แผนอนุบาล 4 ขวบ สัปดาห์ที่1-2

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ การศกึ ษาปฐมวัย อายุ 4 ปี สัปดาหท์ ี่ 1–2 สาระการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื งราวเกี่ยวกับตวั เด็ก หน่วยการเรียนรู้ แรกรบั ประทบั ใจ ความคิดรวบยอด แรกรบั ประทับใจ คือ กำรพบกนั ครั้งแรกแลว้ เด็กไดร้ ับควำมอบอนุ่ ควำมเปน็ มิตร ควำมรู้ มีควำมประทับใจ อยำกมำโรงเรียน ชอ่ื ตวั และ ชอ่ื สกลุ เป็นเครอื่ งกำหนดใหร้ ู้ว่ำบุคคลน้ันคอื ใคร มคี วำมหมำยวำ่ อย่ำงไร มภี ูมิลำเนำ อยู่ท่ีไหน และมสี ถำนะเปน็ ชำยหรอื หญิง ชื่อเล่น คือ ช่อื ท่ีต้งั ขึ้นต้ังแตเ่ ดก็ เปน็ ทร่ี ้กู นั ในหมู่ญำตหิ รอื ผูใ้ กลช้ ดิ ชือ่ โรงเรียน คอื ชอื่ สถำนทีส่ ำหรบั ฝึกสอนเด็ก ภำยใตก้ ำรดูแลของครหู รืออำจำรย์ ช้นั เรียน คอื กำรบอกระดับกำรศึกษำและสถำนท่ี ท่ีอย่ใู นโรงเรยี น สถำนทีต่ ้งั ของโรงเรียน (ชุมชน) คือ ทตี่ ั้งของโรงเรียนว่ำอยู่ในเขตใด ชุมชนใด ตำบลใด อำเภอใด ปอ้ งกนั ผ้เู ปน็ ทร่ี ัก เด็กชำยอภิรักษ์ สิทธพิ ทิ ักษ์ เดก็ หญิงวมิ ลกำนต์ สขุ ดี เด็กหญงิ ดวงใจ เด็กชำยธงชยั ชมุ ชน.........ตำบล.........อำเภอ....... ชื่อ-สกลุ ความหมาย น้ำ บอล คานาหนา้ ชอ่ื สถานท่ตี ง้ั โรงเรยี น แรกรบั ประทับใจ ชื่อเล่น ชื่อจริงของเพอ่ื น (ชมุ ชน ตาบล อาเภอ) ครพู ลอยนภสั ครรู ชั นียก์ ร โรงเรียน......................... อนบุ ำล 2/....... ครูพลอย ครกู บ อนุ ชือ่ โรงเรยี น ชัน้ เรยี น ช่ือเลน่ ชอ่ื จรงิ คุณครูประจาชัน้ สง่ิ ท่เี ดก็ รแู้ ลว้ สง่ิ ที่เดก็ ตอ้ งการรู้ สิ่งท่ีเด็กควรรู้ 1. ชื่อ-สกลุ ควำมหมำย คำนำหน้ำชอื่ 1. ชอ่ื เลน่ เพือ่ น 1. ชื่อจริงครปู ระจำชน้ั 2. ช่ือเลน่ ช่อื จรงิ ของเพอื่ น 3. ช่ือเล่น ชื่อจรงิ คุณครูประจำชั้น 2. ชอื่ จรงิ ตนเอง 2.……………..………………..………. 4. ช่ือโรงเรียน ช้ันเรียน 5. สถำนท่ีตง้ั โรงเรยี น (ชมุ ชน ตำบล อำเภอ) 3.……………..………………..………. 3.……………..………………..………. 4.……………..………………..………. 4.……………..………………..……….

แนวการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวยั อายุ 4 ปี สัปดาหท์ ่ี 1–2 สาระการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่ืองราวเก่ยี วกับตัวเดก็ หน่วยการเรียนรู้ แรกรับประทบั ใจ กจิ กรรม เคล่ือนไหว กิจกรรม สรา้ งสรรค์ เสรี กลางแจง้ เกมการศึกษา และจงั หวะ เสริมประสบการณ์ วันท่ี - เกมภำพตดั ต่อ รปู เดก็ ชำย - เคลอื่ นไหวร่ำงกำย ช่ือ-สกลุ ควำมหมำย - จดั บอรด์ ตกแต่ง เปดิ โอกำสใหเ้ ด็ก - เลน่ เกมส่ง เดก็ หญิง ไดเ้ ลอื กเลน่ ในศนู ย์ตำมควำม บอลบอกชอื่ ตำมข้อตกลง คำนำหน้ำชื่อ ป้ำยสมำชกิ สนใจและค้นหำควำมถนดั ของตนโดยจดั ใหส้ อดคลอ้ ง - รอ้ งเพลง - ร้องเพลง ก – ฮ - ฉกี ปะกระดำษ กับ หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 1 ถำม – ตอบ ตำมจินตนำกำร - เคลอ่ื นไหวรำ่ งกำย - ช่ือเลน่ ชอ่ื จรงิ - พับสตี ำม เปดิ โอกำสให้เด็ก - เล่นเกมปิด - เกมจบั คู่ แบบผูน้ ำ ผูต้ ำม ของเพื่อน จนิ ตนำกำร ไดเ้ ลือกเล่นในศนู ย์ตำมควำม ตำหำเพ่อื น ภำพเหมือนรปู คน 2 - เคล่ือนไหวรำ่ งกำย - ร้องเพลงนบั น้วิ มือ - วำดภำพระบำยสี สนใจและค้นหำควำมถนดั ตำมขอ้ ตกลง ตำมจนิ ตนำกำร ของตนโดยจดั ใหส้ อดคล้อง กบั หน่วยกำรเรยี นรู้ - เคล่ือนไหวรำ่ งกำย - ชอ่ื เลน่ ชอ่ื จรงิ - ประดษิ ฐ์ เปดิ โอกำสใหเ้ ดก็ - เล่นเกมกบ - เกมจบั คภู่ ำพ ตำมสัญญำณ คณุ ครูประจำชัน้ กรอบรูปจำกจำน ไดเ้ ลือกเล่นในศนู ย์ตำมควำม กระโดด กบั ตวั เลข 1 - 5 - เคลื่อนไหวอย่ำงมี กระดำษ สนใจและคน้ หำควำมถนัด ทิศทำง ตำมจินตนำกำร ของตนโดยจดั ให้สอดคล้อง 3 - ร้องเพลง A B C - ระบำยสี กับ ภำพคณุ ครู หน่วยกำรเรียนรู้ ตำมจินตนำกำร - เคลอื่ นไหวรำ่ งกำย - ชอ่ื โรงเรยี น - วำดภำพระบำยสี เปิดโอกำสให้เดก็ - เลน่ โยนบอล - เกมจับคภู่ ำพ ตำมจงั หวะและ ชนั้ เรยี น โรงเรียน ไดเ้ ลอื กเล่นในศนู ย์ตำมควำม ลงตะกรำ้ ควำมสัมพันธ์ สญั ญำณ - ร้องเพลง ONE – ตำมจินตนำกำร สนใจและคน้ หำควำมถนดั 4 - ร้องและทำทำ่ ทำง TEN - ปน้ั ดนิ น้ำมนั ตำม ของตนโดยจดั ให้สอดคลอ้ ง ประกอบเพลงโรงเรียน จนิ ตนำกำร กบั ของเรำ หนว่ ยกำรเรียนรู้ - เคลื่อนไหวร่ำงกำย - สถำนท่ตี ้งั โรงเรียน - ป้ันดินนำ้ มนั ตำม เปิดโอกำสให้เดก็ - เล่นเครื่อง - เกมจับค่จู ำนวน ประกอบอปุ กรณต์ ำม (ชมุ ชน ตำบล อำเภอ) จนิ ตนำกำร ไดเ้ ลอื กเลน่ ในศนู ย์ตำมควำม เล่นสนำม ภำพที่เทำ่ กนั 5 คำสงั่ - รอ้ งเพลงโรงเรียน - วำดภำพด้วย สนใจและค้นหำควำมถนัด ของเรำ สีน้ำอย่ำงอิสระ ของตนโดยจดั ใหส้ อดคลอ้ ง ตำมจินตนำกำร กับหน่วยกำรเรียนรู้

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ่ี 1-2 วนั ท่ี 1 สาระการเรยี นรู้ย่อย ชอ่ื - สกุล ความหมาย คานาหน้าชื่อ 1. ชอื่ กิจกรรม เคล่ือนไหวและจงั หวะ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) เคล่ือนไหวร่ำงกำยตำมขอ้ ตกลงได้ 2) รอ้ งเพลงถำม – ตอบได้ 3) กล้ำแสดงออก 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรเคล่ือนไหวพื้นฐำน 1) กำรเคลื่อนไหวอย่กู บั ท่ี 2) กำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยตำมขอ้ ตกลง 2) กำรเคล่ือนไหวตำมเสียงเพลง 3) กำรร้องเพลง 3) กำรรอ้ งเพลง 4) กำรแสดงควำมคดิ ควำมรู้สึก และควำมต้องกำรดว้ ยคำพดู 4. วธิ ีการจัดกจิ กรรม 1) ครูสรำ้ งขอ้ ตกลงร่วมกนั กับเด็ก ดังน้ี - ครูเคำะจังหวะช้ำ ใหเ้ คล่ือนไหวร่ำงกำยช้ำ - ครูเคำะจังหวะเรว็ ใหเ้ คลอ่ื นไหวรำ่ งกำยเรว็ - ครเู คำะจงั หวะ 2 ครัง้ ใหห้ ยุดนง่ิ ทันที 2) ครรู อ้ งเพลงถำม – ตอบให้เด็กร้องตำมทลี ะวรรค 3) เด็กรอ้ งเพลงถำม – ตอบจนคล่อง 4) เดก็ และครรู ้องเพลงถำม – ตอบพร้อมทั้งทำท่ำทำงประกอบตำมจนิ ตนำกำร 5) เดก็ และครรู ่วมสนทนำเกย่ี วกบั เนือ้ เพลง 6) เดก็ บอกชื่อเล่น ชื่อจรงิ ของตนเองทลี ะคน 7) ครบู อกชื่อเลน่ ช่ือจริงของคุณครู 5. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1) เพลงถำม – ตอบ 2) เครอื่ งเคำะจงั หวะ 6. การประเมินผล 1) สังเกตกำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยตำมขอ้ ตกลง 2) สังเกตกำรร้องเพลงถำม – ตอบ 3) สงั เกตกำรกลำ้ แสดงออก

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 1 สาระการเรยี นรูย้ ่อย ช่อื - สกุล ความหมาย คานาหน้าชอ่ื 1. ชื่อกิจกรรม เสริมประสบการณ์ ความคดิ รวบยอด ชอื่ ตัว และ ชื่อสกลุ เปน็ เคร่อื งกำหนดใหร้ วู้ ่ำบคุ คลน้นั คือใคร มคี วำมหมำยวำ่ อย่ำงไร มีภมู ลิ ำเนำ อยู่ทไ่ี หน และมสี ถำนะเป็นชำยหรอื หญิง เป็นผู้เยำว์หรอื บรรลนุ ิติภำวะเป็นโสด หรือมีคสู่ มรสแลว้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) บอกคำนำหน้ำ ช่ือ สกุลของตนเองได้ 2) บอกควำมหมำยชอ่ื ของตนเองได้ 3) รอ้ งเพลง ก – ฮ ได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) คำนำหน้ำ ช่ือ สกุลของตนเอง 1) กำรแสดงควำมคิด ควำมรู้สึก และควำมต้องกำรดว้ ยคำพดู 2) ควำมหมำยชอ่ื ของตนเอง 2) กำรสนทนำและแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น 3) เพลง ก – ฮ 3) กำรรอ้ งเพลง 4. วิธีการจัดกิจกรรม 1) ครแู นะนำและสำธติ วิธีเล่นเกมแนะนำตัว โดยให้เด็กทอ่ งบทร้อยกรองทักทำยเพ่ือนท่ีน่ังถัดไป วำ่ เพื่อนจ๋ำ เธอแสนน่ำรกั ฉันอยำกรจู้ ัก เอำไวท้ ักทำยฉันช่ือ.............เธอช่อื ............. 2) ขออำสำสมัคร 1 คนออกมำรอ้ งเพลงถำม - ตอบ เม่อื ร้องเพลงจบชี้ไปทเี่ พ่ือนใหเ้ พื่อนท่ถี ูกช้ีบอก คำนำหน้ำ ชื่อ สกุลของตนเองและสัญลกั ษณข์ องตนเองใหเ้ พ่ือน ๆ ฟงั ปฏิบัตจิ นครบทุกคน 3) ครบู อกควำมหมำยชือ่ ของครู และสนทนำควำมหมำยของช่ือเด็ก ๆ ครูคอยแนะนำและใหก้ ำรบ้ำน เดก็ ๆ ไปถำมควำมหมำยของช่ือตนเองจำกผ้ปู กครอง 4) ครูเปดิ เพลง ก – ฮ ใหเ้ ด็ก ๆ ดู ฟงั และรว่ มกันร้องเพลง ก – ฮ 5) เดก็ และครรู ่วมสนทนำเกยี่ วกบั เพลง ก – ฮ 6) เด็กและครรู ่วมกนั สรปุ ถึงคำนำหนำ้ ชอื่ สกุล ควำมหมำยของช่ือ 5. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ 1) เกมแนะนำตัว 2) เพลงถำม – ตอบ 3) ซีดเี พลง ก – ฮ 4) บัตรภำพสญั ลกั ษณ์ 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตกำรบอกคำนำหน้ำ ชื่อ สกุลของตนเอง 2) สงั เกตกำรบอกควำมหมำยชื่อของตนเอง 3) สงั เกตกำรร้องเพลง ก – ฮ

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ่ี 1-2 วันที่ 1 สาระการเรียนรยู้ อ่ ย ชอื่ - สกุล ความหมาย คานาหนา้ ชือ่ 1. ชอื่ กิจกรรม สร้างสรรค์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) จดั บอร์ดตกแตง่ ป้ำยสมำชิกได้ 2) ฉีกปะกระดำษตำมจินตนำกำรได้ 3) แบง่ ปนั วสั ดุ อุปกรณใ์ ห้กบั เพื่อนได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทีค่ วรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) กำรจดั บอรด์ ตกแตง่ ปำ้ ยสมำชกิ 1) กำรประดิษฐ์ส่ิงต่ำง ๆ ด้วยเศษวสั ดุ 2) กำรฉีกปะกระดำษตำมจนิ ตนำกำร 2) กำรทำงำนร่วมกับผู้อ่นื 3) กำรแบง่ ปันวัสดุ อุปกรณ์ 3) การเป็นผู้ให้และผู้รบั 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) ครจู ดั เตรยี มกิจกรรมไว้ 2 กิจกรรม คือ กำรจดั บอรด์ ตกแตง่ ปำ้ ยสมำชิกและกำรฉีกปะกระดำษ อยำ่ งอสิ ระตำมจนิ ตนำกำร 2) ครแู นะนำอปุ กรณ์ วธิ ีกำรปฏบิ ตั ิและสร้ำงข้อตกลงรว่ มกันในกำรปฏบิ ตั ิกิจกรรมกำรจดั บอรด์ ตกแตง่ ปำ้ ยสมำชกิ และกำรฉกี ปะกระดำษอยำ่ งอิสระตำมจินตนำกำรดงั น้ี 2.1 กำรจดั บอรด์ ตกแต่งป้ำยสมำชิก - ครแู นะนำอุปกรณใ์ นกำรจดั บอร์ดตกแต่งปำ้ ยสมำชิก - ครอู ธิบำยวิธกี ำรใช้อุปกรณแ์ ละสำธิตวธิ กี ำรจดั บอร์ดตกแต่งป้ำยสมำชิก - ครนู ำบอรด์ สมำชิกเดก็ ชำย บอร์ดสมำชกิ เด็กหญิงมำใหเ้ ด็ก ๆ ติดภำพของตนเอง ตดิ ชอ่ื ตนเอง ใต้รปู ภำพและตกแต่งตำมจินตนำกำรให้สวยงำม 2.2 กำรฉกี ปะกระดำษอยำ่ งอิสระตำมจินตนำกำร - ครแู นะนำอุปกรณ์ในกำรฉกี ปะกระดำษอยำ่ งอสิ ระตำมจนิ ตนำกำร - ครูอธิบำยและสำธิตกำรฉกี ปะกระดำษอยำ่ งอสิ ระตำมจินตนำกำร 3) เดก็ ปฏิบตั กิ จิ กรรมจดั บอร์ดตกแตง่ ป้ำยสมำชิก กำรฉีกปะกระดำษอย่ำงอสิ ระตำมจินตนำกำร และนำผลงำนมำบอกชื่อผลงำนให้ครจู ดบันทึก 4) ใหต้ วั แทนเดก็ ชำย เดก็ หญงิ มำนำเสนอผลงำนกำรจัดบอรด์ ตกแต่งปำ้ ยสมำชิก 5) อำสำสมคั รนำผลงำนกำรฉีกปะกระดำษอย่ำงอิสระตำมจินตนำกำรมำเลำ่ ให้เพ่ือนฟังหนำ้ ชัน้ เรยี น 6) เดก็ ทกุ คนช่วยกนั เกบ็ อุปกรณ์ให้เรยี บร้อย 5. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) บอรด์ 2) ป้ำยชื่อเลน่ เดก็ /ภำพเด็ก

3) กระดำษสี กำว สีไม้ 4) กระดำษ เอ 4 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรจดั บอรด์ ตกแต่งปำ้ ยสมำชิก 2) สังเกตและตรวจผลงำนกำรฉีกปะกระดำษตำมจินตนำกำร 3) สงั เกตกำรแบ่งปนั วสั ดุ อปุ กรณ์ใหก้ ับเพื่อน

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 1 สาระการเรียนรู้ย่อย ช่อื - สกลุ ความหมาย คานาหนา้ ช่ือ 1. ชื่อกจิ กรรม เสรี 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) สงั เกต สำรวจ ทดลอง คน้ คว้ำ คิดแก้ปัญหำในกำรทำงำนและกำรเล่นเป็นกลุ่ม 2) มีประสบกำรณต์ รงในกำรใช้ภำษำ มจี ินตนำกำร ควำมคิดสร้ำงสรรค์ ตอ่ งำนและส่ิงที่ตนเล่น 3) มวี นิ ัย ควำมรับผดิ ชอบ มีมำรยำท ช่วยเหลือ แบ่งปนั อดทนรอคอยและมจี ติ สำธำรณะ 4) มีพฒั นำกำรทำงร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญำอย่ำงสมดุลรอบดำ้ น 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้ - กำรเล่นตำมศูนยเ์ ป็นกำรเล่นในศูนยป์ ระสบกำรณ์ต่ำง ๆ อยำ่ งอสิ ระผ่ำนกำรเล่น ทดลอง คิดค้นคว้ำ สรำ้ งสรรค์ กำรแกป้ ัญหำและกำรแสวงหำคำตอบ ซ่งึ จะช่วยพฒั นำควำมคิด จนิ ตนำกำร ภำษำควบคู่ไปกับ ควำมมีวินยั ควำมรับผิดชอบ กำรรอคอย กำรแบ่งปัน กำรใฝร่ ู้และกำรอย่รู ว่ มกนั เพ่ือพฒั นำกำรเข้ำสสู่ งั คม ประสบการณส์ าคัญ 1) กำรเลน่ เครื่องเลน่ สัมผสั 2) กำรต่อของ บรรจุ เทและแยกสว่ นประกอบ 3) กำรเลน่ และกำรทำงำนรว่ มกบั ผู้อนื่ 4) กำรรบั รู้ แสดงควำมรู้สึกผ่ำนส่ือ วัสดุ ของเลน่ และผลงำน 5) กำรเลน่ รำยบุคคลและเลน่ เป็นกล่มุ 6) กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำน 4. วิธีการจัดกิจกรรม 1) ครูแนะนำกำรเล่นกำรปฏบิ ตั ิตนในกำรเล่นศนู ย์กิจกรรมเสรีตำมข้อตกลง 2) เดก็ เลอื กเล่นศูนยก์ ิจกรรมเสรีตำมควำมสนใจ 3) ครใู หค้ ำแนะนำ กระต้นุ สง่ เสริม ใหค้ ำชมเชยเพื่อใหเ้ ด็กเกิดกำรพัฒนำอย่ำงสมดลุ รอบด้ำน เต็มตำมศกั ยภำพ 4) ใหเ้ ด็กเล่นอยำ่ งอิสระหลังจำกเลกิ เลน่ ใหเ้ ดก็ ทำควำมสะอำดอุปกรณ์ พร้อมกับเกบ็ ของเข้ำท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - อุปกรณ์ต่ำง ๆ ทจี่ ัดไว้ตำมศนู ยก์ จิ กรรมเสรี ต้องสอดคล้องสมั พันธ์กบั หน่วยกำรเรียนรู้ 6. การประเมินผล 1) สังเกตพฤติกรรมกำรสำรวจ ทดลอง ค้นคว้ำ คิดแกป้ ญั หำในกำรทำงำนและกำรเล่นเป็นกล่มุ 2) สงั เกตกำรใชภ้ ำษำ ตรวจผลงำนกำรปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกำรคิดสร้ำงสรรค์ ตอ่ งำนและสงิ่ ท่ีเล่น

3) สงั เกตควำมมีวนิ ยั ควำมรับผิดชอบ มำรยำท กำรช่วยเหลอื แบ่งปัน อดทนรอคอย และมีจิตสำธำรณะ 4) สงั เกตควำมกำ้ วหนำ้ ของพัฒนำกำรท้ัง 4 ด้ำน หมายเหตุ ครูปรบั เปลีย่ นส่ือ วสั ดอุ ุปกรณ์ในศูนย์ใหส้ ัมพันธก์ บั หนว่ ยกำรเรียนรตู้ ำมควำมพรอ้ ม และจุดเน้นของสถำนศึกษำ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 1 สาระการเรยี นรยู้ ่อย ชื่อ - สกลุ ความหมาย คานาหน้าช่ือ 1. ชื่อกิจกรรม กลางแจ้ง 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เลน่ เกมสง่ ลกู บอลบอกชื่อได้ 2) ปฏิบตั ติ ำมขอ้ ตกลงและกติกำได้ 3) ลำ้ งมอื หลังจำกเลิกเล่นได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรเล่นเกมส่งลกู บอลบอกชอื่ 1) กำรเลน่ กลุ่มใหญ่ 2) กำรปฏบิ ตั ติ ำมข้อตกลงและกติกำ 2) กำรเปน็ สมำชิกที่ดขี องห้องเรยี น 3) กำรล้ำงมอื หลงั จำกเลิกเล่น 3) กำรปฏบิ ัตติ นตำมสุขอนำมัย สุขนิสยั ทดี่ ี 4) กำรทำควำมสะอำดรำ่ งกำยหลงั กำรเลน่ ในกจิ วตั รประจำวนั 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) เด็กและครสู นทนำถึงข้อตกลงในกำรปฏิบัติตนเมื่อลงไปเล่นทสี่ นำม ครูพำเดก็ เดนิ ไปทีส่ นำม 2) ครูให้เด็กจับมือยนื เป็นวงกลมอบอุน่ ร่ำงกำยท่ำพื้นฐำนง่ำย ๆ ตำมครู 3) ครูอธิบำยวธิ กี ำรเล่นเกมส่งลกู บอลบอกช่ือ โดยสง่ ลกู บอลให้เพ่ือนคนถัดไปเรอ่ื ย ๆ เมอ่ื ไดย้ นิ สัญญำณหยดุ ใหห้ ยุดส่งลกู บอลทันที ลูกบอลอยู่กับใครให้บอกคำนำหนำ้ ชื่อ สกุลของตนเอง 4) เดก็ เลน่ เกมซำ้ ๆ เพ่อื เปน็ กำรทบทวนคำนำหนำ้ ชอ่ื สกุลของตนเองและใหเ้ พื่อน ๆ ได้จดจำ 5) เมื่อเลิกเล่น ครูใหเ้ ด็กเขำ้ แถวลำ้ งมือใหส้ ะอำดแลว้ เดนิ เข้ำหอ้ งเรยี น 5. สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 1) ลูกบอล 2) นกหวีด 6. การประเมินผล 1) สงั เกตกำรเล่นเกมสง่ ลูกบอลบอกชอ่ื 2) สังเกตกำรปฏบิ ัติตำมข้อตกลงและกติกำ 3) สงั เกตกำรล้ำงมือ

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาห์ที่ 1-2 วนั ที่ 1 สาระการเรยี นรู้ยอ่ ย ช่อื - สกุล ความหมาย คานาหน้าชอ่ื 1. ชื่อกจิ กรรม เกมการศกึ ษา 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) เลน่ เกมภำพตดั ต่อรูปเด็กชำย เดก็ หญงิ ได้ 2) เลน่ ร่วมกับเพื่อนได้ 3) เกบ็ ของเข้ำท่ีได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรเลน่ เกมภำพตัดตอ่ รปู เด็กชำย เด็กหญงิ 1) กำรต่อของ บรรจุ เท และแยกชิ้นส่วน 2) กำรเลน่ รว่ มกับเพ่ือน 2) การสงั เกตสง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใช้ประสาทสัมผัส 3) กำรเก็บของเข้ำที่ ดว้ ยการมอง ฟงั สัมผัสอย่ำงเหมำะสม 3) กำรเลน่ กลุ่มย่อย 4) ควำมรับผดิ ชอบในกำรดูแลห้องเรยี นร่วมกัน 4. วิธีการจัดกจิ กรรม 1) ครนู ำเกมภำพตดั ต่อรูปเด็กชำย เด็กหญงิ ทสี่ มบรู ณ์มำให้เด็กดูและสนทนำถึงเนือ้ หำของภำพ วำ่ เป็นภำพอะไร 2) ครูสำธิตวธิ ีกำรเล่นเกมภำพตัดต่อรปู เด็กชำย เด็กหญิงใหเ้ ดก็ ดู 3) ครแู บง่ กลุ่มเด็ก กลุ่มละ 4 - 5 คน แจกเกมภำพตัดต่อรปู เด็กชำย เด็กหญงิ เกมที่เคยเล่นมำแล้ว ให้เดก็ เลน่ ครูคอยแนะนำกลุม่ ทีต่ ่อภำพไม่ถูกต้อง 4) ใหเ้ ด็กเลน่ เกมภำพตัดต่อรปู เด็กชำย เด็กหญิงซ้ำอีก 5) เม่อื เลกิ เลน่ ใหเ้ ด็กชว่ ยเกบ็ อปุ กรณเ์ ข้ำที่ใหเ้ รียบร้อย 5. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) เกมภำพตัดต่อรปู เด็กชำย เดก็ หญงิ 2) เกมทเ่ี คยเล่นมำแล้ว 6. การประเมินผล 1) สังเกตกำรเลน่ เกมภำพตัดต่อรปู เด็กชำย เดก็ หญิง 2) สงั เกตกำรเล่นรว่ มกบั เพ่ือน 3) สังเกตกำรเก็บของเขำ้ ที่

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาห์ที่ 1-2 วันที่ 2 สาระการเรยี นรู้ย่อย ชอื่ เลน่ ชือ่ จริงของเพื่อน 1. ชอ่ื กจิ กรรม เคลือ่ นไหวและจงั หวะ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้นำ ผู้ตำมทดี่ ีได้ 2) เคล่ือนไหวรำ่ งกำยตำมขอ้ ตกลงได้ 3) ร่วมกิจกรรมได้ด้วยควำมสนกุ สนำน 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่คี วรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) กำรปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้นำผูต้ ำมที่ดี 1) กำรเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ 2) กำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยตำมข้อตกลง 2) กำรยอมรับควำมสำมำรถกำรทำกจิ กรรม 3) กำรรว่ มกจิ กรรม ร่วมกบั กลุ่มเพ่ือนท่ีแตกต่ำงไปจำกตน 3) กำรแสดงออกอยำ่ งสนุกสนำนกับเหตุกำรณ์ ทส่ี นุกสนำนตำ่ ง ๆ 4) การเล่นและทางานร่วมกบั ผู้อน่ื 4. วิธีการจัดกจิ กรรม 1) เดก็ เคลื่อนไหวสว่ นต่ำง ๆ ของรำ่ งกำยไปทัว่ บริเวณห้องอย่ำงอิสระตำมทค่ี รูให้สัญญำณเคำะ จงั หวะชำ้ - เร็ว สลับกนั เมือ่ ไดย้ นิ สญั ญำณเคำะ 2 ครงั้ ติดกัน เด็กหยุดกำรเคล่ือนไหวอยใู่ นท่ำน้ัน ทนั ที (ทำซ้ำหลำย ๆ ครัง้ ) 2) ให้เด็กเคลื่อนไหวตำมข้อตกลง เช่น จบั กลุ่ม 2 คน กลุ่ม 3 คน กลมุ่ 4 คน ฯลฯ 3) ครขู ออำสำสมัครออกคำสั่งให้เพอ่ื นปฏบิ ตั ิตำม เชน่ ตบมอื ผงกศรี ษะ เดิน วง่ิ กระโดด ฯลฯ 4) เดก็ ปฏิบตั กิ ิจกรรมตำมข้อ 3 หลำย ๆ ครงั้ โดยผลดั เปล่ียนกันออกมำปฏบิ ัตติ นเป็นผูน้ ำ 5) เดก็ พักกล้ำมเนื้อ นั่งเหยียดขำตำมสบำย 5. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ - เครื่องเคำะจงั หวะ 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตกำรปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้นำ ผตู้ ำม 2) สงั เกตกำรเคลื่อนไหวรำ่ งกำยตำมขอ้ ตกลง 3) สังเกตกำรร่วมกิจกรรม

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาห์ที่ 1- 2 วนั ท่ี 2 สาระการเรียนรู้ยอ่ ย ช่อื เลน่ ชื่อจรงิ ของเพอ่ื น 1. ชอ่ื กจิ กรรม เสริมประสบการณ์ ความคดิ รวบยอด ช่ือเลน่ คอื ชื่อทต่ี ้งั ขึ้นตง้ั แต่เด็กเปน็ ท่ีรู้กนั ในหมู่ญำตหิ รือผู้ใกลช้ ิด ช่อื จรงิ คือ ชือ่ ทีต่ งั้ ใหแ้ กเ่ ดก็ ต้ังแต่เกิด ชอ่ื ที่ปรำกฏในทะเบยี นสำมะโนครวั 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกชื่อเล่น ช่ือจรงิ ของเพ่ือนได้ 2) กล้ำแสดงออก เช่อื ม่นั ในตนเอง 3) ใช้ภำษำในกำรพดู และถ่ำยทอดเรื่องรำวได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) ชอ่ื เล่น ชอื่ จริงของเพ่ือน 1) กำรแสดงควำมเป็นมิตรกับเพือ่ น 2) เพลงถำม – ตอบ 2) กำรรอจังหวะท่เี หมำะสมในกำรพูด 3) เพลงนบั นิว้ มอื 3) กำรร้องเพลง 4) กำรเล่นและทำงำนกับผอู้ ่ืน 4. วิธีการจัดกจิ กรรม 1) เดก็ รอ้ งเพลงถำม - ตอบ โดยครรู อ้ งเพลงใหฟ้ ังหนึ่งคร้ัง แล้วให้เด็กร้องเพลงตำมครูทีละวรรค 2) เดก็ ฝึกร้องเพลงถำม – ตอบจนรอ้ งเพลงได้คล่อง พรอ้ มปรบมือตำมจังหวะไปดว้ ย 3) เด็กเล่นเกมถำม - ตอบ โดยเด็กรอ้ งเพลงถำม – ตอบจบครูชไ้ี ปท่เี ด็กคนไหนให้เด็กคนน้ันออกมำ ยืนหน้ำชัน้ พรอ้ มบอกชื่อเล่น ช่ือจริงของเพอ่ื นท่รี ้จู ักในหอ้ ง 1 ชอ่ื เด็กที่ถกู เรยี กชื่อจะออกมำบอกช่ือ เพือ่ นที่รูจ้ กั อีก เล่นเกมจนครบทกุ คน 4) เดก็ คนไหนบอกชอ่ื เลน่ ชอ่ื จริงเพื่อนในห้องได้ ใหเ้ พื่อน ๆ ปรบมอื ชมเชย 5) ครนู ำเด็กร้องเพลงนับนิ้วมือทีละวรรค จนเด็กร้องเพลงได้คลอ่ ง 6) เดก็ ร้องเพลงนบั น้วิ มือ พรอ้ มทำทำ่ ทำงประกอบตำมจนิ ตนำกำร 7) เดก็ และครรู ว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกบั ช่ือเล่น ช่ือจริงของเพ่ือนอีกครงั้ 5. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) เพลงถำม - ตอบ 2) เกมถำม - ตอบ 3) เพลงนบั นิว้ มอื 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตกำรบอกชอ่ื เล่น ชอ่ื จริงของเพอ่ื น 2) สังเกตกำรกล้ำแสดงออกและควำมเชื่อมั่นในตนเอง 3) สังเกตกำรใช้ภำษำในกำรพดู และถำ่ ยทอดเร่ืองรำว

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 2 สาระการเรียนรู้ย่อย ชือ่ เล่น ชือ่ จริงของเพอ่ื น 1. ชอื่ กจิ กรรม สร้างสรรค์ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) พบั สีได้ 2) วำดภำพระบำยสีตำมจนิ ตนำกำรได้ 3) แบง่ ปนั และรอคอยได้ 4) เก็บวัสดุ อปุ กรณเ์ ข้ำท่ีได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) กำรพับสี 1) กำรมุ่งมน่ั ในกำรทำกิจกรรม มีสมำธจิ ดจ่อ 2) กำรวำดภำพระบำยสีอย่ำงอิสระ 2) กำรเขียนภำพและเล่นกบั สี ตำมจินตนำกำร 3) กำรทำงำนศลิ ปะ 3) กำรแบง่ ปนั และกำรรอคอย 4) ควำมรบั ผิดชอบในกำรดแู ลหอ้ งเรียนรว่ มกัน 4) กำรเก็บวัสดุ อุปกรณ์เข้ำท่ี 4. วิธีการจดั กิจกรรม 1) ครจู ัดเตรยี มกจิ กรรมไว้ 2 กจิ กรรม คือ กำรพับสีและกำรวำดภำพระบำยสีอยำ่ งอสิ ระตำมจินตนำกำร 2) ครแู นะนำอุปกรณ์ วธิ ีกำรปฏบิ ัตแิ ละทบทวนข้อตกลงในกำรปฏิบัติกจิ กรรมกำรพับสีและกำรวำดภำพ ระบำยสีอย่ำงอิสระตำมจนิ ตนำกำรดังน้ี 2.1 กำรพับสี - ครแู นะนำอปุ กรณ์ในกำรพบั สี - ครอู ธิบำยและสำธิตวิธีกำรพบั สีและกำรระมัดระวังในกำรใช้สนี ำ้ 2.2 กำรวำดภำพระบำยสีอย่ำงอิสระตำมจินตนำกำร - ครแู นะนำอุปกรณ์ในกำรวำดภำพระบำยสีอย่ำงอสิ ระตำมจนิ ตนำกำร - ครอู ธบิ ำยและสำธิตกำรวำดภำพระบำยสีอย่ำงอิสระตำมจินตนำกำร 3) เด็กเลือกปฏิบัติกจิ กรรมตำมควำมสนใจแลว้ นำผลงำนมำบอกชื่อผลงำนให้ครูจดบันทึก 4) อำสำสมัครเลือกผลงำนตนเองระหว่ำงกำรพบั สีและกำรวำดภำพระบำยสีอยำ่ งอสิ ระ ตำมจินตนำกำรมำเล่ำให้เพื่อนฟังหนำ้ ชน้ั เรยี น 5) เดก็ ทุกคนช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย 5. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1) สนี ้ำ 2) สีไม้ 3) กระดำษ เอ 4 4) ดินสอ

6. การประเมินผล 1) สงั เกตและตรวจผลงำนกำรพับสี 2) ตรวจผลงำนกำรวำดภำพระบำยสีอย่ำงอสิ ระตำมจนิ ตนำกำร 3) สงั เกตกำรแบง่ ปนั และกำรรอคอย 4) สังเกตกำรเกบ็ วัสดุ อปุ กรณ์เข้ำท่ี

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ่ี 1-2 วนั ที่ 2 สาระการเรียนรู้ย่อย ช่ือเลน่ ช่ือจรงิ ของเพ่ือน 1. ช่ือกจิ กรรม เสรี 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) สงั เกต สำรวจ ทดลอง คน้ ควำ้ คิดแก้ปญั หำในกำรทำงำนและกำรเล่นเปน็ กลุ่ม 2) มีประสบกำรณต์ รงในกำรใชภ้ ำษำ มีจนิ ตนำกำร ควำมคิดสรำ้ งสรรค์ ตอ่ งำนและสงิ่ ทตี่ นเลน่ 3) มีวนิ ัย ควำมรบั ผิดชอบ มมี ำรยำท ช่วยเหลือ แบง่ ปนั อดทนรอคอยและมจี ิตสำธำรณะ 4) มพี ฒั นำกำรทำงร่ำงกำย อำรมณ์ จติ ใจ สังคมและสตปิ ัญญำอย่ำงสมดลุ รอบดำ้ น 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ - กำรเลน่ ตำมศูนย์เป็นกำรเล่นในศูนยป์ ระสบกำรณต์ ่ำง ๆ อย่ำงอสิ ระผำ่ นกำรเล่น ทดลอง คดิ ค้นคว้ำ สรำ้ งสรรค์ กำรแกป้ ัญหำและกำรแสวงหำคำตอบ ซง่ึ จะชว่ ยพัฒนำควำมคดิ จินตนำกำร ภำษำควบคู่ไปกับ ควำมมีวินยั ควำมรับผิดชอบ กำรรอคอย กำรแบ่งปัน กำรใฝร่ ู้และกำรอยู่ร่วมกนั เพ่ือพฒั นำกำรเข้ำสู่สงั คม ประสบการณ์สาคญั 1) กำรเล่นเครือ่ งเล่นสัมผัส 2) กำรตอ่ ของ บรรจุ เทและแยกสว่ นประกอบ 3) กำรเล่นและกำรทำงำนร่วมกับผอู้ ืน่ 4) กำรรับรู้ แสดงควำมรู้สกึ ผ่ำนสื่อ วสั ดุ ของเลน่ และผลงำน 5) กำรเล่นรำยบุคคลและเลน่ เปน็ กลุ่ม 6) กำรสร้ำงสรรค์ผลงำน 4. วธิ กี ารจัดกจิ กรรม 1) ครแู นะนำกำรเล่นกำรปฏบิ ตั ิตนในกำรเลน่ ศนู ย์กจิ กรรมเสรตี ำมข้อตกลง 2) เด็กเลอื กเล่นศูนย์กิจกรรมเสรีตำมควำมสนใจ 3) ครใู ห้คำแนะนำ กระต้นุ ส่งเสรมิ ใหค้ ำชมเชยเพ่ือให้เด็กเกิดกำรพัฒนำอย่ำงสมดุลรอบด้ำน เต็มตำมศกั ยภำพ 4) ใหเ้ ดก็ เลน่ อยำ่ งอิสระหลงั จำกเลิกเล่นให้เดก็ ทำควำมสะอำดอปุ กรณ์ พรอ้ มกบั เก็บของเข้ำทใ่ี หเ้ รยี บรอ้ ย 5. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ - อุปกรณต์ ำ่ ง ๆ ทจ่ี ัดไว้ตำมศนู ยก์ จิ กรรมเสรี ต้องสอดคล้องสมั พันธก์ ับหนว่ ยกำรเรียนรู้ 6. การประเมินผล 1) สงั เกตพฤติกรรมกำรสำรวจ ทดลอง คน้ คว้ำ คดิ แก้ปัญหำในกำรทำงำนและกำรเล่นเป็นกลุ่ม 2) สงั เกตกำรใช้ภำษำ ตรวจผลงำนกำรปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกำรคดิ สรำ้ งสรรค์ ตอ่ งำนและส่ิงที่เลน่

3) สงั เกตควำมมีวนิ ยั ควำมรับผิดชอบ มำรยำท กำรช่วยเหลอื แบ่งปัน อดทนรอคอย และมีจิตสำธำรณะ 4) สงั เกตควำมกำ้ วหนำ้ ของพัฒนำกำรท้ัง 4 ด้ำน หมายเหตุ ครูปรบั เปลีย่ นส่ือ วสั ดอุ ุปกรณ์ในศูนยใ์ หส้ ัมพันธก์ บั หนว่ ยกำรเรียนรตู้ ำมควำมพรอ้ ม และจดุ เน้นของสถำนศึกษำ

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ่ี 1-2 วนั ที่ 2 สาระการเรยี นรู้ย่อย ช่ือเล่น ช่อื จริงของเพ่ือน 1. ชือ่ กิจกรรม กลางแจ้ง 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) เล่นเกมปดิ ตำหำเพ่ือนได้ 2) เลน่ ร่วมกับเพ่ือนได้ 3) ล้ำงมอื หลังกำรเล่นได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรเล่นเกมเกมปดิ ตำหำเพือ่ น 1) กำรเล่นร่วมกับผู้อน่ื 2) เล่นร่วมกบั เพือ่ น 2) กำรทำกิจกรรมกลมุ่ ใหญ่ 3) ลำ้ งมือหลงั กำรเล่น 3) กำรปฏบิ ตั ติ นตำมสุขอนำมัย สขุ นสิ ัยท่ีดีในกิจวัตรประจำวนั 4. วิธีการจัดกจิ กรรม 1) เดก็ และครสู นทนำถึงข้อตกลงในกำรปฏบิ ัตติ นเม่ือลงไปเลน่ ทสี่ นำม 2) เด็กเดนิ แถวลงไปที่สนำมอยำ่ งเปน็ ระเบยี บ 3) เด็กจบั มือยนื ล้อมเป็นวงกลม และทำท่ำทำงกำยบรหิ ำรตำมผ้นู ำ 4) ครอู ธิบำยและสำธติ วิธกี ำรเล่นเกมปดิ ตำหำเพ่ือนให้เด็กเข้ำใจ 5) ขออำสำสมัคร 1 คนยืนตรงกลำงวง ครูใช้ผ้ำมัดรอบศรี ษะเพอ่ื ปิดตำไว้ 6) ครใู ห้สัญญำณเริ่มเลน่ เดก็ ที่ยืนอยตู่ รงกลำงเดินไปจบั เพื่อนแลว้ ทำยชือ่ เลน่ ชื่อจริงเพ่ือน ถำ้ บอกถูก ให้คนโดนจบั มำเป็นคนโดนปดิ ตำแทนแล้วจับเพอ่ื นคนตอ่ ไป 7) เดก็ เล่นอสิ ระกลำงแจ้ง โดยครดู แู ลอยำ่ งใกล้ชิด 8) ครูใหส้ ญั ญำณหยุดเลน่ เด็กทำควำมสะอำดรำ่ งกำย ลำ้ งมือและแตง่ กำยใหเ้ รยี บร้อย เดินแถว เรยี งลำดับเข้ำหอ้ งเรียน 5. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1) เกมปดิ ตำหำเพื่อน 2) ผ้ำปดิ ตำ 3) นกหวีด 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรเล่นเกมปดิ ตำหำเพือ่ น 2) สงั เกตกำรเลน่ ร่วมกับผู้อนื่ 3) สังเกตกำรล้ำงมอื

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาห์ท่ี 1-2 วนั ที่ 2 สาระการเรยี นรูย้ ่อย ชอื่ เลน่ ชอื่ จริงของเพอื่ น 1. ชื่อกิจกรรม เกมการศกึ ษา 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เล่นเกมจับคูภ่ ำพเหมือนรปู คนได้ 2) คิดหำเหตผุ ลและตัดสินใจแก้ปัญหำไดด้ ว้ ยตนเอง 3) เล่นกจิ กรรมรว่ มกับผู้อ่นื ได้ 4) เก็บของเข้ำที่ได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) กำรเลน่ เกมจับค่ภู ำพเหมือนรปู คน 1) กำรสงั เกตส่ิงต่ำง ๆ โดยใช้ประสำทสมั ผัส 2) กำรคดิ หำเหตุผลและตัดสินใจแกป้ ญั หำ ดว้ ยกำรมอง ไดด้ ว้ ยตนเอง 2) กำรเล่นร่วมกบั ผู้อนื่ 3) กำรเล่นกิจกรรมรว่ มกบั ผอู้ ่นื 3) กำรจดั หมวดหมู่ของส่งิ ต่ำง ๆ อย่ำงมีกฏเกณฑ์ 4) กำรเกบ็ ของเข้ำที่ 4) กำรแสดงกำรแกป้ ัญหำท่ีพบระหว่ำง กำรทำกจิ กรรม 4. วิธีการจัดกิจกรรม 1) ครนู ำภำพเกมจบั คภู่ ำพเหมือนรูปคน ให้เดก็ ดูและสังเกตควำมเหมอื น ควำมแตกต่ำง 2) ครูแนะนำและสำธิตวธิ กี ำรเล่นเกมจับคภู่ ำพเหมือนรปู คน 3) แบง่ เดก็ เป็นกลุ่มตำมควำมเหมำะสม ครูแจกเกมจบั คู่ภำพเหมอื นรปู คน กลุ่มละ 1 ชดุ โดยนำภำพทงั้ ชุดมำปนกนั แล้วให้เดก็ นำภำพท่เี หมือนกันมำจบั คกู่ นั ใหไ้ ด้ครบทุกภำพ 4) เด็กกลมุ่ ใดเล่นเกมจับคู่ภำพเหมอื นไดเ้ สร็จก่อน ยกมือใหค้ รูตรวจสอบควำมถูกตอ้ งและ ให้เพื่อนปรบมือชมเชย 5) เมือ่ เลน่ เสร็จแล้ว เด็กช่วยกนั เก็บเกมกำรศึกษำ เข้ำที่ใหเ้ รียบร้อย 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ - เกมจบั ค่ภู ำพเหมือนรปู คน 6. การประเมินผล 1) ตรวจควำมถกู ต้องในกำรเล่นเกมจับคภู่ ำพเหมือนรูปคน 2) สงั เกตกำรตัดสนิ ใจแก้ปัญหำได้ดว้ ยตนเอง 3) สงั เกตกำรเล่นกจิ กรรมรว่ มกับผอู้ ื่น 4) สังเกตกำรเกบ็ ของเข้ำที่

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ท่ี 1-2 วนั ที่ 3 สาระการเรียนรยู้ ่อย ชื่อเล่น ชอ่ื จริงคุณครปู ระจาชนั้ 1. ชอ่ื กิจกรรม เคล่ือนไหวและจงั หวะ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) ฟงั และปฏิบตั ิตำมสัญญำณได้ 2) เคล่อื นไหวร่ำงกำยตำมคำส่ังได้ 3) กล้ำแสดงออก เชื่อม่ันในตนเอง 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) กำรฟงั และปฏบิ ัติตำมสญั ญำณ 1) กำรเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ 2) กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยตำมคำสั่ง 2) กำรเคล่ือนไหวเพอ่ื ควบคุมตนเองไปในทิศทำง ระดบั และพื้นที่ 3) กำรรอ้ งเพลง 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) เด็กเคลื่อนไหวสว่ นตำ่ ง ๆ ของร่ำงกำยไปทัว่ บริเวณที่กำหนดให้ อยำ่ งอสิ ระตำมจงั หวะที่ครเู คำะ จงั หวะ ช้ำ - เร็ว เม่ือได้ยินสัญญำณเคำะ 2 ครงั้ ติดกนั เด็กหยุดกำรเคลื่อนไหวทนั ที 2) ครใู หเ้ ด็กเคลื่อนไหวไปทัว่ บรเิ วณโดยไม่ชนกนั โดยฟังคำสั่งจำกครู - เด็ก ๆ ไปทว่ั หอ้ งแล้วหรอื ยัง - เหลยี วมองดูให้ทั่วซวิ ำ่ มีท่ีวำ่ งของห้องตรงไหนบำ้ งท่ีเรำยังไม่ไดไ้ ป - เดก็ ๆ ลองเดนิ ชำ้ ๆ แล้วขยบั มือแขน ไปรอบ ๆ ตัว ขยบั ขอ้ ศอก และไหล่ไปดว้ ย - ยกขำข้ึนแล้วขยับขำไปดว้ ย - ขยับคอ และ ศรี ษะไปพรอ้ ม ๆ กบั แขน ขำ ไหล่ ศอก - ลองสำ่ ยสะโพกไปด้วยได้ไหม 3) เดก็ เคลอ่ื นไหวร่ำงกำยดว้ ยกำรวิ่งเหยำะช้ำ ๆ แลว้ ขยบั อวัยวะส่วนต่ำง ๆ ไปด้วยโดยให้เด็กรอ้ งเพลง A - Z ไปด้วย 4) ครใู ห้เด็กนอนคว่ำกับพ้ืนแล้วให้หลับตำเพอ่ื ผ่อนคลำย 2 - 3 นำที 5. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1) เครื่องเคำะจังหวะ 2) เพลง A - Z 6. การประเมินผล 1) สงั เกตกำรฟงั และปฏิบตั ติ ำมสญั ญำณ 2) สังเกตกำรแสดงท่ำทำงตำมคำสง่ั 3) สงั เกตกำรกลำ้ แสดงออกและควำมเช่อื มั่นในตนเอง

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาห์ที่ 1-2 วันที่ 3 สาระการเรียนรูย้ อ่ ย ช่ือเลน่ ชอ่ื จริงคุณครปู ระจาชนั้ 1. ชื่อกิจกรรม เสริมประสบการณ์ ความคิดรวบยอด ชอื่ เล่น คือ ช่ือทต่ี งั้ ขนึ้ ต้งั แต่เด็กเป็นท่ีรู้กันในหมู่ญำติหรอื ผูใ้ กลช้ ดิ ชอ่ื จริง คือ ช่อื ท่ตี ้ังใหแ้ กเ่ ดก็ ต้งั แต่เกิด ชอื่ ทป่ี รำกฏในทะเบยี นสำมะโนครวั 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกชอ่ื เล่น ช่ือจริงคุณครูประจำชนั้ ได้ 2) สนทนำร่วมกับครแู ละเพื่อนได้ 3) กลำ้ แสดงออก 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) ชือ่ เลน่ ช่ือจริงคณุ ครูประจำชั้น 1) กำรร่วมสนทนำและแลกเปลีย่ นควำมคดิ เห็น 2) กำรสนทนำกับผู้อืน่ 2) กำรแสดงควำมคิด ควำมรู้สึก และควำมต้องกำร ด้วยกำรพดู 3) กำรรอจังหวะที่เหมำะสมในกำรพูด 4. วธิ ีการจดั กจิ กรรม 1) ครูพดู คำคล้องจองช่ือและสกุลใหเ้ ดก็ ฟังและครนู ำเด็กพูดคำคลอ้ งจองช่อื และสกลุ ทีละวรรค 2) เด็กและครูพดู คำคล้องจองช่ือและสกลุ และสนทนำเกีย่ วกบั คำคล้องจอง 3) ครสู นทนำกบั เด็ก โดยใช้คำถำมดังนี้ - ครทู ่หี นูรจู้ ักมชี อื่ เล่นวำ่ อะไรบำ้ ง - ครูที่หนรู ู้จักมีชอ่ื จรงิ ว่ำอะไรบ้ำง - ครปู ระจำช้ันของหนูมีชอ่ื เล่นว่ำอะไร - ครูประจำช้นั ของหนูมีชอ่ื จริงวำ่ อะไร - ครพู ีเ่ ล้ยี งประจำช้ันของหนูมชี อ่ื เลน่ ว่ำอะไร - ครูพีเ่ ล้ียงประจำชนั้ ของหนูมีชอื่ จรงิ วำ่ อะไร (ถำ้ มี) 4) เดก็ พดู ชือ่ เล่น ชอื่ จริงคุณครูประจำช้นั ชือ่ เล่น ชื่องจริงครูพี่เลี้ยงท่ีถูกตอ้ งตำมครู 5) ให้เด็กบอกชื่อเล่น ชอ่ื จริงคณุ ครปู ระจำชั้น ชอ่ื เล่น ชือ่ จรงิ ครูพี่เลย้ี งอีกครงั้ 6) เดก็ และครรู ่วมกนั สรปุ ถงึ ช่อื เล่น ชอ่ื จริงคุณครูประจำช้ันและครูพ่เี ล้ยี ง 5. สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ - คำคลอ้ งจองช่ือและสกลุ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรบอกชื่อเล่น ช่อื จริงคุณครูประจำชนั้ 2) สังเกตกำรสนทนำรว่ มกบั ครูและเพื่อน 3) สังเกตกำรกลำ้ แสดงออก

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ี่ 1-2 วันท่ี 3 สาระการเรียนรยู้ อ่ ย ช่ือเล่น ช่ือจรงิ คุณครูประจาชนั้ 1. ชื่อกิจกรรม สร้างสรรค์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ประดษิ ฐก์ รอบรูปจำกจำนกระดำษได้ 2) ระบำยสีภำพคณุ ครูตำมจินตนำกำรได้ 3) บอกช่อื ผลงำนของตนเองได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรประดิษฐ์กรอบรูปจำกจำนกระดำษ 1) กำรประดษิ ฐส์ ง่ิ ต่ำง ๆ ดว้ ยเศษวัสดุ 2) กำรระบำยสภี ำพคุณครตู ำมจนิ ตนำกำร 2) กำรสรำ้ งสรรค์สิ่งสวยงำม 3) กำรแบ่งปันวสั ดุ อุปกรณใ์ หก้ ับเพอ่ื น 3) กำรทำกจิ กรรมศิลปะตำ่ ง ๆ 4) กำรบอกชื่อผลงำนของตนเอง 4) กำรเขยี นภำพและกำรเล่นกบั สี 4. วิธีการจดั กิจกรรม 1) ครจู ัดเตรียมกจิ กรรมไว้ 2 กิจกรรม คือ กำรประดษิ ฐ์กรอบรูปจำกจำนกระดำษ และกำรระบำยสีภำพ คุณครตู ำมจินตนำกำร 2) ครแู นะนำอุปกรณ์ วธิ กี ำรปฏบิ ัตแิ ละสรำ้ งตกลงร่วมกันในกำรปฏบิ ัติกิจกรรมกำรประดษิ ฐก์ รอบรปู จำกจำนกระดำษ และกำรระบำยสีภำพคุณครูดังน้ี 2.1 กำรประดิษฐก์ รอบรูปจำกจำนกระดำษ - ครแู นะนำอุปกรณ์ในกำรประดษิ ฐ์กรอบรูปจำกจำนกระดำษ - ครูอธิบำยวธิ กี ำรใช้อุปกรณแ์ ละสำธติ วธิ ีกำรตกแต่งปำ้ ยชื่อ - ครูจัดทำรปู ป้ำยช่อื เล่น ชอื่ จรงิ ของคุณครูใหเ้ ด็กทุกคนและใหเ้ ด็กนำไปติดบนจำนกระดำษแล้ว ระบำยสีหรอื ปะกระดำษสีตกแตง่ ตำมจนิ ตนำกำรใหส้ วยงำม 2.2 กำรระบำยสีภำพคุณครูตำมจินตนำกำร - ครแู นะนำอปุ กรณ์ในกำรระบำยสีภำพคุณครู - ครสู ำธติ วธิ ีกำรระบำยสภี ำพคุณครู 3) เดก็ เลอื กปฏิบัติกิจกรรมตำมควำมสนใจแล้วนำผลงำนมำบอกช่อื ผลงำนให้ครจู ดบนั ทึก 4) อำสำสมัครเลือกผลงำนตนเองระหวำ่ งกำรประดษิ ฐ์กรอบรูปจำกจำนกระดำษ และกำรระบำยสี ภำพคุณครตู ำมจินตนำกำรมำเล่ำให้เพื่อนฟงั หน้ำชนั้ เรียนและนำมำติดท่ีป้ำยแสดงผลงำนเด็ก 5) เด็กทุกคนชว่ ยกนั เกบ็ อุปกรณ์ใหเ้ รยี บร้อย 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1) จำนกระดำษ 2) รูปภำพคุณครูและปำ้ ยชื่อคุณครู

3) กำว สไี ม้ กระดำษสีต่ำง ๆ 4) ใบงำนภำพคณุ ครู 6. การประเมนิ ผล 1) ตรวจผลงำนกำรประดิษฐ์กรอบรูปจำกจำนกระดำษ 2) สังเกตและผลงำนกำรระบำยสภี ำพคุณครูตำมจนิ ตนำกำร 3) สงั เกตกำรบอกช่ือผลงำนของตนเอง

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาห์ที่ 1-2 วนั ที่ 3 สาระการเรียนร้ยู ่อย ช่ือเล่น ช่ือจริงคุณครูประจาชน้ั 1. ช่ือกจิ กรรม เสรี 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) สังเกต สำรวจ ทดลอง คน้ คว้ำ คิดแก้ปัญหำในกำรทำงำนและกำรเล่นเป็นกลุ่ม 2) มปี ระสบกำรณ์ตรงในกำรใชภ้ ำษำ มีจินตนำกำร ควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ ตอ่ งำนและสิง่ ที่ตนเล่น 3) มวี ินัย ควำมรับผดิ ชอบ มมี ำรยำท ชว่ ยเหลอื แบ่งปนั อดทนรอคอยและมีจติ สำธำรณะ 4) มพี ฒั นำกำรทำงร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญำอย่ำงสมดลุ รอบดำ้ น 3. สาระการเรยี นรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ - กำรเล่นตำมศูนยเ์ ป็นกำรเล่นในศูนยป์ ระสบกำรณต์ ำ่ ง ๆ อย่ำงอสิ ระผ่ำนกำรเลน่ ทดลอง คดิ ค้นคว้ำ สร้ำงสรรค์ กำรแกป้ ัญหำและกำรแสวงหำคำตอบ ซึง่ จะช่วยพฒั นำควำมคดิ จินตนำกำร ภำษำควบคู่ไปกบั ควำมมวี นิ ัย ควำมรับผิดชอบ กำรรอคอย กำรแบ่งปัน กำรใฝร่ แู้ ละกำรอยู่รว่ มกันเพื่อพฒั นำกำรเข้ำสู่สงั คม ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรเล่นเครือ่ งเล่นสัมผสั 2) กำรตอ่ ของ บรรจุ เทและแยกสว่ นประกอบ 3) กำรเลน่ และกำรทำงำนร่วมกับผู้อน่ื 4) กำรรับรู้ แสดงควำมร้สู กึ ผำ่ นสอ่ื วัสดุ ของเลน่ และผลงำน 5) กำรเลน่ รำยบุคคลและเลน่ เป็นกลุ่ม 6) กำรสร้ำงสรรค์ผลงำน 4. วธิ กี ารจัดกจิ กรรม 1) ครูแนะนำกำรเล่นกำรปฏิบตั ิตนในกำรเลน่ ศนู ย์กจิ กรรมเสรีตำมข้อตกลง 2) เด็กเลอื กเล่นศูนย์กิจกรรมเสรีตำมควำมสนใจ 3) ครใู หค้ ำแนะนำ กระตนุ้ ส่งเสริม ใหค้ ำชมเชยเพ่ือให้เด็กเกิดกำรพัฒนำอย่ำงสมดลุ รอบด้ำน เตม็ ตำมศกั ยภำพ 4) ใหเ้ ด็กเลน่ อยำ่ งอิสระหลังจำกเลกิ เล่นให้เดก็ ทำควำมสะอำดอปุ กรณ์ พรอ้ มกับเกบ็ ของเขำ้ ทใ่ี หเ้ รียบรอ้ ย 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ - อปุ กรณต์ ำ่ ง ๆ ทจี่ ัดไวต้ ำมศูนย์กจิ กรรมเสรี ตอ้ งสอดคล้องสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยกำรเรยี นรู้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตพฤตกิ รรมกำรสำรวจ ทดลอง ค้นคว้ำ คิดแกป้ ญั หำในกำรทำงำนและกำรเลน่ เปน็ กลุ่ม 2) สังเกตกำรใชภ้ ำษำ ตรวจผลงำนกำรปฏิบัตกิ จิ กรรมกำรคิดสรำ้ งสรรค์ ตอ่ งำนและสง่ิ ที่เล่น

3) สังเกตควำมมีวนิ ัย ควำมรับผิดชอบ มำรยำท กำรชว่ ยเหลอื แบ่งปัน อดทนรอคอย และมจี ติ สำธำรณะ 4) สังเกตควำมกำ้ วหนำ้ ของพัฒนำกำรท้งั 4 ดำ้ น หมายเหตุ ครูปรับเปลยี่ นสอื่ วัสดอุ ุปกรณ์ในศนู ย์ให้สัมพนั ธก์ ับหน่วยกำรเรยี นรตู้ ำมควำมพร้อม และจดุ เน้นของสถำนศกึ ษำ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 3 สาระการเรยี นร้ยู อ่ ย ชื่อเล่น ช่ือจริงคุณครูประจาช้นั 1. ชอื่ กจิ กรรม กลางแจง้ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) เลน่ เกมกบกระโดดได้ 2) เลน่ และรว่ มกิจกรรมกับผอู้ ื่นได้ 3) ปฏบิ ัติตำมข้อตกลงได้ 4) แก้ปัญหำในกำรเล่นและตัดสินใจได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) กำรเลน่ เกมกบกระโดด 1) กำรเคล่ือนไหวท่ีใช้กำรประสำนสัมพนั ธ์ของกล้ำมเน้ือมัดใหญ่ 2) กำรเลน่ และรว่ มกจิ กรรมกับผอู้ ืน่ 2) กำรเคลื่อนไหวเคล่ือนที่ 3) กำรปฏบิ ตั ิตำมข้อตกลง 3) กำรเลน่ กลุม่ ย่อย 4) กำรแก้ปัญหำในกำรเล่นและกำรตดั สินใจ 4. วิธกี ารจัดกจิ กรรม 1) เดก็ และครสู นทนำถึงข้อตกลงในกำรปฏิบัติตนเมื่อลงไปเลน่ ท่ีสนำม 2) เดก็ เดนิ แถวลงไปที่สนำมอยำ่ งเป็นระเบียบ 3) เดก็ อบอ่นุ ร่ำงกำยโดยให้เดก็ วิ่งเหยำะ ๆ อยู่กบั ท่ี 4) แบ่งเด็กออกเป็น 4 แถว ๆ ละเทำ่ ๆ กัน 5) ครสู นทนำถึงวิธีกำรเล่น แข่งขันกบกระโดด เปน็ กลมุ่ 6) ครูหำกลุ่มอำสำสมัครมำสำธติ กำรเล่นเกมกบกระโดดโดยให้เด็กนั่งทำ่ ยอง มือจบั เอวคนที่ อยู่ขำ้ งหนำ้ และกระโดดพรอ้ ม ๆ กนั กลุม่ ใดถึงเสน้ ชยั พร้อมกนั โดยมอื จบั กับเอวคนขำ้ งหนำ้ อยเู่ ป็นฝ่ำยชนะ 7) เด็กเล่นเกมกบกระโดด โดยมีครเู ป็นกรรมกำรให้สัญญำณ 8) เด็กเล่นอิสระกลำงแจ้ง โดยครดู ูแลอยำ่ งใกลช้ ดิ 9) เมื่อเดก็ เล่นเสร็จแล้วเด็กทำควำมสะอำดร่ำงกำย ลำ้ งมอื และแตง่ กำยให้เรยี บร้อย เดินแถวเรียงลำดบั เข้ำหอ้ งเรยี น 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1) เกมกบกระโดด 2) นกหวีด 6. การประเมินผล

1) สังเกตกำรเล่นเกมกบกระโดด 2) สังเกตกำรเลน่ และรว่ มกิจกรรมกับผ้อู ื่น 3) สงั เกตกำรปฏบิ ัติตำมข้อตกลง 4) สังเกตกำรแก้ปญั หำและกำรตัดสนิ ใจ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาห์ที่ 1-2 วนั ที่ 3 สาระการเรยี นร้ยู อ่ ย ช่ือเลน่ ชือ่ จรงิ คุณครปู ระจาช้นั 1. ชื่อกิจกรรม เกมการศกึ ษา 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) เลน่ เกมจบั คภู่ ำพกับตวั เลข 1 – 5 ได้ 2) เลน่ รว่ มกับเพ่ือนได้ 3) แกป้ ญั หำในกำรเล่นได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) กำรเล่นเกมจบั คภู่ ำพกับตวั เลข 1 – 5 1) กำรนับจำนวนสิง่ ตำ่ ง ๆ 2) กำรเลน่ รว่ มกบั เพอ่ื น 2) กำรเลน่ และทำงำนร่วมกบั ผู้อื่น 3) กำรแกป้ ัญหำในกำรเล่น 3) กำรแสดงกำรแก้ปญั หำที่พบระหวำ่ ง กำรทำกิจกรรม 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) ครนู ำเกมจับคภู่ ำพกับตัวเลข 1 – 5 ใหเ้ ดก็ ดู 2) เด็กสงั เกตและนับจำนวนภำพพรอ้ มท้ังอำ่ นตัวเลข 3) ครูแนะนำและสำธิตวธิ ีกำรเล่นเกมจับคภู่ ำพกับตัวเลข 1 – 5 4) แบง่ เดก็ เป็นกลุม่ ตำมควำมเหมำะสม ครูแจกเกมจับคภู่ ำพกับตวั เลข 1 – 5 และเกมท่เี คยเลน่ มำแลว้ ใหเ้ ด็กเลน่ ครูคอยดแู ลใหค้ ำแนะนำและตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง 5) เมื่อเลน่ เสรจ็ แล้ว เดก็ ช่วยกนั เก็บเกมกำรศึกษำ เข้ำที่ใหเ้ รยี บร้อย 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1) เกมจับคภู่ ำพกบั ตัวเลข 1 – 5 2) เกมทเ่ี คยเล่นมำแลว้ 6. การประเมินผล 1) สงั เกตกำรเลน่ เกมจับคู่ภำพกับตัวเลข 1 – 5 2) สงั เกตกำรเลน่ เกมร่วมกนั ของเด็ก 3) สงั เกตกำรแกป้ ญั หำระหว่ำงกำรเลน่

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ่ี 1-2 วันท่ี 4 สาระการเรยี นร้ยู ่อย ช่ือโรงเรยี น ชั้นเรียน 1. ชอ่ื กจิ กรรม เคล่ือนไหวและจงั หวะ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) เคล่อื นไหวร่ำงกำยตำมจังหวะและสญั ญำณได้ 2) รอ้ งเพลงโรงเรยี นของเรำได้ 3) ทำทำ่ ทำงประกอบเพลงโรงเรียนของเรำตำมจนิ ตนำกำรได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) กำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยอยำ่ งอสิ ระตำมสัญญำณ1) กำรเคลอื่ นไหวเคล่ือนที่ 2) กำรรอ้ งเพลง 2) กำรเรมิ่ ต้นและหยุดโดยกำรกระทำโดยใช้สญั ญำณ 3) กำรทำท่ำทำงประกอบเพลง 3) กำรร้องเพลง 4) กำรเคลื่อนไหวตำมเสยี งเพลง 4. วิธีการจัดกจิ กรรม 1) เด็กเคลอื่ นไหวร่ำงกำยอย่ำงอสิ ระโดยครใู ห้จังหวะและสัญญำณ ช้ำ – เรว็ หยุด ใหเ้ ดก็ ปฏบิ ัติ กจิ กรรมซ้ำ ๆ หลำย ๆ ครัง้ 2) ครูร้องเพลงโรงเรยี นของเรำทลี ะวรรคให้เด็กร้องตำม 3) เด็กร้องเพลงโรงเรียนของเรำจนคล่อง 4) เด็กและครูร่วมกนั รอ้ งเพลงโรงเรยี นของเรำ และใหเ้ ด็กทำทำ่ ทำงประกอบเพลงตำมจินตนำกำร 5) เด็กน่งั พักผ่อนร่ำงกำย 5. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 1) เคร่อื งเคำะจังหวะ 2) เพลงโรงเรียนของเรำ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรเคลือ่ นไหวรำ่ งกำยตำมจงั หวะและสัญญำณ 2) สังเกตกำรร้องเพลงโรงเรียนของเรำ 3) สงั เกตกำรทำทำ่ ทำงประกอบเพลงโรงเรียนของเรำ

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี 1-2 วนั ที่ 4 สาระการเรยี นร้ยู ่อย ชอื่ โรงเรียน ชน้ั เรยี น 1. ชือ่ กจิ กรรม เสริมประสบการณ์ ความคดิ รวบยอด ชือ่ โรงเรยี น คอื ช่อื สถำนทีส่ ำหรับฝึกสอนเด็กภำยใต้กำรดูแลของครหู รืออำจำรย์ ชั้นเรยี น คือ กำรบอกระดับกำรศกึ ษำและสถำนท่ีทอี่ ยู่ในโรงเรยี น 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกช่อื โรงเรยี น ชอื่ ชน้ั เรยี นได้ 2) สนทนำโต้ตอบครแู ละเพ่อื นได้ 3) รอ้ งเพลง ONE – TEN ได้ 4) ทำท่ำทำงประกอบเพลง ONE – TEN ได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) ชอ่ื โรงเรยี น ช่ือช้ันเรยี น 1) กำรร่วมสนทนำและแลกเปลยี่ นควำมคิดเหน็ 2) กำรสนทนำโตต้ อบครูและเพ่ือน 2) กำรรอจังหวะทีเ่ หมำะสมในกำรพดู 3) กำรร้องเพลง ONE – TEN 3) กำรรอ้ งเพลง 4) กำรทำทำ่ ทำงประกอบเพลง ONE – TEN 4) กำรนับจำนวนส่งิ ต่ำง ๆ 4. วิธีการจัดกิจกรรม 1) เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลงโรงเรยี นของเรำ 2) เด็กและครรู ว่ มกนั สนทนำเกย่ี วกบั เน้อื หำเพลง 3) ใหเ้ ดก็ ๆ ชว่ ยกันบอกชือ่ โรงเรียน ชื่อชนั้ เรียน 4) ครูนำภำพโรงเรียนมำให้เดก็ ดู และแนะนำช่ือโรงเรยี น ชือ่ ชัน้ เรยี น 5) เดก็ และครรู ว่ มกันสรปุ เก่ยี วกับชอ่ื โรงเรยี น ช่อื ชั้นเรียน 6) ครเู ปิดซดี ีเพลง ONE – TEN ให้เดก็ ๆ ฟงั และฝึกร้องเพลงหลำย ๆ รอบ 7) เด็กร้องเพลง ONE – TEN พร้อมทัง้ ทำทำ่ ทำงประกอบเพลง 5. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1) เพลงโรงเรียนของเรำ 2)ภำพโรงเรียน 3) ซีดเี พลง ONE – TEN 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรบอกช่ือโรงเรยี น ช่อื ช้นั เรียน 2) สงั เกตกำรสนทนำโตต้ อบ 3) สังเกตกำรร้องและทำท่ำทำงประกอบเพลง ONE – TEN

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาหท์ ่ี 1-2 วันท่ี 4 สาระการเรยี นรู้ยอ่ ย ชอื่ โรงเรียน ชัน้ เรยี น 1. ช่ือกิจกรรม สร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) วำดภำพระบำยสีโรงเรยี นตำมจินตนำกำรได้ 2) ปั้นดินน้ำมันตำมจินตนำกำรได้ 3) ปฏบิ ตั ติ ำมข้อตกลงรว่ มกนั ได้ 4) เก็บวัสดุ อปุ กรณ์เข้ำทไ่ี ด้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรวำดภำพระบำยสโี รงเรียน 1) กำรทำกิจกรรมศิลปะตำ่ ง ๆ ตำมจินตนำกำร 2) กำรเขยี นภำพและเล่นกับสี 2) กำรปั้นดนิ น้ำมันตำมจนิ ตนำกำร 3) กำรทำกิจกรรมท้ังเด็กรเิ ริ่ม ผู้ใหญร่ ิเรมิ่ 3) กำรปฏิบตั ติ ำมข้อตกลงร่วมกัน 4) กำรเช่อื มโยงภำพ ภำพถ่ำย และรปู แบบต่ำง ๆ 4) กำรเกบ็ วสั ดุ อุปกรณเ์ ข้ำท่ี กบั สง่ิ ของหรือสถำนท่ีจรงิ 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) ครจู ัดเตรยี มกิจกรรมไว้ 2 กิจกรรม คือ กำรวำดภำพระบำยสโี รงเรยี นตำมจินตนำกำร และกำรปั้นดนิ น้ำมันตำมจินตนำกำร 2) ครแู นะนำอปุ กรณ์ วิธีกำรปฏบิ ัตแิ ละทบทวนข้อตกลงในกำรปฏบิ ัติกจิ กรรมกำรวำดภำพระบำยสี โรงเรยี นและกำรป้นั ดินน้ำมันตำมจนิ ตนำกำรดงั น้ี 2.1 กำรวำดภำพระบำยสโี รงเรียนตำมจินตนำกำร - ครูนำภำพโรงเรียนมำสนทนำเก่ียวกบั ช่ือโรงเรียนและแนะนำอุปกรณ์ในกำรวำดภำพระบำยสี โรงเรยี นตำมจินตนำกำร - ครูอธิบำยและสำธติ กำรวำดภำพระบำยสโี รงเรียนตำมจินตนำกำร 2.2 กำรปั้นดินน้ำมันตำมจินตนำกำร - ครแู นะนำอุปกรณ์ในกำรปน้ั ดินนำ้ มัน เด็กนำดินนำ้ มนั มำสำธิตวธิ ีกำรขยำ นวด คลงึ และบีบ จนดินน้ำมนั น่ิม เดก็ ปนั้ ดนิ นำ้ มันเปน็ รปู ร่ำงหรือรูปทรงอิสระตำมจินตนำกำร 3) เดก็ เลือกปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตำมควำมสนใจแล้วนำผลงำนมำบอกชือ่ ผลงำนให้ครูจดบันทึก 4) อำสำสมัครเลอื กผลงำนตนเองระหว่ำงกำรวำดภำพระบำยสีโรงเรยี นตำมจินตนำกำรและกำรปั้น ดนิ นำ้ มนั ตำมจนิ ตนำกำรมำเล่ำให้เพ่ือนฟังหน้ำชั้นเรียน 5) เด็กทุกคนช่วยกนั เก็บอุปกรณ์ให้เรยี บร้อย 5. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1) ดินสอ 2) สไี ม้ 3) กระดำษ เอ 4 4) ภำพโรงเรยี น

5) ดินน้ำมัน 6) แผ่นรองปนั้ ดินนำ้ มัน 6. การประเมินผล 1) ตรวจผลงำนกำรวำดภำพระบำยสีโรงเรยี นตำมจนิ ตนำกำร 2) สังเกตกำรปัน้ ดินน้ำมันตำมจนิ ตนำกำร 3) สงั เกตกำรปฏิบตั ิตำมข้อตกลงและกำรเกบ็ อปุ กรณ์

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 4 สาระการเรยี นรยู้ อ่ ย ชอ่ื โรงเรียน ชัน้ เรยี น 1. ช่ือกจิ กรรม เสรี 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) สังเกต สำรวจ ทดลอง ค้นคว้ำ คิดแก้ปัญหำในกำรทำงำนและกำรเล่นเป็นกลุ่ม 2) มปี ระสบกำรณ์ตรงในกำรใชภ้ ำษำ มีจนิ ตนำกำร ควำมคดิ สร้ำงสรรค์ ต่องำนและส่ิงท่ตี นเล่น 3) มวี นิ ยั ควำมรบั ผดิ ชอบ มีมำรยำท ช่วยเหลอื แบง่ ปัน อดทนรอคอยและมจี ติ สำธำรณะ 4) มีพฒั นำกำรทำงร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สงั คมและสติปัญญำอยำ่ งสมดุลรอบดำ้ น 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ - กำรเลน่ ตำมศูนย์เป็นกำรเล่นในศูนยป์ ระสบกำรณต์ ่ำง ๆ อยำ่ งอิสระผ่ำนกำรเลน่ ทดลอง คิดค้นคว้ำ สรำ้ งสรรค์ กำรแกป้ ัญหำและกำรแสวงหำคำตอบ ซึ่งจะช่วยพัฒนำควำมคดิ จนิ ตนำกำร ภำษำควบคู่ไปกับ ควำมมวี ินัย ควำมรับผิดชอบ กำรรอคอย กำรแบ่งปนั กำรใฝ่รแู้ ละกำรอยู่ร่วมกนั เพื่อพัฒนำกำรเข้ำสู่สงั คม ประสบการณส์ าคัญ 1) กำรเล่นเคร่อื งเลน่ สัมผสั 2) กำรตอ่ ของ บรรจุ เทและแยกส่วนประกอบ 3) กำรเลน่ และกำรทำงำนร่วมกับผอู้ ืน่ 4) กำรรบั รู้ แสดงควำมรูส้ กึ ผ่ำนสือ่ วสั ดุ ของเล่นและผลงำน 5) กำรเล่นรำยบุคคลและเล่นเป็นกลุ่ม 6) กำรสร้ำงสรรคผ์ ลงำน 4. วิธีการจัดกิจกรรม 1) ครูแนะนำกำรเล่นกำรปฏิบตั ิตนในกำรเล่นศนู ย์กจิ กรรมเสรีตำมข้อตกลง 2) เดก็ เลือกเลน่ ศูนยก์ ิจกรรมเสรีตำมควำมสนใจ 3) ครูใหค้ ำแนะนำ กระตุน้ สง่ เสรมิ ใหค้ ำชมเชยเพ่ือให้เด็กเกิดกำรพัฒนำอย่ำงสมดุลรอบด้ำน เตม็ ตำมศักยภำพ 4) ใหเ้ ดก็ เลน่ อย่ำงอิสระหลงั จำกเลกิ เลน่ ใหเ้ ด็กทำควำมสะอำดอุปกรณ์ พร้อมกบั เก็บของเข้ำทใี่ ห้เรียบรอ้ ย 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ - อปุ กรณ์ตำ่ ง ๆ ท่จี ัดไว้ตำมศนู ยก์ ิจกรรมเสรี ตอ้ งสอดคล้องสัมพนั ธ์กบั หน่วยกำรเรยี นรู้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตพฤติกรรมกำรสำรวจ ทดลอง คน้ คว้ำ คดิ แก้ปัญหำในกำรทำงำนและกำรเลน่ เป็นกลุ่ม 2) สังเกตกำรใชภ้ ำษำ ตรวจผลงำนกำรปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกำรคดิ สร้ำงสรรค์ ต่องำนและสิ่งที่เล่น

3) สังเกตควำมมีวนิ ัย ควำมรับผิดชอบ มำรยำท กำรชว่ ยเหลอื แบ่งปัน อดทนรอคอย และมจี ติ สำธำรณะ 4) สังเกตควำมกำ้ วหนำ้ ของพัฒนำกำรท้งั 4 ด้ำน หมายเหตุ ครูปรับเปลยี่ นสอื่ วัสดอุ ุปกรณ์ในศนู ยใ์ ห้สัมพนั ธก์ ับหน่วยกำรเรยี นรตู้ ำมควำมพร้อม และจดุ เน้นของสถำนศกึ ษำ

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 4 สาระการเรียนรู้ย่อย ชอื่ โรงเรียน ชั้นเรียน 1. ชอื่ กจิ กรรม กลางแจง้ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) เลน่ เกมโยนบอลลงตะกร้ำได้ 2) เล่นร่วมกับผอู้ น่ื ได้ 3) ปฏิบัตติ ำมข้อตกลงได้ 4) แกป้ ญั หำในกำรเลน่ และตดั สินใจได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) กำรเล่นเกมโยนบอลลงตะกร้ำ 1) กำรเคล่ือนไหวท่ีใช้กำรประสำนสัมพันธ์ของกล้ำมเน้ือมัดใหญใ่ นกำรจบั 2) กำรเลน่ ร่วมกับผู้อ่ืน 2) กำรเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ 3) กำรปฏบิ ตั ิตำมข้อตกลง 3) กำรเล่นเกม 4) กำรแก้ปัญหำในกำรเล่นและกำรตัดสนิ ใจ 4. วิธีการจดั กิจกรรม 1) เดก็ และครสู นทนำถึงข้อตกลงในกำรปฏิบัติตนเมื่อลงไปเล่นที่สนำม 2) เด็กเดนิ แถวลงไปที่สนำมอยำ่ งเป็นระเบียบ 3) เด็กอบอุน่ รำ่ งกำยโดยให้เดก็ ว่ิงเหยำะ ๆ อยู่กบั ที่ และทำท่ำทำงกำยบรหิ ำรตำมผ้นู ำ 4) ครอู ธบิ ำยกติกำและสำธติ กำรเล่นเกมโยนบอลลงตะกรำ้ ให้เดก็ เข้ำใจ 5) เดก็ แบง่ กลุ่ม ๆ ละเท่ำ ๆ กัน เล่นเกมโยนบอลลงตะกร้ำ กลุ่มใดโยนบอลลงตระกร้ำได้มำกทส่ี ดุ เปน็ ผู้ชนะ 6) เดก็ เลน่ เกมโยนบอลลงตระกร้ำซำ้ อีกคร้ัง 7) เมื่อเลกิ เล่น ครูให้เดก็ เข้ำแถวล้ำงมือให้สะอำดแลว้ เดนิ เข้ำห้องเรียน 5. สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1) ตะกร้ำ 2) ลกู บอล 6. การประเมินผล 1) สังเกตกำรเล่นเกมโยนบอลลงตะกรำ้ 2) สังเกตกำรเล่นร่วมกบั ผู้อื่น 3) สงั เกตกำรปฏบิ ตั ิตำมข้อตกลง 4) สงั เกตกำรแก้ปัญหำในกำรเล่นและกำรตัดสินใจ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาห์ที่ 1-2 วนั ที่ 4 สาระการเรียนรูย้ ่อย ชอื่ โรงเรยี น ชั้นเรยี น 1. ชอ่ื กิจกรรม เกมการศกึ ษา 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) เลน่ เกมจับคภู่ ำพควำมสัมพันธ์ได้ 2) เลน่ รว่ มกับเพื่อนได้ 3) เกบ็ ของเขำ้ ที่ได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรเล่นเกมจบั คภู่ ำพควำมสัมพนั ธ์ 1) กำรจบั คหู่ นง่ึ ต่อหนง่ึ 2) กำรเลน่ รว่ มกับเพ่ือน 2) กำรสงั เกตสิ่งต่ำง ๆ โดยใช้ประสำทสมั ผสั ด้วยกำรมอง 3) กำรเกบ็ ของเข้ำที่ 3) ควำมรับผดิ ชอบในกำรดแู ลหอ้ งเรียนรว่ มกนั 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) ครนู ำเกมจบั คู่ภำพควำมสัมพนั ธ์มำให้เด็กดูและสนทนำถึงภำพว่ำเปน็ ภำพอะไรบ้ำง 2) ครูสำธติ วิธีกำรเล่นเกมจบั คภู่ ำพควำมสัมพันธ์ใหเ้ ด็กดู 3) ครแู บง่ กลุ่มเด็ก กลุม่ ละ 4 - 5 คน แจกเกมจับคภู่ ำพควำมสัมพันธ์และเกมที่เคยเล่นแลว้ ใหเ้ ด็กเล่น และครคู อยดูแลแนะนำกลมุ่ ทยี่ งั ทำไม่ถูกต้อง 4) ให้เดก็ เล่นเกมจับค่ภู ำพควำมสัมพนั ธ์ซ้ำอกี 5) เม่ือเลิกเล่นให้เด็กช่วยเก็บอปุ กรณ์เข้ำท่ีใหเ้ รยี บร้อย 5. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) เกมจับคภู่ ำพควำมสมั พันธ์ 2) เกมทเี่ คยเล่นแลว้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรเล่นเกมจบั คู่ภำพควำมสมั พันธ์ 2) สังเกตกำรเล่นรว่ มกบั เพ่ือน 3) สังเกตกำรเก็บของเข้ำท่ี

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ สปั ดาหท์ ี่ 1-2 วนั ที่ 5 สาระการเรียนรู้ยอ่ ย สถานท่ีตง้ั ของโรงเรียน (ชุมชน ตาบล อาเภอ) 1. ช่อื กิจกรรม เคล่ือนไหวและจงั หวะ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เคลื่อนไหวรำ่ งกำยประกอบอุปกรณ์ตำมคำสัง่ ได้ 2) ฟงั และปฏิบตั ิตำมสญั ญำณได้ 3) รว่ มกจิ กรรมไดด้ ้วยควำมสนุกสนำน 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) กำรเคล่ือนไหวรำ่ งกำยประกอบอปุ กรณ์ตำมคำสัง่ 1) กำรเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ 2) กำรฟงั และปฏบิ ัตติ ำมสัญญำณ 2) กำรเคล่ือนไหวเพอ่ื ควบคมุ ตนเอง 3) กำรรว่ มกจิ กรรม ไปในทิศทำงต่ำง ๆ 3) กำรแสดงออกอยำ่ งสนกุ สนำน กับเหตุกำรณท์ ส่ี นุกสนำนต่ำง ๆ 4. วธิ ีการจดั กจิ กรรม 1) กิจกรรมพืน้ ฐำน ให้เด็กเคลอ่ื นไหวรำ่ งกำยไปท่วั ๆ บริเวณอยำ่ งอิสระเม่ือไดย้ ินสญั ญำณหยุด ใหห้ ยดุ เคลือ่ นไหวทันที 2) เด็กเคล่อื นไหวรำ่ งกำยอย่ำงอสิ ระโดยครใู หจ้ ังหวะและสัญญำณชำ้ – เรว็ หยดุ 3) ครขู ดเชือกเป็นวงกลมไวท้ ่ีพืน้ หลำย ๆ วง และแบง่ เด็กออกเปน็ กลุ่มให้ตำมใจชอบแต่ละกลุ่มยืน อยูร่ อบวงกลมด้ำนนอกแต่ละวง 4) เด็กเคลื่อนไหวรำ่ งกำยอย่ำงอิสระตำมสัญญำณชำ้ – เร็ว เมือ่ ไดย้ ินสญั ญำณหยดุ แต่ละครั้งให้ปฏบิ ัติ ตำมคำสั่งดงั น้ี - กระโดดเข้ำไปยืนในวงกลม - ยนื ขำขำ้ งเดียวอยนู่ อกวงกลม - นงั่ ในวงกลม - นอนในวงกลม 5) ครนู ำเด็กพักคลำยกล้ำมเนื้อในทำ่ ทส่ี บำย 5. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) เครื่องเคำะจังหวะ 2) เชอื ก 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตกำรเคลื่อนไหวรำ่ งกำยประกอบอุปกรณ์ตำมคำสั่ง 2) สังเกตกำรฟงั และปฏิบัตติ ำมสญั ญำณ 3) สงั เกตกำรแสดงออกและควำมสนุกสนำน

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ที่ 1-2 วันที่ 5 สาระการเรยี นร้ยู อ่ ย สถานทต่ี งั้ ของโรงเรียน (ชุมชน ตาบล อาเภอ) 1. ชอ่ื กิจกรรม เสริมประสบการณ์ ความคิดรวบยอด สถำนท่ีต้ังของโรงเรียน (ชมุ ชน) คือ ท่ีต้งั ของโรงเรยี นว่ำอยู่ในเขตใด ชุมชนใด ตำบลใด อำเภอใด 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกสถำนท่ีตัง้ โรงเรียนได้ 2) สนทนำโตต้ อบครแู ละเพ่อื นได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) สถำนทีต่ ั้งของโรงเรยี น (ชมุ ชน ตำบล อำเภอ) 1) กำรรว่ มสนทนำและแลกเปลี่ยนควำมคดิ เหน็ 2) กำรสนทนำโต้ตอบครูและเพ่ือน 2) กำรรอจังหวะทเ่ี หมำะสมในกำรพดู 4. วิธีการจดั กจิ กรรม 1) เด็กและครรู ว่ มกนั รอ้ งเพลงโรงเรยี นของเรำ 2) เด็กและครูร่วมกนั สนทนำเกยี่ วกบั เน้ือหำของเพลง 3) เด็กและครูรว่ มกันสนทนำเกยี่ วกับสถำนทต่ี ง้ั ของโรงเรยี นชมุ ชน........................ตำบล……................ อำเภอ…….... 4) ใหเ้ ด็ก ๆ ช่วยกนั บอกสถำนทต่ี ้งั ของโรงเรยี น 5) ครูนำภำพโรงเรียนมำให้เดก็ ดู และแนะนำสถำนท่ตี ั้งของโรงเรียนอกี คร้ัง 6) เดก็ และครูรว่ มกันสรุปเกีย่ วกับสถำนท่ีตงั้ ของโรงเรยี น 5. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) เพลงโรงเรยี นของเรำ 2) ภำพโรงเรียน 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรบอกสถำนที่ตง้ั ของโรงเรียน 2) สงั เกตกำรสนทนำโตต้ อบ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาห์ท่ี 1-2 วันที่ 5 สาระการเรยี นรยู้ อ่ ย สถานทีต่ ้งั ของโรงเรียน (ชมุ ชน ตาบล อาเภอ) 1. ช่ือกจิ กรรม สรา้ งสรรค์ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) ปั้นดินน้ำมันตำมจินตนำกำรได้ 2) วำดภำพดว้ ยสีน้ำอย่ำงอสิ ระตำมจนิ ตนำกำรได้ 3) แบง่ ปันวัสดุ อปุ กรณใ์ ห้กับเพ่ือนได้ 4) เกบ็ วัสดุ อุปกรณเ์ ข้ำทีไ่ ด้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) กำรปั้นดินน้ำมันตำมจินตนำกำร 1) กำรปัน้ และประดิษฐ์ส่งิ ต่ำง ๆ ดว้ ยดนิ นำ้ มัน 2) กำรวำดภำพด้วยสีนำ้ อยำ่ งอิสระ 2) กำรเขียนภำพและเล่นกบั สี ตำมจนิ ตนำกำร 3) กำรทำงำนศิลปะ 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) ครจู ดั เตรียมกจิ กรรมไว้ 2 กจิ กรรม คือ กำรปั้นดินน้ำมันตำมจินตนำกำรและกำรวำดภำพด้วยสนี ำ้ อยำ่ งอิสระตำมจนิ ตนำกำร 2) ครแู นะนำอุปกรณ์ วิธกี ำรปฏบิ ตั แิ ละทบทวนขอ้ ตกลงในกำรปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกำรปั้นดนิ นำ้ มนั ตำมจินตนำกำรและกำรวำดภำพดว้ ยสีน้ำอย่ำงอสิ ระตำมจินตนำกำรดงั นี้ 2.1 กำรปั้นดินน้ำมันตำมจินตนำกำร - ครแู นะนำอปุ กรณ์ในกำรปน้ั ดนิ น้ำมัน - ครนู ำดนิ นำ้ มันมำสำธิตวิธีกำรขยำ นวด คลึงและบบี จนดนิ นำ้ มันนม่ิ - เด็กป้ันดนิ นำ้ มนั เปน็ รูปรำ่ งหรอื ขดเปน็ รปู ทรงอสิ ระตำมจินตนำกำร 2.2 กำรวำดภำพดว้ ยสีน้ำอยำ่ งอิสระตำมจินตนำกำร - ครแู นะนำอปุ กรณ์ในกำรวำดภำพดว้ ยสนี ำ้ อยำ่ งอิสระตำมจินตนำกำร - ครูอธิบำยและสำธติ กำรวำดภำพดว้ ยสนี ้ำอยำ่ งอสิ ระตำมจนิ ตนำกำร 3) เด็กเลือกปฏิบัตกิ จิ กรรมตำมควำมสนใจแลว้ นำผลงำนมำบอกชือ่ ผลงำนใหค้ รูจดบันทึก 4) อำสำสมัครเลือกผลงำนตนเองระหวำ่ งกำรปั้นดินน้ำมันตำมจินตนำกำรและกำรวำดภำพดว้ ยสนี ้ำ อย่ำงอสิ ระตำมจินตนำกำรมำเล่ำใหเ้ พ่ือนฟงั หน้ำชัน้ เรยี น 5) เด็กทุกคนช่วยกนั เกบ็ อุปกรณใ์ หเ้ รยี บรอ้ ย 5. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1) ดนิ น้ำมนั 2) แผน่ รองปัน้ ดินนำ้ มนั 3) กระดำษ เอ 4 4) สนี ้ำ

6. การประเมนิ ผล 1) ตรวจผลงำนกำรปั้นดนิ น้ำมันตำมจนิ ตนำกำร 2) ตรวจผลงำนกำรวำดภำพดว้ ยสนี ำ้ อยำ่ งอิสระตำมจินตนำกำร 3) สังเกตกำรแบ่งปันวัสดุ อปุ กรณ์ให้กับเพือ่ น 4) สังเกตกำรเกบ็ วัสดุ อุปกรณเ์ ขำ้ ท่ี

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาห์ที่ 1-2 วันที่ 5 สาระการเรียนรยู้ ่อย สถานท่ตี ัง้ ของโรงเรียน (ชุมชน ตาบล อาเภอ) 1. ชอ่ื กจิ กรรม เสรี 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) สงั เกต สำรวจ ทดลอง คน้ ควำ้ คิดแกป้ ัญหำในกำรทำงำนและกำรเล่นเป็นกลุ่ม 2) มปี ระสบกำรณต์ รงในกำรใช้ภำษำ มีจินตนำกำร ควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ ต่องำนและสง่ิ ทีต่ นเล่น 3) มวี ินยั ควำมรับผดิ ชอบ มีมำรยำท ชว่ ยเหลือ แบ่งปนั อดทนรอคอยและมจี ิตสำธำรณะ 4) มพี ัฒนำกำรทำงร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญำอยำ่ งสมดลุ รอบด้ำน 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ - กำรเล่นตำมศูนย์เป็นกำรเล่นในศูนย์ประสบกำรณต์ ำ่ ง ๆ อยำ่ งอสิ ระผำ่ นกำรเลน่ ทดลอง คดิ ค้นควำ้ สรำ้ งสรรค์ กำรแก้ปัญหำและกำรแสวงหำคำตอบ ซ่งึ จะชว่ ยพฒั นำควำมคดิ จินตนำกำร ภำษำควบคู่ไปกับ ควำมมีวินยั ควำมรับผดิ ชอบ กำรรอคอย กำรแบ่งปัน กำรใฝ่รแู้ ละกำรอยู่ร่วมกันเพื่อพฒั นำกำรเข้ำสสู่ งั คม ประสบการณส์ าคญั 1) กำรเลน่ เครื่องเล่นสัมผัส 2) กำรตอ่ ของ บรรจุ เทและแยกส่วนประกอบ 3) กำรเล่นและกำรทำงำนรว่ มกบั ผอู้ น่ื 4) กำรรบั รู้ แสดงควำมร้สู ึกผ่ำนส่ือ วสั ดุ ของเล่นและผลงำน 5) กำรเล่นรำยบคุ คลและเลน่ เป็นกลุ่ม 6) กำรสร้ำงสรรคผ์ ลงำน 4. วธิ กี ารจัดกจิ กรรม 1) ครูแนะนำกำรเล่นกำรปฏิบัติตนในกำรเลน่ ศูนย์กจิ กรรมเสรตี ำมข้อตกลง 2) เด็กเลือกเลน่ ศูนยก์ ิจกรรมเสรีตำมควำมสนใจ 3) ครูให้คำแนะนำ กระตุ้น สง่ เสริม ให้คำชมเชยเพ่ือใหเ้ ด็กเกิดกำรพัฒนำอย่ำงสมดุลรอบด้ำน เตม็ ตำมศักยภำพ 4) ใหเ้ ด็กเลน่ อย่ำงอสิ ระหลังจำกเลกิ เล่นให้เด็กทำควำมสะอำดอปุ กรณ์ พรอ้ มกับเก็บของเข้ำท่ีใหเ้ รยี บร้อย 5. สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ - อุปกรณ์ตำ่ ง ๆ ทจี่ ดั ไวต้ ำมศูนย์กิจกรรมเสรี ต้องสอดคล้องสัมพันธก์ บั หน่วยกำรเรยี นรู้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตพฤติกรรมกำรสำรวจ ทดลอง ค้นคว้ำ คิดแกป้ ัญหำในกำรทำงำนและกำรเล่นเป็นกลุ่ม 2) สงั เกตกำรใช้ภำษำ ตรวจผลงำนกำรปฏิบัติกจิ กรรมกำรคดิ สรำ้ งสรรค์ ตอ่ งำนและส่ิงทเ่ี ลน่

3) สังเกตควำมมีวนิ ัย ควำมรับผิดชอบ มำรยำท กำรชว่ ยเหลอื แบ่งปัน อดทนรอคอย และมจี ติ สำธำรณะ 4) สังเกตควำมกำ้ วหนำ้ ของพัฒนำกำรท้งั 4 ด้ำน หมายเหตุ ครูปรับเปลยี่ นสอื่ วัสดอุ ุปกรณ์ในศนู ยใ์ ห้สัมพนั ธก์ ับหน่วยกำรเรยี นรตู้ ำมควำมพร้อม และจดุ เน้นของสถำนศกึ ษำ

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ท่ี 1-2 วันที่ 5 สาระการเรยี นรูย้ ่อย สถานท่ีตั้งของโรงเรียน (ชุมชน ตาบล อาเภอ) 1. ช่ือกจิ กรรม กลางแจ้ง 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) เล่นเครือ่ งเล่นสนำมไดถ้ ูกวธิ ี 2) เลน่ ร่วมกับผู้อื่นได้ 3) ปฏบิ ตั ิตำมข้อตกลงได้ 4) แกป้ ัญหำในกำรเล่นและตัดสินใจได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) กำรเลน่ เคร่อื งเล่นสนำมได้ถูกวธิ ี 1) กำรเคลื่อนไหวท่ีใช้กำรประสำนสัมพนั ธข์ องกล้ำมเนื้อมัดใหญใ่ นกำรจบั 2) กำรเลน่ และรว่ มกจิ กรรมกับผอู้ ืน่ 2) กำรเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ 3) กำรปฏิบตั ิตำมข้อตกลง 3) กำรเล่นกลุม่ ย่อย 4) กำรแก้ปัญหำในกำรเล่นและตัดสินใจ 4. วิธกี ารจดั กิจกรรม 1) เด็กและครูสนทนำถึงข้อตกลงในกำรปฏบิ ตั ิตนเม่ือลงไปเล่นท่ีสนำม 2) เดก็ เดนิ แถวลงไปทส่ี นำมอย่ำงเปน็ ระเบยี บ 3) เดก็ อบอุ่นรำ่ งกำยโดยให้เดก็ วิ่งเหยำะ ๆ อยู่กับท่ี 4) ครบู อกช่ือเครื่องเลน่ สนำม วิธีกำรเล่นอยำ่ งถูกวิธแี ละให้อำสำสมคั รมำสำธติ กำรเล่นท่ีถกู วิธี ให้เพอื่ น ๆ ดู 5) เด็ก ๆ เลือกเลน่ เครอ่ื งเล่นสนำมตำมควำมสนใจ ครูคอยดแู ลอยำ่ งใกลช้ ิด 6) เมื่อเด็กเลน่ เสรจ็ แลว้ เด็กทำควำมสะอำดร่ำงกำย ล้ำงมือและแตง่ กำยให้เรยี บร้อย เดินแถว เรียงลำดับเข้ำห้องเรยี น 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1) เครื่องเล่นสนำม 2) นกหวดี 6. การประเมินผล 1) สงั เกตกำรเลน่ เครอ่ื งเล่นสนำมอยำ่ งถูกวธิ ี 2) สงั เกตกำรเลน่ รว่ มกับผอู้ ืน่ 3) สงั เกตกำรปฏิบัติตำมคำขอ้ ตกลง 4) สังเกตกำรแกป้ ญั หำในกำรเล่นและกำรตัดสนิ ใจ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ี่ 1-2 วนั ท่ี 5 สาระการเรยี นรูย้ ่อย สถานที่ตั้งของโรงเรียน (ชมุ ชน ตาบล อาเภอ) 1. ชือ่ กจิ กรรม เกมการศกึ ษา 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) เล่นเกมจับคจู่ ำนวนภำพทเี่ ทำ่ กันได้ 2) เลน่ ร่วมกับเพ่ือนได้ 3) แก้ปัญหำในกำรเลน่ ได้ 4) เก็บของเขำ้ ทไี่ ด้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) กำรเล่นเกมจับคู่จำนวนภำพทีเ่ ท่ำกนั 1) กำรนบั จำนวนสง่ิ ต่ำง ๆ 2) กำรเล่นรว่ มกบั เพ่ือน 2) กำรเปรยี บเทียบจำนวนของส่งิ ตำ่ ง ๆ 3) กำรแกป้ ัญหำในกำรเล่น 3) กำรเลน่ และทำงำนร่วมกบั ผู้อืน่ 4) ควำมรบั ผดิ ชอบในกำรดูแลหอ้ งเรียนรว่ มกัน 4) กำรแสดงกำรแกป้ ัญหำท่ีพบระหวำ่ งกำรทำ กิจกรรม 4. วธิ ีการจดั กจิ กรรม 1) ครนู ำเกมจับคูจ่ ำนวนภำพท่ีเท่ำกนั ใหเ้ ด็กดู 2) เดก็ สังเกตภำพและนับจำนวนภำพ 3) ครแู นะนำและสำธิตวธิ ีกำรเล่นเกมจับคจู่ ำนวนภำพทเี่ ทำ่ กัน 4) แบ่งเด็กเป็นกลุ่มตำมควำมเหมำะสม ครูแจกเกมจับคู่จำนวนภำพท่ีเท่ำกนั และเกมทีเ่ คยเลน่ แล้ว 5) ให้เดก็ เลน่ เกม ครูตรวจสอบควำมถกู ต้องและใหค้ ำแนะนำ 6) เมือ่ เล่นเสร็จแล้ว เดก็ ชว่ ยกันเกบ็ เกมกำรศึกษำเข้ำที่ให้เรยี บรอ้ ย 5. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1) เกมจบั ค่จู ำนวนภำพทเ่ี ท่ำกัน 2) เกมทเ่ี คยเลน่ แล้ว 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตกำรเล่นเกมจับคจู่ ำนวนภำพทเี่ ท่ำกนั 2) สังเกตกำรเลน่ เกมร่วมกนั 3) สังเกตกำรแกป้ ัญหำระหว่ำงกำรเลน่ 4) สังเกตกำรเกบ็ ของเข้ำที่

7. ภาคผนวก เพลง ถาม-ตอบ (ไมท่ รำบนำมผแู้ ตง่ ) ถำม..........น้องพลอยอยู่ไหน น้องพลอยอย่ไู หน (เปล่ียนชอื่ เด็กได)้ ตอบ..........อยนู่ ่ีจ๊ะ อยู่น่ีจะ๊ ถำม..........สขุ สบำยดหี รอื ไร ตอบ.........สขุ สบำยท้งั กำยใจ พรอ้ มกัน........ไปกอ่ นละ สวสั ดี เพลง นับนิ้วมอื (ไมท่ รำบนำมผแู้ ต่ง) น่ี คอื น้ิว มือ ของ ฉัน มอื ฉัน นน้ั มี สบิ นวิ้ มอื ซำ้ ย ฉนั มี ห้ำ นิว้ มือ ขวำ ก็ มี ห้ำ นวิ้ นับ หน่ึง สอง สำม ส่ี หำ้ นับ ตอ่ มำ หก เจ็ด แปด เกำ้ สิบ นับ นวิ้ นับ จง อยำ่ รบี นับ หนึ่ง ถงึ สบิ จำ ให้ ขนึ้ ใจ เพลง โรงเรียนของเรา ภทั รำภรณ์ พันธ์ยิม้ โรงเรยี นของเรำนำ่ อยู่ หนู หนู ต่ำงเป็นเดก็ ดี ทกุ คนก็แสนยนิ ดี พวกเรำเปรมปรีด์ทัว่ ทุกคน คาคล้องจอง ชอ่ื และสกุล (ไม่ทรำบนำมผแู้ ต่ง) ช่ือและชื่อสกลุ ของเรำนน้ั จดจำให้ม่นั สำคญั หนักหนำ หมนั่ ทำควำมดเี ป็นศรีสงำ่ เชิดหนำ้ ชูตำท้ังคนและสกุล

8. บันทกึ ผลการจดั ประสบการณ์ ขอ้ ดี ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ข้อควรปรบั ปรงุ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ แนวทางการแกไ้ ข ............................................................................................................................. ............................................ .........................................................................................................................................................................