Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 630420-รวมเล่มคู่มืออนุศาสนาจารย์ว่าด้วยการเยี่ยมไข้(ฉบับพิมพ์)

630420-รวมเล่มคู่มืออนุศาสนาจารย์ว่าด้วยการเยี่ยมไข้(ฉบับพิมพ์)

Published by ตำราเรียน, 2020-04-29 03:17:26

Description: 630420-รวมเล่มคู่มืออนุศาสนาจารย์ว่าด้วยการเยี่ยมไข้(ฉบับพิมพ์)

Search

Read the Text Version

๙๓

๙๔ มรโณบาย ส ม เด จ็ พ ระวัน รตั (ทบั ) วดั โสมนัสวิหาร เรยี บ เรีย ง เมอ่ื จะเจริญมรณสติพึงเจรญิ ดงั น้กี ็ได้ ชายว่า “ธมโมมหิ มรณํ อนสืโต” หญิงว่า “ธมมามหิ มรณํ อนสตื า” แปลวา่ “เรามีความตายเป็นธรรมดา ลว่ งความ ตายไปไมไ่ ดแ้ ลว้ ” ความตายน้ันคอื ส้นิ ลมหายใจกายแตกวิญญาณดบั อนงึ่ พึง เจริญดงั นีก้ ไ็ ด้ว่า “อธุวํ ชีวติ 0 ะชวี ิตของเรามนั ไม่ย่งั ยืน” “ธวุ ํ มรณํ ะความตายของ เรามนั ย่ังยนื ” “อวลล0มยา มริตพพฺ ํ ะเราคงจะตายเปน็ แน”่ “มรณปริโยสาน0 เม ชี ว ิต0 ะชีวิตของเรามีความตายเปน็ ทส่ี ุด” “ชวี ติ 0 เม อนยิ ต0 ะชีวติ ของเรามันไม่เท่ยี ง” “มรณ0 เม นิยตํ ะความตายของเรามนั เทย่ี งแล้ว” อน่ึง พึงเจริญดงั นีก้ ไ็ ด้วา่ “ลพ!เพลตตฺ ามรนติจะ สัตวท์ ี่ตายอย่เู ดย๋ี วนีก้ ็ค”ื “มรึสุ จ มรลิ ลเร ะที่ตายดับสูญไปแลว้ กค็ ื จักตายตอ่ ไปขา้ งหน้ากค็ ”ื “ตเถวาห0 มรลิ ลามิ ะเราก็จะตายดับสูญไปเซน่ น้ันเหมือนกนั น่ันแหละ” “นตถิ เม เอตถฺ ล0ล โย ะความสงสัยในความตายน้ีไม่มีแก่เรา เราไมส่ งสยั ในความตายน้ีแล้ว” เหตุนน้ั เราจงเรง่ ขวนขวายก่อสรา้ งบญุ กุศลซงึ่ เป็นที่พง่ึ ของตนเสยี ใหไ้ ด้ทันมีชีวติ อยนู่ ้ีเถิด อยา่ ใหท้ นั ความตายมาถงึ เขา้ ลา้ ความตายมาถึงเขา้ แลว้ จะเสียทีทไ่ี ด้มาเกดิ เป็น มนุษยพ์ บพระพทุ ธศาลนาน้ีทเี ดียว ผู้ใดไดเ้ จรญิ มรณสติ นกึ ถงึ ความตายได้เหน็ จรงิ จนเกดิ ความสังเวชได้ ผู้ น้ันยอ่ มไม่เมาในชวี ติ ละอาลัยในชีวิตเสียได้ เป็นผ!ู้ มป่ ระมาท รีบร้อนปฏบิ ัติละ บาป บำเพ็ญบุญกศุ ล ชำระตนใหเ้ ปน็ ผู้บรสิ ทุ ธโี้ ดยเรว็ พลัน เพราะเหตุน้นั พระพทุ ธเจ้าจึงตรสั สรรเสรญิ มรณลตทิ ่บี ุคคลเจรญิ ทำให้มากนี้ว่ามผี ลานสิ งสใ์ หญ่ ยิง่ มากนัก นบั เขา้ ในพระนิพพาน เป็นธรรมมี ผ้ตู ายไมม่ ี ดงั น้ี มรณสติมผี ลานิสงส์ มากอยา่ งน้ี อน่งึ พระพุทธเจา้ กต็ รลั ไวใ์ ห้คิดถึงความตายให้ได้ทกุ วนั ๆ มาใน อภณิ หป้จจเวกขณ์ เหตนุ นั้ เราทง้ั หลายจงอุตลาหเ้ จรญิ มรณสตคิ ดิ ถงึ ความตายให้ เห็นจริงจนเกดิ ความสังเวชใหไ้ ด้ทุกวนั ๆ เถดิ จะไดป้ ระลบผลอานิสงสท์ ี่วเิ ศษเปน็ เหตุไม่ประมาทในอนั กอ่ สร้างบญุ กศุ ลซ่งึ เปน็ ท่พี ่ึงของตน

๙๕ ๑. วิธเี จริญมรณสติ นกึ ถงึ คุณพระรตั นตรัย เจริญเมตตา อสุภะ และมรณสติ ทงั้ ๔ อย่างซ่งึ วา่ มานี้ ท่านกลา่ ววา่ จตรุ ารกั ษ์ เพราะเปน็ ธรรมปอ้ งกนั ปกครองรักษาผู้ที่เจริญนนั้ ใหพ้ ้นจากทุกขภ์ ยั อันตรายวิบัติทง้ั สนิ้ ได้ และเป็นทางสวรรค์และนิพพานดว้ ย เหตุ น้ัน เราท้งั หลายจงอตุ สาหเ้ จริญให้ได้ทุกวนั ๆ เถดิ อยา่ ให้ขาดได้เลย จะได้เป็น ความดคี วามซอบอยา่ งย่ิงของเราท่ไี ดม้ าเกดิ เปน็ มนษุ ยพ์ บพระพุทธศาลนาน้เี ทอญ ๒. วิธเี จริญจตุรารักษ์ ต่อน้ไี ปวปิ ้ลลนา เมอื่ เจบ็ ไข้ หรือเมื่อจะตาย พงึ ศกึ ษาทำไวิในใจดงั นีว้ ่า “อาตุร-กายลล เม ลโต ะเมอ่ื กายของเราอาดูร กระวนกระวายอยู่ดว้ ยทุกขเวทนา” “จติ ฺต0 อนาตรุ ํ ภวิลสติ ะจติ ของเราจักไม่อาดูรเดือดร้อนไปตามกาย” “ภิทรุ าย0 กา โย ะกายน้ีมันจกั แตก” “วิราคธมม0วิญญาณ0 ะวิญญาณจติ ผูร้ ้แู จง้ 'น้ีมัน'จะดบั 'ไป เปน็ ของไม่เทยี่ ง เป็นทกุ ข์ ไม่ใซฃ่ องเรา ไม่ใชเ่ รา ไม่ใชต่ ัว ไม่ใช่ตน ช่งั มนั เถิด ” “อนิจจา ลงฺฃารา สงั ขารคอื รา่ งกายจติ ใจนี้มนั ไม่เที่ยง เกดิ ขึน้ แล้วแตกดับไปเปน็ ธรรมดาของมนั อยา่ งน้ันเอง” “ต0 กเุ ตตฺถ ลพ.ภา ะความเทย่ี งยงั่ ยืนอยู่นน้ั จะพึง ได้มาแตไ่ หน ในสงั ขารคอื รา่ งกายจิตใจเหล่านีเ้ ลา่ ” อนงึ่ พึงเห็นจริงแจ้งซดั ด้วย ป้ญญาดงั น้วี า่ เปลา่ ไมม่ ีใครเกิด ไม่มีใครตาย รูป เวทนา สญั ญา สังขาร วญิ ญาณ ขนั ธ์ ๕ มันเกดิ ข้ึน ขนั ธ์ ๕ มนั แตกไปตา่ งหาก ไม่ใช่ของเรา ไม่ใชเ่ รา ไมใ่ ช่ตัว ไมใ่ ช่ ตน ขนั ธ์ ๕ต่างหาก ชง่ั มันเถิด เปลา่ ไม่มใี ครเกดิ ไม่มีใครตาย จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย ใจ อายตนะ ๖ มันเกิดขน้ึ อายตนะ ๖ มนั ดับไปตา่ งหาก ไมใ่ ชข่ องเรา ไมใ่ ชเ่ รา ไม่ใช่ตัว ไมใ่ ช่ตน อายตนะ ๖ ต่างหาก ชง่ั มันเถิด เปล่า ไม่มีใครเกิด ไมม่ ี ใครตาย ดนิ นีา้ ไฟ ลม อากาศ วญิ ญาณ ธาตุ ๖ มนั เกดิ ขึ้น ธาตุ ๖ มันแตกไป ตา่ งหาก ไม่ใช่ของเรา ไมใ่ ชเ่ รา ไม่ใช่ตวั ไม่ใช่ตน ธาตุ ๖ ต่างหาก ชั่งมนั เถดิ เปลา่ ไมม่ ใี ครเกดิ ไมม่ ีใครตาย นามรูปมนั เกิดข้นึ นามดับรปู แตกไปต่างหาก ไมใ่ ช่ของ เรา ไมใ่ ช่เรา ไมใ่ ช่ตัว ไมใ่ ชต่ น นามรูปต่างหาก ชง่ั มนั เถิด อนึ่ง เมื่อเกดิ กไ็ ม่ได้เอา อะไรมา เมอื่ ตายก็ไมไ่ ด้เอาอะไรไป สง่ิ ของทม่ี ีวญิ ญาณและไมม่ ีวิญญาณหมดทง้ั ส้ิน เป็นของกลางสำหรบั แผ่นดนิ ไม่ใชข่ องใคร ชั่งมันเถิด เมอ่ื พิจารณาด้วยปญ้ ญาเห็น จรงิ แจง้ ขดั อยา่ งวา่ น้แี ลว้ จติ ก็ไม่อาดูรเดือดร้อนไปตามกายทก่ี ระวนกระวายอยู่ ด้วยทุกขเวทนา อนึง่ กไ็ มอ่ าลัยพัวพันตดิ ข้องอยูใ่ นส่งิ ของเหลา่ นนั้ หมดทั้งสน้ิ ดว้ ย ความท่เี ห็นจรงิ แจง้ ขดั ดงั นี้ เม่ือปฏิบัติใจทำไดอ้ ยา่ งน้ี ขณะหนึง่ ครู่หน่ึงน้นั ก็ดื ก็ได้

๙๖ ซอ่ื วา่ ดื่มกนิ ซึ่งรสคือพระนิพพาน เปน็ ธรรมมี ผตู้ ายไมม่ ี เป็นอนั ไดป้ ระสบพระ สัมมาส้มพุทธเจ้าด้วยนาํ้ ใจในขณะหนงึ่ นัน้ ครูห่ นึง่ นัน้ เพราะพระองค์ตรสั ไวว้ ่า ผู้!ด เห็นธรรมผู้นนั้ เห็นเราผูต้ ถาคตดังนี้ อนง่ึ พงึ พจิ ารณาดว้ ยป้ญญาใหเ้ ห็นแจ้งชดั ดังน้วี า่ รูป๋ อนจิ ฺจํ ะรปู เป็น ของทรุดโทรม ไม่เทย่ี ง เกิดขนึ้ แลว้ แตกทำลายไป ดังฟองก้อนใหญต่ งั้ ข้ึนแล้วแตก ละลายเป็นน้าํ ,ไป ฉะนัน้ เวทนา อนจิ ฺจา ะความสบายและไมส่ บายและเฉยๆ อยูท่ ่ี วญิ ญาณรแู้ จง้ มนั ไมเ่ ทย่ี ง เกดิ ขน้ึ แล้วดับไป ดงั ต่อมน้ัาตั้งข้นึ ใดๆ แลว้ แตกไป โดยเร็ว ฉะนัน้ สณณฺ า อนจิ ฺจา ะความสำคญั จำหมายไว้มนั ไมเ่ ทย่ี ง ปรากฏขึ้น แลว้ หายไป ดงั พยบั แดด เข้าใกล้แล้วหายไปหมดไม่ปรากฏ ฉะน้ัน สง.ขารา อนจิ ฺ จา ะความคิดเปน็ เครอื่ งตกแตง่ จติ ทเี่ ปน็ บุญและเปน็ บาป มนั ไมเ่ ท่ยี ง เกดิ ขน้ึ แล้ว ดับสญู ไป ไม่มแี กน่ สารอนั ใด ดังดน้ กล้วย ฉะน้นั วณิ ณฺ าณํ อนจิ ฺจํ ะจติ ผูร้ แู้ จง้ อารมณ์มันไม่เทย่ี ง เกิดขน้ึ หลอกลวงใหส้ ัตว์ลมุ่ หลงวา่ ของเรา วา่ ตวั ว่าตนแลว้ ดบั ไป ดงั มายาหลอกลวงให้ลมุ่ หลงเหมือนกะเลน่ กล ฉะนั้น รูแ อนตตฺ า ะรปู เปน็ ของ ทรุดโทรม ไม่ใชต่ วั ไมใ่ ช่ตน เวทนา อนตฺตา ะสุขทุกข์เฉยๆ ทีว่ ญิ ญาณรแู้ จง้ ไม่ใช่ ตัว ไมใ่ ชต่ น สณญฺ า อนตฺตา ะความสำคญั จำหมายไว้ ไมใ่ ช่ตัว ไม่ใชต่ น สง.ขารา อนต.ตา ะเจตนาเปน็ เคร่อื งตกแตง่ จติ ทเ่ี ป็นบญุ และเปน็ บาป ไม่ใช่ตวั ไมใ่ ช่ตน วิณฺญาณํ อนต.ตา ะจติ ผรู้ ้แู จ้งอารมณ์ ไม่ใชต่ วั ไมใ่ ช่ตน สพเุ พ สง.ขารา อนิจฺจา ะ ธรรมท่ีเป็นป้จจัยตกแตง่ สร้างขึน้ คือ รูป เวทนา สัญญา สงั ขาร วิญญาณ หมด ท้งั ลิน้ มันไมเ่ ท่ยี ง เกิดขึ้นแล้วแปรปรวนแตกดับไป สพุเพ ธมมฺ า อนตฺตา ะธรรม ทง้ั ลนิ้ ไม่ใชต่ วั ไมใ่ ช่ตน ไมใ่ ชส่ ตั ว์ ไม่ใชบ่ ุคคล ไมใ่ ชเ่ รา ไม่ใชข่ องเรา เพราะวา่ ตวั ตนสัตวบ์ คุ คลไม่มี มีแต่รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ เปน็ ตัวทุกข์ และมี ทุกข์ดับหมดคือพระนพิ พาน และมีสภาวธรรมอยา่ งหนึง่ ๆ ไปตา่ งหาก ไม่มใี ครผู้!ด ผหู้ นึ่ง เมอื่ พจิ ารณาดว้ ยปญั ญาเห็นจรงิ แจง้ ชดั ว่า เรา เขา สัตว์ บคุ คล ตวั ตน ไม่มี ดงั นแ้ี ลว้ กป็ ล่อยวางเลียได้ ไมถ่ ือว่าของเรา ว่าเรา วา่ ตวั วา่ ตน ละลักกายทฏิ เได้ ในขณะหนึง่ ครหู่ นง่ึ นั้นกด็ ี ก็ไดซ้ ่อื ว่าดม่ื กนิ ซึง่ รสคอื พระนิพพาน เปน็ ธรรมมี ผูต้ าย ไม่มี และได้ประลบพระสมั มาสม้ พุทธเจ้าด้วยนีา้ ใจ ในขณะหนึง่ นนั้ ครูห่ นง่ึ น้นั เพราะพระองค์ตรสั ไวว้ า่ ผไู้ ดเห็นธรรมผูน้ ัน้ เห็นเราผู้ตถาคตดงั นี้ อนึ่ง เม่อื พิจารณาด้วยปัญญาเหน็ จรงิ แจ้งชดั วา่ เรา เขา สตั ว์ บุคคล ตัวตน ไม่มดี ังนแี้ ล้ว ใจ บริสทุ ธเี้ ป็นสขุ ใหญย่ งิ่ ทกุ ฃโทมนสั ดับแคน้ เครือ่ งรอ้ นใจก็ดบั เลยี ได้ คุณคือใจ บริสทุ ธฃ้ี องพระพทุ ธเจ้าและคุณพระธรรมทดี่ ับเพลงิ เครอ่ื งร้อนใจได้ และคุณ

๙๗ พระสงฆ์ทป่ี ฏบิ ตั ดิ ีคือละกิเลสเคร่อื งเศร้าหมองเสยี ได้ก็ย่อมปรากฏขึ้นในใจของตน เป็นผมู้ คี วามเชอ่ื ความเล่ือมใส หยัง่ ลงมน่ั ในคณุ พระรตั นตรยั เป็นอนั ไดถ้ งึ สรณะทงั้ ๓ น้ี เปน็ ทีพ่ ่ึงของตนดว้ ยดี ดว้ ยปญั ญาทม่ี าพิจารณาเหน็ ซึ่งสภาวธรรมทัง้ ส้นิ เปน็ อนัตตาดังว่ามานี้ ก็วิปัสสนานีม้ ีผลอานิสงสใ์ หญ่ยงิ่ กวา่ ทาน ศลี พรหมวิหารภาวนา ย่อม'ทำผ้ทู ่ี เจริญนน้ั ให้มีสตไิ มห่ ลงกาลกิริยา มีสุคตภิ พคือมนุษย์และโลกสวรรคเ์ ปน็ ที่ไปในเบอ้ื ง หนา้ น้ีวา่ โดยยงั ไม่บรรลผุ ลทำใหแ้ จง้ ซงึ่ พระนิพพาน ถา้ อปุ นิสัยมรรคผลมี กย็ ่อมทำผู้ นน้ั บรรลมุ รรคผลทำให้แจ้งพระนิพพานไดีในชาตินมี้ นั่ เทยี ว อน่ึง เม่ือเกิดกไ็ ม่ได้เอา อะไรมา เมอ่ื ตายกไ็ ม่ไดเ้ อาอะไรไป ทรัพย์สมบัติ เขา้ ของเงินทองหมดทง้ั สนิ้ ไม่ใช่ของเรา เปน็ ของกลางลำหรับแผ่นดนิ ตายแล้วทงั้ เสียหมดเอาไปก็ไมไ่ ด้ อยา่ หลงมัวเมาไปเลย แต่ความแก่ความเจบ็ ความตายนี้เป็นของๆ เราแห้ หนีไมพ่ ้น เหตนุ ้นั เราจงอุตลาห้ รบี เรง่ กอ่ สร้างบุญกุศลซึง่ เป็นท่ีพ่ึงของตน จงอตุ ลาหบ้ ำเพ็ญศีลและเจรญิ จตุรารักษแ์ ละ วิปัสสนาซ่ึงว่ามานี้เปน็ ทางสวรรคแ์ ละนิพพานเถดิ ดกี วา่ ประกอบกิจอนื่ ๆ ทไี่ มเ่ ปน็ ประโยชนแ์ กต่ น เตรียมตนไวท้ ำความตายเถดิ ดีกว่า เพราะเราจะต้องตายเป็นแนแ่ ห้ แต่ ไมร่ วู้ า่ เม่ือไร อน่ึง ยากนักทจี่ ะไดเ้ กิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องตั้งอย่ใู นธรรมของมนุษยค์ อื ศลี ๕ และกุศลกรรมบถ ๑๐ จงึ จะไดม้ าเกิดเปน็ มนุษย์ได้ ชวี ติ ท่ีเปน็ มาน้ีกไ็ ดด้ ว้ ยยาก ย่งิ นกั เพราะอนั ตรายของชีวติ ท้ังภายในภายนอกกายมีมากต่างๆ การทีไ่ ด้พงิ ธรรม ของสปั บุรุษ คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน้ีกไ็ ด้ดว้ ยยากย่งิ นัก เพราะกาลทเี่ ปล่าวา่ งอยู่ไม่มี พระพทุ ธเจ้าเกดิ ข้ึนในโลกยืดยาวนานนัก บางคาบบางสมัยจึงจะมพี ระพุทธเจา้ เกิดขึ้นใน โลกสกั ครงั้ สักคราวหนึง่ เหตนุ ั้น เราทั้งหลายพึงอยู่ดว้ ยความไม่ประมาทเถิด อยา่ ใหเ้ สีย ทที ไี่ ด้มาเกดิ เปน็ มนษุ ยพ์ บพระพทุ ธศาลนานีเ้ ลย ขอท่านผู้สปั บรุ ุษท่ไี ด้รบั หนังสอื นไ้ี ปจงอ่านให้ไดท้ กุ ๆ วันเถิด เมอื่ อา่ นจง ตรองตามไปใหไ้ ดค้ วามเหน็ จริง เมอื่ ไดค้ วามเหน็ จรงิ แลว้ ก็เปน็ อันไดป้ ระลบพระ สัมมาสัมพทุ ธเจ้าดว้ ยนั้าใจ อนึ่ง เป็นอนั ได้เจริญภาวนามัยกุศล มผี ลใหญเ่ ลศิ เกดิ ขึน้ แก่ ตนดว้ ย เพราะทำความเห็นจริงใหเ้ กดิ ข้ึนในจติ ไดน้ ีจ้ ึงเป็นภาวนามัยกุศลมผี ลเลศิ ถา้ กจิ การมีมากไมม่ ีโอกาสทจ่ี ะอ่านแลว้ เมือ่ จะนอนพึงอา่ นเสียกอ่ นจบหนงึ่ แลว้ จึงนอน จะไดเ้ ป็นนพิ ัทธกุศลมผี ลเลศิ เกดิ แก่ตนทกุ ๆ วัน เพราะภาวนามัยกศุ ลน้ี พระพทุ ธเจ้า ตรัสสรรเสริญว่ามผี ลใหญ่กว่าทานและศีลในสตู รมีเวลามีสูตรเป็นตัวอยา่ ง เหตนุ ั้น ควร ทเ่ี ราทง้ั หลายจะพงึ ไม่ประมาทในภาวนามยั กุศลนี้ อุตลาหเ้ จริญให้ได้ทกุ วันๆ เทอญ

๙๘

๙๙ คาถาแปล ภาค ๑ ๑. อนจิ .จา วต สงฺฃารา ะสงั ขารทงั้ หลายไมเ่ ท่ียงหนอ ะมคี วามเกดิ ขึน้ แลความเส่อื มไปเป็นธรรมดา อุป,ปา'ทวยธมมโี น ะเกดิ ข้ึนแลว้ ยอ่ มดับไป อปุ ปซซฺ ติ วฺ า นริ ซุ ฺฌนติ ะความระงบั แห่งสังขารทงั้ หลายนนั้ เปน็ สุข เตส0วปู สโม สโุ ฃ ะสตั ว์ทง้ั หลายท้งั ปวง กำลังตาย สพ!เพ สตตฺ า มรนติ จ ะแลตายไปแลว้ แลจักตาย ะเราก็จกั ตายอย่างนน้ั เหมอื นกัน มรึสุ จ มรสิ สเร ะความสงสัยในเรื่องตายน้ไี มม่ แี กเ่ รา ตเถวาหํ มร?ิ !สามิ นตฺถิ เม เอตถฺ สํสโย ๒. อจริ ํ วตยํ กาโย ะร่างกายน้ไี ม่นานหนอ ะจักถมทับแผน่ ดิน ปธวึ อธิเสสสติ ะเมอื่ ปราศจากวญิ ญาณ อนั บคุ คลทง้ั เสยี แล้ว ะก็เป็นเหมือนด้นุ พเื นท่ีไม่มีประโยชน์ ฉฑุ โฑ อเปตวณิ ณฺ าโณ นริ ตถฺ ํว กลิงคฺ รํ ๓. อปุ นยี ติ ชวี ติ มปปมายุ ะชวี ติ คืออายุเปน็ ของนอ้ ย อนั ชรานำเข้าไป อยเู่ สมอ ซรูปนตี สส น สนติ ตาณา ะเม่อื สตั วอ์ ันชรานำเขา้ ไปเสมอแล้ว สตั ว์แล สังขารซึง่ เป็นท่พี ่งึ ช่วยปอ้ งกัน ย่อมไมม่ ี เอตํ ภย0มรเณ เปฦขมาโน ะบคุ คลเม่อื พจิ ารณาเห็นภัยในความตายน้ัน ปณุ ณฺ านิ กยิราถ สขุ าวหานิ ะพงิ หมัน่ ทำบุญทงั้ หลาย อันจะนำความสขุ มาใหเ้ ถดิ ภาค ๒ ๒๙. อจจยนติ อโหรตฺตา คืนแลวันล่วงไปๆ ชีวติ 0อุปรุซฌฺ ติ ชวี ิตย่อมรกุ รน้ เข้ามา อายุ ชยี ติ มจจาน0 อายุของสัตว์ทั้งหลาย ย่อมส้นิ ไป กนุ นทนี มโิ วทกํ เหมอื นน้ีาแหง่ แม่นา้ี นอ้ ย

๑๐๐ ๓๐. อโห อนจิ 'จา สงฃฺ ารา โอ สงั ขารท้ังหลายไม่เท่ียง เตกาลกิ า อลณธติ า เปน็ ไปในกาลท้งั ๓ ไมต่ ้งั อยไู่ ด้ สกาลา กาลกิ า ลพ!เพ ลว้ นเป็นไปชัว่ ยคุ เปน็ ไปชว่ั คราว หุตฺ'วา หตุ 'ฺ วา น โหนติ เต สงั ขารเหล่านัน้ มแี ล้วๆ กไ็ ม่มเี ลา่ ๓๑. ลพ!เพ ลตตฺ า มรสิ สนติ สัตวท์ ง้ั หลายจกั ตายด้วยกันท้งั ล้นิ มรณนตํ หิ ชวี ิต0 เพราะชวี ติ มคี วามตายเปน็ ท่ีสุด ซรมปี ปต'ุ วา มรณํ แมอ้ ยู่ได้ถึงชราก็ตอ้ งตาย เอว0ธมมา หิ ปาณโิ น เพราะสตั วท์ ัง้ หลายมอี ยา่ งนี้เป็นธรรมดา ๓๒. ทหรา จ มหนตา จ ทง้ั เดก็ ท้ังผ้ใู หญ่ เย พาลา เย จ ปณฑติ า ท้ังคนโง่ ทงั้ คนฉลาด ลพ!เพ มจจุวล0 ยนติ ย่อมไปลูอ่ ำนาจของความตายหมด ลพ.เพ มจจุปรายนา มคี วามตายเป็นที่ไปในเบ้ืองหน้า หมดทุกคน ๓๓. อปปมายุ มนลุ ลาน0 อายขุ องสัตวท์ งั้ หลายมนี อ้ ย หิเฬยยนํ ลุโปรโิ ล สาธุซนพงึ ดหู มิน่ ชีวิตอันนอ้ ยนนั้ เลยี จเรยยาทิตตฺ ลโี ลว ควรประพฤติเปน็ เหมอื นคนมีศีรษะอันไฟไหม้ นตถุ ิ มจจลุ ล นาคโม เพราะมจั จุราชจะไมม่ าถึง เปน็ อนั ไมม่ ี ๓๔. เปฦฃตํเยว ณานตี 0 แลดเู ถดิ หมู่ญาตกิ ำลงั เฝา็ มองดู ปลล ลาลปปต0ปถุ ุ ครํา่ ครวญอย่เู ป็นอันมาก เอกเมโกว มจจาน0 มฤตยกู ็นำผู้ตายไปคนเดียว โควซโฺ ฌ วิย นยิ ยติ เหมอื นโคทเ่ี ขานำไปฆ่า ฉะน้ัน ๓๔. ชีรนติ เว ราชรถา สจุ ติ ุตา แม้แตร่ าชรถอนั วจิ ิตรดแี ล้ว ยงั รู้จกั ชำรดุ อโถ ลรีรมปี ชร0อุเปติ อนึง่ สรีระก็ย่อมเขา้ ถงึ ชรา สตญ'จ ธมโม น ชร0อเุ ปติ แต่ธรรมของสัตบรุ ุษ หาเข้าถึงซ่งึ ชราไม่ ลนโต หเว ลพ!กิ ปเวทยนติ สตั บรุ ษุ เท่าน้ันแล ยอ่ มยังสตั บุรษุ ดว้ ยกัน

0)0(5) ภาค ๓ ๖๑. อนมิ ิตฺตมนณฺณาตํ มจ.จาน0 ะชวี ิตซองสตั วท์ ้งั หลายในโลกน้ีไมม่ อี ะไร อิธ ชีวติ 0 เปน็ เครอื่ งกำหนดหมาย ใครๆ ก !็ โ ม ่'ไ ด ้'วา่ จะดบั เมือ่ ไรกนั กสริ ณจฺ ปริตตุ ญ'จ ะชีวิตนัน้ ทั้งเปน็ ไปโดยยากเย็น ท้งั เป็นซองนอ้ ย ตณฺจ ทกุ ฺเ1ขน ส0ยุต0 ะท้ังยงั ประกอบด้วยทุกขอ์ ีกเลา่ ๖๒. นหิโส อปุ ฦกโม อตถฺ ิ เยน ะความเพียรอนั เปน็ เหตุไมต่ ายแหง่ สัตว์ ทงั้ หลายผู-้ ซาตาน มยิ ยเร เกิดมาแล้ว ยอ่ มไมม่ ีเลย ซรมปี ปตฺตา มรณ0 ะแมอ้ ย่ไู ด้จนถงึ ซราก็ต้องตาย เอว0ธมมา หิ ปาณโิ ณ ะเพราะสัตวท์ ้ังหลายมีอยา่ งนเ้ี ปน็ ธรรมดา ๖๓. ผลานมิว ปฦกาน0ปาโต ะภัย เพราะต้องหล,นในเวลาเซ้าซองผลไมท้ ีล่ กุ แลว้ ปตนโต ภย0 ฉันใด เอว0ซาตาน มจจาน0 ะภยั เพราะตอ้ งตายแน่ซองสตั วท์ ้งั หลาย นิจจ0มรณโต ภย0 ผ้เู กิดมา- แลว้ กฉ็ นั น้นั ๖๔. ยถาปี กมุ ภการลล กตา ะภาซนะดนิ ท้งั หลาย อันนายซ่างหมอ้ ทำ แล้วล้วน- มตฺติกภา'ซนา ลพ!เพ มความแตกเป็นท่ีสุด แม้ฉนั ใด เภทปรยิ นตา เอว0มจ.จาน ชวี ติ 0 ะชวี ิตซองสัตว์ท้ังหลาย กฉ็ ันนั้น ๖๔. นคร0 ยถา ปจจนต0คตุ ตฺ ํ ะเมอื งที่ตง้ั อย่สู ุดแดน อนั ซนทัง้ หลายรกั ษา สนตรพาหิร0 แลว้ ทง้ั ภายในแลภายนอก ฉนั ใด เอว0โคเปถ อตตฺ าน0 ะท่านท้งั หลายจงรักษาตน ฉนั น้นั ซโณ มา โว อุปจ.จคา ะซณะคราว อย่าไต้ล่วงท่านทัง้ หลายไปเสีย ซณาสตื าหโิ สจนติ ะเพราะวา่ ซนทงั้ หลาย อนั ขณะคราวลว่ งไปเสยี แลว้ นริ ยมหิ สมปปตี า ะยอ่ มเศรา้ โศก เต็มแน่นกนั อยู่ในนิรยาบาย

๑๐๒ พมิ พ์ทโี่ รงพมิ พ์กรมยุทธศกึ ษาทหารบก ถนนเทอดดำรหิ ์ พระนคร พนั ตรหี ญงิ ทวี วาสนประเสริฐ ผู้'พิมพผ์ ูโ้ ฆษณา ๒๕๑๓ ธมั เมกสถปู สถานทท่ี รงแสดงปฐมเทศนาแกพ่ ระปัญจวคั คีย์ เมืองพาราณสี

๑๐๓ ชินบญั ชรคาถา ฉบบั สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรสํ )ี วดั ระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร ๑. ซะยาสะนาคะตา พุทธา เซตะวา มารงั สะวาหะนัง จะตุสจั จาสะกัง ระสงั เย ปวี ิงสุ นะราสะภา. ๒. ตัณหงั กะราทะโย พุทธา อัฏฐะวสี ะติ นายะกา สพั เพ ปะตฏิ ฐิตา มยั หงั มัตถะเก เต มนุ สิ สะรา. ๓. สีเส ปะติฏเโต มยั หงั พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สงั โฆ ปะติฏเโต มยั หงั อเุ ร สัพพะคุณากะโร. ๕. หะทะเย เม อะนรุ ทุ โธ สารีปตุ โต จะ ทกั ซเิ ณ โกณฑัญโญ ปิฏฐภิ าคัสมงิ โมคคัลลาโน จะ วามะเก. ๕. ทักฃเิ ณ สะวะเน มยั ทัง อาลงุ อาบนั ทะราหุโล กสั สะโป จะ มะหานาโม อุภาลุง วามะโสตะเก. ๖. เกสะโต ปิฏฐภิ าคสั มงิ สรุ โิ ยวะ ปะกงั กะโร นิสนิ โน สิริสมั ปน้ โน โสภิโต มนุ ิปุงคะโว. ๗. กมุ าระกสั สะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มยั ทงั วะทะเน นจิ จงั ปะตฏิ ฐาสิ คุณากะโร. ๘. ปุณโณ องคุลมิ าโล จะ อุปาสี มนั ทะสีวะสี เถรา ปีญ'จะ อเิ ม ซาตา นะลาเฏ ตลิ ะกา มะมะ ๙. เสสาสตี ิ มะหาเถรา วซิ ติ า ซินะสาวะกา เอเตสตี ิ มะหาเถรา ซิตะวันโต ซิโนระสา ซะสนั ตา สสี ะเตเซนะ องั คะมงั เคสุ สณั เตา. ๑๐. ระตะบัง ปุระโต อาสิ ทกั ซเิ ณ เมตตะสตุ ตะกงั ธะซัคคัง ปีจฉะ'โต อาสิ วาเม อังคลุ ิมาละกงั . (9)(9). ซนั ธะโมระปะริตตญั จะ อาฏานาฏยิ ะสุตตะกงั อากาเส ฉะทะบงั อาสิ เสสา ปาการะสัณเตา.

๑๒. ซนิ า นานาวะระสงั ยุตตา ๑0๕ วาตะปีตตาทิสัญซาตา สตั ตปั ปาการะลงั กะตา ๑๓. อะเสสา วนิ ะยัง ยนั ตุ พาหริ ัซฌตั ตปุ ทั ทะวา. วะสะโต เม สะกจิ เจนะ อะนนั ตะซินะเตซะสา ๑๕. ซินะปญั ซะระมัซฌัมหิ สะทา สัมพุทธะปัญซะเร. สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ วหิ ะรนั ตงั มะหิตะเล ๑๕. อจิ เจวะมนั โต เต มะหาปุรสิ าสะภา. ซนิ านุภาเวนะ ธมั มานภุ าเวนะ สุคุตโต สุรกั โข สงั ฆานภุ าเวนะ ซิตปู ทั ทะโว สัทธัมมานุภาวะปาลิโต ซิตาริสังโฆ ซิตันตะราโย จะรามิ ซนิ ะปัญซะเรติ ฯ ถาํ้ สกุ รขาตา (ถาํ้ คางหมู) สถานทพี่ ระสารีบุตรสำเรจ็ พระอรหันต์ อยบู่ นเขาคิซฌกฏู กอ่ นถงึ พระคนั ธกุฎีของพระพุทธเจา้