Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา หลักการยานยนต์ เล่มที่ ๔

วิชา หลักการยานยนต์ เล่มที่ ๔

Published by qacavalry, 2021-10-30 14:53:51

Description: วิชา หลักการยานยนต์ เล่มที่ ๔
รหัสวิชา ๐๑๐๒๒๖๐๖๐๔
หลักสูตร นายทหารยานยนต์
แผนกวิชายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม.

Search

Read the Text Version

หนา้ | 98 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรยี นทหารม้า ศูนย์การทหารม้า สระบรุ ี --------------- เอกสารเพิม่ เตมิ วชิ า ระบบบงั คบั เลีย้ ว และระบบห้ามลอ้ ของยานยนตส์ ายพาน หมายเลขวชิ า ยน............................. 1. กล่าวทั่วไป ยานยนต์สายพานจำเป็นจะต้องมีระบบบังคับเล้ียว และระบบห้ามล้อเพื่อให้ผู้ใช้ สามารถ ควบคุมยานยนต์ได้ตามความตอ้ งการใชง้ าน 2. หลักการเล้ียวของยานยนต์สายพาน เมื่อรถเคลื่อนที่และสายพานท้ังสองข้างหมุนไปด้วยความเร็ว เท่ากัน รถจะแล่นเป็นแนวตรง เมื่อใดก็ตามที่สายพานหมุนดว้ ยความเร็วแตกต่างกัน รถจะเล้ียวไปทางด้านท่ีสายพาน หมุนช้ากว่า ดังน้ันการบังคับเลี้ยวของยานยนต์สายพานจึงอาศัยหลักการควบคุมให้สายพานทั้งสองข้างหมุน ด้วยความเร็วท่ีแตกต่างกัน ตามลักษณะการเล้ียวท่ีพลขับต้องการ จากการทำงานของระบบ บังคับเล้ียว โดย จะข้นึ อยูก่ ับปัจจยั 3 ประการ คอื 2.1 ตำแหน่งเกียร์ (การทดรอบของเฟือง และทิศทางการหมนุ ของเฟอื ง) 2.2 การดงึ คนั บังคบั เลย้ี ว (ความมัน่ คงในการจับยดึ เฟอื ง) 2.3 รอบความเรว็ ของเครื่องยนต์ (กำลงั ในการขับหมุนสายพาน) 3. หลักการห้ามล้อ ระบบห้ามล้อทำหน้าท่ีชะลอความเร็ว และหยุดรถโดยการบังคับให้สายพานท้ังสองข้าง หมนุ ช้าลง หรือหยุดหมุนพร้อมกัน 4. ลักษณะของระบบบังคบั เล้ยี วและระบบห้ามล้อ 4.1 ระบบบังคับเล้ียวและระบบห้ามล้อ อาจรวมอยู่เป็นส่วนประกอบอันหนึ่งของเคร่ืองเปล่ียน ความเร็ว เชน่ ถ.เอม็ 41 ถ.เอม็ 48 ถ.เอ็ม 60 ถ.เบา 32 และรถสายพานกซู้ อ่ ม เอ็ม 88 เปน็ ต้น 4.2 ระบบบังคับเลี้ยว และระบบห้ามล้อ อาจรวมอยู่เป็นส่วนประกอบหน่ึงของเครื่องทดเล้ียว และบังคับ รถ เช่น รสพ.เอ็ม 113 เปน็ ต้น 4.3 ระบบบังคับเล้ียว อาจรวมอยู่เป็นส่วนประกอบหน่ึงของเคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว แต่ระบบ ห้ามล้อแยก เป็นอสิ ระ เชน่ ถ.เบา 21 เป็นตน้ 4.4 ระบบบังคับเลีย้ ว และห้ามล้อ อาจอยรู่ วมกัน และแยกเป็นอิสระจากเคร่ืองเปล่ียนความเร็ว เชน่ ถ.30 (ที 69 - 2) และรถสายพานกซู้ ่อมแบบ 653 เป็นตน้ 5. ระบบบังคับเล้ียว และระบบหา้ มลอ้ ของ ซดี .ี 500 และ ซีด.ี 850ใชอ้ ยูใ่ น ถ.เอม็ 41,ถ.เอ็ม 48 และ ถ.เอ็ม 60 5.1 ระบบบังคับเล้ียว ประกอบดว้ ย ชุดเฟืองทดเล้ียว, คลัตช์บงั คับเลี้ยวซ้าย, คลัตช์บังคับเล้ียว ขวา, ชดุ ล้ิน ควบคุมวงจรไฮดรอลิกบังคับเล้ียว และคันบังคับเล้ียวพร้อมชุดก้านโยงบังคับเล้ียว ซึ่งทำหน้าที่ บังคับชุดล้ิน ควบคมุ วงจรไฮดรอลิก 5.2 ระบบห้ามล้อ ประกอบดว้ ยชุดคลัตช์ห้ามล้อ ซ่ึงทำหน้าท่ียึดชุดกรอบเฟืองพาหะของเพลาส่งกำลังออก ทั้งสองข้างของเครือ่ งเปลี่ยนความเร็ว การควบคุมการทำงานของห้ามลอ้ ใช้ระบบควบคุมทางกลจากคันห้ามล้อ และชดุ กา้ นโยงบังคบั กลไกชุดคลัตช์ใหท้ ำงานพรอ้ มกนั ทัง้ สองข้าง 5.3 หลกั การของชดุ เฟอื งทดเลย้ี ว ชดุ เฟืองทดเลีย้ วจะทำให้สายพานทั้งสองข้าง สามารถหมุน ด้วยความเร็ว แตกตา่ งกันได้ เม่ือสายพานข้างหน่ึงหมุนช้าลง หรือหยุดหมุน จะทำให้สายพานด้านตรงข้ามหมุนด้วยความเร็ว เพม่ิ ขึน้ เป็นสองเท่า

หนา้ | 99 5.4 ลักษณะของการบังคบั เลย้ี ว (1) การเลีย้ วแบบธรรมดา ในขณะรถเคล่ือนที่ (2) การเลี้ยวแบบหมุนอยู่กับท่ี ( NEUTRAL STEER ) ในตำแหน่งเกียร์ว่าง สายพานทั้ง สองข้างจะ หมุนสวนทางกัน และหน้ารถจะหนั เลย้ี วไปทางด้านท่สี ายพานหมุนถอยหลัง (3) ในเกยี ร์ถอยหลัง การบงั คบั เลย้ี วจะกลบั ทิศทางกนั กับการเล้ียวในเกยี ร์เดินหนา้ 6. ระบบบงั คบั เล้ียว และระบบหา้ มล้อของหบี เฟอื งทดเลยี้ วบงั คับรถ ใชอ้ ยู่ใน รสพ.เอม็ 113 6.1 ระบบบังคับเล้ียว และระบบห้ามล้อ ประกอบด้วย ชุดเฟืองทดเล้ียว, ชุดห้ามล้อเลี้ยวซ้าย, ชุดห้ามล้อ เลย้ี วขวา, คนั บงั คบั เล้ียวซา้ ย, คนั บังคบั เลย้ี วขวา และชดุ ก้านโยงบังคับเล้ยี วของคนั บังคบั เลย้ี วทงั้ สองขา้ ง 6.2 ลักษณะของการบังคับเลี้ยว และการห้ามล้อ ระบบบังคับเล้ียว และระบบห้ามล้อ จะเป็น องค์ประกอบ และกลไกควบคุมการทำงานชุดเดียวกัน สามารถบังคับเล้ียวได้แบบธรรมดาในขณะรถเคล่ือนท่ี เทา่ น้ัน หลกั การสำคญั คอื เม่ือคนั บงั คับเลย้ี วข้างใดขา้ งหนงึ่ ถกู ดงึ มาข้างหลัง จะทำให้เพลาสง่ กำลังออกดา้ นนั้น หมุนช้าลง และถ้าคันบังคับเล้ียวถูกดึงมาข้างหลังพร้อมกันทั้งสองข้าง จะทำให้เพลาส่งกำลังออกท้ังสองข้าง หมนุ ช้าลง หรอื หยดุ หมุน เป็นการหา้ มล้อรถ ซึง่ ขนึ้ อย่กู บั น้ำหนักในการดงึ คนั บงั คับเลย้ี ว 7. ระบบบงั คับเลีย้ ว และระบบหา้ มล้อของ XTG - 411 - 4 A ใชอ้ ยู่ใน ถ.เบา 32 7.1 ระบบบังคับเลี้ยว ประกอบด้วย ชุดเฟืองบังคับเล้ียวแบบเฟืองเกียร์บริวาร ได้แก่ ชดุ เฟือง บังคับเลี้ยว ซ้าย, ชุดเฟืองบังคับเล้ียวขวา, คลัตช์บังคับเลี้ยวซ้าย, คลัตช์บังคับเลี้ยวขวา, คลัตช์ขับตรงซ้าย, คลัตช์ขับตรง ขวา, ชุดล้ินควบคุมวงจรไฮดรอลิกบังคับเล้ียว และคันบังคับเลี้ยวพร้อมชุดก้านโยงสายลวดบังคับเลี้ยว ซ่ึงทำ หน้าท่ีบังคับควบคมุ ชดุ ลิ้นควบคมุ วงจรไฮดรอลิก 7.2 ระบบห้ามล้อ ประกอบด้วยชุดคลัตช์ห้ามล้อ ซ่ึงทำหน้าที่ยึดชุดกรอบเฟืองพาหะของเพลาส่ง กำลัง ออกทั้ง 2 ข้างของเคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว การควบคุมการทำงานของห้ามล้อใช้ระบบควบคุม ทางกลจากคัน ห้ามล้อและชุดสายลวดบังคับชุดคลัตช์ห้ามล้อให้ทำงานพร้อมกันท้ัง 2 ข้าง นอกจากนี้ชุดคลัตช์ห้ามล้อแต่ละ ข้างยังมีระบบบังคับการทำงานด้วยไฮดรอลิกจากระบบบังคับเล้ียวประกอบอยู่ด้วยซึ่งระบบไฮดรอลิกน้ีจะ ทำงานทีละข้าง เมอ่ื หมนุ คนั บงั คับเลี้ยวเท่านั้น 7.3 ลกั ษณะของการบังคบั เล้ยี ว (1) การบังคับเล้ียวด้วยชดุ เฟอื งบังคับเล้ียว ( GEAR STEER ) เมื่อหมนุ คันบังคับเล้ียว คลัตช์บงั คับเล้ียว จะทำงานด้วยระบบไฮดรอลิก ทำให้สายพานด้านนั้นหมุนช้าลง และสายพานด้านตรงข้ามหมุนด้วยความเร็ว เท่าเดิม ด้วยความสัมพันธ์กันระหว่างชุดคลัตช์บังคับเลี้ยว และชุดคลัตช์ขับตรง เป็นการปฏิบัติการเล้ียวใน เกยี ร์เดินหนา้ 3 และ 4 และเกียรถ์ อยหลัง 2 (2) การบังคับเล้ียวด้วยห้ามล้อ ( BRAKE STEER ) เมื่อหมุนคันบังคับเล้ียว คลัตช์ห้ามล้อ จะทำงาน ด้วยน้ำมันไฮดรอลิก ทำให้สายพานนั้นหยุดหมุน และสายพานด้านตรงข้ามหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมด้วย ความสัมพันธ์กันระหวา่ ง ชดุ คลตั ช์บงั คบั เลี้ยว และชดุ คลัตชห์ า้ มล้อ เปน็ การปฏบิ ตั ิการเล้ียวในเกียร์เดินหน้า 1 และ 2 และเกียร์ถอยหลัง 1 เปน็ การเล้ยี วแบบหมุนอยู่กับที่ (BRAKE STEER ) 8. ระบบบังคบั เลยี้ ว และระบบห้ามลอ้ ของ ถ.30 ( ที 69 - 2 ) และรถสายพานกู้ซอ่ ม แบบ 653 8.1 ระบบบังคับเลี้ยว ประกอบด้วยชุดเฟืองบังคับเลี้ยว และห้ามล้อ แบบเฟืองเกียร์บริวารด้าน ซ้าย และ ด้านขวา โดยชุดเฟืองบังคับเล้ียว และห้ามล้อแต่ละชุด จะประกอบด้วยห้ามล้อเล็กทำหน้าท่ี ยึดเฟืองตัวกลาง ห้ามล้อใหญ่ทำหน้าที่ยึดกรอบเฟืองพาหะของเพลาส่งกำลังออก คลัตช์ขับตรงซึ่งทำหน้าที่ยึดเฟืองตวั กลางเข้า กับกรอบเฟืองพาหะ และคันบังคับเล้ียวพร้อมชุดก้านโยงบังคับการทำงานของห้ามล้อเล็ก ห้ามล้อใหญ่ และ คลัตช์ขบั ตรง

หนา้ | 100 8.2 ระบบห้ามล้อ ประกอบดว้ ยห้ามล้อพร้อมชุดก้านโยง และกลไก ซ่ึงควบคุมให้ล้อใหญ่ทั้ง 2 ข้างทำงาน พรอ้ มกัน เม่ือเหยียบ หรือปล่อยคันห้ามล้อ นอกจากนี้ การดึงคันบงั คับเลี้ยวมาข้างหลังพร้อมกนั ทั้ง 2 ข้าง จะ ทำใหห้ ้ามล้อใหญ่ทั้ง 2 ข้างทำงานพรอ้ มกัน ซ่ึงเปน็ การหา้ มล้ออกี วธิ ีหน่ึง 8.3 ลกั ษณะของการบงั คับเลี้ยว (1) การบังคับเล้ียวด้วยชุดเฟืองบังคับเล้ียว ( GEAR STEER ) เม่ือดึงคันบังคับเลี้ยว มาข้างหลังใน ตำแหน่ง 1 ชุดกา้ นโยง และกลไก จะบังคับใหค้ ลัตช์ขบั ตรงด้านนนั้ ปลดตัวจากการจับยึด ระหว่าง เฟืองตัวกลางกับกรอบเฟืองพาหะ และบังคับให้ห้ามล้อเล็กจับยึดเฟืองตัวกลางไว้กับที่ ผลลัพธ์ท่ีได้ก็ คือ เพลาส่งกำลังออกด้านนั้นหมุนชา้ ลง ในขณะที่เพลาส่งกำลังออกด้านตรงข้ามหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิม รถ จงึ เลีย้ วไปทางท่เี พลาสง่ กำลงั ออก หรือสายพานหมนุ ชา้ ลง (2) การบังคับเลี้ยวด้วยห้ามล้อ ( BRAKE STEER ) เม่ือดึงคันบังคับเลี้ยวมาข้างหลัง ต่อมาอีกจนถึง ตำแหน่ง 2 ชุดก้านโยง และกลไก จะบังคับให้ห้ามล้อเล็กปลดตัวโดยคลัตช์ขับตรงจะยังคงปลดตัวต่อไป และ บังคับให้ห้ามล้อใหญ่จับยึดกรอบเฟืองพาหะ ผลลัพธ์ก็คือ เพลาส่งกำลังออกด้านน้ัน หยุดหมุนในขณะท่ีเพลา ส่งกำลังออกด้านตรงข้ามหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิม รถจึงหมุนเลี้ยวไปทางด้านท่ีเพลาส่งกำลังออก หรือ สายพานหยุดหมนุ เปน็ การเล้ยี วแบบหมุนอยู่กับที่ ( PIVOT STEER ) (3) การขับตรง เม่ือคันบังคับเลี้ยวท้ังสองข้างอยู่ในตำแหน่งหน้าสุด ห้ามล้อเล็ก และห้ามล้อใหญ่จะ ปลดตัว แต่คลัตช์ขับตรงจะยึดเฟืองต้วกลางเข้ากับกรอบเฟืองพาหะของเพลาส่งกำลังออก ทำ ให้เกิดการขับ ตรงข้นึ 9. ระบบบังคบั เลี้ยว และระบบหา้ มลอ้ ของ ถ.เบา 21 9.1 ระบบบังคับเล้ียว ประกอบด้วยชุดเฟืองทดเลี้ยว, เพลาขับ และเฟืองตัวกลางด้านซ้าย, เพลาขับ และ เฟืองตัวกลางด้านขวา, ชดุ ห้ามล้อบังคับเล้ียวด้านซ้าย, ชุดห้ามล้อบงั คับเล้ียวด้านขวา, ชดุ เฟืองบริวารส่งกำลัง ออกด้านซ้าย, ชุดเฟืองบริวารส่งกำลังออกด้านขวา, ชุดแม่ป๊ัมห้ามล้อ และ คันบังคับเลี้ยวซ้าย และชุดแม่ปั๊ม หา้ มล้อ และคนั บังคับเลี้ยวขวา 9.2 ระบบห้ามล้อ ประกอบดว้ ยคันห้ามล้อ และแม่ปัม๊ หา้ มล้อ, จานห้ามลอ้ หลักดา้ นซ้าย, จานห้ามล้อหลัก ด้านขวา, ชุดห้ามล้อหลักด้านซ้าย และชุดห้ามล้อหลักด้านขวา โดยที่จานห้ามล้อหลักยึดติดอยู่กับเพลารับ กำลังเข้าของหีบเฟืองขับขั้นสุดท้าย เมื่อคันห้ามล้อถูกเหยียบแม่ปั๊มห้ามล้อจะส่งแรงดันน้ำมันไปยัง ชุดห้ามล้อ หลกั ด้านซ้าย และด้านขวา พรอ้ ม ๆ กนั ทำใหส้ ายพานทั้ง 2 ขา้ งหมุนช้าลง หรือหยดุ หมนุ 9.3 ลกั ษณะของการบังคบั เลย้ี ว (1) การบงั คบั เลยี้ วแบบธรรมดา ในขณะเคล่ือนท่ี (2) การบังคับเลี้ยวแบบหมุนอยู่กับที่ ( NEUTRAL STEER ) ในตำแหน่งเกียร์ว่าง สายพานท้ัง 2 ข้าง จะหมนุ สวนทางกนั โดยหน้ารถจะหนั ไปทางด้านท่ีสายพานหมนุ ถอยหลัง หรอื ด้านท่ีคันบงั คบั เลย้ี วถกู ดึงมาข้าง หลงั หมายเหตุ ที่บริเวณฐานคันบังคับเล้ียวท้ัง 2 ข้างจะมีเดือยกลอนซ่ึงยอมให้คันบังคับเล้ียวถูกดึงมาข้างหลัง ได้ทลี ะขา้ งเท่านน้ั (3) การบังคับเลี้ยวแบบหมุนอยู่กับท่ี ( SKID STEER ) ในตำแหน่งเกียร์ว่าง ถ้า จอดรถไว้บนพื้นที่ซ่ึง สายพานอกี ข้างหนึ่งอยู่บนพื้นดินแข็ง ซึ่งมีความต้านทานมาก และสายพานอีกข้างหน่ึงอยู่บนพ้ืนดนิ อ่อน ซึ่งมี ความต้านทานน้อยกว่า ในลักษณะเช่นน้ี จะทำให้สายพานข้างท่ีมีความต้านมากถูกยึดไว้กับที่ และสายพาน ข้างทคี่ วามต้านทานน้อยกวา่ จะหมนุ เพยี งด้านเดยี ว - ถา้ ดงึ คนั บังคบั เล้ยี วซา้ ย ในขณะทสี่ ายพานดา้ นขวาถูกยึดไว้กับที่ จะทำให้สายพานด้านซ้ายหมนุ ถอย หลัง หน้ารถจะหนั เลย้ี วไปทางซ้าย

หนา้ | 101 - ถ้าดึงคันบังคับเล้ียวขวา ในขณะที่สายพานด้านขวาถูกยึดไว้กับท่ี จะทำให้สายพานด้านซ้ายหมุนไป ข้างหน้า หนา้ รถจะหนั เลีย้ วไปทางขวา ในแต่ละกรณี เราสรปุ ได้ว่า เมือ่ สายพานข้างใดข้างหนง่ึ ถูกยึดไวก้ บั ที่ จะทำให้ เกิดการเลย้ี วแบบหมุนอย่กู ับท่ี และหน้ารถจะหนั เล้ียวไปตามด้านท่ีคนั บังคบั เลยี้ วถกู ดึง -------------------------

หนา้ | 102 แผนกวิชายานยนต์ กองการศกึ ษา โรงเรียนทหารม้า ศูนยก์ ารทหารมา้ สระบุรี ---------------------------- เอกสารนำ วิชา สายพาน และระบบเคร่ืองพยงุ ตวั รถ หมายเลขวิชา ยน…………….. 1. กลา่ วทั่วไป วิชาน้เี ป็นการศึกษา เกีย่ วกบั สายพานและเคร่อื งพยุงตัวรถ หลักการทำงาน ของ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบพยุงตัวรถน้ีจะเป็นแนวทางและเป็นข้อพิจารณาที่ดีสำหรับนักเรียน ใน การนำไปใช้ประกอบการปรนนิบัติบำรุง และแก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับยานพาหนะของหน่วยได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ 2. ความมุ่งหมาย เพ่อื ให้นกั เรียนทราบ 2.1 คณุ ลักษณะ และชิน้ สว่ นต่าง ๆ ของสายพานและระบบพยงุ ตัวรถ 2.2 การแบ่งประเภทของระบบพยงุ ตัวรถสายพาน 3. หลกั ฐาน - คท. 9-8000 - คท.ประจำรถ 4. งานมอบ ใหน้ กั เรียนศึกษาเอกสารเพม่ิ เตมิ และ คท. 9-8000 เรื่องระบบพยุงตวั รถสายพาน 5. เอกสารจา่ ยพร้อมเอกสารนำ เอกสารเพิม่ เตมิ --------------------

หนา้ | 103 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรยี นทหารม้า ศนู ย์การทหารมา้ สระบุรี ------------------- เอกสารเพม่ิ เตมิ วิชา สายพาน และระบบเครอื่ งพยงุ ตัวรถ หมายเลขวชิ า ยน. ………….. 1. กล่าวทั่วไป ยานยนต์ประเภทสายพาน เช่น รถถัง รถสายพานลำเลียงพล จะติดตั้งระบบอาวุธและ อุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความประณีตละเอียดอ่อน ระบบพยุงตัวรถจะต้องรับภารกรรมต่าง ๆ ท่ีเกิดจากการ เคลื่อนที่ไปในภูมิประเทศ โดยจะต้องปรับรักษาการทรงตัว และดดู กลืนการส่ันสะเทือน การกระแทก เพื่อ ป้องกันมิให้ระบบอาวุธ เครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนป้องกันไม่ให้พลประจำรถบอบช้ำเหน็ดเหนื่อยจน ปฏิบัติหน้าท่ีของตนได้ไม่สมบูรณ์เราจะสังเกตเห็นได้ว่าเม่ือรถสายพานเม่ือรถสายพานเคล่ือนที่ข้ามเคร่ือง กีดขวางเต้ียๆข้อสายพานจะลอยตัวสูงขึ้นจริงแต่ตัวรถไม่สูงข้ึนเลย และเม่ือสายพานลดต่ำลงจะเกิดการ กระแทกและส่ันสะเทอื นบา้ งเล็กน้อย ทัง้ นเ้ี พราะการดูดกลนื และการปรับตัวของเครื่องพยุงตัวรถท้งั สน้ิ 2. สายพานและองคป์ ระกอบสายพาน 2.1 สายพาน เป็นเครื่องรองรับน้ำหนักของตัวรถ และช่วยให้รถถังเคล่ือนที่ไปข้างหน้าหรือข้าง หลังได้เหมือนอย่างล้อธรรมดา แต่ถ้าเปรียบเทียบระหว่างการรับน้ำหนักของรถล้อกับรถสายพานแล้วรถ สายพานจะรับน้ำหนักได้มากกว่ารถล้อทั้งน้ีเพราะน้ำหนักรถจะถูกเฉล่ียไปตามข้อสายพานท่ีสัมผัสพ้ืนอีก ประการหน่ึงยังนำมาให้รถเคลื่อนท่ีไปตามภูมิประเทศที่ขรุขระได้อย่างดีอีกด้วย และจะไม่มีการตกหลุม หรือหล่ม ดังเช่นยานยนต์ล้อ เน่ืองจากสายพานมีพ้ืนท่ีสัมผัสกับพ้ืนดินได้มาก แต่ถ้าพูดถึงราคาการสร้าง ระหว่างลอ้ กบั สายพานนั้น จงึ เปน็ ธรรมดาทสี่ ายพานมีย่อมมีราคาแพงกว่า 2.2 คุณลักษณะของสายพาน (1) มีการลอยตัว (FLOATATION) (2) มปี ระสิทธภิ าพในการเกาะพ้ืน (TRACKTION) (3) มีประสทิ ธภิ าพในการครอ่ มขา้ มภมู ปิ ระเทศ (SPANNING) 2.3 ชนดิ ของสายพาน รถถงั ปจั จุบนั มสี ายพานอยู่ 2 ชนิดคือ (1) สายพานเหลก็ (STEEL TRACK) (2) สายพานยาง (RUBBER TRACK) 2.4 แบบของข้อสายพาน ขอ้ สายพานมีอยู่ 3 แบบ คอื (1) แบบสลกั เดีย่ วกลม (ไม่มีบช็ู ยางรองสลักสายพาน) (2) แบบสลกั คู่ (3) แบบสลักเดี่ยวเหลย่ี ม (มบี ูช็ ยางรองสลักสายพาน) * สายพานเปน็ (LIVE TRACK) ได้แก่ สายพานที่มบี ูช็ ยางรองสลกั สายพาน * สายพานตาย (DEAD TRACK) ไดแ้ ก่ สายพานทไี่ มม่ บี ชู็ ยางรองสลกั สายพาน 2.5 สว่ นประกอบของสายพาน และส่ิงทเี่ ก่ยี วข้องกับสายพานรถถงั (1) ข้อสายพาน (2) ข้อต่อสายพาน (3) สลักสายพาน (4) ลิ่มยดึ ข้อต่อสายพาน (5) เดือยนำสายพาน

หนา้ | 104 (6) ยางรองสายพาน (7) ลอ้ กดสายพาน (8) ลอ้ รับสายพาน (9) ล้อปรบั สายพาน (10) ล้อขบั สายพาน หมายเหตุ ข้อ (1) - (6) เป็นส่วนประกอบของสายพาน ขอ้ (7) - (10) เปน็ ส่วนท่เี ก่ียวขอ้ ง ทม่ี กี าร ทำงานร่วมกับสายพาน 3. ระบบพยุงตวั รถสายพาน 3.1 ความมุ่งหมาย การออกแบบระบบพยุงตัวรถยานยนต์ประเภทสายพานให้มีความแตกต่างกับ ยานยนตล์ อ้ นั้น เพือ่ ท่ีให้รถสามารถว่งิ ในพ้ืนท่ี ที่รถธรรมดาไม่สามารถวง่ิ ไปได้ ส่วนหน้าที่การทำงานของระบบ กม็ ีการทำงานเช่นเดยี วกันกับรถล้อ นอกจากนั้น ยังมีคุณลกั ษณะพิเศษอีกอย่างหน่ึง คอื สามารถดูดกลืนอาการ สัน่ สะเทือนได้มากกว่า และมีความอ่อนตัวกบั สภาพทอ้ งถนนได้มากกว่ารถล้อ 3.2 การแบ่งประเภทระบบพยุงตัวรถ ระบบพยุงตัวรถ ท่ีนำมาใช้กับรถถังน้ัน โดยท่ัวไป มีดังนี้ (1) ระบบแขนเด่ียว ( SINGLE ARM TYPE ) คือ ล้อแต่ละล้อติดตั้งอยู่บนเพลาร่วมกับแหนบ หรือคานรับแรงบิดเพ่อื ให้ตดิ แนน่ ตรงึ อยกู่ บั ที่ บนพ้ืนดนิ (2) ระบบแขนคู่ ( DOUBLE ARM TYPE ) คือ ล้อ 2 ลอ้ ตดิ ต้งั อยู่บนคาน และคานนน้ั ยดึ ตดิ กับเพลา (3) ระบบแขนร่วมคู่ ( DOUBLE ARTICULATED ARM TYPE ) คือ ล้อหลายล้อติดต้ังอยู่บนคานคู่ และคานนั้นมีจุดหมุนร่วมกัน เฉพาะตัวล้ออาจเคล่ือนที่เป็นอิสระได้ หรือจะเคลื่อนท่ีพร้อมกันไปท้ังหน่วยก็ได้ ระบบนี้มีความอ่อนตัวสูง และเป็นแบบทนี่ ิยมใชก้ นั มากทส่ี ดุ (4) ระบบพยงุ ตัวรถในแนวตั้ง คือ เอาแหนบขดก้นหอย มาตดิ ตัง้ ในลักษณะต้ังตรง (5) ระบบพยงุ ตวั รถในแนวนอน คอื เอาแหนบขดก้นหอยมาตดิ ตง้ั ในลกั ษณะนอน (6) ระบบพยุงตวั รถดว้ ยคานรับแรงบิด คอื ใช้คานรบั แรงบดิ (7) ระบบโบกีต้ อ่ ร่วม ระบบนีไ้ ดถ้ ูกนำมาใช้กบั รถถังบางแบบเทา่ น้นั เช่น รถกง่ึ สายพาน (8) ระบบ CHRISTIE โดยนำเอาล้อขนาดใหญ่มาใช้แทนโบก้ี และล้อรับสายพาน ซ่ึงจะทำให้เกิดการ ประหยดั กำลงั ท่ตี ้องการใช้ในการขบั เคล่อื นไดม้ าก ------------------------------


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook