ชุดการสอนรายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 โดย นายหล่อล้อมพงศ์ จนั ดาบตุ ร รหสั นักศกึ ษา 61131114071 สาขาวชิ าเทคโนโลยีการศกึ ษาและคอมพวิ เตอร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา
คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 16 ช่ัวโมง ********************************************************************************** ศกึ ษาการประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคิดเชงิ คํานวณในการพัฒนาโครงงาน การพัฒนาโครงงานทางด้าน เทคโนโลยี การนาํ แนวคดิ เชงิ คํานวณพัฒนาโครงงานท่เี กี่ยวกบั ชวี ิตประจำวัน ตลอดจนใช้ในการพัฒนา โครงงานท่มี กี ารบูรณาการกบั วิชาอ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์และเชื่อมโยงกับชวี ติ จรงิ โดยอาศัยกระบวนการเรียนรโู้ ดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning) และการเรียนรู้ แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning) เพ่ือเน้นใหผ้ ู้เรยี นไดล้ งมือปฏบิ ัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ตรวจสอบการเรยี นรู้ และนําเสนอผ่านการทำกิจกรรม โครงงานเพือ่ ให้เกิดทักษะ ความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะในการวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหา จนสามารถนําเอา แนวคิดเชิงคํานวณมาประยุกต์ใช้ในการสร้างโครงงานได้ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสามารถใช้ความรู้ทางดา้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สอ่ื ดิจทิ ัล เทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่ือสารเพื่อรวบรวมขอ้ มลู ในชวี ิตจรงิ จากแหล่งตา่ งๆ และความรู้จากศาสตรอ์ นื่ มาประยุกต์ใช้ สรา้ งความรู้ ใหม่ เข้าใจการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยที มี่ ีผลต่อการดำเนนิ ชวี ิต อาชีพ สงั คม วัฒนธรรม และใช้อยา่ ง ปลอดภยั มจี รยิ ธรรม ตลอดจนนําความรู้ความเข้าใจในวิชาวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยไี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ตอ่ สงั คม และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการจัดการทกั ษะในการสอื่ สาร และความสามารถในการตดั สนิ ใจ และเป็นผทู้ ีม่ จี ิตวิทยาศาสตร์ มี คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์ ตวั ช้ีวดั ว 4.2/1 รวมทงั้ หมด 1 ตัวช้วี ดั
โครงสรา้ งรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 18 ชั่วโมง ********************************************************************************************* ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา การเรียนรู/้ (ช่ัวโมง) ตัวชว้ี ดั แนวคิดเชงิ คำนวณ ว 4.2 ม.4/1 แนวคิดเชิงคำนวณ เป็น แนวคิดเชงิ คำนวณ 2 ความสามารถในการแก้ไขปัญหา โดยมุ่งเนน้ การคดิ เชิงตรรกะ หรือ การแยกส่วนประกอบและ 2 เปน็ การแกไ้ ขปัญหาอยา่ งเป็น การยอ่ ยปญั หา 2 ลำดบั ข้นั ตอน และมวี ธิ กี าร แก้ปญั หาอยา่ งมรี ะบบ การหารปู แบบและแนวคดิ เชิงนามธรรม การแก้ปัญหาและ ว 4.2 ม.4/1 การออกแบบขนั้ ตอนในการ ขนั้ ตอนวิธีแบบลำดบั ข้ัน 2 ข้ันตอนวธิ ี แกป้ ัญหา การกำหนดปญั หา 2 ศึกษา วางแผน ดำเนนิ งาน ขั้นตอนวธิ แี บบทางเลือก สรปุ ผล และนำเสนอ ในการ ขั้นตอนวธิ แี บบทำซำ้ 2 พฒั นาโครงงานท่ีมีการ บูรณา การรว่ มกับวิชาอื่นและเชือ่ งโยง ข้ันตอนวธิ ใี นชีวติ ประจำวนั 2 กบั ชวี ิตจริง 2 ข้นั ตอนวิธกี ารค้นหาและ จัดเรียงขอ้ มูล การประยกุ ต์ผงั งาน รวม 18
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง แนวคดิ เชงิ คำนวณ รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 6 ช่วั โมง สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตัวช้ีวดั ว 4.2 ม.4/1 ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานท่มี ีการบรู ณการกับวิชาอ่ืน อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเช่อื มโยงกับชวี ิตจรงิ 2.สาระสำคัญ แนวคิดเชิงคำนวณ (computational thinking) เป็นพื้นฐานของการคิดแก้ปัญหาที่สามารถนำไป ประยุกตใ์ นการแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวนั แนวคิดเชิงคำนวณ เป็นการคิดแบบแยกส่วนประกอบและการย่อย ปัญหา (decomposition) การหารูปแบบของปญั หา (pattern recognition) การคดิ เชงิ ตรรกะ (abstraction) เพื่อพิจารณาสาระสำคัญของปัญหา และการออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปญั หา (algorithm) ซึ่งขั้นตอนวธิ ี คือ ลำดับข้นั ตอนในการแกป้ ญั หาหรอื การทำงานทชี่ ดั เจน ช่วยใหค้ ดิ อย่างเปน็ ระบบและเป็นขั้นตอน 3.สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1. การพฒั นาโครงงาน 2. การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำธุรกรรม สุขภาพ และสง่ิ แวดล้อม 3. ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบอัตโนมัติการควบคุมการปลูกพืช การจัดเส้นทาง การขนส่งผลผลติ ระบบแนะนำการใช้งานหอ้ งสมดุ ทมี่ กี ารโต้ตอบกับผูใ้ ชแ้ ละเชอื่ มต่อกบั ฐานข้อมลู สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น -
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน 6. การบรู ณาการ บูรณาการรว่ มกับรายวชิ าคณติ ศาสตร์ เรื่อง เซต ตรรกศาสตร์ ฟังก์ชัน และการแกส้ มการ 7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ ช้นิ งาน - ภาระงาน - การแยกส่วนประกอบยอ่ ย (decomposition) - การหารปู แบบของปัญหา (pattern recognition) - การคิดเชงิ ตรรกะ (abstraction) 8. การวดั และประเมนิ ผล 8.1 ประเมนิ ผลก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอื่ งแนวคดิ เชงิ คำนวณ 8.2 การประเมินผลระหวา่ งจดั กิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจใบกิจกรรม - การแยกส่วนประกอบย่อย (decomposition) - การหารูปแบบของปัญหา (pattern recognition) - การคิดเชงิ ตรรกะ (abstraction) 8.3 การประเมนิ ผลหลงั เรียน - ประเมนิ แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ืองแนวคดิ เชงิ คำนวณ 8.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน -
9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1.แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง การแยกส่วนประกอบย่อย (decomposition) ใชก้ ารสอนแบบใช้ ปญั หาเป็นฐาน จำนวน 2 ชวั่ โมง 2. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การหารูปแบบของปัญหา (pattern recognition) ใช้การสอน แบบใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน จำนวน 2 ชว่ั โมง 3. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การคิดเชิงตรรกะ (abstraction) ใช้การสอนแบบใช้ปัญหาเป็น ฐาน จำนวน 2 ชวั่ โมง
รายวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอ่ื ง การแยกสว่ นประกอบยอ่ ย หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 แนวคิดเชงิ คำนวณ เวลา 2 ชัว่ โมง 1. สาระการเรียนรู้ / ตัวช้วี ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตัวชว้ี ดั ว 4.2 ม.4/1 ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการพัฒนาโครงงานท่มี กี ารบูรณการกับวิชาอ่ืน อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชือ่ มโยงกบั ชีวิตจรงิ 2. สาระสำคญั และความคิดรวบยอด การแยกส่วนประกอบเป็นวิธคี ิดรูปแบบหน่ึงของแนวคดิ เชงิ คำนวณ เป็นการพิจารณาเพือ่ แบ่งปัญหา หรืองานออกแบบส่วนย่อย ทำใหส้ ามารถจัดการกบั ปญั หาหรอื งานไดง้ า่ ยขึ้น เช่น การพิจารณาจักรยาน ซ่ึงหา พิจารณาแลว้ จะประกอบดว้ ย ลอ้ แฮนด์ โครงจกั รยาน ระบบขับเคล่อื น หรอื อื่นๆ เปน็ ต้น 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ 1. การแยกส่วนประกอบยอ่ ย 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การวิเคราะห์ 2. การแก้ปญั หา 3. การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
3.3 สมรรถนะสำคญั ของนักเรียน 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3.4 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ : ใชก้ ารสอนแบบการเรยี นรู้โดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน 4.1 กิจกรรมนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูนำรูปจกั รยานมาให้นกั เรียนทุกคนพจิ ารณา แล้วให้ทุกคนช่วยกันแยกสว่ นประกอบของจกั รยาน ว่ามีอะไรบ้าง และแตล่ ะส่วนมีหนา้ ทอี่ ย่างไร 2. ครชู ว่ ยนกั เรยี นในการพิจารณาสว่ นประกอบยอ่ ย และแนะนำเพ่มิ เตมิ 3. ครูเปิดสื่อวิดีโอประกอบการสอนการแยกย่อยส่วนประกอบย่อย เพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งของทุก อย่างมีองค์ประกอบย่อยเสมอ แม้กระทั่งปัญหาที่นักเรียนต้องแก้ปัญหานั้นก็จะมีปัญหาย่อย ๆ ให้นักเรียน พิจารณา ดังนั้นการแก้ปัญหาที่สำคัญคือการมองปัญหาย่อยให้ออก แล้วแก้ไขจากปัญหาย่อยไปยังปัญหาท่ี ใหญข่ ึน้ 4.2 กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ กำหนดปัญหา 4. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรยี นกลมุ่ ละไม่เกิน 5 คน และแจกใบกจิ กรรมท่ี 1 เร่อื งการแยกส่วนประกอบยอ่ ย 5. ครูกำหนดปญั หาใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ แยกส่วนประกอบย่อย ดังนี้ 1. รถยนต์ 2. เคร่อื งบนิ 3. เรอื 4. มอเตอรไ์ ซค์ ทำความเข้าทำความเขา้ ใจปัญหา 6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ทำการวเิ คราะห์องค์ประกอบของสถานการณท์ ี่ได้รบั 7. แตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั สรปุ แนวคิดและผลการวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบที่กลมุ่ ไดร้ บั ในประเด็นเกยี่ วกบั สิ่ง ทตี่ า่ งและส่งิ ท่ีเหมือนกันองคป์ ระกอบนั้น
ดำเนินการศกึ ษาค้นควา้ 8. นกั เรียนรว่ มกนั ทำใบงานและบนั ทึกหนา้ ทสี่ ำคัญขององคป์ ระกอบแตล่ ะสว่ น 9. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ วิเคราะห์วา่ มอี ุปกรณห์ รือสิ่งทมี่ ีลักษณะองค์ประกอบคล้ายกับสถานการณ์ท่ี นักเรียนได้รบั 10. นักเรียนสอบถามปญั หาเพิม่ เตมิ กับครูผู้สอน เกย่ี วกบั การแยกองค์ประกอบ สงั เคราะหค์ วามรู้ 11. แต่ละกลมุ่ สรปุ และสงั เคราะห์ความรแู้ ละเขียนองค์ประกอบลงในใบกิจกรรม 12. นักเรียนในกลุ่มแลกเปลีย่ นความคิดเห็นและตรวจสอบองค์ความรขู้ องตนเอง เปรยี บเทียบความ เหมอื นและความแตกต่างของแต่ละองคป์ ระกอบ 13. นักเรียนตรวจสอบใบกจิ กรรมที่ทำอีกครงั้ สรุปและประเมนิ คำตอบ 14. นกั เรียนแต่ละกลุ่มสรปุ คำตอบและเขยี นคำตอบลงในใบกจิ กรรมท่คี รแู จกให้ 15. สมาชกิ กลุม่ รว่ มกนั ประเมนิ คำตอบและตรวจสอบคำตอบท่ีคน้ พบอีกครงั้ นำเสนอและประเมนิ ผล 16. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอองคป์ ระกอบของสถานการณ์ท่ีไดร้ บั 17. เพ่ือนและครูรว่ มกันสอบถามกลมุ่ ทีน่ ำเสนอในประเด็นทีส่ งสัย 18. เม่อื แต่ละกล่มุ นำเสนอเสรจ็ ครูสรปุ องค์ความรู้เกี่ยวกบั การแยกองคป์ ระกอบของปัญหา ให้ นกั เรียนทกุ คนฟงั อีกครง้ั 4.3 กจิ กรรมสรุปการเรยี นรู้ 19. ครสู รุปหลกั การและประโยชนข์ องการแยกส่วนประกอบและการย่อยปญั หา พรอ้ มกับอธบิ ายสรุป 20. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามปญั หาข้อสงสยั และตอบปญั หาให้นกั เรยี นเข้าใจอกี คร้งั 5. ส่ือการเรยี นรู้ - ใบกจิ กรรมที่ 1 เรอ่ื งการแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปัญหา https://sites.google.com/view/learnwithllph/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2% E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81
6. การวัดและประเมินผล ดา้ น วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ - ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ งการแยก - รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ด้านความรู้ - นำเสนอองค์ความรู้ สว่ นประกอบและการย่อย ปัญหา - ระดับดีขึ้นไป เกย่ี วกบั การแยก - ระดบั ดีข้นึ ไป - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ส่วนประกอบและการย่อย ทำงานกลุ่ม - ระดับดีข้นึ ไป ปัญหา - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ทำงานกลุ่ม ด้านคณุ ธรรม/ - สังเกตจากพฤติกรรมท่ี - แบบประเมินทักษะ/ จริยธรรม รับผดิ ชอบต่องานท่ีไดร้ ับ กระบวนการในการแก้ปญั หา มอบหมาย - สงั เกตความอดทน การรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ื่น การวเิ คราะห์การวจิ ารณ์ ผลงานของกลุม่ ตนเองและ กลมุ่ อ่นื ด้านทักษะ/ - สงั เกตจากพฤตกิ รรมทเี่ กดิ กระบวนการ จากการทำงานกลมุ่ ในการ แก้ปัญหารว่ มกัน
7. บนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้ 7.1 ผลการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.2 ปัญหา / อปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.3 ข้อเสนอแนะ / แนวทางการแก้ไขและพฒั นา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบกจิ กรรมท่ี 1
แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม กลุม่ .......................................................................................................... สมาชิกในกล่มุ 1. 2....................................................................... ...................................................................... 3. 4....................................................................... ...................................................................... 5. 6....................................................................... ...................................................................... คำช้ีแจง: ให้นกั เรียนทำเคร่อื งหมาย ✓ ในช่องท่ีตรงกบั ความเป็นจรงิ พฤตกิ รรมท่ีสงั เกต คะแนน 1 32 1. มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ 2. มคี วามกระตือรือรน้ ในการทำงาน 3. รับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 4. มขี ้ันตอนในการทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ 5. ใชเ้ วลาในการทำงานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤติกรรมท่ีทำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทที่ ำเป็นบางครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทที่ ำนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 13-15 ดี 8-12 ปานกลาง 5-7 ปรบั ปรุง
แบบประเมินทักษะ/กระบวนการในการแก้ปญั หา ลำดบั ชอื่ – การกำหนด ดำเนนิ สงั เคราะห์ สรปุ และ นำเสนอและ รวม ท่ี สกุล ปญั หาและทำ การศกึ ษา ความรู้ ประเมิน ประเมนิ ผล 20 ของ ความเขา้ ใจ คน้ คว้า คำตอบ คะแนน ผู้รับ 4321 4321 การ ปัญหา 4321 4321 ประเมนิ 4321 เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ มีทกั ษะ/กระบวนการดีมาก มที ักษะ/กระบวนการดี ............../.................../............... มที ักษะ/กระบวนการพอใช้ มที ักษะ/กระบวนการทีต่ ้องปรบั ปรุง ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ระดับคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ดมี าก 18-20 ดี 14-17 พอใช้ 10-13 ปรับปรุง ต่ำกว่า 10
รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอื่ ง การหารูปแบบของปัญหา หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 แนวคดิ เชิงคำนวณ เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตัวช้วี ัด ว 4.2 ม.4/1 ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการพฒั นาโครงงานทม่ี ีการบรู ณการกับวิชาอื่น อย่างสร้างสรรค์ และเชอื่ มโยงกับชวี ิตจริง 2. สาระสำคญั และความคิดรวบยอด การหารูปแบบของปัญหาเป็นทักษะการหาความสัมพันธ์ท่ีเกี่ยวข้อง แนวโน้ม และลักษณะทัว่ ไปของ สิ่งต่างๆ โดยทั่วไปแล้วนักเรียนจะเริ่มพิจารณาปัญหาหรือสิ่งที่สนใจ จากนั้นอาจจะใช้ทักษะการแยก ส่วนประกอบทำให้ได้องค์ประกอบภายในอื่นๆ แล้วจึงใช้ทักษะการหารูปแบบเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่าง องค์ประกอบเหลา่ น้ัน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ 1. การหารูปแบบของปญั หา 3.2 ทักษะ/กระบวนการ 1. การวิเคราะห์ 2. การแก้ปัญหา 3. การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
3.4 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ : ใช้การสอนแบบการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน 4.1 กิจกรรมนำเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครูนำรูปเม้าส์และคียบ์ อร์ดมาให้นกั เรียนพิจารณาแยกส่วนประกอบยอ่ ย และลงความเห็นร่วมกัน ว่ามสี ว่ นประกอบย่อยอะไรบา้ ง 2. นักเรียนร่วมกันสรุปว่าเม้าส์มีองค์ประกอบที่เหมือนกันและต่างกันอย่างไรบ้าง และคีย์บอร์ดมี ส่วนประกอบทเ่ี หมอื นกันหรือต่างกนั อย่างไรบ้าง 3. ครูสรุปให้เห็นว่าสิ่งของทุกสิ่ง ถ้ามีการทำงานที่เหมือนกันจะมีองค์ประกอบที่เหมือนกัน และมี องค์ประกอบบางส่วนที่ตา่ งกนั 4.2 กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ กำหนดปญั หา 4. ครูแบ่งกลมุ่ นักเรยี นกลุ่มละไมเ่ กิน 5 คน และแจกใบกจิ กรรมที่ 2 เรื่องการหารูปแบบของปญั หา 5. ครกู ำหนดปญั หาใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มหารูปแบบของปัญหา ดังนี้ 1. รถยนต์ 2. เครื่องบนิ 3. เรอื 4. มอเตอรไ์ ซค์ ทำความเขา้ ทำความเขา้ ใจปญั หา 6. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ทำการวิเคราะห์องคป์ ระกอบของสถานการณ์ทไ่ี ดร้ ับ 7. แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรุปแนวคิดและผลการวเิ คราะห์องค์ประกอบที่กลมุ่ ไดร้ ับ ในประเดน็ เกี่ยวกับ ส่งิ ท่ีต่างและส่ิงท่ีเหมือนกันองคป์ ระกอบน้ัน 8. แตล่ ะกลุม่ สรุปองคป์ ระกอบทเ่ี หมือนและตา่ งกันของปญั หาที่ได้รับ
ดำเนนิ การศึกษาคน้ ควา้ 9. นักเรียนหาขอ้ มลู เพิม่ เติมเกี่ยวกับการหารูปแบบ จากหนังสือเรียนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) บทที่ 1 หน้าท่ี 16 จากนนั้ แตล่ ะกลุ่มวิเคราะหว์ ่ามอี ุปกรณห์ รอื สิ่งท่ีมลี ักษณะองค์ประกอบคล้ายกับสถานการณ์ ทีน่ กั เรียนได้รับ 10. นกั เรยี นสอบถามปัญหาเพิ่มเติมกบั ครูผู้สอน เก่ียวกับการแยกองคป์ ระกอบ สงั เคราะหค์ วามรู้ 11. แต่ละกลุ่มสรปุ และสงั เคราะห์ความรูแ้ ละเขยี นองค์ประกอบลงในใบกจิ กรรม 12. นกั เรียนในกลมุ่ แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นและตรวจสอบองค์ความรขู้ องตนเอง เปรยี บเทยี บความ เหมอื นและความแตกต่างของแต่ละองคป์ ระกอบ 13. นกั เรยี นวาดภาพรา่ งหารปู แบบขององค์ประกอบวัตถุที่มีความเหมือนและตา่ งกัน จากนั้นจึง บนั ทกึ ลงในใบกิจกรรมและตรวจสอบใบกิจกรรมท่ีทำอีกคร้งั สรปุ และประเมนิ คำตอบ 14. นักเรยี นแต่ละกล่มุ สรุปคำตอบและเขียนคำตอบลงในใบกจิ กรรมท่คี รแู จกให้ 15. สมาชกิ กลมุ่ ร่วมกันประเมนิ คำตอบและตรวจสอบคำตอบที่คน้ พบอีกครั้ง นำเสนอและประเมนิ ผล 16. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอองคป์ ระกอบของสถานการณ์ทีไ่ ด้รบั 17. เพ่อื นและครรู ว่ มกนั สอบถามกลมุ่ ทนี่ ำเสนอในประเด็นทีส่ งสยั 18. เมื่อแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอเสรจ็ ครสู รปุ องค์ความรู้เกีย่ วกับการแยกองคป์ ระกอบของปญั หา ให้ นักเรยี นทกุ คนฟังอีกครงั้ 4.3 กจิ กรรมสรุปการเรียนรู้ 19. ครูสรปุ หลักการและประโยชน์ของการหารูปแบบ พรอ้ มกับอธิบายสรปุ 20. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามปญั หาข้อสงสยั และตอบปญั หาให้นักเรียนเขา้ ใจอีกคร้ัง 5. ส่ือการเรยี นรู้ - ใบกิจกรรมที่ 2 เรอื่ งการหารูปแบบของปญั หา https://sites.google.com/view/learnwithllph/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2% E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81
6. การวดั และประเมินผล ด้าน วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ - ใบกจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื งการหา - ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ดา้ นความรู้ - นำเสนอองค์ความรู้ รูปแบบของปัญหา - ระดบั ดขี ึน้ ไป - ระดบั ดีขน้ึ ไป เก่ยี วกับการหารปู แบบของ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ทำงานกลมุ่ - ระดบั ดขี น้ึ ไป ปัญหา - แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ดา้ นคุณธรรม/ - สังเกตจากพฤตกิ รรมที่ ทำงานกลุ่ม จริยธรรม รับผดิ ชอบตอ่ งานท่ไี ด้รับ - แบบประเมินทกั ษะ/ กระบวนการในการแกป้ ญั หา มอบหมาย - สงั เกตความอดทน การรับ ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื การวิเคราะห์การวิจารณ์ ผลงานของกลุ่มตนเองและ กลมุ่ อน่ื ดา้ นทกั ษะ/ - สงั เกตจากพฤติกรรมทเี่ กดิ กระบวนการ จากการทำงานกลุม่ ในการ แกป้ ัญหารว่ มกนั
7. บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ 7.1 ผลการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.2 ปญั หา / อุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.3 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางการแกไ้ ขและพฒั นา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบกจิ กรรมท่ี 2
แบบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลมุ่ 1. ...................................................................... 2. ...................................................................... 3. ...................................................................... 4. ...................................................................... 5. ...................................................................... 6. ...................................................................... คำชแ้ี จง: ใหน้ กั เรียนทำเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องท่ตี รงกบั ความเป็นจริง พฤตกิ รรมทส่ี งั เกต คะแนน 1 32 1. มีสว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ 2. มคี วามกระตือรอื รน้ ในการทำงาน 3. รบั ผิดชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 4. มีขนั้ ตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ 5. ใชเ้ วลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน พฤตกิ รรมท่ที ำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมทที่ ำเป็นบางคร้งั ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี ำน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 13-15 ดี 8-12 ปานกลาง 5-7 ปรับปรงุ
แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการในการแก้ปญั หา ลำดั ช่ือ – การกำหนด ดำเนนิ สังเคราะห์ สรุปและ นำเสนอและ รวม บที่ สกุล ปัญหาและ การศึกษา ความรู้ ประเมิน ประเมนิ ผล 20 ของ ทำความ ค้นคว้า คำตอบ คะแน ผรู้ ับ เขา้ ใจปญั หา น การ 4321432143214321 ประเมิ 4321 น เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ มที กั ษะ/กระบวนการดมี าก ............../.................../............... มีทักษะ/กระบวนการดี มที กั ษะ/กระบวนการพอใช้ ให้ 4 คะแนน มีทกั ษะ/กระบวนการทตี่ ้องปรบั ปรงุ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน ดีมาก 18-20 ดี 14-17 พอใช้ 10-13 ปรบั ปรงุ ต่ำกว่า 10
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 แนวคิดเชิงคำนวณ เร่อื ง การคิดเชิงตรรกะ เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระการเรยี นรู้ / ตัวชีว้ ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวติ จริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวช้วี ดั ว 4.2 ม.4/1 ประยกุ ต์ใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการพัฒนาโครงงานท่ีมกี ารบูรณการกับวิชา อืน่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชื่อมโยงกบั ชวี ิตจรงิ 2. สาระสำคญั และความคิดรวบยอด การคิดเชิงตรรกะหรือการคิดเชิงนามธรรม คือ กระบวนการคิดแยกคุณลักษณะที่สำคัญออกจาก รายละเอียดในโจทย์ปัญหาหรืองานทีก่ ำลังพิจารณา เพื่อให้ได้องค์ประกอบทีส่ ำคัญหรือจำเป็นเพยี งพอ และ กระชบั ท่ีสดุ ในการพจิ ารณาภายใตส้ ถานการณท์ ส่ี นใจ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ 1. การคิดเชงิ ตรรกะหรือการคดิ เชิงนามธรรม 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การวเิ คราะห์ 2. การแกป้ ัญหา 3. การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 3.3 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.4 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ : ใชก้ ารสอนแบบการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 4.1 กจิ กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูให้นกั เรยี นพิจารณาแผนทท่ี างเดินรถไฟฟา้ เปรยี บเทยี บสองภาพ ได้แก่ ภาพแผนทที่ ่ัวไปกบั ภาพ โครงรา่ งสถานรี ถไฟฟ้า แล้วใหน้ กั เรยี นเปรียบเทียบวา่ ภาพไหนเข้าใจง่ายกวา่ กนั เพราะเหตใุ ด 2. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปว่าแนวคิดเชิงนามธรรมมนี ิยามหรือความหมายวา่ อย่างไรเม่ือได้พิจารณาภาพ ทง้ั สองแล้ว 3. ครูสรุปใหเ้ หน็ ชดั เจนเกยี่ วกบั แนวคดิ เชิงนามธรรมและอธบิ ายเพ่ิมเติม 4.2 กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ กำหนดปัญหา 4. ครแู บง่ กล่มุ นักเรียนกลุ่มละไม่เกิน 5 คน และแจกใบกิจกรรมท่ี 3 เรอ่ื งการคดิ เชงิ นามธรรม 5. ครูกำหนดปญั หาให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกแบบหรือวาดภาพรา่ งออกมาเปน็ แนวคิดเชิงนามธรรม ดังนี้ 1. แผนทีบ่ ริเวณโรงเรยี น 2. โครงสรา้ งบ้านสองช้ัน 3. ระบบไฟฟา้ ภายในหอ้ งเรียน 4. การเช่ือมต่อของระบบคอมพิวเตอร์ ทำความเข้าทำความเขา้ ใจปัญหา 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของสถานการณท์ ่ไี ดร้ ับ และพจิ ารณาเฉพาะ สว่ นประกอบท่สี ำคัญ 7. แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันสรปุ แนวคิดและผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบที่กลุ่มไดร้ ับ 8. นักเรยี นแต่ละกลุ่มสรปุ องค์ประกอบทีส่ ำคญั ของประเดน็ ที่ได้รบั อีกคร้งั
ดำเนนิ การศกึ ษาคน้ คว้า 9. นักเรียนหาขอ้ มูลเพ่มิ เติมเกย่ี วกบั การคิดเชงิ ตรรกะหรอื การคดิ เชงิ นามธรรม จากหนงั สอื เรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) บทที่ 1 หนา้ ท่ี 19 และเว็บไซต์ 10. นักเรียนสอบถามปญั หาเพิม่ เติมกับครผู สู้ อน เกีย่ วกับการคิดเชงิ ตรรกะ และครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ให้ นักเรียนทกุ คนเขา้ ใจ สงั เคราะห์ความรู้ 11. แตล่ ะกล่มุ สรปุ และสงั เคราะห์ความรแู้ ละเขียนภาพร่างแนวคิดเชงิ นามธรรม 12. นักเรียนในกล่มุ แลกเปลีย่ นความคิดเห็นและตรวจสอบองคค์ วามรูข้ องตนเอง เปรยี บเทียบความ เหมือนและความแตกต่างของแตล่ ะองคป์ ระกอบกบั ขอ้ มูลตน้ ฉบบั 13. นักเรียนวาดภาพรา่ งลงในใบกจิ กรรมและตรวจสอบใบกิจกรรมทีท่ ำอีกครั้ง สรุปและประเมินคำตอบ 14. นักเรยี นแต่ละกลุ่มสรุปคำตอบและเขยี นคำตอบลงในใบกจิ กรรมท่ีครแู จกให้ 15. สมาชกิ กลมุ่ ร่วมกันประเมินคำตอบและตรวจสอบคำตอบทค่ี ้นพบอกี ครั้ง นำเสนอและประเมินผล 16. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอแนวคดิ เชงิ นามธรรมตามสถานการณ์ทไี่ ดร้ ับ 17. เพอื่ นและครรู ว่ มกนั สอบถามกลุ่มทน่ี ำเสนอในประเด็นที่สงสยั 18. เม่ือแตล่ ะกลุม่ นำเสนอเสรจ็ ครูสรุปองค์ความรูเ้ กย่ี วกบั การคดิ เชิงนามธรรม ให้นกั เรยี นทกุ คนฟัง อีกครั้ง 4.3 กจิ กรรมสรุปการเรยี นรู้ 19. ครสู รุปหลักการและประโยชน์ของการคดิ เชิงนามธรรม พร้อมกบั อธบิ ายสรุป 20. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นสอบถามปญั หาขอ้ สงสัย และตอบปัญหาใหน้ ักเรยี นเข้าใจอีกคร้ัง 5. สื่อการเรียนรู้ - ใบกิจกรรมท่ี 3 เรอื่ งแนวคิดเชิงนามธรรม https://sites.google.com/view/learnwithllph/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2% E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81
6. การวัดและประเมนิ ผล ด้าน วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์ - ใบกิจกรรมที่ 2 เร่อื งการหา - ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ดา้ นความรู้ - นำเสนอองคค์ วามรู้ รปู แบบของปัญหา - ระดับดขี น้ึ ไป - ระดับดขี ึน้ ไป เกย่ี วกบั การหารปู แบบของ - แบบสังเกตพฤติกรรมการ ทำงานกลมุ่ - ระดับดีขึ้นไป ปญั หา - แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ด้านคุณธรรม/ - สงั เกตจากพฤติกรรมท่ี ทำงานกลุม่ จรยิ ธรรม รับผดิ ชอบตอ่ งานทีไ่ ดร้ บั - แบบประเมนิ ทักษะ/ กระบวนการในการแก้ปญั หา มอบหมาย - สังเกตความอดทน การรับ ฟังความคิดเหน็ ของผูอ้ ่ืน การวิเคราะหก์ ารวจิ ารณ์ ผลงานของกลุ่มตนเองและ กลมุ่ อน่ื ด้านทักษะ/ - สังเกตจากพฤติกรรมท่ีเกิด กระบวนการ จากการทำงานกลุ่มในการ แกป้ ัญหารว่ มกนั 7. บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้ 7.1 ผลการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.2 ปัญหา / อปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.3 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางการแกไ้ ขและพฒั นา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................
ใบกจิ กรรมท่ี 3
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ กลุ่ม .......................................................................................................... สมาชิกในกลุ่ม 1. 2....................................................................... ...................................................................... 3. 4....................................................................... ...................................................................... 5. 6....................................................................... ...................................................................... คำชี้แจง: ให้นักเรยี นทำเครอื่ งหมาย ✓ ในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจริง พฤติกรรมท่ีสังเกต คะแนน 1 32 1. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ 2. มคี วามกระตอื รือร้นในการทำงาน 3. รับผดิ ชอบในงานที่ได้รบั มอบหมาย 4. มีขน้ั ตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ 5. ใชเ้ วลาในการทำงานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี ำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีท่ ำเป็นบางครง้ั ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมที่ทำนอ้ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 13-15 ดี 8-12 ปานกลาง 5-7 ปรบั ปรงุ
แบบประเมินทักษะ/กระบวนการในการแก้ปญั หา ลำดบั ชอื่ – การกำหนด ดำเนนิ สงั เคราะห์ สรปุ และ นำเสนอและ รวม ท่ี สกุล ปญั หาและทำ การศกึ ษา ความรู้ ประเมิน ประเมนิ ผล 20 ของ ความเขา้ ใจ คน้ คว้า คำตอบ คะแนน ผู้รับ 4321 4321 การ ปัญหา 4321 4321 ประเมนิ 4321 เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ มีทกั ษะ/กระบวนการดีมาก มที ักษะ/กระบวนการดี ............../.................../............... มที ักษะ/กระบวนการพอใช้ มที ักษะ/กระบวนการทีต่ ้องปรบั ปรุง ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ระดับคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ดมี าก 18-20 ดี 14-17 พอใช้ 10-13 ปรับปรุง ต่ำกว่า 10
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การแกป้ ัญหาและข้นั ตอนวิธี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 12 ชัว่ โมง .............................................................................................................................................................................. 1. สาระการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรูก้ ารทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวชว้ี ัด ว 4.2 ม.4/1 ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณการกับวิชา อื่นอย่างสรา้ งสรรค์ และเช่ือมโยงกับชีวิตจริง 2.สาระสำคญั คอมพวิ เตอรม์ บี ทบาทในการปฏวิ ัตกิ ารทำงานในทุกภาคส่วนของสงั คม การประยกุ ตใ์ ชค้ อมพวิ เตอร์มี ผลใหป้ ระสทิ ธิภาพการทำงานเพ่มิ ขึ้น ลดภาระงานท่ที ำซ้ำๆ รวมถงึ เพม่ิ ความแม่นยำของผลลพั ธ์ท่ไี ด้ ข้ันตอน วิธีท่ีจะสัง่ ใหค้ อมพิวเตอรท์ ำงานได้ตรงตามความตอ้ งการ ตอ้ งผา่ นการคิดวิเคราะหแ์ ละการออกแบบที่สมบูรณ์ ครบถ้วน ซึง่ จะทำใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงานได้ตรงตามความตอ้ งการและไม่เกิดข้อผดิ พลาด 3.สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1. ปัญหาหรอื ความต้องการท่ีมีผลกระทบต่อสังคม เชน่ ปัญหาดา้ นการเกษตร อาหาร พลงั งาน การ ขนสง่ สขุ ภาพและการแพทย์ การบรกิ าร ซซึ่งในแต่ละดา้ นอาจมไี ดห้ ลากหลายปัญหา 2. การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาโดยอาจใช้เทคนิคหรอื วิธีการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ช่วยให้เข้าใจ เงื่อนไขและกรอบของปัญหาได้ชัดเจน จากนั้นดำเนนิ การสืบค้น รวบรวมข้อมลู ความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ ที่ เก่ียวขอ้ ง เพอ่ื นำไปสกู่ ารออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา 3. การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น โดยคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เงอื่ นไขและทรพั ยากร เชน่ งบประมาณ เวลา ขอ้ มลู และสารสนเทศ วัสดุ เครือ่ งมือและอุปกรณ์ ช่วยให้ไดแ้ นว ทางการแก้ปัญหาทเี่ หมาะสม 4. การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทำไดห้ ลากหลายวิธี เช่น การร่างภาพ การเขียนแผนภาพ การ เขยี นผงั งาน 5. ซอฟต์แวรช์ ว่ ยในการออกแบบและนำเสนอมีหลากหลายชนดิ จึงตอ้ งเลือกใช้ใหเ้ หมาะสมกบั งาน 6. การกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงานก่อนดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การทำงาน สำเร็จไดต้ ามเปา้ หมาย และลดขอ้ ผดิ พลาดของการทำงานทอี่ าจเกิดขนึ้
7. การพัฒนาโครงงาน 8. การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำธุรกรรม สขุ ภาพ และสิง่ แวดลอ้ ม 9. ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบอัตโนมัติการควบคุมการปลูกพืช การจัดเส้นทาง การขนสง่ ผลผลติ ระบบแนะนำการใชง้ านหอ้ งสมดุ ท่ีมีการโต้ตอบกับผูใ้ ช้และเช่ือมต่อกับฐานข้อมลู สาระการเรียนรูท้ ้องถ่นิ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน 6. การบูรณาการ บรู ณาการร่วมกบั รายวชิ าคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง เซต ตรรกศาสตร์ ฟังก์ชัน และการแกส้ มการ 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ ชนิ้ งาน - ผงั งานขนั้ ตอนวธิ กี ารแก้ปัญหา ภาระงาน - ขน้ั ตอนวิธแี บบลำดับขัน้ - ข้ันตอนวิธีแบบทางเลอื ก - ข้นั ตอนวิธแี บบทำซำ้ - ขน้ั ตอนวธิ กี ารคน้ หาข้อมลู - ขน้ั ตอนวิธกี ารจัดเรียงขอ้ มูล - การประยุกตผ์ งั งาน
8. การวดั และประเมนิ ผล 8.1 ประเมินผลก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ืองการแกป้ ัญหาและขนั้ ตอนวธิ ี 8.2 การประเมนิ ผลระหวา่ งจดั กิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจผังงาน - ข้ันตอนวธิ ีแบบลำดับขนั้ - ขนั้ ตอนวิธีแบบทางเลือก - ขน้ั ตอนวธิ แี บบทำซ้ำ - ขน้ั ตอนวิธีการคน้ หาขอ้ มูล - ขั้นตอนวธิ กี ารจัดเรยี งข้อมลู - การประยกุ ต์ผังงาน 8.3 การประเมินผลหลังเรียน - ประเมนิ แบบทดสอบหลังเรียน เรอ่ื งการแกป้ ญั หาและขั้นตอนวิธี 8.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ตรวจผังงานขน้ั ตอนวิธีการแก้ปญั หา 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง ขน้ั ตอนวธิ ีแบบลำดับขั้น จำนวน 2 ช่วั โมง ใชก้ ารสอนแบบการเรียนรโู้ ดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning: PBL) 2. แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่อื ง ขัน้ ตอนวิธแี บบทางเลือก จำนวน 2 ชวั่ โมง ใช้การสอนแบบการเรียนรโู้ ดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning: PBL) 3. แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 เร่อื ง ขนั้ ตอนวธิ แี บบทำซ้ำ จำนวน 2 ช่วั โมง ใชก้ ารสอนแบบการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning: PBL) 4. แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 4 เรอื่ ง ข้นั ตอนวธิ ใี นชีวิตประจำวนั จำนวน 2 ชั่วโมง ใช้การสอนแบบการเรยี นรโู้ ดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning: PBL) 5. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 เร่ือง ขั้นตอนวิธีการค้นหาและจดั เรยี งข้อมูล จำนวน 2 ชว่ั โมง ใชก้ ารสอนแบบการเรยี นรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning: PBL) 6. แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 6 เรื่อง การประยุกตผ์ งั งาน จำนวน 2 ชว่ั โมง ใชก้ ารสอนแบบการเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน (Problem-Based Learning: PBL)
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 รายวชิ าเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การแกป้ ญั หาและขน้ั ตอนวิธี เร่ือง ขั้นตอนวิธแี บบลำดับข้นั เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2 ม.4/1 ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานทีม่ กี ารบูรณการกับวิชาอ่ืน อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเช่อื มโยงกับชวี ิตจรงิ 2. สาระสำคัญและความคิดรวบยอด การทำงานข้ันพ้นื ฐานของระบบคอมพวิ เตอร์ กค็ ือการทำงานเรยี งลำดับตามคำสั่งที่เขียนหรือกำหนด ไว้ เรียกว่าการทำงานแบบลำดับขัน้ (Sequence) และไม่ว่าระบบหรือโปรแกรมจะมขี นาดใหญ่เพยี งใดก็ตาม การทำงานแบบนีก้ ย็ ังเปน็ พ้ืนฐานสำคัญอย่เู สมอ หรืออาจเรียกได้วา่ เป็นการทำงานข้นั ตน้ หรือข้ันพ้ืนฐานจนถึง การทำงานระดบั สงู 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ 1. ข้ันตอนวธิ ีแบบลำดับข้ัน 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การวเิ คราะห์ 2. การแก้ปัญหา 3. การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.4 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ : ใช้การสอนแบบการเรยี นร้โู ดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน 4.1 กิจกรรมนำเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครใู ห้นกั เรียนบอกวธิ กี ารเดินทางจากบ้านมาโรงเรียนหรือข้ันตอนวิธกี ารเข้าแถวหน้าเสาธงในตอน เชา้ ตั้งแตเ่ ริม่ ตน้ จนส้ินสดุ กิจกรรม 2. ครูยกตัวอย่างการทำงานของหุ่นยนต์เบื้องต้น ได้แก่ การเดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา แลว้ ใหน้ กั เรียนทดลองสง่ั งานหุ่นยนต์ให้เคลือ่ นท่ตี ามทีต่ ้องการ 3. ครแู สดงใหเ้ ห็นว่าการทำงานเบ้ืองตน้ ของคอมพวิ เตอรห์ รือระบบคอมพวิ เตอรน์ ัน้ มกี ารทำงานแบบ ลำดบั ขั้นเป็นพ้ืนฐาน 4.2 กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ กำหนดปัญหา 4. ครแู บ่งกลมุ่ นักเรียนกลุม่ ละไมเ่ กนิ 5 คน และแจกใบกจิ กรรมท่ี 1 เร่ืองขน้ั ตอนวธิ ีแบบลำดับข้นั 5. ครกู ำหนดปญั หาโปรแกรม Microbit อย่างง่ายใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ดังน้ี 1. การสรา้ งตวั หนงั สือให้ว่ิง 2. การสร้างรูปหัวใจ 3. การสร้างไฟกระพริบ 4. การสรา้ งเครื่องวัดอุณหภมู ิ ทำความเขา้ ทำความเข้าใจปญั หา 6. นกั เรียนแต่ละกลุ่มทำการวิเคราะห์ปัญหาท่ีไดร้ บั ในประเดน็ เกี่ยวกับ - ข้อมลู นำเข้า - การประมวลผล - การแสดงผล 7. แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สรุปแนวคดิ และผลการวิเคราะหป์ ญั หาท่กี ลมุ่ ได้รบั ดำเนนิ การศกึ ษาค้นควา้ 8. ครูแนะนำวธิ ีการเขยี นผังงาน สัญลักษณท์ ส่ี ำคัญ ข้นั ตอนวิธกี ารแกป้ ญั หาแบบลำดบั ขั้น 9. นักเรียนศกึ ษาค้นควา้ แนวทางการเขียนผงั งานจากอินเทอร์เนต็ และใบความรู้ 10. นักเรียนสอบถามปญั หาเพิ่มเตมิ กบั ครูผู้สอน เก่ยี วกบั การเขยี นผงั งาน
สังเคราะห์ความรู้ 11. แตล่ ะกลุ่มสรปุ และสังเคราะห์ความรู้และวาดผังงานตามโจทย์หรอื ประเด็นปญั หาทกี่ ลุ่มไดร้ ับ 12. นักเรียนในกลมุ่ แลกเปล่ียนความคดิ เหน็ และตรวจสอบองคค์ วามรหู้ รอื ผงั งานของกลมุ่ ตนเอง 13. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ วาดผังงานและตกแตง่ ผงั งานตนเองให้สมบูรณ์ สรปุ และประเมินคำตอบ 14. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรปุ คำตอบและเขยี นคำตอบลงในใบกจิ กรรมท่ีครูแจกให้ 15. สมาชกิ กลมุ่ รว่ มกนั ประเมินคำตอบและตรวจสอบคำตอบทคี่ ้นพบอีกครัง้ นำเสนอและประเมินผล 16. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอขัน้ ตอนวธิ แี บบลำดบั ขน้ั ที่กลุ่มไดร้ ับ พร้อมอธบิ ายว่ามีข้นั ตอน วิธีอย่างไร 17. เพอื่ นและครรู ว่ มกนั สอบถามกลุ่มที่นำเสนอในประเดน็ ที่สงสัย 18. เมอ่ื แตล่ ะกลุม่ นำเสนอเสร็จ ครสู รปุ องค์ความรเู้ กี่ยวกบั การแก้ปญั หาดว้ ยขนั้ ตอนวิธีนน้ั ๆ ให้ นกั เรยี นทกุ คนฟังอกี ครง้ั 4.3 กิจกรรมสรุปการเรยี นรู้ 19. ครูสรุปข้นั ตอนวิธแี บบลำดับขัน้ พร้อมกบั อธิบายสรุปผังงานแบบลำดบั ข้นั เพม่ิ เตมิ 20. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามปัญหาข้อสงสัย และตอบปัญหาใหน้ ักเรยี นเข้าใจอกี ครง้ั 5. สื่อการเรยี นรู้ - ใบกจิ กรรมที่ 1 เรื่องข้ันตอนวิธีแบบลำดบั ขนั้ https://sites.google.com/view/learnwithllph/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2% E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81 - แอพพลิเคช่ัน Microbit
6. การวดั และประเมินผล ด้าน วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ - ใบกจิ กรรมที่ 1 เรื่อข้ันตอน - ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ดา้ นความรู้ - นำเสนอองคค์ วามรู้ วธิ แี บบลำดับขั้น - ระดบั ดีข้ึนไป - ระดบั ดขี ึ้นไป เกี่ยวกับขนั้ ตอนวิธีแบบ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ทำงานกลมุ่ - ระดับดขี ึ้นไป ลำดบั ข้นั - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ดา้ นคณุ ธรรม/ - สงั เกตจากพฤติกรรมที่ ทำงานกล่มุ จริยธรรม รับผดิ ชอบต่องานท่ีได้รบั - แบบประเมนิ ทกั ษะ/ กระบวนการในการแก้ปญั หา มอบหมาย - สังเกตความอดทน การรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อื่น การวิเคราะห์การวจิ ารณ์ ผลงานของกล่มุ ตนเองและ กลมุ่ อ่ืน ดา้ นทกั ษะ/ - สงั เกตจากพฤตกิ รรมท่เี กิด กระบวนการ จากการทำงานกลุม่ ในการ แกป้ ญั หารว่ มกัน
7. บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้ 7.1 ผลการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.2 ปัญหา / อปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.3 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางการแก้ไขและพัฒนา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบกจิ กรรมท่ี 2.1
แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชิกในกล่มุ 1. ...................................................................... 2. ...................................................................... 3. ...................................................................... 4. ...................................................................... 5. ...................................................................... 6. ...................................................................... คำชี้แจง: ใหน้ กั เรียนทำเครื่องหมาย ✓ ในชอ่ งทีต่ รงกบั ความเปน็ จรงิ พฤติกรรมทส่ี ังเกต คะแนน 1 32 1. มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น 2. มคี วามกระตือรือรน้ ในการทำงาน 3. รับผิดชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 4. มขี น้ั ตอนในการทำงานอย่างเปน็ ระบบ 5. ใชเ้ วลาในการทำงานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤตกิ รรมที่ทำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทท่ี ำเปน็ บางคร้งั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ที ำนอ้ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 13-15 ดี 8-12 ปานกลาง 5-7 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการในการแก้ปญั หา ลำดั ช่ือ – การกำหนด ดำเนนิ สังเคราะห์ สรุปและ นำเสนอและ รวม บที่ สกุล ปัญหาและ การศึกษา ความรู้ ประเมิน ประเมนิ ผล 20 ของ ทำความ ค้นคว้า คำตอบ คะแน ผรู้ ับ เขา้ ใจปญั หา น การ 4321432143214321 ประเมิ 4321 น เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ มที กั ษะ/กระบวนการดมี าก ............../.................../............... มีทักษะ/กระบวนการดี มที กั ษะ/กระบวนการพอใช้ ให้ 4 คะแนน มีทกั ษะ/กระบวนการทตี่ ้องปรบั ปรงุ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน ดีมาก 18-20 ดี 14-17 พอใช้ 10-13 ปรบั ปรงุ ต่ำกว่า 10
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 รายวิชาเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การแกป้ ัญหาและขนั้ ตอนวิธี เร่ือง ขั้นตอนวธิ ีแบบทางเลอื ก เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจริยธรรม ตัวช้ีวัด ว 4.2 ม.4/1 ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณการกับวิชา อื่นอย่างสรา้ งสรรค์ และเชื่อมโยงกับชีวิตจริง 2. สาระสำคัญและความคิดรวบยอด ระบบคอมพิวเตอร์นั้นนอกจากจะทำงานแบบลำดับขั้นเป็นพื้นฐานแล้วก็มักจะมีการทำงานที่มีการ ตัดสินใจอยู่เสมอๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและดีที่สุด การตัดสินใจของระบบคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนสำคัญ และเปน็ การทำงานท่ีจำเป็นอีกประการหนงึ่ เชน่ กัน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ 1. ขน้ั ตอนวิธีแบบทางเลือก 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การวเิ คราะห์ 2. การแก้ปัญหา 3. การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.4 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ : ใช้การสอนแบบการเรียนรโู้ ดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน 4.1 กิจกรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครใู ห้นกั เรียนบอกวิธีการเดนิ ทางจากบ้านมาโรงเรียนหรือข้ันตอนวธิ กี ารเข้าแถวหนา้ เสาธงในตอน เช้าตง้ั แตเ่ รม่ิ ตน้ จนสิ้นสุดกจิ กรรม โดยมีเงือ่ นไขในการเดนิ ทางเพิม่ เตมิ เช่น ฝนตกหรือตื่นสาย 2. ครูยกตัวอย่างการทำงานของหุ่นยนต์เบื้องต้น ได้แก่ การเดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา โดยมีสง่ิ กีดขวางการเดนิ แล้วให้นกั เรยี นทดลองสง่ั งานหุ่นยนตใ์ ห้เคล่อื นที่ตามท่ีตอ้ งการ 3. ครูแสดงให้เหน็ ว่าการทำงานเบอื้ งตน้ ของคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพวิ เตอร์นั้นมกี ารทำงานแบบ ลำดับขัน้ เป็นพื้นฐานและมีการตัดสนิ ใจอยู่เสมอๆ 4.2 กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้ กำหนดปัญหา 4. ครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนกลุ่มละไม่เกิน 5 คน และแจกใบกจิ กรรมที่ 2 เรอื่ งข้นั ตอนวธิ ีแบบทางเลือก 5. ครกู ำหนดปัญหาโปรแกรมที่มกี ารตดั สินใจให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ดังนี้ 1. โปรแกรมตรวจสอบเลขจำนวนเตม็ 2. โปรแกรมตัดเกรด 3. โปรแกรมดัชนมี วลกาย 4. โปรแกรมตรวจสอบเลขคู่เลขคี่ ทำความเขา้ ทำความเข้าใจปญั หา 6. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ทำการวิเคราะห์ปัญหาทีไ่ ด้รบั ในประเด็นเก่ยี วกับ - ข้อมลู นำเขา้ - การประมวลผล/การตดั สินใจ - การแสดงผล 7. แต่ละกลุ่มร่วมกนั สรุปแนวคิดและผลการวิเคราะห์ปญั หาท่ีกลมุ่ ไดร้ ับ
ดำเนินการศกึ ษาคน้ คว้า 8. ครูแนะนำวิธกี ารเขยี นผังงาน สญั ลักษณ์ท่สี ำคัญ ขั้นตอนวิธกี ารแก้ปญั หาแบบทางเลอื ก 9. นักเรยี นศกึ ษาคน้ ควา้ แนวทางการเขยี นผังงานแบบทางเลอื กจากอินเทอร์เน็ตและใบความรู้ 10. นักเรียนสอบถามปัญหาเพม่ิ เติมกบั ครูผู้สอน เกยี่ วกับการเขยี นผงั งาน สังเคราะห์ความรู้ 11. แตล่ ะกล่มุ สรุปและสังเคราะห์ความรู้และวาดผงั งานตามโจทย์หรือประเด็นปัญหาทก่ี ล่มุ ไดร้ ับ 12. นักเรียนในกลุ่มแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นและตรวจสอบองค์ความรู้หรอื ผังงานของกลุม่ ตนเอง 13. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มวาดผังงานและตกแต่งผังงานตนเองให้สมบรู ณ์ สรุปและประเมินคำตอบ 14. นักเรียนแต่ละกลมุ่ สรปุ คำตอบและเขียนคำตอบลงในใบกิจกรรมที่ครแู จกให้ 15. สมาชกิ กลุ่มร่วมกนั ประเมนิ คำตอบและตรวจสอบคำตอบทคี่ ้นพบอีกคร้งั นำเสนอและประเมนิ ผล 16. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอขั้นตอนวธิ ีแบบทางเลือกทีก่ ลุ่มไดร้ บั พรอ้ มอธิบายวา่ มขี น้ั ตอน วธิ อี ยา่ งไร 17. เพ่ือนและครรู ่วมกันสอบถามกลมุ่ ที่นำเสนอในประเดน็ ท่ีสงสัย 18. เม่อื แต่ละกล่มุ นำเสนอเสร็จ ครสู รุปองค์ความรเู้ ก่ียวกบั การแกป้ ญั หาด้วยขั้นตอนวธิ นี ้นั ๆ ให้ นักเรยี นทกุ คนฟงั อีกครงั้ 4.3 กิจกรรมสรปุ การเรียนรู้ 19. ครสู รุปข้ันตอนวธิ แี บบทางเลอื ก พรอ้ มกับอธบิ ายสรุปผงั งานแบบทางเลือกเพม่ิ เตมิ 20. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามปญั หาขอ้ สงสัย และตอบปัญหาใหน้ กั เรียนเข้าใจอกี คร้งั 5. สอ่ื การเรียนรู้ - ใบกจิ กรรมท่ี 2 เรอ่ื งขน้ั ตอนวิธแี บบทางเลือก https://sites.google.com/view/learnwithllph/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2% E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81
6. การวัดและประเมนิ ผล ดา้ น วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ - ใบกิจกรรมที่ 2 เร่ือขั้นตอน - รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป ดา้ นความรู้ - นำเสนอองคค์ วามรู้ วธิ แี บบทางเลือก - ระดับดีขน้ึ ไป - ระดับดีขนึ้ ไป เกี่ยวกบั การขัน้ ตอนวธิ แี บบ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ทำงานกลมุ่ - ระดับดีขนึ้ ไป ทางเลอื ก - แบบสังเกตพฤติกรรมการ ด้านคุณธรรม/ - สงั เกตจากพฤติกรรมท่ี ทำงานกลุ่ม จรยิ ธรรม รบั ผดิ ชอบต่องานท่ีได้รับ - แบบประเมินทกั ษะ/ กระบวนการในการแกป้ ญั หา มอบหมาย - สังเกตความอดทน การรับ ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ่นื การวเิ คราะห์การวิจารณ์ ผลงานของกลมุ่ ตนเองและ กลมุ่ อน่ื ดา้ นทกั ษะ/ - สงั เกตจากพฤตกิ รรมที่เกิด กระบวนการ จากการทำงานกลุ่มในการ แก้ปญั หาร่วมกัน 7. บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้ 7.1 ผลการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.2 ปญั หา / อุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7.3 ข้อเสนอแนะ / แนวทางการแก้ไขและพัฒนา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบกจิ กรรมท่ี 2.2
แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชิกในกลุ่ม 1. ...................................................................... 2. ...................................................................... 3. ...................................................................... 4. ...................................................................... 5. ...................................................................... 6. ...................................................................... คำชี้แจง: ให้นกั เรียนทำเครื่องหมาย ✓ ในชอ่ งท่ีตรงกบั ความเป็นจรงิ พฤติกรรมทส่ี ังเกต คะแนน 1 32 1. มีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ 2. มคี วามกระตือรือรน้ ในการทำงาน 3. รับผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 4. มขี ้นั ตอนในการทำงานอย่างเปน็ ระบบ 5. ใช้เวลาในการทำงานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน พฤตกิ รรมที่ทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทท่ี ำเปน็ บางคร้ัง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ที ำน้อยครง้ั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 13-15 ดี 8-12 ปานกลาง 5-7 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการในการแก้ปญั หา ลำดั ช่ือ – การกำหนด ดำเนนิ สังเคราะห์ สรุปและ นำเสนอและ รวม บที่ สกุล ปัญหาและ การศึกษา ความรู้ ประเมิน ประเมนิ ผล 20 ของ ทำความ ค้นคว้า คำตอบ คะแน ผรู้ ับ เขา้ ใจปญั หา น การ 4321432143214321 ประเมิ 4321 น เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ มที กั ษะ/กระบวนการดมี าก ............../.................../............... มีทักษะ/กระบวนการดี มที กั ษะ/กระบวนการพอใช้ ให้ 4 คะแนน มีทกั ษะ/กระบวนการทตี่ ้องปรบั ปรงุ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน ดีมาก 18-20 ดี 14-17 พอใช้ 10-13 ปรบั ปรงุ ต่ำกว่า 10
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การแกป้ ัญหาและข้ันตอนวิธี เรือ่ ง ขั้นตอนวธิ ีแบบทำซ้ำ เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชีว้ ัด ว 4.2 ม.4/1 ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการพฒั นาโครงงานท่ีมีการบูรณการกับวิชา อน่ื อย่างสรา้ งสรรค์ และเชือ่ มโยงกับชวี ติ จริง 2. สาระสำคญั และความคิดรวบยอด ระบบคอมพิวเตอร์มักจะมีการทำงานในบางงานที่ซ้ำๆ กันอยู่เสมอ การเขียนคำสั่งหรือสั่งให้ คอมพิวเตอร์ทำงานซำ้ ๆ กนั นนั้ สามารถทำไดโ้ ดยการส่ังให้คอมพวิ เตอร์ทำงานซำ้ เพ่อื ลดจำนวนการเขียนคำสั่ง ให้สั้นลงและลดการใช้งานหน่วยความจำ ขั้นตอนวิธีการทำซ้ำจึงเป็นอีกประการหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้การ ทำงานของโปรแกรมมปี ระสทิ ธิภาพมากยิง่ ขึน้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ 1. ข้ันตอนวิธแี บบทำซำ้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ 1. การวเิ คราะห์ 2. การแก้ปัญหา 3. การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.4 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ : ใช้การสอนแบบการเรียนรโู้ ดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน 4.1 กจิ กรรมนำเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูให้นักเรียนบอกการดำเนนิ ชีวิตประจำวันที่มีการทำงานซ้ำๆ กันอยูบ่ ่อยครัง้ เช่น การเดิน การ ต้มไข่ การน่งั รถเมล์ เป็นต้น 2. ครยู กตวั อยา่ งการทำงานของห่นุ ยนตเ์ บอ้ื งตน้ ไดแ้ ก่ การเดินหนา้ ถอยหลัง เลี้ยวซา้ ย เลีย้ วขวา ท่ี มกี ารทำงานซำ้ กัน 3. ครูแสดงใหเ้ ห็นวา่ การทำงานเบ้อื งต้นของคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์น้นั มกี ารทำงานแบบ ทำงานซ้ำเพอื่ ช่วยในการทำงานใหม้ ีประสทิ ธิภาพ 4.2 กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ กำหนดปัญหา 4. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรยี นกลุ่มละไมเ่ กิน 5 คน และแจกใบกจิ กรรมท่ี 3 เรื่องข้ันตอนวิธแี บบทำซำ้ 5. ครูกำหนดปัญหาโปรแกรมที่มีการทำซำ้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ ดงั นี้ 1. โปรแกรมแสดงสตู รคูณ 2. โปรแกรมหาคา่ ผลรวมตวั เลข 3. โปรแกรมหาคา่ factorial 4. โปรแกรมเดินในเขาวงกต ทำความเขา้ ทำความเขา้ ใจปัญหา 6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มทำการวเิ คราะห์ปญั หาที่ไดร้ ับ ในประเด็นเกี่ยวกับ - ข้อมลู นำเขา้ - การประมวลผล/การตดั สินใจ/การวนซำ้ - การแสดงผล 7. แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สรปุ แนวคิดและผลการวิเคราะห์ปญั หาทก่ี ลมุ่ ไดร้ ับ
ดำเนนิ การศึกษาคน้ ควา้ 8. ครแู นะนำวิธกี ารเขียนผงั งาน สัญลกั ษณท์ ี่สำคัญ ขัน้ ตอนวธิ ีการแก้ปัญหาแบบทำซำ้ 9. นักเรียนศึกษาค้นคว้าแนวทางการเขียนผังงานแบบทำซ้ำจากอินเทอรเ์ น็ตและใบความรู้ 10. นักเรยี นสอบถามปญั หาเพม่ิ เติมกับครูผู้สอน เกีย่ วกบั การเขยี นผังงาน สังเคราะหค์ วามรู้ 11. แตล่ ะกลมุ่ สรปุ และสังเคราะห์ความรู้และวาดผังงานตามโจทยห์ รือประเด็นปญั หาทก่ี ลุ่มไดร้ บั 12. นักเรยี นในกลมุ่ แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ และตรวจสอบองค์ความรู้หรือผงั งานของกลุ่มตนเอง 13. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มวาดผงั งานและตกแต่งผังงานตนเองใหส้ มบรู ณ์ สรปุ และประเมินคำตอบ 14. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ สรุปคำตอบและเขียนคำตอบลงในใบกจิ กรรมทีค่ รูแจกให้ 15. สมาชกิ กลุ่มรว่ มกนั ประเมนิ คำตอบและตรวจสอบคำตอบทีค่ ้นพบอีกคร้งั นำเสนอและประเมนิ ผล 16. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอขนั้ ตอนวิธีแบบทำซ้ำทีก่ ลุ่มได้รบั พรอ้ มอธิบายว่ามขี น้ั ตอนวธิ ี อยา่ งไร 17. เพ่ือนและครูรว่ มกนั สอบถามกลุ่มทนี่ ำเสนอในประเด็นท่สี งสัย 18. เมื่อแตล่ ะกลุม่ นำเสนอเสรจ็ ครูสรุปองค์ความรเู้ กี่ยวกับการแกป้ ัญหาดว้ ยขัน้ ตอนวธิ ีนน้ั ๆ ให้ นักเรียนทกุ คนฟงั อีกครงั้ 4.3 กิจกรรมสรุปการเรยี นรู้ 19. ครูสรปุ ขน้ั ตอนวธิ ีแบบทำซำ้ พร้อมกับอธิบายสรปุ ผังงานแบบทำซ้ำเพ่มิ เตมิ 20. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามปัญหาข้อสงสัย และตอบปญั หาใหน้ กั เรยี นเข้าใจอีกครั้ง 5. ส่ือการเรียนรู้ - ใบกิจกรรมที่ 3 เรือ่ งขั้นตอนวธิ ีแบบทำซ้ำ https://sites.google.com/view/learnwithllph/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2% E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81
Search