมคะ่ ครู : กอ่ นท่ีเราจะนาสมนุ ไพรมาทาเทยี นเพ่อื ไลย่ งุ เราต้องนาสมนุ ไพรมาทาอะไรก่อนคะ ฐิตนิ ันท์ : นามาตม้ ก่อนค่ะ ครู : เขาเรยี กวิธนี วี้ ่าสกัดน้ามันหอมระเหยจากสมนุ ไพรค่ะ สมบูรณ์ : สกัดคืออะไรครบั ครู : การทาให้ไอน้าผ่านพืชสมุนไพรซ่ึงต้องการสกัดท่ีอยู่ในหม้อกลั่น น้ามันระเหยจะถูกสกัด ออกมาพร้อมกับไอน้าและถูกทาให้เยน็ เกบ็ ไว้ในขวด นา้ มนั ระเหยจะแยกตวั ออกจากนา้ ทาใหแ้ ยกออกได้ง่าย เราก็ จะไดน้ ้ามนั หอมระเหย จิระพสั : งัน้ เราก็ตอ้ งสกดั เอานา้ มันจากสมุนไพรกอ่ นใช่ไหมครบั ครู : ถูกต้องแล้วค่ะ กฤตเมธ : ผมอยากทดลองครบั เดก็ ๆหาความรูเ้ พ่ิมเติมจากInternetว่าสามารถนาพชื สมุนไรมาไล่ยุงไดโ้ ดยวธิ ีใดบ้าง

5 คาถามท่ี 3 เราสามารถนาพืชสมนุ ไพรมาไล่ยุงไดโ้ ดยวธิ ีใดอกี บ้าง เด็กๆ ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มูลจาก INTERNET ว่าสามารถนาพืชสมนุ ไรมาไลย่ ุงไดโ้ ดยวธิ ีใดบา้ ง ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏบิ ตั กิ ารสืบเสาะ ( 6 พฤศจิกายน 2562) ชว่ งเช้า หลังจากดูคลิปการทดลองวิทยาศาสตร์ การทาเทียนหอมไล่ยุงและการสกัดน้ามันหอมระเหยจากสมุนไพร ทาให้เด็ก ๆ เกิดความสนใจที่จะทาการ ทดลองด้วยตนเอง คุณครูได้สร้างข้อตกลงกับเดก็ ๆ และแบ่งเด็กเป็นกลุ่ม เพอื่ รับผิดชอบในการเตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ มาใช้ในการทดลองเทียนหอมไลย่ ุง เด็กๆนาตะไคร,้ มะกรูด,เทยี นไขและ อปุ กรณ์ต่างๆมาทาการทดลอง โดยได้รับความร่วมมอื จากผู้ปกครอง ในการช่วยเตรียมให้ครูให้เด็กๆ ทบทวนก่อน ว่าตะไคร้และมะกรูดที่นามามีสรรพคุณอะไรบ้างและการท่ีจะทาเทียนหอมเราต้องทาการสกัดน้ามันหอมระเหย ออกจากสมนุ ไพรกอ่ น ครู : เด็กๆคะก่อนทท่ี าเทียนหอมจากสมนุ ไพรเราต้องทาอะไรกอ่ นคะ โสภา : ตอ้ งสกัดเอาน้ามันกอ่ นคะ่ ครู : ถูกต้องแลว้ ค่ะเราตอ้ งทาการสกัดเอาน้ามนั ออกมาก่อนแลว้ ถงึ จะสามารถนาน้ามนั เหลา่ น้ีไปผสม ทาเทยี นไดค้ ะ่ วธิ ีดาเนนิ งาน 1. ครชู ว่ ยจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ในการทดลองให้พร้อมตอ่ การดาเนินกิจกรรม 2. แนะนาให้เด็กๆ รู้จักวสั ดุ อุปกรณ์ วสั ดอุ ุปกรณ์ 1.ตะไคร้ 5.หมอ้ 9.ถว้ ยเซรามกิ ใบเล็ก 2.มะกรดู 6.เตาแก๊ส 3.มีด 7.น้าแขง็ 4.เขียง 8.น้า

6 วัสดุอปุ กรณท์ ีเ่ ดก็ เตรยี มมาทาการทดลอง ปฏิบัตกิ ารทดลองสกัดนา้ มันหอมระเหย 1.ครูชว่ ยหน่ั ตะไครแ้ ละมะกรูดให้มชี น้ิ ขนาดเล็ก

7 2.เดก็ ๆช่วยกนั นาเอาสมนุ ไพรใส่ในหมอ้ ที่เตรียมไว้ 3.เด็กๆนาถ้วยเซรามกิ ใบเล็กวางทับบนตวั สมนุ ไพร

8 4.ต้มสมุนไพรใหร้ ้อนแลว้ สังเกตนา้ แขง็ บนฝาหม้อให้ละลาย 5.น้ามันจากสมนุ ไพรจะออกมาอยู่ในถ้วยท่รี องไว้ หลังจากท่ไี ด้น้ามันหอมระเหยจากการสกดั ครแู ละเดก็ สนทนารว่ มกนั โดยครใู ช้คาถามกระตนุ้ ครู : มีใครสงั เกตไหมคะวา่ มกี ารเปลีย่ นแปลงอะไรเกิดข้นึ กบั สมนุ ไพรในหม้อบ้างคะ อรพมิ ล : มีน้าอยใู่ นถ้วยเลก็ ๆค่ะ กฤตเมต : มกี ลิน่ หอมออกมาจากหม้อด้วยครบั ลินรดา : สมุนไพรกเ็ หย่ี วด้วยค่ะ ครู : รอให้นา้ มนั หอมระเหยเหน็ เย็นเราชว่ ยกนั เก็บนา้ มนั เหลา่ น้ใี ส่ในขวดแกว้ ไวน้ ะคะ

9 6.เดก็ ๆช่วยกันนาเอานา้ มนั หอมระเหยที่สกดั ไดใ้ ส่ลงในขวด ปฏิบัติการทดลองเทยี นสมนุ ไพรไล่ยุง(วนั ที่ 6พฤศจิกายน 2562) ชว่ งบ่าย วิธดี าเนนิ งาน 1. ครูช่วยจดั เตรยี มวัสดแุ ละอุปกรณ์ในการทดลองให้พร้อมตอ่ การดาเนนิ กจิ กรรม 2. แนะนาให้เด็กๆ รจู้ กั วสั ดุ อุปกรณ์ วัสดุอุปกรณ์ 1.เทยี นขผ้ี ง้ึ สีขาว/สีเหลอื ง 5.เขียง 9.เตาแกส๊ 2.นา้ มนั หอมระเหยที่สกัดได้ 6.สเี ทียน 10.ช้อน 3.แก้วใสใบเลก็ 7.ใสเ้ ทยี น 4.มีด 8.หม้อ

10 วสั ดอุ ุปกรณท์ เ่ี ดก็ ๆเตรียมนามาทดลอง ปฏิบัติการทดลองเทียนสมนุ ไพรไลย่ งุ 1.เดก็ ๆชว่ ยกันทาใหเ้ ทียนไขเป็นช้ินเลก็ ๆ 2.เด็กๆช่วยกนั หยบิ เทียนไขและสีเทยี นใสล่ งไปในหม้อ

11 3.ครูขออาสาสมัครมาช่วยคนเทยี นใหล้ ะลายแล้วใหเ้ ดก็ ๆคน อนื่ ๆชว่ ยกนั สงั เกตปฏิกิริยาของเทียนวา่ เป็นอยา่ งไร 4.พอเทียนเริม่ ละลายครขู ออาสาสมัครช่วยตกั เทียนใส่แก้ว แลว้ ช่วยกนั สังเกตกุ ารเปลี่ยนแปลงของเทยี น

12 ขน้ั ท่ี 4 สงั เกตและบรรยาย (วนั ท่ี 7 พฤศจกิ ายน 2562) ครแู ละเด็กๆ รว่ มกนั สนทนาทบทวนใหเ้ ด็กๆ บรรยายวิธีการทาเทยี นหอมสมนุ ไพรไล่ยุงอีกคร้ัง หลงั จากท่ไี ดท้ ดลองทาเทยี นสมนุ ไพรไล่ยุง เด็กๆสังเกตดเู ทยี น ครูชกั ชวนให้เด็กๆสนทนาโดยใช้คาถามกระต้นุ ครู : เด็กๆดูสิคะวันนี้เทียนสมนุ ไพรไล่ยุงของเรามลี ักษณะเป็นอย่างไรบา้ งคะ โสภา : วันนี้เทียนมีลกั ษณะแขง็ ๆค่ะ อภิวิชญ์ : เม่ือวานยังไมแ่ ขง็ แบบนี้เลย โสภา : มกี ลนิ่ หอมสมุนไพรดว้ ยคะ่

13 เด็กๆจุดไฟแล้วสังเกตการณ์เปลีย่ นแปลงของเทียน ครแู ละเดก็ รว่ มกนั สนทนา โดยครใู ช้คาถามกระตุ้น ครู : เด็กๆดูสคิ ะมีอะไรเกดิ ขึ้นกับเทียนในแก้วบา้ ง นิวฒั นช์ ัย : เทียนเริ่มละลายแล้วครับ มณีพรรณ : มกี ลิน่ หอมลอยออกมาดว้ ยค่ะ ธนภทั ร์ : มคี วนั สีดาๆลอยออกมาด้วยครบั

14 ข้นั ท่ี 5 บนั ทกึ ข้อมูล ( วนั ที 8 พฤศจิกายน 2562 ) 1. ครแู จกกระดาษใบงานสาหรับบันทึกผลผลการทดลอง 2. ครแู นะนาวิธกี ารบนั ทกึ ผลการทดลอง 3. เด็กๆแตล่ ะคนบันทกึ ผลการทดลองลงในแบบบนั ทึกท่ีเตรยี มไว้ และเดก็ ๆ แตล่ ะคนเตรยี ม 4.อาสาสมัครออกมานาเสนอผลการทดลอง โดยเลา่ ผลการทดลองใหเ้ พอื่ นๆฟัง

15 ขนั้ ท่ี 6 สรปุ และอภิปรายผล ครแู ละเด็กสนทนาถงึ คาถามท่เี ด็กอยากรู้ “เราสามารถนาพชื สมนุ ไพรมาไลย่ ุงได้โดยวธิ ีใดบ้าง” โดยวธิ ีออกแบบการทดลองของเดก็ ๆ เด็กๆรว่ มกันทบทวนโดยให้อาสาสมัครออกมาเลา่ วิธีการทดลองและบอกผล การทดลองและครสู นทนากับเด็กๆว่า ครู : เดก็ ๆไดเ้ รยี นรวู้ ิธีการทาเทียนสมุนไพรไลย่ ุงอย่างไรคะ เดก็ ๆช่วยกนั อธบิ ายว่า : นาสมนุ ไพรไปสกัดนา้ มันก่อนโดยหนั่ ใหเ้ ปน็ ช้ินเลก็ ๆใส่ลงในหมอ้ แลว้ ใสน่ ้าลงไป นา ถว้ ยเลก็ ๆไปรองใน หมอ้ แลว้ ปิดฝาหมอ้ นาน้าแขง็ วางบนฝาหม้อ แล้วรอให้นา้ เดอื ด สักพักแลว้ เปดิ ฝาหม้อออกจะมนี า้ มนั หอมระเหยออกมาในถ้วยรอง รอใหเ้ ยน็ แลว้ เกบ็ ใสข่ วดแกว้ ไว้ โสภา : แล้วเราก็นาน้ามันหอมระเหยที่ไดไ้ ปทาเทียนสมนุ ไพรคะ่ ครู : เดก็ ๆมวี ิธกี ารทาเทยี นสมนุ ไพรไลย่ ุงอยา่ งไรคะ เด็กๆชว่ ยกันอธบิ าย : นาเทียนไขท่ไี ดม้ าหัน่ เป็นชน้ิ เล็กๆแล้วนาเทียนไขใสล่ งไปในหม้อ แล้วคนให้เทยี นไข ละลายเติมสีเทยี นลงไปนิดหนอ่ ยเพ่ือให้มีสวยงาม แล้วก็คนไปเร่ือยๆจนสีเทยี น ละลายแล้วหยดนา้ มันหอมระเหยจากสมุนไพรลงไปในหมอ้ แลว้ คนๆแลว้ ก็ปดิ เตารอ สักพกั กท็ กั เทียนใสใ่ นแก้วท่เี ตรยี มไว้ ฐติ นิ นั ท์ : เทยี นมีสีสวยและกลิ่นหอมมากเลยค่ะ

16 ผลการพฒั นาความสามารถของเดก็ ปฐมวยั 1. ผลการพัฒนาความสามารถพ้นื ฐาน 4 ดา้ นตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย 1.1 ดา้ นการเรยี นรู้ - เด็กร้จู กั ต้ังคาถามในสิง่ ทต่ี นเองสงสยั - เด็กไดล้ งมือปฏิบตั ิจริงและทดลองด้วยตนเอง - เด็กสามารถเล่า/บอก วิธีการหาคาตอบของตนเองได้ - เดก็ ได้เรียนรวู้ ิธกี ารข้ันตอนการทาเทียนหอมสมนุ ไพรไลย่ ุง 1.2 ดา้ นภาษา - เด็กบอกรายละเอียดเกยี่ วกับวสั ดุอปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นการทดลองโดยใช้คาพูดของตนเอง - เดก็ มีพฒั นาการทางดา้ นภาษาจากการสนทนาโตต้ อบและแสดงความคิดเห็นร่วมกัน - เดก็ พูด บรรยาย เล่า ข้นั ตอน สงิ่ ทสี่ งั เกตเหน็ จากการทดลอง - เดก็ พูดนาเสนอข้อมลู ที่ไดค้ ้นพบดว้ ยตนเอง 1.3 ด้านสังคม - เดก็ สามารถทางานร่วมกับผู้อ่นื ได้ - เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน - เดก็ เคารพกติกาและปฏิบตั ิตามข้อตกลงของห้องเรียน 1.4 ด้านการเคล่ือนไหว - เด็กเคล่อื นไหวร่างกายในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมได้อย่างคลอ่ งแคล่ว - เด็กหยิบจบั วสั ดุ อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการทดลองได้คล่องแคลว่ กลา้ มเน้อื เล็ก ประสานสัมพนั ธ์ระหวา่ งมือกับตาได้ดี เชน่ การตกั เทยี นในภาชนะ - เดก็ สามารถใช้ประสาทสมั ผสั ในการสังเกต เปรยี บเทียบ จากการมองเหน็ การดมกลนิ่ และสัมผสั ดว้ ยตนเองจนได้ข้อมลู ท่ีชดั เจน

17 2. ผลการพฒั นาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1 ทกั ษะการสังเกต - สังเกตการเปลีย่ นแปลงของพืชสมุนไพรทีน่ ามาทดลอง - สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเทียนก่อนทาการทดลองและหลงั การทดลอง 2.2 ทกั ษะการวัด - เดก็ สามารถวัดและตวง สว่ นผสมต่างๆ ได้ เช่น ตักเทียนใส่ในภาชนะ 2.3 ทักษะการจาแนกประเภท - เปรยี บเทยี บลกั ษณะของกล่ินท่ไี ดจ้ ากการทดลอง - เปรียบเทยี บผลการทดลองของแต่ละกลุ่ม - เปรียบเทียบส่ิงทีค่ าดคะเนกับผลการทดลอง 2.4 ทกั ษะการคานวณ - นับจานวนของพืชสมนุ ไพรท่ีนามาทาการทดลอง 2.5 ทกั ษะการพยากรณห์ รือการคาดคะเนคาตอบ - เด็กสามารถคาดคะเนคาตอบที่ตนเองคิดว่าวสั ดทุ ี่นามาทดลองจะมีการเปลีย่ นแปลง อย่างไรบ้าง 2.6 ทกั ษะการจัดกระทาและสอื่ ความหมายขอ้ มลู - เดก็ สามารถสรปุ ผลส่ิงท่สี งั เกตและทดลองได้ดว้ ยการวาดภาพ ,เลา่ ใหค้ รฟู ัง และนาเสนอข้อมูลหน้าชัน้ เรยี นให้ผู้อนื่ เขา้ ใจได้ 2.7 ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล - เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นหรอื ให้เหตผุ ลของตนเองเพ่ิมเติม โดยอาศยั ความรู้และประสบการณ์เดิมมาช่วย 2.8 ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหวา่ งสเปซกับสเปซและสเปซกบั เวลา - เดก็ บอกได้วา่ เวลากน่ี าทีทจ่ี ะสกัดน้ามันหอมระเหยจากสมุนไพร - เด็กบอกเวลาไดว้ ่าใชเ้ วลากน่ี าทที ่จี ะทาให้เทยี นแข็งตัว

18


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook