Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

Published by 21295, 2020-10-26 08:14:19

Description: รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์l

Search

Read the Text Version

รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง การศึกษาการใช้ใบฝรั่งดูดซับกลนิ่ โดย 1. เดก็ หญิงอวกิ า กลุ สิม 2. เดก็ หญิงกนกพร ผวิ ยศ 3. เดก็ หญิงนลิณี กองยอด โรงเรียนบา้ นเม่ียง สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4-6 เนื่องในงานศิลปหตั ถกรรมนกั เรียน 2553 วนั ที่ 13-14 พฤศจิกายน 2553

รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง การศึกษาการใช้ใบฝรั่งดูดซับกลน่ิ โดย 1. เดก็ หญิงอวิกา กลุ สิม 2. เดก็ หญิงกนกพร ผวิ ยศ 3. เดก็ หญิงนลิณี กองยอด ครูที่ปรึกษา 1. นายจาลอง ราชโยธา ครูโรงเรียนบา้ นเมี่ยง ครูท่ปี รึกษาพเิ ศษ 2. นางยวุ ลกั ษณ์ แสงสวา่ ง ครูโรงเรียนบา้ นเมี่ยง

กติ ตกิ รรมประกาศ รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลองฉบบั น้ี สาเร็จลงได้ด้วยความกรุณาจาก คุณครูจาลอง ราชโยธาและคุณครูยวุ ลกั ษณ์ แสงสวา่ ง ครูโรงเรียนบา้ นเม่ียง ที่ไดก้ รุณาใหค้ าปรึกษา แนะนา ช่วยให้การรายงานฉบบั น้ีเสร็จสมบูรณ์ด้วยดี คณะผูจ้ ดั ทาขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบคุณผูอ้ านวยการโรงเรียนบา้ นเมี่ยง และนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 ที่ได้ให้ ความช่วยเหลือและใหก้ ารร่วมมือดว้ ยน้าใจไมตรีอยา่ งดียงิ่ ตลอดมา ส่ิงใดอนั จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่โรงเรียนและส่วนรวมจากรายงานฉบบั น้ี คณะผจู้ ดั ทา ขอมอบใหบ้ ิดามารดา บูรพาจารยแ์ ละผมู้ ีพระคุณทุกท่าน คณะผจู้ ดั ทา

ช่ือเรื่อง รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง การศึกษาการใชใ้ บฝร่ังดูดซบั กลิ่น ผ้จู ัดทา เด็กหญิงอวกิ า กลุ สิม เดก็ หญิงกนกพร ผวิ ยศและเด็กหญิงนลิณี กองยอด ระดับช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี 4-6 ช่ือครูทป่ี รึกษา นายจาลอง ราชโยธาและนางยวุ ลกั ษณ์ แสงสวา่ ง ปี ทศ่ี ึกษา พ.ศ. 2553 บทคัดย่อ รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง การศึกษาการใชใ้ บฝรั่งดูดซบั กล่ินคร้ังน้ี มีวตั ถุประสงค์ เพอ่ื ศึกษาประสิทธิภาพการดูดซบั กลิ่นของใบฝรั่ง ศึกษาโดยนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 โรงเรียน บา้ นเม่ียง ดาเนินการทดลองโดยใช้ใบฝรั่งท่ีตากแห้งแล้วในปริมาณท่ีแตกต่างกนั เพื่อดูดซับกลิ่น เหมน็ อบั ในตูเ้ ยน็ บนั ทึกผลการทดลองหลงั วนั ที่ 1 หลงั วนั ที่ 2 และหลงั วนั ที่ 3 สรุปและวิเคราะห์ผล จากการสงั เกต/ดมกลิ่นและสอบถามผรู้ ่วมทดลอง ผลการศึกษา พบวา่ ใบฝร่ังตากแหง้ สามารถดูดซบั กลิ่นเหม็นอบั ในตูเ้ ยน็ ได้ โดยใบฝรั่งตาก แหง้ ท่ีมีปริมาณมากข้ึนกจ็ ะดูดซบั กลิ่นไดม้ ากข้ึนดว้ ย

สารบัญ หน้า ก เรื่อง ข กติ ตกิ รรมประกาศ ค บทคัดย่อ ฉ สารบญั สารบัญตาราง ช สารบัญภาพ 1 บทที่ 1 บทนา 1 1 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของโครงงาน 1 1.2 วตั ถุประสงค์ 1 1.3 สมมติฐาน 1 1.4 ตวั แปรท่ีเก่ียวขอ้ ง 2 1.5 ขอบเขตของโครงงาน 2 บทที่ 2 เอกสารทเี่ กยี่ วข้อง 3 2.1 ใบฝร่ังแกท้ อ้ งร่วงดบั กลิ่น 4 2.2 คุณสมบตั ิทางยา 5 2.3 การใชใ้ บฝรั่ง 5 บทท่ี 3 อปุ กรณ์และวธิ ีดาเนนิ การทดลอง 5 3.1 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 5 3.2 รูปแบบการทดลอง 5 3.3 อุปกรณ์ 10 3.4 วิธีการทดลอง 10 บทที่ 4 ผลการดาเนินการทดลอง 11 ผลการดาเนินการทดลองการใชใ้ บฝรั่งตากแหง้ ดูดซบั กล่ินเหมน็ อบั ในตูเ้ ยน็ 11 บทที่ 5 สรุปผล อภปิ รายผลการดาเนินการทดลอง 11 5.1 สรุปผลการทดลอง 11 5.2 อภิปรายผลการทดลอง 11 5.3 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั 12 5.4 ขอ้ เสนอแนะ 13 บรรณานุกรม ภาคผนวก

สารบญั ตาราง หน้า ตารางท่ี 14 14 1 บนั ทึกผลการทดลองของผจู้ ดั ทาโครงงาน 15 2 บนั ทึกผลการสอบถามจากผรู้ ่วมทดลอง 3 สรุปบนั ทึกผลการทดลองของผจู้ ดั ทาโครงงาน

สารบญั รูปภาพ หน้า ภาพประกอบที่ 2 6 1 แสดงผลและใบของฝร่ัง 6 2 ใบฝรั่ง 6 3 ใบฝร่ังท่ีหนั่ แลว้ 6 4 ใบฝรั่งตากแหง้ 7 5 ถุงผา้ ใบฝรั่ง ขนาด 10 กรัม 30 กรัม และ 50 กรัม 7 6 นกั เรียนสังเกตดมกลิ่นในตูเ้ ยน็ ก่อนทดลองใชใ้ บฝร่ัง 8 7 การใส่ถงุ ผา้ ใบฝรั่งไวใ้ นตูเ้ ยน็ 8 8 ตูเ้ ยน็ ที่ใส่ถุงผา้ ใบฝร่ังที่มีปริมาณ 10, 30 และ 50 กรัม 8 9 นกั เรียนสังเกต/ดมกล่ินในตูเ้ ยน็ หลงั ทดลองใชใ้ บฝร่ัง หลงั วนั ท่ี 1 9 10 นกั เรียนสังเกต/ดมกลิ่นในตูเ้ ยน็ หลงั ทดลองใชใ้ บฝร่ัง หลงั วนั ที่ 2 9 11 นกั เรียนสงั เกต/ดมกล่ินในตูเ้ ยน็ หลงั ทดลองใชใ้ บฝรั่ง หลงั วนั ที่ 3 12 ผทู้ ดลองสรุปผลร่วมกนั 10 13 แผนภูมิแสดงผลการดูดซบั กล่ินของใบฝร่ังจาแนกตามปริมาณใบฝรั่ง และระยะเวลา

บทท่ี 1 บทนา 1.1 ทมี่ าและความสาคัญของโครงงาน โครงงานน้ีจดั ทาข้ึนเน่ืองจากคณะผจู้ ดั ทาสงสัยวา่ ทาไมผปู้ กครองของนกั เรียนบางคนเวลา รับประทานส้มตาปลาร้าใส่เมล็ดผกั กระถิน ชอบนาใบฝรั่ง(หมากสีดา) สดๆ มาขยาขย้ีหรือนามาเค้ียว แลว้ คายทิ้ง สอบถามคุณตาของเดก็ หญิงอวกิ า กลุ สิมไดร้ ับคาตอบวา่ ใบฝรั่งสามารถดบั กลิ่นคาว กลิ่น เหม็น กลิ่นบุหร่ีได้ ผจู้ ดั ทาโครงงานจึงคิดวา่ ถา้ นาใบฝร่ังมาใชด้ ูดซบั กล่ินเหม็น กล่ินอบั ในตูเ้ ยน็ จะ ไดผ้ ลหรือไม่ ดงั น้นั คณะผจู้ ดั ทาจึงตดั สินใจศึกษาทดลองการใช้ใบฝร่ังเพื่อดูดซับกลิ่นในตูเ้ ยน็ เพื่อเป็ น แนวทางในการใชพ้ ืชสมุนไพรในชุมชนแทนสารเคมีตามทอ้ งตลาดต่อไป 1.2 วตั ถุประสงค์ เพือ่ ศึกษาประสิทธิภาพการดูดซบั กลิ่นของใบฝรั่งตากแหง้ 1.3 สมมุติฐาน ใบฝรั่งเม่ือนามาตากแหง้ แลว้ สามารถดูดซบั กล่ินในตูเ้ ยน็ ได้ 1.4 ตวั แปรทเ่ี กย่ี วข้อง ตวั แปรตน้ ใบฝร่ังตากแหง้ ตวั แปรตาม การลดลงของกล่ินเหมน็ อบั ในตูเ้ ยน็ ตวั แปรควบคุม ปริมาณของใบฝรั่งและระยะเวลาการใชใ้ บฝรั่ง 1.5 ขอบเขตของโครงงาน 1. การทดลองคร้ังน้ีใช้ใบฝร่ังข้ีนกท่ีแก่สมบูรณ์เต็มที่ไปทดลองใช้เพ่ือดูดซับกลิ่นกลิ่น เหมน็ อบั ในตูเ้ ยน็ 2. ระยะเวลา ใชเ้ วลาในการดาเนินการทดลอง 2 สปั ดาห์ 3. สถานท่ี บ้านของเด็กหญิงนลิณี กองยอด, บ้านของเด็กหญิงกนกพร ผิวยศ และ โรงเรียนบา้ นเม่ียง

บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง 2.1 ใบฝร่ังแก้ท้องร่วงดับกลิ่น ฝรั่งเป็นพืชที่มนุษยร์ ู้จกั กนั มาชา้ นานมีชื่อเรียกติดปากของชาวใตว้ า่ ชมพู่ หรือฝรั่งข้ีนก สมยั โบราณบรรพบุรุษของเราได้นาพืชชนิดน้ีมาช่วยรักษาโรค เช่น อาการท้องเสีย เป็ นต้น ฝรั่งได้ นามาใชป้ ระโยชน์ในทางการแพทยซ์ ่ึงปัจจุบนั เป็ นยาสมุนไพรไทยท่ีหาง่ายในทอ้ งถ่ินและสามารถ บรรเทาและรักษาโรคไดห้ ลายชนิด ภาพประกอบท่ี 1 แสดงผลและใบของฝร่ัง 1. ขอ้ มูลทว่ั ไปของฝร่ัง (ขอ้ มูลทางพฤกษศาสตร์) ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Psidium guajava Linn. ช่ือวงศ์ Myrtaceae ช่ือองั กฤษ Guava ชื่ออื่นๆ ของฝรั่งในแต่ละพ้นื ท่ี ภาคเหนือ เรียกวา่ มะกว้ ย, มะมน่ั , มะกา ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เรียกวา่ สีดา ภาคตะวนั ตก เรียกวา่ มะจีน ภาคใต้ เรียกวา่ ยา่ หมู, ยามู, จุ่มโป, ยะมูบุเตปันยา, ชมพู่ ภาคกลาง เรียกวา่ ฝร่ัง

2. ใบฝรั่ง ใบฝรั่ง เก็บใบแก่ที่สมบูรณ์เต็มที่ ช่วยบรรเทาอาการทอ้ งเสียมีฤทธ์ิลดการบีบตวั ของ ลาไส้ ในการออกฤทธ์ิแกอ้ าการทอ้ งเสีย ทาใหห้ ยดุ ถ่าย และมีฤทธ์ิฆ่าเช้ือแบคทีเรีย เช้ือไวรัส และเช้ือ พยาธิ ที่เป็ นสาเหตุของอาการทอ้ งเสีย สารสกดั จากใบดว้ ยน้า การทดลองทางคลินิกใชร้ ักษาอาการ ทอ้ งเสีย มีรายงานการรักษา โดยใชแ้ คปซูลใบฝร่ังแหง้ บดเป็ นผง กบั คนไขอ้ ุจจาระล่วง 122 คน ชาย 64 คน หญิง 58 คน โดยรับประทาน 2 แคปซูลๆ ละ 250 มิลิกรัม ทุก 3 ชวั่ โมง 3 วนั พบวา่ ไดผ้ ลและ ไม่พบอาการขา้ งเคียง 3. ผลฝรั่ง ผลฝรั่งอ่อนมีฤทธ์ิฆ่าเช้ือแบคทีเรีย สาเหตุทอ้ งเสีย ฆ่าเช้ือแบคทีเรีย สาเหตุของโรค ไทฟอยด์ สารสาคญั ในการออกฤทธ์ิแกอ้ าการทอ้ งเสีย ผลฝรั่งพบสารแทนนินมีรสฝาด ใชแ้ กอ้ าการ ทอ้ งเสีย ตา้ นการก่อกลายพนั ธุ์ ใบฝรั่งแหง้ บดเป็ นผงช่วยรักษาโรคอุจจาระร่วง มีการศึกษาวิจยั โดย ใช้ใบฝรั่งแห้งบดเป็ นผง สามารถฆ่าเช้ือไดแ้ ละผลสรุปไดว้ า่ ใบฝร่ัง สามารถลดจานวนอุจจาระร่วง และลดระยะเวลา ของการถ่ายเหลวได้ และไม่พบอาการขา้ งเคียงจากยา ส่วนอาการทอ้ งเสีย ทา ออกมาเป็นแคปซูล ซ่ึงจะเหมือนกบั ท่ีโรงพยาบาลนาใบฝร่ัง มาบดเป็นผง แลว้ บรรจุในแคปซูล ทาให้ รับประทานไดง้ ่าย และสามารถพกพาไปไดส้ ะดวกใบฝร่ังช่วยลดอาการปวดประจาเดือน มีการวิจยั สารสกดั ดว้ ยเอทานอลจากใบฝรั่ง (ในสารสกดั ขนาด 300 มิลลิกรัม จะตอ้ งมีปริมาณ ฟลาโวนอล 1 มิลลิกรัม) ฟลาโวนอล สามารถพบไดท้ ุกส่วนของพชื และเป็นสารท่ีมีสีออกแดง เหลือง ม่วง น้าเงิน เป็นชนิดเดียวกบั ท่ีมีในผลโกโกท้ ่ีมีฤทธ์ิตา้ นอนุมูลอิสระ และทาให้หวั ใจทางานดีข้ึนการวิจยั ในสตรี จานวน 197 คน อายรุ ะหวา่ ง 17 - 25 ปี มีอาการปวดประจาเดือนสม่าเสมอทุกรอบเดือน ต้งั แต่เร่ิม มีประจาเดือนคร้ังแรกและมีอาการปวดอยา่ งนอ้ ย 1 วนั ของรอบการมีประจาเดือน กลุ่มศึกษาน้ีเริ่ม มีประจาเดือนคร้ังแรกอายุประมาณ 12 ปี มีรอบเดือนปกติ รอบประจาเดือนประมาณ 28 หรือ 29 วนั ระยะเวลามีประจาเดือนแต่ละคร้ังอยา่ งนอ้ ย 5 วนั หมายเหตุ การรับประทานใบฝรั่งอาจจะไม่ไดผ้ ล กบั ผทู้ ่ีรับการรักษาดว้ ยฮอร์โมนหรือรับประทานยาคุมกาเนิด 2.2 คุณสมบัติทางยา คุณสมบัติทางยาสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ รักษาภายในและรักษาภายนอกส่วนท่ี นามาใชป้ ระโยชนข์ องฝรั่ง คือ ใบฝร่ังและผลฝรั่งออ่ น สารเคมีสาคญั ในใบฝร่ังและผลฝรั่งออ่ น คือ 1. แทนนิน มีรสฝาด มีฤทธ์ิในการลดการระคายเคืองของลาไส้ ลดการสูญเสียน้า มีฤทธ์ิ ยบั ย้งั การเจริญเติบโตของเช้ือแบคทีเรียในกระเพาะอาหารและลาไส้

2. ฟลาโวนอล สามารถพบไดท้ ุกส่วนของพืช และเป็ นสารที่มีสีออกแดง เหลือง ม่วง น้าเงิน เป็นชนิดเดียวกบั ท่ีมีในผลโกโกท้ ี่มีฤทธ์ิตา้ นอนุมูลอิสระ และทาใหห้ วั ใจทางานดีข้ึน 3. วติ ามินซี 4. แร่ธาตุแคลเซียม 5. แร่ธาตุเหลก็ 2.3 การใช้ใบฝร่ัง นาใบฝร่ังมาลา้ งน้าให้สะอาด ประมาณ 10-15 ใบ แลว้ โขลกพอแหลก ใส่น้า 1 แกว้ ใหญ่ นาไปตม้ ใส่เกลือพอมีรสกร่อย พอเดือดยกลงนามาดื่มแทนชา ไดผ้ ลดี นาใบฝรั่งสดท่ีไมอ่ อ่ น และไมแ่ ก่เกินไป มาตดั หวั ตดั ทา้ ย แลว้ นาไปแช่น้าทิ้งไวส้ ักครู่ ตกั น้า ที่ไดจ้ ากการแช่ใบฝรั่ง มาจิบทีละนิดเพ่อื ลดอาการทอ้ งเสียหรือทอ้ งเสีย ถา้ จิบมากจะทาใหท้ อ้ งผกู ได้ ใบฝร่ังช่วยระงบั กลิ่นปาก โดยเฉพาะท่ีเกิดจากฟันพุ เหงือกอกั เสบ เศษอาหารเน่าคา้ ง กล่ินท่ี ออกมาจากภายใน หรือกลิ่นท่ีเกิดจากการรับประทานอาหารกลิ่นแรง หรือกลิ่นเหล้า และบุหร่ี เน่ืองจากในใบฝรั่ง นอกจากมีสารแทนนินแลว้ ยงั มีน้ามนั หอมระเหยหลายชนิด ช่วยดบั กล่ินปากได้ ถา้ มีกล่ินสาบ สางจากซากหนู ท่ีตายเหม็นเน่าตามซอก หลืบต่างๆ ให้รีบหาฝรั่งสุก 2-3 ลูก วางทิ้งไว้ ในรัศมีของกล่ินเหมน็ โชย จะพบวา่ กล่ินไมพ่ งึ ประสงคน์ ้นั จะค่อยๆหายไป

บทที่ 3 อปุ กรณ์และวธิ ีดาเนินการทดลอง 3.1 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 1. นกั เรียนนาเสนอหวั ขอ้ โครงงานที่ตนเองสนใจต่อครูที่ปรึกษา 2. คณะผจู้ ดั ทาช่วยกนั คิดคาถาม ต้งั สมมุติฐาน 3. ศึกษาเอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง จากเอกสาร อินเทอร์เน็ตและภูมิปัญญาในชุมชน 4. เตรียมอุปกรณ์ สถานที่ การทดลอง 5. ลงมือปฏิบตั ิการทดลองนาใบฝรั่งแหง้ ดบั กลิ่นเหมน็ อบั ในตูเ้ ยน็ 6. บนั ทึกผลและสรุปผลการทดลอง 7. รายงาน นาเสนอโครงงาน 3.2 รูปแบบการทดลอง การทดลองคร้ังน้ีใช้รูปแบบการทดลองแบบบนั ทึกผลการสังเกตก่อนและสังเกตหลงั การ ทดลอง รวบรวมขอ้ มูลจากบนั ทึกผลของผจู้ ดั ทาโครงงานและการสอบถามผูร้ ่วมทดลอง วเิ คราะห์ผล โดยใชค้ วามคิดเห็นของผรู้ ่วมทดลองส่วนใหญ่เป็ นเกณฑต์ ดั สิน 3. 3 อปุ กรณ์ ใบฝรั่งสด 1. มีดสาหรับหนั่ ใบฝรั่ง 2. เขียง 3. ผา้ ขาว 4. เชือกสาหรับมดั ผา้ ขาว 5. เคร่ืองชง่ั 6. ตูเ้ ยน็ ท่ีมีกลิ่นเหมน็ อบั 7. 3.4 วธิ ีการทดลอง การทาใบฝรั่งตากแห้ง 1. นาใบฝรั่งสดมาหนั่ เป็นชิ้นเล็ก ๆ นาไปตากใหแ้ หง้ สนิทหรือประมาณ 3-5 วนั

ภาพประกอบท่ี 2 ใบฝร่ัง ภาพประกอบท่ี 3 ใบฝรั่งท่ีหนั่ แลว้ ภาพประกอบท่ี 4 ใบฝรั่งตากแหง้ 2. จากน้นั นาใบฝร่ังท่ีตากแห้งแลว้ ชง่ั ให้ไดน้ ้าหนกั 10, 30 และ 50 กรัม มาห่อดว้ ย ผา้ ขาวมดั ดว้ ยเชือกใหแ้ น่น ภาพประกอบท่ี 5 ถุงผา้ ใบฝร่ัง ขนาด 10 กรัม 30 กรัม และ 50 กรัม

ข้นั ตอนการทดลอง 1. คดั เลือกนกั เรียนในช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 จานวน 9 คน ทดลองร่วมกบั คณะ ผจู้ ดั ทา รวมท้งั สิ้น จานวน 12 คน 2. คดั เลือกตูเ้ ยน็ ท่ีมีกลิ่นเหม็นอบั ที่ใกลเ้ คียงกนั จานวน 3 หลงั 3. นกั เรียนสังเกตหรือดมกล่ินในตูเ้ ยน็ ก่อนใส่ถุงใบฝรั่งตากแห้ง โดยเขียนลาดบั ติด ตูเ้ ยน็ ต้งั แตห่ มายเลข 1-3 ซ่ึงผทู้ ดลองทุกคนตอ้ งดมกล่ินในตูเ้ ยน็ ท้งั 3 หลงั ภาพประกอบท่ี 6 นกั เรียนสังเกตดมกล่ินในตูเ้ ยน็ ก่อนทดลองใชใ้ บฝรั่ง 4. นาถุงผา้ ใบฝร่ังที่มีน้าหนกั 10, 30 และ50 กรัม ใส่ในตูเ้ ยน็ โดยใส่ใบฝร่ังที่มี ปริมาณ 10 กรัมกบั ตูเ้ ยน็ 1 หลงั ปริมาณ 30 กรัมกบั ตูเ้ ยน็ 1 หลงั ปริมาณ 50 กรัมกบั ตูเ้ ยน็ 1 หลงั ภาพประกอบท่ี 7 การใส่ถุงผา้ ใบฝร่ังไวใ้ นตูเ้ ยน็

ตูเ้ ยน็ ที่มีใบฝรั่ง 10 กรัม ตูเ้ ยน็ ท่ีมีใบฝรั่ง 30 กรัม ตูเ้ ยน็ ที่มีใบฝรั่ง 50 กรัม ภาพประกอบท่ี 8 ตูเ้ ยน็ ที่ใส่ถุงผา้ ใบฝร่ังที่มีปริมาณ 10, 30 และ50 กรัม 5. ผจู้ ดั ทาและนกั เรียนท่ีร่วมการทดลองสังเกต ดมกล่ิน ตูเ้ ยน็ หมายเลข 1 หมายเลข 2 และหมายเลข 3 ตามลาดบั และสอบถามนกั เรียนท่ีร่วมทดลอง หลงั ใส่ถุงผา้ ใบฝรั่งตากแห้งวนั แรก วนั ท่ีสองและวนั ท่ีสามเป็นอยา่ งไร โดยบนั ทึกผลการสอบถามและบนั ทึกผลการสังเกตดว้ ยตนเองทุก คร้ัง ภาพประกอบที่ 9 นกั เรียนสังเกต/ดมกล่ินในตูเ้ ยน็ หลงั ทดลองใชใ้ บฝรั่ง หลงั วนั ท่ี 1 ภาพประกอบท่ี 10 นกั เรียนสังเกต/ดมกลิ่นในตูเ้ ยน็ หลงั ทดลองใชใ้ บฝร่ัง หลงั วนั ท่ี 2

ภาพประกอบท่ี 11 นกั เรียนสังเกต/ดมกล่ินในตูเ้ ยน็ หลงั ทดลองใชใ้ บฝร่ัง หลงั วนั ท่ี 3 6. นาผลการบนั ทึกมาวเิ คราะห์ อภิปรายสรุปผลร่วมกนั ภาพประกอบท่ี 12 ผทู้ ดลองสรุปผลร่วมกนั

บทที่ 4 ผลการดาเนินการทดลอง ผลการดาเนินการทดลองการใชใ้ บฝร่ังตากแหง้ ดูดซบั กล่ินเหมน็ อบั ในตูเ้ ยน็ สรุปผลไดด้ งั น้ี กลน่ิ เหม็นอบั มาก ปานกลาง นอ้ ย หลงั 1 วนั หลัง 2 วนั ระยะเวลา หลัง 3 วนั ใบฝร่ัง 10 กรมั ใบฝรงั่ 30 กรมั ใบฝรง่ั 50 กรัม ภาพประกอบที่ 13 แผนภูมิแสดงผลการดูดซบั กลิ่นของใบฝรั่งจาแนกตามปริมาณใบฝร่ังและระยะเวลา จากแผนภูมิ พบวา่ หลงั วนั ที่ 1 ใบฝร่ังท่ีมีปริมาณ 10, 30, และ 50 กรัม ดูดซบั กลิ่นเหม็น อบั ของในตูเ้ ยน็ ไดค้ อ่ นขา้ งนอ้ ย หลงั วนั ที่ 2 ใบฝร่ังท่ีมีปริมาณ 10 กรัม ดูดซบั กล่ินเหมน็ อบั ไดน้ อ้ ย ส่วนใบฝรั่งท่ีมีปริมาณ 30, และ 50 กรัม จะดูดซับกล่ินเหม็นอบั ของในตูเ้ ยน็ ไดใ้ นระดบั มาก และ หลงั วนั ท่ี 3 ใบฝร่ังท่ีมีปริมาณ 10 กรัมดูดซบั กลิ่นเหมน็ อบั ไดน้ อ้ ยเหมือนเดิม ส่วนใบฝร่ังที่มีปริมาณ 30, และ50 กรัม จะดูดซบั กล่ินเหม็นอบั ของในตูเ้ ยน็ ไดใ้ นระดบั มาก แสดงวา่ ใบฝรั่งแหง้ ท่ีมีปริมาณ 30 และ50 กรัม สามารถนาไปใชด้ ูดซบั กล่ินเหมน็ ไดแ้ ละจะดูดซบั กลิ่นไดด้ ีหลงั จากผา่ น 2 วนั ไปแลว้

บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผลการดาเนินการทดลอง 5.1 สรุปผลการทดลอง จากการทดลองจะสรุปไดว้ า่ ใบฝร่ังตากแหง้ สามารถดูดซบั กล่ินในตูเ้ ยน็ ได้ โดยใบฝร่ังตาก แหง้ ท่ีมีปริมาณมากข้ึนก็จะดูดซบั กลิ่นไดม้ ากข้ึนดว้ ย 5.2 อภปิ รายผลการทดลอง ใบฝร่ังตากแหง้ ดูดซบั กลิ่นในตูเ้ ยน็ ได้ ซ่ึงถา้ ใบฝรั่งมีปริมาณมากก็จะดูดซบั กลิ่นไดเ้ ร็วหรือ มากกวา่ ใบฝร่ังท่ีมีปริมาณนอ้ ย ในการใชด้ ูดซบั กลิ่นในบริเวณพ้ืนที่ค่อนขา้ งมากก็ตอ้ งใชใ้ บฝรั่งที่มี ปริมาณมากข้ึนดว้ ย ถึงแมว้ ่าบางคนที่นาใบฝร่ังตากแห้งไปทดลองอาจจะว่าใช่ไม่ไดบ้ า้ งแต่ก็เป็ น เพียงบางส่วนเท่าน้นั โดยรวมสามารถดูซบั กล่ินที่ไม่พึงประสงคไ์ ดด้ ี ซ่ึงในการศึกษาทดลองคร้ังน้ี คณะผูจ้ ดั ทาโครงงานน้ีได้รับความรู้จากการทดลองสนุกสนานมากและท่ีสาคญั คือได้รับความรู้ เก่ียวกบั พืชในทอ้ งถ่ินของเราใชข้ จดั กล่ินได้ ไม่จาเป็ นตอ้ งใชส้ ารเคมีตามทอ้ งตลาดก็ได้ เพื่อนๆบาง คนตอ้ งการให้นาไปใชก้ บั ห้องน้าในโรงเรียนที่มีกล่ินฉุน เหม็นมากๆ เพื่อนๆ บางกลุ่มให้ทดลอง นาไปชงกบั น้าร้อนไวอ้ มดบั กล่ินปาก มีคาพูดขา ๆ ที่คณะของผูจ้ ดั ทาชอบใจมากคือ พวกผชู้ ายบาง คนชอบพูดไม่ดี พูดไม่เพราะกบั ผูห้ ญิง พวกผูห้ ญิงในช้นั เรียนของเราเลยพูดติดตลกวา่ “ก่อนจะพูด ใหไ้ ปอมน้าใบฝรั่งตากแห้งของอวิกา (หน่ึงในคณะผูจ้ ดั ทา)จะไดพ้ ูดเพราะๆ บา้ ง พูดแลว้ พวกผหู้ ญิง ก็ฮา สนุกดี” สรุปผลการทดลองคร้ังน้ีเป็ นท่ีน่าพอใจไดร้ ู้จกั เพื่อนๆ อีกมากมายและเผยแพร่ความรู้ ใหก้ บั เพือ่ นๆ ดว้ ย 5.3 ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ 1. นาใบฝรั่งไปใชใ้ นการดูดซบั กลิ่นในตูเ้ ยน็ ตูเ้ ส้ือผา้ หอ้ งน้า ในรองเทา้ หรือสถานท่ีอื่น ๆ ตามความเหมาะสม 2. ไดฝ้ ึกวธิ ีการ กระบวนการทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ 3. นาความรู้ที่ไดไ้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั 5.4 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการศึกษาการนาใบฝรั่งแหง้ ไปชงกบั น้าร้อนไวอ้ มดบั กลิ่นปาก 2. ควรนาพชื สมุนไพรชนิดอ่ืนๆ มาศึกษาใชค้ วบคู่กบั ใบฝร่ังเพอ่ื ใหด้ ูดซบั กลิ่นไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพข้ึน 3. ควรนาใบฝรั่งแหง้ ไปบรรจุหีบห่อใหส้ วยงามเพื่อใหเ้ หมาะสมกบั การนาไปใช้

บรรณานุกรม นฤมล มานิพาน. (2548). การเพาะปลกู และขยายพนั ธ์ุฝรั่ง. สานกั พิมพเ์ พชรกะรัต. กรุงเทพมหานคร ฝรั่งใบแก้ท้องร่วงดับกลนิ่ จาก http://magicworld.com คน้ เม่ือ 24 สิงหาคม 2553 ประโยชน์ของใบฝร่ัง จากhttp://www.learningthai.com คน้ เมื่อ 24 สิงหาคม 2553 ผลไม้ ฝร่ัง จาก http://www.n3k.in.th คน้ เม่ือ 24 สิงหาคม 2553 ฝรั่งสมุนไพรแก้ท้องเสียแก้ปวดประจาเดือนยบั ย้งั แบคทเี รียมวี ติ ามินซีแคลเซี่ยมธาตุเหลก็ จาก http://www.sysunya.com คน้ เมื่อ 24 สิงหาคม 2553

ภาคผนวก

ตารางที่ 1 บนั ทึกผลการทดลองของผจู้ ดั ทาโครงงาน ใบฝรั่ง หลงั 1 วนั ผลการทดลอง หลงั 3 วนั 10 หลงั 2 วนั ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ (กรัม) ผจู้ ดั ทาท้งั 3 คน เห็นวา่ การ กลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั นอ้ ย ลดลงของกลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ น ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ 30 ระดบั นอ้ ยมาก กลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั นอ้ ย ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ (กรัม) กลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มาก ผจู้ ดั ทาท้งั 3 คน เห็นวา่ การ ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ หรือกล่ินค่อนขา้ งจางหายไป 50 ลดลงของกลิ่นในตูเ้ ยน็ อย่ใู น กลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มาก ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ (กรัม) ระดบั นอ้ ยมาก หรือกลิ่นค่อนขา้ งจางลง กล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มาก ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ หรือกลิ่นเหมน็ จางหายไป ผจู้ ดั ทาท้งั 3 คน เห็นวา่ การ กลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มาก ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ใน หรือกลิ่นเหมน็ จางหายไป ระดบั ค่อนขา้ งนอ้ ย ตารางท่ี 2 บนั ทึกผลการสอบถามจากผรู้ ่วมทดลอง ผลการทดลอง ใบฝรั่ง หลงั 1 วนั หลงั 2 วนั หลงั 3 วนั 10 (กรัม) ผรู้ ่วมทดลองท้งั 9 คน เห็นวา่ ผรู้ ่วมทดลอง 6 คนเห็นวา่ การ ผรู้ ่วมทดลอง 7 คนเห็นวา่ การ ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อย่ใู น 30 การลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ น ระดบั นอ้ ย และ 2 คนเห็นวา่ (กรัม) ลดลงในระดบั นอ้ ยมาก ในระดบั นอ้ ยมาก ระดบั นอ้ ย และ 3 คนเห็นวา่ ผรู้ ่วมทดลอง 8 คนเห็นวา่ การ 50 ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อย่ใู น (กรัม) ลดลงในระดบั นอ้ ยมาก ระดบั มากหรือกลิ่นค่อนขา้ ง จางหายไปและอีก 1 คนเห็น ผรู้ ่วมทดลองท้งั 9 คน เห็นวา่ ผรู้ ่วมทดลอง 7 คนเห็นวา่ การ วา่ ลดลงในระดบั ปานกลาง ผรู้ ่วมทดลองเห็นวา่ การลดลง การลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ ลดลงของกลิ่นในตูเ้ ยน็ อยู่ใน ของกลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มากหรือกล่ินเหมน็ จางหายไป ในระดบั นอ้ ยมาก ระดบั มากหรือจางลง และ 2 คนเห็นวา่ ลดลงในระดบั นอ้ ย ผรู้ ่วมทดลองท้งั 9 คน เห็นวา่ ผรู้ ่วมทดลอง 9 คนเห็นวา่ การ การลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อย่ใู น ในระดบั นอ้ ย ระดบั มาก

ตารางที่ 3 สรุปบนั ทึกผลการทดลองของผจู้ ดั ทาโครงงาน ผลการทดลอง ใบฝรั่ง หลงั 1 วนั หลงั 2 วนั หลงั 3 วนั ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ 10 ผจู้ ดั ทาท้งั 3 คน เห็นวา่ การ ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ กล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั นอ้ ย (กรัม) สรุป ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อย่ใู น กล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั นอ้ ย ผรู้ ่วมทดลอง 7 คนเห็นวา่ การ ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ใน 30 ระดบั นอ้ ยมาก ระดบั นอ้ ย และ 2 คนเห็นวา่ (กรัม) ลดลงในระดบั นอ้ ยมาก ผรู้ ่วมทดลองท้งั 9 คน เห็นวา่ ผรู้ ่วมทดลอง 6 คนเห็นวา่ การ กลิ่นเหมน็ ลดลงนอ้ ย สรุป การลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ น ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ 50 กล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มาก (กรัม) ในระดบั นอ้ ยมาก ระดบั นอ้ ย และ 3 คนเห็นวา่ หรือกล่ินค่อนขา้ งจางหายไป สรุป ผรู้ ่วมทดลอง 8 คนเห็นวา่ การ ลดลงในระดบั นอ้ ยมาก ลดลงของกลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ น ระดบั มากหรือกล่ินค่อนขา้ ง กลิ่นเหมน็ ลดลงนอ้ ยมาก กล่ินเหมน็ ลดลงนอ้ ย จางหายไปและอีก 1 คนเห็น วา่ ลดลงในระดบั ปานกลาง ผจู้ ดั ทาท้งั 3 คน เห็นวา่ การ ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ กลิ่นเหมน็ ลดลงในระดบั มาก หรือจางหายไป ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยูใ่ น กล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั ปาน ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ กล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มาก ระดบั นอ้ ยมาก กลางหรือกลิ่นค่อนขา้ งจางลง หรือกล่ินเหมน็ จางหายไป ผรู้ ่วมทดลองเห็นวา่ การลดลง ผรู้ ่วมทดลองท้งั 9 คน เห็นวา่ ผรู้ ่วมทดลอง 7 คนเห็นวา่ ของกลิ่นในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มากหรือกลิ่นเหมน็ จางหายไป การลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ การลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ กล่ินเหมน็ ลดลงในระดบั มาก หรือจางหายไป ในระดบั นอ้ ยมาก อยใู่ นระดบั มากหรือจางลง และ 2 คนเห็นวา่ ลดลงใน ระดบั ปานกลาง กล่ินเหมน็ ลดลงนอ้ ยมาก กล่ินเหมน็ ลดลงในระดบั มาก หรือค่อนขา้ งจางลง ผจู้ ดั ทาท้งั 3 คน เห็นวา่ การ ผจู้ ดั ทา เห็นวา่ การลดลงของ ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยูใ่ น กล่ินในตูเ้ ยน็ อยใู่ นระดบั มาก ระดบั ค่อนขา้ งนอ้ ย หรือกลิ่นเหมน็ จางหายไป ผรู้ ่วมทดลองท้งั 9 คน เห็นวา่ ผรู้ ่วมทดลอง 9 คนเห็นวา่ การ การลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ ลดลงของกล่ินในตูเ้ ยน็ อยู่ใน ในระดบั นอ้ ย ระดบั มาก กล่ินเหมน็ ลดลงค่อนขา้ งนอ้ ย กลิ่นเหมน็ ลดลงในระดบั มาก หรือจางหายไป

ภาพกจิ กรรม นกั เรียนทร่ี ว่ มโครงการชว่ ยกนั นาใบฝรง่ั มาหน่ั และนาไปตากให้แห้งสนทิ

นกั เรยี นร่วมกนั สังเกต/ดมกลิน่ ในต้เู ยน็ หลงั จากใสถ่ ุงใบฝรัง่ ไปแลว้ นกั เรยี นผ้จู ัดทาโครงงานวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลรว่ มกัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook