37 จุดประสงค์การเรียนรู้เนื้อหากิจกรรมการจัดการเรียนรู้การวัดและประเมินผลเพื่อพิจารณา ให้ข้อเสนอแนะ 2.2.5 นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้การปรับปรุงแก้ไขแล้วเสนอ ต่อผู้เชี่ยวชาญผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 คน ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผลประเมินผลผู้เชี่ยวชาญ ด้านหลักสูตรและการสอนคณิตศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอนเพื่อประเมิน ความถูกตอ้ งความเหมาะสมของเน้ือหาความถูกต้องดา้ นภาษาและความเปน็ ไปไดข้ องแผนการเรียนรู้ โดยใช้ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่างข้อคำถามกับความสามารถในการให้เหตุผล ทางคณติ ศาสตร์ ซ่งึ มเี กณฑ์การให้คะแนน ดังน้ี ให้คะแนนเป็น +1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นมีเหมาะสมและสอดคล้องกับ จดุ ประสงค์และเน้ือหาสาระ ให้คะแนนเป็น 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าข้อสอบนั้นมีเหมาะสมและสอดคล้องกับ จดุ ประสงค์และเน้อื หาสาระ ให้คะแนนเป็น -1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นไม่มีความเหมาะสมและสอดคล้อง กับจุดประสงค์และเนื้อหาสาระ แล้วนำคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมาคำนวณหาค่าดัชนีความ สอดคล้องเป็นรายข้อซึง่ ไดค้ ่า IOC เทา่ กับ 1.00 ทกุ ขอ้ 2.2.6 นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทีผ่ า่ นการประเมินจากผูเ้ ชี่ยวชาญ แล้วนำไปทดสอบกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 คนที่เรียนเรื่องนี้มาแล้วและไม่ใช่ กลุ่มตัวอย่างและนำคะแนนที่ได้จากการตรวจแบบทดสอบมาวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (p) และ ค่าอำนาจจำแนก (r) ซึ่งมีค่าความยากง่ายของแบบทดสอบฉบับนี้อยู่ระหว่าง 0.31-0.54 และค่า อำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25 ขน้ึ ไป 2.2.7 นำแบบทดสอบที่คัดเลือกแล้วไปทดสอบกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนเรื่องนีม้ าแล้วและไม่ใช่กลุม่ ตัวอย่างเพื่อหาค่าความเช่ือมั่นของแบบทดสอบโดยใช้สูตรคูเดอร์- ริชาร์ดสนั K-R20 ซ่ึงค่าความเชอื่ มัน่ ของแบบทดสอบนี้ท้ังฉบบั เท่ากบั 0.87 2.2.8 นำแบบทดสอบที่ได้ไปวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปที ี่ 3 ปกี ารศกึ ษา 2564 โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุดรธานี ทเ่ี ปน็ กล่มุ ตวั อยา่ งต่อไป
38 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ในการวิจยั คร้ังนี้ผวู้ ิจยั ได้ดำเนนิ การวิจัยซ่ึงดำเนนิ การเก็บรวบรวม ดังน้ี 1. ก่อนการทดลอง ปฐมนิเทศนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเพื่อชี้แนะและทำความเข้าใจ เกี่ยวกับวิธีการเรียนบทบาทของนักเรียนชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้และข้อตกลงเกี่ยวกับการเรียน โดยใช้บทเรยี นออนไลนว์ ิชาคณติ ศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเปน็ โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ตลอดจนวิธี วัดผลประเมินผล 2. ทำการทดสอบก่อนเรียน (Pretest) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นฉบับสมบูรณ์ซึ่งผ่านการตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขจากอาจารย์ที่ปรึกษา วิทยานิพนธ์และผู้เชยี่ วชาญแลว้ 3. ดำเนนิ การสอนตามแผนการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink จำนวน 6 แผน ใช้เวลา 12 ช่วั โมง 4. ทำการทดสอบหลังเรียน (Posttest) หลังดำเนินการสอนครบตามที่กำหนดโดยใช้ แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น จากนัน้ นำผลที่ไดไ้ ปวิเคราะหข์ ้อมูลทางสถติ ิต่อไป การวิเคราะห์ข้อมลู การศึกษาคน้ คว้าในคร้งั น้ี ผวู้ จิ ยั ได้ดำเนินการวิเคราะห์ขอ้ มลู แบ่งเป็น 3 ตอน ดงั นี้ ตอนที่ 1 วิเคราะห์บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink เพื่อหาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) จากคะแนน ปฏิบัติกิจกรรมผ่านบทเรียนออนไลน์กับคะแนนทดสอบหลังเรียนในแต่ละชุด หาประสิทธิภาพของ ผลลัพธ์ (E2) จากคะแนนการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย ค่า ร้อยละ แล้วนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 70/70 โดยใช้สูตร E1/E2 ตอนที่ 2 วิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเปน็ โดยใช้วิธีของกดู แมน เฟรทเชอร์ และสไนเดอร์ ตอนที่ 3 วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยนำข้อมูลมาจาก คะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบคำนวณหาค่าความ แตกต่างของคะแนนดว้ ยการทดสอบทีแบบไมอ่ ิสระ (t-test for Dependent)
39 สถติ ทิ ่ีใช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มูล ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู ผูว้ ิจยั เลอื กใช้สถติ ดิ งั นี้ 1. สถิติพื้นฐาน ใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรปู ทางสถติ สิ ำหรบั ขอ้ มูลทางสังคมศาสตร์ 2. สถิตทิ ่ใี ช้ในการวิเคราะห์คณุ ภาพของเครื่องมือ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรปู Test Analysis Program (TAP) 2.1 ค่าความยากงา่ ย (p) ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น 2.2 คา่ อำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน 2.3 ค่าความเชื่อมั่น (rtt) ของคูเดอร์-ริชาร์ทสัน ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี น 2.4 การหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากสตู รของโรวิเนลลแี ละแฮมเบลตัน (Rovinelli & Hambleton, 1977) คำนวณไดจ้ ากสูตร ∑R IOC = N โดยท่ี IOC แทน ดชั นคี วามสอดคล้องระหวา่ งขอ้ สอบกบั จดุ ประสงค์ ∑ R แทน ผลรวมความสอดคลอ้ งระหว่างข้อคำถามกับประเด็นหลักของเน้ือหา N แทน จำนวนผเู้ ช่ียวชาญ 2.5 ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้สูตร E1 / E2 คำนวณไดจ้ ากสูตร (ขยั ยงค์ พรหมวงศ,์ 2556: 10-11) E1 = ∑x × 100 หรือ X̅ × 100 N A A E2 = ∑F × 100 หรือ F̅ × 100 N B B เมอ่ื E1 คือ ประสทิ ธิภาพของกระบวนการ E2 คือ ประสิทธภิ าพของผลลัพธ์ ∑ x คอื คะแนนรวมของแบบทดสอบยอ่ ย ∑ F คือ ผลคะแนนรวมของผู้เรียนจากการทดสอบหลังเรียน A คอื คะแนนเต็มของแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ทุกชน้ิ รวมกัน
40 N คอื จำนวนผ้เู รยี น B คอื คะแนนเตม็ ของแบบทดสอบหลงั เรยี น 2.6 ดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้สูตรดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I.) คำนวณได้จากสตู ร (เผชญิ กิจระการ และสมนกึ ภทั ทยิ ธนี, 2545) E. I = P2−P1 Total−P1 เมื่อ E.I. คือ ค่าดชั นีประสิทธิผล P1 คือ ผลรวมของคะแนนกอ่ นเรยี นทุกคน P2 คือ ผลรวมของคะแนนหลงั เรยี นทุกคน Total คอื ผลคูณของจำนวนนักเรียนกบั คะแนนเตม็ 3. สถิติที่ใช้ทดสอบสมมุติฐาน โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติสำหรับข้อมูลทาง สงั คมศาสตร์ (SPSS for windows) 3.1 สถิติที่ใช้ทดสอบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียน คอื การทดสอบทีแบบไมอ่ ิสระ (t-test for Dependent)
41 บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล ในการวิจยั ครงั้ น้ี ผ้วู จิ ยั ขอนำเสนอผลการวิเคราะหต์ ามจุดประสงคข์ องการวจิ ยั ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาประสทิ ธิภาพของบทเรียนออนไลน์วชิ าคณิตศาสตร์ เรอ่ื ง ความนา่ จะเป็น ของ นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ตามเกณฑ์ 70/70 2. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ วิชาคณติ ศาสตร์ เรือ่ ง ความน่าจะเป็น ของนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ซึ่งมีผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดังรายละเอยี ดต่อไปนี้ ตอนท่ี 1 วิเคราะห์บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้น มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เพื่อหาประสิทธภิ าพของกระบวนการ (E1) จากคะแนนปฏบิ ัติกิจกรรมผา่ นบทเรียน ออนไลน์กับคะแนนทดสอบหลังเรียนในแต่ละชุด หาประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) จากคะแนนการ ทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ แล้วนำมาวิเคราะห์ ประสทิ ธภิ าพของแบบฝกึ ทักษะ ตามเกณฑท์ ี่ตัง้ ไว้ 70/70 โดยใชส้ ูตร E1/E2 ตอนที่ 2 วิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเปน็ โดยใช้วิธขี องกูดแมน เฟรทเชอร์ และสไนเดอร์ ตอนที่ 3 วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยนำข้อมูลจาก คะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบคำนวณหาค่าความแตกต่าง ของคะแนนวิเคราะห์โดยใชส้ ตู ร t – test for Dependent Samples ตอนท่ี 1 วเิ คราะห์บทเรียนออนไลนว์ ิชาคณิตศาสตร์ เรอ่ื ง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษา ปที ี่ 3 เพ่ือหาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) จากคะแนนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมผา่ นบทเรียนออนไลน์กับ คะแนนทดสอบหลังเรียนในแต่ละชุด หาประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) จากคะแนนการทำ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ แล้วนำมาวิเคราะห์ ประสิทธภิ าพของแบบฝกึ ทกั ษะ ตามเกณฑ์ท่ตี ้ังไว้ 70/70 โดยใชส้ ตู ร E1/E2 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพด้านกระบวนการของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเป็น ของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใชเ้ ว็บไซต์ ThingLinkจากคะแนนการฝึก
42 ปฏิบัติกิจกรรมผ่านบทเรียนออนไลน์รวมกับคะแนนการทำแบบทดสอบหลังเรียนแต่ละชุดรวมกัน ปรากฏผลการวิเคราะห์ดังแสดงในตารางท่ี 3 ตารางที่ 3 ผลการหาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) ของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เร่ือง ความนา่ จะเป็น ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLinkตามเกณฑ์ 70/70 คนท่ี บทเรยี นออนไลนว์ ิชาคณติ ศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเปน็ รวม หลัง ชดุ ท่ี 1 ชดุ ที่ 2 ชดุ ท่ี 3 ชุดท่ี 4 ชุดท่ี 5 ชดุ ที่ 6 (30) เรียน (20) (5) (5) (5) (5) (5) (5) 13 1 4 5 5 3 5 3 25 13 13 2 4 4 3 3 5 4 23 13 13 3 5 1 2 1 3 5 17 13 13 4 4 5 3 3 5 4 24 13 13 5 4 2 2 3 3 3 17 14 14 6 4 4 4 3 5 3 23 14 14 7 4 5 5 3 5 3 25 15 15 8 4 4 3 3 5 4 23 15 16 9 5 1 2 1 3 5 17 17 17 10 4 4 4 4 5 5 26 17 18 11 3 3 4 3 4 3 20 18 12 3 4 4 5 3 3 22 13 4 5 3 5 5 3 25 14 4 5 3 4 3 3 22 15 5 5 5 4 5 5 29 16 4 1 1 3 3 3 15 17 5 5 3 4 5 3 25 18 5 5 5 4 5 4 28 19 5 4 5 5 5 3 27 20 5 5 4 4 5 5 28 21 5 5 5 5 5 5 30 22 5 5 5 5 5 4 29
43 ตารางที่ 3 ผลการหาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) ของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรอื่ ง ความน่าจะเป็น ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ตามเกณฑ์ 70/70 (ต่อ) คนที่ บทเรียนออนไลน์วิชาคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง ความนา่ จะเป็น รวม หลัง ชดุ ที่ 1 ชุดที่ 2 ชดุ ท่ี 3 ชุดที่ 4 ชดุ ท่ี 5 ชุดท่ี 6 (30) เรยี น (20) (5) (5) (5) (5) (5) (5) 23 5 5 5 5 5 5 30 18 24 5 5 5 5 5 5 30 18 25 4 4 3 3 5 4 23 18 26 5 5 5 5 5 5 30 18 27 4 5 5 5 5 4 28 19 28 4 4 5 5 4 5 27 20 29 4 4 5 5 5 4 27 20 30 5 5 5 5 5 5 30 20 รวม 131 124 118 116 136 120 745 472 ค่าเฉลยี่ 4.37 4.13 3.93 3.87 4.53 4 24.83 15.73 S.D. 0.61 1.28 1.20 1.17 0.82 0.87 4.35 2.50 รอ้ ยละ 87.33 82.67 78.67 77.33 90.67 80.00 82.78 78.67 จากตารางท่ี 3 พบว่า ผลการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น จากการปฏิบัติกิจกรรมและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรวมกัน ทุกชุดได้ค่าเฉล่ีย เท่ากับ 24.83 คิดเป็นร้อยละ 82.78 และคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบหลัง เรียน เท่ากับ 15.73 คิดเป็นร้อยละ 78.67 แสดงว่า บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความ น่าจะเป็น มีประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) เท่ากับ 82.78 และประสิทธิภาพประสิทธิภาพของ ผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 78.67 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 70/70 ที่ตั้งไว้ โดยมีค่า E1/E2 เท่ากับ 82.78/78.67
44 ตอนที่ 2 วิเคราะห์หาดชั นีประสิทธิผล (E.I.) ของบทเรียนออนไลน์วิชาคณติ ศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะ เป็น โดยใช้วิธขี องกดู แมน เฟรทเชอร์ และสไนเดอร์ การหาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ครั้งนี้ ผู้วิจัยได้นำคะแนน จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มาวิเคราะหโ์ ดยใช้ดัชนีประสิทธิผล ซ่ึงปรากฏผล ดังท่ีแสดงในตารางที่ 4 ตารางที่ 4 การหาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โดยใชเ้ วบ็ ไซต์ ThingLink ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน จำนวนนักเรยี น ผลรวมของคะแนน ค่าเฉล่ยี E.I. ก่อนเรยี น 30 243 8.10 0.64 หลงั เรยี น 30 472 15.73 จากตารางที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วย บทเรียนออนไลนว์ ชิ าคณติ ศาสตร์ เรอ่ื ง ความน่าจะเปน็ โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ไดค้ ะแนนรวมของ ทดสอบก่อนเรียนเท่ากับ 243 คะแนน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.10 และคะแนนรวมของทดสอบหลังเรียน เท่ากับ 472 คะแนน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.73 แสดงว่า ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.64 หรือคิดเป็น ร้อยละ 64 มปี ระสทิ ธิผลสงู กว่าเกณฑ์รอ้ ยละ 50 ท่ีตั้งไว้ ตอนที่ 3 วิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นโดยนำขอ้ มูลจากคะแนนสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบคำนวณหาค่าความแตกต่างของคะแนน วเิ คราะหโ์ ดยใชส้ ูตร t – test for Dependent Samples ผู้วิจัยได้นำคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนมาทำการวิเคราะห์และเปรียบเทียบ เพื่อทดสอบสมมติฐานที่ว่านักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียน ออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ปรากฏผลการวิเคราะห์ดังแสดงใน ตารางที่ 5
45 ตารางที่ 5 คะแนนที่ได้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลงั เรียนเปน็ รายบุคคล คนที่ กอ่ นเรยี น หลงั เรียน คะแนน รอ้ ยละ คะแนน รอ้ ยละ 1 2 10.00 13 65.00 2 4 20.00 13 65.00 3 6 30.00 13 65.00 4 7 35.00 13 65.00 5 7 35.00 13 65.00 6 7 35.00 13 65.00 7 10 50.00 13 65.00 8 8 40.00 13 65.00 9 6 30.00 13 65.00 10 7 35.00 14 70.00 11 6 30.00 14 70.00 12 9 45.00 14 70.00 13 7 35.00 14 70.00 14 10 50.00 15 75.00 15 9 45.00 15 75.00 16 6 30.00 15 75.00 17 10 50.00 16 80.00 18 8 40.00 17 85.00 19 6 30.00 17 85.00 20 11 55.00 17 85.00 21 11 55.00 18 90.00 22 10 50.00 18 90.00 23 12 60.00 18 90.00 24 15 75.00 18 90.00 25 12 60.00 18 90.00 26 7 35.00 18 90.00
46 ตารางที่ 5 คะแนนที่ได้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลงั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ตอ่ ) คนท่ี ก่อนเรยี น หลงั เรยี น คะแนน รอ้ ยละ คะแนน ร้อยละ 27 12 60.00 19 95.00 28 6 30.00 20 100.00 29 4 20.00 20 100.00 30 8 40.00 20 100.00 คะแนนเฉลยี่ 8.10 40.50 15.73 78.67 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 2.82 - 2.50 - จากตารางที่ 5 พบว่า ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษา ปีที่ 3 ที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยใช้ ThingLink ได้ คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 8.1 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 40.50 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 15.73 คดิ เป็น รอ้ ยละ 78.67 และมีคะแนนเฉล่ียหลังเรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ เกณฑ์รอ้ ยละ 70 ตารางที่ 6 คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t-test for Dependent) โดยเปรียบเทียบกบั คะแนนเฉลย่ี ระหว่างกอ่ นเรยี นกับหลงั เรยี น ผลการทดลอง x̅ S.D. รอ้ ยละ t-test ก่อนเรยี น 8.1 2.82 40.50 14.05** หลังเรยี น 15.73 2.50 78.67 ** มนี ัยสำคญั ทางสถติ ิท่รี ะดับ .01 df = 29 จากตารางที่ 6 พบวา่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 3 ที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink ไดค้ ะแนนเฉล่ีย หลงั เรยี นสงู กวา่ คะแนนเฉลี่ยกอ่ นเรยี นอยา่ งมนี ยั สำคัญทางสถติ ิท่ีระดับ .01
47 บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การวจิ ัยครั้งนี้เป็นการพฒั นาบทเรียนออนไลนว์ ิชาคณติ ศาสตร์ เรอ่ื ง ความนา่ จะเป็น ของนักเรียนขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี ผวู้ ิจยั นำเสนอการสรปุ ผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะดังนี้ 1. วตั ถุประสงค์ของการศึกษา 2. สมมตฐิ านของการศึกษา 3. ขอบเขตของการศึกษา 4. เครื่องมือท่ีใช้ในการศกึ ษา 5. การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 6. การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 7. สรุปผลการวจิ ยั 8. อภปิ รายผล 9. ข้อเสนอแนะ วตั ถุประสงค์ของการศกึ ษา 1. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ตามเกณฑ์ 70/70 2. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ วชิ าคณิตศาสตร์ เรอื่ ง ความน่าจะเป็น ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink สมมติฐานของการศกึ ษา 1. บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีท่ี 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink มีประสิทธิภาพของกระบวนการและผลลัพธ์ตามเกณฑ์ (E1/E2 = 70/70)
48 2. บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปที ่ี 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink มีประสทิ ธภิ าพตอ่ ผู้เรยี นไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 50 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วย บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink หลงั เรียนสงู กวา่ กอ่ นเรียน ขอบเขตของการศกึ ษา 1. ประชากรเปน็ นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภฏั อดุ รธานี อำเภอเมืองอดุ รธานี จงั หวดั อดุ รธานี 2. ตัวแปรในการศึกษา จำแนกเป็น 2.1 ตัวแปรต้น คอื บทเรยี นออนไลน์วิชาคณติ ศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเป็น ของนักเรยี น ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ท่ผี ูว้ ิจยั สร้างและพฒั นาขึน้ 2.2 ตวั แปรตาม คือ 2.2.1 ประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink 2.2.2 ประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink 2.2.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง ความน่าจะเป็น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 3. เน้ือหาทใ่ี ชใ้ นการศึกษา เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้เป็นเนื้อหาในรายวิชาคณิตศาสตร์ตามหลักสูตร แกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) เรื่อง ความน่าจะเป็น ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โดยมหี วั ข้อย่อยดังนี้ 3.1 การทดลองสุ่ม จำนวน 2 ชัว่ โมง 3.2 ลักษณะการสุ่มหยิบ จำนวน 2 ชัว่ โมง 3.3 เหตุการณ์และผลลัพธข์ องเหตกุ ารณ์ จำนวน 2 ชวั่ โมง 3.4 ความน่าจะเปน็ ของเหตกุ ารณส์ ุม่ หยบิ ไพ่ จำนวน 2 ช่ัวโมง 3.5 ความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณอ์ อกสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2 ชัว่ โมง 3.6 จำนวนแสดงโอกาสของความนา่ จะเปน็ จำนวน 2 ช่วั โมง 4. ระยะเวลาในการวจิ ยั จำนวน 12 ชวั่ โมง ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
49 เครื่องมือทใ่ี ช้ในการศึกษา 1. แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink จำนวน 6 แผน แผนละ 2 ชว่ั โมง รวม 12 ชว่ั โมง 2. บทเรยี นออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเป็น ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink จำนวน 6 ชดุ ประกอบดว้ ย ชุดที่ 1 การทดลองสุม่ ชดุ ท่ี 2 ลกั ษณะการสมุ่ หยิบ ชุดท่ี 3 เหตกุ ารณแ์ ละผลลัพธข์ องเหตุการณ์ ชดุ ที่ 4 ความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณ์ส่มุ หยบิ ไพ่ ชุดท่ี 5 ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ชุดที่ 6 จำนวนแสดงโอกาสของความน่าจะเป็น 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทผ่ี วู้ ิจัยสร้างขึน้ เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลอื กตอบ 4 ตวั เลือกจำนวน 20 ขอ้ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในการวจิ ัยครง้ั นี้ผู้วจิ ยั ได้ดำเนินการวิจัยซ่ึงดำเนนิ การเก็บรวบรวม ดงั นี้ 1. ก่อนการทดลอง ปฐมนิเทศนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเพื่อชี้แนะและทำความเข้าใจ เกี่ยวกับวิธีการเรียนบทบาทของนักเรียนชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้และข้อตกลงเกี่ยวกับการเรียน โดยใช้บทเรยี นออนไลนว์ ชิ าคณิตศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเปน็ โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink ตลอดจนวิธี วัดผลประเมินผล 2. ทำการทดสอบก่อนเรียน (Pretest) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ท่ีผู้วิจัยสร้างขึ้นฉบับสมบูรณ์ซึ่งผ่านการตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขจากอาจารย์ที่ปรึกษา วิทยานิพนธ์และผ้เู ช่ียวชาญแลว้ 3. ดำเนนิ การสอนตามแผนการจดั การเรียนรโู้ ดยใช้บทเรียนออนไลนว์ ชิ าคณิตศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink จำนวน 6 แผน ใช้เวลา 12 ชว่ั โมง 4. ทำการทดสอบหลังเรียน (Posttest) หลังดำเนินการสอนครบตามที่กำหนดโดยใช้ แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน จากน้ันนำผลท่ีไดไ้ ปวเิ คราะหข์ ้อมลู ทางสถติ ติ ่อไป
50 การวิเคราะหข์ ้อมูล การศกึ ษาคน้ ควา้ ในคร้งั นี้ ผู้วิจัยไดด้ ำเนนิ การวิเคราะหข์ อ้ มลู แบง่ เป็น 3 ตอน ดงั นี้ ตอนที่ 1 วิเคราะห์บทเรียนออนไลน์วิชาคณติ ศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเปน็ ของนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink เพ่อื หาประสทิ ธิภาพของกระบวนการ (E1) จากคะแนน ปฏิบัติกิจกรรมผ่านบทเรียนออนไลน์กับคะแนนทดสอบหลังเรียนในแต่ละชุด หาประสิทธิภาพของ ผลลัพธ์ (E2) จากคะแนนการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย ค่า ร้อยละ แล้วนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 70/70 โดยใช้สูตร E1/E2 ตอนที่ 2 วิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเปน็ โดยใช้วธิ ีของกดู แมน เฟรทเชอร์ และสไนเดอร์ ตอนที่ 3 วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยนำข้อมูลมาจาก คะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบคำนวณหาค่าความ แตกต่างของคะแนนดว้ ยการทดสอบทีแบบไมอ่ ิสระ (t-test for Dependent) สรุปผลการวิจยั การศกึ ษาวิจัยคร้ังน้ีสามารถสรปุ ผลได้ดังนี้ 1. บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์มีประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) คะแนนเท่ากับ 82.78 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 78.67 แสดงว่าบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้ ThingLink มีประสิทธิภาพของ กระบวนการและผลลัพธ์ เท่ากับ 82.78/78.67 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 70/70 2. ดัชนีประสทิ ธิผลของบทเรยี นออนไลน์วชิ าคณิตศาสตร์ เรอื่ ง ความนา่ จะเป็น ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.10 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 2.82 คะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.73 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 2.50 ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 มคี ่าเทา่ กับ 0.64 หรือคิดเป็นร้อยละ 64 ซง่ึ เป็นไปตามเกณฑ์ไม่ต่ำ กวา่ ร้อยละ 50 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โดยใช้เวบ็ ไซต์ ThingLink กอ่ นเรยี นมคี ะแนนเฉลี่ย
51 เท่ากับ 8.10 หลังเรียน มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 15.73 และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลงั เรียน พบว่านักเรียนมีคะแนนเฉลย่ี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมนี ัยสำคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .01 อภปิ รายผล ในการวิจัยคร้งั นี้ ผูว้ ิจยั มีประเดน็ ท่ีจะอภปิ รายผลการวจิ ัย ดังนี้ จากผลการวจิ ัย พบว่า 1. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเสริมด้วยบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink ที่พัฒนาขึ้นมี ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) คะแนนเท่ากับ 82.78 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากบั 78.67 แสดงว่าบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 มีประสิทธิภาพของกระบวนการและผลลัพธ์ เท่ากับ 82.78/78.67 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า เกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 70/70 เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ และที่เป็นดังนี้อาจเนื่องมาจากการใช้ บทเรียนออนไลน์ ช่วยให้นักเรียนเกิดการพัฒนาในการเรียนรู้ได้ดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ เพ็ญนภา ศรีษะเสอื (2559) ไดศ้ กึ ษาการพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เร่อื ง การอา่ นจบั ใจความภาษาองั กฤษสำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ผลการวิจัยพบว่า 1) บทเรียนออนไลน์ เร่ือง การอ่านจับใจความ ภาษาอังกฤษ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ เท่ากับ 80.58/81.58 สอดคล้องกับ วัชราภรณ์ เพ็งสุข (2560) ได้พัฒนาบทเรียนออนไลน์ วิชาคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน อนุบาลสุพรรณบุรี ผลการศึกษาพบว่า ค่าประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์เท่ากับ 83.81/84.22 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 2. ดชั นปี ระสทิ ธผิ ลของบทเรียนออนไลนว์ ชิ าคณิตศาสตร์ เรอื่ ง ความน่าจะเปน็ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink มีคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.10 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.82 คะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉล่ีย เท่ากับ 15.73 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.50 ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.64 หรือคิดเป็น ร้อยละ 64 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ไม่ต่ำกว่ารอ้ ยละ 50 ทั้งนี้ เนื่องจากการเรียนโดยใช้บทเรียนออนไลน์ วชิ าคณิตศาสตร์ เป็นการเรยี นที่ให้ผเู้ รียนสามารถเลือกเรียนในช่วงเวลาท่ีสะดวกได้ทุกที่ตามต้องการ หากไม่เข้าใจสามารถย้อนกลับเพื่อทบทวนเนื้อหาและทำความเข้าใจใหม่ได้ หรือสามารถหยุดแล้ว กลับมาเรยี นตอ่ ในภายหลัง 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเปน็ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink กอ่ นเรยี นมีคะแนนเฉล่ีย
52 เท่ากับ 8.10 หลังเรียน มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 15.73 และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นระหวา่ งก่อนเรียนและหลงั เรยี น พบว่านกั เรียนมีคะแนนเฉล่ียหลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ แสดงให้เห็นว่าการใช้บทเรียน ออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยใช้เว็บไซต์ ThingLink ช่วยให้นักเรียนเกิดการ พัฒนาในการเรียนรู้ได้ดีขึ้น สอดคล้องกับเพ็ญนภา ศรีษะเสือ (2559) ได้ศึกษาการพัฒนาบทเรียน ออนไลน์ เรื่อง การอ่าน จับใจความภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ผลการวิจัย พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีคะแนนเฉลี่ย 13.65 และมีค่าส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 3.11 ค่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 16.05 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน เท่ากับ 2.43 มีค่าทดสอบค่าที เท่ากับ 19.28 ซึ่งมีความต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 ขอ้ เสนอแนะ จากการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะจากการวิจัยและข้อเสนอแนะสำหรับการทำวิจัยครั้ง ต่อไปดงั น้ี 1. ข้อเสนอแนะเพ่ือนำผลการวิจยั ไปใช้ จากการวิจยั คร้งั น้ีมขี อ้ เสนอแนะในการนำไปใช้ ดังน้ี 1.1 ในขั้นศึกษาและทำแบบทดสอบด้วยตนเอง นักเรียนควรได้รับการกระตุ้นให้เข้าไป ศึกษา มีการติดตามผลการศึกษาสม่ำเสมอ สอบถามความพึงพอใจเพื่อนำมาปรับปรุงเนื้อหาใน วีดทิ ศั น์และรปู แบบของแบบทดสอบคร้งั ถัดไป 1.2 ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน ควรเพิ่มสื่อที่เป็นรูปธรรมมากข้ึน เพอ่ื กระตุน้ การแสดงออกถึงความเขา้ ใจในเนื้อหาที่ศกึ ษา 2. ขอ้ เสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป 2.1 ควรเปรียบเทียบการสอนโดยเสริมด้วยบทเรียนออนไลน์ กับวิธีการสอนแบบอื่น ๆ เพ่ือเปรียบเทยี บความแตกตา่ ง 2.2 ควรมีการศึกษาการใช้บทเรียนออนไลน์ ผสมผสานกับรูปแบบการสอนต่าง ๆ เช่น การเรียนแบบร่วมมือ การเรยี นแบบมีส่วนรว่ ม เปน็ ต้น 2.3 ควรมีการศกึ ษาตัวแปร หรือปจั จยั ที่มีอิทธิพลตอ่ การเรียนรดู้ ้วยบทเรียนออนไลน์ เช่น เจตคติ ความคงทนในการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนารูปแบบการสอนใหเ้ หมาะสมยิง่ ข้นึ
53 เอกสารอา้ งองิ กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับ ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560). กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พช์ มุ ชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศ ไทย ชยั ยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสทิ ธภิ าพสื่อหรอื ชดุ การสอน Developmental Testing of Media and Instructional Package. วารสารศิลปากรศกึ ษาศาสตร์วจิ ัย, 5(1), 1-6. ไชยยศ เรอื งสุวรรณ. (2533). เทคโนโลยกี ารศกึ ษาทฤษฎีการวจิ ัย. กรงุ เทพฯ : โอเอสพรน้ิ ติ้ง เฮ้าส์. ณฐั กร สงคราม. (2543). อิทธพิ ลของแบบการคิด และโครงสรา้ งของโปรแกรมการเรยี นการสอน ผา่ นเวบ็ ที่มีผลต่อผลสัมฤทธ์ิการเรยี นวชิ าพ้นื ฐานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาของนสิ ิต ระดับปรญิ ญาตรี คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . วิทยานพิ นธค์ รุศาสตร มหาบัณฑติ (สาขาโสตทศั นศึกษา). จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ธนพร พิลือเกรียง. (2563). WebQuest การฝกึ อบรมการใช้ Application Thinglink. สืบคน้ เมือ่ 14 มกราคม 2565 จาก https://edtech39.blogspot.com/p/blog-page_25.html บุญเลีย้ ง ทมุ ทอง. (2556). ทฤษฎีและการพัฒนารปู แบบการจดั การเรยี นรู้ (Theories and Development of Instructional Model). [ม.ป.ท]: [ม.ป.พ]. ปาริชาติ พองพรหม. (2554). การพัฒนาบทเรยี นบนเว็บ เร่อื ง อาณาจักรสโุ ขทัย ชั้นมธั ยมศึกษา ปีที่ 1. วทิ ยานิพนธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวชิ าหลักสตู รและการสอน, คณะ ศึกษาศาสตร์, มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร. เผชญิ กิจระการ และสมนึก ภัททยิ ธานี. (2545). “ดชั นีประสทิ ธิภาพและดัชนปี ระสิทธิผล”. ปี ท่ี 8 (6) : 31-51; กรกฎาคม. เพญ็ นภา ศรษี ะเสือ. (2559). การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การอา่ นจบั ใจความภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3. วิทยานพิ นธ์ปรญิ ญามหาบณั ฑิต สาขาวชิ าเทคโนโลยี และสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี. เพญ็ นภา ศรษี ะเสือ. (2559). การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การอ่านจบั ใจความภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3. วทิ ยานิพนธ์ครุศาสตรบัณฑิต (สาขาวชิ าเทคโนโลยี และส่อื สารการศกึ ษา). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี. ไพรชั ธชั ยพงษ์และพเิ ชษ ดรุ งคเวโรจน์. (2541). เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การศกึ ษา. ศูนย์ เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกสแ์ ละคอมพิวเตอรแ์ หง่ ชาติ.
54 มนัสนันท์ บตุ รสอนและพรเทพ เสถียรนพเก้า. (2558). การพฒั นาบทเรียนออนไลน์ กล่มุ สาระ การเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี เร่ือง การใช้โปรแกรมนำเสนอข้อมลู ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6. วารสารวชิ าการ หลกั สตู รและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 20(7). วัชราภรณ์ เพ็งสุข. (2560). การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ำหรับนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 โรงเรยี นอนุบาลสพุ รรณบรุ .ี วารสารศึกษาศาสตรป์ รทิ ศั น์, 1(3). ศราวธุ เรอื่ งสวสั ด์ิ. (2545). การศกึ ษาผลสมั ฤทธ์ิของการเรยี นของนักศึกษาพยาบาล เรอื่ งการ- พยาบาลเด็กที่มคี วามผิดปกติของเลือด จากการเรยี นการสอนบนเว็บ. วทิ ยานิพนธ์ ศกึ ษาศาสตร์มหาบัณฑิต (สาชาวชิ าเทคโนโลยกี ารศึกษา) . มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. ศุภชยั สขุ นินทร์. (2545). เปิดโลก e-Leaning: การเรียนการสอนบนอนิ เทอรเ์ นต็ . กรุงเทพฯ: ซเี อด็ ยูเคช่ัน. หนว่ ยพัฒนาและบรู ณาการเทคโนโลยเี พือ่ การศึกษา. [ม.ป.ป] Thinglink. สืบคน้ เม่ือ 13 มกราคม 2565 จาก https://techintegration.ets.kmutt.ac.th/content/tech- review/ThingLink อรอนุต ซ้อนบญุ . (2546). การเปรียบเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นโดยใชก้ ารสอนบนเวบ็ กบั การ สอนปกติ เร่อื ง สง่ิ แวดลอ้ ม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น (มอดินแดง). วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑติ (สาขาเทคโนโลยีการศึกษา). ขอนแก่น: บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั ขอนแก่น. ถ่ายเอกสาร. Cambell, D.T. and J.C.Stanley. (1969). Experimental and Quasl-Experimental Design for Research. Boston : Houghton Mifflin. Gunes, P. (2008). Overcoming the Barrier: Virtual Learning: The Impact of learning in Second Life in Higher Education. Bachelor (C-level) Thesis: Jönköping International Business School. Henke, Harold. (2000). Evaluating web-Based Instruction Design. From http://www.scis.nova.egu/henkeh/story1.html Kurti, E. (2008). Students' experiences on eMesimi: an e-learning system in University of Prishtina, Kosova. Växjö University. ThingLink. ThingLink for teachers and schools. Available from: https://www.thinglink.com/edu Retrieved Jan 13, 2022.
55 Wilson, J.W. (1971). Evaluation of Learning in Secondary School Mathematics. In Handbook on Formative and Summative Evaluation of Student Learning. New York : McGraw-Hill. Zhao, Y. (1998). Design for Adoption: The Development of an Integrated Web-based Education Environment. Journal of Research on Computing in Education. 30(3): 307-328.
56 ภาคผนวก
57 ภาคผนวก ก รายช่อื ผเู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบเคร่อื งมอื ทใี่ ชใ้ นการวิจยั
58 1. นายอภิชาต แซ่อง้ึ รายชอื่ ผูเ้ ช่ียวชาญ 2. นายณฐั วุฒิ พิมขาลี 3. นางสาวรสสคุ นธ์ อดุ ม ครโู รงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอดุ รธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดธานี ครโู รงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวดั อุดธานี ครูโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภัฏอุดรธานี อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวัดอุดธานี
59 ภาคผนวก ข แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าคณติ ศาสตร์ เสรมิ ด้วยบทเรียนออนไลน์ วชิ าคณติ ศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเป็น ของนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โดยใชเ้ ว็บไซต์ ThingLink
60 แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 14 รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ค23102 กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ความน่าจะเปน็ จำนวน 17 ชั่วโมง เรอ่ื ง การทดลองสุ่ม เวลา 2 ชั่วโมง วันท…่ี …….เดือน…………………. พ.ศ…………….. ผู้สอน นางสาวจุฑาทิพย์ สมบตั ดิ ี มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลกั การนบั เบื้องต้น ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้ ค 3.2 ม.3/1 เข้าใจเกี่ยวกบั การทดลองสมุ่ และนำผลที่ไดไ้ ปหาความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณ์ สาระสำคัญ การทดลองสมุ่ เป็นการกระทำท่ีไม่สามารถบอกล่วงหนา้ ได้อย่างแนน่ อนว่าผลลัพธท์ เ่ี กดิ จาก การกระทำจะเป็นอะไร แต่สามารถบอกได้วา่ มีผลลพั ธ์อะไรเกิดขึน้ บ้าง ใช้แผนภาพเชงิ รปู ภาพ แผนภาพต้นไม้ และตารางประกอบการอธบิ าย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เมอ่ื เรียนจบบทเรยี นนแี้ ลว้ นกั เรยี นสามารถ 1. แปลความหมายของแผนภาพการทดลองสุ่มจากสถานการณ์ทกี่ ำหนดให้ได้ (K) 2. เขยี นแผนภาพเชงิ รูปภาพและแผนภาพตน้ ไมแ้ สดงการหาผลลัทธ์ท้ังหมดทีเ่ กิดขนึ้ จากการ ทดลองสุม่ ได้ (P) 3. แสดงพฤติกรรมตั้งใจทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย (A) สาระการเรยี นรู้ ความน่าจะเป็น
61 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 • ขัน้ นำเข้าส่บู ทเรียน 1) ครูถามคำถาม - “นักเรียนรูจ้ ักการส่มุ หรือไม่” - “การสุ่มเปน็ อย่างไร” - “เราเคยทดลองสุม่ หรือไม่” - “เราเคยทดสองสุ่มอะไรบ้าง” อยา่ งเช่น สมุ่ ไอ เทมในเกม กล่องสุม่ เสอ้ื ผา้ กล่องสมุ่ การ์ด สุ่มอลั บ้ัมศิลปินเพื่อรับการ์ดของศิลปิน เปน็ ต้น - “มโี อกาสไดร้ ับสงิ่ ท่เี ราต้องการจากการสมุ่ หรอื ไม่” (มีโอกาสไดห้ รือไมก่ ็ได้) - “เราสามารถบอกได้หรือไม่วา่ เรามีโอกาสไดข้ องอะไรจากการสมุ่ แตล่ ะครง้ั บา้ ง” (บอกได้) • ข้นั สอน 2) ครูเชื่อมโยงจากคำถามว่าทั้งหมดเรียกว่า “การทดลองสุ่ม เป็นการกระทำที่ไม่สามารถ บอกล่วงหน้าได้อย่างแน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำจะเป็นอะไร แต่สามารถบอกได้ว่า มีผลลพั ธ์อะไรเกิดขน้ึ บา้ ง” และยกตัวอยา่ งเพือ่ อธบิ ายเพม่ิ เติม ดงั นี้ 2.1 การสุ่มหยิบลกู บอล จากถงุ ทึบทมี่ ีลูกบอลสเี ขยี ว สสี ้ม สีม่วง อย่างละ 1 ลูก - “สุ่มหยิบลูกบอล 1 ลกู มโี อกาสได้ลูกบอลสีใดได้บ้าง” (สเี ขยี ว สสี ้ม สีมว่ ง) - “สุ่มหยบิ ลกู บอล 2 ลกู พรอ้ มกนั มีโอกาสได้ลูกบอลสใี ดบา้ ง” โดยสุ่มหยบิ ไปเร่ือย ๆ ได้ผลลัพธ์ ดังนี้ สีเขียวและสีส้ม สีเขียวและสีม่วง สีส้มและสีม่วง สีส้มและสีเขียว สีม่วงและสีเขียว สีมว่ งและสสี ม้ 2.2 ครอู ธิบายเพ่ิมเติม การสุ่มหยิบลกู บอล 2 ลกู พรอ้ มกัน เราไม่ทราบวา่ เราหยิบลูกบอล สีใดก่อนแตเ่ ราทราบผลลพั ธท์ ่ีได้ เชน่ หยบิ ไดล้ ูกบอลสสี ้มและสเี ขยี ว เหมอื นกนั กบั หยิบได้ลูกบอลสี เขยี วและสสี ม้ เชน่ เดียวกนั เมื่อเกดิ กรณเี ช่นนีจ้ ะนบั เปน็ 1 แบบ ดงั นน้ั ผลลัพธ์ที่ได้จากการส่มุ หยิบลูก บอล 2 ลกู พร้อมกนั มี 3 แบบ คือ สีเขียวและสีสม้ สีเขียวและสมี ่วง สีส้มและสีมว่ ง 2.3 ครยู กตัวอย่างวธิ ีคิด การส่มุ หยิบลูกบอล 2 ลูกพรอ้ มกัน อาจใชว้ ิธอี ่ืน ๆ ได้ ดังนี้ ▪ ใช้แผนภาพเชงิ รูปภาพ ให้ ข แทน ลกู บอลสีเขยี ว ข จำนวนผลลัพธ์ สังเกตจาก ให้ ส แทน ลกู บอลสีส้ม สม จำนวนวงรี ให้ ม แทน ลูกบอลสีม่วง
62 ▪ ใชแ้ ผนภาพต้นไม้ ลูกท่ี 1 ลกู ท่ี 2 ผลลัพธ์ แดสงม้ เขียว สม้ เขยี ว การหยบิ พรอ้ มกนั จะไมท่ ราบลำดบั มว่ ง ส้มมว่ ง การหยบิ จึงตัดเหตุการณ์ที่ซำ้ กันออก เขียวส้ม เขเยีขวยี ว ส้ม เขียวมว่ ง เช่น ส้มมว่ ง ซำ้ กบั มว่ งส้ม มว่ ง มว่ งสม้ นับเป็น 1 แบบ มว่ งเขยี ว ฟ้าม่วง สม้ เขียว 2.4 ทอดลกู เตา๋ ต่างสี 2 ลูก พร้อมกนั 1 คร้ัง ครูนำเสนอตารางให้นักเรยี นออกมาเติม คำตอบในแตล่ ะช่องจนครบ ▪ ใช้ตาราง ลกู ที่ 2 ลูกที่ 1 (1,1) (1,2) (1,3) (1,4) (1,5) (1,6) (2,1) (2,2) (2,3) (2,4) (2,5) (2,6) (3,1) (3,2) (3,3) (3,4) (3,5) (3,6) (4,1) (4,2) (4,3) (4,4) (4,5) (4,6) (5,1) (5,2) (5,3) (5,4) (5,5) (5,6) (6,1) (6,2) (6,3) (6,4) (6,5) (6,6) 3) ครูถามคำถาม “จากตาราง ทอดลกู เตา๋ ต่างสี 2 ลกู พร้อมกนั 1 คร้ัง มเี หตุการณ์เกดิ ข้ึน ท้ังหมดก่ีแบบ” (36 แบบ) “จากตาราง ทอดลูกเต๋าต่างสี 2 ลูก พร้อมกนั 1 ครง้ั มีเหตุการณ์ทล่ี ูกเต๋าข้นึ หนา้ แบบ เดยี วกันทั้งสองลูกกี่แบบ ได้แกอ่ ะไรบ้าง” (6 แบบ ได้แก่ (1, 1), (2, 2), (3, 3), (4, 4), (5, 5), (6, 6)) • ขั้นสรุป 6) ครสู รุป “การทดลองสมุ่ เป็นการกระทำท่ีไม่สามารถบอกลว่ งหนา้ ได้อยา่ งแน่นอนว่า ผลลพั ธ์ทีเ่ กิดจากการกระทำจะเปน็ อะไร แตส่ ามารถบอกได้ว่ามผี ลลัพธอ์ ะไรเกิดขึ้นบา้ ง สามารถใช้ แผนภาพเชงิ รปู ภาพ แผนภาพตน้ ไม้ และตารางประกอบการหาผลลัพธท์ ั้งหมดของการทดลองสุ่มได้”
63 ชั่วโมงท่ี 2 • ข้นั ศึกษาและทำแบบทดสอบดว้ ยตนเอง 1) ครูแนะนำการใช้งานห้องเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง ความน่าจะเปน็ โดยนกั เรยี นกดเขา้ ไปท่ี Google Classroom จะพบประกาศ หอ้ งเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง ความน่าจะเปน็ ศึกษาได้ที่ https://www.thinglink.com/scene/1529379159980113921 เม่ือกดเขา้ ไปจะพบหอ้ งเรยี น ออนไลน์ ทร่ี ะบุลำดับการเรียน ต้งั แต่ 1 – 12 และ ครั้งสุดท้ายคือแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ งความ น่าจะเปน็ 2) นักเรียนเขา้ ศกึ ษาห้องเรียนออนไลน์ เรอื่ ง ความน่าจะเปน็ ลำดับที่ 1 เป็นศกึ ษาวดี ที ัศน์ ดว้ ยตนเอง ความยาวประมาณ 21 นาที 3) นักเรียนเขา้ ศึกษาหอ้ งเรียนออนไลน์ เร่ือง ความนา่ จะเปน็ ลำดับท่ี 2 เป็นการทำ แบบทดสอบ ครั้งที่ 1 (5ข้อ) เพื่อตรวจสอบความเข้าใจหลังเรยี น 4) ครูตรวจแบบทดสอบ แจง้ ผลการทำแบบทดสอบ เปิดให้ซักถามข้อสงสัยจากแบบทดสอบ และช่วยอธิบายเพิ่มเตมิ ส่วนที่ยงั ทำไม่ถูกตอ้ ง
64 สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1) ส่ือการเรยี นรู้ 1.1 หอ้ งเรียนออนไลน์ เร่ือง ความน่าจะเปน็ ศึกษาไดท้ ่ี https://www.thinglink.com/scene/1529379159980113921 2) แหลง่ การเรียนรู้ 2.1 หนงั สือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ เล่ม 2 (สสวท.) 2.2 หอ้ งสมุดโรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ราชภัฏอุดรธานี การวดั และประเมินผล เครือ่ งมือ/วธิ ีการ เกณฑค์ วามสำเร็จ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ 1. แปลความหมายของแผนภาพการ 2. การตอบคำถามในช้นั เรียน ระดับดีข้นึ ไป ทดลองสุม่ จากสถานการณ์ท่ีกำหนดใหไ้ ด้ (K) 3. แบบทดสอบ คร้ังท่ี 1 2. เขยี นแผนภาพเชงิ รูปภาพและ แผนภาพต้นไม้แสดงการหาผลลทั ธ์ แบบสังเกตพฤติกรรมตัง้ ใจ ทัง้ หมดทีเ่ กิดขึ้นจากการทดลองสุม่ ได้ (P) ทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 3. แสดงพฤติกรรมต้ังใจทำงานท่ไี ดร้ บั ประจำหนว่ ย มอบหมาย (A)
65 แบบทดสอบ ครัง้ ท่ี 1 เรือ่ ง ความน่าจะเป็น คำช้ีแจง : ให้นักเรียนเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องทีส่ ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ข้อใดไม่ใช่การทดลองสมุ่ 4. มลี ูกบอลสีเขยี ว สแี ดง สฟี ้า อย่างละ 1 ลกู ก. การเลือกเส้นทางไปโรงเรยี น สมุ่ หยบิ ลูกบอล 2 ลูกพรอ้ มกัน ขอ้ ใดถูกต้อง ข. การจับสลากของขวญั ปีใหม่ ก. ผลลพั ธ์ทัง้ หมดมีสองแบบ ค. การออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ข. ชมพกู บั ม่วงคือผลลัพธ์ท่เี กิดขึน้ ง. การโยนเหรียญ 1 เหรียญ 2 ครง้ั ค. เขยี วกบั ดำคอื ผลลัพธท์ ่ีเกดิ ขึน้ 2. ขอ้ ใดไม่ใช่ผลลัพธท์ ่ีเกดิ ขนึ้ จากการโยนเหรยี ญ ง. ผลลพั ธแ์ ดงกับฟา้ มี 1 แบบ 1 เหรียญ 2 คร้งั ใช้แผนภาพตอ่ ไปน้ี ตอบคำถามข้อ 5 กำหนดให้ H แทน ผลลัพธท์ ี่เหรยี ญออกหัว (head) กำหนดให้ ด แทน ดำ T แทน ผลลพั ธ์ท่ีเหรียญออกก้อย (tail) ฟ แทน ฟา้ ก. HH ข. HT ส แทน สม้ ค. TT ง. H ใชแ้ ผนภาพต่อไปน้ี ตอบคำถามข้อ 3 5. จากแผนภาพเชิงรปู ภาพข้อใดไม่ถูกต้อง กำหนดให้ H แทน ผลลัพธท์ เ่ี หรียญออกหวั (head) ก. ผลลัพธ์ท้ังหมดมี 3 แบบ ข. ผลลพั ธ์ทัง้ หมด คอื แดงกับสม้ แดงกบั ฟ้า T แทน ผลลัพธท์ ่ีเหรียญออกก้อย (tail) สม้ กับฟ้า ค. ชมพกู บั มว่ งไม่ใช่ผลลัพธจ์ ากการทดลองสุ่ม ง. ส้มกับเหลืองไมใ่ ชผ่ ลลัพธ์จากการทดลองสุ่ม 3. จากแผนภาพต้นไม้ของการโยนเหรยี ญ 2 เหรยี ญ ท่ีแตกต่างกนั 1 ครั้ง ขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก. ผลลพั ธ์ที่เกดิ ข้นึ มีมากกวา่ 4 แบบ ข. ผลลพั ธ์ท่ีเกดิ ขนึ้ มี 3 แบบ ค. TT ไม่ใช่ผลลพั ธข์ องการทดลองสุ่ม ง. HH, HT, TH และ TT เปน็ ผลลัพธ์ทง้ั หมด
66 แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแ้ี จง : ใหล้ งคะแนนและทำเครอื่ งหมาย ✔ ลงในช่องผลการประเมนิ ที่เป็นความจริงทส่ี ดุ ดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนเตม็ ผลการประเมนิ คะแนนเตม็ ผลการประเมนิ คะแนนเตม็ ผลการประเมนิ เลขท่ี 2 ผา่ น ไมผ่ ่าน 3 ผา่ น ไมผ่ ่าน 3 ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28
67 ดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนเตม็ ผลการประเมนิ คะแนนเตม็ ผลการประเมิน คะแนนเตม็ ผลการประเมนิ เลขที่ 2 ผ่าน ไม่ผา่ น 3 ผา่ น ไม่ผา่ น 3 ผา่ น ไมผ่ า่ น 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ น ด้านความรู้ (K)................................คน คดิ เป็นร้อยละ ......................... จำนวนนักเรียนทไ่ี มผ่ ่าน ดา้ นความรู้ (K)...............................คน คิดเป็นร้อยละ ......................... จำนวนนกั เรียนทผ่ี ่าน ดา้ นความรู้ (P)................................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ า่ น ด้านความรู้ (P)...............................คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......................... จำนวนนักเรียนท่ีผ่าน ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)......................คน คิดเป็นร้อยละ ................. จำนวนนักเรยี นที่ไม่ผ่าน ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)...................... คิดเป็นร้อยละ ................... ลงชอื่ ……………………………………......ผู้ประเมิน (นางสาวจฑุ าทิพย์ สมบัติดี) วนั ที่.............เดอื น.......................พ.ศ..............
68 เกณฑ์การให้คะแนนด้านความรู้ (K) จุดประสงค์การเรยี นรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ข้อ 3, 5 ) 1 คะแนน 0 คะแนน 1. แปลความหมายของ แปลความหมายของ ไมส่ ามารถแปลความหมายของ แผนภาพการทดลองส่มุ จาก แผนภาพการทดลองสุ่มจาก แผนภาพการทดลองสุม่ จาก สถานการณ์ทก่ี ำหนดใหไ้ ด้ (K) สถานการณ์ทก่ี ำหนดใหไ้ ด้ สถานการณ์ทก่ี ำหนดใหไ้ ด้ หมายเหตุ ผา่ น หมายถึง นกั เรียนได้คะแนนร้อยละ 70 ขน้ึ ไป (ถกู ต้อง 2 คะแนนขน้ึ ไป จาก 2 คะแนน) ไมผ่ ่าน หมายถึง นกั เรียนไดค้ ะแนนต่ำกวา่ รอ้ ยละ 70 (ถกู ต้องต่ำกวา่ 2 คะแนน จาก 2 คะแนน) เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นความรู้ (P) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เกณฑ์การให้คะแนน (ข้อ 1, 2, 4 ) 1 คะแนน 0 คะแนน 2. เขยี นแผนภาพเชงิ รปู ภาพ เขียนแผนภาพเชิงรูปภาพ ไม่สามารถเขยี นแผนภาพเชิง และแผนภาพตน้ ไมแ้ สดงการ และแผนภาพต้นไม้แสดงการ รูปภาพและแผนภาพต้นไมแ้ สดง หาผลลทั ธ์ทัง้ หมดท่เี กิดขน้ึ หาผลลัทธท์ ัง้ หมดทีเ่ กดิ ขึน้ การหาผลลัทธ์ทั้งหมดท่ีเกิดข้ึน จากการทดลองส่มุ ได้ (P) จากการทดลองสุ่มได้ จากการทดลองสมุ่ ได้ หมายเหตุ ผา่ น หมายถงึ นกั เรยี นได้คะแนนร้อยละ 70 ขึ้นไป (ถูกต้อง 2 คะแนนขนึ้ ไป จาก 3 คะแนน) ไมผ่ ่าน หมายถงึ นักเรียนได้คะแนนตำ่ กว่ารอ้ ยละ 70 (ถูกต้องต่ำกว่า 2 คะแนน จาก 3 คะแนน)
69 เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล (A) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน 1 คะแนน 2 คะแนน 3. แสดงพฤติกรรมต้งั ใจ นักเรียนตอบคำถามใน นกั เรยี นตอบคำถามใน นักเรยี นตอบคำถามใน ทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ชั้นเรยี น ศึกษาวดี ที ศั น์ ช้นั เรียน ไม่ศึกษาวดี ี ชน้ั เรยี นเพยี งอยา่ งเดียว (A) เข้าทำแบบทดสอบ ทัศนแ์ ต่เข้าทำ อย่างตัง้ ใจ แบบทดสอบ เกณฑ์การผ่าน 3 คะแนน ระดบั คุณภาพ ดีมาก 2 คะแนน ระดบั คุณภาพ ดี (ผ่านเกณฑ์การประเมิน) 0 - 1 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรุง
70 บนั ทึกหลังการเรยี นการสอน ผลการจดั การเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………… ปญั หาและวธิ กี ารแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………………………………………… (นางสาวจฑุ าทิพย์ สมบัติดี) ครูผู้สอน …………………/…………………/…………………
71 แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้(สำหรบั ครูพ่ีเลยี้ ง) ให้ 4 คะแนน แสดงว่า ผลการปฏบิ ตั ดิ มี าก ให้ 3 คะแนน แสดงว่า ผลการปฏบิ ัตดิ ี ให้ 2 คะแนน แสดงว่า ผลการปฏิบัตปิ านกลาง ให้ 1 คะแนน แสดงว่า ผลการปฏิบัติตอ้ งปรบั ปรุง รายการ 4321 การเขยี นสาระสำคญั การกำหนดจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม การออกแบบกจิ กรรมการเรียนการสอน เนน้ การมีสว่ นร่วมของนักเรียน การใช้คำถามในกจิ กรรมฯ การใชส้ ื่อการเรียนรู้ การใชแ้ หลง่ การเรียนรู้ การออกแบบการประเมินผล ความคดิ เหน็ ของครพู ่ีเลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………………………………………………… (นายอภชิ าต แซ่อึ้ง) ครูพเี่ ลีย้ ง / /………………… ………………… …………………
72 แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรสู้ ำหรบั ผ้บู รหิ าร ความคิดเห็นของผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………………………………………………………… (รองศาสตราจารย์ศิริพร พสั ดร) ผู้อำนวยการ …………………/…………………/…………………
73 ภาคผนวก ค แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นวชิ าคณิตศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเปน็ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
74 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภัฏอุดรธานี อำเภอเมอื ง จังหวดั อดุ รธานี แบบทดสอบหลังเรยี น บทที่ 2 ความน่าจะเป็น ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 วชิ าคณติ ศาสตร์ (ค 23102) ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 สอบวนั พุธ ท่ี 5 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 08.30-09.20 น. คำช้แี จง : แบบทดสอบปรนัยจำนวน 20 ขอ้ ท้ังหมด 3 หนา้ 10 คะแนน ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สดุ เพียงข้อเดยี ว จงให้สถาการณ์ตอ่ ไปนี้ ตอบคำถามข้อท่ี 1 – 4 4. ถ้าสุ่มหยบิ ลูกบอลข้นึ มา 1 ลูก จงหาความน่าจะเปน็ สถานการณ์ : กล่องใบหนึง่ มลี กู บอล 12 ลกู ทีห่ ยิบไม่ได้ลกู บอลชมพู เป็นลูกบอลสเี หลือง 5 ลกู สีชมพู 3 ลกู และท่เี หลือ เป็นลูกบอลสีขาว ก. 3 ข. 5 12 12 1. ถา้ หยบิ ลกู บอลขนึ้ มา 1 ลูก มีโอกาสเป็นสใี ด มากที่สดุ ค. 9 ง. 12 12 12 ก. เหลือง ข. ชมพู จงใชข้ อ้ มลู ต่อไปนี้ ตอบคำถามขอ้ 5 ค. ขาว ง. ทุกสมี ีโอกาสเทา่ กัน 2. ถา้ สมุ่ หยิบลูกบอลขน้ึ มา 1 ลกู ขอ้ ใดกล่าวผิด 5. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง ก. มโี อกาสหยบิ ได้ลกู บอลสีเหลืองมากทสี่ ดุ ก. โทรศัพท์มอื ถือแบรนด์แรกท่เี จอได้ทว่ั ไปมีโอกาส ข. มีโอกาสหยิบได้ลูกบอลสีชมพอู ยา่ งแน่นอน ค. มีโอกาสหยบิ ไดล้ ูกบอลสีขาวมากกวา่ สีชมพู เปน็ แบรนด์ Samsung มากที่สุด ง. มโี อกาสหยิบไดล้ ูกบอลทุกสีไม่เท่ากัน ข. โทรศพั ท์มอื ถอื แบรนด์แรกทเี่ จอมีโอกาสเป็น 3. ถา้ สุ่มหยิบลูกบอลข้นึ มา 1 ลูก จงหาความน่าจะเป็น แบรนด์ OPPO มากท่ีสุด ค. มีโอกาสเจอโทรศพั ทม์ ือถือแบรนด์ Apple มาก ท่หี ยบิ ไดล้ กู บอลสีขาว ท่ีสุด ก. 1 ข. 2 ง. มโี อกาสเจอโทรศพั ท์มือถือแบรนด์แรกเปน็ vivo 12 12 อย่างแนน่ อน ค. 3 ง. 4 12 12
75 จงใช้ตัวเลอื กตอ่ ไปนี้ ตอบคำถามข้อ 6 - 9 12. โยนเหรยี ญบาท 1 เหรียญ 3 คร้ัง จงหาความ ก. การกระทำที่ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ นา่ จะเป็นที่จะไม่ออกหัวเลย แน่นอนว่าผลลพั ธท์ ีจ่ ะเกดิ ขึ้นเปน็ อะไร แตส่ ามารถ ก. 1 ข. 1 บอกได้ว่ามผี ลลพั ธ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง 36 ข. สิง่ ทสี่ นใจจากการทดลองสุ่ม ค. 1 ง. 1 ค. จำนวนทบ่ี ่งบอกว่าโอกาสน้นั ๆ จะเกดิ ขน้ึ 8 12 มากนอ้ ยเพยี งใด ง. โอกาสทีเ่ หตกุ ารณ์หน่ึง ๆ จะเกิดขึ้น 13. สมุ่ ถามเพศของบตุ รทุกคนจากครอบครัวทม่ี ีบตุ ร ซง่ึ อาจจะเกดิ ขน้ึ อย่างแน่นอน อาจจะเกิดข้ึน หรอื ไม่ก็ได้ และ ไมเ่ กิดขนึ้ อยา่ งแนน่ อน 3 คน จงหาเหตกุ ารณท์ ีบ่ ตุ รทุกคนเปน็ เพศชายหรือ เพยี งอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงเทา่ น้ัน บตุ รทกุ คนเปน็ เพศหญิง ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ 14. ส่มุ หยิบไพ่ 1 ใบ จากสำหรบั หน่ึง จงหาเหตุการณ์ 6. โอกาสของเหตกุ ารณ์ คอื อะไร หยบิ ได้ไพ่ท่มี หี น้าไพ่เป็น 5 หรือ 10 7. การทดลองสุ่ม คอื อะไร 8. เหตกุ ารณ์ คืออะไร ก. 2 แบบ ข. 4 แบบ 9. ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ คืออะไร ค. 8 แบบ ง. 16 แบบ 15. กล่องใบหนง่ึ มบี ัตรหมายเลข 1, 2, 3, 4 และ 5 10. ทอดลกู เต๋า 1 ลกู 1 ครั้ง จงหาความนา่ จะเป็นที่ สมุ่ หยบิ บตั รขน้ึ มา 2 ใบพรอ้ มกัน จงหาเหตกุ ารณ์ที่ ลกู เตา๋ จะออกแต้มคู่ หยิบไดบ้ ตั รทง้ั สองใบเปน็ เลขคี่ ก. 2 ข. 3 66 ก. 3 แบบ ข. 4 แบบ ค. 5 แบบ ง. 6 แบบ ค. 4 ง. 5 16. กล่องใบหนึ่งมบี ตั ร A, B, 1, 2 และ 3 สมุ่ หยิบ 66 11. ทอดลกู เต๋า 1 ลกู 2 คร้งั จงหาความน่าจะเปน็ ของ บตั รข้ึนมา 2 ใบ โดยหยบิ ทีละใบแบบไมใ่ ส่คนื จงหา เหตุการณ์ท่ลี ูกเตา๋ ทั้งสองลกู หงายแตม้ ตา่ งกนั เหตุการณท์ ี่ไดบ้ ัตรอย่างน้อยหนงึ่ ใบเป็นตัวเลข ก. 6 ข. 18 ก. 5 แบบ ข. 10 แบบ 36 36 ค. 12 แบบ ง. 18 แบบ ค. 24 ง. 30 36 36
76 17. กล่องใบหนึ่งมีลูกบอล 4 ลกู สแี ดง สม้ เขยี ว เหลือง 19. จากสถานการณจ์ งหาเหตุการณ์ท่ีนักเรียนได้ สมุ่ หยบิ ข้ึนมา 2 ลูกโดยหยิบทีละลกู แบบไมใ่ สค่ ืน จงหา รับประทาน กับขา้ วเป็นกะเพราทะเล ไขด่ าว และ ผลลพั ธ์ท้ังหมดของเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดจากการทดลองสมุ่ ทบั ทมิ กรอบ ก. 4 แบบ ข. 6 แบบ ก. 1 แบบ ข. 3 แบบ ค. 8 แบบ ง. 12 แบบ ค. 5 แบบ ง. 7 แบบ ใช้สถานการณ์ขา้ งต้น ตอบคำถามข้อ 18-20 20. จากสถานการณ์ จงหาความน่าจะเปน็ ท่ีนกั เรียน สถานการณ์ ท่โี รงอาหารแม่ค้าขายขา้ วราดแกง ได้รบั ประทานกบั ข้าวท่ีมีอย่างใดอย่างหนึง่ เปน็ ปลา 4 อยา่ ง คอื ตม้ ยำไก่ กะเพราทะเล ปลาทอด และไข่ดาว และมขี นม 2 อยา่ ง คือ ทบั ทิมกรอบ ทอด และขนมบวั ลอย และบัวลอย ซ่ึงนักเรียนชอบกนิ ทกุ อย่าง ทำให้ ตัดสนิ ใจเลอื กไมไ่ ด้ เขาจึงใหแ้ ม่ค้าตกั กับขา้ ว ก. 1 ข. 3 2 อย่าง และขนม 1 อยา่ ง 12 12 ค. 2 ง. 4 12 12 18. จากสถานการณ์ แม่คา้ ตักอาหารได้ทงั้ หมดก่ีแบบ ก. 4 แบบ ข. 6 แบบ ค. 8 แบบ ง. 12 แบบ ขอใหโ้ ชคดีในการสอบ
77 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนบทท่ี 2 ความนา่ จะเปน็ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 วิชาคณิตศาสตร์ (ค 23102) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 จำนวน 20 ข้อ 10 คะแนน ขอ้ ก. ข. ค. ง. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
78 ภาคผนวก ง แบบตรวจสอบคณุ ภาพของเครอ่ื งมอื ของผเู้ ชี่ยวชาญ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น
79 แบบตรวจสอบคุณภาพของเคร่อื งมือของผู้เช่ียวชาญ การหาค่าดชั นคี วามสอดคล้องของแผนการจัดการเรยี นรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความนา่ จะเปน็ คำช้แี จง ขอใหท้ า่ นผ้เู ชยี่ วชาญไดก้ รณุ าแสดงความคิดเหน็ ของท่านท่มี ีต่อแผนการจดั การเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเปน็ โดยใส่เครือ่ งหมาย () ลงในช่องความคิดเห็นของท่าน พร้อมเขยี นข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป +1 หมายถึง รายการประเมนิ นั้นสอดคล้องกับแผนการจัดการเรยี นรู้ 0 หมายถงึ ไม่แนใ่ จว่ารายการประเมินนัน้ สอดคลอ้ งกับแผนการจดั การเรยี นรู้ -1 หมายถึง รายการประเมินนั้นไมส่ อดคล้องกบั แผนการจดั การเรียนรู้ ขอ้ รายการพิจารณา ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ +1 0 -1 1 แผนการจดั การเรยี นรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถ้วนและสัมพนั ธก์ นั 2 เนื้อหา/สาระการเรยี นรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ 3 กิจกรรมการเรียนรูส้ อดคล้องกับเน้ือหาและวตั ถปุ ระสงค์ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับ ความสามารถผู้เรียน 5 กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ การลงมือปฏิบตั ิ และสรา้ งความรดู้ ้วยตนเอง 6 กจิ กรรมการเรียนรู้มีความยากงา่ ยเหมาะสมกับระดับชัน้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรูส้ อดคลอ้ งกบั กิจกรรมและจุดประสงค์ 8 ส่ือหลากหลายสอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค์ วัย และความสามารถ ผเู้ รยี น 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงคแ์ ละกิจกรรม 10 เกณฑ์การประเมนิ ผลชดั เจน ครอบคลมุ ทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และ เจตคติ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ (ลงชอื่ ).........................................................ผู้ประเมนิ (.......................................................................)
80 แบบประเมินคณุ ภาพดา้ นเนอ้ื หาของบทเรียนออนไลน์ วิชาคณติ ศาสตร์ เร่อื ง ความนา่ จะเปน็ ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 คำชแ้ี จง 1. แบบประเมินคณุ ภาพด้านเนื้อหาของบทเรียนออนไลนว์ ชิ าคณิตศาสตร์ เรอ่ื ง ความน่าจะเปน็ ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ชุดนมี้ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อประเมินคุณภาพ ของบทเรียนออนไลน์ด้านเน้ือหา เพ่อื นำแบบประเมนิ คุณภาพน้เี ปน็ แนวทาในการปรับปรงุ บทเรียน ออนไลน์ให้มีคุณภาพและมีความสมบูรณ์มากยงิ่ ขนึ้ 2. แบบประเมินคุณภาพนี้แบ่งเป็น 2 ตอน คอื ตอนที่ 1 แบบประเมินคุณภาพดา้ นเนื้อหาของบทเรียนออนไลน์ วิชาคณติ ศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเปน็ ของนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ตอนที่ 2 ข้อเสนอแนะจากผู้เช่ียวชาญ 3. ระดับคุณภาพในแบบประเมนิ นม้ี ี 5 ประดบั มีความหมาย ดงั นี้ 5 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพดมี าก 4 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพดี 3 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพพอใช้ 2 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพต้องปรับปรุง 1 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพใช้ไม่ได้
81 แบบประเมนิ คุณภาพดา้ นเนอื้ หาของบทเรยี นออนไลน์ วชิ าคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง ความนา่ จะเปน็ ของนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ตอนท่ี 1 แบบประเมินคณุ ภาพด้านเนื้อหาบทเรยี นออนไลนว์ ชิ าคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีท่ี 3 คำชแี้ จง ใหท้ ่านผเู้ ชย่ี วชาญได้กรณุ าแสดงความคิดเหน็ ของท่านที่มีต่อบทเรียนออนไลน์วชิ า คณิตศาสตร์ เร่ือง ความนา่ จะเปน็ โดยใสเ่ ครื่องหมาย () ลงในชอ่ งความคิดเหน็ ของท่านลงใน ชอ่ งว่างตามระดบั คุณภาพ ข้อ หวั ข้อการประเมิน ระดบั คุณภาพ 5432 1 1 เนื้อหาสอดคลอ้ งกับผลการเรียนท่คี าดหวัง 2 ความถูกตอ้ ง และความชัดเจนของเนื้อหา 3 ความเหมาะสมในการจดั ลำดับเน้ือหา 4 ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา 5 ความเหมาะสมของปริมาณเน้ือหาในแต่ละเรื่อง 6 ความชดั เจนของภาษาที่ใช้ 7 ความเหมาะสมและสอดคล้องในการนำเสนอภาพนงิ่ และวดิ ทิ ศั น์ในแต่ละสว่ นของบทเรยี น 8 ลำดบั ขน้ั ตอนในการนำเสนอมคี วามเหมาะสม 9 เนื้อหาให้ความรู้ สาระทเี่ ป็นประโยชน์ต่อผ้เู รยี น 10 มีความเหมาะสมในการใชส้ ื่อการเรยี นรู้ ตอนท่ี 2 ข้อเสนอแนะจากผเู้ ชี่ยวชาญ ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ ()
82 แบบประเมนิ คณุ ภาพด้านเทคโนโลยกี ารศึกษาของบทเรียนออนไลน์ วชิ าคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 คำชีแ้ จง 1. แบบประเมนิ คุณภาพด้านเทคโนโลยกี ารศกึ ษาของบทเรยี นออนไลน์วชิ าคณิตศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเป็น ของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชุดนม้ี ีวตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือประเมินคุณภาพของ บทเรยี นออนไลนด์ า้ นเทคโนโลยกี ารศึกษา เพื่อนำแบบประเมนิ คุณภาพนเี้ ปน็ แนวทาในการปรบั ปรงุ บทเรยี นออนไลนใ์ ห้มีคุณภาพและมีความสมบรู ณ์มากยิง่ ขึน้ 2. แบบประเมินคณุ ภาพน้ีแบง่ เป็น 2 ตอน คือ ตอนท่ี 1 แบบประเมินคณุ ภาพด้านเทคโนโลยีการศึกษาของบทเรียนออนไลน์ วิชา คณิตศาสตร์ เร่ือง ความนา่ จะเปน็ ของนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ตอนที่ 2 ข้อเสนอแนะจากผเู้ ชยี่ วชาญ 3. ระดับคุณภาพในแบบประเมินนี้มี 5 ประดับ มีความหมายดังน้ี 5 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพดีมาก 4 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพดี 3 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพพอใช้ 2 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพต้องปรับปรงุ 1 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพใชไ้ ม่ได้
83 แบบประเมินคณุ ภาพด้านเทคโนโลยกี ารศึกษาของบทเรียนออนไลน์ วชิ าคณติ ศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเปน็ ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตอนท่ี 1 แบบประเมนิ คณุ ภาพด้านเทคโนโลยีการศึกษาของบทเรยี นออนไลน์วชิ าคณิตศาสตร์ เรือ่ ง ความนา่ จะเป็น ของนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 คำชแี้ จง ให้ทา่ นผู้เชยี่ วชาญไดก้ รุณาแสดงความคิดเห็นของทา่ นทมี่ ตี ่อบทเรียนออนไลน์วชิ า คณิตศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเป็น โดยใสเ่ ครื่องหมาย () ลงในช่องความคิดเห็นของท่านลงใน ชอ่ งวา่ งตามระดับคุณภาพ ขอ้ หวั ข้อการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 5432 1 ดา้ นการจัดวางรูปแบบของบทเรียนออนไลน์ 1 รปู แบบของบทเรยี นออนไลน์นา่ สนใจ 2 การจดั วางเน้อื หาบทเรยี น 3 การมปี ฏิสมั พันธ์กับผู้เรยี น ด้านตัวอักษร 4 ความเหมาะสมของขนาด 5 ความเหมาะสมของสตี ัวหนงั สือ 6 ความเหมาะสมของแบบตวั อักษร ด้านภาพประกอบ 7 ความเหมาะสมของขนาดของภาพ 8 การสื่อความหมายของภาพประกอบ 9 ความชดั เจนของภาพ ดา้ นวีดทิ ัศน์ 10 ความชัดเจนของภาพวดี ิทัศน์ 11 ความเหมาะสมของขนาดตวั อักษรในวีดิทัศน์ 12 ความสอดคล้องของภาพกบั เสียงบรรยาย ดา้ นเสยี งบรรยายและเสียงดนตรปี ระกอบ 13 ความเหมาะสมของเสียงบรรยาย 14 ความเหมาะสมของเสยี งดนตรปี ระกอบ การนำทางและการเชือ่ มโยง 15 การนำทางภายในบทเรยี น
ข้อ หวั ข้อการประเมิน 84 16 การเชือ่ มโยงภายในบทเรยี น ตอนท่ี 2 ข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญ ระดับคณุ ภาพ 5432 1 ลงช่ือ ผปู้ ระเมิน ()
85 แบบตรวจสอบคณุ ภาพของเคร่อื งมือของผู้เช่ียวชาญ การหาค่าดชั นคี วามสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนวิชาคณติ ศาสตร์ เร่ือง ความนา่ จะเปน็ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 (Index of Item Objective Congruence: IOC) คำชี้แจง : ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใส่ เครื่องหมาย ✓ ลงในช่องความคิดเหน็ ของทา่ นพร้อมเขยี นข้อเสนอแนะ ท่ีเปน็ ประโยชนใ์ นการนำไป พจิ ารณาปรับปรุงต่อไป เนื้อหา/ จดุ ประสงค์ ข้อคำถาม / ข้อสอบ ผลการ ขอ้ เสนอ สาระการ การเรยี นรู้ พจิ ารณา แนะ เรียนรู้ +1 0 -1 ความ 1. บอก 2.0 ความเข้าใจ นา่ จะป็น เหตุการณท์ ่ี 2.6 ความสามารถในการอา่ นและตี กำหนดให้มี โจทย์ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ โอกาส จงใหส้ ถานการณ์ตอ่ ไปน้ี ตอบคำถาม เกิดขึน้ มาก ข้อท่ี 1 – 4 หรือนอ้ ยได้ สถานการณ์ : กลอ่ งใบหนง่ึ มลี กู บอล 12 ลกู เปน็ ลูกบอลสีเหลือง 5 ลกู สีชมพู 3 ลกู และทเ่ี หลือเปน็ ลกู บอลสี ขาว 1. ถา้ หยบิ ลกู บอลข้ึนมา 1 ลูก มีโอกาส เป็นสีใด มากทส่ี ดุ ก. เหลือง ข. ชมพู ค. ขาว ง. ทกุ สมี โี อกาสเทา่ กัน
86 เน้ือหา/ จุดประสงค์ ขอ้ คำถาม / ข้อสอบ ผลการ ขอ้ เสนอ สาระการ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ เรยี นรู้ +1 0 -1 ความ น่าจะป็น 1. บอก 2.0 ความเข้าใจ เหตกุ ารณท์ ่ี 2.6 ความสามารถในการอ่านและตี กำหนดใหม้ ี โอกาส โจทยป์ ญั หาทางคณิตศาสตร์ เกดิ ขึ้นมาก 2. ถ้าสมุ่ หยิบลูกบอลข้ึนมา 1 ลูก ข้อใด หรอื นอ้ ยได้ กล่าวผิด ก. มโี อกาสหยิบได้ลูกบอลสีเหลือง มากทส่ี ดุ ข. มโี อกาสหยิบได้ลูกบอลสชี มพู อย่างแนน่ อน ค. มีโอกาสหยบิ ไดล้ ูกบอลสีขาว มากกว่าสีชมพู ง. มโี อกาสหยิบไดล้ กู บอลทกุ สไี ม่ เท่ากนั 2. หาความ 3.0 การนำไปใช้ น่าจะเปน็ 3.3 ความสามารถในการวเิ คราะห์ ของ เหตุการณ์ท่ี ข้อมลู 3. ถ้าสุ่มหยบิ ลูกบอลขึ้นมา 1 ลกู จงหา ความน่าจะเปน็ ทหี่ ยบิ ได้ลูกบอลสขี าว กำหนดใหไ้ ด้ ก. 1 ข. 2 12 12 ค. 3 ง. 4 12 12 4. ถา้ สมุ่ หยิบลกู บอลขน้ึ มา 1 ลูก จงหา ความน่าจะเปน็ ที่หยบิ ไมไ่ ดล้ ูกบอลชมพู ก. 3 ข. 5 12 12 ค. 9 ง. 12 12 12
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123