Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore WINTECH

WINTECH

Published by patnaree22, 2022-03-22 13:12:50

Description: หนังสือรวมเรื่องสั้นที่จัดทำขึ้นในรายวิชาการเขียนเชิงสร้างสรรค์

Search

Read the Text Version

WINTECH

คำนำนักเขียน WINTECH ชื่อขององค์กรวิทยาศาสตรล์ ึกลบั ที่สามารถประดษิ ฐ์ คิดค้นเครื่องมือต่าง ๆ ตามความต้องการของลูกค้า และมี นักวิทยาศาสตร์มากมายหลายคนที่เข้าร่วมกับองค์กร อีกท้ังยังมี นกั วทิ ยาศาสตรผ์ ูม้ ีความสามารถทโี่ ดดเด่น และมันสมองที่ชาญฉลาด ที่สดุ ขององคก์ รดว้ ยกัน 6 คน หนังสือเรื่อง “WINTECH” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นแนว วิทยาศาสตร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 6 คน ได้แก่ พริมโรส ปัณณวีร์ หวัง, ออสติน ไทบิเรียส เอเคอร์, พอยน์เซตเทีย ดนี , โซมนิ โฮเลอร์, แพล็ต เกรยส์ นั และดอกเตอร์เรย์ ไมเ่ พียงแต่เป็น เรื่องราวของการคิดค้นประดิษฐ์ และการผลิตเครื่องมือ แต่ยังมี เรื่องราวความรัก ความสุข ความเศร้า ความสมหวัง ครบทุกรสชาติ พร้อมจะสร้างความตราตรึงใหก้ ับผู้อ่านอยา่ งไม่อาจลืมเลือนแน่นอน รวมนกั เขยี น WINTECH

สารบญั บทนำ 1 Love Lens 4 Uncontrollable 17 In Dream 32 Nano Cybort 51 Mr. Engine 67 Life Cyber 79 ประวตั นิ กั เขียน 91

บทนำ

2 WINTECH องค์กรลับที่ทำงานทางวิทยาศาสตร์ ทำการ วิจยั ประดิษฐ์ และคดิ ค้นนวัตกรรมต่าง ๆ WINTECH ผลติ อปุ กรณ์ และเครื่องมือตามความตอ้ งการของลูกค้า องค์กรแห่งนี้สามารถทำ ได้ทุกอย่าง ไม่ว่างานสิ่งนั้นจะเป็นส่งที่ก่อใหเ้ กิดประโยชน์หรือโทษ กต็ าม มีนกั วทิ ยาศาสตรจ์ ากสาขาต่าง ๆ ท่วั ทุกมมุ โลกทำงานท่ีน่ี นอกจากจะมีค่าเหนื่อย ที่สมเหตุสมผล ยังเป็นที่ที่ให้ใช้ ความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นงานได้อย่างเต็มที่ นอกจาก เหล่านักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครรับรู้ การมีตัวตนของ องคก์ รเลย องค์กรแห่งนี้มีนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถและมี ความเชี่ยวชาญที่สุดในด้านต่าง ๆ 6 คน ซึ่งแต่ละคนมีจุดเด่นท่ี แตกต่างกันไป พริมโรส หวัง ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์สังคม ด้านจิตวิทยา ออสติน ไทบิเรียส เอเคอร์ หนุ่มวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ด้านโปรแกรมเมอร์และอิเล็กทรอนิกส์ พอยน์เซตเทีย ดีน สาว นักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ โซมิน โฮลเลอร์ หนุ่มหล่อ ลูกครึ่งอเมริกัน - เกาหลี ผู้เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ผลิตอาวุธ และเชี่ยวชาญทางชีววิทยา ด้านตัดต่อพันธุกรรม แพล็ต เกรย์ สนั ชายหนมุ่ อัจฉริยะเชี่ยวชาญด้านโปรมแกรมเมอร์ และดอกเตอร์ เรย์ ผู้เช่ยี วชาญดา้ นมนุษย์ดดั แปลง

3 นกั วทิ ยาศาสตร์ทกุ คนไม่มใี ครทราบจุดประสงค์ของทำงาน ทีแ่ ทจ้ ริง เพยี งแต่ทำตามคำสั่งที่ได้รบั จาก บอส ผทู้ ีไ่ ม่เคยมีใครเคย เห็นหน้า หรือรู้ชื่อจริงของเขาเลย งานและคำสั่งทุกอย่างถูกสั่งการ ผ่านเลขาของบอสสองคน คือ เลขาคิม และ มาคัส กระทั่งเลขาทั้ง สองคนก็ไม่มีใครเคยเหน็ หนา้ ของเขาเชน่ กัน

LOVE LENS

5

6 ในห้องนอนสีขาวขนาดไม่ใหญ่มากนัก ภายในห้องถูก ประดบั ประดาไปดว้ ยเฟอร์นิเจอร์สีขาวสะอาดตา ข้าวของทุกช้ินถูก จัดวางอยา่ งเป็นระเบยี บ โต๊ะทำงานกเ็ ชน่ กัน คอมพวิ เตอร์ท่ีไม่ได้ใช้ งานถูกปิดและวางอย่างเป็นระเบียบ บริเวณชั้นวางของข้างโต๊ะ ทำงานมีเจา้ บีกเกอร์ขนาดต่าง ๆ รวมไปถงึ หลอดทดลองท่ีว่างเปล่า วางเรียงรายกันอยู่ จึงพอเดาออกได้ว่าเจา้ ของห้องคงทำงานในสาย งานวิทยาศาสตร์เป็นแน่ แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ในยามเช้าส่องลอดผ่านม่านสีขาวบาง ตกกระทบมาที่ดวงหน้าขาวนวล ริมฝีปากบางแดงระเรื่อ จมูกเรียว เล็กแต่ทว่าเชิดรั้นแบบคนถือตัว เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนนั้น ยิ่งขับ ผิวพรรณให้สว่างยิ่งขึ้น หญิงสาวเจ้าของดวงหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราที่ นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา เธอมีชื่อว่า พริมโรส ปัณณวีร์ หวัง หรือ พริมโรส หวัง และที่คนในครอบครัว รวมถึงคนสนิทเรียกเธอ ว่า พร้มิ พริมโรส นักวิทยาศาสตร์สาววัย 28 ปี เธออาศัยอยู่กับ แพรว ผู้เป็นแม่เพียงสองคน เนื่องจากพ่อของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ เธอยังเด็ก ด้วยความทฐี่ านะทางบ้านของเธอไม่ไดร้ ่ำรวยมากนัก จึง ทำให้แม่ต้องทำงานหนักเพื่อส่งเธอเรียน หญิงสาวตั้งปณิธานกับ ตนเองไว้ตงั้ แต่เด็กแลว้ ว่าจะทำทุกอย่างใหแ้ ม่ได้มบี ัน้ ปลายชีวิตที่สุข สบาย จึงทำให้เธอเปน็ คนทท่ี ะเยอทะยาน มงุ่ มนั่ ทำตามเป้าหมาย

7 ของตนเอง เด็ดเดี่ยว มีภาวะความเป็นผู้นำในตัวสูงมาก แต่ทว่าเธอ กลับต้องใจออ่ นเมอ่ื เห็นลูกหมาตวั น้อย ๆ หนา้ ตาน่ารักอย่างหา้ ม พริมโรสเป็นผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์สังคม ด้านจิตวิทยา เธอทำงานให้กับองค์กรวิทยาศาสตร์ลึกลับที่ใช้ชื่อว่า WINTECH องค์กรวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติที่มีนักวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ จากทกุ ประเทศทัว่ โลกเข้ารว่ มเป็นพันธมิตร มีสงิ่ ประดษิ ฐ์มากมายที่ถูก ผลิตโดย WINTECH ทั้งที่สร้างประโยชน์และเป็นโทษ นักวิทยาศาสตร์ แต่ละคนมีโครงการท่ีตวั เองตอ้ งรับผดิ ชอบไมต่ ่ำกวา่ คนละ 10 โครงการ รวมท้ังตัวพรมิ โรสเอง กร๊งิ ! กร๊ิง! กร๊ิง! เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงดังขึ้น ทำให้หญิง สาวเจา้ ของหอ้ งงัวเงียฝนื ต่ืนมากดรบั สาย “สวัสดคี ะ่ พริมโรสพูดคะ่ ” หญิงสาวกล่าวทักทายผู้ที่อยู่ปลาย สายด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ก่อนจะแสดงสีหน้าตกใจหลังจากที่ได้ฟัง ปลายสายพูด เธอรีบลุกตึงตังแล้วพุ่งตัวเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ทนั ที หลังจากรบี รอ้ นจดั การธุระส่วนตวั เรียบร้อย หญงิ สาวได้มายืน อยู่หนา้ ตกึ ขนาดใหญ่ทรงสี่เหล่ยี มแปลกตา มีตัวอักษรขนาดใหญ่ของ

8 คำว่า WINTECH โชว์ตระหงา่ นอยหู่ น้าตึก ซง่ึ รู้ไดท้ ันทีว่าสถานที่แห่งน้ี คือศูนย์ปฏิบตั ิงานขององค์กรที่เธอทำงานอยู่ ที่ทำงานที่อยู่ห่างจากตวั เมืองมากพอสมควร เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด กระชับสายสะพาย ของกระเปา๋ ไว้แน่น กอ่ นจะก้าวเข้าไปในศูนย์ กอ๊ ก! ก๊อก! ก๊อก! หญิงสาวเคาะประตูห้องทำงานห้องหน่ึง “เชิญ!” เสียงทุ้มตอบรับมาจากด้านในห้องนั้น หญิงสาวจึง ผลกั ประตูเข้าไป ภายในห้องถูกตกแต่งอย่างมีสไตล์ มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ตามแบบชายชาวตะวันตก จมูกคมเป็นสันรับกับรูปหน้าที่เห็นกรอบ หนา้ ชดั เจน อยู่ในชุดสูทสไี วน์ดูมีระดบั “มาคัสเรียกฉันมาแต่เช้าเลย มีอะไรหรือคะ” หญิงสาวกล่าว ทันทีที่พบหน้าเจ้าของเสียงทุ้มนั้น เขาคือมาคัส เลขาคนสนิทของบอส หวั หน้าและผกู้ ่อตั้งองคก์ รนน่ั เอง “มีโปรเจกต์พิเศษ บอสอยากให้คุณเป็นหัวหน้าทีม คุณทำ ได้มั้ย” ชายหนุ่มช้อนสายตาท่ีคมกริบเพ่งมาที่หญิงสาว ทำให้รู้ในทนั ที ว่าทีเ่ พ่งิ กลา่ วจบไปนน้ั ไม่ใช่ประโยคคำถาม แตเ่ ป็นประโยคคำส่ัง

9 “ดะ...ได้ค่ะ” หญงิ สาวตอบอยา่ งกล้า ๆ กลวั ๆ “ด!ี ทมี ของคณุ จะมีดว้ ยกัน 5 คน รวมคณุ ด้วย” ก๊อก! กอ๊ ก! ก๊อก! ระหวา่ งการสนทนาของทงั้ สองมีเสยี งเคาะประตูแทรกขึ้น “สงสัยมากันแล้ว” มาคัสเอ่ย “สมาชิกทีมของคุณไง” เขา กล่าวต่อ เมื่อเห็นสีหน้างุนงงสงสัยของหญิงสาว หลังจากนั้นมาคัส เชิญผมู้ าเยอื นเขา้ มาภายในห้อง เขาแนะนำสมาชกิ ทมี ให้พริสโรสได้ รจู้ ัก เปน็ ชายสองคน หญงิ สองคน ชายหนุ่มคนแรกเป็นเจ้าของเรือนผมสีนิล ดวงตาชั้นเดียว ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพอู ่อน ดูท่าทางสุขุม ภูมิฐาน ซึ่งขัดกับหน้าตา ของเขาที่ออกจะดูน่ารักมากกว่า แต่ทว่าเขากลับทำใบหน้าเย็นชา บ้ึงตงึ ราวกบั ว่าตนเองเป็นเจ้าชายน้ำแข็ง ไมเ่ ป็นท่นี า่ คบหาเสียเลย เขาผู้นี้มีชื่อว่า แดเนียล เบอริง บีสัน อายุ 28 ปี ผู้เชี่ยวชาญทาง ชีววทิ ยา ดา้ นชีวเคมี ถึงแม้เขาจะอายุเท่ากับพริมโรส แต่ก็มีสักเป็น รนุ่ พี่ เพราะเข้าทำงานท่ีองคก์ รก่อนพรมิ โรสถงึ 3 ปี คนที่สองเปน็ ชายหน่มุ แต่เรียกว่าหน่มุ น้อยนา่ จะเหมาะกับ เขามากกว่า เขามีหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนเด็กผู้หญิง แถมยังย้ิม

10 แย้มตลอดตั้งแต่เดินเข้ามา เขาชื่อ นิโค แอล อายุ 26 ปี ผู้เชี่ยวชาญ ทางชีววิทยา ด้านชีวเคมี คนที่สามเปน็ หญิงสาวผมซอยสน้ั ผู้มีดวงตาเฉี่ยว ริมฝีปาก อวบอ่ิมทถ่ี ูกทาดว้ ยลิปสติกสแี ดงสด ทำใหด้ ูเหมอื นนางรา้ ยในละคร หลังข่าว แต่ทว่าเธอกลับยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร เธอมีชื่อว่า เอวา อายุ 30 ปี ผู้เช่ยี วชาญดา้ นสรรี วิทยา คนสุดท้าย ธนัญรดา หรือรัญ อายุ 28 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้าน สรีรวิทยา หญิงสาวผู้มีผมดำยาวสลวย ดวงตากลมโตเป็นประกาย ราวกับเนื้อทรายสาวโตเต็มวัย แต่กลับถูกบดบังด้วยแว่นอันใหญ่ หนาเตอะ เธอเป็นเพื่อนคนแรกของพริมโรสตั้งแต่เข้ามาทำงานท่ี องคก์ ร จนตอนน้ีทัง้ สองกลายเปน็ เพ่ือนรักทีป่ รึกษากันทุกเรื่องก็ว่า ได้ พริมโรสและรัญต่างยิ้มให้กันด้วยความดีใจที่ในที่สุดก็ได้ทำงาน ในทมี เดียวกันเสยี ที หลังจากที่ทุกคนทำความรู้จักกันเรียบร้อย มาคัสจึงสั่งให้ ออกเดินทางในทันที โดยภารกิจในครั้งนี้เป็นภารกิจที่ใหญ่ที่สุด ของพริมโรสก็ว่าได้ เพราะทมี ของเธอต้องเดนิ ทางไปช่วยเหลือคณะ รัฐบาลของนคินทรประเทศ นคินทรประเทศเป็นประเทศเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะอยู่ ระหวา่ งสามทวปี ไดแ้ ก่ ทวปี เอเชีย ทวปี แอฟริกา และทวปี ยุโรป

11 ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย อันมีประธานาธิบดีเป็นประมุข ประเทศแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยสดงดงาม เป็นจุดขายที่ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาให้ประเทศ ประเทศเล็ก ๆ ที่พัฒนา อย่างก้าวกระโดดขึ้นมาทัดเทียมนานาประเทศภายในเวลาเพียง 5 ปีเศษ แต่ปัญหาที่นคินทรประเทศกำลังประสบคือ อัตราเด็กแรก เกดิ ทลี่ ดน้อยลงทุกปี เนื่องจากประชากรหนุ่มสาวตา่ งใหค้ วามสนใจ ไปที่การทำงานหาเลี้ยงชีพ ทำให้ประเทศกำลังก้าวเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ ดว้ ยเหตุนีพ้ รมิ โรสและทีมจึงมาท่ีนคนิ ทรประเทศ เพอื่ ผลิต เครอ่ื งมือช่วยรฐั บาลแกป้ ัญหา หลังจากที่เดินทางมาถึงที่พัก ทีมต่างแยกย้ายกันนำ สัมภาระไปที่ห้องของตนเอง ที่พักที่เจ้าบ้านตระเตรียมไว้ให้เป็น ห้องพักในโรงแรมหรูระดับห้าดาวของนคินทรประเทศเลยทีเดียว จากนั้นทีมจึงมารวมตัวกันที่ห้องประชุมของทางโรงแรมตามที่ เจ้าหน้าท่ีได้บอกไว้ “ยินดีต้อนรับคณะผู้เชี่ยวชาญตัวแทนจาก WINTECH” เจ้าของคำทักทายเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ เรียวหนวดรอบปากของ เขาถูกกันแต่งอยา่ งเรียบร้อย ช่วยใหใ้ บหน้าคมนัน้ นา่ เกรงขาม

12 “ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น ผมรู้ว่าองค์กรของพวกคุณ เป็นความลับ ไม่มีใครรู้ว่าพวกคุณมาจากไหน นอกจากผมคนเดียว เพราะผมรู้จักกับบอสของพวกคุณเป็นการส่วนตัว ก็เลยรู้จัก WINTECH” เขาย้มิ และกล่าวตอ่ “ผมชื่อ อาฟา ลูเซียนโน่ ประธานาธิบดีแห่งนคินทร ประเทศ ยนิ ดีท่ีได้พบทกุ คน” “สวัสดีค่ะท่าน ดิฉันพริมโรส เป็นหัวหน้าทีมชุดนี้ค่ะ พวก เราทราบภารกิจจากมาคัสเรียบร้อยแล้ว จึงจะขอประชุมกันวันนี้ และเร่มิ งานพร่งุ นีเ้ ลยนะคะ” พรมิ โรสกลา่ วดว้ ยน้ำเสยี งมุ่งมน่ั “จริง ๆ พวกคุณพักผ่อนกันให้เต็มที่ก่อนก็ได้นะ แต่ก็ดี มุ่งมั่นแบบน้ผี มชอบ ถ้าอยา่ งนั้นตามสบายนะ” จากนัน้ อาฟาจึงเดิน จากไป ปล่อยให้ทีมได้ประชุมปรึกษาหารือกัน และแล้วก็ได้ขอ้ สรปุ วา่ สง่ิ ท่ีทมี จะทำการสรา้ ง คือ คอนแทคเลนส์ ทีม่ ีชือ่ วา่ Love Lens ผู้ที่สวมใส่ Love Lens หรือคอนแทคเลนส์แห่งความรักน้ี ต้องสบตากับคนที่ตนเองต้องการจะเริ่มต้นความรักด้วย หรือเป็น ใครสักคนที่ตนเองมีความรู้สึกดีด้วยเป็นเวลา 2 นาที หรือนานกว่า นั้น Love Lens จะทำปฏิกิริยาเคมีบางอย่างกับเซลล์ภายใน ร่างกายของบคุ คลน้ัน ทำให้เกดิ ความรูส้ กึ หลงใหลและตกหลุมรกั

13 “การเริ่มต้นสร้างครอบครัวก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ท่านคิดเห็นอย่างไรคะ” พริมโรสกล่าวถามความคิดเห็นจากอาฟา หลงั จากนำเสนอขอ้ มลู ของเครอ่ื งมือจบ “ผมให้ผ่าน ผมซื้อไอเดียนี้ เริ่มทำการทดลองกับกลุ่ม ตัวอยา่ งไดเ้ ลย” อาฟาตอบอย่างหน้าบาน พรอ้ มนึกไปถงึ ผลที่จะได้ จากสิ่งน้ี พริมโรสและสมาชิกทีมทุกคนต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ภูมิใจกับ ผลงานของตน จากนั้นคณะทำงานของรัฐบาลนคินทรประเทศได้ ประกาศรับอาสาสมัครจำนวน 50 คน เพื่อเป็นกลุ่มตัวอย่างในการ เก็บข้อมูล และหนึ่งในอาสาสมัครก็คือตัวของพริมโรสเอง เธอเข้า ร่วมเป็นกลุ่มตัวอย่างโดยไม่มีใครรู้ มีเพียงธนัญรดา เพื่อนรักของ เธอเท่านน้ั ทร่ี ู้ “พริม้ ! เธอแนใ่ จนะว่าทำแบบนี้แล้วจะไดผ้ ลจรงิ ๆ” ธนญั ร ดาถามข้ึนด้วยน้ำเสียงตกใจ “ชู่ววว รัญ! อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้หมด” พริมโรส เอ็ด ก่อนจะกล่าวต่อ “พริ้มแน่ใจยิ่งกว่าแน่ใจอีก นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะมันจะทำให้พริ้มรู้ว่ากลุ่มตัวอย่างเขารู้สึกกันยังไง และการ ตอบสนองของอกี คนเปน็ แบบไหน”

14 “แล้วเธอจะทดลองกับใคร” พริมโรสไม่ได้ตอบคำถาม ได้ แต่ยิม้ กรมิ่ ก่อนจะเดินจากไป พริมโรสเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานของแดเนียล ชายหนุ่ม หร่ตี า ยน่ ค้ิวดว้ ยความสงสยั หญงิ สาวกา้ วเข้ามาใกล้ย่งิ ข้ึน แล้วโน้ม ใบหน้าของตนเองให้อยู่ในระดับเดียวกันกับใบหน้าของแดเนี ยล ชายหนุ่มทำท่าจะผละตัวออก แต่หญิงสาวใช้มือของตนกดไว้ที่ไหล่ ของเขา บัดนี้ใบหน้าของทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึง 20 เซนติเมตร ด้วยซ้ำ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของหญิงสาวสอดประสานกับดวงตาสี น้ำตาลเข้มของชายหนุ่ม ตาทั้งสองคู่จ้องมองกันเป็นเวลาเน่ินนาน จนหญิงสาวรู้สึกได้ว่าหัวใจของตนเต้นแรงแทบจะหลุดออกจากอก เม่ือตง้ั สตไิ ดห้ ญิงสาวจึงผละตัวเองออก พลางกำลงั ก้าวเท้าออกจาก ตรงน้นั แตม่ ือของชายหน่มุ เรว็ กว่า จึงคว้าขอ้ มอื ของเธอไว้ได้ “จะรีบไปไหนล่ะ ไม่อยากรู้เหรอว่าฉันรู้สึกยังไง เธอกำลัง เก็บขอ้ มูลอยไู่ ม่ใช่เหรอ” ชายหนุม่ ถามออกมาดว้ ยน้ำเสียงเรียบเฉย และสีหน้าที่บ้ึงตงึ เยน็ ชา “ระ...รุ่นพี่ คือ...” หญิงสาวอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบ เพราะดูจาก สีหน้าและน้ำเสียงแล้ว เขาคงโกรธอยู่ไม่น้อย แต่ผิดคาดชายหนุ่ม คลายใบหน้าทบี่ ึ้งตึง แล้วคล่ยี มิ้ ออกมา หญงิ สาวรู้สึกประหลาดใจ

15 เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มให้เธอ จากนั้นชายหนุ่มจึงเอื้อมมือไป จบั มอื ของหญงิ สาวมาแนบไว้ท่ีอกของตนเองและกลา่ ววา่ “หวั ใจเตน้ แรงเหมือนคนบ้าคลั่ง...มันจะหลดุ ออกมาเมื่อไร ก็ไม่รู้...รู้สึกมีความสุขจนต้องยิ้มออกมา” เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงที่ หวั ใจเต้นแรงอยู่แลว้ กแ็ รงเท่าคณู ทวี ใบหนา้ ร้อนผ่าวแดงไปถงึ หู ท้งั สองตา่ งมองกันดว้ ยความขวยเขิน หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพริมโรสและแดเนียลได้สาน สัมพันธ์ต่อกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป คอยเรียนรู้ คอยปรับแก้กันไป และในขณะเดียวกันวันที่ต้องรายงานการเก็บข้อมูลจากกลุ่ม ตัวอย่างให้อาฟารับทราบก็มาถึง ทีมจึงรวมกันที่ห้องประชุมของ โรงแรมเชน่ เคย จากผลการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง พบว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มตัวอย่างมีอาการหลงใหลและตกหลุมรักบุคคล ที่ตนเองทำการทดสอบ และบุคคลนั้นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ตกลงแต่งงาน เริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่กับบุคคลนั้น เรียบรอ้ ยแลว้ สรุปว่า Love Lens หรือคอนแทคเลนส์แห่งความรัก มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงมาก พร้อมที่จะแจกจ่ายให้กับ ประชาชนของนคนิ ทรประเทศ

16 ทุกคนต่างดีใจที่สามารถปฏิบัติภารกิจสำเร็จ ยิ่งทางด้าน อาฟายิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ที่ประเทศของเขากำลังจะมีประชากรตัว นอ้ ย ๆ เกิดขึน้ เสยี ที พริมโรสเองก็ไม่ต่างกัน เธอดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมและ ภารกิจน้ี และนกึ กบั ตัวเองวา่ ความจริงแลว้ การทม่ี นุษย์เราตกหลุม รักกัน ไม่ได้เกิดจากสิ่งประดิษฐ์แสนวิเศษหรือเครื่องมือสุดล้ำแต่ อย่างใด แต่มันเป็นเพียงหลักทางจิตวิทยา และเหมือนกับคำที่แม่ เคยบอกเธอเสมอว่า ดวงตาเปน็ หนา้ ตา่ งของหัวใจ... รถไฟสายสุข

Uncontrollable

18

19 “มีเรื่องราวมากมายที่เก็บไว้ ที่ฉันเองต้องการจะบอก สิ่งท่ี เธอไมไ่ ด้อยูเ่ หน็ มนั มันต่างจากเดมิ ทเ่ี คยเข้าใจ...” เสียงเพลงคลอเบาเบาผ่านหูฟังที่เชื่อมกับเครื่องเล่นเทป รูป ถ่ายเก่า ๆ ถูกใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ และโต๊ะน่ัน เต็มไปด้วยเอกสารงานกองโตที่ไม่รู้จะถูกเก็บไปเมื่อไหร่ ทำให้รู้สึก ท้อแท้และเหนื่อยล้า อีกทั้งแสงสว่างสีส้มของพระอาทิตย์ยามเย็น ทำให้รู้ว่าเวลาหนึ่งวันกำลังจะหมดไป แต่บรรยากาศในห้องตอนนี้ กลับเตม็ ไปดว้ ยความคิดถึงทีแ่ สนเศร้าใจอย่างบอกไมถ่ ูก การใช้ชีวิตแบบไม่มีใครรออยู่ข้างหลังมันช่างเหงาและโดด เด่ยี วสิน้ ดี หลายคนมกั มีใครรอเราอยู่ข้างหลัง แต่สำหรับฉันกลับไม่ มีสักเพียงผู้เดียว หลายคนต่างละเลยและมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป ใช้ ชีวิตในแบบของตัวเองจนลืมนึกถึงใครที่รอเราอยู่ที่บ้านเสมอ จน บางครั้งอาจไม่ทันได้บอกหลาย ๆ เรื่อง และอีกประเภทที่น่าเศร้า เช่นกนั คือไมท่ นั ไดร้ ูจ้ ักโลกใบนีม้ ากมายด้วยซ้ำ แตก่ ลบั ตอ้ งสูญเสีย ไปเสียก่อน และใช่ ฉนั คอื ประเภทอย่างทีส่ อง พอยน์เซตเทีย ดีน คือชื่อของฉัน แต่มักให้เรียกว่า พอยน์ เพราะส้นั และง่ายกว่า แม่ของฉนั ให้กำเนดิ ฉันในเดือนธนั วาคม ช่วง วันคริสมาสตพ์ อดีจงึ ทำใหฉ้ ันมชี ือ่ เปน็ เจา้ ต้นพอยนเ์ ซต

20 เทีย (Poinsettia) ต้นไม้สีแดงสดอันโดดเด่นตัดกับใบสีเขียว ที่ยังไม่เปลี่ยนสี แม่บอกว่าฉันเหมือนกับ Flores de Noche Buena หรอื Flowers of the Holy Night แปลเป็นไทยว่า ดอกไม้ แห่งค่ำคืนอันศักดิ์สิทธิ์ ในตำนานของเมก็ ซโิ กเป็นของขวัญท่ีมอบให้ พระเจ้า เปรียบกับพอยน์เซตเทียเป็นของขวัญที่สวยงามและมีค่า ทส่ี ดุ สำหรับเธอเชน่ เดยี วกัน ทุกอย่างถูกบันทึกไว้เปน็ ขอ้ ความบนกระดาษในสมุดไดอารี่สี ครีม ปกมีรูปต้นพอยน์เซตเทียอยู่ตรงกลางประดับอยู่ มันคือไดอารี่ ที่แม่ของฉันเขียนบันทึกไว้ตั้งแต่ฉันเกิดมายังโลกใบนี้เธอเขียนทุก เรื่องราวในแต่ละวันที่ฉันทำ บ้างก็ว่าฉันซุ่มซ่ามชอบเดินล้มบ่อย ๆ นับครง้ั ทกุ วนั วา่ วันนี้จะล้มท้งั หมดก่คี รง้ั อา่ นครัง้ ใดฉันแอบขำทกุ ที ภาพฟิล์มที่พ่อถ่ายทุกอิริยาบถ ทุกเหตุการณ์ถูกนำมาติดไว้ ในสมุดเล่มนี้ เด็กสาวซุ่มซ่ามในวัยเด็กกลับเติบโตมาอย่างแข็งแรง จนถงึ ทกุ วนั น้ี เขาน่าจะไดเ้ ห็น ว่าตอนนฉ้ี ันแข็งแรงและเขม้ แข็งมาก แค่ไหน ฉันไดเ้ ป็นนักวทิ ยาศาสตร์ ทำการวจิ ยั ทดลองหลายอย่างใน WINTECH ฉันอยากใหพ้ วกเขาได้เห็นสกั ครง้ั ฉันเติบโตมากับคุณยายและคุณตา ทั้งสองท่านเลี้ยงดูฉัน อย่างดี คอยสนบั สนุนฉันทกุ อย่างและเช่ือมั่นในการตัดสนิ ใจของฉัน เสมอ แตแ่ ล้วชีวิตก็ต้องหมุนตามวงจรของมนษุ ย์ ท้ังสองท่านจาก

21 ไปเมื่อฉันมีอายุได้ 25 ปี นับเป็นการสูญเสียครั้งที่สองของฉัน ที่มี ความรสู้ ึกและได้รบั รู้ถงึ การจากไปอยา่ งแท้จรงิ ฉันเริ่มเข้าทำงานในองค์กรในวัย 26 ปี ฉันมุ่งมั่นและเต็มท่ี กับการทำงานให้กับวิทยาศาสตร์ ทำโครงการวิจัยและสร้างผลงาน มากมายกับนักวิจัยคนอื่น ๆ แตพ่ อโครงการจบลงฉนั กม็ กั จะกลับมา นัง่ ดูภาพเก่า ๆ อา่ นเร่อื งเดมิ ซำ้ ๆ อยู่อยา่ งนั้น ยายเล่าว่าพ่อแม่ของฉันเป็นหมอในรัฐวิสคอนซิน ทั้งคู่ เสียชีวิตเนื่องจากต้องรักษาผู้ป่วยติดไวรัส ซึ่งทั้งคู่ได้รับเชื้อขณะทำ การรักษา ทำให้ต้องกักตัวและร่างกายทรุดลงในที่สุด ภายในเวลา 5 เดือนหลังจากกักตัว ทั้งคู่ก็ได้เสียชีวิตลง ตอนนั้นฉันยังอายุเพียง แค่ 8 ขวบ แทบไม่รู้เร่ืองอะไรเลยดว้ ยซ้ำ เข้าใจเร่ืองราวทั้งหมดอกี ทีตอนทอี่ ายเุ พิ่มมาอีก 2 ปี ฉันยอมรับและเข้าใจที่คุณยายบอกทุกอย่างกับเหตุการณ์ท่ี เกิดขึ้น ฉันไม่รอ้ งไห้ฟมู ฟายแตก่ ลบั นิ่งสงบ เหมอื นบ่อน้ำท่ีไม่มีอะไร มากระทบผิวน้ำเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นฉันขยันหมั่นเพียร ทำ ตามความฝนั ทีฉ่ นั ต้องการ และตอนนีฝ้ ันของฉนั เป็นจริงแล้ว ยามราตรีที่แสนมืดมน มีเพียงพระจันทร์ที่เป็นแสงส่องสว่าง เด่นชัด สีเหลืองนวลลออ ดุจโอบอุ้มโลกทั้งใบท่ีเปล่าเปลี่ยวให้ อบอ่นุ คลายหนาว ดาวนบั ล้านทสี่ อ่ งแสงระยบิ ระยบั คอยเคียงขา้ ง

22 ให้หายโดดเดี่ยว ทุกคืนฉันเฝ้ามองดวงจันทร์สองดวง บ้างก็กลมโต บ้างก็ครึ่งเสี้ยว สะท้อนกับพื้นผิวน้ำทะเลสาบที่มีลมพัดกระเพื่อม เบาเบา นอนบนเตียงนุ่มสีขาวท่ีถูกจดั ไว้ใกล้หนา้ ต่าง ช่างเป็นทำเล ทเ่ี หมาะกับตัวฉันเหลือเกิน ตาที่หนักพอจนไมส่ ามารถฝืนได้แล้วน้ัน คอ่ ย ๆ ปิดลง “ดอกเตอร์มัน่ ใจแล้วเหรอครบั ” เสยี งผชู้ ายสกั คนกำลังตะโกนถามกบั คู่สนทนา ฉันได้ยินเสียง ผู้หญิงและผู้ชายพูดตอบสลับไปมาด้วยคำถามที่ย้ำความคิดและดู เคร่งเครยี ดเปน็ กังวล ฉันตามหาตน้ เสยี งวา่ มาจากที่ไหน หาอยู่นาน แต่ก็สะดุ้งตื่นก่อนทุกครั้งที่จะหาเจอ แต่สถานที่ในฝันเป็นที่เดิมซ้ำ ๆ ฉันเดินหาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่เจอ จนในคืนนี้เหลือเพียง บริเวณเดียวที่ต้องไป เป็นห้องกระจกขุ่นมัวสี่เหลี่ยมจัตุรัสมองจาก ด้านนอกไม่เห็น แต่ด้านในสามารถมองเห็นข้างนอกได้ ฉันเดินตรง ไปอยา่ งใจจดใจจอ่ และกังวล หากนี่เปน็ ท่ีสุดทา้ ยท่ีจะพบพวกเขา พวกเขาคือใครกัน? ขณะที่กำลังจับประตูเลื่อน มือฉันสั่นพร้อมกับหัวใจที่เต้น เร็ว ความคาดหวังที่อยู่หลังประตูบานนี้ ช่างกดดันและทำให้ฉันไม่ เป็นตัวเอง ฉันค่อย ๆ เลื่อนประตูไปด้านขวาช้า ๆ จนสุดเขตของ ประตู เสยี งดงั ขน้ึ อกี ครัง้ “หนูพอยน์” หญงิ ชายคหู่ นึง่ กำลังนอนบน

23 เครอ่ื งอะไรสักอยา่ ง มีลักษณะกลมรีคล้ายแคปซลู ขนาดความกว้าง ความยาวพอดีกับรูปรา่ งของทั้งคู่ ภาพสดุ ทา้ ยทีฉ่ นั เห็นคือสายตาทั้ง คมู่ องมาที่ฉนั อยา่ งประหลาดใจ กอ่ นที่ฉนั จะตืน่ ขน้ึ มา ภาพสายตาคู่ นั้นฉนั จำไดด้ วี า่ พวกเขาคือใคร ฉันรบี ลกุ จากเตยี งไปยงั ภาพถา่ ยต่าง ๆ ทถี่ กู ติดและวางไวท้ วั่ หอ้ ง พวกเขาคอื พ่อแมข่ องฉันเอง แต่ทำไมกนั ล่ะ? ทำไมถึงฝันเห็นเหตุการณ์นี้ในสถานที่ซ้ำ ๆ และฉันรู้สึกคุ้น เหมอื นเคยเห็นทน่ี ี่มาก่อน ฉันกลับไปบ้านหลังเก่าที่ตอนนี้ปิดไว้ไม่มีใครอยู่แต่ยังคงเก็บไว้ ไม่ขายให้ใคร คน้ หาขอ้ มลู เร่อื งราวเกา่ ๆ ทง้ั หมดทม่ี เี พ่อื หาคำตอบ พบกลอ่ งใบหนึ่งถูกซ่อนไว้ในห้องใต้หลังคา กลอ่ งใบส่ีเหลี่ยม ในน้ัน มอี ลั บั้มภาพถา่ ยอยู่ 1 เลม่ ภาพถา่ ยในอัลบม้ั เลม่ หน่งึ ตกลงมาตอน ที่ฉันกำลังจะยกกล่องนั้นขึน้ ภาพของฉันหน้าตึกวิจัยแห่งหน่ึง อายุ ตอนนั้นน่าจะประมาณ 8 ขวบ ยืนคู่กับพ่อแม่ถ่ายรูปรว่ มกัน ฉันจงึ หยิบทั้งอัลบั้มมาดู พบภาพถ่ายขณะทำการวิจัยจนถึงการทดลอง และภาพห้องกระจกก็เป็นอีก 1 ภาพที่อยู่ในอัลบั้มนี้ เหตุการณ์ดู คลับคล้ายคลับคลาไปหมด ฉันเริ่มนึกออกว่าเหตุการณ์ในฝันน้ัน ไมไ่ ด้เป็นเพียงฝนั แตม่ นั คือเรื่องจริงทเี่ คยเกดิ ขนึ้ เมื่อ 20 ปีท่กี ่อน

24 หลายวันผ่านไปฉันไม่ได้ฝันถึงเรื่องนั้นอีกเลย นั่นเป็นคืน สดุ ท้ายท่ีฉันฝันถงึ พวกเขา ฉนั ไมส่ ามารถควบคุมสมองของตัวเองให้ ทำตามหัวใจของฉันได้ ลองทดลองใช้ยาเพื่อทำให้เคลิ้มหลับสบาย เผื่อฝันจะยังคงเกิดขึ้น ลองใช้เครื่องสะกดจิตหลับให้ตัวเองนึกตาม ฝันเผื่อฝันอีกครั้งก็ไม่สำเร็จ ลองใช้เครื่องมือจับภาพภายในสมองก็ ไม่สามารถรู้เรื่องราวต่อจากนั้นได้เลย เพื่อนนักวิจัยของฉันบอกให้ ฉันหยุดคิดและอย่าฝืนกฎความเป็นธรรมชาติของมนุษย์เลย เธอไม่ สามารถทำเรื่องพวกนี้ได้หรอก มีแต่เวทมนต์เท่านั้นที่จะทำ ได้ เพอื่ นสว่ นใหญ่พูดไปทำนองเดียวกนั และเร่ิมมองวา่ ฉันเพี้ยน แต่ แล้วเอมม่า นักวิจัยฟิสิกส์อยู่ห้องทำงานถัดไปจากห้องของฉัน เธอ เดินเข้ามาหาในห้องเพือ่ คุย เอมม่า : เมดัลลา ออบลองกาตา ทำหน้าที่แค่ควบคุมระบบ การหายใจ แตไ่ ม่ไดค้ วบคมุ ระบบความรสู้ กึ ของหวั ใจหรอกนะ พอยน์ : ... (ฉันอึ้งไปสักพัก) แล้วจะให้ฉันทำยังไง ความ ต้องการของฉันมันเกินขอบเขตที่จะสามารถเป็นจริงได้ มีแต่ต้อง ยอ้ นเวลากลบั ไปเท่าน้นั แหละ!! เอมม่า : ก็เปน็ ไอเดียทไี่ ม่เลวนิ พอยน์ : Time Machine ย้อนกลับไปอดีตน่ะเหรอ นี่เธอคิด ว่ามนั จะสร้างได้อยา่ งนัน้ เหรอ

25 เอมมา่ : การไม่เคยมี ไมไ่ ดแ้ ปลว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นไดน้ ิ เอมม่าเดินออกไปหลังจากปิดบทสนทนาที่ทำให้ฉันคิดหนัก และทิ้งความหวังไว้ให้ฉัน ฉันเก็บคำพูดของเธอมาคิดอยู่หลายวัน ว่าการสร้างเครื่องย้อนเวลามันไม่ได้ง่ายเลย เปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จ น้อยมาก ๆ เพราะมีนักวิจัยหลายคนเลือกที่จะทำแต่ยอมแพ้ให้กับ การสร้างไปหลายคน จนปจั จบุ นั ก็ยงั ไมม่ ีการสร้างขน้ึ การสร้างเครื่องย้อนเวลานั้นก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน แม้ เคร่อื งมอื ในศูนยว์ ิจยั ของเราจะล้ำสมัยไปไกลมากจนแทบไม่อาจนึก ไดเ้ ลยวา่ อนาคตจะมเี ครื่องอำนวยความต้องการของบุคคลมากน้อย เพียงใด และการสร้างเครื่องย้อนเวลาอาจเป็นการสร้างความไม่ มั่นคงแก่ชาตไิ ด้ เนื่องจากหากย้อนเวลากลบั ไปไดห้ รือไปยังอนาคต ได้ อาจเกดิ เหตจุ ลาจลและเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ จะถูกเปลี่ยน ปัจจุบันที่ เป็นอยูน่ ีอ้ าจไมใ่ ชเ่ ช่นเดมิ ฉันตัดสินใจเริ่มศึกษาค้นคว้าอย่างลับ ๆ เพราะในการสร้าง ครั้งนี้หากคนรู้น้อยมากที่สุดจะยิ่งเป็นผลดี และหนึ่งในนั้นที่รู้คือ เอมมา่ ฉันขอใหเ้ ธอชว่ ยในการสร้างสง่ิ ประดิษฐ์ในครงั้ นดี้ ้วย เธอตก ลงและยินดีช่วย แต่เธอเสนอมาว่า การสร้างในครั้งนี้สองคนคงไม่ ไหว ควรมคี นมาชว่ ยพวกเราเพิ่ม ฉนั วาดโครงการคร่าว ๆ ไว้แลว้ ว่า จะให้มันออกมาประมาณไหน

26 กระจกแก้วใสทรงกลม เก้าอี้สีดำเงาสนิท ติดต้ังอุปกรณ์วงจร ครบถ้วน หน้าจอสัมผัสเพ่ือตัง้ ค่ารูปแบบการใช้งาน สามารถส่ังงาน ผ่านระบบเสียง ชื่อระบบว่า บีเจ เป็นระบบเอไอที่เหมือนมีชีวิต คลา้ ยมนุษยเ์ พยี งแตไ่ มม่ รี ปู รา่ ง ในโครงการคร้ังน้ีได้นักวศิ วกรไฟฟ้าเพื่อมาชว่ ยในการหาคล่ืน แม่เหล็กไฟฟ้า ผลิตและถ่ายโอนพลังงาน ให้เกิดช่องโหว่ของเวลา เพื่อที่จะสามารถส่งตัวของฉันไปยังห้วงเวลา และวิศวกรเครื่องกล มาชว่ ยในการสรา้ งส่งิ ประดษิ ฐห์ รือเครือ่ งไทมแ์ มชชนี เราใช้เวลาในการสร้างเจ้าเครื่องนี่อยู่ร่วมเข้า 4 เดือน พยายามเรง่ ให้เรว็ และทำอยา่ งสุดฝีมือ จนสดุ ทา้ ยเราสร้างมันขึ้นมา ได้ในกลางเดือนของเดือนที่ 5 รวมทั้งหมดเวลาในการสร้างและ ทดลอง ลองผิดลองถูกเป็นนับร้อยครั้งอยู่ที่ 4 เดือนครึ่ง ถือว่าเป็น การสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่รวดเร็วมาก ๆ เพราะอาจจะด้วยการนำหัว กะทมิ าร่วมด้วยช่วยกันจงึ ผลออกมาอยา่ งที่เหน็ ในที่สดุ เครอ่ื งยอ้ นเวลาของเราก็สำเร็จ มีชอ่ื วา่ “Rebox I” ฉันภูมิใจที่ได้เห็นเครื่องที่ฉันไม่คาดฝันว่าจะเกิดได้จริงจาก ความสามารถของพวกเรา ฉนั ต่นื เตน้ มาก ๆ ทจ่ี ะได้ใชม้ ันกลับไปหา พ่อแม่เพื่อหาคำตอบที่คาใจของฉัน แต่อีกใจด้านหนึ่งกลับกังวล เชน่ เดียวกนั

27 Rebox I หรือ รีบอกซ์ วัน สามารถย้อนเวลากลับไปยังอดีต และอนาคตได้ไม่เกินบวกลบ 1000 ปี สามารถนั่งได้เพียงแค่หนึ่งที่ มีเวลาจำกัดในการย้อนเวลา คือ 2 ชั่วโมง และที่สำคัญไม่สามารถ หยิบจับหรือแก้ไขอะไรใด ๆ ภายในอดีตหรืออนาคตได้ พวกเรา ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น หากเรื่องนี้ถูกพูดออกไปกว้างอาจเกิดความ วนุ่ วาย จงึ ได้กำหนดขอ้ จำกัดของมันเอาไว้ ฉันค่อย ๆ ก้าวเข้าไปยังรีบอกซ์ และนั่งลงประจำที่ บีเจเร่ิม ประมวล ทกุ คนในทมี มองมาท่ฉี ัน ด้วยสายตาทีค่ าดหวงั และตะโกน ให้กำลังใจแก่ฉัน “เอาล่ะบีเจ เราย้อนกลับไปหาพ่อแม่กัน” ส้ิน เสียงของฉนั บีเจเรมิ่ นับถอยหลังเขา้ สู่ห้วงเวลา 10... 9... 8... 7... 6... 5... 4... 3... 2... 1... Start!! วูม่ วมู่ ว่มู ว่มู วู่ม (เสียงเครอ่ื งทำงาน) แสงแฟลชตัดฉับผ่านใบหน้าของทุกคนที่กำลังมองมายัง ฉัน ภายในเสี้ยววินาทีฉันหายไป สักพักจอแสดงผลว่าฉันนั้นกำลัง เข้าสู่มิติของเวลา “ไมต่ ้องรัก เท่าฟา้ แต่ขอใหร้ ักเท่าเดิม...” เพลงโปรดของแม่ ท่ีมักใหฉ้ นั รอ้ ง

28 “I miss you like crazy… Even more than words can say...” เพลงทีฉ่ ันฝกึ ร้องเพอื่ ไปแขง่ ในงานของโรงเรยี น ดงั ขน้ึ มาใหไ้ ดย้ ินระหวา่ งทาง ...ทำไมเมื่อก่อนช่างดสู ดใสราวกับโลกท้งั ใบนนั้ มีเพยี งเราสามคน แสงสว่างที่อยู่ไกลออกไปเริ่มใหญ่ขึ้นเหมือนเรากำลังเข้าไป ใกล้มันมากขึ้นเรือ่ ย ๆ ภาพที่ปรากฏคอื ตึกสีขาวตัดกับแทบสีเขยี ว มีปา้ ยตวั อกั ษรขนาดใหญ่สเี งนิ ติดอยู่บนตกึ ช่อื ว่า Conex มันคือตึก เดียวกันท่ฉี นั เคยถา่ ยภาพเม่ือ 20 ปกี ่อน “พอยน์ มาเร็วลูก มาถา่ ยรูปตรงน้กี นั ” ครอบครวั สมาชิกสามคนกำลังยืนถา่ ยรปู อยู่ไม่ไกลจากที่ฉันยืน ใช่ พวกเขาคือพ่อแม่ของฉัน และฉันในวัยเด็ก พวกเขาดูมีความสุข อย่างกับไม่มีเรื่องทุกข์ให้กังวลใจ ทั้งสามเดินเข้าไปยังตึกด้วยกัน ด้วยสีหน้าที่เบิกบาน ฉันตามเข้าไปเพื่อตอบความสงสัยของฉันว่า ทำไมความทรงจำนถี้ ึงยังอยู่กบั ฉันมาจนถึง 20 ปี ฉันเดินตามไปเรื่อย ๆ เห็นพวกเขาพาฉันในวัยเด็กไปไว้ที่ ห้องพักรับรอง หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกจากห้องไป ฉันตามไปติด ๆ กา้ วตอ่ กา้ วเพ่ือไม่ให้คลาดสายตา ทางเรม่ิ ไกลและเรมิ่ ซับซอ้ น

29 มากขึ้น เหมือนห้องที่พวกเขาจะไปดูเป็นความลับ มีคนเข้ามาน้อย และต้องเป็นคนทไ่ี ด้รับอนญุ าตเทา่ นน้ั สุดท้ายทั้งคู่ไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องกระจกห้องหนึ่ง นั่นคือห้อง กระจกที่ฉันฝันถึงมาโดยตลอด ฉันยืนอยู่หลังพวกเขาและมองเข้า ไป เห็นเครื่องมือมากมายเต็มไปหมด และที่เป็นจุดเด่นในห้องน้คี อื แคปซูลสองเครื่องที่ตั้งอยู่กลางห้อง ฉันเข้าไปและพบเอกสาร มากมายภายในห้อง กระดานคำนวณสูตรเคมีที่แสนปวดหัว เยอะ เสียจนไมม่ ที ่วี ่างพอสำหรบั ข้อมูลใหม่ ฉนั เหลอื บไปเห็นช่ือโครงการ บนกระดาษเอกสาร “โครงการ SET HTMR3” ผลิตขึ้นเพื่อจะ นำมาเป็นการรกั ษาใหก้ ับคนท่ีป่วยเปน็ มะเร็ง ไม่ว่าจะเกดิ มะเรง็ อยู่ ส่วนไหนสามารถที่จะรักษาได้ ผู้ทดลอง ศาสตราจารย์ มาเกล ดีน และ แฮรี่ ดนี ฉันเริ่มนึกและคิดทบทวนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มันไม่ตรงกับท่ี เหตุการณ์ที่ย่าของฉันได้เล่าไว้ เหตุใดพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ทำไมถึง ไม่ไปรักษาผู้ป่วยแต่กลับมาอยู่ในเครื่องแคปซูลนี้แทน สักพักทั้งคู่ เริ่มการทดลอง ด้วยสูตรคำนวณใหม่ซึ่งมีค่าที่สูงมาก อาจเป็น อันตรายได้ นักวิจัยอีกท่านได้แย้ง แต่ทั้งคู่กลับยังดื้อรั้นที่จะ ดำเนินการต่อ นักวิจัยจึงได้แต่ยอมทำตาม เมื่อกำหนดค่าต่าง ๆ ตามทีค่ ำนวณใสล่ งในเคร่อื ง ทงั้ คูก่ ดปุม่ เรม่ิ พรอ้ มกัน

30 สักพักบานประตูเลื่อนถูกเปิดออก นั่นคือฉันที่กำลังยืนมอง พวกเขาอยู่ พวกเขาประหลาดใจและตกใจเอามาก ๆ จึงรีบให้คน พาฉันออกไป และนีค่ งเป็นสดุ ทา้ ยท่ีฉันเหน็ พวกเขา... เครื่องทำงานที่ได้รับค่ากำหนดที่สูงเกินไป ทำให้เกิดความ ขัดข้องและเกิดระเบิดขึน้ ภายในตัวเครื่อง ภาพที่ฉันเห็นชา่ งน่ากลวั ฉันกรีดร้องสุดใจเมื่อเครื่องระเบิด และพบว่าพวกเขาเสียชีวิตใน เครอื่ งแคปซูลนี้ในทันที ฉนั ยงั คงกรีดรอ้ งและร้องไห้ พยายามตะกุย ตะกายที่จะเปิดเครื่องนี้เพื่อช่วยพวกเขา แต่ไม่สามารถทำได้ เป็น ความเจ็บปวดที่แสนทรมานใจเป็นที่สดุ ฉันทำอะไรไม่ถูก ขาแข้งไร้ เรี่ยวแรง ทรุดลงไปกองกบั พ้นื และน้ำตาท่มี ีอยู่ก็ไหลออกมา 5... 4... 3... 2... 1... ติ๊ด ฉันนั่งกองอยู่กับพื้นภายในรีบอกซ์ ทุกคนตกใจจึงรีบวิ่งเข้ามา หาฉัน เอมม่ารู้ดีว่าฉันคงเจอเรื่องแย่ ๆ มาอย่างแน่นอน เธอจึงเข้า สวมกอดฉันด้วยความห่วงใย ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อมีอ้อมกอด จากเอมมา่ เหมอื นนำ้ ตาทไ่ี หลออกมา มนั คอื นำ้ ตาทีค่ ร้ังก่อนน้ันฉัน ไม่ได้ให้มันออกเลยแมแ้ ตห่ ยดเดียว พอถึงเวลานีม้ ันไม่สามารถทีจ่ ะ อดกลั้นไดอ้ กี ตอ่ ไป มันทำให้ฉันรู้แล้วว่าเร่ืองราวที่เคยรู้มาน้ันไมใ่ ช่ความจริง พวก ท่านจากไปจากการทดลองทไี่ ม่สามารถเปดิ เผยข้อมลู ได้ ชา่ งนา่

31 เศร้าใจที่เหตุใดคนที่อุทิศตนเองเพื่องานและการค้นคว้าเพื่อส่ิงใหม่ ถึงไม่ได้รับการยกย่องหรือบอกแก่ใคร ๆ ว่าพวกท่านนั้นเสียสละ เพื่อมนุษย์ท้งั โลกใบนม้ี ากแคไ่ หน หลังจากที่ฉันสืบหาข้อมูลจนพบบันทึกการทดลองในครั้งนี้ จึง ย่นื เข้าเสนอทางองกรณ์และให้มีการหยิบโครงการคร้งั นี้ข้ึนมาแก้ไข และทำการไว้อาลัยให้แก่ผู้ที่จากไปจากการทดลองในครั้งนั้นอย่าง สมเกยี รติ ทำได้เพยี งแค่เกบ็ เรือ่ งเราไว้ มองย้อนไปมเี ธอช่างสวยงาม... ...มองย้อนไปมีเธอตลอดมา... คลิก!! (เสยี งเคร่อื งเลน่ เทปหยุดลง) ปะการัง

In Dream

33

34 เสียงลมพายุพัดผ่านภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ทำให้เกิดเสียง สะท้อนดังอื้ออึงราวกับเสียงสนามแข็งรถมอเตอร์เวย์ที่นักแข่งพา กันเหยยี บคัดเร่งเพื่อแซงคู่แข่ง แต่น.่ี ..เปน็ เพียงเสียงของพายุหิมะท่ี ซัดกระหน่ำ ปกคลุมทั่วผืนทวีปมหาสมุทรอาร์กตกิ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ละติจดู 90 องศาเหนอื ของทวีป ความเหน็บหนาวเข้าปกคลุมสถานที่แห่งน้ี ที่ปราศจากผู้คน อยู่อาศยั ไมพ่ บตกึ ราบา้ นช่องใด ๆ มองไปทางไหนก็มีแต่หิมะสีขาว ผืนใหญ่ที่กวา้ งสุดลูกหูลูกตา มีเพียงภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ต้ังอยู่ใจ กลางมหาสมทุ รแห่งน้ี แต่...จะมใี ครรวู้ า่ ท่ีที่ผู้คนไม่สามารถอาศัยอยู่ ได้น้ัน จะมศี นู ยว์ ิจัยที่ตัง้ อยู่และถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ภูเขาหิมะลูกนี้ “ไม่ไปไม่ได้เหรอ...” เสียงพึมพำของชายหนุ่ม ที่นอนแผ่หลา หลับตาพริ้มอยู่บนเตียงหกฟุตขนาดใหญ่ ภายในห้องสี่เหลี่ยม มี เพียงแสงไฟสลัวจากโคมไฟที่ตั้งอย่หู ัวเตียง เขาค่อย ๆ ลืมตาขึน้ อยา่ งชา้ ๆ ภาพตรงหน้าที่พร่ามัวเริม่ ชัด ขึ้น หลังจากนอนแน่นิ่งอยู่สักพักเหมือนกับว่ากำลังทบทวนบางส่ิง บางอยา่ งอยคู่ รหู่ น่ึง “Room switch on” เสียงทุ้มพูดด้วยภาษาที่คุ้นเคย เมื่อ ส้นิ สุดปลายเสยี งกระนัน่ ไฟทกุ ดวงก็ส่องสวา่ งขึ้นโดยอตั โนมัติ ทำให้

35 ห้องสี่เหล่ียมขนาดใหญ่ที่เคยมืดมิดอยู่เมื่อครู่นี้นั้นดูสว่างชัดขึ้นมา ทันตา ชายหนุ่มกระพริบตาปริบ ๆ เพื่อปรับค่าสายตาให้มองเห็น อะไร ๆ ชดั ขน้ึ ก่อนจะผุดลกุ ขึน้ มานงั่ หย่อนขาลงทขี่ ้างเตยี ง เหลือบ มองนาฬิกาโฮโลแกรมที่ตั้งอยู่ถัดจากโคมไฟเล็กน้อย เขาถอน หายใจเบา ๆ หลงั จากเหน็ เวลาทป่ี รากฏ ‘02:00 น’ “เวลาเดิมเลย…” พูดจบเขาก็ใช้ฝ่ามือยีหัวตัวเองเบา ๆ และ ใช้มืออีกข้างหนึ่งดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ร่างสูงโปร่งบิดขี้เกียจ เล็กน้อย ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ถัดไปจากห้องครัว เพื่อ ทำกิจวตั รอย่างเช่นทุกวนั กระจกบานใหญ่สะท้อนชายหนุ่มรา่ งสูง ขอบตาคล้ำคล้ายคน อดหลับอดนอน ผมดำยาวยุ่งเหยิงที่ยังไม่ได้ตัดและหนวดเคราท่ี ไม่ได้โกนมารว่ มเดอื น เม่อื มองเหน็ ตัวเองในกระจกกบั สภาพท่ีคิดว่า ใครก็ทนดไู มไ่ ด้ แมก้ ระท่งั ตวั เอง เขาจงึ ตดั สินใจหยิบมดี โกน มาโกน หนวดออกสักที ถ้าใครมาเห็นก็คงดูไม่ออกว่าคนแบบนี้หรือจะเป็น อัจฉริยะหนมุ่ ทีม่ ไี อคิวเกนิ กวา่ คนทว่ั ไปอยู่มากโข ต๊ดื !

36 “ระบบยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น ยินดีต้อนรับคุณ ออสติน ไทบิ เรียส เอเคอร์” เสียงประตูโฮโลแกรมหน้าห้องวิจัยของผมดัง ขึ้น หลังจากแสกนระบุตัวตนเสร็จสิ้น ใช่แล้ว! นั่นคือชื่อของผม เอง ผมมีชื่อว่า ออสติน เป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ ส่วนชื่อกลางและชื่อ ท้ายคือนามสกุลของพวกท่าน ตอนนี้ท่านทั้งสองได้เสียชีวิตแล้วไป แล้ว แม่ของผมตายในวันที่คลอดผมเพราะครรภ์เป็นพิษ ส่วนพ่อก็ เพิ่งเสียชีวติ ไปด้วยโรคหัวใจ ตอนผมอายุแค่ 10 ขวบ เท่าน้นั มันทำ ให้ชีวิตของผมลำบากอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ผมก็ดิ้นรนและผ่านมาได้ ถงึ ขนาดนี้ และเมื่อผมอายุ 18 และได้รับจดหมายเชิญให้เข้าร่วมกับ องค์กรที่ชื่อว่า WINTECH ซึ่งเป็นองค์กรที่พัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ก่อนถูกส่งมาประจำการที่ศูนย์ย่อยที่เรียกตัวเอง ว่า ‘มาร์ทริต้ี’ ผมเองไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับองค์กรมากนัก แต่ด้วย รายได้ทจี่ ะได้รับมันมากมายจนคิดวา่ คงไม่มีใครกล้าทจี่ ะปฏิเสธ แต่ สุดท้ายผมก็รู้ว่า เอ่อ...เงินพวกนั้นได้ไปก็แทบไม่ได้ใช้เลย เมื่อผม ต้องมาประจำการอยู่บนธารน้ำแข็งแห่งน้ี ที่ตัดขาดจากโลก ภายนอกอย่างสิ้นเชิง ก็ใช่สิ! ผมจะเอาเงินไปใช้ที่ไหนได้ในเมื่อที่นี่มีแต่น้ำแข็ง ไม่ เห็นมีเสาไฟสักต้น ตึกก็ไม่มี ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นแค่ช่วงแรกที่มา ประจำการใหม่ ๆ จนเมื่ออยมู่ าได้สกั พัก จนเร่มิ รู้สกึ ว่าอาจจะดีกว่า

37 โลกภายนอกเสียด้วยซ้ำ เพราะใครจะไปรู้ว่าศูนย์วิจัยแห่งนี้จะเต็ม ไปด้วยเทคโนโลยที ี่ทนั สมัย และวิทยาศาสตรท์ ี่ก้าวไกลเกนิ กว่าโลก ภายนอกจะรับรูซ้ ะอกี ผมทำงาน ณ ที่แห่งนี้มาหลายปีแล้ว พัฒนาโปรแกรมและ สิ่งประดิษฐ์อยู่หลายชิ้น เพื่อใช้ในองค์กร รวมถึงโครงการอีกหลาย อยา่ ง มที ้งั ประสบความสำเร็จและล้มเหลว เพราะไม่ได้เก่งมากมาย แต่ก็พอสร้างผลงานให้กับตัวเองได้ ที่นี่ยังมีคนเก่งกว่าผมอยู่อีก หลายคน “ซีโร่!” ชื่อเรียกคู่หูอัจฉริยะที่ผมสร้างขึ้น มันคือโปรแกรม คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ถูกป้อนข้อมูล ให้มีระบบความคิดและช่วย ในการจดั ระบบการทำงานในทุก ๆ อย่าง กว็ ่าได้ “เจ้านาย! เมือ่ ไหร่จะเลกิ ปลุกซีโร่ดึก ๆ ซะที” เจ้าโฮโลแกรม อจั ฉรยิ ะ ส่งเสียงราวกับไมพ่ อใจ ทผ่ี มมาเรียกมนั ตอนดกึ ๆ “เลิกบ่นได้แล้ว แกเหนื่อยเป็นซะที่ไหน อย่ามาทำเป็น บ่น” เมื่อตำหนิเจ้าซีโรไ่ ปหนึ่งยก เพราะมันเอาแต่พูดจาเพ้อเจอ้ ทำ เป็นบ่นผม

38 “ก็เจ้านายพึ่งไปนอนเมื่อไม่นานมานี้เอง ผ่านไปไม่ถึงสาม ชั่วโมงก็ตื่นมาอีกแล้ว ฝันถึงเธอคนนั้นอีกแล้วเหรอครับ” เจ้าซีโร่ ถาม ระหว่างท่ีฉุกคดิ ไปครู่หนง่ึ ก่อนจะพยักหน้ารับ “ก็...” ...เหตกุ ารณม์ นั เกดิ ขนึ้ ในวนั ครบรอบวนั เกิดท่ีแม้แต่ตัวผมเอง ก็แทบจะจำไม่ได้ ถ้าเจ้าซีโร่และนักวิจัยที่ผมรู้จักอยู่ 2-3 คน ไม่ มาร่วมอวยพรวนั เกดิ ให้ พรอ้ มจดั ปารต์ ้วี ันเกิดเล็ก ๆ คนื นัน้ พวกเรา ดื่มกันและคุยเรื่องราวต่าง ๆ ถึงแม้จะทำงานอยู่ที่เดียวกันแต่พวก เราแทบจะไม่ได้พบปะหรือเสวนากันเลย วันนี้พวกเราก็เลยดื่มกัน หนักไปหน่อย จนผมเมามากจนจำแทบไม่ได้ว่ากลับมาที่ห้องพัก ของตัวเองได้อย่างไร จำได้แค่ภาพราง ๆ ว่ามีคนอุ้มมาทิ้งที่เตียง กอ่ นจะหลับไป และในคืนนั้น ผมได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง ในตาสีฟ้า ผมสี บรอนซ์ทอง เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้าเธอ หัวใจนี้เต้นแรงราว กับเส ียงของกล องชุดท่ี กำลังเล ่น อยู่บน เว ที คอนเสิร์ต ผมของเธอยาวประบ่าถกู ลมพัดสลวย กลิ่นหอมของดอก ลิลลี่อ่อน ๆ โชยมาตามลม ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตัวผมเองเหมือนตกอยู่ ในภวงั ค์ ผมวา่ รแู้ ค่ว่าแรกพบหน้า ก็ตกหลมุ รักเธอเขา้ แล้ว...

39 ในความฝันเราสองคนได้ทำความรู้จักและพูดคุยกันอย่าง สนุกสนาน ไม่รวู้ ่าเวลาเนน่ิ นานเทา่ ไหรแ่ ล้วทีเ่ ราสองคนพูดคยุ กัน “ฮ่าๆๆๆ” เธอหัวเราะร่าเมื่อผมเล่าเรื่องตลกตอนได้เข้ามา ทำงานที่นี่ใหม่ ๆ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเธอ ทำให้หัวใจดวง น้อย ๆ พองโตอย่างบอกไม่ถูก จนเผลอยิ้มตามใบหน้าที่สดใสของ หญิงสาว “เธอยิ้มแล้วน่ารักดีนะ” คำพูดไปไวเท่าความคิด ผมพูดสิ่งที่ กำลังคิดออกมาดื้อ ๆ คำพูดนั้นทำเอาอีกฝ่ายถึงกับเขินหน้าแดง ระเรอ่ื ทำตวั ไม่ถกู อยคู่ รูห่ นึ่ง “ฉะ...” เธอกำลังจะพูดบางสิ่งบางอย่าง แต่แล้วก็ต้องชะงัก ไป หญิงสาวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เธอก้มลงมามองหน้าผมด้วยสี หน้าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แววตาที่เศร้าสร้อยราวกับรู้สึก เสียดายบางอยา่ ง “ฉันคงต้องไปแล้ว...พรุง่ นี้ไว้พบกันใหม่นะ” หญิงสาวเอ่ยคำ ด้วยน้ำเสยี งทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยความเสยี ดาย “ไปไหนเหรอ?”

40 เธอไม่ได้ตอบคำถามของผม มีเพียงแค่รอยยิ้มที่ส่งมาแทน คำพดู ก่อนจะเดินหนั หลังให้และเดินจากไปอยา่ งช้า ๆ จนหายไป แต่แล้วตน่ื ขึ้นมาและพบว่าเร่ืองท้ังหมดมันเป็นเพียงแค่ความ ฝนั นาฬกิ าได้บอกเวลา 02.00 น. ในเชา้ วันนัน้ ผมนง่ั ทบทวนความ ฝันเมื่อคืนมันรู้สึกดีมาก ๆ จนเผลอนึกแล้วยิ้มออกมาเหมือนคนที่ กำลังตกหลุมรัก แม้จะแอบเสียดายเล็กน้อยกับเรื่องเมื่อคืนที่มัน เปน็ แค่ความฝัน เพราะถา้ ไดเ้ ปน็ ความจริงก็คงจะด.ี .. เมื่อทำงานเสร็จก็กลับมาห้องพักของตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยน เสื้อผ้าเสร็จสรรพ ก็กระโดดขึ้นเตียงนอนสีเทาหม่น นอนแผ่อยู่บน เตียงครู่หนึ่ง วันนี้ทั้งวันแทบไม่มีสมาธิทำงานเลยด้วยซ้ำ เพราะมัว แต่คิดถึงหญิงสาวเมื่อคืนจนเผลอเขียนโปรแกรมผิด ๆ ถูก ๆ ไป เลยโดนเจ้าซีโร่ตำหนิเอา เดี๋ยวนี้ได้ทีเอาใหญ่ เริ่มสงสัยแล้วว่าใคร เป็นเจ้านายมันกันแน่ เม่ือผมหลับตาลงพร้อมกับความเหนื่อยล้า กอ่ นจะหลับใหลไปในหว้ งนิทราของบรรยากาศในคำคืนนี้ สายลมไหวสาดพบกระทบใบหน้า เสยี งใบไม้ที่โดนลมสัน่ มัน ช่างเป็นบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคยเลย ในแต่กลับทำให้รู้สึกสงบ พลัน ให้นึกถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การนอนหลับในทุก ๆ คืน

41 ต้ังแต่เริ่มเข้ามาทำงานในศูนย์วิจัยแห่งนี้ เสียงที่คุ้นเคยก็มี เพียงแค่เสยี งตอ๊ กแต๊ก ของแปน้ พิมพ์ และเสยี งของเคร่ืองมือท่ีใช้ใน การสร้างสิ่งประดิษฐ์ ทำงานอุดอู้อยู่ภายในห้องกระจกสี่เหลี่ยม กับบรรยากาศท่ีไร้การปฏิสัมพันธ์ นอกจากคุยกับตัวเองและเจา้ คู่หู อัจฉริยะ ก็มีนาน ๆ ทีถึงจะได้พบปะกับนักวิจัยคนอื่น ๆ ซึ่งปกติ ติดต่อกันบ้างแต่ก็คุยกันตามประสาผู้ร่วมงานเท่านั้น แถมไม่น้อย มากที่เจอกันตัวเป็น ๆ ส่วนใหญ่ก็ติดต่อผ่านโฮโลแกรม แต่รอบตัว ในตอนนตี้ ่างไปจากทุก ๆ วันอยา่ งมาก “สวัสดี” ผมหันหน้าไปยังต้นเสียงก็พบกับหญิงสาวที่อยู่ใน ความฝันเมื่อคืนก่อน วันนี้เธอสวมชุดเอี๊ยมสีเหลืองลายตาราง กับ หมวกสานท่ีผูกดว้ ยโบวส์ ีนำ้ ตาลเข้มอันใหญ่ ซง่ึ เธอกก็ ำลังยิม้ ให้ ผม จงึ ดันตวั เองลุกขึน้ กอ่ นจะกล่าวทกั ทายเธอเช่นกัน “สวสั ดี เราเจอกนั อีกแลว้ นะ” อีกฝ่ายพยกั หนา้ เหน็ ดว้ ย “วันนี้อากาศดีมาก ๆ เลย คุณว่าไหม?” เธอนิ่งมองรอบ ๆ อยู่ครู่หนงึ่ ก่อนจะหันมาถาม “ใช่แล้วล่ะ ผมพึ่งเคยสัมผัสบรรยากาศแบบนี้เป็นครั้ง แรก” ว่าแลว้ กพ็ ลางสดู ลมหายใจเข้าเต็มปอดกอ่ นจะ ถอนหายใจ

42 ออกเฮือกใหญ่ “เฮ้อ...ถ้าเป็นไปได้ผมอยากอยู่ในที่แบบนี้ตลอดไป เลย” เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ได้เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไป ก็ไม่ แนใ่ จวา่ คดิ ไปเองหรอื เปลา่ แต่แววตาของเธอดูเศร้าลงนิดหน่อย “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” คำพูดนั้นแสดงความเป็นห่วงอีก ฝา่ ย เธอก้มลงเล็กน้อย แล้วส่ายหน้าเบา ๆ “เปล่าหรอก ไม่มี อะไร แลว้ วันนีน้ ายมเี ร่ืองอะไรมาเลา่ ใหฉ้ ันฟงั อีกไหม” เธอถาม “มีสิ แล้วเธออยากรู้เรื่องอะไรล่ะ ฉันจะเล่าให้ฟัง” สิ้นสุด คำพูดของผมหญิงสาวก็พลันขยับตัวเข้ามาใกล้ พยามตั้งอกตั้งใจ เพือ่ รอฟงั สง่ิ ทผี่ มจะเลา่ “ง้ันเร่อื งตอนเดก็ ๆ ของคุณก็แลว้ กนั ” “โอเค ได้สิ ชีวิตวัยเด็กผมก็ไม่มีอะไรมากหรอก...” ผมเร่ิม เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง อีกฝ่ายเองก็ตั้งใจฟัง พยักหน้ารับบ้าง หวั เราะบา้ ง หรอื ถามแทรกข้นึ มาบ้างในบางเรอ่ื งที่ไมเ่ ขา้ ใจ เวลาผา่ นไปสกั พกั ใหญ่ ๆ ระหว่างกำลังเล่าอยู่น้ัน

43 “หมดเวลาแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเล่าให้ฟังใหม่นะ” อีกฝ่ายพูด ขึน้ ขัดจังหวะและลกุ ขนึ้ ยืน โบกมือลาแลว้ เดนิ หายออกไป เมื่อลืมตาขึ้นมาบนเตียงนอน ก็ได้แต่สงสัยว่ามันเกิดอะไร ขนึ้ และยังสับสนมึนงงเล็กน้อย ผมหันมองนาฬิกาดจิ ิตอลท่เี ดิม “ตี สองอีกแล้ว…” เวลาของมันเหมือนกับเมื่อวานไม่มีผิด เหตุการณ์ เหมอื นเดจาวูที่เกดิ ข้นึ ซ้ำ และเคยเกิดขน้ึ มาแลว้ มาถึงห้องแล็ป ก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิด ให้ซีโร่ฟังเพื่อให้มัน บันทึกข้อมูลไว้ในดิส และนั่งทบทวนเรื่องนี้อยู่นาน ทำให้ สัญชาตญาณตามประสานักวิจัยของผมนั้นเริ่มทำงาน ความคิดเริ่ม ประติดประต่อ จนเกิดการตั้งสมมุติฐานขึ้นว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่ความ ฝันทั่วไปแน่ ๆ มันน่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนั้น ซึ่งคงต้องลองหา คำตอบดู วันนั้นผมใช้เวลาค้นคว้างานวิจัยเก่าของนักวิจัยอยู่หลายคน จนไดม้ าพบกบั งานวิจยั เล่มหนึง่ ทนี่ ่าสนใจซงึ่ เป็นงานวิจัยท่ีถูกคิดค้น โดยนักโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า จิม มอร์แกน มีชื่อโครงการว่า In Dream เป็นการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับทฤษฎีหลักการเกิดความฝันที่ ไม่เคยได้ยินมาก่อน เขาได้ศึกษาเรื่องความฝัน ครั้งหนึ่งตอนเขาฝนั ถึงใครบางคนซ้ำ ๆ และหาสาเหตุไม่ได้ คนเราจะพบกับคนๆ หน่ึง อยูเ่ สมอ เมือ่ ได้พูดคุยกนั เปน็ เรอ่ื งเป็นราวกด็ เู หมือนว่าคน ๆ น้ัน

44 ไม่ไดเ้ ป็นแคค่ วามฝันทั่วไป อาจมตี ัวตนอยู่จริง ๆ และยงั มคี วามรู้สึก นึกคิดอีกด้วย ผมอ่านวิจัยเล่มนั้นอยู่สักพักใหญ่ แต่ยังไม่ทันจบ ผมก็เร่ิม งว่ ง เพราะเลยเวลาพกั ผ่อนมามากแลว้ คิดว่าวนั นคี้ งตอ้ งไปพักผ่อน ก่อนแล้วคอ่ ยกลับมาอ่านต่อในวันพรุ่งนี้ พอมาถึงห้องพักก็ทิ้งตัวลง บนเตยี งโดยทไี่ มร่ วู้ า่ ตอนไหนที่เผลอหลับไป “คุณ!” เสียงของคน ๆ หนึ่งเรียกผม คือเสียงที่คุ้นเคย วันนี้ เธอใส่ชุดชมพูอ่อน ๆ กบั ทค่ี าดผมสเี ดียวกัน “วนั นีค้ ณุ มาชา้ จงั ” เจ้าของผมสีบรอนซเ์ อย่ ถาม “พอดีกำลังอ่านวิจัยเล่มหนึ่งอยู่น่ะ จริงสิ! วิจัยที่ผมอ่าน น่าสนใจมากเลยล่ะ แตย่ ังอา่ นไม่จบเอาไว้อ่านจบเมื่อไหร่ จะมาเล่า ให้คุณฟังนะ” อกี ฝ่ายพยกั หนา้ รบั “แล้ววันนี้คุณอยากฟังเรื่องอะไรเหรอ” เธอครุ่นคิดอยู่ เล็กนอ้ ย “งั้นเรื่องแฟนคุณเป็นไง?” ตัวผมนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหลุดขำ ออกมา

45 “ฮา่ ๆๆ แฟนผมเหรอ? ผมยังไม่เคยมีแฟนหรอกคุณ เพราะใช้ ชีวิตลำบากจนไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดเรื่องแฟนเลย แล้วยิ่งมาอยู่ ศูนย์วิจัยที่ภูเขาน้ำแข็งนี่แล้วล่ะก็ ผมคิดว่าผมคงได้แต่งงานกับเยติ ท่ีนีแ่ น่ ๆ” พดู ไปก็พลางปาดน้ำตาที่ไหลออกมาตอนขำเมื่อสักครนู่ ้ี “ง้ันเหรอ แล้วคณุ ชอบคนแบบไหนเหรอ?” หญงิ สาวย้มิ เบา ๆ ให้กับมุกที่ผมเล่นไป แล้วถามกลับด้วยใบหน้าที่จริงจัง ได้ยิน ดงั นั้น กร็ บี หบุ ยมิ้ ทันทกี ่อนจะแสดงท่าทีครุ่นคิดกบั คำถาม ก่อนเงย หน้าจ้องมองเธออยู่สักพักหนึ่ง โดยที่อีกฝ่ายก็จ้องกลับมา เชน่ กนั เพราะอยากรูค้ ำตอบ ผมยิ้มแบบเขิน ๆ ให้เธอ “ก็ แบบค.ุ ..” ไม่ทันที่จะตอบ เธอก็ ชะงักไปเหมือนทกุ คร้งั “ฉันต้องไปแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน คณุ ช่วยมาหาฉันเร็ว ๆ หนอ่ ยได้ไหม?” “ทำไมล่ะ” ผมสงสัยแตก่ ไ็ มไ่ ดค้ ำตอบ ไดเ้ พียงรอยย้มิ กลับมา เช่นครั้งก่อน ๆ กอ่ นจะหันหลังและเดนิ หายไป... และแล้วผมก็สะดุ้งตื่น ทั้งที่ยังสวมชุดของเมื่อวานอยู่ เลย พลันนกึ ขนึ้ ได้วา่ ตัวเองเผลอหลบั ไป จึงรีบหันไปมอง

46 เวลา ‘02.00 น.’ เวลาเดิมอีกแล้ว ตื่นขึ้นมาเวลานี้นั้นไม่ใช่เรื่อง บงั เอญิ อย่างแนน่ อน ทำให้ผมต้องรีบกลับไปนั่งอ่านงานค้นคว้าวิจัยเรื่อง In Dream ต่อ จนได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาว่า สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ความฝัน ธรรมดา แต่มันเป็นเหมือนโลกๆ หนึง่ ซึง่ มรี ะยะเวลาอยู่อย่างจำกัด ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นแค่ช่วงสั้น ๆ หรือระยะยาวมากแค่ไหน มัน ทำใหผ้ มนึกถงึ คำพูดของเธอข้นึ มา ‘พรุ่งน้ีจะเปน็ วันสดุ ท้าย’ หันไปมองนาฬิกา บอกเวลา 00.16 น. จึงรีบเก็บของแล้วว่ิง กลับห้องพักของตัวเอง เมื่อถึงห้องก็อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนแต่ด้วย ความตน่ื เต้น ทำให้นอนไม่หลบั จนตอ้ งพ่งึ ยานอนหลบั ... เมื่อลืมตาตื่นขึ้นใต้ต้นไม้อีกครั้ง ก็พบหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เช่นเดิม วันนี้เธอสวมชุดสีเขียวอ่อนลายดอกทานตะวันดอกใหญ่ กับหมวกฟางใบกว้าง เธอหันมายิ้มให้เหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่เจอ หน้ากัน “ผมรู้แล้ว ๆ สิ่งที่เจอมันเหมือนกับงานวิจัยเล่มนั้น มันคือ อะไรกันแน่! คุณไมใ่ ช่แค่ความฝันใช่ไหม?” ผมรบี โผเข้าหาเธอ ด้วย หัวใจที่สนั่ ระรวั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook