Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เกร็ดความรู้สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่ม 19

เกร็ดความรู้สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่ม 19

Published by bom_mtk, 2022-06-14 07:57:35

Description: เกร็ดความรู้สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่ม 19

Search

Read the Text Version

มนษุ ย์ ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มมีความสมั พนั ธ์ เก่ียวเน่ืองกนั อยา่ งใกลช้ ิด ทงั้ นีเ้ พราะทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม เป็นส่งิ ท่ีเอือ้ อานวยประโยชนใ์ หม้ นษุ ยไ์ ดร้ บั ปัจจยั ส่ี ซง่ึ ไดแ้ ก่ อาหาร เคร่ืองนุ่งหม่ ยารักษาโรค และทอ่ี ยู่อาศัย แตข่ ณะเดียวกนั การกระทาของมนษุ ยเ์ องไดส้ ่งผลกระทบ ต่อสภาพของทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ปัจจยั ๔ ซ่งึ ไดแ้ ก่ อาหาร เครอื่ งนงุ่ หม่ ยารกั ษาโรค ทอี่ ยูอ่ าศยั และเน่ืองจากความจากดั ของทรพั ยากรธรรมชาติ เป็นส่งิ ซ่ึงมนษุ ยไ์ ดจ้ ากทรพั ยากรธรรมชาติ รวมทงั้ การเพ่มิ ขนึ้ อย่างรวดเรว็ ของจานวนประชากร ถา้ มนษุ ยใ์ ชอ้ ยา่ งสนิ้ เปลอื ง กจ็ ะทาใหเ้ กดิ ความเสอื่ มโทรม ไดม้ ีผลทาใหเ้ กิดการแก่งแยง่ ในการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ ไม่เพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการ และส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีอยู่ ย่งิ ไปกว่านนั้ มนษุ ยย์ งั ไดใ้ ชท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งฟ่มุ เฟือยและไมม่ ี แผนการจดั การ โดยมงุ่ หวงั ผลกาไรสงู สดุ แตเ่ พียงอย่างเดียว จงึ มีผลทาใหเ้ กิดปัญหาความเส่ือมโทรม และการขาดแคลนทรพั ยากรธรรมชาติ รวมทง้ั ก่อใหเ้ กิดปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม หรอื การแพรก่ ระจาย ของภาวะมลพษิ จากขบวนการใชท้ รพั ยากรธรรมชาตนิ น้ั ๆ ดว้ ย ประเทศไทย ซง่ึ เป็นประเทศกาลงั พฒั นา ไดม้ ีการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื การเรง่ รดั การพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ โดยขาดความระมดั ระวงั และคานงึ ถึงการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีเพียงพอมาโดยตลอด จงึ มีผลทาใหป้ ัญหา ความเส่ือมโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติ และการแพรก่ ระจาย ของปัญหามลพษิ ไดท้ วีความรุนแรงมากขนึ้ และมีผลต่อ คณุ ภาพชีวิตของประชาชนจนเหน็ ไดอ้ ย่างชดั เจน ในปัจจบุ นั อาทิเช่น พนื้ ท่ีป่าไมถ้ กู บกุ รุก ทาลาย จนมี สดั ส่วนไมเ่ หมาะสม กบั การรกั ษาสภาพความสมดลุ ของระบบธรรมชาติ หรอื ระบบนิเวศ หรอื ภาวะนา้ เนา่ เสียในแม่นา้ สายหลกั ทงั้ แม่นา้ เจา้ พระยา แมน่ า้ แม่กลอง แมน่ า้ ทา่ จีน และแม่นา้ บางปะกง หรอื ภาวะอากาศเสียในเขตกรุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑลและเมืองหลกั อนั เน่ืองมาจากควนั พษิ รถยนต์ การเกิดปฏิบตั ิการ เรอื นกระจก (โลกรอ้ น) เป็นตน้ ดงั นนั้ เพ่อื ให้ ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ซง่ึ เป็น ปัจจยั สาคญั ของการพฒั นาประเทศมีสภาพ ท่ีพรอ้ มสนบั สนนุ การพฒั นาประเทศในอนาคตต่อ ไปนนั้ การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสมตามหลกั วิชา การจงึ เป็นวธิ ีการท่ีจาเป็นท่ีจะตอ้ งเรง่ ดาเนินการ ทง้ั นีเ้ พ่อื ท่ีจะสงวน และรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มไวใ้ หม้ นษุ ยไ์ ดพ้ ง่ึ พาอาศยั อย่างยาวน1านตอ่ ไป รวมทง้ั ยงั จะก่อใหเ้ กิดความม่นั คงแก่ประเทศดว้ ย

•ความหมาย ของการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม เพ่อื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจท่ีชดั เจน เราสามารถแยกการใหค้ า จากดั ความได้ ดงั นี้ คือ สงิ่ แวดล้อม หมายถงึ ส่ิงตา่ ง ๆ ท่ีอยรู่ อบตวั เรา ทง้ั ส่ิงท่ีมีชีวิต ส่ิงไมม่ ีชีวิตเห็นไดด้ ว้ ยตาเปล่า และไม่สามารถเห็นไดด้ ว้ ยตาเปล่า รวมทง้ั ส่ิงท่ีเกิดขนึ้ โดยธรรมชาติและส่งิ ท่ีมนษุ ยเ์ ป็นผสู้ รา้ งขนึ้ หรอื อาจจะกล่าวไดว้ ่า ส่ิงแวดลอ้ มจะประกอบดว้ ย ทรพั ยากรธรรมชาติและทรพั ยากรท่ีมนษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ธรรมชาตไิ ดใ้ หส้ ่งิ ทสี่ วยงามรม่ รนื่ ในชว่ งเวลาหน่งึ เพ่อื สนองความตอ้ งการของมนษุ ยน์ ่นั เอง นอกเหนอื จากปัจจยั ๔ ทมี่ นษุ ยไ์ ดร้ บั *สิง่ แวดล้อมทเี่ กดิ ขึน้ โดยธรรมชาติ ไดแ้ ก่ บรรยากาศ นา้ ดนิ แรธ่ าตุ และส่ิงมีชีวติ ท่ีอาศยั อย่บู นโลก (พืช และสตั ว)์ ฯลฯ *ส่งิ แวดล้อมทมี่ นุษยส์ ร้างขึน้ ไดแ้ ก่ สาธารณปู การตา่ งๆ เชน่ ถนน เข่ือนกน้ั นา้ ฯลฯหรอื ระบบของสถาบนั สงั คมมนษุ ย์ ท่ีดาเนนิ ชีวติ อยู่ ฯลฯ •ทรัพยากร ธรรมชาติ หมายถึง ส่ิงต่างๆ (ส่ิงแวดลอ้ ม) ท่ีเกิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ และมนษุ ยส์ ามารถ นามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เชน่ บรรยากาศ ดิน นา้ ป่าไม้ ทงุ่ หญา้ สตั วป์ ่า แรธ่ าตุ พลงั งาน และกาลงั แรงงานมนษุ ย์ เป็นตน้ โดยคานยิ ามแลว้ จะเหน็ ไดว้ า่ ทรพั ยากรธรรมชาติทกุ ประเภทนนั้ จะเป็นส่วนหน่งึ ของสง่ิ แวดลอ้ ม แต่ส่ิงแวดลอ้ มทกุ ชนดิ ไม่เป็นทรพั ยากรธรรมชาติทง้ั หมด ซง่ึ อาจกลา่ วสรุปไดว้ า่ การท่ีจะจาแนกส่ิงแวดลอ้ ม ใดๆ เป็นทรพั ยากรธรรมชาตินนั้ มีปัจจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งหลายประการ •ประการแรก เกิดจากความตอ้ งการของมนษุ ยท์ ่ีจะนา ส่ิงแวดลอ้ มมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนก์ บั ตนเอง •ประการทสี่ อง การเปล่ียนแปลงตามกาลเวลา ถา้ ยงั ไมน่ ามาใชก้ ็เป็นส่งิ แวดลอ้ ม แต่ถา้ นามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ก็จะกลายเป็นทรพั ยากรธรรมชาตใิ นชว่ งเวลานน้ั ๆ •ประการทสี่ าม สภาพภมู ศิ าสตรแ์ ละความหา่ งไกล ของส่ิงแวดลอ้ ม ถา้ อย่ไู กลเกินไปคนอาจไมน่ ามาใช้ แม่นา้ ทมี่ วี ชั พชื นา้ มาก จนมสี ดั สว่ น ก็จะไม่สามารถแปรสภาพเป็นทรพั ยากรธรรมชาติได้ ไมเ่ หมาะสมกบั การรกั ษาความสมดลุ ของระบบธรรมชาตแิ ละกดี ขวาง การจราจรทางนา้ 2

นอกจากนี้ ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มจะอยรู่ วมกนั เป็นกล่มุ คละกนั ไป โดยอย่รู ว่ มกนั อย่างมีกฎ ระบบ ขอ้ บงั คบั ทงั้ ท่ีเกิดขนึ้ เองโดยธรรมชาติ และทงั้ ท่ีมนษุ ยก์ าหนดขนึ้ มา การอย่เู ป็นกลมุ่ ของสรรพส่ิงเหลา่ นี้ จะแสดงพฤตกิ รรมรว่ มกนั ภายในขอบเขต และแสดงเอกลกั ษณข์ องกลมุ่ ออกมาอย่างชดั เจน กล่มุ ของสรรพส่งิ เหล่านีจ้ ะเรยี กวา่ ระบบนิเวศ ปัจจุบนั ปัญหาขยะมูลฝอย หรอื ระบบส่ิงแวดลอ้ ม น่นั เอง เป็นปัญหาทสี่ าคญั การนาส่งิ เหลอื ใช้ การจดั การ (Management) มาประดษิ ฐ์ใหเ้ กดิ ประโยชนข์ นึ้ ใหม่ จะเป็นวธิ ีการหน่งึ ทที่ าใหข้ ยะลดนอ้ ยลง หมายถงึ การดาเนินงานอย่างมีประสทิ ธิภาพในรูปแบบต่าง ๆ ทงั้ ดา้ นการจดั หา การเก็บรกั ษา การซอ่ มแซม การใชอ้ ย่างประหยดั และการสงวนรกั ษา เพ่อื ใหก้ ิจกรรม ท่ีดาเนนิ การนนั้ สามารถใหผ้ ลย่งั ยืนต่อมวลมนษุ ยแ์ ละธรรมชาติ โดยหลกั การแลว้ \"การจัดการ\" จะตอ้ งมีแนวทางการดาเนนิ งาน ขบวนการและขนั้ ตอน รวมทง้ั จดุ ประสงคใ์ นการดาเนนิ งานท่ีชดั เจนแน่นอน จากคาจากดั ความขา้ งตน้ การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม หมายถึง การดาเนินงานต่อทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม อย่างมีประสิทธิภาพ ทงั้ ในดา้ นการจดั หา การเก็บรกั ษา การซ่อมแซม การใชอ้ ย่างประหยดั และการสงวนรกั ษา เพ่อื ใหท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มนนั้ สามารถเอือ้ อานวยประโยชน์ แก่มวลมนษุ ยไ์ ดใ้ ชต้ ลอดไป อย่างไม่ขาดแคลน หรือมีปัญหาใด ๆ หรืออาจจะหมายถึง กระบวนการจัดการ แผนงาน หรอื กิจกรรมในการจดั สรร และการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม เพ่ือสนองความต้องการ ในระดบั ต่าง ๆ ของมนษุ ย์ และเพ่อื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายสงู สดุ ของการพฒั นาคือ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สงั คม และคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม โดยยึดหลกั การอนรุ กั ษ์ ดว้ ยการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมอย่างฉลาด ประหยดั และก่อใหเ้ กิดผลเสียต่อส่งิ แวดลอ้ มนอ้ ยท่ีสดุ เทา่ ท่ีจะทาได้ 3

แต่ถา้ เราจะกาหนดวา่ ส่ิงแวดลอ้ มท่ีเรากล่าวกนั ท่วั ๆ ไปนนั้ เป็นเร่อื งของปัญหาภาวะมลพษิ อนั เน่ืองมาจากการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ หรอื จากผลของความกา้ วหนา้ ของการพฒั นาแลว้ เราก็สามารถให้ คาจากดั ความแยกระหวา่ งการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และการจดั การส่งิ แวดลอ้ มไดด้ งั นี้ คือ การจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถงึ การดาเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพตอ่ ส่งิ ท่ีเกิดขนึ้ ตาม ธรรมชาติ และใหป้ ระโยชนต์ ่อมนษุ ย์ ทง้ั ในดา้ นการจดั หา การเก็บรกั ษา การซอ่ มแซม การใชอ้ ยา่ งประหยดั รวมทง้ั การสงวน เพ่อื ใหท้ รพั ยากรธรรมชาตนิ นั้ สามารถใหผ้ ลไดอ้ ย่างยาวนาน การจัดการ ส่งิ แวดล้อม หมายถงึ การดาเนินงานอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ เพ่อื ทาใหส้ ่ิงท่ีอยรู่ อบ ๆ ตวั เรา มีผลดีต่อคณุ ภาพชีวติ น่นั ก็คือ จะตอ้ งดาเนนิ การปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กิดปัญหาภาวะมลพษิ ท่ีจะมีผลตอ่ การ ดารงชีวติ อย่อู ย่างมีความสขุ ปลอดภยั น่นั เอง การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม จะตอ้ งยดึ หลกั การทางอนรุ กั ษว์ ทิ ยา เพ่อื ประกอบ การดาเนนิ งานในการจดั การดงั นี้ คือ ๑) การใชท้ รพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มจะตอ้ งเป็นไปอย่างสมเหตสุ มผล ใชอ้ ยา่ งฉลาด หรอื ใชต้ ามความจาเป็น ไม่ใชอ้ ย่างฟ่มุ เฟือย และไมเ่ กิดการสญู เปล่า หรอื เกิดการสญู เปล่านอ้ ยท่ีสดุ ๒) การประหยดั ของท่ีหายาก และของท่ีกาลงั สญู พนั ธุ์ ๓) การปรบั ปรุง ซอ่ มแซมส่งิ ท่ีเส่ือมโทรมใหค้ ืนสภาพก่อนนาไปใช้ เพ่อื ใหร้ ะบบส่งิ แวดลอ้ มดีขนึ้ แนวความ คดิ ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม มีแนวความคิดหลกั ในการดาเนินงาน ดงั นีค้ อื ๑. มงุ่ หวงั ใหท้ รพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มท่ีประกอบกนั อยใู่ นระบบ ธรรมชาติมีศกั ยภาพ ท่ีสามารถ ใหผ้ ลิตผลไดอ้ ยา่ งย่งั ยืน ถาวร และม่นั คง คือ ม่งุ หวงั ใหเ้ กิดความเพม่ิ พนู ภายในระบบ ท่ีจะนามาใชไ้ ดโ้ ดยไม่มี ผลกระทบกระเทือนตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มนนั้ ๆ ๒. ตอ้ งมีการจดั องคป์ ระกอบภายในระบบธรรมชาติ หรอื ส่ิงแวดลอ้ มหรอื ระบบนเิ วศใหม้ ี ชนดิ ปริมาณ และสดั ส่วนของทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม แต่ละชนดิ เป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานตามธรรมชาติ เพ่อื ใหอ้ ย่ใู นภาวะสมดลุ ของ ธรรมชาติ ๓. ตอ้ งยดึ หลกั การของอนรุ กั ษว์ ทิ ยาเป็นพนื้ ฐาน โดยจะตอ้ งมีการรกั ษา สงวน ปรบั ปรุง ซอ่ มแซม และพฒั นา ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นทกุ สภาพ ทงั้ ในสภาพท่ีดีตามธรรมชาติ ในสภาพท่ีกาลงั มีการใช้ และในสภาพ ท่ีทรุดโทรมรอ่ ยหรอ ๔. กาหนดแนวทางปฏิบตั ิท่ีชดั เจนในการควบคมุ และกาจดั ของเสีย มใิ หเ้ กิดขนึ้ ภายในระบบธรรมชาติ รวมไปถึงการนาของเสียนนั้ ๆ กลบั มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนอ์ ย่างตอ่ เน่ือง ๕. ตอ้ งกาหนดแนวทางในการจดั การ เพ่อื ใหค้ ณุ ภาพชีวติ ของมนษุ ยด์ ีขนึ้ โดยพจิ ารณาถงึ ความเหมาะสม ในแต่ละสถานท่ี และแต่ละสถานการณ์ 4

จากแนวคิดดงั กล่าว เน่ืองจากทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มนน้ั มีหลายชนิด และแตล่ ะชนดิ ก็มีคณุ สมบตั ิและเอกลกั ษณท์ ่ีเฉพาะตวั ดงั นนั้ เพ่อื ใหก้ ารจดั การสามารถบรรลเุ ปา้ หมายของแนวคดิ จงึ ควรกาหนดหลกั การจดั การ หรอื แนวทางการจดั การใหส้ อดคลอ้ งกบั ชนดิ คณุ สมบตั ิ และเอกลกั ษณเ์ ฉพาะ อยา่ งของทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มนนั้ ๆ ดงั นี้ ทรัพยากรหมุนเวียนหรอื ทรัพยากรทใ่ี ช้ไม่หมดสนิ้ เป็นทรพั ยากรท่ีมีอย่ใู น ธรรมชาติอยา่ งมากมาย อาทิเช่น แสงอาทิตย์ อากาศ และนา้ ในวฏั จกั ร ทรพั ยากรประเภทนี้ มีความจาเป็นตอ่ รา่ งกายมนษุ ยแ์ ละส่ิงมีชีวติ อย่างอ่ืน ถา้ ขาดแคลน หรอื มีส่ิงเจือปน ทงั้ ท่ีเป็นพษิ และไมเ่ ป็นพษิ ก็จะมีผลต่อการเจรญิ เติบโต และศกั ยภาพในการผลิต ของทรพั ยากรธรรมชาตนิ น้ั การจดั การจะตอ้ งควบคมุ แสงแดด จดั เป็นทรพั ยากรธรรมชาตทิ ไี่ ม่หมดสนิ้ การกระทาท่ีจะมีผลเสียหรอื เกิดส่งิ เจือปนต่อทรพั ยากรธรรมชาติ เราสามารถใชป้ ระโยชนใ์ นการถนอมอาหารผลติ เกลอื ตอ้ งควบคมุ และปอ้ งกนั มิใหเ้ กิดปัญหามลพษิ จากขบวนการผลิต นอกจากนยี้ งั ใชเ้ ป็นประโยชนใ์ นเชงิ พลงั งานอนื่ อกี มาก เพอื่ ทดแทนทรพั ยากรบางชนดิ เช่นป่ าไม้ ทงั้ การเกษตร อตุ สาหกรรม ท่ีจะมีผลตอ่ ทรพั ยากรประเภทนี้ รวมทงั้ การใหก้ ารศกึ ษาแก่ประชาชน ทง้ั ผลดี-ผลเสียของการปนเปื้อน วิธีการควบคมุ และปอ้ งกนั รวมทง้ั ตอ้ งมีกฎหมายควบคมุ การกระทา ท่ีจะมีผลตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาตปิ ระเภทนีด้ ว้ ย ทรัพยากรทดแทนได้ เป็นทรพั ยากรธรรมชาติท่ีใชแ้ ลว้ สามารถฟื้นคืนสภาพได้ ทง้ั ในระยะสนั้ และระยะยาว ซง่ึ ไดแ้ ก่ ป่าไม้ มนษุ ย์ สตั วป์ ่า พืช ดินและนา้ ทรพั ยากรประเภทนี้ มกั จะมีมากและจาเป็น อยา่ งย่งิ ต่อมนษุ ยแ์ ละส่ิงมีชีวติ อ่ืน ๆ มนษุ ยต์ อ้ งการใช้ ทรพั ยากรนีต้ ลอดเวลา เพ่อื ปัจจยั ส่ีการเก็บเก่ียวผลประโยชน์ จากทรพั ยากรธรรมชาตชิ นิดนีห้ รอื การนามาใชป้ ระโยชน์ ปัจจบุ นั มกี ารระเบดิ และย่อยหนิ เพอื่ นาหนิ สนิ แร่ ควรนามาใชเ้ ฉพาะส่วนท่ีเพม่ิ พนู เทา่ นน้ั หรอื อีกนยั หน่งึ ไปใชป้ ระโยชนเ์ ป็นจานวนมาก ซ่ึงเป็นกิจกรรม แนวคดิ นีถ้ ือวา่ ฐานของทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่ีมีอยู่ เปรยี บเสมือนตน้ ทนุ ทกี่ ่อใหเ้ กดิ ปัญหาส่งิ แวดลอ้ มตามมา ท่ีจะไดร้ บั ผลกาไรหรอื ดอกเบีย้ รายปี โดยสว่ นกาไร หรอื ดอกเบีย้ นีก้ ็คือ ส่วนท่ีเราสามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ การจดั การจะตอ้ งจดั ใหร้ ะบบธรรมชาติ มีองคป์ ระกอบภายในท่ีมีชนิดและปรมิ าณท่ีไดส้ ดั สว่ นกนั การใช้ ตอ้ งใชเ้ ฉพาะสว่ นท่ีเพม่ิ พนู และตอ้ งควบคมุ และปอ้ งกนั ใหส้ ต๊อกหรอื ฐานของทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มนน้ั ๆ มีศกั ยภาพ หรอื ความสามารถในการใหผ้ ลิตผล หรอื ส่วนเพ่มิ พนู ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รวมทง้ั ในการใช้ หรอื การผลติ ของทรพั ยากรธรรมชาตนิ น้ั จะตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยีท่ีเหมาะสมและยดึ หลกั ท5างการ อนรุ กั ษว์ ิทยาดว้ ย

ทรัพยากรทใ่ี ช้แล้วหมดไป เป็นทรพั ยากรธรรมชาติท่ีใชแ้ ลว้ จะหมดไป ไมส่ ามารถเกิดขนึ้ มาทดแทนได้ หรอื ถา้ จะเกิดขนึ้ มา ทดแทนได้ ก็ตอ้ งใชเ้ วลานานมาก และมกั เป็นทรพั ยากรท่ีมีความสาคญั ทางดา้ นเศรษฐกิจ ซง่ึ ไดแ้ ก่ นา้ มนั ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และสินแร่ การจดั การทรพั ยากรประเภทนี้ จะตอ้ งเนน้ การประหยดั และพยายามไม่ใหเ้ กิดการสญู เสีย ตอ้ งใชต้ ามความจาเป็น หรอื ถา้ สามารถใชว้ สั ดอุ ่ืนแทนได้ ก็ควรนามาใชแ้ ทน รวมทงั้ ตอ้ งนาสว่ นท่ีเสียแลว้ กลบั มาใชป้ ระโยชนใ์ หค้ มุ้ คา่ ต่อไป การขดุ เจาะนา้ มนั ในทะเล อาจจะก่อใหเ้ กิดการทาลาย ทรพั ยากรธรรมชาตทิ างทะเล เช่น ปะการงั และแหล่งทอี่ ยูอ่ าศยั ของสตั วน์ า้ ได้ หากไม่มีการจดั การ ทเี่ หมาะสม •กลยุทธใ์ นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม จะตอ้ งมีแนวทางและมาตรการตา่ ง ๆ ท่ีตอ้ งดาเนินการ ใหส้ อดคลอ้ งกนั ไป ซง่ึ ขนึ้ กบั สถานภาพของปัญหาท่ีเกิดขนึ้ และเป็นอยใู่ นขณะนน้ั แนวทางและมาตรการ ดงั กล่าว จะมีลกั ษณะอย่างหนง่ึ อย่างใดหรอื มีทกุ ลกั ษณะประกอบกนั ดงั นี้ การรกั ษาและฟื้นฟู เพ่อื การปรบั ปรุงแกไ้ ขทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มท่ีประสบปัญหา หรอื ถกู ทาลายไปแลว้ โดยจะตอ้ งเรง่ แกไ้ ข สงวนรกั ษามใิ หเ้ กิดความเส่ือมโทรมมากย่งิ ขนึ้ และขณะเดียวกนั จะตอ้ งฟื้นฟสู ภาพแวดลอ้ มท่ีเสียไป ใหก้ ลบั ฟื้นคืนสภาพการปอ้ งกนั โดยการควบคมุ การดาเนินงานและการพฒั นาตา่ ง ๆ ใหม้ ีการปอ้ งกนั การทาลายสภาพแวดลอ้ มหรอื ใหม้ ีการกาจดั สารมลพษิ ต่าง ๆ ดว้ ยการวางแผนปอ้ งกนั ตงั้ แตเ่ ร่ิมดาเนิน โครงการ การสง่ เสรมิ โดยการใหก้ ารศกึ ษา ความรูแ้ ละความเขา้ ใจ ต่อประชาชน เก่ียวกบั ความสมั พนั ธใ์ นระบบ ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม หรอื ระบบนเิ วศ เพ่อื ใหเ้ กิดจิตสานกึ ทางดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม และมีความคิด ท่ีจะรว่ มรบั ผดิ ชอบในการปอ้ งกนั และรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีอยู่ เพ่ือใหบ้ รรลแุ นวทาง และมาตรการดงั กลา่ วขา้ งตน้ จงึ ตอ้ งมีกลยทุ ธ/์ เคร่อื งมือในการนามาใช้ เพ่อื การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ทง้ั ในภาพรวม ระดบั พนื้ ท่ี และระดบั โครงการ ดงั นี้ ๑. การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มดว้ ยกลไกของการบรหิ าร และการจดั การโดยท่วั ไป ๒. การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มระดบั พนื้ ท่ี ๓. การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มระดบั โครงการ 6

การจัดการ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ด้วยกลไกของการบริหาร และการจัดการโดยท่วั ไป ๑.๑ กฎหมาย เคร่อื งมือท่ีสาคญั ประการหน่งึ ท่ีจะมีผลทาใหก้ ารจดั การ หรอื การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มประสบผลสาเรจ็ ก็คือ กฎหมายทง้ั นีเ้ พราะตอ้ งอาศยั กฎหมาย เพ่อื การกาหนดนโยบาย การจดั การ ใหก้ ารดาเนินงานเป็นไปตามหลกั ความสมดลุ ของธรรมชาตมิ ีความสอดคลอ้ งกบั การ กาหนด อานาจหนา้ ท่ี วิธีการประสานงานขององคก์ รตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งและในขณะเดียวกนั ก็เป็นเคร่ืองมือ ในการควบคมุ การดาเนนิ งานใหเ้ ป็นไปตามระเบียบและขอ้ กาหนดอยา่ งชดั เจนดว้ ย เดิมทีประเทศไทยมีกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง โดยตรงเพียงฉบับเดียว ท่ีครอบคลุมเร่ืองการแกไ้ ขปัญหา ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม คือ พระราชบญั ญตั ิสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ฉบบั ท่ี ๑ พ.ศ. ๒๕๑๘ และฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๒๑ แตพ่ ระราชบญั ญตั ิฯ ฉบบั นี้ มไิ ดม้ ีกลไกท่ีเป็นระบบ ท่ีจะชว่ ยให้ มีการเปล่ียนแปลงนโยบายและแผน ท่ีผา่ นความเห็นชอบของคณะรฐั มนตรี ไปส่ภู าคปฏบิ ตั ทิ ่ีไดผ้ ล ขาดความต่อเน่ืองในการติดตามตรวจสอบโครงการ ท่ีไดด้ าเนนิ งานไปแลว้ ขาดอานาจในการลงโทษ และการบงั คบั ใชม้ าตรฐานคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื การรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐาน ท่ีกาหนดและประเดน็ ท่ีสาคญั ก็คือ ไม่มีการกาหนดความรบั ผิดชอบของผทู้ าลายส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีจะตอ้ งรบั ภาระ ในการแกไ้ ข นอกจากนนั้ ยงั ไมเ่ ปิดโอกาสใหม้ ีการจดั ทาเครอื ข่ายการทางาน ดา้ นการแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีจะชว่ ยใหม้ ีการผนกึ กาลงั ระหวา่ งภาครฐั บาล เอกชน และองคก์ รเอกชนอยา่ งมีระบบ รวมทงั้ ยงั ไม่ได้ มีการกระจายอานาจ ออกไปสสู่ ่วนภมู ิภาค และทอ้ งถ่ินใหเ้ พียงพอดว้ ย ปัจจบุ นั มีการตราพระราชบญั ญตั ิขนึ้ ใหม่ เพ่อื ใชเ้ ป็นกฎหมาย ท่ีจะเอือ้ อานวยตอ่ การควบคมุ และแกไ้ ข ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ใหม้ ีประสทิ ธิภาพย่งิ ขนึ้ คือ พระราชบญั ญตั ิส่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซง่ึ พระราชบญั ญตั ิฯ ฉบบั นี้ ไดม้ ีผลทาใหเ้ กิดมาตรการ การดาเนินงานต่าง ๆ อาทิเช่น การปรบั องคก์ รใหม้ ีเอกภาพ ทง้ั ในการกาหนดนโยบาย และแผนการสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม การควบคมุ มลพษิ การกระจายอานาจการบรหิ าร และการจดั การดา้ นส่งิ แวดลอ้ มออกสจู่ งั หวดั และทอ้ งถ่ิน การกาหนดมาตรฐานคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม และมาตรฐานควบคมุ มลพษิ จากแหล่งกาเนิด การพจิ ารณา และตดิ ตามตรวจสอบผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม ทง้ั ก่อนและหลงั โครงการพฒั นา การกาหนดสทิ ธิ และหนา้ ท่ี ตามกฎหมายของประชาชน และเอกชน ท่ีจะมีส่วนรว่ มในการคมุ้ ครองส่ิง แวดลอ้ มและอนรุ กั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ การนามาตรการดา้ นการเงนิ การคลงั มาใชเ้ ป็นมาตรการ เสรมิ เพ่อื ใหเ้ ป็นแรงจูงใจ และมาตรการบงั คบั ใหส้ ่วนราชการทอ้ งถ่ิน องคก์ รเอกชน และภาคเอกชน เขา้ มามีส่วนรว่ มในการแกไ้ ขปัญหา ส่ิง แวดลอ้ ม ภายใตห้ ลกั การ “ผู้กอ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ ต้องมหี น้าทเี่ สียค่าใช้จ่าย\" การกาหนดหรอื จาแนกพนื้ ท่ี ในการแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ มโดยเรง่ ดว่ น เพ่อื การคมุ้ ครองอนรุ กั ษแ์ ละควบคมุ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดลอ้ ม รวมทงั้ มี การกาหนดความรบั ผดิ ชอบทางแพง่ การตอ้ งชด ใชค้ ่าเสียหายหรอื สนิ ไหมทดแทนกรณี ทาใหเ้ กิด การแพรก่ ระจายมลพษิ และการเพม่ิ บทลงโทษ ในการไม่ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบท่ีกาหนดขนึ้ ด7 ว้ ย ทง้ั ในรูปของการปรบั และการระวางโทษจาคกุ เป็นตน้

นอกจากนีแ้ ลว้ ยงั มีกฎหมายฉบบั อ่ืน ๆ ซง่ึ มีบทบญั ญตั บิ างมาตรา ระบบบาบดั นา้ เสยี เมืองพทั ยา ท่ีมีสว่ นเก่ียวขอ้ งกบั การจดั การส่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม อีกหลายฉบบั อาทิเชน่ พระราชบญั ญตั โิ รงงาน ๒๕๓๕ การตดั ไมท้ าลายป่ า ก่อใหเ้ กดิ ผลเสยี หาย พระราชบญั ญตั สิ าธารณสขุ ๒๕๓๕ ต่อส่งิ แวดลอ้ มได้ ในดา้ นการพงั ทลาย พระราชบญั ญตั วิ ตั ถอุ นั ตราย ๒๕๓๕ พระราชบญั ญตั ิแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ ของดนิ และความแหง้ แลง้ เป็นตน้ พระราชบญั ญตั กิ ารผงั เมือง พ.ศ. ๒๕๑๘ พระราชบญั ญตั นิ า้ บาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ พระราชบญั ญตั ิควบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบญั ญตั ิสงวนและคมุ้ ครองสตั วป์ ่า พ.ศ. ๒๕๐๓ พระราชบญั ญตั ิอทุ ยานแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๓ พระราชบญั ญตั ิป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ เป็นตน้ รวมทง้ั ยงั มีประกาศกระทรวง กฎกระทรวง ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ส่ิงแวดลอ้ ม โดยอาศยั ความตามมาตรา ในพระราชบญั ญตั ติ า่ ง ๆ ขา้ งตน้ อีกดว้ ย ๑.๒ องคก์ รเพอื่ การบริหารงานการจัดการด้านส่ิงแวดล้อม จากการท่ีไดม้ ีการตราพระราชบญั ญตั ิส่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ขนึ้ ใหม่ ไดม้ ีผลทาใหม้ ีการปรบั อานาจหนา้ ท่ี และองคป์ ระกอบ ของคณะกรรมการส่งิ แวดลอ้ มแหง่ ชาตขิ นึ้ ใหม่ โดยมีลกั ษณะ เป็นคณะรฐั มนตรดี า้ นส่งิ แวดลอ้ ม มีนายกรฐั มนตรเี ป็นประธาน การตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพนา้ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงต่าง ๆ ท่ี เก่ียวขอ้ งเป็นกรรมการ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ เป็นวธิ ีการในการทจี่ ะควบคมุ และแกไ้ ข และผแู้ ทน จากภาคเอกชนรว่ มเป็นกรรมการดว้ ย โดยมีปลดั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดลอ้ ม เป็นกรรมการ ปัญหานา้ เสยี วธิ ีหน่งึ : และเลขานกุ าร ซง่ึ จะมีผลทาให้ การดาเนนิ งานปอ้ งกนั และแกไ้ ข ก. การตรวจวดั คณุ ภาพนา้ บรเิ วณแม่นา้ แม่กลอง ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม มีประสิทธิภาพย่งิ ขนึ้ นอกจากนีย้ งั ไดม้ ีการ ปรบั ปรุงและจดั ตงั้ หน่วยงานท่ีรบั ผิดชอบโดยตรง เก่ียวกบั การจดั การส่งิ แวดลอ้ มขนึ้ ภายใต้ กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดลอ้ ม ๓ หน่วยงาน คือ สานกั งานนโยบาย 8 และแผนส่ิงแวดลอ้ ม กรมควบคมุ มลพษิ และกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม

•สานักงานนโยบายและแผนสง่ิ แวด ล้อม : มีอานาจหนา้ ท่ีตามกฎหมาย ในการจดั ทานโยบาย และแผนการสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายดา้ นตา่ งๆ ของประเทศ การจดั ทาแผนการจดั การคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม และประสานการจดั ทาแผนปฏบิ ตั ิการ เพ่อื การจดั การส่งิ แวดลอ้ ม ในระดบั จงั หวดั การประสานการใชป้ ระโยชนท์ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม การเสนอแนะแนว นโยบาย แนวทาง ข. การตรวจวดั คณุ ภาพนา้ บรเิ วณแม่นา้ ทา่ จีน และการประสานการบรหิ าร งานการจดั การกองทนุ ส่งิ แวดลอ้ ม รวมทงั้ การ ติดตามตรวจสอบและการจดั ทารายงานสถานการณ์ คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม การวเิ คราะหผ์ ลกระทบส่งิ แวดลอ้ มท่ีอาจเกิดขนึ้ จากกิจกรรมหรอื โครงการ ของภาครฐั หรอื เอกชน การประสานงานดา้ น ส่งิ แวดลอ้ มในสว่ นภมู ิภาคและการกาหนดทา่ ที แนวทาง และประสานความ รว่ มมือ รวมทงั้ การ เขา้ รว่ มในพนั ธกรณีดา้ นส่งิ แวดลอ้ มระหว่าง ประเทศ •กรมควบคุมมลพษิ : มีอานาจหนา้ ท่ีตามกฎหมาย ในการจดั ทานโยบาย และแผนการสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ดา้ นการควบคมุ มลพษิ การกาหนดมาตรฐานคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม และมาตรฐานควบคมุ มลพษิ จากแหล่งกาเนดิ การจดั ทาแผนจดั การคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม และมาตรการ ในการควบคมุ ปอ้ งกนั แกไ้ ข ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม อนั เน่ืองมาจากภาวะมลพษิ การพฒั นาระบบ รูปแบบ การรณรงคเ์ พอื่ ใชว้ สั ดธุ รรมชาติ ประดิษฐ์ และวิธีการท่ีเหมาะสม เพ่อื นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การ ส่งิ ของเครอื่ งใชต้ ่าง เป็นการลดปรมิ าณขยะ คณุ ภาพนา้ อากาศ ระดบั เสียง สารอนั ตราย และกากของเสีย รวมทง้ั การดาเนนิ การเก่ียวกบั การรบั เรอ่ื งราวรอ้ ง ทกุ ขด์ า้ นมลพษิ •กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม : มีอานาจหนา้ ท่ีตามกฎหมาย ในดา้ นการส่งเสรมิ เผยแพร่ และประชาสมั พนั ธด์ า้ นส่งิ แวดลอ้ ม การจดั ทาระบบขอ้ มลู ขอ้ สนเทศ ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม รวมทง้ั การใหค้ วามรู้ ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม แก่หนว่ ยงานของภาครฐั และภาคเอกชน 9

นอกจากนีส้ านกั งานนโยบาย และแผนส่งิ แวดลอ้ ม ยงั ไดม้ ีการจดั ตงั้ สานกั งานส่งิ แวดลอ้ ม ในระดบั ภมู ิภาคขนึ้ เพ่อื เป็นศนู ยป์ ระสานงาน การติดตามตรวจสอบคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ในระดบั ภมู ิภาค รวมทง้ั เป็นท่ีปรกึ ษาทางวิชาการ ใหห้ น่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง ในการแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ มท่ีเกิดขนึ้ ใหเ้ หมาะสม และมีประสทิ ธิภาพย่งิ ขนึ้ ดว้ ย โดยในปัจจบุ นั มีสานกั งานส่งิ แวดลอ้ มภมู ิภาคอยู่ ๔ สานกั งาน คือ สานกั งาน ส่ิงแวดลอ้ มภาคใต้ ท่ีจงั หวดั สงขลา สานกั งานส่งิ แวดลอ้ มภาคเหนือ ท่ีจงั หวดั เชียงใหม่ สานกั งานส่งิ แวดลอ้ ม ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ท่ีจงั หวดั ขอนแก่น สานกั งานส่งิ แวดลอ้ มภาคตะวนั ออก ท่ีจงั หวดั ชลบรุ ี ๑.๓ กองทุนสงิ่ แวดล้อม กลไกพนื้ ฐานประการหนง่ึ ท่ีจะทานโยบายและแผน ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิอยา่ งไดผ้ ลเป็นรูปธรรมก็คือ การใหก้ ารสนบั สนนุ ดา้ นงบประมาณ ดงั นน้ั ในปัจจบุ นั จงึ ไดม้ ีการจดั ตงั้ กองทนุ ส่งิ แวดลอ้ มขนึ้ โดยมีวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของการจดั ตงั้ กองทนุ คือ การใหม้ ีเงนิ ทนุ หมนุ เวียนสาหรบั การกูย้ ื และ/หรอื รว่ มลงทนุ สาหรบั ส่วนราชการ รฐั วิสาหกิจ หรอื เอกชน เพ่อื นาไปใชใ้ นการก่อสรา้ ง และดาเนินการระบบบาบดั นา้ เสียรวม หรอื ระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการในระดบั ทอ้ งถ่ิน หรอื สว่ นราชการอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ งท่ีมีแผนปฏบิ ตั ิการ ท่ีชดั เจน การบรหิ ารกองทนุ เป็นอานาจหนา้ ท่ีของคณะกรรมการกองทนุ ส่งิ แวดลอ้ ม ซง่ึ มีปลัดกระทรวง วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดลอ้ ม เป็นประธานฯ และอยภู่ ายใตก้ ารกากบั ดแู ลของคณะกรรมการ ส่ิงแวดลอ้ มแหง่ ชาติ กองทนุ ส่ิงแวดลอ้ มไดจ้ ดั ตง้ั ขนึ้ เป็นครงั้ แรก ในปี ๒๕๓๕ โดยรฐั ไดจ้ ดั สรรเงินงบประมาณ ใหเ้ ป็นเงินทนุ หมนุ เวียนเบือ้ งตน้ ๕๐๐ ลา้ นบาท เงนิ สมทบจากองทนุ นา้ มนั ๔,๕๐๐ ลา้ นบาท และต่อมาในปี ๒๕๓๖ และ ๒๕๓๗ ไดร้ บั การจดั สรรเงินจากเงินงบประมาณแผ่นดนิ อีกปีละ ๕๐๐ ลา้ นบาท การสรา้ งจิตสานกึ ใหเ้ ยาวชน ช่วยกนั อนรุ กั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ ดาเนนิ การไดใ้ นหลายรูปแบบ เช่น การเขา้ ค่าย การรว่ มรณรงค์ การจดั นทิ รรศการฯลฯ 10

๑.๔ การวางแผนพัฒนาสง่ิ แวดล้อมใน แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ประเทศไทยไดเ้ รม่ิ มีแผนพฒั นาเศรษฐกิจ และสงั คมแห่งชาติ มาตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ แตก่ ารวางแผนพฒั นา ในระยะแรก ๆ ยงั ไมใ่ หค้ วามสาคญั กบั ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มมากนกั โดยในแผน พฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๑ (๒๕๐๔ - ๒๕๐๙) แผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๒ (๒๕๑๐ - ๒๕๑๔) และแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๓ (๒๕๑๕ - ๒๕๑๙) ไดเ้ นน้ การระดมใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาติ โดยขาดการวางแผนการจดั การท่ีเหมาะสม ขาดการคานงึ ถึง ผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม จนในชว่ ง ของปลายแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๓ ไดป้ รากฏให้ เห็นชดั ถึงปัญหาความเส่ือม โทรมของทรพั ยากรหลกั ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ป่าไม้ ดนิ แหล่งนา้ และแรธ่ าตุ รวมทงั้ ไดเ้ รม่ิ มี การแพรก่ ระจายของมลพษิ ทง้ั มลพษิ ทางนา้ มลพษิ ทาง อากาศ เสียง กากของเสียและสารอนั ตราย ดังนน้ั ประเทศไทยจงึ ไดเ้ รม่ิ ใหค้ วามสาคญั กบั ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มมา ตงั้ แต่แผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๔ เป็นตน้ มา แผน พัฒนาฯ ฉบับท่ี ๔ (๒๕๒๐ - ๒๕๒๔) : กาหนดแนวทางการฟื้นฟบู รู ณะ ทรพั ยากรท่ีถกู ทาลาย และมีสภาพเส่ือมโทรม การกาหนดแนวทางการแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งกวา้ ง ๆ ไวใ้ นแผนพฒั นา ดา้ นตา่ งๆ และไดใ้ หค้ วามสาคญั กบั ปัญหาส่งิ แวดลอ้ มอย่างจรงิ จงั ขนึ้ โดยไดม้ ีการจดั ทานโยบาย และมาตรการการ พฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหง่ ชาติ ๒๕๒๔ ขนึ้ ตามพระราชบญั ญตั ิส่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพ ส่ิงแวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๑๘ •แผน พัฒนาฯ ฉบับที่ ๕ (๒๕๒๕ - ๒๕๒๙) : กาหนดแนวทางการจดั การส่งิ แวดลอ้ มใหช้ ดั เจนย่งิ ขึน้ •โดยการนานโยบาย และมาตรการการพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ ท่ีไดจ้ ดั ทาขนึ้ มาเป็นกรอบในการกาหนด แนวทาง มีการกาหนดมาตรฐานคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม กาหนดใหโ้ ครงการพฒั นาของรฐั ขนาดใหญ่ ตอ้ งจดั ทา รายงานการวเิ คราะหผ์ ลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม รวมทงั้ มีการจดั ทาแผนการจดั การส่งิ แวดลอ้ มระดบั พืน้ ท่ี เช่น •การพฒั นาลมุ่ นา้ ทะเลสาบสงขลา การจดั การส่งิ แวดลอ้ มบรเิ วณชายฝ่ังทะเลตะวนั ออก การวางแผนการ จดั การดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม เพ่อื การพฒั นาภาคใตต้ อนบน •แผน พฒั นาฯ ฉบับท่ี ๖ (๒๕๓๐ - ๒๕๓๔) : ไดม้ ีการปรบั ทิศทาง และแนวคดิ ในการพฒั นา ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มใหม่ โดยการนาเอาทรพั ยากรธรรมชาติทกุ ประเภท ซง่ึ ไดแ้ ก่ ทรพั ยากร ท่ีดนิ ทรพั ยากรป่าไม้ ทรพั ยากรแหล่งนา้ ทรพั ยากรประมงและทรพั ยากรธรณี และการจดั การมลพิษมาไว้ •ในแผนเดียวกนั ภายใตช้ ่ือ แผนพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม โดยใหค้ วามสาคญั ในเรอ่ื ง •ของการปรบั ปรุงการบรหิ าร และการจดั การใหม้ ีประสทิ ธิภาพอยา่ งเป็น ระบบ และสนบั สนนุ ใหม้ ี •การใชเ้ ทคโนโลยีสมยั ใหม่ เพ่อื ใหม้ ีการนาเอาทรพั ยากรธรรมชาติ มาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ •ไม่ทาลายส่งิ แวดลอ้ ม และไม่ก่อใหเ้ กิดปัญหามลพษิ และท่ีสาคญั คือ เนน้ การส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชน องคก์ ร และหน่วยงานในระดบั ทอ้ งถ่ิน มีการวางแผนการจดั การ และการกาหนดแผนปฏิบตั กิ ารในพนื้ ท่ี ร่วมกบั ส่วนกลางอย่างมีระบบ โดยเฉพาะการกาหนดใหม้ ีการจดั ทาแผนพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม 11 ในระดบั จงั หวดั ท่วั ประเทศ

•แผน พฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๗ (๒๕๓๕ - ๒๕๓๙) : การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มยงั คง เป็นการดาเนินงานอยา่ งตอ่ เน่ือง โดยการสนบั สนนุ องคก์ รเอกชน ประชาชน ทงั้ ในส่วนกลาง และส่วนทอ้ งถ่ิน ใหเ้ ขา้ มามีบทบาท ในการกาหนดนโยบาย และแผนการจดั การ การเรง่ รดั การดาเนินงาน ตามแผนการจดั การ ทรพั ยากร ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มท่ีมีอย่แู ลว้ การจดั ตงั้ ระบบขอ้ มลู ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม ใหเ้ ป็นระบบเดียวกนั เพ่อื ใชใ้ นการวางแผน การนามาตรการดา้ นการเงินการคลงั มาชว่ ยในการจดั การ และการเรง่ รดั การออกกฎหมาย เก่ียวกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ ตลอดจนการนาเอาเทคโนโลยี ท่ีทนั สมยั มาใชใ้ นการควบคมุ และแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ๑.๕ การกาหนดมาตรฐานคุณภาพสง่ิ แวดล้อม การพฒั นาดา้ นต่างๆ จะตอ้ งมีการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื ใหเ้ กิดผลติ ผล ตามความตอ้ งการ แตใ่ นขณะเดียวกนั ก็จะมีของเสียเป็นสารมลพษิ เกิดขนึ้ ดว้ ย ซง่ึ ในทางปฏิบัตนิ นั้ ธรรมชาติ มีขีดความสามารถในการรองรบั ของเสียไดเ้ พยี งบางสว่ น และประกอบกบั เราก็ไม่สามารถท่ีจะปอ้ งกัน ไม่ใหเ้ กิด หรอื แกไ้ ขปัญหาภาวะมลพษิ ใหห้ มดสนิ้ ไปไดท้ งั้ หมดดว้ ย ดงั นน้ั การควบคมุ ภาวะมลพษิ ของประเทศไทยจงึ ใชว้ ธิ ีการกาหนดมาตรฐานเป็นสาคญั การ กาหนดมาตรฐานนีเ้ ป็นมาตรการโดยตรง ท่ี สามารถควบคมุ แหลง่ กาเนิดมลพษิ และเป็น เกณฑเ์ บือ้ งตน้ สาหรบั การจดั การควบคมุ ปัญหา ภาวะมลพษิ เพ่อื ใหค้ ณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ มอยใู่ น ระดบั มาตรฐานขนั้ ต่าท่ีเหมาะสมกบั สภาวะเศรษฐกิจ และสงั คมของประเทศ และระดบั ความตอ้ งการ ของคณุ ภาพชีวิต รวมทง้ั ยงั เป็นมาตรการหนง่ึ ท่ีชว่ ยใหส้ ามารถกาหนดนโยบาย ท่ีถกู ตอ้ ง เพ่อื การพฒั นา และปอ้ งกนั การเส่ือมโทรมของสภาพแวดลอ้ ม ใหส้ ามารถดาเนนิ การได้ อยา่ งเหมาะสม และควบค่กู นั ไป การกาหนดมาตรฐาน โดยท่วั ไปจะทาไดส้ องลกั ษณะ คือ การกาหนดมาตรฐานจากแหล่งกาเนิด หรอื มาตรฐานควบคมุ มลพษิ จากแหลง่ กาเนดิ (Emission Standard) และการกาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม (Ambient Standard) มาตรฐานควบคุมมลพษิ จาก แหล่งกาเนิด (Emission Standard) เป็นมาตรฐานมลพษิ ในส่งิ แวดลอ้ ม โดยท่วั ไป มาตรฐานคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีไดม้ ีการประกาศใชแ้ ลว้ อาทเิ ชน่ มาตรฐานคณุ ภาพ นา้ ในแหลง่ นา้ ผวิ ดิน ท่ีไม่ใชท่ ะเล มาตรฐานคณุ ภาพนา้ ทะเลชายฝ่ัง มาตรฐานคณุ ภาพนา้ ทงิ้ มาตรฐาน คณุ ภาพนา้ บาดาล ท่ีจะใชบ้ รโิ ภค มาตรฐานคณุ ภาพนา้ ด่ืม และมาตรฐานคณุ ภาพอากาศ ในบรรยากาศ เป็นตน้ มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวด ล้อม (Ambient Standard) เป็นมาตรฐานมลพษิ จากแหลง่ กาเนิด หรอื กิจกรรมตา่ งๆ มาตรฐานท่ีไดม้ ีการประกาศใชแ้ ลว้ อาทเิ ชน่ มาตรฐานคณุ ภาพอากาศ เสีย ท่ีระบายออกจากท่อไอเสียของรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ และเรอื กล มาตรฐานคณุ ภาพอากาศเสีย ท่ีระบายออกจากโรงงาน มาตรฐานระดบั เสียงของรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ และเรอื กล และมาตรฐานควบคมุ การระบายนา้ ทงิ้ จากอาคารบางประเภท และบางขนาด เป็นตน้

มาตรฐานคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม และมาตรฐานควบคมุ มลพษิ จากแหล่งกาเนดิ เหล่านี้ เป็นกลยทุ ธห์ น่งึ ของการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ซง่ึ จะก่อใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ ได้ เม่ือมีการบงั คบั ใช้ อย่างเขม้ งวด เสมอภาคกนั และต่อเน่ือง รวมทงั้ จะตอ้ งไดร้ บั ความรว่ มมือ จากเจา้ ของโครงการ หรือนกั ลงทนุ ผใู้ ชท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม เป็นสาคญั ดว้ ย นอกจากนีเ้ พ่อื ใหก้ ารใชม้ าตรฐานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการสนบั สนนุ การกระจาย อานาจ ตาม พ.ร.บ. ส่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ มแหง่ ชาติ ๒๕๓๕ ยงั ไดม้ ีการกาหนดใหผ้ วู้ ่าราชการ จงั หวดั ในเขตควบคมุ มลพษิ ซง่ึ เป็นพนื้ ท่ีมีปัญหาส่ิงแวดลอ้ มวิกฤต มีอานาจประกาศในราชกิจจานเุ บกษา กาหนดมาตรฐานควบคมุ มลพษิ จากแหล่งกาเนดิ ใหส้ งู กว่ามาตรฐานควบคมุ มลพษิ จากแหลง่ กาเนิด ท่ีกาหนดไวแ้ ลว้ ได้ ๑.๖ มาตรการจงู ใจในการอนุรักษ์ และการใชป้ ระโยชนท์ รัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัจจบุ นั ปัญหาความเส่ือมโทรมของ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มนน้ั จาเป็น จะตอ้ งไดร้ บั ความรว่ มมือในการดาเนนิ งานแกไ้ ข ทง้ั ในภาครฐั บาล ผปู้ ระกอบการ และ ประชาชนโดยท่วั ไป ดงั นน้ั แนวทางการจดั การ หรอื แนวทางการอนรุ กั ษ์ จงึ ตอ้ งเขา้ ไป แทรกแซงอย่ใู นพฤตกิ รรมของผใู้ ชป้ ระโยชน์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มดงั กล่าว โดยการสรา้ งแรงจงู ใจทางดา้ นเศรษฐกิจขนึ้ ซง่ึ วิธีนีจ้ ะทาให้ การอนรุ กั ษเ์ ป็นส่วนหน่งึ ของการพฒั นา เพราะจะเป็นการใหค้ วามเป็นธรรม ในการกระจายตน้ ทนุ และผลประโยชนใ์ นการอนรุ กั ษ์ และการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม โดยวธิ ีการตา่ ง ๆ ซ่ึงไดแ้ ก่ ๑. การกาหนดมาตรการท่ีจะชว่ ยใหร้ าษฎร ในระดบั ทอ้ งถ่ิน ไดร้ บั ผลประโยชนจ์ ากการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มนน้ั โดยการนารายไดจ้ ากการบรหิ าร และการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ มาจดั สรร และนากลบั ไปพฒั นาชมุ ชน และคณุ ภาพชีวิตของราษฎรในทอ้ งถ่ินใหด้ ีขนึ้ อาทเิ ช่น การจดั สรร ผลประโยชนจ์ ากการดาเนนิ งานดา้ นป่าไม้ โดยการเก็บภาษีผลกาไรในธุรกิจป่าไม้ และนาไปใชใ้ นโครงการ พฒั นาชนบท หรอื การนาคา่ ธรรมเนียมการเขา้ ไปใชพ้ นื้ ท่ีคมุ้ ครองไปใชใ้ นการปอ้ งกนั รกั ษาทรพั ยากร และการ จดั การพนื้ ท่ีคมุ้ ครอง ในแตล่ ะแห่ง เป็นตน้

๒. การลดอตั ราอากรสาหรบั เคร่อื งจกั ร วสั ดุ และอปุ กรณ์ ท่ีใชใ้ นการรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม เน่ืองจาก ปัจจบุ นั ไดม้ ีการพฒั นาเครอ่ื งจกั ร วสั ดุ อปุ กรณต์ า่ งๆ เพ่อื ใชใ้ นการรกั ษา หรอื ควบคมุ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ มขนึ้ มาก ดงั นนั้ เพ่อื เป็นการ สง่ เสรมิ ใหม้ ีการใชเ้ ครอ่ื งจกั ร วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ เหลา่ นี้ ซง่ึ จะเป็นการช่วยลดปัญหา ส่ิงแวดลอ้ มท่ี จะเกิดขนึ้ ไดท้ างหน่งึ กระทรวงการคลงั โดย ความเหน็ ชอบจากคณะรฐั มนตรี เม่ือวนั ท่ี ๑๗ สิงหาคม ๒๕๒๕ จงึ ไดก้ าหนดแนวนโยบาย ดา้ นการลดอตั ราอากรศลุ กากร หลกั เกณฑ์ เง่ือนไขในการลด อตั ราอากรศลุ กากร สาหรบั เคร่อื งจกั รวสั ดอุ ปุ กรณท์ ่ีประหยดั พลงั งานหรอื ท่ี รกั ษาส่งิ แวดลอ้ มขนึ้ โดยใหเ้ รยี กเก็บอตั ราอากร เหลือเพยี งครง่ึ หนง่ึ ของอตั ราปกตหิ รอื เหลือรอ้ ยละ ๕ แลว้ แต่อย่างไหนจะต่ากว่า รวมทง้ั ไดม้ ีการ แต่งตงั้ คณะกรรมการพจิ ารณาเครอ่ื งจกั ร วสั ดุ อปุ กรณท์ ่ีประหยดั พลงั งานและรกั ษา ส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื พจิ ารณากาหนดหลกั เกณฑ์ มาตรฐาน ตลอด จนการอนมุ ตั ิรายการเคร่อื งจกั ร วัสดอุ ปุ กรณ์ ท่ีสมควรไดร้ บั สิทธิพเิ ศษทางดา้ นภาษีอากรดว้ ย เคร่อื งจกั ร วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ ท่ีรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม ท่ีอย่ใู นขา่ ยไดร้ บั การลดอตั ราอากร จะตอ้ งเป็นชนดิ และประเภทท่ีใชใ้ นการบาบดั นา้ เสีย อากาศเสีย ขจดั กากของเสียของขยะ ใชล้ ดหรอื ปอ้ งกนั เสียงรบกวน จากตน้ กาเนิด ในกิจการอตุ สาหกรรม อาทเิ ช่น แผ่นหมนุ ชีวภาพ อปุ กรณใ์ นการกาจดั คราบนา้ มนั เคร่อื งบีบ ตะกอน เครอ่ื งเติมอากาศ อปุ กรณค์ รอบเสียง เครอ่ื งดกั ฝ่นุ ผา้ กรองฝ่นุ หรอื ถงุ กรองฝ่นุ สารเคมีท่ีช่วย ในการจบั ตะกอน ของอากาศเสีย เคร่อื งกาจดั ไอกรด รวมทง้ั วสั ดุ/อปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการวิจยั วิเคราะห์ ตรวจวดั และติดตามผล เพ่อื รกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม การรเิ รม่ิ ลดอตั ราอากรศลุ กากรของเครอ่ื งจกั ร วสั ดุ และอปุ กรณ์ ท่ีใชใ้ นการรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม ดงั กลา่ วนี้ นบั เป็นแนวคิดท่ีเหมาะสมกบั โครงสรา้ ง ของประเทศกาลงั พฒั นา เช่น ประเทศไทย ซ่ึงจาเป็น ตอ้ งเรง่ รดั การพฒั นาเศรษฐกิจ ควบค่ไู ปกบั การรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ใหอ้ ย่ใู นระดบั ท่ีเหมาะสม ทงั้ นี้ เพราะเป็นมาตรการการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีเป็นส่งิ จงู ใจ และสรา้ งความกระตือรอื รน้ ใหแ้ ก่ภาครฐั บาล และภาคเอกชนท่ีเก่ียวขอ้ ง ๓. การนามาตรการการลดหยอ่ นภาษีรายได้ ตามประมวลรษั ฎากรมาใช้ เพ่อื สนบั สนนุ และคมุ้ ครองคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม ปัจจบุ นั กระทรวงการคลงั ไดก้ าหนดใหร้ ายจา่ ย เพ่อื สาธารณประโยชน์ สามารถนามาหกั ภาษี รายได้ ในส่วนท่ีไมเ่ กินรอ้ ยละ ๒ ของกาไสทุ ธิได้ ซง่ึ ถือไดว้ า่ เป็นวิธีการหนง่ึ ท่ีจะสนบั สนนุ ใหก้ ารจดั การ ทรพั ยากรส่ิงแวดลอ้ ม มีประสทิ ธิภาพย่งิ ขนึ้

รายจา่ ยเพ่อื กิจการสาธารณประโยชนด์ งั กล่าว ไดแ้ ก่ รายจ่ายท่ีจ่ายใหแ้ ก่ หรอื เพ่อื กิจการต่างๆ ดงั นี้ คือ (๑) การส่งเสรมิ อนรุ กั ษ์ และรกั ษาพนั ธสุ์ ตั วป์ ่าสงวน และสตั วป์ ่าคมุ้ ครอง ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสงวน และคมุ้ ครองสตั วป์ ่า (๒) การคมุ้ ครอง และดแู ลรกั ษาอทุ ยานแหง่ ชาติ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยอทุ ยานแหง่ ชาติ (๓) การคมุ้ ครอง และรกั ษาป่าสงวนแหง่ ชาติ ตามกฎหมายว่าดว้ ยป่าสงวนแห่งชาติ (๔) การสง่ เสรมิ คมุ้ ครอง และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพ ส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ (๕) การควบคมุ ปอ้ งกนั แกไ้ ข ตลอดจนการลด และขจดั อนั ตราย อนั เกิดจากการแพรก่ ระจายของมลพษิ หรอื ภาวะมลพษิ และของเสียอนั ตราย ตามกฎหมายว่าดว้ ยการสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม แหง่ ชาติ (๖) กองทนุ ส่งิ แวดลอ้ ม ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ๔. การใหผ้ คู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ มีสิทธิขอรบั การสง่ เสรมิ และชว่ ยเหลือ จากทางราชการ ในการขออนญุ าตนาผชู้ านาญการ หรอื ผเู้ ช่ียวชาญชาวตา่ งประเทศ เขา้ มาทาหนา้ ท่ีเป็นผูต้ ดิ ตงั้ ควบคมุ และดาเนนิ งานระบบบาบดั นา้ เสีย ระบบบาบดั อากาศเสีย และระบบกาจดั ของเสีย ในกรณีไม่สามารถจดั หา ไดภ้ ายในประเทศ รวมทงั้ ขอยกเวน้ ภาษีเงนิ ไดข้ องบคุ คลนนั้ ๆ ท่ีจะเกิดขนึ้ จากการเขา้ มาปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีดงั กล่าว ๑.๗ การประชาสัมพนั ธแ์ ละสง่ิ แวดล้อมศกึ ษา การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหาความเส่ือมโทรม ของทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีเกดิ ขนึ้ นน้ั ปัจจบุ นั สามารถกระทาไดห้ ลายวธิ ีทงั้ การใชเ้ ทคโนโลยีท่ีเหมาะสม และกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตร์ การออกกฎหมายควบคมุ และอีกหลายๆ วิธี ดงั กลา่ วขา้ งตน้ แต่วธิ ีการท่ีเป็นท่ียอมรบั วา่ เป็นมาตรการเสรมิ ท่ีจะชว่ ยใหก้ ารดาเนนิ งานแกไ้ ข และปอ้ งกนั ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มบรรลเุ ปา้ หมายไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และใหผ้ ลในระยะยาวก็คือ การสรา้ งจิตสานกึ ใหเ้ กิดขนึ้ ในตวั ของประชาชนทกุ คน โดยเฉพาะผทู้ ่ีมีส่วน เก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั การใชท้ รพั ยากร และส่ิงแวดลอ้ ม วิธีการท่ีจะสรา้ งจติ สานกึ ใหเ้ กิดขึน้ ไดว้ ธิ ีหน่งึ ก็คือ การใหก้ ารศกึ ษา และการประชาสมั พนั ธเ์ ผยแพรข่ ่าวสาร ขอ้ มลู ทางดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ใหป้ ระชาชนไดร้ ู้ และเขา้ ใจถงึ อนั ตรายของส่ิงแวดลอ้ ม และผลกระทบท่ีจะเกิดขนึ้ ตอ่ ตนเอง และตระหนกั ถึงคณุ ค่า และคณุ ภาพของทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีมีตอ่ การดารงชีวติ ของมนษุ ย์

๑. การใหก้ ารศึกษาทงั้ ในระบบและนอกระบบ โดยการกาหนดหลกั สตู รวชิ าส่ิงแวดลอ้ มศกึ ษา ในลกั ษณะสอดแทรกในหมวดวิชาการต่าง ๆ ทงั้ ใน ระดบั ประถม และมธั ยมศกึ ษา รวมทงั้ อดุ มศกึ ษา ดว้ ยการม่งุ เนน้ ในดา้ นการมีบทบาท และความสานกึ รบั ผดิ ชอบดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ท่ีทกุ คนจะตอ้ งรว่ มกนั และในขณะเดียวกนั มหาวิทยาลยั ตา่ ง ๆ ก็ไดด้ าเนินการ ผลติ บณั ฑิตทางดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการกาลงั คนทางดา้ นส่งิ แวดลอ้ มดว้ ย สว่ นการ ใหก้ ารศกึ ษาดา้ นส่งิ แวดลอ้ มนอกระบบนน้ั หนว่ ยงานทงั้ ภาครฐั บาล และภาคเอกชน ไดจ้ ดั ใหม้ ีการเผยแพร่ ความรู้ ขา่ วสาร ดา้ นส่งิ แวดลอ้ มเป็นประจา โดยการใชส้ ่ือทงั้ ทางวทิ ยุ โทรทศั น์ หนงั สือพมิ พ์ และวารสารต่างๆ รวมทง้ั การจดั ใหม้ ีกิจกรรมดา้ นต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรม การประชมุ สมั มนา และการจดั นิทรรศการดา้ น ส่ิงแวดลอ้ มเน่ืองในวนั สาคญั ๆ เชน่ วนั ส่งิ แวดลอ้ มโลก วนั ส่งิ แวดลอ้ มไทย สปั ดาหอ์ นามัยส่ิงแวดลอ้ ม สปั ดาห์ ตาวิเศษ เป็นตน้ นอกจากนี้ โรงเรยี น และสถาบนั การศกึ ษาต่าง ๆ ยงั ไดม้ ีการสนบั สนนุ การจดั ตั้งชมรม อนรุ กั ษข์ นึ้ เป็นการภายใน รวมทงั้ การเผยแพรข่ อ้ มลู ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ในรูปแบบตา่ ง ๆ ดว้ ย ๒. การประชาสัมพันธเ์ ผยแพร่ข่าวสาร และการรณรงคเ์ รอื่ งส่งิ แวดล้อม ปัจจบุ นั การ ประชาสมั พนั ธ์ และรณรงคด์ า้ นส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื กระตนุ้ ใหเ้ กิดจิตสานกึ แก่ประชาชน โดยท่วั ไปนนั้ มีการดาเนินงานในรูปแบบต่าง ๆ ทงั้ การสรา้ งส่ือ ซง่ึ ไดแ้ ก่ สปอตทีวี สารคดี การผลิตโสต ทศั นปู กรณ์ และส่ิงพมิ พต์ ่าง ๆ รวมทง้ั การ เผยแพรผ่ ่านส่ือมวลชนทงั้ ดา้ นหนงั สือพมิ พ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ ทงั้ นีโ้ ดย ใหค้ วามสาคญั ใน ๒ ประเดน็ คือ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และการ ปอ้ งกนั แกไ้ ขปัญหาภาวะมลพษิ การสรา้ งจติ สานกึ เก่ียวกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ ไดแ้ ก่ การอบรมผนู้ าเยาวชน เพ่ือการพทิ กั ษ์ ทรพั ยากรในทอ้ งถ่ิน โครงการอีสานเขียว โครงการวนั ตน้ ไมแ้ หง่ ชาติ เป็นตน้ • การสรา้ งจติ สานกึ เก่ียวกบั การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหาภาวะมลพษิ เน่ืองจากปัญหามลพษิ เป็นปัญหา ท่ีเกิดขนึ้ ในยา่ นอตุ สาหกรรม และในเมืองหลกั เป็นสว่ นใหญ่ การสรา้ งจติ สานกึ จงึ เนน้ กลุ่มเปา้ หมาย ท่ีผปู้ ระกอบกิจการ หนว่ ยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง คนงาน และประชาชนในเมือง โดยการรณรงคจ์ ะเป็นการผสมผสาน วิธีการในหลายรูปแบบ ทงั้ การจดั การฝึกอบรม สมั มนา การประชมุ เชิงปฏิบตั กิ าร นิทรรศการ และกิจกรรม พเิ ศษ เพ่อื ใหป้ ระชาชนเขา้ มามีส่วน รว่ ม เช่น การประกวดบทความ ภาพวาด สาหรบั เยาวชน เรยี งความ การแข่งขนั ตอบ ปัญหาผา่ นส่ือมวลชน เป็นตน้ เน่ืองจากการสรา้ งจติ สานกึ แก่ประชาชนโดยท่วั ไปนน้ั เป็นความพยายามท่ีจะปรบั พฤตกิ รรม ของมนษุ ย์ ในทศิ ทางท่ีเสรมิ สรา้ งการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และการแกไ้ ข ปอ้ งกนั ปัญหาภาวะมลพษิ ซง่ึ มกั จะขดั กบั พฤติกรรมท่ีเคยชนิ ของประชาชนในสงั คมปัจจบุ นั รวมทง้ั ยงั จาเป็นตอ้ งมีการเสียสละเวลา และผลประโยชน์ สว่ นตนเพ่อื ส่วนรวมดว้ ย จงึ เป็นการดาเนนิ งาน ท่ีตอ้ งการความละเอียดอ่อน และตอ้ งใช้ ระยะเวลา รวมทง้ั ตอ้ งมีการวางแผนท่ีเหมาะสม เพ่อื ใหเ้ ขา้ ถึงประชาชน จงึ จะทาใหเ้ กิดผลบรรจุถงึ เปา้ หมาย ท่ีกาหนดไว้

การจัดการ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมระดบั พนื้ ท่ี การวางแผนในลกั ษณะนี้ เป็นการวางแผนการจดั การ ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม ใหค้ วบค่ไู ปกบั การพฒั นา เศรษฐกิจและสงั คม ทงั้ นี้ เพ่อื ใหส้ ามารถใชท้ รพั ยากรธรรมชาติไดอ้ ย่างประหยดั และมีประสิทธิภาพในระยะ ยาว รวมทง้ั เป็นการปอ้ งกนั ภาวะมลพษิ จากการพฒั นาโดยคานงึ ถึง ความสมดลุ ระหวา่ งผลดีและผลเสีย ของระบบ เศรษฐกิจ สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม ซง่ึ การ ดาเนนิ งานในรูปของการวางแผนในแนวทางใหม่นีเ้ รยี กวา่ นิเวศพฒั นา และการพฒั นาท่ีย่งั ยืนนาน การวางแผนการจดั การในพนื้ ท่ีเฉพาะนี้ ประเทศไทยไดเ้ รม่ิ ดาเนนิ งาน มาตงั้ แต่ในช่วงของแผน พฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๕ (๒๕๒๕-๒๕๒๙) โดยมีการดาเนนิ งานในลกั ษณะนีใ้ นหลายพืน้ ท่ี อาทิเชน่ บรเิ วณล่มุ นา้ ทะเลสาบสงขลา พนื้ ท่ีชายฝ่ังทะเล ตะวนั ออก และพนื้ ท่ีภาคใตต้ อนบน ๑. การพัฒนาลุ่มนา้ ทะเลสาบสงขลา เป็นการวางแผนในลกั ษณะผสมผสาน ระหว่างการพฒั นาทางเศรษฐกิจและการใชป้ ระโยชน์ ของทรพั ยากรธรรมชาติ ในพนื้ ท่ีใหเ้ หมาะสม และสอดคลอ้ งกนั เพ่อื ประกอบการตดั สนิ ใจ ใ นการกาหนดลาดบั ความสาคญั ของโครงการพฒั นา การใหเ้ ยาวชนไดเ้ ขา้ รว่ มอบรมทางดา้ น การจดั การ ซง่ึ เป็นการนาเอาปัจจยั ดา้ นส่งิ แวดลอ้ มเขา้ มาเป็น ทรพั ยากรส่งิ แวดลอ้ ม โดยใหค้ วามรูใ้ นดา้ น มติ ิหน่งึ ในการวางแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม การขยายพนั ธ์ุพชื เพอื่ เป็นความรูพ้ นื้ ฐาน ในพนื้ ท่ีเฉพาะโดยมีเปา้ หมายเพ่อื ใหส้ ามารถใช้ ในการสรา้ งพนื้ ทสี่ เี ขยี ว ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นพนื้ ท่ีใหไ้ ดป้ ระโยชนส์ งู สดุ และคงสภาพความสมดลุ ของระบบนเิ วศในล่มุ นา้ ดว้ ยการกาหนดเป็นแผนแม่บทเพ่อื เป็นกรอบ ของการพฒั นา ทงั้ ในดา้ นแผนการจดั การส่งิ แวดลอ้ ม แผนการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และแผนการพฒั นา เศรษฐกิจ และสงั คม โดยทง้ั ๓ แผนนี้ จะมีความสมั พนั ธแ์ ละเช่ือมโยงกนั ๒. การจัดการส่ิงแวดล้อมบรเิ วณชายฝ่ังทะเลตะวันออก เป็นการวางแผนการจดั การดา้ น ส่ิงแวดลอ้ ม ชายฝ่ังทะเลตะวนั ออก ภายหลงั จากท่ีไดม้ ีการกาหนด โครงการพฒั นาต่างๆ ลงในพนื้ ท่ี และบางโครงการ ก็ไดเ้ รม่ิ ดาเนนิ การไปแลว้ ซง่ึ แตกต่างไปจากการพฒั นา ล่มุ นา้ ทะเลสาบสงขลา ดงั นนั้ แผนการจดั การ ส่ิงแวดลอ้ มนีจ้ งึ เป็นแผนการ เสรมิ หรอื รองรบั การพฒั นา ทะเลสาบสงขลา ใหด้ าเนินการตอ่ ไป ไดโ้ ดยควบคมุ ใหผ้ ลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม บรเิ วณสะพานตณิ สูลานนท์ ท่ีจะเกิดขนึ้ มีนอ้ ยท่ีสดุ โดยเนน้ ความสาคญั ท่ีเก่ียวกบั การจดั การดา้ นนา้ เสีย อากาศเสีย กากของเสีย ขยะและส่งิ ปฏิกลู และการจดั การทรพั ยากรชายฝ่ังทะเล

การจัดการ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมระดับพนื้ ที่ ๓. การวางแผนการจดั การดา้ นสงิ่ แวดล้อม เพอื่ การพัฒนาภาคใตต้ อนบน เป็นการดาเนินการเพ่อื ใหเ้ กิดการประสานการพฒั นาเศรษฐกิจ ควบคไู่ ปกบั การรกั ษาดลุ ยภาพ ของส่ิงแวดลอ้ ม อยา่ งเป็นระบบ และลดปัญหาความขดั แยง้ ใน การใชท้ รพั ยากรชายฝ่ัง รวมทง้ั การควบคมุ ปัญหาความเส่ือมโทรมของสภาพแวดลอ้ ม โดยการยดึ ถือหลกั การวางแผน เพ่อื การพฒั นาท่ีย่งั ยืนนาน (Sustainable Development) ดงั นน้ั ในการดาเนนิ งานจงึ ไดม้ ีการศกึ ษารายละเอียด ทรพั ยากรเฉพาะเร่ือง ทง้ั ในดา้ นสถานภาพท่ีแทจ้ รงิ การพฒั นาในแต่ละดา้ น และความเป็นจรงิ ท่ีเกิดขนึ้ บนพนื้ ท่ี ไม่ว่าจะเป็น ความตอ้ งการ หรอื ความขดั แยง้ ของการใชท้ รพั ยากรตา่ ง ๆ ในพนื้ ท่ีนน้ั รวมทงั้ ไดม้ ีการผสมผสานแผนงาน เฉพาะเร่อื งๆ ใหส้ อดคลอ้ ง และประสานการใชป้ ระโยชน์ ซง่ึ กนั และกนั ใหอ้ อกมาเป็นแผนงานของการจดั การ และการวางแผนทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ มใน พนื้ ท่ีภาคใตต้ อนบน นอกจากนีต้ ามพระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ยงั ไดม้ ี การกาหนดใหม้ ีการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ในระดบั พนื้ ท่ีไวอ้ ย่างชดั เจน โดยเฉพาะพนื้ ท่ี ท่ีเป็นปัญหาเรง่ ด่วนท่ีสาคญั ท่ีจะตอ้ งใหก้ ารคมุ้ ครองอนรุ กั ษห์ รอื ควบคมุ โดยแบง่ เป็น ๒ พนื้ ท่ี คือ ๑) เขตอนุรักษแ์ ละพนื้ ทค่ี ุ้มครองสิง่ แวดล้อม ไดแ้ ก่ พนื้ ท่ีตน้ นา้ ลาธาร หรอื พนื้ ท่ีท่ีมีระบบนเิ วศ ตามธรรมชาติ ท่ีอาจถกู ทาลาย หรอื ไดร้ บั ผลกระทบจากกิจกรรมต่าง ๆ พนื้ ท่ีท่ีมีลกั ษณะมีคณุ ค่าทางธรรมชาติ หรอื ศลิ ปกรรม ท่ีอ่อนไหวต่อกิจกรรมของมนษุ ย์ และเป็นพนื้ ท่ีท่ีควรอนรุ กั ษ์ ซง่ึ ยงั มิไดถ้ กู ประกาศตาม กฎหมายอ่ืน การดาเนินการอนรุ กั ษแ์ ละคมุ้ ครองพนื้ ท่ี ดงั กลา่ ว จะมีการออกกฎกระทรวงภายใต้ พ.ร.บ. ส่ิงแวดลอ้ ม ๒๕๓๕ โดยกาหนด มาตรการคมุ้ ครองอย่างใดอยา่ งหนง่ึ หรอื หลายอยา่ ง ดงั นี้ (๑) กาหนดการใชป้ ระโยชนใ์ นท่ีดนิ เพ่อื รกั ษาสภาพธรรมชาติหรอื มิใหก้ ระทบกระเทือน ต่อระบบนเิ วศตามธรรมชาติ หรอื คณุ ค่า ของส่ิงแวดลอ้ มศิลปกรรม (๒) หา้ มการกระทาหรอื กิจกรรมใด ๆ ท่ีอาจเป็นอนั ตราย หรอื ก่อใหเ้ กิดผลกระทบ ตน้ นา้ ลาธาร เป็นพนื้ ทที่ คี่ วรอนรุ กั ษ์ ในทางเปล่ียนแปลงระบบนเิ วศของพนื้ ท่ีนน้ั จากลกั ษณะตามธรรมชาตหิ รอื ผลกระทบต่อคณุ คา่ ของส่งิ แวดลอ้ มศลิ ปกรรม (๓) กาหนดประเภทและขนาดของโครงการหรอื กิจกรรมของสว่ นราชการ รฐั วิสาหกิจ หรอื เอกชน ท่ีจะทาการก่อสรา้ ง หรอื ดาเนินการในพนื้ ท่ีนน้ั ใหม้ ีหนา้ ท่ีตอ้ งเสนอรายงานการวเิ คราะห์ ผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม

การจดั การ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อมระดบั พนื้ ท่ี ๔) กาหนดวิธีการโดยเฉพาะสาหรบั พนื้ ท่ีนน้ั รวมทง้ั การกาหนดขอบเขตหนา้ ท่ี และความรบั ผดิ ชอบของสว่ นราชการท่ีเก่ียวขอ้ ง เพ่อื ประโยชนใ์ นการรว่ มมือ และประสานงาน ใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพในการปฏิบตั ิงาน เพ่อื รกั ษาสภาพธรรมชาติ หรอื ระบบนิเวศตามธรรมชาติ หรอื คณุ คา่ ของส่งิ แวดลอ้ มศลิ ปกรรมในพนื้ ท่ีนน้ั (๕) กาหนดมาตรการคมุ้ ครองอ่ืน ๆ ตามท่ีเห็นสมควรและเหมาะสมแก่สภาพของพืน้ ท่ีนนั้ ๒) เขตควบคุมมลพษิ ไดแ้ ก่ เขตทอ้ งท่ีท่ีมีปัญหามลพษิ ซง่ึ มีแนวโนม้ ท่ีจะรา้ ยแรง ถงึ ขนาดท่ีเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพอนามยั ของประชาชนหรอื อาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบเสียหาย ตอ่ คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ มการดาเนินงาน เพ่อื การควบคมุ และแกไ้ ขปัญหามลพษิ ในเขตดงั กล่าว เม่ือไดม้ ีการประกาศเป็นเขตควบคมุ มลพษิ แลว้ จะตอ้ งมีการวางแผนปฏบิ ตั กิ าร เพ่อื การลดและขจดั กรมควบคมุ มลพษิ ร่วมกบั ตารวจ มลพษิ ในเขตควบคมุ มลพษิ นนั้ เพ่อื รวมไวใ้ นแผนปฏบิ ตั กิ าร จราจรในการตรวจวดั ควนั พษิ เพ่อื การจดั การส่งิ แวดลอ้ มระดบั จงั หวดั จากรถยนตเ์ ป็นประจา โดยในการดาเนินงานจดั ทาแผนปฏบิ ตั กิ าร ฯ ตอ้ งดาเนินการดงั นี้ คือ (๑) ทาการสารวจ และเก็บขอ้ มลู เก่ียวกบั แหล่งกาเนิดมลพษิ ท่ีมีอย่ใู นเขตควบคมุ มลพษิ นนั้ (๒) จดั ทาบญั ชีรายละเอียดแสดงจานวนประเภท และขนาดของแหลง่ กาเนดิ มลพษิ ท่ีได้ ทาการสารวจ และเก็บขอ้ มลู ตาม (๑) (๓) ทาการศกึ ษา วเิ คราะห์ และประเมนิ สถานภาพมลพษิ รวมทงั้ ขอบเขตความรุนแรง ของสภาพปัญหา และผลกระทบตอ่ คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื กาหนดมาตรการท่ีเหมาะสมและจาเป็นสาหรบั การลดและขจดั มลพษิ ในเขตควบคมุ มลพษิ นนั้

การจัดการทรัพยากรและสิง่ แวดล้อมใน ระดบั โครงการ การจดั การทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มในระดบั โครงการนน้ั ไดก้ าหนดใหม้ ีการใชม้ าตรการทางดา้ นการประเมิน ผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม (Environmental Impact Assessment) เพ่อื เป็นการปอ้ งกนั ไม่ใหโ้ ครงการพฒั นาตา่ ง ๆ ทง้ั ภาครฐั ตน้ ไมจ้ ะช่วยลดมลพษิ ทางอากาศได้ และภาคเอกชน เกิดผลเสียหายต่อทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม การประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม (Environmental Impact Assessment) หมายถึง กิจกรรมท่ีออกแบบ ใหส้ ามารถชีแ้ ละทานายผลกระทบตอ่ สภาพแวดลอ้ ม ทง้ั ในทางบวก และทางลบของโครงการพฒั นา ท่ีจะมีผล ตอ่ สภาพแวดลอ้ ม ทงั้ ทางดา้ นกายภาพ ชีวภาพ การใชป้ ระโยชนข์ องมนษุ ย์ และตอ่ คณุ ภาพชีวิต รวมทง้ั การพจิ ารณา และเสนอแนะมาตรการท่ีจะใชใ้ นการลดและปอ้ งกนั ผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม ตลอดจนแผน การตดิ ตามตรวจสอบ ผลกระทบส่งิ แวดลอ้ มของโครงการ เพ่อื ปอ้ งกนั ผลเสียหาย ท่ีจะเกิดขนึ้ ดว้ ย ดงั นน้ั .ในกระบวนการประเมินผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม นอกจากแสดงถงึ ผลกระทบอนั เกิดจากการดาเนนิ โครงการแลว้ ยงั เนน้ การปอ้ งกนั ทางดา้ นส่งิ แวดลอ้ มในทกุ ขนั้ ตอน ตงั้ แตก่ ารวางแผนโครงการ การดาเนินโครงการ รวมทงั้ การกาหนดมาตรการการแกไ้ ข และลดปัญหา ผลกระทบท่ีจะเกิดขนึ้ ดว้ ย ประเทศไทยไดเ้ รม่ิ ใชม้ าตรการทางดา้ นการประเมนิ ผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม มาตง้ั แตแ่ ผนพฒั นา เศรษฐกิจ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ และในปัจจบุ นั ไดม้ ีการกาหนดประเภทและขนาดของโครงการ หรอื กิจการของสว่ นราชการ รฐั วสิ าหกิจ หรอื เอกชน ท่ีจะตอ้ งจดั ทารายงานการวิเคราะหผ์ ลกระทบส่งิ แวดลอ้ มแลว้ ๑๙ ประเภท ปัจจบุ นั ปัญหาความเส่ือมโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ไดท้ วีความรุนแรง จนมีผลกระทบตอ่ คณุ ภาพชีวิต การท่ีจะใหร้ ฐั บาลเป็นผดู้ าเนนิ การปอ้ งกนั และแกไ้ ข แต่เพียงผเู้ ดียว คงจะไม่สามารถทาได้ ทกุ ฝ่ายจะตอ้ งรว่ มมือกนั แกไ้ ข โดยเฉพาะภาครฐั บาล จะตอ้ งมีนโยบายท่ีชัดเจน สว่ นภาคเอกชน และประชาชน โดยท่วั ไปก็จาเป็นจะตอ้ งใหค้ วามรว่ มมือรว่ มใจ ในการดาเนินการการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มของประเทศ จงึ จะมีผลทาใหท้ รพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม เป็นปัจจยั ท่ีสาคญั ท่ีสดุ ในการมีสว่ นสง่ เสรมิ ใหค้ ณุ ภาพชีวิต ของประชาชนดีขนึ้ ได้ และก่อใหเ้ กิดการพฒั นา ประเทศท่ีย่งั ยืนถาวร การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิง แวดลอ้ ม เป็นการดาเนินการ ท่ีตอ้ งใชท้ งั้ ศิลปะ และวิทยาศาสตรม์ าประกอบกนั ดว้ ยการจดั ทานโยบาย และแผนการปอ้ งกนั และแกไ้ ข และการควบคมุ เพ่อื ใหก้ ารใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มนนั้ เป็นไปอย่างมีประสทิ ธิภาพ สามารถมี เหลือใหเ้ ยาวชนรุน่ หลงั ไดใ้ ช้ เพ่อื การปรบั ปรุงคณุ ภาพชีวิตต่อไป นอกจากนีก้ ารจดั การดงั กล่าว ยงั จาเป็น ตอ้ งคานงึ ถงึ ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มทกุ ชนิดไปพรอ้ มๆ กนั ทง้ั ระบบ เพราะทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มทกุ อยา่ ง ตา่ งก็มีสว่ นเก่ียวขอ้ งสมั พนั ธซ์ ง่ึ กนั และกนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook