๕๑ การตรวจหาระยะยงิ มีอยหู่ ลายวธิ ีดว้ ยกนั แตจ่ ะกล่าวเพียง ๒ วธิ ี คือ 1.การตรวจหาระยะยงิ จากการกระจายของเขม่าดินปื น เขม่าดินปื น หมายถึง เขมา่ ที่เกิดจากการเผาไหมข้ องดินส่งกระสุนปื น ซ่ึงส่วนใหญ่จะพุง่ ออกมาจากปากลาํ กลอ้ งปื น การตรวจพสิ ูจนจ์ ะตอ้ งพจิ ารณาจาก ๒ ส่วน คือ ดินปื นที่เผาไหมไ้ มห่ มด (Unburnt Partและดินปื นท่ีเผาไหมห้ มดแลว้ (Burnt Particle) ภาพวาดการยงิ ในระยะเผาขนดว้ ยปื นพก a. จากระยะ ๑-๒ นิ้ว ถึงเป้ า มวลสารของดินปนื ไดร้ วบรวมกนั อยตู่ รงบริเวณรูกระสุน ในขณะท่ีเถา้ ถ่านมีลกั ษณะเป็นคลื่นวงกลมกระจายออกไปในบริเวณที่กวา้ งกวา่ มาก (ภาพดา้ นล่าง ไดแ้ สดงใหเ้ ห็นจุดน้ี) b. ระยะปากกระบอกปื นถึงเป้ าเพิม่ ข้ึน การกระจายของมวลสารบนเป้ าเพิม่ ขนาด เส้นผา่ ศนู ยก์ ลางของการกระจาย ในขณะที่ความหนาแน่นของการกระจายมวลสารน้นั ลดนอ้ ยลงที่ ระยะ b.หรือทิง้ ร่องรอยของดินปื นในจาํ นวนเล็กนอ้ ยแทบจะไม่มีเขม่าดินปื น การกระจายของเขม่าดนิ ปื น ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ตา่ ง ๆ ดงั น้ี -. ระยะยงิ ยง่ิ ไกลเทา่ ใดเขม่าดินปื นยงิ่ กระจายมากเทา่ น้นั -. ความกวา้ งของปากลาํ กลอ้ งปื น และความยาวของลาํ กลอ้ งปื น -. ความแรงของดินส่งกระสุนปื น -. อื่น ๆ เช่น ทิศทางและความเร็วของลม
๕๒ ภาพแสดงใหเ้ ห็นถึงความเกี่ยวขอ้ งกนั ระหวา่ งระยะใกลไ้ กล จากรอยเจาะของลูกกระสุนปื น กบั รอยกระจายออกเป็นวงกวา้ งของเขมา่ ดินปื นจะมีส่วนสมั พนั ธก์ นั A. การเปรียบเทียบรอยวงท่ีกระจายกวา้ งออกมา B. ความหนาแน่นของรอยเขม่าดินปื น C. รอยคราบดาํ ของเขม่าหรือรอยจุดดินปื น D. การกระจายตวั ของเขม่าดินปื น การกระจายของเขม่าดนิ ปื น ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ต่าง ๆ ดงั น้ี ๑. ระยะยงิ ยงิ่ ไกลเท่าใดเขม่าดินปื นยง่ิ กระจายมากเท่าน้นั ๒. ความกวา้ งของปากลาํ กลอ้ งปื น และความยาวของลาํ กลอ้ งปื น ๓. ความแรงของดินส่งกระสุนปื น ๔. อื่น ๆ เช่น ทิศทางและความเร็วของลม การตรวจหาระยะยงิ จากการกระจายของเขม่าดินปื น จะใชใ้ นกรณีท่ียงิ ดว้ ยปื นซ่ึงใช้ กระสุนลูกโดด ส่วนการตรวจหาระยะยงิ ของปื นลูกซองน้นั จะใชก้ ารกระจายของลูกกระสุน ปรายกระสุนปื นลูกซอง ซ่ึงจะบอกระยะยงิ ท่ีแน่นอนไดด้ ีกวา่ และไม่มีผลกระทบจากโลหิต ใน กรณีท่ีเป้ าที่ถูกยงิ เป็นเส้ือผา้ ท่ีสวมใส่ ของกลางทใี่ ช้ประกอบในคดีได้แก่ ๑. เส้ือผา้ ท่ีถูกยงิ (เป้ าท่ีถูกยงิ ) หรือเป้ าที่เขม่าดินปื นสามารถติดอยไู่ ด้ ๒. ปื นของกลาง เพราะการกระจายของเขม่าดินปื นข้ึนอยกู่ บั ความกวา้ งปากลาํ กลอ้ งและ ความยาวของลาํ กลอ้ งปื นดว้ ย ๓. ปลอกกระสุนปื นของกลาง (ถา้ มี) เพ่ือประโยชน์ในการทดลองยงิ เปรียบเทียบเพราะ กระสุนปื นแตล่ ะยหี่ อ้ จะมีสูตรของส่วนผสมในดินปื นแตกต่างกนั
๕๓ 2.การตรวจหาระยะยงิ จากการกระจายของลกู กระสุน กระสุนปื นลูกซอง ใชก้ ระสุนปรายเป็นลูกกระสุนปื น ดงั น้นั เม่ือยงิ ออกไป ลูกกระสุนปราย ที่พงุ่ ออกจากปากลาํ กลอ้ งปื นจะเป็นกลุ่ม และจะกระจายออกตามระยะทางท่ีไกลออกไปการกระจาย ของลูกกระสุนปรายกระสุนปื นลูกซองข้ึนอยกู่ บั - ระยะยงิ - ความกวา้ งปากลาํ กลอ้ งปื น - Choke ของปื น (การบีบของภายในปลายลาํ กลอ้ งปื น) - ความแรงของดินส่งกระสุนปื น - อ่ืน ๆ ของกลางทปี่ ระกอบในคดี ได้แก่ - เป้ าท่ีถูกยงิ เช่น เส้ือผา้ รถยนต์ บา้ น เป็นตน้ - ปื นของกลาง เพราะการกระจายของลูกกระสุนปราย กระสุนปื นลูกซองข่้ึนอยกู่ บั ความ กวา้ งปากลาํ กลอ้ ง และความยาวของลาํ กลอ้ งปื นดว้ ย - ปลอกกระสุนปื นลูกซองของกลาง เพ่อื ประโยชนใ์ นการทดลองยงิ เปรียบเทียบเพราะ กระสุนปื นแตล่ ะยห่ี อ้ จะมีสูตรของส่วนผสมในดินปื นแตกต่างกนั นอกจากน้ี ระยะยงิ สามารถหาได้ ดว้ ยวธิ ีอ่ืน เช่น พิจารณาจากบาดแผลที่ถูกยงิ เป็นตน้ การตรวจหาเขม่าจากการยงิ ปื นทมี่ ือของผู้ยิง เขม่าปื นหรือเขมา่ จากการยงิ ปื น (Gunshot Residue) หมายถึง เขม่าท่ีเกิดจากการ เผาไหมข้ องชนวนทา้ ยกระสุนปื น หรือแก๊ปปื น (Primer Pesidue) และรวมถึงเขม่าดินปื นดว้ ย แตใ่ นการตรวจหาเขมา่ จากการยงิ ปื นท่ีมือน้นั จะเป็นการตรวจเฉพาะในส่วนของชนวนทา้ ยปลอก กระสุนปื น หรือแก๊ปปื น ภาพเขียนแสดงชนวนทา้ ยปลอกกระสุน หรือ Primer หรือ Cap ปื น
๕๔ การตรวจหาระยะยิงจากการกระจายของลกู กระสุนปราย กระสุนปื นลูกซอง กระสุนปื นลูกซอง ใชก้ ระสุนปรายเป็นลูกกระสุนปื น ดงั น้นั เม่ือยงิ ออกไป ลูกกระสุน ปรายที่พงุ่ ออกจากปากลาํ กลอ้ งปื นจะเป็นกลุ่ม และจะกระจายออกตามระยะทางที่ไกลออกไป การกระจายของลูกกระสุนปรายกระสุนปื นลูกซองข้ึนอยกู่ บั ๑. ระยะยงิ ๒. ความกวา้ งปากลาํ กลอ้ งปื น ๓. Choke ของปื น (การบีบของภายในปลายลาํ กลอ้ งปื น) ๔. ความแรงของดินส่งกระสุนปื น ๕. อ่ืน ๆ ของกลางที่ประกอบในคดี ไดแ้ ก่ - เป้ าที่ถูกยงิ เช่น เส้ือผา้ รถยนต์ บา้ น เป็นตน้ - ปื นของกลาง เพราะการกระจายของลูกกระสุนปราย กระสุนปื นลูกซอง ข่้ึนอยกู่ บั ความกวา้ งปากลาํ กลอ้ ง และความยาวของลาํ กลอ้ งปื นดว้ ย - ปลอกกระสุนปื นลูกซองของกลาง เพอื่ ประโยชนใ์ นการทดลองยงิ เปรียบเทียบ เพราะกระสุนปื นแต่ละยห่ี อ้ จะมีสูตรของส่วนผสมในดินปื นแตกต่างกนั นอกจากน้ี ระยะยงิ สามารถหาไดด้ ว้ ยวธิ ีอื่น เช่น พจิ ารณาจากบาดแผลท่ีถูกยงิ เป็นตน้ หลกั การเกบ็ เขม่าปื นทมี่ อื ของผ้ยู งิ - พนกั งานสอบสวนหรือเจา้ หนา้ ท่ีเป็นผเู้ ก็บเขม่าปื นท่ีมือผตู้ อ้ งสงสยั ผตู้ อ้ งหา หรือส่งตวั บุคคลดงั กล่าวไปยงั กลุ่มงานตรวจอาวธุ ปื น ของกองพิสูจนห์ ลกั ฐานกลาง หรือศูนยพ์ สิ ูจนห์ ลกั ฐานในพ้ืนที่รับผดิ ชอบเป็นผเู้ ก็บเขมา่ ปื นท่ีมือโดยเร็วท่ีสุด ภายในเวลา ๖ ชว่ั โมงนบั แตม่ ีการยงิ ปื น กรณีศพใหเ้ ก็บเขมา่ ปื นท่ีมือศพ โดยเร็วท่ีสุดภายในเวลา ๒๔ ชวั่ โมง นบั แต่มีการยงิ ปื น - ก่อนทาํ การเก็บเขม่าปื นท่ีมือ หา้ มพิมพล์ ายนิ้วมือ ทาํ การลา้ งมือ หรือ ทาํ ความสะอาดมือของผทู ้่ีจะถูกทาํ การเก็บเขมา่ กรณีศพใหใ้ ชถ้ ุงพลาสติกสวมมือศพไวจ้ นกวา่ จะทาํ การเก็บเขม่าปื น - เจา้ หนา้ ท่ีผทู้ าํ การเกบ็ เขม่าปื นท่ีมือตอ้ งทาํ ความสะอาดมือทุกคร้ังก่อนทาํ การเกบ็ เขม่าปื น การเตรียมอปุ กรณ์ - จดั หาซองพลาสติกแบบมีซิป จาํ นวน ๕ ซอง แต่ละซองใหเ้ ขียนดงั น้ี ซองที่ ๑ เขียนวา่ กรดตวั อยา่ ง
๕๕ ซองที่ ๒ เขียนวา่ หลงั มือขวา ซองที่ ๓ เขียนวา่ ฝ่ ามือขวา ซองท่ี ๔ เขียนวา่ หลงั มือซา้ ย ซองที่ ๕ เขียนวา่ ฝ่ ามือซา้ ย - จดั หากา้ นสาํ ลี (Cotton Bud) โดยตดั ปลายขา้ งหน่ึงทิง้ ไป จาํ นวน๕ กา้ น - จดั หากรดดินประสิว (กรดไนตริก) เขม้ ขน้ ๕% จาํ นวน ๑ ขวด วธิ ีการเกบ็ เขม่าปื นท่ีมือ ๑. หยดกรดประมาณ ๔ - ๕ หยด บนสาํ ลีกา้ นท่ี ๑ แลว้ บรรจุในซองท่ี ๑เพอ่ื เป็นกรด ตวั อยา่ ง ๒. หยดกรดประมาณ ๔ - ๕ หยด บนสาํ ลีกา้ นท่ี ๒ แลว้ เช็ดท่ีหลงั มือขวา โดยเช็ดต้งั แต่ บริเวณขอ้ มือไปจนถึงปลายนิ้ว โดยเช็ดไปทางเดียวกนั (หา้ มเชด็ กลบั ไปกลบั มา)พร้อมกบั หมุน สาํ ลีไปดว้ ยเพือ่ ใหเ้ ขม่าปื นติดรอบ ๆ สาํ ลี แลว้ บรรจุใส่ซองที่ ๒ ๓. สาํ หรับกา้ นท่ี ๓, ๔ และ ๕ เชด็ ที่ฝ่ ามือขวา, หลงั มือซา้ ย และฝ่ ามือซา้ ยโดยปฏิบตั ิ เช่นเดียวกนั กบั ขอ้ ๒ แลว้ บรรจุใส่ซองที่ ๓, ๔ และ ๕ ตามลาํ ดบั นาํ ซองสาํ ลีท่ีชุบกรดตวั อยา่ ง และท่ีเช็ดจากมือของผยู้ งิ รวมท้งั หมด ๕ ซอง ใส่รวมกนั ในซองราชการชนิดพบั ส่ี แสดงภาพอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการเก็บเขม่าปื นที่มือ ที่มา : พฤฒิเกศ ศรีชยั , พ.ต.ท., การตรวจพสิ ูจน์อาวธุ ปื นและเคร่ืองกระสุน (พ.ศ. ๒๕๕๒)
๕๖ แสดงภาพการหยดกรดที่บริเวณกา้ นสาํ ลี (ซา้ ย) และการเช็ดเขม่าปื นท่ีมือ (ขวา) ทม่ี า : พฤฒิเกศ ศรีชยั , พ.ต.ท., การตรวจพสิ ูจน์อาวธุ ปื นและเคร่ืองกระสุน (พ.ศ. ๒๕๕๒) การจ่าหน้าซองให้ระบุข้อความดังต่อไปนี้ - สถานีตาํ รวจ - ช่ือ - สกลุ ผเู้ กบ็ เขมา่ - อาชีพ - มือท่ีถนดั - ชนิด ขนาด ของอาวธุ ปื น - วนั เวลา ท่ีเกิดเหตุ - วนั เวลา ที่เกบ็ เขม่าปื น - สถานที่เกบ็ เขม่าปื น - ลายมือชื่อผถู้ ูกเกบ็ เขม่าปื น - ผนึกซองใหเ้ รียบร้อย ลงลายมือช่ือไวต้ รงรอยต่อของฝาปิ ดซองแลว้ ปิ ดทบั ดว้ ยเทปใส การบนั ทกึ ส่งของกลางไปตรวจพสิ ูจน์ - แจง้ ขอ้ เทจ็ จริงของคดีโดยละเอียด - แจง้ รายละเอียดของกลางใหค้ รบถว้ น - แจง้ จุดประสงคใ์ นการตรวจพิสูจนใ์ หช้ ดั เจน - แจง้ ชื่อ และหมายเลขโทรศพั ทข์ องพนกั งานสอบสวน - ส่งซองดงั กล่าวมายงั กองพิสูจนห์ ลกั ฐานกลาง
๕๗ การตรวจวถิ กี ระสุน เป็นการตรวจหาทิศทางของการยงิ ปื นวา่ เป็นเช่นไร เป้ าท่ีถูกยงิ สามารถตรวจวถิ ีกระสุนได้ ท้งั น้นั เพยี งแตจ่ ะสามารถบอกรายละเอียดไดม้ ากนอ้ ยแค่ไหนข้ึนอยกู่ บั สภาพของของกลางท่ีถูกยงิ เช่น รถยนต์ บา้ น เส้ือผา้ เป็นตน้ ภาพการตรวจวิถีกระสุน ที่มา : http://www.dailymail.co.uk/news/article-3027885/Cop-feared-life-stood-hood-car-fired-15- shots-windshield-gunfight-killed-unarmedcouple-trial-hears.html หลกั ในการตรวจพสิ ูจน์วถิ กี ระสุนปื น ๑. หาร่องรอยที่ถูกกระสุนปื น หรือหาวา่ ร่องรอยดงั กล่าว เป็นร่องรอยที่ถูกลูกกระสุนปื นยงิ หรือไม่ ถา้ ใช่ พจิ ารณาขอ้ ตอ่ ไป ๒. พจิ ารณา ชนิด ขนาดของลูกกระสุนปื นท่ียงิ หรือหาร่องรอยดงั กล่าววา่ ถูกยงิ ดว้ ยลูก กระสุนปื นชนิดใด ขนาดใด ๓. หาทิศทางของลูกกระสุนปื นวา่ ถูกยงิ มาจากทิศทางใด การตรวจเปรียบเทยี บปลอกกระสุนและลกู กระสุนปื น เมื่อมีการเหน่ียวไกปื น เขม็ แทงชนวนจะแทงท่ีชนวนทา้ ยกระสุนปื น (แก๊ป) จะทาํ ให้ ชนวนทา้ ยกระสุนปื นระเบิดข้ึนเป็นประกายไฟจุดใหด้ ินส่งกระสุนปื น ซ่ึงเป็นดินควนั นอ้ ยระเบิด ลุกไหม้ ตามไปดว้ ย แรงระเบิดท้งั หมดจะผลกั ดนั ใหล้ ูกกระสุนปื นหลุดออกจากปลอกกระสุนปื น วิง่ ผา่ นไปตามเกลียวในลาํ กลอ้ ง ออกไปทางปากลาํ กลอ้ ง เมื่อลูกกระสุนปื นออกจากปากลาํ กลอ้ ง ปื นแลว้ อากาศภายนอกจะเขา้ ไปแทนที่ดว้ ยความเร็ว และแรง กจ็ ะไปกระแทกกนั ภายในลาํ กลอ้ ง ทาํ ใหเ้ กิดเสียงดงั ข้ึนขณะที่ลูกกระสุนปื นพน้ ปากลาํ กลอ้ งดว้ ยความเร็วดนั ลูกกระสุนปื นกจ็ ะเริ่ม
๕๘ หมุนตวั ตามเกลียวลาํ กลอ้ งท่ีไดร้ ีดผา่ นมา จะหมุนซา้ ยหรือขวา แลว้ แต่เกลียวภายในลาํ กลอ้ ง การ ท่ีตอ้ งทาํ ใหก้ ระสุนปื นหมุนกเ็ พอื่ ตอ้ งการใหล้ ูกกระสุนหมนุ ตดั แรงตา้ นอากาศ ลูกกระสุนปื นจะ ทรงตวั ได้ และวงิ่ ตรงไปเขา้ ไปตามท่ีตอ้ งการ หากไมม่ ีเกลียวแลว้ ลูกกระสุนปื นจะไมห่ มนุ และ จะวงิ่ เอาดา้ นขา้ งกระทบเป้ าเมื่อมีการยงิ ปื นแลว้ ตาํ หนิต่าง ๆ จะปรากฏข้ึนที่ปลอกกระสุนปื น และลูกกระสุนปื น ตาหนิเหล่านีจ้ ะเป็นตาหนิพิเศษท่ีเกิดขึน้ เฉพาะของปื นแต่ละกระบอก และจะ ไม่เหมือนกัน หากยิงจากปื นคนละกระบอก ดงั น้นั จากการตรวจเปรียบเทียบตาหนิพิเศษเหล่านี้ จึงยืนยนั ได้ว่าปลอกกระสุนปื นหรือลูกกระสุนปื นยิงจากปื นกระบอกใด ภาพการยงิ เกบ็ หวั กระสุนปื นและปลอกกระสุนปื น การยงิ เกบ็ หวั กระสุนปื นและปลอกกระสุนปื น เพื่อใชใ้ นการตรวจเปรียบเทียบ a. ยงิ ผา่ นน้าํ b. ยงิ ผา่ นสาํ ลี ภาพจากทา้ ยปลอกกระสุนปื น
๕๙ วตั ถุพยานประเภทชีววทิ ยา การตรวจพยานหลกั ฐานทางดา้ นชีววทิ ยา เช่น คราบโลหิต คราบอสุจิ ตรวจเปรียบเทียบ เส้นผม เส้นขน และดีเอน็ เอจากการสมั ผสั (Touch DNA) ฯลฯ เป็นแนวทางสาํ คญั ท่ีช่วยในการ สืบสวนสอบสวนเก่ียวกบั คดีตา่ ง ๆ ดงั น้นั เมื่อเจา้ หนา้ ท่ีไดพ้ บพยานหลกั ฐานเหล่าน้ีในสถานที่เกิด เหตุจึงจาํ เป็นที่จะตอ้ งระวงั อยา่ ละเลยหลกั ฐานเหล่าน้ี - วตั ถุพยานประเภทโลหิต (เลือด) -วตั ถุพยานประเภทคราบอสุจิ - วตั ถุพยานประเภทน้าํ ลาย - วตั ถุพยานประเภทเส้นผมและเส้นขน - การตรวจพิสูจน์ลายพมิ พด์ ีเอน็ เอ DNA วตั ถุพยานประเภทโลหิต ในคดีอาญาประเภทประทุษร้ายต่อร่างกายและชีวติ เช่น คดีฆาตกรรม ขม่ ขืนกระทาํ ชาํ เราและคดีอ่ืน ๆ ที่คลา้ ยคลึงกบั คดีเหล่าน้ี รอยคราบโลหิตจะเป็นหลกั ฐานสาํ คญั อนั หน่ึงเสมอ ในคดีจาํ พวกน้ีจะพบรอยคราบโลหิตจากบริเวณตา่ ง ๆ ดงั น้ี จากตวั ของผถู้ ูกประทษุ ร้าย จากสถานที่เกิดเหตุ จากตวั และเส้ือผา้ ของผรู้ ้าย อาวธุ ท่ีใช้ ประโยชน์ของโลหิต ประโยชนข์ องโลหิตในการสืบสวนน้นั มีหลายประการ เช่น ๑. ใชช้ ้ีบอกวา่ ท่ีใดเป็นสถานที่เกิดเหตุ การตรวจพบโลหิตของมนุษยแ์ ละมีดีเอน็ เอ ตรงกบั ผบู้ าดเจบ็ หรือผตู้ าย ตรง ณ บริเวณใด บริเวณน้นั กค็ วรถือเป็นสถานท่ีเกิดเหตไุ ด้ กรณีท่ี มกั จะพบบอ่ ย คือ ผตู้ ายถูกฆ่าตายในท่ีแห่งหน่ึง และถูกนาํ ศพไปทิง้ อีกที่หน่ึง เป็นตน้ ๒. ใชบ้ อกวา่ ไดม้ ีการกระทาํ ผดิ เกิดข้ึน เช่น การตรวจพบโลหิตของมนุษยต์ ามสถานที่ ที่ไมน่ ่าพบ เป็นตน้ วา่ ตามชิ้นส่วนของรถยนต์ เช่น กนั ชน ฝากระโปรง ยอ่ มเป็นเคร่ืองบง่ ช้ีไดว้ า่ รถคนั น้นั น่าจะถูกใชใ้ นการกระทาํ ผดิ มาก่อน ๓. ใชช้ ้ีระบุวา่ อาวธุ ใดเป็นอาวธุ ท่ีใชใ้ นการทาํ ผดิ การตรวจพบโลหิตของมนุษย์ และมีดีเอน็ เอตรงกบั ผบู ้ าดเจบ็ หรือผตู้ ายติดอยตู่ ามมีด ไม้ หรืออปุ กรณ์อยา่ งอื่น ยอ่ มเป็น เคร่ืองบง่ ช้ีวา่ ส่ิงน้นั น่าจะเป็นอาวธุ ท่ีใชใ้ นการทาํ ผดิ
๖๐ ๔. ใชพ้ สิ ูจนค์ าํ ใหก้ ารของผตู้ อ้ งสงสยั ไดแ้ ก่ การท่ีผตู้ อ้ งสงสัยใหก้ ารวา่ โลหิตท่ีพบตาม ตวั หรือเส้ือผา้ ของตนเป็นโลหิตจากสตั ว์ หากจากการพิสูจนย์ นื ยนั ไดว้ า่ โลหิตดงั กล่าวเป็นโลหิต ของมนุษย์ ยอ่ มใชเ้ ป็นขอ้ หกั ลา้ งคาํ ใหก้ ารของผตู้ อ้ งสงสัยได้ ๕. ใชใ้ นการช่วยแยกผบู้ ริสุทธ์ิออกจากผกู้ ระทาํ ผดิ เช่น ในกรณีมีผตู้ อ้ งสงสยั วา่ จะมีส่วนในการทาํ ความผดิ คดีเดียวกนั จาํ นวนหลายคน แต่มีบุคคลเพยี งคนเดียวท่ีมีดีเอน็ เอตรง กบั คนร้าย บุคคลอ่ืน ๆ ท่ีไม่เก่ียวขอ้ งยอ่ มจะไม่ตอ้ งถูกดาํ เนินคดีใหเ้ ป็นที่เดือดร้อน และ สิ้นเปลืองเวลาของเจา้ หนา้ ที่โดยไม่มีความจาํ เป็น เนื่องจากในการกระทาํ ความผดิ เช่น การ ประทุษร้ายตอ่ ชีวติ และร่างกายน้นั มกั จะมีโลหิตไหลออกมาจากบาดแผลของคกู่ รณีเสมอ จึง กล่าวไดว้ า่ ในคดีประเภทน้ี โลหิตเป็น พยานหลกั ฐานท่ีจะหาพบไดง้ า่ ยอยแู่ ลว้ ในสถานท่ีเกิดเหตุ ผสู้ ืบสวนสอบสวนไมค่ วรมองขา้ มความสาํ คญั ไม่เห็นคุณคา่ ของโลหิตเหมือนเช่นวตั ถุพยาน ชนิดอ่ืน ๆ ที่นาน ๆ คร้ังจึงจะไดพ้ บเห็น เช่นลายนิ้วมือแฝง เส้นผม เสน้ ขน เป็นตน้ ท้งั ที่จริงแลว้ โลหิตในที่เกิดเหตุน้นั สามารถใหข้ อ้ มูลและมีความหมายในทางคดีเป็นอยา่ งมาก การพสิ ูจน์คราบโลหิต เราสามารถท่ีจะพิสูจนไ์ ดด้ งั ตอ่ ไปน้ี ๑. รอยคราบหรือสิ่งท่ีตอ้ งสงสยั วา่ จะเป็นโลหิตน้นั เป็นโลหิตหรือไม่ ๒. ถา้ เป็นโลหิตแลว้ จะตอ้ งตรวจพิสูจนว์ า่ เป็นโลหิตมนุษยห์ รือไม่ ๓. ถา้ เป็นโลหิตมนุษย์ และมีลกั ษณะไมเ่ สื่อมสภาพกส็ ามารถที่จะตรวจพิสูจน์ ดีเอน็ เอต่อไปได้ ภาพแสดงตวั อยา่ งรอยโลหิตในสถานท่ีเกิดเหตุ ทมี่ า : http://nordenergi.org/org-oj-simpsontrial-forensic-evidence
๖๑ วตั ถุพยายประเภทคราบอสุจิ นา้ อสุจิ เป็นน้าํ หลง่ั จากต่อมสืบพนั ธุใ์ นอวยั วะเพศชาย จากการร่วมประเวณี หรือถูกกระตนุ้ ใหเ้ คลื่อนออกมา มีลกั ษณะเป็นน้าํ เหนียวสีขาวข่นุ หลง่ั ออกมาคร้ังละ ๑.๕-๖.๐ มล. ประกอบดว้ ยตวั อสุจิ (Sperm) และส่วนที่เป็นน้าํ คราบอสุจิ เป็นหลกั ฐานสาํ คญั ในคดีข่มขืนและกระทาํ ชาํ เรา พบไดใ้ นช่องคลอด ของผหู้ ญิงที่ถูกร่วมเพศ นอกจากน้ียงั พบคราบอสุจิเป้ื อนบริเวณเส้ือผา้ การเกบ็ หลกั ฐานทาํ ได้ โดยการใชส้ าํ ลีป้ ายจากช่องคลอดหรือตรวจดูคราบที่เป้ื อนตามเส้ือผา้ โดยใชแ้ สงอลั ตราไวโอเลต หรือแสงเลเซอร์ ส่องจะพบลกั ษณะเรืองแสงจากสาร Flavin ในน้าํ อสุจิ การตรวจพิสูจนว์ า่ คราบน้นั เป็นคราบอสุจิของผตู้ อ้ งสงสบั หรือไม่ สามารถกระทาํ โดยการทดสอบเบ้ืองตน้ ดว้ ยอาศยั หลกั การตรวจหาเอน็ ไซมเ์ ซมินอลแอซิด ฟอสฟาเตส (SAP) ท่ี มีปริมาณสูงในน้าํ อสุจิ ซ่ึงจะใหผ้ ลสีม่วงภายใน ๑ นาที วัตถุพยานประเภทน้าลาย น้าํ ลายเป็นสารหลงั่ ออกมาในปาก สร้างจากตอ่ มน้าํ ลายในบริเวณปาก ลกั ษณะเป็น ของเหลวประกอบดว้ ย น้าํ น้าํ ยอ่ ย โปรเทอิน ไขมนั และสารอ่ืน ๆ น้าํ ลาย และคราบน้าํ ลายเป็นพยานวตั ถุทางชีวภาพชนิดหน่ึง ซ่ึงสามารถนาํ มาใช้ ในการตรวจเป็นพยานหลกั ฐาน อาจพบน้าํ ลายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น น้าํ ลายที่มีผบู้ ว้ นทิ้งไว้ น้าํ ลายท่ีกน้ บหุ ร่ี น้าํ ลายที่ติดจากผา้ ที่ใชอ้ ุดปาก ซองจดหมาย และร่องรอยบาดแผลที่ใชป้ ากกดั วัตถุพยานประเภท เส้นผม และ เส้นขน เสน้ ผม หมายถึง เสน้ ผมบนศีรษะเท่าน้นั ในส่วนอื่นของร่างกายเรียกเป็นเสน้ ขน ท้งั สิ้น เช่น เสน้ ขนบริเวณอวยั วะเพศ เสน้ ขนหนา้ อก หรือเส้นขนหนา้ แขง้ เป็นตน้ การตรวจ พสิ ูจนเ์ ส้นผม เส้นขน เป็นการตรวจพสิ ูจนเ์ ปรียบเทียบระหวา่ งเสน้ ผม เสน้ ขนที่พบ หรือเสน้ ผม เสน้ ขนของกลางกบั เสน้ ผม เส้นขนผตู้ อ้ งสงสยั (เส้นผม เสน้ ขนท่ีรู้เจา้ ของแลว้ ) การเปรียบเทียบ เสน้ ผม เสน้ ขนท้งั สองฝ่ ายวา่ มีดีเอน็ เอท่ีเหมือนกนั หรือไม่ ซ่ึงถา้ เป็นเสน้ ผม เสน้ ขนของคน เดียวกนั จะมีดีเอน็ เอเหมือนกนั แตจ่ ะมีดีเอน็ เอเสน้ ผม เส้นขนแตกต่างกนั ในกรณีคนละคนกนั ในคดีต่าง ๆ หลกั ฐานทางเส้นผม เส้นขน และเสน้ ขนท่ีอวยั วะเพศ สามารถเป็น ประโยชนช์ ่วยในการสืบสวน และเป็นพยานหลกั ฐานที่สาํ คญั อีกอยา่ งหน่ึง เช่น คดีขม่ ขืนกระทาํ ชาํ เรา คดีข่มขืนแลว้ ฆ่า และคดีรถชน เสน้ ผมจากศีรษะหรือเสน้ ขนจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ของผบู้ าดเจบ็ หรือผตู้ ายอาจหลุดหรือขาดติดอยกู่ บั อาวธุ ติดอยกู่ บั รถ หรือตกหล่นอยู่ ณ สถานที่
๖๒ เกิดเหตุ จากหลกั ฐานน้ีเราสามารถนาํ มาเปน็ เคร่ืองพิสูจนย์ นื ยนั วา่ เป็นเส้นผม เสน้ ขน ของคนร้าย ผตู้ ายหรือผเู้ สียหายได้ การตรวจพสิ ูจนเ์ สน้ ผม เสน้ ขนเป็นการตรวจพิสูจนเ์ ปรียบเทียบระหวา่ งเสน้ ผม หรือเส้น ขนของกลาง กบั เส้นผมหรือเส้นขนตวั อยา่ ง (จากผตู้ อ้ งหา ผตู้ อ้ งสงสยั หรือผถู้ ูกประทษุ ร้าย) ใน ลกั ษณะตา่ ง ๆ ท้งั ภายนอกและภายในของเส้นผมและเส้นขน ดงั น้ี ๑. ลกั ษณะภายนอกที่สามารถตรวจดูดว้ ยตาเปล่า คือ ความยาว สี ความโคง้ ความหยกิ งอของลาํ เสน้ ความสะอาด สิ่งแปลกปลอมที่ติดอยบู่ นเสน้ ผม เช่น น้าํ มนั ฯลฯ ความ หยาบความออ่ นนุ่ม ร่องรอยการบุบสลาย เช่น ถูกตดั หรือถูกบด ๒. ลกั ษณะภายในที่จะตอ้ งตรวจดูดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ คือ ปลายผมและราก เปลือกนอก (Cuticle) ส่วนนอก (Cortex) และแกนใน (Medulla) โดยใชก้ ลอ้ งจุลทรรศน์ การตรวจเพศจากเส้นผม จากการตรวจดูดว้ ยตาเปล่า หรือกลอ้ งจุลทรรศน์ การตรวจแยกเพศสาํ หรับเส้นผมนบั วา่ เป็นเรื่องที่ยากมากในปัจจุบนั เพราะชายนิยมไวผ้ มยาว แต่ หญิงนิยมไวผ้ มส้ัน จากการตรวจดูลกั ษณะตา่ ง ๆ ของเส้นผมของคนวยั หนุ่มสาว พบวา่ _ เส้นผมหรือเส้นขนจากส่วนใดของร่างกาย จากการดูลกั ษณะต่าง ๆ อาจบอกไดว้ า่ เส้นขน น้นั มาจากส่วนใดของร่างกาย - เสน้ ผมจากศีรษะมีลกั ษณะดงั กล่าวมาแลว้ และมีความยาวมาก และมกั เกิน๕ เซนติเมตร ข้ึนไป - เส้นหนวดหยาบ แขง็ โคง้ ดา้ นตดั ตามขวางเป็นรูปเกือบสามเหล่ียม เส้นผา่ ศูนย์ กลาง ๑๐๐-๕๐๐ ไมครอน ปลายตดั - เสน้ ขนตา ขนคิ้ว ขนจมกู มีลกั ษณะเกือบคลา้ ยกนั คือ ส้ัน อว้ น แกนในกวา้ งปลายเรียว แหลมยาว ความยาวต่าํ กวา่ ๓ ซม. ลงมา
๖๓ - เส้นขนตามลาํ ตวั มกั มีความแตกตา่ งกนั ในขนาดของลาํ ตน้ มีความกวา้ งไม่เท่ากนั มี ความละเอียดออ่ น สีอ่อน ปลายเรียวยาว เส้นขนตามแขน ขา จะมีลกั ษณะยาวและหยาบกวา่ เส้น ขนตามลาํ ตวั - เส้นขนท่ีหวั เหน่าและรักแร้ มีลกั ษณะคลา้ ยกนั แต่เสน้ ขนท่ีหวั เหน่าจะมีลกั ษณะ หยกิ เป็นป้ื นมากกวา่ บางเส้นบิดเป็นเกลียว เป็นเสน้ ส้ัน ความยาวระหวา่ ง ๓-๘ เซนติเมตร การ พบตวั ไรที่เสน้ ขนอาจช่วยบอกไดว้ า่ เป็นเส้นขนที่หวั เหน่า การตรวจพสิ ูจน์ลายพมิ พ์ดีเอน็ เอ ดีเอน็ เอ (DNA) คืออะไร DNA ยอ่ มาจาก Deoxyribo Nucleic Acid เป็นสารพนั ธุกรรมของสิ่งมีชีวิต (มนุษย์ พชื สัตว)์ ดีเอน็ เอ มีอยใู่ นนิวเคลียสของเซลลต์ า่ ง ๆ เช่น โลหิตขาว เซลลผ์ วิ หนงั เยอื่ กระพงุ้ แกม้ หรือ ปลายรากเส้นผม เป็นตน้ กล่าวคือ ในสิ่งมีชีวิตแตล่ ะหน่วยหรือแตล่ ะเซลลจ์ ะมีชุด DNA ท่ีเป็น รหสั เฉพาะตวั ซ่ึงจะมีความแตกต่างกนั ออกไปมากบา้ ง นอ้ ยบา้ ง แลว้ แตส่ ายพนั ธุ์ จึงไมม่ ีสิ่งมีชีวิตใดที่มีชุด DNA เหมือนกนั ท้งั หมด ยกเว้น ฝาแฝดท่ีเกิดมาจากไข่ใบเดียวกัน เท่าน้นั จากความจาํ เพาะที่มีอยใู่ นชุด DNA แตล่ ะหน่วยน้ีเอง ในทางนิติวิทยาศาสตร์จึงไดน้ าํ มา เป็นเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการตรวจพสิ ูจนเ์ พอ่ื ระบุยนื ยนั ตวั บคุ คลในทางคดีแพง่ และยงั ใชพ้ ิสูจน์ ความสมั พนั ธ์ของพอ่ แม่ ลูกได้ ซ่ึงเรียกวา่ “ลายพมิ พด์ ีเอน็ เอ (DNA fingerprint)” ลายพมิ พ์ดเี อน็ เอ (DNA Fingerprint) มีประโยชน์อย่างไร ๑. ใชพ้ ิสูจนค์ วามเป็น พอ่ แม่ ลูก ๒. ใชพ้ ิสูจนห์ ลกั ฐานพยานทางนิติเวช ๓. ใชใ้ นทางการแพทย์ เช่น ติดตามผลของการปลูกถ่ายไขกระดูก ๔. ใชใ้ นการตรวจหาโครโมโซมเพศ เพอ่ื นาํ มาคดั กรองโรคที่เกี่ยวกบั X-linked gene ในการวินิจฉยั ก่อนคลอด ๕. ใชใ้ นการศึกษาทางพนั ธุศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------
๖๔ วตั ถุพยานประเภทยาเสพติด ความหมายของยาเสพตดิ “ยาเสพติด” หมายความวา่ ยาเสพติดใหโ้ ทษตามกฎหมายวา่ ดว้ ยยาเสพติดใหโ้ ทษ วตั ถุออกฤทธ์ิตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวตั ถุออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท และสารระเหย ตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยการป้ องกนั การใชส้ ารระเหย ยาเสพติดใหโ้ ทษ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดใหโ้ ทษ ใหค้ าํ จาํ กดั ความวา่ หมายถึง สารเคมี หรือวตั ถุชนิดใด ๆ ซ่ึงเม่ือเสพเขา้ สู่ร่างกาย ไม่วา่ จะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือดว้ ยประการ ใด ๆ แลว้ ทาํ ใหเ้ กิดผลตอ่ ร่างกายและจิตใจในลกั ษณะสาํ คญั เช่น ตอ้ งเพ่ิมขนาดการเสพเร่ือย ๆ มี อาการถอนยา เมื่อขาดยา มีความตอ้ งการเสพท้งั ร่างกายและจิตใจอยา่ งรุนแรงอยตู่ ลอดเวลา และ สุขภาพโดยทวั่ ไปจะทรุดโทรมลง กบั ใหร้ วมถึงพืชหรือส่วนของพชื ท่ีเป็นหรือใหผ้ ลผลิตเป็นยา เสพติดใหโ้ ทษหรืออาจใชผ้ ลิตเป็นยาเสพติดใหโ้ ทษ และสารเคมีท่ีใชผ้ ลิตยาเสพติดใหโ้ ทษ ดงั กล่าวดว้ ย ท้งั น้ี ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ไม่ใหห้ มายความรวมถึง ยาสามญั ประจาํ บา้ นบาง ตาํ รับตามกฎหมายวา่ ดว้ ยยาที่มียาเสพติดใหโ้ ทษผสมอยู่ ยาเสพตดิ ให้โทษประเภทต่างๆ ประเภท ๑ เช่น แอมเฟตามีน เมทแอมเฟตามีน เฮโรอีน LSD MDMA ฯลฯ ประเภท ๒ เช่น โคคาอีน โคเคอีน มอร์ฟี น ฝ่ิ นสุก ฝิ่ นดิบ มูลฝ่ิ น ฯลฯ ประเภท ๓ เช่น ตาํ รับยาท่ีมีสว่ นผสมยาเสพติดใหโ้้ ทษประเภท ๒ ผสมอยทู ่กุ ชนิด ซ่ึงตอ้ งขออนุญาตจากสาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เช่น ยาแกไ้ อ ที่มีส่วนผสมของโคเคอีน ประเภท ๔ เช่น Acetic Anhydride, Acetyl Chloride ฯลฯ ประเภท ๕ เช่น กญั ชา พืชกระทอ่ ม พชื ฝิ่ น พชื เห็ดข้ีควาย ฯลฯ วัตถุออกฤทธ์ิ ตาม พ.ร.บ.วตั ถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตประสาท ใหค้ าํ จาํ กดั ความวา่ หมายถึง วตั ถุท่ีออกฤทธ์ิตอ่ จิตและประสาทที่เป็นสิ่งธรรมชาติหรือสิ่งที่ไดจ้ ากส่ิง ธรรมชาติ หรือวตั ถุออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท ท่ีเป็นวตั ถุสังเคราะห์ ท้งั น้ี ตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวตั ถุออกฤทธ์ิ ประเภท ๑ เช่น Mescaline Psilocine ฯลฯ ประเภท ๒ เช่น อีเฟดรีน, ฟลูราซีนแพม, มิดาโซแลม, ไตรอาโซแลม ฯลฯ ประเภท ๓ เช่น เมโพรบาเมต Amobarbital ฯลฯ
๖๕ ประเภท ๔ เช่น โบรมาซีแพม, ไดอาซีแพม, ลอราซีแพม, เมดาซีแพม ฯลฯ สารระเหย ตาม พ.ร.ก.ป้ องกนั การใชส้ ารระเหย ใหค้ าํ จาํ กดั ความวา่ หมายถึง สารเคมี หรือผลิตภณั ฑท์ ี่รัฐมนตรีประกาศวา่ เป็นสารระเหย ไดแ้ ก่๕.๔.๑ สารเคมีซ่ึงจดั เป็นสารระเหย ไดแ้ ก่ - Acetone - Ethyl Acetate - 2-Butoxyethanol - 2-Ethoxyethanol - 2-Methoxyethanol - 2-Ethoxy Ethyl Acetate - Methyl Acetate - Toluene - Methyl Ethyl Ketone - Isopropylacetone - n-Butyl Acetate - sec-Butyl Acetate - n-Butyl Nitrite - Iso-Butyl Nitrite ผลิตภณั ฑท์ ่ีมีชื่อต่อไปน้ี หรือที่เรียกช่ืออยา่ งอื่นซ่ึงมีสารเคมีชนิดใดชนิดหน่ึง หรือหลาย ชนิดผสมอยเู่ ป็นสารระเหย ไดแ้ ก่ - ทินเนอร์ - แลก็ เกอร์ - กาวอินทรียส์ ังเคราะหท์ ี่มียางนิโอปริน หรือสารกลุ่มไวนิล เป็นตวั ประสาน - กาวอินทรียธ์ รรมชาติ - ลูกโป่ งวทิ ยาศาสตร์ หรือลูกโป่ งพลาสติก การตรวจพสิ ูน์ (Identification and Analysis) ผทู้ ่ีจะทาํ การตรวจพิสูจน์ คือ ผปู้ ฏิบตั ิหนา้ ที่ในสถานท่ีตรวจพิสูจนท์ ่ีมีความรู้ ความสามารถ ทาํ การตรวจพสิ ูจนย์ าเสพติด และสามารถรายงานผลการตรวจพสิ ูจนไ์ ด้
๖๖ การตรวจพสิ ูน์ด้านคุณภาพวเิ คราะห์ (Qualitative Analysis) ในกรณี ของกลางเป็นยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท ๑, ๒ ท่ีมีน้าํ หนกั ไมถ่ึง ๒๐ กรัม, ฝนิ่ ท่ีมีน้าํ หนกั ไมถ่ึง ๕๐๐ กรัม,ยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท ๔, ๕ วตั ถุออกฤทธ์ิ หรือสารระเหย ใหท้ าํ การตรวจดา้ น คุณภาพวิเคราะหโ์ ดยปฏิบตั ิตามระเบียบสาํ นกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยการจบั ยดึ และตรวจพิสูจน์ ยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๗ หมวด ๔ การตรวจพสิ ูจน์ ขอ้ ๑๗ ขอ้ ๑๗ ในกรณีที่ยาเสพติดของกลางเป็นยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ซ่ึงมีน้าํ หนกั ไมถ่ึงยสี่ ิบกรัม หรือฝ่ิ น ซ่ึงมีน้าํ หนกั ไมถ่ึงหา้ ร้อยกรัม หรือยาเสพติด ใหโ้ ทษประเภท ๔ หรือประเภท ๕ หรือวตั ถุออกฤทธ์ิ หรือสารระเหย ใหผ้ ตู้ รวจพิสูจนป์ ฏิบตั ิ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ใหผตู้ รวจพิสูจนไ์ มน่ อ้ ยกวา่ สองคนตรวจสภาพภาชนะที่บรรจุยาเสพติดของกลาง แลว้ ใหท้ าํ บนั ทึกไวเ้ ป็นพยานหลกั ฐาน ตามแบบ ป.ป.ส. ๖-๓๔ ทา้ ยระเบียบน้ี ในกรณีที่จาํ เป็น ผตู้ รวจพสิ ูจนห์ น่ึงคนอาจดาํ เนินการตามขอ้ (๑) ร่วมกบั เจา้ หนา้ ที่อ่ืน ดงั น้ี (ก) ในสถานตรวจพิสูจนข์ องสาํ นกั งานตาํ รวจแห่งชาติ ผตู้ รวจพสิ ูจน์ อาจดาํ เนินการร่วมกบั นายตาํ รวจช้นั สัญญาบตั ร ซ่ึงผบู้ ญั ชาการสาํ นกั วทิ ยาการตาํ รวจมอบหมาย เป็นหนงั สือ (ข) ในสถานตรวจพสิ ูจนข์ องกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ ผตู้ รวจ พสิ ูจนอ์ าจดาํ เนินการร่วมกบั ขา้ ราชการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทยต์ ้งั แตร่ ะดบั ๓ ข้ึนไป ซ่ึง อธิบดีกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทยม์ อบหมายเป็นหนงั สือ (ค) ในสถานตรวจพิสูจนข์ องสาํ นกั งานคณะกรรมการป้ องกนั และปราบปรามยาเสพติด ผตู ้ รวจพิสูจนอ์ าจดาํ เนินการร่วมกบั ขา้ ราชการของสาํ นกั งาน คณะกรรมการป้ องกนั และปราบปรามยาเสพติดต้งั แตร่ ะดบั ๓ ข้ึนไป ซ่ึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป้ องกนั และปราบปรามยาเสพติดมอบหมายเป็นหนงั สือ (๒) เมื่อทาํ การตรวจพสิ ูจนใ์ นหอ้ งปฏิบตั ิการเสร็จแลว้ ใหส้ ถานตรวจ พสิ ูจนส์ ่งผลการตรวจพิสูจนใ์ หพ้ นกั งานสอบสวนเจา้ ของคดีทราบ ภายในกาํ หนดไม่เกินสามสิบ วนั สาํ หรับยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภท ๑ หรือประเภท ๒ และภายในกาํ หนดไม่เกินยสี่ ิบวนั สาํ หรับ ยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภท ๔ ประเภท ๕ วตั ถุออกฤทธ์ิ หรือสารระเหย ท้งั น้ี นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับยา เสพติดของกลางตามแบบ
๖๗ การตรวจพสิ ูจน์ด้านปริมาณวเิ คราะห์ การตรวจพสิ ูจนด์ า้ นปริมาณวิเคราะห์ เป็นการ ตรวจพสิ ูจนข์ องกลางท่ีเป็นยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท ๑, ๒ ซ่ึงมีน้าํ หนกั ต้งั แต่๒๐ กรัมข้ึนไป, ฝิ่ น ที่มีน้าํ หนกั ต้งั แต่ ๕๐๐ กรัมข้ึนไป หรือวตั ถุออกฤทธ์ิ เป็นไปตามประกาศ กระทรวงสาธารณสุข เร่ืองกาํ หนดปริมาณการมีไวใ้ นครอบครองหรือใชป้ ระโยชนซ์ ่ึงวตั ถุออก ฤทธ์ิในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยตรวจหาปริมาณสารบริสุทธ์ิในสารเสพติด โดยปฏิบตั ิตามระเบียบสาํ นกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยการจบั ยดึ และตรวจพิสูจนย์ าเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ หมวด ๔การตรวจพิสูจน์ ขอ้ ๑๖ ดงั น้ี ขอ้ ๑๖ ในกรณีที่ยาเสพติดของกลาง ซ่ึงสงสยั วา่ เป็นยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ซ่ึงมีน้าํ หนกั ต้งั แตยส่ี ิบกรัมข้ึนไป เฉพาะฝิ่ นมีน้าํ หนกั ต้งั แต่ร้อยกรัม ข้ึนไปใหผ้ ตู้ รวจพิสูจนป์ ฏิบตั ิดงั น้ี (๑) ใหผ้ ตู้ รวจพสิ ูจนไ์ ม่นอ้ ยกวา่ สองคนตรวจสภาพภาชนะที่บรรจุยาเสพติดของกลาง แลว้ ใหต้ รวจยาเสพติดของกลาง ชง่ั น้าํ หนกั และทาํ การตรวจพสิ ูจนเ์ บ้ืองตน้ โดยวิธีปฏิกิริยาทาํ ใหเ้ กิดสีตอ่ หนา้ พนกั งานสอบสวนเจา้ ของคดี หรือผทู ่้ีไดร้ับมอบหมาย ซ่ึงเป็น ผนู้ าํ ส่งยาเสพติดดงั กล่าว และทาํ บนั ทึกผลการตรวจพสิ ูจนเ์ บ้ืองตน้ ไว้ ตามแบบ ป.ป.ส. ๖-๓๓ ทา้ ยระเบียบน้ี ในกรณีท่ีจาํ เป็น ผตู้ รวจพิสูจนห์ น่ึงคนอาจดาํ เนินการตามขอ้ (๑)ร่วมกบั เจา้ หนา้ ที่ อื่น ดงั น้ี (ก) ในสถานตรวจพสิ ูจนข์ องสาํ นกั งานตาํ รวจแห่งชาติ ผตู้ รวจพสิ ูจนอ์ าจดาํ เนินการ ร่วมกบั นายตาํ รวจสญั ญาบตั ร ซ่ึงผบู้ ญั ชาการสาํ นกั วทิ ยาการตาํ รวจมอบหมายเป็นหนงั สือ (ข) ในสถานตรวจพสิ ูจนข์ องกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผตู้ รวจพิสูจนอ์ าจดาํ เนินการ ร่วมกบั ขา้ ราชการของกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทยต์ ้งั แตร่ ะดบั ๓ ข้ึนไป ซ่ึงอธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทยม์ อบหมายเป็นหนงั สือ (ค) ในสถานตรวจพสิ ูจนข์ องสาํ นกั งานคณะกรรมการป้ องกนั และปราบปรามยาเสพติด ผตู้ รวจพสิ ูจนอ์ าจดาํ เนินการร่วมกบั ขา้ ราชการของสาํ นกั งานคณะกรรมการป้ องกนั และ ปราบปรามยาเสพติดต้งั แต่ระดบั ๓ ข้ึนไป ซ่ึงเลขาธิการคณะกรรมการป้ องกนั และปราบปรามยา เสพติดมอบหมายเป็นหนงั สือ (๒) เม่ือทาํ การตรวจพิสูจนห์ าความบริสุทธ์ิและรายละเอียดอื่น ๆในหอ้ งปฏิบตั ิการเสร็จ แลว้ ใหส้ ถานตรวจพิสูจนส์ ่งผลการตรวจพิสูจนใ์ หพ้ นกั งานสอบสวนเจา้ ของคดีทราบ ภายใน กาํ หนดไมเ่ กินสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับยาเสพติดของกลาง
๖๘ การตรวจสารเสพตดิ ในปัสสาวะ การตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย สามารถตรวจไดใ้ นสารชีววตั ถุหลายชนิด เช่น ปัสสาวะ เหง่ือ น้าํ ลาย เลือด เส้นผม และเล็บ ซ่ึงการเลือกชนิดของตวั อยา่ งชีววตั ถุ จะตอ้ งพจิ ารณาควบคูก่ บั วตั ถุประสงคข์ องการตรวจ ปริมาณสารเสพติดในชีววตั ถุน้นั ๆ ความยากง่ายในการเก็บตวั อยา่ ง การ เก็บรักษาตวั อยา่ ง การนาํ ส่งตวั อยา่ ง และความพร้อมของหอ้ งปฏิบตั ิการในการตรวจวเิ คราะห์ ปัสสาวะเป็นสารชีววตั ถุที่นิยมใชใ้ นการตรวจหาสารเสพติด ซ่ึงใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายและผลการ ตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะเป็นที่ยอมรับในช้นั ศาลในระดบั สากล ขอ้ ดีของการใชต้ วั อยา่ ง ปัสสาวะคือ ตวั อยา่ งปัสสาวะสามารถเกบ็ ตวั อยา่ งไดง้ ่าย และเก็บตวั อยา่ งไดป้ ริมาณมากเพยี งพอต่อ การตรวจวเิ คราะห์ มีความคงตวั สูง ระยะเวลาท่ีสามารถตรวจพบ สารเสพติดในปัสสาวะคอ่ นขา้ ง นานหลายวนั การทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะ สามารถแบ่งออกได้เป็ น 2 วธิ ี 1.การทดสอบสารเสพตดิ เบอื้ งต้น หรือการตรวจสอบแบบคดั กรอง (screening test) เป็นการทดสอบเพ่ือคดั แยกตวั อยา่ งปัสสาวะท่ีใหผ้ ลบวก คือ มีความเป็นไปได้ วา่ จะมีสารเสพติดผสมอยอู่ อกจากตวั อยา่ งท่ีไมม่ีสารเสพติด ผลการทดสอบในช้นั น้ีไม่สามารถ ยนื ยนั ความถูกตอ้ งวา่ มีการเสพยาเสพติดหรือไม่ จนกวา่ จะผา่ นการทดสอบในข้นั ยนื ยนั ผล การ ทดสอบสารเสพติดเบ้ืองตน้ ส่วนใหญ่จะเป็นการทดสอบ ณ จุดตรวจ โดยใชช้ ุดทดสอบสารเสพติด เบ้ืองตน้ สาํ เร็จรูปท่ีใชห้ ลกั การภูมิคุม้ กนั วทิ ยา ท่ีนิยมใชอ้ ยา่ งแพร่หลายคือ ชุดทดสอบสารเสพติด เบ้ืองตน้ ชนิดตลบั และชนิดแถบหรือตรวจโดยเครื่องมือที่ใชห้ ลกั การทางภูมิคุม้ กนั วทิ ยาเช่นกนั วธิ ีการทดสอบสารเสพติดเบ้ืองตน้ ที่นิยมใชท้ ว่ั ไป ซ่ึงมีขอ้ ดีคือ มีข้นั ตอน ทดสอบไม่ยงุ่ ยากสามารถ อ่านผลอยา่ งรวดเร็ว ราคาไม่สูงเกิน สามารถใชค้ ดั แยกตวั อยา่ งจาํ นวนมากได้ ในระยะเวลาอนั ส้ัน และสามารถนาํ ไปใชใ้ นสถานท่ีตา่ ง ๆ นอกหอ้ งปฏิบตั ิการไดอ้ ยา่ งสะดวก โดยไม่จาํ เป็นตอ้ งใช้ บุคลากรท่ีมีความรู้หรือทกั ษะเฉพาะ
๖๙ ชุดทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะ
๗๐ ตัวอย่างชุดทดสอบแบบแถบ ชุดทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะแบบแถบ เขา้ ถึงเมื่อวนั ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ 2.การทดสอบแบบยนื ยนั (confirmation test) เป็นการทดสอบเพ่อื ยนื ยนั วา่ ตวั อยา่ งปัสสาวะท่ีใหผ้ ลบวก ในข้นั ตอนการทดสอบเบ้ืองตน้ น้นั มีสารเสพติดผสมอยจู่ ริงหรือไม่ ในหอ้ งปฏิบตั ิการ โดยตอ้ งทาํ การสกดั แยกสารเสพติดและสาร เมตาบอไลตข์ องสารเสพติดน้นั ๆ ออกจากตวั อยา่ ง แลว้ นาํ สารสกดั น้นั ไปตรวจอยา่ งละเอียดดว้ ย เทคนิคโครมาโทกราฟ ชนิดตา่ ง ๆ เช่น ธินแลเยอร์โครมาโทกราฟี (TLC),ไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควคิ โครมาโทกราฟี (HPLC), แก๊สโครมาโทกราฟี (GC), ไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควคิ โครมาโทกราฟี - แมสสสเปกโทร (HPLC-MS) หรือ แกส๊ โครมาโทกราฟ-แมสสเปกโทรเมทรี(GC-MS) เป็นตน้
๗๑ วตั ถุพยานประเภทอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ และอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ วตั ถุพยาน (Evidence) หมายถึง วตั ถุ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่อาจมีขอ้ มูลดิจิทลั บนั ทึกอยู่ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ สมาร์ทโฟน แทบ็ เล็ต หรือเป็นส่ือบนั ทึกขอ้ มลู ดิจิทลั รูปแบบตา่ ง ๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจาํ แฟลช แผน่ ซีดี แผน่ ฟลอบป้ี ดิส หรือแมแ้ ตเ่ อกสารที่ บนั ทึกขอ้ ความอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงที่อาจใชแ้ ปล อธิบาย ประกอบ หรือขยายความหมายของขอ้ มูล ดิจิทลั ได้ ของกลางทน่ี ามาตรวจพสิ ูจน์มีอะไรบ้าง? ๑. คอมพิวเตอร์ประเภทตา่ ง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC), โนต้ บุค้ (Notebook) เคร่ืองแมข่ า่ ย (Server) ๒. หน่วยความจาํ ต่าง ๆ เช่น แฟลชไดร์ฟ และ เมมโมร่ีการ์ด ต่าง ๆ ๓. โทรศพั ทม์ ือถือ แทบ็ เล็ต สมาร์ทโฟน ๔. บตั รอิเล็กทรอนิกส์ สกิมเมอร์ และส่วนประกอบตา่ ง ๆ ๕. แผน่ ซีดี/ดีวดี ี ๖. เคร่ืองบนั ทึกภาพกลอ้ งวงจรปิ ด CCTV คอมพวิ เตอร์ คน้ หาขอ้ มูลที่ใชใ้ นการกระทาํ ผดิ ตาม พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ เช่น หม่ินประมาท ละเมิด ลิขสิทธ์ิ ออกใบกาํ กบั ภาษีปลอม ภาพลามกอนาจาร ประวตั ิการใชง้ านอินเทอร์เน็ต เป็นตน้ การเก็บ วตั ถุพยานประเภทคอมพวิ เตอร์หลงั จากปิ ดเครื่องและตรวจยดึ แลว้ ไม่ควรนาํ มาเปิ ดอีกเพอ่ื เป็นการ รักษาวตั ถุพยานไม่ใหว้ นั ที่เวลา/เปลี่ยนแปลง คาถามในการส่งตรวจพสิ ูจน์ - มีแฟ้ มขอ้ มลู ตามเอกสาร, ภาพถ่ายของกลางรายการท่ี…(ตามที่ส่งมาตรวจ) บนั ทึก อยใู่ นฮาร์ดดิสกข์ องคอมพวิ เตอร์ของกลางน้ีหรือไม่ - มีแฟ้ มขอ้ มูลภาพยนตร์ตามแผน่ ดีวดี ีของกลาง (เจา้ ของลิขสิทธ์ิ) รายการที่…บนั ทึก อยใู่ นฮาร์ดดิสกข์ องคอมพวิ เตอร์ของกลางน้ีหรือไม่ - มีประวตั ิการใชง้ านเวบ็ ไซตพ์ นนั ออนไลน์ตามเอกสารตวั อยา่ ง บนั ทึกอยใู นฮารด์ ดิสก์ ของคอมพิวเตอร์ของกลางน้ีหรือไม่ ----------------------------------------------
๗๒ โทรศัพท์เคลอ่ื นท่ี คน้ หาขอ้ มลู บญั ชีรายช่ือ ขอ้ มูลการโทรศพั ท์ การรับส่งขอ้ ความส้นั หรือ รูปภาพเพื่อส่งให้ พงส. นาํ ขอ้ มลู ท่ีไดไ้ ปเชื่อมโยงหาผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งในการกระทาํ ผดิ คน้ หาขอ้ มูลการใชง้ านสังคมออนไลน์ “Social Media” เชน่ เฟซบุก๊ ไลน์ หรือ WhatsApp เป็นตน้ คาถามในการส่งพสิ ูจน์ - มีขอ้ มลู บญั ชีรายช่ือ ขอ้ มูลการโทรศพั ท์ การรับส่งขอ้ ความส้ัน หรือรูปภาพ บนั ทึก อยใู่ นหน่วยความจาํ ของโทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ของกลางน้ีหรือไม่ - มีประวตั ิการสนทนากบั หมายเลข…บนั ทึกอยใู นหน่วยความจาํ ของโทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ ของกลางน้ีหรือไม่ - มีขอ้ มลู การใชง้ านสังคมออนไลน์ “Social Media” เช่น เฟซบุก๊ ไลน์ หรือ WhatsApp ------------------------------------------- กล้องวงจรปิ ด - กคู้ ืนขอ้ มลู ที่ถูกลบจากเครื่องบนั ทึกภาพกลอ้ งวงจรปดิ CCTV เคร่ืองบนั ทึกภาพ กลอ้ งวงจรปิ ด มีหลายยหี่ อ้ หลายมาตรฐาน จาํ เป็นตอ้ งนาํ ส่งมาท้งั เคร่ืองพร้อมสายจ่ายกระแสไฟฟ้ า - ขยายและเพม่ิ ความคมชดั ของภาพจากเครื่องบนั ทึกภาพกลอ้ งวงจรปิ ด เพื่อระบุหมายเลขแผน่ ป้ ายทะเบียน สี หรือยหี่ อ้ ของรถ - ขยายและเพมิ่ ความคมชดั ของภาพบุคคลที่ปรากฏในภาพจากเครื่องบนั ทึก ภาพกลอ้ งวงจรปิ ด เพอ่ื ระบุรายละเอียดของบุคคล คาถามในการส่งตรวจพสิ ูจน์ - สามารถกคู ้ืนขอ้ มูลที่ถูกลบจากเครื่องบนั ทึกภาพกลอ้ งวงจรปดิ เม่ือวนั ที่…เวลา…..ได้ หรือไม่ - มีขอ้ มูลเมื่อวนั ท่ี…เวลา…..บนั ทึกอยใู่ นเครื่องบนั ทึกภาพกลอ้ งวงจรปิ ดของกลางหรือไม่ - สามารถขยายและเพมิ่ ความคมชดั ของภาพจากเคร่ืองบนั ทึกภาพกลอ้ งวงจรปิ ด เพือ่ ระบุหมายเลขแผน่ ป้ ายทะเบียน สี หรือยห่ี อ้ ของรถไดห้ รือไม่ - สามารถขยาย และเพมิ่ ความคมชดั ของภาพบุคคลที่ปรากฏในภาพจากเคร่ืองบนั ทึกภาพ กลอ้ งวงจรปิ ด เพ่อื ระบุรายละเอียดของบุคคล --------------------------------------------------------------
๗๓ วัตถุพยานประเภทเคมี ฟิ สิกส์ นกั วทิ ยาศาสตร์ (สบ ๑ - ๔) ในสงั กดั กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิ สิกส์ กองพิสูจน์หลกั ฐานกลาง ศูนยพ์ สิ ูจน์หลกั ฐาน ๑ – ๑๐ เป็นผตู้ รวจ พิสูจนว์ ตั ถุพยานประเภท เคมี ฟิ สิกส์ การตรวจวตั ถุพยานประเภท เคมี ฟิ สิกส์ อาทิเช่น - การตรวจพิสูจน์สารเคมี และวสั ดุตา่ ง ๆ เพอ่ื ทราบวา่ เป็นชนิดใด - ตรวจพิสูจนส์ ารเคมีท่ีใชเ้ ป็นวตั ถุระเบิด หรือใชเ้ ป็ นส่วนผสมของวตั ถุระเบิด - ตรวจพสิ ูจน์สารเคมีทว่ั ไปที่ตรวจพบในสถานที่เกิดเหตุ - ตรวจพสิ ูจน์น้าํ มนั เช้ือเพลิง หรือสารเคมีไวไฟในคดีเพลิงไหม้ - ตรวจพิสูจน์วสั ดุต่าง ๆ เช่น โลหะ (ทองปลอม) พลาสติก เส้นใย กระดาษฯลฯ - การตรวจเปรียบเทียบสารเคมี และวสั ดุต่าง ๆ ท่ีพบในสถานท่ีเกิดเหตุผตู้ อ้ งสงสัย และผเู้ สียหาย เพือ่ ทราบวา่ เป็นชนิดเดียวกนั หรือไม่ - ตรวจเปรียบเทียบสีรถในคดีจราจร - ตรวจเปรียบเทียบดิน หิน ทราย - ตรวจเปรียบเทียบวสั ดุตา่ ง ๆ เช่น โลหะ พลาสติก เศษแกว้ เส้นใยกระดาษ ฯลฯ - ตรวจเปรียบเทียบสารเคมีปลอมปนตา่ ง ๆ เช่น ป๋ ุย สี หมึกปริ้นเตอร์ฯลฯ - การตรวจพสิ ูจนอ์ ุปกรณ์ไฟฟ้ าต่าง ๆ ในคดีเพลิงไหม้ เพอ่ื ทราบวา่ เป็นสาเหตุท่ีทาํ ใหเ้ กิดเพลิงไหม้ หรือไม่ ส่ง วตั ถุพยานประเภท เคมี ฟิ สิกส์ ส่งตรวจอย่างไรให้ถูกต้อง * การตรวจพสิ ูจน์รถ เรือ และวตั ถุท่ีมีเลขหมายประจาํ - ไม่ควรกระทาํ การใด ๆ ที่บริเวณเลขหมายประจาํ ตวั ถงั และเลขหมายประจาํ เคร่ืองยนตก์ ่อนส่งตรวจพิสูจน์ * การตรวจพสิ ูจน์และการตรวจเปรียบเทียบสารเคมี และวสั ดุต่าง ๆ - ควรประสานเจา้ หนา้ ท่ีพสิ ูจนห์ ลกั ฐานเพื่อเกบ็ รักษาวตั ถุพยานในภาชนะท่ี เหมาะสม และปราศจากการปนเป้ื อน * การตรวจพิสูจน์อุปกรณ์ไฟฟ้ าต่าง ๆ ในคดีเพลิงไหม้ ในคดีอ่ืน ๆ และการตรวจ พิสูจนม์ ิเตอร์ไฟฟ้ า - ควรประสานเจา้ หนา้ ที่พิสูจน์หลกั ฐานเพอ่ื เกบ็ รักษาวตั ถุพยานในภาชนะท่ี เหมาะสม มนั่ คง แขง็ แรง
๗๔ * การตรวจพิสูจนท์ างฟิ สิกส์ในคดีจราจร - ในบางกรณีอาจจาํ เป็นตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์เสริมในการยกซากรถเพื่อหาร่องรอยการ เฉ่ียวชน ----------------------------------------------------------------- วัตถุพยานประเภทต่างๆ เศษดนิ เศษหนิ ทราย แก้ว ในทางธรณีวทิ ยาจดั วา่ หิน ดิน ทราย เป็นวตั ถุปกคลุมผวิ โลกท่ีมีลกั ษณะแหล่งที่มาเก่ียวขอ้ ง กนั ดงั น้นั วตั ถุของกลางท่ีเป็นเศษหิน ดิน ทราย อาจแบ่งตามสภาพที่พบเห็นดงั ต่อไปน้ี ๑. เศษหิน ดิน ทราย แหง้ ติดตามพ้ืนผวิ ของวตั ถุของกลางตา่ ง ๆ โดยมากเศษดงั กล่าวจะมีจาํ นวนนอ้ ย ๒. เศษหิน ดิน ทราย เปี ยก หรือที่แหง้ แลว้ ติดตามพ้ืนผวิ ของวตั ถุของกลางต่าง ๆ หิน ดิน ทราย ดงั กล่าวจะมีลกั ษณะเป็นกอ้ น หรือแหง้ แลว้ จบั ตวั แขง็ เป็นกอ้ น เป็นตน้ รอยยางรถยนต์ รถยนตแ์ ตล่ ะชนิดจะใชย้ างที่แตกต่างกนั ออกไป ไมว่ า่ จะเป็นเรื่องของขนาด ความกวา้ งของ ดอกยาง และลวดลายของดอกยาง และถึงแมว้ า่ จะใชย้ างชนิดเดียวกนั ความแตกต่างในเร่ืองของความ สึกหรอ รอยปริ รอยซ่อมแซมก็จะเกิดข้ึนไดก้ บั รถยนตแ์ ตล่ ะคนั นอกจากน้นั รถท่ีวงิ่ มาเร็ว ๆ แลว้ หยดุ กะทนั หนั รอยดอกยางที่จะเกิดบนผวิ ถนนข้ึนอยกู่ บั ทิศทางการวงิ่ ความเร็ว สภาพถนน น้าํ หนกั บรรทุก อีกประการหน่ึง ความห่างของลอ้ และเพลาจะใชเ้ ป็นขอ้ มูลบอกชนิดและรุ่นของรถไดด้ ว้ ย ดงั น้นั รอยยางรถที่พบในท่ีเกิดเหตุจึงสามารถนาํ มาใชเ้ ป็นเครื่องมือ การสืบสวนสอบสวนหรือเป็นวตั ถุพยาน ดว้ ยวธิ ีการเปรียบเทียบกบั รอยยางรถที่เราทราบชนิด และเจา้ ของที่แน่นอนแลว้ ----------------------------------------------------------------
๗๕ จะเห็นได้ว่าวัตถุพยานต่าง ๆ ทางวทิ ยาศาสตร์ สามารถเช่ือมโยงตัวบุคคลเข้ากบั เหตุการณ์ สถานทเ่ี กดิ เหตุทมี่ กี ารกระทาความผดิ เกดิ ขึ้น เจ้าหน้าทต่ี ารวจใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์วัตถุ พยานในสถานท่ีเกดิ เหตุ เพอื่ คลคี่ ลายปมอาชญากรรมต่าง ๆ ให้ชัดเจน แม้จะต้องใช้เวลาในการ ตรวจหาหลักฐาน ข้อเทจ็ จริง เพอ่ื พสิ ูจน์ให้เหน็ ว่าเร่ืองราวทเ่ี กดิ ขึ้นเป็ นมาอย่างไรกต็ าม -------------------------------------------------------------------------
๗๖ แบบทดสอบหลงั เรียน ข้อ 1. เหตุใดวตั ถุพยานประเภทลายนิว้ มือ ลายฝ่ ายมอื ฝ่ าเท้า จึงมคี วามสาคัญในการพสิ ูจน์ เอกลกั ษณ์บุคคล ก. ไม่มีการเหมือนกนั ข. ไม่มีความยงุ่ ยาก ค. ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ง. ขอ้ ก. และ ค. ถูกตอ้ ง ข้อ 2. ประเภทของ “ลายนิว้ มอื ” แบ่งออกเป็ นประเภทใหญ่ๆ ได้กปี่ ระเภท ก. 3 ชนิด คือ คลื่น,ราบ,มดั หวาย ข. 3 ชนิด คือ โคง้ ,กน้ หอย,มดั หวาย ค. 3 ชนิด คือ มดั หวาย,กน้ หอย,ราบ ง. 3 ชนิด คือ ราบ,โคง้ ,มดั หวาย ข้อ 3. ลายนิว้ มอื ฝ่ ามอื ฝ่ าเท้าแฝง ปรากฏได้ทใ่ี ดบ้าง ? ก. กระจก ข. กระดาษ ค. ไม้ ง. ถูกทุกขอ้
๗๗ ข้อ 4. ข้อใดคือ ประเภทของกระสุนปื นทน่ี ิยมใช้กนั ในปัจจุบัน? ก. rimfire cartridge ข. pinfire cartridge ค. centerfire cartridge ง. pump-actionfire cartridge ข้อ 5. อาวุธปื นทม่ี ี “เกลยี ว” ในลากล้องน้ัน ขนาดของอาวธุ ปื นชนิดพวกนี้ จะเรียกกนั ว่า “caliber” ซึ่งหมายถงึ “เส้นผ่าศูนย์กลางของลากล้องปื น ในเรื่องนีน้ ้ัน ข้อใดทก่ี ล่าวได้ถูกต้อง ก. อเมริกาใชห้ น่วยเป็น “มิลลิเมตร” ยโุ รปใหห้ น่วยเป็น “นิ้ว” ข. อเมริกาใชห้ น่วยเป็น “นิ้ว” ยโุ รปใหห้ น่วยเป็น “เซนติเมตร” ค. อเมริกาใชห้ น่วยเป็น “นิ้ว” ยโุ รปใหห้ น่วยเป็น “มิลลิเมตร” ง. อเมริกาใชห้ น่วยเป็น “เซนติเมตร” ยโุ รปใหห้ น่วยเป็น “นิ้ว” ………………………………………………. เฉลย 1.ง 2.ข 3.ง 4.ค 5.ค
๗๘ แผนการสอนรายคร้ัง วชิ า นิตวิ ทิ ยาศาสตร์ ชื่อหลกั สูตร นกั เรียนนายสิบตาํ รวจ คร้ังทสี่ อน 3 จานวนชั่วโมงทส่ี อน ๒ ช่ัวโมง จานวนช่ัวโมงท้งั วชิ า ๑๖ ชั่วโมง ชื่อผู้สอน..................................................................วนั /เดอื น/ปี ทสี่ อน................................................. จุดประสงค์ในการเรียนการสอน เพือ่ ใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจ ๑. มีความรู้และเขา้ ใจในการรวบรวมวตั ถุพยานไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. มีความรู้และเขา้ ใจในการเก็บรักษาวตั ถุพยานไดถ้ ูกตอ้ ง สมรรถนะ ๑.๑ มีความรู้ในหลกั วชิ าการ กฎหมายและระเบียบ ท่ีจาํ เป็นและนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ๑.๖ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามระเบียบแบบและคาํ ส่ังของผบู้ งั คบั บญั ชาตามอาํ นาจหนา้ ที่ รักษาวนิ ยั และปฏิบตั ิอยใู่ นระเบียบ ๒.๑ ใชก้ ริยา วาจาสุภาพ วธิ ีการแสดงออกอยา่ งเหมาะสม ภายใตอ้ าํ นาจหนา้ ท่ีความ รับผดิ ชอบตามท่ีกฎหมายกาํ หนด ในขณะปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ๒.๓ ไม่เรียกหรือรับผลประโยชน์อ่ืนใดเพ่ือรักษาไวซ้ ่ึงความถูกตอ้ งเท่ียงธรรมในการ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ๔.๑ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีโดยยดึ กฎหมาย ระเบียบ และแบบแผน ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ประชาชน ดว้ ย ความเทา่ เทียมกนั โดยไม่คาํ นึงถึงสถานะทางสังคม ๔.๔ สามารถรักษาความลบั ของขอ้ มลู ขา่ วสาร ที่ไดร้ ับจากประชาชนซ่ึงเก่ียวกบั งานใน หนา้ ท่ีไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยมิใหเ้ กิดภยั คุกคาม แก่ผใู้ หข้ อ้ มลู ข่าวสาร เนือ้ หา - การเกบ็ รวมรวมและรักษาวตั ถุพยาน
๗๙ กจิ กรรมการเรียนการสอน เวลา ครูทาอะไร (ระบุ) นักเรียนทาอะไร (ระบุ) ส่ือ วดั ผล ข้นั นาํ - บอกคะแนนแบบทดสอบ -ต้งั ใจฟังและบนั ทึก - คูม่ ือตาํ รวจ -สงั เกตความสนใจ ๑๕ นาที - ทบทวนเน้ือหาท่ีผา่ นมา - power point -ซกั ถาม สอน - บรรยายเร่ือง การเกบ็ - ต้งั ใจฟังและบนั ทึก - คูม่ ือตาํ รวจ -สงั เกตความสนใจ ๙๐ นาที รวบรวมและรักษาวตั ถุ - ซกั ถาม - power point -ซกั ถาม พยาน - วดี ีทศั น์ สรุป - ฉายวดี ีทศั น์ ตวั อยา่ ง -บนั ทึกประเด็นสาํ คญั -สงั เกตความสนใจ ๑๕ นาที - สรุปเน้ือหา -สอบถามเรื่องท่ีไม่ - คูม่ ือตาํ รวจ -ซกั ถาม เขา้ ใจ - power point บันทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................
๘๐ การสอนคร้ังที่ ๓ จุดประสงค์ในการเรียนการสอน เพือ่ ใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจ 1.มีความรู้และเขา้ ใจในการรวบรวมวตั ถุพยานไดถ้ ูกตอ้ ง 2.มีความรู้และเขา้ ใจในการเก็บรักษาวตั ถุพยานไดถ้ ูกตอ้ ง เนือ้ หา - การเก็บรวมรวมและรักษาวตั ถุพยาน ------------------------------------------------------------
๘๑ การเกบ็ และรวบรวมพยานหลกั ฐาน ส่ิงสาํ คญั ที่จะตอ้ งรวบรวมและระบุรายการของหลกั ฐาน รวมไปถึงการรักษาห่วงโซ่ หลกั ฐานที่เหมาะสม ก็ดว้ ยเหตุผลสองประการ ประการแรก คือ ตอ้ งสามารถท่ีจะพิสูจนว์ า่ วตั ถุ พยานรายการที่นาํ มาใชใ้ นศาล เป็นรายการเดียวกนั ที่ถูกเกบ็ รวบรวมไวใ้ นสถานที่เกิดเหตุ ประการท่ี สอง คือ ตอ้ งใหแ้ น่ใจวา่ รายการจะไมถู่กเปล่ียนแปลง หรือการปนเป้ื อนระหวา่ งเวลาท่ีเก็บรวบรวม และเวลาท่ีถูกตรวจสอบ หรือเขา้ มาเป็นหลกั ฐาน วตั ถุประสงคท์ ้งั สองประการ จะประสบ ความสาํ เร็จไดด้ ี กด็ ว้ ยบรรจุภณั ฑท์ ่ีเหมาะสม และการปิ ดผนึกของหลกั ฐาน และท่ีสาํ คญั คือ การ รักษาห่วงโซ่ของวตั ถุพยานท่ีเหมาะสม หลกั การเบอื้ งต้น ในการเกบ็ รวบรวมวตั ถุพยาน ๑. ตอ้ งเก็บวตั ถุพยานซี่ึงจะสูญหายหรือเสียหาย เป็นลาํ ดบั แรก ๒. ในกรณีที่มีวตั ถุพยานหลายชนิด ไมค่ วรเกบ็ ไวใ้ นที่เดียวกนั เพราะอาจทาํ ใหเ้ กิดการสบั สน ปนเป้ื อน และอาจทาํ ใหว้ ตั ถุพยานเสียสภาพไป ๓. การตรวจเกบ็ วตั ถุพยาน ควรกระทาํ โดยผทู้ ี่มีอาํ นาจหนา้ ท่ีโดยตรงเท่าน้นั ๔. กระบวนการเกบ็ วตั ถุพยาน จนถึงข้นั ตอนการตรวจพิสูจน์หลกั ฐาน วตั ถุพยานควรผา่ นมือคนให้ นอ้ ยท่ีสุด ๕. ควรมีลูกโซ่ของการครอบครองหลกั ฐาน การเก็บรวบรวมและรักษาวตั ถุพยาน ควรดาํ เนินการตามหลกั การขา้ งตน้ และจะมีความ แตกต่างกนั ไป ข้ึนกบั ประเภทหลกั ฐาน ดงั น้ี การตรวจเกบ็ วตั ถุพยานประเภท ลายนิว้ มอื ฝ่ าเท้าฯลฯ ควรเกบ็ ในลกั ษณะที่ไมค่ วรใหส้ มั ผสั กบั วตั ถุอื่น ไมค่ วรใชห้ รือกระดาษห่อวตั ถุพยานที่ตอ้ ง นาํ มาตรวจลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ หรือฝ่ าเทา้ เพราะอาจทาํ ใหล้ ายนิ้วมือ หรือฝ่ ามือแฝงถูกลบไดใ้ นหวั ขอ้ น้ีจะนาํ เสนอการตรวจเกบ็ ลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ และฝ่ าเทา้ ในสถานท่ีเกิดเหตุ ตามท่ีไดท้ ราบมาแลว้ วา่ เรา จะพบลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ และฝ่ าเทา้ ในสถานท่ีเกิดเหตุ ได้ ๒ ลกั ษณะ คือ - ลายนิ้วมือท่ีมองดว้ ยตาเปล่าเห็น -และลายนิ้วมือท่ีมองดว้ ยตาเปล่าไมเ่ ห็น หรือเห็นไมช่ ดั การตรวจหาลายนิ้วมือในสถานท่ีเกิดเหตุ ในส่วนน้ีเราจะกล่าวถึงการตรวจหารอยลายนิ้วมือ แฝง ฝ่ ามือแฝง และฝ่ าเทา้ แฝง ในสถานท่ีเกิดเหตุ ซ่ึงเป็นการตรวจหาดว้ ยตาเปล่าในบริเวณท่ีสงสยั
๘๒ วา่ จะมีลายนิ้วมือประทบั และตรวจเกบ็ ลายนิ้วมือที่มองไมเ่ ห็นดว้ ยตาเปล่า ทาํ ใหม้ องเห็นโดยการใช้ ผงฝ่ นุ บริเวณท่ีตอ้ งสงสัยวา่ จะมีลายนิ้วมือปรากฏ เช่น ทางเขา้ - ออกของคนร้าย, บริเวณท่ีมีการร้ือ คน้ ทรัพยส์ ิน, บริเวณอาวธุ ที่ใช,้ บริเวณท่ีมีการขยบั หรือเคลื่อนยา้ ยส่ิงของ เป็นตน้ 1. การตรวจเกบ็ ลายนิว้ มือแฝง วธิ ีปัดผงฝ่ นุ เป็นวธิ ีพ้นื ฐานท่ีใชใ้ นการเกบ็ ลายนิ้วมือแฝงหรือลายนิ้วมือท่ีมองไมเ่ ห็น และ ใชเ้ ทปลอกติดบนกระดาษรองรับ หรือโดยการถ่ายภาพ วธิ ีน้ีไดผ้ ลกบั การเก็บลายนิ้วมือที่มองไม่ เห็นหรือไม่ชดั บนพ้ืนผวิ ท่ีเรียบ เช่น กระจก แกว้ กระเบ้ือง วตั ถุทาสี โลหะต่าง ๆ พลาสติก ฯลฯ วธิ ีน้ีเป็นวธิ ีทางฟิ สิกส์ เพ่อื ใหไ้ ดล้ ายนิ้วมือที่มีสีแตกตา่ ง โดยการใชผ้ งฝ่ นุ ปัด ผงฝ่ นุ จะติด กบั ความช้ืนและไขมนั ของสารท่ีขบั ถ่ายออกทางนิ้วมือ มีอุปกรณ์ท่ีใชแ้ ละรายละเอียด ดงั น้ี อุปกรณ์ ๑. แปรง แปรงสาํ หรับใชใ้ นการปัดฝ่ นุ มีหลายชนิด เช่น แปรงขนกระตา่ ยยแปรงขนอฐู หรือ แปรงขนกระรอก แปรงแมเ่ หลก็ แปรงขนนก ๒. ผงฝ่ นุ ๓. เทปใสหรือเจลลาติน สาํ หรับใชใ้ นการลอกลายนิ้วมือ ๔. กระดาษแผน่ เก็บลายนิ้วมือแฝง ซ่ึงตอ้ งเลือกใชส้ ีท่ีตรงกนั ขา้ มกบั สีของผงฝ่ นุ ๕. กรรไกรตดั เทป วธิ ีปฏบิ ตั ิ ในการปัดฝ่ นุ ใชแ้ ปรงขนอฐู (ขนกระรอกหรือขนกระต่าย) จุม่ ลงในผงฝ่ นุ เลก็ นอ้ ย สะบดั แปรงเพือ่ ใหผ้ งฝ่ นุ ติดอยปู่ ลายแปรง แลว้ ปัดแปรงเบา ๆ ไปยงั บริเวณพ้นื ท่ีผวิ ที่เรา ตอ้ งการหารอยลายนิ้วมือแฝง ถา้ บริเวณดงั กล่าวมีลายนิ้วมือ ผงฝนุ ่ ท่ีปลายแปรงก็จะไปติดลายนิ้วมือ เม่ือเห็นลายเส้นแลว้ ใหใ้ ชแ้ ปรงปัดไปตามลกั ษณะของลายเส้นจนมีความคมชดั เพือ่ เอาฝ่ นุ ส่วนที่ เกินออกไป หลงั จากน้นั ใหใ้ ชเ้ ทปใสมาลอกรอยลายนิ้วมือดงั กล่าว นาํ ไปติดบนกระดาษแผน่ เกบ็ ลายนิ้วมือแฝง จากน้นั ใหเ้ ขียนรายละเอียดคดีลงบนดา้ นหลงั ของกระดาษแผน่ เก็บลายนิ้วมือแฝง 2. การหล่อปูนปลาสเตอร์ อุปกรณ์ ๑.ปูนพลาสเตอร์ ๒.น้าํ สะอาด ๓.ภาชนะสาํ หรับผสมปนู เช่น ถงั ๔.อุปกรณ์สาํ หรับคน เช่น แท่งแกว้
๘๓ ๕.ไม้ ๖.โครงเหล็กสาํ หรับหล่อปูน วธิ ีทาํ - วางโครงเหล็กสาํ หรับหล่อปนู รอบรอยประทบั - ผสมปนู พลาสเตอร์อตั ราส่วน ๑ ส่วนตอ่ น้าํ ๑ ส่วน ในถุงพลาสติกแบบมีซิปหรือถงั คนให้ เขา้ กนั จนส่วนผสมเหนียวขน้ (ค่อย ๆ คน อยา่ ใหเ้ กิดฟองอากาศ) - เทปูนอยา่ งชา้ ๆ ลงบนแทน่ คนบริเวณขา้ งรอยประทบั หา้ มเทลงบนรอยประทบั โดยตรง โดยเทปูนลงไปประมาณคร่ึงหน่ึงใหเ้ สมอกนั ทว่ั ท้งั รอย - นาํ ไมท้ ี่เตรียมไวว้ างเสริมตรงกลางประมาณ ๓ - ๔ อนั - เทปนู ส่วนที่เหลือลงไปใหห้ มดต้งั ทิง้ ไวป้ ระมาณ ๑๐ - ๑๕ นาที - เขียนรายละเอียดของคดีไวด้ า้ นหลงั แบบพิมพก์ ่อนท่ีปูนจะแขง็ ตวั หรือใชป้ ากกาเขียนเมื่อ ปูนแขง็ ตวั แลว้ - ทิง้ แบบพมิ พไ์ วป้ ระมาณ ๑ ชวั่ โมง เพอ่ื ใหป้ นู แขง็ ตวั (ข้ึนกบั อุณหภมู ิ) ปล่อยใหแ้ หง้ ประมาณ ๔๘ ชวั่ โมง ----------------------------------------------------------------------------- การตรวจเกบ็ วตั ถุพยานประเภทเอกสาร ในการตรวจพสิ ูจนเ์ อกสารน้นั บางประเด็นเราสามารถตรวจพิสูจนจ์ ากเอกสารปัญหาได้ โดยตรง แตบ่ างประเดน็ จะตอ้ งมีการตรวจเปรียบเทียบเอกสารปัญหากบั เอกสารตวั อยา่ งที่ทราบ แหล่งที่มาดว้ ย ซ่ึงเอกสารตวั อยา่ งน้ีจะตอ้ งมีการคดั เลือกและจดั เตรียมอยา่ งเหมาะสม ดงั น้นั การ ตรวจเก็บเอกสารเพ่อื เตรียมส่งตรวจพสิ ูจนค์ วรปฏิบตั ิดงั น้ี ๑ สวมถุงมือขณะเกบ็ เอกสาร เพอ่ื ป้ องกนั การทาํ ลายเอกสาร และหา้ มขีดเขียน หรือขีดเขียนบนซองท่ีมีเอกสารของกลางบรรจุอยู่ ๒ ควรเกบ็ เอกสารไวใ้ นของกลางที่เหมาะสม โดยหา้ มพบั เอกสาร และหา้ มขีดเขียน หรือขีด เขียนบนซองท่ีมีเอกสารบรรจุอยู่ ๓ หา้ มขีดเขียน หรือขดู ลบขอ้ ความ หรือทาํ เคร่ืองหมายสัญลกั ษณ์ใด ๆ บนเอกสารของ กลาง หากมีความจาํ เป็นตอ้ งทาํ เครื่องหมายลงบนพ้นื ที่วา่ ง หลีกเล่ียงการทาํ เคร่ืองหมายซอ้ นทบั ขอ้ ความใด ๆ บนเอกสาร
๘๔ ๔ หา้ มตดั ฉีก เจาะรู เยบ็ ดว้ ยลวดเยบ็ กระดาษ เขม็ หรือตวั หนีบกระดาษหรือพบั เอกสารของ กลางตรงบริเวณท่ีตอ้ งการตรวจพสิ ูจน์ รวมถึงหา้ มทาํ การซ่อมแซมรอยตดั หรือตดั ตกแต่ง ขอบกระดาษ ๕ หา้ มขดู ลบขอ้ ความหรือบริเวณใด ๆ บนเอกสารของกลาง ๖ หา้ มทาํ ใหเ้ กิดรอยกดใด ๆ บนเอกสารของกลาง ๗ หา้ มตดั เอกสารของกลางที่เป็นชิ้นส่วนลงบนแผน่ กระดาษอื่น ควรเกบ็ ไวใ้ นซองปิ ดผนึก ๘ ระวงั มิใหเ้ อกสารของกลางเปี ยกน้าํ ถูกความช้ืน ความร้อน สารเคมีแสงสวา่ งมากเกินไป ตอ้ งเก็บเอกสารไวใ้ นท่ีท่ีเหมาะสม ๙ ควรถือหรือจบั เอกสารของกลางใหน้ อ้ ยคร้ังที่สุด และจบั อยา่ งเบามือเพ่ือหลีกเลี่ยงการ ทาํ ลายเอกสารใด ๆ ท้งั สิ้น ๑๐ หา้ มบรรจุเอกสารของกลางที่เป็นสาํ เนาภาพถ่ายในซองพลาสติก ๑๑ หากมีความจาํ เป็นตอ้ งถ่ายสาํ เนาเอกสารของกลาง ตอ้ งระวงั มิใหเ้ กิดการทาํ ลายเอกสาร ใด ๆ ท้งั สิ้น ๑๒ หา้ มมิใหผ้ ตู้ อ้ งสงสัย หรือบุคคลอ่ืนใดจบั ตอ้ งหรือเห็นเอกสารของกลาง ๑๓ ในกรณีท่ีตอ้ งตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝง หรือตรวจพสิ ูจนท์ างชีววทิ ยาหรือรอยกดบน เอกสารของกลาง ใหส้ วมถุงมือและควรจบั อยา่ งเบามือ โดยใชด้ า้ นขา้ งของนิ้วจบั เอกสารในซองและ ระบุหนา้ ซองใหช้ ดั เจนวา่ ตอ้ งการตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝง หรือตรวจพสิ ูจนท์ างชีววทิ ยาหรือรอย กด ๑๔ ในกรณีเอกสารไหมไ้ ฟ ใหเ้ ก็บเอกสารดงั น้ี - ถ่ายภาพเอกสารไหมไ้ ฟ ท่ีมีมาตราส่วนกาํ กบั ไว้ - สอดกระดาษแขง็ ลงใตเ้ อกสารที่ไหมไ้ ฟดว้ ยความะมดั ระวงั - ยกเอกสารไหมไ้ ฟข้ึน พร้อมท้งั สอดแผน่ ไมห้ รือโลหะใต้ กระดาษแขง็ อีกช้นั หน่ึง - ยกแผน่ ไมพ้ ร้อมกบั วางกระดาษ และเอกสารไหมไ้ ฟลงใน กล่องกระดาษ หรือวางตรงกลางแผน่ กระดาษห่อของแผน่ ใหญ่ แลว้ นาํ มุมกระดาษท้งั สี่มุมมากลดั ติดกนั ไว้ เพ่อื ป้ องกนั เอกสารไหมไ้ ฟโดนลม และกระทบกระเทือนอื่น ๆ - นาํ หีบห่อเอกสารไหมไ้ ฟ มาส่งที่หอ้ งปฏิบตั ิการดว้ ยตวั เอง - ควรจดั เตรียมและหารายละเอียดตา่ ง ๆ ของเอกสารไวใ้ หค้ รบถว้ นสมบรู ณ์ เช่น วนั ที่ และแหล่งที่มาของเอกสาร เป็นตน้ ---------------------------------------------------------------------
๘๕ การตรวจเกบ็ วตั ถุพยานประเภท ปื น และเครื่องกระสุนปื น - กรณีเป็นอาวธุ ปื นใหใ้ ชล้ วดหรือเชือกสอดเขา้ ไปในโกร่งไกปื นแลว้ ยกข้ึนหา้ มใชไ้ มห้ รือ ของแขง็ อ่ืนใดสอดเขา้ ไปท่ีปากลาํ กลอ้ งแลว้ งดั ข้ึนโดยเดด็ ขาด ควรเกบ็ ใส่ในหีบห่อท่ีแขง็ แรงเช่น กลอ่งไมโ้ ดยไม่ใชว้ ตั ถุใดห่อหุม้ ซ่ึงอาจทาํ ใหร้ อยลายนิ้วมือแฝงท่ีอาจติดอยทู่ ่ีอาวธุ ปื นสูญหายได้ ภาพกล่องเก็บวตั ถุพยานประเภทอาวธุ ปื น - กรณีเป็นปลอกกระสุนปื นหรือลูกกระสุนปื น ควรเก็บแยกจากกนั ใส่ถุงพลาสติกถุงละชิ้น เพ่ือไม่ใหเ้ กิดรอยครูด หรือบุบยบุ ท่ีปลอกกระสุนปื นหรือลูกกระสุนปื น ภาพการเก็บวตั ถุพยานประเภทปลอกกระสุนปื นและหวั กระสุนปื น
๘๖ การตรวจเกบ็ วตั ถุพยานประเภทชีววทิ ยา วตั ถุพยานทางชีววทิ ยา เป็นวตั ถุพยานที่ไดม้ าจากส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายคนซ่ึงเป็นส่วนท่ี ทาํ ใหไ้ ดด้ ีเอน็ เอ เช่น น้าํ ลาย อสุจิ ฟัน กระดูก สารคดั หลง่ั จากช่องคลอด เน้ือเยอื่ อวยั วะภายใน ผมท่ี มีรากผม เซลลผ์ วิ หนงั และเหงื่อท่ีซึมผา่ นเส้ือผา้ สวมใส่ น้าํ มกู โลหิต อาเจียน อุจจาระและปัสสาวะ เป็ นตน้ หลกั การเก็บรวบรวมวตั ถุพยานประเภทชีววทิ ยาและดีเอน็ เอ คือ วตั ถุพยานท่ีตรวจเก็บตอ้ ง อยใู่ นสภาพแหง้ และเยน็ เช่น เส้ือผา้ ของผตู้ อ้ งสงสยั หรือเส้ือผา้ ในสถานท่ีเกิดเหตุท่ีมีคราบโลหิต หรือมีคราบอสุจิติดอยู่ ควรผ่งึ ลมใหแ้ หง้ แลว้ เก็บใส่ในถุงกระดาษ เพื่อป้ องกนั ไม่ใหค้ ราบดงั กล่าว เส่ือมสภาพหรือสูญเสียไป รายละเอยี ดทคี่ วรบันทกึ ในการเกบ็ วตั ถุพยาน การบนั ทึกรายละเอียดหากเป็นไปไดค้ วรบนั ทึกไวบ้ นภาชนะท่ีใชใ้ นการบรรจุวตั ถุพยาน โดยรวมรายละเอียดตา่ ง ๆ ที่ควรบนั ทึกไวด้ งั น้ี ๑. ช่ือผเู้ กบ็ วตั ถุพยาน และชื่อบุคคลตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งในการเกบ็ วตั ถุพยาน ๒. วนั เดือน ปี และเวลาที่เกิดเหตุ ๓. วนั เดือน ปี และเวลาท่ีเกบ็ วตั ถุพยาน ๔. ประเภทของคดี ๕. ลกั ษณะของวตั ถุพยานที่เกบ็ และตาํ แหน่งที่พบ ๖. รายละเอียดโดยยอ่ ของคดี ๗. ที่ต้งั ของสถานที่เกิดเหตุ ----------------------------------------------------------------------- การตรวจเกบ็ วตั ถุพยานประเภทคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ คอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคล - ถ่ายภาพใหไ้ ดอ้ ุปกรณ์ของกลางครบทุกชิ้น และจดบนั ทึกแผนผงั ของการเช่ือมตอ่ อุปกรณ์ต่าง ๆ และก่อนทาํ การปลดสายไฟ หรือสายเชื่อมตอ่ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ออกจาก ตวั เครื่อง ควรติดฉลากหมายเลขอา้ งอิงจุดที่ถอดสายออก
๘๗ - ตรวจสอบในช่อง DVD, CD, Floppy disk, Card Readerหรือช่องต่อ USB ต่าง ๆ วา่ มีแผน่ ซีดี Thumb Drive หรืออุปกรณ์ใด ๆ คา้ งอยหู่ รือไม่ และควรนาํ ส่งไปพร้อมคอมพวิ เตอร์ของกลาง ดว้ ย - การนาํ ส่งของกลางตรวจพิสูจน์ควรใชผ้ า้ เทปคาดก้นั ฝาปิ ดช่องต่ออุปกรณ์ตา่ ง ๆ เช่น ฝา ปิ ดเครื่อง ช่องใส่ DVD หรือ USB พร้อมเซ็นช่ือกาํ กบั แลว้ จึงบรรจุลงกล่องกระดาษหรือถุงกระดาษ ซ่ึงมีวสั ดุกนั กระแทกใหเ้ รียบร้อย คอมพิวเตอร์โนต้ บุค๊ -หากเครื่องคอมพวิ เตอร์โนต้ บุก๊ อยใู่ นสภาพ “ปิ ดทาํ งาน”หา้ มทาํ การเปิ ดเคร่ือง หากเคร่ือง คอมพวิ เตอร์โนต้ บุก๊ อยใู่ นสภาพ “เปิ ดทาํ งาน” ใหถ้ ่ายภาพส่ิงที่ปรากฏบนหนา้ จอ โปรแกรมที่ถูกยอ่ อยทู่ ่ี Task bar และเวลาท่ีมุมดา้ นล่างขวาของหนา้ จอหากโปรแกรมรักษาหนา้ จอเปิ ดทาํ งานอยู่ (หนา้ จอมืด) ใหเคล่ือนยา้ ยเมาสหรือกดแป้ นพมิ พ์Spacebarsเพ่อื ใหป้ รากฏภาพบนหนา้ จอแลว้ จึง ถ่ายภาพ - ถอดแบตเตอรี่ออกจากเคร่ืองคอมพิวเตอร์โนต้ บุก๊ (ป้ องกนั การ Remote เขา้ มาลบขอ้ มลู ) - ถอดสายปลก๊ั ไฟของเคร่ืองคอมพิวเตอร์โนต้ บุก๊ ออกจากตวั เครื่อง - การนาํ ส่งตรวจพสิ ูจน์ ควรใส่เคร่ืองคอมพิวเตอร์โนต้ บุก๊ ของกลางในกระเป๋ ากนั กระแทก หากบรรจุกล่องอ่ืน ๆ ควรใส่สายชาร์จ หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆแยก จากกนั เพื่อป้ องกนั การกดทบั ซ่ึงอาจทาํ ใหเ้ กิดความเสียหายกบั ตวั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์โนต้ บุก๊ ได้ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย หรือเคร่ืองแม่ขา่ ย (Server) -ขอคาํ ปรึกษาจากเจา้ หนา้ ที่กองพิสูจน์หลกั ฐานกลางในการ เขา้ ไปยงั สถานท่ีเกิดเหตุ และแยกผตู้ อ้ งสงสยั ออกจากคอมพวิ เตอร์ในทนั ที เน่ืองจากผตู้ อ้ งสงสยั อาจ สามารถเขา้ มาลบขอ้ มลู ท่ีบนั ทึกอยใู่ นคอมพิวเตอร์ของกลาง โดยใชค้ าํ สง่ั ผา่ นอุปกรณ์พกพาขนาด เล็ก เช่น โทรศพั ทม์ ือถือไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว - กรณีเครื่องคอมพวิ เตอร์ของผตู้ อ้ งสงสยั เป็นระบบเครือข่าย หา้ มตดั ไฟจากแหล่งจา่ ยไฟ หรือกระทาํ การอ่ืนใด เพราะการกระทาํ เช่นน้นั อาจทาํ ใหร้ ะบบไดร้ ับ ความเสียหายสูญเสียขอ้ มูลสาํ คญั และทาํ ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ตาํ รวจตอ้ งรับผดิ ชอบตอ่ ความเสียหาย โทรศพั ทม์ ือถือ แทบ็ เล็ต สมาร์ทโฟน -หากโทรศพั ทม์ ือถืออยใู่ นสภาพ “ปิ ดทาํ งาน” ใหป้ ล่อยไวใ้ นสภาพ“ปิ ดทาํ งาน” หา้ มทาํ การ เปิ ดเคร่ืองหรือถอดแบตเตอร่ี เพอื่ ดูซิมการ์ดดว้ ยตวั เองเดด็ ขาด
๘๘ -หากโทรศพั ทม์ ือถืออยใู่ นสภาพ “เปิ ดทาํ งาน” ถ่ายภาพที่ปรากฏบนหนา้ จอรวมถึงวนั ที่ เวลา ของเคร่ืองและบรรจุไวใ้ นถุงกนั คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ า - หากไมม่ ีถุงกนั คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ า ใหถ้ ่ายภาพท่ีปรากฏบนหนา้ จอ รวมถึงวนั ท่ี เวลา ของ เคร่ืองโทรศพั ทก์ ่อนปิ ดเคร่ือง (ป้ องกนั การ Remote เขา้ มาลบขอ้ มลู ) - ถ่ายภาพ และจดบนั ทึกรายละเอียด เช่น ยห่ี อ้ รุ่น ก่อนบรรจุลงใส่กล่อง หรือห่อกระดาษ แลว้ ปิ ดผนึกลงลายมือชื่อกาํ กบั แลว้ นาํ ส่งตรวจพสิ ูจน์ ถา้ เป็นไปไดใ้ หแ้ ยก๑ เครื่องต่อ ๑ ห่อ หากมี ส่งอุปกรณ์สายชาร์จแบตเตอรี่ หรือสายเชื่อมตอ่ ขอ้ มลู ใหน้ าํ ส่งมาพร้อมดว้ ย แผน่ ซีดี ดีวดี ี/บตั รอิเลก็ ทรอนิกส์ ถ่ายภาพแผน่ ดา้ นหนา้ /ดา้ นหลงั ของบตั รและถา้ เป็นแผน่ ซีดี หากของกลาง มีมากกวา่ ๑ รายการ ควรระบุลาํ ดบั หรือขอ้ ความที่เขียนอยบู่ นแผน่ เพื่อใชอ้ า้ งอิงกบั รายละเอียด ในหนงั สือนาํ ส่ง ควรจะบรรจุในซองบรรจุแผน่ ซีดีหรือซองกระดาษ เช่นเดียวกบั บตั รอิเลก็ ทรอนิกส์ ปิ ดหีบห่อใหเ้ รียบร้อยก่อนนาํ ส่งตรวจพิสูจน์ -อุปกรณ์ไฟฟ้ า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อ่ืน ๆ ถ่ายภาพ บรรจุกล่องกระดาษ/ซองกระดาษ แยกรายการใหช้ ดั เจนหากเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก ใหป้ ิ ดผนึกดว้ ยซองกนั กระแทกใหเ้ รียบร้อย ลงลายมือชื่อกาํ กบั นาํ ส่งตรวจพสิ ูจน์ในทุกกรณี ถา้ เป็นไปไดค้ วรมีวสั ดุรองรับแรงกดทบั หรือแรงกระแทกเพือ่ หลีกเล่ียงความเสียหายและควร หลีกเล่ียงความช้ืนและแสงแดด ส่ือบนั ทึกขอ้ มลู ดิจิทลั อ่ืน ๆ ที่ไม่ไดเ้ ช่ือมต่อกบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ส่ือบนั ทึกขอ้ มลู ดิจิทลั อ่ืนๆ เช่น แผน่ ซีดี ดีวดี ี ฟลอปป้ี ดิสก์ Thumb Drive/Sd Card /MicroSD สามารถนาํ ส่งโดยบรรจุอยใู่ นซองพลาสติกเดียวกนั หรือถุงเกบ็ พยานหลกั ฐานรวมในใบเดียวกนั ได้ และควรมีวสั ดุรองรับการกดทบั หรือแรงกระแทกห่อหุม้ ไว้ และควรติดฉลากระบุยห่ี อ้ รุ่น ขนาด หรือจาํ นวนของกลางแตล่ ะรายการใหช้ ดั เจน หมายเหตุ ควรบนั ทึกรายละเอียดเก่ียวกบั ของกลาง เช่น จาํ นวน ยหี่ อ้ หรือรุ่น ใหช้ ดั เจน ก่อนนาํ ส่งตรวจพิสูจน์ และควรมีลายมือชื่อผนู้ าํ ส่ง เซ็นกาํ กบั ท่ีหีบหอ่ ดว้ ยทุกคร้ัง กรณีคอมพวิ เตอร์ หรือโทรศพั ทม์ ือถือที่เปิ ดอยตู่ อ้ งใหแ้ น่ใจก่อนวา่ ไมม่ ีการใส่รหสั ผา่ น หากใส่รหสั ผา่ นใหข้ อ รหสั ผา่ นหรือปลดล็อกรหสั ผา่ น ------------------------------------------------------------------
๘๙ การตรวจเกบ็ วตั ถุพยานอน่ื ๆ วตั ถุพยานชิ้นเลก็ ๆ (Trace Evidence) เช่น เส้นผม เส้นขน เส้นใย หรือเศษแกว้ ใชป้ ากคีบจบั ข้ึนมา บรรจุใส่ถุงกระดาษ ปิ ดปากถุง ดว้ ยเทปใส และลงช่ือกาํ กบั (ปกติใชห้ ่อในกระดาษขาวสะอาดแลว้ พบั หา้ มใส่ภาชนะท่ีมีกาวแมแ้ ต่ ซองหรือถุงแลว้ จึงนาํ ไปใส่ในซองหรือถุงอีกช้นั หน่ึง ทาํ เครื่องหมายกาํ กบั ไวน้ อกซองหรือถุงน้นั ดว้ ยน้าํ หมึกท่ีไม่ละลายน้าํ ) วตั ถุสิ่งของอนื่ ๆ - เคร่ืองมือท่ีคนร้ายใชใ้ นการกระทาํ ความผดิ ถา้ เป็นโลหะควรเกบ็ ไวโ้ ดยป้ องกนั ความช้ืน - เศษอาหาร หรือของเหลวท่ีอาเจียนออกมาจากร่างกายเพื่อตรวจพิสูจนส์ ารพิษ ตอ้ งเก็บไว้ ในขวดแกว้ ท่ีปิ ดสนิท - ยาท้งั ชนิดเมด็ และชนิดแคปซูล ควรเก็บไวใ้ นหลอดแกว้ อยา่ งหนา แลว้ ใชฟ้ องน้าํ หรือสาํ ลี ห่อหุม้ ไว้ เพอื่ ป้ องกนั ไมใ่ หก้ ระทบแตกเสียหาย - พวกสารระเหย เช่น น้าํ มนั เช้ือเพลิง ควรเกบ็ ไวใ้ นหลอดแกว้ ที่มีปากขวดกวา้ ง และมีฝาปิ ด เป็นเกลียว หรือเกบ็ ไวใ้ นกระป๋ องโลหะ และมีฝาปิ ดสนิทเพ่ือป้ องกนั การระเหย ไม่ควรเก็บไวใ้ น ถุงพลาสติกเพราะอาจเกิดการละลาย และทาํ ใหม้ ีสารอ่ืนเจือปน การเกบ็ วตั ถุ พยานควรหลีกเลี่ยงการ สัมผสั ถูกวตั ถุพยานโดยตรง และควรใส่ถุงมือขณะปฏิบตั ิการกบั วตั ถุพยานทุกคร้ัง
๙๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ข้อ 1. การตรวจหา “ระยะยงิ ” ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง ? ก. ตรวจหาไดจ้ ากการกระจายของลูกกระสุนปราย ข. ตรวจหาไดจ้ ากการกระจายของเขมา่ ดินปื น ค. ตรวจได้ 2 วธิ ีคือ การกระจายของลูกกระสุนปราย และ การกระจายของเขมา่ ดินปื น ง. ตรวจได้ 2 วธิ ีคือ การกระจายของลูกกระสุนปราย และ การกระจายของเขมา่ ดินปื น และ วธิ ีอ่ืนๆอีก ข้อ 2. ลกั ษณะสาคญั ของ สาร “flavin” ซึ่งพบใน “คราบอสุจิ” คืออะไร ? ก. จะ “เรืองแสง” เมื่อส่องกบั แสงอลั ตราไวโอเลต ข. จะ “อบั แสง” เม่ือส่องกบั แสงอลั ตราไวโอเลต ค. จะ “สะทอ้ นแสง” เม่ือส่องกบั แสงอลั ตรไวโอเลต ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก ข้อ 3. ข้อใดคือประโยชน์ของ ดเี อน็ เอ ( dna ) ? ก. ใชพ้ ิสูจน์ความเป็นพอ่ แม่ ลูก และ ใชพ้ ิสูจน์หลกั ฐานพยานทางนิติเวช ข. ใชพ้ ิสูจน์หลกั ฐานพยานทางนิติเวช และ ศึกษาทางพนั ธุศาสตร์ ค. ติดตามผลการปลูกถ่ายไขกระดูก และ ตรวจหาโครโมโซมเพศเพ่อื คดั กรองโรคในการ วนิ ิจฉยั ก่อนคลอด ง. ถูกทุกขอ้
๙๑ ข้อ 4. สารต้ังต้นทใี่ ช้ผลติ “ยาบ้า” หรือ “เมทแอมเฟตามีน” คือข้อใด ? ก.อีเฟดรีน , พ-ี ทู-พี ข. มอร์ฟี น , ดี-ทู-บี ค. โคคาอีน , อาร์-ว-ี พี ง. แอมเฟตามีน , ดี-ทู-บี ข้อ 5. ในการตรวจพสิ ูจน์ของกลางประเภท “ยาเสพติด” น้ันจะทาการตรวจในด้านใดบ้างเพอ่ื นาผล การตรวจพสิ ูจน์ดังกล่าวประกอบในการพสิ ูจน์หลกั ฐานและการดาเนินคดตี ามกฏหมาย? ก. ดา้ นคุณภาพวเิ คราะห์ และ ดา้ นสถิติวเิ คราะห์ ข. ดา้ นปริมาณวเิ คราะห์ และ ดา้ นคุณภาพวเิ คราะห์ ค. ดา้ นสถิติวเิ คราะห์ และ ดา้ นปริมาณวเิ คราะห์ ง. ดา้ นคุณภาพวเิ คราห์ , ดา้ นสถิติวเิ คราะห์ และ ดา้ นปริมาณวเิ คราะห์ ………………………………………………. เฉลย 1.ง 2.ก 3.ง 4.ก 5.ข
๙๒ แผนการสอนรายคร้ัง วชิ า นิติวทิ ยาศาสตร์ ชื่อหลกั สูตร นกั เรียนนายสิบตาํ รวจ คร้ังทสี่ อน 4 จานวนชั่วโมงทสี่ อน ๒ ช่ัวโมง จานวนช่ัวโมงท้งั วชิ า ๑๖ ช่ัวโมง ชื่อผู้สอน ..................................................................วนั /เดือน/ปี ทสี่ อน................................................ จุดประสงค์ในการเรียนการสอน ๑. เพื่อใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจเก่ียวกบั งานพสิ ูจนห์ ลกั ฐานและนิติวทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง ๒.เพ่ือใหน้ กั เรียนมีความรู้และเขา้ ใจหลกั การพิสูจน์เอกลกั ษณ์ของบุคคลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ๓.เพอื่ ใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจมีความรู้และเขา้ ใจในหลกั การทาํ งานของเคร่ืองมือ วทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สมรรถนะ ๑. มีความรู้ในหลกั วชิ าการ กฎหมายและระเบียบ ที่จาํ เป็นและนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ๒. ไมเ่ รียกหรือรับผลประโยชน์อื่นใดเพอ่ื รักษาไวซ้ ่ึงความถูกตอ้ งเท่ียงธรรมในการปฏิบตั ิ หนา้ ท่ี ๓. ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีโดยยดึ กฎหมาย ระเบียบ และแบบแผน ที่เก่ียวขอ้ งกบั ประชาชน ดว้ ยความ เท่าเทียมกนั โดยไมค่ าํ นึงถึงสถานะทางสังคม ๔. สามารถรักษาความลบั ของขอ้ มลู ข่าวสาร ท่ีไดร้ ับจากประชาชนซ่ึงเก่ียวกบั งานในหนา้ ท่ี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยมิใหเ้ กิดภยั คุกคาม แก่ผใู้ หข้ อ้ มลู ข่าวสาร เนือ้ หา การพิสูจน์หลกั ฐานและนิติวทิ ยาศาสตร์ - การพสิ ูจน์ตวั บุคคล - เครื่องมือวทิ ยาศาสตร์ที่สามารถนาํ มาสนบั สนุนงานสืบสวนสอบสวน
๙๓ กจิ กรรมการเรียนการสอน เวลา ครูทาอะไร (ระบุ) นักเรียนทาอะไร (ระบุ) ส่ือ วดั ผล ข้นั นาํ อธิบายเน้ือหา - สงั เกตความ ๑๕ นาที - ต้งั ใจฟังและบนั ทึก - คูม่ ือตาํ รวจ สนใจ สอน - บรรยายเร่ืองนิติ - ซกั ถาม ๙๐ นาที วทิ ยาศาสตร์ - ตอบขอ้ ซกั ถาม - Power point -สงั เกตความ - การพสิ ูจน์ตวั บุคคล สนใจ สรุป - เคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ - ต้งั ใจฟังและบนั ทึก - คู่มือตาํ รวจ -ซกั ถาม ๑๕ นาที - สังเกต ผลการ -สรุปเน้ือหาที่สอน - ตอบขอ้ ซกั ถาม - power point ปฏิบตั ิ การมีส่วน ร่วม -บนั ทึกประเด็นสาํ คญั - คู่มือตาํ รวจ -สงั เกตความ - Power point สนใจ -ซกั ถาม บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................
๙๔ การสอนคร้ังที่ 4 จุดประสงค์ในการเรียนการสอน ๑. เพอื่ ใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจเกี่ยวกบั งานพิสูจนห์ ลกั ฐานและนิติวทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง ๒.เพอ่ื ใหน้ กั เรียนมีความรู้และเขา้ ใจหลกั การพิสูจน์เอกลกั ษณ์ของบุคคลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ๓.เพ่ือใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจมีความรู้และเขา้ ใจในหลกั การทาํ งานของเคร่ืองมือ วทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เนือ้ หา - การพสิ ูจน์หลกั ฐานและนิติวทิ ยาศาสตร์ - การพิสูจน์ตวั บุคคล - เคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ที่สามารถนาํ มาสนบั สนุนงานสืบสวนสอบสวน ------------------------------------------------------------------------
๙๕ ความหมายของนิติวทิ ยาศาสตร์ นิติเวชศาสตร์ หมายถึง วชิ าแพทยท์ ่ีนาํ มาใชห้ รือเกี่ยวขอ้ งกบั งานทางดา้ นกระบวนการ ยตุ ิธรรม ในพจนานุกรมกฎหมายของแบลค (Black’s Law Dictionary) ใหค้ วามหมายของคาํ วา่ Forensic Medicine ดงั น้ี “That science which teaches the application of medicalknowledge to the puropse of law” นน่ั หมายความถึงการนาํ ความรู้ทางการแพทยม์ าใชเ้ พอื่ ตอบสนองวตั ถุประสงคข์ อง กฎหมาย เช่น การตรวจผบู้ าดเจบ็ เพ่อื ใหค้ วามเห็นทางคดีตามกฎหมายที่เก่ียวขอ้ งกับชีวติ หรือการ ตรวจศพหาสาเหตุการตาย อนั มาจากเหตุอนั ไมเ่ ป็นธรรมชาติ เช่นฆ่าตวั ตาย ถูกฆ่าตาย อุบตั ิเหตุ ไม่ ทราบเหตุ หรือการตายในระหวา่ งคุมขงั นิติเวชศาสตร์ อาจถูกเรียกช่ือวา่ “นิติเวชวทิ ยา” แปลมาจากคาํ ภาษาองั กฤษวา่ forensiec medicine (forensic มาจากภาษาละตินวา่ forensis หมายความถึง ขอ้ ตกลงท่ีพพิ าททางกฎหมาย ส่วน medicine ในที่น้ีหมายถึงวชิ าแพทย์ แปลวา่ แพทยศาสตร์หรือเวชศาสตร์) นิตเิ วชวทิ ยา หรือ นิติเวชศาสตร์ (Forensic Medicine) จึงเป็นวชิ าแพทยส์ าขาหน่ึงที่ เกี่ยวขอ้ งกบั กฎหมาย ซ่ึงนาํ เอาความรู้ของวชิ าแพทย์ รวมท้งั วทิ ยาศาสตร์สาขาตา่ ง ๆ ไปประยกุ ตเ์ พื่อ ประโยชนแ์ ก่กระบวนการยตุ ิธรรม นาํ มาอธิบายเร่ืองราวที่เก่ียวขอ้ งกบั กฎหมายหรือกระบวนการ ยตุ ิธรรม ในดา้ นตา่ ง ๆ ----------------------------------------------------------- การพสิ ูจน์บุคคล การพิสูจน์บุคคลหรือหลกั ฐานที่เก่ียวกบั บุคคล เป็นการใชข้ อ้ มูลหลกั ฐานที่ตรวจพบ ใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ การสนั นิษฐานวา่ บุคคลหรือศพน้นั คือใคร รวมไปถึงกรณีที่ตอ้ งการเปรียบเทียบ เพื่อพสิ ูจนเ์ พิม่ เติมตอ่ ไปอีกวา่ บุคคลหรือศพน้นั คือ คนเดียวกนั กบั บุคคลท่ีตอ้ งสงสยั หรือไม่ นบั วา่ เป็นหวั ใจสาํ คญั ของวทิ ยาการตาํ รวจ และงานดา้ นนิติเวชศาสตร์กว็ า่ ได้ การพิสูจน์บุคคลมี ความสาํ คญั มากในผทู้ ี่ตายไปแลว้ ถา้ ทราบวา่ บุคคลที่ตายไปแลว้ เป็นใครถือวา่ การสืบสวนหาตวั ผกู้ ระทาํ ความผดิ ไดเ้ สร็จสิ้นไปถึงคร่ึงหน่ึงแลว้ ทีเดียว การพสิ ูน์บุคคล อาจแบ่งได้เป็ นกลุ่มๆ จากลกั ษณะรูปแบบทพ่ี บ ดงั นี้ ๑ บุคคลมีชีวติ การตรวจพิสูจน์บุคคลมีชีวติ มีความประสงคเ์ พอ่ื ยนื ยนั ตวั บุคคล เพ่ือทราบ อายุ หรือเพือ่ ทราบวา่ บรรลุนิติภาวะแลว้ หรือยงั ๒ ศพท้งั ยงั ไม่เน่าและท่ีเน่าแลว้ - เพ่ือใหท้ ราบวา่ เป็นผใู้ ด เวลาการตายและสาเหตุของการตาย ซ่ึงถือเป็นจุดสาํ คญั ท่ีสุดของ วชิ านิติเวชวทิ ยา และมีความสาํ คญั เกี่ยวกบั การดาํ เนินคดีเป็นอยา่ งมาก
๙๖ - ยนื ยนั ตวั บุคคลกรณีตายหมู่ ทาํ อยา่ งไรจึงจะรู้วา่ เป็นศพใคร ๓ เศษชิ้นส่วนของศพเศษกระดูก เศษผม รอยเลือด เศษชิ้นเน้ือ ประการแรกตอ้ งพสิ ูจนว์ า่ เป็นของผใู้ ด กรณีพบเพยี งเศษชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหน่ึงตอ้ งพสิ ูจนว์ า่ เป็นของคนหรือสตั ว์ และถา้ เป็น คนตอ้ งพสิ ูจนว์ า่ เป็นของใคร ผลการพิสูจนศ์ พ หรือเศษชิ้นส่วนศพ ใชไ้ ดท้ ้งั คดีอาญาและคดีแพง่ ฉะน้นั แมเ้ ป็นเศษซากศพจึงไมค่ วรละเลยความสนใจ เม่ือผลการพสิ ูจนท์ ราบวา่ ผตู้ ายหรือชิ้นส่วนศพ เป็นใคร ก็นบั เป็นกา้ วแรกที่จะนาํ ไปสู่ความคล่ีคลายของคดี หลกั ฐานต่างๆทใ่ี ช้ในการพสิ ูจน์บุคคล สติปัญญาการศึกษา บุคลิกลกั ษณะแต่ละบุคคลยอ่ มเก่ียวพนั ถึงการศึกษาอบรมจึงเกิด สติปัญญาของผนู้ ้นั จากการไดศ้ ึกษาอบรมมาน้ีสามารถนาํ มาใชพ้ สิ ูจนบ์ ุคคลไดเ้ ป็นอยา่ งดีซ่ึงใช้ ตรวจสอบจบั เทจ็ การพูดและเสียง คนปกติโดยทวั่ ไปการพดู ของแต่ละบุคคล ก็เป็นลกั ษณะประจาํ ตวั โดยเฉพาะไม่เหมือนกนั และเสียงยอ่ มเปลี่ยนไปตามวยั เดก็ ยอ่ มมีเสียงแหลมเล็ก คนแก่เสียงแหบ เสียงผหู้ ญิงแหลมกวา่ ผชู้ าย การพดู และเสียงสามารถใชเ้ ป็น หลกั ในการตรวจพิสูจน์บุคคลได้ ท่าทางและการเดิน ท่าทางของบุคคลหน่ึงเป็นสิ่งที่บุคคลน้นั ไดร้ ับการฝึกหดั ตลอดจน ลกั ษณะที่ติดตวั ตลอดไปไมค่ อ่ ยเปล่ียนแปลงไปง่าย ๆ แต่อาจเปล่ียนไปไดบ้ า้ งข้ึนอยกู่ บั การฝึกหดั และอาชีพ ดงั น้นั หลายคนอาจจะจาํ ทา่ ทางการเดินของบุคคลไดต้ ้งั แต่อยใู่ นระยะไกล ๆ ยงั ไมเ่ ห็น ใบหนา้ ชดั เจน ผวิ เนือ้ ผวิ เน้ือของแตล่ ะบุคคลที่มีชีวติ อาจบอกถึงลกั ษณะของแต่ละบุคคลได้ หรือแยกเช้ือ ชาติไดพ้ อประมาณ เช่น บุคคลที่มีผวิ เน้ือขาวเหลือง ผมดาํ ไดแ้ ก่ ชนชาวเอเชีย ความคล้ายคลงึ วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ ศลั ยกรรมประดิษฐ์ ตกแตง่ ร่องรอยอาชีพ จะเกิดกบั บุคคลบางอาชีพเทา่ น้นั อาจแบง่ ไดเ้ ป็น ๒ประเภท - อาชีพที่ติดตวั เป็นเวลานาน เช่น ช่างก่อสร้างมกั นิยมคาบตะปูไวร้ ะหวา่ งฟันกบั ปาก นาน เขา้ จะเกิดลกั ษณะกร่อนของฟันหนา้ ส่วนบน - อาชีพที่ติดตวั ชวั่ คราว เช่น ช่างทาสี ช่างซ่อมรถ จะพบเศษสี และน้าํ มนั ติดอยตู่ ามซอกเลบ็ เสื้อผ้าเคร่ืองแต่งกาย ของใช้ส่วนตวั เส้ือผา้ และเคร่ืองแตง่ กายทาํ ใหท้ ราบถึงฐานะ อาชีพ รสนิยม เป็นตน้ เชื้อชาติ การระบุเช้ือชาติของศพคอ่ นขา้ งจะกระทาํ ไดง้ ่าย โดยแบ่งออกเป็น ๓ เช้ือชาติ ใหญ่ๆ คือ มองโกลอยด์ (Mongoloid), นิกรอยด์ (Negroid), คอเคซอยด์(Caucasoid) ตามลกั ษณะท่ี เห็นภายนอก
๙๗ ความพกิ ารของร่างกาย เช่นความพกิ ารของการเดิน อาจเกิดได้ ๓สาเหตุใหญ่ คือ ๑.โดย กาํ เนิด, ๒.เป็นโรคที่สมอง และ ๓.โรคของกระดูกแผลผา่ ตดั ๕ - ๖ วนั แผลติดกนั และประมาณ ๑๔ วนั จะเป็นรอยแผลเป็นเห็นชดั ในแผลกระดูกหกั ภายใน ๔ - ๘ ชวั่ โมงแรกจะมีกอ้ นเลือดมาหุม้ รอยหกั และภายหลงั ๓ วนั จะมีกระดูกออ่ นเขา้ มาเกาะรอบ ๆ รอยตอ่ และกระดูกจะเร่ิมแขง็ ภายหลงั ๑ สัปดาห์เม่ือถึง ๖ - ๗ สปั ดาห์ จะเป็นกระดูกแขง็ เหมือนเดิม รอยสักรอยแผลเป็น เป็นเคร่ืองหมาย พิสูจนบ์ ุคคลอยา่ งดี ความสูงและนา้ หนัก มนุษยเ์ ราเมื่อคลอดออกจากครรภม์ ารดาจะมีความสูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตร หรือ ๒๐ นิ้วฟุต น้าํ หนกั เฉล่ีย ๓,๐๐๐ กรัม ความสูงและน้าํ หนกั จะเพิม่ ข้ึนเรื่อย ๆ จนกระทงั่ อายุ ๒๕ ปี จะไม่สูง ผทู้ ่ีสูงหรือเต้ียข้ึนอยกู่ บั กรรมพนั ธุ์ อาหาร การกินการพกั ผอ่ นหลบั นอน ตลอดจนการออกกาํ ลงั กายควบคู่กนั ไป จะเห็นวา่ ความสูงและน้าํ หนกั จะใชค้ วบคู่กนั กบั ขนาด ของบุคคลได้ เพศ ปัจจุบนั วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ างดา้ นศลั ยกรรมตบแตง่ มีความกา้ วหนา้ สามารถผา่ ตเั ปล่ียนแปลงอวยั วะเพศท่ีอวยั วะสืบพนั ธุ์และผา่ ตดั เพิม่ เตา้ นมตลอดจนฉีดฮอร์โมนเขา้ ร่างกาย เพ่ือใหส้ ะโพกมีไขมนั เพ่มิ ข้ึน เพือ่ ใหม้ ีลกั ษณะคลา้ ยเพศหญิงมากข้ึน บางคร้ังการพจิ ารณาเพียง ภายนอกไมส่ ามารถบอกเพศได้ แต่อาจใชห้ ลกั บางอยา่ งในการบอกเพศ คือ - ฟิ ลม์ ที่ถ่ายรังสีบริเวณกระดูกเชิงกราน เพศหญิงจะมีกระดูกเชิงกราน กลมและกวา้ งกวา่ เพศชาย - เยอื่ บุในช่องปากตรงกระพงุ้ แกม้ ยอ้ มดว้ ยวธิ ีพิเศษตรวจจากกลอ้ งจุลทรรศน์ ถา้ เป็นเพศ หญิงจะพบโครมาตินเลก็ ๆ เพศชายจะไม่พบ - ตรวจเมด็ เลือดขาว โดยยอ้ มวธิ ีธรรมดาบนกระจกแลว้ ดูดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ ถา้ พบเมด็ เลือดขาวคลา้ ยไมต้ ีกลอง คือ หวั โตกา้ นยาวบอกไดว้ า่ ผนู้ ้นั เป็นหญิงเช่นกนั เส้นผม เส้นขน ใชต้ รวจพสิ ูจน์บุคคลไดใ้ นเชิงปฏิเสธ - เส้นผม เส้นขน แบง่ ออกเป็น ๓ ส่วน ๑. เปลือกนอก เยอ่ื บางรูปสี่เหลี่ยม ๒. ส่วนนอก มีสีบอกเช้ือชาติ ๓. ไส้กลาง มีความสาํ คญั มาก ใชแ้ ยกคนหรือสัตว์ ไส้กลางของคนมีขนาดเลก็ กวา่ คร่ึงหน่ึง ของเส้นผม - ลกั ษณะของเส้นผม ที่โคนเส้นผมจะบอกไดว้ า่ มาอยา่ งไร - โดยปกติเส้นผมจะงอกข้ึนประมาณ ๐.๒-๐.๕ มิลลิเมตร/วนั
๙๘ - ปัญหาเกี่ยวกบั การส่งตรวจตอ้ งถามวา่ ๑. เป็นเส้นผมใช่หรือไม่ ๒. เป็นเส้นผมของคนหรือสตั ว์ ๓. เป็นเส้นผมที่คลา้ ยของผตู้ อ้ งหาหรือไม่ (ผลการตรวจในเชิงสนบั สนุนเป็นการ ช่วยเหลือพยานแวดลอ้ ม) อายุ - การตรวจหาอายใุ นบุคคล อาจมีไดใ้ นกรณีที่ไดแ้ ยง้ อายใุ นคนมีชีวติ หรือเพ่ือสนบั สนุน เร่ืองอายศุ พ - ตรวจจากอายกุ บั ความสูง เด็กคลอดใหมต่ รวจจากสายสะดือจะหลุดในวนั ท่ี ๔-๕ - การตรวจรอยต่อของอายกุ ระดูกดว้ ยรังสีเอก็ ซ์ ดูความเจริญเติบโตของรอยตอ่ - การตรวจศพหรือเศษศพ กระดูก - ปัญหาเกี่ยวกบั การส่งตรวจ (ตอ้ งถามเป็นกระดูกมนุษยห์ รือสัตว์) - กรณีเป็นเถา้ ถ่าน ตรวจทางเคมีดว้ ยการแยกธาตุ - ตรวจลกั ษณะของกระดูกชายหรือหญิง - การถ่ายภาพเชิงซอ้ น (ใชถ้ ่ายภาพหรือเอกซเรยแ์ ละอดั ทบั กบั ภาพถ่าย) การทาลายศพ วตั ถุประสงคข์ องคนร้ายในการทาํ ลายศพ มีดงั น้ี - เพอื่ ปกปิ ดการตาย โดยการทาํ ลายใหห้ มดไปดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ - เพอ่ื ทาํ ลายหลกั ฐานวา่ ผตู้ ายเป็นใคร โดยการทาํ ลายสว่ นของลายนิ้วมือ และฟนั - เพ่อื ปกปิ ดสาเหตุที่แทจ้ ริงของการตายโดยการทาํ ใหต้ าํ รวจเขา้ ใจวา่ เป็นการตายโดย ธรรมชาติ อุบตั ิเหตุหรือฆ่าตวั ตายโดยอาศยั ส่ิงแวดลอ้ มและความชาํ นาญของคนร้าย ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ ดงั น้ี - การใชไ้ ฟเผา ตอ้ งมีเขม่าควนั ไฟอยใู่ นปอด หลอดลม ถา้ เป็นการตายจากไฟไหม้ - การใชว้ ธิ ีฝัง ตอ้ งพสิ ูจน์หาสาเหตุการตายจากศพ และสิ่งแวดลอ้ ม - การใชว้ ธิ ีทิ้งลงน้าํ ภายในหลอดลม ปอด กระเพาะอาหาร ถา้ จมน้าํ ตายตอ้ งมีน้าํ เศษโคลน หรืออื่น ๆ อยใู่ นอวยั วะดงั กล่าว - การใชส้ ารเคมี ตอ้ งตรวจทางเคมีแสดงวา่ ก่อนน้นั เป็นเศษร่างกายมนุษย์ - การหนั่ ศพ ตอ้ งตรวจชิ้นส่วนศพ ภาพเชิงซอ้ น และอื่น ๆ
๙๙ - การทิ้งทะเลไกล ๆ ตอ้ งตรวจหลายวธิ ีจากขา้ งตน้ อยา่ งไรกต็ าม การตรวจพิสูจน์ศพจากเศษชิ้นส่วนของศพ สามารถทาํ ไดไ้ ม่วา่ เศษศพจะ เหลือนอ้ ยเพียงใด การตายและเปลยี่ นแปลงหลงั จากการตาย การตาย คือ การสิ้นสภาพบุคคลตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยม์ าตรา ๑๕ บญั ญตั ิวา่ “สภาพบุคคลยอ่ มเริ่มแตเ่ ม่ือคลอด แลว้ อยรู่ อดเป็นทารก สิ้นสุดลงเม่ือตาย”พระราชบญั ญตั ิการ ทะเบียนราษฎร์ พ.ศ. ๒๔๙๙ ใหค้ าํ จาํ กดั ความไวว้ า่ “คนตายหมายความวา่ คนสิ้นชีวติ เท่าน้นั ลูกตาย ในทอ้ งหมายถึงลูกท่ีอยใู่ นครรภม์ ารดาเป็นเวลานานเกินกวา่ ๒๘ สัปดาห์และคลอดออกมาโดยไม่มี ชีวติ ” แฮลเลย์ ไดใ้ หค้ าํ จาํ กดั ความการตายไวด้ งั น้ี - Death is the irreversible cessation of total cerebral function. - Spontaneous function of respiratory system and spontaneous. - Function of circulatory system จะเห็นวา่ แฮลเลย์ ไดเ้ นน้ ถึงหนา้ ที่ของสมองเป็นสาํ คญั วา่ ไมส่ ามารถกลบั คืน เป็นปกติข้ึนมาได้ โดยไม่ถือเอาการหายใจ และการเตน้ ของหวั ใจเป็นสาํ คญั เหมือนก่อน ท้งั น้ีเพราะ ตราบใดท่ีสมองยงั สามารถทาํ งานได้ ถึงแมก้ ารหายใจและหวั ใจจะหยดุ เตน้ ไปแลว้ กค็ งจะช่วยชีวติ ไดโ้ ดยใชเ้ คร่ืองช่วยกระตุน้ การเตน้ ของหวั ใจและการหายใจ คนน้นั ยงั มีโอกาสจะฟ้ื นคืนชีพมาได้ นน่ั เองในทางตรงกนั ขา้ มถา้ สมองหยดุ ทาํ งานโดยแทแ้ ลว้ ถึงแมจ้ ะช่วยใหผ้ นู้ ้นั มีหวั ใจเตน้ และ หายใจไดก้ ็เพยี งระยะหน่ึงแตไ่ มม่ ีโอกาสจะฟ้ื นคืนสติข้ึนมาได้ การตายและเปลย่ี นแปลงหลงั จากการตาย มกี ารศึกษากนั ดงั นี้ ศึกษาว่าด้วยหลกั ในการตัดสินใจว่าตายหรือยงั : หลกั การตดั สินการตาย ๒ ประการคือ ๑. การเตน้ ของหวั ใจ (เดก็ ๑๓๐ คร้ัง/นาที, ผใู้ หญ่ ๗๐ คร้ัง/นาที (โดยสมาคมโรคหวั ใจ USA.) เมื่อคนตายหวั ใจจะหยดุ เตน้ สามารถตรวจสอบไดโ้ ดยจบั ชีพจรท่ีขอ้ มือ จบั ไม่ได,้ ฟังเสียง หวั ใจไม่ได้ และใชเ้ ครื่องตรวจหวั ใจไมม่ ีการสนองตอบ ๒. การหายใจ (เด็ก ๒๐ - ๒๕ คร้ัง/นาที, ผใู้ หญ่ ๑๒ - ๒๐ คร้ัง/นาที) เมื่อคนตาย การหายใจจะหยดุ สามารถตรวจสอบโดยดูการเคลื่อนไหวของทรวงอกและทอ้ ง, ดูการเคลื่อนไหว ของสาํ ลีหรือดูการเกิดฝ้ าท่ีกระจกเงาท่ีวางไวบ้ ริเวณจมูก และใชเ้ คร่ืองฟังเสียงหายใจเขา้ - ออก บริเวณปอดไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๐ นาที ดงั น้นั การตดั สินการตายจะตอ้ งใชห้ ลกั ๒ ประการ คือ หวั ใจหยดุ เตน้ และหยดุ หายใจ ภายในเวลา ๑ ๑/๒ นาที
๑๐๐ การเปลย่ี นแปลงของร่างกายมนุษย์เมอื่ ตายแล้ว -การทรงตวั หรือความรู้สึก เมื่อคนตายแลว้ สมองและกลา้ มเน้ือหยดุ สั่งและหยดุ รับคาํ สั่ง สภาพการทรงตวั ก็หมดสภาพลง ความรู้สึกตา่ ง ๆ สิ้นสุดลง -ตัวเยน็ โดยปกติอุณหภมู ิในร่างกายมนุษยค์ งที่อยทู่ ี่ ๓๗ องศาเซลเซียส เมื่อตายแลว้ อุณหภูมิจะลดลง ๑ ชวั่ โมง ตอ่ ๑ องศาเซลเซียส ในคนปกติ (ในกรณี คนชรา เด็ก คน ป่ วย และประกอบดว้ ยสิ่งแวดลอ้ มใหน้ าํ มาประกอบการพิจารณาดว้ ย) -การเปลย่ี นแปลงของสีผวิ เม่ือคนตายแลว้ ผวิ หนงั จะเหี่ยวยน่ ไมม่ ีปฏิกิริยาโตต้ อบ -การเปลยี่ นแปลงของดวงตา ตอ่ มในตาหยดุ ทาํ งาน จาํ นวนน้าํ หล่อเล้ียงลดลง ทาํ ใหล้ ูกตา ออ่ นลงตาขาวจะเป็นฝ้ าขนุ่ มา่ นตาไม่ทาํ งาน (ยกเวน้ คนหมดสติ เส้นเลือดในสมองแตก ดมยาสลบ หรือถูกยาพิษ) -การเปลย่ี นแปลงของเลอื ดเม่ือคนตายแลว้ หวั ใจหยดุ ทาํ งานเลือดหยดุ ไหลเวยี นก็จะเกิดการ แขง็ ตวั ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สีแดงของเลือดก็สลายตวั ออกและตกตะกอนภายในเวลาอนั ส้นั และจะตกลงเบ้ืองต่าํ โดยวถิ ีการดึงดูดของโลกและจะเกิดไลวอร์มอร์ติส (Livor Mortis) ในศพทุกศพ และมีสีดาํ เตม็ ที่ ที่ประมาณ ๑๒ ชวั่ โมง ภายหลงั การตาย(มีขอ้ ควรสงั เกตไลวอร์มอร์ติสเหมือนกบั รอยฟกช้าํ ท่ีถูกทุบตีมา จึงควรสงั เกตศพที่ถูกทาํ ร้ายร่างกายมาก่อน บาดแผลฟกช้าํ มกั จะมีรอย ผวิ หนงั ขาดเล็ก ๆ และจะมีรอยบวมสูงข้ึน ๆ) สภาพการตายของเมด็ เลือด (Livor Mortis) การเปลยี่ นแปลงของกล้ามเนือ้ มนุษยเ์ ม่ือตายแลว้ ตวั จะออ่ นลงทนั ทีเพราะขาดการบงั คบั ของกลา้ มเน้ือและหลงั จากตายไปแลว้ ประมาณ ๕-๖ ชว่ั โมง กลา้ มเน้ือจะแขง็ ข้ึนอีกคร้ัง และเป็นอยู่ ประมาณ ๑๖-๒๔ ชว่ั โมง จึงอ่อนตวั อีกเป็นคร้ังสุดทา้ ย และเปลี่ยนแปลงเป็น การเน่าอาการแขง็ ของ ศพเมื่อตายแลว้ น้ีเรียกวา่ “ไรกอร์มอร์ติส” (Rigor Mortis) ในจาํ พวกโปรตีนของกลา้ มเน้ือมีสารประกอบท่ีสาํ คญั อยู่ ๒ ชนิด คือไมโอซิน และแอกติน ในคนที่มีชีวติ ไมโอซินจะรวมกบั แอกตินเป็นแอกโตไมโอซิน มีคุณสมบตั ิยดื หดตวั ได้ และ คุณสมบตั ิน้ีจาํ เป็นตอ้ งอาศยั สารอะดีโนซิลไตรฟอตเฟต (A.T.P.) ในคนท่ีตายแลว้ จะไม่มี A.T.P. จึง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142