basic immune

การพยาบาลแบบองค์รวมในการแก้ปัญหาสุขภาพสาหรับบุคคล วยั เดก็ วยั รุ่น และวยั ผู้ใหญ่ทมี่ คี วามผดิ ปกตขิ องภูมคิ ุ้มกนั อาจารย์ทพิ ย์สุดา เส็งพานิช

วตั ถุประสงค์การเรียนรู้1. สามารถอธิบายเกี่ยวกบั ความผดิ ปกติของระบบภูมิคุม้ กนั โดยเชื่อมโยงกบั การทางานของภูมิคุม้ กนั ท่ีปกติได้2. สามารถประเมินความผดิ ปกติของระบบภูมิคุม้ กนั แต่ละชนิดได้3. สามารถวางแผนการพยาบาลผปู้ ่ วยท่ีมีความผดิ ปกติของระบบภูมิคุม้ กนั ได้

Immune system คืออะไร ????

Immune system ในร่างกายเรามีอะไรบ้างท่ีจะทาหน้าท่ีเกย่ี วกบั ระบบภูมคิ ุ้มกนั ????

Immune system ภูมคิ ุ้มกนัอวยั วะ เซลล์ สารนา้



เซลล์ทเ่ี กย่ี วข้องกบั ระบบภูมคิ ุ้มกนั

สารนา้ ของระบบภูมคิ ุ้มกนั อมิ มูโนโกลบุลนิ compleme(immunoglobulin: Ig) nt

หน้าทข่ี องระบบภูมคิ ุ้มกนั ในร่างกาย ป้องกนั มากเกิน hypersensitivity immunodeficiencyCancer นอ้ ยเกิน host defenseสารวจ surveillance homeostasis AIDS กาจดั เซลล์SLE Autoimmune disease มากเกนิ

AIDS SLE AutoimmuneImmunodeficiency ความผดิ ปกตขิ องภูมิคุ้มกนั Rheumatoid Hypersensitivity or Allergy Anaphylaxis

ชนิดของภูมคิ ุ้มกนั1. ภูมคิ ุ้มกนั ไม่จาเพาะ (non specific immune)2. ภูมคิ ุ้มกนั เฉพาะ (specific immune)





ภูมคิ ุ้มกนั ไม่จาเพาะ (non specific immune) ผวิ หนังและเย่ือบุผวิ

ภูมคิ ุ้มกนั ไม่จาเพาะ (non specific immune) ทางเดนิ หายใจ

ภมู คิ ุ้มกนั ไม่จำเพำะ (non specific immune)-การถ่ายปัสสาวะ-ทางเดนิ อาหาร-อวยั วะสืบพนั ธ์-Normal flora

ภูมคิ ุ้มกนั ไม่จาเพาะ (non specific Phimagmoucynteo)sis

Inflammation

ชนิดของภมู คิ ุ้มกัน2. ภูมิคุม้ กนั จาเพาะ (specific immune) เซลลท์ ี่เก่ียวขอ้ งในภูมิคุม้ กนั ชนิดน้ีคือ lymphocyte

ชนิดของภมู คิ ุ้มกันภูมิคุม้ กนั แบบเฉพาะมี 2 กลุ่มคือ 2.1 ภูมิคุม้ กนั ที่ใชแ้ อนติบอดี (antibody humoral immune response : HIR) เซลลท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งคือ B-lymphocyte และ plasma cell 2.2 ภูมิคุม้ กนั ผา่ นเซลล์ (cell-mediated immune response: CMIR) เซลลท์ ี่เกี่ยวขอ้ งคือ T-lymphocyte



ความสาคญั ของ immonoglobulin Ig G มีมากที่สุดในซีร่ัม ป้องกนั โรคติดเช้ือต่างๆ และเป็นชนิดเดียวที่สามารถผา่ นทางรกจากมารดาไปยงั ทารกในครรภโ์ ดยทารกจะไดร้ ับในไตรมาสสุดทา้ ย และพบในน้านมเหลือง(colostum) Ig M เป็นอิมโมโนกลู โบลินที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นแอนติบอดีท่ีร่างกายสร้างข้ึนเป็นคร้ังแรกและมีหนา้ ท่ีสาคญั ในการทาลายแบคทีเรีย

ความสาคญั ของ immonoglobulin Ig A นา้ นมมารดา นา้ ตา นา้ ลาย ส่ิงคดั หลงั่ ของปอด ทางเดนิ อาหารทางเดินหายใจ ช่วยป้องกนั การตดิ เชื้อบนผวิ ของเย่ือเมือกท่ีบุทางเดินอาหาร ระบบหายใจโดยเฉพาะการติดเชื้อไวรัส Ig D เป็นอิมโมโนกลู โบลินที่หลุดออกจากผวิ นอกของ B-cellพบนอ้ ยมากในซีร่ัม Ig E เป็นอิมโมโนกลู โบลินที่มีปริมาณนอ้ ยท่ีสุดในซีร่ัม และ เป็นอิมโมโนกลู โบลินท่ีสาคญั ในการเกิดโรคภูมิแพช้ นิด anaphylaxis และเป็นภูมิคุม้ กนั ท่ีสาคญั ในโรคติดเช้ือปรสิตทาหนา้ ท่ีกาจดั เช้ือปรสิต

2.2 ภูมคิ ุ้มกนั ผ่านเซลล์ (cell-mediated immune response: CMIR) เซลล์ที่เกี่ยวข้องในระบบนีค้ อื T-lymphocyte** helper T cell ทำหน้ำที่สง่ เสริมระบบ HIR คอื ช่วย B-lymphocyte ในกำรตอบสนองทำงอิมมนู

2.2 ภูมคิ ุ้มกนั ผ่านเซลล์(cell-mediated immune response: CMIR)

ปัจจยั ทมี่ ผี ลต่อการตอบสนองทางภูมคิ ุ้มกนั (ต่อ) 1. genetic factor 2. age factor 3. metabolic factor 4. environment factor 5. anatomical factor 6. microbial factor 7. physiologic factor

สรุป พืน้ ฐานระบบภูมคิ ุ้มกนัantigen รา่ งกาย Non specific immune HIR specific immune CMIR Immonodeficientcy AIDS