โดยยกตวั อยา่ งแนวคดิ ของ สนช.ทจี่ ากเดมิ ทใ่ี ชแ้ นวคดิ การพฒั นานวตั กรรมบน ฐานกระบวนการทเี่ ปน็ เชงิ เสน้ (Liner Model) คอื เนน้ การใชป้ ระโยชนง์ านวจิ ยั จากฝั่งอุปทาน (Supply Side) ที่เป็นพื้นฐานงานวิจัยและพัฒนาจากภาค การศึกษาเป็นหลัก ปัจจุบันได้เปล่ียนแปลงไปสู่ New Innovation Model เป็นกระบวนการที่เน้นการเชื่อมโยงให้เกิด Knowledge Flow ที่น�ำไปสู่ นวัตกรรม ให้ความส�ำคัญกับโจทย์การแก้ปัญหาและตลาด เพ่ือให้นวัตกรรม ถูกถ่ายทอดไปยังฝั่งอุปสงค์หรือฝั่งผู้ใช้งาน (Demand Side) ไม่ว่าจะเป็นทั้ง สตารท์ อัพ SMEs บริษัทขนาดกลาง บรษิ ัทขนาดใหญ่ ตลอดจนพ้ืนท่ี องคก์ ร ชมุ ชนและบุคคล 100
เราตอ้ งรว่ มกันสร้าง Innovation Nation ให้เป็นภาพเดยี วกนั สร้างเส้นทาง ในการเตบิ โตใหผ้ ปู้ ระกอบการเดิน จากตน้ น�้ำไปสปู่ ลายน้�ำให้ได้ การปรับเปลย่ี นกระทัศนใ์ หม่ในลักษณะน้ี จะสรา้ ง Innovation Non-Linear ซง่ึ เปน็ บรบิ ททสี่ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาตใิ นการกอ่ ตวั ของนวตั กรรมมากขน้ึ นน่ั คอื การกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระบบนิเวศ นวตั กรรม เปรียบเสมือนมีจุดกำ� เนดิ ของนวัตกรรมแบบ Multi - Point ทีไ่ ม่ได้ จ�ำกดั ตัวอยู่ท่ีงานวิจยั เพยี งอย่างเดยี ว แตอ่ าจจะมาจากแนวคิดใหม่ๆ ของภาค ประชาชน เทคโนโลยีพร้อมใช้ที่สามารถต่อยอดให้ตอบโจทย์ทางการตลาดได้ หรอื การรว่ มมอื กนั ของภาครฐั และเอกชน โดยมเี ปา้ หมายรว่ มกนั ในการเพม่ิ หว่ ง โซ่มูลค่า (Value Chain) เพื่อให้ประเทศไทยยกระดับความสามารถในการ แข่งขันที่มนี วัตกรรมเปน็ เคร่อื งมือส�ำคญั ในการขบั เคลอื่ น นอกจากต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานของระบบนิเวศนวัตกรรมให้เอ้ือต่อฝั่ง อุปสงค์และอุปทานแล้ว ดร.วรี ะพงษ์ ไดว้ เิ คราะห์ถึงทิศทางทเี่ หมาะสมในการ ปรับกระบวนทัศน์ของประเทศให้เคล่ือนไปพร้อมกันท้ังระบบ โดยเน้นความ ส�ำคัญไปท่ีเรื่องของกรอบวิธีคิด (Mindset) ที่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ เพราะที่ ผ่านมาทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสร้างนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ เอกชน มหาวทิ ยาลยั ภาควจิ ัย และภาคสงั คม ยงั มี Mindset ในการสร้างนวตั กรรมท่ี ไมส่ อดคลอ้ งกบั กระบวนทศั นแ์ บบใหม่ ตวั อยา่ งเชน่ ในภาคของการทำ� งานวจิ ยั ในมหาวิทยาลยั มกั จำ� กดั กรอบวิธีคดิ อย่เู พียงการตอ่ ยอดต�ำแหน่งทางวชิ าการ เป็นส�ำคัญ โดยไม่ตั้งเป้าที่จะพัฒนาไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ การตลาด หรือในภาคเอกชนเองที่มี Mindset ว่านวัตกรรมท่ีมีประสิทธิภาพ ต้องน�ำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น ทางออกส�ำหรับเรื่องน้ีมีหลากหลายวิธี ทั้งในเร่ืองของการท่ีภาครัฐอาจเข้าไปสนับสนุนงานวิจัยท่ีสามารถต่อยอดไปสู่ การสรา้ งนวตั กรรมได้ หรือการสรา้ งระบบ Incentive Reward ให้ผ้ทู ่ีท�ำงาน วิจัยในสถาบันการศกึ ษา คือการกระตุ้นด้วยรางวัลหรือผลตอบแทน เพือ่ ปรับ เปล่ียนกระบวนทัศน์ทางความคิดให้มุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ อย่างแท้จริง เพราะหาก Mindset ไม่เปลี่ยนแปลง Innovation Model ย่อมไม่เปลี่ยนแปลง กระบวนการทางนวัตกรรมจะไม่อาจเปล่ียนแปลงได้เช่น เดียวกนั 101
นอกจากนั้น ประธานกรรมการ สนช. ยังให้ความส�ำคัญกับการเปล่ียนแปลง กระบวนทัศน์ ในเร่ืองของการกระจายนวัตกรรมเข้าสู่ภูมิภาค เป็นการ เปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์แบบ Regionalization เพ่ือเปิดโอกาสให้นักวิจัย ใหม่ๆ ในภูมิภาคได้รับโอกาส รวมทั้งภูมิปัญญาชาวบ้านซึ่งมีศักยภาพในการ สร้างนวัตกรรมได้ โดยปัจจุบัน สนช. ได้วางยุทธศาสตร์ด้านการสนับสนุน นวตั กรรมเชิงสังคม (Social Innovation) ซึ่งเล็งเหน็ วา่ จะเปน็ กระบวนทัศนท์ ี่ สร้างใหเ้ กดิ ความยง่ั ยนื ลดความเหล่อื มลำ�้ ในสังคมไทย โดย ดร.วีระพงษ์ ได้ชี้ ใหเ้ หน็ วา่ อตั ราสว่ นของผปู้ ระกอบรายใหญแ่ ละผปู้ ระกอบการรายเลก็ รายนอ้ ย มีความแตกต่างกันอย่างย่ิง โดยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูง ในประเทศไทย มีสัดส่วนถึง 80 - 90% ในขณะท่ีผู้ประกอบการท่ีเป็น SMEs ในทุกภูมิภาคของประเทศ กลับมีวงจรการท�ำธุรกิจที่ย่�ำวนอยู่ที่เดิม กล่าวคือ เริ่มต้นธุรกิจ ได้ผลก�ำไรอยู่ระยะเวลาหน่ึง ต่อเม่ือเจอความผันผวนทาง การตลาดจนประสบภาวะขาดทนุ จงึ หนั ไปจบั ธรุ กจิ ใหม่ ไมม่ ที ง้ั เสถยี รภาพและ ความกา้ วหน้าทางธรุ กิจ 102
เพอื่ ใหห้ ลดุ พน้ จากวงจรปญั หานี้ จำ� เปน็ ตอ้ งใชน้ วตั กรรมมาเปน็ เครอื่ งมอื นำ� ทาง ภาครฐั ตอ้ งปรับกระบวนทัศนท์ างยทุ ธศาสตรท์ ง้ั หมด โดยหนั มาสนับสนุนการ สร้างนวัตกรรมท้ังในกระบวนการผลิต การพัฒนาสินค้า รวมทั้ง Business Model ท่ีเหมาะสม นอกจากนั้นต้องสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมท่ีช่วยให้ ผปู้ ระกอบการทั่วไปสามารถเขา้ ถึงนวัตกรรมไดอ้ ยา่ งสะดวก สามารถแสวงหา ความรว่ มมือจากภาคสว่ นตา่ งๆ ไดอ้ ย่างเป็นจริง ยทุ ธศาสตรท์ ีม่ ุ่งเนน้ การปรบั กระบวนทัศน์ในแนวทางนี้จะช่วยสร้างฐานรากของ Innovation Nation ได้ อย่างยัง่ ยนื การใหค้ วามสำ� คญั ตอ่ นวตั กรรมดา้ นกระบวนทศั นข์ องสนช. เพอ่ื รบั มอื กบั ความ เปล่ียนแปลงในโลกยุคศตวรรษที่ 21 นั้น ยังสะท้อนผ่านการเกิดขึ้นของ กระทรวงใหม่ คือ “กระทรวงการอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” (Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation) หรอื อว. เป็นการพลิกโฉมอนาคตนวตั กรรมของประเทศ และมงุ่ สู่การร่วมกนั สรา้ งความเปลย่ี นแปลงกระบวนทศั นข์ องคนในระบบทง้ั หมด ดงั ท่ี ดร.วรี ะพงษ์ ได้กลา่ วอย่างมคี วามหวงั ไว้ว่า “เราตอ้ งร่วมกนั สรา้ ง Innovation Nation ใหเ้ ปน็ ภาพเดียวกัน สร้างเสน้ ทาง ในการเตบิ โตใหผ้ ปู้ ระกอบการเดนิ จากตน้ นำ�้ ไปสปู่ ลายนำ้� ใหไ้ ด้ การปรบั เปลยี่ น นวตั กรรมด้านกระบวนทศั นข์ องประเทศคือความหวังของคนในสังคม ท่ีเราจะ รว่ มสรา้ งไปดว้ ยกนั ” 103
เจา้ ของ ส�ำ นักงานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) พมิ พ์ครง้ั ท่ี 1 กนั ยายน 2562 บรรณาธกิ ารบริหาร ดร.พันธุอ์ าจ ชัยรัตน์ บรรณาธิการวิชาการ ดร.ชัยธร ลิมาภรณว์ ณิชย์ บรรณาธิการเลม่ กฤษกร รอดช้างเผ่อื น จิตลดั ดา ศรีพล กองบรรณาธิการ บังอร ไทรเกต ุ อโนมา สอนบาลี ภาพ ทมี ภาพบริษัทแกน่ สาระ ศลิ ปกรรม สุเทพ เวทีกูล ควบคุมการผลิต บริษัท แกน่ สาระ จำ�กัด 15/4 หมู่ 3 ต�ำ บลบางกระทกึ อำ�เภอสามพราน จงั หวดั นครปฐม 73210 โรงพิมพ์ บริษัท พมิ พด์ ี จำ�กัด 30/2 หมู่ 1 ถนนเจษฎาวิถี ต�ำ บลโคกขาม อำ�เภอเมืองสมทุ รสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนงั สอื 978-616-12-0605-5
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106