Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา การใช้และการซ่อมบำรุง เล่มที่ ๕

วิชา การใช้และการซ่อมบำรุง เล่มที่ ๕

Published by qacavalry, 2021-10-29 15:03:40

Description: วิชา การใช้และการซ่อมบำรุง เล่มที่ ๕
รหัสวิชา ๐๑๐๒๒๔๐๖๐๕
หลักสูตร นายสิบยานยนต์
แผนกวิชายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม.

Search

Read the Text Version

ห น ้ า | 84 ดับเครอ่ื งยนตแ์ ลว้ ตรวจตอ่ ไป ดงั นี้ ดา้ นซ้ายรถ 1. การรั่วไหลทวั่ ไป - การร่วั ไหลทวั่ ไปบนพ้นื ดินและบริเวณใตร้ ถ 2. ปลอ่ ยลมท้งิ - เปดิ กอ๊ กถา่ ยลมดา้ นใต้ถังเก็บลมเพอ่ื ไลน่ ำ้ ท่ตี กค้าง อย่ใู นถังลมออกมาให้หมด และปิดกอ๊ กเม่อื นำ้ ออก หมดแลว้ 3. ถงั นำ้ มนั เช้อื เพลงิ - ตรวจดูสภาพความเรยี บร้อยของปะเก็นฝาปิดถัง และความสะอาดของตะแกรงกรองนำ้ มนั เชอื้ เพลงิ 4. ความชำรุดเสียหาย - รอยบุบหรือรอยรา้ วหรอื แตกหกั ทัว่ ไป รอยขดี ข่วน ทีอ่ าจต้องการทาสีทับ 5. ยางและล้อรถ - ดคู วามดนั ของลมในยางใหไ้ ดค้ วามดนั ตามเกณฑ์ กำหนด และสภาพความเรยี บรอ้ ย ตลอดจนความ มนั่ คงในการติดตั้ง 6. แหนบเครื่องผ่อนแรงสะเทือนและ - สภาพทั่วไปของแหนบ,ใบแหนบ,ฐานติดตงั้ ,ความ และแขนรบั แรงบดิ หลวมคลอน ดูเครอ่ื งผ่อนแรงสะเทือนและแขน รับแรงบดิ วา่ ตดิ ต้งั มนั่ คง ลูกยางอยู่ในสภาพ เรยี บร้อยไม่แตกปลนิ้ หรือหลดุ หาย 7. เพลาขับและขอ้ ตอ่ อ่อน - ดูความหลวมคลอนของเพลาขับ และขอ้ ตอ่ ออ่ น การหลอ่ ล่นื และความหลวมคลอนของสลกั เกลยี ว หยดุ จานเพลาขบั 8. เครอื่ งบังคบั เลีย้ ว - ดูการรวั่ ไหลของหบี เฟอื งพวงมาลัย, ความหลวมคลอน และชดุ ขอ้ ต่อต่าง ๆ ในระบบบงั คับเลย้ี ว 9. ความหลวมคลอนหรอื สลักเกลียว - ดูสภาพการติดต้งั ขององคป์ ระกอบตา่ งๆ ว่ามน่ั คง ตา่ ง ๆ หลุดหาย ไมห่ ลวมคลอน หรอื สลักเกลียวทีย่ ึดตรงึ ไม่หลดุ หาย ดา้ นขวา กระทำเชน่ เดยี วกันกบั การตรวจทางดา้ นซา้ ย และเพม่ิ เติมท่ตี รวจ คือ แบตเตอร่ี - ดูสภาพความเรยี บร้อยทัว่ ไป ความสะอาด,การ ขนั แนน่ ของขั้วแบตเตอร่ี และสะพานไฟ การทา ไขขน้ ตลอดจนระดับน้ำยาของแบตเตอรี่ การ ยดึ ตรึงของแบตเตอร่ี ดา้ นหนา้ 1. ความเสียหายท่ัวไป - ตรวจดูสภาพของกนั ชนหนา้ ,ตะแกรงกนั หม้อน้ำ, บังโคลน และฝาปดิ หอ้ งเครอื่ งยนตอ์ ยใู่ นสภาพ เรยี บรอ้ ย ไมบ่ ุบร้าวแตกหกั สลกั เกลยี วและแปน้ เกลียว ตา่ ง ๆ ไม่หลวมคลอน หลดุ หาย 2. การร่วั ไหล - ดรู อยหยด และรอยรวั่ ไหลบนพ้นื ดินและบรเิ วณใต้ ทอ้ งรถด้านหน้า 3. คนั ตอ่ เครอ่ื งบงั คับเลีย้ ว ดสู ภาพคันชัก คนั ส่ง วา่ ไมค่ ดงอ หลวมคลอน และไดร้ บั การหลอ่ ลืน่ 4. สลักเกลยี ว,แปน้ เกลียวต่าง ๆ - ดูการขันแนน่ ของแป้นเกลียวและสลกั เกลียวทย่ี ึด

ห น ้ า | 85 5. ขอ้ ตอ่ บงั คับเลย้ี ว องค์ประกอบตา่ ง ๆ เชน่ ฐานติดตัง้ ,บังโคลน ฯลฯ - ดูสภาพความเรยี บร้อยของครอบยางกันฝุ่น สะบ้าเล้ียว 6. บนั ทึกรายงานการตรวจสภาพต่าง ๆ ของรถ และการหลอ่ ลืน่ ของสะบา้ เลี้ยว ตลอดจน การสึกหรอต่าง ๆ 7. กว้านหนา้ - รายงานสภาพข้อบกพร่องต่างๆ ทตี่ รวจพบ ให้ นายสิบยานยนตห์ รือช่างยานยนต์ทราบ และแน่ใจ ดา้ นหลงั วา่ ได้ทำการปรนนบิ ตั บิ ำรงุ เรียบรอ้ ยแล้ว พร้อมที่ 1. การชำรุดเสียหาย จะนำรถออกใชง้ านไดท้ ันที - ตรวจสภาพของกวา้ นหน้า ขอเก่ยี ว การติดตง้ั 2. กระจกสะทอ้ นแสง ของลอ้ กวา้ น ความเรยี บรอ้ ยของเคร่ืองส่งกำลงั ออก 3. การรั่วไหลทวั่ ไป เพลาขบั กวา้ น สลักนริ ภัย ตลอดจนใหก้ ารบริการ และทำความสะอาดหรอื เปล่ียนสลักนริ ภยั ทชี่ ำรุด - ดฝู าปดิ กระบะทา้ ย,โคมไฟด้านหลัง,เต้าเสียบไฟ สำหรับรถพว่ ง ขอลากจูงตอ้ งเรียบร้อย ไมเ่ ปน็ สนมิ และไดร้ ับการหล่อลน่ื - ดสู ภาพการติดตง้ั รอยแตกรา้ วหรือสกปรก และความ เรยี บร้อย - ดูการรัว่ ไหลทวั่ ไปทางดา้ นท้ายรถและใต้ท้องรถ ******************* ความรบั ผดิ ชอบในการซ่อมบำรงุ ขน้ั ท่ี 1 และการปรนนบิ ตั ิบำรุงของพลขบั กล่าวท่ัวไป พลประจำรถหรือพลขับ จะต้องมีความรู้ในการปรนนิบัติบำรุงและการให้บริการต่อยานพาหนะ เพ่อื ปอ้ งกันสภาพซ่ึงอาจทำให้ยุทโธปกรณ์ชำรุด เพอื่ ค้นหาสิ่งท่ีบกพร่องและทำการแก้ไข หรือแจ้งให้เจ้าหน้าท่ี ซ่อมบำรุงดำเนินการแก้ไข ก่อนท่ียุทโธปกรณ์นั้น ๆ จะชำรดุ เสียหายมากข้ึนและเปน็ การเสียเวลามากท่ีจะต้อง ทำการซ่อมแก้ พลประจำรถหรือพลขับส่วนมากมักจะทราบถึงสาเหตุผิดปกติที่เกิดข้ึนกับยานพาหนะ ซึ่งเป็น สัญญาณของการทำงานผิดปกติของยุทโธปกรณ์ ดังนั้นการตรวจสอบตามระยะเวลาโดยพลประจำรถหรือพล ขับ จะเป็นการหลีกเล่ียงสถานภาพหลาย ๆ อย่าง ซ่ึงสามารถทำให้เกิดการชำรุดและบกพร่องได้ เช่นการเก็บ รกั ษาไมถ่ กู ต้อง ขาดการหลอ่ ล่นื และการหลวมคลอน เปน็ ต้น ความม่งุ หมาย 1. เพอ่ื ให้พลประจำรถหรือพลขบั ทราบถงึ - ความรบั ผดิ ชอบในการซ่อมบำรุงข้ันที่ 1 - วธิ กี ารซ่อมบำรงุ ขน้ั ที่ 1 - ระยะเวลาในการซ่อมบำรุง 2. เพ่ือให้กำลังพลหรอื พลขบั คุน้ เคยกับการปรนนิบตั บิ ำรุงประจำวนั ดงั น้ี - การปรนนิบตั ิบำรงุ ก่อนใช้งาน - การปรนนบิ ตั ิบำรงุ ระหว่างใช้งาน - การปรนนิบตั ิบำรุง หลังใช้งาน

ห น ้ า | 86 ความรับผิดชอบในการซ่อมบำรุงข้ันที่ 1 พลขับหรือพลประจำรถ เป็นผู้รับผิดชอบต่อยานพาหนะท่ีได้รับ มอบหมายไว้ ผบ.หมู่และ ผบ.ตอน, ผบ.หมวด ทำหน้าที่กำกับดูแลตามความรับผิดชอบ สำหรับรถซึ่งอยู่ ภายใต้การบังคับบัญชา ผบ.หน่วยมีความต้องการ และมีหลักประกันวา่ รถที่จ่ายให้หรือกำหนดให้รับผิดชอบ น้นั ได้รบั การบำรุงรกั ษาให้อย่ใู นสภาพใชร้ าชการได้ และพลประจำรถต้องระวงั รกั ษาอย่างถกู ตอ้ ง การซ่อมบำรุงข้ันท่ี 1 เป็นการซ่อมบำรุงท่ีกระทำโดยพลขับหรือพลประจำรถ รวมท้ังการระมัดระวังรักษา การใชง้ าน การทำความสะอาดและการหลอ่ ล่นื หลกั ฐานทีใ่ ช้ในการปรนนิบัติบำรุงขั้นที่ 1 คือ คท.9-2320-209-10 และคำสั่งการหลอ่ ล่นื 9-2320-209-12 ระยะเวลา จำนวนระยะทางที่ใช้รถ และ ระยะเวลา นั้น เป็นเกณฑ์และเป็นหลักสำหรับแบ่งช่วงความถ่ีใน การปรนนิบัติบำรุง และบริการต่อยานพาหนะ การใช้งานในสภาพยากลำบากต่าง ๆ เช่นอุณหภูมิร้อนจัด หนาวจัด ฝุ่นหรือหล่มโคลนน้ัน อาจจะต้องให้การปรนนิบัติบำรุงถ่ีข้ึนอย่ายืดเวลาการปรนนิบัติบำรุงออกไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตให้กระทำ บันทึกประวตั ิการปรนนิบัติบำรงุ บริการลงในแบบพิมพ์ คือ สพ.110 และ ตารางการตรวจ การ ปบ. และการบริการ ( PMCS ) ใน คท.9-2320-209-10 จะอธิบายให้ทราบเพื่อเป็น หลกั ประกันวา่ ชนิ้ สว่ นสำคัญ ๆ ของยุทโธปกรณ์ ได้รับตรวจไปตามลำดบั ทก่ี ำหนดไว้ การปรนนบิ ตั ิบำรงุ และการบรกิ ารประจำวัน การบริการก่อนใชง้ าน กระทำเพื่อ 1. ใหย้ านพาหนะอยู่ในสภาพพร้อมทจ่ี ะใช้งานได้ 2. เป็นการตรวจสอบ เพ่ือดูสภาพการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบกระเทือนต่อความพร้อมของรถ ว่าได้มกี ารเปล่ยี นแปลงไปหลงั จากการบริการหลงั ใช้งาน หรือไม่ การบริการระหว่างใช้งาน การบริการระหว่างใช้งานนี้ ประกอบด้วยการค้นหาการทำงานซึ่งให้ผลไม่เป็นท่ี พึงพอใจในการขบั รถ พลขบั หรือพลประจำรถ ควรจะต่นื ตวั ต่อเสียงหรือกล่นิ ที่ผดิ ปกติ ค่าผิดปกตทิ ีอ่ า่ นได้จาก การทำงานของเคร่ืองวัด การบังคับเลี้ยวท่ีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ หรือส่ิงช้ีสอบอื่น ๆ เกี่ยวกับการไม่ ทำงานตามหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ในการใช้งานทุกครั้ง พลขับควรพิจารณาและสังเกตการทำงาน ท่ีผิดปกติ หรือให้ผลไม่เป็นท่ีพอใจ ข้อบกพร่องทั้งหลายที่ค้นพบจะต้องพิจารณาหาสาเหตุและทำการแก้ไขหรือรายงาน ใหเ้ จ้าหน้าที่ซอ่ มบำรงุ ทราบ การบรกิ ารระหวา่ งใช้งาน กระทำเพื่อ 1. คน้ หาการทำงานท่ผี ดิ ปกติ และไมเ่ ปน็ ที่นา่ พอใจ 2. พลขบั จะต้องตืน่ ตัว ต่อ เสียง,กล่ิน,ที่ผดิ ปกติ 3. บันทึกคา่ ผดิ ปกติท่ีอา่ นได้จากเครื่องวัด การบงั คับเลี้ยว และส่ิงช้สี อบต่าง ๆ ท่ีผดิ ปกติ การบริการหลังใช้งาน กระทำเพ่ือเตรียมรถให้พร้อม ท่ีจะใช้งานอีกเมื่อได้รับคำสั่ง การบริการนี้ เป็นการ บรกิ ารข้ันมูลฐานสำหรับรถที่มีความสำคญั เปน็ พิเศษ เพราะในโอกาสนีพ้ ลขบั หรือพลประจำรถจะต้อง ทำการ ตรวจรถโดยตลอด เพื่อค้นหาข้อบกพร่องต่าง ๆ อันเกดิ จากการใช้รถการบรกิ ารหลังใชง้ าน กระทำเพ่ือ 1. ตรวจขอ้ บกพรอ่ งทั้งมวล ซงึ่ เกดิ ขนึ้ ระหว่างการใช้งานของยานพาหนะ 2. ตรวจองค์ประกอบ ซง่ึ ต้องทำการตรวจและบริการ ณ อณุ หภูมใิ ช้งานโดยเร็วท่ีสดุ 3. แก้ไขข้อบกพร่องที่พบหรือแจ้งข้อบกพร่องให้เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง ทำการแก้ไข เม่ือเกินขีด ความสามารถของตน พลขับหรือพลประจำรถต้องช่วยกันรักษายุทโธปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้การอยู่ เสมอ โดยการกระทำที่เป็นจิตสำนึก คือต้องทำการบริการรถหลังใชง้ าน และพลขับ หรือพลประจำรถ จะต้อง ช่วยเหลอื เป็นลูกมือใหก้ บั เจา้ หน้าท่ีซอ่ มบำรงุ ข้นั ที่ 2 อกี ดว้ ย ***************

ห น ้ า | 87 รายการตรวจสอบการปรนนบิ ตั บิ ำรุงประจำวัน กอ่ นใชง้ าน ด้านหน้ารถ 1. เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ และอุปกรณ์ประจำรถ 2. ความชำรุดเสียหายทวั่ ๆ ไป 3. การรวั่ ไหลทวั่ ๆ ไป 4. ระดบั น้ำมนั เครอื่ งยนต์ และน้ำระบายความรอ้ น ดา้ นซ้าย 1. ความชำรดุ เสยี หายทว่ั ไป 2. ยาง และลอ้ รถ 3. การรัว่ ไหลท่ัวไป 4. ฝาปดิ ถังนำ้ มันเชือ้ เพลิง ดา้ นขวา 1. ความชำรดุ เสยี หายทัว่ ไป 2. ยาง และกงล้อ 3. การร่วั ไหลทั่วไป 4. แบตเตอรี่ ดา้ นหลงั 1. ความชำรดุ เสียหายท่ัวไป 2. หัวต่อท่อลม 3. การรั่วไหลท่ัวไป ภายในห้องพลขับ 1. การปรบั แป้นหา้ มล้อ 2. การปรับคลตั ช์ (ตดิ เครื่องยนต)์ 3. เสยี งดังผดิ ปกติตา่ งๆ 4. คันบังคับต่างๆ ของเครือ่ งยนต์ 5. ตรวจสอบการทำงานของเครอื่ งวัดตา่ งๆ ดังนี้ - เขม็ วดั ความดันน้ำมันเครอ่ื ง - เข็มวัดไฟฟ้า - เขม็ วดั รอบ - เขม็ วดั ปรมิ าณนำ้ มนั เชอ้ื เพลิง - เข็มวัดความดันของลม - เข็มวดั อุณหภูมิ 6. เครอ่ื งช่วยความปลอดภัย - เสยี งสัญญาณเตอื นความดันต่ำของลม - โคมไฟต่าง ๆ - กระจกมองหลัง - เครือ่ งปัดน้ำฝน - แตร

ห น ้ า | 88 ขณะใชง้ าน ขณะขับรถ 1. การทำงานของแปน้ หา้ มลอ้ 2. การทำงานของแป้นคลัตช์ 3. การทำงานของเคร่อื งวดั ต่าง ๆ - เขม็ วดั ความดนั น้ำมนั เครื่อง - เข็มวดั ไฟฟา้ - เขม็ วัดรอบ และบนั ทกึ การทำงานเป็นช่ัวโมง - เขม็ วัดปริมาณน้ำมันเชอ้ื เพลงิ - เขม็ วัดความดนั ลม - เขม็ วดั อุณหภมู ิ - เขม็ วัดความเรว็ และบันทกึ ระยะทาง 4. เสยี งผิดปกติตา่ ง ๆ 5. การบงั คบั เลย้ี ว 6. การทำงานของเครื่องยนต์ ขณะหยดุ พัก 1. การรว่ั ไหลทั่วไป 2. ยางและลอ้ 3. ความหลวมคลอนของแปน้ เกลยี ว และสลักเกลยี วต่างๆ 4. เติมน้ำ,เตมิ น้ำมนั เครอื่ ง,และนำ้ มันเชือ้ เพลิง (ตามความจำเปน็ ) หลงั ใช้งาน ในหอ้ งพลขับ 1. ติดเครื่องยนต์ - เสียงสญั ญาณเตอื นความดนั ลมต่ำ - โคมไฟตา่ ง ๆ - กระจกมองหลัง - เครอื่ งปดั น้ำฝน และแตร 2. ในห้องเครือ่ งยนต์ - การรว่ั ไหลทัว่ ไป - การยึดแน่นและความเรียบร้อยขององคป์ ระกอบต่างๆ ดา้ นซ้าย 1. ถ่ายลมและน้ำในถังเกบ็ ลม 2. ฝาปดิ ถงั น้ำมันและตะแกรงกรองนำ้ มันเชอื้ เพลิง 3. ความชำรุดเสียหายท่ัวไป 4. ยางและล้อ 5. แหนบ,เครือ่ งผ่อนแรงสะเทือน และแขนรบั แรงบดิ 6. เพลาขบั และข้อต่อออ่ น 7. การรว่ั ไหลท่ัวไป 8. เครื่องบงั คบั เลีย้ ว 9. ความหลวมคอนของสลกั เกลยี ว และแปน้ เกลยี วตา่ ง ๆ

ห น ้ า | 89 ด้านขวา 1. ความชำรดุ เสยี หายทวั่ ไป 2. ยางและลอ้ 3. แหนบ,เคร่อื งผ่อนแรงสะเทือน และแขนรบั แรงบิด 4. การรั่วไหลท่ัวไป 5. ความหลวมคอนของสลกั เกลยี ว และแป้นเกลยี วตา่ ง ๆ ด้านหลัง 1. ความเสียหายทั่วไป 2 การรั่วไหลทัว่ ไป 3. หวั ต่อท่อลม 4. ความหลวมคอนของสลกั เกลยี ว และแป้นเกลียวตา่ ง ๆ ด้านหนา้ 1. ความชำรดุ เสียหายท่วั ไป 2. การรัว่ ไหลทั่วไป 3. ชดุ คันตอ่ เครือ่ งบงั คับเลยี้ ว 4. ข้อตอ่ สะบ้าเล้ยี ว หมายเหตุ การเติมน้ำมันเช้อื เพลงิ นั้นไมค่ วร เติมใหเ้ ต็มปรี่ ตอ้ งเติมใหม้ ีระดับตำ่ กว่าขอบบน ของถงั ลงมา 2 นว้ิ หลักฐานอา้ งองิ - PS MAGAZINE ISSUE 208 PAGE 2-15 - PS MAGAZINE ISSUE 218 JULY 1973 PAGE 2-15 - PS MAGAZINE ISSUE 252 NOV 1973 PAGE 2-15 ********************* การลยุ ขา้ ม ( FORDING OPERATION ) 1. การลุยขา้ มแบบธรรมดา ตามจุดทส่ี ำคญั ๆ หรืออปุ กรณ์ท่ีสำคัญ ๆ ของรถ ได้รบั การออกแบบให้กันน้ำได้ ถงึ ความลกึ ของนำ้ 30 นว้ิ ข้อควรระมัดระวัง ใส่จุกเกลียวช่องระบายอากาศของเรือนล้อตุนกำลัง ก่อนที่จะลุยข้ามพื้นที่ ๆ เป็นโคลนตม มาก หมายเหตุ จกุ เกลยี วนี้ ติดอยกู่ ับเรอื นล้อตุนกำลงั 2. ขอ้ ควรระวังในการลุยขา้ ม 2.1 ต้องมั่นใจว่าเคร่ืองยนต์ทำงานได้เรียบร้อย และมีประสิทธิภาพดี ก่อนท่ีจะลุยข้ามและอย่าหย่อน สายพานพดั ลมให้หลวม 2.2 เคลื่อนรถลงน้ำอย่างช้า ๆ (3-4 ไมล์/ชม.) ด้วยความเร็วต่ำสุด และเร่งเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันมิให้ เครอื่ งยนต์เดนิ สะดดุ ถา้ เคร่อื งยนต์ดับ ให้ติดเครอื่ งยนต์ตามวธิ ีปกติ 2.3 อยา่ เหยียบคลัตช์ โดยไม่จำเปน็ 2.4 อย่างวางใจในการห้ามล้อ เมอื่ ขน้ึ จากน้ำแลว้ ให้เหยียบห้ามลอ้ หลายๆ ครั้ง เพอื่ ชว่ ยให้ผ้าห้ามลอ้ แห้ง เรว็ ข้นึ 3. การปฏบิ ตั หิ ลังลยุ ขา้ มลำน้ำ

ห น ้ า | 90 3.1 ติดเคร่ืองยนต์ไว้หลังจากข้ึนจากน้ำแล้ว เพื่อให้น้ำที่อาจรั่วไหลเข้าไปในอ่างน้ำมันเคร่ืองได้ระบาย ออกไปจากหอ้ งข้อเหว่ยี ง ของระบบระบายความดันปกติ 3.2 ถอดจุกเกลียวอุดห้องเรือนล้อตุนกำลังออก แล้วใส่กลับเข้าที่เดิม เพ่ือป้องกันมิให้คลัตช์ลื่น เน่ืองจาก น้ำมนั หลอ่ ลืน่ ซ่ึงอาจร่วั เขา้ ไปหรอื ซึมเขา้ ตกค้างอยใู่ นหอ้ งคลัตช์ 3.3 เครือ่ งอุปกรณ์ต่าง ๆ ถกู ปอ้ งกันมิใหน้ ้ำเข้าได้ แต่กรณีทไี่ ด้รบั ความเย็นโดยกะทันหนั จะทำให้เกดิ ฝ้าไอ น้ำกลั่นตัวขึ้นภายในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ กล่องเครื่องอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ สามารถที่จะเปิดออกแล้วใช้ลมอนุ่ ๆ เป่า ใหแ้ หง้ ได้ ************

ห น ้ า | 91 วชิ า การใช้และซ่อมบารุง รถเกราะ วี - 150 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดศิ ร สระบุรี

ห น ้ า | 92 ตัวรถและเคร่ืองยนต์ ตอนท่ี 1 เอกสาร และคุณลักษณะเฉพาะ 1. ขอบเขต ตอนท่ี 1 กล่าวถึงเอกสาร และคุณลักษณะเฉพาะท่ีเก่ียวข้องกับรถเกราะ COMMANDO V-150 ดีเซล/ อตั โนมตั ิ 2. เอกสารท่เี กี่ยวขอ้ ง คมู่ ือในการซอ่ มบำรงุ หมายเลข 114102 รถเกราะ COMMANDO V-150 (4 x 4) บรษิ ทั CADILLAC GAGE คมู่ ือสำหรับชนิ้ ส่วนอะไหล่ หมายเลข 114102 รถเกราะ COMMANDO V-150 (4 x 4) บรษิ ทั CADILLAC GAGE 3. รายละเอียดและมาตราทาน ตวั รถ สรา้ งดว้ ยแผน่ เกราะเหลก็ กล้า \"แคดลอย\" ตัด , ดดั ขน้ึ รปู และเช่ือมประสานกันเป็นตวั รถ ความหนาของเกราะ

ห น ้ า | 93 ด้านหนา้ (ส่วนบน) 3/8 นว้ิ (ลาดตอนบน) 1/4 นิว้ (ลาดตอนล่าง) 1/4 น้ิว ด้านข้าง (ตอนบน) 1/4 นว้ิ (ตอนล่าง) 1/4 นวิ้ ดา้ นหลัง (ตอนลา่ ง) 1/4 นว้ิ ด้านบน 1/4 นว้ิ พนื้ รถ 7/16 นิว้ พลประจำรถ (ลำเลยี งพล) 1 ผบ.รถ (จ.ส.อ.) 1 รอง ผบ.หมู่ (ส.อ.) 1 พลขับ (ส.อ.) 1 พลยงิ (ส.ต.) 1 พลวทิ ยุ (ส.ต.) 6 พลปืนเลก็ (พลฯ ) พลประจำรถ (ค.81 มม.) 1 ผบ.รถ (จ.ส.อ.) 1 พลขับ (ส.อ.) 1 พลยิง (ส.ต.) 1 พลยิงผู้ชว่ ย (ส.ต.) 1 พลกระสนุ (พลฯ ) ทัศนวสิ ยั ย่านการเหน็ จากตวั รถ ด้านหน้า (จากท่ีน่งั พลขับ) 4.0 ม.(13 ฟุต) ดา้ นขา้ ง (จากท่นี ัง่ ด้านซ้าย) 1.8 ม. (6 ฟุต) ดา้ นขา้ ง (จากที่น่งั พลยงิ ) 3.7 ม.(12 ฟุต) จำนวนชอ่ งตรวจการณ์ (ตวั รถ) 10 ชอ่ ง นำ้ หนักรถ นำ้ หนักรถ (พร้อมพลขบั และนำ้ มันเชอ้ื เพลิง) 7,200 กก. (16,000 ปอนด์) นำ้ หนกั บรรทุก 2,700 กก. (6,000 ปอนด)์ น้ำหนกั รวม (น้ำหนกั พรอ้ มรบสงู สุด) 9,900 กก. (22,000 ปอนด์) (นำ้ หนกั ในการลยุ ขา้ มสงู สุด) 9,091 กก. (20,000 ปอนด)์ ยาง แบบ ยางสงครามคอมมานโด ชนดิ พิเศษ ไมม่ ยี างใน ขนาด 14.5 x 21 ความดันลมยาง ปกติบนถนน 45 ปอนด/์ ตร.นว้ิ ,ในภูมิประเทศ 30 ปอนด/์ ตร.นว้ิ , ใน ทราย, โคลน 15 ปอนด/์ ตร.นว้ิ สมรรถนะ บนพืน้ ดนิ ความเร็วสงู สุด 89.6 กม./ชม.(56ไมล์/ชม.)

ห น ้ า | 94 ไต่ลาดตรงสงู สุด 60 % ไต่ลาดข้างสูงสดุ 30 % ในน้ำ ความเรว็ สงู สุด 4.8 กม./ชม. (3 ไมล์/ชม.) ระยะปฏบิ ตั ิการ บนถนน 800 กม. (500 ไมล์) ในภมู ิประเทศ 640 กม. (400 ไมล์) ความส้นิ เปลืองน้ำมนั เช้ือเพลงิ บนถนน 2.5 กม./ลติ ร (6 ไมล์/แกลลอน) ในภูมิประเทศ 2.1 กม./ลิตร (5 ไมล์/แกลลอน) เคร่อื งยนต์ แบบ คัมมินส์ ดเี ซล V-8, 4 จังหวะรอบ ระบายความรอ้ นดว้ ยน้ำ แรงม้า 202 แรงมา้ @3,300 รอบ/นาที ความจุของกระบอกสูบ 8.3 ลิตร (504 ลบ.นว้ิ ) รอบเดินเบา 650 รอบ/นาที รอบความเร็วควบคุม 3,300 รอบ/นาที นำ้ มันเชือ้ เพลงิ ระบบระบายความรอ้ น ดเี ซลหมนุ เรว็ ,เบอร์ 2 (DF-2) ความจขุ องหมอ้ น้ำรงั ผึ้ง ล้นิ ควบคุมอณุ หภมู ิเปิด 30.3 ลติ ร ความดันของฝาปิดหม้อนำ้ 77 - 85 องศา ซ.(170 - 185 องศา ฟ.) ระบบนำ้ มันเชอ้ื เพลงิ จำนวนถังนำ้ มันเชอื้ เพลงิ 1.1 กก./ตร.ชม.15 (15 ปอนด/์ ตร.นว้ิ ) ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง หมอ้ กรองน้ำมนั เชอ้ื เพลิง 2 ถัง ภายในรถ หา้ มลอ้ ปม๊ั ทางกล ขับโดยเครือ่ งยนต์ แบบ 2 ตวั (คู)่ เปลย่ี นไส้กรองได้ เครอื่ งทวีกำลงั หา้ มลอ้ ห้ามลอ้ มอื 2 วงจร ,ใชข้ องเหลวทัง้ 4 ล้อ แบบ สุญญากาศ ห้องเฟืองช่วย แบบ ขยายตัวรัดจานหา้ มล้อ เพลา แบบ 2 ความเรว็ ต่อเพลาหนา้ ดว้ ยคลตั ช์ ระบบไฟฟ้า เฟืองทด 2 เท่า พร้อมท้ังเฟืองเปลี่ยนทศิ ทางแบบลอ็ กได้ แบบ ป้องกนั น้ำท้งั 2 เพลา แบตเตอรี่ (ขนาด) อัตราการจา่ ยกระแสไฟของแบตเตอรี่ กนั นำ้ 24 โวลท์ , มีเครอื่ งปอ้ งกนั การ รบกวนวทิ ยุ เครอื่ งกำเนิดไฟฟ้า (AC) 12 โวลท์ 2 หม้อ (หมอ้ ละ) 100 แอมแปร์/ชม. 60 แอมป.์ ( 28 โวลท)์

ห น ้ า | 95 ระบบเครอ่ื งใหแ้ สงสว่าง โคมไฟหน้า หลอดแบบไส้คไู่ ฟสูง-ต่ำพรอ้ มไฟพรางไฟห้ามล้อ และไฟพรางจอด โคมไฟท้าย ไฟห้ามลอ้ และไฟพราง อยใู่ นเรือนเดียวกัน ไฟสัญญาณเลย้ี ว พรอ้ มท้งั ไฟสัญญาณเตือน กระพรบิ 4 ดวง กว้าน การทำงาน ไฮดรอลกิ แรงดงึ สูงสุด (ลวดกว้านมว้ นแรก) 10,000 ปอนด์ (4,536 กก.) ระบบบังคบั เลยี้ ว การทำงาน ไฮดรอลกิ ระบบพยุงตัวรถ แบบ เพลา กับแหนบตับรปู กง่ึ วงรี เครื่องผอ่ นอาการสะเทือน ไฮดรอลกิ ทำงาน 2 ทาง มีทกุ ลอ้ ปมั๊ สบู นำ้ แบบ ไฟฟา้ อัตราการทำงานของปมั๊ แต่ละตัว 178 ลติ ร/นาที (46 แกลลอน/นาท)ี เม่อื ปั๊มน้ำขน้ึ สูง 1.8 เมตร (6 ฟตุ ) เคร่ืองดบั เพลงิ ประจำท่ี แบบ ผงเคมีแห้ง ฉดี พน่ ดว้ ยแกส๊ ไนโตรเจน ขนาด 5 ปอนด์ (2.2 กก.) การทำงาน บงั คับการทำงานจากระยะไกลด้วยมอื เครอื่ งดับเพลงิ เคลอื่ นที่ ขนาด 2 3/4 ปอนด์ (ฟรอี อน 1211) ความจุ ระบบหล่อลนื่ ของเครื่องยนต์ 22.8 ลติ ร (6 แกลลอน) ระบบระบายความร้อน 30.3 ลติ ร (32 ควอต) ถังนำ้ มันเช้ือเพลิง2ถัง ถังละ 150 ลติ ร (40 แกลลอน) เคร่อื งเปล่ียนความเร็ว 14.2 ลติ ร (15 ควอต) หบี เฟอื งชว่ ย 6.6 ลติ ร (7 ควอต) หบี เฟอื งทดเลีย้ ว (2 ตวั ) ตัวละ 10.4 ลิตร (22 ไพนท)์ กว้าน 0.6 ลติ ร (1 1/4 ไพนท)์ อา่ งนำ้ มนั ไฮดรอลิก 26 ลิตร (28 ควอท) ************

ห น ้ า | 96 ตอนท่ี 2 คำแนะนำในการใชง้ าน 4. ขอบเขต ความในตอนนจี้ ะกล่าวถึงการทำงานของเคร่อื งวัด และการใช้เครอื่ งบังคบั ตา่ ง ๆ โคมไฟเพดาน ลิน้ เลือกถงั น้าํ มนั เช้ือเพลิง คนั บงั คบั กว เคร่ืองวดั น้าํ มนั ถงั ขวา เครื่องวดั น้าํ มนั ถงั ซ แผงเคร่ืองวดั พวงมาลยั คนั เกียร ที่นงั่ บงั คบั เล้ียว คนั ปรับท่ีนงั่ คนั เกียร ที่นงั่ พลขบั เคร่ืองควบคมุ และคนั บงั คบั ในห รถเกราะ วี - 150 รปู ที่ 3 เคร่อื งบงั คับของพลขับ ( 2 ) 5. เครอ่ื งวดั และเครอ่ื งบงั คับ 1. แผงเครอ่ื งวดั (รปู ที่ 4) แผงเครอ่ื งวัดประกอบดว้ ยสวิตชแ์ ละเครือ่ งวดั ดังน้ี 1) สวิตช์หมุนเครื่องยนต์ สวิตช์หมุนเคร่ืองยนต์เป็นสวิตช์ 3 ตำแหน่ง ติดเคร่ืองยนต์ด้วยการ บิดสวิตช์ หมุนเคร่ืองยนต์ตามเข็มนาฬิกาจากตำแหน่ง \"OFF\" ไปตำแหน่ง \"RUN\" แล้วบิดต่อไป ตำแหน่ง \"START\" และ มีการป้องกันมิให้บิดสวิตช์ไปยังตำแหน่งหมุนเคร่ืองยนต์ในขณะท่ีเครื่องยนต์ติด และเม่ือ ปล่อยสวิตช์จาก

ห น ้ า | 97 ตำแหน่ง\"START\" สวิตช์จะกลับมาอยู่ในตำแหน่ง \"RUN\"เอง การดับเครื่องยนต์กระทำ ด้วยการบิดสวิตช์ กลับมายงั ตำแหนง่ \"OFF\" 2.) สวิตช์ไฟใหญ่ (รูปที่ 4) สวิตช์ไฟใหญ่สามารถบิดเลือกตำแหน่งไฟแสงสว่างภายนอก รถได้หลาย ตำแหน่ง การบิดสวิตช์ไฟใหญ่จากตำแหน่ง \"OFF\" ไปยังตำแหน่งอื่น ยกเว้นตำแหน่งไฟ พรางจอด (BO MARKER) จะต้องปลดกลอนเสียกอ่ น แต่ถ้าต้องการจะดบั ไฟไม่ว่าสวติ ช์จะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม สามารถบดิ สวิตช์ไปตำแหน่ง \"OFF\" ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องปลดกลอน การจัดสวิตช์ไว้ในอยู่ตำแหน่งไฟห้ามล้อ(STOP LIGHT) หรือตำแหน่งไฟหน้า (SERVICE DRIVE) จะทำให้ไฟห้ามล้อ ติดข้ึนเม่ือเหยียบคันห้ามล้อ ไฟห้ามล้อจะ ตดิ ด้วยเหมอื นกนั เม่ือสวติ ช์ตัวล่างซ้ายของสวติ ชไ์ ฟใหญ่ อยู่ในตำแหน่ง (PARK) สวิตช์ไฟส่องแผงเครือ่ งวัดติด ตั้งอยูใ่ นเรอื นเดยี วกนั กับสวิตช์ไฟใหญ่มี 3 ตำแหน่ง คือ สว่าง หร่ี และ ปิด (BRIGHT, DIM, OFF) เมื่อสวติ ช์ไฟ ใหญ่อยู่ในตำแหน่งไฟพรางจอด (BO MARKER) หรือไฟพรางขับ (BO DRIVE) ไฟพรางห้ามล้อ (BO STOP LIGHT) จะขึ้นติดเมื่อ เหยียบคันห้ามล้อ ในตำแหน่งไฟหน้า (SERVICE DRIVE) และตำแหน่งไฟห้ามล้อ (STOP LIGHT) จะทำให้ไฟเลี้ยวติดขึ้นเมื่อเปิดสวิตช์ไฟเลี้ยว ในตำแหน่งไฟพรางจอด (BO MARKER)และ ตำแหนง่ ไฟพรางขับ (BO DRIVE) ไฟเล้ยี วจะไม่ตดิ เต สวติ ช ( ตดั สายสายไฟลบ) เต แผงสรวูปิตทชี่ 3 เครอื่ งแบลังะคเตบั ของพลขรับถเ(ก3รา)ะ วี - 150 3.) สวิตช์ไฟสูง-ต่ำ (HI-LO SWITCH) สวิตช์ไฟสูง-ต่ำ เมื่ออยู่ในตำแหน่ง (HI) ไฟสูง ทั้ง 4 ดวง จะติด สังเกตได้จากการติดข้ึนของไฟสัญญาณสีเขียวทางด้านขวาของสวิตช์ไฟสูง-ต่ำ เมื่อผลัก สวิตช์ไฟมาอยู่ใน ตำแหนง่ ไฟตำ่ (LO) ไฟต่ำท้งั 4 ดวงจะตดิ

ห น ้ า | 98 เครื่องวดั อุณหภมู ิเคร่ืองยนต เครื่องวดั แรงดนั น้าํ มนั เครื่องยนต สวิตชป สูบน้าํ สวิตช สวิตช แสงสว เคร่ืองวดั ความเร็ว ไฟเตือนห ไฟเตือนไฟสูง เคร่ืองบนั ทึก ระยะทาง เคร่ืองวดั ไฟฟ สวิตช ไฟส สวิตช สวิตชหมนุ เคร่ืองยนต 4.) สวติ ช์ปั๊มสูบนำ้ (BILGE SWITCแHผ)งหสวนิตช์ปั๊มสูบน้ำบงั วคีับ- ก15าร0ทำงานของป๊มั สูบทิ้งนำ้ ท้ัง 2 ตวั 5.) สวิตช์ไฟเพดาน (DOME LIGHT SWITCH) สวิตช์ไฟเพดานใช้บังคับการทำงานของไฟ เพดานดวง กลางเทา่ น้นั ไฟเพดานดวงหน้าทำงานเป็นอิสระ 6.) ไฟเตือนห้ามล้อมือ (PARKING BRAKE WARNING LIGHT) ไฟจะติดเมื่อใส่ห้ามล้อมือไว้เพอื่ เป็นการ เตือนพลขบั ให้ปลดห้ามล้อมอื ก่อนจะออกรถ 7.) สวิตชแ์ ตร กดสวติ ช์ แตรจะดัง 8.) เครื่องวัดความเร็วและบันทึกระยะทาง เคร่ืองวัดความเร็วแสดงความเร็วของรถเป็น ไมล์/ชม. หรือ กม./ชม.เคร่ืองบันทกึ ระยะทางจะบนั ทึกระยะทางที่รถวิ่งเปน็ ไมล์ หรอื กม. 9.) เคร่ืองวัดความดันน้ำมันเครื่องยนต์ ความดันน้ำมันเคร่ืองยนต์ปกติเมื่อเคร่ืองยนต์มีอุณหภูมิใช้งาน ขณะเดินเบา 0.7-2.1 กก./ตร.ซม. (10-30 ปอนด์/ตร.นิ้ว) และเมื่อเคร่ืองยนต์มีความเร็วสูงสุด ความดัน น้ำมันเครือ่ งควรจะได้ 3.2 - 6.0 กก./ตร.ซม.(45-85 ปอนด/์ ตร.นว้ิ ) 10.) เคร่ืองวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ อุณหภูมิของน้ำระบายความร้อนของเคร่ืองยนต์โดยปกติ 82.2-93 องศา ซ.(180-200 องศาฟ.) อณุ หภมู ิสงู สดุ ของน้ำระบายความร้อนไม่ควรถงึ 104 องศา ซ. ( 220 องศา ฟ.) 11.) เคร่ืองวัดแรงดันไฟฟ้าของเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ และแบตเตอรี่ ขณะทเี่ คร่อื งยนต์ทำงาน เครื่องวัดแรงดันไฟฟ้าควรจะชี้ที่แถบสีเขียว และเมื่อดับเคร่ืองยนต์ เครื่องวัดแรงดันไฟฟ้าควรจะช้ีที่แถบ สี เขียวหรือสเี หลอื ง หมายเหตุ เม่ือแบตเตอร่ีมีไฟอ่อนเคร่ืองวัดแรงดันไฟฟ้าจะชี้ท่ีแถบสีแดงด้านซ้าย อาจเป็นเหตุให้วิทยุหรือ อุปกรณ์อ่ืน ๆ ภายในรถทใี่ ชก้ ระแสไฟฟา้ ทำงานผดิ ปกติได้

ห น ้ า | 99 รปู 5 แผนผังแสดงตำแหน่งไฟสอ่ งสวา่ ง - 13 - 2. สวิตช์แบตเตอรี่ (รูปที่ 3 (3)) สวิตชแ์ บตเตอร่ีจะควบคุมกระแสไฟฟ้าทั้งหมดของรถ การปลดสายดินของ แบตเตอรี่กระทำไดโ้ ดยการดงึ คนั สวติ ชแ์ ล้วหมุน 1/4 รอบ 3. สวิตช์ไฟเลี้ยว (รูปท่ี 3 (2)) สวิตช์ไฟเล้ียว มีอยู่ 4 ตำแหน่ง ตำแหน่งต่ำสุดเป็นสัญญาณเลี้ยว ซ้าย ตำแหน่งกลางเป็นตำแหน่ง ปิด (OFF) ตำแหน่งสูงเป็นสัญญาณเลี้ยวขวา และเม่ืออยู่ในตำแหน่ง ตั้งฉากเป็น สัญญาณฉุกเฉิน (ไฟสัญญาณ 4 ดวง ท้ังดวงซ้ายและขวาจะกระพริบอยู่ตลอดเวลาจะต้องปลดกลอนที่คัน สวิตช์เสียก่อนจงึ จะผลักสวติ ชไ์ ปยังตำแหน่งไฟสัญญาณฉุกเฉนิ ได้ สวิตช์ไฟเล้ียวไม่สามารถปดิ เอง ไดจ้ ะต้องปิด ด้วยมอื เมอื่ หมดความจำเป็นในการใช้งาน 4. คันเรง่ นำ้ มนั (รปู ท่ี 3 (2)) คันเรง่ นำ้ มันทำงานดว้ ยเทา้ ขวาของพลขบั 5. คันห้ามล้อ (รปู ที่ 3 (2)) คันห้ามล้อทำงานด้วยเท้าขวาของพลขับ ซ่ึงจะควบคุมการทำงาน ของเคร่ืองทวี กำลังหา้ มลอ้ (POWER BRAKE) 6. คันห้ามลอ้ มือ (รปู ท่ี 3 (2)) ห้ามล้อมือทำงานด้วยการดงึ คันห้ามลอ้ มือ ใหเ้ ลยจากตำแหนง่ ตง้ั ฉาก ห้ามล้อมือปลดได้ด้วยการดันคันห้ามล้อมือไปข้างหน้าจนสุด และห้ามล้อมือสามารถปรับได้ดว้ ยหมุน ปลอกปรบั หา้ มลอ้ มอื ทป่ี ลายคนั ห้ามลอ้ มือไปตามเข็มนาฬิกาในขณะท่คี ันหา้ มลอ้ มือในอยู่ในตำแหน่งปลด ห้าม ล้อ 7. เคร่อื งวดั นำ้ มนั เชอ้ื เพลิง (รูปที่ 3 (3)) เครอ่ื งวัดนำ้ มันเชอ้ื เพลงิ จะแสดงระดบั ของ นำ้ มันเชอื้ เพลงิ แตล่ ะถงั

ห น ้ า | 100 8. ล้ินบังคับน้ำมันเช้ือเพลิง (รูปท่ี 3 (2)) แผงติดตั้งล้ินบังคับน้ำมันเช้ือเพลิงจะมีเคร่ืองหมาย LEFT และ RIGHT ก้านของล้ินบังคับน้ำมันเช้ือเพลิงจะต้องช้ีไปท่ีถังน้ำมันถังซ้าย (LEFT) หรือถังขวา (RIGHT) ในขณะใช้ งานรถ 9. ปุ่มติดเคร่ืองเร็ว (เลือกได้) (รูปที่ 3 (1)) ระบบติดเคร่ืองเร็วใช้ช่วยในการติดเคร่ืองยนต์ เม่ืออุณหภูมิ โดยรอบ 0 องศา ซ.(32 องศา ฟ.) หรือต่ำกว่า กดปุ่มติดเครอ่ื งเรว็ หนึง่ คร้ัง ขณะหมุนเครอ่ื งยนต์ การกดปุ่มตดิ เคร่อื งเรว็ จะทำใหส้ ารท่ชี ่วยติดเคร่ืองฉีดเขา้ ไปในทอ่ ไอดี 10. พวงมาลัย (รูปที่ 3 (1)) การบังคับเลี้ยวของรถเกราะ คอมมานโด วี-150 กระทำเช่นเดียวกับ รถยนต์ โดยท่วั ไป พวงมาลยั หมนุ จากซ้ายสุดถึงขวาสุดเพยี ง 3 1/2 รอบ เท่าน้ัน 11. คนั บังคบั กวา้ น (รปู ท่ี 3 (1)) คนั บังคับกว้านควบคมุ ทศิ ทางและความเร็วในการหมนุ ของลอ้ กวา้ น 12. คันเกียร์ (รูปท่ี 3 (1))ดแู ผ่นป้ายคำแนะนำในการใช้เกียร์ของพลขับ มีบากสำหรับตำแหน่ง ทุกเกียร์ เพ่ือ ป้องกันการเข้าเกียร์ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ จะต้องดันคันเกียร์ไปทางซ้ายเล็กน้อยเพ่ือปลด คันเกียร์ออกจากบาก แล้วจึงสามารถเลื่อนจากตำแหน่งว่างไปยังตำแหน่งเดินหน้า หรือถอยหลัง คันเกียร์ควรจะอยู่ในตำแหน่งว่าง \"N\" พรอ้ มทัง้ ใส่ห้ามลอ้ ไว้ในขณะจอดรถหรอื ตดิ เครอื่ งยนต์ สวติ ช์นิรภัย(NEUTRAL SAFETY SWITCH) ท่ีก้านโยงคันเกียร์ป้องกันมิให้วงจรหมุนเครื่องยนตท์ ำงาน เม่ือคัน เกยี รไ์ ม่ไดอ้ ยใู่ นตำแหน่งวา่ ง\"N\" 13. คันเกียร์ช่วย (รูปที่ 3 (1)) คันเกียร์ช่วยใช้สำหรับเลือกความเร็วในตำแหน่ง HI หรือ LOW ของเฟือง เกียร์ช่วย ให้เลือกตำแหน่ง HI สำหรับการใช้รถตามปกติ ตำแหน่ง LOW ใช้สำหรับ ไต่ลาดชัน หรือต้องการ กำลังในการฉุดลากสูงสุด มีบากสำหรับบังคับระหว่างตำแหน่ง HI และ LOW ซ่ึงเป็นตำแหน่งว่าง (NEUTRAL) ใหเ้ ข้าตำแหน่งวา่ งเมอ่ื รถถกู ฉดุ ลาก หมายเหตุ อย่าพยายามเข้าเกียร์ชว่ ยขณะที่รถกำลังเคล่ือนทื่ด้วยความเร็วสูง จะตอ้ งหยุดรถ หรือมิฉะนั้น รถจะต้องเคลอื่ นทีช่ า้ ท่ีสดุ 14.คันขับเพลาหน้า(รูปท่ี 3 (1))เม่ือคันขับเพลาหน้าอยู่ในตำแหน่งIN รถจะขับเคล่ือน 4 ล้อ เมื่อคันขับเพลา หนา้ อยใู่ นตำแหนง่ OUT รถจะขับเคล่อื นด้วยลอ้ หลงั 2 ล้อ หมายเหตุ อย่าพยายามเข้าหรือปลดคันขับเพลาหน้าขณะที่รถเคล่ือนท่ีด้วยความเร็วสูง จะต้องหยุดรถ หรือมิฉะนัน้ รถจะต้องเคล่อื นท่ชี า้ ทส่ี ดุ 15. คันบังคับเคร่ืองดับเพลิง (รูปท่ี 18) เครื่องดับเพลิงประจำท่ีทำงานได้โดยดึงสลักออก แล้ว กดปุ่มบังคับ เครื่องดับเพลิงเป็นแบบใช้สารเคมีแห้งติดตง้ั อยู่ในห้องเคร่ืองยนต์ ทำงานได้เพียงครั้งเดยี ว เมื่อทำงาน สารเคมี จะถกู ฉดี พน่ ออกมาจนหมดถัง 16. ท่ีนั่งพลขับ (รูปท่ี 3 (1)) ที่น่ังพลขับสามารถปรับให้เล่ือนไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ด้วยคันบังคับซึ่งอยู่ หน้าที่นั่ง และสามารถปรับท่ีน่ังให้สูง-ต่ำได้ เพื่อให้พลขับบังคับรถได้ทั้งในขณะที่เปิดช่องทางเข้า-ออก โดย การมองผา่ นกล้องตรวจการณ์ คันบังคบั ปรับสูง-ต่ำ อยขู่ า้ งหลงั ทางขวาของท่นี ่ัง 17. ทนี่ ่ังตรวจการณ์ (รูปที่ 3 (1)) ทนี่ ั่งตรวจการณ์เป็นแแบบพับไดเ้ อง ในขณะท่ี ทีน่ ั่งพับอยู่ ผูต้ รวจการณ์ จะตอ้ งมองผ่านกล้องตรวจการณ์เมือ่ เปิดที่นัง่ ออกจงึ จะทำให้ผตู้ รวจการณ์ตรวจการณ์ เหนอื ฝาปิดช่องทางเขา้ - ออกได้ 18. ไฟเพดาน และไฟสอ่ งแผนท่ี (รูปท่ี 3 (1)) ไฟเพดาน และไฟสอ่ งแผนทแ่ี ต่ละดวงประกอบ ดว้ ยไฟสขี าว และไฟสแี ดง มสี วิตช์ 3 ตำแหน่งคือ OFF, WHITE, RED ( ปิด ,แดง ,ขาว ) 6. การใชง้ าน (รปู ที่ 6) แผ่นป้ายคำแนะนำในการใช้งานสำหรับพลขับติดอยู่ที่ผนังด้านซ้ายของห้องพลขับ พลขับต้องศึกษา คำแนะนำในการใช้งาน ให้เข้าใจและถือเป็นระเบียบปฏิบัติรวมทั้งการใช้งานอื่น ๆตามที่กล่าวไว้ในคู่มือ ฉบับน้กี ่อนท่ีจะขบั รถเกราะ ว-ี 150

ห น ้ า | 101 1. การตดิ เคร่ืองยนต์ 1) เปดิ สวติ ช์แบตเตอร่ไี วใ้ นตำแหน่ง \"ON\" 2) ตรวจดวู ่ามีนำ้ มันเช้ือเพลงิ ในถังพอเพยี ง และลนิ้ บงั คบั นำ้ มนั เช้อื เพลงิ อยู่ตรงกบั ถงั นำ้ มนั 3) ดงึ คนั ห้ามลอ้ มอื 4) ตรวจดูวา่ คันเกยี ร์อยู่ในตำแหนง่ วา่ ง\"N\" 5) บิดสวิตช์หมุนเคร่ืองยนต์ (STARTER SWITCH) เหยียบคันเร่งน้ำมันเล็กน้อย ปล่อยสวิตช์ หมุน เคร่ืองยนต์ทนั ทีทีเ่ คร่ืองยนตต์ ดิ หมายเหตุ สวติ ช์หมุนเครือ่ งยนต์ (STARTER SWITCH) จะต้องหมุนไปตามลำดบั จาก OFF -> RUN -> START ทุกครั้ง และ มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์จะไม่ทำงาน ถ้าบิดสวิตช์จากตำแหน่ง \"RUN\" ไปตำแหน่ง \"START\" ข้อควรระวัง เพ่ือป้องกันมิให้มอเตอร์หมุนเครื่องยนต์ชำรุด อย่าหมุนเคร่ืองยนต์ติดต่อกันเกิน 30 วินาที ถ้าเคร่อื งยนต์ไม่ตดิ ภายใน 30 วนิ าที ใหค้ อย 1-2 นาที แลว้ จงึ หมุน เครอื่ งยนตใ์ หม่ 6) เร่งเครื่องยนต์ปานกลางเพื่ออุ่นเคร่ืองยนต์ และตรวจการแสดงค่าของเคร่ืองวัดแรงดันน้ำมัน เคร่ืองยนต์จะตอ้ งอา่ นคา่ ได้อยา่ งน้อย 0.7 กก./ตร.ซม.(10 ปอนด์/ตร.นว้ิ )และ เครอื่ งวัดแรงดนั ไฟฟ้าอยใู่ น แถบสเี ขยี ว 2. การขับรถเกราะ COMMANDO V-150 ขอ้ ควรระวัง อยา่ ขบั รถในขณะทป่ี ระตูบานล่างเปดิ อยู่ รถเกราะคอมมานโด วี-150 ดเี ซล/อตั โนมตั ิ แผน่ ปา้ ยคำแนะนำสำหรับพลขับ ความเรว็ สงู สดุ ทอ่ี นญุ าตใหล้ ดเกยี ร์ต่ำลงได้ ตำแหนง่ เกียร์ 3 ต ำ แ ห น่ ง เกี ย ร์ ช่ ว ย 2 \"HI\" \"LOW\" D ถึง 1 3 ถึง 40 ไมล์/ชม. 20 ไมล์/ชม. 2 ถึง 25 ไมล์/ชม. 15 ไมล์/ชม. 15 ไมล์/ชม. 10 ไมล์/ชม. ตำแหน่งเกียร์ R เกยี รถ์ อยหลงั ข้อควรระวงั อย่าเข้าเกยี รถ์ อยหลังขณะทีร่ ถกำลงั เดนิ หนา้ การติดเคร่อื งยนต์ จัดคนั เกียร์ไว้ในตำแหนง่ ว่าง \"N\" แลว้ ติดเครอ่ื งยนต์ N ยงั ใชส้ ำหรับจอดขณะติดเคร่อื งยนตเ์ ดนิ เบา หมายเหตุ เคร่ืองยนต์จะไมต่ ิดโดยการฉุดลากหรอื ผลักดัน D เป็น เกยี ร์เดนิ หน้าตามปกต-ิ เปลยี่ นจาก 1 ถึง 4 3 ใช้วิ่งบนถนนเม่อื บรรทุกหนกั มาก เปล่ียนจาก 1 ถงึ 3 2 ใช้ในความเรว็ ต่ำ เครื่องยนตส์ ามารถฉุดลาก ไดม้ ากขึ้น ใชป้ ฏิบตั กิ ารใน ภมู ิประเทศ และในสภาวะสะเทนิ น้ำสะเทินบก เปลย่ี นจาก 1 ถึง 2 การฉุดลากรถ การฉุดลากรถ ทุกครั้งที่รถถูกลาก คันเกียร์ช่วยจะต้องอยู่ในตำแหน่งว่าง (NEUTRAL)เท่าน้นั หรือถอดเพลาขบั หรือยกล้อเพลาขับพ้นจากพ้ืนดิน 1 ฉุดลากน้ำหนักได้มากท่ีสุด เครื่องยนต์สามารถหยุดรถได้มากท่ีสุดใช้สำหรับไต่ลาด ชนั หรือ ลงลาดชนั และใชล้ งนำ้ หรอื ขึน้ จากน้ำ

ห น ้ า | 102 หมายเหตุ ก่อนจะลงจากรถ จะต้องแนใ่ จว่า เกยี ร์ชว่ ยอยู่ในตำแหนง่ \"HI\" หรอื \"LOW\" และตอ้ งดงึ ห้ามลอ้ มอื ไว้ 1.) ตรวจดูว่าคันเกียร์ช่วยอยู่ในตำแหน่ง \"HI\" และคันเกียร์ขับเพลาหน้าอยู่ในตำแหน่งปลด(OUT) เม่ือขับรถบนถนน 2.) เขา้ เกียร์ที่ต้องการ (เคร่อื งยนต์จะตอ้ งเดนิ เบาขณะท่เี ขา้ เกยี ร)์ 2.1) ตำแหน่ง\"D\"เป็นตำแหน่งเกียร์เดินหน้าท่ีใช้มากที่สุด จะมีการเปลี่ยนเกียร์โดย อัตโนมัติ 4 เกียร์ ขณะที่รถยังจอดอยู่เกียร์ 1 เร่ิมทำงาน เกียร์จะเปล่ียนเป็น 2, 3 และ 4 ได้โดยอัตโนมัติตาม ความสัมพันธ์ระหว่างภารกรรมของเคร่ืองยนต์และความเร็วของรถ และการลดเกียร์ลงต่ำจะเป็นไปโดย อตั โนมตั ิ 2.2) ตำแหน่ง 3 ในตำแหน่งน้ีจะเร่ิมจากเกียร์ 1 แล้วเปลี่ยนเป็น 2, 3 โดยอัตโนมัติ ตามความเร็ว ของรถ 2.3 )ตำแหน่ง 2 ในตำแหน่งนี้จะเริ่มจากเกียร์ 1 แล้วเปลี่ยนเป็น 2 โดยอัตโนมัติตาม ความเร็ว ของรถ 2.4 )ตำแหน่ง 1 ในตำแหน่งนี้จะเร่ิมจากเกียร์ 1 และจะไม่มีการเปล่ียนเกียร์ หรือลด เกียร์ (ดคู ำแนะนำสำหรบั พลขบั ซ่ึงติดอยู่ภายในรถ) 3) ปลดหา้ มล้อมอื 4) เหยยี บคันเรง่ นำ้ มนั ตามความเร็วทต่ี ้องการ หมายเหตุ น้ำหนักเท้าท่ีเหยียบคันเร่งจะเป็นผลให้เกียร์เปล่ียนไปโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่งสุดใน ทันทีทันใด เกียร์จะเปลี่ยนเม่ือรอบของเคร่ืองยนต์ใกล้จะถึงรอบสูงสุด แต่ถ้าค่อย ๆ เหยียบคันเร่ง เกียร์ จะเปลี่ยนเมื่อรอบเคร่ืองยนต์อยู่ในความเร็วต่ำกว่า เกียร์จะ เปล่ียนโดยอัตโนมัติอย่างถูกต้องเมื่อทำการ ขับรถอย่างเหมาะสม ข้อควรระวัง อย่าปล่อยให้น้ำมันหมดถังถ้าเคร่ืองยนต์เร่ิมสะดุดหรือเสียกำลัง เน่ืองจากน้ำมัน ไม่พอ ให้ เปล่ียนถังน้ำมันทันที หรือหยุดรถแล้วดับเคร่ืองยนต์ ถ้าน้ำมันในปั๊มหมด จะต้อเติมล่อน้ำมันลงไปใน ระบบนำ้ มันเชอ้ื เพลิงก่อนจงึ จะติดเครือ่ งยนตใ์ หมไ่ ด้ (ดูตอนที่ ฒ.การ เตมิ ลอ่ น้ำมนั ระบบนำ้ มันเช้อื เพลิง) 3. การหยุดรถ เหยียบห้ามล้อเพ่ือให้เคร่ืองทวีกำลังห้ามล้อทำงาน เกียร์จะลดลงเป็นเกียร์ต่ำโดย อัตโนมตั ิ 4. การถอยหลัง 4.1 หยุดรถใหส้ นทิ แลว้ เลอ่ื นคันเกียรไ์ ปตำแหน่งถอยหลงั 4.2 เหยียบคนั เรง่ น้ำมัน ขอ้ ควรระวงั อย่างเปลย่ี นเกยี ร์ถอยหลงั ขณะท่ีรถเคล่อื นทไ่ี ปข้างหนา้ 5. การเขา้ เพลาหน้า หมายเหตุ รถจะต้องหยดุ หรอื เคลื่อนทเ่ี ดินหน้าช้า ๆ 5.1 ขณะทรี่ ถเคลือ่ นทช่ี ้า ๆ ดึงคนั เพลาหนา้ ไปข้างหนา้ ขณะเดียวกนั ใหเ้ หยยี บและปล่อยคันเร่ง 5.2 ปลดเพลาหน้าโดยการดึงคันเพลาหน้าไปข้างหลัง เหยียบและปล่อยคันเร่งจนกระทั่ง เพลา หน้าปลด หมายเหตุ ไม่ควรจะใช้เพลาหน้าเม่ือขับรถบนถนนผิวเรียบพ้ืนแข็ง ควรใช้เพลาหน้าทุกคร้ังเม่ือว่ิงในน้ำ โคลนทราย หรอื เนินเขา 6. การเข้าเกยี ร์ชว่ ยในตำแหนง่ LOW 6.1 ปฏิบตั เิ ช่นเดียวกับขอ้ 5. 7. การลดสูเ่ กยี ร์ตำ่

ห น ้ า | 103 7.1 เครื่องเปลี่ยนความเร็วแบบอัตโนมัติสามารถลดสู่เกียร์ต่ำลงด้วยมือได้ โดยการเล่ือนคัน เกียร์ลง มายังเกียร์ต่ำตามลำดบั หมายเหตุ ไม่ควรลดสู่เกียร์ต่ำ เม่ือรถมีความเร็วมากกว่าความเร็วสูงสุดของเกียร์ที่จะลดลง อย่างไรก็ดี เคร่ืองเปล่ียนความเร็วชนิดนี้ได้ออกแบบให้มีการป้องกันการลดสู่เกียร์ตำ่ อยา่ งเหมาะสมและ การเข้าเกียร์ ผดิ เป็นเกียร์ถอยหลงั ถ้าลดเกียร์ลงต่ำในขณะท่ีรถมีความเร็วสูงเกนิ ไป หรอื เปล่ียน เกยี ร์ผิดเป็นเกยี รถ์ อย หลัง ระบบไฮดรอลิกของเคร่ืองเปลี่ยนความเร็วแบบอัตโนมัติ จะป้องกันมิให้ เกิดการลดเกียร์จนกว่า ความเร็วของรถตำ่ ลงจนถงึ เกณฑ์ปลอดภยั 8. การใช้เครอ่ื งยนตห์ ้ามล้อ 8.1 เลื่อนคันเกียร์ของเคร่ืองเปลี่ยนความเร็วลงมายังเกียร์ต่ำลง 1 เกียร์ ถ้าความเร็วของรถ มากกว่า ความเรว็ สงู สุดของเกียร์ทีจ่ ะลดลง ใหเ้ หยียบหา้ มล้อชว่ ยจนความเร็วของรถตำ่ ลง ทำให้ การลดเกียรก์ ระทำไดอ้ ยา่ งปลอดภยั ความเรว็ สูงสุดทค่ี วบคมุ ไว้ ตำแหน่งเกียร์ ตำแหน่งเกียร์ช่วย เกยี ร์สูง เกียรต์ ำ่ ถอยหลัง..........(17.6 กม./ชม.) 11 ไมล์/ชม. (9.6 กม./ชม.) 6 ไมล์/ชม. เกียร์ 1 .........(25.6 กม./ชม.) 16 ไมล์/ชม. (14.4 กม./ชม.) 9 ไมล์/ชม. เกียร์ 2 .........(40.0 กม./ชม.) 25 ไมล์/ชม. (22.4 กม./ชม.) 14 ไมล์/ชม. เกยี ร์ 3 .........(64.0 กม./ชม.) 40 ไมล์/ชม. (35.2 กม./ชม.) 22 ไมล์/ชม. เกียร์ 4 .........(89.0 กม./ชม.) 56 ไมล์/ชม. (49.6 กม./ชม.) 31 ไมล์/ชม. ข้อควรระวัง อยา่ ขบั รถจนกระทง่ั ความเรว็ เกินกว่าความเรว็ สงู สดุ ของเกียร์แต่ละตำแหน่งทใ่ี ช้ อยู่ ตามปกตจิ ะตอ้ งขบั รถลงลาดด้วยเกียร์เดยี วกับเกยี รท์ ใ่ี ช้ขับขึน้ ลาด 9. ความเร็วสูงสุดของเคร่ืองยนต์ท่ีควบคุมไว้ เคร่ืองยนต์ได้รับการควบคุมความเร็วไว้ที่ 3,300 รอบ/ นาที 10. การปฏบิ ัติงานบนพนื้ ทส่ี งู เคร่ืองยนต์จะเสียกำลังเมื่อปฏิบัติงานบนพื้นท่ีสูง เพราะว่าอากาศบนพ้ืนที่สูงมีความหนาแน่น น้อย กว่าอากาศท่ีระดับน้ำทะเล จึงทำให้การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์ จะสูญเสียกำลัง 3% สำหรับ ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลทุก ๆ 1,000 ฟุต (300 ม.)ไอเสียของเครื่องยนต์จะมีมากบนพื้นที่สูง นอกเสีย จากว่าจะใช้เกียร์ต่ำ ซ่ึงจะทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้น ให้เปล่ียนเกียร์ตามความเหมาะสม เพื่อ หลีกเลีย่ งมใิ หไ้ อเสยี มคี วันมาก 11. การปฏิบตั ิการสะเทินน้ำมันสะเทนิ บก รถเกราะ คอมมานโด วี - 150 สามารถปฏิบัติการสะเทินน้ำมันสะเทินบกได้โดยไม่ต้องใช้ ชดุ ลุยข้าม หรือเตรียมการเป็นพิเศษแต่อย่างใด การแล่นในน้ำกระทำโดยการหมุนตัวของล้อทั้ง 4 ล้อ การเล้ียวในน้ำ กระทำเชน่ เดียวกับบนพ้ืนดิน เพื่อช่วยพลขับให้สามารถรักษาทิศทางของล้อหน้าให้ตรง อยู่ตลอดเวลา จึง มีขีดหลักอยู่ท่ีห้องเฟืองพวงมาลยั และท่ีแกนเพลาของเฟืองบังคับเล้ียว (รปู ที่ 7)เมื่อขดี ท้ังสองตรงกัน ล้อ หนา้ ท้ังสอง จะอยู่ในตำแหน่งตรงไปขา้ งหนา้ 1. ) หวั ข้อในการตรวจการปฏิบตั ิการสะเทินนำ้ มันสะเทินบก 1.1 ปดิ จุกระบายน้ำทีพ่ ืน้ รถใหค้ รบทกุ อัน 1.2 ปดิ ประตู และชอ่ งทางเข้า-ออก ทุกแห่งแลว้ ขัดกลอน 1.3 ปิดชอ่ งสำหรบั ยิงปนื และปดิ แผน่ ปดิ ห้องกวา้ นหนา้ แผ่นปิดตา่ ง ๆ ของหอ้ ง เครอ่ื งยนต์ แลว้ ขดั กลอน

ห น ้ า | 104 1.4 จัดเกียรต์ ่าง ๆ ใหร้ ถอยู่ลักษณะขับ 4 ล้อ 1.5 จัดเกยี ร์ช่วยอย่ใู นตำแหน่ง \"LOW\" 1.6 เปิดสวติ ชป์ ๊มั สบู น้ำ ตรวจวา่ มีลมเป่าออกจากทอ่ ทงิ้ น้ำ ทั้ง 2 ทอ่ 2.) การลงนำ้ ใช้เกียร์ 2 เคลื่อนท่ีลงน้ำอย่างช้า ๆ ทำมุมกับชายฝั่ง 90 องศาถ้าสามารถกระทำได้ หยุดรถเม่ือ ท้องรถอยู่ในน้ำ และล้อรถยังแตะพ้ืนดินแล้วตรวจการร่ัวไหลของน้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย แล้ว เร่ง เคร่ืองยนต์ เพื่อตรวจประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ จนมั่นใจแล้วจึงขับเคลื่อนรถต่อไปจนกระท่ังล้อพ้ืน พื้นดนิ และรถลอย ตวั อยู่ในน้ำแล้วจึงเปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 และเร่งเคร่ืองยนต์สูงสุด ถ้าพื้นน้ำราบเรียบไม่มี คลน่ื กระแทกกล้อง ตรวจการณ์ของพลขบั สามารถเปดิ ช่องทางเขา้ -ออกของผตู้ รวจการณ์และพลขับออก ได้ แตถ่ า้ ท้องน้ำทม่ี คี ล่ืน ควรจะปิดชอ่ งทางเข้า-ออก ดา้ นบนไว้ตลอดเวลา 3) การขน้ึ จากนำ้ ถ้าสามารถกระทำได้ให้ข้ึนจากน้ำที่ชายฝั่งไม่สูงชันจนเกินไปว่ิงเข้าหาชายฝ่ังด้วยความเร็ว เหมาะสมใน เกียร์ 3 เมื่อล้อหน้าสัมผัสพื้นดินแข็งจึงเร่งเคร่ืองยนต์ต่อไปตามต้องการเพื่อรักษาความเร็ว ของรถไว้ เครอ่ื งเปลยี่ นความเร็วจะลดลงเกียรต์ ำ่ โดยอัตโนมตั ิ 4.) ภายหลงั การปฏิบตั ิการสะเทินน้ำมันสะเทนิ บก 4.1 ปลดเพลาหน้าถ้าไมต่ ้องการใช้งานตอ่ ไป 4.2 เข้าเกียรช์ ว่ ยตำแหน่ง \"HI\" 4.3 เหยยี บหา้ มลอ้ หลาย ๆ ครั้ง เพอื่ ใหผ้ ้าหา้ มล้อแหง้ 4.4 ทนั ทีทีก่ ระทำไดภ้ ายหลงั ปฏบิ ตั กิ ารสะเทินน้ำสะเทินบก ควรจะอัดไขขน้ ทุกจุดภายนอกรถ เพื่อ ไล่น้ำและสิ่งสกปรกซ่ึงอาจจะเล็ดลอดเข้าไปในจุดหล่อล่ืน ถอดจุกถ่าย น้ำมัน หีบฟืองทดเล้ียว (DIFFERENTIAL) และตรวจดูว่ามีน้ำปนอยู่หรือไม่ 4.5 ถ้าใช้รถเกราะ คอมมานโด วี -150 ในน้ำเค็ม ต้องล้างรถให้ท่ัวทั้งภายในและภายนอก และ ล้างป๊ัมสูบน้ำด้วยน้ำจืดท่ีสะอาด น้ำเค็มจะทำให้เกิดสนิมและการผุกร่อนอย่างหนักจึง จำเป็นต้องล้าง นำ้ เคม็ และตะกอนของเกลอื ออกจากทุกสว่ นของรถให้หมด 5. การข้ามเครือ่ งกดี ขวางทางดง่ิ (รปู ท่ี 8) - รถเกราะ COMMANDO V-150 สามารถข้ามเครื่องกีดขวางทางดิ่งได้สูงถึง 24 นิ้วใน การ เตรยี มการข้ามเครอ่ื งกีดขวาง พลขับจะตอ้ งกดหน้าผากใหก้ ระชบั กับยางกนั กระแทกของกล้องตรวจการณ์ อนั หนา้ ข้อควรระวัง ผู้โดยสารและส่ิงอุปกรณ์จะต้องยึดตนให้ม่ันคงเพ่ือหลีกเล่ียงการบาดเจ็บ เมื่อรถกระแทกกับเครื่อง กดี ขวาง 1. ว่ิงรถเข้าหาเครื่องกีดขวางอย่างช้า ๆ ด้วยมุม 90 องศา ใช้เกียร์ 1 และ เข้าเกียร์ช่วยใน ตำแหน่ง \"LOW\" และขับ 4 ล้อ ส่วนล่างด้านหน้าของตัวรถจะสัมผัสกับเครื่องกีดขวางเป็นอันดับแรก แล้วดนั รถใหส้ งู ขนึ้ กอ่ นท่ีล้อหน้าจะสัมผัสกบั เคร่ืองกีดขวาง ให้เหยียบคันเรง่ จนสดุ หมายเหตุ ตอ้ งเหยยี บคันเร่งจนสุดตลอดเวลาจนกระท่ังรถปนี ขา้ มเครื่องกีดขวางสำเรจ็ 2. ขณะท่ีล้อหน้าไต่ขึ้นบนเคร่ืองกีด ขวาง จะดึงให้ส่วนหน้าของรถข้ึนไปบนเคร่ืองกีดขวาง ใต้ท้อง รถจะกระแทกกับเครื่องกีดขวางความเร็วของรถประกอบกับแรง กระแทกที่ใต้ท้องรถ จะช่วยดึง ล้อหลัง ขึ้นไปบนเครอื่ งกดี ขวาง หรือ ขา้ มเครอื่ งกีดขวางได้ 13. เคร่ืองเสริมการขับเคลือ่ น

ห น ้ า | 105 รถเกราะ COMMANDO V-150 ประกอบด้วยเฟืองเปลีย่ นทิศทาง แบบล็อกได้ ซ่ึงจะทำการขับ ล้อ ทุกล้อเป็นไปโดยสม่ำเสมอ และ ทำให้เฟืองเปลีย่ นทศิ ทางทำงาน ไดต้ ามต้องการ การทำงานของ รถท่ี มีเฟอื งทดเลี้ยวแบบล็อกได้ นั้น ต่างกบั รถทีม่ ีเฟืองทดเลย้ี ว แบบธรรมดา คอื 1) ขณะทเี่ ลีย้ วรถ จะได้ยนิ เสยี ง คลิ้ก ๆ ซึ่งเกิดจากการขบและการปลดของฟันเฟืองคลัทช์ ของ เฟืองทดเลี้ยว ซึ่ง อยู่ภายนอกคลัทช์ เสียงคลิ๊กนี้เป็นการทำงานตามปกติของชดุ เฟืองทด-เล้ียว แบบล็อก ได้ 2) อาการสะท้อนกลับของเฟืองทดเลี้ยวแบบล็อกได้ ไม่สามารถจัดปรับได้และจะไม่ เพ่ิมมากข้ึน จนสังเกตได้ชัด เนื่องจากการใช้งาน จำนวนของการสะท้อนกลับ ในระบบขับเคล่ือนจะเพ่ิมขึ้นเล็กน้อย เน่อื งจากอายกุ ารใช้งานซง่ึ จะทำให้ ชิ้นส่วนสกึ หรอตามปกติ 3) เมื่อขับรถทางตรง อาจจะได้ยินเสียงคลิ๊ก ถ้ายางมีขนาดวงรอบไม่เทา่ กัน ซึง่ แก้ไขได้ ดว้ ยการ เปลี่ยนยางให้มีขนาดวงรอบเท่ากัน ให้ตรวจความดนั ของลมยางตามระยะเวลา เพื่อให้ระยะจากพน้ื ดินถึง ขอบยางเทา่ กัน 4) ถ้ารถเอยี งไปข้างใดข้างหนึ่ง ให้ตรวจความดนั ลมยางและวงรอบของยาง อาการ เอียงของรถ จะรู้สึกได้จากการบังคับเล้ียวในขณะเร่งเครื่องและเบาเครื่อง ตรวจดูว่ารถไม่อยู่ในลักษณะขับ 4 ล้อ เมื่อ ขับอยูบ่ นผิวพ้นื แขง็ 5) เพราะเหตุว่า รถเกราะ COMMANDO V-150 มีรัศมีวงเล้ียวแคบมาก อาจจะเกิด ปฏิกิริยา ขณะที่ทำการเลี้ยวอย่างแรง ควรแก้ไขด้วยการผ่อนคันเร่งเพ่ือให้การ ขับเคล่ือนล้อเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ทำให้รถเลีย้ วไดอ้ ยา่ งนิม่ นวล 6) เม่ือขับบนพื้นที่ ๆ เป็นโคลนเลนถ้ายางเริ่มลื่น และความเร็วของรถเริ่มลดลงให้ ผ่อนคันเร่ง จนกระทัง่ ยางหยดุ การลืน่ ไถล แลว้ คอ่ ย ๆ เรง่ เคร่อื งยนตเ์ พม่ิ ข้นึ หมายเหตุ การขบั บนพ้นื ท่ีที่เป็นหล่มโคลนมาก ๆ ให้ลดความดันของลมยางให้เหลือ 15 ปอนด/์ ตร.นิ้ว เพอื่ ให้การเกาะพ้นื ดนิ เพมิ่ ขนึ้ 14. การลากจงู รถเกราะ คอมมานโด วี -150 1) เก่ียวขอลากจูงด้วยลวดลากจงู ท่เี หมาะสมหรือใช้คานลากจูง (TOW BAR) รูปท8ี่ 2) เล่ือนคันเกยี ร์ชว่ ยให้อย่ใู นตำแหนง่ วา่ ง (ตำแหน่งวา่ งอยทู่ ีช่ อ่ งบากอันกลางระหวา่ งเกยี ร์ \"HI\" และ \"LOW\" หรอื ถอดเพลาขบั หรอื ยกลอ้ ท่ีขบั เคลื่อนให้ พ้นจากพน้ื ดิน หมายเหตุ เคร่ืองยนตไ์ ม่สามารถจะติดได้โดยการเขน็ หรือลาก หมายเหตุ รถที่จะใช้ลากจะต้องมีกำลังอย่างเพียงพอท่ีจะลากน้ำหนัก 22,000 ปอนด์ ด้วยความ เร็ว 20 ไมล์/ชม. ขอ้ ควรระวัง เม่ือลากจูงรถเกราะ คอมมานโด วี -150 โดยไม่ได้ตดิ เคร่ืองยนต์ เครือ่ งทวี-กำลังบังคับเลยี้ ว (POWER STEERING) และเครื่องทวีกำลังห้ามล้อ (POWER BRAKE) จะไม่ทำงานการบังคับเลี้ยวและการ ห้ามลอ้ จะกระทำดว้ ยแรงของพลขบั เท่านัน้ 15. การเติมลอ่ ระบบน้ำมนั เชื้อเพลิงของเครอื่ งยนต์ (รูปที่ 10) รปู ที่ 10 การเตมิ ลอ่ นำ้ มันเช้ือเพลิง 1) เติมนำ้ มนั เชื้อเพลิงดว้ ยน้ำมัน ดเี ซล เบอร์ 2 2) เตมิ นำ้ มันเชอื้ เพลงิ ที่ปัม๊ นำ้ มัน ซง่ึ มจี กุ เติมอยูบ่ นป๊มั นำ้ มนั เชื้อเพลงิ 3) เติมน้ำมันเช้ือเพลงิ ลงในถังนำ้ มนั เชื้อเพลิง 4) ตดิ เคร่อื งยนต์ 16. การตดิ เคร่ืองยนตโ์ ดยใช้สายพ่วงแบตเตอร่ี

ห น ้ า | 106 1) ปิดสวติ ช์แบตเตอร่ี (OFF) เปดิ ฝาครอบเตา้ เสยี บสายพว่ งแบตเตอรี่ (รปู ท่ี 3 (๓)) 2) ต่อสายพ่วงแบตเตอร่ี กบั เต้าเสยี บ และตอ่ กบั แหลง่ จา่ ยกระแสไฟ ตรง 24 โวลท์ (ใชร้ ถเกราะ คอมมานโด วี - 150 อีกคนั หนง่ึ เป็นแหล่งจา่ ยกระแสไฟ) ขอ้ ควรระวัง จะตอ้ งตอ่ สายพ่วงแบตเตอรขี่ ้ัวบวกเขา้ กบั ขวั้ บวก ข้ัวลบเข้ากบั ขวั้ ลบ 3) เปิดสวิตชแ์ บตเตอร่แี ละติดเครอื่ งยนต์ 4) ถอดสายพว่ งแบตเตอร่ี และปิดฝาครอบเตา้ เสียบสายพ่วงแบตเตอร่ี 17. การใช้กวา้ น เมอื่ ใชก้ วา้ นเพือ่ ทำการฉดุ ลากรถเกราะ คอมมานโด วี -150 ซงึ่ ติดหลม่ ใหใ้ ช้กวา้ น อย่างเดยี ว เท่าน้ัน การใชล้ ้อรถขับช่วยพร้อมกับใช้กว้านดึงอาจจะทำให้ล้อรถจมลึกลงไปมากขึ้น เม่ือใช้รอกเปิดข้าง (SNATCH BLOCK) จะช่วยใหเ้ กดิ แรงดงึ เพิม่ ขึน้ 2 เทา่ ทำใหฉ้ ดุ ลากนำ้ หนักไดม้ ากขึ้น ( รูปท่ี 11) รูปที่ 11 การใช้รอกเปิดข้าง 1) ดันคนั คลทั ชข์ องล้อกว้านลงให้มากทส่ี ดุ เพ่ือปลดการตดิ ต่อเฟอื งคลทั ช์ ขอ้ ควรระวัง ควรสวมถงุ มอื หนังเสมอ เมือ่ จบั ถอื ลวดกวา้ น 2) ดึงลวดกว้านให้ตึงไวต้ ลอดเวลาขณะคลายลวดกวา้ นออกจากล้อกว้านเพ่ือให้ลวดกว้านตงึ อยู่ เสมอ และปอ้ งกนั มิใหล้ วดกวา้ นมว้ นไขว้กนั คำเตอื น อยา่ งนอ้ ยจะต้องเหลือลวดกวา้ นพันอยบู่ นลอ้ กวา้ นอย่างนอ้ ย 4 รอบ น้อตยดึ ลวดกวา้ นเพยี งอย่างเดยี วไมส่ ามารถจะทานแรงดึงได้ 3) ดึงคันคลัทช์ของล้อกว้านข้ึนเพ่ือต่อเฟืองคลัทช์ อาจจะต้องหมุนล้อกว้านไปถึง 180 องศา ก่อนทีเฟอื งคลทั ชจ์ ะจับ รูปท่ี 12 ห้องกว้าน 4) ดึงคันบังคับกว้าน และเร่งเครื่องยนต์ จนกระท่ังได้ความเร็วในการม้วนลวดกว้าน ความ ตอ้ งการ 5) มว้ นลวดกว้านเข้าจนสุดเพื่อรักษา กวา้ น โซ่ และขอเกีย่ ว หยดุ ลอ้ กวา้ น แล้ว พนั โซ่รอบมว้ นลวดกวา้ น หรอื จะเก่ยี วขอปลายลวดกว้านไว้กบั ห่วงยกรถแลว้ มว้ นลวดกวา้ นเข้าจนตึง 6) ดนั คนั คลทั ชล์ ้อกวา้ นลงเพื่อปลดการติดตอ่ เฟอื งคลทั ช์ 18. การระบายอากาศ รถเกราะคอมมานโดระบายอากาศได้ โดยการเปิดช่องระบายอากาศซึ่งติดอยู่ท่ีผนังห้อง เคร่ืองยนตห์ น้าช่องระบายอากาศเปดิ ขา้ งหลังและทำใหเ้ ครื่องยนตส์ ามารถดูดอากาศจากภายนอกรถ เม่ือ เปิดช่องสำหรับยิงปืนหรือช่องทางเข้าออก จำนวนของอากาศท่ีระบายออกไปแตกต่างกันไปตาม ความเร็วของเคร่ืองยนต์ เพื่อเป็นการระบายแก๊สขณะยิงปืนควรจะเปิดช่องระบายอากาศ และเปิด ช่อง สำหรบั ยงิ ปนื หรอื ช่องทางเข้า-ออกไว้ และติดเครอ่ื งยนต์ (รปู ที่ 13) 19. ประตูและช่องทางเข้าออก ประตูเปิดจากด้านข้าง และด้านหลังของรถเกราะคอมมานโด ชอ่ งทางเข้าออกเปดิ จาก ด้านบนประตู และชอ่ งทางเข้าออกสามารถขัดกลอนได้โดยใช้คนั หมนุ (รปู ท่ี 14) 1) ประตู คร่ึงบนของประตสู ามารถเปิดค้างได้อยา่ งเตม็ ทโ่ี ดยการขัดกลอน และ สามารถปดิ คา้ ง ได้เต็มท่ีโดยการขัดกลอน และสามารถปลดกลอนได้โดยการกดคันปลดกลอนภายในรถ ครึง่ ล่างของประตู

ห น ้ า | 107 ทุกบาน จะเปิดลงข้างล่างและใชเ้ ป็นบันได ประตูด้านข้างห้องเคร่ืองยนต์เปิดจากภายในห้องเคร่ืองยนต์ โดยจะต้องเปดิ ฝาปิดหอ้ งเคร่ืองยนต์ดา้ นหลงั เสียก่อน 2) ช่องทางเข้า-ออกของพลขับ ผู้ตรวจการณ์และช่องทางเข้า-ออกประกอบฐานปืน แบบ วงกลม ด้านหลงั ด้านบนของห้องพลขับ และผตู้ รวจการณฺ์มีชอ่ งทางเข้า-ออก 2 ช่อง เปดิ ได้ 180 องศา คันปิด-เปิด ติดตั้งอยู่ภายในรถ เพ่ือให้พลขับสามารถเปิด-ปิดช่องทางเข้า-ออกได้โดย ไม่ต้องออกจากรถ คันปิด-เปิดติดต้ังอยู่ข้างหลังของที่นั่งพลขับและผู้ตรวจการณ์ ช่องทางเข้า-ออกประกอบฐานปืนแบบ วงกลมด้านหลัง ติดต้ังอยู่ด้านหลังทางขวา ของด้านหน้า ช่องทางเข้า-ออก นี้เปิดข้ึนข้างบน สามารถปิด- เปดิ ได้ ไมว่ า่ ฐานปนื แบบวงกลมจะหมนุ อยใู่ นตำแหน่งใด (รูปท่ี 15) 3) ฝาปิดห้องเครอื่ งยนต์ ฝาปดิ หอ้ งเครื่องยนตม์ อี ยู่ 2 แหง่ เปดิ ไดจ้ ากภายนอกบนดาดฟ้า 20. ช่องยงิ ปืน (รปู ที่ 16) ชอ่ งยิงปนื เปิดหรือปิดได้โดยการคลายแปน้ เกลียว 2 อนั และเล่ือนแผน่ ปิดไปขา้ งหน้า หรือขา้ ง หลงั และขดั กลอนไดโ้ ดยการเลื่อนแผ่นปิด แลว้ หมนุ แป้นเกลยี วใหแ้ นน่ 21. ขอพว่ ง (รูปท่ี 17) ขอพ่วง เปิดได้โดยการถอดสลักนิรภยั และดึงคันปลดกลอนรูปตัว T การใชข้ อพ่วง จะต้องใส่สลัก นริ ภยั ทกุ ครั้ง 22. ขอลากจูง รถเกราะคอมมานโด มขี อลากจูงอยู่ 4 อนั ขา้ งหน้า 2 อัน และข้างหลงั 2 อัน 23. ห่วงสำหรบั ยกรถ ห่วงสำหรบั ยกรถมี 4 อนั เชื่อมติดอยทู่ ีม่ ุมของตวั รถเกราะคอมมานโดทงั้ 4 มมุ 24. เคร่ืองดับเพลิงประจำท่ี (รูปท่ี 18) เคร่ืองดับเพลงิ ในห้องเคร่อื งยนตบ์ งั คับการทำงานจากตำแหน่งของพลขับ การบังคับการ ทำงาน เคร่ืองดบั เพลงิ กระทำโดยการดงึ สลกั ออกและกดป่มุ บังคับการทำงาน ซ่งึ จะทำงานได้เพียงคร้ังเดยี ว สารเคมีจะพ่นออกจนหมด ขอ้ ควรระวัง ต้องหยุดรถ และดับเครื่องยนต์เสยี ก่อน มิฉนั้นพดั ลมระบายความรอ้ นของเครอื่ งยนต์ จะ เป่าสารดบั เพลงิ ออกไปจากห้องเครอื่ งยนตจ์ นหมด

ห น ้ า | 108 ตอนที่ 3 การซอ่ มบำรุง 7. การหลอ่ ล่นื 7.1 วัสดุสำหรบั การหล่อลนื่ 1) น้ำมนั สำหรับหล่อล่ืนเคร่ืองยนต์(OE) ซึ่งตรงกับมาตรฐานของสถาบันน้ำมันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) ซึ่งแนะนำให้ใช้กับรถเกราะคอมมานโดดีเซลก็คือ (CC MIL-L-2140)หรือน้ำมัน CC/SE และ CC/CD ตาม มาตรฐานสหรฐั ฯ กพ็ อใชไ้ ด้ และนำ้ มันหล่อลน่ื ท่ีจะใชต้ อ้ งมกี ำมะถนั ต่ำกว่า 1.85 % ความหนดื ของนำ้ มันเครื่อง อณุ หภมู ทิ ้องถ่ิน ความหนดื -10 ถงึ 30 องศา ฟ.(-23 ถงึ -1 องศา ซ.) 10 W 20 ถงึ 60 องศา ฟ.(-7 ถงึ 16 องศา ซ.) 20-20 W 40 องศา F. (4 C.) และสูงกว่า 30 W หมายเหตุ สำหรับการปฏิบัติงานในฤดูกาลที่มีอุณหภูมิท้องถิ่นต่ำกว่า 10 องศา ฟ.(-23 องศา ซ.) และไม่ สามารถจะรักษาอุณหภูมิของเคร่ืองยนต์ให้อุ่นอยู่ได้ถึงแม้ว่าจะปิดหม้อน้ำรังผ้ึงแล้วก็ตามน้ำมันหล่อล่ืน SAE MULTIGRADE 10 W - 20, 10 W - 30 หรือ 10 W - 40 อาจจะใช้ได้ น้ำมันหล่อลื่นแบบMULTIGRADE อาจจะใช้ในท้องถ่ินที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมาก ๆ ถ้าตรงกับมาตรฐานของ API และมีกำมะถันตามอัตราท่ี กำหนดไว้ 2) น้ำมันเครื่องเปล่ียนความเร็ว MIL-L 2104 เกรด 10 (OE-10)เป็นน้ำมันล่าสุดท่ีขอแนะนำ ให้ใช้ใน ท้องถิ่นท่ีมีอุณหภูมิสูงกว่า -10 องศา ฟ.(-23 องศา ซ.) HYDRAULIC TRANSMISSION FLUID TYPE C-3 หรือ DEXRON TRANSMISSION FLUID ใช้แทนได้ เม่ืออุณหภูมิโดยรอบ 0 องศา F. ถึง -65 องศา ฟ. (-18 องศา ซ. ถงึ -54 องศา ซ. ) น้ำมนั MIL-L-10295 เปน็ น้ำมันลา่ สดุ ท่ีแนะนำให้ใช้ หมายเหตุ ถา้ มีเคร่อื งชว่ ยอ่นุ นำ้ มนั เคร่ืองเปลยี่ นความเร็วจนกระทัง่ อา่ งนำ้ มันมอี ณุ หภูมถิ ึง -10 องศา ฟ. (-23 องศา ซ.) ขอแนะนำให้ใช้น้ำมัน MIL-L 2104 เกรด 10 เมื่อเปลี่ยนเกรดของน้ำมันท่ีแตกต่างกัน ก่อนจะ เตมิ น้ำมนั ชนดิ ใหม่ จะล้างเครื่องเปล่ียนความเรว็ ทงั้ ระบบดว้ ยน้ำมนั เกรดใหม่ทจี่ ะใชเ้ สยี กอ่ น ขอ้ ควรระวัง อยา่ ใช้น้ำมนั MIL-L-10295 เมื่ออุณหภูมิท้องถิ่นสงู กวา่ -10 ฟ. (-23 ซ.) 3) นำ้ มันห้ามล้อ (HB) ใหใ้ ชเ้ ฉพาะชนดิ HEAVY DUTY SAE 70 R-1,SAE 70-3 ไดแ้ ก่ - WAGNER LOCKHEED 21 B - SHELL DONAX B - TEXACO SUPER HEAVY DUTY 8970 - CALTEX BRAKE FLUID J1703 4) นำ้ มันเกียร์ (GO) น้ำมันเกียรเ์ อนกประสงคส์ ำหรบั API ไดแ้ ก่ GL-4 SAE 90, SAE 90-140 - ELCO 28 SAE 90 - SHELL SPIRAX HD 90 EP 90 - ESSO GEAR OIL LC - TEXACO GEAR LUBE HD 90 952 - MIL-L-2105 5) นำ้ มนั หลอ่ ลื่นเอนกประสงค์(PL) ตรงกันกับ MIL-L-3105 สำหรบั ใช้กับจดุ หล่อลื่นที่ หล่อลนื่ ดว้ ยการหยอดน้ำมัน 6) ไขข้นใช้กับโครงรถ(GAA) ไขขน้ เอนกประสงคค์ ุณภาพสูง ซ่งึ สามารถใชก้ ับลูกปนื ล้อเมื่อ จำเปน็ - MOBIL GREASE SPECIAL - SHELL RETINAX AM

ห น ้ า | 109 - TEXACO MARFAX ALL PURPOSE 1971 - SHELL DARINA AX - SHELL RETINAX H (ไขขน้ สำหรับลูกปนื ล้อ) หมายเหตุ อยา่ ใช้วสั ดุหล่อล่ืนต่างชนิดผสมกัน ข. คำสัง่ การหล่อลนื่ (รูปที่ 20) 1) คำสั่งการการหล่อลื่นประกอบด้วยจุดที่จะต้องทำการหล่อล่ืน ช่วงระยะเวลา และความ เหมาะสมใน การหลอ่ ล่นื 2) ทำการหล่อลื่นยานยนต์ถี่ขึ้นกว่ากำหนด ถ้าใช้ยานยนต์ในภาวะผิดปกติ เช่น หล่มโคลน ทราย ฝุ่น ความช้นื สงู อุณหภูมสิ งู และใชย้ านยนตต์ ดิ ตอ่ กนั เปน็ เวลานาน 3) หลังการลุยข้าม หรือปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก ทำการหล่อล่ืนจุดหล่อล่ืนภายนอก โครงรถ ทงั้ หมด หลอ่ ลน่ื ลวดสลงิ กว้าน และตรวจน้ำในหอ้ งเฟอื งเปลย่ี นทศิ ทาง ค. จดุ หยอดนำ้ มนั ทุก ๆ 1,000 ไมล์ (1,600 กม. ประจำเดือน หรอื ตามสภาพการใชง้ าน ทำการหล่อลื่น บานพับ และสลัก ยดึ กลอนประตู และชอ่ งทางเข้าออก คนั บังคบั สลกั คนั บังคับข้อตอ่ ลวดสลิง และ ส่วนเคลอ่ื นท่ขี องทนี่ ั่ง ง. ตารางเปรยี บเทียบ ประจำเดอื นหรือ 1,000 ไมล์ หรือ 1,600 กม.,ประจำ 3 เดือน หรอื 3,000 ไมล์ หรือ 4,800 กม., ประจำ 6 เดอื น หรอื 9,600 กม.หรอื 6,000 ไมล์, ประจำปี หรือ 12,000 ไมล์ หรอื 19,200 กม. -----------------------------------------

ห น ้ า | 110 รูปที่ 20 คำส่งั การหลอ่ ลื่น (1 ใน 3 ) รายการ วสั ดุ ความจุ การปฏิบัติ ชว่ งระยะเวลาและจำนวนไมล์ น้ำมนั หลอ่ ลืน่ (แล้วแต่อยา่ งไหนจะถึงกอ่ น) A - กว้าน GO - 90 1 1/4 ไปนต์ ตรวจและเตมิ ประจำเดือน หรือ 1,000 ไมล์ - ลวดกว้าน ( 0.6 ลติ ร ) ถ่ายและเตมิ ประจำ ปี หรือ 12,000 ไมล์ B - แมป่ มั๊ ห้ามลอ้ C - เพลาหน้า OE - 30 ทำความสะอาด ประจำ 6 เดือนหรือ 6,000 ไมล์ D - หบี เฟืองช่วย และชะโลมใหม่ E - เพลาหลัง HB ตามความจำเป็น ตรวจและเตมิ ประจำ 3 เดอื นหรอื 3,000ไมล์ F - นำ้ มนั เคร่ืองยนต์ GO - 90 22 ไปนต์ ตรวจและเติม ประจำ เดือนหรือ 1,000ไมล์ G - อา่ งนำ้ มันไฮดรอลกิ หรือ GO-140 (10.4 ลติ ร) ถ่าย และเตมิ ประจำ ปี หรือ 12,000 ไมล์ H - เคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว GO - 90 7 ควอต ตรวจและเตมิ ประจำ เดอื นหรอื 1,000ไมล์ (6.7 ลิตร) ถ่าย และเติม ประจำ ปี หรือ 12,000 ไมล์ GO - 90 22 ไปนต์ ตรวจและเติม ประจำ เดอื นหรอื 1,000ไมล์ หรือ GO-140 (10.4 ลติ ร) ถา่ ย และเติม ประจำ ปี หรอื 12,000 ไมล์ OE - 30 6 แกลลอน ตรวจและเตมิ ประจำวัน/ก่อนใช้งาน (22.8 ลติ ร) ถา่ ย และเติม ประจำ 3 เดอื นหรอื 3,000ไมล์ OE - 10 28 ควอต ตรวจและเตมิ ประจำ เดอื นหรอื 1,000ไมล์ (26.6 ลิตร) ถา่ ย และเติม ประจำ ปี หรอื 12,000 ไมล์ OE - 10 11 ควอต ตรวจและเติม ประจำวนั /ก่อนใช้งาน (10.5 ลิตร) ถา่ ย และเตมิ ประจำ ปี หรือ 12,000 ไมล์

ห น ้ า | 111 รูปที่ 20 คำส่ังการหล่อลน่ื (1 ใน 3 ) ตอ่ รายการ การปฏิบตั ิ ระยะเวลาและจำนวนไมล์ (แลว้ แตอ่ ย่างไหนจะถงึ ก่อน) หมอ้ กรอง J - หม้อกรองอากาศ ตรวจการอุดตนั ของหมอ้ กรองอากาศ ประจำวัน และเมื่อเครื่องบอก และบริการไส้กรองตามความจำเปน็ สภาพไสก้ รองอากาศเปน็ สีแดง K - นำ้ มันเครื่องยนต์ เปลย่ี นไส้กรอง ประจำ 3 เดอื นหรอื 6,000 ไมล์ หรอื 200 ชม. L - น้ำระบายความรอ้ น เปลย่ี นไส้กรองนำ้ ประจำ 3 เดือน หรอื 6,000 ไมล์ M - น้ำมนั เช้ือเพลงิ ถ่ายนำ้ และสิง่ ตกตะกอน ออกจากจกุ ตามสภาวะอากาศและปริมาณน้ำ (มไี ส้กรอง 2 ตัว) ถ่าย ใตห้ ม้อกรองฯ ที่ตรวจพบ ลา้ งและเปลี่ยนไสก้ รอง ประจำ 3 เดอื น หรอื 6,000 ไมล์ N - เครอ่ื งเปล่ยี นความเร็ว เปลย่ี นไส้กรองนำ้ มนั และซีลของทอ่ ประจำปีหรอื 12,000 ไมล์ ดดู นำ้ มนั ล้างหรือเปล่ียนตะแกรงกรองเคร่ือง ประจำปี หรอื 12,000 ไมล์ ควบคุมความเรว็ O - อ่างน้ำมนั ไฮดรอลกิ เปลย่ี นไสก้ รอง ประจำปี หรอื 12,000 ไมล์ รูปที่ 20 การหล่อลน่ื (1 ใน 3 ) ตอ่ วัสดุ จำนวนหวั ช่วงระยะเวลา รายการ หลอ่ ลน่ื อดั ไขขน้ (แล้วแตอ่ ย่างไหนจะครบกำหนดก่อน) ไขขน้ GAA 2 ประจำเดือน หรือ 1,000 ไมล์ A - กว้าน GAA 2 ประจำ 6 เดือน หรือ 6,000 ไมล์ GAA 6 ประจำเดือน หรือ 1,000 ไมล์ - ลอ้ กวา้ น GAA 2 ประจำปี หรือ 12,000 ไมล์ B - แหนบหน้า (ทำความสะอาดและอัดไขขน้ ใหม่) C - ลกู ปนื ลอ้ หนา้ และสะบ้าเลี้ยว GAA 11 ประจำเดือน หรอื 1,000 ไมล์ GAA 4 ประจำ 6 เดอื น หรือ 6,000 ไมล์ D - เพลาขบั และขอ้ ตอ่ อ่อน GAA 6 ประจำเดอื น หรอื 1,000 ไมล์ E - ขอ้ ต่อหีบเฟอื งช่วย GAA 2 ประจำเดอื น หรอื 1,000 ไมล์ F - แหนบหลัง GAA 2 ประจำเดือน หรอื 1,000 ไมล์ G - ขอพว่ ง GAA 6 ประจำเดือน หรือ 1,000 ไมล์ H - คันส่ง GAA 2 ประจำเดอื น หรือ 1,000 ไมล์ J - สลกั ล้อหนา้ และแขนสะบ้าเล้ยี ว GAA 1 ประจำปี หรือ 12,000 ไมล์ K - คนั ชัก L - ปลอกรองแกนพวงมาลยั

ห น ้ า | 112 8. การปรนนบิ ัติบำรงุ ก. ตารางที่ 1 เป็นตารางสำหรบั การตรวจสอบโดยเฉพาะ เพ่ือทำการปรนนบิ ตั ิบำรงุ บรกิ าร รวมถึงการ ค้นหาข้อขัดข้องทางไฟฟ้า และทางกล เพอื่ ให้มนั่ ใจไดว้ ่า ไดท้ ำการแก้ไขข้อขดั ข้องอยา่ งถกู ตอ้ ง ข. การตรวจและการบริการจะต้องกระทำทุกคร้ังที่ใช้รถเกราะ COMMANDO V-150 การบริการซ่ึงกระทำ เปน็ ปกตวิ สิ ยั จะทำใหส้ ามารถทราบได้ว่าระบบใดต้องทำการซ่อมบำรงุ ตอ่ ไป ตารางที่ 1 ตารางการปรนนบิ ัติบำรุงประจำวนั ชว่ งระยะเวลาและลำดบั การ ปบ. รายการท่ี การปฏบิ ตั ิ กอ่ นใชง้ าน ขณะใช้งาน หลงั ใช้งาน จะตอ้ งตรวจ 1 * น้ ำ มั น ห ล่ อ ลื่ น - ตรวจระดับน้ำมันเครื่องยนต์ เครื่องเปล่ียน แ ล ะ น้ ำระ บ าย ความเร็ว หีบเฟืองช่วย อ่างน้ำมันไฮดรอลิก ความรอ้ น และระดับน้ำในหม้อน้ำรังผ้ึง ตรวจการร่ัวไหล ของน้ำมันและนำ้ ลำดับในการตรวจนำ้ มันเครอ่ื งเปล่ียนความเรว็ ก. ทำความสะอาดฝาปิดช่องเติมน้ำมันก่อนจะ ดึงก้านวัดออกมา จะต้องไม่ให้สิ่งสกปรก และ ฝนุ่ ผงเข้าไปในระบบน้ำมนั ข. เขา้ เกียร์ วง่ิ รถจนกระทง่ั ไดอ้ ุณหภมู ิใช้งาน 57-90 องศา C.(160-220 องศา F.) หมายเหตุ นำ้ มันจะต้องอ่นุ จงึ จะตรวจระดับได้ อยา่ งถกู ต้อง ระดบั น้ำมนั จะสงู ขึน้ เมอ่ื อุณหภูมิ เพ่ิมขึน้ ค. จอดรถบนพ้นื ราบ ปลดเกียรว์ า่ ง (N) ปล่อย เคร่ืองยนตเ์ ดนิ เบา ง. ดึงหา้ มล้อมือ จ. ตรวจระดับน้ำมันหลงั จากทำความสะอาด กา้ นวดั แล้ว ฉ. ระดับนำ้ มนั ทป่ี ลอดภัยในการใช้งานจะตอ้ ง อยู่ในระหวา่ งขีด FULL และ ADD

ห น ้ า | 113 ตารางที่ 1 ตารางการปรนนบิ ตั ิบำรุงประจำวัน (ตอ่ ) ชว่ งระยะเวลาและลำดบั การ ปบ. รายการท่ี การปฏิบตั ิ ก่อนใชง้ าน ขณะใชง้ าน หลงั ใช้งาน จะตอ้ งตรวจ ช. ถ้าระดับน้ำมันไม่ถูกต้อง ทำการถ่าย หรือเติม ตามความจำเปน็ เพอื่ ให้ระดับนำ้ มนั อย่ทู ข่ี ีด FULL หมายเหตุ ถ้าระดบั น้ำมันตำ่ อยู่เสมอ หรือตำ่ มากจนผิดปกติ รายงานเจ้าหน้าทซี่ ่อมบำรุง - ตรวจระดับน้ำยาแบตเตอรี่ทกุ ช่อง ตรวจขว้ั 2 แบตเตอร่ี แบตเตอร่ี ท่ียึด ฐานรองรับ ตรวจความมน่ั คง และการผกุ ร่อน ขอ้ ควรระวงั กรดสามารถกัดกร่อนแผน่ เกราะ สายไฟ และท่อต่าง ๆ อย่าเติมน้ำยาเกิน ถ้าน้ำยา ไหลออกมาใหใ้ ชน้ ำ้ ล้าง แล้วถ่ายทง้ิ 3 ตรวจดูเคร่อื ง ตรวจดูวา่ มสี ีเขียว บอกความ สก ปรกของ หม้อกรอง อากาศ 4 สายพานพัดลม ตรวจการฉกี ขาด ชำรุด และความตึง 5 สายไฟ ตรวจความเรียบร้อยของสายไฟและขวั้ ต่อสายไฟ 6 เคร่อื งดับเพลิง ตรวจนำ้ ยาดับเพลิงบรรจุถกู ตอ้ ง และมตี ราประทบั 7 ยาง ตรวจดนู ๊อตลอ้ ขันถกู ตอ้ ง (350-400 ฟตุ /ปอนด)์ ความดนั ลมยางถูกต้อง เอาวตั ถทุ ี่ท่มิ ตำยางออก สังเกตการสกึ หรอผดิ ปกติ และตรวจฝาครอบท่ี เติมลม

ห น ้ า | 114 ตารางท่ี 1 ตารางการปรนนบิ ตั บิ ำรงุ ประจำวนั (ตอ่ ) ช่วงระยะเวลาและลำดับการ ปบ. รายการท่ี การปฏิบตั ิ ก่อนใช้งาน ขณะใช้งาน หลงั ใชง้ าน จะตอ้ งตรวจ 8 ระบบสง่ กำลงั ตรวจห้องเคร่อื งยนตด์ ูการรวั่ ไหลของนำ้ มัน เช้ือเพลิงน้ำมันเคร่ืองและน้ำตรวจใต้ห้องเฟือง เปล่ียนทิศทางและเพลาดูการร่ัวไหลของน้ำมัน เฟอื งหรอื นำ้ มนั ห้ามลอ้ 9 ตัวรถ ตรวจการชำรดุ ของตัวรถ ตรวจและทดลองการ ทำงานของประตชู อ่ งทางเข้า-ออก และกลอน ตรวจการหลวมคลอนของแผงเครอื่ งวัด และ ฝาครอบ ยางรอง ที่น่ัง และยางขอบประตู 10 ไฟและแตร ตรวจการทำงานของไฟทั้งหมด และแตร 11 มอเตอร์ สังเกตดูว่าถา้ มอเตอร์หมนุ เครอ่ื งยนตท์ ำงาน เครื่องยนต์ ปกติเครอ่ื งยนตจ์ ะตดิ ทนั ที โดยไมม่ เี สียงดัง ผดิ ปกติ 12 สวติ ช์นิรภัย ตรวจดูว่ามอเตอร์หมุนเครื่องยนต์ทำงานเม่ือ ของมอเตอร์หมนุ เกยี รอ์ ยใู่ นตำแหน่งวา่ งเท่านัน้ เคร่อื งยนต์ 13 * แผงเคร่ืองวัด ตรวจการทำงานตามปกตขิ องเคร่อื งวดั ข้อควรระวัง ถา้ ความดันนำ้ มนั เครื่องตำ่ กวา่ 10 ปอนด/์ ตร.นวิ้ ให้ดบั เคร่อื งยนตท์ ันที แล้วค้นหา สาเหตุ เม่ือเครื่องยนต์เดินเบาความดันน้ำมัน เคร่ืองตามปกติ 10-30 ปอนด์/ตร.น้ิว ขณะใช้ งานบนถนน ความดันน้ำมนั เคร่ืองควรจะได้ 45-85 ปอนด์/ตร.นวิ้

ห น ้ า | 115 ตารางท่ี 1 ตารางการปรนนบิ ัติบำรุงประจำวนั (ตอ่ ) ช่วงระยะเวลาและลำดบั การ ปบ. รายการท่ี การปฏบิ ัติ ก่อนใชง้ าน ขณะใชง้ าน หลงั ใช้งาน จะต้องตรวจ 14 * * ห้ามล้อ ตรวจเสียงดังผิดปกติของเครื่องทวกี ำลงั ห้ามลอ้ คันห้ามล้อลกึ ผิดปกติ ห้ามลอ้ แตล่ ะข้างจบั ไม่ เทา่ กนั หรือไมม่ ีกำลังห้ามลอ้ ตรวจห้ามล้อมอื ว่าสามารถใชง้ านได้ 15 * เครอื่ งบังคับเล้ียว ตรวจเครอ่ื งทวกี ำลงั บังคับเลีย้ ว เพื่อให้แน่ใจ ว่าไม่ ติ ด ขั ด ห รือ เลี้ ย วผิ ด ป ก ติ ลิ้ น ระ บ าย ค วาม ดนั ควรจะทำงานเมื่อสุดวงเล้ยี ว 16 * * เครื่องยนต์ ฟังเสียงผิดปกตขิ ณะท่เี ครอ่ื งยนตร์ บั ภารกรรม เร่งความเร็วของรถในตำแห น่งเกียร์ต่างๆ ว่าถกู ต้องแต่อยา่ เรง่ เครือ่ งจนถึงยา่ นความเร็ว สงู สดุ ทคี่ วบคุมไว้ 17 * เครอื่ งเปล่ียน ตรวจการเขา้ เกียร์ จะตอ้ งเขา้ ไดเ้ รยี บร้อย ความเรว็ ทุกตำแหน่งเกยี ร์ 18 หีบเฟอื งช่วย ตรวจการเข้าเพลาหน้าการปลดเพลาหน้า และการเข้าเกียรช์ ว่ ยในตำแหน่ง LOW-HIGH 19 ยางกนั น้ำมนั ตรวจดูการชำรดุ 20 กวา้ น ตรวจการทำงานของคันบังคบั กวา้ น 21 * หม้อน้ำ ขอ้ ควรระวัง ตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวังเป็นพิเศษ เม่ือจะเปดิ ฝาปิดหม้อน้ำตรวจการอุดตันหรือคดงอ ของท่อน้ำ ตรวจปะเกน็ ฝาปิดหม้อน้ำ สังเกตระดบั นำ้ และความสะอาดของนำ้ หมายเหตุ เมื่อจะเติมนำ้ ขณะทีเ่ คร่ืองยนตร์ อ้ นจัด จะต้องตดิ เครื่องยนต์เดินเบาแล้วเตมิ น้ำอย่างชา้ ๆ

ห น ้ า | 116 ตารางท่ี 1 ตารางการปรนนิบตั ิบำรุงประจำวัน (ตอ่ ) ช่วงระยะเวลาและลำดบั การ ปบ. รายการท่ี การปฏิบตั ิ กอ่ นใช้งาน ขณะใชง้ าน หลังใชง้ าน จะต้องตรวจ 22 กล้องตรวจการณ์ ทำความสะอาดเพ่ือปอ้ งกันมใิ ห้ โคลน ทราย ทัง้ ดา้ นนอกรถ ทงั้ ไขขน้ และน้ำมันเครอ่ื งตดิ สะสมอยู่ และในรถ 23 ถังนำ้ มันเช้อื เพลิง เตมิ น้ำมนั ใหเ้ ต็มถังอย่เู สมอเพ่อื ป้องกันมิใหเ้ กดิ การกลน่ั ตวั เปน็ หยดน้ำ 9. การแก้ไขขอ้ ขดั ขอ้ ง ก. ขอบเขต ในตอนน้ี ประกอบด้วยรายละเอียดของข้อขัดข้อง เพ่ือเป็นแนวทางในการค้นหาองค์ประกอบ ท่ีชำรุด และการแก้ไข ซ่ึงอาจจะทำใหก้ ารชำรดุ เพ่มิ มากขนึ้ ถา้ ไมไ่ ดร้ ับการแก้ไขอย่างถูกตอ้ ง คู่มือ เล่มนี้ ไม่สามารถจะ รวบรวมรายละเอยี ดของการชำรุด ซ่ึงอาจจะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งการทดสอบ การตรวจ และการแก้ไขท้ังหมด ได้ ถ้าอาการผิดปกตไิ ม่มีอยู่ในรายการ (นอกเหนือจากว่าอาการ ผดิ ปกติ และสาเหตุจะเห็นเด่นชัด) หรือไม่มี รายละเอยี ดในการแก้ไข ให้รายงานเจ้าหนา้ ทีซ่ ่อม บำรงุ ข. การปฏิบัติ ตารางที่ 2 เป็นรายการผิดปกติของเครื่องยนต์ หรือองค์ประกอบ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นใน ระหว่างการใช้ งาน รายการผิดปกติแต่ละรายการ สำหรับองค์ประกอบ หรือระบบแต่ละระบบ จะ ประกอบด้วยรายการ ทดสอบ หรือการตรวจ และการแก้ไข

ห น ้ า | 117 ตารางท่ี 2 การแกไ้ ขขอ้ ขัดข้อง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อขัดขอ้ ง การทดสอบ หรือการตรวจ การแกไ้ ข ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เครอื่ งยนต์ ( ENGINE) 1. เครื่องยนตไ์ ม่หมนุ เมอ่ื เปดิ สวติ ช์หมุนเครือ่ งยนต์ ขัน้ ท่ี 1 ไมไ่ ดเ้ ปิดสวิตชแ์ บตเตอรี่ เปิดสวติ ชแ์ บตเตอรี่ ข้ันที่ 2 เกียร์ไม่ไดอ้ ยใู่ นตำแหนง่ ว่าง ปลดเกยี ร์วา่ ง ขั้นที่ 3 สายไฟแบตเตอรีห่ รอื ขัว้ แบตเตอร่ีหลวม ขนั สายไฟ หรือข้ัวแบตเตอร่ใี ห้แนน่ ขั้นท่ี 4 แบตเตอรไ่ี มม่ ีประจไุ ฟฟ้า ประจไุ ฟ หรอื เปลี่ยนแบตเตอรี่ ข้นั ที่ 4 สวติ ช์นริ ภัยของมอเตอรห์ มุนเครือ่ งยนตช์ ำรดุ หรือปรับไม่ถกู ตอ้ ง ปรบั หรอื เปล่ยี นสวติ ช์นิรภยั ของมอเตอร์หมุนเครอ่ื งยนต์ ถูกต้อง 2. เคร่อื งยนต์หมนุ แต่ไมต่ ิด ข้ันท่ี 1 น้ำมันเชื้อเพลิงในถงั ไม่มี เติมนำ้ มันเช้อื เพลงิ ขั้นท่ี 2 เปิดลนิ้ นำ้ มนั เชื้อเพลงิ ไมถ่ กู ต้อง เปิดลิน้ นำ้ มนั เชื้อเพลิงตามตำแหน่งของถังนำ้ มนั เชอ้ื เพลิงท่มี นี ้ำมัน ข้นั ท่ี 3 ระบบไอดขี องเครือ่ งยนต์อดุ ตัน ตรวจการอดุ ตนั ของระบบไอดี ขั้นที่ 4 ระบบนำ้ มนั เชอื้ เพลงิ รั่ว ขัน เปล่ยี น หรือซอ่ มท่อนำ้ มันเชอ้ื เพลงิ หรือข้อต่อทีร่ วั่ ตารางท่ี 2 การแกไ้ ขข้อขัดขอ้ ง ( ตอ่ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อขัดข้อง การทดสอบ หรือการตรวจ การแก้ไข ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เครอ่ื งยนต์ ( ENGINE) (ตอ่ ) ขั้นที่ 5 มีน้ำอยใู่ นนำ้ มันเชือ้ เพลงิ ตรวจนำ้ ที่จกุ ถ่ายของเคร่อื งแยกนำ้ 3. เครือ่ งยนตต์ ดิ แลว้ ดับ ขน้ั ที่ 1 เปดิ ลิ้นนำ้ มันเชื้อเพลิงไมถ่ กู ต้อง เปิดล้ินนำ้ มันเชอื้ เพลิงตามตำแหน่งของถังทม่ี ีนำ้ มนั ขน้ั ที่ 2 หมอ้ กรองอากาศตนั เปล่ยี นไสก้ รองอากาศ ขั้นท่ี 3 นำ้ มนั เช้ือเพลงิ รั่ว ขัน เปลยี่ นหรือซ่อมทอ่ น้ำมนั เชื้อเพลิงหรอื ข้อตอ่ ที่ร่วั

ห น ้ า | 118 ข้ันท่ี 4 มีนำ้ อยใู่ นนำ้ มันเช้ือเพลิง ตรวจนำ้ ท่ีจุกถ่ายของเครื่องแยกน้ำ 4. เครื่องยนตไ์ ม่มีกำลงั หรือรอบของเครือ่ งยนตไ์ ม่ไดต้ ามกำหนด ขนั้ ที่ 1 ไอดหี รอื ไอเสียอดุ ตัน ตรวจการอุดตนั ของไอดหี รือไอเสยี ขัน้ ท่ี 2 น้ำมันเช้อื เพลงิ ร่ัว ขัน เปลยี่ น หรือซ่อมท่อนำ้ มันเชือ้ เพลงิ หรือขอ้ ตอ่ ท่รี ่วั ขน้ั ท่ี 3 มนี ้ำอยู่ในน้ำมันเชือ้ เพลิง ตรวจนำ้ ท่ีจกุ ถ่ายของเคร่อื งแยกน้ำ 5. เครือ่ งยนตร์ อ้ นจดั เกนิ ไป ขอ้ ควรระวงั ใชค้ วามระมัดระวงั เปน็ พเิ ศษเมื่อจะเปิดฝาปิดหม้อนำ้ การเติมนำ้ ในขณะท่เี ครื่องยนตร์ ้อนจัด ให้เดนิ เบาเครือ่ งยนต์ไวแ้ ละเติมนำ้ ช้า ๆ ตารางท่ี 2 การแกไ้ ขขอ้ ขดั ขอ้ ง ( ตอ่ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ขอ้ ขดั ข้อง การทดสอบ หรอื การตรวจ การแกไ้ ข ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เคร่ืองยนต์ ( ENGINE) (ตอ่ ) 5. เครอื่ งยนต์รอ้ นจัดเกินไป ( ต่อ ) ขน้ั ที่ 1 ระดบั นำ้ ในหมอ้ น้ำรงั ผ้ึงต่ำ เตมิ น้ำในหมอ้ นำ้ รงั ผง้ึ ขน้ั ที่ 2 ฝาปิดหอ้ งเครอ่ื งยนต์ดา้ นบนและด้านขา้ งเปดิ อยู่ หรือแผงปิดห้องเคร่อื งยนต์ ไม่มี ปดิ ฝาปิดห้องเครอ่ื งยนต์ หรอื เปล่ียนแผงปิดห้องเคร่ืองยนตภ์ ายในรถ ข้นั ท่ี 3 ระดับนำ้ มนั เครื่องยนตใ์ นหอ้ งเพลาข้อเหว่ียงตำ่ เติมนำ้ มันเครื่องยนตใ์ หไ้ ดร้ ะดับตามขีดของกา้ นวัดน้ำมันเคร่อื ง ขน้ั ที่ 4 สายพานพดั ลมหย่อนหรอื ขาด เปล่ยี นหรอื ปรับสายพานพดั ลม ข้นั ท่ี 5 ท่อนำ้ ของหมอ้ น้ำรังผึ้งอุดตนั หรอื คดงอ ทำความสะอาดหรอื ซ่อมทอ่ น้ำของหมอ้ นำ้ รังผ้ึง 6. เครื่องยนต์กินน้ำมันเครอ่ื งมากผิดปกติ ขน้ั ท่ี 1 นำ้ มนั เครื่องยนต์รั่ว ตรวจการรั่วไหลของน้ำมันเครอื่ งดว้ ยสายตา ถ้าพบรอยรัว่ รายงานให้เจา้ หนา้ ที่ ซอ่ มบำรงุ ทราบ ข้ันท่ี 2 ใช้น้ำมันเคร่ืองยนตผ์ ดิ เกรด เปล่ยี นน้ำมนั เคร่ืองตามเกรดที่กำหนดไว้ในแผนการหลอ่ ลื่น ขน้ั ที่ 3 เตมิ นำ้ มนั เครอ่ื งยนตม์ ากเกนิ ไป ถ่ายน้ำมนั เคร่ืองออกใหไ้ ด้ระดับ

ห น ้ า | 119 ตารางที่ 2 การแก้ไขข้อขดั ขอ้ ง ( ตอ่ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ขอ้ ขัดข้อง การทดสอบ หรอื การตรวจ การแกไ้ ข ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เคร่ืองยนต์ ( ENGINE) (ตอ่ ) 7. กนิ น้ำมนั เชื้อเพลิงมากเกนิ ไป ขนั้ ที่ 1 ขับรถไม่ถกู ต้อง ดคู ำแนะนำในการขบั รถ ขั้นที่ 2 ไส้กรองอากาศสกปรก เปลี่ยนไส้กรองอากาศ ขน้ั ท่ี 3 น้ำมนั เชือ้ เพลิงรัว่ ขัน เปลีย่ นหรอื หรอื ซ่อมทอ่ นำ้ มนั เชอ้ื เพลิงหรอื ข้อต่อทรี่ ัว่ ระบบไอเสีย (EXHAUST SYSTEM) 8. ไอเสยี รวั่ เขา้ ไปในรถ ข้ันที่ 1 สายพานพดั ลมหย่อนหรือขาด ปรบั หรอื เปลย่ี นสายพานพดั ลม ระบบหมุนเคร่อื งยนต์ (STARTING SYSTEM) 9. มอเตอรห์ มุนเครือ่ งยนตไ์ มท่ ำงาน มเี สยี งดงั หรอื หมุนช้า ขัน้ ท่ี 1 นอ๊ ตฐานตดิ ตง้ั มอเตอร์หมุนเครอื่ งยนตห์ ายหรือหลวม เปล่ยี นหรือขนั น๊อตฐานติดตง้ั ขัน้ ที่ 2 ไมม่ กี ำลังที่จะหมนุ เคร่อื งยนต์ บรกิ ารหรือทดสอบแบตเตอร่ี ตรวจการผกุ รอ่ นของสายไฟและขันใหแ้ น่น ตรวจ สวิตช์นิรภัยของมอเตอรห์ มุนเคร่ืองยนตว์ า่ ทำงานถกู ต้อง ตารางที่ 2 การแก้ไขขอ้ ขดั ขอ้ ง ( ตอ่ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อขดั ขอ้ ง การทดสอบ หรือการตรวจ การแก้ไข ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การบงั คบั เลีย้ ว (STEERING) 10. บงั คบั เล้ยี วหนกั แรง ขั้นท่ี 1 ยางไมม่ ลี ม สูบลมหรือปะยาง ข้ันที่ 2 ระดับนำ้ มันในอา่ งนำ้ มันไฮดรอลกิ ตำ่ เติมน้ำมันในอา่ งนำ้ มันไฮดรอลิกให้ระดับถกู ต้อง ขั้นท่ี 3 ขาดการหลอ่ ลืน่ หลอ่ ลื่นเพลาหนา้ และระบบบงั คับเลี้ยว

ห น ้ า | 120 11. รถสา่ ยไปมา ขัน้ ที่ 1 สูบลมยางไมเ่ ทา่ กนั วัดลมยางดว้ ยเคร่อื งวัดที่ถูกตอ้ ง และเติมลมให้ได้ตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด ห้ามลอ้ (BRAKING) 12. รถเซไปขา้ งใดขา้ งหนงึ่ เม่อื เหยยี บหา้ มล้อ ขนั้ ที่ 1 สูบลมยางไมถ่ ูกตอ้ ง สูบลมยางใหถ้ กู ต้อง ข้นั ที่ 2 ปรับหา้ มล้อไมถ่ กู ต้อง ปรับห้ามล้อใหถ้ กู ต้อง 13. ห้ามล้อมอื ติดหรือร้อนจัด ขั้นที่ 1 ปลดห้ามลอ้ มอื ไมส่ ดุ ปลดหา้ มล้อมอื ใหส้ ุด ตารางท่ี 2 การแกไ้ ขข้อขัดขอ้ ง ( ตอ่ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อขดั ข้อง การทดสอบ หรอื การตรวจ การแก้ไข ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เพลาหลงั (REAR AXLE) 14. เพลามเี สยี งดังตลอดเวลา ขน้ั ที่ 1 สบู ลมยางไม่ถูกต้องหรือสบู ลมไม่เทา่ กัน ถา้ เสียงดงั ทเี่ กิดขนึ้ เป็นเหตเุ พราะยาง เมอื่ ขบั รถบนถนนท่มี ีผวิ อ่อนเสียงดังนนั้ จะหายไป สูบลมยางใหเ้ ท่ากัน ลอ้ ยางและดุมล้อ ( WHEEL HUB AND TIRE) 15. ลอ้ สั่น ข้ันท่ี 1 นอ๊ ตล้อหลวม ขนั นอ๊ ตลอ้ ดว้ ยแรงบิดทีถ่ กู ตอ้ ง ข้ันที่ 2 ลอ้ คด เปลย่ี นลอ้ *************

ห น ้ า | 121 วชิ า การใช้และซ่อมบารุง รถกู้ 5 ตนั เอม็ 543 และ เอม็ 543 เอ 2 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดศิ ร สระบุรี

ห น ้ า | 122 แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารมา้ ศูนยก์ ารทหารมา้ ค่ายอดิศร สระบุรี ---------- เอกสารนำ วิชา การใช้ และการปรนนบิ ัตบิ ำรงุ รถกู้ 5 ตนั 6 x 6 M543 และ M543A2 1. ข้อแนะนำในการศึกษา วิชานี้ทำการสอนเชงิ ประชมุ , สาธิต, ฝึกปฏบิ ตั ิการใช้งาน รถกู้ 5 ตัน และการปรนนิบตั ิบำรงุ ในหน้าที่ ของพลประจำรถ 2. หัวขอ้ สำคญั ในการศึกษา 2.1 คณุ ลกั ษณะขดี ความสามารถของรถกู้ 5 ตนั 2.2 คณุ ลักษณะและการทำงานของเคร่อื งยนต์ดีเซล MULTIFUEL 2.3 การปรนนิบัติบำรุงขนั้ ที่ 1 2.4 รายการตรวจสอบการ ปบ.ประจำวัน 2.5 การลุยขา้ มน้ำ 2.6 การใช้งานอปุ กรณก์ ู้ซ่อมประจำรถกู้ 5 ตัน 2.7 ความรบั ผดิ ชอบของพลประจำรถในการ ปบ.ข้ันท่ี 1 2.8 เครือ่ งมอื เครอื่ งใช้ประจำรถกู้ 5 ตัน 3. งานมอบ ให้นักเรียนอา่ นเอกสารเพิม่ เติม และ คท.9-2320-211-10 เดือน เม.ย.1973 และ คล.9-2320-211- 12 ฉบับ เดอื น พ.ย.2519 (ค.ศ.1976) 4. คำแนะนำพเิ ศษ ใหน้ ักเรียนนำเอกสารเพ่มิ เตมิ และคมู่ ือทางเทคนิคประจำรถมาเป็นหลักฐานประกอบการศึกษา 5. เอกสารทจ่ี า่ ยพร้อมเอกสารนำ เอกสารเพ่ิมเตมิ **************

ห น ้ า | 123 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารมา้ ค่ายอดศิ ร สระบุรี ---------- เอกสารเพมิ่ เตมิ วิชา การใช้ และการปรนนบิ ัติบำรงุ บำรงุ รถกู้ 5 ตัน 6 x 6 M543 และ M543A2 คุณลกั ษณะโดยท่ัวไป รถกู้ 5 ตนั 6 x 6 M543 และ M543A2 เปน็ รถก้ขู นาดกลาง ใชส้ นับสนนุ การซ่อมบำรุง และการก้ซู อ่ ม ท่ัวไป โดยออกแบบให้ใช้ได้กับสภาพถนนทุกประเภท ในภูมิประเทศและในทุกสภาวะอากาศ สามารถลุยข้าม น้ำท่ีมีพ้ืนใต้ท้องน้ำแข็ง ได้ลึก 30 น้ิวเครื่องเปลี่ยนความเร็วมีความเร็วเดินหน้า 5 ตำแหน่ง มีเครื่องเพิ่มเพลา ขับเพอื่ ส่งกำลังขบั ไปยังเพลาลอ้ หลงั และเพลาล้อหนา้ ซึ่งสามารถเลือกใชง้ านได้ 3 ตำแหน่ง ระบบห้ามล้อเป็น แบบทำงานด้วยของเหลว และมีเครื่องทวีกำลังห้ามล้อทำงานด้วยลม ระบบบังคับเลี้ยวประกอบด้วยระบบ กำลังไฮดรอลกิ ผา้ ใบหลงั คาหอ้ งพลขบั โครงหลังคา และกระจกบังลมสามารถพับเก็บได้ รถกู้ M543 เป็นรถกู้รุ่นแรกใช้เคร่ืองยนต์แก๊สโซลีน 6 กระบอกสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ CONTINENTAL R 6602 กำลัง 224 แรงมา้ เม่อื เคร่ืองยนต์หมนุ 2,800 รอบ/นาที รถกู้ M543A2 เป็นรถรุ่นหลัง ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น จะได้รับการติดต้ังเครื่องยนต์ดีเซล 6 กระบอกสูบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว จุดระเบิดด้วยกำลังอัด มีเคร่ืองเพิ่มไอดี แบบ LDS 435-1A ให้กำลัง 175 - 180 แรงม้า เมื่อเครื่องยนต์หมุน 2,600 รอบ/นาที เครื่องยนต์ดีเซลนี้สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลาย ประเภท \"MULTIFUEL\" นอกจากเคร่ืองยนต์แล้วองค์ประกอบของระบบต่าง ๆ และอุปกรณ์กู้ซ่อมประจำรถ เปน็ แบบเดียวกันกับรถกู้ M543 รายละเอยี ด 1. ขบวนสง่ กำลงั ประกอบด้วยองคป์ ระกอบต่าง ๆ คอื 1.1 เครือ่ งยนตแ์ กส๊ โซลนี 6 กระบอกสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ CONTINENTAL R 6602 มกี ำลัง 224 แรงมา้ เมือ่ เคร่ืองยนต์หมุน 2,800 รอบ/นาที 1.2 เครื่องยนต์ดีเซล 6 กระบอกสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ จุดระเบิดด้วยกำลังอัด มีเคร่ืองเพิ่มไอดี แบบ LDS 465-1A มีกำลัง 175 - 180 แรงม้า เมอ่ื เครอื่ งยนตห์ มุน 2,600 รอบ/นาที 2. เคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว มีความเร็วเดินหน้า 5 ความเร็ว ติดตั้งอยู่กับเรือนล้อตุนกำลังของเคร่ืองยนต์ กำลังของเคร่ืองยนต์จะถูกส่งต่อเข้าไปยังเพลาคลัตช์ของเครื่องเปลี่ยนความเร็ว การเปล่ียนตำแหน่งเกียร์ต่าง ๆ ทำไดโ้ ดยใชค้ นั บงั คบั ซ่ึงอยใู่ นห้องพลขบั 3. เครื่องเพิ่มเพลาขับ (TRANSFER) มีหน้าที่รับกำลังขับจากเครื่องเปล่ียนความเร็ว แล้วส่งกำลังต่อไปยัง เพลาล้อหลังและเพลาล้อหน้าของรถ เครื่องเพิ่มเพลาขับมีคันบังคับใช้งานอยู่ในห้องพลขับ และมีตำแหน่งใช้ งาน 3 ตำแหน่ง คือ HIGH, LOW, N ( สูง, ตำ่ และว่าง ) - ตำแหนง่ \" HIGH \" ใช้ในการขบั เคล่ือนบนถนน เมือ่ ต้องการความเร็วสงู - ตำแหนง่ \"LOW \" ใชใ้ นการขบั เคล่อื นในกรณีท่ีต้องการกำลังฉดุ ลากมากย่งิ ขึน้ หรอื ในการปฏบิ ตั กิ ารใน ภมู ิประเทศทีย่ ากลำบาก - ตำแหน่ง\"N \" ใช้ในเม่ือต้องการส่งกำลังขับจากเคร่ืองยนต์ผ่านเคร่ืองเปล่ียนความเร็ว และเครื่องเพิ่มเพลา ขับไปยังกว้านหลังและปั้นจ่ัน ในตำแหน่ง \" N \" น้ี รถจะไม่เคลื่อนท่ีไม่ว่าคันบังคับของเคร่ืองเปล่ียนความเร็ว จะอยู่ในตำแหน่งเกยี รเ์ ดนิ หนา้ หรอื ถอยหลงั

ห น ้ า | 124 ทางด้านหน้าของเคร่ืองเพม่ิ เพลาขบั จะมีเครอื่ งขับเพลาหน้าอตั โนมตั ิ ติดตัง้ อยูด่ ้วย เครื่องอุปกรณ์น้ีจะทำ หน้าท่ีส่งกำลังขับไปยังเพลาล้อหน้า ในกรณีที่ล้อหลังท้ังคู่ ล้อใดล้อหนึ่งเกิดการลื่นไถล หรือหมุนฟรี เน่ืองจากเสียการเกาะพ้ืน และจะทำงานตลอดไปจนกว่าล้อหลังจะมีการขับเคลื่อนตามปกติแล้วจึงจะตดั กำลัง ขับไปยังเพลาล้อหน้าโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกัน ทั้งน้ีไม่ว่าคันบังคับเคร่ืองเพ่ิมเพลาขับจะอยู่ในตำแหน่ง HIGH หรือ LOW กต็ าม 4. เพลาขับ และข้อต่ออ่อน กำลังที่ส่งจากเคร่ืองเปลี่ยนความเร็วไปยังเคร่ืองเพ่ิมเพลาขับ, เพลาล้อหน้า, เพลาล้อหลังตัวหน้า และเพลาล้อหลังตัวหลัง จะถูกส่งผ่านเพลาขับ และปลายท้ังสองข้างของเพลาขับ จะ ประกอบด้วยข้อต่ออ่อนและข้อต่อเล่ือนได้ เพลาขับ และข้อต่ออ่อนเหล่าน้ีจะยึดติดกับองค์ประกอบต่าง ๆ ของขบวนการสง่ กำลังด้วยสลกั เกลียวเข้ากับหนา้ แปลนของจานขบั และจานรบั กำลังขององค์ประกอบนั้น ๆ 5. เพลาล้อหลัง เป็นเพลาคู่ติดตงั้ เรียงกันตามลำดับโดยยึดโยงต่อกันไวด้ ้วยแขนรับแรงบิด กำลังขับจะถูกส่ง จากเคร่ืองเพิ่มเพลาขับผ่านเพลาขับ และข้อต่ออ่อนมายังเพลาล้อหลังตัวหน้า และส่งผ่านเพลาขับต่ออ่อนอีก ชดุ หนึง่ ไปยงั เพลาล้อหลงั ตวั หลัง 6. เพลาล้อหน้า เป็นเพลาเดี่ยวมีหีบเฟืองทดเล้ียว ซ่ึงทำให้สามารถรับกำลังขับจากเคร่ืองเพ่ิมเพลาขับมา ขับเคล่ือนล้อหน้า และด้านปลายท้ังสองด้านของเพลาล้อหน้าจะมีสะบ้าเลี้ยว และข้อต่ออ่อนความเร็วคงที่ เพอ่ื ให้ทำการบงั คับเลยี้ ว ในขณะมกี ารขบั เคลอ่ื นลอ้ หนา้ ได้ 7. ระบบนำ้ มันเช้ือเพลงิ 7.1 ระบบน้ำมันเช้ือเพลิงของเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีนจะประกอบด้วย ถังน้ำมันเช้ือเพลิงจำนวน 2 ถัง ติดตั้ง อยู่กับโครงรถท้ังสองด้าน ถังซ้ายมีความจุ 78 แกลลอน และถังขวามีความจุ 55 แกลลอน, หม้อกรองน้ำมัน เชื้อเพลิง 2 ตัว, ป๊ัมน้ำมันเชื้อเพลิง, คาร์บูเรเตอร์ และเครื่องควบคุมความเร็ว, เข็มวัดปริมาณน้ำมันเช้ือเพลิง, ลิ้นจ่ายนำ้ มันเชื้อเพลิง และทอ่ ทางเดินนำ้ มันเชอ้ื เพลิง 7.2 ระบบน้ำมันเช้ือเพลิงของเคร่ืองยนต์ดีเซล ประกอบด้วย ถังน้ำมันเช้ือเพลิง 2 ถัง, หม้อกรองน้ำมัน เช้ือเพลิง 3 ตวั ,ปั๊มไฟฟ้า, ปัม๊ ปอ้ นน้ำมนั เช้ือเพลิง, ปม๊ั สูบฉีดน้ำมันเช้อื เพลงิ , ทอ่ นำ้ มนั ความดันสงู , หวั ฉีดนำ้ มัน เช้ือเพลิง, เข็มวัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง, ป๊ัมไฟฟ้าถ่ายเทน้ำมันเชื้อเพลิง และท่อทางเดินต่าง ๆ ของระบบ นำ้ มนั เช้อื เพลงิ 8. ระบบอากาศ 8.1 เครื่องยนต์แก๊สโซลีน จะมีหม้อกรองอากาศแบบอ่างน้ำมัน และท่อร่วมไอดี ซึ่งต่อเข้ากับ คารบ์ ูเรเตอร์ 8.2 เครื่องยนต์ดีเซล จะมีหม้อกรองอากาศแบบแห้ง,ท่อร่วมไอดี และหลอดแสดงสภาพของไส้กรอง อากาศ 9. ระบบอุ่นไอดี สำหรับเคร่ืองยนต์ดีเซล จะมีเคร่ืองอุ่นไอดี ซึ่งทำหน้าที่เผาอากาศท่ีไหลผ่านเข้าไปยัง กระบอกสูบของเครื่องยนต์ให้ร้อนขึ้น เพ่ือช่วยให้สามารถติดเคร่ืองยนต์ได้ง่ายในสภาพอากาศหนาวเย็นจัด และช่วยให้เครื่องยนต์เก่าที่มีกำลังอัดต่ำติดได้ง่ายย่ิงขึ้นแต่โดยปกติแล้วในสภาพภูมิอากาศ ในประเทศไทยน้ี ถ้าเครื่องยนต์ยังมีสภาพดีก็ไม่จำเป็นต้องใช้ ระบบอุ่นไอดีประกอบด้วยป๊ัมไฟฟ้า, ตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิง, หัวฉีด, คอยล์จุดระเบดิ , หัวเทียน, ห้องอุ่นไอด,ี ท่อทางเดินของน้ำมันเช้ือเพลิง, สายไฟต่าง ๆ ของวงจรไฟฟ้า และสวติ ชอ์ นุ่ ไอดี ซึ่งอยู่ในห้องพลขับ 10. ระบบไอเสยี 10.1 ระบบไอเสียของเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีน ประกอบด้วย ท่อร่วมไอเสีย, ท่อไอเสียท่อนหน้า, หม้อเก็บ เสียง และท่อไอเสียท่อนปลาย

ห น ้ า | 125 10.2 ระบบไอเสียของเคร่ืองยนต์ดเี ซล มีองค์ประกอบเช่นเดียวกับระบบไอเสียของเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีน และยังมีเครอ่ื งเพิ่มไอดี (TURBOCHARGER) ซ่ึงทำงานด้วยแรงขบั จากไอเสยี อุปกรณ์นจ้ี ะทำให้เครื่องยนต์มี กำลงั ดูดมากขนึ้ ซ่งึ จะทำให้แรงม้าของเครือ่ งยนตเ์ พ่ิมขึ้นไปด้วย 11. ระบบระบายความร้อน ระบบระบายความร้อน ประกอบด้วย ป๊ัมน้ำ, พัดลมระบายความร้อน, ท่อน้ำ, หม้อนำ้ รังผ้ึง,ล้ินควบคุมอุณหภูมิ,ฝาปดิ หม้อน้ำแบบควบคมุ แรงดนั และเคร่ืองวัดอุณหภมู ิ 12. ระบบหล่อล่ืน ใช้น้ำมันหล่อล่ืน OE-30 ประกอบด้วย ปั๊มน้ำมันเครื่อง,หม้อกรองน้ำมันเคร่ือง จำนวน 2 ตัว, ลนิ้ ระบายความดนั ลน้ิ ควบคมุ ความดนั ,และเคร่ืองวัดความดนั น้ำมนั เครื่องยนต์ เคร่ืองยนตด์ ีเซลจะ มีเครื่องระบายความร้อนน้ำมันเครื่องติดต้ังเพิ่มข้ึนมาด้วย เพื่อช่วยอุ่นน้ำมันเคร่ืองให้ร้อนถึงอุณหภูมิใช้งาน โดยเร็ว และระบายความรอ้ นออกเมื่อนำ้ มนั เครอ่ื งยนตร์ ้อนจดั 13. ระบบหมุนเคร่ืองยนต์ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง 24 โวลท์ เป็นแบบ โอเวอร์รันน่ิงคลัตช์ ทำงานด้วย กระแสไฟจากแบตเตอร่ี และมีสวิตช์ควบคุมการทำงานอยู่ในห้องพลขับ โดยสวิตช์ของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เปน็ แบบปมุ่ กดด้วยเท้าบนพ้ืนหอ้ งพลขับ และสวติ ช์ของเคร่ืองยนตด์ ีเซลเปน็ แบบปมุ่ กดดว้ ยมอื บนแผงหนา้ ปดั 14. ระบบไฟฟ้า เป็นระบบไฟกระแสตรง 24 โวลท์ มีแบตเตอร่ี 6 TN 23 หม้อละ 12 โวลท์ จำนวน 2 หม้อ ต่อวงจรแบบอันดับ โดยใช้ขั้วลบลงดิน ระบบประจุไฟ ประกอบด้วยเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงขนาด 24 โวลท์ 25 แอมป์. เคร่ืองควบคุมกระแสไฟฟ้า และเครื่องวัดไฟฟ้า ระบบประจุไฟ ทำหน้าท่ีประจุให้กับ แบตเตอร่ี และใชใ้ นระบบแสงสวา่ ง เครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ จะไดร้ บั กำลงั ขบั จากสายพานพัดลม 15. ระบบหา้ มล้อ 15.1 หา้ มล้อเท้า เปน็ แบบทำงานดว้ ยของเหลว และมีเคร่อื งทวกี ำลังห้ามลอ้ ทำงานด้วยลมระบบห้ามล้อ ประกอบดว้ ยแม่ป๊ัมห้ามล้อ, เคร่ืองทวีกำลังห้ามล้อ, ลูกป๊ัมห้ามล้อ,ท่อทางเดินน้ำมันห้ามล้อ และท่อลมต่าง ๆ นอกจากน้ีทางด้านหนา้ และดา้ นหลังของรถยงั มีหวั ตอ่ ท่อลมสำหรับรถพ่วงทัง้ ด้านซา้ ยและด้านขวาของรถ 15.2 ห้ามล้อมือ ประกอบด้วย จานห้ามล้อซ่ึงติดต้ังอยู่กับเพลาส่งกำลังออกของเครื่องเพ่ิมเพลาขับ ผ้า ห้ามล้อด้านนอกและด้านในของจานห้ามล้อทำงานด้วยกระเด่ืองห้ามล้อ โดยมีสายลวดดึงต่อเข้าไปยังคันห้าม ลอ้ มือ ซง่ึ ติดตัง้ อย่บู นพื้นรถทางดา้ นซา้ ยของพลขับ ห้ามล้อมอื ช่วยในการจอดรถ และการออกรถในท่ีลาดชัน 16. ระบบเคร่ืองทำลม ประกอบด้วย ป๊ัมลม ซ่ึงติดต้ังอยู่ทางด้านหน้าซ้ายของเครื่องยนต์ ขับด้วยสายพาน เส้นเดียวแบบ V จากรอกเพลาข้อเหว่ียง,เคร่ืองควบคุมความดันลม,เคร่ืองวัดความดันลม,ถังเก็บลม จำนวน 2 ถัง,ลิ้นนิรภัยของระบบเครื่องทำลม,เครื่องสัญญาณเตือนความดันลมต่ำ, ล้ินและหัวต่อลมใช้งานภายนอก และ ท่อทางเดินต่างๆ ระบบเคร่ืองทำลมจะทำลมเพ่ือใช้ในการห้ามล้อ และใช้กับเคร่ืองอุปกรณ์ต่างๆ ของรถท่ี ทำงานด้วยลม 17. ระบบบังคับเลี้ยว ประกอบด้วย พวงมาลัย,กระปุกเฟืองพวงมาลัย,เคร่ืองเพ่ิมกำลังบังคับเลี้ยวซึ่งทำงาน ด้วยแรงดันจากนำ้ มนั ไฮดรอลิก, ถังเก็บน้ำมันเครื่องบงั คับเลี้ยว,แขนคนั ชกั ,และกา้ นโยงตา่ ง ๆ ของระบบบังคบั เลย้ี ว และปัม๊ น้ำมันเคร่ืองเพิ่มกำลงั บังคบั เลย้ี ว 18. ระบบระบายอากาศ เน่ืองจากระบบต่าง ๆ ของเคร่ืองยนต์เป็นแบบกันน้ำได้ ดังน้ันจึงต้องมีระบบ ระบายอากาศ เพอื่ ให้การทำงานของระบบนั้น ๆ เป็นไปตามปกติ ท่อระบายอากาศของถังน้ำมันเชอื้ เพลิง และ ระบบห้ามล้อจะต่อรวมกันไว้ และระบายความดันออกไปด้วยกัน ส่วนท่อระบายความดันของห้องเพลาข้อ เหวยี่ งจะระบายออกทางด้านบนของฝาครอบลนิ้ และตอ่ ท่อระบายลงไปทางดา้ นล่างของห้องเครือ่ งยนต์ 19. ระบบพยงุ ตวั รถ 19.1 แหนบหน้า และเคร่ืองผ่อนแรงสะเทือน แหนบหน้าเป็นแหนบแผ่นวางซ้อนกัน โดยแหนบยาวที่สุด อยูด่ ้านบน และใบแหนบทั้งหมดยึดติดกันไวด้ ้วยสลักเกลียว และเหล็กรัดแหนบ แหนบหน้าวางอยู่บนสาแหรก แหนบหน้าท้ังสองข้างของเพลาล้อหน้าโดยยึดไว้ด้วยสลักเกลียวรูปตัว U ( U BOLT ) ปลายท้ังสองของแหนบ

ห น ้ า | 126 หน้ามีจุดหมุนทโี่ ตงเตงหูแหนบซ่ึงยดึ ตดิ แน่นอย่กู ับโครงรถ เครื่องผอ่ นแรงสะเทือนแบบทรงกระบอก จำนวน 2 ตัว จะตดิ ตั้งอย่แู ตล่ ะด้านของโครงรถ และปลายด้านล่างยดึ ตดิ กับแผน่ รอง และสลกั เกลยี วรัดแหนบ 19.2 แหนบหลัง และแขนรับแรงบดิ แหนบหลังเปน็ แหนบแผ่นวางซ้อนกัน โดยใบแหนบตัวยาวท่ีสดุ อยทู่ าง ด้านล่าง แหนบหลังวางอยู่บนแท่นแหนบหลัง ซึ่งมีจุดหมุนบนเพลาโบก้ี ปลายท้ังสองด้านของแหนบหลังสอด เป็นอสิ ระอยใู่ นช่องรบั แหนบบนเพลาล้อหลังทง้ั สองเพลา แขนรับแรงบดิ จำนวน 6 ตวั จะทำหนา้ ที่ยดึ เพลาล้อ หลังทั้งสองให้ติดกับโครงรถ เพือ่ รักษาแนวของเพลาล้อหลงั และโครงรถ 19.3 ยางใชข้ นาด 10.00 x 20 20. อุปกรณ์กู้ซ่อม ประกอบด้วยกว้านหน้า และกว้านหลังทำงานด้วยแรงขับจากเครื่องยนต์ และปั้นจ่ัน ซึ่ง ทำงานดว้ ยระบบกำลงั ไฮดรอลกิ 21. รายละเอียด และสมรรถนะ เคร่อื งยนต์ รายละเอียดเครอื่ งยนต์ เคร่ืองยนต์แก๊สโซลนี เคร่ืองยนต์ดีเซล แบบ CONTINENTAL R 6602 LDS465-1A จำนวนกระบอกสูบ 6 6 แรงมา้ 224 ณ 2,800 รอบ/นาที ณ 2,600 รอบ/นาที หวั เทยี น กำลงั อดั ระบบการจุดระเบิด ลำดบั การจุดระเบดิ 1-5-3-6-2-4 ของเหลว ระบบระบายความร้อน 1-5-3-6-2-4 อณุ หภมู ิใชง้ าน 170 – 200 องศา ฟ. ของเหลว 180 – 200 องศา ฟ. ความเร็วสงู สุด - เคร่อื งยนตแ์ กส๊ โซลีน 59 ไมล์/ชม. - เคร่ืองยนตด์ ีเซล 52 ไมล์/ชม. พลประจำรถ 2 นาย ขนาด - ความสูงท้งั หมด 108 5/8 นิ้ว - ความยาว 349 น้วิ - ความกว้าง 96 1/4 นิว้ - ความสงู ใต้ทอ้ งรถ 11 น้วิ - เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางวงเลยี้ ว 46 ฟตุ 8 นว้ิ น้ำหนกั รถ - เครื่องยนตแ์ กส๊ โซลนี 35,154 ปอนด์ - เครอื่ งยนต์ดเี ซล 35,404 ปอนด์ ความจุ - ถังน้ำมนั เช้ือเพลงิ ดา้ นซา้ ย 78 แกลลอน - ถงั น้ำมันเชอ้ื เพลงิ ด้านขวา 55 แกลลอน ระบบระบายความรอ้ น - เครอ่ื งยนตแ์ ก๊สโซลีน 44 ควอต - เครือ่ งยนต์ดีเซล 38 ควอต ระบบหลอ่ ล่ืน

ห น ้ า | 127 - เครอื่ งยนตแ์ ก๊สโซลนี 18 ควอต (รวมทงั้ หม้อกรอง 2 ตัว) - เครอ่ื งยนต์ดีเซล 22 ควอต (รวมทง้ั หม้อกรอง 2 ตวั ) เครือ่ งเปลย่ี นความเรว็ 11 ควอต เครื่องเพ่มิ เพลาขับ 5 1/2 ควอต หบี เฟืองทดเลีย้ ว (ตวั ละ) 12 ควอต กว้านหนา้ 2.6 ควอต กว้านหลงั 3 ควอต ถังน้ำมนั ระบบบงั คับเลีย้ ว 8 1/2 ควอต ถังนำ้ มนั ไฮดรอลิคระบบปัน้ จนั่ 70 ควอต ความสิน้ เปลืองนำ้ มันเชอื้ เพลิง - เครอ่ื งยนต์แกส๊ โซลนี 4 ไมล์/แกลลอน - เครอ่ื งยนต์ดีเซล 5 ไมล์/แกลลอน รอบเครื่องยนต์ - เครอื่ งยนต์แก๊สโซลนี รอบเดนิ เบา 400 - 450 รอบ/นาที 2,750 - 2,800 รอบ/นาที รอบสูงสดุ 650 - 700 รอบ/นาที - เครื่องยนต์ดีเซล รอบเดินเบา 2,850 - 2,900 รอบ/นาที รอบสงู สุด 5 ตำแหนง่ เครอ่ื งเปลี่ยนความเร็ว 1 ตำแหนง่ - ความเรว็ เดินหนา้ 1 ตำแหนง่ ถอยหลงั T 138 2 ความเร็ว ว่าง 3 ตำแหน่ง HIGH - N - LOW เครอ่ื งเพม่ิ เพลาขับ - แบบ 2 หมอ้ - ตำแหน่งใช้งาน 6 TN 23 ระบบไฟฟา้ 12 โวลท์ - แบตเตอร่ี แบบอันดบั ขว้ั ลบลงดนิ - แบบ 7 ปอนด/์ ตร.นิ้ว - แรงเคล่ือน - การตอ่ วงจร 1 1/2 - 2 น้วิ แรงดนั ของฝาปิดหมอ้ นำ้ 1/4 - 1/2 น้วิ ระยะว่างกอ่ นทำงาน - คลัตช์ OE 30 - หา้ มลอ้ GO 90 สารหล่อล่นื ที่ใช้ OE 10 - นำ้ มันเครอื่ งยนต์ OE 10 - น้ำมันหีบเฟอื งตา่ งๆ HB - น้ำมันระบบบงั คับเล้ียว GAA - น้ำมันระบบปน้ั จ่ัน - นำ้ มันห้ามลอ้ - ไขขน้

ห น ้ า | 128 ความตงึ หยอ่ นของสายพาน 1/8 - 1/4 นวิ้ - พัดลมระบายความร้อน (เครื่องยนตแ์ กส๊ โซลีน) 3/4 น้ิว 1/2 นิว้ (เคร่อื งยนตด์ เี ซล) - เครอ่ื งทำลม 70 ปอนด์/ตร.น้วิ การเติมลมยาง 35 ปอนด์/ตร.น้วิ - บนถนน 25 ปอนด์/ตร.น้วิ - ในภูมิประเทศ - ทราย,โคลน,หมิ ะ 20,000 ปอนด์ กว้านหนา้ 280 ฟุต - น้ำหนกั ฉุดลากสูงสุด 5/8 นิ้ว - ลวดกว้านยาว - ความโต 45,000 ปอนด์ กว้านหลัง 280 ฟุต - นำ้ หนกั ฉดุ ลากสงู สุด 3/4 นว้ิ - ลวดกวา้ นยาว - ความโต 20,000 ปอนด์ ปัน้ จนั่ 18 ฟุต (ตัวนอก 10 ฟตุ ,ตวั ใน 8 ฟตุ ) - ยกน้ำหนกั สงู สุด 45 องศา - คานป้ันจั่นยาว 270 องศา - ยกไดเ้ ป็นมมุ สงู สดุ 95 ฟุต 5 นว้ิ - หมนุ รอบตวั 1/2 น้วิ - ลวดกว้านปน้ั จั่นยาว - ความโต **************

ห น ้ า | 129 แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรยี นทหารมา้ ศูนย์การทหารมา้ คา่ ยอดศิ ร สระบุรี ---------- เอกสารเพ่มิ เตมิ วิชา คุณลกั ษณะและการทำงานของเครอื่ งยนต์ LDS 465-1, LDS 465-1A, LD 465-1, LD 427-2 และ LDT 465-1C กล่าวท่ัวไป คำบรรยายนี้จะกล่าวถึงรายละเอียด คณุ ลกั ษณะ และการทำงานของเครอื่ งยนต์ดเี ซล ท่ี ใช้นำ้ มนั เช้อื เพลงิ ไดห้ ลายประเภท ความมุง่ หมาย เพือ่ ใหน้ ักเรียนได้ทราบถึง 1. คุณลักษณะทัว่ ไปของเครอื่ งยนต์ 2. นำ้ มนั เชือ้ เพลงิ ประเภทต่าง ๆ ทส่ี ามารถใช้ได้ 3. การติด-ดับ เครื่องยนต์ 4. การใช้งาน และข้อควรระมดั ระวงั 5. การปรนนบิ ัติบำรงุ และการบรกิ าร ขอบเขต คำบรรยายนเ้ี ปน็ เพียงมลู ฐานเบอ้ื งต้นทัว่ ไปของเครอ่ื งยนตท์ ่ีพลขบั และผ้ใู ช้ควรทราบ เอกสารอา้ งองิ - DA PAMPHLET 750-11 - TM 9-2320-211-10 APR.1973 - LO 9-2320-211-12 1963 **************

ห น ้ า | 130 คุณลกั ษณะ และการทำงานของเครือ่ งยนต์ MULTIFUEL LDS 427-2,LD 465-1,LDS 456-1A และ LDT 465-1C เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลายประเภทน้ีก็คือเคร่ืองยนต์ดีเซลซึ่งเป็นเคร่ืองยนต์ที่มีการจุด ระเบิดด้วยกำลังอัด กล่าวคือ เชื้อเพลิงนั้นจะถูกจุดให้ลุกไหม้ด้วยอากาศร้อน ซึ่งเกิดจากการอัดของลูกสูบ ขณะเคล่ือนที่ข้ึนไปทางด้านบนในจังหวะอัด อากาศในกระบอกสูบจะร้อนจัด และในช่วงเวลานี้เองเช้ือเพลิงก็ จะถูกฉีดเข้าไปกระทบกับอากาศร้อนและเกิดการลุกไหม้ข้ึน ก๊าซร้อนท่ีเกิดจากการเผาไหม้ก็จะกดดนั ให้ลูกสูบ เคล่ือนท่ีลงมาทางดา้ นล่าง ในจังหวะกำลัง ท่านจะศึกษารายละเอียด หลักการทำงานของเคร่ืองยนต์ดีเซลได้ จาก TM 9-8000 JAN 56,CHAP 6 เครื่องยนต์น้ีออกแบบองค์ประกอบต่าง ๆ ใหม่ล่าสุด เพ่ือให้มี คุณลักษณะใช้ได้กับน้ำมันเช้ือเพลิงได้หลายประเภท ซ่ึงจะทำให้ได้เปรียบเครื่องยนต์ดีเซล แบบธรรมดาที่ใช้ น้ำมันเช้ือเพลิงดเี ซลไดเ้ พยี งอย่างเดยี ว ที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นเช้ือเพลิงประเภทต่างๆ ท่ีสามารถใช้กับเครื่องยนต์แบบน้ี และพลขับจะต้อง เลอื กใช้ตามลำดบั กอ่ นหลัง เพราะแมว้ ่าเคร่อื งยนตน์ ี้จะสามารถใช้ไดก้ ับเชือ้ เพลิงหลาย ๆ อย่าง หรือแม้แตก่ บั สว่ นผสมระหว่างน้ำมันเช้ือเพลิงเหล่าน้กี ็ตามแต่น้ำมันดเี ซลจะให้กำลังงาน และประสิทธภิ าพของเคร่อื งยนต์ได้ ดกี วา่ น้ำมันแกส๊ โซลนี น้ำมันเชอื้ เพลิงทใี่ ชเ้ ป็นหลัก และต้องเลอื กใชต้ ามลำดับ คือ อนั ดบั แรก - VVF - 800 DIESEL FUEL - MIL - F- 46005 COMPRESSION IGNITION ENGINE FUEL - CIE MIL - F-16884 MARINE FUEL OIL อนั ดบั สอง - JET FUEL SPEC MIL-J-5624 JP-4 - KEROSENE JET A,-JET A-1 ซึ่งเป็น COMERCIAL AVIATION FUEL อันดับสาม - MIL-G-3056 COMBAT GASOLINE ซึ่งมีอัตรา OCTANE 83-95 น้ำมันแก๊สโซลีนน้ี ควรจะได้พิจารณาใช้เป็นอันดับสุดท้าย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นเชื้อเพลิงฉุกเฉิน เพราะน้ำมันแก๊สโซลีนจะทำให้กำลังงานและสมรรถภาพของเครื่องยนต์ลดลงมาก และถ้าใช้ต่อเน่ืองกันเป็น เวลานานๆ จะทำให้อายกุ ารใชง้ านของเคร่อื งยนต์สนั้ ลงอย่างรวดเร็ว เครื่องยนตท์ ใี่ ช้นำ้ มนั ไดห้ ลายประเภท ในปจั จุบนั น้ีไดพ้ ฒั นาขึน้ มาตามลำดับ 5 แบบ ด้วยกัน คอื - เครื่องยนต์ LDS 427-2 เป็นเครื่องยนต์รุ่นแรก ใช้กับ รยบ.2 1/2 ตัน ลำดับ6742 หรือเรียกว่า รยบ.2 1/2 ตนั M 35 A 1 ( M 44A1 ) - เคร่ืองยนต์ LD 465-1 ใช้กบั รยบ.2 1/2 ตนั M35A2 ( M44A2 ) - เครอื่ งยนต์ LDT465-1C ใชก้ ับ รยบ. 2 1/2 ตนั M35A2 C - เครื่องยนต์ LDS 645-1 ใช้กบั รยบ. 5 ตัน ลำดับ 6744 หรือ รยบ. 5 ตัน M52A2 - เคร่ืองยนต์ LDS 465-1A เป็นเคร่ืองยนต์ท่ีได้รับการดัดแปลงให้ดีขึ้น ใช้กับ รยบ. 5 ตัน หรือรถกู้ ขนาด 5 ตนั M543A2 ความหมายของตัวยอ่ L = ระบายความร้อนดว้ ยของเหลว ( LIQUID COOLED ) D = เคร่อื งยนต์ดีเซล ( DIESEL ) S = เครือ่ งเพิม่ ไอดี ( SUPERCHARGER ) T = เครอ่ื งเพมิ่ ไอดีแบบกงั หนั ( TURBOCHARGER )

ห น ้ า | 131 การปฏบิ ตั กิ ่อนตดิ เครอ่ื งยนต์ กอ่ นท่จี ะตดิ เคร่อื งยนต์ ควรจะทำการปรนนิบตั ิบำรุงก่อนใช้งานทุกคร้งั โดยเฉพาะอย่างยิง่ ควรตรวจ - ระดับน้ำมนั เครือ่ งยนต์ - ระดับนำ้ ยา และสภาพของแบตเตอรี่ - ระดบั น้ำมันเชอ้ื เพลิงในถัง - ระดับน้ำระบายความรอ้ น เน่ืองจากเครื่องยนต์นี้จัดว่าเป็นเคร่ืองยนต์พิเศษแบบหน่ึง ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดให้ปฏิบัติผิดแปลก ออกไปบ้างคือ ก่อนท่ีเริ่มติดเครื่องยนต์ครั้งแรกของวันน้ัน จะต้องถ่ายน้ำมันและฝุ่นผงสิ่งสกปรกออกจาก หม้อกรองน้ำมันเช้อื เพลิงตวั แรกเสียก่อนทุกคร้ัง หม้อกรองตวั น้ีตดิ ตง้ั อยู่ใต้บงั โคลน ทางดา้ นซ้ายของรถ การ ถ่ายนำ้ มนั เช้อื เพลงิ ให้ปฏิบตั ดิ งั น้.ี 1. เปิดสวติ ชแ์ บตเตอร่ีไปยงั ตำแหน่ง \" ON \" เพอ่ื ให้ป๊มั ไฟฟ้าทำงาน 2. คลายควงผีเสื้อทางด้านใต้หม้อกรองออก ใช้ภาชนะรองรับน้ำมันเช้ือเพลิงท่ีไหลออกมา และ ตรวจดูว่ามนี ้ำและฝ่นุ ผงเจอื ปนอยมู่ ากน้อยเพียงใด 3. ถ่ายน้ำมันเช้ือเพลิงออกจากหม้อกรองตัวที่ 2 อีก ถ้าปรากฏว่ามีน้ำและฝุ่นผงในหม้อกรองตัวแรก มาก 4. ถ่ายน้ำมันเช้ือเพลิงออกจากหม้อกรองตัวสุดท้าย ถ้าปรากฏว่ามีน้ำและฝุ่นผงในหม้อกรองตวั ที่ 2 มาก แต่ถ้าพบวา่ มีนำ้ และฝุ่นผงอยู่ในหม้อกรองทั้ง 3 ตัวมาก จะต้องแจ้งให้ชา่ งยานยนตท์ ราบ เพ่อื ที่จะได้ทำ ความสะอาดหมอ้ กรองทัง้ หมด และเปล่ียนไส้กรองใหม่ การตดิ เคร่ืองยนต์ การตรวจของเหลวอัดหัวกระบอกสูบ ( CHECK FOR HYDROSTATIC LOCK )เป็นสิ่งท่ีจำเป็นมาก ในบางโอกาส น้ำหรือน้ำมันเช้ือเพลิงอาจเข้าไปสะสมอยู่ภายในกระบอกสูบภายหลังจากเลิกใช้งานแล้วก็ได้ ซึ่ง ของเหลวเหล่าน้ีถ้าถูกอัดตัวอย่างแรงโดยลูกสูบในขณะที่เครื่องยนต์ติด จะทำให้เครื่องยนต์ชำรุดอย่างหนัก เช่น ก้านสบู หัก, ลกู สบู แตก หรือเคร่ืองยนตร์ ะเบิดออกมากไ็ ด้ ดงั นน้ั กอ่ นที่จะทำการตดิ เคร่ืองยนต์ พลขับที่ดี ควรปฏิบตั ดิ งั น้ี 1. จัดคันเกียรเ์ คร่อื งเปลย่ี นความเร็วไวใ้ นตำแหน่ง ว่าง ( N ) และตั้งคนั หา้ มล้อมือ 2. ดึงปมุ่ ดับเครอื่ งยนตอ์ อกมาให้สดุ แลว้ ปล่อยค้างไว้ 3. เปดิ สวติ ชแ์ บตเตอร่ี ไปยงั ตำแหน่ง เปิด (ON) 4. เหยียบคลัตชล์ งให้สุด 5. กดปุ่มหมุนเครื่องยนต์โดยแรง ประมาณ 2-3 วินาที ฟังเสียงผิดปกติขณะท่ีเครื่องยนต์หมุน และ สงั เกตวา่ เครือ่ งยนต์หมุนไดส้ ะดวกหรือไม่ ถ้ามีเสียงผดิ ปกตหิ รือเครอ่ื งยนต์ไม่หมุน แจ้งให้ช่างยานยนตท์ ราบ เพ่อื ทำการแก้ไขต่อไป เมอื่ ปรากฏวา่ เครอื่ งยนต์หมุนไดส้ ะดวกเป็นปกตใิ ห้ตดิ เคร่ืองยนต์ตามขน้ั ตอนดงั น้.ี 6. ดนั ปมุ่ ดับเครอื่ งยนต์เข้าไปให้สดุ 7. กดปุ่ มเครอ่ื งยนต์อกี เพอื่ ตดิ เคร่ืองยนต์ ขอ้ ควรระวงั การใช้มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์นั้น ไม่ควรกดปุ่มหมุนเครื่องยนต์คร้ังหน่ึงนานเกินกว่า 10 วินาทีและ ให้คอย 10 วินาที ถ้าจะตอ้ งกดป่มุ หมุนเครื่องยนต์ครั้งต่อไป และถ้าปรากฏว่าท่านได้พยายามตดิ เครื่องยนตถ์ ึง 3 ครั้งแล้ว แต่เคร่ืองยนต์ยังไม่ติด แจ้งให้ช่างยานยนต์ค้นหาสาเหตุบกพร่อง และทำการแก้ไข การกดปุ่ม เคร่ืองยนต์นั้นจะต้องกดให้แรงและแน่นสนิท มิฉะนน้ั จะทำให้สวติ ช์เสียหายหรือทำให้มอเตอรห์ มุนเคร่อื งยนต์

ห น ้ า | 132 ชำรุดได้ อย่าใช้เท้าปั๊มคันเร่งน้ำมัน เพราะจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดเลย นอกจากจะทำให้คันเร่งและก้าน โยงคดงอเสียหายได้ และห้ามมิให้พยายามทีจ่ ะติดเครือ่ งยนต์แบบนโี้ ดยการฉุดลาก หรือการผลกั ดัน เพราะจะ ทำให้สังเกตอาการบางอย่างของ HYDROSTATIC LOCK ไม่ได้ ซึ่งการฉุดลากรถน้ีจะเป็นการบังคับให้ เคร่ืองยนต์หมุน และเครื่องยนต์ติดข้ึนอาจจะทำให้เครื่องยนต์ระเบิดออกมาได้ ดังน้ันจึงควรใช้สายไฟ ต่อพ่วง ไฟจากยานยนตค์ ันอน่ื เข้ามาช่วยการหมนุ ติดเครอ่ื งยนต์ การอุน่ เครอ่ื งยนต์ 1. หลังจากติดเคร่ืองยนต์แล้วให้เครื่องยนต์เดินเบาไว้ประมาณ 3-5 นาที จนกระทั่งเครื่องยนต์ได้ อุณหภูมิ 140 องศา ฟ. รอบที่ใช้ในการอุ่นเครื่องยนต์ไม่ควรต่ำกว่า 800 รอบ/นาทีและไม่เกิน 1,000 รอบ/ นาที การปล่อยให้เครอ่ื งยนต์เดินดว้ ยรอบเดนิ เบาตำ่ เกนิ ไปนั้น จะทำให้เกิดอาการสนั่ สะเทือนมาก ซ่ึงจะทำให้ ส่วนประกอบตา่ งๆ ของเคร่ืองยนต์หลวมคลอน หรือแตกหักได้การอุ่นเคร่ืองยนตน์ ้ี จะช่วยให้การทำงานของ องค์ประกอบต่างๆ ของเครื่องยนตเ์ รยี บรอ้ ยสมบรู ณ์ยิง่ ข้ึน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอุ่นเครื่องยนต์นม้ี ีความสำคัญ เป็นพิเศษเฉพาะกับ \"เครื่องเพิ่มไอดี\" ของเครื่องยนต์ แก๊สไอเสียของเคร่ืองยนต์จะเป่าให้กังหันของเครื่องเพิ่ม ไอดีหมุนด้วยความเร็ว 30,000 รอบ/นาทีในรอบเดินเบา เมื่อเครื่องยนต์เดินด้วยรอบสูงกังหันจะหมุนเร็วถึง 60,000 รอบ/นาที การอุ่นเครื่องยนต์จะช่วยให้น้ำมันเคร่ืองยนต์ขึ้นไปหล่อเล้ียงตลับลูกปืนของเคร่ืองเพิ่มไอดี อย่างเพยี งพอ ดงั นนั้ จงอยา่ งเร่งเคร่อื งยนต์โดยแรงแล้วปลอ่ ยคนั เร่งทันทีทันใด 2. ตรวจดูการทำงานของเข็มวัดความดันน้ำมันเครื่องโดยใกล้ชิดในระยะ 20 วินาที แรก หลังจาก เครื่องยนต์ติดแล้ว ถ้าปรากฏว่าเข็มวัดความดันช้ีแสดงค่าไม่ถึง 15 ปอนด์/ตร.น้ิว ณ ย่านความเร็ว 800 ถึง 1,000 รอบ/นาที ให้ดับเครือ่ งยนตท์ ันที และแจง้ ใหช้ ่างยานยนตท์ ราบ 3. เมื่อท่านจะออกรถ ควรจะให้อุณหภูมิของน้ำระบายความร้อนสูงถึง 140 องศา ฟ. เสียก่อน และ อณุ หภูมิจะสูงขึ้นอกี เม่อื ท่านออกรถ แตก่ ่อนท่ีท่านจะเร่งเคร่ืองยนต์เตม็ ท่ี เมอ่ื ต้องการความเร็วสงู ก็ควรจะให้ เคร่ืองยนต์ได้อุณหภูมิใช้งาน 160 - 180 องศา ฟ.เสียก่อน และไม่ควรเปิดฝาปิดด้านข้างของห้องเคร่ืองยนต์ ออก เพราะจะทำใหก้ ารหมนุ เวียนของอากาศในห้องเครอ่ื งยนต์ผิดปกตไิ ด้ 4. จงสังเกตการทำงานของเคร่ืองยนต์และควันจากท่อไอเสีย เครื่องยนต์ควรจะเดินเรียบไม่มีอาการ สะดุด หรือเดินไม่ครบสูบ เครื่องยนต์ไม่มีกำลังและไอเสียมีควันดำมาก และแสดงว่าหม้อกรองอากาศสกปรก มากหรืออุดตัน ซ่ึงเครื่องบอกสภาพของหม้อกรองอากาศจะแสดงให้ท่านทราบได้ทันที เมื่อแถบสีแดงขึ้นมา คร่ึงหน่ึง แสดงว่าไส้กรองกรองอากาศสกปรกมาก ให้ดับเคร่ืองยนต์ และทำความสะอาดไส้กรอง ในภูมิ ประเทศทมี่ ีฝุ่นมากควรจะทำความสะอาดไส้กรองอากาศทกุ ๆ วัน การทำความสะอาดไส้กรองให้ใช้ลมเป่าหรือล้างด้วยน้ำสบู่ แต่ห้ามมิให้ใช้น้ำมันแร่ใด ๆ ล้างทำความ สะอาด เพราะจะทำใหไ้ สก้ รองอากาศเสื่อมสภาพได้ การออกรถ สำหรับรถท่ีใช้เคร่ืองยนต์แบบน้ี ควรจะออกรถด้วย เกียร์ 1 เท่าน้ัน และออกรถช้าๆ ด้วยความน่ิม นวล เพราะรถแบบนไี้ ม่ใช่รถสปอร์ตหรือรถแขง่ ต้องค่อยๆ ผ่อนคลตั ช์อยา่ กระตุกคลตั ช์โดยแรงจะทำให้คลัตช์ หรือเคร่ืองเปล่ียนความเร็วชำรุดเสียหายได้ในขณะขับรถ ไม่ควรวางเท้าไว้บนแป้นคลัตช์ (RIDE CLUTCH) จะทำให้ตลับลกู ปนื ปลดคลัตช์ และแผ่นคลัตชส์ ึกหรออย่างรวดเรว็ โดยไม่จำเป็นจงจำไวว้ ่า \"แป้นคลัตช์\" ไม่ใช่ท่ี พักเทา้ ในขณะขับด้วยความเร็วสูง บนถนนหรือขับลงจากลาดเนิน จงระมัดระวังอย่างให้รอบหมุนของ เครื่องยนต์เกิน 2,600 รอบ/นาที เพราะจะทำให้เครื่องยนต์หมุนเร็วเกินขีดกำหนด ทำให้ส่วนประกอบต่างๆ ชำรุด สึกหรออย่างรวดเร็ว จนทำให้ต้องซ่อมใหญ่เคร่ืองยนต์ ซึ่งมีราคาแพงมากกว่าการเปล่ียนผ้าห้ามล้อ

ห น ้ า | 133 ดังน้ันเม่ือท่านต้องการลดความเร็วลง ไม่ควรกระทำโดยการทดเกยี ร์ลง ให้ใชห้ า้ มล้อในการลดความเร็ว และใน การลงเนนิ ใหเ้ หยยี บหา้ มลอ้ แล้วปลอ่ ยในลกั ษณะการปมั๊ ห้ามล้อ อยา่ เหยียบแชไ่ ว้ จะทำใหผ้ า้ หา้ มล้อไหมไ้ ด้ การดบั เครอื่ งยนต์ หลังจากใชง้ านมาแลว้ ก่อนที่ท่านจะดบั เครื่องยนต์ ท่านจะต้องปลอ่ ยให้เครื่องยนต์เดินเบา 800 - 1,000 รอบ/นาที เป็นเวลา 5 นาที แล้วจึงดึงปุ่มดับเครื่องยนต์และปล่อยค้างไว้ การที่ต้องเดินเบาเคร่ืองยนต์ ก็ เพราะว่าต้องการให้ระบบระบายความร้อนของเครอื่ งยนต์ทำการระบายความร้อนออกจากเคร่ืองยนต์ทร่ี ้อนจัด จากการใช้งานหนักเสียก่อน และมีความสำคัญสำหรับกังหันของเครื่องเพ่ิมไอดีอีกด้วย เพราะการดับ เครื่องยนตท์ ันที จะทำให้ไม่มีน้ำมันเคร่ืองไปหล่อเล้ียงตลับลูกปนื ซึ่งยังหมุนอยู่ดว้ ยความเร็วสูง และทำให้ตลับ ลูกปืนไหม้จนละลายได้ และการเดินเบายังช่วยให้ชุดกังหันลมน้ีลดความเร็วและอุณหภูมิลงได้มากจนถึงขีด ปลอดภัย (เมอื่ ดับเคร่อื งยนตแ์ ลว้ อยา่ ลมื ปดิ สวติ ช์แบตเตอรไ่ี ปยังตำแหน่ง ปดิ OFF) เน่ืองจากเครื่องยนต์เป็นเคร่ืองยนต์ดเี ซล จึงต้องดบั เคร่ืองยนตโ์ ดยการดงึ คันตดั น้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น และถ้าเกิดขัดข้องกับคันดับเคร่ืองยนต์ ทำให้ดับเครื่องยนต์ไม่ได้ ในกรณีฉุกเฉินให้ดับเครื่องยนต์โดยการเข้า เกียร์สงู และเหยยี บห้ามล้อเพื่อทำให้เครือ่ งยนต์กระตุก และดับลง รอบเครอ่ื งยนตท์ ก่ี ำหนดไวส้ ำหรบั การใชง้ านของเครอ่ื งยนตด์ ีเซล MULTIFUEL 1. 1,200 รอบ/นาที - คือ รอบตำ่ สุดระหวา่ งบรรทกุ เพือ่ ให้เครื่องยนตท์ ำงานคงท่ี 2. 1,400 - 1,800 รอบ/นาที และรถไมม่ ีการกระตกุ 3. 1,400 - 2,200 รอบ/นาที - คือ รอบหมุนของเครือ่ งยนต์ในเกณฑท์ ่จี ะเปลย่ี นเกยี ร์จากสงู 4. 2,600 รอบ/นาที ลงตำ่ และอย่าเปลย่ี นเกยี รต์ ำ่ ลงในขณะรอบเครื่องยนต์สูงกวา่ นี้ - คอื ระหว่างตวั เลขแสดงรอบ 2 จุดนี้ เช้ือเพลงิ 1 แกลลอน รถจะว่ิงไดไ้ กลสดุ กำหนดน้ีใชส้ ำหรับปฏิบัตกิ ารตามปกติ - รอบสูงสุดทีก่ ำหนดให้ใช้เมอื่ รถบรรทุกเต็มท่ี รถว่ิงขึน้ ทส่ี ูงชัน ลงจากทีล่ าดชัน แตจ่ ะตอ้ งระวังไมใ่ หร้ อบของเครอ่ื งยนต์ สงู กวา่ น้จี ะทำให้เครื่องยนต์ชำรดุ เสยี หาย ***************


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook