Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการฝึกโครงการ-1valium

รายงานการฝึกโครงการ-1valium

Published by เบบี้' มายด์, 2020-04-17 06:37:14

Description: รายงานการฝึกโครงการ-1valium

Search

Read the Text Version

รายงานการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ บา้ นอูแบ หมู่4 ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา นางสาวอานิส อาสาบาโง รหสั ประจาตวั นกั ศึกษา 611250025 รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 รุ่นท่ี 15 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา

คำนำ รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชาโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ของนกั ศึกษาหลกั สูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ี นกั ศึกษาไดฝ้ ึกประสบการณ์ในพ้นื ที่ ชุมชนหมทู่ ี่ 4 บา้ นอูแบ ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา เป็นการศึกษาชุมชนในดา้ นต่าง ๆ มีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากชุมชน โดยการสมั ภาษณ์ สงั เกต และจากขอ้ มูลทตุ ิยภูมิเพอ่ื ใหท้ ราบ และเขา้ ใจถึงวิถีของคนในชุมชน และมองเห็นสภาพปัญหาตา่ ง ๆ ที่เกิดข้ึนภายในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาดา้ นฉุกเฉินการแพทย์ และนาไปสู่ การวางแผนพฒั นา แกไ้ ขปัญหาชุมชนไดอ้ ยา่ งตรงจุด และสอดคลอ้ งกบั วิถีชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของ ชุมชน อนั นาไปสู่การมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีภายในชุมชน ซ่ึงทาใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื เพื่อ เตรียมความพร้อมสู่การฝึกประสบการณ์จริง และเป็นบคุ ลากรทางดา้ นสาธารณสุขต่อไป ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ในเลม่ รายงานฉบบั น้ีจะสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ และเป็น แนวทางในการพฒั นา แกป้ ัญหาในดา้ นต่าง ๆ ของชุมชน และเพอื่ เป็นแนวทางในการศึกษาตอ่ ไป ผจู้ ดั ทา นางสาวอานิส อาสาบาโง

กติ ติกรรมประกำศ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพในคร้ังน้ี นกั ศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง ปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิริธร จงั หวดั ยะลา ไดท้ าการศึกษา ในพ้ืนที่ของตนเอง โดยการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพคร้ังน้ีนกั ศึกษาไดฝ้ ึกประสบการณ์ในพ้ืนท่ี บา้ นอูแบ ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลาไดส้ าเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี โดยไดร้ ับความกรุณาจากบุคคล หลายท่าน ทางกล่มุ นกั ศึกษารู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาท่ีมีให้ จึงใคร่ขอขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ภคั ณฐั วรี ขจร ที่ไดใ้ หค้ าแนะนา ที่ไดป้ ระสิทธ์ิประสาทวชิ า ก่อใหเ้ กิด ความรู้ในการฝึกปฏิบตั ิงาน จนสามารถปฏิบตั ิงานไดเ้ ป็นอยา่ งดี ขอขอบพระคณุ เจา้ หนา้ ที่อาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหม่บู า้ นในชุมชนหมูท่ ่ี 4 ท่ีคอยใหค้ วาม ช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตลอดการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพและใหค้ วามช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตลอดการฝึกปฏิบตั ิงานในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณชาวบา้ นชุมชน บา้ นอแู บ ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลาใหข้ อ้ มลู ใน การศึกษาคร้ังน้ี และเขา้ มามีส่วนร่วมในการดาเนินโครงการ ในทุกกิจกรรมที่นกั ศึกษาจดั ข้ึนและสาเร็จ ลุลว่ งไปไดด้ ว้ ยดี สุดทา้ ยน้ี นกั ศึกษาขอขอบพระคุณทุกทา่ นที่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ทาใหก้ ารฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะ วิชาชีพในคร้ังน้ี ประสบความสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี

สำรบญั หนา้ ก เร่ือง ข คานา ค กิตติกรรมประกาศ 1 สารบญั 1 บทที่ 1 บทนา 2 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 2 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั 3 1.3 กระบวนการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 3 บทที่ 2 บริบทชุมชน 4 2.1 เเผนที่เดินดิน 6 2.2 ฝังเครือญาติ 11 2.3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน 12 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 13 2.5 ปฏิทินชุมชน 14 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 17 2.7 ประวตั ิบุคคลสาคญั 17 บทที่ 3 การวนิ ิจฉยั ชุมชน 18 3.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวิเคราะหข์ อ้ มลู

3.3 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล 18 28 3.4 การวเิ คราะหส์ าเหตุของปัญหา 29 30 3.5 ปัญหาและการจดั ลาดบั ของปัญหา 30 39 บทที่ 4 แผนงาน/โครงการ 44 4.1 แผนงาน/โครงการ หนา้ 47 4.2 ระดบั ความพงึ พอใจตอ่ โครงการ 47 48 4.3 สรุปผลการดาเนินโครงการ 48 49 สำรบัญ ( ต่อ ) 50 52 เร่ือง 59 60 บทที่ 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 61 62 5.1 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.2 อภิปรายผล 5.3 ขอ้ เสนอแนะการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ภาคผนวก ภาคผนวก ก ภาพทากิจกรรมโครงการ ห่างไกลไขเ้ ลือดออก ภาคผนวก ข แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน ภาคผนวก ค แบบทดสอบความรู้เร่ืองไขเ้ ลือดออก ภาคผนวก ง แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการห่างไกล ไขเ้ ลือดออก ภาคผนวก จ แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการห่างไกล ไขเ้ ลือดออก บรรณานุกรม

บทที่ 1 บทนำ 1.1 ควำมเป็ นมำของกำรเตรียมฝึ กประสบกำรณ์วิชำชีพ รากฐานที่สาคญั ต่อการดารงชีวติ ของมนุษย์ คือ สุขภาพ ซ่ึงมีความเกี่ยวขอ้ งกบั ตวั บุคคล สังคม และ ส่ิงแวดลอ้ ม ปัจจยั ท้งั สามน้ีต่างกม็ ีความสมั พนั ธ์กนั หากขาดความสมดุลของปัจจยั ใดปัจจยั หน่ึง ก็จะทาให้ เกิดปัญหาสุขภาพได้ ซ่ึงในปัจจุบนั น้ีประเทศไทยไดน้ าแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติฉบบั ที่ 11 พ.ศ. 2555 - 2559 มาเป็นแม่บทในการพฒั นาประเทศ โดยมุ่งเนน้ ไปที่การพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อ ยกระดบั คณุ ภาพชีวติ ของประชาชน และเพือ่ การพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศใหม้ ีการเติบโตและ มีศกั ยภาพเพือ่ รองรับต่อกระแสการเปล่ียนแปลงของโลกในทุกดา้ น โดยเนน้ การส่งเสริม และการลดปัจจยั เสี่ยงดา้ นสุขภาพอยา่ งเป็นองคร์ วม โดยการส่งเสริมสุขภาพประชาชนใหม้ ีสุขภาวะที่ดีท้งั ทางดา้ นร่างกาย และจิตใจ พฒั นาความรู้และทกั ษะในการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชน ครอบครัว และชุมชน สร้างการ มีส่วนร่วมในการพฒั นานโยบายสาธารณะที่เอ้ือต่อสุขภาพควบคไู่ ปกบั การพฒั นาระบบบริการสาธารณสุข ใหม้ ีคณุ ภาพ การพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู สุขภาพของประเทศ และการพฒั นาบคุ ลากรทางดา้ นสาธารณสุขที่ เหมาะสมท้งั การผลิตและการกระจายบคุ ลากร เพ่ือใหป้ ระชาชนมีคณุ ภาพชีวติ ที่ดีและยง่ั ยนื ปัจจุบนั สังคมไทยไดม้ ีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว โดยการส่งเสริมสุขภาพน้นั ไดถ้ กู จดั ใหเ้ ป็น กระบวนการเพม่ิ ความสามารถของประชาชนในการควบคุมดูแลและพฒั นาสุขภาพของตนเองใหด้ ีข้ึน เพอื่ ใหบ้ รรลุสุขภาวะที่สมบูรณ์ท้งั ทางร่างกาย จิตใจ สงั คม และจิตวิญญาณ โดยท่ีประชาชนจะตอ้ งมี การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ และสามารถปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั การเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วของ สังคม สาหรับหน่วยงานทางดา้ นสาธารณสุข จะเห็นไดว้ า่ ปัจจุบนั ไดน้ าเอา \"การสาธารณสุขมลู ฐาน\" (Primary health care) มาเป็นพ้ืนฐานในการพฒั นาระบบสุขภาพซ่ึงเป็นหวั ใจหลกั ของการพฒั นาระบบ สุขภาพแบบเป็นองคร์ วม ซ่ึงเนน้ ที่ตวั ประชาชน ใหป้ ระชาชนมีบทบาทสาคญั ในการดูแลสุขภาพของ ตนเอง โดยในส่วนของภาครัฐบาลเองกจ็ ะมีหนา้ ที่ผลิตบคุ ลากรทางดา้ นสุขภาพใหเ้ พียงพอต่อความ ตอ้ งการของประชาชน โดยเฉพาะหน่วยบริการปฐมภูมิ ซ่ึงจะตอ้ งมีศกั ยภาพในการใหบ้ ริการสุขภาพแก่ ประชาชน ในส่วนของประชาชนก็มีบทบาทมากข้ึนในระบบสุขภาพ เรียกวา่ \"ระบบสุขภาพภาคประชาชน\" กล่าวคือ ใหป้ ระชาชนมีบทบาทสาคญั ในการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยการส่งเสริมใหป้ ระชาชนมี

1.2 วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือใหน้ กั ศึกษามีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทกั ษะการฝึกประสบการณ์ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ดว้ ยกระบวนการศึกษาชุมชน การแกไ้ ขปัญหา และพฒั นาสุขภาพชุมชนแบบองคร์ วม และใหน้ กั ศึกษามีการ คิด วิเคราะห์ ประมวลความรู้รอบดา้ น ท้งั จากชุมชนและนอกชุมชนตลอดจนความรู้เชิงสากล ดว้ ยวิธีการ ศึกษาชุมชน การเตรียมชุมชน การวินิจฉยั ชุมชน และการปฏิบตั ิการแกป้ ัญหาและพฒั นาสุขภาพในชุมชน โดยการวางแผนงาน/ โครงการ การดาเนินการตามแผนงาน/โครงการ การปะเมินผล/งาน/โครงการ การ จดั ทารายงาน รวมถึงการนาไปสู่การปฏิบตั ิตนตามความจาเป็น ความตอ้ งการ และความพึงพอใจ ใหบ้ รรลุ ถึงประสิทธิผลไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพสูงสุด และเพอื่ เป็นการพฒั นาศกั ยภาพของนกั ศึกษาใหส้ ามารถ ดาเนินงานสาธารณสุขไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เม่ือสาเร็จการศึกษา 1.3 กระบวนกำรเตรียมฝึ กโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ 1.3.1 กรอบแนวคิดกำรฝึ กโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ปัญหาดา้ นสุขภาพดา้ นในชุมชน บา้ นอแู บ ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ภำพท่ี 1.1 กรอบแนวคิดกำรเตรียมฝึ กโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ

บทที่ 2 บริบทชุมชน 2.1 แผนที่เดินดิน 2.2 ฝังเครือญาติ 2.3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 2.5 ปฏิทินชุมชน 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 2.7 ประวตั ิชีวิตบคุ คลสาคญั 2.1 แผนที่เดินดนิ

2.2 ผงั เครือญำติ เป็นเครื่องมือเขา้ ใจความสัมพนั ธ์แบบเครือญาติ ทาใหร้ ู้ว่าใครเป็นใครและมีความสัมพนั ธก์ บั คนอ่ืนๆ ใน ชุมชนอยา่ งไรเครือญาติเป็นส่วนสาคญั ของอตั ลกั ษณ์บุคคล ผงั เครือญาติจึงเป็นเครื่องมือสาคญั ในการทา ความรู้จกั ผคู้ นในระบบความสัมพนั ธ์พ้นื ฐานของเขา การไดร้ ู้วา่ คนในชุมชนแตล่ ะคนมีญาติพน่ี อ้ งเป็นใคร บา้ ง ทาใหเ้ ห็นรายละเอียดเก่ียวกบั ชีวติ ทางสงั คมของเขาไดม้ ากข้นึ การทาผงั เครือญาติจึงเป็นวธิ ีการช่วยให้ เราสามารถจดจาและรู้จกั คุน้ เคยกบั คนในชุมชนเป็นจานวนมาก เป้าหมายสาคญั ของผงั เครือญาติ 1.เขา้ ใจโครงสร้างความสัมพนั ธเ์ ชิงเครือญาติซ่ึงเป็นรากฐานของครอบครัวและชุมชน 2.รู้จกั ตวั บุคคลและความสัมพนั ธ์ทางสงั คมของเขาไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้นั 3.ช่วยสร้างความสมั พนั ธแ์ ละความสนิทคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ที่กบั ชาวบา้ นไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4. ทาใหท้ ราบเก่ียวกบั สุขภาพหรือโรคติดตอ่ ของคนในครอบครัว เพื่อป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสุขภาพน้นั ๆ

ผงั เครือญำติ

3. โครงสร้ำงองค์กรชุมชน รำยชื่อประธำนและอำสำสมคั รชุมชน นายมะเฮะ สามะแก ประธาน นายอสุ มาน ดอละ รองประธาน นางคอลาตี มะมุพิ นายฮาเรฟ มะแล เลขานุการ กรรมการฝ่ายสวสั ดิการสงั คม นายมะโดะ โซเฟี ดะ นายอิสมาแอ เยงยนู อ กรรมการฝ่ายพฒั นา กรรมการฝ่ ายป้องกนั นายอาซิ สะละเร็ง นายฮาเซ็ง เยงยนู อ กรรมการฝ่ ายกลุ่มสตรี กรรมการฝ่ ายการคลงั นายอบั ดุลเลาะ ตานิแร นายบือราเฮง ยะมะแล กรรมการฝ่ายกลุม่ สตรี กรรมการฝ่ ายการศึกษา

รำยช่ือคณะกรรมกำรทปี่ รึกษำชุมชน นายสมมาศ มะมุพิ ที่ปรึกษา นายมะ ตานิแร ท่ีปรึกษา นายเลาะแม ดามาแล ที่ปรึกษา นายกายา เยงยนู อ ที่ปรึกษา นายอเู ซ็ง มะแส ท่ีปรึกษา

รำยชื่อประธำนอำสำสมคั รสำธำรณสุขชุมชน บ้ำนอแู บ หมู่4 ตำบลยะต๊ะ อำเภอรำมนั จังหวดั ยะลำ นายอบั ดุลเลาะ เตะมะแอ ประธานอาสาสมคั รสาธารสุข นายมะสุดิง ตาเละ นางปื อเสาะ จิตอาลี สมาชิกอาสาสมคั ร สมาชิกอาสาสมคั ร สาธารณสุข สาธารณสุข นางสาวซากีนะ เซะบารู นางมาสีเตาะ เช็งกะชรี สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั ร นางรอฮีมะ ลงซา สาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางรอเมาะ โดมะดา นางสารีฮะ ลงซา สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั ร สาธารณสุข นายเจะ๊ หะมะ โมง สมาชิกอาสาสมคั ร สาธารณสุข อาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชนหมู่ที่ 4 เป็นองคก์ รท่ีดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน เฝ้าคอยระวงั โรค ตา่ ง ๆ ในชุมชน มีบทบาทใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพของชุมชน โดยมี นางสาวประภา ดาบา้ นใหม่ เป็นประธาน โดยบทบาทหลกั ๆ ของ อาสาสมคั รสาธารณสุขในชุมชนหม่ทู ี่ 4 ส่วนใหญจ่ ะประชาสัมพนั ธ์ เกี่ยวกบั การตรวจสุขภาพของประชาชน รวมท้งั เชิญชวนใหป้ ระชาชนเขา้ รับการอบรมใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การ ดูแลสุขภาพของตนเองและสมาชิกในครัวเรือน

กลุ่มสตรี นำง ฮำซำนะ ลงซำ หวั หน้ำกล่มุ สตรี คณะกรรมการพฒั นาสตรีเป็นกลุ่มเป้าหมายในการดาเนินการขบั เคลื่อนการดาเนินงานจดั ประชุมสตรีใน หมบู่ า้ นเพ่อื แนะนาการจดั ทาครอบครัวพฒั นาตามคุณลกั ษณะที่กาหนดร่วมกบั ครอบครัวเป้าหมายที่เขา้ ร่วม โครงการวางแผนการพฒั นาประสานองคก์ ร/หน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งเพือ่ ร่วมส่งเสริมและพฒั นาครอบครัว กลุ่มผู้สูงอำยุ นำย เด๊ะแว เซ็งกะชรี หวั หน้ำกลุ่มผ้สู ูงอำยุ ชมรมผสู้ ูงอายเุ ป็นการรวมกลุ่มของผสู้ ูงอายทุ ี่มีอายเุ กิน ๖๐ ปี ข้นึ ไป อยา่ งนอ้ ย ๓๐ คน และอาจมีคนวยั อ่ืน ท้งั วยั ทางาน เดก็ เยาวชน เขา้ ร่วมเป็นสมาชิกสมทบ แตไ่ ม่ควรเกิน ๑ ใน ๔ ของสมาชิกท่ีเป็นวยั สูงอายโุ ดย มีวตั ถปุ ระสงคต์ รงกนั ในการดาเนินกิจกรรมท่ีเป็นประโยชนท์ ้งั ตอ่ ตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และมี การกาหนดระเบียบขอ้ บงั คบั ในการบริหารชมรม ท้งั น้ี ชมรมผสู้ ูงอายอุ าจอยภู่ ายใตส้ งั กดั หน่วยงาน องคก์ ร หรืออาจเป็นชมรมอิสระท่ีไม่สังกดั หน่วยงานใดกไ็ ด้

4.ระบบสุขภำพ ระบบสุขภำพชุมชน บ้ำนอูแบ หมู่4 ตำบลยะต๊ะ อำเภอรำมัน จงั หวดั ยะลำ อำหำร ยำ โรงพยาบาล อาหารตามสัง่ ยาสมนุ ไพร รพ.รามนั ผกั จากตลาด ยาสามญั ประจาบา้ น รพ.สต.บา้ นยะ๊ ตะ๊ ผกั สวนครัว

5. ปฏิทินชุมชน - ทกุ วนั ศกุ ร์ มีการละหมาดร่วมกนั ท่ีมสั ยดิ - ทุกวนั เสาร์(เท่ียง) มีการเรียนการสอนศาสนาใหผ้ ทู้ ่ีมีความสนใจ โดยผนู้ าศาสนา - ทุกวนั พฤหสั บดี มีการจดั ขายของและมีการบรรยายใหแ้ ก่ชาวบา้ นในหม่บู า้ น - ทกุ วนั พธุ จะมีกิจกรรมสาหรับผพู้ กิ าร เช่น ฟังบรรยาย - ตน้ เดือนเมษา มีการจดั กีฬาต่อตา้ นยาเสพติดองคก์ ารบริหารส่วน ตาบลยะต๊ะ -วนั ที่ 12 มกราคม จดั งานวนั เด็ก - 24-26 เมษายน กาหนดการถือศีลอด - 24-25 พฤษภาคม กาหนดวนั อีดีลฟิ ตรี - 26 สิงหาคม วนั อีดีลอตั ฮา

6. ประวตั ศิ ำสตร์ชุมชน พ้ืนท่ีท้งั หมด 1,055 ไร่ กิโลเมตร พิกดั GPS หมู่ที่ 4 ต้งั อยใู่ นตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ห่างจาก อาเภอรามนั ไปทางทิศตะวนั ตก 12 กิโลเมตร ห่างจากจงั หวดั ยะลา ไปทางทิศตะวนั ออก 19 กิโลเมตร มี อาณาเขตติดต่อ ดงั น้ี ทิศเหนือ ติดต่อกบั หม่ทู ี่ 1 ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ทิศใต้ ติดต่อกบั หม่ทู ี่ 2 ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ทิศตะวนั ออก ติดต่อกบั ตาบลบือมงั อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ทิศตะวนั ตก ติดต่อกบั หมทู่ ่ี 3 ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ลกั ษณะภูมิประเทศ หมู่บา้ นอูแบ หมทู่ ี่ 4 ตาบลยะต๊ะ มีสภาพพ้ืนที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม โดยเฉล่ียเป็นที่ราบคอ่ นขา้ งสูง และ ภูเขาสลบั ซบั ซอ้ น เหมาะสาหรับการปลกู ยางพารา ไมผ้ ลและไมย้ นื ตน้ ลกั ษณะภูมอิ ำกำศ มีสภาพภมู ิอากาศแบบร้อนช้ืน คอื มี 2 ฤดู ดงั น้ี ในช่วงเดือนกมุ ภาพนั ธ์-เมษายน เป็นช่วงฤดูร้อนและ ในช่วงเดือนพฤษภาคม – มกราคม เป็นช่วงฤดูฝน

7.ประวัติชีวิตบุคคลทน่ี ่ำสนใจ ข้อมูลทัว่ ไป -นายสุเฟี ยน อาสาบาโง - เกิดเมื่อวนั ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2535 ปัจจุบนั อายุ 27 ปี - สญั ชาติ ไทย นบั ถือศาสนาอิสลาม ประวตั ิด้ำนกำรศึกษ - จบช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 จากโรงเรียนบา้ นยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา - จบช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนคณะราษฎร์บารุงจงั หวดั ยะลา - ปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง ประวตั ิด้ำนกำรทำงำน - บณั ฑิตอาสา

บทที่ 3 กำรวินจิ ฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 4บา้ นอูแบ ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ในคร้ังน้ีเป็นการศึกษาในรูปแบบ การสารวจ สงั เกต การสมั ภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวินิจฉยั ชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู 3.3 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล 3.4 ปัญหา และการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา 3.5 การวิเคราะหส์ าเหตุของปัญหา 3.1 กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ เป็นการเกบ็ ขอ้ มลู เพิ่มเติมจากแหลง่ ทุติยภูมิ ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวมี ความสาคญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้นึ และขอ้ มูลที่ไดเ้ ป็นขอ้ มูลปัจจุบนั มาก ที่สุด วธิ ีการเก็บรวมรวบขอ้ มูลปฐมภมู ิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสงั เกต เป็นการสังเกตสภาพทวั่ ไปของชุมชนและพฤติกรรมตา่ ง ๆ ของประชาชน ในชุมชน โดย ท่ีผถู้ ูกสังเกตไม่รู้ตวั เพื่อนาขอ้ มลู มาสนบั สนุนในการวิเคราะห์ปัญหา 3.1.1.2 การสัมภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามที่เตรียมคาถามต่าง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และจดั พิมพ์ ไวเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาหรับใชก้ บั ผถู้ กู สมั ภาษณ์ทุกคน โดยคาถามจะเป็นท้งั คาถาม แบบปลายปิ ดและ แบบปลายเปิ ด เพ่ือเปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ กู สมั ภาษณ์แสดงความคดิ เห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มูลทตุ ิยภูมิ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลทตุ ิยภูมิ หรือขอ้ มลู ท่ีรวบรวมไวท้ ่ีองคก์ รในหมู่บา้ น ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กลา่ วน้นั ทาใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใด เพม่ิ เติม เพ่ือนามาใชใ้ น การสนบั สนุนใน กระบวนการวิเคราะห์ปัญหา

กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถำมแบ่งออกเป็ น 5 ตอน ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป ตอนท่ี 2 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก ตอนที่ 3 ขอ้ มลู ดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนที่ 4 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั โรค ตอนที่ 5 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้ 3.2 กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ขอ้ มูลท่ีไดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนามาวิเคราะห์ตามข้นั ตอนการวเิ คราะหข์ อ้ มูล ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มูลดิบเป็นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความสมบูรณ์ของขอ้ มลู 3.2.2 การแจกแจงความถี่ โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป แลว้ นามาวเิ คราะห์ขอ้ มูลในรูปแบบ ร้อยละ และ นาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพื่อความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มูลสาหรับขอ้ มูลเชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มลู เชิงคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพ่ือความเขา้ ใจ 3.3 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล จากการศึกษาชุมชนหม่ทู ี่ 4บา้ นอูแบ ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา จานวนครัวเรือน โดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงานตา่ ง ๆ จากสานกั งานกระทรวงสาธารณสุข จงั หวดั ยะลาและ อาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมบู่ า้ นในชุมชน ซ่ึงจะนาเสนอตามลาดบั ดงั ต่อไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป จากการสารวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชน หมู่ท่ี 4 บา้ นอแู บ ตาบลยะต๊ะ อาเภอรา มนั จงั หวดั ยะลา ทาใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ

3.1.2 การรวบรวมขอ้ มลู ทุติยภมู ิ เป็นการรวบรวมขอ้ มลู ทุติยภมู ิ หรือขอ้ มูลที่รวบรวมไวท้ ่ีองคก์ รในหมูบ่ า้ น ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กลา่ วน้นั ทาใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใด เพิ่มเติม เพื่อนามาใชใ้ น การสนบั สนุนใน กระบวนการวิเคราะหป์ ัญหา การเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสอบถามแบง่ ออกเป็น 5 ตอน ดงั น้ี ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทว่ั ไป ตอนที่ 2 ขอ้ มลู ความรู้เก่ียวกบั โรคเกาต์ ตอนท่ี 3 ขอ้ มลู ดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนท่ี 4 ขอ้ มูลความรู้เก่ียวกบั โรค ตอนที่ 5 ขอ้ มลู ความรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้ 3.2 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ขอ้ มลู ที่ไดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนามาวิเคราะห์ตามข้นั ตอนการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มูลดิบเป็นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความสมบรู ณ์ของขอ้ มลู 3.2.2 การแจกแจงความถี่ โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป แลว้ นามาวิเคราะห์ขอ้ มลู ในรูปแบบ ร้อย ละ และนาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพ่ือความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มูลสาหรับ ขอ้ มลู เชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพอื่ ความเขา้ ใจ 3.3 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู จากการศึกษาชุมชนบา้ นอูแบ หม4ู่ ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา จานวนครัวเรือน โดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มลู จากรายงานต่าง ๆ จากสานกั งานกระทรวง สาธารณสุข จงั หวดั ตรังและอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมบู่ า้ นในชุมชน ซ่ึงจะนาเสนอ ตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มูลทวั่ ไป จากการสารวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชน บา้ นอูแบ หมู่4 ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ทาใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ

ตำรำงที่ 1 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนเพศ (ของกล่มุ ตัวอย่ำง n= 10 ) เพศ จานวน ร้อยละ เพศชาย 3 30% เพศหญิง 7 70% รวม 10 100 % ตำรำงที่ 2 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนอำยุ อายุ จานวน ร้อยละ 1. ต่ากว่า 20 ปี -- 2. 20-30 ปี 1 10% 3. 31-40 ปี 3 30% 4. 41-50 ปี 2 20% 5. 51-60 ปี 4 40% 6. 60 ปี ข้ึนไป -- รวม 10 100% จากตาราง2 พบวา่ ประชาชนกลุ่มตวั อย่างในชุมชนส่วนใหญ่มีอายุอยใู่ นช่วง 20-30 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 10% และอายอุ ยใู่ นช่วง 31-40 ปี ร้อยละ 30% และอายอุ ยใู่ นช่วง41-50 ปี ร้อยละ 20% และอายอุ ยู่ในช่วง 51-60 ปี ร้อยละ 40%

ตำรำงที่ 3 แสดงค่ำร้อยละของศำสนำ ศาสนา จานวน ร้อยละ อิสลาม 10 100% พทุ ธ - - รวม 10 100 % จากตารางที่3 พบวา่ ศาสนาของประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งส่วนใหญศ่ าสนาอิสลาม ร้อยละ 80 รองลงมา ศาสนาพุทธ ร้อยละ 20 ตามลาดบั ตำรำงที่ 4 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพสมรส สถานภาพสมรส จานวน ร้อยละ โสด 1 10 % สมรส 8 80% หยา่ 1 10 % รวม 10 100 % จากตารางท่ี4 พบวา่ สถานภาพของประชาชนกลุ่มตวั อยา่ งส่วนใหญ่สมรส ร้อยละ 80 รองลงมามี สถานภาพโสด ร้อยละ 10 ตามลาดบั

ตำรำงที่ 5 แสดงค่ำร้อยละของระดับกำรศึกษำสูงสุด ระดบั การศึกษาสูงสุด จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ ประถมศึกษา - - ประถมศึกษา 2 20% มธั ยมศึกษาตอนตน้ 1 10% มธั ยมศึกษาตอนปลาย 2 20% อนุปริญญาตรี/ปวส. 1 10% ปริญญาตรีข้นั ไป 4 40% รวม 10 100 % จากตาราง4 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชุมชนส่วนใหญศ่ ึกษาอยใู่ นระดบั ปริญญาตรีข้นั ไป ร้อยละ 40 รองลงมาศึกษาอยใู่ นระดบั มธั ยมศึกษาตอนป ร้อยละ20 รองลงมาศึกษาอยใู่ นระดบั ประถมศึกษา ร้อยละ20 และรองลงมาศึกษาอยใู่ นมธั ยมศึกษาตอนตน้ ร้อยละ10 ตามลาดบั ตำรำงท่ี 6 แสดงค่ำร้อยละของอำชีพหลกั ของครอบครัว อาชีพหลกั ของครอบครัว จานวน ร้อยละ กาลงั ศึกษาอยู่ -- เกษตรกร 8 80 % คา้ ขาย - - ขา้ ราชการ/ลกู จา้ งหรือ - - พนกั งานของรัฐ พนกั งานเอกชน 1 10 %

รับจา้ งทว่ั ไป 1 10 % รวม 10 100 % จากตาราง 5 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชุมชนส่วนใหญม่ ีอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 80 รองลงมา จะประกอบอาชีพพนกั งานเอกชน ร้อยละ10 และประกอบอาชีพรับจา้ งทว่ั ไป ร้อยละ 10 ตามลาดบั ตำรำงที่7 แสดงค่ำร้อยละของประวตั กิ ำรมีโรคประจำตวั ของกล่มุ ตัวอย่ำง (n = 10 คน) โรคประจาตวั จานวน ร้อยละ โรคไขมนั เกิน 1 10% โรคเบาหวาน 2 20% อ่ืนๆ(ไม่มีโรคประจาตวั ) 7 70% รวม 10 !00% จากตารางที่ 6 พบวา่ ประชาชนกลุ่มตวั อยา่ งในชุมชนส่วนใหญ่ไมม่ ีโรคประจาตวั ร้อยละ 70 รองลงมา โรคเบาหวาน ร้อยละ20 และมีโรคประจาตวั เป็นโรคไขมนั เกิน ร้อยละ 10 ตามลาดบั

ตำรำงท่ี8 ปัญหำด้ำนเศรษฐกจิ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ ท่ีสุด 4 กลาง 2 ที่สุด x̄ S.D. 53 1 1 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพ 10% 30% 30% 30% - 2.9 0.99 หลกั ไม่เพียงพอ 2 ไมม่ ีอาชีพเสริม 20% 10% 40% 20% - 3.7 1.06 3 กเู้ งินจากหน้ีนอกและในระบบ 10% 20% 20% 30% 20% 3.2 1.23 4 มีรายไดไ้ ม่เพยี งพอในการใชจ้ ่าย - 40% 40% 20% - 3.5 0.71 ประจาเดือน 5 มีหน้ีสินเพิม่ ข้ึนจากการประกอบ 20% 30% 40% 10% 3.2 1.03 อาชีพ 6 ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า/ 30% 40% 20% - 10% 3.8 1.03 ขาดทนุ 7 การวา่ งงานของคนในชุมชน - 70% 10% 20% - 3.7 0.82 เพ่มิ ข้นึ 8 ขาดที่ดินทากินเป็นของตนเอง - 40% 20% 20% 10% 3.3 0.82 9 เกิดภยั แลง้ ซ้าซากในชุมชน - 20% 60% - 10% 3.2 0.42 10 มีการเลน่ การพนนั ในชุมชน - 40% 20% 30% - 3.3 0.82 11 ขาดความรู้เก่ียวกบั เศรษฐกิจ - 30% 20% 40% 3.1 0.88 พอเพยี ง

รวม 3.35 0.21 ตำรำงที่9 ปัญหำด้ำนสังคม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ท่ี ปัญหาดา้ นสงั คม ที่สุด กลาง ที่สุด x̄ S.D. 5 4 321 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพ่ิมข้ึน 30% 30% 20% 10% - 3.8 1.23 2 กล่มุ คนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ่ึงกนั – 20% 60% 20% - 3 0.67 และกนั ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี 3 คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นา - 30% 50% 20% - 2.7 0.67 ตนเอง 4 คนในชุมชนขาดความช่วยเหลือและ - - 70% 30% - 2.5 0.71 เอ้ือเฟ้ื อเผ่อื แผ่ 5 ความเหล่ือมล้าทางสังคมของคนรวย - - 60% 30% - 2.5 0.71 และคนจน ในชุมชน 6 สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่นุ ละออง - 20% 70% 10% - 3 0.67 มลพษิ ใน ชุมชนเพมิ่ ข้ึน 7 ขาดสวสั ดิการของหมู่บา้ น - 30% 50% 20% - 3.3 0.48

8 ความเชื่อและประเพณีของหมู่บา้ นทา - 10% 50% 30% - 2.9 0.74 ใหข้ ดั แยง้ 10% 50% 20% 10% 3.1 0.57 ทางสังคม 2.98 0.21 9 เยาวชนทะเลาะววิ าทและไม่ไดเ้ รียนตอ่ - รวม ตำรำงที่10 ปัญหำด้ำนกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นการจดั การ ท่ีสุด กลาง ท่ีสุด x̄ S.D. ทรัพยากรธรรมชาติและ 54 3 21 สิ่งแวดลอ้ ม 1 ระบบสาธารณูปโภคบริโภคของชุมชน - 40% 40% 20% - 3.5 0.71 เช่น น้าประปาและไฟฟ้าไมเ่ พยี งพอ 2 ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการ - 30% 20% 30% 20% 3.1 0.88 ดูแลความ สะอาดของหมบู่ า้ น 3 ป่ าเสื่อมโทรมและมีการทาลาย - 40% 20% 40% - 3 0.94 ทรัพยากรของชุมชนเพ่ิมข้ึน 4 ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการ - 40% 20% 30% - 3.1 0.88 บริหารจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ

สิ่งแวดลอ้ มของชุมชน 5 ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ - 40% 30% 30% - 3 0.94 ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน 6 ประชาชนในชุมชนขาดจิตสานึกในการ - 50% 30% 20% - 3.3 0.82 อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของชุมชน รวม 3.17 0.09 ตำรำงท่ี 11 แสดงค่ำร้อยละของอำกำรเจบ็ ป่ วยอำกำร/โรค ในช่วง 6 เดือน – 1 ปี อาการ/โรค จานวน ร้อยละ .เจ็บป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ 3 30 % โรคติดต่อ เช่น อุจจาระร่วง ไขเ้ ลือดออก วณั โรค โรคอ่ืนๆโปรดระบุ - - โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดนั โรคอื่นๆโปรดระบุ 2 20% ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วิตกกงั วล/เครียด ติดยา/สารเสพติด ติดสุราเร้ือรัง - - อื่นๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดูก 5 50%

ตำรำงท่1ี 2 ปัญหำด้ำนสุขภำพและพฤตกิ รรมกำรดแู ลสุขภำพตัวเองและครอบครัว บ่อย บ่อย นานๆ บางคร้ัง ไม่ เคย ท่ี พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เอง ท่ีสุด คร้ัง x̄ S.D. 1 และครอบครัว 543 2 1 ประจาวนั ทา่ นทานอาหารครบ 3 ม้ือ 60% 40% - - - 4.5 1.24 2 ท่านทานอาหารแตล่ ะม้ือครบท้งั 5 10% 50% 40% - - 3.7 0.98 หมู่ 3 ทา่ นดื่มเหลา้ 10% - 20% 10% 60% 1.8 0.94 4 ท่านชอบสูบบุหรี่ - - - 30% 70% 1 0.90 5 ท่านออกกาลงั กาย 40% 10% 20% 30% - 3.2 0.82 6 ท่านนอนหลบั พกั ผอ่ น 8 ชม. - 40% 40% 20% - 3.4 0.82 7 ท่านลา้ งมือทกุ คร้ังก่อนรับประทาน 50% 30% 20% - - 3.7 0.82 อาหาร 8 ท่านตรวจสุขภาพเป็นประจาทุกปี 20% 20% 30% - 30% 2.8 0.85 9 เม่ือมีไขห้ รืออาการเจ็บป่ วยท่านซ้ือ - 10% 60% 30% - 2.8 0.71 ยาทานเอง 10 เมื่อท่านมีอาการเจบ็ ป่ วยท่านทาตาม 40% 30% 20% 10% - 3.2 0.74 คาแนะนาของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด 11 เม่ือท่านมีอาการไขห้ รืออาการ 50% 20% 20% 10% - 3.4 0.79 เจ็บป่ วยท่านไปสถานพยาบาล เช่น รพสต. รพ. คลินิก

12 เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทา่ นโทร 1669 30% - 30% - 40% 2 0.84 รวม 2.96 0.14 ตำรำงที1่ 3 ปัญหำด้ำนอื่นๆ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ ท่ีสุด กลาง ท่ีสุด x̄ S.D. 54 3 21 1 ประชาชนขดั แยง้ แบ่งพรรคแบง่ พวก - - 60% 30% 20% 2.3 0.82 2 เยาวชนขาดจิตสานึกในช่วยเหลือกนั - 10% 60% 30% - 2.6 0.52 3 ขาดแคลนแหลง่ เงินทนุ เพื่อพฒั นา - 30% 30% 10% 30% 2.1 1.20 อาชีพ 4 ขาดแหลง่ น้า เพ่ือการเกษตรเพือ่ การ - 40% 40% 10% 10% 2.9 0.57 ประกอบอาชีพ 5 การประสานงานกบั ภาครัฐไมต่ อ่ เนื่อง - 30% 50% 20% - 3 0.67 รวม 2.58 0.27

สรุป ตำรำงท่1ี 4 แสดงค่ำเฉลยี่ ส่วนเบีย่ งเบน มำตรฐำนของปัญหำสุขภำพด้ำนชุมชน ปัญหำ x̄ S.D. 0.19 ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 3.18 0.21 0.09 ปัญหาดา้ นสังคม 2.98 0.14 0.27 ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 3.17 0.18 ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว 2.96 ปัญหาดา้ นอื่นๆ 2.58 ค่าเฉลี่ยรวม 3.00 กำรวิเครำะห์สำเหตุของปัญหำ เม่ือได้กาหนดปัญหาและจดั ลาดับความสาคัญของปัญหาแลว้ จึงได้มีการวิเคราะห์หาสาเหตุท่ี แทจ้ ริง เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข ขอความร่วมมือจากผูท้ ่ีเกี่ยวขอ้ ง และผลท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ อนั จะนาไปสู่ แนวทางการแกไ้ ขปัญหาน้นั ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งแลเหมาะสม ปัญหำและกำรจัดลำดับควำมสำคัญของปัญหำ จากตารางขอ้ มูลดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉินในชุมชนหมู่บา้ นโคกไทร ม.1 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลุง สรุป ปัญหาท่ีควรไดร้ ับการแกไ้ ขตามลาดบั ความสาคญั ของปัญหาดา้ นสุขภาพของการเจ็บป่ วย ในช่วง 6 เดือน – 1 ปี จดั ลาดบั ได้ 3 ดงั น้ี 1.โรคขอ้ และกระดูก 2.เจบ็ ป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ 3.โรคไมต่ ิดตอ่ เช่น เบาหวาน ความดนั โรคอื่นๆ

กำรคิดคะแนนเพื่อจดั ลำดับควำมสำคัญของปัญหำ เกณฑ์กำรจดั ลำดบั ควำมสำคัญของปัญหำของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงาน ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององค์ประกอบ คะแนนรวม ปัญหำ ขนำดของ ค ว ำ ม ควำมยำก ค ว ำ ม วธิ บี วก วธิ คี ูณ ลำดับของ 1.โรคเกาต์ ปัญหำ รุนแรง ง่ำย สนใจ ปัญหำ 2.โรคขอ้ เขา่ เสื่อม 3.โรคกระดูกทบั เส้น 6 11 3 1 21 198 1 3 7 4 1 15 84 2 3 5 5 1 14 75 3

4.โรครูมาตอยด์ 2 3 6 1 12 36 4 5.โรคขอ้ อกั เสบสะเกด็ เงิน 1 2 7 1 11 14 5 จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ท่ี 1 คอื โรคเกาต์ อนั ดบั ท่ี 2 คือ โรคขอ้ เข่าเสื่อม อนั ดบั ที่ 3 คือ โรคกระดูกทบั เส้น อนั ดบั ที่ 4 โรครูมาตอยด์ อนั ดบั ท่ี 5 โรคขอ้ อกั เสบสะเก็ดเงิน ตามลาดบั ที่มำ:จำกอ้ำงอิงทฤษฏีวธิ ีของภำควิชำบริหำรสำธำรณสุข คณะสำธำรณสุขศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั มหิดล จำกวำรสำรพยำบำล กระทรวงสำธำรณสุข

บทที่4 แผนงำนโครงกำร จากการสารวจชุมชนหมู่ท่ี 1 บ้านโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง ไดล้ งสารวจพ้ืนที่โดยใชแ้ บบสอบถามขอ้ มลู วเิ คราะหเ์ พอ่ื จดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา เพื่อหาวิธีการแกป้ ัญหาให้กบั ชุมชน จากการศึกษาพบว่าชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนใน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาปัญหาดา้ นสุขภาพ โรคเกาต์ มาจดั โครงการเพื่อใหค้ วามรู้กบั คนในชุมชน เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเกาตท์ ่ีถูกวิธีและเหมาะสม 4.1 แผนงำน / โครงกำร จากปัญหาที่พบ พบวา่ เป็นปัญหาที่ทางชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าเนินการ จากปัญหาดงั กลา่ ว จึงไดจ้ ดั ทาโครงการเพอื่ แกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ช่ือกจิ กรรม/โครงกำร : เกาตน์ ้ีมีอยจู่ ริง ชื่อ-สกุล ผู้เสนอกจิ กรรม/โครงกำร : นางสาวอานิส อาสาบาโง สังกดั : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2

1. หลกั กำรและเหตผุ ล/ทม่ี ำ/ปัญหำ 1.1 หลกั กำรและเหตผุ ล โรคเกาต์ (gout) คือโรคที่เกิดจากภาวะกรดยรู ิก (uric acid) ในเลือดสูงติดต่อกนั เป็นระยะเวลานาน โดยภาวะกรดยรู ิกสูงหมายถึงระดบั กรดยูริกมากกวา่ 7 มก./ดล. ในเพศชาย และ 6 มก./ดล. ในเพศหญิง โรค เกาตพ์ บบอ่ ยในชายวยั กลางคนข้ึนไป หรือหญิงในวยั หมดประจาเดือนการสะสมของกรดยรู ิกในร่างกายเป็น ระยะเวลานาน อาจทาใหเ้ กิดโรคเกาตข์ ้ึนได้ โดยสามารถเกิดโรคไดใ้ นหลายอวยั วะ ไดแ้ ก่ ขอ้ ผวิ หนงั และ ไต อาการที่พบบ่อยที่สุด คอื อาการทางขอ้ ไดแ้ ก่ ขอ้ อกั เสบเฉียบพลนั โดยผปู้ ่ วยจะมีอาการปวดอยา่ งรุนแรง และฉบั พลนั ทนั ทีทนั ใด ขอ้ ที่เป็นจะบวมข้นึ มีสีแดงรอบ ๆ ขอ้ หากคลาดูจะพบวา่ อ่นุ กวา่ ขอ้ เดียวกนั ในขา้ ง ตรงขา้ ม ขอ้ ท่ีอกั เสบในช่วงแรก มกั เป็นที่ขอ้ โคนนิ้วหัวแม่เทา้ หรือขอ้ เทา้ หากทิง้ ไวน้ าน โดยไม่ไดร้ ับการ รักษา อาจมีการอกั เสบที่ขอ้ อื่นไดด้ ว้ ย เช่น ขอ้ เข่า ขอ้ ศอก ขอ้ มือเป็นตน้ จากการสารวจขอ้ มลู ครัวเรือนบา้ นอแู บ หมู่4 ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา มีจานวน ครัวเรือนท้งั สิ้น 243 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน มีโรคเกาต์ พบบอ่ ยท่ีสุดในผปู้ ่ วยชายท่ีมีอายุ มากกวา่ 40 ปี ข้นึ ไป พบในเพศชายมากกวา่ เพศหญิงเป็นสดั ส่วน 9:1 โดยในเพศชายมกั พบช่วงอายรุ ะหวา่ ง 30-50 ปี เพศหญิงพบไดม้ ากข้ึนในช่วงอายมุ ากกวา่ 50 ปี หรือวยั หลงั หมดประจาเดือนและเกิดจากการไม่ ควบคมุ อาหารและบกพร่องตอ่ การออกกาลงั กายเทา่ ท่ีควร จึงไดจ้ ดั โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคมุ โรคเกาต์ หมู่ท่ี 1บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ข้นึ เพ่ือใหป้ ระชาชนในชุมชนมีความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคเกาตเ์ พ่ือลดอตั รา การป่ วยดว้ ยโรคเกาต์ และเพอ่ื ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั ควบคมุ รักษาและการเฝ้าระวงั โรคไม่ ติดต่อใน หมู่ท่ี 1บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเส่ียงและกลุ่มที่เป็ นโรคเกาต์ เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุม ป้องกนั โรคเกาตท์ ี่ถกู วิธีและเหมาะสม 1.2.2 เพอื่ ใหป้ ระชาชนหนั มาสนใจและใหค้ วามสาคญั กบั ปัญหาเร่ืองการควบคุมโรคเกาต์ 1.2.3 เพือ่ ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการเขา้ ร่วมโครงการ

1.3 กลุ่มเป้ำหมำย อสม. ตวั แทนครัวเรือนและประชาชน 1.4 เป้ำหมำย 1.4.1 เป้ำหมำยเชิงคุณภำพ - ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเกาตไ์ ดใ้ นระดบั ดี 1.4.2 เป้ำหมำยเชิงปริมำณ - อสม. ตวั แทนครัวเรือนและประชาชน หม่ทู ี่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกง หรา จงั หวดั พทั ลงุ เขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 80 1.5 ระยะเวลำดำเนนิ กำร ต้งั แตว่ นั ที่ 15 มีนาคม – 17 มีนาคม 2563 1.6 ดชั นีตัวชีว้ ัดควำมสำเร็จ 1.6.1. ประชนชนกลุ่มเส่ียงและกล่มุ ท่ีเป็นโรคเกาตท์ ่ีเขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ความเขา้ ใจในการ ควบคุมป้องกนั โรคเกาตใ์ นระดบั ดีร้อยละ70 หลงั สิ้นสุดโครงการ 1.6.2. อตั ราความพึงพอใจของประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการ ร้อยละ80 พงึ พอใจ 1.7 ผ้รู ับผดิ ชอบโครงกำร นางสาวอานิส อาสาบาโง นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1.8 สถำนท่ดี ำเนินโครงกำร หอประชุมหมบู่ า้ น หมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ 1.9 ผลทคี่ ำดว่ำจะได้รับ 1.8.1 ประชาชนกลุม่ เส่ียงและกลุ่มที่เป็นโรคเกาต์ ท่ีเขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ใน การควบคมุ ป้องกนั โรคเกาตท์ ่ีถกู วธิ ีและเหมาะสม 1.8.2 ประชาชนกลุ่มเส่ียงและกลมุ่ ที่เป็นโรคเกาต์ ใหค้ วามสาคญั เร่ืองโรคมากข้ึน 1.8.3 ประชาชนใหค้ วามร่วมมือ และพงึ พอใจต่อการเขา้ อบรมอยใู่ นระดบั ดี

2. แผนกำรดำเนนิ งำน 2.1 วิธีกำรดำเนินงำน กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนนิ กำร ผู้รับผดิ ชอบ การวางแผน (P) 1. ประชุมวางแผน กาหนดวตั ถุประสงค์ 15 มีนาคม 2563 นางสาวอานิส อาสาบาโง งบประมาณ ดัชนีช้ีวดั ความสาเร็จ พัฒนา นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน โครงการฉบบั สมบูรณ์เพื่อขออนุมตั ิ การแพทย์ รุ่นที่ 15 2. เมื่ อ โ ค ร ง ก าร ไ ด้ รั บ อ นุ มั ติ แ ล้ ว จึ ง ช้นั ปี ท่ี 2 ม อ บ ห ม าย ห น้ า ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ ภ า ย ใ น ก ลุ่ ม พร้อมท้งั ประสานผูท้ ่ีเก่ียวขอ้ งประสานงาน ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ที่ตอ้ งใช้ การปฏิบตั ิ 1.จดั โครงการตามกาหนดการ 16 มีนาคม 2563 นางสาวอานิส อาสาบาโง (D) 1.1 วันจดั กจิ กรรม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 1.1.1 ทาแบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นท่ี 15 1.1.2 การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโรค ช้นั ปี ท่ี 2 เกาตแ์ ละวธิ ีการป้องกนั โรคเกาต์ 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเกี่ยวกบั ความรู้ โรคเกาต์ 1.1.4 จัดกิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) ระดมสมองภายในกลุม่ 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพงึ พอใจ 1.2 วนั เดนิ รณรงค์ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เรื่องโรคเกาต์ 1.2.2 แจกแผน่ พบั

กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนินกำร ผู้รับผดิ ชอบ การประเมินผล ประเมินผลตามวตั ถุประสงคด์ ว้ ย 1. แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ 16 มีนาคม 2563 นางสาวอานิส อาสาบาโง (C) 2. ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ 3. สังเกตการมีส่วนร่วมของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 ก า ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชุมผจู้ ดั ทาโครงการเพ่ือสรุปผลการ 17 มีนาคม 2563 นางสาวอานิส อาสาบาโง ห รื อน าผล การ ดาเนินงานและเสนอแนะแนวทางเพ่ือ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน ป ระเมิ น ไป ใช้ ปรับปรุงพฒั นา การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ประโยชน์ (A) ช้นั ปี ที่ 2 2.2 ผลกำรดำเนินงำน 2.2.1 กำรดำเนนิ งำนในข้นั ตอนกำรวำงแผน (P) - ประสานงานกบั แกนนา อสม.บา้ นอแู บ หมู่4 ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา นางสาวอานิส อาสาบาโง หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ท่ี 2 ประสานงานกบั แกนนา อสม. หมู่ 1 เพอ่ื จดั การทาประชาคมหาปัญหาท่ีตอ้ งแกไ้ ขเพอ่ื จดั ทาโครงการ -ประชุมวางแผนกาหนดการดาเนินงานและเขยี นโครงการเพ่อื ขออนุมตั ิ นางสาวอานิส อาสาบาโง หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยจ์ ดั ประชุมกนั กบั แกนนาอสม.หมู่4 เพื่อสอบถามปัญหาต่างๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน และไดม้ ีการประชุมกนั ภายในกลุ่มเพื่อวางแผนการดาเนินงาน กาหนดวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชง้ บประมาณ หนา้ ท่ีรับผิดชอบ เพื่อให้การดาเนินงานโครงการเป็ นไป อยา่ งมีประสิทธิภาพ -ติดต่อประสานงาน กบั ผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งในชุมชน นางสาวอานิส อาสาบาโง หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดต้ ิดต่อจดั การขอสถานท่ีในการ ทากิจกรรม เพอื่ ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดตอ่ ขอใชส้ ถานที่

2.2.2. กำรดำเนินงำนในข้นั ตอนกำรปฏบิ ัติ (D) - เสนอร่างโครงการ และปรับแกไ้ ข โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคเกาต์ บา้ นอู แบ หม่4ู ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ - จดั เตรียมสถานท่ีในการจดั ทาโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคมุ โรคโรคเกาต์ - ดาเนินงานกิจกรรมโครงการรณรงค์ ป้องกันและควบคุมโรค โรคเกาต์ หมู่ที่ 3 ตาบลบะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา ดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั โรคเกาต์ นางสาวอานิส อาสาบาโง หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดเ้ ขา้ รับการอบรมให้ความรู้เก่ียวกับ การดูแลตวั เองการรักษา อาการ และการป้องกนั เก่ียวกบั โรคเกาต์ - รณรงคใ์ หค้ วามรู้เร่ืองโรคเกาต์ 2.3 จำนวนผู้เข้ำร่วมโครงกำร อสม. และตวั แทนครัวเรือน บา้ นอูแบ หม4ู่ ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา จานวน 90 คน 2.4 สถำนที่ดำเนนิ กำร หอประชุมหมบู่ า้ นบา้ นอูแบ หมู่4 ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา งบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เงินอุดหนุนท่ัวไป เงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินงานตาม โครงการพระราชดาริดา้ นสาธารณสุข(สนบั สนุนจาก อสม. หอประชุมหมู่บา้ น หมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบล คลองฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง จานวน6,000 บาท (หกพนั บาทถว้ น) ใชจ้ ่ายดงั น้ี 1.คา่ อาหารวา่ งและเครื่องดื่ม จานวน 100 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 25 บาท เป็นเงิน 2,500 บาท 2.คา่ อาหารกลางวนั จานวน 100 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 30 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท 3.คา่ สมนาคุณวิทยากร จานวน 2 ชว่ั โมงๆละ 500 บาท เป็นเงิน 1,000 บาท 4.คา่ ป้ายไวนิลโครงการ เป็นเงิน 200 บาท 5.ค่าวสั ดุท่ีใชใ้ นโครงการ เป็นเงิน 300 บาท รวมเป็ นเงิน 6,000 บำท (หกพนั ห้ำบำทถ้วน) หมำยเหตุ : ทุกรายการสามารถถวั เฉลี่ยได้

3.เครื่องมือและวิธีกำรในกำรประเมนิ ผล หลงั จากที่ไดด้ าเนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้ัน ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็ นกิจกรรมใน การประเมินผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างการวางแผนกับการประเมินผลโครงการ พบวา่ กิจกรรมท้งั สองมีความสัมพนั ธท์ ี่ตอ้ งดาเนินการควบคู่กนั โดยการวางแผนโครงการเป็นกิจกรรมของ การกาหนด แนวทางการนาไปปฏิบตั ิเพ่ือการบรรลุวตั ถุประสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็นกิจกรรม สุดทา้ ยในการพจิ ารณาผลการดาเนินงานเป็นไปตามแผนที่กาหนดหรือไม่ 3.1 เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในกำรเกบ็ ข้อมูล 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เครื่องมือที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือการประเมินในคร้ังน้ี เป็ นแบบสอบถามที่ผูร้ ับผิดชอบ โครงการไดส้ ร้างข้นึ ใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงการ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐานส่วนบคุ คล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ ส่วนท่ี 2 ความรู้เร่ืองเกาต์ แบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพยี งคาตอบเดียว คอื ถกู หรือ ผิด จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถูก ไดค้ ะแนนเท่ากบั 1 คะแนน ตอบผิด ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคติต่อการป้องกนั และควบคุมโรคเกาตแ์ บบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพยี ง คาตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ เห็นดว้ ย ไมแ่ น่ใจ ไม่เห็นดว้ ย ไมเ่ ห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ขอ้ คาถามมีท้งั ดา้ นบวก และดา้ นลบจานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี คาถามเชิงบวก คาถามเชิงลบ เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 2 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ได้ 3 คะแนน ไม่เห็นดว้ ย ได้ 2 คะแนน ได้ 4 คะแนน ไมเ่ ห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได้ 1 คะแนน ได้ 5 คะแนน

ส่วนท่ี 4 พฤติกรรมการปฏิบตั ิตวั ป้องกนั โรคเกาตแ์ บบสอบถามเป็นแบบเลือกตอบเพียงคาตอบ เดียว คือ ปฏิบตั ิเป็นประจา 7 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง 5-6 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง 3-4 วนั /สัปดาห์ ปฏิบัติบางคร้ัง 1-2 วนั /สัปดาห์ ไม่ได้ปฏิบัติเลย ขอ้ คาถามเชิงบวก จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑ์การให้ คะแนน ดงั น้ี ปฏิบตั ิเป็นประจา(7 วนั /สปั ดาห์) ได้ 5 คะแนน ปฏิบตั ิบอ่ ยคร้ัง (5-6 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 4 คะแนน ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง (3-4 วนั /สัปดาห์) ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิบางคร้ัง (1-2 วนั /สปั ดาห์) ได้ 2 คะแนน ไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิเลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารให้คะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี ระดบั ความพงึ พอใจมากที่สุด 5 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจมาก 4 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ยที่สุด 1 คะแนน 3.2 วิธกี ำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.4.1 วดั ความรู้ ของประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้ ก่อนการเขา้ อบรม 3.4.5 วดั ความรู้ ของประชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้หลงั จากการเขา้ อบรม 3.3 กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี 1. การวิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนบุคคล ใชส้ ถิติการแจกแจงความถี่ ( Frequency ) และร้อยละ( Percentage ) 2. การประเมินความพึงพอใจ การประเมินความรู้ ใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( Ẋ ) และส่วนเบี่ยงเบน ม าต รฐ าน (S.D.) 3.4 เกณฑ์ทใ่ี ช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้

3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑ์การประเมินระดับความรู้เก่ียวกับเรื่ อง ไขเ้ ลือดออก แบ่งออกเป็ น 3 ระดบั โดยใช้วิธีการกาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลักวิธีคิดของบลูม Bloom (1964อา้ งถึงใน สมนึก แกว้ วไิ ล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้นึ ไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑ์การประเมินทัศนคติเกี่ยวกับการป้องกันและ ควบคุมโรคไขเ้ ลือดออกโดยใชว้ ิธีการกาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั ทศั นคติ ค่าระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑ์บ่งช้ีพฤติกรรมการออกกาลงั กาย โดยใช้วิธีการ กาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม ค่าระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑ์การให้คะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉล่ียสูงกวา่ 4.50 มีความพงึ พอใจในระดบั มากท่ีสุด คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 3.50 – 4.49 มีความพึงพอใจในระดบั มาก คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีความพึงพอใจในระดบั ปานกลาง

คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉลี่ยต่ากวา่ 1.50 มีความพึงพอใจในระดบั นอ้ ยที่สุด 4.ผลกำรประเมินกำรดำเนนิ โครงกำร 4.1 ข้อมูลท่วั ไปของผู้ตอบแบบประเมิน ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมี 90 คน จากจานวนท้งั หมด 100 คน คิดเป็ นร้อยละ 80 ซ่ึงขอ้ มูลทวั่ ไปใน เรื่องเพศ อายรุ ะดบั การศึกษา อาชีพ สถานภาพ มีขอ้ มูลดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ตำรำงท่ี 4.1.1 เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ จำนวน ร้อยละ เพศ หญิง 60 76.67% ชาย 30 23.33% รวม 90 100 จากตารางแสดงขอ้ มลู เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ เพศหญิง มีจานวน 82 คน คดิ เป็นร้อยละ 92.10 และเพศชายมีจานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 7.90 ตำรำงท่ี 4.1.2 อายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ จำนวน ร้อยละ อำยุ 2 4.49 8 8.99 ต่ากวา่ 20 ปี 12 13.48 20-30 31-40

41-50 33 33.71 51 ปี ข้ึนไป 35 39.33 90 100 รวม จากตารางแสดงขอ้ มูลอายุของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า อายุ 51 ปี ข้ึนไป มีจานวน 35 คน คิดเป็ น ร้อยละ 39.33 อายุ 41-50 ปี มีจานวน 33 คน คิดเป็ นร้อยละ 33.71 อายุ 31-40 ปี มีจานวน 12 คน คิดเป็ น ร้อยละ 13.48 อายุ 20-30 ปี มีจานวน 8 คน คิดเป็ นร้อยละ 8.99 และอายุต่ากว่า 20 ปี มีจานวน 2 คน คิด เป็นร้อยละ 4.49 ตามลาดบั ตำรำงท่ี 4.1.3 ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ระดบั การศึกษา จำนวน ร้อยละ ประถมศึกษา 51 51.69 มธั ยมศึกษา 27 30.34 อนุปริญญา 5 5.62 ปริญญาตรี 7 12.36 0 อ่ืน ๆ 90 0 รวม 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า ระดบั ประถมศึกษา มีจานวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 51.69 ระดบั มธั ยมศึกษา มีจานวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 30.34 ระดบั ปริญญาตรีมี จานวน 7 คน คิดเป็ นร้อยละ 12.36 ระดับอนุปริ ญญา มีจานวน 5 คน คิดเป็ นร้อยละ 5.62 และ ระดบั อ่ืน ๆ มีจานวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั ตำรำงท่ี 4.1.4 อาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ จำนวน ร้อยละ อำชีพ 5 5.62 นกั เรียน/นกั ศึกษา

ขา้ ราชการ 10 10.11 เกษตรกรรม 48 53.93 คา้ ขาย/ธุรกิจ 11 12.36 รับจา้ งทว่ั ไป/ลกู จา้ ง 2 2.25 ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ/ทางานบา้ น 14 15.73 0 อ่ืน ๆ 90 0 รวม 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอาชีพของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า อาชีพเกษตรกรรม มีจานวน 48 คน คิด เป็ นร้อยละ 53.93 ไม่ได้ประกอบอาชีพ/ทางานบา้ น มีจานวน 14 คน คิดเป็ นร้อยละ 15.73 อาชีพคา้ ขาย/ ธุรกิจ มีจานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 12.36 อาชีพขา้ ราชการ มีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 10.11 อาชีพ นักเรียน/นกั ศึกษา มีจานวน 5 คน คิดเป็ นร้อยละ 5.62 อาชีพรับจา้ งทว่ั ไป/ลูกจา้ ง มีจานวน 2 คน คิดเป็ น ร้อยละ 2.25 อาชีพอ่ืน ๆ มีจานวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั 4.2 ผลกำรทดสอบควำมรู้จำกกำรเข้ำร่วมโครงกำร ตำรำงท่ี 4.2.1 ผลกำรทดสอบควำมรู้จำกกำรเข้ำร่วมโครงกำร รำยกำร สูงสุด ต่ำสุด เฉลยี่ ผ่ำนเกณฑ์ ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ก่อนเขา้ อบรม 7 2 0.04 ผลการทดสอบ - - - -- -- หลงั เขา้ อบรม 10 8 0.02 45 50 45 50 ผลการทดสอบ - - - -- -- 75 82.02 15 17.98

จากตารางท่ี 4.2.1 พบว่า แกนนาอสม.ท่ีเขา้ ร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รับ การบรรยายเก่ียวกบั โรคเกาต์ ไดค้ ะแนนสูงสุด 7 คะแนน คะแนนต่าสุด 2 คะแนน และมีคะแนนเฉล่ีย 0.04 คะแนน มีจานวนผผู้ ่านเกณฑจ์ านวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 50 มีจานวนผไู้ ม่ผ่านเกณฑจ์ านวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 50 และหลงั จากการเขา้ รับการบรรยายเกี่ยวกบั โรคเกาต์ มีผูท้ ดสอบความรู้ไดค้ ะแนนสูงสุด 10 คะแนน คะแนนต่าสุด 8 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ย 0.02 คะแนน มีจานวนผูผ้ ่านเกณฑจ์ านวน 75 คน คิดเป็ นร้อยละ 82.02 ซ่ึงผ่านตามตัวช้ีวดั ในหัวข้อจุดประสงค์มีผูเ้ ข้าร่วมโครงการร้อยละ 70 มีความรู้ เก่ียวกบั การควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกในระดบั ดี ตำรำงท่ี 4.2.2 คะแนนกำรทดสอบประเมินควำมรู้ก่อนเข้ำร่วมโครงกำรอย่ำงละเอยี ด คะแนน จำนวน ( คน ) ร้อยละ 24 4.49 3 16 17.98 4 24 26.97 5 28 30.34 6 18 20.22 รวม 90 100 จากตารางที่ 4.2.2 พบว่าคะแนนทดสอบการประเมินความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการ มี คะแนนสูงสุด 6 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 20.22 และคะแนนต่าสุด 2 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 4.49 ตำรำงที่ 4.2.3 คะแนนกำรทดสอบประเมินควำมรู้หลงั เข้ำร่วมโครงกำรอย่ำงละเอยี ด คะแนน จำนวน ( คน ) ร้อยละ 8 27 30.34 9 41 46.07 10 22 23.60 รวม 90 100 จากตารางที่ 4 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้หลงั เขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนน

สูงสุด 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 23.60 และคะแนนต่าสุด 8 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 30.34 4.3 ผลกำรทำแบบประเมินควำมพงึ พอใจ ตำรำงที่ 4.3.1 ค่ำเฉลย่ี ของควำมพงึ พอใจต่อโครงกำรภำพรวม ลำดบั ท่ี ประเดน็ ระดบั ควำมพงึ พอใจ x̄ S.D แปลผล 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม 4.673 0.193 มากที่สุด 2. ความพึงพอใจดา้ นวทิ ยากร 4.786 0.173 มากท่ีสุด 3. ความพงึ พอใจดา้ นส่ิงอานวยความสะดวก 4.678 0.219 มากท่ีสุด 4. ความพึงพอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม 4.743 0.183 มากที่สุด จากตารางท่ี 4.3.1 ค่าเฉล่ียของความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวม พบว่ามีความพึงพอใจดา้ น คุณภาพการให้บริการมากที่สุด( x̄ = 4.833 ) รองลงมา ความพึงพอใจดา้ นเจา้ หน้าที่ผูใ้ ห้บริการ ( x̄ = 4.786 ) และ ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการ / ข้นั ตอนการดาเนินโครง การ ( x̄ = 4.673 ) นอ้ ยท่ีสุด ตำรำงที่ 4.3.2 ค่ำเฉลย่ี ของผลประเมินควำมพงึ พอใจของผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร รำยละเอยี ด ระดบั ควำมพงึ พอใจ x̄ S.D แปลผล 1. ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำร ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 4.55 0.52 สูง 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 สูง 1.3 ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรม 4.41 0.57 สูง 1.4 เอกสารและสื่อประกอบในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 ต่า 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 4.50 0.55 สูง 2. ควำมพงึ พอใจด้ำนวทิ ยำกร 2.1 การถา่ ยทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชดั เจน 4.56 0.59 สูง 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 4.45 0.54 สูง 3. ควำมพงึ พอใจด้ำนส่ิงอำนวยควำมสะดวก 3.1 สถานท่ีจดั กิจกรรม 4.43 0.61 สูง

3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 2.11 1.09 ต่า 4. ควำมพงึ พอใจด้ำนคณุ ภำพกำรจดั กจิ กรรม สูง สูง 4.1 ทา่ นไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ งคุม้ ค่า 4.29 0.72 สูง 4.2 ทา่ นสามารถนาความรู้ท่ีไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น 4.29 0.65 ชีวติ ประจาวนั ผลรวม 3.84 0.34 4.4 สรุปผลกำรดำเนินงำนโครงกำร โครงการรณรงค์ ป้องกันและควบคุมโรคเกาต์ บ้านอูแบ หมู่4 ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามัน จงั หวดั ยะลามีวตั ถุประสงค์เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกันโรคเกาต์ที่ถูกวิธีและ เหมาะสม เพ่ือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันหลีกเลี่ยงจากโรคเกาต์ เป้าหมายเชิงคุณภาพ คือ ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเกาต์ไดใ้ นระดบั ดี และเป้าหมายเชิงปริมาณคือ อัตรา ความพึงพอใจของประชาชนท่ีขอรับบริ การ (ร้อยละ 80)พึงพอใจรับผิดชอบโครงการ โดย นางสาวอานิส อาสาบาโง หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยช์ ้นั ปี ท่ี2 รุ่นที่15 โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคเกาต์ หมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอ กงหรา จงั หวดั พทั ลุง ต้งั แต่วนั ท่ี 15 มีนาคม – 17 มีนาคม 2563 ข้นั ตอนการดา เนินงานท่ีสาคญั คือวนั จดั กิจกรรมใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการทา แบบทดสอบก่อนและหลงั ให้ ความรู้ มีการบรรยายใหค้ วามรู้ เก่ียวกบั โรค เกาต์ และวิธีการป้องกนั โรคเกาต์ เพ่ือระดมสมองและทาแบบประเมินความพึงพอใจ ส่วนวนั เดินรณรงคม์ ี ใหค้ วามรู้ เร่ืองการป้องกนั โรคเกาต์ พร้อมท้งั แจกแผน่ พบั ซ่ึงมีขอ้ มลู เกี่ยวกบั โรคเกาต์ 4.5 ประโยชน์จำกกำรทำโครงกำร - ทาใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็นระบบและการกาหนด รูปแบบ ตา่ งๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาใหไ้ ดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั การทางาน ประสานงาน และติดตอ่ กบั หน่วยงานต่าง ๆ พร้อมท้งั มี การ วางแผนการทางานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทางานร่วมกบั คนในชุมชน เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางแก่การทางานในอนาคต - การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืนรวมไปถึงการประสานงานหรือการติดตอ่ กบั หน่วยงานตา่ งๆ - ทาใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เมื่อเจอเหตุการณ์ท่ีไม่ไดเ้ ป็นไปตามแผนท่ีกาหนดไว้

4.6 ปัญหำและอุปสรรค - การดาเนินโครงการไมเ่ ป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจากดั ทาให้ตอ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศึกษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความตื่นเตน้ พูดเร็ว จึงทาใหผ้ สู้ ูงอายฟุ ังไมท่ นั - เน่ืองจากกล่มุ เป้าหมายมีจานวนมาก นกั ศึกษาผบู้ รรยายจึงไม่สามารถตอบขอ้ ซกั ถามไดอ้ ยา่ ง ทวั่ ถึง 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพร้อมในการดาเนินโครงการ 2. การทากิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลาใหส้ ้นั กระชบั 3. ควรใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมีส่วนร่วมมากข้ึน เช่น การถาม-ตอบ เป็นตน้ 4. ส่ือท่ีใชค้ วรเนน้ ท่ีรูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ รวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรท่ีเห็นชดั เจน 5. ปรับการพดู ใหช้ า้ ลง 5. แนวทำงกำรพฒั นำงำน จากการจดั ประชุมกลมุ่ เพ่ือพจิ ารณาหาขอ้ ผดิ พลาด ปัญหาและอปุ สรรคของการทางานรวม ไปถึงขอ้ เสนอแนะจากผูด้ ูแลโครงการ ซ่ึงนามาสะทอ้ นถึงขอ้ ผิดพลาดและสาเหตุท่ีเกิดข้ึน และนามาพฒั นา ในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ร่วมกบั ชุมชนตอ่ ไป ปัญหำ สำเหตุ แนวทำงกำรแก้ไข การดาเนินโครงการท่ีไม่ เวลาในการประสานงาน รวมไปถึง การดาเนินงานคร้ังต่อไป เป็นไปตามระยะเวลาที่กาหนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการไม่รู้ จะต้อ งมี ก ารวางแผ น แล ะ และการประชาสัมพันธ์ยงั ไม่ กาหนดการ ทาให้ระยะเวลาดาเนินงาน จดั สรรเวลาในการดาเนินงาน ทวั่ ถึง ไม่สัมพนั ธ์กับระยะเวลาที่กาหนด และ ให้เป็ นระบบไม่ยืดย้ือเกินไป การประชาสมั พนั ธ์ไม่ทวั่ ถึง เพ่ื อ ใ ห้ ร ะ ย ะ เว ล า เห ม า ะ ส ม ตามท่ีกาหนด การพูดต้องมีความม่ันใจ เนื่องจากขาดประสบการณ์ จึงทาให้ การดาเนินงานในคร้ังต่อไป ใบหน้ายิ้มและการใช้น้าเสียง การพูดติดขดั และสถานท่ีเป็ นลานกวา้ ง จะมีการวางแผน การเตรี ยม ตอ้ งสม่าเสมอ จึงทาใหเ้ วลาพูดจะไมค่ อ่ ยไดย้ นิ ค ว าม พ ร้ อ ม ก่ อ น ก า ร ด าเนิ น กิจกรรม นาเสนอวิชาการสื่อที่ใชค้ วร เน่ืองจากขาดประสบการณ์ในการ นา ในการวางแผนจัดทากิจกรรม เนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ เสนองานในแหล่งชุมชน จึงมีการเนน้ ไป คร้ังต่อไปจะตอ้ งมีการคานึงถึง ตวั หนงั สือ ที่วิชาการ กล่มุ เป้าหมายและระดบั ความรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook