Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมที่ ๑ ความหมายและชนิดของคำนาม

ชุดกิจกรรมที่ ๑ ความหมายและชนิดของคำนาม

Published by rangtongnun, 2020-06-15 10:56:10

Description: ชุดกิจกรรมที่ ๑ ความหมายและชนิดของคำนาม

Search

Read the Text Version

๑ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรือ่ ง ความหมายและชนดิ ของคานาม จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรียนสามารถบอกความหมายและชนดิ ของคานามได้ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) หนา้ ขอ้ ที่ถกู ทส่ี ุดเพยี งข้อเดียว ๑. ข้อใดไม่ใช่คาอาการนาม ก. ความโกรธ ความเกลยี ด ข. การพนัน การแขง่ ขัน ค. การเมือง การตลาด ง. ความจน ความจรงิ ๒. คาท่ขี ดี เสน้ ใตข้ ้อใดเปน็ สมุหนาม ก. เครื่องบินลานั้นบนิ ฉวดั เฉวียน ข. นกตวั นน้ั บินมาจากทิศเหนือ ค. เหล่าลูกเสอื เดนิ สวนสนาม ง. ทหารทุกคนยนื ตรง ๓. คาที่ขดี เสน้ ใตใ้ นข้อใดไม่ใช่คาวสิ ามานยนาม ก. พ่อทางานหนกั เพ่ือลกู ๆ ข. ปากกาดาวางบนโตะ๊ เรียน ค. นกแก้วเกาะอยูบ่ นตน้ มะมว่ ง ง. ภาษาไทยเป็นเอกลักษณป์ ระจาชาติ ๔. ข้อใดคือความหมายของคานาม ก. คาท่ใี ช้เรียกสิง่ มชี วี ติ ข. คาที่ใชเ้ รยี กสิ่งทไ่ี ม่มชี ีวติ ค. คาทีใ่ ชแ้ ทนชื่อคน สตั ว์ สิง่ ของ ง. คาทใ่ี ชเ้ ปน็ ชื่อเรียก คน สัตว์ สิง่ ของตา่ งๆ

๒ ๕. ข้อใดเปน็ สามานยนาม ก. สแี ดง ข. ความรู้ ค. โรงเรยี น ง. อนจิ จา ! ๖. ดวงแกว้ ไปเรยี นราไทยทุกวัน คาทีข่ ีดเส้นใตเ้ ปน็ คานามชนิดใด ก. สมหุ นาม ข. ลักษณนาม ค. คานามสามัญ ง. คานามวิสามัญ ๗. คาท่ขี ีดเสน้ ใต้ขอ้ ใดเปน็ คาสมุหนาม ก. การเรยี นเปน็ สงิ่ สาคัญสาหรบั ทกุ คน ข. เครือ่ งบนิ ของการบินไทย ค. ฝูงวัวกาลังเดนิ เข้าคอก ง. นายแดงเดินไปตลาด ๘. ข้อใดใช้ลกั ษณนามไม่ถกู ต้อง ก. เธอเลย้ี งสุนขั ๕ ตวั ข. ฉนั มหี นงั สือ ๑๐ เล่ม ค. พ่อของฉนั ปลูกต้นไม้ ๑๐ ตน้ ง. ในหมูบ่ ้านของฉนั มีถนน ๓ ทาง

๓ ๙. ขอ้ ใดไม่ใช่คาวสิ ามานยนาม ก. จังหวัดสุรินทร์ ข. ดอกมะลิ ค. โรงเรยี น ง. ปลาดกุ ๑๐. “ข่ีช้างจบั ตั๊กแตน” จากสานวนนี้คาใดเป็นคานาม ก. ชา้ ง ตก๊ั แตน ข. ขี่ ตก๊ั แตน ค. จับ ชา้ ง ง. ขี่ จบั

๔ คาชี้แจง กอ่ นศึกษาชดุ กจิ กรรม ๑. อา่ นคาช้ีแจง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้เขา้ ใจ ๒. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและบันทึกคะแนนไว้ ขณะศกึ ษากจิ กรรม ๑. ศกึ ษาไปตามลาดบั ไมข่ า้ มขัน้ ตอน ๒. บนั ทึกใบกิจกรรมทั้ง ๓ ชดุ ๓. ไมเ่ ปิดดเู ฉลยกอ่ น เพราะเปน็ การไม่ซื่อสัตยต์ ่อตนเอง หลงั ศกึ ษากิจกรรม ๑. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ๒. เกบ็ ชดุ กิจกรรมการเรียนรนู้ ีส้ ง่ ครูผสู้ อน

๕ เรื่อง ความหมายและชนดิ ของคานาม เวลา ๑ ช่วั โมง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ดา้ นความรู้ (K) ๑.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมายของคานามได้ ๑.๒ นักเรียนสามารถบอกคานามได้ ๒. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) นกั เรยี นสามารถระบุชนดิ ของคานามได้ ๓. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ๓.๑ นักเรียนมีความซ่ือสตั ยส์ ุจรติ ๓.๒ นักเรียนมวี นิ ยั ๓.๓ นกั เรียนมีนสิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ๓.๔ นกั เรียนมคี วามมุ่งมั่นในการทางาน ๓.๕ นักเรียนมีจิตสาธารณะ

๖ ใบความรู้ท่ี ๑ เรื่อง ความหมายของคานาม คานาม หมายถึง คาที่ใช้เรียกช่ือ คน สัตว์ วัตถุ ส่ิงของ สถานท่ี สภาพธรรมชาติ อาการ ลักษณะต่าง ๆ เป็นส่ิงที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ท้ังที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม คานามจะแบ่งเป็น สามานยนาม วสิ ามานยนาม สมหุ นาม ลกั ษณนาม และ อาการนาม เชน่ - กหุ ลาบเป็นดอกไม้ท่สี วยงาม (กุหลาบ เป็นวสิ ามานยนาม , ดอกไม้ เป็นสามานยนาม) - ฝูงนกกลับเข้ารังในตอนเยน็ (ฝงู เปน็ คาบอกหมวดหมูข่ องนก เรยี กวา่ สมุหนาม) - ฉันมปี ากกา ๒ ดา้ ม (ดา้ ม เป็นลกั ษณะของ ปากกา เรยี กว่า ลักษณนาม) - ความซือ่ สัตย์เป็นสัญลักษณ์ของคนดี (ความซ่ือสตั ย์ เปน็ อาการนาม) เปน็ ตน้ นกเอย้ี ง ดอกไม้ เตา่ นาฬิกา เด็กหญิง เกา้ อี้ ความรัก ความโกรธ กล้วย

๗ กิจกรรมที่ ๑ เรือ่ ง ความหมายคานาม ช่ือ - สกุล................................................................ชนั้ ................เลขที่....... จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคานามได้ ๒. นกั เรียนบอกคานามได้ (๑๐ คะแนน) คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคานาม และขดี เส้นใต้คานาม (เวลา ๑๐ นาที) ๑. คานาม หมายถึง ............................................................................................................................. ..... .................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..... ๒. จงขีดเส้นใต้คานาม ดอกไม้ หวั เราะ ธงชาติ เต่า วาดรูป คอมพิวเตอร์ ครู ดฉิ นั กระโดด เกา้ อี้ กวา้ ง แตงโม เช้า ขา้ พเจา้ ทหาร ความรกั โอย๊ แด่ นักเรยี น กระผม คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน คะแนนทีไ่ ด้............คะแนน

๘ กิจกรรมท่ี ๒ เรื่อง คานามในสานวนชวนเพลนิ ชอื่ - สกลุ ................................................................ชั้น................เลขที่......... จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามารถบอกความหมายของคานามได้ ๒. นักเรยี นบอกคานามได้ (๑๐ คะแนน) คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาคาที่ใช้ในสานวนต่อไปน้วี า่ คาใดเป็นคานาม แล้วเขยี นคานามนัน้ ลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง (เวลา ๑๐ นาที) ๑. ชา้ งตายทัง้ ตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด คานาม ๒. น้าลดตอผดุ คานาม ๓. เขียนเสือใหว้ ัวกลัว คานาม ๔. เหน็ ชา้ งข้ี ขต้ี ามชา้ ง คานาม ๕. ตาขา้ วสารกรอกหม้อ คานาม

๙ ๖. หนา้ ตา่ งมหี ู ประตูมีช่อง คานาม ๗. เอาหไู ปนา เอาตาไปไร่ คานาม ๘. ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแตง่ คานาม ๙. ตาน้าพริกละลายแมน่ ้า คานาม ๑๐. ขี่ชา้ งจบั ต๊กั แตน คานาม คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน คะแนนที่ได้............คะแนน

๑๐ ใบความรทู้ ี่ ๒ ชนิดของคานาม คานามแบ่งไดเ้ ปน็ ๕ ชนดิ คือ ๑. สามานยนาม คอื คานามที่เปน็ ชอื่ ใชเ้ รยี กท่ัวไป เช่น คน บ้าน เมือง ใจ สตั ว์ ส่ิงของ ต้นไม้ โรงเรยี น คอมพิวเตอร์ ดังตัวอยา่ ง - เด็กเลน่ อยู่กลางสนาม - ตน้ ไม้ขึน้ อยูร่ ิมสระนา้ - รถยนต์วิ่งอยูบ่ นถนน - นกั เรยี นอย่ทู โ่ี รงเรยี น ๒. วสิ ามานยนาม คานามท่เี ปน็ ชือ่ เฉพาะที่สมมตติ ้ังขึน้ สาหรบั เรยี ก คน สตั ว์ และ สิ่งของบางอย่าง เพ่ือให้รู้ชัดว่า คนนี้ สัตว์ตัวนี้ ของส่ิงน้ี ฯลฯ เช่น คุณวุฒิศักด์ิ คุณสมชาย วัดพระแก้ว ดอกกหุ ลาบ จังหวดั เชยี งใหม่ ดงั ตัวอยา่ ง - เบิรด์ ธงชัย เปน็ นักร้องที่มชี ือ่ เสียงมาก - คณุ สมชาย เป็นคนรกั ครอบครวั - วัดพระแกว้ สวยงามจริงๆ - ดอกกุหลาบมกี ลิ่นหอม ๓. สมุหนาม คานามท่ีเปน็ ชือ่ คน สัตว์ และส่งิ ของทร่ี วมอยู่มากด้วยกัน เชน่ กอง หมู่ คณะ ฝงู บรษิ ทั นกิ าย รัฐบาล เปน็ ต้น ขอ้ สงั เกต คาสมุหนาม สว่ นมากจะอยู่หน้าคานาม เช่น - ฝงู ปลาว่ายในสระ - กองทหารเดนิ สวนสนาม - คณะครเู ดินทางไปอบรม - กล่มุ ธรุ กจิ โรงแรมกาลงั เสนองาน - เหลา่ อาสาสมัครช่วยเหลือผูป้ ระสบภัย ๔. ลกั ษณนาม คานามที่ใช้บอกลักษณะหรือขนาดของสามานยนามให้ชัดเจนขึ้นอกี ทีหนึง่ เช่น คา เรียกพระว่า “รปู ” เรยี กสตั วว์ ่า “ตวั ” เรียกเรอื ว่า “ลา” ดงั ตัวอย่าง ข้อสังเกต ลกั ษณนามจะอยหู่ ลังคาบอกจานวนของนาม เช่น - ฉันมปี ากกา ๒ ดา้ ม - น้องชายเลย้ี งสุนัข ๑ ตวั - เรอื ลาน้ีจะไปรับนกั ทอ่ งเที่ยว - พอ่ ไปนมิ นตพ์ ระ ๕ รปู มาทาบญุ ท่ีบา้ น

๑๑ ลกั ษณนาม แบ่งได้ดงั นี้ ๔.๑ ลักษณนามบอกชนดิ เชน่ ลักษณนาม สาหรับใช้ พระองค์ ผทู้ ี่นบั ถอื อย่างสงู เช่น พระพุทธเจา้ พระราชา รูป ภิกษุ สามเณร ชี นักพรตต่างๆ ตน ยกั ษ์ ภูตผีปีศาจ นักสทิ ธิ์ เชน่ ฤๅษี วิทยาธร คน มนษุ ย์สามัญทั่วไป เล่ม หนงั สอื เกวยี น ศาสตราต่างๆ เทียน เข็ม สิว่ ฯลฯ เลา ปี่ ขลุ่ย ๔.๒ ลกั ษณนามบอกหมวดหมู่ เช่น ลกั ษณนาม สาหรับใช้ กอง ทพั ทหาร คนทางานรวมกนั ของท่กี องรวมไว้ อิฐ ทราย ฯลฯ พวก, เหลา่ คน สตั ว์ สง่ิ ของ ทรี่ วมกนั อย่แู ละมีลักษณะอย่างเดยี วกนั หมวด คน สัตว์ สิ่งของ ที่แยกมารวมกันไว้ หมู่ คน สัตว์ สิง่ ของ ที่อยรู่ วมกนั เปน็ กลุม่ ๆ นิกาย นกั บวชศาสนาเดยี วทแี่ ยกออกเป็นพวก ๆ สารับ, ชดุ คน หรือ สง่ิ ของทม่ี คี รบตามอตั รา โรง ผ้เู ล่นมหรสพที่มีโรงเลน่ เช่น ละคร โขน หนงั ฯลฯ ตบั ของทที่ าให้ตดิ เรียงกันเป็นพืด เช่น จาก พลุ ลกู ปนื ปลาย่าง ฯลฯ

๑๒ ๔.๓ ลกั ษณนามท่บี อกสณั ฐาน เช่น ลกั ษณนาม สาหรบั ใช้ วง ของทร่ี ปู เปน็ วง เช่น แหวน กาไล ฯลฯ หลัง ของที่มีรูปเป็นหลังคา เชน่ เรือน ตกึ กูบ ประทุน บุษบก มุ้ง ฯลฯ แผน่ ของที่มีรปู แบน ๆ เชน่ กระดาษ กระดาน กระเบอื้ ง อฐิ ฯลฯ ผนื ของท่ีมีรูปแบนบางกวา้ งใหญ่ เชน่ ผา้ เส่อื พรม หนงั สัตวท์ ี่ใชป้ ู ฯลฯ แทง่ ของทึบหนามีรูปยาว ๆ เชน่ เหลก็ ตะกัว่ ดินสอ ฯลฯ คัน ของท่ีมีส่วนสาหรับถือและลาก รูปยาว ๆ เช่น ร่ม ฉัตร ธนู หน้าไม้ ช้อน ส้อม ซอ เบด็ (ท่ีมีคัน) แรว้ ไถ รถ ฯลฯ สาย ของที่เปน็ ทางยาว เช่น ถนน ทาง ลานา้ ฯลฯ ปาก เคร่ืองถักดกั สัตว์มรี ปู เป็นปากกวา้ ง เชน่ แห อวน สวงิ โพงพาง ฯลฯ ๔.๔ ลกั ษณนามบอกจานวนและมาตรา เช่น ลกั ษณนาม สาหรับใช้ คู่ ของทม่ี ชี ดุ ละ ๒ ส่งิ เช่น รองเท้า ถงุ เทา้ แจกัน เชงิ เทียน ฯลฯ โหล ของทรี่ วมกนั ๑๒ สิ่ง กุลี ผ้าห่อหน่ึงทร่ี วมกัน ๒๐ ผืน ช่อื ภาชนะ ของที่ตวงดว้ ยภาชนะน้ัน ๆ เชน่ นา้ ปลา ๓ ไห นา้ ๒ ตมุ่ เป็นตน้ ตา่ ง ๆ เชน่ ตมุ่ ไห ฯลฯ ๔.๕ ลกั ษณนามบอกอาการ เช่น ลักษณนาม สาหรับใช้ จบี ของทจ่ี ีบ เช่น พลู มวน ของที่มวน เชน่ บหุ รี่ กา, ฟ่อน ของที่ทาเปน็ กา ฟ่อน เช่น หญา้ ผกั ฯลฯ มว้ น ของที่มว้ นไว้ เชน่ ยาสบู ยาจดื กระดาษ ฯลฯ

๑๓ ๔.๕ ลกั ษณนามซา้ ช่ือ สามายนามบางคา เมือ่ จะใช้กบั คาวเิ ศษณ์ ตอ้ งเอาคาสามานยนามเดิมนนั้ มาใชเ้ ป็น ลักษณนามประกอบคาวเิ ศษณ์นั้น เชน่ ประเทศสองประเทศ เมืองสองเมอื ง วัดสามวัด เปน็ ตน้ ๕. อาการนาม คานามท่ีแสดงกิริยาอาการ หรือความปรากฏเป็นต่าง ๆ ของ คน สัตว์ และส่ิงของ ซ่ึงเน่ืองมาจากคากริยาและคาวิเศษณ์ เช่น การกิน การอยู่ ความตาย ความสวย ความงาม เป็นต้น อาการนามเป็นคาทมี่ ีคาว่า “การ” หรอื “ความ” นาหนา้ คากรยิ าหรอื คาวิเศษณ์ คา “การ” และ “ความ” ทีน่ าหนา้ นัน้ มีทใ่ี ชต้ า่ งกนั คอื ถา้ นาหนา้ คากริยามักใช้ “การ” แต่ถ้าคากริยาที่มีความวา่ มี เป็น เกิด ดับ เจริญ หรือกริยาที่เกี่ยวกับจติ ใจ มักใช้ “ความ” นาหนา้ เช่น ความเปน็ ความคิด ความรัก เปน็ ต้น และถา้ นาหน้าคาวเิ ศษณ์ เช่น - การทางานชว่ ยใหค้ นเข้มแข็งข้ึน - การว่งิ เปน็ การออกกาลังกายท่ีดี - การนอนเป็นการพกั ผอ่ นทีด่ ที ส่ี ดุ - ความซือ่ สตั ย์เปน็ สญั ลกั ษณข์ องคนดี - มนษุ ย์ทกุ คนมคี วามใฝฝ่ นั ในอาชพี ของตน - ความรกั เป็นสิ่งสวยงาม - การพูดเปน็ ส่งิ ทีท่ กุ คนตอ้ งให้ความสาคัญให้มาก ท่มี า : พระยาอุปกิตศลิ ปสาร. หลักภาษาไทย : อักขรวธิ ี วจวี ิภาค วากยสมั พนั ธ์ ฉนั ทลกั ษณ์.

๑๔ กิจกรรมที่ ๓ เรือ่ ง สนุกคิดชนดิ คานาม ช่อื - สกลุ ................................................................ชนั้ ................เลขที่....... จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรียนสามารถระบชุ นิดของคานามได้ (๑๐ คะแนน) คาช้แี จง นกั เรียนอ่านและพิจารณาคานามท่ขี ีดเส้นใต้ในประโยคตอ่ ไปน้ี ว่าเปน็ คานามชนดิ ใด โดยเขยี นตอบลงในช่องวา่ ง (เวลา ๑๐ นาที) สามานยนาม วิสามานยนาม สมุหนาม ลกั ษณนาม อาการนาม ๑. น้าตกพล้วิ อยู่ในจังหวัดจนั ทบุรี ........................................ ๒. โรงเรียนมคี รผู ู้หญิงหลายคน ........................................ ๓. เจา้ หนา้ ทพ่ี บโขลงชา้ งในบริเวณอุทยาน ........................................ ๔. นารเี ล้ียงสนุ ขั จานวน ๓ ตวั ........................................ ๕. เกิดเปน็ คนควรหมนั่ ทาความดีเสมอ ........................................ ๖. ฉนั ซื้อปากกามาฝากเธอดว้ ยนะ ........................................ ๗. ฝงู ปลาอาศัยอยใู่ นบรเิ วณกอบัว ........................................ ๘. การพูดเป็นสิ่งทที่ ุกคนต้องให้ความสาคัญให้มาก ........................................ ๙. ในหอ้ งสมุดมีพจนานุกรม ๓ เล่ม ........................................ ๑๐. สมชายเปน็ นกั เรยี นทีข่ ยันและเรียนเก่งมาก ....................................... คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน คะแนนทไี่ ด้............คะแนน

๑๕ แบบทดสอบหลังเรียน เร่อื ง ความหมายและชนดิ ของคานาม จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนสามารถบอกความหมายและชนดิ ของคานามได้ คาชแี้ จง ให้นักเรยี นทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) หน้าข้อที่ถูกทสี่ ุดเพียงข้อเดียว ๑. “ขชี่ า้ งจับตั๊กแตน” จากสานวนน้ีคาใดเปน็ คานาม ก. ช้าง ต๊กั แตน ข. ขี่ ตก๊ั แตน ค. จับ ช้าง ง. ขี่ จบั ๒. “ดวงแก้วไปเรียนราไทยทกุ วัน” คาทขี่ ีดเส้นใตเ้ ปน็ คานามชนดิ ใด ก. สมุหนาม ข. ลักษณนาม ค. สามานยนาม ง. วสิ ามานยนาม ๓. ข้อใดไม่ใช่คาวิสามานยนาม ก. จงั หวัดสุรนิ ทร์ ข. ดอกมะลิ ค. โรงเรยี น ง. ปลาดกุ

๑๖ ๔. ข้อใดไม่ใช่คาอาการนาม ก. ความโกรธ ความเกลียด ข. การพนัน การแขง่ ขนั ค. การเมือง การตลาด ง. ความจน ความจริง ๕. ข้อใดคอื ความหมายของคานาม ก. คาท่ีใช้เป็นช่ือเรยี ก คน สตั ว์ สิง่ ของตา่ งๆ ข. คาทใ่ี ช้แทนช่ือคน สัตว์ สงิ่ ของ ค. คาทใ่ี ช้เรียกส่งิ ทไี่ ม่มชี ีวิต ง. คาทีใ่ ชเ้ รยี กส่ิงมีชวี ิต ๖. คาทข่ี ีดเสน้ ใตข้ อ้ ใดเป็นสมุหนาม ก. เครือ่ งบินลาน้นั บนิ ฉวดั เฉวียน ข. นกตวั นน้ั บินมาจากทิศเหนือ ค. เหล่าลกู เสือเดินสวนสนาม ง. ทหารทุกคนยืนตรง ๗. คาท่ขี ดี เสน้ ใตใ้ นข้อใดไมใ่ ช่วิสามานยนาม ก. พ่อทางานหนกั เพ่ือลกู ๆ ข. ปากกาดาวางบนโตะ๊ เรียน ค. นกแก้วเกาะอย่บู นต้นมะมว่ ง ง. ภาษาไทยเปน็ เอกลักษณ์ประจาชาติ

๑๗ ๘. ข้อใดเป็นคาสามานยนาม ก. สีแดง ข. ความรู้ ค. โรงเรียน ง. อนิจจา ! ๙. คาท่ขี ดี เสน้ ใตข้ อ้ ใดเป็นคาสมหุ นาม ก. การเรยี นเปน็ สงิ่ สาคัญสาหรับทกุ คน ข. เครื่องบนิ ของการบินไทย ค. ฝูงววั กาลงั เดินเข้าคอก ง. นายแดงเดินไปตลาด ๑๐. ขอ้ ใดใช้ลกั ษณนามไม่ถูกต้อง ก. เธอเลยี้ งสุนขั ๕ ตวั ข. ฉันมหี นงั สอื ๑๐ เล่ม ค. พอ่ ของฉนั ปลกู ต้นไม้ ๑๐ ตน้ ง. ในหมูบ่ ้านของฉนั มีถนน ๓ เสน้

๑๘ บรรณานกุ รม กาชัย ทองหลอ่ . หลักภาษาไทย. กรงุ เทพฯ : รวมสาสน์ , ๒๕๔๗. กระทรวงศึกษาธิการ. คู่มือการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การรบั ส่งสนิ ค้าและพัสดุภัณฑ,์ ๒๕๕๓. . . พระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์องค์การ รบั ส่งสินคา้ และพสั ดภุ ัณฑ์(ร.ส.ภ.), ๒๕๕๓. พรทพิ ย์ แฟงสุด. หลกั ภาษาไทย. กรงุ เทพฯ : ฟิสิกส์เซน็ เตอร์, ๒๕๕๒. ฟองจนั ทร์ สขุ ยิ่ง และคณะ. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย หลกั ภาษาและ การใชภ้ าษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ตามหลกั สตู รการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจริญทศั น์ อจท, ๒๕๕๒. วเิ ชยี ร เกษประทมุ . คมู่ ือภาษาไทย ม.๑-๒-๓ และ O-NET ม.๓. กรงุ เทพฯ : พ.ศ. พัฒนา, ๒๕๕๓. สมศกั ด์ิ สนิ ธุระเวชญ์ และคณะ. แบบฝึกหัดสาระการเรยี นรูพ้ ื้นฐาน ชุดปฏิรูป : รู้วธิ ีการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑. กรุงเทพฯ : วฒั นาพานิช, ๒๕๔๖. อัจฉรา ชวี พันธ์ และคณะ. หลกั ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เล่ม ๒. กรุงเทพฯ : บรรณกิจ ๑๙๙๑, ๒๕๔๗. อุปกิตศิลปสาร, พระยา. หลักภาษาไทย : อกั ขรวิธี วจีวภิ าค วากยสัมพนั ธ์ ฉนั ทลักษณ์. กรงุ เทพฯ : ไทยวัฒนาพานชิ , ๒๕๓๙.

๑๙ ภาคผนวก เฉลยกจิ กรรม

๒๐ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง ความหมายและชนดิ ของคานาม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถบอกความหมายและชนิดของคานามได้ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) หน้าข้อที่ถกู ทีส่ ุดเพยี งข้อเดียว ๑. ข้อใดไม่ใช่คาอาการนาม ก. ความโกรธ ความเกลยี ด ข. การพนนั การแขง่ ขัน ค. การเมือง การตลาด ง. ความจน ความจรงิ ๒. คาท่ีขดี เส้นใตข้ อ้ ใดเป็นสมุหนาม ก. เครือ่ งบินลานัน้ บนิ ฉวัดเฉวยี น ข. นกตวั นน้ั บนิ มาจากทิศเหนือ ค. เหล่าลกู เสอื เดนิ สวนสนาม ง. ทหารทุกคนยืนตรง ๓. คาที่ขดี เส้นใต้ในข้อใดไมใ่ ช่วิสามานยนาม ก. พอ่ ทางานหนกั เพื่อลกู ๆ ข. ปากกาดาวางบนโตะ๊ เรยี น ค. นกแก้วเกาะอยบู่ นตน้ มะม่วง ง. ภาษาไทยเปน็ เอกลักษณป์ ระจาชาติ

๒๑ ๔. ขอ้ ใดคือความหมายของคานาม ก. คาที่ใชเ้ รยี กส่ิงมีชีวิต ข. คาท่ใี ชเ้ รยี กสิง่ ทีไ่ มม่ ชี วี ิต ค. คาทีใ่ ช้แทนช่ือคน สตั ว์ สิ่งของ ง. คาท่ใี ช้เปน็ ช่อื เรยี ก คน สตั ว์ สง่ิ ของต่างๆ ๕. ขอ้ ใดเปน็ สามานยนาม ก. สีแดง ข. ความรู้ ค. โรงเรยี น ง. อนิจจา ! ๖. ดวงแกว้ ไปเรยี นราไทยทุกวัน คาทข่ี ีดเสน้ ใต้เป็นคานามชนดิ ใด ก. สมุหนาม ข. ลักษณนาม ค. สามานยนาม ง. วสิ ามานยนาม ๗. คาท่ขี ดี เส้นใต้ขอ้ ใดเป็นคาสมหุ นาม ก. การเรยี นเป็นสงิ่ สาคัญสาหรบั ทกุ คน ข. เครอ่ื งบินของการบนิ ไทย ค. ฝงู ววั กาลงั เดินเขา้ คอก ง. นายแดงเดนิ ไปตลาด

๒๒ ๘. ขอ้ ใดใชล้ ักษณนามไม่ถูกต้อง ก. เธอเลีย้ งสนุ ขั ๕ ตวั ข. ฉนั มีหนังสอื ๑๐ เลม่ ค. พ่อของฉันปลกู ตน้ ไม้ ๑๐ ตน้ ง. ในหมูบ่ า้ นของฉนั มถี นน ๓ เสน้ ๙. ข้อใดไม่ใช่วสิ ามานยนาม ก. จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ข. ดอกมะลิ ค. โรงเรียน ง. ปลาดุก ๑๐. “ขช่ี า้ งจับต๊ักแตน” จากสานวนนีค้ าใดเปน็ คานาม ก. ชา้ ง ตั๊กแตน ข. ขี่ ต๊กั แตน ค. จับ ชา้ ง ง. ขี่ จับ

๒๓ เฉลยกิจกรรมท่ี ๑ เรื่อง ความหมายคานาม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของคานามได้ ๒. นักเรียนบอกคานามได้ (๑๐ คะแนน) คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นบอกความหมายของคานาม และขีดเสน้ ใตค้ านาม (เวลา ๑๐ นาท)ี ๑. คานาม หมายถึง คาท่ใี ช้เรียกช่อื คน สตั ว์ วตั ถุ สง่ิ ของ สถานที่ สภาพธรรมชาติ อาการลักษณะตา่ ง ๆ ทัง้ เปน็ สิ่งท่มี ีชีวติ และไมม่ ีชวี ิต ทัง้ ทีเ่ ปน็ รูปธรรมและนามธรรม ๒. ดอกไม้ หัวเราะ ธงชาติ เต่า วาดรูป กระโดด เกา้ อ้ี คอมพิวเตอร์ ครู ดิฉนั ขา้ พเจา้ ทหาร กว้าง แตงโม เช้า นกั เรยี น กระผม ความรกั โอ๊ย แด่

๒๔ เฉลยกิจกรรมท่ี ๒ เร่ือง คานามในสานวนชวนเพลนิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอกความหมายของคานามได้ ๒. นักเรียนบอกคานามได้ (๑๐ คะแนน) คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นพิจารณาคาทใ่ี ชใ้ นสานวนต่อไปนีว้ ่า คาใดเป็นคานาม แล้วเขยี นคานามนน้ั ลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง (เวลา ๑๐ นาที) ๑. ช้างตายท้ังตัวเอาใบบวั ปดิ ไม่มิด คานาม ชา้ ง, ใบบวั ๒. นา้ ลดตอผุด คานาม น้า, ตอ ๓. เขียนเสือใหว้ ัวกลวั คานาม เสือ, ววั ๔. เหน็ ช้างข้ี ขี้ตามชา้ ง คานาม ชา้ ง,ขี้ ๕. ตาข้าวสารกรอกหม้อ คานาม ข้าวสาร, หมอ้ ๖. หนา้ ตา่ งมหี ู ประตูมีช่อง คานาม หน้าตา่ ง, ห,ู ประตู, ช่อง ๗. เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ คานาม ห,ู นา, ตา, ไร่ ๘. ไกง่ ามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง คานาม ไก่, ขน, คน ๙. ตาน้าพริกละลายแม่น้า คานาม นา้ พริก, แม่น้า ๑๐. ข่ีชา้ งจับตัก๊ แตน คานาม ชา้ ง, ตก๊ั แตน

๒๕ เฉลยกจิ กรรมที่ ๓ เร่อื ง สนกุ คดิ ชนิดคานาม จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถระบุชนิดของคานามได้ (๑๐ คะแนน) คาชแี้ จง นกั เรียนอ่านและพิจารณาคานามท่ีขีดเสน้ ใต้ในประโยคต่อไปนี้ วา่ เป็นคานามชนดิ ใด โดยเขยี นตอบลงในช่องว่าง (เวลา ๑๐ นาที) สามานยนาม วิสามานยนาม สมหุ นาม ลักษณนาม อาการนาม ๑. น้าตกพล้ิวอยู่ในจังหวดั จันทบุรี วิสามานยนาม ๒. โรงเรียนมคี รผู หู้ ญงิ หลายคน สามานยนาม ๓. เจ้าหน้าทีพ่ บโขลงชา้ งในบรเิ วณอุทยาน สมหุ นาม ๔. นารีเล้ยี งสนุ ัขจานวน ๓ ตวั ลักษณนาม ๕. เกดิ เปน็ คนควรหม่นั ทาความดีเสมอ อาการนาม ๖. ฉนั ซ้อื ปากกามาฝากเธอด้วยนะ สามานยนาม ๗. ฝงู ปลาอาศัยอย่ใู นบรเิ วณกอบัว สมุหนาม ๘. การพูดเป็นสงิ่ ทท่ี ุกคนต้องให้ความสาคัญให้มาก อาการนาม ๙. ในห้องสมุดมพี จนานุกรม ๓ เล่ม ลักษณนาม ๑๐. สมชายเป็นนกั เรียนที่ขยันและเรียนเก่งมาก วสิ ามานยนาม

๒๖ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง ความหมายและชนดิ ของคานาม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถบอกความหมายและชนดิ ของคานามได้ คาชี้แจง ให้นักเรยี นทาเครอื่ งหมายกากบาท (X) หนา้ ขอ้ ที่ถกู ทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียว ๑. “ขช่ี ้างจับตั๊กแตน” จากสานวนน้คี าใดเป็นคานาม ก. ช้าง ตก๊ั แตน ข. ขี่ ต๊ักแตน ค. จบั ช้าง ง. ขี่ จับ ๒. “ดวงแก้วไปเรียนราไทยทกุ วัน” คาทขี่ ีดเสน้ ใตเ้ ปน็ คานามชนิดใด ก. สมหุ นาม ข. ลักษณนาม ค. สามานยนาม ง. วิสามานยนาม ๓. ข้อใดไม่ใช่วสิ ามานยนาม ก. จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ข. ดอกมะลิ ค. โรงเรียน ง. ปลาดุก

๒๗ ๔. ข้อใดไม่ใช่คาอาการนาม ก. ความโกรธ ความเกลียด ข. การพนัน การแขง่ ขนั ค. การเมือง การตลาด ง. ความจน ความจริง ๕. ข้อใดคอื ความหมายของคานาม ก. คาท่ีใช้เป็นชอ่ื เรยี ก คน สตั ว์ สิง่ ของตา่ งๆ ข. คาทใ่ี ช้แทนชื่อคน สตั ว์ สงิ่ ของ ค. คาทใ่ี ช้เรียกสงิ่ ทไี่ ม่มีชีวิต ง. คาทีใ่ ชเ้ รยี กสิ่งมีชวี ิต ๖. คาทข่ี ีดเสน้ ใตข้ อ้ ใดเป็นสมุหนาม ก. เครือ่ งบินลาน้นั บนิ ฉวดั เฉวียน ข. นกตวั นั้นบินมาจากทิศเหนือ ค. เหล่าลกู เสือเดินสวนสนาม ง. ทหารทุกคนยืนตรง ๗. คาท่ขี ดี เสน้ ใตใ้ นข้อใดไมใ่ ช่วิสามานยนาม ก. พ่อทางานหนกั เพ่ือลกู ๆ ข. ปากกาดาวางบนโตะ๊ เรียน ค. นกแก้วเกาะอย่บู นต้นมะมว่ ง ง. ภาษาไทยเปน็ เอกลักษณ์ประจาชาติ

๒๘ ๘. ข้อใดเป็นสามานยนาม ก. สีแดง ข. ความรู้ ค. โรงเรยี น ง. อนิจจา ! ๙. คาทขี่ ดี เส้นใตข้ ้อใดเปน็ คาสมหุ นาม ก. การเรยี นเปน็ ส่งิ สาคัญสาหรับทกุ คน ข. เคร่อื งบินของการบินไทย ค. ฝูงวัวกาลงั เดินเขา้ คอก ง. นายแดงเดินไปตลาด ๑๐. ข้อใดใชล้ กั ษณนามไม่ถกู ต้อง ก. เธอเล้ยี งสนุ ัข ๕ ตวั ข. ฉันมีหนังสือ ๑๐ เลม่ ค. พอ่ ของฉันปลูกตน้ ไม้ ๑๐ ตน้ ง. ในหมูบ่ า้ นของฉนั มีถนน ๓ เส้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook