ลาํ ดบั และอนุกรม Sequence and Series บรรยายโดย ผศ.ศริ ิวรรณ วาสุกรี
10.1 ลาํ ดบั (Sequence) ลาํ ดบั เป็นชุดของจาํ นวนซ่ึงมีการเรียงลาํ ดบั แบบมีระบบ เช่น 1, 3, 5, 7, ... หรือ 1 , 1 , 1 , 1 2 4 8 16 ตวั เลขแต่ละตวั เรียกวา่ พจน์หรือเทอม (term) และสามารถเขียนลาํ ดบั n พจนใ์ นรูปทวั่ ไปไดด้ งั น้ี a1 , a2 , a3 , …, an โดยท่ี an แทน เทอมท่ี n (เมื่อ n I+) หรือเรียกวา่ เป็น พจน์ทั่วไป หรือเทอมทั่วไป (general term)
10.1 ลาํ ดบั (Sequence) ลาํ ดบั แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด คือ (1) ลาํ ดบั จาํ กดั (Finite sequence) ถา้ โดเมนของฟังกช์ นั f = { 1 , 2 , 3 , … , n } แลว้ จะเรยี ก f วา่ ลาํ ดบั จาํ กดั (Finite Sequence) เขียนแทนดว้ ย f(1) , f(2) , f(3) , … , f(n) เรานิยมใช้ an แทน f(n) ดงั น้นั ลาํ ดบั จาํ กดั คือ a1 , a2 , a3 , … , an
10.1 ลาํ ดบั (Sequence) (2) ลาํ ดบั อนันต์ (Infinite sequence) ถา้ โดเมนของฟังกช์ นั f = { 1 , 2 , 3 , … , n , … } เป็นเซตของจาํ นวนเตม็ บวก แลว้ จะเรยี ก f วา่ ลาํ ดบั อนนั ต์ (Infinite Sequence) เขียนแทนดว้ ย f(1) , f(2) , f(3) , … , f(n) , f(n+1) , … อาจเขียนยอ่ ๆเป็น {f(n)} หรือ a1 , a2 , a3 , … , an , an+1 , … อาจเขียนยอ่ ๆเป็น {an} เรยี น an วา่ เทอมทวั ๆไป หรอื เทอมที n ของลาํ ดบั
ตวั อยา่ งลาํ ดบั อนนั ต์ n 1 หรือ 0 , 1 , 2 , 3 , . . . , n 1 , . . .
ตวั อยา่ งลาํ ดบั อนนั ต์ 1n หรือ 1 , 12 , 13 , 14 , . . . , 1n , . . .
ตวั อยา่ งลาํ ดบั อนนั ต์ (1)n1n! หรือ 1! , 2! , 3! , 4! , . . . , (1)n1 n! , . . .
การหาพจน์ (เทอม) ที่ n • คือ การหาพจนท์ ่ีเป็นตวั แทนของลาํ ดบั โดยจะเรียกวา่ พจนท์ ี่ n หรือพจนท์ ว่ั ไป หรือเทอมทวั่ ไป • สญั ลกั ษณ์ คือ an
ตวั อยา่ งท่ี 10.1.1 กาํ หนดลาํ ดบั อนนั ต์ คือ 2 , 4 , 6 , 8 , … จงหาเทอมที่ n จะเห็นไดว้ า่ a1 = 2 a1 = 2(1) a2 = 4 a2 = 2(2) a3 = 6 a3 = 2(3) a4 = 8 a4 = 2(4) ดงั น้นั an = 2n เม่ือ n = 1, 2, 3, …
ตวั อยา่ งท่ี 10.1.2 กาํ หนดลาํ ดบั อนนั ตค์ ือ 1 , 3 , 5 , 7 , … จงหา an จะเห็นไดว้ า่ a1 = 1 a1 = 2(1) – 1 a2 = 3 a2 = 2(2) – 1 a3 = 5 a3 = 2(3) – 1 a4 = 7 a4 = 2(4) – 1 ดงั น้นั an = 2n – 1 เม่ือ n = 1, 2, 3, …
ตวั อยา่ งท่ี 10.1.3 กาํ หนดลาํ ดบั อนนั ตค์ ือ 12 , 23 , 43 , . . . จงหา an ตวั เศษ 1, 2, 3,…, n ,… ตวั ส่วน 2, 3, 4,…, n+1,… ดงั น้นั 1 , 2 , 3 , ... , n n 1 , ... 2 3 4 แสดงวา่ an n เมื่อ n = 1, 2, 3, … n 1
การลู่เข้า และไม่ลู่เข้า (Convergent and Divergent) บทนิยาม 10.1.1 ให้ {an} เป็นลาํ ดบั อนนั ต์ ลาํ ดบั an เป็นลาํ ดบั ลู่เข้า (Convergent Sequence) ถา้ มีจาํ นวน L ท่ี ทาํ ให้ เรียก L ว่าลมิ ติ ของลาํ ดบั lim an L n ถา้ ไม่มีจาํ นวน L ที่มีคุณสมบตั ิดงั กล่าว เราเรียก {an} วา่ เป็นลาํ ดบั ไม่ลู่เข้า (Divergent Sequence) หมายเหตุ บทนิยามของ lim a n L มีลกั ษะเช่นเดียวกบั บทนิยาม ของ lim f (x) L n x
บทแทรก 10.1.2 จากกฎโลปิ ตาล จะไดค้ ่าของลิมิตท่ีน่าสนใจ ดงั น้ี 1. lim n n 1 n 1 2. lim x n 1 , x 0 n 3. lim x n 0 , | x | 1 n 4. lim 1 x n ex , x n n 5. lim xn 0 , x n! n จาก (2) – (5) x คงท่ี เมื่อ x
จากกฎของโลปิ ตาล สามารถหาค่าลิมิตของลาํ ดบั ได้ พิจารณาตวั อยา่ งต่อไปน้ี
ตวั อย่าง 10.1.4 จงพจิ ารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 1. n2 1 n2 วธิ ีทาํ ใชก้ ฎของโลปิ ตาลหาค่าลิมิตดงั น้ี lim n2 n2 1 n
ตวั อย่าง 10.1.4 จงพิจารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 2. 4 2n3 1 n3 วธิ ีทาํ lim 4 2n3 1 n n 3
ตวั อย่าง 10.1.4 จงพิจารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 3. 2n n 1 วธิ ีทาํ lim 2n n 1 n
ตวั อย่าง 10.1.4 จงพิจารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 4. {1 (1)n } วธิ ีทาํ เนื่องจาก {1 (1)n } 0 , 2 , 0 , 2 , ...
ตวั อย่าง 10.1.5 จงพจิ ารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 1. {n 10n } วธิ ีทาํ 1 lim n 10n lim (10n) n n n 11 lim (10n n n ) n 11 lim 10n lim n n n n 11 1 ดงั น้นั {n 10n } เป็นลาํ ดบั ลู่เขา้
ตวั อย่าง 10.1.5 จงพจิ ารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 2. {3 (0.1)n } วธิ ีทาํ lim (3 (0.1)n ) n
ตวั อย่าง 10.1.5 จงพจิ ารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 3. n 2 n n วธิ ีทาํ lim n 2 n n n
ตวั อย่าง 10.1.5 จงพจิ ารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 4. (10)n n! วธิ ีทาํ lim (10)n n n!
ตวั อย่าง 10.1.6 จงพิจารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 1. { n2 n 1 n} ขออนุญาตไม่สอน (ไม่ออกสอบ) วธิ ีทาํ lim ( n2 n 1 n) lim ( n2 n 1 n) ( n2 n 1 n) n n n2 n 1 n lim n2 n 1 n2 lim n 1 n n2 n 1 n n n2 n 1 n lim 1 1 1 0 1 n 100 1 2 n 1 1 1 n n2 1 ดงั น้นั { n2 n 1 n} เป็ นลาํ ดบั ลู่เขา้
ตวั อย่าง 10.1.6 จงพจิ ารณาวา่ ลาํ ดบั ต่อไปน้ีเป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 2. 2n n 3n n วธิ ีทาํ 2n n 2n n 3n n n n lim lim 3n n n n n n lim 2 n 1 0 1 1 1 0 1 n 3 n ดงั น้นั 2n n เป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ 3n n
10.2 1อ0น.2ุกรอมนุก(Sรeมrie(Ss)eries) • อนุกรม (Series) เป็นผลบวกของพจนท์ ุกพจน์ในลาํ ดบั เช่น ลาํ ดบั {an} = a1 , a2 , a3 , …, an , … • จะไดอ้ นุกรมของลาํ ดบั คือ a1 + a2 + a3 + … + an + …
10.2 1อ0น.2ุกรอมนุก(Sรeมrie(Ss)eries) อนุกรมแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ (1) อนุกรมจาํ กดั (Finite series) คือ ผลบวกของแต่ละเทอมของลาํ ดบั จาํ กดั เช่น จาก 2 , 22 , 23 , . . . , 26 เป็นลาํ ดบั จาํ กดั จะได้ 2 22 23 . . . 26 6 เป็นอนุกรมจาํ กดั เขียนแทนดว้ ย 2n n1 จาก 1 , 3 , 5 , 7 , … , 19 เป็นลาํ ดบั จาํ กดั 10 จะได้ 1 + 3 + 5 + 7 + … + 19 เป็นอนุกรมจาํ กดั เขียนแทนดว้ ย (2n 1) n1
(2) อนุกรมอนันต์ (Infinite series) คือ ผลบวกของแต่ละเทอมของลาํ ดบั อนนั ต์ เช่น ถา้ n เป็นเซตของจาํ นวนเตม็ บวก ให้ a1 , a2 , a3 , … , an , … เป็นลาํ ดบั อนนั ต์ จะได้ เป็นอนุกรมอนนั ต์ a1 a2 a3 ... an ... an n1
ตวั อยา่ งอนุกรมอนนั ต์ 1 = 1 1 1 ... 1 ... 2 3 n n1 n 1 (3) 32 (3)3 ... (1)n13n1 ... 1 3 32 33 ... (1)n13n1 ... =(1)n13n1 n1 =
การเขยี นอนุกรมโดยใช้เครื่องหมาย • เราสามารถเขียนอนุกรมไดใ้ นรูปของการใชเ้ ครื่องหมายแสดงผลบวก () นน่ั คือ • เม่ือ a1 + a2 + a3 + … + an เป็น อนกุ รมจาํ กัด เขียนแทนไดด้ ว้ ย n ak k 1 เช่น 2 22 23 . . . 26 6 2n n 1 1 + 3 + 5 + 7 + ... + (2n1) + ... + 19 = 10 (2n 1) n 1
การเขยี นอนุกรมโดยใช้เครื่องหมาย • เมื่อ a1 + a2 + a3 + … + an + … เป็น อนุกรมอนันต์ เขียนแทนไดด้ ว้ ย an n 1 เช่น 1 1 1 1 ... 1 ... 2 3 n n1 n 1 (3) 32 (3)3 ... (1) 3n1 n1 ... 1 3 32 33 ... (1)n13n1 ... (1) 3n1 n1 n 1
บทนิยาม 10.2.1 ให้ {an} เป็นลาํ ดบั และ S1 = a1 S2 = a1 + a2 S3 = a1 + a2 + a3 ---------------------- Sn = a1 + a2 + a3 + … + an n ak k 1 • จะเรียก Sn วา่ เป็นผลบวกย่อย (Partial Sum) ของ n เทอมแรก • เราเรียกลาํ ดบั S1, S2, S3, … = {Sn} วา่ ลาํ ดบั ของผลบวกย่อย (Sequence of Partial Sums)
บทนิยาม 10.2.2 ถา้ {Sn} เป็นลาํ ดบั ลู่เขา้ (Converge) ท่ีมีลิมิต เป็นจาํ นวน L หรือ lim Sn L เราจะกล่าววา่ n • อนุกรม an เป็นอนุกรมลู่เข้า (Convergent Series) n 1 • และเรียก L วา่ ผลรวม (Sum) ของอนุกรม • เขียนแทนดว้ ย a1 a2 a3 ... an ... an L n 1
บทนิยาม 10.2.3 ถา้ {Sn} เป็นลาํ ดบั ไม่ลู่เขา้ (Diverge) ท่ีมี lim Sn หรือ หรือแกวง่ เราจะกล่าววา่ n • อนุกรม เป็นอนุกรมไม่ลู่เข้า (Divergent Series) an n 1 • นนั่ คือ a1 a2 a3 ... an ... an แกวง่ n 1
ตวั อย่าง 10.2.1 จงพิจารณาวา่ อนุกรมต่อไปน้ีเป็นอนุกรมลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 1. 1 n 1 (2n 1)(2n 3) วธิ ีทาํ ตอ้ งหา Sn = a1 + a2 + a3 + … + an ก่อน เนื่องจาก an 1 แยกเป็นเศษส่วนยอ่ ย (2n 1)(2n 3)
ตวั อย่าง 10.2.1 (ต่อ)
ตวั อย่าง 10.2.1 จงพิจารณาวา่ อนุกรมต่อไปน้ีเป็นอนุกรมลู่เขา้ หรือไม่ลู่เขา้ 2. ln n n 1 n 1 วธิ ีทาํ ตอ้ งหา Sn = a1 + a2 + a3 + … + an ก่อน เน่ืองจาก an ln n n 1
10.3 อนุกรมเรขาคอณนุกิตร(มGเeรoขmาคeณtriิตc Series) รูปทวั ไปของอนกุ รมเรขาคณิต คือ a ar ar2 ar3 ... ar n1 ... ar n1 n1 เม่ือ a แทน เทอมที่ 1 (เทอมแรก) r แทน อตั ราส่วนร่วม (Common Ratio) ซ่ึง
อนุกรมเรขาคณติ (Geometric Series) ตวั อยา่ งอนุกรมเรขาคณิต 2 4 8 ... 2n ... มี a = 2 และ r = 2 1 x x 2 ... x n1 ... มี a = 1 และ r = x 1 1 1 ... (1) n1 1 + ... มี a= భ และ r= - భ 2 4 8 2n మ మ
ทฤษฎบี ท 10.2.4 • ให้ เป็ นอนุกรมเรขาคณิต และ a0 arn1 n 1 (1) ถา้ | r | < 1 แลว้ อนุกรมเรขาคณิต จะเป็นอนุกรมลู่เข้า และมีผลรวมเป็ น a 1 r (2) ถา้ | r | ≥ 1 แลว้ อนุกรมเรขาคณิต จะเป็นอนุกรมไม่ลู่เข้า นน่ั คือหาผลรวมไม่ได้
ตวั อย่าง 10.2.2 อนุกรมต่อไปนี้ เป็ นอนุกรมลู่เข้าหรือไม่ลู่เข้า (1) 1 + 3 + 9 + 27 + … วธิ ีทาํ
ตวั อย่าง 10.2.2 อนุกรมต่อไปนี้ เป็ นอนุกรมลู่เข้าหรือไม่ลู่เข้า (2) 1 1 1 ... 1 ... 5 52 5n วธิ ีทาํ
ตวั อย่าง 10.2.2 อนุกรมต่อไปนี้ เป็ นอนุกรมลู่เข้าหรือไม่ลู่เข้า 2 n 1 n 1 3 (3) วธิ ีทาํ
ตวั อย่าง 10.2.2 อนุกรมต่อไปนี้ เป็ นอนุกรมลู่เข้าหรือไม่ลู่เข้า (4) 3 5 n1 n 1 4 วธิ ีทาํ ดงั น้นั จึงเป็นอนุกรมไม่ลู่เขา้
อนุกรม p (p-Series) • รูปทวั่ ไปของอนุกรม p คือ 1 1 1 ... 1 ... 1 2p 3p np n 1 np 1p เม่ือ p เป็นจาํ นวนจริง • เช่น 1 1 1 ... 1 ... 2 3 n 1 1 1 ... 1 ... 23 n
ทฤษฎบี ท 10.2.5 • ให้ 1 เป็นอนุกรม p n 1 np (1) ถา้ p > 1 อนุกรม p จะเป็นอนุกรมลู่เข้า (2) ถา้ p 1 อนุกรม p จะเป็นอนุกรมไม่ลู่เข้า
ตวั อย่าง 10.2.3 อนุกรมต่อไปนี้ เป็ นอนุกรมลู่เข้าหรือไม่ลู่เข้า 1. 1 n 1 n3 วธิ ีทาํ
ตวั อย่าง 10.2.3 อนุกรมต่อไปนี้ เป็ นอนุกรมลู่เข้าหรือไม่ลู่เข้า 2. 5 n n 1 วธิ ีทาํ
การตรวจสอบการลู่เข้าของอนุกรม ในการตรวจสอบการลู่เขา้ ของอนุกรม อาจทาํ ไดห้ ลายวธิ ี แบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะใหญ่ๆ คือ • การหาผลรวมโดยตรง โดยการหา lim Sn • การใชท้ ฤษฎีในการตรวจสอบ n ต่อไปน้ีจะเป็นทฤษฎีในการตรวจสอบการลู่เขา้ ของอนุกรม ซ่ึงมีหลาย ทฤษฎีดว้ ยกนั แต่ในวชิ าน้ีจะขอกล่าวถึงเพียง 2 ทฤษฎีเท่าน้นั
ทฤษฎบี ท 10.2.6 การตรวจสอบการไม่ลู่เข้าโดยเทอมท่ี n (Divergent Test) กาํ หนดให้ เป็ นอนุกรม an n 1 ถา้ lim a n 0 n หรือ lim a n หาค่าไม่ได้ n แลว้ จะไดว้ า่ เป็นอนุกรมไม่ลู่เขา้ (Divergent series) an n 1
ตวั อย่าง 10.2.4 จงพิจารณาวา่ อนุกรมต่อไปน้ี เป็นอนุกรมลู่เขา้ หรือไม่ 1. n n 1 วธิ ีทาํ
Search