Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore is1-m55

is1-m55

Published by 22230, 2019-09-10 22:35:19

Description: is1-m55

Search

Read the Text Version

ค่มู ือการทาโครงงานคณุ ธรรมขนั้ ต้น โครงการการประกวดโครงงานคณุ ธรรม เฉลิมพระเกียรติ ประจาปี การศึกษา ๒๕๕๐ ๑ ๒๓ ๕๖๗ ๘ ๔ สดุ ยอด สกั วันหนึง่ โลกจะ ได้รวู้ ่า .. พวกเราน่ะ ก็มดี ี .. .. คดิ ได้ และทาเป็น กคพ. www.moralproject.net



โครงงานคณุ ธรรม (Moral Project) โครงงานคณุ ธรรม เป็นกจิ กรรมการเรยี นรเู้ ชงิ บูรณาการ (Integral Learning Activity) ท่ี พฒั นาผเู้ รยี นอยา่ งเป็นองคร์ วม (Holistic Development) ทม่ี คี ุณธรรมหรอื ความดงี ามเป็นพน้ื ฐานหรอื แก่นหลกั (Moral based) โดยใชเ้ ทคนคิ วธิ กี ารเรยี นรแู้ บบโครงงาน (Project Approach) ทเ่ี กดิ ขน้ึ มา จากความสนใจความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคข์ องผเู้ รยี นเอง (Learner centered) และเน้นการเรยี นรผู้ ่าน การปฏบิ ตั จิ รงิ (Learning by doing) ดว้ ยความพากเพยี รจดจอ่ ต่อเน่อื งในชว่ งระยะเวลาทย่ี าวนาน ตามสมควรในลกั ษณะวจิ ยั ปฏบิ ตั กิ าร (mini Action Research) ก่อใหเ้ กดิ การแกไ้ ขปัญหาดา้ นความ เส่อื มทรามทางศลี ธรรม (Problem solving) และสง่ เสรมิ การบ่มเพาะความดมี คี ณุ ธรรม (Moral Incubation) อยา่ งเป็นรปู ธรรมและเป็นระบบ (Pragmatic & Systematic) รวมทงั้ การขยายความมี สว่ นรว่ มไปส่บู คุ คลต่างๆ (Participation) ในสถานศกึ ษาและชุมชนของตนเอง หรอื ชุมชนอ่นื ท่ี เกย่ี วขอ้ ง กระบวนการเรยี นรแู้ บบ “โครงงานคุณธรรม” นนั้ มหี ลกั การสาคญั วา่ ตอ้ ง “ร่วมกนั -ทำดี- อย่ำงมปี ัญญำ” กล่าวคอื กระบวนการเรยี นรทู้ ด่ี แี ละสมบรู ณ์นนั้ จะตอ้ งเรมิ่ ตน้ จากการสรา้ งควำม เป็นกลั ยำณมิตรต่อกนั ก่อน อนั เป็นปัจจยั ตน้ เรมิ่ ทส่ี าคญั ทส่ี ดุ จงึ ตอ้ งออกแบบและจดั วางเงอ่ื นไขให้ เกดิ การรวมกลุ่มกนั โดยมอี งคป์ ระกอบโครงสรา้ งและความสมั พนั ธใ์ นกลุ่ม ใหส้ ามารถดงึ ดา้ นบวก ของแต่ละคนออกมาหากนั ใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด ซง่ึ กจ็ ะทาใหเ้ กดิ การใฝ่ดคี ดิ ดแี ละทาดรี ว่ มกนั ออกมาได้ อยา่ งเตม็ ทเ่ี ตม็ ตามศกั ยภาพของแต่ละคน เกดิ การซมึ ซบั ความดี พรอ้ มๆ กบั มกี ารเรยี นรหู้ รอื มี กระบวนการทางปัญญาเกดิ ขน้ึ ตลอดสาย ตงั้ แต่เรมิ่ ตน้ ระดมความคดิ การสงั เกตสารวจสภาพปัญหา ปัญญาตระหนกั รใู้ นสถานการณ์หรอื สภาพปัญหาและสบื สาวถงึ สาเหตุ ปัญญาคน้ ควา้ หาความรจู้ าก แหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ เพม่ิ เตมิ การรวบรวมประมวลขอ้ มลู ปัญญาคดิ วเิ คราะหค์ ดิ สงั เคราะห์ ปัญญาคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ การทาความคดิ ใหช้ ดั และเป็นระบบ การคดิ วางแผนงาน การร่างโครงงาน ปัญญาการ ปรบั ประยกุ ตจ์ ากนามธรรมใหเ้ ป็นรปู ธรรม ปัญญาการตดิ ตามดาเนนิ งานปรบั ปรงุ งาน ปัญญาการ แกป้ ัญหาเฉพาะหน้า ปัญญาการประเมนิ ผลสรปุ ผล และปัญญาการนาเสนอ ตลอดจนสตปิ ัญญาทจ่ี ะ เทา่ ทนั และสามารถวางใจต่อโลกธรรมทงั้ ๘ ทม่ี าถกู ตอ้ งสมั ผสั ใจไดอ้ ยา่ งฉลาดและเป็นกุศลได้ในทส่ี ดุ การพฒั นาการเรยี นรแู้ ละคุณธรรมของผเู้ รยี นผ่านการทาโครงงานคุณธรรมนนั้ จะเกดิ ขน้ึ ควบคกู่ นั ไป จากกระบวนการกลั ยาณมติ ร, กระบวนการเปิดการเรยี นรภู้ ายใน (ปรโตโฆสะ สู่ สทั ธา และโยนิโสมนสกิ าร), กระบวนการเรยี นรอู้ ยา่ งเป็นองคร์ วม (ตามหลกั ไตรสกิ ขา-ภาวนา๔) และ กระบวนการพฒั นาแบบเวยี นรอบต่อเน่อื ง (สาหรบั ผสู้ นใจเชงิ ลกึ สามารถอ่านบทความทอ่ี ธบิ าย กระบวนการเรยี นรทู้ งั้ ๔ ขนั้ ตอนน้ไี ดเ้ พม่ิ เตมิ ทางเวบไซต์ www.moralproject.net) ๑

ขนั้ ตอนในการทาโครงงานคณุ ธรรม โครงงานคุณธรรมนนั้ เป็นกจิ กรรมทจ่ี ะตอ้ งคดิ และดาเนินการอยา่ งต่อเน่อื ง ควบค่ไู ปกบั การ เรยี นรแู้ ละการพฒั นาคุณธรรม โดยอาศยั พระสงฆ์-ผรู้ ทู้ างศาสนา ครู หรอื ผบู้ รหิ ารเป็นกลั ยาณมติ ร ตงั้ แต่เรม่ิ ตน้ ไปจนเสรจ็ สน้ิ โครงงาน ในการใหค้ าปรกึ ษา เสรมิ สรา้ งพลงั และแรงบนั ดาลใจ สนบั สนุน ปัจจยั ทรพั ยากรขอ้ มลู และองคค์ วามรตู้ ่างๆ ใหแ้ ก่ผดู้ าเนนิ การโครงงานอย่างใกลช้ ดิ ในทกุ ขนั้ ตอน ของการทาโครงงาน ซง่ึ มี ๖ ขนั้ ตอนสาคญั ดงั น้ี ขนั้ ตอนท่ี ๑ การตระหนกั รแู้ ละพจิ ารณาเลอื กหวั เรอ่ื งหรอื ประเดน็ ปัญหา ขนั้ ตอนท่ี ๒ การรวบรวมประมวลขอ้ มลู และองคค์ วามรูท้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง ขนั้ ตอนท่ี ๓ การจดั ทาร่างโครงงาน ขนั้ ตอนท่ี ๔ การดาเนินการโครงงาน ขนั้ ตอนท่ี ๕ การสรปุ ประเมนิ ผลและเขยี นรายงาน ขนั้ ตอนท่ี ๖ การนาเสนอโครงงาน ขนั้ ตอนที่ ๑ การตระหนักรแู้ ละพิจารณาเลือกหวั เรือ่ งหรอื ประเดน็ ปัญหา ขนั้ ตอนน้เี ป็นขนั้ ตอนทส่ี าคญั ทส่ี ุด ทต่ี อ้ งอาศยั ภาวะการตระหนกั รใู้ นสถานการณ์หรอื สภาพ ปัญหาดว้ ยสตปิ ัญญา หรอื ภาวะทม่ี แี รงบนั ดาลใจทจ่ี ะทาสงิ่ ดงี ามอะไรบางอยา่ งทเ่ี ป็นความฝันหรอื อุดมคติ ซง่ึ อาจจะเกดิ จากผเู้ รยี นเองโดยตรง หรอื อาจจะเกดิ จากการแนะนาหรอื ชช้ี วนจากผอู้ ่นื เป็น เงอ่ื นไขภายนอกทก่ี ระตุน้ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความตระหนกั รหู้ รอื แรงบนั ดาลใจขน้ึ กไ็ ด้ การสรา้ งความ ตระหนกั รนู้ นั้ เป็นขนั้ ตอนทย่ี าก เพราะโดยทวั่ ไปสภาพการณ์ทเ่ี ป็นปัญหาต่างๆ นนั้ มกั จะเกดิ ขน้ึ อยู่ แลว้ แต่มกั จะถูกละเลยมองขา้ ม หรอื ชาชนิ เคยชนิ จนมองไมเ่ หน็ ปัญหา หรอื ไม่รสู้ กึ วา่ ตนเองมสี ่วน เกย่ี วขอ้ งกบั ปัญหานนั้ อยา่ งไรในทานอง “เสน้ ผมบงั ภเู ขา” หรอื “ปลาอยใู่ นน้ามองไมเ่ หน็ น้า” จงึ ตอ้ ง อาศยั เหตุปัจจยั ภายนอก จากกลั ยาณมติ รทก่ี ระตุน้ ปัจจยั ภายในใจของผเู้ รยี นไดถ้ กู ตรงกบั จรติ นสิ ยั ในเงอ่ื นไขสถานการณ์แวดลอ้ ม และจงั หวะเวลาทพ่ี อเหมาะพอดี จนเกดิ ฉนั ทะรว่ มกนั ทจ่ี ะรวมกนั เป็น กลุม่ เพ่อื ดาเนินการโครงงาน ขนั้ ตอนที่ ๒ การรวบรวมประมวลข้อมูลและองคค์ วามร้ทู ี่เก่ียวข้อง เมอ่ื สมาชกิ ทุกคนในกล่มุ เหน็ พอ้ งกนั และตดั สนิ ใจเลอื กประเดน็ ปัญหาหรอื หวั เรอ่ื งไดแ้ ลว้ และ ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากทป่ี รกึ ษาแลว้ กจ็ ะเป็นขนั้ ตอนของการระดมความคดิ วางแผนงานในเบอ้ื งตน้ โดยเรมิ่ จากการรว่ มกนั พจิ ารณาวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาแลว้ สบื สาวไปหาสาเหตุและปัจจยั รว่ มต่างๆ การวางเป้าหมายและวธิ กี ารแกป้ ัญหา ซง่ึ จะพบว่ายงั มขี อ้ มลู ของสภาพปัญหาและปัจจยั ต่างๆ ท่ี เกย่ี วขอ้ งไมเ่ พยี งพอหรอื ยงั มรี ายละเอยี ดทไ่ี มช่ ดั เจน ตวั แปรสนบั สนุนและองคค์ วามรตู้ ่างๆ ทจ่ี ะ นามาใชใ้ นการวางแผนแกป้ ัญหากย็ งั มไี มค่ รบถว้ นหรอื ยงั ไมช่ ดั เจนเป็นตน้ จงึ ตอ้ งมกี ารรวบรวม ขอ้ มลู และองคค์ วามรเู้ พมิ่ เตมิ (ซง่ึ อาจจะไดม้ าจากการสารวจโดยละเอยี ดหรอื ประมาณการโดยครา่ วๆ กไ็ ด)้ จากการพบปะสนทนาขอความรว่ มมอื จากบคุ คลต่างๆ และจากการคน้ ควา้ หาความรจู้ าก ๒

หนงั สอื ตาราและแหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ แลว้ นาขอ้ มลู ทร่ี วบรวมไดท้ งั้ หมดมาประมวลเพอ่ื จดั เตรยี มสาหรบั คดิ วางแผนทารา่ งโครงงานต่อไป ขนั้ ตอนที่ ๓ การจดั ทารา่ งโครงงาน ขนั้ ตอนน้เี ป็นการคดิ พจิ ารณาวางแผนงานในรายละเอยี ดและภาพรวมทงั้ หมด โดยนาขอ้ มลู ท่ี รวบรวมและประมวลไดท้ งั้ หมดนนั้ มาเรยี บเรยี งและจดั ทาเป็นเอกสารร่างโครงงาน ทม่ี หี วั ขอ้ ต่างๆ ตามทก่ี าหนดไว้ อยา่ งน้อย ๑๓ หวั ขอ้ (จานวนหน้า ๑๐ – ๒๐ หน้ากระดาษขนาด A4) ดงั น้ี (๑) ชื่อโครงงาน (ช่อื โครงงานเป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ) (๒) กล่มุ เยาวชนผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน และสถานศึกษา แสดงชอ่ื กล่มุ รายช่อื สมาชกิ ในกลุม่ ตาแหน่ง ชนั้ เรยี น, ชอ่ื สถานศกึ ษา ทต่ี งั้ โทรศพั ท์ โทรสาร E-mail และเวบไซตส์ ถานศกึ ษา(ถา้ ม)ี (๓) ที่ปรึกษาโครงงาน ช่อื -นามสกุล ตาแหน่ง โทรศพั ทแ์ ละ E-mail (กรณเี ป็นพระภกิ ษุใหร้ ะบฉุ ายาและช่อื วดั ดว้ ย) (๔) วตั ถปุ ระสงค์ (ไมค่ วรเกนิ ๕ ขอ้ ) (๕) สถานท่ีและกาหนดระยะเวลาดาเนินการ พน้ื ทท่ี เ่ี ลอื กดาเนินการจะเป็นภายในหรอื ภายนอกสถานศกึ ษากไ็ ด้ สว่ นกาหนดระยะเวลา ดาเนนิ การนนั้ แบง่ เป็น ๒ ระยะ ระยะท่ี ๑ ควรอยใู่ นช่วงเดอื น พฤษภาคม – สงิ หาคม ๒๕๕๐ และระยะท่ี ๒ ในช่วงเดอื น ตุลาคม ๒๕๕๐ – มกราคม ๒๕๕๑ (๖) ผงั มโนทศั น์ สรปุ ภาพรวมของรา่ งโครงงานทงั้ หมดเป็นผงั มโนทศั น์ ใน ๑ หน้ากระดาษ (๗) สาระสาคญั ของโครงงาน (คาอธบิ ายสาระสาคญั ของโครงงานโดยยอ่ ๕ - ๑๐ บรรทดั ) (๘) การศึกษาวิเคราะห์ (๘.๑) ปัญหาและสาเหตุ (ประมวลขอ้ มลู สภาพปัญหา แลว้ วเิ คราะห์สบื สาวหาสาเหตุและปัจจยั ต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ปัญหา เพอ่ื ใหเ้ หน็ ทม่ี าและความสาคญั ของโครงงาน) (๘.๒) เป้าหมาย (วางเป้าหมายของการแกป้ ัญหาทงั้ เชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ) (๘.๓) หลกั การและหลกั ธรรมทน่ี ามาใช้ (แสดงหลกั ธรรมและแนวพระราชดาริ หรอื หลกั วชิ าการ ต่างๆ ทน่ี ามาใช้ พรอ้ มอธบิ ายความหมายโดยยอ่ แลว้ อธบิ ายเชอ่ื มโยงกบั การดาเนินการ โครงงาน อยา่ งสอดคลอ้ งเป็นเหตุเป็นผล) (๙) วิธีการดาเนินงาน (แสดงวธิ กี ารดาเนินงานเป็นขอ้ ๆ หรอื เป็นแผนผงั ทม่ี คี าอธบิ ายทช่ี ดั เจน) (๑๐) งบประมาณและแหล่งท่ีมาของงบประมาณ (แสดงงบประมาณโครงงานและแหลง่ ทม่ี า หาก มกี ารระดมทุนเพมิ่ ใหบ้ อกแผนงานหรอื วธิ กี ารระดมทนุ ดว้ ย) (๑๑) ผลที่คาดว่าจะได้รบั (ผลโดยตรงและผลกระทบทต่ี ่อเน่อื งออกไป) (๑๒) ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของท่ีปรึกษา (๑๓) ความคิดเหน็ และความร้สู ึกของประธานกล่มุ เยาวชนผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน ๓

ขนั้ ตอนท่ี ๔ การดาเนินการโครงงาน การดาเนนิ การโครงงานแบ่งออกเป็น ๒ ระยะ ดงั น้ี - ระยะท่ี ๑ บกุ เบิก-ทดลอง ช่วงเดอื น พฤษภาคม – สงิ หาคม ๒๕๕๐ - ระยะท่ี ๒ ตอกยา้ -ขยายผล ช่วงเดอื น ตุลาคม ๒๕๕๐ – มกราคม ๒๕๕๑ ขนั้ ตอนน้เี ป็นการนาร่างโครงงานมาปฏบิ ตั จิ รงิ ไปตามลาดบั ขนั้ ตอนและวธิ กี ารดาเนินงาน ซง่ึ จะมที งั้ ในส่วนทแ่ี บง่ งานและดาเนนิ งานกนั ในระหว่างสมาชกิ ในกล่มุ ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน และงานใน ส่วนทส่ี รา้ งการมสี ่วนรว่ มใหก้ บั เพอ่ื นนกั เรยี นอ่นื หรอื บคุ คลต่างๆ ทเ่ี ขา้ มาช่วยทางานในดา้ นต่างๆ ตลอดจนการจดั กจิ กรรมรณรงคข์ ยายการมสี ่วนรว่ มออกไปส่ชู ุมชน การดาเนินงานในชว่ งน้อี าจมี ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั มาทเ่ี ป็นเรอ่ื งใหมท่ เ่ี พง่ิ ทราบ หรอื คลาดเคล่อื นไปจากทค่ี าดการณ์ไว้ หรอื เกดิ สถานการณ์ทย่ี งุ่ ยากเป็นอุปสรรคขอ้ ขดั ขอ้ งหรอื ขอ้ ขดั แยง้ ใหต้ อ้ งเผชญิ หน้าและแก้ปัญหาอยเู่ สมอๆ อนั อาจจะนามาซง่ึ ความอ่อนลา้ ความเหน่อื ยหน่ายทอ้ แท้ ไดบ้ ่อยๆ ซง่ึ ทงั้ หมดน้ีลว้ นเป็นแบบฝึกหดั สาคญั ของการเรยี นรแู้ ละพฒั นาคณุ ธรรม ของผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงานและผมู้ าชว่ ยงานทงั้ สน้ิ และจาเป็น อยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งมกี ารตดิ ตาม สนบั สนุน ดแู ล ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทงั้ ทางทรพั ยากรภายนอกและทาง จติ ใจ จากคณะทป่ี รกึ ษาอยา่ งใกลช้ ดิ ตลอดระยะเวลาดาเนินการโครงงานทงั้ ๒ ช่วง ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงานพงึ ระลกึ ไวว้ ่า การทางานจรงิ อาจมหี ลายสงิ่ ทไ่ี มเ่ ป็นไปตามทค่ี าดการณ์ และระบุไวใ้ นร่างโครงงาน และหลายครงั้ อาจตอ้ งมกี ารปรบั เปลย่ี นแผนงานไปจากเดมิ กไ็ มเ่ ป็นไร แต่ ตอ้ งเขา้ ใจวา่ เพราะอะไร สามารถอธบิ ายไดถ้ งึ เหตุผลของการทผ่ี ดิ พลาดไปจากแผนงานทว่ี างไวไ้ ด้ อยา่ ทางานเพยี งเพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลตามร่างโครงงานทว่ี างแผนไวเ้ ทา่ นัน้ แต่ทางานเพ่อื ก่อใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ และพฒั นาคุณธรรมของตนเองและทกุ คนทเ่ี กย่ี วขอ้ งเป็นหลกั ทาแลว้ คณุ ธรรมความดตี อ้ งเพม่ิ ขน้ึ และ ควรมคี วามสขุ จากการทาความดนี ัน้ ทาโครงงานและความดี เพอ่ื น้อมเกลา้ ฯ ถวายพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มิใช่การแขง่ ขนั เพ่อื ล่ารางวลั ขนั้ ตอนท่ี ๕ การสรปุ ประเมินผลและเขียนรายงาน จากการดาเนินงาน ในขนั้ ตอนท่ี ๔ นนั้ ใหก้ ลุ่มเยาวชนไดท้ าการประเมนิ ผลและสรปุ ผลการ ดาเนินงานเฉพาะในระยะท่ี ๑ ช่วงเดอื นพฤษภาคม – สงิ หาคม เพอ่ื นามาใชจ้ ดั ทาเป็น เอกสารและส่อื การนาเสนอโครงงาน ๕ หรอื ๖ รายการ ดงั น้ี (ดรู ายละเอยี ดในภาคผนวก ก.) (๑) รายงานโครงงาน (๒๐–๕๐ หน้ากระดาษขนาด A4 ไมร่ วมปก) (๒) สรปุ ย่อโครงงานใน ๑ หน้ากระดาษ (๑ หน้ากระดาษขนาด A4) (๓) แผน่ พบั นาเสนอโครงงาน (๑ แผน่ กระดาษขนาด A4 หน้า-หลงั ) (๔) สื่อ Presentation เชน่ Powerpoint หรอื VCD (เวลาไมเ่ กนิ ๗ นาท)ี (๕) แผน่ ป้ายนิทรรศการโครงงาน (๖) เวบเพจ นาเสนอโครงงานผา่ นทางอนิ เตอรเ์ นต (บงั คบั เฉพาะกรณีทไ่ี ดท้ ่ี ๑ ของ สพท.) ๔

รายการท่ี (๑) (๒) (๓) และ (๔) ใหบ้ นั ทกึ ไฟลข์ อ้ มลู รวมลงในแผ่น CD แผ่นเดยี ว (ถา้ รายการ ท่ี (๔) เป็น VCD ใหแ้ ยกเป็นอกี หน่งึ แผ่น) ทห่ี น้าแผ่น CD ใหเ้ ขยี นระบุชอ่ื โครงงาน สถานศกึ ษา และ สพท. และแสดงรายการไฟลร์ ายงาน, ไฟลส์ รปุ ยอ่ , ไฟลแ์ ผ่นพบั และไฟลน์ าเสนอใหค้ รบถว้ นถูกตอ้ ง ขนั้ ตอนท่ี ๖ การนาเสนอโครงงาน การนาเสนอโครงงาน เป็นทกั ษะทส่ี าคญั ของผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงานทกุ คนทจ่ี ะตอ้ งทาหน้าท่ี เป็นกลั ยาณมติ ร ทาการสอ่ื สารและถ่ายทอดความดงี ามจากโครงงานของตนเองออกสู่การรบั รขู้ อง บุคคลอ่นื และสาธารณะ สมาชกิ ทกุ คนในกลุ่มควรทาความเขา้ ใจในรายละเอยี ดและภาพรวมของ โครงงานทงั้ หมด แลว้ ซกั ซอ้ มการนาเสนอในประเดน็ สาคญั ๆ ไวเ้ พ่อื เตรยี มตวั สาหรบั การนาเสนอบน เวที การสมั ภาษณ์ซกั ถาม และการนาเสนอหน้าแผ่นป้ายนิทรรศการโครงงาน ใหค้ ณะกรรมการและผู้ มาชมนทิ รรรศการโครงงานสามารถเขา้ ใจไดใ้ นระยะเวลาอนั จากดั ๘ หลกั เกณฑก์ ำรพิจำรณำให้คะแนน ๑) โครงงานคุณธรรมทส่ี ่งเขา้ ประกวดนนั้ ต้องเป็นโครงงานทค่ี ดิ ริเร่ิมสร้ำงสรรค์โดยตวั ของ เยำวชนเอง ไมว่ า่ จะเป็นการคดิ งานใหม่หรอื คดิ ปรบั ปรงุ แกป้ ัญหางานเดมิ กไ็ ด้ ทงั้ น้ีสามารถปรกึ ษาและขอ คาแนะนาจากผใู้ หญ่ เชน่ พระสงฆ์ พอ่ แม่ ครู ผบู้ รหิ าร ผทู้ รงคณุ วุฒดิ า้ นตา่ งๆ ได้ ๒) มกี ำรใช้หลกั ธรรม ในทางพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาอน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และอญั เชญิ พระรำชดำรสั / แนวพระรำชดำริสำคญั เช่น เศรษฐกจิ พอเพยี ง, ปทู ะเลยม์ หาวชิ ชาลยั และ/หรอื บวร (บา้ น-วดั -โรงเรยี น/ ราชการ) มาใชเ้ ป็นหลกั การหรอื แนวทางในการดาเนินการโครงงานไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งเหมาะสม ๓) ควำมเป็นโครงงำน ทม่ี งุ่ เน้นกระบวนกำรทำงปัญญำในการสงั เกตสารวจคน้ ควา้ คดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะหจ์ นเขา้ ใจในประเดน็ ทเ่ี ลอื กมาทาโครงงานไดต้ ลอดสายระหวา่ ง ปัญหำ-สำเหต-ุ เป้ำหมำย-ทำง แก้ อยา่ งสอดคลอ้ งสมั พนั ธก์ นั เป็นเหตเุ ป็นผล ๔) ประเด็นท่เี ลือกทาโครงงานมีคุณประโยชน์ในการแก้ปัญหำด้ำนควำมเส่ือมทรำมทำง ศีลธรรม โดยเฉพาะเป็นการแกป้ ัญหาของโรงเรยี นหรอื ชมุ ชนของตนเอง (ตอบโจทยต์ นเองได้) ๕) ควำมเป็ นไปได้ของร่ำงโครงงำน หรือผลสมั ฤทธ์ิของโครงงำน ทบ่ี รรลุเป้าหมายไดต้ าม วตั ถุประสงค์ของโครงงาน รวมทงั้ การทาให้เกิดกำรเรียนรู้และพฒั นาการแก่ผู้เรยี นได้จริง ทงั้ ทางด้าน พฤติกรรม จิตใจ และปัญญำ แมจ้ ะมขี อ้ จากดั ดา้ นทรพั ยากรและปัจจยั ตา่ งๆ ๖) การสรา้ งควำมมีส่วนรว่ มแกบ่ คุ คลหลายฝ่ายโดยเฉพาะชมุ ชน (บ-ว-ร) ไดม้ ากทส่ี ดุ ๗) กำรพึ่งตนเองได้ และสืบต่อไปได้อยำ่ งยงั่ ยนื ไดแ้ ก่ การแสดงออกถงึ ความมงุ่ มนั่ ทุ่มเทเพยี ร พยายามของกลุ่มเยาวชนเองจนเป็นทป่ี ระจกั ษ์, การนาลงส่วู ถิ ชี วี ติ ปกตขิ องคนในโรงเรยี นหรอื ชุมชนได้, การสรา้ งเครอื ข่ายแกนนาหรอื กลุ่มสมาชกิ หรอื การตงั้ เป็นชมรม/ชมุ นุม, การมแี ผนงานในอนาคตทช่ี ดั เจน และเป็นไปไดส้ งู , และมวี ธิ กี ารระดมทนุ หรอื การแสวงหาแหลง่ ทม่ี าของงบประมาณเพมิ่ เตมิ ไดเ้ อง เป็นตน้ ๘) ควำมคิดสร้ำงสรรค์ เทคนิควิธีกำร และกิริยำมำรยำท ทงั้ น้ี กลุ่มเยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบ โครงงาน สามารถใชท้ กั ษะวธิ กี ารทางศลิ ปะ ดนตรี กฬี า การแสดง สอ่ื เทคโนโลยี ฯลฯ มาบรู ณาการและ ประยกุ ตใ์ ชร้ ว่ มได้ เพอ่ื สรา้ งความน่าสนใจและสง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ หม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ รวมทงั้ การแสดงออก ทด่ี ี มกี ริ ยิ ามารยาทและบุคลกิ ภาพทเ่ี หมาะสมกบั กาลเทศะ ทท่ี าใหเ้ กดิ ความน่าเชอ่ื ถอื ๕

ภาคผนวก ก. ๑. รายงานโครงงาน จดั พมิ พใ์ หม้ จี านวนหน้า ๒๐–๕๐ หน้ากระดาษขนาด A4 ไมร่ วมปก โดยแสดง เน้อื หา บทและหวั ขอ้ ต่างๆ ตามทก่ี าหนด ดงั น้ี (ดตู วั อย่างโครงงานดเี ด่นปี ๒๕๔๙ ท่ี www.moralproject.net) (๑) ปกหน้า (๑.๑) ปกนอก (แสดงชอ่ื โครงงานเป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ, ชอ่ื กลุ่มเยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน, ช่อื สถานศกึ ษา, ชอ่ื สงั กดั สพท./สอศ./สานกั การศกึ ษาฯ โดยระบุเขต, และพมิ พร์ ะบุว่า รายงานน้เี ป็นสว่ นหน่งึ ของ โครงการการประกวดโครงงานคณุ ธรรมเฉลมิ พระเกยี รติ ประจาปี ๒๕๔๙ ระดบั มธั ยมศกึ ษาหรอื เทยี บเทา่ ท่ี จดั โดย กลมุ่ กลั ยาณมติ รเพ่อื การเสรมิ สรา้ งเครอื ขา่ ยวถิ พี ทุ ธ (กคพ.) ) (๑.๒) ปกใน (แสดงชอ่ื โครงงานเป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ, รายช่อื สมาชกิ กลมุ่ เยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบ โครงงานโดยระบุ ชอ่ื -นามสกลุ ตาแหน่ง ชนั้ เรยี น, ช่อื -ฉายา-นามสกลุ พระสงฆท์ ป่ี รกึ ษาโดยระบุวดั และทต่ี งั้ ของวดั หมายเลขโทรศพั ท/์ E-mail, ชอ่ื ผบู้ รหิ ารและครทู ป่ี รกึ ษาโดยระบุ ตาแหน่ง หมายเลขโทรศพั ท/์ E-mail, ชอ่ื สถานศกึ ษา ทต่ี งั้ หมายเลขโทรศพั ท/์ โทรสาร/E-mail/เวบไซต(์ ถา้ ม)ี ) (๒) กิตติกรรมประกาศ (แสดงการขอบคณุ บคุ คล คณะ องคก์ รต่างๆ ทส่ี นบั สนุนการทาโครงงาน เป็นตน้ ) (๓) บทคดั ยอ่ (สรปุ ย่อเน้อื หาและประเดน็ สาคญั ของโครงงานเป็นความเรยี งใน ๑ หน้ากระดาษ) (๔) ผงั มโนทศั น์ (สรุปภาพรวมของโครงงานทงั้ หมดเป็นผงั มโนทศั น์ ใน ๑ หน้ากระดาษ) (๕) บทท่ี ๑ บทนา ๑.๑ ทม่ี าและความสาคญั (อธบิ ายความเป็นมา แรงบนั ดาลใจ หรอื เหตุผล ทท่ี าใหค้ ดิ ทาโครงงานขน้ึ ) ๑.๒ วตั ถุประสงค์ (แสดงจดุ มงุ่ หมายของการทาโครงงาน เป็นรายขอ้ ไม่ควรเกนิ ๕ ขอ้ ) ๑.๓ ขอบเขตการศกึ ษาเรยี นรู้ (ระบุ กลมุ่ เป้าหมาย กาหนดระยะเวลาและสถานท่ี ในการดาเนนิ การโครงงาน) (๖) บทที่ ๒ การดาเนนิ การโครงงาน ๒.๑ วธิ กี ารดาเนินงาน (อธบิ ายวธิ กี ารดาเนนิ งาน, แสดงแผนผงั ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน ,แสดงปฏทิ นิ หรอื กาหนดการดาเนนิ งาน และ/หรอื มรี ปู ภาพประกอบ) ๒.๒ งบประมาณ (แสดงรายการค่าใชจ้ ่ายโดยแยกเป็นรายหมวดและยอดรวม) ๒.๓ แหลง่ ทม่ี าของงบประมาณ (กรณีทม่ี กี ารระดมทนุ หรอื หางบประมาณเพม่ิ เตมิ ขน้ึ เอง ใหอ้ ธบิ ายถงึ วธิ กี าร ระดมทุนหรอื การเขา้ ถงึ แหลง่ งบประมาณนนั้ โดยยอ่ ดว้ ย) ๒.๔ อุปสรรคความผดิ พลาดและการแกป้ ัญหา (อธบิ ายถงึ อปุ สรรคปัญหาหรอื ขอ้ ขดั ขอ้ งต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในการ ดาเนนิ การโครงงาน และการแกป้ ัญหาเฉพาะหน้า แลว้ สรปุ เป็นบทเรยี นทไ่ี ดจ้ ากการเผชญิ ปัญหานนั้ ๆ) (๗) บทที่ ๓ ผลการดาเนินงาน (แสดงผลการดาเนินงานโดยการอธบิ ายพรอ้ ม รปู ภาพ และ/หรอื มสี ถติ ิ ตาราง หรอื แผนภมู ิ ประกอบ) (๘) บทที่ ๔ การศกึ ษาวเิ คราะห์ ๔.๑ ปัญหาและสาเหตุ (ประมวลขอ้ มลู สภาพปัญหา แลว้ วเิ คราะหส์ บื สาวหาสาเหตุของปัญหา) ๔.๒ เป้าหมายและทางแก้ (วเิ คราะหเ์ ช่อื มโยงเป้าหมายของโครงงานกบั วธิ กี ารดาเนินงาน วา่ เป็นหนทาง ไปสเู่ ป้าหมายทว่ี างไวอ้ ย่างไร อย่างเป็นเหตุเป็นผล) ๔.๓ หลกั การและหลกั ธรรมทน่ี ามาใช้ (แสดงหลกั ธรรมและแนวพระราชดาริ หรอื หลกั วชิ าการต่างๆ ทน่ี ามาใช้ พรอ้ มอธบิ ายความหมายโดยยอ่ แลว้ อธบิ ายเช่อื มโยงกบั โครงงาน อย่างสอดคลอ้ งเป็นเหตุเป็นผล) ๔.๔ ประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน (แสดงหรอื อธบิ ายเหตุผลว่า ผลการดาเนินงานเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละ เป้าหมายของโครงงานหรอื ไม่ เพยี งใด เพราะเหตุใด และ/หรอื แสดงสถติ ปิ ระกอบ(ถา้ ม)ี ) ๔.๕ การประเมนิ ตนเอง (สมาชกิ กลมุ่ เยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงานทุกคน แสดงความคดิ เหน็ และความรสู้ กึ ต่อการพฒั นาตนเอง หรอื ความประทบั ใจต่อสง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรรู้ ะหวา่ งการดาเนินการโครงงาน) ๖

๔.๖ การประเมนิ และวจิ ารณ์โดยผอู้ ่นื (แสดงความคดิ เหน็ เชงิ วเิ คราะห์ คาวจิ ารณ์ และขอ้ เสนอแนะ ของ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา อาจารยแ์ ละพระสงฆท์ ป่ี รกึ ษาโครงงาน ๓ ท่าน และ/หรอื บคุ คลอน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอกี ไม่เกนิ ๓ คน เช่น ผปู้ กครอง, เพอ่ื นนกั เรยี นคนอน่ื ทไ่ี มไ่ ดเ้ ป็นสมาชกิ กลมุ่ , คนในชมุ ชน) (๙) บทท่ี ๕ บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ ๕.๑ สรปุ ผลการดาเนนิ การโครงงาน (อธบิ ายสรปุ ภาพรวมของโครงงานทงั้ หมดเชอ่ื มโยงสกู่ ระบวนการ เรยี นรแู้ ละพฒั นาคณุ ธรรมตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการการประกวดโครงงานคณุ ธรรม) ๕.๒ แผนการดาเนินงานในอนาคตและขอ้ เสนอแนะ (แผนการดาเนินงานระยะท่ี ๒ หรอื หลงั จากนนั้ ) (๑๐) เอกสารอา้ งอิง (ถา้ ม)ี (๑๑) ภาคผนวก (ถา้ ม)ี ๒. สรปุ ย่อโครงงาน ใน ๑ หน้ากระดาษ สรุปย่อโครงงานทงั้ หมดลงใน ๑ หน้ากระดาษขนาด A4 ใชฟ้ อนต์ Angsana ตามตวั อย่างในหน้าท่ี ๘ ๓. แผน่ พบั (Brochure) สรปุ ยอ่ โครงงาน สรุปย่อโครงงานทงั้ หมดลงใน ๑ แผน่ กระดาษขนาด A4 ทพ่ี บั ๓ สว่ น โดยมเี น้อื ทพ่ี มิ พไ์ ดท้ งั้ ดา้ นหน้า และดา้ นหลงั โดยออกแบบและพจิ ารณาเลอื กประเดน็ หวั ขอ้ เน้อื หา/สาระสาคญั ของโครงงาน พรอ้ ม รปู ภาพ และ/หรอื ตารางหรอื แผนภูมปิ ระกอบ ตามทเ่ี หน็ วา่ เหมาะสมไดเ้ อง ๔. สื่อ Presentation ทางคอมพวิ เตอรห์ รอื VCD นาเสนอโครงงาน เล่าเร่อื งแสดงภาพรวมและเจาะประเดน็ สาคญั ของโครงงานลงในสอ่ื Presentation ทางคอมพวิ เตอรใ์ น ระยะเวลาไมเ่ กิน ๗ นาที โดยสามารถจดั ทาเป็นภาพเคล่อื นไหววดี ทิ ศั น์ (VCD) หรอื เป็นแผนภาพ การนาเสนอ ดว้ ยโปรแกรมจาพวก presentation เชน่ Powerpoint กไ็ ด้ ๕. แผน่ ป้าย (Board) นิทรรศการโครงงาน แสดงภาพรวมและสรปุ ยอ่ สาระสาคญั ของโครงงานทงั้ หมด ไดแ้ ก่ ชอ่ื โครงงาน สถานศกึ ษา รายช่อื ท่ี ปรกึ ษาและกลุม่ เยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน บทคดั ยอ่ ผงั มโนทศั น์ วธิ กี ารดาเนนิ งาน ผลการ ดาเนนิ งาน การประเมนิ ผลสรปุ ผล ขอ้ เสนอแนะ เป็นตน้ ประกอบกบั การจดั แสดงรปู ภาพ แผนผงั แผนภมู ิ ตาราง สญั ลกั ษณ์ รปู วาด ฯลฯ โดยใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละเทคนคิ ทางศลิ ปะมาชว่ ยในการ นาเสนอใหเ้ กดิ การสอ่ื ความไดง้ า่ ย ชดั เจน และน่าสนใจ โดยมรี ายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี ๖๐ ซม. ๑๒๐ ซม. ๖๐ ซม. ช่ือโครงงานคณุ ธรรม รอยทพ่ี บั หกั กลาง ไปดา้ นหลงั ได้ ๖๕ ซม. ปกหน้าโครงงาน ๖๐ ซม. ปกหลงั โครงงาน วสั ดทุ ่ีแนะนา: ใชพ้ ลาสตกิ ลกู ฟูกหนา ๓หรอื ๕ มม. ๖๕ ซม. ถา้ ทาไดถ้ กู ตอ้ งตามทก่ี าหนดจะสามารถพบั แผ่นป้าย สลบั กนั ไดเ้ ป็น ๔ ทบ มลี กั ษณะเป็น Big Book ๗ ขนาดประมาณ ๖๐ x ๖๕ เซนตเิ มตร ดงั รปู

(ตวั อยา่ ง สรปุ ย่อโครงงานใน ๑ หน้ากระดาษ) โครงงานคุณธรรมเฉลมิ พระเกยี รติ ประจาปี ๒๕๕๐ ระดับมัธยมศึกษา โครงงาน รณรงคร์ ักนวลสงวนตวั ทาความดีถวายแด่พระเจา้ อยหู่ วั ของปวงไทย Preventing Premarital Sex http://school.obec.go.th/prangku/king1.htm โดย เยาวชนกลุ่ม สานฝัน โรงเรียนปรางคก์ ู่ สพท.ศรีสะเกษ เขต ๓ หลกั ธรรมสาคญั : หิริ โอตตปั ปะ (ความละอายและความเกรงกลวั ต่อบาป) พระราชดาริสาคญั : คุณธรรม ๔ ประการ (ฆราวาสธรรม ๔: สจั จะ, ทมะ, ขนั ติ, จาคะ) ประเดน็ ปัญหาหลกั : การเสียตวั ก่อนวยั อนั ควรของวยั รุ่น อนั เน่ืองมาจากการห่างเหินจากคุณธรรม ไม่เขา้ วดั อยากรู้อยากลอง ค่านิยมทางเพศที่ไมถ่ กู ตอ้ ง เลียนแบบสื่อลามกอนาจาร หลงใหลในของฟ่ มุ เฟื อย และปัญหาครอบครัว กลุ่มเป้าหมาย : นกั เรียนหญิง รร.ปรางคก์ ู่ ม.๒-๔ จานวน ๔๙๘ คน กจิ กรรมเด่น : ทาแบบสารวจสภาพปัญหาจริงแลว้ เลือกเจาะสมั ภาษณ์ขอ้ มูลจากนร.กลมุ่ เป้าหมายท่ีมีปัญหา เพ่อื สืบสาวหา สาเหตแุ ละปัจจยั ร่วม จากน้นั โครงงานไดจ้ ดั กิจกรรมต่างๆ เพ่อื ลดพฤติกรรมเสี่ยงและเพม่ิ พฤติกรรมขดั ขวาง ไดแ้ ก่การปฏิบตั ิ ธรรมเฉลิมพระเกียรติที่ใหค้ วามรู้เก่ียวกบั ทกั ษะชีวติ และเร่ืองเพศ จากน้นั จึงมีการรับสมคั รสมาชิกทว่ั ไปก่อต้งั เป็ น \"ชมรมเพ่ือน ใจวยั รุ่น\" ใหค้ าปรึกษาแก่วยั รุ่นเรื่องความรักและเรื่องเพศ จดั ปาฐกถาโดยนิมนตพ์ ระวทิ ยากรมาใหค้ วามรู้เยาวชนในเร่ือง ภมู ิคุม้ กนั ทางเพศ เช่นการเอาตวั รอดจากการมีเพศสมั พนั ธ์กบั บคุ คลที่เรียกวา่ แฟน เชิญวทิ ยากรจากโรงพยาบาลมาใหค้ วามรู้เรื่อง โรคติดต่อจากการมีเพศสมั พนั ธแ์ ละการหลีกเล่ียงจากสิ่งยว่ั ยุ และจดั ค่ายคุณธรรมบวชชีพราหมณ์เฉลิมพระเกียรติสาหรับกลุ่ม เส่ียงท่ีมีปัญหา ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ : สามารถประมวลพฤติกรรมเส่ียงต่อการมีเพศสมั พนั ธก์ ่อนวยั อนั ควร๗ขอ้ และพฤติกรรมขดั ขวางการมีเพศสมั พนั ธ์ ก่อนวยั อนั ควร๔ขอ้ โดยกิจกรรมต่างๆ สามารถช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงของนกั เรียนกลมุ่ เป้าหมายลงไดใ้ นกรณีท่ีมาจากตวั วยั รุ่น เองทุกรายการ แตท่ ่ีมาจากปัจจยั เส่ียงภายนอกน้นั ไมล่ ดลงแต่เพิ่มข้ึน สาหรับพฤติกรรมขดั ขวางน้นั เพิ่มสูงข้ึนทุกรายการ เยาวชนผู้รับผดิ ชอบโครงงาน พระสงฆ์ทปี่ รึกษา: พระมหาบุญทวี คนฺธสีโล เจา้ อาวาสวดั ระกา ๑. นายสาธิต จนั ทร์สมุด ม.๖ ประธาน ผ้บู ริหารทปี่ รึกษา: นายวรรณกิจ อินทรประพงศ์ ๒. นางสาวสุพรรษา ธรรมสโรช ม.๖ รองประธาน ผอู้ านวยการสถานศึกษา ๓. นางสาวพชรพร สุภาทิพย์ ม.๖ รองประธาน ครูทปี่ รึกษา: นายปราโมทย์ แหวนเงิน กลมุ่ สาระสงั คมศึกษาฯ ๔. นางสาวทิพาวรรณ เอี่ยมนุ่ม ม.๖ เหรัญญิก ข้อมูลโรงเรียน: จานวนครู ๗๕ คน นกั เรียน ๑,๘๘๘ คน ๕. นายจริวชั ร หงส์ศิริ ม.๖ ประชาสมั พนั ธ์ แยกเป็ นชาย ๘๑๒ คน หญิง ๑,๐๗๖ คน ตดิ ต่อ: นายปราโมทย์ แหวนเงิน โทร. ๐๘๗ ๐๒๘ ๐๗๗๙ ๖. นางสาวรสสุคนธ์ ปักกงั เวสงั ม.๖ สวสั ดิการ อเี มล์: [email protected] ๗. นางสาวณฐั ฐาภรณ์ ศรีสิงห์ ม.๖ สวสั ดิการ ๘. นางสาวทวพี ร สาสงั ข์ ม.๖ เลขานุการ สนบั สนุนโดย - กล่มุ กลั ยาณมติ รเพื่อการเสริมสร้างเครือข่ายวถิ พี ทุ ธ (กคพ.) - ศูนย์ส่งเสริมและพฒั นาพลงั แผ่นดนิ เชิงคุณธรรม (ศนู ยค์ ุณธรรม) - สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน (สพฐ.) (โครงการโรงเรียนวถิ ีพทุ ธ) ๘

ภาคผนวก ข. ตวั อยา่ งกรณีศึกษา ปานวาดเป็นคนทร่ี กั เพ่อื นและมนี ้าใจต่อคนรอบขา้ งเสมอจงึ ไดร้ บั เลอื กใหเ้ ป็นรองประธาน นกั เรยี นของระดบั ชนั้ เธอมเี พ่อื นสนทิ มากทร่ี จู้ กั กนั มาตงั้ แต่เรยี นอยชู่ นั้ ประถมชอ่ื อรสิ า แต่เมอ่ื เล่อื น ชนั้ มาเรยี นอย่ชู นั้ มธั ยมปีท่ี ๔ ดว้ ยกนั เธอเรมิ่ รสู้ กึ ว่าอรสิ าเปลย่ี นไป จากทเ่ี คยปรกึ ษาพดู คยุ กนั ไดท้ กุ เรอ่ื งทาอะไรดว้ ยกนั กลบั บา้ นดว้ ยกนั ตลอด อรสิ าเรมิ่ แยกตวั ออกห่างและขอกลบั บา้ นทหี ลงั และมกั จะ ไปนดั พบกบั รนุ่ พผ่ี ชู้ ายต่างโรงเรยี น ทร่ี า้ นอนิ เตอรเ์ นตหน้าโรงเรยี น ปานวาดทราบจากพอ่ แมข่ องเธอ ว่า อรสิ ามกั จะกลบั บา้ นผดิ เวลา บางครงั้ อา้ งว่าทารายงานจนกลบั บา้ นเกอื บเทย่ี งคนื เรม่ิ คุยโทรศพั ท์ นานๆ และแสดงกริ ยิ ากา้ วรา้ วเมอ่ื พ่อแมบ่ อกเตอื น นอกจากน้อี รสิ ายงั มผี ลการเรยี นตกต่าลงจากเดมิ มาก เธอเคยขอคยุ เรอ่ื งน้กี บั อรสิ าแต่อรสิ ามกั จะหลบเลย่ี ง และมกั จะไปรวมกล่มุ กบั กลมุ่ เพอ่ื นทช่ี อบ แต่งตวั ตามแฟชนั่ และอ่านหนงั สอื การต์ ูนญ่ปี ่นุ ทม่ี เี น้อื หาล่อแหลมเชงิ ชสู้ าว เมอ่ื เหตุการณ์ผ่านไปจนขน้ึ ชนั้ ม.๕ อรสิ าเปลย่ี นไปมอี าการเครยี ดและเซ่อื งซมึ ปานวาดจงึ มี โอกาสอกี ครงั้ ทจ่ี ะเขา้ ไปพดู คยุ กบั เธอ และพบวา่ อรสิ ากาลงั ตงั้ ทอ้ งกบั ร่นุ พผ่ี ชู้ ายคนนนั้ แต่เขามแี ฟน อยแู่ ลว้ และบบี บงั คบั ใหเ้ ธอไปทาแทง้ อยา่ งไมใ่ ยดี ปานวาดพยายามปลอบใหก้ าลงั ใจเธอและช่วยเธอ คดิ แกป้ ัญหา แต่สดุ ทา้ ยปานวาดตอ้ งเสยี ใจมากทส่ี ดุ ครงั้ หน่งึ ในชวี ติ เมอ่ื เธอไดท้ ราบว่า อรสิ าไดแ้ อบ ไปทาแทง้ เถ่อื นแต่ปรากฎว่าเธอเสยี เลอื ดมากและมภี าวะตดิ เชอ้ื จนนอนลม้ ป่วยอยา่ งทุกขท์ รมานอยู่ ๓ วนั แลว้ กต็ ายจากเธอไปในทส่ี ุด (ขนั้ ตอนท่ี ๑) ปานวาดเศรา้ เสยี ใจอยา่ งทส่ี ุด เธอรอ้ งไหอ้ อกมาเพอ่ื ระบายความอดั อนั้ เธอรสู้ กึ สบั สนฟุ้งซ่าน มาก จงึ ไดเ้ ล่าเรอ่ื งราวทงั้ หมดใหร้ ฐั ภมู ซิ ง่ึ เป็นประธานนกั เรยี นทเ่ี ธอคุน้ เคยจากการทางานรว่ มกนั ฟัง รฐั ภูมเิ ป็นผฟู้ ังทด่ี ที ร่ี บั ฟังอยา่ งตงั้ ใจและคดิ วา่ น่าจะทาอะไรสกั อยา่ งทจ่ี ะไมใ่ หเ้ รอ่ื งอยา่ งน้เี กดิ ขน้ึ ซ้ามา อกี เขาจงึ พาเธอไปพบและขอคาปรกึ ษากบั ครกู ลั ยา ทท่ี งั้ สองคนสนิทและไวใ้ จมาก ครกู ลั ยา ไดร้ บั ฟัง เรอ่ื งราวจากเธอทงั้ หมดและใหก้ าลงั ใจเธอ เมอ่ื เหน็ วา่ ปานวาดเรม่ิ ตงั้ สตไิ ดแ้ ละวางใจกบั เรอ่ื งน้ไี ดด้ ขี น้ึ แลว้ จงึ ถอื โอกาสใหเ้ ธอและรฐั ภมู ไิ ดเ้ รยี นรจู้ ากปัญหาน้วี ่ามสี าเหตุมาจากอะไรบา้ ง จากทพ่ี ดู คยุ กนั ใน วนั นนั้ รฐั ภูมแิ ละปานวาดเกดิ ความตระหนกั ในปัญหาดงั กลา่ วเป็นอย่างยงิ่ และเหน็ วา่ สภาพแวดลอ้ ม หน้าโรงเรยี นในชว่ ง ๕ ปีมาน้เี สอ่ื มทรามลงมากเตม็ ไปดว้ ยรา้ นการต์ นู ลามก รา้ นเกมคอมพวิ เตอรแ์ ละ อนิ เตอรเ์ นตทก่ี ลายเป็นแหลง่ มวั่ สมุ ของนกั เรยี นทห่ี นีเรยี น และทน่ี ่เี องทอ่ี รสิ าไดเ้ รมิ่ รจู้ กั กบั คนทท่ี าให้ เธอตอ้ งเสยี คนและเสยี ชวี ติ ไปในทส่ี ดุ ทงั้ สองคนจงึ ปรกึ ษากบั ครกู ลั ยาว่าจะนาเรอ่ื งน้เี ขา้ ทป่ี ระชุมของ ผนู้ านกั เรยี นทกุ ระดบั ชนั้ ทป่ี ระชมุ ไดอ้ ภปิ รายเรอ่ื งน้กี นั อยา่ งเตม็ ทแ่ี ละทุกคนรสู้ กึ ประหลาดใจวา่ สภาพแวดลอ้ มและ แหลง่ มวั่ สุมทไ่ี มด่ รี อบโรงเรยี นนนั้ มมี านานกวา่ ๕ ปีแลว้ แต่ทาไมเราถงึ เพง่ิ จะเรม่ิ รสู้ กึ ว่าเป็นปัญหา จรงิ ๆ เอาเวลาน้ี และทาไมทกุ คนทงั้ ผบู้ รหิ าร ครอู าจารย์ พ่อแมผ่ ปู้ กครอง นกั เรยี น ผใู้ หญ่ในชมุ ชน จงึ ยอมปลอ่ ยใหเ้ กดิ สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ลวรา้ ยอยา่ งน้เี กดิ ขน้ึ มารอบโรงเรยี นไดม้ ากขน้ึ เรอ่ื ยๆ โดยไมม่ ี ใครทาอะไรอย่างจรงิ จงั รว่ มกนั ซง่ึ ครกู ลั ยาไดต้ งั้ ประเดน็ ต่างๆ และชช้ี วนใหน้ กั เรยี นไดข้ บคดิ และได้ ใหค้ าแนะนาต่างๆ ในตอนทา้ ย จนทป่ี ระชุมเหน็ พอ้ งกนั ทจ่ี ะจดั ทาเป็นโครงงานคณุ ธรรมเพ่อื แกไ้ ข ปัญหาน้อี ยา่ งจรงิ จงั ใหส้ าเรจ็ ใหจ้ งได้ ๙

(ขนั้ ตอนท่ี ๒) จากการประชุมนกั เรยี นทุกคนในกล่มุ ไดเ้ กดิ ความตระหนกั ชดั ในปัญหามากขน้ึ ทุกคนเรม่ิ มี เป้าหมายทว่ี างไวต้ รงกนั เรมิ่ มกี ารเสนอแนวคดิ วธิ กี ารในการแก้ปัญหาขน้ึ มาบา้ งแลว้ แต่อยา่ งไรกด็ ี ทป่ี ระชุมเหน็ ว่ายงั มขี อ้ มลู บางอยา่ งไมช่ ดั เจนในส่วนของปัญหา เชน่ จานวนประเภทและทต่ี งั้ ของ รา้ นคา้ และแหลง่ มวั่ สุมทไ่ี มด่ ตี ่างๆ นกั เรยี นทไ่ี ปใชบ้ รกิ ารมจี านวนคน จานวนครงั้ และพฤตกิ รรมท่ี ไปใชบ้ รกิ ารหรอื มวั่ สุมอยา่ งไร มเี หตุผลอยา่ งไร ในส่วนของเป้าหมายและการแก้ปัญหานนั้ กย็ งั ไม่ ค่อยทราบวา่ จะสรา้ งความมสี ่วนรว่ มในส่วนของพ่อแมผ่ ปู้ กครองหรอื หน่วยงานอ่นื ๆ ในชุมชน โดย ผ่านใครทจ่ี ะเป็นแกนนาช่วยเชอ่ื มประสาน จะหาทนุ มาสนบั สนุนการทางานจากทใ่ี ด ทป่ี ระชุมจงึ มมี ติ รว่ มกนั ว่าจะชว่ ยกนั สารวจสบื หาและรวบรวมขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการดงั กล่าวใหไ้ ดก้ ่อน แลว้ จะนามาประชุม หารอื วางแผนงานในรายละเอยี ดอกี ครงั้ ครกู ลั ยาไดน้ าเรอ่ื งน้ไี ปปรกึ ษากบั ทา่ นผอู้ านวยการ ท่านผอู้ านวยการกเ็ หน็ ดดี ว้ ยและใหก้ าร สนบั สนุนการทาโครงงานดงั กลา่ วอยา่ งเตม็ ท่ี ครกู ลั ยาจงึ ไดพ้ ารฐั ภมู แิ ละปานวาดไปพบปะและขอ คาแนะนาเพม่ิ เตมิ จากบคุ คลต่างๆ เชน่ พระสงฆ์ นายกสมาคมผปู้ กครอง ผใู้ หญ่บา้ น ตารวจ เป็นตน้ และไดข้ อใหป้ ระธานนกั เรยี นในแต่ละระดบั ชนั้ ช่วยกนั สบื หาขอ้ มลู โดยการแอบลองถามจากเพอ่ื น นกั เรยี นทไ่ี ปใชบ้ รกิ าร ไม่นานกไ็ ดข้ อ้ มลู ทงั้ หมดทต่ี อ้ งการ พระอาจารยส์ เุ มธซง่ึ เป็นพระอาจารยท์ ป่ี รกึ ษาโครงการโรงเรยี นวถิ พี ุทธและครพู ระสอน ศลี ธรรมของโรงเรยี น ไดแ้ นะนาใหค้ รกู ลั ยาจดั การประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารขน้ึ เป็นการเฉพาะใหก้ บั กล่มุ ผนู้ าเยาวชนทจ่ี ะทาโครงงานดงั กลา่ วน้ี เพ่อื ชว่ ยกนั วเิ คราะหป์ ระมวลขอ้ มลู องคค์ วามรทู้ งั้ หมดอยา่ ง เป็นระบบ พระอาจารยไ์ ดใ้ หป้ านวาดและรฐั ภมู เิ ลา่ เรอ่ื งราวทงั้ หมดใหเ้ พอ่ื นๆ ในกลมุ่ ฟังอกี ครงั้ หน่งึ แลว้ ใหท้ ากจิ กรรมระดมความคดิ โดยตงั้ คาถามกบั ทกุ คนในกลุ่ม ดงั น้ี ๑. จากเรอ่ื งราวทงั้ หมด มปี ระเดน็ ปัญหาอะไรทเ่ี กดิ ขน้ึ บา้ ง? และปัญหาเหลา่ นนั้ เช่อื มโยงกนั อยา่ งไร?* ๒. อะไรเป็นสาเหตุตน้ ตอทแ่ี ทจ้ รงิ อะไรเป็นปัจจยั รว่ ม และต่อเน่อื งไปส่ปู ัญหาอ่นื ใด? ไดอ้ กี * ๓. เป้าหมายของการแกป้ ัญหาว่าคอื อะไร? ทงั้ เป้าหมายระยะสนั้ ระยะกลาง และระยะยาว* ๔. จากเป้าหมายทไ่ี ดว้ างไว้ จะกาหนดเป็นหวั ขอ้ หรอื ช่อื โครงงานวา่ อะไร? มแี นวคดิ แผนงาน วธิ กี ารดาเนินงานอยา่ งไรบา้ ง ทจ่ี ะสามารถทาไดเ้ ฉพาะหน้า และในระยะเวลา ๓ - ๔ เดอื น* ๕. การดาเนินงานโครงงานดงั กล่าวนนั้ มกี ารใชห้ ลกั ธรรมและแนวพระราชดารอิ ะไรบา้ ง?* จากนนั้ พระอาจารยส์ ุเมธจงึ ใหท้ ุกคนไดช้ ว่ ยกนั สรปุ ว่า โครงงานดงั กลา่ วน้ี จะช่วยทาใหพ้ วก เราทกุ คนเกดิ การเรยี นรแู้ ละพฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมทงั้ แก่ตนเองและผอู้ ่นื หรอื ไม่ อยา่ งไรบา้ ง?* และพระอาจารยไ์ ดใ้ หห้ ลกั ของการทาโครงงานในครงั้ น้วี ่า ไมว่ า่ โครงงานน้ีจะทาไดส้ าเรจ็ มาก น้อยแค่ไหนกต็ าม จะไดร้ บั รางวลั จากการประกวดหรอื ไมก่ ต็ าม ไมใ่ ช่สงิ่ สาคญั สง่ิ สาคญั คอื การทท่ี ุก คนไดเ้ กดิ การเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเอง ไดค้ ดิ ดแี ละทาดอี อกมา แลว้ ความดเี หล่าน้ีนนั่ เองทพ่ี วกเราทุก คนจะน้อมเกลา้ ฯ ถวายพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อนั เป็นทร่ี กั ยง่ิ ของพวกเราชาวไทยทกุ คน..* หมายเหตุ * วทิ ยากรผจู้ ดั อบรมควรใชค้ าถามของพระอาจารยส์ เุ มธทงั้ ๕ ขอ้ น้เี ป็นแบบฝึกใหก้ บั กลุ่มเยาวชนเป็น กจิ กรรมกลุม่ ย่อย โดยถามและใหเ้ วลาตอบทลี ะคาถามไปตามลาดบั แลว้ สรุปตามทพี่ ระอาจารยไ์ ดก้ ล่าวไว้ ๑๐

ภาคผนวก ค. ตวั อย่างร่างโครงงาน (หนา้ ที่ ๑) ๑. ชื่อโครงงาน การสรา้ งชุมชนรอบโรงเรยี นใหป้ ลอดภยั รว่ มใจ ถวายในหลวง Making Good Community around Our School ๒. ชื่อกลุ่มเยาวชนผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน ตน้ กลา้ อาสาวถิ พี ทุ ธ ชื่อ-สกลุ ตาแหน่ง ชนั้ โทรศพั ท์ อีเมล์ (๑) นายรฐั ภมู ิ สขุ ใจดี ประธาน ม.๕/๑ ๐๑ ๙๒๔ xxxx [email protected] (๒) น.ส.ปานวาด ศลิ ปาทร รองประธาน ม.๕/๒ ๐๙ ๖๒๓ xxxx [email protected] (๓) นายสุทศั น์ โสตารกั ษ์ รองประธาน ม.๕/๓ ๐๙ ๖๒๓ xxxx [email protected] (๔) น.ส.สตมิ า อธปิ ัฏฐ์ เลขานุการ ม.๔/๓ ๐๒ ๒๒๓ xxxx [email protected] (๕) น.ส.สภุ นารี สนใจธรรม เหรญั ญกิ ม.๔/๒ ๐๒ ๖๑๑ xxxx (๖) น.ส.วริ ยิ า สมั มาใจ ประชาสมั พนั ธ์ ม.๓/๓ (๗) นายเอกรตั น์ สาธกุ รณ์ สวสั ดกิ าร ม.๔/๑ [email protected] (๘) นายมานะ รกั สกิ ขา สวสั ดกิ าร ม.๓/๑ ๐๕ ๕๘๘ xxxx สถานศึกษา โรงเรยี นมธั ยมวดั ธรรมอาสาราม ต.ตสิ กิ ขา อ.จตุภาวนา จ.นครปฐม โทร. ๐๒ ๔๔๔ ๕๕๗๘ โทรสาร ๐๒ ๔๔๔ ๕๕๘๘ อเี มล์ [email protected] เวบไซต์ http://www.dhammaarsaram.net ๓. พระสงฆท์ ี่ปรึกษา พระสุเมธ โพธสิ ตฺโต วดั ธรรมอาสาราม ต.ตสิ กิ ขา อ.จตุภาวนา จ.นครปฐม โทร. ๐๑ ๙๒๔ xxxx โทรสาร ๐๒ ๔๔๔ xxxx อเี มล์ [email protected] ผบู้ ริหารที่ปรกึ ษา นางสาวมนสกิ าร สมั มาใจ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา โทร. ๐๖ ๘๘๘ xxxx อเี มล์ [email protected] ครทู ่ีปรึกษา นางกลั ยา มติ รประเสรฐิ ครผู สู้ อนวชิ าวทิ ยาศาสตร์ โทร. ๐๔ ๙๕๖ xxxx ๔. วตั ถปุ ระสงค์ ๔.๑ เพ่อื เฉลมิ พระเกยี รตแิ ด่องคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เน่ืองในมหามงคลวโรกาสทรงครอง สริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๖๐ ปี และจะทรงมพี ระชนมายคุ รบ ๘๐ พรรษา ๔.๒ เพ่อื สรา้ งจติ สานกึ ความสามคั คแี ละการมสี ่วนรวมใหก้ บั ทุกฝ่ายในการป้องกนั และรกั ษาชุมชน ใหเ้ ขม้ แขง็ และปลอดจากอบายมขุ และสง่ิ มอมเมาเดก็ และเยาวชน ๔.๓ เพ่อื เสรมิ สรา้ งภมู คิ ุม้ กนั ทางจติ และปัญญาใหแ้ ก่เยาวชนใหร้ เู้ ทา่ ทนั และรจู้ กั หลกี เลย่ี งสงิ่ ยวั่ ยุ ภายนอกทม่ี ากระตุน้ กเิ ลสภายในใจ และเพม่ิ พนู ทกั ษะในการควบคุมพฤตกิ รรมของตนเอง ๕. สถานท่ีและกาหนดระยะเวลาดาเนินงาน โรงเรยี นมธั ยมวดั ธรรมอาสาราม และชุมชนโดยรอบโรงเรยี น ต.ตสิ กิ ขา อ.จตุภาวนา จ.นครปฐม ในช่วงเดอื นพฤษภาคม – สงิ หาคม ๒๕๕๐ และ ตุลาคม ๒๕๕๐ – มกราคม ๒๕๕๑ ๑๑

(หนา้ ท่ี ๒) โครงงาน การสร้างชมุ ชนรอบโรงเรียนให้ปลอดภยั ร่วมใจ ถวายในหลวง โดย กลุม่ ตน้ กลา้ อาสาวถิ พี ทุ ธ โรงเรยี นมธั ยมวดั ธรรมอาสาราม สพท.นครปฐม ๒ ๖. ผงั มโนทศั น์ (สรปุ ภาพรวมของร่างโครงงานทงั้ หมดเป็นผงั มโนทศั น์ ใน ๑ หน้ากระดาษ) ๗. สาระสาคญั ของโครงงาน (คาอธบิ ายสาระสาคญั ของโครงงานโดยยอ่ ๕ - ๑๐ บรรทดั ) ๑๒

(หนา้ ที่ ๓-๔) ๘. การศึกษาวิเคราะห์ ๘.๑ ปัญหาและสาเหตุ (ประมวลขอ้ มลู สภาพปัญหา แลว้ วเิ คราะหส์ บื สาวหาสาเหตุและปัจจยั ต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ปัญหา เพ่อื ให้ เหน็ ทม่ี าและความสาคญั ของโครงงาน) ๘.๒ เป้าหมาย (วางเป้าหมายของการแกป้ ัญหาทงั้ เชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ) ๘.๓ หลกั การและหลกั ธรรมที่นามาใช้ (แสดงหลกั ธรรมและแนวพระราชดาริ หรอื หลกั วชิ าการต่างๆ ทน่ี ามาใช้ พรอ้ มอธบิ ายความหมายโดยยอ่ แลว้ อธบิ ายเช่อื มโยงกบั การดาเนนิ การโครงงาน อยา่ งสอดคลอ้ งเป็นเหตุเป็นผล) (หนา้ ท่ี ๕-๖) ๙. วิธีการดาเนิ นงาน (แสดงวธิ กี ารดาเนินงานเป็นขอ้ ๆ หรอื เป็นแผนผงั ทม่ี คี าอธบิ ายทช่ี ดั เจน ทงั้ ๒ ระยะ) การดาเนินงานในระยะท่ี ๑ การดาเนินงานในระยะที่ ๒ (หนา้ ที่ ๗) ๑๐. งบประมาณและแหล่งที่มาของงบประมาณ ๑๑. ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั ๑๓

(หนา้ ท่ี ๘–๙) ๑๒. ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของท่ีปรกึ ษา ๑๒.๑ พระสงฆท์ ่ีปรึกษา: พระสุเมธ โพธสิ ตฺโต ๑๒.๒ ผบู้ ริหารที่ปรกึ ษา: นางสาวมนสกิ าร สมั มาใจ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ๑๒.๓ ครทู ี่ปรกึ ษา: นางกลั ยา มติ รประเสรฐิ (หนา้ ท่ี ๑๐) ๑๓. ความคิดเหน็ และความรสู้ ึกของประธานกล่มุ เยาวชนผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน (หนา้ ที่ ๑๑–๑๕) ภาคผนวก* การประมวลข้อมลู ที่ได้จากการสารวจเบอื้ งต้น หมายเหตุ * ภาคผนวก อาจจะมหี รอื ไมก่ ไ็ ด้ และสามารถมหี วั ขอ้ ทแี่ ตกต่างออกไปจากตวั อยา่ งดงั กล่าวน้ี ๑๔

ภาคผนวก ง. กรรมการคนท่ี ………. แบบการประเมินร่างโครงงาน (ปค-๑) โครงงาน กลุ่ม สงั กดั สถานศกึ ษา รายการประเมิน คะแนน คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ๑. เนื้อหาสาระและคณุ ลกั ษณะของโครงงาน ๑.๑ มาจากความคิดริเร่ิมสร้างสรรคข์ องเยาวชนเอง ๒๐ ๑.๒ การนาหลกั ธรรมและแนวพระราชดาริ/พระราชดารสั มาใชไ้ ด้ ๑๐ อยา่ งสอดคลอ้ งเหมาะสม อธบิ ายเช่อื มโยงไดเ้ ป็นเหตุเป็นผล ๑.๓ ความคดิ ความเขา้ ใจในการศกึ ษาวเิ คราะห์ สอดคลอ้ งกนั ตลอด ๑๐ สายระหวา่ ง ปัญหำ-สำเหตุ-เป้ำหมำย-วิธีกำรแก้ ๑.๔ ความชดั เจนของผงั มโนทศั น์ และสาระสาคญั ของโครงงาน ๕ ๑.๕ เอกสารร่างโครงงาน มคี วามถูกตอ้ งครบถว้ นของหวั ขอ้ ต่างๆ ๕ ๒. คณุ ประโยชน์ในการแก้ปัญหาดา้ นความเส่อื มทรามทางศลี ธรรม ๑๐ ๓. ความเป็นไปได้ของร่างโครงงาน โดยพจิ ารณาจากเป้าหมาย วธิ กี าร ๑๐ ดาเนินงาน ประกอบกบั ขอ้ จากดั ดา้ นบุคคล ระยะเวลา งบประมาณ และปัจจยั ต่างๆ ๔. การสรา้ งความมีส่วนร่วม เชน่ มแี ผนงานกระจายความมสี ่วนรว่ มแก่ ๑๐ บุคคลต่างๆ ไดก้ วา้ งขวาง และเช่อื มสมั พนั ธก์ บั ชุมชนไดด้ ี (บ-ว-ร) ๕. การพ่ึงตนเองได้และสืบต่อไปได้ เชน่ มแี ผนงานระดมทุนไดเ้ อง, การ ๑๐ นาลงสวู่ ถิ ชี วี ติ ปกตขิ องคนในโรงเรยี นหรอื ชมุ ชน, การสรา้ งเครอื ขา่ ยเยาวชน ๖. เทคนิควิธีการ ความคิดสรา้ งสรรค์ และบคุ ลิกภาพของผนู้ าเสนอ ๖.๑ เทคนิควธิ กี ารและความคดิ สรา้ งสรรค์ ๔ ๖.๒ กริ ยิ ามารยาท-การทกั ทาย-การพดู -การใชภ้ าษา ๓ ๖.๓ การแบ่งงาน-ทางานเป็นกล่มุ ๓ รวม ๑๐๐ หมายเหตุ -ในรอบคดั เลอื กรา่ งโครงงานคณุ ธรรมเพอื่ รบั ทุนสนบั สนุนโครงงานจาก สพท./ตน้ สงั กดั คณะกรรมการ จะใหค้ ะแนนโดยพจิ ารณาจาก เอกสารร่างโครงงาน และการสมั ภาษณ์กลมุ่ เยาวชนผสู้ มคั ร -เกณฑแ์ ละหลกั วธิ กี ารประเมนิ โครงงาน อาจมกี ารปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม คณะกรรมการ กลางขอสงวนสทิ ธใ์ิ นการเปลยี่ นแปลงแกไ้ ข รวมทงั้ การกาหนดสดั สว่ นคะแนนไดโ้ ดยมติ อ้ งแจง้ ใหท้ ราบล่วงหน้า -การตดั สนิ ผลการประกวดโครงงานในแต่ละรอบ ใหถ้ อื ตามมตขิ องคณะกรรมการตดั สนิ เป็นทสี่ ดุ ๑๕

กรรมการคนท่ี ……… แบบการประเมินโครงงาน (ปค-๒) โครงงาน สถานศกึ ษา สงั กดั กลุ่ม โดยกรรมการ รายการประเมิน คะแนน ๑. มาจากความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรคข์ องเยาวชนเอง คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ๒. การใชห้ ลกั ธรรม / แนวพระราชดาริ/พระราชดารสั มาใชไ้ ดส้ อดคลอ้ ง เหมาะสม ๒๐ ๑๐ ตรงกบั ประเดน็ ปัญหา (ปัญญาทางธรรม) ๓. ความเป็นโครงงาน กลา่ วคอื มกี ระบวนการทางปัญญาในการสารวจเลอื กประเดน็ ๑๐ ปัญหา ประมวลขอ้ มลู การคดิ วเิ คราะห-์ สงั เคราะห์ การประเมนิ ผล (ปัญญาทางโลก) ๕ ๔. ประเดน็ ทท่ี าโครงงานมคี ณุ ประโยชน์และความสาคญั ในการแกป้ ัญหาทางศลี ธรรม (รวม ๑๕) ๕. ผลสมั ฤทธ์ิของโครงงาน ทงั้ ผลสาเรจ็ ตามเป้าหมายและผลการเรยี นรเู้ ชงิ ลกึ ๘ ๕.๑ ผลสาเรจ็ ตามเป้าหมาย-วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน และผลต่อเน่อื งออกไป ๗ ๕.๒ ผลการเรยี นรเู้ ชงิ ลกึ ทางพฤตกิ รรม จติ ใจ และปัญญา - พฤตกิ รรม: สง่ เสรมิ ศลี ธรรม/วนิ ยั ในตนเอง/การกนิ อย่ดู ฟู ังเป็น ๑๐ - จติ ใจ: สง่ เสรมิ จติ อาสา/ความเมตตากรณุ า/สต-ิ สมาธ/ิ มคี วามสขุ ปีตใิ จ (รวม ๑๕) - ปัญญา: ทศั นคตใิ ฝ่ดลี ะอายชวั่ , มคี วามเขา้ ใจชวี ติ และโลก, เขา้ ใจสจั ธรรม ๖. การสรา้ งความมีส่วนรว่ มแก่บุคคลต่างๆ และความสมั พนั ธก์ บั ชมุ ชน (บ-ว-ร) ๔ ๗. การพ่งึ ตนเองและสืบต่อไปไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื ๓ ๗.๑ ความมุ่งมนั่ ทุ่มเทเพยี รพยายามของเยาวชนเอง อย่างต่อเน่อื งจนเป็นทป่ี ระจกั ษ์ ๓ ๗.๒ มกี ารสรา้ งเครอื ขา่ ยแกนนาและกลมุ่ สมาชกิ เช่น การตงั้ เป็นชมรม/ชมุ นุม ๓ ๗.๓ การนาลงสวู่ ถิ ชี วี ติ ปกตขิ องโรงเรยี นหรอื ชมุ ชนของตนเองได้ ๒ ๗.๔ แผนการดาเนินงานในระยะท๒่ี หรอื หลงั จากนนั้ มคี วามชดั เจนและเป็นไปได้ (รวม ๑๐) ๗.๕ มวี ธิ กี ารระดมทุนและแสวงหาแหลง่ งบประมาณไดเ้ อง ๔ ๘. ความคิดสรา้ งสรรค์ เทคนิควิธีการ และบคุ ลิกภาพ ในการสอ่ื สารและนาเสนอ ๓ ๘.๑ รปู แบบและวธิ กี ารนาเสนอไดช้ ดั เจนและน่าสนใจ ๓ ๘.๒ กริ ยิ ามารยาท-การทกั ทาย-การพดู -การใชภ้ าษา ๕ ๘.๓ การแบง่ งาน-ทางานเป็นกลมุ่ ๑๐๐ ๙. ความถกู ต้องครบถว้ นของเอกสารและส่ือนาเสนอโครงงาน รวม หมายเหตุ -ในรอบการประกวดโครงงานคณุ ธรรมดเี ดน่ ระดบั สพท./สงั กดั คณะกรรมการจะใหค้ ะแนนโดยพจิ ารณา จาก รายงานโครงงาน สรุปย่อโครงงาน แผน่ พบั สอื่ CD Presentation แผน่ ป้ายนทิ รรศการโครงงาน การนาเสนอและ การตอบคาถามของกลมุ่ เยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน -การประเมนิ โครงงานนนั้ กรรมการสามารถประเมินโดยภาพรวมตามรายการทมี่ ขี อ้ ใหญ่ ๙ ขอ้ กไ็ ด้ หรอื จะประเมินแยกแยะเป็นข้อย่อยๆ กไ็ ด้ ตามทกี่ รรมการทา่ นนนั้ ๆ เหน็ สมควร ทงั้ น้ี กคพ. ขอสงวนสทิ ธใิ์ นการ เปลยี่ นแปลงแกไ้ ขเกณฑก์ ารประเมนิ รวมทงั้ การกาหนดสดั สว่ นคะแนนไดโ้ ดยมติ อ้ งแจง้ ใหท้ ราบลว่ งหน้า -การตดั สนิ ผลการประกวดโครงงานในแต่ละรอบ ใหถ้ อื ตามมตขิ องคณะกรรมการตดั สนิ เป็นทสี่ ดุ ๑๖

ภาคผนวก จ. กาหนดการ โครงการการประกวดโครงงานคณุ ธรรมเฉลิมพระเกียรติ ระดบั มธั ยมศึกษา ม.ี ค. – เม.ย. ๒๕๕๐ สพท. สรรหาหรอื รบั สมคั ร กลุม่ เยาวชนและครทู ี่ปรกึ ษา เพ่อื เขา้ คา่ ยคณุ ธรรม เมษายน ๒๕๕๐ เมษายน ๒๕๕๐ สพท. จดั ค่ายคณุ ธรรมและจดั อบรมการทาโครงงานคณุ ธรรมขนั้ ตน้ ในเขตพน้ื ท่ี พฤษภาคม ๒๕๕๐ กลมุ่ เยาวชน เตรยี มงาน ประชมุ ระดมความคดิ เพอ่ื จดั ทาร่างโครงงาน สถานศกึ ษา ดาเนนิ การจดั ประกวดคดั เลอื กโครงงานคณุ ธรรม ๑ โครงงาน เพ่อื สง่ ๕ มิ.ย. ๒๕๕๐ สมคั รขอรบั ทุนสนบั สนุนโครงงานจาก สพท. ๕ - ๙ ม.ิ ย. ๒๕๕๐ วนั สุดท้ายของการส่งรา่ งโครงงาน และใบสมคั ร มาท่ี สพท. หรอื ตน้ สงั กดั ๑๕ ม.ิ ย. ๒๕๕๐ สพท. ตงั้ กรรมการพจิ ารณาคดั เลอื ก รา่ งโครงงานคุณธรรม เพ่อื รบั ทุนสนบั สนุน ๑๐ - ๓๐ ม.ิ ย. ๒๕๕๐ การดาเนินการโครงงาน ตามลาดบั คะแนนทป่ี ระเมนิ ตามเกณฑท์ ก่ี าหนด วนั สดุ ทา้ ยท่ี สพท. ตอ้ งแจง้ ผลการคดั เลอื กมาท่ี สนก. สพฐ. โครงงานทไ่ี ดร้ บั ทนุ เกรด A (เงนิ ทุน ๕,๐๐๐.-) ของ สพท. จานวนไม่น้อยกว่า ๖ โครงงานในระดบั มธั ยม (ระดบั ประถมไมน่ ้อยกว่า ๒ โครงงาน) ต้องลงทะเบยี น ขอ้ มลู ผา่ นทางเวบไซต์ www.moralproject.net เพอ่ื เขา้ สฐู่ านขอ้ มลู การประกวด โครงงานระดบั ประเทศของ กคพ. และใชส้ าหรบั เตรยี มจดั ทาเกยี รตบิ ตั ร พฤษภาคม – สงิ หาคม ๒๕๕๐ กล่มุ เยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน ดาเนนิ การโครงงาน ในระยะท่ี ๑ มถิ ุนายน – กนั ยายน ๒๕๕๐ สพท.และสถานศกึ ษารว่ มกนั สนบั สนุนตดิ ตามและประเมนิ ผลการดาเนินการโครงงาน กนั ยายน ๒๕๕๐ สพท. จดั ประกวดคดั เลือกโครงงานคณุ ธรรมดีเด่นระดบั เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ๑๕-๒๐ ก.ย. ๒๕๕๐ สพท. สง่ เอกสารและสอ่ื การนาเสนอโครงงานเฉพาะโครงงานทไ่ี ดร้ างวลั ที่ ๑ รายการท๑่ี -๔ พรอ้ มแผ่น CD รวมไฟล(์ ดงั ทก่ี าหนดไวใ้ นหน้า ๔-๕) จานวน ๑ ชุด พรอ้ มกบั แจง้ ผลการประกวดคดั เลอื กมาท่ี กคพ. (โครงงานทไ่ี ดร้ างวลั อน่ื ใหส้ ง่ เฉพาะแผน่ CD ทร่ี วมไฟลท์ งั้ หมด จานวน ๑ ชุด ไม่ ตอ้ งสง่ เป็นเอกสารมาท่ี กคพ.) ๑ - ๑๙ ต.ค. ๒๕๕๐ กรรมการในแต่ละภาคสงฆ์ พจิ ารณาคดั เลอื กโครงงานคุณธรรมเป็นตวั แทนเขา้ สู่ รอบรองชนะเลศิ ระดบั ประเทศ ตามสดั สว่ นของแต่ละภาคสงฆ์ ดงั ตาราง ภาคสงฆท์ ่ี ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ สอศ. รวม จน.จงั หวดั ๔ ๓ ๔ ๔ ๔ ๕ ๓ ๕ ๔ ๖ ๔ ๔ ๔ ๔ ๔ ๓ ๕ ๖ - ๗๖ จน. สพท. ๙ ๕ ๕ ๑๐ ๙ ๑๓ ๙ ๑๔ ๑๓ ๑๕ ๑๗ ๖ ๘ ๙ ๗ ๙ ๖ ๑๔ - ๑๗๘ โครงงานท่ีเขา้ รอบ ๒ ๑ ๑ ๒ ๒ ๓ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑ ๒ ๒ ๑ ๒ ๑ ๓ ๓ ๔๐ ๒๗ – ๓๑ ต.ค. ๒๕๕๐ ค่ายสดุ ยอดผนู้ ายวุ ชนกลั ยาณมติ ร และ กคพ. พจิ ารณาคดั เลอื กโครงงาน คณุ ธรรม ทจ่ี ะเขา้ สรู่ อบชงิ ชนะเลศิ ระดบั ประเทศ ต.ค. ๒๕๕๐ – ม.ค. ๒๕๕๑ กลุ่มเยาวชนผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน ดาเนินการโครงงานต่อ ในระยะที่ ๒ พ.ย. – ธ.ค. ๒๕๕๐ กรรมการกลางไปตรวจเยย่ี มโครงงานคุณธรรมในพน้ื ทแ่ี ละประเมนิ ผลเชงิ ประจกั ษ์ ธ.ค. ๒๕๕๐ – ม.ค. ๒๕๕๑ - งานสมชั ชาคณุ ธรรมแห่งชาตแิ ละตลาดนดั คณุ ธรรมครงั้ ท่ี ๓ - กคพ. ประกาศผลการประกวดโครงงานคุณธรรมดี ดีเด่น ยอดเยี่ยม ระดบั ประเทศ อยา่ งเป็นทางการ และจดั พธิ มี อบรางวลั ในระดบั ประเทศ - กคพ. เรม่ิ ประชาสมั พนั ธก์ ารประกวดโครงงานคณุ ธรรม ปี ๒๕๕๑ (หมายเหตุ วนั เวลาและสถานทตี่ ามกาหนดการดงั กล่าวขา้ งตน้ อาจมกี ารปรบั เปลยี่ นตามความเหมาะสม) ๑๗

ภาคผนวก ฉ. โครงการ รางวลั ประกาศเกียรติคณุ โรงเรียนส่งเสริมคณุ ธรรม เฉลิมพระเกียรติ “สร้างประโยชน์แท้แก่มหาชน” ปี การศึกษา ๒๕๕๐ ขอเชญิ สพท.ทุกแหง่ สรรหาหรอื คดั เลอื ก สถานศึกษาระดบั มธั ยมศึกษา ทม่ี คี ุณสมบตั ติ ามท่ี กาหนด เขา้ รบั การพจิ ารณามอบรางวลั ประกาศเกยี รตคิ ณุ โรงเรยี นสง่ เสรมิ คณุ ธรรม เฉลมิ พระเกยี รติ “สรา้ งประโยชน์แท้แก่มหาชน” ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๕๐ คณุ สมบตั ิของสถานศึกษาที่สมควรเข้ารบั การพิจารณามอบรางวลั ๑. มกี ารสง่ เสรมิ การเรยี นรแู้ ละพฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมแก่ผเู้ รยี นเป็นทป่ี ระจกั ษ์ เช่น เป็นโรงเรยี น ทด่ี าเนินการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธไดผ้ ลดี เป็นแหลง่ เรยี นรดู้ งู านดา้ นการส่งเสรมิ คุณธรรม หรอื เป็น โรงเรยี นทไ่ี ดร้ บั การประเมนิ ภายนอกดา้ นคณุ ธรรมในระดบั ดี ๒. มกี ารกาหนดไวใ้ นหลกั สตู รสถานศกึ ษาใหน้ กั เรยี นทุกคน ใน ๑ ช่วงชนั้ ตอ้ งรวมกลุ่มกนั ทา โครงงานคุณธรรมเฉลมิ พระเกยี รตอิ ยา่ งน้อย ๑ โครงงาน (กลมุ่ ละ ๘-๑๐ คนขน้ึ ไป) ๓. ในปีการศกึ ษา ๒๕๕๐ มจี านวนโครงงานคุณธรรมทร่ี เิ รมิ่ และดาเนนิ การโดยนกั เรยี น ไมน่ ้อยกว่า รอ้ ยละ ๒๐ ของจานวนนกั เรยี นทงั้ หมดหารดว้ ย ๑๐ (หรอื รอ้ ยละ ๒ ของจานวนนกั เรยี นทงั้ หมด) ๔. โครงงานคณุ ธรรมมผี ลสาเรจ็ ทด่ี กี ่อใหเ้ กดิ การพฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมแก่ผเู้ รยี นไดจ้ รงิ สามารถทาใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมทพ่ี งึ ประสงคท์ เ่ี หน็ ไดช้ ดั เจนเป็นรปู ธรรม ๕. ผปู้ กครอง พระสงฆ์ และบคุ คลในชมุ ชนโดยรอบโรงเรยี น มสี ่วนรว่ มและใหก้ ารยอมรบั สพท. ตอ้ งคดั เลอื กหรอื สรรหาโรงเรยี นทม่ี คี ณุ สมบตั ดิ งั กล่าว ไมเ่ กนิ ๓ โรงเรยี นต่อ สพท. โดยใหผ้ บู้ รหิ ารโรงเรยี นกรอกและส่งใบสมคั รและแบบเอกสารทก่ี าหนด (ดาวน์โหลดไดจ้ ากเวบไซต์ www.moralproject.net) แลว้ แนบเอกสารประมวลสรุปรายการโครงงานคณุ ธรรมเฉลมิ พระเกยี รตขิ อง โรงเรยี นในปีการศกึ ษา ๒๕๕๐ แลว้ ส่งมาท่ี กคพ. ทางอเี มล์ [email protected] หรอื ทาง ไปรษณยี ม์ าท่ี ดร.บรรเจอดพร สแู่ สนสุข สานกั พฒั นานวตั กรรมการจดั การศกึ ษา สานกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ภายในวนั ท่ี ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๐ ขอ้ แนะนาการทาโครงงานคณุ ธรรมสาหรบั สถานศกึ ษา ๑. โรงเรยี นสามารถกระตุน้ และสนบั สนุนใหน้ กั เรยี นนากจิ กรรมต่างๆ ของโรงเรยี น ทต่ี อ้ งดาเนนิ การอย่แู ลว้ อย่างเช่นกจิ กรรมโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมน้องไหวพ้ ่ี กจิ กรรมหน้าเสาธง กจิ กรรมแบง่ พน้ื ทท่ี าความ สะอาด เป็นตน้ หรอื กจิ กรรมเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาทาเป็นโครงงานคณุ ธรรม ซง่ึ กจิ กรรมเหล่าน้ีสามารถปรบั ให้ เป็นโครงงานยอ่ ยๆ ของนกั เรยี นไดท้ งั้ สน้ิ แต่ตอ้ งใหเ้ ดก็ นกั เรยี นเกดิ ความรสู้ กึ เป็นเจา้ ภาพหรอื เจา้ ของกจิ กรรม นนั้ ๆ โดยจะใหน้ กั เรยี นคดิ สรา้ งสรรคก์ จิ กรรมใหมๆ่ เพมิ่ เตมิ หรอื คดิ ปรบั ปรงุ แกป้ ัญหางานเดมิ ใหด้ ขี น้ึ กไ็ ด้ ๒. โรงเรยี นสามารถปรบั โครงงานวทิ ยาศาสตรท์ ม่ี อี ยเู่ ดมิ มาเป็นโครงงาน “วทิ ย-์ คณุ ธรรม” ได้ โดยเปลย่ี นจาก แนวคดิ “ต้องคิดคน้ ใหม”่ (แต่อย่บู นหง้ิ ) มาเป็น “นามาใช้ให้เกิดประโยชน์แท้แกม่ หาชน” โดยนาความรู้ วทิ ยาการต่างๆ (ไมจ่ าเป็นตอ้ งคดิ คน้ ใหม)่ ควบคกู่ บั คุณธรรมมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชน ผา่ นกระบวนการกลุ่มใหญ่และสรา้ งความมสี ว่ นรว่ มใหม้ ากทส่ี ดุ กไ็ ด้ ๑๘

ชื่อโครงการ การประกวดโครงงานคณุ ธรรมเฉลิมพระเกียรติ ระดบั ประถมศึกษา แนวคดิ “คณุ ธรรมนาการเรียนร้สู ่ชู ุมชนเข้มแขง็ ด้วยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง” แนวทางการทางาน “หลายโครงงานเลก็ ในโครงงานใหญ่” กาหนดการดาเนินงาน (โดยทวั่ ไป เหมอื นกบั กาหนดการของระดบั มธั ยมศกึ ษา ในภาคผนวก จ. แต่จะ แตกต่างกนั ทรี่ ะดบั ประถมนนั้ จะไม่มกี ารประกวดโครงงานระดบั ภาคสงฆ์ และไม่มคี า่ ยสดุ ยอดผนู้ าฯ ) พ.ค.-ต้นมิ.ย. โรงเรยี นสมคั ร โดยสง่ ร่างโครงงานเพอ่ื สมคั รขอรบั ทุนสนบั สนุนกบั สพท. โรงเรยี นตงั้ ครแู ละผปู้ กครองเป็นกรรมการโครงงาน โดยมผี อู้ านวยการ พระสงฆ/์ ผรู้ ทู้ างศาสนา และผแู้ ทนชุมชน เป็นทป่ี รกึ ษา รว่ มกนั ยกร่างโครงงานใหญ่ ๑ โครงงานทเ่ี น้นการเรยี นรทู้ ม่ี คี ณุ ธรรมนาความรแู้ ละ สง่ เสรมิ การดาเนินชวี ติ ตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งทเ่ี ช่อื มประสานกบั ชมุ ชน (บวร) โดยในโครงงานใหญ่ของโรงเรยี น น้ี ตอ้ งมแี ผนงานใหน้ กั เรยี นในโรงเรยี นรวมกลมุ่ กนั (กลมุ่ ละ ๔-๑๐ คน) ทาโครงงานย่อยทส่ี อดรบั กบั โครงงานใหญ่ ของโรงเรยี น ไมน่ ้อยกว่า ๘ โครงงานย่อย และตอ้ งมแี ผนการดาเนินงาน ๒ ระยะ ครอบคลมุ ทงั้ ๒ ภาคการศกึ ษา มิ.ย. สพท. พจิ ารณาคดั เลอื กโครงงานเพ่อื มอบทนุ ก.ย. สพท. จดั ประกวดโครงงาน จากผลการดาเนนิ โครงงานระยะท่ี ๑ ต้น ต.ค. สพท. สง่ รายชอ่ื โครงงานและสถานศกึ ษาทไ่ี ดร้ างวลั ท่ี ๑ มาท่ี กคพ. พ.ย.๕๐-ม.ค.๕๑ กคพ. พจิ ารณาคดั เลอื กและสมุ่ ตรวจเยย่ี มในพน้ื ท่ี ในชว่ งภาคเรยี นท่ี ๒ ก.พ.-มี.ค.๕๑ กคพ. ประกาศเกยี รตคิ ุณยกยอ่ งโครงงานทเ่ี ขา้ เกณฑแ์ ละมอบเกยี รตบิ ตั ร โครงงานคณุ ธรรมและสถานศกึ ษาส่งเสรมิ คุณธรรมเฉลมิ พระเกยี รติ ระดบั ประเทศ เกณฑก์ ารพิจารณา เกณฑโ์ ดยรวมเหมอื นกบั ระดบั มธั ยม ยกเวน้ ทน่ี กั เรยี นไมจ่ าเป็นตอ้ งคดิ รเิ รมิ่ เองทงั้ หมด และเน้นโครงงานทม่ี คี ณุ ประโยชน์ในการเสรมิ สรา้ งชุมชนเขม้ แขง็ ตามหลกั ศก.พอเพยี ง ตวั อยา่ งโครงงานคณุ ธรรมระดบั ประถมศึกษา ชอ่ื โครงงานใหญ่ โรงเรยี นบวรสามคั คี พออยพู่ อดีมีความสุข โครงงานย่อยของนกั เรยี น ๑. ขยะนี้มีเงินทอง (กลมุ่ นกั เรยี นรณรงคใ์ หท้ ุกคนชว่ ยกนั แยกขยะและบรจิ าคน้ามนั พชื ใชแ้ ลว้ จากนนั้ นา ขยะและน้ามนั พชื ใชแ้ ลว้ ไปขายหารายไดม้ าตงั้ กองทุนสวสั ดกิ ารดา้ นสขุ ภาพ) ๒. วนั นี้รบั บญุ ความสะอาดแลว้ หรอื ยงั ? (แบ่งพน้ื ทใ่ี หแ้ ต่ละกลมุ่ รบั ผดิ ชอบทาความสะอาด โดยมคี ุณครแู ละ พระอาจารยป์ ระเมนิ ใหค้ ะแนนสะสมวนั ละไม่เกนิ ๘ บญุ กลมุ่ ทไ่ี ด้ ๘๐ บญุ กอ่ น จะไดร้ บั รางวลั พเิ ศษ) ๓. ไหวก้ นั ไว้ก่อน หลวงพ่อสอนไว้ (นกั เรยี นกลมุ่ หน่งึ แบง่ เวรคอยทากจิ กรรมกระตุน้ ใหไ้ หวแ้ ละรบั ไหวก้ นั ทท่ี างเขา้ โรงเรยี นทุกเชา้ ตอนมาโรงเรยี น และตอนเยน็ หลงั เลกิ เรยี น) ๔. ออมบญุ วนั ละบาท วาดฝันของหนูให้เป็นจริง (นกั เรยี นทุกคนทากระปุกทป่ี ระดษิ ฐจ์ ากขยะกล่องนมท่ี นามาเจาะรแู ละลา้ งสะอาดแลว้ และหยอดเงนิ ออมทุกวนั อยา่ งนอ้ ยวนั ละหน่งึ บาท เมอ่ื ครบหน่งึ เดอื น เชค็ ยอดและแบง่ เงนิ ออมเป็นสส่ี ว่ น ๑ สว่ นทาบุญ ๓ สว่ นฝากสหกรณ์) ๕. สจั จะสละบาป-สจั จะสะสมบญุ (ทุกวนั จนั ทร์ นกั เรยี นเชญิ ชวนใหต้ งั้ สจั จะลดละความชวั่ และตงั้ สจั จะ ทาความดี ถวายแดใ่ นหลวง ความชวั่ เขยี นใสก่ ระดาษเผาทง้ิ ความดเี ขยี นลงกระดาษใบโพธติ ดิ ตน้ ไม)้ ๖. ลูกแก้วพาพอ่ แม่พน้ อบาย (นกั เรยี นนาแบบตอบรบั จากโรงเรยี นใหพ้ ่อแม่เขา้ รว่ มโครงการตงั้ สจั จะเลกิ เหลา้ บหุ รก่ี ารพนนั และถอื ศลี ๘ ทกุ วนั พระ ถวายแดใ่ นหลวง) ๗. ครอบครวั “๑ ต้น ๑ กระถาง ๑ แปลง” (นกั เรยี นร่วมกบั ครอบครวั ปลกู และดแู ลรกั ษาไมย้ นื ตน้ อย่างน้อย ๑ ตน้ ไมป้ ระดบั อยา่ งน้อย ๑ กระถาง และพชื ผกั สวนครวั อย่างน้อย ๑ แปลง) ๘. ๑ วนั พระ ๑ วนั ชมุ ชนสามคั คี (นกั เรยี นออกพฒั นาทาความสะอาดวดั ร่วมกบั ชมุ ชนทุกวนั พระ) ๑๙

คณะที่ปรึกษา โครงการการประกวดโครงงานคณุ ธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๑. พระธรรมโกศาจารย์ อธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ๒. พระอาจารยช์ ยสาโรภกิ ฺขุ อดตี เจา้ อาวาสวดั ป่านานาชาติ ๓. พระศรญี าณโสภณ ผชู้ ่วยเจา้ อาวาสวดั พระราม ๙ กาญจนาภเิ ษก ๔. พระอาจารยด์ ษุ ฎี เมธงั กุโร พระวทิ ยากรผทู้ รงคณุ วฒุ ิ สานกั ปฏบิ ตั ธิ รรมทงุ่ ไผ่ จงั หวดั ชมุ พร ๕. พระมหาวฒุ ชิ ยั วชริ เมธี ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นการส่อื สารธรรมะ วดั เบญจมบพติ รดสุ ติ วนาราม ๖. นายไพบลู ย์ วฒั นศริ ธิ รรม รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั ่ คงของมนุษย์ ๗. คณุ หญงิ พวงรตั น วเิ วกานนท์ นายกสมาคมผบู้ รหิ ารโรงเรยี นประถมศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย ๘. ศาสตราจารยก์ ติ ตคิ ณุ สมุ น อมรววิ ฒั น์ ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นการศกึ ษา และทป่ี รกึ ษาธรรมอาสาสมคั รฝ่ายวชิ าการ ๙. ดร.สเุ มธ ตนั ตเิ วชกุล เลขาธกิ ารมลู นิธชิ ยั พฒั นา ๑๐.ดร.มนูญ มกุ ขป์ ระดษิ ฐ์ รองเลขาธกิ ารมลู นิธชิ ยั พฒั นา ๑๑.นายปิยะบตุ ร ชลวจิ ารณ์ รฐั มนตรชี ่วยว่าการกระทรวงอตุ สาหกรรม ๑๒. คณุ หญงิ กษมา วรวรรณ ณ อยธุ ยา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๑๓. นายปรชี า กนั ธยิ ะ อธบิ ดกี รมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม ๑๔. ดร.ชนิ ภทั ร ภูมริ ตั น รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร คณะกรรมการกลาง โครงการการประกวดโครงงานคณุ ธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๑. พระมหาพงศน์ รนิ ทร์ ฐติ วโส นกั วจิ ยั และพระวทิ ยากรโครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ วดั สทุ ศั นเทพวราราม กรงุ เทพฯ ประธาน กคพ. และประธานโครงการฯ ๒. พระมหาวชิ าญ สวุ ชิ าโน หวั หน้าพระวทิ ยากร มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วดั ยานนาวา กรงุ เทพฯ ๓. พระมหานภนั ต์ สนฺตภิ ทฺโท พระวทิ ยากรหวั หน้ากลมุ่ พฒั นาจติ “เพอ่ื ชวี ติ ดงี าม” วดั สระเกศ กรงุ เทพฯ ๔. พระเจษฎา สมาหโิ ต พระวทิ ยากรแกนนาโครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ จงั หวดั อ่างทอง ๕. พระสรยทุ ธ์ ชยปญฺโญ รกั ษาการเจา้ อาวาสวดั พระบรมธาตุดอยผาสม้ จงั หวดั เชยี งใหม่ ๖. รศ.บุญนา ทานสมั ฤทธิ ์ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ และผรู้ ว่ มกอ่ ตงั้ โครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ ๗. รศ.ประภาภทั ร นิยม ผอู้ านวยการโรงเรยี นรงุ่ อรณุ และสถาบนั อาศรมศลิ ป์ เหรญั ญิก กคพ. ๘. ดร.สริ กิ ร มณรี นิ ทร์ ประธานกรรมการสานกั งานอทุ ยานการเรยี นรู้ ผรู้ ว่ มก่อตงั้ โครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ ๙. ดร.เบญจลกั ษณ์ น้าฟ้า ผอู้ านวยการสานกั พฒั นานวตั กรรมการจดั การศกึ ษา ๑๐. นางสาวนราทพิ ย์ พมุ่ ทรพั ย์ ผอู้ านวยการศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาพลงั แผ่นดนิ เชงิ คณุ ธรรม ๑๑. นายพงษช์ ยั ศรพี นั ธุ์ ผชู้ ว่ ยผอู้ านวยการ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย ๑๒. นางสาววไิ ลวรรณ ถกึ ไทย ผแู้ ทนศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาพลงั แผน่ ดนิ เชงิ คุณธรรม ๑๓. คณุ บบุ ผาสวสั ดิ ์ รชั ชตาตะนนั ท์ ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นทอสี และเครอื ขา่ ย ๓ ประสาน ร.ร.วถิ พี ทุ ธ ๑๔. คณุ อนินทติ า โปษะกฤษณะ ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นอนุบาลหนูน้อย-บา้ นพทุ ธประถมและเครอื ขา่ ย ๓ ประสาน ร.ร.วถิ พี ทุ ธ ๑๕. ดร.ไพรชั สแู่ สนสขุ อาจารยว์ ทิ ยาลยั การฝึกหดั ครู มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั พระนคร ๑๖. ดร.บรรเจอดพร สแู่ สนสขุ ผปู้ ระสานงานสว่ นกลาง โครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ สานกั พฒั นานวตั กรรมการจดั การศกึ ษา สพฐ. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เลขานุการ กคพ. กล่มุ กลั ยาณมิตรเพื่อการเสริมสร้างเครือข่ายวิถีพทุ ธ (กคพ.) ศนู ยป์ ระสานงานการประกวดโครงงานคุณธรรมเฉลมิ พระเกยี รติ ศนู ยป์ ระสานงานดา้ นการเงนิ และบญั ชี โครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ (ดร.บรรเจอดพร) มลู นธิ โิ รงเรยี นรุง่ อรณุ (คณุ โชตกิ า) สานกั พฒั นานวตั กรรมการจดั การศกึ ษา สพฐ. ๙/๙ หม่๕ู ซอย๓๓ ถ.พระราม๒ แขวงทา่ ขา้ ม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กทม. ๑๐๓๐๐ เขตบางขนุ เทยี น กรงุ เทพฯ ๑๐๑๕๐ โทร. ๐๒-๒๘๐-๕๕๖๐ โทรสาร ๐๒–๒๘๑–๕๒๑๖ โทร. ๐๒-๘๔๐-๒๕๐๑-๔ อเี มล์ [email protected] โทรสาร. ๐๒-๘๗๐-๗๕๑๔ Website โครงการการประกวดโครงงานคุณธรรมเฉลมิ พระเกยี รต:ิ http://www.moralproject.net ๒๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook