วิชา ผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธรถถัง เล่ม ๔

๒๐๒ ขัน้ ตอนในการปฏบิ ัติ พลประจารถ คูม่ อื การฝึก ๑. แจ้งเตือน “ปืนใหญก่ าลงั ยงิ เข้ามา” กจิ เฉพาะหมายเลข ผา่ น ไม่ผา่ น ไมม่ ีหมายเลขกจิ เฉพาะ ๒. หลบเขา้ ไปในป้อมปนื ผบ.รถ________ _________ ไมม่ ีหมายเลขกจิ เฉพาะ พลยิง ________ _________ พลบรรจ_ุ ____ _________ พลขับ________ _________ ผบ.รถ________ _________ พลบรรจ_ุ _____ _________ ๓. ถอดหมวกพลประจารถออก ผบ.รถ________ _________ ๐๓๑-๕๐๓-๑๐๑๒ พลยิง ________ _________ ๔. สวมหนา้ กากและเครื่องป้องกัน พลบรรจ_ุ _____ _________ ๐๓๑-๕๐๓-๑๐๑๒ พลขบั ________ _________ ๐๓๑-๕๐๓-๑๐๑๒ ๕. ใสป่ ากพูด, เปล่ยี นหมวกและออก คาส่ัง \"พลประจารถ - รายงาน\" ผบ.รถ________ _________ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๕๕ พลยิง ________ _________ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๕๕ ๖. ใสป่ ากพดู , เปล่ียนหมวกแลว้ รายงาน \"เรียบรอ้ ย\" พลบรรจ_ุ _____ _________ พลขับ________ _________ ๗. เปดิ ท่ออากาศเข้าเครอ่ื งกรอง ๘. เปดิ เคร่อื งทาอากาศบริสทุ ธ์ิ ผบ.รถ________ _________ ๙. ปดิ ฝาปอ้ มปนื พลยงิ ________ _________ พลบรรจ_ุ _____ _________ พลขบั ________ _________ พลขับ________ _________ พลขับ________ _________ ผบ.รถ________ _________ พลบรรจ_ุ _____ ______

๒๐๓ ขั้นตอนในการปฏิบัติ พลประจารถ คมู่ ือการฝึก ผา่ น ไม่ผา่ น กจิ เฉพาะหมายเลข ๑๐. ปลดท่ออากาศบรสิ ทุ ธิ์ออก ผบ.รถ________ _________ ๑๗๑ -๑๒๓ - ๑๐๕๕ จากท่ีเกบ็ ๑๗๑ -๑๒๓ - ๑๐๕๕ ๑๑. ต่อทอ่ อากาศบริสทุ ธิก์ บั หม้อกรอง ผบ.รถ________ _________ หน้ากาก พลยงิ ________ _________ พลบรรจ_ุ _____ _________ พลขับ________ _________ ๑๒. ออกคาสง่ั \"พลขับ - ถอยหลงั \" ผบ.รถ________ _________ ๑๓. ตดิ ตง้ั กล้องตรวจการณ์ พลบรรจ_ุ _____ _________ ๑๔. ส่ังพลขับนารถถังเข้าท่กี าบงั ตัวรถ ผบ.รถ________ _________ ๑๕. ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั ผบ.รถ พลขบั ________ _________ ๑๗๑ -๑๒๓ - ๑๐๕๕ ๑๗๑ -๑๒๓ - ๑๐๕๕ ๑๖. สง่ั พลขับใหห้ ยุด ผบ.รถ________ _________ ๑๗. หยดุ รถ พลขบั ________ _________ ๑๘. รายงานสถานภาพของอาวธุ ยิงเลง็ ผบ.รถ________ _________ จาลอง, รถถงั และพลประจารถให้ ผบ.มว.ทราบ ขอ้ สงั เกต: __________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ หมายเหต:ุ สาหรบั การถอดและใสป่ ากพูดออกจากหมวกพลประจารถ จะใช้ในกรณีท่ีหน้ากากป้องกนั นชค. มีอปุ กรณค์ รบ

๒๐๔ หมายเลขกิจเฉพาะ การเคลอื่ นย้ายพลขับที่บาดเจบ็ หลักฐานทใ่ี ช้ ทาการฝกึ กจิ เฉพาะ-เพื่อ-ทาการฝกึ ตอ่ เน่อื ง คท. ๓-๔๒๔๐-๒๘๑๐ ๐๓๑-๕๐๓-๑๐๑๒ คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ลักษณะของกิจเฉพาะ คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๕๐ การสวมใส่ ,การถอด ,การเก็บหน้ากาก ปอ้ งกันไอพิษ M ๒๕ / M ๒๕ A การขับรถถงั M ๔๘ A ๕ หรอื รถถังตระกลู M ๖๐ การใชง้ านเครือ่ งทาอากาศบริสทุ ธ์ิ ในรถถงั ตระกลู M ๖๐

๒๐๕ การหลบหลีกจรวดตอ่ สู้รถถังนาวถิ ี คาแนะนาในการฝกึ กิจเฉพาะที่ ข-๗ : การหลบหลกี จรวดนาวถิ ตี ่อสู้รถถัง (จาลอง) เงอ่ื นไข : ยานรบ :  รถถงั ในสภาพพรอ้ มรบ กาลงั เคล่ือนทอี่ ยู่พรอ้ มกบั เปดิ เครอื่ งรักษาการทรงตัวของปนื  เครือ่ งปอ้ งกันความปลอดภัยทุกชนดิ อยใู่ นตาแหน่งพรอ้ มใหค้ วามปลอดภัย  การตรวจก่อนใช้งานกระทาเรียบร้อย สถานี ผบ.รถ :  ฝาปิดปอ้ มปนื ผบ.รถ เปดิ อย่ใู นตาแหนง่ ขดั กลอน  ผบ.รถกาลงั ตรวจการณเ์ ขตรบั ผดิ ชอบ พลยงิ :  กาลังตรวจการณ์ในเขตรบั ผดิ ชอบของรถถงั อยู่  เครือ่ งควบคมุ การยงิ อยู่ในระบบเปดิ เคร่ืองรกั ษาการทรงตัว  กลอ้ งเล็ง TTS เปดิ สวิตชใ์ นตาแหน่ง STBY สถานพี ลบรรจุ :  ฝาปิดปอ้ มชอ่ งทางข้ึน-ลงของพลบรรจเุ ปิดอยใู่ นตาแหนง่ ขดั กลอน  พลบรรจกุ าลังตรวจการณเ์ ขตรบั ผิดชอบของตน สถานพี ลขับ :  ฝาปิดหอ้ งพลขบั ปิดอยใู่ นตาแหน่งขัดกลอน  พลขบั กาลงั ขบั รถในสถานการณ์ทางยทุ ธวธิ ี  พลขับกาลังตรวจมาตรวดั ต่าง ๆ และหลอดไฟสัญญาณอยู่  พลขบั กาลังตรวจการณ์เขตรบั ผิดชอบของตน เป้าหมาย : สญั ลกั ษณจ์ รวดนาวถิ ตี ่อสู้รถถงั (จาลอง) ปรากฏอยหู่ า่ งจากรถถัง ๑,๘๐๐ - ๒,๐๐๐ ม. มาตรฐาน : หลงั จากที่ปรากฏสัญลักษณข์ องจรวดนาวถิ ีต่อสู้รถถงั (จาลอง) ภายในเวลา ๘ วนิ าที จะต้องหลบ หลกี จรวด และนารถถงั เข้าท่ีกาบังและซอ่ นพราง (เวลาแลน่ ของจรวด แบบ AT - ๕ SPANDREL) พลประจารถ แตล่ ะนายจะต้องปฏบิ ัตหิ น้าทท่ี ้ังหมดของตนตามขนั้ ตอน คาแนะนาในการฝกึ ของพลประจารถ : อ่านคาแนะนาต่อไปน้ใี ห้พลประจารถฟงั อย่างถูกต้องตามทเี่ ขียนไว้ “ความมงุ่ หมายในการฝึกนี้ เพอ่ื ทดสอบขีดความสามารถของพวกเราในการหลบหลกี จรวดตอ่ สู้ รถถงั นาวิถีเราต้องดาเนินกลยุทธในภมู ปิ ระเทศท่เี ห็นนี้ สัญลักษณ์ของจรวดต่อสู้รถถงั นาวถิ ีจะปรากฏหา่ ง จากรถถงั ประมาณ ๑,๘๐๐ - ๒,๐๐๐ ม. ภายในเวลา ๘ วนิ าทีเราจะตอ้ งหลบหลีกจรวด, เขา้ ถงึ ทกี่ าบัง และซอ่ นพราง และทาการยิงขม่ (จาลอง) ผมจะคอยสงั เกตการปฏิบตั ขิ องทุกท่านเพอื่ ตรวจสอบการ ปฏิบตั ทิ ถี่ กู ต้อง เม่ือจบการฝึกครั้งนีแ้ ลว้ ผมจะวิจารณก์ ารฝึกใหท้ ราบ \" \"คุณมคี าถามใดเก่ยี วกับการฝกึ ครั้งนี้หรือไม่\" (ตอบคาถาม ) \"พลประจารถ - เตรียมเรม่ิ การฝึก\"

๒๐๖ การหลบหลกี จรวดตอ่ สรู้ ถถังนาวิถี คาแนะนาการดาเนนิ กรรมวธิ ี ผบ.รถ พลยงิ พลบรรจุ พลขบั พลประจารถแจง้ เตือน \"จรวด\" แจ้งทศิ ทางทถ่ี กู โจมตโี ดยใช้ระบบนาฬิกา ๑. แจง้ เตอื น \"จรวด \" พิสูจนท์ ราบเปา้ หมาย หลบเข้าไปในปอ้ มปืน ขบั หลบหลกี และเล้ยี ว และบอกทิศทางโจมตี และฟงั คาส่งั ยงิ เปิด และฟงั คาสัง่ ยิง กลบั ทนั ที่และใชค้ วาม แจ้งเตือน \"ระเบดิ ควนั - สวิตช์ TTS ไปที่ ON เรว็ สลับกัน พลขบั ฉากควนั \" และค้นหาเป้าหมาย พยายามใช้ตน้ ไม้ ล็อคฝาปดิ ป้อม พุม่ ไม,้ เสาไฟฟ้า หรอื สงิ่ กีดขวางทห่ี าได้ ตรงึ ตวั ให้มน่ั คงเพอื่ ตรึงตวั ให้มัน่ คงเพอื่ ตรึงตวั ให้มัน่ คงเพอ่ื ให้อยู่ระหวา่ งรถถัง ป้องกนั การเลีย้ วอย่างเรว็ ป้องกนั การเลยี้ วอยา่ งเร็ว ปอ้ งกนั การเล้ียวอย่างเรว็ กับจรวด ทาฉากควนั \"ร้องเตือน ระเบดิ ควัน- ยงิ ระเบดิ ควัน-พลขบั ฉากควัน\" ๒. แนใ่ จว่าพลขบั ปฏิบัติ แนใ่ จวา่ ป้อมปนื ปลอดภยั มองหาที่กาบงั และ ถกู ต้องถ้าไม่ออกคาสงั่ ซอ่ นพราง แจง้ ผบ.รถ เมือ่ อยู่ในตาแหนง่ ที่มี กาบังและซอ่ นพราง ๓. * ออกคาสง่ั ยงิ ปืนใหญ่ * ยิงปนื ใหญ่ * สนองตอบคาส่งั ยงิ * สนองคาส่ังการ เคลื่อนที่ ๔. รายงานการปฏบิ ตั แิ ละ สถานภาพของรถถงั และพลประจารถให้ ผบ.มว.ทราบ และฟังคา แนะนาการปฏบิ ตั ิตอ่ ไป ข้อสังเกต : เครอ่ื งหมาย * แสดงวา่ ขน้ั ตอนนี้อาจไมต่ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารยงิ ทกุ ครงั้ ถ้าไม่มที กี่ าบงั และซอ่ นพราง ขน้ั ตอนท่ี ๓ ไมต่ อ้ งปฏิบัติ ความรวดเร็วในการเร่งและลดความเรว็ จะทาให้ข้าศึกเลง็ เกาะรถถัง เราได้ยากข้ึน

๒๐๗ ผบ.รถ พลยิง พลบรรจุ พลขบั ขอ้ เลือกในการจาลอง : ใชท้ อ่ ยิงจรวด, กลอ้ งเลง็ เกาะ, ใชร้ ะบบจรวดนาวถิ ดี ้วยเสน้ ลวด (TOW) ทีต่ ดิ ต้งั ดว้ ย คชฝ. หรอื ใชค้ ชฝ.ยงิ ด้วยเลเซอร์ SAAB BT-46 ทาการเลง็ เกาะการเคลื่อนทีข่ องรถถงั ผคู้ วบคมุ สามารถประเมินผลการเคลอื่ นทหี่ ลบหลีกของรถถงั หรือประสทิ ธิภาพของ ทกี่ าบงั และซอ่ นพรางอย่างไดผ้ ล อปุ กรณ์นใี้ ชส้ าหรบั ทาการฝกึ ทัง้ รถถงั และ พลประจาเคร่อื งยงิ จรวด TOW

การหลบหลกี จรวดตอ่ สูร้ ถถังนาวถิ ี ๒๐๘ รายการตรวจสอบการปฏิบตั ิ คู่มอื การฝกึ เวลา ______ / ______ (นาที / วนิ าที) กิจเฉพาะหมายเลข การปฏิบตั เิ ปน็ ส่วนรวม ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๗๑- ๒๓-๑๐๑๒ ขัน้ ตอนในการปฏิบัติ พลประจารถ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๒๐ ผ่าน ไม่ผา่ น ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๒๐ ๑. แจ้งเตือน \"จรวด\" และบอกทิศทาง ผบ.รถ________ _________ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๒๕ ๒. หลบเขา้ ไปในป้อมปืนและลอ็ คฝาป้อม พลบรรจ_ุ _____ _________ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๒๗ ๓. ตรงึ ตวั ใหม้ น่ั คงสาหรบั การเลี้ยวฉกาจ ผบ.รถ________ _________ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๑๒ พลยงิ ________ _________ ๔. แนใ่ จวา่ ปอ้ มปนื ไมม่ ีสง่ิ ใดขวาง พลบรรจ_ุ _____ _________ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๓๒ ๕. พสิ จู นท์ ราบเป้าหมายและฟงั คาส่ังยงิ พลบรรจ_ุ _____ _________ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๒๐ ๖.ขับรถหลบหลกี จรวด พลยิง ________ _________ ๗.เปิดสวิตชก์ ล้องเลง็ TTS ไปที่ ON พลขับ ________ _________ ๘. ออกคาสัง่ \" ระเบิดควนั \" ทาการยงิ พลยงิ ________ _________ ๙. ออกคาสัง่ \" พลขบั - ฉากควัน \" ผบ.รถ________ _________ ๑๐ .ทาฉากควันจากเครอ่ื งยนต์ ผบ.รถ________ _________ ๑๑. ออกคาสงั่ แก่พลขบั ท่ถี กู ตอ้ ง พลขบั ________ _________ ๑๒. แจ้งให้ ผบ.รถ ทราบเมอื่ เข้าท่กี าบัง ผบ.รถ________ _________ พลขบั ________ _________ และซอ่ นพรางแล้ว ๑๓. * ออกคาสงั่ ยงิ ปืนใหญร่ ถถงั ถ้า ผบ.รถ________ _________ ตอ้ งการ พลยิง ________ _________ ๑๔. ตอบสนองคาสงั่ ยิง ถ้าออกคาสงั่ พลบรรจ_ุ _____ _________ ผบ.รถ________ _________ ๑๕. สงั่ พลขับนารถถงั เขา้ ท่ีกาบังตวั รถ ผบ.รถ________ _________ ๑๖. รายงานการปฏิบตั ิและสถานภาพ ของรถถงั และพลประจารถให้ ผบ.มว.ทราบ และรบั ฟังคาแนะนา การปฏบิ ัติตอ่ ไป

๒๐๙ ขัน้ ตอนในการปฏิบัติ พลประจารถ คู่มอื การฝกึ ผา่ น ไมผ่ ่าน กิจเฉพาะหมายเลข ขอ้ สงั เกต : เครอ่ื งหมาย * แสดงว่าข้นั ตอนนอ้ี าจไม่ต้องปฏบิ ัติการยงิ ทุกครง้ั ถา้ ไมม่ ที ่ีกาบงั และซ่อนพราง ข้ันตอนที่ ๓ ไม่ตอ้ งปฏบิ ตั ิ ความรวดเร็วในการเร่งและลดความเร็วจะทาให้ข้าศกึ เลง็ เกาะ รถถัง เราไดย้ ากขน้ึ ข้อสังเกต: __________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____ ________________________________________________________________________________ ____

๒๑๐ การเคลือ่ นย้ายพลขบั ท่ีบาดเจ็บ กจิ เฉพาะ-เพื่อ-ทาการฝกึ ต่อเนอื่ ง หมายเลขกจิ เฉพาะ ลักษณะของกิจเฉพาะ หลักฐานท่ใี ชท้ าการฝึก ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๑๒ การหลบหลีกจรวดตอ่ สูร้ ถถงั นาวถิ ีข้าศึก (ATGM) รส.๗๑-๑ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๒๗ คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๓๒ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๔๐ การยงิ ลูกระเบิดควัน M ๒๓๙ของรถถงั คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ๑๗๑-๑๒๓-๑๐๕๐ M ๔๘ A ๕/M ๖๐ ๑๗๑-๑๒๙-๑๐๒๐ การยงิ เล็งตรงปืนใหญ่ของ ถ. M ๔๘ A ๕/M ๖๐ คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ๑๗๑-๑๒๙-๑๐๒๕ การบรรจแุ ละเลกิ บรรจุกระสุนปืนใหญข่ นาด คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ๑๐๕ มม. ของรถถงั M ๔๘ A ๕/M ๖๐ การขบั รถถงั M ๔๘ A ๕/M ๖๐ คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ การยงิ เป้าหมายด้วยปืนใหญ่รถถงั จากสถานี คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ของพลยิงในรถถัง M ๖๐ A ๓ การเตรยี มสถานีของพลยิง ในรถถงั M๖๐A๓ คท. ๙-๒๓๕๐-๒๕๓-๑๐ ใหพ้ ร้อมใชง้ าน

๒๑๑ ตารางฝกึ ทางยทุ ธวิธี ค - การฝึกพลประจารถในการโต้ตอบ การยงิ เป้าหมายหลายเปา้ หมายพรอ้ มกัน กิจเฉพาะท่ี ค-๑ : การยงิ เป้าหมายหลายเป้าหมายพรอ้ มกนั ด้วยปนื กล (ผบ.รถและพลยงิ ) เง่ือนไข : รถถังฝ่ายเรากาลังเคล่ือนท่ีคร่อมข้ามภูมิประเทศด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม.(๑๕ -๒๐ ไมล์/ ชม.) และเขา้ ไปอย่ใู นพน้ื ท่โี ล่งแจง้ พลประจารถตรวจการณ์พบยานรบล้อของข้าศึกท่ีเคลื่อนที่ไม่ได้ โดยมีช่าง ซอ่ ม ๒ นายกาลงั ปฏบิ ัติงานอยู่ รถบรรทุกขา้ ศกึ อีก ๑ คนั กาลงั เคลอ่ื นทอ่ี อกไปจากรถถงั ในทศิ ทางตรงหน้า คาแนะนาสาหรับกาลังฝา่ ยข้าศกึ : ยานรบขา้ ศกึ ทีเ่ คล่อื นท่ีไม่ได้เปิดเผยตัวเองเต็มคนั ตอ่ รถถงั ช่างซ่อม ๒ นาย มีปืนกลจูโ่ จมและเครอ่ื งยิงจรวดอาร์พจี ีและทาการยิงต่อรถถังฝ่ายเราด้วยปืนกลเม่ือมองเห็นรถบรรทุกข้าศึก เคลือ่ นทอ่ี อกไปในทนั ทที ่ีรถถงั ปรากฏถ้าช่างซ่อมยังมีชีวิตอยู่หลังจากทาการยิงปืนกลมายังรถถังฝ่ายเราแล้ว ๓๐ วินาที จะทาการยิงจรวดอาร์พีจตี ่อรถถงั (ควบคมุ ใช้ปืนกรรมการทาการยิงทาลายรถถังฝ่ายเรา ) ตวั อย่างแผ่นบรวิ ารสาหรับ กิจเฉพาะท่ี ค-๑ ข้าศึก ข้าศึก ขัน้ ตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ ่ายเปา้ หมายกาลงั ฝา่ ยข้าศกึ และแจง้ เตอื นกาลงั พล  ผบ.รถ ออกคาสงั่ ยิงเรม่ิ แรกเพื่อใหพ้ ลยงิ ทาการยิงเป้าหมายดว้ ยปืนกลร่วมแกน  ผบ.รถ แสดงใหท้ ราบวา่ ตนเองจะทาการยงิ เปา้ หมายด้วยปนื กลขนาด . ๕๐ นิ้ว  พลยงิ ทาการยงิ เปา้ หมายดว้ ยปืนกลรว่ มแกนจนกระท่ังเปา้ หมายถูกทาลายหรือ ผบ.รถ สั่งหยดุ ยงิ  พลขับถา้ มีการหยุดชวั่ ขณะใหม้ องหาตาแหน่งทกี่ าบังตวั รถ และเตรยี มทจี่ ะเคลือ่ นทตี่ อ่ ไปอย่างรวดเร็ว ถ้า เคลื่อนทรี่ กั ษาความเร็วให้สามารถทาการยงิ ไดอ้ ยา่ งราบเรยี บ

๒๑๒ มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ ่ายยานรบข้าศึก ได้อย่างถกู ตอ้ ง  ผบ.รถ ออกคาสง่ั ยิงเริม่ แรกตอ่ พลประจารถในทันทีท่ีได้รบั รายงานการค้นพบเปา้ หมาย  เปา้ หมายต้องถกู ทาลายภายใน ๓๐ วินาที หลังจากทปี่ รากฏตัวใหเ้ หน็ การยิงเฮลิคอปเตอร์ฝ่ายขา้ ศึก กจิ เฉพาะที่ ค-๒ : การยงิ เฮลคิ อปเตอร์ฝา่ ยขา้ ศกึ เงอื่ นไข : รถถังฝ่ายเรากาลังเคล่อื นทีค่ ร่อมภมู ปิ ระเทศโล่งแจ้ง ในขณะเดยี วกนั ไดถ้ กู โจมตจี าก ฮ.ฝ่ายข้าศึก ทางปีกขวา คาแนะนาสาหรบั กาลังฝ่ายข้าศกึ : ฮ.ข้าศกึ อยู่ในทีซ่ ่อนพรางทางด้านปีกขวาของรถถังฝ่ายเรา เม่ือรถถังฝ่าย เราเขา้ มาอยู่ในพ้ืนท่โี ลง่ แจง้ ฮ. ข้าศกึ จึงได้เปิดเผยตวั เองและเร่มิ ทาการบินเขา้ โจมตีทนั ที การบินเขา้ โจมตคี วร จาลองตามทฤษฎีการรบของฝ่ายคกุ คาม (๖๐-๙๐ ม. (๒๐๐ - ๓๐๐ ฟุต) เหนือภูมิประเทศ และโจมตีด้วยมุม ๒๐ - ๓๐ องศา ดว้ ยการเคล่ือนทไ่ี ปขา้ งหน้าอย่างคงที่ (ไมม่ กี ารลอยตัว)ฮ. ขา้ ศึกจะทาการยิงประมาณ ๑๐ วนิ าที หลงั จากท่ีเปิดเผยตัวเอง ตัวอย่างแผน่ บรวิ ารสาหรบั กจิ เฉพาะท่ี ค-๒ ควนั ฮ. ข้าศึก ขั้นตอนการปฏิบตั ิ :  พลประจารถทเี่ ป็นยามอากาศแจ้งเตอื นวา่ กาลงั ถูก ฮ. ขา้ ศึกเขา้ กาลงั โจมตี  พลขบั เคลื่อนทเ่ี ข้าทก่ี าบังและซ่อนพรางโดยใช้วิธีการดาเนนิ ในการขบั แบบหลบหลกี  ผบ.รถ ดาเนนิ กรรมวธิ ใี นการยงิ เรม่ิ แรกในการต่อตา้ นอากาศยาน โดยทาการยิง ฮ. ดว้ ยปืนใหญห่ รอื ปืน กลรว่ มแกน  ระบบฉากควันถูกนามาใชเ้ พือ่ กาบงั การเคลื่อนที่ (ถา้ ทาการฝึกหรือสามารถทาได้ )  ภายหลังจากทที่ าลาน ฮ. ข้าศึกหรอื หยุดการโจมตีของขา้ ศกึ ได้แล้ว พลประจารถกลบั ไปปฏิบัตภิ ารกจิ เริม่ แรก

๒๑๓ มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ ่าย ฮ. วา่ เปน็ ข้าศกึ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง  พลประจารถทาลายเป้าหมายได้ภายใน ๑๐ วินาที หลังจากที่ปรากฏตวั ให้เห็น หรอื หยุดยง้ั การโจมตี ของข้าศึกได้ การยงิ รถถังฝ่ายขา้ ศึก กิจเฉพาะที่ ค-๓ : การยงิ รถถังฝ่ายข้าศกึ จากดา้ นหลงั เง่ือนไข : รถถังฝ่ายเรากาลงั เคลอ่ื นที่คร่อมข้ามภมู ปิ ระเทศดว้ ยความเรว็ ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล/์ ชม.)รถถังข้าศึกไดท้ าการยงิ มาจากแนวป่าดา้ นหลงั ของรถถงั ฝ่ายเรา คาแนะนาสาหรับกาลงั ฝา่ ยขา้ ศกึ : มว.ถ.ขา้ ศึก (ถ. ๓ คัน/BMPs)เร่ิมแรกอยู่ในท่ซี อ่ นพรางจากรถถงั ฝา่ ยเรา ในแนวป่าเมือ่ รถถงั ฝา่ ยเราผา่ นเข้ามาในระยะ ๓๐๐ ม. ของมว.ถ.ข้าศึก มว.ถ.ขา้ ศกึ จึงได้เคลื่อนท่อี อกมา จากแนวปา่ ในทศิ ทางตรงกนั ข้ามกบั ถ. ฝ่ายเรา และเมอื่ ถูกค้นพบและทาการยงิ จาก ถ. ฝ่ายเรา มว.ถ. ขา้ ศึกไดเ้ คล่อื นท่หี ลกี หนีและทาการยงิ ต่อ ถ. ฝ่ายเราทันที ตวั อย่างแผ่นบรวิ ารสาหรบั กิจเฉพาะที่ ค-๓ ควนั ข้าศึก ขัน้ ตอนการปฏิบัติ :  ผบ.รถ หรอื พลบรรจพุ ิสจู นฝ์ ่ายเป้าหมายและแจ้งเตือนกาลงั พล  ผบ.รถ ออกคาสง่ั ยงิ เรม่ิ แรกใหพ้ ลยงิ ใช้ปนื ใหญย่ งิ เปา้ หมาย  ผบ.รถ ออกคาสง่ั ใหพ้ ลขบั หมุนตวั เพอ่ื ใหล้ าดดา้ นหนา้ รถหนั เข้าหาข้าศึก  ระบบฉากควันถูกนามาใชเ้ พือ่ กาบงั การเคลื่อนท่ี (ถ้าทาการฝกึ หรอื สามารถทาได้ )  พลยิงทาการยงิ เป้าหมายอย่างต่อเน่ืองจนกระท่งั ไดร้ บั คาสงั่ ว่าหยุดยิง มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ จู นฝ์ า่ ยว่าเปน็ ข้าศึกได้อยา่ งถูกตอ้ ง  ผบ.รถ ออกคาสงั่ ยิงเรม่ิ แรกต่อพลประจารถในทนั ทีท่ีไดร้ บั รายงานการคน้ พบเปา้ หมาย  เปา้ หมายทงั้ หมดถกู ทาลายไดภ้ ายใน ๔๕ วินาที หลังจากทป่ี รากฏตวั ใหเ้ ห็น

๒๑๔ การยงิ หนว่ ยระวังปอ้ งกันขา้ ศึก กิจเฉพาะท่ี ค-๔ : การยิงหน่วยระวงั ปอ้ งกันข้าศกึ ในระยะประชิด (การยงิ แบบจู่โจม ) เงอ่ื นไข : รถถังฝา่ ยเรากาลังเคล่ือนทด่ี ้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕/๒๐ ไมล/์ ชม.)เมือ่ เคลอื่ นท่มี าถงึ ทางโคง้ ขอบแนวชายปา่ ถ. ข้าศึกพร้อมด้วย BMP กาลงั เคลอื่ นทอี่ ยู่ขา้ งหน้าในเสน้ ทางเดยี วกันหา่ งออกไป ๔๐๐ ม.จากทางโคง้ คาแนะนาสาหรบั กาลังฝา่ ยขา้ ศกึ : ยานรบทัง้ สองคันเริม่ แรกอยหู่ ่างจากทางโค้ง ๔๕๐ ม.และคอยรถถังฝ่าย เรา เมอื่ รถถังฝา่ ยเราปรากฏ ยานรบข้าศกึ เร่มิ เคล่ือนทีเ่ ข้าหาฝ่ายเราตามเส้นทาง ถ. และ BMP ของขา้ ศึกจะ ยงั คงอย่บู นเส้นทางและทาการยงิ ฝา่ ยเราในเวลา ๒๐ วนิ าที หลงั จากท่ถี กู ค้นพบโดย ถ. ฝา่ ยเรา ตัวอย่างแผน่ บรวิ ารสาหรับ กจิ เฉพาะท่ี ค-๔ ข้าศึก ขน้ั ตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ า่ ยเป้าหมายยานรบฝ่ายข้าศกึ และแจ้งเตอื นกาลังพล  ผบ.รถ ออกคาสง่ั ยิงเริม่ แรกเพื่อใหพ้ ลยงิ ทาการยิงต่อเป้าหมายทงั้ สองเป้า  พลยิงทาการยงิ เปา้ หมายทัง้ สองเป้าดว้ ยปืนใหญจ่ นกว่าจะทาลายไดห้ รอื ผบ.รถ สัง่ หยุดยงิ  พลขบั เคลื่อนที่รักษาความเรว็ ใหส้ ามารถทาการยงิ ไดอ้ ย่างราบเรยี บ มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ า่ ยยานรบข้าศกึ ได้อย่างถูกต้อง  เป้าหมายอนั ตรายทส่ี ดุ (รถถงั )จะต้องถูกยงิ กอ่ น  เปา้ หมายท้งั สองเปา้ ต้องถูกทาลายภายใน ๒๐ วินาที หลังจากทปี่ รากฏตัวใหเ้ หน็

๒๑๕ การโตต้ อบการซมุ่ โจมตี กิจเฉพาะที่ ค-๕ : การโต้ตอบการซมุ่ โจมตี เงื่อนไข : รถถงั ฝ่ายเรากาลังเคลื่อนท่ีไปตามเส้นทางด้วยความเร็ว ๑๖-๒๔ กม./ชม (๑๐-๑๕ ไมล์/ชม.) เมื่อ เคลอื่ นทม่ี าพบกับเคร่ืองกีดขวาง (จาลองขอนไมข้ วางถนน) และถกู ทาการยิงจากชุดอาร์พจี ีและหมู่ ปล.ข้าศึก ด้วยปืนกลและ ปลย. คาแนะนาสาหรับฝา่ ยข้าศกึ : กาลังพลของข้าศกึ อยใู่ นหลุมบคุ คลในท่ีซุ่มยิงโดยคอยที่จะทาการยิงจนกระทั่ง รถถังฝ่ายเราหยุด เม่ือรถถังหยุดชุดยิงจรวดอาร์พีจีจะเข้าทาการยิง (ผู้ควบคุมควรใช้เคร่ืองควบคุมปืน กรรมการเพื่อบนั ทึกตาบลกระสุนตกบนรถถัง) จากนัน้ หมู่ ปล.ข้าศึกจะทาการยิงด้วยอาวุธทุกชนิด หลังจาก ๒๐ วินาทีแล้ว ชุดยิงจรวดอาร์พีจี (ถ้ายังมีชีวิตอยู่จะเข้าทาการยิงอีก (ผู้ควบคุมใช้ปืนกรรมการยิงทาลาย รถถงั ) ตัวอย่างแผ่นบริวารสาหรับ กจิ เฉพาะท่ี ค-๕ พ่มุ ไม้ พ่มุ ไม้ พ่มุ ไม้ พ่มุ ไม้ ขนั้ ตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถคน้ หาสิง่ บอกเหตุว่าเป็นสญั ลกั ษณข์ องชุดยงิ อาร์พีจี และโต้ตอบโดยการขบั หลบหลกี  ผบ.รถ ออกคาสง่ั ยิงเริ่มแรกตอ่ ชุดยงิ อารพ์ จี ี และหมู่ ปล.  ระบบฉากควันถกู นามาใช้เพื่อกาบงั การเคลื่อนที่ (ถา้ ทาการฝกึ หรอื เป็นไปได)้  รายงานที่ตง้ั ของเคร่อื งกดี ขวาง (หรอื ทาลายถ้ามเี วลา) กอ่ นทีจ่ ะกลับไปปฏบิ ัติภารกิจเดิมต่อไป มาตรฐาน :  ชุดยิงอารพ์ ีจตี อ้ งถูกทาลายภายในเวลา ๒๐ วินาที หลงั จากท่ีเปา้ หมายปรากฏตัว  รถถังใช้มาตรการในการหลบหลกี และค้นหาท่ีกาบงั ภายใน ๑๐ วินาที หลังจากทป่ี รากฏตัว  หมทู่ หารราบตอ้ งถกู ยิงและทาลายภายใน ๑๕ วินาที

๒๑๖ การยิงพลซุ่มยิง กิจเฉพาะท่ี ค-๖ : การยงิ พลซมุ่ ยงิ เงือ่ นไข : รถถงั ฝา่ ยเราเคลอ่ื นทมี่ าพบกบั เครอื่ งกดี ขวางและไม่สามารถอ้อมผา่ นได้ พลบรรจลุ งจากรถเพ่ือทา การ ลว. เครอื่ งกดี ขวาง ผบ.รถ คุ้มครองพลบรรจุด้วยปนื กลขนาด .๕๐ นวิ้ พลบรรจถุ ูกทาการยงิ จากพลซมุ่ ยงิ ของขา้ ศกึ จากแนวปา่ ทางด้านปกี ขวาหา่ งจากรถถัง ๔๐๐ ม. คาแนะนาสาหรบั กาลงั ฝ่ายขา้ ศกึ : พลซมุ่ ยิงของข้าศึกซ่อนตัวอยู่ในแนวป่าและคอยพลบรรจุลงจากรถ เม่ือ พลบรรจุอยู่ห่างจากรถถัง ๒๕ ม. พลซุ่มยิงเร่ิมทาการยิง (ผู้ประเมินผลใช้เครื่องควบคุมปืนบันทึกตาบล กระสนุ ตกบนรา่ งของพลบรรจุ) หลังจากนน้ั ๑๐ วินาที พลซมุ่ ยงิ (ถ้ายงั มีชวี ติ อยูจ่ ะทาการยงิ อีก) จะทาการยิง พลบรรจุอีก (ผ้คู วบคมุ ใชป้ นื กรรมการยงิ พลบรรจใุ หเ้ สียชีวิต) ตวั อยา่ งแผ่นบริวารสาหรับ กิจเฉพาะท่ี ค-๖ พ่มุ ไม้ พ่มุ ไม้ พลซุ่มยิง พ่มุ ไม้ พลบรรจุ พ่มุ ไม้ ขนั้ ตอนการปฏิบัติ :  ผบ.รถ คน้ หาเป้าหมายแจง้ เตอื นว่า \"ขนาดห้าสิบ\" และทาการยิงพลซุม่ ยงิ  ผบ.รถ รายงาน \"ผบ.รถ ยิงจบ\"  พลบรรจเุ ขา้ ทก่ี าบงั จนกว่าพลซมุ่ ยงิ จะตาย  พลยงิ ตรวจการณเ์ ขตรบั ผิดชอบของตนเพ่ือทาการยงิ เป้าหมายทีเ่ ป็นไปได้ มาตรฐาน :  ผบ.รถ ยิงทาลายพลซุม่ ยงิ ด้วยปืนกลขนาด .๕๐ นิว้ ภายใน ๕ วินาที หลังจากทีพ่ ลซุ่มยงิ เร่มิ ยงิ กระสนุ นดั แรก  พลบรรจเุ คลอ่ื นทเ่ี ข้าท่ีกาบังที่ใกล้ทสี่ ดุ ทห่ี าได้

๒๑๗ ตารางฝึกทางยทุ ธวิธี ง - การประสานการปฏิบัติระหว่างพลประจารถ การเคลื่อนยา้ ยทางยุทธวธิ โี ดยใชแ้ นวความคิดเรอ่ื งปีก กจิ เฉพาะที่ ง-๑ : การเคลอ่ื นยา้ ยทางยุทธวิธีโดยใชแ้ นวความคิดเรอื่ งปกี เงือ่ นไข : ตอนรถถังใชแ้ นวความคดิ เรือ่ งปีกเคลื่อนทีท่ างยทุ ธวธิ ีครอ่ มข้ามภมู ิประเทศ โดยเป็นส่วนหนง่ึ ของ การปฏิบตั กิ ารรบดว้ ยวธิ รี ุก การเคลื่อนยา้ ยทางยทุ ธวิธสี าหรับ กิจเฉพาะที่ ง-๑ รถถังคนั ทเี่ ป็ นปี ก รถถงั คนั นา ขน้ั ตอนการปฏิบัติ :  ถ. คนั นาและปกี เคลือ่ นทีและดารงตาแหน่งของตนดงั ทแี่ สดงไว้ในรปู  ลากลอ้ งปนื หนั ไปในทิศทางทไ่ี ดร้ บั มอบภายในตอนตาม รปจ. ของ มว. และรปู ขบวน  ถ.คันนาและปีกดารงระยะต่อระยะเคยี งตามปจั จยั METT -T  ถ.คนั นาและปีกใชเ้ ทคนคิ การขบั เคลือ่ นตามภูมปิ ระเทศ  พลประจารถดารงการตดิ ต่อสอื่ สารโดยเงียบ - รับฟัง เม่อื อยใู่ นลักษณะท่ีเปดิ ปอ้ ม มาตรฐาน :  ถ.ทัง้ สองคันเคล่อื นทท่ี างยุทธวิธี  พลประจารถดารงการระวังป้องกันท้งั ทางพนื้ ดินและทางอากาศรอบตวั ๓๖๐ องศา  ถ.ที่เป็นปีกใชก้ ารเคล่อื นที่ของ ถ.คนั นาเป็นหลัก  ถ.คันทเ่ี ป็นปีกหมนุ ปอ้ มปืนไปในทศิ ทางเดยี วกันกับ ถ.คันนา  ถ.คนั ท่เี ปน็ ปีกดารงการตดิ ตอ่ ดว้ ยสายตากบั ถ.คันนาตาลอดเวลา

๒๑๘ การปฏบิ ัติรูปขบวนกา้ งปลา กิจเฉพาะท่ี ง-๒: ปฏิบตั ริ ปู ขบวนก้างปลา เง่อื นไข : ตอน ถ.กาลงั เคลอ่ื นทดี่ ้วยรปู ขบวนแถวตอน ตอนไดร้ ับคาสงั่ ให้เปลย่ี นขบวนเป็นรปู ขบวนก้างปลา รูปขบวนก้างปลาสาหรบั กจิ เฉพาะท่ี ง-๒ รถถังคนั ทเ่ี ป็ นปี ก รถถังคนั นา ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ :  ถ.คันนาเคลื่อนท่ีไปทางขวาและเฉยี งกบั เส้นทางการเคลือ่ นท่ี (๓๐ - ๔๕ องศา)  ถ.คนั ท่เี ป็นปีกเคล่อื นทีไ่ ปทางซา้ ยและเฉยี งกบั เสน้ ทางการเคลอื่ นที่ (๓๐ - ๔๕ องศา)  ถ.ทั้งสองคันหมนุ ปืนไปในทิศทางลาดดา้ นหนา้ รถของตน  พลประจารถดารงการระวงั ปอ้ งกันท้งั ทางพ้ืนดนิ และอากาศ  พลประจารถดารงการตดิ ตอ่ สอื่ สารโดยเงียบ - รบั ฟงั มาตรฐาน :  ถ.คนั นาและปีกดารงตาแหนง่ ของตนทงั้ สองขา้ งของเส้นทางทาให้เส้นทางโลง่  ถ.ทั้งสองคันยึดครองที่ม่นั ทใ่ี ห้การกาบังและการซอ่ นพรางสงู สดุ  พลประจารถดารงการระวงั ปอ้ งกนั ทั้งทางพน้ื ดินและอากาศรอบตัว ๓๖๐ องศา

๒๑๙ ตารางฝกึ ทางยทุ ธวธิ ี จ - การฝึกตอนรถถงั การฝกึ ปฏิบัตริ ปู ขบวนโตต้ อบ กิจเฉพาะที่ จ-๑: การฝึกปฏิบัตริ ปู ขบวนโต้ตอบ เงอื่ นไข : ตอนรถถังกาลงั เคลื่อนทด่ี ว้ ยรปู ขบวนเพอ่ื ครอ่ มขา้ มภูมปิ ระเทศ ด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล/์ ชม.) เมอื่ ได้รบั รายงานว่ามกี ารยงิ อาวธุ ต่อสรู้ ถถัง (จาลอง) ตัวอย่างแผน่ บรวิ ารสาหรบั กจิ เฉพาะที่ จ-๑ ข้าศึก ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิ :  ผบ.มว. ออกสงั่ \"รูปขบวนทางซ้าย (ขวา /หนา้ /หลงั )  รถถังทง้ั สองคันเล้ยี วไปในทิศทางท่ีไดร้ บั คาสงั่ และดารงรปู ขบวนของปกี เอาไว้  พลประจารถเตรยี มการยิงไปยงั ตาแหนง่ ท่คี าดวา่ เปน็ ท่ตี ง้ั ของข้าศึก  พลประจารถดารงการตดิ ต่อส่อื สารโดยเงยี บ - รบั ฟัง เมือ่ อยใู่ นลกั ษณะทเี่ ปิดป้อม มาตรฐาน :  รถถังคันของผบ.ตอนและคันทเ่ี ป็นปกี เคล่อื นทไ่ี ปในทิศทางทไี่ ด้รบั คาสงั่ ทันทโี ดยไม่ชักชา้  ลากลอ้ งปนื หันไปด้านหนา้ ทค่ี าดว่าเป็นท่ีตัง้ ของข้าศกึ

๒๒๐ การฝึกปฏิบัติเมื่อเกิดการปะทะ กิจเฉพาะที่ จ-๒ : การปฏบิ ัติเมือ่ เกิดการปะทะ เง่อื นไข : ตอนรถถงั กาลงั เคล่ือนทด่ี ้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล/์ ชม.) แล้วได้รับรายงานวา่ มี การยิงจากพลซุ่มยงิ (จาลอง) ตวั อยา่ งแผน่ บรวิ ารสาหรับ กจิ เฉพาะท่ี จ-๒ พลซุ่มยิง ขั้นตอนการปฏิบัติ :  ผบ.ตอน ออกคาสัง่ “ปะทะขวา (ซา้ ย /หน้า /หลงั )”  ถ.ทั้งสองคนั หมนุ ปนื ไปในทิศทางที่ไดร้ บั คาสงั่  ถ.ทัง้ สองคนั ดารงรปู ขบวนการเคลอ่ื นที่ , ความเร็วและทิศทางเอาไว้  พลประจารถเตรยี มการยิงไปยงั ตาแหนง่ ทีค่ าดว่าเปน็ ทีต่ ง้ั ของขา้ ศึก  พลประจารถดารงการติดตอ่ สือ่ สารโดยเงยี บ - รับฟงั เม่อื อยูใ่ นลกั ษณะทเ่ี ปดิ ป้อม มาตรฐาน :  ถ.ทง้ั สองคันหมุนปอ้ มปืนไปในทศิ ทางท่ีไดร้ ับคาสงั่ ทนั ทโี ดยไม่มกี ารทาใหเ้ สยี เวลา  ตอ้ งไมม่ ีรถถงั คันใดกีดขวางทิศทางซงึ่ กนั และกนั

๒๒๑ การตอ่ ต้านอาวุธยงิ เล็งจาลอง กิจเฉพาะที่ จ-๓ : การตอ่ ต้านอาวธุ ยิงเลง็ จาลอง (จาลอง) เงื่อนไข : ตอนรถถงั กาลงั เคลอ่ื นท่ีทางยทุ ธวิธคี ร่อมขา้ มภูมปิ ระเทศและมกี ระสุนจากอาวธุ ยงิ เลง็ จาลอง ตกลง ใกลร้ ถถัง (จาลอง) ตวั อยา่ งแผ่นบริวารสาหรับ กิจเฉพาะท่ี จ-๓ ขัน้ ตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถปิดและล็อคป้อมปนื  พลประจารถสวมหนา้ กาก  ถ.ทัง้ สองคันเพมิ่ ความเร็วและเคลือ่ นทอ่ี อกจากพ้นื ท่ตี าบลกระสุนตก ถ้าภูมิประเทศอานวยใหห้ รือมที ี่ กาบังในพ้นื ทต่ี าบลกระสุนตก  ถ.ท้งั สองคนั ดารงตาแหนง่ ของปีกในระหว่างดาเนนิ กลยทุ ธเอาไว้  ผบ.ตอนรายงานสถานการณท์ รี่ วมถึงชนดิ ของอาวุธยงิ และทตี่ ง้ั ให้ ผบ.มว.ทราบ มาตรฐาน :  กาลังพลแต่ละนายป้องกันตนเองจากอาวุธยงิ เล็งจาลองท่ไี ดร้ ับ  ระดบั การปอ้ งกัน ลปภบ. ขนึ้ อยกู่ บั รปจ.ของหน่วย  ถ.ทั้งสองคนั ดาเนนิ กลยุทธออกจากพื้นท่ีตาบลกระสนุ ตกดารงรปู ขบวนของปีกเอาไวถ้ ้าภูมิประเทศอานวย หรือมีทีก่ าบงั เพียงพอในพื้นท่ตี าบลกระสนุ ตก

๒๒๒ ตารางฝึกทางยทุ ธวิธี ฉ - การฝกึ ตอนรถถังในการโตต้ อบ การยิงเปา้ หมายหลายเปา้ หมาย กจิ เฉพาะท่ี ฉ-๑ : การยิงเป้าหมายหลายเปา้ หมาย เงื่อนไข: ตอนรถถังกาลงั เคลื่อนที่คร่อมข้ามภูมปิ ระเทศด้วยความเรว็ ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.) เม่ือเผชญิ หนา้ กบั กองกาลังของฝ่ายคกุ คามทางปกี ขวา เม่ือยานรบ BMP ของข้าศึก เหน็ ขบวนรถถังของฝา่ ย เราทางปกี ซ้ายก็เคล่อื นทอี่ อกไป คาแนะนาสาหรับกาลงั ฝา่ ยคุกคาม : หมทู่ หารราบฝ่ายคุกคามพรอ้ มกบั จรวดอารพ์ ีจแี ละ ปลย.อยู่ในท่โี ลง่ เมื่อ ถ. ท้ังสองคัน ของฝ่ายเราปรากฏหมทู่ หารราบขา้ ศึกเรม่ิ ทาการยงิ ด้วย ปลย.หมทู่ หารราบคอย ๓๐ วนิ าที จากนั้นเร่ิมทาการยงิ ด้วยจรวดอาร์พจี ี BMP ข้าศกึ จะคอยจนกระทง่ั ถ.คันนาของฝา่ ยเราปรากฏตวั จงึ เร่ิมเคลอ่ื นทอี่ อกไปจากรถถงั ดว้ ย ความเรว็ ประมาณ ๘ กม./ชม. (๕ไมล/์ ชม.) BMP จะคอยอกี ๑๕ วนิ าที (ถา้ ยังไมถ่ กู ทาลาย)แลว้ จึงทาการยิง ต่อรถถงั ฝา่ ยเรา ตัวอย่างแผ่นบรวิ ารสาหรับ กจิ เฉพาะท่ี ฉ-๑ ยานเกราะข้าศึก หมู่ทหารราบข้าศึก

๒๒๓ ขัน้ ตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถพสิ จู นฝ์ า่ ยยานรบและหนว่ ยทหารขา้ ศึกและแจง้ เตอื นใหพ้ ลประจารถทุกคนทราบ  สง่ รายงานการค้นพบเปา้ หมายให้ ผบ.ตอนทราบ  ผบ.ตอน ออกคาสง่ั ยงิ (ถ้ารถถงั คนั ท่ีเป็นปีกพบเป้าหมาย)  ถ.คนั ซ้ายทาการยงิ ตอ่ เป้าหมาย BMP  ถ.คนั ท่ีเปน็ ปกี ทาการยิงหนว่ ยทหาร  ถ.ทงั้ สองคันทาการยิงเป้าหมายทเี่ หลอื อยจู่ นกระทง้ั เป้าหมายท้งั หมดถูกทาลาย  รายงานสถานการณ์ตามสายการบงั คับบญั ชา  หลงั จากทที่ าลายเปา้ หมายทงั้ หมดแลว้ ถ.ทัง้ สองคนั กลบั ไปปฏบิ ตั ภิ ารกจิ เดมิ มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ จู นฝ์ ่ายเปา้ หมายท่ีเปน็ ยานรบและหนว่ ยทหารข้าศึกได้ถกู ต้อง  พลประจารถทาการยงิ เป้าหมายขา้ ศึกในเขตรบั ผิดชอบของตน  เปา้ หมายท้งั หมดถูกทาลายภายใน ๓๐ วนิ าที

๒๒๔ การยิงเปา้ หมายปนื กลหลายเป้าหมาย กิจเฉพาะที่ ฉ-๒ : การยงิ เป้าหมายปืนกลหลายเปา้ หมาย เง่อื นไข : ตอนรถถังกาลงั เคล่อื นทค่ี รอ่ มข้ามภมู ปิ ระเทศด้วยความเรว็ ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล/์ ชม.) เมื่อเผชญิ หนา้ กบั ขบวนสมั ภาระท่ีเป็นรถบรรทกุ ๓ คัน ของฝา่ ยคุกคามกาลังเคลือ่ นทอี่ ยู่ ตัวอย่างแผ่นบริวารสาหรับ กจิ เฉพาะที่ ฉ-๒ ขบวนยานยนต์ข้าศึก คาแนะนาสาหรับกาลงั ฝ่ายคุกคาม : เรมิ่ แรกยานล้อของข้าศกึ ท้งั ๓ คนั (๑/๔ ตนั หรอื รถบรรทุก) ซอ่ นพราง จาก ถ.ท้ัง ๒ คัน ของฝา่ ยเรา ถ. ฝา่ ยเราปรากฏตัวข้นึ ในพ้นื ที่ ยานรบข้าศึกเร่ิมเคลอ่ื นที่ขนานกับแนวด้านท้าย ของรูปขบวน ถ.ฝา่ ยเราและอยู่ในรูปขบวนของแถวตอนถูกยิงจาก ถ.ฝา่ ยเราเมอ่ื ถกู ยงิ ยานรบขา้ ศกึ ได้พยายาม หนี ขน้ั ตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ ่ายยานรบและหนว่ ยทหารข้าศกึ แจง้ เตอื นให้พลประจารถทกุ คนทราบ  สง่ รายงานการคน้ พบเปา้ หมายให้ ผบ.ตอนทราบ  ผบ.ตอน ออกคาส่ังยงิ (ถ้ารถถงั คนั ทเี่ ปน็ ปีกพบเป้าหมาย )  ถ. คันนาทาการยิงเป้าหมายคนั นาด้วยปนื กล  ถ. คนั หลังทาการยงิ เปา้ หมายคันหลังด้วยปนื กล  รายงานสถานการณ์ตามสายการบงั คับบญั ชา  หลงั จากท่ที าลายเป้าหมายทง้ั หมดไดแ้ ล้ว ถ.ทง้ั สองคนั กลบั ไปปฏิบัตภิ ารกจิ เดมิ มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ จู นฝ์ า่ ยเปา้ หมายท่ีเป็นยานรบและหนว่ ยทหารขา้ ศึกไดถ้ กู ตอ้ ง  เปา้ หมายท้งั หมดถกู ทาลายภายใน ๓๐ วนิ าที

๒๒๕ การโต้ตอบการซุม่ โจมตี / การลาดตระเวนด้วยการยิง กจิ เฉพาะท่ี ฉ-๓ : การโต้ตอบการซมุ่ โจมตี / การลาดตระเวนดว้ ยการยิง เง่อื นไข : ตอนรถถงั กาลงั เคล่อื นทไี่ ปตามเส้นทางด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.)เมื่อ ถ. คันนาพบเครือ่ งกดี ขวาง (ขอนไม้ขวางถนน) และถูกยิงจากชุดยิงจรวดต่อสู้รถถัง (ATGM) และหมู่ทหารราบ ข้าศึก (๘ นาย) ด้วยปืนกลและ ปลย. คาแนะนาสาหรับกาลงั ฝา่ ยคุกคาม : หน่วยทหารฝ่ายคุกตามอยใู่ นหลุมบุคคลอยู่ในท่ีซุ่มยิง โดยคอยท่ีจะทา การยงิ ถ.ฝ่ายเราทง้ั สองคัน เมื่อหยุดการเคลือ่ นท่ฝี ่ายขา้ ศึกจะคอยประมาณ ๑๕ วินาที เพอื่ ดูว่าถ้า ถ. ฝ่ายเรา ทาการ ลว.ดว้ ยการยิงไปยังตาบลที่คาดว่านา่ จะเป็นท่ีต้งั ของขา้ ศึก ถ้ารถถงั ทาการยงิ เขา้ ไปในพืน้ ทท่ี ีเ่ ป็นทซ่ี อ่ น ตัวของข้าศึก หน่วยทหารข้าศึกจะขว้างลูกระเบิดควันและผู้ควบคุมจะยิงทาลายข้าศึก ๔ นาย ด้วยปืน กรรมการ ชุดยิงจรวดต่อสู้รถถังจะคอยประมาณ ๒๐ วินาที หลังจากท่ี ถ.ฝ่ายเราคันแรกเร่ิมทาการยิงต่อ หน่วยทหาร จากน้ันจะทาการยิงไปยัง ถ.คันหลัง (ผู้ควบคุมใช้ปืนกรรมการเพ่ือบันทึกการถูกยิงของ ถ.คัน หลงั )หมู่ทหารราบขา้ ศกึ จะทาการยงิ ถ.ฝา่ ยเราด้วยอาวธุ ทกุ ชนดิ หลงั จาก ๓๐ วินาทแี ลว้ (ถ้าชุดยงิ จรวดต่อสู้ รถถังยังมชี ีวติ อย)ู่ ชุดยิงจรวดต่อสู้รถถังจะเรม่ิ ทาการยิงด้วยจรวดอีกคร้ัง (ผู้ควบคุมใช้ปืนกรรมการยิงทาลาย ถ.คนั หลงั ) ตัวอย่างแผ่นบรวิ ารสาหรบั กจิ เฉพาะท่ี ฉ-๓ อนตถ.

๒๒๖ ขนั้ ตอนการปฏิบัติ :  สมมุตวิ า่ ถ.ฝ่ายเราใช้รูปขบวนกา้ งปลาทาการ ลว. เครอ่ื งกดี ขวางในขน้ั แรก  ตอน ถ.ทาการระวงั ป้องกนั ทง้ั ทางพนื้ ดินและทางอากาศ ๓๖๐ องศา รอบตวั และทาการ ลว.ด้วยการยิง ไปยงั ตาบลที่คาดวา่ น่าจะเป็นท่ีตงั้ ของขา้ ศกึ  ถ.คนั ท่ีคน้ พบสญั ลกั ษณ์ว่าเป็นจรวดต่อสรู้ ถถังทาการยงิ ชดุ ยงิ จรวดและปฏิบตั กิ ารหลบหลีก  ถ.คนั คน้ พบเปา้ หมายทเี่ ป็นหนว่ ยทหารใหท้ าการยงิ หน่วยทหารและทาการหลบหลกี  ถ.ทงั้ สองคนั ทาการยงิ เป้าหมายอย่างตอ่ เน่อื งจนกระทั่งเปา้ หมายทง้ั หมดถูกทาลาย มาตรฐาน :  ถ.ทัง้ สองคันปฏิบัตกิ ารหลบหลกี หลงั จากที่ถูกหนว่ ยทหารขา้ ศกึ ยงิ ทาลาย  เป้าหมายทเี่ ป็นชุดยิงจรวดต่อสรู้ ถถังตอ้ งถกู ยงิ ทาลายภายใน ๒๐ วนิ าที หลังจากทเี่ ปา้ หมายปรากฏ  เป้าหมายทเี่ ป็นหน่วยทหารต้องถูกยงิ ทาลายภายใน ๒๐ วินาที

๒๒๗ การยิงหมวดรถถงั ขา้ ศึก กจิ เฉพาะที่ ฉ-๔ : การยงิ หมวดรถถงั ข้าศกึ เงอ่ื นไข : ตอนรถถงั กาลงั เคล่ือนทท่ี างยุทธวธิ ี ครอ่ มข้ามภมู ปิ ระเทศด้วยความเรว็ ๒๔ - ๓๒ กม./ชม. (๑๕- ๒๐ ไมล/์ ชม.) เมือ่ ถ.คนั นาพบเครือ่ งกดี ขวาง (ขอนไม้ขวางถนน) เม่ือโผล่พ้นเนนิ เขาทางดา้ นหลังถูกยงิ จาก มว.รถถงั ขา้ ศึก (ถ. ๓ คัน) จากทางดา้ นปกี ขวา คาแนะนาสาหรบั กาลังฝ่ายคุกคาม : ถ.ฝ่ายคกุ คามเริ่มแรกอยหู่ ่างจาก ถ.ฝ่ายเราเมอ่ื ปรากฏตวั ๑,๒๐๐- ๑,๕๐๐ ม.เมือ่ ถ.ฝ่ายเราปรากฏตัวออกมา มว.ถ. ขา้ ศกึ เริม่ เคล่ือนท่ไี ปข้า’หน้าและทาการยิงต่อ ถ.ฝา่ ยเรา ทันที ถ.ขา้ ศกึ อยู่ในรูปขบวนหน้ากระดานและไม่แตกรปู ขบวนออกไปเมอ่ื เริม่ ทาการยงิ ตัวอยา่ งแผน่ บรวิ ารสาหรับ กจิ เฉพาะท่ี ฉ-๔ รถถังข้าศึก ข้ันตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถพสิ จู นฝ์ า่ ยว่าเปน็ ถ.ฝ่ายข้าศึกและแจง้ เตอื นพลประจารถ  ผบ.ตอน ออกคาส่ังยงิ  ตอน ถ. ปฏบิ ัติการปะทะขวาและปฏบิ ัตดิ ้วยรูปขบวนทางดา้ นขวา  ถ.ทง้ั ๒ คนั ทาการยิง มว.ถ. ข้าศึกตามคาสั่งทรี่ ะบุไวใ้ น รปจ. ของหน่วย  ตอน ถ.ปฏิบตั กิ ารหลบหลีก  ถ. ทง้ั ๒ คนั ปฏิบัตกิ ารยงิ อยา่ งตอ่ เนอื่ งจนกระทง่ั เปา้ หมายทเี่ หลืออย่ถู ูกทาลายหมด มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ ่ายเปา้ หมายว่าเปน็ ถ.ข้าศึกไดถ้ ูกตอ้ ง  ถ.ทัง้ สองคันทาการยิงตอ่ เปา้ หมายแรกทปี่ รากฏภายใน ๑๐ วินาที  เป้าหมายรถถังข้าศึกตอ้ งถูกทาลายภายใน ๒๐ วินาที

๒๒๘ การยงิ หน่วยลาดตระเวนและหนว่ ยเฝ้าตรวจสนามทนุ่ ระเบิด กิจเฉพาะท่ี ฉ-๔ : การยิงหนว่ ยลาดตระเวน เง่ือนไข : ตอนรถถงั กาลงั เคล่อื นทท่ี างยทุ ธวธิ ไี ปตามเสน้ ทางดว้ ยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ ชม.) เมอ่ื ถ.คันนาพบเครอ่ื งหมายสนามท่นุ ระเบิดของขา้ ศึก ถ.คนั นาตรวจการณ์และทาการยิงหน่วย ลว. ของข้าศึก (ถ. ๑ คัน, BMP ๑ คัน)ที่กาลังเคล่ือนทผ่ี ่านหนา้ ไปอกี ด้านหน่ึงของสนามทุ่นระเบิดเมื่อ ถ.คันนาทาการยิงต่อ หน่วย ลว.ข้าศึก หน่วยเฝ้าตรวจสนามทุ่นระเบิดของข้าศึก (๑ นาย) กระโดดออกมาจากหลุมบุคคลและ พยายามที่จะขว้างถุงระเบิดลงบนดาดฟา้ ดา้ นหลงั ของ ถ.คนั นา คาแนะนาสาหรบั กาลงั ฝา่ ยคุกคาม : หน่วย ลว.ฝา่ ยคุกคามจะคอยจนกระทั่ง ถ.ฝ่ายเราท้ัง ๒ คันเคลื่อนที่เข้า มาถึงสนามท่นุ ระเบดิ จากนั้นจึงเรม่ิ เคล่อื นที่ผา่ นทางดา้ นหน้าออกไปหน่วย ลว.จะหนั กลบั มาทาการยิงเมื่อถูก ยงิ จาก ถ.ฝ่ายเราและเร่ิมต้นหนีออกไปจากพ้นื ท่ี หนว่ ยเฝ้าตรวจสนามทุ่นระเบิดงจะคอยประมาณ ๑๐ วินาที หลังจากการยิงเร่ิมต้นข้ึน จากน้ันทาการกระโดดออกมาจากหลุมบุคคลและขว้างถุงระเบิดลงไปบนดาดฟ้า ด้านหลงั ของ ถ.คนั นา ถา้ หนว่ ยซมุ่ ยงิ ถูกสงั หารโดย ถ.คนั ท่ีเปน็ ปกี ก่อนทจี่ ะทาการขว้างถุงระเบิดได้ ผู้ควบคุม จะไมท่ าลาย ถ.คนั นาใหเ้ คล่ือนท่ีไมไ่ ด้ผคู้ วบคุมจะคอย ๕ วนิ าที หลังจากที่ถุงระเบิดตกลงบนดาดฟ้าด้านหลัง ของ ถ.คนั นาจากนัน้ จึงจะใช้ปืนกรรมการยงิ ทาลาย ถ.คนั นา ตัวอยา่ งแผน่ บรวิ ารสาหรับ กิจเฉพาะท่ี ฉ-๕ รถถงั คนั ทเี่ ป็ นปี ก รถถังคนั นา พลซุ่มยงิ อยู่ในหลมุ บคุ คล

๒๒๙ ขั้นตอนการปฏิบตั ิ :  พลประจารถพสิ ูจนท์ ราบสนามทุน่ ระเบดิ และแจง้ เตอื นพลประจารถ  ผบ.ตอนออกคาสง่ั คน้ หาเปา้ หมายตอ่ ปกี ของตน  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ ่ายยานรบขา้ ศึกและแจ้งเตอื นพลประจารถ  ผบ.ตอน ออกคาส่งั ยงิ  ถ.คนั นาทาการยงิ ต่อ ถ.ขา้ ศึกก่อนแลว้ จึงทาการยงิ BMP  ถ.คนั ที่เป็นปกี ระวงั ปอ้ งกันใหก้ ับ ถ.ท่ที าการยงิ และยงิ แซปเปอรด์ ว้ ยปืนกล  ถ.ทั้ง ๒ คัน ทาการยงิ เป้าหมายอยา่ งตอ่ เนื่องจนกระทง่ั เปา้ หมายทง้ั หมด (BMP , แซปเปอร)์ ถูกทาลาย มาตรฐาน :  พลประจารถพสิ จู นท์ ราบสนามทุ่นระเบดิ และไมเ่ คลอ่ื นท่ีเขา้ ไป  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ า่ ยและทาการยงิ ยานรบขา้ ศกึ ในเขตรบั ผดิ ชอบของตน  เปา้ หมายข้าศึกตอ้ งถูกทาลายภายใน ๓๐ วินาที หลังจากทป่ี รากฏตวั ครงั้ แรก

๒๓๐ การยิงยานรบลอ้ และเฮลิคอปเตอรโ์ จมตี กิจเฉพาะท่ี ฉ-๕ : การยิงยานรบลอ้ และเฮลิคอปเตอรโ์ จมตี เงอื่ นไข : ตอนรถถังกาลังเคลอ่ื นทที่ างยุทธวิธคี ร่อมข้ามภมู ิประเทศด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.) เมือ่ โผล่พ้นเนนิ เขาจากด้านหลงั ถ.คนั นาตรวจการณพ์ บและทาการยงิ ยานรบล้อข้าศึก ๒ คัน ในรูป ขบวนสมั ภาระ ถ.คันนาถกู โจมตีจากเฮลคิ อปเตอรข์ า้ ศกึ ทางปกี ซ้ายของตน คาแนะนาสาหรับกาลังฝ่ายคกุ คาม : ยานรบล้อขา้ ศึก (๑/๔ ตนั ) อยู่บนเส้นทางห่างจากตาบลที่คาดว่าจะถูก ตรวจพบและทาการยิง ถ.คันนาของฝ่ายเรา ๖๐๐-๙๐๐ ม.เม่ือ ถ.คันนาปรากฏให้เห็นยานรบข้าศึกเริ่ม เคลื่อนทีอ่ อกจากเสน้ ทางด้วยความเรว็ ๑๖-๒๔ กม./ชม. (๑๐-๑๕ ไมล์/ชม.) และเคลื่อนท่ีอย่างต่อเน่ืองด้วย รูปขบวนแถวตอนต่อไปจนกว่าทั้งสองคันจะถูกยิงหรือกาบังจากภูมิประเทศ ฮ.โจมตีข้าศึกจะดารงการซ่อน พรางทางปีกซ้ายของ ถ.คนั นา ๑๕ วินาที หลงั จากท่ี ถ.คนั นาเร่ิมทาการยิงยานรบล้อ ฮ.จะออกจากที่ซ่อนตัว และบินเข้าโจมตี ถ.คนั นา การบินเข้าโจมตคี วรปฏิบัตติ ามทฤษฎีการรบของฝ่ายคุกคาม (ยกตัวสูง ๖๐-๙๐ ม. (๒๐๐-๓๐๐ ฟุต) เหนือภูมิประเทศและเข้าตีจากมุม ๒๐ - ๓๐ องศา ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ไป ขา้ งหน้าคงที่ (ไม่มีการลอยตวั ) ฮ.จะทาการยงิ ๑๐ วนิ าทีหลงั จากที่ปรากฏตวั และผ้คู วบคมุ จะใชป้ ืนกรรมการ ยงิ ทาลาย ถ.คนั นา ถา้ ฮ. ไมถ่ กู ทาลายภายใน ๑๕ วนิ าที หลังจากท่ีปรากฏตวั ออกมา ตัวอย่างแผ่นบริวารสาหรบั กิจเฉพาะท่ี ฉ-๖ รถถงั คนั นา รถถังคนั ทเี่ ป็ นปี ก

๒๓๑ ข้ันตอนการปฏิบัติ :  พลประจารถพสิ ูจนฝ์ ่ายยานรบขา้ ศึกและแจง้ เตอื นพลประจารถและปกี  ถ.คนั นาทาการยิงยานรบลอ้ ด้วยปืนกล  ถ.คันทีเ่ ปน็ ปกี ทาการระวังป้องกันใหก้ ับ ถ.ทที่ าการยงิ  ถ.คันทเี่ ปน็ ปกี ใช้รปู ขบวนเมอ่ื ถูกโจมตีทางอากาศมาปฏบิ ตั ิในตอน  ถ.ท้ังสองคันดาเนินกลยุทธด้วยการหลบหลกี และมองหาตาแหน่งทีใ่ หก้ ารกาบงั และซอ่ นพราง  ฮ.จะถกู ทาการยงิ จาก ถ.คนั นาและปีกดว้ ยปนื ใหญแ่ ละปืนกลจนกระทง่ั กดดนั ออกไปไดห้ รือถกู ทาลาย  ระบบฉากควนั ถูกนาออกมาใช้เพอื่ กาบงั การเคลอื่ นท่ี  หลงั จากท่กี ดดนั หรอื ทาลาย ฮ.ได้ ตอน ถ.กลบั เขา้ ไปปฏบิ ัตภิ ารกิจเดมิ ของตน มาตรฐาน :  พลประจารถถงั (คันนา)พิสจู นฝ์ ่ายยานรบและทาการยงิ เปา้ หมายข้าศกึ (ยานรบลอ้ )ในเขตรบั ผดิ ชอบของ ตน  ปีกค้นหาเปา้ หมายทางอากาศ (ฮ. )และใช้รปู ขบวนเม่ือถูกโจมตีทางอากาศภายใน ๑๐ วินาทีหลังจากที่ เปา้ หมายปรากฏ  ฮ. ต้องถกู ทาลายภายใน ๘ วินาที หลงั จากทป่ี รากฏตวั (การทาลายคานวณเปน็ การถกู ยงิ ด้วยปืนใหญ่ ) หรือการผลกั ดนั จนหยุดการโจมตีภายใน ๘ วนิ าที หลงั จากทปี่ รากฏตัว

๒๓๒ ตารางฝกึ ทางยุทธวธิ ี ช-การประสานการปฏบิ ัติภายในหมวดรถถัง การปฏบิ ัตริ ูปขบวนแถวตอน กจิ เฉพาะที่ ช-๑ : การปฏบิ ตั ริ ูปขบวนแถวตอน เง่ือนไข : มว.ถ.ปฏิบัติเป็นส่วนหน่ึงของกองร้อยในการปฏิบัติการรุกด้วยการเข้าตีในทางลึก เน่ืองจาก ความเรว็ เปน็ สิ่งสาคญั ย่งิ ในการเคลอื่ นท่ีในทางลกึ เขา้ ไปในพื้นที่สว่ นหลังของกาลังฝ่ายข้าศึกมว.ได้รับคาส่ังให้ ใช้รปู ขบวนแถวตอนและเคล่ือนทีด่ ้วยความเรว็ สูงสุด ๓๒-๔๐ กม./ชม. (๒๐-๒๕ ไมล์/ชม.) รูปขบวนแถวตอนสาหรบั กิจเฉพาะที่ ช-๑ รถถงั หมายเลข ๓ รถถังหมายเลข ๒ รถถงั หมายเลข ๔ รถถังหมายเลข ๑ รอง ผบ.มว. ผบ.มว. ขนั้ ตอนการปฏิบัติ :  มว.เปล่ียนเปน็ รปู ขบวนแถวตอนอยา่ งรวดเร็วเมอ่ื ไดร้ บั คาสงั่ จาก ผบ.มว.  การติดต่อดว้ ยสายตาต้องดารงไวอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งตามทก่ี ล่าวไว้ในเรอื่ งการใชป้ กี  มว.ทาการระวังป้องกนั รอบตวั ต่อเนอื่ งและผา่ นการป้องกันทางอากาศโดยการกระจายกาลงั ออกทาง ดา้ นขา้ งและในทางลึก  มว.ดารงการตดิ ต่อสอื่ สารโดยเงียบ - รบั ฟงั เมื่อเปดิ ปอ้ มปนื มาตรฐาน :  ถ.เข้าเป็นแถวเด่ียวต่อหลังคนั หนา้ และดารงการกระจายในทางลกึ  ระยะต่อระหวา่ งคนั ข้นึ อยกู่ บั คาสงั่ ของ ผบ.มว. และ รปจ. ของหน่วย  มว.ดารงการระวงั ป้องกนั ทางพน้ื ดินและทางอากาศรอบตวั ๓๖๐ องศา

๒๓๓ การปฏิบตั ริ ูปขบวนระวังป้องกัน กิจเฉพาะที่ ช-๒ : การปฏบิ ตั ริ ูปขบวนระวังปอ้ งกนั เงอื่ นไข : มว.ถ.ปฏบิ ตั เิ ป็นส่วนหน่งึ ของกองรอ้ ยในการปฏิบัตกิ ารรกุ มว.ไดร้ ับคาสัง่ ให้จัดรูปขบวนระวังป้องกนั รอบตวั รูปขบวนระวงั ป้องกันรอบตวั สาหรับ กจิ เฉพาะท่ี ช-๒ รถถงั หมายเลข ๑ ผบ.มว. รถถังหมายเลข ๒ หรือ ๓ รถถงั หมายเลข ๒ หรือ ๓ รถถังหมายเลข ๔ รอง ผบ.มว. ขั้นตอนการปฏิบัติ :  มว.เคลือ่ นทีเ่ ป็นรปู ขบวนระวงั ปอ้ งกันรอบตัวอย่างรวดเร็ว  ถ.แต่ละคันเคลอ่ื นท่เี ข้าทต่ี ง้ั ยงิ ที่ให้กาบัง, ซ่อนพราง และพน้ื การยงิ ในเขตทไ่ี ด้รับมอบอย่างสงู สุด  มว.ดารงไวซ้ ง่ึ การระวงั รอบตัวโดยหมุนปืนตามที่แสดงไว้ในรปู  มว.ดารงไวซ้ ึ่งการตดิ ตอ่ สอ่ื สารวิทยเุ งียบ - รบั ฟงั เม่ือเปิดปอ้ มปืน มาตรฐาน :  รถถังทกุ คนั อยู่ในรปู ขบวนระวังปอ้ งกนั ตวั  การกระจายรถถงั ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั ของ ผบ.มว. และ รปจ. ของหน่วย  มว.ดารงไว้ซ่ึงการระวงั ป้องกนั ทางพ้ืนดนิ และทางอากาศ ๓๖๐ องศา

๒๓๔ การปฏิบตั ิรูปขบวนกา้ งปลา กิจเฉพาะท่ี ช-๓ : การปฏิบัตริ ปู ขบวนกา้ งปลา เง่ือนไข : มว.ถ.กาลงั เคลื่อนทด่ี ว้ ยความเรว็ สงู ในรปู ขบวนแถวตอนเปน็ ส่วนหน่ึงของกองร้อยในการปฏิบัติการ รกุ มว.ไดร้ ับคาสัง่ ใหป้ รับรูปขบวนเปน็ รปู ขบวนก้างปลา รถถังหมายเลข ๑ รูปขบวนก้างปลาสาหรับ กิจเฉพาะท่ี ช-๓ ผบ.มว. รถถงั หมายเลข ๒ รถถังหมายเลข ๓ รถถงั หมายเลข ๔ รอง ผบ.มว. ข้ันตอนการปฏิบัติ :  ผบ.มว.เคลอื่ นท่ไี ปทางด้านซา้ ยหรอื ขวาออกจากเส้นทางการเคลอื่ นที่ (๓๐ - ๔๐ องศา)  ถ. ๒, ๓ และ ๔ เคล่อื นที่ไปทางซ้ายหรือขวาของเสน้ ทางการเคลอื่ นท่ี (๓๐ - ๔๐ องศา) เชน่ เดยี วกนั  ถ.ทุกคนั หมุนปืนไปทางลาดดา้ นหน้ารถ  ถ.แต่ละคนั ระวงั ปอ้ งกนั ท้งั ทางพื้นดินและทางอากาศ  มว.ดารงไวซ้ งึ่ การติดต่อสื่อสารวิทยุ เงยี บ - รับฟัง ในขณะทเี่ ปดิ ปอ้ มปนื มาตรฐาน :  ถ.ทุกคนั อยใู่ นตาแหนง่ สองข้างของเส้นทางการเคลอื่ นที่ ทาให้เส้นทางโล่ง  ถ.ทกุ คนั ยึดครองทตี่ ง้ั ยงิ ทใี่ หก้ ารกาบงั และซ่อนพรางสูงสุด  มว.ดารงไว้ซ่งึ การระวงั ปอ้ งกันทางพ้ืนดนิ และทางอากาศ ๓๖๐ องศา

๒๓๕ การปฏบิ ตั ิรูปขบวนลิ่ม กิจเฉพาะที่ ช-๔ : การปฏิบตั ริ ปู ขบวนลมิ่ เงอื่ นไข : มว.ถ.กาลังเคล่ือนทีด่ ้วยความเร็วสงู ในรปู ขบวนแถวตอน เปน็ สว่ นหนึง่ ของกองรอ้ ยในการปฏบิ ตั ิการ รุก เมอ่ื เกดิ การปะทะ มว.ไดร้ บั คาสัง่ ใหป้ รบั รูปขบวนเปน็ รูปขบวนลิม่ รูปขบวนรูปลม่ิ สาหรบั กิจเฉพาะท่ี ช-๔ รถถงั หมายเลข ๑ รถถงั หมายเลข ๔ ผบ.มว. รอง ผบ.มว. รถถงั หมายเลข ๒ รถถงั หมายเลข ๓ ข้ันตอนการปฏิบตั ิ :  มว.เคล่อื นทเ่ี ปน็ รปู ขบวนรปู ลิม่ ตามคาสั่งของ ผบ.มว.  มว.ดารงไวซ้ ่ึงการติดต่อด้วยสายตาตามทก่ี ล่าวไวใ้ นแนวคดิ เร่ืองการใช้ปีก  มว.ดาเนินกลยทุ ธและการผ่านการป้องกนั ทางอากาศโดยการกระจายทง้ั ทางข้างและทางลึก  มว.ดารงไวซ้ ่งึ การตดิ ตอ่ สือ่ สารทางวิทยุด้วยการ เงยี บ - รบั ฟัง เม่ือท่ีเปดิ ป้อมปืน  ถ.แตล่ ะคนั ดารงการระวังปอ้ งกันทง้ั ทางพืน้ ดินและทางอากาศ ๓๖๐ องศา มาตรฐาน :  ถ.ทกุ คันอยใู่ นตาแหนง่ ของรปู ขบวนรปู ลมิ่  ระยะต่อระยะเคยี งของ ถ.แตล่ ะคัน ปฏบิ ตั ิตามคาส่ังของ ผบ.มว. หรอื รปจ.ของหน่วย  ถ.แตล่ ะคนั ดารงการระวังป้องกันทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ ๓๖๐ องศา

๒๓๖ การปฏบิ ัติรูปขบวนหน้ากระดาน กิจเฉพาะที่ ช-๕ : การปฏิบัตริ ปู ขบวนหนา้ กระดาน เง่ือนไข : มว.ถ.ปฏบิ ัติการเปน็ ส่วนหน่งึ ของกองร้อยในการเข้าตีในทางลกึ มว.ได้รับคาส่ังให้ปรับรูปขบวนเป็น รปู ขบวนหนา้ กระดานและเขา้ ตีท่ตี ้งั ทีต่ รวจการณข์ องข้าศึก รปู ขบวนหน้ากระดานสาหรบั กิจเฉพาะท่ี ช-๕ รถถงั หมายเลข ๒ รถถังหมายเลข ๑ รถถังหมายเลข ๔ รถถงั หมายเลข ๓ ผบ.มว. รอง ผบ.มว. ข้ันตอนการปฏิบัติ :  มว.เคลอ่ื นท่ีเป็นรปู ขบวนหนา้ กระดานอย่างรวดเรว็  มว.ดารงไว้ซ่งึ การตดิ ตอ่ ด้วยสายตาระหว่าง ถ.แตล่ ะคนั  มว.ดารงการดาเนนิ กลยุทธและการผา่ นการป้องกันทางอากาศโดยการกระจายทงั้ ทางข้างและทางลึก  มว.ดารงการตดิ ตอ่ สอ่ื สารวทิ ยุด้วยการ เงียบ - รบั ฟัง เมอื่ เปดิ ปอ้ มปืน  ถ.แตล่ ะคันดารงการระวงั ป้องกนั ทั้งทางพื้นดนิ และทางอากาศ ๓๖๐ องศา มาตรฐาน :  ถ.ทุกคันอย่ใู นแนวเดยี วกันทางขา้ ง ดารงไว้ซ่งึ การกระจายกาลงั  ระยะต่อระยะเคียงของ ถ.แต่ละคัน ปฏบิ ัติตามคาสัง่ ของ ผบ.มว. หรอื รปจ.ของหนว่ ย  ถ.แต่ละคันดารงการระวงั ปอ้ งกันทั้งทางพืน้ ดินและทางอากาศ ๓๖๐ องศา

๒๓๗ การปฏบิ ตั ิการเคล่อื นทีท่ ม่ี กี ารค้มุ ครอง กจิ เฉพาะที่ ช-๖ : การปฏิบตั กิ ารเคล่อื นทที่ ่มี กี ารคมุ้ ครอง การเคล่ือนสลบั ขน้ั เง่อื นไข : มว.ถ.กาลังเคลื่อนทด่ี ้วยรูปขบวนลิ่ม โดยปฏบิ ัติการเป็นส่วนหน่ึงของกองร้อยใน การปฏบิ ัตกิ ารรกุ ลกั ษณะภูมปิ ระเทศและการปะทะกบั ข้าศกึ มีความเปน็ ไปได้สูงทาให้ มว.ใชก้ ารเคลอื่ นท่ที ่มี ี การค้มุ ครอง การเคล่อื นทที่ ีม่ กี ารคมุ้ ครองสาหรบั กจิ เฉพาะท่ี ช-๖ การเคลอ่ื นทสี่ ลบั ข้นั การเคลอื่ นทต่ี ามลาดบั ข้นั ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ :  ตอนท่เี คล่ือนท่ีกอ่ นเร่มิ เคลอ่ื นที่อยา่ งรวดเรว็ ไปยงั ทมี่ ่ันคมุ้ ครองข้นั ตอ่ ไปโดยอาศัยเส้นทางการเคลอื่ นที่ท่ี มกี าบังและซ่อนพราง  ดารงการตดิ ตอ่ ดว้ ยสายตาระหว่าง ถ.แต่ละคันภายในตอนและระหวา่ งตอนท่เี คลอื่ นทแ่ี ละตอนที่ให้ความ คมุ้ ครอง  มว.ดารงการติดต่อสอื่ สารวิทยุดว้ ยการ เงียบ - รบั ฟัง เม่อื เปดิ ป้อมปืน  ถ.แตล่ ะคนั ดารงการระวงั ป้องกันทง้ั ทางพนื้ ดนิ และทางอากาศ ๓๖๐ องศา มาตรฐาน :  ตอนทเ่ี คลอื่ นทย่ี ดึ ครองท่มี น่ั ทซี่ ง่ึ ตอนทีใ่ หค้ วามค้มุ ครองใหก้ ารสนบั สนนุ ได้  ทม่ี ่ันในการคมุ้ ครองตอ้ งมพี ื้นการยงิ ดี และถา้ ทาได้ให้เป็นทท่ี ใ่ี หก้ ารกาบงั และซอ่ นพราง  มว.ถ.ดารงการระวงั ป้องกันทงั้ ทางพนื้ ดินและทางอากาศ ๓๖๐ องศา

๒๓๘ ตารางฝึกทางยทุ ธวิธี ด-การฝกึ หมวดรถถงั การฝึกปฏิบตั ิรูปขบวนโตต้ อบ กจิ เฉพาะที่ ด-๑ : การปฏิบัตริ ปู ขบวนโต้ตอบ เงือ่ นไข : มว.ถ. เป็น มว.นาของกองร้อยในการปฏิบตั ิการรกุ และกาลงั เคล่อื นทค่ี รอ่ มขา้ มภูมิประเทศด้วยรูป ขบวนรูปลิ่มด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.) เมื่อได้รับคาส่ังว่ามีการยิงอาวุธต่อสู้รถถัง (จาลอง) ตวั อย่างแผ่นบรวิ ารสาหรบั กิจเฉพาะท่ี ด-๑ ชุดยิง อนตถ. ขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ :  ผบ.มว.ออกคาสัง่ \" รูปขบวนทางดา้ นซา้ ย \" (ขวา /หนา้ /หลัง)  ถ.ทกุ คันเลย้ี วไปตามทิศทางท่ีได้รับคาสง่ั ทันที และดารงไว้ในรปู ขบวนของปีก  พลประจารถทกุ คนั เตรียมปฏิบตั กิ ารยงิ ไปยงั ทท่ี ่คี าดวา่ เปน็ ทตี่ ั้งของข้าศึก  มว.ดารงการตดิ ตอ่ สอ่ื สารทางวทิ ยุด้วยการ เงียบ - รับฟัง เม่ือเปิดป้อมปืน มาตรฐาน :  มว.ถ.เลีย้ วไปในทศิ ทางทไี่ ด้รบั คาสง่ั ทันที  ลากลอ้ งปนื หมนุ ไปในทศิ ทางท่คี าดวา่ จะเปน็ ท่ีมนั่ ของข้าศึก  มว.ถ.ดารงระยะเคยี งภายในรูปขบวน

๒๓๙ การฝึกปฏิบตั เิ มอ่ื ปะทะ กจิ เฉพาะที่ ด-๒ : การฝึกปฏิบตั เิ ม่ือปะทะ เง่ือนไข : มว.ถ. เป็น มว.นา ของกองร้อยในการปฏิบัติการรุก และกาลังเคล่ือนที่คร่อมข้ามภูมิประเทศด้วย ความเรว็ ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.) เม่อื ได้รบั คาสง่ั วา่ มีการยิงจากพลซุ่มยิง ตัวอย่างแผ่นบริวารสาหรับ กจิ เฉพาะที่ ด-๒ พลซุ่มยิง ขั้นตอนการปฏิบตั ิ :  ผบ.มว.ออกคาส่ัง \" ปะทะขวา \" (ซา้ ย /หน้า /หลงั )  ถ.ทกุ คันหมนุ ปอ้ มปืนไปในทศิ ทางทีไ่ ด้รบั คาส่งั  ถ.ทุกคนั ดารงรูปขบวนเดมิ ,ความเร็วและทศิ ทางการเคลอื่ นทไ่ี ว้  พลประจารถทุกคันเตรยี มปฏิบัตกิ ารยิงไปยงั ทที่ ี่คาดวา่ เป็นท่ตี ้งั ของข้าศึก  มว.ดารงการตดิ ตอ่ สอื่ สารทางวทิ ยดุ ว้ ยการ เงยี บ - รับฟงั เม่ือเปิดปอ้ มปืน มาตรฐาน :  มว.ถ.หมนุ ป้อมปืนไปในทิศทางท่ไี ดร้ บั คาสัง่ ทันที  พลประจารถทกุ คนั ดารงการระวังปอ้ งกันทางพื้นดนิ และทางอากาศ  การยิงของ ถ.แต่ละคนั ต้องไมม่ ี ถ.คันใดใน มว.กีดขวาง

๒๔๐ การฝึกปฏิบัตเิ มือ่ ถูกโจมตที างอากาศ กจิ เฉพาะที่ ด-๓ : การฝึกปฏิบัติเมอื่ ถูกโจมตีทางอากาศ เงอื่ นไข : มว.ถ. เป็น มว.นา ของกองรอ้ ยในการปฏิบัตกิ ารรุกและกาลังเคล่ือนท่ีคร่อมข้ามภูมิประเทศด้วยรูป ขบวนรูปล่ิมด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. เมื่อ ฮ.ข้าศึก (จาลอง)เข้ามาปรากฏให้เห็น ผบ.มว. ได้ปรับรูป ขบวนเม่ือถกู โจมตีทางอากาศ ตัวอย่างแผ่นบรวิ ารสาหรบั กิจเฉพาะที่ ด-๓ ฮ. ข้าศึก ขั้นตอนการปฏิบัติ :  ยามอากาศแจง้ เตอื นพลประจารถทกุ คันทันทที ่พี บเปา้ หมาย  มว.ถ.ทุกคันเพม่ิ ความเรว็ ตามทก่ี าหนดไว้ใน รปจ.ของหน่วย  ถ.ทกุ คนั ดารงรูปขบวนของปีกไวแ้ ต่เพม่ิ การกระจายกาลงั และเคลื่อนท่อี อกไปจากเสน้ ทางการเคลื่อนที่  พลประจารถทกุ คนั เตรียมปฏิบัติการยงิ ฮ.  รายงานการตรวจพบ ฮ.ส่งไปตามสายการบงั คบั บญั ชา และกลบั ไปปฏิบัติภารกจิ เดิมของ มว. มาตรฐาน :  มว.ถ.เพิ่มความเร็วทนั ที  ถ.ทกุ คนั เคลอ่ื นทอี่ อกไปจากทศิ ทางการเคลื่อนท่ี  เพม่ิ ระยะการกระจายระหว่าง ถ.แตล่ ะคนั ออกไป  พลประจาทุกคันเตรยี มการยงิ ไปในทศิ ทางที่ไดร้ ับรายงาน

๒๔๑ การต่อต้านอาวุธยิงเลง็ จาลอง กจิ เฉพาะท่ี ด-๔ : การต่อต้านอาวุธยิงเลง็ จาลอง เงือ่ นไข : มว.ถ. ปฏิบัติภารกจิ เปน็ ส่วนหน่งึ ของกองร้อยในการปฏิบัติการรุกและกาลังเคล่ือนท่ีคร่อมข้ามภูมิ ประเทศดว้ ยรปู ขบวนรปู ลมิ่ ดว้ ยความเรว็ ๒๔-๓๒ กม./ชม. ถูกโจมตีดว้ ยอาวุธยิงเลง็ จาลอง (จาลอง ) ตัวอย่างแผ่นบริวารสาหรับ กจิ เฉพาะท่ี ด-๔ การเคลอื่ นทอ่ี อกจาก พนื้ ทต่ี าบลกระสุนตก ขั้นตอนการปฏิบตั ิ :  ปฏบิ ตั กิ ารหลบหลกี  สมมตุ ิว่าอย่ใู นระดับการปอ้ งกนั นชค. ลปภบ (MOPP) ตาม รปจ.ของหน่วย  ถ.ทุกคนั เคลอื่ นทอ่ี อกไปจากพ้นื ทีต่ าบลกระสุนตก ก่อนทขี่ ดี ความสามารถในการตอ่ สู้และการสือ่ สารจะ ถกู ทาใหล้ ดลง  รายงานการถกู ยิงโจมตดี ว้ ยอาวุธยิงเลง็ จาลอง มาตรฐาน :  พลประจารถแต่ละคนั เขา้ ยึดครองท่ตี ั้งยงิ ท่ีใหก้ ารกาบังจากอาวธุ ยิงเลง็ จาลองชั่วคราว  สมมตุ วิ ่าพลประจารถอย่ใู นระดบั ของการปอ้ งกันตาม รปจ.ของหน่วย  ถ. แตล่ ะคันดาเนนิ กลยทุ ธออกไปจากพืน้ ที่ แต่ดารงไวซ้ งึ่ ปกี ของตนตามท่ีภูมิประเทศอานวย  รายงานสถานการณก์ ารถกู โจมตีด้วยอาวุธยิงเลง็ จาลอง

๒๔๒ ตารางฝกึ ทางยทุ ธวิธี ต-การฝึกหมวดรถถังในการโต้ตอบ การยงิ เป้าหมายปนื กลหลายเป้าหมาย กิจเฉพาะท่ี ต-๑ : การยงิ เปา้ หมายปืนกลหลายเป้าหมาย เง่ือนไข : มว.ถ. ปฏิบัติภารกิจเป็นส่วนหน่ึงของกองร้อยในการปฏิบัติการรุก มว.ถ.เป็นหน่วยนาและกาลัง เคลื่อนที่คร่อมข้ามภูมิประเทศด้วยรูปขบวนรูปล่ิม ด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.) เม่ือ มว.ถ.เคลือ่ นท่อี อกมาพน้ แนวชายปา่ กป็ ะทะกบั หมู่ทหารราบกาลังข้าศกึ (ไม่น้อยกว่า ๓ หมู่) และ BMPs ๒ คัน จอดอย่ใู นท่ีรวมพล คาแนะนาสาหรับกาลงั ฝ่ายคกุ คาม : หมู่ทหารราบข้าศกึ มีปืนกล ปลย.และจรวดอารพ์ จี ี กาลังขุดหลุมบุคคล และเตรยี มทีต่ งั้ ยงิ อยูท่ ีข่ อบพืน้ ทโี่ ลง่ ของแนวป่า , BMP ๒ คันจอดอยู่ที่แนวชายป่าด้านโล่งอีกด้านหน่ึง และ พลประจารถกาลงั ทาการพรางยานพาหนะอยู่ กาลงั ฝา่ ยข้าศกึ จะทาการยงิ มว.ถ.ฝา่ ยเราดว้ ยอาวุธทุกชนิดเมือ่ ถ.ท้ัง ๔ คนั ของฝ่ายเราเข้ามาอยใู่ นพื้นทโี่ ล่งแจง้ หมู่ทหารราบข้าศึกจะไม่เคลื่อนทีเ่ ขา้ ไปในแนวป่าแต่จะหลบ ลงไปในหลุมบุคคล BMP ทงั้ ๒ คนั จะไม่เคล่ือนท่ี ตัวอย่างแผน่ บรวิ ารสาหรบั กจิ เฉพาะที่ ต-๑ ยานเกราะข้าศึก รถถงั หมายเลข ๒ ทหารราบข้าศึก รถถงั หมายเลข ๑ ผบ.มว. รถถงั หมายเลข ๔ รอง ผบ.มว. รถถังหมายเลข ๓

๒๔๓ ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ :  พลประจารถพสิ ูจนเ์ ปา้ หมายกาลงั ขา้ ศึกภายในเขตรบั ผิดชอบของตน  ผบ.มว. ใชก้ ารยิงและการเคลื่อนทเี่ พอ่ื คล่ีคลายสถานการณ์  แต่ละคนั ทาการยงิ และทาลายเปา้ หมายภายในเขตรับผิดชอบ, ถ.๑ และ ถ.๒ ทาการยิง BMPs จากน้ันจึง ทาการยงิ หน่วยทหารทางปีกซ้าย ถ.๓ และ ถ.๔ ทาการยิงหน่วยทหารทางปีกขวาหลังจากนั้นให้ช่วยทา การยิงหน่วยทหารทางปกี ซา้ ย  รายงานสถานการณ์ต่อ ผบ.หน่วย และ มว.ถ. กลบั ไปปฏิบตั ภิ ารกิจตามเดิม มาตรฐาน :  พลประจารถแตล่ ะคันพสิ จู น์ฝ่ายเปา้ หมายภายในเขตรบั ผิดชอบ  ผบ.ตอนแต่ละตอนออกคาสงั่ ยงิ ให้ตอนของตน  ทาการยิงตอ่ เปา้ หมายอันตรายทสี่ ดุ (BMPs) เป็นอนั ดบั แรก  เปา้ หมายท้ังหมดถกู ทาลายภายใน ๓๐ วนิ าที หลังจากที่เรม่ิ เปิดเผยตัว

๒๔๔ การยิงเป้าหมายตามเหตุการณ์ (ทีบ่ ังคบั การกรมของขา้ ศกึ ) กิจเฉพาะที่ ต-๒ : การยงิ เปา้ หมายตามเหตุการณ์ (ทีบ่ งั คบั การกรมของข้าศกึ ) เงือ่ นไข : มว.ถ. ปฏบิ ัติภารกจิ เปน็ ส่วนหน่ึงของกองร้อยในการปฏบิ ตั ิการรกุ และเป็นมว.นากาลังเคลอ่ื นทคี่ รอ่ ม ขา้ มภมู ิประเทศด้วยรูปขบวนรูปลิ่ม ด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.) เม่ือ มว.ถ.เคล่ือนที่ ออกมาถงึ เนินเขาพบกับ บก.กรมข้าศึก (BMP ๕ คัน,ถ. ๔ คัน) จอดอยใู่ นที่รวมพล คาแนะนาสาหรบั กาลงั ฝ่ายคกุ คาม : บก.กรมข้าศึกตัง้ อยู่หา่ งจากยอดเนนิ ๖๐๐-๘๐๐ ม. ซึ่งคาดว่าหมวด ถ. ฝา่ ยเราจะเคลือ่ นทอ่ี อกมาพบพอดี BMPs จอดรวมกันอยู่ (ตามหลักการปฏิบัติทางยุทธวิธีจะอยู่ในย่านกลาง ของ บก.กรม) และ ถ. ๔ คนั จอดเปน็ วงกลมล้อมรอบ BMPs เพือ่ ใหก้ ารปอ้ งกัน กาลังของข้าศึกจะทาการยิง ถ.ฝ่ายเราหลงั จากท่ี มว.ถ. ฝา่ ยเราทาการยิงมาแล้ว ๑๐ วินาที ถ. ข้าศึกอาจจะเคล่ือนที่ออกมาทาการยิงต่อ มว.ถ. ฝ่ายเราแต่ BMPs จะยงั คงอยกู่ บั ท่ีตลอดในการปะทะกนั ครั้งนี้ ตัวอย่างแผน่ บริวารสาหรบั กจิ เฉพาะที่ ต-๒ ทบ่ี ังคบั การกรม ข้าศึก ข้นั ตอนการปฏิบัติ :  ผบ.มว.สง่ั ปรับใช้รปู ขบวนเม่อื ปะทะทนั ที  ผบ.มว.ใชห้ ลักการควบคมุ การยิงและแจกจ่ายการยงิ (ตรงหน้าหรือทางลกึ )  ถ.แต่ละคันทาการยงิ ตอ่ เปา้ หมายตามคาสง่ั ยิงของ ผบ.มว.จนกระทง่ั เป้าหมายทัง้ หมดถูกทาลาย  รายงานสถานการณ์ท้งั หมดตอ่ ผบ.หนว่ ย มาตรฐาน :  พลประจารถแตล่ ะคันพสิ จู น์ฝ่ายเป้าหมาย  ผบ.มว.ออกคาสั่งยิง  ทาการยงิ ตอ่ เปา้ หมายอันตรายทสี่ ดุ (รถถงั )เปน็ อันดบั แรก  เป้าหมายท้ังหมดถกู ทาลายภายใน ๓๐ วินาที

๒๔๕ การยงิ เปา้ หมายท่เี ป็นอากาศยาน กิจเฉพาะที่ ต-๓ : การยงิ เป้าหมายทเ่ี ป็นอากาศยาน เง่ือนไข : มว.ถ. ปฏิบัติภารกจิ เปน็ ส่วนหนงึ่ ของกองร้อยในการเข้าตีในทางลึกและเป็น มว.นา กาลังเคล่ือนท่ี ครอ่ มข้ามภูมปิ ระเทศดว้ ยรปู ขบวนรูปล่ิม และกาลังขา้ มผา่ นพ้ืนทโ่ี ล่งแจ้งเมื่อถูก ฮ.ข้าศึก (HIND-D)โจมตีทาง ปีกขวา คาแนะนาสาหรับกาลังฝา่ ยคุกคาม : ฮ. ข้าศึกยังคงซ่อนตัวอยู่ทางด้านปีกขวาของ มว.ถ.ฝ่ายเรา จนกระทั่ง มว.ถ.เคล่อื นทีอ่ อกมาอยใู่ นที่โลง่ แจง้ จากนน้ั จะเปดิ เผยตัวออกมาและทาการบินเข้าโจมตีขบวนมว.ถ.การบิน เขา้ โจมตขี อง ฮ.ข้าศกึ ควรจาลองตามทฤษฎกี ารรบของฝา่ ยคุกคาม (สูงจากพ้ืนดนิ ๖๐-๙๐ ม. (๒๐๐-๓๐๐ ฟุต ) และบินเขา้ ตจี ากมุม ๒๐ - ๓๐ องศา ด้วยความเร็วในการเคลื่อนท่ีไปข้างหน้าคงท่ี (ไม่ลอยตัวอยู่กับที่)ฮ. ขา้ ศกึ จะทาการยิง หลงั จากท่ปี รากฏตวั ต่อ มว.ถ. ฝา่ ยเราแล้ว ๑๐ วินาที ตัวอยา่ งแผ่นบริวารสาหรับ กจิ เฉพาะท่ี ต-๓ รถถังหมายเลข ๑ ฮ. ข้าศึก ผบ.มว. รถถังหมายเลข ๔ รถถังหมายเลข ๒ รอง ผบ.มว. รถถังหมายเลข ๓ ขัน้ ตอนการปฏิบัติ :  ผบ.มว.สงั่ ปรบั ใช้รปู ขบวนเมือ่ ถกู โจมตจี ากอากาศยานทันที  มว.ทาลาย ฮ.หรือผลกั ดันเพอ่ื หยุดการโจมตีของ ฮ.(ดว้ ยปืนใหญ)่ ถ.๓ และ ถ. ๔ ทาการยงิ ทาลาย ฮ.ดว้ ย ปนื ใหญ่ ถ. ทเ่ี หลอื ทาการยงิ ดว้ ยปืนกลเมื่อ ฮ. เข้ามาในระยะยงิ  หลงั จากทที่ าลายเปา้ หมายหรือหยดุ การโจมตีของ ฮ. แล้วให้ มว.ถ.กลบั ไปปฏบิ ัตภิ ารกิจตามเดมิ ของตน  รายงานสถานการณ์ให้ ผบ.หนว่ ยทราบ มาตรฐาน :

๒๔๖  พลประจารถแตล่ ะคันพสิ จู น์ฝ่าย ฮ. ข้าศกึ  ผบ.มว.ออกคาสัง่ ยิง  มว.ใช้รปู ขบวนหลบหลกี การโจมตจี ากอากาศยาน  เปา้ หมายอากาศยานถกู ทาลายหรอื หยดุ ยั้งการโจมตภี ายใน ๑๐ วนิ าที

๒๔๗ การยงิ ขบวนสมั ภาระ กจิ เฉพาะท่ี ต-๔ : การยงิ ขบวนสมั ภาระ เง่ือนไข : มว.ถ. ปฏิบัติภารกิจเป็นส่วนหน่ึงของกองร้อยในการปฏิบัติการรุกและเป็น มว.นา กาลังเคล่ือนที่ คร่อมข้ามภูมิประเทศด้วยรูปขบวนรูปลิ่ม ด้วยความเร็ว ๒๔-๓๒ กม./ชม. (๑๕-๒๐ ไมล์/ชม.) เม่ือ มว.ถ. เคล่ือนทมี่ าถงึ ชอ่ งวา่ งระหวา่ งแนวปา่ ไดป้ ะทะเข้ากบั ขบวนสมั ภาระของข้าศึก (รถบรรทุก ๓ - ๕ คัน)ทางด้าน ปีกซ้าย คาแนะนาสาหรบั กาลังฝ่ายคุกคาม : ขบวนสมั ภาระของขา้ ศึกตั้งอยบู่ นเส้นทางห่างจากบรเิ วณท่ีคาดว่า มว.ถ. ฝ่ายเราจะมองเห็นและทาการยิง ๕๐๐ ม. เมื่อรถถังคันแรกปรากฏตัวออกมาให้เห็นขบวนสัมภาระจึงเร่ิม เคลอ่ื นที่ไปตามเส้นทางด้วยรปู ขบวนแถวตอน ดว้ ยความเร็ว ๑๖ กม./ชม (๑๐ ไมล์/ชม.) จากนั้นจะคอย ๑๐ วินาที หลงั จากท่ีรถถังคันแรกของฝ่ายเราเปิดเผยตัวออกมาก็เพ่ิมความเร็วเป็น ๓๒ กม./ชม (๒๐ ไมล์/ชม.) และเคล่ือนท่อี ยา่ งต่อเนอ่ื งดว้ ยรูปขบวนแถวตอนต่อไป จนกระทัง่ ถกู ทาลายทั้งหมดหรือหลบหนไี ปได้ ตัวอยา่ งแผน่ บรวิ ารสาหรับ กิจเฉพาะที่ ต-๔ ขบวนสัมภาระข้าศึก

๒๔๘ ขัน้ ตอนการปฏิบัติ :  มว.ปรบั ใชร้ ปู ขบวนการปฏบิ ตั เิ มอื่ ปะทะทันที  ผบ.มว.ใชเ้ ทคนิคการควบคุมการยิงและแจกจา่ ยการยงิ (ตรงหน้าหรอื ตดั กัน )  ถ.ทกุ คนั ทาการยงิ ต่อเปา้ หมายตามคาสงั่ ของ ผบ.มว.จนกระท่ังเป้าหมายทั้งหมดถูกยิงขม่ ใหอ้ ยกู่ ับทห่ี รอื ถกู ทาลาย (รถบรรทุกคนั นาและคนั สดุ ทา้ ยตอ้ งถกู ยงิ ทาลายกอ่ นเพือ่ ป้องกนั การหลบหนี )  ผบ.มว.สง่ รายงานสถานการณใ์ ห้ ผบ.หน่วยทราบ มาตรฐาน :  พลประจารถแต่ละคันพสิ จู นฝ์ ่ายเปา้ หมาย  ผบ.มว.ออกคาสง่ั ยงิ  มว.ทาการยงิ โดยใช้เทคนคิ การควบคมุ การยงิ และแจกจ่ายการยิง  เป้าหมายทัง้ หมดถกู ทาลายภายใน ๔๐ วนิ าที หลงั จากที่เปดิ เผยตัวออกมา

๒๔๙ การโต้ตอบการซมุ่ โจมตี กิจเฉพาะที่ ต-๕ : การโต้ตอบการซมุ่ โจมตี เงอ่ื นไข : มว.ถ. ปฏิบัติภารกิจเป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยในการเข้าตีในทางลึกและเป็น มว.นา ของกองร้อย กาลงั เคลื่อนย้ายทางยทุ ธวิธีด้วยรปู ขบวนแถวตอนไปตามเส้นทางดว้ ยความเร็วสงู สดุ เมอ่ื มว.ถ.เคลอื่ นที่มาพบ เคร่อื งกีดขวาง (ขอนไมข้ วางถนนอย)ู่ และไดถ้ ูกทาการยงิ จาก ๒ ชดุ ยงิ อนตถ.ข้าศกึ (ATGM) และหมูท่ หารราบ ท่ีตดิ อาวุธปืนกลและปลย. คาแนะนาสาหรับกาลงั ฝา่ ยคุกคาม : กาลงั พลของข้าศกึ กาลังขดุ หลุมบุคคลอย่ใู นท่ซี มุ่ ยงิ โดยคอยท่ีจะทาการ เม่อื มว.ถ.ฝา่ ยเราหยดุ การเคล่อื นท่ีขา้ ศกึ จะคอย ๑๕ วินาที เพอ่ื คอยตรวจการณด์ ูว่ากาลงั ฝ่ายเราทาการ ลว. ด้วยการยงิ ตอ่ ที่ตงั้ ที่คาดว่าเปน็ ข้าศึกถา้ มว.ถ.ทาการยงิ เข้าไปในพน้ื ท่ที ข่ี า้ ศึกซอ่ นตัวอยู่ ข้าศึกจะทาการขว้าง ระเบิดควันออกมาผู้ควบคมุ จะใชป้ ืนกรรมการยงิ ทาลายทหารราบหรอื ๑ ชุดยิง อนตถ. ชยุ ิง อนตถ.จะคอย๒๐ วินาที จากนนั้ จะทาการยงิ ต่อ ถ.คนั นาและคันท้าย (ผู้ควบคุมใช้ปืนกรรมการเพ่ือบันทึกการยิง ถ.ท้ัง ๒ คัน) จากนัน้ หม่ทู หารราบจะทาการระดมยิง มว.ถ. ด้วยอาวุธทุกชนิด ๓๐ วินาที หลังจากท่ี ถ.คันแรกเปิดเผยตัว ออกมา ชุดยิง อนตถ. (ถ้ายังมีชีวิตอยู่) จะทาการยิง มว.ถ.อีกคร้ังหน่ึง (ผู้ควบคุมใช้ปืนกรรมการยิงทาลาย รถถังฝา่ ยเรา) ตวั อย่างแผ่นบรวิ ารสาหรบั กจิ เฉพาะที่ ต-๕ รถถังหมายเลข ๓ รถถงั หมายเลข ๔ รอง ผบ.มว. รถถงั หมายเลข ๒ รถถังหมายเลข ๑ ผบ.มว. อนตถ.

๒๕๐ ขัน้ ตอนการปฏิบัติ :  มว.ถ.ปรบั ใช้รูปขบวนการปฏบิ ตั เิ มอื่ ปะทะ (เขา้ ตีไปยงั ท่ซี มุ่ ยิง )  มว.ถ.ใช้เทคนคิ การ ลว.ด้วยการยงิ ไปยังตาบลที่คาดว่าเปน็ ทต่ี ้งั ของขา้ ศึก  พลประจารถทุกนายค้นหาสงิ่ บอกเหตุว่าเป็นสัญลกั ษณ์ของ อนตถ. และพิสจู นฝ์ ่ายเป้าหมาย  พลประจารถทกุ คันทาการยงิ ต่อเปา้ หมายในเขตรบั ผดิ ชอบของตน ถ.๑, ถ.๒ และ ถ.๔ ทาการยงิ ตอ่ ชดุ ยงิ อนตถ. เป็นอนั ดบั แรก จากนัน้ รถถงั ทกุ คันทาการยงิ ตอ่ หมทู่ หารราบ มาตรฐาน :  มว.ถ.ใชร้ ูปขบวนหลบหลกี ภายใน ๑๐ วินาที หลงั จากทเี่ ปา้ หมายแรกปรากฏ  ชดุ ยงิ อนตถ. จะต้องถกู ยงิ ทาลายภายใน ๓๐ วนิ าทีหลังจากท่ีเปา้ หมายแรกเปิดเผยตัวออกมา  เป้าหมายหนว่ ยทหารถูกยงิ ข่มหรือยงิ ทาลายภายใน ๓๐ วินาที

๒๕๑ การยงิ เปา้ หมายตามเหตุการณ์ (กองร้อยปืนใหญแ่ ละชดุ วทิ ยุค้นหาทิศทาง) กิจเฉพาะที่ ต-๕: การยงิ เป้าหมายตามเหตุการณ์ (กองร้อยปนื ใหญ่และชดุ วทิ ยคุ น้ หาทิศทาง) เงื่อนไข : มว.ถ. ปฏิบัติภารกิจเป็นส่วนหน่ึงของกองร้อยในการเข้าตีในทางลึกและเป็น มว.นา ของกองร้อย กาลังเคลื่อนท่ีคร่อมข้ามภูมิประเทศด้วยรูปขบวนรูปลิ่ม มว.ถ.ปะทะกับกองร้อยปืนใหญ่และชุดวิทยุค้นหา ทิศทางของขา้ ศกึ (ปนื ใหญข่ นาด ๑๒๒ มม. ๖ กระบอก BMP ๑ คนั และรถล้อติดตัง้ เสาอากาศวิทยุ ๑ คนั ) คาแนะนาสาหรบั กาลงั ฝ่ายคกุ คาม : กองรอ้ ยปืนใหญข่ า้ ศกึ วางกาลงั อยใู่ นทีม่ ั่นมที ่กี าบงั หลังเนินเขาตามแนว เสน้ ทางที่ มว.ถ. ฝ่ายเรากาลงั เคล่อื นที่ เมอ่ื มว.ถ.ฝา่ ยเราปรากฏ ได้ถูกหน่วยทหารข้าศึกทาการยิงด้วย ปลย. ปนื ใหญ่ ๑๒๒ มม.จะคอย ๒๐ วินาที หลังจากทฝ่ี า่ ยเราปรากฏ จากนัน้ เร่ิมทาการยิง มว.ถ.ฝ่ายเรา (ผู้ควบคุม จะใชป้ ืนจาลองการยิงของปนื ใหญ่ ๑๒๒ มม.) BMP จะคอยหลังจากที่ มว.ถ.ปรากฏ ๒๐ วินาที เช่นเดียวกัน ก่อนท่ีจะได้รบั อนญุ าตให้เคลือ่ นทแี่ ละทาการยงิ ต่อ มว.ถ.ฝา่ ยเรา กาลงั พลของชดุ วทิ ยุค้นหาทศิ ทาง (จานวน ๒ นาย ) จะเรมิ่ ทาการยงิ เม่ือเร่ิมการปะทะครง้ั แรก ตวั อย่างแผ่นบริวารสาหรับ กิจเฉพาะท่ี ต-๖ ชุดวทิ ยุค้นหาทศิ ทางยงิ รถถังหมายเลข ๑ ร้อย ป.สนาม ข้าศึก ผบ.มว. รถถังหมายเลข ๒ รถถังหมายเลข ๔ รอง ผบ.มว. รถถังหมายเลข ๓