แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ 33102 ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ จัดทาโดย นายณฐั วฒุ ิ นามเดช ตาแหน่ง ครผู ้ชู ่วย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ตาบลช่างเค่ิง อาเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษสานกั งานการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 Do It Yourself ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1-4 เวลา 8 ช่ัวโมงเรื่องหลกั /หวั เรอ่ื ง Relation with Other Peopleสาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด หน่วยการเรียนรู้นีม้ ีจุดม่งุ หมายให้นกั เรียนรู้จักข้อดี/ข้อเสียของการมีเพื่อนร่วมที่อย่อู าศยั และข้อตกลงร่วมกัน ในบทเรียนและจากการศกึ ษาค้นคว้าและนาเสนอในห้องเรียน นกั เรียนจะได้พดู แสดงบทบาทสมมติเก่ียวกบั การซ่อมแซม อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในที่อย่อู าศยั ฟังบคุ คลสนทนาเก่ียวกับการสารวจท่ีพกั ก่อนเข้าอาศยั อ่านออกเสียงบทสนทนา เขียนบรรยายประสบการณ์ ให้คาแนะนา และรายงานการศกึ ษาค้นคว้าเก่ียวกบั ข้อตกลงของการอย่รู ่วมกนั นอกจากนี ้ ยงั ได้เรียนรู้คาศพั ท์ที่เกี่ยวข้องกบั เหตกุ ารณ์ดงั กล่าว รวมทงั้ หน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ท่ีเป็นพืน้ ฐาน ของกิจกรรมฟัง พดู อา่ น เขยี นในหนว่ ยการเรียนรู้นี ้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดสาระที่ 1 : ภาษาเพ่ือการสือ่ สารมาตรฐานต 1.1 ม.4-6/4, ต 1.2 ม.4-6/1สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด การใช้ทกั ษะ เคารพสทิ ธขิ องตนเองและผอู้ น่ื : ไมล่ ะเมิดสิทธิชีวติ การใช้เทคโนโลยี เสรีภาพของผ้อู ่ืนทกั ษะ/กระบวนการทักษะเฉพาะวิชา ทกั ษะการคิดการฟงั : จับใจความสาคัญ - การคดิ ทใ่ี ช้ในการสอื่ สารการพูด : สนทนาโตต้ อบเก่ยี วกับการสารวจทพ่ี กั กอ่ นเขา้ อาศัย - การคิดวิเคราะห์ - การรวบรวมข้อมลู การซอ่ มแซมอปุ กรณ์ - การสรปุ ยอ่การอา่ น : อา่ นออกเสียง อา่ นจับใจความสาคัญการเขยี น : เขียนบรรยายประสบการณ์ และเขียนรายงานจาก การศกึ ษาคน้ คว้าความเขา้ ใจที่ย่ังยนืนักเรียนเขา้ ใจว่าการฝกึ ใชค้ าศพั ท์ สานวนเกย่ี วกบั การซ่อมแซมอปุ กรณ์ การเล่าประสบการณ์ การใหค้ าแนะนาการมีเพ่อื นร่วมที่อยูอ่ าศยั ฯลฯ จะทาใหน้ ักเรยี นสนทนา อา่ น และเขยี นได้ดีย่งิ ข้ึนความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 Do It Yourself ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6เรอ่ื งหลัก/หัวเรอื่ ง Relation with Other People เวลา 2 ชว่ั โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวัดผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทต่ี อ้ งร้แู ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ช้นิ งาน การวัดผลและประเมินผล และตัวชีว้ ัด จับใจความสาคญั จาก การใสเ่ ครอ่ื งหมายลง ประเมนิ ผลจากจานวนต 1.1 ม.4-6/4 ขอ้ ความท่ีอ่าน หน้าข้อความงานบ้าน คาตอบที่ถกู ตอ้ งโดยใช้ หรอื งานซอ่ มแซมที่ เกณฑผ์ ่านรอ้ ยละ 60ต 1.2 ม.4-6/1, สนทนาโตต้ อบข้อมูล เจา้ ของเป็นผ้กู ระทาจาก เกย่ี วกับตนเองและเรื่อง การอ่านขอ้ ความใน ต่าง ๆ ใกลต้ วั อย่าง กิจกรรม New ต่อเนอ่ื งเหมาะสมใน Language (Worksheet สถานการณจ์ าลองที่ 1) เกดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียน ถอ้ ยคาพูดถาม-ตอบ ประเมนิ การพดู ถาม- เก่ียวกบั สิ่งทีไ่ มค่ าดคิดวา่ ตอบโดยใช้แบบประเมิน เพ่ือนสามารถทาได้ดว้ ย การสนทนากิจกรรมคู่ ตนเอง และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้ความรู้- คาศัพท์กิจกรรม New Language- repair (v.): to fix something that is broken or damaged (ซอ่ ม)- garage (n.): a place where you have a car repaired (อซู่ อ่ มรถ)- fix (v.): to mend something (ซอ่ ม)กจิ กรรม Practice- faucet (n.): a metal piece of equipment that you turn to control the flow of water or other liquid from a pipe, especially on a sink or bathtub (กอ๊ กน้า)กิจกรรม Pronunciation- leak (v.): to let something (such as liquid or gas) in or out through a hole in a surface (รัว่ )
- สานวนภาษา - - หนา้ ทภี่ าษา - To talk about things that need to be done - To ask and answer about household tasks and repairs - โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - Have + Something + Past Participle กิจกรรมการกจิ เกรียรรนมรู้New Language1. นาเข้าสบู่ ทเรียน - ครเู ขียนคาวา่ Do It Yourself บนกระดาน และถามความหมายโดยอาจใชแ้ นวคาถามดังนี้ - What does ‘it’ refer to? - What does ‘do’ refer to? - What does ‘yourself’ refer to? - Do you clean your bedroom yourself? Who cleans it? - ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรปุ ความหมายของ Do It Yourself - It = doing / repairing / fixing / painting things - Do It Yourself = You yourself do it instead of paying someone else do it. - ครูถามนักเรยี นวา่ งานซอ่ มแซมอะไรบา้ งทนี่ ักเรียนทาเอง และพูดคยุ ถงึ วัฒนธรรมเกย่ี วกบั เร่อื งน้ี - What are the repairing jobs you do yourself? - Do you repair the computer yourself? Etc. CULTURE CORNER - Do It yourself หมายถงึ การที่เราลงมอื ทาบางสงิ่ บางอย่างด้วยตนเอง เช่น ซอ่ มแซมของใช้ที่ชารุด ทาสีบ้าน ล้างรถ ประกอบเคร่ืองใช้ต่าง ๆ เป็นต้น เป็นกิจกรรมยามวา่ งท่ีเป็นที่นิยมในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศ อ่ืน ๆ ซึ่งเรียกยอ่ ๆ วา่ DIY2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ครูบอกนักเรียนว่าในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้นี ักเรยี นจะได้อ่านขอ้ ความสั้น ๆ ของบุคคลที่ซ่อมเครอ่ื งใชห้ รือ อุปกรณ์ภายในบ้านเองและจ้างให้ผู้อ่ืนทา นักเรียนจะได้ฝึกอ่านออกเสียงข้อความที่กระทาเองและ จดั การใหผ้ ู้อ่ืนกระทาใหแ้ ละสนทนาถาม-ตอบเก่ยี วสงิ่ ทไี่ มค่ าดคดิ ว่าเพื่อนสามารถทาได้ด้วยตนเอง
3. อา่ นข้อความ - ครูให้นกั เรยี นเปดิ หนังสือเรยี น หนา้ 32 กิจกรรม New Language ใหน้ ักเรียนดูภาพและถามนกั เรียน เกย่ี วกับภาพดังนี้ - Where are the people? - What are they doing? - In which picture does the owner fix / mend / repair himself / herself? - In which picture doesn’t the owner fix / mend / repair himself / herself? - ครูเปดิ ซีดีบนั ทกึ เสยี ง CD 1 Track 27 นักเรียนฟงั ข้อความในกิจกรรม New Language และอ่านในใจ ตาม แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบคาถามใน Worksheet 1 Worksheet 1 Directions: What are the household problems that the owner does it himself/herself. Tick / in front of them. ______ 1. Painting the room. ( / ) ______ 2. Repairing the car. ( / ) ______ 3. Fixing the sink. ( ) ______ 4. Mending the roof. ( ) - ครูส่มุ ถามนกั เรียนและใหน้ กั เรียนช่วยกันเฉลยคาตอบ - ครูประเมินผลจากจานวนคาตอบท่ถี กู ต้องของคาถามที่ครเู ขียนบนกระดานโดยใชเ้ กณฑผ์ า่ นร้อยละ 60 - ครเู ปิดซดี บี ันทกึ เสยี ง CD 1 Track 27 และให้นักเรยี นออกเสยี งตาม4. พูดถาม-ตอบเกี่ยวกับสิ่งที่ทาได้ดว้ ยตนเอง - ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาสัง่ ในกิจกรรม New Language ในหนงั สอื เรยี น หน้า 32 - ให้นักเรียนจับคกู่ ันถาม-ตอบด้วยประโยคคาถามข้างต้นเกี่ยวกบั Painting the room, repairing the car, Fixing the sink, Mending the roof และใหน้ ักเรยี นรายงานคาตอบท่ีไมค่ าดคิดวา่ เพือ่ นจะทาดว้ ย ตนเองได้ให้เพ่ือนใน ช้ันเรียนฟงั และใหเ้ พือ่ นในชนั้ เรียนคนอื่น ๆ ซักถามข้อมูลต่าง ๆ จากเจา้ ของคาตอบ เช่น คาตอบท่ีไม่คาดคดิ - My partner repaired the car herself. ซักถาม B: What was the problem with the car? A: It got a flat tire. C: What did you do? A: I replaced it with a spare one. D: Could you do it yourself? A: Yes, I have read about it in a car book. etc. - ครปู ระเมนิ การพูดถาม-ตอบโดยใช้แบบประเมนิ การสนทนากิจกรรมคู่ และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดับพอใช้
5. ใหค้ วามรูท้ างด้านภาษา - ครูอธบิ ายความหมายของประโยค The owners had the sink fixed and roof mended. ว่าเจ้าของ ไมไ่ ดซ้ อ่ มเอง แตจ่ ัดหาคนมาซ่อมให้ เชน่ อาจจะจา้ งหรอื วาน เปน็ ต้น และบอกว่านักเรียนจะไดเ้ รียนเกีย่ วกับเรอื่ งนีอ้ ีก คร้ังในชั่วโมงต่อไปกจิ กรรม Practice1. พูดบทสนทนาเกีย่ วกบั การแกป้ ัญหาอปุ กรณ์ภายในบา้ นหรอื กจิ ธรุ ะส่วนตัว - ครูเปิดซีดบี นั ทึกเสยี ง CD 1 Track 28 ใหน้ กั เรียนฟงั บทสนทนาและอ่านออกเสียงบทสนทนาในกจิ กรรม Practice - ใหน้ กั เรยี นจับค่พู ดู บทสนทนาโดยสลับกันเป็น A และ B ครเู ดินสงั เกตเพ่อื ให้แน่ใจว่านกั เรียนสามารถพูดได้ อยา่ งถูกต้อง - ครูให้นกั เรยี นจบั ค่เู ขยี นบทสนทนาของตนเองตามแนวบทสนทนาในกิจกรรม Practice ในหนงั สอื เรยี น หน้า 32 โดยใช้สถานการณ์และรูปภาพในกิจกรรม New Language หรือสถานการณ์ทคี่ รใู ห้เพิ่มเตมิ ดังนี้ Household Problems 1. The roof is leaking. 2. The paint is peeling. 3. The toilet is clogged. 4. The faucet is dripping. 5. The sink is overflowing. 6. The circuit breaker tripped. 7. Rake the leaves. 8. Cut/trim the hedges. 9. Mow the lawn. - ครสู ุ่มนักเรยี นบางคู่พดู บทสนทนาให้เพ่ือนฟัง - ครูประเมินการพูดบทสนทนาโดยใชแ้ บบประเมนิ สนทนากิจกรรมคู่ และใช้เกณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้กจิ กรรม Pronunciation1. ออกเสยี ง stressed ในคา - ครใู ห้นักเรียนทากจิ กรรม Pronunciation ในหนังสือเรียน หน้า 32 ครเู ปิดซีดีบนั ทกึ เสียง CD 1 Track 29 ครใู ห้นกั เรียนชป้ี ระโยคที่ได้ยนิ และออกเสยี งตาม - ให้นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงและพูดออกเสียงตามหลาย ๆ ครั้ง ครูเดินสังเกตเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียน สามารถออกเสยี งได้อย่างถูกต้อง - ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ วา่ เราจะลงเสยี งหนักในคาสาคัญของประโยค เช่น คานาม คากริยา และจะ ไม่ลงเสยี งหนักในคาทีใ่ ช้ประกอบโครงสร้างเช่น คานาหน้าคานาม (a, an, the) คาบุพบท และคาไม่ สาคัญอ่ืน ๆ
- ครใู ห้นกั เรยี นออกเสียงขอ้ ความในกิจกรรม New Language โดยลงเสยี งหนกั ทคี่ านาม คากรยิ า และคา สรรพนามสะท้อน (Reflexive Pronouns) - ครูประเมนิ การอา่ นออกเสียงโดยใช้แบบประเมินการอ่านออกเสียง และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดับพอใช้กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา - ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน New World 6 หนา้ 32 2. ซดี ีบนั ทกึ เสยี ง 3. เครื่องเลน่ ซีดี 4. Worksheet 1 5. สื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ - http://diybytwo407.blogspot.com/2013/02/diy.html
บันทึกผลหลงั การสอนแผนที่.......- ดา้ นความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านทกั ษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปญั หา/ข้อสงั เกต/ข้อเสนอแนะการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณฐั วุฒิ นามเดช) ครูผู้สอน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 Do It Yourself ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6เรอ่ื งหลกั /หวั เรอื่ ง Relation with Other People เวลา 2 ชว่ั โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวัดผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรียนรู้ สงิ่ ท่ตี ้องรู้และปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวัดผลและประเมินผล และตัวช้วี ดั เลอื กใชภ้ าษา นา้ เสียง การแสดงบทบาทสมมติ ประเมนิ การแสดงต 2.1 ม.4-6/1 และกิรยิ าท่าทางเหมาะ เกย่ี วกับงานบ้านและ บทบาทสมมติโดยใช้แบบ กบั ระดับของบุคคล การซ่อมแซมอปุ กรณ์ ประเมินการแสดง โอกาสและสถานทตี่ าม เครื่องใชใ้ นบ้าน บทบาทสมมติ และใช้ มารยาทสังคมและ เกณฑ์ผา่ นระดับพอใช้ วฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษาความรู้- คาศัพท์กจิ กรรม Conversation- warranty (n.): a written agreement in which a company selling something promises to repair or replace it if there is a problem within a particular period of time (ใบรับประกนั สินคา้ )- exactly (adv.): correctly (อยา่ งถกู ต้อง)- actually (adv.): really (แท้จรงิ )กจิ กรรม Listening- closet* (n.): a small room, cupboard (ตู้)- gas furnace* (n.): a shut-in fireplace for heating water (เตาทาความร้อน)- install* (v.): to put equipment or furniture into position so that it can be used (ตดิ ตัง้ )- renovate* (v.): to repair and paint an old building, a piece of furniture, etc. so that it is in good condition again (ซ่อมแซม, ปรบั ปรุง)- lease* (n.): the legal agreement by which the owner of land or a building agrees to let another have the use of it for a certain time for a regular payment (called rent) (สญั ญาเช่า)- guarantor* (n.): the person who becomes responsible when you can not adhere to contractual agreements (ผ้คู า้ ประกัน)
- contract* (n.): a legal agreement between two people or organizations, especially one that involves doing work for a particular amount of money (สญั ญา, ข้อตกลง) - deposit* (n.): a sum of money that is paid by somebody when they rent something and that return them if they do not lose or damage the thing they are renting. (เงินประกัน) Note: * see in audioscript - สานวนภาษา กจิ กรรม Conversation - You’re kidding! หมายถึง ล้อเลน่ หรือเปล่า แกล้งอากันหรือเปลา่ เป็นการปฏเิ สธแบบสภุ าพ - I couldn’t agree with you more. เป็นสานวนท่ีหมายถึง เห็นด้วยอย่างมาก ถึงข้ันที่ไม่ สามารถยอมรับความเห็นอ่นื ได้อีกแลว้ - My goodness! เป็นคาอุทานแบบสุภาพ ใช้ไดท้ ั้งในเชิงประหลาดใจและแสดงความผิดหวัง ตรงกับคาใน ภาษาไทยวา่ “เจ้าประคุณเอ๋ย” หรอื “อะไรกนั เนย่ี ” - What a mess! หมายถงึ นมี่ นั อะไรกนั น่ี ! เปน็ คาอทุ านซึง่ แสดงถึงความโมโห ผิดหวงั หรอื ไมอ่ ยาก เชอื่ - You’re absolutely right. เปน็ สานวนที่เนน้ ยา้ วา่ เหน็ ด้วยอย่างย่ิง - หน้าทภี่ าษา - To talk about things that need to be done - To discuss household tasks and repairs - โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Have + Something + Past Participle กิจกรรมการกจิ เกรียรรนมรู้Conversation1. นาเข้าสู่บทเรียน - ครูเขยี นคาวา่ household chore บนกระดาน ถามความหมายและใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ยกตัวอย่าง ครู เขยี นตัวอยา่ งงานบ้านที่นกั เรียนบอกบนกระดาน - ครูถามนกั เรียนเก่ยี วกับงานบา้ นดงั นี้ - What household chore do you often do? - Do you like it? - ครูให้นักเรียนดูภาพขวามอื ตอนบนในหนงั สอื เรยี น หนา้ 33 ชกั ชวนนักเรียนพดู คุยเกีย่ วกับรูปภาพ โดยใช้ แนวคาถามดงั นี้ - Where? What are there in the picture? - What causes a pile of dirty dishes?
2. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ครูบอกนักเรยี นว่าในหนว่ ยการเรยี นรูน้ ้ีนักเรียนจะได้ฝกึ การออกเสียงบทสนทนาและฟงั บุคคลสองคนคยุ กนั นักเรยี นจะต้องอ่านออกเสียงใหถ้ กู ตอ้ งตามหลักการอา่ นและสามารถตอบคาถามเก่ียวกบั บทสนทนา ได้3. อา่ นบทสนทนา - ครูเปิดซดี ีบนั ทกึ เสยี ง CD 1 Track 30 กิจกรรม Conversation ให้นักเรียนฟงั โดยยังไมใ่ หน้ กั เรียนเปดิ หนังสือเรยี น ให้นกั เรียนช่วยกนั ฟงั และบอกวา่ บุคคลในบทสนทนาพูดคุยกันเก่ยี วกับเรอ่ื งอะไร - ให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 33 และจับคู่กันอ่านบทสนทนาในใจ เพื่อหาคาตอบใน กจิ กรรม About the Conversation ในหนังสือเรียน หนา้ 33 - ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันเฉลยคาตอบ (ดูเฉลยทา้ ยเล่ม) ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมในกรณีท่นี ักเรียนยงั ตอบไม่ ถูกตอ้ ง4. อา่ นออกเสียง - ครูเปิดซดี ีบันทกึ เสียง CD 1 Track 30 ให้นักเรยี นฟัง หยดุ ซีดบี นั ทกึ เสียงเมื่อจบคาพูดของบคุ คลเพื่อให้ นักเรียนฝึกออกเสียงตาม - ครูให้นกั เรยี นจับคกู่ นั ฝึกอา่ นบทสนทนาในหนงั สอื เรียน หน้า 33 ครูอาจจะสุ่มนกั เรียนบางคอู่ ่านในชั้น เรียนสว่ นนกั เรยี นคู่อืน่ ๆ ครอู าจจะนัดหมายมาอา่ นใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน - ครปู ระเมนิ การอ่านออกเสยี งโดยใชแ้ บบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง และใช้เกณฑผ์ ่านระดับพอใช้5. พัฒนา Conversation Strategy - ครใู ห้นกั เรยี นดกู จิ กรรม Conversation Strategy ในหนังสือเรยี น หน้า 33 พร้อมให้นกั เรียนอา่ นคาใน แถบสีฟ้า ให้นักเรียนช่วยกันดปู ระโยคก่อนหน้าและข้อความต่อจากคาพดู เหล่านี้ ถามนักเรยี นว่า คาพดู เหล่านี้ใช้เพือ่ อะไร ใช้เม่อื ไร แลว้ ครูสรปุ ให้นักเรยี นฟงั6. แสดงบทบาทสมมติ - ครใู หน้ ักเรยี นจบั ค่เู ขยี นบทสนทนาและแสดงบทบาทสมมติ โดยใช้แนวบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 33 และใช้สานวนใน Conversation Strategy โดยให้นักเรยี นสมมตปิ ระเด็นและปัญหาเอง - ครูประเมินการแสดงบทบาทสมมติโดยใชแ้ บบประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ และใช้เกณฑผ์ ่านระดับ พอใช้กจิ กรรม Listening1. นาเข้าสูบ่ ทเรียน - ครูชกั ชวนนกั เรยี นพดู คยุ ถงึ ทอี่ ยู่อาศัยที่นกั เรยี นพกั อยูใ่ นปจั จบุ ันโดยใช้แนวคาถามดังน้ี - Who lives in a house? - Who lives in an apartment? (or a dormitory, boarding house, hostel, lodgings) - What problems have you ever faced in the place you lived in? - How did you solve the problem?2. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - ครบู อกนกั เรียนว่าในหนว่ ยการเรยี นรู้นีน้ ักเรียนจะได้ฟังบคุ คลสองคนพูดคุยกัน โดยทบี่ ุคคลหน่ึงเปน็ ผู้หญงิ ชื่อ Stephanie กาลงั ย้ายทอ่ี ยแู่ ละหาท่ีอยใู่ หม่ ส่วนอกี คนหน่ึงเปน็ เจา้ ของอพาร์ตเมนต์ หลังจากฟังแลว้ นักเรียนจะไดฝ้ ึกสรุปใจความโดยการเตมิ ข้อความในแผนผังในกจิ กรรม Listening และแสดงความ คดิ เหน็ เกี่ยวกับเรือ่ งท่ฟี ัง
3. กจิ กรรมก่อนฟงั - ครูให้นักเรียนช่วยกันคิดว่าถ้านักเรียนเป็น Stephanie กาลังย้ายท่ีอยู่และไปดูอพาร์ตเมนต์เพ่ือหาท่ีอยู่ ใหม่ นกั เรียนจะขอดูและถามถึงเร่อื งอะไรบา้ ง ให้นักเรียนจับคู่กันเขียนรายการ - What should you look for when you evaluate a new place to live? - ครูส่มุ นักเรยี นบางคูม่ าเขยี นบนกระดานและใหค้ ู่อ่ืน ๆ เพมิ่ เติมในกรณีตอบไม่เหมอื นกนั ครชู ว่ ยเพิ่มเติม อธิบายความหมายคาศพั ท์ทนี่ ักเรียนไม่ทราบและจดั หมวดหมู่ ซึ่งอาจจะได้แนวทางดังนี้ 1. general information and rules/conditions: - lease, guarantor, contract, deposit, cost, paying 2. utilities: electricity, light bulbs, water 3. furniture, equipment, and other service (available/work or not): - window, door, bathroom, bed, carpet, kitchen - washing machine, elevator, air-conditioner, gas furnace - internet, telephone, security, decoration, hot water 4. surroundings: - fresh air, space, transportation, near the market, trees, garden4. ฟังบทสนทนา - ครใู ห้นกั เรียนจับคู่และเปดิ ซีดีบันทกึ เสียง CD 1 Track 31 กจิ กรรม Listening ใหน้ ักเรียนฟังดังนี้ 1) รอบที่ 1 ใหฟ้ ังวา่ สิ่งท่ี Stephanie ขอดูหรือถามมีอะไรบ้าง - What things did Stephanie look for or ask about? 2) ให้นกั เรยี นดูแผนผังในกิจกรรม Listening ในหนังสือเรียน หน้า 33 และถามว่านักเรียนตอ้ งฟงั ข้อมูลใน ประเดน็ ใดเพอ่ื เติมขอ้ มลู ในแผนผงั 3) สมุ่ ถามข้อมูลทน่ี ักเรียนเติมในแผนผังและเปิดซดี ีบันทึกเสียงใหน้ กั เรียนฟังอกี ครง้ั เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นแน่ใจ ในคาตอบ5. ประเมินการฟัง - ครูประเมินการฟังเพ่ือจับใจความสาคัญจากจานวนคาตอบท่ีถูกต้องในการเติมข้อมูลลงในแผนผัง กจิ กรรม Listening ในหนงั สือเรียน หน้า 33 โดยใช้เกณฑก์ ารผา่ นร้อยละ 60กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา - ครูให้นักเรียนเขียนข้อความเล่าประสบการณ์เกีย่ วกบั การหาทีอ่ ยู่ใหม่และปัญหาท่พี บ แลว้ อ่านให้เพือ่ นใน ชน้ั เรยี นฟัง - ครูให้นักเรียนเขียนรายการงานบ้านท่ีไม่ชอบทาที่สุดมาคนละ 4 รายการ และนามารวมกันเพื่อรวม รายการท่ีไมซ่ า้ กนั มาทาแบบสอบถามและสรปุ สถติ ิเป็นรอ้ ยละ ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New World 6 หนา้ 33 2. ซดี บี นั ทกึ เสียง 3. เครอื่ งเลน่ ซีดี 4. ส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ - www.oknation.net/blog/print.php?id=654300
บนั ทึกผลหลังการสอนแผนที่.......- ด้านความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านทักษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปัญหา/ขอ้ สังเกต/ข้อเสนอแนะการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณฐั วฒุ ิ นามเดช) ครูผูส้ อน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Do It Yourself ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6เรื่องหลัก/หัวเร่อื ง Relation with Other People เวลา 2 ช่วั โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทตี่ อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ิได้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวดั ผลและประเมินผล และตวั ชว้ี ัด เขยี นประโยคและ ขอ้ เขียนประโยคบรรยาย ประเมินการเขยี นต 1.1 ม.4-6/3 ขอ้ ความให้สัมพนั ธ์กับสื่อ ส่งิ ทนี่ ักเรยี นจะปรบั ปรงุ บรรยายสงิ่ ท่ีนกั เรียนจะต 1.3 ม.4-6/1,ต 4.1 ม.4-6/1 ทไี่ ม่ใชค่ วามเรยี ง ภายในบ้านจากภาพที่ ปรบั ปรุงภายในบ้านโดย เหน็ ในกิจกรรม ใช้เกณฑ์การประเมินการ Grammar C เขียน และใช้เกณฑผ์ ่าน ระดับพอใช้ เขยี นนาเสนอข้อมลู ข้อเขยี นบรรยายความ ประเมนิ การเขยี นโดยใช้ เกย่ี วกับตนเอง เป็นจริงเกย่ี วกับการ เกณฑก์ ารประเมนิ การ เหตุการณ์ เร่อื งตาม บริการ/ เขียน และใช้เกณฑ์ผ่าน ความสนใจของสังคมใน งานบา้ น/โรงเรยี น ระดบั พอใช้ สถานการณ์จาลองที่ เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน ชุมชนความรู้ - คาศัพท์ กิจกรรม Grammar - interior designer (n.): a person who chooses furnishings and sets up a house or something else (ผอู้ อกแบบและตกแตง่ ภายใน) - สานวนภาษา - - หนา้ ทภ่ี าษา - To talk about things that need to be done - To discuss household tasks and repairs - โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Have + Something + Past Participle - Have + Person + Verb - Need + Gerund or Passive Infinitive
กิจกรรมการเรียนรู้กิจกรรม Grammar1. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้- ครูบอกนกั เรยี นวา่ ในหนว่ ยการเรยี นรู้นน้ี ักเรยี นจะไดเ้ รียนรกู้ ารใช้ Have + something + PastParticiple, Have + Person + Verb และ Need + Gerund or Passive Infinitive เพอ่ื นาไปใชพ้ ดูและสอื่ สารเกี่ยวกับการซ่อมแซม จัดการสิ่งของให้ไดร้ ับการกระทา2. นาเสนอความหมายและการใช้- ครูนาเข้าสู่บทเรยี นโดยถามนกั เรียนและเขยี นประโยคคาถามบนกระดานดา ถ้านกั เรยี นไม่แนใ่ จคาตอบให้นกั เรยี นดูตวั อยา่ งประโยคในกจิ กรรม New Language แนวคาถามอาจเป็นดงั น้ี- Why do you go to the dentist’s?(I want to have my teeth checked / examined / pulled out, etc.)- Why do you go to the hairdresser’s / barber shop / beauty salon?(I want to have my hair cut, I want to have my hair washed, I want to have my hairbleached, etc.)- Why do you go to a dry-cleaning shop?(I want to have my dress washed and ironed.)- ครูถามนกั เรียนถึงความหมายและส่วนประกอบของประโยคคาตอบขา้ งต้น โดยใช้แนวคาถามดังนี้ตวั อย่าง “I want to have my teeth checked.”คาถาม - Do you check your teeth yourself? (No) - Who will check your teeth? (A dentist) - Why do you go to the dentist’s? (I have a toothache. / My teeth need to be checked, / My teeth needs checking.)- ครใู หน้ ักเรยี นสังเกตคากรยิ า ‘check’ ที่ครขู ีดเส้นใต้ข้างตน้ และถามวา่ มรี ูปและความหมายต่างกันอย่างไร- ครใู หน้ กั เรยี นอ่านกรอบ Grammar ในหนังสอื เรยี น หน้า 34 ครสู มุ่ ถามความเขา้ ใจและอธิบายเพ่ิมเติมดงั น้ี1) ในส่วนแรก Have + Something + Past Participle- กริยา have สามารถผนั ได้ตาม tense - I had my teeth checked. = I did not check my teeth myself. A dentist checkedthem.- ใหน้ กั เรยี นพูดประโยคทีก่ าหนดให้อยใู่ นโครงสรา้ ง Have + Something + Past Participle เชน่ The plumber fixed my sink. = I had my sink fixed. ประโยคทกี่ าหนด The mechanic fixed my car brake. The painter painted the kitchen. The tailor hemmed my pants. The cleaner cleaned my house.
2) ในสว่ นทส่ี อง Have + Person + Verb - กรยิ า have สามารถผันได้ตาม tense - I had dentist check my teeth. = I went to the dentist’s. And the dentist checked them. I paid for it. - ให้นักเรยี นพูดประโยคท่กี าหนดใหอ้ ยู่ในโครงสร้าง Have + Something + Past Participle เชน่ A plumber fixed my sink. = I had a plumber fix my sink. ประโยคท่กี าหนด The mechanic fixed my car brake. The painter painted the kitchen. The tailor hemmed my pants. The cleaner cleaned my house. etc. 3) ในสว่ นทีส่ าม Need + Gerund or Passive Infinitive - My teeth need checking. = I have a toothache. My teeth need to be checked. - ใหน้ ักเรยี นพดู ประโยคทีก่ าหนดให้อยู่ในโครงสร้าง Have + Something + Past Participle เชน่ My sink is leaking. = It needs fixing. / It needs to be fixed. ประโยคที่กาหนด A carpet is worn out. My house is dirty. The elevator is out of order. My shoes are dirty. My bedroom is messy. etc.3. ฝึกการใช้ - ครใู ห้นกั เรียนฝกึ ใช้ Have + Something + Past Participle, Have + Person + Verb และ Need + Gerund or Passive Infinitive โดยให้นกั เรยี นทากจิ กรรม Grammar A, B และ C ในหนังสือเรียน หนา้ 34-35 ในแต่ละกิจกรรมดังน้ี กจิ กรรม Grammar A - ครูให้นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งประโยคตัวอยา่ งในกจิ กรรม Grammar A ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 34 และ ถามนักเรียนว่าทราบผกู้ ระทากรยิ า test หรอื ไม่ เมือ่ ไมท่ ราบจงึ ใชโ้ ครงสรา้ ง Have + Something + Past Participle - ครใู หน้ กั เรยี นอ่านโจทยข์ ้อท่ี 2 ถามนกั เรียนว่าทราบผ้กู ระทากรยิ า deliver หรือไม่ ใครเปน็ ผู้ทา เมอื่ ทราบจึงใช้โครงสรา้ ง Have + Person + Verb - ครใู หน้ ักเรียนจับค่กู ันทาในข้อท่ีเหลือ - ครสู ุม่ นกั เรยี นอ่านออกเสียงประโยคทสี่ มบูรณ์ และใหน้ ักเรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ครูช่วยอธิบายและแก้ไขในกรณีทีเ่ หน็ ว่ายงั ไม่ถูกต้อง
กจิ กรรม Grammar B - ครใู หน้ ักเรียนอ่านออกเสียงประโยคตวั อย่างในกิจกรรม Grammar B ในหนงั สือเรยี น หนา้ 34 และ ถามนกั เรียนว่าโครงสร้างประโยค Need มีกีแ่ บบ คืออะไรบ้าง ซึ่งจะมี Need + Gerund และ Need + Passive Infinitive - ครใู ห้นกั เรียนจับคูก่ นั ทาในข้อท่เี หลอื - ครสู ุ่มนักเรยี นอ่านออกเสียงประโยคที่สมบรู ณ์ และให้นกั เรียนช่วยกันเฉลยคาตอบ (ดเู ฉลยท้ายเล่ม) ครูช่วยอธบิ ายและแกไ้ ขในกรณีทเี่ ห็นวา่ ยงั ไมถ่ ูกต้อง กจิ กรรม Grammar C - ครถู ามนกั เรียนวา่ โครงสรา้ ง Have + Something + Past Participle สามารถผนั กริยาให้เปลีย่ นไป ตามกาลหรือ tense ได้โดยเปลี่ยนกริยา ซ่ึงประโยคตามโครงสร้างน้ีอะไรคือกริยาหลัก และช่วยกนั เปลีย่ นกรยิ าตามเวลาที่ครกู าหนดดังน้ี - I ________ my hair cut last week. (had) - I ________ my hair cut once a month. (have) - We _________ the house painted last summer. (had) - We _________ the house painted next year. (’re going to have) - ครใู ห้นกั เรียนอ่านคาสง่ั และดูภาพในกจิ กรรม Grammar C ในหนังสอื เรียน หนา้ 35 และถาม นกั เรียนวา่ มสี ่ิงทจ่ี ะตอ้ งซอ่ มแซมในบ้านหลงั นซี้ ง่ึ ยงั ไม่ได้ทาแตไ่ ดต้ ดั สินใจหรือตั้งใจทจ่ี ะทาควรจะใช้ tense อะไร และส่ิงทจ่ี ะทาเหล่าน้ีเจา้ ของจะสามารถทาเองไดห้ รือไม่ ควรใชโ้ ครงสรา้ งใด ให้นกั เรยี น เขียนประโยคบรรยายส่งิ ท่ีนกั เรยี นจะปรับปรุงภายในบา้ นจากภาพทเี่ ห็นในกจิ กรรม Grammar C และอ่านออกเสยี งประโยคตัวอยา่ ง FACT FILE - บริษัท IKEA เป็นบริษัทเคร่ืองเรือน (furniture) และการตกแต่งเคร่ืองเรือนท่ีใหญ่ท่ีสดุ แห่งหน่ึงของโลก IKEA ถกู ก่อตงั้ ขนึ ้ ในประเทศสวีเดน บริษัทแห่งนีม้ ีร้านท่ีมีสาขามากกวา่ 300 แห่งใน 40 กวา่ ประเทศทวั่ โลก และเป็นท่ีรู้จกั กนั อย่างแพร่หลายเกี่ยวกับการออกแบบที่ทนั สมยั และขายเครื่องเรือนท่ีออกแบบให้ประกอบ เองได้เป็นจานวนมาก - ครูประเมนิ ข้อเขยี นประโยคบรรยายสิ่งทนี่ กั เรยี นจะปรับปรงุ ภายในบ้านจากภาพที่เห็นในกจิ กรรม Grammar C โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมินการเขยี น และใช้เกณฑผ์ า่ นระดบั พอใช้ - ครใู หน้ กั เรยี นจบั คกู่ ันทาในข้อท่ีเหลือ - ครูสุ่มนกั เรยี นอา่ นออกเสยี งประโยคทสี่ มบูรณ์ และให้นกั เรยี นช่วยกันเฉลยคาตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ครูอธบิ ายและแกไ้ ขในกรณีที่เห็นวา่ ยังไม่ถกู ต้อง กิจกรรม Grammar D - ครใู ห้นกั เรยี นอ่านคาส่งั และดูภาพในกิจกรรม Grammar D ในหนังสอื เรยี น หนา้ 35 - ครถู ามนกั เรียนเก่ียวกบั ภาพวา่ 2 คนท่ีกาลงั พดู คุยกนั นั้นคอื ใคร และถามนกั เรยี นถงึ คาศัพท์ interior designer (ดขู อ้ มูลดา้ นคาศัพท)์ - ใหน้ ักเรียนอา่ นบทสนทนาอย่างรวดเรว็ และบอกโดยสรปุ ว่าทงั้ สองพูดคยุ เก่ียวกบั เรอ่ื งอะไร
- ให้นกั เรยี นช่วยกันเติมรปู กรยิ าในช่องแรกและถามว่าทาไมจึงใช้รูปน้ัน ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ - ครูให้นักเรยี นจบั คู่กันทาในข้อท่ีเหลอื - ครูสมุ่ นกั เรียนอ่านออกเสยี งประโยคที่สมบูรณ์ และให้นักเรียนชว่ ยกันเฉลยคาตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ครอู ธิบายและแกไ้ ขในกรณที เี่ หน็ ว่ายงั ไมถ่ ูกต้อง - ให้นกั เรียนจบั คู่พูดบทสนทนาที่สมบรู ณ์ กจิ กรรม Grammar E - ครใู ห้นกั เรียนอา่ นคาส่ังในกิจกรรม Grammar E ในหนงั สอื เรียน หน้า 35 - ครูใหน้ กั เรียนจบั ค่อู ภปิ รายและตอบคาถามในกิจกรรม Grammar E - ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แลกเปล่ียนข้อมูลท่ีได้จากการอภิปราย ครูเดินสังเกตเพ่ือ อธิบายเพมิ่ เติมในกลุ่มทต่ี ้องการความช่วยเหลอื - ครูให้นักเรยี นรวมกลมุ่ เป็นกลมุ่ ใหญท่ ้ังห้องแลกเปลย่ี นขอ้ มูลและอภิปราย4. เขียนบรรยายความเป็นจรงิ เกยี่ วกับการบริการ/งานบ้าน/โรงเรียน - ให้นกั เรยี นเขยี นขอ้ ความบรรยายความเป็นจริงโดยใชป้ ระโยคตามโครงสรา้ งท่เี รียนโดยเลือกจากหวั เรือ่ ง ต่อไปนี้ 1) Write true services that you have done, such as having your hair cut, your clothes cleaned. 2) Household chores. 3) Draw up sets of things that you would like to see done to improve the physical appearance of your school. Express your ideas using the language you have learnt in this unit. แนวการเขยี น - I have my hair cut every month. I have a barber/hairdresser cut my hair. - I have my bike repaired when it is broken. I have the bike shop repair my bike. - I have pants hemmed. I have my mom hem my pants. - I have my teeth cleaned twice a year. I have my dentist clean my teeth. - My school fence is faded. I would like to have my school fence painted. The principle should have a painter paint it every year. etc. - ครสู ่มุ นกั เรยี นอ่านผลงานเขยี นให้เพ่อื นฟงั ในชั้นเรยี น5. ประเมนิ การเขียน - ครปู ระเมินการเขียนโดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การเขยี น และใช้เกณฑ์ผ่านระดับพอใช้กิจกรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา - ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั ขอ้ A-F ในหนงั สอื แบบฝกึ หดั New World 6 หน้า 21-23 (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ )
ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้1. หนงั สอื เรียน New World 6 หน้า 34-352. หนังสอื แบบฝึกหดั New World 6 หน้า 21-233. สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ - http://en.wikipedia.org/wiki/IKEA
บันทกึ ผลหลงั การสอนแผนท.่ี ......- ด้านความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปัญหา/ข้อสังเกต/ขอ้ เสนอแนะการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณฐั วุฒิ นามเดช) ครูผสู้ อน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 Do It Yourself ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6เรอื่ งหลัก/หวั เรอ่ื ง Relation with Other People เวลา 2 ชัว่ โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวัดผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรียนรู้ สิ่งทต่ี ้องร้แู ละปฏิบตั ิได้ ผลงาน/ช้ินงาน การวดั ผลและประเมินผล และตัวช้ีวัด จบั ใจความสาคัญ คาตอบทีน่ กั เรยี นไดจ้ าก ประเมนิ ผลจากจานวนต 1.1 ม.4-6/4 วเิ คราะหค์ วาม สรุป การทากิจกรรม About คาตอบท่ถี กู ต้องโดยใช้ ความ ตีความบทความท่ี the Reading เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60ต 1.1 ม.4-6/4 อ่าน ขอ้ เขยี นสรปุ ใจความ ประเมนิ การเขยี นสรุป จบั ใจความสาคญั สาคัญ ใจความสาคญั ของบท วิเคราะห์ความ สรปุ ของบทอา่ น อา่ นโดยใช้เกณฑ์การ ความ ตีความบทความที่ ประเมนิ การเขยี น และใช้ อา่ น เกณฑ์ผ่านระดบั พอใช้ความรู้- คาศัพท์กิจกรรม Reading- roommate (n.): any unrelated person with whom one shares a place to live, whether a room, an apartment, or a house (เพื่อนรว่ มหอ้ ง/บา้ น)- pros and cons (n.): arguments for or against something, advantages and disadvantages (ขอ้ ได้เปรยี บและข้อเสียเปรียบ, ขอ้ ดแี ละขอ้ เสีย)- utilities (n.): basic services such as water, gas, electricity, etc. (สาธารณปู โภค)- privacy (n.): state of being alone (ความเปน็ สว่ นตวั )- personality clash (n.): an instance of disagreement or confrontation arising from differences in people’s personalities (การขัดแยง้ กันอันเน่อื งมาจาก บุคลิกลกั ษณะทไ่ี มเ่ หมือนกัน)- get things settled (v.): to get something decided (ทาขอ้ ตกลง/กาหนดข้อตกลง)- schedule (n.): list of times when something will happen, be done, etc. (ตารางเวลา)- impose (v.): to lay or place (a duty, tax, etc.) upon somebody or something (กาหนด, ตง้ั )- establish (v.): to set up (ต้ัง, ก่อตัง้ )
- สานวนภาษา - - หน้าท่ีภาษา - - โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - กิจกรรมการกจิ เกรียรรนมรู้Reading1. นาเขา้ สบู่ ทเรียน - ครเู ขียนคาศัพท์ ‘roommate’ บนกระดาน ถามความหมายและพูดคุยเกีย่ วกบั วฒั นธรรม - ชักชวนนกั เรียนพูดคุยเกี่ยวกับการมเี พื่อนรว่ มห้องโดยอาจใช้แนวคาถามดงั นี้ - Have you ever had any roommates? How was she/he? - What is the good point of having a roommate?2. แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - ครูบอกนักเรียนว่าในหนว่ ยการเรียนรนู้ ้นี ักเรยี นจะได้อา่ นบทความบรรยายเกย่ี วกบั การมีเพอื่ นร่วม ห้อง เมื่ออ่านแล้ว นักเรียนจะทราบถึงข้อดี ขอ้ เสยี และขอ้ เสนอแนะในการมีเพือ่ นร่วมห้อง (roommate) CULTURE CORNER - roommate ในหลาย ๆ ประเทศ มีคนหลายคนที่มีเพื่อนร่วมห้องหรือร่วมบ้าน โดยเฉพาะคนโสดท่ีเป็นหน่มุ สาว นกั เรียน และนกั ศกึ ษาในระดบั วทิ ยาลยั เพอื่ ชว่ ยกนั ออกคา่ ที่พกั เป็นการประหยดั คา่ ใช้จ่ายกจิ กรรมก่อนอา่ น1. ถามความคิดเหน็ /ประสบการณ์เก่ยี วกับเพอ่ื นร่วมหอ้ ง และเดาประเดน็ ของบทความ - ครใู ห้นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน ชว่ ยกนั เขียนรายการเกี่ยวกับปญั หาอันอาจจะเกิดข้ึนจากการมี เพอื่ นรว่ มห้อง ซงึ่ อาจจะไดร้ ายการปญั หาดังน้ี The possible problems you might have from sharing a room or an apartment: - noises - different opinions - responsible to do household chores - share things etc. - ครูบอกว่าบทความที่นักเรียนจะอ่านมีชื่อเรื่องว่า Roommate Wanted ให้นักเรียนช่วยกันเดาว่า บทความจะเขียนในประเดน็ ใดบา้ ง ใหน้ ักเรยี นเขยี นบนกระดาน ซ่งึ อาจจะได้ประเด็นดังน้ี The article may tell about:
- possible problems about roommate - good points and bad points of having roommate - how to avoid the possible problems - have an interview before living together - settlement etc. - ครูสมุ่ นกั เรยี นออกมาเขียนรายการทั้ง 2 ขอ้ ข้างตน้ บนกระดานคนแรกอาจจะใหเ้ ขยี นทง้ั หมด คนตอ่ ๆไป อาจจะให้เขยี นเพมิ่ เตมิ ในขอ้ ท่ีไม่เหมอื นกัน ในขน้ั ตอนนีค้ รูอาจจะช่วยเหลือนกั เรยี นในการปรบั เปล่ียน คาศพั ท์ให้ถูกต้อง พร้อมทง้ั นาเสนอและอธบิ ายความหมายคาศพั ท์ใหม่ด้วยเช่น ถ้านกั เรียนเขยี นวา่ good points and bad points ครูอาจจะปรบั เป็น Pros และ Cons เปน็ ต้น และช่วยนกั เรียนรวม ประเด็นท่คี ลา้ ยกนั เข้าด้วยกนักิจกรรมระหวา่ งอา่ น1. อา่ นบทความ - ครูให้นักเรยี นกลมุ่ เดมิ อ่านบทความในหนงั สอื เรยี น หนา้ 36 กิจกรรม Reading ประมาณ 8-10 นาทเี พอื่ ชว่ ยกนั หาว่าในบทความทอี่ ่านมีข้อความใดตรงกับรายการท่ีเขียนไว้บนกระดาน และมีข้อความใดทีไ่ ม่มี เขียนไว้บนกระดานบา้ ง - ใหน้ ักเรยี นอ่าน Reminder ด้านบนของหนงั สอื เรยี น หน้า 37 และถามนกั เรยี นดงั นี้ - What is it about? (It is a list of rules for people sharing an apartment or house.) - Who do you think wrote it? (the roommates) - ให้นักเรียนอ่านบทความอีกคร้ังและช่วยกันเขียนประโยคไม่เกิน 8 ประโยคเพ่ือสรุปใจความสาคัญของ บทความท่ีอ่าน ครสู มุ่ ตวั แทนบางกลุ่มอา่ นขอ้ ความของกลุ่มตนให้เพ่อื นฟงั และชว่ ยกนั ลงมตวิ า่ ของกลุ่ม ใดเขยี นสรปุ ไดด้ ที ่ีสดุ - ใหน้ กั เรียนฟังซดี บี ันทกึ เสยี ง CD 1 Track 32 กิจกรรม Reading และอา่ นในใจตาม แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบ คาถามในกจิ กรรม About the Reading ในหนงั สอื เรียน หน้า 37 - ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้องกิจกรรมหลังอ่าน1. ตรวจสอบความเขา้ ใจบทอ่าน - ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้องของคาตอบในกิจกรรม About the Reading (ดูเฉลยทา้ ย เล่ม)2. ประเมินผลการอา่ น - ครูประเมนิ ความเขา้ ใจบทอ่านจากจานวนคาตอบท่ถี กู ตอ้ งในการทากจิ กรรม About the Reading และ ใช้เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60 และประเมินการเขยี นประโยคเพ่ือสรุปใจความสาคญั โดยใช้เกณฑ์การประเมิน การเขียน และใช้เกณฑผ์ ่านระดับพอใช้3. พัฒนาคาศัพท์ - ครูให้นักเรียนอ่านบทความอีกครั้ง ขีดเส้นใต้คาศัพท์ท่ีนักเรียนไม่ทราบความหมาย และให้นักเรียน ออกมาเขยี นคาศพั ทท์ ่ไี ม่ทราบความหมายบนกระดาน - ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกันบอกความหมายคาศัพท์บนกระดาน คาศัพท์ใดทนี่ กั เรียนไมร่ ู้ ครใู ห้นักเรยี นช่วยกันเดา ความหมายจากบรบิ ทโดยบอกนักเรียนวา่ นักเรยี นไม่จาเป็นต้องเปดิ พจนานุกรมทุกคา
- ให้นกั เรยี นช่วยกนั เขยี นประโยคทีม่ ีคาศัพท์ใหม่ท่ีนกั เรยี นสนใจมา 5 คา คาละ 1 ประโยค ซึง่ อาจจะเปน็ ประโยคในบทอ่านหรอื ประโยคท่นี กั เรียนคิดข้ึนเอง ทง้ั น้ีขึน้ อย่กู ับระดับความสามารถของนักเรียน4. ตรวจสอบความเข้าใจคาศพั ท์ - ครใู ห้นักเรยี นทากิจกรรม Academic Vocabulary ในหนังสอื เรยี น หนา้ 37 และช่วยกนั เฉลยคาตอบ (ดู เฉลยท้ายเลม่ )กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา - ครูอาจจะให้นักเรียนเขียนรายการเพ่ิมเติมจาก Reminder จากหนังสือเรียน หน้า 37 หรือเขียน เป็น Reminder เพื่อให้นักเรียนปฏบิ ตั ใิ นห้องเรียน ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New World 6 หนา้ 36-37 2. ซีดีบันทกึ เสยี ง 3. เครอื่ งเลน่ ซดี ี 4. สือ่ อิเล็กทรอนิกส์ - http://realestate.msn.com/blogs/post—the-and-cons-of-living-with-a-roommate - http://lawapartment handbook.wikispaces.com/Pros+and+Cons+of+Having+a+Roommate
บนั ทึกผลหลงั การสอนแผนท่.ี ......- ดา้ นความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปญั หา/ขอ้ สังเกต/ข้อเสนอแนะการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณฐั วฒุ ิ นามเดช) ครูผสู้ อน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 Achievements and Regretsแผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5-8 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6เรือ่ งหลัก/หัวเรอ่ื ง Work เวลา 8 ชว่ั โมงสาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด หน่วยการเรียนรู้นีม้ ีจดุ มงุ่ หมายให้นักเรียนรู้จกั ความสาเร็จ ความเสียดาย (โอกาส) และส่งิ ที่เคยทาในอดีตใน บทเรียนและจากการศกึ ษาค้นคว้าและนาเสนอในห้องเรียน นกั เรียนจะได้พดู แสดงบทบาทสมมตเิ ก่ียวกับความสาเร็จ ความเสียดาย (โอกาส) ฟังบคุ คลบรรยายเก่ียวกบั ความซุกซนในวยั เด็ก อ่านออกเสียงบทสนทนา เขียนบรรยาย ความสาเร็จ การจดั การท่ีนาไปสคู่ วามสาเร็จและสง่ิ ที่จะทาในอนาคต และรายงานการศกึ ษาค้นคว้าเกี่ยวกบั บุคคลท่ี เป็นแบบอยา่ ง นอกจากนีย้ งั ได้เรียนรู้คาศพั ท์ที่เกี่ยวข้องกบั เหตกุ ารณ์ดงั กลา่ ว รวมทงั้ หน้าท่ีภาษา โครงสร้างประโยค/ ไวยากรณ์ที่เป็นพนื ้ ฐานของกิจกรรมฟัง พดู อา่ น เขยี นในหนว่ ยการเรียนรู้นี ้มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ัดสาระที่ 1 : ภาษาเพื่อการสือ่ สารมาตรฐาน ต 1.1 ม.4-6/4, ต 1.2 ม.4-6/1, ต 1.3 ม.4-6/1สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ความสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแก้ปัญหา ใฝ่เรียนรู้ : ค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างการใช้ทกั ษะชวี ิต การใช้เทคโนโลยี ๆทักษะ/กระบวนการทกั ษะเฉพาะวิชา ทกั ษะการคิดการฟัง : จบั ใจความสาคัญ - การคิดท่ใี ชใ้ นการสอื่ สารการพูด : สนทนาโต้ตอบขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเองและเรื่องใกล้ตวั - การคดิ วเิ คราะห์การอ่าน : อา่ นออกเสยี ง อ่านจับใจความสาคัญ - การให้เหตุผลการเขียน : เขียนบรรยายประสบการณ์ และเขียนรายงานจาก การศึกษาค้นควา้ความเขา้ ใจทย่ี ่งั ยนืนกั เรยี นเข้าใจว่าการฝึกใช้คาศัพท์ สานวนเกยี่ วกบั การประสบความสาเรจ็ ความเสยี ดาย ฯลฯ จะทาใหน้ ักเรยี นสนทนา อ่าน และเขียนได้ดยี ่งิ ขึน้ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อน่ืศลิ ปะ; สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 Achievements and Regrets ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6เรอื่ งหลกั /หวั เรือ่ ง Work เวลา 2 ช่วั โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรียนรู้ สิ่งท่ตี ้องรู้และปฏบิ ัติได้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชวี้ ดั จับใจความสาคัญจาก การเลือกคาตอบท่ี ประเมินผลจากจานวนต 1.1 ม.4-6/4 ข้อความที่อา่ น ถกู ตอ้ งจากการอ่าน คาตอบท่ีถูกต้องโดยใช้ ข้อความในกจิ กรรม เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 New Language (Worksheet 1)ความรู้- คาศัพท์กิจกรรม New Language- achievement (n.): something that has been accomplished, especially by hard work or ability (ความสาเรจ็ )- regret (n.): a feeling of sorrow for something you did or didn’t do (ความรูส้ กึ เสยี ใจ, ความเสียดาย (โอกาส))- accomplished (adj.): good at doing something that needs a lots of skill (ที่สาเร็จ, คล่องแคลว่ , ชานาญ)- สานวนภาษา-- หนา้ ทีภ่ าษา- To talk about things you used to do- To discuss accomplishments- To talk about things that you did not do but wish you had done- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์- Would / Used to- Should have + Past Participle- To be able to + Verb กิจกรรมการกจิ เกรียรรนมรู้New Language1. นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
- ครูถามนกั เรยี นวา่ ในห้องเรียนมีใครทีม่ คี วามสามารถอะไรบ้าง โดยอาจใช้แนวคาถามดังนี้ - Who knows how to row a boat / ski? - Who is good at mathematics/English? - Who can swim? - Who knows a lot about computers? - ครสู ุ่มให้นกั เรียนคนอ่นื ๆ บอกความสามารถของตนเองโดยใช้ know how to, be good at, can, know a lot about2. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ครูบอกนักเรียนวา่ ในหนว่ ยการเรียนรูน้ ีน้ กั เรียนจะไดอ้ ่านข้อความส้นั ๆ เกีย่ วกับความเสียดาย (โอกาส) และการประสบความสาเร็จของบุคคล นักเรียนจะได้ฝึกอ่านออกเสียงข้อความ จับกลุ่มถาม-ตอบ อภิปรายเก่ียวกับการประสบความสาเร็จหรือความเสียดาย (โอกาส) และสรุปข้อมูลท่ีน่าสนใจของ สมาชกิ ในกลุ่มรายงานในชัน้ เรยี น FACT FILE - ผลจากการสารวจความคดิ เห็นในตา่ งประเทศเกี่ยวกบั ความเสียดายโอกาส (ไมไ่ ด้ทาในอดตี ) ของคนอายรุ ะหวา่ ง 25-35 ปี พบวา่ 5 ประเดน็ ท่ีมีความคดิ เหน็ สงู สดุ คอื 1. อยากทาในสง่ิ ที่มีประโยชน์ 2. เสยี ดายเวลาที่ได้ปลอ่ ยให้ผา่ นไปอย่างไร้ประโยชน์ 3. อยากเดนิ ทางท่องเที่ยวมากกวา่ นี ้3. อา่ นขอ้ ความ - ครูเขยี นคาวา่ Achievements and Regrets บนกระดาน และยกตวั อย่างของเหตกุ ารณท์ ่ีเกย่ี วขอ้ งกบั Achievements และ Regrets เพอื่ ให้นักเรียนช่วยกันเดาความหมายของ Achievements และ Regrets ดังน้ี Achievement Events = Accomplishment Events Example: - You are chosen to be the president. - He studied hard. He hoped to be a doctor. Now he is a doctor. - He worked hard. He wanted to have a house. Now he can buy a house. Regret Events Example: - Your dog died. You did not take care of it. - You have lost your bike. You did not lock it before you left. - He failed in the exam. You did not study hard. - ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปความหมายของ Achievements and Regrets - ครใู ห้นักเรยี นเปดิ หนังสือเรยี น หน้า 38 กิจกรรม New Language ใหน้ ักเรยี นดูภาพและถามนักเรยี น เกยี่ วกับภาพดงั นี้
- Which picture shows regret? - Which picture shows accomplishment?- ครเู ปดิ ซดี บี นั ทึกเสยี ง CD 1 Track 33 นกั เรยี นฟงั ขอ้ ความในกิจกรรม New Language ในหนังสอื เรียน หน้า 38 และอา่ นในใจตาม แล้วให้นักเรียนชว่ ยกันตอบคาถามใน Worksheet 1 Worksheet 1Directions: According to the passages on page 38, which is true, a or b?Picture Before Then1 ( / ) a. He did not learn how to ( ) a. He can fry an egg. cook. ( / ) b. He cannot fry an egg. ( ) b. He learned how to cook.2 ( / ) a. She studied hard. ( / ) a. She finished her studies with ( ) b. She did not study hard. good grade. ( ) b. She did not finish her studies.3 ( / ) a. She practiced a lot. ( ) a. She can play the piano but not ( ) b. She rarely practiced. skillful. ( / ) a. She is a skillful pianist.4 ( ) a. She did some jobs. ( ) a. She had some money but not ( / ) b. She did all of the jobs. enough to buy a scooter. ( / ) a. She had enough money to buy a scooter. - ครูส่มุ ถามนกั เรยี นและใหน้ ักเรยี นช่วยกันเฉลยคาตอบ - ครเู ปิดซีดบี นั ทกึ เสยี ง CD 1 Track 33 นกั เรยี นออกเสียงตาม - ครูประเมนิ ความเข้าใจขอ้ ความท่อี ่านจากจานวนคาตอบที่ถูกตอ้ ง โดยใชเ้ กณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 604. พูดอภิปรายเก่ียวกับความสาเร็จและความเสยี ดาย (โอกาส) - ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาสงั่ ในกิจกรรม New Language (Which of the following achievements or regrets relate to you? Discuss these in group and add others.) - ครใู ห้นกั เรียนจับกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน อภปิ รายพูดคยุ และถามตามคาสง่ั ขา้ งต้น โดยใหน้ ักเรียนสรปุ ประเดน็ ว่าเปน็ ความเสยี ดาย (regret) หรอื ความสาเร็จ (achievement) และแตล่ ะประเดน็ ได้ใช้ความ พยายามอย่างไรจึงประสบความสาเรจ็ หรอื ไมไ่ ดใ้ ชค้ วามพยายามอะไรจงึ ไมป่ ระสบความสาเร็จ ซ่งึ คาถามท่ีใช้ในการพูดคุยซักถาม ครอู าจใหน้ กั เรยี นช่วยกันเขียนแนวคาถามซ่ึงอาจจะเปน็ ดังนี้ - Can you cook food? What food can you cook? Why can you cook? / Why can’t you cook?
- Have you ever got a good grade? What subject? How did you manage to get it? - Can you play the piano / the guitar very well? What caused this? - Have you ever bought something with your own money? How did you earn some money? How did you feel? - ให้แต่ละกลมุ่ สรปุ และนาเสนอข้อมลู ทน่ี ่าสนใจของสมาชกิ ในกลมุ่ รายงานในชนั้ เรียนและแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น - ครปู ระเมินคาถามและคาตอบในการอภิปรายโดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การเขียน และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดับ พอใช้ - ครูประเมินถ้อยคาการสรปุ ข้อมูลที่น่าสนใจของสมาชิกในกลุ่มโดยใช้เกณฑ์การประเมินการพูด และใช้ เกณฑ์ผ่านระดับพอใช้5. ใหค้ วามรทู้ างด้านภาษา - ครูอธบิ ายความหมายโดยย่อของ should have to วา่ ใช้พูดเพื่อบอกความเสยี ดาย (โอกาส) ว่าเราควร จะทาอะไรแล้วไมไ่ ด้ทา would = used to, และ unable to / was able to ใชบ้ อกความสามารถ และ บอกว่านกั เรยี นจะได้เรยี นเกีย่ วกบั เรือ่ งนอ้ี กี ครงั้ ในช่วั โมงต่อไปกจิ กรรม Practice1. พูดบทสนทนาเกย่ี วกบั ความสาเรจ็ และสิ่งทอี่ ยากกระทาในอดีต - ครเู ปดิ ซดี บี ันทึกเสยี ง CD 1 Track 34 ให้นกั เรียนฟังบทสนทนาและอ่านออกเสียงบทสนทนาในกิจกรรม Practice ในหนงั สือเรยี น หน้า 38 - ใหน้ ักเรยี นจบั ค่พู ดู บทสนทนาโดยสลับกนั เปน็ A และ B ครูเดนิ สังเกตเพื่อใหแ้ นใ่ จว่านกั เรียนสามารถพดู ได้อย่าง ถกู ต้อง - ครูให้นักเรียนจับคู่เขียนบทสนทนาของตนเองตามแนวบทสนทนาในกิจกรรม Practice ในหนังสือ เรยี น หน้า 38 โดยกาหนดประโยคให้ดังนี้ - Were you able to buy something you wanted last year? How did you manage to do it? - Would you study a lot when you were younger? - Were you able to learn something new last year? etc. - ครูสุ่มนักเรียนบางคพู่ ดู บทสนทนาให้เพอื่ นฟงั - ครปู ระเมินการพดู บทสนทนาโดยใชแ้ บบประเมนิ การสนทนากิจกรรมคู่ และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดบั พอใช้กจิ กรรม Pronunciation1. ไม่ออกเสยี ง stressed ในคาบุพบท - ครูให้นักเรียนทากจิ กรรม Pronunciation ในหนงั สอื เรยี น หน้า 38 ครูเปิดซดี ีบันทึกเสียง CD 1 Track 35 ครใู ห้นักเรยี นชี้ประโยคทไี่ ด้ยินและเปดิ ซีดีบันทึกเสยี งอีกคร้ังเพ่ือใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม - ให้นกั เรยี นฟงั ซีดีบันทึกเสียงและพูดออกเสียงตามซา้ หลาย ๆ ครัง้ เบา ๆ - ครูเดินสงั เกตเพอ่ื ใหแ้ นใ่ จวา่ นักเรยี นสามารถออกเสยี งไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
- ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ ว่าเราจะไม่ลงเสียงหนักในคาบพุ บทส้นั ๆ และออกเสียงรวมไปกับคาที่ตามมา ขา้ งหลัง for จะลดเสียงเหลอื /f∂r/ , of จะลดเสียงเหลือ /∂v/ หรอื /∂/ และคาบุพบท to ใน Infinitive จะลดเสียงเหลอื /t∂/ - ครใู หน้ กั เรียนจับค่อู า่ นออกเสียงประโยค ครูเดินสงั เกตเพือ่ ใหแ้ นใ่ จว่านกั เรียนสามารถออกเสยี งไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง - ครใู หน้ ักเรียนออกเสยี งขอ้ ความในกจิ กรรม New Language โดยลดเสยี ง to - ครูประเมนิ การอ่านออกเสยี งโดยใชแ้ บบประเมนิ การอา่ นออกเสียง และใช้เกณฑ์ผา่ นระดับพอใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา - ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น New World 6 หน้า 38 2. ซดี บี ันทกึ เสยี ง 3. เคร่อื งเล่นซดี ี 4. Worksheet 1
บันทกึ ผลหลังการสอนแผนท่.ี ......- ด้านความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปัญหา/ข้อสงั เกต/ขอ้ เสนอแนะการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณัฐวุฒิ นามเดช) ครูผู้สอน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 Achievements and Regrets ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6เรื่องหลกั /หวั เร่อื ง Work เวลา 2 ชว่ั โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวัดผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ ส่ิงทีต่ ้องรูแ้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน/ช้นิ งาน การวดั ผลและประเมินผล และตัวช้วี ดั ออกเสียงบทสนทนา การออกเสียงและแสดง ประเมนิ การแสดงต 1.1 ม.4-6/4, ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน บทบาทสมมติตามบท บทบาทสมมตโิ ดยใชแ้ บบ และเลอื กใช้ภาษา สนทนาในกิจกรรม ประเมนิ การแสดงต 1.1 ม.4-6/4 นา้ เสยี งและกิรยิ าท่าทาง Conversation บทบาทสมมติ และใช้ เหมาะกบั ระดบั บคุ คล เกณฑผ์ า่ นระดบั พอใช้ โอกาสและสถานทต่ี าม คาตอบจากการระบุ มารยาทสงั คมและ ความซุกซนในวัยเดก็ ของ ประเมินผลจากจานวน วัฒนธรรมของเจา้ ของ ผเู้ ล่าลงในแผนผังใน คาตอบทถ่ี กู ตอ้ งโดยใช้ ภาษา กจิ กรรม Listening เกณฑผ์ ่านรอ้ ยละ 60 จับใจความสาคัญ สรุปความจากการฟังความรู้- คาศพั ท์กิจกรรม Conversation- salary (n.): money that you receive every month for work (เงินเดอื น)- satisfied (adj.): pleased with what you or others have done (ทน่ี า่ พอใจ)- greedy (adj.): wanting too much (ท่ีละโมบ)- superior (n.): a person of higher rank, authority, etc. (ผู้มีตาแหนง่ สูงกว่า)- lavish (adj.): showing that a lot of money has been spent (หรูหรา, ฟุ่มเฟือย, สรุ ยุ่ สรุ ่าย)- conscience (n.): the awareness within oneself of the choice one make between right and wrong (มโนธรรม, ความรสู้ กึ ผดิ , ความกลวั บาป)- bars (n.): pieces of metal in front of the window (ลูกกรง)กิจกรรม Listening not able to speak; dull (พดู ไมไ่ ด้, ไมป่ รปิ าก; โง)่- dumb* (adj.):
- sneak* (v.): to go quietly and secretly (แอบ, ลอบ, ดอด)- dummy* (n.): an object made to look like and serve the purpose of the real person or thing (หนุ่ โชว์, รูปจาลอง)- wink* (v.): to close and open one eye quickly as a private signal or hint to someone (หลิ่วตา, ขยิบตา, กะพริบตา)- fright* (n.): sudden fear (อาการตกใจ)- mattress* (n.): long, flat bag, full of feathers or soft rubber, which you put on a bed so that you can lie comfortably (ทนี่ อน)- prank* (n.): a playful trick (การล้อเล่น, การเลน่ ตลก)- mischievous* (adj.): playful (ซกุ ซน, เกเร)Note: * see in audioscript- สานวนภาษากจิ กรรม Conversation- Exactly หมายถงึ เหน็ ด้วยอย่างยงิ่ เปน็ สานวนทใ่ี ช้พูดเพอื่ แสดงให้เหน็ ว่าผู้พูดกาลังฟงั และสนใจในความคิดเหน็ ของคู่สนทนา- Opportunity makes the thief. หมายถงึ โอกาสกอ่ ใหเ้ กิดขโมย- Take advantage of (someone) หมายถงึ หาประโยชน์ เอารัดเอาเปรยี บ ฉกฉวยโอกาสกับผอู้ นื่- หน้าที่ภาษา- To talk about things you used to do- To discuss accomplishments- To talk about things that you didn’t do but wish you had done- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์- Would / Used to- Should have + Past Participle กจิ กรรมการกิจเกรียรรนมร้ ู Conversation1. นาเขา้ สูบ่ ทเรียน - ครเู ขยี นคาวา่ thief บนกระดานและชักชวนนักเรียนพดู คยุ ดงั น้ี - What does a thief do? - Why does he take things from others? - Is he punished? How?2. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - ครูบอกนกั เรยี นว่าในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ีน้ กั เรยี นจะไดฝ้ ึกการออกเสียงบทสนทนาและฟังบุคคล 2 คนคุย กนั นกั เรียนจะต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้องตามหลักการอ่านและสามารถตอบคาถามเกีย่ วกบั บทสนทนา ได้
3. นาเสนอคาศัพท์ - ครูใหน้ ักเรียนดูภาพขวามือตอนบนในหนงั สอื เรยี น หนา้ 39 ในกจิ กรรม Conversation ชกั ชวนนกั เรียน พูดคุยเกี่ยวกบั รปู ภาพ ครใู ช้คาถามนาและนาเสนอคาศพั ท์ในบทอ่านโดยอาจใชแ้ นวคาถามดังน้ี - Where is the man standing? (behind bars) - Where is he? (in the prison/jail) - What caused him to be there? (he stole things/money) - Why did he steal the money/things? (he has no money, he has low salary, he is greedy, he has a lavish lifestyle)4. อา่ นบทสนทนา - ครเู ปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 36 กิจกรรม Conversation ใหน้ กั เรียนฟงั โดยยงั ไมใ่ หน้ กั เรยี นเปดิ หนงั สอื เรยี น ให้นักเรยี นช่วยกนั ฟงั และบอกว่าบคุ คลในบทสนทนาพูดคยุ กันเกี่ยวกับเรื่องอะไร - ให้นกั เรียนเปดิ หนังสอื เรียน หนา้ 39 และให้นักเรียนจบั ค่กู นั ฝึกออกเสยี งตาม เพ่ือหาคาตอบในกิจกรรม About the Conversation ในหนังสอื เรียน หน้า 39 - ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบ ครอู ธิบายเพ่ิมเติมในกรณที ี่นักเรยี นยงั ตอบไม่ถูกต้อง (ดเู ฉลยทา้ ย เล่ม)5. อา่ นออกเสียง - ครูเปดิ ซดี ีบนั ทกึ เสียง CD 1 Track 36 ให้นักเรียนฟัง หยดุ ซีดบี นั ทึกเสยี งเม่อื จบคาพูดของบคุ คลเพ่ือให้ นักเรียนฝกึ ออกเสียงตาม - ครใู หน้ ักเรียนจบั คกู่ ันฝึกอ่านบทสนทนาในหนังสอื เรียน หน้า 39 ครอู าจจะส่มุ นกั เรียนบางคู่อา่ นใน ห้องเรียน6. พฒั นา Conversation Strategy - ครใู ห้นกั เรยี นดกู ิจกรรม Conversation Strategy ในหนังสือเรียน หน้า 39 พรอ้ มให้นักเรียนอา่ นคาใน แถบสฟี า้ ให้นักเรียนช่วยกันดปู ระโยคก่อนหนา้ และขอ้ ความต่อจากคาพูดเหลา่ นี้ ถามนักเรยี นวา่ คาพูด เหล่าน้ีใชเ้ พือ่ อะไร ใช้เม่อื ไร แล้วครสู รปุ ใหน้ ักเรียนฟงั ว่าสานวนอยา่ งแรกเป็นสานวนทใ่ี ชพ้ ูดเพือ่ ยา้ ให้ แนใ่ จวา่ เขา้ ใจคาพูดของคู่สนทนาถูกต้อง และอย่างหลัง (Exactly) เป็นสานวนที่ใช้พดู เพ่อื แสดงให้เหน็ วา่ ผู้พูดกาลงั ฟังและสนใจในความคดิ เห็นของค่สู นทนา - ค รู ใ ห้ นั ก เ รี ย น ช่ ว ยกั น เ ด า ค ว า ม ห มา ย ค า ศั พ ท์ แ ล ะ ส า น ว น อ่ื น ๆ จ า ก บ ริ บ ท เ พ่ิ ม เติม ได้แก่ Superior, Conscience, Opportunity makes the thief, etc.7. แสดงบทบาทสมมติ - ครใู ห้นกั เรยี นจบั คพู่ ูดแสดงบทบาทสมมตโิ ดยใช้บทสนทนาในหนงั สือเรยี น หนา้ 39 - ครูประเมินการแสดงบทบาทสมมติโดยใช้แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ และใช้เกณฑ์ผ่านระดับ พอใช้กิจกรรม Listening1. นาเข้าสูบ่ ทเรยี น - ครชู ักชวนนกั เรียนพูดคยุ ถงึ สงิ่ ทีน่ ักเรียนชอบเล่นซกุ ซนในวยั เดก็ โดยอาจใช้แนวคาถามดังนี้ - Were you mischievous when you were younger? - What did you use to do?
2. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - ครบู อกนกั เรยี นวา่ ในหนว่ ยการเรยี นรนู้ น้ี กั เรยี นจะไดฟ้ งั บุคคลเล่าความซุกซนของตนกับเพื่อนในวัยเด็ก หลังจากฟังแล้วนักเรยี นจะได้ฝึกสรุปใจความโดยการเติมข้อความในแผนผังในกิจกรรม Listening และ แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่อื งทฟ่ี งั3. กจิ กรรมก่อนฟงั - ให้นักเรยี นชว่ ยกนั เดาว่าความซุกซนของบคุ คลที่เลา่ เร่ืองในตอนเดก็ คอื อะไร - Try to guess what sort of mischief the speaker did when she was younger. - ให้นักเรียนดูคาส่ังและแผนผังในกิจกรรม Listening ในหนังสือเรียน หน้า 39 และช่วยกันบอก คว ามหมายของ คาศัพ ท์ใน แผน ผัง ไ ด้แก่ Corridor, Clothing store, Shop window, Home department และ Background music - ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั เดาว่าบุคคลในบทฟงั ได้เล่นซุกซนอะไรในแต่ละแผนกของหา้ ง - Try to guess what sort of mischief the teller did when she was younger. - What did she use to do in the corridor of the mall? - What did she use to do in the clothing store? etc.4. ฟังบทสนทนา - ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่ และเปดิ ซีดีบนั ทึกเสียง CD 1 Track 37 กจิ กรรม Listening ให้นกั เรยี นฟงั ดังนี้ 1) รอบท่ี 1 ใหฟ้ ังว่า Sharon ซกุ ซนอะไรบ้าง - What things did Sharon use to do in the mall? 2) ครูเปดิ ซดี ีบนั ทึกเสยี ง รอบท่ี 2 ใหน้ กั เรียนเตมิ ขอ้ มูล 3) สุ่มถามข้อมูลทีน่ ักเรียนเติมในแผนผังและเปิดซีดีบันทึกเสียงให้นักเรียนฟังอีกครั้งเพือ่ ใหน้ กั เรียนแน่ใจ ในคาตอบ5. ประเมนิ การฟัง - ครูประเมนิ การฟงั เพอื่ จับใจความสาคัญจากจานวนคาตอบทถี่ ูกต้อง โดยใชเ้ กณฑ์การผ่านรอ้ ยละ 606. แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั เร่ืองท่ฟี งั - ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน พูดคุยว่าเคยทาอะไรท่ีคล้ายคลึงกับ Sharon หรือไม่ การเล่นซุกซนใดที่ ไม่ควรทา เพราะเหตุใด โดยใหป้ ระเด็นคาถามดังนี้ - What would you do something similar to Sharon? - Do you consider it wrong? Why? - ให้ตวั แทนกลุม่ นาเสนอข้อสรปุ ความคดิ เหน็ ในห้องเรียนว่าขอ้ ใดทีม่ คี วามคิดเหน็ เหมอื นกันมากทส่ี ุด - ครปู ระเมนิ ถอ้ ยคาพูดแสดงความคดิ เห็นโดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ การพดู และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดบั พอใช้กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา ครูสอดแทรกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเก่ียวกบั ความพอประมาณและความมีเหตผุ ล - ครใู ห้นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับบทสนทนาท่ีอ่านในกจิ กรรม Conversation นกั เรียนคดิ ว่า ชายในเรอ่ื งใช้ชวี ิตสอดคล้องกบั หลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพียงหรือไม่ อย่างไร และ การกระทาดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างไรต่อตนเองและคนรอบขา้ ง
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีท่ีไมน่ ้อยเกนิ ไปและไมม่ ากเกนิ ไปโดยไมเ่ บียดเบยี นตนเองและผ้อู ่ืน เชน่ การผลติ และการบริโภคที่อยใู่ นระดบั พอประมาณความมีเหตผุ ล หมายถงึ การตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั ระดบั ความพอเพียงนนั้ จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตผุ ล โดยพจิ ารณาจากเหตปุ ัจจยั ที่เก่ียวข้องตลอดจนคานงึ ถึงผลที่คาดวา่ จะเกดิ ขนึ ้จากการกระทานนั้ ๆ อย่างรอบคอบที่มา: โครงการวิจยั เศรษฐกิจพอเพียง สานกั งานทรพั ย์สินสว่ นพระมหากษัตริย์ www.sufficiencyeconomy.org ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน New World 6 หน้า 39 2. ซดี ีบนั ทกึ เสียง 3. เครื่องเล่นซดี ี 4. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ - http://rutjanapat.wordpress.com/tag/ภาษาอังกฤษ/ - http://englishidiomsaday.blogspot.com/2012/11/take-advantage-of.html
บนั ทึกผลหลงั การสอนแผนท่.ี ......- ดา้ นความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านทกั ษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปญั หา/ขอ้ สังเกต/ข้อเสนอแนะการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณฐั วฒุ ิ นามเดช) ครูผูส้ อน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 Achievements and Regrets ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6เรอ่ื งหลกั /หัวเร่ือง Work เวลา 2 ชวั่ โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวัดผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรียนรู้ ส่ิงท่ีตอ้ งรู้และปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมินผล และตัวช้ีวดั เขียนนาเสนอข้อมลู ข้อเขยี นบอกส่งิ ท่ีควรทา ประเมนิ การเขียนโดยใช้ต 1.3 ม.4-6/1 เก่ยี วกบั ตนเอง หรือไมค่ วรทาในอดีต เกณฑ์การประเมินการ เขยี น และใช้เกณฑ์ผ่านต3.1ม.4-6/1 ค้นคว้า/สืบคน้ บนั ทกึ รายงานข้อมูลเก่ยี วกบั ระดบั พอใช้ สรุป และแสดงความ ตนเอง คิดเหน็ เกี่ยวกับขอ้ มูลที่ ประเมินรายงานการ เก่ยี วข้องกบั กล่มุ สาระ ค้นคว้าโดยใชเ้ กณฑก์ าร การเรียนร้อู น่ื จากแหล่ง ประเมนิ การเขียน และใช้ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ และ เกณฑ์ผ่านระดบั พอใช้ นาเสนอดว้ ยการพูดและ เขียนความรู้ - คาศัพท์ - - สานวนภาษา - - หน้าท่ีภาษา - To talk about things you used to do - To discuss accomplishments - To talk about things that you didn’t do but wish you had done - โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Would / Used to - Should have + Past Participle - To be able to + Verb กจิ กรรมการกจิ เกรียรรนมรู้Grammar
1. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ครบู อกนักเรยี นวา่ ในหน่วยการเรียนรู้นน้ี ักเรยี นจะได้เรยี นร้กู ารใช้ Would / Used to, Should have + Past Participle, To be able to + Verb เพือ่ นาไปใช้พูดและส่อื สารเกยี่ วกับการกระทาทท่ี าเป็นประจา ในอดตี โอกาสในการกระทาในอดีต และความสามารถในอดีต2. การใช้ Would / Used to - ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยถามนกั เรยี นและเขียนประโยคบนกระดานเพ่ือนาไปสูป่ ระโยคท่มี ี Used to แนว คาถามอาจเปน็ ดงั น้ี - I used to go to school by bus when I was a student. = I would go to school by bus when I was a student. = I went to school by bus when I was a student. - But now I am a teacher, I drive to school. - How do you go to school now? (I go to school by bus.) - How did you go to school when you were in Prathom 1? (I went to school by car. My parents took me there. = I used to go to school by bus when I was young. = I would go to school by bus when I was young.) - ครูถามนกั เรยี นถึงความหมายและรูปกรยิ าทีต่ ามหลงั Would, Used to โดยสังเกตจากประโยคข้างตน้ - ครูให้นักเรยี นอา่ นกรอบ Grammar ในหนงั สือเรียน หน้า 40 ในสว่ นแรกเพ่ือเฉลยคาตอบข้างต้น ครสู ่มุ ถามความเขา้ ใจและอธิบายเพมิ่ เติมวา่ เราสามารถใช้ Would, Used to + Verb กับกิจกรรม/การ กระทาที่ทาเปน็ ประจาหรือเป็นนิสยั ในอดตี ทีป่ ัจจุบนั ไมไ่ ดท้ า แตถ่ า้ เป็นการบอกเกีย่ วกบั ท่ีตั้ง สภาพ (state) สถานการณ์ (situation) เราจะไมใ่ ช้ Would แต่สามารถใช้ Used to ได้ ดังตวั อยา่ ง - A Past Action Grandpa used to tell us stories. (correct) Grandpa would tell us stories. (correct) - A Past Situation or State She used to live near here. (correct) She would live near here. (incorrect)3. นาเสนอความหมายและการใช้ Should have + Past Participle - ครูนาเสนอรูปภาพหรือเขียนรูปภาพบนกระดาน ครูพูดและถามนักเรียนเกี่ยวกับรูปภาพเพื่อนาไปสู่ ประโยคท่มี ี Should have + Past Participle ดังนี้ - She is crying. She has lost her dog. She opened the door and the dog went out. - What didn’t she do? If she did, her dog would not go out? (She didn’t close the door.) - What should she have done? (She should have closed the door. / She shouldn’t have opened the door.)
- He has broken his leg. He had an accident. He drove very fast. - What didn’t he do? If he did, he would not have an accident? (He didn’t drive carefully.) - What should he have done? / What shouldn’t he have done? (He should have driven carefully. / He shouldn’t have driven very fast.) - ครูถามนกั เรยี นถงึ ความหมายและการใช้ Should have + Past Participle โดยสงั เกตจากประโยค ขา้ งตน้ - ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรยี น หน้า 40 ในสว่ นที่สองเพ่อื เฉลยคาตอบข้างต้น ครู ส่มุ ถามความเข้าใจและอธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา่ เราใช้ Should have + Past Participle หรอื Shouldn’t have + Past Participle กบั เหตุการณท์ ่ไี มไ่ ดก้ ระทาในอดีตหรือกระทาในอดตี แตป่ ัจจุบันรู้สึกเสียดาย หรือเสยี ใจวา่ ควรจะกระทาหรอื ไม่กระทาสิ่งน้ันในอดตี - ครูตรวจสอบความเข้าใจโดยให้สถานการณ์ให้นักเรียนชว่ ยกันบอกถึงส่งิ ทคี่ วรกระทาหรือไมค่ วรกระทา ในแตล่ ะสถานการณ์ สถานการณ์: - It is raining now. I don’t have an umbrella. So I am wet. (I should have taken my umbrella.) สถานการณ์: - I missed my bus. I will be late. (I should have got up earlier.) - I have a stomachache. (I shouldn’t have eaten so much fried food.)4. นาเสนอความหมายและการใช้ To be able to + Verb - ครนู าเข้าสู่บทเรยี นโดยพูดและเขยี นประโยคทีม่ ี To be able to + Verb บนกระดานดงั น้ี - My brother gave me tickets, so I was able to see the game in person. - I was not able to watch the game on TV because I had class. - ครูถามนกั เรยี นถงึ ความหมายของประโยคข้างต้น - ครใู ห้นักเรยี นอา่ นกรอบ Grammar ในหนังสือเรยี น หนา้ 40 ในส่วนสดุ ทา้ ยเพอื่ เฉลยคาตอบข้างต้น ครู สุ่มถามความเข้าใจและอธิบายเพ่ิมเติมวา่ เราสามารถใช้ To be able to + Verb บอกความสามารถท่ี จดั การทาสิ่งใด สง่ิ หน่งึ ในอดตี ถา้ ทาไม่ได้จะใช้ not หลงั กรยิ า to be ซ่ึงความหมายใกล้เคยี งกับ Could + Verb แตอ่ ย่างไรกต็ าม could มักใช้กบั ความสามารถทวั่ ๆ ไป (general abilities) แต่ be able to มักใชก้ ับความสามารถเฉพาะ(particular, specific action) be able to จงึ มักใชก้ ับ ความสามารถในการจดั การทาบางสง่ิ บางอย่างหรอื ประสบความสาเร็จในการทาสิ่งนน้ั ๆ และเขียน ประโยคให้นกั เรียนเลอื กเติมระหวา่ ง be able to กบั could ดังน้ี - I _______ play the piano by the time I was eight. (was able to) - Finally I ________ open the door. (could)
5. ฝึกการใช้ - ครใู ห้นกั เรียนฝกึ ใช้ Would / Used to, Should have + Past Participle, และ To be able to + Verb โดยใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรม Grammar A, B และ C ในหนังสอื เรียน หนา้ 40-41 ในแตล่ ะกิจกรรม ดังนี้กิจกรรม Grammar A - ครูทบทวนถึงความหมายและการใช้ To be able to + Verb และให้นักเรียนอ่านออกเสียงคาส่ังกิจกรรม Grammar A ในหนังสอื เรียน หนา้ 40 - ให้นักเรยี นอ่านออกเสียงประโยคในขอ้ ท่ี 1 ครถู ามนักเรียนถึงตัวเชือ่ ม but ว่าข้อความในสว่ นหนา้ และ สว่ นทีส่ องจะไปในทศิ ทางเดยี วกนั หรือตรงกนั ขา้ ม ฉะน้นั ในประโยคส่วนหน้าจะเตมิ ในรปู บอกเล่าหรอื ปฏเิ สธ (was able to หรอื wasn’t able to) - ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั ทาในข้อที่เหลอื - ครูสุ่มนักเรียนอ่านออกเสียงประโยคที่สมบูรณ์ และใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เฉลยคาตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ครู ช่วยอธิบายและแกไ้ ขในกรณที ่เี ห็นว่ายงั ไมถ่ กู ต้อง กิจกรรม Grammar B - ครใู ห้นักเรยี นอา่ นประโยคในกิจกรรม Grammar B อย่างรวดเร็วและถามนกั เรยี นว่าท้งั หมดเป็น เหตกุ ารณใ์ นอดีตหรอื ปจั จุบนั (อดตี ) คาในช่องวา่ งทีต่ ามหลัง Would หรือ Used to น่าจะตอ้ งเปน็ คา อะไร รูปใด (Verb) - ครใู ห้นกั เรยี นอ่านออกเสียงประโยคข้อท่ี 1 และช่วยหาคากรยิ ามาเตมิ ซึ่งอาจจะเปน็ ride in car หรือ drive และบอกนักเรยี นว่าคาตอบที่เหมาะสมอาจจะมีมากกว่า 1 คา - ครูให้นกั เรยี นแต่ละคนทาในข้อทเ่ี หลือแล้วจบั คูแ่ ลกเปล่ยี นคาตอบซึ่งกนั และกนั - ครูสุ่มนักเรียนอ่านออกเสียงประโยคท่ีสมบูรณ์ ครูช่วยอธิบายและแก้ไขในกรณีที่เห็นว่ายังไม่ ถูกต้อง และช่วยกนั อภิปรายคาตอบทน่ี ่าสนใจ กจิ กรรม Grammar C - ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่านประโยคในกจิ กรรม Grammar C ในหนังสอื เรยี น หน้า 41 อยา่ งรวดเร็วและให้ เตมิ ประโยคให้สมบูรณ์ โดยใหข้ อ้ มลู ตามความเปน็ จรงิ - ครใู ห้นักเรียนจบั ค่แู ลกเปล่ยี นคาตอบซึ่งกันและกนั - ครูสุ่มนกั เรียนอา่ นออกเสยี งประโยคทสี่ มบรู ณ์ ครูชว่ ยอธิบายและแกไ้ ขในกรณีทเ่ี ห็นวา่ ยงั ไมถ่ กู ต้อง - ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ช่วยกันเติมคาในขอ้ ความต่อไปนี้ โดยใหเ้ ตมิ ตามจรงิ 2 ที่ เติมไม่ จรงิ 2 ที่ แลว้ ผลัดกันทายภายในกลุ่มว่าขอ้ ความใดเป็นความจรงิ ขอ้ ความใดเป็นเทจ็ - I would __________ with my friends when I was in elementary school. - I never used to wear __________. - I would __________ when I was little. - I used to play _________ , but now I don’t anymore. กจิ กรรม Grammar D - ครูทบทวนการใช้ Should have + Past Participle และ Shouldn’t have + Past Participle
- ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคข้อที่ 1 ในกิจกรรม Grammar D และช่วยกันคิดว่าควร เตมิ Should have + Past Participle หรือ Shouldn’t have + Past Participle (เตมิ Should have + Past Participle) และถามย้าถึงความหมายของประโยคว่าความจริงเด็กพวกน้ีได้ให้ท่ีนั่งแก่คนชรา หรอื ไม่ (ไมไ่ ด้ให้) - ครใู ห้นกั เรียนจบั คูก่ ันทาในขอ้ ที่เหลอื - ครูสุ่มนักเรียนอา่ นออกเสียงประโยคท่สี มบูรณ์ ครูช่วยอธิบายและแกไ้ ขในกรณีทเ่ี หน็ วา่ ยงั ไมถ่ ูกต้อง (ดู เฉลยท้ายเลม่ )6. เขยี นข้อความบอกสงิ่ ท่ีควรทาหรอื ไม่ควรทาในอดีต - ใหน้ กั เรียนเขียนขอ้ ความบอกเหตุการณ์ทไ่ี มพ่ ึงประสงค์ 3 อยา่ ง และบอกวา่ เราควรทาหรอื ไม่ควรทา อะไรในอดีต อนั อาจจะทาใหเ้ หตกุ ารณ์ทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ดงั กล่าวเกดิ ขน้ึ (Write three events and tell about things that you should have done or shouldn’t have done for each event.) แนวการเขยี น Now I have a cold because I walked in the rain last week. - I shouldn’t have walked in the rain. Or I should have worn a raincoat. etc. - ครสู ุม่ นกั เรียนอา่ นผลงานเขียนใหเ้ พ่อื นฟังในชัน้ เรยี น7. ประเมินการเขียน - ครปู ระเมนิ การเขียนโดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ การเขียน และใช้เกณฑ์ผ่านระดับพอใช้กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา - ให้นักเรยี นเขียนขอ้ ความบอกความสามารถ นสิ ยั กจิ กรรมของตนเองในปจั จุบนั ท่ีตรงกนั ขา้ มกับในสมัย ทย่ี งั เดก็ - ครใู ห้นกั เรียนทาแบบฝึกหัด ข้อ A-F ในหนังสอื แบบฝึกหัด New World 6 หน้า 25-27 (ดูเฉลยทา้ ยเลม่ ) ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น New World 6 หน้า 40-41 2. หนังสือแบบฝกึ หดั New World 6 หนา้ 25-27
บนั ทึกผลหลงั การสอนแผนท.ี่ ......- ดา้ นความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านทกั ษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปญั หา/ขอ้ สงั เกต/ข้อเสนอแนะการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณฐั วฒุ ิ นามเดช) ครูผูส้ อน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 Achievements and Regrets ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6เร่ืองหลัก/หัวเรอ่ื ง Work เวลา 2 ช่ัวโมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งท่ตี ้องรแู้ ละปฏบิ ัติได้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ช้ีวัด พดู นาเสนอขอ้ มลู ถอ้ ยคาพูดนาเสนอข้อมลู ประเมนิ การพูดนาเสนอต 1.1 ม.4-6/4 เกี่ยวกบั ตนเอง/ ประสบการณ์ ขา่ ว/ เกี่ยวกับสง่ิ ทีป่ ระสบ ข้อมลู โดยใชเ้ กณฑ์การต 1.2 ม.4-6/1 เหตกุ ารณ์ เรอื่ งและ ประเดน็ ต่าง ๆ ตาม ความสาเรจ็ และความ ประเมนิ การพดู และใช้ ความสนใจ เสยี ใจหรอื เสยี ดายโอกาส เกณฑ์ผา่ นระดับพอใช้ เขียนนาเสนอข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง/ ในอดีต และสง่ิ ท่ีเคยทา ประสบการณต์ ามความ สนใจของสังคม ในวัยเด็ก ขอ้ เขยี นเกี่ยวกับ ประเมินขอ้ เขียนโดยใช้ ความสาเรจ็ ของตนเอง เกณฑ์การประเมินการ การกระทาที่ได้นาไปสู่ เขยี น และใช้เกณฑผ์ ่าน ความสาเรจ็ และ ระดบั พอใช้ ส่ิงทหี่ วังวา่ จะทาตอ่ ไป ในอนาคตความรู้ - คาศัพท์ - - สานวนภาษา - - หนา้ ท่ีภาษา - To tell about accomplishment/achievement, regret - โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Present Simple Tense, Past Simple Tense, Present Perfect Tense - Would / Used to - Be able to - Should have + Past Participle กจิ กรรมการกจิ เกรียรรนมรู้Speaking1. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
- ครบู อกนกั เรยี นวา่ ในหนว่ ยการเรยี นรู้นน้ี ักเรยี นจะได้พูดแลกเปลย่ี นประสบการณ์เกีย่ วกับส่ิงท่ปี ระสบ ความสาเร็จและความเสยี ใจหรือเสยี ดายโอกาสในอดีต และสิ่งที่เคยทาในวยั เด็กแลว้ นาเสนอหน้าช้ัน เรยี น2. พูดแสดงความคิดเหน็ และรายงาน - ครใู ห้นักเรียนทากจิ กรรม Speaking ในหนังสอื เรียน หน้า 43 โดยแบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน - สมุ่ นกั เรยี นหนึ่งคนอ่านออกเสยี งประโยคคาถามในกจิ กรรม Speaking ในหนงั สอื เรียน หนา้ 43 - What has been your greatest achievement? - What is your biggest regret? - Discuss the things you used to do when you were a kid. - ให้นักเรียนสมาชิกในแต่ละกลมุ่ ตอบคาถามในกจิ กรรม Speaking - แต่ละกล่มุ รวบรวมประสบการณ์ความคดิ เหน็ ของสมาชิกรายงานในชน้ั เรียน - ใหแ้ ต่ละกลุ่มซกั ถามและอภิปรายเกย่ี วกบั ประสบการณ์และขอ้ เสนอแนะทน่ี า่ สนใจ3. ประเมนิ การพดู นาเสนอขอ้ มูล - ครปู ระเมินการพดู นาเสนอขอ้ มูลโดยใช้เกณฑก์ ารประเมินการพดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้4. สารวจสิง่ ท่ีเคยทาในวัยเดก็ - ให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกส่งิ ทเ่ี คยทาในวยั เดก็ และเขียนบนกระดาน - ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันยกมือในรายการทต่ี นเคยทาในวยั เดก็ - ให้นกั เรียนชว่ ยกันสรปุ ว่ารายการทมี่ คี วามถีส่ ูงสุดและต่าสุดคอื อะไรกิจกรรม Writing1. นาเข้าสู่บทเรยี น - ครชู ักชวนนักเรียนพูดคยุ เกี่ยวกบั ภาพในกิจกรรม Writing ในหนังสอื เรยี น หน้า 41 โดยอาจใชแ้ นว คาถามดงั น้ี - What are the people doing in each picture? - Have you ever played the piano? - Have you ever participated in any tournaments/competitions? What was it? - How about it? Have you won? Have you got any trophies, cups, medals? - ครใู หน้ กั เรียนอา่ นออกเสยี งคาสั่งในกจิ กรรม Writing ในหนังสอื เรียน หนา้ 412. แจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ - ครูบอกนกั เรยี นวา่ ในหนว่ ยการเรียนรู้นนี้ ักเรยี นจะได้ฝึกเขียนขอ้ ความเกี่ยวกับความสาเรจ็ ของตนเอง การกระทาท่ีได้นาไปสคู่ วามสาเรจ็ และส่ิงทีห่ วังว่าจะทาตอ่ ไปในอนาคต CULTURE CORNER ตัวอย่างคาคมท่ีเก่ียวกับความสาเร็จ - การเป็นตวั ของตวั เองในโลกท่ีมงุ่ เปลีย่ นแปลงคณุ เป็นอย่างอ่ืนตลอดเวลา คอื ความสาเร็จท่ียงิ่ ใหญ่ – ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สนั กวีและนกั เขยี นบทความยคุ ศตวรรษที่ 19กิจกรร-มกไอ่ มนว่ า่เขคณยีุ นจะทาอะไรสาเร็จก็ตาม มใี ครบางคนช่วยคณุ – แอลเธีย ก๊ิบสนั นกั กีฬาทีมชาติสหรัฐอเมริกา - เราจะบรรลใุ นอีกหลาย ๆ สิง่ มากมายถ้าเราไม่คดิ วา่ ส่ิงนนั้ เป็นไปไมไ่ ด้ – กิลอาม กรีเตียน มาเลเซอเบส รัฐบรุ ุษของฝร่ังเศสในยคุ ศตวรรษท่ี 18
1. ครูทบทวนประโยคในรูป Present Simple, Past Simple และ Present Perfect Tense โดยให้นักเรียนช่วยกนั อธิบายการใชค้ ากริยาที่ขดี เส้นใต้ - I can make many kinds of cake. I have been able to make cakes since I was in Prathom 5. I used to watch my mother and help her make them. In the future I would like to have my own cake shop. I will sell all kinds of cake.2. ครูถามนกั เรยี นว่าถา้ จะเขียนขอ้ ความตามคาส่ังในกจิ กรรม Writing เราควรเขยี นเกี่ยวกบั เรื่องอะไรบา้ ง ให้ นักเรยี นช่วยกันบอกหัวขอ้ ทจี่ ะเขียน ซง่ึ อาจจะมหี วั ข้อดงั นี้ - My accomplishments – what you’ve been able to do – list them - What are you most proud of? - How did you do to achieve it? / What have you managed to achieve? - What do you hope to do in the future?กิจกรรมการเขียน1. ใหน้ ักเรียนเขยี นข้อความบอกความสาเร็จของตนเองตามคาส่งั ในกิจกรรม Writing2. นักเรียนจับคู่ (ไม่ซ้าคู่เดิม) กับเพื่อนแลกกันอ่านงานเขียนของกันและกัน และให้ข้อเสนอแนะในการ ปรบั ปรุงตามท่เี ห็นสมควร3. นกั เรยี นปรบั ปรุงงานเขียนและแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 4-5 คน รายงานงานเขียนของตนในกลุ่มย่อยกิจกรรมหลงั เขียน1. ประเมนิ การเขยี นขอ้ ความ - ครปู ระเมนิ การเขียนของนกั เรียนโดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การเขียน และใช้เกณฑ์ผา่ นระดับพอใช้2. นาเสนองานเขยี น - ครสู ุม่ นักเรยี น 2-3 คน อ่านงานเขียนของตนเองใหเ้ พอ่ื นฟงั - ครูให้นักเรียนติดงานเขียนของตนที่บอร์ดในห้องเรียนเพื่อให้เพ่ือนอ่านและช่วยกันลงมติว่าผลงานหรือ คาแนะนาของใครทีน่ ่าสนใจบ้างกิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา - ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัด ขอ้ G-H ในหนังสือแบบฝึกหดั New World 6 หน้า 28 (ดูเฉลยทา้ ยเล่ม) ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น New World 6 หน้า 41 และ 43 2. หนังสือแบบฝึกหัด New World 6 หนา้ 28 3. สือ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ - www.oknation.net/blog/tan-hypnosis/2012/03/19/entry-2 - http://unigang.com/Article/2727 - www.baanjomyut.com/library_2/celebrity_quotes_world_proverbs
บันทกึ ผลหลังการสอนแผนท่ี.......- ด้านความรู้......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................- ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ปัญหา/ขอ้ สงั เกต/ขอ้ เสนอแนะการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................... (นายณฐั วฒุ ิ นามเดช) ครูผสู้ อน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 9-13 In Style ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6เรือ่ งหลกั /หวั เร่ือง Fashion เวลา 10 ช่ัวโมงสาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด หน่วยการเรียนรู้นีม้ ีจดุ มงุ่ หมายให้นกั เรียนรู้จกั เสอื ้ ผ้าและเครื่องแตง่ กายในสมยั นิยมในบทเรียนและจากการศึกษา ค้นคว้าและนาเสนอในห้องเรียน นกั เรียนจะได้พดู แสดงบทบาทสมมตเิ กี่ยวกบั การออกแบบเครื่องแต่งกาย ฟังบคุ คล ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกบั การแตง่ กายไปสมั ภาษณ์เพื่อสมคั รเข้าทางาน อ่านออกเสียงบทสนทนา เขียนบรรยายเสอื ้ ผ้าท่ี อย่ใู นสมยั นยิ ม และรายงานการศกึ ษาค้นคว้าเกี่ยวกบั คาพดู ภาษาองั กฤษต่าง ๆ ที่ประทบั บนเสอื ้ ยืด นอกจากนีย้ ังได้ เรียนรู้คาศพั ท์ที่เกี่ยวข้องกบั เหตกุ ารณ์ดงั กลา่ ว รวมทงั้ หน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ท่ีเป็นพืน้ ฐานของ กจิ กรรมฟัง พดู อ่าน เขียนในหนว่ ยการเรียนรู้นี ้มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัดสาระที่ 1 : ภาษาเพอ่ื การสือ่ สารมาตรฐาน ต 1.1 ม.4-6/4สาระท่ี 2 : ภาษาและวฒั นธรรมมาตรฐาน ต 2.1 ม.4-6/2สาระท่ี 3 : ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่นมาตรฐาน ต 3.1 ม.4-6/1สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแกป้ ญั หา ใฝ่เรียนรู้ : ค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างการใชท้ ักษะชวี ติ การใช้เทคโนโลยี ๆทักษะ/กระบวนการทักษะเฉพาะวชิ า ทกั ษะการคิดการฟัง : จบั ใจความสาคญั - การคดิ ท่ีใชใ้ นการสอื่ สารการพูด : สนทนาโตต้ อบเกี่ยวกบั ขอ้ มูลและสิง่ ใกล้ตวั - การคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์การอ่าน : อ่านออกเสยี ง อา่ นจับใจความสาคัญ - การรวบรวมข้อมูลการเขียน : เขยี นบรรยาย และเขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ คว้า - การจัดระเบียบความเข้าใจท่ยี ั่งยนืนกั เรยี นเขา้ ใจว่าการฝึกใช้คาศพั ท์ สานวนเกี่ยวกบั เส้อื ผ้า เครือ่ งแต่งกาย ฯลฯ จะทาใหน้ ักเรยี นสนทนา อ่านและเขยี นได้ดยี งิ่ ขนึ้ความสมั พนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ศลิ ปะ; สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 In Style ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6เรื่องหลกั /หวั เรื่อง Fashion เวลา 2 ชว่ั โมงเป้าหมายการเรียนรู้/หลักฐานการเรียนรู้/การวัดผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สง่ิ ที่ต้องรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ช้นิ งาน การวัดผลและประเมินผล และตวั ช้ีวดั จับใจความสาคญั คาตอบทีถ่ กู ต้องจากการ ประเมินความเขา้ ใจต 1.1 ม.4-6/4 จากข้อความที่อา่ น อา่ นขอ้ ความในกจิ กรรม ข้อความที่อา่ นจากต 3.1 ม.4-6/1 พูดนาเสนอข้อมูล เก่ยี วกับตนเอง/ New Language จานวนคาตอบทีถ่ ูกตอ้ ง ประสบการณ์ ตามความสนใจ (Worksheet 1) โดยใชเ้ กณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60 ถ้อยคาพูดนาเสนอข้อมลู ประเมินการพดู นาเสนอ ทีน่ ่าสนใจของสมาชิกใน ขอ้ มลู โดยใช้เกณฑ์การ กลมุ่ เกย่ี วกับเสื้อผ้าใน ประเมินการพูด และใช้ สมัยนิยมและเสอ้ื ผ้าที่ เกณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้ ชอบใส่ความรู้- คาศัพท์กิจกรรม New Language- the universal look (n.): appearance of all people (การแตง่ กายท่เี ปน็ สากล)- straw (n.): the cut stalks of dried grain plants (ฟาง)- fabric (n.): material, especially woven material (ผา้ , สิง่ ทอ)- fashion statement (n.): clothes worn to show your style (เสอื้ ผา้ สมัยนยิ ม)- sporting (adj.): wearing, in this context (ทีส่ วมใส)่- bolt (n.): a screw holding two pieces of metal together (สลัก, ทยี่ ดึ , ท่ี เกยี่ ว)- rural (adj.): in the country (ในชนบท)- urban (adj.): of or in a town (ในเมอื ง)- affordable (adj.): not very expensive (ไม่แพงมาก, สามารถซ้อื หาได)้- สานวนภาษา-- หน้าทภ่ี าษา- To talk about fashion- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103