โรงเรียนทหารมา้ วิชา อาวธุ ขนาดเล็ก รหสั วชิ า ๐๑๐๒๐๑๐๗๐๑ หลักสูตร ช้นั นายพัน แผนกวิชาอาวธุ กศ.รร.ม.ศม. ปรชั ญา รร.ม.ศม. “ฝึกอบรมวชิ าการทหาร วิทยาการทันสมยั ธารงไว้ซง่ึ คณุ ธรรม”
ปรัชญา วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ วตั ถุประสงคก์ ารดาเนนิ งานของสถานศกึ ษา เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ๑. ปรัชญา ทหารม้าเป็นทหารเหล่าหน่ึงในกองทัพบก ที่ใช้ม้าหรือสิ่งกาเนิดความเร็วอ่ืน ๆ เป็นพาหนะ เป็นเหล่าที่มีความสาคัญ และจาเป็นเหล่าหนึ่ง สาหรับกองทหารขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับเหล่าทหารอ่ืน ๆ โดยมีคุณลักษณะ ท่ีมีความคล่องแคล่ว รวดเร็วในการเคลื่อนท่ี อานาจการยิงรุนแรง และอานาจในการทาลายและข่มขวัญ อันเปน็ คุณลักษณะที่สาคัญและจาเปน็ ของเหล่า โรงเรียนทหารม้า ศูนยก์ ารทหารม้า มีปรชั ญาดังน้ี “ฝึกอบรมวิชาการทหาร วิทยาการทนั สมัย ธารงไวซ้ ่ึงคุณธรรม” ๒. วิสยั ทัศน์ “โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วิชาการเหล่าทหารม้าท่ีทันสมัย ผลติ กาลังพลของเหล่าทหารมา้ ใหม้ ลี ักษณะทางทหารทดี่ ี มคี ุณธรรม เพอื่ เปน็ กาลงั หลักของกองทพั บก” ๓. พนั ธกจิ ๓.๑วจิ ัยและพัฒนาระบบการศึกษา ๓.๒ พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ๓.๓ จัดการฝกึ อบรมทางวชิ าการเหลา่ ทหารมา้ และเหล่าอื่นๆ ตามนโยบายของกองทัพบก ๓.๔ผลติ กาลังพลของเหลา่ ทหารม้า ให้เป็นไปตามวัตถุประสงคข์ องหลกั สูตร ๓.๕ พฒั นาสอื่ การเรียนการสอน เอกสาร ตาราของโรงเรียนทหารม้า ๓.๖ปกครองบังคับบัญชากาลังพลของหน่วย และผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรต่างๆ ให้อยู่บนพ้ืนฐาน คุณธรรม จริยธรรม ๔. วัตถุประสงค์ของสถานศึกษา ๔.๑ เพ่ือพฒั นาครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ให้กับ ผเู้ ข้ารบั การศึกษาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ ๔.๒ เพอื่ พฒั นาระบบการศกึ ษา และจดั การเรยี นการสอนผ่านสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ ให้มีคุณภาพอยา่ งต่อเนอ่ื ง ๔.๓ เพื่อดาเนินการฝึกศึกษา ให้กับนายทหารชั้นประทวน ท่ีโรงเรียนทหารม้าผลิต และกาลังพลท่ีเข้ารับ การศกึ ษา ใหม้ คี วามรูค้ วามสามารถตามท่ีหน่วย และกองทพั บกตอ้ งการ ๔.๔ เพื่อพฒั นาระบบการบริหาร และการจดั การทรัพยากรสนับสนนุ การเรยี นรู้ ให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ ๔.๕ เพื่อพัฒนาปรบั ปรงุ ส่ือการเรยี นการสอน เอกสาร ตารา ใหม้ คี วามทันสมยั ในการฝึกศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ือง ๔.๖ เพ่ือพัฒนา วิจัย และให้บริการทางวิชาการ ประสานความร่วมมือ สร้างเครือข่ายทางวิชาการกับ สถาบันการศึกษา หนว่ ยงานอืน่ ๆ รวมทั้งการทานบุ ารุงศิลปวฒั ธรรม ๕. เอกลักษณ์ “เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ทางวิชาการ และผลิตกาลังพลเหล่าทหารม้าอย่างมีคุณภาพเป็นการ เพ่ิมอานาจกาลงั รบของกองทัพบก” ๖. อัตลกั ษณ์ “เดน่ สง่าบนหลังม้า เก่งกล้าบนยานรบ”
คานา เอกสารตาราฉบับน้ี แผนกวิชาอาวุธ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ได้ รวบรวมและเรียบเรยี งจัดทาข้นึ เพอื่ ใช้ในการเรยี นการสอนหลกั สูตรตามแนวทางรบั ราชการของโรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ซึ่งมีเน้ือหาวิชาอาวุธทุกชนิดที่มีใช้ในเหล่าทหารม้า ประกอบด้วย วิชา อาวุธขนาดเล็ก, วิชา อาวุธประจาหน่วย, วิชา เครื่องยิงลูกระเบิด, วิชา หลักยิงเครื่องยิงลูกระเบิด, วิชา อาวุธ และยุทธภัณฑ์ยาน เกราะ และวชิ า สงครามทุ่นระเบดิ แผนกวชิ าอาวธุ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศนู ยก์ ารทหารมา้ หวังเป็นอย่างย่งิ ว่า เอกสาร ตาราฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนหรือท่านผู้อ่าน และหากมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์ท่ีจะให้ ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขกรุณาระบุ หน้า ข้อ บรรทัด ตามที่ปรากฏในเอกสารตาราน้ี และขอความ กรุณาให้เหตุผลหรือมีหลักฐานอ้างอิงประกอบเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยส่งไปที่ แผนกวิชาอาวุธ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร ตาบลปากเพรียว อาเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ๑๘๐๐๐ แผนกวิชาอาวธุ กศ.รร.ม.ศม.
สารบญั วชิ า อาวุธขนาดเลก็ หน้า 1. ปืนพก แบบ 86 ขนาด 11 มม.(.45 นิว้ ) M1911/ M1911A1……………. 1 2. ปืนเลก็ ยาว แบบ M16/M16A1 ขนาด 5.56 มม…………………………………. 6 3. ปืนเล็กยาว M16A2 ขนาด 5.56 มม…………………………………………….…… 10 4. ปนื เลก็ ยาว แบบ 11 (HK33/HK33A1) ขนาด 5.56 มม………………………. 14 5. ปลย.ขนาด 5.56 มม. (TAVOR)………………………………………………………… 17 6. เครื่องยงิ ลกู ระเบิด M79 ขนาด 40 มม…………………………………….……… 22 7. เคร่อื งยิงลูกระเบิด M203 ขนาด 40 มม………………………………………….. 25 8. เครอื่ งยิงลูกระเบิดอตั โนมัติ ขนาด 40 มม. (CIS 40 AGL)…………………. 27 9. ปนื กล M60 ขนาด 7.62 มม…………………………..…………………….………. 32 10. ปืนกล M60 D ขนาด 7.62 มม…………..…………..…………….……………. 36 11. ปนื กล MG 3 ขนาด 7.62 มม…………………………………………………….. 41 12. ปืนกล L43A1 ขนาด 7.62 มม…………………………………………………… 44 13. ปืนกล M37 ขนาด 0.30 นิ้ว……………………………………………….……… 47 14. ปืนกล M240 ขนาด 7.62 มม……………………………………………………. 50 15. ปืนกล 38 ขนาด 7.62 มม. (ปก. M240 G/MAG58) …………………. 55 16. ปนื กล แบบ 69 ขนาด 7.62 มม………………………………………………….. 58 17. ปืนกล 93 ขนาด .50 นิว้ ( M2 HB) ……….……………………………………… 61 18. ปืนกล M85 ขนาด .50 นว้ิ …………………..……………………………..……… 66 19. ปืนกล แบบ 59 ขนาด 12.7 มม. ………………………………………………... 70 20. ปนื กล KT-7.62 ขนาด 7.62 มม…………………………………..…………….. 73 21. ปนื กล NSVT-12.7 ขนาด 12.7 มม………..…………………….……………….. 75 22. เคร่ืองยงิ จรวด RPG2 และ RPG7……………………………………………….…….. 77 23. ปนื กล QJC 88 ขนาด 12.7 มม………………………………………………….. 94 24. ปนื กล แบบ 86 ขนาด 7.62 มม………………………………………………….. 95 ------------------------------------
-1- อาวธุ ขนาดเล็ก 1. ปนื พก แบบ 86 ขนาด 11 มม.(.45 นิ้ว) M1911/ M1911A1 1. กล่าวนา ปพ.แบบ 86 เป็นอาวุธประจากาย สาหรบั ใช้ปอ้ งกนั ตัวในระยะประชิด เป็นอาวธุ ท่ีมีลากล้องสน้ั จงึ ทาให้เกิดอุบตั เิ หตุได้ง่าย ฉะนัน้ ผมู้ ีหนา้ ท่ีต้องใช้อาวธุ จาเป็นตอ้ งรถู้ ึงลักษณะการทางาน ตลอดจนการปรนนิบัติ บารุงเปน็ อยา่ งดี 2. คณุ ลักษณะท่ัวไป 2.1 เปน็ อาวุธที่ใชถ้ ือยงิ ด้วยมือ 2.2 ทางานดว้ ยแรงถอย 2.3 ป้อนกระสุนด้วยซองกระสนุ (บรรจุกระสุน 7 นัด เรียงแถวเดยี ว) 2.4 เปน็ อาวุธยงิ แบบก่ึงอัตโนมัติ (กระสุนจะลั่นหนึง่ นัด เมอื่ เหนีย่ วไกแตล่ ะครง้ั ) หมายเหตุ อตั รากระสนุ มลู ฐาน เป็นอตั ราเบกิ จ่ายจานวน กระสนุ ซึ่งอนมุ ัติไว้ให้มีท่ีหน่วยใชต้ ลอดเวลาเพื่อเผชิญ สถานการณร์ บในข้ันต้นจนกวา่ การสง่ กาลังเพม่ิ เติม ตามปกตจิ ะดาเนนิ การได้ อัตรามลู ฐานดงั กล่าว หน่วย จะต้องสามารถนาไปดว้ ยกาลังพลและยานพาหนะในอตั รา ของหน่วย 3. มาตราทาน - ขนาดกว้างปากลากล้อง 0.45 นว้ิ ( 11 มม.) - ระยะยงิ หวงั ผลไกลสุด 50 เมตร - ระยะยิงไกลสุด 1,500 เมตร - ปืนทัง้ กระบอกยาว 8 5/8 น้วิ - ลากล้องยาว 5.03 นิ้ว - เกลยี วเวยี นซ้าย 6 เกลียว เพือ่ ชดเชยทางขีปนะ - ปืนทัง้ กระบอกพร้อมซองกระสุนบรรจเุ ต็มหนัก ประมาณ 3 ปอนด์ - ปืนทง้ั กระบอกพร้อมซองกระสนุ เปล่าหนัก ประมาณ 2.4 ปอนด์ - ความเร็วต้น ณ ปากลากลอ้ ง 830 ฟุต/วินาที 4. เครื่องเล็ง เป็นศูนย์แบบตายตัว ทั้งศูนย์หน้าและศูนย์หลัง ศูนย์หน้าเป็นศูนย์ครึ่งวงกลม ส่วนศูนย์หลังเป็น ศูนยบ์ ากรูปตวั วี (V) วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปพ.86)
-2- 5. ในขณะทีย่ ิงกระสุนนดั สดุ ทา้ ย เลอื่ นปืนอยู่ในตาแหนง่ เปดิ คา้ งเพือ่ แสดงว่ากระสนุ หมดซองและชว่ ยให้ การบรรจุกระสนุ รวดเร็วยิง่ ขึ้น 6. ลกั ษณะแตกต่างระหวา่ ง ปพ.แบบ 86 M1911 และ M1911A1 6.1 หางห้ามไกชว่ ยของ M1911A1 ดัดแปลงใหย้ าวกว่า M1911 ท้ังน้ีเพ่ือให้รบั กบั มือยงิ่ ขึ้น 6.2 ด้านซ้ายของโครงปืนตอนหลังโกร่งไกของ M1911A1 ทาให้เว้ามากข้ึนเพ่ือให้เป็นที่พักของน้ิวมือขวา (หรือน้วิ เหนยี่ วไก) และสามารถสวมถุงมอื ยงิ ได้ 6.3 ด้านหนา้ ของไก M1911A1 ทาให้เวา้ และส้ันกว่าเดิม มลี ายกนั ลื่นไว้เพื่อใหเ้ หนยี่ วไกได้ถนัดและประณีต ยิ่งขึน้ 6.4 เหล็กปิดท้ายโครงปืนของ M1911A1 ตอนล่างทาให้โค้งมากข้ึนและมีลายกันล่ืนไว้เพื่อให้กระชับกับอุ้ง มือในเวลากาปืน 6.5 สว่ นบนของศนู ย์หนา้ M1911A1 ไดด้ ัดแปลงให้ใหญข่ ้ึนเพื่อให้เล็งได้สะดวกและรวดเรว็ 7. การถอดแบบปกติ 7.1 ตรวจความปลอดภัยของปนื 7.2 ถอดซองกระสนุ 7.3 คลายปลอกบังคบั ครอบแหนบรบั แรงถอย 7.4 ถอดครอบแหนบรบั แรงถอย และแหนบ 7.5 ถอดปลอกบังคับ ครอบแหนบรบั แรงถอย 7.6 ดึงนกปืนมาขา้ งหลงั เพอื่ ขน้ึ นก 7.7 จดั เล่ือนปนื ใหแ้ ผ่น หยดุ เลื่อนปืนตรงกบั บาก เล็กท่ีด้านซ้ายของเลื่อนปืน (บากอันหลัง) 7.8 ถอดสลกั ลากลอ้ ง ปืนและแผน่ หยดุ เลอ่ื นปืน (ดนั สลักจากขวาไปซา้ ย) 7.9 หงายโครงปืนข้ึน แยกหมูเ่ ล่อื นปืนออกจากโครงปืน 7.10 ถอดแกนแหนบรบั แรงถอย 7.11 ถอดลากล้องและห่วงข้อต่อลากล้อง หมายเหตุ การถอดแบบปกติ ปพ.แบบ 86 ประกอบด้วยหม่ใู หญ่ ๆ 3 หมู่ คือ 1) หมเู่ ลอ่ื นปนื 2) หมโู่ ครงปนื วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปพ.86)
-3- 3) หมซู่ องกระสุน ** ไม่ควรลัน่ ไกในขณะถอดปืนแลว้ ถ้าจะลน่ั ไกต้องค่อย ๆ ปล่อยนกปืนไปข้างหนา้ 8. การประกอบ ใหก้ ระทาย้อนกนั กบั การถอด และให้ตรวจสอบปืนว่าไดป้ ระกอบไวถ้ ูกต้องหรือไม่ 9. การตรวจสภาพของเครื่องกลไก ในการรักษาความปลอดภัย จาเป็นจะต้องหม่ันตรวจสภาพของปืนอยู่ เสมอเพื่อปอ้ งกันอันตรายอนั จะเกิดข้ึน โดยให้ปฏบิ ตั ิดงั นี้.- 9.1 ตรวจหา้ มไก ปลดซองกระสนุ ตรวจความปลอดภยั ของปนื แลว้ ข้ึนนก ผลักห้ามไกขึ้นข้างบน บีบห้ามไก ช่วยให้จมลงไปในโครงปืน พร้อมกบั เหนีย่ วไกอยา่ งแรง 3-4 ครงั้ นกปืนจะต้องไมฟ่ าดตวั ลงไป 9.2 การตรวจห้ามไกช่วย ปลดซองกระสุนตรวจความปลอดภัยของปืนแล้วข้ึนนก หันปากลากล้องไปใน ทิศทางท่ีปลอดภัย เหนย่ี วไก 3-4 ครั้ง แต่อยา่ กดหา้ มไกช่วย นกปืนจะต้องไม่ฟาดตัวลงไป 9.3 การตรวจตาแหน่งกึง่ ข้นึ นก ปลดซองกระสุนตรวจความปลอดภัยของปืน ดงึ นกปนื ให้อยู่ในท่ากึ่งขึ้นนก แล้วเหนี่ยวไก นกปืนจะต้องไม่ฟาดตัวลงไป (ถ้านกปืนฟาดตัวแสดงว่านกปืนและกระเด่ืองนกปืนชารุด) ดึงนก ปนื มาข้างหลังอีกจนเกอื บถึงทา่ ขนึ้ นก หา้ มเหน่ยี วไก ปล่อยให้นกปืนผละกลับมาข้างหน้า นกปืนจะต้องไม่ฟาด ตวั เลยท่าก่ึงขึ้นนก (ถ้านกปนื ฟาดตัวเลยไปตที า้ ยเข็มแทงชนวน แสดงว่านกปนื ชารุด) 9.4 การตรวจเหลก็ ปลดสะพานไก หมายเหตุ เหลก็ ปลดสะพานไก มหี น้าท่ปี ้องกันไมใ่ ห้นกปืนฟาดตัวลงตีท้ายเขม็ แทงชนวนในเม่ือเลอ่ื นปืน ยังไมป่ ดิ ท้ายรังเพลงิ สนทิ และปอ้ งกนั ไมใ่ หท้ าการยงิ เป็นชดุ อีกด้วย การตรวจ ให้ปฏิบัตดิ งั น้ี.- - ปลดซองกระสุน ตรวจความปลอดภยั ของปนื แล้วขนึ้ นก ดงึ เลือ่ นปืนมาข้างหลังประมาณ 1/4 นิ้ว และให้ ยึดเลอ่ื นปนื ไว้ ณ ตาแหน่งนี้ พรอ้ ม ๆ กันนั้นให้เหนี่ยวไกค้างไว้ ปล่อยเล่ือนปืนกลับไปข้างหน้าแต่ยังคงเหนี่ยว ไกอยู่ตลอดเวลา นกปืนจะต้องไม่ฟาดตัวตามเลื่อนปืนลงไปตีท้ายเข็มแทงชนวน ( ถ้านกปืนฟาดตัวแสดงว่า ปลายบนหรือหวั ของเหลก็ ปลดสะพานไกชารุด ) - ให้ตรวจต่อไปโดยดึงเล่ือนปืนมาข้างหลังและยึดเลื่อนปืนค้างไว้ เหนี่ยวไกแล้วปล่อยให้เล่ือนปืนกลับไป ข้างหน้า นกปืนจะต้องไม่ฟาดตัวลงไปท้ัง ๆ ท่ีทาการเหน่ียวไกอยู่ (ถ้านกปืนฟาดตัวแสดงว่าเหล็กปลดสะพาน ไกชารุด) - ใหป้ ลอ่ ยไกแล้วเหนี่ยวใหม่ นกปืนจะต้องฟาดตัวลงไปตีท้ายเข็มแทงชนวน ( ถ้านกปืนไม่ฟาดตัวแสดงว่า แหนบกระเด่อื งนกปืน หรือเหล็กปลดสะพานไกชารดุ ) 10. การทางานของ ปพ.แบบ 86 มีทั้งหมด 8 ข้ันตอน ได้แก่ การข้ึนนก, การป้อนกระสุน, การบรรจุ กระสุนเข้ารงั เพลิง, การขัดกลอน, การล่ันกระสุน, การปลดกลอน, การรั้งปลอกกระสุน และ การคัดปลอกกระสนุ 11. การแก้ไขเหตุติดขัดทันทีทันใด คือการปฏิบัติทันทีทันใดของผู้ยิงเมื่อปืนเกิดการติดขัดขึ้น โดยยังไม่ ตอ้ งคน้ หาสาเหตกุ ารติดขัดในเวลาน้ัน มอี ยู่ 2 กรณี คอื 11.1 เมือ่ เลื่อนปืนอยู่หน้าสุดนกปืนฟาดตวั ลงตที า้ ยเขม็ แทงชนวน และปืนไมล่ ่นั กระสนุ ใหป้ ฏบิ ตั ิดังน้ี. วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปพ.86)
-4- - ดึงนกปนื มาขา้ งหลังเพื่อข้ึนนก เหน่ียวไกหน่ึงคร้ัง ถ้าปืนไม่ลั่นให้คอย 10 วินาที หันปากลากล้องช้ี ไปยงั เปา้ หมาย หลังจากนัน้ ดึงเลื่อนปนื มาข้างหลงั ให้สดุ แลว้ ปลอ่ ยกลับไปข้างหนา้ - ทาการเลง็ และยงิ ต่อไป 11.2 เมื่อเลื่อนปืนไม่เข้าท่ี (ไม่อยู่หน้าสุด) ให้ดันเล่ือนปืนไปหน้าสุด ถ้าเลื่อนปืนไม่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ให้ปฏบิ ัติดงั น้ี. - ปลดซองกระสุน ดึงเล่ือนปืนมาข้างหลังและยึดเล่ือนปืนค้างไว้ ตรวจดูในรังเพลิงจะต้องไม่มีสิ่ง แปลกปลอม สอดซองกระสนุ กลบั เข้าไปในปืนใหม่ - ปล่อยเลอื่ นปืนกลับไปข้างหนา้ - ทาการเล็งและยิงต่อไป ถ้าปืนยังไมล่ ่ันกระสนุ หลงั จากได้ทาการแกไ้ ขเหตตุ ดิ ขัดทันทีทันใดแล้ว ให้ทาการค้นหาสาเหตุการติดขัด ของปนื ต่อไป 12. การระวงั รักษาและการทาความสะอาดอาวุธ 12.1 ก่อนทาการยงิ ชิน้ สว่ นภายในของปนื ทัง้ หมดใหช้ โลมด้วยน้ามนั บาง ๆ ยกเว้นรูหลอดลากล้องและ ชิ้นส่วนภายในท่ีสัมผัสกับกระสุนให้เช็ดแห้ง โดยเฉพาะอย่างย่ิงให้หยอดน้ามันตามช้ินส่วนต่าง ๆ ท่ีเคล่ือนที่ และชิ้นส่วนท่ีได้รับการขัดสีอยู่เสมอ เช่น ช่องทางเดินของเลื่อนปืน (บริเวณเลื่อนปืนและโครงปืน) การหยอด นา้ มนั น้ีต้องระวงั ไม่ให้มากเกินไปดว้ ย หลงั จากประกอบปืนแลว้ ใชผ้ ้าชุบน้ามันหมาด ๆ เช็ดภายนอกของปืนแต่ ระวังช้ินสว่ นบริเวณทเี่ รากาปนื เวลาทาการยิงอยา่ ให้มนี า้ มนั มากเกินไปเพราะจะทาให้ลื่นจับถือปืนลาบาก ขอ้ ควรระวงั อยา่ ปลอ่ ยใหเ้ ศษผ้าทใ่ี ชท้ าความสะอาดหรือสง่ิ อื่น ๆ ค้างอยู่ในลากลอ้ งและรงั เพลงิ หรอื อดุ ปากลากลอ้ งไว้ 12.2 ภายหลังการยิง เมื่อทาการยิงเสร็จแล้วให้รีบทาความสะอาดภายในลากล้องและรังเพลิง ไม่ควร ปลอ่ ยท้งิ ไว้ใหข้ า้ มวนั ตอ่ จากนน้ั ทาความสะอาดและชโลมน้ามันทุกวนั อย่างน้อยเป็นเวลาตดิ ตอ่ กัน 3 วัน 13. กระสุน ปพ.แบบ 86 (M1911A1) ขนาด 11 มม. (0.45 นิว้ )(TM 43-0001-27 ฉบับ APRIL 1994) 13.1 กระสุนธรรมดา (BALL, M1911) หวั ไม่ทาสี ใชส้ ังหารบุคคล และเปา้ หมายท่ไี มแ่ ขง็ แรง 13.2 กระสนุ ซอ้ มรบ (BLANK, M9) ไม่มีหวั กระสนุ ปากปลอกสอบ ใช้ยงิ แทนกระสุนจริงในการฝกึ ทางยุทธวธิ ีและใชย้ งิ สลตุ 13.3 กระสนุ ฝึกบรรจุ (DUMMY, M1931) ไมม่ ีชนวนท้ายและปลอก กระสุนเจาะรู 2 รู ใช้ฝึกบรรจุและใชต้ รวจสภาพ/ทดสอบกลไกของอาวธุ 13.4 กระสุนส่องวิถี (TRACER, M26) ปลายหัวกระสุนทาสีแดง ความมงุ่ หมายหลักใช้สาหรับตรวจตาบลกระสุนตก ความมงุ่ หมายรอง ใชส้ าหรบั ผลในการลกุ ไหม้และใชเ้ ป็นอาณัตสิ ัญญาณ 13.5 กระสนุ WAD CUTTER ลูกกระสุนเป็นรูปกรวย วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปพ.86)
-5- โค้งหวั กระสนุ คม สาหรบั เจาะเปา้ หมายใหเ้ ป็นรู ใชส้ าหรับฝึกยงิ WAD CUTTER 13.6 กระสุนทดสอบความดันสงู (HIGH PRESSURE TEST, M1) ปลอกกระสุนสเี งนิ ใช้ยิงตรวจสอบการทางานของปนื ในระหวา่ งการผลติ , การทดสอบ หรอื การซอ่ มบารุง 13.7 กระสนุ แขง่ ขัน (MATCH, M1911) จานท้ายปลอกกระสุน จะประทับอกั ษร NM (NATIONAL MATCH) หรอื คาวา่ MATCH ใช้สาหรบั แข่งขนั 14. สิ่งชี้สอบในการตรวจสภาพ ปพ.แบบ 86 ชิ้นส่วนสาคัญท่ีต้องตรวจสภาพก็คือ ช้ินส่วนต่าง ๆ ของ ปืนซึ่งรับแรงกระทาของแก๊สอยู่เสมอ ได้แก่ ผิวภายในของลากล้องและรังเพลิง, ส่วนบนของซองกระสุน, ผนัง ดา้ นขา้ งของเลื่อนปนื และผวิ หน้าของโครงปืน ช้นิ ส่วนเหล่านีม้ ักจะสึกกร่อนได้เสมอ ---------------------- วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (ปพ.86)
-6- 2. ปนื เลก็ ยาว แบบ M16/M16A1 ขนาด 5.56 มม. 1. คณุ ลักษณะทั่วไป ปืนเลก็ ยาว M16/M16A1 เป็นปืนท่มี ีนา้ หนกั เบา สามารถท้าการยิงไดท้ ้ังกง่ึ อัตโนมัติ และอัตโนมัติ ทา้ งานด้วยแกส๊ ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ ปอ้ นกระสุนดว้ ยซองกระสุน 20 นัด, 30 นดั และ ยงิ ด้วยการประทับไหล่ ข้อแตกตา่ งระหว่างแบบ ปลย.M16A1 มีเหล็กสง่ ลกู เล่ือนส่วน ปลย.M16 ไม่มี ปนื ทงั้ สองแบบมีปลอกลดแสงและสามารถ ตดิ ขาทรายไดท้ ่ีใตศ้ นู ยห์ นา้ 2. มาตราทาน - ปลย.M16 ไมร่ วมซองกระสนุ และ สายสะพาย หนัก 6.35 ปอนด์ - ปลย.M16A1 ไมร่ วมซองกระสุน และสายสะพาย หนัก 6.55 ปอนด์ (2.97 กก.) - ปลย.M16A1 รวมสายสะพายและ ซองกระสุน 20 นดั บรรจเุ ตม็ หนัก 7.6 ปอนด์ (3.45 กก.) - ปลย.M16A1 รวมสายสะพายและซองกระสนุ 30 นัด บรรจุเตม็ หนัก 7.9 ปอนด์ (3.60 กก.) - เกลียวล้ากลอ้ ง เวียนขวา/6 ร่องเกลยี ว/ครบรอบทรี่ ะยะ 12 น้ิว - ปืนพร้อมดาบปลายปนื M7 ยาว 44.25 นิ้ว (112.40 ซม.) - ปืนรวมปลอกลดแสง ยาว 39 นิ้ว (99.06 ซม.) - ความเร็วตน้ ทปี่ ากล้ากลอ้ ง ประมาณ 3,250 ฟุต/วนิ าที - อัตราเรว็ ในการยงิ ตามวงรอบการท้างาน ประมาณ 700-800 นดั /นาที - อัตราเรว็ ในการยิงสูงสุด กึ่งอัตโนมตั ิ 45-65 นัด/นาที อัตโนมตั ิ 150-200 นัด/นาที ยิงต่อเน่ือง 12-15 นดั /นาที - ระยะยงิ ไกลสดุ 2,653 เมตร -ระยะยิงหวงั ผลไกลสุด 460 เมตร หมายเหตุ สา้ หรบั ปืนเลก็ สน้ั M653 ระยะยงิ ไกลสุดและระยะยงิ หวังผลไกลสุดเหมือนกับ ปลย.แบบ M16/M16A1 3. การถอด/ประกอบ ก. การตรวจความปลอดภัยของปนื - จดั คนั บงั คบั การยงิ ใหอ้ ยู่ในตา้ แหนง่ SAFE วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปลย.M16 และ ปลย.M16A1)
-7- หมายเหตุ ถา้ ปนื ไม่ได้ข้ึนนก คนั บังคับการยงิ ไมส่ ามารถจดั ให้อยใู่ นต้าแหนง่ SAFE - ปลดซองกระสุน - ดงึ คนั รั้งลกู เล่อื นมาข้างหลังเพ่ือยึดลูกเลื่อนให้ค้างไว้ โดยกดท่ีส่วนล่างกลอนยึดลูกเล่ือน แล้วผลักคันร้ัง ลูกเลอ่ื นกลับไปข้างหนา้ หมายเหตุ จะต้องมัน่ ใจวา่ คนั บงั คบั การยงิ อยูใ่ นต้าแหนง่ SAFE - ตรวจดูในโครงปืนและรงั เพลงิ ต้องไมม่ กี ระสุน - คันบังคับการยิงยังคงอยู่ในต้าแหน่ง SAFE ปล่อยลูกเล่ือนกลับไปข้างหน้าโดยกดท่ีส่วนบนกลอนยึดลูก เลื่อน หมายเหตุ ถ้าจะเกบ็ ปนื ไวใ้ นคลังควรลนั่ ไกเสียกอ่ นเพอ่ื เป็นการผ่อนแหนบนกปืน - จดั คนั บงั คบั การยงิ ให้อยู่ในต้าแหนง่ SEMI แลว้ ลั่นไก ข. การถอด (การถอดแบบปกติ) ก่อนท้าการถอดให้ดึงคนั รง้ั ลูกเลอ่ื นเพอื่ ข้นึ นกและจัดคันบังคับการยิงให้อยู่ ในตา้ แหน่ง SAFE เพื่อปอ้ งกนั มใิ ห้กระเด่อื งอัตโนมัติช้ารุด 1. สายสะพาย 2. รองลา้ กลอ้ ง (ควรใชก้ ้าลังพล 2 นาย) 3. ชุดโครงปนื สว่ นบนและส่วนล่าง 4. ชดุ คันรงั้ ลกู เล่อื น,ชดุ ลกู เลือ่ นและโครงน้าลูกเล่อื น 5. ชดุ เครอื่ งรับแรงถอย หมายเหตุ ช้ินส่วนของปืนท่เี หลือไม่อนญุ าตใหผ้ ใู้ ช้ท้าการถอด 4. การประกอบ การประกอบให้กระทา้ กลบั ขน้ั ตอนในการถอด คอื ชิน้ ส่วนที่ถอดก่อนใส่ทีหลัง และชิ้นส่วนท่ี ถอดออกมาทีหลังใหใ้ สเ่ ข้าไปก่อน 5. ก่อนนาปืนไปใช้งาน ให้ตรวจสภาพเก่ียวกับการช้ารุดหรือสูญหายของช้ินส่วน ตรวจการท้างานของคันบังคับ การยิง ตรวจศนู ย์หน้าและศูนยห์ ลังต้องสามารถปรบั ได้ และใหต้ รวจการทา้ งานของเหล็กยึดซองกระสุน 6. การทางาน แบ่งตามวงรอบการท้างานได้เป็น 8 ข้ันตอน คือ การป้อนกระสนุ , การบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิง, การขัดกลอน, การลัน่ กระสุน, การปลดกลอน, การร้ังปลอกกระสุน, การคัดปลอกกระสุน และ การขน้ึ นก โดย เร่มิ ต้นหลังจากท่ีสอดซองกระสุนซึ่งบรรจุกระสุนแลว้ เข้ากับปืน 7. การแก้ไขเหตุตดิ ขัดทนั ทีทนั ใด เหตุติดขัดทันทีทันใด คือ การหยุดชะงักโดยไม่เจตนาในวงรอบการท้างาน ต้องท้าการแก้ไขเหตุติดขัดน้ันอย่างทันทีทันใด การแก้ไขคือการปฏิบัติโดยไม่ค้านึงถึงสาเหตุติดขัดในขณะน้ัน โดยให้ปฏิบตั ดิ งั น้ี. (ใหป้ ฏิบัตเิ พยี งคร้ังเดยี ว) - ตบซองกระสุนเข้าที่ใหส้ ุด - ดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาข้างหลังให้สุดแล้วตรวจดูในรังเพลิง (สังเกตดูว่าปืนได้คัดปลอกกระสุน หรือกระสุน ออกมาหรอื ไม)่ - ปล่อยคันรงั้ ลกู เลื่อนกลับไปขา้ งหนา้ โดยเรว็ - ดันเหล็กส่งลูกเล่อื นไปข้างหน้าเพ่ือให้ม่ันใจว่าลูกเล่อื นปดิ ท้ายรังเพลิงสนทิ วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปลย.M16 และ ปลย.M16A1)
-8- - ทา้ การเลง็ แล้วยิงต่อไป ถ้าปืนยังไมล่ น่ั กระสุนหลังจากได้แก้ไขเหตุตดิ ขัดทนั ทีทนั ใดแล้วใหค้ น้ หาสาเหตุการตดิ ขัดของปืนต่อไป 8. การใชศ้ ูนย์และการปรบั ปืนตงั้ ศูนยร์ บ ก. ก่อนการปรบั ปืนตั้งศนู ยร์ บ ต้องจดั ศูนยห์ นา้ และศนู ย์หลังให้อยใู่ นต้าแหน่งย่านกลางของศูนย์เพื่อให้กลุ่ม กระสุน 3 นัดแรกใกล้เคียงเปา้ หมายมากที่สุด 1. ศูนย์หน้า หมุนศูนย์หน้าข้ึนหรือลงให้ร่องบากท่ีฐานศูนย์หน้าเสมอกับขอบบนของร่องฐานศูนย์หน้า แล้วหมนุ ศูนย์หนา้ ตามเขม็ นาฬิกา 11 คล๊ิก 2. ศนู ย์หลัง หมุนควงปรบั ทางทิศไปทางซา้ ยใหส้ ดุ เสรจ็ แล้วใหห้ มนุ ยอ้ นไปทางขวา 17 คลิก๊ ข. การปรับปืนต้ังศูนย์รบในสนามย่อส่วน 25 เมตร โดยใช้กลุ่มกระสุน 3 นัดต่อเป้าตารางเหลี่ยม จะมีผล เท่ากบั ในการปรับปนื ต้ังศูนยร์ บระยะ 250 เมตร โดยใชศ้ นู ยร์ ูเล็ก (ไม่มีเคร่ืองหมาย) ค. ในระยะ 25 เมตร หมุนศูนย์หน้าหรือศูนย์หลัง 1 คล๊ิก จะท้าให้ต้าบลกระสุนถูกที่หมายเปล่ียนไปจาก เดิม 0.7 ซม. ง. ในระยะ 100 เมตร หมุนศูนย์หน้าหรือศูนย์หลัง 1 คลิ๊ก จะท้าให้ต้าบลกระสุนถูกที่หมายเปลี่ยนไปจาก เดิม 2.8 ซม. จ. หลงั จากปรบั ปืนตง้ั ศูนยร์ บแล้วให้ปฏิบัติการยิง ระยะ 0 ถึง 300 เมตร ให้ใช้ศูนย์รูเล็ก (ไม่มีเคร่ืองหมาย) ระยะเกนิ กว่า 300 เมตร ใหใ้ ชศ้ ูนยร์ ใู หญ่ (มเี ครอื่ งหมาย L) 9. การระวงั รักษาและการทาความสะอาด - ก่อนท้าการยิง เช็ดแห้งรูหลอดล้ากล้อง,รังเพลิง, ศูนย์หน้าและศูนย์หลัง ส้าหรับส่วนเคล่ือนท่ีโดยเฉพาะ อยา่ งย่งิ บรเิ วณรอ่ งทางเดินของสลกั ลูกเบีย้ ว และรอ่ งทางเดินใต้โครงลูกเล่ือนให้ชโลมน้ามันบาง ๆ ตรวจสภาพ แหวนลกู เลื่อนช่องว่างจะตอ้ งเหลอ่ื มล้ากนั ถ้าชอ่ งว่างตรงกันจะท้าให้ปืนถอยหลังน้อย เนื่องจากแรงดันแก๊สไม่ พอ - หลังท้าการยิง ทา้ ความสะอาดช้ินสว่ นต่างๆ ใหส้ ะอาด แล้วชโลมน้ามนั ให้ทัว่ กระท้าติดตอ่ กันอย่างน้อย 3 วัน ส้าหรับท่อแก๊สให้ใช้วัสดุท้าความสะอาดไบต์สูบบุหรี่ท้าความสะอาดและเช็ดแห้ง หลังจากน้ันให้หยอด นา้ มนั CLP หน่งึ หยดที่ท่อแก๊สบนโครงนา้ ลกู เล่อื น - ประจ้าสปั ดาห์ ตอ้ งหม่ันตรวจและทา้ ความสะอาดทุก ๆ สัปดาห์ 10. กระสุน กระสนุ ปลย.แบบ M16/M16A1/ปืนเลก็ สนั้ M653 (TM 43-0001-27 ฉบบั APRIL 1994) 1. กระสนุ ฝึกบรรจุ (DUMMY, M199) ไม่มชี นวนทา้ ย ปลอกกระสนุ เปน็ ลอนลูกฟูก 6 ลอน M199 2. กระสุนซอ้ มรบ (BLANK, M200) ปากปลอกกระสุนจบี M200 3. กระสนุ พลาสตกิ ฝึกยิง (DUMMY, M862) ใช้ยิงกบั ลกู เลอ่ื นฝกึ ยิง M2 ลูกกระสนุ พลาสติกสีฟ้า ใชฝ้ กึ ยงิ เม่อื พนื้ ทีจ่ า้ กัดด้วยระยะ M862 วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปลย.M16 และ ปลย.M16A1)
-9- 4. กระสุนธรรมดา (BALL, M193) หัวกระสนุ ไมท่ าสี ใชส้ งั หารบุคคล M193 และยิงท้าลายที่หมายไมห่ ุ้มเกราะ 5. กระสุนส่องวถิ ี (TRACER, M196) หัวกระสุนทาสีแดง ใชต้ รวจตา้ บลกระสุนตก M196 6. กระสนุ ฝึกบรรจุ (DUMMY, M232) ไม่มชี นวนทา้ ย ลูกกระสนุ ทาด้วยสดี า้ M232 7. กระสนุ ยิงลกู ระเบิดจากปืนเล็ก (GRENADE, M195) ปากปลอกกระสุนจบี 8. กระสุนทดสอบความดันสูง (HIGH PRESSURE TEST, M197) ปลอกกระสุนสีเงินท้าด้วยนิคเกิล บรรจุ ดินส่งกระสุนชนิดพเิ ศษ 9. กระสุนซ้อมรบ (BLANK, M755) ปากปลอกกระสุนจีบ ใช้ยิงกระสุนปราบจลาจล M743 จากเครื่องยิง ลกู ระเบิด M234 ขนาด 64 มม. ซง่ึ ตดิ กบั ปลย.M16A1 11. ส่ิงช้ีสอบ ส้าหรับ ปลย.แบบ M16/M16A1/ปืนเล็กสั้น M653 ฝาปิดกันฝุ่นสวมปากล้ากล้องจะใช้เมื่อ ปฏิบัติการในสนามเท่าน้ัน เมื่อเก็บปืนไว้ในคลังอาวุธเป็นเวลานาน ๆ ห้ามสวมฝาปิดกันฝุ่นท่ีปากล้ากล้อง เพราะจะทา้ ให้ความชื้นเกดิ การรวมตวั ขึ้นภายในล้ากลอ้ ง - - - - - - - - - - - ------------------------ - - - - - - - - - - - วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปลย.M16 และ ปลย.M16A1)
-10- 3. ปืนเล็กยาว M16A2 ขนาด 5.56 มม. 1. กล่าวนา ปนื เล็กยาว M16A2 เปน็ อาวุธประจากาย ใช้ยงิ ทาลายเป้าหมายในการโจมตีและป้องกันตัว 2. คุณลักษณะที่แตกตา่ งจาก M16A1 1. รองลากลอ้ ง, พานท้ายและดา้ มปนื ทาจากวสั ดุที่คงทนกว่า M16A1 2. รองลากล้องเปน็ แบบกลม (สามารถสับเปลี่ยนกันได้ระหว่างอนั บน กับอนั ล่าง) และทาให้เปน็ ร่องเพอื่ ให้กระชบั มือย่ิงข้นึ นอกจากนน้ั ยังไดป้ รบั ปรงุ ในเร่อื งการระบายความรอ้ น 3. ผนงั ลากลอ้ งและรังเพลิงไดร้ ับการชบุ โครเมียม 4. มีปลอกลดแสง (ปลอกหักเหแรงผลักดัน) เพื่อ ช่วยกดปากลากล้องลงขณะทาการยิงและช่วยในการ กาจัดการฟุ้งกระจายของฝุน่ เมื่ออยู่ในทา่ นอนยงิ 5. มลี าดป้องกนั ปลอกกระสุน สาหรับคนถนัดซา้ ย 6. คนั บังคบั การยิง ปลย.M16A2 มี 3 ตาแหน่ง คือ SAFE-SEMI-BURST (ชุดละ 3 นัด) 7. ศูนย์ จะแตกต่างจาก ปลย.M16A1 ในเร่ืองของศูนย์หลังคือ ศูนย์หลังแบบพลิก เม่ือพลิกศูนย์หลังอันที่ ใชต้ ามปกติ (ที่ไม่มีเครื่องหมาย) ไปด้านหน้า ศูนย์หลังอันใหญ่มีเครื่องหมาย \"0-2\" จะพลิกขึ้นให้ใช้ศูนย์น้ีเม่ือ ปรับแป้นทางสูง (แป้นตั้งระยะ) ให้เลข 3 ตรงกับขีดแนวเครื่องหมายท่ีด้านซ้ายของโครงปืน ซึ่งศูนย์หลังจะ ตา่ ลง ทาให้ได้แนวเส้นเล็งท่ีระยะยิง 200 เมตร โดยอัตโนมัติ ให้ใช้ศูนย์หลังท่ีมีเครื่องหมาย \"0-2\" สาหรับการ ยิงในเวลากลางคืน หรือยิงเป้าหมายในระยะใกล้ เช่น การปฏิบัติการในเมืองหรือในป่าทึบ ศูนย์รูท่ีไม่มี เครื่องหมาย (รูเล็ก) ใช้เล็งในการยิงปืนส่วนใหญ่ โดยใช้ร่วมกับแป้นทางสูงสาหรับเป้าหมายในระยะยิง 300, 400, 500, 600, 700 และ 800 เมตร 3. มาตราทาน 1. น้าหนัก ปลย.M16A2 ไม่รวมซองกระสนุ และสายสะพาย 3.53 กก. (7.78 ปอนด์) 2. นา้ หนกั สายสะพายแบบจัดปรับได้ M1 0.18 กก. (0.40 ปอนด์) 3. ขาทราย M3 หนกั 0.27 กก. (0.60 ปอนด์) 4. น้าหนัก ปลย.M16A2 พร้อมสายสะพายและซองกระสนุ 20 นัด บรรจเุ ตม็ 3.85 กก. (8.48 ปอนด์) 5. น้าหนกั ปลย.M16A2 พร้อมสายสะพายและซองกระสนุ 30 นดั บรรจเุ ตม็ 3.99 กก. (8.79 ปอนด์) 6. ดาบปลายปนื M9 หนัก 0.68 กก. (1.50 ปอนด์) 7. ฝกั ดาบปลายปนื หนัก 0.14 กก. (0.30 ปอนด์) 8. ความยาวปนื ทั้งกระบอกรวมปลอกหักเหแรงผลกั ดัน (ปลอกลดแสง) 100.66 ซม.(39.63 นิว้ ) 9. ความยาวเมอ่ื ตดิ ดาบปลายปนื 113.99 ซม. (44.88 นว้ิ ) วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ปลย.M16A2)
-11- 10. ความยาวเฉพาะลากลอ้ ง 20 น้วิ 11. ความยาวลากลอ้ งพร้อมปลอกหักเหแรงผลักดนั 21 นว้ิ 12. เกลียวลากลอ้ ง เวียนขวา/6 ร่องเกลยี ว/ครบรอบท่ีระยะ 7 นวิ้ (ปลย.M16A1 ครบรอบทีร่ ะยะ 12 น้วิ ) 13. แบบการทางาน แก๊ส 14. กลไกปิดทา้ ยรังเพลิง แบบลกู เลื่อนหมนุ ตวั 15. การปอ้ นกระสุน ป้อนด้วยซองกระสุน 16. การระบายความร้อน ระบายความรอ้ นด้วยอากาศ 17. แรงเหนีย่ วไก 5 - 8 1/2 ปอนด์ 18. กระสนุ ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 5.56 มม. 19. กระสนุ ท่ใี ช้กบั ปลย.M16A2 (TM 43-0001-27 ฉบบั APRIL 1994) 1) กระสนุ ฝึกบรรจุ M199 2) กระสนุ ซ้อมรบ M 200 M199 M200 3) กระสุนพลาสติกฝึกยิง M 862 M862 M855 4) กระสนุ ธรรมดา M 855 5) กระสุนส่องวถิ ี M 856 6) กระสนุ เจาะเกราะ M 995 หวั ทาสดี า M856 20. ความเรว็ ตน้ (ประมาณ) 3,100 ฟุต/วินาที M995 21. พลังงาน ณ ปากลากลอ้ ง 1,322 ฟตุ -ปอนด์ 22. แรงดนั ในรังเพลงิ 52,000 ปอนด์/ตร.นิว้ 23. อตั ราเรว็ ในการยงิ ตามวงรอบการทางาน ประมาณ 700-800 นัด/นาที 24. อตั ราเร็วในการยงิ สูงสุด 1) ยงิ กึ่งอัตโนมัติ 45 นัด/นาที 2) ยิงเปน็ ชดุ ( 3 นดั ) 90 นดั /นาที 25. อัตราเรว็ ในการยงิ ตอ่ เนอ่ื ง 12-15 นดั /นาที 26. ระยะยงิ ไกลสดุ 3,600 เมตร 27. ระยะยิงหวังผลไกลสดุ 1) เป้าหมายบุคคล/เปา้ หมายเป็นจุด 550 เมตร 2) เปา้ หมายเปน็ พ้ืนท่ี 800 เมตร หมายเหตุ น้าหนักและระยะยิงท่ีได้เป็นคา่ โดยประมาณ โดยการใชก้ ระสนุ M855 4. การถอด/ประกอบ 1. การตรวจปนื เพ่ือความปลอดภยั (เหมอื น ปลย.M16A1) 2. การถอด (แบบปกติ) เหมอื น ปลย.M16A1 วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปลย.M16A2)
-12- 3. การประกอบ เหมือน ปลย.M16A1 5. การทางาน เหมอื น ปลย.M16A1 6. การแกไ้ ขเหตุติดขัดทนั ทีทันใด เหมือน ปลย.M16A1 7. การปรับปืนตง้ั ศนู ยร์ บ ข้ันตอนดังต่อไปนี้เป็นการ ปรับปืนตั้งศูนย์รบท่ีระยะยิง 25 เมตร ซึ่งจะทาให้ ปลย.M16A2 มีเส้นเล็งศูนย์ รบทรี่ ะยะยงิ 300 เมตร พอดี 1. เร่ิมแรกยังไม่ปรับศูนย์หน้า เพราะปรับมาแล้วจากโรงงานหรือจากผู้ที่ใช้ปืนคนก่อน ซึ่งน่าจะอยู่ใน ตาแหน่งใกล้เคียงกัน 2. ปรบั ศูนย์หลังใหอ้ ยู่ก่ึงกลาง (มีขีดบอกไว้ทโ่ี ครงศูนย์หลัง) โดยหมุนแปน้ ทางทิศไปทางซ้ายหรือทางขวา 3. ใชศ้ ูนยร์ อู นั ท่ีไมม่ ีเครือ่ งหมาย 4. หมุนแป้นทางสูงในทิศทางลง (ทวนเข็มนาฬิกา) แป้นทางสูงควรหยุดท่ีตาแหน่ง 3 คลิก ผ่านแนวขีด เครอ่ื งหมายระยะยงิ 300 เมตร ศูนยห์ ลังควรปรับลงได้ต่าสุด เมื่อถึงคลิกสุดท้ายก่อนยันด้านล่าง (ปรับเส้นเล็ง มุมสงู ทางกล) และหากพบว่ามาตราระยะยิงไม่ตรงตามน้ตี ้องให้ชา่ งอาวุธแก้ไข 5. หมุนแป้นทางสูงขึ้นหน่ึงคลิกผ่านแนวขีดเครื่องหมายระยะ 300 เมตร และให้อยู่ท่ีตาแหน่งน้ีโดยไม่จัด ปรับทางสงู ทีศ่ ูนยห์ ลังอีก จะจัดปรับทางสูงท่ีศูนย์หนา้ เท่านน้ั 6. เลง็ และยิงอยา่ งประณีตไปยังกึ่งกลางวงดาในแผ่นเป้า ไม่ต้องรีบร้อนและให้แน่ใจว่าเล็งตรงกึ่งกลางวงดา ในแผ่นเปา้ 7. ถ้ากลุ่มตาบลกระสุนตกไม่อยู่ตรงก่ึงกลางวงดาในแผ่นเป้า ให้คานวณหาจานวนคลิกท่ีต้องจัดปรับจาก ตารางที่แผ่นเป้า ซึ่งตารางมีขนาดกว้าง 0.9 ซม. ยาว 0.9 ซม. (พึงระลึกอยู่เสมอว่าการปรับทางสูงให้ปรับ ศูนย์หน้าเท่าน้ัน) ตารางที่แผ่นเป้ามีตัวเลขกากับท่ีขอบ ซึ่งเป็นจานวนคลิกที่ต้องเล่ือนตาบลกระสุนตกให้อยู่ กึง่ กลางวงดาของแผน่ เป้า 8. ถ้าต้องการปรับตาบลกระสุนตก สูงขึ้น ให้หมุนแท่นศูนย์หน้าตามเข็มนาฬิกา (1 คลิก จะเล่ือนตาบล กระสนุ ตกขนึ้ 1 ช่องของตาราง) การปรบั ตาบลกระสุนตกตา่ ลง ใหห้ มุนแท่นศนู ย์หน้าทวนเข็มนาฬิกา (1 คลิ๊ก จะเลื่อนลง 1 ช่อง) การเปล่ียนแปลงในทางทิศทาได้ด้วยการหมุนปุ่มปรับทางทิศ ( 3 คลิก จะเล่ือนตาบล กระสนุ ตกไป 1 ช่องในทางทิศของแผ่นเปา้ ) * ถา้ ตอ้ งการปรับกลุ่มตาบลกระสนุ ตกไป ทางซ้าย ให้หมนุ แปน้ ทางทิศ ทวนเข็มนาฬิกา * ถา้ ตอ้ งการปรบั กลุ่มตาบลกระสุนตกไป ทางขวา ใหห้ มนุ แปน้ ทางทิศ ตามเข็มนาฬิกา 9. เล็งและยิงอย่างประณีตทก่ี ง่ึ กลางวงดาในแผ่นเป้า 10. ทาขัน้ ตอนท่ี 7.7 ถึง 7.9 ซ้า ถ้ายงั ปรบั เสน้ เล็งไม่เขา้ ท่ี 11. ถ้ากลุ่มตาบลกระสุนตกอยู่ตรงกึ่งกลางวงดา ปืนของท่าน \"ปรับได้ที่\" จากนั้นให้ปรับศูนย์หลัง สาหรับ ระยะยิง 300 เมตร โดยหมุนแป้นทางสูงลง 1 คลิก ( มาตราระยะยิง 300 เมตร จะตรงกับแนวขีดท่ีโครงปืน ดา้ นซา้ ย ) วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปลย.M16A2)
-13- ** เมอื่ ปรบั ปนื ตั้งศนู ย์รบไดท้ ่ีแลว้ จะมีลักษณะดังน้ี.- - แท่งศูนยห์ นา้ และแป้นทางทิศท่ีศูนย์หลงั ไดร้ ับการจัดปรับให้ยิงถูกเป้าหมายท่ีเล็งในระยะ 300 เมตร - ศนู ยร์ อู ันท่ไี ม่มีเคร่ืองหมายจะตอ้ งต้งั ขึน้ - เครื่องหมาย 300 เมตร จะตอ้ งตรงแนวขีดท่ดี ้านซ้ายของโครงปืน ** ศูนย์ปนื จะถูกปรับไวท้ ีศ่ ูนยร์ บ ( มาตราระยะยงิ อยูท่ ี่ 300 เมตร ) และจะปรับให้ระยะมากข้นึ ไดค้ รงั้ ละ 100 เมตร เมอ่ื จะยิงเปา้ หมายท่อี ยู่ในระยะยิงไกลกวา่ เช่น 500 หรือ 800 เมตร ให้ปฏิบตั ดิ ังนี้.- - หมุนแปน้ ทางสูงให้ตวั เลขแสดงระยะยงิ ตรงกบั ขดี แนวเคร่ืองหมายทด่ี ้านซ้ายโครงปนื - เล็งและยงิ เปา้ หมาย - ปรบั แปน้ ทางสงู ใหต้ ัวเลขกลับไปอยทู่ ี่ระยะ 300 เมตร เหมือนเดมิ เมื่อเสร็จภารกิจ หมายเหตุ จะมเี สียงคลิกระหว่างหมายเลขขณะหมุนปรับแปน้ ทางสูง ใช้สาหรับปรับทางสูงเพ่ิมเติมจาก ตัวเลขแสดงระยะท่กี าหนดไว้ ** ใช้ศนู ยร์ ู 0-2 ยิงเป้าหมายในระยะยิงระหว่าง 0 - 200 เมตร, ยงิ ในเวลากลางคนื หรือในระยะใกล้ (การ ยงิ เป้าเคล่ือนทีใ่ นระยะใกลจ้ ะถูกได้ง่ายกว่าถ้าใช้ศนู ย์ที่มรี โู ตกวา่ ) โดยหมนุ แปน้ ทางสงู ลงไปทเี่ คร่อื งหมาย 300 เมตร และพบั ศนู ยร์ ูท่ีไม่มเี คร่ืองหมายลง ใช้ศนู ยร์ ูท่ีมีเคร่ืองหมาย \" 0-2 \" 8. การระวงั รักษาและการทาความสะอาด เหมือน ปลย.M16A1 9. ส่งิ ช้ีสอบ เหมอื น ปลย. M16A1 - - - - - - - - - - - - ------------------------------ - - - - - - - - - - วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปลย.M16A2)
- 14 - 4. ปืนเล็กยาว แบบ 11 (HK33/HK33A1) ขนาด 5.56 มม. 1. กลา่ วนา ปลย.11 เป็นอาวธุ ประจากายหลกั ของกองทัพบกไทย สามารถยิงเป็นชุดและยงิ ทลี ะนดั ไดด้ ว้ ย คันบงั คบั การยิง ซ่งึ มีอยู่ 3 ตาแหน่ง คอื หา้ มไก (ห.), ยงิ ทีละนดั (ย/น.) และ ยิงเป็นชุด (ย/ช.) 2. ลกั ษณะทั่วไป - บรรจกุ ระสนุ ด้วยซองกระสุน 20 นดั และ 40 นดั - ทางานดว้ ยแรงสะท้อนถอยหลงั แต่ลากล้องอย่กู บั ท่ี - ใชร้ ะบบการขดั กลอนด้วยลูกกล้ิง ซ่งึ เปน็ ท้ังตวั ขดั กลอน ปลย.HK33 และหน่วงเวลาในการเปดิ ทา้ ยรังเพลงิ - ระบายความรอ้ นด้วยอากาศ - สามารถติดกล้องเลง็ ได้ และยงั สามารถประกอบขาทรายตดิ เขา้ ที่ใตศ้ นู ย์หน้า ปลย.HK33A1 3. มาตราทาน - ขนาดกวา้ งปากลากล้อง 5.56 มม.(0.223 น้วิ ) - HK33 (พานท้ายแบบตายตัว) ทง้ั กระบอกยาว 36.22 น้ิว (920 มม.) - HK33A1 (พานทา้ ยแบบเล่ือนได้) ยดื พานทา้ ยออกสุดยาว 36.22 นวิ้ (920 มม.) - HK33A1 หดพานทา้ ยเขา้ สุดยาว 29.52 นิ้ว (750 มม.) - HK33/HK33A1 เกลียวในลากล้องคงที่ 6 เกลียว เวียนขวา - HK33 ไม่รวมซองกระสุน หนกั 7.38 ปอนด์ (3.35 กก.) - HK33A1 ไมร่ วมซองกระสุน หนกั 7.60 ปอนด์ (3.45 กก.) - อตั ราการยิง HK33/HK33A1 ประมาณ 600-650 นัด/นาที - ความเร็วตน้ ณ ปากลากลอ้ ง HK33/HK33A1 ประมาณ 3,150 ฟตุ /วินาที (960 เมตร/วินาที) - HK33/HK33A1 ลากลอ้ งยาว 15.35 นิ้ว (390 มม.) - ระยะยิงไกลสุด ประมาณ 3,000 เมตร - ระยะยิงหวังผลไกลสุด 400 เมตร - ติดกล้องเลง็ หวังผล 600 เมตร 4. ศูนย์ ศูนย์หน้าเป็นศูนย์แบบตายตัว ศูนย์หลังเป็นศูนย์แบบหมุนทรงกระบอกโดยมีศูนย์บากรูปตัว วี (V) หน่ึงช่อง ใช้ยิงเร่งด่วนและมีช่องเล็งเป็นแบบศูนย์รู 3 ช่อง ใช้ยิงระยะ 0-200, 300 และ 400 เมตรนอกจากน้ี ยงั สามารถทาการปรบั ทางสงู หรือทางระยะและทางทิศได้ ศนู ยร์ บของ ปลย.11 ใชศ้ ูนยร์ ูหมายเลข 2 5. การถอดแบบปกติ ให้ปฏิบัติดังน้ี จัดคันบังคับการยิงให้อยู่ในตาแหน่งห้ามไก (ห) ปลดซองกระสุนตรวจ ความปลอดภยั ของปืน ปลดสายสะพายออกจากหูกระวินบน หลังจากนั้นให้ทาการถอดพานท้าย, ด้ามปืน และ เคร่ืองลั่นไก, ลูกเล่อื นและโครงนาลูกเลื่อน, รองลากล้อง ช้นิ สว่ นทเ่ี หลือจะเป็นลากล้องและห้องลูกเลื่อน 6. การประกอบ ให้ทากลับกนั กับการถอด วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปลย.11)
- 15 - 7. การทางานของเคร่อื งกลไก - เพื่อความสะดวกในการศึกษาพิจารณารายละเอียดการทางานของเครื่องกลไก ปลย.11 เห็นเป็นการ สมควรทีจ่ ะแบ่งขน้ั การทางานของเครือ่ งกลไกออกเปน็ 3 ข้นั ใหญ่ ๆ (8 ขน้ั ตอนยอ่ ย) ขั้นท่ี 1 ข้ันการข้ึนนก, การป้อนกระสุน และการบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิง (เครื่องลูกเล่ือนถอยมาข้างหลัง และเคลื่อนทไ่ี ปข้างหนา้ ) ขัน้ ที่ 2 ขั้นการขัดกลอนและการเหนย่ี วไกลั่นกระสนุ (เครือ่ งลกู เล่ือนเคลื่อนที่ไปข้างหนา้ ) ขัน้ ที่ 3 ข้ันการปลดกลอน, การร้ังปลอกกระสุน และการคัดปลอกกระสุน (เคร่ืองลูกเลื่อนถอยมาข้างหลัง) 8. การแก้ไขเหตุติดขัดทันทีทันใด หมายถึงการปฏิบัติโดยทันทีหลังจากปืนติดขัดโดยยังไม่ต้องพิจารณา คน้ หาสาเหตุติดขัดนน้ั ๆ แต่อย่างใด ให้ดาเนนิ การแกไ้ ขดังนี้ - รอเวลาประมาณ 10 วนิ าที ( นับ 1 ถงึ 10 ) - ดึงคนั รัง้ ลกู เลือ่ นมาขา้ งหลงั และปลอ่ ยกลับโดยเร็ว - ทาการเล็งและยงิ ต่อไป - ถา้ ปนื ยงั ยงิ ไม่ได้ต่อไปให้ห้ามไก ปลดซองกระสุนแล้วพิจารณาคน้ หาสาเหตุตดิ ขัดและวธิ แี ก้ไขต่อไป 9. การปรับศูนย์ เนื่องจาก ปลย.11 ได้ผ่านการตั้งศูนย์มาแล้ว จึงมิควรปรับศูนย์หลังให้คลาดเคล่ือนไปจาก เดิมโดยไม่จาเป็น ทั้งนี้เพราะศูนย์รบของ ปลย.11 คือ ศูนย์รูหมายเลข 2 ซ่ึงสามารถใช้เล็งยิงได้ตั้งแต่ระยะ เริ่มต้นจนถึงระยะ 200 เมตร และทางโรงงานได้ใช้ศูนย์รบนี้ในการปรับศูนย์ประณีต ให้แก่ ปลย.11 ทุก กระบอกแลว้ อย่างแมน่ ยาท่รี ะยะ 100 เมตร เม่อื นาปืนไปใช้ฝกึ ยิงในสนาม 1,000 น้ิว (25 เมตร) ตาบลกระสุน ถูกจะตา่ กว่าจุดเล็ง 2.5 ซม. ซง่ึ ถือวา่ เปน็ การเล็งทีถ่ กู ต้องแล้ว (เม่ือนาไปยิงในสนามทราบระยะ ตาบลกระสุน ถกู จะเข้ากลางจดุ เลง็ พอด)ี การปรับศูนย์จะต้องกระทาโดยช่างซ่อมอาวุธประจาหน่วยเท่านั้น ถ้ามีความจาเป็นจะต้องปรับจริง ๆ เช่น การปรบั ปนื ต้ังศูนยร์ บกอ่ นออกปฏิบตั ริ าชการสนาม ให้ปฏิบัติดงั นี้.- - ทาการปรับในสนามยอ่ ส่วน 25 เมตร โดยใช้กลุ่มกระสุน 3 นัด ต่อเป้าหมายตารางเหล่ียม (เป้าปรับ ปืนของ ปลย.M16 ) จะมผี ลเท่ากับในการปรบั ปนื ต้งั ศูนย์รบระยะ 250 เมตร โดยใช้ศนู ย์รหู มายเลข 2 - ให้ใช้สตู ร ตาม-ตา่ -ซา้ ย - การปรับทางระยะหรือทางสูงในระยะยิง 25 เมตร หมุนศูนย์หลังรูปทรงกระบอก 1 รอบ ทาให้ตาบล กระสุนถูกสูงข้ึนหรือต่าลง 4 ซม.หรือ ¼ รอบ ทาให้เปล่ียนไป 1 ซม. หลังจากปรับตั้งศูนย์หลังแล้ว ส่วนอื่น ๆ กจ็ ะถูกตอ้ งตามไปด้วย เมือ่ นาปนื ไปทาการยงิ ให้ต้งั กระบอกศนู ยห์ ลังตามระยะทีต่ อ้ งการ - การปรับทางทิศ ในระยะ 25 เมตร หมุนควงปรับมุมทิศ 1 รอบทาให้ตาบลกระสุนถูกไปทางซ้ายหรือ ทางขวา 4 ซม. เช่นเดยี วกนั กบั ทางระยะ หมายเหตุ ก่อนจะใช้ไขควงจาปาขันหรือคลายควงปรับมุมทิศ ให้ใช้ไขควงจาปาคลายควงเกลียวยึดฐานศูนย์ หลังให้หลวมเล็กน้อยพอขยับตวั ได้ วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (ปลย.11)
- 16 - 10. การระวังรักษาและการทาความสะอาด ก่อนทาการยิง เช็ดน้ามันภายในลากล้องและรังเพลิงให้แห้ง, ตรวจการทางานของชุดลูกเล่ือนและคัน บังคบั การยิง, ซองกระสนุ ตอ้ งเขา้ ทส่ี นทิ และปลอกลดแสงตอ้ งขันแนน่ ภายหลังการยิง ทาความสะอาดและชโลมนา้ มนั เปน็ เวลา 3 วันติดต่อกัน หมายเหตุ ในขณะทาความสะอาดและชโลมน้ามัน ระวังอย่าให้ชิ้นส่วนที่เป็นไฟเบอร์ หรือพลาสติก เช่น พานท้าย, ด้ามปนื และรองลากลอ้ ง สมั ผัสกับนา้ มนั ประจาสัปดาห์ ตอ้ งหม่ันทาความสะอาดและชโลมน้ามันช้ินส่วนต่าง ๆ ตรวจการขันแน่นของปลอกลด แสง, ตรวจรองลากล้องจะต้องเข้าท่สี นิท และตรวจการชารุดของซองกระสนุ 11. กระสุนของ ปลย.11 ใช้กระสนุ ขนาด 5.56 × 45 เหมือนกบั ปลย.แบบ M16/M16A1/ปืนเล็กส้ัน M653 12. สิ่งช้ีสอบ ศูนย์ของ ปลย.11 ปรับยาก จะต้องใช้ความชานาญ, จุดท่ีต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษในการตรวจสภาพ คือ บริเวณช่องขัดกลอนท่ีโครงต่อท้ายลากล้องและลูกกลิ้งขัดกลอนท่ีชุดลูกเลื่อนต้องไม่มีส่ิงแปลกปลอม หรือ คราบเขม่าดินปืน, ศูนย์หน้าต้องไม่คดงอ, ควงเกลียวยึดฐานศูนย์หลังต้องยึดแน่น, รองลากล้องและฝักดาบปลาย ปนื ตอ้ งไม่แตกร้าว - - - - - - - - - - - - -------------------------------- - - - - - - - - - - - - - วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปลย.11)
- 17 - 5. ปลย.50 ขนาด 5.56 มม. (TAVOR) 1. กล่าวทัว่ ไป ปืนเล็กยาวทาโว ผลิตโดย Israel Weapon Industries (IWI) เป็นปืนที่ยิงจากตาแหน่งหน้าลูกเล่ือนปิด ลูกเลื่อนหมุนตัวขัดกลอน และปลดกลอนด้วยแรงดันแก๊สต่อหัวลูกสูบ ปืนติดกล้องเล็งแบบสะท้อนภาพ ปืนเล็ก ยาวทาโวมีอย่สู ีแ่ บบด้วยกัน 1. TAR (TAVOR Assault Rifle ปนื เล็กยาวทาโว) 2. CTAR (Commander TAVOR Assault Rifle ปืนเลก็ ยาวทาโวสาหรบั ผู้บงั คบั บัญชา) 3. STAR (Sharpshooter TAVOR Assault Rifle ปนื เล็กยาวทาโวสาหรับพลแม่นปนื ) 4. GTAR (TAVOR with Grenade Launcher ปืนเล็กยาวทาโวติดเคร่ืองยิงลูกระเบิด) 2. ขอ้ มลู ทางเทคนิค ตารางตอ่ ไปนีแ้ สดงข้อมูลทางเทคนิคของปืนเล็กยาวทาโว แบบของปืนเลก็ ยาว TAR CTAR ความกว้างปากลากล้อง 5.56 x 45 มม. หลกั การทางาน ยงิ จากตาแหน่งหน้าลูกเลื่อนปดิ , แรงดนั แกส๊ ดันหวั ลกู สบู กระสนุ M855/SS109 นา้ หนัก (เฉพาะตัวปืน) 3.3 กก. 3.2 กก. ความยาว 72.5 ซม. 64 ซม. ความยาวของลากล้อง 46 ซม. 38 ซม. เกลียวลากล้อง 6 เกลยี ว เวียนขวา ครบรอบที่ระยะ 7 นว้ิ ความเร็วตน้ ของกระสนุ * 960 เมตร/วินาที 910 เมตร/วินาที อตั ราเรว็ ในการยิง* 700 – 1,000 นัด/นาที กล้องเล็ง กลอ้ งเล็งสะท้อนภาพ MEPRO, ตดิ ตั้งกับลากล้อง, มีศูนย์เลง็ สารอง สาหรับใชเ้ มอ่ื กล้องเล็ง MEPRO ใชก้ ารไม่ได้ วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (ปลย.ขนาด 5.56 มม. (TAVOR))
- 18 - แบบของปืนเลก็ ยาว TAR CTAR อปุ กรณ์ประกอบตามมาตรฐาน - สายสะพาย - ซองกระสนุ ขนาดความจุ 30 นัด - คู่มือการใช้งาน และกลอ่ งชุดเคร่ืองมอื ทาความสะอาด อปุ กรณ์พเิ ศษ - ดาบปลายปนื , ขาทราย และเครื่องยิงลกู ระเบิด ขนาด 40 มม. - กลอ้ งเลง็ แบบตา่ ง ๆ มีหลายแบบ ระยะยิงหวงั ผล - 200-300 เมตร * โดยประมาณ ขึน้ อยู่กบั ชนดิ กระสนุ 3. เครื่องนิรภัย ปืนเลก็ ยาวทาโวมี 3 ตาแหน่ง ตาแหน่งห้ามไก (S), ตาแหน่งยิงกึ่งอัตโนมัติ (R) และตาแหน่งยิงอัตโนมัติ (A) ปนื เล็กยาวทาโว มกี ลไกนิรภัยท่ชี ว่ ยป้องกนั อบุ ตั เิ หตุในการทาปนื ลน่ั โดยไมต่ ัง้ ใจ ก. กลไกนริ ภยั อันแรกคือ - จะลนั่ ไกไม่ได้จนกวา่ ลูกเลือ่ นจะขัดกลอนสนิท - การโผลข่ องปลายเขม็ แทงชนวน เข็มแทงชนวนจะโผลอ่ อกหน้าลกู เล่ือนไม่ได้ จนกว่าลูกเลื่อนจะเคลื่อน ไปขา้ งหนา้ และขัดกับแงข่ ัดกลอนทโ่ี ครงตอ่ ท้ายลากลอ้ งได้สนิทดี - ลูกเล่ือนจะหมุนตัวขัดกลอนกับแง่ขัดกลอนท่ีโครงต่อท้ายลากล้องได้สนิทในระยะ 0.078 นิ้ว (2 มม.) กอ่ นโครงนาลกู เล่อื นจะเคลื่อนท่ีไปข้างหน้าสุด ในกรณีที่นกปืนถูกปลดออกโดยบังเอิญก่อนที่โครงนาลูกเล่ือน จะเคล่อื นไปขา้ งหนา้ สุด นกปืนจะตลี งบนทา้ ยเรือนโครงนาลูกเล่ือนโดยไมถ่ กู เข็มแทงชนวน - กระเด่ืองนกปืนอัตโนมัติ ท่ีระยะ 0.078 นิ้ว (2 มม.) ก่อนที่โครงนาลูกเล่ือนจะเคลื่อนไปยังด้าน หน้า สุดระยะ แง่ด้านล่างของโครงนาลูกเล่ือนจะเตะขากระเด่ืองนกปืนอัตโนมัติ เป็นการปลดกระเด่ืองนกปืน อัตโนมัติออกจากการขัดนกปืนไว้, ซึ่งจะทาให้นกปืนเป็นอิสระ และถึงระยะที่จะตีลงตรงท้ายเข็มแทงชนวนได้ พอดี ข. กลไกนิรภยั อันท่ีสอง คือ ลกู เลอื่ นจะยังไม่ปลดกลอนจนกว่าลกู กระสุนจะผ่านพ้นปากลากล้อง ซ่ึงเป็นช่วงท่ี แรงดนั ในลากลอ้ งลดลงจนถงึ ระดับทปี่ ลอดภยั แล้ว ค. กลไกนิรภัยอนั ทส่ี ามคือ คนั บังคบั การยงิ - ในตาแหน่งห้ามไก ชุดคันบังคับการยิงจะหนุนแง่บนก้านต่อไกไว้ทาให้ไกเคล่ือนที่ไม่ได้ แม้ว่าปืนจะถูก ทารว่ งลงกระแทกพืน้ โดยบังเอิญ 4. ระบบเครอื่ งเลง็ ระบบเครือ่ งเลง็ ของ ปนื เล็กยาวทาโว ประกอบดว้ ย - กลอ้ งเล็งสะท้อนภาพ MEPRO 21M ตดิ ตงั้ อยบู่ นลากล้องโดยตรง - ศนู ยเ์ ล็งสารองทัง้ ศนู ย์หน้าและศูนยห์ ลงั เป็นส่วนหน่ึงของปนื ใช้เล็งในกรณีท่ีกล้องเลง็ สะท้อนภาพชารดุ 4.1 กลอ้ งเล็งสะท้อนภาพ MEPRO 21M (ภาพ 5-1) เปน็ กลอ้ งเลง็ สะท้อนภาพแบบให้แสงจากสองแหลง่ (dual illuminated) สรา้ งเป็นเปน็ จุดเล็งสแี ดง (red dot) ได้รบั การออกแบบมาสาหรับเล็งได้อยา่ งรวดเรว็ และยิงปนื ได้แม่นยา กล้องเล็งนใี้ ช้เลง็ ได้ทนั ทีในทุกสภาพของแสงโดยไมต่ ้องใชแ้ บตเตอรี่ การสรา้ งจดุ เล็ง วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปลย.ขนาด 5.56 มม. (TAVOR))
- 19 - ขณะที่ใชง้ านในเวลากลางวนั ใชร้ ะบบรวบรวมแสงสวา่ งตามธรรมชาติด้วยใยแกว้ นาแสง สว่ นการให้แสงใน เวลากลางคืนใช้แหล่งใหแ้ สงจากสารทรเิ ธยี่ ม (tritium light source) การเปลย่ี นแหล่งใหแ้ สงจากสองแหลง่ เกิดข้ึนอยา่ งฉับพลันและเปน็ ไปโดยอตั โนมัติ เพื่อม่ันใจว่าจะไดภ้ าพท่ีคมชัดระหวา่ งจุดเล็งกับเปา้ หมาย ระบบ รวบรวมแสงที่โดดเดน่ ด้วยการใช้ใยแก้วนส้ี ามารถรวบรวมแสงธรรมชาตไิ ด้มาก แม้ขณะเลง็ อยู่ภายในที่กาบัง ท่ไี ม่มแี สงไปยังเปา้ หมาย ท่ีอยใู่ นพืน้ ที่มแี สงจ้า 4.2 การปรับศนู ย์เล็งของกล้องเล็ง MEPRO 21M การปรับศูนยเ์ ล็งของกลอ้ งเล็ง MEPRO 21M ใช้แผ่นเป้าท่ีกาหนดมาให้ (ภาพ 5-3) ในการปรับศูนยเ์ ลง็ ให้ ปฏิบตั ิดังน้ี : ก. ใชก้ ระสุน 5 นดั ยงิ เปา้ ทร่ี ะยะ 25 เมตร โดยเล็งปืนให้จุดเล็งช้ที าบทบั พน้ื ทีว่ งกลมสขี าวก่ึงกลางแผ่นเป้า สว่ นจดุ ตาบลกระสุนตกที่ต้องการจะอยตู่ รงเคร่ืองหมาย X ด้านลา่ งของวงกลม ข. วัดกลุ่มรกู ระสุน ควรยงิ ใหไ้ ดเ้ สน้ ผา่ ศูนย์กลางของกลุ่มตาบลกระสนุ ตกกว้างสดุ ไม่เกิน 5 ซม. เพ่ือให้ได้ ศูนยเ์ ล็งทแ่ี มน่ ยา ค. หาจดุ กึ่งกลางตาบลกระสุนตก (MPI : Mean Point of Impact) ง. จัดปรับกลอ้ งเล็งเพื่อให้ตาบลกระสุนตกอยู่ตรงเครอื่ งหมาย X บนแผน่ เปา้ ดว้ ยการหมุนควงเกลยี วปรับ ทางสูง (1, ภาพ 5-4) และควงเกลียวปรับทางทิศ (2) โดยใช้ใบด้านกวา้ งของประแจปรับศนู ย์ – cat. No. 00.704.75111 (ภาพ 5-2) โดยระยะห่างของตารางแต่ละชอ่ งบนแผ่นเปา้ จะหมุนควงเกลยี วปรบั ทางสูง หรือทางทิศ 1 คลิ๊ก (ใหก้ ล้องเลง็ เล่ือนไปในทิศทางตรงกนั ข้าม) ท่ีระยะยงิ 25 เมตร การปรับควงเกลยี ว แตล่ ะคล๊กิ จะเลื่อนตาบลกระสนุ ตกบนแผ่นเป้าได้ 1 ซม. - ในการเลอื่ นตาบลกระสุนตกในทางสงู ให้ขึ้นด้านบน, ให้หมุนควงเกลยี วปรบั ทางสงู ตามเข็มนาฬกิ า (ตาม ทศิ ทางลูกศรท่ชี ้ีไปทาง UP) ในการเลือ่ นใหต้ าบลกระสนุ ตกในทางสงู ลงด้านลา่ ง, ใหห้ มุนควงปรับทาง สงู ทวนเขม็ นาฬิกา - ในการเลอ่ื นตาบลกระสุนตกทางทิศไปทางด้านขวา, ให้หมนุ ควงเกลยี วปรบั ทางทศิ ตามเข็มนาฬิกา (ตาม ทศิ ทางลูกศรที่ชี้ไปทาง R) ในการเล่อื นตาบลกระสนุ ตกทางทิศไปทางด้านซ้าย, ให้หมนุ ควงเกลยี วปรับ ทางทศิ ทวนเขม็ นาฬิกา ภาพ 5-2. ประแจปรับศนู ยเ์ ลง็ วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปลย.ขนาด 5.56 มม. (TAVOR))
- 20 - 4.3 การใชศ้ ูนย์เล็งสารอง ศนู ยเ์ ล็งสารองจะถูกใช้เม่ือกล้องเลง็ สะทอ้ นภาพชารดุ ศูนยห์ นา้ เป็นแบบศูนยแ์ ท่ง และศูนยห์ ลงั เปน็ แบบศูนย์ รู, ท่ีใช้เลง็ โดยจัดให้แทง่ ศูนย์หนา้ ใหอ้ ยูก่ ึ่งกลางรูศนู ยห์ ลงั (เล็งเปา้ แบบนง่ั แท่น) ในการยกศูนยเ์ ล็งสารองให้ ปฏิบัติตามข้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี: ก. ง้างศูนยห์ นา้ ขึน้ 90 องศา (1, ภาพ 5-5) ข. พลิกกรอบสเ่ี หล่ียมหลังกลอ้ งเลง็ สะท้อนภาพ (2) ขนึ้ 180 องศา ในทศิ ทางทวนเข็มนาฬิกาศูนยห์ ลงั จะ พลกิ ขนึ้ ภาพ 5-53. กล้องเลง็ MEPRO 21M และ ศูนยเ์ ลง็ สารอง 5. การปรนนบิ ัตบิ ารุง 5.1 การปรนนิบัติบารุงก่อนทาการยิง กอ่ นทาการยงิ ปนื ควรตรวจใหแ้ นใ่ จว่าปนื สะอาดดโี ดยปฏิบตั ดิ งั น้ี ก. ทาการถอดแยกในขน้ั ตน้ ข. เช็ดทาความสะอาดขจัดคราบเขมา่ , ทราย และน้ามนั หลอ่ ลื่นออก ค. ใช้แส้ติดผ้าแหง้ และสะอาดแยงเชด็ ลากลอ้ งใหแ้ หง้ : 1) สอดกา้ นแส้ทาความสะอาดเขา้ ทางปากลากล้อง 2) สอดชิ้นผ้าแห้งและสะอาดเข้าห่วงปลายกา้ นแส้ 3) ดงึ กา้ นแสข้ ้ึนโดยไม่ปล่อยใหก้ า้ นแสค้ รดู กบั ปากลากล้อง ง. หากมีคราบเขม่าหรอื เศษโลหะตดิ อยู่ในลากลอ้ งหรือในรังเพลงิ , ใหใ้ ช้ดอกแสท้ องเหลืองแยงทาความสะอาด จ. หยอดนา้ มัน CLP ตรงจุดต่าง ๆ ทเี่ สยี ดสกี ันของชุดกลไกเคลอื่ นท่ถี อยหลงั ยกเว้นพนื้ ผวิ ทสี่ มั ผัสแก๊สรอ้ น เชน่ ลากล้องหรือรังเพลิง ฉ. ในการยิงปืน ใหใ้ ชก้ ระสนุ มาตรฐานทร่ี บั รองโดยเจ้าหนา้ ทตี่ รวจสภาพกระสนุ หา้ มหลอ่ ลื่น หรือลา้ ง ทา ความสะอาดกระสุนด้วยน้ามันโซลเว้นท์ 5.2 การปรนนบิ ตั บิ ารงุ หลังทาการยงิ หลังการยงิ ปืน, ใหท้ าความสะอาดปนื อย่างทัว่ ถึง, โดยเอาใจใสเ่ ป็นพเิ ศษตรงชิ้นสว่ นทส่ี ัมผัสแกส๊ ร้อน : ก. ใชก้ ้านแส้ (2) ตดิ ผ้าชุบน้ามนั CLP ดึงผา่ นลากลอ้ งปล่อยไวน้ าน 15 นาที ให้น้ามนั CLP ทาปฏกิ ริ ยิ ากับ คราบเขมา่ ดินปนื แล้วใชผ้ ้าแห้งตดิ กา้ นแสแ้ ยงเอาคราบสกปรกออกจนสะอาดดี จากนัน้ ชโลมบาง ๆ ภายในลากล้องดว้ ยน้ามัน CLP อกี คร้ัง วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปลย.ขนาด 5.56 มม. (TAVOR))
- 21 - ข. ทาการถอดแยกในขัน้ ทส่ี อง ค. ทาความสะอาดชิ้นส่วนตา่ ง ๆ ทั้งหมดของปนื อย่างทวั่ ถึง โดยตามซอกเล็กซอกน้อยภายนอกทีใ่ ชแ้ ปรงทา ความสะอาดแยงไม่ถึง อาจใชล้ มเป่าคราบสกปรก, ฝ่นุ และทรายออก ชิน้ สว่ นภายในทีม่ ีคราบเขมา่ ดินปืน จับให้ชโลมดว้ ยนา้ มัน CLP ท้งิ ไว้นาน 15 นาที แลว้ ใช้แปรงทาความสะอาดขัดเอาคราบสกปรกออก ง. หลงั จากใชผ้ ้าแหง้ เช็ดคราบสกปรกออกจนสะอาดดีแล้ว ให้ชโลมน้ามนั CLP บาง ๆ ดา้ นหลงั แง่ขัดกลอน หน้าลูกเลอ่ื น, รอบคอลูกเลื่อน, ร่องนาด้านข้างโครงนาลกู เล่ือน และสลักบงั คับลูกเลือ่ นขดั กลอน (ชิน้ สว่ น ภายนอกท่ีเปน็ โลหะรมด้า และสว่ นทีเ่ ปน็ พลาสติกโพลเิ มอรไ์ มต่ ้องชโลมน้ามันป้องกันสนิม) ---------------------------------------------------- การตรวจอาวธุ มีวธิ ีปฏิบัติดังน้ี ๑. ใช้หัวแม่มือเลอ่ื นคันเล่ือนตา้ แหนง่ การยิงไว้ท่ตี า้ แหน่งห้ามไก (S) ๒. ใช้นิวมอื แหย่ชอ่ งบรรจซุ องกระสุนใหแ้ น่ใจวา่ ไดป้ ลดซองกระสุนออกจากปนื เรยี บร้อยแลว้ ๓. ใช้นวิ ทัง 5 ก้าด้ามปืนไว้ ๔. ยกปืนขนึ ใหแ้ กนลา้ กลอ้ งท้ามุม ๖๐ องศา กบั พนื ๕. ดงึ คนั รังลูกเลอื่ นด้วยนิวชกี ับนิวหวั แมม่ อื แล้วปลอ่ ยทันที ๒ ครัง และส่วนครังที่ ๓ ค้างไว้ ๖. ลดปากล้ากลอ้ งลงท้ามมุ ๔๕ องศา พลกิ ตรวจดูรงั เพลงิ ให้แน่ใจว่าไม่มกี ระสนุ ค้างอยใู่ นรงั เพลงิ ๗. ยกปืนขึนให้ลา้ กล้องทา้ มุม ๖๐ องศา ปลอ่ ยคันรงั ลกู เล่อื น ๘. จดั คนั บงั คับการยิงไปทีต่ ้าแหนง่ ยงิ กงึ่ อัตโนมตั ิ (R ) เล็งปนื ขณะทา้ มุมขนึ ๖๐ องศาล่ันไก แล้วหา้ มไก วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ปลย.ขนาด 5.56 มม. (TAVOR))
- 22 - 6. เคร่อื งยิงลูกระเบิด M 79 ขนาด 40 มม. 1. กล่าวนา ค. M79 จัดวา่ เป็นอาวธุ ประจาหน่วย ประเภทเครอื่ งยงิ ลูกระเบดิ 2. คุณลักษณะทั่วไป ค. M79 ขนาด 40 มม. เป็นอาวุธท่ีใช้ยิงได้ทีละนัด เปิดท้ายลากล้องด้วยการหักลา บรรจกุ ระสนุ ทางทา้ ยรงั เพลิง เป็นอาวธุ ยงิ ด้วยการประทับไหล่ เคร่ืองยิงประกอบด้วยโครงเคร่ืองลั่นไก, ไม้รอง ลากล้อง ชุดลากล้อง, เคร่ืองเล็งและพานท้าย มีแผ่นยางรับแรงถอยติดอยู่ที่ส่วนท้ายของพานท้ายจะทาหน้าที่ ลดอาการสะทอ้ นถอยหลงั ของเคร่ืองยงิ มสี ายสะพายเครื่องยงิ ติดไวเ้ พือ่ สะพายอาวธุ นาไปมา 3. มาตราทาน - เคร่อื งยงิ ท้ังกระบอกยาว 73.70 ซม.(29 นิ้ว) - เฉพาะลากลอ้ งยาว 35.60 ซม.(14 นิว้ ) - เคร่ืองยิงบรรจกุ ระสุนพร้อม หนกั 2.95 กก. (6.5 ปอนด์) - เฉพาะเครื่องยิง หนกั 2.72 กก. (6.0 ปอนด์) - เกลยี วในลากลอ้ ง 6 เกลียว เวยี นขวา - ความเรว็ ต้น ณ ปากลากลอ้ ง 76 เมตร/วนิ าที (250 ฟตุ /วนิ าที) - ระยะยงิ ไกลสดุ 400 เมตร - ระยะยิงหวงั ผลไกลสุด ท่ีหมายเป็นพ้นื ที่ 350 เมตร ทห่ี มายเปน็ จดุ (เฉพาะตาบล) 150 เมตร - ระยะยงิ ปลอดภยั ใกล้สุด เม่อื ยิงด้วยกระสุนระเบิด (HE) ในการฝกึ 165 เมตร ในการรบ 31 เมตร - อตั ราเรว็ ในการยิงสงู สดุ 5-7 นัด/นาที 4. เครือ่ งเล็ง ศูนย์หนา้ ศนู ย์หนา้ มีส่วนสัดลาดเอียงตา่ มาทางดา้ นหลัง มีใบศูนยแ์ บบคมมีด และมีกระบังศูนย์หน้าอยู่ท้ัง สองดา้ น ศูนย์หลัง ศูนย์หลังมีมาตราบอกระยะไว้ต้ังแต่ 75-375 เมตร ทุก ๆ 25 เมตร จะมีเส้นขีดย่อยแสดงไว้ และเขียนตัวเลขกากับท่ีระยะ 100, 200, 300 และ 375 เมตร เม่ือโครงเลอื่ นศูนย์หลังถูกเล่ือนข้ึนข้างบน ศูนย์ หลังจะเยอื้ งเหไปทางด้านซา้ ยเพ่อื เป็นการชดเชยกับอาการเวยี นขวาของลกู กระสุน กรอบศูนย์หลงั พรอ้ มดว้ ยศนู ย์คงท่ี เมอ่ื กรอบศนู ย์หลังอยู่ในท่าพับลงไปข้างหน้า สามารถใช้ศูนย์คงท่ีเล็งต่อ ท่ีหมายใด ๆ ซง่ึ อยูภ่ ายในระยะ 100 เมตร ได้ 5. การถอดแบบปกติ ให้ตรวจความปลอดภัยของเคร่ืองยิงเสียก่อน ถอดสายสะพายออกจากพานท้าย หลังจากนน้ั ให้ทาการถอดไม้รองลากลอ้ ง, ลากล้องและชดุ เครื่องเลง็ , โครงเครอ่ื งล่นั ไกและพานท้าย วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ค.M79)
- 23 - การประกอบ ให้ทากลับกันกบั การถอด 6. การทางานของเครื่องกลไก มที ง้ั หมด 8 ขั้นตอน คือ การปลดกลอนยึดลากล้อง (เปิดท้ายลากล้องห้ามไก อยู่ในตาแหน่งห้ามไก (S) โดยอัตโนมัติ), การข้ึนนก, การรั้งปลอกกระสุน, การคัดปลอกกระสุน (ใช้มือถอน ปลอกกระสุนออกจากลากล้อง), การบรรจุกระสุน (ใช้มือสอดกระสุนเข้าไปทางท้ายรังเพลิง), การเข้าสู่รัง เพลิง (ปิดท้ายลากล้อง), การขัดกลอน (หลังจากปิดท้ายลากล้อง กลอนยึดลากล้องหมุนตัวเข้าขัดกับเหล็ก บังคับกลอนยึดลากล้องทาให้ลากล้องถูกยึดแน่นติดกับโครงเคร่ืองลั่นไก), การลั่นกระสุน(จัดห้ามไกให้อยู่ใน ตาแหน่งยงิ (F) แล้วเหนยี่ วไก) 7. การแก้ไขเหตุติดขัดทันทีทันใด ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการปฏิบัติเม่ือกระสุนไม่ลั่นคือ ทุกคร้ังที่เครื่องยิงไม่ ลนั่ กระสุน ให้พจิ ารณาวา่ เปน็ เพราะกระสุนลนั่ ช้าเสมอ โดยใหป้ ฏบิ ัตอิ ยา่ งระมัดระวังตามข้ันตอนดังต่อไปน้ี คง ประทับเครื่องยิงเล็งไปยังเป้าหมาย ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่พ้นจากปากลากล้อง ถ้าอยู่ในระหว่างการฝึกยิงให้ ตะโกนว่า \"กระสุนด้าน\" คอย 30 วินาที ก่อนเปิดท้ายลากล้องเพื่อทาการเลิกบรรจุ, หลังจากนากระสุนออก จากเครื่องยิงให้พิจารณาว่ากระสุนหรือกลไกการยิงบกพร่อง ถ้าชนวนท้ายปลอกกระสุนมีรอยถูกกระแทกให้ เก็บแยกกระสุนน้ันต่างหากจนกว่าจะได้มีการทาลายอย่างถูกต้อง ถ้าชนวนท้ายปลอกกระสุนไม่มีรอยถูกเข็ม แทงชนวนกระแทกแสดงว่าเครื่องกลไกการยิงบกพร่อง หลังจากได้แก้ไขสาเหตุเคร่ืองยิงไม่ล่ันกระสุนแล้ว กระสนุ นดั นน้ั อาจจะบรรจเุ ข้าไปใหม่และยงิ ออกไปได้อีก 8. การระวงั รักษาและการทาความสะอาด ก่อนทาการยิง ให้ทาความสะอาดลากล้องและเช็ดแห้งเสียก่อน, ชิ้นส่วนท่ีเป็นโลหะให้ชโลมด้วยน้ามัน บาง ๆ เว้นแต่ชิ้นส่วนท่ีจะสัมผัสกับดินส่งกระสุน, ตรวจการชารุดท่ัวๆ ไปและตรวจดูแว่นรับเข็มแทงชนวนให้ ขันแน่นด้วยเครื่องมือควบ, ให้ใช้ไขทาปืนทาตามปลายด้านหน้าของคันขึ้นนก, พื้นผิวของหน้าเหล็กรั้งปลอก กระสุน และแงข่ องกลอนยดึ ลากล้อง หลังทาการยิง ให้ถอดเครื่องยิงออกเป็นส่วน ๆ ทาความสะอาดและชโลมน้ามันชิ้นส่วนท่ีเป็นโลหะอย่าง บาง ๆ และใช้น้ามนั ลนิ สดี ทาชน้ิ สว่ นทีเ่ ป็นไมเ้ พื่อมิใหเ้ กิดการแตกแหง้ โดยระวงั มิให้ถูกช้ินส่วนทเี่ ป็นโลหะ วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ค.M79)
- 24 - 9. ตารางสรปุ กระสนุ ขนาด 40 มม. ค. M79/ M203 (TM 43-0001-28 ฉบับ APRIL 1994) ลาดับ รายการ สี ความมุง่ หมายในการใช้ 1. กระสนุ ระเบิด HE, M381, กากแี กมเขียว อักษรสี สงั หารบุคคล M386, M397A1, M397, M406, เหลือง ตวั กระสนุ สเี หลือง M441 2. กระสนุ ระเบิดสองความมงุ่ หมาย กากแี กมเขียว อกั ษรสขี าว สังหารบคุ คล, เจาะแผน่ เกราะ หรือระเบิดเจาะเกราะ M433 หัวกระสนุ สเี หลอื ง เหล็กกลา้ ไดห้ นาอย่างน้อย 2นวิ้ 3. กระสุนซ้อมยงิ M382 กากแี กมเขยี ว อกั ษรสี ใช้ยงิ แทนกระสุนระเบดิ HE, เหลือง M381 4. กระสุนซ้อมยงิ M407A1 ฟ้า อกั ษรสีขาว ใชย้ งิ แทนกระสุนระเบิด HE, M406 5. กระสนุ ลกู ปราย M576 (หวงั ผล ดา อกั ษรสขี าว ใชส้ งั หารบุคคลในระยะประชดิ ไกลสดุ 30 เมตร) 6. กระสุนสอ่ งแสง ขาว อักษรสดี า ส่องสวา่ ง, ใชท้ าสญั ญาณ 7. กระสนุ ควนั สัญญาณพน้ื ดนิ เขียวออ่ น อักษรสีดา ช้ีเปา้ หมายภาคพ้นื ดินให้กับ อากาศยาน 8. กระสุนซ้อมยงิ M781 ฟ้า อกั ษรสีขาว ฝึกยงิ 9. กระสุนแกส๊ น้าตา M651 เทา อกั ษรสเี ทา ปราบจลาจล มีแถบสแี ดงคาด - กระสุนระเบิด M386, M406 ใช้ชนวน M551 ทางานเมื่อห่างจากปากลากล้อง 14-27 เมตร รัศมี อนั ตรายฉกรรจ์ 5 เมตร - กระสนุ ระเบิด M381, M441 ใช้ชนวน M552 ทางานเมื่อห่างจากปากลากล้อง 2.4-3 เมตร - กระสนุ ระเบดิ M397, M397A1 ใช้ชนวน M536 ทางานเมื่อห่างจากปากลากล้องอย่างน้อย 14 เมตร - กระสนุ ระเบิดสองความมุ่งหมายหรือระเบิดเจาะเกราะ M433 ใช้ชนวน M550 ทางานเม่ือห่างจากปาก ลากล้อง 14-27 เมตร เจาะแผ่นเกราะได้หนาประมาณ 2 น้ิว ตัวลูกระเบิดแตกกระจายเป็นสะเก็ดด้วย รัศมี อนั ตรายฉกรรจ์ 5 เมตร 10. ส่งิ ชสี้ อบ ก่อนทาการยงิ ให้ตรวจการยึดแน่นของแว่นรับเข็มแทงชนวนทุกคร้ัง, ในขณะทาการยิงให้ระวัง หวั แมม่ อื กระแทกกบั ใบหา้ มไกเน่ืองจากแรงถอยของเครื่องยิง, จะต้องมั่นใจว่าไม่มีส่ิงกีดขวาง เช่น กิ่งไม้ ฯ ใน บริเวณแนวยิงโดยเฉพาะอย่างย่ิงเม่ือยิงกระสุนระเบิด M381 และ M441, เมื่อทาการยิงกระสุนลูกปราย M576 ซ่งึ มรี ะยะหวงั ผล 30 เมตร ใหเ้ ลง็ ทขี่ อบเป้าด้านลา่ งโดยใชศ้ ูนย์คงที่ - - - - - - - - - - - - - - ----------------------------- - - - - - - - - - - - - - - วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ค.M79)
- 25 - 7. เครื่องยิงลกู ระเบิด M203 ขนาด 40 มม. 1. กลา่ วนา ค. M203 จัดวา่ เปน็ อาวธุ ประจาหน่วย ประเภทเคร่ืองยงิ ลูกระเบิด 2. คุณลักษณะท่วั ไป ค. M203 ขนาด 40 มม. เปน็ อาวธุ ทมี่ นี าหนกั เบา ยงิ ได้ทีละนดั บรรจกุ ระสนุ ทางท้าย รงั เพลงิ เปดิ ท้ายรงั เพลงิ ดว้ ยการเลื่อนลากล้อง ยงิ ดว้ ยการประทับไหล่ ชินส่วนของเคร่อื งยงิ ประกอบตดิ กบั ปลย. M16A1/M16A2 3. มาตราทาน เหมือนกบั ค. M79 ยกเว้นนาหนักและความยาว - เฉพาะเครือ่ งยิง หนกั 1.35 กก. (3 ปอนด์) - เฉพาะ ปลย.M16A1 หนกั 2.93 กก. (6.5 ปอนด)์ - นาหนักรวมทังหมด 4.28 กก. (9.5 ปอนด)์ - ลากล้องขนาด 40 มม. ยาว 30.5 ซม. (12 นิว) 4. เครื่องเล็ง - ศูนย์เล็งแบบเร่งด่วน ใช้ประกอบกับศูนย์หน้าของ ปลย.M16A1 ใช้ เล็งยิงในระยะ 50 - 250 เมตร ทุก ๆ 50 เมตรจะมีช่องแสดงระยะไว้และ เขียนตัวเลขกากับท่ีระยะ \"1\" คือ 100 เมตร และ \"2\" คือ 200 เมตร ใน ช่อง 50 เมตร จะมเี ครอื่ งหมายสีแดงกากบั ไวเ้ พอ่ื เป็นสิ่งยาเตือนผู้ยิงว่าห้าม ใช้ระยะนีในการยิงปรับทางปืน เน่ืองจากอันตรายจากสะเก็ดระเบิด ของลูกกระสุน (การปรับทางปืน กระทาในระยะ 200 เมตร) - ศนู ย์เลง็ แบบประณีต ประกอบดว้ ยศูนยห์ นา้ และศนู ยห์ ลงั มมี าตราบอกระยะไว้ตังแต่ 50 - 400 เมตร มี ตวั เลขกากับทุก ๆ ระยะ 25 เมตร หมายเหตุ ถ้าเล็งยงิ ในระยะตา่ กวา่ 50 เมตร ใหใ้ ชศ้ ูนย์เล็งของ ปลย.M16A1 ตามปกติ กระสุนลูกปราย M576 ให้เล็งท่ีขอบเปา้ ด้านลา่ ง 5. การถอดแบบปกติ หลังจากตรวจความปลอดภัยของเคร่ืองยิงให้ทาการถอดศูนย์เล็งแบบประณีต (ห้าม กระทาบ่อยถา้ ไมจ่ าเปน็ ), ลากลอ้ งขนาด 40 มม.และรองลากล้อง การประกอบใหท้ ากลับกนั กบั การถอด 6. การทางานของเคร่ืองกลไก มีทังหมด 8 ขันตอน คือ การปลดกลอนยึดลากล้อง (เล่ือนลากล้องไป ข้างหน้าเพ่ือเปิดท้ายรังเพลิง), การขึนนก, การรังปลอกกระสุน (เกิดขึนพร้อมกับการขึนนก ในขณะที่เล่ือนลา กล้องไปข้างหน้า), การคดั ปลอกกระสุน, การบรรจุกระสุน (ใชม้ ือสอดกระสุนเข้าไปทางท้ายรังเพลิง), การเข้าสู่ รังเพลิง (ปิดท้ายลา-กล้อง), การขัดกลอน (เมื่อปิดท้ายลากล้องกลอนยึดลากล้องจะยึดลากล้องให้ยึดแน่นกับ โครงเครื่องลน่ั ไก), การลน่ั กระสุน (ผลกั คันห้ามไกไปด้านหน้าแล้วเหน่ียวไก) วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ค.M203)
- 26 - หมายเหตุ ค.M203 จะคัดปลอกกระสนุ ออกจากลากล้องโดยอตั โนมตั ิด้วยเหล็กคัดปลอกกระสนุ ซึ่งมี แหนบเปน็ สปริงโหลด 7. การแก้ไขเหตุตดิ ขดั ทนั ทีทนั ใด และการปฏบิ ตั เิ ม่ือกระสุนไมล่ ั่น ให้ปฏบิ ัติเหมอื น ค. M79 8. การระวงั รกั ษาและการทาความสะอาด ก่อนทาการยิง ให้เช็ดแห้งลากล้อง และให้หยอดนามัน CLP หน่ึงหรือสองหยดบริเวณเหล็กคัดปลอก กระสนุ , รเู ขม็ แทงชนวน และคนั ห้ามไก ในขณะทาการยงิ ให้หล่อลื่นช่องทางเดนิ ของลากล้องขนาด 40 มม. บาง ๆ หลังทาการยงิ ให้ถอดลากล้องเคร่ืองยิงออก ทาความสะอาดและชโลมนามันชนิ ส่วนทเ่ี ป็นโลหะบางๆ 9. กระสุน เหมือนกับ ค. M79 10. สงิ่ ชี้สอบ ลากล้องขนาด 40 มม. มักจะแตกรา้ วเสมอเนือ่ งจากทาการยงิ เกนิ อัตราท่กี าหนด (5-7 นดั ตอ่ นาท)ี , ในการนาพา ค.M203 ใหร้ ะมัดระวังศนู ย์ของเคร่ืองยงิ จะพันกบั เถาวลั ยห์ รือสิ่งกีดขวางตา่ ง ๆ ในขณะ เลง็ ยงิ ค.M203 ระวงั แกม้ อย่าใหก้ ระแทกกบั คนั รังลูกเล่ือนของ ปลย.M16A1 - - - - - - - - - - - - - - ----------------------------------- - - - - - - - - - - - - - - วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (ค.M203)
- 27 - 8. เครือ่ งยิงลูกระเบิดอัตโนมตั ิ ขนาด 40 มม. (CIS 40 AGL) 1. กล่าวนา ค.อัตโนมัติ ขนาด 40 มม. CIS มีระบบการทางานแบบดันต่อหน้าลูกเลื่อนโดยตรง (Blow Back) ป้อนกระสุนด้วยสายกระสุน, ระบายความร้อนด้วยอากาศ, มีอัตราเร็วในการยิงประมาณ 350-500 นัด/นาที เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ น้ีทาการยงิ จากตาแหน่งหน้าลกู เล่ือนเปดิ ด้วยการจดุ ชนวนท้ายล่วงหนา้ (Advance Primer Ignition) สามารถทาการยิงลกู ระเบดิ ยงิ จากเคร่ืองยิงลกู ระเบดิ (ลย./ค.) ชนดิ ความเรว็ ต้นสงู ขนาด 40 มม. ดว้ ยความเรว็ ต้นประมาณ 241 เมตร/วินาที ซงึ่ มปี ระสทิ ธภิ าพในการทาลายเป้าหมายบคุ คลและเป้าหมายหุ้มเกราะบางดด้ ค.อัตโนมัติ ขนาด 40 มม. CIS ดด้รับการออกแบบมาเพ่ือใช้ยิงลูกระเบิด (ลย./ค.) ขนาด 40 มม. มาตรฐานของกองทัพสหรัฐฯ ดด้ดีเท่ากับ ลย./ค. ขนาด 40 มม. ของบริษัท CIS เครื่องยิงสามารถติดต้ังยิงบน ขาหยั่ง 3 ขา, ยานเกราะลาเลียงพล, ยานพาหนะขนาดเบา, ยานพาหนะทางน้าหรือเฮลิคอปเตอร์ในภารกิจ การรบด้วยวธิ ีรุกและการตง้ั รบั ค.อัตโนมัติ ขนาด 40 มม.CIS สามารถทาการยิงด้วยมือ (MANUALLY) หรือ ด้วยดฟฟ้า (ELECTRICALLY) กด็ ด้ โดยมีระยะยิงหวงั ผล 1,500 เมตร และ ระยะยิงดกลสุด 2,200 เมตร หมายเหตุ CIS = CHARTERED INDUSTRIES OF SINGAPORE 40 = ขนาด 40 มม. AGL = AUTOMATIC GRENADE LAUNCHER (เครือ่ งยงิ ลูกระเบดิ อัตโนมตั ิ) 2. ข้อมูลทางเทคนิค 2.1 ความยาว - เครอ่ื งยิงท้ังกระบอก 966 มม. - ชุดโครงปนื 533 มม. - ลากลอ้ ง ม/ี ดม่มี ปลอกลดแสง 465/350 มม. 2.2 น้าหนัก - เครือ่ งยิง 33 กก. - ลากล้อง 2.6 กก. - กระสุน (ลย./ค.) ขนาด 40 มม. 0.34 กก. 2.3 ลากลอ้ ง - กว้างปากลากล้อง 40 มม. - จานวนเกลียว 24 เกลียว - ลกั ษณะเกลียว เวียนขวา วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ค.อตั โนมัติ ขนาด 40 มม.)
- 28 - 2.4 สมรรถนะ - แบบการทางาน ทาการยงิ จากตาแหน่งหน้าลูกเล่อื นเปดิ (OPEN BOLT) - ระบบการทางาน แบบดนั ตอ่ หนา้ ลูกเลื่อนโดยตรง (BLOWBACK) ดว้ ยการจดุ ชนวนท้ายล่วงหนา้ (ADVANCE PRIMER IGNITION) - ความเร็วต้น 241 เมตร/วินาที - อัตราเร็วในการยิง 350 - 500 นดั /นาที - ระยะยิงดกลสุด 2,200 เมตร - ระยะยิงหวังผลดกลสุด 1,500 เมตร 3. องค์ประกอบหลัก ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 5 สว่ น คอื 3.1 ชุดโครงปืน (RECEIVER ASSEMBLY) 3.2 ชดุ ลกู เลอ่ื นและแผ่นปดิ ท้ายโครงปนื (BOLT AND BACK PLATE ASSEMBLY) 3.3 ชุดฝาปดิ ห้องลูกเลื่อน (FEED COVER ASSEMBLY) 3.4 ชดุ เครอ่ื งลัน่ ดกและชุดศนู ย์หลัง (TRIGGER MECHANISM AND REAR SIGHT ASSEMBLY) 3.5 ชุดรางนากระสนุ แบบถอดประกอบ (DETACHABLE CHUTE ASSEMBLY) 4. รายการอปุ กรณ์ประจาปืน (ACCESSORIES OF CIS 40 AGL) 4.1 กล้องเล็งสะท้อนภาพ (REFLEX SIGHT แบบ VSM 015) ดด้รับการออกแบบมาเพื่อติดตั้งร่วมกับชุด ฐานปนื กลแบบมเี ครือ่ งรับแรงถอย (SOFT MOUNT) และกล้องเล็งสาหรับเล็งยิงเป้าหมายทางอากาศ, พื้นดิน และทางทะเล ประแจขนาด 10 มม. ซึ่งอยู่ในถุงขนย้าย จะใช้เพ่ือการจัดปรับกล้องเล็งทางทิศและทางระยะ เพื่อป้องกันแสงสะท้อนจากสภาพภูมิอากาศที่ดม่ต้องการ ที่กล้องเล็งจะมีอุปกรณ์ป้องกันแสงซึ่งสามารถเลื่อน เข้า-ออกดด้ ตามความต้องการของพลยิง กล้องเล็งสะท้อนภาพสร้างข้ึนเพื่อที่ว่าภาพที่มองจากกล้องเม่ือมาตก กระทบบนปริซมึ จะทาให้มองเห็นภาพของมาตราประจาแกว้ ตัดกับฉากหลงั หรอื เป้าหมาย ขอ้ มลู ทางเทคนคิ สูง 123 มม. กว้าง 54 มม. ยาว 123 มม. นา้ หนกั 0.85 กก. กาลงั ขยาย × 1 เทา่ ย่านการมองเห็นภาพ (FIELD OF VISION) 80 มลิ เลียม ทีร่ ะยะตา 250 มม. ระยะการปรบั ความกว้างต่าสุด ± 20 มลิ เลยี ม วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ค.อัตโนมตั ิ ขนาด 40 มม.)
- 29 - 4.2 กล่องกระสุน (AMMUNITION BOX) มี 3 ขนาด (บรรจกุ ระสุน 16, 32 และ 48 นดั ) 4.3 เครือ่ งมอื ทาความสะอาด (CLEANING KIT) ประกอบด้วย ก. ถุงใสเ่ คร่ืองมือทาความสะอาด ข. แส้ (3 ทอ่ น) ค. ดอกแส้ทาความสะอาดลากล้อง ง. น้ามนั ทาความสะอาด จ. แปรงทาความสะอาดทัว่ ดป ฉ. จกุ ปดิ ปากลากล้อง (ถ้าต้องการ) 5. การถอดและประกอบเครื่องยิงลกู ระเบดิ อตั โนมตั ิ ขนาด 40 มม. CIS AGL เน้ือหาที่กล่าวในบทน้ีมุ่งท่ีจะแนะนาผู้ใช้ให้เข้าใจขั้นตอนการตรวจความปลอดภัยของปืนอย่างถูกต้องและยัง สามารถทาการถอดและประกอบเคร่ืองยิงลูกระเบิดอัตโนมัติขนาด 40 มม. CIS ดด้ด้วยวิธีการที่ถกู ต้อง 5.1 วิธีการตรวจความปลอดภัยของปนื ก. ปรับคันบังคับการยิงดปที่ตาแหน่งห้ามดก “SAFE” โดยการหมุนปุ่มเลือกตาแหน่งการยิงที่ด้านขวา ของเรือนเคร่ืองลัน่ ดก ดปทีต่ าแหน่ง “SAFE” ข. ดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาด้านหลัง จนกระท้ังลูกเล่ือนถูกยึดดว้ด้วยกระเด่ืองดก จากน้ันดันคันร้ัง ลกู เลื่อนดปด้านหน้าให้สุด ค. กดสลักปลดล็อคฝาปิดห้องลกู เล่อื น และยกฝาปิดให้ข้ึนอยู่ในตาแหน่งเปดิ ครง่ึ หนึ่ง ง. ตรวจรงั เพลงิ และถาดปอ้ นกระสุนด้วยสายตาวา่ ดมม่ ีกระสนุ หลงเหลืออยู่ จ. เม่อื ปืนดม่มกี ระสุนบรรจุอยู่ ปรบั คันบังคับการยงิ ดปทต่ี าแหนง่ “FIRE” ฉ. ดึงคันรั้งลูกเล่ือนมาด้านหลัง และกดดกปืนด้วยมือซ้าย ขณะเดียวกันค่อย ๆ ผ่อนลูกเล่ือนให้ว่ิงดป ด้านหน้าด้วยมอื อีกขา้ งหน่ึง 5.2 ลาดบั ข้นั ตอนการถอดแยกเคร่อื งยงิ ลกู ระเบดิ อัตโนมัติ ฯ ก. เปดิ ฝาปดิ ห้องลูกเล่ือนโดยคันบังคับการยิงอยทู่ ่ีตาแหน่งห้ามดก “SAFE” ข. ดึงสลักยึดแผ่นปิดท้ายโครงปืนและสลักตัวกลางท่ียึดชุดเครื่องลั่นดกและศูนย์หลัง ออกมาด้านขวา จนสดุ ค. ยกชุดเคร่ืองล่ันดกและศนู ย์หลงั ขึน้ และถอดออกจากปนื ง. ดึงสลักยึดฐานปืนกลตวั หลังออกเพ่ือให้แผน่ ปิดท้ายโครงปืน (BACK PLATE) เปน็ อิสระจากปืนกล จ. ใชด้ ้ามแส้ทาความสะอาดปนื รปู ตวั T เคาะแกนกลางของสลักยึดชุดลูกเล่ือนตัวหน้าและดึงออกดป ดา้ นขวาหรืออาจใช้มือซ้ายดันด้ามปืนดปข้างหน้าให้ชุดลูกเล่ือนชนกับโครงปืน ใช้มือขวาดึงสลักยึดชุดลูกเลื่อน ตวั หน้าออกทางด้านขวา ฉ. ดงึ ชุดลูกเลื่อนและแผ่นปดิ ทา้ ยโครงปนื ออกจากชดุ โครงปืน 5.3 ลาดับขั้นตอนการประกอบ ก. ดันชดุ ลูกเลอื่ นและแผ่นปิดทา้ ยโครงปืนเขา้ ในชดุ โครงปนื ข. ใช้มือซ้ายดนั ด้ามปนื ดปข้างหน้าใหล้ กู เลอื่ นชนกับโครงปืน แล้วดนั สลกั ยึดชุดลูกเล่ือนเข้าดปด้วยมือ ขวา วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ค.อตั โนมัติ ขนาด 40 มม.)
- 30 - ค. ดนั สลักยดึ ฐานปืนกลเข้าดปให้ยึดแผ่นปดิ ทา้ ยโครงปนื ดว้บนฐานปืน ง. วางชุดเครือ่ งลน่ั ดกและศูนยห์ ลังลงบนชดุ โครงปืน ดันสลักแผ่นปิดท้ายโครงปืนและสลักตัวกลางเข้า ดปเพอื่ ยึดชดุ เครื่องลนั่ ดก และศนู ย์ลังให้ติดอย่กู ับโครงปนื จ. ดันฝาปดิ หอ้ งลกู เลอื่ นดปข้างหนา้ เพอื่ ปลดกลอนยดึ ฝาปดิ ในตาแหนง่ เปิดคร่ึงหนึ่ง จากน้ันกดแผ่นฝา ปิดห้องลูกเล่ือนลงอีกคร้ัง เพ่ือปิดให้สนิทตรวจดูให้แน่ใจว่าคานรูปตัว L 2 ตัว อยู่ในตาแหน่งร่องทางเดินของ ลูกเล่ือน ฉ. การตรวจสอบการทางาน ดึงคันรั้งลูกเล่ือนดปด้านหลัง จนกระท้ังลูกเล่ือนถูกยึดดว้ด้วยกระเดื่องดก เหนี่ยวดกด้วยมอื ขา้ งหน่ึงและพรอ้ มกนั นัน้ ก็คอ่ ย ๆ ผ่อนให้ลกู เลือ่ นว่งิ ดปด้านหนา้ ดว้ ยมอื อีกขา้ งหนึ่ง 6. การปรนนิบัติบารงุ 6.1 ปดิ ฝากันฝนุ่ ทกุ ครงั้ เมอื่ เคล่ือนยา้ ยปืน 6.2 ก่อนทาการยิง แต่คร้ังตอ้ งทาความสะอาดน้ามันในลากลอ้ ง และในปลอกทวกี ารถอย 6.3 หลงั จากเลิกยิง เมื่อสามารถจับลากล้องดว้ ยมอื เปลา่ ดดแ้ ลว้ ต้องทาความสะอาดลากล้อง และปลอกนา ลากลอ้ งทนั ที และตอ้ งทาความสะอาดติดต่อกนั ๓ วนั หลงั การยงิ 6.4 หลงั จากทาความสะอาดแลว้ และทาการประกอบปืนเรียบรอ้ ยแลว้ ตอ้ งตรวจการทางานของ ห้ามดก และชน้ิ สว่ นเคล่ือนท่ีของปนื ต้องเป็นดปอย่างสะดวก และถูกต้อง หมายเหตุ - หา้ มใช้น้ามนั แก๊สโซลีน, ดเี ซล หรือวัสดุขัด ประเภทผา้ ทราย, กระดาษทราย ในการทา ความสะอาด 7. การบรรจแุ ละเลกิ บรรจุเครอ่ื งยิงลกู ระเบดิ อัตโนมัติ ฯ 7.1 การบรรจกุ ระสุน ก. ตรวจความปลอดภยั ของอาวุธตามหัวขอ้ 5.1 (ก.) ถงึ 5.1 (ฉ.) ข. ปดิ ฝาปิดห้องลูกเล่ือน ค. ปรบั ตาแหน่งคันบงั คบั การยิงดปทห่ี ้ามดก “SAFE” ง. ตรวจดูใหแ้ น่ใจว่าลกู เลื่อนอยู่ในตาแหน่งด้านหนา้ ก่อนท่ีจะบรรจุสายกระสุนโดยใส่สายกระสุนด้าน ทม่ี ีขอ้ ต่อสายกระสนุ รปู ตวั ที (T-LINK) เข้าในชุดรางนากระสุน จ. ดันกระสนุ นัดแรกเขา้ ดปใต้ฝาปดิ ห้องลกู เล่ือน จนกระท้งั ถกู ยึดดว้ด้วยเหล็กเล่ือนสายกระสุนตัวนอก ตดิ (OUTER FEED PAWL) ท้ัง 2 ตัว 7.2 การยงิ ก. บดิ คันบังคับการยิงดปทต่ี าแหนง่ ยิง “FIRE” ข. เลง็ อาวุธดปที่เปา้ หมาย และกดดกปืน 7.3 การเลิกบรรจุกระสุน ก. ปรับตาแหน่งคันบงั คับการยงิ ดปท่ี “SAFE” วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ค.อัตโนมตั ิ ขนาด 40 มม.)
- 31 - ข. เปดิ ฝาปิดหอ้ งลูกเลื่อน (ในตาแหน่งเปิดครึ่งหนึ่ง) จนกระท้ังถูกยึดดว้ด้วยลาดบังคับเปิดฝาปิดห้อง ลูกเลอื่ น ค. เล่ือนสายกระสุนของกระสุนที่ยังดม่ยิง ซึ่งอยู่ในถาดป้อนกระสุนออกจากชุดรางนากระสุนแบบ ถอด/ ประกอบ ง. ตรวจดว้ ยสายตาดูใหแ้ น่ใจว่าในรังเพลงิ ดม่มีกระสนุ หลงเหลอื อยู่ จ. หมุนคันบังคับการยิงดปที่ตาแหนง่ “FIRE” ฉ. เหนี่ยวดกปืนดว้ ยมือข้างหน่ึงในขณะเดยี วกันก็ค่อยๆ ผอ่ นให้ลกู เลอื่ นวงิ่ ดปข้างหน้าดว้ ยมืออีกข้างหน่ึง ช. ปดิ ฝาปดิ ห้องลูกเลือ่ นและดูให้แน่ใจว่าคันบังคับรูปตัว L ทั้งสองอยู่ในตาแหน่งที่ถูกต้องบนร่องลาด ของลูกเลื่อน 8. การปฏิบัตทิ นั ทใี นเบื้องต้น ขณะทาการยิงปนื เกิดขดั ข้องขน้ึ ควรดาเนินการต่อดปน้ที นั ที ก. หมนุ คันบังคับการยิงดปทห่ี า้ มดก “SAFE” ข. ดึงคันรั้งลกู เลอื่ นมาขา้ งหลงั จนสุด ให้ลูกเลอื่ นถูกยดึ ค้างดวด้ ว้ ยกระเด่ืองดก ค. ใชส้ ายตาตรวจบริเวณรงั เพลิงต้องดมม่ ีกระสุนด้านหรือปลอกกระสุนค้างคาอยู่ ง. ถ้ารงั เพลงิ ดม่มีกระสนุ ด้านหรอื ปลอกกระสนุ ค้างอยู่หมุนคนั บังคับการยิงดปที่ตาแหน่งยิง “FIRE” จ. เหน่ียวดกยงิ ตอ่ ดป 9. ชนดิ ของกระสนุ ท่ใี ช้ 9.1 กระสนุ ซอ้ มยิง (TP) สนี า้ เงิน ตัวเลขและตัวอักษรสขี าว 9.2 กระสนุ ซ้อมยิง – สอ่ งวถิ ี (TP-T) 9.3 กระสนุ ระเบิดแรงสงู (HE) สเี ขียวใบดม้ คาดเหลือง และตวั อักษรสขี าว ชนวนพรอ้ มทางาน 18-40 เมตร รศั มีระเบิด 15 เมตร 9.4 กระสนุ ระเบดิ สองวัตถุประสงค์ (HEDP) สีเขียวใบดม้ คาดเหลือง ตัวเลขและตัวอักษรสีเหลอื งชนวน พรอ้ มทางาน 18-40 เมตร รัศมีอันตราย 60 เมตร, รัศมบี าดเจ็บ 15 เมตร,รศั มีสงั หาร 5 เมตร * เม่อื ทาการยิงด้วยกระสุนระเบิดแรงสูง(HE) ระยะปลอดภัยต่าสุดขณะทาการฝึก 200 เมตร และขณะทาการ รบ 75 เมตร ------------------------------- วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ค.อตั โนมตั ิ ขนาด 40 มม.)
- 32 - 9. ปืนกล M 60 ขนาด 7.62 มม. 1. กลา่ วนา ปนื กล M 60 ขนาด 7.62 มม. จดั อยู่ในประเภทอาวธุ ประจ้าหนว่ ย และมีนา้ หนักเบา จงึ สามารถท้าการยงิ ไดใ้ นทา่ ประทับยงิ เชน่ ยงิ ประทับไหล่, ประทับสะโพก, ยงิ ใต้แขน และทา้ การตงั ยิงด้วยขาทราย หรอื ขาหยง่ั M122 ทงั ยังติดตังบนฐานแบบตา่ งๆ บนยานพาหนะ เช่น รยบ.1/4 ตนั และรถสายพานล้าเลียงพล M113 เป็นต้น 2. คุณลักษณะท่วั ไป 2.1 ทา้ งานดว้ ยแกส๊ 2.2 ปอ้ นกระสุนดว้ ยสายกระสุน สายกระสุนเป็นโลหะชนดิ ข้อต่อ 2.3 ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ 2.4 ยงิ เป็นอัตโนมตั ิ ปนื ชนดิ นีจะท้าการยงิ กต็ อ่ เมอื่ ลกู เลอื่ นเปิด คือ ลกู เลื่อนจะอยู่ข้างหลัง เป็นปืนที่ไม่ต้องปรับระยะหน้า ลกู เล่อื น (ระยะหนา้ ลกู เลือ่ นคงท่ี) เมื่อเปล่ยี นล้ากล้องเสร็จก็สามารถยิงได้ทันที ปืน 1 กระบอกจะจ่ายล้ากล้อง ให้ 2 ลา้ กล้อง ประกอบติดอย่ทู ่ปี ืน 1 ล้ากลอ้ ง อย่ใู นถุงอะไหล่ 1 ลา้ กลอ้ ง 3. มาตราทาน - ขนาดกว้างปากลา้ กล้อง 7.62 มม. - ความยาวของปืนทงั กระบอก 43 1/2 นิว (1.1 เมตร) - นา้ หนกั ของปนื รวมทังขาทราย ประมาณ 23 ปอนด์ (10.4 กก.) - น้าหนักของขาหยงั่ M122 พรอ้ มเรอื นควงสูงและควงสา่ ย หนัก 19.5 ปอนด์ (8.5 กก.) - เกลียวในลา้ กล้อง 4 เกลียว เวยี นขวา - ระยะยงิ ไกลสดุ 3,725 เมตร - ระยะยงิ หวังผลไกลสดุ เป้าหมายเปน็ พืนที่ ตังยิงบนขาหยง่ั 1,100 เมตร - ดินส่องวถิ ีเผาไหมห้ มดระยะ 900 เมตร หรือ มากกว่า - อตั ราการยิง ยงิ ตอ่ เนื่อง 100 นดั /นาที (เปล่ยี นลา้ กล้องปืนทกุ 10 นาท)ี จงั หวะยงิ เร็ว 200 นัด/นาที (เปลี่ยนลา้ กล้องปืนทกุ 2 นาที) ความเรว็ ในการยิงสูงสุดตามวงรอบการทา้ งาน ประมาณ 550 นัด/นาที (เปลี่ยนลา้ กล้องปืนทุก 1 นาท)ี วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (ปก.M60)
- 33 - 4. ชื่อชน้ิ ส่วนภายนอก 1. ปลอกลดแสง 2. ศนู ย์หนา้ 3. ศนู ยห์ ลงั 4. รองลา้ กลอ้ ง 5. คันรงั ลูกเลอื่ น 6. ใบหา้ มไก 7. ขาทราย 8. หหู ิว 9. เหล็กพาดบา่ 5. การถอดประกอบ ความมุ่งหมายในการถอด 1. ถอดเพ่ือทา้ ความสะอาด 2. ถอดเพ่ือการศึกษา 3. ถอดเพ่ือเปลี่ยนชินสว่ น การถอดประกอบ มอี ยู่ 2 วธิ ี คือ. 1. ถอดแบบปกติ (ผใู้ ช้อาวุธ) 2. ถอดแบบละเอียด (ชา่ งอาวธุ ) การถอดแบบปกติ ก่อนที่จะท้าการถอดอาวุธปืนทุกชนิด จงระลึกไว้เสมอว่าปืนนันมีกระสุนบรรจุอยู่ กอ่ นจะถอดต้องตรวจความปลอดภัยของปนื เสยี ก่อนทุกครัง การตรวจความปลอดภัย 1. เปิดฝาปิดหอ้ งลกู เลื่อน 2. จดั ใบห้ามไกให้อย่ใู นตา้ แหนง่ ยงิ (F) 3. ดึงคันรังลูกเลื่อนมาข้างหลังจนปืนขึนนก ตรวจดูกระสุนในรังเพลิงด้วยสายตาหรือใช้นิวมือแยงดูใน รังเพลงิ 4. ปิดฝาห้องลกู เลอ่ื น 2. ชดุ เครื่องรับแรงถอย 5. เหนย่ี วไก 4. ชุดเครือ่ งลนั่ ไก ชินส่วนทจ่ี ะต้องถอด มี 6 ชินส่วนใหญ่ ๆ คือ 1. ชุดพานทา้ ย 3. ชุดเคล่ือนที่ 5. ชุดล้ากล้องปืน 6. ชดุ โครงลูกเล่ือน การใช้ ปืนกล M60 เป็นอาวุธที่บรรจุยิง, เลิกบรรจุ และ สามารถตรวจปืนเพื่อความปลอดภัย เมื่อลูกเล่ือน อยู่ในลกั ษณะเปดิ สาเหตกุ ารตดิ ขัด การทา้ งานของปืนไมเ่ ปน็ ไปตามวงรอบ มีสาเหตอุ ยู่ 2 ประการ คือ. 1. การท้างานของปืนฝืดช้า สาเหตเุ กิดจากปนื มีการเสยี ดสีมาก ปืนสกปรก, ขาดการหล่อลื่น, ชินส่วนช้ารุด สึกหรอ หรอื เน่อื งจากแก็สระบายออกมากเกินไป วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปก.M60)
- 34 - 2. การท้างานของปืนติดต่อกันไปเรื่อย ๆ สาเหตุอาจเน่ืองจากกระเดื่องไกสึกหรอ, แง่กระเดื่องไกสึก หรือ ปนื ถอยมาข้างหลงั น้อย 6. การแกไ้ ขเหตุตดิ ขัดทันทที นั ใด ก. เม่ือปืนเย็น ถ้าเกิดปืนติดขัดขึน เมื่อปืนยังเย็นอยู่ให้รอ 5 วินาที เพ่ือรอดูว่าอาจจะเกิดการล่ันช้า หลงั จากรอ 5 วินาที แล้วให้เปิดฝาปิดห้องลูกเล่ือนแล้วถอดสายกระสุนออก บรรจุกระสุนใหม่ แล้วเล็งที่หมาย เดมิ ลัน่ ไก ถ้ากระสุนไมล่ น่ั ให้คน้ หาสาเหตตุ ่อไป ข. เมื่อปืนร้อน คือยิงไปแล้วเกิน 150 นัด ในเวลา 2 นาที อาจท้าให้ล้ากล้องมีความร้อนสูงจะเป็นเหตุให้ ปืนลั่นเองโดยไม่ไดเ้ หน่ยี วไก เม่อื เกิดเหตเุ ชน่ นีขึนใหร้ ออยา่ งนอ้ ย 5 นาที จงึ เปดิ ฝาปดิ หอ้ งลูกเลื่อน เพื่อป้องกัน การบาดเจ็บเนอ่ื งจากกระสุนระเบดิ ในรังเพลงิ อาจท้าใหต้ าบอดได้ 7. ส่งิ ชส้ี อบ - เม่ือถอดแยกชินส่วนปืนเพ่ือท้าความสะอาด ให้ใช้ด้านปลายก้านสูบท่ีเป็นร่องท้าความสะอาดคราบ คาร์บอน ภายในกระบอกสูบของโครงลกู เลอื่ น - เม่ือท้าความสะอาดล้ากล้อง ให้คว้่าล้ากล้องลง เพ่ือรักษาให้ลูกสูบและภายในกระบอกสูบแห้งการท้า ความสะอาดระบบแก๊ส - ห้ามใชว้ ัตถสุ ้าหรับขัดหรอื กระดาษทราย ท้าความสะอาดลกู สูบ หรอื ภายในกระบอกสูบ - เม่ือเอียงและกระดกล้ากล้องจะต้องได้ยินเสียงดังกริ๊กของลูกสูบ ถ้าไม่มีเสียงให้ถอดกระบอกสูบออกท้า ความสะอาด - ถอดลวดนริ ภยั ออกจากกระบอกสูบ - ใช้เครอ่ื งมือควบถอดสว่ นประกอบของกระบอกสบู - ท้าความสะอาดรรู ะบายแกส๊ ทดี่ ้านหน้าทอ่ ต่อกระบอกสบู ด้วยลวดนิรภัย - ท้าความสะอาดรูแก๊สที่ลา้ กลอ้ ง, ลกู สูบ และกระบอกสูบ ด้วยด้านปลายแหลมของเครอื่ งมือควบ - เมือ่ ประกอบชนิ ส่วนย่อยของกระบอกสูบจะต้องม่ันใจว่า จุกรูแก๊สและแป้นเกลียวกระบอกสูบได้ขันแน่น ไวแ้ ละไมป่ ระกอบลูกสบู ผดิ ทาง รวมถึงหา้ มชโลมนา้ มันภายในกระบอกสบู - เม่อื ไม่มลี วดนริ ภัยประกอบอยู่ เวลาท้าการยิงจะต้องหม่นั ตรวจสอบการยึดแน่นของจกุ รแู กส๊ อยู่เสมอ วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M60)
- 35 - ตารางชนดิ กระสุน ปืนกล M60 ขนาด 7.62 มม. (TM 43-0001-27 ฉบบั APRIL 1994) ลา้ ดบั ชนิดกระสนุ รหัสสี ความมุง่ หมายในการใช้ 1. กระสนุ ธรรมดา (BALL) 1.1 M59/M80 หวั ไมท่ าสี สังหารบุคคล/ทา้ ลายเปา้ หมายท่ไี ม่หุม้ เกราะ 1.2 M80 (OVER HEAD FIRE หวั ไมท่ าสี ยงิ ข้ามศีรษะหนว่ ยทหารฝา่ ยเดยี วกนั APPLICATION) 2. กระสุนทดสอบความดนั สงู HIGH ปลอกกระสุนสีเงนิ ยิงทดสอบอาวธุ ในระหว่างการผลติ หรอื การ PRESSURE TEST (HPT) M60 ซ่อมบ้ารงุ อาวธุ 3. กระสนุ เจาะเกราะ ARMOR PIERCING (AP) 3.1 M61 หวั กระสุนสดี า้ สังหารบคุ คล/ท้าลายยานเกราะขนาดเบาหรอื เป้าหมายทไี่ ม่ห้มุ เกราะ/เป้าหมายคอนกรีต 3.2 M993 มแี ถบสดี ้าลอ้ มรอบหวั มขี ดี ความสามารถในการเจาะเกราะ ใชเ้ ป็น กระสนุ (ใช้ประกอบกับ กระสุนมาตรฐาน สา้ หรบั ปนื ขนาด 7.62 มม. กระสนุ สอ่ งวถิ ี M62) 4. กระสนุ ส่องวถิ ี (TRACER) 4.1 M62 หัวกระสุนสีส้ม ตรวจตา้ บลกระสนุ ตก 4.2 M62 (OVER HEAD FIRE หวั กระสุนสแี ดง ยงิ ขา้ มศรี ษะหน่วยทหารฝา่ ยเดยี วกัน MISSION) 5. กระสุนฝึกบรรจุ (DUMMY) 5.1 M63 ลอนลูกฟกู 6 ลอนบน ฝกึ บรรจุ/ตรวจสภาพและทดสอบกลไกอาวธุ ปลอกกระสนุ 5.2 M172 กระสุนทงั นัดสีดา้ , ไม่มี ทดสอบกลไกและสายกระสนุ ปนื กลขนาด ชนวนทา้ ย 7.62 มม. 6. กระสุนสอ่ งวิถี (DIM TRACER) หวั กระสุนสเี ขียวมีแถบ ใช้กบั หน่วยท่ีมีกลอ้ งเล็งเวลากลางคนื M276 สีชมพูคาด 7. กระสุนซ้อมรบ (BLANK) M82 ไม่มีลูกกระสนุ และ คอ ยงิ แทนกระสนุ จริงในการฝึก/ยิงสลุต กระสนุ สอบสองชนั * ปก. M60 ใช้สายกระสุน M13 ข้อตอ่ สายกระสุนเปิด (OPEN LOOP) - - - - - - - - - - ----------------------------------- - - - - - - - - - - วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M60)
- 36 - 10. ปนื กล M60 D ขนาด 7.62 มม. หลักฐาน TM 9-1005-224-10 ลง 2 เมษายน 1998 1. กล่าวนา ปืนกล M60 D ติดตั้งเป็นปืนกลต่อสู้อากาศยาน ประจาป้อมปืน ถ.M48A5 จานวน 2 กระบอก (ตาแหน่ง ผบ.รถ และ พลบรรจุ) 2. คณุ ลกั ษณะทั่วไป เหมือนกับ ปก. M60 3. มาตราทาน - นา้ หนกั 25 ปอนด์ (11.33 กก.) - ความยาวของปืนท้งั กระบอก 43.5 นว้ิ (1.1 กก.) - ระยะยิงไกลสุด 3,725 เมตร - ระยะยงิ หวงั ผลไกลสุด 1,100 เมตร - ระยะเผาไหม้ของดินส่องวถิ ี 900 เมตร หรอื มากกวา่ - เกลียวในลากลอ้ ง 4 เกลยี ว เวียนขวา 4. อัตราการยิงและกระสนุ เหมอื นกับ ปก. M60 7.62mm M13 links ( OPEN LOOP ) วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M60 D)
- 37 - 5. การถอดประกอบแบบปกติ สามารถถอดแยกไดด้ ังนี้ คือ 1) ชดุ พานท้าย (โครงเคร่อื งปดิ ทา้ ย) 2) ชดุ เครอื่ งรบั แรงถอย 3 ) ชดุ เคล่ือนที่ 4) ชดุ โครงเครอื่ งล่ันไก 5) ชดุ ลากล้อง 6) ชดุ โครงลกู เลื่อน สว่ นประกอบหลักปนื กล M60 D 1. สลกั ยดึ ปลดเรว็ 9. ก้านโยงและแหนบกระเด่ืองไก 2. ชดุ เคร่ืองป้อนกระสนุ 10. ลวดนริ ภัยยึดแหวนกระบอกสบู 3. ลวดสลักยึดปลดเรว็ 11. น็อตยดึ ก้านโยงกระเด่ืองไก 4. ปลอกลาดสลักยดึ ปลดเร็ว 12. ครอบกันฝุ่นและความชน้ื 5. สลักยึด 13. สลกั ยดึ 6. เหล็กยึดปืน 14. ชดุ ด้ามปนื และเครื่องลั่นไก 7. ใบแหนบหา้ มไก 15. สลกั ยดึ 8. เรือนกระเด่ืองไก และหา้ มไก วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.M60 D)
- 38 - วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M60 D)
- 39 - วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M60 D)
- 40 - 6. การแก้ไขเหตตุ ิดขัดทันทที ันใด และส่งิ ชี้สอบ เหมือนกับ ปก. M60 - - - - - - - - - - - - - - - - - -------------------------------- - - - - - - - - - - - วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M60 D)
- 41 - 11. ปนื กล MG 3 ขนาด 7.62 มม. 1. กล่าวนา ปืนกล MG 3 ขนาด 7.62 มม.ติดตั้งเป็นปืนกลร่วมแกนและเป็นปืนประจาป้อมปืนรถเกราะ คอมมานโด V-150 สามารถต้ังยงิ บนพ้ืนดิน โดยประกอบขาทรายและสายสะพาย มีศูนย์เล็งดักสาหรับยิงต่อสู้ อากาศยานที่ร่อนต่า และเมื่อนามาติดตั้งเป็นปืนกลร่วมแกนในป้อมปืนไม่ต้องใช้พานท้าย, ขาทราย และ สายสะพาย เรยี กวา่ ปนื กล MG3A1 2. คณุ ลกั ษณะ 2.1 ทางานดว้ ยแรงถอย 2.2 ปอ้ นกระสนุ ด้วยสายกระสนุ (สายกระสนุ เปิด) และป้อนกระสนุ ได้ทางเดียวคือทางซ้าย 2.3 ระบายความรอ้ นด้วยอากาศ 2.4 ยงิ เป็นอตั โนมัติ และยงิ จากตาแหนง่ หนา้ ลกู เล่ือนเปดิ (ลกู เลือ่ นอยหู่ ลังสุด) 2.5 สามารถเปล่ียนลากล้องได้รวดเรว็ 2.6 ก่อนทาการยงิ ให้ปรับปลอกทวกี ารถอย 2.7 ล่นั ไกด้วยไฟฟา้ โดยเครือ่ งแม่เหล็กลนั่ ไก (SOLENOID) และดว้ ยมือ 3. มาตราทาน - กว้างปากลากล้อง 7.62 มม. - เกลยี วในลากล้อง 4 เกลยี ว เวียนขวา - ความเร็วต้นท่ปี ากลากล้อง 820 เมตร/วนิ าที - ลากล้องยาว 565 มม. - ระยะยงิ ไกลสุด 3,750 เมตร - อตั ราการยิง 1150 ±150 นดั /นาที - เปลยี่ นลากลอ้ งหลังจากยิงไปแล้ว ประมาณ 150 นัด ไม่ว่าจะยงิ ต่อเนื่อง หรอื ยิงจงั หวะเร็ว - ปืนทงั้ กระบอกหนกั (ไม่รวมขาทรายและสายสะพาย) ประมาณ 10.2 กก. - น้าหนักลากลอ้ ง ประมาณ 1.8 กก. - น้าหนักลกู เลือ่ น ประมาณ 0.5 กก. - ปนื ท้ังกระบอกยาว (รวมพานท้าย) 1,225 มม. - ปนื ทง้ั กระบอกยาว (ไม่รวมพานท้าย) 1,075 มม. 4. ชื่อชนิ้ ส่วนภายนอก - ปลอกทวกี ารถอย - กลอนยดึ ปลอกทวีการถอย - ศูนยห์ นา้ - รองลากล้อง - กลอนยดึ ลากล้อง - ศูนย์หลัง วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปก.MG3)
- 42 - - ศูนยต์ ่อสู้อากาศยาน - ฝาปิดหอ้ งลกู เล่ือน - เครอื่ งลัน่ ไก - กลอนยดึ พานท้าย - ฝากันฝุ่น (อยู่ในตาแหน่งปิดเม่ือทาการเคลื่อนย้าย และตาแหน่งเปิดเม่ือทาการยิงปืน (เพื่อเป็นช่องคัด ปลอกกระสุน) 5. ศูนย์ - ศูนยห์ น้า และศนู ย์หลงั เป็นศูนย์เปิด (สามารถพับเก็บได้) ศูนย์หน้าไม่สามารถปรับได้ ศูนย์หลังเป็นแบบ โครง ทศ่ี ูนยห์ ลังมมี าตราระยะยิงบอกไวข้ ดี ละ 100 เมตร เรม่ิ ตง้ั แต่ 200 ถงึ 1,200 เมตร - ศูนย์ต่อสู้อากาศยาน มีไว้สาหรับยิงต่อสู้อากาศยานท่ีร่อนต่า ยิงได้ท้ังเคร่ืองบินใบพัด และเครื่องบินไอพ่น (สามารถพับเก็บไดแ้ ละมฝี าครอบป้องกนั ) 6. ปลอกทวีการถอย ปลอกทวกี ารถอย สามารถปรบั ได้ตามชนดิ กระสนุ คือ - กระสนุ ของปนื โดยตรง ( NATO ) 5 - 8 คลกิ้ - กระสุน ทบ.ไทย ( RTA ) 27 คลิ้ก 7. การใช้ 7.1 การบรรจุ 1. เปิดฝาปิดห้องลูกเล่อื น 2. จดั หา้ มไกให้อยใู่ นตาแหน่ง F 4. ดันคันร้งั ลูกเล่อื นกลบั ไปข้างหน้าสุด 3. ดึงคันร้ังลกู เล่ือนมาข้างหลงั สดุ 6. ควา่ สายกระสุนด้านเปดิ ลง วางสายกระสุน 5. จัดห้ามไกให้อยใู่ นตาแหน่ง S บนเหลก็ รองกระสุน จัดให้กระสุนนัดแรก ยนั กับเหลก็ กันกระสุน 7. ใชม้ อื ซา้ ยประคองสายกระสนุ ไมใ่ ห้หลุดออกมา 8. ปิดฝาปิดหอ้ งลูกเลอื่ น 7.2 การเลิกบรรจุ 1. เปดิ ฝาปดิ ห้องลกู เล่ือน แล้วดึงสายกระสนุ ออก 2. ยกเหล็กรองกระสนุ ขึน้ แลว้ ตรวจดูกระสนุ ในรงั เพลิง 3. เปดิ ฝาปิดห้องลกู เล่ือน 4. ในกรณีลูกเลือ่ นไม่คา้ งอยู่ข้างหลงั ใหด้ ึงคันร้งั ลกู เล่ือนมาขา้ งหลงั สุด 5. เหนี่ยวไกและค่อย ๆ ประคองคันรงั้ ลูกเล่อื นไปข้างหน้า 6. ดนั คันรง้ั ลกู เลื่อนไปข้างหน้าใหเ้ ขา้ ท่จี นสุด 8. การถอด/ประกอบ ก่อนทาการถอด/ประกอบ ต้องตรวจความปลอดภัยของปืนเสียก่อนโดยเปิดฝาปิดห้อง ลูกเลือ่ นแล้วดึงใหล้ กู เลือ่ นคา้ งอยขู่ า้ งหลังสุด ตรวจดูจนแน่ใจว่าไม่มีกระสุนค้างอยู่ในรังเพลิง, ปลดให้ลูกเล่ือน กลับไปขา้ งหนา้ โดยจบั คนั รงั้ ลกู เลื่อนแลว้ เหน่ียวไก ปลอ่ ยให้ลกู เลอื่ นวงิ่ ไปขา้ งหน้าอย่างช้า ๆ อย่าปล่อยให้ วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปก.MG3)
- 43 - ลูกเลื่อนวิ่งกลับไปอย่างรุนแรงเมื่อไม่ทาการยิง เพราะจะทาให้ชุดลูกเลื่อนและเหล็กรองกระสุนชารุด (พับ ศูนยห์ นา้ และศนู ยห์ ลงั ) การถอดแบบปกตสิ ามารถถอดแยกชิน้ ส่วนใหญ่ ๆ ได้ ดงั นี้.- 8.1 ฝาปดิ ห้องลูกเลอื่ นและเหล็กรองกระสนุ 8.2 แหนบรับแรงถอย, พานท้าย และเหล็กปิดทา้ ย 8.3 ลกู เลอ่ื น (สามารถถอดแยกได้) 8.4 คันร้ังลกู เล่ือน 8.5 ลากล้อง (ใช้ในการปฏบิ ตั กิ ารรบจะประทับอักษร \" S \" ไว้) 8.6 ปลอกทวีการถอย 8.7 ปลอกนาลากล้อง 8.8 ท่เี หลือจะเปน็ ห้องลกู เลอ่ื น, รองลากลอ้ ง และเคร่ืองลน่ั ไก การประกอบใหท้ ากลับกันกบั การถอด 9. การทางานของเครอ่ื งกลไก มีท้ังหมด 8 ขัน้ ตอน 1. การขนึ้ นก 2. การปอ้ นกระสนุ 3. การบรรจุกระสุนเขา้ รงั เพลงิ 4. การขดั กลอน 5. การลน่ั กระสนุ 6. การปลดกลอน 7. การรง้ั ปลอกกระสุน 8. การคัดปลอกกระสนุ 10. การแก้ไขเหตุติดขัดทันทีทันใด เม่ือกระสุนไม่ลั่นในขณะที่ปืนได้ยิงมาแล้วจนลากล้องร้อน หน้าลูกเล่ือนยัง ปดิ ท้ายรงั เพลิงอยู่ ตอ้ งทง้ิ ปนื ไว้ 5 นาที กอ่ นท่ีจะดงึ คันร้ังลกู เล่อื นมาขา้ งหลัง 11. การปรนนิบตั ิบารงุ - ปดิ ฝากันฝุ่นทกุ ครั้งเม่ือเคลื่อนย้ายปืน - กอ่ นทาการยิงแต่ละคร้งั ต้องทาความสะอาดน้ามันในลากลอ้ ง และในปลอกทวกี ารถอย - หลังจากเลิกยิง เมอ่ื สามารถจับลากล้องดว้ ยมือเปล่าได้แล้ว ต้องทาความสะอาดลากล้อง และปลอกนา ลากลอ้ งทนั ที และตอ้ งทาความสะอาดตดิ ตอ่ กัน 3 วัน หลงั การยงิ - หลังจากทาความสะอาดและทาการประกอบปืนเรียบร้อยแล้ว ต้องตรวจการทางานของห้ามไก และ ช้นิ ส่วนเคล่ือนทข่ี องปนื ต้องเปน็ ไปอย่างสะดวกและถูกต้อง 12. กระสนุ ใชก้ ระสุนขนาด 7.62 × 51 มม. ของ ทบ.ไทย และ กลุ่มนาโต้ เหมือนกบั ปก. M60 - - - - - - - - - - - - -------------------------------- - - - - - - - - - - - - - - วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปก.MG3)
- 44 - 12. ปนื กล L43A1 ขนาด 7.62 มม. 1. กลา่ วท่ัวไป ปืนกล L43A1 ขนาด 7.62 มม. เปน็ ปืนกลตระกูล FN ตดิ ต้งั เปน็ ปนื กลร่วมแกนใน ถ.เบา 21 2. คณุ ลักษณะ 2.1 ทางานดว้ ยแก๊ส 2.2 ระบบการทางานของปืน เป็นแบบอตั โนมัติ 2.3 มีอัตราในการยงิ สูง, ระบายความร้อนด้วยอากาศ 2.4 การถอดประกอบงา่ ยและรวดเรว็ 2.5 ปอ้ นกระสุนด้วยสายกระสนุ 2.6 ยงิ จากหน้าลูกเล่ือนเปิด ซึ่งนับว่าเป็นลกั ษณะให้ความปลอดภัยของปนื อันหน่ึง 3. มาตราทาน 3.1 ขนาดกว้างปากลากล้อง 7.62 มม. 3.2 เกลียวภายในลากล้อง 4 เกลียว เวียนขวา 3.3 ความเร็วตน้ ท่ปี ากลากลอ้ ง 850 เมตร/วนิ าที 3.4 ระยะยิงไกลสดุ (ขึ้นอยู่กบั มาตรา) 2,000 เมตร 3.5 อัตราการยงิ 750 นดั /นาที (เมือ่ จดั แกส๊ รูท่ี 2) 3.6 ความยาวของปืน 1,041 มม. (41 น้วิ ) 3.7 นา้ หนักปืน 10.43 กก. (23 ปอนด์) 3.8 น้าหนกั ลากลอ้ ง 2.6 กก. (5 3/4 ปอนด)์ 3.9 ลากล้องยาว 629 มม. (24.75 น้ิว) 4. ส่วนประกอบหลกั ก. ปืนกล L43A1 ประกอบด้วยช้นิ ส่วนหลัก ดงั นี้.- 1. ห้องลกู เลอ่ื น (โครงปนื ) 2. หมลู่ ากลอ้ ง 3. หมเู่ คร่อื งรับแรงถอย (เคร่อื งรบั แรงกระแทก) 4. หมู่เครอื่ งลน่ั ไก และเคร่อื งแมเ่ หล็กล่นั ไก (เครอ่ื งลั่นไกดว้ ยไฟฟา้ L 1 A 1) ข. หมายเลข ทกุ กระบอกมหี มายเลขประทับไว้ที่ชน้ิ สว่ นใหญ่ 3 ช้นิ ส่วน คือ. 1. ตัวปนื (หอ้ งลูกเล่อื น) ด้านซา้ ย 2. ลากล้อง ดา้ นขวาหน้ากลอนยึดลากลอ้ ง 3. แท่งลกู เลอ่ื น ดา้ นขวา วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ปก.L43A1)
- 45 - หมายเหตุ เมื่อประกอบปนื โดยเฉพาะอย่างย่ิงเม่ือใชป้ ืนรว่ มกนั หลายกระบอกต้องตรวจใหห้ มายเลขตรงกัน อยา่ ให้สับปืน หากไม่ระมัดระวงั อาจเปน็ เหตใุ หเ้ กดิ การชารุดเสยี หาย, บาดเจบ็ และอนั ตราย 5. การใช้งาน 5.1 ก่งึ บรรจุ - ส่วนเคล่ือนทอ่ี ย่หู น้าสดุ และเหลก็ กดเหล็กยดึ กระสุน (แผ่นปลดสายกระสนุ ) อยู่ทางซา้ ยมือ - เปิดฝาปิดห้องลูกเล่ือนวางสายกระสนุ บนถาดป้อนกระสนุ ใหก้ ระสุนนดั แรกชดิ เหลก็ กนั กระสุน - จบั สายกระสนุ ให้อยู่กับท่ีแล้วปิดฝาปิดห้องลูกเลื่อน 5.2 การบรรจจุ ากก่ึงบรรจุ ดึงคันรง้ั ลูกเล่อื นมาข้างหลังจนสดุ เพือ่ ขึ้นนก ห้ามไกแล้วปล่อยคันร้ังลกู เลื่อน 5.3 การเลกิ บรรจุ - ดึงคันรงั้ ลกู เล่ือนมาข้างหลงั จนสดุ เพอ่ื ขึน้ นก - ห้ามไกแลว้ ปลอ่ ยคนั รงั้ ลกู เลื่อน - เปดิ ฝาปิดหอ้ งลกู เล่ือน นากระสนุ และสายกระสุนออก - ยกถาดป้อนกระสนุ ขึ้นและตรวจรังเพลิง, หนา้ ลูกเล่ือน และห้องลกู เลื่อนวา่ ไม่มกี ระสุน - ลดถาดป้อนกระสุนและปดิ ฝาปดิ หอ้ งลกู เล่ือน - ปลดห้ามไกและดึงคันร้งั ลกู เลื่อนมาขา้ งหลงั สุด เหนย่ี วไกแล้วผอ่ นคันร้งั ใหส้ ่วนเคลอื่ นที่ไปข้างหน้า 6. การถอดแบบปกติ สามารถถอดแยกเปน็ ส่วนใหญ่ ๆ ดงั น้ี (ใหต้ รวจความปลอดภยั ของปืนเสียก่อน ในข้อ 5.3) 6.1 หมลู่ ากลอ้ ง 6.2 ปลอกจัดแกส๊ 6.3 เคร่ืองลน่ั ไก 6.4 เคร่อื งรับแรงกระแทก 6.5 แหนบสง่ ลกู เลอ่ื น 6.6 ลกู เล่อื น 6.7 ลกู สบู 6.8 เหลก็ รงั้ กระสุน 6.9 เครื่องป้อนกระสุน 7. การประกอบ ใหท้ ากลบั กันกบั การถอด 8. การทดสอบ การทดสอบ 8 ประการ เพ่ือเป็นการทดสอบว่าปืนทางานได้ถูกต้องก่อนท่ีจะใช้ปืนทาการยิง ต้องทดสอบตามวธิ ีดังกล่าวต่อไปน้ี.- 8.1 แท่งลูกเลื่อน ประกอบส่วนต่าง ๆ ของลูกสูบก้านสูบให้สมบูรณ์ แต่ไม่ต้องประกอบเข้ากับห้องลูกเล่ือนใช้ มอื ขา้ งหน่ึงจับก้านสูบ ใช้อีกมือดงึ ลูกเลื่อนมาข้างหลงั สุด เข็มแทงชนวนต้องโผล่ไปพ้นหนา้ ลูกเล่ือน 8.2 ลูกสูบ โดยยังไมต่ ้องประกอบหมู่ลกู สบู เขา้ กับปืน เม่ือหมุนกา้ นสบู เบา ๆ ก้านสูบต้องเล่ือนตัว โดยการ ทางานของก้านต่อก้านสบู 8.3 ความคล่องตัวของหัวลูกสูบ ประกอบหมู่ลูกสูบเข้ากับตัวปืนโดยไม่ต้องประกอบแหนบส่งลูกสูบผลัก หมู่ลกู สูบไปขา้ งหน้าสดุ แล้วดึงกลบั เพือ่ ตรวจความคล่องตวั ของลูกสบู ทีเ่ คล่ือนท่ีภายในกระบอกสบู 8.4 เครอื่ งรบั แรงกระแทก (เหลก็ ปดิ ท้ายห้องลกู เล่ือน) ก. ตรวจหัวเครอื่ งรับแรงกระแทก ต้องประกอบโดยติดแน่นกับแหวนรองและกลอนยึดต้องทางานได้คล่อง วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ปก.L43A1)
- 46 - ข. ตรวจสภาพรอ่ งนาใหเ้ รยี บร้อย 8.5 หมู่เครอ่ื งล่นั ไก ก. เมอ่ื ประกอบปนื เรียบร้อยแลว้ ข้ึนนกหา้ มไกแล้วทดลองเหน่ียวไกชิน้ ส่วนเคลื่อนที่ตอ้ งถูกยดึ อยกู่ ับที่ ข. ปลดหา้ มไก แล้วทดลองเหน่ียวไก ชิ้นสว่ นเคล่อื นทต่ี ้องเคลอื่ นไปข้างหน้า 8.6 เครือ่ งป้อนกระสนุ เปดิ ฝาปิดหอ้ งลูกเล่ือนแลว้ ทดสอบดงั ต่อไปน้ี. ก. กลอนยดึ ฝาปิดต้องทางานได้โดยมีแรงดนั ของแหนบ ข. แหนบคนั เลอื่ นสายกระสุนดนั ต่อคันเล่ือน ค. แหนบคันเลอื่ นสายกระสนุ เข้าทเ่ี รียบร้อย ง. เม่อื เลื่อนเหล็กป้อนกระสนุ คนั เล่ือนสายกระสนุ ต้องเลอื่ นไปตามจังหวะ จ. แหนบเหลก็ ป้อนกระสนุ ใช้การได้และดนั ตอ่ เหล็กป้อนกระสุน ฉ. แหนบเหลก็ นาและเหล็กปลดกระสุนใช้การไดด้ ี ช. ลาดบงั คบั หัวกระสุน, รอ่ งกระสุน, เหล็กกันกระสุน, ถาดป้อนกระสุนต้องยึดแน่น ไมม่ ีรอยชารุด หรือเยนิ ซ. ลกู กลิ้งบงั คบั คนั เล่ือนสายกระสนุ ตดิ กับลูกเลื่อนแน่น และแหนบใชก้ ารได้ 8.7 กระบอกจัดแกส๊ ถอดลากล้องออกตรวจดูวา่ กระบอกจัดแกส๊ จัดไว้ทร่ี หู มายเลข 2 สลกั จัดแกส๊ ขนั ติดแน่น 8.8 ปลอกลดแสง ตรวจดูปลอกลดแสง ต้องประกอบติดแน่นมีแหวนรองและย้าติดแนน่ 9. การทางาน มีท้ังหมด 8 ข้ันตอนเหมอื นปนื กลท่วั ไป มปี ลอกจัดแก๊สควบคุมอัตราความเร็วในการยิงปกติจัด ไว้ที่ช่องหมายเลข 2 เมื่อปล่อยไกปืนจะหยุดยิง โดยลูกเลื่อนค้างอยู่ข้างหลังและจะไม่มีลูกกระสุนค้างอยู่ในรัง เพลิง 10. การแก้ไขเหตุตดิ ขดั ทันทีทนั ใด เมื่อกระสุนไมล่ ั่นให้ข้ึนนกใหม่แลว้ ยิงไปอีก ถา้ ไม่สามารถข้ึนนกได้ กใ็ หด้ ึง คันร้งั มาเท่าทดี่ งึ มาได้แลว้ อย่าปลอ่ ยคนั รง้ั กลบั ไปข้างหนา้ ทง้ั นเี้ พ่ือค้นหาสาเหตุและแกไ้ ขตอ่ ไป 11. การปรนนบิ ตั บิ ารงุ 11.1 กอ่ นการยงิ เช็ดชิ้นส่วนตอ่ ไปนใ้ี ห้แหง้ คือ. - ภายในลากล้องและรังเพลงิ - ปลอกลดแสง - ในกระบอกสูบและปลอกจัดแก๊ส - หนา้ ลกู เล่ือน - ลูกสบู โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ตรวจหวั ลูกสูบ และระหว่างแหวนลูกสบู 11.2 ระหว่างการยิงเม่ือมีโอกาส ในระหว่างที่มีการพักการยิงให้เปิดฝาปิดห้องลูกเลื่อน หยอดน้ามันลั่น หลอ่ ลืน่ ประมาณ 2-3 หยด ท่กี ลอนลกู เลื่อน ข้อตอ่ กลอนลกู เลือ่ น และลาดกลอนทีข่ ้อต่อกลอนลูกเล่ือน 11.3 ภายหลังการยิง ทาความสะอาดภายในลากล้อง รังเพลิง, กระบอกสูบ และส่วนที่ถูกแก๊สให้สะอาด ตรวจสภาพแลว้ ชโลมนา้ มนั โดยปฏิบตั ิดงั กล่าวติดตอ่ กันไม่นอ้ ยกวา่ 5 วัน (วันละ 1 ครั้ง) 12. กระสุน ใช้กระสุนขนาด 7.62 × 51 มม.ของ ทบ.ไทย และกลุ่มนาโต้ เช่นเดยี วกบั ปก.M60 - - - - - - - - - ----------------------------- - - - - - - - - - - วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปก.L43A1)
Search