การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล

นางสาวสมุ าลี อปุ ชยั



1.ประเมนิ ความ 2.ประเมนิ ความ 3.ประเมนิ ความ 4.ประเมนิ ความ น่าเชอ่ื ถอื ของแหลง่ น่าเชอื่ ถอื ของ นา่ เชอ่ื ถอื ของ ผเู้ ขียน ทนั สมยั ของ ทรัพยากร ผ้จู ัดทา สานกั พมิ พ์ สารสนเทศ สารสนเทศ สารสนเทศ • พจิ ารณาวา่ • หากเป็นสอื่ สิง่ พมิ พ์ • พิจารณาว่า • พจิ ารณาว่า ผเู้ ขยี นมคี ุณวฒุ ิ พจิ ารณาความ สารสนเทศมาจาก ทรัพยากร ความรู้ ทนั สมัย จาก วนั แหลง่ สารสนเทศใด สารสนเทศหรือ ความสามารถและ เดอื น ปี สารสนเทศนัน้ ๆ ประสบการณ์ ตรง ทพ่ี ิมพ์ • แหล่งสารสนเทศท่ี เปน็ รปู แบบใด หรอื สอดคล้องกบั น่าเช่ือถอื นน้ั จะเปน็ เรื่องที่เขียนหรอื ไม่ • หากเป็นสื่ แหลง่ สารสนเทศ • ส่อื สิ่งพมิ พ์ สอื่ ไม่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สถาบัน เช่น ตพี มิ พ์ หรอื สอ่ื • หนว่ ยงาน พจิ ารณาจาก วัน หอ้ งสมุด อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ผรู้ ับผิดชอบเปน็ เดือน ปี ที่เผยแพร่ ภาครัฐบาล เปน็ ต้น • สว่ นแหล่ง • หากเปน็ สอื่ ส่ิงพมิ พ์ องค์กร สมาคม สารสนเทศ เปน็ สงิ่ พมิ พ์ มักจะมีความ อนิ เทอร์เน็ต จะมี ประเภทใด หนงั สอื น่าเช่ือถือมากกวา่ ความนา่ เช่อื ถอื นอ้ ย ท่วั ไป หนงั สือ หน่วยงาน กวา่ หรอื ไม่มีความ อ้างอิง วารสาร ภาคเอกชนหรอื นา่ เชื่อเลย นติ ยสาร เปน็ ต้น บุคคล

เจ้าของขอ้ มลู เปน็ ผทู้ ่ีมปี ระสบการณ์ตรงเกย่ี วกบั ขอ้ มลู นั้น ๆ สามารถใหข้ อ้ มูลได้ถกู ต้องตรงความเปน็ จริงมากกว่าบคุ คลอื่นเช่น คณุ พ่อเล่าเรอ่ื งต่าง ๆ ทเ่ี คย พบในอดีต หน่วยงานหรอื ผูม้ ีความรคู้ วามเช่ยี วชาญ เฉพาะดา้ น เป็นหนว่ ยงาน บุคคลทท่ี างานหรอื ศึกษาคน้ คว้าในดา้ นใดด้านหน่งึ ทาใหม้ ีความรูจ้ าก ประสบการณใ์ นการทางานหรอื การศึกษาคน้ ควา้ อยา่ ง จรงิ จัง ลึกซึ้ง เช่น แพทย์ใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับการรักษา โรค หนว่ ยงานของรฐั เชน่ กระทรวงศึกษาธิการใหข้ อ้ มูลท่อี ยู่ ของโรงเรียนทว่ั ประเทศผา่ นทางเวบ็ ไซต์

• Presentation การนาเสนอขอ้ มลู ตอ้ งชดั เจน กระชบั ตรงตาม เน้ือหา • Relevance การพจิ ารณาความสมั พันธ์ ความสอดคลอ้ งของขอ้ มลู กบั สง่ิ ทตี่ อ้ งการ • Objectivity ขอ้ มลู ทีน่ ามาใชต้ อ้ งมีวตั ถปุ ระสงคท์ ช่ี ดั เจน ไม่มี เจตนาแอบแฝง หรือเปน็ ขอ้ มลู ทแี่ สดงความคดิ เห็น • Method มวี ิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ • Provenance มีการระบุแหลง่ ทม่ี าของขอ้ มลู อยา่ งชดั เจน เชอื่ ถอื ได้ • Timeliness ข้อมูลตอ้ งเปน็ ปจั จุบนั ทนั สมัย

1. เว็บไซตห์ รอื แหลง่ ทมี่ าของขอ้ มลู ตอ้ งบอกวตั ถปุ ระสงคใ์ นการสร้างหรอื เผยแพรข่ อ้ มลู ในเวบ็ ไซตอ์ ยา่ งชดั เจน 2. การนาเสนอเนอ้ื หาตอ้ งตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ในการสรา้ งหรอื เผยแพรข่ อ้ มลู ของเวบ็ ไซต์ 3. เนอ้ื หาของเวบ็ ไซตต์ ้องไม่ขดั ต่อกฎหมายศีลธรรมและจริยธรรม 4. มีการระบชุ อ่ื ผเู้ ขยี นบทความหรือผใู้ หข้ อ้ มลู บนเวบ็ ไซต์ 5. มกี ารอา้ งองิ แหลง่ ทมี่ าหรอื แหลง่ ตน้ ตอของขอ้ มูลทม่ี เี น้ือหาปรากฏบน เว็บไซต์ 6. สามารถเชอื่ มโยง (Link)ไปเวบ็ ไซต์ทอ่ี า้ งองิ เพ่อื ตรวจสอบแหลง่ ตน้ ตอของ ข้อมลู ได้ 7. มกี ารระบวุ นั เวลาในการเผยแพรข่ อ้ มลู บนเวบ็ ไซต์ 8. มกี ารใหท้ อ่ี ย่หู รอื อเี มลทผ่ี อู้ า่ นสามารถติดตอ่ ผดู้ ูแลเวบ็ ไซตไ์ ด้ 9. มชี ่องทางใหผ้ อู้ า่ นแสดงความคิดเหน็ 10. มขี อ้ ความเตอื นผูอ้ า่ นใหใ้ ชว้ จิ ารณญาณในการตดั สนิ ใจใชข้ อ้ มลู ทปี่ รากฏบน เว็บไซต์

• สเุ มศ ชาแทน่ “การตรวจสอบความนา่ เชอ่ื ถอื ของ ข้อมลู ” จากเวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/ site/teacherreybanis1/ngan-xdirek-laea- khwam-samarth-phises/bth-thi-7-kar-trwc- sxb-khwam-na-cheux-thux-khxng-khxmul เมื่อ วนั ท่ี 05 พฤษภาคม 2563 • ครไู อที “การประเมนิ ความน่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มลู ” จากเวบ็ ไซต์ https://kru-it.com/computing-science- p5/credibility/