Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เปิดกรุ คลังปัญญาผู้สูงอายุ

เปิดกรุ คลังปัญญาผู้สูงอายุ

Published by Tup Library, 2023-06-21 00:16:39

Description: 20210113_042702

Search

Read the Text Version

ดว้ ยแนวคดิ “ไมห่ วงวชิ า” และพรอ้ ม ท่ีจะถ่ายทอดองค์ความรู้ตลอดเวลา ท�ำให้ คณุ นฐั พงศล์ ูกชายของพ่อเสวก และหลาย ครอบครัวในบ้านสระบัว ได้มีกินมีใช้ มี วชิ าชพี ทสี่ ามารถเลยี้ งครอบครวั และท�ำให้ บ้านสระบัวกลายเป็นหมู่บ้านท่ีขึ้นชื่อเร่ือง การเป็นแหล่งผลิตกรงนกระดับประเทศมา จนถงึ ทกุ วันน้ี 101

ภูมปิ ญั ญา “ยาหนม (กะละแม) บ้านคลองดิน” โดย คุณพ่อหนูพัน สงั วาล @ตำ�บลหัวตะพาน อำ�เภอทา่ ศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ข้อมูลครูภมู ิปัญญา คุณพอ่ หนพู นั สงั วาล เกิดวนั ท่ี 30 พฤษภาคม 2494 อายุ 68 ปี เบอรโ์ ทรติดต่อ 061-378-0929 “ยาหนม” หรือ “พญาขนม” ถือเป็น ราชาแห่งขนมประจ�ำภาคใต้ในสมัยก่อน ภาษา ภาคกลางเรียกว่า “กะละแม” คนใต้จะนิยม ท�ำยาหนมมาเลย้ี งแขกในงานส�ำคญั ต่าง ๆ เช่น งานแตง่ งาน งานบวชนาค งานวนั สารทเดอื นสบิ งานขนึ้ บา้ นใหม่ ฯลฯ ซงึ่ การท�ำขนมแตล่ ะครงั้ จะ ตอ้ งใชค้ นจ�ำนวนมากในการกวน ดงั นน้ั หากงาน เลย้ี งใดใชย้ าหนมเปน็ ของวา่ งเลยี้ งแขก จะถอื วา่ งานน้ันเป็นงานส�ำคัญ เป็นงานที่มีขนาดใหญ่ มแี ขกไปรว่ มงานจ�ำนวนมาก แตป่ จั จบุ นั ยาหนม 102

ได้กลายเป็นของโบราณที่เริ่มหาทานยาก โลโก้ “กะละแมสูตรโบราณบ้านคลองดิน” มากข้ึน ท�ำให้เร่ิมมีความจริงจังในการท�ำยาหนมขาย พอ่ หนพู ัน สังวาล ชาวบ้านคลองดนิ มากขึ้น ขณะเดยี วกนั ลกู ค้าก็ส่ังท�ำกนั บ่อยข้นึ ต�ำบลหัวตะพาน อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัด นอกจากน้ียังมีผู้ที่สนใจขอมาศึกษา นครศรีธรรมราช เป็นบุคคลหนึ่งท่ีต้องการ ดูงานรวมท้ัง ขอสูตรการท�ำยาหนมของ อนุรักษ์การท�ำยาหนมแบบโบราณเอาไว้ พ่อหนูพัน ซ่ึงพ่อหนูพันก็ยินดีให้ความรู้ เน่ืองจากปัจจุบันมีขนมแบบใหม่เข้ามาทดแทน อย่างเตม็ ที่ โดยไม่หวงสูตรแต่อย่างใด ขนมโบราณกันมากข้ึน แม้แต่ยาหนมหรือ วัตถุดิบในการท�ำยาหนมสูตรโบราณ กะละแมเองกย็ งั มกี ารปรบั สตู รเปลย่ี นไปจากเดมิ ของพ่อหนูพัน จะประกอบด้วย มะพร้าว 25 ท�ำให้หาทานแบบสูตรโบราณยากมากข้ึน กโิ ลกรัม ส�ำหรับคนั้ นำ�้ กะทิ นำ�้ ตาลมะพร้าว 6 โดยเฉพาะอย่างย่ิงในละแวกบ้านคลองดินท่ี กโิ ลกรมั นำ้� ตาลทราย 2 กโิ ลกรมั ขา้ วเหนยี ว 3 สมัยก่อนเคยท�ำยาหนมกันทุกบ้าน แต่ตอน กโิ ลกรมั ส�ำหรบั น�ำไปแชแ่ ละบด เกลอื 1 ชอ้ นโตะ๊ นเ้ี หลอื เพยี ง 4 – 5 บ้านท่ยี งั คงอนรุ ักษ์การท�ำ และแป้งข้าวจ้าว 3 ช้อนโต๊ะ ยาหนมสตู รโบราณอยู่ วิธีท�ำ วันแรกจะท�ำการคั้นน้�ำกะทิและ ในส่วนของพ่อหนูพันจะใช้สูตรการท�ำ เคยี่ วให้แตกมัน ใช้เวลา 6 ชวั่ โมง เสรจ็ แล้วตงั้ ยาหนมจากรุ่นพ่อแม่ โดยจะท�ำการกวนเป็น ทิ้งไว้ให้เย็น จากน้ันตักน�้ำมันจากการเค่ียวน้�ำ ประจ�ำในช่วงเทศกาลวันสารทเดือนสิบ หรือ กะทิเก็บไว้ประมาณ 1 กิโลกรัม ส่วนน้�ำมัน ตามงานบุญ งานบวช งานแต่งงาน แต่ในช่วง ที่เหลือในกระทะให้เติมน้�ำตาลมะพร้าวและ 3 ปที ผ่ี า่ นมานพ้ี อ่ หนพู นั ไดเ้ รมิ่ รบั ท�ำยาหนมตาม น�้ำตาลทรายลงไปเพ่ือป้องกันไม่ให้น�้ำกะทิท่ี ยอดสั่งซ้ือ เน่ืองจาก กศน.ได้เข้ามาสนับสนุน แตกมนั เสยี เร่ืองอุปกรณ์ การสร้างแบรนด์ และออกแบบ 103

วนั ทสี่ อง เรมิ่ จากการบดแปง้ ขา้ วเหนยี ว สตู รใหม่จะมคี วามนม่ิ กว่า ไม่ขน้ึ รปู และเกบ็ ได้ ท่ีแช่ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมงด้วยเครื่องบดโบราณแบบ ไม่นานเท่าสูตรโบราณ ส่วนเรื่องราคา ยาหนม มอื หมนุ แล้วน�ำมากวนกับนำ�้ มันทผ่ี สมนำ�้ ตาล สูตรโบราณจะมีราคาแพงกว่าเนื่องจากมีขั้น ไว้ให้ออกเป็นสีน้�ำตาลนวล จากนั้นจึงน�ำส่วน ตอนทยี่ งุ่ ยากกวา่ และตอ้ งใชก้ �ำลงั คนในการกวน ผสมท่ีเหลือเทใส่กระทะแล้วเค่ียวจนแป้งงวด ( ร า ค า ย า ห น ม สู ต ร โ บ ร า ณ กิโ ล ก รั ม ล ะ โดยจะเคย่ี วตลอดเวลาเพอื่ ไมใ่ หแ้ ปง้ ขนมตดิ กน้ 100 – 120 บาท สตู รใหม่ กโิ ลกรมั ละ 70 – 80 กระทะ ใช้จ�ำนวนคนเคย่ี ว 2 คนต่อ 1 กระทะ บาท) เคย่ี วประมาณ 5-6 ชว่ั โมงขนมจะเรม่ิ หนดื ตอ้ ง คุณโสพิศ สังวาล ลูกสาวของพ่อหนู ใช้แรงในการกวนมากและต้องกวนจนกวา่ ขนม พันผู้สานต่อภูมิปัญญาการท�ำยาหนมของ จะเหนยี วจนกวนตอ่ ไมไ่ หวจากนนั้ จงึ คอ่ ย ๆเตมิ ครอบครัวได้เล่าเสริมว่า กลุ่มเป้าหมายของ น้�ำมันมะพร้าวท่ีตักเก็บไว้ในวันแรกลงไป แล้ว ยาหนมสูตรโบราณกับสูตรใหม่จะแตกต่างกัน กวนต่อจนงวดได้ท่ี ยาหนมท่ีได้จึงจะมีรสชาด คนเฒา่ คนแกจ่ ะยงั คงตอ้ งการทานยาหนมสตู ร หอม หวาน อรอ่ ย มคี วามนม่ิ และเหนยี วก�ำลงั ดี โบราณอยู่ ท�ำใหย้ าหนมสตู รโบราณไดร้ บั ความ ส่วนยาหนมหรือกะละแมสูตรใหม่จะใช้ นยิ มจากคนกลมุ่ นี้ ยอดสง่ั ซอื้ จงึ มเี ขา้ มาเรอื่ ย ๆ เวลาท�ำเพียงแค่วันเดียว เนื่องจากใช้กะทิสด โดยใน 1 สัปดาห์ พ่อหนูพันและครอบครัวจะ ท่ีไม่ต้องเคี่ยวให้แตกมัน และใช้แป้งส�ำเร็จรูป ตอ้ งท�ำยาหนมตามยอดสง่ั ซอื้ 1 – 2 ครงั้ ครง้ั ละ แบบผงที่หาซื้อได้ทั่วไปท�ำให้ใช้ระยะเวลาใน 1 กระทะ ซง่ึ จะไดย้ าหนมประมาณ 25 กโิ ลกรมั การท�ำน้อยกว่าสตู รโบราณ โดยลูกค้าที่ส่ังท�ำจะเป็นคนในหมู่บ้าน และ ลักษณะความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ลกู คา้ ออนไลนใ์ น Facebook ซงึ่ สว่ นใหญจ่ ะเปน็ ระหว่างยาหนมสูตรโบราณ กับสูตรใหม่คือ คนรู้จักของครอบครัวพ่อหนพู ันและคุณโสพศิ 104

ป ั จ จุ บั น พ ่ อ ห นู พั น แ ล ะ คุณโสพิศมีความคาดหวังท่ีจะให้ รุ่นลูกรุ่นหลานของตนได้สืบสาน ภูมิปัญญาการท�ำยาหนมสูตร โบราณ ทส่ี ืบทอดกันมายาวนาน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสชิม “ยาหนม” หรือพญาแห่งขนม ของคนบรรพบรุ ษุ ทมี่ รี สชาตแิ ละ รสสัมผัสที่หอม หวาน มัน นิ่ม เหนียวแตกต่างจากกะละแม ในยุคปัจจุบัน และน่ันคือเสน่ห์ ท่ีคู่ควรตอ่ การอนรุ กั ษ์ 105

จงั หวัดเชยี งใหม่ 106

เชียงใหม่ 107

ภูมิปญั ญา “กอ่ งข้าวจากใบตาล” โดย คณุ แมป่ ระทุม หน่อคำ� @ตำ�บลบ้านหลวง อำ�เภอจอมทอง จังหวดั เชียงใหม่ ข้อมูลครูภูมปิ ัญญา คุณแม่ประทมุ หน่อค�ำ เกดิ วันท่ี 16 กุมภาพนั ธ์ 2494 อายุ 68 ปี เบอรโ์ ทรตดิ ต่อ 089-635-9783 “ก่องข้าว” คอื ภาชนะใส่ข้าวเหนยี วนง่ึ ของชาวภาคเหนือ ซึ่งในภาคอีสานจะเรียกว่า กระต๊ิบข้าว ส่วนภาคกลางจะเรียกว่ากล่องใส่ ข้าวเหนยี ว กอ่ งขา้ ว เปน็ งานภมู ปิ ญั ญาจกั สานทท่ี �ำ จากวสั ดธุ รรมชาติ เช่น ใบตาล ใบลาน ใบจาก และไม้ไผ่ เป็นของใช้ประจ�ำบ้านที่นิยมต้ังแต่ สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน เน่ืองจากราคาไม่แพง น�ำ้ หนกั เบา ระบายอากาศและไอนำ�้ ได้ดี ท�ำให้ ขา้ วเหนยี วไม่แฉะ และมอี ายกุ ารใช้งานทค่ี มุ้ คา่ กบั ราคา คือ หากใช้งานทกุ วนั จะสามารถใช้ได้ 108

นานถึง 2-3 เดอื น นอกจากนย้ี ังสามารถน�ำไป การสานก่องข้าวจากใบตาล ได้สร้าง ใช้เกบ็ เมลด็ พนั ธ์พุ ชื เก็บของชน้ิ เล็ก ๆ หรอื น�ำ รายได้เสริมให้กับแม่ประทุมเป็นจ�ำนวนมาก มาประดับตกแต่งบ้านได้อกี ด้วย โดยแม่ประทุมได้ใช้เวลาว่างจากการรับจ้าง แม่ประทุม หน่อค�ำ คือหน่ึงในคลัง ซกั ผ้ามาสานก่องข้าวได้ประมาณ 50-60 ลูก ปัญญาผู้สูงอายุคนส�ำคัญท่ีท�ำหน้าที่สืบสาน ต่อสัปดาห์ และจะมีแม่ค้าท่ีในหมู่บ้านมารับ การท�ำกอ่ งขา้ วเหนยี วนง่ึ ไมใ่ หห้ ายไปจากสงั คม ซื้อราคาส่งลูกละ 10 บาท เพือ่ น�ำไปขายปลกี ไทยที่อยู่ในยุคของการใช้กระติกพลาสติกใส่ ทต่ี ลาดในตวั อ�ำเภอฮอด ข้าวเหนยี วแทนก่องข้าว ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา แม่ประทุม เล่าว่า สมัยก่อนน้ันพ่อกับ การสานก่องข้าวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ แม่จะยึดอาชีพสานข้าวก่องขายเพื่อเลี้ยงดู ชีวิตแม่ประทุม ซ่ึงไม่ใช่แค่เพียงสร้างอาชีพ ครอบครวั โดยจะออกไปหาใบตาลตามทงุ่ นาใน แตย่ งั สรา้ งความภาคภมู ใิ จใหก้ บั แมป่ ระทมุ ดว้ ย ชมุ ชนมาสานก่องข้าวขายให้กบั พ่อค้าคนกลาง เพราะในวันน้ีแม่ประทุมได้ท�ำหน้าท่ีเป็น จากนั้นพี่สาวจึงได้สืบสานภูมิปัญญานี้ต่อจาก วทิ ยากรแบ่งปนั ความรูส้ รู่ นุ่ ลูกหลาน ซงึ่ เปน็ พ่อแม่ ก่อนท่ีแม่ประทุมจะมาเรียนรู้กับพ่ีสาว เยาวชนในโรงเรียนศรีจอมทอง ท่ีมาเรียนรู้ อกี ที เรื่องราวภูมิปัญญาการสานก่องข้าวร่วมกับ ส�ำหรบั เทคนคิ ส�ำคญั ในการสานกอ่ งขา้ ว ผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุวัดพระธาตุ แมป่ ระทมุ เลา่ วา่ กอ่ นทจี่ ะสานกอ่ งขา้ ว ตอ้ งน�ำ ศรีจอมทอง โดยแม่ประทุมได้ท�ำหน้าที่น้ีมา ใบตาลไปชุบน�้ำให้ชุ่มชื้นก่อนเพื่อให้สานง่าย 2 ปแี ลว้ หากมโี อกาสแมป่ ระทมุ กจ็ ะท�ำหนา้ ที่ ใบไมแ่ ตกหกั ระหวา่ งสาน และหากนำ้� แหง้ กต็ อ้ ง น้ีต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสาน คอยพรมนำ�้ ไวต้ ลอดจนกวา่ จะสานเสรจ็ จากนนั้ ภูมิปัญญาไทยที่แสดงถึงวิถีชีวิตท่ีเรียบง่าย จงึ น�ำไปตากแดดจงึ จะเสร็จสน้ิ กระบวนการ และงดงามไมใ่ หส้ ญู หายไปตามกาลเวลา 109

110

ภมู ิปญั ญา “รักษาโรคด้วยยาสมุนไพร” โดย คณุ พ่ออินผ่าน จินาอิ @ตำ�บลบ้านแปะ อำ�เภอจอมทอง จังหวดั เชยี งใหม่ ขอ้ มูลครูภูมปิ ัญญา คณุ พอ่ อนิ ผา่ น จินาอิ เกิดปี พ.ศ. 2489 อายุ 73 ปี เบอร์โทรตดิ ตอ่ 081-796-8750 การน�ำ “ยาสมุนไพร” มาใช้ในการ รักษาโรค และอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เป็น ภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าที่สั่งสมและสืบทอด มาต้ังแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน เน่ืองจาก ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีรุ่มรวยภูมิปัญญา และมีพฤกษาสมุนไพรนานาพรรณ ท่ีสามารถ น�ำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ แต่การปรุงยาสมุนไพร จะต้องอาศัยความรู้ จากต�ำราท่ีได้รับการยืนยันความรู้ท่ีถูกต้อง และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้ปรุงยา 111

โดยผู้ปรุงยาต้องรู้สรรพคุณของยาสมุนไพร ยาสมุนไพรอีกคร้ัง และได้เข้าร่วมอบรมกับ แ ล ะ ต ้ อ ง รู ้ ว ่ า ก า ร รั ก ษ า อ า ก า ร เ จ็ บ ป ่ ว ย สมาคมชมรมหมอพน้ื บา้ น ผปู้ ระกอบโรคศลิ ปะ ด้วยโรคต่าง ๆ จะต้องใช้ยาสมุนไพรอะไรบ้าง แพทย์แผนโบราณ สถานพยาบาลเพ่อื บรรเทา สัดส่วนปริมาณเท่าไหร่ อีกทั้งยังต้องศึกษา ทุกข์จังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2548 เพ่ือเพิ่มพูน เร่ืองข้อควรระวังของยาสมุนไพรให้ดี เพื่อ ความรู้ให้มากขึ้น พร้อมท้ังน�ำต�ำราสูตร ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบข้าง ยาสมุนไพรของคุณตาไปให้พระสงฆ์ที่รู้จัก เคียงจากการใช้ยาสมุนไพรโดยไม่จ�ำเป็น ช่วยแปลออกมาเป็นภาษาไทย เพื่อน�ำความรู้ พอ่ อินผ่าน จนิ าอิ ผู้ปรุงยาสมนุ ไพร ภมู ปิ ญั ญาทง้ั หมดมาใช้ในการรกั ษาผ้ปู ่วย โดย (หมอยาสมุนไพร) หรือท่ีชาวบ้านเรียกกันว่า ในต�ำราน้ันจะประกอบด้วยความรู้ท่ีเป็นสูตร พอ่ หมอ คอื ผทู้ คี่ ลกุ คลอี ยกู่ บั สมนุ ไพรมาตงั้ แตเ่ ดก็ การท�ำยาสมนุ ไพรแก้โรคต่าง ๆ เช่น ยาแก้ลม เพราะคุณตาของพ่ออินผ่านเป็นหมอสมุนไพร ผดิ เดอื น ยาแกล้ มชกั ลมขน้ึ ยาแกร้ ดิ สดี วงทวาร เมอ่ื กลบั มาจากโรงเรยี นพอ่ อนิ ผา่ นกจ็ ะมาเรยี น ย า แ ก ้ โ ร ค ภู มิ แ พ ้ อ า ก า ศ ย า ล ด ไ ข มั น รู้เรื่องยาสมุนไพรกับคุณตา ช่วยคุณตาจัดยา ยาแกโ้ รคไมเกรน ยาสลายนว้ิ ยาชะลา้ งสารพษิ สมุนไพร ซึ่งในต่อมาคุณตาก็ได้เขียนต�ำรายา เปน็ ต้น สมุนไพรเป็นภาษาเมืองเอาไว้ และต�ำราเล่ม นนั้ ก็ได้กลายเป็นมรดกตกทอดมาสู่พ่ออนิ ผ่าน “ต�ำราของคุณตาท่ีได้มากว่า 20 ปี มี ในท่ีสุด การบอกสัดส่วนยาสมุนไพรท่ีจะต้องน�ำมา รกั ษาโรคแต่ละโรคละเอยี ดมาก เรากน็ �ำข้อมลู เมอ่ื ถงึ วยั ท�ำงาน พอ่ อนิ ผา่ นไดป้ ระกอบ ตรงนมี้ าใช้ในการรกั ษาคน อย่างเช่นคนไข้ราย อาชีพเป็นพ่อค้าขายของในตลาดนัด และ แรกเขาป่วยเป็นโรคหอบหืด ปกติจะไปพ่นยา ท�ำสวนผลไม้ จนวันเวลาผ่านไปหลายปี ทโี่ รงพยาบาล ตอนหลังมาเอายาสมุนไพรจาก พ่ออินผ่านจึงได้กลับมารื้อฟื้นความรู้เรื่อง เราไปรับประทานท�ำให้อาการดีขึ้น พออาการ 112

ดีข้ึนเขาก็พาพ่อแม่มารักษาด้วย ที่ผ่านมามี ในสวนหลงั บ้าน และในบางครง้ั กจ็ ะมคี นน�ำต้น คนไขม้ าใหเ้ รารกั ษาหลายราย บางคนกเ็ ปน็ โรค สมนุ ไพรมาให้ ท�ำใหม้ คี วามสะดวกสบายในการ ภูมิแพ้ ไซนัส ริดสีดวงทวาร ผังผืด โรคเก๊าท์ หายาสมนุ ไพรเพอ่ื ปรงุ ยามากขน้ึ โรคไต พอเขามารักษากับเรา เอายาสมุนไพร และนอกจากรักษาคนไข้ พ่ออินผ่าน ไปรบั ประทานแล้วเขาอาการดขี นึ้ หายจากโรค ยังได้เอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่มอบยาสมุนไพรแก่ผู้อ่ืน เราก็ดีใจ เราไม่ได้หวังรวย เร่ืองเงินเราเอา โดยไม่คดิ เงนิ โดยการต้มนำ�้ ยาสมุนไพรชะล้าง แค่พอดีไม่เอาเยอะ เอาแค่พอมีทุนไปปรุงยา สารพิษไปให้ผู้ที่มาร่วมงานสงฆ์น้�ำพระธาตุ เรื่อย ๆ” พ่ออนิ ผ่าน กล่าว ทีว่ ดั โชตกิ นุ สุวรรณาราม (หมูบุ่น) ทานฟรเี ปน็ ส�ำหรับการหาวัตถุดิบในการปรุงยา ประจ�ำด้วย สมุนไพร โดยปกติพ่ออินผ่านจะซื้อที่ร้านขาย ปัจจุบันพ่ออินผ่านเริ่มวางมือใน ยาสมุนไพร แต่ตัวยาบางอย่างก็หาพันธุ์ไม้ การรักษาผู้ป่วยด้วยยาสมุนไพรบ้างแล้ว สมุนไพรจากท่ีต่าง ๆ มาปลูกและขยายพันธ์ุ เนื่องจากอายุที่มากข้ึน แต่ที่ผ่านมาพ่ออิน ผ่านก็ได้ถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาเร่ือง ยาสมุนไพรให้กับผู้อื่นท่ีสนใจไปจ�ำนวน มาก ท้ังพระสงฆ์ บุคคลธรรมดา รวมไป ถึงบุคลากรและนักศึกษาทางการแพทย์ใน จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งน้ีเพราะพ่ออินผ่านมี ความต้องการให้ความรู้ภูมิปัญญาที่มีอยู่ ได้รับการสืบบทอดไปสู่คนรุ่นใหม่ โดยไม่ สญู หายไปตามกาลเวลา 113

ภมู ปิ ญั ญา “การยอ้ มฝา้ ยจากสหี นิ โมคคลั ลาน” โดย คุณแม่สมพร นันตะ๊ เล @ตำ�บลสบเต๊ียะ อำ�เภอจอมทอง จังหวดั เชียงใหม่ ข้อมูลครูภูมิปั ญญา คณุ แมส่ มพร นันต๊ะเล เกิดวันท่ี 20 กันยายน 2496 อายุ 66 ปี เบอร์โทรตดิ ต่อ 096-821-6897 ทห่ี มบู่ า้ นเชงิ ดอย ต�ำบลสบเตยี๊ ะ อ�ำเภอ จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มีหินในชุมชนท่ี สามารถน�ำมาเป็นวัตถุดิบในการย้อมสีฝ้าย ได้ ท้ังหินสีด�ำ หินสีชมพู และหินสีม่วง โดย จุดเริ่มต้นในการน�ำหินสีมาเป็นวัตถุดิบในการ ย้อมผ้าเกิดจากภูมิปัญญาของปราชญ์ชุมชนที่ ต้องการทดลองน�ำหินมาย้อมสี จากน้ันจึงได้ มีการพัฒนาการย้อมเรื่อยมาจนท�ำให้เกิดเป็น ผลิตภัณฑ์ผ้าทอที่มีสีจากธรรมชาติสวยงาม มีชื่อเสียงเป็นท่ียอมรับ โดยหินสีด�ำจะเป็นที่ 114

รู้จกั ในนาม “หนิ โมคคลั ลาน” ซึ่งเปน็ ชือ่ เดมิ “แม่ได้เทคนิคย้อมสีให้ติดดีมาจาก ของหมู่บ้านเชิงดอย การท่ียางกล้วยเคยตกใส่เสื้อของตาแล้วซัก แมส่ มพร นนั ตะ๊ เล คอื ปราชญช์ าวบา้ น ไม่ออก จึงคิดว่ายางกล้วยน่าจะช่วยจับสีได้ดี ผู้คิดค้นการย้อมฝ้ายด้วยหินโมคคัลลาน แต่ เลยน�ำยางกล้วยมาทดลองผสมกับสีหิน ซึ่งก็ เดิมทีแม่สมพรเป็นเกษตรกรที่หันมาให้ความ ปรากฏว่าก็ช่วยให้สตี ดิ ดมี าก” แม่สมพร กลา่ ว สนใจเรื่องการย้อมผ้า โดยในปี พ.ศ.2538 การเก็บหินสีจากข้างทางแต่ละครั้ง แม่สมพรได้ศึกษาเรื่องการย้อมผ้าด้วยสีเคมี แม่สมพรจะตักหินมาเก็บไว้ทีละประมาณ 20 ก่อนท่ีจะหันมาศึกษาการย้อมฝ้ายจากสี กระสอบ โดยการย้อมสีฝ้ายแต่ละคร้ังจะใช้ ธรรมชาติ โดยในยุคแรก ๆ ได้มีการย้อมสจี าก หนิ ด�ำจ�ำนวน 25 กโิ ลกรมั จากนนั้ สามารถใช้ เปลอื กไมก้ อ่ น ตอ่ มาในปี พ.ศ.2557 จงึ ไดค้ ดิ เรมิ่ ย้อมซ�้ำได้แต่ต้องเติมหิน โดยคร้ังท่ี 2 จะเติม ย้อมฝ้ายด้วยหนิ ด�ำ ซงึ่ เปน็ หนิ ดนิ ดานทม่ี ีอยู่ใน หินจ�ำนวน 20 กิโลกรัม คร้ังท่ี 3 เติมหิน 15 ชมุ ชนทไี่ ดจ้ ากการระเบดิ หนิ เพอ่ื ท�ำถนนบรเิ วณ กิโลกรัม เมื่อสีเริ่มจางก็เริ่มต้นใหม่ คือใช้หิน หมู่บ้านเชงิ ดอย โดยแม่สมพรคอื ผ้ทู ค่ี ดิ ค้นและ ใหม่ท้งั หมด 25 กโิ ลกรมั โดยแม่สมพรได้เล่า สร้างสรรค์การย้อมฝ้ายจากวัตถุดิบท่ีเป็นหิน ขน้ั ตอนการเตรยี มการและการยอ้ มฝา้ ยดว้ ยหนิ ในชุมชนรายแรก แต่การย้อมสีฝ้ายด้วยหินสี ด�ำว่า ด�ำเพียงอย่างเดียวจะท�ำให้สีติดฝ้ายไม่ค่อย อันดับแรกต้องเตรียมฝ้ายเส้นยืน 48 ดีนัก แม่สมพรจึงได้คิดค้นหาวิธีที่จะช่วยให้สี ใจ ฝ้ายสอด 120 ใจ (เส้นฝ้ายปรมิ าณเท่านี้ จะ ติดฝ้ายดียิง่ ขึ้น โดยการน�ำต้นกล้วยมาหน่ั และ สามารถทอผ้าหน้ากว้างขนาด 40 เซนติเมตร ต�ำให้แหลกผสมกับน�้ำ ก่อนท่ีจะคั้นเอาน�้ำยาง ได้ 80 เมตร) โดยน�ำเส้นฝ้ายไปแช่น้�ำ 1 คืน กลว้ ยมาผสมกบั สหี นิ ปรากฏวา่ ท�ำใหส้ ตี ดิ ดขี น้ึ จากน้นั น�ำไปต้มในน้�ำเดอื ด 30 นาทเี พอ่ื ล้างไข และสีไม่ตก มนั ออกจากเส้นฝา้ ย เสรจ็ แลว้ บดิ ฝา้ ยให้หมาด 115

เตรียมพร้อมส�ำหรบั การย้อมสแี บบเย็น กอ่ นทจี่ ะน�ำไปใหก้ ลมุ่ แปรรปู ผลติ ภณั ฑ์ตดั เยบ็ ในส่วนของการเตรียมน้�ำย้อมสี ต้อง เปน็ ชดุ หรอื ผ้าถงุ ต่อไป น�ำหินสีด�ำไปบดให้แหลกแล้วร่อนเอาแต่ แม่สมพรเปิดเผยว่าแต่ละเดือนจะ ฝนุ่ ละเอยี ดจ�ำนวน 25 กโิ ลกรมั ผสมนำ�้ 60 ลติ ร ย้อมฝ้ายตามค�ำส่ังซ้ือ ประมาณ 15-50 ใหไ้ ดน้ ำ�้ สหี นิ จากนนั้ จงึ หน่ั ตน้ กลว้ ยเปน็ ชนิ้ เลก็ ๆ ผืน โดยจะย้อมสีฝ้าย 3 สี คือ สีเทาจาก ต�ำใหแ้ หลกแลว้ ชงั่ ใหไ้ ดน้ ำ�้ หนกั 5 กโิ ลกรมั ผสม หินโมคคัลลาน สีชมพูอ่อนจากหินสีชมพู นำ้� 2 ลติ ร คน้ั เอาแตน่ ำ�้ ยางกลว้ ยแลว้ น�ำไปผสม และสีม่วงอ่อนจากหินสีม่วง (สีชมพูอ่อน กบั นำ้� สหี นิ กับสีม่วงอ่อนจะใช้ยางมะตูมช่วยในการ ข้ันตอนการย้อม เริ่มจากน�ำเส้นฝ้าย จับสีแทนยางกล้วย เน่ืองจากจะได้สีท่ี ท่ีเตรียมไว้ลงไปแช่ในน�้ำสีหินที่ผสมกับน�้ำยาง สดกว่า) กล้วยในภาชนะ จากน้ันใช้เท้าย่ำ� เส้นฝ้ายในนำ้� ปัจจุบันแม่สมพรได้มีการถ่ายทอด ย้อมนาน 2 ชั่วโมงเพื่อให้สีติดดี ก่อนท่ีจะบิด ความรู้เรื่องการย้อมฝ้ายสีหินด�ำให้กับผู้ท่ี นำ้� ออกจากเส้นฝ้าย และน�ำเส้นฝ้ายไปหมกั ใน สนใจท่ีมาดูงาน ซึ่งจะมีท้ังนักศึกษาและ ถุง 1 คืน เม่ือหมกั ครบก�ำหนดแล้วจงึ ล้างนำ�้ ให้ ชาวตา่ งชาตทิ ง้ั ชาวยโุ รปและเอเชยี เชน่ องั กฤษ สะอาด 3 ครง้ั โดยในนำ้� สดุ ทา้ ยใหใ้ สส่ ารสม้ ลง ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยแต่ละเดือนจะมีคณะบุคคล ไปเล็กน้อยเพ่ือให้สีของฝ้ายสดมากขึ้น ก่อนท่ี มาดูงาน/ทดลองย้อมสีผ้าด้วยตัวเองประมาณ จะน�ำไปแช่นำ้� ยาปรับผ้านุ่ม และน�ำไปตากแห้ง 1-3 ครง้ั เมื่อฝ้ายแห้งแล้ว แม่สมพรก็จะเตรียม “รู้สึกดีใจมากที่มีนักศึกษามาขอดู ทกุ อย่างไว้ให้พร้อมส�ำหรบั การทอ โดยลกู สาว ภูมิปัญญาของเรา เราก็อยากเผยแพร่ จะท�ำหน้าท่ีทอผ้าออกมาเป็นผืน เม่ือทอเสร็จ ภูมิปัญญาน้ีไว้ไม่ให้มันสูญหาย ส่วนเรื่อง จึงน�ำไปซักฟอกให้สีผ้ามีความสม�่ำเสมอกัน การสืบทอดตอนน้ีมีหลานชายที่ก�ำลังเรียน 116

ด้านเกษตร อายุ 21 ปี เขาสนใจด้านการ ผคู้ นทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ เกดิ เปน็ ย้อมผ้า ช่วงวันหยุดก็จะมาช่วยย�่ำ ช่วย เอกลักษณท์ ่ที กุ คนต่างก็ยอมรบั และแม้วา่ เหยียบฝ้าย ร่อนหินให้ยาย ท่ีผ่านมารู้สึก ในวันนี้แม่สมพรจะมีอายุ 66 ปีแล้ว แต่ ภูมิใจท่ีเราหาเงินใช้เองได้ มีรายได้ มีชื่อ แม่สมพรก็ยังคงท�ำงานย้อมผ้าจากสีหินที่ เสียง มีแขกบ้านแขกเมืองมาดูงานเป็น ตัวเองเป็นคนคิดค้นอยู่เสมอ นอกจากน้ี ประจ�ำ” แม่สมพร กล่าว แมส่ มพรกย็ งั มคี วามสขุ กบั การสง่ ตอ่ ความรู้ จากความคิดสร้างสรรค์ และความ ภูมิปัญญาให้กับผู้อื่น โดยท่ีไม่เคยหวงวิชา กล้าในการทดลองท�ำสิ่งใหม่ ๆ ได้ท�ำให้สี แมแ้ ตน่ อ้ ย เพราะการใหค้ วามรคู้ อื ความสขุ จากหินโมคคัลลาน ได้รับการสนใจจาก อกี รูปแบบหน่งึ ในชวี ิตของแมส่ มพร 117

จงั หวัดราชบรุ ี 118

ราชบุรี 119

คุณแมว่ ลัยรตั น์ ทรัพย์คริ ี “คนดีศรรี าชบรุ ”ี @ตำ�บลหนา้ เมือง อำ�เภอเมอื ง จังหวดั ราชบรุ ี ข้อมูลครูภูมิปั ญญา คณุ แมว่ ลัยรัตน์ ทรัพยค์ ิรี เกดิ วนั ท่ี 15 เมษายน 2477 อายุ 85 ปี เบอรโ์ ทรตดิ ต่อ 081-890-8949 คุณแม่วลัยรัตน์ ทรัพย์คิรี นักธุรกิจ คนส�ำคัญในจังหวัดราชบุรี ประกอบธุรกิจ ต่าง ๆ มากมาย เช่น ธรุ กจิ โรงแรมในนามเครอื เมธากรุ๊ป (โรงแรมเมธาวลัย ชะอ�ำ จังหวัด เพชรบุรี และโรงแรมเมธาวลัย เรสซิเดนซ์ กรุงเทพมหานคร) ธุรกิจร้านอาหารในนาม ภัตตาคารเมธาวลัยศรแดง กรุงเทพมหานคร และธุรกิจพัฒนาที่ดินในนามผู้ร่วมทุนด�ำเนิน ธรุ กจิ หา้ งสรรพสนิ คา้ โรบนิ สนั เมธาวลยั จงั หวดั ราชบุรี และบทบาทผู้น�ำการพัฒนาสังคม 120

ที่ส�ำคัญคือเป็นผู้ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการท�ำงาน มแี นวคิดว่า “เวลาทำ� งานใจต้องใหญ่ แต่จติ สงั คมมานานกวา่ 50 ปี โดยไมร่ จู้ กั เหนด็ เหนอ่ื ย ตอ้ งเลก็ ” หมายถงึ ตอ้ งกลา้ คดิ กลา้ ท�ำ อดทน คุณแม่วลัยรตั น์ เกดิ ท่ามกลางความรัก ไมท่ อ้ ถอย และตอ้ งคดิ ค�ำนวณใหล้ ะเอยี ดถถ่ี ว้ น ความอบอนุ่ ของครอบครวั คนจนี ขนาดใหญท่ มี่ ี รอบคอบ ส่วนการใช้ชีวิตคุณแม่จะมีคติธรรม พนี่ อ้ งรวมกนั 2 แม่ จ�ำนวน 17 คน ซง่ึ คณุ แมเ่ อง ท่ียึดม่ันมาโดยตลอดคือ “ความดี เป็นการ ไดร้ บั การปลกู ฝงั จากครอบครวั เรอ่ื งความขยนั ลงทนุ เพยี งสงิ่ เดยี วเทา่ นนั้ ทไ่ี มม่ วี นั ขาดทนุ ” และความมุ่งมน่ั ตงั้ แต่เดก็ โดยได้รบั มอบหมาย ส่ิงส�ำคัญในชีวิตที่คุณแม่วลัยรัตน์ได้ ให้ช่วยพ่อแม่ท�ำงานค้าขายมาโดยตลอด จน ทุ่มเทท�ำด้วยหัวใจ คือการท�ำงานด้านสังคม กระท่งั อายุ 22 จงึ ได้แต่งงานมคี รอบครัว และ ควบคกู่ บั การท�ำธรุ กจิ โดยคณุ แมไ่ ดเ้ รม่ิ ท�ำงาน แยกตัวออกมาท�ำธุรกิจกับสามี (คุณจงเมธ จิตอาสาตง้ั แต่อายุ 18 ปี และแม้ว่าปจั จุบันจะ ทรพั ยค์ รี )ี ทงั้ ธรุ กจิ ตลาดเมอื งทองเซน็ เตอรพ์ อ้ ยท์ อายุ 85 ปีแล้ว คุณแม่วลยั รตั น์กย็ งั คงรักท่จี ะ โรงงานโอ่งมังกร ดินทอง 1 และดินทอง 2 ท�ำงานสงั คมไม่เสอ่ื มคลาย โรงภาพยนตร์คีรีทองเธียเตอร์ และธุรกิจ ที่ผ่านมาคุณแม่วลัยรัตน์ได้สร้างหอ พัฒนาที่ดิน จนเกิดเป็นธุรกิจโรงแรม ประชาคมราชบุรี โรงเจ ถนน สุขศาลา เป็น หา้ งสรรพสนิ คา้ และภตั ตาคารดงั ทกี่ ลา่ วมาขา้ งตน้ นายกก่อต้ังสโมสรโรตารีพลอยราชบุรี ในปี คุณแม่วลัยรัตน์เป็นบุคคลท่ีด�ำเนิน พ.ศ.2549 เป็นเลขาธิการเหล่ากาชาดจังหวัด ชีวิตโดยการใช้ความคิดวิเคราะห์พิจารณา ราชบุรีต่อเน่ืองยาวนานกว่า 40 ปี ตั้งแต่ปี ส่ิงต่าง ๆ อย่างละเอยี ดประณีต และชอบถอด พ.ศ.2518 – 2559 ซึ่งนับว่าเป็นเลขาธิการ บทเรียนแนวคิดประสบการณ์รวมทั้งคติธรรม เหล่ากาชาดที่ด�ำรงต�ำแหน่งยาวนานมาก ส�ำหรับใช้สอนใจบุตรหลานรวมถึงบุคคลอ่ืน นอกจากน้ีคุณแม่วลัยรัตน์ยังมีโอกาสส่งเสริม อยู่เสมอ เช่น เรื่องการท�ำงาน คณุ แม่วลัยรัตน์ การทอผ้าตีนจกให้กับชาวบ้านผู้ทอผ้าตีนจก 121

รุ่นบกุ เบิก โดยการออกเงินส่วนตัวซื้อเส้นฝ้าย ประธานพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี โดย จากโรงงานให้ชาวบ้านน�ำมาทอ จากน้ันได้มี คุณแม่วลัยรัตน์ได้มีส่วนร่วมในการหาทุนเพื่อ โอกาสน�ำผ้าทอถวายสมเด็จพระเทพฯ เมอ่ื 30 ซ่อมแซมอาคารตึกสงฆ์ สร้างอาคารอุบัติเหตุ กว่าปีท่ผี ่านมา ฉกุ เฉนิ ปรบั ปรงุ หอ้ งกายภาพบ�ำบดั ฯลฯ อกี ทง้ั “ดิฉันมีโอกาสได้ถวายผ้าทอให้สมเด็จ ยงั ไดร้ บั การแตง่ ตง้ั จากทา่ นผวู้ า่ ราชการจงั หวดั พระเทพฯ ไป 1 ผืน ซึ่งท่านพอพระทัยมาก ราชบุรี ในการเป็นประธานหาทุนฝ่ายเอกชน และใหท้ างวงั ตดิ ตอ่ ประสานงานใหด้ ฉิ นั นดั ชา่ ง เพื่อเข้ากองทุนโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ของ ทอผ้า 3 คนเข้ามาสอนการทอผ้าตีนจกในวัง คุณตูน บอดส้ี แลม โดยคณุ แม่ก็ได้ร่วมบรจิ าค เปน็ เวลา 4 เดือน จากน้ันท่านกไ็ ด้พระราชทาน เงนิ ในโครงการน้ดี ้วย สร้อยคอทองค�ำหนัก 2 บาทให้ช่างทอด้วย ยังมีงานเพ่ือสังคมอีกมากมายท่ี คนละ 1 เส้น” คณุ แม่วลัยรัตน์ เล่าความหลัง คุณแม่วลัยรัตน์ได้ท�ำด้วยความทุ่มเท และ ท่ปี ระทับใจ ความดีงามนี้ได้ส่งเสริมให้คุณแม่ได้รับเคร่ือง และด้วยความชอบสวมใส่ผ้าทอตีนจก ราชอิสริยาภรณ์จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผนวกกับบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ ท�ำให้ผ้าทอ มหาวชิราลงกรณ์ “ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ ตนี จกมคี วามโดดเดน่ และไดร้ บั ความสนใจจาก ชั้นสายสะพาย” รวมท้ังได้รับโอกาสในการ สงั คมมากขน้ึ ในเวลาตอ่ มาหลายองคก์ รจงึ เกดิ เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อรับ แรงบันดาลใจในการน�ำผ้าทอตีนจกมาตัดเย็บ พระราชทานน�้ำพระมหาสังข์ ในโอกาสอายุ เป็นชุดยูนิฟอร์มขององค์กรซึ่งได้สร้างความ ครบ 7 รอบ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ภาคภมู ิใจแก่คณุ แม่วลยั รัตน์เปน็ อย่างมาก จตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ชนั้ 4 ปี ในปี พ.ศ. 2522 งานสงั คมอกี งานหนงึ่ ซง่ึ สรา้ งคณุ ประโยชน์ รวมท้ังได้รับเหรียญตรา โล่และใบประกาศ ให้คนราชบุรีมากก็คือ การด�ำรงต�ำแหน่ง เกียรตคิ ุณต่าง ๆ ทั้งหมดน้ีคือความภาคภมู ใิ จ 122

ของวงศ์ตระกูล แต่รางวัลที่ส�ำคัญเหนือส่ิง อ่ืนใดส�ำหรับคุณแม่วลัยรัตน์ก็คือการได้รับ “ความสขุ ” จากการท�ำงานเพอ่ื สงั คมดว้ ยหวั ใจ น่คี อื ความภาคภูมใิ จอันหาทเ่ี ปรยี บไม่ได้ “ที่เราทุ่มเทให้กับงานเพื่อสังคม เพราะมันคือความสุขของเรา แล้วเราก็รัก ที่จะท�ำไปเรื่อย ๆ การท�ำความดีเป็นการ ลงทุนที่ไม่มีวันขาดทุน ถ้าคุณท�ำคุณจะ รู้สึกสบายใจ มีความสุข และจะรู้สึกหาย เหนอื่ ย” คุณแม่วลยั รตั น์ กล่าวท้งิ ท้าย 123

ภูมปิ ัญญา “การแตง่ เพลง ร้องเพลง” โดย คณุ พ่อบุญสง่ ปอ้ มเช้า @ตำ�บลพงสวาย อำ�เภอเมือง จงั หวดั ราชบุรี ข้อมูลครูภมู ิปัญญา คเกณุ ดิ วพนั อ่ ทบ่ี ุญ2 สพ่งฤษป้ภอามคเชม้า 2492 อายุ 70 ปี เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 086-766-8623 พ่อบุญส่ง ป้อมเช้า เดิมทีเป็นคน จงั หวดั สมทุ รสาคร เปน็ บคุ คลทมี่ คี วามสามารถ หลากหลายดา้ น ทงั้ การรอ้ งเพลง การแตง่ เพลง การท�ำขวัญนาค ฯลฯ มีความช่ืนชอบการร้อง เพลงและการแสดงออกต่าง ๆ ท้ังการร�ำวง การเต้น และการเล่นลิเกต้ังแต่เด็ก โดยหัด ร้องเพลงและร้องลิเกต้ังแต่อายุ 14 ปี อีกท้ัง ยังประกวดร้องเพลงตามเวทีต่าง ๆ ภายใต้ การสนบั สนุนของครอบครวั 124

หลังจากท่ีเรียนจบชั้นประถมศึกษา และการแต่งเพลงอยู่เสมอ ปีที่ 4 พ่อบญุ ส่งกเ็ รม่ิ ท�ำงานหารายได้ โดยผ่าน ชีวิตที่ผ่านมาพ่อบุญส่งได้มีโอกาส ประสบการณ์การท�ำงานหลากหลายอาชพี ทงั้ ท�ำงานอยู่หลายจังหวัด เคยเป็นนักร้องให้กับ การท�ำตาลมะพร้าว ท�ำรับเหมาก่อสร้าง เป็น ร้านดวงนภา ท่ีแม่กลอง จังหวดั สมทุ รสงคราม นักการภารโรง รับจ้างขุดดินถางหญ้าและท�ำ ต่อมาได้ย้ายมาร้องเพลงที่ร้านดวงใจคาเฟ่ สวน ประกอบกบั รบั งานรอ้ งเพลงในรา้ นอาหาร มหาชยั จงั หวดั สมทุ รสาคร แลว้ จงึ ยา้ ยมาทร่ี า้ น รอ้ งเพลงรว่ มกบั แตรวงในงานบวช งานแตง่ งาน ฟู๊ดเซ็นเตอร์ และมาเป็นผู้จัดการร้านอาหาร แต่งเพลง (ท่ีผ่านมาแต่งเพลงมากถงึ 40 - 50 ท่ีร้านนิวทานทอง ก่อนที่จะย้ายมาท�ำงานที่ เพลง) ท�ำขวัญนาค ตั้งศาลพระภูมิ และเป็น ร้านเจ้าพระยากุ้งเผา จังหวัดนนทบุรี ต่อด้วย พธิ กี รงานต่าง ๆ ควบคู่กนั ไปด้วย มาท�ำงานท่ีตลาดพูลทรัพย์ จังหวัดปทุมธานี เร่ืองการท�ำขวัญนาคพ่อบุญส่งเล่าว่า และล่าสุดย้าย มาท�ำงานท่ีจังหวัดราชบุรี เรียนกับหมอท�ำขวญั นาคตง้ั แต่อายุ 15 ปี และ เมื่อปี 2560 (บ้านเกดิ ภรรยา) ฝึกฝนหาความร้เู พมิ่ เตมิ เรอื่ ยมาเปน็ เวลา 10 ปี เม่ือย้ายมาอยู่จงั หวดั ราชบรุ ี พ่อบุญส่ง จนเกดิ ความช�ำนาญ จากนน้ั จึงรบั งานเร่อื ยมา ยังคงร้องเพลงและแต่งเพลงในโอกาสต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2561 ท่ีผ่านมา อยเู่ สมอ เมอ่ื ได้มาเข้าร่วมชมรมผ้สู งู อายตุ �ำบล พ่อบุญส่งเล่าว่าได้รับงานท�ำขวัญนาคมากถึง พงสวาย พ่อบุญส่งก็ได้สร้างความสุขให้กับ 20 กว่างาน สมาชกิ ทกุ คนด้วยเสยี งเพลง ส่วนการร้องเพลงและการแต่งเพลง พอ่ บญุ สง่ ไดร้ อ้ งเพลงทแ่ี ตง่ ใหก้ บั ชมรม พ่อบญุ ส่งเปน็ คนใฝ่รู้ แม้ว่าจะมีพรสวรรค์ด้าน ผู้สูงอายุต�ำบลพงสวายให้ฟัง โดยบทเพลงมี การร้องเพลงอยู่แล้ว แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไป เนือ้ หาที่น่าสนใจดังน้ี ศกึ ษาหาความรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะการรอ้ งเพลง 125

“พี่น้องหญิงชายบ้างพงสวาย ผู้เฒ่า เรอ่ื งหวั ใจเรามาเดนิ ออกกำ� ลงั กายโคกหมอ้ แม่ อยากถามคนเก่า ๆ ทานข้าววันละก่ีมื้อ บอก พ่อมารวมกนั เดนิ วงิ่ วง่ิ วง่ิ ว่งิ ” มาจริง ๆ ท้งั ชายและหญิงอย่ามัวดอ้ื ผมอยาก บทเพลงและน้�ำเสียงร้องอันไพเราะ จะถามซอ่ื ๆ ทานข้าวกนั บ้างหรอื ยงั ต่นื เช้ามา ของพ่อบุญส่งคือความสุขที่สามารถส่งต่อ ทา่ นนงั่ หรอื วา่ ทา่ นนอน ไปนงั่ ไปกอดหมอนหรอื ไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม ทกุ คนทมี่ โี อกาสไดฟ้ งั แมเ่ นอ้ื ออ่ น ไปวง่ิ ใหเ้ ขาเชอื่ ถอื ไปวงิ่ ตามซอยได้ จะเกิดความประทับใจและมีรอยย้ิม ออกก�ำลงั กายไม่ต้องถอื ไปซอยนซ้ี อยนั้น เอา พริ้มพรายเกิดข้ึนบนใบหน้าเพียงเพราะ ค�ำเล่ืองลือเราไปชวนเพ่ือนวิ่งออกก�ำลังกาย ไดย้ นิ เสยี งใส ๆ ทร่ี อ้ งออกมาจากใจของพอ่ แก่เจ็ดสิบแปดสิบเราไม่ต้องอะไรเรามาวอร์ม บญุ สง่ และนค่ี อื ความสขุ อนั แสนเรยี บงา่ ยท่ี ร่างกายแล้วเราก็ไปให้เต็มที่ ซอยห้าซอยหก พอ่ บญุ สง่ ไดส้ ง่ ตอ่ ใหก้ บั ผอู้ น่ื ในทกุ โอกาส ซอยสบิ คนชอื่ ดศิ เขากใ็ ชย่ อ่ ย ไปซอยเกา้ ลกู เขา ชื่ออะไรรู้ไหมพ่ี กช็ ่อื คุณจำ� ปีไปชวนวง่ิ กัน...” . จากน้ันพ่อบุญส่งจึงได้ร้องเพลงที่แต่ง ให้กับชมรมผู้สูงอายุต�ำบลโคกหม้อให้ฟัง โดย มีเนอ้ื หาดังต่อไปน้ี “พน่ี อ้ งโคกหมอ้ แมพ่ อ่ จงจำ� ไว้ ตนื่ ขน้ึ มา ทำ� อะไร ออกกำ� ลงั กายหรอื ไมน่ อ้ งพี่ อยา่ มวั นง่ั เฉยเมินกัน มันไม่ดี ร่างกายไม่แข็งแรงน้องพี่ หมู่สามหมู่ส่ีมาปรับปรุงตัว เราไปชวนกันและ หมเู่ กา้ หรอื หมอู่ ะไรกด็ เี ราโคกหมอ้ รวมตวั กนั สิ เราแก่ป่านน้จี ะท�ำอะไรไม่ต้องว่งิ วนให้มนั ลุ้น ๆ 126

127

ผศ.ดร.ววิ รรธน์ จันทร์เทพย์ อาจารย์ผูท้ ่มุ เทชวี ิต เพอ่ื พัฒนาผ้อู ืน่ ท้งั ทางโลกและทางธรรม @ตำ�บลหนา้ เมอื ง อำ�เภอเมอื ง จังหวัดราชบุรี ข้อมูลครูภูมปิ ัญญา ผศ.ดร.วิวรรธน์ จนั ทร์เทพย์ เกดิ วนั ท่ี 30 กรกฎาคม 2496 อายุ 66 ปี เบอรโ์ ทรติดตอ่ 089-744-5594 ผศ.ดร.วิวรรธน์ จันทร์เทพย์ อดีต อาจารยส์ าขาวชิ าเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมการ ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง คือบุคคลที่ทุ่มเทชีวิตและการ ท�ำงานเพอื่ พฒั นาผอู้ น่ื ทง้ั ทางโลกและทางธรรม จุดเร่ิมต้นชีวิตและการท�ำงานของ อาจารย์วิวรรธน์เริ่มต้นจาก “บ้าน” อาจารย์ มีคุณพ่อเป็นครูสอนศิลปะที่คอยปลูกฝังเรื่อง การท�ำงานและการสร้างความดีมาต้ังแต่เด็ก 128

ท�ำให้อาจารย์วิวรรธน์กลายเป็นเด็กกิจกรรม วชิ าการศกึ ษา (มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ ที่ขยันท�ำงานช่วยครอบครัว เมื่อเติบโตเป็น ในปัจจุบัน) ก่อนที่จะกลับมาก่อต้ังสาขา นกั ศกึ ษากอ็ าสาท�ำงานใหก้ บั ผอู้ น่ื มาโดยตลอด วิชาศิลปศึกษาที่วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ทงั้ การอาสาเปน็ หัวหน้านักศึกษา หัวหน้าห้อง ในปี 2522 จากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อระดับ สมุด หัวหน้าหอพักนักศึกษาใหม่ รวมไปถึง ปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิชา หวั หน้าผู้ดแู ลเคร่อื งดนตรี อาจารย์ววิ รรธน์รับ เอกเทคโนโลยีการศึกษาและวิชาเอกโสต ผิดชอบหน้าที่เหล่าน้ีอย่างดีจนกระท่ังเรียนจบ ทัศนะศึกษา และกลับมาเขียนหลักสูตรก่อต้ัง ประกาศนยี บตั รวชิ าการศกึ ษาชนั้ สงู ที่ โรงเรยี น สาขาวิชาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา ราชวทิ ยาลยั (มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บ้านสมเด็จ ที่วิทยาลยั ครูจอมบงึ ในปี 2538 เจา้ พระยา) และบรรจเุ ขา้ รบั ราชการทว่ี ทิ ยาลยั อาจารย์วิวรรธน์เป็นคนที่จริงจังต่อ ครหู มบู่ า้ นจอมบงึ (มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ า้ น การท�ำงาน และมีจิตวิญญาณของความเป็น จอมบึง) ครูอย่างเต็มเปี่ยม ท่ีผ่านมาอาจารย์ได้หา เม่ือเริ่มท�ำงานมีเงินเดือน อาจารย์ หนทางช่วยเหลือนักศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะ วิวรรธน์ได้ทุ่มเทชีวิตกับการสอนนักศึกษา และสะสมประสบการณ์อย่างเต็มที่ เช่น หาก และการดูแลนักเรียนทุนโครงการพิเศษของ นักศึกษาสนใจท�ำงานเอกชน อาจารย์ววิ รรธน์ วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ที่อยู่ในกลุ่มดนตรี จะส่งนักศกึ ษาไปฝึกงานในช่วง Summer ทุกปี วงเครื่องสายมโหรีท่ีอาจารย์จัดตั้งข้ึน โดยน�ำ ตง้ั แต่ปี 1 จนถงึ ปี 4 เพอ่ื ให้มพี นื้ ฐานการท�ำงาน เงินเดือนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซ้ืออาหารเย็น ติดตัวไว้ต้ังแต่ยังเรียนไม่จบ ส่วนนักศึกษา เพ่ือดูแลเดก็ ประมาณ 19 คน อยู่หลายปี คนไหนที่ต้องการเรียนต่อระดับปริญญาโท ต่อมาอาจารย์วิวรรธน์ได้เข้าศึกษาต่อ และปริญญาเอก อาจารย์วิวรรธน์ก็จะขอให้ ระดบั ปรญิ ญาตรี วชิ าเอกศลิ ปศกึ ษาทวี่ ทิ ยาลยั เพื่อนสนิทชาวต่างชาติมาสอนภาษาอังกฤษให้ 129

โดยไม่คดิ ค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเลง็ เหน็ ว่าภาษา รวบรวมสมาชกิ ทเี่ คยเขา้ รบั การศกึ ษาหลกั สตู ร อังกฤษคือพ้ืนฐานส�ำคัญต่อการศึกษาต่อ สมาธกิ บั สถาบนั พลงั จติ ตานภุ าพในแตล่ ะรนุ่ มา นอกจากนย้ี งั พานกั ศกึ ษาท�ำกจิ กรรมตา่ ง ๆ เพอ่ื ท�ำกจิ กรรมปฏบิ ตั ธิ รรมรว่ มกนั ทกุ เดอื น รวมทงั้ ฝกึ ทกั ษะการท�ำงาน และปลกู ฝงั เรอ่ื งการท�ำงาน ท�ำหนา้ ทเ่ี ปน็ วทิ ยากรจติ อาสา อบรมใหค้ วามรู้ จติ อาสา เชน่ การท�ำปา้ ยคทั เอาท์ การสกรนี เสอ้ื เรอื่ งการพฒั นาจติ แกบ่ คุ คลทสี่ นใจ ทงั้ พระสงฆ์ และหมวก รวมท้งั ถ่ายรูป / วดี ีโอ งานจอมบงึ นักเรียนและคุณครูในสถานศึกษาต่าง ๆ มา มาราธอน โดยอาจารยว์ วิ รรธนจ์ ะเปน็ ผอู้ อกคา่ โดยตลอด ซ่ึงงานด้านการเผยแพร่ค�ำสอนของ ใชจ้ า่ ยดา้ นอาหารและเครอื่ งดม่ื ใหก้ บั นกั ศกึ ษา พระพุทธศาสนา คืองานท่ีอาจารย์วิวรรธน์ ระหว่างการท�ำงาน ท�ำแล้วมีความสุข จึงได้ต้ังปณิธานไว้ว่าจะ นอกจากชีวิตการเป็นอาจารย์ผู้พัฒนา ท�ำงานเผยแพร่ค�ำสอนของพระพุทธศาสนา นักศึกษาในทางโลกแล้ว อาจารย์วิวรรธน์ยัง อย่างต่อเน่อื งเรอ่ื ยไปตราบจนส้นิ ลมหายใจ อุทิศตนให้กับการศึกษาและเผยแพร่ค�ำสอน “ส่ิงที่ผมอยากท�ำต่อไปในอนาคตก็ ธรรมะของพระพุทธศาสนาด้วย โดยหลังจาก คือ อยากท�ำให้มนุษยชาติเข้าถึงความจริง ท่ีเกษียณอายุราชการ อาจารย์วิวรรธน์ได้ ของชีวิต อยากให้ผู้คนได้เห็นความจริงที่ มีโอกาสเรียนหลักสูตรสมาธิที่สถาบันพลัง พระพุทธเจ้าสอน ผมว่างานน้ีเป็นงานที่ จติ ตานภุ าพจนเกดิ ความซาบซงึ้ และศรทั ธาตอ่ ส�ำคัญท่ีสุด เป็นส่ิงดี ๆ ที่มนุษยชาติควรรู้ ค�ำสอนในพระพุทธศาสนาเปน็ อย่างมาก จงึ ได้ และผมคิดว่าผมจะท�ำจนวันตาย” อาจารย์ ท�ำกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาอย่างต่อเน่ือง ววิ รรธน์ กล่าวทง้ิ ท้าย และได้ก่อตง้ั ชมรมคนรกั สมาธิ ในปี 2560 เพือ่ 130

131

คณุ แมส่ ุมล บุญประดิษฐ์ จติ อาสาผู้มคี วามสขุ กบั การแบง่ ปนั เสียงเพลง @ตำ�บลพงสวาย อำ�เภอเมอื ง จงั หวดั ราชบุรี ข้อมูลครูภูมิปั ญญา คณุ แมส่ ุมล บุญประดษิ ฐ์ เกิดวันท่ี 29 พฤศจกิ ายน 2497 อายุ 65 ปี เบอรโ์ ทรตดิ ต่อ 098-532-8361 คุณแม่สุมล บุญประดิษฐ์ คือรอง ประธานชมรมผ้สู งู อายตุ �ำบลพงสวาย และเปน็ อดตี ครสู อนภาษาไทยทช่ี น่ื ชอบศลิ ปวฒั นธรรม นาฏศิลป์ไทยมาต้ังแต่เด็ก ชื่นชอบการร้อง ล�ำลิเก ล�ำตดั เพลงฉ่อย รวมทง้ั เพลงพื้นบ้าน ต่าง ๆ ทตี่ ้องร้องต่อบทต่อกลอนกัน เม่อื เรยี น ในระดับอุดมศึกษา แม่สุมลก็มีโอกาสเรียน สาขาวชิ าเอกภาษาไทย ท�ำใหไ้ ดเ้ รยี นรเู้ รอ่ื งการ แต่งกลอนมากขึ้น รวมทั้งมีโอกาสเรียนรู้เรื่อง การรอ้ งเพลงกลอ่ มเดก็ ดว้ ย ซงึ่ นนั่ กค็ อื จดุ เรม่ิ ตน้ 132

ของการสะสมความรู้ทั้งการแต่งกลอนและ ไม่เหมอื นเพลงอืน่ ๆ เพลงพ้นื บ้านไทยจะมกี าร การร้องเพลงพ้ืนบ้านต่าง ๆ เมื่อบรรจุเข้ารับ ต่อบทต่อกลอน มกี ารสร้อยคำ� ซ่งึ ความพเิ ศษ ราชการครูทโ่ี รงเรยี นวดั ห้วยไผ่ กม็ โี อกาสสอน นีท้ �ำให้เราอยากจะอนุรกั ษ์ไว้” เด็กนักเรียนช้ันประถมและมัธยมให้สามารถ ท่ีผ่านมาแม่สุมลได้น�ำความรู้ความ แต่งนิทาน แต่งค�ำกลอนต่าง ๆ ได้ สามารถเรื่องการเขียนกลอนมาใช้ในการแต่ง ต่อมาเม่ือเกษียณอายุราชการ แม่สุ เพลงเนื่องในโอกาสต่าง ๆ มากมาย ล่าสุด มลได้เข้ามาเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุต�ำบล ได้แต่งเพลงให้กับชมรมอยู่ดีมีสุข ซ่ึงมีเนื้อหา พงสวาย และมีโอกาสแนะน�ำตัวเป็นค�ำร้อง ที่ไพเราะสนุกสนาน มีการเลือกใช้ค�ำส้ัน ๆ แบบร้องลิเกกึ่งขับเสภา จึงท�ำให้คนในชมรม ท่ีเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถจดจ�ำ เห็นศักยภาพและความสามารถของแม่สุมล เน้ือเพลงได้ไม่ยาก และเหมาะกับการร�ำวง ดงั นน้ั เวลามงี านส�ำคญั ของชมรมผสู้ งู อายุ หรอื โดยเน้ือหาของเพลงประจ�ำชมรมอยู่ดีมีสุขที่ งานส�ำคัญต่าง ๆ ในระดับจงั หวัด แม่สมุ ลก็มกั แม่สมุ ลแต่งมเี นอ้ื หาดังต่อไปน้ี จะได้รับค�ำเชิญให้ไปช่วยงานอยู่เสมอ ทั้งการ “ชมรมอยดู่ มี สี ขุ แสนสนกุ สดชน่ื หรรษา แต่งเพลง การร้องเพลงพื้นบ้านต่าง ๆ เช่น ต่ืนเช้าทุกคนเฮฮา ต่ืนเช้าทุกคนเฮฮา สุขภาพ เพลงลูกกรุง ลกู ทุ่ง ล�ำตดั เพลงฉ่อย และการ กายาของเราแข็งแรง สุขภาพกายาของเราแข็ง ขบั เสภา เป็นต้น แรง ทกุ วนั พวกเราไมห่ นา่ ย หมนั่ ออกกำ� ลงั กาย “เราเป็นคนชอบเพลงพ้ืนบ้านทุก อย่เู สมอ ดใี จได้มาพบเจอ ดใี จได้มาพบเจอ ฉนั ประเภท เพลงลูกทุ่งก็ชอบ และสามารถร้อง และเธอแสนสุขอุรา ฉันและเธอแสนสุขก็อุรา เพลงเหล่าน้ีได้ต้ังแต่เด็ก อาจเป็นเพราะเรา พวกเรายดึ มนั่ ทำ� ดี ชมรมเรานร้ี กั ศาสนา ทกุ คน ใกล้ชิดกับปู่ย่าตายายซ่ึงชอบดูลิเก เราเลยรัก ลว้ นจติ เมตตา ทกุ คนล้วนจติ เมตตา ทกุ วนั พระ ตรงน้ี และมีความคิดว่าเพลงพื้นบ้านไทยร้อง มาพวกเราทำ� บญุ ทกุ วนั พระมาพวกเราทำ� บญุ 133

ชมรมของเรามีสุขมีความสนุกรื่นเริงหัวใจ ทตี่ อ้ งท�ำเกอื บทกุ วนั แตแ่ มส่ มุ ลกไ็ มร่ สู้ กึ เหนอ่ื ย รกั ใครก่ ลมเกลยี วกนั ไว้ รกั ใครก่ ลมเกลยี วกนั ไว้ ตรงกันข้ามคือกลับมีความรู้สึกสุขใจทุกครั้งท่ี เพราะเรานั้นไซร้คือคนไทยด้วยกัน เพราะเรา ได้ท�ำงานทีร่ กั ภายใต้หลักคิดทีว่ ่า ท�ำวันนใ้ี ห้ดี นัน้ ไซร้ คอื คนไทยด้วยกัน” ทสี่ ดุ ยม้ิ แย้มให้กบั ทกุ คนทพี่ บเจอ และคดิ บวก สว่ นการเผยแพรค่ วามรู้เรอื่ งการแตง่ กลอน ในทุกวัน แม่สมุ ลเผยว่าหากมโี อกาสกอ็ ยากจะท�ำหน้าท่ี “เราท�ำให้คนอ่ืนมีความสุขเราก็ วิทยากรจิตอาสาสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียนเร่ือง มีความสุข ท�ำแล้วเรารู้สึกสดช่ืน ไม่รู้สึก การแต่งค�ำกลอน เพ่อื อนรุ ักษ์ศลิ ปะนีใ้ ห้คงอยู่ เหนื่อย แต่บางทีมันก็จะมีปัญหาเข้ามา “ตั้งใจจะท�ำตรงนี้เพราะเราอยากให้ บา้ ง เรากจ็ ะคดิ วา่ เรามหี สู องขา้ งกฟ็ งั หทู งิ้ หู เดก็ ไทยรกั ษาความรู้เรอื่ งกลอน เรอื่ งคำ� สมั ผสั อย่าไปใส่ใจมากไม่เช่นนั้นเราจะเครียด คลอ้ งจอง และการสรอ้ ยคำ� แลว้ กอ็ นรุ กั ษเ์ กย่ี ว พอทำ� ไดแ้ บบน้เี ราก็ไมเ่ ครยี ดเลย” แม่สุมล กบั ศลิ ปะการแสดงตา่ ง ๆ ของไทย เชน่ ลเิ ก และ กล่าวทงิ้ ท้าย ลำ� ตัดเอาไว้” และเน่ืองจากแม่สุมลมีบทบาทและ หน้าที่ที่ต้องท�ำหลายอย่าง เช่น การเป็น ประธานชุมชนหนองศาลา หมู่ 9 รองประธาน ชมรมผู้สูงอายุต�ำบลพงสวาย รองหัวหน้าชั้น โรงเรยี นผู้สงู อายุ และสมาชกิ กาชาด จงึ ท�ำให้ แม่สุมลมีกิจกรรมจิตอาสาที่ต้องท�ำมากมาย ท้ังงานช่วยเหลือผู้อ่ืนและงานสร้างรอยย้ิม สร้างความสขุ ความบนั เทงิ และแม้ว่าจะมงี าน 134

135

ดร.อุดม สมพร ผ้สู ืบสานและอนุรกั ษว์ ัฒนธรรม ของชาวไท-ยวน @ตำ�บลหน้าเมือง อำ�เภอเมอื ง จังหวัดราชบุรี ขอ้ มูลครูภมู ปิ ัญญา ดร.อุดม สมพร เกดิ วันท่ี 1 กรกฎาคม 2485 อายุ 77 ปี เบอร์โทรติดตอ่ 081-763-1989 ดร.อดุ ม สมพร คอื ชาวราชบรุ ที ส่ี บื เชอื้ สายชาวไท-ยวนหรอื ไทยโยนกซง่ึ อพยพมาจาก อ�ำเภอเชยี งแสน จงั หวดั เชยี งราย ในสมยั รชั กาล ที่ 1 โดยชาวไท-ยวนท่ีอพยพมาตั้งถ่ินฐาน อยู่ท่ี ต�ำบลคูบัว อ�ำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในคร้ังนั้นมปี ระมาณ 2,000 คน (สดั ส่วนชาว ไท-ยวนในจงั หวัดราชบุรี ณ ปัจจุบนั ประมาณ 170,000 : 870,000 คน) โดย ดร.อุดมถอื ว่า เป็นลูกหลานชาวไท-ยวน รุ่นท่ี 5 นับตั้งแต่ บรรพบุรุษมกี ารอพยพมาอยู่จังหวดั ราชบุรี 136

ดร.อดุ มเรมิ่ รจู้ กั ตวั ตนวา่ เปน็ คนเชอื้ สาย “ตอนนั้นผมรวบรวมผ้าจกเก่า ๆ จาก ไท-ยวนตงั้ แตเ่ ดก็ จากค�ำบอกเลา่ ของผเู้ ฒา่ ผแู้ ก่ หลายบ้าน ลูกหลานบางบ้านไม่รู้จักผ้าจก แต่ก็ยังไม่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมอย่าง บางบ้านก็เอาผ้าจกไปท�ำผ้าขี้ร้ิว ผมก็ไปเก็บ จรงิ จงั จนกระทงั่ เรยี นจบครศุ าสตรบ์ ณั ฑติ จาก รวบรวมมาจดั นทิ รรศการได้ประมาณ 400 ผืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และย้ายกลับมารับ จากนน้ั กเ็ กดิ กระแสทดี่ เี กย่ี วกบั ผา้ จก มผี ทู้ น่ี ยิ ม ราชการครทู บ่ี า้ นเกดิ ในปี 2523 ประจวบเหมาะ ผ้าเก่า นักค้าผ้าเก่าเข้ามาหาซื้อผ้าจกมากข้ึน กับการท่ีมีโอกาสเข้ามาเป็นคณะกรรมการ ท�ำให้ผ้าจกมีราคาสงู จากผนื ละ 500 บาท เป็น บริหารสภาวัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี ดร.อุดม 5,000 - 10,000 บาท ชาวบ้านกเ็ กดิ การตนื่ ตวั จงึ ไดเ้ รม่ิ คน้ ควา้ หาขอ้ มลู ชาตพิ นั ธข์ุ องตนอยา่ ง เรื่องผ้าจกกันมากข้นึ ” ดร.อุดม กล่าว จรงิ จงั และมกี ารถา่ ยทอดออกมาเปน็ บทความ ต่อมาในปี 2530 ดร.อุดมได้จัดตั้ง ทางวัฒนธรรมเร่ืองเผ่าพันธุ์ไท-ยวนในจังหวัด ศูนย์สืบทอดศิลปะผ้าจกราชบุรีขึ้น เพื่อให้เป็น ราชบุรี ในเวลาต่อมา โรงเรยี นสอนชาวบา้ นและเยาวชนทอผา้ พร้อม หลังจากนั้น ดร.อุดมได้จัดต้ังชมรม ทั้งจัดตั้งศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านราชบุรีให้กับ ไท-ยวนจังหวัดราชบุรีขึ้น และได้มีการฟื้นฟู ชุมชนไท-ยวนในจังหวัดราชบุรีจ�ำนวน 3 แห่ง ศิลปะผ้าจกราชบุรี ภูมิปัญญาของบรรพ เพื่อใช้เป็นแหล่งค้าขายผ้าจกที่ก�ำลังกลายเป็น ชนไท-ยวน โดยการจัดนิทรรศการผ้าจก ท่ีต้องการของตลาดมากขน้ึ ท�ำให้ชาวไท-ยวน โบราณ และจัดการแข่งขันทอผ้าจกโบราณ ได้มีอาชีพทอผ้าจกเป็นอาชีพท่ีสร้างรายได้ให้ โดยอญั เชญิ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าสยาม กบั ครอบครัวมาจนถงึ ปจั จุบนั บรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธี “เม่ือก่อนชาวบ้านจะขายได้บ้างไม่ได้ เปิดนิทรรศการ เมื่อ 12 เมษายน พ.ศ.2529 บ้าง แต่ตอนนี้ผ้าจกกลายเป็นท่ีรู้จัก กลาย ณ บรเิ วณวดั แคทราย เป็นสินค้าโอทอ็ ปของดี 5 ดาวของเมืองราชบรุ ี 137

ไปแล้ว ยอดขายเฉพาะในสหกรณ์การเกษตร จดั ตงั้ สหกรณก์ ารเกษตรไท-ยวน ราชบรุ ี จ�ำกดั ไท-ยวน ราชบุรี จำ� กัด เคยได้มากถงึ 5 ล้าน เพื่อบริหารจัดการซ้ือ-ขายผ้าจกให้แก่สมาชิก บาท ยงั ไมร่ วมยอดขายของรา้ นคา้ เอกชนทเ่ี ปดิ และผสู้ นใจโดยทวั่ ไป รวมทงั้ เปน็ ผเู้ ขยี นหนงั สอื กนั เยอะแยะเปน็ ดอกเห็ดในตอนน”้ี เร่ือง “ผ้าจกไท-ยวน ราชบุรี” อีกด้วย โดย นอกจากนี้ ดร.อดุ มยงั เปน็ บคุ คลส�ำคญั สิ่งท่ีท�ำท้ังหมดน้ีก็เพ่ืออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ทไี่ ด้ออกแบบลายผ้าจกใหม่ โดยได้แรงบนั ดาล และวิถีชีวิตของชาวไท-ยวนเอาไว้ให้ลูกหลาน ใจจากดอกแคทราย ท�ำให้ตอนนี้ผ้าจกเมือง ได้ศกึ ษากันในอนาคต ราชบุรีมลี ายผ้าจกมากถงึ 9 ลาย จากเดมิ ท่มี ี “ตอนน้ีเราไม่สามารถดึงลูกหลานมา แค่ลายโบราณเพยี ง 8 ลาย อนุรักษ์วฒั นธรรมไท-ยวนได้ แต่ส่งิ ทเ่ี ราท�ำได้ “แรงบันดาลใจของการคิดลายดอกแค คือการสร้างแหล่งเรยี นรู้ชาติพันธุ์ไท-ยวน เรา ทรายเกดิ จากการทสี่ มเดจ็ พระเทพฯเสดจ็ มาเปดิ จึงสร้างจิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัวขึ้นมาเพ่ือ โรงเรยี นสอนทอผ้า และได้ทรงปลกู ต้นแคทราย เก็บองค์ความรู้เกี่ยวกับการทอผ้าจก ความรู้ เอาไว้ เมื่อปี 2534 พอต้นไม้โตออกดอก ด้านภาษา และความรู้ด้านการกินการอยู่มา ผมก็น�ำเอาดอกแคทรายมาเป็นต้นแบบในการ รวมกันไว้” สร้างสรรค์ลวดลายผ้า เพื่อเป็นอนุสรณ์ร�ำลึก และนี่คือความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ ถงึ ครง้ั ทพี่ ระองคท์ รงพระกรณุ ามาเปดิ โรงเรยี น ของชาวไท-ยวนคนหน่ึง ที่ต้องการให้ สอนทอผ้าในวนั ท่ี 14 ตุลาคม พ.ศ. 2534” ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์และวัฒนธรรม ดร.อดุ มยงั เปน็ บคุ คลส�ำคญั ในการรเิ รมิ่ ของตน ยังคงอยู่ ไม่เลือนหายไปตามกาล จดั สรา้ ง “จปิ าถะภณั ฑส์ ถานบา้ นคบู วั ” ส�ำหรบั เวลา ด้วยความรกั ในรากเหง้าของการเปน็ เป็นแหล่งเรียนรู้อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของ ชนเผ่าไท-ยวนอยา่ งแท้จรงิ ชาวไท-ยวน โยนกเชียงแสน และเป็นผู้ริเร่ิม 138

139

ขอขอบคณุ ภาคเี ครือข่ายทกุ ทา่ น สำ� หรบั การประสานงานและให้ขอ้ มูลเบ้ืองตน้ และขอขอบคณุ ผู้สงู อายุเจ้าของภมู ิปัญญา ผู้ให้สมั ภาษณข์ อ้ มูลอนั ทรงคณุ ค่าตอ่ ลูกหลานไทย



การเปิดกรุคลงั ปญั ญาผู้สงู อายุในชมุ ชน ทำใหเ้ กิดการสร้างทศั นคติเชิงบวกตอ่ ผูส้ ูงอายุ สะท้อนพลังและคุณค่าของคลังปญั ญา ท่มี ีการถ่ายทอด ฟ้ืนฟู อนุรักษภ์ ูมปิ ญั ญาทีม่ ี สรา้ งคุณค่าทผี่ ู้สงู อายไุ ดท้ ำประโยชนก์ บั ส่วนรวมเพิ่มมากข้นึ ทำใหช้ ุมชน สงั คมได้ยอมรับความร้คู วามสามารถ และศักยภาพของผสู้ งู อายุไดเ้ ด่นชัดเจน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook