Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore gauze15

gauze15

Published by เบบี้' มายด์, 2020-04-05 11:29:49

Description: gauze15

Search

Read the Text Version

รายงานการฝึ กโครงการพัฒนาทักษะวชิ าชีพ ชุมชนหมู่4 ต.บางนายสี อ.ตะกวี่ ป่ า จ.พงั งา นางสาวอนิ ทิรา เปี ยหน้อ รหสั ประจาตัวนักศึกษา 611250026 รายงานฉบับนนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวชิ าโครงการพฒั นาทักษะวิชาชีพ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้ันสูงปฏบิ ตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ช้ันปี ที่ 2 รุ่นที่ 15 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จังหวดั ยะลา

คำนำ รำยงำนฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ ำโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ ของนกั ศึกษำหลกั สูตร ประกำศนียบตั รวชิ ำชีพช้นั สูง สำขำปฏิบตั ิกำรฉุกเฉินกำรแพทย์ วทิ ยำลยั กำรสำธำรณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลำ โดยกำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพคร้ังน้ี นกั ศึกษำไดฝ้ ึกประสบกำรณ์ในพ้ืนท่ี ชุมชนหมู่ท่ี 4 ต.บำงนำยสี อ.ตะกี่วป่ ำ จ.พงั งำ เป็นกำรศึกษำชุมชนในดำ้ นตำ่ ง ๆ มีกำรเก็บ รวบรวมขอม้ ูลจำกชุมชน โดยกำรสมภั ำษณ์ สังเกต และจำกขอ้ มลู ทุติยภูมิเพอื่ ใหท้ รำบ และเขำ้ ใจถึงวิถีของ คนในชุมชน และมองเห็นสภำพปัญหำต่ำง ๆ ที่ เกิดข้นึ ภำยในชุมชน โดยเฉพำะปัญหำดำ้ นฉุกเฉินกำรแพทย์ และนำไปสู่กำรวำงแผนพฒั นำ แกไขป้ ัญหำชุมชน ไดอ้ ยำ่ งตรงจุด และสอดคลอ้ งกบั วิถีชุมชน โดยกำรมี ส่วนร่วมของชุมชน บำ้ นบำงใหญ่ ไปสู่กำรมีสุขภำพ และ คุณภำพชีวิตท่ีดีภำยในชุมชน ซ่ึงทำใหเ้ กิดกำรพฒั นำอยำ่ ง ยง่ั ยนื เพอ่ื เตรียมควำมพร้อมสู่กำรฝึกประสบกำรณ์ จริง และเป็นบคุ ลำกรทำงดำ้ นสำธำรณสุขต่อไป ผจู้ ดั ทำหวงั เป็นอยำ่ งยงิ่ วำ่ ขอ้ มลู ต่ำง ๆ ในเล่มรำยงำนฉบบั น้ีจะสำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์ และเป็นแนวทำงในกำรพฒั นำ แกป้ ัญหำในดำ้ นตำ่ ง ๆ ของชุมชน และเพอื่ เป็นแนวทำงใน กำรศึกษำ ต่อไป ผจู้ ดั ทำ นำงสำวอินทิรำ เปี ยหนอ้

กิตติกรรมประกำศ กำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพในคร้ังน้ี นกั ศึกษำหลกั สูตรประกำศนียบตั รวิชำชีพช้นั สูง ปฏิบตั ิกำรฉุกเฉินกำรแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 วทิ ยำลยั กำรสำธำรณสุขสิริธร จงั หวดั ยะลำ ไดท้ ำ กำรศึกษำ ใน พ้ืนท่ีของตนเอง โดยกำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพคร้ังน้ีนกั ศึกษำไดฝ้ ึกประสบกำรณ์ในพ้ืนท่ี ชุมชนหมู่ ท่ี 4 ต.บำงนำยสี อ.ตะกว่ั ป่ ำ จ.พงั งำ ไดส้ ำเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี โดยไดร้ ับ ควำมกรุณำจำกบคุ คลหลำยทำ่ น ทำง กลุม่ นกั ศึกษำรู้สึกซำบซ้ึงในควำมกรุณำที่มีให้ จึงใคร่ขอขอบพระคณุ เป็นอยำ่ งสูงไว้ ณ โอกำสน้ี ขอขอบพระคุณอำจำรยด์ ร.ภคั ณฐั วรี ขจร ที่ไดใ้ หค้ ำแนะนำ ท่ีไดป้ ระสิทธ์ิประสำทวชิ ำ ก่อใหเ้ กิด ควำมรู้ในกำรฝึกปฏิบตั ิงำน จนสำมำรถปฏิบตั ิงำนไดเ้ ป็นอยำ่ งดี ขอขอบพระคณุ เจำ้ หนำ้ ที่อำสำสมคั รสำธำรณสุขประจำ หมบู่ ำ้ นในชุมชนหมู่ที่ 4 ท่ีคอยใหค้ วำม ช่วยเหลือ แนะนำ ใหค้ ำปรึกษำ ตลอดกำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพและใหค้ วำมช่วยเหลือ แนะนำให้ คำปรึกษำ ตลอดกำรฝึกปฏิบตั ิงำนในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณชำวบำ้ นชุมชน หม่ทู ี่ 4 ต.บำงนำยสี อ.ตะกว่ั ป่ ำ จ.พงั งำ ท่ี ใหข้ อ้ มูลในกำรศึกษำคร้ังน้ี และเขำ้ มำมีส่วนร่วมในกำรดำเนินโครงกำร ในทกุ กิจกรรมท่ีนกั ศึกษำจดั ข้ึน และสำเร็จลลุ ่วงไปไดด้ ว้ ยดี สุดทำ้ ยน้ี นกั ศึกษำขอขอบพระคุณทุกทำ่ นท่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ทำใหก้ ำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ ในคร้ังน้ี ประสบควำมสำเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี

สารบัญ หน้า เร่ือง ก ข คำนำ ค กิตติกรรมประกำศ 1 สำรบญั 1 บทที่ 1 บทนำ 2 2 1.1 ควำมเป็นมำและควำมสำคญั ของกำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ 3 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรวจิ ยั 3 1.3 กระบวนกำรเตรียมฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ 4 บทที่ 2 บริบทชุมชน 6 2.1 เเผนท่ีเดินดิน 11 2.2 ฝังเครือญำติ 12 2.3 โครงสร้ำงองคก์ รชุมชน 13 2.4 ระบบสุขภำพชุมชน 14 2.5 ปฏิทินชุมชน 17 2.6 ประวตั ิศำสตร์ชุมชน 17 2.7 ประวตั ิบคุ คลสำคญั 18 บทที่ 3 กำรวนิ ิจฉยั ชุมชน 18 3.1 กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 28 3.2 กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู 29 3.3 ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู 3.4 กำรวิเครำะห์สำเหตุของปัญหำ 30 3.5 ปัญหำและกำรจดั ลำดบั ของปัญหำ 30 บทท่ี 4 แผนงำน/โครงกำร 4.1 แผนงำน/โครงกำร

4.2 ระดบั ควำมพงึ พอใจต่อโครงกำร 39 สารบัญ ( ต่อ ) หน้า 44 เรื่อง 47 4.3 สรุปผลกำรดำเนินโครงกำร 47 บทที่ 5 สรุปผลกำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ อภิปรำยและขอ้ เสนอแนะ 48 5.1 สรุปผลกำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ 48 5.2 อภิปรำยผล 49 5.3 ขอ้ เสนอแนะกำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ 50 ภำคผนวก 52 ภำคผนวก ก ภำพทำกิจกรรมโครงกำร ห่ำงไกลไขเ้ ลือดออก 59 ภำคผนวก ข แบบสอบถำมขอ้ มูลสภำพปัญหำของประชำชนในชุมชน 60 ภำคผนวก ค แบบทดสอบควำมรู้เรื่องไขเ้ ลือดออก 61 ภำคผนวก ง แบบประเมินควำมพึงพอใจกำรเขำ้ ร่วมโครงกำรห่ำงไกล ไขเ้ ลือดออก 62 ภำคผนวก จ แบบลงทะเบียนเขำ้ ร่วมโครงกำรห่ำงไกล ไขเ้ ลือดออก บรรณำนุกรม

บทที่ 1 ส่วนนาโครงการ 1.1ความเป็ นมาและความสาคญั ของการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ในปัจจุบนั ปัญหำเร่ืองขยะมูลฝอยนบั ว่ำเป็ นปัญหำสำคญั ท้งั ในระดบั ชุมชนและระดบั ประเทศ สำเหตุ เนื่องมำจำกประชำกรในประเทศมีจำนวนมำกข้ึน ชุมชนกเ็ พ่ิมข้ึน สถำนประกอบกำรต่ำง ๆ มีมำกข้นึ และ สิ่งท่ี ตำมมำอยำ่ งเล่ียงไมไ่ ดก้ ค็ อื ขยะมูลฝอย ยอ่ มมีจำนวนมำกข้นึ ตำมไปดว้ ย ดงั น้นั ชุมชนจดั เป็นแหล่งสำคญั หน่ึงท่ีผลิตของเสียออกสู่สิ่งแวดลอ้ ม แมว้ ำ่ ขยะจำกชุมชนหรืออำคำร บ้ำนเรือนจะไม่ใช่ของเสียที่เป็ นอันตรำย เมื่อเปรียบเทียบกับของเสียจำกโรงงำนอุ ตสำหกรรมหรือกำร เกษตรกรรม แต่ถำ้ มีปริมำณมำกก็ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภำพอนำมยั ของประชำชนและสิ่งแวดลอ้ มได้ โดยเฉพำะขยะมูลฝอยจำกชุมชนหรืออำคำรบำ้ นเรือน ขยะที่สำมำรถยอ่ ยสลำยไดใ้ นธรรมชำติ ขยะที่สำมำรถนำ กลบั มำใชใ้ หม่ได้ (recycle) ขยะประเภทวสั ดุเหลือใช้ ขยะที่อำจเป็นอนั ตรำยอนั เนื่องมำจำกสำรพิษ เป็นตน้ ซ่ึง กำรแก้ปัญหำขยะมูลฝอยในพ้ืนท่ีและกลไกเพ่ือกำรคัดแยกขยะ แปรรูปขยะเป็ นพลงั งำนด้วยนวตั กรรมที่ เหมำะสมกบั พ้ืนที่ และเป็นกำรเฝ้ำระวงั ป้องกนั ควบคมุ โรคและลดแหลง่ เพำะพนั ธุพ์ ำหะนำโรคตำ่ ง ๆ ดิฉันจึงไดจ้ ดั โครงกำร ลดขยะ ลดโรค ใส่ใจส่ิงแวดลอ้ ม ข้ึน กำรจดั กำรขยะมูลฝอยและสิ่งแวดลอ้ ม จึงจดั ให้มีระบบกำรจดั กำรขยะในชุมชนภำยใตแ้ นวคิด “ประชำรัฐ”เพ่ือให้ประชำชนและชุมชนส่งเสริมกำร ดำเนินกำรตำมหลกั 3 Rs ได้แก่ การลดการใช้(Reduce) การใช้ซา้ (Reuse)และการนากลบั มาใช้ใหม่ (Recycle) เพื่อกระต้นุ ให้ประชาชนและชมุ ชน ได้ตระหนกั และรับรู้ถึงความจาเป็น ในการคดั แยกขยะ และการใช้ประโยชน์ จากขยะและเป็นการลดปริมาณขยะท่ีมีประสิทธิภาพ และป้องกนั ปัญหาการเกิดมลพิษ ที่จะเกิดขึน้ ในอนาคต ทัง้ ยังส่งเสริมให้แต่ละครัวเรือนมีการจัดการขยะที่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพ่ือไม่ให้ขยะดังกล่าว ตกค้าง ทาให้ชมุ ชนสะอาด นา่ อยู่ และไมม่ ีแหลง่ เพาะพนั ธ์ุโรคจากขยะในครัวเรือนและชมุ ชน

1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องกิจกรรม/โครงการ 2.1 เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมพี ฤตกิ รรมทถ่ี กู ตอ้ งในการนากาจดั ขยะมลู ฝอย โดยใช้ หลกั การ ๓Rs คอื การใชน้ ้อย ใชซ้ า้ และ นากลบั มาใชใ้ หม่ 2.2 เพ่อื ลดปรมิ าณขยะมลู ฝอย สรา้ งความตระหนักใหป้ ระชาชนมสี ่วนร่วมในการคดั แยกขยะก่อน ทง้ิ โดยสรา้ งจติ สานึกแกป่ ระชาชน ในความปลอดภยั ดา้ นสขุ ภาพไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม 2.3 เพอ่ื ลดแหลง่ เพาะพนั ธโุ์ รคจากขยะมลู ฝอยในระดบั ครวั เรอื น 2.4 เพอ่ื ความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยในหมู่บา้ นบา้ นบางใหญ่ 1.3 กระบวนการเตรียมฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 1.3.1 กรอบแนวคิดการฝึ กโครงการพฒั นาทักษะวิชาชีพ กำรฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ ปัญหำดำ้ นสุขภำพดำ้ นในชุมชนหมูท่ ่ี 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกว่ั ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ ภาพท่ี 1.1 กรอบแนวคดิ กำรเตรียมฝึกโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ

บทท่ี 2 บริบทชุมชน เครื่องมือ 7 ชิ้น เคร่ืองมือ 7 ชิน้ เป็ นเคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการเข้าถึงพืน้ ที่ของชุมชน และบ่งบอกถงึ ความสาคญั ของกล่มุ ผู้คน ว่ามีความผูกพนั ธ์ุในวงศ์สกุลเดียวกัน สามารถช่วยแนะนาปัญหาบางอย่างของครอบครัวที่สามารถเกิดขึน้ ได้ และยังทาให้รู้จักกลุ่มงานต่างๆ ในชุมชน เข้าหาชุมชนได้ง่ายขึ้น ได้เรียนรู้การรักษาตนเองของคนในชุมชน เข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชนและทสี่ าคัญเป็ นเครื่องมือท่ใี ช้เป็ นใบเบิกทางเพ่ือการกลมกลืนเข้ากบั ชุมชนน้นั 1.แผนท่เี ดนิ ดิน

2.ผงั เครือญาติ ครอบครัว ดำรำกยั ตา ยาย พอ่ แม่ อำ นำ้ ฉนั พช่ี ำย นอ้ งสำว นอ้ งชำย นอ้ งสำว

3.โครงสร้างองค์กรในชุมชน นายเกรียตศิ กั ด์ิ อาจหาญ นางไรหนาบ ชใู จ กองทนุ หมบู ้าน กองทนุ ฌาปานกจิ นายวเิ ชยี ร เปียหน้อ กองทนุ ผ้แู ทนชาวบ้าน นายนวมินน์ คงพนนั นางกาญจนา นาเจริญ ผใู้ หญบ่ ำ้ น นางรอเก่ียะ สาระยาน นางสายใจ ดาดี นายสมศกั ดิ์ เพชรคง นำยสมำท นำเจริญ อสม. ทีมผชู้ ่วยผใู้ หญบ่ ำ้ น นางซามีร่า บินรอโสน นางนสุ รา แนวชน นายส่อแหละ หมาดสตลู นายสมชาย หมาดอา่ ผนู้ ำศำสนำ ดา นายสมบรู ณ์ หมาดอ่าดา นายหมดุ ดีน หมาดสงา่

4.ระบบสุขภาพชุมชน สถำนพยำบำล ไดแ้ ก่ รพ.สต.บำ้ นบำงใหญ่ ยำ ไดแ้ ก่ -แผนโบรำญ เช่น ยำผีบอก ขมิ้นชนั หวำ่ นเหงือกปลำหมอ -แผนปัจจุบนั เช่น พำรำเซตำม่อน ยำธำตนุ ้ำแดง ยำแกป้ วด ควำมเช่ือ ไดแ้ ก่ - ผี เช่น ผตี ำยำย ผีเจำ้ ที่ -หมอพ้ืนบำ้ น เช่น หมอน้ำมนต์ หมดจบั เส้น หมอดู อำหำร ไดแ้ ก่ - ของป่ ำ เช่น หม่อไม้ ผกั เห็ด ผลไม้ -เกษตรครัวเรือน เช่น ผกั ผกั บ่งุ ผกั กำด ถว่ั ฝักยำว แตงกวำ ผลไม้ เงำะ ทุเรียน ลองกอง กลว้ ย มงั คดุ สม้ โอ สัตว์ ไก่ ปลำ กุง้ ววั -อำหำรตลำด เช่น เน้ือสตั ว์ แกงถุง อำหำรกระป๋ อง ผกั

5.ปฏิทินชุมชน • ทกุ วนั ศกุ ร์ มีกำรละหมำดร่วมกนั ที่มสั ยดิ • ทกุ วนั เสำร์ (เที่ยง) มีกำรเรียนกำรสอนศำสนำใหผ้ ทู้ ี่ควำมสนใจ โดยผนู้ ำศำสนำ • ทกุ วนั เสำร์ (เยน็ ) มีกำรร่วมกนั ทำควำมสะอำด มสั ยดิ รพ.สต เขื่อนกกั เก็บน้ำของหม่บู ำ้ น สนำมในหมบู่ ำ้ น ถนนในหมู่บำ้ น • วนั ศกุ ร์สุดทำ้ ยของเดือน จะมีกำรประชุมหมบู่ ำ้ น • 3 มกรำคม กิจกรรมเขำ้ สุนตั (เด็กผชู้ ำยในหมูบ่ ำ้ น) • 5-6 มกรำคม งำนมสั ยดิ ประจำหม่บู ำ้ น • 31 มกรำคม ทำควำมสะอำดเข่ือน เพื่อเก็บน้ำไวใ้ ชช้ ่วงหนำ้ แลง้ • 24-26 เมษำยน กำหนดกำรเร่ิมถือศีลอด • 24-25 พฤษภำคม กำหนดวนั อีดิลฟิ ตรี • 26 สิงหำคม วนั อีดิลอตั ฮำ 6.ประวตั ศิ าสตร์ชุมชน หมบู่ ำ้ น บำ้ นบำงใหญ่ มีคำเล่ำลือตอ่ กนั วำ่ ในอดีตหมบู่ ำ้ นน้ีเป็นปำกน้ำขนำดใหญ่ มีเรื่อสญั จรไปมำเพ่ือนำ สินคำ้ จำกที่ต่ำง ๆ มำแลกเปลี่ยนกนั และเป็นปำกน้ำที่สำคญั ในกำรสญั จรในยคุ น้นั ผูค้ นจึงเรียกติดปำกกนั วำ่ บ้านบางใหญ่ ซ่ึงคำวำ่ บาง หมำยถึง ปากนา้ คลองขนาดใหญ่ ตอ่ มำเมื่อควำมเจริญเขำ้ มำ มีกำรสร้ำงถนนตดั ผำ่ นหมบู่ ำ้ น กำรสัญจรทำงน้ำจึงค่อย ๆ หำยไป ในปัจจุบนั ปำกน้ำแห่งน้ียงั คงใช่เป็นเส้นทำงออกสู่ทะเลอนั ดำมนั เพือ่ ทำกำรประมงของคนในหมู่บำ้ น

7.ประวตั ศิ าสตร์บุคคลทีห่ น้าสนใจ นำยวเิ ชียร เปี ยหนอ้ (บงั บำ่ ว) เกิดเม่ือวนั ที่ 24 กุมภำพนั ธ์ พ.ศ.2508 ปัจจุบนั อำยุ 55 ปี เดิมทีเป็นคนจงั หวดั นครศรีธรรมรำช ประวตั ิกำรศึกษำ ป.1-ป.4 เรียนโรงเรียนวดั ยำงทอง (นครศรีธรรมรำช) หลงั สำเร็จกำรศึกษำยำ้ ยไปเรียน ศำสนำที่ ปอเนำะนำหวั นอน ได3้ ปี แลว้ จึงไปเรียนท่ีอินโดนีเซีย ได5้ ปี หลงั จำกน้นั กลบั มำสอนหนงั สือศำสนำ ที่หมู่บำ้ น และแตง่ งำนกบั หญิงสำวชำวบำงใหญ่ และยำ้ ยมำอยทู่ ่ีบำ้ นบำงใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2538 (25ปี ที่แลว้ ) มีบุตร 3 คน ชำย 1 คน หญิง 2 คน และไดก้ ลบั ไปทำงำนท่ีอินโดนีเซีย 3 ปี ในขณะที่ทำงำนเป็นคนดูแลสวนปำลม์ ใหน้ ำ้ สำว มีโอกำศไดเ้ รียนกำร นวดจบั เส้น กำรต่อกระดูก จำกหมอที่อินโดนีเซีย จึงมีวชิ ำติดตวั กลบั มำไทย ปัจจุบนั บงั บ่ำวมีอำชีพ กรีดยำง และมกั หำเวลำวำ่ งรับนวดจบั เสน้ ใหค้ นในหมบู่ ำ้ น และคนหมู่บำ้ นขำ้ งเคียง

บทที่ 3 การวนิ จิ ฉัยชุมชน กำรศึกษำชุมชนหมู่ที่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกวั่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ ในคร้ังน้ีเป็นกำรศึกษำในรูปแบบ กำรสำรวจ สงั เกต กำรสมั ภำษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในกำรวินิจฉยั ชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 กำรเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.2 กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูล 3.3 ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู 3.4 ปัญหำ และกำรจดั ลำดบั ควำมสำคญั ของปัญหำ 3.5 กำรวเิ ครำะหส์ ำเหตุของปัญหำ 3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 กำรรวบรวมขอ้ มลู ปฐมภมู ิ เป็นกำรเกบ็ ขอ้ มลู เพมิ่ เติมจำกแหล่งทุติยภมู ิ ซ่ึงขอ้ มูลดงั กลำ่ วมี ควำมสำคญั มำก เพรำะช่วยใหม้ องเห็นสภำพปัญหำในชุมชนชดั เจนข้ึน และขอ้ มูลท่ีไดเ้ ป็นขอ้ มูลปัจจุบนั มำก ที่สุด วิธีกำรเก็บรวมรวบขอ้ มูลปฐมภมู ิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 กำรสงั เกต เป็ นกำรสังเกตสภำพทวั่ ไปของชุมชนและพฤติกรรมต่ำง ๆ ของประชำชน ในชุมชน โดยท่ีผถู้ กู สังเกตไมร่ ู้ตวั เพ่ือนำขอ้ มลู มำสนบั สนุนในกำรวิเครำะห์ปัญหำ 3.1.1.2 กำรสมั ภำษณ์ เป็นกำรสัมภำษณ์จำกแบบสอบถำมท่ีเตรียมคำถำมตำ่ ง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และจดั พิมพไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สำหรับใชก้ บั ผถู้ ูกสัมภำษณ์ทกุ คน โดยคำถำมจะเป็นท้งั คำถำม แบบปลำยปิ ดและแบบปลำยเปิ ด เพอ่ื เปิ ดโอกำสใหผ้ ถู้ กู สมั ภำษณ์แสดงควำมคดิ เห็น 3.1.2 กำรรวบรวมขอ้ มลู ทตุ ิยภมู ิ เป็นกำรรวบรวมขอ้ มูลทุติยภมู ิ หรือขอ้ มูลท่ีรวบรวมไวท้ ี่องคก์ รใน หมูบ่ ำ้ น ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กลำ่ วน้นั ทำใหท้ รำบวำ่ ควรหำขอ้ มูลดำ้ นใด เพิม่ เติม เพื่อนำมำใชใ้ น กำรสนบั สนุนใน กระบวนกำรวิเครำะหป์ ัญหำ การเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามแบ่งออกเป็ น 5 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป ตอนที่ 2 แบบสอบถำมขอ้ มลู สภำพปัญหำของประชำชน ตอนท่ี 3 ปัญหำดำ้ นสังคม ตอนท่ี 4 ปัญหำกำรบริหำรจดั กำรทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดลอ้ มและกำรทอ่ งเท่ียว ตอนที่ 5 ปัญหำดำ้ นสุขภำพ และพฤติกำรรกำรดูแลสุขภำพตวั เอง

3.2 การวิเคราะห์ข้อมูล ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ำกำรรวบรวมน้นั จะนำมำวิเครำะห์ตำมข้นั ตอนกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ดงั น้ี 3.2.1 บรรณำธิกำรขอ้ มลู ดิบเป็นกำรตรวจสอบควำมถกู ตอ้ งและควำมสมบรู ณ์ของขอ้ มูล 3.2.2 กำรแจกแจงควำมถ่ี โดยใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูป แลว้ นำมำวเิ ครำะห์ขอ้ มูลในรูปแบบ ร้อยละ และ นำเสนอในรูปแบบก่ึงบทควำม ก่ึงตำรำงเพื่อควำมสะดวก กำรเปรียบเทียบขอ้ มูลสำหรับขอ้ มลู เชิง ปริมำณ 3.2.3 กำรสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภำพ นำเสนอในรูปแบบบทควำม เพอ่ื ควำมเขำ้ ใจ 3.3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล จำกกำรศึกษำชุมชนหมทู่ ี่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกว่ั ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ จำนวนครัวเรือน โดยประมำณ 10 หลงั คำเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มลู จำกรำยงำนต่ำง ๆ จำกสำนกั งำนกระทรวงสำธำรณสุข จงั หวดั พงั งำและอำสำสมคั รสำธำรณสุขประจำหมู่บำ้ นในชุมชน ซ่ึงจะนำเสนอตำมลำดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป จำกกำรสำรวจแบบสอบถำมประชำชนในชุมชน หมู่ที่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอ ตะกวั่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ ทำให้ทรำบถึงบริบทของชุมชน และปัญหำดำ้ นสุขภำพ ตารางท่ี 1 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทว่ั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถามในด้านเพศ เพศ จำนวน ร้อยละ 40 % เพศชำย 4 60 % 100 % เพศหญิง 6 รวม 10 ตารางท่ี 2 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพสมรส สถำนภำพสมรส จำนวน ร้อยละ 30 % โสด 3 70% สมรส 7

หยำ่ - - แยกกนั อยู่ - - รวม 10 100 % ตารางท่ี 3 แสดงค่าร้อยละของอาชีพหลกั ของครอบครัว ร้อยละ 30 % อำชีพหลกั ของครอบครัว จำนวน 70 % 100% คำ้ ขำย 3 ร้อยละ เกษตรกร 7 60 % 40% รวม 10 100 % ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของประวตั กิ ารมโี รคประจาตัว ประวตั ิกำรมีโรคประจำตวั จำนวน ไมม่ ีโรคประจำตวั 6 มีโรคประจำตวั 4 รวม 10

ตารางที่ 5 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชน แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหา มำกที่สุด(%) มำก(%) ปำนกลำง(%) นอ้ ย(%) นอ้ ยที่สุด(%) 4 3 21 ของประชาชน 5 รำยไดจ้ ำกกำรประกอบอำชีพหลกั 10% 40 % 30 % 20 % 0 ไมเ่ พยี งพอ ไมม่ ีอำชีพเสริม 0 20 % 70 % 10 % 0 หน้ีสินเพ่ิมข้ึนจำกกำรประกอบ 0 40 % 40 % 20 % 0 อำชีพ กูเ้ งินจำกหน้ีนอกระบบเพ่ิมข้ึน 10 % 20 % 10 % 60% 0 ครัวเรือนมีรำยไดไ้ ม่เพียงพอในกำร 10 % 10 % 80 % 00 ใชจ้ ่ำยประจำเดือน 00 00 ผลผลิตทำงกำรเกษตรตกต่ำ/ 60 % 40 % 0 ขำดทุน กำรวำ่ งงำนของคนในชุมชน 30% 30 % 40 % เพิ่มข้นึ

ตารางท่ี 6 ปัญหาด้านสังคม มำกท่ีสุด(%) มำก(%) ปำนกลำง นอ้ ย(%) นอ้ ยที่สุด ปัญหาด้านสังคม 54 (%) 2 (%) ยำเสพติดระบำดในชุมชนเพ่ิมข้ึน 40 % 20 % 3 1 30 % 10 % 0 กลุ่มคนในชุมชนขำดควำมเขำ้ ใจซ่ึง 10 % 30 % 40 % 20 % 0 กนั และกนั ทะเลำะเบำะแวง้ กนั 40 % 50 % 10 % 0 50 % 10 % 20 % 10 % คนในชุมชนขำดจิตสำนึกในกำร 0 10 % 30 % 50 % 0 พฒั นำตนเอง 10 % 40 % 50 % 0 ควำมเหลื่อมล้ำทำงสงั คมของคนรวย 10 % และคนจนในชุมชน สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่นุ 10 % ละอองมลพษิ ในชุมชนเพม่ิ ข้ึน เยำวชนทะเลำะววิ ำทและไม่ไดเ้ รียน 0 ต่อ ตารางที่ 7 ปัญหาการบริหารจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมและการท่องเทยี่ ว ปัญหำดำ้ นกำรจดั กำร มำกท่ีสุด มำก ปำนกลำง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด ทรัพยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดลอ้ ม (5) (4) (3) (2) (1) ระบบสำธำรณูปโภคบริโภคของชุมชน 10% เช่น น้ำไฟฟ้ำ ไม่เพยี งพอ 10% 40% 30% 10% ขำดควำมรู้ดำ้ นสุขลกั ษณะและมีกำร 10% ดูแลควำม สะอำดของหมู่บำ้ น 10% 30% 40% 10%

ป่ ำเสื่อมโทรมและมีกำรทำลำย 0 10% 50% 30% 10% 0 50% 40% 10% ทรัพยำกรของชุมชน เพิม่ ข้ึน 20% 50% 30% 0 ประชำชนในชุมชนขำดจิตสำนกั ในกำร 0 อนุรักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดลอ้ มของชุมชน ประชำชนในชุมชนขำดควำมรู้ในกำร 0 บริหำรจดั กำร ทรัพยำกรธรรมชำติและ ส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน ตารางที่ 8 ปัญหาด้านสุขภาพ และพฤติการรการดแู ลสุขภาพตัวเอง พฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเอง บ่อยที่สุด บ่อย นำน ๆ คร้ัง บำงคร้ัง ไม่เคยเลย (5) (4) (3) (2) (1) ท่ำนกินอำหำรครบ 3 ม้ือ 40% ในแตล่ ะม้ือทำ่ นกินอำหำรครบท้งั 5 60% 50% 30% 10% หมู่ คือ โปรตีน คำร์โบไฮเดรต วติ ำมิน 100% 10% เกลือแร่ และไขมนั 0 0 0 100% ทำ่ นด่ืมนม 0 10% ท่ำนด่ืมเหลำ้ 0 50% 50% 0 40% ทำ่ นชอบสูบบหุ ร่ี 0 20% ทำ่ นออกกำลงั กำย 0 30% 40% 10% 0 ทำ่ นนอนหลบั พกั ผอ่ น 60% 30% ทำ่ นลำ้ งมือก่อนกินอำหำร 20% 10% 20% 0 0 ทำ่ นตรวจวดั สำยตำทกุ ป 70% 20% ท่ำนตรวจสุขภำพเป็นประจำทกุ ปี 50% 40% 10% 0 เม่ือท่ำนเจบ็ ป่ วยทำ่ นปฏิบตั ิตำม 30% คำแนะนำของบุคลำกรทำงกำรแพทย์ 000 อยำ่ งเคร่งครัด 20% 10% 10% 50% 0 0

ดูแลสุขภำพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยำทำน 60% 20% 10% 10% 0 เอง เช็ดตวั ลดไข้ ใชบ้ ริกำรสุขภำพที่สถำนพยำบำล เช่น 30% 60% 10% 00 รพ.สต คลินิก โรงพยำบำล โทร 1669 เมื่อเกิดเหตุกำรฉุกเฉิน 70% 20% 10% 00 ตารางที่ 9 แสดงค่าเฉลยี่ ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานของปัญหาในชุมชน -x SD 3.47 0.79 ปัญหำ 2.98 0.72 ปัญหำดำ้ นเศรษฐกิจ 2.68 0.91 ปัญหำดำ้ นสังคม ปัญหำกำรบริหำรจดั กำรทรัพยำกรธรรมชำติและ 2.97 0.47 ส่ิงแวดลอ้ มและกำรท่องเที่ยว ปัญหำดำ้ นสุขภำพ และพฤติกำรรกำรดูแลสุขภำพตวั เอง สรุปไดว้ ำ่ ปัญหำดำ้ นเศรษฐกิจมีค่ำเฉลี่ยเลขคณิตสูงสุด คือ 3.47 และมีคำ่ เบี่ยงเบนมำตรฐำน อยทู่ ่ี 0.79 รองลงมำคอื ปัญหำดำ้ นสงั คมมีคำ่ เฉลี่ยเลขคณิตอยทู่ ี่ 2.98 และมีคำ่ เบ่ียงเบนมำตรฐำน อยทู่ ่ี 0.72

การคิดคะแนนเพ่ือจัดลาดบั ความสาคญั ของปัญหา สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 ปัญหำ คะแนนของแตล่ ะองคป์ ระกอบ คะแนนรวม ขนำด ควำม ควำม ควำม วิธีบวก วธิ ีคูณ รุนแรง ยำก-ง่ำย ตระหนกั ยำเสพติดระบำดในชุมชนเพ่ิมข้นึ (4.4) 3 72 2 4 2 3 16 36 กลมุ่ คนในชุมชนขำดควำมเขำ้ ใจซ่ึงกนั 3 3 2 10 และกนั ทะเลำะเบำะแวง้ กนั (2.5) 4 คนในชุมชนขำดจิตสำนึกในกำรพฒั นำ 3 4 2 13 96 ตนเอง (2.6) 3 สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่นุ ละออง 4 5 4 17 240 มลพษิ ในชุมชนเพม่ิ ข้ึน (2.8) 3 เยำวชนทะเลำะววิ ำทและไม่ไดเ้ รียนตอ่ 2 3 3 11 54 (2.6) ในกำรคดิ คะแนนรวมแต่ละปัญหำ อำจมีกำรให้น้ำหนกั ( W =กำรถว่ งน้ำหนกั โดยทวั่ ไปจะถ่วงน้ำหนกั ต้งั แต่ 1-5)ซ่ึงสำมำรถใหน้ ้ำหนกั แต่ละขอ้ ในสัดส่วนท่ีไมเ่ ท่ำกนั หรือเทำ่ กนั ก็ได้ ตำมควำมตระหนกั ของผเู้ กี่ยวขอ้ ง • ขนำด มำกที่สุด คือ 5 • ควำมรุนแรง มำกสุด คอื 5 • ควำมงำ่ ย มำกสุด คอื 5 ยำกสุด คอื 1 • ควำมตระหนกั มำกสุด คอื 5 สรุปปัญหาทีจ่ ะนาไปเขียนโครงการ สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่ ุนละอองมลพษิ ในชุมชน เพมิ่ ขนึ้ และคนในชุมชนขาดจติ สานึกในการพฒั นาตนเอง

บทท4่ี แผนงานโครงการ จำกกำรสำรวจชุมชนหมู่ท่ี4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกัว่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ ไดล้ งสำรวจพ้ืนท่ีโดยใช้ แบบสอบถำมขอ้ มูลวิเครำะห์เพื่อจดั ลำดบั ควำมสำคญั ของปัญหำ เพื่อหำวิธีกำรแก้ปัญหำให้กบั ชุมชน จำก กำรศึกษำพบวำ่ ชุมชนมีปัญหำดำ้ นสังคมของคนในชุมชน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนำปัญหำดำ้ นสังคม ขยะในชุมชน มำจดั โครงกำร เพอื่ ใหค้ วำมรู้กบั คนในชุมชน เกิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ในกำรแยกขยะและนำขยะมำรีไซเค้ิลให้ที่ถูกวิธีและเหมำะสม ลดค่ำดชั นีขยะ ในชุมชน และเพอื่ ใหป้ ระชำชนมีส่วนร่วมในกำรช่วยลดขยะในชุมชน 4.1 แผนงาน / โครงการ จำกปัญหำท่ีพบ พบวำ่ เป็นปัญหำท่ีทำงชุมชนมีควำมตอ้ งกำรใหด้ ำเนินกำร จำกปัญหำดงั กล่ำว จึงได้ จดั ทำโครงกำรเพือ่ แกป้ ัญหำสุขภำพของชุมชน 1 โครงกำร โดยมีรำยละเอียดดงั น้ี ช่ือกจิ กรรม/โครงการ : ลดขยะ ลดโรค ใสใ่ จสิง่ แวดล้อม ช่ือ-สกุล ผู้เสนอกจิ กรรม/โครงการ : นำงสำวอินทิรำ เปี ยหนอ้ สังกดั : หลกั สูตรประกำศนียบตั รวชิ ำชีพช้นั สูงสำขำปฏิบตั ิกำรฉุกเฉินกำรแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2

1. หลกั การและเหตผุ ล/ทมี่ า/ปัญหา 1.1 หลกั การและเหตผุ ล/ท่ีมา/ปัญหา ในปัจจุบนั ปัญหำเร่ืองขยะมูลฝอยนบั ว่ำเป็ นปัญหำสำคญั ท้งั ในระดบั ชุมชนและระดบั ประเทศ สำเหตุ เน่ืองมำจำกประชำกรในประเทศมีจำนวนมำกข้ึน ชุมชนก็เพ่ิมข้ึน สถำนประกอบกำรต่ำง ๆ มีมำกข้ึน และ สิ่งที่ตำมมำอยำ่ งเล่ียงไมไ่ ดก้ ค็ อื ขยะมลู ฝอย ยอ่ มมีจำนวนมำกข้นึ ตำมไปดว้ ย ดังน้ันชุมชนจดั เป็ นแหล่งสำคัญหน่ึงท่ีผลิตของเสียออกสู่ส่ิงแวดลอ้ ม แมว้ ่ำขยะจำกชุมชนหรืออำคำร บำ้ นเรือนจะไม่ใช่ของเสียท่ีเป็ นอนั ตรำย เม่ือเปรียบเทียบกับของเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรมหรือกำร เกษตรกรรม แต่ถำ้ มีปริมำณมำกก็ก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อสุขภำพอนำมยั ของประชำชนและส่ิงแวดลอ้ มได้ โดยเฉพำะขยะมูลฝอยจำกชุมชนหรืออำคำรบำ้ นเรือน ขยะท่ีสำมำรถย่อยสลำยได้ในธรรมชำติ ขยะที่ สำมำรถนำกลบั มำใช้ใหม่ได้ (recycle) ขยะประเภทวสั ดุเหลือใช้ ขยะที่อำจเป็ นอนั ตรำยอนั เน่ืองมำจำก สำรพษิ เป็นตน้ ซ่ึงกำรแกป้ ัญหำขยะมลู ฝอยในพ้ืนท่ีและกลไกเพื่อกำรคดั แยกขยะ แปรรูปขยะเป็นพลงั งำน ดว้ ยนวตั กรรมท่ีเหมำะสมกบั พ้ืนท่ี และเป็นกำรเฝ้ำระวงั ป้องกนั ควบคุมโรคและลดแหล่งเพำะพนั ธุพ์ ำหะ นำโรคต่ำง ๆ ดิฉนั จึงไดจ้ ดั โครงกำร ลดขยะ ลดโรค ใส่ใจสิ่งแวดลอ้ ม ข้ึน กำรจดั กำรขยะมูลฝอยและสิ่งแวดลอ้ ม จึง จดั ให้มีระบบกำรจดั กำรขยะในชุมชนภำยใตแ้ นวคิด “ประชำรัฐ”เพื่อให้ประชำชนและชุมชนส่งเสริมกำร ดำเนินกำรตำมหลัก 3 Rs ได้แก่ การลดการใช้(Reduce) การใช้ซา้ (Reuse)และการนากลับมาใช้ใหม่ (Recycle) เพื่อกระต้นุ ให้ประชาชนและชุมชน ได้ตระหนกั และรับรู้ถึงความจาเป็น ในการคดั แยกขยะ และ การใช้ประโยชน์จากขยะและเป็นการลดปริมาณขยะทม่ี ีประสิทธิภาพ และปอ้ งกนั ปัญหาการเกิดมลพิษ ที่ จะเกิดขึน้ ในอนาคต ทงั้ ยังส่งเสริมให้แต่ละครัวเรือนมีการจดั การขยะท่ีต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพ่ือไม่ให้ขยะดงั กล่าวตกค้าง ทาให้ชุมชนสะอาด น่าอยู่ และไม่มีแหลง่ เพาะพนั ธ์ุโรคจากขยะในครัวเรือน และชมุ ชน

2.วตั ถปุ ระสงคข์ องกิจกรรม/โครงการ 2.1 เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมพี ฤตกิ รรมทถ่ี ูกตอ้ งในการนากาจดั ขยะมลู ฝอย โดยใช้ หลกั การ ๓Rs คอื การใชน้ ้อย ใชซ้ า้ และ นากลบั มาใชใ้ หม่ 2.2 เพอ่ื ลดปรมิ าณขยะมูลฝอย สรา้ งความตระหนักใหป้ ระชาชนมสี ่วนร่วมในการคดั แยกขยะก่อน ทง้ิ โดยสรา้ งจติ สานกึ แกป่ ระชาชน ในความปลอดภยั ดา้ นสขุ ภาพไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม 2.3 เพอ่ื ลดแหล่งเพาะพนั ธโุ์ รคจากขยะมลู ฝอยในระดบั ครวั เรอื น 2.4 เพอ่ื ความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยในหมู่บา้ นบา้ นบางใหญ่ 1.3 กลุ่มเป้าหมาย ชาวบา้ นในหมบู่ า้ นบา้ นบางใหญ่จานวน 30 คน 1.4 เป้าหมาย 4.1 เชิงคณุ ภำพ 4.1.1 มีชำวบำ้ นเขำ้ ร่วมโครงกำร 30 คน 4.1.2 ชำวบำ้ นที่เขำ้ ร่วมโครงกำรที่ชิ้นงำนเป็นของตนเองคนละ 1 ชิ้น 4.2 เชิงคุณภาพ 4.2.1 ผทู้ ี่เขำ้ ร่วมโครงกำรสำมำรถนำควำมรู้ไปประยคุ ใชใ้ นชีวิตประจำวนั 4.2.2 ผทู้ ่ีเขำ้ ร่วมโครงกำรทำแบบทดสอบหลงั กำรอบรมไดเ้ พม่ิ สูงข้ึน

1.5 ระยะเวลาดาเนินการ วนั ท่ี 15 เมษายน 2563 1.6 ดัชนีตัวชีว้ ัดความสาเร็จ 1.6.1. ประชนชนเกิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ในกำรคดั แยกขยะท่ีถูกวธิ ีและเหมำะสม 1.6.2. จำนวนค่ำดชั นีขยะในชุมชน (HI, CI) ปี 2563 ลดลง 1.6.3. ไดร้ ับควำมร่วมมือจำกประชำชนในกำรลดขยะในครัวเรือน 1.7 ผ้รู ับผิดชอบโครงการ นำงสำวอินทิรำ เปี ยหนอ้ นกั ศึกษำหลกั สูตรฉุกเฉินกำรแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 1.8 สถานทดี่ าเนินโครงการ หอ้ งเอนกประสงค์ มสั ยดิ ตอรกี อตลุ ยนั นะห์ ม.4 ตาบล บางนายสี อาเภอตะกวั่ ป่า จงั หวดั พงั งา 1.9 ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ 1.9.1 ประชาชนมพี ฤตกิ รรมทถี่ ูกต้องในการนากาจดั ขยะมลู ฝอย โดยใช้ หลกั การ ๓Rs คือ การใช้น้อย ใช้ซา้ และ นากลบั มาใช้ใหม่ 1.9.2 ลดปริมาณขยะมลู ฝอยในหมบู่ ้าน ประชาชนมีความตระหนกั ในสว่ นร่วมในการคดั แยกขยะก่อน ทงิ ้ 1.9.3 ลดแหลง่ เพาะพนั ธ์ุโรคจากขยะมลู ฝอยในระดบั ครัวเรือน 1.9.4 ในหมบู่ ้านมีความสะอาด เป็นระเบยี นเรียบร้อยขนึ ้

2. แผนการดาเนนิ งาน 2.1 วธิ ีการดาเนนิ งาน กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผิดชอบ กำรวำงแผน (P) 1. ประชุมวำงแผน กำหนดวตั ถุประสงค์ 4 เมษำยน 2563 น.ส.อินทิรำ เปี ยหนอ้ งบประมำณ ดัชนีช้ีวดั ควำมสำเร็จ พฒั นำ นกั ศึกษำหลกั สูตรฉุกเฉิน โครงกำรฉบบั สมบรู ณ์เพือ่ ขออนุมตั ิ กำรแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 2. เ มื่ อ โ ค ร ง ก ำ ร ไ ด้รั บ อ นุ มัติ แ ล้ว จึ ง มอบหมำยหน้ำท่ีรับผิดชอบภำยในกลุ่ม พร้อมท้งั ประสำนผูท้ ่ีเกี่ยวขอ้ งประสำนงำน ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ท่ีตอ้ งใช้ กำรปฏิบตั ิ 1.จดั โครงกำรตำมกำหนดกำร 15 เมษำยน 2563 น.ส.อินทิรำ เปี ยหนอ้ (D) 1.1 วันจัดกจิ กรรม นกั ศึกษำหลกั สูตรฉุกเฉิน 1.1.1 ทำแบบทดสอบก่อนใหค้ วำมรู้ กำรแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1.1.2 กำรบรรยำยใหค้ วำมรู้เก่ียวกบั กำรแยก ขยะและกำรรีไซเค้ลิ ขยะ 1.1.3 กิจกรรมตอบคำถำมเกี่ยวกบั ควำมรู้กำร แยกขยะและกำรรีไซเคล้ิ ขยะ 1.1.4 ทำแบบทดสอบหลังให้ควำมรู้ จัด กิจกรรมกลมุ่ ( Focus Group) รีไซเค้ิลขวดน้ำเหลือใช้ให้เป็ น Face shield 1.1.5 จดั กิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) รีไซเคลิ้ ขวดน้ำเหลือใชใ้ หเ้ ป็น Face shield 1.1.6 ทำแบบประเมินควำมพงึ พอใจ

กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผ้รู ับผิดชอบ กำรประเมินผล ประเมินผลตำมวตั ถปุ ระสงคด์ ว้ ย 16 เมษำยน 2563 น.ส. อินทิรำ เปี ยหนอ้ (C) 1. แบบลงทะเบียนเขำ้ ร่วมโครงกำร นกั ศึกษำหลกั สูตรฉุกเฉิน 2. ประเมินควำมรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วำมรู้ กำรแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 3. สังเกตกำรมีส่วนร่วมของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร ก ำ ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชุมผจู้ ดั ทำโครงกำรเพื่อสรุปผลกำร 16 เมษำยน 2563 น.ส.อินทิรำ เปี ยหนอ้ หรื อนำผลกำร ดำเนินงำนและเสนอแนะแนวทำงเพ่อื นกั ศึกษำหลกั สูตรฉุกเฉิน ประ เมิ นไปใช้ ปรับปรุงพฒั นำ กำรแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 ประโยชน์ (A) 2.2 ผลการดาเนนิ งาน 2.2.1 การดาเนนิ งานในข้นั ตอนการวางแผน (P) - ประสำนงำนกบั แกนนำ อสม.หมทู่ ี่ 4 ตาบล บางนายสี อาเภอตะกวั่ ป่า จงั หวดั พงั งา นำงสำวอินทิรำ เปี ยหนอ้ หลกั สูตรฉุกเฉินกำรแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 ประสำนงำนกบั แกนนำอสม. หมู่ 4 เพอ่ื จดั กำรทำประชำคมหำปัญหำที่ตอ้ งแกไ้ ขเพอ่ื จดั ทำโครงกำร -ประชุมวำงแผนกำหนดกำรดำเนินงำนและเขยี นโครงกำรเพ่อื ขออนุมตั ิ นำงสำวอินทิรำ เปี ยหนอ้ หลกั สูตรฉุกเฉินกำรแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 จดั ประชุมกนั กบั แกนนำอสม. หมู่ 4 เพื่อสอบถำมปัญหำต่ำง ๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน และได้มีกำรประชุมกันภำยในกลุ่มเพื่อวำงแผนกำร ดำเนินงำน กำหนดวตั ถุประสงค์ วำงแผนกำรใชง้ บประมำณ หนำ้ ท่ีรับผิดชอบ เพ่ือให้กำรดำเนินงำนโครงกำร เป็นไปอยำ่ งมีประสิทธิภำพ -ติดต่อประสำนงำน กบั ผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งในชุมชน นำงสำวอินทิรำ เปี ยหนอ้ หลกั สูตรฉุกเฉินกำรแพทย์ ช้นั ปี ท่ี 2 ไดต้ ิดต่อจดั กำรขอสถำนที่ใน กำรทำกิจกรรม เพอ่ื ใหก้ ำรดำเนินงำนโครงกำรเป็นไปอยำ่ งมีประสิทธิภำพ - ติดตอ่ ขอใชส้ ถำนที่

2.2.2. การดาเนนิ งานในข้นั ตอนการปฏบิ ัติ (D) - เสนอร่ำงโครงกำร ลดขยะ ลดโรค ใสใ่ จสิง่ แวดล้อม และปรับแกไ้ ขโครงกำร - จดั เตรียมเอกสำรในกำรทำโครงกำร - จดั เตรียมสถำนท่ีในกำรจดั ทำโครงกำรลดขยะ ลดโรค ใสใ่ จสง่ิ แวดล้อม - ดำเนินงำนกิจกรรมโครงกำรลดขยะ ลดโรค ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยกำรบรรยำยให้ควำมรู้ เกี่ยวกบั กำรคดั แยกขยะและกำรรีไซเค้ลิ ขยะ นำงสำวอินทิรำ เปี ยหน้อ หลกั สูตรฉุกเฉินกำรแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 ไดเ้ ขำ้ รับกำรอบรมให้ควำมรู้ เก่ียวกบั กำรคดั แยกขยะและกำรรีไซเคิล้ ขยะ 2.3 จานวนผู้เข้าร่วมโครงการ ประชำชน ม.4 ต.บำงนำยสี อ.ตะกว่ั ป่ ำ จำนวน 30 คน 2.4 สถานทีด่ าเนินการ หอ้ งเอนกประสงค์ มสั ยดิ ตอรกี อตุลยนั นะห์ ม.4 ตาบล บางนายสี อาเภอตะกวั่ ป่า จงั หวดั พงั งา 2.5 งบประมาณ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี 2562 เงินอุดหนุนทว่ั ไป เงินอุดหนุนสำหรับกำรดำเนินงำนตำมโครงกำร พระรำชดำริดำ้ นสำธำรณสุข(เงินพฒั นำหมู่บำ้ น หมู่ท่ี 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกว่ั ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ) จำนวน 1500 บำท (แปดพนั หำ้ ร้อยบำทถว้ น) ใชจ้ ่ำยดงั น้ี 1.ค่ำอำหำรวำ่ ง เป็นเงิน 600 บำท 2.คำ่ แบบทดสอบ 60 ชุด เป็นเงิน 420 บำท 3.ค่ำปำกกำ 30 ดำ้ ม เป็นเงิน 150 บำท 4.คำ่ ฟองน้ำ 8 ชิ้น เป็นเงิน 220 บำท 5.คำ่ กำว 1 ขวด เป็นเงิน 30 บำท 6.คำ่ มีดคดั เตอร์ (เลก็ ) 11 ชิ้น เป็นเงิน 33 บำท รวมเป็ นเงิน 1453 บาท (หนุ่งพนั สี่ร้อยห้าสิบสามบาทถ้วน) หมายเหตุ : ทกุ รำยกำรสำมำรถถวั เฉล่ียได้

3.เครื่องมือและวิธีการในการประเมนิ ผล หลงั จำกที่ไดด้ ำเนินงำนตำมแผนของโครงกำรแลว้ น้ัน ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทำ้ ยจะเป็ นกิจกรรมในกำร ประเมินผลโครงกำร หำกพิจำรณำถึงควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงกำรวำงแผนกับกำรประเมินผลโครงกำร พบว่ำ กิจกรรมท้งั สองมีควำมสัมพนั ธ์ที่ตอ้ งดำเนินกำรควบคู่กัน โดยกำรวำงแผนโครงกำรเป็ นกิจกรรมของกำร กำหนด แนวทำงกำรนำไปปฏิบัติเพ่ือกำรบรรลุวตั ถุประสงค์ ส่วนกำรประเมินผลโครงกำรเป็ นกิจกรรม สุดทำ้ ยในกำรพิจำรณำผลกำรดำเนินงำนเป็นไปตำมแผนที่กำหนดหรือไม่ 3.1 เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการเกบ็ ข้อมูล 3.1.1 แบบทดสอบควำมรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วำมรู้ เคร่ืองมือท่ีใช้ในกำรเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือกำรประเมินในคร้ังน้ี เป็ นแบบสอบถำมที่ผูร้ ับผิดชอบ โครงกำรไดส้ ร้ำงข้นึ ใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงกำร ซ่ึงมีรำยละเอียดดงั น้ี ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐำนส่วนบคุ คล ไดแ้ ก่ เพศ อำยุ ระดบั กำรศึกษำ อำชีพ ส่วนที่ 2 ควำมรู้เรื่องคดั แยกขยะและกำรรีไซเค้ิลขยะ แบบสอบถำมเป็ นแบบเลือกคำตอบเพียง คำตอบเดียว คือ ถกู หรือ ผดิ จำนวน 10 ขอ้ กำหนดเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถกู ไดค้ ะแนนเทำ่ กบั 1 คะแนน ตอบผดิ ไดค้ ะแนนเท่ำกบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคติต่อกำรคดั แยกขยะและกำรรีไซเค้ลิ ขยะ แบบสอบถำมเป็นแบบเลือกคำตอบเพียง คำตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยำ่ งยง่ิ เห็นดว้ ย ไมแ่ น่ใจ ไม่เห็นดว้ ย ไมเ่ ห็นดว้ ยอยำ่ งยง่ิ ขอ้ คำถำมมีท้งั ดำ้ นบวกและ ดำ้ นลบจำนวน 10 ขอ้ กำหนดเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ดงั น้ี คำถำมเชิงบวก คำถำมเชิงลบ เห็นดว้ ยอยำ่ งยงิ่ ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 2 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ได้ 3 คะแนน ไม่เห็นดว้ ย ได้ 2 คะแนน ได้ 4 คะแนน ไมเ่ ห็นดว้ ยอยำ่ งยง่ิ ได้ 1 คะแนน ได้ 5 คะแนน

ส่วนท่ี 4 พฤติกรรมกำรปฏิบตั ิกำรแยกขยะและกำรรีไซดคิล้ แบบสอบถำมเป็นแบบเลือกตอบเพียงคำตอบเดียว คือ ปฏิบตั ิเป็นประจำ 7 วนั /สัปดำห์ ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง 5-6 วนั /สัปดำห์ ปฏิบตั ินำนๆ คร้ัง 3-4 วนั /สัปดำห์ ปฏิบตั ิ บำงคร้ัง 1-2 วนั /สปั ดำห์ ไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิเลย ขอ้ คำถำมเชิงบวก จำนวน 10 ขอ้ กำหนดเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ดงั น้ี ปฏิบตั ิเป็นประจำ(7 วนั /สปั ดำห)์ ได้ 5 คะแนน ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง (5-6 วนั /สัปดำห์) ได้ 4 คะแนน ปฏิบตั ินำนๆ คร้ัง (3-4 วนั /สัปดำห)์ ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิบำงคร้ัง (1-2 วนั /สปั ดำห์) ได้ 2 คะแนน ไม่ไดป้ ฏิบตั ิเลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินควำมพงึ พอใจกำรเขำ้ ร่วมโครงกำร โดยเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนควำมพงึ พอใจ ดงั น้ี ระดบั ควำมพึงพอใจมำกท่ีสุด 5 คะแนน ระดบั ควำมพึงพอใจมำก 4 คะแนน ระดบั ควำมพงึ พอใจปำนกลำง 3 คะแนน ระดบั ควำมพงึ พอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ควำมพงึ พอใจนอ้ ยท่ีสุด 1 คะแนน 3.2 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.4.1 ประเมินโดยกำรใหท้ ำแบบทดสอบก่อนใหค้ วำมรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จดั ทำแบบบนั ทึกกำร สำรวจ เป็นสมุดบนั ทึกกำรสำรวจขยะ โดยมีรำยละเอียดกำรจดบนั ทึก ดงั น้ี 3.4.1.1 ชนิดขยะ 3.4.1.2 จำนวนขยะ 3.4.1.3 ประเภทขยะ 3.4.1.4 กำรคำนวณค่ำ CI (Container index)

3.4.2 นำสมุดบนั ทึกกำรสำรวจและกำจดั ขยะใหผ้ เู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรบนั ทึก ณ วนั ทำโครงกำร 3.4.3 ให้ทำแบบทดสอบหลงั ให้ควำมรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จดั เก็บสมุดบนั ทึกกำรสำรวจคืนจำก ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร นำมำประเมินผล 3.4.4 หลงั จดั ทำโครงกำร 7 วนั ทำงผูจ้ ดั ทำโครงกำรลงพ้ืนท่ีที่จดั ทำโครงกำรอีกคร้ังโดยทำแบบบนั ทึก กำรสำรวจและกำจดั ขยะ นำผลกำรสำรวจคร้ังท่ี 1 จำกกำรสำรวจของผูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำร กบั คร้ังท่ี 2 จำกกำรลง สำรวจเองของทำงผจู้ ดั ทำโครงกำร นำมำเปรียบเทียบและประเมินผล 3.4.5 สรุปผลจำกแบบทดสอบก่อนและหลงั ให้ควำมรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จำกแบบบนั ทึกกำร สำรวจและกำจดั ลูกน้ำคร้ังท่ี 1 และคร้ังที่ 2 3.3 การวิเคราะห์ข้อมูล กำรวิเครำะหข์ อ้ มูลดงั รำยละเอียดตอ่ ไปน้ี 1. กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลส่วนบคุ คล ใชส้ ถิติกำรแจกแจงควำมถ่ี ( Frequency ) และร้อยละ( Percentage ) 2. กำรประเมินควำมพงึ พอใจ กำรประเมินควำมรู้ ใชส้ ถิติค่ำเฉลี่ย ( Ẋ ) และส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำน ( S.D.) 3.4 เกณฑ์ทใ่ี ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบควำมรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วำมรู้ 3.4.1.1 กำรแปลผลคะแนน สำหรับเกณฑ์กำรประเมินระดบั ควำมรู้เกี่ยวกบั เร่ืองกำรแยกขยะ และกำรรีไซเคิล้ ขยะ แบง่ ออกเป็น 3 ระดบั โดยใชว้ ธิ ีกำรกำหนดเกณฑต์ ำมช่วงคะแนน ตำมหลกั วิธีคดิ ของบลูม Bloom (1964อำ้ งถึงใน สมนึก แกว้ วไิ ล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ควำมรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้ึนไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปำนกลำง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 กำรแปลผลคะแนนสำหรับเกณฑก์ ำรประเมินทศั นคติ เกี่ยวกบั กำรแยกขยะและกำรรีไซ เค้ิลขยะ โดยใช้วิธีกำรกำหนดเกณฑ์ตำมช่วงคะแนนตำมหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อำ้ งถึงในกุลธิดำ เหมำเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี

ระดบั ทศั นคติ คำ่ ระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปำนกลำง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่ำ 1.00 - 2.33 3.4.1.3 กำรแปลผลคะแนนสำหรับเกณฑบ์ ่งช้ีพฤติกรรมกำรแยกขยะและกำรรีไซเคิ้ลขยะ โดย ใชว้ ิธีกำรกำหนดเกณฑต์ ำมช่วงคะแนนตำมหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อำ้ งถึงในกุลธิดำ เหมำเพชร และ คณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม คำ่ ระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปำนกลำง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่ำ 1.00 - 2.33 3.4.2 แบบประเมินควำมพึงพอใจกำรเขำ้ ร่วมโครงกำร โดยเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนควำมพงึ พอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉลี่ยสูงกวำ่ 4.50 มีควำมพึงพอใจในระดบั มำกท่ีสุด คะแนนเฉลี่ยระหวำ่ ง 3.50 – 4.49 มีควำมพงึ พอใจในระดบั มำก คะแนนเฉล่ียระหวำ่ ง 2.50 – 3.49 มีควำมพึงพอใจในระดบั ปำนกลำง คะแนนเฉลี่ยระหวำ่ ง 1.50 – 2.49 มีควำมพงึ พอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉลี่ยต่ำกวำ่ 1.50 มีควำมพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยที่สุด

4.ผลการประเมินการดาเนนิ โครงการ 4.1 ข้อมูลท่ัวไปของผ้ตู อบแบบประเมนิ ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรมี 30 คน จำกจำนวนท้งั หมด 40 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ซ่ึงขอ้ มูลทว่ั ไปในเร่ืองเพศ อำยรุ ะดบั กำรศึกษำ อำชีพ สถำนภำพ มีขอ้ มลู ดงั ตำรำงตอ่ ไปน้ี ตารางที่ 4.1.1 เพศของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร เพศ จานวน ร้อยละ หญิง 20 66.6 ชำย 10 33.3 รวม 30 100 จำกตำรำงแสดงขอ้ มูลเพศของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร พบวำ่ เพศหญิง มีจำนวน 50 คน คดิ เป็นร้อยละ66.6 และเพศชำยมีจำนวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 33.3 ตารางที่ 4.1.2 อำยขุ องผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร จานวน ร้อยละ 3 9.99 อายุ 12 39.96 ต่ำกวำ่ 20 ปี 10 33.3 5 16.75 20-30 - - 31-40 30 100 41-50 51 ปี ข้นึ ไป รวม จำกตำรำงแสดงขอ้ มลู อำยขุ องผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร พบวำ่ อำยุ 51 ปี ข้ึนไป มีจำนวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ0 อำยุ 41-50 ปี มีจำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 16.75 อำยุ 31-40 ปี มีจำนวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 33.3 อำยุ 20-30 ปี มีจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 39.96 และอำยตุ ่ำกวำ่ 20 ปี มีจำนวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 9.99 ตำมลำดบั อำยุ

ตารางที่ 4.1.3 ระดบั กำรศึกษำของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร ระดบั กำรศึกษำ จานวน ร้อยละ 33.3 ประถมศึกษำ 10 23.31 9.99 มธั ยมศึกษำ 7 33.4 0 อนุปริญญำ 3 100 ปริญญำตรี 10 อ่ืน ๆ 0 รวม 30 จำกตำรำงแสดงขอ้ มูลระดบั กำรศึกษำของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร พบว่ำ ระดบั อนุปริญญำ มีจำนวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 33.4 ระดบั ประถมศึกษำ มีจำนวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 33.3 ระดบั มธั ยมศึกษำ มีจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 23.31 ระดบั ระดบั อนุปริญญำ มีจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 9.99 และ ระดบั อื่น ๆ มีจำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตำมลำดบั ตารางที่ 4.1.4 อำชีพของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร อาชีพ จานวน ร้อยละ นกั เรียน/นกั ศึกษำ 5 16.65 ขำ้ รำชกำร 2 6.66 เกษตรกรรม 7 23.31 คำ้ ขำย/ธุรกิจ 3 9.99 รับจำ้ งทวั่ ไป/ลูกจำ้ ง 8 26.92 ไม่ไดป้ ระกอบอำชีพ/ทำงำนบำ้ น 5 16.65 อื่น ๆ 0 0 รวม 89 100 จำกตำรำงแสดงขอ้ มูลอำชีพของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร พบว่ำ รับจำ้ งทวั่ ไป/ลูกจำ้ ง มีจำนวน 8 คน คิดเป็น ร้อยละ 26.96 ไม่ไดป้ ระกอบอำชีพ/ทำงำนบำ้ น และนักเรียน/นกั ศึกษำ มีจำนวน 5 คน คิดเป็ นร้อยละ 16.65 อำชีพคำ้ ขำย/ธุรกิจ มีจำนวน 3 คน คิดเป็ นร้อยละ 9.99 อำชีพขำ้ รำชกำร มีจำนวน 2 คน คิดเป็ นร้อยละ 6.66 อำชีพอื่น ๆ มีจำนวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0 ตำมลำดบั

4.2 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ ตารางท่ี 4.2.1 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ รายการ สูงสุด ตา่ สุด เฉลย่ี ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ก่อนเขำ้ อบรม 6 2 0.04 ผลกำรทดสอบ - - - -- -- หลงั เขำ้ อบรม 10 8 0.02 45 50.56 44 49.44 ผลกำรทดสอบ - - - -- -- 73 82.02 16 17.98 จำกตำรำงที่ 4.2.1 พบว่ำประชำชนที่เขำ้ ร่วมโครงกำรมีคะแนนทดสอบควำมรู้ก่อนเขำ้ รับ กำร บรรยำยเก่ียวกบั กำรแยกขยะและกำรรีไซเคิ้ลขยะ ไดค้ ะแนนสูงสุด 6 คะแนน คะแนนต่ำสุด 2 คะแนน และมี คะแนนเฉลี่ย 0.04 คะแนน มีจำนวนผูผ้ ่ำนเกณฑ์จำนวน 15 คน คิดเป็ นร้อยละ 50 มีจำนวนผูไ้ ม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน 15 คน คดิ เป็นร้อยละ 50 และหลงั จำกกำรเขำ้ รับกำรบรรยำยเก่ียวกบั กำรแยกขยะและกำรรีไซเคิ้ลขยะ มี ผทู้ ดสอบควำมรู้ไดค้ ะแนนสูงสุด 10 คะแนน คะแนนต่ำสุด 8 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ย 0.02 คะแนน มีจำนวน ผผู้ ำ่ นเกณฑจ์ ำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 89.9 ซ่ึงผำ่ นตำมตวั ช้ีวดั ในหัวขอ้ จุดประสงคม์ ีผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรร้อย ละ 8๐ มีควำมรู้เกี่ยวกบั กำรแยกขยะและกำรรีไซเคิล้ ขยะ ในระดบั ดี ตารางที่ 4.2.2 คะแนนการทดสอบประเมินความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 2 3 9.99 3 2 6.66 4 2 6.66 5 13 43.29 6 10 33.4 รวม 30 100 จำกตำรำงท่ี 4.2.2 พบว่ำคะแนนทดสอบกำรประเมินควำมรู้ก่อนเขำ้ ร่วมโครงกำร มีคะแนน สูงสุด 5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 43.29 และคะแนนต่ำสุด 2 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 9.99

ตารางท่ี 4.2.3 คะแนนการทดสอบประเมนิ ความรู้หลงั เข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 8 7 23.31 9 13 43.29 10 10 33.4 รวม 30 100 จำกตำรำงที่ 4 พบวำ่ คะแนนทดสอบกำรประเมินควำมรู้หลงั เขำ้ ร่วมโครงกำร มีคะแนนสูงสุด 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 33.4 และคะแนนต่ำสุด 8 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 23.31 4.3 ผลการทาแบบประเมินความพงึ พอใจ ระดับความพงึ พอใจ ตารางที่ 4.3.1 ค่าเฉลยี่ ของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม x̄ S.D แปลผล ลาดับท่ี ประเด็น 4.673 0.193 มำกท่ีสุด 4.786 0.173 มำกท่ีสุด 1. ควำมพึงพอใจดำ้ นกระบวนกำร ข้นั ตอนกำรจดั กิจกรรม 4.678 0.219 มำกท่ีสุด 2. ควำมพงึ พอใจดำ้ นวิทยำกร 4.743 0.183 มำกที่สุด 3. ควำมพึงพอใจดำ้ นส่ิงอำนวยควำมสะดวก 4. ควำมพึงพอใจดำ้ นคุณภำพกำรจดั กิจกรรม จำกตำรำงที่ 4.3.1 คำ่ เฉล่ียของควำมพึงพอใจต่อโครงกำรภำพรวมพบวำ่ มีควำมพงึ พอใจดำ้ นคุณภำพ กำรให้บริกำรมำกที่สุด(x̄ = 4.833 ) รองลงมำ ควำมพึงพอใจดำ้ นเจำ้ หนำ้ ท่ีผใู้ ห้บริกำร ( x̄ = 4.786 ) และควำมพงึ พอใจ ดำ้ นกระบวนกำร / ข้นั ตอนกำรดำเนินโครง กำร ( x̄ = 4.673 ) นอ้ ยที่สุด

ตารางที่ 4.3.2 ค่าเฉลยี่ ของผลประเมนิ ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ รายละเอยี ด ระดับความพงึ พอใจ x̄ S.D แปลผล 1. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการ ข้ันตอนการจดั กจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมกำรจดั กิจกรรม 4.55 0.52 สูง 1.2 ลำดบั ข้นั ตอนในกำรจดั กิจกรรม 2.23 1.22 สูง 1.3 ระยะเวลำที่ใชใ้ นกำรจดั กิจกรรม 4.41 0.57 สูง 1.4 เอกสำรและส่ือประกอบในกำรจดั กิจกรรม 2.23 1.22 ต่ำ 1.5 ควำมเหมำะสมของกำรจดั กิจกรรม 4.50 0.55 สูง 2. ความพงึ พอใจด้านวิทยากร 2.1 กำรถ่ำยทอดควำมรู้ของวทิ ยำกรมีควำมชดั เจน 4.56 0.59 สูง 2.2 กำรตอบขอ้ ซกั ถำมในกำรจดั กิจกรรม 4.45 0.54 สูง 3. ความพงึ พอใจด้านสิ่งอานวยความสะดวก 3.1 สถำนท่ีจดั กิจกรรม 4.43 0.61 สูง 3.2 มีกำรใชเ้ ทคโนโลยอี ยำ่ งเหมำะสม 2.11 1.09 ต่ำ 4. ความพงึ พอใจด้านคณุ ภาพการจดั กจิ กรรม 4.1 ท่ำนไดร้ ับประโยชน์จำกกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมอยำ่ งคุม้ คำ่ 4.29 0.72 สูง 4.2 ท่ำนสำมำรถนำควำมรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น 4.29 0.65 สูง ชีวิตประจำวนั 3.84 0.34 สูง ผลรวม

4.4 สรุปผลการดาเนินงานโครงการ โครงกำรลดขยะ ลดโรค ใส่ใจส่ิงแวดล้อม หมู่ที่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกวั่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ มี วตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ในกำรแยกขยะและกำรรีไซเค้ิลขยะที่ถูกวิธีและเหมำะสม เพ่ือลดค่ำ ดัชนีขยะในชุมชน และเพ่ือให้ประชำชนมีส่วนร่วมในกำรลดขยะในครัวเรือน เป้ำหมำยเชิงคุณภำพ คือ ประชำชนมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ในกำรกำรแยกขยะและกำรรีไซเค้ิลขยะไดใ้ นระดบั ดี และเป้ำหมำยเชิงปริมำณ คือ ประชำชนชำวบำงใหญ่ เขำ้ ร่วม 30 คนหม่ทู ี่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกวั่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ เขำ้ ร่วมโครงกำร ร้อยละ 100 และมีค่ำดัชนีขยะ (HI,CI) ลดลงร้อยละ 10 รับผิดชอบโครงกำรโดยนำงำสำวอินทิรำ เปี ยหน้อ หลกั สูตรฉุกเฉินกำรแพทย์ ช้นั ปี ท่ี 2 รุ่นท่ี 15 โครงกำรน้ีไดด้ ำเนินโครงกำรท่ีหมู่ท่ี 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกวั่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ ต้งั แต่วนั ท่ี 15 เมษำยน 2563 ข้นั ตอนกำรดำเนินงำนท่ีสำคญั คือ วนั จดั กิจกรรม ใหผ้ ูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำรทำแบบทดสอบก่อนและ หลังให้ควำมรู้ มีกำรบรรยำยกำรแยกขยะและกำรรีไซเค้ิลขยะให้ควำมรู้เกี่ยวกับตำมหลกั 3 Rs รวมท้งั ทำ กิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) เพื่อระดมสมอง และทำแบบประเมินควำมพึงพอใจ และรีไซเค้ิลขวดน้ำเหลือใช้ ใหเ้ ป็น Face shield จำกกำรสำรวจขอ้ มูลครัวเรือนหมทู่ ี่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกว่ั ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ เดือนเมษำยน 2563 มีจำนวนครัวเรือนท้งั สิ้น 200 ครัวเรือน ซ่ึงจำกกำรสำรวจครัวเรือน พบวำ่ มีขยะท่ีสำรำรถรีไซเคิ้ลไดแ้ ต่ยงั มีกำรปล่อยทิ้ง จำนวน 150 ครัวเรือน (House Index) คิดเป็ นร้อยละ 75.34 หลงั จำกดำเนินโครงกำรไดท้ ำกำร สำรวจครัวเรือน เดือนเมษำยน 2563 จำนวนครัวเรือนท้งั สิ้น 200 ครัวเรือน พบว่ำ มีขยะ จำนวน 73 ครัวเรือน โดยมีค่ำร้อยละของบำ้ นสำรวจที่พบกำรปล่อยทิง้ ขยะท่ีสำมำรถีรไซเคิล้ (House Index) คดิ เป็นร้อยละ 36.5 มีค่ำ ลดลง สรุปจำกกำรทำโครงกำรลดขยะ ลดโรค ใสใ่ จสิ่งแวดล้อม ในคร้ังน้ี พบวำ่ หลงั จำกท่ีกล่มุ เป้ำหมำย ที่เขำ้ ร่วมรับฟังกำรให้ควำมรู้เร่ืองกำรแยกขยะและกำรรีไซเค้ิลขยะ กลุ่มเป้ำหมำยมีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและรู้จกั เลือกใชว้ ิธีกำรในกำรรีไซเค้ลิ ขยะ โดยอำศยั หลกั 3 Rs ทำใหอ้ ตั รำขยะของชำวบำ้ นหมู่ 4 ลดลง 4.5 ประโยชน์จากการทาโครงการ - ทำใหเ้ กิดกำรพฒั นำควำมคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะกำรวำงแผนอยำ่ งเป็นระบบและกำรกำหนด รูปแบบ ตำ่ งๆใหส้ อดคลอ้ งกนั

- ทำใหไ้ ดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั กำรทำงำน ประสำนงำน และติดตอ่ กบั หน่วยงำนต่ำง ๆ พร้อมท้งั มี กำร วำงแผนกำรทำงำนอยำ่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะกำรทำงำนร่วมกบั คนในชุมชน เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทำงแก่กำรทำงำนในอนำคต - กำรรู้จกั รับฟังควำมคิดเห็นของผอู้ ื่นรวมไปถึงกำรประสำนงำนหรือกำรติดตอ่ กบั หน่วยงำนตำ่ งๆ - ทำใหร้ ู้จกั กำรแกป้ ัญหำเฉพำะหนำ้ เม่ือเจอเหตุกำรณ์ที่ไม่ไดเ้ ป็นไปตำมแผนท่ีกำหนดไว้ 4.6 ปัญหาและอปุ สรรค - กำรดำเนินโครงกำรไม่เป็นไปตำมระยะเวลำท่ีกำหนด - ชำวบำ้ นวยั ทำงำนมีเวลำจำกดั ทำใหต้ อ้ งเร่งกำรจดั กิจกรรม - นกั ศึกษำผบู้ รรยำยใหค้ วำมรู้มีควำมตื่นเตน้ พดู เร็ว จึงทำใหผ้ ูเ้ ขำ้ ร่วมฟังไมท่ นั - เน่ืองจำกกลมุ่ เป้ำหมำยมีจำนวนมำก นกั ศึกษำผบู้ รรยำยจึงไมส่ ำมำรถตอบขอ้ ซกั ถำมไดอ้ ยำ่ งทวั่ ถึง 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีควำมพร้อมในกำรดำเนินโครงกำร 2. กำรทำกิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลำใหส้ ้ันกระชบั 3. ควรใหผ้ ูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำรมีส่วนร่วมมำกข้นึ เช่น กำรถำม-ตอบ เป็นตน้ 4. สื่อที่ใชค้ วรเนน้ ที่รูปภำพมำกกวำ่ ตวั หนงั สือ รวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรที่เห็นชดั เจน 5. ปรับกำรพดู ใหช้ ำ้ ลง 5.แนวทางการพฒั นางาน 5.1 แนวทางการพฒั นางาน จำกกำรจดั ประชุมกลุ่มเพื่อพิจำรณำหำขอ้ ผิดพลำด ปัญหำและอุปสรรคของกำรทำงำนรวมไป ถึงขอ้ เสนอแนะจำกผูด้ ูแลโครงกำร ซ่ึงนำมำสะทอ้ นถึงขอ้ ผิดพลำดและสำเหตุท่ีเกิดข้ึน และนำมำพฒั นำในกำร จดั โครงกำรหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ร่วมกบั ชุมชนต่อไป ปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไข กำรดำเนินโครงกำรที่ไม่ เวลำในกำรประสำนงำน รวมไปถึง กำรดำเนินงำนคร้ังต่อไป เป็นไปตำมระยะเวลำที่กำหนด กำรบรรยำยปรับแก้ล่ำช้ำและกำรไม่รู้ จะ ต้องมี กำรวำงแผนและ และกำรประชำสัมพนั ธ์ยงั ไม่ กำหนดกำร ทำให้ระยะเวลำดำเนินงำน จดั สรรเวลำในกำรดำเนินงำน ทวั่ ถึง ให้เป็ นระบบไม่ยืดย้ือเกินไป

ไม่สัมพนั ธ์กบั ระยะเวลำท่ีกำหนด และ เพื่อให้ระยะเวลำเหมำะสม กำรประชำสัมพนั ธไ์ ม่ทว่ั ถึง ตำมที่กำหนด กำรพูดต้องมีควำมมั่นใจ เนื่องจำกขำดประสบกำรณ์ จึงทำให้ กำรดำเนินงำนในคร้ังต่อไป ใบหน้ำยิ้มและกำรใช้น้ำเสียง กำรพูดติดขดั และสถำนที่เป็ นลำนกวำ้ ง จะมีกำรวำงแผน กำรเตรี ยม ตอ้ งสม่ำเสมอ จึงทำใหเ้ วลำพดู จะไม่คอ่ ยไดย้ นิ ค ว ำ ม พ ร้ อ ม ก่ อ น ก ำ ร ด ำ เ นิ น กิจกรรม นำเสนอวิชำกำรส่ือที่ใชค้ วร เน่ืองจำกขำดประสบกำรณ์ในกำร นำ ในกำรวำงแผนจดั ทำกิจกรรม เนน้ ท่ีรูปภำพมำกกวำ่ ตวั หนงั สือ เสนองำนในแหล่งชุมชน จึงมีกำรเนน้ ไป ค ร้ั ง ต่ อ ไ ป จ ะ ต้ อ ง มี ก ำ ร ที่วิชำกำร คำนึงถึง กลุ่มเป้ำหมำยและ ระดับควำมรู้ ควำมสนใจของ กลุ่มเป้ำหมำย ท้งั น้ี ส่ือจะตอ้ ง มีเน้ือหำที่กระชับและสื่อ ให้ เขำ้ ใจไดง้ ่ำย

บทที่ 5 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ อภิปรำยผล และขอ้ เสนอแนะ กำรจดั โครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ คร้ังน้ี มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือให้ นกั ศึกษำสำมำรถปฏิบตั ิกระบวนกำร ศึกษำชุมชนและแกไ้ ขปัญหำสุขภำพท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั งำนดำ้ นสุขภำพ ซ่ึง ประกอบดว้ ยกำรศึกษำชุมชน กำรเตรียมชุมชน และกำรวนิ ิจฉยั ชุมชน พร้อมท้งั กำรแกไ้ ขปัญหำและพฒั นำ ชุมชนซ่ึงประกอบไปดว้ ยกำร วำงแผน กำรดำเนินกำรตำมแผน และกำรประเมินผลกำรดำเนินงำน โดยมี รำยละเอียดดงั น้ี 5.1 สรุปผลโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ 5.2 อภิปรำยผลโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ 5.3 ขอ้ เสนอแนะโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ 5.1 สรุปผลโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ 5.1.1 ขอ้ มูลทวั่ ไป จำกกำรศึกษำชุมชนหมู่ที่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกว่ั ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ สำรวจ ชุมชนโดยใช้ แบบสอบถำม พบวำ่ ประชำกรที่ตอบแบบสอบถำม มีช่วงอำยตุ ่ำกวำ่ 20 ปี ร้อยละ 50 ช่วงอำยุ 20 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 50 สรุปไดว้ ่ำประชำกรในชุมชนที่ทำแบบสอบถำมอยใู่ นช่วงอำยุ ต่ำกวำ่ 20 ปี ถึง 20 ปี ข้ึนไป เท่ำกนั เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60 เป็นเพศชำย คิดเป็นร้อยละ 40 ประชำกรส่วนใหญ่ท่ีตอบแบบสอบถำม มีกำรศึกษำระดบั มธั ยมศึกษำตอนตน้ (ม.1-ม.3) ร้อยละ 50 รองลงมำระดบั กำรศึกษำมธั ยมศึกษำตอนปลำย (ม.4-ม.6) ร้อยละ 40 ระดบั ปริญญำตรี ร้อยละ 10 5.1.2 ขอ้ มูลดำ้ นระบบสุขภำพจำกกำรท่ีประชำกรตอบแบบสอบถำม สรุปไดว้ ำ่ ปัญหำปัญหำดำ้ น สุขภำพ มีคำ่ เฉล่ียเลขคณิตสูงท่ีสุดคอื 2.12 และมีค่ำเบี่ยงเบนมำตรฐำนอยทู่ ่ี 0.81 รองลงมำคอื มีดำ้ นกำรจดั กำร ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดลอ้ มและกำรท่องเที่ยวคำ่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคอื 2.06 และมีคำ่ เบี่ยงเบน มำตรฐำนอยทู่ ี่ 0.19

5.2 อภปิ รายผล จำกกำรศึกษำชุมชนหมู่ท่ี 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกวั่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ และกำรจดั ลำดบั ควำมสำคญั ของปัญหำโดยกำรมีส่วนร่วมของชุมชนโดยกำรทำประชำคม ซ่ึงพบว่ำปัญหำท่ีสมควรดำเนินกำรแกไ้ ขเป็ น อนั ดบั แรกคือ ดำ้ นสังคม เรื่องขยะในหมู่บำ้ นท่ีเพิ่มข้ึน ดว้ ยเหตุผลดงั กลำ่ วจึงไดจ้ ดั ทำโครงกำรเพ่ือดำเนินกำร แกไ้ ขปัญหำดำ้ นสังคม เร่ืองกำรแยกขยะและกำรรีไซเค้ลิ ขยะ ในชุมชน หมู่ที่ 4 ตำบลบำงนำยสี อำเภอตะกวั่ ป่ ำ จงั หวดั พงั งำ โดยมีกิจกรรมในโครงกำรประกอบดว้ ย 3 กิจกรรมหลกั คือ กำรบรรยำยใหค้ วำมรู้เกี่ยวกบั กำรแยก ขยะและกำรรีไซเคิล้ ขยะ กิจกรรมตอบคำถำมเก่ียวกบั กำรแยกขยะและกำรรีไซเคิ้ลขยะ และรีไซเคล้ิ ขวดน้ำเหลือ ใชใ้ หเ้ ป็น Face shield หลงั จำกใหค้ วำมรู้ ซ่ึงสำมำรถอภิปรำยผลไดด้ งั น้ีคือ 5.2.1 กิจกรรมใหค้ วำมรู้เรื่องกำรแยกขยะ พบวำ่ มีตวั แทนครัวเรือนและผนู้ ำชุมชนเขำ้ ร่วมในกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 100 และผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร ไดค้ วำมรู้เชิงทฤษฎีเพิม่ มำกข้ึน โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดบั ดี ซ่ึงบรรลุ ตำมเป้ำหมำย และกำรที่ประชำชนมีควำมรู้เก่ียวกบั กำรแยกขยะ มำกข้ึนทำใหป้ ระชำชนมีควำมรู้ในกำรรีไซเค้ิล ขยะ 5.2.2 กิจกรรมตอบคำถำมเกี่ยวกบั ควำมรู้กำรแยกขยะและกำรรีไซเคล้ิ ขยะ พบวำ่ ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร ใหค้ วำมร่วมมือในกำรทำกิจกรรม ทำใหม้ ี ควำมเขำ้ ใจมำกข้นึ โดยประเมินจำกกำรทดสอบควำมรู้หลงั ฝึกปฏิบตั ิ จริง 5.2.3 กิจกรรมกำรรีไซเค้ลิ ขวดน้ำเหลือใชใ้ หเ้ ป็น Face shield พบวำ่ ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรมีควำมรู้ใน เชิงปฏิบตั ิเพม่ิ มำกข้นึ พบวำ่ ประชำชนไดใ้ หค้ วำมสนใจ และร่วมกิจกรรมเป็นอยำ่ งดี โดยประชำชนท่ีเขำ้ ร่วม โครงกำรส่วนใหญม่ ีควำมพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ดี มำกกวำ่ ร้อยละ 80 ซ่ึงจำกกำรจดั ทำโครงกำรดงั กลำ่ วน้ีทำให้ ประชำชนมีควำมรู้ทกั ษะและสำมำรถปฏิบตั ิไดจ้ ริงในเรื่องกำรรีไซเค้ิลขยะเหลือใชใ้ นครัวเรือน

5.3 ข้อเสนอแนะการจัดโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะ 5.3.1.1 ในกำรจดั โครงกำร ควรมีกำรประชำสมั พนั ธใ์ หท้ ว่ั ถึง และใหเ้ ขำ้ ใจวตั ถุประสงคข์ องกิจกรรม 5.3.1.2 ควรมีกำรดึงประชำชนเขำ้ มำมีส่วนร่วมในกิจกรรมใหม้ ำกที่สุด โดยมีกิจกรรมสนั ทนำกำร ละลำยพฤติกรรมก่อนเขำ้ เน้ือหำบทเรียน 5.3.1.3 ควรมีกำรเพิ่มระยะเวลำในกำรจดั กิจกรรมโดยกำรติดตำมและประเมินผลโครงกำรอยำ่ งต่อเน่ือง เพื่อประเมินวำ่ ประชำชนมีควำมรู้ในเร่ืองกรำแยกขยะและกำรรีไซเคิล้ ขยะเหลือใชใ้ นครัวเรือน

ภาคผนวก

โครงกำร ลดขยะ ลดโรค ใส่ใจส่ิงแวดลอ้ ม วนั ท่ี 15เมษำยน 2563 ณ.หอ้ งเอนกประสงค์ มสั ยดิ ตอรีกอตลุ ยนั นะห์



แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาในชุมชน ชุมชนบ้านบางใหญ่ ต.บางนายสี อ.ตะกวั่ ป่ า จ.พงั งา คำช้ีแจง 1. แบบสอบถำมฉบบั น้ีใชส้ ำรวจขอ้ มูล สภำพปัญหำของประชำชนซ่ีงประกอบดว้ ยขอ้ มูลพ้ืนฐำน และ สภำพปัญหำ 5 ดำ้ น ไดแ้ ก่ ปัญหำดำ้ นเศรษฐกิจ ปัญหำดำ้ นสังคม ปัญหำกำรบริหำรจดั กำร ทรัพยำกรธรรมชำติ และส่ิงแวดลอ้ ม และปัญหำสุขภำพ 2. เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่สมบูรณ์ที่สุดแบบสอบถำมฉบบั น้ีใหผ้ สู้ ำรวจขอ้ มูล จำกตวั แทน ครัวเรือนทุก ครัวเรือน 3. ใหผ้ ตู้ อบสอบถำมตอบขอ้ มูลตำมสภำพจริงมำกที่สุด 1. ข้อมูลพื้นฐานของผ้ตู อบแบบสอบถาม 1.1 เพศ ชำย....... หญิง....... 1.2 สถำนภำพสมรส............................. 1.3 อำชีพหลกั ............................................. รำยไดเ้ ฉลี่ย/ปี ............................ อำชีพเสริม.............................................รำยไดเ้ ฉลี่ย/ปี ............................. 1.4 กำรศึกษำ................................................................................... 1.5 โรคประจำตวั ................................................................ 1.6 สมำชิกในครอบครัว.....................คน

2. แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชน ท่ี ปัญหำดำ้ นเศรษฐกิจ มำกท่ีสุด มำก ปำนกลำง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด (5) (4) (3) (2) (1) 1 รำยไดจ้ ำกกำรประกอบอำชีพหลกั ไม่ เพยี งพอ 2 ไม่มีอำชีพเสริม 3 หน้ีสินเพ่ิมข้นึ จำกกำรประกอบอำชีพ 4 กูเ้ งินจำกหน้ีนอกระบบเพิม่ ข้ึน 5 ครัวเรือนมีรำยไดไ้ ม่เพยี งพอในกำรใช้ จ่ำยประจำเดือน 6 ผลผลิตทำงกำรเกษตรตกต่ำ/ขำดทุน 7 กำรวำ่ งงำนของคนในชุมชนเพิม่ ข้ึน 8 ขำดควำมรู้เก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพียง แสดงควำมคิดเห็นสภำพปัญหำเพม่ิ เติม ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................

3.ปัญหาด้านสังคม ท่ี ปัญหำดำ้ นสังคม มำกท่ีสุด มำก ปำนกลำง นอ้ ย นอ้ ยที่สุด (5) (4) (3) (2) (1) 1 ยำเสพติดระบำดในชุมชนเพ่ิมข้ึน 2 กล่มุ คนในชุมชนขำดควำมเขำ้ ใจซ้ึงกนั และกนั ทะเลำะเบำะแวง้ กนั ขำดควำม สำมคั คี 3 คนในชุมชนขำดจิตส ำนึกในกำรพฒั นำ ตนเอง 4 สุขลกษั ณะเช่น ขยะมลู ฝอย/ฝ่นุ ละออง มลพิษใน ชุมชนเพมิ่ ข้ึน 5 เยำวชนทะเลำะวิวำทและไมไ่ ดเ้ รียนตอ่ แสดงควำมคิดเห็นสภำพปัญหำเพม่ิ เติม ......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................

4.ปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมและการท่องเทย่ี ว ที่ ปัญหำดำ้ นกำรจดั กำร มำกที่สุด มำก ปำนกลำง นอ้ ย นอ้ ยที่สุด (3) (2) (1) ทรัพยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดลอ้ ม (5) (4) 1 ระบบสำธำรณูปโภคบริโภคของชุมชน เช่น น้ำไฟฟ้ำ ไมเ่ พียงพอ 2 ขำดควำมรู้ดำ้ นสุขลกั ษณะและมีกำรดูแล ควำม สะอำดของหมู่บำ้ น 3 ป่ ำเส่ือมโทรมและมีกำรทำลำยทรัพยำกร ของชุมชน เพิ่มข้ึน 4 ประชำชนในชุมชนขำดจิตสำนกั ในกำร อนุรักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดลอ้ มของชุมชน 5 ประชำชนในชุมชนขำดควำมรู้ในกำร บริหำรจดั กำร ทรัพยำกรธรรมชำติและ ส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน แสดงควำมคิดเห็นสภำพปัญหำเพิ่มเติม .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook