๒หน่วยที่ การเลือกใช้ภาษา ในการสอื่ สาร
การใช้ถอ้ ยคา กากรารเใลชส้ ือานกวในช้ภาษาไทย ในการสื่อสาร หวั ข้อเร่อื ง การสอ่ื สาร ระดับภาษา ผา่ นเสียง
แนวคิดสาคัญ การเลือกใช้ภาษาไทย ภาษากบั การส่ือสารเปน็ ส่งิ ทม่ี ีความสอดคใลนอ้ กงแาลระสดื่อาเสนนิารควบคู่กันไป เพราะภาษาเป็นเครือ่ งมอื ท่ีมนษุ ยใ์ ชใ้ นการส่อื สาร ในการบวนการสอ่ื สารท้ัง สอง่ฝายต้องพยายามทาความเขา้ ใจให้ตรงกัน ดังนน้ั ผสู้ ่งสารและรับสารจงึ ตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งการใช้ถ้อยคา สานวน ระดับของภาษา การ สอ่ื สารผ่านเสยี ง จงึ จาประสบความสาเร็จในการสื่อสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
ก“หเาสวั รใียสจงข่ือ” อสหงามภราผายษ่าถนางึ เเสเพสียรียงางะททมี่ กุ นภุษายษเ์ าปใลช่ง้เสอียองกกพมาูดารเเพปใเ็ลนนอื่ ือสสกือ่่ือกาคใใรนชวสกา้ภ่ืมอาราหสเษมปา็าานรยไหทเลปยัก็ น มนุษยก์ ลุ่มหนึ่งๆ จะเลือกเสียงมาใช้เพยี งจานวนหนึ่ง ภาษาแตล่ ะ ภาษาจงึ มเี สยี งตา่ งกัน ภาษาไทยมีการกาหนดเสียงทใี่ ช้อยู่ ๓ ประเภทตามลักษณะของ เสยี ง
เสียงในภาษาไทยแบง่ ออกเป็ น ๓ ประเภท ๑ เสียงพยญั ชนะ เสียงพยญั ชนะ จาแนกเปก็ นา๒รเปลรือะเกภใทชไ้ภด้แากษ่ าไทย เสียงพยญั ชนะตน้ และเสียงพยญั ชนะทา้ ย (ตวั สะกใดน) การส่ือสาร ๑.๑ เสยี งพยญั ชะตน้ คือเสียงท่ีปรากฏหนา้ สระในพยางค์ หนง่ึ ๆ เสียงในภาษาไทยทกุ พยางคจ์ ะขนึ้ ตน้ ดว้ ยเสียงพยญั ชนะตน้ เสมอ ซง่ึ อาจจะเป็นเสียงเด่ียว หรอื เสยี งควบกลา้ ก็ได้ พยญั ชนะตน้ เด่ียว คือ พยางคท์ ่ีออกเสยี งพยญั ชนะตน้ ๑ เสียง เช่น คาวา่ ป่า เสยี งพยญั ชนะตน้ คือเสยี ง ป แกว้ เสยี งพยญั ชนะตน้ คือเสียง ก เรยี น เสียงพยญั ชนะตน้ คือเสยี ง ร
พยญั ชนะตน้ ควบกลา้ คือ พยางคท์ ่ีออกเสยี งพยญั ชนะตน้ ๒ เเนสชา่นยี มงาตคคดิ วาตบว่อา่ ๓กนัปเรโสาดยีบยงไไมดม่แ้ ีเกเสส่ รียยี งงลสพรยะแญั คล่นัะชนกวละตางน้ คใือนสภียางษากไทปายรรมใีเเสลนียืองกพกายใรญั ชสช้ภนื่อะาทสษ่ี าารไทย กวาง เสยี งพยญั ชนะตน้ คือสยี ง กว ตรวจ เสียงพยญั ชนะตน้ คือสยี ง ตร เรื่องน่ารู้ ปัจจุบันมคี าทยี่ มื มาจากภาษาอังกฤษหลายคาทท่ี าใหม้ กี ารออก เสยี งพยญั ชนะควบกลา้ เพม่ิ ขนึ้ อกี หลายคู่ เช่น แบรก ฟลุก บลอ็ ก ฟรี
๑.๒ เสยี งพยญั ชนะท้าย (ตวั สะกด) คือ เสยี ง พยญั ชนะท่ีสามารถปรากฏตามหลงั สระ มกี ๙ารเสเลยี งือดกงั นใี้ช้ภาษาไทย ๑. แม่ ก กา คอื พยางค์ท่ีไมม่ ีเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์ เชน่ แม่ ใคร มา ในการสื่อสาร2. แม่ กก คอื พยางคท์ ่ีมเี สียง ก ท้ายพยางค์ เชน่ ทุกข์ สขุ มรรค 3. แม่ กง คอื พยางค์ทม่ี เี สียง ง ท้ายพยางค์ เช่น องค์ ปรางค์ ทอง 4. แม่ กด คือ พยางค์ที่มเี สียง ด ทา้ ยพยางค์ เช่น อาทิตย์ สิทธ์ิ ครฑุ 5. แม่ กน คอื พยางค์ทมี่ เี สยี ง น ทา้ ยพยางค์ เช่น สถาน การ บริเวณ 6. แม่ กบ คือ พยางคท์ ี่มีเสียง บ ท้ายพยางค์ เช่น กราบ กราฟ โลภ 7. แม่ กม คอื พยางค์ทม่ี ีเสียง ม ท้ายพยางค์ เชน่ ขนม กลม อาศรม 8. แม่ เกย คือ พยางคท์ ม่ี เี สียง ย ทา้ ยพยางค์ เช่น กลว้ ย ปลาย ผู้ชาย 9. แม่ เกอว คือ พยางค์ท่มี ีเสียง ว ท้ายพยางค์ เช่น แม้ว ไขเ่ จยี ว ปีนเกลยี ว
เรือ่ งนา่ รู้ ปัจจุบันมคี ายืมมาจากภาษาอกงั ากรฤษเลหือลากยใคชา้ทภที่ าาษใหา้มไกี ทารย ออกเสยี งพยญั ชนะท้ายเพมิ่ ข้นึ ในภาษาไทยในเชก่นารส่ือสาร ซ/s/ เป็นเสียงพยัญชนะทา้ ย เช่น แก๊ส ก๊าซ เทนนิส ฟ/f / เป็นเสยี งพยัญชนะทา้ ย เชน่ กอล์ฟ ออฟฟศิ มูฟออน ล/l/ เปน็ เสียงพยัญชนะทา้ ย เช่น เจล แอลกอฮอล์ เรยี ลไทม์
๒. เสียงสระ คอื เสยี งท่ีเปลง่ ออกมาจากลาคอโดยไม่ทาใหอ้ วยั วะเหนือ เสน้ เสียงขนึ้ ไปส่นั สะบดั มีการเปล่ยี นแปลงรูปกรมาิ รฝีปเลากือแกลใะชระ้ภดาบั ษขอางไลทนิ้ ย ทาใหล้ มท่ีออกมาไมถ่ กู กกั หรอื ถกู บีบจนเกิดเป็นเสใยี นงเสกียาดรแสทื่รอกสาร เสยี งสระในภาษาไทยมี ๒ ปอระเภท คอื สระเดยี่ ว และสระ ประสม ๒.๑ สระเดยี่ ว คือสระท่ีออกเสียงจากอวยั วะในช่องปากเพียงตาแหน่ง เดียวตลอดเสียง มีทงั้ หมด ๑๘ เสียง ไดแ้ ก่ สระเสยี งสนั้ อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ เอาะ เออะ โอะ สระเสียงยาว อา อี อื อู เอ แอ ออ เออ โอ
ภเ๒มา.ื่อ๑ษอาสอไรทกะเยสปมียรี งะ๓สจมเาสกียคองือวไยัสดวรแ้ะะกตท่า่ีอแอหกนเส่งหียงนม่ึงาแจลาว้กเอปวลยักี่ยวนะาไทรปี่อใเออลนยกอู่ ือเกสีกกีตยางาใรแมชหาสก้นภ่ืกอ่งวหาสา่ ษน๑า่ึงารตใไานแทหนย่ง อวั เกิดจากสระ อู ประสมกบั สระ อา เอือ เกิดจงากสระ อือ ประสมกบั สระ อา เอีย เกิดจากสระ อี ประสมกบั สระ อา
๓. เสยี งวรรณยกุ ต์ คอื เสยี งระดบั สงู ตก่าาในรพเลยาืองกค์ใหชร้อืภคาาษาไทย ในภาษาไทยมี ๕ เสยี ง เสียงสามญั เป็นเสยี งระดบั กลางท่ีไมป่ รากฏรูปวรรณยใกุ นต์กเาชน่รสปื่ลอาสแาพร ยาว เสียงเอก เป็นเสียงวรรณยกุ ตร์ ะดบั ต่า เช่น สมุ่ เส่ยี ง อาบ เสยี งโท เป็นเสียงวรรณยกุ ตท์ ่ีมีการเปล่ยี นระดบั แบบเปล่ียนลง เชน่ บา้ คา่ ยาก เสยี งตรี เป็นเสยี งวรรณยกุ ตร์ ะดบั สงู เชน่ เชิต้ รู้ นบั เสยี งจตั วา เป็นเสียงวรรณยกุ ตท์ ่ีมีการเปล่ยี นระดบั แบบเปล่ียนขนึ้ เช่น ขา สวย หนาว
การใชเ้ สยี งส่อื ความหมาย เป็นเรอ่ื งท่ีผพู้ ดู จะตอ้ งคานงึ ถงึ ความถกู ตอ้ ง ในการออกเสียง เพราะ เสยี งแตล่ ะเสยี งมีความสาคญั ตอ่ ความหมายของถอ้ ยคา โดยพจิ ารณาดงั ตวั อยา่ ง ต่อไปนี้ การเลือกใช้ภาษาไทยตวั อยา่ งท่ี ๑ การออกเสยี งพยญั ชนะ ในการสื่อสารกา ขนึ้ ตน้ ดว้ ย /ก/ หมายถงึ ช่ือนกขนาดกลางชนิดหน่งึ มีปากใหญ่หนา ตวั และตาสดี า ปลา ขนึ้ ตน้ ดว้ ย /ปล/ หมายถงึ ช่ือสตั วน์ า้ เลอื ดเย็น มีกระดกู สนั หลงั หายใจทางเหงือก ตวั อยา่ งท่ี ๒ การออกเสียงสระ ปา ใชเ้ สียงสระ อา หมายถึง ซดั ไปดว้ ยอาการยกแขนขนึ้ สงู แลว้ เอียงตวั ปี ใชเ้ สียงสระ อี หมายถงึ ช่วงเวลาท่ีโลกโคจรรอบดวงอาทิตยร์ อบหนง่ึ มีเวลาประมาณ ๓๖๕ วนั ตวั อยา่ งท่ี ๓ การออกเสียงวรรณยกุ ต์ ป่า ใชเ้ สียงวรรณยกุ ต์ เอก หมายถงึ ท่ีท่ีมีตน้ ไมต้ ่างๆกนั ขนึ้ อยรู่ วมกนั มากมาย ปา้ ใชเ้ สยี งวรรณยกุ ต์ โท หมายถึง พ่ีสาวของพ่อหรอื แม่
กจิ กรรมหน่วยที่ ๒ การเลือกใช้ภาษาไทย จงยกตวั อยา่ งคาประเภทต่อไปน้ี ขอ้ ละ ๕ คา ในการส่ือสาร ๑. คำพอ้ งรูป (เขียนเป็นค)ู่ ๒. คำพอ้ งเสยี ง (เขยี นเปน็ คู่ หรือ 2 คำขน้ึ ไป) ๓. คำพ้องควำมหมำย (คำไวพจน)์ ๔. คำท่อี อกเสียงตัวสะกด แม่ กน (ทีใ่ ชต้ วั สะกดไมต่ รงมำตรำ) ๕. คำทอี่ อกเสียงตวั สะกด แม่ กด (ทใี่ ชต้ วั สะกดไมต่ รงมำตรำ) ๖. คำทยี่ ืมมำจำกภำษำองั กฤษ ที่ออกเสียงตวั สะกดแบบสำเนยี งภำษำอังกฤษได้
กจิ กรรมหนว่ ยท่ี ๒ การเลือกใช้ภาษาไทย ในการส่ือสาร
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: